Tag: สังคม
-
15 ภาพถ่ายของ ‘สังคมก้มหน้า’ ที่เกิดขึ้นกับผู้คนในอดีต สมัยที่ “ยังไม่มีสมาร์ตโฟน”
สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เราสามารถหยิบขึ้นมาเล่นอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างรวดเร็ว ได้ถูกสังคมวิจารณ์ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันน้อยลง หลายคนบอกว่าเพราะอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้นี่แหละทำให้ผู้คนเอาแต่ “ก้มหน้าก้มตา” ไม่ยอมเงยขึ้นมาพูดคุยกัน หรือแม้แต่กระทั่งมองสภาพแวดล้อมรอบข้าง… แต่เราลองย้อนกลับไปชมภาพในอดีต สมัยที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต กันบ้างดีกว่า ดูกันหน่อยซิว่าคนเราจะมีปฏิสัมพันธ์กัน แตกต่างจากปัจจุบันหรือเปล่า #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 เท่าที่เห็นจากภาพ ผู้คนในยุคสมัยก่อนส่วนมากก็ดูไม่ต่างจากสังคมก้มหน้าในปัจจุบัน เพียงแค่เปลี่ยนจากสมาร์ตโฟนเป็นหนังสือพิมพ์เท่านั้นเอง คนก็ไม่ยอมสละที่นั่งให้ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอกว่า เพราะตนกำลังมัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ บางคนก็เอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือจนไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่ถึงอย่างไร ภาพถ่ายทั้ง 15 ภาพนี้ก็ไม่สามารถตัดสินผู้คนในยุคนั้นได้ทั้งหมด เพราะสังคมของแต่ละยุคสมัยก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปเนื่องจากหลายๆ…
-
20 ภาพถ่ายขาวดำ สะท้อน “ความเป็นอยู่” ของผู้คนในอดีตเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว
ราว 50 ปีที่แล้ว ช่างภาพยอดฝีมือนายหนึ่งนามว่า Bruce Davidson เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากภาพถ่ายของเขา ภาพถ่ายผลงานของเขา เป็นภาพที่เน้นสะท้อนมุมหนึ่งของสังคมที่ผู้คนมักมองข้าม เป็นมุมที่เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมซึ่งเกิดขึ้นอย่างละลานตาในสมัยนั้น Bruce Davidson ได้ฝากผลงานภาพถ่ายเอาไว้มากมาย ซึ่งนอกจากผลงานเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แล้ว มันยังกลายเป็นสมบัติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย หากใครอยากย้อนเวลากลับไปชมภาพบรรยากาศบ้านเมืองช่วง 50 กว่าปีที่แล้ว ก็เชิญไปชมผลงานภาพถ่ายจาก Bruce Davidson กันได้เลย… 1. Beverly Hills, California ปี 1960 Marilyn Monroe และ Arthur Miller (คนขวา) สามีของเธอ ณ โรงแรมเบเวอรีฮิลล์ 2. Chicago ปี 1962 บาร์ดนตรีบลูส์ ตอนใต้ของ Chicago 3. Playboy club ปี 1963 4. Chicago, Illinois ปี 1963…
-
‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท
อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย . เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก” …
-
มหาเศรษฐีชาวจีน ใช้เวลาว่างไปกับการ “เดินเก็บขยะ” ในเมืองทุกๆ วันมากว่า 3 ปีแล้ว!!
คนที่ประสบความสำเร็จจนร่ำรวยกลายเป็นมหาเศรษฐี เขาคงมีเวลามากพอสำหรับพักผ่อน หรือใช้ชีวิตตามแบบที่เขาต้องการ แล้วหากเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาเหล่านั้นเพื่อทำอะไรกันล่ะ? ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่เรื่องราวของมหาเศรษฐีชาวจีนคนนี้จะทำให้คุณหวนกลับมาคิดใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน… Zhong Congrong นักธุรกิจวัย 52 ปีจากมณฑลฉงชิ่งประเทศจีน ผู้ประสบความสำเร็จจากกิจการของเขาเอง ได้หันมาใช้ชีวิตหลังความสำเร็จด้วยการตระเวน เดินเก็บขยะ บนถนนในเมืองมาเป็นเวลาถึง 3 ปีแล้ว เรื่องราวเริ่มจากการที่เขาได้มาพบกับอดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งที่อุทิศตนเก็บขยะให้บ้านเมืองมากว่า 4 ปีแล้ว เขาจึงประทับใจและร่วมเดินเก็บขยะในเมืองทุกๆ วัน Zhong Congrong วัย 52 ปี ในช่วงแรกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างมาก แต่กลับเป็นในเชิงไม่ดีเท่าใดนัก หลายคนสังสัยว่าทำไมมหาเศรษฐีอย่างเขาต้องมาเก็บขยะ เกรงว่าจะมีเหตุผลอื่นแอบแฝง แต่ Zhong ก็ไม่สนใจและยังคงทำต่อไป จนกระทั่งเรื่องราวเข้าถึงหูของครอบครัวเขา ทีแรกลูกๆ และภรรยาของเขารู้สึกขายหน้ากับสิ่งที่เขาทำอย่างมากถึงกับไม่ยอมไปไหนกับ Zhong ในที่สาธารณะเลยทีเดียว จนกระทั่ง พวกเขาพบว่าบริเวณใกล้บ้านเริ่มสะอาดขึ้นทุกวัน เนื่องจากการกระทำของ Zhong พวกเขาจึงยอมรับพร้อมทั้งชื่นชมและหันมาสนับสนุนเขาด้วย ชมคลิปของ Zhong มหาเศรษฐีเก็บขยะกัน “เราจะทิ้งขยะหรือเก็บขยะมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับระดับการศึกษา วัฒนธรรม อายุ หรือว่าฐานะหรอก” Zhong…
-
ครอบครัวมีลูกเป็นโหล จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ ‘ลูกชาย’ ได้เป็นคนที่ 12 พอดี!!
ตามความเชื่อเรื่องของการสร้างครอบครัวของคนจีน มักจะอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว เนื่องจากความสำคัญในเรื่องของการสืบเชื้อสายสกุล จากอดีตจนถึงปัจจุบันค่านิยมนี้ก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ความพยายามของครอบครัวหนึ่งที่อยากจะมีลูกชายนั้น ทำให้ถือกำเนิดลูกได้มากถึง 12 คน เพราะด้วยความตั้งใจที่อยากจะมีลูกชายอย่างไม่ลดละ จะหยุดจนกว่าจะได้ลูกชายตามสมปรารถนา เรื่องราวนี้กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมจีน หลังจากที่ทางหนังสือพิมพ์ The Paper ได้เปิดเผยเรื่องราวของพี่สาวทั้ง 11 คนที่อุทิศทั้งชีวิตให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวในครอบครัว เพราะนอกจากจะดูแลเรื่องการแต่งงานให้น้องชายแล้ว เหล่าพี่สาวได้ประเคนเจียดเงินส่วนตัวซื้อเรือนหอให้ เนื่องจากพ่อแม่ป่วยหนักและไม่ได้มีเงินถุงเงินถังช่วยลูกชายแต่งได้ อย่างไรก็ตาม ความใจกว้างของเหล่าพี่สาวนั้นยังคงเป็นปริศนาที่ว่า พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 12 คนได้อย่างไรในขณะที่จีนได้ใช้นโยบายคุมกำเนิดไปแล้ว… สิ่งที่ถูกตีแผ่ออกมานั้น คือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ไม่ได้ตั้งใจจะมีลูกมากขนาดนี้ ต้องการเพียงแค่ลูกชาย และสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นนาย Gao Haozhen น้องชายคนสุดท้องคนที่ 12 โดยที่แม่ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกในช่วงอายุเพียง 20 ปี และมีลูกเพิ่มมาตลอด 27 ปี โดยหวังเพียงแค่อยากจะได้ลูกชาย แน่นอนว่าเรื่องราวความต้องการของพ่อแม่นี้ กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีน ถกเถียงถึงความเหมาะสมต่างๆ นานา และทางพี่สาวใหญ่ Gao Yu ได้ชี้แจงผ่านทางสื่อเอาไว้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ…
-
นักจิตบำบัดใช้ประสบการณ์ของตน เสียดสีพฤติกรรมมนุษย์ด้วย “หน้าปก” หนังสือ
หลายครั้งที่เราเข้าไปยังร้านขายหนังสือ เราก็จะเห็นหนังสือต่างๆ ที่เป็นประเภทสอนให้ใช้ชีวิตหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิตด้วยตนเอง หารู้ไม่ว่าเหล่านักจิตบำบัดทั้งหลายยังมองว่าหนังสือประเภทนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก เพราะมันทำสำเร็จได้ยาก แต่นักจิตบำบัด Johan Deckmann ทำบางอย่างออกมาได้น่าสนใจยิ่งนัก เขาได้วิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์และเขียนออกมาเป็น “ชื่อของหนังสือ” เชิงสอนแก้ไขปัญหาและดำเนินชีวิต และมันก็กลายเป็นมุกตลกเสียดสีสังคมมนุษย์ไปเสียอย่างนั้น และแม้ว่าชื่อหนังสือของ Deckmann จะอยู่ระหว่างมุกตลกกับมุกเสียดแทงพฤติกรรมมนุษย์ แต่การเล่นสีและตัวอักษรกลับเรียบง่าย จึงทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วสะท้อนภาพของตัวเองออกมาว่ามีพฤติกรรมแบบนั้นจริงหรือไม่ ลองมาดูชื่อหนังสือของ Deckmann กันเลยดีกว่าว่าจะมีหนังสือเรื่องอะไรบ้าง… 1. วิธีการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยการลดมาตรฐานของคุณลง 2. วิธีใช้ชีวิตคู่กับคนที่ไม่ใช่เพราะดีกว่าต้องเป็นโสดลำพัง 3. ฉันในโลกโซเชียลมีเดีย (เล่มใหญ่) ตัวฉันจริงๆ (เล่มเล็ก) 4. ทำยังไงให้แยกน้ำเปล่ากับว้อดก้าไม่ออก 5. วิธีการใช้ชีวิตของตัวคุณเองให้เป็นไปตามคำนิยามจากผู้อื่นว่าคุณเป็นอย่างไร 6. วิธีการเพิ่มพูนมูลค่างานศิลป์ของคุณด้วยการลาโลก 7. เงียบอย่างไรให้ผู้อื่นคิดว่าคุณฉลาด 8. วิธีการก่อความผิดพลาดแบบเดิมซ้ำๆ แต่ยังคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง 9. วิธีสร้างความพึงพอใจในสิ่งธรรมดา ทั้งที่ทุกสิ่งที่ต้องการมันเกินคำว่าธรรมดาไปเยอะเลย 10. วิธีการสร้างกำแพงกั้นเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำความรู้จักคุณ…
-
นักเลี้ยงหมาที่ชาติต้องการ!! หนุ่มติดชื่อ-รูปตัวเองที่หมาจรจัด พร้อมรับผิดชอบถ้าหมาทำเสียหาย
แน่นอนว่าในบ้านเรามีสุนัขจรจัดอยู่เป็นจำนวนมาก และเวลาที่มันอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เราก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องแจ้งกับใครให้จัดการกับปัญหาดังกล่าวดี แต่ในวันนี้ (5 พฤษภาคม 2018) เพจ มัชเฌ Family ได้แชร์เรื่องราวดีๆ บอกเล่าถึงการช่วยเหลือของชายคนนี้ที่มีให้กับเหล่าน้องหมาตามท้องถนน โดยการทำจี้ห้อยคอให้กับพวกมัน ชายหนุ่มทำจี้เอาไว้ให้สุนัขจรจัดห้อยคอ แต่จี้ดังกล่าวนั้นไม่ใช่จี้ธรรมดา เพราะมันคือจี้ที่บ่งบอกว่า เขาพร้อมจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง หากน้องหมาจรจัดเหล่านี้ได้ไปสร้างปัญหาเดือดร้อนให้กับใคร ด้านหลังคือข้อมูลการติดต่อ และเขาบอกว่าตนเองรับเป็นเจ้าของ และพร้อมจะรับผิดชอบแทนมันทุกอย่าง เจ้าของโพสต์อธิบายว่า “พี่ๆ น้องๆ หลายคนคงอยากรู้ว่าหลังรูปที่ผมเอาไปห้อยคอหมา มันมีอะไรหรือมันเขียนว่าอะไร ถ้าเราจะตอบแทนความรักความซื่อสัตย์ที่หมาเขามีให้เรา ฉะนั้นเราก็ต้องปกป้องและคุ้มครองเขาด้วยการรับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ รับผิดชอบ” ด้านหน้าคือรูปของเขา นี่คือความช่วยเหลือเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้พวกมันอาจเป็นเพียงสุนัขจรจัดที่ไม่มีใครดูแลอย่างเป็นทางการ แต่อย่างน้อยจี้ห้อยคออันนี้ก็แสดงให้เห็นว่ายังมีคนที่รักและห่วงใยพวกมันอยู่เสมอ และหวังว่าพวกมันจะไม่ได้รับอันตรายจากความไม่ตั้งใจ จนอาจพลั้งพลาดไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ที่มา: มัชเฌ Family
-
ปัญหาน่าเศร้าของญี่ปุ่น หญิงชราก่อคดีหวังเข้า “คุก” เพราะ ‘ฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว…’
ประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าดูจะเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรม แต่เมื่อหลายๆ สิ่งเปลี่ยนไป ประชากรของประเทศกลับต้องประสบปัญหาที่น่าเศร้า… ประชากรในประเทศญี่ปุ่น 27.3 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด เป็นผู้สูงวัยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการก่ออาชญากรรมของผู้สูงอายุนั่นเอง จากสถิติแล้วมีการแจ้งความและจับกุมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะ หญิงชรา ที่มีอัตราการก่อคดีสูงกว่ากลุ่มประชากรอื่นๆ เช่นกัน ราวๆ 1 ใน 5 ของจำนวนนักโทษนั้นเป็นผู้สูงอายุ และส่วนมากนักโทษหญิงสูงวัย 9 ใน 10 คน ถูกระบุว่าต้องโทษคดี ขโมยของในร้านค้า สาเหตุที่พวกเธอต้องลงมือก่อคดี หรือว่าขโมยของ ก็เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศญี่ปุ่น จากปี 1980 ที่การดูแลผู้สูงอายุนั้นเป็นหน้าที่สำคัญของครอบครัวและชุมชน เปลี่ยนแปลงมาจนถึงปี 2015 ที่กลับกลายเป็นว่าผู้สูงอายุต้อง อาศัยอยู่ตามลำพังเพิ่มมากขึ้น ราว 6 ล้านคนหรือมากกว่า 6 เท่าเลยทีเดียว จากการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2017 พบว่าครึ่งหนึ่งของนักโทษหญิงชราในคดีขโมยของนั้นต้อง อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว และอีก 40 เปอร์เซ็นต์ไม่มีครอบครัวหรือไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเครือญาติ พวกเขาเหล่านี้มักพูดว่า พวกเขาไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้วยามที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ…
-
ชายผู้เติบใหญ่ได้ เพราะหมาป่าช่วยเลี้ยงดูถึง 12 ปี พอกลับมาอยู่กับคน ดันรู้สึกใช้ชีวิตยาก…
ช่วงวัยเจริญเติบโตนั้น สิ่งแวดล้อมและการรับรู้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาความคิดและทักษะการใช้ชีวิตให้แก่บุคคลนั้นๆ ต่อไป แต่สำหรับนาย Marcos Rodríguez Pantoja เขาไม่ได้เติบโตท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ได้เติบโตในสังคมของมนุษย์ เพราะเขาดันไปคลุกคลีกับเหล่าหมาป่ามานานถึง 12 ปีเลยทีเดียว ย้อนไปเมื่อปี 1946 ในเมืองกอร์โดบา ประเทศสเปน นาย Marcos Rodríguez Pantoja สูญเสียแม่ไปเมื่ออายุเพียงแค่ 3 ขวบ และถูกพ่อทิ้งอย่างไม่ใยดี แถมส่งไปให้ผู้หญิงอื่นเลี้ยงดูในเมืองใกล้เคียง และด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ก็เลยถูกส่งตัวขึ้นไปบนภูเขาสูง เพื่อไปทำหน้าที่แทนคนเลี้ยงแกะกว่า 300 ตัว แทนชายแก่คนเก่า เขาจำความได้ว่าชายแก่สอนวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ สอนก่อไฟให้ จนในปี 1954 ชายแก่ก็ได้เสียชีวิตลง ในขณะที่ Marcos ยังมีอายุไม่ถึง 8 ขวบ และเขาต้องใช้ชีวิตต่อไปเพียงลำพัง ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Marcos นั้นใช้ชีวิตอยู่รอดท่ามกลางฝูงหมาป่าได้อย่างไร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเจอกับเขา ในเวลา 12 ปีให้หลัง คำพูดของเขาก็เปล่งเสียงออกมาคล้ายกับสัตว์…
-
ลูกชายรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิง จึงเปลี่ยนตัวตนตามใจหวัง และคุณแม่ก็เพิ่งรู้ใจตัวเองเช่นกัน…
เรื่องเพศในปัจจุบันนั้นเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นจากแต่ก่อน ในเมื่อเพศสภาพที่เกิดมาไม่ตรงกับในสิ่งที่ใจต้องการ ลักษณะทางกายภาพก็สามารถเปลี่ยนแปลงตามมาได้ในภายหลัง… อย่างเช่นเรื่องของ Corey และ Eric Maison อดีตลูกชายและคุณแม่ ที่เพิ่งจะรู้ตัวตนที่หัวใจเรียกร้อง และกลายมาเป็นคุณพ่อกับลูกสาวข้ามเพศคู่แรกของโลก Corey และ Eric Maison ทั้งสองต่างรู้สึกไม่สบายใจกับสภาพร่างกายของตนหลังจากที่ Corey ได้ลืมตาดูโลกมานานหลายปี ซึ่งในช่วงอายุ 11 ปี ก็เริ่มรู้ว่าหัวใจอยากจะเป็นหญิง แต่รู้สึกกลัวที่จะต้องบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อและแม่ ทว่าอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน Erica ผู้เป็นแม่ในขณะนั้น ก็รู้สึกว่าใจของเธอต้องการที่จะเป็นผู้ชายมาโดยตลอด จนกระทั่ง 4 ปีให้หลัง ทั้งสองก็กลายมาเป็นคู่หูพ่อลูกสาว ที่พากันเผชิญหน้าและก้าวข้ามอุปสรรคด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างภาคภูมิ Corey ในขณะที่ยังเป็นลูกชาย Erica (ปัจจุบันคือ Eric) ได้รับความมั่นใจมากขึ้นกับการเปลี่ยนผ่านตัวตน จากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เห็น Corey เจริญเติบโตในฐานะลูกสาวอย่างที่เธอรู้สึกมาโดยตลอด ซึ่งในตอนแรก Eric ก็กลัวว่าสามีและลูกๆ จะรู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจแบบนี้ เมื่อ…
-
คุณแม่ใจแกร่งสู้เพื่อลูกสาววัย 9 ขวบ ถูกแอบนำภาพไปสนับสนุนทำแท้ง ต้องแก้แค้นให้สาสม…
เชื่อว่าผู้เป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเองอย่างสุดหัวใจ ไม่ว่าลูกของตนเองจะเป็นแบบไหน มีสภาพเป็นอย่างไร เพราะนั่นคือดวงใจของแม่อีกหนึ่งดวงที่ไม่อาจทำร้ายได้เลย… แต่ว่าในโลกยุคปัจจุบันที่มีอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงแล้ว การวิจารณ์คนอื่นจากหลังคีย์บอร์ดจึงเกิดขึ้นทั่วทุกสังคม มีการนำรูปภาพของบุคคลอื่นหยิบยกขึ้นมาพูดถึงและไม่ให้เกียรติอย่างสนุกมือ และน้อง Sophia วัย 9 ขวบก็คือหนึ่งในเหยื่อของกลุ่มคนเหล่านี้ Sophia เกิดมาพร้อมกับการพัฒนาใบหน้าที่ผิดปกติ รวมไปถึงทั้งมือและเท้า เมื่อเธอมีอายุครบได้ 1 ขวบ เธอก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มอาการเรตต์ ความผิดปกติทางสมองที่ส่งผลต่อด้านพัฒนาการภาษาและการเคลื่อนไหวของเด็ก นั่นจึงทำให้น้องต้องได้รับการดูแลจากครอบครัวตลอด 24 ชั่วโมง “เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 22 ครั้ง ให้อาหารผ่านทางสาย ถ่ายผ่านถุงอุจจาระ เธอมีอาการช็อกบ่อยครั้งเนื่องจากพัฒนาการที่ผิดปกติ และโรคเรตต์” Natalie Weaver ผู้เป็นแม่ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว CNN ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เรื่องราวของ Sophia ถูกเปิดเผยไปในวงที่กว้างมากขึ้น คุณแม่พยายามอธิบายให้ผู้คนเข้าใจถึงอาการของลูกสาวของเธอ แต่ไม่นานนักเหล่านักเลงคีย์บอร์ดก็เริ่มพุ่งเป้ามาที่ลูกสาวของเธอ “ผู้คนมักจะตามหาคุณและทำร้ายคุณ พวกเขาจะหาหนทางแสดงความโหดเหี้ยมอยู่เสมอ และฉันมักจะเจอคนที่แนะนำว่าให้ฆ่าลูกของฉันซะ ทำให้เธอไปสบายเสียที” หนึ่งในผู้ไม่หวังดีที่อยากจะสร้างกระแสร้าย ไม่เพียงแค่แชร์รูปภาพของน้อง Sophia…
-
ภาพจิกกัด เหน็บแนมสังคม จากฝีมือวิศวกร ผู้ใช้เวลาว่างในการวาดภาพจนกลายมาเป็นศิลปิน
Anton Gudim วิศวกรชาวรัสเซีย ผู้ที่ได้ใช้เวลาว่างหลังจากการทำงานของเขา เริ่มต้นในการพัฒนาฝีมือในการวาดภาพเป็นงานอดิเรก แต่ด้วยความตั้งใจและฝีมือบวกกับความคิดสร้างสรรค์ของเขา ทำให้ผลงานของเขาเริ่มได้รับความนิยมและถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง เขาได้เล่าเรื่องราวชีวิตในการวาดรูปของเขาไว้ว่า ตั้งแต่เป็นเด็ก เขาชอบวาดการ์ดและตัวการ์ตูนแบบโง่ๆ ให้กับเพื่อนๆ เป็นงานอดิเรกที่เขาชื่นชอบอีกอย่างหนึ่งที่เขาสามารถทำได้ดีไม่แพ้กับความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ ภาพการ์ตูนของเขาออกแนวการ์ตูนสายดาร์กและจิกกัดสังคมได้อย่างเจ็บแสบ น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ถ้าหากว่าดูภาพต่างๆ ของเขาดังที่จะแสดงให้เห็นต่อไปนี้แล้วคิดวิเคราะห์ในสิ่งที่รูปได้สื่อออกมา จะรู้ได้เลยว่านี่มันคือความจริงที่เกิดกับโลกใบนี้ชัดๆ เทรนด์การเขียนคิ้วเพื่อเรียกยอดไลก์สมัยนี้ ท้องฟ้าจอมปลอม ชีวิตจริง กับอินสตาแกรม ระเบิดนิวเคลียร์ที่กำลังกระจายออกไป ทรงผมกับกาลเวลา ไปทะเลสมัยนี้ สิ่งต่างๆ พัดพา ร่วงโรยไปตามกาลเวลา สิ่งที่อยากพ่นออกมาจริงๆ อยู่ใกล้กัน แต่ก็ไม่คุยกันต่อหน้า เมื่อผมอยากฝันถึงเธอ เทรนด์การถ่ายรูปที่ไม่มีวันหายไปจากโลกนี้ สาวสวยกับโฟโตชอป เพื่อนคู่ใจ สายการบินที่โอนอ่อนต่อเงิน ติดหน้าจอ อัลบั้มรูปสมัยสาวๆ …
-
ธุรกิจมาแรง ‘เช่าเจ้าบ่าวและแขกเหรื่อ’ กลวิธีหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ของสาวโสด ในสังคมเวียดนาม
ท่ามกลางสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเจริญทางด้านวัตถุที่กำลังก้าวหน้าไปไม่สิ้นสุด แต่กลับกันประเพณีตามสังคมในหลายๆ ประเทศ ยังคงถูกรักษาและปฏิบัติตามธรรมเนียมเดิมอยู่ และหากพูดถึงการแต่งงาน โดยหลักแล้วก็จะต้องเป็นคู่บ่าวสาวที่มีความรักให้แก่กัน และตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งในประเทศเวียดนามกลับมีบางสิ่ง ที่เริ่มแตกต่างออกไปในรายละเอียดจุดนี้ เว็บไซต์ Straitstimes รายงานว่า ผู้หญิงในประเทศเวียดนามนั้นนิยมจัดฉากการแต่งงาน โดยเลือกใช้บริการจากธุรกิจ ‘เจ้าบ่าวให้เช่า’ เนื่องจากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์และความอัปยศ ที่จะตีตราว่าเป็นหญิงนอกสมรส หรือมีลูกก่อนแต่ง ความนิยมในธุรกิจดังกล่าวนั้น สามารถทำสร้างกำไรให้กับผู้ให้บริการอย่างคาดไม่ถึง แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่หญิงแม่ลูกเดี่ยวก็ยังคงเลือกที่จะจ่าย เพราะไม่อยากตกเป็นที่วิจารณ์ของผู้คนในสังคม และเพื่อไม่ให้ปัญหาการทำแท้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ธุรกิจดังกล่าวจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ อันเป็นทางเลือกให้กับผู้หญิงที่ต้องการจะเลี้ยงลูกของตน และไม่อยากจะทำให้ตัวเองและครอบครัว ได้รับความอับอายจากความผิดพลาด การจัดฉากแต่งงานเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ตราบใดที่ไม่มีเรื่องของการจดทะเบียนสมรสเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนการจ้างนักแสดงมาสวมบทบาททั่วไป นาย Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและให้บริการในธุรกิจดังกล่าว Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ให้บริการธุรกิจเช่า เผยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท และ 130,000 บาท สำหรับแพคเกจเต็มรูปแบบ โดยที่ผ่านมาเขาเคยจัดงานแต่งปลอมมากว่า…
-
งงเลยครับ… หญิงรีบวิ่งไปแย่งที่จอดว่าง ไม่ยอมขยับไปไหน อ้างมาก่อนทั้งที่ไม่ได้ขับรถ!?
พื้นที่จอดรถสาธารณะตามห้าง ตามอาคารต่างๆ นั้น เป็นที่รู้กันดีในเรื่องของกฎการอยู่ร่วมกันในสังคม เมื่อใครมาถึงก่อนก็จะได้สิทธิ์ในการจอดตรงนั้นไป แต่ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันนี้สามารถพุ่งตัวเข้าไปจองซองจอด โดยที่ไม่ต้องขับรถได้ด้วยหรือไม่? พฤติกรรมการจองที่จอดดังกล่าว ถูกเก็บภาพเอาไว้ได้จากกล้องหน้ารถของนาย Nicholas Chew ในย่าน Flushing นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่เขากำลังหาซองจอดว่างๆ ภายในอาคารจอดรถ แต่แล้วก็มีหญิงรายหนึ่งพุ่งเข้าไปที่ว่างตรงนั้น พร้อมกับบอกว่าเขาจอดไม่ได้!! ภายในคลิปจะมีหญิงสองรายเข้ามาโต้เถียงกับเจ้าของรถที่มาถึงซองจอดก่อน พยายามบีบแตรไล่พร้อมตะโกนว่า “นี่เอาจริงเหรอ นี่มันที่จอดรถทั่วไปนะ ไม่ใช่ที่จอดรถสำหรับผู้หญิง ออกไปได้แล้ว” แม้จะพูดจาอย่างไรก็ไม่เป็นผล แถมยังโดนโบกมือไล่ให้ออกจากซองจอด โดยอ้างว่าเดี๋ยวจะมีรถจี๊บที่พ่อของเธอเป็นคนขับเข้ามาจอด และจะยืนรออยู่แบบนี้ต่อไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมาถึงก่อน ต่อให้โดนบีบแตรไล่ โดนด่าก็ไม่ยอมออก!! ภายหลังมีหญิงอีกรายเข้ามาเพิ่ม คาดว่าน่าจะเป็นคุณแม่ คลิปวิดีโอจากเหตุการณ์ดังกล่าว จนท้ายที่สุดแล้วผู้ (ขับรถ) มาถึงก่อนต้องยอมแพ้ และถอยรถออกไปหาที่จอดว่างอื่นแทน โดยที่เขาได้ชี้แจงกับทางเว็บไซต์ Dailymail ไว้ว่า… “พวกเขาเข้าใกล้รถผมมาก เหมือนพยายามขู่ให้ผมออก ผมรู้ว่าการที่เข้ามายืนจองที่จอดใครๆ ก็เคยทำ แต่ถ้ามีคันอื่นเข้ามาถึงก่อน ก็ไม่ควรทำตัวงอแงเหมือนเด็กแบบนี้” …
-
ด้านมืดของสังคมเกาหลีใต้… ผู้หญิงถูกกดขี่และข่มเหงจากผู้ชาย มีสถานะไม่ต่างจากทาส
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับการเรียกร้องสิทธิสตรี เกิดกลุ่มแนวคิดรณรงค์ความเท่าเทียมรุ่นใหม่หลายกลุ่ม และเป็นที่น่าจับตามองว่าพลังขับเคลื่อนเหล่านี้จะมีเสียงมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงได้ หรือเป็นเพียงแค่การกระทำที่สูญเปล่า… เนื้อแท้ของชาวเอเชียนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าอยู่ในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ แม้จะมีการรณรงค์ความเท่าเทียมมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีหน้าฉากละครผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ แต่ความจริงนั้นแตกต่างอย่างน่าตกใจ… เว็บไซต์ Channel NewsAsia ได้ทำการรายงานเกี่ยวกับปัญหาผู้หญิงถูกกดขี่ในประเทศเกาหลีใต้ โดยสภาพสังคมที่ยังคงยึดติดกับความเชื่อของ ‘ผู้ชายเป็นใหญ่’ มานานกว่า 500 ปี และการให้ความเคารพแก่ผู้ที่มีอายุมากกว่า “ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหัวหน้าพูดว่า ‘ไปทานข้าวด้วยกันนะ’ ผู้หญิงส่วนมากจะไม่กล้าปฏิเสธ” นาง Jung Myung Shin หัวหน้าจากศูนย์ให้คำปรึกษา Sunflower Centre กล่าว “ถ้าหากพวกเธอพูดในทำนองว่า ‘ฉันไม่อยากไป’ หรือแสดงทีท่าที่มากเกินไป ก็จะถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ดูไร้เหตุผลจากสายตาของคนในสังคม” เธอกล่าวเสริม Soo-Jin และผู้จัดการฝ่ายบุคคล ในระหว่างการรับฟังข้อร้องเรียน ตัวอย่างของกรณีผู้หญิงถูกข่มเหงนั้นเกิดขึ้นมาแล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงง่ายๆ อย่าง ‘Soo-Jin’ หญิงสาวผู้สานฝันตัวเองในการเป็นนักออกแบบภายในได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่ยังไม่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่หลังจากที่เธอเป็นพนักงานแล้ว ผ่านการฝึกงานหลายเดือน เธอเปิดเผยว่าถูกผู้ดูแลข่มขืน ‘Momo’ หญิงสาวชาวชานเมือง…
-
15 ภาพวาดบนกำแพงสุดเจ๋ง ที่สะท้อนการกระทำของมนุษย์ต่อโลก ธรรมชาติ และสังคม
โลกเราในยุคปัจจุบันได้ฝ่าฟันปัญหาต่างๆ มามากมาย โดยส่วนใหญ่ก็เกิดจาก “ฝีมือของมนุษย์” ที่ทำให้ความเป็นอยู่ของชีวิตตามธรรมชาตินั้นได้เสื่อมลง แต่กลับกลายเป็นเพิ่มพูนความสุขสบายของผู้คน ทั้งนี้เพื่อรักษาโลกใบนี้ รวมไปถึงธรรมชาติ ให้คงอยู่ไปนานๆ จึงมีการรณรงค์และขอร้องให้หยุดทำลายโลกและสังคม แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่มีอำนาจเองก็ไม่ได้สนใจที่จะเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ผู้ที่มีอำนาจน้อยนิดเกิดการรวมตัวรวมใจกัน ผลักดันให้พฤติกรรมทำลายล้างของมนุษย์เกิดความเปลี่ยนแปลงบ้าง เหล่าศิลปินเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมใจผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ควรเกิดขึ้นเพื่อรักษาโลก ธรรมชาติ และทำให้เกิดสังคมที่น่าอยู่ โดยการสร้างสรรค์ “ศิลปะบนกำแพง” (Graffiti) ที่มีข้อความเสียดแทงใจมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ฉุกคิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมโลก วันนี้ เราจึงรวบรวม 15 ภาพบนกำแพงที่มีทั้งความสวยงาม และเนื้อหาเสียดแทงผู้คนที่ทำลายโลกและสังคมในปัจจุบัน จะมีภาพอะไรบ้าง ไปชมกันเลย… 1. “อย่าเชื่อเรื่องโลกร้อน” ถูกเขียนไว้เพื่อแดกดันขณะที่น้ำกำลังท่วม ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโลกกำลังร้อน 2. สวนสาธารณะ (Park) และที่จอดรถ (Parking) เขียนต่างกันนิดเดียว แต่ส่งผลต่อโลกต่างกันอย่างมาก 3. “โลกไม่ได้จะตาย แต่มันกำลังถูกฆ่า และคนที่ฆ่ามันก็คือ ผู้ที่มีทั้งชื่อและที่อยู่” พูดง่ายๆ ก็คือมนุษย์นั่นเอง 4. อุตสาหกรรมต่างๆ กำลังดูดกินชีวิตของโลกอยู่ …
-
ช่างภาพกับโปรเจกต์สะท้อนสังคม แอบถ่ายภาพปฎิกิริยาของผู้คนที่มีต่อ ‘คนอ้วน’
บางครั้ง “ความอ้วน” อาจกลายเป็นสิ่งแปลกตาสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้คนมักถูกดึงดูดความสนใจจากสิ่งใดก็ตามที่มีความแตกต่างไปจากตนเอง แต่หารู้ไม่ว่า การเป็นผู้ที่ต้องถูกมองด้วยสายตาอันแฝงไปด้วยหลายๆ นัยยะ นั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย ช่างภาพหญิงนามว่า Haley Morris-Cafiero เธอมีน้ำหนักเกินและมีรูปร่าง “อ้วน” เนื่องจากในอดีตเธอเป็นโรคเกี่ยวกับการกิน อีกทั้งยังมีภาวะขาดไทรอยด์ซึ่งทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ช้า ครั้งหนึ่งใน ปี 2010 ช่างภาพนายหนึ่งที่กำลังถ่ายภาพให้ Haley บังเอิญมองไปเห็นชายที่มองมายังเธอด้วยสีหน้าที่เหมือนจะตัดสินตัวเธอ ทำให้เธอรู้ว่าผู้คนมักมีคำวิจารณ์เกี่ยวกับรูปร่างและน้ำหนักของเธอ เธอจึงคิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า Wait Watchers ที่เธอนำกล้องไปตั้งไว้ยังจุดต่างๆ แล้วถ่ายตัวเธอขณะทำกิจกรรมตามปกติ เช่น เดินเล่น กินไอศกรีม หรือลองเสื้อผ้า ขณะที่เธอเองก็แต่งกายด้วยชุดแสนธรรมดาที่ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความอ้วนทำให้เธอเป็นจุดสนใจ เมื่อภาพถ่ายในโปรเจกต์ของ Haley ได้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกอินเทอร์เน็ต ผู้คนต่างก็เข้ามาให้กำลังใจพร้อมทั้งพยายามแนะนำให้เธอหันมาดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย เลือกเสื้อผ้าและการแต่งกายที่ดีขึ้น และแต่งหน้า Haley เองก็ยอมรับข้อแนะนำเหล่านั้นพร้อมทั้งทำการเก็บภาพปฏิกิริยาของผู้คนที่มองมาขณะที่เธอกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง แต่ผลลัพธ์กลับออกมาว่า สีหน้าและแววตาในปฏิกิริยาของผู้คนที่มามาเหล่านั้นก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม Haley อธิบายว่าเธอไม่ได้ทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมาเพื่อทำให้ใครรู้สึกแย่ ด้วยตัวของเธอเองแล้วเธอไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะมองเธออย่างไร “ฉันไม่ได้ทำมันด้วยความโมโหนะ ฉันว่ามันเหมือนกับการทดลองเชิงสังคม มันไม่ใช่การจับผิดผู้คน แต่มันเป็นการสะท้อนภาพใบหน้าและแววตาที่พวกเขามองฉัน…
-
ภาพวาดจากมุมมองศิลปิน จิกกัดสะท้อนโลกยุคใหม่ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอาจยากเกินกว่าจะเข้าใจได้…
Michal Dziekan ศิลปินผู้สร้างศิลปะแนวใหม่ เขาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อตีแผ่ความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ทุกๆ สิ่งที่เขาวาดนั้นล้วนอ้างอิงมาจากความเป็นจริง ผสมกับการจิกกัดสังคมอย่างเจ็บแสบ โลกที่เราเห็นบางครั้งมันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป เหมือนดังที่ศิลปินท่านนี้ได้วาดขึ้นมาด้วยการใช้เทคนิคลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ดูเข้าใจง่ายและพอตีความหมายเมื่อไหร่ล่ะก็คงมีร้อนๆ หนาวๆ กันบ้างแหละ ชีวิตของฟรีแลนซ์ที่แตกต่างจากคนอื่น การคิดริเริ่ม และสกัดศิลปะที่อันตรายออกจากสมอง วันหยุดที่แสนสั้นของเหล่าพนักงานออฟฟิศ บางทีการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ความสำคัญของบทกวีในการแก้ปัญหาความอยุติธรรมทางสังคม ไม่มีใครสามารถหลีกหนีอดีตของตัวเองได้ คนขี้โม้ที่แสนขี้ขลาด ลิ้นมีพลัง ทำลายล้างทุกอย่างจากคำพูด สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็นจริง จ้องรังแกคนอื่นเมื่อมีโอกาส สิ่งที่คู่รักหลายๆ คู่ต้องรับผิดชอบ ความรุนแรงในโทรทัศน์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในภาพคือนกกระสาเป็นตำนานของฝรั่งใช้ในการอธิบายการเกิดของทารกว่า “ทารกที่เกิดใหม่นั้นนกกระสาคาบมาให้” รูปนี้เลยตีความได้ว่า คู่รักสมัยนี้กลัวการมีลูกนั่นเอง เหล่าพ่อแม่มักจะผลักดันให้ลูกตัวเองเด่นดัง ความรู้สึกที่ดี คือความรู้สึกที่มาจากตัวตนของคุณจริงๆ ทุกครั้งที่เจอป้ายเซลส์ก็ต้องซื้อมา ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็น เมื่อมนุษย์ต้องกลายเป็นฝ่ายถูกล่าซะเอง…
-
นศ. สาวเผยชีวิตที่ต้องต่อสู้ เจอภาพหลอนทางการสัมผัสแทบทุกวัน แต่เอาชนะมันได้ถ้าไม่ยอมแพ้!!
โรคจิตเภท (Schizophrenia) เป็นโรคทางจิตใจของคนที่ทำให้ผู้ที่ป่วยโรคนี้จะมีความเชื่อที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีเสียงอยู่ในหัว เกิดภาพหลอน และยากที่จะเข้าใจว่าอะไรคือความเป็นจริง ตัวอย่างของอาการจิตเภท เช่นในภาพยนตร์เรื่อง Shutter Island, A Beautiful Mind, Fight Club และแม้แต่ Lord of the Rings แต่ในความเป็นจริงๆ แล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภทนั้นต้องพบเจอกับความน่าสะพรึงกลัว อย่างเช่นนักศึกษาหญิงคนนี้ Cecilia McGough ที่ได้ออกมาเล่าว่าโรคจิตเภทได้ส่งผลกระทบให้เธออย่างไรบ้าง เธอบอกว่าเหมือนกับชีวิตของเธอเป็นฉากที่เราเห็นกันในหนังสยองขวัญยังไงอย่างงั้น หญิงสาววัย 23 ปีกล่าวว่าหลายครั้งที่เธอต้องพบเจอกับ “ผี” ซึ่งปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเธอ เช่น ตัวที่เธอเรียกมันว่า Mr. Blob Man เธอบอกว่ามันเป็นตัวที่มาเป็นลักษณะของเงา แต่บางครั้งเธอก็เห็นภาพหลอนที่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นกันมาในภาพยนตร์ “เป็นช่วงเวลาประมาณปลายๆ มัธยม ที่ฉันเริ่มเห็นภาพหลอนเป็นเจ้าตัวตลกจากหนังเรื่อง It ของ Stephen King มันน่ากลัวมาก และฉันก็ยังเห็นแมงมุมยักษ์อีกด้วย” Cecilia กล่าว “ฉันเห็นเจ้าตัวตลกแทบทุกวัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเริ่มเห็นเด็กหญิง (เหมือนในหนังเรื่อง The Ring) ภาพนี้มันกลับทำให้ฉันกลัวมากกว่าเดิม ฉันกลัวว่าเด็กคนนั้นจะมาแทงฉัน” เธอกล่าวต่อ “มันคืออาการประสาทหลอนทางการสัมผัส…
-
ฟังความจากอีกฝ่าย คู่กรณีถูกขวานจามรถ ‘คิดว่าไม่มีคนอยู่ แต่ไม่ควรทำแบบนี้’ จ่อฟ้องกลับ
เป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในกรณีจากข่าวคุณป้าท่านหนึ่ง ได้ทำการจามขวานใส่รถยนต์ที่ทำการจอดขวางทางเข้าออกบ้านตนเอง (อ่านข่าวเก่า) ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางฝั่งคู่กรณีผู้ทำการจอดรถยนต์ขวางได้ออกมาชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว… โดยล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊คนามว่า Tanapon Dakawong ได้ทำการโพสต์ข้อความจากทางฝั่งเจ้าของรถกระบะนิสสัน สีขาวที่ปรากฏในคลิปบริเวณตลาดสวนหลวง ด้วยใจความดังต่อไปนี้… เจ้าของรถยนต์กระบะ นิสสัน นาวารา สีขาว ที่ถูกทุบ และปรากฏในคลิป บริเวณตลาดสวนหลวง ซอยศรีนครินทร์ 55 ที่หลายคนกำลังเผยแพร่ ให้ความว่า… “ตัวเองตั้งใจเดินทางจากมหาชัย มาซื้อของที่ตลาดนี้ โดยออกจากบ้านเวลา 11.00 น. เมื่อมาถึง วนหาที่จอดรถ แต่ไม่มีที่จอด จึงเลือกที่จะจอดบริเวณนั้นไปก่อน ซึ่งตัวเองคิดว่าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพหลายอย่าง และไม่ได้อ่านป้ายหมายศาลที่เจ้าของบ้านติดไว้ จึงจอดรถโดยดึงเบรกมือ ทำให้ไม่สามารถขยับรถได้ และใช้เวลาในการใช้จ่ายในตลาด ประมาณ 10 นาที ทราบดีว่าตัวเองผิด จอดรถในที่ห้ามจอด แต่เจ้าของบ้านไม่ควรกระทำแบบนี้ ซึ่งจะเอาผิดให้ถึงที่สุด” นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลประเวศ กับความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า… “บริเวณจุดเกิดเหตุ ตามกฎหมายการจราจร ไม่อนุญาตให้จอดรถ…
-
ชายหนุ่มแกล้งทำเนียนเป็นนักบาสหน้าใหม่ของ NBA ไปดูซิว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง
พวกเราหลายๆ คนคงรู้สึกตื่นเต้นเวลาได้เจอกับดาราดังหรือนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่เขาคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงจริงๆ แต่แค่ “ทำตัวเหมือนกับคนมีชื่อเสียง” ก็สามารถทำให้คนรอบข้างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยแล้ว นี่เป็นการทดลองทางสังคมของ Connor Toole นักเขียนจากสำนักข่าวออนไลน์ Elite Daily โดยพวกเขาได้โพสต์คลิปลงในวันที่ 26 มิถุนายน 2015 เพื่อทดสอบดูว่าถ้าให้นาย Connor แต่งตัวและทำท่าทางเหมือนกับนักบาสในลีกดังอย่าง NBA คนอื่นๆ ที่ได้เห็นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง หนุ่มนักเขียน Connor Toole ผู้ทำการทดลองในครั้งนี้ ชายหนุ่มคนนี้ได้ไปยืนอยู่หน้างาน NBA Draft 2015 จัดขึ้นที่ Barclays Center ในเมืองบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา ด้วยท่าทางที่มั่นใจราวกับเป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกรับเลือกเข้าทีมดัง และชุดสูทที่ดูดีบวกกับส่วนสูงกว่า 2 เมตรของเขา ก็ทำให้คนรอบๆ เชื่อว่าเขาจะต้องเป็นหนึ่งในนักบาสหน้าใหม่อย่างแน่นอน มีคนจำนวนมากเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย พร้อมกับพูดให้กำลังใจและยังบอกอีกว่าถ้าเขาติดทีมไหนก็จะตามไปเชียร์ให้ถึงที่อะไรทำนองนั้น เรียกว่าเชื่อสนิทใจไม่มีการสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนสูงที่มากกว่าคนทั่วๆ ไป ทำให้พวกเขาเชื่อสนิทใจเลยว่านี่มันนักบาสชัดๆ เด็กๆ ต่างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย พวกเขาให้กำลังใจและหวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะได้เข้าไปเล่นในทีมที่พวกเขาเชียร์อยู่อย่างแน่นอน…
-
ศิลปินวาดภาพ “เสียดสีสังคม” สะท้อนปัญหาของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้ค่านิยมของยุคปัจจุบัน
ทุกวันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมมากมายและเราต่างก็รู้อยู่แก่ใจ แต่หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านั้น จนกลายเป็นคนทุกคนอยู่กับปัญหาสังคมด้วยความเคยชิน ด้วยเหตุนี้ศิลปิน Gunduz Aghayev จึงได้วาดภาพที่มุ่งเน้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสังคมอย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นถึงความจริงของสังคมที่เราปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการตกอยู่ภายใต้ค่านิยมของสังคม!! Attractive TV The last Oasis Miracle travel Hate Terror order Applause Rescue Destroying alternative Execution of Sofia For The International Day of the Girl Child Trump’s toy Wall Modern Human Policitial Prisoners Happy…
-
การทดลองเอาคำด่าในเน็ตมาด่ากันต่อหน้าจริงๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสังคมออนไลน์น่ากลัวเพียงใด
เราอาจเคยเจอกับความคิดเห็นในโลกออนไลน์ที่พูดถึงคนอื่นๆ ในทางที่ไม่ดี ต่อว่าในสิ่งที่เขาหรือเธอแชร์ลงไป ซึ่งเราเคยคิดกันบ้างมั้ยว่าหากเราต้องเป็นคนถูกด่าแบบนั้นบ้างมันจะเป็นอย่างไร ความรุนแรงทางคำพูดจากความคิดเห็นเหล่านั้นเป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยฉุกคิดมาก่อน แต่ตอนนี้ได้มีการทดลองหนึ่งชื่อว่า Offline Experiment ที่จะทำให้คุณเห็นภาพและเข้าใจกับผลกระทบของคำพูดแย่ๆ โลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น การทดลองนำคำด่าในเน็ตมาด่าในชีวิตจริง การทดลองนี้กำหนดให้มีนักแสดงอยู่สองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งรับบทเป็นคนด่า อีกฝ่ายหนึ่งรับบทเป็นคนถูกด่า โดยคำด่าที่ใช้นั้นถูกนำมาจากคอมเม้นต์รุนแรงในโลกโซเชียล อย่างเช่น “ฉันว่าพวกเกย์มันบ้าชัดๆ พวกแกสมควรตายๆ ไปซะ” “แกมันโง่ แกมันคือตัวประหลาดที่สุดในโรงเรียน” “ยัยอ้วน!! หัดออกกำลังกายซะบ้างนะ ฉันละเกลียดคนอ้วนมากๆ เลย” ทั้งหมดที่ทำไปนั้นเพื่อต้องการสังเกตปฏิกิริยาของผู้คนรอบๆ ว่าพวกเขาแสดงออกกับการที่ต้องมาเห็นคนถูกด่าด้วยคำเหล่านั้นอย่างไร สังเกตจากพฤติกรรมของคนรอบข้างว่าพวกเขาจะแสดงออกมาอย่างไรกับเหตุการณ์แบบนี้ คลิปการทดลองทางสังคมเมื่อนำคำด่าในเน็ต มาด่ากันในชีวิตจริง การทดลองทางสังคมในครั้งนี้เกิดจากไอเดียของ Monica Lewinsky หญิงสาวผู้เคยมีความสัมพันธ์อื้อฉาวกับอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ Bill Clinton จากเรื่องนั้นจึงทำให้เธอเจอกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคนในสังคม และการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ (หรือเรียกว่า Cyber Bully) ที่เข้ามาโจมตีเธออย่างหนัก เมื่อเธอสามารถก้าวผ่านความเจ็บปวดนั้นมาได้ ต่อมาเธอก็ได้กลายเป็นแกนนำหลักในการรณรงค์เรื่องของการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ จึงทำให้เกิดไอเดียดังกล่าวที่ร่วมมือกันสร้างขึ้นมากับบริษัทโฆษณา BBDO New York Monica…
-
17 ภาพพฤติกรรมที่จะยืนยันได้ว่าคนคนนั้นคือ ‘เพื่อนแท้’ ของคุณอย่างแน่นอน
เชื่อว่าแทบทุกคนบนโลกจะต้องมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเราอย่างแน่นอนอาจต่างกันที่จำนวนว่ามีมากหรือน้อย แต่ที่สำคัญก็คือพวกเขาเหล่านั้นรักและคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างคุณหรือเปล่า แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการที่แตกต่างกันไปแต่คำว่า “เพื่อนแท้” คือเพื่อนที่จะไม่ทิ้งกันและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนรอบข้างของเขาได้มีความสุขแม้จะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างไปบ้างก็ตาม เราลองไปดูกันดีกว่าว่าคนเหล่านั้นเขาได้ลงทุนลงแรงเพื่อเพื่อนของเขามากขนาดไหน ความพยายามทุกอย่างเพื่อความสำเร็จของเธอ แม้อาจต้องกลายเป็นหนุมานคลุกฝุ่น แต่เพื่อเพื่อนเราทำได้ อุ่นใจทุกครั้งที่ต้องเจอกับความท้าทาย ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงแค่ไหนนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพื่อนที่คอยเติมเต็มในทุกสิ่งของชีวิต ถ้านายเป็นเด็กเราก็จะยอมเป็นเป็ดที่เกาะติดอยู่กับนาย การใช้เวลาทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน ก็สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ เวลาที่มีปาร์ตี้หนักๆ ก็อาจไปตะโกนให้ชาวบ้านได้รับรู้บ้างว่า “มึงเนี่ยแหละคือเพื่อนแท้ของกูคนเดียวเลยจริงๆ “ แต่ถ้าเมาก็กลับไปนอนก่อนก็ได้.. เพื่อนที่จะมีคุณอยู่เคียงข้างไม่ว่าเวลาไหน การแบ่งปันคือสิ่งสำคัญเมื่อเพื่อนต้องลำบาก หากคุณคิดว่าการเข้าฟิตเนสมันเป็นเรื่องที่น่าอาย เพื่อนจะช่วยทำให้คุณคลายความรู้สึกนั้นลงได้เอง เพราะเขาคือเจได!! เอาจริงๆ นี่น่าจะรู้สึกเขินมากกว่าเดิมอีกนะ ไม่ว่าจะสูงงง แค่ไหนก็ไปถึงงง การต้องเสียสละกางเกงขายาวเพื่อให้เพื่อนสาวได้เข้าห้องเรียน ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร (แม้ต้องรออยู่ในห้องน้ำไปนานถึง 50 นาทีอ่ะนะ) บางครั้งชีวิตก็อาจต้องแขวนอยู่บนบานประตูบ้าง โอเคๆ ท่าได้ละ แต่ช่วยยิ้มหน่อยสิ มิตรภาพจะมีที่ว่างสำหรับคุณอยู่เสมอ…
-
19 ภาพแสดงให้เห็นความดีงามในตัวมนุษย์ ที่แม้โลกมันจะโหดร้าย แต่ก็ยังคงสวยงาม
โลกของเราอาจไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเสมอไป อย่างที่เราได้เห็นในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติ และข่าวของโศกนาฏกรรมที่มีอยู่ทุกวัน บางคนอาจกำลังคิดว่า โลกเรามันช่างโหดร้าย และทุกอย่างก็น่ากลัวเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อยากให้คุณลืมว่า ภายใต้สิ่งแย่ๆ เหล่านั้น ก็ยังคงมีความประทับใจอีกมากที่ซ่อนอยู่ ช่วยตอกย้ำให้เข้าใจว่า การมีชีวิตอยู่บนที่แห่งนี้ มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความหดหู่ไปซะทีเดียว ภาพของพวกเขาเหล่านี้ จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปพร้อมรอยยิ้ม ชายแก่คนหนึ่งกำลังตัดหญ้าอยู่ก่อนที่โรคหัวใจจะกำเริบ และได้นักผจญเพลิงเหล่านี้เข้ามาช่วยไว้ทัน อีกทั้งพวกเขายังช่วยให้งานของชายคนนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี ตำรวจหนุ่มคนนี้ลงแรงทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเฮอร์ริเคน Harvey ในเท็กซัส โดยที่เขาไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งสลบไปเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายชั่วโมง ป้ายเตือนในแอฟริกาใต้ ช่วยให้คนพิการสามารถมีที่จอด ไม่มีใครกล้ามาแย่งที่พวกเขาอีก ช่างตัดผมชื่อว่า Mark Bustos ใช้เวลาในวันหยุดของเขา มาตัดผมให้กับคนไร้บ้านทั้งหลายแบบฟรีๆ เป็นพนักงานที่ใส่ใจกับงานตัวเองมากๆ เมื่อเขาได้นำกล่องเครื่องดื่มในร้านมาเรียงต่อกันเป็นรูปตุ๊กตาหิมะ สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้อย่างดี ในช่วงคริสมาสต์ เธอคนนี้ใช้เวลา 3 ปีไปกับการทำงานในบ้านพักสำหรับน้องหมา และดูแลเจ้าตัวนี้มานานถึง 6 เดือน ก่อนที่เธอจะได้งานใหม่ แต่ต้องบอกว่าเธอทำงานที่นี่ได้ดีมากแน่ๆ เพราะเมื่อเธอกลับมาหลังจากหายไป 3 สัปดาห์ เจ้าสุนัขก็ดีใจออกนอกหน้าซะขนาดนี้เลย …
-
20 ภาพที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า “โลกไม่น่าอยู่…” แต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้เรายิ้มได้ในท้ายที่สุด
ความยากของการเป็นมนุษย์โลกอย่างหนึ่งก็คือ ตลอดทั้งชีวิตเราจะได้พบเจอกับผู้คนมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะทั้งคนดีหรือคนเลวปะปนกันไป บ่อยครั้งที่เราอาจจะเห็นสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่า โลกมันไม่อยู่อย่างที่มันควรจะเป็น… แต่ก็ใช่ว่าโลกเราจะมีแต่ความเศร้าและการเอารัดเอาเปรียบ เพราะในท้ายที่สุดมนุษย์เราก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้ยิ้มได้เสมอ ชายผู้เขียนป้ายประชดประชันโฮมเลส โดยอ้างว่า “ไม่จำเป็นต้องขอตัง มีลูก 5 คน และทำ 3 งาน!!” เทียบไม่ได้เลยกับเหตุการณ์ที่มีคนนำข้าวของเครื่องใช้มาวางให้กับโฮมเลสที่กำลังหลับอยู่ คนใจทรามที่ทิ้งขยะเรี่ยราดบนรถไฟสาธารณะ ในขณะที่พายุกำลังซัดกระหน่ำ ทั้งเม็กซิโกและสหรัฐฯ ต่างก็กำลังร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชน คนขับรถใจแคบที่ดันไปจอดขวางตรงช่องสำหรับผู้พิการ แต่โลกนี้ก็ดูสดใสทันที เมื่อเห็นเรื่องราวของคุณลุงที่นำกล้องดูดาวตั้งไว้ข้างทาง พร้อมอธิบายให้เด็กๆ ฟังอย่างตั้งใจ คนมือบอนที่เอาสีมาปาใส่น้องหมาน้อย ตรงกันข้ามกับชายคนหนึ่ง ที่กำลังค้นหาข้อมูลรักษาพยาบาลเบื้องต้น เพื่อช่วยเหลือนกกระจอกที่พลัดหลงมา คนใจแคบที่เล่นนอนบนรถไฟขนส่งสาธารณะ ในขณะที่ลุงคนนี้พยายามจะสอนวิธีผูกไทให้หนุ่ม แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน วัยรุ่นผู้รักการแคมปิ้งแต่ไม่ได้รักธรรมชาติ… ดูแย่ทันทีเมื่อเทียบกับหนุ่มที่พยายามช่วยเหลือหญิงสูงอายุ จากพายุที่ซัดกระหน่ำ คนขี้เกียจที่ไม่ยอมเอาขวดนมไปวางไว้ในที่ๆ ตัวเองหยิบมา ตรงกันข้ามกับบ้านหลังหนึ่งที่พร้อมจะมอบอาหารฟรีให้ผู้ที่กำลังลำบาก …
-
ชมภาพสุดอาร์ตจากศิลปินรัสเซีย ที่เต็มไปด้วยความหมายแฝงเรื่องเพศและเสียดสีสังคม!!
นี่คือผลงานภาพวาดของศิลปินที่ชื่อว่า Waldemar von Kazak ชาวรัสเซีย ผลงานของเราเป็นแนวเซอร์เรียลและเสียดสีสังคม โดยใช้ความหมายเชิงทางเพศ ความน่ากลัวของตัวละคร เพื่อให้คนที่มองภาพได้จินตนาการ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Pinup Arena ไว้ว่า “หลายปีที่ผมทำงานเป็นดีไซเนอร์ ผมทำงานทางด้านออกแบบบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโฆษณา ออกแบบหนังสือ แต่ก่อนหน้านั้นผมเคยวาดรูปมาก่อน และตอนที่ทำงานเป็นดีไซเนอร์ ผมก็อยากกลับไปวาดมัดอีกครั้ง จนถึงวันนี้ ผมเป็นจิตรกรเต็มตัวแล้ว” เรื่องราวที่เขาเล่าผ่านภาพวาดชุดนี้ส่วนมากจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของชายกับหญิงในเชิงที่เกี่ยวกับความต้องการทางเพศ สิ่งทางชายต้องการจากหญิง หญิงต้องการจากชาย ผ่านสัญลักษณ์ที่เป็นสัตว์และสิ่งของต่างๆ บางภาพอาจจะดูเหนือจริงไปบ้าง แต่มันก็มีความหมายแฝงอยู่ลึกๆ เหมียวอยากให้ทุกคนพยายามตีความในกรอบของเรื่องเพศดู แล้วจะรู้ความหมายที่แท้จริง ไปดูกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . …
-
ผลสำรวจอังกฤษเผย ผู้คนกว่า 40% มองว่าการมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์ ไม่ถือว่าเป็นการนอกใจ..!!
ในขณะที่วงการเซ็กส์ทอยกำลังพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ถึงขนาดที่ว่ามีหุ่นยนตร์เซ็กส์ดอลมากมายออกมาเริ่มวางขาย และผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็มองว่าในอนาคตมันจะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับเรามากแน่ๆ แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาจากเทรนด์หุ่นยนตร์เซ็กส์ นั่นก็คือคำถามที่ว่า “ถ้าเรามีแฟนอยู่แล้วแต่ไปมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์จะถือว่านอกใจมั้ย?” และทั้งหมดนี้คือผลสำรวจจากประชากรในประเทศอังกษ เราตามไปดูกันเลย ทีมสำรวจสถิติจากมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ เผยว่าจากผลสำรวจของคนประชากรในอังกฤษเกี่ยวกับศีลธรรมในการร่วมเพศกับหุ่นยนต์ สามารถแบ่งตามสถิติได้ดังนี้ 1. กว่า 1 ใน 3 ของชาวอังกฤษรู้สึกไม่ผิดแปลกอะไรที่จะมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์ 2. กว่า 40% ของคนอังกฤษมองว่าการมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์ ถึงแม้ว่าจะมีคู่รักอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรม หรือนอกใจแต่อย่างใด 3. อีก 39% เชื่อว่าเทคโนโลยีจะสามารถพัฒนาจนมนุษย์สามารถมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหุ่นยนต์ได้ภายในปี 2050 (เป็นแฟนกันว่างั้นเถอะ) 4. มากถึง 79% มองว่าเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมอย่างมาก หากมนุษย์ทำพฤติกรรมร้ายแรงใส่หุ่นยนต์ เช่น ทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ซึ่งผลสำรวจนี้ถูกจัดเก็บหลังที่บริษัทยักษ์ใหญ่ Lumidolls ประกาศที่จะเปิดซ่องหุ่นยนต์ในอนาคต Trudy Barber ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเซ็กส์ จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัท ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า… “ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สังคมเราจะพัฒนาไปจนถึงขั้นที่มีซ่องหุ่นยนต์ให้บริการ และก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับหลายๆ คน แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่ตามมาก็อาจจะมีทั้งปัญหาเชิงจริยธรรม และอาจนำไปสู่กฎหมายคุ้มครองหุ่นยนต์ บวกกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปทุกวัน เรามองว่าในอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นแน่นอน”…
-
ศิลปินวาดภาพการ์ตูน ‘เสียดสีสังคมในโลกยุคปัจจุบัน’ โลกที่เราเห็นเป็นแบบไหนกันนะ!?
Koren Shadmi เป็นศิลปินผู้มากความสามารถสัญชาติอเมริกัน ที่มักจะออกแบบผลงานให้ผู้คนย้อนนึกถึงเรื่องราวรอบตัว โดยเทียบเคียงกับชีวิตในยุคในสมัยที่ไม่ได้ไกลไปจากตัวเราเลย… และทั้งหมดนี้เป็น 21 ภาพเสียดสีสังคมที่เขาได้ออกแบบขึ้นมา ลองตามไปชมพร้อมกับตีความกันดูเลยว่าภาพทั้งหมดนี้จะสะท้อนเรื่องราวในชีวิตจริงของเราได้มากน้อยขนาดไหน สิ่งยั่วยุที่อยู่รอบตัวเรา ต้นทุนการเริ่มต้นที่มีไม่เท่ากัน เงียบไว้อย่าไปบอกใครล่ะ เมื่อน้ำมีคุณค่าน้อยจนถูกแทนที่ด้วยน้ำมัน ความรักในยุคปัจจุบัน DNA แห่งโลกยุคใหม่ วิธีการทำให้นายจ้างรู้สึกชอบในตัวคุณ น้ำขึ้นน้ำลง มุมมองของผู้คนที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ จุดจบของเส้นทางอาชีพ ชีวิตที่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา จิตใต้สำนึก แม้แต่ IKEA ก็มีเด็กทารกขาย ผลกระทบของการสูบบุหรี่ หนทางสู่โลกใหม่ ชีวิตติดกล้องที่ต้องถ่ายภาพตลอดเวลา การศึกษาที่เกิดจากการบังคับ นักโทษแห่งความทะเยอทะยาน (ของคนอื่น) วันหยุดสุดสบายที่ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เรียนรู้โลกกว้างผ่านอินเตอร์เน็ต ที่อาจทำให้เราเห็นอะไรได้แคบลง…
-
สื่อนอกเผยไทยคว้าอันดับ 65 จากผลสำรวจ “ประเทศที่มีความทุกข์ยาก” ประจำปี 2017
ในปี 2016 ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านการเมือง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อันมีผลทำให้ดัชนีความทุกข์ยากของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปีนี้มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดวันที่ 3 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Bloomberg ได้เผยผลสำรวจดัชนีความทุกข์ยาก หรือ Misery Index ประจำปี 2560 จากทั้งหมด 65 ประเทศพบว่า… ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากในลำดับที่ 65 โดยมีคะแนนอยู่ในดัชนีความทุกข์ยากอยู่ที่ 2.6% น้อยที่สุดในผลการสำรวจ (ซึ่งก็เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.4% ) ถัดมาคือประเทศสิงคโปร์ 3.1% สวิสเซอร์แลนด์ 3.6% ญี่ปุ่น 3.6% และไอซ์แลนด์ 4.6% ในขณะที่ประเทศเวเนซูเอล่า ที่มีปัญหาในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ มีคะแนนอยู่ในดัชนีความทุกข์ยากอยู่ที่ 499.7% ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากมากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว รองลงมาคือ แอฟริกาใต้ 32.2% อาร์เจนตินา 30.9% กรีซ 23.2% และตุรกี…
-
ศิลปินจีนสร้างภาพสะท้อนสังคม ให้ได้รู้ว่าเราถูก “บงการ” จากสิ่งรอบตัวจนเราไม่ทันคิด!!!
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตไปวันๆ โดยบางทีเราก็ไม่รู้ว่าเราได้ทำสิ่งที่มันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่กลับมาทำร้ายเราได้ในอนาคต ซึ่งมันก็ต้องได้การทำให้ฉุกคิดอย่างเร่งด่วนว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย อีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้เราได้คิดก็คืองานศิลปะ ซึ่งศิลปินที่ชื่อว่า Chunlong Sun เขาเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ในปักกิ่งได้เห็นสังคมในมุมมองแห่งความเป็นจริง จึงได้ทำการสร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาเป็นภาพแนวเซอร์เรียล เกี่ยวกับการที่เราถูกสิ่งแวดล้อมครอบงำจนเราเคยเห็นเป็นเรื่องชินชาไปแล้ว ใครที่มีบัตรเครดิตก็คงสบายกับการใช้จ่าย แต่ระวังไว้ เพราะเงินมันไปไวมาก รถเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับวัยทำงาน ทั้งกิน ทั้งนอน หรืออาจจะทำงานในนั้นเลย อย่าให้ที่ทำงานมาหล่อหลอมเราให้กลายเป็นอีกคน หรือจะเป็นทางผ่านให้คนอื่น พยายามค้นหาตัวเองให้เจอ ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ไม่น่าอยู่ หรือเราจะอยู่ในบ่อแห่งความจำเจนี้ตลอดไป เราอาจจะเป็นแค่ผลผลิตจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วคุณล่ะ ตอนนี้กำลังโดนสิ่งพวกนี้ครอบงำอยู่หรือเปล่า ?? ที่มา designyoutrust
-
20 โฆษณาสะท้อน “ปัญหาสังคม” ชี้ให้เห็นด้านลบ และปัญหาที่โลกเรากำลังเผชิญ..
ทุกวันนี้ในสังคมมนุษย์เรา มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายๆ ครั้งผู้คนพยายามทำเป็นลืมหรือปฏิบัติราวกับว่าปัญหาเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งที่จริงแล้วมีคนหรือสัตว์จำนวนมาก กำลังเดือดร้อนอยู่ ด้วยเหตุนี้หลายๆ องค์กร จึงทำป้ายโฆษณาขึ้นมาเพื่อบอกเล่าถึงปัญหาเหล่านั้น ล่าสุดทางเว็บไซต์ Bright Side ได้รวบรวม 20 โฆษณาสะท้อน “ปัญหาสังคม” ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรานั้นมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นมากมายขนาดไหน เราไปติดตามกันเลย!! แม้แต่เทคโนโลยียังรู้ว่าปัญหาความรุนแรงต่อสตรีไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เด็ก 300,000 คนต้องออกรบแทนที่จะไปโรงเรียน ภาพเซลฟี่จากประเทศที่กำลังพัฒนา ของหวาน = เบาหวาน อันตรายจากบุหรี่ การบริจากเลือดอาจหมายถึงการเติบชีวิตให้กับคนอีกคน รูปภาพส่งเสริมการปลูกถ่ายอวัยวะในจีน เด็กหลายคนได้ออกไปเล่นนอกบ้านน้อยกว่านักโทษในคุกเสียอีก ปัญหาแรงงานเด็ก ถ้าไม่มีคนพูด ปัญหานี้ก็จะยังคงอยู่เรื่อยไป ยิ่งปล่อยเด็กออทิสติกไว้นานเท่าไหร่ การช่วยเหลือพวกเขาก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นเท่านั้น เส้นทางภายในเมือง ควรคำนึงถึงผู้พิการด้วย รงรงณ์ปัญหาความเหงาในหมู่ผู้สูงอายุที่อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ยังมีอีกหลายคนบนโลกที่กำลังหิวโหย …
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ!? เพจขาย ‘วุฒิการศึกษา’ ถูกกว่าค่าเทอม คนแชร์ (ไปด่า) ถล่มทลายเพียบ!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากมายอยู่ในโลกออนไลน์ ณ เวลานี้ เพราะจู่ๆ ก็มีการแชร์โพสต์ประกาศขาย ‘วุฒิการศึกษาราคาถูก’ โดยมีตั้งแต่วุฒิ ม.3 ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงระดับปริญญาโทเลยทีเดียว แถมยังมีราคาอยู่ที่หลัก 2,500 บาท จนไปถึง 7,000 บาทเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอยังมีการโปรโมทโพสต์ด้วยการจัดกิจกรรมกดแชร์ลุ้นรับวุฒิ ปริญญาตรี มูลค่า 5,000 บาทไปแบบฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องเสียเวลาเรียนกันเลยทีเดียว ในโพสต์มีเนื้อหาดังนี้ “วุฒิม.3 2500 ฿ วุฒิปวช. 3900 ฿ วุฒิกศน. 4000 ฿ วุฒิม.6 4000 ฿ วุฒิปวส. 4500 ฿ วุฒิป.ตรี 5000 ฿ วุฒิป.โท 7000 ฿ กรณีกดแชร์เปิดสาธารณะลดทันที500฿ อื่นๆ.. สามารถสอบถามได้ค่ะ มัดจำ50% เริ่มงานทันที จ่ายเต็มลด10% วุฒิใช้ได้จริง ใช้ไม่ได้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน…
-
12 ภาพชุดสะท้อนสังคมยุคสมัยใหม่ จากศิลปินโปแลนด์ รู้สึกจุกแต่ก็จริงจนเถียงไม่ออก!?
ยิ่งเราโตขึ้น ก็ทำให้รับรู้เรื่องราวมากขึ้น ทั้งสิ่งที่ถูกบอกเล่ามาและประสบการณ์จริงที่พบเจอ แต่กระนั้นแล้วเราต่างก็ยังคงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ในตอนนี้โลกของเรานั้นกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน เป็นไปในแบบที่เรากำลังคิดอยู่รึเปล่า!? ด้วยเหตุนี้เอง นักวาดการ์ตูนชาวโปแลนด์ Paweł Kuczyński จึงได้ถ่ายทอดผลงานการ์ตูนที่เกิดขึ้นมาจากคำถามของผู้คนที่ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่า ฉันเป็นใคร? มีหน้าที่อะไรในสังคม? แล้วจุดหมายปลายทางของเราคือที่ไหนกันแน่? ผลงานของเขานั้น ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างมาก ด้วยการสื่อสารผ่านภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสะท้อนให้เห็นความจริงอีกด้านที่เราคิดไม่ถึงว่า มีอะไรกำลังเกิดขึ้นบ้างอยู่รอบๆ ตัวเรา ภายในสังคมยุคสมัยใหม่นี้ Paweł ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเบื้องหลังผลงานแต่ละชิ้นว่า ‘ผมได้แรงบันดาลใจมาจากความจริงที่เราต้องเจอ งานของผมก็มาจากการสังเกตช่วงเวลาอันบ้าบอที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรานี่แหละ’ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ผลงานของเขาสามารถตีความได้อย่างไม่ยากเย็น กระทั่งบางภาพก็ยังสามารถตีความไปได้ทั้งในแง่บวกและลบได้เช่นกัน ผลงานของเขาจะสอดแทรกบางอย่างเข้าไปให้เราได้ฉุกคิด และตั้งคำถามขึ้นมาเกี่ยวกับการเมือง ผลกระทบของระบบทุนนิยม การคุ้มครองผู้บริโภค ผลพวงจากสงคราม และความไม่เท่าเทียมกันที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะออกมาเป็นในแง่ลบมากกว่าแง่บวก เพื่อเสียดสีเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น #เหมียวเลเซอร์ จะไม่ชี้นำอะไรทั้งสิ้น…
-
เมื่อผมลืมหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นแท็กซี่… คนขับไปส่งฟรี แถมให้เงินไว้ใช้อีก 100 ด้วย!!
แน่นอนว่าการใช้บริการแท็กซี่นั้นคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และสามารถไปส่งถึงที่หมายได้ตรงตามที่ต้องการ เช่นเดียวกับเรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ที่รีบร้อนขึ้นรถแท็กซี่ แต่ดั๊นลืมกระเป๋าสตางค์พอมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นั่งไปบนรถแท็กซี่แล้ว แต่ดีที่คุณลุงคนขับรถแท็กซี่นั้นไม่ว่าอะไรและยินดีไปส่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เรื่องมีอยู่ว่าสมาชิกเฟซบุ๊คชื่อว่า Tanat Panichingon ได้เล่าเรื่องราวสุดแสนประทับใจที่เขาได้พบเจอมากับตัวเอง เขาเล่าว่า ในวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกและรถติด เขามีธุระที่ต้องรีบไปที่สยามฯ ก็เลยเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะไปต่อรถไฟฟ้า แต่พอขึ้นไปนั่งบนรถบอกเป้าหมายเสร็จสรรพ ก็เพิ่งมารู้ตัวว่าไม่ได้พกกระเป๋าเงินลงมาด้วย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่ 5 บาท เขาก็เลยบอกกับลุงแท็กซี่ว่าเขาลืมกระเป๋าเงิน ไม่มีเงินซักบาท พร้อมกับบอกว่าให้คุณลุงทิ้งเขาไว้ตรงนั้นเลย แต่คุณลุงใจดีก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรลุงจะไปส่งเองโดยไม่คิดเงิน แต่ด้วยความเกรงใจคุณ เขาก็ปฏิเสธเลยไป แต่คุณลุงก็ไม่ยอมและบอกว่าถ้าไม่มีเงินแล้วจะไปต่อยังไงล่ะ พร้อมกับควักธนบัตร 100 บาท มอบให้กับหนุ่ม หลังจากนั้นเขาก็ทำการขอเบอร์คุณลุงพร้อมกับเลขบัญชีไว้เพื่อทำการคืนเงินในภายหลัง แต่คุณลุงก็ยังบอกอีกว่า “ไม่เป็นไรไม่ต้องคืนแค่ร้อยเดียวเอง เรื่องเล็ก แต่เรานั่นแหละต้องกลับให้ถึงบ้านนะ” และเขาก็กล่าวทิ้งท้ายไว้ที่โพสต์ว่า “แท็กซี่ดีๆยังมีอีกเยอะมาก T-T ขอบคุณคุณลุงมากคับ ฝนก็ตก รถก็ติด ยังมาเจอลูกค้างงๆ ลืมเอากระเป๋าตังมาอีก ขอบคุณคุณลุงมากคับ คุณลุงขับรถแท็กซี่แถวบางนาเป็นหลัก ใครเจอถือว่าโชคดีมาก เป็นคนดี มีน้ำใจมากๆ” เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายโดยส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาชื่นชมความใจดีของคุณลุงคนขับแท็กซี่ บางส่วนก็บอกว่าเคยใช้บริการกับคุณลุงคนนี้ และแกเป็นคนใจดีมากๆ…
-
เอาจริงดิ!? ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ ‘ซ่องหุ่นยนต์’ อาจมีให้ใช้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า!!
ต้องขอบอกเลยว่าเรื่องของ ‘การขายบริการ’ นั้นก็เป็นที่ถกเถียงกันในสังคม ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? มันจะส่งผลดีผลเสียอย่างไรต่อสังคมอย่างไรรึเปล่า อาจจะส่งผลต่อตัวบุคคลที่เป็นคนขายบริการหรือคนที่ใช้บริการในด้านไหนกันแน่? ซึ่งหลายๆ ประเทศก็มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิดอะไรกับการเปิดให้มีการค้าประเวณีแบบเสรี แต่บางประเทศก็ไม่เห็นด้วย เพราะผิดหลักจารีตเป็นต้น แต่ถ้าธุรกิจการค้าบริการเปลี่ยนจากคนมาเป็นหุ่นยนต์แทนล่ะ? ความคิดเห็นของผู้คนในสังคมจะเปลี่ยนไปรึเปล่านะ…เรื่องนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน ซึ่งล่าสุดทางเว็บไซต์ Daily Mail รายงานถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีแบบใหม่ นั่นก็คือ ‘ซ่องหุ่นยนต์’ ที่อาจจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ประมาณปี 2025 เนื่องจากเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ของโลกเรานั้นได้พัฒนาไปมาก ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ทั้งหลาย และเมื่อมันสามารถตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานได้หมดแล้ว ที่เหลือก็มาถึงในส่วนของความต้องการด้านอื่นๆ บ้างแล้วล่ะ อย่างเช่นการสนองความต้องการทางเพศ ทั้งเซ็กส์ทอยและตุ๊กตายางต่างๆ ที่นับวันจะทำได้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น และอีกไม่นานก็คงทำให้มันขยับและโปรแกรมให้ทำอะไรก็ได้ตามที่ใจเราต้องการ ศาสตราจารย์ John Danager ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสังคมและกฎหมายจากมหาวิทยาลัย National University of Ireland ได้กล่าวว่า โสเภณีหุ่นยนต์จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับมนุษย์มากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้จะยังส่งผลให้ซ่องต่างๆ นั้นสามารถเปิดได้อย่างเสรีและไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย โดยใช้หุ่นยนต์แอนดรอยด์เพื่อเป็นตัวช่วยในการให้บริการเหล่ามนุษย์แทน นอกจากนี้ศาสตราจารย์ Danaher ยังกล่าวเสริมอีกว่า ไม่แน่หุ่นยนต์ทั้งหลายอาจจะทำกิจกรรมบนเตียงได้เก่งกว่ามนุษย์จริงๆ ซะอีก และนั่นก็ทำให้ลูกค้าติดใจและหลั่งไหลกันเข้ามาใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ …
-
ช่างภาพตามถ่ายบ้านคนรัสเซีย เพื่อต้องการสะท้อน ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ของคนจนและรวย
ในสังคมไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เราก็มักจะเห็นความแตกต่างกันของคนในสังคม โดยส่วนหนึ่งมาจากความไม่เท่าเทียมในด้านเศรษฐกิจ พูดง่ายๆ คือฐานะทางการเงินนั่นเอง รัสเซีย เองก็ถือเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงมาก เพราะคนที่รวยก็รวยมาก และคนที่จนก็จนมากเช่นกัน โดย 10% ของคนในประเทศครอบครองความร่ำรวย 85% เอาไว้ ขณะที่รายงานอีกอันระบุว่าเศรษฐีแค่ 111 คน แต่กลับครอบครองความร่ำรวยถึง 19% ของประเทศ (ราวๆ 1 ใน 5 เลยทีเดียว) ช่างภาพ Lilia Li-Mi-Yan ได้เข้าไปถ่ายรูปภายในบ้านของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละบ้าน ซึ่งแต่ละคนที่เขาได้ขอถ่ายรูปนั้น ก็เป็นคนที่เขาคุ้นเคย จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และทุกคนก็ให้ความร่วมมืออย่างดีด้วย ก่อนที่จะถ่ายรูปพวกเขานั้น เธอได้พูดคุยกับพวกเกี่ยวบทบาทการเป็นลูกจ้างหรือนายจ้าง ว่าคิดยังไง และมีความเกี่ยวของกับสองบทบาทนี้ยังไง!? ที่ต้องถามเพราะเธอจะได้รู้ว่า ควรถ่ายรูปมุมไหนในบ้านของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่ลักษณะการทำงานนั้น ขึ้นอยู่กับเพศด้วย เช่น ผู้หญิง ก็จะทำงานเป็นแม่บ้าน หรือเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เป็นต้น นายจ้างส่วนใหญ่จะเคารพและดูแลลูกจ้างอย่างดี แต่คนรับใช้ส่วนใหญ่พวกเค้าไม่ได้ให้ความเคารพนายจ้างเพราะพวกเขาแค่ต้องการหาเงินเพื่อที่จะไปหางานใหม่อีก Li-Mi-Yan บอกว่า “ฉันได้เจอกับหญิงมีอายุคนหนึ่ง ที่เลือกทำงานตามที่ตัวเองต้องการเท่านั้น”…
-
12 ภาพ ‘เสียดสีสังคมปัจจุบัน’ ได้อย่างลึกซึ้ง และซ่อนความหมายให้เราคิดตาม!!
โลกเราในปัจจุบันมีประเด็นมากมายเกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องอพยพ เรื่องเพศหรือการก่อการร้าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทุกคนคงเคยได้ประสบกันมาแล้ว ศิลปิน Gunduz Agayev ผู้เคยฝากผลงานไว้กับภาพเสียดสีสังคมมาหลายครั้งและ และครั้งนี้ก็ได้ปล่อยผลงานชิ้นใหม่ออกมาให้เราได้ขบคิดวันกว่าเขาพยายามจะสื่อถึงเรื่องอะไร…. (เหมียวสามสี ลองตีความคร่าวๆ ตามจินตนาการที่คิดว่าศิลปินคนนี้ต้องการสื่อ ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะคิดต่างกันไป) 1. ฉากหน้าของนักการเมือง!? 2. การแบ่งฝักฝ่าย ที่เกิดได้ในทุกแห่งหน 3. “…..” 4. การประท้วงแบบเดิมๆ ที่แทบจะเห็นจนชิน 5. บางครั้งความรู้และการคิดต่าง ก็ถูกตราหน้าว่าเป็นอันตราย 6. ประเทศเฟซบุ๊ค!? 7. วังวนแห่งศาสนาและทางออก!? 8. บุรุษเสียเชิงแก่สตรี!? 9. เราก็แค่สัตว์ทดลองของสิ่งที่ใหญ่กว่า 10. นกยังเป็นอิสระกว่าคน!? 11. ทุนนิยมและความอดอยาก 12. อนาคตของคนรุ่นใหม่ ใครมีความคิดเห็นของแต่ละภาพยังไงก็บอกกันได้นะ เพราะงานแบบนี้เขาสร้างมาเพื่อให้เราได้ถกเถียงกันอยู่แล้ว แต่ต้องอยู่ในหลักเหตุและผลเท่านั้นเอง…
-
ไปดู The Conjuring 2 ต้องรีบออกจากโรง ไม่ใช่ผีน่ากลัวนะ แต่ ‘คนไร้มารยาท’ น่ากลัวกว่า!!
‘มารยาท’ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารในร้านอาหาร การใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือ การดูหนังที่ฉายในโรง ควรมีความเกรงใจต่อผู้อื่นที่มาใช้บริการร่วมกับเราด้วย แต่ก็อย่างว่า คนเราเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ย่อมมีคนที่มักจะทำตัวไร้มารยาทอยู่ในสังคมร่วมกับเราอยู่ไม่น้อยเลย อย่างล่าสุดก็มีเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตเฟซบุ๊ครายหนึ่งได้ประสบพบเจอมาในโรงหนัง โดยเธอซื้อตั๋วเข้าไปชมหนังเรื่อง The Conjuring 2 แต่ดันต้องมาหัวเสียเพราะเจอกับคนไร้มารยาท ทำให้ทนไม่ไหวลุกออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่จบเรื่อง จึงได้เก็บภาพและเอามาโพสต์ระบายความอัดอั้นตันใจ โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พบกลุ่มชาย 3-4 คนส่งเสียงดังมาก ดังกว่าเสียงหนังซะอีก แถมตอนฉากที่เงียบก็ส่งเสีย แฮ่!! ให้คนอื่นตกใจกลัว ยังไม่พอมีการเอาเท้าไปพาดบนเบาะที่นั่งด้านหน้า ซึ่งแถวนั้นมีคนนั่งถัดไปจากเบาะที่เอาเท้าพาดอีก 2 ที่นั่ง มีคนส่งเสียงเตือน จุ๊ๆๆ ก็ยังไม่หยุด นอกจากนี้หนึ่งในนั้น ก็เล่นโทรศัพท์มือถือโดยไม่ปิดเสียงแจ้งเตือน ดังทั้งเสียงปุ่มกด โทรศัพท์เข้า และเมจเสจเด้ง มาเต็ม แถมแสงจากหน้าจอก็สว่างจ้าอีกด้วย ถักมาข้างๆ เธอก็มีคู่รักหญิงชายนั่งซ้อนกันบนเบาะเดียว พร้อมกับจูบปากกันเป็นระยะๆ (โอ้วหมายก้อดดด) และสุดท้ายเจ้าของโพสต์ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ฝากถึงคนทั้งหลายที่รู้ตัวว่าไม่พร้อมที่จะดูหนังร่วมกับผู้อื่น เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก็ให้ดูอยู่ที่บ้านจะดีกว่า เพราะคนอื่นที่มาดูเค้าเสียเงินมาดูเพื่อพักผ่อนจากการทำงานนที่เหน็ดเหนื่อย และต้องการใช้สมาธิในการดู…
-
ร่วมตีความ 23 ภาพศิลปะที่แสดงให้เห็นว่า สังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยปัญหาขนาดไหน!!
ในยุคปัจจุบันแม้เทคโนโลยีและวิถีชีวิตของมนุษย์จะก้าวหน้าไปมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาหลายๆ อย่างเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน ซึ่งหลายๆ อย่างนั้น ได้ส่งผลกระทบที่ต่อมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 23 ภาพวาดสะท้อนความโหดร้ายในสังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน จะเป็นยังไง มาลองตีความกันดีกว่า!! ความเครียดในชีวิต เรากำลังถูกโทรศัพท์ยึดครอง บางครั้งความสร้างสรรค์ก็ถูกกักขังไว้ในกรง การพัฒนาทางวัตถุที่กลวงโบ๋ ความสวยงามแบบปลอมๆ ความงดงามของร่างกายขึ้นอยู่กับใคร? การหลั่งไหลของความรู้ ความเท่าเทียมของชายหญิง ชีวิตนี้มีแต่งาน งาน แล้วก็งาน โลกร้อนด้วยน้ำมือใคร? การทำงานของสมอง เลือดตาแทบกระเด็น ความรักของธรรมชาติ รอ..เพื่อที่จะเติบโต (ตามทางของใคร?) ความชั่วร้ายที่ถูกกักเก็บไว้ ความพยายามที่จะเป็นอิสระ วิถีของเงิน ร่างกายของผู้ชายในอุดมคติ มีคนจับตาดูคุณอยู่เสมอ…
-
แก้ไม่ได้!? จากทางเท้าสู่ทางจักรยานจตุจักร พ่อค้าแม่ค้าแห่ตั้งร้านค้าขายของกันเพียบ
นับว่าเป็นปัญหาที่คารังคาซังมานานพอสมควรแล้ว สำหรับปัญหาการยึดพื้นที่ตั้งเป็นร้านขายของบนทางเท้า ซึ่งล่าสุดลามมาจนถึงทางจักรยานกันแล้วล่ะ!! เพราะมีภาพที่โผล่เข้ามาในโลกโซเชียล เผยให้เห็นพฤติกรรมที่ยังคงเป็นเช่นเดิมของพ่อค้าแม่ค้าริมทาง ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร แม้จะมีการออกมาตรการกวดขันกันไปแล้ว การยึดพื้นที่เพื่อขายของก็ยังไม่หมดไปเสียที บริเวณดังกล่าวเป็นถนนกำแพงเพชร 3 ติดกับรั้วตลาดนัดจตุจักร ภายหลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ไปในวงกว้าง ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตจตุจักรชี้แจงว่าจะเข้าไปกำชับเพื่อห้ามการตั้งร้านค้าและสิ่งกีดขวางบนทางจักรยาน หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับอยู่ที่ 200 – 2,000 บาท ทั้งนี้ผู้ค้าหลายรายมักจะขอผ่อนผันเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่ในการค้าขายมานาน แต่ถ้าหากว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่มีการควบคุมอย่างจริงจัง เราก็คงจะได้เห็นทางเท้า ทางจักรยานกลายมาเป็นที่ตั้งร้านค้าก็ต่อไปเรื่อยๆ ที่มา : tlcthai, Black Hat
-
26 ภาพ “ด้านมืดของสังคมยุคใหม่” ที่ทำออกมาให้เราได้ตีความจนต้องถกเถียง!!
สิ่งหนึ่งที่สามารถอธิบายคำเป็นล้านๆ นั่นก็คือภาพวาดนั่นเอง ศิลปินชาวโปแลนด์คนหนึ่งนามว่า Igor Morski ได้สร้างภาพแนวเซอร์เรียลขึ้นมา เพื่อซ่อนข้อความบางอย่างไว้ให้คนทั่วไปได้ตีความกันเอาเอง โดยภาพที่เขาวาดมานั้นพยายามจะเสียดสีสังคมปัจจุบัน โดยภาพชุดนี้ได้วาดลงในนิตยสาร Wprost ซึ่งแต่ละภาพนั้นก็สื่อความหมายได้หลากหลายมากๆ บางภาพก็ตีความยากสุดๆ เราไปชมผลงานของเขากันเลย 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22.…
-
พาไปเยี่ยมชม ‘บ้านพักพิงน้องหมาจรจัด’ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศอิหร่าน!!
ทุกวันนี้องค์กรเพื่อช่วยเหลือสัตว์นั้นมีมากมาย บ้านพักสำหรับสัตว์จรจัดก็มีมากเช่นเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลากหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกฟากหนึ่งของโลก บางประเทศก็มีบ้างแต่น้อยมาก บางประเทศก็ไม่มีเลย อย่างเช่นในประเทศอิหร่านแห่งนี้ มีปัญหาของสุนัขจรจัดเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาดูแลจัดการเรื่องนี้เลย จนกระทั่งการก่อตั้งบ้านพักพิงของสุนัขจรจัดเป็นแห่งแรกของประเทศอิหร่าน ศูนย์ Vafa Animal Shelter ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 จากการตั้งคำถามของ Fatemeh Motamedi ผู้ก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ ‘ทำไมอิหร่านถึงไม่มีบ้านพักพิงสัตว์เหมือนอย่างประเทศอื่นบ้างล่ะ?’ โดยศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Hashtgerd อยู่ห่างจากเมืองหลวง Tehran ของประเทศอิหร่านไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นบ้านสำหรับเหล่าน้องหมาจรจัดเพื่อพักฟื้นและเยียวยาจิตใจ รอวันที่จะได้พบกับเจ้าของใหม่รับไปดูแลให้มีชีวิตที่ดีต่อไป สำหรับสุนัขจรจัดที่เข้ามายังศูนย์แห่งนี้จะได้รับการทำหมัน เพื่อควบคุมปัญหาการเพิ่มจำนวน ได้รับอาหารโภชนาการที่เหมาะสม และมีการพาพวกมันไปเดินเล่นอย่างที่พวกมันควรจะได้รับตามประสาสุนัข (ทำให้อารมณ์ดีมากขึ้น) ด้วยจำนวนสุนัขที่มีมากกว่า 700 ตัว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันดูแลเจ้าตูบทุกชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้…
-
วิธีการรับมือของคุณแม่เมื่อรู้ว่าลูกชายสูบบุหรี่ นี่แหละคือความรักและความห่วงใยของแม่!!
ในช่วงหนึ่งของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่จะต้องเตรียมรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในตัวลูก ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มักจะพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ทั้งดีและไม่ดี อย่างเช่นในเรื่องของการสูบบุหรี่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อตัวเองและผู้อื่นด้วย และแล้วถ้าเกิดว่าวันหนึ่งลูกลองสูบบุหรี่ขึ้นมา คุณพ่อและคุณแม่จะรับมืออย่างไร อาจจะมีการว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงการกระทำอันรุนแรง เพื่อที่จะห้ามปราม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัว และหนึ่งในสิ่งที่คุณ Siwagorn Muangsawad ได้ทำการตั้งกล้องวิดีโอแอบเอาไว้ แล้วก็ทำท่าเป็นสูบบุหรี่อยู่ภายในห้องและตั้งใจให้คุณแม่เห็น โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว แต่ที่ทำไปเพราะอยากจะรู้ว่าคุณแม่จะทำอย่างไรถ้าลูกตัวเองสูบบุหรี่!? จะเป็นอย่างไรเมื่อแม่เห็นเราสูบบุหรี่? โดนแม่จับได้!! แม่เห็นเราสูบบุหรี่แล้ว? Posted by Siwagorn Muangsawad on Friday, February 12, 2016 ความรักและความห่วงใยของคนเป็นแม่นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งใด เพราะอยากจะให้ลูกได้รับแต่สิ่งดีๆ สุดท้ายนี้ วันแห่งความรักก็อย่าลืมไปบอกรักคุณพ่อคุณแม่กันด้วยนะจ๊ะ ที่มา : Siwagorn Muangsawad
-
หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบออกเดทกับแม่ เพื่อเรียนรู้ความรับผิดชอบ เตรียมพร้อมเป็นสุภาพบุรุษที่ดี!!
เรื่องราวอันแสนประทับใจของหนุ่มน้อยวัย 6 ขวบจากประเทศสหรัฐอเมริกา นามว่า Lyle Paulun ลูกชายของอดีตดาวรายการเรียลลิตี้ทางโทรทัศน์ Nikkole Paulun โดยที่เธอนั้นได้ทำการโพสต์ภาพลูกชายของเธอในขณะที่กำลังงมหาเงินในกระเป๋าเพื่อจ่ายค่าอาหารในช่วงที่พาคุณแม่ไปออกเดท!? พอเห็นแบบนี้แล้ว การที่เด็กตัวเล็กๆ หัดออกเดท มันจะดูเป็นเรื่องที่ยังไม่สมควรซักเท่าไหร่ แต่สำหรับคุณแม่ Nikkole ก็ได้มองเห็นในมุมมองที่แตกต่างออกไป ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เพราะเป็นการฝึกให้ลูกชายรู้จักรับผิดชอบและเป็นการสร้างนิสัยสุภาพบุรุษ เธอได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ฉันได้สอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้กับเขาว่าการที่นั่งทานอาหารกับแม่หรือคนอื่นๆ พร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วยเป็นการเสียมารยาท เขารู้จักคุณค่าของเงินและรู้จักที่จะจัดการมัน เขาได้เรียนรู้คณิตศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ จากการที่จะต้องคิดค่าทิป 15% ของค่าอาหาร’ ‘ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาควรได้เรียนรู้ มันไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการสอนลูกๆ ให้รู้จักเคารพผู้อื่น โดยเฉพาะกับผู้หญิง’ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมาก ชาวเน็ตต่างก็ชื่นชมและอีกส่วนต่างก็ตำหนิว่าเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะสื่อ แต่มันเหมือนเป็นการบังคับลูกชายของเธอมากเกินไป อย่างเช่นการบังคับให้ลูกชายจ่ายเงินค่าอาหารให้ Nikkole เองก็ได้ตอบกลับไปว่าเธอไม่ได้บังคับลูกชายของเธอให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำเลยแม้แต่น้อย ลูกชายของเธอขอจ่ายเอง เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากๆ อีกทั้งเธอก็ได้ให้เงินลูกชายเพิ่มเพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำอีกด้วย น่ารักมากๆ เลยแฮะ ที่มา : unilad
-
19 ภาพการ์ตูนสะท้อนความเป็นจริงภายในสังคมปัจจุบัน เราเป็นแบบนี้แต่ไม่เคยรู้ตัวเลย!!
อันที่จริงแล้วเราอาจจะคิดว่าสังคมและความเป็นอยู่ของเราตอนนี้มันดี มันสบาย ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย แต่ลึกๆ แล้วภายในสังคมที่เราคิดว่ามันดี ความจริงภายในเปลือกเหล่านั้นกลับแย่ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและจิตใจของมนุษย์ที่ไม่เคยพอ ทั้งนี้ก็อยากจะขอนำเสนอภาพวาดการ์ตูนสั้นๆ ทั้ง 19 ภาพ อาจจะเข้าใจยากนิดหน่อย แต่ถ้าพอเข้าใจแล้วจะรับรู้ได้ว่าสังคมที่แท้จริงของเรามันเป็นอย่างไร มันน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีกแหนะ มนุษย์สูบบุหรี่และบุหรี่ก็สูบร่างกายมนุษย์เช่นกัน โลกสังคมออนไลน์ที่ปราศจากความคิด หน้าไหว้ หลังหลอก โรคเสพติดไลค์ เอาแต่ถ่ายรูปลงโซเชียลก็ไม่ต่างไปจากการจ่อปืน ทั้งที่อยู่ต่อหน้ากัน กลับที่จะจดจ่ออยู่กับจอสี่เหลี่ยม ความสัมพันธ์ของคู่รักในปัจจุบัน อวัยวะและร่างกายที่มีไว้เพื่อขาย ความเจริญของมนุษย์คือการปล้นความงามไปจากธรรมชาติ คนเราเกิดมาไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะศรัทธาตามความเชื่อของตัวเอง สิ่งที่ปล้นความสนใจไปจากหนังสือสาระความรู้และความบันเทิงใจในรูปแบบเก่า มัจจุราชฆ่าเวลา ค่านิยมความสวยของผู้หญิงที่มักจะมีเหมือนๆ กัน แต่แตกต่างกันที่ความรู้ ผู้หญิงสวยก็มักจะมีผู้ชายเข้ามาหาเสมอ แต่จะเข้ามาด้วยจุดประสงค์ไหน กับดักโซเชียลที่คอยฉุดรั้งเอาไว้ กิจกรรมที่ทำในเวลาว่าง ในยุคที่เกิดมาแตกต่างกัน ยิ่งนอนนาน…
-
เมื่อผมสอนวิชาประวัติศาสตร์…คุณครูเผยภาพสมุดของนักเรียน อธิบายประวัติศาสตร์ได้เข้าใจง่ายม๊าก!!
หากจะพูดถึงวิชาที่น่าเบื่อ ที่ไม่ว่าใครได้เรียนก็หลับกันเป็นแถว เห็นจะหนีไม่พ้นวิชาประวัติศาสตร์ละนะ เพราะมีรายละเอียดที่เยอะมากกก ใครทำอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน แถมยังเป็นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว การจะให้มานั่งท่องจำ อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย และด้วยความยากของวิชานี้เอง ทำให้เด็กๆ ต้องการวิธีในการจดจำ เช่นการจดโน๊ตเล็กๆ ไว้ในกระดาษ การใช้ปากกาไฮไลท์เพิ่มสีสัน หรือแม้แต่การวาดรูปก็ช่วยให้เนื้อหาในตำรานั้นน่าจดจำได้เหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เมื่อไม่นานมานี้เหมียวได้ไปเจอเข้ากับภาพชุดหนึ่งจากเฟซบุ๊กของคุณ Chonlapoom Banharn ซึ่งเป็นคุณครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนสาธิตมศว. ปทุมวัน เป็นภาพสมุดวิชาเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่จดได้ละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมกับวาดภาพน่ารักๆ ประกอบไปด้วย ทำให้วิชาที่น่าเบื่อ กลายเป็นวิชาที่ง่ายต่อการเข้าใจมาก . . . . . . . . . . . . . . . . . ทั้งนี้คุณครูยังได้บอกผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า อยากให้มีสำนักพิมพ์สักแห่งจ้างนักเรียนคนนี้ไปวาดรูปให้เหลือเกิน…
-
[เหมียวชวนคุย] ร่วมแชร์ประสบการณ์เพี้ยนๆ เวลาคุณเมา เคยทำอะไรกันมาบ้างล่ะ?
การพบปะสังสรรค์ถือเป็นการพบปะพูดคุยกันกับกลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน กับลูกค้า ญาติโกโหติกา หรืออะไรก็แล้วแต่ มักจะต้องมีการดื่มแอลกอฮอล เพื่อช่วยเพิ่มสีสันและความสนุกสนานแก่วงสนทนานั่นเอง แต่การจะดื่มให้สนุกสนานและมีลิมิตที่พอเหมาะพอดีนั้นถือเป็นเรื่องยากนะ เพราะบางคนเมื่อแอลกอฮอลเข้าปากปุ๊บ ก็ยกดื่มกันเป็นน้ำเปล่าเลยทีเดียว ทำให้เกิดอาการเมาปลิ้นจนทำอะไรน่าอายๆ ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับกระทู้หนึ่งในเว็บไซต์พันทิป ที่ว่าด้วยเรื่องของอาการเมาแล้วชอบทำอะไรเพี้ยนๆ บ้างหรือเปล่า? เราลองมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละคนทำอะไรหลุดๆ กันมาบ้าง? แก้ผ้า!? จูบเพื่อน? เดินไปกลางถนน อันตรายนะนั่น กระชากไมค์ขาดทุกที หัวหนุนฟุตบาท เมาแล้วกระโดดเข้าพุ่มไม้ ได้เมียเลยทีเดียว ตัด…เอ่อ… เมาและกระโดดออกจากโรงแรม!? ไล่หอมแก้มเพื่อน ที่เหมียวหยิบกระทู้นี้มาเล่าให้เพื่อนๆ อ่านกันไม่ใช่เพราะอยากสนับสนุนให้ทุกคนเป็นนักดื่มนะ แต่อยากให้ดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง ในเวลาที่เราต้องอยู่ในวงสังสรรค์ จะได้ไม่ดื่มหนักจนสติสตางค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงล่ะ ที่มา pantip
-
นี่ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่มันคือข้อความที่ศิลปินต้องการจะสื่อถึงคนยุคนี้ โดย Sebastian Pytka
ศิลปินนามว่า Sebastian Pytka ชาวโปแลนด์ ได้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมาโดยใช้เรื่องที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวันมาเป็นประเด็น ซึ่งแต่ละอย่างนั้นมีอิทธิพลต่อเราเป็นอย่างมาก บางภาพเป็นการสื่อทางสัญลักษณ์ และบางภาพก็มีการเล่นคำจนยากเกินที่เราจะเข้าใจได้ และทุกภาพนั้นเขาพยายามจะสื่อถึงโลกสมัยใหม่ที่เป็นอยู่ ถ่ายทอดผ่านความคิดของเขาทั้งหมด เราไปดูกันว่าแต่ละภาพจะลึกซ้ำมากแค่ไหน ชื่อภาพ Facebook เป็นรูปมือที่มีตัว f ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเฟซบุ๊กกำลังล็อคมือของเราไว้ ศิลปินน่าจะสื่อถึงการขังตัวเองอยู่แต่ในโซเชียล หรือบางที เราอาจจะถูกโลกโซเชียลขังเอาไว้แทนก็เป็นได้ ชื่อภาพ Death Star Death Star เป็นดาวที่อยู่ในหนังเรื่อง Star Wars ซึ่งเป็นดาวที่ฝ่ายด้านมืดใช้เป็นฐานทัพ อันนี้เหมียวก็ไม่ทราบความหมายจริงๆ ของมัน เพื่อนๆลองตีความกันดู ชื่อภาพ Sign เหมือนว่าศิลปินต้องการจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องเพศ เนื่องจากตามป้ายต่างๆ เราจะเห็นเครื่องหมายเป็นรูปผู้ชายเสียหมด จนเด็กไร้เดียงสาบางคนถึงกับต้องวาดภาพแม่ใส่ลงไปด้วยเพื่อให้เติมเต็มเป็นครอบครัว เพื่อให้ผู้หญิงได้มีบทบาทมากขึ้น (เหมือนอย่างที่เฟซบุ๊กใช้เปลี่ยนไอคอนรูปผู้หญิงให้นำหน้าผู้ชายแล้ว) ชื่อภาพ In a relationship เหมือนจะสะท้อนว่าคนสมัยนี้จะจีบกันจนถึงขั้นแต่งงานด้วยนี่ต้องมีความสัมพันธ์กันในเฟซบุ๊กก่อน เหมือนเฟซบุ๊กเป็นตัวสื่อมากกว่าการได้โทรคุยกันหรือพูดคุยกัน ชื่อภาพ Break glass ในช่วงที่มีการก่อการร้ายสูง ภาพนี้จึงสื่อว่าควรมีตู้ที่เก็บปืนเมื่อเกิดการก่อการร้าย โดยคอนเซ็ปต์ก็เหมือนตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สามารถทุบกระจกแล้วหยิบเอาสายดับเพลิงหรือขวานออกมาใช้ยามฉุกเฉิน…
-
เหล่าชายจีนเริ่มนิยมคบหากับ ‘ตุ๊กตายาง’ แทนผู้หญิงจริง ไม่อยากเจอปัญหาความสัมพันธ์!!
เรื่องของตุ๊กตายางเพื่อปรนเปรอทางด้านอารมณ์ทางเพศนั้นมีมานานแล้ว จุดประสงค์ของการสร้างมันขึ้นมาก็เพื่อสิ่งเดียว นั่นคือการสนองความต้องการทางเพศของเหล่าชายวัยกลัดมัน แต่ทว่าตอนนี้มันไปไกลเกินกว่าจะคิดเช่นนั้นแล้วล่ะ ด้วยสภาพสังคมของจีน ความรุนแรงและหึงหวงเป็นเรื่องธรรมดาของผู้อันเป็นที่รัก เรามักจะเห็นบ่อยๆ ว่าภรรยาชาวจีนนั้นจะหึงแรงมาก มีทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งตบ ไหนจะสิ่งของของสามี รวมไปถึงชู้ของสามีด้วย ทางออกของเหล่าชายจีนที่เหลือก็คือการหันมาคบกับตุ๊กตายางแทน!? เพราะด้วยความที่แทบจะเหมือนคนจริงๆ สวยตามสเป็คในฝันที่เลือกได้ ไม่มีบ่น อยากตอนไหนก็จัด เหล่าตุ๊กตายางจึงเป็นทางเลือกที่เหลือนั่นเอง และไม่อยากจะเจอในเรื่องของปัญหาความสัมพันธ์ การหึงหวงอันหนักหน่วง การบ่นจู้จี้จุกจิก อ่าห์!! มันก็แล้วแต่คนจะคิดเนอะ นานาจิตตัง แต่เหมียวว่ามันก็แปลกๆ อยู่ดี ที่มา : shanghaiist, fooyoh
-
17 ภาพวาด ตีแผ่อีกแง่มุมสะเทือนใจของสังคมญี่ปุ่น ที่ชาวต่างชาติอาจไม่เคยรู้มาก่อน!!?
สำหรับประเทศญี่ปุ่น ก็เรียได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรมีคุณภาพสูงมาก แถมยังเป็นประเทศที่น่าอยู่ รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชากรก็เรียกได้ว่าสูงจนหาคนเทียบยากเลยล่ะ แต่ถึงจะดีจนประชากรในหลายๆ ประเทศอื่นๆ อิจฉา ก็เหมือนกับทุกๆ คน ที่ย่อมมีปัญหา และอีกด้านที่คนไม่ค่อยได้เห็นกัน และวันนี้เหมียวขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพสะท้อนสังคมอีกด้านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ลองมาตีความหมายจากภาพกันดูนะจ๊ะ ผู้คนกับรถไฟ ชาวญี่ปุ่น ห้อง คนทำงาน?? อาหาร โรงงานมนุษย์ การทำงาน โรงเรียน สัมภาษณ์ เติมพลัง มือถือ แบกงาน วิถีชีวิต ตัวตนที่แท้จริง ช็อปปิ้ง พนักงานบริการ ภาพแต่ละภาพนี่ความหมายลึกซึ้งจริงๆ เหมียวก็ตีความออกไม่หมดทุกภาพหรอกนะเนี่ย -*- แต่ดูแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจแปลกๆ ล่ะว่ามั้ย… ที่มา: Robmy
-
จากใจไบค์เกอร์ ความเห็นของผู้ขับขี่ท่านหนึ่ง หลังถูกตราหน้าว่า บิ๊กไบค์ = ขยะสังคม!!?
เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะกระแสสังคมในช่วงนี้ที่เรียกได้ว่า กลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ ถูกมองหรือนำไปเปรียบเทียบกับพวก ‘เด็กแว้น’ หรือบางทีหนักจนถึงขั้นเป็น ‘ขยะสังคม’ กันเลยทีเดียว ทั้งการขับรถด้วยความเร็วสูงเอย การที่ท่อไอเสียส่งเสียงดังจนมากเกินไปในที่ชุมชน และที่สุดจะรับได้นั่นก็คือมารยาทในการใช้ถนนของผู้ขี่บางกลุ่มที่สุดจะบรรยาย จนทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ในสังคมค่อนข้างรุนแรง จนผู้ใช้รายอื่นถูกตราหน้าแบบเหมารวมไปด้วย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊คของคุณ Tum Woradech Siripornjutakul ก็ได้โพสต์เนื้อหาและข้อมูลที่น่าสนใจเลยทีเดียว เกี่ยวกับผู้ขับขี่ มุมมองของเขา และแน่นอนมุมมองของสังคม ที่เรียกได้ว่าตรงกันสุดๆ เลยล่ะ ลองมาชมมุมมองของเขากัน ก็น่าเห็นใจอยู่นะเหมียวว่า เพราะถ้าเราคิดกันแบบใจที่เป็นกลางแล้ว คนดี-เลว มีปะปนกันไปหมดทุกๆ สังคม และแน่นอนความเลวที่เราได้เห็นนั้น เราก็มักจะติดภาพนั้นๆ มากกว่าความดี ก็ต้องระวังกันในเรื่องนี้… รูปภาพจากโพสต์ของคุณ Tum Woradech Siripornjutakul อีกหลากหลายมุมมองจากชาวเน็ต ทั้งเห็นด้วย …
-
หมี่เหลือง!! หนุ่มถึงกับงง มารอเพื่อนกินข้าวอยู่ดีๆ โดนหาเรื่องใช้ตะเกียบแทงที่คอหน้าตาเฉย
สังคมไทยเดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันไปหมด ผู้คนอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าอุณหภูมิของแดดซะอีก ชนิดที่ว่ามองหน้ากันแค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เดือดยิ่งกว่าน้ำร้อนในกาเพื่อต้มมาม่า!! โดยที่เรื่องราวนี้มาจากคุณ ป๋อง ณ.คลองเตย เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2558 ในขณะที่เขาออกไปกินข้าวนอกบ้าน และมาแวะที่ร้านข้าวหน้าเป็ดซอยปรีดี 31 มาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน โดยมีคู่กรณีตามมานั่งทีหลัง ช่วงแรก มื้อนี้อร่อยถ้ากูกินไวคงไม่โดน มานั่งรอกูคนเดียว บอกแล้วว่ากินข้าวช้าถึงไม่ชอบกินนอกบ้าน Posted by ป๋อง ณ.คลองเตย on Sunday, October 11, 2015 โดยในช่วงแรกๆ ก็นั่งทานข้าว ทานก๋วยเตี๋ยวกันไปตามปกติ สงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาใดๆ จู่ๆ พ่อหนุ่มเสื้อเขียวก็หันหน้าไปทะเลาะกับโต๊ะด้านหลังตัวเอง ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วย จ้องตากันแป๊บเดียว ไม่ทันไรก็คว้าตะเกียบที่ใช้ทานก๋วยเตี๋ยวแทงไปที่คอพ่อหนุ่มเสื้อดำทันที มื้อนี้อร่อย เพื่อนชวนผมกินข้าว Posted by ป๋อง ณ.คลองเตย on Sunday, October 11, 2015…
-
ก็เอาซิ๊!! หลังมีประกาศโพสต์รูปแอลกอฮอล์ลงโซเชียลผิดกฏหมาย ชาวเน็ตแห่โพสต์กันตรึม
กลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตในบ้านเมืองประเทศไทยกันเลยทีเดียว จากจุดเริ่มต้นที่มีดาราคนดังโพสต์รูปภาพเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่เต็มอินสตาแกรม แบบให้เห็นฉลากยี่ห้อกันแบบโต้งๆ เข้าข่ายการโฆษณาแฝง ซึ่งทาง สคบ. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้ออกมาประกาศว่า ดาราที่โพสต์รูปภาพดื่มเบียร์หรือถือขวดเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26 ว่าด้วยฉลาก สคบ.แจงดาราโพสต์IGดื่มเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26ว่าด้วยฉลาก ด้าน สตช.เตรียมเรียกดารา 24 คน เข้าสอบเพิ่มเติม ไม่เพีย… Posted by Voice TV on Saturday, October 10, 2015 ตามรายงานดังกล่าว นอกจากดาราจะโดนแล้ว คนทั่วไปก็โดนเหมือนกันหากมีการโพสต์รูปภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียล ซึ่งหลังจากได้ยินและได้เห็นกันไปแล้วว่ายังไงก็ไม่รอดแน่นอน ชาวเน็ตไทยทั้งหลายก็เลยพร้อมใจกันประชดประชันผ่าน #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล กันไปเลย ได้เวลาเตรียมหม้อไฟ #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล -@size_sss Posted by Suvinit Aum Pornnavalai on Saturday, October 10, 2015 ดื่มใกล้หมดขวดละ เตือน…
-
เหตุผลที่ว่าทำไมพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจึงปล่อยให้ลูกอายุเพียง 6-7 ขวบเริ่มพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก!?
หากเราได้เคยสัมผัสหรือรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าเด็กเล็กอายุเพียงแค่ 6-7 ขวบโดยประมาณ เดินไปไหนมาไหนคนเดียว ใช้บริการรถสาธารณะเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางนั่นก็คือโรงเรียนนั่นเอง เหมือนกับผู้ใหญ่ที่เดินทางไปทำงานในแต่ละวัน ไม่เหมือนกับวัฒนธรรมในบ้านเราที่จะต้องมีพ่อแม่พาไปส่งโรงเรียนในทุกๆ เช้า แตกต่างกับนักเรียนญี่ปุ่นในวัยประถมศึกษาที่จะเห็นได้ว่ามาด้วยตัวคนเดียว และเลือกที่จะเดินเท้าไปขึ้นรถไฟเพื่อไปโรงเรียน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะฝึกให้ลูกๆ ของตนรู้จักที่จะพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย และไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็จะพยายามฝึกให้ลูกของตัวเองรู้จักที่จะไปไหนมาไหนและทำอะไรด้วยตนเองให้ได้ อย่างเช่นหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบนามว่า ไคโตะ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ citylab ในกรณีนี้ว่าเขาเริ่มนั่งรถไฟด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ‘ครั้งแรกของผมเป็นอะไรที่รู้สึกกังวลมาก แม้ว่าผมจะสามารถนั่งรถไฟไปเองได้แต่ก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย’ ซึ่งปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับเขาอีกต่อไป แต่ก็ใช่ว่าทางพ่อกับแม่จะไม่รู้สึกเป็นห่วง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง แต่พอปล่อยให้เขาได้ลองซักครั้งเนื่องจากคิดว่าโตแล้ว ก็ควรที่จะทำได้เพราะเด็กคนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่ทางด้านแม่เลี้ยงของไคโตะเปิดเผยว่า ‘เพราะฉันคิดว่ารถไฟนั้นปลอดภัยและตรงเวลามาก ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าเขาจะกลับบ้านไม่ตรงเวลา แถมเขายังเป็นเด็กที่เก่งด้วย’ ‘ฉันนั่งรถไฟด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมีอายุน้อยกว่าเขาซะอีก แถมตอนนั้นก็อยู่ในโตเกียวด้วย ในสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังสามารถไปถึงจุดหมายจากจุด A ไปถึงจุด…
-
คำพูดและภาพที่สะท้อนทัศนคติของสังคมไทย เสียดสีแค่ไหน ลองถามใจตัวเองดู!?
ช่วงนี้บ้านเมืองของเราดูเหมือนจะสงบเรียบร้อยเป็นพิเศษ ต่อก็ยังมีคลื่นใต้น้ำที่คอยสร้างความสั่นคลอนได้อยู่เรื่อยๆ ดูไม่มีทีท่าว่าจะสงบกันได้ง่ายๆ แต่ว่าปัจจุบันนี้ในสังคมไทยเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย (รึเปล่า) ทั้งในเรื่องของความเชื่อและความคิดต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ทั้งนี้ ชุดรูปภาพที่จะได้รับชมต่อไปนี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจริงหรือไม่ ลองมาพิจารณากันดีกว่า ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับแง่คิดของสังคมไทย หากใครอยากจะลองวิเคราะห์และพิจารณาแนวทางของสังคมสามารถไปติดตามได้ที่เพจ พุทธยาศาสตร์ เลยจ้า
-
เบื้องหลังความจริงของสโลว์ไลฟ์ แท้จริงแล้วแทบไม่ได้ต่างไปจากชีวิตจริงเลย!!
เดี๋ยวนี้อะไรก็กลายเป็นสโลว์ไลฟ์ไปเสียหมด เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนเราเริ่มเปลี่ยนไป อยากจะทำอะไรให้มันดูแตกต่างและฮิปๆ บ้าง แบบว่าชีวิตตอนนี้ดีมาก ทำอะไรก็ดูเก๋ไปหมด!! แต่หารู้ไม่ว่าการถ่ายภาพเหล่านี้จะต้องผ่านกรรมวิธีการ ‘สร้างภาพ’ ที่คิดไม่ถึงกันแน่นอน กว่าจะมาเป็นภาพแบบสโลว์ไลฟ์ที่ลงอยู่ในโซเชียลมีเดียต่างๆ เบื้องหลังจะเป็นอย่างไรหนอ? และแล้วด้วยผลงานการนำเสนอของคุณ Chomp’oo Baritone ที่ได้ทำการถ่ายภาพเสียดสีสังคมยุคปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมที่ทำเท่ตามๆ กัน สร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีและมีสไตล์ ซึ่งก็เป็นเพียงแค่การทำกระแสเท่านั้น ภาพถ่ายเชิงศิลป์slow life คืออะไร? มันดียังไง ภาพถ่ายเสียดสีสังคม พฤติกรรมมนุษย์ในปัจจุบัน ตามกระเเสติดเเทรน สื่อให้เห… Posted by Chomp’oo Baritone on Wednesday, September 2, 2015 ที่มา : Chomp’oo Baritone
-
16 “ความจริงอันน่าเศร้า” ที่เกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันของเรา ตรงซะจนเจ็บจี๊ดๆ
สังคมในปัจจุบันนี้มันก็ยากที่จะบรรยายว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางทีเราอาจจะเห็นมันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ซึ่งไม่แปลก สังคมย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ขึ้นอยู่กับว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมันดีขึ้นหรือแย่ลง Steve Cutts คือช่างภาพคนหนึ่งที่ครั้งหนึ่งชีวิตมีทางเลือกอยู่สองทางคือไปเป็นพนักงานร้านแมคโดนัลด์ หรือจะไปเรียนศิลปะ ซึ่งเขาก็ได้เลือกอย่างหลัง เขาทำงานที่ Glueisobar ในตำแหน่งคนเขียนสตอรี่บอร์ดก่อนที่จะมาเป็นฟรีแลนซ์ เขาได้ทำภาพที่เสียดสีสังคมปัจจุบันไว้มากมาย และโด่งดังเป็นอย่างมาก และนี่คือส่วนหนึ่งในผลงานของเขา เราไปดูกันเลยดีกว่า… วงจรอุบาทว์ที่ไม่สามารถหลีกหนีจากมันได้ เมื่อก่อนเราเป็นผู้ควบคุมสัตว์เลี้ยงของเรา แต่ตอนนี้มือถือมันกำลังครอบงำเราแล้ว ถ้าไม่มีมันเหมือนเราจะอยู่ไม่ได้ วงจรชีวิตเรามมันก็เหมือนหนูถีบจักร ซ้ำเดิมอยู่ทุกวัน อย่าตกเป็นเหยื่อของกับดักที่มีชื่อว่า “เงิน” สังคมก้มหน้าจะทำให้เรากลายเป็นซอมบี้ โลกเราต้องเสียอะไรไปมากมายให้กับนายทุนที่หวังแต่ผลประโยชน์ทางการเงิน เราบริโภคอาหารขยะมากขึ้นจนร่างกายไม่สามารถต้านไหวได้ แต่พอเราป่วย เราก็เอาแต่กินยา แทนที่จะหยุดกินอาหารเหล่านั้น ต้องสังเวยสัตว์หลายตัว กว่าจะได้มาเป็นอาหารของพวกเรา วันจันทร์ เหมือนเป็นฝันร้ายไปเสียแล้วสำหรับคนปัจจุบัน จะมีกี่คนนะ ที่กล้าออกมาต่อต้านระบอบต่างๆ ที่ดูว่ามันไม่ถูกต้อง อย่าให้สัตว์เลี้ยงทำให้ชีวิตของคุณพัง นายทุนย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองสบาย บางทีซานตาครอสอาจจะไม่ใช่เหมือนที่เราคิดในตอนเด็กๆก็ได้ สิ่งที่เราดูอยู่ในทีวีทุกวัน…
-
โอ้มายเมี๊ยว!? เว็บไซต์หาคู่เล่นชู้หน้าใหม่โผล่ในไทย คำโปรยเกินจะบรรยาย!!
เดี๋ยวนี้โลกออนไลน์มันไปไกลซะเหลือเกินนะพี่ชาย เหมียวก็พอรู้มาบ้างว่ากระแสของเว็บไซต์หาคู่นั้นมีมานานแล้วในต่างประเทศ แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างเปิดเผยซะขนาดนี้!! เรื่องราวนี้นำมาจากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่งเปิดเผยถึงรายละเอียดของหน้าเว็บไซต์หาคู่ดังกล่าว ที่ออกไปในแนวทางชู้สาวสุดๆ จะเห็นได้ว่ามีให้เลือกแนวทางความสัมพันธ์แบบมีเจ้าของแล้วด้วย อื้อหือ!! ที่น่าตกใจก็คือเว็บไซต์หาคู่นี้จะเน้นแบบผู้ที่แต่งงานแล้วด้วยนะ สโลแกนของเว็บก็ตรงไปตรงมาซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าทางการของประเทศไทยจะมีแนวทางในการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เพราะจะนำไปสู่ปัญหาครอบครัวอีกมากมายอย่างแน่นอน ที่มา : pantip
-
ถลกหนังแมว!! เจาะลึก “Minions” มากกว่าความฮาคือหนังพีเรียดเสียดสีสังคม
ในช่วงนี้หลายคนคงได้ไปดูการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง “Minions” ที่เราตั้งตารอคอยมานาน หลังจากได้ฟินไปกับพวกมันในอนิเมชั่นก่อนหน้านี้ คือ “Despicable Me” และ “Despicable Me 2” แต่ครั้งนี้เราจะได้ดูเจ้ามินเนี่ยนเต็มๆ 1 ชั่วโมงครึ่งกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อมีมินเมี่ยนก็ต้องมีความฮาและความน่ารัก ซึ่งประเด็นนี้เราจะมองข้ามไป ในวันนี้เหมียวจะพาทุกท่านมาดูอีกมุมหนึ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้ได้สอดแทรกไป แรกเริ่มเดิมที ต้องขอเล่าเรื่องนิดนึงว่า จุดประสงค์หลักของมินเนี่ยนคือไปตามหาเจ้านายที่เป็นวายร้ายที่เก่งที่สุด ซึ่งการเดินทางของมันนั้นเริ่มตั้งแต่ยุคไดโรเสาร์นู่นเลย จนกระทั่งมาถึงปี 1968 ในยุค 60 นี้เรียกได้ว่ามีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในการ์ตูนก็นำเหตุการณ์เหล่านั้นมาเสียดสีได้อย่างฮา เริ่มจากการเสียดสีประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน โดยในการ์ตูนนั้นมีป้ายหาเสียงเขียนไว้ว่า “A Finally name you can trust” เขาได้ลงสมัครและได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกาด้วยนโยบาย ที่ว่าจะถอนกำลังทหารอเมริกันออกจากสงครามเวียดนาม นิกสันได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศมากคนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วเขากลับปิดบังเรื่องอื้อฉาวไว้มากมาย และสุดท้ายเขาจึงได้ประกาศลาออก เหตุการณ์ต่อมา คือ การออกมาต่อต้านสงครามเวียดนามของกลุ่มฮิปปี้ ที่เจ้ามินเนี่ยนก็ได้ไปร่วมต่อต้านด้วยอย่าง งงๆ และเหตุการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของ “Make love, not…
-
12 เรื่องที่ยืนยันกับเราว่า ‘โลกใบนี้’ ยังคงสวยงาม และมีเรื่องราวดีๆให้เห็นเสมอ….
ชีวิตในเมืองใหญ่อันแสนโหดร้าย เร่งรีบ และผู้คนที่คิดถึงแต่ตัวเองมากขึ้นทุกๆวัน อาจจะทำให้หลายคนเริ่มเบื่อหน่ายกับโลกและสิ่งที่เป็นอยู่ จนถึงขั้นติดภาพมองมันในแง่ลบ แต่อย่าลืมว่าเหรียญมีสองด้าน และโลกของเราก็เช่นกัน สิ่งที่เหมียวอยากนำเสนอในวันนี้ น่าจะช่วยให้หลายคนยิ้มได้กับโลกใบนี้มากขึ้น….. 1. ภาพของชายหนุ่มที่ยื่นมือเข้าช่วยหญิงชราเดินลงบันไดสถานีรถไฟ การที่เธอต้องดูแลทั้งตัวเธอเอง ข้าวของที่ถือ รวมถึงสุนัขอีกตัว ไม่ใช่เรื่องงายเลย 2. ดอกไม้ยังคงใช่สื่อความรู้สึกดีๆได้เสมอมา ชายหนุ่มคนหนึ่งเลยเอาดอกไม้มาตั้งที่ม้านั่งในสวน ให้คนที่ผ่านไปมาได้หยิบไปชื่นชมแบบฟรีๆ 3. ในฤดูร้อนของประเทศออสเตรเลีย นักปั่นจักรยานสังเกตเห็นโคอาล่าท่าทางอิดโรย จึงตัดสินใจป้อนน้ำให้กับมัน และดูท่ามันจะชอบเอามาก 4. ตำรวจในเมืองนิวยอร์กสังเกตเห็นคนไร้บ้านรายหนึ่งไม่มีแม้กระทั่งรองเท้า สิ่งที่เค้าจะทำได้คือการเจียดเงินเล็กน้อย ช่วยออกค่ารองเท้าให้คนไร้บ้าน 5. ทดลองใส่จดหมายลงในสมุดของห้องสมุด เมื่อคนที่ยืมคนถัดไปเปิดอ่าน ก็จะพบข้อความทักทายจากคนก่อนหน้า รวมถึงพวกเค้าสามารถเป็นเพื่อน สร้างมิตรภาพดีๆในอนาคต 6. การนั่งวีลแชร์ออกมาคนเดียว แล้วอยู่ดีๆก็ฝนตกนั้นเป็นอะไรที่แย่มาก แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งยอมเสียสละตัวเองและร่มของเขา เพื่อให้คนพิการไม่ต้องทนเปียกฝน 7. ราคาน้ำมันลดลงจากเมื่อสองสามปีก่อน แต่ก็ยังแพงสำหรับบางคนอยู่ดี คนที่พอมีเงินเลยเสียสละ ช่วยออกค่าน้ำมันให้กับคนขับรถรายถัดไปที่เข้ามาเติม 8. เรื่องของศาสนาเป็นประเด็นในโลกตะวันตกเสมอมา และภาพของทหารชาวคริสต์กับหญิงชาวมุสลิมที่ยื่นมือให้กันและกัน…
-
Gunduz Agayev จิตรกรผู้ที่สร้างผลงานภาพเสียดสีศาสนาขึ้นมา โดยไม่เกรงกลัวต่อคำวิจารณ์ใดๆ
Gunduz Agayev จิตรกรหัวใส ผู้ที่ชื่นชอบการสร้างสรรค์ภาพเสียดสีสังคมเป็นชีวิตจิตใจ และในครั้งนี้เขาก็ได้สร้างผลงานภาพเสียดสีศาสนา โดยนำเอาการถ่ายเซลฟี่ มาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสาร ซึ่งแน่นอนว่าผลงานที่เขาได้สร้างขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นผลงานที่เขาได้ทำขึ้นมาโดยที่ไม่กลัวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น มาดูกันเลยดีกว่า ว่าคุณจะเข้าใจผลงานที่เขาสื่อออกมาได้มากแค่ไหน 1 2 3 4 5 6 7 8 หากใครที่ชื่นชอบผลงานของเขาก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ meydan ที่มา : boredpanda
-
แบบไหนถึงจะพอใจ!? Youtuber สาวเผยโฉมใบหน้าที่แท้จริงหลังเมคอัพ สะท้อนความคิดคน
ในโลกออนไลน์ทุกคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง สามารถแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นต่างๆ ได้โดยอิสระ แต่มักจะไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่เป็นผู้ถูกกระทำในการถกเถียงประเด็นต่างๆ อย่างเช่น Youtuber สาวรายนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอได้ทำการโพสต์คลิปสอนแต่งหน้ามามากมาย ผู้คนต่างก็ชมเธอว่าสวยอย่างนู้นสวยอย่างนี้ แต่พอเผยใบหน้าที่แท้จริงกลับตรงกันข้าม เมื่อเธอทำการแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ผู้คนต่างก็ชื่นชอบในฝีมือการแต่งหน้าของเธอ ชื่นชมในความสวยงามที่อยู่เบื้องหน้า แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังมีอีกด้านที่คอยต่อต้านความสวยที่มาจากการแต่งหน้านั้นไม่ใช่ความสวยที่แท้จริง เธอได้รับข้อความมากมายเกี่ยวกับการถูกถากถางจากประเด็นเหล่านี้ เธอก็เลยตัดสินใจเผยใบหน้าที่แท้จริงไร้การเมคอัพใดๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับทุกคนที่โดนถากถาง “ความสวย” นั้นมีอยู่ในตัวทุกคน ไม่จำเป็นต้องให้สังคมเป็นตัวตัดสิน ที่มา : fooyoh