Tag: ส่งของ
-
เป็นพนักงานส่งของไม่เห็นน่าเบื่อ มีสัตว์มาทักทายเยอะแยะ นึกว่าเที่ยวสวนสัตว์อยู่
ยุคที่เจ้าหมาเป็นศัตรูตัวฉกาจของคนส่งของมันสิ้นสุดลงไปแล้ว สมัยนี้ไม่ว่าคนส่งของจากบริษัท UPS จะเดินทางไปเจอเจ้าตูบบ้านไหน พวกมันก็เป็นมิตรทั้งนั้น แถมพวกเขายังไม่ได้เจอแค่หมาด้วย ยังเจอสัตว์อีกหลายชนิดเลยล่ะ ซึ่งเวลาที่ได้เล่นกับสัตว์นี่แหละที่ทำให้งานอันน่าเบื่อดูแฮปปี้ขึ้นมาได้ เพื่อรวบรวมความน่ารักของสัตว์ทั้งหลายไว้แบ่งปันกัน พนักงานจากบริษัท UPS ก็เลยเปิดเพจ UPS Dogs ขึ้นเพื่อให้พนักงานและชาวโลกได้มารับความสดใสจากสัตว์น่ารักกันง่ายๆ ถึงจะเขียนชื่อเพจว่าสุนัขแต่จริงๆ ก็มีสัตว์ทุกชนิด วันนี้โชคดีได้เจอลูกอัลปาก้าเพิ่งคลอด คงไม่ค่อยมีใครได้เจอมันหรอก เจ้าตูบคาบตุ๊กตาตัวโปรดมาต้อนรับใหญ่เลย น่าร๊ากกก แน่นอนว่าเจ้าเหมียวก็มากับเขาด้วย ถึงจะจิกกล้องไปหน่อยแต่ก็ใจดีนะ แถมตัวนี้คนขับรถเก็บไปเลี้ยงเลย เก๊าเป็นผู้ช่วยพนักงานฮะ พี่ชายมีพัสดุอะไรให้แกะไหม ขนาดติดล้อยังออกมาทักทายคนส่งของเลย มีกวางป่าด้วย เจ๋งป่าวล่ะ ต้อนรับคนเดียวมันไม่อบอุ่น มาทีทั้งครอบครัวเลย ลุงพักงานแล้วไปเล่นโยนไม้กันเถอะ เจ้าห่านตัวนี้นึกว่าตัวเองเป็นหมา ชอบวิ่งมาขอกอดทู้กที เหมือนพี่เขาจะเจอเนื้อคู่ระหว่างทำงานนะ เจอหมาตั้ง 3 ตัว … เอ๊ะ ไม่ใช่ละ แม้แต่ตัวโอพอสซัมก็อยากจะมีเอี่ยวกับคนส่งของ ไม่ผ่านมาแถวนี้ตั้งนานเลยนะ…
-
ลูกค้าคอมเพลนโดน ‘พนักงานส่งของ’ เขียนโน้ตแจ้ง ‘รับโทรศัพท์ด้วย!!’ พร้อมหน้าโกรธ
หลายๆ ครั้งที่เราสั่งของให้มาส่งที่บ้านแต่ไม่มีใครอยู่ เจ้าหน้าที่ที่นำของมาส่งหากไม่เอาฝากไว้กับเพื่อนบ้านก็จะนำกลับไปก่อนแล้วให้เราไปรับของที่ไปรษณีย์หรือบริษัทส่งของนั้นๆ แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ต้องขอบอกเลยว่ากำลังกลายเป็นประเด็นที่ค่อนข้างร้อนแรงในต่างประเทศเลยทีเดียว เมื่อพนักงานส่งของ Amazon มาส่งของแล้วหาเจ้าของบ้านไม่เจอ ติดต่อก็ไม่ได้ เลยเอาพัสดุฝากไว้กับเพื่อนบ้าน พร้อมเขียนโน้ตเอาไว้ว่า ‘รับโทรศัพท์ด้วยเซ่!!’ แถมวาดภาพใบหน้าโกรธเอาไว้ด้วย การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับนาย David Kirk จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก เขาเล่าว่า “ตอนพนักงานเอาของมาส่งให้กับเพื่อนบ้านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อนบ้านยังไม่กล้าออกไปรับของเลย เพราะดูเหมือนว่าพนักงานคนั้นจะโมโหมากๆ” นอกจากนี้ยังมีการพูดจาด้วยคำหยาบคาย David จึงตัดสินใจเขียนคอมเพลนหน้าเพจเฟซบุ๊กของ Amazon ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเขียนว่า “คุณคิดว่าการแจ้งเตือนการส่งของไม่ถึงมือผู้รับ พร้อมกับใบหน้าโกรธจากพนักงานส่งของของ Amazon เป็นเรื่องรับได้หรือไม่?” ซึ่งทาง Amazon ก็ตอบกลับมาว่า “เราได้นำข้อมูลเหตุการณ์นี้แจ้งไปยังฝ่ายที่รับผิดชอบแล้ว ซึ่งการตรวจสอบนี้เป็นเรื่องของภายใน ดังนั้นคุณอาจจะไม่ได้รับการติดต่อกลับแจ้งถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นได้” แน่นอนว่านาย David เดือดดาลมาก เขาถามกลับไปยังบริษัทว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือ? พร้อมกล่าวว่า “สำหรับผมแล้วผมบอกได้เลยว่าไม่ ผมรับไม่ได้ และผมเชื่อว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของคุณก็คงเห็นด้วยกับผม แต่เหตุการณ์แบบนี้มันก็ยังเกิดขึ้นกับผมในวันเสาร์ที่ผ่านมา” …
-
ชายหวังส่วนลด ‘เครื่องโกนหนวด’ เพื่อนช่วยถล่มโปรโมตจนได้ฟรี แต่ให้มันฝรั่งแทน!?
โปรโมชั่นดีๆ ย่อมดึงดูดลูกค้าได้เสมอ โดยเฉพาะในโลกยุคอินเทอร์เน็ตรุ่งเรือง การทำมาค้าขายด้วยวิถีออนไลน์จึงเป็นที่นิยมมากๆ เนื่องจากสามารถทำการโปรโมต ให้กลายเป็นกระแสไวรัลได้อย่างไม่ยากเย็นนัก… จะเห็นได้ว่ายุคนี้ร้านค้าต่างรวมตัวกันขึ้นแพลทฟอร์มศูนย์รวมร้านค้า โดยที่กรณีนี้เกิดขึ้นกับชายแซ่ Liu ที่ส่องสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน Pinduoduo ที่จะออกมาในแนวโซเชียลสำหรับการชอปปิงโดยเฉพาะ ด้วยโปรโมชั่นอันน่าสนใจของใบมีดโกนไฟฟ้าจากในแอปฯ เขาจึงทำการแชร์ลิงก์ไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆ เพื่อรับส่วนลด ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนรวมๆ แล้วกว่า 500 คน จึงทำให้ราคาลดลงจาก 120 หยวน (ประมาณ 600 บาท) กลายเป็น 0 หยวน ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เนื่องจากทาง Pinduoduo นั้นได้ยื่นข้อเสนอให้กับผู้ใช้งาน หากช่วยกันโฆษณาแอปฯ จะมีส่วนลดให้ทั้งกลุ่มในราคาพิเศษ ยิ่งมีคนซื้อเยอะก็ยิ่งได้ราคาถูก จนไปถึงได้ของมาใช้ฟรีๆ พอเข้าทางขนาดนี้ Liu จึงติดต่อไปยังร้านค้าว่า เขาจะได้รับใบเครื่องโกนหนวดจริงๆ ใช่มั้ย? ทางร้านก็สัญญาไว้ดิบดีว่า ได้ของแน่นอนนนนนน… เมื่อมั่นใจว่าได้ของฟรีมาใช้ พ่อหนุ่ม Liu ก็ตั้งใจรอของมาส่งที่หน้าบ้าน แต่ดันชะล่าใจเกินไปหน่อย เพราะเครื่องโกนหนวดนั้นไซร้กลายร่างเป็นมันฝรั่งธรรมดา…
-
หญิงสาวเอ๋อรับประทาน สั่งเข็มขัดมาเส้นเดียว แต่ Amazon เล่นแพ็กใส่กล่องมาซะใหญ่เชียว
เวลาที่เราสั่งของออนไลน์ เราก็อาจจะรู้สึกกังวลว่าของที่เราสั่งจะส่งมาถึงมือได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ กลัวว่ามันอาจจะมีการตกแตกหรือเสียหายระหว่างการเดินทาง แต่ถ้าคุณได้เจอเหมือนหญิงสาวคนนี้ เราเชื่อว่าคุณจะไม่รู้สึกกังวลอะไรแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Urban Pictures UK ได้ทำการแชร์ภาพที่ทำให้หลายๆ คนถึงกับต้องสงสัย เพราะมันคือภาพของกล่องพัสดุขนาดยักษ์ที่ถูกส่งมาให้กับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งภายในมีเพียงแค่เข็มขัดหนึ่งเส้นเท่านั้นเอง โพสต์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้เจอกับกล่องพัสดุขนาดยักษ์ เราจะเห็นเลยว่าเจ้ากล่องพัสดุชิ้นนี้มีขนาดเกือบเท่ากับความสูงของเธอเลยทีเดียว โดยเธอได้เขียนอธิบายในแคปชันภาพไว้ว่า “ใครก็ได้จาก Amazon ช่วยอธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องห่ออะไรมามากขนาดนี้ เพียงเพื่อเข็มขัดเส้นเดียวของลูกพี่ลูกน้องฉัน?! ต้องสูญเสียต้นไม้ไปกี่ต้นแล้วล่ะเนี่ย” ถึงกับงงไปทุกฝ่าย ไม่คิดเลยว่าการสั่งของจากเว็บไซต์ Amazon มันจะยิ่งใหญ่อะไรขนาดนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะเป็นห่วงเข็มขัดเส้นนี้มากจริงๆ ถึงกับใส่กระดาษม้วนมาให้ตั้ง 6 ม้วน เพื่อป้องกันไม่ให้บุบสลาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกค้าออนไลน์ต้องเจอกับการห่อพัสดุแบบเวอร์วังอลังการเกินความจำเป็น เพราะก่อนหน้านี้ Deanne Walker หญิงสาวในเมือง Parkstone ประเทศอังกฤษ ได้สั่งแผ่นกั้นในรถยนต์ความยาวประมาณ 90 เซนจากเว็บไซต์ Amazon เพื่อใช้สำหรับกั้นไม่ให้น้องหมาของเธอวิ่งมาด้านหน้ารถในตอนที่เธอกำลังขับอยู่ สิ่งที่เธอได้รับก็คือกล่องขนาดใหญ่ยักษ์ที่บรรจุกระดาษน้ำตาลความยาวกว่า 9 เมตรเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พัสดุเสียหาย เรียกว่าทำเธออึ้งไปเลยจริงๆ…
-
พ่อค้าเดินทางกว่า 860 กม. เพื่อมาดักทำร้ายหญิงสาว หลังเธอตำหนิที่ร้านที่ส่งของล่าช้า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวจากเมืองเจิ้งโจว ในระหว่างที่เธอกำลังยืนรอรับพัสดุที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตอยู่ แต่ทว่าเมื่อพัสดุมาส่งเธอกลับถูกพ่อค้าหนุ่มที่เดินทางมาไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรลงมาทำร้ายอย่างรุนแรง!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวที่ใช้นามแฝงของตัวเองว่า Xiao Li ได้ร้องเรียนพ่อค้าคือนาย Zhang หลังจากเสื้อผ้าที่เธอสั่งนั้นไม่ได้ถูกจัดส่งตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้ การทำร้ายร่างกายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Zhang ได้โทรศัพท์และส่งข้อความข่มขู่ลูกค้าของเขา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมหญิงสาวได้รับข้อความระบุว่าพัสดุของเธอนั้นได้เดินมาถึงจุดรับสินค้าเรียบร้อยแล้ว และด้วยความดีใจเธอจึงรีบออกไปรับสินค้า ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดด้านนอกของจุดรับสินค้าในเมืองเจิ้งโจว เผยให้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังยืนรอรับสินค้าของเธอ และเมื่อพ่อค้าหนุ่มมาถึงเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอทันที ชายหนุ่มชกเข้าที่หน้าและหน้าอกของหญิงสาวหลายครั้งจนเธอลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะหนีไป คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายนอกจุดรับสินค้า Xiao Li ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล และระหว่างที่เธอกำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เธอยังได้รับข้อความจากพ่อค้าคนดังกล่าวที่บอกว่าเขายอมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกว่า 860 กิโลเมตรจากเมืองซูโจวเพื่อมาทำร้ายเธอเลยทีเดียว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมา หนุ่มส่งอาหารคนหนึ่งได้ทำร้ายร่างกายของลูกค้าสาวในมณฑลไหหลำ เนื่องจากเกรงว่าเธอจะเขียนรีวิวต่อว่าเขาหลังจากที่นำอาหารมาส่งช้า ที่มา medium
-
แก๊งค้ายาเม็กซิกัน พยายามขนกัญชาข้ามชายแดนสหรัฐฯ ด้วยการยิงบาซูก้าาาา!!
ปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชายแดนนั้นดูเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แทบพื้นที่ทั่วโลก และประเทศเม็กซิโกเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน จากรายงานของสำนักอัยการเม็กซิโกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน กล่าวว่าเจ้าหน้าตำรวจเม็กซิโกได้ตรวจพบกัญชาน้ำหนักเกือบ 1,000 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนมากับกระบอกปืนใหญ่หลังรถตู้คันหนึ่ง ในชายแดนของเมือง Agua Prieta ประเทศเม็กซิโก ภายในกระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบกัญชาอัดแท่งมากกว่า 200 ก้อน โดยมีน้ำหนักรวมทั้งหมด 816 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบกระสุนอีกมากถึง 2,000 นัดในรถตู้คันดังกล่าวอีกด้วย กระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวถูกค้นพบในรถตู้ต้องสงสัยคันหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพ่อค้ายาเตรียมที่จะยิงมันข้ามไปยังเขตของสหรัฐ การตรวจพบกระบอกปืนใหญ่อัดที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์เจ้าหน้าที่ก็ได้พบท่อเหล็กขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ในรั้วใกล้ๆ กับชายแดนของเมือง Douglas และนอกจากนี้ในเดือนธันวาคมปี 2016 เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมวัยรุ่น 2 คนที่พยายามยิงห่อกัญชาข้ามไปยังชายแดนสหรัฐอีกด้วย ท่อเหล็กขนาดยักษ์และคอมเพรสเซอร์ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมไว้ยิงกัญชาข้ามชายแดน แหม่… สงสัยการลักลอบขนแบบธรรมดามันจะไม่ทันใจสินะ เลยต้องใช้วิธีนี้!! ที่มา ladbible, tucson
-
เผยภาพของไปรษณีย์ที่ยังคงทำหน้าที่ แม้บ้านเรือนจะมอดไหม้จากไฟป่าไปแล้วก็ตาม…
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2017 สำนักข่าว BBC ได้รายงานสภาพความเสียหายของเมืองซานตาโรซา ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังถูกไฟป่าเผาไหม้ทำลายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 43,000 ไร่ จากไฟป่าขนาดใหญ่จำนวน 22 จุด ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ ทำให้ชาวเมืองหลายคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน มีผู้สูญหายระหว่างการอพยพกว่า 300 คน และมียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 23 ราย สภาพเมืองซานตาโรซา หลังถูกไฟป่าโหมกระหน่ำ ทว่าหลังเหตุการณ์สงบได้ไม่นาน Douglas Thron ผู้ขับโดรนเพื่อเก็บภาพบรรยากาศภายในเมือง ได้สังเกตเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ที่ยังคงขับรถส่งพัสดุตามบ้านต่างๆ ในละแวก Coffey Park ถ้าหากเป็นวันธรรมดา หรือวันก่อนเกิดเหตุไฟป่าลุกลาม ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป หากแต่ทั้งหมดนี้เป็นภาพการส่งจดหมายพัสดุในวันที่บ้านเรือนถูกทำลายราบเป็นหน้ากอง..!! สังเกตว่าในละแวกนี้ไม่เหลือบ้านเรือนเลยแม้แต่หลังเดียว… “มันเป็นอะไรที่แปลกตามากเลยครับ อันที่จริงมันก็เป็นการทำงานอย่างหนึ่งของเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึ้งก็คือ.. ถนนเกือบทั้งหมดถูกสั่งปิดเส้นทาง ไม่เหลือบ้านเรือนเลยแม้แต่หลังเดียว แต่เขาก็ยังขับรถส่งพัสดุได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง” Douglas ให้สัมภาษณ์ ทุกตู้ไปรษณีย์ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพดีหรือไม่ เขาก็จะนำจดหมายหรือพัสดุไปวางไว้ให้ตรงตามเลขที่บ้าน …
-
พนักงานส่งของหวังดี วางพัสดุไว้ให้ใต้ลูกบิดประตู กลายเป็นขังเจ้าของไว้ในบ้านซะงั้น!?
เป็นธรรมดาสำหรับพนักงานส่งที่จะวางพัสดุไว้หน้าบ้าน กรณีที่เจ้าของไม่อยู่บ้านหรือไม่มีคนออกมารับของ แต่จะวางสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เดี๋ยวของหายแล้วยุ่งเลย… สำหรับกรณีนี้ไม่ต้องกลัวของหายหรอก เพราะพนักงานส่งของได้วางพัสดุเอาไว้หน้าบ้านเป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำนี้ได้ขังเจ้าของบ้านไว้โดยไม่รู้ตัว!? เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองดับลิน รัฐแคลิฟอร์เนีย พนักงานส่งของจาก UPS ได้นำพัสดุไปวางไว้หน้าบ้านติดกับลูกบิด หวังจะให้เจ้าของบ้านเห็นทันทีที่เปิดประตู เหมือนภาพด้านล่างนี้ ดูเหมือนพนักงานจะลืมดูลักษณะของลูกบิดนะ เพราะถ้าบิดจากข้างใน ที่จับด้านนอกจะต้องหมุนลงไปข้างล่างด้วย แต่ตอนนี้มันไม่สามารถลงได้เพราะมีของมาขวางอยู่ แล้วจะบิดประตูยังไงล่ะทีนี้!? หลังจากเกิดเรื่องนี้ Jessie Lawrence ก็ได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่าเขาถูกขังอยู่ในบ้านด้วยความไม่รอบคอบของพนักงานส่งของคนหนึ่ง เขาต้องโทรเรียกคนซ่อมบำรุงอาคารมาย้ายของออก จนสามารถเปิดประตูได้ในที่สุด หลังจากนั้นโพสต์ของเขาก็มีคนเข้ามากดไลค์กว่า 137,000 คน และรีทวิตอีก 53,000 ครั้ง บางคนก็เข้ามาแซวเล่นขำๆ ด้วย พนักงานส่งของคงจะบอกว่า “ผมได้ยินคนอยู่ข้างใน แต่ไม่มีใครเปิดประตูให้ ก็เลยจัดให้อยู่ในบ้านไปนานๆ ซะเลย” พนักงานส่งของไม่ทำแบบนั้นหรอก เพื่อนบ้านจอมแสบของคุณต่างหากที่เป็นคนทำ ต่อมา เมื่อทาง UPS ทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้เขียนขอโทษ Jessie ว่า “เราต้องขออภัยสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เรายินดีที่จะช่วยเหลือคุณ กรุณาคลิ๊กปุ่มด้านล่างนี้ เพื่อรายงานปัญหาของคุณให้เราทราบ” แต่ดูเหมือนมันจะเป็นข้อความตอบกลับอัตโนมัติมากกว่านะ… (เหมือนกับผู้ให้บริการต่างๆ ในเว็บบอร์ดไทยหลักหมื่นแถวๆ นี้เลย)…
-
เจ้าหน้าที่ส่งของ ถูกลูกสุนัข 7 ตัวโจมตีด้วยความน่ารัก เจอแบบนี้ทำงานไม่ได้เลย…
น้องหมาสัตว์เลี้ยงน่ารักและแสนซน สำหรับใครที่มีเจ้าสี่ขาตัวเล็กอยู่ที่บ้านคงจะเข้าใจถึงความป่วนของพวกมันเป็นอย่างดี และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอน่ารักๆ ที่เผยให้เห็นความซุกซนของเหล่าน้องหมาตัวจ้อย ภาพในคลิปวิดีโอเผยจังหวะของเจ้าหมาน้อยทั้ง 7 ตัวที่ออกมามะรุมมะตุ้มชายหนุ่ม ผู้ที่กำลังเดินเข้ามาส่งของในบ้านหลังหนึ่ง เขาพยายามที่ออกจากวงล้อมของน้องหมา แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะไม่ใช่ของง่ายซะแล้ว!! ฝูงหมาน้อยที่ออกมาต้อนรับพนักงานส่งของ ในระหว่างที่เจ้าลูกหมากำลังรุมล้อมชายคนดังกล่าว แม่ของหมาน้อยทั้ง 7 ก็เข้ามาร่วมแจมด้วยอีกหนึ่งตัว แต่แทนทีมันจะห้ามลูกๆ กลับทำเป็นไม่สนใจซะนี่!? งานนี้ชายหนุ่มเลยต้องอาศัยความสามารถของตัวเอง เพื่อฝ่าออกจากวงล้อมให้ได้!! การรอบล้อมไปด้วยน้องหมา จะชุนละมุนวุ่นวายแค่ไหน ไปชมที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายไว้โดยคุณ Jon Ashe เจ้านายของพวกมะหมา และด้วยความฮาของคลิปดังกล่าว มันจึงถูกนำไปเผยแพร่ทางแฟนเพจของบริษัท Sainsbury’s ด้วย หลังจากมีการเผยแพร่ความน่ารักของเหล่าน้องหมาลงในโลกออนไลน์ คลิปวิดีโอนี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก หนึ่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่าเธออยากจะลงไปกองบนพื้นหญ้า และให้น้องหมารุมล้อมเธอแบบนั้นเลยจริงๆ และหลายๆ คนก็อยากจะกลายเป็นพ่อหนุ่มส่งของคนนั้นกันเลยทีเดียว แต่ในขณะที่บางคนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบเห็นอกเห็นใจคนส่งของ พร้อมกับบอกว่า “เจ้าหมาเหล่านั้นน่ารักจริงๆ แต่ผมว่าคนส่งของคงจะทำงานลำบากหน่อยนะ” แหม่… เล่นรุมกันแบบนี้ก็แย่เลย!? ที่มา dailymail
-
พนักงานส่งของ นำขนมมาเปลี่ยนให้กับเด็กออทิสติกทันที หลังจากส่งของรอบแรกผิดรสชาติ
เรื่องราวน่าประทับใจของชายหนุ่มส่งของจากห้าง Tesco ที่ยอมเสียเวลาเดินทางกลับไปที่โกดังเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อนำขนมรสชาติใหม่มาเปลี่ยนให้กับเด็กน้อยผู้ป่วยออทิสติก… พนักงานส่งของ Dan Lawry ได้รับคำยกย่องเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาเดินทางไปกลับเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เพื่อนำขนมมันฝรั่ง Pringles รสชาติโปรดปรานที่ถูกต้องมาเปลี่ยนให้ หลังจากที่ส่งออเดอร์ผิดรสชาติมาในตอนแรก Rachel George คุณแม่วัย 42 ปีของหนูน้อย บอกว่าลูกชายของเธอต้องทุกข์ทนกับอาการป่วยและยังต้องนั่งบนรถเข็นหลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดที่เท้า เขาเป็นเด็กที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษ และคุณ Dan ก็เหมือนฮีโร่ เขามาพร้อมกับขนมสุดโปรดของลูกชายเธอ คุณ Rachel เล่าว่า ” Adam มีความสุขมาก เขาดีใจสุดๆ หลังจากที่ได้ขนม Pringles รสซาวครีมและหัวหอมซึ่งเป็นรสชาติโปรดของเขา สิ่งที่ Dan ทำนั้นไม่ใช่แค่เพียงการเอาขนมรสชาติที่ถูกต้องมาให้ แต่มันหมายถึงการใส่ใจในความรู้สึกของเด็กๆ ด้วย” “ตอนที่ Dan ขับรถมาถึงบ้าน เขาเราบอกว่ามีบางอย่างที่ผิดพลาด เมื่อฉันได้ยินดังนั้นก็ขออย่าให้เป็นขนมของ Adam เลยเพราะเขาคงจะรู้สึกแย่มากถ้าได้ขนมที่ไม่ถูกใจ “ คุณแม่กล่าว แต่ยังโชคดีที่มีโกดังสินค้าอยู่ใกล้ๆ ดังนั้น Dan จึงกลับไปเปลี่ยนขนมให้เจ้าหนูได้ทัน โดยที่สามารถไปส่งของให้ลูกค้าคนอื่นได้ทันเวลา และวนกลับมาเปลี่ยนขนมให้กับเจ้าหนูได้ในวันเดียวกันทันที…
-
แม่ขี้เกียจเอาสายชาร์จไปให้ลูกสาวชั้นล่าง ก็เลยผูกไว้กับตัวหมา แล้วให้ลูกเรียกชื่อมันแทน!?
สำหรับหลายๆ คนที่เป็นชาวแก๊งขี้เกียจคงจะเคยพยายามหาหนทางที่จะช่วยประหยัดพลังงานของร่างกายกันมาหลากหลายวิธีแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝากซื้อของ หรือการไหว้วานให้เพื่อนหยิบนั่นหยิบนี่ให้หน่อย แต่ดูเหมือนคุณแม่ท่านนี้จะก้าวข้ามระดับของความขี้เกียจไปแล้ว เมื่อเธอได้ใช้สัตว์เลี้ยงไปส่งของให้กับลูกสาวของเธอแทน!? เจ้าหมาน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อของความขี้เกียจของคุณแม่ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Sophie Billington ได้เล่าเรื่องราวสุดฮาของแม่เธอ หลังจากที่สาวน้อยขอให้คุณแม่หยิบสายชาร์จแบตมาส่งให้เธอที่ชั้นล่างของบ้าน แต่ดูเหมือนว่าคุณแม่ไม่อยากจะขยับตัว เธอจึงได้ผูกสายชาร์จแบตไว้กับเจ้า Meggy สุนัขของครอบครัวเพื่อให้มันไปส่งให้ลูกสาวเธอแทน ด้วยวิธีการเรียกชื่อหมา!! เรื่องราวดังกล่าวเรียกเสียงหัวเราะจากโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างมาก มีผู้เข้ามารีทวีตข้อความของสาวน้อยถึง 16,000 ครั้งและมีคนกดถูกใจถึง 60,000 ครั้งเลยทีเดียว เธอก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภาพของเจ้า Meggy จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ บางคนก็เข้ามาแสดงความเห็นใจกับเจ้า Meggy ส่วนคนนี้บอกว่าเจ้าตูบควรจะได้รับรางวัลบ้างนะ ฮ่าๆ เจ้าหมาเป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ!! วิธีของคุณแม่นี่ก็ดูครีเอทเหมือนกันนะเนี่ย ใครที่มีน้องหมาอยู่ที่บ้านจะลองเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ได้นะ ฮ่าๆ ที่มา distractify
-
“Pituco” สุนัขแสนรู้ไม่ต้องง้อคนช่วย เจ้านายไม่ว่างนัก ไปซื้ออาหารเองซะเลย!!
ต้องบอกเลยว่าเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้า “Pituco” จะทำให้เหล่าทาสสัตว์เลี้ยงทั้งหลายรู้สึกอิจฉาไปตามๆ กัน ลองคิดดูสิว่ามันจะสุดยอดมากขนาดไหนถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณดูแลตัวเองได้!! เรียกได้ว่าตอนนี้เรื่องราวของ Pituco กำลังเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก หลังจากเจ้าของได้ปล่อยคลิปวิดีโอน้องหมาเดินทางไปซื้ออาหาร แถมยังดันกลับบ้านด้วยตัวเองได้อีก แทแด๊มมมมมมมม สำหรับเจ้า Pituco สุนัขสัญชาติบราซิล เป็นประจำทุกวันที่มันจะเดินทางออกจากบ้านด้วยสองเท้าหน้า และขับเคลื่อนตามด้วยสองเท้าหลังเพื่อไปยังร้านขายอาหารสัตว์ สิ่งที่มันทำก็คือ.. นำอาหารกลับมาที่บ้านให้ตัวเองและเพื่อนๆ เจ้าของร้าน Agro Pet’s Shop ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ทุกคนแถวนี้รู้จักเจ้า Pituco กันทั้งนั้นแหละครับ แต่อาหารของมันวางอยู่บนชั้นวางของ เราเลยต้องหยิบลงมาให้มัน และถ้าเราไม่หยิบให้ มันก็จะเห่าจนกว่าเราจะหยิบลงมาให้นั่นแหละ ฮ่าๆๆ” ขากลับบ้านบางทีมีแวะฉี่ข้างทางด้วยนะ ร้ายกาจจริงๆ นอกเหนือจากอาหารให้เพื่อนสุนัขด้วยกันแล้ว เจ้า Pituco มีความฉลาดที่มากกว่านั้น เพราะบางครั้งเจ้าของบ้านก็มักจะไหว้วานให้มันเดินทางไปเอาอาหารแมวบ้าง อาหารนกบ้าง และดูเหมือนว่าเจ้าตูบจะมีความสุขกับการได้ทำหน้าที่เป็นคนส่งของสุดๆ เพราะทุกครั้งที่เจ้านายสั่งมันก็จะรีบวิ่งออกไปทันทีไม่มีงอแง “ปกติผมก็จะโทรบอกที่ร้านก่อนครับ เสร็จแล้วก็ค่อยเอาตังค์ไปจ่ายทีหลัง เราทำแบบนี้มานานหลายเดือนแล้ว” เจ้าของ Pituco ให้สัมภาษณ์แบบติดตลก…
-
หุ่นยนต์ตัวน้อยในโกดังสินค้าที่จีน ทำหน้าที่จัดส่งสินค้า ได้มากกว่าวันละ 200,000 ชิ้น!!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอันที่จริงแล้วประเทศจีน นับเป็นอีกประเทศที่มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก มีอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ และในแต่ละปีจีนมีพัสดุส่งออกนอกประเทศมากกว่า 30 พันล้านชิ้น และเป็นอีกครั้งที่เทคโนโลยีหุ่นตร์ทำให้เรารู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ กลัวว่าจะตกงานในอนาคต เพราะมันสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำวันละมากกว่า 200,000 ชิ้น!! ถึงจะมีขนาดเล็กจิ๋วแต่ก็ทำงานได้ไม่มีผิดพลาด โดย People’s Daily สื่อใหญ่จากประเทศจีน ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทำงานของหุ่นยนตร์ส่งพัสดุ จากโกดังของ STO Express บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกร ทีมงานหุ่นยนตร์ส่งพัสดุนี้มีชื่อว่า ‘Shentong’s Army’ มันสามารถชาร์จแบตฯ ให้ตัวเองได้ สามารถสแกนโค้ดจากพัสดุเพื่อจัดส่งให้ถูกต้องตามฐานข้อมูล และในแต่ละวันมันสามารถทำยอดได้มากถึง 200,000 ชิ้น ที่สำคัญคือมันทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด และช่วยประหยัดต้นทุนด้านแรงงานได้มากถึง 70% จะเห็นได้ว่าจากเดิมที่ต้องใช้คนคอยจัดส่งพัสดุจำนวนมาก ตอนนี้ลดจำนวนลงมาเหลือแค่พนักงานที่คอยแจกจ่ายพัสดุให้หุ่นยนตร์เท่านั้น อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในโลก ที่ตำแหน่งงานนี้จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนตร์ เพราะที่โกดังของบริษัท Amazon ก็มีการนำหุ่นยนตร์มาใช้เป็นผู้จัดส่งพัสดุด้วยเหมือนกัน แค่ของจีนเมื่อกี้ก็ว่าล้ำแล้วนะ แต่หุ่นยนตร์ในโกดังของ Amazon นี่ล้ำกว่าอีก หลายที่ทั่วโลกเริ่มหันมาใช้งานหุ่นยนตร์กันมากขึ้น…
-
ทำไมทำงี้อะ? รวม 19 ภาพของพนักงานส่งของสุดจะมักง่าย ใครเห็นเป็นต้องเอือม
ยุคนี้เป็นยุคแห่ง E-Commerce ที่ใครๆ ก็นิยมการสั่งซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต และแน่นอนว่าสินค้าจะเดินทางมาหาเราได้นั้น มันก็ต้องผ่านบริษัทขนส่งอย่างบริษัทจัดส่งทั้งหลายหรือไปรษณีย์ ซึ่งสินค้าของเราจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกเขานี่แหละ แต่อย่าเพิ่งคิดไปว่าบ้านเราจะเจอเหตุการณ์แย่ๆ อยู่ประเทศเดียวนะ เพราะในต่างประเทศเองก็มีบริษัท (หรือพนักงานบางคน) ที่มักง่าย ส่งของได้แย่จนไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว อยากรู้ว่าเป็นไงต้องไปดูกัน 1. ก็ยังอุตส่าห์ยัดเข้าไปได้เนาะ 2. นี่ก็อีกคน 3. เอาเก้าอี้ทับทำไม? 4. เอาวางไว้ใต้พรม? 5. ไม่วางกับพื้นดีๆ ล่ะ 6. นี่ก็อีกคน 7. พี่!! พี่ลืมปิดประตูน่ะพี่!! 8. วางดีๆ ไม่ได้เหรอ? 9. พัง พังแน่ๆ 10. อ่า… 11. วางกระจัดกระจายทีเดียว 12. เอาหินทับไว้… …