Tag: สั่งสอน
-
พ่อลงโทษลูกด้วยการให้วิ่งไปโรงเรียนกลางสายฝน หลังลูกชายแกล้งเพื่อนบ่อยจนถูกแบน
การเลี้ยงลูกในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่ครอบครัวสมัยใหม่มักจะเลือกลงโทษลูกๆ ด้วยวิธีการต่างๆ ที่ไม่ทำร้ายร่างกายหรือทรมานโดยตรง บ้างอาจจะเป็นการใช้คำพูดตำหนิ ยึดโทรศัพท์ หรือกักบริเวณเสียมากกว่า แต่สำหรับ Bryan Thornhill คุณพ่อชาวอเมริกันที่จัดการลงโทษลูกด้วยวิธีแบบสมัยเก่า หลังจากเขาได้รับรายงานผ่านอาจารย์ที่โรงเรียนมาว่า ลูกชายวัย 10 ขวบของเขามักจะแกล้งเพื่อนๆ ระหว่างนั่งบนรถบัสเสมอๆ จนล่าสุดทำให้ลูกชายคนดังกล่าวถูกแบนไม่ให้ขึ้นรถบัสไปโรงเรียน งานนี้คุณพ่อ Bryan ก็ไม่ได้หัวเสียแต่อย่างใด เพียงแต่เขาคิดว่าเขาควรจะสั่งสอนลูกด้วยวิธีเก่าๆ วิธีที่เขาควรทำในฐานะพ่อแม่ไม่ใช่ฐานะเพื่อนที่พ่อแม่เดี๋ยวนี้มักจะทำกัน เขาได้ให้ลูกชายของเขาวิ่งไปโรงเรียนทุกวันนับตั้งแต่ถูกแบนแม้ฝนจะตกก็ตาม ซึ่งเขาได้อัดคลิปมาให้เราดูพร้อมกับบอกว่า “ว่าไงทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ ลูกควรจะเชื่อฟังพ่อ 2018” โดยระหว่างที่เขาอัดคลิปเขาก็ได้อธิบายถึงเหตุผลต่างๆ นานา ว่าลูกเขานั้นทำตัวเป็นนักเลงและแกล้งเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งมันเป็นภัยสังคมเงียบๆ ที่รับไม่ได้ ฉะนั้นเขาจึงต้องสั่งสอนลูกให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำไม่ดี ส่วนเรื่องที่เขาทำมันก็ไม่ได้แย่ เพราะเขาได้วางแผนไว้แล้วว่า ถ้าลงโทษแบบนี้จะทำให้ลูกเขามีร่างกายที่แข็งแรง วิ่งได้ไวขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดได้ นอกจากนั้น หลังการลงโทษเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ได้รับรายงานจากทางครูของลูกชายว่า ลูกของเขานั้นมีพฤติกรรมที่เรียบร้อยและดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ พร้อมกับบอกว่าพ่อแม่คนอื่นว่า พวกเขาต้องสอนลูกในฐานะพ่อแม่ สอนให้พวกเขารู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ ที่สำคัญคืออย่าสร้างปัญหาให้กับคนอื่น…
-
สิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่ Blake Lively และ Ryan Reynolds ใช้สอนลูก ซึ่งเราทุกคนควรเรียนรู้…
พ่อแม่หลายคนมีวิธีการเลี้ยงดู และสอนลูกในแบบที่แตกต่างออกไป Ryan Reynolds และ Blake Lively สองคู่รักนักแสดงดังระดับฮอลลีวู้ดคู่นี้ ก็มีวิธีในการสอนลูกในแบบฉบับของพวกเขาเช่นกัน และเชื่อหรือไม่ว่าการสอนลูกของทั้งคู่นั้น เป็นอะไรที่ฉลาด และเรียบง่ายมากๆ เลยล่ะ สำหรับ Ryan และ Blake เป็นคู่รักที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ติดตามชีวิตของพวกเขาอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่าครอบครัวนี้อบอุ่นสุดๆ แถมลูกทั้ง 2 คนของพวกเขาก็น่ารักมากๆ อีกด้วย ทางด้าน Blake ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Glamour เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอกับ Ryan ว่า เธอและสามีมักจะระวังเรื่องการใช้คำพูดเป็นพิเศษ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพเวลาที่อยู่กับลูกสาวทั้ง 2 คน “เขาจะได้เรียนรู้ และซึมซับเหมือนกับหนอนผีเสื้อ และแทนที่จะพูดว่า นายชื่ออะไรหรอ? เขาก็จะพูดว่า เธอชื่ออะไรหรอ? หรือบางครั้งเราก็หยอดมุขกันว่าลูกสาวของเราคือ บอสซี่ แต่สามีของฉันเขาบอกว่า “ผมไม่ต้องการจะใช้คำนั้นอีก คุณไม่เคยได้ยินผู้ชายถูกเรียกว่าบอสซี่สินะ” ดังนั้น ฉันจึงได้เรียนรู้วิธีที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกสาวได้ยังไง? ซึ่งจริงๆ…
-
หญิงสาวโดนหนุ่มจับก้น จึงถ่ายรูปมาประจาน แต่กลับนำไปสู่ดราม่าถกเถียงกันยกใหญ่!!
เมื่อผู้หญิงถูกลวนลามในที่สาธารณะจะมีการตอบสนองสองทางคือ กลุ่มหนึ่งจะนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะอายหากมีคนอื่นรู้ ในขณะที่ผู้หญิงอีกประเภทหนึ่งจะระเบิดออกมาและจัดการกับคนโรคจิตคนนั้นทันที เหมือนกับ Krystal Olsen บาร์เทนเดอร์สาวจากจากนิวยอร์กที่ทำงานในแอริโซนา ที่เพิ่งถูกลวนลามมา แต่วิธีที่เธอใช้จัดการโรคจิตนั้น สาวๆ จดและนำไปใช้ได้เลย เมื่อ Krystal ถูกโรคจิตจับก้น เธอตัดสินใจต่อสู้ก่อนที่โรคจิตคนดังกล่าวจนลงไปนอนกับพื้น แล้วเธอก็ทำการมัดมือเขาไว้ข้างหลัง ทำเอาโรคจิตทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งร้องไห้ แค่นั้นยังไม่พอ เธอยังถ่ายรูปโรคจิตแล้วเอาไปประจานในโซเชียล และหลังจากที่โพสต์ในทวิตเตอร์เพียงไม่กี่นาทีก็มีคนรีทวิตถึง 80,000 ครั้ง และกดไลค์อีกนับไม่ถ้วน ชาวเน็ตจำนวนมากที่ชื่นชมวิธีการสั่งสอนโรคจิตของ Krystal เพราะทุกวันนี้ผู้หญิงมักจะถูกคุกคามทางเพศในลักษณะนี้ บางคนบอกว่าผู้หญิงหลายๆ คนถูกลวนลามแบบนี้แต่ไม่กล้าตอบโต้แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างเงียบๆ แต่รู้ไม่ว่านั่นเป็นการเปิดโอกาสให้โรคจิตทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขายังบอกอีกว่าผู้หญิงที่ถูกลวนลามไม่ใช่คนที่ต้องอาย แต่โรคจิตต่างหากที่ควรจะได้รับความอับอายจากการกระทำของตัวเอง ที่สำคัญผู้หญิงควรจะเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของโรคจิต ส่วนใครที่ไม่มีรู้วิธีเอาตัวรอด ขอแนะนำ 5 เทคนิคง่ายๆ ลองเอาไปฝึกดูนะคะ สุดยอดมาก ผมจะให้ลูกสาวทำเหมือนคุณเช่นกัน เก่งมากๆ ฉันมีลูกสาว 3 คน หวังว่าพวกเขาจะทำเหมือนกับคุณนะ แต่บางคนกลับมองว่าเธอทำรุนแรงเกินไป… …
-
นักวิจัยต่างประเทศกล่าว… ครอบครัวที่เข้มงวดกับลูกมากไป อาจทำให้เด็กเป็นคนขี้โกหก
ในวัยเด็กของเราทุกคนคงจะเคยถูกเลี้ยงดูมาโดยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป พ่อแม่บางคนอาจจะเลี้ยงลูกแบบถนุถนอม บางคนเลี้ยงด้วยเหตุผล บางคนเลี้ยงด้วยไม้เรียว บางคนอาจจะสร้างกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมากๆ นั้น จะส่งผลเสียกับพฤติกรรมของลูกในระยะยาวได้นะ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของนักจิตอายุรเวทและนักเขียนหนังสือชื่อดังชาวอังกฤษ Philippa Perry บอกว่าการที่พ่อแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไปนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่อยากบอกความจริงกับพวกคุณ Philippa บอกว่าทุกๆ คำโกหก ล้วนก่อตัวมาจากสถานการณ์ที่บังคับให้พวกเขาไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้ หากลูกๆ ของพวกเขากลายเป็นคนขี้โกหกล่ะก็ พ่อแม่ควรจะโทษการเลี้ยงดูของพวกเขาเอง การให้ความเห็นของเธอไม่ได้เป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยของนักจิตวิทยาชาวแคนาดา Dr. Victoria Talwar ที่วัดและทำการทดลองกับเด็กโกหกมาแล้ว Dr. Talwar ได้ทำการทดลองกับเด็กๆ ในโรงเรียนสองแห่งในประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยในโรงเรียนแรกจะไม่มีการตั้งกฎเกณฑ์ใดๆ ปล่อยสบายๆ ส่วนอีกโรงเรียนจะตั้งกฎไว้อย่างเข้มงวดและมีบทลงโทษด้วย การทดสอบนี้ก็ง่ายๆ แค่ให้เด็กๆ เดาว่าวัตถุอะไรที่ทำให้เกิดเสียง โดยห้ามมองวัตถุนั้น เธอเรียกการทดลองนี้ว่า Peeping Game เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น พวกเขาให้เด็กๆ เข้าไปในห้อง แล้วผู้ทำการทดลองก็โยนบอลพลาสติกลงกับพื้น (ซึ่งมีเสียงแตกต่างจากบอลจริงๆ จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดา) จากนั้นผู้ทำการทดลองก็ทำทีเป็นเดินออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาถามว่าเสียงที่ว่านั้นคืออะไร Dr.…
-
ไอ้หนูวัย 13 สุดห้าว บอกแม่ ‘อย่ามายุ่งกับชีวิต’ เจอคุณแม่ตัดหาง ต้องกลับมาขอเป็นลูกอีกครั้ง
ดับเก๋ากันเลยทีเดียวสำหรับงานนี้ นี่แหละหนอ จะไปไหนรอดไม่รอดมันติดอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ คำสั้นๆ ง่ายๆ ที่เรียกว่า….‘เงิน’ ฮ่าๆๆๆ คุณแม่ซิงเกิ้ลมอมคนหนึ่ง แชร์เรื่องราวที่เธอกำลังพยายามสั่งสอนลูกชายวัย 13 ตัวแสบของเธอ หลังจากที่เขาเข้ามาบอกกับแม่ว่า ผมโตแล้ว ทำงานหาเงินได้แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับผ๊มมมมมม คุณแม่เลยจัดให้เต็มๆ ซะเลย เนื้อหาก็ประมาณว่า “ถึง Aaron…เหมือนลูกจะลืมไปว่าลูกยังอายุ 13 อยู่ และแม่เป็นแม่ของลูก แม่ไม่สามารถมาบังคับอะไรลูกได้เพราะโตแล้ว ฉะนั้นเราต้องมีบทเรียนกันสักหน่อยแล้วล่ะ เกี่ยวกับคำว่าอิสระเสรี แถมลูกยังเป็นคนบอกเองอีกด้วยว่า ลูกหาเงินเองได้แล้ว ดีล่ะ…แสดงว่าลูกมีเงินพอที่จะซื้อของที่แม่เคยซื้อให้ลูกทั้งหมดตั้งแต่อดีตได้แล้วสินะ และถ้าลูกอยากใช้ไฟฟ้าหรือใช้อินเตอร์เน็ตล่ะก็ ต้องมาหารกันนะจ๊ะ…” “…ค่าเช่าบ้านก็ 430$, ค่าไฟ 116$, ค่าเน็ต 21$ และค่าอาหารอีกเดือนละ 150$ นะจ๊ะ!!!…” “…และจำไว้ด้วยว่าต้องเอาขยะไปทิ้งทุกๆ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ และวันนั้นๆ ก็ต้องกวาดและดูดฝุ่นในห้อง ทำความสะอาดห้องน้ำทุกๆ อาทิตย์ เตรียมอาหารเอง และจัดการล้างจานให้เรียบร้อย และถ้าไม่ทำให้เรียบร้อย จะต้องถูกปรับวันละ…