Tag: สอบ
-
ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย ส่งเอกสารขอดูคะแนนแต่ติด “แสตมป์ 7-11” สำนักงานศึกษาธิการเงิบ!!
เรียกได้ว่าเป็นภาพเหตุการณ์แปลกๆ ที่ทั้งเรียกเสียงหัวเราะและเสียงวิจารณ์เชิงลบได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อผู้สมัครสอบ “ครูผู้ช่วย” ส่งเอกสารขอรับคะแนนมาเป็นซองพร้อมแสตมป์เซเว่น… เมื่อค่ำวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้โพสต์ภาพของซองเอกสารขอรับคะแนนสอบที่ไม่เหมาะสม ประกอบไปด้วยสองภาพ ภาพแรก เป็นภาพซองจดหมายที่มีการจ่าหน้าซองเรียบร้อยแต่แสตมป์ที่ติดมานั้นหาใช่ดวงตราไปรษณียากรไม่ แต่กลับเป็นแสตมป์ที่ได้จากการซื้อของในร้าน 7-ELEVEn เสียอย่างนั้น แสตมป์เซเว่น!! ส่วน ภาพที่สอง เป็นภาพของซองเอกสารที่มีการจ่าหน้าซองพร้อมติดดวงตราไปรษณียากรสำหรับส่งแบบด่วน (EMS) ทั้งยังเขียนกำกับหน้าซองว่า “ส่ง EMS ให้ด้วย” ซึ่งดูเหมือนประโยคคำสั่งที่ไม่ควรใช้ในบริบทของทางการ “ส่ง EMS ให้ด้วย” หากว่ากันตามความเหมาะสม การขอดูคะแนนสอบนั้นควรส่งเอกสารคำร้องขอดูคะแนนไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ผ่านทางไปรษณีย์ โดยให้ใช้ซองสีน้ำตาลพร้อมติด ตราไปรษณียากร (ไม่ใช่แสตมป์อะไรก็ได้) งานนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดถึงกับกุมขมับกับสิ่งที่พวกเขาได้รับจากผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย จึงต้องออกมาโพสต์ภาพซองจดหมายดังกล่าวพร้อมให้ข้อมูลและตักเตือน ไม่ให้ผู้สมัครสอบคนอื่นๆ ทำแบบเดียวกันอีก ชาวเน็ตที่พบเห็นโพสต์นี้ก็ต่างพากันคอมเมนต์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก เช่น… “เอาไรคิด?” “คือไรอะครับ อันนี้ไม่เคยส่งหรือคิดมาแล้วเลยทำเพราะจะเอาฮา หรือ*ง่จริง” “กลัวไม่ถึง จัดเลย 9 บาท 5555” “ติดสแตมป์เซเว่นนี่คือคิดยังไง…
-
กฎโรงเรียน!! นักเรียนสาวถูกสั่ง “ถอดเสื้อชั้นใน” ก่อนเข้าสอบ โวยโดนเจ้าหน้าที่จ้องหน้าอก
หลายโรงเรียนก็จะมีกฎและข้อห้ามไว้สำหรับให้นักเรียนปฏิบัติ เพื่อความสงบเรียบร้อยของโรงเรียนและผู้คนในโรงเรียน แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ กฎของโรงเรียนกลับทำให้เหล่านักเรียนหญิงต้องเดือดร้อน โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย มีกฎว่าห้ามนักเรียนมีโลหะติดตัวเข้าห้องสอบ นั่นหมายถึงโครงชุดชั้นในของนักเรียนหญิงด้วยเช่นกัน ทางโรงเรียนถึงกับจัดตั้งเครื่องสแกนตรวจหาโลหะพร้อมผู้คุมอีก 2 คนเพื่อคอยตรวจหาโลหะในร่างกายนักเรียนที่จะเข้าห้องสอบ แต่กฎดังกล่าวทำให้เด็กนักเรียนหญิงต้องผวาเมื่อนักเรียนสาววัย 17 ปีคนหนึ่งดันสวมชั้นในที่มีลวดทองแดงซึ่งทำให้เครื่องตรวจจับโลหะต้องส่งสัญญาณดัง เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เธอถอดเสื้อชั้นในออก มิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าห้องสอบ เมื่อเธอถอดออกแล้วกลับพบว่าเสื้อชีฟอง (ผ้าบางมองทะลุได้ง่าย) ของเธอทำให้มองเห็นถึงเนื้อหนัง และที่ยิ่งกว่านั้นเธอพบว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองเอาแต่จ้องมองที่หน้าอกของเธออย่าไม่ละสายตา นั่นทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคาม เรื่องราวถูกแชร์ผ่านโลกโซเชียลโดยน้องสาวของนักเรียนหญิงผู้เสียหายได้นำไปเล่าผ่านเฟซบุ๊ก เธออัปโหลดภาพพร้อมคำบรรยายว่า “นักเรียนหญิงสมัยนี้นอกจากจะห้ามนำมือถือเข้าห้องสอบแล้ว ยังห้ามใส่เสื้อในอีกด้วยนะ” เธอเล่าต่อว่า “เจ้าหน้าที่สองคนตรวจร่างกายพี่สาวของฉัน แล้วบังคับให้ถอดชั้นในออก เมื่อถอดแล้วกลับมาตรวจอีกครั้งด้วยเสื้อซีทรูซึ่งมองเห็นยันเนื้อด้านใน เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกลับเอาแต่มองหน้าอกพี่สาวฉัน” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งเมืองเนซนีกัมสก์ ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับ 10 ของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน สหพันธรัฐรัสเซีย แต่ทางด้านนาย Ayziryak Ramazamova รองหัวหน้าหน่วยงานศึกษาธิการของเมืองเนซนีกัมสก์กลับออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ว่ามาทั้งหมด ขณะเดียวกัน Eduard Taymasov ผู้เป็นครูในโรงเรียนก็ชี้แจงว่าทางโรงเรียนมีกฎห้ามพกโลหะติดตัวอยู่แล้ว ซึ่งการถอดชุดชั้นในออกนั้นเป็นเรื่องปกติ แถมมีห้องแยกไว้สำหรับถอด ไม่ได้ถอดต่อหน้าผู้คน อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้เป็นแม่ของนักเรียนสาวผู้เสียหายก็ได้ทำการแจ้งและร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป …
-
คุณครูผู้น่ารัก นั่งทำอาหารเช้าหน้าห้องเรียน มอบให้กับนักเรียนที่ไม่มีอาหารพกติดตัวมา…
เรื่องราวเล็กๆ อันน่าประทับใจของคุณครูชาวต่างชาติ ที่มักจะมองในจุดที่ขาดสำหรับนักเรียนอยู่เสมอ อย่างในเรื่องของมื้ออาหารสำคัญที่สุดของวัน นาย Johnston คุณครูวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียน Clear Springs High School รัฐเท็กซัส ต้องการให้ลูกศิษย์ของเขาสามารถสอบผ่านโครงการ AP English ให้ได้ เขาจึงมอบอาหารตอนเช้าด้วยแซนด์วิชแยมเนยถั่ว คุณครูนำโต๊ะมาตั้งกลางโถงทางเดิน และมอบแซนด์วิชให้กับลูกศิษย์ที่ไม่ได้พก หรือลืมนำอาหารเช้าติดตัวมาในวันสำคัญเช่นนี้ Hannah ลูกศิษย์ผู้เก็บภาพอันน่าประทับใจของคุณครูเอาไว้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า… “คุณครู Johnston มักจะคอยให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ในเช้าวันนั้นเขาทำแซนด์วิชให้นักเรียนในตอนเช้าก่อนเข้าสอบ และผลการสอบในครั้งนี้จะสามารถนำไปเป็นหน่วยกิตสำหรับเข้าเรียนในระดับวิทยาลัยได้ แถมการสอบก็กินเวลานานและน่าเบื่ออีกต่างหาก …ก่อนที่จะเริ่มสอบตอน 7 โมงเช้า คุณครูก็ตั้งโต๊ะและเก้าอี้ มีขนมปังทั้งหมด 3 ชนิด เนยถั่วสูตรธรรมชาติ และแยมองุ่น แน่นอนว่าเขาล้างมือมาก่อนทำแซนด์วิชให้นักเรียนด้วย เขาตั้งใจทำให้นักเรียนก่อนเข้าห้องสอบจริงๆ แถมอาหารที่เขาทำก็มีสารอาหารและพลังงานเพียงพอที่จะช่วยให้ทำข้อสอบได้อย่างเต็มที่ …ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าบุคลากรทางการศึกษาจะใส่ใจกับลูกศิษย์ได้มากขนาดนี้ และบ่อยครั้งก็มักจะถูกมองข้ามไป ฉันรู้สึกยินดีกับคุณครู…
-
ครูสั่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ นักเรียนเลยพกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาเลย!!
ลูกเล่นตุกติกของกลโกงข้อสอบนั้น มีทุกยุคทุกสมัยเสียจริง ตั้งแต่วิธีการจดโน้ตเล็กๆ เก็บในกระดาษใบน้อย การบอกข้อที่ถูกต้องผ่านโค้ดลับต่างๆ สารพัดวิธีที่คนอยากจะโกงข้อสอบนั้นสุดจะคิดได้… ยิ่งในสมัยนี้ เทคโนโลยีทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และการมาของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้ ก็ไม่แปลกที่จะถูกสั่งห้ามใช้ ห้ามพกเข้าห้องสอบไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการโกง อีกหนึ่งเหตุผลที่มักจะใช้อ้างก็คือ ใช้โทรศัพท์เพื่อฟังเพลงระหว่างทำข้อสอบ Eric Saueracker คุณครูชาวแคนาดาท่านนี้ ก็รู้ในความต้องการของนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะแอบใช้หาคำตอบกันหรือเปล่า ก็เลยสั่งห้ามไม่ให้พกเข้าห้องสอบ เพื่อให้การสอบวิชาฟิสิกส์นั้นเป็นไปตามที่หวังไว้ แต่แล้วนักเรียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดใจกับวิถีโบราณ เพราะดันนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าห้องสอบแทนนี่สิ! ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ นำ แผงกั้นมาวางไว้หน้าตัวเองเพื่อกันคนอื่นลอกคำตอบ แต่หมอนี่ดันใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเปิดเพลงของ Kanye West อัลบั้ม The College Dropout ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบเลย ฮร่าาาา ทางด้านนาย Eric คุณครูผู้สอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในระหว่างการทำข้อสอบมิดเทอมของวิชาฟิสิกส์ คำตอบในข้อสอบมีในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นก็ต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ…. ผมพูดติดตลกไปว่า สามารถนำเครื่องเล่นเทปหรือซีดีเข้ามาได้ หากอยากจะฟังเพลง แล้วก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่านำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาได้รึเปล่า?” “ผมก็คิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ เจ้านี่มันหัวหมอชะมัดผมก็บอกไปว่าโอเคไม่มีปัญหา แล้วเขาก็เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาจริงๆ ลากสายยาว…
-
เทรนด์ดูคนกินข้าวมันเอ๊าท์ ต้องมาเจอกระแส ‘ดูคนทำการบ้าน’ ก็ทำคนเดียวเงียบๆ มันเหงานี่!!
ในโลกยุคออนไลน์อะไรๆ ก็ต้องมองผ่านหน้าจอไปเสียหมด ทั้งด้านการบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ ดูหนังฟังเพลง ดูคนเล่นเกม ดูคนกินข้าว จนกระทั่งลามมาถึงดูคนทำการบ้าน!? ใช่แล้วล่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะในขณะนี้ ‘การดูคนทำการบ้าน’ กำลังกลายมาเป็นกระแสในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะ ถึงขั้นออกอากาศผ่านในรายการโชว์ช่วงเช้ากันเลยทีเดียว สำหรับคลิปที่ถูกนำมาออกอากาศผ่านรายการนั้น เป็นคลิปของนาย Hajime Shacho หนึ่งในยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่มีผู้ติดตามมากถึง 6.1 ล้านคน และคลิปการทำการบ้านของเขานั้นถูกปล่อยออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2016 มีคนดูไปแล้วกว่า 3 ล้านครั้ง แต่ทว่าคลิปนี้ไม่ใช่คลิปแรก ที่เกิดเป็นกระแสของ “Benkyou douga” (勉強動画) โดยในช่วงนั้นก็มีคลิปคนทำการบ้านเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อคลิปว่า “Ore to issho ni benkyou suru douga” (俺と一緒に勉強する動画) หรืออาจจะตั้งชื่อแค่ “Study With Me” สั้นๆ ไม่ก็…
-
โคตรยัวะ… ครูสอนขับรถไม่ให้ยืมรถ เอาคืนจนสอบผ่าน ชูนิ้วกลางห้อยคำสร้อย ‘โยนีบอด’
คงจะเป็นเรื่องที่ชวนหงุดหงิดไม่น้อยเลยล่ะ กับการที่เราจะต้องไปสอบอะไรสักอย่างเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมนี้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ฮร่าาาา ที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังพูดถึงก็คือ ‘การสอบใบขับขี่’ นี่แหละ เป็นที่รู้กันดีว่าการไปสอบใบขับขี่ นอกจากจะต้องเสียเงินค่าสอบแล้ว ยังจะต้องใช้เวลาทั้งวันไปกับการสอบอีกต่างหาก ถ้าหากว่าไม่ผ่านขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีหงุดหงิดกันบ้างเนอะ Daniel Parker อย่างเช่นพ่อหนุ่ม Daniel Parker วัย 19 ปี จากประเทศอังกฤษผู้นี้ ที่เจอกับอุปสรรคการสอบใบขับขี่เช่นเดียวกัน เขาได้ทำการเรียนขับรถกว่า 70 ถึง 80 บทเรียน กับครูสอนขับรถนามว่า Clive พร้อมกับทำการจองวันสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่า 4 วันก่อนถึงวันสอบ เขากลับถูก Clive ปฏิเสธ เพราะไม่ยอมให้ Daniel ยืมรถยนต์ของตัวเองเพื่อไปทำการสอบ และค่าใช้จ่ายสำหรับการสอบในแต่ละครั้งก็สูงถึง 3,300 บาท (75 ปอนด์) Daniel ก็ไม่ง้อ ไปหาครูฝึกสอนคนใหม่มาแทน แล้วก็สอบผ่าน จากนั้นก็กลับมาชูนิ้วกลาง พร้อมใบรับรองการสอบส่งให้กับ Clive แบบสวยๆ…
-
หนุ่มจืดที่แท้ทรู… ตั้งใจสมัครเข้าเรียนวิทยาลัยหญิงล้วน เพื่อเพิ่มโอกาสหาแฟนให้ตัวเอง!!
ปัญหาของสัดส่วนประชากรที่ไม่เท่ากันระหว่างเพศชายกับหญิง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตัวเลขสัดส่วนของประเทศจีน… ทางสถาบันสังคมศาสตร์จีนเคยทำการสำรวจไว้ในปี 2010 เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้ชายโดยเฉลี่ยในหนึ่งมณฑล จะมีอัตราส่วนที่ 130 คน ต่อผู้หญิง 100 คน ซึ่งถ้าหากมองในภาพรวมระดับประเทศ ผู้ชายนับล้านคนจะประสบกับปัญหา ‘มีเมียยาก’ ด้วยเหตุของปัญหาที่กล่าวไปนั้น ว่าที่นักศึกษาหนุ่มวัย 18 ปีรายหนึ่ง (ไม่เปิดเผยนาม) จากเมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ได้ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัย China Women’s University ในกรุงปักกิ่ง โดยไม่เขินอายกับเหตุผลที่เขาเลือกเข้ามาสมัครในวิทยาลัยหญิงล้วนแห่งนี้เลย ในระหว่างรอบคัดเลือกขั้นสุดท้าย เขาตอบเหตุผลอย่างหนักแน่นว่า “ผมมาก็เพื่อที่จะหาแฟนได้ง่ายขึ้น เพราะสถาบันนี้มีผู้หญิงเยอะ ถ้าหากได้รับคัดเลือกเข้าเรียนที่นี่ ปัญหาของการหาคู่ก็จะหมดไป” ‘ผมมาเพื่อหาแฟนครับ’ หลังจากที่วิดีโอคลิปการสอบสัมภาษณ์ของเขาถูกแพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ โดยได้รับอนุญาตจากทางวิทยาลัยแล้ว ก็ทำให้เกิดการถกเถียงถึงจำนวนเพศของประชากรที่ไม่เท่ากันในสังคมจีนอีกครั้ง ส่วนเจ้าตัวก็ยังเผยความรู้สึกว่า การคัดเลือกของวิทยาลัยแห่งนี้มหาโหดมากๆ เพราะทางวิทยาลัยรับผู้ชายเพียงแค่คนเดียวในปีที่แล้ว จากจำนวนรับนักศึกษาหญิงทั้งหมด 1,500 คนต่อปี ซึ่งตามรายงานนั้นเผยว่าเขาผ่านสอบสัมภาษณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามทางครอบครัวของชายหนุ่ม กลับรู้สึกไม่ค่อยยินดีกับการตัดสินใจของเขาเท่าไหร่นัก เนื่องจากคุณพ่อเกรงว่าลูกชายจะเปลี่ยนไป จากสภาพแวดล้อมที่ถูกล้อมรอบเรียงรายไปด้วยผู้หญิง สำหรับวิทยาลัย…
-
15 เหตุการณ์เฟลๆ ที่คุณต้องเจอสักครั้งในชีวิต “การสอบ” มันช่างตรงเหลือเกิ๊นนน
ช่วงเวลาแห่งการสอบที่ทุกคนไม่ว่าใครต่างก็ต้องเจอมาสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะเหล่านักเรียนนักศึกษาที่ต้องคุ้นเคยกับการสอบเป็นอย่างดี และรู้ดีว่าช่วงเวลาเหล่านั้นน่ะ มันช่วงแสนโหดร้ายกับชีวิตของเราเหลือเกิน เอาล่ะ มาร่วมกันรำลึกกันดีกว่าว่า ในช่วงเวลานั้นเราจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง อย่างน้อยก็ต้องตรงสักข้อ หรือหลายๆ ข้ออย่างแน่นอน 1. ข้อสอบคือยานอนหลับชนิดล้มช้างได้ ช่วงเวลาสอบเป็นช่วงเวลาที่เราต้องตรากตรำอ่านหนังสืออย่างหนัก เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยใช้วิธีการแบบ วันไนท์มิราเคิล อ่านก่อนสอบแค่หนึ่งวัน ถ้ามีสอบเช้านี่อยากจะร้องเพลง ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า พอเจอข้อสอบ รู้ตัวอีกทีก็นอนน้ำลายยืดแล้ว 2. ทะเลาะกับแฟนช่วงสอบ เหล่าบรรดาคู่รักในวัยเรียนทั้งหลายมักจะพบเจอกับเหตุการณ์นี้ ในช่วงเวลาที่ต่างคนต่างเครียดทำให้บางทีก็มีความคิดที่ไม่ตรงกันจนถึงขั้นทะเลาะ มันเป็นช่วงเวลาสุดแสนจะแย่ ทำเอาเราไม่มีสมาธิทำข้อสอบ ยิ่งถ้าเลิกกันช่วงสอบนะ หนังชีวิตชัดๆ 3.ทำเสร็จก่อนออกก่อนมักจะโดนสายตาพิฆาต คนทำข้อสอบเสร็จแล้วออกก่อนเวลามี 2 ประเภท คือคนที่ทำได้เพราะข้อสอบมันง่ายกับคนที่ทำไม่ได้เลยแล้วคิดว่าไม่รู้ว่าตัวเองจะฝืนนั่งต่อไปทำไมให้เสียเวลา พอลุกไปส่งข้อสอบก็มักจะโดนสายตามองจากเพื่อนร่วมห้องเสมอ นี่เรากำลังทำอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย? 4.ใช้เวลาที่เหลือจนวินาทีสุดท้าย และในการสอบก็จะมีบุคคลอีกหนึ่งประเภทที่สามารถใช้เวลาในการสอบได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เขียนจนวินาทีสุดท้าย จนกระทั่งอาจารย์ประกาศหมดเวลาไปแล้ว 3 รอบ ต้องขู่ให้วางปากกา ไม่งั้นไม่ยอมหยุด ก็สมองมันแล่นตอนเวลาใกล้หมดแล้วอ่ะ โถ่ อาจารย์ 5. ลืมทำข้อสอบหน้าสุดท้าย ตรงปกข้อสอบจะมีคำชี้แจงบอกว่า เราต้องทำข้อสอบจำนวนกี่ข้อ…
-
ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!
สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…
-
สาวมหาลัยกับการสอบสุดระทึก ลืมของไม่พอ เข้าห้องสอบก็ผิด เพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักก็ช่วยกันลุ้นสุดตัว
การสอบในช่วงมหาลัยนั้น ถือเป็นอะไรที่วุ่นวายและกดดันสุดๆ เพราะถ้าคุณสอบไม่ผ่านและต้องติด F เท่ากับว่าคุณจะต้องเสียเวลาไปอีก 1 เทอมหรือ 1 ปี เพื่อมาซ่อมมัน และปัญหาที่ยากสุดสำหรับนักเรียนปี 1 กับการสอบครั้งแรกคือ การหลงทาง ด้วยความที่เรายังใหม่ มาเรียนได้แค่ 1 เทอมยังจำได้ไม่แม่นนัก ยิ่งถ้าคลาดกับเพื่อนไปชีวิตคือจบทันที เช่นเดียวกับ Ann Mark นักศึกษาปีหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ที่เธอจะต้องไปสอบไฟนอลแต่เธอดันทำพลาดครั้งใหญ่ เรื่องมันเริ่มจากที่เธอได้เล่าลงบนทวิตเตอร์ของเธอว่าต้องไปสอบโดยการเขียนเรียงความลงบนหนังสือสีฟ้า ซึ่งหนังสือนี้เป็นหนังสือที่เธอต้องส่งให้อาจารย์ตรวจ แต่ว่าเธอดันลืมมัน ทำให้เธอต้องวิ่งไปซื้อมาให้ไวที่สุด จากนั้นก็วิ่งไปห้องสอบ เผื่อใครดูไม่ได้ สามารถเข้าไปดูคลิปเต็มๆ ของเธอได้ที่ @annmarkk My first!!!!! College!!!! Exam!!!! Was magical ?? D is for Degree amiright pic.twitter.com/3WOBiJT3AF — Ann Mark (@annmarkk) December 15, 2017 ยัง ยังไม่หมดเพราะนอกจากลืมหนังสือดังกล่าวแล้ว…
-
เพื่อนๆ ร่วมดีใจสุดขีด หลังหนุ่มน้อยวัย 16 ปี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้
หากเราอดทนทำเรื่องยากสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเราสมหวังแล้วย่อมรู้สึกปลื้มปีติจนไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกดีใจขนาดไหน เหมือนกับเด็กคนนี้ที่ก้าวผ่านอุปสรรคจนพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ เขาคงไม่สามารถบอกได้หรอกว่าดีใจมากแค่ไหน แต่ดูจากน้ำเสียงและท่าทางแล้ว คงรู้สึกยินดีสุดๆ ไปเลย Ayrton Little และแม่ Maureen Little Ayrton Little เป็นนักเรียนจากโรงเรียนเอกชน TM Landry College Prep ในเมือง Opelousas รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีความฝันที่อยากจะเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและอ่านหนังสืออย่างหนัก จนเขาสามารถข้ามชั้นเรียนมาได้ และมีสิทธิ์ไปสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปี เมื่อถึงวันประกาศผลสอบ เพื่อนๆ ในชั้นเรียนของเขาจึงมานั่งเป็นกำลังให้เขาด้วย ตัว Ayrton เองตื่นเต้นมากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และตอนที่เขาเลื่อนไปถึงส่วนที่แจ้งว่าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้แล้ว คนทั้งห้องก็ร้องลั่นด้วยความยินดีทันที เพื่อนๆ ทุกคนร่วมกันแสดงความยินดีกับเขาพร้อมทั้งตะโกนว่า “three-peat” เพื่อฉลองที่มีนักเรียนในโรงเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว . Ayrton ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบอกไม่ถูกว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง แต่มันรู้สึกสุดยอดโคตรๆ…
-
นักศึกษาเซลฟี่สภาพหน้าตัวเอง “ในช่วงสอบ” รู้เลยว่าช่วงนี้ใครๆ ก็โทรม!!!
พูดตรงๆ เลยว่าช่วงเวลาใก้สอบนั้นเป็นอะไรที่นรกแตกมากๆ สำหรับชีวิต #เหมียวสามสี เพราะว่าเป็นคนที่ขี้เกียจ ต้องรอให้เพื่อนติวกันอย่างเดียว อ่านเองไม่ได้ เชื่อว่าหลายคนก็จะเป็นเหมือนกัน และสิ่งหนึ่งที่จะตามมาก็คือน้ำหนักพร้อมกับความโทรม เพราะเวลาเราเครียดก็จะกิน แถมต้องอ่านแบบโต้รุ่ง ตาก็กลายเป็นหมีแพนด้า เราเห็นหน้าเราทุกวันแบบนี้อาจจะไม่รู้สึกหรอก ต้องลองถ่ายภาพเก็บไว้ในแต่ละวัน เหมือนอย่างนักศึกษาชาวอังกฤษจาก Nottingham University คนนี้ เธอได้ลองทำอะไรบางอย่างที่เจ๋งมากๆ เธอคนนี้ชื่อว่า Eleni Mitzali วัย 22 ปี ได้เริ่มบันทึกหน้าตัวเองในการใช้ชีวิตนักศึกษา เพื่อให้ตื่นตัวตลอด ก็ต้องโดปกาแฟและกระทิงแดงรัวๆ เพื่อให้ตอนกลางคืนอยู่อ่านหนังสือให้ได้ นอนก็ประมาณ 4 ชั่วโมง เราไปชมคลิปการเปลี่ยนแปลงของเธอกันเลย มีหักมุมตอนจบด้วยนะ ชีวิตนักศึกษามันโหดร้าย GG ใครที่กำลังเป็นแบบนี้ก็อย่าหักโหมนักล่ะ เดี๋ยวจะเข้าโรงพยาบาลเหมือนเธอคนนี้ ที่มา lifebuzz
-
คุณครูเขียนคำบนโต๊ะ “ให้กำลังใจ” เด็กๆ ที่กำลังจะมาสอบ และลดความเครียด!!
การสอบเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของนักเรียนทุกคนเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องทบทวนความรู้ทุกอย่างที่ได้เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอมถึงท้ายเทอม เป็นอะไรที่หนักหนาเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้น ครูก็กังวลไปด้วย เพราะการที่เด็กจะสอบได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าครูจะสามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนได้มากน้อยแค่ไหน เหมือนอย่างที่โรงเรียน Woodbury School System ในนิวเจอร์ซี่ คุณครู Chandni Langford ตั้งใจอยากให้เด็กๆ ทุกคนมีผลสอบที่ดี ก็เลยได้เขียนโน๊ตลงไปบนโต๊ะเพื่อให้กำลังใจเด็กๆ พร้อมกับโดนัทอีก 2 ชิ้น น่ารักมากกกก ที่นิวเจอร์ซี่นั้น ตอนป.5 จะมีการสอบวัดการเรียนที่ชื่อว่า PARCC ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะเครียดและกดดันเป็นอย่างมาก คุณครูก็เลยจัดการเขียนบนโต๊ะเด็กทุกคน ด้วยข้อความที่ไม่ซ้ำกันเลย ภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ในเพจของโรงเรียน จนมียอดแชร์เกือบ 20,000 และผู้คนต่างก็ชื่นชมความเอาใจใส่ของคุณครูท่านนี้อีกด้วย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น #เหมียวสามสี ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นครูแจกลูกอมให้ทุกคน มันก็ทำให้เรารู้สึกลดความตึงเครียดลงไปได้เยอะเลย ที่มา distractify
-
Exam Crisis ช่วงเทศกาลสอบเบื่อที่จะอ่านหนังสือ มาเล่นแข่งยัดปากกาเข้าหัวกันดีกว่า!!
ในช่วงชีวิตของการศึกษานั้น นอกจากจะต้องเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจในวิชาการต่างๆ แล้ว ท้ายที่สุดของแต่เทอมก็จะมาจบอยู่ที่การสอบเพื่อวัดระดับความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ได้ร่ำเรียนไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการเรียกความรู้ที่หายไปกลับมาก็ต้องมีการอ่านหนังสือทบทวน มันก็กลายมาเป็นสิ่งที่หลายคนเกลียดจนไม่อยากจะทำเลยก็ว่าได้ แต่ต่อให้เกลียดยังไงก็ต้องทำอยู่ดี เพราะว่ามันจำเป็น ฮร่าาา และช่วงนี้เองทำให้นักเรียน นักศึกษาหลายคนเกิดอาการเบื่อหน่ายและเครียด จนทำให้ต้องระบายมันออกมา เริ่มต้นจาก 7 แท่งก่อนเบาๆ ดั่งเช่น Lauryn ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่กำลังประสบกับวิกฤตการสอบ ต้องอ่านหนังสือทบทวนมากมาย ในเมื่อความขี้เกียจครอบงำจนสติหลุดลอยถึงขั้นเอาบรรดาปากกาทั้งหลายแหล่มาจิ้มหน้าเสียบผมเสียบจมูกแบบนี้กันเลยทีเดียว แบบว่าแทนที่จะอ่านหนังสือหาอะไรมาเล่นแทนดีกว่า แถมยังชวนรูมเมทมาร่วมชะตากรรมเดียวกันอีกแหนะ ตามๆ กันไป 14 อันแล้วนะ มีหรือจะยอม 21 อันย่ะ 26 มั้ยล่ะ เข้าเลข 30 ไปแล้ว สู้ไปอีกด้วย 38 แท่ง 50 เลยเป็นไง!! 70 ไปเลยดีกว่า และแล้วก็พุ่งทะยานเข้าสู่หลักร้อย ยัง มันยังไม่พอ…
-
20 สุดยอดการ “โกงในห้องสอบ” สมควรที่จะได้เกรด 4 ด้านความคิดสร้างสรรค์!!!
ถ้าจะพูดว่าการโกงในห้องสอบเป็นเรื่องปกติก็คงไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผิด หลายโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมีกฎว่าห้ามทุจริตในห้องสอบ บางที่ถ้าตรวจพบก็สามารถทำให้สิ้นสภาพนักศึกษาได้เลย ดังนั้นอย่าคิดเอาไปทำเด็ดขาดเลยนะ การสอบถือเป็นการวัดความรู้ของเราหลังจากได้เรียนมาแล้วว่าเรามีความเข้าใจในเนื้อหามากเพียงไหน ดังนั้นก่อนสอบก็จะต้องทบทวนความรู้ต่างๆ ที่มี ใช้เวลาอยู่กับมันให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ว่าตอนสอบเสร็จแล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปชมคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมา จนต้องหาวิธีที่จะพิชิตข้อสอบนั้นด้วยวิธีที่มันล้ำมากๆ เอามาให้ดูกันขำๆ แต่อย่าเอาไปทำกันจริงๆนะ 1. ติดไว้ตรงขวดน้ำนี่แหละ 2. แหม่ ทำเป็นคิดนะ 3. สังเวยนาฬิกาสักอัน 4. เขียนสูตรไว้บนเล็บนี่แหละ 5. ต้องใช้แว่น ถึงจะเห็นข้อความ 6. เป็นโค้กที่เต็มไปด้วยสาระ 7. ถึงกับต้องใช้มือปลอม 8. เหตุผลที่ไว้ทรงผมนี้ 9. รองเท้าสวยดีนะ 10. ไกลไปนิด แต่ก็ได้อยู่ 11. มือที่มองไม่เห็น 12. มาเป็นแหวนที่มีสมุดจิ๋ว…
-
ยอมใจ!! ชาวเน็ตแชร์ภาพนักเรียนประถมบนดอย หอบข้าวของลงมาสอบในเมือง
กลายเป็นภาพที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของกลุ่มเด็กนักเรียนบนเขา ที่ต้องบุกป่าฝ่าดงลงมาเพื่อไปสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ในตัวเมือง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมศักดิ์ ประสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปะทาย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นภาพของเหล่าเด็กๆ กำลังแบกข้าวของพะรุงพะรังเดินออกจากป่า เพื่อเข้าไปสอบโอเน็ตที่จัดสอบโดย สทศ. พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “การศึกษากับหายนะ; ภาพเด็กๆ จากห้องเรียนหนึ่งเดินทางไปสอบข้อสอบระดับชาติอีกทึ่หนึ่ง เครดิตภาพ ผอ.ปกรณ์ ร.ร.บ้านสว้า” ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของมติชนว่า ภาพกลุ่มเด็กๆ ในภาพนี้น่าจะเป็นนักเรียนชั้นป. 6 จากศูนย์การเรียนรู้บ้านป่ากำ-ขุนน้ำจอน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ซึ่งอยู่ในสังกัดของโรงเรียนบ้านสว้า ที่เดินทางไปสอบเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีกทั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นายชัชชัย ทับทิมอ่อน ก็ได้มีการสั่งแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ทางสทศ. ได้กำหนดศูนย์สอบให้โรงเรียนต่างๆ ต้องมาสอบในโรงเรียนใหญ่ๆ แต่จากนี้จะเร่งแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เด็กต้องลำบากเดินทางมาสอบไกลๆ แล้ว เห็นน้องๆ มีความพยายามขนาดนี้ #เหมียวฟิ้น ล่ะยอมใจเลย…
-
วินาทีซึ้ง… หนูน้อยญี่ปุ่นกระโดดข้ามบอร์ดไม่ผ่าน เพื่อนๆช่วยรวบรวมกำลังใจ เห็นแล้วมันน่ารัก
ขึ้นชื่อว่าการสอบมันต้องหนักหนาและสาหัสอย่างแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงชั้นอนุบาลของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีการทดสอบกระโดดข้ามเบาะอันสูงชัน ดูเป็นไปได้ยากสำหรับเด็กอนุบาล แต่เด็กๆ หลายคนก็สามารถผ่านไปได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าน้องคนนี้ที่ทำยังไง ก็ไม่ผ่านซักที หนุ่มน้อยรายนี้ พยายามที่จะกระโดดข้ามเบาะไปให้ได้ พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ ผลที่ออกมาก็คือไม่ผ่าน เพราะตัวดันไปติดกับเบาะตลอด คุณครูก็ให้โอกาสทดสอบใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหวังให้หนุ่มน้อยสามารถกระโดดข้ามไปได้ แต่จนแล้วจนรอดพ่อหนุ่มน้อยของเราก็ยังไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้ซักที ถึงกับออกอาการท้อแท้ ร้องไห้ออกมาเลยล่ะ พอเพื่อนๆ เห็นปุ๊บก็คิดได้ว่าควรจะทำอะไรซักอย่างแล้ว เพื่อนๆ เห็นว่าเขากระโดดไม่ผ่านหลายรอบ จึงลุกขึ้นมาพร้อมกันและตั้งวงบูมให้ เพื่อเรียกพลัง ขวัญและกำลังใจ จนในที่สุดพ่อหนุ่มน้อยของเราก็สามารถกระโดดข้ามเบาะไปได้อย่างสวยงาม!! พลังสปิริตจากคนรอบข้างนี่รุนแรงจริงๆ 何度も涙を拭きながら、園児の挑戦 感動の10段跳び Posted by 有村吉孝 on Saturday, February 20, 2016 ที่มา : 有村吉孝
-
โกงดีนัก จับเข้าคุกให้เข็ด!! สองนักศึกษาโดนจับเข้าคุก 1 ปีเต็ม เนื่องจากสลับตัวไปสอบแทน
ตามปกติแล้วการจัดสอบเพื่อวัดผลทางการเรียน ก็มักจะมีนักเรียนนักศึกษางัดวิชากลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในห้องสอบทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นด้านมืดเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งทำโพยเล็กๆ ซ่อนไว้ในเครื่องเขียนหรือตามตัว และอื่นๆ สารพัดเท่าที่จะทำได้ การโกงสอบเกิดขึ้นทั่วโลก ที่สเปนก็เช่นกัน เหตุเกิดที่เมือง Almeria ทางตอนใต้ของสเปน เมื่อมีนักศึกษาคนหนึ่งถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่า ทำการเข้าสอบแทนนักศึกษาอีกคน โดยพบพิรุธจากบัตรประจำตัวที่นำมาเข้าสอบ มีการปลอมแปลง โดยทั่วไปแล้วโทษสูงสุดก็น่าจะเป็นการปรับติด F พักการเรียนและหนักสุดก็คือลบรายชื่อจากเป็นนักศึกษา (โทษทางวินัยการศึกษา) แต่เนื่องจากเป็นการปลอมแปลงเอกสาร เรื่องนี้ต้องถึงขึ้นศาลกันเลยล่ะ และอัยการก็ได้ตัดสินความผิดให้นักศึกษาทั้งสองราย จำคุก 1 ปี เพื่อทดแทนการจ่ายค่าปรับมูลค่า 6 ยูโร (240 บาท) ต่อวันจากทั้งหมด 1,699 ยูโร (67,000 บาท) อย่างไรก็ตาม José Carlos Segura ทนายของนักศึกษาผู้เป็นจำเลยบอกว่าโทษตัดสินแบบนี้ถือว่าเป็นความป่าเถื่อนและเกินกว่าเหตุ เนื่องจากว่าบัตรประจำตัวนักเรียนไม่อาจถือเป็นเอกสารทางราชการได้ น่าจะให้อำนาจตัดสินอยู่ภายในสถานศึกษาเสียมากกว่า (รับโทษทางวินัยการศึกษาแทน) เพราะจะทำให้เยาวชนทั้งสองหมดอนาคต กลายเป็นอาชญกรที่มีประวัติติดตัวไปตลอดชีวิต ซึ่งผลของคดีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ที่มา…
-
ตะลึงไปทั่ว!! อาจารย์ติดประกาศประชดแจก F ยกคลาส จากเหตุนักศึกษา 2 คนทุจริตการสอบ
ในช่วงนี้ตามมหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นช่วงสอบที่กำลังดุเดือดกันเลยทีเดียว แต่แล้วก็มีนักศึกษาที่คิดจะโกงข้อสอบ แอบลักลอบนำโพยติดตัวเข้าไปด้วย สุดท้ายก็โดนจับได้และถูกลงโทษให้ได้รับเกรด F ทันที แต่ไม่ได้รับพักการเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นวิทยาเขตที่ตั้งอยู่ในภาคอีสาน อาจารย์ผู้สอนประจำวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค รหัสวิชา 011011822 ก็ได้ติดป้ายประกาศเพื่อตอบโต้กับกรณีการโกงข้อสอบของนักศึกษา 2 คนด้วยใจความที่ว่า ‘นักศึกษาควรจะได้ F ทุกคน’ พอภาพดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วโซเชียล บางความเห็นก็บอกว่าไม่ยุติธรรมกับนักศึกษาคนอื่น แท้จริงแล้วอาจารย์ทำการประชดประชันกรรมการที่ตรวจสอบการทุจริต ตัดสินให้ F นักศึกษา 2 ราย แทนที่จะได้รับโทษพักการเรียน อีกทั้งยังได้ทำหนังสือถึงคณบดีเพื่อให้ทำการพิจารณาผลการสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากตนเองไม่ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวนในกรณีนี้ กลายเป็นว่ามีคนออกตัวต่อว่าอาจารย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจจะเพราะด้วยป้ายประกาศที่ทำให้เข้าใจผิดว่าจะให้ F นักศึกษายกคลาสนั่นเอง คือเกรดยังไม่ออก นักศึกษาจะได้เกรดตามปกตินั่นแหละ และอาจารย์เองก็ชี้ชัดว่าที่ทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้มีการทบทวนทบทวนผลสอบการทุจริตของกรรมการฯ อีกครั้ง ที่มา : Nipha Kazuya Techawitthayayothin, Drama-addict
-
ดราม่าหนักหน่วง!! หนุ่มฝางไปสอบตำรวจที่ลำปาง บ่นหนัก ที่สุดคือหาร้านสะดวกซื้อไม่เจอ
กลายเป็นประเด็นร้อนระอุขึ้นมาทันที เมื่อพ่อหนุ่มจากอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ไปสอบตำรวจที่จังหวัดลำปาง ซึ่งคนต่างถิ่นจะรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่คุ้นเยอะ ก็เลยทำการระบายออกมาผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งพ่อหนุ่มรายนี้ก็บ่นยาวๆ เกี่ยวกับเรื่องภายในจังหวัดลำปางหลายข้อกันเลยทีเดียว รายละเอียดการบ่นในครั้งนี้จะมีอะไรบ้าง ลองตามมาอ่านกันดีกว่า!! เมื่อเรื่องนี้เข้าไปถึงชาวลำปาง ต่างก็แสดงความคิดเห็นในหลากหลายกรณี เหมียวว่าบางทีการวัดความเจริญด้วยร้านสะดวกซื้อ บางทีมันก็ไม่ถูกต้องไปซะหมดหรอกนะ แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แล้วพวกท่านล่ะมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะ ที่มา : กลุ่ม Lampang City
-
ใช้แบบนี้แล้วเหรอ? ออนไลน์แชร์ภาพกระดาษคำตอบแบบ “วงกลม” ช่วยป้องกันการลอกข้อสอบ
กลายเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันในโลกออนไลนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของการดาษคำตอบรูปแบบใหม่จากมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง ที่อาจทำให้นักศึกษางงกันเป็นแถบๆ เพราะเปลี่ยนรูปแบบเป็นวงกลม ช่วยให้การลอกข้อสอบนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกขั้น ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Dek-d รายหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “บอกเลยว่า ถ้าไม่มีหัวกระดาษ ฝนไป เมาไป แน่ๆ” ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่ากระดาษคำตอบแบบนี้จะสามารถป้องกันการลอกได้จริงหรือ? หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีสมาชิกในเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย บางความเห็นกล่าวว่ากระดาษแบบนี้ไม่ได้เพิ่งมีใช้กัน แต่เริ่มใช้กันมาหลายปีแล้ว ในขณะที่บางคนบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่สามารถป้องกันการลอกได้ ที่มา dek-d , kapook