Tag: สิทธิ
-
อดีตโสเภณีได้รับพระราชทานยศ ‘เดม’ ในฐานะยกระดับคุณตัว และรันวงการให้ถูกกฎหมาย
คุณความดีความงามของคนทำงานในฐานะโสเภณีอย่าง Catherine Healy ได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานยศ ‘เดม’ เทียบเคียงได้เท่ากับเลดี้ จากการต่อสู้ยกระดับของโสเภณีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงปี 1980 ตำรวจได้ทำการบุกจับกุมการค้าประเวณีผิดกฎหมายในเมือง Wellington ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีนาง Healy ทำงานอยู่ในนั้นด้วย แต่ทว่าในวันนี้เธอได้รับเกียรติอันสูงสุดจากราชวงศ์อังกฤษจากการรันวงการประเภทนี้!? Catherine Healy ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอและผู้ร่วมงานสายอาชีพเดียวกัน ต้องต่อสู้กับความยากลำบากเพื่อดำเนินการรักษาสิทธิของโสเภณีและเพื่อให้เกิดการยอมรับในสังคม และแล้วเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา นาง Healy ได้รับพระราชทานยศ Dame แห่ง New Zealand Order of Merit สำหรับการยกระดับสิทธิสำหรับโสเภณี โดยในปี 1986 เธอได้ช่วยก่อตั้ง New Zealand Prostitutes Collective องค์กรที่ช่วยสนับสนุนเหล่าโสเภณีและรักษาสิทธิของโสเภณี ปัจจุบันมุมมองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มพัฒนาแนวทางร่วมกับเหล่านักการเมืองเพื่อทำให้งานประเภทนี้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย และมีกฎหมายคุ้มครองคนทำงาน จนกระทั่งได้รับพื้นที่จากสื่อสาธารณะในปี 2003 เมื่อกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภานิวซีแลนด์…
-
ปาฐกถาของ “เนติวิทย์” ในนอร์เวย์ ชวนผู้เข้าร่วมลุกขึ้น ‘ชูสามนิ้ว’ เพื่อประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ได้มีการเปิดเวที การประชุมนานาชาติว่าด้วยเสรีภาพ ครั้งที่ 10 ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยองค์กร Oslo Freedom Forum 2918 (OFF) ซึ่งในงานจะมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยและบรรยายปาฐกถาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ สิ่งที่น่าสนใจก็คือเฟซบุ๊กเพจ ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก ให้ยอดรักเช็ดเลือดและน้ำตา ได้โพสต์วิดีโอการปาฐกถาภายในงาน ในงานดังกล่าว นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ นักศึกษาและกองทัพ (The Students and the Military) เนื้อหาในหัวข้อที่ นายเนติวิทย์บรรยายจะเป็นเรื่องเกี่ยวการออกเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาและเยาวชน นับตั้งแต่สมัยเกิดรัฐประหารในปี 2557 ในการปาฐกถา นายเนติวิทย์ก็ได้เล่าเรื่องราวของตนในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ เริ่มตั้งแต่การตั้งคำถามเรื่องทรงผมนักเรียน จนกระทั่งได้เข้าเรียนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2559 เนติวิทย์บอกว่าตนเองพยายามเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญๆ และจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เช่นในครั้งที่เชิญ โจชัว หว่อง มาพูดคุยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้เคลื่อนไหว แต่สุดท้ายโจชัว หว่องก็ถูกคุมตัวและส่งกลับฮ่องกงไป นั่นทำให้เกิดความคิดที่ว่าประเทศไทยได้สูญเสียอิสรภาพไปแล้ว ต่อมานายเนติวิทย์ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตใหม่แรกเข้า นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องหมอบกราบพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 แต่เนติวิทย์กลับเลือกที่จะยืนเพื่อรำลึกแทน จึงถูกเข้าใจว่าแข็งข้อ สุดท้ายเขาถูกปลดออกจากการเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเนติวิทย์ถูกกล่าวหาคดีหลายข้อ…
-
ช่างตัดผมหนุ่มสุดซวย เพียงเพราะตัดผมผู้หญิงไม่เป็น ถูกฟ้องเหยียดเพศเฉยเลย…
ความซวยนั้นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อย่างเช่นที่ช่างตัดผมหนุ่มคนต้องพบเจอกับความซวยที่มาเยือนอย่างงงๆ เพียงเพราะเขาไม่สามารถตัดผมให้กับเด็กผู้หญิงได้ เนื่องจากเขาไม่ได้เรียนมา… Sam Rahim ช่างตัดผมหนุ่มของร้าน Hunters Hill Barber Shop บนชายฝั่งตอนเหนือของนครซิดนีย์ วันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2017 เขาได้พบหญิงที่พาลูกสาวเข้ามาในร้านเพื่อจะตัดผม เธอถาม Sam ว่าสามารถตัดผมให้ลูกสาวเธอได้หรือไม่ และด้วยความที่ Sam เคยตัดแต่ผมผู้ชายเท่านั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะรับปาก และทำให้เขาปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ และนั่นทำให้หญิงสาวโมโหโกรธา รวมถึงไม่ยอมรับคำปฏิเสธจาก Sam แม้ว่าเขาจะให้เหตุผลไปแล้วก็ตามว่า ที่เขาไม่สามารถตัดผมให้กับลูกสาวของเธอได้ก็เพราะว่าเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ไม่ได้เรียนมา และไม่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้เขายังแนะนำว่ามีร้านเสริมสวยผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ถึงสามร้าน เดินไปเพียงนาทีเดียวก็ถึง แต่มันกลับทำให้หญิงสาวโกรธเกรี้ยวมากขึ้น และหลังจากนั้น Sam ก็ถูกเรียกตัวไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาละเมิดกฎการแบ่งแยกชนชั้นและถูกกล่าวหาว่าทำให้เด็กสาวต้องอับอายขายหน้า Sam กล่าวว่า “เธอคงจะอับอายขายหน้ากว่านี้อีกนะ ถ้าต้องไปโรงเรียนด้วยทรงผมที่ช่างตัดผมชายตัดให้” หลายท่านคงเห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ Sam ทำถูกต้องแล้ว แต่ความซวยมาหาเขาเองแท้ๆ ยังโชคดีที่ Sam ไม่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อยู่คนเดียว ทาง The…
-
จากเหตุการณ์คลิปวิดีโอ “พยาบาลถูกตำรวจจับ” เพราะทำหน้าที่ ตอนนี้ได้บทสรุปแล้ว
จากเหตุการณ์ขอความเป็นธรรมของพยาบาลสาวในเหตุการณ์ที่เธอปฏิเสธเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเพราะเธอไม่อยากเจาะเลือดของคนไข้รายหนึ่งออกมาในขณะที่เขาหมดสติอยู่ ทำให้เธอถูกเจ้าหน้าที่คนนั้นจับใส่กุญแจมือและดึงออกไปขังไว้ในรถก่อนที่จะทำการปล่อยตัวออกมาเมื่อผ่านไป 20 นาที เมื่อมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวออกมา ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตและนายกเทศมนตรีเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำในการรักษาสิทธิ์ของคนไข้ อีกทั้งไม่พอใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำลงไปนั้นกลับไม่ได้รับโทษใดๆ เลยและออกตรวจพื้นที่ตามปกติได้อย่างหน้าตาเฉย จากทั้งหมดนั้นจึงทำให้เกิดข้อสรุปออกมาแล้วในตอนนี้ อ่านข่าวเก่า : เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมพยาบาลสาว หลังเธอปฏิเสธไม่ให้เขาเจาะเลือดผู้ป่วยหมดสติ นายตำรวจ Brandon Shearer ได้ออกมาบอกว่าหัวหน้าของพวกเขาได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย และเขาก็ได้บอกด้วยอีกว่าเรื่องข้อระเบียบของการเจาะเลือดผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับการอัปเดตให้ทุกคนได้ทราบกันอย่างถ้วนหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเรื่องนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเติมในข้อระเบียบให้กับตำรวจทุกนายแล้ว นอกจากนั้น Payne นายตำรวจในเหตุการณ์แม้ว่าในตอนแรกจะได้รับปล่อยตัวให้กลับไปทำหน้าที่ตามปกติ แต่ก็ได้ถูกระงับเอาไว้และกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการตรวจสอบภายใน แต่เรื่องที่ควรจะกังวลมากกว่านั้นก็คือสิ่งที่เขาได้พูดกับนายตำรวจอีกคนในคลิปวิดีโอเกี่ยวกับอีกอาชีพหนึ่งของเขา ในการเป็นคนขับรถฉุกเฉินว่า “ฉันจะออกไปรับทุกคนอย่างรวดเร็ว และจะพาคนไข้ไปหาโรงพยาบาลอื่น” และกลายเป็นอีกเรื่องที่พวกเขายังคงต้องตรวจสอบกันต่อไป สุดท้ายแล้วเมื่อมีการถามคำถามกับพยาบาลสาว Wubbles ผู้เสียหายในเรื่องนี้ว่าเธออยากให้ทำอย่างไรกับเจ้าหน้าที่คนนี้ เธอก็ได้ตอบกลับมาว่า “ฉันคิดว่าเขาจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการอบรมที่เข้มงวด” แม้ว่าจะยังเหลือการตรวจสอบภายในอยู่ ทว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพยาบาลคนนี้ก็ได้รับการคลี่คลาย และทางตำรวจได้ออกมาอธิบายเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงแค่ว่านายตำรวจคนดังกล่าวจะได้รับโทษสถานหนักหรือเบา ที่มา: dailymail
-
10 อันดับประเทศที่โดนจำกัด ‘เสรีภาพทางการใช้อินเตอร์เน็ต’ มากที่สุดในปี 2016
เรียกได้ว่าเรื่องของ ‘สิทธิ และเสรีภาพ’ ในการใช้อินเตอร์เน็ต เป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน บางฝ่ายอาจจะมองว่า ไม่เหมาะสมที่ประชาชนจะถูกริดรอนเสรีภาพในการแสดงออก หรือรับข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกบนอินเตอร์เน็ต ในขณะเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งก็อาจจะมองว่า การควบคุมทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ แน่นอนว่าประเด็นนี้กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะในบ้านเราตอนนี้ ที่กำลังจะมีการร่าง ‘พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่’ ขึ้นมา และเป็นอย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่า มีหลายคนที่ออกตัวไม่เห็นด้วย ด้วยประเด็นที่กำลังร้อนแรงในตอนนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ 10 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับจาก ‘FOTN’ (Freedom on the Net) ประจำปี 2016 โดยใช้หลักเกณฑ์ตามแผนผังดังนี้… จากจำนวนประชากรทั่วโลกทั้งหมดที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ‘FOTN’ ได้แบ่งไว้เป็น 4 กลุ่ม สีเขียวคือกลุ่มที่ใช้งานได้อย่างเสรี สีเหลืองคือถูกควบคุมบ้างในบางส่วน สีม่วงคือไม่มีเสรีภาพในการใช้ ส่วนสีเทาคือกลุ่มที่ไม่มีข้อมูล เช่นเกาหลีเหนือ เป็นต้น เมื่อนำมาเทียบบนแผนที่โลกแล้ว ก็จะสามารถแบ่งสีตามประเทศต่างๆได้ดังนี้ (ของไทยเราจัดว่าอยู่ในกลุ่มสีม่วง = ไม่มีเสรีภาพในการใช้) จากจำนวน 65 ประเทศทั้งหมดที่ ‘FOTN’ ได้ทำการศึกษาข้อมูล…
-
เลอค่า!! Emma Watson กล่าวสุนทรพจน์ ‘สิทธิสตรีในรั้วมหาวิทยาลัย’ ในงานประชุม U.N.
ก็ถือว่าเป็นดาราสาวมากความสามารถคนหนึ่งแล้วก็ว่าได้สำหรับ Emma Watson ผู้โด่งดังขึ้นมาจากซีรีส์ภาพยนตร์พ่อมดน้อย Harry Potter ที่นอกจากความเก่งกาจด้านการแสดงและการเรียนแล้ว ตอนนี้ยังเป็นตัวแทนสิทธิสตรีของ U.N. อีกด้วย ล่าสุดเธอก็ได้มีโอกาสไปพูดเกี่ยวกับสิทธิสตรี HeForShe ในหัวข้อ ‘ชีวิตของนักศึกษาหญิงในรั้วมหาวิทยาลัย’ ซึ่งเหล่ามหาวิทยาลัยระดับโลกหลายแห่งสนับสนุนให้เกิดงานนี้ขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักศึกษาหญิงทั่วโลก Emma ในงานประชุมของ U.N. ใจความสำคัญในสุนทรพจน์ของเธอก็คือ… “ถ้าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ?? แต่ในทางกลับกัน ผู้หญิงก็สามารถเป็นผู้นำได้ แต่ไม่สามารถเป็นผู้นำงานประชุมต่างๆ ได้ล่ะ?? และถ้าในหลายๆ มหาวิทยาลัยนั้น ผู้หญิงไม่ได้รับการยอมรับหรือมีบทบาทใดๆ เลยล่ะ?? สิ่งเหล่านี้คือความกดขี่อย่างหนึ่งเลยไม่ใช่หรือ!?” “แท้จริงแล้วมหาวิทยาลัยควรเป็นสถานที่ๆ บ่มเพาะและปลูกฝังแนวคิดต่อต้านความรุนแรงในทุกๆ รูปแบบต่างหากล่ะ และนั่นก็คือเหตุผลที่เหล่านักศึกษาควรคาดหวังว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นที่ที่สังคมสามารถคาดหวังได้ว่ามีความเท่าเทียมโดยแท้จริง และนั่นคือส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคมล่ะ” ไปชมคลิปการพูดสุนทรพจน์ของเธอ และเรื่องที่เธอเน้นย้ำมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันนั่นก็คือ สัดส่วนของงานในมหาวิทยลัยที่ได้รับมอบหมาย ประเภทของงานต่างๆ ที่ได้รับ และ จำนวนสัดส่วนของนักศึกษาชายและหญิง ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญในด้านความเท่าเทียมกันอย่างยิ่ง จะว่าไปแล้วสมัยนี้ผู้หญิงก็มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสังคมการทำงานและผู้นำด้านต่างๆ เห็นเธอเติบโตมามีบทบาทขนาดนี้ ตัวละครเฮอร์ไมโอนี่คงดีใจมากๆ เลยนะเนี่ย!! ที่มา:…
-
ดราม่าไหมงานนี้!? เด็กๆ ชาวฝรั่งเศสสามารถ ‘ฟ้องร้อง’ พ่อแม่ตัวเองได้ หากโพสท์รูปภาพวัยเด็กลงโซเชียลมีเดีย
เป็นที่แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนนั้นมักจะชอบถ่ายคลิปหรือรูปของลูกตัวในขณะที่ยังแบเบาะโพสท์ลงโซเชียลมากมาย ซึ่งทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ!? แต่ในประเทศฝรั่งเศสหากพ่อแม่แชร์ภาพของลูกตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียอาจถูกลูกตัวเองฟ้องร้องเมื่อโตขึ้น ในข้อหาละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวในวัยเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1,800,000 บาทเลยทีเดียว นักวิชาการคาดว่า ในอนาคตเด็กๆ จะเริ่มตระหนักว่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขาตั้งแต่เด็กนั้นถูกเผยแพร่สู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป และการวิจัยของมหาวิทยาลัย Michigan พบว่า เด็กอายุ 10-17 ปีมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองแชร์เรื่องของพวกเขาในขณะที่แบเบาะลงบนโลกโซเชียล แต่ถึงอย่างไรก็ตามพ่อแม่ทั้งหลายก็ควรระมัดระวัง และเข้าใจไว้ว่า ข้อมูลที่อัพลงบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณ เพราะอาจมีคนนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำการสวมรอยเป็นลูกของคุณทำให้เกิดความเสียหายตามมา หรือเปิดช่องให้ลูกของคุณถูกล้อเลียนให้เกิดความอับอายด้วยข้อมูลดังกล่าว เห็นแบบนี้แล้วก็ระวังกันด้วยนะจ๊ะเหล่าพ่อแม่ทั้งหลาย เพราะข้อมูลต่างๆ ที่อัพลงบนโซเชียลนั้นสามารถสร้างภัยอันตรายให้กับลูกๆ ของคุณได้อย่างดายเลยทีเดียว ที่มา : theguardian
-
ศิลปินสาวเปลือยกายหน้าสถานที่สำคัญ เรียกร้องสิทธิหลังมีรายงานมากมายเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิด!!!
ในการออกมาเรียกร้องถึงสิทธิต่างๆ ในหลากหลายสาเหตุและเหตุผลด้วยกัน เหมียวก็ว่าเข้าท่าดีนะเพราะจะทำให้ผู้คนได้ตระหนักถึงปัญหานั้นๆ อย่างจริงจัง แต่บางครั้งเราก็ต้องย้อนกลับมาดูสักหน่อยดีมั้ย…ว่ามันรุนแรงและสุดโต่งไปรึเปล่า?? เหมือนศิลปินชาวสวิตซ์คนนี้ Milo Moire ที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน หน้าโบสถ์ที่สำคัญของเมือง Cologne ประเทศเยอรมนี เพราะพักหลังๆ นี้มีรายงานถึงการล่วงละเมิดทางเพศในแถบนี้อยู่บ่อยครั้ง… Milo Moire โดยข้อความในป้ายที่เธอถือนั้นแปลความหมายได้ว่า ‘Respect us! We are not fair game even when naked.’ หรือ ‘จงเคารพสิทธิของเรา ถึงเราจะเปลือยเปล่าล่อนจ้อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถถูกล่วงละเมิดทางเพศได้’ มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลในแถบนั้นด้วย และก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางในการเรียกร้องสิทธิของเธอแต่อย่างใด และได้ทำการหยุดชายหนุ่มหลายคนที่พยายามจะไปขอให้เธอหยุดการเรียกร้องของเธอด้วยล่ะ ขณะที่อยู่หน้าโบสถ์สำคัญของเมือง ช่วงนี้เหตุการการล่วงละเมิดทางเพศในแถบนี้ก็ถือว่ารุนแรงมากเลยทีเดียว ถึงขั้นกับปลดผู้บังคับการในพื้นที่ เพราะว่ามีรายงานว่าผู้หญิงกว่า 100 คนถูกล่วงละเมิดในแถบนี้!!! แถมเหล่าผู้ก่อการนั้นมีการวางแผนมาอย่างดี และส่วนมากเป็นชาวอาหรับหรือไม่ก็แอฟริกา ทั้งการปล้น จี้ และข่มขืน…ไม่แน่ว่าเพราะการเปิดประเทศให้กับเหล่าผู้อพยพของเยอรมนี จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์นี้รึเปล่าหน๊ออออ?? ทางการที่นู่นเขาจริงจังนะเนี่ย ทำงานไม่ดีนี่ปลดออกกันเลยทีเดียว หนักหนาจริงๆ สำหรับปัญหาตอนนี้ -*- ที่มา: Metro
-
“Slut Walk” การเคลื่อนไหวของผู้หญิงที่ออกมาเรียกร้องสิทธิการแต่งตัวตามต้องการ!!
“Slut Walk” คือการเคลื่อนไหวของผู้หญิงที่ออกมาเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิสตรี ซึ่งครั้งนี้ที่เหมียวจะพาไปดู เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมาที่เมือง Tel Aviv ประเทศอิสราเอล คนที่ออกมาเรียกร้องของ Slut Walk ก็เพื่อจะให้ทุกคนเปลี่ยนความคิดและ Stereotype ของการแต่งตัวของผู้หญิงที่กลายเป็นเหยื่อทั้งความรุนแรง ข่มขืน และการถูกลวนลามต่างๆ กิจกรรม Slut Walk เริ่มต้นจากการที่มีตำรวจจากโตรอนโต้ออกมาพูดเมื่อปี 2011 ว่า “ผู้หญิงไม่ควรสวมชุดวาบหวิวให้มาก ถ้าไม่อยากกลายเป็นเหยื่อ” ซึ่งหลังจากนั้นก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นจนก่อตั้งเป็น Slut Walk ขึ้นมา และครั้งนี้ที่อิสราเอล ผู้หญิงหลายคนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งยังเขียนข้อความเป็นภาษาฮิบรูลงบนตัวเองด้วย เราไปชมภาพกันเลยดีกว่า ที่มา boredpanda