Tag: สตรี
-
Gwyneth Paltrow ถูกปรับบาน หลังแนะนำหญิงสาวให้สอดใส่ “ไข่หยก” เข้าไปในจิ๊มิ…
นักแสดงสาวสวยหุ่นนางแบบ Gwyneth Paltrow ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าของนิตยสารและเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Goop ล่าสุดออกมาเผยว่าหญิงสาวสามารถเพิ่มพลังทางเพศได้โดยการ สอดของบางอย่างเข้าไปในอวัยวะเพศ… รายการ Jimmy Kimmel Live! Gwyneth Paltrow หรือที่หลายคนรู้จักกันในบทบาทของ Pepper Potts จากภาพยนตร์ Iron Man ชีวิตจริงเธอเป็นผู้ที่มีไลฟ์สไตล์สุดโต่งมาก โดยเฉพาะเรื่อง “เซ็กส์” ในรายการ Jimmy Kimmel Live! เธอออกมาเผยว่าการสอดใส่ ไข่หยก เข้าไปในอวัยวะเพศหญิงจะช่วยให้หญิงสาว มีฮอร์โมนที่สมดุล ประจำเดือนมาปกติ ป้องกันมดลูกหย่อน และเสริมการควบคุมการขับถ่าย มีการยืนยันจากราชวงศ์ของจักรพรรดิชาวจีนด้วยว่า “ไข่หยก” ดังกล่าวเป็นหนึ่งในกรรมวิธีโบราณสำหรับรักษาหญิงที่มีปัญหาทางเพศ ซึ่งใช้กันมาราว 2,000 ปีแล้ว ไข่หยก Gwyneth จึงนำไข่หยกมาวางจำหน่ายโดย ไข่โรสควอตซ์ มีราคา 1,830 บาท และ ไข่หยก ราคา 2,200 บาท นั่นเป็นเหตุให้ Gwyneth ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 4.8 ล้านบาทโดย คณะกรรมการควบคุมอาหารและยาแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากการจัดจำหน่ายของใช้เชิงการแพทย์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและไม่ลงทะเบียน …
-
ภาพการเปลี่ยนแปลงของ “แฟชั่นสตรี” จากปี 1784-1970 เกือบ 200 ปีมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง!!?
แฟชั่นและการแต่งกายนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสุภาพสตรีมาหลายยุคหลายสมัย ขณะที่เวลาผ่านไป แฟชั่นเองก็เปลี่ยนแปลงและไม่คงที่ โดยเฉพาะในยุคที่ ศตวรรษที่ 18-20 ที่การแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญในการระบุรสนิยมและชนชั้น แฟชั่นของยุคนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยเกือบทุกปี แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในทุกๆ ปี นั้นได้เกิดเป็นความแตกต่างอันยิ่งยวดเมื่อมองย้อนกลับไป จากชุดเดรสกระโปรงสุ่มในวันนั้น กลายมาเป็นเสื้อผ้าที่เราเห็นกันชินตาอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร ขอเชิญไปชม ภาพความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นตั้งแต่ปี 1784-1970 พร้อมๆ กันเลย… ปี 1784 ถึง 1788 ปี 1789 ถึง 1795 ปี 1796 ถึง 1803 ปี 1804 ถึง 1811 ปี 1812 ถึง 1819 ปี 1820 ถึง 1827 ปี 1828 ถึง 1834 ปี 1835 ถึง…
-
เลบานอนสั่งตำรวจหญิง “นุ่งสั้น” เป็นมาตรการ ‘ดึงดูด’ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ!
ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม การที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวย่อมเป็นผลดีกับประเทศนั้นๆ หลายประเทศจึงมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวิธีต่างๆ ประเทศเลบานอน เองทำเช่นเดียวกัน นอกจากงานประติมากรรมขนาดยักษ์ พิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ และสถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่เป็นจุดเด่นแล้ว ประเทศนี้ยังมีวิธีการดึงดูกนักท่องเที่ยวที่ “ล้ำ” กว่านั้นอีก ในเมือง Brummana เมืองเล็กๆ ของเลบานอน นายกเทศมนตรี Pierre Achkar ได้เกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมในเมือง และไอเดียสุดบรรเจิดที่ว่านี้ก็คือ การสั่งให้ตำรวจจราจรสาวทั้งหลายเปลี่ยนชุดเครื่องแบบมาเป็นสวมใส่ กางเกงขาสั้น โชว์เรียวขากันทั่วทั้งเมืองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่นเอง ตำรวจสาวในเลบานอน ท่านนายกเทศมนตรีกล่าวกับสำนักข่าว RT ว่า “พวกเราชาวเลบานอนเองก็อยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แสนเยือกเย็นของเลบานอนตะวันตกเหมือนกันนะ” เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอเรเนียนนั้นส่วนมากจะสวมกางเกงขาสั้นกันทั้งนั้น” สวมกางเกงขาสั้นสีดำอวดเรียวขา แถมใส่สบายอีกด้วย ถึงกระนั้น มาตรการนี้ก็ถูกคัดค้านและถูกโจมตีเช่นกัน โดย ฝ่ายอนุรักษ์นิยม กล่าวว่านายกเทศมนตรี Achkar ทำให้เจ้าหน้าที่เพศหญิงต้องเปิดเผยเรือนร่างโดยไม่จำเป็น ขณะที่ ฝ่ายเสรีนิยม กล่าวว่าการที่การบังคับให้เพศหญิงสวมใส่กางเกงขาสั้นซึ่งเพศชายนั้นอนุญาตให้สวมกางเกงขายาวได้เป็นเรื่องที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมอย่างยิ่ง เป็นแนวคิดการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ แต่จะได้ผลดีหรือไม่นั้นก็ต้องลองดูกันต่อไป คลิปวิดีโอเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสาว “นุ่งสั้น” ในเลบานอน อย่างไรก็ตาม บนโลกออนไลน์ก็ได้มีการถกเถียงกันถึงประเด็นนี้อยู่มิใช่น้อย…
-
ตำนานของ ‘ลิลิธ’ เทพแห่งเซ็กส์ นางมารผู้ชั่วร้าย หรือแท้จริงแล้วเป็นเทพธิดาแห่งอิสรภาพ!!
ปิศาจและเทพีชั่วร้ายแห่งลัทธินอกศาสนา คือสิ่งที่ผู้คนนิยามให้กับ “ลิลิธ” หนึ่งในภูติสาวที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ต้นกำเนิดของเธอนั้นมาจากมหากาพย์กิลกาเมช และยังถูกกล่าวถึงในพระคำภีร์ไบเบิลกับพระคำภีร์ทัลมุดอีกด้วย ในความเชื่อของชาวยิว ลิลิธถือได้ว่าเป็นปิศาจที่เลื่องชื่อ ในขณะที่บางตำนานเล่าว่าเธอนั้นเป็นหญิงคนแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาบนโลก แต่กลับถูกสร้างด้วยเศษตะกอนและสิ่งสกปรก ชื่อของเธอ “ลิลิธ” แปลว่า รััตติกาลหรือกลางคืน เธอนั้นมักจะมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับราคะ อิสรภาพ และความสยดสยอง ปิศาจโบราณแห่งชาวสุเมเรียน คำว่า “ลิลิธ” นั้นมาจากคำว่า “Lilitu” ของชาวสุเมเรียนที่แปลว่า ภูตแห่งสายลม หรือปิศาจหญิง เธอถูกกล่าวถึงในจารึกเล่มที่ 12 ของมหากาพย์กิลกาเมชของชาวเมโสโปเตเมียโบราณราว 2,100 ปีก่อนคริสตกาล ในเนื้อเรื่อง ลิลิธปรากฏกายขึ้นบนกิ่งไม้รวมกับปิศาจตนอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงถกเถียงกันว่าเธอนั้นเป็นปิศาจหรือเป็นเทพีที่ชั่วร้ายกันแน่ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลิลิธก็ปรากฏขึ้นในตำนานของชาวยิวเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถทราบได้เลยว่าปรากฏที่ใดก่อนกัน แต่ที่ทราบแน่นอนก็คือแต่ละการปรากฏตัวของเธอนั้นล้วนเกี่ยวของกับเวทย์มนต์ของสุเมเรียน พระคำภีร์ทัลมุดของชาวบาบิโลเนีย ลิลิธถูกพูดถึงว่าเป็นภูตมืดที่มีกามารมณ์เกินควบคุมและเป็นอันตราย ในพระคำภีร์กล่าวว่า เธอนั้นบำรุงตนเองด้วย “น้ำกาม” ของผู้ชายเพื่อให้กำเนิดปิศาจ จนได้ชื่อว่าเป็น “มารดาแห่งเหล่าปิศาจ” จากนั้น ลิลิธ ก็กลายเป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมที่หลากหลาย จนภายหลังได้เข้ามาสู่ยุโรปเหนือ…
-
6 ยอดวีรสตรีผู้กล้าหาญ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับบทบาทเบื้องหลังที่ถูกจารึกและเชิดชู
หลายๆ คนอาจมองว่าผู้หญิงในอดีตคงไม่ได้มีสิทธิ และเสรีภาพเท่าเทียมกับผู้ชายสักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้หญิงจำนวนมากที่ได้ทำงานร่วมกับผู้ชาย ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และนั่นก็ทำให้พวกเธอกลายเป็นที่ยอมรับ และถูกจารึกชื่อเอาไว้จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆ ได้ศึกษา และในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ 6 ยอดสตรีผู้กล้าหาญในประวัติศาสตร์ ที่ได้ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ต่างๆ ในช่วงสงครามโลก บอกเลยว่าแต่ละคนทั้งเก่ง และฉลาดไม่แพ้ผู้ชายเลยละ 1.Marion Pritchard (1920-2016) Marion Pritchard เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ที่ได้เข้าช่วยเหลือ และปกป้องชาวยิวกว่า 150 คนในระหว่างที่เกิดสงคราม และในปี 1944 ชาวนาซีและชาวดัตช์สามคนได้เข้ามาตรวจสอบที่ของเธอในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ซึ่งเธอได้ช่วยครอบครัวชาวยิวหลบหนีจากการจับกุม แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ถูกพบ ต่อมาผู้ที่ได้ทำงานร่วมกับชาวดัตช์ก็ได้กลับมาที่บ้านของเธออีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเธอจะต้องซ่อนชาวยิวเอาไว้ และจะต้องจับพวกเขากลับไปให้ได้ แต่ทว่า Marion กลับคว้าปืนของชาวดัตช์ออกมา และยิงไปที่พวกเขาทันที หลังจากที่จบสงคราม Marion ก็ได้ใช้ชีวิตที่เหลือของเธออยู่กับครอบครัวจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต 2.Nancy Wake (1912-2011) Nancy Wake วีรสตรีของสงครามโลกครั้งที่สองชาวออสเตรเลีย ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสายลับหญิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเธอเคยบอกใน Nancy Wake’s…
-
เลอค่า!! Emma Watson กล่าวสุนทรพจน์ ‘สิทธิสตรีในรั้วมหาวิทยาลัย’ ในงานประชุม U.N.
ก็ถือว่าเป็นดาราสาวมากความสามารถคนหนึ่งแล้วก็ว่าได้สำหรับ Emma Watson ผู้โด่งดังขึ้นมาจากซีรีส์ภาพยนตร์พ่อมดน้อย Harry Potter ที่นอกจากความเก่งกาจด้านการแสดงและการเรียนแล้ว ตอนนี้ยังเป็นตัวแทนสิทธิสตรีของ U.N. อีกด้วย ล่าสุดเธอก็ได้มีโอกาสไปพูดเกี่ยวกับสิทธิสตรี HeForShe ในหัวข้อ ‘ชีวิตของนักศึกษาหญิงในรั้วมหาวิทยาลัย’ ซึ่งเหล่ามหาวิทยาลัยระดับโลกหลายแห่งสนับสนุนให้เกิดงานนี้ขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักศึกษาหญิงทั่วโลก Emma ในงานประชุมของ U.N. ใจความสำคัญในสุนทรพจน์ของเธอก็คือ… “ถ้าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ?? แต่ในทางกลับกัน ผู้หญิงก็สามารถเป็นผู้นำได้ แต่ไม่สามารถเป็นผู้นำงานประชุมต่างๆ ได้ล่ะ?? และถ้าในหลายๆ มหาวิทยาลัยนั้น ผู้หญิงไม่ได้รับการยอมรับหรือมีบทบาทใดๆ เลยล่ะ?? สิ่งเหล่านี้คือความกดขี่อย่างหนึ่งเลยไม่ใช่หรือ!?” “แท้จริงแล้วมหาวิทยาลัยควรเป็นสถานที่ๆ บ่มเพาะและปลูกฝังแนวคิดต่อต้านความรุนแรงในทุกๆ รูปแบบต่างหากล่ะ และนั่นก็คือเหตุผลที่เหล่านักศึกษาควรคาดหวังว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นที่ที่สังคมสามารถคาดหวังได้ว่ามีความเท่าเทียมโดยแท้จริง และนั่นคือส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคมล่ะ” ไปชมคลิปการพูดสุนทรพจน์ของเธอ และเรื่องที่เธอเน้นย้ำมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันนั่นก็คือ สัดส่วนของงานในมหาวิทยลัยที่ได้รับมอบหมาย ประเภทของงานต่างๆ ที่ได้รับ และ จำนวนสัดส่วนของนักศึกษาชายและหญิง ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญในด้านความเท่าเทียมกันอย่างยิ่ง จะว่าไปแล้วสมัยนี้ผู้หญิงก็มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสังคมการทำงานและผู้นำด้านต่างๆ เห็นเธอเติบโตมามีบทบาทขนาดนี้ ตัวละครเฮอร์ไมโอนี่คงดีใจมากๆ เลยนะเนี่ย!! ที่มา:…
-
Modibodi กับแนวคิดไม่รีทัชรูปนางแบบ เพราะความสวยไม่ต้อง ‘เพอร์เฟ็คต์’ เสมอไป!!!
#จ่าสิบเหมียว ก็มีความเชื่อแบบนี้เหมือนกันนะเนี่ย ว่าแท้จริงแล้ว ผู้หญิงทุกคนมีความสวยอยู่ในตัวเองทั้งนั้นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อค่านิยมและคำนิยามของความสวยที่สื่อและโฆษณาต่างๆ พยายามยัดเยียดให้เรานะจ๊ะ ^^ ถ้าแบรนด์หรูในด้านชุดชั้นในหญิง ก็คงจะไม่พ้นแบรนด์ดังอย่าง Victoria Secret หลายๆ คนก็คงอยากจะได้หุ่นแบบเหล่านางแบบกันใช่มั้ยล่ะ? แต่กระแสในปัจจุบันนี้ ผู้คนเริ่มแสวงหาความเป็นจริงมากขึ้น Modibodi ก็เช่นกัน ชุดชั้นในหญิงแบรนด์ดังแห่งออสเตรเลียเจ้านี้ก็เลยตัดสินใจออกโฆษณาที่จะสร้างกำลังใจและความภาคภูมิใจในตัวเองให้กับเหล่าสาวๆ ล่ะ!!! Modibodi หลักการง่ายๆ ของบริษัทก็คือ ใช้ภาพจริงๆ ของเหล่านางแบบในหลายรูปร่าง และที่สำคัญก็คือไม่ได้ผ่านการรีทัชแม้แต่น้อย Kristy Chong ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้กล่าวว่า ‘นางแบบแต่ละคนนั้น ดูเหมือนในรูปภาพเป๊ะๆ เลยล่ะ เพราะเราไม่ได้แต่งภาพให้ออกมาดูเว่อร์เกินจริงแต่อย่างใด’ นอกจากนี้ยังใช้นางแบบที่มีรูปร่างแตกต่างกันอีกด้วย เพราะว่าผู้หญิงไม่ได้มีแค่รูปร่างเดียว การโฟโต้ช็อปและรีทัชก็เป็นสิ่งต้องห้ามเช่นกัน เพราะว่าเซลลูไลท์ รอยกระ หรือไฝ ก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ ‘จริงๆ’ เช่นกัน!! และที่สำคัญที่สุด ไม่ควรจะถูกมองว่าน่าเกลียด จนต้องถูกลบออกไป แถมทางบริษัทยังเรียกร้องให้ทางรัฐบาลของประเทศ กระตุ้นการสร้างความมั่นใจในร่างกายและเรือนร่างของตัวเองสำหรับสาวๆ ให้มากขึ้นอีกด้วย สอดคล้องกับการกระทำในหลายๆ ประเทศเลยนะเนี่ย เพราะปีก่อนก็เช่นกันที่ทางประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาสั่งห้ามไม่ให้นางแบบที่ผอมจนเกินไปขึ้นไปเดินบนแคทวอล์กด้วยล่ะ เพราะความสวยงามไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบบเดียว ‘เป็นเวลานานแสนนานแล้วล่ะที่ผู้หญิงถูกกดดัน…
-
ศิลปินสาวสร้างแคมเปญ ‘กล่องกระจก’ ให้คนจับ นมและจิ๊มิ๊ เพื่อรณรงค์สิทธิสตรี!?
ในโลกนี้มีศิลปะอยู่หลายประเภททั้งการวาด การเขียน การระบาย หรือการปั้น และอีกมากมาย บางอย่างดูไม่ใกล้กับคำว่าศิลปะเท่าไหร่ แต่หากมองแบบศิลปะมันก็กลายเป็นศิลปะได้นะ… อย่างเช่นศิลปินสาวชาวสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Milo Moire ที่คิดรูปแบบศิลปะขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างกล่องกระจกขึ้นมาครอบหน้าอกและช่วงเอวของเธอ เพื่อให้ผู้คนแปลกหน้าบนท้องถนน ได้ลองสัมผัสกับหน้าอกและ “จิ๊มิ๊” ของเธอ!? ในการแสดงงานศิลปะแต่ละครั้ง Moire จะออกไปเดินทางสถานที่ต่างๆ พร้อมกับสวมกล่องกระจกเอาไว้ที่ส่วนบนหรือส่วนล่างของเธอ แล้วให้ผู้คนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปลองจับดูเป็นเวลา 30 วินาที จากนั้นเธอก็จะฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้กับพวกเขา เป็นอันจบงานแสดง ศิลปินสาวชาวสวิสรายนี้ได้ให้เหตุผลว่า การที่เธอออกมาแสดงศิลปะแปลกๆ แบบนี้ไม่ใช่การทำแบบไร้จุดประสงค์ แต่เธอทำเพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิสตรีที่ไม่ควรถูกละเมิด Moire ได้เดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อแสดงงานศิลปะแบบนี้อยู่หลายแห่ง แต่ดูเธอจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนบางกลุ่มล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าศิลปินสาวรายนี้เธอทางไปจัดแสดงศิลปะ “กล่องกระจก” ที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ณ กรุ่งลอนดอน แต่กลับมีคนบางกลุ่มมองว่ามันเป็นศิลปะที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาจับกุมเธอไปยังสถานีตำรวจ ลุงๆ ยิ้มกรุ้มกริ่มเชียวนะ . มีสเปรย์ทำความสะอาดให้ด้วยนะ …
-
ตำรวจลิทัวเนียมอบ “ดอกไม้” แทนใบสั่ง แสดงถึงความหวังดีในวันสตรีสากล!!!
ทุกวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีคือวันสตรีสากล ซึ่งเป็นวันเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองความนับถือ ความซาบซึ้งและความรักต่อหญิงสำหรับความสำเร็จทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมของหญิงทั่วไป ทางตำรวจของลิทัวเนียเล็งเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญวันเหนึ่งของโลก เพราะผู้หญิงในปัจจุบันมีบทบาทในสังคมมาก และอยากให้มองผู้หญิงให้เท่าเทียมกัน เลยทำแคมเปญมอบดอกไม้ให้กับผู้หญิงแทนที่จะแจกใบสั่งนั่นเอง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ ซึ่งปีก่อนหน้านี้ก็เคยทำแบบนี้มาแล้ว และตอนนี้เหตุการณ์นี้ก็เป็นที่กล่าวขานอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ต บางคนก็มองว่าตำรวจทำไปเพราะว่าอยากจะแชร์เรื่องราวดีๆ อยากมอบความสุขให้กับผู้หญิง แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็มองว่าตำรวจยังติดภาพของการมองสังคมแบบผู้ชายเป็นใหญ่และเหยียดเพศ เพราะเลือกปฏิบัติ แต่เหมียวมองว่าก็เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะดูจากการกระทำแล้ว ตำรวจเขามอบให้อย่างจริงใจ เพื่อให้วันสตรีสากลนั้นกลายเป็นวันดีๆ สำหรับคุณผู้หญิงทุกคน ที่มา boredpanda
-
ช่างภาพไต้หวันสร้างผลงาน “สำรวจชีวิตสตรี” เผยความเจ็บปวดได้อย่างงดงาม!!
ช่างถ่ายภาพคนนี้มีชื่อว่า Yung Cheng Lin หรือที่รู้จักกันในนาม 3cm เธอคือช่างภาพที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถมากมาย ตอนนี้เธอได้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา เป็นการสำรวจช่วงชีวิตของผู้หญิงทั้งด้านเรื่องเพศ การกำเนิด ประจำเดือน การเติบโต และอีกมากมาย ถึงแม้ภาพจะดูเกินจริงไปบ้าง แต่ก็ทำให้เราได้สัมผัสเบื้องลึกของผู้หญิงได้อย่างงดงาม มันทำให้เราหยุดและคิดตามภาพได้ โดยใช้เพียงแค่เทคนิคแสงและสีธรรมดาๆเท่านั้น เราไปดูผลงานของเธอกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . ติดตามผลงานของเธอได้ที่ Flickr | Facebook ที่มา boredpanda