Tag: สั่งห้าม
-
คู่รักหนุ่มสาวโดนแบนจากโรงแรมหรู เนื่องจากใช้ ‘โปรฯ ลดราคา’ เข้าพักบ่อยเกิน…
โรงแรมหรูระดับ 4 หรือ 5 ดาวย่อมต้องเป็นที่ดึงดูดใจผู้คน ใครก็ต้องอยากเข้าพักโรงแรมที่มีระดับสูง เนื่องจากสามารถมั่นใจได้ถึงการบริการ ความสะดวกสบาย และความสวยงามหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโรงแรมเหล่านั้นมีการลดราคา อย่างเช่นคู่รักหนุ่มสาววัยรุ่นคู่นี้ หนุ่ม Luke Donovan วัย 19 ปีและสาว Taylor Perkins วัย 18 ปี ที่ได้เข้าพักในโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว Royal Hotel ใจกลางกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ ด้วยโปรโมชันลดหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ผู้จัดการของโรงแรมต้องออกมาพบพวกเขา คู่รักบอกว่า ผู้จัดการได้สั่งห้ามไม่ให้พวกเขาเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งนี้อีก หลังจากที่พวกเขาได้ก่อ “ความรำคาญ” ให้กับพนักงาน ทั้งคู่เริ่มเข้าไปพักที่โรงแรมดังกล่าวเมื่อปี 2017 แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นในการเข้าพักเที่ยวสุดท้ายของพวกเขาในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่พวกเขาได้แจ้งกับโรงแรมถึงปัญหาประตูห้องที่ล็อกไม่สนิทและน้ำที่ใช้อาบน้ำนั้นเย็นจนเกินไป Luke บอกว่า “ผมเข้าไปแจ้งกับผู้จัดการในเช้าวันรุ่งขึ้น และเขาก็ได้บอกผมว่า ผมและแฟนได้ประโยชน์จากโรงแรมมากเกินไปแล้ว และพวกเราก็เริ่มสร้างความรำคาญให้กับพนักงานในโรงแรมแล้วด้วย แถมผู้จัดการยังบ่นเรื่องที่ผมจองห้องผ่านเว็บไซต์ booking.com ที่ทำให้เขาได้เงินลดลงอีก” Luke ยังกล่าวอีกว่าผู้จัดการเสนอเงินคืนให้กับเขาและแฟนสาวราว 2,000 บาทพร้อมกับบอกว่า…
-
ไอซ์แลนด์อาจกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่สั่งห้ามไม่ให้ทำการ ‘ขลิบอวัยวะเพศชาย’
การขลิบอวัยวะเพศชาย คือหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวอิสลาม ชาวยิว และอีกหลายชนชาติเชื่อว่าเป็นการรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ แต่สำหรับประเทศไอซ์แลนด์นั้น คนส่วนมากไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดร่างกฎหมายที่เป็นข้อพิพาทกันของคนจากสองฝ่าย ประเทศไอซ์แลนด์อาจจะกลายเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่จะสั่งห้ามไม่ให้มีการขลิบ เพราะตอนนี้ได้มีการยื่นร่างกฎหมายใหม่ที่บอกว่า หากใครที่ทำการขลิบโดยไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์จะต้องถูกจำคุก 6 ปี ร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพราะพวกเขามองว่า การขลิบอวัยวะเพศชายก็ไม่ต่างกับการขลิบอวัยวะเพศหญิง (FGM) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศของยุโรป รวมถึงไอซ์แลนด์ที่แบนสิ่งนี้มาตั้งแต่ปี 2005 สิ่งนี้ได้รับความสนใจและแรงสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย มีการพูดถึงว่าการขลิบคือการละเมิดสิทธิของเด็ก ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติข้อที่ 12 ของสหประชาชาติ (UN) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กที่จะมีผลต่อการใช้ชีวิต อีกทั้งยังมีการพูดถึงเรื่องสุขภาพเอาไว้จากผู้ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ว่า “การขลิบอวัยวะเพศชายมักจะทำขึ้นที่บ้าน ซึ่งมันไม่ได้ปลอดเชื้อโรค และไม่ได้ทำโดยหมอแต่เป็นฝีมือของผู้นำศาสนา จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่เด็กอาจจะติดเชื้อหลายๆ อย่าง จนอาจเสียชีวิตได้เลย” ในโลกโซเชียลก็มีหลายๆ คนที่รู้สึกเห็นด้วยกับเรื่องนี้ “สิทธิของเด็กควรอยู่เหนือเสรีภาพทางศาสนาเสมอ” “ผมคิดว่าก่อนหน้านี้มีสิทธิมนุษยชนบางอย่างที่อยู่เหนือสิทธิทางด้านศาสนา ความเป็นมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก การคงอยู่ของศาสนาสำหรับคนที่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งคือสิ่งที่ตามมาเป็นอันดับสอง” “ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ ถ้าคุณเลือกจะทำสิ่งนี้ตอนที่โตแล้ว คุณก็ไปทำเถอะ แต่ไม่ใช่การมาตัดมันออกไปโดยไม่ได้เกิดจากความยินยอม” อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งชาวมุสลิมและชาวยิวรู้สึกว่านี่อาจเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงการต่อต้านพวกเขา ทำให้ชีวิตของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก อีกทั้งยังมีการโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องของเสรีภาพทางศาสนา กลุ่มการประชุมผู้นำศาสนายิวในยุโรป…
-
พนักงานพาเด็กข้ามถนน ‘ลาออก’ หลังโดนทางการห้ามไฮไฟว์กับเด็กระหว่างทำงาน
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาทางโรงเรียนบางแห่งในประเศอังกฤษได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้คนดูแลความปลอดภัยทางข้ามถนน หรือที่คนอังกฤษมักเรียกกันว่า ‘Lollipop Man’ (เพราะเหมือนชายถืออมยิ้มยักษ์) ทำท่าไฮไฟว์ (แปะมือ) กับเด็กๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้ เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อหลายฝ่ายทั้งตัวผู้ดูแลความปลอดภัยเองและผู้ใช้ท้องถนนเช่นกัน ในครั้งนี้ผู้ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนแห่งหนึ่งถึงกับตัดสินใจลาออกเพราะข้อห้ามนี้ เนื่องจากมันทำให้เขาทำงานอย่างไม่มีความสุข Bryan Broom ชายแก่ Lollipop Man ของโรงเรียน Kirk Ella St Andrew’s Community Primary School ชายที่ขอลาออกก็คือ Bryan Broom อายุ 77 ปี เขาทำงานเป็นคนดูแลความปลอดภัยทางข้ามถนนให้กับโรงเรียน Kirk Ella St Andrew’s Community Primary School ในชุมชน Hull เขตยอร์กชาย ประเทศอังกฤษมา 20 ปีแล้ว เขาเป็นที่รักของทั้งผู้ปกครองและเด็กๆ ในชุมชน เวลาที่เขาทำงานก็มีบ้างที่จะทำท่าไฮไฟว์เพื่อทักทายเด็กๆ ที่ข้ามถนนไปมา จนเมื่อไม่นานมานี้ทางสภาโรงเรียนได้มีระเบียบออกมา ห้ามไม่ให้คนดูแลความปลอดภัยทางข้ามถนนไฮไฟว์กับเด็ก เนื่องจากมีคนร้องเรียนว่าการกระทำของเขานั้นดูเหมือนการคุกคามเด็กเล็ก หลังจากมีระเบียบใหม่ออกมาเขาก็ถูกทางสภาเรียกไปตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง จนเขารู้สึกว่าทำงานไม่มีความสุขเหมือนแต่ก่อนแล้ว…
-
เด็กๆ ถูกสั่งห้าม ‘ไฮไฟว์’ กับคุณตาผู้พาข้ามถนน หวั่นอาจทำให้เกิดปัญหาจราจรตามมา…
การ ‘ไฮไฟว์’ หรือก็คือการแปะมือกันของคนสองคน เป็นสิ่งที่ผู้ดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งทำกับเด็กๆ มานานแล้ว แต่ล่าสุดหัวหน้าของเขาก็มีคำสั่งห้ามให้เด็กๆ ทำแบบนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็กเองและคุณตาด้วย จึงเป็นเหตุทำให้ผู้ปกครองและเด็กๆ ทักท้วงกันใหญ่เลย… Colin Spencer ชายวัย 83 ปี ทำหน้าที่เป็นคนดูแลให้เด็กๆ มา 14 ปีแล้ว เขาทำงานให้โรงเรียน St. George’s CE Primary ในชุมชน Heaviley ของเมือง Stokeport ประเทศอังกฤษ โดยปกติแล้วเขาจะไฮไฟว์กับเด็กๆ เพื่อเป็นการทักทายและให้กำลังใจพวกเขานั่นเอง Colin Spencer คุณลุงใจดีของเด็กๆ ผู้มีฉายาว่า ‘Lolly’ ทว่าเมื่อไม่นานมานี้หัวหน้าของเขามีคำขอร้องไม่ให้เด็กๆ และผู้ปกครองทำไฮไฟว์กับคุณตาอีกเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่ามันจะทำให้คุณตาและเด็กๆ ไม่สนใจท้องถนนจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ คุณตาเล่าว่า “ผมบอกกับผู้จัดการว่าผมทำแบบนี้มาตั้ง 14 ปีแล้ว แล้วเด็กๆ ก็ชอบมันมากด้วย แต่เธอบอกว่าผมควรจะหยุดทำแบบนั้นเพราะมันเป็นการก่อกวนสมาธิของผมและเด็กๆ เวลาข้ามถนน” เขามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เด็กๆ เวลาข้ามถนน เมื่อผู้ปกครองได้ทราบข่าวนี้พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน…
-
ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย
พวกเราบางคนอาจเคยรู้กันมาก่อนแล้วว่า ใน ประเทศจีน นั้นจะมีการควบคุมและสั่งห้ามสิ่งต่างๆ เอาไว้หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์ที่จะถูกนำเข้าไปฉาย หรือแม้แต่การสั่งห้ามเครื่องเล่นเกมคอนโซลทุกชนิดมาตลอดจนถึงปี 2014 จากบรรดาข้อห้ามมากมายของพวกเขานั้น ในวันนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาประกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ในประเทศว่า พวกเขาจำเป็นต้องแบน เพลงแรป ไม่ให้มีในโทรทัศน์หรือในวิทยุอีกต่อไป เนื่องจากเนื้อหาของเพลงที่มีความหยาบคายมากเกินไป การประกาศนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ เพราะเพลงแรปในประเทศจีนก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทางการบอกว่า “พวกเราจะทำการสั่งห้ามดาราคนดังที่มีรอยสัก วัฒนธรรมฮิปฮอป (รวมถึงการแรป) และเนื้อหาแปลกๆ ทุกอย่าง ไม่ให้มีการเผยแพร่ในโทรทัศน์หรือวิทยุอีกต่อไป” พวกเขาให้เหตุผลว่า เพลงแรปนั้นมีเนื้อหาที่หยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องการใช้สารเสพติด เนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศและการเหยียดเพศตรงข้าม ข้อห้ามใหม่ทำให้เหล่าแรปเปอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่ว่า ผลงานของตัวเองไม่สามารถถูกเผยแพร่ออกไปทางทีวีหรือวิทยุได้อีกต่อไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ PG One แรปเปอร์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็จะไม่ได้โผล่ออกมาในทีวีให้ทุกคนได้เห็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แรปเปอร์ชื่อดังในจีน PG One ในขณะที่มีการแบนแรปเปอร์ในประเทศของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ยังแบนเพลงป็อปที่มีท่อนแรปใส่เข้าไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่มีการประกาศออกมาว่าจะแบนเหล่าดาราฮิปฮอป แรปเปอร์ต่างประเทศที่นำผลงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกฝั่งหนึ่งมองว่า เนื้อหาที่หยาบคายเป็นเพียงของอ้างของรัฐบาล เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาสั่งห้ามเพราะเนื้อหาของเพลงมีการพูดถึงการต่อต้านความคิดระบบเผด็จการ ทำให้คนใหญ่คนโตของประเทศรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันซักเท่าไหร่ การควบคุมสื่อภายในประเทศจีน…