Tag: สัตว์โลกน่ารัก
-
ฉลาดเกินไปแล้ว!! ชาวญี่ปุ่นแชร์คลิปอีกาขโมยบัตรเครดิตมนุษย์เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ!?
แม้ว่าพวกนกจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก แต่พวกมันก็มีความฉลาดมากพอที่จะสามารถฝึกฝนให้จดจำและสามารถทำสิ่งต่างๆ ซึ่งในบางสายพันธุ์อย่างเช่นอีกา ยิ่งมีความฉลาดเฉลียวโดยที่มนุษย์อย่างเราๆ ไม่ต้องไปสอนมันเลยด้วยซ้ำ ในประเทศญี่ปุ่นเอง อีกาถือเป็นสัตว์ตัวแสบที่ชาวบ้านต้องระมัดระวังในการเก็บขยะให้เป็นที่เป็นทาง เพราะไม่งั้นพวกมันจะมาขุดคุ้ยเอาได้ ถึงขั้นที่รัฐบาลเองต้องมีการวางกับดักไว้ตามสวนสาธารณะเพื่อควบคุมประชากรของพวกมันเลยทีเดียว ความแสบของเจ้าอีกาเหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีชาวทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ถ่ายคลิปของอีกาตัวหนึ่ง ที่แทรกแถวแล้วเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน หนำซ้ำยังขโมยบัตรเครดิตของมนุษย์แถวๆ นั้นไปด้วย!? คลิปนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า kinoshi เป็นคลิปของเจ้าอีกาตัวหนึ่งในสถานีคินชิโจ กรุงโตเกียว ที่พยายามจะกดตู้ขายตั๋วอัตโนมัติเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ แต่หลังจากพยายามอยู่สักพักมันก็เริ่มคิดได้ว่าควรจะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ตั๋วออกมาจากเครื่อง หลังจากที่การกดตู้ขายตั๋วไม่ได้ผล มันก็เริ่มเดินไปยังตู้ข้างๆ ที่มีคนอยู่ แล้วใช้ปากดึงเอาบัตรเครดิตออกมาเพื่อมาเสียบยังตู้ของตัวเอง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจในการทำงานของเครื่องเสียบบัตร ทำให้มันยืนงงอยู่สักพักก่อนจะเอาบัตรไปคืนให้กับเจ้าของ ก่อนจะจบคลิปมีใครสักคนพูดขึ้นมาว่า “เราควรจะเรียกนายสถานีดีไหม?” ชมคลิปเต็มๆ ของเจ้าอีกาหน้ามึนได้ที่นี่เลย คลิปนี้กลายเป็นที่พูดถึงของชาวทวิตเตอร์ในญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ปล่อยออกไปได้ไม่ถึงสัปดาห์ ก็มียอดวิวพุ่งไปเกือบ 3 ล้านครั้ง และยังมีคอมเมนต์ฮาๆ ตามมาอีกเพียบ “นกนี่ฉลาดมาก แต่ก็ทำให้ขนลุกได้ในเวลาเดียวกัน” “ว้าว ดูเหมือนมันเฝ้าดูพฤติกรรมของมนุษย์ที่เครื่องนั้น และเลียนแบบได้ดีมาก” “มันต้องรู้สึกเหนื่อยจากการบินแน่ๆ มันเลยอยากนั่งรถไฟแทน” ที่มา soranews24
-
หนุ่มอินเดียเล่นพิเรนทร์ จอดแวะข้างทางพยายามเซลฟี่กับหมี แต่โดนขย้ำจนเสียชีวิต
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหารุนแรงที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] แม้ว่าหมีจะเป็นสัตว์ที่ถูกนำเสนอในสื่อหลายๆ แบบว่าเป็นสัตว์ขนปุยที่ดูน่ารักใจดี (เช่นในการ์ตูน) แต่ในความเป็นจริงมันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะทุกวันนี้เรายังเห็นข่าวคราวว่าคนถูกหมีทำร้ายร่างกายอยู่ไม่ขาด ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มชาวอินเดียรายหนึ่งถูกหมีเข้าทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เนื่องจากพยายามที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเซลฟี่กับมัน ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้มีชื่อว่า Prabhu Bhatara ในวันเกิดเหตุเขาได้นั่งรถตู้กลับจากงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง ในระหว่างทางรถตู้ได้จอดข้างทางบริเวณหมู่บ้านปาปาดาฮานดิ รัฐโอริศา เพื่อให้ผู้โดยสารแวะเข้าห้องน้ำ ในตอนนั้นเหมือนนาย Prabhu จะเห็นหมีบาดเจ็บตัวหนึ่งนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เขาเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ หวังที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพร่วมกับมันแบบใกล้ๆ เมื่อคนบนรถเห็นเข้าทุกคนก็พยายามส่งเสียงเตือนเขาว่าการถ่ายภาพแบบนั้นมันอันตราย แต่การเตือนของทุกคนดูจะช้าเกินไปเพราะเขาเข้าใกล้เจ้าหมีจนถูกมันโจมตีเข้าแล้ว ชายหนุ่มถูกหมีกัดก่อนจะเหวี่ยงร่างของเขาไปมา แม้ในระหว่างนั้นจะมีสุนัขเห่าและคนส่งเสียงเพื่อไล่เจ้าหมีแต่ก็ไม่มีทีท่าที่เจ้าหมีจะหยุดง่ายๆ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ต้องรีบเข้ามายิงยาสลบเจ้าหมี เพื่อให้มันสงบลงแล้วเข้าไปกู้คืนร่างของชายหนุ่ม นี่เป็นการเสียชีวิตด้วยการถ่ายรูปกับสัตว์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ในรัฐโอริศา ก่อนหน้าในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2017 มีชายวัย 50 ปีพยายามเข้าไปถ่ายภาพเซลฟี่กับช้างตัวหนึ่ง แต่ก็ถูกมันเหยียบจนเสียชีวิต และในเดือนเดียวกันนั้นเองก็มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิตเนื่องจากพยายามถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับมัน ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่ ที่มา mirror , nypost
-
คุณพระคุณเจ้าช่วย!! นักวิจัยจีนค้นพบ “ยุงไซส์ยักษ์” ที่มีขนาดใหญ่กว่ายุงปกติถึง 10 เท่า
เมื่อพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า “ยุง” เราคงนึกถึงแมลงตัวเล็กๆ ที่บินมาเกาะตามแขนขาแล้วดูเลือดเรา แต่ “ยุง” ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ เป็นยุงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เราอาจไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเท่าไหร่ และที่สำคัญมันตัวใหญ่ชนิดที่คุณเห็นรูปก็รู้สึกขนลุกแล้ว!! ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงยืนยันว่าได้เจอเข้ากับยุงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมื่อวัดความยาวปีทั้ง 2 ข้างรวมกัน จะอยู่ที่ 11.15 เซนติเมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่ายุงทั่วๆ ไปถึง 10 เท่า!! เจ้าแมลงยักษ์ตัวนี้ถูกค้นพบโดยนักกีฏวิทยาชาวจีน จ้าว หลี่ ที่บริเวณภูเขาชิงเฉิง ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ระหว่างการตรวจสอบภาคสนามในเดือนสิงหาคม 2560 พวกยุงชนิดนี้จะมีอายุได้ราวๆ 1 สัปดาห์ และไม่ต้องกลัวไป เพราะมันไม่ได้กัดคนแต่จะกินพวกหนอนตัวเล็กๆ เท่านั้น แมลงชนิดนี้เป็นสายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า Holorusia Mikado ซึ่งเป็นยุงที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น นายจ้าวบอกว่าปกติแล้ว Holorusia Mikado ที่ถูกพบในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน จะมีขนาดใหญ่กว่าที่พบในญี่ปุ่น ผู้คนในแทบตะวันตกมันจะรู้จักมันในชื่อ Crane Fly ซึ่งจะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากยุง แต่นายจ้าวก็ยืนยันว่าที่เขาพบนั่นคือยุงแน่ๆ เพราะ Crane…
-
ชมคลิปแมวน้ำคาบ “มีด” ขึ้นมาจากทะเลให้มนุษย์ดู กลายเป็นความน่ารักบนความหดหู่
แมวน้ำดูจะเป็นสัตว์ที่น่ารักและแสนรู้ก็จริง แต่บางครั้งความน่ารักของพวกมันก็สะท้อนความสลดใจออกมาได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึงเหมือนกัน แมวน้ำที่คุณเห็นอยู่นี้มีชื่อว่าเจ้า Manu’iwa มันคือแมวน้ำสายพันธุ์ Hawaiian monk seal ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที มันได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่สัตว์น้ำ Marine Mammal Center ในเกาะฮาวาย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเจ้า Manu’iwa จะทำให้ผู้คนที่ดูแลมันตื่นตระหนก เพราะมันดันไปเจอเข้ากับมีดเล่มหนึ่งในน้ำแล้วคาบมันขึ้นมาโชว์ให้กับมนุษย์ดู เป็นวัตถุสีส้มๆ อยู่ในปาก จากนั้นพวกเขาก็ถึงได้รู้ตัวว่านั่นมันคือมีด เห็นได้ชัดว่าเจ้า Manu’iwa ตกอยู่ในอันตรายโดยที่มันไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่อยู่ในปากอาจสร้างบาดแผลให้กับมันได้ โดยที่มันอาจจะถูกทิ้งมาโดยบุคคลที่ไร้ความรับผิดชอบสักคนหนึ่ง เจ้าแมวน้ำคาบมีดไว้ในปาก โดยไม่รู้เลยว่ามันอันตรายแค่ไหน ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง . โชคดีที่สุดท้ายแล้วเจ้า Manu‘iwa ก็วางมีดนั้นลง ซึ่งภายหลังได้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บมันแล้วเรียบร้อย ด้านเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติฮาวายได้ออกมาให้ความเห็นต่อกรณีนี้ว่า “มันย้ำเตือนเราทุกคนว่าให้ทิ้งขยะกันให้ถูกที่ด้วย” ที่มา thedodo
-
สัตว์ในชีวิตจริง ที่ทำให้เรานึกถึงสัตว์ในการ์ตูน เพราะความคล้ายคลึงของพวกมัน
สัตว์หน้าตาน่ารักที่เราเห็นกันในการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นเหมียว Puss in Boots, Dory จากเรื่อง Finding Nemo หรือหมีแพนด้า Po จากเรื่อง Kung Fu Panda ต่างก็มีต้นแบบมาจากสัตว์ในชีวิตจริงทั้งนั้น แต่ถ้าให้พูดตามตรงแล้วเราแทบจะไม่เคยเห็นสัตว์พวกนี้ทำท่าทางเหมือนที่เราในการ์ตูนเลย เราก็คิดแบบนั้นจนกระทั่งเห็นสัตว์พวกนี้นี่แหละ แค่เห็นหน้ามันปุ๊บฉากในการ์ตูนก็ลอยเข้ามาในหัวเลย น่ารักมว๊ากกก Puss in Boots จากเรื่อง Shrek กวางน้อย Bambi กับเพื่อนกระต่าย จากเรื่อง Bambi คุณพ่อ Mufasa กับลูกน้อย Simba จากเรื่อง Lion King อาจารย์ Shifu จากเรื่อง Kung Fu Panda หมา Tod กับเพื่อนซี้จิ้งจอก Copper จากเรื่อง The Fox and the…
-
พบวาฬเกยตื้นบนหาดในสเปน ผ่าท้องพบเศษพลาสติกมากถึง 29 กิโลกรัม!?
ทุกครั้งที่มีการออกมารณรงค์ไม่ให้ทิ้งขยะลงในทะเล เรามักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงมันใกล้มากกว่าที่คุณคิดเสียอีก และมันทำให้สิ่งมีชีวิตในทะเลตายจากไปอย่างน่าสลดทีเดียว เว็บไซต์ Unilad ได้รายงานว่ามีวาฬสเปิร์มตัวหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นที่แหลม Palos ประเทศสเปนเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าสะพรึงก็คือ มีเศษพลาสติกอยู่ภายในท้องของมันมากถึง 29 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตามข่าวบอกว่าภายในท้องของมันมีทั้งถุงพลาสติก เศษตาข่าย และกระป๋องเต็มไปหมด ด้านนาย El Valle นักชีววิทยาทางทะเล ได้วิเคราะห์ซากของปลาวาฬและสรุปว่าปลาวาฬเสียชีวิตจากพลาสติกที่ปิดกั้นระบบย่อยอาหารซึ่งไม่สามารถขับออกไปได้ ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าวาฬค่อยๆ ติดเชื้อในช่องท้องจนทำให้มันตายในที่สุด การตายของวาฬตัวนี้ทำให้กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมเปิดตัวแคมเปญรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับสิ่งมีชีวิตทางทะเล จากการประเมินขององค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม Greenpeace พบว่าในแต่ละปีจะมีการทิ้งเศษพลาสติกลงในทะเลราวๆ 12.7 ล้านตัน ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลจนทำให้สัตว์น้ำหลายล้านตัวต้องตายไปในแต่ละปี เศษพลาสติกที่ลอยในทะเล หากมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้สัตว์สำลักจนตาย แต่หากมีชิ้นเล็กมันก็จะสะสมอยู่ในกระเพาะจนตายเช่นกัน แต่หากมันล่องลอยอยู่ในน้ำเป็นเวลานานแต่ยังไม่มีสัตว์ตัวไหนมากินมัน มันก็จะค่อยๆ ถูกน้ำทะเลกัดกร่อน และซึมซับเอาสารพิษเข้าไป และเมื่อเหล่าสัตว์น้ำมากินพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปก็จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้ และมันก็จะแพร่มาสู่มนุษย์เมื่อเรากินมันเข้าไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันส่งผลกระทบกับเรายังไงบ้าง? ที่มา unilad
-
“ยีราฟ” กำลังจะสูญพันธุ์แบบเงียบๆ เนื่องจากการแข่งขันล่าสัตว์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แม้เราจะคุ้นเคยกับยีราฟ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปสวนสัตว์ที่ไหนก็ตาม จะต้องมียีราฟให้เราได้เห็นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยีราฟที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติกำลังลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนพวกมันอาจสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้นี้โดยที่คุณเองก็อาจไม่ทันรู้ตัวเหมือนกัน ประชากรของยีราฟในแทบประเทศแอฟริกาใต้มีจำนวนลดลงกว่า 40% ถือเป็นตัวเลขที่เยอะมากในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการจัดการแข่งขันกันล่ายีราฟเพื่อถ้วยรางวัล เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปี 2017 เว็บไซต์ International Union for the Conservation of Nature (IUCN) ได้เปิดเผยข้อมูลที่เชื่อกันว่าปัจจุบันเหลือยีราฟตามธรรมชาติราวๆ 97,500 ตัว ด้านกลุ่มนักอนุรักษนิยมได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้ยีราฟเป็นสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาชาวอเมริกันมีการนำเข้ากระดูกยีราฟแกะสลักกว่า 51,402 ชิ้น หนังกว่า 3,008 ชิ้น และชิ้นส่วนอื่นๆ อีกกว่า 3,744 ชิ้น นอกจากการถูกล่าแล้ว เหล่ายีราฟยังสูญเสียถิ่นที่อยู่เนื่องจากมีรถแล่นผ่านและเสาไฟฟ้าถูกตั้งขึ้นในหลายๆ ที่ การลดจำนวนลงเรื่อยๆ ของยีราฟ ถูกบดบังด้วยข่าวคราวการล่าแรด กอริลล่า และช้างมากกว่า ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เห็นว่ายีราฟเองก็ค่อนข้างวิกฤติเช่นกัน Jeff Flocken หัวหน้ากองทุนระหว่างประเทศเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ประจำอเมริกาเหนือกล่าวว่า “เมื่อตอนที่ผมทำงานวิจัยยีราฟชิ้นนี้ในเคนย่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน พวกมัน (ยีราฟ) ค่อนข้างสมบูรณ์ดีและไม่มีใครตั้งคำถามว่าพวกมันยังโอเคไหม” “แต่เมื่อไม่นานมานี้เราได้หันกลับไปสำรวจพวกมันอีกครั้งอย่างจริงจัง และได้เห็นการลดจำนวนของพวกมันซึ่งทำให้ช็อกมาก…
-
พบกับสัตว์ 5 ชนิดที่มีพลังพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น เหมือนกับพลังของซูเปอร์ฮีโร่เลย
ในโลกของเรามีเรื่องมหัศจรรย์มากมายที่เรายังไม่เคยรู้ และสัตว์ 5 ตัวที่เรากำลังจะนำเสนอนี้ก็คือหนึ่งในความมหัศจรรย์เหล่านั้น พวกมันแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่พูดไปแล้วก็ดูเหมือนพลังจิตหรือความสามารถพิเศษของเหล่าฮีโร่เหมือนกัน จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย 1. บัมเบิ้ลบี กับพลังมองเห็นอดีต ผึ้งสายพันธุ์บัมเบิ้ลบีมีความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ก็คือพวกมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาในระหว่างที่กระพือปีกด้วย ซึ่งผลวิจัยจากนิตยสารวิทยาศาสตร์ Science ได้ระบุมาแล้วว่าทุกครั้งที่พวกมันเกาะบนดอกไม้ก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้านี้ลงไป แล้วพอมีผึ้งตัวใหม่มาเกาะ พวกมันก็จะสัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้านี้แล้วรู้ว่ามีผึ้งมากินน้ำหวานไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็จะบินไปหาดอกไม้อื่นแทน 2. เหยี่ยวเพเรกริน กับความเร็วปานสายฟ้าแลบ เหยี่ยวเพเรกรินเป็นสัตว์ที่มีความเร็วมากกว่าเสือชีตาซะอีก ถ้าเปรียบมันเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็คงจะเป็น เดอะแฟลช ในชีวิตจริง มันสามารถบินได้ด้วยความเร็วเกือบ 390 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเชียวนะ ซึ่งความสามารถนี้แหละที่ทำให้มันเป็นนักล่าในธรรมชาติที่น่ากลัวมาก บินลงมาโฉบเอาเหยื่อไปได้โดยที่เหยื่อไม่ทันรู้ตัวเลย 3. ตัวสลอธ 3 นิ้ว กับสุดยอดความสามารถฟื้นฟูบาดแผล ถึงแม้สลอธจะไม่ได้รวดเร็ว แต่มันมีพลังที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งซึ่งก็คือการฟื้นฟูบาดแผลให้ตัวเองให้หายในเวลาอันรวดเร็ว ความสามารถนี้ทำให้บาดแผลแทบทุกอย่างที่มันได้รับไม่ทำให้มันบาดเจ็บถึงตาย เพราะได้รับการฟื้นฟูก่อน ถ้าพูดให้เห็นภาพชัดเจนเราก็อาจจะบอกได้ว่ามันฟื้นฟูตัวเองได้ดีเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ เดดพูล เลย แถมหลังรักษาแล้วบาดแผลของมันยังไม่ติดเชื้อด้วยนะ ความสามารถนี้แหละเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกสลอธอายุยืน 4. กวางเรนเดียร์ กับการมองเห็นที่เหนือชั้น กวางเรนเดียร์มีความสามารถในการรับภาพที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันสามารถมองเห็นแสงยูวีได้…
-
รวมภาพความมุ้งมิ้งของ ‘ลูกลา’ ที่จะมาทำให้ใจของคุณละลายไปกับความน่ารักแบบบ๊องๆ
ลูกสัตว์ตัวเล็กน่ารักอย่างเช่นลูกแมวหรือลูกหมาได้ขโมยหัวใจคนมานักต่อนักแล้ว แต่น่าเสียดายที่คนส่วนมากไม่ได้ให้ความสนใจกับสัตว์น่ารักๆ อย่าง ‘ลา’ เลย ลาเป็นสัตว์ที่เรามักจะเห็นเป็นแรงงาน แต่จริงๆ แล้วพวกมันมีนิสัยไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่เลย ลาเป็นสัตว์สังคมที่ชอบคลุกคลีอยู่กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แถมพวกมันยังรู้สึกผูกพันและรักเพื่อนมากเป็นพิเศษด้วย วันนี้เราเลยอยากนำเสนอความน่ารักของลูกลาให้เพื่อนๆ ได้เห็นกัน ขอกอดลูกมนุษย์หน่อย งือ ลูกลาน้อยนอนกอดตุ๊กตาหมีน่ารักมว๊ากกก ดูท่าทางดีใจจังเลยที่ได้ออกมาวิ่งเล่นแล้ว อ้อนแม่ใหญ่เลยนะเรา เปลของมนุษย์มันนอนสบายใช่ไหมล่ะ ลูกลาก็ขนนุ่มฟูเหมือนกันนะ แถมมีหลายสีด้วย ดูน่ารักไปคนละแบบ ไม่ว่าสัตว์ตัวไหนก็ชอบวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าทั้งนั้น ลูกหมาหลับไปก่อนนะ เดี๋ยวลูกลาพากลับบ้านเอง ดอกอะไรหอมจังเลย วันคริสต์มาสในแบบฉบับลาๆ น้องบอกว่าอย่าเอาแต่มอง เข้ามากอดได้เลย เล่นซนจนเหนื่อยแล้วก็มานอน นิสัยเหมือนลูกหมามาก ไม่ต้องลำบากจัดที่นอนให้ในบ้านก็ได้ เรานอนคอกได้สบายๆ วันนี้จะออกไปเล่นกับใครดีน้า เธอจะรีบไปไหน อยู่เล่นกับเราก่อน หมวกใบใหม่สวยใช่ป่าว ง่วงแล้ว…
-
10 สิ่งมีชีวิตสุดแปลกและอันตราย ควรอยู่ให้ห่างไว้ ถ้ายังรักชีวิตอยู่
กี่ครั้งแล้วที่พวกเราเคยเห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดที่ดูสวยงามแล้วอยากจะลองเอามือไปจิ้มๆ ดู หรืออุ้มมันขึ้นมากอดเพราะมันดูช่างน่ารักและน่าหลงใหล คุณอาจจะต้องหยุดความคิดนั้นไว้ก่อน เนื่องจากภายใต้รูปร่างหน้าตาที่ดูสวยงามนั้น มันอาจมีความร้ายกาจซ่อนอยู่ข้างใน สัตว์ที่เป็นนักล่าที่เรารูกจักนั้นก็คงจะเป็น จระเข้ เสือหรือสิงโต แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่ใช้ความสวยงามหรือหน้าตาอันแปลกประหลาดของมันเพื่อล่อเหยื่อและจัดการมันด้วยพิษที่ร้ายแรงหรือด้วยวิธีอื่นๆ อย่างโหดร้าย 10. จระเข้เคแมนดำ หรือจระเข้ Black Caiman จระเข้ Black Caiman เป็นจระเข้ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำที่ไหลช้าๆ หรือในทะเลสาบ และมักจะพบมากในช่วงน้ำท่วมในแถบสะวันนาหรือป่าอะเมซอน ซึ่งจะโจมตีมนุษย์เมื่อพบเห็นทันที 9. ควายป่าแอฟริกา มันเป็นสัตว์ที่อันตรายเนื่องจากมีนิสัยที่ดุร้ายป่าเถื่อน และคร่าชีวิตคนกว่า 200 คนในแต่ละปี มันเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ และพฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ของมันนั้นทำให้มันเป็นสัตว์ที่อันตรายต่อมนุษย์มากๆ 8. จระเข้น้ำเค็ม หรือที่เรียกกันว่าจระเข้น้ำกร่อย ไอ้เคี่ยม หรือจระเข้ทองหลาง เป็นจระเข้ที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวและดุร้าย ซึ่งมีข่าวว่าจระเข้ชนิดนี้ทำร้ายและกินสัตว์ที่โดยปกติไม่ใช่อาหารเช่นมนุษย์บ่อยครั้ง 7. แมงมุมบราซิล มันมีอีกชื่อหนึ่งว่าแมงมุมกล้วย พิษของมันนั้นส่งผลถึงระบบประสาท ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นควบคุมไม่ได้ ทำให้หายใจติดขัดและเจ็บปวดอย่างมาก . 6. หอยทาก Cone Snail รู้จักกันในนามว่าหอยทากทะเลนักล่า…
-
พบกับหมาติดผ้าห่ม ที่ไม่ว่าจะไปไหนต้องเอาไปด้วยทุกที่ ก็เค้ารักของเค้าอะเนอะ!!
เชื่อว่าทุกคนจะมีของรักของหวงหรือของที่ขาดไม่ได้อยู่สิ่งๆ หนึ่งเสมอ อย่างสำหรับบางคนอาจจะติดยาดม บางคนอาจจะติดหมากฝรั่ง หรือบางคนอาจจะติดหนังสือ ที่ไม่ว่าไปที่ไหนต้องเอาไปด้วยตลอด แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนเพียงอย่างเดียวนะ เพราะว่ามีหมาตัวหนึ่งที่ติดผ้าห่มชนิดที่ว่าเมื่อมีมันที่ไหนต้องมีผ้าห่มที่นั่นเลย!! แง่มๆ ก็มันติดอ่ะ ทำไงได้ โดยเจ้าหมาที่ตัวนี้มีชื่อว่า Floyd เมื่อตอนมันอายุได้ 1 ขวบ เจ้าของของมันบังเอิญทิ้งผ้าห่มเอาไว้บนโซฟาในบ้าน เมื่อมันได้สัมผัสถึงความนุ่มสบายของผ้าห่มเข้า จึงได้ติดใจและได้ขโมยมันมา และตั้งแต่นั้น มันก็ติดผ้าห่มแจชนิดที่ว่าขาดไม่ได้เลยทีเดียว และในตอนนี้เจ้า Floyd มีอายุได้ 2 ขวบแล้ว แต่พฤติกรรมการติดผ้าห่มของมันยังคงมีอยู่ให้เห็นในทุกวัน เพราะว่ามันมักจะคาบผ้าห่มติดตามตัวมันไปนู่นไปนี่รอบๆ ทั้งบ้าน อย่ามายุ่งกับผ้าห่มของหนูนะ โดยเจ้าหมาพันธุ์เกรตเดนตัวนี้เกิดผูกพันกับผ้าห่มด้วยเหตุใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่ถ้าหากวันใดที่ไม่มีผ้าห่มให้แก่มัน เจ้า Floyd ก็จะมีอาการหงุดหงิดให้เห็น ทางครอบครัวนี้จึงต้องจัดเตรียมผ้าห่มเอาไว้แทบจะทุกมุมบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผ้าห่มให้กับเจ้ายักษ์ตัวนี้อย่างแน่นอน “ในตอนนี้ฉันต้องสำรองผ้าห่มให้มันเยอะเลยล่ะ ซึ่งนอกจากผ้าห่มหลายผืนในบ้านแล้ว มันยังมีอีกผืนหนึ่งอยู่ในรถ อีกผืนหนึ่งที่บ้านของแฟนฉัน เผื่อเอาไว้ว่าในตอนที่ฉันพามันไปหาเขา” ไปเที่ยวยังต้องหาเตรียมไว้ให้มันด้วย “มันมักจะลากผ้าไปรอบๆ บ้านเลย ไม่ว่าจะตอนขึ้นนอนที่ชั้นบนของบ้านมันก็ลากไปด้วย และในตอนเช้ามันก็ลากลงมาเช่นกัน” “แต่ในบางครั้งมันก็พยายามจะลากผ้าห่มออกไปนอกบ้านเหมือนกันนะ แต่ว่าฉันได้ฝึกให้มันทิ้งเอาไว้ที่หน้าประตู และจะสามารถเล่นได้อีกครั้งเมื่อมันกลับมา” Emily…
-
เจ้าม้าแคระผู้น่าสงสาร พลัดตกลงในท่อและติดอยู่นานถึง 4 วัน ซนซะจริงๆ เชียว
ด้วยความไร้เดียงสาของสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ บนโลก ก็ทำให้บางครั้งมันก็แสดงท่าทางตลกๆ ออกมาจนทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกขำขันตามๆ กันไป แต่ในอีกทางหนึ่งความไม่ประสีประสาของมัน ก็อาจจะทำให้มันต้องเจ็บตัวหรือว่าตกอยู่ในอันตรายได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับเจ้าม้าตัวน้อยตัวนี้ที่ทำให้ตัวเองต้องมาเสี่ยงชีวิต จากการที่มันเดินเพลินจนพลัดตกไปอยู่ก้นของบ่อน้ำทิ้ง แต่ก็ยังโชคดีที่มีผู้คนไปพบเข้า และสามารถช่วยเหลือมันออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากมันต้องไปนอนหมกอยู่ในนั้นนานถึง 4 วัน เจ้าม้าน้อยมาให้พี่ช่วยซะดีๆ นะ โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เขตปกครองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อมีม้าแคระพันธุ์เชตแลนด์ชื่อว่า Maple ได้หายไปจากฟาร์มของมันเป็นเวลาถึง 4 วัน การหายไปของมันในครั้งนี้ ทำให้ทางเจ้าของกลัวว่ามันจะถูกขโมยไป จึงได้ออกสืบเสาะหาว่ามันหายไปไหนหรือใครเอามันไป ซึ่งหลังจากออกค้นหาถึง 4 วันในที่สุด Jay Jenkinson ก็สามารถหาสาเหตุที่มันหายไปได้ เพราะเธอดันไปได้ยินเสียงมันร้องออกมาจากหลุมแห่งหนึ่งที่มีความลึกถึง 2.7 เมตร ไม่เหลือความน่ารักเลย ดูมันทำสิ เมื่อได้พบเจอมันแล้ว Jay ก็ได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็มาสมทบในการช่วยเหลือมันขึ้นมา และในที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวขึ้นมาได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ สิ่งที่ติดตัวมันออกมามีเพียงแต่คราบความสกปรกเพียงเท่านั้น เจ้าของคนนี้ได้กล่าวเอาไว้ว่า ความคิดตอนแรกของเขานั้นนอกจากคิดว่ามันจะถูกขโมยไปแล้ว เขายังคิดเผื่อเอาไว้ว่าบางทีมันอาจจะวิ่งหนีออกไปจากฟาร์มก็อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ั ทำหน้าที่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่มีการรังเกียจแต่อย่างใด …
-
ชายใกล้ตาย ประกาศหาบ้านใหม่ให้สุนัขของเขา ชาวเน็ตช่วยกันคนละไม้ละมืออย่างเต็มที่
คนเราทุกคนเกิดมาย่อมต้องจากโลกนี้ไปในที่สุด ยิ่งเมื่อรู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ ยิ่งต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดและจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะเสียชีวิตไป สำหรับชายแก่คนนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดไม่ใช่ตัวเขาเองหรือทรัพย์สินเงินทอง เขาเพียงต้องการให้แน่ใจว่าถ้าเขาตายไปแล้ว สุนัขแสนรักจะมีคนที่ใส่ใจคอยดูแลมัน เขาจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือทางเฟซบุ๊กให้ชาวเน็ตช่วยหาบ้านให้เจ้าหมา และความช่วยเหลือที่เขาได้รับมันก็เกินกว่าที่คาดไว้มากเลย Walter Hollier ชายเจ้าของสุนัข ชายชราเจ้าของสุนัขชื่อว่า Walter Hollier เขาอาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเจ้า Doc และ Diego สุนัข 2 ตัวอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา ส่วนภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็งเต้านมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คำขอสุดท้ายก่อนตายของเธอก็คือช่วยดูแลเจ้าหมาที่บ้านแทนเธอด้วย ทว่าเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 แพทย์ตรวจพบว่าเขาเองก็เป็นโรคมะเร็งตับระยะที่ 4 เขาคาดการณ์ว่า Hollier จะมีเวลาเหลืออยู่เพียงแค่ 3-6 เดือนเท่านั้น โชคดีที่ชายแก่แรงกายและแรงใจดีมากพอจะต่อสู้กับโรคนี้ เขาจึงยังมีชีวิตอยู่แม้จะพ้นระยะเวลาที่หมอคาดคะเนเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ทราบดีว่าตัวเองอาจจะตายไปเมื่อไหร่ก็ได้ เขาจึงอยากให้แน่ใจว่าเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวจะมีคนดูแลอย่างดีเมื่อเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ญาติของเขารับปากว่าจะดูแลเจ้า Doc ที่แก่กว่าให้ดีที่สุด ดังนั้นตอนนี้เขาเลยอยากให้แน่ใจว่า Diego จะมีเจ้าของที่ดีเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า “สวัสดี ผมชื่อ…
-
ภาพของเหล่าสัตว์โลก ที่จะใช้ความน่ารักช่วยให้จิตใจที่บอบช้ำของคุณกระชุ่มกระชวย
เมื่อคุณเครียดหรืออารมณ์เสีย หงุดหงิดกับทุกอย่าง ไม่มีอะไรทำให้อารมณ์ดีขึ้นหรือทำให้ผ่อนคลายเลยสักนิด การนั่งดูรูปภาพบนอินเตอร์เน็ตอาจจะช่วยได้ ไม่เชื่อลองดู 20 ภาพสัตว์น่ารักๆ เหล่านี้ดูสิ บางตัวก็ดูแสนซน บางตัวก็ดูขี้เกียจชวนง่วงเหลือเกิน ซึ่งเจ้าสัตว์น่ารักเหล่านี้จะเข้าไปทำให้หัวใจของเราพองโต มีความสุขขึ้นมาเลยทีเดียว 1. เจ้าเหมียวขนหยิก 2. เจ้าหมาผู้มีประสาทไวเป็นเลิศ สามารถงับลูกบอลหิมะกลางอากาศได้ 3. กวาง Panu เป็นกวางที่ตัวเล็กที่สุดในโลก 4. หมาน้อยแสนซน ผู้มีอายุเพียง 5 สัปดาห์ 5. เจ้าต่ายช็อกโกแลตตัวน้อย 6. เหมียวขนมปัง น่าฟัดสุดๆ 7. ในที่สุด เจ้าหมาน้อยตัวนี้ก็โตพอที่จะคาบของเล่น 2 ชิ้นในเวลาเดียวกันได้แล้ว 8. เจ้าหมาสุดเลิศ 9. แมวอายุ 23 ปีที่ดูหล่อเหลา เพอร์เฟกต์เหลือเกิน 10. รถติดเป็นชั่วโมง…
-
เจ้าเหมียวขี้กลัว ได้รับความอบอุ่นจากเด็กสาว กอดไม่ยอมปล่อย จนสุดท้ายก็ติดใจ!!
แมวนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ระมัดระวังตัวและขี้ระแวงตลอดเวลา การที่จะทำให้มันไว้ใจได้นั้นต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่มันก็จะมีบางคนที่ค่อนข้างพิเศษ ที่จะเป็นคนที่สัตว์นั้นชอบเข้าหาเหมือนกับว่าคนๆ นั้นกับสัตว์ตัวมีความรู้สื่อถึงกันมาก่อน ซึ่งเธอคนนั้นก็คือ Emmy ผู้ซึ่งโตมากับสัตว์ต่างๆ และช่วยงานแม่ของเธอที่ทำงานอยู่บ้านพักสัตว์ต่างๆ เธอนั้นเริ่มช่วยแม่ของเธอดูแลลูกแมวและเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือมาตั้งแต่เธอยังเล็ก Emmy และเจ้า Baja นอนกอดกัน เธอทำให้เจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่ขี้กลัว และไม่เชื่อใจมนุษย์มากๆ ให้สามารถกลับมาเชื่อใจมนุษย์ได้ โดยที่เจ้าแมวตัวนั้นชื่อ Baja มันเป็นหนึ่งในแมวสามตัวที่ถูกช่วยเหลือโดย Kitten Angels ในนิวยอร์ก โดยที่ April แม่ของ Emmy ได้ช่วยพวกมันทั้งสามตัวพร้อมกับแม่ของมันที่ชื่อ Luna ในตอนแรกพวกพี่น้องสามตัวนี้มีอาการกลัวคนเอามากๆ แต่หลังจากที่ไม่กี่ชั่วโมงในการให้เวลาร่วมกันกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ใจดีกับขนมอร่อยๆ เจ้าพี่น้องทั้งสามก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดๆ ถึงมันจะยังกลัวอยู่แต่ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะเชื่อใจและยอมรับความรักบ้างแล้ว Baja เจ้าเหมียวขี้กลัว Baja หลับไปในอ้อมกอดของ Emmy April กล่าวว่า “Emmy เป็นมิตรกับสัตว์ทุกชนิด และสามารถปลอบประโลมสัตว์ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไก่ที่ดุร้ายให้สงบ หรือแม้แต่หมูป่าก็ยอมให้เธอเกาหลังมัน และตอนนี้เธอก็ทำให้เจ้าเหมียวขี้กลัวหายจากอาการนั้นได้” Baja นั้นขี้กลัวเอามากๆ จนกระทั่ง Emmy เข้ามาใกล้…
-
เหล่าชาวเน็ตร่วมแชร์พฤติกรรมสุดแสบของสัตว์เลี้ยงตัวเอง ใครชนะเลิศมาโหวตกัน 555+
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงหมาแมวแล้วพวกมันทำอะไรที่แปลกๆ เฮรียๆ ตลกๆ บ้างมั้ย ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะพบเจอได้ยาก แต่เวลาที่เจอสัตว์เลี้ยงพวกนี้ทำอะไรแบบนี้ก็จะรู้สึกตลกสุดๆ ซึ่งมีชาวทวิตเตอร์นั้นร่วมกันแชร์พฤติกรรมเฮรียๆ แปลกๆ ของสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ซึ่งแต่ละตัวจะโหด มัน ฮา ขนาดไหน เราไปชมกันครับ แค่ขออาหาร ทำไมต้องเหยียบเพื่อนด้วยล่ะลูกกกก แมวตัวนี้มันรื้อเบาะนั่งออกมาวางตรงมุม ว่าแต่มันทำได้ไงอ่ะ และมันทำไมไปเพื่ออะไรรรร หลังจากบอกว่าห้ามขโมยอาหารได้ 2 วิ เจ้าเหมียวตัวนี้ก็เป็นอย่างที่เห็นและต้องจำนนต่อหลักฐาน ฮ่าๆ เจ้าหมาของเขานั้นฉี่ราดที่พื้น และมันก็พยายามที่จะทำลายหลักฐานอ่ะ 555 ปกติเวลาพาหมาไปเดินเล่น มันก็จะไปคาบพวกกิ่งไม้มาใช่มั้ย แต่เจ้านี่พิเศษ เพราะมันไปคาบจู๋ปลอมกลับมาซะนี่ ว่าแต่จะมีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของดิลโด้มั้ย 555 เจ้าเหมียวตัวนี้ โชว์ความเทพ กดน้ำกินเองโดยไม่ต้องให้เจ้าของช่วย เมื่อแม่พยายามถ่ายภาพเจ้าเหมียวตัวใหม่ มีเหรอที่เจ้าตัวที่อยู่มาก่อนจะยอม หึหึ น้องหมาผู้ชื่นชอบในการขโมยของใช้ต่างๆ จากในบ้าน . . . หมาหลงสองตัวมาขอกินน้ำ…
-
งี้ก็มีด้วยเหรอ? “Neotrogla” แมลงสายพันธุ์ประหลาดในบราซิล ที่เมียมี Joo ตัวผู้มี Jim!?
โดยปกติตามความเข้าใจของมนุษย์แล้ว สัตว์เพศผู้จะต้องมีอวัยวะเพศที่ยื่นออกมาก ซึ่งเรามักเรียกส่วนนั้นว่าองคชาตหรือจู๋ ส่วนสัตว์เพศเมียจะมีอวัยวะเพศที่มีลักษณะเป็นช่องหรือรูเพื่อสอดรับกับของตัวผู้ ซึ่งเราเรียกว่าจุ๋มจิ๋ม แต่สัตว์ที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบยกมาเล่าให้อ่านในครั้งนี้กลับมีอวัยวะเพศที่แตกต่างออกไป เพราะมันคือแมลงสายพันธุ์หนึ่ง ที่ตัวผู้ไม่ได้มีจู๋และตัวเมียไม่ได้มีจุ๋มจิ๋ม!? เจ้าแมลงที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Neotrogla มันมีขนาดความยาวอยู่ที่ราวๆ 3 มิลลิเมตร ถูกค้นพบครั้งแรกในถ้ำแห่งหนึ่งในประเทศบราซิลเมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2014 โดยนักวิจัยที่ชื่อ Rodrigo Ferreira จากมหาวิทยาลัย Lavras ในประเทศบราซิล จากนั้นเขาถึงส่งมันต่อไปให้กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านแมลงอย่าง Charles Lienhard จึงได้รู้ว่ามันคือแมลงสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งจะมีการค้นพบ การค้นพบครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นการสลับบทบาทของการสืบพันธุ์ในสิ่งมีชีวิต ที่แตกต่างไปจากสัตว์ทั่วๆ ไป เพราะเจ้า Neotrogla จะใช้วิธีการผสมพันธุ์โดยให้ตัวเมียยื่นอวัยวะเพศที่อยู่บริเวณก้นของตัวเองเข้าไปในร่างกายของตัวผู้ก่อนจะเบ่งหนามออกมาเพื่อยึดกับช่องอวัยวะเพศของตัวผู้ จากนั้นก็ค่อยๆ สูบเอาน้ำเชื้อที่อยู่ในตัวผู้ออกมาผสมกับไข่ในร่างกายของตัวเอง ซึ่งในการผสมพันธุ์แต่ละครั้ง เหล่า Neotrogla จะใช้เวลาราวๆ 40-70 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ (โหนานแท้) นี่คือภาพอวัยวะเพศของตัวเมีย ที่จะสังเกตได้ว่ามันมีส่วนที่ยื่นๆ ออกมาคล้ายจู๋ ต่อมา Kazunori Yoshizawa จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ในประเทศญี่ปุ่นจึงได้เข้ามาร่วมในทีมวิจัยนี้ด้วยเพื่อช่วยศึกษาเจ้าแมลงตัวนี้ให้ลึกลงไปอีก จากการศึกษาในครึ่งหนึ่ง Yoshizawa เคยพยายามที่จะดึงเอาตัวเมียและตัวผู้ออกจากกันในระหว่างที่พวกมันกำลังผสมพันธุ์กันอยู่ แต่ปรากฏว่าหนามที่ตัวเมียเบ่งออกมานั้นเกาะแน่นอยู่กับอวัยวะเพศของตัวผู้มาก แม้จะดึงจนช่วงท้องของตัวผู้ฉีกขาดออกไปจากตัวเมีย แต่อวัยวะเพศของตัวเมียก็ยังไม่ยอมหลุดออกมาจากตัวผู้เลย …
-
ลูกจิงโจ้กำพร้าไม่มีแม่ให้อ้อน เลยเข้าไปนอนอยู่ในเสื้อของตำรวจ เดินตามต้อยๆ เลย
ไม่ว่าจะลูกคนหรือลูกสัตว์ ต่างก็ต้องการคนดูแลเอาใจใส่เหมือนกันนะ แต่กับสัตว์น้อยๆ บางตัวช่างน่าสงสารเหลือเกิน เพราะพวกมันมีโอกาสพลักพรากกับพ่อแม่ของมันสูงงกว่ามนุษย์ซะอีก แต่ถึงแม้จะกลายเป็นสัตว์กำพร้า แต่ก็ยังมีมนุษย์ใจดีบางคนให้ความช่วยเหลือมันอยู่นะ เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า มีลูกจิงโจ้กำพร้าวัย 4 เดือนตัวหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ Scott Mason ในแถบตะวันตกของออสเตรเลีย และตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Cuejo สาเหตุที่เจ้า Cuejo ต้องกลายเป็นจิงโจ้กำพร้าก็เพราะว่าระหว่างที่มันกำลังซุกอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่มัน จู่ๆ ก็มีกระกระบะพุ่งมาชนแม่ของมันอย่างจัง ทำให้แม่ของมันตายทันที แต่โชคดีที่มันสามารถรอดมาได้ เจ้าหน้าที่ Mason ซึ่งเคยเป็นอดีตหน่วยพยาบาลมาก่อน จึงอาสาเข้าไปประถมพยาบาลและดูแลมันเอง แต่เนื่องจากธรรมชาติของลูกจิงโจ้มักจะได้รับการปกป้องจากแม่ของมันโดยการเข้าไปนอนอยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง ทำให้เจ้า Cuejo ไม่สามารถเข้าไปนอนในกระเป๋าหน้าท้องของใครได้เลย มันเลยกระโดดเข้าไปซุกอยู่ในเสื้อของเจ้าหน้าที่ Mason ซะอย่างงั้น เจ้าหน้าที่ Mason พูดถึงอาการของเจ้าจิงโจ้น้อยว่า “เจ้าจิงโจ้ต้องการกินอาหารทุกๆ 3 ชั่วโมง มันเลยกลายเป็นเหมือนลูกของผมเลย มันดูผอมแห้งมาก แต่เราก็ทำเท่าที่เราจะทำได้” ชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้าจิงโจ้ได้ที่ด้านล่างเลย คุณตำรวจหล่อด้วย ใจดีด้วย…
-
28 ภาพ “สัตว์ตัวน้อย” ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่เจ้าอาจจะไม่น่ารักแบบนี้แล้ว
ถึงแม้ว่าเหล่าพ่อแม่หรือผู้ปกครอง จะดีใจและรู้สึกโล่ง เมื่อเห็นเราได้เติบโตและเลิกทำตัวแบบเด็กๆ แต่ก็มีสัตว์บางชนิด ที่เราอยากให้มันเป็นเด็กไปตลอดเพราะมันดูน่ารักมาก เจ้าพวกสัตว์ต่างๆ ก็เหมือนกับพวกเราเมื่อตอนเป็นเด็ก ที่ขี้สงสัย มีดวงตากลมโตอันบริสุทธิ์ และมีขนที่ดูนุ่มนิ่ม ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาเพื่อการเจริญเติบโต แต่ก็ยังมีโอกาสที่เราจะได้ถ่ายภาพอันน่ารักๆ ของพวกมันได้ 1. ลูกยีราฟ 2. ลูกกิ้งก่าคาเมเลียน 3. ลูกช้าง 4. ลูกจระเข้ 5. ลูกเป็ดน้อย 6. ลูกกวาง 7. ลูกฮิปโป 8. ลูกเม่น 9. ลูกแมวเหมียว 10. ลูกปลาโลมา 11. ลูกตัวกินมด 12. ลูกหมีแพนด้า 13. ลูกปลาหมึก 14. ลูกแกะ…
-
เหมียวน้อยผู้เคยเกือบตาย ได้รับโอกาสอีกครั้ง และเติบโตเป็นขึ้นเป็นแมวผู้สง่างาม
ครอบครัวของลูกแมวหกตัวถูกส่งมายังที่พักพิงสัตว์ท้องถิ่นในสภาพที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก น้องน้อยตัวสุดท้องจากครอกไม่สามารถแม้แต่จะกินอาหารด้วยตัวเอง มันอ่อนแอและผ่ายผอม ทุกคนนี้คิดว่ามันคงไม่รอด แต่วันหนึ่ง มีหญิงสาวได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือมันไว้และทำให้ชีวิตมันเปลี่ยนไปตลอดกาล Hannah Shaw ผู้ช่วยเหลือลูกแมวจำนวนมากแห่งเว็ป Kitten Lady ได้รับการติดต่อมาว่า มีแม่แมวและลูกแมวห้าของมันที่ต้องการผู้ดูแลที่มีประสบการณ์เพื่อเข้าช่วยเหลือ แม้ว่าตามปกติ Hannah จะรับดูแลแค่ลูกแมวกำพร้า แต่เธอก็ไม่สามารถปฎิเสธพวกมันได้ โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าเจ้าตัวน้อยไม่สามารถทานอาหารเองได้ เธอเดินทางไปที่ Humane Rescue Alliance กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ใน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนที่เธออยู่ที่นั่นเธอก็ต้องตกใจเมื่อได้รู้ว่าแมวน้อยเพศเมียที่ชื่อ Small Fry ตัวนี้แทบจะไม่มีน้ำหนักเลย มันน้ำหนักเพียง 170 กรัมเมื่ออายุได้สามสัปดาห์ (เท่ากับแมวอายุหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น) มันมีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่รุนแรงที่ทำให้ไม่สามารถดูแลตามปกติได้ มันไม่เพียงแต่ต้องดูแลด้วยมือเท่านั้น แต่มันยังต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดและยาเสริมพิเศษเพื่อช่วยให้มันมีชีวิตรอด “Small Fry ตัวเล็กกว่าพี่น้องของมันอย่างมาก… มันผอมจริงจนฉันรู้สึกถึงซี่โครงทุกครั้งที่แตะต้องตัวมัน” Hannah กล่าว หลังจากเดินทางไปหาสัตวแพทย์ Small Fry ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค URI, โรคโลหิตจาง และหัวใจเต้นเบา ท้องของเธอเต็มไปด้วยอากาศจากการพยายามหายใจ มันไม่น่าจะรอดแน่ แต่ Hannah ก็ไม่ยอมแพ้ การดูแลตลอด…
-
นักวิจัยพบ “แมงกระพรุนดอกไม้ไฟ” อีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตสุดงดงามใต้ทะเลลึก ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
นักวิจัยของ E/V Nautilus องค์กรการสำรวจใต้น้ำ ได้ใช้พาหนะควบคุมทางไกลที่ชื่อรุ่น Hercules เพื่อจับปู แต่แล้วพวกเขาก็เจอบางสิ่งที่ต้องสะดุดตาเข้าให้ โดยสิ่งที่พวกเขาพบเจอต้องสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขามาก เพราะมันคือเจ้าแมงกระพรุนดอกไม้ไฟ หรือ Halitrephes maasi jellyfish พวกเขาพบเจ้าแมงกระพรุนตัวนี้ใต้ความลึก 4,000 ฟุตหรือประมาณ 1,225 เมตรใต้ทะเล Revillagigedo Archipelago ใน Baja California ประเทศ Mexico เจ้าแมงกระพรุนดอกไม้ไฟมีลักษณะเหมือนชื่อของมันคือตัวมันจะมีลวดลาย คล้ายกับดอกไม้ไฟที่กำลังแตกออกซึ่งมันสะท้อนกับสีของเครื่อง Hercules ที่เป็นสีเหลืองอ่อนๆ และสีชมพู แต่น่าเสียดายเพราะถ้ามันไม่มีแสงสะท้อน เจ้าวุ้นๆ ที่สวยงามก็จะหายไปในความมืด ดูลวดลายของมันสิ เหมือนกับดอกไม้ไฟที่กำลังระเบิดเลย แสงที่สะท้อนจากเครื่อง Hercules ทำให้สีของเจ้าแมงกระพรุนออกมาเป็นเหลือง ม่วง ชมพู ดูไปดูมา เจ้านี่นี่น่ารักนะเนี่ย มาชมวิดีโอของเจ้าแมงกระพรุนดอกไม้ไฟกันดีกว่า จะได้รู้ว่ามันสวยงามขนาดไหน ธรรมชาตินี่มีสิ่งสวยงามให้ได้ดูเรื่อยๆ จริงๆ ที่มา Thisiscolossal, Core77, Youtube
-
ช่วยนกพิราบสาวปีกหักมาไว้ในศูนย์พักพิง โชคชะตาเป็นใจส่งเนื้อคู่มาให้ถึงที่ หนุ่มนี่ตามติดแจเลย
สถานพักพิงสัตว์เป็นสถานที่ที่มีไว้เพื่อให้สัตว์ที่เดือดร้อน หรือสัตว์ที่บาดเจ็บได้รับความช่วยเหลือ และยังเป็นบ้านสำหรับสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของส่วนหนึ่งอีกด้วย โดยจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยนำสัตว์มาที่นี่และทำการช่วยเหลือพวกมัน บางทีสัตว์ที่ถูกนำมาที่นี่ก็ดูน่าสงสารเหลือเกิน บางตัวก็บาดเจ็บจนต้องรักษากันนาน บางตัวก็ถูกทำร้ายมาจนรู้สึกกลัวคนไปเสียหมด เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้าตามเลย แต่บางครั้งก็มีเรื่องราวน่ารักๆ เกิดขึ้นในสถานพักพิงสัตว์เหมือนกันนะ เหมือนอย่างเรื่องนี้ยังไงล่ะ นกพิราบสาว Juliet นกพิราบสาวสายพันธุ์ Satinette ตัวนี้ถูกพบอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ตอนที่มีคนไปเจอเข้ามันก็อยู่ในสภาพที่บินไม่ได้เสียแล้ว ไม่แน่ว่ามันอาจจะหนีออกจากบ้านมาหรือพลัดหลงจากฝูงแล้วจึงได้รับบาดเจ็บก็อาจเป็นได้ โชคดีที่มันถูกพาไปที่สถานพักพิงสัตว์ที่ดำเนินงานโดย Wildlife Haven Waterloo (WHW) ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่มีใจรักจะช่วยเหลือสัตว์ โดย WHW มีศูนย์อยู่ที่เมืองวอเตอร์ลู และที่นี่เองที่จะกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของเจ้านกพิราบตัวนี้ เค้าบินไม่ได้แล้ว ช่วยเลี้ยงเค้าหน่อยนะ ขนสวยใช่ไหมล่ะ นกพิราบพันธุ์นี้มีขนที่มีลักษณะคล้ายหางเป็นเอกลักษณ์ด้วยนะ น่ารักจริงๆ คนในนั้นตั้งชื่อมันว่า Juliet พวกเขาคอยดูแลรักษามันอย่างดี และมันเองก็ดูจะชอบอยู่ที่บ้านใหม่หลังนี้ซะด้วย แต่อาสาสมัครที่อยู่ที่นั่นก็ยังกังวลอยู่บ้างว่ามันอยู่ตัวเดียวแล้วจะเหงาหรือเปล่า เนื่องจากนกพิราบนั้นเป็นสัตว์สังคมและไม่ชอบที่จะอยู่ตัวเดียว ดังที่ WHW บอกว่า “นกพิราบเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาด และเป็นสัตว์สังคม พวกมันจะหาเนื้อคู่และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากกันไป” พิราบหนุ่ม Romeo แล้วก็เหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจให้กับ…
-
เมื่อหมาแสนรัก กำลังจะตายด้วยโรคสมองเสื่อม เจ้าของเลยถ่ายอัลบั้มไว้อาลัยให้กับมัน…
พอเราได้ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงเป็นเวลาระยะหนึ่งแล้ว เราก็ย่อมจะรู้สึกผูกพันกับมันมากเป็นพิเศษ เพราะมันได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปเสียแล้ว ราวกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวอย่างไรอย่างนั้นเลย หากว่าอยู่ๆ วันหนึ่งมันหายไปจากชีวิตของเรา อาจจะรู้สึกใจหายประหนึ่งว่าคนรักได้หายไปจากชีวิตของเรา คงจะไม่ได้ยินเสียงเห่าอย่างร่าเริงในบ้านอีก และไม่มีเจ้าขนปุยมาคอยอ้อนให้เราเล่นด้วยอีกต่อไป ยินดีต้อนรับ Kolohe สู่ครอบครัวของเรา Stephanie Jarstad เองก็กำลังเผชิญกับการตายของสุนัขตัวโปรดของเธอเช่นกัน สุนัขพันธุ์ฮัสกี้ของเธอชื่อว่า Kolohe มันเพิ่งตายเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ ด้วยโรคสมองเสื่อม ตอนที่ตายมันเพิ่งมีอายุได้เพียง 9 เดือนเท่านั้นเอง แต่ระยะเวลา 9 เดือนที่ใช้ร่วมกันมานั้นทำให้ Stephanie รู้สึกรักเจ้า Kolohe มากจนรู้สึกว่าชีวิตขาดมันไปไม่ได้ เมื่อเธอรู้ว่ามันใกล้จะตาย เธอจึงได้จ้าง Francoise Weeks ให้ช่วยเธอทำอัลบั้มภาพที่ระลึกของเจ้าหมาขึ้นมา เพื่อที่เวลามันไม่อยู่แล้ว เธอจะได้นึกถึงมันตลอดเวลานั่นเอง และต่อไปนี้คือข้อความจาก Stephanie ที่อยากจะบอกกับเจ้า Kolohe ว่าเธอรู้สึกรักมันมากแค่ไหน เจ้าตัวน้อย Kolohe แกเกิดอาทิตย์เดียวกับตอนที่ฉันและ Michael แต่งงานพอดีเลยนะ วันนี้ฉันอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับแก ตอนแรกฉันกังวลว่าจะเลี้ยงฮัสกี้ไหวไหม เพราะแกคงต้องวิ่งออกกำลังบ่อยๆ แต่ฉันไม่รู้จะรับมือไหวหรือเปล่า …
-
ชายหนุ่มกลัวน้องหมาน้อยใจที่บ้านแคบ เลยสร้างห้องส่วนตัวให้มันใต้บันได น่าอยู่จริงจริ๊งงงง
ถ้าบ้านใครเลี้ยงสัตว์ละก็ คงจะรู้ดีว่าเจ้าตัวน้อยของเราเอง มักจะหาที่พักผ่อนประจำตัวของมันไว้สักที่ในบริเวณบ้าน เพราะพวกมันเองก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน แต่ถ้าหากว่าบ้านของคุณค่อนข้างคับแคบ จนเจ้าตัวเล็กแทบจะไม่มีที่วิ่งเล่นด้วยซ้ำล่ะ แล้วแบบนี้มันจะไปหาที่ส่วนตัวๆ ได้ยังไงกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ไม่ยอมให้พื้นที่แคบๆ มาแย่งความเป็นส่วนตัวของสัตว์เลี้ยงแสนรักไป จึงตัดสินใจดัดแปลงบ้านเองซะเลย ผมชื่อ Hennessy ฮะ หนุ่มคนนี้ชื่อว่า David Maceo เขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่กับภรรยา และเจ้า Hennessy สุนัขตัวน้อย ทว่าบ้านใหม่หลังนี้มีพื้นที่ไม่กว้างขวางเท่าไร เขาเลยรู้สึกว่าไอ้ตัวแสบของเขาคงไม่มีที่ไว้วิ่งเล่น จึงอยากทำห้องส่วนตัวให้มันอยู่เพื่อเป็นการชดเชย David บอกว่า “ผมรู้สึกแย่นะที่เราไม่มีที่ให้มันเล่นซนเลย เพราะงั้นผมก็เลยคิดว่าจะทำห้องส่วนตัวให้มันอยู่ในบ้านใหม่” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่บ้านมันก็แคบอยู่แล้วเลยไม่รู้จะทำห้องให้มันตรงไหนน่ะสิ โชคดีที่ David เหลือบไปเห็นมุมมุมหนึ่งซึ่งอาจจะพอทำเป็นห้องให้มันได้ นั่นคือบริเวณใต้บันไดนั่นเอง หืม … ใต้บันไดมันดูขนาดใช้ได้นะ จะทำห้องได้รึเปล่าน้อ ไหนลองเจาะดูซิว่าข้างในมันกว้างขนาดไหน เขาคิดว่าใต้บันไดอาจจะมีพื้นที่โล่งๆ พอสำหรับให้เจ้า Hennessy อยู่ พอคิดได้แบบนั้นเขาก็เริ่มเจาะสำรวจใต้บันไดเพื่อสำรวจทันที และเหมือนโชคจะเข้าข้างเขา เพราะข้างใต้บันไดนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆ เหมาะจะใช้เป็นบ้านให้เจ้าตัวเล็กพอดีเลย จากนั้นเขาก็เลยเจาะใต้บันไดทั้งหมด เพื่อเตรียมทำห้องเล็กๆ ไว้ตรงนั้น เขาทำผนังทั้งหมด และท่าทีไว้อย่างประณีต…
-
หญิงสาวเห็นเจ้าขนปุยแวบแรกก็ตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็เลยเก็บมันมาเลี้ยงที่บ้านซะเลย
เคยเจอรักแรกพบกันบ้างรึเปล่า มันคืออาการรู้สึกชอบพอใครสักคนหนึ่ง ในรูปแบบที่ว่าพอเจอหน้ากันปุ๊บ ก็ตกหลุมรักเข้าเต็มเปาเลย ฟังดูโรแมนติกเหมือนเป็นพรหมลิขิตเลยเนอะ แต่รักแรกพบไม่ได้จำกัดกับแค่มนุษย์หรอกนะ มันอาจจะเกิดขึ้นระหว่างคนและสัตว์ได้เหมือนกัน แบบที่ผู้หญิงคนนี้เจอกับสัตว์เลี้ยงขนฟูของเธอยังไงล่ะ แมวเหมียว Coco ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า emifasho เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้มีโอกาสไปเยี่ยมแม่ของเธอเมื่อเร็วๆ นี้ และพบว่ามีสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าตัวหนึ่งเดินป้วนเปี้ยน อยู่แถวบ้านของแม่เธอด้วย เมื่อเธอถามแม่ดู จึงได้ความว่าเจ้าเหมียวตัวนี้เป็นลูกของแมวจรจัดตัวหนึ่ง ที่แม่เธอให้อาหารอยู่เป็นประจำ วันนั้นคุณแม่ก็เอาอาหารไปให้แมวแถวบ้านตามปกตินั่นแหละ และก็ไปเห็นว่าแมวจนจัดได้คลอดลูกทิ้งเอาไว้ แล้วเจ้าขนปุยตัวนี้ก็เป็นตัวเดียวในคอกที่มีชีวิตรอดมาได้ เค้าชอบอยู่ในบ้านอะ มันอุ่นใจ คุณแม่ไม่ได้เก็บมันมาเลี้ยงหรอกนะ แต่ก็ยังให้อาหารและดูแลเจ้าเหมียวเป็นอย่างดี คงเป็นเพราะแบบนั้นเจ้าขนปุยตัวนี้ก็เลยไม่กลัวคนเลย แล้วยังเข้ามาอ้อนอีกด้วย น่ารักจริงๆ เธอเห็นแล้วก็เกิดรักแรกพบกับมันทันที เธอคิดว่ามันน่าจะชอบใจถ้ามีคนรับมันไปเลี้ยงในบ้าน ก็เลยขอเจ้าแมวจากคุณแม่มาเลี้ยงซะเลย ซึ่งคุณแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงมันอยู่แล้วก็ตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลย “แม่ของฉันดูแลมันให้อยู่นอกบ้าน แต่ฉันว่าเจ้าตัวนี้น่าจะชอบอยู่ในบ้านมากกว่านะ” มีบ้านใหม่อยู่แล้ว เหมียวต้องรีบทำการยึดครอง พอเธอพาเจ้าเหมียวเข้ามาในบ้านได้แป๊บเดียว มันก็ดูชอบใจมากเลย มันจึงเดินสำรวจไปรอบๆ อย่างตื่นเต้นทันที ดูจากท่าทีของมันแล้วบอกได้เลยว่าเธอคิดไม่ผิดเลยว่ามันชอบอยู่ในบ้านขนาดไหน พอเดินสำรวจจนพอใจแล้ว มันคงรู้สึกปลอดภัยในบ้านที่แสนอบอุ่นหลังนี้ มันจึงนอนแผ่หราลงกลางห้องอย่างสบายใจเฉิบเลย ยังไม่พอนะ พอเข้ามาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน…
-
21 ภาพเปรียบเทียบ ‘หมา’ กับ ‘แมว’ ต่างกันตรงไหน ทั้งๆ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน
สุนัขและแมว เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก พวกมันสามารถเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือ ความน่ารักของสุนัขและแมว จะช่วยเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าของเราได้นั่นเอง แต่สำหรับมนุษย์มือใหม่ที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยง แต่อยากจะหาสัตว์เลี้ยงมาไว้ในครอบครองสักตัว คงจะมีคำถามอยู่ในหัวเป็นแน่ ว่าระหว่างสุนัขกับแมวเราจะเลือกเลี้ยงอะไรดีน้า เราจึงนำภาพเปรียบเทียบสุนัขกับแมว มาไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ว่าเจ้าสัตว์คู่หูคู่กัดสองชนิดมันเหมือนหรือต่างกันยังไง 1. ในบางครั้ง มันก็ไม่ยอมให้จับเหมือนกัน 2. ตอนที่หมานอนตัก ไม่น่าดีใจเท่าตอนน้องแมวนอนตัก 3. สุนัขจะอยากคุยกับคุณเสมอ ในขณะที่แมว … ก็แล้วแต่อารมณ์มันน่ะนะ 4. สุนัขอ่านอารมณ์ได้ง่าย ส่วนแมวน่ะเดาใจมันเอาละกัน 5. หมาคิดว่าคุณคือพระเจ้าของมัน แต่แมวคิดว่ามันเป็นพระเจ้าของคุณ 6. หมากระตือรือร้นที่จะช่วยเจ้านายของมัน แต่แมวไม่ลังเลที่จะทิ้งทาสเลย 7. เราไม่มีวันใจว่าทั้งหมาทั้งแมวคุยอะไรกัน 8. แมวไม่ชอบให้แสดงความรักจนโอเวอร์ ส่วนหมาน่ะชอบนักชอบหนา 9. หมาเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ส่วนแมวบางทีก็เป็นเหมือนคนรู้จัก 10. หมาตามใจง่ายเหมือนลูก แต่แมวเดาใจยากอย่างกับเจ้านาย…
-
ฮัสกี้น้อยฝึกหอน แต่ไหงเสียงดันไปคล้าย “ชิวแบคก้า” จาก Star Wars ล่ะเนี่ย!?
อยู่ๆ ก็เกิดเป็นกระแสไวรัล เมื่อลูกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้แสนน่ารักตัวหนึ่งหอนออกมา แต่เสียงไม่เหมือนลูกสุนัขทั่วไปซะนี่ คนก็เลยชอบใจกันใหญ่ กดไลก์กดแชร์ความน่ารักของมันกัน ลูกหมาตัวนี้อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาหอนอยู่ตัวเดียว ไม่แคร์เพื่อนที่หลับกันอยู่เลย แม้จะไม่แน่ใจว่าทำไมอยู่ๆ มันถึงหอนขึ้นมา แต่พอได้ยินเสียงหอนของมันแล้ว ทำให้คนที่ได้ดูคลิปวิดีโอยิ้มออกมาตามๆ กัน ก็จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไง มันไม่ได้หอนบรู้ว เหมือนกับสุนัขทั่วไปนี่นา แต่เสียงที่ออกมาดันไปคล้ายกับตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ที่ชื่อว่า Chewbacca น่ะสิ ในภาพยนตร์นั้น ตัวละครตัวนี้เป็นนักรบของเผ่า Wookie ซึ่งการออกแบบของตัวละครเผ่านี้ ก็มีต้นแบบมาจากสุนัขพันธุ์ Alaskan Malamute ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้มากทีเดียว Chewbacca ตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars สำหรับความนิยมของคลิปวิดีโอนั้น ตอนนี้ในยูทูบมีคนเข้าชมคลิปนี้ไปแล้วถึงเกือบ 700,000 ครั้ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนชื่นชอบหมาน้อยตัวนี้มากแค่ไหน ลองไปดูคอมเมนต์จากชาวเน็ตบางส่วนกันบ้างดีกว่า “เห็นแล้วอยากเอามาเลี้ยงให้หมดเลย” “นี่มัน Chewie (Chewbacca) ชัดๆ!” “มันอาจจะเป็นน้องของ Chewie ก็ได้นะ” “งื้อออ น่ารักสุดๆ ไปเลย…
-
น่าสงสาร แมวน้อย ‘หูค้างคาว’ ติดแหง็กในท่อ ครอบครัวใจดีพบเข้าเลยเก็บมาเลี้ยง
ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราก็สามารถเห็นสัตว์จรจัดเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด ทั้งหมา ทั้งแมว ตัวไหนที่เป็นจ่าฝูงก็จะตัวอวบๆ หน่อยเพราะได้กินอาหารเยอะกว่าตัวอื่น แต่ก็ยังมีสัตว์จรจัดอีกส่วนหนึ่ง ที่มันไม่สามารถแย่งอาหารจากเจ้าถิ่นตัวโตทั้งหลายได้ พวกมันจึงดูผอมโซ เวลาพบเห็นแล้วก็น่าเป็นห่วงว่ามันจะหิวตายหรือเปล่า แต่บางตัวก็ยังโชคดีที่มีคนไปพบเข้าแล้วพามันไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวของผู้ใช้ Reddit ซึ่งใช้ชื่อว่า thomyo เคยเก็บแมวจรจัดตัวหนึ่งมาเลี้ยง เมื่อตอนนั้นพวกเขาได้ยินเสียงแมวเหมียวดังมาจากท่อระบายน้ำ พวกเขาจึงเข้าไปสำรวจดูว่ามีแมวติดอยู่ข้างในไหม แล้วก็พบกับลูกเหมียวหูค้างคาวตัวนี้ แม้ว่าหูลูกแมวจะใหญ่มากจนเหมือนค้างคาวก็ตาม แต่สภาพของมันตอนที่เขาและครอบครัวเข้าไปเจอนั้นน่าสงสารมาก นอกจากใบหูของมันแล้ว ส่วนอื่นๆ ของร่างกายเล็กแห้งไปเสียหมด มันผอมมากเสียจนเห็นหนังติดกระดูก และส่วนลำตัวของมันก็เล็กจนมีขนาดเกือบจะเท่าหัวอยู่แล้ว เห็นแล้วไม่ต้องสงสัยเลย ว่ามันคงไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานานแล้วแน่ๆ ด้วยความสงสารพวกเขาจึงนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านซะเลย แต่เมื่อเก็บมาเลี้ยง พวกเขาก็พบว่ามันยังตื่นกลัวสัตว์ตัวอื่นอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะโดนสัตว์จรจัดรังแกมาก่อน “มันมีอาการหวาดกลัวสัตว์อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ฉันพามันไปหาสัตวแพทย์ มันฉี่แตกตลอดเลย เพราะมันกลัวหมากับแมวตัวอื่นๆ ในนั้น” ยังดีที่มันไม่ได้กลัวคนในครอบครัวที่เก็บมาเลี้ยงเลย มันกลับเดินตามคนในบ้านต้อยๆ และคอยเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ทุกคนในครอบครัวก็เอาใจใส่เจ้าเหมียวหูค้างคาวเป็นอย่างดี พวกเขาให้น้ำให้อาหารมันกินเต็มที่ ให้มันได้เดินเล่นทั่วบ้านอย่างอิสระ และยังมีของเล่นให้มันเล่นเยอะแยะเลยด้วย ครอบครัวของ thomyo หวังว่ามันจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยเร็ว…
-
รวม 18 ภาพสัตว์ขนปุย ที่มีขนตามธรรมชาติ แต่สวยอย่างกับไปทำซาลอนมายังไงยังงั้น!?
คนเราไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ต้องอยากสวยอยากหล่อกันแน่ๆ อยู่แล้วล่ะ เพราะหน้าตานั้นเป็นดั่งหน้าต่างของหัวใจ ถ้าเราดูดีก็จะมีแต่คนรักคนชอบ และนอกจากการมีหน้าตาที่ดีแล้ว การจัดแต่งทรงผมก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน บางคนถึงกับต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาทำผมเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่กับสัตว์พวกนี้เลย เพราะธรรมชาติได้สรรค์สร้างให้ขนตามธรรมชาติของพวกมันสวยงามอยู่แล้ว แต่ใช้คำว่าสวยงามเฉยๆ คงไม่พออธิบายภาพของพวกมัน เพราะขนของพวกมันช่างดูสวยเป็นทรงอย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว เจ้าไก่ Polish buff laced chicken ตื่นมาก็เป็นทรงแอฟโฟร่ ทันที นกพิราบ Goura ตีโป่งสวยแบบนี้เข้าสมาคมคุณหญิงได้สบ๊าย แกะ Racka Sheep กับทรงผมทวินเทลตั้งตรง ไม่ง้อเจล เจ้าอัลปาก้ากับทรงผมปัดข้างชิคๆ หวียังไงก็ปัดข้างอยู่ดี สุนัขพันธุ์ซามอย น้องหมาขนนุ่มฟู ฟูยิ่งกว่านางแบบโฆษณาแชมพู ฮา กระต่ายน้อย Wally กับปีกนางฟ้าสุดสวย แต่บินไม่ได้นะ กระต่ายพันธุ์แองโกล่า ขนพองฟูฟ่อง ชนะหมาซามอยขาดลอยเลย มาพบกับ อัลปาก้า กันอีกครั้ง แต่คราวนี้มาในทรงผมเซอร์ๆ เท่ๆ มีเสน่ห์ไม่เบา พบกับลิงจิ๋ว Cotton-top tamarin กับทรงผมที่เซตตัวสวยงาม…
-
อึ้งสิพ่อหนุ่ม จู่ๆ “ซานต้าเหมียว” ก็มาคลอดลูกให้เป็นของขวัญ ใต้ต้นคริสต์มาสซะงั้น!?
วันคริสต์มาสใกล้จะวนมาถึงอีกครั้งแล้ว ผู้คนต่างก็ตกแต่งบ้านเพื่อให้พร้อมรับเทศกาลแห่งความสุขนี้กัน และแน่นอนว่าทุกบ้านย่อมไม่ลืมพระเอกของงานอย่างต้นคริสต์มาสแน่ๆ เพราะมันจะถูกใช้เป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว ทั้งยังเป็นจุดที่ของขวัญวันคริสต์มาสของทุกคนรวมกันอยู่นั่นเอง ดังนั้นภาพที่เด็กๆ วิ่งออกมาจากห้องนอน และรีบวิ่งไปแกะของขวัญจากซานต้า ที่วางอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสจึงเป็นเรื่องปกติของเทศกาลนี้ แต่สำหรับชายหนุ่มคนหนึ่ง ของขวัญใต้ต้นคริสต์มาสปีนี้ไม่ได้มาจากซานต้า เขากลับพบของขวัญสุดวิเศษจากแมวเหมียวที่บ้านซะงั้น แม่เหมียว Tink วันหนึ่งในช่วงคริสต์มาส Danielle Lopez ก็ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติของเขา แต่ที่ไม่ปกติก็คือเขาได้ยินเสียงแมวร้องเมี๊ยวๆ ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้าน ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจมันมากเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงจะเป็นเสียงแมวที่เลี้ยงไว้นั่นแหละ ถึงเสียงมันจะแปลกกว่าปกติก็เถอะ ที่ไหนได้ เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณต้นคริสต์มาส เขาก็พบต้นตอของเสียงร้องที่ไม่คุ้นหูนั่นทันที เสียงมันมาจากลูกแมวเกิดใหม่ที่นอนอยู่ข้างๆ Tink แมวของเขา “ผมได้ยินเสียงแมวร้องเบาๆ มาสักพักแล้ว แต่ก็คิดว่าเป็นเจ้า Tink จนเดินไปเจอลูกแมวเกิดใหม่ตัวหนึ่งนั่นแหละ เห็นแล้วตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย” พอเขาตั้งสติได้ ก็วิ่งวุ่นไปทั่วบ้านเพื่อไล่ปิดประตูหน้าต่าง ลูกแมวจะได้ไม่โดนลมหนาว แล้วก็ต้องรีบหาผ้านุ่มๆ มารองให้เจ้า Tink กับลูกของมันนอนด้วย หลังจากจัดแจงให้มันนอนบนผ้านิ่มๆ เรียบร้อย ดูเหมือนว่าแมวของเขายังอยากจะให้ของขวัญเพิ่มอีก มันจึงคลอดลูกเพิ่มออกมาอีก 3 ตัวเลยทีเดียว ดีนะเนี่ยที่เจ้าของเดินผ่านมาเห็นพอดี ได้รับของขวัญแบบสดๆ ร้อนๆ เลย …
-
ชาวไร่เพาะพันธุ์ ‘วัวแคระ’ ขนาดตัวเล็กเทียบเท่ากับหมา ทดแทนเป็นสัตว์เลี้ยงได้!?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มักจะมีกระแสนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดเล็กออกมาเป็นช่วงๆ อย่างเช่นกระแสนิยมในการเลี้ยงสุนัขกระเป๋าชีวาวา หรือจะเป็นเจ้าหมูแคระขนาดเล็กน่ารักที่เลี้ยงแทนสุนัขได้คล้ายๆ กันเลย วันนี้เราขอนำเสนอสัตว์เลี้ยงแคระอีกชนิดหนึ่งให้เพื่อนๆ รู้จัก แม้มันจะไม่ได้มีขนาดเล็กเท่าเจ้าชีวาวาหรือหมูแคระก็ตาม แต่มันก็ถือว่าเล็กจิ๋วสำหรับสายพันธุ์ของมันเลยทีเดียว สัตว์ที่เราจะมาดูกันวันนี้คือ วัวแคระ จากฟาร์ม Oxen Ridge Miniature Cattle ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟาร์มนี้ถูกดูแลโดยเจ้าของซึ่งก็คือ Dustin Pillard ชายหนุ่มอายุ 46 ปี พ่อลูกสามคนนี้นี่เอง เขาได้แรงบันดาลใจในการเพาะพันธุ์พวกมันตอนที่เคยเห็นวัวแคระในงานประมูลสัตว์มาก่อน พอมีโอกาสได้มาทำฟาร์มเองในปี 1995 เขาก็เลยหาซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจำนวน 5 ตัว และขยายพันธุ์พวกมันจนฟาร์มของเขาเป็นที่รู้จักดีในวันนี้ วัวแคระที่เขาเพาะพันธุ์นั้นมีความสูงเพียงแค่ประมาณ 33 นิ้ว หรือเทียบได้ประมาณสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้วเท่านั้นเอง วัวแคระแต่ละตัวก็จะมีสีที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ที่เขาใช้ผสม ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Texas Longhorns, Jerseys, Dexters, Angus และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย ส่วนด้านนิสัยของพวกมันนั้น ก็เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยงมากทีเดียว Pillard อธิบายว่า “วัวแคระส่วนมากมีนิสัยคล้ายสุนัข ชอบให้เราดูแล ชอบวิ่งเล่นนอกบ้าน รักสงบและชอบอยู่กับผู้คน…
-
22 ภาพเหมียวอ้วนขนฟู ผู้ยึดฟาร์มในชนบทของชาวนาไซบีเรีย จนเกิดเป็นอาณาจักรแมว
สำหรับชีวิตของทาสแมวแบบเรา จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้ไปขลุกอยู่ในคาเฟ่แมวที่รายล้อมไปด้วยแมวหลากหลายพันธุ์ หันไปทางซ้ายก็เจอแมว หันไปทางขวาก็เจอแมว แม้แต่จะหยิบแก้วกาแฟมาจิบก็ยังเจอแมว ใครที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน คงรู้ดีว่าฟินจิกหมอนขนาดไหน แต่สำหรับ Alla Lebedeva ชาวนาจากเมือง Barnaul ประเทศไซบีเรียแล้ว แค่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่รายล้อมด้วยแมวคงยังไม่พอหรอก เธอก็เลยทำให้บ้านของตัวเองกลายเป็น ‘อาณาจักรแมว’ ซะเลย แมวพันธุ์ไซบีเรียน ทนหนาว ขนนุ่ม ปุกปุย จริงๆ แล้วที่บ้านของเธอเลี้ยงแมวพันธุ์ไซบีเรียนมานานแล้ว แต่ในเวลาต่อมามันก็มีจำนวนเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องทำโรงนาหลังหนึ่งเป็นที่นอนให้พวกมันทั้งหลังเลย พอเธอเห็นว่าไหนๆ ก็มีแมวเยอะแล้ว งั้นก็เปิดเป็นอาณาจักรแมวเลยก็แล้วกัน จากนั้นเธอจัดแจงพื้นที่ที่มันอยู่ให้สวยงาม แล้วถ่ายรูปกับคลิปวิดีโอของอาณาจักรแมวไปเผยแพร่ลงในยูทูบและทวิตเตอร์ จนตอนนี้มีคนกดไลก์กดแชร์เป็นจำนวนมากกลายเป็นกระแสไวรัลไปแล้ว ลองดูความน่ารักขอดงพวกมันสิ อากาศหนาว สีทนได้ นี่คือถิ่นแห่งเราชาวแมว . ไม่ว่าจะสูงจะต่ำ ก็เป็นพื้นที่ของอาณาจักรแมว . . ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์ของแมวเหมียว ตากหิมะฟินๆ . . แม้แต่ม้าก็เป็นทาสเรา . …
-
ยอมใจ!! 15 ตรรกะแบบแมวๆ ไม่แน่ว่าจนถึงปี 3017 มันยังเหมือนเดิม ยังไงก็ยังอย่างนั้น…
นิสัยของแมวแต่ละตัวเป็นสิ่งที่เดาได้ยากมากๆ สำหรับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ เพราะว่าการกระทำของมันบางอย่างมันอาจจะช่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และแต่ละวันของพวกมันก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกมา ทำให้เหล่าทาสแมวทั้งหลายต่างมึนงงไปตามๆ กันว่าทำไมมันทำแบบนี้กันนะ และนี่คือภาพของแมวจากทั่วทุกมุมโลก ที่แสดงให้เห็นตรรกะในความคิดของพวกมัน ว่าสิ่งที่พวกมันกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก และสิ่งที่คนเข้าใจเป็นสิ่งที่ผิด ซึ่งหลายครั้งที่มันก็ทำพฤติกรรมแปลกๆ จนเราอาจจะนึกว่ามันเป็นอุปนิสัยหรือว่าโดนผีเข้ากันแน่ แต่ที่รู้ๆ ก็คือพฤติกรรมอันพิสดารของมันสามารถทำให้ใครๆ ที่ได้เห็นมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าได้อย่างแน่นอน ก็มันชินอะ ทำไงได้ บางทีก็อยากลองเป็นมนุษย์ดูสักวันบ้าง แมวบางตัวอาจคาบนกคาบหนูมาให้แก่เจ้าของ แต่เจ้าแมวตัวนี้มันดันไปคาบฟองน้ำมาทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นใช่ไหมล่ะเจ้ามนุษย์ เพราะชั้นคือนินจายังไงล่ะ ฮ่าๆ วิธีใช้เบาะสำหรับแมวที่ถูกต้องที่สุด ซื้อที่นอนที่เล่นมาให้ตั้งเยอะ เอ็งดันไปนอนบนกล่องถูกๆ เนี่ยนะ มันน่าโมโหจริงๆ แป๊บนะเจ้านาย กำลังอุ่นกาแฟให้อยู่ เค้ามีแต่เสือนอนกิน อันนี้แมวนอนกินซะอย่างงั้น ก็เจ้านายบอกเองนี่ว่าไม่ให้นั่งบนคีย์บอร์ดอ่ะ ที่กว้างมีตั้งเยอะแยะมายุ่งอะไรกับตูฟะเนี่ย ตูจะนอน อุตส่าห์ตั้งไว้ให้กินง่ายๆ ดันมาแย่งของข้าซะได้ วอนซะแล้วเจ้าเหมียว ไม่ใช่การแข่งยิมนาสติกลีลานะเฟ้ย จบกัน ซื้อมาตั้งแพงอดกินเลย นั่งบนนี้น่าจะอุ่นดีนะ…
-
จากแมวจรจัดไร้บ้าน เมื่อมีคนรับมาเลี้ยงไว้เท่านั้นแหละ โหยยย กอดกับลูกน้อยกลมเกลียวเชียว
เป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ที่จะพยายามโหยหาความรักและความอบอุ่นจากเพื่อนร่วมโลก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มนุษย์เราต้องการเพื่อนและคนรักเช่นกัน แม้แต่แมวที่เป็นสัตว์รักสันโดษ ทั้งยังมีโลกส่วนตัวสูง ก็ต้องการที่พักพิง และความใส่ใจไม่ต่างจากสัตว์อื่นๆ เลย รักกันนะเตง แมวเหมียวสีน้ำตาลตัวนี้เคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน มันไม่เคยได้รับการดูแลหรือความห่วงใยจากใครเลย คงไม่แปลกถ้ามันจะระแวงคนหรือขี้กลัวหากต้องมาอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก แต่หลังจากที่ครอบครัวหนึ่งตัดสินใจรับมันเข้ามาเลี้ยงในบ้านแล้ว กลับพบว่ามันเชื่องและขี้อ้อนอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว อ้าวเจ้าเหมียวมาอยู่ใกล้ๆ อีกแล้ว เจ้าแมวท่าทางจะติดเด็กทารกหญิงคนนี้มาก มันจะคอยเดินตามเธอต้อยๆ แล้วเข้าไปคลอเคลียราวกับว่าอ้อนขอความรักจากเด็กหญิง และมันจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะได้รับอ้อมกอดจากเด็กน้อย จากนั้นไม่นานทั้งสองก็ตัวติดกันเป็นตังเม ไม่ว่าเด็กหญิงจะเดินไปไหน เจ้าเหมียวก็จะตามไปที่นั่น แล้วทั้งสองก็จะนัวเนียกันอยู่อย่างนั้น จนไปจบด้วยการกอดกันกลมเป็นประจำ หนูน้อยก็ไม่ได้รุนแรงกับเจ้าแมวแต่อย่างใด เพราะพ่อแม่ของเธอสอนเธอเสมอ ให้เธอกอดมันด้วยความอ่อนโยนและนิ่มนวล เพื่อให้เจ้าเหมียวรู้สึกถึงความรักอย่างเต็มที่ กอดเค้าแน่นๆ อย่าปล่อยนะ เมี๊ยว พ่อกับแม่ที่เป็นคนเก็บมันมาเลี้ยงคาดว่ามันคงไม่เคยได้รับความรักมาก่อน พอมันมีโอกาส ก็เลยโหยหาความรักความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลาละมั้ง อย่างไรก็ตามคุณพ่อกับคุณแม่ก็รู้สึกอุ่นใจที่ตัดสินใจเก็บมันมาเลี้ยง เพราะพวกเขามั่นใจว่าตอนนี้ลูกสาวได้พบกับเพื่อนรัก ที่จะคอยอยู่เคียงข้างลูกของเขาทุกเมื่อแล้ว ที่มา: iizcat
-
เหมียวตาเหล่ พบถูกทิ้งไว้ข้างถนน นำกลับมาชุบเลี้ยงจนกลายเป็นแมวเซเลปชื่อว่า ‘Muni’
ทุกวันนี้เรามักจะเห็นแมวเซเลปมากมายที่โด่งดังเป็นพลุแตกในโซเชียล บางตัวนั้นก็เป็นแมวที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี แต่บางตัวก็ใช่ว่าจะเป็นแมวผู้ดีมาตั้งแต่กำเนิด เฉกเช่นเจ้าเหมียวตาเหล่ตัวนี้ ก่อนที่จะโด่งดังมันเคยเป็นแมวจรถูกทิ้งอยู่ข้างถนนมาก่อน ใครจะไปรู้ล่ะว่าความผิดปกติของดวงตาของเจ้าเหมียวตัวนี้ จะกลับกลายเป็นจุดเด่นที่เชิดชูความน่ารักของมันให้เหนือกว่าแมวทั่วๆ ไป ซึ่งก่อนหน้านี้มันถูกเจ้าของเก่าทิ้งไม่สนใจใยดี เนื่องจากมันเป็นแมวตาเหล่ ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่ข้างถนน แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาเจ้าเหมียวตาเหล่อายุ 3 ขวบ มาพบกับคุณ Ani Hovsepian โดยที่ทั้งสองพบเจอกันในประเทศอาร์มีเนีย ตั้งแต่วันคืนที่ขมขื่นของเจ้าเหมียวตาเหล่ตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 จนถึงปัจจุบัน มันก็ได้ชื่อว่าเจ้า Muni กลายมาเป็นแมวสุดน่ารัก มีเสน่ห์ ทำชาวเน็ตหลงกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามคุณ Ani Hovsepian ก็ได้เผยเอาไว้ว่า ด้วยดวงตาเหล่ของเจ้า Muni นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของมันมากนัก แต่ถ้าจะใช้สายตาในการล่าเหยื่อขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ยากซักหน่อย จะว่าไปแล้วมันก็เป็นหนึ่งชีวิตที่มีค่าเหมือนกัน แถมยังดูน่ารักไม่เหมือนใครอีกด้วย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบกับเจ้าของผู้ที่พร้อมจะดูแลด้วยนะจ๊ะ เจ้าเหมียวตาเหล่ ที่มา : unilad
-
หนุ่มเจอเจ้าเหมียวจรจัดเดินมาด้อมๆ มองๆ แถมเกาะประตูบ้านซะขนาดนี้ โดนยึดบ้านสิคร๊าบบบ
แมวจรจัดเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆไปในหลายๆประเทศ รวมทั้งในสังคมไทยด้วย แมวจรจัดเหล่านี้ต้องอยู่ตามตรอกซอยที่สกปรก และต้องหาอาหารอย่างยากลำบาก จึงไม่แปลกเลยถ้าหากแมวเหล่านี้รู้สึกอยากมีคนรับเลี้ยงบ้าง เช่นเดียวกับเจ้า Maple ตัวนี้ที่ไปวนเวียนอยู่บริเวณบ้านของสมาชิกเว็บ Reddit ที่ชื่อว่า RavenPuffFTW เขาพบแมวตัวนี้ครั้งแรกในวันที่ 17 พฤศจิกายน โดยแมวของเขาส่งเสียงดังบริเวณหลังบ้าน เขาจึงมองดูและสังเกตเห็นเจ้า Maple กำลังคุ้ยขยะหาอาหารอยู่ แต่เมื่อพยายามจะเข้าไปใกล้เจ้าเหมียวก็วิ่งหนีไปซะอย่างนั้น เขาไม่แน่ใจว่าแมวตัวนี้มีเจ้าของหรือเปล่า จึงลองโพสต์รูปของมันลงในเพจของเขา แต่ก็ไม่มีใครออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของของมันเลย ระหว่างนั้นเจ้า Maple ก็ยังคงมาวนเวียนอยู่หลังบ้านของเขาอยู่เรื่อยๆ มันทั้งดูหิวโหยและขาดความอบอุ่น แต่มันก็ไม่ยอมให้เขาจับสักที หลังจากนั้นเขาก็ให้อาหารเจ้าเหมียวตลอดเวลาหลายอาทิตย์ จนในที่สุดมันก็ใจอ่อนให้เขาจับและนำไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น กลายเป็นแมวที่ขี้อ้อนมากๆ แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะเข้ามาอยู่ได้เฉยๆเลยหรอกนะ ในตอนที่มันถูกรับเลี้ยงใหม่ๆ แมวเจ้าถิ่นในบ้านดูจะไม่ชอบมันซะเลย ถึงอย่างนั้นเจ้าของของมันก็ยืนยันจะรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวใหม่เอาไว้ มันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวขนาดห้าคน ที่มีแมวสี่ตัว และสุนัขอีกตัวหนึ่ง ทว่าในเวลาต่อมาครอบครัวนี้ก็ต้องแปลใจเมื่อพบว่าเจ้า Maple ไม่ได้มาอาศัยอยู่ตัวเดียว เพราะหลังจากไปหาสัตวแพทย์แล้ว จึงได้รู้ว่ามันกำลังตั้งครรภ์อยู่ ถึงอย่างนั้นทุกคนในครอบครัวก็ยังยินดีที่จะเลี้ยงมันและลูกด้วยความเต็มใจอยู่ดี บางทีการที่เจ้า Maple ต้องการครอบครัว อาจจะเป็นเพราะมันต้องการคนช่วยเลี้ยงลูกของมันให้เติบโตมาท่ามกลางความอบอุ่นก็ได้นะ ที่มา: lovemeow
-
17 ภาพเหล่าสัตว์โลกทั้งหลาย ที่มีลวดลาย ‘เป๊ะ’ จนเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
คนรักสัตว์ทั้งหลายคงจะหลงรักกับสีสันที่สดใสหรือลวดลายที่สวยงามของสัตว์แต่ละชนิดกันไม่มากก็น้อย ยิ่งตัวไหนมีลายสวยๆ มูลค่าของมันอาจพุ่งทะยานจนคุณคาดไม่ถึง แต่สัตว์บางตัวก็เกิดมาพร้อมกับลวดลายที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เมื่อเห็นแล้วถึงกับต้องหันมองด้วยความฉงนปนหลงใหลแน่ๆ ผมนี่แหละนักสืบ Hercule Poirot ไฮไลท์ที่ไหนกัน นี่แม่ให้มาเลยนะ ดูหน้าฉันสิ รู้สึกถึงความรักที่ฉันมีไหม ฉันไม่ได้กำลังทำหน้าตกใจนะ นั่นมันลายต่างหาก ผมเป็นม้าจริงๆ นะ ไม่เชื่อดูลายบนตัวผมสิ ฉันนี่แหละนิยามของความสมมาตร ไม่เคยเห็นแมวหน้าสีทูโทนเหรอ เห็นไฝแล้วยังจำไม่ได้อีกเหรอ ฉัน Marilyn Monroe ไง อย่ากินผมนะ ผมไม่ใช่ Cinnabon โรล หนวดของผมสวยไหมฮะ คิ้วของฉันทรงสวยละสิ ใจของผมใหญ่จนเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยล่ะ เค้าไม่ได้ใช้ดินสอเขียนคิ้วนะ จอมโจร Zorro มาแล้ว อย่าจับผมนะ ผมไม่ใช่ Adolf Hitler ไม่ได้มองหน้าเรา แล้วรู้ได้ไงว่าเรายิ้มอยู่ ตอนแม่คลอด ยีนส์สีดำมันหมดที่จมูกพอดีน่ะ ทั้งแปลกทั้งน่ารักจริงๆนะครับ…
-
ลูกเหมียวกำพร้าได้พบกับ พี่สาวแสนดีเคมีเข้ากัน “พี่ไปไหนน้องขอไปด้วย”
ไม่มีอะไรที่น่าจะทำให้รู้สึกดีไปกว่าการได้เห็นสัตว์ที่น่าสงสารมีความสุขแล้ว ซึ่งนี่เป็นเรื่องราวระหว่างแมวสองตัวที่ต้องมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกทั้งสองก็เหมือนมีสายใยที่ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจนแทบจะแยกทั้งคู่ออกจากกันไม่ได้เลย แมวกำพร้าชื่อว่า Cheyenne ได้เข้ามาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์ Nevada SPCA ที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความหวังจะหาบ้านที่อบอุ่นและเหมาะสมให้กับตัวเอง และดูเหมือนว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้จะไม่ค่อยชอบบรรยากาศในสถานรับเลี้ยงนี้มากนัก ความน่ารักของ Cheyenne และ Pearl ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็พร้อมสำหรับบ้านใหม่ ในเวลาไม่นาน Chey ก็ได้ขโมยหัวใจของผู้หญิงใจดีคนหนึ่งไป และผู้หญิงคนนั้นก็รับเจ้าขนปุยตัวนี้ไปเลี้ยงที่บ้านของเธอ โดยก่อนหน้านั้นเธอได้เลี้ยงแมวสองตัวอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวที่อุปถัมภ์แมวตัวนี้มีชื่อว่า Amy เธอได้แนะนำให้มันได้รู้จักกับเพื่อนแมวอีกตัวชื่อว่า Pearl ซึ่งมันเป็นแมวที่ Amy ได้อุปถัมภ์มาจากที่เดียวกันเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว Chey สมัยยังอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์ “พวกเราคิดว่าต้องหาเพื่อนให้กับเจ้า Pearl เพราะว่าเจ้าแมวแก่ที่ชื่อว่า Jenny ไม่ได้สนใจในตัวของเพื่อนแมวด้วยกันมากนัก” Amy ให้สัมภาษณ์ ในช่วงแรกๆ ที่เจ้า Chey เข้ามาอยู่ที่บ้านมันก็เริ่มติดตามเจ้าถิ่นอย่าง Pearl ไปยังสถานที่ต่างๆ รอบบ้านราวกับว่าเป็นเงาของมันเลยก็ว่าได้และดูเหมือนว่า Pearl ก็ชอบใจในตัวเพื่อนใหม่เหมือนกัน ต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลา “หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 2-3 วันพวกมันก็เล่นกันจนตัวแทบกลม และอีก…
-
โมเม้นท์แบบดิสนีย์…เมื่อเจ้าเหมียวกับจิ้งจอกมาป๊ะกัน แต่เจอแป๊บเดียวก็วิ่งหนีหายจ้อย
ในช่วงเช้าของวันหนึ่งที่ประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่ามันเป็นวันเริ่มต้นที่ดีสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันคือช่วงเวลาที่ดีในการนอนหลับ และนี่คือคลิปวิดีโอน่ารักๆ ที่ถูกบันทึกเอาไว้นานมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2015 โดย Dan Bull…จากคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพการเผชิญหน้าระหว่าง เจ้าสุนัขจิ้งจอกกับแมวเหมียวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับเป็นโมเม้นท์ที่แสนประทับใจอย่างบอกไม่ถูก ในขณะที่จิ้งจอกน้อยกำลังตื่นจากการนอนหลับอยู่บริเวณประตูหลังบ้าน มันก็พยายามที่จะเดินออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวอย่างเงียบๆ แต่แล้วสิ่งมีชีวิต 4 ขาหน้าตาแปลกๆ ดูๆ แล้วน่าจะเป็นแมวเหมียวที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ก็ได้สังเกตเห็นเจ้าจิ้งจอกที่อยู่นอกประตูเข้า และนั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นความน่ารักระหว่างการพบหน้ากันของสัตว์ทั้งสอง พวกมันจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ และสุดท้ายเจ้าจิ้งจอกก็เป็นฝ่ายวิ่งหนีหายไปเฉย ทิ้งให้น้องเหมียวต้องอยู่แบบงงๆ ไปชั่วขณะ ทางด้าน Dan ได้ออกมาเผยว่า “สุนัขจิ้งจอกกำลังนอนกลับอยู่ที่ประตูหลังบ้าน มันมักจะออกหากินในเวลากลางคืน และจะวิ่งหนีอย่างรวดเร็วหากพบว่าคุณอยู่ใกล้ๆ มัน แต่สำหรับเจ้าจิ้งจอกตัวนี้กลับไม่กลัวอะไรเลย” ในการปรากฏตัวของเจ้าจิ้งจอกดูเหมือนว่ามันดูมีความสุขมาก ที่ได้มาโปรยเสน่ห์ของมันให้ Jimmy และ Sammy แมวแสนรักของ Dan ได้เห็น แต่เจอแป๊บเดียวก็วิ่งหนีหายจ้อยไปซะละ เอ…แล้วแบบนี้จะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหมนะ เห้ย!! โมเม้นท์แบบนี้นี่มันคุ้นๆ เหมือนออกมาจากการ์ตูนดิสนีย์เลยเธอววววว์ ถ้าอยากดูก็เพียงแค่คลิกที่วิดีโอเลยจ้า…
-
สาวตกใจหนักเมื่อเห็นแมวแสนรักนอนแน่นิ่ง ก่อนจะรู้ความจริงว่าเป็นเพราะฤทธิ์กัญชา
คนส่วนใหญ่คงรู้จัก “กัญชา” และทราบถึงฤทธิ์เดชของมันดี เพราะถ้าหากว่ามีสัตว์ตัวไหนได้ลิ้มลองเข้าไป มันก็จะเกิดอาการเมาปลิ้น หรือบางตัวก็นอนแน่นิ่งเหมือนตายจนทำให้เจ้าของตกใจกันมานักต่อนักแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณเลี้ยงแมว พร้อมกับปลูกกัญชาเอาไว้ในบริเวณบ้านนั้น รู้หรือไม่ว่ามันเสี่ยงเกินไป เพราะถ้าประมาทขึ้นมาเมื่อไหร่ กัญชาที่ปลูกเอาไว้อาจมีโอกาสถูกแมวแสนรักกินก็เป็นได้ เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า มีหญิงสาวจากรัฐแมสซาชูเซตส์คนหนึ่งได้ปลูกกัญชาเอาไว้ในห้องปลูกต้นไม้ของตนเอง แต่ทว่าวันหนึ่งหลอดไฟยูวีในห้องปลูกต้นไม้ของเธอดันพัง ด้วยเหตุนี้ สาวรายดังกล่าวจึงได้ย้ายกระถางกัญชามาไว้ยังระเบียงบ้าน เพื่อให้พืชที่ปลูกได้ดื่มด่ำไปกับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ และวันหนึ่งในขณะที่หญิงรายนี้ได้ออกไปข้างนอก และได้กลับมาถึงบ้าน นั่นทำให้เธอต้องตกใจอย่างหนัก เมื่อพบว่าเจ้าเหมียวแสนรักได้พากันมาลิ้มรสชาติของต้นกัญชาที่ปลูกเอาไว้เข้าซะแล้ว เท่านั้นยังไม่พอพวกมันยังทำกระถางตกแตกจนทำให้พื้นบ้านเลอะเทอะเต็มไปหมด เฮ้อ…เห็นแล้วเหนื่อยใจแทนทาสจริงๆ และนี่คือสภาพของแมวตัวแสบหลังจากที่ได้ลิ้มลองกัญชาเข้าไป ตอนแรกเธอก็นึกว่ามันตายซะแล้ว แต่ที่จริงแค่น็อคไปเพราะฤทธิ์ยาเฉยๆ นอนนิ่งสนิทเชียว เห็นภาพอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าอย่างนั้นเชิญมารับชมคลิปกันเลย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้คนได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า… “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสัตว์เลี้ยงของฉันกินกัญชา? ถ้าคุณสงสัยว่าสุนัขหรือแมวได้กินกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชาเข้าไป ให้โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลด้านสัตว์แพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือทันที เพราะพิษของกัญชาอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์เลี้ยงได้ นั่นขึ้นอยู่กับปริมาณหรือความแรงของกัญชาด้วย มันไม่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงเลย” ที่มา : ladbible
-
“แมวยมฑูต” ที่มาพร้อมกับสัมผัสที่หก ที่มักจะโผล่มาทุกครั้งที่มีคนกำลังจะสิ้นใจ
เมื่อพูดถึงแมวในโรงพยาบาลแล้ว เราก็คงจะนึกถึงแมวน่ารักๆ ที่คอยต้อนรับคุณหมอหรือญาติคนไข้ที่มายังโรงพยาบาล แต่ถ้าพูดว่าแมวตัวนี้ที่จะมาเฉพาะช่วงที่จะมีคนตายล่ะ? Oscar แมวจาก Steere House Nursing Home ที่ทุกคนที่นี่เชื่อว่ามันเป็นแมวที่มีสัมผัสที่หก โดยมันจะสามารถรับรู้ได้ว่าตอนไหนมีคนกำลังจะตายและมันจะปรากฏตัวที่ห้องคนไข้คนนั้นทันที พยาบาลของที่นี่เล่าว่า Oscar ไม่ใช่แมวที่เป็นมิตรนัก เพราะมันไม่ค่อยจะโผล่ออกมาเล่นด้วยกับคนปกติสักเท่าไหร่ แต่เวลาใครสักคนในโรงพยาบาลใกล้ตาย มันจะแสดงตัวทันทีและมุ่งตรงไปยังห้องนั้นทันทีราวกับว่ามันเป็นยมฑูตที่มารอรับวิญญาน ถ้าญาติคนไข้คนไหนเห็นเจ้า Oscar ก็ให้เตรียมใจไว้ได้ทันทีว่าคนไข้คนนั้นจะไม่รอดแน่นอน โดยหลังจากที่มันปรากฏตัวและเข้าไปยังห้องของคนไข้ มันจะใช้เวลาเพื่อรอคนไข้สักพัก เดินไปรอบๆ บริเวณหน้าต่างหรืออาจจะขึ้นไปเล่นกับคนไข้ก่อนที่จะสิ้นใจ . โดยความแม่นยำของเจ้า Oscar นี่เรียกว่า 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ทุกครั้งที่มันโผล่ไป จะต้องมีคนจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามคนญาติคนไข้ส่วนใหญ่ที่ได้เจอกับเจ้า Oscar ก็ไม่คิดว่ามันเป็นสัญญาณแห่งความตายหรือยมฑูต แต่พวกเขากลับคิดว่ามันเป็นแสงหรือตัวแทนจากสวรรค์ที่พร้อมจะมารับคนไข้ไปสวรรค์มากกว่า ด้วยความน่ารักของมันที่ยอมเล่นกับคนไข้ในยามใกล้สิ้นใจนั่นเอง… . . สามารถรับชมเรื่องราวของมันที่คลิปด้านล่างได้เลยครับ จะบังเอิญหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้า #เหมียวมู่ทู่ ป่วยจริงๆ ก็อย่าเจอกันเลยนะ Oscar ที่มา iizcat
-
รวม 18 หน้าสัตว์สุดฮาที่แสดงให้เห็นว่า นี่แหละคือภาพเวลาเพื่อนถ่ายแล้ว Tag มาให้ ไม่เคยจะดีเล๊ยย
เคยไหมที่เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วถ่ายขอให้เพื่อนถ่ายรูปให้พร้อมบอกว่า Tag ในเฟซบุ๊กหรือโซเชียลอื่นๆ มาด้วยนะ แต่ภาพเหล่านั้นมันมักจะดูไม่ได้เลย เพราะส่วนใหญ่คนที่ลงรูปจะเลือกภาพที่ตัวเองดูดีที่สุด ส่วนตัวประกอบอื่นๆ ในภาพก็ตามมีตามเกิดกันไป และด้วยเหตุนั้นก็เกิดเป็นคำพูดที่ว่า ‘ใครถ่ายคนนั้นรอด’ เช่นเดียวกับเหล่าสัตว์ในครั้งนี้ ที่พวกมันถูกมนุษย์ถ่ายภาพให้ แต่ภาพที่ออกมานั้นกับเป็นใบหน้าที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลย ก็แน่สิพวกมันไม่ได้ถ่ายเองนี่เนอะ ฮร่าๆ อย่าเพิ่งถ่าย ขอกินก่อน!! ก็บอกอย่าถ่ายไง… ปกติเรามักจะเห็นภาพนกฮูกเท่ๆ เสมอ แต่ภาพนี้คงจะไม่รอด เมื่อเพื่อนแอบถ่าย ก็จะได้อะไรแบบนี้ทุกที ตั้งใจทำหน้าหล่อนะๆ แต่แอบถ่ายกันไม่บอกนี่ไม่ไหวนะ เผลอเมื่อไร รับรองว่าเสร็จแน่ Tag ลงโซเชียลแว๊บ ภาพเจ้าตัวนี้ออกจะน่ารักนะ บางครั้งเราอาจจะเป็นคนชอบทำอะไรเปิ่นๆ แล้วเพื่อนก็มักจะแอบเก็บภาพมาลงเสมอ เฮ้ย อย่าเพิ่ง!! ขอเลียขนก่อน ไม่ว่าจะภาพไหนๆ ก็ไม่เคยจะได้ภาพที่ดี ถ้าอยากได้ดีๆ ก็คงต้องถ่ายเองแหละนะ แต่ถ้าคุณเป็นคนหน้าตาดีมากๆ ถ่ายเผลอยังไงก็ออกมาดูดีแบบเจ้าตัวนี้ แต่ภาพที่จะทำให้คุณออกมาแย่สุดๆ คือจังหวะกินอาหารนั่นเอง…
-
ครอบครัว Irwin พร้อมจะสานต่อรายการอีกครั้ง หลังคุณพ่อ Steve จากไปนานกว่า 11 ปี
เมื่อพูดถึงพิธีกรสารคดีสัตว์ระดับตำนานก่อนจะมาเป็น Bear gryll ที่เรารู้จักนั้น Steve Irwin ถือว่าเป็นบุคคลที่ทำรายการแนวนี้ยุคแรกและโด่งดังสุดๆ จนกลายเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ ทว่ากลับน่าเสียดายที่เราต้องเสียเขาไปอย่างรวดเร็ว… นับเป็นเวลากว่า 11 ปีแล้วที่ครอบครัว Irwin ได้สูญเสียเสาหลักของครับครัว Steve Irwin ผู้ดำเนินรายการสารคดีเกี่ยวกับสัตว์มากฝีมือแห่งช่อง Animal Planet จากการถูกแทงโดยปลากระเบนขณะถ่ายทำสารคดีชุด Ocean’s Deadliest แต่ล่าสุดด้านภรรยาของเขา Terri Irwin ได้ตัดสินใจเตรียมพร้อมจะกลับมาสานต่อรายการของสามีบนช่อง Animal Planet พร้อมกับลูกสาว Bindi วัย 19 และลูกชาย Robert วัย 14 ปี ในปี 2018 ซึ่งก่อนหน้าที่พวกเขาจะตัดสินใจกลับมาทำรายการต่อ พวกเขาก็ยังคงสานต่องานเชิงอนุรักษ์ต่างๆ ที่ Steve ได้ทิ้งไว้ให้อย่างเช่นดูแลสวนสัตว์ ดูแลสัตว์ป่าสงวน และสนับสนุนโครงการที่พยายามช่วยสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกเป็นต้น แม้ว่าจะมีการบอกว่าครอบครัวนี้จะกลับมาสานต่อและทำรายการใหม่บน Animal Planet แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทิศทางของรายการใหม่ของครอบครัวจะเป็นยังไง เพราะเดิมทีที่ตัว Steve ทำนั้นจะเป็นแนวเฮฮาสร้างความสุขนั่นเอง . ส่วนถ้าใครคิดว่าแล้วลูกๆ สองคนจะทำหน้าที่ได้ดีเท่าพ่อของพวกเขาไหม ก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขาเนี่ยลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยล่ะ ลูกสาว Bindi นั้นก็มีผลงานทางทีวีบ่อยๆ ล่าสุดพึ่งคว้าแชม์ปแข่งเต้น Dancing With the…
-
รวม 27 อภิมหาภาพแมวแห่งอินเตอร์เน็ต พวกมันมีพฤติกรรมแปลกๆ มากขึ้นไปทุกทีแล้วนะเนี่ย
“แมว” สัตว์หน้าขนที่ไม่ได้เกิดมามีหน้าที่เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงของมนุษย์ แต่ด้วยความที่พวกมันมีพฤติกรรมแปลกๆ บางตัวก็เกิดมาพร้อมความโดดเด่น เช่น สีขนหลากหลาย ตาสองสี มีฟันเหมือนแวมไพร์ ก็ทำให้มันได้กลายเป็นแมวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์มานักต่อนักแล้ว ครั้งนี้เราจึงได้เก็บรวบรวมภาพของบรรดาแมวๆ ที่เคยโด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตมาให้ได้รับชม ซึ่งมันอาจจะเป็นภาพที่เคยผ่านตาเพื่อนๆ มาบ้างแล้ว แต่ต้องยอมรับเลยนะว่าดูกี่ทีกี่ทีก็ยังคงความฮาในแบบฉบับแมวเหมียวเหมือนเดิม จำเค้าได้ไหม? เค้าไงที่เป็นแชมป์แห่งการกินเค้ก รู้สึกเหมือนเห็นก้อนไขมันก้อนหนึ่งกำลังนอนแผ่องศาอยู่ในกล่องใบเล็ก นี่อาจเป็นที่หลบแดดที่ดีที่สุดในตอนนี้ ใครเอาถังแป้งมาไว้ตรงนี้ เอ๊ะ!! ไม่ใช่ละนี่มันนางแมวนี่หว่า มีความหวงไอศกรีมเบาๆ ความแมวที่แท้ทรู กำลังพิสูจน์ว่าตัวเองอยู่ในสถานะของเหลวหรือของแข็งอยู่สินะ ความไขว้แขวนก็มา นอกเหนือจากการเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารัก กิจกรรมยามว่างของเราคือการเป็นนักเต้นที่สง่างาม เพราะความขายาวนี่แหละ ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้คนหลงรักมานักต่อนักแล้วนะ บอกเราสิว่าสิ่งแรกที่คุณเห็นจากภาพนี้คืออะไร นี่ฝึกกายกรรมอยู่หรอ ตัวป่วนที่แท้จริง นี่คิดว่าตัวเองเป็นน้ำที่แปรสภาพไปตามวัตถุอยู่หรือไง ข้าวมายัง!! หิวแล้วเนี่ย การอยู่ใกล้มนุษย์จิ๋วในระยะประชิดแบบนี้ รู้สึกได้ถึงความไม่โอเคเลยจริงๆ อย่าลืมรดน้ำพรวนดินให้ป๋มบ่อยๆ นะฮัฟ…
-
กล้องถ่ายภาพสัตว์ป่าจับภาพ “ชะมดอินดี้สุดขี้เกียจ” ขี่หลังสัตว์อื่นเดินทางไปไหนมาไหน!?
แม้ว่าตอนนี้โลกเรากำลังจะเดินทางถึงปี 2018 ในอีกไม่กี่เดือนแล้ว รวมถึงเทคโนโลยีก็ก้าวไกลพอสมควร มนุษย์ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ บนโลกได้อย่างท่องแท้ เพราะบางอย่างเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ เช่นเดียวกับเจ้าตัว Genet สัตว์ในวงของชะมดตัวหนึ่งที่ทาง Wildlife ACT ได้จับภาพของมันได้เมื่อปี 2014 กำลังทำพฤติกรรมสุดแปลกขัดกับนิสัยของมันสุดๆ โดยเจ้า Genet นั้นเป็นสัตว์ที่จะอาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก และกินผลไม้ แมลงหรือไม่ก็สัตว์เล็กเป็นอาหาร ทว่าภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เป็นภาพของเจ้าตัว Genet ตัวหนึ่งที่ขี่อยู่บนหลังของแรดขาวและควายป่าในตอนกลางคืน!? ยังไม่หมดเท่านั้น ในปี 2015 ก็ได้มีการแพร่ภาพของเจ้า Genet อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาเป็นคลิปเลย โดยมันกำลังขี่หลังแรดดำตัวหนึ่งขณะกินหญ้า จนผู้เชี่ยวชาญถึงกับตั้งคำถามว่า สิ่งที่มันทำนั้นเป็นเรื่องผิดปกติอย่างนั้นเหรอ หรือจริงๆ มันเป็นนิสัยเดิมอยู่แล้วเพียงแต่มนุษย์เข้าใจผิดเสมอมา? . . . บ้างก็บอกว่าเป็นนิสัยที่มาจากการพึ่งพาอาศัยกัน เจ้า Genet จะได้กินแมลงที่มารบกวนสัตว์ที่มันขี่ ส่วนสัตว์ที่มันขี่ก็ได้ประโยชน์จากการกำจัดแมลงที่มารบกวนจากเจ้า Genet ไม่ก็ระวังภัยกลางคืนให้ เรียกว่าธรรมชาติเป็นอะไรที่อเมซิ่งมากๆ เลยนะเนี่ย ลองดูคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวดู ที่มา Wildlife ACT
-
สาวญี่ปุ่นรับเลี้ยงแมวเปอร์เซีย 1 ตัว แต่กลับหลงเสน่ห์ จนมีในบ้านทั้งหมด 12 ตัว!!
นอกจากการเลี้งยแมวเอาไว้ในบ้านหรือที่ทำงานจะช่วยทำให้คุณมีความสุขและใจเย็นแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าอะไรที่ดีกว่านั้น? ก็การเลี้ยงแมวหลายๆ ตัวยังไงล่ะ เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้นำเสนอเรื่องราวของสาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ผู้ตกเป็นเหยื่อความน่ารักของเจ้าแมวเหมียวสายพันธุ์เปอร์เซียทั้ง 12 ตัว สาวญี่ปุ่นผู้ไม่เปิดเผยตัวรายนี้กล่าวกับสื่อว่าเธอได้กลายเป็นแม่ของแมวทั้ง 12 ตัวไปโดยปริยาย ทั้งที่ตอนแรกเธอตั้งใจจะรับมันมาเลี้ยงแค่ตัวเดียวเท่านั้น “มันเกิดขึ้นตอนที่เราเจอแมวตัวแรก เราตั้งชื่อให้มันว่า Yuki เราช่วยเหลือมันจากข้างถนน มันทั้งสกปรกและหนาวสั่น” เธอกล่าว จากนั้นเธอก็เริ่มหลงเสน่ห์ของแมวเปอร์เซีย และรับมันมาเลี้ยงอีก 2 ตัว แต่แล้วมันก็ผสมพันธุ์กันจนเกิดลูกๆ ตามมาอีก 9 ตัว!! แม้จะดูเป็นภารหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น แต่เธอก็แฮปปี้ไม่น้อยเลย จนสร้างบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อแชร์ภาพเหมียวๆ ทั้ง 12 ตัวโดยเฉพาะ ตอนนี้เจ้าของแมวรู้สึกว่าจำนวน 12 ตัวเป็นจำนวนที่พอดีสำหรับเธอแล้ว ที่จะดูแลมันได้อย่างทั่วถึง เธอจึงจับพวกมันทำหมันเรียบร้อย แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตและแฟนๆ รู้สึกหลงรักแมวเปอร์เซียทั้ง 12 ตัว นั่นก็เพราะว่าทุกครั้งที่เธอแชร์ภาพ เจ้าเหมียวพวกนี้มักจะมองกล้องอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อถามถึงเคล็ดลับในการทำให้พวกมันมองกล้องพร้อมๆ…
-
พนักงานลองเอาเจ้า “โจอี้” เหมียวกำพร้า ไปที่ทำงาน มันก็ใจดีช่วยทุกคนทำงานอีก…สุดยอด!!
“โจอี้” เจ้าเหมียวกำพร้าตัวน้อยผู้ชื่นชอบการถูกคนห่มผ้าและพาเดินไปไหนมาไหน หลังจากที่ได้ถูกคนใจดีรับเลี้ยงมันไปเลี้ยง ชีวิตของมันก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ… จนกระทั่งเมื่อเจ้าของใหม่มันผู้ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่ง ได้ตัดสินใจพาเจ้าเหมียวตัวน้อยไปทำงานด้วย เพาะไม่อยากปล่อยให้มันต้องอยู่ตัวเดียวเหงาๆ งานนี้ความบันเทิงจึงบังเกิดขึ้น น่ารักสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ เจ้าโจอี้!! อาจจะไม่ได้ดูหล่อเท่าเหมียวตัวอื่นๆ แต่ความน่ารักไม่แพ้ใครแน่นอน หลังจากที่เจ้าโจอี้ได้ถูกพาไปยังออฟฟิศของเจ้าของมัน ก็พบว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่เงียบสงบมากๆ จนกระทั่งมันโชว์ตัวออกมา ซึ่งคนที่นั้นก็ตื่นตาตื่นใจสุดๆ กับเจ้าเหมียวแสนซุกซนตัวนี้ ในช่วงที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียดกับงานนั้น เจ้าโจอี้ก็ยินดีจะเข้าไปช่วยให้กำลังใจกับเพื่อนร่วมของทุกคน ซึ่งมันได้ผลมากๆ ทุกคนต่างหายเครียดหลังจากได้เล่นกับเจ้าเหมียว เดินซนไปทั่วออฟฟิศเลยล่ะ เริ่มจะซนเต็มที แทะนั่นนี่ แต่คนก็ชอบดูเพราะมันน่ารักสุดๆ แม้ว่าในยามที่เจ้าของโจอี้รู้สึกว่าอยากพัก เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็ยินดีมากๆ ที่จะให้เจ้าเหมียวมานั่งตักหรือดูแลแทน เพราะความน่ารักขี้เล่นของมัน ก็กลายเป็นเจ้าเหมียวที่มาช่วยงานเรื่องคลายความเครียดให้กับทุกคนไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ขอแค่ได้ไปไหนมาไหนในผ้าขนหนู เจ้าโจอี้ชอบทั้งนั้นแหละ แต่พอง่วงมากๆ นอนตรงไหนก็หลับเหมือนกัน ฮร่าๆ อย่าว่าแต่เจ้าของหรือเพื่อนร่วมงานเลย #เหมียวมู่ทู่ ก็จะตกเป็นเหยื่อความน่ารักของเจ้าเหมียวแล้วเนี่ย… ที่มา justsomething
-
18 ภาพยืนยันว่า “แมวเป็นสายลับ” อยู่ทุกที่บนโลก แม้แต่ Kingsman หรือ 007 ก็ไม่อาจเทียบ
ดังคำที่เขาว่ากันว่า ‘แมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก’ นั้น เราอาจจะคิดว่ามันเกินจริง แมวเป็นแค่สัตว์เลี้ยงทำไรแบบนั้นไม่ได้หรอก แต่วันนี้เราจะมาดูภาพที่ยืนยันว่า แนวคิดนั้นไม่ผิดเลย… เพราะในภาพส่วนใหญ่นั้น เราก็มักจะแอบเห็นเจ้าเหมียวทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่เป็นประจำราวกับพวกมันเป็นสายลับองค์กรเหมียวที่รอวันจะขึ้นนำแทนมนุษย์ หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้าเหมียวพวกนี้จะมีหน่วยลับแบบ Kingsman หรือยอดสายลับ 007 อยู่กันนะ เอาเป็นว่าลองมาดูภาพของพวกมันดูกันดีกว่า… เจ้าเหมียวสายลับตัวนี้ ทำท่าเหมือนจะแอบฉกพิซซ่าอันเป็นข้อมูลสำคัญอยู่เลย ระหว่างที่มนุษย์กำลังสนใจอย่างอื่น เจ้าเหมียวก็แอบย่องไปทำภารกิจ บางตัวก็ทำภารกิจลอบทำร้าย บ้างก็เฝ้าสังเกตการณ์สุนัข สัตว์คู่แค้น ใช้เด็กเป็นเหยื่อเรียกความสนใจ ส่วนตัวเองแอบทำภารกิจข้างหลัง ช่วงที่มนุษย์ไม่สนใจ ก็ทำภารกิจเสี่ยงตาย แอบส่งสายตามุ่งร้ายบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายลับคอยจับตาดูเจ้าตูบทั้งหลาย เวลาเจ้าตูบกับมนุษย์ของมันทำอะไร เจ้าเหมียวก็จะแอบดูอยู่เงียบๆ ทำภารกิจแฝงตัวกับเจ้าตูบบ้างในบางครั้ง เจ้าตูบตัวนี้อาจจะรู้ว่ามีคนแอบดูอยู่!! แต่บางตัวก็อาจจะต่อสู้กับแมวตัวอื่น เพื่อปกป้องมนุษย์ อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ก็กำลังสู้หน้าชนประตู ปกป้องมนุษย์ของมัน บางครั้งก็มีการประชุมลับของรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ หรือไม่ก็แอบติดตามสายลับตัวอื่น…
-
เจ้า Grape ร่ำไห้ เมื่อป้ายสาว 2D ของมันถูก จนท.สวนสัตว์อุ้มไปเก็บหลังจากมีข่าวพายุจะเข้า!!
ยังจำกันได้ไหมกับเจ้า Grape เพนกวิ้นจากสวนสัตว์ Tobo ในจังหวัดไซตามะ ที่ชื่นชอบป้ายตัวการ์ตูน 2D มากๆ จนไม่ยอมไปไหน…ถ้าจำไม่ได้หรือคิดไม่ออกก็สามารถเข้าไปอ่านข่าวเก่าได้ที่ ‘เชื่อเหอะ ใครๆ ก็รักสาว 2D แม้แต่เจ้านกเพนกวิ้น ก็ยังตกหลุมรักยืนจ้องไม่เคยห่าง!!‘ ภาพเก่าย้อนมาาาา… หลังจากเรื่องราวของมันแพร่ออกไปจนข่าวคราวหายไป ล่าสุดก็มีอัพเดตให้เราได้รู้เกี่ยวกับชีวิตของมันกันสักที ทว่ากลับเป็นเรื่องราวสุดเศร้าแทนซะนี่ เมื่อล่าสุดป้ายของ Hululu หรือเพนกวิ้นสาว 2D นั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ถอดออกไปเรียบร้อย ซึ่งพวกเขาบอกว่าจะเอาป้ายนี้ไปเก็บไว้สักพักเพราะมีรายงานว่าพายุจะเข้า ทางเจ้าหน้ากลัวว่าป้ายจะหักเป็นอันตรายไป เดี๋ยวเจ้า Grape จะเศร้ากว่าเดิม ได้โปรด อย่าพรากเธอไปจากฉัน แต่เชื่อไหมว่าแค่การถอดป้ายไปเก็บเนี่ย มันก็สร้างซีนอารมณ์และความเศร้าอย่างกับหนังชีวิตให้กับเจ้า Grape ได้พอสมควรเลยล่ะ เพราะมันเป็นเพนกวิ้นฉะนั้นมันไม่รู้จริงๆ หรอกว่าป้ายสุดรักของมันจะถูกถอดออกไปถาวรหรือแค่ชั่วคราว เมื่อไม่มีเธอเหมือนเก่า หัวใจฉันก็แตกสลายยย หลังจากภาพซีนอารมณ์ของเจ้า Grape ได้เผยแพร่ไปตามโลกอินเตอร์เน็ตแล้ว ชาวเน็ตที่เห็นก็อดใจไม่ได้ที่จะวาดรูปให้กับมัน พร้อมแสดงความคิดเห็นต่างๆ นาๆ แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปในทิศทางประมาณว่า “เอา Hululu ไปเก็บก่อนดีแล้ว ดีกว่าปล่อยให้เธอต้องปลิวหายหรือพังนะเจ้า Grape” อย่าเอา Hululu ไปเลยนะฮะ ฮือๆ…
-
20 ภาพของเหล่าสัตว์ที่เห็นเรื่องกินสำคัญกว่าเรื่องใดๆ ในโลกหล้า!!
เมื่อมีอาหารแสนน่ากินวางอยู่ตรงหน้า เป็นใครก็อดใจไม่ได้กันทั้งนั้น พวกสัตว์เหล่านี้ก็เช่นกัน พอเวลาที่มันเห็นของกินทีไร เป็นต้องน้ำลายไหลทู๊กกกกกกกที แถมบางครั้งก็ชอบทำหน้าตาออดอ้อนเจ้านาย คล้ายๆ กับอยากให้รู้ว่า ขอป๋มกินด้วยคนนะงับ และนี่ก็คือ 20 ภาพของเหล่าสัตว์ที่เห็นเรื่องกินสำคัญกว่าเรื่องใดๆ ในโลกหล้า เห็นแก่กินจริงนะพวกแก! ว่าแล้วก็มารับชมกันเลยดีกว่า อู้ววว พิซซ่าชิ้นนั้นน่ากินจัง เราจะเอามันมาอย่างไรดีนะ เห็นของกินเป็นไม่ได้ ต้องตาโตทุกทีเลย เฝ้าของแต่ของกินในมือเจ้านาย ถ้าเผลอเมื่อไหร่โดนขโมยแน่นอน ขอเก๊าคำนึงได้ไหม อย่าเอาอาหารมาล่อกันได้ไหมฮะ ขอเถอะได้โปรดดดดดดด เจ้านายฮับป๋มหิวเหลือเกิน หอมจังงงงงง ขอกินหน่อยน้าาาา อย่าทำหน้าตาอ้อนวอน เดี๋ยวก็ใจอ่อนให้กินด้วยหรอก ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ จะกินก็ไม่ได้ น่าสงสาร อยากกินก็กระโดดมาเอาเองสิ มาเข้าครัวทำอาหารกันเถอะพวก เสร็จข้าละ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สู้ๆ นะเจ้าหมา …
-
นกแก้วและฟลามิงโก้ ต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากเฮอร์ริเคน ‘เออร์มา’ รวมกับสัตว์อีก 3,000 ชีวิต
หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ พึ่งจะพัดผ่านและถล่มรัฐเท็กซัสไปไม่ทันหายดี พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาก็เคลื่อนตัวเข้าถล่มรัฐฟลอริดา ไม่เหลือชิ้นดีเช่นกัน และก็ไม่ใช่กับคนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เหล่าสัตว์ก็โดนด้วยเช่นกัน… ซึ่งไม่นานก็มการแพร่ภาพออกมาว่า พายุดังกล่าวมันรุนแรงขนาดแม้แต่นกฟลามิงโก้สองตัวยังต้องหนีไปหัวซุกหัวซุน จนได้รับการช่วยเหลือจาก Cheryl Lu-Lien โดยให้หลบภัยอยู่ในห้องซักรีดของเธอ ซึ่งเธอก็ทวีตข้อความขอความช่วยเหลือให้แก่เพื่อนสีชมพูทั้งสองตัว นอกจากนั้นยังมีภาพของนกแก้วสองตัวที่มีคนแชร์ต่อกันมา ซึ่งภาพนั้นมาจากครอบครัวที่พักอยู่บน Marriott Hotel ชั้น 22 ในเมืองไมอามี่ สภาพของเจ้านกทั้งสองนั้นเปียกโชกและดูเหมือนว่าพวกมันต้องการที่หลบภัยอย่างเร่งด่วน แต่ด้วยความที่พวกเขาไม่สามารถเปิดหน้าต่างออกไปช่วยมันได้ ก็ทำได้แค่มองดูและให้พวกมันหลบภัยอยู่ขอบหน้าต่างอย่างน่าเวทนา พร้อมกับเอาใจช่วยว่าทั้งคู่จะปลอดภัย… . นอกจากสัตว์เหล่าทั้งสองแล้ว สัตว์อื่นๆ ในสวนสัตว์ไมอามี่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เช่นกัน และด้วยจำนวนที่มีมากกว่า 3,000 ตัว เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็หัวปั่นสุดๆ เนื่องจากมีสัตว์ป่าหลากหลายประเภท ทำให้การจัดการจึงเป็นเรื่องที่เหนื่อยพอสมควรเลยทีเดียว แต่สัตว์ทั้งหมดก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงหลบภัยอยู่ในสวนสัตว์นั่นเอง ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมไม่อพยพสัตว์ออกมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้เหตุผลว่า พวกเขามองเห็นว่าพายุจะเปลี่ยนทิศทางในเร็วๆ นี้ และถ้าไปอพยพสัตว์จำนวนมากขนาดนั้นจะยิ่งอันตรายกว่าการหลบภัยอยู่ในสวนสัตว์ นกแร้งเทาหลังขาวยังต้องให้เจ้าหน้าที่มาสั่งเข้ากรง ดูๆ แล้วก็น่ารักดีนะ การขนย้ายสัตว์อย่างชีตาห์ก็อาจจะไม่ค่อยปลอดภัยก็ได้นะ ส่วนเครื่องยืนยันว่าวิธีดังกล่าวนั้นดีกว่าอพยพจริงไหมนั้น เจ้าหน้าทีก็บอกว่า พวกเขาเคยได้รับประสบการณ์ขนย้ายสัตว์หนีพายุ Andrew เมื่อ…
-
เจ้านกที่ป่วยเป็นโรคในที่สุดก็เจอเพื่อนใหม่ หลังจากต้องทนอยู่กับความเหงามาเป็นเวลานาน…
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนกไม่มีขนแบบเป็นๆ แต่สำหรับคนที่เลี้ยงนกประจำก็คงจะถือว่าไม่แปลกอะไร ทว่ายังไงก็ตามนกที่ไม่มีขนก็มักจะถูกนกตัวอื่นๆ ไม่ค่อยอยากคบหาด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันเหงาสุดๆ Lemon และ Indi เป็นนกสองตัวจากรัฐฟลอริด้า โดยตอนแรกเจ้า Lemon ก็เป็นเหมือนนกปกติ แต่เพราะมันป่วยเป็นโรค Psittacine beak and feather disease (PBFD) ก็เลยทำให้มันไร้ขนและหัวล้านจนต้องอยู่ตัวเดียว จนกระทั่ง Indi เข้ามาในชีวิตของเจ้า Lemon มันก็ไม่เหงาอีกต่อไป เพราะทั้งคู่สามารถเข้ากันได้ดีมากๆ แม้ว่าอีกตัวจะเปลือยเปล่าก็ตาม จากนั้นไม่นาน Guagliardo ผู้เป็นเจ้าของนกทั้งสอง ก็ได้ข่าวคราวของ Rhea นกอีกตัวที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับ Lemon และเจ้าของมันก็ไม่อยู่เพราะไปต่างประเทศ เขาเลยตัดสินใจไปรับมันมาเลี้ยงต่อ เธอกังวลว่าเจ้านกทั้งสามจะเข้ากันได้ไหม แต่พอพวกมันมาอยู่ด้วยกันผลที่ออกมาคือ พวกมันทั้งสามเข้ากันได้ดีเลยล่ะ และตอนนี้ทั้งหมดก็เลยกลายเป็นเป็นแก๊งสามช่านั่นเอง ลองชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้าสามแสบได้ข้างล่างเลย ไม่ต้องเหงากันอีกต่อไป เพราะพวกมันมีกันสามตัวแล้วยังไงล่ะ ที่มา viralnova
-
เจ้าตูบถูกเจ้านายจับใส่ถุงดำแล้วเอามาทิ้ง หลังจากที่หางมันเป็นเนื้องอกและมีเลือดไหล
สุนัขนั้นแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของขนาดไหน แต่เชื่อเหอะว่าเจ้าของบางคนกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่พวกเขาไม่อยากเลี้ยงพวกมันอีกต่อไป พวกเขาก็จะผลักใสไล่ส่งมันไปทันที… เจ้า Blackie สุนัขวัย 10 ขวบตัวนี้ก็ต้องตกอยู่ในสถานะดังกล่าวเช่นกัน เมื่อมันป่วยเป็นเนื้องอกบริเวณห้างและมีเลือดไหล เจ้าของที่ไม่อยากจะรักษามันก็เลยจับมันใส่ถุงดำและนำมาส่งให้กับสถานสงเคราะห์ จากนั้นพวกเขาก็จากไปไม่กลับมา เจ้าหน้าที่จาก Carson Animal Shelter สถานสงเคราะห์สัตว์ในรัฐแคลลิฟอเนีย ได้เล่าว่าเจ้าตูบอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง เพราะมันเลือดออกจากบริเวณหางเต็มไปหมด ด้วยเหตุนั้นเธอจึงจัดการรักษาเบื้องต้นให้แก่มัน หลังจากที่ Blackie มาถึงพวกเขาก็เลยแชร์เรื่องราวและคลิปของมันผ่านโลกออนไลน์ ไม่นานนักก็มีอาสาจาก Frosted Faces Foundation (FFF) มาเห็นอาการของมันเขา เลยตัดสินใจมารับมันไป ดูแลต่อนั่นเอง Kelly Smíšek ผู้บริหารของ FFF บอกว่า แม้ว่าเจ้า Blackie จะถูกทิ้งแต่มันก็ยังเป็นสุนัขที่เป็นมิตร ฉะนั้นเมื่อถูกรับไปดูแลมันจึงยังติดคนไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก ยังไงก็ตาม เจ้าตูบก็เหมือนจะรู้ว่ามันอยู่ในคนที่พร้อมจะดูแล้วมันแล้ว ทางศูนย์ FFF ก็ได้ดูแลมันเป็นอย่างดี ทั้งอาบน้ำให้อาหารแปรงขน ทุกอย่างล้วนทำด้วยความรักทั้งสิ้น หวีขนอย่างนุ่มนวล อาบน้ำให้ตัวหอมๆ ตัดเล็บให้มันด้วยนะ …
-
น่าสงสาร… เหล่าแมวน้ำตะเกียกตะกาย แห่กระโดดลงจากหน้าผา เพราะนักท่องเที่ยวทำให้ตกใจ
ปัจจุบันแมวน้ำนั้นกลายเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความน่ารักอุ๋งๆ ของมันเลยทำให้ผู้คนสนใจอยากจะไปชมพวกมันตัวเป็นๆ แต่ทว่าตามสัญชาตญาณของพวกมัน พวกมันรู้สึกกลัวมนุษย์มากเกินกว่าที่เราจะรับรู้ได้ ล่าสุดได้มีการแพร่ภาพเหตุการณ์ที่เหล่าแมวน้ำจำนวนมาก พยายามกระดึ๊บๆ หนีนักท่องเที่ยวจากบนบกเพื่อลงทะเล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกจับภาพได้ที่ St Mary’s Island ทางตอนเหนือของเมือง Whitley Bay ณ ประเทศอังกฤษ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก St. Mary’s Seal Watch ซึ่งพวกเขาก็ได้ร้องขอความเห็นใจและขอให้ทุกคนหยุดรบกวนพวกมัน เพราะทุกครั้งที่มีนักท่องเที่ยวพยายามเข้าไปใกล้พวกมัน เจ้าแมวน้ำทั้งฝูงก็จะรู้สึกตกใจและพากันวิ่งหนีจนเป็นเหตุทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าเมื่อพวกมันเริ่มวิ่งหนี มันก็จะไม่สนวิธีการและพยายามเอาตัวรอดแม้จะเป็นหน้าผาก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ภาพที่เห็นนั้นอาจจะดูน่ารักน่าชัง… แต่ตอนที่พวกมันพยายามหนีและตกลงมา พวกมันย่อมได้รับบาดเจ็บรวมถึงบาดแผล ซึ่งมันส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่พวกมัน ฉะนั้นจึงขอร้องให้หยุดรบกวนแมวน้ำทั้งหลายเสียที ภาพที่พวกมันตกลงมากระทบกับพื้น เป็นภาพที่ดูแล้วสงสารมากๆ พวกมันไม่รู้ว่าคนที่มาเป็นมิตรหรือศัตรู และด้วยความตกใจพวกมันก็พร้อมจะหนีแม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม พวกเขายังได้แนะนำอีกว่า ถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะเยี่ยมชมเหล่าแมวน้ำตามธรรมชาติจริงๆ พยายามอย่าเผยตัวให้เห็นทั้งหมดหรือยืนในที่เปิดกว้าง รวมถึงส่งเสียงให้น้อยที่สุด เพราะแมวน้ำเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ เห็นแล้วอยากจะบอกให้มันระวังเหลือเกิน ว่าตรงนั้นมันสูงเอาเรื่องเลยนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอตกลงไปมันอาจจะโดนหินบาดก็ได้นะ และสุดท้ายยิ่งมนุษย์เข้าไปรบกวนแมวน้ำบ่อยๆ…
-
ชาวประมงปล่อย ‘ล็อบสเตอร์ผี’ กลับทะเล แม้ว่าจะหายากและมีราคากว่า 15,000 บาท
คุณจะทำอย่างไร หากคุณบังเอิญจับล็อปสเตอร์สีสวยเด่นสะดุดตา ระหว่างจับไปกิน นำไปขาย หรือปล่อยให้มันกลับไปสู่ท้องทะเล? ซึ่งล่าสุดอย่างเช่นชาวประมงคนหนึ่งที่ได้เจอ กุ้งล็อบสเตอร์สีขาวซีดราวกับเป็นผีกุ้งยังไงยังงั้น!? สำหรับภาพของกุ้งตัวดังกล่าว ถูกแชร์ไปบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างถล่มทลาย จนตอนนี้กลายเป็นกระแสไวรัลกันไปแล้ว เพราะด้วยความแปลกของมันย่อมเป็นอะไรที่สะดุดตา และล่อตาล่อใจนักสะสมเป็นอย่างมาก!! เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Alex Todd นักจับกุ้งล็อบสเตอร์มืออาชีพวัย 48 ปี เขาได้บังเอิญตกเจ้ากุ้งผีน้อยตัวนี้ และเขาบอกว่า เขาจะปล่อยมันกลับสู่ทะเล แม้ว่าเจ้ากุ้งตัวดังกล่าวจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลก็ตาม เขาเล่าว่าเขาสืบทอดอาชีพนักจับกุ้งล็อบสเตอร์ต่อมาจากคุณตาของเขา ก่อนจะตกมาถึงคุณพ่อ จนสุดท้ายเขาก็ได้รับช่วงต่อเมื่ออายุ 6 ขวบ เท่ากับว่าเขามีประสบการณ์มานานมากๆ เลยทีเดียว แต่เขาก็ไม่เคยเห็นล็อบสเตอร์ที่มีสีแบบนี้มาก่อนเลย แน่นอนว่าไม่มีใครเคยเห็นเช่นกัน เพราะปกติเราก็อาจจะเคยเห็นล็อบสเตอร์สีน้ำเงินหรือสองสีผสมกันมาแล้ว แต่สีขาวเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆ ส่วนใครที่สงสัยว่า ถ้าเจ้าล็อบสเตอร์ตัวนี้มันหายากและทำเงินได้มากแน่ๆ ทำไม Alex ถึงเลือกจะปล่อยมันกลับสู่ทะเลล่ะ? Alex บอกว่า “ล็อบสเตอร์ตัวดังกล่าวนั้นเป็นตัวเมีย และมันก็อาจจะกำลังเตรียมวางไข่ก็ได้ ฉะนั้นผมจึงต้องปล่อยมันลงสู่ทะเล เพื่อให้มันได้ออกลูกออกหลานต่อไป” หลังจากที่ Alex ได้ถ่ายรูปเจ้าล็อบสเตอร์สีขาวเสร็จแล้ว เขาก็ปล่อยมันกลับสู่ทะเลทันที ปกติแล้ว ล็อบสเตอร์สีฟ้า (โอกาสเกิดขึ้นประมาณ…
-
หนุ่มชาวจีนลงทุนสร้างสระว่ายน้ำพิเศษ เปิดให้เฉพาะเจ้าตูบ ได้ลงไปว่ายกันอย่างมีความสุข!!
ปกติเมื่อพูดถึงสระว่ายน้ำ เราก็จะต้องนึกถึงสระที่มีคนลงไปว่ายน้ำอยู่เต็มไปหมด แต่พอพูดถึงสระว่ายน้ำของเจ้าตูบ เรากลับไม่ค่อยเห็นสระพวกนี้แบบเปิดสักเท่าไหร่เลย… ถ้าจะให้ไปว่ายรวมกับคนก็คงจะแปลกพิลึกไม่น้อย (เอาจริงๆ สระว่ายน้ำส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้สัตว์ลงไปว่ายน้ำอยู่แล้ว) ด้วยเหตุ อู่ฟางโจว นี้หนุ่มชาวจีนจากเมืองเฉิงตู ก็เลยลงทุนสร้างสระว่ายน้ำขนาดกว้างถึง 2,000 ตารางเมตรขึ้นมา ซึ่งความพิเศษของมันก็คือ มันเป็นสระว่ายน้ำที่เปิดให้เจ้าตูบเจ้ามาใช้บริการโดยเฉพาะยังไงล่ะ!! ส่วนสาเหตที่เขาสร้างสระว่ายน้ำแห่งนี้ขึ้นมานั้น ก็เพื่อเป็นการรำลึกให้แก่ ชุยชุย สุนัขตัวโปรดของเขาที่จากไปด้วยโรคลมแดด เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ในจีนเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา สระว่ายน้ำแห่งนี้เปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2017 ซึ่งนายอู่ บอกว่าในช่วงสุดสัปดาห์จะมีเจ้าของสุนัขพาเพื่อนสี่ขาของพวกเขามาเล่นน้ำ โดยเฉลี่ยแล้วก็ 20 ตัวต่อสัปดาห์เลยทีเดียว แน่นอนว่านอกจากความสนุกของเจ้าหมาที่ได้แช่น้ำเย็นๆ ว่ายน้ำสนุกๆ พร้อมคาบของเล่นไปเล่นในน้ำได้แล้ว เจ้าของก็สามารถจะถ่ายรูป และเล่นกับสุนัขของพวกเขาได้อย่างมีความสุขเช่นกัน ความสุขเล็กๆ ของเจ้าตูบ น่ารักเลยใช่ไหมล่ะ นอกจากได้พาสุนัขมาเล่นแล้ว เจ้าของก็อาจจะได้ลงไปเล่นด้วย ออกกำลังให้สุนัขของเราไปในตัว เดี๋ยวนะ เขาให้พาสุนัขมา เธอพาหมีมาทำไม!! เจ้าของสุนัขก็ได้มาพบปะพูดคุยกัน สุนัขเพื่อนซี้ของนายอู่…
-
รายการเรียลลิตี้เพื่อทาสแมว ที่จะทำให้คุณดูชีวิตแมวตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งกว่าบ้าน AF
ปกติเมื่อเราพูดถึงรายการเรียลลิตี้ เราก็จะนึกถึงรายการที่เอาคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันหลายๆ คนมาอยู่ด้วยกัน และเราก็จะได้ดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่ถ้าเราเบื่อคนอยากดูแมวบ้างล่ะ จะหาดูที่ไหน? ที่ต้องถามแบบนั้นก็เพราะว่า ในแต่ละปีเราจะมีรายการเรียลลิตี้ของคนมากกว่า 300 รายการเกิดขึ้นตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเอาชีวิตรอด ประกวดร้องเพลง ทำอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย แต่กลับไม่รายการแมวเลย และแมวก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจมากๆ ทำไมไม่ทำกันนะ แต่คำถามนั้นจะต้องจบลง เพราะมีคนทำเรียลริตี้แมวแล้วจ้า โดยใช้ชื่อรายการว่า Keeping Up With the Kattarshians ซึ่งเป็นรายการที่เราจะได้ดูแมวเหมียวแบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง!! Inga Lind Karlsdóttir โปรดิวเซอร์ของรายการบอกว่า กว่าเขาจะผลิตรายการเรียลลิตี้ดังกล่าวออกมาได้ ต้องใช้ความยากลำบากมากๆ เพราะเขาต้องเช็กอะไรหลายอย่างว่ามันจะไม่มีปัญหาตามมา ทั้งจากกลุ่มคนรักแมวหรือกลุ่มอนุรักษ์สัตว์อะไรทำนองนี้ นอกจากนั้น พวกเขายังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม เฟอร์นิเจอร์และอื่นๆ อีกมากมายให้แก่แมวเหมียวที่ร่วมรายการนี้ แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เขาบอกคือการติดกล้องไว้ตามจุดต่างๆ เพราะเขาต้องคิดว่ากล้องติดตรงไหนถึงจะดีและจะได้ภาพของสิ่งมีชีวิตแสนซุกซนนี้ออกมายอดเยี่ยมที่สุด ส่วนแมวเหมียวในรายการนี้จะมีอยู่ 5 ตัวด้วยกันซึ่งประกอบด้วย Halldór Laxness, Ragga Gísla, Fanndís…
-
ทาสแมวลำบาก เมื่อแฟนสาวให้เลือกระหว่าง แมว กับ คืนดีกับเธอ งานนี้ชายหนุ่มจะเลือกใคร!!?
บางครั้งการมีแฟน อาจทำให้เราต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่นการเปลี่ยนตัวเองหรือต้องทิ้งนิสัยหรือสิ่งของบางอย่างไป ซึ่งหลายๆ ครั้ง มันเป็นเรื่องยากเหลือเกิน อย่างพ่อหนุ่มชาวเน็ตนามว่า voiceafx คนนี้ที่หน้าตาดุดันแต่หัวใจมุ้งมิ้งเป็นทาสแมวตัวจริง ต้องเจอกับปัญหาชีวิตสุดปวดหัว เมื่อแฟนสาวเสนอเงื่อนไขการคืนดีและกลับมาอยู่ด้วยกันว่า “ถ้าอยากคืนดีกัน เธอต้องกำจัดเจ้าแมวตัวนั้นออกไปจากชีวิตซะ!!” ทำไมต้องให้เลือกด้วยว๊าาา เดิมทีปัญหาการเลิกกันของเขาและแฟนหนุ่มนั้นมันเกิดขึ้นจากปัญหาศาสนาของทั้งคู่ที่ไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังรู้สึกดีต่อกัน แต่เจ้าเหมียวดันเป็นปัญหาใหญ่สุดๆ เลยเนี่ยสิ แต่เมื่อ voiceafx เป็นทาสแมว ปัญหาจึงจบลงไปแบบไม่ยาก เหตุผลเพราะเขาเลือกแมวยังไงล่ะ งานนี้เขาเลยจัดการบอกลาแฟนสาวบ๊ายบายกันไปเรียบร้อย ดูสิน่ารักแบบนี้ ทิ้งได้ไง ขนก็ปุย เป็นใครก็เลือกเจ้าเหมียวอยู่แล้ว หาแฟนใหม่เป็นทาสแมวก็ได้ ไม่ง้อหรอก โด่วๆ เขาบอกว่า ที่ตัดสินใจรวดเร็วนั้นไม่ใช่เพราะเขาเป็นทาสแมว แต่เจ้าเหมียวตัวนี้เป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดสำหรับเขา เป็นดั่งครอบครัว ถ้าอยู่ๆ มีใครก็ไม่รู้มาบอกให้คุณเลือกระหว่างครอบครัวกับตัวเธอ คุณก็ต้องเลือกครอบครัวอยู่ดีจริงไหม… ที่มา lovemeow
-
จิตใจทำด้วยอะไร? เจ้าของเจาะกระดองเต่าแล้วล่ามไว้ เพราะกลัวมันหนีตอนไปเที่ยวพักร้อน
เต่ากับกระดองนั้นถือว่าเป็นของคู่กันที่เรียกว่าจะขาดกันไปไม่ได้เลย ซึ่งถ้าเกิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับกระดองที่เปรียบเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกาย เจ้าเต่าย่อมไม่แฮปปี้อย่างแน่นอน และเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นกับกระดองของเจ้าเต่าจริงๆ เพราะมีคนไปพบเข้ากับเต่าตังหนึ่งที่ถูกเจ้าของเจาะกระดองให้เป็นรูขนาดใหญ่ จากนั้นก็เอาเชือกที่ผูกเข้ากับห่วงเหล็กล่ามเอาไว้ จากปากของเพื่อนบ้านเล่าว่า ตอนนี้เจ้าของบ้านของเต่าตัวดังกล่าวนั้นออกไปเที่ยวช่วงวันหยุดกัน ซึ่งพวกเขาคงกลัวว่าเต่าจะหนีไป เลยจัดการกับเต่าแบบนั้น ซึ่งหลังจากมีคนใจดีแจ้งขอความช่วยเหลือไป Arne Stenzel วัย 50 ปีกับภรรยาของเขา Ute วัย 48 ปี จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Ark 90 พวกเขาก็ได้เดินทางมาถึง พวกเขาบอกว่าภาพที่เห็นมันทำร้ายจิตใจพวกเขามากๆ ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงจัดการช่วยเหลือเจ้าเต่าและนำมันไปส่งยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นของเมือง Dortmund ประเทศเยอรมนี ด้าน Max Schauerte หัวหน้าของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นที่ได้รับการช่วยเหลือเจ้าเต่าก็เล่าว่า เต่าตัวนี้จะต้องทุกข์ทรมานจากกระดองที่ถูกเจาะอย่างแน่นอน เพราะกระดองเต่านั้นถือเป็นส่วนหนึ่งกับร่างกาย เช่นเดียวกับผิวหนังของมนุษย์ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ช่วยเอาวงแหวนออกจากตัวเต่าและช่วยกันรักษาให้มันหายดี ส่วนด้านเจ้าของที่ยังคงไปเที่ยวพักร้อนคงจะตกใจเมื่อกลับมา เพราะพวกเขากำลังถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์นั่นเอง… ที่มา metro
-
หนุ่มไม่แคร์คำเตือน ต่อให้เฮอร์ริเคนอยู่ตรงหน้า เขาก็จะฝ่ามันเพื่อช่วยสุนัขออกมาให้ได้!!
แม้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน Harvey ที่เกิดขึ้นไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมาจะรุนแรงมากแค่ไหน แต่ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีอยู่ เมื่อชายคนหนึ่งตัดสินใจช่วยสุนัขสองตัวตามคำร้องขอ… Connor นักศึกษาวัย 22 ปี ผู้ที่มีทำงานอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ได้ตัดสินใจฝ่าเข้าไปในพายุดังกล่าวเพื่อช่วยสุนัขสองตัวตามคำร้องขอให้ช่วยบนโซเชี่ยล ถึงแม้จะมีคนเตือนถึงความรุนแรงของมันก็ตาม เขาก็ไม่สนและจะเข้าไป!! มุ่งหน้าสู่ที่เกิดเหตุ เขาใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงเพื่อฝ่าฝันพายุเข้าไป เขาได้เล่ากับ Thedodo ว่า “ตอนนั้นผมคิดว่า ถ้าผมไม่ทำก็คงไม่มีใครทำ ฉะนั้นทำไมจะปฏิเสธล่ะ แล้วผมก็กระโดดขึ้นรถทันที” จากนั้นชายหนุ่มก็ขับรถของเขาออกจากออสติน เท็กซัสและมุ่งหน้าไปยังสถานที่คนร้องขอเข้ามา ชายหนุ่มกระโดดขึ้นรถและมุ่งหน้าไปทันที ฟิ้ววว… สุดท้ายเขาก็เข้าไปช่วยสุนัขสองตัวชื่อว่า Thelma และ Hercules ออกมาได้สำเร็จและนำพวกมันกลับมาอย่างปลอดภัย ซึ่งตอนนี้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ก็ต่างยกย่องเขาเป็นฮีโร่กันไปเรียบร้อย แน่นอนว่าผลงานของเขาเรียกว่าน่าพอใจเลยทีเดียว ดีจริงๆ นะเจ้าตูบที่ได้คนดีๆ แบบนี้มาช่วยชีวิตไว้ นอกจากพ่อหนุ่ม Connor จะแฮปปี้แล้ว เจ้าของมันก็ต้องแฮปปี้แน่นอน อีกตัวก็ดูจะป่วยอยู่ด้วยนะเนี่ย แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้ทั้งคู่ปลอดภัยแล้วนะ!! ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไม…
-
เจ้าตูบถูกทิ้งไว้ในรถปิดตาย อุณหภูมิร้อนกว่า 45 องศา ทุกข์ทรมานจนเกือบไม่รอดชีวิต…
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นสัตว์หรือเด็กถูกทิ้งไว้ในรถที่ปิดตายเพียงลำพัง ที่สำคัญยังถูกทิ้งไว้ในอากาศที่ไม่เป็นมิตรจนสุดท้ายเรื่องอันเลวร้ายก็มาถึง… ในครั้งนี้เป็นคราวของเจ้าตูบตัวหนึ่งที่เจ้านายของมัน ล็อครถทิ้งไว้กลางลานจอดรถห้างสรรพสินค้า และลงรถไปช็อปปิ้งสบายใจ จนลืมว่าปล่อยเพื่อนสี่ขาทิ้งไว้ภายในรถยนต์อันร้อนระอุ… สภาพของเจ้าตูบที่เข้าไปหลบร้อนใต้ถุงช็อปปิ้ง เมื่อเวลาผ่านไปด้วยอุณหภูมิที่สูงมากๆ อากาศที่ร้อนจัดและรถที่ปิดตายจนภายในไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้เจ้าตูบเริ่มทุกข์ทรมานแม้จะหาทางหลบยังไง ความร้อนก็ไม่ลดลงเลย ไม่นานนักหน่วย SPCA (Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ก็เดินทางมาถึงยังที่เกิดเหตุ หลังจากที่มีพลเมืองดีสังเกตเห็นเจ้าตูบในรถ และทำการแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบ เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดอุณหภูมิในตัวรถก็ต้องตกใจ เพราะภายในนั้นร้อนถึง 45 องศาเลยทีเดียว จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำอุปกรณ์พิเศษมาทันที เพื่อจัดการกับปัญหารถที่ล็อคประตูไว้ ร้อนแบบนี้ปล่อยเจ้าตูบไว้ได้ยังไง!! อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถทำลายกระจกลงได้ในเวลาไม่นานนัก เจ้าหน้าที่จึงจัดการช่วยเจ้าตูบออกมา และพามันไปส่งยังโรงพยาบาลสัตว์ สุดท้ายเจ้าหมาก็ได้รับการดูแลอย่างดี และค่อยๆ ฟื้นตัวจนมีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ เจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดี ก็ต้องระเบิดกระจกออกซะเลย ชมคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ข้างล่างเลยจ้า ทางด้านเจ้าของนอกจากจะพบว่ากระจกต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว ยังต้องถูกปรับเงินอีกต่างหาก ฉะนั้นคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ!! ที่มา viralnova
-
ปรบมือสิครับ!! เจ้าเหมียวควบงานสองตำแหน่ง ทำได้ดีจนเลื่อนขั้นเป็น ‘ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์’
ถ้าการไปทำงานปกติทุกวันของคุณคิดว่ามันยุ่งยากและวุ่นวาย จนทุกวันนี้คิดว่าตัวเองไม่มีเวลาว่างเลยชีวิตมันลำบากมาก ขอให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะแม้แต่สัตว์ชอบนอนอย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ ยังรับงานสองที่พร้อมกันเลย!! เจ้า Kyle เป็นแมวท้องถิ่นที่รับทำงานสองอย่างภายในหนึ่งวัน ฟังดูแล้วก็ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะ? โดยงานแรกของมันคือการทำหน้าที่ตรวจตราสถานีรถไฟ Hyndland Station ในประเทศสกอตแลนด์ สถานีนี้พี่คุม ใครผ่านมาพี่ต้องรู้ มองอะไรเดินลงสถานีไปซะเจ้ามนุษย์!! จากรายงานของเว็บไซต์ STV บอกว่าเจ้า Kyle มีหน้าที่คอยต้อนรับและสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา และคอยตรวจตราความเรียบร้อยรอบๆ สถานี แต่มีข้อห้ามอย่างหนึ่งคือ เจ้าเหมียวไม่ชอบให้อุ้ม ถ้าอุ้มเมื่อไหร่มีเรื่องแน่ๆ พี่กำลังเฝ้ารางรถไฟอยู่ เผื่อมีอะไรผิดปกติแถวนี้ อย่าเสียงดัง แล้วก็อย่าบอกใครว่าฉันแอบตรงนี้ เข้าใจไหมเจ้ามนุษย์!! จากนั้นเมื่อจบงานที่สถานีรถไฟแล้ว เจ้าเหมียวก็จะเดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปยังโรงพยาบาล Gartnavel Hospital ที่นี้เจ้าเหมียวก็ยังคงความน่ารักไว้ไม่มีเปลี่ยน ผู้คนต่างชื่นชอบจะเล่นกับมัน การมาทำงานที่โรงพยาบาลของเจ้าเหมียวไม่ใช่มาเล่นๆ เพราะมันได้รับป้ายพนักงานด้วยนะ แถมยังมีตำแหน่งเป็นถึง ‘ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์’ ของโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย ธรรมดาซะที่ไหน!! ดูป้ายชื่อซะก่อน พี่ไม่ได้มาเล่นๆ แม้เจ้า Kyle จะเริ่มจากการเป็นเจ้าเหมียวตัวเล็กๆ แต่นานวันเข้าหลังจากได้รับการให้อาหารจากแฟนคลับวันละ 4 มื้อ ตอนนี้มันก็เริ่มจะเป็นเจ้าเหมียวตัวอ้วนไปเสียแล้ว…
-
เจ้าลิงในอิสราเอลสวมวิญญานความเป็นแม่ เลี้ยงไก่หลงทางอย่างดี แม้ยามนอนก็กอดแน่น!!
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นสัตว์หลากหลายชนิด มักจะต้องกลายเป็นพ่อแม่จำเป็นและเลี้ยงดูสัตว์ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง อย่างหมาเลี้ยงแมว แมวเลี้ยงหมา หมาเลี้ยงหมู และอื่นๆ อีกมากมาย ทว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นกับ Niv เจ้าลิงกังดำวัย 10 ขวบตัวหนึ่งในสวนสัตว์อิสราเอล หลังจากที่มันเจอกับเพื่อนมีปีก เป็นไก่ตัวหนึ่งที่อยู่ๆ ก็เดินหลงเข้ามาในกรงของมัน แน่นอนว่าเจ้าไก่ก็ไปไหนไม่ได้ ปล่อยไว้นานๆ อาจจะหิวตายได้ จังหวะนั้นเองด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ของเจ้า Niv มันก็เข้าไปดูแลเจ้าไก่หลงทางทันที จังหวะนั้นเองที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกว่า พวกมันดูจะเข้ากันได้ดีและแยกออกจากกันไม่ได้ ฉะนั้นก็เลยปล่อยให้เป็นอย่างนั้นเรื่อยมา เจ้า Niv นอกจากจะคอยปกป้องดูแลเจ้าไก่เป็นอย่างดี มันยังคอยดูแลขน หาอาหารให้ไก่กินและอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงแม้ตอนที่ทั้งคู่ต้องนอนหลับพวกมันก็จะนอนด้วยกัน โดยแม่ลิงจะกอดไก่ไว้กับตัวส่วนไก่ก็ดูจะชอบและไม่ดิ้นไม่ขัด นอนนิ่งๆ เลย เชิญชมภาพความน่ารักของทั้งคู่ที่คลิปข้างล่างเลยจ้า สุดท้ายหลังจากคลิปเหตุการณ์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ต่างมาบอกกันเป็นทำนองเดียวกันว่า มันเป็นภาพที่ทั้งน่ารัก และสัตว์ทุกตัวทุกชนิดก็ล้วนต้องการความรักกันทั้งนั้นนั่นเอง… ที่มา dailymail
-
แม่!! สิงโตสองตัววิ่งเข้ากอดมนุษย์ที่เลี้ยงดูมันมาแต่แบเบาะ หลังจากไม่เจอกันนาน 7 ปี!!
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นคลิปเหตุการณ์สุดอบอุ่นหัวใจของเหล่าแมวยักษ์ ที่เพิ่งเข้าไปหามนุษย์พร้อมโผกอดและเลียอย่างอบอุ่น แน่นอนว่าปกติแล้วสิงโตเป็นสัตว์ผู้ล่าแต่การได้เห็นอะไรแบบนี้มันดีมากๆ เลยล่ะ ที่สำคัญทุกครั้งที่ได้ดูก็ยังรู้สึกดีไม่เปลี่ยน โดยในคราวนี้เป็นคิวของสิงโตเพศเมียสองตัว Malkia และ Adelle ซึ่งได้เจอกับ Michaela Zimanova หญิงสาวผู้ดูแลพวกมันทั้งคู่ตั้งแต่วัยเด็ก… เดิมทีสิงโตทั้งสองตอนเป็นเด็กนั้นถูกทิ้งโดยแม่ของมันเอง โดยเริ่มแรกพ่อแม่ของมันเป็นสิงโตในคณะละครสัตว์ที่เดินทางไปทั่วยุโรป แต่พอพวกมันปฏิเสธลูก ทั้งสองจึงถูกส่งพวกให้ทางศูนย์ Big Cats Rescue Centre ในประเทศสโลวาเกียรับไปเลี้ยงดูต่อ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ Michaela นั่นเอง หลังจากที่เลี้ยงพวกมันจนเติบใหญ่พอสมควรแล้ว สิงโตทั้งสองก็ได้ถูกส่งไปอยู่ที่สวนสัตว์ Malkia Park ในประเทศเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ทั้งหมดต้องห่างจากกัน แต่แล้วล่าสุด Michaela ก็ได้เดินทางไปพบกับสิงโตทั้งสองหลังจากไม่ได้เจอหน้านาน กอดกันกลมเชียว สงสัยคิดถึงแม่ที่เลี้ยงดูพวกมันมามากๆ เลยนะเนี่ย ภาพความประทับใจได้ถูกบันทึกไว้ พร้อมโมเม้นต์แห่งความสุขที่ผู้ที่สิงโตทั้งสองยอมรับเป็นแม่ โผเข้ากอดกันอย่างอบอุ่นสุดๆ น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย กอดเจ้าเหมียว กอดโว้ย ไม่ใช่ให้กิน!! งับหัวแม่ซะแล้ว ตัว Michaela นั้นนับเป็นคนไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้สัตว์ทั้งสอง และเธอจะแวะมาหาพวกมันทุกๆ สามเดือน แต่บางครั้งก็จะนานกว่านั้น แต่ทุกครั้งที่พวกเขาเจอกันก็จะมีภาพน่ารักๆ แบบนี้เสมอนั่นเอง ลองชมคลิปความน่ารักเต็มๆ ของพวกมันข้างล่างได้เลย …
-
“วันพาเหมียวไปหาหมอ” เหตุผลดีๆ ว่าถึงแมวไม่ป่วย แต่ถ้ารักกันจริงคุณก็ควรพาไปหาหมอ!!
แม้ว่าแมวเหมียวจะเป็นสัตว์ที่ดูแข็งแรงและเย่อหยิ่งสุดๆ แต่จริงๆ พวกมันก็เป็นสัตว์ที่ปากไม่ตรงกับใจสุดๆ เช่นกัน เพราะแม้ว่าในยามป่วยเพื่อนขนปุยของเราก็จะไม่ยอมแสดงอาการออกมาง่ายนัก ฉะนั้นการพาพวกมันไปตรวจสุขภาพจึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ อย่างน้อยปีละครั้งก็ดีนะ… ทำไมต้องพาเหมียวไปหาหมอ!? ส่วนถ้าถามเหตุผลว่า ทำไมต้องปีละครั้ง ไปแล้วไม่ป่วยก็เสียเงินฟรีๆ อีก แต่เชื่อเหอะว่าถ้าพาเจ้าเหมียวไปหาหมอเพื่อฉีดวัคซีนต่างๆ อย่างพยาธิลำไส้ ตรวจอาการผิดปกติที่อาจจะเกิด หรือตรวจสอบอาการอื่นๆ มันล้วนมีข้อดีอยู่แล้ว ถ้าเราพาเจ้าเหมียวไปตอนที่ป่วยไปแล้ว ค่าใช้จ่ายย่อมมากกว่า การรักษาก็ทำได้ยากกว่า ฉะนั้นรู้ไว้ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ แล้วยิ่งเจ้าเหมียวของคุณถืออำนาจเป็นเจ้านายในบ้านแล้วก็ เจ้าเหมียวยิ่งไม่แสดงอาการออกมาง่ายๆ แน่ๆ กว่าจะรู้เราก็อาจจะสายเกินแก้ก็ได้นะ อย่างโรคไตเป็นต้น เพราะเจ้าเหมียวป่วยเป็นโรคไตระยะแรกมันจะไม่แสดงอาการอะไร แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆ ไม่กินข้าวกินน้ำเมื่อไหร่ละก็ จังหวะนั้นแหละ ไตของเจ้านายของคุณได้พังไปแล้ว 75% เลยทีเดียว ฉะนั้นดูแต่ภายนอกไม่ได้นะ!! ถ้าให้ยกตัวอย่างโรคที่เจ้าเหมียวไม่ค่อยแสดงออกแล้วละก็ 5 โรคนี้ถือเป็นโรคที่เวลาเพื่อนขนปุยของเราป่วยปุ๊บ อาการจะไม่ออกทันทีแต่พอเป็นจริงๆ รักษายากสุดๆ 1 . โรคไต กว่าแมวจะแสดงอาการของโรคไต ส่วนมากจะเกิดการสูญเสียการทำงานของไตไปแล้ว 3 ใน 4 ส่วนของไตทั้ง 2 ข้าง หรือเรียกง่ายๆ…
-
เหยี่ยวหนีตายเฮอร์ริเคน บินไปหลบในรถชาวบ้าน จากนั้นมันก็ไม่ยอมออกไปไหนอีกเลย …
เพื่อนใหม่มักมาจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเสมอ William Bruso ก็เป็นชายอีกคนหนึ่งที่เจอเพื่อนใหม่ จากเหตุการณ์เหนือความคาดหมายสุดๆ เช่นกัน เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ William กำลังออกไปซื้อเสบียงมาตุนไว้ที่ซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งในฮูสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นเวลาไม่นานก่อนที่เฮอร์ริเคน Harvey จะโจมตีเมืองดังกล่าวในเวลาต่อมาไม่นานเมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ภาพผลกระทบที่เกิดจากพายุ Harvey แต่แล้วระหว่างที่พายุเหมือนจะแรงขึ้น ก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินเพิ่งเข้ามาที่ตัวรถของเขาและลอดผ่านกระจกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างๆ คนขับไม่ยอมไปไหนเลย เจ้าเหยี่ยวที่หนีตายจากพายุ มาแอบอยู่ในรถไม่ไปไหน ซึ่งแน่นอนว่ามันแปลกมากๆ William ก็เลยบันทึกคลิปพร้อมบอกเล่าความรู้สึกว่า “มันแปลกมากๆ ที่เจ้าเหยี่ยวตัวนี้จะกลัวพายุและเลือกหลบภัยกับมนุษย์ ที่สำคัญท่าทีของมันกลัวมากๆ เมื่ออยู่ข้างนอก แต่พออยู่ในรถมันก็ไม่กลัวอะไรเลย มันดูสบายๆ ราวกับมันรู้ว่าที่นี่ปลอดภัย” ต่อให้ไล่เท่าไหร่ เจ้าเหยี่ยวก็ไม่ยอมหนีไปไหนเลย เกาะติดรถแน่นมากๆ สุดท้ายแล้วเจ้าเหยี่ยวก็ถูกพากลับไปที่บ้านด้วย พร้อมกับถูกตั้งชื่อว่า Harvey ตามพายุที่มันหนีตายมา ซึ่งอยู่ที่นี่มันก็ดูมีความสุขดี และเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับมัน สุดท้ายเจ้าเหยี่ยวก็กลับมาอยู่บ้านกับ William ดูหน้ามันสิ พายุคงทำให้มันกลัวมากๆ เลย ตาโตสุดๆ เอ๊ะหรือมันแปลกใจบ้านใหม่กันนะ …
-
ครอบครัวอินเดียช่วยเหลือ “สัตว์ป่ากำพร้า” พร้อมเปลี่ยนบ้านตัวเองกลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือ
เมื่อพูดถึงเหล่าสัตว์ที่กำพร้าพ่อแม่แล้ว นอกจากหมาแมวที่เราสามารถพบได้ปกติ เหล่าสัตว์ป่ามากมายก็ตกอยู่ในสถานะนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากผลของการถูกล่าโดนเหล่านายพรานนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของ Dr. Prakash Amte จึงจัดการเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าทั้งหลายที่กำพร้า Dr. Prakash เล่าว่าเมื่อช่วงต้นปี 70 เขาและภรรยาได้ไปเดินเที่ยวกันในป่าของเขต Gadchiroli ซึ่งเขาได้เจอกับชนพื้นเมืองในเขตนั้นกำลังหิ้วแม่ลิงที่พวกเขาล่ามาได้กลับไปยังหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่าลูกลิงได้เกาะบนศพของแม่และพยายามจะดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เขาใจสลาย เมื่อเป็นอย่างนั้น Dr. Prakash ไม่ยอมที่ให้ชนเผ่าฆ่าลูกลิงแน่ๆ เขาจึงยื่นมือเข้าไปช่วยและขอรับเลี้ยงดูลูกลิงตัวดังกล่าวไว้ แน่นอนว่าเขาเข้าใจดีว่าคนในชนเผ่าไม่ได้ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก แต่พวกเขาทำเพื่อเลี้ยงปากท้อง เขาจึงเสนอข้าวกับเสื้อผ้าเพื่อแลกชีวิตของลูกลิงและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ลูกลิงถูกตั้งชื่อว่า Babli และเลี้ยงดูมานับแต่นั้น ซึ่งลูกลิงก็ดูจะชอบบ้านหลังใหม่ของมันมาก นอกจากนั้นมันยังสามารถเข้ากับทุกคนในบ้านรวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เป็นอย่างดีด้วย จากจุดนี้นั่นเอง Dr. Prakash จึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะเข้าไปช่วยเหล่าสัตว์กำพร้าจากชนเผ่า หรือนักล่าคนอื่นๆ โดยการแนะนำเหล่าชนเผ่าให้อย่าฆ่าตัวลูก เพราะมันไม่คุ้มจะเป็นอาหารหรอก เขาจะเป็นคนนำพวกมันกลับมาเลี้ยงเองเพื่อแลกกับพืชผลและยาเป็นการตอบแทน ไม่นานนักบ้านของเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์กำพร้ามากมายที่เขาเฝ้าเลี้ยงมาแต่พวกมันยังเด็ก ซึ่งมันก็มีตั้งแต่กระรอกตัวน้อยๆ ไปยังหมี เสือดำ รวมถึงงูอินเดียกับจระเข้ก็มีนะ แบบเลี้ยงอยู่ด้วยกันพี่น้องสุดๆ โดยตัว Dr. Prakash บอกว่าเขายินดีรับสัตว์กำพร้าทุกชนิดไม่มีเกี่ยง ล่าสุดได้มีการนับจำนวนสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งมีรวมๆ…
-
เพราะเจ้าตูบก็คือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว พ่อหนุ่มคนนี้ก็เลยสร้างห้องพิเศษให้มันซะเลย!!
ขึ้นชื่อว่าสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทไหนสายพันธุ์อะไร ถ้าเราผูกพันธ์และรักมันมากๆ พวกมันก็จะเปรียบได้ดั่งสมาชิกครอบครัวของเราคนหนึ่ง ฉะนั้นการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้น้องชายของ @Al_Chris16 ที่คิดแบบเดียวกัน ก็เลยจัดการสร้างห้องพักส่วนตัวให้กับสุนัขของเขา เพราะเขาเลงเห็นว่ามันก็เป็นคนในครอบครัวเช่นกัน มันควรจะมีห้องเป็นหลักเป็นแหล่งของตัวเอง โฉมหน้าของเจ้าตูบผู้เป็นเจ้าของห้องในวันนี้ ห้องดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายภายใต้พื้นที่บันไดที่ว่างอยู่ โดยภายในห้องก็จะตกแต่งด้วยกรอบรูปของมะหมาสุดน่ารัก และที่นอนสุดสบายให้กับเจ้าตูบของเขานั่นเอง จากพื้นที่ว่างๆ ที่ไม่น่าใช้อะไรได้ เจ้าของบ้านก็เลยจัดการเปลี่ยนมันซะ!! เป็นไงเริ่มดูดีแล้วใช่ไหมล๊าาา เก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ เท่านี้ลูกพี่ก็เข้าไปอยู่ได้สบายๆ ถ้ากลัวมืดก็มีไฟให้พร้อมเลยนะ ไม่ต้องเป็นห่วง สุดท้ายแล้วหลังจากเรื่องราวการ DIY ห้องนี้ได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ต่างมาแสดงความคิดเห็นมากมาย บางคนถึงกับอิจฉาว่าเจ้าตูบนี้มีห้องนอนที่ดูดีกว่าตัวเองอีก ก็ว่ากันไป ฮร่าๆ ที่มา boredpanda
-
20 ภาพท่าทางฮาๆ ของเหล่าสัตว์โลกน้อยใหญ่ เมื่อพวกมัน “ได้ทำอะไรเป็นครั้งแรก”
ทุกอย่างบนโลกนั้น ล้วนเกิดมาพร้อมกับประสบการณ์สดใหม่ การได้เจอหรือทำอะไรแปลกๆ จึงถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกเสมอ และด้วยการที่เป็นครั้งแรกเราก็มักจะมีรีแอคชั่นออกมา ซึ่งมันจะน่ารักหรือตลก ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจออะไรมา ทว่าประสบการณ์แรกนั้นไม่ได้เกิดเฉพาะคนเท่านั้น เพราะเหล่าสัตว์ชนิดต่างๆ ก็ล้วนมีประสบการณ์ครั้งแรกเช่นกัน และรีแอคชั่นของพวกมันก็น่ารักปนฮามากๆ เลยล่ะ เจ้าตูบเมื่อเห็นลูกแมวเหมียวครั้งแรก เจ้าฮัสกี้ที่เพิ่งจะเคยเห็นจิงโจ้เป็นครั้งแรก หน้านี่เหวอไปเลย เจ้าเหมียวที่เพิ่งเคยจะเจอหิมะครั้งแรก ถึงกับร้องอู้วว้าววว ฟินสุดๆ เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะเคยเห็นเด็กแรกเกิดเป็นครั้งแรก เหวอแดรกเลย เจ้าหมีขาวที่เพิ่งจะได้ลิ้มรสของหิมะ น่ารักสุดๆ อู๊วๆ เมื่อเจ้าเหมียวทั้งสามรู้ว่าเจ้านายแอบซื้อของเล่นมาใหม่ ก็เลยขอแอบดูสักหน่อย เจ้าหมาตัวนี้เพิ่งถูกรับเลี้ยงมา และนี่คือโฉมหน้าของมันหลังจากได้สัมผัสกับผ้านุ่มๆ เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะเคยออกมารับลมเย็นเป็นครั้งแรก เจ้าของภาพบอกว่า แมวตัวนี้เพิ่งจะเคยเห็นไฟต้นคริสต์มาสเป็นครั้งแรก ดูตาสิ ลุกวาวสุดๆ ลูกแมวแรกเกิด หลังเพิ่งได้รับแสงแดดเป็นครั้งแรก โอ้วว้าวว เจ้าแมวขนฟูตัวนี้เพิ่งเคยจะได้เล่นหิมะ งานนี้ก็เลยกระโดดเล่นกันมันเลย สีหน้าของแมวสองตัวที่เพิ่งเคยเห็นพัดลมหมุน ดูหน้าแปลกใจสุดๆ เลย ฮร่าๆ เจ้าดัลเมเชี่ยนตัวนี้เพิ่งจะเคยขึ้นรถไฟใต้ดิน…
-
ใครจะเชื่อว่าหญิงมือเป็น “อัมพาต” จะหายขาด เพียงเพราะรับเลี้ยงกระต่าย 2 ตัว!!
หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญไปเจอประกาศหาคนรับเลี้ยงกระต่ายสองตัวจาก RSPCA แน่นอนว่าวินาทีแรกเธอรู้สึกอยากเลี้ยงพวกมันทันที แต่ว่าเธอก็กังวลว่าเธอจะทำมันได้ไม่ดี เพราะมือของเธอเป็นอัมพาตนั่นเอง Marley-Belle Quaid เจ้าของเรื่องราวได้เล่าสาเหตุการเป็นอัมพาตของเธอว่า เธอเข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อมือเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแต่ก็แลกมากับการที่มือกลายเป็นอัมพาต ซึ่งเธอได้ลองหลากหลายวิธีแล้วทั้งการบำบัดและรักษาแบบต่างๆ มันก็ไม่มีวิธีไหนที่ทำให้มือของเธอกลับมาเป็นปกติได้เลย เจ้ากระต่ายสองตัวที่เธอไปเจอบนโพสต์ของ RSPCA จนกระทั่งเธอตัดสินใจรับเลี้ยงกระต่ายกำพร้าสองตัว แม้เธอจะหวั่นว่าจะดูแลมันได้ไม่ดีก็ตาม แต่เธอก็บอกว่าเธอชอบพวกมันทั้งสองตัวตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าเธอต้องทำมันให้ได้!! เจ้ากระต่ายสองตัวนั้นมีชื่อว่า Woodstock และ Wilfred ซึ่งพวกมันต้องการดูแลขนและสุขภาพที่หนักหนาพอสมควร และด้าน Marley ที่เป็นอัมพาตก็ต้องประสบปัญหาในการฝืนดูแลพวกมันเช่นกัน ทว่านั้นก็ไม่ทำให้เธอยอมแพ้ที่จะดูแลเด็กๆ ของเธอแต่อย่างใด พวกมันเป็นกระต่ายตัวใหญ่ยักษ์ขนฟู ต้องได้รับการดูแลอยู่เสมอ ซึ่งมันยากมากสำหรับ Marley แต่เชื่อไหมว่าหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนนับตั้งแต่เธอฝืนเลี้ยงเจ้ากระต่ายทั้งสอง มือของเธอก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากมือที่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอสามารถที่จะจับกรรไกรและหวีเพื่อดูแลขนให้กับพวกมันได้แล้ว ตัวใหญ่ยักษ์น่ากอดสุดๆ เมื่อเธอไปเล่าเรื่องนี้ให้กับแพทย์ที่ดูแลเธอฟัง ทีมแพทย์ก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ มือของเธอหายได้เพราะการเลี้ยงกระต่ายสองตัว ยังไงก็ตามชีวิตของ Marley ก็กลับมาดีอีกครั้ง เธอถึงกับสร้างห้องให้ลูกรักทั้งสองแยกต่างหากเลยล่ะ งานนี้ต้องขอบคุณเจ้า Woodstock และ Wilfred มากๆ เลยนะเนี่ย ยู้วหู้ววว กอดเต็มไม้เต็มมือสุดๆ…
-
สุนัขจรจัดเดินเหม่อไปตกลงใน “คลองน้ำเสีย” แต่พอกลับขึ้นมาตัวดันกลายเป็นสีฟ้าซะงั้น!!?
เหตุการณ์สุดแปลก เมื่อมีคนไปเจอกลุ่มสุนัขจรจัด 5 ตัวบริเวณทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งมันมีลักษณะที่แปลกตาจากสุนัขปกติมากๆ โดยสุนัขบางตัวดันมีลำตัวเป็นสีฟ้าเฉย!!? Arati Chauhan เจ้าหน้าที่คุ้มครองสุนัขได้เล่าว่า ตอนที่เธอเห็นสุนัขทั้ง 5 เธอตกใจมากๆ ว่าทำไมสุนัขเกือบทั้งหมดถึงมีสีเป็นสีฟ้า เธอจึงหาต้นตอก็พบว่า เจ้าตูบทั้งหมดมันไปคุ้ยหาเศษขยะในคลองน้ำเสียเพื่อประทังชีวิต ทว่าคลองน้ำเสียดังกล่าวนั้นมีสารพิษที่สูงมากๆ ทำให้พวกมันได้รับสารพิษดังกล่าวเข้าไป จนเมื่อกลับขึ้นมาตัวมันจึงกลายเป็นดั่งที่เห็น ลองดูคลิปของสุนัขพวกนี้ดู จากรายงานยังบอกเพิ่มเติมว่าที่รัฐมหาราษฏระนั้นมีปริมาณการบริโภค และทิ้งของเสียที่มากถึง 13 เท่ากว่าที่มีการกำหนดไว้ ทำให้ทางกรมควบคุมต้องออกมาตรวจสอบในท้ายที่สุด เพราะพวกเขาบอกว่ามีชาวบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมทิ้งสารพิษและของเสียลงน้ำเยอะมากๆ และมันก็ส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตรอบๆ ยังไงก็ตาม แม้ว่าสุนัขดังกล่าวจะมีสีฟ้าน่ารักเหมือนสเมิร์ฟ แต่ความจริงกลับไม่น่ารักเพราะคุณภาพชีวิตของมันย่ำแย่มากๆ นั่นเอง ยังไงซะก็หวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่ลงมาจัดการช่วยเหลือไวๆ สักที… ที่มา metro
-
คู่รักสังเกตเห็นเจ้าตูบที่โผล่หัวออกมาจากดินด้วยสภาพบาดเจ็บ ทั้งคู่จึงตัดสินใจรับเลี้ยงมัน!!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน Łukasz Muniowski ชายชาวโปแลนด์และแฟนสาว ได้บังเอิญไปเจอกับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่อยู่ในอุโมงค์ดินข้างทาง ระหว่างที่เขากำลังปั่นจักรยานในย่านชนบท เขาก็เลยตัดสินใจลงไปเช็คดู… ในจังหวะที่เขากำลังเข้าไปใกล้มันนั้น เขาก็พบว่าเจ้าตูบวิ่งหนีด้วยท่าทางแปลกๆ เขาจึงรู้ได้ทันทีว่ามันบาดเจ็บ แต่เจ้าตูบก็ยังไม่ยอมให้จับแต่อย่างใด มันวิ่งไปหลบหลังก้อนหินด้วยท่าทีที่กลัวคนมากๆ Łukasz พยายามยื่นมือเข้าไปให้มันดมและคุ้นเคย จนสุดท้ายมันก็ยอมที่จะเข้าและวางอุ้งเท้าลงบนมือของเขา และเมื่อเขาเห็นแบบนั้นจึงจัดการอุ้มมันออกมาพร้อมพาส่งไปคลินิคใกล้ๆ ทันที ฉันจะช่วยแกเองนะเจ้าตูบ ไม่ต้องห่วงนะ เดี่ยวแกก็จะหายดีแล้วนะ จากการวินิจฉัยก็พบว่า มันถูกชนมานานกว่า 3-4 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่มันยังรอดชีวิต ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันต่อ พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า Bobby เชื่อเหอะ ว่าหลังจากนี้มันจะต้องกลายเป็นสุนัขที่แฮปปี้มากแน่ๆ สุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน มันก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากคู่รัก จากชีวิตที่ต้องทนบาดเจ็บอยู่ข้างทาง ตอนนี้มันก็กลายเป็นสุนัขที่มีความสุขมากๆ ตัวหนึ่งเลยล่ะ ดีใจด้วยนะเจ้า Bobby ที่ได้เจอเจ้าของใหม่ที่รักแกจริงๆ แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยนะ มีบ้าน มีที่นอนนุ่มๆ และก็มีเจ้านายที่ไปไหนไปกัน เย้!! ที่มา boredpanda
-
คลิปสุดซึ้งของหมาผู้ซื่อสัตย์ “คาบหนังสือพิมพ์” ให้เจ้านายตลอด 10 ปี แม้จะเป็นวาระสุดท้าย..
สุนัขนั้่นขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และรักเจ้าของมากๆ และยิ่งมันรู้ว่ามันมีหน้าที่อะไร มันก็จะตั้งใจและทำอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเจ้าโกลเด้นตัวนี้ที่ชาวเน็ตคนหนึ่งได้แชร์เรื่องราวของมัน เจ้าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Kuva ซึ่งมันจะทำหน้าที่ไปหยิบหนังสือพิมพ์จากหน้าบ้านมาให้ Brent Cooper วัย 55 ปี ผู้เป็นเจ้าของทุกวัน และแน่นอนว่ามันทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เขาเล่าว่า เจ้า Kuva ทำแบบนี้ครั้งแรกเมื่อตอนมันอายุ 4 ขวบ ซึ่งเดิมทีบ้านของพวกเขาอยู่ในชุมชนที่หนังสือพิมพ์จะถูกวางไว้หน้าบ้านอยู่แล้ว จนเจ้าตูบมาเห็นมันก็เลยเริ่มคาบมาให้เขา นับแต่นั้นมันก็ทำมาตลอดๆ และใครๆ ในครอบครัวก็รักมัน โดยเฉพาะ Shelby ลูกสาววัย 26 ปี จะสนิทและรักมันเป็นพิเศษมากๆ จนกระทั่งมันมีอายุ เข้า 15 ขวบ สภาพของมันก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ทว่ามันก็ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่แม้แต่วันเดียว จนวันที่แย่ที่สุดของครอบครัวก็มาถึง เมื่อสภาพของเจ้า Kuva แย่ถึงขีดสุด พวกเขารีบพามันไปหาแพทย์ทันที แต่ว่าในวันถัดมาเจ้าตูบก็ไปไม่รอด มันเสียชีวิตลงในวันนั้นเอง สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก แม้แต่กับลูกแมว มันก็เป็นมิตรสุดๆ…
-
ชาวประมงช็อคหนัก หลังเปิดหน้าต่างรถทิ้งไว้ กลับไปเจอ “ยุง” นับพันตัวตั้งกองทัพในรถ!!
ช่วงเวลาสุดช็อคของชาวประมงชาวรัสเซียคนหนึ่ง เมื่อเขาดันออกไปหาปลาแต่ดันลืมปิดหน้าต่างรถซะอย่างนั้น รู้ตัวอีกทีก็ตอนกลับมา แต่สิ่งที่เขาต้องเจอมันน่ากลัวราวกับนั่งสยองขวัญอย่างไงอย่างงั้น สิ่งที่ชาวประมงต้องเจอนั้นคือกองทัพยุงนับร้อยนับพันตัว บินอยู่เต็มรถของเขาซึ่งแค่มองก็หน้ากลัวมากๆ แล้ว เขาคาดว่าฝูงยุงเหล่านี้จะบินเข้ามาเพราะมันสัมผัสได้ถึงก๊าซคาบอนที่เขาปล่อยออกมาตอนอยู่ในรถนั้นเอง ที่เห็นเทาๆ มัวๆ ในรถนั้นคือยุงล้วนๆ !! จำนวนยุงที่กะด้วยตานั้นมีเยอะมากๆ อาจจะ 1,000 ตัวเลยก็ได้ ซึ่งลองจินตนาการดูสิว่าถ้าลองไปนั่งข้างในนั้นสัก 5 นาทีสภาพของเราจะเป็นยังไง บรึ๊ยยย ดูกองยุงจำนวนมากที่นอนตายอยู่ ลองคิดสภาพการนั่งลงไปแล้วให้ยุงทั้งหมดมากัด อ่าห์ ฟิน ยุงนั้นเป็นแมลงประเภทหนึ่งที่มีอยู่ทั่วโลก และยังเป็นตัวพาหะนำโรคมากมาย ฉะนั้นการเปิดหน้าต่างหรือประตูรถทิ้งไว้ และรถมีแสงไฟตกแต่งอยู่ตลอดก็จะสามารถดึงดูดแมลงต่างๆ มาได้เยอะแยะเลยทีเดียว ถ้าไม่บอกว่ายุง นี่คิดว่าแมงเม้าเลยนะเนี่ย พอลองช้อนขึ้นมา โอ้โห ฉะนั้น ถ้าใครจะออกจากบ้าน หรือขับรถไปที่ไหนก็อย่าลืมปิดบ้านให้มิดชิด เพราะนอกจากภัยจากแมลงแล้ว ภัยจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็น่ากลัวเช่นกัน ด้วยความเป็นห่วงนะ… ที่มา dailymail
-
Game of Thrones ของเขาดีจริง ขนาด “นก” ยังเสพติดจนเอาเพลงเปิดไปร้องทุกวัน!!
เดินทางมาเกือบจะครึ่งซีซั่น 7 แล้ว กระแสของซีรีส์เรื่องดังอย่าง Game of Thrones ก็ยังแรงอย่างต่อเนื่อง และเสียงเพลงเปิดซีรีส์ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัวแฟนๆ พร้อมอยากจะให้ข้ามไปสัปดาห์ต่อสัปดาห์… ทว่าเมื่อพูดถึงเสียงเพลงเปิดแล้ว ไม่ได้มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบ เพราะเชื่อไหมว่าเหล่านกมากมายจากทั่วทุกมุมโลกก็ชอบเพลงนี้เช่นกัน และพวกมันก็เอามาร้องกันสนุกสนานเลย ซึ่งพระเอกของงานนี้นั่นมีชื่อว่าเจ้า Tico ซึ่งเป็นนกคอกคาทีล ที่ชื่นชอบเพลงประกอบซีรีส์มากๆ โดยเจ้าของบอกว่าก่อนหน้านี้มันก็ชอบเพลงเปิดซีรีส์เรื่องอื่นๆ แต่สำหรับ Game of Thrones มันจะชอบเป็นพิเศษแถมร้องได้เป๊ะเลย ลองฟังเจ้า Tico ร้องเพลงหน่อยเป็นไง นอกจากเจ้า Tico แล้วก็ยังมีนกคอกคาทีลตัวอื่นๆ ที่ร้องได้เหมือนกันนะ เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Spikey และมันก็ร้องได้ดีสูสีกับเจ้า Tico เลยด้วย Spikey ก็เป็นแฟนเหมือนกันนะเออ นอกจากเจ้าสองตัวนี้แล้วก็ยังมีนกคอกคาทีลตัวอื่นๆ ที่สามารถร้องเพลงได้เช่นกัน และแน่นอนว่าก็ไม่มีแต่เพลงของ Game of Thrones เท่านั้น เพลงประจำตัว Darth Vader พวกมันก็ร้องได้นะ…
-
รวมผลงานภาพจากการประกวด “ภาพถ่ายสัตว์สุดจี้แห่งปี” บอกเลยของเขาดีจริง ฮร่าๆ
ปกติแล้วเรามักจะเห็นการประกวดภาพถ่ายสวยๆ ในหมวดต่างๆ หรือไม่ก็เป็นการประกวดภาพด้วยเทคนิคแปลกๆ หรือถ้าประกวดภาพของสัตว์ก็จะเป็นภาพน่ารักๆ แต่สำหรับหัวข้อในวันนี้กลับเป็นการประกวดภาพตลกโปกฮา ของเหล่าสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งจัดโดย Tom Sullam และ Paul Johnson-Hicks โดยการคัดสรรค์ภาพจากผู้ส่งประกวดทั้งหมดกว่า 2,500 ภาพ งานนี้จะเด็ดดวงแค่ไหน จะฮาหรือป่าวไปดูกันเลย… ข้ามีความฝันอยากจะควบม้าดูสักครา เป็นแค่เจ้าเหมียว อยากจะขี่อาชาแบบข้า ฝันไปเถอะ!! เซลฟี่ด้วยการโพสท่าแบบคนดีดๆ ข้าคือเจ้าเหมียวยอดนักสู้ ผู้ยืนสองขาได้ เฟี้ยวยิ่งกว่าใคร ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมนุษย์พยายามเลียข้อศอกเลย โดดจริงไม่ถึง แต่เงามันถึงก็โอเคแล้ว เข้าใจปะน้องชาย ถ้าตูหลุดไปเมื่อไหร่ เองโดนเอาคืนแน่!! ถึงแน่เจ้านายไม่ต้องห่วง นั่งเฉยๆ สบายๆ จงพาข้าไปยังจุดหมายปลายทางซะเจ้ามนุษย์ เฮ้ย จัดกล้องให้มันตรงๆ หน่อยดิ ขนมชิ้นนั้นจะให้มันตกถึงพื้นไม่ได้!! พวกเจ้าจงเต้นตามข้า กับท่าเต้นในตำนานจากไมเคิลแจ็คสัน …
-
ผลวิจัยวิทยาศาสตร์ชี้ ‘แมวก็มีหัวใจและรักเป็น’ ส่วน ‘สุนัข’ รักมนุษย์หนักกว่าแมวถึง 5 เท่า!!
หากใครที่กำลังชุบเลี้ยงน้องหมาตัวน้อยตัวใหญ่กันอยู่ ก็คงจะไม่สงสัยซักเท่าไหร่ว่าหมามันรักมนุษย์มากแค่ไหน ส่วนใครที่ถวายกายและใจเป็นทาสแมวไปแล้ว ก็อาจจะสงสัยไม่น้อยว่าหมามันรักมนุษย์มาก แล้วแมวล่ะ อุตส่าห์เลี้ยงดีขนาดนี้มันจะมาสนใจเราบ้างมั้ย? หมา ปะทะ แมว!? เอาเป็นว่าคำตอบเหล่านี้ถูกแถลงไขโดย Dr. Paul Zak นักประสาทวิทยา ได้กล่าวเอาไว้ว่าในตัวเราจะมีฮอร์โมน Oxytocin ซึ่งแสดงออกในเรื่องของความรักและความผูกพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาแม่คลอดลูกก็จะมีความรู้สึกนี้ทันที หรือเวลาที่เราตกหลุมรักใครซักคน รวมไปถึงการได้โอบกอดอันอบอุ่น แล้วทีนี้เขาก็เลยอยากจะทดลองกับสัตว์ดูบ้าง โดยเลือกเป็นหมากับแมวเป็นกลุ่มตัวอย่าง อย่างละ 10 ตัว นำมาวัดระดับฮอร์โมนในเลือดก่อน แล้วก็พบว่าสัตว์ทั้งสองชนิดมีฮอร์โมนดังกล่าว จากนั้นก็ปล่อยกลับไปหาเจ้าของ กอดกันให้ชื่นใจและนำกลับมาวัดระดับฮอร์โมนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นพบว่าทั้งหมาและแมวมีฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มมากขึ้น โดยในสุนัขเพิ่มถึง 57.2% เทียบกับแมวเพิ่มมา 12% ฮอร์โมนในสุนัขนี่เยอะกว่าแมวถึง 5 เท่าเลยนะเนี่ย ถึงแม้ว่าแมวจะมีฮอร์โมนในระดับที่น้อยกว่า แต่มันก็ช่วยแสดงให้เห็นในสิ่งที่เราสงสัยมาตลอดว่าแมวมันรักมนุษย์บ้างมั้ย? ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอย่างน้อยแมวก็มีความรู้สึกรักและผูกพันธ์กับมนุษย์เช่นกัน แม้จะน้อยกว่าหมาก็เถอะ (เป็นพวกปากแข็งนี่เอง) สุดท้ายแล้วทาสแมวก็ต้องทนกับชะตากรรมกันต่อไป ไปเอาข้าวมาเจ้าทาส!! ที่มา :…
-
รวม 20 ภาพของเหล่าแมวในจังหวะที่เหมาะเจาะ ความเผลอแบบพอดี ทำให้น่ารักได้ปานนี้!!
บ่อยครั้งที่เวลาเราตั้งใจถ่ายภาพ เรามักจะได้ภาพที่ไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ แต่พอถ่ายแบบไม่ตั้งใจ ภาพที่ได้ออกมานั้นดันมีความเป๊ะและสวยพอดิบพอดียิ่งกว่าตั้งใจถ่ายซะอีก ทีนี้ถ้าลองเป็นภาพถ่ายของเจ้าเหมียวล่ะ จะเป็นยังไงถ้าเกิดบังเอิญถ่ายช็อตเผลอๆ แต่ดันเป๊ะออกมา งานนี้ความน่ารักแบบป่วนๆ ก็ยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีก พุต ยัว แฮนส์ อัพ!! จงบอกความลับมา ไม่งั้นเองจะต้องตายคากองข้าว!! กระซิบเบาๆ ข้างหูว่า “ข้าวของแกน่ะ ข้ากินไปหมดแล้ว” หลักฐานคาตา แต่ก็สวยงามดีนะ วิงการ์เดียม เลวีโอซา!! ส่งมันมาให้ข้า!! แหวะ ขี้ติดตูดอยู่อ๊ะ!! เจ้าเหมียวผ่าฟืนสุดโหด เป๊ะกับกรอบรูปสุดๆ แสดงความรักผ่านหางแบบเป๊ะๆ ยอดวิชาลอยตัว ฮ๊ะช๊ะ!! กองกำลังแมวเหมียวจากฝากฟ้า คิดซะว่าตัวเองเป็นเจ้าชายอสูรกำลังเต้นรำกับเบลล์ มองอะไร ไม่เคยเห็นแมวบินได้เหรอ? ภาพสุดสวยราวกับตัดต่อของเจ้าเหมียว เป็นช็อตที่เป๊ะอะไรขนาดนี้!? แมวยักษ์ผู้เรียนรู้การยืนสองขา!! แม้จะเป็นช็อตตกใจ…
-
หญิงสาวเจอ “แมงมุมตัวยักษ์” แปลกตาสุดๆ เลยตั้งชื่อเล่นให้มันตามในแฮร์รี่ว่า “อาราก็อก”
งานนี้บอกเลยว่าถ้าใครกลัวแมงมุม ควรหลบโพสต์นี้ให้ดี เพราะว่าแมงมุมยักษ์ Aragog จะมาบุกถึงบ้านคุณแล้ว…ยังไม่ปิดอีกเหรอ? โอเคงั้นแสดงว่าคุณพร้อมจะไปต่อแล้ว ถ้าใครที่เป็นแฟน แฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจะคุ้นชื่อ Aragog กันเป็นอย่างดี เพราะชื่อนี้เป็นชื่อแมงมุมยักษ์ในหนังเรื่องดังกล่าว มีลักษณะที่ใหญ่โตมากๆ ตามหนังของมัน ทำให้ชาวบ้านจากออสเตรเลียตัดสินใจตั้งชื่อให้กับแมงมุมที่พวกเขาบังเอิญเจอระหว่างกำลังจะทำอาหารนั่นเอง Lauren Ansell จากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าถึงเหตุการณ์สุดตะลึง เมื่อเธอและแฟนกำลังวางแผนจะทำกับข้าวกินกันนอกบ้าน ทว่าดันเหลือบไปเห็นเจ้าแมงมุมไซส์บิ๊กเกาะอยู่ตรงกระจก เล่นเอาทั้งคู่ตกใจกันสุดๆ แม้ว่าตัวมันจะใหญ่โตดูน่ากลัว แต่ Lauren กลับบอกว่าแม้มันจะหน้าตามันจะดูไม่เป็นมิตร แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีภัยอะไรหรือดุร้ายเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะขยับออกจากหน้าต่างสักเท่าไหร่นัก เธอเล่ากับ Dailymail ว่า “แฟนของฉันพยายามจะทำอาหารกินกันข้างนอก และเราก็ไม่อยากทำร้ายมันจึงอยากให้มันย้ายที่ไปซะ แต่ดูแล้วมันจะไม่ยอมไปสักที ฉะนั้นฉันก็เลยตามเลย และปล่อยให้มันอยู่แบบนั้น ที่สำคัญฉันตั้งชื่อให้มันว่า Aragog ด้วยนะ” ดูเหมือนมันจะรู้ว่าโดนแอบถ่ายอยู่นะ รีบมาออกกล้องเลย สุดท้ายหลังจากเธอโพสต์ภาพนี้ไม่นาน เจ้า Aragog ก็จากไป โดย Lauren บอกว่ามันเจอบ้านใหม่แล้ว…
-
เมื่อวาฬหลังค่อมขนาด 40 ตัน กระโดดขึ้นโชว์เหนือผิวน้ำ วินาทีสุดอัศจรรย์จากท้องทะเล!!
ถ้าพูดถึงวาฬ หลายคนก็คงจะนึกถึงสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้ามหาสมุทรกันอย่างแน่นอน ลองคิดภาพว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ที่เจอมันกระโดดขึ้นมาจากน้ำอย่างสง่างาม ภาพนั้นมันจะสุดยอดขนาดไหนนะ? ล่าสุด Craig Capehart นักประดาน้ำ ที่ออกไปดำน้ำบริเวณชายฝั่งของเมือง Mbotyi ในประเทศแอฟฟริกาใต้ ก็ต้องพบกับเหตุการณ์สุดตะลึง เมื่อเขาได้เก็บภาพของวาฬหลังค่อมที่มีขนาดใหญ่ราวๆ 40 ตันกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ!! Craig ยังบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เจออีกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาจดจำไปทั้งชีวิต วินาทีที่วาฬหลังค่อมกระโดดขึ้นมานั้นช่างสง่างามสุดๆ “เชื่อเหอะว่าโลมาก็สู้ไม่ได้ หรือแม้แต่ยอดฉลามขาวก็ยังไม่บินขึ้นเหนือน้ำแบบนี้ แล้วดูนี่สิ มันคือวาฬหลังค่อมที่โตเต็มวัยเลยนะ!!” ด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 40 ตัน แต่สามารถกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์!! สำหรับวาฬหลังค่อมแล้วเมื่อโตเต็มวัย จะมีน้ำหนักราวๆ 36,000 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับฮิปโปหนุ่ม 24 ตัว แต่ Craig บอกว่าเจ้าตัวนี้มันน่าจะหนักถึง 40 ตันแน่ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวินาทีที่หาชมได้ยากจากธรรมชาติ ทำให้คลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมถึง 1 ล้านครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกถึงความสุดยอดของเจ้าแห่งท้องทะเลจริงๆ ที่มา boredpanda
-
เจ้าตูบสู้ชีวิต แม้จะถูกคนใจร้าย “ยิงปืนอัดลม” เข้าที่หัวนับครั้งไม่ถ้วน แต่มันก็ไม่ยอมแพ้!!
เหตุการณ์สุดสลดของเจ้าตูบจรจัดตัวหนึ่งที่มีคนไปเจอมันเดินเตดเตร่อยู่บริเวณชานเมืองเบรุต ในประเทศเลบานอน ตอนแรกนั้น คนที่ช่วยเหลือมันสังเกตเห็นเพียงแค่ท่าทางว่ามันน่าจะหิวน้ำจึง จัดแจงให้น้ำแก่มันไป แต่พอเข้าไปใกล้ๆ นั้นกลับช็อคกับหัวของมันที่มีแผลเหวอะหวะ เธอเลยรีบช่วยเหลือมันทันที! เป็นภาพที่ดูแล้วสะเทือนใจสุดๆ สังเกตได้ว่าอาการหนักมากๆ และถ้าปล่อยไว้มันอาจจะไม่รอดเป็นแน่แท้ Amal Andari และเพื่อนของเธอไม่รอช้า รีบพาเจ้าตูบตัวดังกล่าวไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆ ทันที จากนั้นทีมแพทย์ได้ทำการเอ็กซ์เรย์บริเวณหัวของเจ้าตูบ พวกเขาก็พบว่าที่หัวของมันกลาเป็นแบบนั้นเกิดจากการถูกยิงอัดด้วยปืนอัดลมจำนวนมาก คาดว่าจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นท้องถิ่นที่นึกสนุกอยากแกล้งมันนั่นเอง เข้ารับการรักษาแล้ว นายต้องรอดนะเจ้าตูบ จากภาพเอ็กซ์เรย์เราจะเห็นได้ว่า ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมีลูกกระสุนปืนอัดลมอยู่เพียบ!! มีเพียบจริงๆ เม็ดกระสุนปืนอัดลมอยู่เต็มตัวไปหมด ยิ่งส่วนหัวยิ่งหนักมากๆ เดิมทีแล้ว Amal เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ให้แก่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ในประเทศเลบานอนอยู่แล้ว ซึ่งเธอเล่าว่าในประเทศนี้การทำร้ายสัตว์ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ หนักหน่อยอาจจะมีการวางยาพิษแก่สุนัขจรจัดอีก ด้วยเหตุนี้เธอจึงจัดการรับเลี้ยงเจ้าตูบที่เธอช่วยมาชั่วคราว และตั้งชื่อให้ว่า Bondok ซึ่งผลของอาการบาดเจ็บของมันทำให้ตาของเจ้าตูบมืดบอด ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป สภาพของมันเริ่มกลับมาดีอีกครั้งหลังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อได้รับการดูแลอย่างดี จากหมาจรจัดก็กลายเป็นหมาที่น่ารักได้ มตอนนี้มันได้รับการเลี้ยงดูให้อยู่บริเวณชานเมืองของประเทศเลบานอน และสภาพของมันก็กลับมาดีพอสมควรจนพร้อมที่จะให้เจ้าของใหม่ที่พร้อมจะรับเลี้ยงดูมันมารับเลี้ยงไป ยื่นมือเข้ามาช่วยและมอบความรักให้กับมันเสียที ยิ่งภาพนี้ยิ่งตอกย้ำความน่ารักมุ้งมิ้งของเจ้า Bondok สุดๆ…
-
เทรนด์ใหม่ในญี่ปุ่น ใช้แมวมาเป็นแป้นกดเกม ได้ทั้งเล่นเกม ทั้งนวดแมว สนุกแบบ 2-in-1!!
สำหรับเกมเต้น หรือว่ามิวสิคเกมในยุคนี้นั้นล้วนมีหลากหลายประเภท และให้เราได้เลือกเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบเกมตู้อาเขต ในโทรศัพมือถือ หรือในแทบเล็ตเป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นตัวแทบเล็ตเราก็จะใช้การทัชสกรีนเป็นหลัก แล้วถ้าเป็นแมวล่ะจะใช้แทนการทัชสกรีนด้วยนิ้วได้ไหม!? ล่าสุดได้มีเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นนามว่า fubuki765 อัดคลิปที่เขาเล่นมิวสิคเกม แบบไม่เหมือนเดิม แทนที่จะใช้นิ้วมือกดๆ โดยใช้แมวเป็นสื่อกลางในการแตะจอ ซึ่งเราจะเห็นว่าเจ้าของคลิปใช้การถูเบาๆ บนตัวแมวโดยถ้าดูดีๆ มันเหมือนการนวดให้เจ้าเหมียวยังไงอย่างนั้นเลยจริงไหม!? และพอสังเกตดีๆ เราก็จะเห็นว่าเจ้าเหมียวก็ดูจะชอบการถูกนวดนี้มาก ไม่เชื่อก็ลองดูในคลิปสิ มันเพลินมากๆ ไม่ยอมลุกไปไหนเลย ทว่าเมื่อดูไปจริงๆ แล้วความจริงก็ปรากฏเกมในคลิปดังกล่าวคือเกม Chunithm ซึ่งเป็นเกมที่ลงให้กับเฉพาะระบบเกมตู้อาเขต ฉะนั้นเท่ากับว่าเขาไม่ได้เล่นมันจริงๆ แต่เป็นการกดตามคลิปที่เปิดไว้เฉยๆ นั่นเอง ถึงแม้จะโดนเจ้าของคลิปหลอก นึกว่าจะได้เล่นมิวสิคเกมสุดโปรดพร้อมกับนวดเจ้าเหมียวตัวโปรดไปพร้อมกันเสียอีก แต่อย่างไรก็ตามนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นจุดประกายให้บริษัทพัฒนาเกมหันมาทำเกมที่เล่นบนตัวแมวจริงๆ ก็ได้นะ ถ้าเป็นจริงเกมเมอร์ผสมทาสแมวอย่าง #เหมียวมู่ทู่ คงฟินไม่น้อย แฮ่กๆ!! ที่มา: rocketnews24
-
ควีนเอลิซาเบธรับเลี้ยงสุนัขคอร์กี้อีกหนึ่งตัว แม้เคยตรัสว่าจะไม่รับเลี้ยงสุนัขเพิ่มอีกแล้ว…
อย่างที่รู้กันดีว่า Queen Elizabeth ที่ 2 นั้นรักสัตว์มากๆ โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ ซึ่งก็คงไม่ต้องถามว่าทำไมพระองค์ทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้ ก็เพราะความน่ารักของพวกมันนั้นถือเป็นที่สุดนั่นเอง ในช่วงเวลาที่พระองค์ครองราชย์มานั้น ทรงเลี้ยงสุนัขคอร์กี้มาแล้วกว่า 30 ตัว!! ใช่แล้วอ่านไม่ผิดหรอก ซึ่งนี่เป็นข้อยืนยันว่าพระองค์ทรงโปรดสุนัขสายพันธุ์นี้จริงๆ ย้อนกลับไปราวๆ 4 ปีก่อน พระองค์ได้ทรงตรัสว่าจะเลิกเพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้แล้ว และต่อมาเมื่อ 1 ปีก่อน พระองค์ก็ตรัสว่าจะไม่เลี้ยงอีกสัตว์เพิ่มไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ทว่าพระองค์ทรงรับสุนัขคอร์กี้ตัวใหม่มาเลี้ยงในปีนี้แทนซะงั้น!? แม้จะเป็นการกลับคำของพระองค์ แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างที่พระองค์ทำล้วนมีเหตุและผล เพราะการที่ยอมลงทุนกลับคำนั้น เกิดขึ้นจากการที่เพื่อนของพระองค์นามว่า Bill Fenwick ผู้เป็นเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูตำหนักซานดริงแฮม ได้เสียชีวิตลงในปีนี้ รวมถึงภรรยาของเขาก็เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เจ้า Whisper สุนัขคอร์กี้วัย 9 ปี ของ Bill ต้องกลายเป็นสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ และด้วยความน่ารักนิสัยดีของมันทำให้ควีนยอมตัดสินใจรับดูแลมันแทนเพื่อนเก่าของพระองค์นั่นเอง สุดท้ายเจ้า Whisper ก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีทั้งจากพระองค์เอง และจากข้าราชสำนักใช้ของพระองค์ ซึ่งมันก็ได้ห้องนอนอย่างดี กินอาหารสุดหรูจากเชฟมากฝีมือ ที่สำคัญมันยังได้อยู่กับ…
-
เจ้าตูบมารยาทงาม ไม่ยอมเห่าเสียงดังแต่เห่าแบบ “กระซิบ” แทน เป็นมิตรกับเพื่อนบ้านชัวร์!!
เชื่อว่าหลายครั้งเราน่าจะเคยรู้สึกรำคาญหมาของข้างบ้านกันแน่ๆ ว่าบางครั้งมันจะเห่าเสียงดังอะไรนักหนา ยิ่งกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ จนต้องเดินไปบอกข้างบ้านว่าดูหมาให้ดีหน่อย และนั่นอาจจะเป็นต้นเหตุของการไม่พอใจกันก็เป็นได้ แต่ถ้าเกิดหมาข้างบ้านของคุณดันเป็นเจ้า Dudley แล้วละก็ ปัญหาของคุณจะหมดไปทันที เพราะมันถูกฝึกมาให้เห่าแบบกระซิบ รับรองว่าเงียบไม่สร้างปัญหาให้ใครแน่นอน เจ้า Dudley นั้นแรกเริ่มเดิมทีมันเป็นสุนัขที่อาศัยอยู่ในหอพักของมหาลัย Greenville ในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งนั้นเป็นที่ที่ Brian Gertler ผู้เป็นเจ้าของมันทำงานอยู่นั่นเอง แน่นอนว่าการที่มันอยู่ในหอพัก มันก็มักจะได้รับความรักจากเหล่านักศึกษา ผู้คนต่างพากันเล่นกับมันกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วจากการได้รับความรักจากคนมากมาย แต่ว่ามันก็ต้องเรียนรู้ที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับนักศึกษาด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้มันจึงต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองไม่ส่งเสียงดัง Brian จึงต้องฝึกมันด้วยวิธีต่างๆ แน่นอนว่าแรกเริ่มมันก็เป็นเหมือนสุนัขทั่วไปที่เห่าเวลาอยากจะเล่นและมันก็เสียงดังมาก แต่แล้วหลังจากฝึกได้สักพักมันก็เรียนรู้ที่จะเห่าเงียบๆ เมื่อ Brian สั่งด้วยคีย์เวิร์ดคำว่า “Speak” ซึ่งเมื่อ Brian สั่งเจ้า Dudley ว่า Speak เมื่อไหร่มันก็จะเห่าแบบกระซิบๆ พร้อมกับได้เล่นโยนลูกบอลกับเจ้านายของมัน แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำทุกครั้งหรอกนะ บางครั้งมันก็เห่าปกติเช่นกัน ทว่าอย่างน้อยนี้ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอย่างหนึ่งนั่นอง ที่มา thedodo
-
“วอมแบทจมูกขนเหนือ” สัตว์หายาก ที่ใกล้สูญพันธุ์ เหลือเพียง 251 ตัวบนโลกเท่านั้น!!
บนโลกนี้แม้จะมีสัตว์หลากหลายชนิดก็ตาม แต่ก็มีสัตว์อีกไม่น้อยเลยที่ใกล้จะสูญพันธุ์และคนส่วนใหญ่ก็อาจจะรู้จัก “วอมแบท” กันดีอยู่แล้ว ซึ่งในตระกูลวอมแบทนี้เองก็มีอยู่ทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน แต่หนึ่งในนั้นอยู่ในวิกฤตใกล้สูญพันธุ์เต็มทีแล้ว โดยเหลือแค่ 251 ตัวบนโลกเท่านั้น!! วอมแบทจมูกขนเหนือ (Northern hairy-nosed wombat) นั้นเดิมทีเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ทั่วไปในแถบรัฐ New South Wales, Victoria, และ Queensland ประเทศออสเตรเลียเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน แต่ตอนนี้ถิ่นที่อยู่ของมันได้ลดขนาดลงเหลือเพียงประมาณ 32 ตารางกิโลเมตร ที่อุทยานแห่งชาติ Epping Forest National Park ที่ตั้งอยู่ในรัฐ Queensland ปกติแล้ววอมแบททั่วไปจะเป็นสัตว์ที่มีร่างกายกำยำ มีขนาดศีรษะใหญ่และสั้น มีขาที่มีพละกำลัง กรงเล็บที่แข็งแรงเพื่อเอาไว้ขุดโพรง แต่สำหรับเจ้าวอมแบทจมูกขนเหนือนั้นจะมีความแตกต่างตรงที่ขนตรงจมูก และลักษณะทางกายภาพที่ไม่เหมือนกับวอมแบทธรรมดาทั่วไป โดยจะมีใบหูที่ยาวและแหลมกว่า มีจมูกกว้างกว่า มีขนนุ่มๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย อีกทั้งยังมีขนาดตัวที่ยาวมากถึง 35 เซนติเมตร ถึง 1 เมตรเลยทีเดียว แถมยังสามารถหนักได้ถึง 40…
-
เจ้าสุนัขคอร์กี้เห่าเตือนมนุษย์ เพื่อให้รับรู้ถึงภัยอันตราย ก่อนเสี้ยววินาทีกิ่งไม้ยักษ์หล่นลงมา!!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าสุนัขนั้นสามารถถูกฝึก เพื่อให้เป็นสุนัขช่วยเหลือมนษย์ได้ในหลากหลายทาง และอย่างหนึ่งที่สุนัขมักจะถูกฝึกให้ช่วยก็คือการฟังเสียงนั่นเอง ซึ่งมันเป็นประโยชน์และช่วยชีวิตคนได้มากมายเลยล่ะ เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน Peggy Keating หญิงรายหนึ่งที่เธอไม่รู้มาก่อนว่า เธอจะสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะเจ้า Pippa สุนัขตัวโปรดของเธอ เจ้า Pippa นั้นเป็นสุนัขพันธุ์คอร์กี้ตัวเล็กน่ารักของน้องสาว Peggy ซึ่งตัวเธอก็ชอบในความน่ารักของมันมากๆ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ออกไปเดินเล่นข้างนอก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!! ในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังอยู่ยืนใต้ต้นไม้ และเจ้า Pippa เหมือนจะได้ยินเสียงกิ่งไม้ที่ค่อยๆ แตกออกและกำลังจะหักลงมา มันจึงส่งเสียงเห่าเสียงดังอย่างสุดแรงเกิด เพื่อเตือนให้ Peggy รู้ว่าภัยอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว… โชคดีที่เหมือนตัว Peggy จะรู้สึกได้ถึงการเห่าของเจ้าตูบและขยับตัวไปนิดหน่อย เพียงไม่นานนักกิ่งไม้ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาใกล้ๆ กับจุดเดิมที่เธอยืน เรียกได้ว่าตอนนั้นเธอถึงกับอึ้งไปเลยล่ะ!! เธอยังให้สัมภาษณ์กับทาง Thedodo ว่า “ฉันต้องขอบคุณ Pippa จริงๆ ที่ช่วยชีวิตของฉันให้พ้นจากภัยอันตราย ถ้ามันไม่เห่าเตือนฉันในตอนนั้น ฉันก็คงโดนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ตกใส่เต็มๆ แล้วล่ะ” Pegger ได้บอกปิดท้ายว่า จากเดิมที่เจ้า Pippa เป็นสุนัขตัวโปรดอยู่แล้ว พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ทำให้เธอรักมันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก และต้องขอบคุณความสามารถในการได้ยินของมัน ที่แม้จะไม่ได้ฝึกมาก็ตาม……
-
พนักงานส่งพัสดุ ตัดสินใจรับเลี้ยงดูเจ้าตูบที่เจอทุกวัน หลังจากที่เจ้าของเก่าได้เสียชีวิตไป…
ปกติแล้วเหล่าสัตว์เลี้ยงจะมีอายุที่สั้นกว่าเจ้าของ และพวกมันก็มักจะจากก่อนเจ้าของอยู่บ่อยๆ ทว่าถ้าเจ้าของดันจากไปก่อนพวกมันละ? แล้วมันจะอยู่กับใครในเมื่อไม่มีคนดูแลแล้ว มันจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่กำพร้าอย่างนั้นเหรอ? เช่นเดียวกันกับเจ้า Leo สุนัขพิทบูลที่ถูกรับเลี้ยงโดย Katie Newhouser เจ้าหน้าที่ส่งพัสดุบริษัท UPS ที่ทำหน้าที่ส่งพัสดุตามเส้นทางที่รับมอบหมายภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย และแน่นอนว่า Tina ผู้เป็นเจ้าของเก่าของมันก็อยู่ในเส้นทางนั้นด้วย ‘เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันขับรถเข้ามาภายในย่านปุ๊บ เจ้าหมาก็จะวิ่งพุ่งเข้ามาหาฉันทันทีเลย มันมักจะเข้ามาเลียทุกครั้งเลยล่ะ’ นอกจากนั้นแล้ว Katie ก็บอกว่าเจ้า Leo ชอบที่จะกระโดดเข้ามาในรถของเธอด้วยนะ!! ‘มันชอบที่จะนั่งอยู่บนรถ แล้วก็ดมๆ ไปทั่วรถ แต่พอถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปแล้ว มันก็ไม่ยอมออกจากรถเลย’ และด้วยการวนเวียนมาเจอกันของทั้งสอง เป็นระยะเวลานานนับปี ก็ทำให้ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากที่ Katie กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากช่วงลาพักร้อนแล้ว เธอกลับไม่เจอ Tina จนกระทั่งได้รับรู้ว่าเจ้าตัวได้เสียชีวิตไปแล้ว จะเหลือทิ้งไว้ก็แต่เจ้า Leo ที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงต่อไป เมื่อเจ้าของมันจากไปแล้ว Katie จึงตัดสินใจว่าเธอจะเป็นคนที่รับช่วงต่อดูแลมันเอง เพราะเธอไม่อยากให้มันต้องไปจบลงที่สถานรับเลี้ยงจนถึงบั้นปลายของชีวิต ถ้าไม่มี Katie ชีวิตของเจ้า Leo คงจะจบลงที่สถานรับเลี้ยงนั่นเอง …
-
หนีจระเข้ปะสิงโต!! วิถีแห่งธรรมชาติ เมื่อ “เจ้าม้าลาย” หนีรอดไอ้เข้ในน้ำ แต่เจอพี่ไลอ้อนดักหน้า
คำที่ว่าหนีเสือปะจระเข้นั้น เหมือนจะเป็นสุภาษิตที่ฟังแล้วการยกตัวอย่างมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้เลย แต่มาวันนี้สุภาษิตนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ !! ไม่นานมานี้ทางช่องยูทูบที่ชื่อว่า safariLIVE ได้ปล่อยคลิปที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่กำลังอยู่บอลลูนเพื่อสำรวจอุทยานแห่งชาติ Maasai Mara ในประเทศเคนยา ซึ่งเป็นคลิปที่ม้าลายตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนีบางอย่างในน้ำขึ้นไปบนบก… สิ่งที่เจ้าม้าลายกำลังพยายามหนีอยู่นั้นก็คือ จระเข้ที่ทำท่าจะโจมตีและลากมันลงไปกินในน้ำ แน่นอนว่าด้วยความสามารถที่ว่องไวของม้าลายทำให้มันสามารถหนีขึ้นไปบนบกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก มันใกล้เข้ามาแล้ว วิ่งเร็ว!! ทว่าเมื่อหนีจระเข้ก็ต้องมาปะเข้ากับสิงโตสองตัวที่เหมือนจะรู้และรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเมื่อเจ้าม้าลายวิ่งขึ้นมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น สิงโตตัวหนึ่งก็กระโจนออกมาจากทุ่งหญ้า พร้อมวิ่งไล่กวดอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระโดดงับเข้าที่คอของม้าลายทันที!! หนีจระเข้ได้ ก็มาเจอกับสิงโต ชีวิตมันช่างน่าเศร้า ภายในคลิปได้มีคำอธิบายว่าพวกเขากำลังถ่ายทอดสดอยู่ และตอนแรกพวกเขาก็เอาใจช่วยให้เจ้าม้าลายมันหนีรอดจากจระเข้ได้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จนเกิดเป็นดังภาพที่เห็น แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตามกลไกธรรมชาติ ฉะนั้นเขาที่อยู่บนบอลลูนจึงทำได้แค่ดูเท่านั้นนั่นเอง… ลองชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลย ที่มา dailymail
-
ลูกแรคคูนสุดน่ารักสามตัวไม่ยอมห่างจากชายหนุ่ม หลังเขาบังเอิญช่วยพวกมันระหว่างไปตกปลา..
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้นที่มุมหนึ่งของโลก เมื่อ Dominyk Lever ช่างภาพมากฝีมือได้บันทึกเหตุการณ์ที่น่ารักที่สุดตั้งแต่เขาเคยบันทึกมา นั่นก็คือภาพของลูกแรคคูนตัวเล็ก 3 ตัว… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Dominyk เดินทางไปตกปลาที่ Apple Creek รัฐโอไฮโอ ซึ่งขณะที่เขากำลังตกปลาอยู่ เขาก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรบางอย่างมาเกาะแกะที่ขาของเขา ว่ายน้ำป๋อมแป๋มมาแต่ไกล ก้อนขนอะไรเนี่ยมาเกาขายิกๆ พอมองลงไปเขาก็เห็นลูกแรคคูนสามตัวมาเกาะขาอยู่และพวกมันก็น่ารักมาก ไม่นานนักแรคคูนทั้งหมดก็ปืนขึ้นไปบนส่วนต่างๆ ของเขาและเลียหูเบาๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มุ้งมิ้งสุดๆ ระหว่างนั้นเขาก็ตกปลาต่อไป และรอดูท่าทีว่าแม่ของพวกมันจะโผล่ออกมาไหม แต่ว่าเวลาผ่านไปนานสองนานก็ดูเหมือนว่าแม่ของพวกมันจะไม่โผล่มา จนสุดท้ายนักตกปลาคนอื่นก็มาถึงและนำปลาที่ตายแล้วในบริเวณนั้นมาให้ลูกแรคคูนเป็นอาหาร พวกเขาจึงคาดว่าลูกแรคคูนทั้งสามน่าจะกำพร้า และหลงทางมาจากรังของพวกมัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันและสร้างที่พักพิงให้ใหม่ ด้านนักวิชาการก็ออกมายืนยันว่าการช่วยลูกแรคคูนป่าทั้งสามด้วยการสร้างที่พักพิงให้ ถือเป็นเรื่องที่รับได้และไม่ทำให้พวกมันเสียนิสัยแต่อย่างใด เพราะพวกมันได้สูญเสียแม่ไป แต่ว่าก็ไม่ควรเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์ป่า ทำให้การฝึกและเลี้ยงดูเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญถ้าเลี้ยงในบ้านข้าวของอาจจะพังได้ในเวลาไม่กี่วันนั่นเอง… สามารถรับชมคลิปเต็มๆ น่ารักๆ ได้ข้างล่างเลยจ้า ที่มา nationalgeographic
-
ช่ายภาพตระเวนถ่ายภาพ “สุนัขแก่” ความงดงามช่วงบั้นปลายชีวิต ที่น้อยคนจะมองเห็น
ถ้าว่ากันตามจริง ช่วงวัยที่น่ารักที่สุดของเหล่าสุนัขก็คงจะเป็นช่วงที่พวกมันเป็นเด็กๆ เป็นลูกสุนัขตัวน้อยๆ ลูกสุนัขที่ซนจนอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงมันทั้งวัน แต่พอพวกมันเติบโตและแก่ลงความน่ารักก็ลดลงไปด้วย จนหลายๆ คนไม่ค่อยจะเล่นกับพวกมันเหมือนก่อนๆ จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหงาๆ ที่รอวันจากไปเท่านั้น… เรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นกับช่างภาพสาวชาวสหรัฐฯ อย่าง Nancy Le Vine เช่นกัน เธอเองเลี้ยงสุนัขเอาไว้ 2 ตัว คือ Lulu และ Maxie จนพวกมันแก่ตัวและจากเธอไปในปี 2006 ทำให้เธอค่อนข้างเศร้าทีเดียว “ฉันคิดถึงมันมาก แม้เวลาจะผ่านไปแล้ว พวกมันยังคงอยู่กับฉันตลอดไป” Nancy กล่าว เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงเหล่าสุนัขของเธอ Nancy เลยออกเดินทางไปทั่วอเมริกาเพื่อถ่ายภาพเหล่าสุนัขแก่ๆ และแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่หรือความสวยงามจากความแก่ชราของพวกมัน Ratzoe อายุ 21 ปี จากวอชิงตัน Champ วัย 9 ปี จากเซาท์ดาโคตา Curley อายุ 14 ปี จากรัฐยูทาห์ Murphy…
-
หญิงสาวพบน้ำผึ้งประหลาดไหลออกมาจากำแพง พอเปิดดูเจอผึ้งกว่า 35,000 ตัว ซ่อนอยู่!!
ถ้าคุณเป็นคนที่กลัวผึ้ง หรือแพ้เหล็กในผึ้งบ้านหลังนี้ไม่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าคุณเป็นคนประเภทดังกล่าวคุณจะต้องช็อคตายแน่ๆ เมื่อรู้ว่ากำแพงบ้านของตัวเองมีผึ้งอาศัยอยู่ว่า 35,000 ตัว!! Cherisse Mulzac เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ ได้เล่าว่าตอนแรกเธอก็อาศัยอยู่ในบ้านตามปรกตินั่นแหละ แม้เธอจะเจอผึ้งในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองบ้างเมื่อหลายปีก่อน แต่มันก็แค่ไม่กี่ตัว ซึ่งเธอคาดว่าไม่น่าจะมีอะไร มันอาจจะหลุดเข้ามา เธอบอกว่าหลังๆ ก็เจอมันเยอะขึ้น ราวๆ 6-7 ตัวต่อวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอสังเกตเห็นว่ามันมีของเหลวเหนียวๆ ไหลหลงมาจากำแพงอพาตเมต์ของเธอ จนเธอคนพบว่าน้ำเหนียวๆ ที่ว่ามันคือน้ำผึ้ง!!? งานนี้แหละเล่นเอาสตั้นไปชั่วขณะ จนเธอต้องหาต้นต่อว่ามันมาได้ยังไง เธอพบว่ามันมีรังผึ้งอยู่ในกำแพงของเธอ ซึ่ง Cherisse ก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง แต่ยังไงก็ตามเธอก็เรียก Mickey จากบริษัทเลี้ยงผึ้งให้มาจัดการปัญหานี้หน่อย เมื่อ Mickey มาถึงเขาก็ทำการเจาะกำแพงดู ทั้งเขาและตัว Cherisse ก็ถึงกับอึ้งยิ่งกว่าเดิม เพราะรังผึ้งที่ว่ามันไม่ใช่เล็กๆ มันใหญ่มากๆ เจ้าหน้าที่คาดว่ารังนี้จะมีประชากรผึ้งมากกว่า 35,000 ตัวเลยล่ะ ทำฟาร์มน้ำผึ้งย่อมๆ ได้เลยนะเนี่ย Mickey บอกว่าเขาไม่ได้เห็นอาณานิคมผึ้งที่ใหญ่ขนาดนี้มานานแล้ว เขาจึงขอนำผึ้งพวกนี้กลับไปดูแลต่อที่บ้านของเขา ซึ่งใช้เวลาในการจัดการนานถึง 6 ชั่วโมงเพราะเขาต้องค่อยๆ…
-
เจ้าหมาโกลเด้นยอดคุณธรรม กระโดดลงแม่น้ำซูโจว คอยเก็บขวดที่ถูกทิ้งขว้างมานานสิบปี
ในขณะที่มนุษย์มุ่งแต่จะทำให้สภาพแวดล้อมสกปรกลงเรื่อยๆ เจ้าสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวหนึ่งในเมืองซูโจวก็ไม่ยอมแพ้ พยายามทำให้เมืองอันเป็นที่รักของมันสะอาดตลอดเวลา… เจ้าตูบตัวนี้ไม่มีการเปิดเผยชื่อ แต่มันเป็นสุนัขที่พยายามเก็บขวดในแม่น้ำเมืองซูโจวมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว โดยความพยายามของมันเรียกว่าน่ายกย่องมากๆ เพราะมันจะต้องกระโดดลงไปในแม่น้ำ พร้อมกับคาบกลับขึ้นมาทีละขวดๆ หลังจากคาบขวดมาแล้วมันก็จะนำขวดดังกล่าวไปทิ้งลงถังขยะ ทางด้านเจ้าของบอกว่า ทุกครั้งที่เขาและสุนัขของเขาออกมาที่สวนสาธารณะใกล้แม้น้ำแห่งนี้ สุนัขของเขาก็จะลงแม่น้ำไปเก็บขวดได้มากถึงวันละ 20 ขวดเลยทีเดียว เจ้าของยังบอกเสริมอีกว่า ถ้านับตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เจ้าโกลเด้นไปเก็บขวดจนถึงปัจจุบัน จนป่านนี้ก็ผ่านมาร่วมสิบกว่าปีแล้ว ก็น่าจะรวมขวดที่คนทิ้งเรี่ยราดได้มากกว่า 2,000 ขวดเข้าไปแล้วล่ะ สู้ๆ เจ้าโกลเด้น ภาพนี้จะเห็นว่า แม่น้ำที่มันต้องว่ายไปเก็บขวด กว้างพอสมควรขนาดที่เรือใหญ่ผ่านได้เลยนะ สุดท้ายพออ่านเรื่องราวของมันก็ต้องชื่นชมจริงๆ ว่ามันเป็นสุนัขที่นิสัยดีมากๆ ซึ่งมันก็คงทำให้เราย้อนกลับมาดูที่ตัวเองว่า ขนาดสุนัขยังรักษาความสะอาดไม่อยากให้เมืองของมันสกปรก แล้วพวกเราล่ะ ทำไมถึงยังคงทิ้งขยะเรี่ยราดกันแบบนี้อยู่? ถ้าเราช่วยกันรักษาความสะอาดแล้วทิ้งขยะลงถัง รับรองว่าเมืองของพวกเราจะน่าอยู่มากๆ อย่างแน่นอน ฉะนั้นก็อย่ายอมแพ้เจ้าโกลเด้นเข้าล่ะ เดี๋ยวจะโดนล้อว่านิสัยแย่กว่าสุนัขจะหาว่าไม่เตือน… ฮร่าาาาา ที่มา shanghaiist
-
ลูกช้างตามติดหญิงสาวผู้ช่วยชีวิต ไม่ว่าเธอจะไปไหน ก็ยังตามติดไปเรื่อยๆ แม้ตัวจะไม่เล็กแล้ว!?
เรื่องราววุ่นๆ ของเจ้า Moyo ลูกช้างตัวน้อยอายุไม่กี่วันที่ได้รับการช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ที่มันกำลังจะจมน้ำ หลังจากพยายามจะเดินข้ามแม่น้ำเพื่อตามครอบครัวที่อยู่ห่างไปไกล… จากการช่วยเหลือในครั้งนั้น มันก็ถูกนำตัวส่งมาที่ศูนย์ Wild Is Life ซึ่งที่แห่งนั้นทำให้มันได้เจอกับ Roxy Danckwerts ผู้ก่อตั้งศูนย์ดังกล่าว และเธอก็ได้กลายมาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าช้างน้อยอีกด้วย ด้วยความที่เจ้า Moyo ติด Roxy มากๆ ทำให้เวลาเธอไปไหนมาไหนก็จะติดตามไปทุกที่ แน่นอนว่ามันยังเป็นลูกช้างฉะนั้นมันยังอยู่ในฐานที่รับได้ จนมันมีอายุ 14 เดือน ซึ่งขนาดของมันก็โตพอสมควรแล้ว แต่มันก็ยังไม่ยอมห่างจากเธอสักที ตอนเห็นภาพนี้ ก็ยังมั่นใจว่ามันเป็นช้างน้อยจริงๆ พอเห็นภาพที่มันขึ้นไปบนเก้าอี้ ชักจะไม่มั่นใจแล้วล่ะว่า เป็นช้างน้อยจริงไหม แล้วก็ซ๊นซน เดินชนนั่น ชนนี่ ทำตัวเหมือนแมวหรือสุนัขเลยนะ เขาทำอาหารกัน เจ้า Moyo ก็ไม่วายอยากทำอาหารกับเขาด้วย ร่อนไปทั่วบ้าน ขโมยช้อนเล่นบ้าง ตามประสาเด็กๆ แต่ลองคิดภาพตอนโตแล้วมันยังติด Roxy ดูสิ สามารถชมความน่ารักของเจ้า Moyo เต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลยจ้า…
-
หญิงสาวเซอร์ไพรส์ หลังตื่นเช้ามาเจอลูกแมวเหมียวนั่งรอ สงสัยอยากเป็นสมาชิกใหม่!!?
เรื่องราวสุดอบอุ่นนี้เป็นของหญิงสาวผู้ใช้ชีวิตตามปกติคนหนึ่ง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งเธอก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่จะมาเปลี่ยนชีวิตของเธอตลอดไป เมื่อเธอดันเจอเจ้าเหมียวตัวหนึ่งนั่งรออยู่หน้าประตู พร้อมมองเธอด้วยดวงตากลมโต… MiraBearr สมาชิกเว็บไซต์ Imgur ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวยังเล่าต่ออีกว่า หลังจากที่เธอต้องเซอร์ไพรส์กับการมาของแขกสี่ขาแล้ว พอเปิดประตูบ้านแว๊บเดียวเท่านั้นแหละ เจ้าเหมียวรีบวิ่งเข้าบ้านโดยไม่ต้องเชื้อเชิญใดๆ ราวกันมันรู้ว่ามันจะได้อยู่ที่บ้านหลังนี้แน่ๆ ดุจดั่งวางแผนมาแล้ว แน่นอนว่าเธอสามารถจะปฏิเสธและพามันออกไปได้ แต่เธอกลับบอกว่า “วินาทีที่ฉันจ้องไปในดวงตาของมัน ฉันก็หลงรักมันทันที” ด้วยเหตุนี้เธอจึงตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Tippy จากนั้นไม่นาน เจ้าเหมียวก็เหมือนจะรู้ว่ามันควรทำยังไงในการซื้อใจพวกมนุษย์ หลังจากที่ Mira ล้มลงบนโซฟาเจ้า Tippy ก็วิ่งกรูเข้ามาและปีนขึ้นไปที่ไหล่ของเธอทันที งานนี้มีเหรอที่พวกมนุษย์จะสามารถทนแรงต้านนานความน่ารักของเจ้านายใหญ่ได้ เธอจึงปล่อยให้มันนอนอยู่บนไหล่ของเธออยู่อย่างนั้น Mira คาดการณ์ว่าเจ้าเหมียวน่าจะมีอายุไม่กี่เดือนเพียงเท่านั้น และหลายคนน่าจะตั้งใจทิ้งมันแน่ๆ ซึ่งแม้มันจะน่ารักแค่ไหน เธอก็ไม่คิดว่าเธอจะเลี้ยงมันจนสุดทาง เธอจึงเริ่มออกตามหาบ้านใหม่ที่เหมาะๆ ให้แก่เจ้า Tippy วันเวลาผ่านไปกว่า 5 วัน ดูเหมือนโชคชะตาของเจ้ามนุษย์เจ้านายแมวเหมียวตัวนี้จะต้องกัน เพราะ Mira ไม่สามารถตามหาบ้านหลังใหม่ได้ อีกทั้งลูกชายของเธอก็ดูจะติดเจ้าเหมียวมากๆ สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจเลี้ยงมันในท้ายที่สุด และเท่านี้แผนการยึดครองบ้านมนุษย์ของเจ้า Tippy…
-
ชมความโหดของ “ตั๊กแตน” แมลงที่แสนดุร้าย ของโปรดของมันก็คือสมองนก !!?
รู้หรือไม่ “ตั๊กแตน” แมลงที่เดิมทีไม่เป็นภัยต่อมนุษย์โดยตรงนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากๆ ชนิดหนึ่งในวงของแมลงด้วยกัน ด้วยความสามารถในการเป็นนักล่านั้น เดิมทีเราจะรู้ว่าเจ้าตั๊กแตนสามารถจะกินแมลงขนาดที่เล็กกว่าได้อย่างสบายๆ หรืออาจจะเป็นตั๊กแตนด้วยกันเองพวกมันก็ล่าเป็นอาหารเช่นกัน แต่ถ้าบอกว่า ตั๊กแตนนั้นสามารถล่าสัตว์อื่นอย่างนกได้ด้วยล่ะ เราจะเชื่อกันไหม? แน่นอนว่าปกติเราจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะโดยธรรมชาตินั้นนกจะเป็นผู้ล่าแมลงต่างหาก แต่สำหรับตั๊กแตนแล้วมันไม่เป็นแบบนั้น เพราะตั๊กแตนหลายสายพันธุ์จากทั่วโลกได้รับการยืนยันแล้วว่า พวกมันดุร้ายและยังสามารถล่านกขนาดเล็กได้สบายๆ อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้น พวกมันไม่ได้ล่านกเพื่อความสนุกแต่อย่างใด แต่พวกมันกินสมองของนกเป็นอาหารจานหลักเลยล่ะ… Tom McCarthy และ Randy Anderson จาก University of Basel ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยพวกเขาได้ทำการสังเกตการล่าของตั๊กแตนแล้วก็พบว่า ความโหดร้ายที่กล่าวไปข้างต้นมันยังธรรมดาเอามากเมื่อเทียบกับของพวกเขา พวกเขาบอกว่านกฮัมมิ่งเบิร์ดจัดเป็นนกชนิดหลักที่ตั๊กแตนจะจับกินเป็นอาหาร วิธีการกินของพวกมันนั้นจะเป็นการอัดให้นกบาดเจ็บ จากนั้นพวกมันก็จะจับตัวนกไว้นิ่งและกัดกินสมองของนกอย่างช้าๆ ที่สำคัญนกยังมีชีวิตอยู่!! ดูกำลังขาของมันเสียก่อน ยังไม่รวมถึงกำลังแขนที่ห้อยหัวหิ้วเหยื่อได้สบายๆ ด้วยนะ ดูสายตานักล่าของมันสิ ฮัมมิ่งเบิร์ดผู้น่าสงสาร มาถึงจุดนี้ #เหมียวมู่ทู่ ยอมรับเลยว่า ภาพลักษณ์ตั๊กแตนยอดนักสู้ผู้มาพร้อมวิชากังฟู ตอนนี้ได้กลายเป็นตั๊กแตนยอดนักฆ่าล่าไม่เลี้ยงและยังกินเหยื่อทั้งเป็น ไปเสียแล้ว…
-
สัตวแพทย์เคยช่วยชีวิตเต่าด้วย “ไฟเบอร์กลาส” และแล้วโชคชะตา ก็พาให้เธอได้เจอมันอีกครั้ง
การเลือกเรียนสัตวแพทย์ดูจะเป็นทางเลือกที่ยากลำบากไม่แพ้กับการเรียนแพทย์แบบปกติเลยนะ เพราะมันต้องอยู่บนพื้นฐานการช่วยชีวิตเหมือนๆ กัน เพียงแต่อาชีพสัตวแพทย์อาจจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงสักเท่าไหร่ แต่ก็มีอยู่หลายเหตุการณ์เหมือนกัน ที่ทำให้เรารู้ว่าการเป็นสัตวแพทย์ก็ดูเจ๋งไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เลย อย่างเหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสัตวแพทย์สาวที่ทำงานอยู่ในคลินิก Hocking Hills Animal Clinic รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนได้มีคนพาเจ้าเต่าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชนมาให้เธอรักษา สัตวแพทย์รายนี้เลยนำเอาแผ่นพลาสติกไฟเบอร์กลาสแปะไว้รอบๆ กระดองของมันเพื่อสมานแผลและรักษาชีวิตของมันเอาไว้ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่ามันแข็งแรงดี จึงได้ตัดสินใจพามันกลับไปสู่ผืนป่าอีกครั้ง หลังจากที่เวลาผ่านไปหลายปี สัตวแพทย์ก็ได้ไปเจอเข้ากับเต่าตัวเดิมโดยบังเอิญ และที่เธอจำมันได้ก็เพราะว่าแผ่นไฟเบอร์กลาสที่แปะอยู่บนกระดองของมันนั่นเอง “เมื่อไม่นานมานี้ในขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่บนเนินเขา ฉันก็สังเกตเห็นใบไม้รูปร่างแปลกๆ จนเกิดเป็นความประหลาดใจ เพราะนั่นคือคนไข้เก่าของฉัน ที่ยังมีไฟเบอร์กลาสยังติดที่หลังอยู่เลย บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตการทำงานสัตวแพทย์ของฉันเลย” เธอกล่าวผ่านหน้าเฟซบุ๊ก นอกจากนี้สัตวแพยท์สาวยังได้ให้คำแนะนำแก่ชาวเน็ตด้วยว่าให้ช่วยกันสังเกตพวกเต่าที่ได้รับบาดเจ็บ หากมีใครพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกก็ให้ความช่วยเหลือแก่พวกมันสักหน่อย อย่างในกรณีนี้เจ้าเต่าดูจะโตเต็มที่แล้ว การแปะไฟเบอร์กลาสลงไปดูจะเป็นวิธีที่เหมาะสม แต่หากยังเป็นลูกเต่าที่เติบโตได้อีก อาจจะต้องนำไปให้สัตวแพทย์ตรวจดูเป็นระยะๆ เพื่อปรับเปลี่ยนไฟเบอร์กลาสให้เหมาะสมกับพวกมัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็สร้างผลกระทบต่อจิตใจผู้คนในวงกว้างทีเดียว “ลูกของฉันเองก็รักเต่าทะเลหลังจากเจอมันในสภาพที่กระดองหักและขาหลังหลุดหายไป ต้องขอขอบคุณเจ้าเต่าที่ทำให้เขาก็ตั้งใจจะเดินทางสายนี้เพื่อช่วยเหลือตัวอื่นๆ เช่นเดียวกับตัวที่เขาได้พบ” “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคนที่รักษาสัตว์ป่าด้วยนะ” “นี่มันยอดเยี่ยมมาก เมื่อตอนที่ฉันเป็นเด็กฉันเคยเอาข้อความติดไว้ที่กระดองของมันด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าหากเราเจอมันอีกครั้งเราจะได้รู้ว่ามันคือตัวเดิม จนมาเมื่อปีที่ผ่านมาลูกชาย 6…
-
ในที่สุดเจ้าตูบ ก็ได้โอกาสเห็นแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก หลังถูกล่ามโซ่มานานถึง 8 ปี!!
เรื่องราวแสนทรมานสำหรับเจ้า Bron สุนัขที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับความเศร้าและโดดเดียวในฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศสเปน จนไม่มีโอกาสได้มองเห็นแสงอาทิตย์มานานกว่า 8 ปี… เจ้า Bron นั้นต้องใช้ทั้งชีวิตถูกล่ามอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ไม่มีแม้แต่แสง และยังถูกทอดทิ้งไว้ให้เดียวดายตัวเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจาก Animal Rescue España ได้บังเอิญไปเจอกับมันเข้า พวกเขายังพบอีกว่าเจ้า Bron มีบาดแผลต่างๆ มากมายรวมถึงสุขภาพของมันก็ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะรับมันมาและจัดการดูแลรักษาเพื่อให้มันกลับมาชีวิตที่ดีอีกครั้งหนึ่ง Pilar Delgado อาสาสมัครผู้ช่วยชีวิตเจ้า Bron ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Dodo ว่า “Bron ถือเป็นเคสช่วยเหลือสุนัขที่ยากที่สุดตั้งแต่ที่ศูนย์เคยช่วยเหลือมา เพราะในด้านร่างกายมันไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงนัก จะมีก็แต่แผลตามจุดต่างๆ ที่ไม่ได้รับการรักษา ทว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือจิตใจของมันที่ไม่ได้เห็นแสงและต้องโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน การทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะมันต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อใจต่อมนุษย์ และทุกครั้งที่มันเห็นคนมันก็จะวิ่งหนีและแอบอยู่ในมุมมืดๆ เสมอ” ยังไงก็ตามพวกเขายังไม่เลิกล้มที่จะเรียกความน่าเชื่อถือกับเจ้า Bron พวกเขาใช้เวลาอยู่นานกว่า 1 ปี จนกระทั่งมันค่อยๆ เริ่มลดความกลัวลงเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง มันยอมที่จะลดการป้องกันและความกลัวลง มันออกจากมุมมืดและยอมให้เจ้าหน้าที่เล่นกับมัน วินาทีนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจและอบอุ่นเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเจ้า Bron ก็คงคิดเช่นเดียวกัน …
-
Razana อดีตนักล่าญาติห่างๆ กับจระเข้ มีฟันแบบทีเร็กซ์ และยืนได้ด้วยขาหลัง 2 ข้าง!!
หลายคนเคยรู้สึกบ้างมั้ยว่า เวลาที่ไปเจอเรื่องราวของสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ ในอดีตแล้วรู้สึกว่า ดีแล้วล่ะที่พวกมันสูญพันธ์ไปแล้ว แต่ถ้าหากว่าใครไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน ลองมาทำความรู้จักกับ Razana กันเสียก่อน #เหมียวมู่ทู่ เชื่อเลยว่าถ้าคุณได้รู้จักกับมันแล้ว ความรู้สึกที่บอกไปนั้นจะลอยมาทันทีเลยล่ะ Razana คือชื่อของสัตว์สายพันธุ์นักล่าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับจระเข้ และมีลำตัวที่ยาวถึง 7 เมตร ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ลักษณะฟันของมันยังคล้ายคลึงกับไดโนเสาร์ทีเร็กซ์อีกต่างหาก ที่สำคัญก็คือมันยืนสองขาได้ด้วย!! ลำตัวยาวถึง 7 เมตร และยืนสองขาได้…ยอมแล้วจ้า สาเหตุที่มีการหยิบเรื่องของเจ้าจระเข้ดึกดำบรรพ์ตัวนี้มาพูดก็เพราะว่า เมื่อไม่นานมานี้นักบรรพชีวินวิทยาได้ค้นพบชิ้นส่วนกระดูกของมันเพิ่มเติมนั่นเอง ก่อนหน้านี้นักวิจัยรู้เพียงแค่ว่า Notosuchia ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับจระเข้และอาศัยอยู่ในยุคจูราสสิคเมื่อ 42 ล้านปีก่อน เป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่เป็นต้นแบบการวิวัฒนาการของจระเข้ แต่ก็อย่างที่เห็นว่า Razana คือสัตว์อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้ยอมรับแล้วว่าเป็นสัตว์อีกชนิดที่เป็นญาติห่างๆ กับจระเข้ด้วย ขนาดเมื่อเทียบกับคน ในช่วงที่ยังไม่ได้ยืนสองขา นักวิจัยยังเผยถึงลักษณะนิสัยของสัตว์ชนิดนี้เพิ่มเติมจากการวิจัยฟันว่า Razana น่าจะเป็นสัตว์ที่โหดร้ายยิ่งกว่า Notosuchia และเป็นสัตว์ที่กินไม่เลือก เพราะด้วยขนาดฟันกรามที่หนาจนสามารถบดกระดูกได้ ทำให้มันถูกจัดเป็นสัตว์นักล่าและกินซากในเวลาเดียวกัน สำหรับชื่อเต็มๆ ของมันก็คือ Razanandrongobe sakalavae ซึ่งหมายความว่า กิ้งก่ายักษ์ที่เป็นบรรพบุรุษจากภูมิภาค…
-
เมื่อไม่มีใครรับไปเลี้ยง เจ้าเหมียวก็ใช้การ ‘เลียกระจก’ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์…
Sigmund เจ้าเหมียววัย 3 ขวบ จากสถานรับเลี้ยงยอดอัจริยะ คิดค้นวิธีการสร้างความแปลกใหม่ให้กับตัวมันเอง เพื่อที่ผู้คนจะได้สนใจและรับมันไปเลี้ยงหลังจากติดอยู่ที่สถานรับเลี้ยงมานานเกินไปแล้ว เจ้า Sigmund นั้นแรกเริ่มเดิมทีมันเป็นแมวที่แสนซนและขี้เล่นมากๆ แต่อาจจะเพราะเหตุผลข้างต้นที่มันมีนิสัยเหล่านั้นมากเกินไป จึงทำให้มันเคยถูกนำไปเลี้ยงและส่งกลับคืนในเวลาไม่นาน ด้วยเหตุผลที่ว่าเวลามันเล่นอะไรมันจะรุนแรงมากๆ ด้วยเหตุนี้ทาง Cat Haven ศูนย์พักพิงสัตว์ในออสเตรเลียจึงต้องรับดูแลมันต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีใครสักคนมารับมันไปเลี้ยงดูได้จริงๆ จังๆ เสียที และไม่ว่าเวลาจะไปผ่านนานเท่าไหร่ ผู้คนก็ไม่ค่อยสนใจมันเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้เจ้า Sigmund จึงจำเป็นจะต้องหาทางออกให้กับตัวเองเพื่อสร้างจุดดึงดูด และวิธีที่มันใช้ก็คือ ‘การเลียกระจก’ แผล่บๆ นี่แหละ จงสนใจข้า เจ้าพวกมนุษย์!! . วิธีดังกล่าวอาจจะดูไร้สาระ แต่เชื่อไหมว่ามันได้ผลจริงๆ!! ทุกครั้งที่มันทำการเลียกระจก คนก็จะหันมาสนใจและสงสัยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มันทำอะไรของมัน บางคนเห็นแล้วก็อาจจะเข้ามาจูบกับกระจกคอนโดของมัน ซึ่งไม่นานนักเจ้า Sigmund ก็กลายมาเป็นแมวที่ป๊อปปูลาร์และคนหันมาให้ความสนใจมากภายในเวลาไม่นานนัก อยากมีคนเลี้ยง ก็ต้องเด่นต้องดังกันสักหน่อย เมื่อมันมีลักษณะเด่นแบบนี้ คนก็เริ่มถ่ายรูปและแชร์เรื่องราวของมันไปตามโลกอินเตอร์เน็ต จนไม่นานนักเมื่อมันอายุได้ 4 ปี ความพยายามของมันก็ประสบผล มันได้รับการรับเลี้ยงดูและไปอยู่บ้านหลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคนในบ้านต่างก็รักมันดี แม้ว่ามันจะยังคงนิสัยไฮเปอร์หัวรุนแรงก็ตาม… ฮร่าๆ…
-
เผยความลับซู๊ดยอด ทำไมแมวต้อง “ลิ้นหยาบ” ราวกระดาษทราย เลียทีรู้สึกขนลุก!!
เคยไหมที่เวลาเราถูกเจ้าเหมียวของเราเข้ามาเลียตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วเราก็จะรู้สึกแปลกๆ หยาบๆ ตรงลิ้นของมันทุกที จนต้องเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นกัน? ล่าสุดคำตอบสุดลึกลับนี้ก็ได้ถูกเฉลยเรียบร้อยแล้วโดยสถาบัน Georgia Tech และสถาบัน MIT ซึ่งไม่เพียงแต่ค้นพบคำตอบเท่านั้น พวกเขาก็อาจจะเจอแนวทางในการคิดค้นเทคโนยีใหม่จากลิ้นของแมวด้วยก็เป็นได้ สาเหตุที่ลิ้นของแมวสากเหมือนกับกระดาษทรายนั้นก็เพราะว่า บริเวณลิ้นของแมวจะมีส่วนที่เป็นหนามๆ คลายกับตะขอขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากชิ้นเนื้อคล้ายกับเล็บของมนุษย์ แมวจะใช้ตะขอเล็กๆ บริเวณลิ้นคล้ายกับหวี และกำจัดขนส่วนเกินเพื่อให้ร่างกายตัวเองสะอาดตลอดเวลา ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าส่วนตะขอนั้นโค้งไปในทิศทางเดียวกันเสมอ เมื่อทีมวิจัยรู้ถึงเหตุผลของความหยาบของลิ้นแมวแล้ว พวกเขาก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น พวกเขาได้รู้เพิ่มเติมอีกว่า ทำไมลิ้นของแมวจะต้องมีตะขอเหล่านี้ด้วย!? พวกเขาจึงทำการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างลิ้นแมวจำลองขึ้นมาดู ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาพบว่า เวลาลิ้นแมวหวีขนนั้นมันง่ายต่อการทำความสะอาดจริงๆ ไม่มีปัญหาขนติดค้างเลย หรือถ้ามันติดกันก็แค่ลูบๆ มันก็ออกมาจนหมดแล้ว ต่างกับหวีที่มนุษย์ใช้กันอยู่ที่วันนี้ เวลาหวีเสร็จก็มักจะมีเศษผมติดอยู่เสมอ เวลาจะทำความสะอาดก็ต้องต้องมาดึงออกทีละเล็กละน้อย ทีมวิจัยจึงคิดว่า นี่แหละคือแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับหวีของมนุษย์นั่นเอง!! สามารถรับชมคลิปอธิบายถึงลิ้นแมวเพิ่มได้ที่ ที่มา kqed
-
การมอบชีวิตใหม่ให้กับเจ้าหมู จากโรคเรื้อนผิวแห้งกรัง สู่หมูสุขภาพดีสดใสได้อีกครั้ง
หลายครั้งที่สัตว์มักจะถูกทิ้งให้อยู่ในสถาพใกล้ตายหรือทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการทิ้งแบบจงใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่นเดียวกับเจ้า Cherry Blossom น้องหมูที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในสภาพย่ำแย่มากๆ Cherry Blossom เป็นหมูที่ถูกทอดทิ้งจากสถานรับเลี้ยงเนื่องจากมันป่วยเป็นโรคเรื้อนชนิดหนึ่ง จนมีสภาพที่แย่ลงอย่างหนัก และไม่มีใครสนใจหรืออยากจะเข้าใกล้มันเลย ทว่า Jen Sale ผู้ก่อตั้ง Sale Ranch Sanctuary กลับไม่ได้คิดแบบนั้น เธอกลับยินดีและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเจ้า Cherry Blossom ทันทีหลังจากรู้ถึงข่าวคราวของมันพร้อมบอกว่ามันต้องได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่งั้นมันจะตายอย่างแน่นอน เวลาผ่านไปกว่าสองเดือน สภาพของเจ้าหมูเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทางด้าน Jen ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้มันได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง จากผิวหนังที่เป็นเรื้อน เริ่มได้รับการรักษาและดีขึ้นตามลำดับ เวลาผ่านไป สภาพของ Cherry Blossom ตอนนี้ก็เหมือนหมูปกติแล้ว แม้จะยังมีบางส่วนที่ไม่หายดีก็ตาม ทั้ง Cherry Blossom และ Jen ต่างก็มีความสุข ใครจะเชื่อจากหมูใกล้ตาย ตอนนี้มันกลายเป็นหมูที่มีความสุขสุดๆ ที่มา boredpanda
-
เผยโฉม Harpy Eagles อินทรียักษ์ใหญ่เจ้าเวหา หนึ่งในสายพันธ์นกที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสไวรัลหนึ่งเกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อมีคนนำรูปเมื่อ 3 ปีก่อน ของชายคนหนึ่งที่ได้ถ่ายรูปคู่กับนกของเขาที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับตัวเองมาโพสต์ให้ชาวเน็ตได้เห็น งานนี้เล่นเอาหลายคนงงกันไปตามๆ กันเลยว่านกในภาพมันคือนกพันธ์ุอะไร มีตัวตนจริงรึเปล่า หรือจะเป็นเพียงแค่การตัดต่อกัน!? จนหลายคนก็ต่างไปหาข้อมูลเกี่ยวกับนกตัวดังกล่าว และก็ได้พบว่านกในภาพคือนกจริงๆ ไม่ใช่ภาพตัดต่อ นกดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Harpy Eagles จัดอยู่ในวงนกอินทรี และเป็นหนึ่งในนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่ที่สุดในวงนกอินทรีที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลก ภาพของชายคนดังกล่าวกับ Harpy Eagles ขนาดตัวของมันนั้นเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวได้มากถึง 42 นิ้ว สูงได้มากกว่า 2 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 9 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้อีกเท่าตัวเลยทีเดียว Harpy Eagles ปกติแล้วจะเป็นสัตว์ที่มีพื้นเพอยู่ในทวีปอเมริกา ซึ่งนกชนิดนี้จะเน้นโจมตีเหยื่อที่อยู่ในป่าและจับลูกลิงหรือสัตว์ต่างๆ เป็นอาหาร ความเก่งกาจของมันยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อมันเร่งความเร็วเต็มที่แล้ว มันจะสามารถบินได้เร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว เมื่อโตเต็มวัยแล้ว ส่วนหัวของมันก็จะมีขนที่โดดเด่นมากๆ ลองดูขนาดตัวของมันซะก่อน ลักษณะโดยรวมถือว่าสง่างามสุดๆ เลยทีเดียว เหยื่อเล็กใหญ่ มันก็สามารถล่าได้ไม่มีปัญหา แม้จะบอกว่ามันกินพวกลิงหรือสัตว์บนต้นไม้เป็นอาหารหลัก…
-
วัดญี่ปุ่นประกาศแบนแมว เพราะพวกมัน ‘น่ารักเกินไป’ เป็นต้นเหตุให้พระจิตใจไม่สงบ…
บางครั้งอะไรที่มันดีเกินไปก็กลายเป็นเหตุเริ่มต้นของเรื่องแย่ๆ ได้ อย่างเรื่องราวของเจ้าเหมียวในญี่ปุ่นก็เช่นกัน เมื่อวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดวะกะยะมะ ได้ประกาศแบนห้ามนำแมวเหมียวเข้ามาในบริเวณวัดเป็นอันขาด เพราะพวกมันน่ารักเกินห้ามใจ และทำให้พระในวัดขาดสติในการทำสมาธิ!! วัดแห่งหนึ่งบนภูเขา Koyasan ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดดังกล่าว ถือเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกสมาธิอย่างสันโดษ ถ้าใครต้องการฝึกสมาธิหรือบวชเป็นพระเพื่อจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรียบง่าย วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่อันเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าไม่นานมานี้ทางวัดเหมือนจะทนไม่ไหวกับสิ่งเร้าหน้าขนชนิดหนึ่ง ที่มีอำนาจร้ายแรงเกินกว่าพระที่จำวัดอยู่จะสามารถต้านทานมันได้ เจ้าสิ่งเร้าที่ว่านั้นก็คือ “แมว” ใช่แล้ว แมว นี่แหละ!! เรื่องนี้ได้รับการรายงานผ่านรายการทีวีที่ชื่อว่า Sekai Ichi Uketai Jugyo ซึ่งในรายการได้รายงานว่า ปกติแล้วที่วัดดังกล่าวจะทำการแบนผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ล่าสุดแมวก็เข้าไปอยู่ในรายชื่อสิ่งต้องห้ามของวัดเป็นอย่างที่สอง เพราะเจ้าสิ่งมีชีวิตหน้าขนสี่ขานี้ มันมีความน่ารักที่มากเกินไป และมันทำให้พระในวัดอดใจไม่ไหวที่จะต้องเข้าไปเล่นกับพวกมัน และเมื่อลองขุดค้นดูก็พบว่า จริงๆ แล้ววัดดังกล่าวมีเรื่องการแบนสัตว์พวกนี้มานานตั้งแต่ปี 1908 แล้ว นอกจากนี้ทางวัดก็ไม่ได้แบนแค่แมวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการให้อาหารนกด้วย จากเรื่องราวทั้งหมดมันทำให้เรารู้ว่า พระที่วัดดังกล่าวดูจะอดทนต่อความน่ารักของสิ่งเร้าพวกนี้ไม่ไหวเลย แต่เอาจริงๆ ใครจะอดใจไหวที่จะไม่เข้าไปเล่นกับแมวเหมียวกันล่ะ ก็มันน่ารักนี่หว่า… ที่มา rocketnews24
-
ภารกิจ “ขโมยปลาหมึก” ของเหล่าแมวจร ที่ต้องเอาตัวรอดเพื่อเลี้ยงลูก แล้วจะสำเร็จมั้ยเนี่ย!?
สำหรับคทั่วไปแล้ว การลักเล็กขโมยน้อยนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย ทว่าสำหรับเหล่าสัตว์ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าจะให้อภัยมันได้มากน้อยแค่ไหน และบางครั้งการแอบจิ๊กของกินของพวกมันก็มักจะมีเหตุผลดีๆ มารองรับเสมอ เช่นเดียวกับในคลิปจากเพจ SBS TV동물농장x애니멀봐 ซึ่งเป็นคลิปจากทางฝั่งเกาหลีที่แสดงให้เห็นถึงแผนการอันแยบยลของเจ้าแมวเหมียวสองตัวที่พยายามจะขโมยปลาหมึกไปกิน เราเจอเป้าหมายแล้ว พร้อมลุย!! ดูต้นทางไว้นะ ขอหยิบหมึกแพ๊พ หมึกนี่มันอาหย่อยสุดๆ ไปเลยล่ะ งั่มๆ ในครั้งแรกนั้นพวกมันทั้งสองตัวสามารถที่จะขโมยปลาหมึกไปกินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้านเจ้าของปลาหมึกคาดว่าเจ้าแมวหัวขโมยทั้งสองจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ งานนี้ก็เลยไปหาเจ้าตูบมาเฝ้ายามซะเลย ชอบขโมยหมึกนักใช่ไหม…แบบนี้มันต้องเจอเจ้าตูบเฝ้ายามซะหน่อยแล้ว ดูผ่านๆ เราก็จะคิดว่าเจ้าตูบจะสามารถปกป้องปลาหมึกจากแก๊งแมวขโมยได้ ทว่าเจ้าเหมียวกลับฉลาดกว่าที่คิด เมื่อมันเห็นเจ้าหมากำลังเฝ้าหน้าบ้านอยู่และยังสังเกตเห็นมันอีก เจ้าเหมียวเลยใช้วิธีรอจนกว่าเจ้าหมาจะง่วงและหลับไป พอเจ้าหมาเริ่มง่วงจนหลับ งานนี้ก็ได้โอกาสแล้วล่ะ!! เจ้าเหมียวรีบเข้าไปในบ้านอย่างไม่รอช้าหยิบปลาหมึกผู้โชคร้ายออกมาหนึ่งตัวแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เฮ้ย มียามมาเฝ้าแล้วว่ะ ไม่เป็นไรเรามีแผนสำรอง!! พอยามหลับปุ๊บ ก็เข้าไปฉกปั๊บ… มิชชั่นคอมพลีท ได้หมึกแล้วเผ่นได้ ด้านเจ้าของก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าเหมียวพวกนี้ ทำไมถึงต้องมาขโมยหมึกของเขาทุกวี่ทุกวันขนาดนี้ ซึ่งพอเข้าตามไปดูก็พบว่า เจ้าเหมียวสองตัวที่มาแอบขโมยหมึกนั้นกำลังมีลูกเล็กๆ ด้วยกัน แถมยังน่ารักสุดๆ ด้วยเหตุนี้เจ้าของหมึกก็เลยจัดการหาอาหารให้พวกมันเป็นกิจลักษณะเสียเลย เพื่อที่จะได้กลับไปเลี้ยงลูกตัวน้อยของพวกมัน แค่หมึกที่ขโมยมากินอย่างเดียวก็คงจะไม่พอสำหรับเจ้าเหมียวหรอก ที่พวกมันต้องขโมยหมึกก็เพราะ…
-
หมาโคลนนิ่งที่เกิดจาก “ใบหูของแม่” ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้มาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกเสียที…
การโคลนนิ่งในยุคนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็ว่าได้ เพราะการโคลนนิ่งสัตว์ได้สำเร็จเราก็สามารถเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ แต่ว่าการโคลนนิ่งแล้วให้ตัวต้นแบบกับตัวโคลนมาเจอกันนั่นไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ นั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้จึงเป็นการพบกันระหว่างสุนัขที่เป็นร่างต้นจากรัสเซีย กับสุนัขร่างโคลนที่เกิดจากใบหูของร่างต้นที่เกาหลีใต้ และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนมีลูกหรือมีแม่อยู่ ส่วนสาเหตุที่ลูกสุนัขถูกโคลนนิ่งขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการรักษาพันธุ์สุนัขลากเลื่อนที่เริ่มหายไปทุกๆ วันไว้ ส่วนวิธีการนั้นพวกเขาก็ใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ จากใบหูของตัวแม่สุนัขจากนั้นก็ส่งต่อไปให้ทีมนักวิจัยเพื่อทำการโคลนนิ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ Dr. Hwang Woo Suk คือหัวหน้าทีมวิจัยจาก Sooam Biotech Research Foundation ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่วิจัยและโคลนนิ่งลูกสุนัขขึ้นมาจนสำเร็จและตั้งชื่อมันว่า Belekh เมื่อลูกสุนัขโคลนนิ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงจนมีอายุครบ 3 เดือน พวกเขาก็ตัดสินพามันกลับไปหาตัวแม่สุนัขผู้เป็นร่างต้นแบบที่ประเทศรัสเซีย ทางด้านของ Dimitry ผู้เป็นเจ้าของแม่สุนัขเมื่อพบว่าทีมแพทย์ได้พาลูกสุนัขกลับมาเจอแม่มันอีกครั้ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขที่เกิดขึ้นจากการโคลนนิ่ง มันดูเหมือนกันมากๆ ราวกับว่าเกิดมาจากท้องจริงๆ เลย” สุดท้ายแล้วเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน พวกมันก็ได้ใช้เวลาด้วยกันหลายวันเลยทีเดียว และพวกมันก็ดูจะมีความสุขมากๆ เลยล่ะ ที่มา mirror
-
ครอบครัวออกไปเที่ยว กลับมาเจอ “ไก่งวง” ทุบกระจกเข้ามาในบ้าน ทำตัวชิลซะเหลือเกิน!!
นี่คือเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเมื่อ Barry Peterson และภรรยาของเขากลับมาถึงบ้านหลังจากไปเที่ยวกันมา ซึ่งเมื่อทั้งคู่เปิดบ้านเข้ามาก็ต้องต๊กกะใจเมื่อบ้านของพวกเขากลับมีแขกไม่ได้รับเชิญมาอาศัยอยู่ซะอย่างนั้น ทางด้านภรรยาไม่รอช้ารีบโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็บอกว่า “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะแจ้งตำรวจไหม แต่ฉันว่ามันน่าจะเป็นปัญหานะเพราะไก่งวงป่ามันบุกบ้านของเราโดยการพังกระจกเข้ามา แถมยังพังข้าวของอีกด้วย ยังไงก็ช่วยมาจัดการให้หน่อย” ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังรอตำรวจนั้น พวกเขาก็ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์เก็บไว้ พร้อมกับไม่รู้จะจัดการกับเจ้าไก่งวงป่าขนาดใหญ่ยักษ์นี้ยังไง เพราะแม้มันจะเป็นแค่ไก่งวงแต่ด้วยขนาดตัวมันก็ดูจะลำบากแน่ๆ ยิ่งเข้าไปจับสุ่มสี่สุ่มห้าก็คงจะลำบากกว่า สิ่งที่ทำได้คือรอตำรวจมานั่นเอง กลับมาบ้านถึงกับเซอร์ไพรส์ โจรแม่มเล่นตูแล้วแน่ๆ เปิดเข้ามา พ๊างง!! ไม่ใช่โจรที่เป็นคน แต่เป็นโจรที่เป็นไก่งวงป่าต่างหาก เดินบนโซฟาสบายใจเฉิบดุจดั่งบ้านตัวเอง เปิดประตูให้แล้ว แกจะออกหรือไม่ออก!!? ตูไม่ออก!! อ้าว เฮ้ยตำหนวดมา!! ไปก็ได้ เห๊อะ ไม่เห็นต้องเรียกพวกเลย ปั๊ดโถ่ ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ เจ้าไก่งวงตัวแสบ ที่มา boredpanda
-
“เสือชีต้าขี้อาย” ได้เจอกับเจ้าตูบที่สวนสัตว์จัดให้ และทั้งคู่ก็โตไปด้วยกันจนซี้ปึ๊ก!!
ในสายตาของคนแล้ว เสือชีต้าถือเป็นเสือที่น่ากลัวและวิ่งไวสุดๆ แต่เราจะรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเจ้าเสือพวกนี้มันเป็นสัตว์ขี้อายมากๆ ที่สำคัญพวกมันยังไม่เก่งในเรื่องของการเข้าสังคมด้วย ทำให้ลูกชีต้าบางตัวมีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทางสวนสัตว์ St. Louis ในรัฐมิสซูรี ก็ต้องประสบปัญหาการเลี้ยงลูกชีต้าอย่างยากลำบากมานานเช่นกัน จนกระทั่งพวกเขาพบทางออกว่าสุนัขสามารถจะเป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงให้กับพวกมันได้ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดการส่งลูกโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้ไปอยู่กับลูกชีต้า ซึ่งชีต้าหนึ่งตัวก็จะได้บัดดี้สุนัขไป 1 ตัวด้วยกัน และใครจะเชื่อว่าพอลูกชีต้ากับลูกสุนัขมาอยู่ด้วยกัน พวกมันจะน่ารักได้ขนาดนี้ ไม่เชื่อดู!! เฮ้ หวัดดีเพื่อนใหม่ เราชื่อโกลเด้น นายชื่อไรหยอ? เราชื่อชีต้า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ โกลเด้น!! โกลเด้นกับชีต้าก็เริ่มเข้าขากันจนกลายเป็นเพื่อนซี้กัน คอยดูแลกันและกันตลอดเวลาไม่ห่าง เวลาผ่านไป จากเสือนักล่ากับเจ้าหมาขี้เล่น ก็กลายเป็นเพื่อนซี้ในสวนสัตว์ แถมมีลานวิ่งเล่นขนาดใหญ่!! ภาพนี้เล่นเอาลบความคิดเกี่ยวกับเสือนักล่าลมกรดในทุ่งหญ้าไปเลยนะเนี่ย น่ารักสุดๆ ที่มา boredpanda
-
รู้จักกับผีเสื้อ Rosy Maple Moth สิ่งมีชีวิตที่หวานแหววที่สุดในจักรวาล ตอบโจทย์คนรักพาสเทล!!
แมลงกับหญิงสาว ถือว่าเป็นของแสลงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบกัน ไม่ว่าจะลักษณะภายนอกที่ดูน่าขยะแขยง หรือดูน่ากลัวก็ไม่ทราบได้ แต่ก็ใช่ว่าแมลงทุกตัวจะมีลักษณะตามที่ว่าไปเสียหมด เพราะยังมีแมลงที่ดูสวยงามอย่าง ‘ผีเสื้อ’ ไว้คอยปลอบใจอยู่บ้าง ฮร่าาาา และผีเสื้อที่ว่านั่นก็คือ Rosy Maple Moth ยังไงล่ะ Rosy Maple Moth หรือเจ้าฝีเสื้อกลางคืนสีโทนหวานตัวนี้ ถือเป็นผีเสื้อกลางคืนที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะเดิมทีแล้วผีเสื้อกลางคืนจะมีสีโทนมืด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะออกไปทางสีน้ำตาลหรือสีดำ ในส่วนของลักษณะทางกายภาพของผีเสื้อชนิดนี้ ตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้มากๆ โดยเมื่อมันกางปีกแล้วจะมีขนาดความกว้างถึง 1.5 ถึง 2 นิ้ว ในขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดแค่ 1.25 ถึง 1.75 นิ้วเท่านั้น และจะสามารถหาพบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา . ด้วยสีสันอันโดดเด่นของมันก็มีคนที่ชื่นชอบในผีเสื้อกลางคืนตัวนี้ จนทำเป็นสินค้าหรือทำเป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ ออกมาด้วยนะเออ… สร้อยสวยๆ ตุ๊กตาตัวเล็กน่ารักๆ หรือจะเป็นเข็มกลัดเล็กๆ ก็ดูสวยดีนะ ยิ่งถูกวาดออกมาเป็นแนวตัวการ์ตูนก็น่ารักสุดๆ เลย ดูขนฟูๆ ของมันสิ…
-
วินาทีสุดประทับใจ ตำรวจพร้อมใจขับรถอารักขา “ฝูงห่าน” จากท้องถนนที่อันตราย…
มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกใบนี้ที่ต้องได้รับการปกป้องจากงานบริการต่างๆ ซึ่งตำรวจเจ้าของเรื่องราวนี้ก็ดูจะเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าห่านกลุ่มหนึ่งได้เดินทางท่องเที่ยวไปบริเวณริมถนนหลวงในเมืองกรีนวูด รัฐโคโลราโด แน่นอนว่าสัตว์เล็กแบบนั้นการเดินอยู่บนถนนหลวงย่อมเป็นอะไรที่อันตรายมาก ด้วยเหตุนี้การปล่อยให้พวกมันเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ทางตำรวจกรีนวูดจึงเดินทางมาหาเจ้าห่านพวกนี้ พร้อมกับขับรถตำรวจสองคัน ปิดด้านข้างและปิดท้ายริมทางเท้า เพื่อช่วยอารักขาพวกมันจนไปถึงพื้นที่ปลอดภัย จนเกิดเป็นคลิปสุดประทับใจ Rod Wayne ชายผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ได้บอกเล่ากับเว็บไซต์ Thedodo ว่า “ผมเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยกันปกป้องพวกห่านอย่างใจเย็น และพาพวกมันไปจนสุดทางของถนนจนพวกมันเดินเข้าไปบริเวณหญ้าข้างทาง” เรื่องทั้งหมดอาจจะดูไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมันบ่งบอกถึงความใส่ใจในเพื่อนร่วมโลก ที่ยอมเสียเวลามาช่วยพวกห่าน แถมนี่ยังเป็นสัญญานที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวมองเห็นห่านพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับมนุษย์และต้องการสิทธิ์ในความปลอดภัยเช่นกัน ต้องชื่นชมพวกเขาจริงๆ สามารถดูคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ได้ข้างล่าง ผู้คนต่างมาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเพียบ คนดูคลิปนี้ไปมากกว่า 2 ล้านครั้ง และแชร์อีกกว่า 4 หมื่นครั้งแล้ว!! ที่มา Thedodo
-
มนุษย์ร่วมแชร์ 20 เหตุผลที่บอกว่า แมวเหมียวก็แค่อยากจะ “กวนติง” เราเท่านั้นแหล๊ะ!!
บางครั้งเวลาที่เราถามคนเลี้ยงแมวว่าพวกมันซนขนาดไหน? หรือทำตัวงี่เง่ายังไง? เจ้าของอาจจะอธิบายว่า “การเลี้ยงพวกมันก็ไม่ยากเท่าไหร่ อาจจะพอๆ กับหมาสักตัวนี่แหละ” ซึ่งถ้าพวกมันเหมือนหมาจริงทำไมไม่เลี้ยงหมามันซะตั้งแต่แรกเลยล่ะ เพราะหากให้เรานึกถึงข้อเสียของเหล่ามะหมา สิ่งที่#เหมียวฟิ้นพอจะนึกออกก็คือพวกมันเห่าไม่เป็นเวล่ำเวลาเท่านั้นแหละ แต่กับพวกแมวน่ะเหรอ หึหึ ที่สุดของความนรกแตกเลยล่ะ ให้บรรยายทั้งวันยังไม่หมดอะ เราก็เลยรวบรวมเอาเศษเสี้ยวหนึ่งของความนรกแตกมาให้คุณดูกัน… เจ้าเหมียวที่ออกไปเที่ยวเล่น แต่ขากลับดันคาบไส้กรอกจากบ้านไหนกลับมาก็ไม่รู้!! ห้องน้ำบ้านไหนมีแกนกระดาษก็น่าจะรู้ซึ้งดี พริบตาเดียวที่เจ้าแมวรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ มันก็รีบชักมือกลับมาแล้วทำตาใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นอนให้มันอุ่นๆ เวลาเปิดเตาจะได้ไม่ต้องใช้เวลานานไงเล่าเจ้ามนุษย์” ตัวเดียวกรูก็เจ็บจะแย่แล้ววววว!! เวลาเราเปิดประตูจะเข้าหรือออกจากบ้าน มันก็พยายามจะกระโดดออกไปสู่อิสระภาพให้ได้ แต่พอพาออกไปข้างนอกจริงๆ เจือกไม่ยอมเดิน!! “ก็ฉันหนาวไง แล้วพิซซ่านี่ก็ชิ้นพอดีตัวเลย มันก็เท่านั้นแหละ” ประธานในพิธีมาแล้ว งานเลี้ยงเริ่มได้ “จะเล่นก็ต้องมีลิมิตหน่อยนะมนุษย์” เออ เอาเข้าไป “แกไม่ต้องการเตียงใหญ่ขนาดนั้นหรอกเจ้าหมา” นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อถึงวันเกิดของคุณ แล้วเจ้าเหมียวเกิดสำนึกบุญคุณขึ้นมาในวันนั้นพอดี… เมื่อคุณจัดของเข้าตู้แล้วเรียบร้อย แต่เจ้าแมวรู้สึกว่ามันยังไม่โอเค…”ไปจัดใหม่ซะนะ” “ตาลุงหนวดเฟิ้มนี่มันใครฟระ!!” เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าแมวมันอยากจะได้น้ำดื่มสะอาดๆ มันก็จะเทถ้วยเก่าทิ้งแล้วนั่งรออย่างใจเย็น…
-
หญิงสาวฉลองเค้กวันเกิดครบ 10 ปี มอบให้เจ้าตูบ เห็นทำหน้าเหนื่อยๆ งี้ กินเรียบไม่เหลือ!!
สำหรับสุนัขแล้ว การมีชีวิตอยู่คู่กับเจ้าของเป็นเวลาถึง 10 ปี ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่าในช่วงเวลานั้น ความรักความผูกพันกับเจ้าของคงจะมากพอๆ กับสิ่ง Magnolia Mae Blossom หรือเรียกสั้นๆ ว่าเจ้า Maggie สุนัขสายพันธุ์บาสเซ็ตฮาวด์ ซึ่งในตอนนี้มันมาอายุครบ 10 ขวบเป๊ะ!! เรียกว่าเป็นหมาแก่แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับอายุของมนุษย์ก็คงเป็นคุณยายวัย 70, 80 ปีแล้วล่ะ ทว่าเจ้า Maggie ไม่ได้เป็นสุนัขที่อยู่กับเจ้าของปัจจุบันมาตั้งแต่แรก โดยเดิมทีมันเป็นสุนัขที่โตมากับครอบครัวอื่น แต่เหมือนกับว่าครอบครัวเก่าของมัน เริ่มไม่อยากเลี้ยงอีกต่อไปหลังจากอยู่ด้วยกันมานานถึง 6 ปี พวกเขาก็เลยจัดการส่งมันไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ จนกระทั่ง Rachel Taylor ผู้ทำงานเป็นช่างภาพสุนัขและงานแต่งงาน ก็เลยขอรับเลี้ยงเจ้าสุนัขวัยกลางคนตัวนี้มา และอยู่ด้วยกันจนมันอายุครบ 10 ปีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ Rachel ก็เลยจัดการซื้อเค้กมาฉลองครบรอบวันเกิดให้กับมันซะเลย โดยตัวเค้กเป็นเค้กสั่งทำในธีม Magnolia & Pearls ที่มีสีฟ้าและไข่มุกสดใส ส่วนถ้าใครกลัวว่าเค้กจะเป็นภัยต่อเจ้าตูบก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะเธอบอกว่าเค้กนี้ทำมาเพื่อให้เจ้าตูบโดยเฉพาะใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยกับสุนัขแน่นอน ร่ายยาวกันมานาน ได้เวลาทดสอบรสชาติกันแล้ว เอ้าลุย!!…
-
ทหารหนุ่มได้พบกับสหายสี่ขาร่วมรบใน “สงคราม” อีกครั้ง หลังต้องจากกันนาน 6 ปี!!
เป็นเวลากว่า 7 เดือนที่ David Herrera และ Kash นายทหารและสุนัขสงครามร่วมต่อสู้ด้วยกันในสถานที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูที่เข้าขาและผูกพันกันอย่างหาอะไรมาเทียบไม่ได้ David เป็นนาวิกโยธินประจำอยู่ที่สมรภูมิในอัฟกานิสถาน และเขาก็มีหน้าที่ต้องดูแลเจ้า Kash สุนัขศึกที่รับหน้าที่ตรวจหาระเบิด ทั้งคู่มีหน้าที่ในการเฝ้าระวังให้กับเพื่อนร่วมหน่วย รวมถึงการเฝ้าระวังกันและกันให้ปลอดภัยอยู่เสมอ สายสัมพันธ์ของทั้งคู่แปรเปลี่ยนจากเพื่อนร่วมงานจนกลายเป็นเพื่อนซี้ David ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “Kash ถือเป็นตัวช่วยให้กำลังใจกับผมมากๆ มันเป็นเพื่อนที่อยู่กับผมตลอด 24 ชั่วโมง กินด้วยกัน นอนด้วยกัน สู้ด้วยกัน ผ่านทุกๆ อย่างมาด้วยกัน” แต่ตั้งแต่ทั้งคู่ปลดประจำการในปี 2011 ทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันเพื่อไปทำหน้าที่ของตน David ได้ถูกส่งไปประจำการอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วน Kash ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานที่ต่างๆ David ยังเล่าว่าเพิ่มอีกว่า “นับแต่พวกเราปลดประจำการ ผมก็ไม่ได้เจอ Kash อีกเลย ผมอยากเจอมันมากๆ ผมพยายามที่จะหาวิธีเพื่อรับเลี้ยงมัน แต่ติดต่อหาข้อมูลยังไงก็ไม่คืบหน้าเลย ตั้งแต่ไม่มีมันในชีวิต ผมก็รู้สึกว่างเปล่ามากๆ ถือเป็นช่วงที่ลำบากในชีวิตเลยก็ว่าได้…
-
เจ้าเหมียวยอดฮีโร่ ปกป้องบ้านของคุณยาย จากหัวขโมยที่บุกมาอย่างไม่เกรงกลัว!!
ปกติแล้วถ้าเราพูดถึงสัตว์ที่จะช่วยเฝ้าบ้านของเราได้ในยามหลับหรือไม่อยู่ที่บ้าน สุนัขคงจะเป็นสัตว์ชนิดแรกๆ ที่เราคิดถึงกันอย่างแน่นอน ทว่าเรื่องราวในครั้งนี้สัตว์ที่เฝ้าบ้านและไล่โจรไปได้ดันเป็นแมวซะอย่างนั้น… เรื่องราวของ Binky เจ้าเหมียวผู้กล้าหาญจากเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมันสามารถขับไล่หัวขโมยไปจากบ้านคุณยายผู้เป็นเจ้าของตอนเธอหลับอยู่กลางดึกได้ งานนี้คุณยายปลายปลื้มเจ้าเหมียวสุดๆ เลยล่ะ Cynthia Kootz คุณยายผู้เจ้าของเล่าว่า “ตอนแรกฉันรู้สึกตกใจที่อยู่ดีๆ เจ้า Blinky ก็ร้องเสียงดังออกมา” ส่วนสาเหตุที่มันครางเสียงออกมาคงเพราะมันได้ยินเสียงผิดปกติบางอย่างจากสวนหลังบ้าน ด้วยเหตุนี้ Cynthia จึงออกไปตรวจสอบดู แต่ก็ไม่พบอะไรจึงจัดการปิดไฟปิดประตูให้มิดชิดยิ่งขึ้น ทว่ามาคราวนี้หัวขโมยกลับเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการโจมตีจากประตูหน้าแทน โดยเขาพยายามที่จะงัดกระจกเข้าไป เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณยายเจ้าของบ้านมาเห็นเข้า อ่าวววว!! งานนี้เจ้าหัวขโมยเลยใช้มุกว่าเขาถูกตามไล่ล่า และขอร้องให้เธอเปิดประตูให้เขาเข้าไปหลบภัยหน่อย แต่เธอไม่สนใจที่เขาบอก เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย แม้คุณยายไม่เปิดให้ แต่เขาก็งัดเข้าบ้านได้สำเร็จ ทันทีที่เปิดหน้าต่างขึ้นแล้วจะบุกเข้ามานั้น เจ้า Binky ก็กระโดดตะครุบเข้าที่หน้าของหัวขโมยทันที ทว่าเจ้าหัวขโมยก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามที่จะบุกเข้ามาที่หน้าต่างบานเดิม… ทีนี้แหละเจ้า Blinky กระโดดโจมตีหัวขโมยอีกครั้ง คราวนี้หัวขโมยบาดเจ็บจากผลของคมเขี้ยวพอสมควรเลยทีเดียวคุณยาย Cynthia ได้กล่าวเสริมว่าเคี้ยวของเจ้าเหมียวตัวนี้คมมากๆ และสุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง พร้อมกับจับกุมผู้ร้ายคนดังกล่าวคือนาย Earl Scruggs พร้อมกับคุมเขาไปยังสถานี เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง…
-
นักสำรวจใต้ทะเล ได้ภาพปลาหายากคล้าย “กระปู๋” โดนชาวเน็ตแซว ซะกลายเป็นเรื่องสุดฮา
ถ้าเราพูดกันถึกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกอันมืดมิด เราก็มักจะนึกถึงสัตว์หลากหลายชนิดที่มีหน้าตาแปลกประหลาดและหน้ากลัวกันใช่ไหมล่ะ!? ถ้าใครนึกไม่ออก ลองดูข่าวเก่าๆ กันได้ที่ Roman ชาวประมงรัสเซียผู้สะสม “สัตว์ลึกลับใต้ทะเล” จากการที่เขาออกไปหาปลาและบังเอิญจับได้.. แต่หารู้ไม่ว่าสัตว์ในทะเลอันมืดมิดนั้นทุกชนิดกลับไม่ได้น่ากลัว แต่มันกลับทะลึ่งอย่างไม่เชื่อ Tim O’Hara หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของคณะสำรวจสัตว์น้ำลึกได้บอกว่า The Abyss ถือเป็นชื่อเรียกของน่านน้ำทะเลลึกที่ปกคลุมครึ่งหนึ่งของโลก และ 1 ส่วน 3 ของทะเลออสเตรเลียก็เป็นส่วนของน่านน้ำทะเลลึกเช่นกัน และทุกครั้งที่เขาออกไปสำรวจเขาก็มักจะเจอสัตว์แปลกใหม่เสมอๆ และแน่นอนว่า Dr. Tim ก็ไม่พลาดที่จะเอาภาพสัตว์น้ำลึกแปลกๆ น่ากลัวๆ มาให้เราดูกัน ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า… เริ่มด้วยเจ้าแมงมุมทะเลตัวนี้กันก่อนเลย หน้าตาหยั่งกับ Face Hugger ในเอเลี่ยนเลย หรือจะเป็นหนอนซอมบี้ตัวนี้ ที่ดูหนวดมันแล้วบรึ๊ยสุดๆ ถ้าสองตัวก่อนยังหลอนไม่พอ มาต่อกันที่เจ้าตัวนี้เป็นไง….. แต่เดี๋ยวนะ นี้มันหรรมส์ใช่ไหม!! เมื่อเจ้าสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลรูปหรรมส์ได้ถูกเผยแพร่ออกมา กลายเป็นว่าสัตว์ทะเลตัวอื่นก็ถูกเมินทันที เพราะชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกับเข้าหรรมส์ทะเลนี้เป็นอย่างมาก จนกระทั่งกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ของออสเตรเลียและต่างชาติไปซะงั้น ฉะนั้นเราลองมาดูกันว่าชาวเน็ตคิดเห็นยังไงกับหรรมส์ทะเลตัวนี้กันบ้าง ชาวเน็ตคนนี้ใช้ภาพสื่ออารมณ์ พร้อมบอกว่า “เห็นแล้วอยากจะไปดำน้ำทะเลลึกเลย แพร่บๆ”…
-
ใบประกาศตามหาแมวหายสุดเฟี้ยว “เจ้าแมวเฮงซวย” มันหายไป มีใครเห็นบ้างไหม!!?
หญิงสาวคนหนึ่งได้ทำใบประกาศตามหาแมวของเธอ แต่ที่มันแปลกกว่าปกติคือ เธอดันเรียกแมวตัวเองว่า “ไอ้เจ้าแมวเฮงซวย” จนกลายเป็นกระแสสุดฮาซะนี่ Babou คือชื่อของเจ้าเหมียวสีเทาวัย 6 ปี ตัวดังกล่าว มันได้หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม เจ้าของก็ย่อมต้องร้อนใจประกาศตามหากันใหญ่ ซึ่งภายในประกาศก็มีรายละเอียดของมันเขียนไว้ว่า “มันเป็นแมวที่เป็นมิตรสุดๆ แต่ถ้าคุณพยายามวิ่งไล่จับมันจะหนีคุณทันที เพราะมันออกจะเป็นแมวเฮงซวยนิดหน่อย” ในตอนแรกนั้น Mary Irwin หญิงสาววัย 35 ปี ผู้เป็นเจ้าของเจ้าแมวเฮงซวยตัวดังกล่าวได้บอกว่าแมวของเธอหายไปหลายวันแล้ว มันยังไม่กลับมาสักที พอถามว่าทำไมมันถึงเป็นแมวเฮงซวยกันล่ะ Mary ก็ได้ตอบกลับมาว่า “มันเป็นเหมือนแมววัยรุ่นที่ชอบเรียกร้องความสนใจ เวลาไหนที่มันโกรธพวกเรามันจะไม่ทำอะไรเลย มันจะทำตาดุๆ แล้วก็นั่งรอจนกว่าพวกเราจะหันไปจ้องมัน แน่นอนว่าพอมันรู้ตัวว่าเรามองมันเหมือนจะง้อ เจ้าแมวบ้านี้ก็จะเดินสะบัดก้นหนีไปทันทีเลยล่ะ” จนตอนนี้ป้ายประกาศของมันก็กลายเป็นไวรัลไปแล้วด้วย ซึ่งเธอก็หวังว่ามันจะกลับมาในเร็ววัน… มองอะไรเจ้ามนุษย์? Mary ยังคงเล่าถึงวีรกรรมของเจ้า Babou เพิ่มอีกว่า “ถ้ามันเริ่มเข้ามาคลอเคลียคุณเมื่อไหร่ ให้รู้ไว้เลยว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เท้าของคุณจะเป็นรอยข่วนแน่นอน เพราะมันจะโจมตีเท้าของคุณทันที” ยังไม่จบแค่นั้น เธอยังเล่าพร้อมกับเราะอีกว่า “ยังไม่หมดแค่นี้นะ เวลาที่ฉันกับสามีนอนด้วยกัน เจ้า Babou…
-
ช่างภาพญี่ปุ่นตามถ่ายภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของ ‘แมวจรจัด’ ในโตเกียว ขอบอกว่าชิลมาก
ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะชวนเพื่อนๆ ไปชมผลงานภาพถ่ายน่ารักๆ ของช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่านาย Masayuki Oki ในชีวิตนี้เขาชื่นชอบอยู่เพียงแค่ 2 อย่าง นั่นก็คือแมวและกล้อง Canon EOS-1DX เมื่อสิ่งที่ชอบทั้งสองอย่างเป็นแมวและกล้อง เขาจึงออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นเพื่อถ่ายภาพแมวๆ มาให้ชาวเน็ตได้ชมกันผ่าน IG @okirakuoki แต่ภาพแมวที่เขานำมาเผยแพร่นั้นไม่ใช่แมวบ้านทั่วๆ ไป แต่เป็นแมวจรจัดตามท้องถนน นาย Oki ได้ถ่ายทอดมุมมองต่อภาพแมวในแบบของตัวเอง เพื่อดึงเอาเสน่หและความสวยงามของสัตว์สี่ขาหน้าตาเจ้าเล่ห์พวกนี้ออกมา ซึ่งในแต่ละภาพนั้นคุณจะได้เห็นอารมณ์บางอย่าง ทั้งน่ารัก สง่างาม ขี้เล่น ขี้เกียจ ติงต๊อง หรือพฤติกรรมบางอย่างที่คุณเองก็ยากจะเข้าใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะเคยนำเสนอภาพของช่างภาพรายนี้ไปแล้ว แต่เชื่อเถอะว่ายังมีภาพถ่ายแปลกๆ ฮาๆ อีกเย๊อะ เจ้าเหมียวทัดดอกซากุระ สวัสดีโตเกียว บาทีการตื่นก็เป็นอะไรที่ยาก ยืดเส้นยืดสายหน่อยเป็นไง นอนท่านี้สบายไหมลูก? ยงโย่ยงหยก จุ๊บๆ อ้อนหน่อยๆ ฮึบ! ข่วนเล็บหน่อย…
-
หญิงสาวสร้างความประทับใจให้ศูนย์ช่วยเหลือ อาสาขอรับเลี้ยงลูกแมวทีเดียว 14 ตัวรวด!!
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเรื่องสุดประหลาดใจเกิดขึ้นที่ศูนย์ช่วยเหลือแมวเหมียว เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เธอจะขอรับเลี้ยงลูกแมวกำพร้าที่ทางศูนย์พึ่งถูกช่วยมาทั้งหมดเลย แล้วทั้งหมดที่ว่านั้นก็มีจำนวนเยอะถึง 14 ตัวเลยทีเดียว… เรื่องดังกล่าวเริ่มจากที่ศูนย์ช่วยเหลือ Richmond Animal Care and Control (RACC) ได้เดินทางไปช่วยเหลือลูกแมวจำนวน 14 ตัวที่ถูกทิ้งแล้วซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้มา เจ้าตูบที่ศูนย์ยังมาช่วยดูแล้วลูกแมวเหมียวเลย ทางตอนแรกเหล่าสมาชิกของศูนย์เกรงว่าด้วยจำนวนลูกแมวที่มีมากขนาดนี้ พวกเขาไม่มั่นใจว่าทางศูนย์พอจะมีพื้นที่ให้พวกมันทุกตัวไหม แต่แล้วอยู่ดีๆ แสงแห่งความหวังที่คาดไม่ถึงก็โผล่สาดลงมา Dr. Megan Allred จากศูนย์ Veterinary Emergency & Specialty Center (VESC) ได้ออกปากว่าเธอจะรับดูแลเจ้าเหมียวพวกนี้ต่อเอง ซึ่งรวมถึงสุขภาพความเป็นอยู่ของพวกมันทั้งหมด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางศูนย์ RACC ยังไงก็ตามทาง RACC ยังบอกเสริมว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dr. Megan ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอได้ทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว เพราะเธอไม่ยอมปล่อยให้แมวเหมียวจะต้องลำบากและต้องฝืนหาบ้านรับเลี้ยงให้พวกมันทั้งที่ยังไม่พร้อม เธอจึงมักจะตัดสินใจเป็นคนทำหน้าที่ดูแลพวกมันก่อนจะหาบ้านถาวรให้พวกมันอีกต่อหนึ่ง ล่าสุดเจ้าเหมียวทั้งหมดก็อยู่ในอ้อมกอดของ Dr. Megan พวกมันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีกินอิ่มหลับสบาย ยังไงก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ ไม่งั้นเจ้าเหมียวทั้ง 14…
-
พบกับ Fushin น้องใหม่แห่งกองกำลังตำรวจสุนัขไต้หวัน กับตำแหน่งน่ารักที่สุดในไทเป!!
เป็นที่รู้กันดีว่าในปัจจุบัน สุนัขนอกจากจะเป็นเพื่อนซี้ในครอบครัวแล้ว ตอนนี้พวกมันยังเข้าสู่สายงานอาชีพต่างๆ มากมายเลยทีเดียว แต่ที่เราจะเห็นกันได้บ่อยมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นสุนัขตำรวจอย่างแน่นอน… Fushin ก็เป็นเจ้าตูบวัย 1 เดือนที่พึ่งได้รับเข้ามาทำงานตำรวจเช่นกัน ทว่าด้วยความที่มันยังคงเป็นลูกสุนัข ความน่ารักและขี้เกียจตามฉบับเด็กๆ จึงกลายมาเป็นภาพลักษณ์ประจำตัวไปโดยปริยาย เจ้า Fushin เป็นสุนัขตำรวจที่เข้ามาฝึกเพื่อรับหน้าที่ในการค้นหาร่องรอยของเลือดในที่เกิดเหตุ และมันก็ได้รับให้ประจำการอยู่ที่สถานีตำรวจไทเป ที่สำคัญมันก็ได้เริ่มทำงานไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา ทว่าเมื่อมันได้ออกไปทำงานจริงๆ ผู้คนก็ต้องตกตะลึงในความน่ารักของมัน จนตอนนี้มันกลายเป็นสุนัขตำรวจที่น่ารักที่สุดในไทเปไปเป็นที่เรียบร้อย . ในส่วนของชื่อ Fushin ของมันนั้น ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็จะได้ความหมายว่า ‘ดาวนำโชค’ และนอกจากนั้นแล้วมันก็ไม่ได้เป็นสุนัขเพียงตัวเดียวในสังกัด เพราะมันยังมีพี่น้องอีก 5 ตัวเลยทีเดียว ประกอบด้วย Schuman, Federica, Eagle, AJ และ Sunny ทางด้านพ่อแม่ของมันนั้นก็เป็นสุนัขตำรวจเช่นกัน โดยตอนนี้ประจำการอยู่กับหน่วย K-9 เรียกว่าเป็นครอบครัวสุนัขตำรวจเลยก็ว่าได้ . Pan Tian-long เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลลูกสุนัขได้บอกเอาไว้ว่า เขาจะฝึกให้ลูกสุนัขทุกตัวในตำแหน่งงานตรวจจับสิ่งแปลกปลอม โดยจะให้พี่น้องทั้งห้าตัวของเจ้า…
-
ร่วมตั้งทฤษฎีคลายข้อสงสัยที่ว่า ทำไมแมวถึงชอบเข้าออก หรือตามไปอยู่ในห้องน้ำเสียทุกที?
หนึ่งในคำถามคาใจของเหล่าคนเลี้ยงแมว ที่มักจะสงสัยว่าเจ้าเหมียวของตัวเองเนี่ย ทำไมมันถึงชอบเดินตามไปทุกที่จะเข้าห้องนอนจะเข้าห้องน้ำก็ตามติดๆ โดยเฉพาะห้องน้ำจะตามไปบ่อยมากๆ ส่วนที่สำคัญก็คือพอตามเข้ามาก็จะร้องออกไปอีก เฮ้ออออ… ชาวเน็ตในเว็บไซต์ Reddit ก็ตั้งคำถามดังกล่าวเช่นกัน ว่าทำไมมันถึงชอบตามเราไปในห้องน้ำ เพราะมันจะปกป้องเราจากอันตรายตอนที่เรากำลังทำธุระ ก็คงจะไม่ใช่นิสัยของแมวแน่ๆ พวกเขาจึงเริ่มช่วยกันหาคำตอบว่ามันเป็นเพราะอะไรกันนะ… ซึ่งมีคอมเม้นต์หนึ่งออกมาตอบคำถามนี้ว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยคล้ายกับเด็กทารก มันจะเรียกร้องความสนใจจากเรายิ่งถ้ารู้ว่าเราอยู่อีกฝากหนึ่งของประตู มันจะคิดว่าเรากำลังทำกิจกรรมอะไรบางอย่างอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกมันไปแจม พวกมันก็เลยจะต้องเกาประตูเพื่อเรียกให้เราเปิดรับมันเข้าไป… นั่นจึงทำให้หลายคนเริ่มคิดว่าจริงๆ แล้วแมวเนี่ยมันเป็นโรค FOMO (Fear of missing out) หรือเปล่านะ เลยทำให้พวกมันเลยต้องการได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลา หรือว่าจริงๆ แล้วการที่มันชอบเข้าไปในห้องน้ำอาจจะเพราะมันอยากจะอยู่ในที่เย็นๆ? แต่บางคนก็บอกว่าพวกมันอาจจะมีพฤติกรรมที่รักความสะอาด พอเห็นเราเข้าไปทำธุระส่วนตัวมันก็เลยอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทำความสะอาดของเราด้วย ยังไงก็ตามไม่ว่าจะด้วยอะไร เราก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่แน่นอนในเรื่องนี้อยู่ดี ทว่าสิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ชัดคือแม้มันจะน่ารำคาญที่ชอบเข้าๆ ออกๆ จนบางทีก็รู้สึกรำคาญไปบ้าง แต่มันก็คือเสน่ห์ของเจ้าพวกหน้าขนเหล่านี้อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย ที่มา thedodo
-
คุณตำรวจช่วยเจ้าหมาในกล่องข้างทาง อยากอุปถัมภ์แค่ชั่วคราว แต่รู้อีกทีก็ปล่อยไปไม่ได้แล้ว…
เมื่อ Earl Hanners นายตำรวจจากเมืองแอตแลนตาได้ยินวิทยุแจ้งเข้ามาว่า มีคนพบเห็นกล่องน่าสงสัยอยู่บริเวณข้างถนนอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหน่อย เขาก็ไม่รอช้ารีบเดินทาไปยังที่เกิดเหตุทันที ทว่าเมื่อไปถึงยังสถานที่ที่ได้รับแจ้งเข้ามา เขาก็พบว่าเจ้ากล่องน่าสงสัยดังกล่าวกลับกลายเป็นลูกสุนัขวัย 10 สัปดาห์ที่ถูกทิ้งไปซะได้… Earl ได้เล่าว่า “เจ้าลูกหมานั้นมันถูกจับขังไว้ในกล่องกระดาษและถูกทิ้งไว้ข้างทาง ด้วยความที่มีนักเดินทางผ่านมาเห็นกล่องของมันมีลักษณะที่ผิดสังเกตจึงแจ้งเข้ามาที่ 911 และนั่นก็ทำให้ผมได้มาเจอกับเจ้าตูบน่าสงสารตัวนี้” เขาได้ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือโดยการให้น้ำให้อาหารแก่เจ้าสุนัขผู้น่าสงสาร ทว่าด้วยความที่เขาจะต้องเดินทางไปดูคดีอุบัติเหตุต่อ ทำให้เขาต้องส่งคดีของเจ้าตูบตัวนี้ไปให้เจ้าหน้าที่คนอื่นดูแลแทน ซึ่งเมื่อเรื่องไปถึงมือเจ้าหน้าที่อีกคนพวกเขาก็ไม่รอช้ารีบแจ้งให้ศูนย์ดูแลสัตว์มาช่วยเหลือมันไป แต่แล้วเหมือนอะไรบางอย่างทำให้ Earl รู้สึกว่าเขาจะต้องเป็นคนจัดการดูแลเจ้าตูบตัวนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเขาได้บอกเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า “ผมตัดสินใจบอกให้เจ้าหน้าที่ยกเลิกการขอความช่วยเหลือจากศูนย์ และขอให้ผมเดินทางไปจัดการดูแลและช่วยเหลือมันด้วยตัวผมเองแทน” ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุ แน่นอนว่าเจ้าตูบยังคงนอนนิ่งอยู่บริเวณกล่องไม่ไปไหน เขาจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาบนรถสายตรวจและพามันกลับไปยังบ้านของเขา เมื่อมาถึงบ้าน Earl ได้ตั้งชื่อให้กับลูกสุนัขว่า Bridget พร้อมกับดูแลมันเป็นอย่างดี จนตอนนี้สุขภาพและทุกอย่างของมันก็กลับมาสู่สภาพปกติ แถมมันยังเป็นสุนัขที่ร่าเริงมากๆ อีกด้วย แต่เจ้า Bridget ไม่ใช่สุนัขตัวแรกหรอกที่ Earl ทำการช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้เขาได้ช่วยเหลือสุนัขพันธุ์ปั๊กมาถึง 8 ตัวด้วยกัน และทั้งหมดก็กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน กองทัพหมาปั๊กเต็มไปหมดเลย ในภายหลังเขาบอกว่าเขาไม่อยากจะปล่อยให้เจ้า Bridget ไปเจอกับชีวิตที่ลำบากและต้องหาบ้านเอง เขาก็เลยตัดสินใจให้มันเป็นส่วนหนึ่งของบ้านแห่งนี้…
-
เจ้าหมาตำรวจถูกไล่ออกจากงาน เพราะขี้เล่นมากเกินไป ทว่ามันกลับได้งานใหม่ที่ดีกว่า!!?
Gavel เจ้าสุนัขพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ด ตัวเล็กน่ารักที่ถูกฝึกมาให้เป็นสุนัขตำรวจ ทว่าหลังจากเข้าทำงานไม่นานมันก็ถูกไล่ออกจากงานเพราะมันเป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้เล่นมากเกินไป!!? เรื่องมันเริ่มจากที่มันถูกฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจประจำสถานี Queensland และมีหน้าที่ในการตามล่าคนร้ายหรือตามหาระเบิด ทว่ามันกลับเป็นสุนัขที่ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคน ทำให้งานของมันไม่เป็นตามที่หวังไว้ แทนที่จะไปฝึกไปทำงาน นอนขี้เกียจซะแล้ว เอาน่าเจ้า Gavel งานนี้ไม่เหมาะ อาจจะมีงานเหมาะกว่าก็ได้นะ ด้วยความขี้เล่นที่ไม่เหมาะสมกับงาน ก็เป็นเหตุทำให้มันถูกไล่ออกแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแย่ซะทีเดียว ด้วยความที่มันเป็นสุนัขที่นิสัยดีและน่ารัก จึงเหมาะสำหรับงานในการเข้าสังคมเสียมากกว่าการเป็นสุนัขตำรวจ จากนั้นมันก็ได้รับงานใหม่ที่ดียิ่งกว่าคือการเป็นทูตประจำจวนผู้ว่าการรัฐ!! ทางด้าน Paul de Jersey ผู้ว่าการรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากได้พบกับเจ้า Gavel สุนัขวัย 10 สัปดาห์เป็นครั้งแรก เขาก็คิดว่ามันควรจะได้อยู่ในสำนักงานตำรวจและก็ฝึกสิ ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เปลี่ยนอาชีพแล้วจ้า . แต่หลังจากที่เขาได้ยินเรื่องราวของเจ้าตูบว่ามันไม่สามารถทำงานดังกล่าวได้เพราะขี้เล่นเกินไป เขาก็ตกลงและทำการเซ็นสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการให้กับมัน พร้อมกับลงประทับอุ้งเท้าเรียบร้อย และมันก็ได้เริ่มงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา แถมมันก็ดูจะเข้ากับงานได้ดีมากๆ เรื่องนี้จึงทำให้เห็นว่า แม้มันจะเป็นสุนัขที่ไม่ผ่านงานด้านตำรวจ แต่พอมองด้านดีของมันก็ทำให้มันได้เจอกับงานที่ใช่นั้นเอง ยินดีกับเจ้า Gavel ด้วยนะ ใบรับรองของเจ้า Gavel…
-
ผู้เชี่ยวชาญแก้ปริศนา พฤติกรรม “แมวคลั่ง” หลังเพิ่ง “อึ” เสร็จ เป็นเพราะอะไรแน่!?
เหล่าคนรักแมวน่าจะทราบกันดีว่าพวกแมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมากแค่ไหน ทุกครั้งที่พวกมันอึใส่กองทรายหรือกระบะทราย พวกมันก็จะใช้เท้ากลบผลงานของมันทุกครั้ง แต่ทาสทั้งหลายเคยสังเกตไหมว่า หลังจากที่พวกมัน “อึ” เสร็จแล้ว มันจะมีพฤติกรรมประหลาดๆ ตามมา? พฤติกรรมประหลาดที่ว่านี้ก็คือ พวกมันจะวิ่งเร็วปรู๊ดปร๊าด กระโดดไปมา ทำตัวเหมือนคลั่งอะไรสักอย่าง (บางตัวเป็นบางตัวไม่เป็น) จนหลายคนสงสัยว่ามันเป็นอะไรกันแน่? บางคนเรียกอาการตื่นตระหนกหรือคลั่งแบบนี้ว่า “Zoomies” ที่เป็นการแสดงสัญชาตญาณแบบสัตว์ออกมา แล้วเคลื่อนไหวไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้นักล่าสามารถตามกลิ่นอึของมันมาได้นั่นเอง แต่ทางด้านสัตวแพทย์กล่าวว่าพฤติกรรมนี้อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าพวกมันรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวจากการกินอาหาร หรือมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่าแมวนั้นวิ่งหนีเร็วๆ เพราะทนไม่ได้กับกลิ่นอึของตัวเองที่เพิ่งจะปล่อยออกไป ทางด้านด็อกเตอร์ Anish Sheth ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ได้เขียนหนังสือ What’s Your Poo Telling You (อึของคุณบอกอะไรกับคุณ) กล่าวว่าในระหว่างที่มนุษย์ขับของเสียออกจากร่างกาย ในตอนนั้นเส้นประสาทจากก้านสมองจะทำงานและถูกกระตุ้น ทำให้เกิดปฏิกิริยาตื่นเต้นหรือเบิกบานใจ ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับแมวก็ได้ นั่นจึงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมพวกแมวถึงดูเหมือนมีความสุข วิ่งพล่านไปทั่วบ้านและเอาเล็บไปข่วนกับบอลไหมพรมหรือข้าวของต่างๆ ลองชมตัวอย่างแมววิ่งปรู๊ดหลังอึเสร็จได้ที่นี่นะ… สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะสรุปไม่ได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันเป็นอะไร ถึงต้องวิ่งอย่างบ้าคลั่งหรือทำตัวเพี้ยนๆ หลังอึเสร็จ แต่เราก็พอจะรู้ล่ะนะว่าไม่ใช่แมวของเราตัวเดียวที่มีอาการแบบนี้ ที่มา thedodo
-
เห็นใจกันบ้าง!? ชวนรู้จัก “กบแก้ว” สัตว์สายพันธุ์แปลกจากเอกวาดอร์ มองเห็นทะลุไปถึงหัวใจ
หากเราพูดถึงกบ หลายๆ คนคงจะจินตนาการถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มี 4 ขา ผิวเมือกๆ สีเขียวหรือน้ำตาลตามแต่สายพันธุ์ แต่คุณรู้ไหมว่ายังมีกบอยู่อีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีผิวหนังแปลกประหลาด จนเราสามารถมองทะลุไปยันตับไตไส้พุงเลย!? เจ้ากบสายพันธุ์นี้มีชื่อเล่นว่า ‘กบแก้ว’ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Hyalinobatrachium yaku มันถูกค้นพบครั้งแรกในป่าอเมซอน ในส่วนของประเทศเอกวาดอร์ และยังสามารถพบเห็นได้อีกในบริเวณอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ด้วยนะ นักวิจัยศึกษาแล้วพบว่ากบเหล่านี้จะมีลักษณะโปร่งแสงจนเกือบจะโปร่งใส ทำให้เรามองทะลุร่างกายมันได้ แต่อวัยวะภายในของมันก็ไม่ได้บกพร่องแต่อย่างใด ยังใช้งานได้ดีเหมือนกบชนิดอื่นๆ เลย อันที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการค้นพบกบที่มีผิวหนังใสแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการค้นพบกบสายพันธุ์ H. pellucidum ที่ประเทศเปรูมาแล้ว และพวกมันก็มีผิวหนังใสกิ๊งจนเห็นตับไตไส้พุงเช่นกัน แต่เจ้ากบ H. yaku ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้มีจุดสีเขียวเข้มอยู่บนผิวและมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญจึงฟันธงว่ามันคือกบสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบนั่นเอง กบแก้วตัวนี้มีความยาวประมาณ 0.8 นิ้ว ตัวสีเขียวคล้ายแอปเปิ้ล และบนหลังจะมีจุดเขียวเข้มๆ นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าจากจุดที่นักวิจัยค้นพบเจ้ากบตัวนี้ห่างออกไปราวๆ 110 กิโลเมตร ก็ยังมีการค้นพบกบสายพันธุ์นี้อีกเหมือนกัน นั่นหมายความว่าพวกมันสามารถขยายเผ่าพันธุ์หรือเดินทางไปอาศัยอยู่ในที่ไกลๆ ได้อีก แต่น่าเสียดายที่ภายหลังมีรายงานบอกว่าพวกมันอาจได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นการขุดเจาะและสกัดน้ำมันของรัฐบาลของเอกวาดอร์ ที่ทำให้แหล่งน้ำเป็นพิษจนพวกมันอาศัยอยู่ไม่ได้และสูญพันธุ์ในที่สุด ที่มา zookeys.pensoft.net , seeker
-
วันนี้คุณยิ้มแล้วหรือยัง? ชม 23 ภาพสัตว์แบบแฮปปี้สุดๆ ที่จะมาชวนให้ยิ้มกัน
ไม่ว่าวันนี้คุณจะเจอเรื่องหนักมาแค่ไหน ลองมายิ้มกับพวกเค้าหน่อยไหมล่ะเหมียว? #เหมียวฟิ้น ชวนชม 23 ภาพสัตว์ ที่แสดงสีหน้าเหมือนมีความสุขออกมา จะเป็นไวมาดูกันเลย 1. ปลามีความสุข 2. น้องหมาก็ยิ้มไปด้วย 3. แฮ่ๆ เจ้าสล็อธนี่ ยิ้มเห็นฟันเลย 4. เม่นแคระแฮปปี้มั่กๆ 5. วันสบายๆของนาก 6. เจ้าเหมียวและดินแดนหิมะ 7.แมวน้ำช้างก็ยิ้มเป็น 8.ลาแฮปปี้มาก 9. เต่ายิ้มได้ด้วย 10. จิ้งจอกขาว ยิ้มตาหยี 11. เฮ้ย สิงโตยิ้มเป็นด้วยนะ >< 12. ลูกไฮยีน่า ฉีกยิ้ม 13. แบร่ๆ 14. แฮมสเตอร์ มีความสู๊ขมีความสุข …
-
“อีแร้งเกย์สองตัว” ช่วยกันฟักไข่ที่ถูกแม่ของมันทอดทิ้ง จนกระทั่งฟักออกมาเป็นตัวแล้ว!!
ปกติแล้วหน้าที่การฝึกไข่ของเหล่าสิงสาราสัตว์จะตกเป็นของตัวเมียเสียส่วนใหญ่ และสัตว์ก็มักจะมีเพศตามธรรมชาติปกติเป็นของตัวเอง ทว่าก็มีสัตว์จำนวนไม่น้อยเลยที่จะเป็นเกย์ และชื่นชอบในเพศเดียวกัน เจ้าอีแร้งสองตัวจากสวนสัตว์ Artis ในอัมสเตอร์ดัม ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เป็นคู่เกย์เช่นกัน และพวกมันก็ยังทำภารกิจอันยิ่งใหญ่จนสำเร็จอีกด้วย!! เจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์ได้เล่าเรื่องราวของพวกมันว่า ตอนแรกเริ่มทางสวนสัตว์ได้ไปเจอกับไข่ที่ดูเหมือนแม่ของมันจะทอดทิ้งไปแล้วเหลือแต่ไข่ให้โดดเดี่ยว จนพวกเขากะว่าจะเอาไข่ดังกล่าวไปเข้าเครื่องฟักแทน ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้น พวกเขาก็สังเกตเห็นอีแร้งตัวผู้สองตัวกำลังรวบรวมกิ่งไม้รอบๆ เพื่อจะสร้างรังฟักไข่ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยกไข่ดังกล่าวให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอีแร้งเกย์ทั้งสอง ทางสวนสัตว์ยังบอกอีกว่า อีแร้งเกย์ทั้งสองไม่ได้พึ่งเป็นคู่เกย์กันแต่อย่างใด ทว่าพวกมันทั้งสองอยู่ด้วยกันมาแล้วนานกว่า 1 ปี แถมพวกมันก็ยังดูมีความสุขกันดี และพอเอาไข่นั้นให้พวกมันทั้งสอง มันก็ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีผลัดเปลี่ยนกันฟักไข่ดังกล่าวอย่างตั้งใจ จนล่าสุดไข่ดังกล่าวก็ฟักออกมาเป็นลูกนกเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคุณพ่อทั้งสองก็ดูแลเอาใจใส่ลูกนกกำพร้าเป็นอย่างดี ทั้งการให้อาหารและสุขภาพความเป็นอยู่ของลูกนก ทางสวนสัตว์บอกว่า การที่สัตว์จำพวกนกจะกลายเป็นเกย์และรักในเพศเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่านี่คือเป็นครั้งแรกเลยที่สัตว์ที่เป็นเกย์ช่วยกันฟักไข่นั่นเอง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมว่า ธรรมชาติของนกอีแร้งนั้นจะฟักไข่ 1 ฟองเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น และถ้าพวกมันจับคู่กันเมื่อไหร่ พวกมันจะอยู่ด้วยกันไปจนสิ้นลมหายใจ ฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้านกเกย์สองตัวนี้จะอยู่ด้วยกันไปจนถึงวาระสุดท้าย… ที่มา dailymail
-
รวม 20 ภาพของเหล่าสัตว์ตัวอ้วนกลมดุ๊กดิ๊ก ย้ายสัญชาติมาเป็นเผ่าพันธุ์หมู แทบจะหมดแล้ว…
ถ้าพูดถึงความอ้วนในตัวมนุษย์แล้ว ถือว่านั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีในการมาของโรคต่างๆ แต่ทว่าพอพูดถึงสัตว์อ้วนๆ แทนที่เราจะนึกถึงเรื่องไม่ดีที่จะตามมา เรากลับไปนึกถึงความน่ารักตุ้ยนุ้ยของมันไปซะได้ ด้วยเหตุฉะนี้ เราก็เลยจะมาดูเหล่าสัตว์หลากหลายชนิด ที่เปลี่ยนตัวเองจากสัตว์ที่เป็นอยู่ให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์หมู รับรองว่าใครได้เห็นจะต้องตกเป็นทาสความอ้วนกลมของพวกมันอย่างแน่นอน ฉะนั้นเรามาดูกันเลยกับ 21 ภาพของเหล่าสัตว์อ้วนกลมดิ๊ก จะน่ารักแค่ไหนมาดูกัน!! เริ่มกันที่เจ้ากระรอกตัวแรกก่อนเลย ดูขนาดของมันสิ น่าจะนุ่มนิ่มมากๆ เลยนะ หรือจะเป็นเจ้าหมาปั๊ก ที่ชักจะเป็นหมูขึ้นเรื่อยๆ ชุดจะปริอยู่แล้วนั่นเจ้าเหมียว!! อ้วนจนลืมความหนู จนตอนนี้กลายเป็นหมูแทนแล้ว ยัง…ยังไม่หยุดกินอีก!! ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงในบ้านเท่านั้น เจ้าหมีควายตัวนี้ก็อ้วนซะเนื้อปลิ้นออกมาแล้วนั่น แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะดูอ้วนจนเหนียงยานขนาดนั้น แต่มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ ก็เพราะแกไม่หยุดกิน ช่วงล่างก็เลยกองกันแบบนั้นไงล่ะ “ทำไมเดี่ยวนี้มันไม่ไปหว่า เมื่อก่อนก็ยังไหลลื่นปรี๊ดๆ อยู่เลย” ก็เข้าใจนะว่าแกเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบขยับไปไหน แต่นี่มันอ้วนเกินไปแล้วโว้ย!! แม้แต่กระต่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูง ก็ยังกลายเป็นสัตว์ที่มีความทิ้งตัว ไปซะได้ เจ้าเพนกวิ้นตัวนี้มันดูตัวโตกว่าชาวบ้านหรือเปล่านะ แต่มันน่าจะนุ่มมิ่มมากๆ เลยนะเนี่ย… ส่วนสัตว์ที่ไม่น่าจะอ้วนอย่างกิ้งก่า ก็ยังเป็นกับเขา ดูสิ..อืดเชียว บอกทีว่าที่กลมๆ…
-
Nigel เจ้าหมาปั๊กไร้มารยาท ไม่ว่าเจ้าของจะไปส้วมกี่ครั้ง ก็ตามไปนั่งในกุงเกงในตลอด!!
บางครั้งสัตว์เลี้ยงจอมซนของเรา มันก็ชอบที่จะทำอะไรแปลกๆ อยู่ตลอด อย่างเช่น การชอบกินอะไรแปลกๆ ทำท่าทางนอนแปลกๆ รวมถึงเจ้าหมาของเราในวันนี้เช่นกัน Nigel คือเจ้าหมาปั๊กผู้มีนิสัยแปลกๆ อย่างหนึ่งก็คือ มันชอบตามเจ้าของเข้าไปในห้องน้ำเวลาที่เขาเข้าไปทำธุระส่วนตัว แต่การที่บอกว่ามันตามเข้าไปไม่ได้หมายความว่ามันจะนั่งรอเฉยๆ หรอกนะ เพราะมันชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดเจ้าของแบบสุดๆ เลยล่ะ ด้วยเหตุนี้เจ้า Nigel จึงชอบไปนั่งอยู่ในกางเกงในขณะที่เจ้าของถอดกองไว้กับพื้นและนั่งปลดทุกข์อยู่นั่นเอง ซึ่งมันก็สร้างความรู้สึกแปลกๆ ให้เจ้าของอยู่บ้าง เวลาที่มองลงไปแล้วมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องตอนกำลังขี้ Martin Chotters เจ้านายของ Nigel ก็ได้อธิบายถึงสาเหตุที่มันชอบเข้ามานั่งในกางเกงในตอนเข้าห้องน้ำก็เพราะว่า ตอนเด็กๆ ของ Nigel มันเป็นหมาที่ไม่ค่อยแข็งแรงและยืนด้วยตัวเองไม่ค่อยจะได้ทำให้ตอนนั้นต้องอยู่กับเจ้าของตลอด ด้วยเหตุนี้พอโตขึ้นมันจะตัวติดกับเขาตลอดนั่นเอง ดูหน้ามันสิ ไม่ได้สนใจความเป็นส่วนตัวของเจ้าของเลย พอว่า ก็ตีหน้ามึนใส่ พอก้มลงไป ก็มองค้อนกลับมาเฉย เจ้า Nigel จอมแซบ และมันก็ดูจะมีความสุขที่สุดเลยเวลาอยู่ในกางเกงในเจ้าของนะเนี่ย ดีนะที่เป็นหมาปั๊ก ถ้าเจ้า Nigel เป็นพันธุ์ใหญ่คงจะได้ซื้อเกงในใหม่ทุกวันแน่ๆ ที่มา: metro
-
15 สัตว์สายตาอ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อู๊ยทนไม่ไหว อีแม่จะเข้าไปปล้ำละนะ!!
ถ้าพูดถึงความน่ารัก นอกจากเด็กๆ ตัวน้อยๆ แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นพวกสัตว์อย่างแน่นอน และยิ่งเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ ไร้เดียงสาหน่อยๆ ความน่ารักของพวกมันก็จะทวีคุณพุ่งจนถึงจุดพีคเลยก็ว่าได้ แถมถ้าพวกมันส่งสายตาหวานๆ อ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อย่างเช่นเจ้า 15 ตัวนี้ รับรองว่าให้ใครมาเห็นจะต้องยอมสยบต่อความน่ารักของพวกมันอย่างแน่นอน… อิ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ส่งสายตาวิ้งๆ แบบแพคคู่ เป็นใครก็ต้องยอมแพ้ แม้แต่เต่าก็น่ารักก็ยังส่งสายตาออดอ้อน เจ้าตูบทำหน้าตาเศร้าศร้อย เห็นแล้วอยากอุ้มเลย พ่อๆ อ่านหนังสือให้หนูฟังหน่อย ดูเหมือนมันกำลังมองหาเหยือคนต่อไปเลยนะเนี่ย ใครจะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าตูบตัวนี้กันนะ ลูกแมวก็อยากจะเข้ามาแจมด้วยเช่นกัน… ไม่รู้เป็นอะไรพอเห็นเจ้าตูบทั้งหลายทำคอเอียงหน่อยๆ พร้อมตาใสๆ ทีไรต้องละลายทุกที ใครจะต้านทานสายตาพวกนี้ไหมกัน #เหมียวมู่ทู่ คนหนึ่งแหละที่ขอยอมแพ้ พวกสัตว์เวลาส่งสายตาหวานๆ มานี่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ดาเมจมหาศาลจริงๆ มานู๊ดดดด พวกมุงจงมาอุ้มข้าซะ!! แต่เจ้ากระต่ายตัวนี้ดูจะกินแบบไม่แคร์รอบข้างเลยนะ อรัํย ตัวเล็กน่ารักน่าชังสุดๆ เลย เจ้ากระรอกตัวนี้ก็โชว์ความน่ารัก ด้วยการทำแก้มตุ่ย…
-
จะสงสารหรือฮาดี!? หนุ่มเล่าประสบการณ์ช่วยกระรอก 4 ตัว ที่หางพันกันจนไปไหนไม่ได้…
Andrew Day ชายหนุ่มวัย 41 ปี จากเมือง Bangor ในสหรัฐอเมริกา ได้บังเอิญไปสังกตเจอเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่างบนทางเดิน ซึ่งเหมือนมีก้อนขนอะไรบางอย่างกำลังขยับขยุกขยิกไปมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จึงผมว่าก้อนขนที่ว่าดันเป็นกระรอก 4 ตัว ที่มันกำลังประสบปัญหาหางพันกัน ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ซะงั้น!!? เขาได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 เขาได้ไปเจอเข้ากับกระรอกสี่ตัวระหว่างเดินไปบ้านพ่อของเขา ซึ่งหางของพวกมันดูเหมือนจะพันกันแกะไม่ออก ยิ่งตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้ พวกมันก็ทำท่าจะหนีท่าเดียว แต่ด้วยความที่พวกมันหางติดกันทำให้การวิ่งของพวกมันที่พยายามจะไปคนละทาง ก็กลายเป็นการดึงกันเองไปซะอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ “ตอนแรกผมก็แค่อยากจะบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อไว้ดูเฉยๆ เพราะมันแปลกจนต้องอุทานว่า มันเกิดเxี้ยไรกันเนี่ย “ ตัวคลิปของเขามีความยาวเพียงแค่ 28 วินาที เท่านั้น เพราะเขาให้เหตุผลว่าหลังจากที่เขาถ่ายคลิปไปได้ซักพัก เขาก็สังเกตุเห็นแมวอยู่ใกล้ๆ จึงต้องรีบจัดการไล่แมวตัวนั้นไปไกลๆ ก่อน เพราะกระรอกทั้งสี่ติดกันแบบนี้ มันคงเป็นเหยื่อชั้นดีให้กับนักล่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาและพ่อของเขาจึงช่วยเจ้ากระรอกทั้ง 4 ให้ปลอดภัยจากนักล่าก่อน และหาจัดการหางของพวกมัน พวกเขาตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของเมือง แต่ว่าในวันนั้นดันเป็นวันอาทิตย์ซึ่งศูนย์ปิดทำการนั่นเอง พวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อไปทางสถานีตำรวจ ซึ่งบอกว่าจะส่งคนมาช่วยจัดการให้แต่ต้องรอสักชั่วโมงหนึ่งนะ ด้วยเหตุนี้ Andrew จึงต้องนั่งเฝ้าดูพวกมัน เขาบอกว่าระหว่างที่รอเจ้ากระรอกทั้ง 4…
-
หนุ่มไทยใจประเสริฐ คอยช่วยเหลือสุนัขจรจัดนับร้อยชีวิต ในอุทยานม่อนพระยาแช่ลำปาง…
กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันมาซักพักแล้วนะครับ สำหรับเรื่องราวของคุณสมพงษ์ อินทิยศ จากการที่เขาคอยช่วยเหลือเหล่าสุนัขจรจัดบริเวณม่อนพระยาแช่ลำปาง แม้ว่าเรื่องราวของเขาจะพึ่งเป็นกระแสที่พูดถึงกัน แต่เขาไม่ได้พึ่งช่วยเหลือสุนัขเหล่านี้แต่อย่างใด เพราะเขาได้ช่วยเหลือพวกมันมาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งสถานที่เขาดูแลเจ้าตูบเหล่านี้อยู่นั้น ก็คืออุทยานม่อนพระยาแช่ลำปาง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งมีระยะเส้นทาง 3 ถึง 4 กิโลเมตร และตลอดเส้นทางก็จะมีสุนัขจรจัดอยู่เต็มไปหมด เจ้าตัวได้บอกว่าสุนัขพวกนี้ในตอนแรกก็มีไม่มาก ช่วงที่เขามาให้อาหารพวกมันก็ยังกินกันพออิ่มทุกตัว แต่ตอนนี้จำนวนของพวกมันมีมากขึ้นถึง 200 ตัว ทำให้ปริมาณอาหารที่ต้องให้ก็เพิ่มขึ้นไปอีก เรียกว่าเดือนหนึ่งกินกันเป็น 1 ถึง 2 กระสอบเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่แค่เรื่องของการให้อาหารเท่านั้น คุณสมพงษ์ยังคงช่วยเหลือเจ้าตูบทั้งหลายตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพและยา ยิ่งถ้าเกิดเขาไปเจอเจ้าตัวไหนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน เขาก็จะรีบเข้าไปช่วยเหลือทันที ทั้งในการดูแลเบื้องต้น ไปจนถึงการส่งไปยังโรงพยาบาลสัตว์ ให้อาหารครั้งละเป็นถังเลยนะ ยาที่คุณสมพงษ์เอามาให้เจ้าตูบก็เป็นยาอย่างดี เพื่อสุขภาพที่ดีของพวกมัน!! ส่วนเจ้าตัวนี้ก็เป็นตัวล่าสุด ที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยและดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่นั้น สุนัขบางตัวถึงกับนั่งรออาหาราจากเขาแม้ในยามฝนตก ต่อให้เขาจะต้องกลับไปเอาอาหารในตัวเมืองก็ตาม มันก็ยังคงรออย่างมีความหวัง สุดท้ายแล้วถ้าใครสนใจอยากจะช่วยเหลือคุณสมพงษ์ในเรื่องของค่าใช้จ่ายก็สามารถเข้าไปบริจาคได้ที่บัญชีของเขา (624-02-05-051…
-
ทางโรงเรียนให้ “เจ้าตูบ” เข้าไปอยู่ในหนังสือรุ่น ตอบแทนคุณงามความดี ที่มันทำมาตลอด…
Diana Bloom นักเรียนสาววัย 18 จาก Stafford High School ได้เล่าเรื่องราวสุดช็อคที่เธอได้เจอมากับตัวผ่านหนังสือรุ่นของเธอที่พึ่งจะได้รับเมื่อไม่นานมานี้ เพราะมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ในนั้นด้วย เธอบอกว่าระหว่างที่กำลังพลิกหน้ากระดาษเพื่อดูสมาชิกในรุ่น เธอก็สังเกตเห็นบางสิ่งในหนังสือที่มุมล่าง เป็นภาพของสุนัขตัวสีดำที่เห็นลูกตาเด่นชัดสุดๆ และแน่นอนว่านี้มันคือหนังสือรุ่นของคนนั่นเอง… Diana Bloom ผู้เป็นต้นเรื่องค้นพบภาพสุดแปลก หนึ่งในหน้าของหนังสือรุ่น ที่เป็นหลักสำคัญของเรื่องทั้งหมด ผ่าม ผ๊ามมม!! หลังจากที่ Diana ได้ไตร่ตรองอย่างแน่ชัด เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอมีรุ่นน้องคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว ซึ่งพอเธอไปค้นหาดูก็มั่นใจว่าใช่เขาแน่นอน ด้วยเหตุนั้นทาง Buzzfeed จึงเดินทางไปหารุ่นน้องคนนั้นและได้ทราบว่าเขาคือ Andrew ‘AJ’ Schalk วัย 16 ปี ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและต้องมีสุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อเตือนระดับน้ำตาลในเลือดของเขา ส่วนเจ้าสุนัขตัวที่ว่านั้นมีชื่อว่า Alpha มันเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี อยู่ช่วยเหลือ Andrew มาเป็นเวลานานแล้ว และเขาก็นับมันเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวด้วย Andrew ได้พูดถึงสุนัขของเขาว่า “Alpha เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของผม มันสามารถที่จะรู้ล่วงหน้าถึงระดับน้ำตาลของผมได้ถึง 20-40 นาทีเลยทีเดียว นอกจากนั้นมันก็ช่วยชีวิตผมนับครั้งไม่ถ้วนเลยล่ะ แม้แต่ช่วงที่ผมหลับแล้วจู่ๆ น้ำตาลในเลือดของผมผิดปกติ มันก็จะปลุกผมทันทีเพื่อให้ผมรอดพ้นจากอันตราย”…
-
หญิงสาวกำลังเดินทางไปช่วยแมวที่ศูนย์ฯ ระหว่างทางเจอแมวจรจัดปุ๊บ ก็เลยรับเพิ่มอีกตัว!!
เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งจากเว็บไซต์ Lovemeow ที่เธอตั้งใจจะเดินทางไปช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจากศูนย์พักพิงสัตว์ แต่แล้วในระหว่างทาง เธอก็บังเอิญเจอแมวจรจัดที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน ทำให้เธอเปลี่ยนใจช่วยเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวเพิ่มอีกตัว!!? Kelley Lawrence Peters จากศูนย์ช่วยเหลือ The Kitty Krusade กำลังเดินทางเพื่อไปช่วยเหลือแมวที่บาดเจ็บจากศูนย์พักพิงอีกแห่งหนึ่ง แต่ทว่าระหว่างที่เธอกำลังขับรถบนทางด่วน เธอก็เลือบไปเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งอยู่ตรงเกาะกลางถนน วินาทีนั้นเธอรีบเหยียบเบรกและจอดรถเพื่อลงไปดูแลมันทันที ซึ่งเธอก็คาดเดาว่าลูกแมวตัวดังกล่าวน่าจะมีอายุราวๆ 6 ถึง 8 สัปดาห์ แถมตาของมันก็ปิดสนิทจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ด้วยสภาพการจราจรบนถนนทางด่วนที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยเสียเท่าไหร่ Kelley จึงไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนั้นมาทันที Kelley ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “มันเป็นไปได้ยังไงที่ลูกแมวจะไปอยู่กลางถนนหกเลนแบบนั้น และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครยอมช่วยเหลือมันซักคน แต่ฉันมั่นใจว่ามันคงอยากจะให้ฉันช่วยมันมาอย่างแน่นอน” คลิปเหตุการณ์ในตอนที่ Kelly ลงไปช่วยเจ้าเหมียว เธอได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า Dave ซึ่งในตอนแรก Kelly คิดว่าเจ้าเหมียวคือเพศผู้ แต่จริงๆ แล้วมันคือเพศเมีย แหละหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือพร้อมทำความสะอาดเป็นอย่างดี มันก็เริ่มจะตอบสนองและคลอเคลียกับ Kelley แล้ว นอกจากตัว Dave แล้วในวันเดียวกัน…
-
ครอบครัวมนุษย์เข้าช่วยเหลือจิ้งจอก ออกมาจากฟาร์มขนสัตว์ จนกลายมาเป็นหมาบ้านๆ!!
พบกับเรื่องราวเปลี่ยนชีวิตของเจ้า Jay จิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงมาในฟาร์มเพื่อนำขนไปทำเสื้อผ้า มันถูกช่วยไว้โดยครอบครัวแสนใจดีครอบครัวหนึ่ง ทว่าหลังจากช่วยเหลือมันแล้ว พวกเขากลับเป็นห่วงในคุณภาพชีวิตตามธรรมชาติที่เปลี่ยนไป จึงจัดการนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเสียเลย!! ทว่าหลังจากที่เลี้ยงดูเจ้า Jay ไปได้ไม่นาน พวกเขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะเหงาก็ได้ ทีนี้พวกเขาจึงเดินทางไปรับเลี้ยงดูสุนัขมาอีกตัวชื่อว่าเจ้า Saimon และนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มันก็กลายเป็นเพื่อนรักและเข้าขากันสุดๆ เลยล่ะ อ่านกันมาขนาดนี้แล้วก็ฟังแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมละ งั้นเราลองมาดูภาพความน่ารักของเจ้า Jay เลยกันดีกว่า นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Jay และ Saimon ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมด แรกเริ่มเจ้า Jay เป็นสุนัขจิ้งจอกอายุ 2 ขวบ เพศเมีย ซึ่งพวกเขาได้ไปช่วยเหลือมันออกมาจากฟารม์ขนสัตว์ ส่วนสาเหตุที่ครอบครัวดังกล่าวเลือกจะเลี้ยงมันเพราะ คุณภรรยาทำงานอยู่ที่บ้าน จึงมีเวลาที่จะเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่คุณภรรยาเท่านั้น คุณสามีก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับเจ้า Jay เช่นกัน แน่นอนว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีสุดๆ เลยล่ะ มันชอบที่จะนอนกับพ่อแม่ของมันมากๆ บางครั้งก็จะแอบนอนอยู่ในผ้าห่ม แถมทุกวันหยุด ก็จะมีการเฉลิมฉลองด้วยกันในครอบครัวด้วย ฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ 2017…
-
กระเป๋าหน้าท้องสุดพิเศษ ที่จะเปลี่ยนเจ้าลูกเหมียวสุดดื้อรั้น ให้ใกล้ชิดกับครอบครัวใหม่มากขึ้น!!
ปัญหาลูกเหมียวจรจัดมีนิสัยดุร้ายและไม่คุ้นเคยกับคน มักจะเป็นปัญหาที่หาทางแก้ได้อย่างยากเย็นมาเป็นเวลานานแสนนาน ทว่าล่าสุดทาง Animal Rescue League of Boston (ARL) ก็ได้สร้างถุงกระเป๋าหน้าท้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว!! เรื่องราวของกระเป๋าหน้าท้องนี้ เริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อตอนที่เหล่าทีมงานของ ARL รู้สึกว่าเจ้าลูกเหมียวจรจัดทั้งหลายที่พวกเขารับมาดูแลมักจะมีปัญหาในการเข้ากันกับมนุษย์ ซึ่งกว่าจะทำให้พวกมันเลิกตื่นคนและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้ต้องใช้เวลานานมากๆ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเกิดไอเดียของเจ้ากระเป๋าหน้าท้องที่เรียกว่า Kitten Bjorn ที่เรียกว่า Kitten Bjorn ก็เพราะเดิมทีมีแล้วมีแบรด์กระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กๆ ที่ชื่อว่า Babybjörn อยู่แล้ว พวกเขาจึงทำการดัดแปลงนิดหน่อยจนเกิดเป็นชื่อดังกล่าวนั่นเอง เจ้ากระเป๋าหน้าท้องแมวก็จะทำหน้าที่เดียวกับกระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กเลย คือทำให้สามารถพกพาไปไหนก็ได้ แถมยังดูแลพวกมันได้ตลอดเวลา และนอกจานั้นก็จะยังสร้างความใกล้ชิดกันระหว่างลูกแมวกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น Michael DeFina เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนได้บอกกับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “ไอเดียของเจ้ากระเป๋านี้ก็เพื่อที่ลูกแมวจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคน แถมเจ้าหน้าที่ก็จะมีมือที่วางสามารถทำอะไรต่างๆ ได้พร้อมกัน นอกจากนั้นตัวกระเป๋าก็ยังโปร่งใสเพื่อให้พวกลูกแมวมองเห็นรอบๆ รวมถึงเพื่อให้รู้ว่าใครแบกมันอยู่” ที่จริงแล้วเจ้ากระเป๋าหน้าท้องดังกล่าว ARL ได้เริ่มใช้มันมาเป็นเวลานานแล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาดีมากๆ บางครั้งก็ใช้เวลาเพียงน้อยนิดที่ทำให้เจ้าเหมียว เริ่มร้องออกมาเพื่อให้มนุษย์ช่วยหรือเรียกหา…
-
สาวน้อยแสนใจดี… ช่วยชีวิตม้าน้ำให้รอดจากการเกยตื้น จนเกือบแห้งตายอยู่ริมชายหาด!!
เรื่องมันเริ่มจากเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเล่นกองทรายอยู่ริมหาด Indian Shores ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่เธอได้เจอกับเหล่าฝูงนกนางนวลที่บังเอิญคาบบางอย่างมา แล้วทำตกใกล้ๆ บริเวณที่แม่หนูคนดังกล่าวกำลังเล่นทรายอยู่ สิ่งนกนางนวลคาบมามีสีส้ม เด็กสาวจึงคิดว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นขนมชีโตสแน่ๆ แต่พอไปดูใกล้ๆ ชีโตสที่เธอคิดกลับกลายเป็นม้าน้ำตัวเล็กสีส้มซะงั้น เด็กสาวใจดีจึงไม่รอช้า รีบนำม้าน้ำตัวน้อยใส่ถังทรายของเธอทันทีพร้อมกับเติมน้ำเข้าไปเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ จากนั้นแม่หนูคนดังกล่าวก็นำม้าน้ำที่เธอช่วยชีวิตไปให้คุณแม่ของเธอดู และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจช่วยชีวิตมันโดยการพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือ Clearwater Marine Aquarium ทางทีมช่วยเหลือจึงจัดการนำเจ้าม้าน้ำผู้รอดชีวิตใส่ไว้ในตู้กระจกเพื่อให้มันได้พักฟื้นร่างกายอย่างปลอดภัย และแน่นอนว่าเจ้าม้าน้ำก็ได้ชื่อว่า “ชีโตส” จากแม่หนูผู้ช่วยชีวิตนั่นเอง ทางด้านทีมกู้ภัยก็ได้พูดถึงเจ้าชีโตสว่า มันน่าจะเป็นม้าน้ำเพศเมียสายพันธุ์ Lined Seahorse และมันก็โชคดีมากๆ ที่รอดมาจากเหล่านกนางนวลได้ แถมเหตุการณ์รอดชีวิตของมันก็เกิดถูกที่ถูกเวลามากๆ ถ้าหนูน้อยผู้ช่วยชีวิตไม่อยู่ใกล้ๆ มันคงจะตายไปแล้วล่ะ หลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าชีโตสถูกช่วยชีวิตและมาถึงศูนย์ก็นับเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ดูแลมันอย่างใกล้ชิด ขนาดที่ว่าทีมงานได้ติดตั้งกล้องไว้เพื่อถ่ายทอดสด และให้คนได้ดูความเคลื่อนไหวมันตลอดเวลาเลยทีเดียว . สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานคิดว่าเจ้าชีโตสหายดีแล้วจนพร้อมจะกลับบ้าน พวกเขาก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อพามันกลับสู่ธรรมชาติเสียที แม้ในตอนแรกเจ้าชีโตสดูทำท่าจะไม่อยากจากเหล่าคนที่ดูแลมันมา แต่สุดท้ายธรรมชาติก็เรียกหาและมันก็ว่ายจากไป แต่แม้ตัวมันจะจากไปแล้วความทรงจำดีๆ ของมันก็จะยังคงอยู่ในใจของทีมงานและสาวน้อยผู้ช่วยชีวิตตลอดเสมอ… โชคดีนะเจ้าม้ชีโตส อย่าพลาดโดนนกจับไปอีกล่ะ ที่มา:thedodo
-
คาเฟ่แมวมีแล้ว จะขาดคาเฟ่หนูไปได้อย่างไร นั่งจิบหาแฟชิวๆ พร้อมเล่นกับพวกมันได้เช่นกัน!!
ปกติของคนทั่วไป ถ้าพูดถึงคาเฟ่สัตว์ต่างๆ ก็คงจะต้องนึกถึงเหล่าสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างแมว หมา หรือสัตว์น่ารักอื่นๆ เป็นต้น แต่เคยคิดไหมว่าจะมีคนทำคาเฟ่หนูบ้าง สัตว์ที่คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าเป็นพาหะของโรคต่างๆ… เชิญพบกับ Rat Cafe หนึ่งในร้านที่อยู่ใน The San Francisco Dungeon สถานที่ผจญภัยสุดแปลกที่จะให้เวลาผู้เข้าชม 60 นาทีในการท่องไปยังสถานที่ต่างๆ ในบริเวณท่าเรืออายุกว่า 200 ปี ซึ่งคาเฟ่หนูก็เป็นหนึ่งในฉากของการผจญภัยดังกล่าวนั่นเอง เจ้าของร้านอย่าง Matthew Clarkson ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวร้านว่า “พวกเราต้องการจะมอบประกบการณ์ความสนุกแบบใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งพวกเขาก็จะได้เจอกับเหล่าหนูตัวป่วนที่วิ่งไปทั่วทั้งร้าน และคุณจะหาอะไรแบบนี้ไม่ได้ที่ไหนนอกจาก The San Francisco Dungeon ของเรา” ส่วนใครที่สนใจคาเฟ่หนูดังกล่าวอยู่แล้วล่ะก็ เพียงแค่จ่ายเงินราวๆ 1,700 บาท คุณก็จะได้สิทธิ์เข้าไปท่องเที่ยวใน The San Francisco Dungeon แล้วล่ะ แถมยังมีเวลากว่า 15 นาทีเพื่อจะได้เล่นกับเหล่าหนูน้อยตัวเล็กน่ารักที่วิ่งพล่านไปบนตัวคุณอีกด้วย . ส่วนถ้าใครคิดว่าหนูพวกนี้จะเป็นพาหะของโรคแล้วดูไม่สะอาดก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะหนูที่ทางร้านได้นำมาเป็นหนูที่ถูกเลี้ยงอย่างสะอาดโดยองค์กรไม่หวังผลที่ชื่อว่า Rattie Ratz ซึ่งพวกเขาพยามที่จะเลี้ยงหนูให้เหมือนกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ อย่างหมาแมวนั่นเอง แน่นอนว่าการที่หนูเป็นสัตว์ที่ถูกชาวเมืองรังเกียจกันมานาน…
-
เจ้าเหมียวจรจัดยอมเดินมาติดกรงกับดัก และร้องขอมนุษย์ ให้ช่วยพามันไปอยู่ด้วยหน่อย!!
เมื่อ Sarah Chelskea และ Crystal Mackey ตัดสินใจไปวางกับดักล่อแมวจรจัดในอาณาจักรของพวกมัน ไม่ใช่เพื่อจะดักมาทำเป็นอาหารหรอกนะ แต่หวังว่าจะได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียวไร้บ้านตัวไหนที่เผลอมาติด ให้ได้มีบ้านและเจ้าของเลี้ยงสักที Jenny Storake จากหน่วยช่วยเหลือแมว CatRescue 901 ได้แชร์เรื่องราวดังกล่าวให้กับเว็บไซต์ต่างประเทศว่า “เจ้าเหมียวตัวนี้มันเป็นแมวจรแถวๆ นั้น มันติดสอยห้อยตามมาด้วยขณะที่เพื่อนๆ ของเราเดินทางไปวางกับดักเพื่อช่วยเหลือเหล่าลูกแมวจัดจร ถือว่า Ali คือแมวที่เป็นมิตรสุดๆ เลยล่ะ “ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้วางกับดักเพื่อล่อจับลูกแมวเหมียวจนสำเร็จ อยู่ดีๆ เจ้า Ali ก็วิ่งเข้ามาอยู่ในกรงที่ว่างเปล่าดังกล่าว เหมือนกับมันพยามจะบอกว่า พาผมไปด้วยคนนะได้โปรด… แม้ว่าเจ้า Ali จะเป็นแมวตัวผู้ที่เพิ่งจะโผล่มาบริเวณอาณาจักรแมวจรจัดแถวนั้นได้ไม่นาน แต่มันก็เป็นแมวที่น่ารักและใจดี มันทำหน้าที่ดูแลลูกแมวในบริเวณนั้น ซึ่งลูกแมวที่มันดูแลอยู่มีมากถึง 6 ตัวเลยทีเดียว มันเป็นแมวที่ป่วยเป็นโรค FIV หรือก็คือโรคเอดส์แมว แต่จากสภาพภายนอกมันก็เป็นแมวที่มีร่างกายแข็งแรงและร่าเริงมากๆ โรคดังกล่าวจะติดต่อผ่านทางเลือดและบาดแผล แต่การที่มันเป็นแมวนิสัยดีไม่ค่อยทะเลาะกับตัวอื่น มันจึงอยู่ด้วยกันได้ “ผลวิจัยล่าสุดระบุว่า แมว FIV ที่มีนิสัยน่ารักเรียบร้อยนั้น ก็สามารถอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นๆ ได้”…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ไวรัสแมว “NyanSomeware” ร้ายกว่าเรียกค่าไถ่ ติดแล้วต้องจ่ายด้วยแรงทาส!!
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ได้มีมัลแวร์ตัวหนึ่งที่โด่งดังไปทั่วโลกเลย นั่นคือมัลแวร์ที่ชื่อว่า WannaCrypt (วอนนาคริป) เป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณใช้การไม่ได้เลย ทางเดียวที่จะทำให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมคือจ่ายเงินให้มันซะ (หากใครยังไม่รู้จักมัลแวร์ตัวนี้ดีล่ะก็ สามารถตามอ่านได้ที่ลิ้งก์นี้เลยนะ) แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้โลกของเรากำลังประสบกับมัลแวร์ตัวใหม่อีกแล้วล่ะ มันทั้งโหดกว่า ร้ายกว่าเจ้า WannaCrypt หลายเท่า เพราะมันคือ #NyanSomeware …หรือก็คือไวรัสแมวนั่นเอง… หลังจากที่มัลแวร์เรียกค่าไถ่เริ่มโด่งดัง ชาวทวิตเตอร์ในญี่ปุ่นก็เริ่มตั้งแฮชแท็ก #ニャンサムウェア เพื่อร่วมแชร์ประสบการณ์สุดวุ่นวายเมื่อต้องรับมือกับเจ้าแมวขณะทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ บางทางครั้งอาจนำหายนะมาสู่คอมพิวเตอร์ของคุณได้มากกว่าไวรัสจริงๆ เสียอีก!! . @pa_rasite “คอมฉันก็ติดไวรัส NyanSomeware ด้วยแหละ” @ageha0101 “แม้แต่พ่อแม่ของฉันก็ยังติดเจ้าไวรัสตัวนี้เลย” . @Gacha911 “เจ้าไวรัส NyanSomeware ทำพิษใส่ Mac ของฉันอย่างร้ายแรง โปรดระวังด้วยล่ะทุกคน” . @pipixvi “ถ้าติดเชื้อ NyanSomeware เข้าไปล่ะก็มันจะเป็นอุปสรรคในการทำงานและเอกสารก็เสี่ยงที่จะถูกทำลายด้วย” . บางทีไวรัสก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง… แต่ไวรัสส่วนใหญ่ยังคงเป็น Nyan Someware อยู่ดี . บางครั้งไวรัสชนิดนี้ก็ลามจอมคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องเล่นเกมของคุณด้วย… …
-
รวมภาพช่วงเวลาสุดน่ารักของเจ้าตูบ เวลาที่พวกมันจะต้องออกไปเที่ยวในโลกกว้าง
ถ้าให้เปรียบเทียบสุนัขกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น พวกมันก็คงจะถูกเปรียบเทียบกับเด็กๆ อย่างแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะชอบที่ออกไปวิ่งเล่นสนุกสนานในสถานที่กว้างใหญ่ หรืออาจจะชอบเล่นอะไรสกปรกๆ เป็นบางครั้ง แน่นอนว่ามันก็เด็กๆ เลยใช่ไหมล่ะที่ชอบไปเล่นในสวนสาธารณะ หรือไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพในอิริยาบทต่างๆ ของเจ้าตูบทั้งหลายกันว่า พวกมันจะแสดงออกยังไงกันบ้าง เวลาที่พวกมันไปสวนสาธารณะหรือสถานที่เปิดกว้างกัน จะน่ารักขนาดไหนลองมาดูกันเลยดีกว่า เปิดมาภาพแรกกับการถ่ายรูปเก๋ๆ ในทุ่งหิมะ ที่ดูแล้วมันจะชิวซะเหลือเกิน แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะชอบอยู่ข้างนอกนะ ทว่าบางตัวก็ดูจะเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นน้ำ บางตัวก็ดูกลัวๆ กับการออกไปที่สวนสาธารณะเป็นครั้งแรก หรือบางครั้งก็อาจจะได้เจอเพื่อนสายพันธ์ุใหม่ จนต้องเกิดอาการสงสัย เจ้าตัวนี้ช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด เจอน้ำเป็นไม่ได้เลอะตลอด ส่วนถ้าสวนสาธารณะไหนมีของเล่น ก็ไม่พลาดที่จะไปเล่นซะหน่อย ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ดูจะเศร้าที่โดนกักบริเวณ แต่พ่อหนุ่มคนนี้ดูสะใจที่ได้เยาะเย้ยมากกว่านะ แต่อย่างน้อยไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ถ้ามีเจ้าของอยู่ด้วย พวกมันก็มีความสุขที่สุดแล้วล่ะ เจ้าสองตัวนี้อาจไม่ชอบวิ่งเล่น แต่คงชอบรับลมเย็นๆ เสียมากกว่า ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ กับแสงแดดอ่อนๆ ทะ ทะ ทุ่งหญ้า!! นี่คือรูปปั้นสุนัขยอดฮีโร่ผู้ช่วยสวนแห่งนี้ไว้แน่ๆ…
-
20 ภาพสุดฮาของเจ้าตูบ ที่พยายามจะเล่นซ่อนแอบ แต่ก็ทำได้ไม่เนียนเอาซะเลย…
สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขไว้ที่บ้าน คงจะรู้กันดีว่าเจ้าเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ บางครั้งมันก็เป็นสัตว์ที่ขี้เล่น และบางตัวก็จะชอบเล่นซ่อนหากับเราอยู่บ่อยๆ แต่ใช่ว่าพวกมันจะมีความสามารถในด้านนี้ทุกตัว เพราะบางตัวก็ดูจะห่วยในการเล่นซ่อนแอบเสียเหลือเกิน แต่ถึงห่วยพวกมันก็ยังอยากจะเล่นกับเจ้าของผู้เป็นที่รักของมัน จนเกิดเป็นภาพน่ารักๆ เหล่านี้ ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า เปิดมาตัวแรกก็รู้แล้วว่า พวกมันซ่อนหาเก่งกันขนาดไหน… ส่วนเจ้าตัวนี้ก็เนียนใช้ได้เลยนะเนี่ย บางทีมันก็คิดว่าหลบในตู้เย็น จะเนียนมากๆ จะทำทีว่าไม่เห็นก็แล้วกัน คราวนี้มาเป็นแพคคู่เลย ส่วนเจ้าตัวนี้อาจจะไม่ตั้งใจซ่อน แต่ต้องบอกว่าเนียนสุดๆ ถ้าไม่สังเกตที่ลูกตานี่หาไม่เจอเลยนะ พูดจริงๆ ปิดหน้าแล้วเจ้านายหาไม่เจอหรอก จริงๆ นะ นี่ก็อีกตัว ปิดทำไมต้องปิดตัวเองด้วยเล่า ปั๊ดโถ่ว เจ้าหมาบ๊อง ถ้าเปลี่ยนสีโซฟาอีกสักหน่อยนี้เข้ากันเป๊ะเลยนะเนี่ย ความสามารถในการมุดโซฟาอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียวนะเนี่ย ถ้ามองจากอีกมุมก็อาจจะเนียนก็ได้ ตัวแกกับหมอนมันคนละไซส์เลยนะเจ้าตูบ โอเค ไม่เห็นก็ไม่เห็น.. ก้นของใครกันเอ่ยยย เจ้าตัวนี้ซ่อนได้เฉียบสุดๆ แต่ดูแล้วไซส์ของเสื้อน่าจะขยายขึ้นแน่ๆ ถึงว่าเห็นเงาตะคุ่มๆ…
-
มนุษย์ใจดี ช่วยชีวิตหมาที่ถูกทำร้าย-ถอนเล็บ เอามาทิ้งรอความตายริมถนน จนมันรอดอีกครั้ง!!
คำเตือน: เนื้อหานี้อาจจะมีภาพที่รุนแรง ภาพของแผลบนร่างกายสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้บางคนหดหู่ได้ กลายเป็นเรื่องชวนให้เศร้า หลังจากที่เช้าวันอังคาร บริเวณริมถนนสาย A20 ของเมืองเคนท์ ในประเทศอังกฤษ มีพลเมืองดีบังเอิญไปพบเจ้าหมาสเปเนียลสีขาวดำ กำลังนอนรอความตายอย่างน่าสงสาร ร่างกายของมันอยู่ในสภาพแย่ มีบาดแผล และเล็บของมันก็ถูกถอนไปหมด ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบพามันไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์ RSPCA ทันทีและตั้งชื่อเล่นให้กับเจ้าหมาว่า Flick เมื่อมันไปถึงศูนย์ดูแล เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า รีบตรวจและช่วยเหลือมันทันที เพราะสภาพและอาหารของมันตอนนั้นถือเป็นเคสเร่งด่วน โฆษกของ RSPCA ออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Flick ว่า “การถอนเล็บของสุนัขออกอย่างไม่เต็มใจถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและผิดกดหมายภายใต้กฎหมายในการคุ้มครองสัตว์ภายในประเทศอังกฤษ ที่สำคัญยังไม่รับรวมการทิ้งสุนัขของตนทำเหมือนกับว่ามันเป็นขยะ” สภาพร่างกายของมัน ที่ต้องบอกว่าหนักมาก มีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งถ้าไม่ได้คนใจดีช่วย มันคงจะไม่รอด เจ้า Flick เเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและลงทะเบียนรวมถึงมีได้ฝังไมโครชิพไว้ ทำให้การตามหาตัวเจ้าของจริงๆ เป็นไปได้ยากมากๆ แต่ถ้าเกิดว่าหลังจากที่ทางศูนย์รักษามันเรียบร้อยแล้วยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทางศูนย์ก็จะทำการหาบ้านหลังใหม่ให้แก่มัน ซึ่งสัตวแพทย์จากทางโรงพยาบาลสัตว์จะเป็นคนรับมันไปดูแลแทนนั่นเอง… ใครกันนะช่างโหดร้ายกับเจ้า Flick ได้ ทิ้งมันยังไม่พอยังถอนเล็บมันอีก อย่าให้เจอนะ ที่มา metro
-
เจ้าเหมียวตัวแสบ มัวแต่ไล่กวดแมวตัวอื่นจนลื่นตกน้ำ ลำบากมนุษย์ต้องไปช่วยเอ็งอี๊กกก!!
แมวเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแสบ และมักจะหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองได้ตลอดเวลา… เรื่องราวของ Felix เจ้าเหมียวสีขาวดำที่อาศัยอยู่ในบริเวณ London’s Royal Docks และทำหน้าที่เฝ้ายามอาณาเขตในบริเวณนั้น จนวันหนึ่งมีเจ้าเหมียวต่างถิ่นย่างกรายเข้ามา ทำให้มันต้องทำหน้าที่หัวโจกจัดการไล่ผู้บุกรุกตัวนั้นไป แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่กันอยู่นั้น อยู่ดีๆ ก็มีจังหวะหนึ่งที่เจ้า Felix เหมือนจะตะครุบแมวผู้บุกรุกแล้วเผลอสไลด์ไปกับพื้นจนตกท่าน้ำ ส่วนเจ้าเหมียวอีกตัวก็หนีไปได้อย่างละม่อม เอ็งจะโง่ไปไหน Felix เอ๊ยยยยยย สามารถรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวกันดูได้ข้างล่างเลยจ้า ในวินาทีนั้นต้องขอบคุณชายคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ เขาสังเกตุเห็นเจ้า Felix และไม่รอช้ารีบวางของเพื่อไปช่วยเจ้าเหมียวตกน้ำทันที ชายคนดังกล่าวคือ Scott ซึ่งเขาทำงานเป็นวิศวกรของท่าเรือดังกล่าวอยู่แล้ว จึงคุ้นเคยกับเจ้าเหมียวอย่างดี หลังจากช่วยมาได้สำเร็จ ทาง London’s Royal Docks ก็ออกมาขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือเจ้า Felix ไม่ให้มันจมน้ำตาย ทางด้านโฆษกของ London’s Royal Docks ได้บอกกับเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศว่า “หลังจากที่ Felix ได้รับความช่วยเหลือ มันก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อให้ขนแห้งและกลับไปเป็นเหมือนเดิม นอกจากนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันต้องการความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้พวกเราได้ไปช่วยเหลือมันมาจากสถานพักพิงสัตว์ Battersea Dogs and Cats Home จนตอนนี้มันกลายเป็นแมวประจำออฟฟิศไปเรียบร้อยแล้ว” โชคดีนะเจ้าเหมียว…
-
หนุ่มหล่อสาวสวยดับสนิท เพราะเจอ “เจ้าหมาดัชชุน” แย่งซีน กลายเป็นซุปตาร์ในงานพรอม!!
สำหรับวัยรุ่นฝั่งตะวันตก งานพรอม ซึ่งจัดขึ้นส่งท้ายการเรียนนั้นถือว่าเป็นงานที่สำคัญและเป็นหน้าเป็นตาของพวกเขามากๆ ดังนั้นการจะไปงานนี้เหล่าหนุ่มสาวก็จะใช้เวลาเตรียมการและคิดกันมาเป็นอย่างดีเพื่อให้โดดเด่นกว่าใครๆ (งานพรอมคือ งานเลี้ยงเต้นรำในวันจบการศึกษา โดยรุ่นน้องในโรงเรียนจะช่วยกันจัดงานให้กับรุ่นพี่ที่สำเร็จการศึกษาในปีนั้นๆ ทุกคนที่เข้าร่วมงานจะแต่งกายด้วยชุดทางการ ถือเป็นงานสังคมที่สำคัญที่สุดของปีสำหรับเหล่านักเรียนเลยก็ว่าได้) ทว่ากลับมีสาวสวยคนหนึ่งกลับคิดเหนือกว่าคนอื่นๆ แถมได้ผลดีอย่างไม่หน้าเชื่อ!! Brenda Sierra สายสวยวัย 18 จากรัฐฟลอริด้า โดยเธอได้ตัดสินใจที่จะไม่เลือกมนุษย์เท่านั้นเป็นคู่เดทงานพรอม (แม้จะมีแฟนอยู่แล้ว) แต่เมื่อไม่มีกฎห้ามพาสัตว์เลี้ยงไป เธอจึงตัดสินใจพาเจ้า Sasha สุนัขพันธ์ุดัชชุนวัย 7 ขวบ ไปงานพรอมกับเธอด้วย นี่ก็คือโฉมหน้าของเจ้า Sasha ทว่าการจะไปงานพรอมตัวเปล่าๆ มันก็จะยังไงอยู่ เธอจึงจัดการเนรมิตรชุดให้กับเจ้า Sasha ให้เป็นแบบเดียวกับชุดของเธอเพื่อที่จะได้เป็นชุดเข้ากันของสุนัขและเจ้าของ เธอใช้เศษเสื้อผ้าที่เหลือจากการทำชุดของเธอมาทำในส่วนของเจ้าตูบ ซึ่งดูแล้วมันก็จะชอบและให้ความร่วมมือในการตัดชุดเป็นอย่างดีเลยนะ หนูสวยมั้ยคะ!? จนวันงานมาถึง เธอกับแฟนหนุ่มจึงพาเจ้า Sasha ไปออกงานพรอมด้วยกัน ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ ภาพถ่ายของทั้งคู่และเจ้าหมาดัชชุนได้รับกระแสตอบรับจากชาวเน็ตอย่างล้มหลามเลยทีเดียว ภาพของเธอและแฟนหนุ่ม จุ๊บกับผู้ช่วยสุดน่ารักสักหน่อย เป็นไงล่ะ ชุดเข้ากันที่เรียกเสียงตอบรับได้เป็นอย่างดี โพสต์ที่เธอลงรูปในงาน…
-
รวม 22 ภาพของเจ้าอีกาสุดป่วน ที่บ่งบอกว่ามันเป็นสัตว์กวนทีน ไม่แคร์อะไรรอบตัวทั้งสิ้น!!
ถ้าให้พูดถึงเหล่าสัตว์ทั้งหมดทั้งมวลบนโลกในเรื่องความกวนบาทาไม่แคร์ใคร หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นแมวสินะ แต่ขอบอกว่า “อีกา” จะต้องเป็นสัตว์ชนิดแรกๆ ที่อยู่ในรายชื่อของคุณอย่างแน่นอน ด้วยความที่พวกมันเป็นสัตว์ประเภทนก ทำให้ความคล่องตัวในการไปกวนชาวบ้านมีสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ และถ้าเกิดใครที่คิดว่าพญาอินทรี หรือนกตัวโตนักล่าหลากหลายชนิดเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้าแล้วละก็ บอกเลยว่าพวกคุณจะคิดผิดอย่างแน่นอน เพราะอีกาคือนกที่อยู่เหนือนกทั้งปวงอย่างหาข้อติไม่ได้เลยล่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหนือกว่าสัตว์อื่นและกวนทีนจริงๆ ลองมาดู 22 ภาพพวกนี้ก่อนแล้วคุณจะปักใจเชื่อแบบนั้นจริงๆ เฮ้!! เพื่อนเหมียว นายพอจะมีเวลาว่างสัก 2-3 ชั่วโมงไหม มาทำงานกับเราปะ!? ดูหน้าแมวสิ พญาอินทรีอะไร พี่เนี่ยพญาอีกาเว้ย อยู่เหนือกว่าเห็นๆ ส่งเงินมา ตูมีมีดนะเว้ย!! อย่าแต่พญาอินทรี กับอีกาด้วยกันมันก็เหยียบหัวกันหน้าด้านๆ ว่าแล้วฟันปลอมคุณตาไปไหน แกเอาไปนี่เอง… กระเป๋าใครไม่รู้ ไม่มีคนอยู่ใกล้…พี่ขอก็แล้วกัน ดูความฉลาดแกมโกงของมันเสียก่อน เพลินดีเหมือนกันนะเนี่ยเจ้ามนุษย์ มองหน้าทำไม หรือจะเอา ห๊ะ..เจ้าจิ้งจอก!! แม้แต่กับพญาอินทรี มันก็ไม่แคร์ พร้อมไฟท์ได้ทุกขนาด ช่างเป็นสัตว์ที่ไม่แคร์อะไรเลย เกาะบนหัวชาวบ้านไปทั่ว …
-
เรื่องบนเตียงขอสู้ตาย!! 9 เรื่องราวการผสมพันธุ์ของ “หมึก” ที่ทั้งซึ้ง ทั้ง 18+ และชวนสยอง
ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนต้องมีการสืบพันธุ์เพื่อออกลูกออกหลานมาเรื่อยๆ ไม่ให้สายพันธุ์ของพวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลก สัตว์บางชนิดมีการผสมพันธุ์ข้ามเพศ บางตัวสามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง แต่มีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งอย่างหมึกที่ทุกวันนี้#เหมียวฟิ้นก็ยังเกิดคำถามสงสัยอยู่เลยว่าพวกมันมีพฤติกรรมหรือผสมพันธุ์กันยังไง!? เชื่อว่าคำถามนี้หลายๆ คนก็คงสงสัยเหมือนกัน เราเลยไปขุดคุ้ยหาข้อมูลลับเฉพาะแบบ 18+ ของพวกมันมาให้ทุกคนอ่านกัน ลองมาดูกันไปทีละข้อๆ เลย 1. หมึกตัวผู้จะความจำเสื่อมหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก็ตายจากไป แม้ว่าหมึกตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์เสร็จโดยที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ทั้งคู่จะเริ่มเข้าสู่สภาวะแก่ชราและมีอาการคล้ายกับสมองเสื่อม ตัวผู้จะเริ่มใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ กินอาหารน้อยลงจนล่องลอยไปตามท้องทะเลแบบไร้จุดหมาย ซึ่งจะกลายเป็นเป้านิ่งให้นักล่าจับมันกินเป็นอาหาร ส่วนตัวเมียจะยังคงดูแลไข่ของลูกๆ อยู่ มันช่างน่าเศร้าอะไรขนาดนี้ 2. การผสมพันธุ์บางครั้งนำไปสู่โศกนาฏกรรม นักวิจัย Richard Ross จากสถาบันวิจัยสัตว์น้ำ California Academy of Science’s Steinhart Aquarium ได้เคยศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตคู่ของหมึก พวกเขาพบว่าบางครั้งถ้ามีอาหารไม่เพียงพอ พวกหมึกตัวเมียจะจับตัวผู้กินเป็นอาหาร ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง…อึ๋ยยย… 3. หมึกเพศผู้ได้รับความเสี่ยงสูงเวลามีเพศสัมพันธุ์ การผสมพันธุ์ของหมึกมีความซับซ้อนและค่อนข้างรุนแรง แต่หมึกตัวผู้ก็ยังต้องแบกรับความเสี่ยงอันตรายทั้งหลายไว้ หมึกตัวเมียอาจรัดคอตัวผู้จนบาดเจ็บสาหัส ดึงหนวดตัวผู้จนขาด ฉะนั้นหมึกตัวผู้จะรู้ดีว่าไม่ควรจะไปแหยมกับตัวเมียถ้าไม่จำเป็น 4. หมึกตัวผู้จะตัดแขนตัวเองจนขาด เพื่อสะบัดหนีออกจากตัวเมียก่อนจะโดนทำร้ายจนตาย บางครั้งหมึกตัวผู้จะรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาในระหว่างที่กำลังผสมพันธุ์อยู่ พวกมันจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการตัดหนวดของตัวเองทิ้งแล้วผละจากตัวเมียเพื่อหนีเอาตัวรอด แต่ถึงจะหนีไปแบบหน้าตั้งแต่ก็ถือว่าการผสมพันธุ์นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว…
-
Oatman เมืองสุดคลาสสิกบนถนน Route 66 ที่ประชากรหลักเป็นลา ลา และลา เต็มไปหมด!!
ส่วนใหญ่หนังคาวบอยเราจะเห็นเมืองต่างๆ ที่มีผับมีบาร์รวมถึงบ้านคนที่เป็นไม้เก่าๆ ดูคลาสสิก ส่วนคนก็จะขี่ม้าไปมาในเมือง แต่เคยคิดไหมว่าจะมีเมืองแนวนั้นอยู่ทว่าเปลี่ยนจากม้าให้กลายเป็นลาแทน?!! อ่านดูแล้วอาจจะคิดว่าบ้า.. เป็นเมืองคาวบอยทำไมถึงเปลี่ยนม้าเป็นลาล่ะ!? แต่เมือง Oatman เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ เมือง Oatman ตั้งอยู่บนถนนสาย Route 66 อันโด่งดังในรัฐแอริโซนาประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังคงกลิ่นอายความเป็นคาวบอยด้วยสิ่งก่อสร้างแบบดั่งเดิม แต่ที่ต่างก็คงจะเป็นเมืองแห่งนี้จะมีลาเดินเดินเพ่นพ่านเต็มถนนไปหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิมก็เพราะว่า ผลพวงจากเมือง Laughlin ในรัฐเนวาด้าที่เป็นเมืองคาสิโนและมีประชากรมากขึ้น ทางเมืองจึงอยากจะระบายผู้คนโดยการโปรโมทเมืองอื่นๆ และ Oatman ก็ได้ผลประโยชน์จากส่วนนั้นนั่นเอง ส่วนต้นตอของประชากรลาภายในเมืองมันเริ่มมาจากลาที่หลงฝูง รวมถึงลาที่เป็นลูกหลานของฝูงลาในยุคบุกเบิกขณะที่ชาวเมืองยังคงขุดแร่เป็นหลัก และพวกมันก็แพร่พันธุ์ในเมืองแห่งนี้จนมีทายาทอยู่เต็มไปหมด จนถึงตอนนี้พวกมันก็ได้รับการคุ้มของจากกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ยืนดูรถซ้ายขวาว่าจังหวะไหนข้ามได้แล้วบ้าง รถหยุดให้แล้ว จังหวะนี้แหละข้ามเลยย.. ถ้าใครคิดว่าลาพวกนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเมือง ก็ต้องบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะลาที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้พวกมันฉลาดมากๆ มันเรียนรู้ว่าเวลาไหนควรจะข้ามถนน จุดไหนคือจุดกินอาหาร รวมถึงจำสถานที่โปรดของพวกมันได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีป้ายประกาศสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อย้ำเตือนให้ระวังลาภายในเมือง อยู่ทั่วห้างร้านและรอบๆ ตัวเมืองอีกด้วย จุดให้อาหารลาที่พวกมันรู้ดีว่าถ้ามาตรงนี้ได้กินอาหารแน่นอน บางตัวก็จะถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้คนในเมือง..อย่างเจ้าตัวนี้จะมีชื่อว่า Harley หรือจะเป็นเจ้าลูกลาตัวนี้ที่กำลังหลับอยู่บนถนน น่ารักไหมล่ะ ถ้าคุณมาที่นี่รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนชอบลาขึ้นมาทันที เพราะมีทั้งพ่อแม่ลูกลาอยู่เต็มไปหมด แถมบางตัวก็ดูลายน่ารักซะขนาดนี้…
-
Maru เจ้าสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้สุดเพี้ยน ที่คิดว่าตัวเองเป็น “หมีแพนด้า” แถมยังมีความสุขตลอดเวลา
สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขภาพลักษณ์ดูเท่ ดูสง่าด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและขนที่ฟูของพวกมันจึงทำให้คนนิยมที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้กันมากขึ้นทุกวัน แต่ว่ากันว่าสุนัขพันธุ์นี้นั้นเป็นสุนัขที่ปัญญาอ่อน ซึ่งขัดกับลักษณะและท่าทางของมัน นั่นก็คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน เพราะถ้าได้รู้จักกับเจ้า Maru ฮัสกี้ที่คิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าตัวนี้แล้วละก็ เชื่อเหอะมันปัญญาอ่อนจริงๆ นั่นแหละ แล้วถ้ามันคิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าจริงๆ มันจะรู้วิธีกินไผ่ไหม แล้วมันรู้ป่าวว่าแพนด้ามาจากจีน แล้วมันรู้วิชากังฟูเหมือนในกังฟูแพนด้าไหม? แต่ที่รู้แน่คือมันทำให้เราหยุดยิ้มเวลาดูมันไม่ได้เลยล่ะ นอกจากเจ้า Maru จะปัญญาอ่อนและดูติ้งต๊องแล้ว มันยังเป็นฮัสกี้ที่มีความสุขมากๆ แถมยังทำท่าเหมือนกำลังยิ้มบ่อยๆ อีกด้วย จนกระทั่งทำให้มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของมันก็มีมากถึง 180,000 คนเลยทีเดียว แพนด้า แพนด้า เต็มไปหมดเลย ละดูหน้าเจ้า Maru สิ ฟินอะไรขนาดนั้น ชัดไหมว่ามันปัญญาอ่อนจริงๆ แต่เวลามันยิ้มก็น่ารักมากๆ เลยนะ จะมุมไหนก็ไม่ทิ้งความน่ารักปัญญาอ่อน ขนาดนอนยังน่ารัก ที่สำคัญ Maru ตาสองสีด้วยนะ Maru อยากจะเป็นแวมไพร์ พยายามทำให้หน้าบานเหมือนแพนด้า เวลาทำหน้านี้มันดูปลื้มปริ่มสุดๆ เลยนะเนี่ย …
-
คณลุงวัย 76 ปี ใช้เวลากว่า 24 ปี ช่วยเหลือแมวจรจัด เพื่อให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ใครจะเชื่อว่าชายคนหนึ่งจะมอบความรักและดูแลแมวจรจัดตลอด 24ปี… Willie Ortiz คุณลุงวัย 76 ปี ชาวเปอร์โตริโกคนนี้ เขาได้มาอาศัยอยู่ในเมืองฮาร์ตฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาพบกับปัญหาแมวจรจัดที่มีมากในเมืองแห่งนี้ และชาวเมืองก็ดูจะไม่ชอบพวกมันสักเท่าไหร่ คุณลุงแกบอกกับ thedodo ว่า “ผมเห็นแมวจรจัดจำนวนมากที่ถูกผู้คนรังเกียจ พยามจะไล่มันไปหรือเตะมันในบางครั้ง” มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า เขานี่แหละจะต้องเป็นคนเข้าไปช่วยพวกมัน ซึ่งเขาก็ตระหนักดีว่าตัวเขาเองไม่สามารถจะรับเลี้ยงพวกมันได้ทั้งหมด เขาจึงเริ่มจากวิธีง่ายๆ ด้วยการให้อาหารมันพร้อมกับพาพวกมันไปฉีดสเปรย์ป้องกันให้พวกมันด้วย และถ้าแมวป่วยเขาก็จะดูแลพวกมันอย่างเต็มที่และพามันบางตัวกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ซึ่งเขาทำแบบนี้เป็นประจำมานานถึง 24 ปี แล้ว Willie บอกว่า “พวกมันต้องการความช่วยเหลือ ผมต้องมั่นใจว่าพวกมันทุกตัวจะมีอาหารกินและมีสุขภาพที่ดี” จนถึงตอนนี้คุณลุง Willie ดูแลแมวครอบคลุมถึง 68 ตัวใน 16 อาณาเขตด้วยกัน โดย Kathleen Schlentz เพื่อนของลุงแกได้อธิบายว่า อาณาเขตของพวกมันก็จะอยู่แตกต่างกันไปทั้งจุดทิ้งขยะ หัวมุมถนน ตรอก หรือตึกร้างเป็นต้น Kathleen อธิบายเพิ่มเติมว่า “อาณาเขตของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่อยู่ที่เดิมตลอดเวลา และแมวบางตัวก็อาจจะถูกรถชนตายหรือบางครั้งก็อาจจะไม่รอดจากภัยหนาว” …
-
ไต้หวันเริ่มสั่งห้ามบริโภค เนื้อสุนัขและแมวโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนปรับสูงสุดถึง 287,000 บาท
หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าชนชาติทางฝั่งเอเชียอย่างจีนหรือเกาหลี ถือเป็นชาติที่นิยมในการกินสุนัขเป็นอย่างมาก แถมยังมีการค้าขายอย่างแพร่หลายสุดๆ แต่แล้วล่าสุดใต้หวันก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการบริโภคเนื้อหมาและแมวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และยังถือว่าเป็นชาติแรกในเอเชียที่ประกาศห้ามในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งตัวกฏหมายใหม่นี้ได้ระบุอย่างชัดเจนเลยว่าถ้าพบผู้ใดบริโภคเนื้อสุนัขและแมวจะถูกปรับไม่เกิน 57,000 บาท ส่วนใครที่ส่งออกหรือขายเนื้อสุนัขจะถูกปรับไม่เกิน 287,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนเหตุผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น ก็คงจะมาจากการที่ผู้คนในไต้หวันเริ่มที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขและแมวกันมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาเริ่มทนไม่ได้ที่เพื่อนสี่ขาของพวกเขาต้องกลายเป็นอาหารนั่นเอง นอกจากนั้นประธานาธิบดีหญิง ไช่ อิงเหวิน ดูน่าจะมีนโยบายบางอย่างที่ตอบโต้กับเรื่องนี้ เพราะเมื่อตอนเลือกตั้งเธอเป็นคนที่ชูว่าตัวเองเป็นคนรักสัตว์มากๆ แถมยังเลี้ยงแมวไว้สองตัวสุนัขอีกสามตัว แต่ถึงอย่างนั้นการสั่งห้ามในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ในจีนจะยังคงเดินหน้าและบริโภคสุนัขเป็นเรื่องปกติต่อไป แถมยังมีเทศกาลลิ้นจี่และเนื้อหมา ที่จัดขึ้นทุกปี สุดท้ายก็หวังว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียจะหันมาให้ความใส่ใจกับเพื่อนสี่ขาเหล่านี้และก่อตั้งกฏหมายขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันต้องกลายเป็นอาหารเช่นเดียวกับที่ไต้หวันกำลังทำอยู่นั่นเอง ยอมรับว่าปกติ #เหมียวมู่ทู่ เคยเห็นแต่ข่าวกินสุนัข แต่แมวถือว่าแปลกจริงๆ ดูแววตาของพวกมันแล้วคิดว่ามันจะต้องกลายเป็นอาหารก็เศร้าสุดๆ แล้ว แม้ประเทศอื่นอย่างจีนหรือเกาหลี จะยังไม่มีกฏหมายช่วยเหลือพวกมัน แต่กลุ่มคนมากมายก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งพวกคนเริ่มหันมาเลี้ยงพวกมันเป็นเพื่อนมาขึ้น ความคิดของพวกเขาก็คงจะเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และในที่สุด หวังว่าจุดยืนและมุมมองของพวกเขาต่อเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ที่มา boredpanda
-
เจ้าตูบสองตัว ถูกปล่อยทิ้งไว้หน้าศูนย์พักพิง ทว่าแม้จะถูกทิ้ง แต่ทั้งคู่ก็ยังมีกันและกัน…
แม้ในช่วงเวลาอันโหดร้าย ขอแค่กอดเพื่อนข้างๆ ไว้ให้แน่น แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี… Adonis และ Apollo เจ้าตูบสองตัวถูกพบอยู่ข้างหน้าศูนย์พักพิงสัตว์ A-Team Elite Rescue Dogs ในรัฐเท็กซัส เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพวกมันทั้งคุ่น่าจะถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง จากรายงานของ Cindy Droogmans ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงดังกล่าวได้เล่าว่าพวกเขาเจอทั้งสองตัวอยู่ข้างหน้าศูนย์ในสภาพที่สั่นด้วยความกลัว เหมือนกับว่าพวกมันเพิ่งผ่านอะไรร้ายแรงมาไม่นาน แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนอยู่กับความกลัวเป็นเวลานานเกินทน เพราะ Cindy ได้พาพวกมันไปรับการรักษากับสัตวแพทย์ของเธอในเมืองนิวยอร์ค และตอนนี้พวกมันก็ได้การดูแลเป็นอย่างดี เจ้าตูบทั้งคู่ดูจะเป็นห่วงและรักกันมาก ขนาดตอนที่อยู่โรงพยาบาลสัตว์พวกมันยังตัวติดกันไม่ห่างเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งคู่ที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว การหาบ้านให้หมาตัวเดียวว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่มันก็จะทำให้ยากในการหาคนมารับเลี้ยงดูมันทั้งคู่พร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม Cindy บอกว่าเธอจะหาบ้านใหม่ที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนรักทั้งสองนี้ให้ได้ Cindy บอกว่า “การหาบ้านที่พร้อมจะรับเลี้ยงสุนัขสองตัวพร้อมกันมันยากมากๆ แต่ดูพวกมันสิคุณยังกล้าที่จะแยกมันออกจากกันไหม” หวังว่าพวกมันจะมีคนมารับไปเลี้ยงไวๆ ที่สำคัญขอให้ใครก็ตามแต่ที่มารับเลี้ยง พามันไปด้วยทั้งคู่ อย่าต้องให้มันแยกออกจากกันเลยนะ . ที่มา thedodo
-
รวมภาพสัตว์โลกที่ตัวกลมเกินไป กลมจนหยุดไม่อยู่ กลมจนความน่ารักทะลุขีดจำกัด!!
เชื่อว่านอกจาก #เหมียวมู่ทู่ แล้วคงจะมีหลายคนเลยที่ชอบอะไรทรงกลม เวลาเห็นแล้วอยากจะสัมผัสอยากจะจับจะบีบให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่ดูกลมๆ นูนๆ โค้งเว้าาาาาาาา เพราะด้วยผิวสัมผัสของทรงกลมที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด มันเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งเป็นอะไรที่นุ่มด้วยยิ่งฟินกว่าเดิม นอกจากนั้นถ้ายิ่งเป็นสัตว์ขนฟูหรือตัวอ้วนด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกเลยที่เราจะต้องตกหลุมรักทรงกลมของพวกมัน ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาดู สัตว์ต่างๆ ที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมกัน เหมียวมู่ทู่รับรองว่าถ้าเห็นแล้วจะต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน หึหึ นะ นะ นั่นมันก้อนอะไรน่ะ เจ้าเหมียวตัวนี้หน้ากลมจนกลายเป็นดอกทานตะวันเลย นกฮูกตัวกลม อยากจะเอามือลูบๆ จัง ตัวมันอ้วน หรือขนมันฟูกันนะ แม้แต่เจ้าจิ้งจอกก็ยังดูกลมได้ เมื่อดูจากข้างหน้า เจ้าฮัมมิ่งเบิร์ดที่นอกจากกลมแล้ว สีสันยังสวยงามสุดๆ อีกหนึ่งนกตัวกลมกับเจ้านก Tailed Tit และก็ยังหนีไม่พ้นนกตัวกลมอีกหนึ่งสายพันธุ์ Reedling หรือจะเป็นตรู๊ดเจ้าชินชิล่า สำหรับปลาปักเป้า ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ จะ..เจ้านกฮูกตัวนี้มันจะกลมเกินไปแล้ว!! ภาพแมวน้ำตัวกลมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง พวกนกตัวเล็กๆ นี่มันกลมดีจริงๆ…
-
ลูกสุนัข 9 ตัวถูกทิ้งไว้ในกล่องอย่างไร้เยื่อใย หลังเพิ่งจะเกิดมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง…
ค่ำคืนหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์อันเงียบสงบ ชายคนหนึ่งได้เดินเรียบถนนและบังเอิญสะดุดตาเข้ากับกล่องบางอย่างข้างทาง เมื่อเปิดออกมาเขาก็ต้องตกใจทันที เพราะข้างในมีลูกสุนัขตัวเล็กๆ ถึง 9 ตัวนอนกอดกันอยู่เต็มกล่อง และเขาก็ขาดว่าพวกมันน่าจะคลอดเมื่อไม่นานนี้อย่างแน่นอน เห็นได้จากสายสะดือที่ยังคงติดอยู่กับตัวลูกสุนัข โชคยังดีที่ชายคนนั้นไม่ได้เมินพวกลูกสุนัข เขารู้ว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ จึงแบกกล่องดังกล่าวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใกล้ๆ กับจุดนั้นทันที แต่โชคร้ายที่ศูนย์ดังกล่าวไม่มีเครื่องมือและทรัพยากรมากพอที่จะดูแล พวกเขาจึงทำขอส่งต่อลูกสุนัขไปที่ Central Vermont Humane Society (CVHS) Erika Holm ผู้อำนวยการของ CVHS ได้บอกกับ TheDoDo ว่า “หลังจากไม่กี่ชั่วโมงที่พวกเราได้รับแจ้งว่าจะมีการขนย้ายลูกสุนัขดังกล่าว พวกเราก็เตรียมการให้พร้อมทันทีก่อนที่พวกมันจะมาถึง ทั้งจัดแจงพื้นที่และเตรียมอาหารให้พวกมัน ซึ่งเมื่อพวกมันมาถึงพวกเราก็จัดการดูแลพร้อมกับป้อนอาหารพวกมันทันที” โชคร้ายที่พวกเขาไม่รู้ว่าสุนัขตัวไหนคือแม่ของพวกมัน จึงทำให้ทาง CVHS ได้ประกาศและออกตามหาสุนัขที่คาดว่าจะเป็นแม่ของเด็กๆ พวกนี้ทันที Erika พูดว่า “ไม่มีใครเห็นตอนที่ลูกสุนัขพวกนี้ถูกทิ้ง รวมถึงข้อมูลและเบาะแสต่างๆ ที่พอจะช่วยให้ตามหาแม่ของพวกมันเจอ ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงหวังว่าแม่ของพวกมันจะยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย พวกเราเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียลูกๆ ไป” . . Erika บอกปิดท้ายว่า “ตอนนี้พวกลูกสุนัขก็อยู่ในสภาพที่แข็งแรงดีแล้วยกเว้นตัวหนึ่งที่สภาพย่ำแย่และจากไปในที่สุด ทำให้พวกเราก็ยังคงเป็นห่วงสุขภาพของตัวอื่นๆ อีกทั้งยังต้องดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการหาคนมารับเลี้ยงคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้พวกมันโตกว่านี้อีกสักหน่อย”…
-
“Pampam” เจ้าเหมียวตาสองสี ก้อนปุกปุยตัวน้อยพร้อมกับพลัง ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
ปกติแล้วการที่แมวจะมีตาสองสีนั้นถือเป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งการที่แมวมีตาสองสีเราจะเรียกมันว่า Heterochromia ถึงแม้อาการนี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับแมวทั่วไป แต่ก็มีแมวอยู่สายพันธุ์หนึ่งที่มีโอกาสเกิดออกมาแล้วมีตาสองสีสูงมาก นั่นก็คือ แมวสายพันธุ์เทอร์คิชแองโกรา เจ้า Pampam ก็เป็นหนึ่งในแมวสายพันธุ์เทอร์คิชแองโกราที่มีตาสองสี ซึ่งโอกาสที่จะเกิดออกมามีตาสองสีนั้นก็ขึ้นอยู่ที่กรรมพันธุ์ของพ่อและแม่แมวด้วย และแน่นอนว่าด้วยดวงตาของมัน ก็ทำให้เจ้า Pampam มีความน่ารักและสง่างามสุดๆ ตาของเจ้า Pampam จะออกเป็นสีเหลืองกับฟ้า ซึ่งตาขวาที่เป็นสีฟ้าใสและสวยมากๆ พอทำท่านี้ยิ่งดูน่ารักขึ้นไปอีก ดูจะเป็นเจ้าเหมียวติดตุ๊กตาเหมือนกันนะเนี่ย เอ๋..ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนั้นละเจ้า Pampam หรือจะมาในลุคเจ้าหญิง Pampam ก็ดูเข้ากันสุดๆ ยิ่งดูใกล้ๆ ตาของมันก็ยิ่งเด่น แถมยังตัดกับขนสีขาวโพลนของมันอีกต่างหาก และตอนนี้มันก็ยังเป็นแค่ลูกแมวเท่านั้น ดูสิตัวเล็กนิดเดียวเอง คิดจะเล่นซ่อนแอบเหรอเจ้า Pampam ลุคนี้ก็ดูน่ารักไม่แพ้รูปอื่นๆ เลย เอ๊ะ เจ้า Pampam ไม่ใช่แมวแต่เป็นกระต่ายหรอกเหรอเนี่ย!!? ถ้ามันโตกว่านี้ก็คงจะดูสง่างามกว่านี้อย่างแน่นอนเลยล่ะ ถึงแม้การมีตาสองสีจะมีชื่อเรียกเหมือนเป็นโรคร้ายแรงอะไรสักอย่าง แต่ความจริงคือไม่ได้มีผลเสียอะไรหรอกนะ แถมอาการตาสองสีแบบนี้ ก็ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนได้เช่นกัน ที่มา boredpanda
-
น้องเตี้ยคอร์กี้ชอบเล่นซ่อนหา ซุกซนชอบหลบมุมเวลาจะถ่ายรูป หาเจอกันมั้ยเอ่ย!?
เชื่อว่าหลายคนที่มีอายุหน่อยๆ น่าจะเคยเล่นเกมหนังสือภาพที่ชื่อ “Where’s Waldo?” กันมาก่อนใช่ไหมละ ส่วนถ้าใครไม่เคยก็จะบอกให้ฟังง่ายๆ ว่ามันคือเกมที่ต้องหาตัวละคร Waldo ที่ซ่อนอยู่ในภาพนั่นเอง ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกมากเลยในสมัยก่อน แต่ในวันนี้เราก็ไม่ได้จะมาพูดถึงหรือตามหา Waldo กันหรอกนะ แต่สิ่งที่เราจะมาตามหากันในวันนี้มันคือเจ้าหมา Franklin สุนัขพันธุ์คอร์กี้วัย 8 ปีต่างหาก เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากตอนที่เจ้า Franklin ยังเป็นเพียงลูกสุนัข และมันก็ชอบที่จะออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้านกับ Melissa Looney ผู้เป็นเจ้านาย จนวันหนึ่งมันรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน มันก็เลยเริ่มซ่อนจากสายตาของเจ้านาย บ่อยขึ้นๆ จนติดเป็นนิสัย และนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเกมตามหาคอร์กี้นั่นเอง Melissa พูดถึงสุนัขของเธอว่า “ฉันกับ Franklin พวกเราจะเล่นซ่อนหากันทุกครั้งที่ออกไปเดินเล่น และฉันก็จะถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงแฟนเพจ Where’s Franklin? เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้มาเล่นเกมตามหาเจ้า Franklin ไปด้วยกัน” เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เรามาเริ่มเล่นเกมตามหาเจ้าคอร์กี้แสนซุกซนกันเลยดีกว่า 3..2..1 เริ่ม!! เริ่มที่อันแรกแบบง่ายๆ กันก่อน เริ่มยากขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ หาเจอกันไหม? ส่วนภาพนี้ก็กลืนสุดๆ ทุ่งดอกไม้ภาพนี้น่าจะหาเจ้า Franklin…
-
สุนัขกำพร้าโดนรับไปเลี้ยง แต่สุดท้ายถึงกับงง ทำไมถูกพากลับมาที่เดิมซะได้ เฮ้อออมมมม!?
สำหรับสุนัขจรจัดนั้น การมีคนมารับไปเลี้ยงถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิตของพวกมันเลยก็ว่าได้ เพราะนั่นนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ ในชีวิต บ้านหลังใหม่ ชีวิตอันอบอุ่น…แต่นั่นไม่ใช่กับเจ้า Athena เรื่องมันเริ่มเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเมื่อตอนที่เจ้าหมาตัวนี้ เพิ่งจะถูกช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่แออัดโดย Miami-Dade Animal Services ในรัฐฟลอริด้า และไม่นานนักพวกเขาก็ประกาศหาคนมารับเลี้ยงมันไป การ์ดประวัติส่วนตัวของมัน… แน่นอนว่าก็มีคนใจดีมารับมันไปเลี้ยง เจ้าหน้าที่จึงดีใจมาก ที่สุดท้ายมันก็ได้บ้านสักที แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่ 2-3 สัปดาห์ต่อมาเจ้าของก็พามันกลับมาที่ศูนย์เพื่อทำเรื่องขอส่งคืนมัน พร้อมกับเตียงของมันอีก ส่วนเหตุผลที่พวกเขาขอคืนเจ้า Athena นั้นก็ไม่มีใครทราบ เจ้าหน้าที่บรรยายถึงเหตุการว่า “พวกเขากลับมาพร้อมกับ Athena และขอทำเรื่องคืนมันให้กับศูนย์ แถมเอาเตียงนอนของมันมาให้ที่ศูนย์ด้วย เจ้า Athena ผู้น่าสงสารคงไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่ามันได้ถูกทิ้งและต้องกลับมาอยู่ที่จุดเริ่มต้นมันอีกครั้ง” พวกเขาจำเป็นต้องอัพเรื่องราวของมันลงเพจอีกครั้ง “คนพวกนี้จิตใจเขาทำด้วยอะไรถึงพามันกลับมา ทั้งๆ ที่มันติดพวกเขาจนถึงกับเดินตามกลับไปทั้งๆ ที่โดนทิ้งแล้วแท้ๆ ยังไงก็รบกวนช่วยแชร์โพสต์นี้เพื่อที่ Athena จะได้เจอบ้านที่ดีกว่าเดิม” ล่าสุดเมื่อเรื่องของ Athena ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ไม่นานนักก็มีคนใจดีอาสาที่จะมารับมันไปเลี้ยงแทนแล้ว ถือว่าโชคดีของมันจริงๆ และก็หวังว่ามันจะได้เจอครอบครัวใหม่ที่รักมันจริงๆ สักที จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร แต่ถ้ามองในแง่ดี มันก็โชคดีที่ได้เจ้าของใหม่ ที่จะพร้อมดูแลมันตลอดชีวิต ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่พร้อมและทิ้งๆ ขว้างๆ ละเนอะ??…
-
Balthazar เจ้าหมาใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ส่วนสูง 2 เมตร แต่มีความมุ้งมิ้ง เป็นเพื่อนกับแมวอีก!!
Balthazar คือชื่อของเจ้าหมาแพทเทอร์เดลเทอร์เรีย ที่มีขนาดตัว 2 เมตร (วัดจากความสูงเมื่อยืนเต็มที่) และหนักถึง 95 กิโลกรัม จะเรียกว่ามันคือลูกช้างขนาดย่อมเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว แม้แต่ Vinnie วัย 46 ปี และ Dixie Monte Irvine วัย 39 ปีจากประเทศอังกฤษ สามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของมันยังต้องตกใจเมื่อครั้งล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งสังเกตตอนไปออกทริปเที่ยวกับครอบครัวและลูกๆ อีกสามคน ว่าสุนัขของพวกเขาตัวใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ของคนอื่นนั่นเอง Vinnie ได้เล่าว่า “พวกเราเพิ่งจะสังเกตเห็นเมื่อไม่นานว่าเมื่อก่อนมันเคยตัวเล็กกว่านี้ แต่ตอนนี้ขนาดตัวของมันเรียกว่ามหึมาเลยก็ว่าได้ แถมมันก็ไม่ได้เป็นสุนัขที่อ้วนด้วยนะ สังเกตได้จากการที่ยังสามารถมองเห็นซี่โครงมันได้อยู่” “หลังจากนั้นไม่นานเราก็พามันไปตรวจดูว่ามันมีความผิดปกติอะไรไหม จนเราคาดว่าเราอาจจะต้องเพิ่มน้ำหนักส่วนขาของมันเพื่อรองรับร่างกายขนาดใหญ่ นอกจากนั้นทีมแพทย์ยังอยากจะลองชั่งน้ำหนักมันเพื่อดูว่ามันจะเป็นสุนัขที่หนักที่สุดในโลกด้วยรึเปล่า” แม้ว่าเจ้า Balthazar จะเป็นสุนัขตัวใหญ่ยักษ์ขนาดไหน มันก็เป็นสุนัขที่จิตใจดีมากๆ มันชอบเล่นกับลูกๆ ของ Vinnie บ่อยๆ แถมยังเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าเหมียวอีกสามตัวในบ้านอีกต่างหาก Vinnie ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจาก Balthazar แล้วพวกเรายังมีแมวอีกสามตัวชื่อว่า Magic Buffy และ Leo พวกมันทั้งสามชอบที่นอนจะคลุกอยู่กับเจ้าหมาบ่อยๆ เวลาที่มันนอนในที่นอนของมัน”…
-
ในที่สุดเจ้าเหมียวที่ถูกรังแก ก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งอดีตอันขมขื่นไว้เป็นเบื้องหลัง!!
ชีวิตของเจ้าเหมียวจรจัดขนฟูต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อมันได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาวใจดี ที่มาพร้อมกับอาหารในมือ เชิญพบกับเจ้า Brian แมวจรจัดผู้มีปูมหลังอันน่าสงสาร Brian คือแมวจรจัดที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้จนต้องเดินร่อนเร่ไปบนถนนในประเทศกาตาร์ เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดไปวันๆ Happy Homes Animal Rescue หน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้า Brian ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “เคยมีคนเจอมันกำลังซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ เพื่อหลบการถูกรังแกจากแมวตัวอื่นๆ และดูเหมือนมันจะถูกทิ้งนานพอที่ขนของมันเป็นตังเมขนาดนี้” ด้วยเหตุนี้คู่รักพลเมืองดีจึงเริ่มคิดหาทางที่จะช่วยมัน เริ่มด้วยการให้อาหารกับมันก่อน จากนั้น Yolanda ผู้ทำงานช่วยเหลือสัตว์ และเป็นเจ้าของมูลนิธิ EvenStar Charitable Organization ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากขนที่จับกันเป็นก้อนของเจ้า Brian ทำให้ Yolanda จำเป็นจะต้องที่ตัดขนของมันออกทั้งหมด เพื่อให้ขนของมันงอกกลับมาใหม่และสวยดังเดิม จากนั้นเธอก็ได้ติดต่อกับ Happy Homes Animal Rescue ในรัฐนิวเจอร์ซี่ เพื่อให้พวกเขาช่วยหาเจ้าของใหม่ให้มันหน่อย ในระหว่างที่รอประกาศหาคนมารับเลี้ยง ชีวิตการเป็นอยู่ของเจ้า Brian ก็ดูจะดีขึ้นตามลำดับ นับตั้งแต่ที่มันถูกโกนขน มันก็รู้สึกเหมือนตัวเบาหวิวเหมือนได้เกิดใหม่เลยล่ะ ชีวิตการเป็นอยู่ที่ศูนย์ EvenStar ของมันเรียกว่าสบายกว่าตอนอยู่ตามท้องถนนมากๆ มีอาหารให้กินตลอดทั้งวัน มีผ้าอุ่นๆ ให้นอน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดก็เพื่อที่ตัวมันจะได้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
-
ผู้คนต่างพากันร่ำไห้ ภาพแม่สุนัขที่ต้องสูญเสียลูกไป 3 ตัว และเยียวยาความรู้สึกด้วยตุ๊กตา
Xavier Hernandez หนุ่มวัย 18 ปี ผู้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์ xXx ได้แชร์ภาพและเรื่องราวสุนัขของเขาให้แก่ชาวเน็ตได้อ่านกัน แถมเรื่องที่ว่ายังเศร้าจนทุกคนต่างพากันแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายกับเรื่องราวนี้ Twinkle คือชื่อของสุนัขที่เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด โดยมันและ Xavier อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Xavier ได้เล่าผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed ว่าวันหนึ่งเขาได้รู้ว่าสุนัขของเขากำลังตั้งท้องและคลอดออกมาเป็นลูกสุนัข 3 ตัวด้วยกัน แต่หลังจากพวกมันคลอดได้ไม่นานลูกสุนัขทั้งสามก็ต้องตายจากไป ทิ้งไว้แต่ความเศร้าศร้อยให้กับเจ้า Twinkle ด้วยเหตุนี้แม่ของ Xavier ก็เลยนำตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ 3 ตัวมาให้กับมัน เพื่ออยู่เป็นเพื่อนและช่วยเยียวยาความเศร้า หลังจากนั้นมันก็ไม่ปล่อยตุ๊กตาอีกเลย แถมไม่ยอมให้ใครแตะต้องตุ๊กตาของมันอีกด้วย และมันก็ยังดูแลเหล่าตุ๊กตาดีมากๆ เหมือนมันกำลังดูแลลูกของตัวเองเลย ลองมาดูความรู้สึกและเสียงตอบรับของชาวเน็ตกันบ้างดีกว่า ว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องของเจ้า Twinkle? สำหรับชาวเน็ตคนนี้แสดงความรู้สึกด้วยภาพ ที่ดูก็รู้ว่าเศร้าแค่ไหน รวมถึงคนนี้ก็เช่นกัน นี่สินะที่เรียกว่าภาพสามารถแทนคำพูดได้มากมาย ส่วนชาวเน็ตสองคนนี้ก็แสดงความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวของมันแทบจะทำให้ความรู้สึกของพวกเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ หรือจะเป็นเธอคนนี้ที่ถึงกับตั้งคำถามว่า ทำไมเรื่องร้ายๆ มักเกิดกับสุนัขดีๆ เสมอ …
-
หลังจากต้องแยกจากเจ้าของเกือบปี ในที่สุดเจ้าเหมียวตาบอด ก็ได้กลับมาอยู่กับเจ้าของอีกครั้ง
ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณเกิดมาพิการ หรืออยู่ดีๆ ก็เป็นอัมพาต พวกคุณจะยังรักมันอยู่ไหม? Leto เจ้าเหมียวสายพันธุ์ Sphynx (แมวไร้ขน) มันคือลูกแมวที่ตาบอดตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แถมยังพิการอีกต่างหาก เรียกง่ายๆ ว่ามันไม่สมประกอบเลยสักอย่าง แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนลูกอยู่ดี Loren ผู้เป็นเจ้าของมันได้อธิบายถึงแมวของเขาว่า “สิ่งหนึ่งเลยที่มันไม่ชอบก็คือการถูกอุ้ม แต่ว่ามันกลับชอบที่จะนอนอยู่บนไหล่ และมันจะร้องออกมาทันทีถ้าไปจับขาของมัน” ทั้งคู่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจนแทบจะห่างกันไม่ได้เลย และทั้งคู่ก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันเสมอๆ แต่แล้ววันหนึ่ง Loren จะต้องห่างจากเจ้าเหมียวของเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ Loren เล่าว่า “ในเดือนพฤษภาคมของปี 2016 ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางพันธุกรรมที่หายากเรียกว่า Fanconi anemia ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการปลูกถ่ายกระดูกสันหลัง และโรคนี้ส่วนใหญ่จะพบแต่ในเด็กเท่านั้น มันก็เลยทำให้ผมต้องเดินทางไปที่นิวยอร์กเพื่อพบกับแพทย์เฉพาะทาง” ด้วยเหตุนี้อดีตรูมเมทของ Loren จึงยินดีที่จะรับเลี้ยงดูเจ้าเหมียวของเขาในช่วงที่เขาเดินทางไปนิวยอร์ก นั่นเลยทำให้ Leto ต้องอยู่กับอดีตรูมเมทเจ้าของมัน และแมวของเขาอีกตัวหนึ่ง Juno Juno เป็นแมวเงียบๆ ไม่ค่อยชอบเล่นซุกซนอะไรเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น Leto ก็พยายามที่จะเล่นกับมันตลอดเวลา และดูเหมือนทั้งคู่จะเข้ากันไม่ได้ดีเท่าที่ควร เลยทำให้เจ้า Leto จะต้องเปลี่ยนมือไปอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ ของ Loren…
-
รวม 18 ภาพเจ้าเหมียวโดนมนุษย์พาไปตัดขน จากสีหน้าแล้ว เหมือนเตรียมล้างแค้นแน่ๆ!!
เมืองไทยก็เข้าสู่หน้าร้อนแล้ว และเราต่างก็รู้ดีว่าประเทศเราเนี่ยมันร้อนรุนแรงสักแค่ไหน บางคนก็เริ่มเอาหมาแมวของตัวเองที่มีขนยาวไปตัดขน หวังว่ามันจะสบายตัวขึ้น ครั้นจะตัดขนธรรมดาก็อาจจะไม่เท่ ก็เลยต้องเพิ่มลวดลายหรือความหวือหวาเขาไป แต่บางครั้งพวกมันก็ดูจะรักขนของตัวเองซะเหลือเกิน พอโดนตัดไปก็ทำหน้ายังกับโกรธแค้นมาแต่ชาติปางไหนงั้นแหละ มันจะฮา หรือน่าสงสารแค่ไหนนั่น..มาดูกันเลย เฮ้ย!! นี่พวกแกทำอะไรลงไปกัน ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้ามนุษย์ ตูเป็นแมวตัวผู้นะเว้ย พวกแกเห็นตูเป็นของเล่นเหรอ ห๊ะ!! ข้าจะต้องหาตัวการให้ได้ ว่าใครเป็นคนทำ!! สีหน้าเจ้าเหมียวดูเซงสุดๆ เลยนะเนี่ย ช่างน่าสงสัยว่าเจ้าของคิดอะไรกันอยู่นะ h3 ส่วนเจ้าตัวนี้หนักกว่าตัวข้างบนอีก ถ้าพี่ออกไปได้เมื่อไหร่นะ รู้เรื่อง!! บอกมาว่า เจ้ามนุษย์มันอยู่ที่ไหน มองหน้าพี่หาเรื่องเหรอ? ใคร ใครจับก้น!! แกใช่ไหมที่ทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้!! หน้าเจ้ามนุษย์ดูจะมีความสุขมากๆ เมื่อเทียบกับเจ้าเหมียวที่ยังอึ้งกับสิ่งที่เกิดกับมัน หน้ามันยังดูไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนะเนี่ย ทรงใหม่ฉลองคริสต์มาส น่าจะงี้ป่าว เอาจริงๆ ทรงนี้มันหล่อมากเลยนะเนี่ย แม้จะไม่โดนตัดขนเหมือนตัวอื่นๆ…
-
ตะมุตะมิสุดๆ “กระเป๋าสะพายเพ้นท์ลายสัตว์” ราวกับว่าพกพาสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ไปด้วยทุกที่!!
สาวๆ ท่านใดที่กำลังมองหากระเป๋าสวยๆ อยู่ล่ะก็คุณมาถูกทางแล้ว เพราะกระเป๋าที่เราจะนำเสนอในวันนี้ช่างเหมาะกับสาวที่ชื่นชอบการมีสัตว์เลี้ยงซะเหลือเกิน ด้วยความน่ารักและการออกแบบที่สวยงาม เชื่อได้เลยว่าทุกคนต้องอยากได้มันใช้ซักใบอย่างแน่นอน กระเป๋าสะพายที่เพ้นท์ลายสัตว์ต่างๆ เข้าไปอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นหมูน้อย สุนัข แรคคูน ก็ดูน่ารักไปซะหมด จะน่ารักน่าชังขนาดไหนไปดูกัน “Cat with moustache” เป็นแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักออกแบบสาวที่คลั่งใคล้สัตว์โลกน่ารักที่ใช้ชื่ออินสตาแกรมว่า kotzwasem เธอจบการศึกษาจากคณะภาษาศาสตร์และได้ทำเป็นมัณฑนากรอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง เธอได้มีแรงบันดาลใจจากความฝันในวัยเด็กที่ว่าอยากจะทำงานร่วมกับสัตว์ต่างๆ อย่างกับในการ์ตูน เธอตัดสินใจซื้อจักรเย็บผ้าและได้ความช่วยเหลือจากแม่ของเธอในการตัดเย็บ จึงเกิดเป็นกระเป๋าสะพายเพ้นท์ลายสัตว์ต่างๆ สุดน่ารัก ที่เธอทุ่มเททำเป็นอย่างมาก เธอเริ่มต้นผจญภัยกับธุรกิจของตัวเองและยึดมั่นในความฝันในวันเด็กของเธอที่จะได้ทำงานร่วมกับสรรพสัตว์ที่เธอรัก เธอทำงานกับสัตว์เหล่านี้แม้สัตว์เหล่านี้จะมาจากในจิตนาการของเธอก็ตาม คราวนี้คุณก็จะมีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักไปกับคุณทุกๆ ที่ . . เพนกวินก็มีนะ แม้แต่เจ้าบลูด๊อกก็สามารถพกไปไหนต่อไหนได้ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากที่เธอใช้ความชื่นชอบในสัตว์น่ารักต่างๆ มาเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยความใส่ใจและทุ่มเท เธอไม่ได้สร้างสรรค์แค่กระเป๋าเท่านั้นนะ เธอยังมีงานศิลปะต่างๆ อีกมากมายที่เพ้นท์รูปสัตว์ต่างๆ ลงไป ซึ่งมันน่ารักสุดๆ และคุณก็สามารถที่จะตามเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรมของสาวคนนี้ได้เลย kotzwasem ที่มา kotzwasem, boredpanda
-
Error ไม่พบสมอง!! รวมความติงต๊องของเหล่าสัตว์โลก แต่ก็คือเสน่ห์แห่งความน่ารัก
เหล่าสัตว์เลี้ยงนอกจากช่วงเวลาปกติที่มันจะน่ารักอยู่แล้ว บางครั้งพวกมันก็จะมีโมเมนต์เปิ่นๆ พังๆ เหมือนเอาสมองไปโยนไว้ไหนไม่รู้เหมือนกันในบางครั้ง แถมเวลาที่พวกมันทำแบบนั้นมันน่ารักจนอดขำไม่ได้เลยล่ะ วันนี้เราเลยจะมาดูภาพของเหล่าสัตว์ที่สมองเออเร่อชั่วคราวมาให้ดูกัน รับรองว่ามันจะทำให้พวกคุณกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว เอาล่ะ อย่ามัวเสียเวลากันเลย เราไปดูกันดีกว่า โดนล้างสมองจนคิดว่าเป็นพวกเดียวกันไปซะแล้ว Error 404 brain not found!! เมื่อเจ้าเหมียวสมองเออเร่อ ลืมว่าตัวเองเป็นแมว ไรอะ?!! ใคร!! ใครอยู่ตรงนั้น !! 3..2..1 จ๊ากกกกก สงสัยระบบการคำนวนจะเออเร่อ ถึงได้โดดพลาด อันนี้ดูจะ Get High มากกว่าสมองเออเร่อนะเนี่ย เจ้านายเกาพุงให้หนูหน่อย..เดี๋ยว เฮ้ย ใครดึง ใคร!! จะออกตัวแล้วนะ 3 2 1 แอ๊ก..เหนื่อย แล้วอะ กระดู๊กกกก ลาภปากล่ะ…เดี๋ยวนะ ทำไมมันไม่มีล่ะ ก็เห็นอยู่ตรงหน้าแท้ๆ กระโดดๆ ฮึบๆ…
-
“ริวจิ” เจ้าหมาชิบะอินุ ที่แสดงสีหน้าได้หลากหลาย ราวกับเป็นมนุษย์แต่งชุดหมางั้นแหละ
สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ เป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น แรกเริ่มเดิมทีมันก็จัดอยู่ในสายพันธุ์ที่น่ารักอยู่แล้ว แต่ทว่าเมื่อตอนปี 2013 ได้มีมชิบะออกมาทำให้ความนิยมของสุนัขพันธุ์นี้กลับเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก ริวจิ เจ้าสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ก็เป็นหนึ่งในชิบะที่โด่งดังไม่แพ้ชิบะในมีมเช่นกัน โดยมันมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากถึง 148,000 คนเลยทีเดียว นี่คือมีมน่ารักๆ ของชิบะที่โด่งดังทั่วโลกออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้มันดังเป็นพลุแตกก็คงจะหนีไม่พ้นความน่ารักของมัน ทั้งขนฟูและผ้าพันคอที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ที่จะทำให้มันโดดเด่นกว่าชิบะตัวอื่นๆ ก็คงจะเป็นความสามารถในการแสดงสีหน้าของมัน ที่หลากหลายอารมณ์ราวกับมันเป็นมนุษย์เลยทีเดียว พูดแล้วก็คงจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่ามาลองดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า เริ่มต้นด้วยใบหน้าธรรมดากันก่อน ซึ่งแค่นี้ก็น่ารักสุดๆ แล้วใช่ไหมล่ะ ลองดูหน้านี้หน่อยเป็นไง มียิ้มมุมปากซะด้วย ตอนหาวก็ยังน่ารักเลยนะเนี่ย ขยิบตาให้สาวๆ ได้ด้วยนะ หรือจะเป็นหน้าเซงๆ กับการที่ถูกเจ้ามนุษย์จับหัวอยู่ก็มีนะ ยืดเส้นยืดสายกันสักหน่อย ฮึบๆ สงสัยจะเห็นอะไรน่ากินเข้า ดูสิเลียปาก แพร่บๆ เลย แบร่ๆ แลบลิ้นปริ้นตาก็ได้นะ ยิ้มกระฉากใจสาวๆ ถ่ายภาพมุมตรงกับยิ้มสวยๆ ดูมันจะชอบแลบลิ้นนะเนี่ย …
-
รวมมิตร 20 ภาพโมเมนต์สุดป่วน ของเจ้า “เม่นแคระ” ซึ่งทำให้เรารู้ว่ามันน่ารักมากเพียงใด…
เม่นแคระ สัตว์เลี้ยงสุดแปลกที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความที่น่ารักตัวเล็กกับหนามที่ไม่แหลมจนเกินไป แถมยังดูอ้วนกลมดูดุ๊กดิ๊กสุดๆ ของมันจึงไม่แปลกเลยที่มันจะได้ความนิยม วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยจะขอเอาใจสาวกเม่นแคระกันสักหน่อย กับการรวม 20 ภาพความน่ารักของพวกมันจากทั่วทุกมุมโลก รับรองว่าใครที่ไม่เคยเลี้ยง พอเห็นรูปพวกนี้แล้วจะต้องตกหลุมรักจนอยากจะหามาเลี้ยงสักตัวแน่นอน …ฉะนั้น อย่ารอช้า ไปดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า เปิดตัวกันแบบธรรมดากันก่อน…ไงล่ะ น่ารักไหม ตามมาด้วยท่าทางต่างๆ ของมันกันบ้าง บินไปเลย ฟิ้ววว เม่นมัน…มันเม่น งงอะดิ๊ พอมองมุมเสยนี่มองไม่ออกเลยว่าคือเจ้าเม่นแคระ ตอนหลับก็ดูน่ารักดีนะเนี่ย อากาศหนาวก็ไม่ต้องกลัว เพราะพี่ตัวอ้วนและอบอุ่นสุดๆ ขยิบตาให้สักที เผื่อดูแล้วจะหลงรัก อิอิ เห็นหน้าแค่มุมสามเหลี่ยมเล็กๆ ยังบังความน่ารักของมันไม่มิดเลย ท่าถ่ายภาพมาตรฐาน ชูสองนิ้ว เย้!! เกือบจะสไตรค์แล้วไหมล่ะ เม่นแคระนั่งสมาธิ แต่ทำไมยิ้มหวานแบบนั่นละ ท่องเที่ยวไปทุกที่สบายๆ แค่นั่งอยู่บนฝ่ามือ อ๊ะ…
-
เจ้าหมาเสียขาหน้าไปเพราะอุบัติเหตุ คุณพ่อเลยสร้างงานศิลป์บนภาพถ่าย วาดขาให้อีกครั้ง!!
Charley Desrochers ชายหนุ่มผู้ได้รับความกระทบกระเทือนต่อสมอง จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาและแฟนสาวตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงลูกหมาสักตัว นั่นจึงทำให้ทั้งคู่ได้เจอกับเจ้า Bradley Bradley เป็นหมาจรจัดที่ถูกช่วยไว้ หลังจากที่มันถูกรถชนในช่วงที่มันยังใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ตอนที่เจอมันขาของมันกลายเป็นอัมพาตไปเสียแล้ว และด้วยตอนที่มันถูกชนมันถูกรถลากไปด้วยทำให้กระดูกของมันเริ่มเสื่อมสภาพลงจนต้องตัดขาหน้าไปข้างหนึ่ง Charley บอกว่า “ตอนแรกที่พวกเราเจอกับ Bradley มันพยายามที่จะเดินด้วยขาข้างที่เป็นอัมพาต และด้วยความเสียหายที่ได้รับทำให้มันไม่สามารถที่จะใช้งานขาข้างนั้นได้อีกเลย มันจึงทำให้พวกเรารู้ดีว่า เราควรจะทำการผ่าตัดขาให้แก่มันซะ” เพราะว่ามันใช้ชีวิตกับขาที่อัมพาตมาตลอด มันจึงใช้เวลาไม่นานนักในการทำควมเคยชินกับการมีขาแค่ 3 ข้าง แต่มันต้องใช้เวลาสักพักกับการปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ของมัน แต่ปรับตัวแค่ไม่นานนักมันก็กลายเป็นหมาที่มีความสุขและน่ารักมากที่สุดตั้งแต่ครอบครัวของมันเคยเจอเลยล่ะ “ความน่ารักของ Bradley ก็คือความหนักแน่นที่มันมี มันเป็นหมาที่น่ารักและฉลาด มันรู้ว่าวันไหนที่พวกเราต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ มันจะเข้ามากอดกับพวกเราเสมอ เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวของมัน” หลังจากนั้นไม่นานพวกเรารู้สึกว่าอยากจะแชร์ความน่ารักของมันให้กับคนอื่นๆ ดู พวกเราก็เลยตัดสินใจที่จะวาดรูปขาที่ 4 เป็นภาพการ์ตูนตลกๆ ให้กับมัน “Marianne และผมมักจะมีมุขตลกๆ กับเจ้า Bradley เสมอพวกเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำอะไรกับความน่ารักและมุขตลกพวกนี้ดู เราเลยเริ่มวาดแขนมิกกี้เมาส์ตรงบริเวณขาที่หายไปของมัน ส่วนสาเหตุที่จะต้องเป็นมิกกี้เมาส์เพราะว่า มันชอบที่จะทำเสียงคล้ายๆ กับมิกกี้เมาส์บ่อยๆ นั่นเอง” …
-
ชายหนุ่มยอมมุดถ้ำแคบๆ ชื้นแฉะ เพียงต้องการช่วย “ลูกสุนัขจรจัด” ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสุนัข Hope for Paws เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการตามหาและช่วยสุนัขจรจัด แม้ว่าสุนัขทุกตัวไม่ใช่ว่าจะยอมให้ช่วยเหลือง่ายๆ แต่เขาก็มักจะมีวิธีเด็ดๆ ในการช่วยพวกมันเสมอ มีอยู่วันหนึ่ง Eldad และคณะ ได้ไปเจอเข้ากับสุนัขจรจัดเพศเมีย 3 ตัว และพยายามจะช่วยเหลือพวกมัน แต่ด้วยความที่พวกมันหวาดกลัวผู้คน มันจึงไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว แต่โชคดีหน่อยตรงบริเวณที่พวกมันอยู่ จะมีหญิงสาวสองคนที่ทำงานแถวนั้น ซึ่งคอยให้อาหารพวกมันมาตลอด 2 ปี และพวกเธอก็เป็นตัวเชื่อมให้ทีมงานของเขาช่วยพวกมันได้ Hagar เล่าถึงความยากในการช่วยเหลือพวกมันว่า “ถ้าคุณเข้าไปใกล้พวกมันเมื่อไหร่ พวกมันก็จะวิ่งข้ามทางรถไฟและหายไปทันที” แต่แล้ววันหนึ่งพวกเธอก็ส่งข่าวบอกพวกเขาว่า สุนัขตัวหนึ่งได้คลอดลูกจำนวนหนึ่ง<ตัวเมียได้คลอดลูกครอกใหม่ และหนีไปซ่อนตัวอยู่บริเวณถ้ำเล็กๆ ใกล้กับจุดที่มันอยู่ในตอนแรก ซึ่งหญิงสาวได้นั่งเฝ้าและคอยสังเกตุถึงจำนวนของลูกสุนัขที่คลอดออกมานานกว่า 6 ชั่วโมง จนได้รู้ว่ามีลูกหมาอยู่ทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน จากนั้นไม่นานนัก Eldad และคณะก็ได้เดินทางมาถึง เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือลูกสุนัขและแม่ของมันจากถ้ำแห่งนั้น เพื่อให้ได้ไปอยู่ในที่ๆ ดีกว่า หลังจากที่เขาเจอเข้ากับลูกหมาพร้อมกับสังเกตสีและรูปร่างของพวกมัน เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันน่าจะเป็นลูกของสุนัขจรจัดตัวผู้ที่ชื่อว่า Tank ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่แถวนั้นเช่นกัน ซึ่งตัวนี้พวกเขาก็ได้ช่วยเหลือมันไปเมื่อหลายเดือนก่อน เขาหลอกล่อพวกมันด้วยของกิน ด้วยความที่ลูกสุนัขยังพึ่งเกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ พวกมันจึงยังไม่มีความกลัวกับมนุษย์มากนัก แต่มันก็ระมัดระวังตัวพอสมควรเลยทีเดียว ในตอนที่เขานำอาหารไปให้พวกมัน จากนั่นไม่นาน เขาก็จับตัวลูกหมาตัวแรกได้เรียบร้อย…
-
กอดเซ็ปชั่น!? ก็ ‘แมวน้อยมันน่ารัก’ แมวโตโผเข้ากอดแบบชนิดที่ว่าอย่ามาแย่งกอดจะได้มั้ย
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ นอกจากจะไม่ค่อยสนใจเจ้าทาสแล้วยังมีนิสัยขี้อิจฉาซะด้วยแหนะ ฮร่าาา ก็ว่าไปนั่น ความจริงก็คือมันเป็นสัตว์ที่น่ารักนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเด็กเนี่ย น่าทะนุถนอมเหมือนดั่งก้อนปุยฝ้ายเลย ตามปกติแล้วมนุษย์เห็น ‘แมวน้อย’ ปุ๊บก็รู้สึกเอ็นดู ต้านทานความน่ารักไม่ไหว ไม่วายก็อุ้มขึ้นมากอด แม้แต่แมวที่โตแล้วก็ยังทนความน่ารักไม่ไหวเลย อยากจะเข้ามากอดน้องตัวน้อยด้วย กลายมาเป็น ‘กอดเซ็ปชั่น’ . เป็นภาพความน่ารักที่เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ @tkmt0629 ที่เขากำลังกอดและอุ้มเจ้าเหมียวโตอยู่พร้อมกับซ้อนกอดน้องเหมียวน้อยสีขาวขนปุยอีกชั้นหนึ่ง ยกขโยงความน่ารักมากันเป็นขบวนเลยนะ ก็ยังดีหน่อยที่ว่าพี่คนโตเอ็นดูน้อง ไม่ตีน้อง ก็ดีแค่ไหนแล้ว เอ๊ะ!! หรือว่าจะเป็นแผนเรียกร้องความสนใจกันแน่นะ? ที่มา : @tkmt0629, rocketnews24
-
ชายหนุ่มเสี่ยงชีวิต ไปช่วยหมาที่ลอยตุ๊บป่องในทะเลสาบ จนเกิดเป็นมิตรภาพสุดประทับใจ…
การเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าเจ้าตูบพวกนี้มันก็เหมือนการมีลูกคนหนึ่ง พวกมันไม่ค่อยจะเชื่อฟังอะไรเท่าไหร่หรอก บางทีก็วิ่งไปอยู่กลางถนนเพียงเพราะต้องการจะวิ่งตามลูกบอลก็มี มันเลยยากที่จะทำให้พวกมันปลอดภัยตลอดเวลา Lisa DeLong หญิงสาวชาวแคนาดาคนหนึ่งก็ประสบปัญหานั่นเช่นกัน เมื่อเธอกำลังไปเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบในนครแฮลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา ไม่รู้มันคิดอะไร อยู่ดีๆ เจ้าตูบของเธอ Nellie ก็วิ่งพรวดพราดออกไปว่ายไปอยู่กลางทะเลสาบซะงั้น แถมพอว่ายออกไปไกลกว่าที่ตัวเองจะกลับไหว ก็ทำท่าว่าจะจมอีกด้วย เธอตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินผ่านมา ชายคนนั้นสังเกตุเห็นเจ้าตูบและสีหน้าของ Lisa เขารู้ได้ทันทีว่าต้องไปช่วยเจ้าหมาของเธอ แม้เธอจะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม เขาบอกกับเธอว่าไม่ต้องห่วง เขาจะช่วยมันเอง จากนั้นเขาก็ว่ายน้ำออกไปเพื่อช่วยพาเจ้าตูบกลับเข้าฝั่งอีกครั้ง เขาต้องว่ายออกไปไกลราวๆ 300 เมตรเลยทีเดียวเพื่อพามันกลับมา โฉมหน้าของเจ้า Nellie ต้นเหตุของเรื่อง แต่แล้วเมื่อเขาไปถึงตัวเจ้าตูบ เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเจ้าตูบคาบลูกบอลไว้ไม่ปล่อยเลย และมันก็ดูจะภูมิใจมากๆ ที่เก็บลูกบอลกลางน้ำนี่ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่ฝั่ง Lisa ขอบคุณชายแปลกหน้ายกใหญ่ที่ช่วยสุนัขของเธอ หลังจากพูดคุยกันได้สักพักเธอก็รู้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้มีชื่อว่า Adam Parker ก่อนจากเขาได้จูบกับเจ้า Nellie เพื่อเป็นการบอกลา และได้ถ่ายรูปกับ Lisa เป็นที่ระลึก ถ่ายรูปก่อนจากสักหน่อย แต่ดูทั้งสองจะลืม Nellie เรียบร้อย ส่วนเจ้า Nellie…
-
อีนกเซ่ออออ… “เจ้านกฮูก” โชคร้าย บินไปติดระหว่างตู้คอนเทนเนอร์กับรถบรรทุก ห๊ะ!?
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2017 เมื่อ Will Sword และ Tyler Buckley กำลังขับรถบรรทุก เพื่อที่จะกลับไปบ้านของพวกเขาที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นบริเวณหลังรถ พวกเขาคิดว่าคงขี่ไปชนกับกิ่งไม้เข้าแน่ๆ!! แต่พอ Tyler ลงเช็คดูมันกลับไม่เป็นแบบนั้น เขากลับพบนกฮูกตัวหนึ่งติดอยู่ตรงกลางระหว่างตู้คอนเทนเนอร์กับตัวรถพอดี ที่สำคัญมันยังคงมีชีวิตอยู่อีกต่างหาก ส่วนสภาพมันก็… อย่างที่เห็นนี่แหละ หลังจากนั้น Will จึงโทรแจ้งตำรวจท้องที่ และได้รับการประสานงานไปยัง Jane Kelly ผู้ดำเนินงานของศูนย์ศึกษานก On the Wing เพื่อแนะนำการช่วยเหลือแก่เขา เธอได้แนะนำให้เขาทั้งสองคนสวมถุงมือหนาๆ เสียก่อนที่จะจับตัวนกออกมา เพื่อกันกรงเล็บของนกที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ในขณะที่เอามันออกจากตรงนั้น และเมื่อสำเร็จให้ทั้งคู่นำมันใส่กล่องไว้พร้อมกับพันด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ Chris McKee เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ผู้มารับนกในวันรุ่งขึ้นไปส่งต่อให้กับ Jane ได้บอกว่า “มันถือว่าเป็นปาฏิหารย์เลยนะที่มันยังรอดมาได้หลังจากชนกับรถเข้าขนาดนั้น” พร้อมกับบอกว่าสาเหตุที่มันชนเข้ากับรถน่าจะมาจากที่มันกำลังพยามล่าหนูอยู่ใกล้ๆ กับทางหลวง มันก็เลยชนเข้ากับรถของพวกเขาเต็มๆ นั่นเอง Jane ได้พาเจ้านกฮูกตัวดังกล่าวส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสัตว์ในเมือง Brentwood เพื่อตรวจสภาพร่างกายของมันให้แน่ชัดว่ามันปลอดภัยดี ผลที่ออกมาก็ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีกระดูกชิ้นไหนที่เสียหายหรือหักแต่อย่างใด…
-
พาไปทัวร์ CatZonia โรงแรมแมวระดับห้าดาว พร้อมบริการหรูหรา ไม่แพ้ของมนุษย์เลยล่ะ!!
เคยไหมที่เราต้องออกไปต่างจังหวัด แล้วเรารู้สึกเป็นห่วงไม่อยากจะทิ้งเพื่อนขนฟูของเราไว้ที่บ้าน กลัวว่ามันจะมีอะไรกินไหม จะอยู่สบายหรือเปล่า!? นั่นทำให้เกิดบริการที่เรียกว่า โรงแรมแมว เกิดขึ้นมากมาย ในประเทศไทยเองก็มีอยู่หลายที่ ทั้งกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด แต่คราวนี้เราจะพาไปส่องโรงแรมแมวที่กำลังดังในประเทศเพื่อนบ้านกันครับ โรงแรม CatZonia ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย แถมไม่ใช่โรงแรมบ้านๆ เพราะมันหรูขนาดได้เป็นโรงแรมแมว 5 ดาวเลยทีเดียวล่ะ ส่วนเหตุผลของการได้ 5 ดาวของโรงแรมนี้ก็ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ สะอาด และดูหรูหราสะดวกสบายสำหรับเจ้าเหมียวอย่างเดียวหรอกนะ เพราะที่นี่ยังมีบริการดูแลมันมากมายทั้งตัดขน ตัดเล็บ อาบน้ำ สปา รวมถึงบริหารหาคู่ให้เจ้าเหมียวก็ยังมี ส่วนห้องพักของเจ้าเหมียวก็จะมีหลากหลายระดับด้วยกันทั้งแบบประหยัด แบบสะดวกสบายหรือจะเป็นแบบ VIC ที่สามารถรองรับเจ้าเหมียวได้ถึง 7 ตัว และแบบ VVIC ที่สามารถรองรับเจ้าเหมียวได้มากถึง 10 ตัวในห้องเดียวกัน แถมมีที่นอนแบบคิงไซส์ขนาดใหญ่ถึง 3 อันด้วยกัน พร้อมกับบริการสุดพิเศษมากมาย ทั้งห้องน้ำแยกส่วนตัว ลานวิ่งเล่นพิเศษและอื่นๆ อีกเพียบ ส่วนเรื่องความปลดภัยภายในห้องเจ้าเหมียวก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะทางโรงแรมมีกล้องวงจรปิด ไว้ตรวจสอบความเรียบร้อยเจ้าเหมียวของคุณตลอด 24 ชั่วโมง รับรองเลยว่าปลอดภัยหายห่วง …
-
ชาวเน็ตช่วยกันแชร์ภาพสุดฮา ถ้าเลี้ยงหมามากกว่า 1 ตัว ชีวิตจะ “วุ่นวาย+น่ารัก” แค่ไหน…
ปกติแล้วเรามักจะเลี้ยงแมว หมา หรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตามกันตัวเดียว บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเรากลัวพวกมันจะเหงา ไม่มีเพื่อนเล่นเวลาที่เราไม่อยู่ เราก็เลยหาเพื่อนให้มัน หรือไม่บางคนก็อยากจะเลี้ยงเยอะๆ สัก 3-4 ตัว เพราะมันดูอบอุ่นดี เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ชาวเน็ตทั้งหลาย ร่วมกันส่งภาพของเจ้าตูบในบ้านของตัวเอง โดยจะต้องเป็นบ้านที่เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว งานนี้มาดูกันว่าจะมีภาพน่ารักแค่ไหนให้เราได้ชมบ้าง… เปิดด้วยเจ้าตูบแบบเรียงไซส์กันมาเลย มองผ่านๆ นึกว่าตัดต่อนะเนี่ย เจ้าตูบกับครอบครัวใหญ่ของพวกมัน ยัดกันมาเต็มคันรถ? ครบไซส์ ตัวใหญ่ก็กลายเป็นหมอนให้ตัวเล็กไป ยึดโซฟากันเต็มพื้นที่เลยนะ ไม่กะแบ่งเจ้าของเลยทีเดียว จะเข้าครัวมาทำอาหาร ก็มีผู้ช่วยตามมาเพียบ เดินชายหาดคนเดียวไม่ต้องกลัวอัตราย บอดี้การ์ดเพียบ งานแต่งของเจ้าตูบ พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ละตัว โพสท่าสวยงามดุจดั่งรู้ว่าจะต้องถ่ายรูป และเมื่อเราต้องพามันไปเดินเล่นพร้อมกัน ปัญหาการแย่งนำทางก็จะเกิดขึ้น ไปออกทริปถ่ายรูปคนเดียวได้ไม่เหงา เพราะมีเจ้าตูบตามไปเป็นเพื่อน คุณชายทั้งสาม เช่นเดียวกับการออกทริปถ่ายรูป ทริปปีนเขาพวกมันก็ไปเป็นเพื่อนได้สบายๆ แวะปลดทุกข์?ข้างทางสักหน่อย…
-
สิ่งมีชีวิตน่ารักสุดในสัปดาห์ “เต่าแฝด” ที่ออกจากไข่ใบเดียวกัน ทำให้ชาวเน็ตคลั่งไคล้
เต่า โดยปกติก็เป็นสัตว์ที่ดูน่ารักต้วมเตี้ยมกันอยู่แล้ว ยิ่งพอเป็นลูกเต่ามันยิ่งดูดุกดิ๊กเข้าไปใหญ่ใช่ไหม แล้วถ้าเป็นลูกเต่าแฝดล่ะ ความน่ารักก็ทวีคูณเลยละสิเนี่ย Chris Leone ผู้ก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์พันธุ์เต่า Garden State Tortoise LLC เขากำลังรอให้ไข่เต่าที่เขากำลังเพาะเลี้ยงฟักออกมาเป็นตัว และเมื่อถึงเวลานั้นเหล่าเต่าน้อยก็พากันทยอยออกมาจากไข่ทีละตัว แต่ทว่ากลับมีไข่อยู่หนึ่งฟองที่ดูจะมีปัญหาในการฟักตัวออกมามากกว่าใครเพื่อน เขาจึงตรวจสอบดูว่าเจ้าไข่ใบนั้นมันมีปัญหาอะไรกันแน่ แต่เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเต่าที่อยู่ในภายในไข่ ไม่ได้มีตัวเดียว แต่ว่ามันมีถึงสอง!! ใช่แล้วมันคือเต่าแฝดนั่นเอง ในตอนแรกเต่าทั้งคู่ยังมีร่างกายที่เชื่อมกันอยู่ Chris ก็เลยกะว่าจะช่วยพวกมันนิดหน่อย โดยเขานำไหมขัดฟันมารัดตรงส่วนที่ผูกทั้งคู่ไว้ด้วยกัน และกะจะปล่อยให้พวกมันแยกออกจากกันเองหลังจากที่มันซึมซับไข่แดงจนหมดแล้ว Chris ได้เขียนกำกับไว้ในวีดีโอของเขาว่า “ปกติแล้วเราไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับกระบวนการพวกนี้ของสัตว์ แต่บางครั้งมันก็จำเป็น อย่างเช่นครั้งนี้ที่พวกมันต้องการให้ช่วย เพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดต่อไปนั่นเอง” หลังจากเวลาผ่านไปสองวันพวกมันก็ดูจะมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แถมที่สำคัญทั้งคู่แยกออกจากกันด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว ส่วนขนาดโดยรวมของทั้งคู่นั้นยังไม่ใหญ่มาก โดนมีขนาดเท่ากับเหรียญเท่านั้น สามารถดูแบบเป็นคลิปได้ข้างล่างเลย พวกมันก็ดูน่ารักมากๆ เลยนะเนี่ย ดูแล้วก็อยากเลี้ยงเต่าขึ้นมาเลยแฮะ ที่มา thedodo
-
“หนอนแบนนิวกินี” เพชรฆาตตัวใหม่ที่อพยพมาในอเมริกา และอันตรายกว่าที่หลายคนคิด
เจ้าหนอนที่ภายนอกอาจจะดูธรรมดา ไม่มีพิษมีภัย แต่มันคือ New Guinea Flatworm หรือเจ้า หนอนแบนนิวกินี ซึ่งมันกำลังสร้างความตื่นกลัวให้ชาวรัฐฟลอริดาพอสมควร ต้นกำเนิดของเจ้าหนอนชนิดนี้อยู่ที่ประเทศปาปัวนิวกินี แต่ทางสำนักข่าวของอเมริกาคาดว่ามันจะติดมากับตู้คอนเทนเนอร์สินค้าทางเรือ และมาแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในประเทศสหรัฐอเมริกา รูปร่างของหนอนตัวนี้จะเป็นเหมือนใบไม้แบนๆ และมีสีดำ ซึ่งถ้าไปสัมผัสมันเข้า มันจะหลั่งสารพิษที่ร้ายแรงขนาดทำให้เนื้อเยื่อของเราตายทันที เนื่องจากมันมักจะตกเป็นอาหารของเหล่าหนู และสามารถแพร่เชื้อผ่านทางพยาธิตัวกลมได้ ถ้าเกิดมนุษย์ไปสัมผัสเข้ากับหนู ก็มีโอกาสที่จะถูกพิษของเจ้าหนอนชนิดนี้ไปด้วยได้นั่นเอง เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าออกมายืนยันและเตือนแล้วว่าให้หลีกเหลี่ยงการเข้าใกล้หนอนชนิดนี้ พร้อมกับกำลังหาว่าแหล่งที่อยู่หลักปัจจุบันในอเมริกาตอนนี้ของพวกมันอยู่ที่ไหน แล้วจะรับมือกับพวกมันยังไง และด้วยการที่มันเข้ามาอยู่ในเมืองแบบนี้ ซึ่งต่างจากถื่นที่อยู่ของมันที่มีศัตรูโดยธรรมชาติอยู่ ทำให้มันกลายเป็นนักล่าแทนที่สัตว์อื่นๆ ในระบบนิเวศ และเริ่มที่จะเป็นอันตรายกับเหล่าหอยทากและกิ้งก่าในตัวเมือง ปิดท้ายด้วยคลิปข่าวจากช่อง FOX 4 Now เล่าถึงการระบาดของเจ้าพวกนี้ ที่มา viralnova
-
นักวิทย์เผยผลวิจัย เจ้าเหมียวก็ชอบเข้าสังคม-คลอเคลียมนุษย์ มากกว่าชอบกินอาหารซะอีก!!
สำหรับคนที่เลี้ยงแมว น่าจะเคยสังเกตุว่าทุกครั้งที่เรากลับมาบ้าน มันดูจะดีใจหรือแสดงความรู้สึกกับเราต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้ามาถูข้อเท้าเรา หรือเข้ามานอนด้วยเวลาที่เราล้มลงบนที่นอน ซึ่งคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวก็คงจะคิดว่าพวกมันไม่มีทางแบบนั้นแน่ๆ เพราะมีความคิดกันมานานว่าแมวเป็นสัตว์ที่ออกจะหยิ่งๆ ไม่ค่อยชอบปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์สักเท่าไร แต่ความคิดนี้ก็ตกไปในที่สุดเพราะว่าได้มีผลวิจัยจากเว็ปไซต์ sciencedirect ออกมาบอกว่าแมวเป็นสัตว์ที่นิสัยดีและชอบเข้าสังคมเอามากๆ เลยล่ะ จากการทดสอบนำแมว 50 ตัว ทั้งที่เป็นแมวเลี้ยงจากบ้านของพวกมันรวมถึงทั้งจากสถานพักพิงสัตว์ด้วย หลังจากนำพวกมันมาอยู่รวมกันแล้วก็ปล่อยให้ในห้องนั้นมีแต่พวกแมวเหมียว ไม่มีอาหาร ไม่มีของเล่นเป็นระยะ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเขาก็ลองทดสอบกระตุ้นมันด้วย 3 สิ่ง ประกอบด้วยมนุษย์ อาหาร และของเล่น แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเลือกปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ที่เข้าไปหา และมีเพียง 37% เท่านั้นที่จะเลือกอาหารโดยไม่สนใจมนุษย์ นักวิจัยยังพูดเพิ่มเติมว่า “ถึงสังคมจะบอกเสมอว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความเป็นตัวเองสูง แต่เรากลับพบว่า 50 % ของแมวทั้งหมดที่นำมาทดสอบจะมีการโต้ตอบต่อการกระตุ้นจากมนุษย์ แม้ว่าพวกจะมีทางเลือกให้ปฏิสัมพันธ์มากกว่าสามทางเลือก แต่มันก็ยังเลือกที่จะตอบรับต่อการกระตุ้นจากมนุษย์มากกว่าสิ่งอื่นๆ” “ยิ่งเราวิจัยเรื่องของพวกมันมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ ของพวกมัน อย่างไรก็ตามความเชื่อที่ว่าพวกมันหยิ่งและไม่สามารถจะฝึกได้นั้น อาจจะมาจากที่เราไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกมันต้องการ และนี่ก็น่าจะเป็นตัวกระตุ้นยอย่างดีที่ทำให้พวกเราศึกษามันต่อไป” ถึงแม้แมว 50 ตัวที่นำมาทดสอบอาจจะไม่ได้จัดอยู่ในจำนวนที่ใหญ่มากๆ จนถึงสามารถยืนยันแมวทั้งโลกได้ แต่มันก็น่าจะเป็นก้าวแรกที่ดีในการศึกษาและบอกได้ว่า…
-
เสรีภาพอยู่หนใด!? รวมภาพเจ้าหมาผู้น่าสงสาร โดนเผด็จการเหมียวยึดที่นอนไปจนหมด
เป็นที่รู้กันดีว่าหมาและแมวทั้งคู่เกิดมาเพื่อเป็นศัตรูกัน อยู่ใกล้กันทีไรจะต้องมีปัญหากันทุกที แต่ปกติแล้วถ้าวัดจากขนาดหมาก็มักจะมีโอกาสที่จะชนะสูงกว่าใช่ไหมล่ะ แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปหรอก ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะสามารถต่อกรกับเจ้าเหมียวผู้ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้นบนโลกได้ เพราะวันนี้เราจะมาดูรวมภาพเหตุการณ์ฮาๆ ที่เหล่าสุนัขตัวโต๊โต ถูกเจ้าเหมียวขนฟูยึดอำนาจในการเป็นเจ้าของที่นอนไป จนทำให้เจ้าตูบมีรีแอคชั่นต่างกันออกไปนั่นเอง!! เริ่มแรกมาก็รู้เลยว่า ตัวโตก็ใช่ว่าจะชนะเจ้าเหมียวตัวเล็กได้ แม่ๆ มันแย่งที่นอนผมงะ แล้วคือเจ้าเหมียวก็มีที่นอนของตัวเองอยู่แล้วด้วยนะ ยังไปแย่งเขาอีก เจ้าหมาทำหน้าหงอเชียว แอบมุมสุดๆ แถมท่าทางเจ้าเหมียวบ่งบอกประมานว่า ที่นอนนี้เป็นของข้าาาา อย่ามายุ่ง!! เจ้าตูบนั่งกอดอก ดูเจ้าเหมียวนอน 555 ไม่แปลกใจเลยมันเกิดคำว่า แมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลกขึ้นมา คงไม่ต้องบรรยายไรมาก เพราะสีหน้าของเจ้าปั๊กตัวนี้ บ่งบอกความรู้สึกมันได้ดีที่สุดแล้วล่ะ เจ้าเหมียวก็เล่นนอนไม่แคร์โลกเลยแหะ แม่ เจ้าสีนิลมันแย่งที่หนูอีกแล้วววว อันนี้โอเค เจ้าคอลี่เหมือนจะยอมมอบที่นอนให้เจ้าเหมียวตัวเล็กเสียมากกว่าโดนแย่ง ถูกยึดอำนาจขนาดที่ต้องหลบไปอยู่ใต้ตู้กันเลยเหรอ สองต่อหนึ่ง ดูท่าจะต้องยอมไปล่ะนะ ดูมัน แย่งที่ไปยังไม่สำนึก นอนเหยียดสบายใจเชียว เบาะก็ไม่เว้น โดนเช่นกัน…
-
เจ้าหมาโกลเด้นยอมไม่ได้ เมื่อ “ตุ๊กตาหมีตัวโปรด” ของมัน ถูกเอาไปซักโดยไม่บอก!!
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีสิ่งของต่างๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็ยังห่างมันไม่ได้ และเราจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของเหล่านั้นง่ายๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าโกลเด้นในเรื่องนี้ก็เช่นกัน!! พี่หมีไปอยู่ที่ไหนกันนะ..หรือว่าจะอยู่ในนั้นกันนะ เจ้าโกลเด้นตัวนี้มันมีตุ๊กตาหมีคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง แต่แล้วอยู่ดีๆ ตุ๊กตาของมันก็หายไป มันจึงยอมไม่ได้ต้องออกตามหาตุ๊กตาของมัน แน่นอนว่าคนที่เอาไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เจ้าของมันนั่นเอง เพราะเธอคงเห็นว่ามันสกปรกมากแล้วก็เลยเอาไปซัก แต่ดันลืมถามความเห็นเจ้าของมันไปซะได้ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นภาพเหตุการณ์ที่เจ้าโกลเด้นออกตามหาหมีเพื่อนรักยกใหญ่…. ไหนดูสิ พี่หมีอยู่ในนี้ไหม เอ…..อ๊ะ หรือว่านั้นจะเป็นพี่หมี!! ว่าแต่มันของที่มันก้มลงไปคาบมาจะใช่พี่หมีหรือเปล่านะ!!? สุดท้ายมันก็ได้พี่หมีคืนไป แบบที่ไม่ต้องเหนื่อยมากมายเล๊ยยยยย ก็ถือซะว่าเป็นโมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้าโกลเด้นตัวนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยแอบถ่ายสัตว์เลี้ยงของเราเองกันบ้างแหละ ถ้าใครมีคลิปหรือช่วงเวลาดีๆ ของเหล่าสัตว์สุดแสนน่ารัก ก็อย่าลืมเอามาแชร์กันได้นะเหมียว แล้ว #เหมียวมู่ทู่ จะรอดูนะจ๊ะ ที่มา simon bromfield
-
คู่รักมองเห็นวัตถุประหลาดบนถนน อ่าว… นั่น “แมวโดนม้วนเทปรัดคอ” ต้องช่วยมันด่วนแล้ว!!
เหตุการสุดอันน่าเป็นห่วงเมื่อเจ้าแมวสีส้มตัวหนึ่งถูกพบเจอในขณะคอของมันมีม้วนเทปพันคอมันอยู่ และมันก็ดูทรมานมากๆ จากสิ่งทีอยู่ตรงคอมัน แต่ในท้ายที่สุดทีมช่วยเหลือสุดใจดีก็เข้ามาช่วยมันได้สำเร็จและทำให้มันกลับรู้สึกดีอีกครั้ง เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้ถูกพบบริเวณข้างถนนในแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับม้วนเทปที่ใช้แล้วอยู่ที่คอของมัน ซึ่งผู้คนมากมายพยามที่จะจับและช่วยเหลือมันคนแล้วคนเล่า ทว่าทำยังไงก็ไม่สำเร็จเสียที จน Kimberly Saxelby และ Chris Gattas ก็ตัดสินใจว่าต้องออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้กลับมาให้ได้ ซึ่งวันที่พวกเขาออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี โดย Kimberly ได้เล่าถึงเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือว่า “เมื่อพวกเราไปถึง พวกเราได้เอากรงไปวางไว้ห่างจากมันไม่ถึงเมตร ในขณะที่มันยังหลบอยู่ใต้ท้องรถด้วยความกลัว พวกเราเฝ้ารอจนกว่ามันจะออกมาเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง จุดสุดท้ายพวกเราก็ตัดสินใจจะจับมันด้วยตะข่าย” “หลังจากที่พยามจับเจ้าเหมียวอยู่พักใหญ่ๆ Chris ก็จับมันได้สำเร็จ แน่นอนว่าด้วยความกลัวเจ้าเหมียวก็พยามที่จะหนีออกไปตะข่ายของเขาอย่างสุดความสามารถ” หลังจากที่เจ้าเหมียวเริ่มใจเย็นลงแล้ว พวกเขาก็พามันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Rancho Cucamonga และพวกเขาก็เริ่มการรักษาเจ้าเหมียวทันที จากการคาดเดาม้วนเทปน่าจะติดอยู่กับคอของมันมานานกว่าเดือนแล้ว “ตอนแรกเราไม่รู้เลยว่าสภาพมันแย่ขนาดไหน จนเราถอดม้วนเทปนั้นออกมาได้ น้ำตาฉันถึงกับไหล ฉันคิดสภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา มันไม่สามารถจะดื่มหรือกินอะไรได้เลยในตอนที่ม้วนเทปยังอยู่ที่คอของมัน” . หลังจากทีมแพทย์ของสถานพักพิงสัตว์ ทำการรักษาเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารตัวนี้เรียบร้อย มันก็สามารถที่จะกลับไปกินข้าวกินน้ำได้ดั่งเดิม และสภาพของมันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง “พวกเราตั้งชื่อมันว่า วาเลนไทน์ ตามชื่อวันเดียวกับที่พวกเราช่วยมัน” ถึงแม้มันจะได้รับการรักษาแล้ว…
-
คงไม่ทัน!! หนุ่มส่งพิซซ่าไปถึงบ้านลูกค้าสาย เพราะมัวแต่ “แวะช่วยหมาจรจัด” ระหว่างทาง
อ่านหัวข้อแล้วมันเหมือนจะเป็นเรื่องที่แย่ใช่ไหมล่ะ ที่พ่อหนุ่มเถลไถลจนเสียการงาน แต่อย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินเจ้าหมาและพ่อหนุ่มพิซซ่าของเรา ลองมาดูเรื่องราวทั้งหมดเสียก่อนเป็นไง… Steven Donovan เขาทำงานเป็นคนส่งพิซซ่า ซึ่งสิ่งที่เขาต้องทำเป็นปกติก็คือออกไปส่งพิซซ่าทุกๆ วัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์หนึ่งก็มาเปลี่ยนวันธรรมดาๆ ของเขา สิ่งนั้นก็คือเจ้าหมาหลงสีดำตัวโตที่อยู่ดีๆ ก็วิ่งพรวดออกมากลางถนน เขาเล่าว่า “ผมกำลังขับรถอยู่บนถนนสายหลักเหมือนปกติ แต่แล้วผมก็เห็นหมาตัวหนึ่งวิ่งออกพรวดพราดออกมากลางถนน ผมก็เลยตัดสินใจเลี้ยวรถกลับไปเพื่อช่วยมัน ผมกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปถ้าทิ้งไว้แบบนั้น” หลังจากที่เขารีบลงไปช่วยเจ้าหมาสีดำตัวนั้น เขาก็ได้พามันขึ้นรถของเขาพร้อมสังเกตเห็นปลอกคอของมัน มันเขียนไว้ว่า Mr.Snickers แน่นอนว่านั่นน่าจะเป็นชื่อของมันอย่างไม่ต้องสงสัย และปลอกคอก็ยังบอกถึงที่อยู่ของมันอีกด้วย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เขาเจอมันไปเกือบ 2 กิโลเมตรเลยทีเดียว เขาเล่าถึงเจ้าตูบเพื่อนใหม่ว่า “เจ้าหมาตัวนี้มันสุภาพมากๆ เลยล่ะ มันไม่แม้แต่พยามจะกินพิซซ่าที่ผมต้องเอาไปส่งเลย” จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปส่งพิซซ่าด้วยกัน เมื่อไปถึงจุดหมาย Donovan รีบวิ่งนำพิซซ่าไปส่งเจ้าของทันทีในขณะที่ Mr. Snickers นั่งรอผู้ช่วยชีวิตมันอย่างใจเย็นอยู่บนรถ เขาอธิบายให้กับลูกค้าถึงสาเหตุว่าทำไมเขาถึงมาสาย ซึ่งดูแล้วลูกค้าคนนั้นก็จะเข้าใจเขาและคิดว่าส่งที่เขาทำมันน่าชื่นชม เขารู้ว่าการทำแบบนี้จะถูกหัวหน้าของเขาด่าแน่นอน แต่เขารู้สึกว่าการช่วยเจ้าตูบมันจะมีผลในระยะยาวที่ดีกว่า ซึ่งเขาก็ได้บอกว่า “ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าผมจะถูกไล่ออกเพราะเรื่องนี้ ผมปล่อยให้เจ้าตูบตัวนี้มันวิ่งอยู่กลางถนนและต้องเสี่ยงชีวิตไม่ได้จริงๆ” สุดท้ายแล้วเขาก็ขับรถพา Mr. Snickers ไปบ้านของมันตามที่อยู่ตรงปลอกคอ…
-
เจ้าของร้านขายผ้า อีกร่างก็คือทาสแมว สร้าง “สถานพักพิงแมวจร” อยู่กลางตลาดซะเลย
ปกติแล้วหากให้นึกถึงบ้านหรือสถานรับเลี้ยงแมวจรจัด มันก็จะต้องเป็นบ้านที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง อาจจะนอกเขตเมืองนิดหน่อย เพื่อจะได้ไม่สร้างความรำคาญให้คนโดยรอบและมีพื้นที่ให้พวกมัน แต่ใครจะคิดว่ามันจะมาอยู่กลางตลาดในเมือง Agadir ประเทศโมร็อคโค ซึ่งสถานเลี้ยงแมวแห่งนี้ดำเนินงานโดยคุณ Nour Eddine ชายเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่นี่นั่นเอง ที่พักที่ว่านี้ ไม่ได้เป็นที่พังขนาดใหญ่หรือเป็นอาคารแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพียงสวนเล็กๆ ที่ล้อมรั้วไว้เท่านั้น และภายในที่พักก็จะมีแมวอยู่เต็มไปหมด แน่นอนว่ามันทำให้คนที่เดินผ่านไปมาในตลาดรู้สึกสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยปกติแล้วนอกจากการดูแลร้านคุณ Nour ก็จะหมั่นมาดูแล้วเจ้าพวกแมวเหมียวนี้บ่อยๆ ซึ่งแมวจรจัดบางตัวก็เคยอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ มาก่อน แต่ว่าเขาก็คือคนที่ชุบชีวิตพวกมันให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เขายังคอยควักกระเป๋าออกค่ารักษาพยาบาลเมื่อพวกมันป่วย แถมยังทำหมันแมวตัวเมีย เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยไม่จำเป็นอีก แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างด้วยตัวเองเสมอหรอกนะ บางครั้งคนที่เดินผ่านไปมาก็เข้ามาที่ร้านช่วยบริจาคเงินให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้นำเงินไปดูเจ้าเหมียวจรจัดทั้งหลายนั่นเอง ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วเขาต้องดูแลร้านค้าของตัวเองอยู่แล้ว เขาเอาเวลาไหนไปดูเจ้าเหมียวพวกนี้กัน คำตอบก็คือ… เขาให้ลูกชายของเขาช่วยดูแลร้าน เพื่อที่เขาจะได้มีเวลามาดูแลพวกมันนั่นเอง ซึ่งเขาก็ได้บอกปิดท้ายว่า “บ้านของผมก็เลี้ยงแมวเต็มไปหมด ขณะที่เจ้าเหมียวในละแวกบ้านก็เหมือนจะชอบมาที่บ้านของผมด้วย พวกมันรอจนผมกลับมาบ้าน และล้อมรถเมื่อผมไปถึง… ผมมักจะมีอาหารแมวติดรถกลับบ้านด้วยเสมอ และทุกครั้งผมจะไม่ได้เข้าบ้านจนกว่าจะให้อาหารแมวเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว พวกมันไม่มีทั้งบ้านและเจ้าของ ฉะนั้นการดูแลและให้อาหารพวกมันจึงเป็นหน้าที่ของผม” . ขนาดกรอบรูปในร้านยังเป็นรูปแมว ก็ไม่ต้องสงสัยความเป็นทาสแมวของแกแล้วล่ะ ที่มา lovemeow
-
ทำความรู้จัก “พี่โบน” แมวเซเลบหุ่นหมีขนปุย น่ารักซะจนโด่งดังไปต่างประเทศ…
สำหรับเรื่องราวของเจ้าเหมียวเซเลบนั้นยังมีมาไม่ขาดสายและไม่ซ้ำหน้าจริงๆ มาในรอบนี้เป็นคิวของเจ้าเหมียวจากประเทศไทยกันบ้าง ซึ่งดังขนาดที่ว่าแฟนเพจและเว็ปไซต์เมืองนอกเอาไปแชร์และทำข่าวกันเต็มไปหมด เจ้าเหมียวตัวว่านั่นก็คือ พี่โบน นั่นเอง เขาเป็นเปอร์เซียไทยผสมญี่ปุ่น ตอนนี้อายุ 5 ปี และด้วยความน่ารักขนฟูตัวอ้วนของพี่โบน ก็ไม่ยากเลยที่จะเข้าไปครองใจคนที่พบเห็นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วนจุดเริ่มต้นความดังของตัวพี่โบนนั้น เริ่มต้นมาจากการที่เจ้าของพี่โบนได้เอาภาพของพี่โบนไปโพสต์ไว้ในกลุ่มคนรักแมว หลังจากนั้นผู้คนก็ต่างพากันชอบยกอกชอบใจกันยกใหญ่ แถมยอดกดไลก์รูปของพี่โบนก็อยู่อันดับต้นๆ ตลอด จนเริ่มมีฐานแฟนคลับมาจากในนั้น พอกระแสนิยมของพี่โบนมากขึ้นๆ ทางแฟนคลับของพี่โบนก็เลยแนะนำให้เจ้าของตั้งแฟนเพจขึ้นมาเพื่อง่ายต่อการติดตามความน่ารักของพี่โบน ทางเจ้าของบอกว่าเพจได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 พฤษภาคม ปี 2557 ซึ่งตอนแรกเพจมีชื่อว่า bonebone29 ส่วนเลข 29 ข้างหลังก็มาจากปีเกิดของเจ้าของนั่นเอง ตอนแรกเจ้าของก็ไม่ได้คิดว่ากระแสนิยมของพี่โบนจะเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ จนมาเปลี่ยนชื่อเพจเป็นพี่โบนในปี 2559 นี่เอง จนกระทั่งมีเว็บไซต์วาไรตี้และข่าวต่างประเทศ คงจะเห็นว่ามีกระแสและโด่งดัง จึงหยิบไปทำข่าว ทีนี้อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าคนต่างชาติเค้าตอบรับกันยังไง… อย่างคนนี้ถึงกับจะจองตั๋วมาไทยเลยทีเดียว แถมยังมีคนคิดเหมือนกันบอกให้จองมาสองใบเลยอีกต่างหาก ส่วนคนนี้ถึงกับยอมแพ้กับความฟูของพี่โบน เธอคนนี้ถึงกับอยากลักพาตัวพี่โบนเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เรามาดูความน่ารักของพี่โบนกันแบบจัดเต็มเลยดีกว่า พี่โบนอยากจะปีนต้นไม้… แน๊ะ มองอะไรน่ะพี่โบน…
-
โถ.. นังแรด!! ชาวเน็ตแอบยิ้ม เมื่อเจ้าแรดเดินเข้าหาช่างภาพ ขอให้เกาพุงหน่อย
ปกติแล้วสัตว์จำพวกหมาแมว มักจะชอบให้เราเกาท้องให้มันอยู่บ่อยๆ รวมถึงสิงโต หรือกระทั่งเสือบางตัวก็จะชอบเช่นกัน แต่ใครจะรู้ไหมว่า นอกจากสัตว์ขนปุยพวกนั้นแล้ว “แรด” ก็ชอบให้เกาท้องเหมือนกันนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ Garth De Bruno Austin ตากล้องในแอฟฟริกา ซึ่งเขาเดินทางไปถ่ายทำสารคดีที่ชื่อว่า Disunity และต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานพอสมควรในการถ่ายทำ ซึ่งมันนานพอที่เขาจะได้รับความเชื่อใจจากแรดป่าตัวหนึ่งเลยล่ะ ซึ่งเจ้าแรดตัวนี้มันชอบที่จะเดินมาหาเขาและให้เขาลูบท้องให้อยู่บ่อยๆ เขาบอกว่า “ผมโชคดีที่ได้ใช้เวลาถ่ายทำสารคดีของผมอยุ่ที่นี้เป็นเวลาหลายปี ซึ่งสารคดีที่ผมทำมันก็เกี่ยวกับการลักลอบตัดนอแรดนั่นเอง เลยทำให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับมันบ่อยๆ” ดูมันจะชอบมากๆ เลยนะเนี่ย น่ารักเชียว “กับแรดตัวนี้ผมไม่ได้เป็นคนที่เข้าไปหามันเลยนะ มันเข้ามาหาผมเองบ่อยๆ และมันชอบที่จะให้ผมลูบท้อง ซึ่งถ้ามันรู้สึกพอใจเมื่อไหร่ มันก็จะเดินจากไปอย่างเงียบๆ เพื่อกลับเข้าที่ทุ่งหญ้าของมัน” ดูเขาก็จะชอบลูบให้มันเหมือนกันนะ เพลินทั้งคู่เลย “ผมไม่แนะนำให้ใครลองทำตามหรอกนะ เพราะจริงๆ แล้วแรดป่าเป็นสัตว์ที่โหดร้ายพอสมควร มันมีแรงพอจะทำให้คนเสียชีวิตได้ ถ้าโชคร้ายคุณอาจจะถูกพวกมันฆ่าก็ได้นะ” ถ้าสังเกตุดีๆ เราจะเห็นว่าเจ้าแรดตัวนี้มันถูกเคยตัดนอโดยพวกลักลอบมาแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าสังเกตุจากรูปเราจะเห็นว่าแรดตัวที่เข้ามาหา Garth นั้นไม่มีนอ ซึ่งเขาบอกว่ามันถูกพวกลักลอบตัดนอของมันไป แต่โชคดีที่มันยังรอดมาได้ และไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะว่าตอนนี้มันรวมถึงแรดตัวอื่นๆ…
-
หญิงสาวขับรถผ่าน “ร้านขายเนื้อสุนัข” เธอทนไม่ไหว ลงทุนจ่ายเงินต่อชีวิตมันอีกครั้ง…
เราน่าจะรู้กันดีว่า สุนัขคือสัตว์ที่ชาวเกาหลีชื่นชอบนำมากินเป็นอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งนอกจากการเอาไปทำอาหารแล้วสุนัขในเกาหลียังถูกนำไปทำเป็นยาชูกำลังอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดการค้าสุนัขเพื่อใช้ในการกินขึ้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Jiyoon Yi หญิงสาวชาวเกาหลีได้… เธอได้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับตลาด Daegu ในเกาหลีใต้ ว่าคำร่ำลือแห่งแหล่งขายเนื้อสุนัขแห่งนี้มันเป็นจริงหรือไม่!? เมื่อเธอไปถึง เธอได้มองเห็นบางอย่างที่บาดหัวใจเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเป็นภาพหน้าร้านขายสุนัขแห่งหนึ่ง ที่มีแม่สุนัขและลูกของมันอีก 5 ตัว กำลังอยู่ในกรงเหล็กหน้าร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยสนิมเขรอะ แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้ที่ร้านแห่งนี้ไม่ได้ขายสุนัขเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่าเพื่อนำมันมาเป็นยาชูกำลังต่างหาก ชาวเกาหลีเชื่อว่าสุนัขมีสรรพคุณทางยาที่ดีมากๆ แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกฆ่า หลังจากนั้นเนื้อสุนัขจะถูกต้มเป็นเวลาเกือบชั่วโมงพร้อมสมุนไพร จนกระทั่งกลายเป็นน้ำซุปสุนัขสำหรับขายให้ลูกค้าต่อไป ภาพของเจ้าหมาที่ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องยื่นมือเข้าไป Ek Park เป็นผู้ก่อตั้ง Free Korean Dogs องค์กรช่วยเหลือจากการค้าสุนัขบอกว่า “มันคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน แม้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษหรือเกาหลีไม่ได้ แต่พวกมันก็รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน” “สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวและทั้งสั่นกลัวเกิดความหวาดกลัวอย่างมากเนื่องจากอาจจะเห็นสุนัขตัวๆ อื่นๆ รับชะตากรรมอันโหดร้าย” เมื่อ Yi กลับมาถึงบ้านเธอไม่สามารถที่จะหยุดคิดภาพที่เธอเห็นได้ ด้วยเหตุนั้นเธอก็เลยกลับไปที่ร้านและยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อให้เจ้าสุนัขทั้งหลายได้เป็นอิสระ แต่เมื่อเธอไปถึงสิ่งที่พบคือแม่สุนับที่อยู่ในกรงได้หายไปเรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามันถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้ แต่ก็ยังโชคดีที่ลูกสุนัขยังอยู่ ยังไงก็ตามการซื้อลูกสุนัขออกมาก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้าของร้านหยุดการกระทำเหล่านี้ได้ เพราะถ้าลูกสุนัขตัวหนึ่งหายไป เจ้าของร้านก้จะไปตามหาสุนัขตัวอื่นเพื่อเอามาทำเป็นยาอยู่ดี Yi…
-
นักวิทย์ค้นพบ “เสือแทสเมเนีย” อีกครั้ง หลังจากคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 80 ปี!?
ถ้าพูดถึงสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเราก็มักจะนึกถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่จากไปแล้วมากกว่าพันปี หรือเป็นล้านๆ ปีอย่างไดโนเสาร์หรือสิ่งมีชีวิตยุคก่อน แต่ถ้าเราพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่พึ่งสูญพันธุ์ไปในรอบร้อยปีที่ผ่านมาบ้างล่ะ!? ตัวที่เราจะพูดถึงวันนี้ก็คือ… เสือแทสเมเนีย พวกเราจะรู้สึกคุ้นชื่อบ้างไหม? ถ้าไม่ มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเสือพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 80 ปีนั่นเอง แต่ถึงแม้มันจะขึ้นชื่อว่าเสือ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว หน้าตาของเจ้าเสือพันธุ์นี้มันจะออกไปทางหมาที่เรารู้จักกันเสียมากกว่า ไม่เชื่อลองดูรูปก่อนสิ เสือแทสเมเนีย มีถิ่นฐานอยู่ในรัฐแทสเมเนีย ของออสเตรเลีย และบางส่วนของนิวกินี ลักษณะเด่นของมันก็คือใบหน้าที่จะคล้ายกับสุนัขและมีส่วนกลางตัวไล่ไปถึงหางจะเป็นลายคล้ายกับเสือโคร่ง เสือพันธุ์นี้ยังเป็นเสือที่มีกระเป๋าหน้าท้องคล้ายกับจิงโจ้อีกด้วย แถมยังเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีประเป๋าหน้าท้องที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ส่วนสาเหตุการสูญพันธุ์ของเสือสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่นั้นยังไม่แน่ชัด แต่ทว่าเสือตัวสุดท้ายที่ชื่อว่า เบนจามิน ซึ่งอยุ่ในสวนสัตว์โฮบาร์ตประเทศออสเตรเรีย ได้เสียชีวิตลงในปี 1936 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครค้นพบมันอีกเลย ทำให้ทาง IUCN ออกมาประกาศว่าเสือแทสเมเนียได้สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1982 แต่แล้วล่าสุดเมื่อปลายปี 2016 ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องติดตามสัตว์ป่าของคณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ที่ทำการติดตั้งไว้ในพุ่มไม้ในเขตป่าของรัฐวิคตอเรียทางตอนใต้ของออสเตรเลีย คลิปนี้บันทึกได้เมื่อปี 2008 แต่เพิ่งผ่านการตรวจสอบ วิเคราะห์ และพยายามหาหลักฐานว่ามันคือเสือแทสเมเนียจริงๆ จากในคลิปจะปรากฏเห็นภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนหมาป่าหรือสุนัขนั่นเอง ซึ่งพอสังเกตุดีๆ แล้วหางของสัตว์ที่ว่ามันมีลักษณะแข็งตรงและยาวมากๆ ทำให้คาดการณ์กันว่านั่นอาจจะเป็นเสือแทสเมเนีย ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป้นทางการว่านั่นคือเสือแทสเมเนียจริงๆ…
-
แม้เวลาผ่านไปนานสักเท่าไร เจ้าหมาตัวนี้ก็ยังชอบ “การกอด” เจ้านายของมันเสมอ….
อย่างที่เรารู้ว่า สุนัขที่กำพร้าหรือถูกทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยง พอมันเจอเจ้าของใหม่เมื่อไหร่ มันก็จะรักเจ้าของใหม่มากๆ เพราะพวกมันกลัวที่จะถูกทิ้งไปอีกครั้งนั่นเอง Kylo Ren คือชื่อของหมาเจ้าของเรื่องราวทั้งหมดนี้ มันเป็นหมาที่ถูกทิ้งไว้ที่ West Memphis Animal Shelter เมื่อตอนที่มันยังอายุแค่ 10 เดือนเท่านั้น มันเป็นหมาที่น่ารักและนิสัยดี จนกระทั่งความน่ารักของมันไปดึงดูดองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ALIVE Rescue Memphis เข้าให้อย่างจัง ซึ่งนี่จะเป็นก้าวแรกของการได้พบกับเจ้าของคนใหม่ของมัน แต่เวลาผ่านไปนานแสนนาน ก็ยังไม่มีใครสนใจที่จะมารับเลี้ยงมันเสียที ซึ่งก็ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไม มันถึงยังไม่ถูกรับไปเลี้ยง แต่แล้วแสงแห่งความหวังของมันก็ส่องสว่างขึ้น มีครอบครัวหนึ่งได้เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับมันไปเลี้ยง โดยพวกเขาเล่าว่า “พวกเราเห็นภาพของเขาบนเฟสบุ๊ค และฉันคิดว่าเขาน่าจะรอวันที่จะได้เจอพวกเรามานานแล้ว เพียงแต่มันอาจจะใช้เวลาไปนานหน่อยเท่านั้นเอง” Meghan Sweers คือชื่อเจ้าของใหม่ของมัน เธออาศัยอยู่กับสามีและสุนัขพันธุ์คอกี้อีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า Nellie พวกเขาก็กล้าๆ กลัวๆ ว่าถ้าเขารับเจ้า Kylo มาแล้วมันจะเข้ากันได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังจะรับมันมาเลี้ยงอยู่ดี และด้วยเหตุนี้ทางอาสาสมัครจึงนำเจ้า Kylo มาส่งถึงบ้านแล้วจากไป ช่วงเวลาที่มันมาถึงมันรู้ได้ทันทีว่านี่และคือบ้านใหม่ของมัน “หลังจากที่เจ้าหน้าที่กลับไป มันก็วิ่งเข้ามานั่งตักฉันทันที พร้อมกับเช้ามาคลอเคลียไม่ห่างเลยล่ะ ช่วงเวลานั้นฉันกับสามีรู้ได้ทันทีเลยว่า…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่น ร่วมกันประกวดภาพ “ดึงแก้มชิบะ” เพื่อพิสูจน์ว่า มันเป็นสัตว์เหนียงยานที่สุดในปฐพี!!
ปกติแล้วเรามักจะชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเราพวกแมวหรือหมา ด้วยวิธีการทั่วๆ ไปเช่นเกาท้องเกาคาง ซึ่งมันก็รู้สึกดีในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์หยิกแก้มหมาพันธุ์ชิบะอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็นหมาชิบะล่ะ เป็นพันธุ์อื่นได้ไหม คำตอบก็คือได้ แต่ว่าหมาพันธุ์นี้จะมีแก้มที่เยอะกว่าพันธุ์อื่นๆ ทำให้เวลาที่เราดึงแก้มของมันเราจะรู้สึก นุ่มมมมมม สุดๆ เลยนั่นเอง พูดอย่างเดียวคงคิดภาพไม่ออก ว่ามันนุ่มมมม ขนาดไหนลองดูภาพการหยิกแก้มของพวกมันกันเลยดีกว่า เริ่มกันจากเบาๆ กันก่อน เริ่มเห็นความนุ่มมมม แล้วหรือยัง หน้ามันเริ่มบ่งบอกแล้วว่า “พอใจหรือยังเจ้ามนุษย์” ดูหนังของมันสิ หู้วววว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานการเข้าประกวดในเทรนด์นี้ ตัวนี้แก้มมันใหญ่มากๆ เลยนะเนี่ย อยากจะหยิกมากๆ ดูท่ามันจะสนุกกับมนุษย์ด้วย (รึเปล่านะ!?) หน้ามันบ่งบอกถึงความสนุกที่โดนหยิกสุดๆ เอาที่สบายใจเลย “หยุดนะเจ้ามนุษย์” ไม่มีใครรู้ว่าการประกวดนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ดูเหมือนที่สุดแล้วมันคงเป็นการตอบสนองต่อความสนุกของมนุษย์ ที่ได้จับเจ้าหมาของตัวเองมาลงโทษด้วยการหยิกแก้มให้มันดูหน้าตาตลกเล่นๆ ฮ่าาาาาา เห็นความนุ่มนิ่มของแก้มชิบะกันหรือยัง ดูแล้วมันน่ายิกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ สงสัยต้องไปหาหมาชิบะมาเลี้ยงไว้สักตัวมั่งดีกว่า จะได้ยิกแก้มนุ่มๆ ของมันทุกวันเลย …
-
และนี่ก็คือออออ 28 โคอาล่าผู้น่ารักที่สุดในโลก และมันทำให้โลกของคุณสดใสทันตา!!
ถ้าพูดถึงสัตว์ในออสเตรเลียนอกจากจิงโจ้แล้ว สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่คนจะคิดถึงก็คงจะไม่พ้นเจ้าโคอาล่าสุดน่ารัก ตัวขนฟูดูนุ่มนิ่มอย่างแน่นอน วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพความน่ารักของเจ้าหมีผู้เสพติดใบยูคาลิปตัสกัน ว่าพวกมันน่ารักขนาดไหน แทน แทนนนน แท๊นนนนนน!!! ช่วงเวลาส่วนใหญ่ของมันก็จะนอนหลับนี่แหละ แต่ก็น่ารักเนอะ ว่าไหม จมูกโต ตาโต ขนก็ดูนู่มมมมม น่ากอดสุดๆ ไม่แน่ใจว่ามันหาว หรือมันร้องเพราะกำลังตกลงมากันแน่ ตัวอ้วนน่ารักสุดๆ ใบยูคาลิปตัสของโปรดของพวกมัน กินได้ทั้งวันเลยล่ะ และดูท่าอากาศจะดี จนมันมีความสุขมากๆ ความสามารถในการนอนบนต้นไม้ จัดอยู่ในระดับเวิลด์คลาส เจ้าตัวนี้ดูผอมยาวต่างจากตัวอื่นเลยแหะ ตัวเล็กๆ นอนคุดคู้ ได้ท่าถ่ายรูปแล้ว เอ้าถ่ายสิพวกมนุษย์ เหล่าโคอาล่าตัวน้อย กับเจ้าหน้าที่สุดสวย ถึงตัวเล็ก แต่จมูกยังใหญ่เหมือนเดิม แม่ลูกสุขสันต์ ผู้ช่วยฝ่ายไอที เจ้าตัวนี้ดูโทรมแปลกๆ แฮะ สงสัยไปเล่นซนมาแน่ๆ โคอาล่ามาร์ชชชช…
-
ซอยเร็วไม่มียั้ง พาไปรู้จักเจ้า Odontomachus bauri มดเจ้าของตำแหน่ง “กัดได้เร็วที่สุดในโลก”!!
ถ้ามดกระสุน หรือ Bullet Ant คือมดที่กัดเพียงครั้งเดียว แต่เจ็บสัสรัสเซียที่สุดในโลกแล้วละก็เจ้าตัวที่เราจะพาไปรู้จักวันนี้ คงจะเป็นมดที่กัดได้เจ็บแบบรัวที่สุดในโลกเช่นกัน Odontomachus bauri หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Trap Jaw Ant (มดกรามกับดัก) คือชื่อของมดที่สามารถสับขากรรไกรได้ไวที่สุดในโลก ถ้าใครสงสัยว่ามันไวแค่ไหนละก็ จะขออธิบายสั้นๆ ว่ามันไวกว่าเรากะพริบตาเสียอีกล่ะ!! ฟังเหมือนโม้ แต่มันคือเรื่องจริง เพราะเจ้ามดกรามกับดักตัวนี้มันสามารถที่จะอ้าเขี้ยวของมันออกกว้างถึง 180 องศาและสับได้ 1 ครั้งต่อ 0.13 วินาที และในเวลา 1 วินาทีนั้น มันสามารถกัดได้มากถึง 7-8 ครั้ง ซึ่งปกติแล้วคนเราจะใช้เวลาราวๆ 0.3 – 0.4 วินาทีในการกระพิบแต่ละครั้ง เท่ากับว่าเจ้ามดกรามกับดักสามารถจะสับขากรรไกรได้ไวกว่ามนุษย์กระพิบตาถึง 2,300 เท่า!! ลองดูภาพแบบสโลว์โมชั่นดูว่ามันไวแค่ไหน จะเห็นได้ว่าขากรรไกรของมันสับเหมือนกับว่าเราไม่ได้ดูภาพสโลว์โมชั่นเลย (ลองสังเกตเส้นขนอื่นๆ ที่จะช้าเพราะนี่คือภาพสโลว์โมชั่น) นี่จึงเป็นคำตอบถึงความไวของการสับขากรรไกรได้เป็นอย่างดี นอกจากขากรรไกรที่สับได้ไวสัสรัสเซียแล้ว มดกรามกับดักยังสามารถที่จะกระโดดได้ด้วย!! ใช่แล้วอ่านไม่ผิดหรอก มดสายพันธุ์นี้เนี่ย มันสามารถที่จะกระโดดไปข้างหน้าได้ แต่มันยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ…
-
จะเป็นยังไง ถ้าอยู่ดีๆ แมวของคุณก็มีมือเหมือนคนเป๊ะๆ มันจะน่ากลัวหรือจะน่ารักกันนะ!?
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสหนึ่งในอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ยูสเซอร์ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า @apricotbelly โพสรูปเจ้าเหมียวที่มีมือเหมือนกับคน หลังจากนั้นผู้คนก็ต่างพากันสนอกสนใจยกใหญ่ว่า ทำไมเจ้าเหมียวตัวนี้ถึงมีมือคล้ายคน รวมถึงรู้สึกตลกไปในเวลาเดียวกัน แต่พูดอย่างเดียวคงจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าเรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่ามือของเจ้าเหมียวที่ว่าเนี่ยมันเป็นยังไง หาววววว มองอะไรเจ้ามนุษย์ มีอะไรแปลกหรือไง ก็แค่อยากจะนอนสบายๆ มีอะไรปะ จ้องอยู่ได้ ยังไม่เลิกจ้องอีกเจ้ามนุษย์ เดี๊ยะตบดิ้น 555 สุดท้าย @apricotbelly เจ้าของทวิตเตอร์ก็บอกว่า เธอไปเจอรูปนี้จากเว็ปไซต์ Tumblr แล้วคิดว่า เออ..มันน่ารักดีแหะ ก็เลยเอามาลงทวิตตัวเอง แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่ามันจะฮิตขนาดมีคนรีทวีตมากถึง 180,000 ครั้ง หลังจากภาพเซตนี้ปล่อยออกมาก็มีกระแสสังคมแบ่งออกเป็นสองฝั่งทั้งที่ชื่นชอบ ร่วมฮาไปกับมันอย่างสนุกสนาน และที่รู้สึกรับไม่ได้ แบบว่ามันแปล๊กแปลกเกินไปมั้งงงงงง ยกตัวอย่างเช่น… บร๊ะเจ้า!! ฉันชอบมันจัง นี่แหละคือสิ่งเดียวที่ฉันต้องการในชีวิต!! มือนี่มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ฉันไม่ชอบมันเลย ดูแล้วมันทำให้รู้สึกอึดอัดมากๆ สาบานเลยนะ ไอ้เจ้ามือนี่มันหลอนเชี่ยๆ #เหมียวมู่ทู่…
-
กางเกงในสามมิติ “ลายสัตว์โลกตาวิเศษ” มีหูโผล่ดุ๊กดิ๊ก ข้ารู้นะว่าใครจ้องมองอยู่…
สาวๆ หลายคนคงจะมีกางเกงในตัวโปรดในตู้เสื้อผ้ากันอยู่เเล้วตามสไตล์ของแต่ละคน แต่คุณจะต้องชอบกางเกงในสุดแหวก ที่จะเปลี่ยนความคิดเดิมๆ ของคุณไปโดยสิ้นเชิง โดยกางเกงในนี้มีสัตว์โลกน่ารักทั้งหลายมาประดับให้กางเกงในของคุณน่ารักมากขึ้นกว่าเป็น 2 เท่า วันนี้ #เหมียวหน่า ของนำเสนอ กางเกงในสัตว์โลกน่ารักแบบ 3 มิติ ด้วยคุณสมบัติของ โพลีเอสเตอร์ 97% และผ้าฝ้าย 3% เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลายไม่จางง่ายๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดเลย อุ๊ป!!! กางเกงในสัตว์โลกน่ารักแบบ 3 มิติ สุดน่ารักแถมมีหูโผล่มาด้วยอะไรมันจะทั้งแปลกทั้งน่ารักแบบนี้มีทั้งแรคคูน หมู จิ้งจอก และกระรอก จะเลือกอะไรดีน้า?? อื้อหื้อ.. ใส่แล้วมันดูน่ารักดีแต่อีกมุมก็ดูเซ็กซี่ไม่เบา บางทีหนุ่มๆ ก็อาจจะลองซื้อให้สาวๆ บ้างก็ได้นะ เจ้ากระต่ายน้อยแสนจะน่ารักมีหูเล็กๆ กระจิ๊ดริด น่าหยิบมาใส่จริงๆ เลย.. . ลายอื่นๆ ก็ดูกวนโอ้ยไม่เบาน่าจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนก็ดีไม่น้อย อย่างเจ้าหมูหน้าแบ๊วตัวนี้ ทาสแมวต้องไม่พลาดนะ น่ารักจริงๆ เลยเจ้าแมวน้อย เจ้าจิ้งจอกทำหน้าตาหงุดหงิด ดูน่ารักน่าหยิกซะจริงๆ ดูมาถึงขนาดนี้แล้ว…
-
สาวพาหมาไปเดินเล่น จู่ๆ ก็พบกับกระเป๋าเก่าใบหนึ่ง ปรากฏว่าข้างในมีแมวตั้ง 9 ตัว!!
เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซด์ thedodo รายงานว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพบกับกระเป๋าเดินทางน่าสงสัยในระหว่างที่เธอกำลังเดินเล่นกับสุนัขใกล้กับบริเวณสถานีรถไฟเก่า แถบชานเมืองแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ แต่จู่ๆ สุนัขของเธอก็วิ่งเข้าไปหากระเป๋าใบนั้น และมันก็เอาแต่เห่าไม่ยอมไปไหน เธอจึงตัดสินใจเปิดซิปของกระเป๋าออก แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบกับแม่แมวและลูกๆ ของมันอีก 8 ตัวอยู่ในนั้น กำลังส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร แมวน้อยทั้ง 8 กับแม่ของมัน แหม่ น่ารักน่าชังเชียวนะหนู ทันทีที่พบพวกมันหญิงสาวก็ได้ทำการโทรเรียกองค์กรช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ทันที เนื่องจากพวกมันดูผอมแห้งและอ่อนแรงอย่างมาก จึงต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน ตามรายงานบอกว่าลูกแมวที่ถูกทิ้งเหล่านี้มีอายุเพียงแค่ 5 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จาก RSPCA ได้ตั้งชื่อพวกมันทั้ง 8 ตามชื่อของตัวการ์ตูนดีสนี่ในเรื่อง “แมวเหมียวพเนจร” หรือ The Aristocats ตอนนี้พวกมันกำลังพักรักษาตัวอยู่เพื่อให้แข็งแรงและรอผู้ใจบุญมารับพวกมันไปเลี้ยง ด้านสัตวแพทย์ที่ดูแลพวกมันบอกว่า “ตอนนี้พวกมันยังดูเด็กเกินไปที่จะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ พวกเราต้องการที่จะดูแลรักษาพวกมันให้แข็งแรงขึ้นกว่านี้อีกหน่อย เพื่อให้แน่ใจว่ามันพร้อมที่จะออกไปสู่โลกภายนอก” ช่างน่าดีใจกับพวกแมวน้อยทั้ง 8 และแม่ของมันจริงๆ ที่มีคนมาพบเข้าก่อนที่จะสายไป ส่วนเรื่องสัตว์ถูกทิ้ง นับวันยิ่งจะมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครกำลังคิดจะเลี้ยงสัตว์ก็ต้องดูแลพวกเค้าให้ดีๆ ล่ะ เพราะพวกเค้าไม่ใช่ของเล่นนะจ๊ะ น้องหมาน้องแมวก็มีหัวใจเหมือนกัน…
-
ศิลปินสร้าง ‘กระดองปูเสฉวน’ จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ช่วยพวกมัน และแฝงความคิดเตือนใจมนุษย์!!
โดยปกติแล้วธรรมชาติของเหล่า ‘ปูเสฉวน’ จะต้องเปลี่ยนบ้านใหม่หรือกระดองอยู่เป็นประจำ ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็เพราะขนาดตัวที่โตจนเกินไปทำให้รู้สึกอึดอัด บ้างก็ถูกไล่ที่ออกไปโดยตัวที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ตัวที่อ่อนแอถูกบังคับให้เปลี่ยนกระดอง เนื่องจากว่าปูเสฉวนที่ไม่มีกระดองอยู่นั้นจะไม่มีที่หลบภัยจนกลายเป็นอาหารของเหล่านก และสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ศิลปินชาวญี่ปุ่น Aki Inomata ได้ทำการช่วยเหลือเหล่าปูเสฉวนที่ไม่มีบ้านให้ได้มีกระดองที่มีขนาดพอเหมาะกับตัวของพวกมันได้อยู่อาศัย ด้วยการสร้างกระดองด้วยพลาสติดใสจากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติ เป็นรูปร่างเมืองต่างๆ จากรอบโลกดูงดงามตา นอกจากจะช่วยเหลือเหล่าปูเสฉวนให้รอดปลอดภัยจากภัยอันตราย ยังแฝงไปด้วยความคิดเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานที่ดูน่าสนใจอีกด้วย ไอเดียของเธอนั้นได้มาจากการเข้าร่วมงานแสดงศิลปะ ‘No Man’s Land’ ที่จัดขึ้นที่สถานทูตฝรั่งเศสที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2009 จากเรื่องราวของสถานที่ที่ชาวฝรั่งเศสเคยอาศัยอยู่บนประเทศญี่ปุ่นจนถึงช่วงเดือนตุลาคมปี 2009 และในที่สุดก็จะกลายเป็นพื้นที่ของชาวญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่ตกเป็นของชาวฝรั่งเศสมานานกว่า 50 ปี ส่วนชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็จะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน พอ Aki ได้ทราบเรื่องราวนี้เข้าก็รู้สึกตกใจมาก และคิดว่ามันเป็นเหมือนวิถีชีวิตของปูเสฉวนที่ต้องโยกย้ายเปลี่ยนสถานที่อยู่อาศัยอยู่บ่อยๆ พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผู้คนจากสองชนชาติอาศัยด้วยกันอย่างสงบสุข แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไปก็ทำให้เราต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยตาม เหมือนกับการเปลีย่นที่อยู่อาศัยของปูเสฉวนที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยไป ซึ่งกระดองที่เธอสร้างขึ้นมานั้นจะตกแต่งด้วยรูปร่างของเมืองต่างๆ จากรอบโลกเพื่อแสดงให้เห็นถึงการอพยพโยกย้ายไปยังเมืองต่างๆ แม้จะเป็นคนละสถานที่ แต่ผู้คนที่อยู่ภายในเมืองก็สามารถเข้าไปอยู่ได้และปรับตัวเข้ากันได้ดี …
-
เมื่อ “ชาร์ล เซเวียร์” เลิกดูแลเหล่า X-Men แต่หันมาเลี้ยงเจ้า Ginger พิทบูลน้อยแสนรัก!!
สำหรับแฟนๆ X-Men น้อยคนที่จะไม่รู้จัก Sir Patrick Stewart ซึ่งรับบทเป็น Charles Xavier มาตลอดหลายปี แน่นอนว่าหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเซอร์เป็นอย่างดี ล่าสุดเขาได้รับเลี้ยงสุนัขพิทบูลจากสถานพักพิงสัตว์ ASPCA เพื่อที่จะได้มาอยู่เป็นเพื่อนกับเขา แน่นอนว่าวินาทีแรกที่เจ้าสุนัขตัวนี้โผล่เข้ามาทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันทันทีเลย เขาได้แชร์คลิปวีดีโอลงบนเฟสบุ๊คของเขาเป็นความยาว 40 กว่าวินาที เพื่อแสดงถึงความรักของเขา เขาตั้งชื่อให้มันว่า Ginger ซึ่งมันเป็นสุนัขพันธุ์พิทบูลตัวแรกที่เขาเลี้ยง เขาบอกว่าการที่เขารับเลี้ยงเจ้าสุนัขตัวนี้ก็เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าสุนัขพันธุ์พิทบูลไม่ได้ดุร้ายอย่างที่คิด แถมพวกมันยังน่ารักมากๆ ด้วย ดูความน่ารักของมันสิ มันคงจะชอบ Professor X มากๆ เลยนะเนี่ย สาเหตุที่เซอร์รับเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิทบูลก็เพราะว่า เขาต้องการแสดงให้สังคมเห็นว่าสุนัขพันธุ์นี้เนี่ย มันไม่ได้ดุร้ายอย่างที่คิด มันจะเป็นยังไงสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของอยุ่ดี (ดูหมาท่านเซอร์สิมุ้งมิ้งเชียว) นอกจากนี้ เขายังต้องการแสดงให้เห็นว่าการรับเลี้ยงสัตว์จากมูลนิธิต่างๆ มันดีกว่าไปซื้อมาก็เพราะ พวกมันมีจิตใจที่อ่อนโยนกว่าและต้องการความรักที่มากกว่า เพราะพวกมันเคยผ่านอะไรแย่ๆ มาก่อน ก ารมีใครสักคนให้ความรักมันมากๆ พวกมันก็จะตอบแทนให้เจ้าของเป็นอย่างดีเลยล่ะ!! คือดูท่านเซอร์แกไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลยนะ แหม่ ลูบเช้าลูบเย็น นอนก็ต้องกล่อมขนาดนี้ ก็หวังว่าท่านเซอร์จะมีความสุขกับหมาตัวใหม่ของเขาไปนานๆ นะ…
-
ผู้คนนับร้อย ร่วมให้กำลังใจส่ง “เจ้าเต่า” กลับท้องทะเล หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี!!
เรามักจะได้เห็นข่าวคราวของสัตว์ทะเล หรือสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่เผลอเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บขึ้น บางครั้งพวกมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และย่อมเป็นหน้าที่ของมนุษย์ซึ่งต้องใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตพวกมัน… นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก Poppy เจ้าเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายที่ถูกไปพบอยู่ในคลองของโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดเดาว่ามันน่าจะติดอยู่ในนั้นเป็นเวลานานพอสมควรสังเกตุได้จากเพรียงที่เกาะอยู่บนตัวมัน ด้วยเหตุนี้อาสาสมัครจาก Loggerhead Marinelife Center ในรัฐฟลอริดาก็รีบเข้าช่วยชีวิตมันทันที และนำมันกลับมารักษาที่ศูนย์ดูแลนั่นเอง จากการตรวจสอบพบว่ามันขาดสารอาหารจำนวนมาก อาสาสมัครจึงให้สารอาหารต่างๆ ที่มันขาดไป อย่างเช่น วิตามิน ธาตุเหล็ก ยาปฏิชีวนะ และให้มันแช่อยู่ในน้ำสะอาดเป็นเวลานานถึง 2 วันเต็มๆ เพื่อให้เพลียงและคราบต่างๆ บนตัวมันหลุดออก หลังจากนั้นถึงย้ายมาไปไว้ในสระน้ำเค็ม นับตั้งแต่นั้นมันก็ได้รับการดูแลจากอาสาสมัครมาตลอดจนร่างกายกลับมาแข็งแรง ทำให้ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ อาสาสมัครเตรียมนำมันกลับสู่ทะเลที่ๆ มันจากมาแล้ว พวกเขาไม่ได้ปล่อยมันเพียงลำพังเท่านั้น แต่แจ้งกับประชาชนในละแวกด้วยว่า จะทำการปล่อยเจ้าเต่าคืนสู่ท้องทะเล และเรื่องที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อมีผู้คนกว่า 500 คน แห่มาร่วมให้กำลังในมันในการกลับไปใช้ชีวิตในท้องทะเลดังเดิม เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถเข็นพาเจ้าเต่าเดินผ่านผู้คนที่ส่งเสียงเชียร์ แถมวันนั้นอากาศยังเป็นใจท้องฟ้าแจ่มใสอีกต่างหาก ผู้คนต่างพากันมาดูและร่วมให้กำลังใจเจ้า Poppy กันเต็มไปหมด ถึงขนาดมีคนใส่ชุดเต่ามาเลยนะ …
-
หญิงสาวแชร์เรื่องราววันสุดท้าย ของเธอและหมาแสนรัก หลังรับเลี้ยงมานานถึง 9 ปี…
สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์แล้ว เราย่อมมีความผูกพันธ์กับสัตว์ที่เราเลี้ยงไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นแมว หมา กระต่าย หรือกระทั่งจิ้งจกที่เราเห็นหน้าอยู่ทุกๆ วัน ก็อาจจะผูกพันธ์ไม่รู้ตัว แล้วลองคิดสิว่า หากอยู่ด้วยกันตั้ง 9 ปี มันจะเป็นความรักที่มากขนาดไหน… เมื่อสมาชิกเว็ปไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า Thedoctorsmistress ได้ออกมาแชร์ภาพและความทรงจำสุนัขตัวโปรดของเธอที่ชื่อว่า Cash ก่อนที่มันจะจากไปอย่างสงบหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยุ่ด้วยกันมานานถึง 9 ปี เธอเล่าว่ามันป่วยด้วยสภาวะตับและไตล้มเหลว ซึ่งทำให้มันใช้ชีวิตอย่างทรมานมากๆ จนกระทั่งถึงขั้นสุดท้ายของการรักษา ครอบครัวของพวกเธอไม่อยากให้มันทรมานอีกต่อไป จึงตัดสินใจให้มันได้จากไปอย่างสงบ ย้อนกลับไปตอนเริ่มแรก เธอขอร้องให้พ่อแม่ของเธอรับเลี้ยงมันจากสถานพักพิงแห่งหนึ่งตั้งแต่ตอนที่มันยังอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น จนสุดท้ายมันโตเป็นสุนัขขนาด 60 กิโลกรัม จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต เธออยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ภาพความน่ารักของมัน ก็เลยทำการถ่ายภาพมันและเล่าเรื่องในโลกออนไลน์ “มันเป็นหมาขนาด 60 กิโลกรัมที่พวกเรารัก ฉันและมันเรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้” เธอกล่าวถึงเจ้า Cash อย่างเอ็นดู ในภาพชุดนี้จะเห็นได้ว่า เธอถ่ายทอดพฤติกรรมต่างๆ ที่มันชอบทำ อย่างเช่นมาแอบคอยกินอาหาร ชอบคุ้ยขยะ และถ่ายมันคู่กับของเล่นที่มันรัก รวมถึงคนที่รักมันที่สุดอย่างตัวเธอเอง… มันมีนิสัยที่ชอบนอนมากๆ จึงทำให้ที่บ้านมีที่นอนของมันเต็มไปหมดเลยล่ะ …
-
สื่ออเมริกาตีข่าว “อินทรีหัวขาว” สัญลักษณ์ของประเทศกำลังล้มตายอย่างมาก แต่ไม่มีใครสนใจ!?
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้น เมื่ออินทรีหัวขาวตัวหนึ่งถูกพามามาที่สถานพักฟื้นสัตว์ป่าในสภาพที่เป็นอัมพาตและยกหัวไม่ขึ้น ซึ่งทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่เกิดทั้งความสงสัยและสงสารในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้มักจะเกิดขึ้นกับอินทรีหัวขาวบ่อยๆ Lynn Tompkins หัวหน้าของ Blue Mountain Wildlife Rehabilitation and Education Center ได้บอกว่าเธอพยามที่จะช่วยอินทรีพวกนี้มานานแล้วกว่า 30 ปี แต่มันก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้สักที เธอได้พูดว่า “หัวของมันตกตลอดเวลา ด้วยพิษของตะกั่วที่ไปทำลายเส้นประสาทในสมอง ทำให้มันไม่สามารถที่จะควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกายได้ ไม่แม้แต่จะกางปีก ยืน หรือแม้แต่อ้าปากเพื่อกินอาหารด้วยซ้ำ” ส่วนสาเหตุที่ทำให้อินทรีหัวขาวพวกนี้ติดพิษจากตะกั่วนั้น มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์นักล่าและกินเหยื่อที่ตายแล้วเป็นอาหาร ซึ่งเหยื่อที่ตายนั้นก็จะมาจากการที่ถูกมนุษย์ยิงเข้าด้วยกระสุนตะกั่วนั่นเอง เธอบอกว่า “พวกนักล่าส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะกินเหยื่อที่กลายเป็นซากอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พวกมันจะกินพวกสัตว์ที่ตายแล้ว พวกมันกินทุกอย่างที่ถูกยิง และแน่นอนว่ากระสุนตระกั่วก็เป็นปัจจัยนั่นเอง” ภาพภายในตัวของศพหมาป่าโคโยตี ที่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะถูกยิงลำตัว แต่เศษกระสุนก็กระจายไปทั่วร่าง ถึงแม้จะว่าระดับสารพิษจากตะะกั่วในตัวอินทรีหัวขาวจะอยู่ในจุดที่ต่ำมากๆ มันก็มากพอที่จะสามารถทำให้พวกมันกลายเป็นอัมพาตได้เช่นกัน ขั้นต่ำก็คงจะเป็นมันไม่มีแรงยืนไม่ขึ้น ซึ่งถ้าพวกเธอไม่เข้าไปช่วยเหลือพวกมันโดยปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติพวกมันก็จะตายอย่างช้าๆ และทรมานนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ Ryan Zinke เลขานุการกระทรวงมหาดไทยของอเมริกา จึงได้ร่วมลงนามให้มีการแบนไม่ให้ใช้กระสุนตะกั่วกับสัตว์ป่าอีกต่อไป ซึ่งจะได้ช่วยชีวิตพวกมันจากทั้งการโดนยิงตรงๆ และการถูกสารพิษจากกระสุน ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยชีวิตเหล่าอินทรีหัวขาวสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสัตว์อื่นๆ อีกด้วย …
-
รวม 19 ภาพการเข้าทำงานวันแรกของ “เจ้าหมาน้อยตำรวจ” น่ารักจนใจละลายได้ง่ายๆ เลย!!
สุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นที่ฉลาดและซื่อสัตย์แถมยังมีความสามารถในการดมกลิ่นอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่เหล่าตำรวจจะนำเจ้าตูบสี่ขาพวกนี้มาเป็นเพื่อนร่วมงาน แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะเป็นตำรวจได้ พวกมันจะต้องผ่านการฝึกตั้งแต่เด็กเสียก่อนนั่นเอง แต่ด้วยความที่พวกมันยังเป็นเพียงลูกหมาตัวเล็กๆ จึงทำให้เราได้มีโอกาสเห็นภาพน่ารักๆ ของพวกมันทั้งก่อนและหลังจากการทำงาน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเป็นหัวข้อในครั้งนี้ขึ้นมากับ 19 ภาพของเหล่าลูกสุนัขที่พึ่งจะเข้ามาฝึกงานเป็นวันแรก จะน่ารักขนาดไหนไปดูกันเลย เข้างานวันแรกก็หมดแรงจนเดินไม่ได้เลยนะ ไหวไหมเนี่ยเราอะ สงสัยจะฝึกหนักนะเนี่ย หลับสบายเลย ผมพร้อมแล้ว ว่าแต่ตำรวจคู่หูผมไปไหนเนี่ย เราจะไปกันได้ยังฮะ? ฝึกหนักจัง ผมหมดแรงแล้วนะ หมดแรงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยแหะ ส่วนเจ้าตัวนี้ เข้างานวันแรกยังห่างตุ๊กตาไม่ได้เลย เจ้าหนู ผมจะเป็นสุนัขนำทางที่ดีเเหมือนพี่ๆ ให้ได้เลยฮับ ออกตรวจวันแรก ดูตั้งใจสุดๆ เลยนะเนี่ย สงสัยต้องรอโตอีกสักหน่อย ค่อยมาสมัคร K-9 ใหม่นะ ชัวนะ ว่าลูกพี่ไม่ได้หยิบเสื้อมาให้ผมผิดเนี่ย ผ่านการฝึกปุ๊บผมก็โตพอจะใส่เสื้อแล้ว ถึงผมจะเล็ก แต่ผมไม่แพ้พวกพี่ๆ แน่นอนครับ ดูเหมือนเจ้าหนูนี้จะยังห่างแม่ไม่ได้นะเนี่ย เช้าวันทำงานที่สดใส …
-
ถึงแม้จะเหลือแค่สองขา แต่เจ้าเหมียว Simon ก็ไม่ยอมให้มาทำลายความซนได้หร๊อกกกก!!
สำหรับสัตว์ 4 ขาแล้วการที่อยู่ดีๆ จะต้องเหลือ 2 ขาถือว่าเป็นเรื่องที่แย่และสามารถเปลี่ยนชีวิตพวกมันได้เลยทีเดียว บ้างก็อาจจะต้องยอมแพ้หรือนอนอยู่เฉยๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Simon ซึ่งมันถูกเลี้ยงดูโดยคู่รักจากเมืองออกแลนด์ ในประเทศนิวซีแลนด์ เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ทั้งคู่ได้ไปเจอกับมันในสถานพักพิงแห่งหนึ่ง และด้วยอะไรบางอย่างทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักเจ้าแมวสีส้มเข้าทันทีตั้งแต่แรกเจอ ท่านั้น แต่พวกเขาก็ตกลงปลงใจรับมันมาเลี้ยงแล้ว และถึงแม้มันจะขาไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เป็นแมวที่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้ปกติและว่องไวมากๆ แต่ทว่าเรื่องร้ายก็ต้องเกิดขึ้นกับเจ้า Simon เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนมันถูกสุนัขในละแวกบ้านกัดเข้า จนขาหน้าข้างซ้ายบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพอมันถูกพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการผ่าตัดและรับการรักษา ขาหน้าของมันกลับดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย จนแพทย์ต้องตัดสินใจตัดขามันออกเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ ถึงอย่างนั้นเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของมัน หลังจากพักฟื้นจนหายดี ด้วยขาขวาทั้งสองข้างที่มันยังคงเหลืออยู่ มันพยามจนสามารถที่จะกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง แถมยังวิ่งได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย McCarthy เจ้าของ Simon ได้บอกว่า “พวกเราคิดว่าถ้ามันสามารถพูดได้ มันคงจะบอกกับเราว่า ไม่เป็นไรผมสบายดี อย่างแน่นอน” ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมก็สามารถดูเรื่องราวของมันได้จากคลิปข้างล่างนี้เลย หรือจะเข้าไปติดตามเจ้า Simon ได้โดยตรงจากแฟนเพจของมันที่มีชื่อว่า Simons “All Right” ร่วมเป็นกำลังใจให้มันกลายเป็นเหมียวผู้แข็งแกร่ง ช่วยกันยึดครองโลกใบนี้ให้ได้นะ!!…
-
23 ภาพการนอนหลับของสัตว์ตัวเล็กๆ เนื่องในโอกาส “วันนอนหลับโลก” 17 มีนาคม!!
บ่ายๆอย่างนี้ถ้าได้อยู่ในที่อากาศเย็นๆ หรือเพิ่งทานข้าวอิ่มๆ มาล่ะก็ เราเชื่อว่าหลายคนต้องมีอาการหนังตาหย่อนอยากจะแอบหลับพักสายตากันบ้างแน่ๆ แต่ก็ไม่ใช่แค่มนุษย์เราเท่านั้นนะที่แอบงีบ พวกสัตว์ต่างๆก็เป็นหมือนกัน และวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมการแพทย์แห่งการนอน ได้กำหนดให้เป็นวันนอนหลับโลก (World Sleep Day) โดยจะตรงกับวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ 2 ในเดือนมีนาคมทุกปี กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนบนโลกหันมาให้ความสำคัญกับการนอนหลับนั่นเอง วันนี้เราขอพาทุกคนไปดูพวกสัตว์ตัวน้อยๆ ที่ร่วมฉลองในวันนอนหลับโลกนี้กันว่าจะน่ารักน่าชังขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย อ๊ะๆ ขอเตือนไว้ก่อนระวังง่วงนะจ๊ะ 1.ฉันไม่เหนื่อยเลย สาบานได้!! 2.แพนด้าน้อยกับท่านอนสุดน่ารัก 3.ฮั่นแน่!! แอบหลับใช่มั้ย 4.เมื่อสลอตชวนกันมาปาร์ตี้ 5.ฉันยังไม่อยากเล่นด้วย เจ้ามนุษย์ ฮึ่ย!! 6.แหม่ เคลิ้มเลยซินะเจ้าหมาน้อย 7.เจ้ากระต่ากำลังฝันหวานถึงแครอท 8.แพนด้าน้อยกำลังเคลิ้มไปกับกองใบไม้นุ่มๆ 9.ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ 10.ตัวนากในสวนสัตว์ก็ขออู้งานกับเขาเหมือนกัน 11.ฉันชอบสายลม สายลมแสงแดด 12.เป็ดน้อยที่คิดว่ากระเป๋าคือที่นอน…
-
24 ภาพสุดน่ารักของเหล่า “สัตว์เบบี๋” ที่บางชนิดคุณก็อาจไม่รู้ ว่ามันมีอยู่บนโลก
ถ้าพูดถึงลูกสัตว์ต่างๆ เราก็มักจะนึกถึงลูกแมวลุกหมา หรือลูกสัตว์ที่พบเจอได้ทั่วไป แต่บางครั้งเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าแล้วสัตว์หายากแปลกๆ หน้าตาพวกมันจะเป็นยังไงนะ จะน่ารักหรือเปล่า? หรือแม้แต่ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ขนานแท้ พวกคุณก็จเอเคยเจอแค่เศษเสี่ยวหนึ่งของสิ่งมีชีวิต 1,367,555 สายพันธุ์บนโลก นี่ยังไม่นับรวมพวกแมลงเข้าไปอีกนะ แต่ยังไงก็เถอะอย่าให้ตัวเลขพวกนี้มันมากวนใจเราเลย ฉะนั้นคิดถึงแค่สัตว์ที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนก็พอ วันนี้เราก็เลยจะมาดู 24 ลูกสัตว์หายากต่างๆ จากทั่วโลกว่าพวกมันมีหน้าตาเป็นยังไง แต่บอกเลยว่าพวกมันจะต้องพิชิตใจหลายๆ คนได้อย่างแน่นอน มาดูกันเลย ก็ลูกหมึกดัมโบ้่ หรือจะเป็นลูกหมาจิ้งจอกเฟนเนคหูกางๆ ลูกชูการ์ไกรเดอร์ตัวน้อย ลูกอาย อาย ลูกของตัวควอลล์ ลูกอาร์มาดิลโล ลูกแรดสุมาตรา ลูกของตัวควอลล์สายพันธุ์ตะวันออก ลูกตัวนิ่ม ลูกค้างคาวแอฟริกัน ลูกของ Southern Pudu Fawn ซึ่งจัดอยู่ในสัตว์จำพวกกวาง ลูกบ่างตัวจิ๋ว ลูกอูฐสองหนอก ลูกอาร์ดวาร์ก …
-
ถึงนกแต่ไม่นกนะ… เรื่องราวสุดประทับใจของ “นกกระสาคู่รัก” ที่บินกลับมาเจอกันทุกๆ ปี
หากคุณเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก ไม่เชื่อว่ารักแท้ยังมีจริงอยู่บนโลกอันโหดร้ายใบนี้ล่ะก็ เราอยากให้คุณลองเปิดใจสักหน่อย เพราะถึงแม้ว่ารักแท้อาจจะหาได้ยากในหมู่มนุษย์ แต่สำหรับสัตว์บางชนิดแล้วพวกมันยังคงมีความเพียรพยายามและความรักให้แก่กัน แม้พวกมันจะอยู่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตรก็ตาม นี่เป็นเรื่องราวความรักเล็กๆ จากมุมหลังคาบ้านของนาย Stjepan Vokić จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศโครเอเชีย นาย Vokić ผู้เป็นเจ้าของบ้าน เล่าว่าที่หลังคาบ้านของเขามีนกกระสา 2 ตัวมาทำรังกันอยู่ได้ราว 20 ปีแล้ว โดยเขาตั้งชื่อให้ตัวผู้ว่า Klepetan และตัวเมียชื่อ Malena ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมของทุกๆ ปี เจ้า Klepetan จะอพยพไปอยู่แถวๆ แอฟริกาใต้ ปล่อยให้ Malena อยู่ในรังตัวเดียว เพราะเนื่องจากปีกของมันได้รับบาดเจ็บจากนักล่าเมื่อนานมาแล้ว ทำให้ไม่สามารถบินไปไหนมาไหนกับคู่รักของมันได้ และเมื่อถึงเดือนมีนาคมของทุกปี เจ้า Klepetan ก็จะบินกลับมาที่รังเพื่อเจอกับ Malena อีกครั้ง แม้ว่านกกระสาอาจจะไม่จำเป็นต้องมีคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต แต่มันก็ยังกลับมาเจอคู่ของที่รังเดิมๆ มันทุกปีๆ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของมันอย่างเหลือเชื่อ หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่านกที่บินกลับมาทุกปีๆ นั้นใช่เจ้า Klepetan ตัวจริงหรือเปล่า!? คุณ Vokić ยืนยันว่าใช่แน่นอน…
-
ชวนดูวิธีการหาคู่สุดคูลของ “ปลากระเบนปีศาจ” ใช้พุงกระแทกน้ำ โบยบินให้อีกฝ่ายสนใจ!?
#เหมียวฟิ้นเองเป็นคนที่ชอบดูสารคดีมาก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ไปเจอเข้ากับสารคดีเกี่ยวกับปลากระเบนคลิปหนึ่งจาก BBC ที่เผยให้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพวกมันอย่างการทะยานขึ้นไปบนอากาศ!? มันคืออะไร? ตามข้อมูลต่างๆ บอกว่าปลากระเบนตัวนี้มีชื่อว่า “ปลากระเบนปีศาจ” หรือ “ปลากระเบนบิน” มักอาศัยรวมกันเป็นฝูงร้อยกว่าตัว พวกมันมีรูปร่างที่แบนราบและมีครีบคล้ายๆ ปีก ทำให้ง่ายต่อการว่ายน้ำและเหินขึ้นสู่ผิวน้ำ เมื่อนำพวกมันมาวัดความยาวของปีกจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง จะอยู่ที่ราวๆ 5.2 เมตร (ลองจินตนาการว่ากว้างขนาดคน 3 คนนอนเรียงกันสิ) ความยาวขนาดนี้จึงทำให้พวกมันทะยานขึ้นเหนือน้ำได้สูงราวๆ 2 เมตรเลยทีเดียว พฤติกรรมเหินฟ้า ข้อมูลจากสารคดีของ BBC กล่าวว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่เรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้ามเพื่อหาคู่ ไม่ว่าจะเพศผู้หรือเพศเมีย ในขณะที่บางข้อมูลบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นการต้อนปลาตัวเล็กๆ ให้เข้ามาอยู่ในใกล้ๆ ฝูงของพวกมัน เพื่อง่ายต่อการจับกินเป็นอาหารนั่นเอง ด้านนาย Joshua Stewart จากสถาบันวิจัยสัตว์น้ำ Scripps Institution of Oceanography ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าหากคุณนั่งเรือออกไปแล้วเจอกับกลุ่มปลากระเบนเหล่านี้ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับอยู่ท่ามกลางหม้อป็อปคอร์นขนาดใหญ่เลยทีเดียว ตัวอย่างของฝูงกระเบนปิศาจ นอกจากนี้เขายังได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่าเวลาที่พวกมันพุ่งขึ้นมาจากในน้ำ…
-
ความน่ารักของเจ้าแพรี่ด็อก ที่ถึงแม้จะเสียบ้านเพราะไฟไหม้ แต่คนดีๆ ก็ทำให้มันยิ้มได้!!
โชคร้ายของเจ้าพวกสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่กันมาดีๆ บ้านก็ดันไฟไหม้ซะงั้น…. Vern คือชื่อของเจ้าแพรี่ด็อกสุดแสนจะน่ารักตัวหนึ่ง ที่มีชีวิตสุดแสนสงบสุขอยู่กับเพื่อนสุนัขสองตัวและครอบครัวมนุษย์ของมันในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่แล้วโชคร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาบ้านของมันอยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นทำให้บ้านต้องเกิดความเสียหายอย่างหนัก จนถึงขั้นอยู่อาศัยไม่ได้ และเมื่อเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปก็ได้ มีอาสาสมัครที่ชื่อว่า Red Paw Emergency Relief Team ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกมันทั้งเรื่องความเป็นอยู่รวมถึงที่ๆ พวกมันจะไปอยู่ต่อในอนาคต จุดประสงค์หลักของอาสาสมัครทีมนี้ ก็คือการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ที่ต้องการดูแลและต้องแยกตัวจากเจ้าของไม่ว่าจะด้วยเหตุร้ายอะไรก็ตาม พวกเขานำเรื่องราวของครอบครัวนี้ไปโพสต์ลงบนหน้าแฟนเพจของพวกเขา และมีคนมาให้ความสนใจมากมาย แน่นอนว่าบ้านหายไปทั้งหลังครอบครัวมนุษย์ของมันก็คงจะต้องนำเงินไปจัดการในส่วนนั้น และไม่มีงบมากพอที่จะมาดูแลเจ้า Vern และเพื่อนๆ สุนัขของมัน แต่โชคดีที่มีคนใจดีพอได้รับรู้ถึงเรื่องของพวกมันก็ได้บริจาคอาหารมาที่อาสาสมัครทำให้พวกมันไม่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก และนี้ก็คือเจ้า Vern และแก๊งหมาของมัน แม้จะเสียบ้าน แต่ก็ไม่ได้เสียกำลังใจ เพราะชีวิตมันเริ่มมีความหวังใหม่ขึ้นมาแล้ว ดูเหมือนเจ้าหมาก็จะรู้ตัวเช่นกัน ว่ามีคนอื่นๆ ที่ใจดีคอยช่วยเหลืออยู่ อย่างน้อยพวกมันก็ยังมีความสุขได้ นอนสบายเชียวนะ ที่มา thedodo
-
ช่วงเวลาแห่งความน่ารัก… นักดับเพลิงเข้าช่วยชีวิต “หมูอู๊ดๆ” นับร้อยตัว จากโรงนาที่ไฟไหม้!!
กลายเป็นข่าวสุดมุ้งมิ้ง เมื่อทางเว็บไซต์เดอะซัน ได้เผยแพร่คลิปของเหล่านักดับเพลิงเข้าไปช่วยเจ้าหมูกว่า 150 ตัว ออกจากโรงนาซึ่งกำลังมีไฟลุกไหม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Chernaya Rechka ประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้รับเหตุแจ้งไฟไหม้ที่โรงนาแห่งหนึ่ง พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านอกจากจะเป็นโรงนาแล้ว มันยังเป็นเล้าหมูที่มีหมูจำนวนมากด้วย งานนี้ก็ต้องเกิดภารกิจช่วยชีวิตสุดน่ารักขึ้นมาแล้ว!! ภาพของนักดับเพลิงที่เรียงแถวลำเลียงหมูออกมาและส่งต่อให้กันไปเรื่อยๆ ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ก็พยามช่วยกันดับเพลิงให้สำเร็จ ยังดีที่ผลกระทบของไฟไหม้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับตึกเพียงหลังเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่ดูจะมีความสุขนะที่ช่วยพวกมันได้ ค่อยๆ ทยอยพากันออกมาตัวสองตัว ตามคำบอกเล่าของเจ้าของฟาร์มบอกว่ามีหมูและลูกหมูมากถึงราวๆ 200 ตัว ซึ่งถูกเลี้ยงดูอยู่ในโรงนา และกว่าจะช่วยพวกลูกหมูออกมาได้ทั้งหมดนั้นต้องใช้นักดับเพลิงมากถึง 26 คนเลยทีเดียวล่ะ และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โซเชียลมีเดีย ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมาย ตัวอย่างเช่น “ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา แต่อดที่จะชื่นชมพวกเขาไม่ได้อยู่ดี” และยังมีคนบอกว่า “ขอบคุณจริงๆ เหล่าผู้กล้า” ฮุยเลฮุ่ยยยยย พวกหมูก็ยอมให้อุ้มแต่โดยดี เหมือนรู้ว่ามันจะปลอดภัยแน่ๆ ถ้าไม่ดิ้น ฮ่าาาาา ดูสภาพของพวกมันสิเปื้อนไปหมดเลย แถมยังมีแม่หมูอีกตะหาก ค่อยๆ อุ้มมันออกมาส่งต่อไปเป็นทอดๆ เอ่อ หมูตัวนั้นมันลายสีดำ…
-
ตื่นเต้นจังงง!! 26 ภาพช่วงเวลาดีๆ ของสัตว์โลกผู้น่ารัก หลังได้พบสิ่งต่างๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต
ลองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่คุณได้สัมผัสสิ่งต่างๆ เป็นครั้งแรก เช่น วันแรกของการเดินทางไปโรงเรียน ไปหาหมอฟัน หรือครั้งแรกที่เราสามารถขี่จักรยานได้โดยที่ไม่ล้ม เรียกได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งความตื่นเต้น และน่าจดจำเสมอใช่ไหมละ เช่นเดียวกันกับสัตว์โลกเหล่านี้ คุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันก็มีช่วงเวลาที่ได้สัมผัสสิ่งต่างๆ เป็นครั้งแรกเช่นกัน แต่เราก็ไม่มีทางรู้หรอกนะว่าสิ่งที่มันได้เจอจะน่าประทับใจ หรือตื่นเต้นสำหรับพวกมันหรือเปล่า…อยากรู้ซะแล้วสิ ว่าพวกสัตว์เหล่านี้มันได้เจอกับอะไรเป็นครั้งแรกในชีวิตบ้าง ว่าแล้วก็มาดูกันเลย เจ้าหมาที่ได้พบกับบรรดาลูกแมวน้อยเป็นครั้งแรก ครั้งแรกที่ได้เห็นจิงโจ้ 555 เจ้าเหมียวที่กำลังเคยเห็นเครื่องดูดฝุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต เจ้าเหมียว Kiwi กำลังฟินอยู่กับบรรยากาศภายนอก หลังเจ้านายพาออกมานอกบ้านเป็นครั้งแรก พี่หมาที่ได้รับการช่วยเหลือ กำลังจะนอนหลับในบ้านเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อเจ้าเหมียวได้สัมผัสหิมะเป็นครั้งแรก เจ้าเหมียวที่กำลังทำหน้าช็อก หลังเจ้านายบอกว่ามีลูก ลูกหมีขั้วโลกแสนน่ารัก กับการสัมผัสหิมะเป็นครั้งแรก หน้าตาของเจ้าเหมียวที่ได้เห็นต้นคริสมาสต์เป็นครั้งแรก ฮ่าๆ สำหรับเจ้าฮัสกี้ตัวนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เคยดูทีวีเลยนะเนี่ย เจ้าเหมียวกับการเล่นหิมะเป็นครั้งแรก ดูท่าทางสนุกใหญ่ ลูกแมวน้อยอายุเพียง 2 สัปดาห์ ออกมาพบกับแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก ดูท่าทางเจ้าหมาจะไม่ค่อยชินกับการขึ้นรถไฟฟ้า ก็นี่เป็นครั้งแรกนี่นา…
-
14 ข้อมูลน่าสนใจของ “วาฬสีน้ำเงิน” ทำให้เรารู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เพียงใด
เป็นที่รู้กันว่า วาฬสีน้ำเงิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ทว่านั้นไม่ใช่แค่ความจริงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีความลับอีกมากมายเกี่ยวกับวาฬสีน้ำเงินที่เราอาจจะรู้หรือบางคนก็ไม่รู้อยู่ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 14 ข้อมุลที่น่ารู้ของวาฬสีน้ำเงินกันว่าเจ้าสัตว์ยักษ์ใหญ่แห่งทะเลนี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง 1. วาฬสีน้ำเงินสามารถพ่นน้ำได้สูงถึง 9 เมตร หรือให้เทียบความสูงของตึก ก็เท่ากับตึก 3 ชั้นเลยทีเดียว 2. ตามปกติแล้ว วาฬสีน้ำเงินจะว่ายน้ำด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าพวกมันว่ายเต็มสปีด มันจะว่ายได้เร็วถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3. แค่ลิ้นของวาฬสีน้ำเงินเพียงอย่างเดียว มีน้ำหนักพอๆ กับช้างตัวหนึ่งเลยทีเดียว 4. หัวใจของวาฬสีน้ำเงิน มีน้ำหนักราวๆ เกือบ 1 ตัน และถ้าเทียบง่ายๆ ก็มีขนาดที่ใหญ่พอๆ กับรถยนต์มินิคูเปอร์ 1 คันเลยทีเดียว 5. เส้นเลือดของวาฬสีน้ำเงินมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ใหญ่พอที่จะให้คนเข้าไปอยู่ข้างในได้เลยล่ะ 6. ถ้าวาฬสีน้ำเงินโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 31.2 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามบาสเก็ตบอล NBA เลยล่ะนั้น…
-
มิตรภาพต่างสายพันธุ์ของ “นักพายเรือ” และ “วาฬเพชรฆาต” ที่กลายมาเป็นเพื่อนกันซะงั้น!?
ถ้าพูดถึงวาฬเพชฌฆาต เราก็คงจะรู้จักกันดีว่ามันคือนักล่าแห่งท้องทะเลที่มีนิสัยดุร้ายพอสมควร แถมยังอาศัยอยู่กับเป็นฝูงอีกตะหาก แต่ทว่าในบางครั้งเราก็จะเห็นเจ้าวาฬสายพันธุ์นี้บางตัวมีนิสัยที่รักสงบและน่ารักเช่นกัน แถมมันยังฉลาดมากเป็นอันดับต้นๆ ของสัตว์โลกที่ไม่นับมนุษย์ด้วย เราจะพาย้อนไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักพายเรือพายเรือคายัคชาวออสเตรเรียที่ชื่อว่า Nathan Pettigrew เขาได้เล่าถึงวาฬเพชฌฆาตเพื่อนรักของเขาตัวหนึ่งที่เจอกันเมื่อปี 2010 โดยเขาเล่าว่า “ผมเจอกับมันครั้งแรกเมื่อตอนปี 2010 และได้พายเรือเล่นกับมันหลายครั้งเลยล่ะ นับตั้งแต่เจอมันครั้งแรก” เขาได้ตั้งชื่อให้กับวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ว่า Pickle พอถามว่าวาฬเพชฌฆาตมันก็หน้าตาเหมือนกันหมดแล้วเขาจำเพื่อนของเขาได้ยังไง เขาก็บอกว่าเพื่อนของเขาตัวนี้จะมีครีปที่หลังที่โดดเด่นไม่เหมือนตัวไหนๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาจำเพื่อนของเขาได้ เป็นเวลาหลายปีที่ทั้งคู่ได้เป็นเพื่อนกัน เขาบอกว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้า Pickle ก็ยิ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกัน แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังมาเจอกันและจำกันได้ดี แต่ใช่ว่ามันจะจำเขาได้จากหน้าตานะ เพราะว่า Nathan พยามที่จะใส่ชุดแบบเดิมเสมอเมื่อเขาไปพายเรือรอบบริเวณน่านน้ำนิวซีแลนด์ “ผมพยามที่จะใส่เสื้อสีแดง และหมวกแดงเสมอเวลาที่ผมออกไปพายเรือ ซึ่งผมคิดว่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ Pickle จำผมได้ แถมท่าทีที่มันมีต่อผมก็ยังแตกต่างจากวาฬเพชฌฆาตตัวอื่นๆ อีกด้วย” จะบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ได้ เพราะว่าทั้งคู่ยังมีปฏิสัมพันธ์ให้กันเสมอเป็นถึง 5 ปีเต็มๆ จนกระทั่งนำมาสู่คลิปวิดีโอกึ่งสารคดีนำเสนอมิตรภาพของเขาและเจ้าวาฬตัวดังกล่าว เราลองมาชมคลิปวิดีโอดังกล่าวจากแชแนล The Kayaking World of Nathan Pettigrew ด้านล่างนี้เลยครับ……
-
หมาชิวาว่าจรจัด กลายเป็นหมาที่ใครๆ ก็อยากเลี้ยง หลังโพสต์ท่า ¯\_(ツ)_/¯ ถ่ายรูปสุดฮา!!
เรื่องราวที่กลายมาเป็นกระแสสุดฮาบนโลกออนไลน์ หลังจากที่มีสมาชิกเฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ภาพเจ้าหมาชิวาว่าลงบนเน็ต ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาต้องการที่จะหาใครสักคนมารับเลี้ยงสุนัขลูกครึ่งชิวาว่าสีดำ ตัวนี้ แต่ทว่าภาพที่เขาโพสเพื่อประกาศ แทนที่จะเป็นภาพน่ารักใสๆ ของเจ้าสุนัข เขากลับเลือกเป็นรูปที่มันกำลังทำท่า ¯\_(ツ)_/¯ ที่ดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการถ่ายรูปที่ผิดพลาด แต่ดูดีๆ มันทั้งน่ารักและตลกสุดๆ จนชาวเน็ตบอกว่าเขาเลือกภาพมาใช้ได้ถูกต้องแล้วล่ะ และแน่นอน มันกลายมาเป็นกระแสที่คนแชร์ต่อกันอย่างมาก เพราะถ้าใครเห็นภาพนี้ของมันแล้ว ก็คงจะยากที่จะไม่ตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน จากเจ้าหมาจรจัดที่ไม่มีใครต้องการ มันกลายมาเป็นดาราบนโลกออนไลน์ มีใครต่อใครพากันแชร์ภาพมัน และหลายคนอยากจะรับเลี้ยงมันขึ้นมาทันที นอกจากภาพนี้แล้ว มันยังมีภาพมุมมองปกติที่น่ารักๆ ด้วยนะ… ในมุมมองปกติมันก็ดูน่ารักดีนะ แถมยังดูขี้เล่นอีกตะหาก ดูๆ แล้วมันก็มีความสุขมากๆ เลยนะเนี่ย . เห็นความน่ารักของมันกันขนาดนี้แล้ว จะมีใครใจดีมารับมันไปเลี้ยงบ้างไหมนะ!? ที่มา boredpanda
-
“เจ้าหมาผู้โดดเดี่ยว” ในสถานรับเลี้ยง ดีใจเมื่อรู้ว่ามันกับ “ตุ๊กตาช้างแสนรัก” ได้ไปบ้านใหม่!!
เจ้า Smokey สุนัขวัย 5 ขวบ ที่ถูกเลี้ยงมาโดยเจ้าของคนเดียวมาตลอด แต่ทว่าแล้ววันหนึ่งเจ้าของเก่าของมัน จำใจจะต้องทิ้งมันไว้ที่สถานพักพิง เพราะว่าเขาต้องสูญเสียบ้านของตัวเองไป ซึ่งสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเป็นปัญหาทางเงินก็เป็นได้ มันถูกนำมาทิ้งไว้ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา พร้อมกับตุ๊กตาช้างสีเทา ของเล่นโปรดของมัน ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นมันก็เศร้ามาตลอด เหมือนกับสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป ทางสถานดูแลก็เลยลองให้มันอยู่กับตุ๊กตาที่มันถูกทิ้งมาด้วย กลายเป็นว่ามันมีความสุขขึ้นยามที่ได้เล่นตุ๊กตา แต่ก็ไม่ใช่แววตาของสุนัขที่มีความสุขอย่างเต็มเปี่ยม แต่ทว่ามันก็ยังคงต้องการบ้านและครอบครัวใหม่อยู่ดี ทางศูนย์จึงประกาศที่จะหาบ้านใหม่ให้กับมัน โดยบรรยายถึงลักษณะนิสัยของมันโดยรวม และแน่นอนพวกเขายังกำชับด้วยว่า อย่าลืมที่จะพาตุ๊กตาช้างเพื่อนรักของมันไปด้วย ตามประกาศคร่าวๆ นั้น พวกเขาระบุว่า “เจ้า Smokey มีนิสัยที่น่ารักและขี้อาย ตอนแรกมันอาจจะขี้กลัวหน่อยๆ แต่ถ้าให้เวลามันสักนิดมันจะน่ารักมากๆ เลยล่ะ มันชอบที่จะวิ่งไปมาพร้อมกับไล่ของเล่น แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ ถ้าคุณโยนของเล่นให้มัน ถ้าเป็นไปได้เราอยากจะให้มันได้มีเพื่อนสักตัว น่าจะช่วยมันได้เยอะเลยล่ะ” หลังจากที่ข่าวของมันถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชี่ยลได้ไม่นานนัก ก็มีอาสาสมัครสองคนจาก Have A Dream Rescue Organization มาเจอกับมันเข้าที่ศูนย์พักแห่งนี้ พวกเขาตกหลุมรักเจ้า Smokey เข้าทันทีหลังจากที่เห็น พวกเขาได้ยื่นมือเข้ามาช่วยมัน เพื่อที่มันจะสามารถหาครอบครัวจริงๆ ได้สักที แต่ทว่าทาง…
-
ประมวล 31 ภาพแห่งความสุขของสัตว์ถูกทิ้ง หลังได้รับไปเลี้ยงดูอีกครั้ง แฮปปี้คนเลี้ยงสัตว์เลย!!
#เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าทุกชีวิตต้องการความรักและการเอาใจใส่ดูแล คงไม่มีใครอยากจะโดนทิ้งหรอก เพราะความรู้สึกแบบนี้เป็นอะไรที่แย่มากๆ เลยล่ะ ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการทิ้งสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย หากคนที่เลี้ยงไม่พร้อมหรือไม่อยากเลี้ยงแล้ว จึงทำให้ชีวิตเหล่านี้ดูอ้างว้างขึ้นมาทันที แต่ฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ เมื่อสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งได้เจอกับชีวิตใหม่ กับผู้ที่พร้อมจะดูแลพวกมันอีกครั้ง ทำให้มีแววตาอันสดใสและรอยยิ้มกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง จากตัวอย่างทั้ง 31 ภาพดังต่อไปนี้ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ดูแววตาของพวกมันตอนที่ถูกทิ้งสิ หน้าตาเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ และหลังจากที่มีคนรับไปเลี้ยงอีกครั้ง ชีวิตดูแฮปปี้ขึ้นเยอะเลย เห็นแล้วก็มีความสุขตาม อิอิ ที่มา :…
-
ชาวเน็ตแชร์คลิปไก่งวงทำพิธี “เดินวนรอบศพแมว” ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจเพราะอยากรู้อยากเห็น?
หากคุณเข้าใจว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำพิธีกรรมได้ล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะคลิปที่#เหมียวฟิ้น จะนำเสนอต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกฉงนกับพฤติกรรมของสัตว์มากกว่าที่เคยเสียอีก คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า @TheReal_JDavis เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของฝูงไก่งวงจำนวนหนึ่ง กำลังเดินวนรอบๆ ซากศพแมวที่นอนอยู่กลางถนน พร้อมกับข้อความว่า “ไก่งวงเหล่านี้พยายามจะมอบชีวิตที่ 10 ให้แมว” นาย Davis บอกว่าวิดีโอขนาด 24 วินาทีตัวนี้เป็นวิดีโอที่ “แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” เลย เพราะเนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ และดูเหมือนพวกมันกำลังพยายามทำพิธีบางอย่างกับศพของแมวตัวนั้น ชมคลิปวิดีโอจากนาย Davis ได้ที่นี่เลย (ใครดูไม่ได้กดที่นี่นะ) These turkeys trying to give this cat its 10th life pic.twitter.com/VBM7t4MZYr — J… (@TheReal_JDavis) 2 มีนาคม 2560 แต่ในความจริงแล้วมันไม่ได้สยองขนาดนั้น เพราะด้านนักชีววิทยาสัตว์ป่าอย่างนาย Mark Hatfield ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พวกมันพยายามที่จะทำให้มั่นใจว่าเจ้าแมวตัวนั้นไม่มีภัยคุกคามใดๆ อีกต่อไป มันน่าจะเป็นเรื่องของความอยากรู้อยากเห็น ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของพวกไก่งวงมาก” …
-
เจ้าของโพสต์รูป “หมาที่หยุดยิ้มไม่ได้” หลังไปคุ้ยดินในสวนหลังบ้าน สร้างความฮาทั่วเน็ต!!
Pandora เป็นชื่อของเจ้าหมาตัวนี้ โดยปกติทั่วไปแล้ว มันก็จะเป็นเจ้าหมาขี้เล่นซุกซน ปกติตามประสาหมาๆ แต่ทว่าวันหนึ่งด้วยความซุกซนและอยากช่วยเหลือเจ้าของ ทำให้มันค้นพบบางสิ่งบางอย่าง เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่ประเทศบราซิล เมื่อ Lucas Alves Magalhães ได้เก็บเจ้า Pandora มาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ จนตอนนี้มันโตขึ้นพอที่จะขุดอะไรสักอย่างได้ ซึ่งพอมันเริ่มขุดสวนหลังบ้าน เขาก็เริ่มสังเกตุได้ว่ามันมีความด้านการขุดที่ชำนาญมากๆ เลยทีเดียว แต่แล้ววันหนึ่งเจ้า Pandora ก็ขุดค้นพบบางอย่างในสวนหลังบ้าน มันคือ เตาบาบีคิว (ไปอยู่ได้ไงฟระ!!) ซึ่งเจ้าหมาก็ดูจะมีความสุขมากๆ กับการคนพบสมบัติหลังบ้านของมัน แต่ทว่าอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหมานักขุดก็ได้ไปขุดเจอบางสิ่งบางอย่าง แถมเจ้าสิ่งนี้เหมือนจะติดอยู่ในปากของมันซะด้วย และเมื่อ Lucas จับหน้าของมันขึ้น เขาก็ต้องหัวเราะดังลั่นออกมา เพราะภาพที่เธอเห็นคือ ฟันปลอมที่ติดอยู่กับปากของมัน แถมยังทำให้ดูเหมือนมันกำลังยิ้มแปลกๆ อีกด้วย “ตอนที่ฉันยกหัวของมันขึ้นแล้วเห็นหน้าชัดๆ ของมัน ฉันหัวเราะจนเกือบตายเลยล่ะ มันขำมากๆ เลย” เขากล่าวถึงเจ้าหมา หลังจากที่เธอได้ถ่ายรูปของเจ้าหมาพอหอมปากหอมคอแล้ว เขาก็ถอดฟันปลอมนั้นออกแล้วเก็บไว้เป็นสมบัติของเจ้าหมานักขุดตัวนี้ ดูรอยยิ้มของมันสิ ยิ้มจนเงือกแห้งหมดแล้ว จะมองมุมไหนก็ขำสุดๆ พอมันใส่เจ้าฟันปลอมนี้แล้ว มันดูน่าเกลียดและตลกในเวลาเดียวกันเลยแหะ…
-
นี่คือเจ้า Buffy สุนัขผู้ยิ้มรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเวลาไหน จะเกิดอะไร พี่ก็จะไม่หยุดยิ้ม!!
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ต่อให้เรื่องมันแย่แค่ไหน… “รอยยิ้ม” ก็ทำให้เรื่องเหล่านั้นทุเลาลงได้ พบกับ Buffy สุนัขวัย 13 ปี ที่ยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเวลาไหนมันก็จะยิ้มอยู่เสมอ แถมมันยังเป็นขวัญใจของทุกคนในละแวกบ้านที่อ๊อกซฟอร์ดเชอร์ ในประเทศอังกฤษอีกด้วย Jill Cox เจ้าของได้เล่าว่า เธอพึ่งจะรู้ตัวว่าสุนัขของตัวเองสามารถยิ้มได้ก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วแถมยังบอกอีกว่าสุนัขของเธอส่งยิ้มให้แทบจะตลอดเวลาเลย จนเธอมีรูปของมันมากเป็นพันๆ รูปเลยก็ว่าได้ เธอยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “จริงๆ แล้วมันคงยิ้มามาตลอดเป็นเวลานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ได้สังเกตเท่านั่นเอง จนเมื่อฉันรู้เลยย้อนกลับไปดูรูปสมัยก่อน มันก็ยิ้มตั้งแต่ตอนนั้นแล้วจริงๆ” หลังจากภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ตก็มีคนจำนวนมากที่ชอบในรอยยิ้มของมัน แต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่คิดว่าภาพรอยยิ้มของมันถูกตัดต่อ ซึ่งพวกเขาก็พยามเรียกร้องให้ส่งภาพของมันเพื่อยืนยันในจุดนั้น หลายคนที่ได้เจอกับมัน ก็จะถ่ายรูปมันเก็บไว้ แถมบางครั้งมันก็จะถูกขอถ่ายเซลฟี่เพื่อใช้ในการให้กำลังใจกับใครสักคนอีกจะหาก แต่ว่าจากที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักจะขอภาพของมัน เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ในวันที่พวกเขารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แน่นอนว่าภาพของ Buffy ก็ช่วยพวกเขาได้มากๆ เลยล่ะ “บางคนก็บอกกับฉันว่ามันคงมีความผิดปกติอะไรที่หน้าของมัน แต่ฉันว่ามันคงจะยิ้มเพราะมีความสุขเหมือนกับที่คนทำนั้นและ” สุดท้ายเธอก็บอกว่าเธอภูมิใจและดีใจมาก ที่มีมันเข้ามาอยู่ในครอบครัว เจ้า Buffy เปรียบเหมือนดั่งดาวดวงน้อยที่ส่องประกายตลอดเวลาให้กับครอบครัว . .…
-
จาก ‘นกน้อย’ ที่บินมากวนเขาตอนกินข้าวเที่ยงทุกวัน กลายเป็นเพื่อนสนิท ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว!!
ปกติแล้วเวลาที่เราออกไปกินข้าวตามร้านอาหารข้างทางต่างๆ เรามักจะเจอสุนัขเจ้าถิ่นแถวนั้น มารอแบ่งอาหารจากเรา ซึ่งแน่นอนว่าบางคนก็จะรำคาญ หรือบางคนก็เต็มใจที่จะแบ่งให้พวกมัน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นกับชายคนนี้เช่นกัน แต่ทว่าสัตว์ที่มากวน มันดันเป็น ‘นก‘ นะสิ เรื่องของชายคนนี้มันเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากที่เขาออกไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารแล้วบังเอิญก็มีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนจานของเขา และพยามที่จะแย่งอาหารในจานของเขาไป ซึ่งในตอนแรกเขาก็รู้สึกรำคาญมันพอสมควรจนต้องไล่มันให้ออกไปจากจานข้าวของเขา… วันนั้นผ่านไปเขาก็คิดว่ามันจบแล้ว แต่ในทุกๆ วันที่เขามากินข้าวก็จะมีนกมาเกาะที่จานข้าวของเขาเหมือนเดิมทุกๆ วันจนชายคนนี้เริ่มเอะใจเกี่ยวกับเจ้านกที่มาขอข้าวกิน ซึ่งทุกตัวที่มามันมีตำหนิเหมือนเดิม จนเขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคือนกตัวเดิม นอกจากนี้ชายนี้ยังพูดอีกว่า “ผมยอมรับว่าในตอนแรกมันก็น่ารำคาญพอสมควรเลย แต่ว่าจากรอยตำหนิที่ปีกของมันทำให้ผมพอจะเดาได้ว่านกตัวนี้ต้องบาดเจ็บหรือป่วยอยู่แน่ๆ ช่วงแรกผมจะใช้มือปัดเพื่อไล่มันไป แต่ทว่ามันกลับล้มลงแทนที่จะบินหนี นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ตั้งแต่นั้นมาหลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จผมก็จะแบ่งอาหารให้มันทุกครั้ง” ท้ายที่สุดชายคนนี้ก็ตั้งชื่อให้กับเจ้านกว่า Baldie และนับตั้งแต่นั้นมาการกินข้าวเที่ยงด้วยกันของทั้งคู่จึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว “ทุกครั้งที่อยู่มันๆ ก็หายไป ผมจะรู้สึกเป็นกังวลมาก ว่ามันจะเป็นอะไรไหม จะเกิดอะไรขึ้นกับมันหรือเปล่า แต่ทว่าสุดท้ายมันก็กลับมาพร้อมกับกระเพาที่หิวโหย” สุดท้านแล้วจากชายที่ปลีกตัวเพื่อมากินข้าวคนเดียวและต้องการความสงบ ตอนนี้เขาก็ได้เพื่อนกินข้าวเพิ่มมาหนึ่งตัว และดูเหมือนเขาจะมีความสุขกับเพื่อนตัวใหม่ของเขามากๆ เลยทีเดียว กลายเป็นเพื่อนที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว… ที่มา thedodo
-
ขอบคุณนะมนุษย์…เปิดหน้าพี่ “อึ่งอ่าง” ฮีโร่สิบล้อ ผู้จอดรถช่วยลูกแมวน้อยที่ถูกทิ้งไว้ใต้สะพาน
กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังในโลกออนไลน์ของเราในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องของคนขับสิบล้อรายหนึ่ง ที่จอดรถไว้กลางถนน เพื่อช่วยเหลือลูกแมวตัวน้อยที่ใต้สะพาน ทำเอาผู้คนต่างชื่นชมทั้งในและนอกจอเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nieb Nuttigon หรือคุณเนี๊ยบ โดยเจ้าตัวได้โพสต์คลิปวิดีโอของคนขับรถสิบล้อที่พยายามจะช่วยลูกแมวลงมาจากใต้สะพานบริเวณถนนสาธุประดิษฐ์ เขตยานาวา กรุงเทพมหานครฯ พร้อมกับข้อความประกอบด้วยว่า “แชร์กันต่อไปครับ หนุ่มสิบล้อช่วยชีวิตแมวถูกปล่อยไว้กลางสะพาน คลิปดีๆ มาดูกันครับ สัตว์โลกทุกชีวิตมีลมหายใจอยู่ร่วมกัน” เหตุการณ์การช่วยเหลือในครั้งนี้ ทำเอาผู้คนในละแวกนั้นต่างแสดงความเป็นห่วงคนขับรถสิบล้อไปตามๆ กัน เพราะเนื่องจากต้องดัมพ์กระบะท้ายให้สูงขึ้นแล้วถึงเอื้อมไปคว้าเจ้าแมวมาไว้ได้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็สร้างความประทับใจให้แก่ชาวเน็ตไม่น้อย จนตอนนี้มีการแชร์ออกไปแล้วกว่า 6,000 ครั้ง นี่คือหน้าตาของเจ้าเหมียวผู้ถูกทิ้งไว้บนสะพาน คนขับรถสิบล้อยอดฮีโร่ของเรา ทราบภายหลังว่าชื่อคุณ “อึ่งอ่าง” เมื่อคุณเนี๊ยบสอบถามกับเขาว่าจะรับเอาแมวตัวนี้ไปเลี้ยงด้วยหรือไม่? คุณอึ่งอ่างก็ได้ปฏิเสธ เพราะตัวเองใช้ชีวิตอยู่แต่บนรถสิบล้อจึงเกรงว่าจะไม่มีพื้นที่มากพอ คุณเนี๊ยบจึงอาสารับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ไว้เอง ใครอยากเห็นการกู้ภัยเจ้าเหมียวแบบเต็มๆ ลองดูได้ที่นี่เลย เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างก็ทำเอาชาวเน็ตปลาบปลื้มกับวีรกรรมของคนขับสิบล้อและส่งข้อความเข้ามาชื่นชมเขาอย่างล้นหลามเลย Thirada Deemanop “กราบใจคนช่วยและคนรับเลี้ยงนะคะ ขอให้มีชีวิตที่ดีและปลอดภัยตลอดไป” Nam PigWheel “ขอให้เจริญรุ่งเรืองทั้ง คนขับ คนช่วย และคนรับเลี้ยงนะคะ พวกคุณสุดยอดจริงๆ” Apichart Wongsathan “พี่สุดยอดมากครับ…
-
ไก่ช่วยด้วย!! “Darla” จากลูกไก่ป่วยใกล้ตาย กลายเป็นไก่นักบำบัดที่ใครๆ ก็ต้องการตัว
นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Erika Proctor และลูกชาย Finn จากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาตั้งองค์กร Green Dogs Unleashed เพื่อช่วยเหลือสุนัขที่หูหนวกตาบอด ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับสัตว์มาก ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ในปี 2015 Erika Proctor และลูกชาย Finn ได้ไปเที่ยวที่งานจัดแสดงสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วได้ไปเจอเข้ากับลูกไก่ป่วย 3 ตัว Finn เลยบอกกับแม่ของเขาว่าอยากจะรับเอาลูกไก่ตัวนั้นมาเลี้ยง แม้ว่ามันอาจจะไม่รอดก็ตาม แต่น่าเสียดายที่พอพาลูกไก่กลับมาบ้านแล้ว พวกมันดันตายไป 2 ตัว เหลือลูกไก่เพียงตัวเดียวที่แข็งแรงพอ พวกเขาเลยตั้งใจจะเลี้ยงมันและตั้งชื่อให้มันว่า Darla วันเวลาผ่านไปพวกเขาก็สนิทกับเจ้าไก่ตัวนี้มากขึ้น เจ้าไก่ตัวนี้เริ่มใช้ประตูบานพับเล็กๆ ของสุนัขเดินเข้าออกบ้านปร๋อ นอกจาก Darla แล้ว ที่บ้านของพวกเขายังมีแมวมีสุนัขตาบอดหูหนวกอยู่หลายตัว แต่พวกมันก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย และยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกๆ ตัวด้วย ส่วน Finn เองก็ดูจะชอบเจ้าไก่ Darla มาก พวกเขาจะออกไปเล่นนอกบ้านด้วยกันบ่อยๆ บางครั้งเขาก็จะอ่านหนังสือให้เจ้าไก่เพื่อนยากฟัง และเนื่องจากอากาศที่นั่นค่อนข้างเย็น เจ้าไก่ก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซุกอยู่ในเสื้อกันหนาวของ Finn เป็นหลัก…
-
หมดกัน… ฟาร์มเสือจีนปล่อย “โดรน” บินว่อนพาเสือออกกำลังกาย แต่ก็โดนตะปบจนพัง!?
ในช่วงต้นปีแบบนี้ยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศจีน ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตกในหลายๆ แห่ง นอกจากมนุษย์อย่างเราๆ ที่ใช้ชีวิตลำบากแล้ว พวกสัตว์เองก็เช่นกันนะ อย่างข่าวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมารายงานในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์มเสือไซบีเรีย China’s Harbin Siberian Tiger Park ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่นั่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เสือแต่ละตัวก็จะมีร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ป้องกันอากาศหนาว เนื่องจากอากาศหนาวมากจนพวกมันไม่อยากออกไปไหน ทางฟาร์มเสือจึงออกไอเดียนำเอาโดรนมาบินล่อให้พวกมันวิ่งตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยสัญชาตญาณของเสือ เมื่อพวกมันเห็นอะไรที่บินได้มันก็จะคิดว่าว่าเป็นนก พวกมันจึงวิ่งไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดรนลำที่ว่านี้บินต่ำลงมาถึงระดับที่พวกเสือจะกระโดดได้พอดี มันจึงเอื้อมไปตะปบจนโดรนหล่นลงมากับพื้นและพังในที่สุด เมื่อพวกเสือเดินเข้าไปดูกับเหยื่อของตัวเองก็พบว่านั่นไม่ใช่นกแต่เป็นสิ่งของหน้าตาประหลาดที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่น่าจะกินได้ด้วย… ชมการไล่ล่าโดรนได้ที่นี่เลย ด้าน Ben Pearson เจ้าหน้าที่จากสมาคมพิทักษ์สัตว์โลกได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องตลกๆ แต่นี่เป็นชะตากรรมของเหล่าเสือในประเทศจีนเพราะพวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น และโดยธรรมชาติแล้วเสือเองเป็นสัตว์ที่รักความสันโดด การที่ได้เห็นพวกมันมาอยู่รวมกลุ่มกันแบบนี้จึงไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย และเมื่อพวกมันตายไปบางส่วนของร่างกายพวกมันก็ยังถูกนำเอาไปเป็นเครื่องประดับหรือทำยาสมุนไพรด้วย เห็นฮาๆ แบบนี้มีเบื้องหลังให้ดราม่าด้วยนะ ที่มา Shanghaiist , abc
-
ซานฟรานซิสโก ออกกฎหมายบังคับร้านสัตว์เลี้ยง ให้ขายสัตว์จากสถานสงเคราะห์เท่านั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดจะรับสุนัขมาเลี้ยงที่บ้าน ที่แรกที่เราจะมองหาก็คือที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง เพื่อหาลูกสุนัขหน้าตาน่ารักๆ มาเลี้ยง คงจะมีน้อยคนมาที่จะรับเอาสุนัขจากสถานสงเคราะห์มาเลี้ยง เพราะพวกมันโตแล้วและก็ไม่ได้น่ารักเท่าไหร่ การที่คนไม่ค่อยจะรับเลี้ยงสุนัขตามสถานสงเคราะห์นั้น ทำให้จำนวนของพวกมันเพิ่มมากขึ้นและยากต่อการจัดการ ด้วยเหตุนี้เองทางเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้ออกกฎหมายบังคับให้ร้านขายสุนัขต้องขายแต่สุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือมาเท่านั้น เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Independent เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาได้กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ซานฟรานซิสโกได้มีมติออกกฎหมายห้ามร้านขายสัตว์เลี้ยงขายสุนัขและแมวที่ไม่ได้ผ่านการช่วยเหลือมาก่อน มาตรการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะแก้ปัญหาสุนัขและแมวแพร่พันธุ์ตามที่ต่างๆ แบบ “ไร้มนุษยธรรม” นั่นเอง ซึ่งฟาร์มหรือร้านพยายามปั๊มสัตว์พันธุ์ดีอันเป็นที่นิยมออกมาขายทำกำไร ส่วนตัวที่ขายไม่ได้ บางครั้งก็กลายเป็นสัตว์เร่ร่อน แล้วกลายเป็นว่าสถานรับเลี้ยงต่างๆ ต้องเขามาดูแล นอกจากกฎหมายบังคับให้ขายเฉพาะสัตว์จากสถานสงเคราะห์แล้ว ยังมีกฎเพิ่มเติมอีกว่าห้ามขายสัตว์เลี้ยงที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ด้วย เพราะเนื่องจากพวกมันยังเด็กเกินกว่าที่จะถูกรับไปเลี้ยง นี่ไม่ใช่เมืองแรกที่มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพราะก่อนหน้านี้เองมีทั้งเมืองลอสแองเจลิส ซานดิเอโก ชิคาโก้ ฟิลาเดเฟีย บอสตัน และออสติน ได้ออกกฎหมายนี้นำร่องไปก่อนแล้ว Mimi Bekhechi ผู้อำนวยการองค์กรการกุศลต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์กล่าวว่า “ด้วยมตินี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่าซานฟรานซิสโกเป็นเมืองแห่งความรักสำหรับสุนัขและแมวนับล้านที่หมดหวังจะหาบ้านใหม่” มีการคาดกันกฎหมายครั้งนี้น่าจะช่วยให้เหล่าแมวและสุนัขตัวเมีย ที่ถูกจับขังไว้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงไปขายได้รับอิสระ นอกจากนี้มันจะช่วยให้เหล่าสัตว์เลี้ยงที่ไร้เจ้าของพวกนี้มีบ้านอยู่ราวๆ ปีละ 6,000 ตัวเลยทีเดียว หวังว่าสักวันหนึ่งบ้านเราจะมีกฎหมายอะไรแบบนี้ออกมาบ้าง เพื่อช่วยลดจำนวนสัตว์จรจัดในบ้านเราบ้าง…
-
รู้จัก “เจ้าเหมียวผู้ไม่มีใครต้องการ” สถานดูแลพยายามหาบ้านให้มัน นานถึง 433 วัน!!!
เป็นปกติที่สัตว์จรจัดหลายๆ ตัวเมื่อถูกเก็บได้หรือถูกทิ้งพวกมันก็มักจะไปจบอยู่ที่ศูนย์รับเลี้ยง เพื่อรอจนกว่าจะมีคนใจดีมารับพวกมันไปเลี้ยงต่อ หรือบางแห่งอาจจะฟังดูโหดร้ายหน่อยคือต้องฆ่าหมาหรือแมวพวกนั้น เมื่อมันเต็มเพื่อเปิดรับให้ตัวใหม่เข้ามา เช่นเดียวกับ Champas เจ้าเหมียวอายุุ 5 ปี ที่ได้อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ในซิดนีย์มาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว ซึ่งเจ้านี่มันถูกพามาที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้เมื่อปี 2015 ในตอนแรกนั้น มันก็เป็นเหมือนแมวที่มาอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ มันตื่นกลัวในผู้คนรอบๆ ตัวมันมาก และไม่ยอมไว้่ใจใครเลย แม้พวกเขาจะพยายามปลอบใจมัน จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปสุนัขและแมวอื่นๆ ในศูนย์ก็ถูกรับไปตัวแล้วตัวเล่า เหลือเพียงมันเพียงตัวเดียวที่ได้แต่นั่งดูอย่่างเศร้าสร้อย เมื่อไม่สามารถจะหาครอบครัวที่เลี้ยงมันได้ Champas จึงจบด้วยการทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ ซึ่งนั้นก็ทำให้มันได้คุ้นเคยกับผู้คนมากขึ้น เวลาผ่านไปนานนับปี มันยังคงทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับเช่นเคย แต่ศูนย์รับเลี้ยงก็รู้ดีว่าพวกเขาอาจจะดูแลมันตลอดไปไม่ได้ และอยากจะหาเจ้าของที่พร้อมจะดูแลมันจริงๆ ซึ่งล่าสุดศูนย์พักพิงสัตว์ก็ได้จัดแคมเปญขึ้นในวันวาเลนไทน์เพื่อหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวอยู่ เพื่อที่มันจะได้มีบ้านของตัวเองสักที และจะได้อยู่กับครอบครัวนั้นไปตลอดกาล “เขาไม่ใช่แมวที่เข้ากับใครก็ได้หรือครอบครัวไหนๆ จะยอมรับมันไปเลี้ยง แต่เราเชื่อว่าจะต้องมีครอบครัวที่เข้ากับมันได้แน่นอน และพร้อมจะรับมันไปเลี้ยงเพื่อให้มันมีความสุข” เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงได้ให้สัมภาษณ์ถึงเจ้า Champas สำหรับแคมเปญนี้ พวกเขาจับมันมาถ่ายรูปโปรโมตพร้อมกับเขียนป้ายคำน่ารักๆ เพื่อช่วยให้มันได้เจอกับเจ้าของคนใหม่สักที สุดท้ายแล้วทางศูนย์พักพิงก็ได้ลดราคาค่ารับเลี้ยงดูเจ้า Champas ให้เหลือเพียงราวๆ 1,700 บาทเท่านั้น (การรับเลี้ยงหมาแมวในหลายที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) เพื่อช่วยให้มันสามารถหาบ้านของตัวเองได้สักที . หลังจากที่แคมเปญของมันได้ถูกโพสออกไปเพียงแค่ 4…
-
หนุ่มไร้บ้านโวยถูกเจ้าหน้าที่รัฐยึด “เจ้าเป็ด” หลังชาวบ้านแจ้งเรื่องกลิ่น และเสียงก๊าบก๊าบ!!
แม้ว่ากลุ่มคนไร้บ้านจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย อาจจะด้วยสาเหตุของปัญหาชีวิต เงินทอง หรือบางคนเลือกที่จะไม่ทำงานทำการและปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปแบบนั้นเอง แต่พวกเขาก็พอจะมีความสุขได้บ้างจากสัตว์เลี้ยง เช่นเดียวกับนาย Russ O’Conner เขาคือหนึ่งในคนไร้บ้านที่ต้องการเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงสักตัวเหมือนกัน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Russ O’Conner ชายไร้บ้านในเมือง Newton Abbot มณฑล Devon ประเทศอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ช่วยชีวิตเป็ด 2 ตัวมาจากข้างถนน จากนั้นเขาก็หากล่องกระดาษเอามาทำเป็นบ้านให้กับเจ้าเป็ดพวกนั้นและพามันไปด้วยทุกที่ที่เขาไป แต่เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเป็ดหรือการทำความสะอาดที่ถูกต้อง ทำให้กลิ่นอาหาร กลิ่นฉี่และกลิ่นอึของพวกมันไปรบกวนชาวบ้านคนอื่นๆ เข้า วันหนึ่งชาวบ้านแถวๆ นั้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาจัดการเอาเป็ดนี่ออกไปจากถนน ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตู้สำหรับปราบจลาจลมายังถนนที่นาย O’Conner นอนอยู่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 9 คน กลุ่มพิทักษ์สัตว์ RSPCA ได้ออกมากล่าวว่ามีชาวบ้านโทรเข้าไปร้องเรียนกับพวกเขาเยอะมาก และยังแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ด้วย จึงต้องเข้ามารับตัวเป็ดดังกล่าวไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาเอาเป็ดทั้ง 2 ตัวไป นาย O’Conner ก็แสดงอาการว้าวุ่นใจที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงของเขาและบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบังคับใช้กฎหมายทุกๆ ข้อเพื่อยึดเอาเป็ดของเขาไป “ผมเลิกสูบกัญชาเพื่อที่จะได้ดูแลเป็ดของผม พวกมันไม่ได้ชอบเล่นกับคนมากนัก” ชายไร้บ้านกล่าว นาง…
-
นี่คือ 10 พฤติกรรมขยายพันธุ์ 18+ ของสัตว์โลก ที่ทั้งโหด และหลอนในเวลาเดียวกัน!?
สิ่งมีชีวิตใดๆ บนโลกใบนี้ ถูกสร้างขึ้นมาให้มีความแตกต่างกัน ทั้งรูปร่างหน้าตา ขนาด พฤติกรรม รวมไปถึงรูปแบบการสืบพันธุ์แบบต่างๆ แต่เพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่รู้ว่าสัตว์บางสายพันธุ์นั้นมีพฤติกรรมที่ชวนสยองเหมือนกัน และในบทความนี้#เหมียวฟิ้นได้รวบรวมเอาพฤติกรรมที่ว่านี้มาตีแผ่ให้ทุกคนได้รู้ น่าสยองอย่างที่ว่าจริงไหมลองไปดูกันเลย 1. จิ้งเหลนหางแส้มีลูกได้เอง นี่คือความสามารถที่สาวๆ บางคนอาจจะอยากได้มันมากๆ เพราะพวกจิ้งเหลนหางแส้สามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกได้เอง โดยที่ตัวอ่อนจิ้งเหลนจะสามารถเจริญเติบโตและเป็นรูปเป็นร่างได้อยู่ภายในร่างกายของตัวเอง แม้จะไม่ผ่านการปฏิสนธิจากตัวผู้เลยก็ตาม สิ่งนี้เรียกว่า Parthenogenesis (ภาษากรีกแปลว่าการสร้างสรรค์แบบบริสุทธิ์) 2. ปลาตกเบ็ดไม่ต้องห่วงเรื่องนอกใจ ดูจะเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่โรแมนติกสุดๆ แต่มันก็ตามาด้วยเรื่องชวนอึ้งเช่นกัน เพราะเมื่อปลาตกเบ็ดตัวผู้ฝักออกมาจากไข่ พวกมันก็จะตรงเขาไปกัดที่ท้องของปลาตกเบ็ดตัวเมียทันที จากนั้นร่างกายของมันก็จะหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนปรสิตตัวเล็กๆ เกาะติดตัวเมียไปตลอดเวลา อีกทั้งยังใช้ระบบเลือดร่วมกันด้วยนะ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ตัวผู้ก็จะปล่อยสเปิร์มเข้าไปในตัวเมียเพื่อให้มันตั้งท้อง และถึงแม้จะผสมพันธุ์กันไปแล้ว แต่พวกมันก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง 3. ตั๊กแตนตำข้าวกินหัวตัวผู้!? ราวๆ 16% ของการผสมพันธุ์ของตั๊กแตนตำข้าวตัวผู้และตัวเมีย ตัวเมียจะกินหัวของตัวผู้เข้าไประหว่างผสมพันธุ์กัน…อึ๋ย 4. ฮิปโปสุดยัวะ มันคือหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์ที่อันตรายที่สุดในแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรที่จะหยุดพวกมันได้หากพวกมันอยากจะหว่านเสน่ห์ใส่ตัวเมีย แต่วิธีในการดึงดูดเพศเมียของพวกมันอาจจะแปลกสักหน่อยตรงที่พวกมันจะทั้งอึและฉี่ออกมาเพื่อสร้างอนาเขตของตัวเอง ให้เพศเมียรู้สึกสะดุดตา… 5. เม่นปล่อยสิ่งปฏิกูลเพื่อสร้างความประทับใจ!? การที่ร่างกายของพวกมันมีหนาม ไม่ได้ทำให้การผสมพันธุ์เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเลย แต่เรื่องที่แปลกก็คือเม่นตัวผู้มักจะฉี่ใส่เม่นตัวเมียก่อนที่จะมีอะไรกัน… และบางคนอาจจะกังวลว่าพวกเม่นตัวเมียจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่าเมื่อต้องให้กำเนิดลูก? เราก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอะไรนะ…
-
ญี่ปุ่นออกไอเดีย “Neko Muffler” ผ้าพันคอแมว ที่จะเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้ดูดีขึ้นอีก!!
แมวเหมียว ถือเป็นอีกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และบ่อยครั้งที่เราเห็นมันถูกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ พร้อมกับชุดคอสเพลย์น่ารักในแบบญี่ปุ่นที่เจ้าของสรรหามา ล่าสุดมีได้มีคนผลิตแฟชั่นใหม่ล่าสุดให้กับเจ้าเหมียวได้ใส่กัน ซึ่งมันก็คือ “Neko Muffler หรือ ผ้าพันคอเจ้าเหมียว” นั่นเอง โดยผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้ทำมาจากด้ายอะคริลิคที่มีน้ำหนักเบาและหนุ่ม ผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้จะมาในรปแบบ 2 สี คือสีแดงและน้ำเงินสลับกันซึ่งมันจะทำให้เข้ากับเจ้าเหมียวทุกสีทุกพันธ์ุ ส่วนไซส์ของผ้าพันคอจะมีด้วยกันสองไซส์ด้วยกัน ไซส์กลางจะมีขนาดราวๆ 21-25 เซนติเมตรเหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ไซส์ใหญ่จะมีขนาดราวๆ 26-30 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 2 ปีขึ้นไป เมื่อเอามาใส่กับแมวของคุณ… ตัวผ้าพันคอจะมาพร้อมกับกล่องที่สวยงาม ใครที่สนใจอยากหาให้เจ้าเหมียวของตัวเองใส่ก็สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon หรือ col ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราวๆ 600 บาทต่อชิ้น ภาพของกล่อง ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเช่นกัน… นอกจากผ้าพันคอแล้ว ยังมีหมวกไว้ใส่ให้เข้าเซตน่ารักๆ ด้วยนะ ส่วนอันนี้อาจจะดูไม่เข้ากับผ้าพันคอ แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ สงสัยต้องไปหาให้เจ้าเหมียวที่บ้านใส่บ้างแล้ว ใส่แล้วคงจะน่ารักน่าดูเลยล่ะ ที่มา rocketnews24
-
ภารกิจช่วย Mister Pickle แมวจรที่มาขออาหารทุกวัน อยู่ดีๆ ก็หายไปแล้วกลับมาพร้อมแผลรถชน…
Mister Pickle แมวจรจัดที่ถูกรถชนจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นเงินมากกว่า 210,000 บาท จนทำให้มันได้พบกับครอบครัวใหม่ที่ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป เรื่องมันเริ่มขึ้นจากหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Melissa Popham ซึ่งเธอทำงานอยู่ที่ร้านเพ็ทช็อปและได้เจอกับเจ้า Mister Pickle แมวจรจัดที่มันจะมาขออาหารเธอกินอยุ่เสมอ จนวันหนึ่งเจ้าแมวเหมียวได้หายไปนานถึง 5 วัน… หลังจากนั้นมันก็กลับมา แต่ไม่ได้มาแบบปกติ มันพร้อมกับสภาพที่เหมือนกับซอมบี้หยั่งกับว่าหลุดมาจากหนังสยองขวัญ จนเธอจะต้องเรียกเพื่อนร่วมงานของเธอมาช่วยกันทำแผลให้เจ้าเหมียวทันที พวกเขาสันนิษฐานว่ามันต้องจะต้องถูกรถชนเข้าแน่นอน ดูได้จากกรามที่หักและหนองที่ออกมาจากตัว… แผลที่เกิดขึ้นกับมันหนักหนาพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้มันต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 210,000 บาท แต่ว่า Melissa ก็ดูยินดีที่จะจ่ายค่ารักษานี้เพื่อช่วยเจ้าเหมียวให้รอดตาย ชีวิตของเจ้า Mister Pickle พลิกผันสุดๆ จากการเป็นแมวจรจัดใกล้ตาย ตอนนี้มันก็กลายเป็นแมวที่มีเจ้าของไปแล้ว แถมยังรักมันมากๆ อีกด้วย สุดท้าย Melissa ได้พูดทิ้งท้ายว่า “เจ้า Mister Pickle มันเป็นแมวที่ดีมากๆ เลยล่ะ มันไม่ใช่เป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่ยังเป็นเพื่อนรักของฉันอีกด้วย ฉันดีใจมากๆ ที่ได้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน” พอเวลาผ่านไปสองเดือนเจ้าเหมียวก็ดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น Melissa ก็พามันกลับมาอยู่บ้านด้วย แถมตอนนี้มันยังมีพี่ชายแล้วนะ แถมมันยังดูรักกันมากๆ…
-
เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์
กระรอกเป็นผู้ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมอาหารที่หามาได้ ไม่ใช่เฉพาะปกป้องจากกระรอกด้วยกันเท่านั้น แต่รวมถึงจากพวกนก และสัตว์ตัวอื่นๆ ที่จะมาขโมยอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน ภาพที่จะโชว์ให้ดู เป็นภาพที่กระรอกสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงอาหารกัน แต่ถ้าจะดูแค่มันสู้กันก็คงจะธรรมดาไป เพราะว่าท่าทางที่พวกมันสู้กันนั้น ประดุจดั่งว่าใช้วิชานินจาและกังฟู เข้าห้ำหั่นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้โดย Martin Docker เขาบอกว่าปกติแล้วกระรอกจะมีหลุมเก็บอาหารเป็นของตัวเอง และมันจะเก็บรักษาลูกนัทอย่างดี แต่ถ้ามีสักตัวเข้ามายุ่มย่ามกับอาหารของมันล่ะก็ จะเกิดเป็นฉากบู๊อย่างที่เรากำลังจะได้เห็นนี่แหละ… เจอลูกเตะลอยฟ้าหน่อยเป็นไง!! วิชาลับ คมเขี้ยวกระรอก!! ฝามือกระรอกบินน!! สู้ไม่ได้ต้องเจอนี่… ท่าไม้ตายกระรอกบดไข่ จากข้อมูลระบุว่าในศึกแย่งอาหาร สัตว์ชนิดอื่นยากที่จะเข้าไปแย่งมาได้เพราะกระรอกมีสายตาที่เฉียบคม จึงทำให้ส่วนใหญ่กระรอกจะสู้กับกระรอกด้วยกันเองเป็นส่วนมาก เพราะว่าพวกมันสามารถที่จะขาดเดาได้ว่า คลังเสียงของกระรอกตัวอื่นเก็บไว้ที่ไหน ท่าทางการสู้ของพวกมันก็เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย เรียนมาจากสำนักไหนกันนะ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์สักหน่อย!!! ที่มา mirror
-
ความจริงของภาพ “เสืออ้วน” ที่ชาวเน็ตแชร์กัน แท้จริงคือการเพิ่มไขมันเพื่อให้ทนอากาศหนาว
ภาพที่เราได้เห็นอยู่ในขณะนี้ถือเป็นภาพหนึ่งที่โด่งดังในโลกออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศพอสมควร สำหรับภาพของเจ้าเสือผู้น่าเกรงขาม แต่ดันมีร่างกายตุ้ยนุ้นจนผู้คนอดไม่ได้ที่จะกดไลก์และแชร์กันแบบรัวๆ หลายๆ คนอาจจะเห็นแค่เพียงภาพแต่ไม่รู้ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง #เหมียวฟิ้นจะมาแถลงไขเอง ภาพของเจ้าเสือตัวนี้มาจากสวนสัตว์ Siberia Tiger Park ที่อยู่ในเมืองฮาร์บิน ทางตอนเหนือของประเทศจีน สวนสัตว์แห่งนี้ถือเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับเหล่าเสือไซบีเรียป่าเลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่ราวๆ 1,440,000 ตารางเมตร และเปิดดำเนินการมานานนับสิบปี โดยเป้าหมายของการเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ ก็เพื่อช่วยอนุรักษ์เสือไซบีเรียให้คงอยู่ต่อไป อย่างล่าสุดในปี 2016 ที่ผ่านมา ทางสวนสัตว์แห่งนี้ยังได้ให้กำเนิดลูกเสือกว่า 90 ตัวเลยทีเดียว หลังจากที่ภาพของเจ้าเสือตัวนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ได้ไม่นาน ผู้คนก็ต่างแซวกันว่าผู้ดูแลอาจจะให้อาหารมันมากเกินไปในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา จนทำให้มันอ้วนตั้บอย่างที่เห็น ในขณะที่บางคนแสดงความเป็นกังวลเรื่องสุขภาพของมัน ว่าอาจจะอ้วนเกินไปและทำให้เป็นโรคหรือเปล่า? ในจุดนี้ สำนักข่าว People’s Daily ของจีนได้ให้รายละเอียดตรงนี้ว่า ในความเป็นจริงแล้วเหล่าสัตว์ตามธรรมชาติจะกินอาหารเพื่อให้ตัวเองมีไขมันมากพอที่จะรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเมืองจีน อย่างที่เมืองฮาร์บินเองเมื่อถึงฤดูหนาวก็จะหนาวจนอากาศติดลบถึง -20 หรือ -30 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ฉะนั้นการที่พวกมันได้รับอาหารจนอ้วนแบบนี้ถือเป็นมาตรการช่วยเหลืออย่างหนึ่ง เพื่อให้มันทนอากาศหนาวได้ ซึ่งพวกมันก็จะค่อยๆ ผอมลงไปเองเมื่อถึงช่วงฤดูร้อน ที่พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้ไขมันมหาศาลแล้ว พวกเขาก็จะลดปริมาณอาหารมันลง รวมถึงอากาศร้อนทำให้พวกเสือกินอะไรได้น้อยลงเช่นกัน ฉะนั้นใครที่เห็นภาพเสืออ้วนแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะ…
-
หญิงสาวถูก “งูน้อย” ที่เลี้ยงไว้เข้าไปในรูเจาะหู กลายเป็นต่างหูมีชีวิต แบบน่าขนลุกซะงั้น!!
ปกติแล้วก็น่าจะมีหลายคนที่ชื่นชอบในการเจาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะปาก จมูก หรือหู แต่ส่วนที่นิยมเจาะกันให้เป็นรูกว้างๆ มากที่สุดก็คงไม่พ้น หู อย่างแน่นอน หญิงสาวคนนี้ก็เช่นกัน เธอมีชื่อว่า Ashley Glawe เธอก็เป็นหญิงสาวธรรมดาๆ ที่ชอบเจาะหูไว้ใส่ต่างหูเท่ๆ ตามแฟชั่น และเธอก็เลี้ยงงูเอาไว้ตัวหนึ่งด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอดังทั่วโลกออนไลน์ในช่วงข้ามคืนก็เพราะ เธอได้โพสต์ภาพของเธอที่มีงูเข้าไปอยู่ในรูติ่งหูของเธอ พร้อมกับสภาพที่เธออยู่บนเตียงของห้องฉุกเฉิน เธอได้อธิบายเพิ่มว่า “ฉันกำลังถือเจ้า Bart อยู่ดีๆ เจ้างูบ้านี้มันก็เห็นรูที่ติ่งหูของฉัน มันคงคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีถ้าจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในรูนั้น” “มันเกิดขึ้นไวมากจนฉันไม่ทันตั้งตัว กว่าจะรู้ตัวมันก็เข้าไปอยู่ในรูที่ติ่งหูของฉันแล้ว รู้อีกทีฉันก็มานั่งอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลซะงั้น” เรื่องราวของเธอดังซะจนเป็นข่าวทางทีวีเลยด้วย อีกข่าวหนึ่ง ซึ่งเธอแชร์ลงมาหน้าเฟซบุ๊คของเธอเอง ลองไปดูตัวอย่างคอมเม้นท์ที่ชาวเน็ตต่างพูดถึง เมื่อได้เห็นภาพแฟชั่นใหม่ของเธอ ภาพนี้ใช้ Photoshop แน่ๆ ซึ่งก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันคือของจริง!! หรือจะเป็นคอมเมนท์นี้ที่แนะนำให้เธอใช้เป็นรูปโปรไฟล์ซะเลย ตอนนี้ทางทีมแพทย์ก็ช่วยเอางูออกมาจากหูได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างน้อยเราก็น่าจะได้เทรนด์แฟชั่นใหม่ขึ้นมาแน่ๆ หรือใครสนใจจะเอาไปเป็นไอเดียทำจิวเวอร์รี่ ไหม? ใครสนใจก็สามารถไปติดตามเธอได้ที่เฟสบุ๊คของเธอได้เลย Ashley Glawe ที่มา distractify
-
น่ารักมากลูก!! หมา “ชินจัง” และแมว “คูจัง” รักกันมากจนกอดรัดฟัดเหวี่ยงตลอดเวลา
หมาและแมวไม่ได้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเสมอไปนะ แต่ในหลายๆ ครั้งพวกมันก็แสดงให้เห็นว่าการสงบศึกก็เป็นเรื่องที่น่ารักเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการเลยล่ะ เรื่องที่#เหมียวฟิ้นหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของเจ้าชินจัง สุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุและเจ้าคูจัง เหมียวสีขาวหน้าตาบ้องแบ้ว เจ้าของได้เล่าถึงที่มาที่ไปของสุนัขตัวนี้ว่าแรกเริ่มเดิมทีเจ้าชินจังนั้นเป็นเพียงหมาจรจัดที่พวกเขารับมาเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้าน เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว “เราช่วยมันจากท้องถนนในเมือง ที่มีการจราจรที่หนาแน่น และดูเหมือนว่ามันจะใช้ชีวิตได้ยืนยาวขึ้นเมื่อใส่ปลอกคอเอาไว้นะ ตอนนั้นตัวของมันเต็มไปด้วยเห็บหมัดและมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังอย่างรุนแรงทั่วตัวเลย” เจ้าของชินจังจึงตัดสินใจพามันไปหาหมอและรักษาอาการต่างๆ จนหายดี หลังจากนั้นผ่านไป 1 ปี พวกเขาก็ดันมาเจอกับเจ้าเหมียวจรจัดขนสีขาวตัวหนึ่ง พวกเขาเลยตัดสินใจรับมาเลี้ยงและตั้งชื่อมันว่าคูจัง น่าแปลกใจมากที่เจ้าชินจังและคูจังไม่ได้ทะเลาะหรือฟัดกันจนตายไปข้างทั้งที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พวกมันดันรักกันดีและสนิทสนมกันเร็วซะด้วย เจ้าของเล่าว่าหลังจากที่เห็นพวกมันสนิทกันดี พวกเขาก็เริ่มให้ชินจังเริ่มเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับคูจัง จากภาพจะเห็นได้ว่าพวกมันพยายามกอดก่ายกันตลอดเวลา เห็นแล้วน่ารักจริงๆ เลย กอดกันตลอดเวลาจริงๆ นะเห็นไหม? ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทตลอดกาลไปแล้ว นี่ต้องถือเป็นความโชคดีประหนึ่งถูกหวยของเจ้าของพวกมันด้วยนะ ที่รับมาเลี้ยงแล้วไม่ทะเลาะกัน ที่มา buzzfeed
-
ช่างภาพตามถ่าย “เมียร์แคท” สัตว์ยืนเท้าตัวจิ๋ว จนเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกมัน…
เมียร์แคทถือเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่มีขนาดเล็กและน่ารักมากๆ พวกมันมักจะชอบยืนสูงๆ เพื่อสอดส่องดูวิวรอบๆ ตัวมัน ดูเป็นภาพที่น่ารักจนเราอยากจะกระโดดเข้าไปกอดมันเลย หากคุณไม่คุ้นกับชื่อเมียร์แคท ให้นึกถึงเจ้าทีโมนใน The Lion King นะ (อะไรนะ!? ‘เกิดไม่ทัน’? งั้นเรามาทำความรู้จักมันไปพร้อมๆ กันเลย) เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับผลงานภาพถ่ายของช่างภาพที่ชื่อว่านาย Will Burrard-Lucas เขาเป็นช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาก วันหนึ่งเขาตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศบอตสวานา แถบแอฟริกาใต้เพื่อเก็บภาพพวกเมียร์แคทโดยเฉพาะ เมียร์แคทเป็นสัตว์ในวงศ์เดียวกับพวกพังพอน มีขนาดเล็ก และชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เวลาจะออกหาอาหารก็จะไปเป็นกลุ่ม เนื่องจากตัวเล็กและไม่ค่อยมีพิษภัยอะไร มันจึงตกเป็นเหยื่อของนักล่าเช่นนกหรือหมาในได้ง่ายๆ ในกลุ่มของเมียร์แคทจึงต้องมียามอย่างน้อย 1 ตัว เพื่อคอยสอดส่องและระวังภัยให้กับทั้งฝูง และเมื่อบนพื้นดินเป็นสถานที่อันตราย พวกมันจึงต้องขุดหลุมอยู่กันใต้ดินเป็นโพรง จากการสำรวจพบว่าพวกมันสามารถขุดลงไปได้ลึกถึง 5 เมตรเลยทีเดียว แม้ว่าเมียร์แคทจะเป็นสัตว์ป่าโดยสมบูรณ์แต่ดูเหมือนมันจะเป็นมิตรกับมนุษย์มาก เพราะอย่างการที่นาย Will พยายามเข้าไปถ่ายภาพพวกมัน ก็ดูเหมือนไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกอะไรให้พวกมันเลย นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายที่มนุษย์อย่างเราๆ จะสร้างความคุ้นเคยและเข้าไปถ่ายภาพน่ารักๆ แบบใกล้ชิดเหมือนที่เขาทำบ้าง สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจนอกจากความเป็นมิตรแล้ว พวกเมียร์แคทยังอาศัยเขาเป็นจุดชมวิวที่สูงขึ้นไปอีกด้วย แหม่นับว่าเป็นความฉลาดเฉลียวของพวกมันจริงๆ …
-
ฮากันใหญ่ “เจ้าโอพอสซั่ม” โผล่มาจ๊ะเอ๋มนุษย์ จนกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการยำรูป!!!
ภาพที่#เหมียวฟิ้นจะให้ทุกๆ คนดูต่อไปนี้เป็นภาพของเจ้าโอพอสซั่มตัวหนึ่งที่ถูกพบโดยบังเอิญในป่า แต่ด้วยท่าทางดี๊ด๊าสุดๆ ทำให้ภาพของมันโด่งดังในอินเตอร์เน็ตและจับมันไปยำเป็นภาพตลกๆ เพียบเลย นี่เป็นเรื่องราวจากสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Stretlaw โดยเขาเล่าผ่านเว็บบอร์ดว่าเมื่อไม่นานมานี้พ่อเลี้ยงของเขาได้เดินทางเข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์ แต่ในระหว่างทางกลับมีตัวโอพอสซั่มตัวหนึ่งโผล่ออกมาทักทายเขาพร้อมกับใบหน้าอันเบิกบาน (แถมชูแขนด้วยนะ) เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพมันมาเป็นที่ระลึก และเมื่อภาพนี้ถูกแชร์ลงสู่เว็บไซต์ Reddit มันก็เลยกลายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศเพื่อเอาไปตัดต่อให้กลายเป็นมีมต่างๆ ว่าแล้วลองไปชมภาพบางส่วนกันเลย… 1. ฮูเร่!! ฮูเร่!! ฮูเร่!! 2. จริงๆ นั่นไม่ใช่โอพอสซั่ม แต่เป็นทรงผมต่างหาก… 3. “วันนี้อึออกแล้ว!” 4. เด๊ดพอสซั่ม 5. พอสซิลล่า 6. เซลฟี่กันหน่อยเพื่อนๆ 7. “โลกกำลังจะกลายเป็นของพวกเราแล้ว” 8. สนุกจังโว้ย!! 9. วี อาร์ เดอะ แชมป์ เปี้ยน มาย เฟรนดดด์ …
-
สุนัขญี่ปุ่น “ซัจจัง” อ้วนขึ้นจนเจ้าของแปลกใจ เลยให้รายการทีวีตามสืบชีวิตมันจนพบความจริง
ถ้าที่บ้านของคุณมีสัตว์เลี้ยงหลายตัว คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมตัวหนึ่งมันถึงได้อ้วนเอาๆ ทั้งๆ ที่คุณเองก็ให้อาหารพวกมันในปริมาณที่ปกติ!? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาคาใจมากๆ ของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง จนถึงขั้นเขียนจดหมายเข้าไปยังรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเพื่อให้พวกเขาช่วยแก้ปัญหานี้ให้เธอเลย นี่เป็นเรื่องราวของคุณฮามาดะ เคย์โกะ วัย 35 ปี อาชีพแม่บ้าน จากจังหวัดวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น เธอเล่าผ่านจดหมายว่าที่บ้านของเธอมีสุนัขด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว คือซัจจัง ยชจัง และ อิชจัง เธอบอกว่าในตอนแรกเธอได้รับสุนัขที่ชื่อซัจจังมาจากช่างไฟฟ้าคนหนึ่ง แต่นานวันเข้าตัวของมันก็ค่อยๆ บวมขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สุนัขอีก 2 ตัวของเธอกลับไม่ได้อ้วนขึ้นเลย คุณฮามาดะเริ่มสงสัยว่าในแต่ละวันมันหายไปไหนบ้างเธอเลยไปถามเพื่อนบ้านบางคน พวกเขาบอกว่าเห็นเจ้าซัจจังเดินไปตามสถานนีรถไฟหรือตามบ้านคนอื่นๆ มีบางคนซื้อขนมให้กินบ้าง หรือให้อาหารบ้าง เธอเลยขอให้ทางรายการออกติดตามดูพฤติกรรมของซัจจังว่ามันไปกินอะไรที่ไหนกันแน่? ทางทีมงานจึงส่งพิธีกรภาคสนาม คุณเอจิเซ็น โฮวตะไปตามติดชีวิตของมันว่าในแต่ละวัน เจ้าซัจจังไปที่ไหน เจอใคร และกินอะไรเข้าไปบ้าง? นี่คือเจ้าซัจจังที่เราพูดถึงล่ะ ร่างกายของมันดูตุ้ยนุ้นจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว… นายเอจิเซ็นเริ่มตามดูซัจจังไปเรื่อยๆ จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของมันเท่าไหร่ เขาได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้วพบว่าซัจจังสามารถเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายๆ และเคยเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของบ้านมาแล้ว!? ต่อมาซัจจังเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ มันเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง คราวนี้นายเอจิเซ็นสังเกตเห็นว่าซัจจังเข้าไปในบ้านที่มีสุนัขสีขาว นั่นคือชิบิจัง…
-
รู้จักกับเจ้าเหมียว ‘Manny’ แมวที่รู้จักหามุม องศา และกดถ่ายเซลฟี่ได้จนมนุษย์ต้องยอมแพ้!!
ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบการเซลฟี่กันทั้งนั้น โดยที่วัฒนธรรมการเซลฟี่ของมนุษย์มีมาอย่างยาวนานแล้ว ตอนนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหน ประเทศอะไร ซึ่งมักจะเซลฟี่ในช่วงเวลาพิเศษหรือแม้แต่กระทั่งชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป เจ้าเหมียวเซลฟี่ Manny แต่ทว่าในตอนนี้วัฒนธรรมการเซลฟี่ได้กระจายไปถึงสัตว์ที่คิดจะครองโลกอย่างแมวแล้ว!! มันจะฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากๆ ซึ่งเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Manny (แมนนี่) ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้เหมือนกันนะเออ แถมยังรู้องศากล้องและมุมที่จะได้ภาพออกมาด้วยแหนะ สองตัวข้างหลังเป็นตัวประกอบ ฮร่าาาาา . นอกจากที่เราจะได้เห็นเจ้า Manny ถ่ายเซลฟี่แล้ว ยังมีพรรคพวกร่วมเซลฟี่อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขร็อตไวเลอร์สองตัวที่เป็นตัวประกอบในฉากหลัง เพื่อนแมวและสุนัขตัวอื่นๆ อีกมากมาย แหม่!! พวกเอ็งนี่น่ารักสุดๆ ไปเลยแฮะ เอ้า!! ฉีกยิ้มกันเร็ว . ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ . เจ้าเหมียวพร้อมผองเพื่อนเซลฟี่ . . . นอนเซลฟี่สบายๆ . ส่งสายตาวิ๊งๆ . วิวสวยมากเลย…
-
สาวเยอรมันแอบถ่ายภาพนก ด้วยเครื่องให้อาหารนกทุกวัน จนได้ภาพน่ารักและใกล้ชิดที่สุด!!
เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นของนาง Lisa M. Ca หญิงสาวชาวเยอรมันที่แต่งงานกับหนุ่มสหรัฐฯ และต้องย้ายบ้านมาอยู่ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ Lisa ย้ายมาอยู่ได้สักพักเธอก็สังเกตเห็นว่าสภาพอากาศของที่นั่นไม่ได้ต่างอะไรจากบ้านของเธอเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต่างคือที่มิชิแกนมีนกสวยๆ โผล่มาให้เห็นแทบทุกวัน ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบนกมากๆ เธอก็เลยไปซื้ออุปกรณ์ที่ชื่อว่า Bird Photo Booth มาลองใช้ดู “ฉันอยากจะเข้าใกล้พวกมันอีกหน่อยและเริ่มทำการศึกษาว่ากล้องแบบไหนที่จะสามารถวางข้างนอกแทนกล้อง DSLR ของฉันได้บ้าง นั่นทำให้ฉันเจอกับสิ่งที่เรียกว่า Bird Photo Booth” Lisa กล่าว หลายๆ คนอาจจะงงว่า Bird Photo Booth คืออะไร มันก็คือเครื่องให้อาหารนกรูปแบบหนึ่ง แต่มีช่องสำหรับวางกล้องเข้าไปได้ ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพพวกนกขณะมากินอาหาร โดยที่ไม่ทำให้พวกมันตกใจและบินหนีไปซะก่อนยังไงล่ะ หลังจากที่ Lisa ทดลองนำเครื่อง Bird Photo Booth ไปตั้งไว้นอกบ้านได้ไม่นาน ก็เริ่มมีนกบินมากินอาหารที่เธอวางเอาไว้ และถูกแอบถ่ายภาพมาแบบเนียนๆ โดยที่พวกมันไม่รู้ตัว แม้ว่าเธอจะไม่ได้ระบุเลยว่านกแต่ละตัวเป็นนกสายพันธุ์ใดบ้าง แต่ภาพที่ได้ออกมาก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากๆ เธอจึงโพสต์มันลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง และกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วเลยก็ว่าได้ นี่มันเจ้านกจอมโมโหนี่หว่า!?…
-
“หมอนแมวเหมียว” ไอเดียของใช้ของแต่งบ้าน สำหรับคนรักแมว ให้กอดอุ่นทั้งวัน!!
สิ่งมีชีวิตอย่างหมาแมว นอกจากจะเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมแล้ว พวกมันยังฮอตมากจริงๆ ถึงขนาดมนุษย์ต้องนำตัวของพวกมันมาสร้างเป็นแบบเพื่อทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำรูปน้องแมว เสื้อผ้าสกรีนรูปน้องหมา รวมไปถึงหมอนรูปหมาแมว ก็มีแล้วเหมือนกัน!! และนี่คือ หมอนสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก ของขวัญสุดพิเศษตอบโจทย์คนรักสัตว์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นในหน้าหนาวนี้ สำหรับหมอนดังกล่าว บอกเลยว่ามีรูปแบบพิเศษที่ดูไม่เหมือนใครเลยจริงๆ เพราะนอกจากความนุ่มดุจปุยฝ้ายแล้ว มันยังมาในรูปแบบของเหล่าสัตว์ทั้งเจ้าเหมียว น้องหมา กระต่าย และสัตว์ชนิดอื่นๆ อีกมากมาย เจ้าของสินค้าบอกว่าเป็นงานทำใหม่ทุกชิ้น และสนนราคาอยู่ประมาณ 2,800 บาท สำหรับหมอนขนาดใหญ่ 1 ใบ ถือเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ขนาด 137 เซนติเมตร ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้รับเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคุณสามารถสั่งทำได้ด้วยนะ โดยการส่งรูปเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณที่คิดว่าดูดีที่สุดในชีวิตของมัน แล้วสั่งทำผ่านทางร้าน Good Luck Club เพียงแค่ 7-9 วัน คุณก็จะได้รับหมอนสัตว์เลี้ยงมาครองแล้ว แมวของใครกัน น่ารักเชียว หรือจะมาแบบเป็นแก๊งค์ก็ได้นะ ส่วนผู้ใดที่สนใจอยากจะสั่งทำหมอนนุ่มๆ เป็นรูปสัตว์เลี้ยงของตัวเอง มานอนกอดอุ่นๆ…
-
24 สัตว์โลกที่จะทำให้เห็นว่า เวลาที่พวกมันทำหน้าตกใจ ดูตลกชะมัดเลย ฮร่าๆ
สัตว์บางชนิดแค่ทำนิ่งๆ ก็ดูตลกแล้วนะ แต่พอเวลาเข้ามาอยู่ในโหมดต๊กกะใจก็ยิ่งทำให้หน้าตาของมันดูฮาเข้าไปใหญ่ เหมือนดังเช่น 24 ภาพของสัตว์เหล่านี้ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปเจอเรื่องเซอไพรซ์อะไรมาถึงทำหน้าตาตกใจแบบสุดขีด ดูแล้วขำจริงๆ OHH Noooo! ไม่นะ!! ถูกแอบถ่ายอีกแล้วเรา เจ้าหมาที่ไม่รู้ว่าเห็นอะไร ถึงทำหน้าตกใจออกมาแบบนี้ หน้าตาดูแตกตื่น ไปเจออะไรมาละ โอ๊ะ!! ภาพข้างหน้านั่นมันคืออะไรกัน โหววววว ลิงสาวตัวนั้นสวยจังเลย กำลังสงสัยอะไรอยู่เจ้าแมวน้ำ กระรอกที่เผลอกินบางอย่างเข้าไป และพบว่ามันไม่ใช่อาหารแน่ๆ ใครแอบกินอาหารของข้า อร๊ากกกกกก อย่าเปิดแฟลชเหมียวกลัวแล้ว ตกใจแบบผู้ดี ต้องเป็นแบบนี้ใช่ไหม ห๊ะ!! อะไรนะ วันนี้ไม่ได้ไปเที่ยวหรอ หืมมมม เหมือนมีพลังงานบางอย่างจ้องมองมาเลย เจ้ากบที่กำลังช็อกอยู่กับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า โอ้ววว จะตกแล้วช่วยจับหน่อย ไม่ได้ตกใจนะ แต่หน้าตาเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ดูตกใจสุดขีด…
-
แบะๆๆ หญิงสาวลาออกจากงานสุดเครียดในเมือง เปิดฟาร์มเลี้ยงแพะ และเจอความสุขที่แท้จริง
เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวน่าประทับใจของ Leanne Lauricella หญิงสาวผู้ทำงานอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยการทำงานที่แสนเคร่งเครียด ทำให้เธอตัดสินใจลาออกแล้วหันไปใช้ชีวิตอยู่แถบชานเมืองแทน Leanne ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “ฉันมีงานที่ดีมาก แต่การเดินทางไปทำงานมันย่ำแย่สุดๆ มีความเครียดสูง ฉันรู้สึกเหมือนไม่ประสบความสำเร็จและฉันรู้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้” ในช่วงปี 2014 Leanne ก็ได้ไปเจอกับฟาร์มแพะแห่งหนึ่งและตกหลุมรักพวกมันแบบสุดๆ เธอเลยตัดสินใจเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงแพะ เธอเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนสามารถก่อตั้ง Goats Of Anarchy องค์กรที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือดูแลลูกแพะที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่นแพะที่ได้รับบาดเจ็บ แพะพิการหรือแพะที่กำพร้าพ่อแม “มันแสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่านี่คือไลฟ์สไตล์ที่ฉันต้องการ ฉันตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากการสวมรองเท้าส้นสูงมาเป็นรองเท้าบูท และเปลี่ยนจากการขับรถเบนซ์มาเป็นการขับรถกระบะเชฟโรเลตแทน ฉันรักทุกๆ วินาทีที่อยู่กับมัน” หญิงสาวกล่าว Leanne ได้อธิบายถึงวันที่เธอกลายเป็นคนไร้งานทำว่า “คนบางคนบอกว่าฉันเป็นพวกโง่เง่า หรือพวกไม่มีความรับผิดชอบเพราะลาออกจากงานโดยไม่มีการวางแผนมาก่อน แต่สำหรับฉันมันคือการก้าวกระโดดของศรัทธาเลย” นี่ถือเป็นหญิงสาวที่น่าอิจฉาคนหนึ่งสำหรับ#เหมียวฟิ้นเลยก็ว่าได้ เพราะเธอกล้าที่จะตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคงเพื่อมาทำสิ่งที่รักโดยไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไงกับเธอ เธอบอกถึงแนวคิดตัวเองว่าการที่ตัวเองมีความฝันและยอมทำตามความฝันของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดว่ามันสำคัญ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ดูโง่เง่าและไม่สำคัญขึ้นมาทันที ทุกวันนี้ Leanne ไม่ต้องกังวลกับงานที่แสนเคร่งเครียดหรือเส้นทางการจราจรติดขัดอีกต่อไป สิ่งที่เธอต้องสนใจมีเพียงแพะ แพะ แล้วก็แพะเท่านั้น …
-
หนุ่มมะกันสูญเสียลูกชายไป เลยเปิดศูนย์ช่วยเหลือแมว 300 ตัว เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของนายสถานีรถไฟชาวนิวยอร์กที่ชื่อว่านาย Chris Arsenault ในช่วงปี 2006 เขาได้สูญเสีย Eric ลูกชายอันเป็นที่รักวัย 24 ปีไปเพราะประสบอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์ แต่แล้ววันหนึ่ง… เขาก็ได้เดินผ่านรังแมวกว่า 30 ตัว ที่อาศัยรวมกันโดยไม่มีใครเหลียวแลพวกมันเลย เพื่อเป็นการบรรเทาความเศร้าในจิตใจเขาก็ตัดสินใจที่จะเอาแมวจรจัดเหล่านั้นออกมาจากรังแล้วนำมาดูแลให้อาหาร พาไปรักษาโรคและแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นที่อยู่ให้กับพวกมัน นาย Chris ได้เปลี่ยนบ้านของเขาให้กลายเป็นอาณาจักรแมว และเขาก็เริ่มรู้ตัวเองว่าการช่วยเหลือแมวช่วยเยียวยาจิตใจให้กับเขา ต่อมาเขาได้เปิดมูลนิธิช่วยเหลือแมวที่ชื่อว่า Happy Cat Sanctuary ขึ้นมา เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แมวตัวไหนก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นาย Chris กล่าว “ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดีด้วยขีวิตของผมเอง ศูนย์พักพิงสัตว์คือความทรงจำถึงลูกของผม” เขาค่อยๆ ช่วยเหลือแมวไปเรื่อยๆ ทีละตัวสองตัว จนตอนนี้จำนวนแมวที่อาศัยอยู่กับพวกเขามีมากถึง 300 ตัวแล้ว ซึ่งแต่ละตัวมีที่มาและเรื่องราวที่แตกต่างกันไป “เราได้ช่วยแมวจากเหจุการณ์ที่แลวร้าน จากบ้านที่ไม่รักสัตว์ และแม้แต่แมวที่มาจากแก๊งที่ใช้แมวเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้สุนัขสู้กันก็ช่วยเหลือมาแล้ว” Chris กล่าว นาย Chris ได้ริเริ่มโปรเจ็คหลายๆ อย่างเพื่อให้ศูนย์พักพิงสัตว์ของเขาสมบูรณ์ที่สุด มีทั้งคอนโดแมวขนาดใหญ่ที่รองรับแมวได้จำนวนมาก ทางเดินให้ปีนป่าย มีน้ำพุอุ่นๆ กลางแจ้ง หรือแม้แต่บริเวณที่จัดเอาไว้เพื่อให้พวกแมวได้นั่งดูไก่เพื่อความบันเทิงก็ทำไว้เช่นกัน …
-
ช่วยเหมียวด้วย… ชาวเมืองช่วยกันหาบ้านให้ เจ้า Bob แมวตาเหล่ผู้น่ารัก ก่อนถึงคริสมาสต์
สาเหตุที่มนุษย์อย่างเรารับเอาสัตว์เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนกับเรา นั่นก็เพราะว่าพวกมันน่ารัก ช่วยคลายเหงาให้กับเรา เราจะเล่นกับมันยังไงก็ได้ แต่พอวันที่เราเริ่มเบื่อมัน เราก็ทิ้งมันไปเสียดื้อๆ พวกมันเองก็มีแต่ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมของมันไปเท่านั้น เรื่องที่#เหมียวฟิ้นหยิบมานำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวขนสีขาวดำที่ชื่อว่าเจ้า Bob มันเป็นแมวของพนักงานร้านขายหนังสือร้านหนึ่งในเมืองคอเวนทรี ประเทศอังกฤษ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้า Bob และเจ้านายของมันอาศัยอยู่ชั้นบนของร้านขายหนังสือ แต่จู่ๆ เจ้านายของมันก็เก็บข้าวของหายไปในกลางดึกคืนหนึ่ง ทำให้มันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทางทีมงานร้านหนังสือจึงไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี พวกเขาก็เลยสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้กับมันแล้วตั้งเอาไว้ที่ด้านนอกของร้านขายหนังสือเพื่อให้มันมีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง หลังจากนั้นพนักงานในร้านขายหนังสือก็พยายามแวะเวียนออกมาดูให้แน่ใจว่ามันนอนหลับปลอดภัยดีหรือเปล่า แต่วันเวลาผ่านไปก็ไม่มีใครรับเจ้า Bob ไปเลี้ยงเลย เนื่องจากมันมีดวงตาที่เหล่คล้ายโดนสะกดจิต แตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ กับมันเลย ทุกวันนี้มันก็ยังสบายดี ด้าน Alison Rodgers คุณแม่ลูก 4 วัย 52 ปี ที่ย้ายเข้ามาอยู่ให้ห้องเดิมแทนที่เจ้านายของ Bob ได้กล่าวว่า “เราไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับดวงตาของมัน มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด” “มันออกจะตื่นคนสักหน่อยเพราะไม่ค่อยได้มีใครเล่นกับมันมานานแล้ว แต่มันเป็นปกติกับพวกเรานะ แต่หากมีคนแปลกหน้ามาเล่นกับมันมันก็จะวิ่งหนีทันที” …
-
บทเรียนแสนแพง โรงแรมในเวลส์ถูกสอบสวนหนัก หลังมีข่าวพนักงานทำร้ายแมวในโรงแรม…
คอนเท้นท์นี้อาจจะมีเนื้อหาซึ่งรุนแรงไปบ้างเล็กน้อย… บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับสัตว์จรจัดเสมอไป เพราะยังไงแล้วพวกมันก็ต้องผจญกับความยากลำบากในการเอาชีวิตรอด ซึ่งบางครั้งพวกมันก็เจอคนดี และหลายครั้งพวกมันก็ได้เจอกับคนที่ใจร้าย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าโรงแรม Royal Oak Hotel ทางตอนเหนือของประเทศเวลส์ ได้ถูกชาวเน็ตรุมโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากมีหนักงานในโรงแรมจับแมวจรจัดที่หลุดเข้าไปในห้องครัวของโรงแรมมาทุบตีจนตาย เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยชาวเมืองในบริเวณนั้นหลายคน ที่ยืนยันตรงกันว่ามีลูกแมวจรจัดแอบเข้าไปในครัวและกินอาหารในห้องครัวของโรงแรมนิดหน่อย แต่มันกลับหาทางออกไม่ได้และเริ่มแสดงอาการหวาดกลัวจนฉี่ราด หลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานของโรงแรมเข้ามาพบเข้ากับแมวและฉี่ของมัน พวกเขาก็จับมันโยนใส่ในถุงพลาสติก และใช้ไม้นวดแป้งฟาดมันจนตาย เรื่องนี้ได้ถูกแจ้งไปยังตำรวจท้องถิ่นและหน่วยงานป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ (RSPCA) พวกเขาได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว และตอนนี้ทางโรงแรมก็กำลังถูกสอบสวนอย่างหนักต่อการตายของแมวจรจัดตัวนี้ ด้านนาย Glen Evans หัวหน้าของโรงแรมได้ออกมายอมรับว่าแมวตัวนั้นถูกฆ่าจริงๆ แต่ปฏิเสธเกี่ยวกับวิธีการฆ่าที่พวกเขาถูกกล่าวหาอยู่ และบอกว่ามันเป็นเพียงการฆ่าแบบ “การุณยฆาต” เท่านั้น นาย Evans ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่เชื่อว่าพนักงานจะทำผิดกฎหมายการฆ่าสัตว์ “กับปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนครับว่าผมหวังว่าสิ่งที่เราต้องเจอจะแตกต่างออกไป เว้นแต่จะมีข้อมูลใหม่ออกมา ว่าพนักงานไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย” หลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้ินเริ่มกลายเป็นข่าวแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ต บนหน้าเฟซบุ๊กเพจของโรงแรมก็ถูกชาวเน็ตถล่มให้ 1 ดาวอย่างมากมาย และยังมีชาวเน็ตจำนวนมากร่วมกันรณรงค์เพื่อคว่ำบาตรโรงแรมแห่งนี้อีกด้วย …
-
แสนรู้เหลือเกิน… ชวนดู “ทึกกังอี” เจ้าเหมียวเกาหลี ที่ชอบเข้าไปนั่งเรียนในมหาลัยกับคน
เพื่อนๆ ชาวเหมียวคงเคยอ่านเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้เจ้าเล่ห์ เจ้าเหมียวขี้อ้อน เจ้าเหมียวที่ชอบแกล้งสัตว์อื่น และเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวในสารพัดรูปแบบมาแล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยังไม่เคยเห็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้รักการเรียนแน่ๆ เมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS TV ของเกาหลีใต้ ได้ทำสารคดีเกาะติดเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่มีชื่อว่าทึกกังอี มันเป็นแมวขนสีส้มที่รักการเรียนมาก ในทุกๆ วันมันจะเดินไปที่วิทยาลัยกางดง เมืองอึมซองกุน และเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องเรียนเพื่อนั่ง (และนอน) ฟังเล็คเชอร์ของอาจารย์ในแต่ละวิชา ก่อนที่มันจะฟุบหลับในห้องเรียนโดยที่ไม่มีใครทำโทษมัน เมื่อจบชั่วโมงเรียนแล้วมันก็เดินออกไปยังห้องเรียนอีกห้องหนึ่งเพื่อทำแบบเดียวกัน โดยไม่จด ไม่ต้องเขียนรายงาน ไม่ต้องทำแบบฝึกหัดส่งอาจารย์เลยซักอย่าง ช่างสบายอะไรขนาดนี้ คร่อก ZZZz Zzzzz ไปห้องใหม่ดีกว่า นักศึกษาของวิทยาลัยกางดงได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของแมวตัวนี้ว่า แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นแมวเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนที่นี่ และเธอก็ชอบพามันมาเรียนด้วยทุกวันๆ แต่จู่ๆ เธอก็หยุดเรียนไปแบบกะทันหันโดยที่ทิ้งเจ้าเหมียวตัวนี้ไว้ที่มหาลัย ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเธอทำแบบนั้นทำไม หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็ยังคงเทียวไปเทียวมาภายในวิทยาลัย แต่ก็ไม่มีใครรับมันไปอยู่ที่บ้านเลยแม้แต่คนเดียวเพราะคิดว่ามันมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้คือนำเอาอาหารมาให้กับเจ้าเหมียวและดูแลมันอยู่ภายในวิทยาลัยเท่าที่พวกเขาจะทำได้ และวันหนึ่งพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า ทึกกังอี ปัจจุบันเจ้าทึกกังอีกลายเป็นที่โปรดปรานของเหล่านักศึกษาที่นั่นมาก พวกเขาบอกว่ามีการวางแผนที่จะระดมเงินกับซื้อบ้านแมวให้กับมันเพื่อให้มันรู้สึกสบายกว่านอนตามพื้นหรือโต๊ะเรียนไปเรื่อยเปื่อย …
-
ขยับเข้ามาดูใกล้ๆ สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดจากทะเลลึก พบครั้งแรกในรอบ 100 ปี!?
ใต้ทะเลลึกยังมีสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือบางตัวอาจจะถูกค้นพบมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หาตัวเจอกันได้ง่ายๆ Bathochordaeus Charon คือหนึ่งในสัตว์ที่ว่านั่นล่ะ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ Bathochordaeus Charon ที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นสัตว์จากใต้ทะเลลึก ที่เคยถูกค้นพบมาแล้วเมื่อปี 1899 หรือประมาณ 117 ปีที่แล้วในแทบมหาสมุทรแอตแลนติก สัตวหน้าตาประหลาดตัวนี้เป็นญาติกับตัวเพรียงทะเล ส่วนใหญ่แล้วมันจะมีขนาดความยาว 9 เซ็นติเมตร แต่บางตัวที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกก็สามารถเจริญเติบโตได้มากถึง 1 เมตรเลย มันเป็นสัตว์ที่เปราะบางมาก (ดูจากรูปร่างแล้วก็น่าจะเป็นอย่างงั้น) และยากต่อการจับพวกมันมาทำการศึกษา ซึ่งพวกมันเป็นไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นกันมาตั้งแต่เมื่อปี 1899 แล้ว แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ หน่วยงานที่ชื่อ Monterey Bay Aquarium Research Institute (MBARI) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยรายงานว่าพวกเขาได้คันพบมันอีกครั้งแล้วเมื่อราวๆ ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยการใช้ยานดำน้ำ ROVs สุดไฮเทคลงไปสำรวจ การค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาค้นคว้าสิ่งมีชีวิตลี้ลับนี้ได้อีกมากทีเดียว ที่มา sciencealert
-
สาวอ้วนเซลฟี่กับม้าผอมกร่องลงเฟซบุ๊ก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่..
การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่ออวดภาพกิจกรรมในแต่ละวัน ดูจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรอีกแล้วในปัจจุบัน แต่การเผยแพร่ภาพเหล่านั้นอาจทำให้คุณสูญเสียบางอย่างไปก็ได้… เช่นเดียวกับเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ Charlotte McPherson วัย 22 ปี จากเมืองวุร์สเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอได้โพสต์ภาพขี่ม้าลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่นั่นดันกลายเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างเธอและม้าของเธอ เพราะเนื่องจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เจ้าม้ามีสภาพผอมแห้งม้า ในขณที่เธอนั้นมีรูปร่างอ้วนจนเปลี่ยนภาพการขี่ม้าของเธอให้กลายเป็นการทรมาณสัตว์ไปแบบช่วยไม่ได้ จากภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา จะเห็นได้ว่านาง Charlotte นำเอาผ้าคลุมมาเปิดส่วนหลังและสะโพกของม้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้เห็นหนังติดกระดูกของเจ้าม้า และหลังจากที่ภาพของเธอภูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ทำให้องค์กรการกุศลเกี่ยวกับสัตว์และหน่วยงานสิทธิสัตว์ต้องเข้ามาสืบสวนว่าม้าของเธออยู่ในอาการย่ำแย่ขนาดไหน ตอนนี้เธอถูกเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้เธอเลี้ยงม้าชนิดใดๆ ก็ตามเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 12 เดือนและบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยงาน RSPCA ของอังกฤษที่ดูแลเรื่องสิทธิสัตว์ได้ออกมาให้กล่าวว่าม้าตัวที่เห็นนั้นมีชื่อว่า Thor มันมีสุขภาพที่ไม่ดีเอามากๆ หากต้องให้คะแนนเต็ม 5 มันคงจะได้ 0 แน่ๆ และตอนนี้เจ้า Thor ก็ถูกส่งไปยังหน่วยงานที่ดูแลสัตว์แล้ว เพื่อจะได้มีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นาง McPherson ยอมรับว่าในระหว่างที่เจ้า Thor ผอมแห้งนั้น…
-
ใจหาย…สุนัขเข้าเยี่ยมเจ้านายที่ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล
โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะได้เห็นภาพของสัตว์เลี้ยงที่จากลาผู้เป็นเจ้านายไปก่อน แตกต่างจากเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมานำเสนอในวันนี้ นี่คือเรื่องราวการจากลาสุดเศร้า ของนาย Ryan Jessen วัย 33 ปี ที่มีอาการปวดหัวคล้ายกับโรคไมเกรน แต่หลังจากที่เขาเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลก็พบว่าเขามีอาการเลือดออกในโพรงสมอง และไม่สามารถรักษาให้หายได้ อาการของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาต้องนอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อแพทย์ยืนยันว่าอาการของเขาไม่มีทางรักษาให้หายได้และอาจจะจากไปในเร็ววันนี้ ญาติๆ ของพวกเขาจึงรวมตัวกันเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อกล่าวลากับเขาภายในห้องพักผู้ป่วยเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากญาติๆ จะมารวมตัวกันแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่รักนาย Ryan มากๆ และอยากมาเจอกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ Mollie สุนัขแสนรักของเขานั่นเอง ในวันที่ญาติๆ มารวมตัวกันที่โรงพยาบาล Michelle Jessen น้องสาวของนาย Ryan ก็ได้พาเจ้า Mollie ไปที่โรงพยาบาลด้วย Michelle ได้ขออนุญาตกับทางโรงพยาบาลเพื่อพาสุนัขเข้าไปในห้องพักด้วย ซึ่งพวกเขาก็ยินยอม และเมื่อเจ้าสุนัขได้พบกับเจ้านาย ก็ทำให้ทุกคนที่เห็นภาพนั้นถึงกับสะเทือนใจไปตามๆ กัน Michelle ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดลงในเฟซบุ๊กของตัวเองพร้อมกับข้อความว่า “โรงพยาบาลทำสิ่งที่น่ารักมากกับเราและอนุญาตให้น้องสุนัขได้ ‘บอกลา’ เจ้านายของมัน มันรู้ว่าทำไมเจ้านายของมันไม่ยอมกลับบ้านเสียที ถ้าคุณรู้จักกัยพี่ชายของฉัน เขาจะเป็นคนที่รักสุนัขมากคนหนึ่งเลย” ทันทีที่เจ้า Mollie ได้พบผู้เป็นเจ้านายนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีสายระโยงระยางไปทั่วตัว มันก็แสดงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมาอย่างเห็นได้ชัด…
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “หางไดโนเสาร์” ในก้อนอำพัน ลบทฤษฎีไดโนเสาร์ผิวโล้นแบบ Jurassic Park
ในความเข้าใจของพวกเรา ไดโนเสาร์นั้นเป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ที่มีความดุร้าย มีผิวหนังหยาบกร้านและไร้ขน เราจะเห็นได้จากสารคดีหรือภาพยนตร์ดังอย่าง Jurassic Park หลายๆ ภาค แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่ง เช่น CNN , Nationalgeographic หรือ Theguardian ได้ออกมารายงานว่ามีการค้นพบ “หางไดโนเสาร์” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แล้ว ตามรายงานบอกว่าผู้ค้นพบหางไดโนเสาร์ชิ้นนี้มีชื่อว่า Xing Lida เป็นนักบรรพชีวินวิทยาชาวจีน เขาค้นพบมันในแทบตอนเหนือของประเทศพม่าใกล้กับชายแดนของจีน จากการตรวจสอบก้อนอำพันก้อนนี้ คาดว่าน่าจะมีอายุราวๆ 99 ล้านปี Xing ได้ให้สัมภาาณ์ผ่าน CNN ว่า “ผมมาคิดได้ว่าสิ่งที่อยู่ในอำพันนั้นน่าจะมาจากสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง อาจจะเป็นเทอโรพอด (มีลักษณะคล้ายทีเร็กซ์แต่ตัวเล็กกว่า) มากกว่าจะเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ” ด้านนาย Ryan McKellar นักบรรพชีวินวิทยา จากพิพิธภัณฑ์ Royal Saskatchwan Museum ในประเทศแคนาดาและเป็นผู้ศึกษาอำพันชิ้นนี้ด้วยได้กล่าวว่าเขารู้สึกตกตลึงมากที่นาย Xing นำอำพันมาให้เขาดูเป็นครั้งแรก “มันเป็นครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้…
-
ลืมภาพความแบ๊วให้หมด!! นี่คือ 11 เรื่องสุดดาร์ค ของเหล่า “โลมา” ที่ไม่น่ารักเท่าไหร่หร๊อก
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอเกล็ดความรู้ชวนอึ้งเกี่ยวกับจิงโจ้ ที่ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันไม่ได้ใสซื่อน่ารักแบบที่เราเข้าใจ (อ่าน 12 ความจริงชวนเหวอของจิงโจ้ได้ที่นี่เลย) เราก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่ายังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีภาพลักษณ์ที่ดูใสๆ น่ารักๆ อย่างโลมาอยู่เหมือนกัน แต่ก็มีข้อมูลหลายๆ อย่างที่บอกเราว่าพวกมันน่ะไม่ได้น่ารักอย่างที่เราเข้าใจเท่าไหร่ ในบทความนี้เราก็เลยรวบรวมความลับสุดดาร์คของพวกมัมมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าดับฝันทุกคนแน่ๆ… 1. โลมาสามารถ Threesome ได้… 2. โลมาใช้เวลาหมดไปกับการมีเพศสัมพันธุ์และการเล้าโลมกับโลมาตัวอื่นเยอะพอสมควร ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฤดูผสมพันธุ์หรือไม่ 3. โลมาตัวผู้ มีพฤติกรรมข่มขืนตัวเมีย 4. โลมาสามารถพยายามขืนใจมนุษย์ได้ อย่างในคลิปวิดีโอนี้ เป็นคลิปของกลุ่มนักประดาน้ำที่ไปดำน้ำแถวๆ เกาะเคย์แมน แต่ดันถูกจู่โจมโดยโลมากลัดมันตัวหนึ่ง คุณจะสังเกตได้ว่ามันพยายามยื่นอวัยวะเพศของมันออกมาทางนักประดาน้ำ แลดูมีความพยายามอย่างมาก… 5. ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เคยมีข่าวว่าโลมามีอะไรกับมนุษย์มาแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 สารคดีของ BBC ได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ Margaret Howe Lovatt นักวิจัยสาวและ Peter โลมาหนุ่ม ที่มีอะไรกันภายใต้การทดลองยา LSD กับโลมา โดยนักวิจัยสาวบอกว่าหลังจากที่ให้ยากับเจ้าโลมา มันก็มีความต้องการทางเพศจนเธอสังเกตได้…
-
นาวิกโยธินเล่าประสบการณ์ ลักลอบนำ ‘สุนัข’ ที่เจอในสนามรบกลับบ้าน ทั้งน่ารักและตื่นเต้น
สนามรบอาจจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายๆ คนต้องจบลงที่นั่น แต่บางครั้งมันก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพดีๆ ที่คุณคิดไม่ถึงเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Craig Grossi นาวิกโยธินของสหรัฐที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเมืองเฮลมานด์ ประเทศอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่งระหว่างประจำการ ในช่วงกลางคืนของเดือนตุลาคมปี 2009 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และรุ่งเช้ามาพวกเขากลับถูกกลุ่มตาลีบันเข้าโจมตี เมื่อการต่อสู้เริ่มซาลง นาย Grossi ก็สังเกตเห็นว่าในบริเวณนั้นมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ ซึ่งไม่ได้เรื่องปกติของที่นั่น เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้คน แต่กับเจ้าตัวนี้ดูจะนิ่งสงบมากกว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยหลบนอนอยู่ตามพุ่มไม้และคุ้ยเขี่ยหาอาหารเล็กๆ น้อยๆ กิน ไร้เจ้านาย เนื้อตัวสกปรกเต็มไปด้วยเห็บหมัด แต่ถึงจะรู้สึกสงสารมันอย่างไรก็ตาม ในหน่วยของเขามีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัข แต่ใช่ว่านาย Grossi จะปฏิบัติตามกฎเสมอไป เพราะเขาได้หยิบเอาขนมหมาติดมือไปยื่นให้กับมัน พอมันเห็นก็แกว่งหางไปมาและเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร นาวิกโยธินหนุ่มมองเห็นความน่ารักสดใสในสุนัขตัวนี้ จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าในเมื่อมันน่ารักขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจดูแลมันเลยแม้แต่คนเดียว? “ผมเกาที่หลังหูของมัน และผมไม่อยากจะเชื่อเลย” นาย Grossi เล่าถึงช่วงเวลาที่ทำให้เขาตกหลุมรักมัน เขาเลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Fred ที่คล้ายกับคำว่า Friend (เพื่อน) ทหารหนุ่มเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาการทำสงครามว่า กลุ่มตาลีบันจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกทหารอเมริกันโจมตีโดยตรง ทำให้กลุ่มนาวิกโยธินต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีใส่ชาวบ้าน ตกกลางคืนกลุ่มทหารก็จะออกสำรวจตามบ้านเรือนเพื่อดูว่าสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเจ้า Fred เห็นว่านาย Grossi ออกไปในเดินตามหมู่บ้าน มันก็จะรีบเดินตามเขามาทันที …
-
หมดกัน!! ชวนดู 12 ความจริงเกี่ยวกับ “จิงโจ้” ที่พิสูจน์ว่า พวกมันน่ะไม่ได้น่ารักอย่างที่เราคิด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลายๆ คนน่าจะได้เห็นข่าวหรือไม่ก็คลิปเกี่ยวกับกรณีที่มีชายหนุ่มชกจิงโจ้เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเอง (อ่านข่าวหนุ่มออสซี่ชกจิงโจ้ได้ที่นี่) ซึ่งทำให้ผู้คนทั้งในไทยหรือในต่างประเทศอึ้งไปตามๆ กัน เพราะคิดว่าจิงโจ้ไม่น่าจะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอะไร แถมยังมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ารักๆ เสียด้วยซ้ำ #เหมียวฟิ้นจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่น่ารักใสๆ อย่างที่เราเคยเข้าใจหรือเปล่า? จึงได้ทำการค้นคว้าข้อมูลและพบว่าพวกมันมีพฤตกรรมที่ชวนอึ้งมากกว่าน่ารักน่าเอ็นดูด้วยซ้ำ เช่นพฤติกรรม Threesome (ซั่ม 3 ตัว) แบบนี้… แล้วก็แบบนี้… นี่มัน Foursome ละเฮ้ยยยย!! หรืออย่างบางตัวมีพฤติกรรมที่พยายามจะข่มขืนลูกจิงโจ้แบบนี้ และหากใครที่คิดว่าจิงโจ้ไม่น่าจะทำร้ายใครก่อน งั้นลองไปชมคลิปนี้ เป็นคลิปที่จิงโจ้ตัวหนึ่งมายืนเคาะประตูบ้านของนาย Nathan Russo ในออสเตรเลีย พร้อมกับกางกงเล็บสุดสยองออกมาและทำท่าเหมือนกับจะพังกระจกเข้ามา ดูแล้วสยองใช่เล่น จากตรงนี้ไปจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพวกจิงโจ้ที่อาจทำให้คุณอ้าปากค้างได้เลย ลองมาดูกันไปทีละข้อๆ เลยนะ 1. พวกจิงโจ้สามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้เป็น 4 เท่าภายในเวลา 5 ปี ถึงขนาดที่ทำให้ออสเตรเลียมีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนประชากรจิงโจ้มากเกินไป 2. ด้วยความที่จิงโจ้มีจำนวนมาก ทางออสเตรเลียจึงออกกฎหมายในปี 1980 ให้นำพวกมันมาทำเป็นอาหารและนำเนื้อส่งออกไปขายยัง 55 ประเทศทั่วโลกได้อย่างถูกกฎหมาย …
-
หงายเงิบ!? หนุ่มออสเตรเลียปล่อยหมัดจิงโจ้ เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเองที่ถูกมันรังแก
หากใครที่เคยได้ดูคลิปของเหล่าจิงโจ้ในต่างแดนมาบ้าง ก็จะพอรู้ว่าพวกมันนั้นเป็นนักสู้ที่น่ากลัวตัวหนึ่งเลยล่ะ เพราะด้วยรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม การออกหมัดที่คล้ายกับคน ลูกเตะที่รุนแรงจนอาจทำให้คุณไส้แตกได้ มันจึงเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่คุณไม่น่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้สู้ให้สุดใจ… เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ขณะต่อสู้อยู่กับจิงโจ้เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเอง ตามรายงานบอกว่าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Max มันพยายามจะวิ่งหนีจิงโจ้ตัวหนึ่งเพื่อกลับมาหาเจ้านายที่รถกระบะ แต่มันก็ถูกจิงโจ้จับตัวไว้ได้ทัน เมื่อเจ้านายของมันรู้สึกถึงอันตราย เขาก็รีบกระโดดลงจากหลังกระบะวิ่งตรงไปยังเจ้าจิงโจ้ทันที เมื่อจิงโจ้สังเกตเห็นว่ามีมนุษย์อยู่มันจึงปล่อยสุนัขและหันเหความสนใจมาอยู่ที่คน ทันทีชายหนุ่มไปถึงเขาก็ตั้งการ์ดพร้อมประจันหน้ากับเจ้าถิ่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ปล่อยหมัดแย็บออกไป 1 หมัด ทำให้เจ้าจิงโจ้ถึงกับยืนนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จิงโจ้จะกลับเข้าป่าไปและชายหนุ่มก็รีบพาสุนัขของเขาออกจากจุดเกิดเหตุ ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในวงกว้าง ทำให้เกิดคำวิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม เช่น bugsplat “จากมุมมองของจิงโจ้ มันคงคิดว่า ‘ฉันแค่ออกมาหาอาหารเอง ฉันทำอะไรผิดล่ะ’” Amanda Anderson “หลังจากดูคลิปจบ ฉันก็รู้สึกเสียใจกับเจ้าจิงโจ้ไปด้วย” syed hossain “นี่คือสิ่งที่ตลกที่สุดที่ฉันได้เห็นในวันนี้เลย จิงโจ้เป็นฝ่ายชนะ เพราะมันยังยืนจ้างเขม็งผู้ชายคนนั้นได้ แต่เขากลับตื่นกลัวและเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง” Petroleuse “ถ้าเจ้าของสุนัขไม่ทำแบบนั้น เจ้าจิงโจ้คงจะทารุณเขาด้วยขาหลังของมันไปแล้ว” …
-
เหมียว Wesley กลายเป็นพี่ใหญ่ในฟาร์มสัตว์ คอยปลอบใจอยู่บนหลังทุกตัว พี่ขี่มาหมดแล้ว!!
ใครๆ ก็รู้ว่าแมวเปรียบเสมือนราชาภายในบ้าน ไม่ว่ามันต้องการอะไร หรืออยากจะไปไหน พวกมันก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยมีมนุษย์คอยปรนนิบัติตลอดเวลา แต่กับเจ้าเหมียวตัวนี้ กลับไม่ได้มีนิสัยรักสบายขนาดนั้น เพราะมันกลายเป็นที่พึ่งให้แก่สัตว์ตัวอื่นๆ ได้อย่างน่าชื่นชมทีเดียว เรื่องที่#เหมียวฟิ้นนำมาบอกเล่ากันในวันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Indraloka Animal Sanctuary ในเมืองเมฮูปานี รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา องค์กรแห่งนี้จะคอยช่วยเหลือสัตว์จากฟาร์มหลายๆ แห่ง ที่หมดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมแล้วและเตรียมที่จะถูกส่งตัวไปฆ่าทิ้ง ตลอดเวลาพวกเขาช่วยสัตว์เอาไว้เยอะมากเช่นวัว ม้า หมู แพะ แกะ โดยเฉพาะแมว ตามรายงานบอกว่าภายในฟาร์มขององค์กรแห่งนี้มีแมวที่ถูกช่วยเหลือมามากกว่า 100 ตัว แต่ในบรรดาแมวทั้งหมด มีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่โดดเด่นพิเศษกว่าตัวอื่นๆ นั่นคือเจ้า Wesley T. Monkey (ชื่อยาวจริงแฮะ) เจ้า Wesley ไม่ใช่แมวธรรมดาๆ ที่จะคอยสะบัดหางหรือพยายามจะเป็นหัวหน้าแก๊งแมวเท่านั้น เพราะมันคอยให้ความช่วยเหลือและดูแลสัตว์ชนิดอื่นๆ เท่าที่มันจะทำได้ จากคำบอกเล่าขององค์กรช่วยเหลือสัตว์บอกว่าเจ้า Wesley จะใช้เวลาในแต่ละวันเข้าสังคมกับสัตว์ตัวอื่นๆ ในฟาร์มไม่ว่าจะวัว ม้า หรือหมู โดยการนั่งอยู่บนหลังของสัตว์เหล่านั้นและร้องเหมียวๆ อยู่ตลอด คล้ายกับว่ามันกำลังสื่อสารกับสัตว์เหล่านั้นอยู่ และเมื่อสัตว์พวกนั้นไม่ได้นั่งอยู่กับพื้นแต่เปลี่ยนไปเดินเล่นที่อื่น เจ้า Wesley ก็จะกระโดดขึ้นหลังพวกมันและเดินไปทั่วฟาร์มด้วย…
-
หนาวจะตายแล้ว… ภารกิจช่วยเจ้าเหมียวในรัสเซีย หลบหนาวใต้ท้องรถ แต่ขาติดน้ำแข็งขยับไม่ได้
ช่วงนี้ประเทศไทยของเราก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้ว (เฉพาะบางพื้นที่) ทำให้มนุษย์อย่างเราๆ รู้สึกสบายอกสบายใจไปตามๆ กัน แต่ฤดูหนาวก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะกับสัตว์โลกผู้ไร้บ้านไร้ช่องไร้เครื่องนุ่งห่มแล้ว กลับเป็นเรื่องที่เลวร้ายสุดๆ เลย นี่เป็นเหตุการณ์ในวันแย่ๆ ของเจ้าเหมียวขนสีเทาตัวอ้วนตัวหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าเหมียวพยายามจะเข้าไปหลบอากาศหนาว -35 องศาเซลเซียส อยู่ใต้ท้องรถคันหนึ่งในประเทศรัสเซีย พอรุ่งเช้าเจ้าของบ้านสองสามีภรรยาได้ออกมาขยับรถออกจากที่จอด จึงเห็นว่ามีแมวตัวหนึ่งนอนคุดคู้อยู่กับพื้น แถมมีเกล็ดน้ำหิมะเกาะตามขนและหนวดเต็มไปหมด และแทนที่มันจะลุกหนีออกไป มันกลับนอนไม่กระดุกกระดิก พวกเขาเลยเข้าไปดูอาการของมันใกล้ๆ จึงพบว่าขาของมันติดอยู่กับพื้นน้ำแข็งจนขยับไปไหนไม่ได้ เมื่อเห็นแบบนั้นพวกเขาก็เลยรีบเอาถังไปกรอกน้ำอุ่นแล้วมาราดลงบนขาของเจ้าแมวทีละนิดๆ เพื่อให้น้ำแข็งละลายมากพอที่จะเอาตัวของมันออกมาได้ หลังจากที่ใช้เวลานานราวๆ 7 นาทีกว่า พวกเขาทั้ง 2 ก็สามารถดึงเจ้าแมวออกมาจากพื้นน้ำแข็งอันหนาวเย็นได้ พวกเขาจับมันห่มผ้าและพาเข้าไปอบอุ่นร่างกายต่อในบ้าน หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างมากจนล่าสุดมียอดวิวมากกว่า 5 แสนครั้งแล้ว และเจ้าของคลิปเองก็ได้กลับมาอัพเดทเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เจ้าแมวปลอดภัยสามารถกระโดดโลดเต้นได้แล้ว และพวกเขาก็รับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้อย่างเป็นทางการด้วย ในส่วนของคลิปการช่วยเหลือแบบเต็มๆ ด้านล่างนี้… อากาศหนาวๆ แบบนั้น คงจะมีสัตว์อีกมากมายที่กำลังทรมาณอยู่นอกบ้านแน่ๆ ยังไงแล้ว#เหมียวฟิ้นก็ขอภาวนาให้ทุกๆ ตัวปลอดภัยนะ…
-
แม่หมาชิสุ ช่วยลูกแมวหลงทางในป่า ทั้งดูแลและเรียกมนุษย์เข้าไปช่วย พร้อมรับเป็นลูกอีก
โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้ยินการช่วยเหลือสัตว์โดยมนุษย์หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะนี่เป็นการช่วยเหลือสัตว์โดยสัตว์กันเอง เมื่อราวๆ เดือนพฤษภาคมปี 2013 องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ชื่อ Anderson County P.A.W.S. ในเมืองแอนเดอร์สันรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบสุนัขเห่าเสียงดังออกมาจากในป่า และขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เดินทางไปถึง พวกเขาก็ต้องอึ้งไปตามๆ กัน เพราะภาพที่เห็นคือมีสุนัขตัวเมียสายพันธุ์ชิสุกำลังนอนอยู่ข้างๆ ลูกแมวน้อย และเห่าเรียกขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เมื่อเห็นแบบนั้นพวกเขาก็เลยพาพวกมันทั้ง 2 ขึ้นรถกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ Michelle Smith เล่าว่าก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปถึง เจ้าสุนัขมีท่าทีเหมือนกับได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากในป่า คล้ายกับเสียงร้องของแมวเจ้าหมาจึงรีบวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อให้ความช่วยเหลือ ในระหว่างทางนั้นเจ้าสุนัขก็ทำท่าทางให้นมแก่เจ้าแมวน้อย ผลปรากฏว่ามันสามารถให้นมได้จริงๆ และช่วยต่อชีวิตให้กับเจ้าแมวน้อยจนกว่าจะเดินทางไปถึงศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ จากนั้นไม่นานทั้งเจ้าแมวและสุนัขก็ถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถไปกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ทันทีที่พวกมันเดินทางไปถึง ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานถึงกับตกหลุมรักพวกมันทั้งคู่ด้วยความเอ็นดูและมิตรภาพข้ามสายพันธุ์เลยทีเดียว ปัจจุบัน ได้มีคนมาติดต่อขอรับทั้งคู่ไปเลี้ยงแล้วเรียบร้อย ซึ่งพวกมันก็ดูจะยินดีมากที่ไม่ต้องแยกจากกันไปไหน แถมยังตั้งชื่อสุนัขว่าเจ้า Goldie และเจ้าเหมียวว่า Kate ด้วย ถึงจะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ก็รักนะ ถึงจะไม่มีแม่จริงๆ แต่ความรักที่พวกมันมีให้กันนั้นเป็นของจริงล่ะนะ ที่มา heroviral
-
เที่ยวไหมอู๊ดๆ…ชวนไปชม “หาดสวรรค์ของหมู” ในบาฮามาส ให้คุณว่ายน้ำเล่นกับมันได้อิสระ
ทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวทะเล เพื่อหวังจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติ สายลม คลื่นทะเล หาดทรายสวยๆ แต่ที่เกาะแห่งนี้ให้คุณได้มากกว่า เพราะที่นี่มีหมูว่ายน้ำได้!? เกาะที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Pig Beach (หาดหมู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศบาฮามาส สาเหตุที่มันโด่งดังก็เพราะว่าที่นี่มีหมูอยู่มากมายและมักจะออกมาว่าน้ำเล่นกับผู้คนอย่างสนุกสนาน ไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นทางการว่าหมูเหล่านี้ขึ้นมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ได้อย่างไร บางเรื่องเล่าบอกว่าที่หมูแห่กันมาอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเพรามีนักเดินเรือนำพวกมันมาปล่อยไว้เพื่อที่จะกลับมาประกอบอาหารในภายหลัง แต่กลุ่มนักเดินเรื่องที่ว่าก็ไม่เคยกลับมาที่เกาะอีกเลย แต่บางคำบอกเล่าก็บอกว่าที่หมูพวกนี้มาอยู่บนเกาะได้เพราะว่ามีเรือขนหมูเหล่านี้เพื่อเดินทางไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่ในระหว่างนั้นเรือเกิดอับปาง แต่หมูพวกนี้กลับสามารถเอาชีวิตรอดและว่ายน้ำไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมหมูเหล่านี้ถึงมีชีวิตรอดอยู่บนเกาะที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าได้รับเศษอาหารจากเรือที่ผ่านไปมา ทำให้พวกมันมีชีวิตรอดไปได้ หมูเหล่านี้เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการที่พวกมันว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เกาะแห่งนั้นมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปว่ายน้ำเล่นกับพวกหมูหรือให้อาหารพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นสถานที่ท่อวเที่ยวในที่สุด จากการสำรวจจำนวนประชากรหมูที่เกาะแห่งนี้พบว่ามีหมูราวๆ 20 ตัว ซึ่งนอกจากหมูแล้วที่เกาะแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่นมีแมวและแพะอีกจำนวนหนึ่งด้วย สัตว์ทั้งหมดบนเกาะใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระมาก ไม่มีใครคอยล่ามโซ่หรือกักพวกมันไว้แต่ในคอก กิจกรรมในแต่ละวันของพวกมันก็คือการออกไปอาบแดดเป็นชั่วโมงๆ เมื่อพวกมันอาบแดดจนพอใจแล้วก็จะลงไปว่ายน้ำเล่น พวกมันมีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตรมากๆ เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวพวกมันก็จะออกมาทักทายอย่างเป็นกันเอง สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จนเกิดเป็นหนังสือเด็กที่ชื่อว่า “The Secret of Pig’s Island” เขียนโดย Jennifer R. Nolan และได้รับการบรรจุในเนื้อหาของหนังสือสำหรับเด็กในต่างประเทศด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงรักหมูและตั้งปฏิญาณว่ายังไงชาตินี้ก็ต้องไปให้ได้สักครั้ง…