Tag: สาระ
-
15 ตัวการ์ตูนที่เราคุ้นตา แท้จริงแล้วมี “ต้นแบบ” มาจากคนเหล่านี้นี่เอง!!!
ตัวละครในการ์ตูนดังๆ ที่เราคุ้นหน้าค่าตากันดี หลายตัวเองผู้วาดก็มีต้นแบบมาจาก คนจริงๆ ที่พวกเราหลายคนคาดไม่ถึง หลายครั้งที่นักวาดการ์ตูนเลือกใช้ต้นแบบจากคนในชีวิตจริงเพื่อออกแบบตัวละครของเขาให้ง่ายขึ้น หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือเป็นการให้เกียรติบุคคลผู้นั้นโดยนำมาเป็นแบบของตัวละครนั่นเอง เอาล่ะ วันนี้ลองไปชม 15 ตัวการ์ตูนดัง ที่มีต้นแบบมาจาก “คนจริงๆ” บางตัวก็ดูแปลกจนไม่คิดเลยว่าจะมีต้นแบบเป็นคนจริงๆ ฮ่าๆ 1. Ursula มีต้นแบบมาจาก Divine (อีกตัวตนหนึ่งของ Harris Glenn Milstead) 2. Popeye มีต้นแบบมาจาก Frank “Rocky” Fiegel 3. Edna Mode มีต้นแบบมาจากนักออกแบบเสื้อผ้า Edith Head 4. Milhouse Van Houten มีต้นแบบมาจาก Josh Saviano 5. แร้งทั้ง 4 ตัวจาก The Jungle Book มีต้นแบบมาจาก The Beatles 6. Betty Boop มีต้นแบบมาจาก Helen Kane …
-
15 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามันมี “ชื่อเรียก” กับเขาด้วย โถ่…ปล่อยให้ด้นสดมาตั้งนาน!!
เคยไหม เวลาจะพูดถึงอะไรบางสิ่งแต่ดันนึกไม่ออกว่ามันถูกเรียกว่าอะไรกันแน่?? หลายครั้งเมื่อจะพูดถึงมัน เราอาจจะต้องคิดชื่อเรียกขึ้นมาเอง อย่างเช่น ร่องที่อยู่ใต้จมูกและอยู่เหนือริมฝีปาก ที่บางครั้งเราก็จะเรียกมันว่า “ร่องจมูก” หรืออื่นๆ เพราะเราไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันเรียกว่าอะไรนั่นเอง ในภาษาไทยเราไม่รู้ว่ามีการบัญญัติศัพท์ที่เราไม่ค่อยเจอในชีวิตประวันได้ครอบคลุมขนาดไหน แต่สำหรับภาษาอังกฤษต้องบอกเลยว่า เขามีชื่อเรียกอย่างครอบคลุมเลยล่ะ วันนี้เชิญไปพบกับ ชื่อเรียกภาษาอังกฤษของสิ่งต่างๆ ที่คุณไม่ยักรู้ว่าไอ้สิ่งเหล่านี้มันมีชื่อเรียกของมันอยู่นะ… 1. Arachibutytophobia เป็นชื่อเรียกของ: อาการกลัวเนยถั่วบนหน้าขนมปังติดเพดานปาก… 2. Arms Akimbo เป็นชื่อเรียกของ: การนำแขนมาเท้าขาหรือสะโพกให้ข้อศอกชี้ออกข้างตัว 3. Columell Nasi เป็นชื่อเรียกของ: เนื้อชิ้นเล็กๆ ที่คั่นอยู่ตรงกลางรูจมูกทั้งสองข้าง 4. Dysania เป็นชื่อเรียกของ: อาการที่กึ่งหลับกึ่งตื่นหลังถูกปลุก 5. Ferrule เป็นชื่อเรียกของ: โลหะบริเวณปลายดินสอที่มีไว้ใส่ยางลบ 6. Googleganger เป็นชื่อเรียกของ: คนที่มีชื่อเหมือนกับคุณ 7. Griffonage เป็นชื่อเรียกของ: การเขียนด้วยลายมือที่อ่านไม่ออก …
-
ความจริง 10 ประการของโลกใบนี้ที่ “แปลกประหลาด” จนเราต้องขนลุกกันเลยทีเดียว…
แม้ว่าเราจะผ่านชีวิตกันมาคนละหลายสิบปี แต่เชื่อเถอะว่ามันจะต้องมีความจริงบางประการที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อนเป็นแน่ แต่ใช่ว่าคนเราจะต้องรู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง อย่างน้อยๆ เรื่องอะไรที่น่าสนใจหรือแปลกประหลาด ก็คงไม่ลำบากนักหากจะรู้ไว้เท่ๆ ประดับบารมี วันนี้ เราจึงขอเสนอ ความจริงสุดประหลาด 10 ประการ ที่คุณๆ ทั้งหลายอาจจะไม่เคยรู้กันมาก่อน จะมีอะไรบ้าง ไปชมพร้อมๆ กันเลย… 1. มีการศัลยกรรมมาก่อนการค้นพบ “ยาระงับความเจ็บปวด” จาก livescience 2. ทางตอนเหนือของประเทศซูดาน โจรผู้ร้ายที่ติดอาวุธจะถูกลงโทษด้วยวิธีการ “ตรึง” บนกางเขน จาก wikipedia 3. หนึ่งใน 50 ของผู้คนรอบตัวเราจะมีอาการหลอดเลือดโป่งพอง แต่แค่หลอดเลือดยังไม่แตกเท่านั้นเอง จาก bafound 4. เราสามารถสูญสลายได้อย่างทันทีเมื่ออยู่ในอวกาศ จากบางสิ่งที่เราไม่อาจมองเห็นได้ทัน จาก wikipedia 5. ทารกในครรภ์สามารถตกใจและร้องไห้ได้ แต่ในครรภ์ไม่มีอากาศรวมถึงปอดและหลอดลมของเด็กถูกเติมเต็มด้วยน้ำคร่ำ มันจึงไม่มีเสียงออกมา จาก verywellfamily 6. บางครั้งเป็ดก็กินพวกเดียวกันเองหากว่าพวกมัน “รู้สึกเบื่อ” จาก articles.extension 7.…
-
11 เทคโนโลยีปัจจุบัน ที่มีจุดกำเนิด “เก่าแก่” กว่าที่คิด ไม่อยากเชื่อว่าจะโบราณขนาดนี้!!
เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทคต่างๆ พวกเราอาจคิดว่ามันเพิ่งถูกคิดค้นขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หารู้ไม่ว่า เทคโนโลยีสุดไฮเทคหลายชนิดก็ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นตั้งนานแล้ว บางชนิดอาจเก่าแก่กว่าที่เราคิดเอาไว้เป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชม 11 เทคโนโลยี ปัจจุบันที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่า มันถูกคิดค้นมาตั้งนานแล้วววว 1. วัคซีน คิดค้นโดย Edward Jenner ปี 1796 2. แบตเตอรี่ คิดค้นโดยนักประดิษฐ์ชาวอิตาลี Alessandro Volta เมื่อปี 1800 3. ไมโครโฟน คิดค้นโดย Emile Berliner ตั้งแต่ปี 1876 4. เครื่องล้างจานอัตโนมัติ คิดค้นโดย Josephine Garis Cochran เมื่อปี 1886 5. คอนแทคเลนส์ คิดค้นโดยบริษัท F.A. Mueller ตั้งแต่ปี 1887 6. บันไดเลื่อน คิดค้นโดยดีไซเนอร์จากนิวยอร์ก…
-
10 ข้อเท็จจริงของมนุษย์และร่างกาย ที่ “แปลกแต่น่าสนใจ” รู้เอาไว้ก็เท่ดีเหมือนกันนะ!
ร่างกายของมนุษย์เรานั้นเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า “มหัศจรรย์” เลยก็คงไม่ผิด เพราะร่างกายคนเรามีส่วนประกอบที่ละเอียดซับซ้อนแถมมีการทำงานที่หลากหลายและเป็นระบบ ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้จักร่างกายตัวเองดีแล้ว เมื่ออ่านบทความนี้รับรองเลยว่าคุณจะต้องถอนคำพูด เพราะว่ามีอีกหลายสิ่งเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ที่คุณอาจไม่เคยรู้ งั้นวันนี้ไปชมกันเลยกับ 10 เรื่องจริงแปลกๆ ของร่างกาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน! 1. มนุษย์กับ “ตัวทาก” มีดีเอ็นเอที่เหมือนกันมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จาก หนังสือ God’s Solution (2007) โดย Declan Hayes 2. การสะอึกเกิดจากการกระทำของบรรพบุรุษราว 370 ล้านปีก่อนที่ทำเพื่อป้องกันน้ำเข้าปอดขณะว่ายน้ำ จาก embarrassingproblems 3. โรคหัวใจมักกำเริบในวันจันทร์ (เพราะความเครียดที่ต้องออกจากวันหยุดไปทำงาน) จาก nytimes 4. มนุษย์คนเดียวก็สามารถเป็นอาหารให้กับ “ยุง” ได้ถึงหนึ่งล้านตัว จาก ba-bamail 5. คนเราจะโกหกได้ดีขึ้นเมื่อต้องการเข้าห้องน้ำ จาก วารสารการวิจัย Consciousness and Cognition เล่ม 37 หน้า 112-122 6.…
-
นศ. สาวราดผงฟอกขาวใส่ ‘เป้า’ ผู้ชาย โดนชาวเน็ตโต้ที่นั่งแบบนั้น เพราะธรรมชาติโว้ย!!
เหตุการณ์ต่อเนื่องมาจาก “นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจที่นั่งขาอ้าซ่า” จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศรัสเซีย อ่านข่าวเก่าได้ที่ : นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การนั่งอ้าขา’ ของผู้ชายในที่สาธารณะนั้น ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาท เพราะนอกจากจะตกเป็นเป้าสายตารบกวนผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการ ‘กินที่’ ไม่ให้ผู้อื่นมาใช้งานที่นั่งร่วมได้อีกด้วย จากการกระทำของหญิงสาวนักกิจกรรมเพื่อสิทธิสตรีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บางส่วนก็มองว่าเป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ บางส่วนก็มองว่านักกิจกรรมเรียกร้องความเท่าเทียม ของให้ผู้ชายมีมารยาท แต่ตัวเองกลับไร้มารยาทซะเอง คลิปวิดีโอดังกล่าว บางส่วนก็ออกมาให้ข้อมูลว่า “ที่ผู้ชายต้องนั่งอ้าขานั้น เป็นเพราะว่ามันไม่สบายเนื้อสบายตัว เพราะการหนีบขามันทำให้ ‘ลูกอัณฑะ’ ถูกบีบนั่นเอง” แล้วการยกคำกล่าวนี้มาอ้าง มันจริงแท้หรือไม่อย่างไร? เราลองไปฟังข้อมูลจากศัลยแพทย์เกี่ยวกับประสาทกระดูกสันหลังกันดูครับ ดอกเตอร์ John Sutcliffe กล่าวว่า “ความกว้างโดยเฉลี่ยของ ‘กระดูกเชิงกราน’ ในผู้หญิงนั้นจะ มีมากกว่าผู้ชาย และสามารถขยับคอกระดูกต้นขาได้เร็วกว่าผู้ชาย นั่นทำให้ท่าทางในการนั่งหัวเข่าของผู้หญิงจะอยู่ชิดติดกัน ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของผู้หญิง” “กลับกันผู้ชายที่ต้องนั่งอ้าขาเพราะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้…
-
15 ความจริงอัน ‘น่าสะเทือนขวัญ’ ของโลกมนุษย์ แล้วเราจะรู้จักโลกใบนี้มากขึ้น…
โลกเรานี้มีความจริงหลายประการที่น่ากลัวเกินกว่าจะเชื่อได้ แต่ได้ชื่อว่าเป็น ความจริง แล้วแสดงว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วได้รับการบันทึกไว้ให้ผู้คนได้ประจักษ์ ความจริงหลายๆ อย่างก็เป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เราไม่เคยสังเกตมาก่อน เช่น เรื่องของหัวใจที่มีแรงดันมากพอจะฉีดเลือดให้พุ่งไปไกลได้ถึง 9 เมตร เป็นต้น ยังมีความจริงที่ไม่จรรโลงใจแบบนี้อีกมากมาย ขอเชิญทุกท่านไปชมกันเลยกับ 15 ความจริงสะเทือนขวัญ ที่ฟังแล้วอาจทำให้ขนลุกได้… 1. หัวใจของคุณสามารถฉีด เลือด ให้พุ่งออกมาได้ไกลถึง 9 เมตรเลยล่ะ จาก The Physiology of Faith 2. Gaslighting คือการคุกคามทางจิตใจ ที่บุคคลจะได้รับข้อมูลปลอมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดข้อ สงสัย ในความทรงจำของตนเอง (คล้ายๆ ว่าล้างสมองด้วยจิตวิทยา) จาก Gaslighting 3. ในปี 1977 มนุษย์ได้รับคลื่นวิทยุจาก นอกโลก คลื่นสัญญาณมีความยาว 72 วินาที ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบที่มาของสัญญาณนี้ จาก Wow! signal 4. ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนตายราว 6,000 คนต่อปีเนื่องจากการใช้…
-
19 เกร็ดความรู้เจ๋งๆ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ความรู้ของเรา” ยังน้อยนิดนักสำหรับโลกใบนี้
การศึกษาและวิจัยในหลายๆ แขนงของมนุษย์ทำให้เราได้ทราบถึงเหตุและผล ข้อดีข้อเสีย หรือประโยชน์และโทษของสรรพสิ่งต่างๆ เท่าที่มนุษย์จะหยั่งถึงได้ แต่การศึกษาวิจัยนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง มีการค้นพบใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ความรู้เก่าๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจึงขอนำเสนอ ข้อเท็จจริง 19 ข้อ ที่ถือว่าเป็น “เกร็ดความรู้” ใหม่ๆ ให้ท่านผู้ชมได้รับทราบกัน จะมีสาระความรู้อะไรบ้าง ไปชมพร้อมๆ กันเลย… 1. โอกาสที่น้ำดื่มคุณจะปนเปื้อนโมเลกุลจาก “ฉี่ไดโนเสาร์” คือประมาณ… 100 เปอร์เซ็นต์!! จาก dailymail 2. อ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์ในที่มืด แค่ทำให้ตาล้าเร็วกว่าเดิม ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสายตาของคุณแต่อย่างใด จาก health.harvard 3. ในอวกาศจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ แต่จะได้กลิ่นแปลกๆ เช่น กลิ่นควันดีเซล กลิ่นดินปืน และกลิ่นบาร์บีคิว เป็นต้น จาก popsci 4. แพะมีตาดำเป็นทรง “สี่เหลี่ยมผืนผ้า” จาก science20 5. เต่าบางชนิดสามารถหายใจทาง “ก้น” ได้ด้วยล่ะ จาก infinitespider …
-
17 ความจริงเกี่ยวกับ “ทารันทูล่า” เรามาก้าวข้ามอาการ ‘กลัวแมงมุม’ ไปด้วยกันเถอะ!!
แมงมุม เป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่าน่ากลัว ด้วยความที่รูปลักษณ์ของมันดูไม่น่ารักน่าชังเหมือนกันสัตว์ชนิดอื่นๆ ผู้คนจำนวนมากจึง “กลัว” พวกมันอย่างมาก โดยเฉพาะ แมงมุมทารันทูล่า ที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับแมงมุมที่พบเจอตามบ้านเรือน รวมไปถึงลักษณะทางกายภาพของมันยังน่าเกลียดน่ากลัวอีกด้วย ขาและลำตัวก็มีขนหยุบหยับ แถมมีเขี้ยวอีกด้วย แต่ว่า แมงมุมชนิดนี้มันน่ากลัวจริงหรือเปล่า? วันนี้เรามาก้าวข้ามความกลัวไปด้วยกันดีกว่ากับ ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกี่ยวกับ เจ้าแมงมุมทารันทูล่า ลองอ่านดูแล้วคุณอาจจะ “รัก” พวกมันมากกว่าเดิมก็ได้นะ 1. แมงมุมทารันทูล่ามีอยู่บนโลกแค่ราวๆ 900 สายพันธุ์เท่านั้นเอง 2. มีทารันทูล่าไม่กี่สายพันธุ์หรอกนะที่ทำอันตรายได้จากการกัด ส่วนใหญ่จะเจ็บน้อยกว่าผึ้งต่อยเสียอีก 3. กรามของแมงมุมทารันทูล่าจะขยับเป็นแนวตั้ง ต่างจากแมงมุมชนิดอื่นที่ส่วนมากจะขยับเป็นแนวนอน 4. พวกมันมี 8 ตาซึ่งแต่ละดวงนั้นสามารถมองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหวได้แม้จะเล็กจิ๋วก็ตาม แถมจะมีขนอยู่รอบๆ ซึ่งช่วยรับสัมผัสการสั่นสะเทือนได้ดีเลยล่ะ 5. ทารันทูล่าบางสายพันธุ์จะมีขนที่เหนียว ทำให้พวกมันสามารถปีนป่ายได้แม้เป็นพื้นผิวที่แสนเรียบลื่น 6. ในช่วงหน้าร้อนจะเป็นช่วงที่พวกมันออกมาเดินเพ่นพ่านกันมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ทารันทูล่าออกหาคู่นั่นเอง 7. ทารันทูล่าที่อาศัยอยู่บนต้นไม้จะหาคู่จากกลิ่นของตัวเมีย และเดินตามเส้นใยที่ตัวเมียทิ้งเอาไว้จนทั้งคู่ได้พบกัน (แหม โรแมนติกสุดๆ) …
-
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘สัตว์โลก’ เพื่อนบ้านแสนน่ารัก มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิด!!
‘สัตว์โลก’ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมบนโลกใบเดียวกันกับเรา แต่เพื่อนจะรู้จักกับพวกมันมากน้อยแค่ไหนกัน? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับ ‘สัตว์โลก’ มาฝากเพื่อนๆ กัน แล้วเราจะได้รู้จักกับเพื่อนร่วมโลกให้มากกว่านี้กันครับ 1. มีตุ่นชนิดหนึ่งที่มีกระปู๋ 4 แฉก!? การมีอวัยวะเพศแปลกๆ นั้นถือเป็นเรื่องปกติในโลกของสัตว์ เช่นเดียวกันกับเจ้าตุ่น Echidna หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ‘เม่นกินมด’ เองก็เป็นหนึ่งสัตว์ที่มีกระปู๋แปลกที่สุด เพราะมันมีถึง 4 แฉกด้วยกัน ซึ่งในแต่ละแฉกก็จะมีความสามารถในการหลั่งน้ำอสุจิทั้งหมด ขณะเดียวกันเจ้าตุ่น Echidna เพศเมียก็จะมีอวัยวะเพศ 2 อัน 2. ไก่ตัวเมียสามารถแปลงร่างกลายเป็นไก่ตัวผู้ได้โดยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงเพศของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่สัตว์ที่สามารถทำได้ก็คือ ‘ปลาการ์ตูน’ ที่เปลี่ยนจากเพศผู้ไปเป็นเพศเมียเพื่อการสืบพันธุ์นั่นเอง ขณะเดียวกันไก่เองก็ทำได้นะเออ และจะเกิดขึ้นกับเฉพาะ ‘ไก่ตัวเมีย’ เท่านั้น โดยที่ไก่ตัวเมียจะมีรังไข่ 1 อัน และอวัยวะสืบพันธุ์ที่ไม่ได้ใช้งานอยู่อีกอันหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไปแล้วการผสมไข่จะเกิดขึ้นกับรังไข่เท่านั้นโดยที่อวัยวะสืบพันธุ์อีกอันหนึ่งไม่ต้องทำงานเลยก็ได้ และเมื่อเป็นแบบนั้น แม่ไก่ก็จะเป็นแม่ไก่ต่อไปไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่หากว่าแม่ไก่เกิดป่วยเป็นซิสต์ ซีสต์ หรือเนื้องอก จนทำให้รังไข่ของแม่ไก่ถูกทำลายลงไป…
-
สาระควรรู้! 8 อาหารที่ควรทานก่อน “ดื่มเหล้า” เพื่อช่วยให้ร่างกายรับแอลกอฮอล์น้อยลง!!
ชีวิตคนเรา เรียนหรือทำงานมากันเหนื่อยๆ มันก็ต้องมีพักผ่อนสังสรรค์กันบ้าง อย่างเช่นในคืนวันศุกร์ที่หลายๆ คนมักเลือกที่จะออกไปท่องราตรีและดื่มเหล้าเมามายให้ลืมความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งอาทิตย์ แต่สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่การเตรียมตัวสำหรับความเมาต่างหาก บางครั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้ปวดหัว อาเจียน หรือสติดับวูบ ฉะนั้น ไม่ผิดนักหากจะมีใครมาเตือนเราว่าควรทานอาหารรองท้องก่อนดื่มสุรา วันนี้เราจึงมานำเสนอถึง อาหารที่เหมาะสมสำหรับทานก่อนไปเมา หากมีการเตรียมตัวที่ถูกต้องแล้วล่ะก็ คืนวันศุกร์ของคุณรับรองว่าต้องสนุกสุดเหวี่ยงอย่างแน่นอน 1. โยเกิร์ตไขมันต่ำ เจ้าอาหารทานเล่นเมนูนี้มีธาตุอาหารหลักอยู่อย่างครบครัน โดยอาจจะเพิ่มกราโนลาลงไปด้วยก็ได้ ซึ่งจะทำให้มื้อก่อนเมาของคุณมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันที่เพียงพอ นอกจากนี้โยเกิร์ตสามารถถูกย่อยได้ช้ามากใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมง ฉะนั้น มันจะทำหน้าที่เคลือบกระเพาะอาหารของคุณเอาไว้ไม่ให้แอลกอฮอล์ทำอันตรายคุณได้ ที่มา: Kim Larson, RDN, CD, CSSD 2. อาหารเมนูไก่ อาหารจำพวกโปรตีนมีประโยชน์สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์มาก เพราะมันจะช่วยให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเพิ่มขึ้นช้าลง คุณจะเมาช้าลง ที่มา: Claudia T. Felty, PhD, RDN 3. ปลาแซลมอน การที่คนเราสามารถเมาค้างได้ถึงหนึ่งหรือสองวันก็เพราะว่าแอลกอฮอล์นั้นได้ไปขจัดวิตามินบี 12 ออกจากร่างกาย ฉะนั้น การรับประทานเนื้อปลาแซลมอนที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 นั้นจะช่วยให้สมองของเราได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์น้อยลง ที่มา: Marina Chaparro,…
-
ทำไมต้องใช้คำว่า “โลลิ” คนรักเด็กกลุ่มนี้คืออะไร แล้วเป็นคนดีหรือคนไม่ดีกันแน่นะ!!?
ปัจจุบันหลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า โลลิ อย่างแน่นอน เพราะคำนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย เช่น ใช้เรียกตัวการ์ตูนเด็กหญิงน่ารักๆ หรือคำว่า โลลิคอน ที่ใช้เรียกชายอายุมากที่ชอบหญิงอายุน้อย เป็นต้น แล้วไอ้คำว่า “โลลิ” แท้จริงแล้วมันแปลว่าอะไรกันแน่ และมันมีความหมายเชิงบวกหรือว่าลบ ไอ้เจ้า #เหมียวโลลิ มันเป็นคนไม่ดีหรือเปล่านะ? เราคงต้องลองมาเจาะลึกกันสักหน่อยแล้วล่ะวันนี้!! เมื่อพูดคำว่า “โลลิ” หลายคนอาจนึกภาพอะไรประมาณนี้ (ซึ่งถูกแล้ว 55) อะไรคือโลลิ? คำว่า “โลลิ” หรือ “โลลิคอน” เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีอาการ โลลิตาคอมเพล็กซ์ (Lolita complex) กล่าวคือ ชายที่มีความรู้สึกสเน่หาและรักใคร่เด็กสาวที่มีอายุน้อยกว่าตน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่จะให้ความหมายของ “โลลิคอน” ว่าเป็นชายที่มีความรู้สึกลึกซึ้งส่วนตัวกับหญิงที่มีอายุตั้งแต่ก่อน 10 ปีจนถึง 20 ปี ไม่เกินกว่านี้ ในหลายประเทศยังให้ความหมายของคำว่า “โลลิ” ว่าเป็น เด็กสาววัยกระเตาะ ที่มักทำตัวเย้ายวนและเซ็กซี่เกินวัยอีกด้วย โลลิต่างจากโรคใคร่เด็กอย่างไร? โรคใคร่เด็ก (Pedophilia) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางจิตและทางเพศที่ทำให้ผู้ป่วยมี ความต้องการทางเพศ อย่างเฉพาะเจาะจงและสม่ำเสมอกับเด็กก่อนวัยเริ่มเจริญพันธุ์…
-
10 อาหารที่เป็นอันตรายต่อ “หมา-แมว” อย่างมาก รักน้องอย่าให้น้องกินเด็ดขาด!!
รู้หรือไม่ว่า เจ้าตูบเจ้าเหมียว ของเรานั้นถึงแม้มันจะกินอยู่อย่างง่ายๆ แต่มันก็มีอาหารหลายชนิดที่ “เป็นภัย” ต่อร่างกายของมันอยู่นะ บางครั้งก็เป็นอาหารธรรมดาที่เราคาดไม่ถึง เราอาจจะคิดว่าให้หมาแมวของเรากินได้ แต่อันที่จริงมันมีผลเสียมากกว่าที่คิด กว่าจะรู้ตัวเจ้าหมาเจ้าแมวก็อาจเกิดอันตรายไปแล้วก็ได้ ฉะนั้น วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ของธรรมดาๆ อะไรบ้างที่หมาแมวไม่ควรกิน เพราะมันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี 1. หัวหอมและกระเทียม หัวหอม กระเทียม และต้นหอมจะมีสารทำให้เกิดกลิ่น สารดังกล่าวจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดงของสัตว์ซึ่งนำไปสู่ภาวะ โลหิตจาง บางกรณีอาจทำอันตรายต่ออวัยวะภายในอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ความเบื่ออาหาร ความบาดเจ็บ และหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดไม่กี่วันหลังจากทานพืชจำพวกหัวหอมไปแล้ว ที่มา: http://www.petpoisonhelpline.com/poison/onion/ 2. ดอกลิลลี่ ถึงดอกลิลลี่จะเป็นดอกไม้ที่สวยงามแต่มันอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างมาก ในดอกลิลลี่นั้นมีสารที่เป็นพิษหากเข้ากระบวนการย่อยอาหารของหมาแมว สารดังกล่าวนั้นเป็นอันตรายต่อไตอย่างมาก อาการเมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับพิษจากดอกลิลลี่ก็คือ มันจะเริ่มเบื่ออาหาร อาเจียน ฉี่และมีน้ำลายไหลออกมามากกว่าปกติ ที่มา: http://www.pethealthnetwork.com/cat-health/cat-toxins-poisons/easter-lily-poisoning-cats 3. องุ่นและเรซิน องุ่นเพียงไม่ถึง 15 กรัม ก็สามารถทำให้สุนัขติดพิษได้ เพราะองุ่นนั้นเป็นภัยต่อไตของสุนัขอย่างมาก สัตว์เลี้ยงที่แข็งแรงเมื่อทานองุ่นเข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง เฉยเมย เบื่ออาหาร และอาเจียนได้ ที่มา: https://www.petmd.com/dog/emergency/digestive/e_dg_grape_raisin_toxicity…
-
การ์ตูนคูลๆ ที่ทำให้เห็นว่า “เจ้านาย (Boss) VS หัวหน้า (Leader)” มันต่างกันอย่างไร!?
ทุกวันนี้ในโลกของการทำงาน บุคคลสำคัญที่เราหลีกเลี่ยงที่ไม่ได้ก็คือ หัวหน้างานหรือเจ้านาย นั่นเอง แค่พูดคำว่า “หัวหน้า” หรือ “เจ้านาย” ออกมาหลายคนก็ถึงกับขนลุกซู่ แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร คำสองคำนี้มีความแตกต่างกันอยู่ โดยคำว่า เจ้านาย (Boss) นั้นว่ากันตามตรงมักใช้ในเชิงลบ ความหมายก็คือผู้ที่ใช้อำนาจควบคุมทุกคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่คำว่า หัวหน้า (Leader) นั้นจะหมายถึงผู้ที่เข้าใจในผลประโยชน์ของการกระตุ้นให้พนักงานเกิดความสามัคคีแข็งขัน และทำงานจนบรรลุผลสำเร็จ อ่านข้อความอาจเข้าใจได้ยาก วันนี้เราจึงขอนำภาพการ์ตูนสุดเจ๋งจาก yukbisnis.com ที่วาดขึ้นเพื่ออธิบายความแตกต่างระหว่าง “หัวหน้า VS เจ้านาย” ได้เข้าใจง่ายสุดๆ แถมน่ารักอีกด้วย เราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่า… เจ้านาย (Boss) จะเอาแต่ผลประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ หัวหน้า (Leader) จะคอยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของลูกทีมให้ทำงานได้ดีขึ้น เจ้านาย (Boss) มักจะดุด่าว่ากล่าวหากผิดพลาด แต่ หัวหน้า (Leader) มักจะสอนและหาทางแก้ไข เจ้านาย (Boss) มักออกคำสั่ง เช่น “ไปทำให้สำเร็จ!” แต่ หัวหน้า (Leader) มักจะชักชวนหรือกระตุ้น เช่น “เรามาทำให้สำเร็จกันเถอะ!”…
-
สาวใช้กล้องจุลทรรศน์ “ส่องผิวหน้า” หลังลงเครื่องสำอาง จากความงามสู่ความน่ากลัว
เครื่องสำอางนั้นเป็นสิ่งที่สาวๆ ทั้งหลายคงขาดไม่ได้กันเลยทีเดียว จะมีสักกี่คนเชียวที่จะหน้าสดออกไปทำงานและพบปะผู้คน? แน่ล่ะ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เครื่องสำอางนั้นทำให้สาวๆ ดูสวยใสได้อย่างใจต้องการ ไม่ว่าจะมาในสไตล์คมๆ ญี่ปุ่น หรือว่าเกาหลี ก็สามารถเนรมิตได้ด้วย “เครื่องสำอาง” แต่วันนี้ ยูทูบเบอร์สาว Tina Yong ได้ออกมาพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้าเครื่องสำอางเพื่อนเลิฟของสาวๆ นั้นแง่หนึ่งมันก็กลายเป็น ศัตรูตัวฉกาจ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้มหาศาล เธอได้โพสต์วิดีโอที่เธอใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูภายใต้ผิวหนังที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง เอาล่ะ ก่อนอื่นเธอก็จะให้ผู้ชมลองชมหน้าสดของเธอกันก่อน ลองใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องไปที่ผิวหนังที่ยังแต่งหน้า นี่เป็นส่วนของแก้ม นี่คือส่วนคิ้วที่ยังสดๆ อยู่ นี่คือส่วนขนตาแบบสดๆ ไม่ผ่านเครื่องสำอาง และนี่ก็คือสิวบนใบหน้า ตรงนี้ก็เป็นรอยกระบนใบหน้า แบบยังไม่ผ่านการแต่งหน้าใดๆ หลังจากนั้นการทดลองก็จะเริ่มขึ้น เธอเริ่มการแต่งหน้าในแบบที่เธอทำเป็นกิจวัตร จะมีการเขียนคิ้ว แมสคารา รองพื้น อายแชโดว์ และไฮไลท์ต่างๆ ตอนนี้ Yong ก็แต่งหน้าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องอีกครั้ง…
-
10 ความรู้ทาง “ชีววิทยา” ที่โรงเรียนสอนมานับศตวรรษ แต่มันดันผิด!!!
การศึกษาใครบอกว่าจะต้องมาจากโรงเรียนเท่านั้น ยิ่งนับวันวิทยาการยิ่งก้าวหน้า การศึกษาสิ่งต่างๆ จึงทำได้มากและลึกยิ่งขึ้น และนั่นทำให้บางครั้งความรู้ที่เราเรียนมาจากโรงเรียนอาจเป็นข้อมูลที่ เก่าและผิด ไปแล้วก็ได้ โดยเฉพาะวิชาชีววิทยาที่หลายคนชื่นชอบ (ยกเว้น #เหมียวโลลิ) ที่เนื้อหาของมันก็เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต เช่น คนเราวิวัฒนาการมาจากลิง เป็นต้น ซึ่งก็เป็นความรู้ที่ผิดเช่นกัน เอาล่ะ งั้นวันนี้เราไปชมกันเลยดีกว่ากับ 10 ความรู้ทางชีววิทยาจากโรงเรียน ที่คนเรายังเชื่อว่ามันถูก… 1. มนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง ความเชื่อที่ว่ามนุษย์เราวิวัฒนาการมาจากลิงนั้นกลายเป็นข้อมูลที่ผิดไปเสียแล้ว ลิงในปัจจุบันต่อให้เหมือนกับคนเราขนาดไหน แต่ที่จริงแล้วมนุษย์เองก็มีบรรพบุรุษของเราอยู่จริงๆ เมื่อหลายล้านปีที่แล้ว เราเพียงแค่มีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่ไม่ได้เปลี่ยนจากลิงเป็นมนุษย์แต่อย่างใด อ้างอิง: www.skeptic.com/downloads/top-10-evolution-myths.pdf 2. มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนยอดห่วงโซ่อาหาร กลุ่มนักวิจัยชาวฝรั่งเศสได้ช่วยกันจัดลำดับห่วงโซ่อาหารใหม่ มนุษย์กลับกลายเป็นว่าไม่ได้อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อีกต่อไปแล้ว เพราะการจะอยู่บนยอดของห่วงโซ่อาหารได้นั้น ต้องกินเฉพาะเนื้อสัตว์ที่อยู่ต่ำกว่าลงไปเท่านั้น แต่พฤติกรรมการกินของมนุษย์ที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืชนั้นถือว่าไม่ได้อยู่บนยอดของห่วงโซ่อาหาร อ้างอิง: http://www.pnas.org/content/110/51/20617 3. หมากับแมวตาบอดสี เป็นความเชื่อกันมายาวนานนับแต่การทดลองในปี 1915 ว่าหมาและแมวนั้นมองเห็นเพียงสีขาว-ดำ แต่ปัจจุบันการทดลองครั้งใหม่ได้ทำให้ทราบว่า พวกมันก็มองเห็นไม่ต่างกับมนุษย์เพียงแค่จะบอดสีแดงหรือไม่ก็เห็นสีแดงได้น้อยที่สุด แต่พวกมันไม่ได้มีปัญหากับสีอื่นเลย อ้างอิง: http://www.todayifoundout.com/index.php/2012/01/both-cats-and-dogs-can-see-color/ 4. มนุษย์มีสัมผัสเพียงแค่ 5…
-
เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขามีอดีตอย่างไรกันบ้าง!?
แบรนด์ดังระดับโลกทั้งหลาย แน่นอนว่ากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ได้ พวกเขาย่อมมีเคยมีประวัติทั้งดีและแย่กันมาทั้งนั้น บางแบรนด์ก็มีอดีตอันขมขื่น ขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็อาจจะมีอดีตที่ทำให้เราต้องตกใจก็เป็นได้ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอนำเสนอ เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก ที่อาจทำให้คุณต้องตกใจก็เป็นได้… 1. Häagen-Dazs ที่จริงแล้วเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแท้ๆ ส่วนชื่อของแบรนด์ที่ดูไม่เหมือนภาษาอังกฤษนั้น เป็นคำพูดลอยๆ ที่ทำให้ฟังดูเหมือนเป็นบริษัทของประเทศฝั่งยุโรปเท่านั้นเอง 2. Corn Flakes นั้นถูกผลิตมาเพื่อหยุดยั้งการช่วยตัวเองและการมีเซ็กส์ที่มากเกินไป John Harvey Kellogg นายแพทย์ที่ต่อต้านการมีเซ็กส์และการช่วยตัวเอง ได้พยายามช่วยเหลือ “ผู้ป่วย” ที่เสพย์ติดเซ็กส์ด้วยการใช้โภชนาการบำรุงสุขภาพ เขาจึงสร้างธัญญาหารที่ทำจากข้าวโพดมาช่วยยับยั้งอาการเหล่านี้ 3. Coca Cola ปัจจุบันก็ยังคงผลิตมาจากใบโคคาใช้แล้วที่มีสารโคเคน บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทเดียวในอเมริกาที่ได้รับอนุญาตให้สกัดโคเคนออกมาจากใบโคคาได้ สารโคเคนนั้นจะถูกจำหน่ายให้กับวงการแพทย์ ส่วนใบโคคาที่ใช้แล้วก็ถูกจำหน่ายให้กับบริษัท Coca Cola นั่นเอง 4. Puma และ Adidas ถูกก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องท้องเดียวกัน ทั้งคู่เริ่มก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้าด้วยกันแต่สุดท้ายก็แตกหักกันกลายเป็น 2 แบรนด์นี้นั่นเอง 5. เครือ Marriott กว่าจะมาเป็นโรงแรมหรูยักษ์ใหญ่นั้นเริ่มจากการเป็นแบรนด์แผงตั้งขายเบียร์มาก่อน …
-
15 ความจริง ที่น้อยคนนักจะรู้ เกี่ยวกับมนุษย์และธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ใจ!
ต่อให้เราเกิดมาแล้วสักกี่ปี ไปเที่ยวมาแล้วสักกี่ที่ หรืออ่านหนังสือมาแล้วไม่รู้กี่เล่ม มันก็ยังคงมี “ความจริง” อีกหลายเรื่องบนโลกที่เรานั้นอาจจะยังไม่รู้มาก่อน ฉะนั้นเราต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิจัยของแต่ละสาขา ที่ทำการค้นพบความจริงอันน่าอัศจรรย์ต่างๆ แล้วนำมาบอกให้พวกเราได้รับรู้ วันนี้ เราจึงทำการรวบรวม 15 ความจริงอันน่าอัศจรรย์บนโลก ที่พวกเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนมาให้ทุกคนได้อ่านกัน 1. สิวทำให้แก่ช้าลง นักวิจัยชาวอังกฤษพิสูจน์แล้วว่าสิวเกิดขึ้นจากระบบต่อต้านความชรา ต่อให้คนที่เป็นสิวจะมีอายุมากขึ้น เขาก็จะยังดูอ่อนเยาว์กว่าคนที่ไม่มีสิวนั่นเอง 2. ร้องไห้มีสำเนียงด้วยนะ เด็กทารกจะร้องไห้ตามเสียงและสำเนียงของผู้เป็นแม่ เพราะทารกจะได้ยินเสียงแม่มาตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว ผลการศึกษาครั้งนี้มาจากการวิเคราะห์ทารก 60 คนที่เกิดในครอบครัวชาวฝรั่งเศสและเยอรมัน 3. ไอคิวสูง ส่วนโค้งเว้าจะชัด! การศึกษากับผู้หญิง 16,000 คนเผยให้เห็นว่าสาวๆ ที่มีหุ่นรูปนาฬิกาทรายจะมีความฉลาดทางสติปัญญามากกว่าคนที่มีส่วนโค้งเว้าน้อย นั่นเป็นเพราะร่างกายของคนหุ่นนาฬิกาทรายจะผลิต “โอเมกา3” มาก ทำให้สมองพัฒนาได้เร็ว 4. ยิ่งมีหนวด ยิ่งหัวล้าน การวิจัยเผยว่ายิ่งหนุ่มๆ ไว้หนวดหนาและไว้นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสหัวล้านมากขึ้นเท่านั้น นั่นเป็นเพราะ ผมที่ขึ้นบนศีรษะจะถูกดึงความร้อนไปยังบริเวณหนวด ร่างกายเลยลดความร้อนบริเวณศีรษะโดยการลดจำนวนเส้นผม 5. แมลงสาบก็กัดได้เหมือนกัน ปกติแล้วแมลงสาบจะไม่กัดคนหากมันมีอาหารของมันอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นการถูกแมลงสาบกัดนั้นเกิดขึ้นได้ แถมแผลที่ถูกกัดยังระคายเคืองและพองอีกด้วย…
-
รวมทวิตเตอร์จาก #รีวิวเซเว่น มาดูหน่อยซิว่า ชาวเน็ตชอบหรือไม่ชอบอะไรในเซเว่นกันบ้าง!?
(เนื้อหาในบทความทำขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีเจตนาเชิงโฆษณาหรือธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น) ก็ต้องยอมรับกันตรงๆ เลยว่า ร้านมินิมาร์ท สะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอิเลฟเว่น นั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา” เป็นคำเชิญชวนที่ฟังดูธรรมดา แต่กลับเหมือนมีเวทมนตร์ที่พอเราหิวเมื่อไหร่ ก็มักไปเซเว่นอยู่เสมอ ว่าแต่ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น? ของที่เซเว่นขายมันดีขนาดที่ทำให้คนเราต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ เลยอย่างนั้นหรือ? เอาล่ะ เราต้องไปฟังจากปากคนไทยด้วยกันเองแล้วล่ะกับ รวมทวิตเตอร์ #รีวิวเซเว่น ที่จะพิสูจน์ให้เห็นเองว่า สินค้าในเซเว่นมีอะไรโดนใจคนไทยกันบ้าง 1. สปาเกตตีแซลมอนครีมซอส จะว่าไปก็น่ากินนะเนี่ย 2. ที่ดัดขนตาอะไรน่ากลัวเกินไปแย้วว 3. กรี๊ดดด!! น่ารับประทานฝุดๆ 4. อยู่กันเป็นบ้านเลยนะ 5. เอาที่นอนมาปูก็เป็นบ้านได้เลยนะเนี่ย 6. กินแล้วเปื้อนเสื้อ แต่อร่อย 7. ไอเทมสำหรับคนชอบเอาเล็บจิกตุ่มยุงกัด 8. ไอ้ขนมด้านซ้ายเขาว่าเหมือน Kit Kat แต่ราคาถูกกว่า ด้านขวาก็มีแต่คนบอกว่าอร่อย …
-
รวม 26 ภาพประวัติศาสตร์ในอดีต ที่ผ่านมามนุษยชาติได้เรียนรู้อะไรบ้าง จากสิ่งที่หลงเหลืออยู่
มนุษยชาตินั้นถือกำเนิดมาอย่างยาวนานบนโลกใบนี้ และยังคงสืบทอดวิถีชีวิตจากในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และกำลังมีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในอนาคตภายภาคหน้าอีกมากมาย แต่เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในอดีตที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นภาพถ่ายของคนในยุคเก่าที่เคยพบเจอ มันจะแตกต่างจากชีวิตในยุคปัจจุบันแค่ไหน และความยากลำบากที่เคยเกิดขึ้น ได้สอนให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง… กัปตัน Nieves Fernandez กำลังแสดงวิธีที่เธอใช้เชือดทหารญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ ให้แก่ทหารอเมริกันในปี 1944 ทางหลวงแห่งความตาย ผลพวงจากกองทัพอเมริกันเลือกใช้วิธีระเบิดปูพรมใส่กองกำลังอิรักในประเทศคูเวต ปี 1991 การเดินอันแสนยาวไกล ของหน่วยเก็บกู้ระเบิดกองทัพอังกฤษ กำลังเดินตรงไปยังรถตู้ต้องสงสัยในไอร์แลนด์เหนือ ช่วงปี 1970 ทหารเยอรมันแบ่งอาหารบางส่วนให้กับคุณแม่ชาวรัสเซีย ปี 1941 สภาพของทหารชาวออสเตรเลีย หลังหลุดพ้นจากการเป็นเชลยศึกจากฝั่งญี่ปุ่นในประเทศสิงคโปร์ ปี 1945 กองกำลังทหารชนเผ่าเมารี กำลังทำพิธีฮากา (การเต้นโบราณของชนเผ่า) ในประเทศอียิปต์ ปี 1941 สภาพบ้านเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หลังสิ้นสุดสงคราม ปี 1945 กองกะโหลกควายไบซันสำหรับใช้เป็นปุ๋ยหมัก ปี 1870 Conrad Schumann ทหารฝั่งตะวันออกกำลังก้าวข้ามผ่านไปยังแดนตะวันตกในเบอร์ลิน…
-
มีปากเสียงอย่างไรให้ “จบสวย” กับคำแนะนำ 10 ประการสำหรับรับมือกับ “การทะเลาะ”
การทะเลาะ หรือการมีปากเสียงกัน ย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อน หรือแม้แต่คนครอบครัว แต่แน่นอนว่าไม่มีใครอยากทะเลาะกันนานๆ หรอก ดังนั้นเมื่อมีปากเสียงเกิดขึ้นเราก็ควรจะจัดการให้มันจบอย่างสวยงามที่สุด แต่เราจะจบมันอย่างไรให้ออกมาดีที่สุดล่ะ? เราจะรับมือกับอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่เกิดขึ้นได้อย่างไร? การศึกษาทางจิตวิทยามีคำตอบ นักจิตวิทยาจึงแนะนำ 10 พฤติกรรมที่ควรทำ เมื่อต้องรับมือกับการทะเลาะ มีปากเสียง หรือความโกรธ บางข้ออาจดูไม่สมเหตุสมผล แต่เชื่อเถอะว่ามันมีประสิทธิภาพ 1. ต้องใจเย็นและคิดให้รอบคอบ จำไว้เลยว่า เมื่อคนใดคนหนึ่งโกรธ นั่นไม่ใช่ความผิดของเขา แต่มันคือความผิดของ สภาวะอารมณ์ ต่างหาก พยายาม ใช้ความใจดีและใจเย็นเข้าสู้ แสดงออกให้เขาเห็นว่าเราอยากช่วยให้เขาผ่านพ้นอารมณ์แย่ๆ นี้ไปได้ แต่!! ห้ามพูดว่า “ฉันอยากช่วยเธอนะ” เป็นอันขาด เพราะมันฟังดูเหมือนคุณอยู่เหนือกว่าเขา ทางที่ดีคือควรลดความสำคัญของตัวคุณเองลง และพยายามทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น 2. ควบคุมอารมณ์ของตัวคุณเอง อารมณ์ทางลบจะทำอะไรคุณไม่ได้ เว้นแต่คุณจะปล่อยให้ ความโกรธเข้าครอบงำ เวลาเจอคนโกรธหรือโมโห พยายามอย่าคล้อยตาม อย่าโกรธหรือโมโหไปด้วย ทำใจให้เย็นเข้าไว้ 3. ทำความเข้าใจปัญหา …
-
11 เกร็ดความรู้น่าสนใจ ที่อาจจะทำให้คุณพูดว่า “ว้าว! ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
เกร็ดความรู้เป็นเรื่องอะไรที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับที่คนเราดูสารคดีกันในยามว่างนั่นล่ะ การที่เราได้รู้เรื่องราวใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนนั้น มักจะทำให้เรารู้สึกมีความรู้มากขึ้นได้ไม่ยาก โดยที่แทบไม่ต้องพึ่งพาโรงเรียนหรือระบบการสอนเลยด้วยซ้ำ นี่คือ 11 เกร็ดความรู้น่าสนใจ ที่จะทำให้คุณรู้ตัวว่า โลกของเรานั้น ยังมีเรื่องที่ไม่รู้มากกว่าที่เราคิด นักเรียนมัธยมปลายในปัจจุบันมีระดับความกังวลมากเท่ากับผู้ป่วยจิตเวชจากยุค 50 เลย การตกหลุมรักมักจะทำให้เราเสียเพื่อนโดยเฉลี่ย 2 คน แมลงปอตัวเมียจะแกล้งตายเพื่อหนีจากคู่ผสมพันธุ์ที่มันไม่ต้องการ ชายที่จูบภรรยาก่อนไปทำงาน จะมีโอกาสประสบอุบัติเหตุน้อยกว่าคนทั่วไป ชาวแอซเท็กเชื่อว่าการคลอดลูกถือเป็นการต่อสู้แบบหนึ่ง ดังนั้นผู้หญิงที่เสียชีวิตในการคลอดจะได้ไปอยู่ที่สวรรค์เดียวกับนักรบ ตอนที่ลูกสาวของ Pablo Escobar อยากได้ยูนิคอร์น Pablo ก็ “เย็บ” เขาติดลงไปที่หน้าผากม้าเสียอย่างนั้นเลย แน่นอนว่าม้าตัวนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะติดเชื้อ เก้าอี้ไฟฟ้าคิดค้นขึ้นโดยหมอฟัน คนที่คิดค้นขึ้นชื่อว่า Alfred P. Southwick ยุงทำให้คนตายมากกว่าสงครามทั้งหมดในประวัติศาสตร์ ส่วนมากมาจากโรคไข้เหลือง และมาลาเรีย มีงานวิจัยที่บอกว่าผู้ชายที่ชอบเซลฟี่ มักจะมีโอกาสเป็นโรคจิตมากกว่าคนทั่วไป มนุษย์เป็นต้นเหตุให้สัตว์ 322 ชนิดสูญพันธุ์ในช่วง…
-
พิสูจน์การมีสุขภาพดี ด้วย 10 พฤติกรรมของเหล่าคนรักสุขภาพ พวกเราเคยทำมันบ้างมั้ยเอ่ย?!
บางคนอาจคิดว่าตัวเองเป็นคนสุขภาพดี แต่คำว่าสุขภาพดีนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถตัดสินได้แค่จากรูปลักษณ์ภายนอก แต่มันยังรวมถึงสุขภาพภายในหรือแม้แต่จิตใจของเรา เพราะฉะนั้นเราจะรู้ได้ยังไงว่าสุขภาพโดยรวมของตนนั้นมันดีจริงหรือเปล่า? วันนี้ #เหมียวตะปู เลยอยากชวนเพื่อนๆ ทุกคนได้ลองไปดูกันว่า คนสุขภาพดีเขาจะมีพฤติกรรมแบบไหนกันบ้าง แล้วตัวเราเองทำพฤติกรรมเหล่านั้นกันบ้างมั้ย? อย่ารอช้า ลองไปอ่านกันได้เลย 1. คนสุขภาพดีมักจะอยู่รวมตัวกัน คนที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะจับกลุ่มรวมกับคนสุขภาพดีเหมือนๆ กัน มีลักษณะการใช้ชีวิตเหมือนกัน และมีเป้าหมายในชีวิตคล้ายคลึงกัน เพราะฉะนั้นหากเราอยากเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างในชีวิตให้มันดีขึ้น แนะนำว่าให้เราลองมองหาคนที่เป็นต้นแบบในชีวิตของเรา และขอคำปรึกษาจากเขาคนนั้น 2. พวกเขาไม่เชื่อเรื่องของการไดเอต การไดเอตเป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาชั่วคราว ช่วยได้แค่ในระยะสั้นเพราะเราไม่อาจควบคุมการกินที่เข้มงวดไปได้ตลอด เพราะฉะนั้นให้เราสร้างความคิดว่าอาหารไหนที่เราชอบกินแต่ไม่ดีต่อสุขภาพของตัวเอง ก็หาอย่างอื่นที่ดีมาแทนที่มันไปซะ อย่างเช่นกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว กินผลไม้แทนขนมขบเคี้ยว แต่ถ้าเราอยากกินพวกช็อกโกแลตหรือพิซซ่ามากจริงๆ ก็จงกินไปตามความต้องการ แต่ต้องควบคุมตัวเองให้กินแต่พอเหมาะพอควร ซึ่งหากเรากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาตลอด เราก็จะไม่รู้สึกผิดต่อการกินอาหารขยะสักเท่าไหร่ เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องมาควบคุมจำกัดอาหารของตัวเองกันอย่างเข้มงวดแล้ว 3. คนสุขภาพดีมักจะมีคนที่คอยคบหาดูใจกันอยู่ ชีวิตคู่ที่เติมเต็มความสุขให้กับเราจะสามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ทั้งกายและใจ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องออกกำลังกายหรือกินผักผลไม้บ่อยแค่ไหน เพราะถ้าชีวิตส่วนตัวของเรามันยังไม่ดี เราก็จะไม่มีทางรับรู้ถึงสุขภาพและความสุขได้เลย 4. ขยับเท่ากับสุขภาพดี เหล่าคนที่มีสุขภาพดีจะขยับร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และพวกเขายังเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอีกด้วย วิธีการที่จะเป็นอย่างนั้นก็ง่ายๆ ให้มองหาสิ่งที่เราชอบ อย่าไปทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ อย่างเช่นถ้าเราไม่ชอบวิ่งก็ไม่ต้องไปวิ่ง…
-
มาดู 12 สิ่ง ที่ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ “ออกกำลังกาย” ต้องทำแบบนี้สิถึงจะถูก!!
การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่กำลังนิยมกันในปัจจุบันยุคที่ผู้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและรูปร่างกันมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็ได้ออกมาเผยถึงวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องกันมากมาย แนวทางการออกกำลังกายจึงมีออกมาให้เห็นเยอะแยะไปหมด บางคนก็บอกว่าควรออกกำลังกายตอนเช้า บางคนก็บอกว่าควรออกตอนเย็น อ้าว… สรุปแล้วจะเชื่อใครดีล่ะเนี่ย? เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อให้เข้าใจตรงกัน วันนี้เราจึงขอเสนอ 12 ความเชื่อผิดๆ ของการออกกำลังกายที่อาจทำให้คุณเสียสุขภาพได้ เราอย่ารอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง… 1. ออกกำลังกาย ถ้าจะให้ดีก็ต้องตอนเช้าสิ!! ไม่เสมอไปครับ เวลาการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคุณเวลาไหนก็ได้ที่คุณพร้อม คุณจะพร้อมออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นนั่นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญก็คือ ความสม่ำเสมอ ต่างหาก เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าการออกกำลังกายตอนเช้ากับตอนเย็น ไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย 2. การบริหารสมองที่ดี ก็คือการเล่นเกมปริศนาต่างๆ ไม่จริงเสมอไปอีกนั่นแหละ เพราะว่าการออกกำลังกายทางร่างกายเองก็สามารถบริหารร่างกายไปพร้อมกับสมองได้ด้วยเช่นกัน การออกกำลังกายที่ทำให้ เลือดไหลเวียนเร็วขึ้นย่อมดีกว่า การเล่นเกมปริศนาหลายๆ ชั่วโมง อีกอย่าง การศึกษาพบว่า การเล่นกีฬานั้นทำให้มีอารมณ์ที่ดี มีความจำดี และป้องกันสมองเสื่อม 3. พักการออกกำลังกายสัก 2-3 สัปดาห์ รูปร่างก็ยังคงเหมือนเดิม แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนส่วนใหญ่สูญเสียมัดกล้ามไปหลังจากพักการออกกำลังกายเพียงแค่ 1…
-
19 ความจริงเกี่ยวกับสรรพสิ่งบนโลก ที่อาจทำให้คุณตกใจจนเข้าขั้นกลัวเลยก็ได้…
โลก มนุษย์ และสิ่งมีชีวิต ต่างดำเนินไปตามธรรมชาติ แต่หลายครั้งธรรมชาติก็นำมาซึ่งความจริงที่อาจทำให้คุณตกใจหรือสะพรึงกลัว บทความนี้จะพาคุณไปรับรู้ ความจริงของสรรพสิ่งบนโลก ที่แปลกและอาจทำให้คุณตกใจจนถึงกับกลัวเลยก็เป็นได้ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ารอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ความจริงเหล่านั้นเป็นอย่างไรและมีอะไรบ้าง… 1. หนึ่งในสามของจำนวนเด็กทั้งหมด สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้ก่อนที่พวกเขาจะพูดได้เสียอีก 2. โดยเฉลี่ยแล้ว ทั้งชีวิต คนหนึ่งคนจะใช้เวลาไปกับการทำงานราว 90,000 ชั่วโมง 3. ปลาหมึกยักษ์จะมีสมองประจำอยู่ในหนวดทุกเส้นของมัน 4. หากคุณให้ยาแอสไพรินกับเด็กที่กำลังรักษาตัวจากโรคอีสุกอีใส อาจทำให้เขาเกิดอาการชัก และตายได้ 5. งูบิน สามารถร่อนตัวได้ไกลถึง 100 เมตร 6. หมูเพศผู้สามารถหลั่งน้ำอสุจิออกมาได้นานกว่า 6 นาที 7. หากคุณมองตัวเองในกระจกเป็นเวลา 10 นาที สมองของคุณจะเริ่มบิดเบือนภาพที่เห็น คุณอาจจะเห็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Troxler Effect 8. ฟันปลอมสมัยโบราณนั้นถูกทำขึ้นมาจากฟันของทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว …
-
ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ 5 ปริศนาในประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สามารถไขได้จนถึงทุกวันนี้
มีคนเคยพูดไว้ว่าเรื่องบางเรื่องนั้นปล่อยให้มันเป็นความลับต่อไปจะดีกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อในการหาคำตอบให้แก่ปริศนาที่ยังไม่มีการไขให้กระจ่าง เพราะความรู้นั้นคืออาวุธที่ดีที่สุด และคนเราจะกลัวในสิ่งที่ไม่รู้อยู่เสมอ แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามกันมากแค่ไหน ในโลกใบนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขให้กระจ่างอยู่ดี เหมือนกับ 5 ปริศนาในประวัติศาสตร์ต่อไปนี้ ที่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถไขได้อย่างแท้จริงเลย Jack the Ripper เป็นชื่อที่มอบให้กับฆาตกรต่อเนื่องที่ยังไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริง ซึ่งก่อการฆาตกรรมในกรุงลอนดอนในปี 1888 ในยุคนั้นมีผู้หญิงหลายคนถูกฆาตกรรม แต่เชื่อกันว่ามีคดีฆ่าหั่นศพผู้หญิงจำนวนห้าคดี ที่น่าจะเป็นผลงานของเขาคนนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้คนนับไม่ถ้วนได้ออกมาอ้างว่าสามารถหาตัวตนจริงๆ ของ Jack the Ripper ได้แล้ว เช่นหนังสือ Portrait of a Killer: Jack the Ripper-Case Closed ที่อ้างว่าเขาคือจิตรกรชาวอังกฤษที่ชื่อ Walter Sickert หรือ Jack the Ripper: The Mystery Solved ที่อ้างว่าเขาคือ Aaron Kosminski อย่างไรก็ตามยังไม่มีการออกมายืนยันที่มีหลักฐานในตัวตนของเขาแต่อย่างไร เพื่อนๆ สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของ Jack the Ripper ได้ที่ 15 เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ ที่พิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกรที่แสนโหดเหี้ยมและลึกลับ …
-
มาดู 22 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่คนมักสับสนว่า มันต่างกันยังไงฟระเนี่ย!!?
ต้องยอมรับเลยว่า ภาษาอังกฤษ นั้นมีความสำคัญมากจริงๆ ในปัจจุบัน เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้ภาษาอังกฤษ ชีวิตของคุณก็จะง่ายขึ้น เช่น อ่านคู่มือต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เข้าไปหาความรู้จากเว็บต่างประเทศได้ง่ายขึ้น หรือจะเข้าไปอ่านนิยายและการ์ตูนจากต่างประเทศก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้ภาษาอังกฤษ แต่ด้วยความที่มันไม่ใช่ภาษาที่ใช้แต่กำเนิดของชาวไทยอย่างเรา แถมไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันแบบเดียวกับประเทศที่เขาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ จึงไม่แปลกที่บางครั้งเราจะพูดผิดหรือใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษผิดไปบ้าง เพื่อขจัดความสับสนและเพื่อให้เข้าใจตรงกัน เราจึงขอเสนอ คำศัพท์ที่คนมักใช้ผิดๆ ถูกๆ เพราะสับสนและไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร เอาล่ะ ไปดูกันเลยว่ามีคำไหนบ้าง… 1. Alligators VS Crocodiles ถึงจะเป็น จระเข้ เหมือนกัน แต่ต้องดูให้ดีๆ นะ ทั้งสองมีความแตกต่างกันนิดหน่อย ถ้าจะให้สังเกตุง่ายๆ Alligators จะมีทรงปากโค้งเป็นรูปตัว U ส่วน Crocodiles จะมีทรงปากแหลมเป็นรูปตัว V 2. Husky VS Malamute หน้าตาของทั้ง Husky และ Malamute นั้นคล้ายกันมาก แต่ถ้าจะแยกให้ง่ายๆ ก็คือ Husky จะตัวเล็กกว่า…
-
ความจริงแปลกๆ 16 อย่างที่เกิดขึ้นโลกใบนี้ เรื่องน่าขนลุกที่เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ
โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆ ที่ไม่น่าเชื่อ ในมุมใดมุมหนึ่งของโลกอันกว้างใหญ่นี้ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย ราวกับถูกโลกใบนี้จงใจเอาไปซ่อนไว้ด้วยตัวของมันเอง ถึงอย่างนั้นคนเราก็พยายามที่จะค้นหาในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อนอยู่ดี พวกเราคือเหล่าผู้ที่ค้นหาในสิ่งที่เป็นปริศนา และนำพามันมาอยู่แสงสว่างแห่งความรู้ และในวันนี้เอง ความจริงอีก 16 อย่างที่เกิดขึ้นโลกใบนี้ ก็กำลังที่จะถูกเปิดเผยแล้วที่นี่ ในปี 2012 มีชายชาวฟลอริด้าโดนจับในข้อหาให้อาหารจระเข้อย่างผิดกฎหมาย หลังจากที่เขายื่นปลาออกไปจากเรือเพื่อโชว์นักท่องเที่ยวก่อนที่จะโดนจระเข้งับไปทั้งปลาทั้งแขน ว่าง่ายๆ ว่าทั้งโดนงับแขนทั้งโดนปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 15,000 บาท) แถมยังต้องเข้าคุกด้วย หลังจากที่คุณอายุ 55 ปี DNA ของคุณจะเริ่มเสื่อมโทรมลง อายุโดยเฉลี่ยของคนในยุคโรมันโบราณ อยู่ที่เพียง 25 ปี แม้ว่าจะทำมาเพื่อรักษาศพก็ตาม แต่เหตุผลที่มัมมี่เหลือน้อยในปัจจุบันนั้น เพราะว่าในช่วงศตวรรษที่ 17 ชาวยุโรปมักจะทานมัมมี่กันเพราะเชื่อว่ามันเป็นยา คนขับรถที่มีร่างกายอ้วน จะมีโอกาสตายในอุบัติเหตุมากกว่าคนปกติถึง 78% ที่สหรัฐอเมริกามีคนไข้ร่างติดไฟในระหว่างการผ่าตัด มากถึง 600 รายในทุกๆ ปี ลูกโคอาล่าจะกินอุจจาระจากแม่ของมัน Plushophilia เป็นกลุ่มอาการของคนที่จะมีอารมณ์กับตุ๊กตายัดนุ่น …
-
ความรู้คู่ปัญญา 11 ความจริงน่าสนใจ เกร็ดความรู้แปลกๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ในโลกใบนี้มีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกมากมายนัก เพื่อนๆ รู้กันไหมล่ะว่าแมวนั้น มีเท้าข้างที่ถนัดเหมือนกับที่คนเราถนัดซ้ายถนัดขวาด้วยนะ เรื่องพวกนี้นั้นอาจจะดูไม่ใช่เรื่องที่มีสาระอะไรมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่รู้ไว้เป็นเรื่องคุยเล่นได้เป็นอย่างดี เพราะไม่มีความรู้อะไรในโลกที่ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเราก็แค่ไม่ได้ใช้มันก็เท่านั้น เหมือนกับสาระ 11 ข้อต่อไปนี้ แมวมีเท้าข้างที่ถนัด นักวิทยาศาสตร์จาก Queen’s University Belfast มีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ส่วนใหญ่แล้วแมวจะใช้อุ้งเท้าเพียงข้างเดียวในการเล่นหรือกินอาหาร แต่ตรงกันข้ามกับมนุษย์จำนวนของแมวที่ถนัดขวา และถนัดซ้ายนั้นแทบจะเท่ากัน แม้ว่าแมวตัวเมียส่วนใหญ่จะถนัดขวาก็ตาม เมื่อ 500 ปีก่อนแตงโมจะดูแตกต่างจากปัจจุบันมาก ถ้าเราดูภาพวาดของ Giovanni Stanchi จากศตวรรษที่ 17 เราจะแทบไม่เชื่อเลยว่าของที่อยู่ในภาพนั้นคือแตงโม ผลไม้ชนิดนี้เข้าไปในทวีปยุโรปจากทางทวีปแอฟริกา และเมื่อ 500 ปีก่อนมันจะมีเนื้อส่วนใหญ่เป็นสีขาวและมีส่วนที่เป็นสีแดงอยู่เพียงน้อยนิด ส่วนที่แตงโมในทุกวันนี้มีลักษณะแบบที่เราคุ้นเคย ก็เนื่องมาจากกระบวนการคัดเลือกพันธุ์ที่มีระดับของไลโคปีน (สารที่ให้สีแดง) สูงนั่นเอง คุณมีแนวโน้มที่จะพบกับแมงมุมมากขึ้นถ้าคุณกลัวพวกมัน ถ้าคุณไม่ชอบแมงมุมคุณจะมีแนวโน้มที่จะเจอกับมันมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะความสนใจของคนเราถูกจัดตามลำดับความสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดมักจะถูกสังเกตเห็นเป็นอันดับแรก และสิ่งที่คนเราคิดว่าเป็นอันตรายกับตัวเองก็มักจะถูกจัดไว้ในอันดับที่สูงเสมอๆ ดังนั้นถ้าคุณกลัวแมงมุม จะทำให้แมงมุมมีลำดับความสำคัญสูง ซึ่งหมายความว่าถ้ามันอยู่ในห้องของคุณ มันก็จะเป็นสิ่งแรกที่สายตาของคุณจะมองหา ทำให้คุณจะเจอแมงมุมบ่อยกว่าคนที่ไม่ได้กลัวมัน เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจมันและมองข้ามมันไปนั่นเอง ดวงอาทิตย์เป็นสีขาว แม้ว่าดวงอาทิตย์จะเรียกว่าดาวแคระเหลือง…
-
12 สิ่งที่ควรเปลี่ยนจากทำตอนเช้า มาเป็นทำ “ก่อนเข้านอน” แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น
หลายคนอาจคิดว่า เวลากลางคืนก่อนจะนอนนั้นควรเป็นเวลาพักผ่อนจากกิจกรรมต่าง แล้วค่อยเริ่มใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ที่จริงแล้ว บางอย่างหากว่าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ามันควรทำในเวลา “กลางคืน” งานวิจัยในยุคปัจจุบันแนะนำว่ามี 12 สิ่งที่คนเราควรทำ แทนที่จะเป็นเวลาเช้า ให้เปลี่ยนมาทำในเวลากลางคืนจะดีกว่า 12 สิ่งที่ว่า จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย… 1. การทานเนื้อหรือคอทเทจชีส หลายคนอาจทราบว่าการทานอาหารก่อนนอนนั้นทำให้นอนหลับได้ยาก แต่ถ้าหากเป็นอาหารให้โปรตีนสูงอย่างเนื้อหรือชีสสด (Cottage Cheese) นั้นจะ ทำให้การนอนหลับของคุณดีขึ้น เพราะว่าอาหารเหล่านี้นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้วยังมีสาร Tryptophan ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับอีกด้วย ผัก ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักสำหรับทานก่อนเข้านอนเพราะอาจทำให้ลงพุงได้ และไม่ควรปล่อยให้ตัวเองหิว เพราะความหิวก็อาจทำให้คุณนอนไม่หลับได้เช่นกัน 2. เดิน การเดินก่อนเข้านอนจะทำให้คุณมีสมาธิอยู่กับตัวเองและ ลืมความกังวลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ส่วนการเดินตอนเย็นนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ได้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กและ แจ็ค ดอว์ซีย์ ผู้บริหารทวิตเตอร์ ชื่นชอบการเดินตอนเย็นมาก เพราะไอเดียและวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหามักจะเกิดขึ้นในใจขณะกำลังเดิน 3. คิดแผนที่ต้องทำสำหรับวันต่อไป การคิดแผนในตอนเช้าจะทำให้เรารีบและอาจหลงลืมสิ่งต่างๆ ได้ง่าย แต่การคิิดวางแผนในตอนกลางคืนนั้นจะทำให้เรา…
-
สาระ!! ผลการศึกษาชี้ชัด การงดมี “เซ็กส์” นานๆ มีข้อเสียมากถึง 9 ประการเชียวนะเออ
วันนี้เรามาพูดถึงการมีเพศสัมพันธ์กันบ้างดีกว่า (เฮ้ย…พูดอะไรน่ะ น่าเกลียด) แต่ว่าเราจะพูดแบบมีสาระต่างหาก บางคนบอก ยี๋… ฉันไม่เอาด้วยหรอก กิจกรรมร่วมเพศอะไร บัดสีบัดเถลิง!! ทุกท่านใจเย็นๆ ก่อนครับ ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเผยแล้วว่า การ จั้มบ๊ะ กันเป็นประจำนั้น มันดีกว่าการที่เราไม่เล่นจ้ำจี้กันเลยเป็นเวลานาน เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า การที่คนเราขาดเพศสัมพันธ์เป็นเวลานานๆ นั้นจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง 1. มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูง งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เผยออกมาแล้วว่าการจั้มบ๊ะกันแค่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสที่หลอดเลือดแดงของฝ่ายชายจะอุดตันลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่เล่นจ้ำจี้กันน้อยกว่าเดือนละครั้ง งานวิจัยปัจจุบันในวารสาร Sexual Medicine ยังพบอีกว่าเล่นจ้ำจี้นั้นช่วยลดระดับสาร Homocysteine สารเคมีอันตรายที่ก่อให้เกิดปัญหากับระบบหัวใจ ว่ากันว่าเมื่อผู้ชายมีเซ็กส์บ่อยๆ จะทำให้มีระบบไหลเวียนเลือดและสุขภาพหลอดเลือดที่ดี แต่สำหรับเพศหญิงอาจจะมีข้อดีน้อยกว่า เพราะไม่ค่อยเกี่ยวกับกระแสเลือดเท่าไหร่ 2. เกิดความเครียด การศึกษาวิจัยในวารสาร Biological Psychology ชี้ว่าการจั๊มบ๊ะกันมันมีผลดีกว่าการ “ช่วยตัวเอง” อย่างมาก เพราะการมีสัมพันธ์สวาทจะช่วยให้สมองทำการเพิ่มระดับฮอร์โมน เอ็นโดรฟิน และ อ็อกซีท็อกซิน ที่สามารถยับยั้ง ฮอร์โมนก่อความเครียดอย่าง คอร์ติซอล ได้ 3.…
-
โอ้จอร์จมันยอดมาก 10 วิธีสุดเจ๋งที่ช่วยให้หายสะอึกได้ แถมไม่ต้องโดนทำให้ตกใจด้วย
อาการสะอึกส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยฉับพลันและหายไปอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งก็กลายเป็นปัญหาที่น่ารำคาญและเรื้อรัง กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด บอกว่าการสะอึกที่นานที่สุดในโลกเกิดขึ้นกับ Charles Osborne ชายหนุ่มจาก รัฐไอโอวา เขาสะอึกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 68 ปีตั้งแต่ 1922 ถึงปี 1990 เลยทีเดียว ในแง่ของสรีรวิทยา การสะอึกเกิดขึ้นเมื่อกะบังลมเคลื่อนไหวผิดจังหวะ บวกกับกล่องเสียงก็ได้ปิดกั้นการไหลของอากาศทำให้เกิดการกระตุกของลมหายใจอันน่ารำคาญพวกนี้ขึ้น การจะให้หายสะอึกไปอย่างถาวรนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบแต่อย่างใด สิ่งที่เราพอจะทำได้ในตอนนี้ มีเพียงวิธีการที่จะทำให้หายสะอึกได้เร็วขึ้นก็เท่านั้น ซึ่งในวันนี้ #เหมียวศรัทธา ก็ได้นำตัวอย่างที่ว่ามาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันแล้ว ดังต่อไปนี้ อุดหู อุดหูของคุณประมาณ 20-30 วินาที หรือกดบริเวณที่นุ่มๆ ด้านหลังติ่งหู แถวๆ ฐานด้านล่างของกะโหลกศีรษะ นี้จะเป็นการส่งสัญญาณ “ผ่อนคลาย” ผ่านระบบประสาทช่วงคอ หรือเส้นประสาทเวกัส ซึ่งเชื่อมต่อกับกะบังลม ช่วยให้การเกร็งตัวสะอึกลดลง ดื่มน้ำ การกลืนน้ำโดยใช้หลอดจะช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทได้ การดื่มจากแก้วน้ำก็อาจมีผลเช่นเดียวกัน วิธีนี้มักจะช่วยหยุดการสะอึกได้ในหลายๆ คน แต่บางครั้งก็อาจจะต้องทำหลายๆ ครั้งหน่อย อุดหู และดื่มน้ำพร้อมกัน อาจจะฟังดูตลกเพราะมันก็เป็นเพียงการทำวิธีหยุดการสะอึกไปพร้อมๆ กันสองแบบเท่านั้น แต่ในตอนที่คุณอุดหูนั้น คุณกำลังกดประสาทเส้นประสาทเวกัสให้ผ่อนคลายจากการเกร็งไปพร้อมๆ กับการดูดน้ำที่จะทำให้มีการกลืนอย่างสม่ำเสมอจนระบบการกลืนกลับมาเป็นปกติ…
-
18 เรื่องจริงของกะจั๊วที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เจ้ายังรู้จักพลังที่แท้จริงของกะจั๊วน้อยไป!!!
อะไรเอ่ย? มีอยู่ในบ้านของแทบทุกคน? คำตอบคือ กะจั๊ว หรือแมลงสาบของเรานั่นเอง ไม่คือก็ต้องเชื่อเพราะแม้ว่าคุณจะไม่เห็นตัวมันกับตา แต่ก็เชื่อเถอะว่ามันจะต้องอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ นั่นล่ะ… โดยเฉพาะแถวๆ ท่อน้ำทิ้ง แมลงสาบนั้นเป็นสัตว์ที่ตายยาก แถมยังมีความสามารถมากมาย ไม่แน่นะว่าถ้าคุณได้อ่าน 18 เรื่องจริงของกะจั๊ว ต่อไปนี้ คุณอาจจะรู้สึกเคารพมันมากขึ้นนิดนึงก็ได้ ถึงแม้ว่าถ้าเจอกันจะต้องตายกันไปข้างเหมือนกันก็เถอะ แม้แต่ไดโนเสาร์ก็ยังต้องเจอกับแมลงสาบ แมลงสาบเป็นหนึ่งในแมลงที่มีอยู่มากในยุคเมโซโซอิก และอาจจะเคยมีอาหารหลักเป็นอึไดโนเสาร์ด้วยก็ได้ แมลงสาบโตเต็มวัยสามารถอยู่ได้ถึงหนึ่งปี วัฏจักรชีวิตจากไข่จนโตเต็มวัยใช้เวลาประมาณ 600 วันและอายุของแมลงสาบโตเต็มวัยจะในช่วงเวลาประมาณ 400 วัน แมลงสาบเพศเมียจะผลิต “แคปซูลไข่” ที่มีไข่ 30-48 ฟองต่อครั้ง และตัวเมียตัวหนึ่งมักจะผลิตแคปซูลไข่ได้ราวๆ 4-8 แคปซูลในช่วงชีวิตของมัน การศึกษาชิ้นหนึ่งได้พิสูจน์ว่าแมลงสาบตัวเมียสามารถสืบพันธุ์ได้ แม้ในกรณีที่ไม่มีตัวผู้ แมลงสาบสามารถแผ่ตัวแบนลงได้จนสูงแค่ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น และมันยังสามารถวิ่งต่อไปได้อย่างเต็มกำลังในขณะที่ทำตัวแบน แมลงสาบสามารถรองรับแรงกดได้ถึง 900 เท่าของน้ำหนักร่างกายตัวมัน แมลงสาบสามารถอยู่ได้นานหลายสัปดาห์โดยไม่มีหัว เนื่องจากแมลงสาบไม่ใช้สมองควบคุมการหายใจและไม่ต้องกินอาหารบ่อยนัก แมลงสาบสามารถอยู่ได้ราวๆ 1 เดือนโดยไม่มีอาหาร…
-
มารู้จักเด็กๆ ให้มากขึ้นดีกว่ากับ 8 ทฤษฎีที่น่าสนใจของความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
ว่ากันว่าเด็กๆ นั้นมองโลกต่างกับผู้ใหญ่ พวกเขานั้นทำอะไรลงไปโดยที่ยังคิดว่าตัวเองนั้นเป็นศูนย์กลางของจักรวาล และทุกๆ คนเป็นเหมือนดั่งดวงดาวที่หมุนรอบตัวของพวกเขาอยู่ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเด็กๆ ถึงเป็นเช่นนั้น นี่คือ 8 ทฤษฎีที่น่าสนใจของความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ที่จะมาตอบคำถามมากมายที่อยู่ในหัวเราเกี่ยวกับเด็กๆ ตั้งแต่การจินตนาการไร้ขอบเขตของพวกเขา เรื่อยไปจนทำไมบางครั้งพวกเขาก็พูดอะไรแปลกๆ ออกมา จินตนาการของเด็กๆ จนกว่าจะโตในระดับหนึ่ง เด็กเล็กจะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างจินตนาการกับความเป็นจริงได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขามั่นใจว่าสิ่งที่พวกเขาแต่งขึ้นมาเองในหัวมีอยู่จริง อย่างไรก็ตามหากเด็กได้ยินเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจากบุคคลอื่นพวกเขาก็จะไม่เชื่อมันเท่าไหร่นักคล้ายๆ กับผู้ใหญ่ การทดลองแสดงให้เห็นว่าเส้นแบ่งระหว่างความคิดและความเป็นจริงในการรับรู้ของเด็กน้อยนั้น มีอยู่ค่อนข้างน้อย เพราะพวกเขายังไม่เข้าใจว่าความรู้ใดเป็นความจริงนั่นเอง ขาดความคิดเชิงนามธรรม มีเรื่องที่ว่าเด็กที่อายุน้อยกว่า 11 ปีจะสามารถคิดโดยอิงถึงความเป็นจริงในปัจจุบันเท่านั้น และไม่สามารถคิดแบบนามธรรมได้ นักจิตวิทยา Rudolph Schaffer ได้ทำการทดลอง โดยถามเด็กสองกลุ่มว่าจะวางตาที่สามบนส่วนไหนของร่างกายดี เด็กทั้งหมดในกลุ่มที่อายุ 9 ปี จะชี้ไปที่หน้าผาก เพราะมีสองตาอยู่ที่บริเวณใกล้ๆ ส่วนกลุ่มที่สองที่ประกอบด้วยเด็กที่อายุ 11 ปีซึ่งสามารถคิดได้แบบนามธรรมได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเสนอทางเลือกที่แตกต่างกันไป เช่นการวางตาบนฝ่ามือเพราะจะทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นด้านหลังได้ การเรียนภาษา เด็กๆ จะสามารถเรียนรู้ภาษาได้ง่าย นักภาษาศาสตร์ Noam Chomsky อธิบายว่ามีสิ่งที่คล้ายๆ กล่องเครื่องมือในสมองของมนุษย์ซึ่งเชื่อมต่อกฎไวยากรณ์ของภาษาทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเซลล์สมองนับล้านที่รับผิดชอบต่อการรับรู้ของเด็กและการทำซ้ำคำพูดที่ก่อให้เกิดระบบการดำเนินการที่ซับซ้อน…
-
15 ความรู้ที่โรงเรียนไม่ได้สอน เพราะมันไม่มีประโยชน์…แต่มันเกร๋ มันเท่ มันคูลนะเว้ยยย
ยามจะหลับจะนอน เขาว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่สมองโลดแล่นมากที่สุด มักจะคิดหรือตั้งคำถามปรัชญาอะไรต่างๆ ได้มากมายในเวลานั้น ทั้งๆ ที่ในระหว่างวัน ไม่เคยคิดมาก่อน ซึ่งมันก็ไม่แปลกหากเราจะเกิดคำถามต่างๆ ขึ้น เพราะว่าโลกของเรานั้นมีแต่สิ่งมหัศจรรย์ที่เราเองก็ยังไม่เคยทราบมาก่อน ฉะนั้น วันนี้ #เหมียวโลลิ จึงขอเสนอ ความจริง 15 ข้อ ที่เมื่อคุณรู้แล้ว คุณจะจำมันไปตลอด… 1. ในทุกๆ วันคุณกลืนขี้มูกเข้าไปราว 1 ใน 3 แกลลอน 2. รู้ไหมว่าเสียงร้องของเจ้า Raptor ใน Jurassic Park ใช้เสียงของเต่าที่กำลังจะเสร็จสมอารมณ์หมาย… 3. อวัยวะส่วนแรกของการกำเนิดมนุษย์คือ ก้น โดยเฉพาะ รูทวาร ที่เป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาการ 4.การเคี้ยวหมากฝรั่งมันจะทำให้คุณ “ตด” บ่อยขึ้น เพราะว่าคุณกลืนอากาศเข้าไปเยอะนั่นเอง 5. ในทุกๆ ปี 98 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายคุณ จะกลายเป็นคนใหม่ เพราะอะตอมของคุณได้ผลัดเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่อยู่เสมอ…
-
ความรู้คู่ปัญญา 23 ความจริงของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ นำมาซึ่งความรู้ที่ไม่สิ้นสุด
มีคำกล่าวที่ว่าวิทยาศาสตร์ในวันนี้จะกลายเป็นเทคโนโลยีในวันหน้า การวิจัยและวิทยาศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้มนุษย์เราพัฒนาไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันในความก้าวหน้าของมนุษย์และจะมีสิ่งใหม่ๆ ออกมาให้มนุษย์เรียนรู้ได้เรื่อยๆ เทียบดั่งเช่นความจริงเกี่ยวกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 23 อย่างต่อไปนี้ ที่จะมาทำให้คุณรู้ว่า วิทยาศาสตร์นั้น นำมาซึ่งความรู้ใหม่ๆ อย่างไม่สิ้นสุดจริงๆ ในทุกๆ วันจะมีการค้นพบสัตว์ประมาณ 41 สายพันธุ์ อาการจี๊ดศีรษะเวลาทานของเย็นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sphenopalatine Ganglioneuralgia เราสามารถจุดไฟด้วยน้ำแข็งได้ มีกระบวนการชื่อว่า Toxineering ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนพิษให้กลายเป็นยาแก้ปวดได้ สิ่งแปลกๆ ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถทำได้ในปัจจุบัน ได้แก่ ชาร์จโทรศัพท์ด้วยฉี่ เปลี่ยนเนยถั่วลิสงเป็นเพชร และงอกฟันด้วยฉี่ นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ส่งออกซิเจนเข้าไปในเลือดโดยตรงได้แล้ว สิ่งสิ่งนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องหายใจ นักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่นระบุว่า แรงเสียดทานระหว่างรองเท้า เปลือกกล้วย และพื้นจะอยู่ที่ 0.07 หน่วย มันฝรั่งมีโครโมโซมมากกว่ามนุษย์เสียอีก มนุษย์มีโครโมโซม 46 ตัว ส่วนมันฝรั่งมี 48 ตัว มะเขือเทศมียีนมากกว่ามนุษย์เสียอีก มะเขือเทศมียีน 31,760 ตัว มากกว่ามนุษย์ราวๆ 7,000 ตัว…
-
คิดไปได้ไง 17 ผู้คนที่ไม่เพียงมีความรู้แปลกๆ ผิดๆ ในเรื่องเพศ แต่ยังฮาจนสงสัยว่าใครสอนมา
เพศศึกษานั้นสำคัญไฉน คนเราเวลาจะต้องไปอธิบายเรื่องเกี่ยวกับเพศศึกษาให้เด็กที่อายุน้อยกว่านั้น บางครั้งเราก็รู้สึกกระดากปากใช่ไหมล่ะ จะเล่าอย่างไรไม่ให้มากเกินไป และระดับไหนที่จะไม่น้อยจนเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่การสนเกี่ยวกับเรื่องเพศนั้นกลายเป็นเรื่องยากจนผู้ใหญ่หลายคนก็เลือกที่จะบอกเด็กๆ ว่า “โตไปก็รู้เอง” แทน แต่การทำแบบนั้นก็มีความเสี่ยงของมันอยู่ เพราะข้อมูลที่เด็กๆ จะได้รับนั้น อาจจะกลายเป็นข้อมูลอะไรผิดๆ ได้ง่ายกว่าที่คิด เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ ที่ไม่เพียงมีความรู้ผิดๆ ในเรื่องเพศ แต่ยังแปลกจนสงสัยว่าใครสอนมา แน่นอนว่าอ่านไปมันก็ตลกแน่ๆ แต่มันก็สะท้อนบางสิ่งให้เราเห็นอยู่เหมือนกัน น้องสาวของฉันบอกว่าเมื่อผู้ชายแข็งตัว จะทำให้ลูกอัณฑะทั้งสองของเขาออกมากลมเป๊ะๆ เหมือนลูกบอล ตอนที่ฉันยังอายุน้อย ฉันเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า เซ็กส์สีรุ้งอยู่ มันเป็นการมีเซ็กส์ที่ผู้ชายจะผสมน้ำเชื้อกับประจำเดือนของผู้หญิง แล้วก็จูบกันโดยที่อมมันเอาไว้ ฉันในตอนเด็กช่างน่ากลัวจริงๆ ในระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับออรัลเซ็กส์ มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอไม่เคยกลืน “มัน” เลย เพราะรสชาติมันห่วยแตกและเธอก็ไม่อยากจะท้องด้วย พวกเรานึกว่ามันเป็นมุกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเชื่อมาตลอดว่าถ้ากลืนจะทำให้ท้องได้ ตอนที่ฉันยังเด็กฉันคิดว่าการมีเซ็กส์เกิดขึ้นต่อหน้าครอบครัวทั้งหมด และเป็นการเฉลิมฉลองเหมือนกับงานเลี้ยงวันเกิด เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันรู้จักในโรงเรียนมัธยมใช้มือชักให้แฟนแต่ไม่ยอมปล่อยให้เขาถึง เพราะเธอคิดว่าถ้าน้ำกามเปื้อนมือ เธอจะสามารถตั้งครรภ์ได้จากระบบดูดซึมผ่านผิวหนัง ครูในวิทยาลัยที่ฉันเคยอยู่ เคยให้คำปรึกษาแก่สาววัยรุ่นที่งงกับการตั้งครรภ์ของตัวเอง เธอบอกว่าเธอ และแฟนหนุ่มของเธอใช้เนยแล้วแท้ๆ แต่ดันท้อง ครูของฉันเลยขอให้เธออธิบายหน่อย เธอบอกว่าเธอทาเนยที่ตัวเองเพื่อป้องกันตัวอสุจิ เนื่องจากน้ำกามมันเป็นน้ำ…
-
“วัวตัวไหนที่มีชื่อ จะให้นมมากกว่าวัวที่ไม่มีชื่อ” นี่คือสิ่งที่งานวิจัยจากอังกฤษบอกเรา
เป็นเรื่องปกติที่เราจะตั้งชื่อให้กับสัตว์ที่เราเลี้ยงเอาไว้ เพื่อที่เราจะได้จดจำมันได้ สร้างความคุ้นเคยให้กับพวกมันกับเรา แต่หากว่าสัตว์เหล่านั้นเป็นพวกไก่ วัว หมู หรือสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้เพื่อเอาผลิตผลจากพวกมัน เราก็อาจจะไม่ได้ตั้งชื่อให้กับพวกมันสักเท่าไหร่ แต่หากว่าคุณได้อ่านงานวิจัยชิ้นนี้ล่ะก็ คุณอาจจะอยากตั้งชื่อให้กับพวกมันก็ได้ เพราะเขาบอกว่าการตั้งชื่อให้กับวัว ช่วยให้พวกมันผลิตน้ำนมได้มากกว่าตัวที่ไม่มีชื่อ!? งานวิจัยนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Telegraph เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา โดยผู้ทำการวิจัยนี้มีชื่อว่าดอกเตอร์ Catherine Douglas และดอกเตอร์ Peter Rowlinson จากมหาวิทยาลัย Newcastle University พวกเขาได้ทำการสำรวจฟาร์มนมกว่า 516 แห่งในอังกฤษ แล้วพบว่าการปฏิบัติต่อพวกมันแบบเฉพาะเจาะจง จะช่วยให้พวกมันผลิตน้ำนมได้มากกว่าปกติ ปริมาณเฉลี่ยของนมที่วัวจะผลิตได้ในช่วง 10 เดือนคือ 13,198 แก้ว (หรือประมาณ 7,500 ลิตร) ในขณะที่วัวมีชื่อ จะผลิตนมได้มากขึ้นไปอีกราวๆ 454 แก้ว หรือ 258 ลิตร ด้านดอกเตอร์ Douglas กล่าวว่า “เหมือนกับคนที่รู้สึกตอบสนองได้ดีกว่ากับการให้ความสำคัญ วัวก็เช่นกัน พวกมันจะรู้สึกมีความสุขมากกว่าและผ่อนคลายมากกว่าถ้าพวกมันได้รับการสนใจแบบตัวๆ ไป” “เกษตรกรหลายคนให้ความรักกับวัวของพวกเขาและดูแลพวกมัน…
-
อึ้งเหมือนโดนผึ้งต่อย 17 เรื่องจริงที่คุณอาจจะไม่เคยรู้ของ “ผึ้ง” สัตว์ใกล้ตัวของพวกเรา
จากข้อมูลการค้นพบล่าสุด ผึ้งน้ำหวานกำลังตกอยู่ในอันตรายจากการลดจำนวนลงอย่างมาก แม้ว่าพวกมันจะหาทางที่จะเอาชีวิตรอดมานับล้านปีแล้วก็ตาม ถ้าหากการลดจำนวนลงของผึ้งยังเป็นแบบนี้ต่อไป สิ่งที่ Albert Einstein เคยคาดการไว้ที่ว่า “หากผึ้งน้ำหวานหายไปจะทำให้เกิดหายนะไปทั่วโลกในเวลาเพียงสี่ปี” อาจจะกลายเป็นจริงก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อที่จะให้พวกเรารับรู้ถึงชีวิตของพวกผึ้งมากขึ้น วันนี้ #เหมียวศรัทธา จึงได้ขอนำเสนอ 17 เรื่องจริงที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับสัตว์ใกล้ตัวเราอย่างผึ้งน้ำหวาน ผึ้งน้ำหวานนั้นสื่อสารกันด้วยการเต้นรำ การเต้นรำนี้จะเป็นการส่งสัญญาณให้กันผ่านทางการเคลื่อนไหวในรูปแบบเฉพาะ ผึ้งเป็นแมลงเพียงชนิดเดียวที่ผลิตอาหารที่มนุษย์นำมารับประทาน ไม่นับพวกแมลงที่เราทานตัวของมันนะ เสียงหึ่งๆ ของผึ้งจะสร้างขึ้นจากปีกของมัน ซึ่งกระพือมากกว่า 11,400 ครั้งต่อนาที เมื่อผึ้งตัวผู้ถึงจุดสุดยอดในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ลูกอัณฑะของมันจะระเบิดออก และมันจะตาย ผึ้งนั้นฉลาด แม้ว่าสมองของผึ้งมีรูปร่างเหมือนรูปไข่ และมีขนาดเท่าเมล็ดงาก็ตาม พวกมันมีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ แถมยังสามารถคำนวณเรื่องระยะทางในการหาอาหารได้อีกด้วย นางพญาผึ้งนั้นมีอายุได้ถึง 5 ปี และมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือการวางไข่ ในช่วงฤดูร้อนที่รังต้องการแรงงานผึ้งจำนวนมาก นางพญาผึ้งสามารถวางไข่ได้มากถึงวันล่ะ 2,500 ฟองเลยทีเดียว ถ้าหากว่านางพญาผึ้งเกิดตายขึ้นมา ผึ้งงานจะสร้างนางพญาตัวใหม่ขึ้นโดยการให้อาหารพิเศษที่เรียกกันว่า “นมผึ้ง” แก่ตัวอ่อนที่เพิ่งเกิด และทำให้ตัวอ่อนที่ว่าเติบโตขึ้นเป็นนางพญาตัวต่อไป ผึ้งงานเท่านั้นที่สามารถต่อยได้ และมันจะทำเฉพาะในกรณีที่รู้สึกว่าถูกคุกคามเท่านั้น เพราะมันจะตายหากมีการใช้เหล็กใน ส่วนนางพญานั้นแม้มีเหล็กในแต่มันไม่เคยออกจากรัง โดยมีการคาดว่าจะใช้การต่อยโดยเฉลี่ย 1,100 ครั้งในการฆ่ามนุษย์หนึ่งคน…
-
พบกับสัตว์ 5 ชนิดที่มีพลังพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น เหมือนกับพลังของซูเปอร์ฮีโร่เลย
ในโลกของเรามีเรื่องมหัศจรรย์มากมายที่เรายังไม่เคยรู้ และสัตว์ 5 ตัวที่เรากำลังจะนำเสนอนี้ก็คือหนึ่งในความมหัศจรรย์เหล่านั้น พวกมันแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่พูดไปแล้วก็ดูเหมือนพลังจิตหรือความสามารถพิเศษของเหล่าฮีโร่เหมือนกัน จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย 1. บัมเบิ้ลบี กับพลังมองเห็นอดีต ผึ้งสายพันธุ์บัมเบิ้ลบีมีความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ก็คือพวกมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาในระหว่างที่กระพือปีกด้วย ซึ่งผลวิจัยจากนิตยสารวิทยาศาสตร์ Science ได้ระบุมาแล้วว่าทุกครั้งที่พวกมันเกาะบนดอกไม้ก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้านี้ลงไป แล้วพอมีผึ้งตัวใหม่มาเกาะ พวกมันก็จะสัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้านี้แล้วรู้ว่ามีผึ้งมากินน้ำหวานไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็จะบินไปหาดอกไม้อื่นแทน 2. เหยี่ยวเพเรกริน กับความเร็วปานสายฟ้าแลบ เหยี่ยวเพเรกรินเป็นสัตว์ที่มีความเร็วมากกว่าเสือชีตาซะอีก ถ้าเปรียบมันเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็คงจะเป็น เดอะแฟลช ในชีวิตจริง มันสามารถบินได้ด้วยความเร็วเกือบ 390 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเชียวนะ ซึ่งความสามารถนี้แหละที่ทำให้มันเป็นนักล่าในธรรมชาติที่น่ากลัวมาก บินลงมาโฉบเอาเหยื่อไปได้โดยที่เหยื่อไม่ทันรู้ตัวเลย 3. ตัวสลอธ 3 นิ้ว กับสุดยอดความสามารถฟื้นฟูบาดแผล ถึงแม้สลอธจะไม่ได้รวดเร็ว แต่มันมีพลังที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งซึ่งก็คือการฟื้นฟูบาดแผลให้ตัวเองให้หายในเวลาอันรวดเร็ว ความสามารถนี้ทำให้บาดแผลแทบทุกอย่างที่มันได้รับไม่ทำให้มันบาดเจ็บถึงตาย เพราะได้รับการฟื้นฟูก่อน ถ้าพูดให้เห็นภาพชัดเจนเราก็อาจจะบอกได้ว่ามันฟื้นฟูตัวเองได้ดีเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ เดดพูล เลย แถมหลังรักษาแล้วบาดแผลของมันยังไม่ติดเชื้อด้วยนะ ความสามารถนี้แหละเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกสลอธอายุยืน 4. กวางเรนเดียร์ กับการมองเห็นที่เหนือชั้น กวางเรนเดียร์มีความสามารถในการรับภาพที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันสามารถมองเห็นแสงยูวีได้…
-
ศาสตราจารย์อังกฤษ เผยเหตุผลทำไม “การงีบหลับ” นี่แหละ คือกุญแจสำคัญของความสุข
ช่วงเวลาบ่ายๆ ของทุกวันดูจะเป็นช่วงที่ง่วงเหงาหาวนอนมากที่สุด ยิ่งคุณทำงานในออฟฟิศที่ต่างคนต่างทำงาน ไม่ค่อยเปิดเพลงหรือคุยกัน มีโอกาสสูงถึง 70% ที่คุณจะเผลอสัปหงกเอาได้ง่ายๆ (แต่ถ้าคุณเป็นคนสู้ชีวิตก็แล้วไป) เมื่อเกิดอาการง่วง คุณอาจจะรู้สึกผิดที่ฟุบหน้าลงไปหลับสักงีบ เพราะด้วยสายตาของเพื่อนร่วมงานและเจ้านายที่จับจ้องคุณอยู่ แต่หากมันทนไม่ไหวแล้วล่ะก็งีบลงไปเลย แล้วส่งข่าวนี้ให้กับเจ้านายของคุณอ่านทีหลังก็ได้ เมื่อราวๆ ต้นปี 2017 ได้มีนักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างการงีบหลับสั้นๆ กับความสุข จึงทำให้พวกเขาพบว่ามันมีความสัมพันธ์กัน เพราะการงีบหลับนี่แหละที่ช่วยให้เรามีความสุขได้อย่างน่าประหลาด ศาสตราจารย์ Richard Wiseman จากมหาวิทยาลัย University of Hertfordshire ในประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “การวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่างีบหลับภายในเวลา 30 นาทีทำให้คุณมีสมาธิ กระปรี้กระเปร่า และสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งผลการวิจัยใหม่เหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่คุณจะมีความสุขมากขึ้นจากการงีบสั้นๆ ด้วย ในทำนองเดียวกัน การงีบยาวๆ ดันมีความสัมพันธ์กับสุขภาพที่แย่ลง” การศึกษานี้เกิดขึ้นจากการออกแบบสอบถามออนไลน์กับคน 1,000 คน เพื่อตอบคำถามทางจิตวิทยาที่ถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอนหลับของแต่ละคน ตามรายงานพบว่ากลุ่มคนที่ชอบงีบ (Nappers) จะมีคะแนนความสุขมากกว่าอยู่ที่ 3.67/5 คะแนน ส่วนคนที่ไม่งีบเลยมีคะแนนอยู่ที่ 3.52/5 คะแนน และกลุ่มที่งีบยาวๆ อยู่ที่ 3.44/5…
-
12 เรื่องจริงที่น่าสนใจ เกร็ดความรู้ประดับสมองที่อาจจะมีประโยชน์กับคุณมากกว่าที่คุณคิด
ในโลกเรานั้นยังมีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมาก ความรู้มากมายบนโลกนั้น เป็นเรื่องที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายใดๆ ความรู้รอบตัวนั้นมักจะทำให้คนเราได้เปรียบคนอื่นในเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออยู่เสมอๆ และถึงจะไม่ได้ใช้อะไรมากมายแต่ก็สามารถนำมาเล่าเป็นเรื่องเล่าได้ไม่ยาก อาจจะดูเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่ความรู้นั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่ตายจากไปจริงๆ เหมือนกับ 12 ความรู้ประดับสมองต่อไปนี้ที่สักวันหนึ่งอาจจะมีประโยชน์กับคุณมากกว่าที่คุณคิดก็ได้ ชาวโรมันโบราณใช้ฉี่ในการทำความสะอาดฟัน เรื่องนี้อาจจะเคยได้ยินกันไปแล้ว แต่รู้ไหมว่านอกจากฟันแล้วชาวโรมันยังใช้ฉี่ในการซักผ้าด้วย ธนบัตรของสหรัฐฯ มากกว่า 90% มีร่องรอยของโคเคน ความจริงข้อนี้ชี้ให้เห็นว่าธนบัตรส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เคยผ่านมือตัวแทนจำหน่ายยาเสพติดหรือผู้ใช้โคเคน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าที่เป็นแบบนี้เพราะธนบัตรมักจะถูกใช้เป็นหลอดสูดโคเคนนั่นเอง เปอร์เซ็นต์โคเคนในธนบัตรที่พบมากที่สุดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ส่วนที่ต่ำสุดอยู่ในประเทศจีนและญี่ปุ่นราวๆ 12-20% กินลูกอมหลังจากรับประทานอาหารดีกว่าการแปรงฟันทันทีเสียอีก น้ำลายของเราเองมีเอนไซม์พิเศษที่ช่วยในการละลายเศษอาหารและล้างมันออกจากปาก นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่เป็นกรดของปากของเรายังทำให้เคลือบฟันนุ่มลงในบางครั้งเพื่อให้น้ำลายสามารถย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่การแปรงฟันหลังอาหารทันทีสามารถทำให้เคลือบฟันเสียได้ ถ้าอยากจะแปรงฟันแนะนำให้รออย่างน้อย 30 นาทีก่อน ส่วนการเคี้ยวหมากฝรั่งหรือกินลูกอมบางชนิดจะทำให้เราผลิตน้ำลายมากขึ้น ว่าง่ายๆ ว่าทำให้ย่อยอาหารของน้ำลายง่ายขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง สีแดงไม่ได้ทำให้วัวกระทิงโกรธแต่อย่างใด กระทิง แยกแยะความแตกต่างของสีแดงจากสีอื่นไม่ได้ เนื่องจากพวกมันตาบอดสี แต่ที่มันวิ่งไล่ผ้านั้นเป็นเพราะมันมีปฏิกิริยากับการเคลื่อนไหวของผ้าต่างหาก คล้ายๆ กับเวลาเอาหญ้าไปแกว่งล่อแมวนั่นล่ะ การนอน 8 ชั่วโมง ไม่ใช่มาตรฐานที่ถูกต้อง ระยะเวลาของการนอนหลับที่แต่ละบุคคลต้องการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่นพันธุกรรม อายุ สุขภาพ และสภาพแวดล้อมภายนอก ในการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าอายุขัยเฉลี่ย…
-
หนุ่มๆ ฟังไว้ วิจัยบอกว่าควร “ชู้กวู้ว” อย่างน้อยๆ 21 ครั้งต่อเดือน เพื่อสุขภาพตัวเองนะ!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2017 Jessica Farrar นักการเมืองจากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเรียกร้องให้เหล่าชายหนุ่มหยุดการ “ชู้กวู้ว” เพราะมันคือการกระทำที่ต่อต้านการให้กำเนิดบุตร (ประมาณว่าถ้าทำแล้วก็จะทำให้เด็กคนนั้นๆ ไม่ได้กำเนิดมานั่นเอง) และหากใครฝ่าฝืนก็จะมีการปรับเป็นจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,112 บาท แต่โชคดีของหนุ่มๆ เท็กซัสซะเหลือเกิน เพราะมันยังเป็นแค่การพูดคุยเฉยๆ ไม่ได้กลายเป็นข้อกฎหมายที่มีการบังคับใช้จริงๆ และเพื่อเป็นการสนับสนุนเหล่าชายหนุ่มว่าการ “ชู้กวู้ว” เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราก็เลยเอางานวิจัยหนุกๆ ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาให้ได้อ่านกัน งานวิจัยที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ europeanurology.com เมื่อราวๆ เดือนธันวาคมปี 2016 พบว่าการการทำกิจกรรมทางเพศหรือการช่วยตัวเอง มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูร่างกายและลดโอกาสในการป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างดี การศึกษานี้ได้ศึกษาพฤติกรรมทางเพศของชายหนุ่มกว่า 32,000 คน จนสรุปได้ว่าคนที่มีอัตราการหลั่งออกมาสูงกว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่านั่นเอง บางช่วงบางตอนของงานวิจัยเขียนเอาไว้ว่า “เราพบว่าผู้ชายที่อยู่ในรายงานของเรา เมื่อเปรียบเทียบคนที่ช่วยตัวเองบ่อยครั้งกับคนที่ช่วยตัวเองน้อยครั้ง พบว่าคนที่ช่วยตัวเองบ่อยนั้นจะมีโอกาสพบโรงมะเร็งต่อมลูกหมากได้น้อยกว่านั่นเอง การศึกษาที่มีความคาดหวังใหญ่ขนาดนี้จะเป็นหลักฐานที่แข็งแกร่งที่ชี้ว่าการช่วยตัวเองมีประโยชน์ขนาดไหนในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก” ส่วนจำนวนครั้งที่พอเหมาะพอดีสำหรับการช่วยตัวเองนั้นคือ 21 ครั้ง/เดือน เพราะงานศึกษาชิ้นนี้พบว่ามันช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 33% เลย แต่ๆๆ นอกจากการชู้กวู้วบ่อยๆ…
-
19 ความจริงอันน่าสนใจ ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงกับชีวิต แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
ในโลกใบนี้นั้นมีเรื่องที่น่ารู้อยู่มากมายกว่าที่เราคิด เรื่องบางเรื่องนั้นแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเราโดยตรง มันก็ยังน่าสนใจที่จะรู้ไว้เล่าให้คนอื่นฟังต่อ มันเป็นทั้งสาระ และประวัติศาสตร์ของสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่จริง เป็นเรื่องน่าสนใจ ที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย เหมือนกับความจริงทั้ง 19 ข้อต่อไปนี้ ที่จะมาเติมเต็มความใฝ่รู้ของพวกเราได้เป็นอย่างดี Andre Stander เป็นทั้งโจรปล้นธนาคาร และตำรวจในเวลาเดียวกัน บางครั้งเขาจะไปปล้นธนาคารในตอนพักเที่ยง และกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งในฐานะพนักงานสืบสวน เวลาในการเข้าห้องน้ำที่ดีที่สุดนั้นคือตอนเช้า เพราะร่างกายเราย่อยอาหารจากเมื่อวานในตอนที่หลับ ภาพของ George Washington บนธนบัตรของสหรัฐ มาจากภาพที่รู้จักกันในชื่อ The Athenaeum Portrait ของ Gilbert Stuart ซึ่งเป็นภาพที่วาดไม่เสร็จ การสูบกัญชาจะป้องกันไม่ให้เราฝันตอนหลับได้ เมื่อได้รับบาดเจ็บ สิงโตจะเสียแผงคอไป ดังนั้นสิงโตตัวผู้จะเลี่ยงที่จะสู้กับศัตรูที่มีแผงคอยาว เพราะมีความเป็นไปได้ว่าสิงโตตัวนั้นจะไม่เคยแพ้ใคร เคยรู้สึกไหมว่าคุณจะหลับไม่สนิทในคืนแรกที่สถานที่ใหม่ๆ นั่นเป็นเพราะสมองของคุณหลับไปเพียงครึ่งเดียวส่วนอีกครึ่งนั้น ยังคงตื่นตัวเพื่อรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาการนี้มีเรียกกันว่า “First Night Effect” นกอินทรีหัวขาวจะใช้ขนในการคงตัว ดังนั้นหากขนที่ปีกข้างหนึ่งหลุดไป ขนในตำแหน่งเดียวกันที่ปีกอีกข้างก็จะหลุดไปด้วยเช่นกัน …
-
10 นิสัยผิดๆ ที่พวกเราอาจจะคิดว่าทำแล้วดี แต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ในโลกใบนี้มีความเชื่อผิดๆ อยู่มากมายกว่าที่คิด บางสิ่งบางอย่างเป็นอะไรที่เราได้ยินมาตั้งแต่เมื่อสมัยยังเด็ก และหลายๆ อย่างที่เราเชื่อกันมาเพราะมันฟังดูสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ไม่ถูกต้องนั้นสักวันก็จะถูกพิสูจน์ และนำมาซึ่งความจริงที่ถูกต้องกว่า ดั่งเช่น 10 นิสัยผิดๆ ที่พวกเราอาจจะคิดว่าทำแล้วดี แต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด ต่อไปนี้ การทำความสะอาดหู เป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นประจำ เรื่องแรกนี้ต้องทำความเข้าใจกันเล็กน้อย การทำความสะอาดหูนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่แคะหูด้วยตัวเองต่างหาก ที่อาจจะเป็นอันตรายได้ ขี้หูนั้นจะเคลือบด้านในของหู และปกป้องหูจากเชื้อแบคทีเรียเชื้อรา และแมลงได้ แถมร่างกายของคนเรานั้นมีกลไกที่จะกำจัดขี้หูออกไป โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่หากคุณทำความสะอาดหูด้วยตัวคุณเอง คุณอาจจะได้รับผลตรงข้าม เมื่อคุณทำการแคะหูคุณเองด้วยคอตตอนบัด ขนของคอตตอนบัดที่ตกค้างจะทำให้เกิดการผลิตขี้หูมากขึ้น สิ่งที่คุณควรทำคือการทำความสะอาดหูของคุณออกเบาๆ ด้วยผ้าเปียกหลังอาบน้ำก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามในบางกรณีร่างกายของคนเราอาจจะไม่สามารถกำจัดขี้หูออกไปได้หมด ในกรณีนั้นแนะนำให้ไปพบผู้เชียวชาญเฉพาะทางเลยจะดีกว่า ให้ยืนห่างๆ ไมโครเวฟเวลาเครื่องกำลังทำงาน เตาอบไมโครเวฟนั้น ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนคิด มันต่างจากรังสีเอกซ์ที่ใช้ในการเอ็กซเรย์มาก ไมโครเวฟไม่ได้ผลิตสารเคมีหรือรังสีที่เป็นไอออนไนซ์ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อดีเอ็นเอหรือการกลายพันธุ์ของยีน ในความเป็นจริงไมโครเวฟทำขึ้นเพื่อให้รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตได้ไม่หลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้วด้วย ดังนั้นตราบใดที่คุณไม่กอดไมโครเวฟที่เปิดอยู่ การใช้ไมโครเวฟจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อสุขภาพ กดน้ำทันทีที่ทำธุระเสร็จโดยไม่ปิดฝาชักโครก ทุกคนรู้ดีว่าควรกดน้ำทันทีที่ทำธุระเสร็จ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างถูกต้อง ถ้าฝาชักโครกน้ำทิ้งไว้ก่อนกดน้ำ อนุภาคเล็กๆ ของแบคทีเรียจะสามารถพ่นขึ้นจากการกดน้ำได้สูงถึง 2 เมตร…
-
อะไรนะ…แค่ดื่มไวน์ ก็ลดน้ำหนักได้!!? นักวิทย์ฯ เผยในไวน์มีสารโพลีฟีนอลช่วยลดน้ำหนัก
สำหรับใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก แล้วรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร วันนี้มีทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ชิลๆ ด้วยการ “ดื่มไวน์” เท่านั้น! ไม่ได้เป็นการล้อเล่นหรือพูดขำๆ ทั้งนั้น เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้เสนอว่า ดื่มไวน์ 2 แก้วก่อนเข้านอน จะช่วยให้คุณมีน้ำหนักลดลงได้ วิธีการลดน้ำหนักโดยการดื่มไวน์นี้ มาจากการศึกษาของ Washington State University และ Harvard Medical School ซึ่งการศึกษาดังกล่าวพบว่ามีสารโพลีฟีนอลที่ดีต่อร่างกายชื่อว่า “Reservatrol“ เป็นส่วนประกอบอยู่ใน “ไวน์แดง” ที่จะช่วยเราในการลดน้ำหนัก เจ้าสาร Reservatrol นี้จะช่วยเปลี่ยน “ไขมันสีขาว” ที่เผาผลาญยาก ให้กลายเป็น “ไขมันสีน้ำตาล” ที่สามารถถูกเผาผลาญได้โดยง่าย และนอกจากนี้เจ้าสาร Reservatrol ยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งความอยากอาหารอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากดื่มไวน์แดงเข้าไปแล้ว คุณจะทานอาหารน้อยลง แต่ถ้าหากว่าใคร ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย ก็ไม่เป็นไร ยังมีทางเลือกอื่นอีก เพราะว่าเจ้าสารโพลีฟีนอล Reservatrol ตัวนี้ยังมีอยู่ในผลไม้หลายชนิด เช่น บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ และองุ่น เป็นต้น อย่างนี้ #เหมียวฝึกหัด…
-
9 สาระและเกร็ดความรู้อันน่าสนใจ ที่จะทำให้ผู้ฟังทึ่งไปกับความรอบรู้ของผู้เล่าได้อย่างดี
โลกของเรานั้นยังมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกมากมายนัก การที่ได้รู้อะไรมากกว่าคนอื่นนั้นมักที่จะทำให้เราได้เปรียบในด้านใดด้านหนึ่งอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะในการแข่งขันของสังคม การงาน หรือเพียงเรื่องเล็กๆ อย่างทำให้เรื่องเล่าของเรามีความน่าสนใจมากขึ้น ความจริงต่อไปนี้อาจจะเป็นเพียงเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรนัก แต่ก็เป็นเกร็ดความรู้อันน่าสนใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ฟังทึ่งไปกับความรอบรู้ของผู้เล่าได้เป็นอย่างดี ไอน์สไตน์เคยจะได้เป็นประธานาธิบดี หลังจากที่ประธานาธิบดีของอิสราเอลเสียชีวิตไปในปี 1952 นายกรัฐมนตรีของประเทศอิสราเอลในตอนนั้นได้มีการติดต่อไปหาไอน์สไตน์เพื่อยืนข้อเสนอให้เขามาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของอิสราเอล ไอน์สไตน์รู้สึกดีใจกับข้อเสนอนี้มาก แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไปโดยที่ให้เหตุผลว่า “สำหรับผมแล้วสมการทางคณิตศาสตร์มีความสำคัญมากกว่าการเมืองมาก เพราะแม้การเมืองจะเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบัน แต่สมการทางคณิตศาสตร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอยู่ตลอดกาล” ในอดีต ต่างหูเป็นเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเท่านั้น สำหรับชาวอียิปต์โบราณแล้วต่างหูเป็นสัญลักษณ์ของสถานะที่สูงส่งเช่น สมาชิกของพระราชวงศ์ นักบวช และคนร่ำรวยเป็นต้น ในยุคการเดินเรือนั้น ลูกเรือจะใส่ต่างหูหลังจากที่พวกเขาข้ามเส้นศูนย์สูตรได้สำเร็จ มันทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะดื่มแอลกอฮอล์ฟรี และวางเท้าบนโต๊ะในร้านเหล้า นอกจากนั้นพวกโจรสลัดยังสวมต่างหูเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำลายเรือไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งลำ ส่วนทหารจะสวมต่างหูเพื่อเป็นเป็นเครื่องเตือนใจถึงบ้านที่จากมา กระดุมแขนเสื้อเคยมีไว้ใช้ ป้องกันทหารเช็ดน้ำมูกกับแขนเสื้อ กระดุมแขนเสื้อไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อความสวยงามหรือทำให้แขนเสื้อพอดีเท่านั้น ในสมัยก่อนนโปเลียน โบนาปาร์ตได้สั่งให้มีการเย็บกระดุมลงไปบนแขนเสื้อของทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเช็ดน้ำมูกกับแขนเสื้อนั่นเอง จีเอ็มโอนั้นไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ จีเอ็มโอหรือ Genetically Modified Organism (สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ได้รับการยืนยันจากทางสถาบันวิทยาศาสตร์และงานวิจัยจำนวนมากแล้วว่าไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งที่คุณเรียกว่าจีเอ็มโอก็คือผลไม้หรือผักที่คุณสามารถปลูกได้ในสวนของคุณเองนั่นล่ะ ข้อแตกต่างเพียงประการเดียวคือมันมีการแต่งพันธุกรรมให้สามารถช่วยปกป้องตัวเองจากปรสิตได้ ทำให้ผักและผลไม้เหล่านี้เติบโตได้ดีขึ้น อีกทั้งสินค้าจำนวนมากในปัจจุบัน ล้วนแต่ทำมาจากพืชจีเอ็มโอทั้งนั้น หลังจากฝนตก เราจะได้ยินเสียงได้ชัดขึ้น การได้ยินเสียงระหว่าง และหลังฝนตกจะดีขึ้น เนื่องจากมีฝุ่นละออง หรืออนุภาคอื่นๆ อยู่ในอากาศน้อยลง…
-
ร่วมฝึกพลังสมอง ไขปริศนาให้ได้ทั้ง 9 ข้อ ช่วยพัฒนาความคิดให้เฉียบคม ถ้าไม่งงไปก่อน…
สมองและความคิดของเรา ก็เหมือนกับร่างกาย ที่หากว่าไม่ได้ใช้งานมันเป็นเวลานาน มันก็อาจจะเสื่อมสมรรถภาพลงได้ ฉะนั้น คนเราจึงควรมีการกระตุ้นให้สมองเกิดการทำงานและมีการใช้ความคิดอยู่อย่างสม่ำเสมอ เสมือนเป็นการออกกำลังกายให้กับสมอง วันนี้ Catdumb จึงขอเสนอ 9 ปริศนา ท้าให้คุณแก้ เพื่อเป็นการบริหารสมองและพัฒนาทักษะในการคิดที่มีประสิทธิภาพ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เชิญไปไขปริศนากันเลยยย 1. แก้วน้ำใบไหนน้ำมากที่สุดเอ่ย? เฉลย: เราจะเริ่มจากข้อที่ง่ายๆ ก่อนก็แล้วกันเนอะ อย่างที่หลายๆ ท่านสังเกตเห็น ว่าคลิปหนีบกระดาษดูเป็นสิ่งที่กินพื้นที่น้อยที่สุด ซึ่งถูกต้องเลย แก้วน้ำที่มีน้ำมากที่สุดก็คือแก้ว B นั่นเอง 2. ของที่ปรากฏทางด้านขวา คุณสามารถหาเจอในภาพนี้หรือไม่? เฉลย: 3. รู้หรือไม่ ภาพที่จะปรากฏตรงเครื่องหมายคำถามจะมีลักษณะอย่างไร? เฉลย: หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันคือตัวเลข 1-5 หันหน้าชนกันอยู่ ฉะนั้น รูปต่อไปก็คือ 6 4. จงหารูป “กากบาท” ที่สมมาตร…
-
ว็อทอีสดีส!? รวม 17 เรื่องราวแปลกประหลาดแต่เกิดขึ้นจริง ไปเหลาให้เพื่อนฟังต่อก็ยิ่งดี!!
คนในสมัยก่อนมักจะเปรยไว้ว่า ‘โลกของเรานั้นกว้างใหญ่ ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน’ คนเราที่เชื่อว่าตัวเองรู้อะไรมามากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ยังมีเรื่องราวอีกใหม่ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบันให้ได้เรียนรู้อยู่ดี อย่างเช่นเรื่องราวอันแปลกประหลาดทั้ง 17 เรื่องดังต่อไปนี้ แม้จะไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่ แต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ มาแล้วนะ!! เวลาการเกิดที่ห่างกันที่สุดของเด็กแฝดจากครรภ์เดียวกันคือ 87 วัน ตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ลึกที่สุดในโลกนั้น ตั้งอยู่ใต้น้ำ 10 เมตรที่อ่าว Susami ในประเทศญี่ปุ่น ถุงยางที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ค้นพบ มาจากช่วงปี 1640 และทำมาจากเครื่องในของสัตว์ และปลา ลายบนลิ้นของมนุษย์เรานั้นจะไม่ซ้ำกับใครเลยบนโลก เช่นเดียวกับลายนิ้วมือ จิงโจ้เพศหญิง มีสามช่องคลอด โดยจะทำหน้าที่แยกส่วน ระหว่างลำเลียงน้ำเชื้อและทำการคลอดลูกจิงโจ้ แสงนั้นไม่ได้เดินทางด้วยความเร็วแสงเสมอไป โดยแสงที่เดินทางช้าที่สุดที่มีการบันทึกไว้ มีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เป็นความเร็วที่แสงเดินทางผ่านก๊าสอะตอมมิคชนิดหนึ่ง) Northern Leopard Frog ใช้ดวงตาเพื่อช่วยในการกลืนเหยื่อ ด้วยการใช้ตาหดเข้าไปในหัวของมันและดันอาหารลงลำคอไป ชายคนแรกที่ปัสสาวะบนดวงจันทร์คือ Buzz Aldrin หลังจากที่เขาก้าวลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์ได้ไม่นาน …
-
13 เรื่องจริงสั้นๆ แต่น่าสนใจ เล่าจบได้ภายในหนึ่งนาที จะจำไปเล่าก็ได้แม้เป็นคนขี้ลืม
อยากได้เรื่องน่าสนใจไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันไหม? แต่การที่จะจำเรื่องน่าสนใจไปเล่านั้นบางทีก็ใช้เวลามาเกินไป ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้เรื่องราวสั้นๆ แต่น่าสนใจใช่รึเปล่า? ถ้าใช่ นี่คือบทความสำหรับคุณ แต่ถึงไม่ใช่ บทความนี้ก็น่าสนใจสำหรับคุณอยู่ดี ดังนั้นในวันนี้ #เหมียวฝึกหัด ขอนำเสนอ 13 เรื่องจริงที่ สั้นๆ แต่ก็น่าสนใจไม่เบา แถมยังสามารถเล่าจบได้ภายในหนึ่งนาที ใครๆ ก็จำไปเล่าได้แม้เป็นคนขี้ลืมก็ตาม… หนึ่งล้านวินาทีเท่ากับ 11 วัน แต่พันล้านวินาทีนั้นเท่ากับ 31 ปีเลยทีเดียว ในจุดๆ หนึ่ง คุณจะเป็นคนต่อไปที่จะตายไปจากโลกใบนี้ อ่างอาบน้ำ คือสิ่งที่ตรงข้ามกับเรือ เพราะอ่างอาบน้ำมีน้ำอยู่ข้างใน แต่เรือมีน้ำอยู่ข้างนอก ตั้งแต่ถูกตั้งเป็นดาวเคราะห์ จนถูกถอนชื่อการการเป็นดาวเคราะห์ ดาวพลูโตยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ไม่ครบรอบเลย ถ้าคุณมองโลกจากดาวที่ห่างออกไป 65 ล้านปีแสง คุณจะยังเห็นไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ จะใช้เวลาขับรถแค่ราวๆ 1 ชั่วโมงในการออกไปนอกโลก ถ้าหากว่าคุณสามารถขับรถตรงขึ้นไปเลย ประเทศรัสเซีย มีพื้นที่มากกว่า พื้นผิวดาวพลูโต ตอนนี้เรามีดาราหนังโป๊ที่เกิดในปี…
-
เผื่อไว้นะ… เผยข้อมูล 12 ความจริงเกี่ยว “น้องจ้อน” ของคุณผู้ชาย ความไม่ลับแต่ยังไม่ทราบ
อวัยวะเพศชาย จ้อน จู๋ หรือองคชาติ และอีกหลายๆ คำเรียกนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องเกิดคำถามกันมานักต่อนัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มันเป็นสิ่งสำคัญของผู้ชายอย่างยิ่งยวด นอกจากจะเป็นอวัยวะสำหรับใช้สืบพันธุ์แล้ว มันยังมีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมอีกด้วย วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องราวที่เฉพาะเจาะจงกับ “น้องจ้อน” ของผู้ชายกันดีกว่า เราจะได้ทำความรู้จักและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยกับ 12 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองคชาติที่คุณอาจไม่เคยรู้ 1. องคชาติมีหน้าที่หลัก 2 ประการ Michael Reitano แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศบอกไว้ว่า องคชาตินั้นมีหน้าที่หลักอยู่ 2 ประการด้วยกันคือ ประการแรก มีไว้ถ่ายของเสียในรูปแบบของปัสสาวะ ประการที่สอง ก็คือ เป็นท่อลำเลียงน้ำเชื้ออสุจิจากอัณฑะออกนอกร่างกาย เพื่อใช้สำหรับสืบพันธุ์และความสุขทางเพศ 2. องคชาติพัฒนาขึ้นมาจากอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายคลิตอริสในเพศหญิง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเริ่มต้นชีวิตด้วยเพศหญิงหรือเพศเมีย ก่อนที่จะมีกระบวนการผสมโครโมโซม ฉะนั้น อวัยวะเพศชายจึงไม่แปลกที่จะพัฒนาขึ้นมาด้วยโครงสร้างเดียวกับคลิตอริส เมื่อสิ้นสุดกระบวนการผสมโครโมโซม โครโมโซม XX ก็จะทำให้เกิดเป็นเพศหญิงที่มีคลิตอริสและช่องคลอด ขณะที่โครโมโซม XY ก็จะพัฒนาขึ้นมาเป็นองคชาติและอัณฑะ 3. องคชาติประกอบด้วยท่อ 3 ท่อ…
-
10 วิธีแก้ปัญหาอาการ ‘เท้าเหม็น’ ช่วยให้คุณสามารถเดินเข้าบ้านใครๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล
อาการเท้าเหม็น คือเรื่องกวนใจของใครหลายๆ คน จนทำให้เราไม่กล้าที่จะถอดรองเท้าเวลาต้องอยู่ในที่สาธารณะ หรือตอนไปเยี่ยมบ้านเพื่อน หนักๆ เข้าก็อาจจะมีกลิ่นโชยออกมาแม้ว่าจะใส่รองเท้าอยู่ก็ตาม แต่วันนี้ #เหมียวตะปู ขอนำเสนอวิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับทุกคนได้ เพื่อนๆ ลองไปทำตามคำแนะนำเหล่านี้ด้วยกันเลยยย 1. แช่น้ำเกลือ วิธีการนี้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนังและใต้เล็บเท้าของคุณ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เกลือจะช่วยให้ผิวหนังของคุณขับความชุ่มชื้นออกมากำจัดแบคทีเรียเหล่านั้นให้หมดไป ส่วนผสมที่จำเป็นของน้ำเกลือคือ น้ำส้มสายชู 1 ส่วน น้ำ 2 ส่วน เกลือ 1 ถ้วย แล้วจึงเอาเท้าแช่ไว้สักระยะหนึ่ง ทำอย่างนี้ประมาณสองสัปดาห์ตอนก่อนนอน รับรองว่าเห็นผล ทางที่ดีอย่าลืมใช้ไม้จิ้มฟันแคะเอาเศษอะไรต่างๆ ที่ติดอยู่ใต้เล็บออกมาด้วยนะ 2. การเลือกถุงเท้า เนื้อผ้าหลายๆ ประเภทของถุงเท้ามักจะทำให้เท้าของคุณเหงื่อออกได้ง่ายๆ จึงขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้ถุงเท้าที่ทำมาจากผ้าฝ้าย เพราะมันระบายอากาศได้ดี ลดเรื่องกลิ่นและอาการเหงื่อออก แต่ที่สำคัญคืออย่าเอาถุงเท้าไปกองรวมกันไว้ เพราะแต่ละคู่นั้นได้เก็บความชื้นจากเท้าของคุณไปเป็นจำนวนมากซึ่งอาจกระจายและสะสมกันไปได้ 3. โรยแป้งใส่รองเท้า ปัจจุบันจะมีแป้งที่ทำออกมาไว้สำหรับโรยใส่รองเท้า ดับกลิ่นโดยเฉพาะ หรือเพื่อนๆ อาจใช้แป้งเด็กทั่วไปก็ได้ โรยเข้าไปในรองเท้าเล็กน้อยๆ ไม่ต้องเยอะ เพียงเท่านั้นมันก็จะช่วยดูดซับความชื้นภายในรองเท้า ต้นเหตุที่ทำให้มีกลิ่นเหม็นออกมา …
-
เสียงครางของแมว อาจไม่ได้หมายถึง ‘ความรู้สึกดีๆ’ ที่ได้เจอเจ้าทาสเสมอไปหรอกนะ!!
เวลาที่เราเล่นกับเจ้าเหมียวเพื่อนรักหรือตอนที่เราพามันขึ้นมานอนตัก เราอาจเคยได้ยินเสียงครวญครางแว่วออกมาจากในลำคอของพวกมัน ทำให้เราเข้าใจว่าเจ้าเหมียวรู้สึกเพลิดเพลินและสุขสบายกับช่วงเวลานั้นอยู่ แต่มันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ Tony Buffington ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมวและเป็นสัตวแพทย์ในมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เขาได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเสียงครางของแมวเอาไว้ว่า “ทุกพฤติกรรมของพวกมันนั้นขึ้นอยู่กับเบื้องหลังความเป็นมา บริบทในตอนนั้น และความคาดหวัง” เขาอธิบายว่ามันก็เหมือนกับการที่เราหัวเราะ แต่ไม่ได้แปลว่าเรากำลังตลกเสมอไป พวกแมวเองก็เช่นกัน การที่มันส่งเสียงร้องไม่ได้แปลว่าต้องมีความสุขเสมอไป อาจเป็นเพราะว่ามันกำลังกลัว หิว รู้สึกเจ็บ หรืออื่นๆ ก็เป็นได้ อย่างถ้าเป็นแม่แมวมันจะส่งเสียงครางออกมา เพื่อนำลูกน้อยที่เพิ่งเกิดมาแล้วยังคงตาบอดกับหูหนวกอยู่ไปยังสถานที่อันอบอุ่นหรือพาไปหาอาหาร ในขณะที่สัตวแพทย์เชื่อว่าลูกแมวส่งเสียงออกมาเพื่อบอกให้รู้ว่าพวกมันยังสบายดี และช่วยสานสัมพันธ์ของมันกับแม่อีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่าการร้องครางของแมวจะช่วยให้ปล่อยสารเอ็นดอร์ฟีนที่ทำให้รู้สึกดีออกมา พวกเขาจึงเชื่อว่าการที่มันส่งเสียงแบบนั้นอาจเป็นเพราะว่ามันกำลังกลัวอยู่หรือเจ็บร่างกายอยู่ก็เป็นได้ และต้องการให้สารดังกล่าวมาช่วยเยียวยา อีกทั้งยังมีการศึกษาที่บอกว่าถ้าทั้งร่างกายเราสั่นสะเทือนด้วยความถี่ 35-50 เฮิรตซ์ จะช่วยกระตุ้นรักษาอาการบาดเจ็บของกระดูกได้ และเสียงครางของแมวมีค่าความถี่อยู่ที่ 25-150 เฮิรตซ์ นั่นจึงอาจหมายความว่าพวกมันส่งเสียงแบบนั้นออกมาเพื่อทำให้กระดูกแข็งแรงอยู่เสมอนั่นเอง (วิธีนี้นักบินอวกาศของ NASA เองก็ใช้ เมื่ออยู่ในพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง) นอกจากนั้นเสียงครางของพวกมันก็มีโอกาสที่จะพุ่งสูงเกิน 150 เฮิรตซ์อยู่เหมือนกัน จาก การศึกษา หนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology…
-
19 เกร็ดสาระแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ในเรื่องของสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ในโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งมีชีวิตอย่างคนหรือสัตว์ และสิ่งไม่มีชีวิตอย่างต้นไม้ ภูเขา ทะเลอีกด้วย จึงมีความรู้เกี่ยวกับโลกนี้อยู่มากมายเสียจนใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงจำไม่หมดเลย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเพิ่มพูนเกร็ดความรู้ใหม่เอง พวกเราจะได้มีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน ถ้าเรียนรู้เรื่องใหม่ทุกวันเป็นประจำเราอาจจะเป็นอัจฉริยะในอนาคตก็ได้ใครจะไปรุู้ 1. นกไม่ฉี่กันหรอก เพราะมันไม่มีท่อปัสสาวะนั่นเอง ดังนั้นใครที่เคยคิดว่านกฉี่ใส่ไม่มีจริงนะจ๊ะ 2. ในมะเขือม่วงก็มีสารนิโคตินเหมือนกัน แต่มีอยู่น้อยนิดเท่านั้น เทียบกับบุหรี่ไม่ติดเลย 3. เด็กทารกไม่สามารถฝันได้ นักประสาทวิทายาเชื่อว่าคนเราจะเริ่มฝันได้ตอนที่อายุ 4-5 ปีแล้ว 4. ดวงดาวสามารถทำลายดาวเคราะห์ที่เข้าไปใกล้มันมากเกินไปได้ ดีนะที่โลกเราไม่มีดวงดาวรอบๆ 5. เต่าก็สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้เหมือนกับคนนั่นแหละ สัตว์บางชนิดอย่างช้างและสิงโตทะเลเองก็เช่นกัน 6. แมงกะพรุนระเหยเป็นไอได้ เนื่องจากร่างกายแมงกะพรุนประกอบด้วยน้ำกว่า 98 เปอร์เซนต์เลย ถ้ามันถูกแดดเผาจนระเหยไปก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลยนั่นเอง 7. เราสามารถรับประทานทองคำได้ แต่เครื่องประดับทองคำทั่วไปมีแร่ที่กินไม่ได้ผสมอยู่ด้วย อย่าเผลอลองกินล่ะ 8. เจ้าจ๋อก็ขัดฟันเหมือนกันนะ พวกมันมักจะใช้ขนนกหรือใบหญ้าแทนไหมขัดฟัน จะได้รักษาความสะอาดช่องปากและยิ้มสวยด้วย 9.…
-
6 ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าของพวกนี้มีส่วนผสมมาจากสัตว์ด้วย
อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะนำร่างของสัตว์ที่ตายไปมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หนัง หรือขนของพวกมัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เพื่อนๆ ได้ดูหกสิ่งต่อไปนี้อาจจะทำให้เพื่อนๆ ตกใจก็เป็นได้เพราะไม่ว่าอันไหนๆ ก็เป็นของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น แถมไม่น่าจะเป็นไปได้เลยว่าของพวกนี้นี่ล่ะ มีส่วนผสมมาจากสัตว์กับเขาด้วย หมึกสำหรับสัก ใช่ว่าทุกคนจะชอบการสัก และต่อให้ชอบมันก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้ว่าน้ำหมึกที่เขาใช้สักมันมาจากไหน แน่นอนว่าจะใช้สีย้อมผ้ามาสักเลยก็คงกระไรอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำหมึกสำหรับสักจึงทำมาจากกระดูกสัตว์ที่ถูกนำมาเผาจนดำ ใช้เจลาตินสกัดจากกีบเท้าสัตว์เป็นสารยึดเหนี่ยว และยังใช้ไขมันสัตว์เป็นสารคงตัวอีกด้วย หมากฝรั่ง หมากฝรั่งที่เราเคี้ยวเวลาเหงาปาก บางคนอาจจะคิดว่าทำมาจากน้ำตาลไม่ก็ยางไม้อะไรประมาณนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วหมากฝรั่งนั้นทำมาจาก Lanolin ซึ่งเป็นสารที่ผลิตจากผิวหนังของแกะนั้นเอง พวกมันใช้สารนี้ในการเคลือบปกป้องขนของพวกมัน ถ้าจะเรียกให้ง่ายๆ ไอ้เจ้า Lanolin มันก็คือเหงื่อของแกะนั้นเอง เพราะงั้นว่ากันตามตรง หมากฝรั่งก็คือเหงื่อแกะสกัดนั่นเอง เบียร์ ไวน์ และน้ำส้ม เดี๋ยวๆ เบียร์ มันน่าจะทำจากข้าวไม่ใช่เหรอ ไวน์ก็หมักจากน้ำองุ่น และน้ำส้มก็คั้นจากส้มสิ มันจะไปเป็นสัตว์ได้อย่างไร ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่ไอ้เครื่องดื่มที่ว่ามาทั้งหมดนั้น มันดันมีส่วนผสมของสารชนิดหนึ่งที่ชื่อ Isinglass ซึ่งไอ้สารตัวนี้ก็สกัดมาจากเหงือกปลาน้ำจืดนั่นเอง มันทำให้เครื่องดื่มพวกนี้ดูใส ว่าง่ายๆ ก็ทำให้เบียร์ออกมาหน้าตาเหมือนฉี่นั่นล่ะ น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาปรับผ้านุ่มและ Dryer…
-
ว่าไงนะ? พืชผักใกล้ตัวเรานั้นสามารถ ‘ได้ยิน’ และ ‘รู้สึก’ ว่ามีภัยคุกคามกำลังจะถูกกิน!?
ว่ากันว่าต้นไม้นั้นมีชีวิต มันสามารถได้ยินเสียงของเราและรับรู้ถึงสิ่งรอบๆ ฟังดูโรเมนติกดีใช่ไหมล่ะ ว่าแต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ต้นไม้จะรู้สึกแบบไหนเวลาที่ใบโดนหนอนแทะกันนะ ดูเหมือนว่าพวกนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Missouri (MU) จะสนใจในเรื่องพวกนี้กันมากเลยทีเดียวเพราะดูเหมือนพวกเขาจะค้นพบว่าพืชนั้นสามารถ “ได้ยิน” ถึงสิ่งรอบๆ ตัวของมันรวมถึง “รับรู้” ถึงเสียงที่เป็นอันตรายต่อตัวของมันอีกด้วย ที่จริงแล้วแนวคิดเรื่องพืชได้ยินเสียงนั้นมีอยู่มานานแล้วตั้งแต่โบราณ แถมในสมัยก่อนยังมีความเชื่อที่ว่าการร้องเพลงให้พืชฟังนั้นจะทำให้การเจริญเติบโดของพืชดีขึ้นอีกด้วย “มันเคยมีงานทดลองชิ้นก่อนหน้าของพวกเราที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตอบสนองของต้นไม้ต่อคลื่นเสียง ซึ่งรวมไปถึงเสียงเพลงต่างๆ “ Heidi Appel นักวิทยาศาสตร์อาวุโสฝ่ายวิทยาศาสตร์พืชประจำส่วนวิชาการเกษตรและอาหาร ทรัพยากรธรรมชาติ และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตพันธบัตรของ MU กล่าว “อย่างไรก็ตามงานของเราเป็นผลงานชิ้นแรก เกี่ยวกับการที่พืชตอบสนองต่อการสั่นสะเทือนของระบบนิเวศน์พืช” พวกเขาพบว่าการ “สั่นสะเทือนของการทานอาหาร” เปลี่ยนการเผาผลาญของเซลล์พืชทำให้มีการหลั่งสารเคมีที่ป้องกันการถูกหนอนผีเสื้อโจมตีออกมามากขึ้น ด้วยความร่วมมือจาก Rex Cocroft ศาสตราจารย์สาขาชีววิทยาศาสตร์ที่ MU ได้นำหนอนผีเสื้อไปวางไว้บนใบ Arabidopsis พืชเล็กๆ ชนิดหนึ่ง ด้วยการใช้เลเซอร์และชิ้นส่วนเล็กๆ ของวัสดุสะท้อนแสงบนใบของพืช พวกเขาสามารถบันทึกการเคลื่อนที่ของใบในการตอบสนองต่อการเคี้ยวของหนอนเอาไว้ได้ จากนั้น Cocroft และ Appel ได้เล่นเทปบันทึกเสียงสั่นสะเทือนจากการเคี้ยวของหนอนผีเสื้อ ให้กับชุดพืชอีกชุดหนึ่ง ส่วนพืชอีกชุด พวกเขาจะเปิดเทปที่ไม่มีเสียงอะไรเลย Heidi Appel (ซ้าย) และ Rex Cocroft…
-
นักวิทย์ฯ เผยสาเหตุที่มนุษย์ต้อง ‘ตกหลุมรัก’ ซึ่งกันและกัน เพราะมันเกี่ยวกับวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอด!!
การตกหลุมรักเป็นหนึ่งในความลึกลับอันยิ่งใหญ่ของชีวิต เพราะเราไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น ที่สำคัญเป็นความรู้สึกมีให้เฉพาะบางคนเท่านั้น แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้มาให้คำตอบแล้วว่าความรู้สึกของการตกหลุมรักนั้น อาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการวิวัฒนาการของเรา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นักวิจัยค้นพบหลักฐานของ “ความรักที่ส่งเสริมวิวัฒนาการของมนุษย์” เพราะมันจะเพิ่มโอกาสในการมีครอบครัวมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาการศึกษาวิจัยจากชนเผ่า Hadza ในประเทศแทนซาเนีย ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตตามแบบยุคสมัยใหม่และพบว่าการมีความรู้สึกรักใคร่กันของคู่ครองนั้นมีความเชื่อมโยงถึงความต้องการในการมีบุตรด้วยกันมากขึ้น ผลดังกล่าวนี้สอดคล้องกับการวิจัยก่อนหน้านี้จากมหาวิทยาลัย University College London เมื่อปี 2013 ที่พบว่าความรักอาจมีพัฒนาการในการยับยั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกลิงหรือ Primate (ในที่นี้รวมถึงมนุษย์ด้วย) จากการฆ่าทารก โดยเฉพาะในกลุ่มของสปีชีส์ที่ฝ่ายเพศผู้และเพศเมียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็จะทำให้เพิ่มโอกาสที่ทายาทของพวกเขาจะรอดชีวิต และจะยิ่งดีไปกว่านั้นหากเพศผู้มาช่วยเลี้ยงดูบุตรด้วยตัวเอง ในสังคมสมัยใหม่ ปัจจัยบางอย่างเช่น ความสัมพันธ์ระหว่างความรักกับจำนวนบุตรนั้นมีแนวโน้มที่จะมีความเชื่อมโยงกันน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่นักวิจัยหันไปหาชนเผ่าที่เป็นนักล่าสัตว์และอยู่ห่างไกลความศิวิไลซ์อย่างเผ่า Hadza ชีวิตของคน Hadza มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วงหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ ‘ความรัก’ ในหมู่บรรพบุรุษยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเราได้ นักวิจัยเขียนไว้ว่า “การศึกษาของเราอาจทำให้เกิดความกระจ่างในเรื่องความหมายของความรัก และการวิวัฒนาการในอดีต โดยเฉพาะสังคมแบบดั้งเดิมของ Hadza ที่การเลือกคู่ที่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไม่ใช่พ่อแม่ของพวกเขา” งานวิจัยอ้างอิงว่าชนเผ่า Hadza นั้นมีการเลือกคู่ครองตามใจของแต่ละคน มีชื่อว่า Frontiers in Psychology ทั้งนี้มีงานวิจัยที่นำโดย Dr.…
-
18 เรื่องราวน่ารู้ที่ไม่มีสอนในห้องเรียน ช่วยเปิดหูเปิดตา ให้เรารู้จักโลกใบนี้มากขึ้น!!
ต้องขอบอกเลยว่าตอนที่เราเป็นนักเรียนนั้น ได้ความรู้มากมายมาจากห้องเรียน แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้อีกมากมายนัก และนี่ก็คือเรื่องราวน่ารู้ใกล้ตัว ที่ไม่สามารถหาได้จากในห้องเรียน แน่นอนว่ามันจะทำให้เพื่อนๆ รู้จักกับโลกนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก จะมีอะไรบ้างนั้นก็ไปตามไปชมกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… 1. และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราไขกุญแจ 2. และนี่คือภาพก่อนหลังการล้างมือเมื่อมองผ่านแสง UV 3. เมื่อเราทาครีมกันแดด และมองผ่านกล้อง UV Camera 4. วิธีที่เจ้าหมากินน้ำแบบสโลวโมชั่น 5. และนี่คือขนาดของโลก เมื่อเทียบกับดวงดาว Canis Major หนึ่งในดวงดาวขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวาล 6. ความเปลี่ยนแปลงของฟัน เมื่อใส่เหล็กดัดฟัน 7. การสร้างจอคอมแบบที่เราสามารถเห็นได้คนเดียว… มีใครจะเอาไปลองทำไหมนี่!? 8. และนี่คือรูปร่างของไข่เมื่อตอกตอนอยู่ใต้น้ำ 9. การทดลองหักเหแสงด้วยน้ำ 10. กระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อเรากลืนอะไรลงคอ 11. เส้นทางของไฟลท์บินจากทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง 12. กว่าจะมาเป็นหน้าตาของทารกเมื่ออยู่ในครรภ์ …
-
รวม 8 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “ออรัลเซ็กส์” งานนี้ไม่ใช่แค่ความหื่น แต่สาระจัดเต็มนะเธอ!!
การทำออรัลเซ็กส์ หรือที่เราเรียกกันว่าการเบิร์น ไม่ก็การสโม๊ค ถือเป็นเรื่องที่บางครั้งคู่รักก็ไม่ค่อยจะทำให้กัน เพราะอาจจะมาด้วยหลากหลายสาเหตุทั้งรังเกียจ ไม่คุ้นเคย เขิลอาย หรืออื่นๆ อะไรก็ว่ากันไป แต่ที่รู้แน่ๆ คือเหตุผลที่เลี่ยงนั้นก็จะไปในทางที่ไม่ดีเสียส่วนใหญ่ แต่รู้ไหมว่าการทำออรัลเซ็กซ์นั้น ยังมีนัยยะแฝงไว้มากมาย มากกว่าการใช้ปากเฉยๆ และนอกจากความหื่นมันก็มีข้อดีด้วยเช่นกัน ซึ่งหลายอย่างก็ได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์แล้วด้วย… วันนี้ศาสตราจารย์เหมียว จะพาไปดูกันครับ… อย่ามัวชักช้า เราลองมาดูเรื่องน่ารู้ที่ว่านี้กันเลยดีกว่า หญิงสาวที่ทำออรัลเซ็กส์ จะเป็นคนที่มีความสุขกว่า จากผลวิจัยที่เผยแพร่ผ่านทาง State University of New York ปี 2012 ได้ระบุว่าผู้หญิงที่ทำออรัลเซ็กส์ให้ผู้ชายจะมีความสุขและสุขภาพที่ดีกว่าปกติ ซึ่งข้อสรุปนี้ก็มาจากผู้หญิง 250 คน ที่มีสุขภาพดีและบอกว่าชอบทำออรัลแทบทั้งสิ้น (ถ้าอารมณ์ไม่ดี ใครจะยอมสโม๊คล่ะ) ผู้ชายที่ทำออรัลให้ผู้หญิงนั้น มักจะทำเพื่อตรวจดูว่าแฟนนอกใจไหม… มีรายงานว่าผู้ชายบางส่วนมักจะยอมทำออรัลให้กับแฟนสาวเพราะอยากจะเช็คดูว่าช่วงล่างผู้หญิงมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ที่จริงแล้วมนุษย์เพศชายนี่ก็แอบคิดเล็กคิดน้อยแต่ไม่ยอมบอกเหมือนกันนะ การเบิร์นให้สาวๆ ก็ทำให้พวกเธอมีความสุขได้เช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่การสโม๊คเท่านั้นที่จะทำให้ผู้หญิงมีความสุข แต่การที่ผู้ชายเบิร์นให้สาวๆ ก็ทำให้พวกเธอมีความสุขเช่นกัน ซึ่งได้รับการยืนยันจากทั้งตัวผู้ถูกเบิร์น และเหล่านักสำรวจที่พบว่าหลายคนนั้นมีความสุขเอามากๆ จากผลสำรวจพบว่า…
-
16 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้ เบื้องหลังของ “บาร์บี้” จากของเล่นธรรมดา สู่ต้นแบบหญิงงาม!!
“บาร์บี้” ถือเป็นของเล่นที่มีมานาน ส่วนมากกลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นเด็กผู้หญิงไปจนถึงผู้หญิงวัยทำงานเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบสะสมก็จะมีคอลเล็คชั่นบาร์บี้มากมาย ซึ่งถ้านับจากเมื่อก่อนถึงปัจจุบัน บาร์บี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปมาก ตุ๊กตาสาวน้อย สร้างปรากฏการณ์ให้กับโลกมาตั้งแต่เมื่อก่อน เพราะว่ามันคือภาพของผู้หญิงที่ถูกมองว่าสวย แต่เมื่อโลกเราก้าวไป เราไม่ได้มองว่าผู้หญิงต้องผอม ผิวขาว เหมือนกับบาร์บี้ ทำให้ปัจจุบันได้มีบาร์บี้ที่ผลิตออกมาหลากหลายรูปลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นบาร์บี้ผิวสี บาร์บี้ที่มีเนื้อมีไขมันขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น แต่ใครจะรู้บ้างว่าภูมิหลังของบาร์บี้มีประวัติในส่วนที่ไม่ค่อยได้เปิดเผยที่ไหน และในวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง 1. ชื่อเต็มๆ ของบาร์บี้ก็คือ Barbara Millicent Roberts 2. บาร์บี้เกิดวันที่ 9 มีนาคม ปี 1959 ดังนั้นเธอจึงเป็นชาวราศีมีนนั่นเอง 3. หลายคนอาจคิดว่าเธอมาจากเมือง Malibu แต่จริงๆ แล้วเธอมาจากเมืองแห่งนิยาย Willows ในรัฐ Wisconsin นั่นเอง 4. จริงๆ แล้วเธอมีครอบครัวที่ใหญ่มากๆ นะ เธอมีพี่น้องถึง 7 คน ได้แก่ Skipper, Stacie, Chelsea, Krissy, Kelly,…
-
‘Do Nothing Machine’ เครื่องที่ทำx่าอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งหมุนแขนดูกลไกให้ฟิน!!
ทุกวันนี้มนุษย์เราพัฒนาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาล้วนมีจุดประสงค์ทั้งสิ้น แต่คงไม่ใช่กับเจ้าเครื่องเหล่านี้แน่ๆ เพราะว่าชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วโต้งๆ ‘Do Nothing Machine’ เครื่องกลไกไม้พร้อมก้านหมุนเพื่อบังคับก้านเล็กๆ อีกสองถึงสามชิ้นให้เคลื่อนไหวไปมา โดยที่ไม่ติดขัดกัน ก่อนอื่นเลยต้องดูก่อนว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ทำอะไรได้บ้าง!? อืมมมม อ่านจากข้างต้นแล้ว มันก็ดูเหมือนจะมีอะไรอยู่นะ แต่มันก็มีแค่นั้นจริงๆ โดยที่เจ้าเครื่องนี้จะต้องอาศัยแรงของมนุษย์ในการหมุนก้านบังคับ จากนั้นก็เพลิดเพลินไปกับการเคลื่อนไหวของกลไกก้านเล็กๆ ด้านในไปๆ มาๆ วนอยู่อย่างนั้น เมื่อยหรือเบื่อเมื่อไหร่ก็หยุด… แต่เอาเข้าจริงๆ การสร้างเครื่องแบบนี้ต้องอาศัยการออกแบบที่ดีด้วยนะจ๊ะ เพราะจะต้องออกแบบตามหลักการทางคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในเรื่องรูปแบบของเครื่อง มุมองศาการหมุน ความเร็วในการหมุน เป็นต้น โดยอ้างอิงมาจากทฤษฎี Trammel of Archimedes (วงรีของอาร์คิมิดีส) อันเป็นกลไกการสร้างรูปร่างของวงรีที่ต้องมีก้านเล็กๆ ด้านในพร้อมกับก้านบังคับด้านนอกที่สามารถหมุนเป็นรูปร่างของวงรีได้ไม่มีความติดขัดใดๆ และด้วยเหตุนี้เอง ถึงแม้จะมีการสร้างเครื่องวาด หมุน หรืออะไรก็ตามแต่ที่สร้างลักษณะของวงรีออกมาได้ แต่ด้วยประโยชน์ที่หาต่อจากนี้ไม่ได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ Do…
-
จิตแพทย์เด็กให้ระวัง ‘การแกล้งทำให้เด็กกลัว’ แบบคลิปดัง อาจสร้างปมในใจเมื่อเขาโตขึ้น…
เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาในโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปของคุณแม่ที่แกล้งทำเป็นตะปูปักนิ้ว เพื่อพิสูจน์ความรักของลูก ทำให้ชาวเน็ตต่างก็ปลาบปลื้มใจกับความน่ารักของเด็กน้อยในคลิปไปตามๆ กัน แต่กลับกัน บางส่วนก็มีดราม่าและตั้งข้อสงสัยถึงประเด็นในคลิปว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาอะไรตามมารึเปล่า ซึ่งแน่นอนว่า #เหมียวหง่าว ขอไม่หยิบยกพูดถึงตัวคลิป เนื่องจากหลายๆ คนคงจะได้ชมกันไปแล้วเนอะ และล่าสุดทางเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา ที่มีแอดมินเพจเป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นกับเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะการสร้างความกลัวให้กับเด็กนั้น จะส่งผลไปถึงนิสัยส่วนตัวเมื่อโตขึ้นไปได้ด้วย และยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของคนที่เขารักด้วยแล้ว จะทำให้เด็กกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก คนทำให้เขากังวลไม่เป็นอันหลับอันนอน และทำกิจกรรมอย่างอื่นเลย และหากเกิดความกลัวขึ้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เชื่อมั่นในตนเอง มองโลกในแง่ร้าย วิตกกังวล และมีอาการซึมเศร้า บางส่วนของเนื้อหาจากโพสต์นั้น ที่ทางเพจอนุญาตให้ CatDumb เผยแพร่ได้.. ตามทฤษฎีของ Piaget พูดถึงเด็กในวัย 2-7 ปีว่าเป็นช่วง Preoperational stage ซึ่งเด็กจะมีลักษณะความคิดที่มีจินตนาการ(fantasy)มาก …. เด็กเล็กๆจึงมักมีความกลัวบางอย่างที่ผู้ใหญ่รู้สึกว่าไม่มีเหตุผล ความกลัวของเด็กนั้น แม้จะดูไร้สาระในสายตาของผู้ใหญ่แต่มันก็มีความหมายและควรให้ความสำคัญ เด็กบางคนกลัวว่าเวลานั่งโถส้วมจะถูกดูดลงไปในโถ เด็กบางคนคิดว่าใบกล้วยนอกหน้าต่างตอนกลางคืนเป็นมังกรยักษ์ในนิทาน เวลาที่ผู้ใหญ่หลอกอะไรเด็ก ขู่ให้กลัว เด็กก็มักจะปักใจเชื่อจริงๆ เช่น มีแม่คนหนึ่งขู่เด็กว่าถ้าเป็นเด็กดื้อเดี๋ยวแม่จะหนีออกจากบ้าน ตั้งแต่นั้น เด็กก็ไม่ยอมไปโรงเรียน เพราะกลัวว่าแม่จะหนีจากเขาไป ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือสวัสดิภาพของตัวเองกับคนที่เขารัก เช่น พ่อแม่…
-
20 ภาพบอกเล่าเหตุการณ์สำคัญใน “ประวัติศาสตร์” ที่หาชมได้ยากและเต็มไปด้วยเรื่องราว!!
โลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่ยังไม่ได้เปิดเผย รอวันที่คนจะไปค้นพบมัน ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เหมือนกับเป็นจิ๊กซอว์ที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ของเราเชื่อมโยงกันได้ และครั้งนี้ #เหมียวสามสี ขออาสาเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ผ่านภาพจากในอดีต ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดเล็กๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวมันจะน่าสนใจได้ถึงเพียงนี้…. ภาพของนิโคลา เทสลา กำลังนั่งอยู่ในห้องแลปของตัวเองกับเครื่อง “Magnifying Transmitter” ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ภาพของเด็กชาวออสเตรียได้รองเท้าคู่ใหม่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ‘Kathrine Switzer’ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้วิ่งในบอสตันมาราธอน เมื่อปี 1967 และมีคนพยายามที่จะขัดขวางเธอด้วย นักโทษชาวยิวเป็นอิสระจากรถไฟที่จะนำพวกเขาไปฆ่าในปี 1945 สุสานของหญิงสาวคาธอลิกและแฟนหนุ่มโปรแตสแตนท์กำลังจับมือกันในประเทศฮอลแลนด์ปี 1888 เด็กชาย Harold Whittles ได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก ภาพในปี 1974 การหางานในยุค 1930 เช้าของวันที่สวีเดนเปลี่ยนระบบการจราจรจากซ้ายไปขวาในปี 1967 ภาพของทหารเยอรมันที่ได้ชมวิดีโอของค่ายกักกันในปี 1945 ผู้อยู่อาศัยทางด้านของเบอร์ลินจะวันออกอุ้มลูกสูงๆ เพื่อให้ตายายที่อยู่อีกฝั่งได้เห็นหน้า ปี 1961 นักกายกรรมทรงตัวอยู่บนตึกเอ็มไพร์สเตต ในปี 1934 นักเต้นได้พิสูจน์หลักฐาน หลังมีตำรวจมาจับเธอที่ฟลอริดา…
-
25 ภาพหาชมยาก บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ในมุมที่เราอาจยังไม่เคยเห็น!!
โลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผย หรือบางครั้งมันก็ซ่อนอยู่ รอวันที่คนจะไปค้นพบวัน ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เหมือนกับเป็นจิ๊กซอว์ที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ของเราเชื่อมโยงกันได้ และครั้งนี้ #เหมียวสามสี ขออาสาเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ผ่านภาพจากในอดีต ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดเล็กๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวมันจะน่าสนใจได้ถึงเพียงนี้…. ภาพแกะสลักดวงตาที่ภูเขารัชมอร์ เป็นรูปประธานาธิบดีในยุค 1930 ทหารของโซเวียตขีดเขียนตามผนังต่างๆ ในอาคาร Reichstag หลังเข้ายึดเบอร์ลินได้สำเร็จในปี 1945 ขั้นสุดท้ายของระเบิดปรมาณู “แฟตแมน” ที่จะถูกทิ้งลงในนางาซากิในวันที่ 9 สิงหาคม ปี 1945 เราจะได้เห็นตรงหัวที่สลักเป็นตัวย่อว่า “JANCFU” ซึ่งย่อมาจาก Joint Army-Navy-Civilian F*ck Up Bolaji Badejo สูง 213 ซม. นักเรียนออกแบบชาวไนจีเรีย และครั้งหนึ่งเคยเป็นนักแสดงกำลังสวมใส่ชุดที่เขาออกแบบมาสำหรับหนังไซไฟทริลเลอร์ Alien ที่เข้าฉายในปี 1978 ภาพของหัวหน้าใหญ่แก๊งมาเฟีย Joe Masseria นอนตายในร้านอาหารเมืองบรูคลิน พร้อมกับถือไพ่เอซโพดำอยู่ในมือ ปี 1931 Dorothy Counts หญิงผิวสีคนแรกที่เข้าเรียนในโรงเรียนคนขาวในสหรัฐฯ เธอถูกล้ออยู่บ่อยครั้งโดยนักเรียนขาวที่โรงเรียน Charlotte’s Harry Harding…
-
ปัญหาสาวๆ ‘ผมบาง’ อาจเกิดจาก ‘กระเป๋าสะพาย’ ที่เราใช้ มาเรียนรู้และป้องกันดีกว่า!!!
บางอย่างมันก็เกิดขึ้นกับเราโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ดังนั้นเมื่อรู้สาเหตุของปัญหาแล้ว ทางที่ดีที่สุด เราจะป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะสายเกินไป จากบทความของ Lisa DeSantis ที่เขียนลงในเว็ปไซต์ Health เว็ปสุขภาพและความงาม เธอได้ค้นพบว่า กระเป๋าคล้องไหล่ที่สาวๆนิยมใช้ใส่ไปไหนต่อไหนนี่แหละ อาจเป็นต้นเหตุของผมเสียและทำให้ผมร่วงโดยที่ไม่รู้ตัว Lisa เล่าว่า ช่างทำผมของเธอ สังเกตเห็นว่าผมของเธอทั้งสองข้างมีความหนาบางไม่เท่ากัน ช่างจึงเดาได้อย่างง่ายดาย ว่าเธอมักจะสะพายกระเป๋าด้วยไหล่ข้างไหน แล้วช่างรู้ได้ยังไงล่ะ?? … ก็เพราะว่าข้างนั้นมันบางกว่านั่นเอง เวลาเราคล้องกระเป๋าที่ไหล่ สายกระเป๋ามันก็อาจไปเกี่ยวกับผมได้น่ะสิ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่เส้นผมเสีย ซึ่งสาวๆ บางคนไม่ได้ให้ความใส่ใจ เคยกันใช่มั้ยล่ะ?? สายรัดกระเป๋าดึงผม เวลาที่ลืมเก็บผมก่อนที่จะสะพาย และถ้าหากว่าเป็นสายคล้องมีโซ่ด้วยก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ เพราะมันเกี่ยวผมเอาได้ง่ายๆ เลย นอกจากนี้ สะพายกระเป๋าข้างเดียวเป็นเวลานานๆ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น) ก็ไม่ดีต่อผมเช่นกัน ลองไปสังเกตกันดู ว่าข้างที่เพื่อนๆ ใช้สะพายกระเป๋าอยู่ตลอดเป็นยังไงบ้าง ดังนั้นถ้าใครไม่อยากให้ผมบางลงโดยไม่ทันรู้ตัว วิธีป้องกันอย่างแรก คือสะพายให้ช้าลง ที่สำคัญคืออย่าลืมเก็บผมออกไปให้หมดก่อน หรือว่าจะพกสายรัดผมนุ่มๆ ซักเส้นก็ได้ พอเวลาจะสะพายกระเป๋าก็ให้รวบผมเก็บไว้ให้ดีก่อน วิธีป้องกันอีกวิธี คือ ให้สะพายสลับข้างบ่อยๆ เพราะนอกจากจะลดการทำให้ผมเสียหรือร่วงแล้ว ก็ยังเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพอีกด้วย สำหรับสาวผมสั้นก็โชคดีไป อยากจะสะพายกระเป๋ามีสายรัดประดับเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่เลยจ้า !!…
-
Neurotechnology ประสาทเทคโนโลยี เรียนรู้สมอง เพื่อสร้าง ‘ความสุข’ ให้มนุษย์
วิทยาศาสตร์อันก้าวหน้าส่งผลทำให้เกิดเทคโนโลยีขึ้นมามากมาย ซึ่งนอกจากจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของมนุษย์แล้ว ก็ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมนุษย์เช่นเดียวกัน Neurotechnology (ประสาทเทคโนโลยี) คือการศึกษาเกี่ยวกับสมองของมนุษย์ ทั้งทางด้านจิตใต้สำนึก ความคิด การทำงานของสมองและการสั่งการต่างๆ โดยจะทำการวิเคราะห์อัลกอริทึมจากคลื่นสมองที่ประมวลผลได้ ทั้งนี้ประสาทเทคโนโลยีมีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปีแล้ว จุดประสงค์หลักของเทคโนโลยีนี้คือทำการศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองอันส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและบุคลิกภาพของมนุษย์ ปัจจุบันก็ยังคงศึกษากระบวนการทำงานของสมองกันอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่การพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่เพื่อช่วยในการวิเคราะห์สมองอย่าง Nurobrain เป็นความร่วมมือกันระหว่างอาจารย์ Mitsukura ผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบประสาทของสมองจาก Keio University และทีมนักวิทยาศาสตร์ neurowear Nurobrain จึงได้รับการออกแบบเป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ง่าย วัดค่าคลื่นสมองได้อย่างรวดเร็ว บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของผู้สวมใส่ อีกทั้งยังสามารถวัดระดับค่าอารมณ์เป็นเปอร์เซ็นต์ได้ด้วย เช่นค่าความสนใจ ความชอบ ความจดจ่อ ความเครียด และความง่วง เป็นต้น โดยอารมณ์ทั้งหมดนี้จะเป็นผลลัพธ์ของค่าคลื่นสมองที่นำมารวมกันแล้วตีความออกมานั่นเอง Sappe (ที่รู้จักกันดีในชื่อเครื่องดื่มผู้นำทางนวัตกรรม Sappe Beauti Drink ) ได้ลองนำ Nurobrain มาทำการทดสอบวัดค่าความสุข ซึ่งประเมินโดยวัดค่า ‘ความชอบ’ ที่ส่งผ่านคลื่นสมอง โดยในการทดลอง…
-
รวม 15 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ‘การอาบน้ำ’ เพราะเรื่องของผิวมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ!!
แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนคงชื่นชอบที่จะอาบน้ำ ซึ่งรสนิยมการอาบน้ำของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบอาบน้ำเย็น บางคนก็ชอบอาบน้ำอุ่น บางคนก็ชอบอาบน้ำแบบฝักบัว บางคนก็ชอบอาบน้ำแบบแช่อ่างเป็นต้น แน่นอนว่าเราต้องเผชิญกับการอาบน้ำในทุกๆ วันเพื่อชำระล้างร่างกายของเรา แต่บางครั้งความเคยชินจากรสนิยมการอาบน้ำอาจเป็นเรื่องที่ทำร้ายสุขภาพร่างกายของเรามาโดยตลอดก็ได้ วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่าการอาบน้ำที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ถึงจะได้ผลและส่งผลดีต่อผิวหนังของเราอย่างดีที่สุด ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมกันได้เลย… 1. การล้างหน้าจะต้องใช้อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมด้วย น้ำที่ฝักบัวจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าน้ำในอ่างล้างหน้า ซึ่งเราควรจะล้างหน้าที่อ่างล้างหน้ามากกว่าเพราะการล้างหน้าที่อุณภูมิร้อนเกินไปนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อผิวหน้าของคุณ 2. ลดอุณหภูมิของน้ำลงหน่อยเพื่อสิ่งที่ดีต่อตัวคุณ แน่นอนว่าการอาบน้ำร้อนๆ อาจเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดีของใครหลายๆ คน แต่การอาบน้ำที่มีอุณหภูมิร้อนเกินไปจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันความร้อนของเรา เพราะฉะนั้นควรลดอุณภูมิลงมาให้พออุ่นๆ ก็จะถือเป็นเรื่องที่ดี 3. ควรอาบน้ำแบบรักษ์โลก ชาวอเมริกันมีสกิติการใช้น้ำมากกว่าในปี 1950 ถึง 127% เพราะฉะนั้นควรลดเวลาในการอาบน้ำลงสักนิดก็ยังดี 4. คิดถึงผิวของคุณบ้าง การอาบน้ำนานๆ จะส่งผลให้ผิวแห้ง แถมยังเปลืองค่าน้ำอีกต่างหาก!! 5. รังบวบหรือที่ขัดตัวเป็นสถานที่เจริญเติบโตของแบคทีเรีย เนื่องจากว่าเราใช้มันขัดสิ่งสกปรกออกไป เพราะฉะนั้นหลังใช้งานแล้วก็ทำความสะอาดและตากแดดให้แห้ง 6. ไม่เชื่อใช่มั้ยล่ะ? ก็อย่างที่บอกว่าแบคทีเรียทั้งหลายจะถูกล้างออกจากร่างกายของเราแต่จะไปติดอยู่ตามรังบวบหรือที่ขัดตัวแทน และเหล่าแบคทีเรียทั้งหลายจะเจริญเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ หากเราไม่ทำให้มันแห้งซะ…
-
สาระหน่อย!! 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘หน่มน้ม’ ที่เพื่อนๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้!!
เมื่อกล่าวถึงอวัยวะที่มีความน่าสนใจที่สุดในร่างกายเราแล้วก็คงไม่พ้น หน่มน้มนี่เอง เป็นอวัยวะส่วนที่มีปริศนามากมายทั้งเรื่องของขนาด รูปร่าง และการทำงานของมัน และในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับเรื่อง หน่มน้ม มาฝากเพื่อนๆ กัน ซึ่งบางข้อนี้อาจจะทำให้เพื่อนๆ กึงกับเหวอไปเลยก็ได้ ฮร่า 1. เรื่องจริงของหัวนม 2-6 % ของผู้หญิง และ 1-3% ของผู้ชายมีหัวนม 3 อัน และมันสามารถขึ้นอยู่ที่ไหนก็ได้บนร่างกาย รวมไปถึงบนฝ่าเท้า!? 2. รสชาติของนมคน มีความหวานกว่านมวัว มีผู้คนจำนวนมากทดลองชิมนมจากเต้าของวคน และพบว่ามันมีรสชาติคล้ายกับแคนตาลูปหวานๆ 3. ขนาดหน่มน้มของสาวๆ ทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ผู้หญิงส่วนใหญ่บอกว่าพวกเธอสามารถมองเห็นความแตกต่างของขนาดหน่มน้มทั้งสองข้างของเธอ ซึ่งมันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน 4. เรื่องของขนาดบรา 80% ของสาวๆ มักเลบลือกใส่บราที่มีขนาดไม่พอดีกับขนาดหน้าอกของตัวเอง ซึ่งมันสามารถสร้างปัญหาได้ อย่างเช่นอาการเจ็บปวดที่หลังเพราะถูกบรารัด 5. กาแฟสามารถทำให้หัวนมไวต่อความรู้สึกมากยิ่งขึ้น มีการศึกษาวิจัยว่าคาเฟอีน สามารถทำให้หัวนมไวต่อความรู้สึกมากยิ่งขึ้น 6. การสูบบุหรี่ทำให้หน่มน้มยาน!?…
-
เหมียวมีสาระ!! รวม 10 ความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับเลือดที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เลือดเปรียบเสมือนน้ำมันของรถยนต์ ที่มีส่วนสำคัญทำให้ร่างกายสามารถสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าเลือดนั้นนอกจากจะใช้ช่วยเหลือคนแล้ว มันยังมีความลับอีกมากมายเลยนะ ไม่เชื่อไปดูพร้อมๆ กันเลย 1. James Christopher Harrison นาย James Christopher Harrison เคยเกือบตายเมื่อตอนที่เขาเป็นเด็ก เขาเลยสาบานว่าจะบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ แต่กลายเป็นว่าเลือดของเขาสามารถรักษาคนที่มีระบบเลือดแบบ Rh System (อ่านเรื่องระบบเลือดเพิ่มเติมได้ที่นี่) ได้ เขาเลยบริจาคเลือดไปกว่า 1000 ครั้งตลอดชีวิต และสามารถช่วยเหลือเด็กเกิดใหม่ไปได้ถึง 2,000,000 คน 2. แรงดันหัวใจ หัวใจถือเป็นกล้ามเนื้อที่มีพลังมาก มันสร้างแรงดันเพื่อทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้ไกลถึง 9 เมตรทีเดียว 3. การสูบฉีด อย่างที่บอกไปว่าหัวใจนั้นมีพลังมาก มันสามารถสูบฉีดเลือดได้มากถึง 48 ล้านแกลลอน หรือประมาณ 181,699,766 ลิตร ตลอดชีวิตของคุณ เทียบเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก 72 สระเลย 4. ยุง เชื่อหรือไม่ว่าต้องใช้ยุงกว่า 1.3 ล้านตัวถึงจะสามารถดูดเลือดจากร่างกายของคุณได้หมด …
-
10 สาระน่ารู้เกี่ยวกับเจ้าเหมียว ที่เหล่าทาสแมวบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้!?
‘เจ้าเหมียว’ เป็นสัตว์ที่มีผู้คนชื่นชอบอยู่ทั่วโลก และอยู่ร่วมกับมนุษย์มากว่า 9,500 ปีแล้ว มันเป็นสัตว์นักล่าที่มีความฉลาด และมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์กระจายไปทั่วโลก วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมสาระน่ารู้แปลกๆ เกี่ยวกับเจ้าเหมียวกัน ว่าจริงๆ แล้วพวกมันสามารถทำอะไรได้หลายอย่างเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าทาสอย่างเราๆ ได้มากมายเลยล่ะ 1. เยียวยานักโทษ เรือนจำในรัฐ Indiana ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้แมวในการช่วยเยียวยาอารมณ์ของเหล่านักโทษ เพื่อให้อยู่ในห้องขังได้อย่างมีความสุข 2. ส่งจดหมาย ประเทศเบลเยียม เคยทดลองใช้เหล่าแมวเหมียวในการส่งจดหมาย โชคร้ายสำหรับมนุษย์ที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้ 3. ความไว้ใจ เจ้าเหมียวจะเอาหัวถูๆ กับคนหรือสัตว์ที่มันไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ด้วย >< 4. แมวมีความเป็นผู้นำ (จริงๆนะ) เจ้าเหมียวชื่อว่า Stubbs เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Talkeetna รัฐ Alaska เป็นเวลากว่า 15 ปี 5. นอนหลับ เหล่าเหมียวทั้งหลายนั้นชื่นชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจ โดยจะใช้เวลาหลับ 70% ของช่วงชีวิตทั้งหมดของมัน กลับกันมนุษย์ใช้เพียงแค่ 30% เท่านั้น …
-
ชำแหละแยกส่วน ‘ตู้หยอดเหรียญ’ กับกลไกในการแยกแยะเหรียญปลอมอันล้ำโลก!!
นวัตกรรมตู้หยอดเหรียญจำหน่ายสินค้าอัตโนมัตินั้นถือว่ามีมานานแล้วล่ะ แต่ทว่าเราไม่เคยสนใจในรายละเอียดอันลึกซึ้งของมันกันซักเท่าไหร่ อย่างในเรื่องของเหรียญที่นำไปหยอดนั้น ตู้มันจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม เพราะโลกของเรานั้นมีคนที่คิดจะโกงอยู่แล้วล่ะ ฉะนั้นกลวิธีในการป้องกันของตู้ก็ต้องมีติดมา ทางแชแนล Science Channel จาก YouTube ก็ได้ทำคลิปอธิบายกลไกตรวจจับเหรียญปลอมอันน่าสนใจของตู้หยอดเหรียญเอาไว้ดังนี้ เมื่อเหรียญถูกหยอดเข้ามาแล้ว ด่านแรกที่จะเจอก็คือเซ็นเซอร์ตรวจจับขนาดของเหรียญ ตามด้วยด่านที่สองก็คือเซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้า ทำหน้าที่ตรวจจับวัสดุของเหรียญ โดยกระบวนการระบุเหล่านี้ใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว เหรียญปลอมก็จะถูกคัดแยกออกไปต่างหากในช่องเก็บเหรียญทางด้านซ้าย หากเป็นเหรียญที่ถูกต้องก็จะแยกไปในช่องทางด้านขวา เหรียญที่ไม่ตรงตามสเป็คของตู้ก็จะมาเรียงกันเป็นแถวสูง จากนั้นเครื่องก็จะทำการดันเหรียญออกมาเพียงแค่ 1 เหรียญเท่านั้น แล้วก็กลับมาสู่ช่องคืนเหรียญนั่นเอง โดยมีชิ้นส่วนที่ทำงานร่วมกันทั้งหมดประมาณ 85 ชิ้นต่อหนึ่งตู้ และทำการคัดแยกเหรียญประมาณ 50,000 เหรียญต่อปี นอกจากจะเผยให้เห็นระบบกลไกแยกเหรียญปลอมแล้ว ยังเผยให้เห็นถึงวิธีการนำสินค้าในตู้ออกมาสู่ช่องจำหน่ายด้วยนะเออ ที่มา : Science Channel
-
รวมสุดยอดทริกจัดกระเป๋าไปท่องเที่ยว เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากไปทางลัดสู่ฉบับโปร!!
ทุกวันนี้การออกเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในประเทศก็ดี ต่างประเทศก็ดี ก่อนอื่นเลยก็จะต้องมาคิดว่าเราจะต้องเอาอะไรติดตัวไปบ้าง? แล้วทีนี้ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดขึ้นก็คือการจัดกระเป๋าเดินทางนี่แหละ หากเอาไปเยอะเกินก็เกรงว่าจะขนไม่ไหว ไหนจะมีของรุงรังหลายสิ่งอีก เอาเป็นว่าในคราวนี้ #เหมียวเลเซอร์ ขอนำเสนอเคล็ดลับในการจัดกระเป๋าของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางทั้งหลาย ในแบบฉบับมือโปร ปัญหายัดของในกระเป๋าที่วุ่นวาย จะกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยทันที!! จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเถอะ สายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ สาย USB อะไรต่างๆ ให้นำมาเก็บไว้ในกล่องแว่นเก่าๆ แทน ประหยัดพื้นที่ในการเก็บถุงเท้าด้วยการยัดเข้าไปในรองเท้า (ได้ถึง 3 คู่เลยแหนะ) สำหรับเสื้อคอปก ไม่อยากให้ทรงเสียก็ให้นำเข็มขัดมายัดใส่ การเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋า ให้ใช้วิธีการม้วนแทนการพับ ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า แต่หากจำเป็นต้องพับ ก็ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์มารองก่อนพับ ช่วยให้อยู่ทรงป้องกันการเกิดรอยยับได้ เก็บรองเท้ายังไงไม่ให้เปื้อนเสื้อผ้า ใช้หมวกอาบน้ำห่อ (ใช้ถุงพลาสติกแทนก็ได้) ม้วนสายหูฟังพะรุงพะรังให้เป็นระเบียบด้วยคลิปหนีบ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเอกสารการเดินทาง เอกสารราชการสำคัญ ต่างๆ ให้ถ่ายเอกสารเก็บไว้กับตัวด้วย พร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้ส่งเข้าอีเมลหรือระบบฝากรูปออนไลน์ เผื่อไว้ใช้เวลาฉุกเฉิน ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ อีกมากมาย บางคนอาจจะรู้แล้ว…
-
ตายตาหลับละ!! ไขข้อข้องใจ “รู” บนเก้าอี้พลาสติกมีไว้ทำไม? (ไม่ได้เอาไว้ให้ตดแน่ๆ)
เวลาไปตามงานกินเลี้ยงต่างๆ หรืองานฉลองที่ต้องมีการจัดโต๊ะจัดเก้าอี้ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้เห็นกันจนชินตานั่นก็คือเก้าอี้พลาสติกสุดคลาสสิคแบบนี้นี่เอง ว่าแต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “รู” ที่อยู่บนเก้าอี้เหล่านั้นมีไว้ทำไม? ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2252015 เข้ามาตั้งกระทู้สงสัยในประเด็นเดียวกันนี้ว่า รูบนเก้าอี้มีไว้ทำไม? แน่นอนว่ามันไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม แฟชั่น หรือเอาไว้ให้เราแอบตดแบบเนียนๆ แน่นอน ต่อมาในความคิดเห็นที่ 12 ของคุณ หัวใจจากท้องทะเล ก็ได้เข้ามาอธิบายว่า “จากรูปข้างล่าง เก้าอี้มีรูลายข้าวหลามตัด ก็ยังมีรูกลมๆตรงกลาง ไม่น่าจะมีรูกลมเพื่อกันสุญญากาศ เคยถามเจ้าของโรงงานพลาสติกตรีอรรถบูรณ์ ผู้ชำนาญด้านโมล์ดแม่พิมพ์ระบบงานฉีดพลาสติก การฉีดชิ้นงานด้วยแม่พิมพ์ที่สมมาตรกันต้องมีพิมพ์ตัวผู้และตัวเมียประกบกัน มีตำแหน่งหรือรู” “ให้เนื้อพลาสติกที่หลอมเหลวด้วยความร้อนสูงกระจายไปทั่วแบบพิมพ์ ตำแหน่งที่เหมาะสม ในการฉีดให้เนื้อพลาสติกกระจายได้ทั่วถึงคือตรงกลาง ส่วนใหญ่ชิ้นงานตำแหน่งฉีดจะมีเศษ พลาสติกแหลมยื่นออกมา ยิ่งรูฉีดกว้างชิ้นงานจะออกมาเร็ว เวลาฉีดพลาสติกออกจากเครื่อง ใหม่ๆจะมีพนักงานคอยใช้มีดตัดแต่งตำแหน่งทางฉีดอีกครั้งหนึ่งครับ” และนี่คือหน้าตาของแม่พิมพ์เก้าอี้พลาสติก ที่หลายคนสงสัยว่าทำไมเก้าอี้ถึงมีรู ชาวเหมียวจะเห็นว่ามันมีแท่งขึ้นมาตรงกลางบนฐานวงกลมนั้นใช่ไหม นั่นล่ะคือจุดกึ่งกลางของการฉีด หลังจากนั้นก็ต้องใช้การตัดแต่งส่วนนี้ออกให้เหลือแต่ตัวเก้าอี้เป็นฐาน เพราะฉะนั้นก็จะได้รูมา 1 รูนั่นเอง ตอนนี้หลายคนก็คงจะคลายสงสัยกันแล้วซินะว่าทำไมเก้าอี้ถึงมีรู ไว้เอาไปเล่าให้เพื่อน…
-
สังเกตบ้างมั้ย!? ท่านอนประจำของเหล่าน้องหมา สามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยของมันได้นะ
ว่ากันว่าเวลานอนหลับนั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เราเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เพราะเราแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่า ช่วงเวลาหลับเราปล่อยแขน ปล่อยขาไปในทิศทางไหน หมุนตัวไปเท่าไหร่ ที่หนักสุดก็คือส่งเสียงกรนดังมากแค่ไหน ฮร่าาาา!! แต่สำหรับสุนัขแล้ว ท่านอนที่พวกมันมักจะทำประจำนั้น นอกจากจะทำให้นอนสบายแล้ว ยังสามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยจำเพาะได้อีกด้วยนะเออ โดยมีลักษณะท่านอนทั้งหมด 6 ท่าด้วยกัน จะมีแบบไหน อะไรยังไง ตามมาอ่านกันได้เลย 1. ท่านอนหลับด้านข้าง (ท่าพื้นฐาน) สำหรับท่านอนหลับด้านข้างนี้ถือว่าเป็นท่าพื้นฐานที่เห็นได้ทั่วไปเลย ลักษณะก็คือสงบและสบายมากที่สุด ซึ่งการนอนในท่านี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ รอบข้างนั้นปลอดภัย ไม่มีอันตราย ทำให้น้องหมาอารมณ์ดีและมีความซื่อสัตย์สูง 2. นอนขดเป็นสุนัขจิ้งจอก ท่านอนในลักษณะนี้เป็นการรักษาอุนหภูมิในร่างกายเมื่อเจอกับอากาศหนาว อีกทั้งยังเป็นการป้องกันอวัยวะภายนอกทั้งหมดด้วย ซึ่งสุนัขที่นอนในลักษณะนี้เป็นประจำจะมีนิสัยที่สุภาพ อ่อนหวาน และเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย 3. ท่าซุปเปอร์แมน เป็นหนึ่งในท่านอนที่น่ารักที่สุดเลยก็ว่าได้ เป็นท่าที่เหยียดเท้าทั้ง 4 หน้าท้อง และหัวให้แบนราบไปกับพื้น ซึ่งจะทำให้พวกมันสามารถลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เป็นลักษณะนิสัยของสุนัขที่มีพลังเยอะและเรียกให้มาหาได้ง่าย 4. ท่านอนหงายเหยียดขาขึ้นฟ้าไร้ทิศทาง ท่านี้ออกจะดูแปลกๆ…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมติดต่อกัน นอกจากจะไม่สะอาด ยังเสี่ยงกับเชื้อโรคอีก
ว่ากันด้วยเรื่องของผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่ใช้กันอยู่เป็นประจำ จะขาดไปก็ไม่ได้ เพราะว่าหลังอาบน้ำเสร็จก็ต้องใช้เช็ดตัวให้แห้ง ทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการอาบน้ำ แต่ส่วนมากก็จะใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมเป็นประจำ อาบน้ำทุกครั้งก็ใช้ผืนนี้ หากว่าใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป โดยที่ไม่ได้นำไปซักหรือทำความสะอาดเลย ทางผู้เชี่ยวชาญแนะเลยว่านอกจากจะเช็ดตัวไม่สะอาดหมดจด แถมยังเสี่ยงต่อโรคทางผิวหนังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแหล่งสะสมของเหล่าเชื้อแบคทีเรียชั้นเยี่ยม วิธีการหลีกเลี่ยงง่ายๆ เลยก็คือให้นำผ้าเช็ดตัวที่ใช้หลังอาบน้ำเสร็จแล้วประมาณ 3 ครั้ง ไปซักให้สะอาดซะ หรือถ้ายังไม่ว่างซัก ก็นำไปตากให้โดนแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ไม่ควรที่จะตากทิ้งไว้ให้ห้องน้ำ ห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท หรือทิ้งไว้บนพื้นห้องน้ำ มันอันตรายร้ายแรงแค่ไหนกับการใช้ผ้าขนหนูที่ไม่สะอาด เหตุผลก็คือผ้าขนหนูที่ยังเปียกน้ำหมาดๆ นั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อจากการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง ส่วนมากมักจะพบโคลิฟอร์มแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วง ทั้งนี้จากการใช้ผ้าเช็ดตัวนั้น เราจะทำการเปลี่ยนผ่านสสารต่างๆ มากมายระหว่างผ้าเช็ดตัวกับผิวหนัง เช่น เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เชื้อรา ปัสสาวะ เศษอุจจาระและอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนมีแบคทีเรียด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งทิ้งผ้าเช็ดตัวไว้ในที่อับ หรือบนพื้นห้องน้ำเชื้อแบคทีเรียก็จะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว แค่นึกภาพตามก็อี๋แล้ว!! ผู้เชี่ยวชาญยังบอกด้วยว่า หากได้กลิ่นอับจากผ้าเช็ดตัวเมื่อไหร่ ก็ควรที่จะเลิกใช้แล้วนำไปซักทันที เพราะนั่นเป็นสัญญาณเตือนจากแบคทีเรียนั่นเอง ศาสตราจารย์…
-
[เรื่องนมๆ] นม UHT นม Pasturized และนม Sterilized ต่างกันยังไง? นมไหนดีกว่ากัน?
หลายๆ คนที่เคยเห็นโฆษณาของนมทางโทรทัศน์ เคยสงสัยกันไหมว่า ที่นมยี่ห้อต่างๆ โฆษณาว่ามีกระบวนการในการผลิตแบบ UHT แบบ Sterilized และแบบ Pasturized มันแตกต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน? แบบไหนอยู่ได้นานกว่ากัน? วันนี้แอดเหมียวจะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจแบบง่ายๆ เอง 1. นม UHT นม UHT (Ultra High Temperature) คือรูปแบบการผลิตนมที่ได้รับความนิยมสูง โดยจะแปรรูปด้วยความร้อนไม่ต่ำกว่า 133 องศาเซลเซียส เวลาไม่ต่ำกว่า 1 วินาที และบรรจุลงภาชนะแบบปลอดเชื้อ เนื่องจากใช้เวลาที่สั้นมาก จึงทำให้นมเปลี่ยนสีน้อย และไม่ค่อยมีกลิ่นนมต้มเท่าไหร่ การผลิตนมแบบ UHT ปราศจากจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคทุกชนิด (แต่อาจทำให้นมเสีย) สามารถเก็บรักษาได้ที่อุณหภูมิห้องนาน 5-6 เดือน 2. นม Sterilized นม Sterilized คือการนำนมสดไปผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส ในเวลาที่เหมาะสมช่วยทำลายทั้งจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคและจุลินทรีย์ที่ทำให้นมเสีย สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานกว่าแบบอื่นๆ …
-
ข้อเท็จจริงจากชาว Reddit เปิดโลกทั้งใบ กับสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน (จะจริงแท้แค่ไหนกัน?)
หากจะว่าไปแล้วสังคมออนไลน์ที่ใหญ่และอยู่คู่สังคมไทยมานานก็คงจะหนีไม่พ้นเว็บไซต์พันทิป เมื่อใครมีคำถามหรือสงสัยในประเด็นอะไรก็จะตั้งกระทู้ขึ้นมา แล้วก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย รวมไปถึงผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เข้ามาตอบคำถามได้อย่างชัดเจนนั่นเอง!! ในส่วนของต่างประเทศจะมีอะไรที่คล้ายกับพันทิปบ้างมั้ยหว่า? ก็มีเหมือนกันนะ เว็บไซต์นั้นมีชื่อว่า Reddit ลักษณะก็คล้ายๆ กับพันทิปเลย มีการตั้งกระทู้คำถามและกระทู้สนทนามากมาย จนกระทั่งมีกระทู้คำถามที่ว่า ‘มีข้อเท็จจริงหรือสถิติที่ดูเหมือนจะเกินจริง แต่เป็นความจริงบ้างมั้ย?’ เมื่อเจอกับกระทู้ตั้งคำถามเปิดกว้างแบบนี้ ชาว Reddit ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ มากมาย สามารถแตกเป็นประเด็นย่อยให้ลึกไปอีก นับว่าเป็นแหล่งความรู้ที่สามารถเปิดโลกได้เลย แล้วภายในนั้นจะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองตามมาอ่านกันเถอะ 2 ใน 3 ของชาวออสเตรเลีย มักจะประสบกับโรคมะเร็งผิวหนัง เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป มหาวิทยาลัย Oxford (เริ่มการเรียนการสอนในปี 1096) มีอายุเก่าแก่กว่าอาณาจักร Aztec ซะอีก (ยุคเริ่มต้นอาณาจักรในปี 1427) บริษัทเกม Nintendo (ก่อนหน้านี้เป็นบริษัทการ์ดเกม) เกิดขึ้นพร้อมกับอาณาจักร Ottoman (ปีค.ศ. 1889)…
-
การอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์และเครื่องอ่าน Kindle ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้กลายเป็นยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ที่แทบจะเข้ามาแทนที่ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว รวมไปถึงการเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงการอ่านของมนุษย์ด้วย ที่เหมียวกำลังจะกล่าวถึงก็คือมนุษย์หันมาอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น (Kindle และ E-Book) คุณ Manoush Zomorodi และ Mike Rosenwald ได้ร่วมกันพิสูจน์ถึงผลกระทบของการอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่าไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับการอ่าน ราวกับว่าอ่านตัวหนังสือผ่านเว็บไซต์หรือหน้าฟีดทวิตเตอร์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ใช้สมองในส่วนที่แตกต่างกัน จากทั้งการอ่านผ่านหนังสือและหน้าจอ เพราะฉะนั้นการอ่านตัวหนังสือจากหน้าจอจะทำให้มีลักษณะการอ่านแบบ Skimming (อ่านผ่านอย่างรวดเร็ว) คล้ายๆ กับการกวาดตาอ่านเว็บไซต์ Zomorodi กล่าวเสริมเอาไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาอ่านตัวหนังสือผ่านหน้าจอกันมากขึ้น และทำให้ลักษณะการอ่านแบบจดจ่อนั้นค่อยๆ จางหายไป เพราะไม่ได้ใช้งานสมองส่วนที่อ่านหนังสือจากสิ่งพิมพ์เลย และด้วยปัญหานี้จะทำให้มนุษย์ยุคใหม่มีสมาธิที่สั้นลง ไม่จดจ่อกับสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่โตมากับเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะหันมาจับหนังสือจริงๆ แล้วลองใช้เวลากับมันซักพัก วันละ 1 ครั้งก็ยังดี ที่มา : pri, niemanreports, academia
-
[สาระแบบเหมียวๆ] เมื่อเจอยุงกัดให้ใช้ช้อนอุ่นๆ แนบกับรอยยุงกัด ช่วยแก้อาการคันได้?
ยุงเป็นสัตว์ร้ายที่คอยจะเกาะและดูดเลือดของคุณ แถมไม่พอมันยังฝากรอยแดงและอาการคันตามผิวหนังไว้ด้วย แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าเราสามารถแก้ไขอาการคันได้ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ที่เราสามารถหาได้ในครัวล่ะ วันนี้เหมียวจะมาเปิดเผยเคล็ดไม่ลับ ในการลดอาการคันจากการโดนยุงกัดล่ะ อุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ “ช้อน” นั่นเอง ขั้นตอนก็ง่ายมาก เพียงแค่คุณนำช้อนไปจุ่มลงในน้ำอุ่น (ไม่ต้องร้อนมากนะ) จากนั้นนำช้อนไปวางลงบนบริเวณที่โดนยุงกัด กดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำช้อนออก อาการคันผิวหนังก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุก็เพราะว่าบริเวณที่ยุงกัดนั้นมักจะทิ้งโปรตีนเอาไว้ใต้ผิวหนังของเรา ซึ่งเจ้าโปรตีนนี้เองจะเป็นตัวที่ทำให้ผิวหนังของเราระคายเคืองได้แต่เมื่อเรานำเอาความร้อนจากช้อนมาสัมผัสกับผิวหนัง มันก็จะเป็นการทำลายโปรตีนให้สลายไปนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้อาการคันจะลดลงแต่ก็ไม่ได้ทำให้รอยแดงจากการโดนกัดหายไปทันทีนะ ทางที่ดี คุณควรจะป้องกันพวกมันด้วยสเปรย์ไล่ยุงและแมลงควบคู่กันไปด้วย จะเป็นการชดีที่สุดล่ะ ที่มา rocketnews24
-
การที่น้องหมาเอียงหัวในขณะที่เราพูดหรืออธิบายอยู่ มันกำลังตั้งใจฟังเราอยู่รึเปล่านะ!?
หากใครเป็นผู้ที่เลี้ยงสุนัขแล้ว การที่จะทำความเข้าใจระหว่างมนุษย์กับเจ้าตูบสี่ขานั้นมีหลากหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสียงออกคำสั่ง การใช้ภาษากายต่างๆ แต่เคยสังเกตกันบ้างมั้ยว่าเวลาที่เราจ้องหน้าน้องหมาแล้วพูดอะไรบางอย่าง ทำไมน้องหมาถึงต้องเอียงหัวด้วย? หรือว่ามันกำลังตั้งใจฟังเราอยู่? ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ออกมาเปิดเผยเอาไว้ว่า การแสดงออกเหล่านี้ของสุนัขเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง และเป็นการตอบรับทางอารมณ์ของมนุษย์ผ่านการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ของมนุษย์ตั้งแต่อารมณ์บนใบหน้ารวมไปถึงท่าทางต่างๆ และเสียงพูดของเราด้วย ไม่ว่าเราจะพูดอย่างไร แสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าหรือท่าทางแบบไหน เจ้าตูบสี่ขาอันเป็นที่รักก็จะพยายามรับรู้ถึงอารมณ์ของคุณด้วยการเอียงหัว หมายความว่าฉันก็รู้นะว่าเธอหมายถึงอะไร อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญก็ได้กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือการที่น้องหมาเอียงหัวอาจจะมีเหตุผลอื่นๆ อีกด้วย เช่น เป็นการปรับประสาทการรับรู้เสียงผ่านหูให้ได้องศาที่ตรงกับแหล่งของเสียงนั่นเอง แต่ถึงแม้จะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม เวลาที่จ้องหน้ากันแล้วน้องหมาเอียงหัวทำเหมือนว่าฟังเราอยู่มันก็น่ารักจริงๆ อ่ะเนอะ อิอิ ที่มา : unilad, psychologytoday, mentalfloss
-
[เหมียวมีสาระ] รู้หรือไม่ ไฟบนท้องถนนเปิดและปิดอย่างไร?
ในทุกๆ คืนที่เราต้องนั่งรถไปตามท้องถนนเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เคยสงสัยกันไหมว่าเสาไฟตามข้างทางนั้น มันมีวิธีเปิดวิธีปิดยังไงกันแน่? หากเพื่อนๆ อยากรู้ล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะมาเปิดเผยให้ได้รู้กันเอง เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Gotoknow มาล่ะ เป็นการเปิดเผยถึงวิธีการเปิด-ปิดไฟตามถนน โดยไฟถนนส่วนใหญ่จะเป็นแบบตั้งเวลา ซึ่งควบคุมดวงไฟตามถนนที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน ในสมัยก่อนจะมีการใช้สวิทช์ไขลาน ที่ต้องคอยไขลานทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมาก ทำให้เปลี่ยนจากการไขลานมาเป็นระบบไฟฟ้า มีหน้าปัดหมุนรอบตัวเองและมีคานหรือก้านติดอยู่ที่หน้าปัดเพื่อเปิด-ปิดไฟฟ้าตามเวลาที่ตั้งไว้ ตัวสวิทช์ที่ใช้กับไฟถนนนั้นจะเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ แต่ใช่ว่านาฬิกาจะถูกตั้งค่าให้เปิดปิดแบบตรงเวลานะ เพราะเมื่อฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง ทำใช้ช่วงเช้า-ค่ำ มาเร็ว-ช้าต่างกัน แต่เจ้าไฟถนนนี้ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองแบบอัตโนมัติได้เช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้วิศวกรผู้ทำงานด้านไฟถนนได้พัฒนาเครื่องควบคุม แบบโฟโตอิเล็กทริก ขึ้นมาเรียกย่อว่า “เพคู” เพื่อใช้ควบคุมสวิตช์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับดวงไฟตามถนน โฟโตเซลล์ที่อยู่ในเครื่องควบคุมแบบนี้มีสารประกอบทางเคมีที่ไวแสง เช่น แคดเมียมซัลไฟด์ หรือซิลิคอน ในตอนเช้าตรู่แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบโฟโตเซลล์จะทำให้อิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นไหลจากอะตอมหนึ่งไปยังอีกอะตอมหนึ่ง และนำกระแสไฟไปยังสวิตช์ซึ่งจะปิดแสงไฟ ครั้นเวลามืดลงอิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นหยุดไหล กระแสไฟที่วิ่งอยู่ก็จะหยุด ทำให้สวิตช์เปิดและไฟถนนก็สว่างขึ้น กระแสไฟในโฟโตเซลล์จะไหลหรือหยุดเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศนั่นเอง นี่ซินะความลับของไฟข้างถนน มันเปิดปิดอย่างนี้นี่เอง ที่มา gotoknow
-
มันแปลกดีนะ!! ชม 10 ปรากฏการณ์สุดพิลึกทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่าค้นหาเป็นอย่างมาก มันมักจะสร้างสิ่งแปลกๆให้เราได้ประหลาดใจอยู่เสมอ บางปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คาดไม่ถึงเลยว่าบนโลกนี้จะมีได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่แล้ว เพราะเหมียวจะพาทุกท่านทัวร์รอบโลกไปดูปรากฏการณ์แปลกๆเหล่านี้กัน ไปดูกันเลย!! ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งขณะที่มีฟองอยู่ใต้น้ำ เกิดขึ้นที่ทะเลสาบอับบราฮัม ในเมืองอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา ฟองเหล่านี้เกิดจากแก๊สมีเทนที่มาจากพืชและสัตว์ในบริเวณนั้น หลังจากเกิดเหตุการน้ำท่วมในปากีสถานที่หมู่บ้าน Sindh เมื่อปี 2010 ก็ได้มแมงมุมนับล้านตัวปีนหนีน้ำขึ้นไปสร้างรังบนต้นไม้ ซึ่งมันได้สร้างใยแมงมุมพันรอบต้นไม้ได้น่ากลัวเอามากๆ ปรากฏการณ์เมฆไฟหรือเมฆสีรุ้ง เกิดจากกรรวมตัวกันของแสงอาทิตย์เข้าในผลึกน้ำแข็งในที่สูงเหนือเมฆ แล้วเกิดการหักเหของแสงทำให้เกิดสีต่างๆขึ้นมา ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นในหน้าร้อน และพระอาทิตย์ต้องทำมุมเงยสูงกว่า 58° องศาด้วยถึงจะเกิดภาพแบบนี้ขึ้น ในทุกๆหน้าร้อนของทุกปี จะมีค้างคาวกว่า 1.5 ล้านตัวบินอยู่เหนือท้องฟ้าในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส สร้างภาพอันงดงามเหนือท้องฟ้า เกือบทั้งปีในเกาะคริสต์มาสในออสเตรเลีย ข้างทางที่เป็นป่าจะมีปูแดงออกมาเดินกันมากมาย แต่ในเดือนพฤศจิกาจะเยอะที่สุด เพราะมีประมาณ 120 ล้านตัวด้วยกัน พวกมันเดินข้ามถนนมาเพื่อที่จะไปสู่มหาสมุทรอินเดียเพื่อวางไข่ ปรากฏการณ์หินเดินได้ก็ยังเป็นที่น่าสนใจของนักวิทยาศาสตร์ซึ่งยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติ Racetrack Playa of Death Valley ในแคลิฟอร์เนีย นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเกิดจากแผ่นน้ำแข็งที่เกิดใต้หินแล้วละลาย ทำให้มันเคลื่อนที่แล้วทิ้งรอยไว้ นี่คือแพลงค์ตอนพืชชนิดหนึ่งที่เรืองแสงได้ เกิดบนที่ชายหาดที่เปอร์โต ริโก…
-
10 ความเชื่อประหลาดๆเกี่ยวกับ ‘ร่างกายมนุษย์’ ที่พวกเราเข้าใจผิดมาตลอด!?
บางทีคนเราก็จะมีความเชื่อที่ถูกปลูกฝังยึดติดและปฏิบัติต่อๆกันมา โดยเรามันจะเลือกเชื่อตามความคิดของคนส่วนใหญ่โดยไม่ทันยั้งคิดเลยว่า ไอUสิ่งที่เราคิดและเชื่อมาตลอดชีวิตน่ะมันผิดอยู่บ้างนะฮ๊า แล้วสิ่งเหล่านั้นมันมีอะไรบ้างล่ะ เราลองมาดูสาระดีๆ 10 ความเชื่อประหลาดๆ เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ กันได้เลย… 10. ไม่ควรปลุกคนที่กำลังเดินละเมอ การที่เราปลุกคนที่กำลังเดินละเมออยู่นั้นอาจทำให้พวกเข้ามีอาการตกใจและมึนงงหลังจากที่ถูกปลุก แต่เหมียวว่าเราปลุกให้เค้ารู้ตัวและกลับไปนอนดีกว่าปล่อยให้พวกเค้าเดินละเมอตกบันใดนะ 9. คุณจะเป็นหวัด ถ้าคุณตัวเปียกหรือออกไปในที่ที่มีอากาศหนาว ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับความเชื่อนี้ แต่ไวรัสจะมีอยู่มากในเวลาที่ความชื้นต่ำอย่างในฤดูหนาว และแน่นอนว่าเราใช้เวลาอยู่ร่วมกันในบ้านมากขึ้น นั้นทำให้มีโอกาสติดหวัดมากขึ้นเมื่ออยู่ในบ้านตัวเองอีกด้วย 8. เล็บและผมยังสามารถยาวได้อีกถึงแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของมนุษย์หลังจากความตายก็แค่ผิวหนังชั้นนอกเกิดการหดตัวแล้วแห้งไปในที่สุดเท่านั้นเอง 7. ถ้าเราโกนหนวดเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่จะสีเข้มและหนามากขึ้นกว่าเดิม จริงๆแล้วเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่หลังจากถูกโกนไปนั้นไม่ได้หนาหรือสีเข้มขึ้นเลย เพียงแต่เส้นขนจะมีหน้าตัดที่เกิดจากการโกนเวลากระทบกับแสงจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำดูเหมือนว่ามันมีสีเข้มขึ้นนั่นเอง 6. แชมพูและครีมนวดสามารถรักษาผมแตกปลายได้ ความจริงแล้วเราไม่สามารถรักษาผมแตกปลายให้กลับมานุ่มสลวยได้เหมือนเดิม ทั้งแชมพูและครีมนวดนั้นอาจจะช่วยป้องกันการเกิดผมแตกปลายได้แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้จริง เพียงแค่เคลือบเส้นผมให้นุ่มขึ้นเท่านั้น 5. ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งทุก 7 วินาที มันคงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยในการใช้ชีวิตถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ก็เป็นโชคดีนะที่มันเป็นแค่เรื่องที่พูดกันไปเรื่อยยังไม่มีนักวิจัยคนไหนวิจัยหรือพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 4. ต่อมรับรสบนลิ้น เราคงเคยได้เรียนกันในสมัยเด็กๆ…
-
8 สุดยอดเจ้าแห่งการกินของอาณาจักรสัตว์ อะไรจะกินเยอะขนาดนั้น!?
เคยสงสัยกันไหมว่า คนเรากินข้าวกันวันละ 3 มื้อ แล้วพวกสัตวเนี่ยวันๆหนึ่งมันกินเยอะแค่ไหนกันนะ เหมียวเลยไปหาข้อมูลดีๆมาฝากกัน คุณอาจจะไม่เชื่อเลยว่าสัตว์พวกนี้น่ะมันกินขนาดนี้เลยเหรอ!? ในการจัดอันดับครั้งนี้จะมีสัตว์อะไรบ้าง และกินเก่งกันขนาดไหนไปดูกันเลยดีกว่า…. 1.แพนด้า พวกหมีหน้าตาน่ารักพวกเนี้ยสามารถกินต้นไผ่ได้ 20-40 ปอนด์ ต่อวันเชียวนะ!! และใช้เวลา กิน กิน กินทั้งวันกว่า 16 ชั่วโมง!! 2.วาฬสีน้ำเงิน พวกมันสามารถกินตัวเคย(สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวเล็กๆคล้ายกุ้ง) ได้ถึง 4 ตันภายในวันเดียว 3.กิ้งก่า ในรายการแข่งกินของมนุษย์นั้นดูเหมือนพวกเค้าจะมีความสามารถในการกินอาหารได้เร็วมากๆ แต่นั่นก็เทียบไม่ติดกับเจ้ากิ้งก่า ที่ลิ้นของมันสามารถยืดออกไปถึงตัวเป้าหมายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น 4.ค้างคาว ในอาณาจักรสัตว์นั้นเรื่องของขนาดตัว ไม่ได้เป็นคุณสมบัติที่ต้องการของแชมป์แห่งการกิน ค้างคาวสีน้ำตาลที่ตัวเล็กนิดเดียวแต่สามารถกินยุงกว่า 1000 ตัวได้ภายใน 1 ชั่วโมง!! 5.ช้าง ช้างป่านั้นจะใช้เวลากว่า 18 ชั่วโมงในการกิน พวกมันเพลิดเพลินไปกับการเคี้ยว หญ้า ใบไม้ และเปลือกไม้ กว่า 200-400 ปอนด์ ช้างป่าตัวผู้ที่โตเต็มวัยต้องการพลังงาน 70,158 แคลอรี่ต่อวัน…
-
14 เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างความรู้ได้ดียิ่งนัก!!
ในแวดวงทางวิชาการความรู้ วิทยาศาสตร์ช่วยเปิดโลกให้กับมนุษย์ได้ดียิ่งนัก ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร คลายข้อสงสัยให้กระจ่างได้ แต่ก็ยังมีความรู้อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เอาเป็นว่าเรามาเปิดโลกกว้างไปพร้อมกันเถอะ ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านเลย!! ดาวเคราะห์โรกคือวัตถุที่มีมวลขนาดเท่าดาวเคราะห์และไม่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดอยู่กับดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ ทำให้มันล่องลอยอยู่กลางอวกาศ มีเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือกของเราด้วย ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ล้านปีก่อน มีแมลงปอขนาดยักษ์ที่มีชื่อเรียกว่า Meganeura ยักษ์ไม่ยักษ์ก็คือว่าปีกของมันเนี่ยกว้างถึง 60 เซนติเมตรเลยล่ะ รู้หรือไม่ว่าดวงจันทร์ทำให้โลกเราหมุนช้าลงเรื่อยๆ ทุกศตวรรษที่ผ่านพ้นไป หนึ่งวันบนโลกจะยาวนานขึ้น 1.7 มิลลิวินาที นั่นก็หมายความว่า 350 ล้านปีที่แล้วมา หนึ่งปีบนโลกมีทั้งหมด 385 วัน เพราะโลกเคยหมุนเร็วกว่านี้ มีผลวิจัยเปิดเผยออกมาแล้วว่าการดูคลิปวิดีโอแมวจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น เอ๊ะ!? จริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะ ระบบ Endocannabinoid ในสมองของมนุษย์มีหน้าที่ช่วยควบคุมอารมณ์ ความอยาก ความเจ็บปวด และความทรงจำ และระบบนี้เองคือสิ่งที่กัญชาเฝ้าตามหา!! Verona Rupes…
-
กฎข้อบังคับของพนักงานดีสนีย์แลนด์ทั้ง 14 ข้อ แถวนี้เป๊ะ!! ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
ดีสนีย์แลนด์แดนฝันวัยมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในดีสนีย์แลนด์ก็จะมีความบันเทิงมากมายที่รอให้ไปสัมผัส บางคนอาจจะติดใจจนถึงขั้นอยากจะทำงานที่นี่เลย แต่รู้บ้างมั้ยว่าการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดีสนีย์แลนด์นั้นจะมีข้อบังคับเหล่านี้อยู่ด้วย แบบว่าถ้าใครไม่เป๊ะจริง อยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน!! 1. พนักงานที่จะมาแต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนนั้นๆ จะต้องมีใบหน้าเป๊ะ ผมเป๊ะ ส่วนสูงต้องเป๊ะ น้ำหนักก็ต้องเป๊ะด้วย!! 2. การชี้ด้วยนิ้วเดียวเป็นสิ่งที่ไม่สภุาพ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้การชี้ด้วยสองนิ้วหรือใช้การผายมือแทน 3. คำว่า “ไม่รู้” สำหรับพนักงานดีสนีย์แลนด์นั้นเป็นคำต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องหาคำตอบมาให้ได้ 4. เล็บต้องสั้นและสะอาดอยู่เสมอ ถ้าจะทาสีเล็บหรือเพ้นท์เล็บให้ลืมไปได้เลย 5. แว่นตาแฟชั่นที่ดูไม่เรียบร้อยก็ห้าม หากจะใส่แว่นจริงๆ ห้ามให้เห็นแบรนด์และจะต้องมีสีสุภาพ ุ6. ในขณะที่กำลังสวมบทบาทเป็นตัวละครใดตัวละครหนึ่งอยู่ ห้ามเรียกชื่อจริง ให้เรียกชื่อตัวละครนั้นแทน 7. ในเมื่อได้มาเป็นตัวละครนั้นๆ แล้ว เอกลักษณ์ของตัวละครจึงสำคัญที่สุด ต้องเรียนรู้และซึบซับให้กลายเป็นตัวละครนั้นจริงๆ 8. เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นขยะ ต้องเก็บให้เรียบอย่าให้เหลือ 9. ห้ามมีรอยสักเด็ดขาด 10. จะเรียกชื่อจริงให้เรียกชื่อต้น…
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสาเหตุดีๆ ที่ว่าทำไมเราต้อง “งีบระหว่างทำงาน”
เมื่อเรานอนหลับไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่สิ่งที่น่ากลัวได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ โรคซึมเศร้า ปัญหาทางด้านความจำ และมะเร็ง ถึงแม้ว่าการงีบเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถทดแทนการหลับยาวๆได้ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าการงีบเนี่ยแหละ มันสร้างสิ่งที่มหัศจรรย์ขึ้นได้ เดิมทีเรารู้จากผลวิจัยแล้วว่าการนอนสามารถช่วยในด้ายภูมิต้านทาน พลังงาน อารมณ์ และการรับรู้ แต่ผลวิจัยใหม่จาก University of Michigan ได้ค้นพบอีกด้วยว่าการงีบระหว่างทำงาน สามารถเพิ่มสามารถด้านควบคุมอารมณ์ได้อีกด้วย การที่เราอดนอนนั้นสามารถทำให้เราเป็นคนทำอะไรโดนไม่มีสติได่ อีกทั้งยังลดความสามารถทางด้านความคุมอารมณ์และการยั้งคิด ทาง University of Michigan จึงได้ทำการทดลองกับคนจริงๆ โดยให้คนกลุ่มหนึ่ง ทำแบบทดสอบในคอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับการนอนหลับ อารมณ์ และ อาการหุนหันพลันแล่น หลังจากนั้นเขาก็ให้กลุ่มคนเลือกว่าจะไปนอนหรือว่าจะดูหนังสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติยาว 60 นาที พบจบแล้วก็กลับมาทำแบบทดสอบอีกครั้ง นักวิจัยพบว่าคนที่ดูสารคดีมีความอดทนต่ำต่อการตอบคำถามที่แก้ได้ยาก และและดูมีอารมณ์หุนหันพลันแล่น ส่วนคนที่หลับมีความอดทนต่อการทำแบบฝึกหัดสูงและควบคุมอารมณ์ได้ดี สิ่งนี้ก็ทำให้เราได้รู้แล้วว่าการงีบนั้นสามารถช่วยในการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ลดความคิดในแง่ลบลงไป แต่ได้มีนักจิตวิทยา Dr. Ron Friedman ได้บอกมาว่าวิธีนี้อาจจะไม่สามารถใช้ได้จริง เนื่องจากในสังคม โดยเฉพาะในอเมริกา การทำงานหนักๆจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความต้องการนอนมันก็มีเท่าๆกับที่เราต้องการอาหารและน้ำนั่นเอง Friedman เชื่อว่าสิ่งที่จะช่วยในการเปลี่ยนมุมมองของพนักงานที่มีต่อการงีบก็คือเจ้านายหรือผู้นำ เพราะเขาสามารถเปลี่ยนทัศนคตินี้ได้โดารการสร้างห้องไว้สำหรับพักผ่อนเพื่อให้พนักงานได้เข้าไปใช้นั่นเอง ที่มา businessinsider
-
9 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าหนูเหลืองไฟฟ้า “ปิกาจู” ไปจับโปเกม่อนกันเถอะ!!
เชื่อเลยว่าหลายคนที่เป็นแฟนโปเกม่อนหรือไม่ได้เป็นแฟนก็ตาม ก็ต้องรู้จักโปเกม่อนที่ชื่อ “ปิกาจู” เป็นอย่างดี เพราะมันคือโปเกม่อนตัวเอกที่ซาโตชิใช้อยู่ประจำ หรือถ้าเป็นเวอร์ชั่นคอมมิคก็จะเป็นโปเกม่อนคู่หูของเยลโล่ว์ วันนี้เหมียวมี 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าโปเกม่อนที่ชื่อ “ปิกาจู” นี้ บางทีมันอาจจะมีความลับที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้นะ 1. รูปร่างของมัน ปิกาจูสูง 40 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 5.9 กิโลกรัม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไปลดความอ้วนมานะ 2. เพศหญิงชาย ต่างกันยังไง? เพศเมียจะมีหางที่หยักนั่นเอง 3. ใครพากย์? ผู้ที่พากย์เป็นปิกาจูคือ Ikue Otani ผู้ให้เสียงเป็นช็อปเปอร์ในวันพีซและโคโนฮะมารุในนารุโตะด้วย 4. ชอบกินอะไรนะ? ปิกาจูชอบกินในเบอร์รี่และแอปเปิล 5. ชื่อนั้นมีที่มาอย่างไร คำว่า “ปิกะ” เป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นเสียงของไฟฟ้า ส่วนคำว่า “จู” นั้นเป็นภาษาญี่ปุ่น…
-
ชาร์จพลังระหว่างวัน!! ต้องงีบหลับนานแค่ไหนถึงจะเพียงพอให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน
เคยรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อาจสามารถถ่างตาทำงานได้ตลอดวันหรือไม่? สาเหตุหลักๆ อาจจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหน้าที่การงานในแต่ละวันนั้นหนักหน่วงจนเกินไป ทำให้ใช้พลังงานหมดไปอย่างรวดเร็ว จนไม่อาจจะมีพลังอยู่รอดจนถึงเวลาเลิกงานได้ ว่ากันว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด หากคุณนอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน ตื่นเช้าขึ้นมาจะสดใส รู้สึกมีพลังงานเต็มอิ่ม พร้อมที่จะไปทำงานตลอดทั้งวัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีเวลานอนเท่ากัน บางคนนอนพอดี บางคนนอนน้อย ก็จะเกิดอาการงัวเงีย รู้สึกไม่สดชื่นอย่างเห็นได้ชัด พอเข้าช่วงบ่ายก็เริ่มออกอาการง่วงแล้ว เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีก็คือควรจะหาเวลางีบหลับบ้าง แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนล่ะ? ขอย้ำว่าเป็นการ “งีบ” ไม่ใช่ “หลับ” นะจ๊ะ หากต้องการฟื้นฟูพลังอย่างเร่งด่วนในระหว่างวัน ให้ทำการงีบประมาณ 20 นาที ช่วยเพิ่มความตื่นตัว มีสมาธิมากขึ้น และช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น หากว่ากลัวจะงีบหลับนานเกินไป หากกลัวว่าจะไม่ตื่นให้ดื่มกาแฟก่อนงีบ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์หลังจากที่ดื่มไปแล้วประมาณ 20 – 30 นาที จะช่วยทำให้ตื่นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่าเผลองีบหลับมากกว่า 45 นาที เพราะจะเข้าสู่ช่วงหลับแล้วล่ะ ซึ่งถ้าหากตื่นในช่วงนี้จะทำให้มีอาการงัวเงียหนักยิ่งกว่าเดิม ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง…