Tag: วันสิ้นโลก
-
นักวิชาการตุรกีเถียงหูดับ อ้างว่า ‘Noah’ ใช้มือถือโทรเรียกลูกชาย ให้มาขึ้นเรือก่อนน้ำท่วมครั้งใหญ่
กลายเป็นกระแสฮือฮามากๆ ในประเทศตุรกี เมื่อนักวิชาการท่านหนึ่งได้ออกมานั่งยันนอนยันว่า เมื่อสมัยก่อนตอนที่น้ำจะท่วมโลก Noah นั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อกับลูกชายของเขา…งงละสิ! Dr. Yavuz Örnek จากมหาวิทยาลัยในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี TRT 1 ของประเทศตุรกี ซึ่งเขาได้ยืนยันว่า เมื่อยุค 10,000 ปี มนุษย์มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าตอนนี้มากๆ Dr. Yavuz บอกว่า Noah นั้นมีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่ในมือ โดยเขาไม่ได้ใช้ไม้ต่อเรือแต่อย่างใด แต่เขาใช้เหล็กมาต่อเรือ นอกจากนั้นยังใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นตัวขับเคลื่อน ไม่หมดเท่านั้น Noah ยังใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อลูกและภรรยาเพื่อบอกให้เขาเตรียมการรับมือน้ำท่วมโลกด้วย จากนั้น Noah ก็ได้เก็บรวบรวมสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ โดยเป็นตัวผู้และตัวเมียอย่างละตัว ส่วนสัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่ ก็จะถูกเก็บไข่มาพักไว้ในเครื่องฝักไข่นั่นเอง แน่นอนว่าพิธีกรของรายการที่เชื่อเช่นเดียวกับใครหลายคนว่าพระเจ้าเป็นคนบอกให้ Noah สร้างเรือก็จะต้องสงสัยและถามว่าทำไม Dr. Yavuz จึงคิดแบบนั้น Dr. Yavuz จึงบอกว่า “เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ คุณลองคิดดูสิ Noah และลูกๆ ของเขาอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร แล้วเขาจะติดต่อกันได้ยังไง แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องใช้โทรศัพท์โทรหากันนั่นเอง” หลังจากรายการดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป กระแสด้านลบก็หลั่งไหลและโจมตีเข้าที่ตัว Dr.…
-
พาทัวร์ “หมู่บ้านโลกาวินาศ” ชุมชนหลุมหลบภัยวันสิ้นโลกและที่สำคัญราคาไม่ถึงล้าน!!
ด้วยปัญหาต่างๆ ในโลกที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งสงครามนิวเคลียร์ ภาวะสิ่งแวดล้อมต่างๆ อีกทั้งยังต้องมาหวาดระแวงกับซอมบี้ที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่อีก ทำให้หลายคนกังวลถึงวันสิ้นโลกตามคำทำนายต่างๆ ว่าอาจมีขึ้นเร็วๆ นี้ ทำให้บริษัทแห่งหนึ่งได้สร้างบังเกอร์หลบภัยสำหรับเตรียมพร้อมกับวันสิ้นโลกขึ้นมาแล้ว บริษัทดังกล่าวมีชื่อว่า Vivos Group ซึ่งพวกเขาได้สร้างดินแดนสำหรับหลบภัยเอาไว้ภายใต้โปรเจกต์ชื่อว่า Vivo xPoint โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นสำหรับผู้ที่หวาดระแวงและมีความเชื่อว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงนั่นเอง นี่ต้องเป็นสถานที่ที่คุณอยากมาอยู่ที่สุด เมื่อเกิดวันโลกาวินาศขึ้น Vivo xPoint เป็นชุมชนหลบภัยขนาดใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านเพียงพอสำหรับคน 5,000 คนและด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงของมัน ทำให้บังเกอร์แต่ละหลังสามารถทนรับแรงระเบิดจากหัวจรวดนิวเคลียร์ที่มีน้ำหนัก 250 ตัน ได้แบบสบายๆ และไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด Robert Vicino เจ้าของบริษัท Vivos Group กล่าวว่าพวกเขาเปิดบังเกอร์ต่างๆ ให้เข้าเยี่ยมชมมาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ปี 2017 แล้วและในตอนนี้ก็มีผู้ซื้อไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งราคาแต่ละหลังจะอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 814,000 บาท) เท่านั้นเอง บังเกอร์กว่า 575 หลังที่สร้างจากคอนกรีตแข็งรวมถึงเหล็กกล้าสุดแข็งแกร่งด้วย แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครย้ายเข้าไปอยู่ที่บังเกอร์จริงๆ แต่คนที่ซื้อไปก็เริ่มมีการตกแต่งภายในบ้านของแต่ละคน เพื่อให้มีความพร้อมเมื่อจะเข้ามาอยู่จริงๆ และยังได้สร้างความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอดผ่านวันโลกาวินาศไปได้นั่นเอง หลุมหลบภัยนี้ตั้งอยู่ที่รัฐเซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่เดิมนั้นใช้เป็นฐานทัพของทหาร…
-
ชายผู้หวาดกลัววันสิ้นโลกสุดขีด แอบไปสร้างบังเกอร์ลับๆ กว่า 30 ปี บนพื้นที่ของรัฐบาล
คนเรานั้นล้วนมีความกลัวหรือโฟเบียกันอยู่เกือบทุกคน บางคนอาจจะกลัวหนู กลัวแมลงสาบ กลัวรู หรือนักหน่อยก็แบบ #เหมียวมู่ทู่ เองที่กลัวพริก…อะไรนะ แปลกเหรอ? ไม่แปลกหรอกเพราะเจ้าของเรื่องราวคนนี้เขาแปลกกว่าเยอะ!! ชายไม่ทราบชื่อรายนี้ เขามีอาการโฟเบียสุดแปลกที่หวาดกลัววันสิ้นโลก ซึ่งแน่นอนมันต่างจากกลัวสิ่งของหรือสัตว์ที่ถ้าเราไม่เห็นก็ไม่แปลกอะไร เพราะการกลัววันสิ้นโลกที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น มันทำให้ชายคนนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้นั่นเอง ซึ่งเขาถูกพบโดยเจ้าหน้าที่จาก The Iron County Sheriff’s Office โดยเจ้าหน้าที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อของชายคนดังกล่าว เพราะอาจจะมีผลเสียต่างๆ ตามมาในภายหลังก็ได้ ส่วนข้อมูลที่พวกเขายอมเปิดเผย มีแค่ว่าชายคนนี้เคยอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และปัจจุบันชายคนนี้ก็อาศัยอยู่ในบังเกอร์ลับๆ มานานแล้วกว่า 30 ปี!! เขาได้ไปสร้างกระท่อมไว้ 4 หลังบริเวณป่าใกล้ๆ กับชายแดนของเมือง Brian Head ซึ่งจัดอยู่ในพื้นที่ของรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และนอกจากกระท่อมทั้งหมดแล้วชายดังกล่าวก็ยังสร้างบังเกอร์หลบภัยไว้อีกจำนวนมากในบริเวณนั้นด้วย อย่างไรก็ตามเขาได้แอบขโมยชิ้นส่วนและวัสดุมากมายมาจากรัฐรวมถึงอาวุธต่างๆ ซึ่งนั่นถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแปลกใจเพราะว่าบริเวณที่ชายคนนี้อาศัยอยู่นั้นแถบจะไม่เกิดไฟป่าเลย เจ้าหน้าที่จึงคาดว่านายคนนี้จะต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการดูแลสถานที่รอบๆ ของเขา แต่สุดท้ายการกระทำของเขาทั้งขโมยของและสร้างบ้านในพื้นที่ของรัฐบาลก็ยังเป็นความผิดอยู่ดี ฉะนั้นเขาจึงถูกตั้งข้อหาร้ายแรงในท้ายที่สุดนั่นเอง… ที่มา mcclatchydc
-
10 สถานที่ปลอดภัย ถ้าเกิดไวรัสซอมบี้ล้างโลกขึ้นมา มาหลบที่นี่สิ มันช่วยคุณได้!!
จะเป็นยังไงเมื่อคุณนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาพบว่าโลกใบนี้มันได้ติดเชื้อในกระแสเลือด…เอ้ย เชื้อไวรัสซอมบี้กันจนหมด คนรอบข้างก็กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ บ้านที่เราอยู่ก็ดูจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แล้วที่ไหนล่ะที่เราจะมีชีวิตรอดได้? ด้วยเหตุนี้ทาง boredomtherapy ก็เลยรวบรวมสถานที่ต่างๆ จากรอบโลกมาให้เราดูกันว่า ถ้าเกิดเป็นดังที่เกริ่นจริงๆ ควรจะไปอยู่ที่ไหนดีถึงจะปลอดภัย ว่าแต่จะมีที่ไหนอยู่ใกล้เราบ้างนั้นลองมาดูกัน… Wiltshire’s Secret Underground City หลุมหลบภัยในเมือง Corsham ประเทศอังกฤษที่มีพื้นที่กว้างขวางสามารถจุคนได้มากถึง 4,000 คนนี้ถือเป็นสถานที่หลบภัยซอมบี้อย่างดี แม้จะสร้างไว้ตั้งแต่ปี 1950s สถานที่แห่งนี้ก็พร้อมไปด้วยไฟและน้ำฉะนั้นอยู่ได้ยาวๆ Lawson Tower หอคอยสูงแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมทีมันเป็นหอสำหรับกักเก็บน้ำและสร้างโดย Thomas Lawson ทว่าตอนที่สร้างเสร็จภรรยาของเขาก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่เพราะมันบดบังวิว แต่ตัวเขาไม่อยากพังมันลงจึงให้ช่างสร้างหอคอยทรงยุคกลางขึ้นมาครอบไว้ เพื่อให้ดูสวยงามแทนที่นั่นเอง ฉะนั้นใช้หลบภัยได้ยาวๆ Alcatraz Island คุกบนเกาะกลางน้ำบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ครั้งหนึ่งเคยดำเนินการคุมขังเหล่านักโทษคดีอุกฉกรรจ์เพราะบรเวณโดยรอบมีแต่ละเทและคลื่นลมแรง แต่เนื่องจากลมทะเลมักจะมาพร้อมกับไอเกลือทำให้มันกัดเซาะเหล็กและโครงสร้างต่างๆ จนยากเกินที่จะดูแล ทำให้มันถูกทิ้งร้างไปอย่างน่าเสียดาย ที่แห่งนี้จัดว่าเป็นสถานที่หลบภัยชั้นดีเลยล่ะ เมื่อต้องสู้กับกองทัพซอมบี้ เพราะว่าโดยปกติแล้วซอมบี้มักจะกลัวน้ำ และด้วยความที่ที่แห่งนี้เป็นคุกอยู่แล้ว หาอาหารการกินจึงหมดห่วง Scotland’s Secret Bunker ถ้าการอยู่ที่สูงหรือเกาะกลางน้ำยังไม่ใช่คำตอบ งั้นหลบไปอยู่ใต้ดินเป็นไง กับอีกหนึ่งหลุ่มหลบภัยในประเทศสกอตแลนด์ที่ใช้ในการหลบนิวเคลียร์และตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลผู้คน แถมยังอยู่ใต้บ้านฟาร์มอีกรับรองว่าซอมบี้หาไม่เจอแน่นอน…
-
12 บ้านที่สร้างมาเพื่อ “วันสิ้นโลก” ให้คุณเลือกจับจองเป็นเจ้าของ เงินเหลือก็ซื้อกันได้เลย!!
ช่วงนี้สถานการณ์โลกเรียกว่าร้อนระอุมากๆ ทั้งผู้นำทวิตเตอร์แมนที่ออกมาป่าวประกาศว่าถ้าผู้นำมนุษย์จรวดซ่ามาก รับรองจบไม่สวยแน่ จนคนก็หวั่นๆ ว่านี่มันจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่านะ แน่นอนว่ามันเป็นปัญหาที่พวกผู้นำเขาต้องจัดการ ส่วนคนแบบเราสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการสร้างบ้านไว้หลบภัยจริงไหม แต่หลายคนก็คงไม่รู้ว่าจะเอาแบบบ้านหลบภัยจากไหนให้ดูปลอดภัยและน่าอยู่ในเวลาเดียวกันดี ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดูบ้านที่สร้างเพื่อกันวันสิ้นโลกมาให้ดูกัน แน่นอนว่าหลบภัยสงครามด้วยนะ จะเป็นยังไงไปดู… The Oppidum สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศเช็กเกีย โดยเป็นอาคารสุดหรูที่มีชั้นใต้ดินหลายชั้นมากๆ เหมาะแก่การหลบภัยสุดๆ นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บเสบียงที่ใหญ่มากขนาดที่เคลมว่าอยู่หลบแต่ในบ้านนี้ได้เป็นสิบปีเลยล่ะ . Vivos Xpoint สถานหลบภัยที่ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา โดยสถานที่หลบภัยแห่งนี้สามารถจะจุคนได้มากถึง 5,000 คนเลยทีเดียวล่ะ ภายในก็จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายทั้งน้ำสะอาดและอาหาร ซึ่งเราสามารถอยู่ในนี้ได้เป็นปีหรือนานกว่านั้นก็ได้ . Survival Condo ใน Kansas ภายนอกอาจจะเป็นว่าเพียงแค่หลุมหลบภัย แต่สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นคอนโดใต้ดินที่มีหลายชั้นมากๆ ภายในก็มีที่หลบภัยและสถานที่อำนวยความสะดวกเพียบ มีกระทั่งสระว่ายน้ำด้วยนะ . The Genesis บ้านนี้ยังเป็นเพียงแค่แบบเท่านั้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงรับรองว่าจะต้องเป็นบ้านในอนาคตที่ใช้อยู่อาศัยและหลบภัยชั้นดีแน่นอน โดยตัวบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ดินพ่วงด้วยระบบกู้ภัยและอำนวยความสะดวกอีกมากมาย . Underground bunker house ใน Las Vegas…
-
19 ความเห็นเด็ดๆ จากแฮชแท็ก ‘#สิ่งที่อยากทำก่อนวันสิ้นโลก’ แล้วคุณล่ะ… อยากทำอะไร??
ดูเหมือนว่ากระแสวันสิ้นโลกจะมีมาให้เห็นทุกปี อย่างล่าสุดก็เมื่อไม่กี่วันก่อนมีการปล่อยข่าว (ปลอม) ว่านาซ่าออกมาเตือนถึงภัยพิบัติวันสิ้นโลก บลาๆๆ ไปตามสไตล์เว็บไซต์คลิกเบท เมื่อมีข่าวลือออกมาว่าโลกจะแตก ชาวเน็ตบนทวิตเตอร์ก็อดไม่ไหวที่จะออกมาแชร์ความคิดเห็นของตัวเองว่าอยากจะทำอะไรกันบ้าง ผ่านแฮชแท็ก #สิ่งที่อยากทำก่อนวันสิ้นโลก และทั้งหมดนี้ก็คือ 19 ความเห็นเด็ดๆ จากชาวเน็ต เราตามไปดูกันว่าคนส่วนใหญ่อยากจะทำอะไรก่อนที่โลกจะแตกโบ้มมมม..!! คนแรกนี้ดูท่าทางจะอัดอั้นจากการเรียนนะลูก… ห๊ะ!! จะเอางั้นจริงดิ? ไม่ดุไปหน่อยเหรอแม่คู๊ณณณ ใจเย็นๆ หน่าาา นี่แค่โลกแตกเอง มีอะไรค่อยพูดค่อยจานะ มาแบบเกรี้ยวกราดสาดอารมณ์ แต่เราเห็นด้วยนะ… จะพูดวนอะไรได้ทุกวัน!! ดูท่าทางคนนี้จะอัดอั้นมากเป็นพิเศษ เอ๊าาาจัดไปค่ะลูกสาววว มาแนวเบลอๆ ลอยๆ จะหมัดจะมวยจะ..วยจะเหล็กอะไรก็เอามาเถอะ ดูท่าทางจะมีคนไม่พอใจกระทรวงศึกษาฯ กับครูที่โรงเรียนอยู่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย นั่นแหละนะ.. บางทีเด็กๆ ก็อาจรู้สึกเครียดจากแรงกดดันของผู้ใหญ่มากเกินไป ดูท่าทางนายจะนอนน้อยนะเนี่ย ยังไงก็อย่าลืมปิดไฟเปิดแอร์ห่มผ้าห่มด้วยนะ…. ชาวเน็ตคนนี้ก็ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมโลกใช้ได้เลยนะเนี่ย จิตใจดีงามมากๆ เอาไป 3 กระโหลก มันจะทันเหรอ…!?…
-
วิศวกร Google คาด หุ่นยนต์จะฉลาดเกินมนุษย์ในปี 2045 และอาจเป็นจุดจบของมนุษยชาติ!!
ถ้าพูดถึงหนึ่งในประเด็นร้อนที่สุดในเวลานี้ ปัญหา AI คงจะต้องเป็นประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้ายักษ์ใหญ่ทางไอทีอย่าง Mark Zuckerberg และ Elon Musk เปิดสงครามด้านความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันในเรื่องนี้ไปแล้ว ล่าสุด Ray Kurzweil หัวหน้าแผนกวิศวกรรมจากฝั่ง Google ก็ได้ออกมาพูดว่า “หุ่นยนต์จะเริ่มปรับตัวและพัฒนาให้มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ในปี 2029 จากนั้นมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ” โฉมหน้าของตา Ray Kurzweil ผู้ออกมาพูดถึงการคาดเดาดังกล่าว แม้ว่าในตอนนี้สิ่งที่เราเรียกกันว่า Artificial Intelligence หรือ AI นั้นยังจะถูกจำกัดความอยู่แค่ผู้ช่วยในรูปแบบเสียง เช่น Siri หรือคอมพิวเตอร์อย่าง Deep Blue ที่ฉลาดจนชนะนักหมากรุกมืออาชีพได้ ก็ยังเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีข้อจำกัดในตัวของมันอยู่ ทว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ AI สามารถจะคิดวิเคราะห์ทุกอย่างด้วยตัวเองได้จริงๆ จนมันสามารถจะเรียนรู้และก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้ ในตอนนั้นแหละมันอาจจะเปลี่ยนแปลงตนเองจนกลายเป็น artificial super-intelligence หรือเรียกว่า ASI ซึ่งจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดล้ำและแข็งแกร่งยิ่งกว่ามนุษย์ จากนั้นยุคของหุ่นยนต์ก็จะเกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงปี 2029 ทุกอย่างบนโลกก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วโดยมนุษย์ไม่อาจทันตั้งตัว พอถึงปี 2045…
-
จินตนาการบนความสิ้นหวัง หากโลกนี้ปราศจาก ‘อารยธรรมของมนุษย์’ โดยศิลปินชาวอังกฤษ!!
พูดถึงเรื่องอนาคต เราคงเคยเห็นการคาดเดาพยากรณ์มากมาย ไม่ว่าจะมาจากนักวิทยาศาสตร์หรือหมอดู หรือภาพยนตร์ที่เราเคยดู เช่น 2012 วันสิ้นโลก สะท้อนให้เห็นว่ามันช่างหดหู่เหลือเกิน เช่นเดียวกับศิลปินคนนี้ที่มีความสนใจในเรื่องโลกอนาคต Noro8 หรือในชื่อ Norbert ศิลปินจากสหราชอาณาจักร ผู้ชำนาญในเรื่องการทำภาพดิจิตอล โดยมุมมองที่เขาสนใจและถ่ายทอดออกมานั้นเป็น โลกที่สิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ หรือโลกที่ไม่มีมนุษย์นั่นเอง เขาได้แรงบันดาลใจจากการที่เห็นว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเห็นแก่ตัว และการคาดเดาถึงอนาคตต่างๆ มากมาย เขาจึงถ่ายทอดภาพที่ดูเหมือนจะเป็นลางสังหรณ์ของเขาเกี่ยวกับโลกนี้ออกมา และนี่คือภาพที่เขาสร้างด้วยเทคนิคที่เขาชำนาญ ซึ่งทำให้เราถึงกับอดคิดไม่ได้ว่า หากไม่มีมนุษย์ โลกจะเป็นแบบนี้จริงๆหรอเนี่ย?? . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…