Tag: สิงโต

เสือ สิงโต และหมี ต่างขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์นักล่าที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาสัตว์ป่า และคงจะเป็นไม่ได้แน่ๆ ถ้าให้สัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้มาอยู่ด้วยกัน แต่ปรากฏว่ามีที่หนึ่งที่พบเสือ สิงโต และหมีอยู่ด้วยกัน ที่นั่นคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Noah’s Ark Sanctuary ในประเทศจอร์เจีย     Noah’s Ark Sanctuary เป็นบ้านของเจ้าหมี Baloo เจ้าเสือ Shere Khan และเจ้าสิงโต Leo พวกมันไม่ใช่แค่อยู่ด้วยกัน แต่พวกมันเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็กๆ แล้ว     ย้อนกลับไปในปี 2001 ผู้ช่วยเหลือเจอทั้ง 3 ตัว ติดอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหนังหนึ่งแอตแลนตา ในระหว่างเข้าไปบุกทลายแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด สภาพของพวกมันน่าสงสารมาก เพราะตอนนั้นพวกมันยังเป็นลูกเสือ ลูกหมี และลูกสิงโตตัวน้อย แต่พวกมันกลับถูกละเลยและถูกทารุณกรรมอย่างหนัก     พวกมันทั้งหิวและกลัว โดยเฉพาะ Leo กับ Shere Khan ทั้งคู่มีแผลเปิดที่จมูก แต่ Baloo อยู่ในสภาพที่แย่กว่านั้น มันถูกจับขังในกรงแคบๆ และถูกรัดด้วยเชือกแน่นมาก จนเนื้อของมันเริ่มปูดบวม…

เปิดเรื่องราวสุดเศร้าใน 10 ปีแรกของ Nena สิงโตผู้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก… มันเกิดในปี 2008 ที่ Circo Navarro ซึ่งเป็นคณะละครสัตว์แห่งหนึ่งในกัวเตมาลา ทางคณะละครสัตว์ให้เจ้า Nena อยู่ในกรงแคบๆ ที่ขึ้นสนิมพร้อมกับสิงโตตัวอื่นอีก 2 ตัว คือ Kimba และ Sasha ทั้ง 3 แทบจะไม่มีพื้นที่สำหรับขยับตัวได้เลย พวกมันจะถูกปล่อยออกจากกรงเฉพาะตอนไปโชว์ในโรงละครเท่านั้น     สิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับ Nena คือ อุ้งเท้าของมันได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เพราะมันถูกตัดกรงเล็บออกทั้ง 4 ขา นอกจากนี้ พวกเขายังลงโทษเจ้าสิงโตอย่างรุนแรง เพื่อให้ทำตามคำสั่ง และเมื่อมันทำพลาด ในเดือนเมษายน ปี 2017 กัวเตมาลาไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ไว้ในโรงละครสัตว์ ดูเหมือนจะเป็นข่าวดี แต่มันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ Nena Sasha และ Kimba ดีขึ้นเลย     Circo Navarro เก็บสิงโตไว้ในกรงขนาดเล็กและตั้งไว้นอกโรงละครตลอดเวลา พวกเขาใช้สัตว์ในการดึงดูดความสนใจของฝูงชน โชคดีที่ Animal Defenders International (ADI)…

เมื่อพูดถึงสิงโต เราจะนึกถึงสัตว์นักล่าที่มีความดุร้าย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันเห็นหรือได้กลิ่นเหยื่อ มันโจมตีเหยื่อจนกว่าจะได้มา แต่ถึงจะเป็นสัตว์นักล่า พวกมันก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ ดูอย่างสิงโตกลุ่มนี้ พอรู้ว่ามีกล้องจับอยู่ รีบเรียงกันเป็นแถว ทั้งแม่ทั้งลูก แล้วมองไปที่กล้องอย่างพร้อมเพรียง ภาพครอบครัวสิงโตสุดน่ารักนี้ถ่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว โดยช่างภาพ Ahir Deepak Vadher ในป่า Junagadh Gir Forest รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย     ช่างภาพวัย 28 ปี กล่าวว่าขณะที่เขาเดินสำรวจป่าเพื่อบันทึกภาพ สิงโต 5 ตัวนี้ก็โผล่ขึ้น จนเขาละความสนใจจากพวกมันไม่ได้ เลยเฝ้ามองพวกมันอยู่ห่างๆ หลังจากที่สิงโตเล่นด้วยกันสักพัก ลูกสิงโตก็เข้ามานั่งพักในร่ม ก่อนที่แม่ของพวกมันจะตามมานั่งข้างๆ จนเกิดเป็นภาพการนั่งเรียงเหมือนภาพข้างบน และแน่นอนว่าช่างภาพไม่อยากพลาดโอกาสนี้ เขาจึงยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่รู้ว่าจะเห็นอะไรแบบนี้อีกเมื่อไหร่     ไม่ว่าสิงโตจะตั้งใจโพสต์ท่าหรือเป็นแค่ความบังเอิญ แต่อย่างน้อยภาพครอบครัวสิงโตข้างบนนี้ก็ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักของนักล่าเจ้าป่า   ที่มา dailymail

เป็นที่ทราบกันทั่วไปอยู่แล้วว่าสิงโตตัวผู้นั้นจะมีขนแผงคอ และตัวเมียนั้นจะไม่มี แต่ในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีการค้นพบว่ามีสิงโตตัวเมียตัวหนึ่งที่มีขนแผงคอคล้ายกับตัวผู้ ผู้ดูแลสัตว์ได้สังเกตเห็นว่าสิงโตแอฟริกาวัย 18 ปีชื่อ Bridget ที่เป็นที่รักของทุกคนได้เริ่มมีขนแผงคอบริเวณรอบๆ คอของมันเมื่อปลายปี 2017 Gretchen Cole Cole สมาชิกสมาคมสัตวแพทย์กล่าวว่า “หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เริ่มมีการพัฒนาที่แตกต่างออกไปที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน”     ทางสัตวแพทย์นั้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่หายากแบบนี้ แต่พวกเขาก็สามารถนำตัวอย่างเลือดจากหางของ Bridget มาตรวจสอบโดยไม่ต้องให้ยาสลบกับมัน Cole กล่าวว่าตัวอย่างเลือดที่ได้มานั้นจะนำมาเปรียบเทียบกับสิงโตน้องสาวของ Bridget ที่ชื่อว่า Tia ซึ่งเกิดมาในท้องเดียวกันเมื่อปี 1999     สำหรับสิงโตตัวผู้นั้นจะมีการเจริญเติบโตของขนที่แผงคอมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีอายุได้ 1 ปี การที่สิงโตตัวเมียนั้นมีการพัฒนาลักษณะที่เหมือนกับตัวผู้นั้นเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ถึงแม้ว่าการเจริญเติบโตของขนที่แผงคอจะไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมันก็ตาม ทางสวนสัตว์กล่าวว่า “ทีมสัตวแพทย์จะติดตามเฝ้าดูมันอย่างใกล้ชิด แม้ว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมัน และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมันก็ตาม”     ก่อนหน้านี้ก็ได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีนักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตสิงโตตัวเมียจำนวน 5 ตัวในประเทศบอตสวานาที่มีขนแผงคอและมีพฤติกรรมที่เหมือนกับสิงโตตัวผู้ ซึ่งมีการรายงานว่าการพัฒนาการอันแปลกประหลาดนี้เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนที่มีระดับสูงขึ้น เนื่องจากมีความผิดปกติที่รังไข่ ทำให้พวกมันไม่สามารถท้องและมีลูกได้   ที่มา Dailymail, Newscientist

ว่ากันว่าสิงโตนั้นคือเจ้าป่า เสียงคำรามและความน่าเกรงขามของมันนั้นเป็นที่หนึ่งโดยเฉพาะสิงโตตัวผู้ แต่ในความจริงแล้วมันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ ถ้าสิงโตเป็นเจ้าป่า แล้วช้างป่าที่กระทิบสิงโตละเป็นอะไร? เหตุการณ์ช้างกระทืบสิงโตนี้เกิดขึ้นที่ Samburu National Reserve ในประเทศเคนย่า ซึ่งถูกถ่ายไว้ได้โดย Matt Brierley ช่างภาพสัตว์ป่า โดยภาพเหตุการณ์นั้นแสดงให้เห็นถึงช็อตที่สิงโตตัวหนึ่งพยายามจะงับลูกช้างแรกเกิดวัย 24 ชั่วโมง Matt เล่าว่าตอนแรกนั้นเขากับทีมงานกำลังนั่งรถจี๊ปสำรวจทุ่งหญ้าและดูพระอาทิตย์ตกอยู่ เขาก็ได้บังเอิญไปเจอกับเจ้า Nablus แม่ช่างป่าวัย 17 ปีที่เพิ่งจะคลอดลูกช้างตัวดังกล่าวออกมาได้ไม่นาน ซึ่งทั้งคู่กำลังเดินไปในทุ่งหญ้าอันเงียบสงบจนกระทั่ง…     Matt สังเกตเห็นเข้ากับเจ้าสิงโตตัวหนึ่งกำลังแอบติดตามสองแม่ลูก โดยเขาคาดว่าสิงโตนั้นพยายามจะโจมตีลูกช้างที่ยังคงอ่อนแอและมันก็ทำแบบนั้นจริงๆ เจ้าสิงโตอาศัยจังหวะที่แม่ช้างหันไปทางอื่น จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาลูกช้างอย่างรวดเร็ว!!     แต่ด้วยสัญชาตญาณที่รวดเร็วของแม่ช้าง ทำให้เธอสามารถหันกลับมาป้องกันลูกไว้ได้ทัน งานนี้เจ้าสิงโตเจ้าป่าถึงกับเงิบหันหลังกลับแถบไม่ทันเลยทีเดียว แม้สิงโตเจ้าป่าจะรอดไปได้ แต่ตัวแม่ช้างก็ไม่รอให้เจ้าสิงโตกลับมาซ้ำสองแน่นอน มันพยายามมองไล่หลังตามสิงโตตลอดเวลาจนกระทั่งเจ้าป่าของเราไม่เข็ดตัดสินใจจะเข้าไปหาลูกช้างอีกรอบ งานนี้แม่ช้างเลยไม่รอช้าวิ่งไล่อย่างรวดเร็วจนเจ้าป่ากลายเป็นเจ้าแห่งความเร็วทันที!!     ถ้าเกิดว่าใครดูคลิปเต็มข้างล่างไม่ได้ ก็สามารถเข้าไปดูโดยตรงได้ที่ทวิตเตอร์ของ Matt Brierley เลย Adrenalin filled filming of @EwasoLions stalking…

แมวนั้นถือเป็นสัตว์จอมซนที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ซึ่งด้วยนิสัยดังกล่าวก็มักจะนำพาตัวมันไปสู่ปัญหาต่างๆ อยู่บ่อยๆ และเราก็รู้กันดีว่าสิงโตกับแมวจัดอยู่ในสัตว์วงศ์เดียวกัน ฉะนั้นนิสัยดังกล่าวมันจึงรวมอยู่ในตัวสิงโตด้วย และด้วยนิสัยดังกล่าวจึงนำพาปัญหาสุดปวดหัวมาให้ฝูงสิงโตแห่งหนึ่งที่สวนสัตว์ในเมืองไอนด์โฮเวน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะพวกมันดันเอาหัวเข้าไปติดอยู่ในถังขนาดใหญ่ซะได้ เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้เอาถังใส่เนื้อขนาดใหญ่เข้าไปในกรงของสิงโตเพื่อให้อาหารพวกมัน แต่ทว่าเมื่อให้เสร็จพวกเขาดันไม่เอาถังออกมาด้วย ซึ่งด้วยนิสัยยอยากรู้อยากเห็นสิงโตสามตัวจึงเข้าไปสำรวจถังดังกล่าวทันทีที่พวกมันเห็น   สำรวจกันยกใหญ่เลยทีเดียว   พวกมันสำรวจถังดังกล่าวอย่างตั้งใจ ราวกับกำลังคิดว่าภายในจะต้องมีอาหารเหลืออยู่แน่ๆ ทว่าปัญหามันก็ดันเกิด เมื่อสิงโตตัวหนึ่งดันกัดบริเวณข้างถังจนเป็นรูเพื่อที่จะสามารถเอาหัวตัวเองมุดเข้าไปเช็คดูข้างในถังได้   ตรูว่าข้างในมันต้องมีอะไรแน่ๆ !!   ทว่าปัญหามันก็ดันเกิดตามมา เพราะว่ารูดังกล่าวไม่ได้ใหญ่พอที่จะดึกเข้าออกได้สะดวก หัวของเจ้าสิงโตตัวที่มุดเข้าไปดูจึงติดแหงกออกไม่ได้ งานนี้เจ้าสิงโตถึงกับตกใจวิ่งพล่านไปทั่วเลยล่ะ   อะจ๊ากกก ติด หัวติดช่วยด้วยยยย!!   แต่ในขณะเดียวกันกับที่เจ้าสิงโตตัวป่วนกำลังหาทางออกให้ตัวเองจากการที่หัวติดถัง เจ้าสิงโตเพื่อนรักอีกสองตัวก็ไม่รอช้ารีบช่วยเพื่อนสิงโตทันที พวกมันพยายามหาทางออกทั้งดันถัง ยันถังให้สิงโตอีกตัวดันตัวเองออก แต่ทำยังไง๊ยังไงก็เอาไม่ออกเสียที   เจ้าสิงโตทั้งสามคงจะรู้สึกอายไปอีกสักพักใหญ่ๆ เลยละมั้งเนี่ย   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่นานสองนาน ผู้คนที่มาดูพวกมันและบังเอิญเจอเหตุการณ์นี้ก็พากันหัวเราะในความซุกซนของพวกมัน สุดท้ายเวลาผ่านไปเจ้าสิงโตตัวดังกล่าวก็ได้รับความช่วยเหลือจากทีมแพทย์นั่นเอง   ที่มา ladbible

ถือเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่ามีการค้นซากลูกสิงโตโบราณอายุกว่า 50,000 ปี ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ในพื้นที่แถบไซบีเรีย จากรายานระบุว่าลูกสิงโตดังกล่าวนั้นมีอายุประมาณ 6 ถึง 8 สัปดาห์ และตอนนี้มันถูกเก็บรักษาไว้ที่เมือง Yakutsk เมืองหวงของรัฐซาฮา ประเทศรัสเซีย และทางนักวิทยาศาสตร์มีแผนที่จะเตรียมคืนชีพให้เจ้าสัตว์โบราณนี้ต่อไป     เจ้าสิงโตถ้ำที่พบครั้งนี้เป็นหนึ่งในสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของโลก โดยสามารถพบได้ทั่วไปในพื้นที่เขตหนาว แถบซีกโลกเหนือ “มันเป็นซากลูกสิงโตที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราเคยพบมาเลย อุ้งเท้าทั้ง 4 ของมันยังอยู่ครบ และผิวหนังของมันก็ยังคงสมบูรณ์มากๆ พวกเราวิเคราะห์อายุของมันจากลักษณะฟันที่พบ และการค้นพบนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาอย่างมาก” ดอกเตอร์ Protopopov ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์กล่าว     สภาพส่วนหัว และอุ้งเท้าของเจ้าสิงโตอายุกว่า 50,000 ปีที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์   ซากลูกสิงโตโบราณนี้ถูกค้นพบบริเวณริมแม่น้ำ Tirekhtykh River ในเมือง Yakutia หลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำลดลง เมื่อประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขนาดของซากลูกสิงโตครั้งนี้มีความยาวมากถึง 46 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมด้วยกัน ก่อนหน้านี้ในปี 2015 ได้มีการค้นพบซากลูกสิงโตในลักษะณ์ถึง 2 ตัวด้วยกัน พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Uyan และ Dina…

ภาพของสิงโตเพศผู้ 2 ตัวที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ของประเทศเคนย่าถูกมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม และตัวแทนจากกองเซ็นเซอร์เองได้ออกมาอ้างว่าพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศของสิงโตนั้นเป็นผลมาจากการเลียนแบบนักท่องเที่ยวชาวเกย์นั่นเอง ดอกเตอร์ Ezekiel Mutua จากหน่วยตรวจสอบด้านศีลธรรมในสื่อของเคนย่าได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแยกสิงโตทั้งสองออกจากกัน จนกว่าจะสามารถอธิบายถึงพฤติกรรมดังกล่าวในทางวิทยาศาสตร์ได้ และถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวมานานหลายปี แต่ดอกเตอร์ Ezekiel เชื่อว่าพฤติกรรมเบี่ยงเบนนี้เป็นผลมาจากการเลียนแบบการมีเพศสัมพันธ์ของชาวเกย์ หรืออาจถูกวิญญาณร้ายสิงก็เป็นได้     และถึงแม้ว่าสิงโตทั้งสองตัวจะมีแผงคอที่แสดงว่ามันเป็นเพศผู้ แต่ก็ยังมีการเรียกร้องให้ทำการตรวจสอบว่าสิงโตทั้งสองนั้นเป็นเพศผู้ทั้งคู่จริงหรือไม่ “สัตว์ทั้งสองตัวควรได้รับการให้คำปรึกษา เนื่องจากเป็นไปได้ว่ามันอาจจะได้รับอิทธิพลจากนักท่องเที่ยวเกย์ที่เข้าไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ” ดอกเตอร์ Mutua ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น นอกจากนี้เขายังได้ออกมาโต้แย้งอีกว่าพวกสิงโตนั้นไม่สามารถลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าวได้จากสื่อภาพยนตร์ได้แน่ๆ ดังนั้นพวกมันจะต้องเรียนแบบจากพฤติกรรมเบียงเบนที่เกิดในอุทยาน Masai Mara อย่างแน่นอน     การรักร่วมเพศในประเทศเคนย่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างมาก และการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ นั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกนานถึง 14 ปีเลยทีเดียว ส่วนทางด้านคุณ Paul Goldstein เจ้าของภาพถ่ายสิงโตคู่ดังกล่าวได้ออกมาอธิบายถึงที่มาที่ไปของภาพว่า เขาเห็นสิงโตทั้งคู่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ก่อนที่พวกมันจะเริ่มนั่งลงและเริ่มกิจกรรมของพวกมัน “บางครั้งคุณอาจจะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้คุณหยุดหายใจ เหมือนกับภาพของสิงโตคู่นี้ ซึ่งมันเป็นภาพที่หาชมได้ยากและสมบูรณ์แบบมากๆ เลยทีเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าทึ่งมาก” ช่างภาพหนุ่มกล่าว     เจ้าสิงโตเพศผู้ทั้ง 2 ที่กำลังทำกิจกรรมของพวกมันอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ประเทศเคนย่า   อย่างไรก็ตามการรักร่วมเพศในสิงโตนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ถือว่าหาชมได้ยาก จากการศึกษาที่มีการตีพิมพ์ในช่วงศตวรรษที่ 20 พบว่ามีอัตราการรักร่วมเพศในสิงโตเพียงแค่…

สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยแพร่ภาพในขณะที่สิงโตตัวผู้สองตัวกำลังมีช่วงเวลาที่สุดแสนจะโรแมนติกกันในพุ่มไม้ของอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ประเทศเคนยา ภาพเหล่านี้ถูกบันทึกโดย Paul Goldstein ช่างภาพที่ตระเวนถ่ายสัตว์ต่างๆ ตามป่าแล้วบังเอิญไปเห็นว่าเจ้าสิงโตตัวผู้สองตัวนี้กำลังโจ๊ะกันอย่างเมามัน   เดี๋ยวพี่ ใจเย๊นนนนนน   นาย Paul บอกเล่าประสบการณ์ในขณะที่เขาไปเก็บภาพสุดเอ็กคลูซีฟนี้ได้ว่า เขาสังเกตเห็นสิงโตตัวผู้สองตัวกำลังอ้อร้อกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งมันเกิดมีอารมณ์ละก็ปั๊มกันตรงนั้นเลย และใช้เวลาเพียงนาทีกว่าๆ ก็เสร็จกิจ   ซึ่งตามธรรมชาติมันควรจะเป็นสิงโตตัวผู้กับตัวเมียที่สามารถผสมพันธุ์กัน แต่นี่ก็ทำให้มีคนสงสัยว่า เจ้าสิงโตคู่นี้มันเป็นเกย์หรือเปล่า ถึงได้มาโจ๊ะกันอย่างไม่แคร์สื่อแบบนี้ .   โดยปกติการที่สิงโตตัวผู้จะมาร่วมเพศกันมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และสาเหตุที่มันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นต้องทำการศึกษากันอีกให้แน่ชัดถึงปัจจัยต่างๆ ที่เอื้ออำนวยให้สิงโตสองตัวนี้มีอาการเบี่ยงเบนทางเพศ จากการศึกษาสิ่งตีพิมพ์ต่างๆ พบว่าการรักร่วมเพศของสัตว์ป่ามีอัตราเพียงร้อยละ 8 ของสัตว์ป่าทั้งหมด     และไม่มีเพียงแค่สิงโตเท่านั้นที่ร่วมเพศกับเพศเดียวกัน ยังมีสัตว์ต่างๆ ถึง 450 ชนิด เช่นวัวกระทิง นกฮูก และโลมาซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ของสัตว์ไม่ได้เกี่ยวกับการขยายเผ่าพันธุ์ แต่บางทีอาจจะเป็นแค่การระบายอารมณ์ทางเพศเท่านั้น   พวกมนุษย์อ่ะ คิดม๊ากกกก…!! ที่มา dailymail

ธรรมชาตินั้นยังมีหลายอย่างให้เราได้แปลกใจ โดยเฉพาะวิถีของสัตว์ป่าที่มักจะเซอร์ไพรส์เราเสมอ แต่น้อยคนที่จะเห็นกับตัวเอง เหมือนกับสิงโตเหล่านี้ ที่ไม่รู้ว่าเป็นกฏหมู่ของพวกมันหรืออะไร แต่พวกมันเรียงหน้ากันเป็นหน้ากระดาน ก่อนจะดื่มน้ำไปพร้อมๆ กัน     ภาพหายากนี้ถ่ายโดยช่างภาพ Bernhard Bekker วัย 40 ปี เขาเล่าว่า “เราเจอสิงโตพวกนี้ในเย็นวันหนึ่ง พวกมันนั่งเล่นอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ แล้วดูท่าว่าพวกมันคงไม่มีแพลนที่จะไปที่ไหน ดังนั้นเราเลยนั่งดูมันสักพักก่อนจะกลับไปที่แคมป์” เช้าวันรุ่งขึ้น Bekker ได้กลับไปที่เดิมอีกครั้ง เพื่อดูว่าพวกมันกำลังทำอะไร แต่น่าเสียดายฝูงสิงโตได้ไปจากที่นั่นเสียแล้ว     ช่างภาพพร้อมเพื่อนที่มาด้วยจึงตัดสินใจที่จะขับรถสำรวจตามแม่น้ำ เพื่อที่จะดูสัตว์ป่าอื่นๆ ประมาณหนึ่งชัวโมงหลังจากนั้นพวกเขาก็กลับไปยังค่าย เหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะหว่างที่เดินทางกลับไปนั้น พวกเขาก็เห็นฝูงสิงโตอยู่ที่ริมแม่น้ำ แล้วก็ได้เห็นโมเม้นอันน่าทึ่งในตอนนั้น     Bekker บอกว่า “ตอนแรกมีสิงโตเพียงตัวเดียวที่ลงไปดื่มน้ำ ก่อนจะมีตัวอื่นๆ ตามมาทีละตัวๆ ปิดท้ายด้วยลูกสิงโตตัวน้อย รวมแล้ว 20 ตัว จากนั้นพวกมันก็ดื่มน้ำไปพร้อมๆ กัน”     Bernhard Bekker ช่างภาพวัย 40 ปี ผู้บันทึกภาพสิงโตดื่มน้ำพร้อมกัน   เขายังบอกอีกว่าตั้งแต่เป็นช่างมา 18 ปี…

กลายเป็นภาพใบหน้าของสิงโตหนุ่มที่โด่งดังไปทั่วโลก หลังจากมีช่างภาพคนหนึ่งเข้าไปถ่ายภาพของมันมาได้จากอุทยานแห่งชาติมาไซมารา ประเทศเคนยา โดยภาพถ่ายที่คุณจะได้เห็นนี้ เป็นผลงานการเก็บภาพสัตว์ป่าของช่างภาพวัย 50 ปี Prelena Soma เมื่อเขาได้พบกับสิงโตตัวหนึ่งผู้มีชื่อว่า ‘สการ์’ ที่สูญเสียเปลือกตาข้างหนึ่งไปจากการต่อสู้เพื่อแย่งอาณาเขตกับพี่น้องของมันในปี 2012   ‘สการ์’ เป็นชื่อที่ถูกตั้งตามตัวการ์ตูนจากเรื่องไลอ้อนคิง   สิงโตเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวจากวงศ์ตระกูลเสือและแมวที่มีความแตกต่างของบทบาททางเพศในฝูงได้อย่างชัดเจน เช่นสิงโตตัวเมีย จะเป็นผู้ทำหน้าที่ออกล่าเหยื่อ ดังนั้นมันจะไม่มีแผงคอยุ่มหยามให้กลายเป็นภาระเวลาพรางตัวเหมือนสิงโตตัวผู้ เป็นต้น…   บาดแผลจากการต่อสู้บนดวงตา ทำให้เจ้าสการ์มีหน้าตาเหมือนตกใจอยู่ตลอดเวลา   แล้วทำไมในฝูงสิงโตพี่น้องเดียวกัน ต้องต่อสู้ห่ำหันกันเองด้วยนะ? ผู้เชี่ยวชาญจากอุทยานแห่งชาติมาไซมาระ แห่งประเทศเคนย่า ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ฝูงสิงโตพี่น้องต่อสู้กันเองว่า… “เป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติของพวกมัน สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขต แต่พวกมันจะไม่ฆ่าชีวิตอีกฝั่ง เพียงแต่จะสู้กันจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บสาหัส และยอมจำนนในที่สุด” นอกจากเหตุผลเรื่องการแย่งชิงอาณาเขตแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการเอาชนะใจตัวเมียอีกด้วย เพราะบ่อยครั้งที่หลังจากพวกมันต่อสู้กันจนเสร็จแล้ว ผู้ชนะมักจะลงเอยการเฉลิมฉลองชัยชนะด้วยการผสมพันธุ์กับตัวเมีย     ดูๆ แล้วเหมือนเป็นเจ้าสการ์ที่หลุดออกมาจากการ์ตูนยังไงยังงั้นเลย   เกิดเป็นสิงห์นี่มันไม่ง่ายเลย… งั้นขอกลับไปเป็นช้างกับลีโอต่อดีกว่าละกัน ผ่างงง!! ที่มา: Dailymail

จะมีความสุขอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้ชมภาพสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักทั้งสองชีวิตเล่นจู๋จี๋กันอย่างกับหนังรักอินเดียยังไงยังงั้น เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องของสัตว์สองสายพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้า แต่ในที่สุดพวกมันก็กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน   แฮร่!!   เจ้าหน้าที่เล่าว่าก่อนหน้านี้พวกมันทั้ง 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ในรถร้างคันหนึ่งในจังหวัดชืร์นัก ทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน หรือต้องการทำอะไร แต่สิ่งที่พวกเขารู้คือต้องช่วยเหล่าสัตว์โลกทั้งสองชีวิตออกมา   ทั้งสองถูกเจอตัวที่รถคันหนึ่งในประเทศตุรกี แต่ไม่พบร่องรอยเจ้าของรถ   ทันทีที่เจอพวกมันทั้งสอง เจ้าหน้าที่ก็พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง จากนั้นพวกเขาก็ย้ายมันมาอยู่ที่สวนสัตว์ Gaziantep Zoo ในประเทศตุรกี   ชีวิตของทั้งสองก็ดีขึ้นเรื่อยๆ   ไม่ว่าใครจะมาสวนสัตว์ก็ต้องแวะมาทักทายพวกมัน   “เราคอยประคบประหงมและให้อาหารพวกมันอย่างดี หวังว่าซักวันพวกมันจะโตมาและกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ แม้ว่าช่วงเวลาในวัยเด็กอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่เป็น” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า อีกทั้งยังเล่าเสริมว่า สภาพแรกที่เจอพวกเขาก็แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่ามันจะรอดชีวิตมาได้   จนตอนนี้ลูกสิงโตก็ได้รับการตั้งชื่อว่า ‘Brave’ ส่วนเจ้าลูกลิงมีชื่อว่า ‘Can’ กลายเป็นขำกลิ้งลิงกับสิง(โต) น่ารักสุดๆ ไปเลยล่ะแกเอ๋ย     อีกหน่อยก็คงมีรายการลิงพาสิงโตไปช็อปปิ้งบ้างอ่ะนะ ที่มา: Dailymail

สัตว์ที่ทุกคนจะรู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องของความน่าเกรงขาม สง่าผ่าเผย มีสมญานามสุดเท่ว่าจ้าวป่า แน่นอนว่ามันก็คือสิงโตนั่นเอง แต่สิ่งที่เราเห็นภาพและเข้าใจมาตลอดบางทีมันก็มีพฤติกรรมแปลกๆ งงๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน เมื่อช่างภาพมือสมัครเล่นผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปสัตว์ป่าอย่าง Russ Bridges ได้เก็บภาพของสิงโตตัวผู้ตัวหนึ่งที่กำลังขึ้นคร่อมตัวผู้อีกตัว ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า Yorkshire ประเทศอังกฤษ   .   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำเอาซะตัวเมียที่อยู่ข้างๆ แสดงอาการฉุนเฉียวพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปเลยทีเดียว คนที่ผ่านไปมาเห็นเข้าถึงกับต้องหัวเราะให้กับความอีโรติกดราม่าของพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าสิงโตที่ขึ้นคร่อมอยู่ก็ได้แลบลิ้นออกมาแสดงความภาคภูมิใจกับสิ่งที่มันทำ เขาที่ถ่ายภาพนี้มาได้จึงคิดว่ามันอาจเป็นความเข้าใจผิดของเจ้าสิงโตตัวนั้นว่าเจ้าตัวข้างล่างมันเป็นตัวเมีย     เขาเสริมอีกว่า “เวลาที่ตัวผู้เดินเข้าไปหาตัวเมียข้างๆ เธอก็จะคำรามออกมาพร้อมกับตบหน้าด้วยอุ้งมือแถมไปให้อีก” ก็ไม่แน่ว่านั่นอาจเป็นเหตุผลให้เจ้าตัวผู้ตัวนี้เปลี่ยนใจมาสร้างประสบการณ์ใหม่ก็ได้นะ แต่เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องนี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร อาจเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อต้าน หรือพวกมันอาจแค่เล่นกันก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือเรื่องนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆ อย่างแน่นอน     คนที่ทำอาชีพเป็นผู้จัดการคลังสินค้าก่อนหน้านี้ก็เคยเข้ามาถ่ายรูปสัตว์ในที่แห่งนี้อยู่บ้าง ส่วนใหญ่ที่มาเจอเจ้าสิงโตก็จะเห็นว่าพวกมันแค่นอนเล่นเฉยๆ ไม่มีอะไร แต่ว่าครั้งนี้ก็แปลกออกไปอย่างมากนอกจากจะได้ภาพทั้งหมดกลับไป รูปที่เขาชอบที่สุดก็จะเป็นรูปที่เจ้าสิงโตอยู่ตัวเดียวแล้วแลบลิ้นออกมาเลียจมูกซะเล็กน้อย     “ผมเป็นคนรักสัตว์เอามากๆ ขนาดที่ว่าจะฆ่าแมลงหรือแมงมุมตัวเล็กๆ ก็ยังไม่ทำเลย อีกสิ่งที่ผมรักก็คือการอนุรักษ์พวกมันเอาไว้เหมือนอย่างที่แห่งนี้ได้ทำ” เขากล่าวทิ้งท้าย สุดท้ายการที่พวกมันทำสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่าอาจไม่ได้มีเพียงแค่สัญชาตญาณ แต่ความคิดของพวกมันอาจทำให้เราไม่สามารถเดาใจมันได้เลยก็ได้นะ   ที่มา: dailymail

บ่อยครั้งที่เราจะเห็นคลิปเหตุการณ์สุดอบอุ่นหัวใจของเหล่าแมวยักษ์ ที่เพิ่งเข้าไปหามนุษย์พร้อมโผกอดและเลียอย่างอบอุ่น แน่นอนว่าปกติแล้วสิงโตเป็นสัตว์ผู้ล่าแต่การได้เห็นอะไรแบบนี้มันดีมากๆ เลยล่ะ ที่สำคัญทุกครั้งที่ได้ดูก็ยังรู้สึกดีไม่เปลี่ยน โดยในคราวนี้เป็นคิวของสิงโตเพศเมียสองตัว Malkia และ Adelle ซึ่งได้เจอกับ Michaela Zimanova หญิงสาวผู้ดูแลพวกมันทั้งคู่ตั้งแต่วัยเด็ก…     เดิมทีสิงโตทั้งสองตอนเป็นเด็กนั้นถูกทิ้งโดยแม่ของมันเอง โดยเริ่มแรกพ่อแม่ของมันเป็นสิงโตในคณะละครสัตว์ที่เดินทางไปทั่วยุโรป แต่พอพวกมันปฏิเสธลูก ทั้งสองจึงถูกส่งพวกให้ทางศูนย์ Big Cats Rescue Centre ในประเทศสโลวาเกียรับไปเลี้ยงดูต่อ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ Michaela นั่นเอง หลังจากที่เลี้ยงพวกมันจนเติบใหญ่พอสมควรแล้ว สิงโตทั้งสองก็ได้ถูกส่งไปอยู่ที่สวนสัตว์ Malkia Park ในประเทศเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ทั้งหมดต้องห่างจากกัน แต่แล้วล่าสุด Michaela ก็ได้เดินทางไปพบกับสิงโตทั้งสองหลังจากไม่ได้เจอหน้านาน   กอดกันกลมเชียว สงสัยคิดถึงแม่ที่เลี้ยงดูพวกมันมามากๆ เลยนะเนี่ย   ภาพความประทับใจได้ถูกบันทึกไว้ พร้อมโมเม้นต์แห่งความสุขที่ผู้ที่สิงโตทั้งสองยอมรับเป็นแม่ โผเข้ากอดกันอย่างอบอุ่นสุดๆ น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย   กอดเจ้าเหมียว กอดโว้ย ไม่ใช่ให้กิน!! งับหัวแม่ซะแล้ว   ตัว Michaela นั้นนับเป็นคนไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้สัตว์ทั้งสอง และเธอจะแวะมาหาพวกมันทุกๆ สามเดือน แต่บางครั้งก็จะนานกว่านั้น แต่ทุกครั้งที่พวกเขาเจอกันก็จะมีภาพน่ารักๆ แบบนี้เสมอนั่นเอง   ลองชมคลิปความน่ารักเต็มๆ ของพวกมันข้างล่างได้เลย  …

หลายๆ คนอาจจะเป็นแฟนคลับของเหล่าสัตว์ป่าที่แสนน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องแพนกวิ้น หรือเจ้าแมวน้ำอุ๋งๆ กันแน่เลยใช่ไหมล่ะ อ่า… ถ้าหากใครชื่นชอบโมเม้นต์น่ารักๆ ของพวกสัตว์แล้วล่ะก็ห้ามพลาดเรื่องที่เรานำมาฝากกันเลยล่ะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมภาพเหล่าสัตว์โลกสายฮาจากงานประกวด Comedy Wildlife Photography Awards มาให้ชมกัน…     การประกวดภาพถ่ายสัตว์โลกสุดฮาที่ว่านี้ ได้รับความสนใจจากช่างภาพมากมายทั่วโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมามีภาพที่ส่งเข้าประกวดมากถึง 2,200 ภาพจาก 75 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว คุณ Tom Sullam ผู้จัดการประกวดดังกล่าวเล่าถึงที่มาที่ไปของงานครั้งนี้ว่า “ผมอยากให้การประกวดนี้เป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์พวกสัตว์ป่า ภาพความน่ารักของพวกมันคงจะทำให้หลายๆ คนตระนักถึงความสำคัญของพวกเค้าได้”   เจ้าหมาจิ้งจอกที่แอบชิ้งฉ่องในสนามกอล์ฟ เมือง San Jose รัฐแคลิฟอร์เนีย   เจ้าเพนกวิ้นกับท่าทางแปลกๆ ของมันใน Isla Martillo ประเทศอาร์เจนตินา   เจ้าลิงอินดรีกำลังบอกว่าสบายมากพวก!!   เจ้านกฮูกตาเดียว จากประเทศชิลี   ภาพของเหล่านกที่กำลังพูดคุยกัน จากประเทศโคลอมเบีย   แมลงตัวน้อยที่ออกมาทักทายช่างภาพ   เจ้าจิงโจ้ที่กำลังฝึกท่ากังฟูอยู่กลางทุ่งหญ้า ในประเทศออสเตรเลีย   การคำราม (เชิงหาว) ของเจ้าป่า จากประเทศแทนซาเนีย ผลงานที่เข้าร่วมประกวดในปี 2011…

‘แมวเมนคูน’ เป็นแมวสายพันธุ์ที่มีขนาดลำตัวใหญ่โตมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่นๆ เรียกได้ว่ามันเป็นสายพันธุ์แมวที่ดูจะพิเศษกว่าสายพันธุ์อื่นในอาณาจักรแมวเหมียวด้วยกัน ไม่ว่าจะด้วยขนที่ปุกปุย หรือหูที่ตั้งชันก็ตาม Robert Siljka ช่างภาพหนุ่มที่ประกาศตนเองว่าชีวิตนี้มีสองสิ่งที่เขารักมากที่สุด อย่างแรกก็คือการถ่ายภาพ และอย่างที่สองก็คือแมวเมนคูน ดังนั้นเจ้าตัวจึงจับเอาสองสิ่งมารวมกันเป็นผลงานภาพถ่ายแมวสายพันธุ์ยักษ์ ถ้าดูผ่านๆ อาจทำให้ตกใจคิดว่าเป็นสิงโตได้เลยนะ!   “การได้อยู่ท่ามกลางแมวยักษ์ และถ่ายรูปพวกมัน ช่างเปี่ยมไปด้วยความสุขสำหรับผม ผมใช้เวลานานหลายวันอย่างไม่เบื่อหน่าย กว่าจะได้ภาพเหล่านี้” Robert กล่าว   ดูเจ้าเหมียวคมเข้มตัวนี้สิ วางมาดเป็นบอสใหญ่ประจำแก๊งค์เลยนะ   หืม…นั่นแผงคอแมวใช่ไหม? บอกทีว่ามันไม่ใช่สิงโต   ส่วนพี่คนนี้ก็มาซะหล่อเจ้มจ้นเหลือเกิ๊นน   ตอนที่พวกมันยังเป็นเด็ก ก็มีขนาดตัวเท่ากับแมวทั่วไปนั่นแหละ แต่ร่างกายของพวกมันเติบโตได้เรื่อยๆ แม้ว่าอายุจะเกิน 1 ขวบไปแล้วก็ตาม   แต่เห็นหน้าโหดแบบนี้ บางทีพวกมันก็มีมุมมุ้งมิ้งน่ารักเหมือนกันนะ   อีกหนึ่งความโดดเด่นก็คือ หางของพวกมันจะมีขนที่ปุกปุย และยาวมากกว่าแมวพันธุ์อื่น   ตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า ‘Hera’ ดูท่าโพสหน้ากล้องของมันก่อน ธรรมดาซะที่ไหน   บางทีก็มีเมนคูน ตา 2 สีแบบนี้เหมือนกันนะ สวยงามราวกับหลุดมาจากโลกนิยาย   ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ดูน่าเกรงขามสุดๆ  …

โดยปกติแล้วภาพของ “สิงโต” ที่เราเห็นกันจนชินตา จะเป็นภาพของสัตว์ที่ดูน่าเกรงขาม และน่ากลัวใช่ไหมละ ไอ้มุมแบ๊วๆ น่ารักมุ้งมิ้งอะไรพวกนี้ แทบไม่มีให้เห็นเลย แต่คุณเชื่อไหมว่า จริงๆ แล้วราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างสิงโต ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ และในวันนี้คุณก็จะได้เห็นกันแล้ว รับรองว่าต้องแอบยิ้มตามแน่ๆ     Kobus Swart ผู้ที่ได้บันทึกภาพสุดประทับใจของเจ้าสิงโตเพศผู้ตัวหนึ่ง ขณะที่เขาไปพักแรมอยู่ที่ประเทศบอตสวานา ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เขาได้เห็นเจ้าสิงโตที่มีความสง่างามตัวนี้ กำลังนอนทำความสะอาดตัวเองอยู่ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ และในขณะนั้นก็ได้มีเจ้าผีเสื้อแสนสวยบินเขามาเกาะบริเวณเท้าของมัน เมื่อเห็นดังนั้น เจ้าสิงโตจึงหยุดทำความสะอาดตัวเองชั่วครู่ แล้วจับตาอยู่ผีเสื้ออย่างใกล้ชิด โดยที่ไม่รบกวนมันเลย     “เจ้าสิงโตตัวนี้มันเพียงแค่จ้องมองเจ้าผีเสื้อตัวน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วมันสามารถงับผีเสื้อได้อย่างรวดเร็วเลยด้วยซ้ำ” Kobus กล่าว   แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าผีเสื้อมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ เพราะจากนั้นไม่นานมันก็ได้บินจากไป ด้านสิงโตที่เพิ่งจะเจอเพื่อนใหม่ได้ไม่นาน ก็ดูเหมือนจะเสียใจไม่น้อย   แม้จะได้พบกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ได้เกิดเป็นมิตรภาพสุดประทับใจระหว่างเพื่อนต่างสายพันธุ์ไปแล้ว   ดีจังที่เจ้าผีเสื้อได้แวะมาทักทายพี่สิง แม้จะแค่แป๊บเดียว แต่ก็ทำให้เราได้เห็นมุมน่ารักของสิงโตนะว่ามั้ยยย ที่มา : thedodo

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพความน่ารักของลูกสิงโต และลูกเสือตัวน้อย ที่ถูกบันทึกขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ African Safari ในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น จากภาพเราจะเห็นถึงความไร้เดียงสาของนักล่าตัวน้อย ที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน แถมมันก็ยังดูสนิทสนมกันมากๆ อีกด้วย     สำหรับเจ้าลูกเสือ และลูกสิงโตน้อยสองตัวนี้ ได้เกิดมาลืมตาดูโลกภายในสวนสัตว์แห่งนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี่เอง เมื่อเริ่มโต พวกมันก็เริ่มมาเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ จึงทำให้สนิทสนม และกลายเป็นเพื่อนรักกันไปในที่สุด   นอกจากความน่ารักแล้ว พวกมันยังเป็นมิตรกับสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อย่างเข่น เจ้ากระต่ายผู้อ่อนโยน จนกลายเป็นมิตรภาพระหว่างสายพันธุ์ที่เห็นแล้วชวนให้ยิ้มตามมากจริงๆ   พวกมันเล่นกัน ต่อสู้กัน และนอนหลับด้วยกัน .   ทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้นำภาพของลูกเสือ และลูกสิงโตน้อยไปเผยแพร่ลงในทวิตเตอร์ จนทำให้มีผู้คนเข้ามากดไลค์ และกดแชร์ภาพดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก . .   ตอนเป็นเด็กอาจจะเหมือนกับลูกแมวตัวน้อย แต่เมื่อมันโตขึ้น ก็จะกลายเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเราก็อยากเห็นความน่ารักสมัยเป็นเด็กน้อยของมันนานๆ   ด้านเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้เผยว่า แม้ว่าตอนนี้จะยังเด็ก แต่พวกมันก็โตไวมากๆ เลยทีเดียว   หากใครมีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แล้วอยากจะเจอเจ้าสองตัวนี้…

กลายเป็นภาพสุดประทับใจในทันที สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อสิงโตและลูกสาว เมื่อสิงโตตัวพ่อรีบเดินไปหาลูกสาวในทันที แม้ตนเองจะเพิ่งฟื้นหลังเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่มา สิงโตตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Leo ตัวมันและลูกสาว Africa กับ Kiara เพิ่งถูกช่วยออกมาจากคณะละครสัตว์ผิดกฎหมายในประเทศเปรู และถูกส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า Emoya Big Cat ในแอฟริกา ซึ่งเจ้า Leo ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาฟัน หลังจากมันถูกทารุณกรรมอย่างหนักในคณะละครสัตว์ และทันทีที่มันฟื้นจากยาสลบ แม้จะยังมึนๆ กับฤทธิ์ยาสลบ แต่มันก็รีบออกมาตามหาลูกสาวของตนเองในทันทีด้วยความเป็นห่วง จนสุดท้ายมันก็ได้พบกับลูกสาวอาศัยอยู่ในกรงข้างๆ สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก กับสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพ่อลูกคู่นี้     Africa พยายามยื่นเท้าเข้าไปในกรงข้างๆ เพื่อทักทาย Leo พ่อของตนเอง   ไปชมวีดีโอกันเถอะ   ทาง Animal Defenders International หน่วยงานที่ช่วยเหลือสิงโตทั้งสองตัวออกมากล่าวว่า พวกเขาสามารถช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ อีกนับร้อยตัวจากคณะละครสัตว์ดังกล่าว โดยมีตั้งแต่ สิงโต เสือ ลิง และหมีเลยทีเดียว     ไม่ว่าสัตว์ชนิดใดก็มีความห่วงใยสายเลือดของตนเองทั้งนั้น ยังไงก็ขอให้อยู่กันอย่างมีความสุขนับจากนี้ไปนะฮะ ที่มา dailymail

Kahn และ Sheila สองสิงโตที่ครั้งหนึ่งเคยมีเจ้านายคนเดียวกัน พวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อให้คนมาเช่าถ่ายภาพและเข้าร่วมงานปาร์ตี้ จนกระทั่งพวกมันถูกองค์กร Texas’ In-Sync Exotics Wildlife Rescue and Education Center ช่วยเหลือไว้ได้   Sheila สิงโตเพศเมีย   แต่น่าเสียดายที่มันต้องแยกกันอยู่ โดยเจ้า Kahn วัย 6 ปี นั้นขาดสารอาหารแถมหางของมันก็ถูกกัด คาดว่ามันอาจจะเครียดจนต้องกัดหางของตัวเอง แต่โชคยังดีที่มันเป็นมิตรกับคนมากๆ จึงสามารถช่วยรักษาได้อย่างง่ายดาย ส่วนเจ้า Sheila นั้นก็กำลังจะตาย… Sheila สิงโตเพศเมียวัยเพียง 15 เดือนเท่านั้น ร่างกายของมันอ่อนแอมาก ยืนแทบจะไม่ไหว มันไร้ซึ่งชีวิตชีวาอีกทั้งยังอ้วกตลอดเวลาอีกด้วย แต่ทางองค์กรก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยเหลือมันจนสุดความสามารถ   .   Vicky Keahey ผู้ก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเล่าว่ากว่า 2 สัปดาห์ที่เขาต้องเข้าไปป้อนอาหารให้กับมือ เขาทำมีตบอลแล้วก็ยัดเข้าปากมัน เพื่อให้มันได้กินอะไรบ้าง อีกทั้งมันยังเป็นโรคอีกมากมาย ทำให้มันไม่มีความกระหายหรือง่วงได้เลย แต่ด้วยการดูแล ทำให้อาการของมันดีขึ้น   Kahn และ Sheila   จากปากคำเจ้าหน้าที่เล่าว่า…

ในโลกนี้มีสิงโตหลายสายพันธุ์ มีทั้งหาได้ทั่วไป และพันธุ์ที่หายาก อย่างสิงโตเอเชีย ที่ขึ้นชื่อว่า หายากที่สุดในโลก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมันมีจำนวนลดลงอย่างมาก เรียกได้ว่า ใกล้สูญพันธุ์เลยก็ว่าได้ ในปีที่ผ่านมาสิงโตเอเชียมีจำนวดลดลงอย่างมาก เรียกได้ว่าเกือบสูญพันธุ์เลยทีเดียว มีการประมาณว่าเหลืออยู่เพียงราวๆ 500 ตัวทั่วโลก และส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินเดีย       แต่เมื่อไม่นานมานี้ที่อุทยานสัตว์ป่า Cotswold ในประเทศอังกฤษ ได้มีลูกสิงโตเอเชียเกิดมาพร้อมกัน 3 ตัว งานนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่ตื่นเต้นกันยกใหญ่เลย อุทยานสัตว์ป่าแห่งนี้เปิดเมื่อปี 1970 แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีสิงโตเอเชียมาก่อนเลย จนในปี 2013 และปี 2014 พวกเขาได้รับสิงโตเอเชียมา 2 ตัว เป็นตัวผู้กับตัวเมีย คือ Rana และ Kanha ที่ได้มาจากโครงการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ป่าในยุโรป     และต่อมาพวกมันก็สร้างประวัติศาสตร์ให้กับอุทยานด้วยการคลอดลูกแฝดสามตัวนี้ออกมา โดยมีชื่อว่า Kali, Sita และ Sonika เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มาก พวกเค้าเฝ้าดูพวกมันผ่านกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ตอนนี้พวกมันอยู่กับแม่ในกรงได้เกือบ 2 เดือนแล้ว ส่วนพ่อมันก็อยู่ในกรงข้างๆ กัน ไม่ยอมไปไหน แต่ในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ได้พาลูกๆ ไปหาพ่อแล้วนะ…

โดยปกติแล้ว สิงโตเป็นสัตว์นักล่าที่มักจะหาเหยื่อเป็นสัตว์ป่าทั่วไป แต่เมื่อมันมาอยู่ใกล้กับบ้านคน โดยเฉพาะไร่หรือฟาร์มปศุสัตว์ เหยื่อของมันก็คือสัตว์ที่คนเลี้ยงนั้นเอง บางครั้งจำเป็นต้องปลิดชีวิตสิงโตหรือไม่ก็ต้องย้ายถิ่นหนีไป ท้ายที่สุดแล้ว ชาวไร่ก็เหลือทนต่อปัญหาการล่าเหยื่อของสิงโตได้ เพราะว่ามันคือช่องทางทำมาหากินของเขา ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ มีหวังต้องอดตายกันพอดี แต่ก็ไม่อยากจะฆ่าสิงโตด้วยนี่สิ   นักวิทยาศาสตร์ Neil Jordan เชื่อว่ามันต้องมีวิธีที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปได้ เขาเล่าว่าสิงโตหลายตัวต้องถูกฆ่าเพราะเนื่องจากพวกมันลุกล้ำเข้ามาในเขตเพื่อล่าสัตว์ที่คนเลี้ยงไว้ โดยสิ่งแรกที่เขาลองทำก็คือเสนอให้ชาวไร่ทำการวาดดวงตาไว้ที่ก้นของวัว เพื่อให้สิงโตกลัวและหนีไป แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าวิธีนี้ได้ผลรึเปล่า แต่ถ้าสำเร็จถือว่าเป็นวิธีที่ล้ำสุดๆ ไปเลย เพราะว่าไม่ต้องลงทุนอะไรมาก และไม่เป็นการทำร้ายสัตว์อื่นๆ อีกด้วย   . . . . . ที่มา sobadsogood

ผู้ล่ามักจะมีมาดที่น่าเกรงขามอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งของการล่าจะต้องไม่ให้เหยื่อรู้ตัว เมื่อได้ระยะเข้าประชิดเหยื่อผู้โชคร้ายก็กลายเป็นอาหารอันโอชะของผู้ล่าไปโดยปริยาย แต่ก็ใช่ว่าผู้ล่าจะประสบความสำเร็จในการล่าเหยื่อทุกครั้งไป อย่างในกรณีของสิงโตสาวในแถบแอฟริกาใต้ตัวนี้ที่แอบย่องเข้าประชิดเหยื่ออย่างดี แต่เหยื่อดันรู้ตัวซะก่อน งานนี้ก็ต้องรีบพุ่งกระโจนออกตัวแรงๆ เพื่อไล่ตามตะครุบเหยื่อให้ทัน   ตายละ เหยื่อรู้ตัวแล้ว ต้องรีบตาม เดี๋ยวไม่ทัน!!   จะหนีไปไหนเจ้าอิมพาลาทั้งหลาย!!   แล้วก็ บรึ้มมมมมมมม!!   ถึงกับติดสตั๊นไปชั่วขณะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนักล่าล่ะเนี่ย!?   ทั้งนี้ทั้งนั้น Natasha Van Der นักศึกษาวัย 20 ปี ผู้บันทึกภาพช่วงจังหวะเหล่านี้ไว้ได้ กล่าวว่ามีสิงโตสองตัวมาดักซุ่มรออิมพาลามาดื่มน้ำอยู่นาน แต่ดัน เอิ่ม… ตามคลิปนี่แหละ   ทำพลาดแบบไม่เหลือภาพนักล่าอันน่าเกรงขามเลย!!! ที่มา : dailymail

สำหรับสิงโตที่ชื่อว่า “คาเมรอน” ตัวนี้แล้ว ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับสิงโตตัวอื่นๆ เลย เมื่อมันได้มาพบกับเสือโคร่งขาวเพศเมียชื่อว่า “ซาบู”   เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 2000 ที่สวนสัตว์ในเมือง New England ทั้งคู่ถูกจับมาอยู่ด้วยกันเพราะว่าต้องการจะผสมพันธุ์เพื่อตัว Liger สัตว์ไฮบริด   แต่ยีนส์ของเจ้าซาบูอ่อนแอก่อนไป และน้ำหนักของคาเมรอนก็น้อยกว่ามาตรฐาน ทำให้ทั้งคู่ถูกช่วยชีวิตออกจากสวนสัตว์ไปในปี 2004   บ้านใหม่ของมันก็คือสถานรับเลี้ยง Big Cat Rescue ซึ่งหลังจากที่มันอยู่ด้วยกันมานาน ทำให้มีความผูกพันธ์เกิดขึ้น   คาเมรอนเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของและพยายามดูแลเจ้าซาบู แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มันต้องเสียขนอันน่าเกรงขามที่แผงคอไปเพราะว่าต้องทำหมัน แต่นั่นก็คุ้มค่าเมื่อได้อยู่กับซาบู .   แต่เหมือนว่านั่นจะกลายเป็นข้อดีไปเลย เพราะว่าที่ฟลอริด้าช่วงนั้นอากาศร้อนมา และมันก็ไม่มีขนที่แผงคอหนักๆ มารบกวนด้วย ทำให้มันกลายเป็นคนขี้เล่น ไม่กังวลกับอะไรหลายๆ อย่าง . .   ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ด้วยกัน ช่างเป็นความรักที่น่าอิจฉาจริงๆ ที่มา boredpanda

อย่าเพิ่งงงกับคำว่า “แมวยักษ์” ที่ #เหมียวสามสี พาดหัวไปนะ เพราะถ้าเขียนเต็มๆ แล้วที่มันไม่พอก็เลยขอย่อ แมวยักษ์ที่พูดถึงก็คือ เสือ สิงโต และเสือดาว นั่นเอง แต่วันนี้พวกมันจะมาทำอะไร ตามไปดูกัน เมื่ออาสาสมัครจาก Big Cat Rescue ในฟลอริด้า ได้ทำการทดสอบด้วยการหันหลังให้กับสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ล่าที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก คนที่กล้ามาหันหลังให้พวกมันถือว่าใจกล้ามากเช่นกัน เขาหันหลังเพื่อจะดูปฏิกิริยาของนักล่าว่าจะยังหลงเหลืออยู่หรือไม่ เพราะพวกนี้มันชอบย่องหาศัตรูทีเผลออยู่แล้วล่ะ อย่ารอช้า เราไปชมคลิปกันเลย     แหม่ ทั้ง 3 ตัวนี้มีความเนียนที่ไม่เนียนเลยน้าาาา โดยเฉพาะเจ้าเสือขาวนี่ฮาสุดๆ อะไรจะไม่เนียนขนาดน้านนน!!!     และถึงแม้จะเป็นคลิปทดลองสนุกๆ กับเพลงน่ารักๆ แต่ก็สอนบทเรียนดีๆให้เรารู้ว่าทำไมเวลาเข้าป่าแล้วบังเอิญไปเจอสัตว์จำพวกเสือ การเอาตัวรอดจากพวกมันไม่ใช่การวิ่งหนี แต่ให้ยืนทำตัวโตๆแล้วมองมันไว้ ค่อยๆถอยออกมาจนกระทั่งลับตาหรือปลอดภัยมากๆแล้ว รีบหนีโดยไวที่สุดนั่นเอง…. อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จริงก็คงขึ้นอยู่กับโชคเป็นสำคัญด้วยนั่นเอง T_T ที่มา Big Cat Rescue

นี่คือเรื่องราวของ “มูฟาซ่า” สิงโตภูเขาตัวสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในคณะละครสัตว์ Peruvian เป็นเวลากว่า 20 ปี มันถูกล่ามโซ่ไว้ตลอดเวลา และใช้ชีวิตอยู่ในกรง ไม่เคยได้ออกมาเจอโลกข้างนอกเหมือนสัตว์ป่าทั่วไป แต่แล้ว Animal Defenders International ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าก็ได้เข้าไปให้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยการไปรับมันมาพร้อมกับตัดโซ่ที่จองจำวันไว้เป็นเวลานาน ทำให้มันสามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระอีกครั้งหนึ่ง   เมื่อมันมาอยู่กับ ADI ก็ได้รับการดูแลอย่างดี มีที่พักให้พื้นฟูสภาพอย่างกว้างขวางเหมือนในป่าจริงๆ   และนี่คือคลิปการปลดปล่อยมูฟาซ่าสู่อิสระ   แต่เป็นที่น่าโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เมื่อเดือนธันวาคมปี 2015 ที่ผ่านมา เจ้ามูฟาซ่าก็ได้จากโลกนี้ไป หลังจากถูกปล่อยเป็นอิสระไม่กี่เดือนเท่านั้น เนื่องจากการถูกโซ่ล่ามเป็นเวลา 20 ปี ทำให้มันมีปัญหาสุขภาพอย่างหนัก และด้วยอายุของมันด้วย ทำให้ยากเกินจะรักษา ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ชื่อ “มูฟาซ่า” นั้นเหมือนชื่อสิงโตใน The Lion King เลย ที่มา Animal Defenders International

โดยปกติแล้ว สิงโตจะเป็นสัตว์ที่มีสีน้ำตาลหน่อยๆ แต่ถ้าพูดถึงสิงโตที่หายากแล้วก็ต้องเป็นสิงโตสีขาวเผือก ซึ่งหาดูได้ยากมากๆ แต่วันนี้หมียวจะพาไปรู้จักกับเจ้าสิงโตน้อย 4 ตัว สีขาวน่ารักน่าชัง ที่สวนสัตว์ Toronto Zoo ได้มีสมาชิกใหม่เป็นสิงโตขาวสายพันธุ์หายาก แม่ของมันชื่อว่า Makali โดยทั้ง 4 ตัวนั้นเกิดระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน จนถึงตอนนี้ก็อายุได้ 8 สัปดาห์แล้ว อีกทั้งยังเป็นตัวผู้ทั้งหมดเลยด้วย เจ้าสิงโตขามทั้ง 4 มีสุขภาพที่ดี อยู่ในการดูแลของแม่ของพวกมัน และยังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกได้เยี่ยมชม เราก็คงต้องดูพวกมันผ่านทางคลิปเอานี่แหละ น่ารักจริงๆเลย     เราไปชมความน่ารักของพวกมันกันเลยดีกว่า   ที่มา Toronto Zoo

สิงโตคือสัตว์ที่สง่างามและนาเกรงขาม แต่ในวัยเด็กของมันนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวที่ตัวใหญ่ขึ้นมานิดนึงเท่านั้นเอง สิงโตมันก็จะเล่นอะไรตามประสาเด็กซึ่งดูแล้วบอกได้เลยว่าน่ารักมากๆ และนี่ก็คือคลิปน่ารักๆ ของลูกสิงโต 6 ตัว ที่สวนสัตว์ Columbus ที่ดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าฟักทอง พอมันได้เจอ มันกลับเล่นเป็นฟุตบอลซะได้ เอ๊ะนั่นอะไรสีส้มๆ กินได้อ๊ะป่าว   ไหนๆ ลองดูซิว่าเป็นยังไง   ทำไมมันแข็งจังเลยเนี่ย   เล่นเป็นลูกบอลไปเลยดีกว่า   นี่คือแซมเปิ้ลนะ ต้องไปดูคลิปของมัน แล้วจะพบว่ามันน่ารักกว่าที่คิดเยอะเลย   ที่มา Columbuszoomedia

มีบางคนบอกว่า สัตว์ไม่รู้จักคำว่าารัก เพราะพวกมันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งที่อ่อนโยนเช่นความรัก แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? พวกมันรักใครไม่เป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ? สำหรับ Kiara สิงโตเพศเมียที่ถูกช่วยไว้โดยมูลนิธิ Black Jaguar White Tiger Foundation ตัวนี้คงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทันทีที่มันได้เจอกับ Adolfo อดีตเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิที่เคยดูแลมันมาตั้งแต่ยังเด็ก มันก็ดีใจจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่   Black Jaguar White Tiger Foundation เป็นมูลนิธิที่คอยช่วยเหลือเสือหรือสิงโตที่ถูกทำร้ายโดยมนุษย์   บางก็ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวในสวนสัตว์ที่ไม่ได้รับการดูแล บ้างก็กำพร้าพ่อแม่เนื่องจากโดนล่าโดยมนุยษ์   Kiara เองก็เป็นหนึ่งในสิงโตที่พวกเขาช่วยมา มันถูกเลี้ยงดูมาโดย Adolfo มาตั้งแต่ยังเล็กๆ และวันนี้พวกเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง   ไปชมคลิปสุดน่ารักกันเลย   เห็นแบบนี้แล้ว ใครยังจะบอกว่าสัตว์รักไม่เป็นอีกอ๊ะป่าว แต่รักขนาดนี้ ระวังพ่อจะโดนทับตายเอานะ เอาซะล้มทั้งยืนเลย ที่มา The Black Jaguar White Tiger Foundation

เชื่อได้เลยล่ะว่า ถ้าแมวมีขนาดตัวโตเท่าเหล่าเสือ เหล่าสิงโตล่ะก็ มันก็จะตะปบเราเล่นนี่แหละ -*- และแน่นอนในทางกลับกัน เหล่าสิงโตและเสือ ก็คือแมวตัวโตนั่นแหละ… ที่สำคัญมันก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากเรา ไม่ต่างจากเหมียวๆ ตัวเล็กเท่าไหร่หรอก ฮ่าๆๆ และนี่คือทั้ง 16 ภาพที่จะมาเป็นข้อพิสูจน์ให้ได้ดูกันล่ะ เชื่อได้ว่าทุกๆ คนน่ะ รักเหมียว ^^   แผล่บๆ   ใส่ตระกร้าพาไปเที่ยวได้แบบเหมียวเลย   ห๊ะ อะไรนะ…   แมวกลุ่ม   หวงของเล่นด้วยนะ   เกาพุงได้   เตาะแตะๆ   กินนมเหมือนกัน แต่อาจจะเยอะกว่าหน่อย   แข่งกันมั้ย!?   ตอนหลับ   ง่วงงงง   นอนกันทั้งวันนน   แน่ะ จะเล่นซ่อนหา!!?   ขู่คำราม   น่าย๊ากกกกก จำไว้นะเมี๊ยววว เราก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากคุณเช่นกัน ง่ำๆ…