Tag: สาระน่ารู้
-
12 สิ่งที่เรามักจะทำในชีวิตประจำวันจนติดเป็นนิสัย โดยไม่รู้ว่ามันผิดมาตลอด
ในแต่ละวันของคนเรามักจะมีสิ่งต่างๆ นับร้อยนับพันที่ต้องทำ แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าบางสิ่งที่เราทำเป็นประจำนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าเราใส่ใจขึ้นอีกนิดหน่อย เราก็จะเห็นว่าบางสิ่งถ้าเปลี่ยนวิธีทำ ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าทำง่ายขึ้น แถมยังดีต่อสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย 1. การกดปุ่มเลื่อนปลุก ทุกครั้งที่เราตื่นแต่ว่าไม่ยอมลุกโดยทันที ร่างกายของเราจะเริ่มเข้าสู่สภาวะการนอนหลับอีกครั้ง แต่ว่าจะไม่หลับลึกและผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเวียนหัวและอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ คุณจะต้องทำให้ตัวเองลุกขึ้นมาครั้งแรกที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกให้ได้ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกมีพลังงานตลอดทั้งวัน 2. ปริมาณยาสีฟันที่ใช้ ไม่จำเป็นจะต้องบีบยาสีฟันออกมาในปริมาณที่มากเกินไปจนปกคลุมไปทั้งขนแปรงสีฟันเพียงเพราะว่าจำมาจากในโฆษณา ความจริงแล้วบีบแค่นิดเดียวก็เพียงพอแล้ว 3. การแขวนกระดาษชำระ เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่าการแขวนกระดาษชำระที่ถูกวิธีนั้นควรแขวนไปด้านไหนกันแน่ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดได้อธิบายว่าวิธีที่ถูกต้องคือการแขวนโดยหันด้านที่ดึงออกมาข้างนอกดังรูป ด้วยวิธีนี้จะช่วยลดโอกาสที่กระดาษชำระจะสัมผัสกับเชื้อโรคที่กำแพง 4. ดื่มกาแฟในตอนเช้า การตื่นเช้านั้นจะสร้างความตึงเครียดให้กับร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อร่างกายกำลังสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอล ถ้าคุณดื่มกาแฟทันทีหลังจากที่ตื่น คาเฟอีนจะไม่ส่งผลอะไรกับร่างกายมากสักเท่าไหร่เนื่องจากระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในกระแสเลือด เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะต้องการคาเฟอีนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าให้ดื่มกาแฟประมาณ 9.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงหลังตื่นนอนเมื่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลงแล้ว 5. การล้างมือ มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังล้างมือผิดวิธีอยู่ในตอนนี้ ผิวหนังแต่ละส่วนบนมือหรือแม้กระทั่งช่องระหว่างนิ้วควรถูด้วยสบู่ทั้งหมด และควรใช้เวลาอย่างต่ำประมาณ 20-30 วินาที 6. การใช้เครื่องเป่าลมอัตโนมัติ เคยสงสัยกันไหมล่ะว่าลมที่เครื่องเป่าอัตโนมัติเป่าออกมานั้นมาจากไหน…
-
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับสัตว์ ในแบบฉบับการ์ตูนมุ้งมิ้ง อ่านง่าย ได้ความรู้ ดูน่ารัก
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเวลาเราอ่านหนังสือความรู้จะรู้สึกง่วงจนอ่านไม่ไหว ทั้งที่ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนนี่อ่านได้หลายเล่มสบายๆ เลยแท้ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปในหัวก็ไม่มีความรู้กันพอดี ถ้าอย่างงั้นเราก็เอาการ์ตูนมารวมเข้ากับสาระความรู้สิ แค่นี้ก็อ่านได้ไม่น่าเบื่อแล้ว แถมยังได้ความรู้เพิ่มเติมด้วย เหมือนการ์ตูนจาก Brooke Barker นักเขียนชาวเนเธอร์แลนด์ที่เอาสัตว์มาวาดการ์ตูนพร้อมแปะเกร็ดความรู้ลงไปแบบนี้ไง รู้ป่าวว่าถ้าจิ้งจอกตัวเมียตายตัวผู้จะเป็นโสดตลอดชีวิต แต่ถ้าตัวผู้ตายแทนตัวเมียจะหาแฟนใหม่เลย หนูเป็นสัตว์ที่อ่อนไหว พวกมันเห็นเพื่อนเศร้าก็จะเศร้าตามโดยไม่มีเหตุผล ฮือ หมีแพนด้าไม่มีเวลาหลับแน่นอนหรอก อยากหลับเมื่อไหร่ก็หลับเลย แถมหลับเยอะด้วย อยากรู้ไหมว่าทำไมนกบินชนกระจก? ส่วนมากไม่ได้เป็นเพราะมันไม่เห็นนะ แต่เป็นเพราะพวกมันพยายามบินชนเงาของตัวเองต่างหาก แมวก็จำเสียงของทาสได้เหมือนกัน แค่ไม่สนใจจะโต้ตอบด้วยแค่นั้นแหละ หมาจิ้งจอกอาร์กติกทนอากาศหนาวได้ดีมว๊ากกก กว่ามันจะรู้สึกหนาวสั่นก็ที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียสโน่น กระรอกบางตัวช่วยปลูกต้นไม้หลาย 1,000 ต้นเลย แต่ไม่ได้เป็นเพราะมันรักโลกนะ มันแค่ลืมว่าซ่อนเมล็ดพืชไว้ตรงไหน ปลาฉลามสีน้ำเงินจะกัดเพศตรงข้ามเพื่อบอกว่า “เราชอบเธอนะ” แอบซาดิสนะเนี่ย คนเราก็เหมือนผึ้ง พวกมันจะไม่หายเครียดถ้าไม่ได้กินน้ำตาล แต่ผึ้งกินแล้วไม่อ้วนเหมือนคนนะ ทุกสิ่งที่ลูกเป็ดเห็นหลังจากเกิดมาเพียง 10 นาที จะกลายเป็นแม่ของมันทันที ไม่ว่าจะเป็น คน…
-
15 ทริคเล็กๆ ทางลัดการใช้คอมพิวเตอร์ รู้ไว้ ประหยัดพลังงานชีวิตได้มากโข
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เราก้าวเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว คอมพิวเตอร์ เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านการทำธุรกรรมต่างๆ เป็นต้น ในเมื่อคอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของเรา เราก็ต้องเริ่มศึกษาและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีทั้งหลายเหล่านี้ #เหมียวบู้บี้ ก็เลยมีทริคเล็กๆ สำหรับการใช้คอมพิวเตอร์มาฝาก แค่จำและนำไปใช้ก็สามารถประหยัดเวลาได้อย่างเยอะเลยนะเออ 1. เปิดแท็บที่เพิ่งปิดไป Windows: Ctrl+Shift+T macOS: Cmd +shift+T 2. บันทึกหน้าเพจเป็น PDF Windows: Ctrl+P เลือก บันทึกเป็น PDF macOS: Cmd +Shift+t . 3. ใช้การค้นหาขั้นสูงจาก Google Advance เพื่อค้นหาสิ่งที่คุณค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง . 4.เมื่อต้องการรู้เวลาเมืองต่างๆ ในโลก พิมพ์ time+ชื่อเมืองที่ต้องการ 5.ต้องการเปลี่ยนสกุลเงินให้พิมพ์ ค่าเงินเดิม to ค่าเงินที่จะแปลง เช่น 500 Baht to…
-
“วัวตัวไหนที่มีชื่อ จะให้นมมากกว่าวัวที่ไม่มีชื่อ” นี่คือสิ่งที่งานวิจัยจากอังกฤษบอกเรา
เป็นเรื่องปกติที่เราจะตั้งชื่อให้กับสัตว์ที่เราเลี้ยงเอาไว้ เพื่อที่เราจะได้จดจำมันได้ สร้างความคุ้นเคยให้กับพวกมันกับเรา แต่หากว่าสัตว์เหล่านั้นเป็นพวกไก่ วัว หมู หรือสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้เพื่อเอาผลิตผลจากพวกมัน เราก็อาจจะไม่ได้ตั้งชื่อให้กับพวกมันสักเท่าไหร่ แต่หากว่าคุณได้อ่านงานวิจัยชิ้นนี้ล่ะก็ คุณอาจจะอยากตั้งชื่อให้กับพวกมันก็ได้ เพราะเขาบอกว่าการตั้งชื่อให้กับวัว ช่วยให้พวกมันผลิตน้ำนมได้มากกว่าตัวที่ไม่มีชื่อ!? งานวิจัยนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Telegraph เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา โดยผู้ทำการวิจัยนี้มีชื่อว่าดอกเตอร์ Catherine Douglas และดอกเตอร์ Peter Rowlinson จากมหาวิทยาลัย Newcastle University พวกเขาได้ทำการสำรวจฟาร์มนมกว่า 516 แห่งในอังกฤษ แล้วพบว่าการปฏิบัติต่อพวกมันแบบเฉพาะเจาะจง จะช่วยให้พวกมันผลิตน้ำนมได้มากกว่าปกติ ปริมาณเฉลี่ยของนมที่วัวจะผลิตได้ในช่วง 10 เดือนคือ 13,198 แก้ว (หรือประมาณ 7,500 ลิตร) ในขณะที่วัวมีชื่อ จะผลิตนมได้มากขึ้นไปอีกราวๆ 454 แก้ว หรือ 258 ลิตร ด้านดอกเตอร์ Douglas กล่าวว่า “เหมือนกับคนที่รู้สึกตอบสนองได้ดีกว่ากับการให้ความสำคัญ วัวก็เช่นกัน พวกมันจะรู้สึกมีความสุขมากกว่าและผ่อนคลายมากกว่าถ้าพวกมันได้รับการสนใจแบบตัวๆ ไป” “เกษตรกรหลายคนให้ความรักกับวัวของพวกเขาและดูแลพวกมัน…
-
พบกับสัตว์ 5 ชนิดที่มีพลังพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น เหมือนกับพลังของซูเปอร์ฮีโร่เลย
ในโลกของเรามีเรื่องมหัศจรรย์มากมายที่เรายังไม่เคยรู้ และสัตว์ 5 ตัวที่เรากำลังจะนำเสนอนี้ก็คือหนึ่งในความมหัศจรรย์เหล่านั้น พวกมันแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่พูดไปแล้วก็ดูเหมือนพลังจิตหรือความสามารถพิเศษของเหล่าฮีโร่เหมือนกัน จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย 1. บัมเบิ้ลบี กับพลังมองเห็นอดีต ผึ้งสายพันธุ์บัมเบิ้ลบีมีความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ก็คือพวกมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาในระหว่างที่กระพือปีกด้วย ซึ่งผลวิจัยจากนิตยสารวิทยาศาสตร์ Science ได้ระบุมาแล้วว่าทุกครั้งที่พวกมันเกาะบนดอกไม้ก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้านี้ลงไป แล้วพอมีผึ้งตัวใหม่มาเกาะ พวกมันก็จะสัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้านี้แล้วรู้ว่ามีผึ้งมากินน้ำหวานไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็จะบินไปหาดอกไม้อื่นแทน 2. เหยี่ยวเพเรกริน กับความเร็วปานสายฟ้าแลบ เหยี่ยวเพเรกรินเป็นสัตว์ที่มีความเร็วมากกว่าเสือชีตาซะอีก ถ้าเปรียบมันเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็คงจะเป็น เดอะแฟลช ในชีวิตจริง มันสามารถบินได้ด้วยความเร็วเกือบ 390 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเชียวนะ ซึ่งความสามารถนี้แหละที่ทำให้มันเป็นนักล่าในธรรมชาติที่น่ากลัวมาก บินลงมาโฉบเอาเหยื่อไปได้โดยที่เหยื่อไม่ทันรู้ตัวเลย 3. ตัวสลอธ 3 นิ้ว กับสุดยอดความสามารถฟื้นฟูบาดแผล ถึงแม้สลอธจะไม่ได้รวดเร็ว แต่มันมีพลังที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งซึ่งก็คือการฟื้นฟูบาดแผลให้ตัวเองให้หายในเวลาอันรวดเร็ว ความสามารถนี้ทำให้บาดแผลแทบทุกอย่างที่มันได้รับไม่ทำให้มันบาดเจ็บถึงตาย เพราะได้รับการฟื้นฟูก่อน ถ้าพูดให้เห็นภาพชัดเจนเราก็อาจจะบอกได้ว่ามันฟื้นฟูตัวเองได้ดีเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ เดดพูล เลย แถมหลังรักษาแล้วบาดแผลของมันยังไม่ติดเชื้อด้วยนะ ความสามารถนี้แหละเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกสลอธอายุยืน 4. กวางเรนเดียร์ กับการมองเห็นที่เหนือชั้น กวางเรนเดียร์มีความสามารถในการรับภาพที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันสามารถมองเห็นแสงยูวีได้…
-
เหตุผลว่าทำไม ‘เจ้าแมลงสาบ’ ถึงอยู่ยงคงกระพัน ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แถมลูกดกอีกด้วย
แมลงสาบ คงเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนรู้สึกขยาดทุกครั้งที่ได้เจอ ตอนเดินว่าหนักแล้ว ถ้ามันบินใส่เรายิ่งหนักกว่า แต่ไม่ว่าเราจะพยายามอย่างไรมันก็ไม่หมดไปจากบ้านเราสักที รู้สึกว่าต้องบังเอิญเจอมันอยู่เรื่อยๆ ในวันนี้เราจึงมาพูดถึงเหตุผลว่าทำไมแมลงสาบถึงอยู่ยงคงกระพัน ตายยากตายเย็น แถมมีทายาทสืบทอดให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ การศึกษาล่าสุดจากสถาบันสรีรวิทยาของพืชและนิเวศวิทยาในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications ได้ค้นพบความพิเศษในการเอาชีวิตรอดของเจ้าแมลงสาบ ผ่านลักษณะยีนที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน พวกเขาได้ทำการศึกษากับแมลงสาบอเมริกัน (Periplaneta Americana) แมลงสาบบ้านที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวเท่ากับถ่าน AA โดยนักวิจัยได้นำยีนของแมลงสาบชนิดนี้ไปเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตลักษณะเดียวกันอีก 2 สายพันธุ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแมลงที่ชื่อว่า Blattodea จากการวิเคราะห์จึงทำให้พบว่าตามประวัติการวิวัฒนาการของแมลงสาบ มีจุดชี้ชัดว่าพวกมันจะมีการวิวัฒนาการที่ทำให้เกิดการขยายกลุ่มของยีนมากขึ้นเรื่อยๆ ยีนที่มีการเพิ่มขึ้นนั้นมีอยู่ส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างระบบกำจัดพิษภายในร่างกายได้ ปกป้องไม่ให้สารพิษที่มันกินเข้าไปทำร้ายร่างกาย ยีนส่วนต่อมามีการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งต่างๆ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงเจริญเติบโตได้ แม้จะกินพวกเศษอาหารหรือเศษขยะที่เราเหลือทิ้งไว้ในบ้าน บางครั้งเราอาจเคยเห็นแมลงสาบขาขาดหรือหัวขาดแต่กลับสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้นานถึง 7 วัน งานวิจัยชิ้นนี้ได้ให้คำตอบกับปรากฏการณ์นั้นว่าพวกเขาค้นพบยีนที่สามารถช่วยทำให้พวกมันสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขาที่ขาดไปจึงสามารถงอกกลับออกมาใหม่ได้ นอกจากนั้นยีนอีกกลุ่มที่เจ๋งมากๆ ของพวกมันคือ ยีนที่สามารถทำให้แมลงสาบสามารถปรับตัวเข้ากับทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ยิ่งเป็นช่วงสภาวะโลกร้อนแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งหนักเลย เกิดเป็นการเพาะพันธุ์ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น …
-
หนุ่มๆ ฟังไว้ วิจัยบอกว่าควร “ชู้กวู้ว” อย่างน้อยๆ 21 ครั้งต่อเดือน เพื่อสุขภาพตัวเองนะ!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2017 Jessica Farrar นักการเมืองจากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเรียกร้องให้เหล่าชายหนุ่มหยุดการ “ชู้กวู้ว” เพราะมันคือการกระทำที่ต่อต้านการให้กำเนิดบุตร (ประมาณว่าถ้าทำแล้วก็จะทำให้เด็กคนนั้นๆ ไม่ได้กำเนิดมานั่นเอง) และหากใครฝ่าฝืนก็จะมีการปรับเป็นจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,112 บาท แต่โชคดีของหนุ่มๆ เท็กซัสซะเหลือเกิน เพราะมันยังเป็นแค่การพูดคุยเฉยๆ ไม่ได้กลายเป็นข้อกฎหมายที่มีการบังคับใช้จริงๆ และเพื่อเป็นการสนับสนุนเหล่าชายหนุ่มว่าการ “ชู้กวู้ว” เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราก็เลยเอางานวิจัยหนุกๆ ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาให้ได้อ่านกัน งานวิจัยที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ europeanurology.com เมื่อราวๆ เดือนธันวาคมปี 2016 พบว่าการการทำกิจกรรมทางเพศหรือการช่วยตัวเอง มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูร่างกายและลดโอกาสในการป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างดี การศึกษานี้ได้ศึกษาพฤติกรรมทางเพศของชายหนุ่มกว่า 32,000 คน จนสรุปได้ว่าคนที่มีอัตราการหลั่งออกมาสูงกว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่านั่นเอง บางช่วงบางตอนของงานวิจัยเขียนเอาไว้ว่า “เราพบว่าผู้ชายที่อยู่ในรายงานของเรา เมื่อเปรียบเทียบคนที่ช่วยตัวเองบ่อยครั้งกับคนที่ช่วยตัวเองน้อยครั้ง พบว่าคนที่ช่วยตัวเองบ่อยนั้นจะมีโอกาสพบโรงมะเร็งต่อมลูกหมากได้น้อยกว่านั่นเอง การศึกษาที่มีความคาดหวังใหญ่ขนาดนี้จะเป็นหลักฐานที่แข็งแกร่งที่ชี้ว่าการช่วยตัวเองมีประโยชน์ขนาดไหนในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก” ส่วนจำนวนครั้งที่พอเหมาะพอดีสำหรับการช่วยตัวเองนั้นคือ 21 ครั้ง/เดือน เพราะงานศึกษาชิ้นนี้พบว่ามันช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 33% เลย แต่ๆๆ นอกจากการชู้กวู้วบ่อยๆ…
-
9 สาระและเกร็ดความรู้อันน่าสนใจ ที่จะทำให้ผู้ฟังทึ่งไปกับความรอบรู้ของผู้เล่าได้อย่างดี
โลกของเรานั้นยังมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกมากมายนัก การที่ได้รู้อะไรมากกว่าคนอื่นนั้นมักที่จะทำให้เราได้เปรียบในด้านใดด้านหนึ่งอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะในการแข่งขันของสังคม การงาน หรือเพียงเรื่องเล็กๆ อย่างทำให้เรื่องเล่าของเรามีความน่าสนใจมากขึ้น ความจริงต่อไปนี้อาจจะเป็นเพียงเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรนัก แต่ก็เป็นเกร็ดความรู้อันน่าสนใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ฟังทึ่งไปกับความรอบรู้ของผู้เล่าได้เป็นอย่างดี ไอน์สไตน์เคยจะได้เป็นประธานาธิบดี หลังจากที่ประธานาธิบดีของอิสราเอลเสียชีวิตไปในปี 1952 นายกรัฐมนตรีของประเทศอิสราเอลในตอนนั้นได้มีการติดต่อไปหาไอน์สไตน์เพื่อยืนข้อเสนอให้เขามาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของอิสราเอล ไอน์สไตน์รู้สึกดีใจกับข้อเสนอนี้มาก แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไปโดยที่ให้เหตุผลว่า “สำหรับผมแล้วสมการทางคณิตศาสตร์มีความสำคัญมากกว่าการเมืองมาก เพราะแม้การเมืองจะเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบัน แต่สมการทางคณิตศาสตร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอยู่ตลอดกาล” ในอดีต ต่างหูเป็นเครื่องประดับสำหรับผู้ชายเท่านั้น สำหรับชาวอียิปต์โบราณแล้วต่างหูเป็นสัญลักษณ์ของสถานะที่สูงส่งเช่น สมาชิกของพระราชวงศ์ นักบวช และคนร่ำรวยเป็นต้น ในยุคการเดินเรือนั้น ลูกเรือจะใส่ต่างหูหลังจากที่พวกเขาข้ามเส้นศูนย์สูตรได้สำเร็จ มันทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะดื่มแอลกอฮอล์ฟรี และวางเท้าบนโต๊ะในร้านเหล้า นอกจากนั้นพวกโจรสลัดยังสวมต่างหูเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำลายเรือไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งลำ ส่วนทหารจะสวมต่างหูเพื่อเป็นเป็นเครื่องเตือนใจถึงบ้านที่จากมา กระดุมแขนเสื้อเคยมีไว้ใช้ ป้องกันทหารเช็ดน้ำมูกกับแขนเสื้อ กระดุมแขนเสื้อไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อความสวยงามหรือทำให้แขนเสื้อพอดีเท่านั้น ในสมัยก่อนนโปเลียน โบนาปาร์ตได้สั่งให้มีการเย็บกระดุมลงไปบนแขนเสื้อของทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเช็ดน้ำมูกกับแขนเสื้อนั่นเอง จีเอ็มโอนั้นไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ จีเอ็มโอหรือ Genetically Modified Organism (สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ได้รับการยืนยันจากทางสถาบันวิทยาศาสตร์และงานวิจัยจำนวนมากแล้วว่าไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งที่คุณเรียกว่าจีเอ็มโอก็คือผลไม้หรือผักที่คุณสามารถปลูกได้ในสวนของคุณเองนั่นล่ะ ข้อแตกต่างเพียงประการเดียวคือมันมีการแต่งพันธุกรรมให้สามารถช่วยปกป้องตัวเองจากปรสิตได้ ทำให้ผักและผลไม้เหล่านี้เติบโตได้ดีขึ้น อีกทั้งสินค้าจำนวนมากในปัจจุบัน ล้วนแต่ทำมาจากพืชจีเอ็มโอทั้งนั้น หลังจากฝนตก เราจะได้ยินเสียงได้ชัดขึ้น การได้ยินเสียงระหว่าง และหลังฝนตกจะดีขึ้น เนื่องจากมีฝุ่นละออง หรืออนุภาคอื่นๆ อยู่ในอากาศน้อยลง…
-
ไขข้อสงสัย ขณะที่แมลงวันตอมอาหาร มันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะ??
เป็นเรื่องปกติของบ้านเราที่มักจะมีแมลงวันมาตอมอาหารอยู่เสมอ บางคนก็อาจจะใจบุญสุนทาน มีน้ำใจแบ่งอาหารให้กับเหล่าแมลงทั้งหลาย แต่หารู้ไม่ว่าในขณะที่แมลงวันกำลังตอมอาหารของคุณอยู่นั้น มันอาจทำอย่างอื่นที่ไม่คาดคิดขณะที่กินอาหารอยู่ก็เป็นได้ แมลงวันหรือ Musca Domestica เป็นแมลงที่ไม่มีพิษ ไม่มีเหล็กในหรือเขี้ยว มันหาอาหารอย่างสงบสุขโดยการเที่ยวบินตอมของเสียจากสัตว์หรือขยะอื่นๆ เนื่องจากมันไม่มีฟัน มันจึงต้องกินอาหารที่เป็นของเหลว แต่จะทำอย่างไรหากอาหารนั้นอยู่ในรูปของแข็ง เมื่อเจออาหารที่เป็นของแข็ง แมลงวันจะอ้วกออกมาใส่อาหาร สารประกอบทางเคมีในอ้วกของแมลงวันนั้นจะค่อยๆ สลายอนุภาคของอาหารให้กลายเป็นของเหลว ทำให้มันสามารถดูดได้ราวกับเป็นสเลอปี้ นอกจากนั้นแล้วในขณะที่มันกำลังกินอาหาร มันยังถ่ายอุจจาระไปพร้อมๆ กันอีกด้วย และตัวเมียก็จะวางไข่ด้วยเช่นกัน แมลงวันจอมฉวยโอกาสจะไม่มีพิษมีภัยอะไรเลยหากมันกินแค่อาหารของมนุษย์ แต่มันดันกินอย่างอื่นที่เน่าเสียด้วย เช่นขยะหรือมูลสัตว์ ทำให้มันเป็นพาหะของเชื้อโรคมากมาย “แมลงวันเป็นพาหะของเชื้อโรคขนาดเล็กมากมาย” Jeff Scott นักกีฏวิทยาที่มหาวิทยาลัย Cornell กล่าว “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกมาจากตัวสัตว์ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือไวรัส แมลงวันสามารถนำมาแพร่เชื้อบนอาหารของคุณได้ตลอดเวลา” ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแมลงวันตัวเต็มวัยสามารถแพร่เชื้อโรคและปรสิตได้มากกว่า 100 ชนิด ตั้งแต่แบคทีเรียแกรมลบรูปท่อน วัณโรค รวมไปถึงพยาธิตัวตืด จากงานวิจัยจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ Penn State Eberly ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Nanyang กล่าวว่าแมลงวันจะรับเชื้อโรคด้วยขาของมัน…
-
19 เกร็ดสาระแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ในเรื่องของสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ในโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งมีชีวิตอย่างคนหรือสัตว์ และสิ่งไม่มีชีวิตอย่างต้นไม้ ภูเขา ทะเลอีกด้วย จึงมีความรู้เกี่ยวกับโลกนี้อยู่มากมายเสียจนใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงจำไม่หมดเลย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเพิ่มพูนเกร็ดความรู้ใหม่เอง พวกเราจะได้มีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน ถ้าเรียนรู้เรื่องใหม่ทุกวันเป็นประจำเราอาจจะเป็นอัจฉริยะในอนาคตก็ได้ใครจะไปรุู้ 1. นกไม่ฉี่กันหรอก เพราะมันไม่มีท่อปัสสาวะนั่นเอง ดังนั้นใครที่เคยคิดว่านกฉี่ใส่ไม่มีจริงนะจ๊ะ 2. ในมะเขือม่วงก็มีสารนิโคตินเหมือนกัน แต่มีอยู่น้อยนิดเท่านั้น เทียบกับบุหรี่ไม่ติดเลย 3. เด็กทารกไม่สามารถฝันได้ นักประสาทวิทายาเชื่อว่าคนเราจะเริ่มฝันได้ตอนที่อายุ 4-5 ปีแล้ว 4. ดวงดาวสามารถทำลายดาวเคราะห์ที่เข้าไปใกล้มันมากเกินไปได้ ดีนะที่โลกเราไม่มีดวงดาวรอบๆ 5. เต่าก็สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้เหมือนกับคนนั่นแหละ สัตว์บางชนิดอย่างช้างและสิงโตทะเลเองก็เช่นกัน 6. แมงกะพรุนระเหยเป็นไอได้ เนื่องจากร่างกายแมงกะพรุนประกอบด้วยน้ำกว่า 98 เปอร์เซนต์เลย ถ้ามันถูกแดดเผาจนระเหยไปก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลยนั่นเอง 7. เราสามารถรับประทานทองคำได้ แต่เครื่องประดับทองคำทั่วไปมีแร่ที่กินไม่ได้ผสมอยู่ด้วย อย่าเผลอลองกินล่ะ 8. เจ้าจ๋อก็ขัดฟันเหมือนกันนะ พวกมันมักจะใช้ขนนกหรือใบหญ้าแทนไหมขัดฟัน จะได้รักษาความสะอาดช่องปากและยิ้มสวยด้วย 9.…
-
17 เรื่องแปลกๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ หากออกไปอยู่ใน ‘อวกาศ’
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราเคยถามตัวเองกันไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ ก็คงจะมีแต่นักบินอวกาศที่เคยเดินทางไปและกลับมาให้คำตอบเราได้ และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ และยังมีทฤษฎีเกี่ยวกับหลุมดำ เมื่อเราโดนดูดเข้าไปอีกด้วย 1. สายตาของคุณจะด้อยลงอย่างมาก อาการบกพร่องทางการมองเห็นจากความดันภายในกระโหลก หรือ VIIP เป็นอาการที่นักบินอวกาศเป็นกันมากที่สุดเมื่ออยู่ในอวกาศเวลานานๆ NASA ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ แต่ยังไม่พบคำตอบที่แน่ชัด โครงการไปดาวอังคารยังคงอยู่ภายใต้คำถาม ว่าจะช่วยนักบินอวกาศอย่างไรกับอาการนี้ 2. คุณอาจจะสูงขึ้นประมาณ 2-3 นิ้ว ถ้าคุณอยากจะสูงขึ้นอีก 2-3 นิ้ว การบินไปในอวกาศอาจจะช่วยคุณได้ชั่วคราว การที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงนั้น จะทำให้กระดูกสันหลังยืดขึ้น จากผลตรวจอัลตราซาวด์ ก็ได้ยืนยันว่านักบินอวกาศนั้นสูงขึ้นจริงๆ 3. การโดนรังสี อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ในการเตรียมตัวภารกิจไปดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์ NASA ได้ศึกษาเกี่ยวกับรังสีที่มาสัมผัสร่างกายมนุษย์มาเป็นเวลานาน ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารนั้น บางกว่าของโลกเรา จึงมีการป้องกันรังสีจากอวกาศต่ำกว่าโลก ดั้งนั้น เมื่อเรารู้เกี่ยวกับการป้องกันรังสีมากเท่าไร การที่มนุษย์จะไปดาวอังคารก็จะง่ายขึ้นมากเท่านั้น 4. เล็บของคุณอาจหลุดออกมา นักบินอวกาศจำนวน…
-
19 ภาพที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกของเรามันช่างกว้างใหญ่นัก ที่เรารู้มันเล็กน้อยมั่กๆ!!
โลกไม่เคยหยุดหมุนและเวลาไม่เคยหยุดเดิน นั่นทำให้มนุษย์ต้องหาความรู้ใส่ตัวมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ รอบโลกนั้นเราอาจจะรู้ไม่หมด แต่ว่าเหตุการณ์แปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นนั้นอาจทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นบนโลกด้วยเหรอ ทำไมเราไม่รู้นะ และนี่คือรูปภาพเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของเรา มาลองดูกันดีกว่าว่าภาพเหล่านี้คุณจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วหรือยัง… ขนรถแบบชาวแอฟริกัน ภาพของนักกีฬาแข่งขันงัดข้อ ทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สีรุ้ง 4 เส้นพร้อมกัน รางรถไฟเบี้ยวหลังเกิดแผ่นดินไหวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ โคตรเห็ด จัดไปซะหลายดอก ที่เห็นขาวๆ นั่นใยแมงมุมทั้งนั้น ต้นไม้ใหญ่ใน Tanzania ที่ไม่แคร์การกัดเซาะของผืนดิน ก๊าซมีเทนถูกแช่แข็ง ภาพจากนอกโลกขณะเกิดสุริยุปราคา แพนด้ารูปหัวใจ เครื่องบินขณะกำลังผ่านสุริยุปราคา โดนัทน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ชุดเดรสที่ทำมาจากใบไม้ 6,000 ใบ คริสตัลน้ำแข็งบนทะเล สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็กจริงๆ ลองดูตรงปากปลาดีๆ วงกลมใต้ท้องทะเลที่เกิดจากปลาปักเป้า…
-
นักวิทย์ร่วมไขปริศนา ของคำถามที่ว่า ทำไมเราจึงไม่เห็น “ลูกนกพิราบ” มาอยู่ในเมืองเลย!?
เราทุกคนคงจะเคยเห็นนกที่บินมาเกาะตามหน้าต่างหรือตามเสาไฟมามากมายหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งนกตัวใหญ่ตัวเล็กหรือแม้แต่ลูกนกตามรังของพวกมัน แต่จะมีนกอยู่สายพันธุ์หนึ่งที่เราจะไม่ค่อย (หรือไม่มีวัน) ได้เห็นพวกมันในขณะที่ยังเป็นลูกนกเลย นั่นคือนกพิราบนั่นเอง แน่นอนว่า ทุกคนคงจะได้เคยเห็นฝูงนกพิราบอยู่บ่อยๆ บางคนเคยให้อาหารมัน บางคนเคยวิ่งไล่จับมัน หรือบางคนก็เคยนั่งดูพวกมันรวมตัวกันตามที่ต่างๆ ในเมือง ทั้งไทยและต่างประเทศก็มีคล้ายๆ กัน คำตอบง่ายๆ ดูกวนๆ แต่มันก็คือความจริง คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคุณถึงไม่เคยได้เห็นพวกลูกนกพิราบกันเลย? ไม่ใช่แค่คุณหรอกนะ ความจริงแล้วมีการศึกษาพฤติกรรมของพวกมันมานาน กระทั่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายก็พยายามหาคำตอบเรื่องนี้ ทำไมเราเห็นลูกนกอื่นๆ บินมากินอาหารกับฝูง แต่ทำไมเราไม่เห็นลูกนกพิราบ และพวกเขาก็พบว่าลูกนกพิราบก็อยู่ที่รังยังไงล่ะ… #เหมียวฟิ้นไม่ได้จะกวนหรืออะไรนะ ความจริงมันเป็นอย่างงั้นเองแต่ที่เราไม่เห็นก็เพราะพวกนกพิราบมักจะไปทำรังในที่ลับหูลับตาคนมากๆ แตกต่างจากพวกนกทั่วไปที่อาจจะมาทำรังตรงหน้าต่างบ้านคุณ แต่นกพิราบนั้นจะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะฉะนั้นเราเลยจะหารังของมันเจอในที่ลึกลับ เช่นตามอาคารร้าง บ้านร้าง หลังคา หรือตามใต้สะพานที่คนไม่สามารถเข้าถึงพวกมันได้ นกพิราบคือพ่อแม่จอมโอ๋ลูก ตรงข้ามกับนกสายพันธุ์อื่นที่อยากจะให้ลูกบินโดยเร็วที่สุด เพราะการที่บินได้หมายถึงพวกมันหมดภาระการเป็นพ่อแม่แล้ว จะได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างกระตู้วู้ว ราวกับเป็นนกวัยรุ่นอีกครั้ง พวกพิราบนั้นทำหน้าที่เป็นพ่อเป็นแม่ได้ดีมาก พวกมันจะไม่พยายามบังคับหรือเตะลูกๆ ของพวกมันออกมาจากรังเพื่อบังคับให้ลูกๆ บิน ส่วนบางสายพันธุ์จะใช้วิธีบังคับออกจากรัง เพื่อให้พวกลูกๆ บินได้ซะที (พิราบมันอินดี้นั่นเอง) พวกมันจะคอยประคบประหงมลูกๆ โดยการหาอาหารมาให้และให้ลูกๆ อยู่ในรังอย่างน้อย…
-
ทัวร์ Data Center คลายข้อสงสัย ข้อมูลบนเน็ตมหาศาล เขาเอาไปเก็บกันไว้ตรงไหนยังไง!?
ในทุกวันนี้ ระบบอินเตอร์เน็ตช่างก้าวไกลไปมาก ไม่ว่าจะข้อมูล ภาพ คลิป หรือเอกสารอะไรก็ตามแต่ สามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตจนหมดแล้วซึ่งนับวันไอ้เจ้าข้อมูลเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนเริ่มสงสัยว่า “ข้อมูลเหล่านั้นมันเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?” เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับกระทู้หนึ่งของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2973363 ที่ตั้งกระทู้สงสัยเกี่ยวกับข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเช่น Facobook Youtube หรือเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีวิธีการจัดเก็บข้อมูลมหาศาลได้ยังไง? เพราะเนื่องจากในแต่ละวันมีคนส่งข้อมูลและคลิปต่างๆ เข้าไปเยอะมาก เราก็เลยขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้แบบง่ายๆ โดยจะเป็นการยกตัวอย่างศูนย์เก็บข้อมูลของ Google มาใช้อ้างอิง เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นภาพเดียวกันนะ ในทุกๆ ครั้งที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Google.com, Youtube.com, Gmail หรือดึงข้อมูลบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ต่างๆ คุณจะถูกเชื่อมต่อไปยังศูนย์ข้อมูลส่วนกลางที่ชื่อว่า Google Data Center ศูนย์ข้อมูลที่ว่านี้มีอยู่ในสหรัฐฯ 12 แห่ง ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็มีศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และไต้หวันด้วยเหมือนกัน แต่ที่เราจะพาไปชมกันตอนนี้คือศูนย์เก็บข้อมูลที่อยุ่ในเมือง Lenoir รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ที่นี่จะมีพนักงานคอยหมุนเวียนเปลี่ยนกะมาทำงานตลอด 24 ชม. เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลหรืออุปกรณ์ต่างๆ พวกเขาจะได้แก้ไขมันได้ทันท่วงที ห้องนี้คือ Networkong Room ห้องนี้จะเป็นห้องที่ใช้สำหรับเชื่อต่อฐานข้อมูลต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ ส่งต่อไปยังผู้ใช้ทั่วโลก .…
-
เคยสงสัยไหม เหตุใดรางรถไฟต้องมีก้อนหิน? เพราะมันช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ยังไงล่ะ
การเดินทางด้วยรถไฟถือเป็นหนึ่งในการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ (กรณีในต่างประเทศ) แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ตั้งแต่สมัยที่รถไฟยังเป็นเพียงรถจักรไอน้ำและกลายมาเป็นรถไฟความเร็วสูง ทำไมพวกเขาถึงต้องมีก้อนหินวางไว้รอบๆ รางรถไฟ? หินที่ทุกคนสงสัยกันมานาน ความจริงแล้วมันมีชื่อเรียกว่า “บัลลาสต์แทร็ก” ก้อนหินเหล่านี้ช่วยให้รางรถไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะเนื่องจากรางรถไฟสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อันเนื่องมาจากอุณหภูมิความร้อน การเคลื่อนตัวของดินและแรงสั่นสะเทือน ก้อนหินพวกนี้จะเป็นตัวซึมซับแรงกระแทก ความร้อน ช่วยให้รางไม่เคลื่อนออกจากที่ที่มันควรอยู่ วิศวกรเริ่มใช้วิธีนี้ในการสร้างรางรถไฟมากว่า 200 กว่าปีแล้ว และยังคงใช้มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันไม่ให้รางรถไฟทรุดตัวเมื่อถูกน้ำพัดไปด้วย อย่างเช่นภาพนี้จะเห็นได้ว่ารางรถไฟถูกวางไว้ริมทะเล ส่วนที่เป็นหินยังทำให้รางรถไฟคงรูปร่างเดิมอยู่ แต่ในส่วนที่ไม่มีหินจะเห็นว่ารางหย่อนลงไปอย่างน่าหวาดเสียว ผลพลอยได้จากการใช้หินมาราดลงบนรางรถไฟ ยังทำให้ต้นไม้ใบหญ้าหรือวัชพืชต่างๆ ไม่มาเติบโตบริเวณรางรถไฟด้วย แล้วใครกันล่ะที่จะมีเวลามากพอไปโรยก้อนหินเหล่านั้น? อันที่จริงแล้วบนขบวนรถไฟจะมีช่องไว้สำหรับโปรยก้อนหิน ทำให้สามารถโรยหินลงไปได้เท่าๆ กันทั้งรางเลย . . . นี่แหละคือที่มาที่ไปของก้อนหินรอบๆ รางรถไฟ มันสำคัญอย่างนี้นี่เอง ที่มา lifebuzz
-
นักวิจัยต่างประเทศกล่าว… ครอบครัวที่เข้มงวดกับลูกมากไป อาจทำให้เด็กเป็นคนขี้โกหก
ในวัยเด็กของเราทุกคนคงจะเคยถูกเลี้ยงดูมาโดยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป พ่อแม่บางคนอาจจะเลี้ยงลูกแบบถนุถนอม บางคนเลี้ยงด้วยเหตุผล บางคนเลี้ยงด้วยไม้เรียว บางคนอาจจะสร้างกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมากๆ นั้น จะส่งผลเสียกับพฤติกรรมของลูกในระยะยาวได้นะ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของนักจิตอายุรเวทและนักเขียนหนังสือชื่อดังชาวอังกฤษ Philippa Perry บอกว่าการที่พ่อแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไปนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่อยากบอกความจริงกับพวกคุณ Philippa บอกว่าทุกๆ คำโกหก ล้วนก่อตัวมาจากสถานการณ์ที่บังคับให้พวกเขาไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้ หากลูกๆ ของพวกเขากลายเป็นคนขี้โกหกล่ะก็ พ่อแม่ควรจะโทษการเลี้ยงดูของพวกเขาเอง การให้ความเห็นของเธอไม่ได้เป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยของนักจิตวิทยาชาวแคนาดา Dr. Victoria Talwar ที่วัดและทำการทดลองกับเด็กโกหกมาแล้ว Dr. Talwar ได้ทำการทดลองกับเด็กๆ ในโรงเรียนสองแห่งในประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยในโรงเรียนแรกจะไม่มีการตั้งกฎเกณฑ์ใดๆ ปล่อยสบายๆ ส่วนอีกโรงเรียนจะตั้งกฎไว้อย่างเข้มงวดและมีบทลงโทษด้วย การทดสอบนี้ก็ง่ายๆ แค่ให้เด็กๆ เดาว่าวัตถุอะไรที่ทำให้เกิดเสียง โดยห้ามมองวัตถุนั้น เธอเรียกการทดลองนี้ว่า Peeping Game เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น พวกเขาให้เด็กๆ เข้าไปในห้อง แล้วผู้ทำการทดลองก็โยนบอลพลาสติกลงกับพื้น (ซึ่งมีเสียงแตกต่างจากบอลจริงๆ จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดา) จากนั้นผู้ทำการทดลองก็ทำทีเป็นเดินออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาถามว่าเสียงที่ว่านั้นคืออะไร Dr.…
-
13 ความแตกต่าง ระหว่าง ‘คนชอบทำตัวยุ่งๆ vs คนที่มีประสิทธิภาพ’ จะมีอะไรบ้างนะ!?
ในชีวิตการทำงาน เรามักจะได้เจอกับผู้คนหลากหลายแบบ บางคนทำงานได้อย่างรวดเร็วแต่ออกมาลวกๆ บางคนทำงานได้ช้าแต่มีประสิทธิภาพขึ้นมาหน่อย แต่คนแบบไหนกันล่ะที่จะเหมาะกับองค์กรของเรา? เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ BrightSide ได้ทำการรวบรวมเอา 13 ข้อแตกต่างระหว่าง “คนทำตัวยุ่งๆ” กับ “คนมีประสิทธิภาพ” มาเปรียบเทียบกัน เราลองมาดูกันไหมว่าพวกเขาแตกต่างกันยังไงบ้าง? คนยุ่งๆ: ทำเหมือนว่าพวกเขามีภารกิจที่สำคัญมาก คนมีประสิทธิภาพ: พวกเขามีภารกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต คนยุ่งๆ: มีการจัดลำดับความสำคัญไว้หลายอย่าง คนมีประสิทธิภาพ: มีลำดับความสำคัญอยู่แค่ไม่กี่อย่าง คนยุ่งๆ: ตอบ “ตกลง” เร็วมาก คนมีประสิทธิภาพ: กว่าจะตอบ “ตกลง” ต้องคิดแล้วคิดอีก คนยุ่งๆ: พุ่งความสนใจไปที่การลงมือทำ คนมีประสิทธิภาพ: พุ่งความสนใจไปที่ความชัดเจนในการลงมือทำ คนยุ่งๆ: พร้อมจะทำทุกอย่างตลอดเวลา เปลี่ยนอะไรไปเรื่อย คนมีประสิทธิภาพ: ปิดประตูโอกาสอื่นก่อน แล้วมุ่งมั่นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้สำเร็จ คนยุ่งๆ: เอาแต่พูดว่าพวกเขายุ่งขนาดไหน คนมีประสิทธิภาพ: ให้ผลงานมันพูดแทน คนยุ่งๆ: มักจะพูดว่าพวกเขาไม่มีเวลามากพอ คนมีประสิทธิภาพ: ใช้เวลาไปกับสิ่งที่พวกเขาคิดว่าสำคัญเท่านั้น คนยุ่งๆ: ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน คนมีประสิทธิภาพ: ให้ความสนใจกับงานที่สำคัญที่สุด…
-
หลังจากที่ได้ดูแผนที่ทั้ง 28 ประเทศต่อไปนี้แล้ว คุณอาจจะมองโลกนี้เปลี่ยนไป…
สาเหตุหนึ่งที่เรามองว่าแผนที่ของแต่ละประเทศเล็กหรือใหญ่นั้น แท้จริงแล้วอาจจะไม่สามารถสะท้อนความใหญ่ที่แท้จริงของโลกได้เสมอไป อย่างเช่นแผนที่โลกที่เราใช้ปัจจุบันในรูปแบบ Mercator World Map แผนที่โลกเรามีความไม่สมจริงบางอย่าง หากประเทศหนึ่งยิ่งมีพิกัดห่างไกลออกจากเส้นศูนย์สูตร (equator) และเข้าใกล้กับขั้วโลก (poles) มากเท่าใด “ขนาด” ที่แท้จริงของแต่ละประเทศยิ่งถูกบิดเบือนมากเท่านั้น สังเกตอะไรไหมว่า ประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือดูใหญ่มาก ขณะที่ตอนใกล้เส้นศูนย์สูตรและทางใต้ กลับเล็กลง!?? วันนี้เราจะลองมาดูแผนที่โลกในมิติอื่นๆ ผ่านเว็บไซต์ Thetruesize.com ที่เปรียบเทียบลักษณะภูมิประเทศต่างๆ ไว้ได้อย่างน่าสนใจและไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย รับรองว่าหากคุณได้ดูแล้วจะต้องมองแผนที่โลกเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน 1. แม้ว่าประเทศอเมริกาจะมีขนาดใหญ่มากก็ตาม แต่หากลองเลื่อนมันขึ้นมาอยู่ใกล้ๆ กับออสเตรเลียแล้ว จะเห็นว่าขนาดมันไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่เลย 2. แม้ว่ารัสเซียจะเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก แต่ถ้าย้ายมันไปอยู่แถบเส้นศูนย์สูตร ประเทศนี้จะเล็กลงถนัดตา 3. ประเทศออสเตรเลียนั้นใหญ่กว่าที่เราคิดมาก มันเกือบจะครอบคลุมทวีปยุโรปได้ทั้งทวีปเลย 4. ถ้านำประเทศบราซิลมาไว้ในแถบรัสเซีย ผืนประเทศบราซิลจะมีลัษณะแผ่กว้างออกไปอีก 5. ถ้าเปลี่ยนประเทศโรมาเนียมาเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก มันจะแผ่ขยายแบบนี้ 6. หากเราลองย้ายประเทศแคนาดามาไว้ที่อเมริกาใต้ มันจะหดเล็กลงแบบนี้ 7. เมื่อเรามองแผนที่ประเทศกรีนแลนด์ เราอาจจะคิดว่ามันใหญ่ แต่หากลองย้ายมันมาอยู่แถวๆ อเมริกาหรือบราซิล มันจะเล็กลงเหลือแค่นี้ …
-
ลองดูกันสิ… 10 วิธีผ่อนคลายดีๆ แถมยังช่วยพัฒนาสมอง ไปได้ในเวลาเดียวกัน
เราทุกคนรู้วิธีการผ่อนคลายจากความเครียดที่แตกต่างกัน เช่น “การออกกำลังกาย” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกและดีมากๆ!! นอกจากนี่… เรายังสามารถผ่อนคลายไปด้วยฝึกสมองไปด้วยได้ ว่าแล้วพวกเราไปดูรูปตัวอย่างกันดีกว่าครับ… ว่าพวกคุณอาจจะเคยทำแบบนี้แล้วก็ได้!!! วิธีที่ 1. การหยุดพักนิ่งๆ และจิบชาสักแก้ว… (จะช่วยทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น) วิธีที่ 2. การจดบันทึก… ไอเดียต่างๆลงในสมุด (จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์) วิธีที่ 3. การชมภาพยนตร์ในภาษาต้นฉบับ (ช่วยให้รับรู้ความรู้สึกทางอามรณ์ของนักแสดงและได้ความรู้ทางภาษาอีกด้วย) วิธีที่ 4. การเล่นเกมส์ (จะช่วยให้คุณมีความคิดเกี่ยวกับการรับมือในสถานการณ์ได้ดี) วิธีที่ 5. แทนที่จะดูทีวีมาอ่านหนังสือกันดีกว่า… (ช่วยเพิ่มจิตนาการของคุณอีกด้วย) วิธีที่ 6. แค่การดื่มน้ำ (จะช่วยทำให้คุณทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น!!!) วิธีที่ 7. ไปเดินเล่นที่อากาศบริสุทธิ์ (จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น!!!) วิธีที่ 8. การงีบหลับในกลางวัน (จะช่วยให้คุณมีความกระตือรือร้นและความสนใจมากยิ่งขึ้น) วิธีที่ 9. การพูดคุยหรือสนทนากับคนอื่น (จะช่วยเพิ่มความคิดด้านเหตุผลและโต้แย้งได้ดี!!) …
-
ธรรมชาติยิ่งใหญ่เสมอ… 10 ต้นไม้อายุเก่าแก่ที่สุดในโลก และยังยืนต้นมาถึงปัจจุบัน
ยิ่งกาลเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้สรรพสิ่งบนโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไป ทุกๆ สิ่งล้วนมีเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ยอมล้มหายตายจากไป (หากไม่มีใครไปทำอะไรกับมัน) นั่นก็คือต้นไม้ยังไงล่ะ เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลเจ๋งๆ เกี่ยวกับต้นไม้ 10 ต้นที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมา ต้องบอกเลยว่าถือเป็นโชคดีมากๆ ที่พวกมันสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ และเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ ไม่มีทางเดาถูกแน่นอนว่าต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุประมาณเท่าไหร่ 10. General Sherman ต้นไม้นี้เจริญเติบโตอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Sequoia ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีอายุทั้งสิ้น 2,500 ปี ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันคือต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่จะมีการค้นพบต้นไม้ที่ใหญ่กว่าในปี 2006 9. The Olive Tree of Vouves ต้นไม้ต้นนี้ถูกพบในประเทศกรีก คาดกันว่าต้นไม้ต้นนี้น่าจะมีอายุราวๆ 2,000 ถึง 3,000 ปีเลยทีเดียว 8. Patriarca da Floresta ต้นนี้อยู่ในประเทศบราซิล แถมยังเป็นไม้พันธุ์หายากอีกด้วย มันมีอายุราวๆ 3,000 ปีเลยก็ว่าได้ 7. The Senator ผู้เชี่ยวชาญเชื่อกันว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 3,500…
-
พาชม 10 สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ปลาปิรันยา’ ที่ต้องบอกเลยว่าโหดสึสสมคำร่ำลือ!!
เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จักปลาปิรันย่ากันมาบ้างแล้ว ที่มีกิตติศัพท์ในเรื่องของความดุร้ายและฟันที่แหลมคมจนสามารถฉีกเหยื่อกินเหลือแต่กระดูกได้ภายในไม่กี่วินาที จนถึงกับมีการสร้างหนังขึ้นมามากมายที่เกี่ยวกับปลาปิรันย่าเพื่อแสดงให้เห็นถึงความดุร้ายและความโหดสึสของพวกมัน ออกมาหลายเรื่องเลยทีเดียว และวันนี้ #เหมียวหง่าว ขอพาเพื่อนๆ ไปชมสาระน่ารู้เกี่ยวปาปิรันย่า เพื่อทำความรู้จักกับพวกมันให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะจริงๆ แล้วพวกมันอาจจะโหดมากกว่าที่เห็นหรือไม่ก็อาจจะน่ารักกว่าที่ลือกันก็เป็นได้ 1. ชื่อเรียก ชื่อของปลาปิรันย่า นั้นเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่ในประเทศ Venezuela เรียกชื่อพวกมันว่า ‘Caribe’ (คาริบบ์) 2. เป็นสัตว์ที่คุกคามการใช้ชีวิตของชาวอเมริกาใต้ สภาพภูมิประเทศของทวีปอเมริกาใต้นั้นเต็มไปด้วยป่าฝน ที่ผู้คนต่างต้องพึ่งพาอาศัยน้ำในแม่น้ำในการดำรงชีวิต เจ้าปลาปิรันย่าก็เลยกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่คุกคามการใช้ชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก 3. การแนะนำให้รู้จักชื่อเสียงของมัน อย่างไรก็ตามจากชื่อเสียงเรียงนามความหฤโหดของมัน ก็ทำให้ผู้คนคิดว่ามันจะเป็นการดีมากกว่าถ้าเราแนะนำให้ทราบถึงความอันตรายของเจ้าปลานี้ให้กับผู้คนที่อยู่ใน อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และฮาวาย เพื่อเป็นการเตือนภัย 4. เป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและเนื้อ เชื่อหรือไม่ว่าเจ้าปลาปิรันย่านี้ไม่ได้กินแค่เนื้อเป็นอาหารเท่านั้น เพราะมันก็สามารถกินพืชเป็นอาหารได้ด้วยอย่างเช่นสาหร่าย เป็นต้น 5. ยังมีอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่ยังไม่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับปลาปิรันย่าที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ และก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน 6. มีสีสันสวยงาม ลำตัวของเหล่าปิรันย่าทั้งหลายไม่ได้มีแค่ตัวที่เป็นสีน้ำตาลด้านๆ เท่านั้น แต่มันยังมีอีกหลายสีด้วยกัน เช่นสีเหลือง สีเขียว…
-
รวม 10 ความจริงเกี่ยวกับกางเกงในที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ แต่รู้แล้วสนุกดีนะ
หนึ่งในเสื้อผ้าพื้นฐานที่ชายหญิงทุกเพศทุกวัยต้องหาซื้อมาใส่กันนั่นก็คือชุดชั้นใน บางคนอาจจะชอบแบบมีลวดลาย บางคนอาจจะชอบแบบสีพื้นๆ แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วชุดชั้นในมันยังมีอะไรมากกว่านั้นอีกนะ ถ้าไม่เชื่อลองไปดู 10 ความจริงเกี่ยวกับชุดชั้นในที่#เหมียวฟิ้นนำมาให้อ่านในวันนี้เลย 1. มือสอง ในโลกนี้ยังคงมีการซื้อขายกางเกงในมือสองอยู่นะ เช่นที่ประเทสญี่ปุ่นการซื้อขายแลกเปลี่ยนกางเกงในมือสองถือเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และเรามักจะได้เห็นสิ่งของเหล่านี้ตามตู้หยอดเหรียญด้วยนะ 2. ป้องกันเสียงตด บริษัทผู้ผลิตกางเกงในจากอังกฤษสามารถออกแบบกางเกงในที่กรองกลิ่นตดได้แล้ว (ใครไส้ลั่นบ่อยๆ น่าจะมีประโยชน์มากเลย) 3. กางเกงในกินได้ ในขณะที่ผู้ผลิตกางเกงส่วนใหญ่พยายามผลิตชุดชั้นในที่มีความเบาบาง ระบายอากาศได้ดี มีความเซ็กซี่ แต่กลับมีบริษัทแห่งหนึ่งที่ผลิตกางเกงในที่กินได้ โดยวัสดุของมันทำมาจากชะเอมหรือลูกอม!? 4. จีสตริงเด็ก เมื่อปี 2002 บริษัท Abercrombie ผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นกางเกงในจีสตริงสำหรับเด็กๆ และวางขายตามห้างสรรพสินค้า แต่แทนที่จะดูน่ารักกลับดูไม่เหมาะสมจนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 5. ลัทธิมอรมอนมีชุดชั้นในเป็นของตัวเองด้วยนะ กลุ่มมอรมอนเป็นคริสต์ศาสนิกชนกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อบางประการต่างจากศาสนาคริสต์กระแสหลัก พวกเขาได้ผลิตชุดชั้นในเป็นของตัวเอง โดยลักษณะจะมีสีขาวพื้นๆ 6. กางเกงในสุนัข มหาวิทยาลัยไคโรในประเทศอียิปต์ได้พยายามค้นคว้าชุดชั้นในที่มีผลกระทบกับสเปิร์มทุกรูปแบบ พวกเขาเลยทดลองสร้างกางเกงในสำหรับสุนัขขึ้นมาเพื่อศึกษา ปรากฏว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นนัยสำคัญ 7. กางเกงในจากเรือนจำ ในปี…
-
ทำความรู้จัก EMI Filter วัสดุที่ติดอยู่ตรงปลายสายชาร์จคอมพิวเตอร์ แต่เราไม่เคยทราบว่ามันมีประโยชน์!?
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์แทบจะตลอดเวลา และบางครั้งมันมีจะมีส่วนที่แปลกๆ ติดมาอยู่เสมอและบางครั้งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีไว้เพื่ออะไร? อย่าเช่นเจ้าอุปกรณ์ลักษณะเป็นกระบอกกลมๆ ที่ติดอยู่ตรงส่วนปลายของสายอแดปเตอร์ต่างๆ อย่างเช่นสายชาร์จแทปเล็ตเป็นต้น เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่ามันคืออะไร วันนี้เรีาจะมาไขปริศนานีให้กระจ่างกัน!! และนี่คือเจ้ากระบอกกลมๆ ที่กล่าาวถึงข้างต้น ซึ่งหลายๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันเท่าไหร่นัก แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีไว้ประดับประดาให้ดูเท่ๆ เท่านั้น เพราะเป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญมากเลยนะ!! เจ้าสิ่งนี้มีเหตุผลของมันในการที่ตั้งอยู่ใกล้กับตัวอแดปเตอร์ จริงๆ แล้วมันมีไว้เพื่อ ยับยั้งคลื่นความถี่สูงที่แฝงหรือติดมากับแหล่งจ่ายไฟ เพื่อไม่ให้เข้าไปสู่วงจรอิเล็คทรอนิกส์ จนอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ มันมีชื่อเรียกว่า EMI Filter ซึ่งทำมาจากวัสดุเซรามิก ผสมกับส่วนประกอบของเหล็กและโลหะอื่นๆ อีกมากมาย ข้างในจะมีลักษณะกลวงๆ เพราะต้องนำสายไฟม้วนใส่เข้าไป เพื่อเพิ่มระยะทางในการเดินของกระแสไฟฟ้าในการปรับคลื่นความถี่ให้พอเหมาะกับเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ ก่อนจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไป เอาล่ะทีนี้ใครถามว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรแและมีไว้ทำไมก็ยืดอกตอบเค้าไปได้เลยนะ ฮร่า น่าทึ่งเหมือนกันนะเนี่ย เพราะ #เหมียวหง่าว เองก็ไม่เคยสงสัยเลยว่ามันมีไว้ทำไม เพิ่งรู้ว่ามันมีความสำคัญถึงขนาดนี้เลยนะเนี่ย ที่มา : lifebuzz
-
เหมียวมีสาระ!! รวม 10 ความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับเลือดที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เลือดเปรียบเสมือนน้ำมันของรถยนต์ ที่มีส่วนสำคัญทำให้ร่างกายสามารถสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าเลือดนั้นนอกจากจะใช้ช่วยเหลือคนแล้ว มันยังมีความลับอีกมากมายเลยนะ ไม่เชื่อไปดูพร้อมๆ กันเลย 1. James Christopher Harrison นาย James Christopher Harrison เคยเกือบตายเมื่อตอนที่เขาเป็นเด็ก เขาเลยสาบานว่าจะบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ แต่กลายเป็นว่าเลือดของเขาสามารถรักษาคนที่มีระบบเลือดแบบ Rh System (อ่านเรื่องระบบเลือดเพิ่มเติมได้ที่นี่) ได้ เขาเลยบริจาคเลือดไปกว่า 1000 ครั้งตลอดชีวิต และสามารถช่วยเหลือเด็กเกิดใหม่ไปได้ถึง 2,000,000 คน 2. แรงดันหัวใจ หัวใจถือเป็นกล้ามเนื้อที่มีพลังมาก มันสร้างแรงดันเพื่อทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้ไกลถึง 9 เมตรทีเดียว 3. การสูบฉีด อย่างที่บอกไปว่าหัวใจนั้นมีพลังมาก มันสามารถสูบฉีดเลือดได้มากถึง 48 ล้านแกลลอน หรือประมาณ 181,699,766 ลิตร ตลอดชีวิตของคุณ เทียบเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก 72 สระเลย 4. ยุง เชื่อหรือไม่ว่าต้องใช้ยุงกว่า 1.3 ล้านตัวถึงจะสามารถดูดเลือดจากร่างกายของคุณได้หมด …
-
สาระมีอยู่จริง… รวม 10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ “ตูด” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!?
เรื่องของรูปร่างนั้นเป็นเรื่องที่สาวๆ ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของบั้นท้าย ที่หากใครมีบั้นท้ายที่สวยหน่อย ก็อาจจะกลายเป็นเป้าสายตาให้หนุ่มๆ จับจ้องได้ แต่สาวๆ รู้หรือไม่ว่าบั้นท้ายของพวกคุณนั้นยังมีความลับและเรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน หากอยากรู้ว่ามันคืออะไร ลองมาอ่านบทความที่#เหมียวฟิ้นนำมาเสนอในวันนี้เลย 1. Scaptia Beyonceae คือเหลือบชนิดหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อตาม Beyonce นักร้องดัง เนื่องจากมันมีก้นสีทองคล้ายกับชุดหนึ่งที่ Beyonce เคยใส่โชว์มาแล้ว 2. Jennifer Lopez มีก้นที่ล้ำค่ามาก เพราะเธอทำประกันกับก้นของเธอไว้มากกว่า 900 ล้านบาททีเดียว!? 3. ผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีไขมันสะสมที่สะโพก, ต้นขา, และก้น มากกว่าคนรูปร่างปกติ มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจน้อยกว่า 4. สัตว์บางชนิดอย่างเต่า Fitzroy River สามารถหายใจผ่านตูดได้ด้วย และสัตว์บางชนิดอย่างพะยูนก็มีแนวโน้มว่าพวกมันอาศัยการตด เพื่อช่วยในการว่ายน้ำด้วย 5. ผู้หญิงที่มีก้นใหญ่ มีแนวโน้มที่จะฉลาดมากกว่าผู้หญิงก้นเล็ก เพราะก้นมีแนวโน้มที่จะกักเก็บกรดโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของสมองได้ดี 6. จากการศึกษาในต่างประเทศพบว่าหญิงสาวมีความรู้สึกพึงพอใจกับก้นของพวกเธอมากกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ยิ่งมีก้นที่สวยงามยิ่งทำให้พึงพอใจมาก 7. พจนานุกรมของ Oxford ออกมาให้นิยามความหมายของท่าเต้น “Twerk” หรือการเขย่าก้นแรงๆ ว่าเป็นท่าเต้นที่ยั่วยุทางเพศ…
-
รวม 15 วิธีในการดัดแปลงเปลือกส้ม ให้กลายเป็นของใช้เก๋ๆ แบบที่คุณนึกไม่ถึงมาก่อน
เพื่อนๆ หลายคนน่าจะชื่นชอบการรับประทานส้ม ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและมีกลิ่นหอม แต่#เหมียวฟิ้นอยากจะบอกทุกๆ คนว่าอย่างเพิ่งทิ้งเปลือกของมันนะ เพราะเราสามารถนำเอาเปลือกของมันมาดัดแปลงเป็นของใช้หรือส่วนประกอบต่างๆ ได้ล่ะ ถ้าอยากรู้ว่ามันทำอะไรได้ลองไปชมกันเลย 1. เอาเปลือกส้มมาทำเป็นเทียน แค่เทน้ำมันมะกอกลงไปแล้วจุดไฟ 2. เอาเปลือกมาใช้ปลูกต้นกล้าแล้วนำลงดิน (เปลือกส้มก็จะค่อยๆ สลายไปเอง) 3. นำเปลือกส้มมาถูกับใบไม้ กันเจ้าเหมียวเอาเล็บมาข่วนใบ 4. หั่นเปลือกส้มเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วชงกับน้ำร้อน ทำเป็นชาเปลือกส้ม 5. นำเปลือกส้มมาผสมกับน้ำส้มสายชู ใช้เช็ดทำความสะอาดของใช้ในบ้านได้ 6. นำเปลือกส้มมาคลุกน้ำตาล ทำเป็นขนมได้ 7. ผสมเปลือกส้มลงไปในปุ๋ยหมัก เพื่อลดกลิ่นเหม็น 8. ใส่เปลือกส้มลงไปในกระปุกน้ำตาล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลเกาะตัวกันเป็นก้อน 9. นำเปลือกส้มไปตากแดด จะทำให้มันกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี 10. นำเปลือกส้มมาทำเป็นจานใส่อาหารสำหรับนก (และกะรอกบางตัว) 11. ถ้าคุณอยากทำให้อากาศในบ้านมีกลิ่มหอมล่ะก็ ลองนำเปลือกส้มมาเคี่ยวน้ำร้อนร่วมกับส่วนผสมใดก็ได้ตามต้องการ แค่นี้ก็ทำให้บ้านหอมสดชื่นแล้ว 12. สามารถนำเปลือกส้มมาทำเป็นสบู่ชำระล้างไขมันตามร่ายกายได้นะ 13. เปลือกส้มยังสามารถนำมาทำเป็นสครับขัดผิวได้ด้วยนะ 14. นำเปลือกส้มไปทำเป็นผงน้ำตาล ใช้โรยบนหน้าขนมชนิดต่างๆ…
-
14 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่างๆ จากรอบโลก ที่คุณก็อาจจะไม่เคยทราบกันมาก่อน
มาถึงช่วงเรื่องราวและสาระน่ารู้ประจำวันกันบ้าง วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 14 สาระน่ารู้และเรื่องจริงเกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันแหละ ไม่แน่น้าาา ว่าอาจจะไม่เคยทราบกันมาก่อนก็ได้ ลองมาดูกันเลยดีกว่า วัวจะมีเพื่อนสนิทอยู่ในฝูงของตัวเอง และมันจะเครียดมากถ้าหากถูกแยกออกจากกัน แพนด้าเป็นสัตว์ที่ไม่มีจุดล้มตัวลงนอนที่ตายตัว หลักๆ แล้วมันนอนที่ไหนก็ได้ แกะเป็นสัตว์ที่สามารถรักษาตัวเองจากอาการป่วยได้ พอมันไม่สบายมันก็จะหาพืชบางชนิดกิน ที่มีสรรพคุณรักษาอาการป่วยนั้นๆ เสือมีขาที่แข็งแรงมาก สามารถยืนได้แม้ตัวจะตายไปแล้วก็ตาม น่ารักมาก เพนกวินตัวผู้จะมอบกรวดให้กับตัวเมีย ถ้าตัวเมียรับก็จะกลายมาเป็นคู่กัน แถมบางคู่จะไม่สร้างรัง แต่จะวางไข้ไว้บนเท้า และเดินไปไหนมาไหนแบบนั้นเลย แค่แมวบ้านๆ ก็สามารถวิ่งชนะ Usain Bolt ได้แล้วล่ะ มะหมาที่มีความสุขจะสะบัดหางของตัวเองเยื้องไปทางขวาเสมอ ตัวที่เศร้าจะทำตรงกันข้าม กระต่ายเป็นสัตว์ที่สามารถมองเห็นได้ถึง 360 องศา และตรวจจับเหล่านักล่าได้จากทุกทิศทาง ช้างเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถกระโดดได้ จิ้งจอกที่เกิดใหม่จะมีน้ำหนักเพียง 100 กรัม หูหนวก ตาบอด แม่จะต้องดูแลอย่างดีตลอดเวลา…
-
เรื่องน่ารู้ของระบบโรงเรียนและนักเรียนญี่ปุ่น ที่อนิเมะมีส่วนคล้าย แต่ก็ไม่ได้เหมือนทั้งหมด!?
หากใครก็ตามที่ติดตามทั้งสื่อการ์ตูนมังงะและอนิเมะของญี่ปุ่น ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของตัวละครวัยนักเรียน มักจะเห็นได้ว่าชีวิตในโรงเรียนนั้นดูสดใส สมวัยการเรียนรู้ มีความสนุกสนานในห้องเรียน เข้าร่วมกิจกรรมกับชมรม ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ ในก๊วน แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของนักเรียนญี่ปุ่นจริงๆ กลับตรงกันข้าม กิจกรรมต่างๆ ที่มีในการ์ตูนมังงะและอนิเมะ แทบจะไม่มีหรือมีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนมากกว่า จึงทำให้มีเวลาบันเทิงเริงรมณ์น้อย อีกทั้งยังมีกฏข้อบังคับทั่วไปอีก 1. ห้ามขับรถไปโรงเรียน ที่ห้ามขับรถไปโรงเรียนก็อันเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัยของนักเรียน ส่วนใหญ่นักเรียนก็จะขี่จักรยานไปโรงเรียนหรือเดินเท้า ถ้าหากว่าระยะทางจากบ้านไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก หรือถ้าหากว่าไกลๆ หน่อย ก็อาศัยระบบขนส่งมวลชนเช่น รถบัสหรือรถไฟ อีกทั้งโรงเรียนส่วนใหญ่จะมีนโยบายให้นักเรียนยืนอยู่บนขนส่งมวลชน เพื่อเว้นที่ว่างไว้ให้กับผู้อื่นที่ต้องการนั่งมากกว่า 2. ห้ามทำกิจกรรมบางอย่างในที่สาธารณะ เฉกเช่นเดียวกันกับประเทศไทย เมื่อใส่ชุดนักเรียนแล้วพฤติกรรมที่ไม่สุภาพจะส่งผลร้ายแรงต่อชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นอย่างมาก ซึ่งพฤติกรรมที่ไม่สุภาพในญี่ปุ่นนั้นก็จะเป็น การอ่านหนังสือในขณะที่กำลังเดิน การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นต้น 3. ต้องสวมใส่เครื่องแบบ เหมือนๆ กับโรงเรียนในประเทศไทย ที่นักเรียนทุกคนจะต้องสวมใส่เครื่องแบบตามที่โรงเรียนกำหนด แต่ของที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลายชุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับตามสภาพฤดูกาลมีครบ 3 แบบ คือ ชุดฤดูร้อน…
-
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!! รวม 7 เหตุผล ว่าทำไมต้องหั่นแซนวิชให้เป็นทรง 3 เหลี่ยม?
แซนวิชเป็นหนึ่งในอาหารเช้าที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคน เลือกที่จะกินแซนวิชในตอนเช้ายังไงล่ะ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเราถึงต้องหั่นแซนวิชเป็นทรง 3 เหลี่ยม? หากคุณสงสัยใคร่รู้ล่ะก็ วันนี้เหมียวมีเหตุผลดีๆ 7 ข้อมาบอกกันล่ะ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย 1. การหั่นเป็นทรง 3 เหลี่ยมช่วยให้เราสามารถนำแซนวิชไปจิ้มกับซุปหรือซอสต่างๆ ได้ง่าย 2. การหั่นแบบนี้ช่วยให้แซนวิชอยู่ทรงมากกว่าหั่นครึ่ง 3. การหั่นแบบนี้ช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสของแซนวิชเวลากินได้มากกว่า (คิดว่าไส้เยอะกว่า) 4. เมื่อมีหน้าสัมผัสกว้างกว่าก็สามารถสร้างสะพานชีสยืดๆ แบบนี้ได้มากกว่าปกติ 5. หั่นแบบนี้จะสามารถจับได้ง่ายกว่านิดหน่อย 6. การเริ่มกัดที่มุมแซนวิชเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คมาก 7. หากกัดตรงกลางแบบนี้จะเยี่ยมยอดมาก ได้กินไส้เต็มๆ ไงล่ะ เห็นถึงข้อดีของการหั่นแซนวิชแบบ 3 เหลี่ยมหรือยัง? ที่มา buzzfeed
-
พาทัวร์ ‘เมืองร้างเชอร์โนบิล’ ประมวลภาพ 30 ปี หลังจากมหันตภัย ‘นิวเคลียร์’ เมื่อคราวนั้น…!!!
วันนี้เหมียวขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของเมืองเชอร์โนบิล แห่งประเทศยูเครน เมืองที่ขึ้นชื่อจากเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุด ที่ทำให้ทุกๆ คนอพยพออกจากเมืองกันหมด จนทำให้เมืองทั้งเมืองต้องกลายเป็นเมืองร้างไปโดยปริยาย ซึ่งตอนนี้ก็ได้บรรจบครบเวียนมากว่า 30 ปีเต็มแล้วล่ะ นับตั้งแต่โศกนาฏกรรมครั้งนั้น เหมียวเลยขออาสาพาเพื่อนๆ ไปดูสภาพเมืองในตอนนี้กันว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากถูกทิ้งร้าง ลองมาดูกันเลย อุบัติภัยเชอร์โนบิล เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ตั้งอยู่ที่นิคมเชอร์โนบิล ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ ใกล้เมืองพริเพียต จังหวัดเคียฟ ทางตอนเหนือของยูเครน ใกล้ชายแดนเบลารุส อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อวิศวกรได้ทำการทดสอบการทำงานของระบบหล่อเย็น และระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่การทดสอบระบบได้ล่าช้ากว่ากำหนดจนต้องทำการทดสอบโดยวิศวกรกะกลางคืน ได้เกิดแรงดันไอน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงขึ้นจนทำให้แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 หลอมละลาย และเกิดระเบิดขึ้น ผลจากการระเบิดทำให้เกิดขี้เถ้าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีพวยพุ่งขึ้นสู่บรรยากาศ ปกคลุมทางตะวันตกของสหภาพโซเวียตและยุโรปหลายส่วน ต้องอพยพประชากรมากกว่าสามแสนคน ออกจากพื้นที่อย่างฉุกเฉิน และนี่คือภาพของสิ่งที่หลงเหลืออยู่ ในปัจจุบัน… . . . . . .…
-
10 ความเชื่อประหลาดๆเกี่ยวกับ ‘ร่างกายมนุษย์’ ที่พวกเราเข้าใจผิดมาตลอด!?
บางทีคนเราก็จะมีความเชื่อที่ถูกปลูกฝังยึดติดและปฏิบัติต่อๆกันมา โดยเรามันจะเลือกเชื่อตามความคิดของคนส่วนใหญ่โดยไม่ทันยั้งคิดเลยว่า ไอUสิ่งที่เราคิดและเชื่อมาตลอดชีวิตน่ะมันผิดอยู่บ้างนะฮ๊า แล้วสิ่งเหล่านั้นมันมีอะไรบ้างล่ะ เราลองมาดูสาระดีๆ 10 ความเชื่อประหลาดๆ เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ กันได้เลย… 10. ไม่ควรปลุกคนที่กำลังเดินละเมอ การที่เราปลุกคนที่กำลังเดินละเมออยู่นั้นอาจทำให้พวกเข้ามีอาการตกใจและมึนงงหลังจากที่ถูกปลุก แต่เหมียวว่าเราปลุกให้เค้ารู้ตัวและกลับไปนอนดีกว่าปล่อยให้พวกเค้าเดินละเมอตกบันใดนะ 9. คุณจะเป็นหวัด ถ้าคุณตัวเปียกหรือออกไปในที่ที่มีอากาศหนาว ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับความเชื่อนี้ แต่ไวรัสจะมีอยู่มากในเวลาที่ความชื้นต่ำอย่างในฤดูหนาว และแน่นอนว่าเราใช้เวลาอยู่ร่วมกันในบ้านมากขึ้น นั้นทำให้มีโอกาสติดหวัดมากขึ้นเมื่ออยู่ในบ้านตัวเองอีกด้วย 8. เล็บและผมยังสามารถยาวได้อีกถึงแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของมนุษย์หลังจากความตายก็แค่ผิวหนังชั้นนอกเกิดการหดตัวแล้วแห้งไปในที่สุดเท่านั้นเอง 7. ถ้าเราโกนหนวดเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่จะสีเข้มและหนามากขึ้นกว่าเดิม จริงๆแล้วเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่หลังจากถูกโกนไปนั้นไม่ได้หนาหรือสีเข้มขึ้นเลย เพียงแต่เส้นขนจะมีหน้าตัดที่เกิดจากการโกนเวลากระทบกับแสงจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำดูเหมือนว่ามันมีสีเข้มขึ้นนั่นเอง 6. แชมพูและครีมนวดสามารถรักษาผมแตกปลายได้ ความจริงแล้วเราไม่สามารถรักษาผมแตกปลายให้กลับมานุ่มสลวยได้เหมือนเดิม ทั้งแชมพูและครีมนวดนั้นอาจจะช่วยป้องกันการเกิดผมแตกปลายได้แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้จริง เพียงแค่เคลือบเส้นผมให้นุ่มขึ้นเท่านั้น 5. ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งทุก 7 วินาที มันคงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยในการใช้ชีวิตถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ก็เป็นโชคดีนะที่มันเป็นแค่เรื่องที่พูดกันไปเรื่อยยังไม่มีนักวิจัยคนไหนวิจัยหรือพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 4. ต่อมรับรสบนลิ้น เราคงเคยได้เรียนกันในสมัยเด็กๆ…
-
8 สุดยอดเจ้าแห่งการกินของอาณาจักรสัตว์ อะไรจะกินเยอะขนาดนั้น!?
เคยสงสัยกันไหมว่า คนเรากินข้าวกันวันละ 3 มื้อ แล้วพวกสัตวเนี่ยวันๆหนึ่งมันกินเยอะแค่ไหนกันนะ เหมียวเลยไปหาข้อมูลดีๆมาฝากกัน คุณอาจจะไม่เชื่อเลยว่าสัตว์พวกนี้น่ะมันกินขนาดนี้เลยเหรอ!? ในการจัดอันดับครั้งนี้จะมีสัตว์อะไรบ้าง และกินเก่งกันขนาดไหนไปดูกันเลยดีกว่า…. 1.แพนด้า พวกหมีหน้าตาน่ารักพวกเนี้ยสามารถกินต้นไผ่ได้ 20-40 ปอนด์ ต่อวันเชียวนะ!! และใช้เวลา กิน กิน กินทั้งวันกว่า 16 ชั่วโมง!! 2.วาฬสีน้ำเงิน พวกมันสามารถกินตัวเคย(สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวเล็กๆคล้ายกุ้ง) ได้ถึง 4 ตันภายในวันเดียว 3.กิ้งก่า ในรายการแข่งกินของมนุษย์นั้นดูเหมือนพวกเค้าจะมีความสามารถในการกินอาหารได้เร็วมากๆ แต่นั่นก็เทียบไม่ติดกับเจ้ากิ้งก่า ที่ลิ้นของมันสามารถยืดออกไปถึงตัวเป้าหมายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น 4.ค้างคาว ในอาณาจักรสัตว์นั้นเรื่องของขนาดตัว ไม่ได้เป็นคุณสมบัติที่ต้องการของแชมป์แห่งการกิน ค้างคาวสีน้ำตาลที่ตัวเล็กนิดเดียวแต่สามารถกินยุงกว่า 1000 ตัวได้ภายใน 1 ชั่วโมง!! 5.ช้าง ช้างป่านั้นจะใช้เวลากว่า 18 ชั่วโมงในการกิน พวกมันเพลิดเพลินไปกับการเคี้ยว หญ้า ใบไม้ และเปลือกไม้ กว่า 200-400 ปอนด์ ช้างป่าตัวผู้ที่โตเต็มวัยต้องการพลังงาน 70,158 แคลอรี่ต่อวัน…