Tag: สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
-
“ยีราฟ” กำลังจะสูญพันธุ์แบบเงียบๆ เนื่องจากการแข่งขันล่าสัตว์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แม้เราจะคุ้นเคยกับยีราฟ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปสวนสัตว์ที่ไหนก็ตาม จะต้องมียีราฟให้เราได้เห็นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยีราฟที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติกำลังลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนพวกมันอาจสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้นี้โดยที่คุณเองก็อาจไม่ทันรู้ตัวเหมือนกัน ประชากรของยีราฟในแทบประเทศแอฟริกาใต้มีจำนวนลดลงกว่า 40% ถือเป็นตัวเลขที่เยอะมากในระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการจัดการแข่งขันกันล่ายีราฟเพื่อถ้วยรางวัล เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปี 2017 เว็บไซต์ International Union for the Conservation of Nature (IUCN) ได้เปิดเผยข้อมูลที่เชื่อกันว่าปัจจุบันเหลือยีราฟตามธรรมชาติราวๆ 97,500 ตัว ด้านกลุ่มนักอนุรักษนิยมได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้ยีราฟเป็นสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาชาวอเมริกันมีการนำเข้ากระดูกยีราฟแกะสลักกว่า 51,402 ชิ้น หนังกว่า 3,008 ชิ้น และชิ้นส่วนอื่นๆ อีกกว่า 3,744 ชิ้น นอกจากการถูกล่าแล้ว เหล่ายีราฟยังสูญเสียถิ่นที่อยู่เนื่องจากมีรถแล่นผ่านและเสาไฟฟ้าถูกตั้งขึ้นในหลายๆ ที่ การลดจำนวนลงเรื่อยๆ ของยีราฟ ถูกบดบังด้วยข่าวคราวการล่าแรด กอริลล่า และช้างมากกว่า ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เห็นว่ายีราฟเองก็ค่อนข้างวิกฤติเช่นกัน Jeff Flocken หัวหน้ากองทุนระหว่างประเทศเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ประจำอเมริกาเหนือกล่าวว่า “เมื่อตอนที่ผมทำงานวิจัยยีราฟชิ้นนี้ในเคนย่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน พวกมัน (ยีราฟ) ค่อนข้างสมบูรณ์ดีและไม่มีใครตั้งคำถามว่าพวกมันยังโอเคไหม” “แต่เมื่อไม่นานมานี้เราได้หันกลับไปสำรวจพวกมันอีกครั้งอย่างจริงจัง และได้เห็นการลดจำนวนของพวกมันซึ่งทำให้ช็อกมาก…
-
มารู้จักกับโลมา ‘วากีตา’ สัตว์สายพันธุ์หายาก มีเหลืออยู่เพียง 12 ตัวบนโลกเท่านั้น
โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คนทั่วโลกรู้จัก มันขึ้นชื่อเรื่องความเฉลียวฉลาดที่ไม่เป็นรองใคร และก็มีชื่อเสียงด้านความน่ารักที่เป็นเอกลักษณ์เช่นกัน ทว่าในตอนนี้มีโลมาสายพันธุ์หนึ่งซึ่งกำลังใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งก็คือโลมา วากีต้า (Vaquita) เรามาใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักมันก่อนที่มันจะไม่เหลืออยู่ให้ได้รู้กันเถอะ แต่ถ้าเลือกได้จริงๆ ก็อย่าให้มันหายไปจากโลกของเราเลย โลมาสายพันธุ์วากีต้า หน้าตาจิ้มลิ้มมั๊ก โลมาสายพันธุ์วากีต้า ได้รับชื่อมาจากรูปร่างหน้าตาของมัน ในภาษาสเปนวากีต้ามีความหมายว่าวัวน้อย ดังนั้นจึงตีความได้ว่าโลมาชนิดนี้หน้าตาคล้ายลูกวัวนั่นเอง จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ โดยใช้คลื่นเสียงสแกนในทะเลบริเวณที่พวกมันอาศัยอยู่ ซึ่งก็คือ Sea of Cortez รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้โลมาวากีต้าน่าจะเหลืออยู่เพียงแค่ 12 ตัวเท่านั้น ตอนนี้เหลืออยู่บนโลกเพียงแค่ 12 ตัวเท่านั้น สาเหตุการตายหลักของโลมาวากีต้าก็คือการเข้าไปติดตาข่ายดักปลา แล้วออกมาไม่ได้จนตายในที่สุด โดยตาข่ายเหล่านี้มักจะถูกวางทิ้งไว้ในเขตหวงห้ามโดยชาวประมงที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง ส่วนใหญ่แล้วมันจะตายเพราะติดตาข่ายของชาวประมง นอกจากจำนวนจะเหลือน้อยจนน่าเป็นห่วงแล้ว เรายังไม่สามารถช่วยพวกมันขยายพันธุ์ได้อีกต่างหาก เนื่องจากหากพวกมันถูกจับมาไว้ในพื้นที่ปิดแล้ว มันอาจจะเครียดหนักมากจนตายได้ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ก็เคยพยายามช่วยพวกมันขยายพันธุ์โดยการทำโครงการ VaquitaCPR เพื่อจับโลมามาวากีต้าตามธรรมชาติมาดูแลและช่วยพวกมันขยายพันธุ์ แต่โครงการก็ล่มไปเพราะโลมาตัวแรกเครียดจนตายไปนั่นเอง นักอนุรักษ์เคยพยายามช่วยพวกมันขยายพันธุ์แล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ องค์กร Sea Shepherd Global ซึ่งเป็นองค์กรที่มีจุดประสงค์ในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลเลยยื่นมือเข้ามาช่วยอีกแรง โดยการเดินเรือเพื่อเฝ้าเวรยามในบริเวณที่พวกมันอาศัยอยู่…
-
กองทุนสัตว์ป่าโลกเปิดรายชื่อ 12 รายชื่อสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูญพันธุ์ตลอดกาล
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2018 ได้มีการรายงานข่าวของการจากไปของแรดขาวเหนือตัวผู้ ตัวสุดท้ายของโลกที่ได้จากโลกนี้ไปด้วยวิธีการการุณยฆาต เนื่องจากว่ามันมีอายุที่มากแล้วและมีอาการบาดเจ็บแทรกซ้อนมากมาย เจ้าหน้าที่จึงให้มันจากโลกนี้ไปอย่างสงบโดยที่ได้มีการเก็บข้อมูลพันธุกรรมของมันไว้ เพื่อที่ในอนาคตอาจจะมีเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยสืบพันธุ์ให้กับแรดขาวเหนือต่อไป นอกจากแรดขาวเหนือที่มีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์แล้ว ยังมีสัตว์ต่างๆ บนโลกอีกมากมายที่อยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในอีกไม่ช้า ข้อมูลจากกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund) ได้เปิดเผยรายชื่อสัตว์ 12 ชนิดที่มีความเสี่ยงในระดับ “อันตราย” นั่นก็คือ ใกล้สูญพันธุ์ 12 ชนิดต่อไปนี้ 1. เสือดาวอามูร์ (Armur Leopard) จากการสำรวจจำนวนประชากรในปี 2015 พบว่าเสือดาวอามูร์เหลือเพียงประมาณ 60 ตัวจากทั้งหมดที่อาศัยอยู่ใน The Leopard National Park ของรัสเซีย 2. อุรังอุตังบอร์เนียว (Bornean Orangutan) อุรังอุตังชนิดนี้จะพบได้เฉพาะบนพื้นที่เกาะบอร์เนียวเท่านั้น มีใบหน้าที่กว้างและเคราสั้น จากการเก็บข้อมูลพบว่าในช่วง 60 ปี อุรังอุตังบอร์เนียวมีจำนวนลดลงกว่า 50% และจะลดลงอีก 22%…
-
ช่างภาพใช้เวลา 2 ปี ตามถ่าย “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ก่อนจะไม่ได้เห็นพวกมันอีกต่อไป
เราอาจจะรู้สึกดีเวลาได้เห็นภาพน่ารักๆ ของสัตว์ เพราะมันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจได้ แม้ต้องเจอเรื่องแย่แค่ไหน แต่ความจริงที่หนีไม่พ้นคือ มีสัตว์บางชนิด บางสายพันธุ์กำลังจะสูญพันธุ์ไปจากโลกของเรา และแน่นอนว่าถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เราคงจะได้เห็นความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตน้อยลง Tim Flach ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะช่างภาพชาวอังกฤษ จึงได้ทุ่มเทเวลากว่า 2 ปี ในการบันทึกภาพของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ก่อนที่พวกมันจะหายไป 1. เสือดาวหิมะ แมวขนาดใหญ่พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในแถบเทือกเขา Central และ South Asia ถิ่นที่อยู่ของพวกมันในปัจจุบันคือเทือกเขาหิมาลัยตะวันออกและแม่น้ำแยงซี สถานะของมันปัจจุบัน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากถูกคุกคาม 2. แร้งอียิปต์ แร้งอียีปต์ถูกพบในยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ แอฟริกาเหนือ และอินเดีย สถานะของแร้งชนิดนี้อยู่ในขั้นวิกฤติ 3. เต่ายูนิฟอรา เต่ายูนิฟอราเป็นหนึ่งในพันธุ์เต่าที่หายากที่สุดในโลก และในอนาคตเราอาจจะหาพวกมันไม่เจออีกต่อไป เพราะตอนนี้มันอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์แล้ว 4. กบต้นไม้ตาเหลือง กบสายพันธุ์นี้สามารถอยู่ได้ในพื้นที่จำกัดเพียงไม่กี่แห่ง พวกมันจะอยู่ได้แค่บริเวณที่ราบสูงของคอสตาริกาซึ่งอยู่ในบริเวณที่ราบสูงทางตะวันตกของปานามาอีกที สถานะปัจจุบันของกบพันธุ์นี้คือ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 5. มาคอว์ มาคอว์เป็นนกแก้วพื้นเมืองทางภาคกลางและภาคตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ มันมีขนาดลำตัวยาวกว่านกแก้วชนิดอื่นๆ ที่มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 100 เซนติเมตร 6. ลิงจมูกเชิดสีดำ ลิงจมูกเชิดสีดำพบได้ในเทือกเขาหยุนหลิงในทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนานและทางตะวันออกเฉียงใต้ของทิเบต…
-
ลูกหมีน้อยไร้แม่ ได้รับการช่วยเหลือ หลังแม่ถูกคนตัดไม้พรากชีวิตขณะจำศีล
สัตว์ก็เหมือนกับคนเรา พวกมันมีครอบครัวมีพ่อแม่ที่มันรัก ไม่ว่าใครก็อยากจะอยู่กับพ่อแม่ไปจนแก่ตายกันทั้งนั้นแหละ แต่บางครั้งก็มีคนมาพรากสิ่งเหล่านั้นจากเราไปราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง ลูกหมีน้อยตัวนี้หลับจำศีลอยู่กับแม่ในโพรงของมัน แต่ชีวิตแสนสงบของมันก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่เข้ามาพรากแม่ของมันซึ่งกำลังหลับอยู่ ทำให้มันต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย แม่หายไปไหน พาเค้ามาที่นี่ทำไม เจ้าหมี 2 แม่ลูกนี้จำศีลอยู่ด้วยกันในโพรงไม้ ทว่าคนตัดไม้ก็บังเอิญไปรบกวนการพักผ่อนของพวกมันเข้า แม่หมีก็เลยออกมาปกป้องลูกของมัน แต่ก็ถูกคนตัดไม้ยิงเสียชีวิต อาจจะเป็นเพราะความสงสารและความรู้สึกผิด คนตัดไม้ก็เลยเอาลูกหมีกำพร้าใส่ถุงพลาสติกแล้วเอามันไปส่งให้กับศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าเพื่อให้พวกเขาดูแลมันแทน มาตรวจอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมปล่อยเค้ากลับไปสักที พอทางศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าได้รับตัวเจ้าหมีมา พวกเขาก็รีบนำมันไปตรวจร่างกายทันที โชคดีที่เจ้าหมีนั้นสุขภาพแข็งแรงสมวัย แต่มันก็คงลำบากเพราะขาดแม่ซึ่งเป็นเหมือนเสาหลักของชีวิตไป เจ้าหน้าที่ในศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่าตั้งใจจะดูแลเจ้าหมีไปสักระยะหนึ่ง พอมันแข็งแรงและเติบโตมากพอแล้ว ก็จะส่งมันกลับไปสู่ธรรมชาติตามเดิม หมีดำอย่างแม่และลูกหมีคู่นี้เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาว แต่ในปัจจุบันพวกมันเหลือจำนวนอยู่น้อยเต็มทีแล้ว ตอนนี้พวกมันมีชื่ออยู่ใน บัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (Red List of the International Union for Conservation of Nature) ซึ่งแปลว่าพวกมันใกล้สูญพันธุ์แล้วนั่นเอง ในประเทศรัสเซียที่มีหมีดำอยู่มากนั้น พบว่ามีลูกหมีดำกำพร้าเพิ่มขึ้นถึงปีละ 20-40 ตัวเลย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วงมาก หากว่าไม่มีแม่หมีแล้วโอกาสอยู่รอดของลูกหมีก็จะลดน้อยลงไปด้วย เรื่องการอนุรักษณ์หมีดำจึงเป็นอีกเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญก่อนมันจะสูญพันธุ์ไป ให้เราอยู่กับครอบครัวเถอะ อย่าฆ่าพ่อแม่เราเลย…
-
‘แม่จ๋า’ ภาพอันน่าสลดใจของลูกแรด พยายามปลุกแม่ที่ไร้วิญญาณ จากการถูกล่าตัดนอของมนุษย์
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีคนให้ความสนใจกับการอนุรักษณ์สัตว์มากขึ้นกว่าในอดีต ทว่านักล่าสัตว์ก็ยังคงคร่าชีวิตสัตว์ที่หายากเหล่านี้ต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ก็ยังมีวิดีโอน่าสลดใจของการล่าแรดให้ได้เห็นกัน แม่แรดถูกมนุษย์ใจร้ายฆ่าแล้วเอานอของมันไป ทิ้งให้ลูกแรดอยู่กับร่างไร้วิญญาณของแม่มันโดยที่ไม่เข้าใจว่าแม่จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว แม่แรดถูกนักล่าสัตว์ฆ่าทิ้งไปซะแล้ว คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายที่อุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ จะเห็นได้ว่าแม่แรดนอนแน่นิ่งไปแล้วเนื่องจากมันเสียชีวิตจากการถูกล่านอ ข้างๆ กันก็คือลูกของมันซึ่งมีอายุเพียงเดือนเดียวเท่านั้น มันยังไม่หย่านมจากแม่เลยด้วยซ้ำ แรดน้อยยังคงพยายามดันให้แม่ลุกขึ้นมาเพราะคงคิดว่าแม่แค่หลับไป แถมมันยังพยายามดูดนมแม่ด้วยแม้ว่าจะไม่มีนมให้เพราะร่างกายหยุดทำงานไปแล้วก็ตาม ลูกแรดยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของมันไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย คนที่คลิปวิดีโออันน่าสลดใจไว้ใจก็คือ Nico Jacobs จากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ Rhino 911 ระหว่างที่ถ่ายวิดีโอเขาก็พูดบรรยายสถานการณ์ในตอนนั้นไปด้วย เขาอธิบายความรู้สึกที่ได้เห็นภาพน่าเศร้านี่ว่า “ผมไม่เข้าใจเลยว่าคนล่าสัตว์ทำมันลงได้ยังไง ปล่อยให้ลูกน้อยหิวโซแล้วดูดนมจากแม่ที่ตายแล้วแบบนี้” Nico บอกว่าเขาได้รับแจ้งจากคนในอุทยานแห่งชาติที่ผ่านมายังบริเวณนั้น และเจอลูกแรดหิวโซอยู่ตัวเดียวซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติ จึงได้เข้ามาทำการตรวจสอบจนพบว่าแม่ของมันถูกฆ่าเอานอไป โชคดีที่พวกเขามาพบมันเสียก่อน ก็เลยช่วยเจ้าลูกแรดที่ตั้งชื่อให้ว่า Lottie เอาไว้ได้ หลังจากที่เขาให้สัตวแพทย์ตรวจและรักษามันเรียบร้อยแล้วก็คงจะส่งมันไปอยู่กับฝูงแรดเพื่อให้มันอยู่ตามธรรมชาติดังเดิม คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้ คลิกที่นี่) โพสต์ที่แชร์โดย Rhino 911 (@rhino911npo) เมื่อ ก.พ. 17, 2018 เวลา 1:14am PST เขายังเสริมอีกว่า “ในแอฟริกาใต้มีแรดขาวอยู่ 18,600 ตัวและแรดดำอีก 5,000…
-
ช่างภาพใช้เวลากว่า 2 ปีบุกป่าฝ่าดงถ่ายภาพสัตว์ที่อาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้
สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่คู่กับโลกเรามาตั้งแต่สมัยโบราณกาล แต่ก็ด้วยความเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ภายในดาวดวงนี้ทำให้สัตว์บางชนิดเป็นอันต้องสูญพันธุ์ไป และในปัจจุบันก็มีสัตว์จำนวนมากอยู่ในภาวะ ‘ใกล้สูญพันธุ์’ จึงทำให้ช่างภาพคนหนึ่งตัดสินใจผจญภัยไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพของสัตว์เหล่านี้ ก่อนที่อาจจะไม่ได้เห็นมันอีกต่อไป… ช่างภาพชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่า Tim Flach ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีเต็มๆ บุกป่าฝ่าดงเข้าไปในแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แต่ละชนิด เพื่อจะเก็บภาพของพวกมันขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเขาต้องเผชิญกับภัยอันตรายมากมาย แลกกับการได้มาของภาพสวยๆ เหล่านี้ ส่วนสาเหตุที่ Tim ได้สละเวลาเป็นปีๆ เพื่อตามเก็บภาพก็เพราะเขาอยากจะบอกให้ชาวโลกช่วยกันดูแลอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้ เนื่องจากปัจจุบันจำนวนของพวกมันได้เหลือน้อยลงเต็มที ภาพถ่ายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จากฝีมือของ Tim ได้สะท้อนให้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่าง โดยเขาบอกว่าเหตุที่มันมีจำนวนลดน้อยลง ส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำมือของมนุษย์ที่ได้ทำลายที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของมัน และยังมีการล่าเพื่อความสนุก หรือนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวต่างๆ อีกด้วย หมีขั้วโลก กุย ไฮยาซิน มาคอว์ นกอินทรีฟิลิปปิน ช้างแอฟริกา ลิงซ์สเปน ลีเมอร์หางแหวน เสือชีต้าห์ เสือดาวหิมะ เต่ายูนิฟอรา …
-
ช่างภาพตามถ่ายภาพ “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์” ที่จะหายไปจากโลกภายในระยะเวลาอันใกล้นี้
ในโลกนี้มีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด แต่น่าเสียดายที่บางชนิดใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีโอกาสได้เห็นมันด้วยซ้ำ อย่างในหนังสือ Endangered ของช่างภาพ Tim Flach ซึ่งเป็นการบันทึกภาพสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการถูกคุกคาม Tim ได้ออกเดินทางไปทั่วโลก ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในป่า ทุ่งหญ้าสะวันนา ทะเลขั้วโลก เพื่อสร้างภาพอันทรงพลังของสัตว์ป่าและระบบนิเวศของพวกมันที่กำลังเผชิญกับปัญหาอย่างรุนแรง และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของสัตว์ป่าหายากที่คาดว่าจะศูนย์พันธุ์ในอีก 10 ข้างหน้า พวกมันมีความโดดเด่นและน่าสนใจเกินที่จะหายไปจากโลก… 1. ลิ่นต้นไม้ สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ นี้อาศัยในป่าดิบชื้นของแอฟริกันสะวันนาจากเซเนกัลไปยังเคนยาและแซมเบียตอนใต้ ลิ่นต้นไม้มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ตั้งแต่ปี 2008 และมีความรุนแรงมากที่สุดในปี 2014 นั่นหมายความว่าหากไม่มีการคุ้มครองพิเศษ ลิ่นต้นไม้มีโอกาสที่จะลดลงถึง 30-50% ภายใน 10-20 ข้างหน้า 2. ลีเมอร์หางแหวน ลีเมอร์หางแหวนสามารถพบได้ในดินแดนที่แห้งแล้งและในป่าทางตอนใต้ของมาดากัสการ์ ทาง The International Union for Conservation of Nature (IUCN) ได้กำหนดให้สัตว์ชนิดนี้ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากจำนวนประชากรของพวกมันลดลงไป 2,000 – 2,400 ตัว ซึ่งมากถึง 95% นับตั้งแต่ปี 2000 ปัจจัยที่ทำให้จำนวนประชากรลีเมอร์หางแหวนลดลง ได้แก่…
-
นักอนุรักษ์จัดให้ ‘ยีราฟ’ อยู่ในสัตว์ “ใกล้สูญพันธุ์” หลังมีจำนวนลดลง 40% ในช่วง 30 ปี
ที่ผ่านเราคงเคยได้ยินมาบ่อยๆ ว่ามีสัตว์หลายชนิดที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ จนนำไปสู่การจัดให้อยู่ในประเภทของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเข้มงวด ล่าสุดสัตว์ที่เราคุ้นเคยอย่างยีราฟก็ถูกจัดให้อยู่ในประเภทของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เช่นกัน หลังจากที่นักอนุรักษ์พบว่ามียีราฟเหลือน้อยกว่า 100,000 ตัวในป่า ก่อนหน้านี้ยีราฟถูกจัดให้อยู่ใน “สัตว์ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์” แต่ตอนนี้มันถูกจัดให้อยู่ใน “สัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” เนื่องจากจำนวนยีราฟลดลงถึง 40% ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ยีราฟมีจำนวนลดลงนั้น เป็นเพราะการสูญเสียที่อยู่อาศัย การล่าสัตว์ผิดกฎหมาย และความวุ่นวายที่เกิดในประเทศแอฟริกา ซึ่งเป็นที่อยู่หลักของพวกมัน ทาง International Union for the Conservation of Nature (IUCN) เปิดเผยว่า ยีราฟอาศัยอยู่ทั่วแอฟริกาตอนใต้และทางตะวันออก แต่มีประชากรน้อยกว่าที่ตะวันตกและแอฟริกากลาง จากการสำรวจพบว่า จำนวนยีราฟลดลงประมาณ 151,702 – 163,452 ตัวในปี 1985 และ 97,562 ตัวในปี 2015 ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนประชากรมนุษย์ที่เติบโตขึ้น ซึ่งมักจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ในทางลบ และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมยีราฟจึงถูกจัดให้อยู่ในสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และคงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้พวกมันถูกคุกคามไปมากกว่านี้ ที่มา telegraph
-
“วอมแบทจมูกขนเหนือ” สัตว์หายาก ที่ใกล้สูญพันธุ์ เหลือเพียง 251 ตัวบนโลกเท่านั้น!!
บนโลกนี้แม้จะมีสัตว์หลากหลายชนิดก็ตาม แต่ก็มีสัตว์อีกไม่น้อยเลยที่ใกล้จะสูญพันธุ์และคนส่วนใหญ่ก็อาจจะรู้จัก “วอมแบท” กันดีอยู่แล้ว ซึ่งในตระกูลวอมแบทนี้เองก็มีอยู่ทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน แต่หนึ่งในนั้นอยู่ในวิกฤตใกล้สูญพันธุ์เต็มทีแล้ว โดยเหลือแค่ 251 ตัวบนโลกเท่านั้น!! วอมแบทจมูกขนเหนือ (Northern hairy-nosed wombat) นั้นเดิมทีเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ทั่วไปในแถบรัฐ New South Wales, Victoria, และ Queensland ประเทศออสเตรเลียเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน แต่ตอนนี้ถิ่นที่อยู่ของมันได้ลดขนาดลงเหลือเพียงประมาณ 32 ตารางกิโลเมตร ที่อุทยานแห่งชาติ Epping Forest National Park ที่ตั้งอยู่ในรัฐ Queensland ปกติแล้ววอมแบททั่วไปจะเป็นสัตว์ที่มีร่างกายกำยำ มีขนาดศีรษะใหญ่และสั้น มีขาที่มีพละกำลัง กรงเล็บที่แข็งแรงเพื่อเอาไว้ขุดโพรง แต่สำหรับเจ้าวอมแบทจมูกขนเหนือนั้นจะมีความแตกต่างตรงที่ขนตรงจมูก และลักษณะทางกายภาพที่ไม่เหมือนกับวอมแบทธรรมดาทั่วไป โดยจะมีใบหูที่ยาวและแหลมกว่า มีจมูกกว้างกว่า มีขนนุ่มๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย อีกทั้งยังมีขนาดตัวที่ยาวมากถึง 35 เซนติเมตร ถึง 1 เมตรเลยทีเดียว แถมยังสามารถหนักได้ถึง 40…
-
ข่าวดีของโลก!! สหรัฐนำ “พะยูนอินเดียตะวันตก” ออกจากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว
ถึงแม้ว่าขณะนี้ข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมของโลกเราจะมีแต่ข่าวร้ายๆ อย่าง น้ำแข็งขั้วโลกละลายมากขึ้น โลกร้อนขึ้นอีก หรือมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ถูกขึ้นบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่ในเรื่องร้ายนั้นก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่เหมือนกัน เพราะเมื่อไม่นานมานี้ชื่อของ “พะยูน” ได้ถูกนำออกจากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ลดมาอยู่ในกลุ่มของสัตว์กำลังถูกคุกคามแทน ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆ เลยนะเนี่ย รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรติดตามได้จากข่าวนี้เลย เมื่อไม่นานมานี้ทางการสหรัฐอเมริกาได้ถอด พะยูนอินเดียตะวันตก ออกจากบัญชีสัตว์ที่ใกล้สูญพันธ์แล้ว โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าจำนวนของพวกมันมีการเพิ่มขึ้นถึง 6,000 ตัวจากไม่กี่ร้อยตัวในปี 1970 การเพิ่มขึ้นอย่างมากของพวกมันนี้มาจากความพยามในการอนุรักษ์มากกว่า 30 ปีที่ผ่านมา นาย Phil Kloer โฆษกของกรมคุ้มครองสัตว์กล่าวว่า “เราคิดว่านี่คือความสำเร็จของสิ่งที่เราพยายามมาอย่างยาวนาน เราดีใจมากที่พวกพะยูนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง” แต่การย้ายพะยูนไปยังบัญชีสัตว์ที่ถูกคุกคามนี้ ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน โดยพวกเขาให้เหตุผลว่านี่อาจทำให้กฏหมายที่คุ้มครองพวกมันอ่อนลง และอาจทำให้มันกลับไปอยู่ในบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกครั้ง Frank Jackalone ผู้อำนวยการของ Sierra Club ในรัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อมบอกว่า “พวกเขาควรจะมีการควบคุมในด้านอื่นๆ ด้วย เพราะหลังจากที่พะยูนถูกถอดออกจากบัญชีเดิมแล้วเรือประมงสามารถที่จะขับเรือได้เร็วมากขึ้นในเขตที่อยู่อาศัยของพวกมัน ในปีที่แล้วมีพะยูนอินเดียตะวันตกตายกว่า 520 ตัวซึ่งมาจากการจับสัตว์น้ำกว่า 140 ตัว” นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกด้วยว่ารัฐบาลน่าจะมีการแก้ปัญหากับโรงไฟฟ้าในฟลอริด้า ที่มีส่วนทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อพวกพะยูน …
-
พาไปรู้จักกับ ‘ลิงซ์สเปน’ สิ่งมีชีวิตหน้าตาน่ารัก แต่เสี่ยงต่อการสูญพันธ์ถึงขั้นวิกฤติเลยนะ!!
จะว่าไปแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายสิบ หลายร้อยปี มีสัตว์โลกมากมายที่สูญพันธ์ไปแล้ว และใกล้ที่จะสูญพันธ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลจากการคัดสรรทางธรรมชาติ หรือถูกมนุษย์ล่าเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์บางอย่าง แต่คราวนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกคนไปรู้จักกับสัตว์ป่าพันธุ์หายาก ‘ลิงซ์สเปน’ ที่ได้รับการขึ้นชื่อว่ามันเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ถึงขั้นวิกฤตเลยล่ะ!! แฮร่!! และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าสัตว์ป่าหายาก ดูๆแล้วเหมือนแมวเมนคูน ผสมกับเสือดาวเลยเนาะ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบคาบสมุทรไอบีเรียในยุโรปใต้ ด้วยความที่ว่ามันมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่เฉพาะ ทำให้มันมีจำนวนประชากรที่ค่อนข้างจะน้อยมากก!! ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ เขาก็ได้จัดให้มันเป็นสัตว์จำพวกแมวชนิดหนึ่ง เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักตัวของมันจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 25 กิโลกรัม ความยาวของลำตัวก็ประมาณ 85-110 เซนฯ และสูงประมาณ 60-70 เซนฯ และจากการตรวจสอบจำนวนประชากรของเจ้า ‘ลิงซ์สเปน’ รายงานล่าสุดจากปี 2013 พบว่า มันมีจำนวนทั้งหมดเพียงแค่ 309 ตัวในธรรมชาติเท่านั้น!! ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว จำนวนประชากรของมันลดลงมากถึง 80% เชียวล่ะ เยอะจนน่าใจหาย อีกทั้งนักวิทย์ฯ ยังเชื่อว่า…