Tag: วิทยาศาตร์
-
งานวิจัยคอนเฟิร์มแล้วว่า “คนมีคู่…จะอ้วนขึ้น” มาดูกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
การมีคนรักหรือมีแฟนนั้นเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ เพราะว่าเมื่อคุณมีคนรัก อะไรๆ ก็ดีไปหมด คุณจะไม่เหงา มีคนคอยอยู่ข้างๆ มีคนให้นอนจับมือกันเล่นๆ อะไรก็ว่าไป แต่หารู้ไม่ว่า การมีแฟนก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ ซึ่งเจ้าข้อเสียนี้เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ค่อยชอบเสียด้วย นั่นคือ “ความอ้วน” นั่นเอง ผลงานการศึกษาชิ้นใหม่จาก University of Queensland ในออสเตรเลีย ได้ผลลัพธ์ออกมาว่า การที่คนเรามีคู่รักนั้นจะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น การศึกษาดังกล่าว เก็บข้อมูลมาจากผู้คนจำนวน 15,000 คน โดยพบว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่รักนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าคนโสดโดยเฉลี่ยถึง 5.8 กิโลกรัม ที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าผู้ที่มีแฟนแล้ว มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.8 กิโลกรัมต่อปี โดยทางผู้วิจัยกล่าวว่า “ผู้ที่แต่งงานหรือว่ากินอยู่กัน จะมีการทานอาหารร่วมกันบ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าจะทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เถอะ แต่ว่าพวกที่มีคู่นั้นจะมีแนวโน้มที่จะทานอาหารมากขึ้นกว่าตอนที่ทานคนเดียว ฉะนั้น เขาจึงรับพลังงานเข้าร่างกายมากขึ้น” ทั้งนี้ งานศึกษาวิจัยยังพบอีกว่า คู่ที่แต่งงานแล้ว หรือคู่ที่อยู่ด้วยกันยังมีการส่งเสริมพฤติกรรมทำลายสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย เช่น กิน ดูทีวี และดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกัน เป็นต้น …
-
นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา อธิบายว่า “การถูกบอกเลิก” แบบไหนที่ทำให้เราเจ็บที่สุด
ในตอนที่เราอกหักครั้งแรกตอนนั้นรู้สึกอย่างไรกันบ้าง กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกทรมาน มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างยากลำบาก ประมาณนั้นหรือเปล่า? แล้วครั้งนั้นเป็นครั้งที่เจ็บที่สุดมั้ย? เราสามารถถูกบอกเลิกได้หลากหลายเหตุผล ทว่าแล้วเหตุผลไหนที่เจ็บที่สุดล่ะ? นี่จึงกลายเป็นคำถามให้กับนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Cornell ได้ออกมาหาคำตอบกัน การถูกบอกเลิกก็คือการที่ถูกอีกฝ่ายบอกปฏิเสธนั่นเอง ผู้วิจัยจึงได้ทำการทดลองกับคน 600 คน โดยการทดลองแรกนั้นจะมีหน้าม้าเป็นผู้หญิงสองคน และผู้ชายอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่รวมกัน จากนั้นพวกเขาจะมอบหมายงานบางอย่างให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง และเธอคนนั้นต้องเลือกว่าจะทำงานกับผู้หญิงอีกคน ทำงานกับผู้ชาย หรือว่าทำคนเดียว ซึ่งเธอเลือกที่จะทำกับผู้หญิงอีกคนหรือทำคนเดียวเท่านั้น และเมื่อผู้ชายไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของเธอเลย นั่นจะทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ความรู้สึกของการถูกปฏิเสธได้ ส่วนการทดลองอื่นจะให้ผู้เข้าร่วมอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ใช้เวลาร่วมกันและกระตุ้นให้พวกเขาเหล่านั้นแสดงความรู้สึกออกมาว่า รู้สึกอย่างไรกันบ้างเมื่อตนเองต้องถูกปฏิเสธด้วยสาเหตุต่างๆ ในขณะที่ผู้วิจัยจะทำการสังเกตร่วมด้วย การศึกษาทั้งสองนี้เผยให้เห็นว่าการที่ต้องถูกปฏิเสธและไปเลือกคนอื่น สร้างความรุนแรงได้มากกว่าปฏิเสธด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากว่าอกหักเพราะอีกฝ่ายไปกับอีกคน จะยิ่งสร้างความทรมานใจได้มากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “การถูกปฏิเสธจากการเปรียบเทียบ” เหตุผลที่มันมีความรุนแรงมากที่สุดก็เพราะ การปฏิเสธคือการทำให้รู้สึกถูกตัดทิ้งออกไปและลดความเป็นเจ้าของลง นั่นยิ่งทำให้รู้สึกแย่เมื่อพบว่าตนเองเป็นตัวเลือกที่แย่กว่า จากการสังเกตอื่นๆ ของผู้วิจัยพบว่า หากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกปฏิเสธเพราะอะไร ก็จะพยายามหาคำตอบให้ได้ แม้ว่าสิ่งที่ได้อาจทำให้เจ็บกว่าเดิมก็ตาม แต่ถ้าหากหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ พวกเขาจะตีความไปเองว่าคนใหม่ที่โผล่มาในรูปของเธอคนนั้นคือคนที่เธอเลือก นักวิทยาศาสตร์เสริมให้อีกว่า มันเป็นเรื่องดีที่จะบอกให้ผู้ที่ถูกปฏิเสธรับรู้ว่าคุณไม่ได้เลิกกับเขาเพื่อไปมีคนอื่น ซึ่งจะทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกดีขึ้น แต่หากว่าไปมีคนอื่นจริงๆ การแสดงออกว่าคนๆ นั้นดีกว่าคนเดิมก็ควรจะเก็บเอาไว้เป็นความลับให้มากที่สุด…
-
ค้นพบฟอสซิลสิ่งมีชีวิตในจีน คาดเป็นบรรพบุรุษสิ่งมีชีวิต มีอายุมากกว่า 540 ล้านปี
เรารู้กันดีว่าในยุคสมัยหลายล้านปีก่อน โลกของเราเคยเป็นยุคของไดโนเสาร์ และก่อนไดโนเสาร์ ก็มีสิ่งมีชีวิตก่อนหน้าอีกที ซึ่งทุกอย่างก็ถูกยืนยันด้วยซากฟอสซิลที่หลายคนได้เจอนั่นเอง ทว่าการพ้นพบกลับไม่หยุดแค่นั้น เพราะล่าสุดนักวิทยาศาตร์ได้ค้นพบซากฟอสซิลชนิดใหม่ที่ประเทศจีน และพวกเขาก็คาดว่ามันเป็นฟอสซิสของสิ่งมีชีวิตอายุมากกว่า 540 ล้านปี ที่สำคัญยังเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตมากมายในยุคแรกอีกด้วย!! ทางนักวิจัยบอกว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าของฟอสซิลนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนพื้นทรายใต้น้ำ และมีส่วนประกอบหลักเพียงแค่ปากขนาดใหญ่ ไม่มีตาจมูก หรือแม้แต่รูทวาร ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Saccorhytus coronarius เจ้า Saccorhytus นั้นถูกจัดอยู่ในสัตว์ประเภทแรกๆ ของสัตว์ตระกูล Deuterostomes ซึ่งในภายหลังก็พัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในท้องทะเลและยาวไปจนถึงสัตว์บกรวมถึงมนุษย์ด้วย การค้นพบครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของนักวิทยาศาสตร์สามชาติด้วยกัน เยอรมนี จีน และสหราชอาณาจักร ซึ่งได้ตีพิมพ์เรื่องราวการค้นพบผ่านวารสารเนเจอร์ สุดท้ายพวกเขาบอกว่า การค้นพบนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่สุดยอดมากๆ เพราะขนาดของเจ้าฟอสซิลดังกล่าวนี้มีขนาดที่เล็กมากแค่ 1 มิลลิเมตร เท่านั้น ถ้ามองแบบไม่คิดอะไรมันก็จะเป็นแค่ก้อนดินชิ้นๆ เท่านั้นเอง ที่มา bbc,weirdasianews,wikipedia