Tag: สุขภาพดี
-
พิสูจน์การมีสุขภาพดี ด้วย 10 พฤติกรรมของเหล่าคนรักสุขภาพ พวกเราเคยทำมันบ้างมั้ยเอ่ย?!
บางคนอาจคิดว่าตัวเองเป็นคนสุขภาพดี แต่คำว่าสุขภาพดีนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถตัดสินได้แค่จากรูปลักษณ์ภายนอก แต่มันยังรวมถึงสุขภาพภายในหรือแม้แต่จิตใจของเรา เพราะฉะนั้นเราจะรู้ได้ยังไงว่าสุขภาพโดยรวมของตนนั้นมันดีจริงหรือเปล่า? วันนี้ #เหมียวตะปู เลยอยากชวนเพื่อนๆ ทุกคนได้ลองไปดูกันว่า คนสุขภาพดีเขาจะมีพฤติกรรมแบบไหนกันบ้าง แล้วตัวเราเองทำพฤติกรรมเหล่านั้นกันบ้างมั้ย? อย่ารอช้า ลองไปอ่านกันได้เลย 1. คนสุขภาพดีมักจะอยู่รวมตัวกัน คนที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะจับกลุ่มรวมกับคนสุขภาพดีเหมือนๆ กัน มีลักษณะการใช้ชีวิตเหมือนกัน และมีเป้าหมายในชีวิตคล้ายคลึงกัน เพราะฉะนั้นหากเราอยากเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างในชีวิตให้มันดีขึ้น แนะนำว่าให้เราลองมองหาคนที่เป็นต้นแบบในชีวิตของเรา และขอคำปรึกษาจากเขาคนนั้น 2. พวกเขาไม่เชื่อเรื่องของการไดเอต การไดเอตเป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาชั่วคราว ช่วยได้แค่ในระยะสั้นเพราะเราไม่อาจควบคุมการกินที่เข้มงวดไปได้ตลอด เพราะฉะนั้นให้เราสร้างความคิดว่าอาหารไหนที่เราชอบกินแต่ไม่ดีต่อสุขภาพของตัวเอง ก็หาอย่างอื่นที่ดีมาแทนที่มันไปซะ อย่างเช่นกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว กินผลไม้แทนขนมขบเคี้ยว แต่ถ้าเราอยากกินพวกช็อกโกแลตหรือพิซซ่ามากจริงๆ ก็จงกินไปตามความต้องการ แต่ต้องควบคุมตัวเองให้กินแต่พอเหมาะพอควร ซึ่งหากเรากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาตลอด เราก็จะไม่รู้สึกผิดต่อการกินอาหารขยะสักเท่าไหร่ เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องมาควบคุมจำกัดอาหารของตัวเองกันอย่างเข้มงวดแล้ว 3. คนสุขภาพดีมักจะมีคนที่คอยคบหาดูใจกันอยู่ ชีวิตคู่ที่เติมเต็มความสุขให้กับเราจะสามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ทั้งกายและใจ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องออกกำลังกายหรือกินผักผลไม้บ่อยแค่ไหน เพราะถ้าชีวิตส่วนตัวของเรามันยังไม่ดี เราก็จะไม่มีทางรับรู้ถึงสุขภาพและความสุขได้เลย 4. ขยับเท่ากับสุขภาพดี เหล่าคนที่มีสุขภาพดีจะขยับร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และพวกเขายังเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอีกด้วย วิธีการที่จะเป็นอย่างนั้นก็ง่ายๆ ให้มองหาสิ่งที่เราชอบ อย่าไปทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ อย่างเช่นถ้าเราไม่ชอบวิ่งก็ไม่ต้องไปวิ่ง…
-
อยากมีสุขภาพที่ดีต้องลอง !! 10 วิธีแปลกๆ แต่ได้ผล สำหรับพนักงานออฟฟิศ
ในปัจจุบันนั้นคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นพนักงานออฟฟิศที่วันๆ นั่งอุดอู้อยู่ในที่ทำงานเป็นเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมง ซึ่งอาจจะทำให้สุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ และทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะดูเป็นไปไม่ได้กับการที่จะเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตในช่วงขณะนั้น แต่ก็มีนวัตกรรมแปลกใหม่มากมายที่จะเข้ามาเปลี่ยนการทำงานอันน่าเบื่อในออฟฟิศให้ดูน่าสนใจมากขึ้น และที่สำคัญยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย 1. โต๊ะยืน โดยปกติแล้วคนเรามักจะใช้เวลาในการทำงานกับการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงได้มีการสร้างโต๊ะแบบยืนขึ้นมา ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคอ้วน และช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย 2. โต๊ะจักรยาน หลายคนอาจจะคิดว่าโต๊ะยืนนั้นอาจจะเมื่อยเกินไป ลองใช้โต๊ะจักรยานนี้สิ อาจจะช่วยได้ดีกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งการปั่นจักรยานไปด้วยก็จะช่วยให้เรามีสติมากขึ้น หรือจะนั่งเฉยๆ ก็ได้หากรู้สึกเหนื่อย 3. โต๊ะทำงานล้อแฮมสเตอร์ ถึงแม้ว่าการที่วิ่งบนล้อแฮมสเตอร์นั้นอาจจะดูไร้จุดมุ่งหมาย แต่อย่าลืมว่าเจ้าพวกหนูแฮมสเตอร์นั้นก็สนุกไปกับมันนะ การที่ทำงานไปด้วยและเดินไปด้วยนั้นจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและช่วยในเรื่องอารมณ์อีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าการเดินนั้นดีกว่ายืนเฉยๆ แน่นอน 4. เก้าอี้ลูกบอลโยคะ การนั่งบนลูกบอลโยคะนั้นจะช่วยให้มีบุคลิกที่ดีขึ้นและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและหลัง และยังช่วยลดอาการปวดหลังอีกด้วย 5. เก้าอี้ช่วยยืน ถึงแม้ว่าเก้าอี้ช่วยยืนที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้นั้นจะดูประหลาดไปบ้าง แต่มันช่วยได้ให้ประโยชน์จากการยืน และความสะดวกสบายจากการนั่งอีกด้วย 6. ไข่หรรษา ไข่หรรษานั้นเป็นอุปกรณ์คลายเครียดที่ดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ารูปร่างของมันอาจจะดูไม่เหมาะสม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมันสามารถติดกับใต้โต๊ะได้ จึงไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนร่วมงานของคุณจะเห็นและมองคุณแปลกๆ ไป บางทีถ้าพวกเขามาเห็นก็คงอิจฉาและมาขอยืมของเราไปเล่นก็เป็นได้ …
-
มันจี๊ดดดด ‘เพราะเพื่อนจำไม่ได้’ คู่รักเลยตัดสินใจลดน้ำหนัก จนกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง!!
คู่รักหลายๆ คู่พอคบกันได้สักพักหนึ่งก็จะเริ่มปล่อยปละละเลยไม่ดูแลเอาใจใส่ตัวเอง แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็พากันน้ำหนักขึ้นไปเป็นสิบกิโลฯ ซะแล้ว (T T) เช่นเดียวกับคู่รัก Eli และ Kelly Wenninger ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน เพราะหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เลือกทานแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดจนวันหนึ่งฝ่ายชายก็รู้ตัวว่าน้ำหนักพุ่งเกิน 180 กิโลฯ ไปเป็นที่เรียบร้อย!! ภาพตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ ทั้งคู่ยังไม่แปลงร่าง นี่คือภาพก่อนที่จะลดน้ำหนัก นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่จี๊ดมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจหันมาดูแลตัวเองและลดน้ำหนัก ก็คือ “ไม่มีใครจำฉันได้ แม้แต่กระทั่งเพื่อนๆ ก็ยังจำไม่ได้ เพราะน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น” Kelly เล่า เธอก็เลยไปปรึกษากับสามีว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ พวกเขาร่วมมือกันวางแผนการทานอาหาร และออกกำลังกาย ตัดนิสัยการชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ดออกไป ในช่วงแรกทุกอย่างมันช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน แค่วิดพื้น 3 ครั้งก็เต็มทนแล้ว แต่ก็ยังไม่ละความพยายามจนเวลาผ่านพ้นไป 1 ปี นี่คือผลที่ได้!! Eli ลดน้ำหนักไปได้กว่า 113 กิโลกรัม ส่วน Kelly ลดไปได้ 29 กิโลกรัม…
-
8 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คิดแบบเดียวกันก็ตาม
“สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง” ประโยคนี้ยังคงเป็นความจริงเสมอมา เพราะถึงเราจะมีเงินจำนวนมากมายมหาศาลแต่ถ้าเราไม่รู้จักออกกำลังกายหรือคุมอาหาร ร่างกายเราก็ไม่มีทางที่จะมีสุขภาพดีได้ ซึ่งก็คงมีคำถามว่าทำยังไงถึงจะสุขภาพดีล่ะ หลายๆ คนคงคิดว่าอกกำลังกายมากๆ คุมอาหารให้เคร่งครัดนั่นก็เพียงพอต่อสุขภาพดีแล้ว แต่การทำอะไรที่มากเกินไปมันก็มีผลเสียเหมือนกันและบางสัญญาณที่คุณไม่คาดคิดว่าจะสุขภาพดีกลับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพดี และนี่ก็คือ 8 สัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คาดว่ามันจะดีก็เถอะ ไปชมกันเลยครับ 1. คุณจะกินแค่เวลาที่คุณหิวและจะไม่กินมากเกินไป หากคุณมีอาการกินอาหารมากกว่าที่ตั้งใจไว้และไม่เคยรู้สึกพอเมื่อกินอาหารเสร็จหรือกินอาหารเพื่อแก้เบื่อ นั่นแสดงว่าคุณกำลังมีอาการที่เสพติดอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีคุณจะต้องพยายามปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองให้ได้ 2. อาหารที่คุณกินเป็นอาหารที่ดี เวลานึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หลายๆ คนมักจะนึกถึงแต่อกไก่กับข้าวสวย แต่ในทางกลับกันคุณควรจะกินอาหารให้ที่สุขภาพดีให้หลากหลายกว่านี้ และการงดของหวานมากเกินไปจะเป็นผลเสียต่อคุณด้วย 3. คุณจะกินให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ มนุษย์แต่ละคนย่อมมีความอยากอาหารไม่เหมือนกันและมันก็ไม่มีสูตรตายตัวในการคำนวณแคลอรี่ที่คุณสมควรรับในแต่ละวัน คุณอาจจะสามารถกินได้น้อยหรืออาจจะมากกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องฟังว่าร่างกายคุณต้องการอะไร และต้องการขนาดไหน 4. คุณสามารถขึ้นบันไดแล้วไม่หอบได้ นี่เป็นตัววัดว่าร่างกายของคุณมีสุขภาพดี คุณไม่ต้องมีความแข็งแกร่งที่สุดยอดหรือต้องออกกำลังกายบ่อยๆ ก็สามารถสุขภาพดีได้ และหากคุณไม่รู้สึกว่าจะตายเวลาที่ขึ้นบันไดล่ะก็นั่นแสดงว่าคุณมีสุขภาพที่โอเค 5. คุณมีอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่โศกเศร้าไปถึงตื่นเต้นดีใจ นี่ไม่ใช่อาการไบโพลาร์แต่อย่างใด นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาแล้ว่วา “โกรธเป็นบางช่วงถือว่าปกติ มีความเศร้าก็ปกติ รู้สึกรำคาญก็ปกติและรู้สึกหดหู่ก็เป็นเรื่องปกติ อารมณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพจิตที่ดีและคุณควรจะตระหนักได้แล้วว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ หรอกที่มันคงที่ตลอดเวลา” …
-
เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคอ้วน อาจเริ่มง่ายๆ จาก “อาหารการกิน”!?
ถ้าใครเคยได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เคยสังเกตกันไหมว่ามีแต่คนหุ่นดีเต็มไปหมด ไม่ค่อยได้พบเห็นคนอ้วนเลย แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลับตรงกันข้าม จากการสำรวจพบว่าอัตราเฉลี่ยของคนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสูงถึง 30% ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีเพียง 3.5% เท่านั้น . อาหารการกินของคนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากของอเมริกามาก จำนวนร้านอาหารจานด่วนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีน้อยกว่าถึง 15 เท่า จึงทำให้คนชาวญี่ปุ่นเลือกที่จะกินอาหารอย่างอื่นที่หลากหลายกันมากกว่า แม้ว่าจะมีร้านอาหารจานด่วนอยู่บ้าง ก็ยังมีร้านข้าวสำหรับคนวัยทำงานที่มีเมนูง่ายๆ อย่างข้าวหน้าเนื้อ ซุปมิโสะ และอีกหลายเมนูที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วน มีราคาประหยัดและสะดวกรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อของประเทศญี่ปุ่นก็มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและราคาถูกให้เลือกมากมาย เช่น ข้าวปั้น สลัด หรือซุป เปรียบเทียบกับร้านสะดวกซื้อของอเมริกาในราคาเดียวกัน จะเลือกซื้อได้เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทอดที่เต็มไปด้วยไขมัน ของหวาน และของที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย นอกจากนั้นร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นมีอยู่แทบจะทุกที่ มีจำนวนกว่า 55,000 ร้าน ซึ่งหมายความว่ามีจำนวนร้านสะดวกซื้อต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับอเมริกา ถ้าหากคุณเพิ่งเลิกงาน คุณสามารถเลือกว่าจะเข้าร้านเบอร์เกอร์คิง หรือเลือกที่จะเข้าร้านซูชิข้างๆ หรือแม้กระทั่งร้านข้าวหน้าเนื้อที่มาพร้อมกับซุปเต้าหู้ หัวหอมและผักกาด ซึ่งความหลากหลายนี้จะทำให้ง่ายต่อการกินอาหารที่สุขภาพดีกว่า เนื่องจากคุณจะไม่ต้องทนเบื่อกินอาหารแบบเดิมในร้านเดิมๆ ทุกวัน…
-
คุณตาคุณยายช่วยชีวิตสุนัขพิตบูล มันเลยตอบแทนช่วยชีวิตพวกเขาคืน ด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น!!
การรับอุปถัมภ์สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ นอกจากจะทำให้เจ้าสัตว์เหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว มันยังช่วยให้เราคลายเหงาเหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ทว่าบางทีการรับสัตว์มาเลี้ยงก็อาจจะได้อะไรมากกว่านั้น เหมือนกับตายายคู่นี้ ที่ช่วยชีวิตของหมาตัวหนึ่งออกมาจากสถานสงเคราะห์ แต่ใครจะไปรู้ว่าในที่สุดแล้วเจ้าหมาที่ว่านี้ก็ตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการทำให้สุขภาพของพวกเขาดีขึ้น!!! Jingles หมาพันธุ์พิตบูลผู้น่าสงสาร เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่เมื่อ เมื่อ Anne กับ Vic Tenaglia ผู้เฒ่าสองคนจากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจจะรับเลี้ยงหมาตัวหนึ่งจากสถานสงเคราะห์ที่มีชื่อว่า Brandywine Valley SPCA โดยหมาตัวที่พวกเขาเลือกนั้นก็คือ หมาพันธุ์พิตบูลวัย 2 ปีชื่อว่า Jingles ที่ได้รับการช่วยเหลือมาโดยสถานสงเคราะห์ระหว่างที่มันกำลังต่อสู้กับหมาตัวอื่นๆ ถึง 11 ตัวเลยทีเดียว ในตอนที่มาอยู่ใหม่ ยังมีรูปร่างผอมแห้งอยู่เลย ในขณะที่เจ้า Jingles อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนั้นมันดูไม่มีความสุขนัก ด้วยเหตุที่มาจากการประสบการณ์ในอดีตที่มันเคยเผชิญมา ซึ่งมันทั้งผอมแห้งแรงน้อย มีบาดแผลต่างๆ ตามตัว รวมถึงมีอาการวิตกกังวลให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยจะสังเกตได้จากที่มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางตัวเองบ่อยๆ และด้วยชื่อเสียงของหมาพันธุ์พิตบูลที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ในตอนแรก Anne ก็ยังลังเลที่จะรับมันมาเลี้ยง ทว่าก็ด้วยภาพอันแสนน่าสงสารของมันก็ได้ทำให้เธอใจอ่อนในที่สุด เพราะเธอรู้ว่าไม่สามารถทิ้งเจ้าหมาตัวนี้ให้อยู่ที่สถานสงเคราะห์ได้ลงคอ อยู่กับเจ้าของใหม่ ใจดีจัง ถึงแม้ว่าการได้มาอยู่กับครอบครัวใหม่จะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งในชีวิตของมัน แต่ก็ด้วยเจ็บปวดอันความโหดร้ายในอดีตที่ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ ทำให้มันมักจะกัดอุ้งเท้าหรือหางอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สามารถสื่อถึงความกังวลของมันได้ คู่ตายายคู่นี้จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือหมาตัวนี้ และสิ่งที่พวกเขาเลือกที่จะใช้ก็คือการพามันไปเดินเล่นนั่นเอง…
-
NASA เผย 10 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องนอน เพื่อช่วยให้สุขภาพชีวิตของคุณดีขึ้น
หลายคนอาจมีความเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกสายพันธุ์เพราะพืชบางขนิดหากปลูกเอาไว้ในห้องนอนก็จะสามารถช่วยให้สุขภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ เมื่อนักวิจัย Elle Decor และกลุ่ม The Joy of Plants จาก องค์กรนาซ่า และสถาบันต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพืชและได้ออกมาบอกว่า มีต้นไม้อยู่ 10 สายพันธุ์ที่หากปลูกเอาไว้ในห้องนอนแล้วพวกมันจะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้น มีต้นอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลย หมากเหลือง (Areca Palm) เป็นหนึ่งในตระกูลปาล์มที่มีต้นกำเนิดมาจากมาดากัสการ์ ช่วยลดมลพิษภายในห้องนอนของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมันยังปล่อยความชื้นไปในอากาศทำให้สามารถหายใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไซนัสอย่างมาก ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) องค์กรนาซ่าได้จัดให้ว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุด ปล่อยออกซิเจนออกมาอยู่ตลอดแม้ในตอนกลางคืน ช่วยกำจัดสารเบนซีนและฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย อากาศที่เราได้รับจึงมีความบริสุทธิ์มากอย่างแน่นอน อีกทั้งมันยังดูแลเก็บรักษาง่ายและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy) ต้นไม้ชนิดนี้สามารถพบเห็นได้ง่ายในช่วงวันคริสต์มาส ผู้วิจัยจากสถาบันโรคภูมิแพ้ หอบหืด และภูมิคุ้มกันในอเมริกาบอกว่ามันสามารถช่วยกำจัดฝุ่นราที่ลอยอยู่ในอากาศได้มากถึง 78 เปอร์เซนต์ในระยะเวลาเพียง 12 ชั่วโมง ปาล์มสิบสองปันนา (Dwarf Date…
-
Lin Chi-Ling ดาราสาวแห่งไต้หวัน ผู้มากับความสวยตลอดกาล ลองทายดูว่าเธออายุเท่าไหร่
วันนี้เรามีอะไรสนุกๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองทายเล่นกัน และเราก็เชื่อนะว่าคนส่วนใหญ่จะต้องตอบผิดแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นลองดูสิว่าผู้หญิงที่อยู่ในภาพด้านล่างนี้อายุเท่าไหร่ ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก… คุณอาจจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงอายุไม่เกิน 30 ปีอย่างแน่นอน เพราะเธอยังคงสวย และมีผิวพรรณที่สดใส แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ถูกจ้า เพราะความจริงแล้วสาวสวยสะพรั่งคนนี้ เธออายุ 42 ปีแล้วนะเอออออ สำหรับสาวสวยคนนี้ เธอคือ Lin Chi-Ling นางแบบและนักแสดงสาวชาวไต้หวัน ที่โด่งดังมากในบท เสี่ยวเกี้ยว จากเรื่อง สามก๊ก ตอน โจโฉแตกทัพเรือ โดยล่าสุด Lin Chi-Ling ได้ออกมาเผยว่าอายุที่แท้จริงของเธอคือ 42 ปี และนั่นก็ทำให้บรรดาแฟนๆ จากทั่วโลกถึงขั้นตกอกตกใจไปตามๆ กัน เพราะภาพลักษณ์ภายนอกของเธอนั้นช่างดูอ่อนเยาว์เหมือนสาววัย 20 กว่าๆ เหลือเกิน แต่ใครจะรู้ละว่าต้องบวกเพิ่มไปอีก 2 เท่าแหนะ นอกจากนี้ แฟนๆ หลายคนยังออกมาบอกว่า “มันต้องเป็นเวทมนตร์แน่ๆ เธอเป็นเหมือนเอลฟ์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามเป็นอมตะ” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า…
-
เส้นทางของหนุ่มอ้วนกว่า 200 กิโล สู่การเป็นเทรนเนอร์สายสุขภาพ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง!!
หลายครั้งที่เราเปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรบางอย่าง เพื่อความรัก เพื่อการงาน เพื่อคนอื่น บ้างก็ทำสำเร็จบ้างก็ล้มเหลว แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการที่เราได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เหมือนกับหนุ่มคนนี้ ที่เขาลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา หนุ่มคนนี้ไม่ได้ทำเพื่อใครแต่เขาทำเพื่อตัวเองและเขาก็ทำสำเร็จซะด้วย หนุ่มคนนี้นามว่า “Luis Trigo” เขาลุกขึ้นมาลดน้ำหนักกว่า 100 กิโลเพื่อรักษาภาวะซึมเศร้าของเขา เขาเคยหนักกว่า 200 กิโลกรัม และเริ่มคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากที่เจอแต่เรื่องร้ายๆ เช่น ถูกบังคับให้ลาออกจากงานเพราะไม่สามารถที่จะยืนทำงานได้อย่างคนอื่นเนื่องจากตัวหนักเกินไป และที่หนักที่สุดก็คือแฟนสาวก็ยังมาทิ้งไปอีก แพทย์ได้บอกกับ Luis ว่า น้ำหนักที่มากล้นของเขาคือปัญหาใหญ่และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเขามากๆ ไม่น่าเชื่อว่า 6 ปีต่อมา ผู้คนก็รู้จักเขาในฐานะเทรนเนอร์ส่วนตัว โค้ชเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนอีกด้วย Luis บอกว่าเขาอ้วนมาตั้งแต่เด็กและมาอ้วนหนักๆ ก็ตอนอยู่ช่วงประถม และเมื่อเขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยก็มัวแต่สนใจแต่เรื่องการเรียนโดยไม่สนเรื่องสุขภาพร่างกายเลย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักของเขาพุ่งทะลุเพดานขนาดนี้ เมื่อตอนที่เขามีน้ำหนัก 150 กิโลกรัม เขาไม่สามารถที่จะยืนทำงานในคลังสินค้าได้มันทำให้เขาเหนื่อยตลอดเวลา และหลังจากที่ออกจากงานมาแล้ว น้ำหนักของเขาก็พุ่งขึ้นเป็น 200 กิโล และถูกวินิจฉัยว่าจะเป็นโรคเบาหวานหากไม่ลดน้ำหนักตั้งแต่ตอนนี้ จากนั้นเขาก็เริ่มคลั่งการออกกำลังกาย…
-
20 บุคคลตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ ‘ลดน้ำหนัก’ ให้กับทุกคน ให้เห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า!!
หลายๆ คนคงเคยวางแผนที่จะลดน้ำหนักกันมาบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้การลดน้ำหนักนั้นประสบผลสำเร็จ บางคนก็ยอมแพ้ถอดใจจนเลิกลดไปเสียก็มี บ้างก็ไม่มีวินัยในตัวเอง ออกกำลังกายบ้างไม่ออกกำลังกายบ้าง ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล หรือ คิดว่าการกินยาลดความอ้วนจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีกว่า (แต่จริงๆ แล้วไม่เป็นแบบนั้น) ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของเหล่าผู้ลดน้ำหนัก ไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักของเพื่อนๆ ให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น!! 1. คุณพ่อคนนี้ลดไป 92 กิโลกรัม ใน 2 ปี 2. เค้าก็ลดได้เหมือนกันนะจ๊ะ 3. เมื่อ 3 ปีก่อน vs ปัจจุบัน ลดลงไป 167 กิโลกรัม 4. พ่อหนุ่มคนนี้เคยมีน้ำหนักมากถึง 160 กิโลกรัม ตอนนั้นป่วยหลายโรคมากทั้งเบาหวาน ความดันสูง และ เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ ผ่านไป 1 ปีลดน้ำหนักไปได้ 80 กิโลกรัมด้วยการออกกำลาย 6 วันต่อสัปดาห์…
-
จัดอันดับ 25 ประเทศที่ประชากรมีความสุข สุขภาพดี และมีความมั่งคั่งที่สุดประจำปี 2016!!
Legatum Institute หนึ่งในสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการมากเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ได้เผยลิสต์ 25 ประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุด มั่งคั่งที่สุด และสุขภาพดีที่สุดของปีนี้ออกมาแล้ว โดยจะนำข้อมูลของทั้ง 149 ประเทศมาวิเคราะห์ ตั้งแต่เรื่อง GDP จำนวนชั่วโมงงานของประชากรโดยเฉลี่ย ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงความปลอดภัยของเซิฟเวอร์อินเตอร์เน็ทก็ถูกนำมาเฉลี่ยและวิเคราะห์ทั้งหมด จะมีประเทศไหนติดอันดับมาบ้าง เรามาดูกันได้เลย!! อันดับ 25. ประเทศโปรตุเกส ถึงแม้อันดับอื่นๆ โปรตุเกสจะได้อันดับที่ 50 มาครอง แต่เรื่องสิทธิและเสรีภาพของประชากรนั้น ทำคะแนนได้ดีจนได้รับอันดับ 10 เลยทีเดียว ทำให้ติดเข้ามาในลิสต์ท็อป 25 นี้ อันดับ 24. ประเทศมัลต้า ประเทศเกาะเล็กๆ ใจกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในด้านอื่นๆ นั้นเข้ามาเป็นอันดับที่ 20 แต่ที่โดดเด่นสุดๆ คงไม่พ้น ทุนทรัพย์ของรัฐบาลที่เข้ามาเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 23. ฮ่องกง ถึงแม้ว่าอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นประเทศ แต่ก็ถือว่าติดโผเข้ามาในลิสต์นี้อยู่ดี โดยเฉพาะการที่เข้ามาในอันดับนี้ได้ก็เพราะติดอันดับ 4 พื้นที่ๆ…
-
ผลิตภัณฑ์ใหม่… เบียร์ไร้แอลกอฮอล์สำหรับน้องหมา ระบุดื่มได้ แถมช่วยลดกลิ่นตูดเหม็นด้วย
ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า เริ่มมีผู้ผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์เอาใจเหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งของน้องหมา หรือน้องแมว เรียกได้ว่าถ้าผู้ผลิตเค้าต้องใจผลิตมาเอาใจหมาแมวแล้ว มีหรือเจ้าของอย่างเราจะไม่ตามใจลูกสุดที่รัก เราขอแนะนำคนรักหมาทุกคน ด้วยเครื่องดื่มชนิดใหม่ ที่อาจจะกลายเป็นของขวัญล้ำค่าในวันคริสมาสต์เพื่อเจ้าหมาที่คุณรัก ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้มันก็คือ ‘Bottom Sniffer Dog Beer’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเบียร์ไร้แอลกอฮอล์สำหรับน้องหมา ข้อดีของเบียร์ชนิดนี้ที่มีต่อน้องหมาก็คือ มันปลอดแอลกอฮอล์ และคาร์โบไฮเดรต แต่ใช้ส่วนผสมของสมุนไพร และผสมรสชาติของเบียร์ Danelion & Burdock เข้าไปด้วย รับรองว่าเจ้าหมาจะไม่มีอาการเมา แถมยังติดใจในรสชาติแน่นอน อีกทั้งผู้ผลิตเค้ายังออกมาบอกเองเลยว่า สินค้าชนิดนี้ ดื่มแล้วจะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณก้นของน้องหมา และนั่นก็หมายความว่า เจ้าหมาของคุณ จะมีเสน่ห์มากกว่าใครๆในบรรดามะหมาด้วยกัน หลังจากที่มันได้ดื่มเบียร์นี้ และพามันออกไปเดินเล่น พบปะสังสรรค์เหล่ามะหมาด้วยกัน บริษัท Woof&Brew ได้วางจำหน่ายเป็นชุดในราคาประมาณ 450 บาท มีจำนวน 6 ขวด ต่อ 1 แพ็ค ก็ถือว่าราคาไม่แพงมากเกินไป เพื่อความสุขของน้องหมา ทีนี้ละหนุ่มๆที่มองหาเพื่อนรู้ใจมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันก็จะไม่ต้องเหงาอีกต่อไป หรือใครที่คิดไม่ออกว่าจะซื้อของขวัญอะไรให้น้องหมาที่บ้านดี เราก็ขอแนะนำสินค้าตัวนี้เช่นเดียวกัน…
-
15 บุคคลที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคุณก็ทำได้!!
ในยุคนี้ใครๆ ก็นิยมออกกำลังกายลดหุ่น และตามโซเชียล เราก็มักจะเห็นคนอ้วนหลายๆ คนที่โพสต์ภาพตัวเองก่อนและหลังลดน้ำหนัก ที่เห็นแล้วก็เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ใครๆ ก็อยากทำตาม เช่นเดียวกับบุคคล 15 คนนี้ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อ้วนแค่ไหน ก็กลายเป็นคนหุ่นเป๊ะ สุขภาพดีได้ ถ้าตั้งใจ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง 1. คู่รักที่ตัดสินใจลดความอ้วนด้วยกัน และถ่ายรูปแต่งงานอีกครั้ง 2. ชายหนุ่มคนนี้ ลดน้ำได้ 50 กิโล กลายเป็นหนุ่มล่ำภายในปีเดียว 3. หญิงร่างอ้วน เมื่อเธอตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใคร… ก็เพื่อตัวเอง 4. การเลือกทางเดินอย่างถูกวิธี คุมอาหาร และออกกำลังกาย 5. ด้วยกำลังใจและความตั้งใจ ลูกชายคนนี้ก็ทำให้แม่ของเขาได้ 6. เธอทรมานจากพฤติกรรมการกินที่ผิด เธอได้ลุกขึ้นมาออกกำลังกายจนมีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง 7. อ้วนได้ ก็ล่ำได้เหมือนกัน แน่นอน ตอนนี้เขาชอบออกกำลังกายไปแล้ว 8. เห็นแบบนี้ เมื่อเธอตั้งใจลดความอ้วน…
-
เธอทำได้คุณก็ทำได้!! สาว XL หนัก 95 กิโล โชว์ลดน้ำหนักเหลือ 55 เพรียวขึ้น มั่นใจขึ้น
สาวๆ มักมีข้ออ้างในการออกกำลังกายหรือดูแลตัวเองอยู่เสมอๆ บ้างก็บอกว่าไม่มีเวลา บ้างก็บอกว่าเหนื่อย บ้างก็บอกว่าไม่มีเพื่อน แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันอยู่ที่แรงใจล้วนๆ ก่อนหน้านี้เราเคยมีตัวอย่างดีๆ ในการออกกำลังกายมาให้เพื่อนๆ ได้เห็นแล้วมากมาย เช่น หนุ่มหนัก 88 กิโลฮึดวิ่งมาราธอน , หนุ่มวัย 42 ออกกำลังกายเพราะพ่อเสีย หรือ คุณป้าวัย 50 ปี ที่ออกกำลังกายจนมีหุ่นสวยเช้ง และวันนี้เองเราก็มีแรงบันดาลใจคนใหม่มาให้คุณดูอีกแล้วล่ะ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นของคุณพลอย เธอเล่าว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เธอปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนน้ำหนักพุ่งไปสูงถึง 95 กิโล กลายเป็นสาวไซส์ XL ไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ด้วยความที่เธอเองยังอยากกลับมาใส่เสื้อผ้าตัวเล็กๆ เหมือนกับสาวๆ คนอื่น เธอเลย “ลอง” ลดความอ้วนด้วยการลดคาร์โบไฮเดรตก่อน ในตอนแรกจาก 95 กิโล ลดลงมาเหลือ 87 โล จากนั้นเธอก็เริ่มวิ่งเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันออกไปด้วย น้ำหนักเธอเลยลดลงไปอีก 5 กิโล เหลือ 82 กิโล…
-
อัพเดทภาพ “ปู ไปรยา” มาในลุคสุดทางการ สวยดูดี เป๊ะเวอร์แม้จะไม่ได้อยู่ในลุคเซ็กซี่
นางเอกสาวในวงการบันเทิงไทย ที่ทั้งสวย ฮอต และเซ็กซี่ หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของสาว “ปู ไปรยา” แน่นอน และนอกจากความสวยแล้ว สาวปูยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน หรือแต่งตัวในลุคใด ก็ดูสวยเป๊ะอยู่ตลอด ในลุควันสบายๆ แค่เสื้อสายเดี่ยวสีดำ สลายผมแบบธรรมชาติ แค่นี้ก็เป๊ะเว่อร์ หรือจะมาในลุคสวยหรู ดูไฮโซ นางก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ลุคสาวมั่นที่เห็นจนชินตา สวยตลอดเวลาจริงๆ ภาพที่เห็นด้านบน ถือเป็นลุคที่เราเห็นสาวปูแต่งกันอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับลุคใหม่ล่าสุดที่เธอได้อัพเดทลงในอินสตาแกรมส่วนตัว บอกเลยว่าไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ แถมยังทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มตัวเลยละ นี่คือภาพของสาว ปู ไปรยา ในงานเสวนา “การทำงานเพื่อมนุษยธรรมกับหลักพุทธศาสนา” ของ UNHCR ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC) กับลุคที่ดูทางการ และเรียบร้อยที่สุดเลย แม้ว่าจะไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่ หรือเลิศหรูอลังการ แต่เธอก็ยังเป๊ะจริงไรจริง สวยของจริงต้องแบบนี้ นอกจากความสวยแล้วเธอยังเป็นผู้หญิงที่ฉลาด แถมยังเป็นไอดอลของสาวๆ หลายๆ คนอีกด้วย…
-
งี้ต้องลอง นักวิทยาศาสตร์เผย การว่ายน้ำหรือการแช่น้ำอุ่นช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้นะ
การว่ายน้ำนอกจากจะช่วยบริหารร่างกายไปแทบทุกสัดส่วนแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าการว่ายน้ำยังช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ด้วยนะ นักจิตวิทยา Moby Coquillard จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้นำเสนอให้การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งเขาก็เคยนำมันไปใช้กับคนไข้ของตัวเองมาแล้ว และยังได้ผลดีกว่าการใช้ยารักษาโรคบางชนิดซะอีก อย่างที่ทราบกันดีว่าการออกกำลังกายนั้นทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดี แต่จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Howard Carter of the University of Western Australia กลับพบความเชื่อมโยงระหว่างน้ำอุ่นแและการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น การที่เราว่ายน้ำในน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่ายกายทำงานได้ดีขึ้น นั่นหมายความว่าจะมีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองที่มากขึ้นด้วย การทำงานของสมองก็จะดีขึ้นตามลำดับ โอ้วมันช่างดีอะไรขนาดนี้ล่ะซาร่า! นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบการว่ายน้ำว่าเหมือนการเล่นโยคะด้วยนะ เพราะการออกกำลังกายทั้ง 2 แบบจะช่วยให้ร่างกายของคุณยืดออกไปทุกส่วน และยังช่วยควบคุมการหายใจให้เป็นจังหวะด้วย ฉะนั้นหากคุณไม่มีเวลาไปเล่นโยคะ ก็ลองไปว่ายน้ำกันดูนะ ที่มา lifehack
-
สดชื่นจังเล้ยยย!! เหมียวแนะนำ 10 วิธีที่ช่วยให้คุณตื่นนอนอย่าง “อารมณ์ดี” ลองมาทำกันดูไหมล่ะ
บ่อยครั้งที่เรามักจะตื่นนอนตอนเช้าด้วยสภาวะงัวเงียและเสียอารมณ์ อาจจะเพราะว่าคุณตื่นนอนแบบผิดๆ วิธีก็เป็นได้นะ แต่หากคุณลองเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตื่นนอนแบบถูกวิธี มันจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีไปทั้งวัน หากอยากรู้ว่าต้องทำไง ลองไปดูกันทีละข้อเลย 1. จัดการงานบ้านต่างๆ ให้เสร็จตั้งแต่ตอนเย็น จัดเตรียมชุดทำงานของวันพรุ่งนี้ให้เรียบร้อย 2. ตกแต่งห้องให้สวยงามสบายตา อาจจะหาแจกันดอกไม้เล็กๆ มาวางไว้ในห้อง เพราะสิ่งเหล่านี้คือภาพแรกที่เราจะได้เห็นตอนตื่นนอนนั่นเอง 3. จัดเตียงให้อยู่ใกล้กับหน้าต่าง เพราะแสดงแดดจะทำให้เราตื่นโดยอัตโนมัติ 4. หาโคมไฟมาวางไว้ใกล้ๆ กับเตียง เพราะแสงจากโคมไฟมีอิธิพลต่อการนอนหลับหรือตื่นนอนมาก เปิดไฟสลัวๆ ก่อนนอนจะช่วยให้หลับง่ายขึ้น (แต่หากเปิดมันไว้ตลอดคืน อาจจะทำให้นอนหลับได้ไม่ดีพอ) 5. หลีกเลี่ยงการดูข่าว ภาพยนตร์ ละคร ที่มีความรุนแรง เพราะมันอาจจะทำให้อารมณ์ขุ่นมัว และสมองอาจจดจำจนเก็บไปฝัน ทำให้คุณฝันเรื่องแย่ๆ ก็ได้ 6. ลองเขียนบันทึกประจำวันใส่สมุด หาเรื่องดีๆ มาเขียนลงไป มันจะเป็นการทบทวนความจำของคุณ ช่วยให้หลับไปพร้อมกับความทรงจำนั้น 7. หากเป็นไปได้ควรเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรนอนดึกจนเกินไป 8. ในห้องนอนไม่ควรมีแสงมากจนเกินไป อย่างเช่นแสงจากหลอดไฟ หรือแสงจากโทรทัศน์ เพราะมันอาจรบกวนการนอนหลับของคุณได้ 9. เมื่อตื่นนอน พยายามยิ้มกับเรื่องง่ายๆ…