Tag: วิจารณ์
-
สาวโจมตีการแต่งกายของ Ed Sheeran เทียบกับ Beyonce …เจอชาวเน็ตถล่มซะ!!
เรื่องของการแต่งกายนั้น แม้ว่าจะเป็นรสนิยมส่วนตัว แต่สำหรับผู้ที่เป็นบุคคลสาธารณะอย่างเหล่าศิลปินแล้วก็ย่อมเลี่ยงได้ยากที่จะถูกวิจารณ์ อย่างเช่นล่าสุด Ed Sheeran ทั้งๆ ที่เขาก็แต่งตัวแบบปกติ แต่กลับถูกวิจารณ์เรื่องเสื้อผ้าหลังขึ้นเวทีร้องเพลงคู่กับ Beyonce ที่แต่งกายด้วยชุดสุดอลังการ หลังจากชาวเน็ตเห็นภาพนี้ต่างก็รู้สึกได้ถึงความ “ไม่เข้ากัน” ของเครื่องแต่งกายของศิลปินทั้งสอง Beyonce นั้นมาด้วยชุดกาวน์สีมาเจนตาพร้อมการตกแต่งสุดงดงาม ขณะที่ Ed มาในธีมกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดแขนสั้นทับเสื้อยืดแขนยาว ในลุคสบายๆ และแล้วก็มีชาวเน็ตหญิงสาวคนหนึ่ง ทนไม่ไหวต้องออกมวิจารณ์ถึงการแต่งกายของ Ed Sheeran ในงานนี้ และนั่นทำให้เธอถูกสวนกลับอย่างจัง สาวจากทวิตเตอร์นามว่า shon faye. ได้โพสต์วิจารณ์การแต่งการของ Ed ว่า… “Ed Sheeran ก็อายุ 27 แล้วนะ พวกเราปล่อยให้เขาคิดว่าการแต่งตัวแบบนั้นมันโอเค แล้วยิ่งยืนข้าง Beyonce ที่แต่งอลังการอย่างนั้น ฉันเห็นแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์เลยอะ” และนั่นก็ทำให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ เข้ามาโต้แย้งกันยกใหญ่ในเรื่องเสรีภาพของการแต่งกาย เช่น… “ฉันคิดว่าเขาสามารถแต่งตัวตามแบบที่เขาชอบได้นะ” “ผมมองเห็นคนสองคนในภาพ คนหนึ่งแต่งตัวเป็นแรสเบอร์รี…
-
ร้านอาหารนิวยอร์กนำ “ติ่มซำ” มาแปลงเป็นอาหารมะกัน ถูกชาวเน็ตเอเชียจวกยับ!!
อาหารที่มาจากต่างวัฒนธรรม บางครั้งเมื่อรับเข้ามาแล้วก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ต่างจากต้นตำรับ เพื่อให้สามารถรวมกับวัฒนธรรมของตนเองได้ แต่บางทีการปรับเปลี่ยนให้อาหารของวัฒนธรรมอื่นก็อาจสร้างปัญหาตามมาได้เช่นกัน… เช่นเรื่องราวในวันนี้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กถูกวิจารณ์หนัก เนื่องจากนำ “ติ่มซำ” มาดัดแปลงเสียจนกลายเป็นอาหารอเมริกันไปเลย ในร้าน Brooklyn Chop House นั้นมีการเสิร์ฟติ่มซำที่ถูกดัดแปลงให้เป็นอาหารคุ้นลิ้นของชาวอเมริกัน เช่น ขนมจีบชีสเบอร์เกอร์ เกี๊ยวเนื้ออบ และเสี่ยวหลงเปาซุปหัวหอม เป็นต้น ในส่วนของผู้ร่วมก่อตั้งร้านอย่าง Stratis Morfogen ก็อธิบายอย่างง่ายๆ ว่าแรงบันดาลใจในการปรับแต่งสูตรอาหารเหล่านี้ก็คือการทำ “อาหารฟิวชั่น” “ปกติแล้วผมจะชื่นชอบร้านสเต๊กแบบอเมริกันมาก แต่คิดว่าเราไม่ควรทำร้านสเต๊กในสไตล์เดิมๆ” Stratis Morfogen อย่างไรก็ตาม Stratis Morfogen เล่าว่าเมนูติ่มซำที่เสิร์ฟทั้งหมดนี้อิงมาจากอาหารเมนูโปรดของเขาที่ได้ทานจากฝีมือลุง ฉะนั้น เขาจึงนำมาดัดแปลงลงไปในเกี๊ยวและติ่มซำเสียเลย “ถ้าแต่งงานกับอาหารได้ผมก็ทำไปแล้ว ตอนนี้ที่ผมทำก็คือนำอาหารจานโปรดของผมทั้งหมด ยัดลงไปไว้ในแผ่นเกี๊ยวยังไงล่ะ” ขนมจีบชีสเบอร์เกอร์ เกี๊ยวเนื้ออบ เสี่ยวหลงเปาซุปหัวหอม คลิปวิดีโอของร้าน Brooklyn Chop House หลังจากคลิปวิดีโอของร้านนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ด้วยยอดเข้าชมราว 500,000 ครั้ง กลับมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเลยที่เข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์เชิงลบ…
-
หญิงสาวบน Tinder บอกกับชายหนุ่มว่า “ไม่ชอบคนอ้วน” เจอไอ้หนุ่มสวนหน้าเงิบไปเลย!!
แอปพลิเคชันหาคู่ยอดฮิตอย่าง Tinder มีโอกาสทำให้เราสามารถพบเจอกับเพื่อนคุยมากหน้าหลายตา ที่อาจพัฒนามาเป็นคนรู้ใจ อนึ่งมันก็อาจทำให้เราพบเจอกับคนแปลกๆ ได้เช่นกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่แชร์ต่อกันมาบนโลกออนไลน์ เมื่อหนุ่มได้เจอกับสาวคนหนึ่งที่ออกตัวว่าไม่ชอบ “คนอ้วน” บนแอป Tinder ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์สาวคนนี้อย่างหนักหน่วง ลองไปชมบทสนทนาอันแสนดุเดือดของหนุ่มสาวคู่นี้กัน Becca หญิงสาวที่ออกตัวว่าไม่ชอบ “คนอ้วน” พิมพ์ว่า “คุณอ้วนมากอะ ฉันไม่ชอบคนอ้วน และฉันก็กดไลก์คุณโดยบังเอิญ” “ขอโทษทีนะ ขอร้องว่าอย่าฆ่าตัวตายล่ะ มันคงจะมีใครบางคนที่รักคุณและฮัสกี้*ของคุณได้สักวัน” (ฮัสกี้* แปลว่าสุนัขฮัสกี้ก็ได้ แปลว่ารูปร่างใหญ่โตก็ได้) “แต่คนคนนั้นแค่ไม่ใช่ฉัน เพราะฉันมีรูปร่างอย่างคนปกติ แต่คุณไม่” จากนั้นสาวเจ้าก็บอกลา ส่วนชายหนุ่มตอบว่า “เดี๋ยวๆ ผมอ้วนเหรอ!? ตรงไหนเนี่ย?” “แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ฆ่าตัวตาย ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปร่างของผม ผมจะพยายามจัดการมันนะ และอีกอย่างผมก็ไม่ได้กำลังมองหา อีกะ** เช่นกัน” เมื่อบทสนทนาแสนดุเดือดนี้ถูกเผยแพร่และแชร์ต่อกันบนโลกโซเชียล ชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์กับเพียบ ลองไปชมตัวอย่างกันเลย “เรื่องน้ำหนักมันแก้ไขกันได้นะ แต่เป็นคนน่ารังเกียจแบบนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้” “เธอดูเข้าสังคมไม่เก่งอะ เธอมีความคาดหวังที่เกินจริงไปหน่อย…
-
บล็อกเกอร์สาว ละเลงใบหน้าด้วย “เลือดประจำเดือน” เซลฟี่ลง IG ไม่สนคำวิจารณ์
บล็อกเกอร์สาวชาวสวีเดนคนหนึ่งทำให้ชาวเน็ตต้องท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อเธอโพสต์ภาพเซลฟี่ที่ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วย ประจำเดือน ของเธอเอง… Maxinne Björk บล็อกเกอร์สาวชาวสวีเดนผู้ที่มักโพสต์ภาพและข้อความเชิงจิตวิญญาณได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตหลังเธอโพสต์ภาพตัวเองในเมืองอูบุด เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เธอโพสต์ภาพนี้พร้อมคำบรรยายภาพว่า “ฉันนั่งลงและหายใจลึกๆ จนกระทั่งฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันมีแรงปรารถนาที่จะเคลือบใบหน้าตนเองด้วยของเหลวธรรมชาติที่ทุกชีวิตผลิตขึ้นในร่างกายผู้หญิง” เธอยังอธิบายต่ออีกว่า “โดยมิได้คำนึงถึงเหตุผลหรืออื่นๆ ฉันก็ลงมือทำมัน ฉันทามันลงบนใบหน้าและร่างกาย จากนั้นฉันก็เปลือยกายและเกลือกกลิ้งลงบนพื้นหญ้าในสวน และทุกอย่างก็ถูกปกคลุมไปด้วย เลือดประจำเดือนของฉันเอง” “ฉันได้กลิ่นของพสุธาและร่ำไห้ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยความรู้สึกทั้งสุขและทุกข์ไปพร้อมๆ กัน หลังร้องไห้ได้ไม่นานฉันก็หัวเราะออกมาแทน และฉันก็รู้สึกความสุขมากที่มีแม่อยู่ในชีวิต เพราะเราทั้งคู่ช่วยเหลือกันและกันให้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้” แต่ภาพเซลฟี่พร้อมประจำเดือนของไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเท่าใดนัก มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันมากกระทั่งเธอต้องปิดส่วน “การแสดงความคิดเห็น” เอาไว้ เพียงหนึ่งวันถัดมาเธอก็พร้อมเปิดรับทุกความเห็นเกี่ยวกับโพสต์ภาพดังกล่าวของเธอ และเธอก็ได้ตอบกลับความคิดเห็นเหล่านั้นไปว่า “น่าสนใจมากที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยไม่ยอมรับความแตกต่างของมุมมองเกี่ยวกับชีวิต ฉันไม่เคยบอกใครให้คิดเหมือนฉันนี่ การกระทำของฉันเป็นเพียงการกระตุ้นให้ผู้คนรับฟังเสียงของหัวใจตัวเอง และทำสิ่งที่รู้สึกว่าถูกต้องแม้มันจะไม่ถูกต้องตามบรรทัดฐานของสังคมก็ตาม” นอกจากนี้เธอก็เผยว่า เธอใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเผยแพร่วิถีชีวิตของเธอเผื่อจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่จะกล้าออกมาใช้ชีวิตแบบที่ตนเองต้องการได้ และเธอก็ทิ้งท้ายเอาไว้สำหรับคนที่เข้ามาแสดงความเห็นเชิงลบในโพสต์ของเธอ เธอกล่าวว่า “ความเห็นเชิงลบทั้งหลายฉันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรหรอกนะ หรือว่าฉันควรรู้สึก? แต่ขอโทษทีมันรู้สึกดีมากเลยที่แม้ว่ามันจะรบกวนจิตใจฉันแต่ฉันก็ยังรักการใช้ชีวิตของตัวเองอยู่ดี” ที่มา: nextshark และ maxinnebjork
-
สิ้นความสัมพันธ์ Logan Paul & Chloe Bennet ชาวเน็ตพากัน “ยินดี” กับฝ่ายหญิง!?
ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า Chloe Bennet นักแสดงสาวสวยจากซีรียส์ Agents of S.H.I.E.L.D. ได้แยกทางกับแฟนหนุ่ม Logan Paul ยูทูบเบอร์ชื่อดังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาว Chloe นั้นมี “แฟนคลับ” ติดตามเป็นจำนวนมาก แต่แปลกที่เหล่าแฟนคลับแแทนที่จะพากันโศกเศร้ากลับแห่ขบวนกันมา แสดงความยินดี กับเธอที่ได้แยกทางกับ Logan เสียอย่างนั้น ความรักของทั้งคู่ที่ฝ่ายหญิงเคยออกมากล่าวว่า “Logan ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของฉันให้ดีขึ้น และฉันก็เปลี่ยนชีวิตเขาให้ดีขึ้นเช่นกัน” วันนี้กลับต้องจบลงโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ แต่แม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้วหนุ่ม Logan Paul ก็กล่าวถึง Chloe ว่า… “Chloe คว้าหัวใจผมไปเต็มๆ หนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ทำให้ผมรักเธอก็คือเธอร่วมทุกข์สุขกับผมมายาวนานซึ่งส่วนมากจะเป็นความทุกข์ แต่เธอก็ไม่เคยหันหลังให้ผมเลยสักครั้ง” Chloe Bennet Logan Paul อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังจะต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในภาพยนตร์มิวสิกคัลเรื่อง Valley Girl ที่ยังอยู่ระหว่างการถ่ายทำและยังไม่มีกำหนดฉาย สำหรับความเห็นของชาวเน็ตนั้นก็มีหลายทิศทางหลายอารมณ์ แต่ส่วนหนึ่งกลับมาแสดงความยินดีกับ Chole ที่สุดท้ายก็พบทางสว่าง… “พบทางสว่างสักทีนะ”…
-
ดาราหญิงตบหน้าคนดูกลางรายการ เพราะดันไปวิจารณ์ลูกที่ป่วยเป็น ‘ดาวน์ซินโดรม’
กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลของประเทศรัสเซีย เมื่อดาราหญิงวัย 49 ปี เดินไปตบหน้าผู้ชมในห้องส่งกลางรายการ เพราะผู้ชมดันไปวิจารณ์ถึง ‘ลูก’ ของเธอที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เรื่องมีอยู่ว่าในรายการ ‘ถ่ายทอดสด’ แนวทอล์กโชว์ ที่มีแฟนๆ รายการติดตามเป็นจำนวนมากของประเทศรัสเซีย Evelina ดาราหญิงวัย 49 ปี ถูกเชิญให้ไปออกรายการดังกล่าว พร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องการตั้งครรภ์ครั้งล่าสุดของเธอ ด้วยการทำ ‘เด็กหลอดแก้ว’ (IVF) ซึ่งเธอก็เล่าไปว่าในการตั้งครรภ์ครั้งนี้เธออยากได้ลูกผู้หญิง ซึ่งเธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่แล้วเมื่อถึงช่วงเปิดโอกาสให้ผู้ชมในห้องส่งได้ถามคำถาม ความเดือดก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ชมคนดังกล่าวระบุชื่อได้ว่า Elena Lebedeva เอ่ยปากถามคำถามที่ทำให้ทั้งพิธีกรและผู้ชมในห้องส่งคนอื่นๆ ถึงกับช็อกไปตามๆ กัน เธอพูดว่า “มันอันตรายมากนะที่จะมีลูกในวัย 35 ถึง 40 ปี แล้วนี่ยิ่ง 49 ปี คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?” “คุณอยากจะคลอดลูกที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมอีกคนรึไง? ในสังคมไม่ต้องการเด็กป่วยแบบนี้เพิ่มเข้ามาหรอกนะ ไม่ใช่แค่ในสังคมนี้ รวมไปถึงตัวคุณเองด้วย” ซึ่งระหว่างที่กำลังถามคำถาม Evelina ก็พยายามที่จะพูดเสียงดังเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่พอใจ แต่ Elena ก็ยังกล่าวว่าร้ายให้ลูกของเธอ…
-
โดนจวกยับ! นางแบบสาวถ่ายเซลฟี่คู่กับพ่อที่ “นอนตาย” อยู่ในโรงพยาบาลเรียก ‘ยอดไลก์’
สำหรับนางแบบหรือว่าคนดังบนโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว ยอดไลก์ คงเป็นสิ่งที่สำคัญกับพวกเขาอย่างมาก แต่จะสำคัญยิ่งกว่าการไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตเชียวหรือ? นางแบบสาวชาวเซอร์เบียนามว่า Jelica Ljubicic ถูกวิจารณ์อย่างแพร่หลายหลังจากที่เธอถ่ายรูปเซลฟี่ตนเองคู่กับพ่อของเธอซึ่ง นอนเสียชีวิต อยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เธอโพสต์รูปภาพเซลฟี่ดังกล่าวลงบนโลกโซเชียลพร้อมข้อความว่า “หลับให้สบาย” ประกอบด้วยรูปอีโมจิต่างๆ แต่ภายหลัง เมื่อเธอถูกวิจารณ์อย่างหนักเธอจึงลบภาพนั้นออก จากภาพที่เห็น เธอทำหน้าตาเศร้าหมองขณะที่ถ่ายภาพตนเองพร้อมกับร่างของพ่อที่นอนหลับตาอยู่ข้างๆ ซึ่งสื่อในพื้นที่รายงานว่า พ่อของ Jelica นั้นเสียชีวิตขณะที่เธอกำลังถ่ายรูปพอดี นอกจากนี้ใต้ภายเธอยังเขียนเพิ่มว่า “พวกเราต่อสู้ร่วมกันมาอย่างถึงที่สุด แต่นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของพวกเรา พวกเรากำหนดไม่ได้หรอกว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานขนาดไหน” “เขาจากพวกเราไปในวัย 67 ปี ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง ฉันซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้เป็นลูกและมีคุณเป็นพ่อ ขอบคุณที่เลี้ยงเรามาอย่างถูกทาง หลับให้สบายนะคะ พ่อจะอยู่ในหัวใจพวกเราเสมอ” เธอเขียนไว้ใต้ภาพ Jelica Ljubicic Jelica Ljubicic ลองมาชมตัวอย่างคอมเมนต์ในภาพดังกล่าว ลองดูว่าเธอโดนจวกขนาดไหน มีคอมเมนต์หนึ่งในภาพของเธอบอกว่า “นี่แสดงให้เห็นถึงความรักที่เธอมีให้พ่อของเธอ ขณะที่พ่อของเธอตาย เธอยกกล้องขึ้นมาถ่ายเซลฟี่” อีกคอมเมนต์บอกว่า “คนไม่ปกติเท่านั้นแหละถึงทำแบบนี้ได้” และอีกหนึ่งคอมเมนต์บอกว่า “สิ่งที่ได้เห็นและอ่านอยู่นี้ เป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย โลกใบนี้คงสิ้นหวังเสียแล้วล่ะ”…
-
ต่อเนื่องดราม่า อร BNK48 ประเด็นน้องที่วิจารณ์โดนโอตะคุกคาม-ครูเรียกพบตัว
หลังจากที่มีดราม่าประเด็นการตอบคำถามใน Instagram ของ อร BNK48 ก็ทำให้เรื่องราวบานปลายจนผู้วิจารณ์คนหนึ่งถึงกับซวย ถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกพบเลยทีเดียว เป็นที่เข้าใจได้ว่าเมื่อเราเป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบศิลปินคนไหนมากๆ ก็ย่อมรู้สึกไม่ดีที่ศิลปินของเราถูกวิจารณ์ในแง่ลบ ล่าสุด น้องชาวเน็ตคนหนึ่งได้นำประเด็นการตอบคำถามเรื่องน้ำหนักของ “อร BNK48” มาวิจารณ์ลงบนเฟซบุ๊กของตนเองในแง่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอร ซึ่ง “โอตะ” คนหนึ่งเห็นเข้า โอตะรายนี้จึงทำการ ฟ้องอาจารย์ที่โรงเรียนของคนวิจารณ์ ในโพสต์ของน้องมีข้อความประมาณว่า อรทำตัวไม่เหมาะสม หากไม่อยากตอบคำถามก็ไม่ควรตอบ จากนั้นโอตะรายหนึ่ง ก็นำเรื่องราวไปเล่าฟ้องอาจารย์ในโรงเรียนของน้องที่วิจารณ์อรอย่างออกรสออกชาติ ผลสุดท้าย น้องที่วิจารณ์อร BNK48 ถึงกับต้องออกมาโพสต์ขอโทษเหล่าโอตะทั้งหลาย เนื่องจากเจ้าตัวถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกตัวเข้าพบเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตต่างมองว่านี่เป็นการกระทำเกินเหตุของแฟนคลับของ อร BNK48 ซึ่งชาวเน็ตก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงให้กำลังใจน้องคนดังกล่าว ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณมากพอ และเสนอเหตุผลสำหรับการต่อสู้ความผิดเท่านั้น ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณ มีแนะแนวทางการให้เหตุผลเอาไว้ พร้อมแนะนำให้แจ้งความหากใครมาบอกว่าผิดกฎหมาย เราเชื่อว่าผู้ใหญ่มีเหตุผลมากพอ สู้ๆ นะครับ เชื่อว่าผู้ใหญ่น่าจะมีเหตุผลมากพอ ที่มา:…
-
ชาวเน็ตเล่นมุก The Rock จะโดดอย่างไรให้ถึงฝั่ง หลังพบโปสเตอร์ Skyscraper มันเฟล!!!
ชาวเน็ตพากันวิจารณ์โปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่อง Skyscraper ว่าดูแล้วมันแปลกๆ มันดูไม่สมกับหลักของกฎฟิสิกส์เท่าใดนัก เป็นเพราะอะไรเดี๋ยวเรามาดูกัน… ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างเรื่อง Skyscraper ที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ขณะนี้ โดยเรื่องนี้ได้ Dwayne Johnson หรือ The Rock มาเป็นนักแสดงนำ ซึ่งโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้น่าสนใจมากๆ โปสเตอร์ภาพยนตร์ Skyscraper ถึงโปสเตอร์นี้จะเท่ระเบิดขนาดไหนก็ตาม แต่ชาวเน็ตสายตาเฉียบคมหลายคนกลับบอกว่าถ้า The Rock กระโดดแบบนี้จริงๆ เขาไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ มันจึงจุดประกายให้ชาวเน็ตต่างพากันงัดความรู้ความสามารถในการคำนวณมาบวกลบคูณหารกันยกใหญ่ ผลออกมาเป็นอย่างไร เรามาดูพร้อมๆ กันเลย! เริ่มจากหาความสูงของตัวนักแสดงก่อน (The Rock สูง 6.5 ฟุต) นำความสูงมาเทียบกับโอกาสที่จะเป็นไปได้ในการกระโดดถึงตึกอีกด้าน วัดระยะทางคร่าวๆ ดูซิ ถึงเวลาคำนวณตามสูตร!!! ชึ้บๆ ชั้บๆ ทวิตเตอร์ @ChristianBedwel ได้เขียนอธิบายเพิ่มว่า “ผมคำนวณดูนิดหน่อย สมมุติว่าไม่มีแท่นเสริมแรงกระโดดนะ The Rock ต้องใช้ความเร็วในการวิ่ง 12.7…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์รองเท้า Crocs ใหม่ดีไซน์ส้นสูง “สวยหรือพัง” เรามาดูกันเถอะ…
มีสินค้าจำนวนไม่น้อยที่ผู้คนติดภาพการออกแบบและดีไซน์ของสินค้าไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจึงอาจทำให้ผู้คนมีความรู้สึกผิดหวังได้ อย่างเช่นล่าสุดรองเท้าของยี่ห้อ Crocs รองเท้าสวมง่ายแสนสบายสไตล์วัยรุ่นที่ได้ออกดีไซน์ใหม่มาเป็น “รองเท้าส้นสูง” ซึ่งทำเอาชาวเน็ตต่างไม่เห็นด้วยกับดีไซน์นี้ รองเท้ายี่ห้อ Crocs รองเท้าส้นสูงใหม่จาก Crocs (แถมตอนนี้ยังกำลังลดราคาอยู่ด้วยนะ) ราคาของมันอยู่ที่ราวๆ 1,760 บาท ซึ่งชาวเน็ตเองก็มองว่าดีไซน์ดูไม่เหมาะสมกับราคา ทั้งๆ ที่ทางเว็บไซต์ของ Crocs เองก็ได้อธิบายรองเท้ารุ่นนี้เอาไว้ว่า “รองเท้าส้นสูงและส้นตึกไปรเวตที่ใส่สบาย” หลายคนก็ยังวิจารณ์ว่าเป็นรองเท้าที่อยู่ครึ่งๆ กลางๆ หากต้องการรองเท้าไปรเวตสวมใส่สบายก็ควรใส่รองเท้าแตะ ซึ่งการที่รองเท้าแตะจะถูกปรับให้เป็นแฟชั่นรองเท้าส้นสูงนั้นควรจะซื้อรองเท้าส้นสูงดีๆ มาใส่แทนไม่ดีกว่าหรือ? ภายหลัง บนทวิตเตอร์ของ Crocs ก็ได้โพสต์ภาพการเปิดตัวรองเท้าส้นสูงดีไซน์ใหม่บนเวที Paris Fashion Week ที่ทำเอาชาวเน็ตถึงกับหันมาสนใจกันมากมายทีเดียว รองเท้าส้นสูง Crocs ในงาน Paris Fashion Week หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ไปชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์เชิงบวกกันมากมาย เช่น “ฉันรอรองเท้ารุ่นนี้อยู่นะ” “เอามาให้ฉันเถอะ!!” “ฉันอยากได้ทุกคู่เลยล่ะ” “ไอ้บ้าเอ๊ยยย ฉันชอบมันจังเลย” แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดอย่างไรกับรองเท้า…
-
ชาวเน็ตดราม่าหนัก หลัง ‘กัปตัน ชลธร’ แถลงแทบไม่มีคำว่าลูก แต่เรียกสิ่งที่อยู่ในท้อง…
เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงแทบทั้งวันของวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่าน ในเรื่องของ กัปตัน ชลธร ดาราหนุ่มวัยรุ่นวัย 20 ปี (จากเลิฟซิคเดอะซีรีส์) และ มิ้งค์ ศวภัทร อดีตแฟนสาวเน็ตไอดอล วัย 23 ปี จากการตั้งท้องพร้อมหลักฐานการตรวจครรภ์ และใบรับรองแพทย์ จนกระทั่งลบออกในเวลาต่อมา… จากเหตุการณ์เมื่อวาน กัปตัน-มิ้ง และผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าวดังกล่าวพร้อมกัน โดยทางกัปตัน ได้กล่าวยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เหตุผลบางอย่างทำเลิกกันไป… แต่ก็ยังมีความห่วงใยดีๆ ให้กัน สำหรับเรื่องที่มีเด็กอยู่นั้น ทางผมขอรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ทำไป ไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เกิดจากผมได้รับอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตามหลังจากจบงานแถลงข่าวไปแล้ว แต่กระแสในโลกออนไลน์ยังไม่หยุดวิจารณ์ เนื่องจากมีการพูดถึงคำพูดของกัปตันผ่าน #กัปตันชลธร ในทวิตเตอร์ รวมไปถึงเพจบนเฟสบุ๊กนำเรื่องคำพูดของกัปตันมาขยายประเด็นเพิ่ม จากการที่แทบจะไม่พูดคำว่า “ลูก” แต่กลับเรียกเป็นอย่างอื่นแทนเช่น เด็ก เด็กในท้อง สิ่งที่เกิดจากผม และ สิ่งที่อยู่ในท้อง… ความคิดเห็นบางส่วนจากแฮชแท็กดังกล่าว . …
-
CyberBully หรือเพียงแค่ Criticism เราเห็นอะไรบ้าง จากกรณีชาวเน็ตดราม่า ‘ไข่มุก BNK48’
ในโลกยุคสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต ทุกคนต่างมีพื้นที่เป็นของตัวเองและพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน เปรียบได้เหมือนกับโลกอีกใบที่ทุกคนมีตัวตน เพียงแต่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือเพียงแค่ร่างอวตารเท่านั้น… เมื่ออยู่ในโลกออนไลน์ ทุกคนต่างมีอิสระ สิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออกทางความคิดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การแชร์ หรือแม้แต่กระทั่งการเขียน การกล่าวถึง และวิจารณ์ในประเด็นต่างๆ จากกรณีล่าสุดที่ชาวเน็ตจุดประเด็นเกี่ยวกับการตอบคำถามของน้อง ‘ไข่มุก BNK48’ ในรายการดาวินชี่ ด้วยคำตอบสั้นๆ เพียงแค่ 3 พยางค์ อ๊บใสไม้ และ ป้ายเป่าหลง จนเกิดเป็นข้อสงสัยถึงตัวตนจริงๆ ของน้อง พร้อมทั้งตั้งคำถามในระดับสติปัญญา ลามไปจนถึงการด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง บานปลายไปทั่วอาณาจักรโซเชียลไทย ทั้งนี้ ฝ่ายที่ออกมาว่ากล่าวนั้น ต่างบอกว่าเป็นการวิจารณ์ ติเพื่อก่อ บุคคลสาธารณะควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น แต่ทว่าในบางความคิดเห็นวิจารณ์ด้วยคำด่า คำที่รุนแรงต่อผู้อ่านท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เห็นด้วยไปเสียหมด และนำมาสู่คำถามอีกครั้งว่าเป็นการ ‘วิจารณ์’ หรือเป็นการ ‘บูลลี่’ กันแน่ ก่อนอื่นนั้น เรามาทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า หลายคนมักจะสับสนในความแตกต่างระหว่าง เสรีภาพทางการแสดงความคิดเห็น และ การบูลลี่…
-
ชาวมาเลเซียเดือดรายการ MasterChef หลังเชฟออกมาวิจารณ์เมนูท้องถิ่นว่า “มันควรจะกรอบสิ”
MasterChef ถือเป็นรายการอาหารรายการหนึ่งที่โด่งดังมากในไทย และต่างประเทศ เพราะมีรูปแบบการแข่งขันที่สนุกสนานโดยที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งกันทำอาหารเมนูเดียวกันให้ออกมาดีที่สุดเพื่อให้คณะกรรมการชิมและผ่านเข้ารอบต่อๆ ไป อย่างในประเทศอังกฤษเองก็มีรายการ MasterChef เช่นกัน แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าทางคณะกรรมการเองดันวิจารณ์อาหารท้องถิ่นอย่างเมนู Rendang (เรินดัง) ว่าควรจะมีความกรอบ (ทั้งๆ ที่มันควรจะนิ่ม) จนชาวมาเลเซียพากันวิจารณ์คณะกรรมการยกใหญ่ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าเมนู Rendang นั้นเป็นเมนูท้องถิ่นของมาเลเซียเป็นแกงกะทิที่ใช้เนื้อวัว เนื้อแพะ หรือแกะในการปรุง (ใครนึกไม่ออกก็ให้นึกภาพแนวๆ ฉู่ฉี่หรือพะแนงบ้านเรา) มีต้นกำเนิดอยู่บริเวณทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา ปัจจุบันเมนูดังกล่าวได้รับความนิยมในหมู่ชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นอย่างมาก ทีนี้ในรายการ MasterChef ของอังกฤษที่ออกฉายไปเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีผู้เข้าแข่งขันจากมาเลเซียที่ชื่อว่า Zaleha Kadir Olpin มาร่วมรายการด้วย และเธอเลือกทำเมนู Rendang ที่เป็นเมนูในวัยเด็กที่แม่ของเธอทำให้กิน โดยเธอเรียกมันว่า “รสชาติแห่งวัยเด็ก” Zaleha Kadir Olpin (คนกลาง) ผู้เข้าแข่งขันในรายการ หลังจากที่ Zaleha ทำเมนูนี้เสร็จแล้ว เธอได้เอาให้คณะกรรมการอย่าง John Torode และ Gregg Wallace…
-
โอ้โห…ชุดทีมสเก็ตของสหรัฐฯ กับไฮไลท์เน้นๆ ที่เป้า ดึงดูดจนละสายตาไปที่อื่นไม่ได้เลย!!
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ไม่ต่างจากเดิมที่มีการแข่งขันกีฬานานาชนิด จากหลายประเทศทั่วโลก แน่นอนว่าแต่ละกีฬา และแต่ละประเทศก็จำเป็นจะต้องมี “ยูนิฟอร์ม” เป็นของตัวเอง เพื่อให้สามารถแยกแยะ และระบุได้ง่าย ว่าเป็นทีมกีฬาประเภทใด และมาจากประเทศอะไร แต่เหมือนว่าเรื่องของชุดที่นักกีฬาใส่จะส่งผลมากกว่านั้น เพราะมันได้ทำให้ชาวเน็ตแตกตื่นกันอย่างมาก ซึ่งสาเหตุก็เกิดมาจาก ยูนิฟอร์มของทีมสเก็ตของประเทศสหรัฐอเมริกาที่หลายคนมองว่ามัน “ประหลาด” นั่นเอง ชุดดังกล่าวมีลักษณะเป็นชุดรัดรูปสีดำ ตัดด้วยสีขาว ดูเรียบร้อยสวยงาม แต่ติดอยู่อย่างเดียวก็คืิอ มีการใช่สีอ่อนบริเวนต้นขาด้านในรวมถึงบริเวณหว่างขาของชุด ทำให้ “เป้า” ของนักกีฬาดูโดดเด่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมชุดสำหรับนักกีฬาหญิงยังเหมือนมีแผ่นแปะสีดำตรงกลางเป้าที่มีขนาดเล็กกว่าของชุดผู้ชายอีกด้วย มีบางเว็บไซต์ที่บอกว่าชุดนี้มันดูเหมือนกับ “ช่องคลอดมนุษย์ต่างดาว” ยังไงอย่างงั้น ทั้งนี้ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า sarah_haskins ออกมาทวิตภาพที่เธอถ่ายมาได้จากโทรทัศน์ แถมเอามาเล่นตลกด้วยว่าสงสัยคนออกแบบชุดตั้งใจจะดึงดูดสายตาผู้ชมด้วยเป้าของนักกีฬา ภาพที่ Sarah Haskins โพสต์ลงในทวิตเตอร์ ชุดนี้ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงบนโลกอินเทอร์เน็ต บางคนวิจารณ์ว่า “ใครออกแบบชุดนี้กันแน่เนี่ย? ไอ้ตรงเป้านั่นเหมือนกับให้คนที่ออกแบบไม่เป็นมาทำเลย” อีกคนก็ออกมาโพสต์ข้อความว่า “ชุดนักสเก็ตหญิงนี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? เน้นตรงเป้า แถมมีรอยขีดสีดำกลางเป้าพอดี มันเหมาะตรงไหน? ใครอนุมัติให้ทำชุดแบบนี้ออกมาเนี่ย?” ทั้งนี้ทาง Under Armour…
-
กลุ่มคนถูกวิจารณ์หนัก หลังเปลือยล่อนจ้อนไปวิ่งเล่นในห้องรมแก๊สที่ค่ายกักกันนาซี
นี่เป็นคลิปวิดีโอที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อชายหญิงกลุ่มหนึ่งได้ก่อพฤติกรรมสุดฉาวในห้องรมแก๊สพิษของนาซี ที่ถูกนำมาใช้สังหารหมู่ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับการเผยแพร่จากนิทรรศการศิลปะของพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยในกรุงกรากุฟ ประเทศโปแลนด์ ที่ถูกจัดขึ้นในปี 2015 โดยมาในชื่อว่า โปแลนด์ – อิสราเอล – เยอรมนี: ประสบการณ์ที่ได้จากค่ายกักกัน Auschwitz จากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่ากลุ่มชายหญิงเหล่านี้ กำลังวิ่งล่อนจ้อนไล่จับกันอย่างสนุกสนานภายใน Stutthof ซึ่งเป็นค่ายกักกันเก่าของนาซี ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Gdansk ของโปแลนด์ สถานที่ซึ่งเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่า 65,000 คน งานนี้ทำให้กลุ่มชาวยิวที่รอดชีวิตจากสถานที่ดังกล่าว ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจหลังเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคนกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เป็นตัวแทนให้กับกลุ่มชาวยิวผู้รอดชีวิต ก็ได้เรียกร้องขอคำอธิบายจาก Andrzej Duda ประธานาธิบดีโปแลนด์ว่า เหตุใดจึงมีการอนุญาตให้ผู้คนกลุ่มนี้ได้เข้าไปถ่ายภาพเปลือยเล่นกันอย่างสนุกสนานได้ ทางด้าน Efraim Zuroff องค์กรสิทธิมนุษยชนของชาวยิว ได้ออกมากล่าวในปี 2015 ว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย พวกเขาโกหกเรื่องนี้…
-
ช่างสักสร้างรอยสักแบบถมดำบนร่างกาย แต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์ว่า “เหยียดสีผิว”
Belle Atrix เป็นชื่อของช่างสักจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากโลกออนไลน์อย่างหนัก ภายหลังจากที่เธอได้ตัดสินใจสักร่างกายของตัวเองด้วยรอยสักสไตล์ Blackwork หรือ รอยสักแบบถมดำ ภายหลังจากที่ Belle ได้แชร์ภาพถ่ายการสักดังกล่าวลงในอินสตาแกรม พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ เกี่ยวกับรอยสัก Blackwork งานนี้ทำเอาบรรดาชาวเน็ตหลายๆ กลับคนรู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในขณะที่ Belle กลับเห็นว่าการสร้างศิลปะบนร่างกายของตัวเองเป็น “การบำบัดรักษา” ซึ่งก็มีผู้ที่ติดตามได้เข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย บางคนก็เข้ามาให้กำลังใจพร้อมบอกว่ามันงดงาม เยี่ยมยอด และเป็นแรงบันดาลใจของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ได้เข้ามาโต้แย้งว่า นี่มันเป็นการเหยียดสีผิวชัดๆ บางคนก็บอกว่ามันน่ารังเกียจ ซึ่งจริงๆ แล้วรอยสักแบบ Blackwork นั้นได้รับความนิยมและมีมานานมากแล้วนั่นเอง ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าทำไมรอยสักดังกล่าวถึงไม่เป็นที่พอใจของผู้คนจำนวนมาก แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร? คุณสามารถรับชมภาพและผลงานการสักแบบอื่นๆ ของเธอได้ในอินสตาแกรม atrixbelle เลยจ้า ที่มา : boredpanda
-
สาวอ้วนรีวิวโรงแรมให้คะแนนติดลบ เจอโรงแรมสวนกลับให้ไปลดน้ำหนัก กลายเป็นเรื่องใหญ่!!
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Emily Chance หญิงสาวที่ถูก Ken Evans ผู้จัดการของโรงแรม Nelcon Hotel ที่เธอได้เข้าไปใช้บริการไล่ให้ไปควบคุมอาหาร เหตุเพราะเขารู้สึกไม่พอใจอย่างแรงหลังจากที่ Emily ได้แสดงความเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้ว่าทั้ง “สกปรก” และ “น่ากลัว” จากการรายงานระบุว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Emily ได้จ่ายเงินจำนวน 38 ปอนด์ เพื่อเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเมืองแบล็กพูล แคว้นแลงคาเชอร์ ประเทศอังกฤษ กับ Michael ผู้เป็นสามีเป็นเวลา 2 คืน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบวันแต่งงานของพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าโรงแรมแห่งนี้จะทำให้ Emily รู้สึกผิดหวังและไม่ประทับใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอได้ติดสินใจเข้าไปโพสต์รีวิวเกี่ยวกับโรงแรมดังกล่าวในเว็บไซต์ท่องเที่ยว Booking.com โดยระบุใจความสำคัญว่า… “เมื่อได้เดินเข้าไปคุณจะพบกับกลิ่นที่เหม็นมาก แถมในห้องน้ำก็เต็มไปด้วยสกปรก รวมถึงผ้าขนหนูก็ยังสกปรกด้วย ฉันให้โรงแรมนี้ 3.8 จากคะแนนเต็ม 10” . อย่างไรก็ตาม…
-
รวมรีวิวของชาวเกมเมอร์ ที่มีต่อเกม ‘Fights of Gods’ ในแง่การเล่นมันสนุกขนาดไหน…??
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนระอุไปทั่วโลก หลังมีการปล่อยเกม Fight of Gods ออกมา ถึงขนาดที่ว่าเกมเมอร์ในมาเลเซียอดใช้ Steam กันเลยทีเดียว (ตอนนี้ใช้ได้แล้ว แต่โดนบล็อคหน้าเกมดังกล่าว) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปในวงกว้าง หลังมีการเปิดตัวเกมอินดี้ที่จับเอาศาสดาและเทพเจ้าตามความเชื่อของหลักศาสนาต่างๆ มาต่อสู้กัน สำหรับกรณีนี้ก็มีความเห็นต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะฝั่งไทยเราที่ถึงขั้นอยากจะสั่งแบนผู้ผลิตกันเลยทีเดียว (เนื้อหาข่าวเดิม) เห็นแบบนี้ได้รางวัล Indie Prize 2017 มาแล้วนะจะบอกให้!! ท่ามกลางกระแสดราม่าหลายคนคงได้เห็นความคิดเห็นจากทั้งฝั่งที่ยึดมั่นในสิ่งที่ตนศรัทธา กับฝั่งที่มองว่ามันเป็นแค่เกมกันมาบ้างแล้ว ซึ่งคราวนี้เราจะขอพาไปชมความคิดเห็นจาก ‘เกมเมอร์’ ที่ได้เข้าไปเล่นในเกมกันมาแล้วจริงๆ บ้างดีกว่า เราไปดูกันว่านอกเหนือจากประเด็นเรื่องศาสนาแล้ว ในฐานะที่เกมเป็นตัวเกมจริงๆ จะได้รับคำชมหรือคำวิจารณ์มากขนาดไหน ‘เกมต่อสู้ที่คุณเป็นพระเยซูได้ มันก็เหมือนเกมต่อสู้อื่นๆ ที่มีตัวละครเป็นเอกลักษณ์ แต่ต่างตรงที่มีโหมด Arcade เป็นเกมที่สนุกเลย เหมาะสมกับราคาที่ลดลงมา’ ‘เหตุผลง่ายๆ ที่เราซื้อเกมนี้… มันสนุก มีตัวละครที่เราต่างก็อยากให้มี และฝึกทำคอมโบได้ไม่ยาก’ ‘กราฟฟิคดี ระบบเกมก็โอเค ตัวละครก็ไม่เยอะเกินไป… (จากนั้นก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวละครตามความเชื่อ)’ ‘ถึงกับลงทุนจ่ายเงินซื้อเกมนี้เลยมาเลยนะ แล้วมันก็คุ้มมากๆ…
-
ดูแล้วมาโม้!! Don’t Breathe หนังที่สลับให้คนดีต้องไล่ล่า แล้วตัวร้ายเป็นผู้ถูกไล่ล่า
น้อยครั้งมากที่เราจะได้เจอกับหนังระทึกขวัญที่พล็อตแปลกแหวกแนว จนเราอยากติดตามดูความเป็นมาเป็นไปของตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่เผลอหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาซะก่อน และหนังเรื่องล่าสุดที่ทำให้ #เหมียวฟิ้น รู้สึกแบบนั้นได้ก็คือ Don’t Breathe นี่เอง ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มาก เพราะแค่พล็อตก็น่าสนใจมากแล้ว หากในบทความนี้จะมีการอวยสักเล็กน้อยก็อย่าได้ถือสานะ ลองไปอ่านความเห็นหลังชมของ#เหมียวฟิ้นกันเลย Don’t Breathe เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มหัวขโมย 3 คนที่บุกเข้าไปในบ้านของอดีตทหารตาบอดปลดเกษียร เพื่อหวังจะปล้นทรัพย์ แต่ปรากฎว่าอดีตทหารรายนี้ดันหูดีจนสามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจคนได้ (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่อง) การปล้นครั้งนี้จึงกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์เลย พล็อตของเรื่องดูจะไม่ยาวเท่าไหร่ แต่ความน่าสนุกของคนดูก็คือ เราจะได้เห็นการสลับตำแหน่งระหว่างคนดีและคนร้าย เพราะในทุกๆ ครั้งคนดีจะเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำแล้วต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะคนร้าย แต่ในหนังเรื่องนี้คนร้ายดันกลายเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำและต้องหนีหัวซุกหัวซุน จนคนดูไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยคนดีหรือคนร้ายกันแน่ จากตัวอย่างหนังหรือเรื่องย่อจะเห็นว่ามันเป็นหนังระทึกขวัญไม่ใช่หนังผี แต่ทุกครั้งที่ตาแก่ตาบอดคนนี้โผล่มาทีไรเราจะรู้สึกสยองทุกครั้ง (แม้เราจะรู้ว่าเขาเป็นคนดีก็ตาม) รอบที่ #เหมียวฟิ้ นไปดูมี #เหมียวหง่าว ไปดูด้วย รายนี้ถึงกับกลั้นหายใจระหว่างที่ตัวละครกลั้นหายใจด้วย และเชื่อว่าคนที่ไปดูหลายๆ คนก็น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ใช่ว่าหนังจำดำเนินไปโดยมีแค่การไล่ล่ากันให้เราดูเท่านั้น เพราะตัวหนังยังมีมุกหักมุมหลายๆ อย่างซ่อนอยู่ในช่วงกลางเรื่องและท้ายเรื่อง รับรองว่าต้องอึ้งกับความเxี้ย ของตัวละครบางตัวแน่นอน พูดไปจะหาว่าอวย (แต่ก็อวยจริงๆ) เราขอให้คำแนนความน่าดูอยู่ที่ 5/5 เลยแล้วกัน ใครที่ชอบความระทึก…
-
หนุ่มโพสต์วิจารณ์ ‘ผู้ชายแต่งหญิง’ ในรถไฟอังกฤษ ถึงขั้นบริษัทรถไฟออกมาตอบโต้เองเลย!!
ไม่ใช่แค่ในประเทศเราเท่านั้นที่ยังหลงเหลือมนุษย์ยุคโบราณ ซึ่งชอบเหยียดการกระทำของคนอื่น ที่อังกฤษก็มีประเด็นดราม่าเล็กๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน…. เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง Gary J Cocker ได้โพสต์ข้อความทำนองว่า ‘เมื่อตอนเย็นผมเจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามสวมถุงเท้ายาวและชุดเดรสของผู้หญิงบนรถไฟ TP Express Trains นี่มันอะไรกันฟะเนี่ย!?’ มีหรืองานนี้สังคมออนไลน์จะไม่ลุกเป็นไฟ และดราม่ามันก็บังเกิด… เห็นแบบนี้ทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะข้อความที่ออกมาตอกกลับไปนั้นแทบจะทำให้หนุ่มคนนี้หงายเงิบได้เลยทีเดียว โ ดยมีเนื้อหาทำนองว่า ‘@gaz_cocks เราขอเรียนให้คุณทราบว่านี่มันยุคศตวรรษที่ 21 แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่มีตั๋วขึ้นรถไฟ ทางเราก็พร้อมยินดีที่จะให้บริการแก่ทุกคน!!’ หลังจากนั้นไม่นานชาวเน็ตก็ออกมาร่วมแจมกับเรื่องนี้ ด้วยการถ่ายรูปตัวเองแต่งชุดผู้หญิงแล้วแท็คไปที่ @TPEassist กันอย่างสนุกสนาน เหมือนเป็นการรวมกลุ่มกันคอสเพลย์และแอบตอกกลับคนโพสต์ซะอย่างนั้น Magnus Sinding H. ‘การศึกษาที่คุณมีมันไม่ได้ช่วยให้เข้าใจการใช้ชีวิตของคนอื่นเลยใช่มั้ย?’ Martyn ‘เห็นผมแต่งตัวแบบนี้แต่รับรองว่าดูเร่าร้อนกว่าผู้หญิงทุกคนที่คุณเคยนอนด้วยซะอีก’ Michael Clark ‘คุณสงสัยใช่มั้ยว่ามันคืออะไร? มันคือการกวนทีนและไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงต่างหากล่ะ :)’ สำหรับคุณลุง Dave Lewarne คนนี้มาได้ฮาสุดๆ ‘ผมควรจะนำตัวตนออกมาบ้างไหม? และช่วยจองตั๋วรถไฟในชื่อ Davy Gaga ด้วยจะได้นะ?’ …
-
[วิจารณ์ส่งเดช] ชวนดู Jason Bourne ล่าสุดใจไปกับนายเจสัน ฉากบู๊อลังการกว่าที่ผ่านมา!!
แม้จะมีชื่อย่อว่า JB เหมือนกัน แต่ Jason Bourne ก็แทบไม่มีอะไรที่เหมือนกับ James Bond เลย ทั้งจนกว่า แต่งตัวลุยๆ ไม่มีสูทหรูๆ ไม่มีสาวสวยข้างกาย ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทค หรือแม้แต่ทีมงานคอยช่วยเหลือเขา แต่นั่นแหละทำให้หนังชุดนี้ดูมีเสน่ห์แตกต่างจากสายลับคนอื่นๆ Jason Bourne ถือเป็นหนังสายลับภาคต่อ ภาคที่ 5 แล้วของหนังชุดนี้ แม้ในภาคที่ 4 จะมีการเปลี่ยนตัวพระเอกจาก Matt Damon มาเป็น Jeremy Renner ก็ตาม แต่เราก็จะทำเป็นลืมๆ มันไปว่าเคยมีหนังเรื่องนั้นมาก่อน เราจะมาว่าถึงหนังภาคนี้และ 3 ภาคแรกกันเลย อย่างแรกที่ต้องบอกคุณก่อนก็คือหากคุณไม่เคยดู 3 ภาคแรกมาก่อน คุณจะงงแน่ๆ เพราะหนังจะเล่าถึงตัวตนของ Bourne ในช่วงที่ความจำของเขาขาดๆ หายๆ และมันจะมีความต่อเนื่องกันของเหตุการณ์อื่นๆ และองค์กรเทรดสโตน (ที่น่าจะล้มหายตายจากไปตั้งแต่ภาค 3 แล้ว) …
-
[วิจารณ์ส่งเดช] ‘Sing Street’ ความกลมกล่อมของ Begin Again และ Once ทำให้หัวใจพองโตเปี่ยมสุข
กลับมาอีกครั้งกับผู้กำกับ John Carney ที่เคยฝากความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วกับ Begin Again และ Once คราวนี้เขากลับมาอีกครั้งกับหนังดนตรีที่เขาถนัดพร้อมๆ กับกลิ่นอายของยุค 80 ใน Sing Street Sing Street เป็นเรื่องราวของ Conor เด็กหนุ่มที่กำลังเหน็ดเหนื่อยจากปัญหาครอบครัวที่ความสัมพันธ์ของพ่อและแม่ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ และด้วยปัญหาทางด้านการเงินของที่บ้าน ทำให้เขาต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลสุดเลวร้าย มีแต่นักเรียนอันแสนป่าเถื่อน และคุณครูที่ป่าเถื่อนยิ่งกว่า ที่นั่นเอง เขาได้พบกับ Raphina หญิงสาวที่ทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ เขาจึงรวบรวมพรรคพวกและตั้งวงดนตรีขึ้นมา เพื่อพิชิตใจนางในฝันของตนเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุขๆ ปนเศร้าๆ ของหนังเรื่องนี้ ตัวหนังได้ผสมบทเพลงและการเล่าเรื่องเข้าด้วยกัน โดยแต่ละช่วงเวลาของหนัง ผู้กำกับจะใช้เพลงเล่าเรื่องราวและความรู้สึกของ Conor ตัวละครเอกของเรื่องในขณะนั้น ซึ่งต้องเผชิญกับเรื่องราวน่าปวดหัวมากมายทั้ง ครอบครัว โรงเรียน และความรัก ซึ่งต้องบอกว่า จังหวะของแต่ละเพลงที่ผู้กำกับเลือกมานั้น ช่วยขับเน้นอารมณ์ของเรื่องในขณะนั้นเป็นอย่างมาก เรียกว่าความสนุก 75 เปอร์เซ็นของหนังมาจากการฟังเพลงจริงๆ ตัวละคร Conor ได้สะท้อนชีวิตวัยรุ่นตอนกลางที่ซับซ้อนออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เขาต้องจัดการกับปัญหาหลายๆ อย่างที่เจอ พร้อมๆ กับเรียนรู้ว่า…
-
หญิงสาวถูกพี่ที่ทำงาน เอารูป ‘ชุดว่ายน้ำ’ ไปลงเฟซบุ๊คตัวเอง ให้เพื่อนวิจารณ์สนุกปาก!!!
ปัจจุบันเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสำคัญกันเป็นอย่างมาก อย่างเช่นการดูถูก เหยียดหยาม ประจานกันในที่สาธารณะ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นอับอาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากในสังคมบ้านเรา อย่างเหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน มีชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3056650 ได้ทำการโพสต์กระทู้ว่า “พี่ที่ทำงาน เอารูปที่เราใส่ชุดว่ายน้ำไปโพส และมีเพื่อนเค้ามาวิจารณ์แบบนี้ เราสามารถฟ้องร้องได้มั้ยคะ?” โดยเธอเล่าว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนบริษัทที่เธอทำงานอยู่ได้จัดสัมมนาที่โรงแรมริมทะเลในจังหวัดระยอง ซึ่งก็มีช่วงพักเบรกให้เล่นน้ำกัน แล้วด้วยความที่ไปทะเล เจ้าของกระทู้ ก็ได้ทำการใส่ชุดว่ายน้ำเพื่อไปเล่นน้ำชิลๆ กับเพื่อนๆ ร่วมงานที่สนิทกันกับเธอ หลังจากนั้นทุกอย่างก็จบลงทุกคนแยกย้ายกันกลับ แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะจู่ๆ เธอก็มารู้ตัวทีหลังว่ามีรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอ อยู่แผนกบัญชีที่อยู่คนละแผนกกับเธอ ซึ่งก็ไม่ได้นิทหรือรู้กจักมักจี่อะไรด้วยเลย แถมไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊คอีกต่างหาก ได้ทำการแอบถ่ายรูปของเธอตอนใส่ชุดว่ายน้ำ แล้วเอาไปโพสต์วิจารณ์ที่หน้าเฟซบุ๊คของตัวเองอย่างสนุกปาก โดยใส่แคปชั่นว่า “น้องที่ทำงาน สวยป๊ะ 555 *รูปอีโมชั่นมองบน *รูปอีโมชั่นหน้าเอือม” เธอเล่าเพิ่มเติมว่าที่รู้ก็เพราะมีพี่ที่ทำงานอีกคนหนึ่งที่เธอสนิทสนมด้วยแคปรูปมาให้ดู อีกทั้งยังช่วยเตือนให้พี่บัญชีคนโพสต์ให้ลบโพสต์ออกซะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยยอมทำ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ แถมยังโพสต์เหน็บแนม เจ้าของกระทู้ตามมาอีกเรื่อยๆ เรื่องการใส่ชุดว่ายน้ำ เจ้าของกระทู้อดรนทนไม่ไหวก็เลยทำการส่งข้อความในเฟซบุ๊คไปหาแต่เธอก็ยังไม่ยอมลบอีก ทำแค่ตั้งค่าจาก Public เป็นแบบเห็นได้เฉพาะเพื่อนในเฟซของเธอ ด้วยความสงสารจากพี่ที่ทำงานอีกคนของเจ้าของกระทู้ก็เลยทักไปช่วยพูดให้ พี่พนักงานบัญชีจึงยอมใจอ่อนลบทิ้งไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง เจ้าของกระทู้รู้สึกเสียความมั่นใจในตัวเองมาก เพราะถูกวิจารณ์ซะเสียหายขนาดนั้นจากคนที่ไม่ค่อยรู้จัก และไม่เคยมีปัญหาอะไรด้วยเลย…
-
ชมพู่ อารยา ถูกหยิบยกมาวิจารณ์การแต่งตัวจากชุดเดรสสีชมพู บ่งชี้ถึงความเสื่อมหญิงไทย!?
การไปร่วมงานระดับโลกนั้น ต้องมีการปฏิบัติตามหลักสากล ตามยุค ตามสมัย ซึ่งในเรื่องของความงาม แฟชั่นของฝั่งตะวันตกนั้นก็เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมานานแล้ว จะแตกต่างจากฝั่งเอเชียไปซักหน่อย แต่สุดท้ายก็นำมาปฏิบัติตามกันเป็นเรื่องสากลไปแล้วล่ะนะ ทีนี้ เราได้เห็นความงามของสาวชมพู่ อารยา กับชุดเดรสที่ไปร่วมงาน ณ เมืองคานส์ ดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไร เพราะเธอก็คือตัวแทนความงามจากประเทศไทยสู่งานระดับโลก ชาวต่างชาติเองก็ยังชื่นชมในความงามของเธอเลย ถึงขั้นได้ขึ้นหน้าแรกของหนังสือพิมพ์โปแลนด์ จู่ๆ ก็มีการหยิบภาพของสาวชม ในชุดเดรสสีชมพู เปิดข้างสีเนื้อคล้ายๆ กับโชว์เนื้อหนัง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ชุดที่โป๊เผยผิวแต่อย่างใด เป็นผ้าสีเนื้อเท่านั้นเอง จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด จนกลายมาเป็นประเด็นดราม่านำขึ้นมาวิจารณ์อย่างรุนแรงด้วยข้อความ ให้ค่าเท่าหญิงบริการบ้าง รวมไปถึง เป็นการดูถูก เหยียดหยามศักดิ์ศรี สร้างความเสื่อมให้กับผู้หญิงประเทศไทย คือ เหมียวเลเซอร์ คิดว่าการแต่งตัวในชุดเดรสสีชมพูนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งก็มีการอธิบายไปในโซเชียลกันบ้างแล้ว แต่บางคนก็ไม่ยอมเปิดใจรับฟังบ้าง โดยปกติแล้วการแต่งตัวแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหลักสากลไม่ใช่หรือ แล้วผู้อ่านมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง เชิญแสดงกันได้ตามอธัยาศัยเลยนะจ๊ะ ที่มา : Drama-addict
-
[วิจารณ์ส่งเดช] Captain America: Civil War มหากาพฮีโร่ตีกัน ดีงามทุกเฟรม!!
รอคอยกันมานานมากกับหนังฮีโร่ฟอร์มยักษ์ที่อาจจะเรีกยได้ว่าเป็น Avengers 2.5 เลยก็ว่าได้กับ Captain America: Civil War ซึ่งหลายคนก็คงได้ดูตัวอย่าง บางคนก็ออกไปดูมาแล้วก็มี เพราะเพิ่งเข้าโรงอย่างเป็นทางการวันนี้เป็นวันแรก อันตัว #เหมียวสามสี นี่ก็ไม่ค่อยเห่อเลย ไปรอตั้งแต่ห้างยังไม่เปิดแล้วก็ดูรอบที่เช้าที่สุดกลัวว่าจะสปอย พอดูจบแล้วมันก็รู้สึกปริ่มอย่างบอกไม่ถูก เพราะว่ามันสมกับการรอคอยจริงๆ เกริ่มกับคร่าวๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กันก่อนดีกว่า หลายคนที่คิดจะไปดูเรื่องนี้ก็คงทำการบ้าน ดูหนังของ Marvel มาก่อนแล้ว และก็คงรู้เรื่องราวว่าในภาคนี้ฮีโร่จะตีกันเพราะสนธิสัญญาควบควมการออกปฏิบัติ ซึ่งก็มีฝั่งที่เห็นด้วยก็คือทีมไอรอนแมน และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยก็คือทีมแคปนั่นเอง ก่อนไปดูเราก็รู้กันแค่นี้แหละ แต่ต่อไปนี้เหมียวจะพูดถึงความรู้สึกที่ได้ดู Captain America: Civil War จบ… ยังจำช่วงเวลาที่ได้ดู Avengers ภาคแรกได้หรือไม่ ในตอนที่เราได้เห็นฮีโร่มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกแล้วเรารู้สึกว้าว นี่มันเป็นสิ่งที่เรารอมานาน ซึ่ง Captain America: Civil War นี้มันทำให้เรากลับไปรู้สึกแบบนั้นได้อีกครั้ง โดยมองข้าม Age of Ultron ไปได้เลย ถึงแม้ว่ามันจะรวมฮีโร่เหมือนกันก็เถอะ ใน Captain America: Civil War นี้มีอะไรให้เราประหลาดใจอยู่หลายตอน…
-
สาวกธรรมกายเดือด บอกคนวิจารณ์แนบชื่อนามสกุล-อาชีพ-ศาสนามาด้วย จะได้ตามตัวถูก!!
เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว สำหรับศาสนาพุทธ นิกายธรรมกาย หลังจากมีผู้ศรัทธาท่านหนึ่ง โพสภาพที่มีข้อความตอบโต้ผู้ที่นินทาว่าร้ายนิกายธรรมกายที่พวกเขาเคารพ โดยภาพดังกล่าวแชร์โดยเพจ มั่นใจเด็กไทยเกินล้านต่อต้านคำสอนจาก วัดพระธรรมกาย บนภาพเขียนข้อความว่า หากผู้ใดคิดจะวิจารณ์ธรรมกายต้องแนบ ชื่อนามสกุล อาชีพ ศาสนา และความดีที่เคยทำให้ศาสนาพุทธมาด้วย เพื่อจะได้เพิ่มความน่าเชื่อถือและติดตามตัวได้ง่ายยามกระทำผิด เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย เรียกว่าดุเดือดจริงๆ แปลว่าถ้าเราไม่ทำคุณงามความดีต่อพุทธศาสนา เค้าห้ามเราวิจารณ์นะเนี่ย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับข้อความนี้บ้าง ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาดูนะเหมียวว ที่มา มั่นใจเด็กไทยเกินล้านต่อต้านคำสอนจาก วัดพระธรรมกาย
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ขรม หลังชมตัวอย่าง “โกยเถอะผีมาแว้ว” อย่างนี้ก็ได้เหรอ?!??!
เรียกว่ากลายเป็นกระแสโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากมีการปล่อยตัวอย่างหนัง “โกยเถอะผีมาแว้ว” ซึ่งชาวเน็ตที่ได้รับชม ต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า “อย่างกับหนังแผ่น” ที่ขายตามตลาดนัด “โกยเถอะผีมาแว้ว” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ แก๊งค์เด็งโข่งวัยเกรียน ที่ดันไปทำผีหลุดออกมาจากหม้อ จนทำให้ทั้งโรงเรียนต้องวุ่นวายกับการหนีเหล่าวิญญาณอาฆาต ซึ่งได้นักแสดงตลกมากหน้าหลายตามาร่วมแสดงด้วย เช่น ยัด เฟ็ดเฟ่, ต้าร์ เฟ็ดเฟ่, อาไท กลมกิ๊ก, แอนนา ชวนชื่น, กชชสร ชายาจันทอง, สมเล็ก ศักดิกุล ลองไปชมตัวอย่างกันเลย เมื่อชาวเน็ตได้ชมตัวอย่างดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างบอกว่าอย่างกับหนังที่ขายตามตลาดนัด และละครทีวีหลายๆ เรื่อง ยังทำออกมาได้ดูดีกว่าอีก เหมียวเห็นตัวอย่างแล้วอึ้งจริงๆ นึกว่างานเด็กมัธยมนะเนี่ย แบบนี้ก็เป็นหนังได้แล้วเหรอ ใครอยากพิสูจน์ความจริง ก็ลองไปชมในโรงภาพยนต์ได้ ในวันที่ 14 มกราคม นี้นะฮะ ที่มา Thaihahaha ha
-
ตามหาคนหาย!! พ่อหนุ่มหน้ามนออกตัวแรงถ้าชุดตุ๊กตุ๊กไทยชนะ จะยอมตัดหรรมส์ถ่ายทอดสด
ผ่านกันไปแล้วกับการประกวดนางงามจักรวาล นับว่าเป็นอีกหนึ่งศึกหนักที่คนไทยลุ้นกันซะเหลือเกินว่า แนท อนิพรณ์ สาวผู้เป็นตัวแทนของประเทศไทย จะไปไกลได้ถึงแค่ไหน ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้ แต่ด้วยชุด ‘ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์’ ที่ชนะใจชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมได้จากเวทีนี้ สุดยอดไปเลยจ้า!! ย้อนกลับไปตอนที่ชุดตุ๊กตุ๊กออกมาใหม่ๆ ต่างก็มีสองกระแสที่เห็นว่าชุดนี้เจ๋งและไม่เข้าท่า ดูเหมือนว่าฝ่ายที่ไม่ค่อยพอใจชุดตุ๊กตุ๊กจะออกอาการรุนแรงมากกว่าปกติ แบบว่ายกล้อหน้ารอแล้ว อย่างเช่นพ่อหนุ่มรายนี้ ที่ลั่นวาจาผ่านตัวอักษรเอาไว้ว่า ‘ถ้าได้ชุดประจำชาติดีเด่นที่ 1 จะตัด … ถ่ายทอดสดให้ดู’ เมื่อผลประกาศออกมาว่า ชุดตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์ ที่พ่อหนุ่มเคยดูถูกเอาไว้ กลับคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาได้ ดั่งที่เคยกล่าววาจาไปแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ชาวเน็ตจึงรีบช่วยกันตามหาคนหายทันที!! ภารกิจตามหาคนหายจึงได้เริ่มต้นขึ้น ออกตัวแรง แซงทุกโค้งก็เป็นแบบนี้แหละ ถึงคราวตัดโชว์ถ่ายทอดสดแล้วพ่อหนุ่ม เหมียวเองก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนแล้วแฮะ แหม่!! ออกตัวซะแรงขนาดนี้ พอผลออกมาก็โชว์วิชาหายตัว ฮ่าฮ่า เอ๊ะ หรือแอบไปตัดหรรมส์แบบเงียบๆ หว่า ที่มา…
-
ชาวเน็ตรับไม่ไหว จวกการพากย์นางงามจักรวาลไม่เชียร์ไทย แนวทางการพากย์ออกแนวกีฬา!?
ยังคงไม่ห่างหายไปกับประเด็นที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจอย่างล้มหลามทั่วโซเชียล ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปกับดราม่าเรื่องตำแหน่งนางงามที่แท้จริงกับการประกาศผลผิด ย้อนกลับมาที่แวดวงภายในบ้านเรา ซึ่งปกติแล้วการถ่ายทอดสดภายในประเทศจะมีผู้ที่คอยพากย์ระหว่างรายการประกวดด้วย ทว่าแล้วดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจกลุ่มผู้ชมซักเท่าไหร่ เมื่อนำพิธีกรที่อยู่ในวงการกีฬามาพากย์เวทีประกวดนางงาม อย่างคุณ พิศณุ นิลกลัด เรียกได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังเช่นเพจ ‘อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก‘ ก็ได้จัดไปหนึ่งโพสต์เต็มๆ พิศณุ นิลกลัด เป็นคนที่พากย์นางงามได้ป่วยมาก คือเอากีฬามาอิงตลอดไม่ว่า แต่ในฐานะคนไทยนี่คือเชียร์ประเทศอื่นแล้วกดประเทศไ… Posted by อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก on Sunday, December 20, 2015 นอกจากนี้ชาวเน็ตต่างก็ได้มาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการพากย์ดังกล่าว โดยเน้นเชียร์ต่างประเทศ แต่ไม่พูดให้กำลังใจตัวแทนของประเทศไทยเลยแม้แต่น้อย การยกตัวอย่างที่เกี่ยวเนื่องไปในแนวกีฬา ซึ่งแนวทางการพากย์จะออกไปเป็นแนวกีฬาซะมากกว่า ตามความถนัดของผู้พากย์ ดังเช่นตัวอย่างด้านล่าง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการนำผู้พากย์ในวงการกีฬามาทำหน้าที่พากย์ในรายการที่แตกต่างออกไป จึงทำให้ไม่ค่อยถูกใจผู้ชมซักเท่าไหร่ ผลก็เลยออกมาทำให้โดนตำหนิจากชาวเน็ตเยอะแยะมากมาย แล้วชาวเหมียวล่ะ มีใครได้ฟังผลงานการพากย์สุดร้อนแรงนี้บ้างเอ่ย!? ที่มา : อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
-
[วิจารณ์ส่งเดช] The Good Dinosaur ไดโนเสารเพื่อนรัก แอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมจาก Pixar
นี่ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องที่ 2 ต่อจาก Inside Out ของค่ายฟีลกู๊ดอย่าง Pixar เลยก็ว่าได้ สำหรับ The Good Dinosaur เรื่องราวการผจญภัยของไดโนเสาร์ตัวน้อยและเพื่อนมนุษย์ จะสนุก ซึ้ง น้ำตาไหลแค่ไหน เดี๋ยวเหมียวจะมาเล่าเอง The Good Dinosaur เป็นเรื่องราวสมมติที่สมมติว่าอุกาบาตไม่ตกใส่โลก และเหล่าไดโนเสาร์ไม่ได้สูญพันธุ์ไปจากโลก โดยจะเล่าเรื่องราวผ่านไดโนเสาร์วัยรุ่นที่ชื่อว่าเจ้าอาร์โล เขาเกิดในครอบครัวอันอบอุ่น ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มีอุปสรรคใดๆ ให้ต้องกังวล แต่เจ้าอาร์โลกลับหวาดกลัวไปกับทุกๆ สิ่ง ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องพยายามฝึกสอนลูกน้อยให้กล้าเผชิญกับสิ่งต่างๆ แต่แล้วการผจญภัยก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าอาร์โลผลัดตกลงไปในแม่น้ำ ที่พัดพามันห่างออกไปไกลจากบ้าน ทำให้มันพยายามหาทางเอาตัวรอดจากธรรมชาติอันโหดร้าย ในระหว่างนั้นอาร์โลก็ได้พบเข้ากับสป็อต เด็กหนุ่มยุคหิน ที่แทบจะสื่อสารไม่เป็นเลย แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ถูกชะตากัน แต่ทั้งคู่ก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อพากันกลับมายังบ้านของอาร์โลในที่สุด สิ่งแรกที่สร้างความประทับใจให้เหมียวตั้งแต่แรกเห็นเลยก็คืองานกราฟฟิคล่ะ ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่ดูแอนิเมชั่นของ Pixar มา ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะทำได้เนี๊ยบสุดๆ แล้ว ใบไม้แต่ละใบพริ้วไหว แม่น้ำใสจนมองเห็นพื้นดินด้านล่าง หรือแม้แต่รายละเอียดบนผิวหนังของไดโนเสาร์ เหมียวก็คิดว่าเขาเก็บรายละเอียดได้ดีจนเราสังเกตเห็นได้เลย…
-
[วิจารณ์ส่งเดช] การกลับมาของพยัคฆ์ร้าย 007 พร้อมเรื่องราวที่โยงไปยัง 3 ภาคก่อน
ถือเป็นการกลับมาครั้งที่ 4 แล้ว สำหรับพยัคฆ์ร้าย 007 ในเวอร์ชั่นของ Daniel Craig โดยในภาคนี้ใช้ชื่อตอนว่า Spetre ที่จะพูดถึงองค์กรลึกลับ ที่คอยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมต่างๆ ตลอด 3-4 ภาคที่ผ่านมา จะดูรู้เรื่องไหม สนุกเท่าภาคก่อนหรือเปล่า ไปดูรีวิวจากเหมียวกันเลย Spectre เล่าถึงเรื่องราวภาคต่อของสายลับ 007 ต่อจากภาค Sky Fall ที่ภาคที่แล้วตัวละคร M (Judi Dench) ได้เสียชีวิตไป แต่ก่อนตายเธอได้ส่งข้อความหา James Bond (Daniel Craig) โดยบอกให้เขาออกตามหาคนๆ หนึ่ง ซึ่งจะเชื่อมโยงไปยังองค์กรลับ Spectre องค์กร Spectre ไม่ใช่เพียงองค์กรก่อการร้ายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวโยงไปกับอดีตของ Bond และทุกๆ คนที่เขาเคยเกี่ยวข้องด้วย ทุกๆ การตายมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ และ Bond ต้องตามหาให้ได้ว่า ใครคือผู้ที่ควบคุมและอยู่เบื้องหลังองค์กรชั่วร้ายนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เหมียวหยิบภาค Skyfall…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ตัวอย่างหนัง “เทย ทอม เกย์ เฮป่วนเมือง” ไม่มีอะไรจะทำกันแล้วเหรอ!?!?
ช่วงนี้วงการหนังไทยมีข่าวสนุกๆมาให้ได้อ่านทุกวัน นับตั้งแต่หนังเรื่อง “อาบัติ” โดนแบนจนต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “อาปัติ” หรือตัวอย่างแรกของหนัง “เจ้าชายมือใหม่ หัวใจงุ้งงิ้ง” ที่ชาวเน็ตเห็นแล้วถึงกับต้องกุมขมับว่าแบบนี้เป็นหนังได้ด้วยเหรอ และวันนี้อีกครั้งหลังจากมีการปล่อยตัวอย่างหนังตลกเรื่องใหม่ชื่อว่า “เทย ทอม เกย์ เฮป่วนเมือง” ออกมา จนเพจ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ถึงกับวิจารณ์ว่า “ไม่มีอะไรจะทำกันแล้วเหรอ” เทย ทอม เกย์ เฮป่วนเมือง น่าจะเป็นหนังขวัญใจกระทรวงวัฒนธรรมไม่ยาก.เห็นแบบนี้หนังได้เข้าโรงด้วยนะหนังตลกแปลว่าตลกเวล… Posted by อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก on 18 ตุลาคม 2015 ไปชมตัวอย่างกันดีกว่า เมื่อชาวเน็ตท่านอื่นๆ เห็นตัวอย่างดังกล่าว ก็ออกมาวิจารณ์กันอย่างออกรสออกชาติ เหมียวเห็นแล้วเงิบเลย ทำไมหนังไทยมันถึงได้ถอยหลังลงคลองขนาดนี้ อย่างกับหนังทำลงแผ่น แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
-
[วิจารณ์ส่งเดช] The Walk ภาพสวย ลุ้นระทึก เหมือนได้ยืนอยู่บนเชือกซะเอง
ใกล้ช่วงสิ้นปีมาเรื่อยๆ ฮอลลีวูดก็มักจะส่งหนังเด็ดๆ ที่หวังชิงออสการ์ออกมาให้เราได้ชมกันแบบไม่เว้นเลยทีเดียว ล่าสุดผู้กำกับอย่าง Robert Zemeckis(Cast Away, Forrest Gump และ Back to the Future ทั้ง 3 ภาค) ก็ได้ส่งหนังชีวประวัติที่ชวนลุ้นระทึกอย่าง The Walk มาให้เราได้ชมกันล่ะ The Walk คือภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริง ว่าด้วยเรื่องของ Philippe Petit(Joseph Gordon-Levitt) หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่ฝันอยากจะสร้างงานศิลปะที่อุกอาจที่สุดในโลก อย่างการเดินบนเชือกแขวนระหว่างตึก World Trade Center ทั้ง 2 ตึก แต่การจะทำแบบนั้นได้ ต้องอาศัยทีมงานที่ไว้ใจได้และความกล้าบ้าบิ่นพอสมควร Philippe จึงรวบรวมพลเพื่อทำสิ่งที่โลกจะต้องจดจำเขาไปอีกนาน ความจริงแล้วหากเราอ่านเรื่องย่อเฉยๆ เราจะพบว่าหนังสามารถเล่าให้จบภายใน 10 นาทีแบบสาระคดีขนาดสั้นได้เลย แต่เมื่อเหมียวได้ดูจริงๆ ถึงได้รู้ว่าความสนุกของหนังอยู่ที่เรื่องราวระหว่างทาง ไม่ใช่ฉากจบที่นาย Philippe ขึ้นไปอยู่บนเชือกแล้วนั่นเอง แม้จะเป็นแค่เรื่องราวของชายเพี้ยนๆ ที่อยากจะเดินบนเชือกให้โลกตะลึง แต่หนังก็มีวิธีเล่าให้ดูสนุกสนานจนเราแทบไม่อยากละสายตาหรือรู้สึกเบื่อเลย หนังค่อยๆ…
-
เรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ กับการเซลฟี่ขวดเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่ของเหล่าคนดัง ชาวเน็ตจะว่ากันยังไงบ้าง?
กลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตไปทั่วอินเทอร์เน็ตไทย และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างรุนแรงกับการที่มีภาพดาราคนดังที่พร้อมใจออกมาโพสต์รูปภาพถือขวดเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่รูปแบบใหม่ จากขวดสีน้ำตาลมาเป็นขวดสีเขียว ทั้งนี้ชาวเน็ตก็ได้ตั้งข้อสังเกตกันว่าการถือขวดเบียร์แบบนี้เป็นลักษณที่โจ่งแจ้งมากๆ ซึ่งปกติแล้วการดื่มเบียร์จะไม่มีการโชว์ยี่ห้อให้เห็นเด่นชัดมากขนาดนี้ อีกทั้งผิดสังเกตกับการโพสต์รูปภาพของเหล่าดาราที่แห่โพสต์รูปภาพในแนวๆ เดียวกันในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเลย มาทางด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตจากเว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังของไทยอย่างพันทิป ต่างก็ลงความเห็นในแนวๆ เดียวกันว่ามันเป็นแผนการตลาดที่จับได้ง่ายมาก เหมือนจะเนียนแต่ก็ไม่เนียนซักเท่าไหร่ ที่น่าสนใจก็คือก่อนหน้าที่จะโพสต์รูปถือขวดเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่ ก็เคยรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเบียร์อีกค่ายมาก่อน แค่บังเอิญจริงดิ ? บุคคลสาธารณะ เหล่านี้กระทำพร้อมๆกัน จิงรึ ?ขอให้ใช้วิจารณญาณกันเอง ว่างานเข้ามั๊ยผู้มีหน้าที่รับผิ… Posted by รุ่งศักดิ์ สุวรรณภาณุ on Thursday, October 8, 2015 ตามเข้าไปให้ลึกอีกขั้นก็จะพบว่าจะสอดคล้องกับแคมเปญของเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งภายในเว็บไซต์ก็จะกล่าวถึงดาราคนดังที่โพสต์รูปภาพถือเบียร์อย่างชัดเจน ซึ่งสรุปได้คร่าวๆ ว่ามันเป็นแผนการตลาดนั่นเอง อย่างไรก็ตามเมื่อมีกระแสตอบกลับในด้านลบมากมาย ซึ่งรวมไปถึงการกล่าวถึงพี่โดมในกรณีดังกล่าวของทายาทเบียร์ยี่ห้อเสือ และพี่โดมก็ยินดีที่จะลบภาพดังกล่าวออกไป ตามข่าวนี้ ที่มา : postjung, รุ่งศักดิ์ สุวรรณภาณุ
-
[วิจารณ์ส่งเดช] The Martian อิ่มเอมไปกับเรื่องราวของชายผู้โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย
ดูเหมือนว่าในระยะหลังมานี้เราจะได้ดูหนังเกี่ยวกับอวกาศกันแบบปีต่อปีเลยนะ เริ่มตั้งแต่ Gravity(2013), Interstellar(2014) และล่าสุดในปีนี้กับ The Martian หนังเอาตัวรอดในอวกาศเรื่องล่าสุดจากผู้กำกับ Ridley Scott ที่ปัจจุบันมีอายุปาเข้าไปแล้วกว่า 77 ปี เรามาดูกันดีกว่าว่าลุงแกจะฝีมือตกไปบ้างไหม The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์ ว่าด้วยเรื่องราวการปฏิบัติภารกิจของเหล่านักบินอวกาศ แต่ในระหว่างที่ทั้งหมดกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น พวกเขากลับเจอเข้ากับพายุบนดาวอังคารอย่างหนักจนต้องยกเลิกภารกิจ แต่โชคร้ายที่ Mark Watney(Matt Damon) นักพฤกษาศาสตร์ หนึ่งในนักบินเกิดประสบอุบัติเหตุจนทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว คนอื่นๆจึงออกเดินทางกลับไปยังโลก แต่ความจริงแล้วเขายังไม่ตาย เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดบนดวงดาวที่ไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ พร้อมกันนี้ก็ยังต้องพยายามติดต่อกลับมายังโลกเพื่อขอความช่วยเหลืออีกด้วย เนื่องจากเป็นหนังเกี่ยวกับอวกาศเหมือนกันกับ Interstellar และ Gravity จึงอดไม่ได้ที่แอดเหมียวจะหยิบเอามาเปรียบเทียบ โดย The Martian เป็นหนังอวกาศที่ใช้ศัพท์ได้ไม่ยากเท่า Interstellar ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย ในขระเดียวกันก็ไม่ได้กดดันและคาร์คเท่ากับที่ Gravity เคยทำเอาไว้ แน่นอนว่าหนังเล่าเรื่องราวการเอาตัวรอดของนักบินอวกาศคนเดียว ซึ่งแค่ฟังจากเรื่องย่อก็เหงาและหดหู่มากแล้ว แต่ตัวละครหลักอย่าง Watney กลับไม่ได้ท้อแท้และปล่อยให้ตัวเองจมอยู่คนความสิ้นหวังเลย และยังพยายามดิ้นทนทุกอย่าง ทั้งซ่อมยาน ปลูกผัก คำนวนปริมาณอาหาร เปิดเพลงฟัง อีกทั้งยังพยายามคุยกับกล้องวิดีโอ ประหนึ่งคุยกับเพื่อนงั้นแหละ นอกจากเรื่องราวความสิ้นหวังบนความหวัง ภาพวิวบนดาวอังคารที่สวยงาม…
-
ชายหนุ่มเล่นพิเรนทร์ จุดไฟเผารถก่อนขับพุ่งลงน้ำ ทำเอาชาวเน็ตไม่พอใจเพราะสร้างมลพิษ (มีคลิป)
นี่คือคลิปวีดีสุดบ้าระห่ำของหนุ่มรายหนึ่ง ที่คิดเล่นอะไรแผลงๆ โดยการจุดไฟเผาท่วมรถ แล้วขับข้ามเนินดิน ก่อนที่ทั้งเขา และรถยนต์จะพุ่งลงน้ำไปในที่สุด งานนี้ทำเอาชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แค่เห็นภาพก็น่ากลัวแล้วนะเนี่ย ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้เล่นพิเรนทร์ๆ แบบนี้ และที่สำคัญชายหนุ่มดูเหมือนจะชอบการกระทำของเขาสุดๆ แถมยังได้ตั้งชื่อคลิปวีดีโอนี้ว่า ‘การกระโดดออกจากรถที่โคตรสุดยอด’ แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะคิดว่าการกระทำของเขานั้นโคตรเท่ แต่ดูเหมือนว่าชาวเน็ตจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อพวกเขาได้ชมคลิปวีดีโอคลิปนี้ ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มทำนอกจากจะอันตรายถึงชีวิตแล้ว มันยังไม่ดูเท่เลยสักนิด อีกทั้งน้ำมันเครื่องและแผ่นเหล็กของรถยนต์ที่เขาได้ทำการจุดไฟเผา แล้วขับพุ่งลงน้ำนั้น มันเป็นการสร้างมลพิษทางน้ำ และเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นอีกด้วย ที่มา : metro
-
[วิจารณ์ส่งเดช] Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ผิดคาดแต่รู้สึกดี
ผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว หลังจากที่ภาพยนตร์ Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ของผู้กำกับสุดแนว เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิาจารณ์จากผู้ชมไปแบบหลากหลายทีเดียว และเหมียวก็เพิ่งได้ไปดูมาเมื่อไม่นานนี้เอง หวังว่าคงไม่สายเกินไปที่จะเชียนรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะ ความรู้สึกของเหมียวหลังจากได้ชมแล้วเป็นยังไง ลองมาดูกันเลย Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ว่าด้วยเรื่องของยุ่น(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) หนุ่มฟรีแลนซ์ที่บ้างานแบบสุดๆ และคิดว่าร่างกายของตนเองสามารถแบกรับความเหนื่อยล้าได้แบบเครื่อจักร แต่ร่างกายของเราไม่เคยโกหกใคร วันหนึ่งยุ่นก็สัมผัสได้ว่ามีตุ่มประหลาดโผล่ขึ้นมาบนร่างกายของเขา ไอ้เจ้าตุ่มที่ว่านี่ก็ไม่ได้มาแค่เม็ดสองเม็ด แต่จู่โจมมาเป็นสิบ ยุ่นจึงตัดสินใจไปหาหมอและได้เจอกับหมออิม(ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่) แต่การพบกันครั้งนั้นทำให้ยุ่นเกิดความรู้สึกประหลาด จนอยากจะเจอหมออีกครั้ง ซึ่งเขามีโอกาสที่จะได้เจอหมออิมแค่ 1 วันต่อเดือน ในห้องตรวจคนไข้เล็กๆเท่านั้น ในขณะที่ต้องพยายามรักษาอาการผื่นคันบนร่างกาย ยุ่นก็ต้องต่อสู้กับวงการฟรีแลนซ์แสนโหดที่ประดังประเดเข้ามาแบบไม่ขาด ยุ่นจะต้องเลือกว่าเขาจะจัดการกับความรู้สึกที่มีต่อหมออิม อาการผื่นคันและหน้าที่การงานของเขาอย่างไร ในช่วงแรงของหนัง มีสไตล์การเล่าเรื่องที่สนุกสนาน มีมุกจิกกัดคนทำงานฟรีแลนซ์ให้เราได้เห็นตลอดเวลา คือเหมียวดูไปแล้วนี่มีขำตลอดอะ มุกแต่ละอย่างที่ใส่เข้ามามันตรงกับความจริงมาก ทั้งชีวิตการทำงานของฟรีแลนซ์ การพูดคุยกับลูกค้าสุดงี่เง่า เพื่อนร่วมงานสุดกวนตรีน…
-
[วิจารณ์ส่งเดช] Inside Out เพราะชีวิตไม่ได้ “สุข” ตลอดเวลา
กลายเป็นภาพยนตร์ที่แอดเหมียวเทใจให้มากที่สุดของปีนี้เลย สำหรับ Inside Out ที่ขนมาทุกอารมณ์ ครบรสมากๆ ทั้งสนุสนาน ขำขัน ผจญภัย เศร้าสร้อย รวมมาไว้ในเรื่องเดียวเลย แถมหนังยังมีไอเดียที่ลำตามสไตล์ของ Disney Pixar ฉะนั้นไม่รอช้า ไปชมบทวิจารณ์ส่งเดชจากเหมียวกันเลย Inside Out ว่าด้วยเรื่องของหนูน้อยไรลีย์(Kaitlyn Dias)และครอบครัว ที่ต้องย้ายบ้านจากภาคกลางฝั่งตะวันตกของอเมริกา มาอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก แต่หลังจากที่เธอได้ใช้ชีวิตและพยายามปรับตัวกับสถานที่ใหม่แล้ว กลับพบว่ามันไม่โอเคสำหรับเธอเลย จึงเป็นหน้าที่ของ Joy ตัวแทนแห่งความสุขที่อยู่ในหัวของไรลีย์ ต้องออกมาช่วยดูแลและควบคุมอารมณ์ของเธอ เพื่อให้เธอมีความสุขอยู่ตลอดเวลา และนอกจาก Joy แล้วยังมีตัวแทนอามรณ์อื่นๆอย่างเช่น Sadness(แทนอารมณ์เศร้า), Fear(แทนอามรณ์วิตกกังวล), Anger(แทนอารมณ์โกรธ), Disgust(แทนอารมณ์ขยะแขยง) ที่ต้องคอยควบคุมให้อารมณ์ของไรลีย์อยู่บนความสมดุลตลอดเวลา จริงๆแล้วเหมียวอยากจะเล่าเรื่องย่อมากกว่านี้ แต่เนื้อเรื่องจริงๆมันมีเท่านี้จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดสามารถเล่าให้จบได้ภายใน 10 นาทีเลย แต่ความสนุกมันอยู่ตรงที่ตัวอารมณ์ต่างๆในเรื่อง ที่มักจะวุ่นวาย และสร้างความปั่นป่วน ต้องมาร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือตัวละครอย่างไรลีย์ให้ฝ่าอุปสรรคต่างๆไปให้ได้ หน้าหนังอาจจะดูเหมือนหนังเด็ก ที่สามารถเฮฮากันได้ทั้งครอบครัว ซึ่งตรงนี้เหมียวก็ถือว่ามันทำหน้าที่ได้ดีมาก แม้จะมีรายละเอียดและจินตนาการที่สูงปรี๊ด แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากเลย…
-
สาวในโซเชียลตอบโต้อย่างเจ็บแสบ เมื่อชาวเน็ตผ่านกันรุมวิจารณ์การเขียนคิ้วของเธอ
เคยได้ยินไหมว่า คิ้ว เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของใบหน้า โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายที่มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแต่งหน้าไปกับการเขียนคิ้ว ถ้าวันไหนไม่ได้เขียนคิ้ว ก็อย่าหวังที่จะเห็นเธอออกมาสู่โลกภายนอก ส่วนเคล็ดลับการเขียนคิ้วก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน อยากจะเขียนสั้นบางหรือยาวเข้มก็ว่ากันไป แต่สำหรับสาวคนนี้ เธอมีเทรนด์การแต่งหน้าไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะมันแปลกเสียจนทำให้คนในโลกโซเซียลต้องทำการวิจารณ์กันไปยกใหญ่ สุดท้ายเธอคนนี้ทนไม่ไหว เลยต้องออกมาโพสสเตตัสโต้ตอบชาวเน็ตทั้งหลายที่คอยรุมว่าเรื่องคิ้วที่สุดจะบรรยายของเธอ จะเห็นได้ว่า เธอคนนี้ก็ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน แถมเธอยังเขียนแนวท้าทายอีกว่า ยังไงๆ เธอก็จะไม่เปลี่ยนการเขียนคิ้วแบบนี้แน่! แต่ไม่แน่นะ อนาคตแฟชั่นการเขียนคิ้วแบบเธอคนนี้อาจจะกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นก็เป็นไปได้นะ ใครจะไปรู้! สุดท้ายแล้วบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นยังไง เธอจะยืนยันเขียนคิ้วแบบนี้ต่อไปหรือจะเลิกเขียนแบบนี้แล้วเขียนแบบใหม่ที่ไฉไลกว่า ก็โปรดให้กำลังใจเธอด้วยละกันนะ ที่มา ผู้ใช้เฟสบุ๊คท่านหนึ่ง
-
PewDiePie นักแคสเกมชื่อดังออกมาตอกกลับนักวิจารณ์ หลังบอกว่าเขาไม่สมควรได้เงินมากขนาดนี้!!
เชื่อว่าหลายๆคนต้องรู้จักนักแคสเกมชื่อดังบน Youtube นาม PewDiePie หรือที่มีชื่อจริงว่า Felix Kjellberg ที่เพิ่งจะมีข่าวดัง หลังมีการเปิดเผยว่า เขาสามารถทำเงินได้ถึง 200 ล้านบาทในปี 2014 จากการอัพโหลดวีดีโอคลิปลง Youtube ล้วนๆ เมื่อมีข่าวออกมาเช่นนี้ มีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด หลายๆคนก็ออกมาวิจารณ์ว่า เขาไม่สมควรได้รับเงินมากขนาดนี้ จากการแค่นั่งเล่นเกม ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงอัพคลิปออกมาชี้แจง พร้อมตอกกลับเหล่านักวิจารณ์ “ผมเห็นหลายคนโมโหมาก พวกเขาบอกว่ามันไม่แฟร์ พวกเขาคิดว่า ผมแค่นั่งเฉยๆ และตะโกนหน้าคอม แล้วก็ได้เงิน มันก็จริงอย่างที่เขาว่า แต่ในรายละเอียดมันมีมากกว่านั้น” “พวกเขาสนใจแค่ว่าผมทำเงินได้เท่าไหร่ แต่เขาไม่เคยสนใจเลยว่า เราเคยทำแคมเปญช่วยเหลือสังคม และเราสามารถรวบรวมเงินได้เป็นล้านเลยนะ ตอนนี้ผมมองไปทางไหนผมก็เจอข่าวว่าผมทำเงินได้เท่าไหร่ ไม่เห็นมีใครทำข่าวที่พวกผมจัดตั้งกองทุนเลย” ไปชมคลิปเต็มๆกันได้เลย ว่าเขาพูดอะไรไว้บ้าง แล้วเพื่อนๆล่ะคิดอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะ ที่มา Metro
-
18 ภาพเปรียบเทียบระหว่าง ‘จีน’ VS ‘ฮ่องกง’ ที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ในครั้งนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาดู 18 ภาพเปรียบเทียบถึงความแตกต่าง ระหว่างจีน และฮ่องกง ที่หลายคนยังคงคิดว่าฮ่องกงก็คือจีนนั่นแหละ แต่ความจริงแล้ว จีน และฮ่องกง มีอะไรที่แตกต่างกันเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน่วยเงิน ภาษา การปกครอง และอีกมากมาย ซึ่งเราได้นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันแล้ว หากใครอยากรู้ก็เลื่อนลงไปดูได้เลย 1.เงินจีนคือ ‘หยวน’ ส่วนฮ่องกงคือ ‘ดอลลาร์’ 2.เวลารอ 3.ระบบการปกครองก็แตกต่างกัน 4.Love ระหว่างภาษาจีน และฮ่องกง สะกดแตกต่างกัน 5.อาณาเขตที่แตกต่าง ระหว่างจีน และฮ่องกง 6.เมื่อทำธุระในห้องน้ำเสร็จ 7.พวงมาลัยรถของคนจีนจะอยู่ทางซ้าย ส่วนของคนฮ่องกงจะอยู่ทางขวา 8.โลกในมุมมองที่แตกต่างของจีน และฮ่องกง 9.ความแตกต่างระหว่างที่ขึ้นรถไฟใต้ดิน 10.คนจีนยอมเป็นเบี้ยล่าง และจีนถูกชักจูงจากระบบคอมมิวนิสต์ ในขณะที่คนฮ่องกงไม่ยอมง่ายๆ 11.ความแตกต่างในเรื่องของอาหาร …