Tag: วีซ่า
-
นักท่องเที่ยวหญิงเดือดจัด ตบหน้าตม. เพราะท้วงวีซ่าหมดอายุ จนทำให้ตกเครื่อง!!
งานบริการถือเป็นงานที่ต้องรับมือกับผู้คนมากหน้าหลายตา จนบางครั้งอาจจะต้องพบเจอกับคนที่แบบว่าไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ด้วย!? เช่นเดียวกันกับเรื่องดังต่อไปนี้ที่กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียลของต่างประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ไปตบหน้าของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่อินโดนีเซีย เพราะโมโหที่เจ้าหน้าที่ทำให้เธอต้องตกเครื่อง เรื่องมีอยู่ว่านาง Auj-e Taqaddas นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษวัย 42 ปี กำลังจะเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน Ngurah Rai International Airport ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างนั้นก็ต้องไปผ่านด่านตรวจคนตามปกติ แต่เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตม. ได้ทำการตรวจเช็กแล้วพบว่าวีซ่าของหญิงนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวหมดอายุไปแล้ว!? ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าวีซ่าหมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเธอจะต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นมูลค่า 25 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (830 บาท) ต่อ 1 วันที่วีซ่าขาดไป และตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 150 วันแล้วที่เธอปล่อยให้มันขาดไป นั่นเท่ากับว่าเธอจะต้องเสียเงินค่าปรับเป็นมูลค่าถึง 4,000 เหรียญฯ (133,000 บาท) แต่จากการท้วงติงของเจ้าหน้าที่ ทำให้นักท่องเที่ยวหญิงเกิดโมโห และตบเข้าที่ใบหน้าของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง เธอให้เหตุผลที่ทำแบบนั้นเพราะว่าโมโหที่เจ้าหน้าที่ทำให้เธอต้องตกเครื่องบิน “นายไม่ได้จ่ายเงินค่าเครื่องบินให้กับฉัน บอกมาสิว่าจะเอาเงินค่าเครื่องมาให้ฉัน ทำไมไม่พูดล่ะ พูดมา!!!” …
-
ทางการจีนเปิดตัว ‘วีซ่าชั้นสูง’ มุ่งเป้าผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ใครเก่งก็เข้าประเทศง่าย!!
หลายๆ คนทราบดีว่าการขอวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าไปในหลายๆ ประเทศ แต่มาวันนี้ประเทศจีน ได้ดำเนินการนโยบายใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติผู้มีความสามารถทั้งหลาย เดินทางเข้าประเทศของพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น กระทรวงการบริหารงานด้านผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศของจีน พัฒนาระบบที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างแดนสามารถเข้ามาในประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คำว่าผู้เชี่ยวชาญในที่นี้ก็คือ เหล่าผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในประเทศอื่นๆ หรือผู้มีความสามารถเฉพาะทางในเรื่องต่างๆ ประเทศจีนนำระบบจัดอันดับรูปแบบใหม่ของแรงงานในต่างประเทศเมื่อปี 2016 เข้ามาช่วยตัดสินว่าใครคือผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ผู้ชนะรางวัลโนเบล ผู้วิจัยอาวุโส ผู้บริหารในสถาบันการเงิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของสุดยอดผลงาน หรือแม้แต่ดารากับนักกีฬาเองก็ด้วย วิธีการขอวีซ่าเข้าประเทศจีนสำหรับคนเหล่านั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ยื่นเรื่องมาในระบบออนไลน์ หากได้รับอนุมัติปุ๊บ คุณก็จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศที่มีอายุใช้งานได้ 5-10 ปี และสามารถอาศัยอยู่ได้นาน 180 วันต่อหนึ่งครั้งที่เดินทางมา ที่สำคัญคือการขอวีซ่าในรูปแบบนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว วีซ่าของประเทศจีน นโยบายใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนเก่งหรือคนมีความสามารถจากต่างประเทศ ได้เข้ามาช่วยพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม และในอนาคตวิธีนี้ยังอาจช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนแรงงานด้านเทคโนโลยีหรือผู้วิจัยในสาขาต่างๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดใจผู้มีฝีมือจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2017 ประเทศจีนก็ได้สร้างนโยบายที่ทำให้คนที่เรียนจบปริญญาโทจากต่างแดน สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันไปแล้ว แถมยังมีการขยายเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถอาศัยอยู่ในประเทศได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่าง Elon Musk กับ Mark Zuckerberg…
-
หญิงชาวอินเดียโวย ถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ภาษาของเธอดีเกินไป’ !?
Alexandria Rintoul หญิงสาวชาวอินเดีย ต้องการทำวีซ่าเพื่อขอเข้าไปอยู่กับสามีของเธอที่ประเทศอังกฤษ เธอเรียนจบด้านภาษาอังกฤษมาโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างช่ำชองทั้งด้านการพูด อ่าน เขียน Bobby และ Alexandria Rintoul เธอจึงเลือกที่จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในระดับสูง เพื่อนำผลไปยื่นเป็นเกณฑ์อย่างหนึ่งในการทำวีซ่า แต่ทาง The Home Office ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการอนุญาตให้คนเข้าประเทศ ไม่อนุมัติให้วีซ่าของเธอผ่าน เพราะผลวัดระดับภาษาอังกฤษของเธอ สูงกว่าเกณ์ที่ต้องการ Bobby Rintoul สามีของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “เรารู้ว่าขั้นตอนการทำวีซ่านั้นยาก เราเลยจ้างคนที่ชำนาญเรื่องการทำวีซ่าให้มาช่วยเรา” “เขาก็บอกให้ Alexandria ทำแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่สุด เราก็เลยทำตามนั้นและส่งเอกสารทั้งหมดไปครบถ้วนหมดแล้ว” ทว่าผลการตอบรับจากจดหมายของทาง The Home Office กลับแจ้งว่าภาษาอังกฤษของภรรยาของเขาดีเกินไป เลยปฏิเสธวีซ่าของเธอ “ในจดหมายเขียนว่าเธอน่าจะทำแบบทดสอบที่ง่ายกว่านี้แทน แต่เป็นความผิดของเธอเองที่ทำแบบทดสอบยากๆ โดยไม่จำเป็น และจะให้เราส่งเอกสารไปขอวีซ่าซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่การส่งเอกสารและเดินทางไปทำวีซ่าแต่ละรอบนั้นมันเสียเงินมากถึง 2,000 ปอนด์ (เกือบๆ 90,000 บาท) เลยนะ”…
-
ความรักของคุณยายวัย 72 กับสามีชาวไนจีเรียวัย 27 ที่พยายามขอวีซ่าให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
ความรักคือสิ่งที่ไร้ขอบเขตพรมแดนใดๆ มาขวางกั้นคงเป็นความคิดของใครหลายคนที่มองว่าสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ยึดติดแม้อายุจะต่างกันมากขนาดไหน แต่ชีวิตรักของทั้งสองคนนี้กลับต้องถูกขวางกั้นจากกฎหมายที่ตั้งเอาไว้ คุณแม่ลูก 6 ที่มีชื่อว่า Angela วัย 72 ปีที่ต้องผิดหวังกับชีวิตคู่ หย่าร้างจนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายก่อนที่จะได้พบกับ CJ Nwachukwu ชายผู้สามารถเติมเต็มความสุขให้เธอได้อีกครั้ง เด็กหนุ่มชาวไนจีเรียที่มีอายุเพียงแค่ 27 ปีซึ่งห่างกับเธอมากถึง 45 ปีนั้นได้เริ่มพูดคุยกันในตอนที่เขาเพิ่มเพื่อนเธอในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งแต่งงานกันในปี 2015 เกิดขึ้นหลังจากที่เจอหน้ากันเพียงแค่สองครั้งและเวลาผ่านไปแค่สามเดือนเท่านั้นเอง เธอบินไปไนจีเรียเพื่อการแต่งงานดังกล่าว หลังจากที่เขาขอเธอแต่งงานผ่านวิดีโอคอล เธอบอกว่า “เขาเป็นคนที่หน้าตาดี เราคุยกันเป็นชั่วโมงเหมือนกับว่าเรารู้จักกันมาก่อนเป็นปี จนเมื่อรู้ตัวอีกทีฉันก็คุยกับเขาทุกวัน เราเข้ากันได้ดีมากแม้อายุจะห่างกันเยอะ แต่ฉันก็ตกหลุมรักเขาจนไม่อาจห้ามตัวเองเอาไว้ได้” การมีความรักก็ต้องเจอกับอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเมื่อเด็กหนุ่มจะย้ายเข้ามาอยู่กับเธอในประเทศอังกฤษ ก็ต้องติดกับปัญหาวีซ่าไม่ผ่าน หน่วยงานคิดว่าเขาไม่มีการเงินรองรับที่เพียงพอ ไม่อาจเข้ามาในประเทศได้ เธอจึงต้องเสียเงินมากกว่า 8 แสนบาทในเรื่องของทนายที่จะช่วยสำหรับการเข้าประเทศ และค่าเครื่องบินไปหาเขาที่ไนจีเรีย แต่ก็ยังบอกอีกว่าเด็กหนุ่มนั้นจะช่วยครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่เขาสามารถช่วยได้เสมอ เธอยังเสริมอีกว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการหลอกลวงแต่อย่างใด เพราะเธอก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไรอยู่แล้วซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างที่เขาจะสามารถทำวีซ่าสำหรับนักศึกษาในการมาศึกษาต่อปริญญาโท และเพื่อมาอยู่กับเธอ นอกจากนั้นประชากรอังกฤษสามารถทำเรื่องขอวีซ่าครอบครัวให้กับการย้ายเข้ามาของญาติพี่น้องหรือว่าคู่ครองของตนได้อีกด้วย แต่ว่ากระบวนการดังกล่าวนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากในประเทศอังกฤษ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองบอกเอาไว้ว่าหากต้องการให้คนจากนอกประเทศเข้ามาอยู่ในฐานะครอบครัวเดียวกัน ต้องเสียเงินมากกว่า 6 หมื่นบาทสำหรับ 2…
-
รวม 29 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า สูงสุดถึงปีละ 365 วัน!!
สำหรับใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คุณจะรู้เลยว่าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “วีซ่า” แต่นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับใครหลายๆ คน เพราะไหนจะต้องเสียเงินในการขอทำวีซ่า ไหนจะต้องเตรียมเอกสารที่เยอะแยะเต็มไปหมด และเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกมาประกาศยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อที่จะให้คนไทยสามารถเข้าไปเที่ยวในญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว ซึ่งนอกจากญี่ปุ่นแล้ว เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าอีกกว่า 29 ประเทศจากทั่วโลก ที่ได้จับมือกับรัฐบาลไทยเพื่อให้คนไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ ได้โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า โดยใช้เพียงแค่พาสสปอร์ตเท่านั้น งานนี้เชื่อว่าเหล่านักเดินทางทั้งหลาย จะสามารถไปเที่ยวได้แบบสบายๆ เลยละ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีประเทศไหนกันบ้าง กลุ่มที่ 1 ประเทศที่สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน ได้แก่… 1. บรูไน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน 2. กัมพูชา ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน 3. บาห์เรน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน 4. เมียนมาร์ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 21 วัน 5.…
-
ญี่ปุ่นเตรียมมอบ ‘วีซ่าถาวร’ ให้กับชาวต่างชาติ ลดเงื่อนไข อยู่ให้ครบเพียง 1 ปีเท่านั้น!!
สำหรับประเทศญี่ปุ่นนอกจากเป็นประเทศที่เหล่านักท่องเที่ยวบ้านเราหมายตาไปเที่ยวกันบ่อยๆ แล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนต่างอยากเข้าไปทำงานกัน แม้การทำงานจะมีข่าวว่าเต็มไปด้วยความเครียด แต่อาจจะเพราะระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และที่มองข้ามไม่ได้ก็คือคุณภาพชีวิตของผู้คนที่นี่ ที่พูดได้เลยว่าไม่แพ้ประเทศใดๆ ในโลก!! และล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ที่ดูแลงานทางด้านดูแลคนเข้าเมืองก็ได้คลอดกฎหมายใหม่มาสดๆ ร้อนๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เกี่ยวกับการได้สิทธิ์ ‘วีซ่าถาวร’ ของชาวต่างชาติ หลังจากใช้ชีวิตเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นในประเทศญี่ปุ่น สำหรับกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงใหม่นี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูงจากประเทศต่างๆ เข้ามาอาศัยและอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มใช้ราวๆ เดือนมีนาคม 2560 ที่กำลังจะถึงนี้เลย ตัวอย่างวีซ่าถาวรของประเทศญี่ปุ่น โดยปกติชาวต่างชาติจะได้รับวีซ่าถาวรเมื่ออาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป แต่ในปี 2012 ได้มีการพยายามผ่านร่างกฎหมายที่จะทำให้ระยะเวลาการอยู่อาศัยนั้นสั้นลง เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของเหล่าแรงงานที่มีฝีมือสูง ทั้งทางด้านวิชาการ เทคนิค และธุรกิจ และจะมีคะแนนพิเศษให้สำหรับการได้รับวีซ่า โดยปกติแล้วแรงงานมีฝีมือเหล่านี้ต้องทำคะแนนได้ดีมาก ทำให้พวกเขาได้รับวีซ่าถาวรในระยะเวลาเร็วกว่าปกติ เหลือเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น แต่ด้วยกฎใหม่นี้คนที่สามารถทำคะแนนได้มากกว่า 70 คะแนนจะลดระยะเวลาเหลือเพียง 3 ปี และหากได้มากกว่า 80 คะแนนล่ะก็ จะเหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น!!…