Tag: สุดซึ้ง
-
จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…
ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะพบเจอแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ที่จะต้องมีการจากลาเสมอ แน่นอนว่าการจากลาย่อมเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ในความเศร้านั้น ก็ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ เรื่องราวสุดซึ้งนี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาจาก Hannah Summers หญิงสาวในรัฐ Indiana ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้บอกว่าแม่ของเธอ Peggy ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งที่ไตขั้นที่ 4 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา นี่คือรูปถ่ายของเธอกับแม่ในช่วงที่ป่วย Hannah ได้บอกว่าแม่ของเธอเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกและดูเหมือนว่าแม่ของเธอรู้ว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิตเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ลูกๆ ของเธอ โดยในจดหมายที่ Peggy ทิ้งไว้ให้นั้นเต็มไปด้วยข้อความที่แสดงถึงความรักที่มากล้นที่เธอมีต่อ Hannah รวมถึงคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่างๆ จดหมายฉบับสุดท้ายจากแม่ถึงลูกสาว “ถึง Hannah ลูกรัก ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แสดงว่าการผ่าตัดเป็นไปไม่ดีนัก แม่ต้องขอโทษลูกด้วย แม่ได้พยายามจะทำให้ดีที่สุดแล้วที่จะเอาชนะโรคร้ายนี้ แต่แม่เดาว่าพระเจ้าคงต้องมีสิ่งอื่นที่อยากจะให้แม่ทำมากกว่า จงตั้งสติให้ดี สิ่งร้ายๆ มักเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งเราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันไม่ว่ามันจะทำให้เราเจ็บปวดสักเท่าไหร่” “แม่อยากให้ลูกมีความสุขและใช้สิ่งที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับลูก ในอนาคตลูกจะต้องเป็นพยาบาลที่แสนวิเศษเหมือนกับที่ลูกเป็นลูกที่แสนวิเศษสำหรับแม่ พยายามตั้งใจเรียนเข้าไว้และไม่ต้องกังวลเรื่องงานมากนัก” “จงใช้ความอดทนกับพ่อของลูกเพราะนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเขาและเขาอาจต้องการเวลาที่เยียวยาสักหน่อย ลูกและพ่อของลูกต้องต้องหัดพึ่งพาคนอื่นบ้างรวมถึงพูดคุยกันให้เยอะขึ้น ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองคนถนัดนักแต่จงพยายายามและอย่ายอมแพ้ จำเอาไว้ว่าลูกมีผู้คนมากมายที่รักลูกอยู่ฉะนั้นลูกควรไปพูดคุยกับพวกเขาให้บ่อยขึ้น” “ใช้สัญชาตญาณของลูกในการทำสิ่งต่างๆ เช่นอย่าไปไหนคนเดียวและอย่าลืมที่จะเอาชุดปฐมพยาบาลไว้ในรถของลูกในช่วงฤดูหนาว พยายามห่างจากปาร์ตี้เข้าไว้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องดี พวกหนุ่มๆ ก็เหมือนกัน พวกเขาอาจไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด…
-
10 ฉากสุดซึ้งจากวันพีซ อย่างน้อยหนึ่งในลิสต์นี้ ต้องเคยทำให้คุณเสียน้ำตามาแล้ว!!
ถ้าพูดถึง ‘มังงะ’ หรือการ์ตูนที่มีคนติดตามกันมากที่สุดในโลกตอนนี้ก็คงมีชื่อของ One Piece หรือ วันพีซ ติดอยู่ในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้… เรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ผจญภัย และมิตรภาพของเหล่ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟางของ Monkey D. Luffy ที่ยิ่งเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังน่าติดตามและเข้มข้นอยู่ไม่เปลี่ยน สำหรับแฟนๆ หลายๆ คนก็คงจะเคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้กันมาบ้าง เพราะฉากซึ้งๆ ของเรื่องนี้นั้นมีอยู่มากมายเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ขอคัด 10 ฉากเด็ดๆ จาก One Piece ที่รับรองว่าจะทำให้คุณเสียน้ำตากันไม่มากก็น้อยเลยล่ะ ฉากไหนดาเมจรุนแรงกว่ากัน เพื่อนๆ มาให้คะแนนกันได้เลย!! ลูฟี่ช่วยนามิจากอารอง มนุษย์เงือกผู้เกลียดชังมนุษย์ หมู่บ้านของนามิ ถูกกลุ่มโจรสลัดของอารองยึดครองมาแสนนาน แถมคุณเบลเมลผู้เลี้ยงดูนามิมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ถูกฆ่าตาย และใช้หมู่บ้านเพื่อต่อรองให้นามิทำงานวาดแผนที่ท้องทะเลให้กับเขา และถึงแม้ลูฟี่จะเคยเจอนามิมาก่อนและหลอกเขา เมื่อนามิขอให้ลูฟี่ช่วย เขากลับช่วยด้วยความเต็มใจ แถมเอาหมวกฟางแสนรักสวมให้นามิด้วยซะอีก ถือเป็นหนึ่งในฉากที่ซาบซึ้งและเท่สุดๆ ของลูฟี่เลยล่ะ ชีวิตของช็อปเปอร์ เจ้ารูดอล์ฟ กวาง้อยที่มีจมูกไม่เหมือนเพื่อนตัวอื่นในฝูง ทำให้ฝูงไม่ยอมรับมันเข้ากลุ่ม แถมพอบังเอิญไปกินผลปีศาจเข้าทำให้พูดได้…
-
คุณแม่ป่วยมะเร็งสุดซาบซึ้ง หลังได้รับน้ำใจที่คาดไม่ถึง คนแปลกหน้าแอบจ่ายค่าอาหารให้…
เรื่องราวของ Jerina Edwards คุณแม่ลูก 3 วัย 33 ปี ชาวเมืองทุลซา รัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษามากมายเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 โดยหลังจากที่ทราบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งนั้น Jerina ก็เข้ารับการฉายแสงไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 33 ครั้ง รวมถึงการทำคีโม และผ่าตัดเต้านมทิ้ง อีกทั้งโรคที่เป็นก็ทำให้เธอต้องสูญเสียเส้นผมไปทั้งหมดอีกด้วย แม้ว่าชีวิตของเธอจะต้องมาเจอกับโรคร้าย แต่ครั้งหนึ่ง Jerina ก็ยังได้พบกับเรื่องราวดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่เธอได้ไปรับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง และหลังจากที่เธอและครอบครัวกำลังรอจ่ายเงินค่าอาหารอยู่นั้น ทางพนักงานของร้านจึงนำบิลค่าอาหารราคาราวๆ 1780 บาท ที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วมาให้เธอ พร้อมกับมีข้อความระบุเอาไว้ว่า… “เมื่อ 5 ปีก่อน ภรรยาของผมได้จากไปด้วยโรคมะเร็ง ผมรู้ดีว่าการต่อสู้กับโรคนี้มันยากลำบากแค่ไหน สำหรับค่าอาหารมื้อนี้ ผมได้จ่ายให้คุณแล้ว เมอร์รี่คริสต์มาสครับ” หลังจากอ่านข้อความจบ ก็ทำให้ Jerina รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก และเธอก็ได้นำภาพบิลที่ถ่ายเอาไว้ไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค เพื่อเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เธอได้เจอในวันนั้น “การป่วยเป็นมะเร็งก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้ได้เห็นว่ายังมีคนจิตใจดี และห่วงใยผู้อื่นอยู่บนโลกใบนี้…
-
24 ภาพสุดประทับใจ จากทั่วทุกมุมโลก เผยให้เห็นว่า ยังคงมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้เสมอ…
หลายคนอาจคิดว่าโลกเรามันไม่น่าอยู่ เพราะมักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ไม่เว้นแต่ละวันอยู่เสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โลกใบใหญ่ใบนี้ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายจนนับไม่ถ้วน และนั่นก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจ และมีความสุขหลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราวเหล่านั้น และนี่คือภาพบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ ความสุข และรอยยิ้ม ที่จะทำให้เราได้เห็นว่า อย่างน้อยโลกของเราก็มีสิ่งดีงามให้เห็นและจดจำ หากได้รับชมแล้วจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันทีเลยละ บุคคลปริศนาได้บริจาคเงินในตู้รับบริจาคเป็นจำนวนมากถึง 8,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 276,000 บาท ให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แม่เป็ดทำรังในร้านขายดอกไม้ พนักงานจึงทำป้ายห้ามรบกวนมาให้ ชายไร้บ้านยอมช่วยเหลือ และเลี้ยงดูน้องหมาจรจัดที่น่าสงสาร ถึงแม้ตัวเองจะยากจนก็ตาม เมื่อสองสัตว์อย่างเหยี่ยว และนกฮูกได้ทำความรู้จักกัน จึงเกิดเป็นภาพน่ารักๆ อย่างที่เห็น เจ้าจิงโจ้น้อยที่กำลังรอฟังนิทานก่อนนอน เจ้าช้างได้รับขาเทียม หลังจากที่ต้องเสียขาไปเพราะเหยียบใส่ระเบิด ตอนนี้มันเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแล้ว สุดประทับใจ!! เมื่อร้านกาแฟในประเทศกรีซ เปิดให้สุนัขจรจัดเข้าไปนอนบนโซฟา เพื่อหลบความหนาวจากด้านนอก น้ำใจของชายไรบ้าน ที่ช่วยเหลือกระต่ายน้อย หลังจากที่มันถูกทิ้งลงในแม่น้ำ และสุดท้ายความดีก็ทำให้ชายผู้นี้ได้รับงาน มีเงิน แถมยังมีคนบริจาคอาหารสัตว์ให้เพื่อตอบแทนความดีที่เขาทำ ชายคนหนึ่งลงไปช่วยเจ้าเหมียวหลังจากที่ติดอยู่กลางน้ำท่วม…
-
โฆษณาสุดซึ้งจาก ‘Amazon’ ถึงจะต่างศาสนา ต่างความเชื่อ แต่เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้…
ดูเหมือนว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดจากการแบ่งแยกชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อ หรืออุดมการณ์ มีท่าทีว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คำถามคือเราควรจะทำอย่างไรดีล่ะ ที่จะช่วยให้ทุกคน ทุกเชื้อชาติ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข บนพื้นฐานแห่งความเข้าใจในความต่างของกันและกัน และบังเอิญว่า #เหมียวบ็อบ ได้ไปเจอกับโฆษณาที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานจากเว็บไซต์ชื่อดัง ‘Amazon’ ซึ่งเป็นโฆษณาเกี่ยวกับบริการ ‘Amazon Prime’ (บริการขนส่งด่วน) แต่ทว่าเนื้อหาในคลิปวิดีโอ ชวนให้เราย้อนกลับมาคิดถึงความสงบสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง มันดีซะจนต้องเอามาบอกต่อ… เราไปชมโฆษณาที่แอบแฝงความน่ารักไว้กันก่อนเลย ซึ่งในโฆษณาเราจะได้เห็นเรื่องราวของ สองผู้นำทางศาสนา ที่ถึงแม้ว่าเขาจะต่างความเชื่อกัน แต่พวกเขาคือเพื่อนสนิทต่อกัน และมักจะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ แต่ทว่าทั้งคู่ต่างประสบปัญหาเดียวกัน ด้วยอายุอานามที่มากตามตัวเลข ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บเข่าทุกครั้ง ที่ต้องเข้าประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นภาพที่น่าปลาบปลื้มสุดๆ เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้แอพฯ ในโฆษณา สั่งซื้อสนับเข่ามาให้กันและกัน เพื่อที่จะได้ป้องกันอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่า ถึงแม้ว่าพิธีกรรมทางศาสนาของเขาทั้งสอง จะแตกต่างกันก็ตาม และที่น่าปลาบปลื้มยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ในชีวิตจริงพวกเขาไม่ใช่นักแสดง ต่างคนต่างเป็นผู้นำทางศาสนาของจริง อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทที่ซี้กันมาอย่างยาวนานอีกด้วย ทางด้านของอิหม่าม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “อันที่จริงเราไม่ได้แสดงอะไรเลย เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ผมคิดว่าสิ่งที่โฆษณาต้องการจะสื่อเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะคนจากพื้นฐานที่ต่างกัน สามารถส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กันได้…
-
เจ้าหนูวัย 2 ขวบ ดีใจสุดขีด เมื่อได้ยินเสียง “แม่” เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังใส่เครื่องช่วยฟัง
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 25559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยเรื่องราวสุดซึ้งของ Kaiden Orantes หนูน้อยอายุ 2 ขวบ ที่อยู่ในวัยกำลังน่ารักเหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาดูพิเศษกว่าเด็กคนอื่นๆ ก็คือ หนูน้อย Kaiden พิการหูหนวกมาตั้งแต่เกิดนั่นเอง!!! Caitlin Orantes คุณแม่ชาวนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ได้ทำการเผยคลิปวีดีโอช่วงวินาทีสุดประทับใจ ในขณะที่ Kaiden ได้ลองใส่เครื่องช่วยฟัง และนั่นก็ทำให้เขาได้ยินเสียงของเธอเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากที่หนูน้อยได้ยืนเสียงของแม่ตัวเองเป็นครั้งแรก ก็ทำให้เขาตื่นเต้น และดีใจสุดขีด แถมยังกระโดดเข้ากอดคุณพ่ออีกด้วย ด้าน Caitlin เมื่อเห็นลูกมีความสุข ที่ได้ยินเสียงของตัวเอง และเสียงของตัวเธอเอง เธอก็รู้สึกดีใจ และมีความสุขตามไปด้วย นอกจากนี้ Caitlin ยังเผยอีกว่า แม้ว่า Kaiden จะเป็นเด็กพิการหูหนวก แต่เขาก็ชอบฟังเพลง เต้น และร้องเพลงออกมาเป็นภาษาที่เขาสร้างขึ้นเอง มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ว่าแล้วก็ไปชมคลิปของเขากันเลย (ถ้าชมไม่ได้…
-
วินาทีสุดประทับใจของคุณยาย เมื่อได้เห็นหน้าหลานครั้งแรก หลังสูญเสียการมองเห็นมาเกือบครึ่งชีวิต
สำหรับคนที่สายตาสั้น คุณคงจะเข้าใจความรู้สึกตอนที่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ หรือแว่นตา เป็นอย่างดี เพราะนอกจากมันจะเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานแล้ว ยังทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจนอีกด้วย และถ้าหากลองมองอีกมุมหนึ่ง คนที่ตาบอดโดยกำเนิด หรือตาบอดเพราะสาเหตุอื่นๆ ที่ดวงตาของเขามองไม่เห็นอะไรเลยละ มันจะต้องเป็นความรู้สึกที่แย่ และทรมานกว่านี้หลายเท่าแน่นอน เหมือนดังเช่น Fran Laver หญิงที่เกิดมาปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตากลับเล่นตลก เพราะเธอต้องสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่อายุ 20 กว่า ด้วยโรค Steven-Johnsons Syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่ปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต้านทานของร่างกาย ตอบสนองผิดปกติต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย และนับตั้งแต่นั้นมา Laver ก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย แม้กระทั้งหน้าลูก จนลูกของเธอมีหลานตัวน้อยๆ Laver อยากจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าแทบไม่มีหวังเลย แต่คนเราเมื่อเจอเรื่องร้ายๆ มันก็คงไม่ได้ร้ายไปตลอดหรอกว่าไหม เพราะวันหนึ่งโชคก็เข้าข้าง คุณยาย Laver ได้รับโอกาสให้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาบอสตัน (Boston Keratoprothesis) ซึ่งเป็นการใส่กระจกตาเทียม มีลักษณะภายนอกคล้ายกระจกตาธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง และไม่น่าเชื่อเลยว่า…
-
สาวเสิร์ฟทำนักผจญเพลิงน้ำตาไหล เลี้ยงอาหารเช้าที่ร้าน หลังจากดับไฟไหม้มาทั้งคืน!!!
ถ้าโลกเรามีอะไรแบบนี้บ่อยๆ เหมียวเชื่อว่าโลกใบนี้ของเราจะต้องกลายเป็นสถานที่ๆ น่าอยู่อีกขึ้นเป็นกองเลยล่ะ เชื่อสิ เมื่อสองหนุ่มนักดับเพลิงที่ทำงานมาทั้งคืน แวะร้านแห่งหนึ่งเพื่อทานอาหารเช้า แต่เด็กเสิร์ฟที่ร้านก็ต้องทำให้เขาแทบน้ำตาซึมเลยล่ะ โน๊ตที่สาวเสิร์ฟเขียนให้เหล่าฮีโร่ ใจความก็ราวๆ ว่า “ให้ฉันเลี้ยงอาหารเช้ามื้อนี้พวกคุณเถอะ^^ ขอบคุณสำหรับที่พวกคุณช่วยดูแลพวกเราเป็นอย่างดีนะ พวกคุณที่ทำงานวิ่งเข้าสู่สถานที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย สถานที่เหล่านั้น ที่คนอื่นๆ วิ่งหนีกันให้จ้า ไม่ว่าคุณจะทำหน้าที่ไหน คุณมีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และแน่นอนแข็งแกร่งมากๆ ขอบคุณสำหรับความกล้าและฉกาจฉกรรจ์ที่มีให้กันทุกๆ วันเสมอมา และตอนนี้คุณก็สมควรจะได้พักผ่อนแล้วล่ะ” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เจ้าพนักงานทั้งสองใช้เวลาทั้งคืนเพื่อดับไฟขนาดใหญ่ ในโกดังแถบ North Brunswick ซึ่งพวกเขาจะต้องกลับบ้านไปแบบรู้สึกดีสุดๆ แบบไม่ต้องสงสัย เพราะอย่างน้อย ยังมีใครสักคนอยู่ที่นั่น และเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ และหลังจากที่พวกเขาถ่ายรูปและแชร์ลงในโลกออนไลน์ ทายสิ…มันดังเป็นพลุแตกเลยล่ะ ^^ ที่มา: Distractify