Tag: สายเขียว
-
เมื่อกัญชาถูกกฎหมายในอเมริกา สาวๆ ก็ถ่ายภาพ “โชว์ของ” กันร่าเริงเลยเชียว!
หลายประเทศก็ได้มีการทำให้ กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เช่น แคนาดา เป็นต้น โดยบางแห่งอาจมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ในเชิงการแพทย์ ขณะที่บางแห่งก็ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ประเทศสหรัฐอเมริกาเองล่าสุดก็ได้ทำให้ กัญชา เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้วใน 9 รัฐโดย “ไม่มีเงื่อนไข” ว่าต้องใช้ในเชิงการแพทย์เท่านั้น งานนี้สาวสวยทั้งหลายก็ออกโพสต์ภาพคู่กับกัญชาอย่างรื่นเริงทั่วอินสตาแกรมเพราะสามารถสูบกัญชากันได้อย่างสบายใจเฉิบ มันจะดูรื่นเริงขนาดไหนไปชมกันเลย!! #1 มาพร้อมชุดเลยแฮะ IG: krissy.420 #2 ควันขโมงกันเลยงานนี้! IG: msblowsmoke #3 ดูใบหน้าอันโอ้อวดนั่นสิ!! IG: lifteddladies #4 ดูมีความสุขจริงจริ๊งงงง IG: blazinbee420 #5 สมใจสายเขียวเลยใช่ไหมล่ะ!? IG: bongbeauties #6 เจอแบบนี้ไม่ว่าจะสายเขียวหรือสายอะไรก็ชอบทั้งนั้นแหละจ้าาา IG: women.weed #7 เฮ้ย ใส่ในพิซซ่าเลยเหรอ!!? IG: summersativaofficial #8 ไม่อยากเชื่อเลยว่ากัญชาที่ถูกกฎหมายจะทำให้คนเซ็กซี่ได้ขนาดนี้… IG: sexyganjagirls #9 อื้อหืม…ของดี!! IG: ms.allyrose…
-
รีวิว “ทัวร์กัญชา” ในเขตพิเศษ “คริสเตียเนีย” แห่งเมืองโคเปนเฮเกน แม้ข้างทางก็มีกัญชาปลูก
สำหรับผู้ที่ชอบในเรื่องของสมุนไพร (อะแฮ่ม กัญชา) ก็คงจะรู้กันดีว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในบ้านเราและในหลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงมีหลายๆ คนที่พยายามขวนขวายที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศที่อนุญาตให้มีการบริโภคสมุนไพรสีเขียวนี้ได้อย่างเสรี ในประเทศเดนมาร์กเองก็ถือว่ากัญชาเองเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน แต่มีเขตพิเศษเขตหนึ่งที่ชื่อคริสเตียเนีย (Christiania) ในเมืองโคเปนเฮเก้น ที่ซึ่งคุณสามารถหาซื้อกัญชาและทุกๆ อย่างเกี่ยวกับมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเพจที่ชื่อว่า TreeHC ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่คริสเตียเนียมา และได้แบ่งปันประสบการณ์ชวนเคลิ้มกับพวกเรา จะสวยงามและน่าไปเที่ยวขนาดไหนเราลองมาดูกันเลยครับ คริสเตียเนียมีพื้นที่ราวๆ 240 ไร่ เป็นเขตพิเศษที่มีเหล่าฮิปปี้รวมตัวกันอยู่มาก มีประชากรราวๆ 850-900 คน อดีตเคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารเก่ามาก่อน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่รกร้างของกองทัพโคเปนเฮเก้น ถูกคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเข้ายึดครอง ก่อร่างชุมชนแห่งเสรีภาพที่ประกาศปกครองตนเอง และแสดงจุดยืนในการต่อต้านสงคราม และนิวเคลียร์เป็นเมืองอิสระปกครองกันเองไม่ขึ้นต่อรัฐ เป็นดินแดนแห่งเสรีชนหรือฮิปปี้ ทางเข้าเขตคริสเตียเนีย ธงประจำเมืองคริสเตียเนีย กฎในเขตคริสเตียเนียมีสามข้อ 1. จงมีความสุข 2. ห้ามวิ่ง 3. ห้ามถ่ายรูป เนื่องจากเป็นเขตเสรี จึงมีต้นกัญชาให้เราพบเห็นได้ตามข้างทาง ในเขตคริสเตียเนียจะมีรถสามล้อที่ขายกัญชา และนี่คือภายในรถสามล้อที่ว่านั่น อุปกรณ์ภายใน . .…
-
ผลจากการศึกษาพบว่าการสูบ ‘กัญชา’ มีส่วนทำร้ายสมองน้อยกว่าการดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Colorado Boulder ที่พบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นจะส่งผลทำร้ายสมอง มากกว่าการสูบกัญชา!! ซึ่งจากการศึกษาเผยว่าการสูบกัญชานั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อสมองในระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเป็นประจำ การศึกษาดังกล่าวถูกตีพิมพ์ในวารสาร Addiction ซึ่งได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ของระดับสารสีเทาและสีขาวในระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์และสูบกัญชา ซึ่งสารดังกล่าวนั้นจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการทดสอบในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 55 ปี จำนวน 853 คนที่มีการใช้กัญชาและดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งได้ผลการศึกษาที่น่าสนใจอย่างมาก จากการศึกษาพบว่าในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำนั้นจะมีระดับของสารสีเทาที่มาก ซึ่งสารดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ใหญ่มากกว่ากลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มเป็นเวลานานหลายปี นอกจากนี้ทีมวิจัยยังพบอีกว่าปริมาณของสารสีขาวนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อสมองกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน แต่สารดังกล่าวกลับไม่ส่งผลต่อผู้ดื่มที่อยู่ในกลุ่มของวัยรุ่น ส่วนในกลุ่มผู้ใช้กัญชาเป็นระยะเวลา 1 เดือนนั้นพบผลการศึกษาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งพวกเขาพบว่าการสูบกัญชาในระยะเวลาดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กับปริมาณของสารทั้งสองตัวแต่อย่างใด “ในด้านของผลกระทบเชิงลบนั้น กัญชาแทบไม่ส่งผลกระทบเลยเมื่อเทียบกับแอลกอฮอล์” ดอกเตอร์ Kent Hutchison หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว แต่อย่างไรก็ตามดอกเตอร์ท่านดังกล่าวก็ได้เผยว่าถึงแม้ว่ากัญชาจะไม่ได้ส่งผลเสียต่อสมอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง “เมื่อเราลองดูการศึกษาเก่าๆ เราจะพบผลการศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งระบุว่ากัญชานั้นลดขนาดของ hippocampus ซึ่งเป็นองค์ประกอบของสมองในการสร้างความทรงจำระยะยาวและการกำหนดทิศทางในที่ว่าง นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาในช่วงเวลาใกล้ๆ กันที่เผยว่ากัญชานั้นมีความสัมพันธ์กับการเปลี่นแปลงของ cerebellum ที่ทำหน้าที่สำคัญในการประมวลการรับรู้และการควบคุมการสั่งการ” ดอกเตอร์ Kent กล่าว ที่มา unilad
-
แบ่งปันรอยยิ้ม นักกิจกรรมสาวแจกถุงยังชีพหน้าหนาว พร้อมกัญชา ให้คนไร้บ้านในแคนาดา
“ฉันมอบห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง และฉันคิดว่าทำไมฉันไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นๆ ล่ะ??” Amy Anonymous นักเคลื่อนไหวด้านกัญชาและเจ้าของร้านขายยาในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดาเล่าถึงที่มาของจุดเริ่มต้นโครงการของเธอ เรื่องราวการมอบรอยยิ้มของหญิงสาวท่านนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วในวันหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังเดินไปทำงาน หญิงสาวได้พูดคุยกับชายไร้บ้านคนหนึ่งที่กำลังยืนตัวสั่นท่ามกลางอากาศหนาว ก่อนที่เธอจะตัดสินใจมอบของขวัญห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับเขา หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นนักกิจกรรมสาวเริ่มมองหาเพื่อนๆ ที่พร้อมจะสนับสนุนการบริจาคสิ่งของเพื่อคนไร้บ้านกับเธอ ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอตั้งเป้าการบริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านเพียงแค่ 15 คนเท่านั้น ในตอนแรกสิ่งของที่เธอมอบให้กับคนไร้บ้านเป็นเพียงของใช้เล็กๆ น้อยที่จำเป็นสำหรับพวกเขา อย่างเช่นถุงใส่ของใบเล็กๆ ถุงมือ และกัญชาอีกนิดหน่อยเพื่อให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย หลังจากผ่านไป 7 ปี การบริจาคของเธอเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนใน 2018 นี้ Amy และทีมของเธอได้บริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านมากกว่า 150 คน และได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนรักกัญชาของแคนาดาอีกด้วย คุณ Amy Anonymous หญิงสาวผู้เป็นจุดเริ่มต้นของการบริจาครอยยิ้มครั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาถุงบริจาคของพวกเขานั้นประกอบไปด้วยหมวกหนึ่งใบ ผ้าพันคอ ถุงอุ่นมือ และบัตรกำนัลจากร้านอาหาร หมวกอุ่น และถุงเท้าอีก 2-3 คู่ สำหรับคนไร้บ้านที่เป็นผู้หญิงนั้นจะได้รับอุปกรณ์เสริมสวยอย่างน้ำยาทาเล็บเพิ่มด้วย หรือใครที่เลี้ยงสัตว์ก็จะได้อาหารสัตว์เพิ่มเช่นกัน และแน่นอนว่าทุกๆ ห่อนั้นจะมีกัญชาอีกนิดหน่อยและกระดาษมวนแถมมาให้ด้วย Anonymous…
-
10 ผลกระทบของ “กัญชา” ที่ส่งผลต่อร่างกายของเรา ในแบบที่พวกคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
“กัญชา” พืชสมุนทรไพรที่อาจจะเป็นสิ่งต้องห้ามในหลายๆ ประเทศ แต่ในบางประเทศนั้นการใช้กัญชาในทางการแพทย์และการใช้เพื่อความเพลิดเพลินโดยอยู่ภายใต้กฎหมายกำหนดนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และแน่นอนว่าเหรียญย่อมมีาสองด้านฉันใด เจ้าพืชสมุนไพรชนิดนี้ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียฉันนั้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 ผลกระทบจากกัญชาที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรามาฝากกัน ซึ่งแต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. กัญชานั้นทำให้คุณมีความสุข อย่างที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่ากัญชานั้นมีฤธิ์ต่อระบบประสาท โดยสารสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกดีนั่นก็คือ THC หรือ Tetrahydrocannabinol นั่นเอง 2. การสูบกัญชาในระยะสั้นนั้นยังช่วยทำให้หัวใจเต้นเร็วได้อีกด้วย การสูบกัญชานั้นจะช่วยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจคุณเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ถึง 50 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียว ซึ่งอาการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ 20 นาทีถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว 3. นอกจากนี้กัญชายังสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บปวดได้ด้วยเช่นกัน สาร Cannabidiol หรือ CBD ที่อยู่ในกัญชานั้นมีผลในการใช้เป็นยารักษาโรคซึ่งรวมถึงอาการเจ็บปวดต่างๆ รวมไปถึงโรคลมชักอีกด้วย โดยสารเคมีดังกล่าวนั้นจะไม่ออกฤทธิ์ทำให้คุณเมาแต่อย่างใด และนอกจากนี้ปริมาณของ THC และ CBD ที่แตกต่างกันนั้นยังมีผลในการรักษาโรคที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย 4. และที่สำคัญกัญชายังมีส่วนช่วยในการักษาโรคลำไส้อักเสบอีกด้วย จากผลการศึกษาพบว่ากัญชานั้นมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาลำไส้อักเสบ โดยจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2014 ได้เผยว่าผู้ป่วยที่ใช้สาร CBD ในปริมาณน้อยนั้นไม่พบอาการอักเสบของลำไส้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป …
-
ชี้ช่องรวย!! คุณป้าวัย 59 ปี ทำธุรกิจขายเยลลี่ผสมกัญชา สร้างรายได้งามทั้งหวานทั้งเมา
เรื่องราวของคุณป้า Nancy Whiteman วัย 59 ปีที่กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจยอดขายปีละ 30 ล้านบาทโดยบังเอิญ หลังจากที่เธอเริ่มต้นธุรกิจขนมหวานผสมกัญชาของตัวเองในรัฐ โคโลราโดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณป้าเจ้าของแบรนด์ Wana เปิดเผยว่า เธอเข้าสู่ธุรกิจนี้โดยบังเอิญ และเริ่มกิจการของเธอเมื่อปี 2010 หลังจากที่รัฐโคโลราโดโด ได้ทำการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย คุณป้า Nancy และผลิตภัณฑ์ขนมหวานแสนอร่อยของเธอ ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่บ้านเกิดของเธอเริ่มเปิดใจเกี่ยวกับหญ้ามหัศจรรย์นี้ และมีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา คุณ Nancy จึงเริ่มมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจของเธอ คุณป้าคิดว่าของหวานน่าจะเป็นสิ่งที่น่าจะพัฒนาต่อยอดได้หลังจากที่กัญชาถูกกฎหมายแล้ว ขนมหวานของบริษัทเธอนั้นมีมากมายหลายประเภท ทั้งเยลลี่ ช๊อกโกแลต และลูกอม โดยแต่ละชนิดนั้นจะมีส่วนประกอบของสาร THC (Tetrahydrocannabinol) ในระดับที่แตกต่างกัน โดยคาดว่าสิ้นปี 2017 นี้ แบรนด์ขนมหวานกัญชา Wana ของคุณป้า จะมียอดขายสูงถึง 12,000,000 ดอลลาร์หรือประมาณเกือบๆ 400,000,000 บาทเลยทีเดียว และตอนนี้สินค้าของเธอมีวางขายในรัฐโคโลราโด ออริกอน เนวาดา และกำลังขยายตลาดไปในรัฐที่กัญชาถูกกฏหมายอย่างเช่นในรัฐแมสซาชูเซตส์, แอริโซนา และ อิลลินอยส์ ในรัฐโคโลราโดนั้นผู้ที่มีอายุมากกว่า…
-
หมดปัญหาแขกตีกัน… เทรนด์ ‘งานแต่งธีมกัญชา’ ทวีความสุข เพื่อคู่รักและแขกสายเขียว
ในขณะที่โลกหมุนไปเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ หลายอย่างที่เคยถูกความเชื่อผิดๆ เข้าครอบงำก็เริ่มมีการศึกษาและค้นคว้าข้อเท็จจริงมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ ‘กัญชา’ หญ้าสมุนไพรแห่งความสุข… ถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารต่างประเทศอยู่บ่อยๆ อาจจะพอทราบกันว่าในบางรัฐและหลายๆ ประเทศนั้นมีการแก้ไขกฏหมายเกี่ยวกับกัญชาและมีการยอมรับทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้นแล้ว และเมื่อด้านดีๆ ของหญ้าที่ว่านี้เริ่มกระจ่างออกมา ก็มีหนึ่งธุรกิจที่เริ่มได้รับความนิยมตามมานั่นก็คือการจัดงานแต่งในธีมกัญชานั่นเอง พิธีแต่งงานดังกล่าว จะมีการเสิร์ฟผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเค้กผสมกัญชา หรือกัญชาสำหรับสูบ นั่นจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คู่รักสายเขียวหลายๆ คู่หันมาจัดงานแบบนี้ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็อาจจะเป็นความกังวลในปัญหาทะเลาะวิวาทก็ได้นะ ฮ่าๆ เจ้าของบริษัทจัดงานแต่ง Buds & Blossoms คุณ Bec Koop กล่าวว่า “คู่รักหลายคน ชื่นชอบการแต่งงานแบบนี้ นอกจากอาหารในงานที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบแล้ว ชุดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวยังทำมาจากเส้นใยกัญชงอีกด้วย” กัญชาหลากหลายสายพันธุ์ที่เตรียมไว้สำหรับต้อนรับแขกในงาน แต่ถึงแม้ว่างานแต่งแบบนี้จะเริ่มได้รับความนิยม แต่ก็ยังคงมีบางคนที่ไม่เห็นด้วย คุณ Koop เล่าว่าเธอเคยเจอช่างภาพงานแต่งที่เดินออกจากงานกลางคัน เพียงเพราะว่าเขาเห็นกัญชาในงาน คุณ Koop วัย 30 ปีเริ่มต้นบริษัทของเธอในปี 2014 โดยเริ่มต้นจากการที่เธอมีร้านดอกไม้ของตัวเอง ก่อนที่จะเริ่มได้รู้จักเกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ จนในที่สุดจึงเริ่มต้นธุรกิจจัดงานแต่งธีมกัญชาของเธอเอง และนี่คือผลงานบางส่วนจากการจัดพิธีแต่งานในธีมกัญชาของร้านเธอ…
-
งานแต่งแห่งรอยยิ้ม… คู่บ่าวสาวชาวซอยหญ้า ชวนกันเข้าพิธีวิวาห์ ท่ามกลางโรงปลูกกัญชา!?
อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘กัญชา’ พืชสมุนไพรสีเขียวที่ออกฤทธิ์เพิ่มความมึนเมาให้กับร่างกาย สำหรับบางประเทศการปลูกหรือมีไว้ครอบครองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่ามุมมองต่อเจ้าหญ้าวิเศษนี้เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมาย หรืการศึกษาค้นคว้าวิจัยต่างๆ และล่าสุดได้มีคู่รักคู่หนึ่งได้จัดงานแต่งในโรงปลูกเพาะกัญชากันเลยทีเดียว… เจ้าบ่าว Mark Balfe-Taylor และเจ้าสาว Anna Balfe-Taylor ได้ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณรักของพวกเขาภายในโรงปลูกกัญชาถูกกฎหมายแห่งหนึ่งในมหานครลาสเวกัส ฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าเธอตกลงจัดพิธีแต่งงานสุดแปลกนี้ทันที หลังจากที่ฝ่ายชายนำไอเดียนี้มาปรึกษากับเธอ งานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นวันเดียวกันกับที่มีการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายในรัฐเนวาดา ทั้งคู่บอกว่าการจัดงานแต่งของพวกเขานั้นเป็นการสนับสนุนกฎหมายกัญชาของรัฐเนวาดา คุณ Mark Balfe-Taylor นั้นเคยมีอดีตที่เลวร้ายเกี่ยวกับกฎหมายกัญชา ชายหนุ่มเล่าว่าพ่อของเขานั้นเคยถูกดำเนินคดีข้อหามีกัญชาในครอบครอง ดังนั้นมันจึงทำให้เขารู้สึกดีที่มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของรัฐเนวาดาเสียใหม่ มันเป็นวันที่พิเศษของทั้งสองคนมาก พวกเขายิ้มอย่างความสุข ไปชมบรรยากาศในงานแต่งขอทั้งสองได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งงานแต่ง ที่เต็มไปด้วยความสุขทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาวเลยนะเนี่ย… ที่มา usnews, KTNV Channel 13 Las Vegas
-
เพิ่มความน่ารักภายในบ้านด้วย ‘โคมไฟธรรมชาติจำลอง’ สวนน้อยเขียวขจีสุดเจ๋ง!!
โดยปกติแล้วเราจะเข้าใจว่าการปลูกต้นไม้ต้องปลูกในกระถางหรือบนพื้นเท่านั้น แต่ด้วยความครีเอทของเหล่านักทำสวนหรือศิลปินต่างๆ ก็เริ่มที่จะมีไอเดียในการปลูกต้นไม้ในอุปกรณ์แปลกๆ มาให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับผลจากศิลปิน Richard Clarkson ชาวนิวยอร์คผู้นี้ ที่เปลี่ยนหลอดไฟ LED ธรรมด๊าธรรมดาให้กลายเป็นหลอดไฟธรรมชาติจำลองสุดคูล เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นให้กับส่วนต่างๆ ของห้อง หลอดไฟธรรมชาติจำลองนี้จะถูกออกแบบให้ต้นไม้หรือพืชทุกแบบตามที่เราต้องการโดยมี 2 ขนาดด้วยกันคือแบบความยาวรอบวง 12 นิ้ว และ 8 นิ้ว นอกจากนี้ก็สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะใส่ไฟ LED เข้าไปหรือไม่ใส่ก็ได้ ก็จริงอยู่ที่เจ้าหลอดไฟหรือลูกแก้วกลมๆ นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถปลูกต้นไม้ไว้ข้างใน แต่เราสามารถสั่งให้ใส่ตัวตุ๊กตา ฟิกเกอร์ หรือวัสดุต่างๆ เข้าไปได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็สามารถสั่งให้เปลี่ยนสีของแก้ว เพื่อให้แสงของไฟ LED เปลี่ยนไปตามที่ต้องการได้ด้วย!! . . . . . หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปสั่งทำได้ที่เว็บไซต์ richardclarkson ได้เลยนะจ๊ะ มีราคาอยู่ที่ประมาณ 7,100 บาทเอ๊งงง!! ที่มา : sobadsogood
-
เปิดประสบการณ์ใหม่ หนุ่มไทยพาทัวร์กัญชาที่ซีแอตเทิล ได้ความรู้เน้นๆ ย้ำเยิ้มๆ
วันที่ 20 เมษายน หรือวัน 420 ของชาวสายเขียวเพิ่งจะผ่านพ้นไปหมาดๆ และวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปสัมผัสกับประสบการณ์ทัวร์ฟาร์มกัญชาจากเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่คุณ พีรชาติ อำไพจิตร หนุ่มไทยวัย 32 ปี ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง แหม่.. ขอบอกเลยว่างานนี้สายเขียวห้ามพลาดเลยล่ะ FB: Peerachart Umpaichitr IG: n0te Note: HAPPY 420 DAY ทัวร์ฟาร์มกัญชาที่ซีแอตเทิลครับ ราคาค่าทัวร์ครั้งนี้ 150 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,200 บาท ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มแรกก็จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชากันก่อน จากนั้นก็พาไปชมบ้องแปลกๆ ที่สร้างมาจากการเป่าแก้ว อย่างเช่นภาพนี้เป็นบ้องกีต้าร์ จะโซโล่ไปด้วย ดูดกัญชาไปด้วยก็ยังได้ จากนั้นก็พาไปชมฝีมือการเป่าแก้วของศิลปิน กว่าที่จะนำมาวางขายตามช็อปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ส่วนนี่คือตู้คอนเทนเนอร์ปลูกกัญชาเอนกประสงค์ เพียงแค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ ก็สามารถปลูกได้ทันที ต่อไปก็มีรถมารับพาไปชมฟาร์มกัญชา…
-
ชาวอเมริกันเริ่มใช้ ‘กัญชา’ บรรเทาความเจ็บปวดให้สัตว์เลี้ยง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา
ถ้าหากใครกำลังติดตามข่าวของการนำกัญชามาใช้เป็นยาหรือข่าวที่กำลังจะผลักดันให้มีการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในการศึกษาทางการเเพทย์ในบ้านเรานั้น ก็พอที่จะทราบถึงประโยชน์ของกัญชากันมาบ้างแล้ว ทั้งการใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชัก การรักษาอาการปวดหัวไมเกรน หรือถึงขั้นใช้ในการรักษามะเร็งได้กันเลยทีเดียว แต่นอกจากจะมีการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ในคนแล้ว วันนี้#เหมียวเวจจี้ จะพาไปพบกับการนำสารสกัดจากพืชสีเขียวชนิดนี้ไปใช้กับพวกสัตว์กัน หนุ่มอเมริกันนามว่า Brett Hartmann ได้ใช้น้ำมันที่สกัดจากกัญชาเพื่อใช้ในการรักษาอาการความเจ็บปวดให้กับสุนัขของเขา นั่นก็คือเจ้า Kallie และ Brutus โดยเขาจะหยอดมันให้มันทุกวันหลังอาหาร ตามรายงานบอกว่าสุนัขทั้งสองตัวของเขากำลังทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บปวดอย่างมาก จากการโดนสุนัขพิทบูลทำร้าย “สุนัขทั้งสองตัวของผมกำลังทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บปวดนี้ และพวกมันก็เริ่มมีอาการดีขึ้นหลังจากที่ได้รับสารสกัดจากกัญชา” นาย Brett กล่าว ในปัจจุบันสหรัฐอเมริการมีรัฐที่กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายทางการแพทย์แล้วทั้งหมด 28 รัฐ ด้านนาง Alison Ettel ผู้ผลิตสารสกัดจากัญชาตัวนี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเมื่อทราบว่ามีการนำสารสกัดของเธอไปใช้กับสัตว์ โดยเธอบอกกับสำนักข่าว CNN ว่า “ฉันดีใจมากที่ได้ทราบว่าสารสกัดจากกัญชาของฉัน สามารถใช้ได้ผลกับสัตว์” แต่อย่างไรก็ตาม Ken Pawlowski ผู้ก่อตั้ง California Veterinary Medical Association ได้บอกว่า ตอนนี้จำนวณของสัตว์ที่ป่วยเนื่องจากได้รับกัญชาเข้าไปกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน อ่า คงจะถูกใจชาวซอยหญ้าผู้รักสัตว์ทั้งหลายกันเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ก่อนที่จะเอาสารสกัดหรือสมุนไพรอะไรมาใช้เป็นยาก็ควรที่จะศึกษาให้ดีๆ ก่อนนะ ที่มา metro
-
พาชม ‘โชว์รูมร้านขายกัญชาเกรดพรีเมี่ยม’ สไตล์เรียบแต่หรูหรา ยกระดับอุตสาหกรรมกัญชา
โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึง ‘การซื้อขายสารเสพติดจำพวกกัญชา’ ในบ้านเรานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระเหมือนในหลายๆ ประเทศ ซึ่งในประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายนั้นจะมีหน้าร้านที่วางขายกันแบบเรียงรายเลยทีเดียว บ้างก็เป็นร้านแบบธรรมดาๆ บ้างก็เป็นร้านที่ขายผ่านทางออนไลน์ แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมร้านขายกัญชาแบบสุดหรู ที่ขายกัญชากันแบบไฮเอนด์ที่ตั้งอยู่ในเมือง Portland มาให้เพื่อนๆ สายเขียวได้ชมกัน ร้าน Serra เป็นร้านที่ยกระดับอุตสาหกรรมกัญชาให้สูงขึ้นไปอีก 1 ขั้น ด้วยการเปิดเป็นร้านที่มีบรรยากาศแบบไฮเอนด์ จัดแต่งทุกมุมให้ดูหรูหราฟู่ฟ่า แถมยังวางขายเฉพาะกัญชาเกรดพรีเมี่ยมอีกด้วย ข้างในร้านก็จะประกอบไปด้วยเมนูกัญชามากมายหลากหลายสายพันธุ์ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี บ้องที่ถูกออกแบบเป็นรูปแบบต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นงานศิลปะมากกว่า และในส่วนของการลองก็จะมีเมล็ดกาแฟอบแห้งเอาไว้เคลียร์กลิ่น หลบังจากที่ลองดมกัญชาชนิดต่างๆ เอาไว้ให้ด้วย เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ก็จะมีมุมช็อคโกแลต ของหวาน ที่ทางร้านผลิตขึ้นมาเองอีกด้วย แหม่ เยี่ยมจริงๆ!! . มีเสื้อขายด้วยนะเออ!! แหม่ มาเป็นเซ็ต ยกเซ็ตนี้อาจทำให้ขนหน้าแข้งร่วงเป็นแถบเลยทีเดียว . …
-
เที่ยวไปยิ้มไปกับ Lighthouse Project ธุรกิจ ‘ทัวร์สายเขียว’ มาแรงแหวกกระแสในอเมริกา!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว ในสถานที่อื่นๆ อาจจะมีทะเล แม่น้ำ ภูเขา หรืออุทยานธรรมชาติสวยๆ ให้ได้เที่ยวกัน แต่ที่นี่มีโปรเจ็คต์ที่เรียกว่า Lighthouse Cannabis หรือทัวร์สายเขียว ที่กำลังโด่งดังและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก!! งานนี้เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าคงจะมีการยิ้มกันทั้งทริปหรือเปล่าอะไรยังไง ซึ่งก็ถูกต้องแหละว่าต้องมีเคลิบเคลิ้มกันบ้าง แต่ทาง Dan Berkowitz ซีอีโอของโครงการนี้ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า ‘ทัวร์ของเรานั้นไม่ได้โฟกัสในเรื่องของการบริโภคแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการเข้าชมต้นกำเนิด กระบวนการต่างๆ และเน้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้กับเหล่านักท่องเที่ยวด้วย’ เริ่มจากการนั่งรถตู้ที่ทางทัวร์จะไปรับคุณในย่านดาวน์ทาวน์ในเมือง Denver ไปยังศูนย์ที่ใช้ในเพาะพันธุ์กัญชาของพวกเขา ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตรและรวบรวมกัญชาไว้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 3,000 ต้นด้วยกัน!!! Lighthouse Cannabis Project ทัวร์สายเขียว บนรถตู้แห่งความหฤหรรษ์ 2 ชั่วโมงก่อนไปถึงศูนย์ใหญ่จากย่านดาวน์ทาวน์ นอกจากกระบวนการต่างๆ แล้ว ก็จะมีวิดีโอเกี่ยวกับประวัติของกัญชาภายในประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่การถูกสั่งห้าม ไปจนถึงการทำให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในการดูแลของ Waldfogel พนักงานต้อนรับของโครงการนี้ ตั้งแต่เป็นเมล็ดจนพร้อมขายได้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นกระบวนการทั้งหมดในทัวร์ครั้งนี้ ทางด้านไกด์ทัวร์ของเรา Waldfogel ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์หลังจากกัญชาถูกกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้ แถมล่าสุดทาง Marijuana…
-
อะไรนะ!? Microsoft กระโดดเข้าร่วมวงธุรกิจสายเขียว ทำซอฟแวร์ช่วยควบคุมกัญชา
หลังจากที่มีการประกาศให้ ‘กัญชา’ เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้พอจะมีพื้นที่สำหรับชาวสายเขียวบ้าง ที่ไม่ต้องแอบขาย แอบสูบ กันอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามบางรัฐก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่ แต่ที่น่าตกใจก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านไอทีอย่าง Microsoft นั้นมีความสนใจและอยากจะกระโดดมาเข้าร่วมวงในอตุสาหกรรมธุรกิจสายเขียวกับเขาด้วย (เอ๊ะ!? นี่พี่สูบหรือขายกันแน่ หรือทั้งสองเลย เกิดอาการเมาหรืออย่างไรกัน?) พี่แกไม่ได้คิดจะมาขายกัญชาแข่งหรอก เพียงแต่ว่าจะมาช่วยรัฐบาลในการจัดระเบียบควบคุมการค้าขายกัญชานั่นเอง โดยร่วมมือกับ KIND Financial พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Agrisoft Seed to Sale ซอฟแวร์นี้ตั้งเป้าหมายมาเพื่อ ให้ผู้ซื้อและผู้จำหน่ายสามารถติดต่อกันได้โดยตรง ควบคุมปริมาณที่พอเหมาะ โดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย นั่นก็หมายความว่าการซื้อขายกัญชานั้นสามารถทำได้อย่างเสรีมากขึ้นในรัฐที่อนุญาต ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนซื้อขายกันอีกต่อไป ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวสายเขียว และทางด้านการแพทย์ที่ใช้กัญชาในการรักษาผู้ป่วยด้วย ที่มา : huffingtonpost, bbc, unilad
-
เผยผลงานวิจัยอันยาวนานร่วม 20 ปี ศึกษาการใช้กัญชาในระยะยาว ไม่ได้ส่งผลเสียมากนัก
ทุกวันนี้เริ่มมีการร้องเรียนถึงการปลดแอกกัญชาให้พ้นจากสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย เมืองนอกเมืองนาก็เริ่มให้กัญชาเป็นสิ่งที่เสรีแล้ว อย่างเช่นบางรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการวิจัยเกี่ยวกับกัญชามาสนับสนุนหาข้อดีของมันมากขึ้น ยังคงวนเวียนอยู่ในการถกเถียงถึงข้อเสียของกัญชาที่มีมากกว่าข้อดี เนื่องจากมองว่ามันเป็นยาเสพติด หากจะใช้ก็ต้องเป็นวิธีการสูบซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากบุหรี่ที่มีขายกันเกร่ออย่างถูกกฎหมายแต่ทำให้เสียสุขภาพ แต่ต้องยอมรับเลยว่างานวิจัยชิ้นนี้ มีความพยายามที่สูงมากเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าการใช้กัญชาระยะยาวนั้นส่งผลดีหรือเสียให้กับร่างกายอย่างไร โดยทำการศึกษากับชาวนิวซีแลนด์สายเขียวกว่า 1,037 ราย ที่ใช้กัญชาตั้งแต่อายุ 18 ปีจนถึงอายุ 38 ปี นับว่าเป็นระยะเวลาการศึกษาอันยาวนานร่วม 20 ปี ทั้งนี้ในฟลูเปเปอร์ที่ตีพิมพ์ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ใช้กัญชาระยะยาวจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับสุขภาพปาก นั่นก็คือโรคปริทันต์ (รำมะนาด) ที่จะส่งผลต่อเหงือกและฟัน ซึ่งนี่ก็เป็นข้อเสียเพียงข้อเดียวที่ค้นพบจากการศึกษานี้ ส่วนข้อดีของใช้กัญชาระยะยาวก็คือช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและช่วยทำให้เอวมีขนาดที่เล็กลง โดยทาง Dr. Kevin Hill ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสพติดกัญชาและเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้อธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่า ‘แน่นอนว่าการใช้กัญชาอย่างหนักหน่วงมีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย จากผลการศึกษาดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดคิดเอาไว้ แถมยังดีเกินคาดอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นคุณอาจจะเปลี่ยนความคิดกับกัญชาเสียใหม่’ อย่างไรก็ตาม ทีมงานวิจัยยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบข้างเคียงทางด้านกายภาพตามมาในภายหลัง ซึ่งก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าจะออกไปในทางที่ดีหรือทางที่ร้าย ที่มา : archpsyc.jamanetwork, theladbible
-
ผลงานวิจัยชี้ เหล่าสายเขียวที่เห็นภาพหลอนมากกว่าคนอื่นจนป่วยจิต ที่จริงแล้วเป็นเพราะยีน!?
ถึงแม้ว่าในต่างประเทศจะเริ่มยอมรับกันแล้ว ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ทางด้านการแพทย์และอารมณ์ (ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม) แต่กระนั้นก็ยังมีหลายกรณีที่ผู้ใช้บางรายได้รับผลกระทบทางด้านความผิดปกติทางจิตมากกว่าผู้ใช้รายอื่นๆ ราวๆ 1% ของผู้ใช้กัญชาจะมีปัญหาทางด้านนี้ (ได้รับผลกระทบจากการสูบมากกว่าคนทั่วไป) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แห่ง University of Exeter และ University College London (UCL) กำลังศึกษาเพื่อหากลุ่มคนที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบของกัญชามากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งนำไปสู้ความผิดปกติทางจิตได้ในที่สุด จากการทดสอบโดยการนำผู้ที่มีสุขภาพดี มีการตอบโต้ตอบสนองที่ปกติมาทดลองสูบ เพื่อค้นหาต้นตอว่ามันมีผลต่อสมองยังไง ซึ่งในการค้นพบเบื้องต้นนั้นพบว่า ผู้ใช้กัญชาที่เป็นเพศหญิงนั้น มีโอกาสที่จะสูญเสียความสามารถในเรื่องความทรงจำระยะสั้นมากกว่าเหล่าผู้ใช้ที่เป็นเพศชาย และกระบวนการนี้ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์พบยีนที่อาจเป็นสาเหตุของเรื่องนี้…AKT1 สำหรับการเก็บข้อมูลมีผู้เข้าร่วมถึง 442 คนด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ใช้กัญชารุ่นเยาว์ ซึ่งศาสตราจารย์ Celia Morgan และ Val Curran พบว่าเหล่าอาสาสมัครที่มาเข้าทดลองที่มียีนตัวนี้อยู่ จะได้รับผลกระทบจากการสูบกัญชามากกว่าอาสาสมัครคนอื่นๆ !? ศาสตราจารย์ Celia Morgan กล่าวว่า ‘เหล่าอาสาสมัครที่มียีน AKT1 นี้ จะได้รับผลกระทบจากกัญชามากกว่าผู้สูบรายอื่นๆ ถึงแม้พวกเขาจะสุขภาพดีสมบูรณ์เต็มร้อยก็ตาม และการใช้บ่อยๆ และมากขึ้นจะนำไปสู่อาการทางจิตในที่สุด’ กัญชาทำให้มีอาการทางจิต!? ‘โดยเฉพาะการใช้กัญชาบ่อยๆ สำหรับผู้ที่มียีนนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเข้าไปสู่ภาวะอาการทางจิตบ่อยครั้งขึ้น จนทำให้เกิดอาการนี้ขึ้นจริงๆ ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานวิจัยและผลงานชุดนี้จะเป็นส่วนช่วยเหลือในการป้องกันและรักษาผู้ที่มีอาการทางจิตจากการใช้กัญชา’ ศาสตราจารย์กล่าวปิด…