Tag: สัตว์เลื้อยคลาน
-
ครอบครัวตะลึง ตื่นมาเจอจิ้งจกยักษ์นอนเอกเขนกอยู่ในสระน้ำหลังบ้าน สบายเชียวนะเอ็ง!!
สำหรับบ้านในฝันของใครหลายคน ก็อาจจะเป็นบ้านหลังใหญ่โตที่มีความสวยงาม พร้อมทั้งรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด รวมถึงอาจจะมีสระน้ำเอาไว้ให้เราคอยว่ายน้ำออกกำลังกาย หรือกระโดดน้ำเล่นเมื่อมีอากาศร้อนในเดือนเมษายน ซึ่งหากคิดภาพตามมันก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียว แต่หากเราต้องประสบชะตากรรมเดียวกับครอบครัวนี้ บางทีฝันของเราอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบเลยก็ได้ เพราะใครจะไปคิดล่ะว่าในเช้าวันหนึ่งที่เราตื่นมาอย่างสดใส จะต้องมาพบกับจระเข้ตัวเป้งนอนอืดอยู่ในสระน้ำหลังบ้านเรา!!! เข้ามาทำม๊ายย โดยเหตุการณ์จระเข้บุกบ้านครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมือง Boca Raton ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา เมื่อมีครอบครัวแห่งหนึ่งต้องถึงกับผงะ หลังจากเดินไปหลังบ้านแล้วเจอกับจระเข้ยาวกว่า 2.4 เมตร กำลังนอนเอกเขนกอย่างสบายใจอยู่ในสระน้ำหลังบ้านของพวกเขา ซึ่ง Matt Fino เจ้าของบ้านผู้พบเหตุการณ์นี้เป็นคนแรกได้เล่าให้ฟังว่า ในทุกๆ เช้าเขาจะพาเจ้าหมาแก่ชื่อว่า Charlie ออกไปเดินเล่นเสมอๆ เพื่อให้มันออกไปทำธุระส่วนตัวอย่างการขับถ่ายต่างๆ แต่ว่าในเช้าวันนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ดูแตกต่างกันออกไป เพราะเขาไปพบจระเข้ตัวเขื่องเข้าให้ บ้านที่เกิดเหตุสยองดังกล่าว ทันใดนั้นเอง เขาจึงรีบวิ่งไปปลุก Janet Rosa ภรรยาของเขาด้วยความตื่นตกใจในสิ่งที่ได้เห็นมา เพราะไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง “ฉันยังอยู่บนเตียงอยู่เลยตอนที่ Matt วิ่งกรี๊ดเข้ามา ในตอนนั้นทุกคนในบ้านต่างก็วิ่งออกไปดูว่ามันจริงอย่างที่เขาพูดหรือไม่ มีหรือที่ฉันจะพลาดน่ะ” Rosa กล่าว ซึ่งสาเหตุที่มีจระเข้หลุดมาในบ้านในครั้งนี้ พวกเขาก็คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะจากการที่บ้านของพวกเขาอยู่ใกล้กับลำคลอง เจ้าจิ้งจกยักษ์ตัวนี้จึงน่าจะเดินมาจากสถานที่ดังกล่าว เรียบร้อยโดนรวบเลย และแน่นอนว่า พวกเขาได้เรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการเอาตัวของมันให้ออกไปจากตัวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
หญิงชาวออสเตรเลีย อยู่บ้านกับจระเข้ 5 ตัว เลี้ยงแบบโคตรชิวยังกับเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว
ไม่ว่าใครถ้าเกิดได้เจอสัตว์นักล่าอย่างจระเข้เข้าก็คงจะหวาดผวาหนีเอาชีวิตรอดกันทั้งนั้น แต่หญิงสาวคนนี้แตกต่างออกไป เธอรักจระเข้เป็นชีวิตจิตใจเลย นอกจากเธอจะไม่กลัวมันแล้วเธอยังเลี้ยงจระเข้ไว้เป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้านตั้ง 5 ตัวแน่ะ หญิง Vicki Lowing อาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ประเทศออสเตรเลีย เธอมีความสนใจในสัตว์เลื้อยคลานมากเป็นพิเศษ เธอจึงนำพวกมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน เลี้ยงปล่อยกันเหมือนหมาแมวแบบไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่ออายุได้แค่ 4 ปีเธอก็เริ่มเลี้ยงจิ้งเหลนที่คนทั่วไปไม่ค่อยเลี้ยงกันแล้ว จากนั้นตอนอายุ 10 ขวบเธอก็เปลี่ยนมาเลี้ยงงู แล้วพอโตเป็นสาววัย 23 ปีเธอจึงเริ่มเลี้ยงจระเข้ตัวแรก Vicki Lowing สาวผู้มีใจรักจระเข้และเลี้ยงพวกมันไว้ที่บ้าน หญิงคนนี้เลี้ยงทั้งจระเข้น้ำเค็มและจระเข้น้ำจืด เธอคอยหาข้อมูลเพิ่มเติมเดี่ยวกับพวกมันตลอดเวลาทำให้เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงจระเข้คนหนึ่งเลย นอกจากนี้เธอยังมีใบอนุญาติเลี้ยงจระเข้ไว้ในครอบครองด้วย เธออธิบายถึงจระเข้ที่เลี้ยงไว้ว่า “จระเข้พวกนี้ถูกมนุษย์จับมาเลี้ยงไว้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถใช้ชีวิตรอดในธรรมชาติได้ แม้ว่าฉันเองอยากจะให้พวกมันคืนสู่ธรรมชาติเหมือนกัน” เธอจึงดูแลขระเข้พวกนี้เรื่อยมาเพื่อให้มันอยู่อย่างสุขสบายที่สุด ถึงการเลี้ยงจระเข้จะเป็นภาระด้านค่าใช้จ่ายกับเธออยู่พอสมควร เนื่องจากจำเป็นต้องสร้างบ่อน้ำเค็มและน้ำจืดให้พวกมันอาศัยอยู่ แต่เธอก็รักพวกมันมากจนมองว่าเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องเล็กน้อยไป Johnie เองค่ะ สิ่งที่ชอบทำคือขึ้นไปนอนกับแม่บนเตียง จระเข้ที่เธอเลี้ยงไว้ตัวแรกมีชื่อว่า Johnie มันเป็นจระเข้น้ำจืดตัวเมียที่รักเธอมาก ก่อนที่มันจะโตจนถึงวัยผสมพันธุ์มันเข้ามานอนกับเธอบนเตียงทุกวันเลย แล้วเธอก็พามันใส่สายจูงไปเดินเล่นในชานเมืองเหมือนสัตว์เลี้ยงปกติเลยด้วย จนถึงตอนนี้มันก็มีอายุได้ 22 ปีแล้ว เธอบอกว่ามันเป็นจระเข้ที่เชื่องที่สุดเพราะว่าตอนเธอเริ่มเลี้ยงมันนั้นไม่มีจระเข้ตัวอื่นอยู่เลย มันจึงดูเธอเป็นแบบอย่างทำให้มีนิสัยเหมือนมนุษย์มากขึ้น จากนั้นเธอจึงรับ Fovian จระเข้ตัวผู้เข้ามาเลี้ยงเพิ่ม…
-
ตะลึง ตะลึง!! ตะลึงตึงตึ่งตึ่งตึ่ง ชายมะกันพบ “ตะขาบยักษ์” ยาวที่สุดในโลกกว่า 14 นิ้ว
ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบเรื่องราวแปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลก และมีความสนใจในความมหัศจรรย์ของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ Clayton Cambra ชายวัย 65 ปีผู้หลงใหลในสิ่งมีชีวิตพิสดารจากเกาะฮาวายผู้นี้เลย… คุณ Clayton นั้นก็เหมือนกับคนวัยเกษียณทั่วๆ ไปที่ใช้เวลาว่างไปกับงานอดิเรก และการเก็บสิ่งมีชีวิตแบบแปลกๆ นี้ก็เป็นหนึ่งในความชื่นชอบของเขา และในหนึ่งในคอลเลกชันสัตว์แปลกของคุณลุงผู้นี้ก็เจ้าตะขาบยักษ์ที่มีความยาวมากถึง 14 นิ้วหรือประมาณ 35 เซนติเมตรเลยทีเดียว คุณ Clayton เล่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่าเขาและเจ้าตะขาบยักษ์ว่า “มันซ่อนตัวอยู่ตรงถัง 5 แกลอนเหมือนกับงูเห่าเลย ผมเห็นมัน 5 ครั้งก่อนที่จะนำมันมาเก็บไว้ที่นี่” และนี่คือเจ้าตะขาบยักษ์ที่ว่านั้น หลังจากที่ได้เจอเจ้าตะขาบยักษ์หลายต่อหลายครั้ง ด้วยความสนใจในสัตว์แปลก คุณ Cambra ของเราจึงไม่รอช้า รีบจับมันใส่ถุงพลาสติกเพื่อแช่แข็ง และทำการสตาฟมันเอาไว้ ชายวัย 65 ปีเชื่อว่าเจ้าตะขาบตัวที่เขาพบนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เขาได้โพสต์เรื่องราวของมันลงเฟซบุ๊ก พร้อมกับเรียกมันว่า “สัตว์ประหลาด” พร้อมกับเชิญชวนให้ผู้คนมาพิสูจน์ความใหญ่ของตะขาบกันที่ร้านของเขา “ฉันจับเจ้าตะขาบตัวนี้ได้ก่อนวันคริสต์มาส และทำการสตาฟมันไว้ ตอนนี้พร้อมที่จะออกสู่สายตาผู้ชมแล้ว ผมคิดว่าความยาว 14 นิ้วของมันเป็นสถิติโลกเลย ซึ่งผมได้เช็กแล้วว่าตะขาบตัวที่ยาวที่สุดในโลกนั้นมีขนาดแค่ 11 นิ้วเท่านั้น” ข้อความจากเฟซบุ๊กของเขา และดูเหมือนว่างานนนี้คุณลุงของเรานั้นจะไม่ได้มโนเอาเอง…
-
ความเจ๋งของกิ้งก่าคาเมเลี่ยน นอกจากจะสามารถเปลี่ยนสีได้แล้ว ยังมีกระดูกเรืองแสงได้อีกแหนะ!?
สัตว์บางชนิดจะมีวิธีการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ หลายท่านคงเคยเห็นว่าสัตว์บางชนิดนั้นสามารถเปลี่ยนสีได้ เมื่อพูดถึงสัตว์ที่เปลี่ยนสีได้แล้วจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกเสียจากเจ้า “กิ้งก่าคาเมเลี่ยน” นั่นเอง นอกจากมันจะสามารถเปลี่ยนสีแล้ว ปัจจุบันยังพบว่าเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นยังมีกระดูกที่สามารถ “เรืองแสง” ได้อีกด้วย จากการศึกษาเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นพบว่ารอบๆ กะโหลกของมันมีตุ่มเล็กๆ จำนวนมาก นูนออกมาซึ่งมีเพียงหนังใสๆ บางๆ กั้นเอาไว้เท่านั้น ดังนั้น เมื่อมันได้รับแสงยูวี กระดูกของมันจึงเรืองแสงได้นั่นเอง ลักษณะของกระดูกที่สามารถเรืองแสงได้นั้นพบเห็นได้อย่างแพร่หลายในกิ้งก่าคาเมเลี่ยนในมาดากัสการ์และแอฟริกา โดยเจ้ากิ้งก่าจะมีการปรับตัวด้วยการเรืองแสงเมื่ออยู่ในป่าและพื้นที่ชื้นซึ่งมีแสงค่อนข้างมาก นอกจากนี้การวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์จาก Scientific Reports ยังสันนิษฐานว่าการเรืองแสงออกมาของกิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นสามารถใช้เป็นวิธีการสื่อสารเพื่อ “ดึงดูดเพศตรงข้าม” และ “หาคู่ผสมพันธุ์” ถึงแม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงหน้าที่ของระบบเรืองแสงในกิ้งก่าคาเมเลี่ยน แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า การเรืองแสงนั้นช่วยให้มันรับแสงยูวีน้อยลง ช่วยการถ่ายละอองเรณูของดอกไม้ ป้องกันตัวจากสัตว์อื่น จำแนกสายพันธุ์ตนเองออกจากสายพันธุ์อื่น และเป็นสัญญาณประกาศหาคู่ด้วยนั่นเอง ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์นั้นทำการศึกษากับกิ้งก่าคาเมเลี่ยนสายพันธุ์ Calumma เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กิ้งก่าคาเมเลี่ยนอีกประมาณ 8 สายพันธุ์ก็มีลักษณะของการเรืองแสงได้เช่นกัน ดังนั้นเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น การศึกษาครั้งต่อไปจึงจำเป็นต้องศึกษากับกิ้งก่าที่มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม ช่างเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีสีสันดีจริงๆ เลยนะเนี่ย อยากมีบ้างจังเลย ที่มา: Iflscience
-
ชาวเมืองรู้สึกผวา หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม พัดพาจระเข้ออกมาป้วนเปี้ยนเต็มเมือง…
ภัยพิบัติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นมักจะมาคู่กับความรุนแรงก่อให้เกิดความสูญเสียในหลายๆ อย่าง เห็นได้ชัดสุดก็คือเหล่าต้นไม้ ตึกรามบ้านช่องที่ได้รับผลกระทบ แต่เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ที่เกิดขึ้นในชายฝั่งรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา กลับมีอะไรที่เพิ่มขึ้นมามากกว่าการทำลายล้างเนี่ยสิ พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เคลื่อนตัวเข้าโจมตีทำความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบมากมาย ภาพความรุนแรงของเฮอร์ริเคน Harvey ที่ทำซะหลังคาปลิว และจากเหตุการณ์เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งก็ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักด้วย แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนหวาดผวากันเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพายุสงบลง เพราะเหล่ากองทัพจระเข้ได้ออกมาเดินเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ตามท้องถนน หรือไม่ก็ซ่อนตัวกันอยู่ใต้รถบ้าง บางตัวก็อัธยาศัยดีแวะไปทักทายตามหน้าบ้านของผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นกันเลยทีเดียว ใครเจอแบบนี้เข้าไปในตอนแรกก็คงจะตกใจกันเป็นธรรมดา ทว่าพวกมันกลับไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะพวกมันเพียงแค่หนีขึ้นที่สูงหลบน้ำท่วมเท่านั้นเอง ตัวแทนจากสำนักงานนายอำเภอมณฑล Fort Bend ได้ออกมาพูดว่า “คาดว่านี่เป็นการพลัดถิ่น เพื่อมองหาพื้นที่สูงเพียงเท่านั้น ก็ปล่อยให้มันอยู่ไปก่อนจนกกว่าน้ำจะลง” ทีมงานอนุรักษ์จระเข้ในเท็กซัสก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กไว้ว่า “เป็นเรื่องที่รู้กันว่าพวกมันจะหาที่อยู่ในตอนน้ำท่วม แม้ว่าจะเป็นไปได้ยากกับที่มันมาอยู่ตามถนน ตามชานบ้าน หรือใต้รถของคุณ แต่มันก็ไม่ขึ้นมาเพื่อมองหาอาหารหรือมีอาการก้าวร้าว หากคุณปล่อยให้มันไดัพักและกลับสู่ภูมิลำเนาหลังจากที่น้ำลดแล้ว เราควรอยู่ห่างจากพวกมันประมาณซัก 10 เมตร และอย่าไปแหย่ทำให้มันตกใจกลัว หรือการจะพยายามย้ายที่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” . ความแตกตื่นตกใจกับสัตว์ที่เรามองว่าพวกมันดูโหดร้ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากว่ามันไม่ได้ทำร้ายหรือเบียดเบียนเรามากจนเกินไป ก็ถือซะว่าเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปเถอะนะครับ…
-
15 ภาพพิสูจน์ความน่ากลัวของ ‘งอ งู ผู้คดเคี้ยว เลื้อยอันตราย’ แต่บางคนบอกว่าน่ารัก!?
****บทความนี้มีภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับคนกลัวงู**** ปกติแล้วถ้าหากพูดถึงพวกสัตว์เลื้อยคลาน หลายๆ คนก็อาจจะรู็สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เพราะนอกจากผิวหนังที่มีลักษณะเป็นเกล็ดเลื่อมๆ บวกกับดวงตาสีเหลืองอันน่ากลัวของพวกมันแล้ว คุณคงไม่อยากจะเข้าใกล้แน่ๆ และหนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานที่พวกเราอยากจะหนีให้ห่างๆ เลยนั่นก็คือพวก “งู” นั่นเอง ด้วยรูปร่างที่น่ากลัวและความรุนแรงของพิษในบางสายพันธุ์ จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เรากลัวพวกมัน แต่อย่าเพิ่งตัดสินพวกเขาจากภาพที่คุณเคยเห็นล่ะ เพราะพวกเจ้าสัตว์เลื้อยคลานเหล่านี้ ยังมีอีกมุมนอกจากความอันตรายอีกนะ!! 1. จริงๆ แล้วพวกเราบางสายพันธุ์ก็มีสีสันสดใสนะ 2. บางสายพันธุ์ก็แทบจะเป็นมังกรไปแล้ว 3. นี่ไง พวกเราตอนเด็กๆ เห็นมั้ยล่ะบอกแล้วว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 4. แต่บางครั้งก็ทั้งน่ารักและน่ากลัวเลยนะว่าไหม?? 5. อย่าเพิ่งไปสิเพื่อนนน รอกันก๊อนนนน… 6. มองเห็นผมไหมฮะ!! 7. แอแฮร่!! 8. เจ้างูน้อยที่กำลังลืมตาออกมาดูโลก 9. พวกเรากำลังมองคุณอยู่นะ!! 10. แต่ต้องพึงระลึกไว้ว่า บางสายพันธุ์นั้นก็มีพิษที่รุนแรง และมีความดุร้ายเป็นพิเศษ …
-
เจ้า ‘Smaug’ น้องกิ้งก่าผู้มีความสุขที่สุดในโลก เผยรอยยิ้มแป้นแล้นกระชากใจมนุษย์!!
สัตว์ที่คนส่วนใหญ่มักจะมองว่ามันดูน่ารักก็คงจะเป็นเหล่าสารพัดสัตว์เลี้ยงทั้งหลายอย่าง สุนัข, แมว หรือเจ้ากระต่ายขนปุย แต่เรากำลังจะพาไปดูสัตว์เลื้อยคลานที่มีความน่ารักยิ่งกว่าหมาแมว ก็เพราะว่ามันมีใบหน้าที่ยิ้มอยู่ตลอดเลยเนี่ยสิ!! แฮร่!! หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเสียจริงๆ นะน้องนาง กิ้งก่าเบียร์ดดราก้อนตัวนี้มีชื่อว่า Smaug จะว่าเป็นกิ้งก่าที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน จึงทำให้มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 4,000 คนแล้ว และมันก็กลายมาเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอังกฤษ หากใครเคยดูหนัง The Hobbit ก็อาจคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง เพราะนั่นคือชื่อของมังกรผู้น่าเกรงขามภายในเรื่อง แต่สำหรับเจ้ากิ้งก่านั้นความน่ากลัวกลับถูกแทนที่ด้วยความน่ารักสดใสดูร่าเริงอยู่ตลอดเวลาขี้เล่นแบบสุดๆ Charlotte Birch สาววัย 22 ปี ได้นำมันมาจากเจ้าของเก่าที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจดูแลมากนักในเมือง Taunton ประเทศอังกฤษ เธอเสียเงินไถ่ชีวิตมันมาในราคา 3,500 บาท เพื่อช่วยมันจากการที่ต้องอยู่ในโรงจอดรถอันหนาวเหน็บ และแทบจะไม่ได้เจอผู้คนเลย และด้วยเหตุที่มันไม่รับแสงแดดเพียงพอ จึงทำให้มันเป็นโรคกระดูกผิดรูปและหยุดการเจริญเติบโต ขนาดตัวจึงเหลือครึ่งนึงจากที่ควรจะเป็น แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักที่สุดสำหรับเธอ มันจะเคาะกระจกเพื่ออกมาวิ่งเล่นนอกกรงมาคลอเคลียเธอ และปกติกิ้งก่าสายพันธุ์นี้จะไม่กลัวนกจนไม่กล้าอยู่ข้างนอก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้า Smaug เลย มันยังคงออกไปวิ่งเล่นได้ตามปกติทั้งนอกบ้านและในบ้าน ส่วนสาเหตุที่มันยิ้มอยู่ตลอดเวลานั้น ก็เพื่อเป็นการไล่ความร้อนปรับอุณหภูมิให้กับร่างกาย เพราะมันไม่ได้มีเหงื่อออกเหมือนมนุษย์…
-
ไปดูความแตกต่างระหว่าง Crocodile และ Alligator ถึงจะเป็นไอ่เข้ แต่ก็ไม่เหมือนกันนะ!!
ถ้าหากพูดถึงสัตว์เลื้อยคลานหขาดใหญ่ที่น่ากลัว หลายๆ คนคงจะนึกถึงจระเข้อย่างแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ และส่วนมากก็คงจะเคยได้ยินคำว่า Crocodile และ Alligator มาบ้างใช่ไหมล่ะ อ่า.. แล้วเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมต้องเรียกไม่เหมือนกัน และอะไรคือความแตกต่างของเข้าจระเข้ทั้งสองชนิดนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจ วันนี้เราจะพาไปพบกับความแตกต่างระหว่าง Crocodile และ Alligator กัน นอกจากจะมีชื่อที่เรียกต่างกันแล้ว จระเข้ทั้งสองชนิดนี้ยังมีส่วนอื่นๆ ที่แตกต่างกันอีกด้วยนะ เริ่มจากลักษณะของร่างกาย ตรงส่วนฟันที่มีความแตกต่างกันซึ่งเจ้า Crocodile นั้นจะมีฟันด้านบนที่กว้างกว่าฟันด้านล่าง ทำให้เวลาที่มันงับปากฟันด้านบนและด้านล่างจะคร่อมกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะที่ Alligator นั้นจะแตกต่างกันพวกมันจะมีฟันที่เล็กกว่าและเมื่อพวกมันงับปากจะฟันทั้งหมดจะซ้อนกันได้สนิท ต่อมาคือลักษณะของหัวและสีของผิวหนัง Crocodile นั้นจะมีหัวเป็นรูปตัว V และมีลำตัวสีเหลืองอมเทาส่วน Alligator นั้นจะมีส่วนหัวเป็นรูปตัว U และมีผิวหนังสีดำอมน้ำตาล และอีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกันนั่นก็คือถิ่นที่อยู่ของพวกมันนั่นเอง Crocodile ส่วนมากแล้วจะอาศัยอยู่ทางซีกโลกตะวันออกและแถบอเมริกากลาง แต่ Alligator นั้นจะอาศัยอยู่ในแถบบอเมริกาใต้และทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา แบบนี้หลายๆ คนคงจะแยกระหว่าง Crocodile กับ Alligator ออกแล้วใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ…
-
โถ่ เจ้างูหลาม!! ถึงคราวต้องลอกคราบ แต่ดันมาติดอยู่ในคราบตัวเอง ‘วนไปค่ะ 3 ชั่วโมง’
หนึ่งในวงจรของชีวิตสัตว์บางชนิดที่เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะต้องสลัดผิวหนังเก่าออกไป เพื่อให้ได้ผิวหนังใหม่ที่ดีกว่าเดิม อย่างในกรณีของงูนั้น จะทำการลอกคราบผิวกำพร้าเดิมออกไป เหลือเป็นซากผิวเก่าๆ ทิ้งเอาไว้ อย่างในกรณีของเจ้างูหลาม Stimson ที่ชื่อว่า Tim จากศูนย์สัตว์เลื้อยคลาน Alice Springs Reptile Centre ที่วางกับดักให้กับตัวเอง ด้วยการจัดวางตัวเองเป็นวงกลมเพื่อทำการลอกคราบ จนกระทั่งผิวเก่าถูกลอกออกมาหมด แต่ดั๊นคิดอยู่ในซากผิวเก่าของตัวเองนี่สิ Rex Neindorf ผู้อำนวยการศูนย์ยังบอกเลยว่า เหตุการณ์แบบนี้นับว่าแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครเคยพบเคยเจอมาก่อน ขนาดว่าตัวเขาเองทำงานเกี่ยวกับงูมาตลอด 30 ปี ก็ยังไม่เคยเจอแบบนี้เลย!! เจ้างูหลาม Tim พยายามที่จะออกมาจากซากผิวเก่าของตัวเองอยู่นานแสนนาน เพราะยังไง๊ ยังไงก็หาทางออกไม่ได้ซัก จึงเกิดอาการ ‘ลอกคราบวนไปค่ะ’ อย่างที่เห็นกัน มันใช้เวลานานมาก จากการคลานมาราธอนแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อหาทางออกจากผิวหนังเก่า ใช้เวลามากถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน จนในที่สุดมันก็สามารถแหวกออกมาจากซากผิวเก่าของตัวเองได้ซักที เฮ้อ!! ออกมาได้แล้ววววว …
-
พ่อค้าจีนโชว์ยาอายุวัฒนะจากซากสัตว์เลี้อยคลาน อ้างรักษาได้ทุกอาการเจ็บป่วย!?!?
หากจะพูดถึงประเทศที่มีอะไรแปลกๆ มาให้เราได้ชมอยู่ตลอดเวลา ชื่อของประเทศจีนต้องโผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน และวันนี้อีกครั้งกับการขายยาวิเศษของพ่อค้าชาวจีน ที่เขาเคลมว่ารักษาอาการป่วยทุกอย่างบนโลกได้ แถมมีสาธิตสรรพคุณกันให้เห็นจะๆ ด้วย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย เรื่องราวเกิดขึ้นที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีพ่อค้าเร่คนหนึ่งนำยาวิเศษที่หมักจากซากสัตว์เลี้อยคลานหลายชนิดมาโชว์ให้กับชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่มาชมเป็นอย่างมาก โดยยาวิเศษของเขา มีส่วนผสมของสัตว์เลี้ยงคลานหลายชนิดตั้งแต่ จระเข้ งู เต่า เห็ดหายาก และสมุนไพรอีกหลายชนิด ซึ่งเขาอ้างว่ายาของเขา สามารถรักษาทุกอาการเจ็บป่วยได้ แต่มาพูดลอยๆ ใครจะเชื่อ เขาเลยโชว์สรรพคุณยาให้ทุกคนได้ชม โดยเขานำไก่ที่มีอาการบาดเจ็บที่ขาจนเดินไม่ได้ตัวหนึ่งมา แล้วจัดการทาด้วยยาของเขา ผลปรากฎว่าไก่ที่สภาพเดินไม่ได้เมื่อกี้ กลายเป็นเดินได้คล่องปร๋อในทันที สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในทันที จนผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ต่างควักเงินซื้อยาวิเศษไปคนละขวดสองขวด เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปในแถบชนบทของประเทศจีน พวกเขาเชื่อว่ายาแผนโบราณแบบนี้ สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยหลายๆ อย่างได้ แม้วิทยาการการแพทย์สมัยใหม่จะพัฒนาไปมากก็ตาม เห็นแล้วเหมือนยาดองของบ้านเราเลย ใครสนใจก็ลองไปซื้อมาใช้งานกันได้นะฮะ แต่ #เหมียวอ๊อดโด้ ขอบาย เจ็บป่วยแล้วขอพึ่งพาหมอ…
-
ไปเที่ยวกันไหม? ญี่ปุ่นผุดไอเดียแปลก “คาเฟ่สัตว์เลื้อคลาน” ให้คุณนั่งจิบชาไปกับสัตว์เลื้อยคลาน!?
โลกเราได้รู้จักกับคาเฟ่รูปแบบใหม่ๆ มามากมายแล้ว ทั้งคาเฟ่แม่ คาแฟ่แพะ คาเฟ่กระต่าย คาเฟ่นกฮูก ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็มีความน่ารักที่แตกต่างกันไป แต่หากเหมียวจะขอเสนอคาเฟ่แนวใหม่ที่ไม่เหมือนใครอย่าง คาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานล่ะ คุณจะอยากไปไหม? เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เปิดเผยเรื่องราวของคาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานที่มีชื่อว่า Hachurui Cafe ตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ที่ให้คุณได้นั่งจิบชาแบบชิวๆ ไปกับเพื่อนสัตว์เลื้อยคลานผู้น่ารัก อย่างอิกัวน่า, งู และเต่า ที่คาเฟ่แห่งนี้มีสัตว์เลื้อยคลานไว้คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือนมากถึง 40 ตัว และ 20 สายพันธุ์ แถมยังมีหลายขนาดให้เราได้เล่นกับมันด้วย ใครที่รักและชอบสัตว์เลื้อนคลานน่าจะถูกใจเป็นอย่างยิ่งเลย คาเฟ่สัตว์โดยทั่วไปแล้ว จะจำกัดเวลาที่คุณจะสามารถนั่งอยู่ในร้าน เพื่อถ่ายเทลูกค้าใหม่และเก่า แต่สำหรับที่คาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานแห่งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคุณสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่ก็ได้ตราบที่คุณต้องการ ที่แห่งนี้มีชามากมายหลายชนิดให้คุณดื่ม โดยที่ขึ้นชื่อมากๆ จะเป็นชาอู่หลงแบบออแกนิก ที่มีราคาอยู่ที่แก้วละ 800 เยน หรือประมาณ 230 บาท และแน่นอนว่าที่นี่มีการรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี และก่อนที่เราจะเล่นกับพวกสัตว์เลื้อยคลาน ก็ต้องทำความสะอาดมือของเราให้ดีก่อนนะจ๊ะ …