Tag: สัญลักษณ์
-
นักออกแบบตราประจำตระกูลชาวญี่ปุ่น โชว์ผลงานสุดเจ๋งด้วยการใช้เทคนิค ‘Mon-Mandala’
ย้อนกลับไปในยุคสมัยก่อน ตระกูลต่างๆ ในญี่ปุ่นมักจะมีตราสัญลักษณ์ที่ไว้ใช้ประจำตระกูลอยู่เสมอ ซึ่งเจ้าตราประจำตระกูลที่ว่านั้นถือเป็นประเพณีที่สอบทอดต่อกันมาเป็นพันๆ ปี เพียงแต่ในปัจจุบันนั้นมันได้เริ่มจางหายอย่างช้าๆ แม้ปัจจุบันตราประจำตระกูล หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า ‘Kamon‘ โดยปัจจุบันเหลือช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญในด้านดังนี้ไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่ง Monsho Uwaeshi ก็เป็นช่างฝีมือและนักออกแบบจากกรุงโตเกียวอีกคนที่ยังอยากจะรักษาประเพณีอันยาวนานนี้ไว้ เขาจึงเริ่มหันมาออกแบบตราสัญลักษณ์แบบใหม่ด้วยเทคนิคใหม่ๆ เพื่อดึงดูดคนให้สนมากขึ้น เทคนิคที่เขาใช้นั้นเรียกว่า ‘Mon-Mandala’ ซึ่งเป็นผลงานที่นอกจากจะดูสวยงามแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพลังให้กำลังคนที่เห็นด้วย เรียกว่าทรงพลังและสวยงามสุดๆ ตราสัญลักษณ์ที่เกิดจากการร่วมกันของร่มสามอัน เกล็ดหิมะ ม้าที่กำลังนั่งลง ยิ่งเห็นลายยากๆ แล้วต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นผลงานที่ต้องใช้ฝีมือจริงๆ . อย่างภาพนี้ดูแล้วแบบ โอ้โห สุดๆ กว่าจะเกิดเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลญี่ปุ่นได้แต่ละอัน ถือเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรม ที่ใช้รูปทรงในยุคสมัยใหม่ผสมเข้ากับเทคนิคยุคสมัยเก่า สุดท้ายแล้ว Monsho Uwaeshi ก็บอกว่าทุกอย่างมันต้องพัฒนาไปกับยุคสมัย โดยเฉพาะวัฒนธรรมเก่าๆ ที่ต้องปรับตัวตาม เช่นเดียวกับชิ้นงานของเขาที่ต้องหาเทคนิคและหนทางใหม่ๆ เสมอ เขายังแถมภาพกันดั้มที่เขาใช้เทคนิคดังกล่าวสร้างขึ้นมาอีกด้วยนะ เจ๋งสุดๆ …
-
นักออกแบบชาวอินเดียผู้นำสองสิ่งมาผสมผสานกันให้กลายเป็น ‘โลโก้’ ขนาดจิ๋ว
เรื่องของโลโก้แบรนด์คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถจดจำจุดเด่นหรือจุดขายของเราได้จากสิ่งนี้ มันจึงควรเป็นการนำเสนอให้เห็นว่าเราสร้างโลโก้ขึ้นมาเพื่อที่จะสื่อถึงเรื่องอะไร เหมือนอย่างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ นี่คือผลงานของนักออกแบบชาวอินเดียที่ใช้ชื่อว่า Shibu PG เขาได้นำของสองสิ่งที่ไม่เหมือนกันมารวมเอาไว้ในโลโก้เพียงอันเดียว ซึ่งมีทั้งความสวยงาม เรียบง่าย มินิมอล ความคิดสร้างสรรค์ และมันก็ยังสามารถรู้ได้ทันทีว่าเขาจะสื่อถึงเรื่องอะไร ผ่านสัญลักษณ์เล็กๆ เหล่านี้ แต่ละชิ้นมีหน้าตาเป็นยังไง เราไปชมกันเลย เป็นการรวมตัวกันอย่างลงตัว สามารถสื่อถึงเอกลักษณ์ของทั้งสองสิ่งได้เป็นอย่างดี อยากจะเห็นเป็นกระต่ายตัวเดียว หรือหลายตัวก็ได้ ดวงตาอันโฉบเฉี่ยว ดูแตกต่างกันมากแค่ไหน เขาก็สามารถออกแบบให้มันกลายเป็นหนึ่งเดียวได้ เห็นแล้วรู้สึกคิดถึงเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งขึ้นมาเลยแฮะ น้องหมาน่ารักทั้งในรูปและในโลโก้ เรามักจะเห็นการผสมผสานระหว่างสิ่งมีชีวิต กับไม่มีชีวิต เพนกวินน้อยที่กำลังมีความรัก ล่องลอยไปในอากาศได้เหมือนๆ กัน นำสัญลักษณ์เล็กๆ มาแทนดวงตาได้อย่างสวยงาม เมื่อเห็นหน้าพิซซ่าแล้วคิดถึงหน้าเจ้าม้าขึ้นมา หมีน้อยคงจะคอแห้ง เห็นแล้วก็สัมผัสได้ถึงจินตนาการอันไม่รู้จบของศิลปินคนนี้เลย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบผลงานของเขา สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่เว็บไซต์ behance ที่มา: designyoutrust
-
ผลการทดสอบจาก 1,000 คน เฉลี่ยแล้วพวกเขาจะจำโลโก้ป๊อปคัลเจอร์กันได้มั้ยนะ?
เมื่อพูดถึงสิ่งสำคัญในการสร้างสินค้าหรือแบรนด์ นอกจากตัวสินค้าที่เราอยากนำเสนอแล้ว โลโก้ของสิ่งๆ นั้นหรือแบรนด์ของเรานับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ผู้คนสามารถจดจำมันได้ ยิ่งโดดเด่นและจำง่ายยิ่งสำคัญ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทางเว็บไซต์ signs.com จึงได้จัดการทำผลสำรวจคน 1,000 คน โดยให้พวกเขาบอกว่าพวกเขาจำโลโก้ของสิ่งต่างๆ ที่เป็นป๊อปคัลเจอร์จากยุคสมัยต่างๆ ทั้งสินค้า หนัง หรือเกมได้หรือไม่ ทีมงาน Signs ได้บอกว่า “พวกเรานั้นเป็นนักออกแบบตัวยง ฉะนั้นถ้ามีคนสร้างบริษัทขึ้นมาแล้วมันทำให้เราจำ 80% ของสิ่งที่เราเห็น 20% ของสิ่งที่เราอ่าน หรือ 10% จากสิ่งที่เราได้ฟังจากคนอื่นได้ นั่นถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพของแบรนด์ประสบความสำเร็จและเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา” เริ่มกันที่สัญลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนในคอมมิคกันก่อน โดยทุกคนจะจำโลโก้ของแบทแมนและซูเปอร์แมนกันได้ทุกคน เพราะมันเป็นป๊อปคัลเจอร์ที่เราเจอได้บ่อยๆ ส่วนตัวอื่นๆ ก็จะไล่เรียงลงมาซึ่งน่าแปลกใจที่ สไปเดอร์แมนมีคนจดจำได้น้อย ถัดมาเป็นคิวของตราสัญลักษณ์ของแต่ละบ้านจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่คนจะจำตราประจำบ้านแต่ละหลังไม่ได้ เพราะในหนังนั้นไม่ค่อยจะมีการโชว์ตราพวกนี้อย่างจริงจังนัก ต่างจากตราของโรงเรียนฮอกวอตส์ที่รวมทุกบ้านด้วยกันผู้คนจะจำได้ แต่ที่เด่นรองลงมาก็คงเป็น ชานชาลาที่ 9 3/4 ที่พูดถึงบ่อยๆ และจำได้ง่าย มาต่อกันที่สัญลักษณ์ในเกมออฟโทรนกันบ้าง ซึ่งสัญลักษณ์ประจำตระกูลในเรื่องนี้มีเยอะแยะมากมายจึงยากมากๆ ที่จะจดจำถ้าไม่ใช่ตระกูลหลักๆ แต่ใช่ว่าคนจะไม่จำสิ่งต่างๆ ในเรื่องนะ เพราะว่าตัวละครในเรื่องนั้นเป็นที่ถูกพูดถึงกันหนักหน่วงมากกว่าสัญลักษณ์ตระกูลนั่นเอง โลโก้ของหนังต่างๆ นั้น โกสบัสเตอร์ถือเป็นโลโก้ที่ทุกคนในผลสำรวจจดจำได้…
-
22 ไอเดียการออกแบบสุดเฟล ความผิดพลาดที่ทำให้เกิดเป็น “ความฮา” ขึ้นมาได้
ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือเครื่องหมายต่างๆ มักจะมีการครีเอทด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ที่พบเห็น แต่บางทีในความสร้างสรรค์นั้น ก็อาจจะทำให้หลายคนมองได้มากกว่านั้น มันอาจจะดูสร้างสรรค์ก็จริง แต่ดูดีๆ เหมือนทำมาพลาดยังไงไม่รู้ เหมือนภาพต่อไปนี้ 1. บรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้คิดมาดีแล้วใช่มั้ย?? 2. บริษัทตั้งใจทำน้ำพุสีชมพูเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงมะเร็งเต้านม เอิ่ม…มันจะได้ผลจริงหรอ? 3. ป้ายห้องที่ชวนงงที่สุด เราควรจะเชื่ออะไรดี 4. ติดตั้งกระดาษชำระให้อยู่เหนือซิงค์ 5. หรือนี่จะเป็นการใช้เสื่อที่ถูกต้อง แล้วจะเอามาเพื่อ… 6. คนวาดคงจะเพลินไปหน่อย เพิ่มกล้วยมาให้อีกลูก เด็กๆ ไม่สับสนนะลูก 7. มิติใหม่ของการกินไอติม 8. ป้ายบอกทางไป McDonald’s แต่หมุนแบบนี้ จะรู้มั้ยว่าอยู่ทางไหนกันแน่ 9. เดี๋ยวนะ ที่หนูๆ จับอยู่คือไรอะ 10. ปราสาทโจรสลัด แต่ทางออกมันดูคุ้นๆ นะ 11. หมุนตั้งนานไม่ออกสักหยด พอออกมาเท่านั้นแหละ…
-
10 โลโก้ของแบรนด์ดังกับเรื่องราวที่แอบซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ทุกวันนี้เราเห็นโลโก้สินค้าอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะโฆษณาในทีวี ป้ายตามทาง ถุงสินค้า หรือแม้แต่ในตัวสินค้าเอง แต่รู้มั้ย โลโก้บางอย่างมีเร่ื่องราวแอบแฝงมากกว่าที่เรารู้นะ เรามาดูกันสิว่าในสัญลักษณ์ต่างๆ นั้นมีอะไรซ่อนอยู่? 1. McDonald’s นักออกแบบคนแรกของแมคโดนัลด์ได้มีการตกแต่งหน้าร้านด้วยซุ้มสีทองขนาดใหญ่ ก่อนที่ซุ้มนั้นจะถูกนำมาใช้เป็นโลโก้ของแมคโดนัลด์ในภายหลัง ต่อมาทางบริษัทต้องการยกเลิกการโลโก้นี้ แต่นักจิตวิทยา Louis Cheskin แนะนำให้ใช้ต่อไป โดยให้เหตุผลว่ามันเหมือนเต้านมผู้หญิง ซึ่งเป็นการแสดงถึงความห่วงใยนั่นเอง 2. Chanel Coco Chanel เป็นผู้ออกแบบและวาดสัญลักษณ์ชาเนลด้วยตัวเอง ขณะอยู่ที่ Château Crémat ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส บางสื่อบอกว่าสัญลักาษณ์นี้ได้แรงบันดาลใจจากซุ้มโค้งของปราสาท แต่ก็มีหลายคนบอกว่า สัญลักษณ์นี้มาจากตัว C สองตัว คือ “CC” ซึ่งหมายถึงตัวอักษรตัวแรกในชื่อปราสาทและชื่อย่อของ Coco 3. Google ผู้ที่สร้างโลโก้กูเกิ้ลได้ใช้สีหลัก 3 สีคือ สีน้ำเงิน สีแดง และสีเหลือง โดยมีการจัดเรียงสีในตำแหน่งเฉพาะ แต่มีเพียงตัวอักสีเขียวที่ตัวโดดเด่น เป็นการบ่งบอกว่ามันเป็นอักษรที่สำคัญที่สุดในนี้ ความพิเศษของตัวอักษรสีเขียวนี้ ดูเหมือนผู้ออกแบบต้องการสื่อว่า กูเกิ้ล ไม่มีกฏที่ตายตัวและจะไม่ทำตามกฏทั่วไปด้วย 4. Gillette…
-
ผลงานศิลปะ ที่แต่งเติม “ป้ายจราจร” ต่างๆ สร้างความสวยงามและข้อคิดให้ผู้พบเห็น
หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นผลงานศิลปะที่เปลี่ยนภาพสิ่งแวดล้อมในเมืองให้ดูสวยงามและกลายเป็นงานศิลป์ อย่างเช่นการตกแต่งเมืองด้วยดอกไม้เพื่อเพิ่มสีสันและความสดใส (อ่านข่าวเก่า ตกแต่งเมืองด้วยดอกไม้สีสดใส เพื่อให้ผู้คนเบิกบานใจ และมีรอยยิ้มท่ามกลางความวุ่นวาย) มาบ้างแล้ว และผลลงานที่เรานำมาฝากวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งผลงานเหล่านี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีจุดมุ่งหมายในการเติมสีสันให้กับเมือง Sofia ประเทศ Bulgaria โดยศิลปินท่านนี้ได้เพิ่มลูกเล่นและเติมความคิดสร้างสรรค์ลงไปในแผ่นป้ายจราจร เพื่อสร้างความน่าสนใจและทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดข้อคิด พูดแล้วไม่เห็นภาพ #เหมียวเวจจี้ ว่าเราไปชมผลงานของเขากันเลย… 1. ผลงาน Vitruvian Man ของ เลโอนาร์โด ดา วินชี ในป้ายจราจร 2. ป้ายคนเดินถนน ที่ถูกเติมยานอวกาศเข้าไป ดูเหมือนกับมีมนุษย์ต่างดาวมาจับตัวเลยนะเนี่ย 3. จากป้ายหยุดธรรมดาๆ เติมใบเข้าไป ก็ดูเป็นดอกไม้ขึ้นมาทันที 4. พอเติมตาเข้าไป ดูเหมือนกับนินจาเลยนะเนี่ย 5. ช่องขาวๆ ในป้ายหยุด ที่ดูคล้ายกับคุก 6. E.T. ก็มีนะเนี่ย 7. จากลูกศรตรงไป ก็กลายเป็นจรวดได้ ครีเอทจริงๆ 8. The Beatles ก็มานะเออ…
-
มารู้จักกับก้อนเนื้อ ‘มิโคชิ ดาโกะ’ สัญลักษณ์แห่ง ‘ความภาคภูมิใจ’ ของชายญี่ปุ่น!!
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการดำรงชีวิตของเหล่าผู้คนในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และนี่เองที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็หลงใหลในความงดงามของประเทศนี้ และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความเชื่อของชายญี่ปุ่นที่ออกจะดูน่ากลัวไปซักหน่อยนึง สำหรับใครใจไม่ถึงก็ขอแนะนำให้สูดหายใจลึกๆ ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่านกันนะจ๊ะ โดยในงานเทศกาลต่างๆ ของชาวญี่ปุ่นที่นอกจากจะมีการขายของจากร้านค้าต่างๆ แล้ว ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือขบวนแห่ที่เป็นหัวใจสำคัญของงาน และขบวนแห่เหล่านี้ก็จะมีศาลเจ้าจำลองหรือที่เรียกว่า ‘มิโคชิ’ มาร่วมในขบวนแห่ด้วย โดยเชื่อว่าภายในนั้นมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ และผู้ที่รับหน้าที่ในการแบกศาลเจ้าแห่นี้ก็คือหนุ่มๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นนั่นแหละ โดยศาลเจ้าจำลองนี้มีน้ำหนักกว่า 1 ตันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการสร้างสีสันให้กับงานเทศกาลและขบวนแห่ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดูที่บริเวณไหล่ของเหล่าผู้ชายที่ทำหน้าที่แบกศาลเจ้าจำลอง หรือ ‘มิโคชิ’ กันดูดีๆ แล้วจะพบว่ามันมีก้อนเนื้อแปลกๆ ที่ดูคล้ายกับเนื้องอกปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเจ้าก้อนกลมๆ นี้ชาวญี่ปุ่นเค้าเรียกกันว่า ‘มิโคชิ ดาโกะ’ เป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการแบกของหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดการอักเสบและปูดบวมเป็นก้อนเนื้อขึ้นมาบริเวณบ่า ถึงแม้ว่ามันจะดูผิดปกติและน่ากลัว แต่ชายชาวญี่ปุ่นหลายคนก็ยินดีที่จะมีเจ้า มิโคชิ ดาโกะ นี้อยู่บนร่างกาย เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอดทน มุ่งมั่น ที่พวกเขาทุ่มเทให้กับการฝึกฝนแบกมิโคชิ หรือศาลเจ้าจำลอง นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานที่แสดงว่าตัวเขานั้นคือผู้รับใช้เทพเจ้าที่พวกเขานับถือ รวมไปถึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนเอาการเอางาน…
-
รูปปั้นสาวน้อยเผชิญหน้าวัวกระทิง สัญลักษณ์ใหม่ที่แสดงให้เห็นถึง ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’
สำหรับใครที่เคยไปท่องเที่ยวบริเวณสวนสาธารณะ Bowling Green Park ใกล้ๆ กับ Wall Street ในแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก เชื่อว่าคุณคงจะเคยเห็น “รูปปั้นวัวกระทิง” (Charging Bull) ที่อยู่ในท่าทางกำลังจะพุ่งชน หรือพร้อมต่อสู้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยมโลกกันมาบ้างแล้ว แต่ในตอนนี้ หากคุณกลับไปยังสถานที่นั้นอีกครั้ง คุณจะไม่ได้พบกับรูปปั้นวัวกระทิงเพียงอย่างเดียว เพราะล่าสุดทาง State Street Global Advisors ซึ่งเป็นบริษัทสินทรัพย์รายใหญ่อันดับสามของโลก ได้นำรูปปั้นของเด็กผู้หญิงที่เรียกว่า The Fearless Girl ไปยืนประชันหน้ากับเจ้ากระทิง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง วันสตรีสากลของโลก ที่ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปีนั่นเอง Fearless Girl เป็นรูปปั้นของเด็กสาวที่มาพร้อมกับท่าโพสต์สุดมั่นใจ และกล้าหาญ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของผู้หญิงในปัจจุบันรวมถึงอนาคต ซึ่งเธอจะถูกนำมาตั้งเอาไว้เพื่อเผชิญหน้ากับ Charging Bull (เปรียบเป็นผู้ชาย) โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนได้รับรู้ถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงธุรกิจที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีแผ่นป้ายติดอยู่กับพื้นด้านล่างโดยเขียนว่า “พลังในการเป็นผู้นำของสตรี” สำหรับ…
-
เจาะลึกที่มาของ “สัญลักษณ์ 7 อย่าง” ที่ทุกคนบนโลก ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี!!?
ในชีวิตประจำวันแต่ละวันของเรา มักจะได้พบเห็นกับสัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะบนป้าย ข้างถนน หรือแม้แต่บนรีโมทโทรทัศน์!! คราวนี้เราจะขอทำตัวมีสาระกับเค้าบ้าง เดี๋ยวจะหาว่า #แก๊งค์แมวเหมียว พวกนี้เป็นแต่ทำตัวหื่นอย่างเดียว ขอพาไปเจาะลึกกับที่มาที่ไปของ 7 สัญลักษณ์สากลโลก ที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เปลืองสามจี เริ่มกันเลยดีกว่า… 1. สัญลักษณ์ ‘&’ ที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ที่เราใช้แทนค่าคำว่า ‘และ’ นั้นเดิมทีเป็นภาษาละตินจากคำว่า ‘Et’ ที่แปลว่า ‘And’ นั่นแหละ ซึ่งเดิมทีมันถูกคิดค้นขึ้นโดย ‘Tiro’ เลขาส่วนตัวของกษัตริย์ซิเซโร่ ตั้งแต่สมัยกรุงโรมนู้นแล้ว หลายศตวรรษต่อมา คำดังกล่าวกลายเป็นที่นิยมไปทั่วยุโรป และอเมริกา บวกกับการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และความรวดเร็วในการเขียน ทำให้สัญลักษณ์แรกเริ่ม ‘Et’ มารวมกันเป็นตัว ‘&’ แทนซะงั้น!? 2. สัญลักษณ์รููปหัวใจ จะว่าไปแล้วสัญลักษณ์รูปหัวใจถูกเอามาใช้ในเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับความรักมานานหลายทศวรรษได้แล้วล่ะมั้ง? และทฤษฏีที่มาที่ไปของมันก็มีหลักๆอยู่ 3 ข้อดังนี้ 1. เป็นสัญลักษณ์ที่เกิดจากการที่มนุษย์เห็น หงส์ สองตัวว่ายน้ำเข้าหากันกลายเป็นรูปทรงคล้ายหัวใจ ซึ่งในวัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก หงส์ ถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความซื่อสัตย์…
-
ญี่ปุ่นออกเครื่องหมาย “สัญลักษณ์โถส้วมใหม่” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจง่าย สบายยิ่งขึ้น!!
เชื่อว่าหลายๆ คนที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ต้องประสบปัญหาในการเข้าห้องน้ำ เพราะส้วมที่ญี่ปุ่นส่วนมากนั้น จะเป็นส้วมอัตโนมัติสุดไฮเทค ซึ่งไม่ว่าใครได้ลองใช้ครั้งแรก ต้องงงเป็นไก่ตาแตกว่ามันทำยังไง และที่ปวดใจยิ่งกว่าคือ ปุ่มต่างๆ นับสิบบนส้วมเหล่านั้น ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับว่าแต่ละปุ่มใช้ทำอะไรบ้าง งานนี้เลยอาจจะมีน้ำร้อนลวกไข่กันได้ (บางที่ไม่มีภาษาอังกฤษไม่พอ ไม่มีรูปประกอบอีกต่างหาก) แต่ล่าสุด ทางสมาคมผู้ผลิตสุขภัณฑ์แห่งญี่ปุ่นได้เปิดตัวสัญลักษณ์บนส้วมใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติ สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก และการพัฒนาเรื่องนี้ ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาร่วมงานโอลิมปิกปี 2020 โดยสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนสัญลักษณ์ ต้องย้อนกลับไปในปี 2014 มีการสำรวจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 600 คน แล้วพบว่า พวกเขาไม่เข้าใจสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนส้วมจนหลายๆ คนกดปุ่มผิด จนการเข้าห้องน้ำหมดสนุกเลยทีเดียว เรียงจากซ้ายไปขวา “เปิดฝาชักโครก”/ “เปิดที่รองนั่ง” / “กดน้ำถ่ายหนัก” / “กดน้ำถ่ายเบา” “ฉีดก้น” / “ฉีดสำหรับสตรี” / “เป่าลม” / “หยุด” มาโดกะ…
-
รู้จัก 16 “สัตว์ประจำชาติ” ของแต่ละประเทศทั่วโลก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง….
สัตว์ประจำชาติ ถือเป็นสัญลักษณ์ และตัวแทนทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศนั้นๆ อย่างเช่น เวลาที่เราได้เห็นจิงโจ้ ก็ทำให้เรานึกถึงประเทศออสเตรเลีย หรือเวลาเห็นช้าง ก็ทำให้เรานึกถึงประเทศไทย เป็นต้น แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า สัตว์ประจำชาติของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกคืออะไร เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนแน่นอน และในครั้งนี้เราจะมานำเสนอ 16 ภาพของสัตว์ประจำชาติในแต่ละประเทศ มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง 1. อินทรีหัวขาว – สัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา 2. เสือโคร่งเบงกอล – สัญลักษณ์ของประเทศอินเดีย 3. บีเวอร์ – สัญลักษณ์ของประเทศแคนาดา 4. ยูนิคอร์น – สัญลักษณ์ของประเทศสกอตแลนด์ 5. จิงโจ้แดง – สัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย 6. หมีสีน้ำตาล – สัญลักษณ์ของประเทศรัสเซีย 7. อินทรีดำ – สัญลักษณ์ของประเทศเยอรมนี …
-
26 สรรพสัตว์ผู้เกรียงไกร อันเป็นตัวแทนและสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ จากรอบโลก!!
ในการใช้ ‘สัตว์’ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนั้นๆ อาจตีความได้ว่าเป็นการสื่อถึงลักษณะนิสัยของผู้คนในประเทศ หรือปริมาณประชากรของสัตว์นั้นๆ ว่ามีอยู่มากก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ก็คือประเทศในโลกนี้มีสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศตัวเองเกือบทั้งนั้น อย่างบ้านเราก็คงต้องเป็น ‘ช้าง’ ที่เป้นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน และวันนี้เราก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 26 สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ ลองมาดูกันซิว่าจะมีประเภทไหนกันบ้าง… เสือดาวหิมะ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศปากีสถาน ไก่ตัวผู้ สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส นกกีวี ประเทศนิวซีแลนด์ หมีสีน้ำตาล ประเทศฟินแลนด์ กวางหางขาว ประเทศฮอนดูรัส หงส์ขาว สัญลักษณ์ประเทศเดนมาร์ก (ไม่ใช่โคนมอย่าที่หลายๆ คนคิดกัน) ควายไบซัน ประเทศโปแลนด์ นกอินทรี Gyrfalcon สัฐลักษณ์ประเทศไอซ์แลนด์ โอคาพี สัญลักษณ์ของคองโก หมาไม้สน ประเทศโครเอเชีย ยูนิคอร์น ประเทศสกอตแลนด์ หรูมากกก!! ออริกซ์อาหรับ สัญลักษณ์ของโอมาน…
-
น่ารัก!! หนูน้อยวัย 18 เดือน มีกระจุกผมสีขาว ถอดแบบมาจากคุณแม่เป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยน
พันธุกรรม เป็นลักษณะที่ลูกได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เช่น มีหน้าตาเหมือนกัน สูงเหมือนกัน หรือผอมเหมือนกัน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นที่เราเห็นกันทั่วๆ ไป แต่สำหรับ MilliAnna หนูน้อยวัย 18 เดือน และ Brianna Worthy คุณแม่วัย 23 ปี จากเซาท์แคโรไลนา คู่นี้ เป็นแม่ลูกที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่แปลก และพบได้ยากมากๆ นั่นคือ ทั้งคู่เกิดมาพร้อมกับกระจุกผมสีขาวที่งอกขึ้นมาในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ!! เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต่างประเทศได้เผยภาพ พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจของ MilliAnna หนูน้อยผู้เกิดมามีกระจุกผมสีขาวเช่นเดียวกับแม่ของเธอ ทั้งยังเป็นรุ่นที่ 4 ของครอบครัว ที่มีผมในลักษณะที่ผิดปกติแบบนี้เช่นกัน ลักษณะที่โดดเด่นนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่รุ่นคุณยาย Jennifer และคุณยายทวด Jaonne ซึ่งต่างก็มีสีผมสองที่แยกกันอย่างเห็นได้ชัด สำหรับภาวะที่เกิดสีผมดังกล่าว เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า Poliosis หรือ ภาวะผมหงอกเป็นปอยเฉพาะที่…
-
Hachi เซเลปเหมียวผู้น่ารัก ที่มีคิ้วอันโดดเด่นอยู่บนใบหน้า ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่ามันเป็นแมว ‘นำโชค’
วันนี้เหมียวขี้อ้อน จะขอมาเล่าเรื่องราวของเจ้าแมวตัวหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานร้านขายของเล็กๆ ในเมืองมิโตะ จังหวัดอิบะระกิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าเหมียวตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นแมวที่มีความน่ารักฟรุ้งฟริ้งเหมือนแมวทั่วๆ ไปนั่นแหละ แต่ความพิเศษที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าแมวตัวอื่นๆ ก็คือ ‘คิ้ว’ ของมันยังไงละ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Hachi มันได้เกิดมาลืมตาดูโลก หลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2554 หลังจากนั้นก็มีนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่งได้มาพบกับมันเข้า เขาจึงนำมันไปมอบให้กับเจ้าของร้านขายบุหรี่ และให้เลี้ยงไว้ด้วยความหวังว่า เจ้าแมวตัวนี้จะนำความโชคดีมาให้ เหตุที่พวกเขาเชื่อว่ามันจะนำโชคลาภมาให้ ก็เพราะเจ้า Hachi มีแถบขนสีดำบริเวณเหนือตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอักษรคันจิคำว่า 八 (ฮาจิ) ที่หมายถึงเลข 8 และหมายถึงความโชคดีตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง หลังจากที่เรื่องราวของเจ้า Hachi ได้แพร่กระจายออกไป บรรดานักท่องเที่ยว ต่างก็พากันมาชมความน่ารักของมันกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งคนที่มาเยี่ยมเจ้า Hachi ต่างก็ได้บอกกับผู้เป็นเจ้าของว่า หลังจากที่ได้เจอกับมัน พวกเขามักจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาอยู่เสมอ ตอนเป็นเบบี๋ Hachi…
-
นี่ก็ตรงเกิ๊น!! รวม 14 ป้ายเฮฮาในห้องน้ำสาธารณะ ที่ทำออกมาได้ “ชัด” มากๆ
ในประเทศไหนก็ตามที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก เราก็มักจะได้เห็นการติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ตามห้องน้ำ เพื่อบอกให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้าใจว่าข้อห้ามของที่นั้นๆ คืออะไร หน้าที่หลักๆ ของป้ายก็คือบอกว่าห้องไหนคือห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิง หรือไม่ก็อาจจะเป็นป้ายเตือนการลืมสิ่งของไว้ในห้องน้ำ แต่เชื่อหรือไม่ว่าในโลกของเรามีป้ายหน้าตาแปลกๆ ที่เตือนหรือเป็นข้อกำหนดแปลกๆ ให้เราได้เห็นกันด้วยนะ จะแปลกแหวกขนาดไหนลองไปชมกันเลย 1. ห้ามยืนอึแบบนี้นะ (นั่นก็แรงไป๊) 2. ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ ไม่งั้นการจับมือจะกลายเป็นการจับ… 3. ห้ามยืน ห้ามนั่งบนชักโครก ห้ามฉี่แบบหมา และห้าม… 4. นั่งแบบปกติเท่านั้น 5. ห้องน้ำไปทางโน้น… 6. ห้ามเล่นกายกรรม!? 7. ใช้กางเกงในเป็นป้ายบอกว่าห้องไหนห้องน้ำชายและหญิง!? 8. ห้ามสโม๊กกี้ไบท์ (หากจะทำ ก็อย่าให้จับได้นะ) 9. ห้ามยืน 10. ระวังร่วงลงไปนะ 11. นี่ก็ห้ามนั่งยองๆ…