Tag: สถานที่ท่องเที่ยว
-
หาดทรายแก้วจากจังหวัดนางาซากิ หาดทรายที่ทำจากแก้วจริงๆ ไม่ใช่ของก๊อปเกรด A
จังหวัดนางาซากิ ดินแดนจากทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากอาหารที่แสนอร่อยแล้ว เทศกาลไหว้พระจันทร์ของที่นี่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่น่าไปสัมผัสสุดๆ เลย และวันนี้เราก็มีอีกสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจของจังหวัดจากทางใต้แห่งนี้มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน นั่นก็คือ หาดทรายแก้วจากเมืองโอมูระ นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของที่นี่ก็คือหาดทรายที่เต็มไปด้วยเศษแก้วระยิบระยับแทนผืนทรายขาวๆ เหมือนชายหาดที่เราเคยเห็นทั่วๆ ไปยังไงล่ะ แบบนี้!! หาดทรายแก้วที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียวแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยาน Morizono ซึ่งนอกเหนือจากความน่าทึ่งของที่นี่แล้ว คุณยังได้ชมความสวยงามของอ่าว Omura ที่อยู่ตรงหน้าอีกด้วย เศษแก้วมากมายเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการสลายตัวของสาหร่ายตามชายหาด ซึ่งจะส่งกลิ่นเหม็นในช่วงหน้าร้อนนั่นเอง ซึ่งพวกเขาได้ทำการลบขอบและความคมของมันออกจนหมด ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าคุณสามารถเดินชมความสวยงามของที่นี่ได้แบบปลอดภัยหายห่วงเลย อย่างไรก็ตามเราอาจจะต้องแสดงความเสียใจสำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวจะไปเล่นน้ำที่นี่ เพราะตอนนี้ทางการได้สั่งห้ามลงเล่นน้ำเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติของที่นี่ แต่อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถนำเสื่อและข้าวกล่องไปปิคนิคได้อยู่ . และนอกจากหาดทรายแก้วแห่งนี้แล้ว ที่จังหวัดนางาซากิแห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้คุณได้ทำอีกมากมายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรูๆ ในปราสาท หรือจะลองเช่าเกาะส่วนตัวพักผ่อนชิลๆ ก็มีให้เลือกนะเออ ที่มา soranews24
-
10 สถานที่ท่องเที่ยวจริงๆ จากเกม ‘กบน้อยนักเดินทาง’ ถ้าไม่กลับบ้านก็ต้องไปตามจนถึงที่!!
ถ้าพูดถึงเกมฮิตสุดต้นปีนี้ คงต้องขอยกให้เกม ‘น้องกบน้อยนักเดินทาง’ เลยทีเดียวเชียว แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ที่เจ้ากบน้อยไป นั้นมีอยู่จริงๆ หรือไม่ และในวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/modgazine/ ก็ได้รวบรวมมาไว้ให้พวกเราได้ชม เวลาที่เจ้ากบน้อยเดินทางออกจากบ้านไปนี่แหละ เพราะเราก็ต้องมาลุ้นว่ามันจะส่งภาพของตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปกลับมาให้หรือไม่ และเราลองตามไปดูกันครับว่าแต่ละสถานที่ซึ่งเจ้ากบไปนั้น มันเป็นสถานที่จริงที่ไหนบ้าง!? 1. Oirase Keiryu ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอาโอโมริ โดยสะพานที่เห็นในภาพนี้เป็นสะพานที่พาดผ่านลำธารที่ไหลมาจากทะเลสาบโทวาดะผ่านหุบเขาโออิระเซะมา สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวชะอุ่ม และถ้าเป็นเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วล่ะก็ ผู้คนจะหลั่งไหลมากันที่นี่เพื่อชมความเปลี่ยนแปลงอันแสนมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ป่าทั้งป่าจะกลายเป็นสีแดงสวยสดงดงาม 2. Godaido Temple วัดโกไดโดะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1350 กลายเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดมิยางิ และจุดเด่นของวัดนี้ก็เป็นสะพานสีแดงที่เห็นในภาพ มีชื่อว่า Sukashi-bashi (สะพานสึคาชิ) โดยตัวสะพานจะมีร่องที่ค่อนข้างห่างกันมากเพื่อให้นักท่องเที่ยวก้มมองเท้าเวลาเดินเข้าวัด สื่อถึงการเตรียมความพร้อมทางจิตใจในการไปวัด ถ้าเผลอไม่ระวังสะดุดก็อาจจะแปลว่าจิตใจยังไม่เหมาะกับการเข้าวัดนั่นเอง 3. Kusatsu Onsen คุสัทสึ อนเซ็น เป็นสถานที่แช่น้ำพุร้อนอนเซ็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้นิยมแช่น้ำร้อนมากที่สุด เพราะติดอันดับ top 10 ของประเทศญี่ปุ่นมาตลอด และเคยอยู่อันดับ 1 มากว่า 15 ปีซ้อนด้วย!! ส่วนบริเวณที่คุณกบไปนั่งกินออนเซนมันจูอยู่คือ Yubatake…
-
ชุดภาพโบราณสถาน เหลือเพียงซากในปัจจุบัน แต่ให้จินตนาการช่วยซ่อมแซม และเติมเต็มได้
ตามสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ด้วยความที่อายุอานามไม่ใช่น้อยๆ แน่นอนว่าสภาพของสถานที่เหล่านั้นคงไม่สมบูรณ์แบบ 100% เหลือเพียงแค่ซากที่ถูกอนุรักษ์ไว้เท่าที่จะทำได้ ส่วนภาพที่สมบูรณ์แบบ ก็คงมีแต่ในภาพจำลอง วิหารพาร์เธนอน, กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เหล่านักท่องเที่ยวผู้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จะต้องคอยตามเก็บรายละเอียดความรุ่งเรืองในยุคเก่าแก่เช่น วิหารพาร์เธนอน, พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์ และวิหารลักซอร์ ซึ่งโปรเจกต์ NeoMam ก็เกิดมาเพื่อเติมเต็มในส่วนที่คุณอาจจะมองไม่เห็น ให้เกิดเป็นภาพที่เด่นชัดขึ้นมา พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์, ประเทศเม็กซิโก Largo di Torre Argentina, กรุงโรม ประเทศอิตาลี พีระมิด Nohoch Mul, ประเทศเม็กซิโก โปรเจกต์นี้ได้ทำการคืนชีพโบราณสถานต่างๆ มากมายในรูปแบบของภาพ Gif ภายในเวลาไม่กี่วินาที ความเสียหายทั้งทางธรรมชาติและฝีมือมนุษย์จะถูกกำจัดออกไป รวมไปถึงความผุพังตามกาลเวลาก็จะหายไปเช่นกัน ทำให้สถานที่เหล่านี้ถือกำเนิดใหม่ ด้วยสถานะที่สิ่งก่อสร้างนั้นเคยมีความรุ่งโรจน์ในอดีตกาล วิหารลักซอร์, เมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ Temple of Jupiter Optimus Maximus, กรุงโรม ประเทศอิตาลี …
-
16 จุดหมายท่องเที่ยวจากทั่วโลก บินเดี่ยวก็สนุกได้ แม้จะโดนเทในชั่วโมงสุดท้ายก็ตาม!!
การเดินทางท่องเที่ยวนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน แต่ในบางครั้งเมื่อเราสามารถจัดการปัญหาเรื่องเงินและเคลียร์เวลาอย่างลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การหาเพื่อนร่วมเดินทางซักคนอาจจะเป็นเรื่องยากไม่เบาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ และวันนี้เพื่อเป็นการเอาใจนักท่องเที่ยวแบบฉายเดี่ยว (ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ) เราขอแนะนำ 16 สถานที่ท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่คุณสามารถสนุกได้ถึงแม้จะต้องออกบินเดี่ยวในชั่วโมงสุดท้ายก็ตาม!! 1. มาเลเซีย ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่าแบ็กแพ็คเกอร์เลยก็ว่าได้ นอกจากความสวยงามของวัฒนธรรมและธรรมชาติแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่สูงอีกด้วย!! 2. สกอตแลนด์ ถ้าหากใครที่เป็นคนชื่นชอบการสังสรรค์ล่ะก็ ที่นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับคุณเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่คือถิ่นกำเนิดของเครื่องดื่มอันขึ้นชื่ออย่างสกอตวิสกี้ นั่นเอง 3. นิวยอร์กซิตี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่วางแผนการเที่ยวไม่ค่อยเก่ง เพราะที่นี่เพียงแค่คุณเดินไปตามถนนคุณก็จะพบกับร้านค้า สถานที่สวย และร้านอาหารมากมายแล้ว 4. เมือง Asheville รัฐนอร์ทแคโรไลนา ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบธรรมชาติสวยๆ ล่ะก็ มาที่เมืองนี้รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเดินป่า หรือกางเต๊นท์พักแรมในเขตอุทยาน ก็มีให้เลือกอย่างมากมายเลย 5. รัฐวิกทอเรีย ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในสถานที่อันขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือถนน Great Ocean Road ที่ยาวเลียบชายหาดถึง 244 กิโลเมตร และน้ำตก Erskine Falls แสนสวยงามที่คุณไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด 6. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธความสวยงามของสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนโรแมนติกแห่งนี้อาจจะทำให้คุณพบรักแท้ก็ได้…
-
‘สวนลึงค์’ แหล่งท่องเที่ยวในเกาหลีสุดฮอตฮิต แถมยังใกล้กับสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวด้วย!!
หากใครมีแผนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ เพื่อจะทำธุรกิจหรือว่าดูมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวแล้วล่ะก็ ในตอนนี้มีสถานที่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียงที่ถือได้ว่าเป็นจุดฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศ เพราะว่ามันเป็นสวนสาธารณะทีมีสิ่งของต่างๆ รูปร่างคล้ายกับลึงค์!! มาเป็นลำเชียว ใครหลายคนก็คงจะทราบกันดีว่าในปีนี้ การจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวนั้น ได้มีประเทศเกาหลีใต้ที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ โดยมันจะจัดขึ้นในอำเภอพย็องชัง จังหวัดคังว็อน ซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานแฮซินดังหรือว่า ‘สวนลึงค์’ เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น นั่งแล้วรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในตอนนี้นักท่องเที่ยวที่ไปเตรียมตัวรอดูกีฬาที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงหลั่งไหลกันเข้าไปเที่ยวเพื่อชมความแปลกประหลาดของเจ้าสวนแห่งนี้นี้กันเป็นจำนวนมาก “ฉันเดินทางไปจนจะทั่วทั้งโลกแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย” Keith Childs ชาวลอนดอนที่มางานกีฬาแล้วเดินทางมาอุทยานแห่งนี้พร้อมกับทีมงานคนอื่นๆ กล่าว แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วรูปร่างลักษณะรูปหรรมส์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นภายในสวนแห่งนี้ ได้มีที่มาจากตำนานโบราณของชาวเกาหลีที่เกี่ยวกับเรื่องพรหมจารีและปลา โดยตำนานที่ว่านี้อาจจะฟังดูแปลกๆ หน่อย แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นจุดกำเนิดของอุทยานแห่งนี้ ซึ่งเนื้อเรื่องคร่าวๆ ก็มีอยู่ว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากโดนพายุซัดกระหน่ำ ขณะที่แฟนหนุ่มของเธอกำลังออกไปเก็บสาหร่ายในบริเวณลุ่มน้ำใกล้ๆ ซึ่งหลังจากการตายของหญิงสาวในครั้งนั้น ก็ทำให้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไม่สามารถจับปลาใดๆ ได้เลย อย่าเอาแป้งไปขูดนะเดี๋ยวถลอกหมด จึงมีความเชื่อกันว่าน่าจะเป็นอาถรรพ์ของหญิงสาวคนดังกล่าว พวกชาวบ้านเลยช่วยกันสร้างศาลกับปั้นรูปปั้นรูปลึงค์ไว้ที่หน้าผาของหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความโกรธแค้นพร้อมกับเป็นอนุสาวรีย์ให้แก่เธอคนนั้น และได้เป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันในที่สุด ทว่าถึงอุทยานรูปลึงค์นี้อาจจะก่อให้เกิดอารมณ์เมื่อได้พบเห็น แต่ว่าในชีวิตจริงๆ ของชาวเกาหลีใต้แล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าประเทศเกาหลีใต้นั้นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดประเทศหนึ่งบนโลกใบนี้เลย ปลูกเป็นไร่ ขายเป็นสวน จากข้อมูลที่ได้เปิดเผยโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 2016…
-
นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…
ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกันมากที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากความโดดเด่นด้านองค์ประกอบทางทัศนียภาพ อาหาร และศิลปะวัฒนธรรม ตัวอย่างก็เช่น ย่านอะกิฮะบะระ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจะเป็น เมืองฮะโกะเนะ สำหรับผู้ที่สนใจในน้ำพุร้อนและการแช่ออนเซ็น เกาะมิยาจิมะ ในเมืองฮิโรชิมานั้นเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน เพราะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันเต็มไปด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มและศาลเจ้าเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่นั่น นอกจากจะมีกวางออกมาเดินให้เห็นในเมืองกันแล้ว ยังมีสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของเกาะ นั่นก็คือ ซุ้มประตูโทะริอิ แห่งศาลเจ้าอิสีกุชิมะ ที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ เมื่อยามน้ำลดลงคุณสามารถเดินไปยังบริเวณขาตั้งของซุ้มประตูได้ เสาซุ้มประตูสีส้มนี้เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ . และด้วยความที่ช่วงล่างของซุ้มประตูนั้นต้องอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน เสาไม้ก็เริ่มแตกและโก่งงอ แถมนักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีความเชื่อในการนำ “เหรียญ” เข้าไปยัดในรอยแตกร้าวของเสา ซึ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สวยงามและส่งผลเสียต่อซุ้มโทะริอิอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @riyusuisuiriyu ได้เผยแพร่ภาพสภาพปัจจุบันของเสาโทะริอิ พร้อมกับคำวิงวอนให้หยุดความเชื่อการยัดเหรียญดังกล่าว ในโพสต์ของเธอมีใจความว่า “หากยังทำเช่นนี้ต่อไป เสาโทะริอิจะต้องพังแน่ๆ ดูที่เหรียญเหล่านั้นสิ ผู้คนนำมันไปยัดไว้ในรอยแตกซึ่งมันก็จะยิ่งแตกมากขึ้นกว่าเดิม ฉันไม่อยากให้เสาโทะริอินี้กลายเป็นเพียงอดีตมรดกของโลกหรอกนะ จงจำไว้ นี่คือศาลเจ้า ไม่ใช่ของเล่นในสวนสนุก” ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่าการบริจาคเหรียญด้วยวิธีการโยนหรือใส่เข้าไปในกล่องนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภ สุขภาพ และพรต่างๆ คงไร้ค่า และศาลเจ้าอายุนับศตวรรษก็คงจะสูญสลาย หากความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการนำเหรียญไปยัดในเสาไม้โทะริอิที่แตกจะนำมาซึ่งสิ่งเดียวกันนั้นยังคงแพร่หลายต่อไป การไปเที่ยวในสถานหนึ่งๆ…
-
เกาะ Tashirojima และ Aoshima แดนสวรรค์ของแมวญี่ปุ่น มีประชากรมากกว่ามนุษย์ซะอีก!!
ว่ากันว่าญี่ปุ่นนั้นคือดินแดนสวรรค์ของเหล่าคนรักสัตว์ โดยเฉพาะกับแมวที่จัดว่าเป็นหนึ่งในแหล่งใหญ่ของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะคาเฟ่แมวก็เริ่มมาจากที่นี่นั่นเอง แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าการไปคาเฟ่แมวในตัวเมืองมันยังไม่จุใจ งั้นเชิญพบกับเกาะแมว Tashirojima และ Aoshima สองเกาะดังที่ประชากรหลักคือแมว แถมยังมีคนอาศัยอยู่รวมกันแค่ 100 กว่าคนเท่านั้น!? เริ่มกันที่เกาะ Tashirojima กันก่อน เกาะนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยะงิ โดยประวัติคร่าวๆ ของเกาะนั้นมันเริ่มมาจากปี 1950s ซึ่งตอนนั้นที่เกาะแห่งนี้ยังมีคนอาศัยอยู่กว่าพันคน จนกระทั่งเข้าสู่ยุคปี 70s ก็เหลือจำนวนประชากรไม่ถึง 100 คนแล้ว จากการอพยพไปที่อื่นกันหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้มีแมวอาศัยอยู่เยอะนั่นก็เพราะในสมัยก่อนเกาะดังกล่าวเป็นเกาะของชาวประมง และชาวบ้านก็ต้องเจอกับปัญหาหนูที่มากินตัวไหม ทำให้ชาวบ้านสร้างแหจับปลาไม่ได้ “แมว” จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักที่มาขจัดปัญหาดังกล่าว . แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปประชากรแมวกลับมาเยอะขึ้นๆ และผู้คนก็เริ่มย้ายออกไป ทำให้สุดท้ายประชากรแมวก็เพิ่มจุดถึงจุดพีคและยึดครองเกาะไปในที่สุดนั่นเอง . . . ข้ามมาที่อีกเกาะหนึ่งกันบ้างกับเกาะ Aoshima ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเอะฮิเมะ ความพิเศษของเกาะแห่งนี้ที่ต่างจาก Tashirojima คือ ตัวเกาะนั้นแทบจะเป็นเกาะแมวแบบ 100%…
-
ส่องตลาดปลา Tsukiji แห่งกรุงโตเกียว ปลาทูน่าตัวที่แพงที่สุดนั้น มีมูลค่าถึง 56 ล้านบาท!!
สวัสดีครับทุกท่าน ถ้าหากว่าพูดถึง ประเทศญี่ปุ่น แล้วล่ะก็ หลายคนคงทราบว่าเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน เช่น สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร ซึ่งอาหารญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยกันดีก็คงจะหนีไม่พ้น ซูชิ ซาชิมิ หรือพวกปลาดิบอะไรทำนองนี้ วันนี้เราจึงจะพาไปส่อง ตลาด Tsukiji ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในทุกๆ วันจะมีทั้งชาวประมง ผู้ค้าปลา รวมไปถึงเจ้าของร้านซูชิระดับท็อปในญี่ปุ่นมาทำการซื้อขายปลากันที่ตลาดแห่งนี้ ปัจจุบัน Tsukiji กลายเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งอาหารที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวไปเสียแล้ว เพราะว่าใครกันจะไม่อยากเห็นตลาดที่ด้านในมีปลาราคาราวๆ 56 ล้านบาท วางขายอยู่ อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าข้างในตลาดจะเป็นยังไงกันนะ เชิญไปรับชมกันได้เลย… ก่อนอื่นที่ตั้งของตลาด Tsukiji จะอยู่ภายในย่าน Tsukiji ใจกลางกรุงโตเกียวนั่นแหละ หากว่ามาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ (กำลังเตรียมปลากันเลย) ที่ตลาดจะแบ่งเป็น 2 โซนด้วยกัน นั่นคือ โซนร้านอาหารและร้านขายของ กับโซนขายปลาสด จะเห็นว่ามีร้านขายของชำเล็กๆ ไว้สำหรับซื้อขนม หนังสือพิมพ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ปลานานาชนิด ถูกส่งมาที่ตลาดแห่งนี้มากกว่าแห่งใดในโลก ว่ากันว่าตลาดแห่งนี้มีรายได้ต่อปีมากกว่า 1 แสนล้านบาท!! ที่นี่ขายอาหารทะเลมากกว่า 480 ชนิด และผลิตภัณฑ์แปรรูปอีกมากกว่า 270…
-
34 สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์จากรอบโลก ที่คุณควรไปให้ได้สักครั้งตอนยังมีชีวิตอยู่
ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์มากมายรอให้เราไปสัมผัส และแม้ว่าเราจะไม่ใช่นักเดินทาง แต่บางสถานที่นั้น เห็นแล้วไม่ไปไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพสถานที่อันงดงามเหล่านี้ ที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายแต่มันมีอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้ และคุณควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต 1. Dark Hedges สหราชอาณาจักร 2. อุทยานแห่งชาติ Tasman ประเทศออสเตรเลีย 3. สะพานปีศาจ ใน Gablenz ประเทศเยอรมนี 4. อัลบาร์ราซิน ประเทศสเปน 5. Canyon Fjaðrárgljúfur ประเทศไอซ์แลนด์ 6. มณฑลกานซู่ ประเทศจีน 7. ถ้ำคริสตัลยักษ์ Naica Mine ประเทศเม็กซิโก 8. เขาโรไรมา ประเทศเวเนซุเอลา 9. ทะเลสาบ Moraine Lake ประเทศแคนาดา 10. Antelope Canyon ประเทศสหรัฐอเมริกา 11. ทะเลสาบใน Patagonia ประเทศอาร์เจนตินา…
-
รวมภาพสวยๆ จากแดนเหนือ ที่จะพิสูจน์ว่า Iceland เป็นประเทศที่น่าไปที่สุดในปี 2017
ประเทศไอซ์แลนด์นั้น อาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน เพราะนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ความสวยงามของธรรมชาติที่ประเทศนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในประเทศนี้อีกเช่นกัน และสำหรับบางคนที่อยากจะลองไปสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้ล่ะก็ วันนี้เราก็มีภาพสวยๆ จากเว็บไซต์ This is Insider มาฝากกัน… ในปี 2015 มีรายงานว่าประเทศไอซ์แลนด์มีนักท่องเที่ยวมากถึง 1,289,140 คน แต่อย่างไรก็ตามกลับมีคนที่อาศัยอยู่ในเกาะแดนหนาวนี้เพียงแค่ 300,000 คนเท่านั้น และหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์อันขึ้นชื่อของประเทศไอซ์แลนด์ก็คือแสงเหนือ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่เลยทีเดียว ION Adventure Hotel หนึ่งในโรงแรมหรูที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนเพื่อชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และแน่นอน สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์เลยก็คือ การลงไปแช่น้ำใน Blue Lagoon บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่สวยงามและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับแฟนๆ ซีรีส์ดังอย่าง Game Of Throne นั่นก็คือ หมู่บ้าน Vik ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำนั่นเอง ชายหาดดำในหมู่บ้าน Vik เมือง Mýrdalshreppur ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และสำหรับใครที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติล่ะก็ เราขอแนะนำ LAVA พิพิธพันธ์ในเมือง Hvolsvöllur ที่จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ…
-
7 ชายหาดในฝันของนักท่องเที่ยว ที่พอไปจริงๆ แล้วไม่เป็นสวรรค์อย่างที่คิดไว้
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนยกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันนั่นก็คือ ทะเลที่มีน้ำสีฟ้าใสๆ หาดทรายขาวๆ ที่ได้ไปเยือนเมื่อไหร่ก็เหมือนกับได้ชาร์จพลังไปในตัว การจะออกเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เราก็ต้องวางแพลนเรื่องต่างๆ ทั่งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน อะไรหลายๆ อย่าง บางทีก็ต้องอาศัยจากการดูรีวิวสถานที่จากทางอินเตอร์เน็ต แต่ทว่ารูปที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตการสถานที่จริงมันต่างกันราวฟ้ากับเหว เป็นแบบนี้แล้วคนที่ไปเที่ยวก็คงจะรู้สึกเฟลกันบ้างล่ะ 1. ชายหาด Waikiki ชายหาดที่เป็นซิกเนเจอร์ของฮาวาย น้ำทะเลมีสีใสทั้งกลางวันและกลางคืน ความเป็นจริง ชายหาดเต็มไปด้วยผู้คนที่มานอนอาบแดดจนแทบไม่มีที่ว่างและปราศจากความเงียบสงบ 2. Bondi Beach หาดทรายสีขาวที่คั่นกลางระหว่างสีฟ้าเข้มของน้ำทะเลและทุ่งหญ้าสีเขียวขจี เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าไปสัมผัส ความเป็นจริง ชายหาดไม่ได้สวยงามตามในรูป บนทุ่งหญ้าก็มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามานั่งสังสรรค์กันอยู่เป็นประจำ 3. Huntington Beach ชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคลิฟอร์เนีย จุดเด่นคือทางเดินริมทะเลที่แสนสวยงาม ความเป็นจริง บางทีก็ต้องขึ้นกับสภาพอากาศของวันนั้นๆ อ่ะเนาะ เรื่องของมุมกล้องก็มีส่วนทำให้ภาพดูสวยขึ้นได้ 4. Clearwater Beach หาดน้ำใสสมชื่อของรัฐฟลอริด้า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ความเป็นจริง ชายหาดเต็มไปด้วยผู้คนและร่มบังแดด …
-
รวม 11 ห้องลับจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่แบบนี้มันมีอยู่จริงๆ นะ
โดยปรกติแล้วตามสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ มักจะมีเรื่องราวหรือตำนานที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาเป็นเวลานาน และบางสถานที่ก็อาจจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ภายในนั้นก็ได้ และหนึ่งในความลับที่ว่านั้นก็คือ “ห้องลับ” นั่นเอง!! วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปพบกับ 11 ห้องลับที่ถูกซ่อนไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงทั่วโลก จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… แต่!! ขอบอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีโรงเรียนฮอกวอตส์ แน่นอนจ้า 11. อพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวของ Gustav Eiffel, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ห้องลับแห่งนี้ถูกสร้างไว้ในชั้นที่ 3 ของหอไอเฟล ซึ่งแต่เดิมห้องพักส่วนตัวของ Gustav Eiffel นั้นจะใช้เป็นที่พักรับรองสำหรับแขกคนสำคัญเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชมแล้ว 10. อาคารร้างกลางจัตุรัส Time Square, นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าเจ้าของอาคาร One Times Square จะมีรายได้มากกว่า 23 ล้านเหรียญต่อปีจากการเปิดให้เช่าพื้นที่โฆษณา แต่จริงๆ แล้วอาคารที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1992 นี้เป็นแค่ตึกเปล่าๆ และมีเพียงแค่ร้านค้าที่อยู่ชั้นล่างสุดเท่านั้น 9. อาคารศูนย์ราชการที่ถูกทิ้งร้างไว้ใต้สถานีรถไฟใต้ดิน, นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อาคารดังกล่าวถูกใช้งานระหว่างปี 1904 ถึงปี 1945 และต้องปิดตัวลงหลังจากที่หลังจากที่มีการเปิดใช้ขบวนรถไฟสายใหม่ 8. ห้องลับที่ภูเขา Rushmore, สหรัฐอเมริกา ห้องลับแห่งนี้ซ่อนอยู่ภายใต้รูปสลักหินของประธานาธิบดีทั้ง 4 คนของสหรัฐอเมริกา และว่ากันว่าห้องลับแห่งนี้เป็นที่เก็บซ่อนเอกสารสำคัญต่างๆ รวมถึงคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย 7. คุกลับในอาคาร Doge’s Palace, เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี …
-
โรงแรมในถ้ำสุดหรูจากตุรกี ตกแต่งหลากสไตล์ ตั้งแต่คลาสสิคไปจนถึงโมเดิร์น!!
“แคปพาโดเชีย” พื้นที่โบราณที่มีประวัติศาสตรมากมายแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกี ด้วยความที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองและภูมิประเทศที่คล้ายกับภูเขาไฟ ซึ่งนั้นยังรวมถึงความเป็นอยู่ของมนุษย์ถ้ำอันน่าสนใจอีกด้วย ด้วยความที่แคปพาโดเชียเป็นจุดที่มีภูมิประเทศน่าสนใจและสวยงามมากๆ เหมาะกับการชมจากมุมสูง ทำให้เกิดธุรกิจการท่องเที่ยวเยี่ยมชมความงดงามของที่นี้ โดยการให้นักท่องเที่ยวนักบอลลูนชมทัศนียภาพอันสวยงาม ทว่าการนั่งบอลลูนกลับไม่ใช่จุดเพียงจุดเดียวของที่นี้… โรงแรมที่แคปพาโดเชียนั้นก็ถือเป็นสถานที่แปลกตาและดึงดูดตานักท่องเที่ยวเช่นกัน เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าที่นี้มีภูมิประเทศเป็นหินและภูเขาเกือบทั้งหมด ฉะนั้นผู้คนตั้งแต่พันปีก่อนจึงต้องอาศัยอยู่ในถ้ำนั่นเอง และในปัจจุบันถ้ำเหล่านั้นก็ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นโรงแรมสุดหรูที่มีการตกแต่งหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวเลือกได้ตามสไตล์เลย ซึ่งโรงแรมแนวนี้ก็มีมากมายและกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ เพียบ ว่าแต่จะมีโรงแรมอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกัน!! Anitya Cave House ตั้งอยู่ในเมือง Ortahisar โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองที่ชื่อ Ortahisar ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเมืองปราสาท ภายใน Anitya Cave House นั้นตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นสบายๆ ที่ไม่หรูหรามากมายเน้นความสบายราวกับอยู่ที่บ้าน . Hezen Cave Hotel ตั้งอยู่ในเมือง Ortahisar อีกหนึ่งโรงแรมในเมือง Ortahisar แต่สำหรับ Hezen Cave Hotel นั้นจะแตกต่างจากโรมแรมข้างบนพอสมควร ด้วยการตกแต่งที่ดูทันสมัยและไฮโซกว่าเดิมมากๆ แต่ยังคงความโดดเด่นด้วยโทรสีของเฟอร์นิเจอร์ที่ตัดกับหินรอบๆ . Museum Hotel ตั้งอยู่ในเมือง Uchisar ถัดมาอีกโรงแรมหนึ่งซึ่งอยู่ต่างเมืองกันบ้าง…
-
รวม 4 เกาะสุดอันตราย จงอย่าแม้แต่จะคิดไปเยี่ยมเยือนเป็นอันขาด ถึงตายแน่นอน!!
สำหรับใครที่กำลังหาโปรแกรมเที่ยววันหยุด หรือวางแผนระยะยาวว่าอยากจะไปเกาะสวรรค์หาดหรรษาสักแห่งบนโลก แล้วกำลังไล่ดูชื่อเกาะสวยๆ อยู่ คุณคิดถูกแล้วที่เปิดเข้ามาโพสต์นี้… เพราะเกาะที่เราจะมาพูดถึงกันในครั้งนี้ มันไม่เป็นมิตรต่อการไปเที่ยวสุดๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามตัดมันออกจากรายชื่อไปได้เลย เพราะถ้าไปแล้วอาจจะมีแค่ตั๋วขาไปแต่ไม่มีขากลับก็เป็นได้นะ ว่าแต่จะมีเกาะอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูกันเลยดีกว่า หมู่เกาะ Izuในประเทศญี่ปุ่น ถ้าใครที่เคยดูอนิเมชั่นเรื่อง Your name จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับเกาะนี้แน่นอน และก็คงคิดกันว่ามันสวยงามตามในอนิเมะ แต่ความจริงแล้วเกาะนี้มันโหดร้ายกว่าที่คุณคิด หมู่เกาะอิซุนั้นเป็นหมู่เกาะที่มีภูเขาไฟอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเมื่อปี 2000 เคยเกิดการประทุครั้งใหญ่จนต้องอพยพออกกันจนหมด ต่อมาในปี 2005 ทางการก็อนุญาตให้คนกลับไปอยู๋ได้ แต่ด้วยสารพิษที่มีเยอะมากๆ ทำให้ต้องสวมหน้ากากกันแก๊ซตลอดเวลา ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยถ้าไม่จำเป็นอย่าไปเลยจะดีกว่า… เกาะ Ramree ในประเทศพม่า ถ้าคุณเป็นคนกลัวจระเข้ละก็ ควรออกให้ห่างจากตัวเกาะนี้ให้ไวที่สุด เพราะที่นี้คือจุดศูนย์รวมของจระเข้น้ำเค็มจำนวนมาก และมันก็เป็นสัตว์เลี้ยนคลานที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ความดุร้ายของพวกมันได้รับการันตีโดยการเป็นสถานที่ที่คนถูกจระเข้โจมตีเยอะมากที่สุดในโลก นี่ยังไม่นับรวมสัตว์มีพิษอื่นๆ อีกมากมาย เกาะ Gruinard ในประเทศสก็อตแลนด์ ความอันตรายของเกาะนี้อาจจะไม่เห็นผลทันตา และอาจจะต้องพึ่งโชคกันสักหน่อย เพราะเกาะแห่งนี้นั้นเคยเป็นสถานที่ใช้ทดสอบอาวุธเชื้อโรค Anthrax ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าเชื้อโรคอาจจะหายไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังลงเหลืออยู่ในพื้นดิน ซึ่งเสี่ยงอาจจะทำให้ติดเชื้อโรคดังกล่าวได้ แน่นอนว่าร้ายแรงถึงตาย… เกาะ Ilha da Queimada ในประเทศบลาซิล เกาะสุดอันตรายที่ถูกทหารเรือบราซิลห้ามประชาชนทั่วไปเข้าไปอย่างเด็ดขาด…
-
Rough Guide จัดอันดับ 20 ประเทศที่สวยที่สุดในโลก ที่คุณควรไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง
ในโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งบางประเทศนั้นมีภูมิประเทศที่ช่างงดงามจนน่าอิจฉามากเลยทีเดียว Rough Guide เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทท่องเที่ยว อีบุ๊ก และบล็อก ได้เผยรายชื่อประเทศที่สวยที่สุดในโลกซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่าน และนี่คือ 20 อันดับที่จัดโดยเว็บไซต์ของ Rough Guide 20. เวียดนาม ประเทศเวียดนามมีภูมิทัศน์ที่งดงาม น่าประทับใจ รวมทั้งทุ่งหญ้าในเทือกเขา Sa Pa ที่มีความงดงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 19. โครเอเชีย โครเอเชียมีสถานที่ที่ขึ้นชื่ออย่าง ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ 18. ไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์มีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและน้ำพุที่งดงาม จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 17. นอร์เวย์ ไม่ว่าจเป็นภูเขาน้ำแข็ง เมืองคึกคักไปด้วยผู้คน รวมทั้งแสงเหนือ ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาเยือนนอร์เวย์ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกเป็นครั้งที่สอง 16. เปรู เปรูมีภูมิทัศน์ที่น่าสนใจ และมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าฝนที่มีความชื้นตลอดปี ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และทะเลทรายหลายๆ…
-
เว็บนอกเผย 25 สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งควรไปให้ได้สักครั้ง ก่อนมันจะสูญหายไปตามเวลา…
บนโลกเรามีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่มากมายเต็มไปหมด ทั้งจากยุคเก่าที่เกิดจากธรรมชาติ หรือจะเป็นยุคใหม่ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเหล่านี้ก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แถมใครจะรู้ว่าอีก 50 หรือ 100 ปีข้างหน้าสิ่งมหัศจรรย์ของโลกหลายๆ แห่งอาจจะพังทลายไปก็ได้ ทั้งจากการทำลายของมนุษย์ รวมถึงภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 25 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เว็บไซต์ BusinessInsider แนะนำควรแวะไปเยี่ยมเยือนก่อนจะไม่มีโอกาสได้ไปกัน 1. Big Sur ใน California เดิมที่บริเวณนี้จะเป็นจุดที่ใช้ดูฝูงวาฬตามชายฝั่ง แต่ความเปลี่ยนแปลงของโลก ก็ทำให้วาฬเริ่มจะหายไปเรื่อยๆ ทุกปี 2. Glacier National Park ใน Montana ภูเขาธรรมชาติที่เคยมีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่เต็มไปหมด แต่เพียงแค่ 15 ปี ธารน้ำแข็งมากกว่า 150 จุดได้ละลายเหลือเพียง 25 จุดเท่านั้น ถ้าสภาพอากาศยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปคาดว่าอาจจะไม่เหลือธารน้ำแข็งอีกต่อไปก็ได้ 3. Machu Picchu ในประเทศ Peru ซากอารยธรรมชนเผ่าอินคาที่มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเยี่ยมเยือนทุกปี ทว่าในแต่ละวันสถานที่แห่งนี้จะเปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมเพียงแค่วันละ 2,500 คนเท่านั้น นอกจากนั้นคนมากมายยังเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีโอกาสที่พังลงมาได้ในอนาคต เนื่องจากสถานที่ตั้งอันเสี่ยงกับการถูกกัดเซาะด้วยลมฝนและภัยพิบัติแผ่นดินไหวนั่นเอง…
-
และนี่คือ 14 สถานที่ท่องเที่ยวแสนโรแมนติกรอบโลก แต่คนไทยยังไม่ค่อยคุ้นชื่อนัก…!!
สำหรับเหล่าคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันมาหมาดๆ ย่อมที่จะมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ งามๆ บรรยากาศแสนโรแมนติกเอาไว้เพื่อไปฮันนีมูนกันสองต่อสอง และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สุดแสนจะโรแมนติกจากทั่วโลก เผื่อไว้ให้เพื่อนๆ ที่เป็นคู่รักคู่ใหม่ปลามัน หรือคู่รักคู่อื่นๆ ได้เก็บเอาไปคิดเลือกไปออกเดทจู๋จี๋ดู๋ดี๋กัน ฮร่า 1. หมู่เกาะ Azores ประเทศ Portugal หมู่เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแอตแลนติค เค้าว่ากันว่าที่ Azores นี้เป็นสถานที่ที่มีอากาศดี อาหารอร่อย และเงียบสงบ ปราศจากทัวร์ท่องเที่ยวที่มีคนจำนวนมาก แถมยังมีบรรยากาศที่แสนงดงามทะเลสีฟ้าตัดกับสีเขียวชะอุ่มของป่าไม้ที่ขึ้นอยู่เต็มเกาะ เหมาะแก่การพักผ่อนร่วมกันสองต่อสองกับคู่รักเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญราคาของการบริการและอาหารก็ไม่แพงอีกด้วย 2. เมือง Montreal ประเทศแคนาดา หลายๆ คนคงคิดว่าคงไม่มีคู่รักคู่ไหนอยากไปฮันนีมูนในเมืองที่มีคนพลุกพล่านหรอกน่า แต่ขอบอกเลยว่าคิดผิด!! เพราะคู่รักที่มาฮันนีมูนหรือมาออกเดทกันที่นี่จะได้ชมความงดงามของถนน และตึกรามบ้านช่อง ที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม ใช้เวลาในช่วงเย็นไปกับการเดินเล่นตามถนนที่มีร้านค้าอยู่ตามข้างทางพร้อมกับฟังเพลงไปด้วย เหมาะแก่การพาคู่รักไปจู๋จี๋แบบสุดๆ ฮร่า 3. เมือง Bruges ประเทศ Belgium สถานที่ที่ว่ากันว่าสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ทั้งเงียบสงบ ไม่มีผู้คนแออัด…
-
19 สถานที่ท่องเที่ยวจากรอบโลก ที่คุณควรจะไว้ในลิสต์ และไปสักครั้งก่อนตาย…!!
ในโลกเรานี้ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติในโลกนี้ และบางที่นั้น ก็สวยจนอดไม่ได้ที่จะต้องไปดูให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต ส่วนใครที่กำลังมองหาสถานี่ท่องเที่ยวอยู่ ขอแนะนำ 19 สถานที่อันสวยงาม ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่า ต้องไปให้ได้สักครั้งก่อนตาย (ขนาดนั้นเลย) 1. ทุ่งดอกทิวลิป ในเนเธอร์แลนด์ เมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองที่คนชอบมาเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสวยงามที่สุด คุณลองหาเวลาว่างออกไปทุ่งทิวลิปนอกเมืองสิ มีให้เลือกอยู่มากมาย และไม่ว่าจะหันไปทางไหน คุณก็จะเจอกับดอกทิวลิปมากมาย 2. ภูเขา Tianzi ประเทศจีน คุณต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าประมาณ 2,084 เมตร เพื่อขึ้นมาชมวิวของภูเขาแห่งนี้ ซึ่งอาจเป็นที่ที่สวยมากที่สุดของจีนเลยก็ว่าได้ 3. Zhangye Danxia Landform ในประเทศจีน นอกจากกำแพงเมืองจีนแล้ว Zhangye Danxia ภูเขาหลากสีสันราวกับอยู่บนดาวอังคาร ยังเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจีนด้วย 4. เขาโรไรมา อเมริกาใต้ เป็นเขาที่มีรูปร่างแปลกเพราะด้านบนจะมีลักษณะหน้าตัด ราวกับแผ่นดินได้ยกขึ้นไปอยู่ด้านบนซะเฉยๆ ตั้งอยู่ในเขตชายแดน ระหว่างเวเนซูเอล่า กายาน่า และบราซิล แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครไปเยือน ดังนั้นมันจึงน่าสนใจและน่าลองไปดูสักครั้ง 5. Zhangye Danxia Landform…
-
สาวน้อยไปเที่ยวสวนสัตว์ ดันไปเจอ ‘ลิงบาบูน’ กำลังเบ่งอึ๊ แถมหยิบมาปาใส่เต็มหน้าเลย!!
ต้องขอบอกเลยว่าตอนเด็กน่ะสถานที่ที่ #เหมียวหง่าว มักจะอ้อนขอให้คุณพ่อคุณแม่พาไปบ่อยๆ ก็คือ ‘สวนสัตว์’ นี่แหละ เพราะการได้เห็นเหล่าสัตว์ชนิดต่างๆ แบบตัวเป็นๆ เนี่ยมันเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เลย แต่คงไม่ใช่กับเจ้าหนูคนนี้อย่างแน่นอน ที่ต้องขอบอกเลยว่าได้รับประสบการณ์จากการไปเยี่ยมชมสวนสัตว์ที่โหดร้ายแบบสุดๆ เลยล่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ในช่วงเวลาที่แสนสุขของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่ได้พาลูก และเพื่อนๆ ไปเที่ยวในสวนสัตว์ Tiger World ที่ตั้งอยู่ในเมือง Rockwell ในรัฐ North Carolina พอเดินมาถึงกรงของเจ้าลิงบาบูนสาวน้อยทั้งสองคนต่างก็ตื่นเต้นที่จะเดินเข้าไปทักทายมัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าลิงบาบูนนั้นกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ พอเห็นคนเดินมารบกวนก็เกิดอาการไม่พอใจ แสดงท่าทีโมโหใหญ่เลย แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ มันก้มลงไปหยิบก้อนขรี้ที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อสักครู่สดๆ ร้อนๆ มาปาใส่เด็กหญิงทั้งสอง ซึ่งเศษขรี้ที่ปาออกมานั้นมันดันไปโดนเข้าใบหน้าของเจ้าหนูเสื้อฟ้าเข้าอย่างจังเลย สาวน้อยหันหน้ามาทางพ่อของเธอพร้อมกับพูดว่า “พ่อ…หนูเกลียดที่นี่” หลังจากนั้นก็ร้องไห้เล็กน้อย กลับกันกับคุณพ่อที่หัวเราะจนสำลักน้ำลายตัวเองเลยทีเดียว ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ถือว่าเป็นอุทาหรณ์เลยนะว่าเวลาไปสวนสัตว์ถ้าเดินผ่านกรงบาบูน ต้องส่องดูก่อนว่ามันกำลังอึ๊อยู่รึเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ให้ถอยออกให้ห่างจากกรงก่อนเลย 555+ ที่มา : metro
-
10 วิธีเดินทางท่องเที่ยวของมนุษย์ 30 ปีข้างหน้า ที่นักออกแบบคาดการณ์ไว้อย่างอลัง!!
เพื่อนๆ เคยลองคิดเล่นๆ บ้างหรือไม่ว่า ถ้าอีก 30 หรือ 40 ปีข้างหน้า สิ่งต่างๆ รอบตัวจะถูกพัฒนาขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์โลกจะเป็นอย่างไร เหมียวขี้อ้อนเชื่อว่ามันต้องเปลี่ยนไปมากแน่ๆ เพราะเท่าที่สังเกตดูจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง สถาปัตยกรรมต่างๆ รวมไปถึงเทคโนโลยีก็มีความทันสมัยขึ้นมาก ดังนั้นในอนาคตข้างหน้าสิ่งเหล่านี้จะต้องถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาคุณไปชมจินตนาการล่ำๆ ของบรรดานักออกแบบ และเหล่าศิลปินผู้ที่ได้คาดการณ์ 10 การเดินทางท่องเที่ยวของมนุษย์ในอนาคตอีก 30 ปีข้างหน้าเอาไว้ บอกเลยว่าแต่ละอย่างล้ำสุดๆ 1.สายการบินสุดล้ำ สำหรับนักเดินทาง มันคงจะดีไม่น้อยหากคุณได้เดินทางไปกับเครื่องบินสุดล้ำ ที่ถูกออกแบบโดย Eric Almas โดยสายการบินลำนี้นอกจากจะดูสวยงามแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้คุณอีกมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำ ที่พัก รวมไปถึงกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องฟ้าได้ 2.เมืองลอยน้ำ Lilypad เป็นโครงการเมืองลอยน้ำที่ออกแบบโดยศิลปินนามว่า Vincent Callebaut ซึ่งความเจ๋งของมันก็คือสามารถรองรับปัญหาการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำในมหาสมุทร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลม แสงอาทิตย์ และจากแหล่งพลังงานอื่นๆ แถมยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 50,000 คนเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ…
-
“บันไดแห่ง King of Aragon” สูงชันริมหน้าผา ใครรักความเสียว น่าไปเดินเล่นสักครั้ง!!
บันไดหินที่เปรียบเสมือนหน้าผาที่สูงชัน แห่งนี้อยู่ในเมืองคอร์ซิกา ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความโดดเด่นตั้งอยู่ริมหน้าผาของมัน ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตขึ้นมาทันที ใครหลายคนรู้จักกันดีในชื่อ “บันไดแห่งกษัตริย์อารากอน” โดยในตำนานบอกว่า ถูกสร้างขึ้นเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น… จากเหล่าทหารภายใต้พระมหากษัตริย์ “Aragon Alfonso“ ด้วยมือล้วน ดูท่าตำนานอาจจะเวอร์ไปนิด แต่ความจริงแล้วบันไดหินนี่ถูกสร้างจากพระสงฆ์ “Francuscan” ที่ต้องการเข้าถึงน้ำจืดหรือ แหล่งน้ำสะอาดบริเวณใต้ถ้ำแห่งนี้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเกิดขึ้นก่อนที่กองทัพของกษัตริย์อารากอนจะมาถึงที่นี่ซะอีก บันไดนี้มีความชันเหลือเกินทำมุม 45 องศา กับขั้นบันไดทั้งหมด 187 ขั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนชอบ ขึ้น-ลง บันไดหินหน้าผาสุดหวาดเสียววววววว . . . . . ในส่วนของการเดินทาง เกาะแห่งนี้อยู่นอกชายฝั่งฝรั่งเศส (ค่อนไปทางอิตาลีซะด้วย) ซึ่งวิธีสะดวกที่สุดคือการบินใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ใครสนใจไปเดินเล่นก็ลองหาโอกาสกันดูนะจ๊ะ เห็นแล้วนี่อยากไปกันเลยใช่ไหมละคร้าบบบบ สายลุยอยู่ไหนขอเสียงหน่อย!!! ที่มา : Elitereaders
-
15 หลักฐานยืนยันว่า ‘เวียดนาม’ คือสถานที่เที่ยวในฝัน และน่าไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
หากพูดถึงประเทศที่น่าสนใจในแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยดีกับประเทศ เวียดนาม ประเทศที่มีวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงามซ่อนเร้นอยู่ วันนี้#เหมียวบ็อบได้นำสุดยอดภาพถ่ายที่ได้รับการเผยแพร่โดย ช่างภาพ ชาวฝรั่งเศส ผู้มีนามว่า Réhahn โดยเป็นผู้ที่ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วเวียดนามนานแรมปี ตั้งแต่เหนือจรดใต้ เพื่อรวบรวมสุดยอดภาพถ่ายจากสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติของเวียดนามมาให้ชาวโลกได้รับชมกันว่า เวียดนาม ไม่ได้มีแค่เรื่องราวประวัติศาสตร์หลังสงครามให้น่าค้นหา เท่านั้นนะจ๊ะ… 1.ทิวทัศน์แห่งหุบเขา Đồng Văn 2.ทิวทัศน์อีกด้านหนึ่งของหุบเขา Đồng Văn 3.ทะเลทรายจากเมือง Phan Rang 4.การเป็นอยู่ของผู้คนใน ฮอยอัน 5.วิวนาข้าวแบบขั้นบันไดที่ตั้งอยู่ที่ Hoàng Su Phì 6.บ้านไม้หลังน้อยท่ามกลางนาข้าวแบบขั้นบันได จากเมือง Mù Cang Chải 7.ล่องเรือไปในป่า Tra Su 8.บรรยากาศยามเช้าของทะเลสาป Ba Bể 9.นาข้าว แม่น้ำ และแสงแดดยามเช้า ที่ซาปา 10.ทะเลสาป Lắk ในยามเย็น 11.วิวทิวทัศน์จากบนยอดเขา ระหว่างทางสู่เมือง Mèo…
-
18 ภาพถ่ายมุมสูงทั่วสหรัฐอเมริกา สวยแปลกตาไปอีก ในมุมที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น!!
อย่างที่หลายๆ คนรู้กันอยู่ว่าประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีความน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก ทั้งเป็นจุดศูนย์กลางของความศิวิไลซ์ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความงดงามจากมุมสูงของสถานที่ต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกากัน ขอบอกไว้เลยว่าภาพถ่ายมุมธรรมดาๆ ก็ว่าสวยอยู่แล้ว เจอภาพถ่ายมุมสูงเข้าไปนี่อยากจะแพ็คของใส่กระเป๋าแล้วไปเที่ยวมันซะเดี๋ยวนี้เลยทีเดียว ฮร่า 1. The Wedge, Newport Beach, California 2. Manhattan Beach Pier, California 3. Venice Beach Skate Park, California 4. Gray Whale Cove, California 5. Palm Springs, California 6. Port Madison, Bainbridge Island, Washington 7. Prospect Hill Tower, Somerville, Massachusetts 8. Lake Placid,…
-
ชมความงามทะเลสาบ ‘Tekapo’ ในนิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งสวรรค์ของนักเดินทางจากทั่วโลก!!
บนโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามอยู่มากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียวล่ะ ซึ่งแต่ละแห่งก็ต่างเป็นที่ใฝ่ฝันของนักเดินทางทั้งหลายจากทั่วโลกที่จะต้องไปเยี่ยมเยียนสักครั้งหนึ่งในชีวิต เช่นกับกับที่ทะเลสาบ Tekapo แห่งนี้ที่มีทั้งความงดงามจนไม่รู้จะสรรนหาคำไหนมาอธิบายเป็นคำพูดได้เลยจริงๆ เอาล่ะอย่ารอช้าเพื่อนๆ ลองไปชมดูเลยก็แล้วกัน เพราะมันช่างสวยงามจนเกินจะบรรยายได้จริงๆ ทะเลสาบ Tekapo ตั้งอยู่บนเกาะฝั่งใต้ของประเทศ New Zealand ใกล้กับเชิงเทือกเขา Southern Alps ในเมือง Mackenzie Country (ห่างจากเมือง Queenstown ประมาณ 3 ชั่วโมง) จุดเด่นของที่นี่คือน้ำในทะเลสาบที่มีสีฟ้า Terqwaz ที่แสนสวยงาม โดยสาเหตุที่ทำให้น้ำในทะเลสาบมีสีแบบนี้เป็นเพราะน้ำที่นี่เป็นน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งขนาดใหญ่บนเทือกเขา ระหว่างที่ไหลลงมาก็ได้ทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุต่างๆ จนทำให้มีสีออกมาเป็นแบบที่เห็น บรรยากาศของทะเลสาบ Tekapo นั้นเงียบสงบเป็นอย่างมากและมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี เพื่อนๆ สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาขนาดใหญ่ที่แสนงดงามอยู่ข้างหลัง ซึ่งก็คือยอดเขา Mount Cook เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศแห่งนี้ (สูง 3,764 เมตรจากระดับน้ำทะเล) ที่นี่มีกิจกรรมให้เหล่านักท่องเที่ยวทำมากมาย ทั้งเดินป่า, ขี่จักรยานเสือภูเขา, พายเรือ, ขี่ม้าไปตามเส้นทางเดินป่า, ตีกอล์ฟ, เล่นสกี(ในฤดูหนาว) และการอาบน้ำแร่ เป็นต้น ที่ทะเลสาบแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียวล่ะ เพราะมีคู่รักนับพันคู่มาถ่ายรูปแต่งงาน ฮันนีมูน หรือแม้แต่จัดพิธีแต่งงานที่นี่เลยก็มี…
-
28 ภาพที่จะทำให้รู้ว่า ‘พม่า’ มีดีกว่าที่คิด…ว่าแล้วก็ลุกไปเก็บกระเป๋าเลยดีกว่า!!
หลังจากที่เปิดอาเซียนแล้ว เพื่อนๆ เคยได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากันบ้างรึยัง? เพราะปัจจุบันเค้าไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรมากมายเหมือนเมื่อก่อน (เฉพาะประเทศที่เป็นสมาชิกสมาคมอาเซียน เท่านั้นนะ) ถ้ายังไม่ได้ไปไหนล่ะก็ #เหมียวหง่าว ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ นี่เอง อย่างประเทศพม่า มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ต้องขอบอกไว้เลยว่าของเค้าดีจริงๆ!! เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมกันได้เลย… 1. เกาะ Cocks Comb 2. ภูเขาน้ำแข็ง Khakavorazi 3. เส้นทางเดินป่า Kalaw 4. พระบรมมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี 5. มหานครโบราณ Began เป็นราชวังของพระมหากษัตริย์ของพม่าในช่วงศตวรรษที่ 11 6. อ่าว Pha an (พะอัน) ชมเจดีย์ที่อยู่สูงขึ้นไปบนแง่งหิน 7. เจดีย์ Kuthodaw หนึ่งในมรดกโลก 8. สะพานรถไฟ…
-
26 สถานที่สวยๆ จากรอบโลกทั้งจากมนุษย์และธรรมชาติ ควรรีบไปเที่ยวก่อนจะหายไปตลอดกาล…
สำหรับธรรมชาติ ก็เรียกได้ว่าสร้างสรรพสิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ซึ่งบางแห่งอาจเรียกได้ว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของโลกใบนี้เลยทีเดียว ที่ได้คงอยู่ท้าทายกาลเวลามานับพันๆ ปีก่อนที่เราจะเกิดเสียอีก แต่ก็นั่นแหละ มนุษย์ก็เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำลายธรรมชาติเหมือนกัน ดำรงมานับล้านๆ ปี แต่จะมาพังทลายในช่วงปีของมนุษย์นี่แหละ และนี่ก็คือ 26 สถานที่สวยๆ จากรอบโลก (สร้างโดยทั้งมนุษย์และธรรมชาติ) ที่คุณควรไปเยี่ยมชมก่อนที่พวกมันจะสลายหายไปเหลือเพียงแต่ความทรงจำเท่านั้น…ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง กำแพงเมืองจีน ทั้งจากการรุกล้ำเพื่อทำการเกษตร การกัดกร่อนตามธรรมชาติ และที่หนักสุดก็คือการแอบขโมยเอาอิฐของกำแพงส่วนหนึ่งไปขายของเหล่าผู้ลักลอบ ตอนนี้ 2 ใน 3 ของกำแพงเมืองจีนทั้งหมดได้ถูกทำลายไปแล้วล่ะ Taj Mahal ในอักรา ประเทศอินเดีย หนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก หลังจากถูกการกัดกร่อนและมลพิษรุมเร้ามาหลายต่อหลายปี ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากคาดการณ์ว่ามันจะถล่มลงมาในไม่ช้า Dead Sea ทะเลที่มีความเค็มที่สุดในโลกของพรมแดนอิสราเอลและจอร์แดน ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมานี้จำนวนน้ำของทะเลแห่งนี้ได้ลดลงไปกว่า 24 เมตร และมีทีท่าว่าจะลดไปอีก หลักๆ แล้วก็เพราะการใช้น้ำเกินขนาดในแม่น้ำจอร์แดน กระแสน้ำหลักที่ไหลลงสู่ Dead Sea นั่นเอง Denali National…
-
หมู่บ้านเล็กๆ ในญี่ปุ่น เปลี่ยนนาข้าวให้เป็นผืนผ้าใบ สร้างงานศิลปะสุดเจ๋ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว!!
เมื่อกล่าวถึงงานศิลปะภาพวาดแล้ว เราคงคุ้นชินกับการวาดภาพลงบนแผ่นกระดาษ ที่มีจิตรกรตวัดปลายพู่กันและลงสีออกมาเป็นภาพวาดที่สวยงาม แต่เอาจริงๆ แล้วศิลปะการวาดภาพนั้นมีอยู่หลายแบบ ทั้งการลงสีบนผ้าใบ บนถนน หรือบนกำแพง แต่ยังมีศิลปะอีกอย่างหนึ่ง ที่ต้องใช้เวลาและความอดทน แถมยังต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างมากในการสร้างมันขึ้นมา โดยหมู่บ้านเล็กๆ อย่าง Inakadate ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการสร้างศิลปะภาพวาด ด้วยการ ‘ปลูกข้าว’!? ลองไปชมเรื่องราวพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… โดยจุดเริ่มต้นของไอเดียมาจาก คุณ Suzuk ผู้ใหญ่บ้านแห่งนี้เค้าได้คิดค้นหาวิธีในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งการปลูกข้าวนี้เป็นกิจกรรมขึ้นชื่อของที่นี่มาอย่างยาวนาน จึงทำให้มันแปลกออกมาซักหน่อยด้วยการสร้างงานศิลปะลงบนนั้นซะเลย!! พวกเขาเรียกมันว่า ศิลปะบนนาข้าว และมันก็ทำให้นักท่องเที่ยวต่างแห่กันเข้ามาชมกันเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา ในทุกๆ ปีของการเพาะปลูก ชาวบ้านจะทำการแปลงโฉมนาข้าวธรรมดาๆ ให้กลายเป็นผืนผ้าใบขนาดยักษ์ เมื่อพืชผลเติบโตขึ้น งานศิลปะของพวกเขาก็เด่นชัดมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อมันโตเต็มที่ ความงดงามของภาพเป็นอะไรที่ติดตราตรึงใจของเหล่านักท่องเที่ยวซะเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อปีล่าสุดที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวกว่า 170,000 คนได้เข้ามาชมความงดงามของงานศิลปะ ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของชาวบ้านแห่งนี้ ซึ่งการออกแบบรูปภาพและแปลนนี้ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการวางแผนปลูกเมล็ดพันธุ์กว่า 8,000 จุด …
-
หมู่บ้านศูนย์อนุรักษ์ ‘แย้’ ในจังหวัดสุพรรณบุรี…ที่นี่เค้าเลี้ยงแย้กันแบบน่ารักมุ้งมิ้งทุกบ้านเลยนะจ๊ะ!?
เมื่อกล่าวถึง ‘แย้’ แล้ว เพื่อนๆ คงจะรู้จักกันดี ด้วยรูปร่างลำตัวลักษณะที่คล้ายกับจิ้งเหลน ซึ่งบางคนก็จะรู้จักมากเป็นพิเศษ เพราะแย้ถูกนำมาเป็นอาหารกันด้วยนะ รสชาติก็คงคล้ายๆ เนื้องูหรือจระเข้นี่แหละมั้ง (อันนี้ #เหมียวหง่าว เดาเอานะเพราะดูแล้วมันเป็นสัตว์เลื้อยคลานเหมือนกัน) และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมศูนย์อนุรักษ์แย้ ที่อยู่ในหมู่บ้านสุวรรณตะไล จังหวัดสุพรรณบุรี โดยพวกเขาได้ทำการอนุรักษ์และเพาะพันธุ์แย้ ไว้เพื่อไม่ให้พวกมันสูญพันธุ์ พร้อมกับเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนมาเยี่ยมชมกันอีกด้วย หมู่บ้านสุวรรณตะไล หรือ หมู่บ้านอนุรักษ์แย้ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยทำการเปิดมากว่า 30 ปีแล้ว ก่อนอื่นเราก็มาทำความรู้จักกับเจ้า ‘แย้’ กันก่อนดีกว่า…แย้เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่าประเภทหนึ่ง พบกระจายทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภูมิภาคอินโดจีน มีลักษณะเด่นคือ มีสีสวยสดและลำตัวไม่มีปุ่มหนาม ที่อยู่ของมันอยู่ในรูลึกลงไปในดินประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งภายในจะเป็นโพรงมีขนาดพอเหมาะให้มันสามารถพลิกกลับตัวไปมาได้ ส่วนอาหารของแย้จะกินแมลงเป็นอาหาร โดยเฉพาะหนอนนกที่เป็นของโปรดของมัน ซึ่งที่หมู่บ้านนี้เค้าก็ได้ทำการเพาะเลี้ยงหนอนนกนี้เพื่อเป็นอาหารของเหล่าแย้อีกด้วย เจ้าแย้ที่หมู่บ้านนี้จะมีความคุ้นเคยกับคนเป็นอย่างดี เราสามารถจับและให้มันเกาะอยู่นิ่งๆ เพื่อถ่ายรูปได้อีกด้วย นี่แหน่ะ…
-
พาไปชม ‘Bois de Hal ทุ่งดอกไม้สีน้ำเงิน’บรรกาศความงามกลางป่าในฤดูใบไม้ผลิ
#เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าทุกท่านอยากจะมีบรรยากาศโมเม้นแบบว่า ออกไปเดินเล่นท่ามกลางทุ่งดอกไม้สวยงามกลางธรรมชาติ สูดดมกลิ่นหอมของบรรดาดอกไม้ แค่คิดถึงปุ๊บ โอ้วววว โลกนี้มันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน แค่ก็คงทำได้แค่ฝันไป เอาล่ะ!! อย่าให้ความคิดนั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน หากมีเงินเก็บซักก้อนหนึ่งแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ลองสานฝันตัวเองซักครั้ง ไปเที่ยวที่ประเทศเบลเยี่ยมเพื่อชมบรรยากาศทุ่งดอกไม้กลางป่ากันหน่อยเป็นไง #เหมียวเลเซอร์ นำภาพมาฝากแล้ว แต่เสียดายที่เอากลิ่นมาด้วยไม่ได้ ฮร่าาา ทุ่งดอกไม้สีน้ำเงินกลางป่าแห่งนี้มีชื่อว่า Hallebros – Halle Forest หรือ Bois de Hal ในภาษาดัตช์ เต็มไปดอก Bluebell ที่พร้อมจะผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นเลือกที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงสุดสัปดาห์ ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ควรมาในช่วงวันธรรมดาแทน แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าหากได้มาเยี่ยมชมที่แห่งนี้แล้วจะถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ทุ่งดอกไม้สีน้ำเงินกลางป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม ใช้วเลาเดินทางไม่นานนัก และมีข้อห้ามด้วยว่า ห้ามเด็ดดอกไม้โดยเด็ดขาดเพราะถือว่าเป็นมรดกทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าควรไปชมในช่วงเช้า เพราะจะได้สัมผัสกับไอหมอกเบาๆ ภายในป่า อีกทั้งกลิ่นหอมของดอก…
-
ความงดงามแปลกตาของ Lake Hiller ทะเลสาบสีชมพูจากชายฝั่งทางตอนใต้ของออสเตรเลีย!!
ถ้าให้พูดถึงสีของแหล่งน้ำตามธรรมชาติอย่าง ลำธาร ลำคลอง แม่น้ำ ส่วนมากจะเป็นน้ำใสๆ ไปจนถึงหน่วยใหญ่ๆ ก็จะเป็น ทะเล มหาสมุทร ที่จะออกเป็นสีฟ้าครามบ้าง สีเขียวบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่พื้นที่ Lake Hiller ทะเลสาบสีชมพูแห่งประเทศออสเตรเลีย แต่ก็คงไม่มีที่ไหนดูแปลกตาเท่าทะสาบสีชมพูแห่งนี้ ใช่แล้ว!! ให้มันเป็นสีชมพู (เพลงบอดี้สแลมมา) โดยสีของทะเลสาบ Lake Hiller แห่งนี้เป็นสีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติโดยไม่มีมนุษย์เป็นผู้กระทำให้มันถือกำเนิดขึ้นมาแต่อย่างใด!! ความแปลกของ Lake Hiller นั้นเกิดขึ้นมาจากภายใต้ทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเกลือและสาหร่ายสีแดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก จนทำให้สีของน้ำกลายมาเป็นสีชมพูอย่างที่เห็น ทะเลสาบแห่งนี้จึงดูโดดเด่นขึ้นมาทันที สวยงามราวกับดั่งอัญมณีสีชมพูท่ามกลางผืนป่ายูคาลิปตัสสีเขียวยังไงอย่างงั้นเลย!! เอาเป็นว่าหากใครอยากจะไปสัมผัสความงามของน้ำสีชมพูด้วยตัวเอง Lake Hiller นี้ตั้งอยู่บนเกาะที่ใหญ่ที่สุดบนหมู่เกาะ Recherche Archipelago ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย รีบเก็บเงินแล้วบินไปเยี่ยมชมความงดงามนี้กันโดยพลัน!! ที่มา : wherecoolthingshappen, designyoutrust
-
เคยไปยัง!? เยี่ยมชมสวรรค์ของทาสแมว เที่ยวฟินๆ ภายใน Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน
ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกนำเสนอไปเยอะแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเกาะเลยที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์ อ่ะ!! แต่ถ้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ไกลไป ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ อีกซักนิด ย้ายถิ่นฐานไปดูที่ไต้หวันกันบ้าง Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าที่ไต้หวันก็มีสวรรค์สำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีชื่อหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมือง Taipei ประมาณ 60 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 50 นาที ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน Houtong แต่ก่อนเคยเป็นไซค์สำหรับเหมืองถ่านหินมาก่อน จนกระทั่งเหมืองได้ปิดตัวลงไป มีประชากรมนุษย์อยู่อาศัยเป็นจำนวน 6,000 คน ซึ่งในอดีตมีประชากรแมวน้อยหน่อย แต่จู่ๆ ก็เกิดเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกระทันหัน จนประชากรแมวแทบจะยึดครองไปทั่วหมู่บ้านแล้ว ทั้งนี้จากหมู่บ้านที่เคยเงียบเหงา ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในปีค.ศ. 2009 กลุ่มอาสาสมัครผู้รักแมวได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของหมู่บ้าน Houtong จากหมู่บ้านข้างเหมืองถ่านหินให้กลายมาเป็นหมู่บ้านเต็มรูปแบบ โดยอาศัยประวัติศาสตร์ในอดีตของเหมืองผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ได้อย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟจาก Taipei สู่ Houtong …
-
ชี้เป้า 11 เกาะแมวแห่งประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากเจอแมว แม๊ว แมว ก็เก็บกระเป๋าไปเลย!!
อาการของทาสแมวที่มักจะเรียกร้องความสนใจจากเจ้านายผู้ไม่สนโลก วันๆ ก็เอาแต่นอนอย่างเดียว พอตื่นก็หิว กินอิ่มก็นอนต่อ ฮ่าฮ่า!! ไม่ใช่อะไรหรอก หากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวที่ชีวิตนี้ได้ถวายทั้งกายและใจให้แมวไปแล้ว หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ ‘เกาะแมว’ ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี และเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีเกาะที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวนี่แหละ นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย ว่าแล้วก็ขอแนะนำ 11 เกาะแมว ที่ควรไปเที่ยวซักครั้ง รับรองว่าทาสแมวต้องฟินแน่นอน!! 1. Enoshima, จังหวัด Kanagawa สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด : Katase Enoshima แถมที่นี่ยังมีศาลเจ้าสวยๆ และชายหาดที่เหมาะแก่การปาร์ตี้มากๆ แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อนกันนะจ๊ะ 2. Okishima, จังหวัด Shiga ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด : Horikiri เกาะนี้ไม่ได้อยู่ในทะเลสาบ Biwa ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นล่ะ 3. Sanagishima, จังหวัด Kagawa ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด :…
-
สั่งปิดแล้ว “แกรนด์แคนยอนชลบุรี” นักท่องเที่ยววอนการรถไฟฯ พิจารณาอีกครั้ง
หลังจากที่เหมียวได้รายงานข่าวไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนคำสั่งของการรถไฟฯ ที่ติดป้ายเตือนเหล่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยัง แกรนด์แคนยอนชลบุรี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและนั่งเล่นบนรางรถไฟด้วย ล่าสุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางการรถไฟฯ ได้ออกมาประกาศแล้วว่าไม่ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งนำป้ายมาปิดประกาศอย่างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันเสียดาย เพราะถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้ พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย เพราะสถานที่ท่องเที่ยงในชลบุรีนั้นมีน้อยอยู่แล้ว จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ โปรดพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เป็นไงล่ะ เขาติดป้ายเตือนแล้วไม่ฟังกัน แต่เหมียวเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะ อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองเหมือนกัน ที่มา springnews
-
สนุกและเสียว!? กรุงลอนดอนกำลังจะมีสไลเดอร์ที่ยาวและสูงที่สุดในโลกแล้วนะ!!
ความสนุกสนานของวัยเด็กกับการได้เล่นสไลเดอร์นั้นกำลังจะขยายไปไกลเกิยกว่านั้นแล้ว ซึ่งในตอนนี้ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกำลังจะมีสไลเดอร์ที่ยาวและสูงที่สุดในโลก!! สไลเดอร์ที่ยาวและสูงที่สุดในโลกจะอยู่ใน ArcelorMittal Orbit ที่เป็นทั้งประติมากรรมและหอสังเกตการณ์ในเวลาเดียวกัน และตอนนี้ก็กำลังดำเนินการติดตั้งสไลเดอร์ความยาวประมาณ 180 เมตรจากจุดชมวิวลงมาถึงพื้นด้านล่าง และด้วยความสูงของหอสังเกตการณ์ประมาณ 50 เมตรจากพื้นดิน ทางสไลเดอร์นี้จะวนไปวนมารอบๆ หอคอยประมาณ 5 รอบด้วยกัน บอกเลยว่างานนี้มีวิงเวียนและเสียวแน่นอน!! หากใครจะไปลองเล่นก็ให้รอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีค.ศ. 2016 เป็นเวลาที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์สไลเดอร์ที่ยาวและสูงที่สุดในโลกในราคาเที่ยวละ 8 ดอลลาร์ กับเวลาสไลด์ลงมา 37 วินาที!! ที่มา : thechive