Tag: หนังสือ
-
หนังสือนิทาน “ซินเดอเรลลา” วาดโดยนักวาดจาก Final Fantasy วางขายแล้วในญี่ปุ่น!
เมื่อพูดคำว่า ซินเดอเรลลา หลายคนก็คงจะนึกถึงใบหน้าใสแบ๊วกับรองเท้าแก้วคู่ใจ ตามสไตล์และเอกลักษณ์ของการ์ตูน Disney ใช่ไหมล่ะ? แต่หลายครั้ง ตัวละครนี้ก็ถูกนำมาวาดขึ้นใหม่โดยนักวาดทั่วทั้งโลก รวมไปถึงศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่า Yoshitaka Amano คนนี้ด้วย โดยภาพซินเดอเรลลาฝีมือของ Yoshitaka นั้นก็ดูงดงามแต่กลับดูแตกต่างจากเวอร์ชันของ Disney เสียเหลือเกิน แถมมันยังดูคุ้นๆ ตาชอบกลอีกด้วย ซินเดอเรลลา ฝีมือของ Yoshitaka ที่ลายเส้นอาจจะดูคุ้นตาก็เพราะว่า Yoshitaka เป็นนักออกแบบตัวละครให้กับซีรีส์เกมสุดโด่งดังอย่าง Final Fantasy ในช่วงหกภาคแรก ทั้งนี้ Yoshitaka ก็ได้วาดภาพของซินเดอเรลลาประกอบหนังสือนิทานเล่าเรื่องสั้นๆ ออกมา ลองไปชมผลงานการวาดของเขาในหนังสือซินเดอเรลลากันเลยดีกว่า . . ในช่วงแรกที่หนังสือถูกตีพิมพ์ออกมา หน้ากระดาษเป็นเพียงหน้าเล็กๆ แต่พอมันถูกพิมพ์ขึ้นเป็นหน้ากระดาษแผ่นใหญ่ ผลงานของ Yoshitaka ก็กลายเป็นผลงานที่ติดตรึงใจเด็กๆ จำนวนมาก นอกจากนี้หนังสือของเขายังพิมพ์ขึ้นเป็นสองภาษา (ญี่ปุ่นและอังกฤษ) โดยภาษาที่ใช้ทั้งสองภาษานั้นมีการปรับให้เป็นประโยคที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายเหมาะสมกับเด็กๆ . หนังสือเล่มนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Amano Yoshitaka Meiga Monogatari Cinderella มีความยาว 30 หน้า…
-
หนังสือ “ตัวอักษร” ภาษาอังกฤษ กับตัวอย่างศัพท์ ‘โคตรยาก’ เด็กที่ไหนมันจะไปจำได้แว๊!?
สำหรับหนังสือหรือบทเรียนตัวอักษรของไทยเรานั้น เราอาจจะคุ้นชินกับคำว่า “ก.ไก่ ข.ไข่ …” อะไรทำนองนี้ เพราะเราหัดแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยในเวอร์ชันภาษาอังกฤษก็ไม่ต่างกันนัก ที่เราคุ้นๆ กันก็น่าจะเป็น “A. ant B. bird C. cat …” จะเห็นว่าเป็นคำง่ายๆ สั้นๆ เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้เร็วและจดจำได้แม่น แต่วันนี้ หนังสือบทเรียนตัวอักษรภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งกลับทำให้แม้แต่ผู้ใหญ่ยังต้องน้ำตาไหล เพราะ ความยาก ของมันนั่นเอง หนังสือเล่มดังกล่าวมีชื่อว่า The Worst Alphabet Book Ever ซึ่งเป็นหนังสือตัวอักษรพร้อมภาพประกอบน่ารักๆ แต่คำศัพท์ที่หนังสือเล่มนี้ใช้ยกตัวอย่างกลับยากเกินกว่าที่เด็กๆ จะเข้าใจได้ง่าย เราลองไปชมตัวอย่างเนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้กันเลย… P – Pterodactyl (ไดโนเสาร์เทอโรแดกทิล หรืออีกชื่อหนึ่ง เทอร์โรซอร์) เด็กๆ จะไปทำไมล่ะเนี่ย! K – Knight (อัศวิน) เป็นตัว K แต่ดันยกตัวอย่างคำที่ออกเสียงเป็น N…
-
Jane Lana จากนางพยาบาลสู่การเป็น “นางแบบ” ล่าสุดมี Photo Book ของตัวเองแล้ว
ก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮาในได้หวันอย่างมากที่มีภาพของ นางพยาบาลสาว คนหนึ่งผู้มีใบหน้าอันน่ารักและงดงามจนครองใจชายหนุ่มทั่วประเทศ พยาบาลสาวคนนั้นนามว่า Jane Lana ก่อนหน้านี้ ภาพที่เธอสวมเครื่องแบบพยาบาลแล้วอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งเอาไว้ก็กลายเป็นภาพสุดโด่งดังบนโลกออนไลน์ของไต้หวัน Jane Lana จนล่าสุด ชายหนุ่มทั้งหลายจะได้เชยชมความงดงามของ Jane Lana พยาบาลสาวคนนี้ได้อย่างจุใจแล้ว เพราะว่า เธอได้ถ่ายแบบลงหนังสือภาพหรือ Photo Book ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย จากพยาบาลสาวที่ดูแลคนไข้อยู่ในโรงพยาบาล ด้วยกระแสของโลกออนไลน์ทำให้เธอผันตัวมาเป็นนางแบบบน Photo Book ซึ่งมีทั้งภาพความงามภายนอกและ “ภายใน” ของเธอกันเลยทีเดียว Jane Lana กับ Photo Book ของเธอ น่าหามาเชยชมจริงๆ อวยกันมาขนาดนี้ จะไม่ให้เห็นภาพถ่ายของเธอก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย เอาเป็นว่าเราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายสุดงดงามและเซ็กซี่ของ Jane Lana ใน Photo Book ของเธอกันหน่อยดีกว่า ลุย!!! อะเฮือกกก~ . . . โมเมนต์ใสๆ กับ…
-
หนุ่มนักอ่านหยิบหนังสือที่มี ออกมาเรียงเป็น “ภาพล้ำๆ” ตามแต่จะจินตนาการ!!
ว่ากันว่าหนังสือจะช่วยเสริมสร้างทั้งความรู้และจินตนาการ และวันนี้ชายวัย 24 ปีที่ชื่อว่า James Trevino ก็เกิดจินตนาการล้ำเลิศจากการที่เขาสะสมหนังสือเอาไว้เป็นจำนวนมาก หนุ่มนักอ่านคนนี้จึงหยิบหนังสือหลายๆ เล่มออกมาวางเรียงกันให้เกิดเป็นภาพอันงดงาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะแนวใหม่จากของที่มีอยู่ในบ้านเลยก็ว่าได้ มันจะออกมาเป็นอย่างไร และจะน่าสนใจขนาดไหนเราคงต้องไปชมพร้อมๆ กันแล้วล่ะนะ!! 1. คาถา Expecto Patronum จาก Harry Potter หรือเปล่าน้า? 2. เครื่องรางยมทูตจาก Harry Potter 3. ตัวละครจาก Supernatural ล่ะ 4. Pirates of the Caribbean ก็มานะเออ 5. จะว่าไปหนุ่มคนนี้มีความคิดสร้างสรรค์น่าดูเลยนะเนี่ย 6. การเล่น Quidditch ใน Harry Potter 7. มาเป็นปีกใหญ่ๆ เท่ๆ แบบนี้เลย 8. ดวงตาแห่งเซารอนจาก…
-
นักจิตบำบัดใช้ประสบการณ์ของตน เสียดสีพฤติกรรมมนุษย์ด้วย “หน้าปก” หนังสือ
หลายครั้งที่เราเข้าไปยังร้านขายหนังสือ เราก็จะเห็นหนังสือต่างๆ ที่เป็นประเภทสอนให้ใช้ชีวิตหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิตด้วยตนเอง หารู้ไม่ว่าเหล่านักจิตบำบัดทั้งหลายยังมองว่าหนังสือประเภทนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก เพราะมันทำสำเร็จได้ยาก แต่นักจิตบำบัด Johan Deckmann ทำบางอย่างออกมาได้น่าสนใจยิ่งนัก เขาได้วิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์และเขียนออกมาเป็น “ชื่อของหนังสือ” เชิงสอนแก้ไขปัญหาและดำเนินชีวิต และมันก็กลายเป็นมุกตลกเสียดสีสังคมมนุษย์ไปเสียอย่างนั้น และแม้ว่าชื่อหนังสือของ Deckmann จะอยู่ระหว่างมุกตลกกับมุกเสียดแทงพฤติกรรมมนุษย์ แต่การเล่นสีและตัวอักษรกลับเรียบง่าย จึงทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วสะท้อนภาพของตัวเองออกมาว่ามีพฤติกรรมแบบนั้นจริงหรือไม่ ลองมาดูชื่อหนังสือของ Deckmann กันเลยดีกว่าว่าจะมีหนังสือเรื่องอะไรบ้าง… 1. วิธีการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยการลดมาตรฐานของคุณลง 2. วิธีใช้ชีวิตคู่กับคนที่ไม่ใช่เพราะดีกว่าต้องเป็นโสดลำพัง 3. ฉันในโลกโซเชียลมีเดีย (เล่มใหญ่) ตัวฉันจริงๆ (เล่มเล็ก) 4. ทำยังไงให้แยกน้ำเปล่ากับว้อดก้าไม่ออก 5. วิธีการใช้ชีวิตของตัวคุณเองให้เป็นไปตามคำนิยามจากผู้อื่นว่าคุณเป็นอย่างไร 6. วิธีการเพิ่มพูนมูลค่างานศิลป์ของคุณด้วยการลาโลก 7. เงียบอย่างไรให้ผู้อื่นคิดว่าคุณฉลาด 8. วิธีการก่อความผิดพลาดแบบเดิมซ้ำๆ แต่ยังคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง 9. วิธีสร้างความพึงพอใจในสิ่งธรรมดา ทั้งที่ทุกสิ่งที่ต้องการมันเกินคำว่าธรรมดาไปเยอะเลย 10. วิธีการสร้างกำแพงกั้นเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำความรู้จักคุณ…
-
17 ของขวัญ ของฝากสุดครีเอทีฟ ที่เหมาะกับการมอบให้กับเหล่า ‘หนอนหนังสือ’ สุดๆ
“หนอนหนังสือ” คือคำทีี่เอาไว้ใช้เรียกกลุ่มคนที่ชื่นชอบและรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ พวกเขามักจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองและนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ทั้งวัน และการที่เราจะหาของขวัญไปให้พวกเขาในเนื่องจากวันเกิดหรือวันพิเศษอะไรต่างๆ เราอาจที่จะเลือกไม่ถูกว่าจะเอาอะไรดี ซึ่งปกติที่เราจะนึกออกก็คงไม่พ้นหนังสือต่างๆ แต่ว่าหากเราจะทำเซอร์ไพรส์พวกเขา เราก็ไม่สามารถไปถามเขาว่าอยากได้หนังสือเรื่องอะไรอยู่ ดังนั้นการซื้อของจิปาถะอื่นๆ ที่เข้ากับสไตล์ของพวกเขานั้นดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ อีกทางหนึ่ง เพราะนอกจากพวกเขาจะได้ของที่ไว้ใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้แล้ว เรายังไม่เลี่ยงการซื้อหนังสือไปซ้ำกับพวกเขาได้อีกด้วย และวันนี้จะมีของขวัญหรือของฝากอะไรที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันบ้างนั้น เพื่อนๆ ลองไปดูพร้อมๆ กันกับพวกเราเลยดีกว่าครับ ไปกันเล้ยยยยยย 1. โคมไฟหนังสือพับเก็บได้ เก๋ๆ ราคาประมาณ 1,500 สั่งได้ที่นี่ 2. หรือจะเป็นโคมไฟหนังสืออีกแบบก็ดูสวยดี ราคาประมาณ 3,400 บาท ซื้อได้ที่นี่ 3. ที่คั่นหนังสือเรืองแสงก็ดูเข้าที ราคาประมาณ 1,100 บาท สั่งได้ที่นี่ 4. ที่คั่นอันนี้ก็ดูเจ๋งโคตรๆ ราคาประมาณ 800 บาท สั่งได้ที่นี่ 5. หรือถ้าใครติ่ง Harry Potter ก็จัดเข็มกลัดหนังสือไปเล้ย ราคาประมาณ 300…
-
เหมาะสมหรือไม่ ความเห็นของชาวต่างประเทศต่อหนังสือเพศศึกษาเด็กที่มีภาพสมจริง
The Amazing True Story of How Babies Are Made (เรื่องจริงที่น่าทึ่งของการให้กำเนิดเด็ก) เป็นหนังสือภาพผลงานของ Fiona Katauskas นักวาดการ์ตูนชาวออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการวางขายอยู่ใน Kmart ในฐานะหนังสือ “สำหรับเด็ก” หนังสือภาพเล่มที่ว่านั้นได้กลายเป็นกระแสใหญ่โตในโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Auburn 2144 ได้ออกมาให้ความเห็นว่าหนังสือเล่มที่ว่านั้นไม่เหมาะสมสำหรับการขายในฐานะหนังสือสำหรับเด็กเป็นอย่างมาก เนื่องจากภาพที่มีความสมจริงเป็นอย่างมาก และการใช้คำของหนังสือ Auburn 2144 กล่าวว่า “โอเคคค… ใครก็ได้บอกทีว่าทำไมหนังสือแบบนี้ถึงไปขายอยู่ใน Kmart ออสเตรเลีย ในฐานะหนังสือเด็กได้ ดูที่ภาพกับการใช้คำสิ” ในหนังสือนั้น มีการวาดภาพการร่วมเพศของหนุ่มสาวอย่างชัดเจน และมีการบรรยายด้วยการใช้คำที่ค่อนข้างจะตรง แม้ไม่มีการใช้คำหยาบ แต่ก็ใกล้เคียงกับความเป็นหนังสือสำหรับการเรียนการสอนเสียมากกว่าการเป็นหนังสือภาพอยู่มาก การใช้คำในหนังสือนั้นมีทั้งการใช้คำว่า “เซ็กส์” “Penis” (องคชาต) “Vagina” (ช่องคลอด) อีกทั้งยังมีการบรรยายการร่วมเพศอย่างชัดเจนทั้งการแข็งตัว และการเปียกแฉะ ชาวเน็ตที่ต่างประเทศนั้นให้ความเห็นกับหนังสือเล่มนี้ แยกออกเป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ คือเหล่าคนที่สนับสนุนหนังสือที่มีเนื้อหาตรงตัวและถูกต้องตามความเป็นจริง แม้เป็นหนังสือเด็กก็ตาม และฝั่งที่คิดว่าหนังสือเล่มที่ว่านี้ อาจจะเร็วเกินไปสำหรับเด็กๆ…
-
20 ภาพประกอบหนังสือเด็ก ที่เห็นแล้วต้องตั้งคำถามว่า… มันเป็นหนังสือเด็กจริงๆ ดิ!?
หนังสือภาพเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็กหลายๆ คนในสมัยที่ยังไม่มีมือถือ หรือแท็บเล็ตให้เล่นกันแบบในปัจจุบัน มีการวิจัยออกมาเปิดเผยว่า… จำนวนหนังสือในบ้านมีผลกระทบอย่างมาก ต่อความสำเร็จทางการศึกษาของเด็กๆ อาจเทียบเท่าได้กับการศึกษาของพ่อแม่ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของครอบครัว หรือแม้แต่ประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่เลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าหนังสือทุกชนิดจะมีประโยชน์กับเด็กๆ เสมอไป เพราะมันยังมีหนังสือแปลกๆ ที่ไม่ว่าจะดูกี่ที ก็เกิดคำถามว่าผลิตออกมาได้อย่างไร มันจะเหมาะกับเด็กจริงๆ เหรอ? ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ก็ลองดูจากหนังสือภาพเด็ก 20 ภาพต่อไปนี้ดูนะครับ… ยามเช้าที่อึดอัด ดีกว่าราตรีอันเดียวดาย… แล้วถ้าเราชอบราตรีอันเดียวดายมากกว่าล่ะ ไม่อยากอึดอัดอ่ะ ผมกำลังเล่นเป็นอึที่คุณเบ่งออกมา ไม่มีอะไรเล่นแล้วสินะ เพื่อนป๋มเดี้ยงหมดแย้ว ก็ไดโนเสาร์นี่นะ พลัง… คลื่น… ตด!! ผมอยากกินเด็กจริงๆ นะ เชื่อแล้วจ้าาาา เพื่อนทั้งหมดของฉันจะกินเพื่อนๆ ที่ตายไปของเธอ มันก็แค่สิ่งที่เราทำกันประจำ ก็เป็นผู้ย่อยสลายในห่วงโซ่อาหารนี่นาาา แตะที่วัว… เดี๋ยวนี้ หนังสือภาพผู้มาก่อนกาลเทคโนโลยีทัชสกรีน ทุกๆ คนต้องอึ… แม้แต่แอปเปิลก็ด้วยเรอะ!? ทุกๆ สิ่งที่ฉันอยากทำ มันผิดกฎหมาย…
-
สาวบังเอิญเจอ ‘แฮร์รี่ฯ ฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก’ ในร้านรับบริจาค ตีมูลค่าได้ 2.6 ล้านบาท!?
ย้อนกลับไปในสมัยที่หนังสือ Harry Potter วางขาย ใครจะคาดคิดว่าหนังสือเรื่องดังกล่าวจะโด่งดังจนกลายเป็นหนังออกมาถึง 8 ภาคหลัก และมีหนังยาวสปินออฟออกมาอีก จนทำให้หนังสือดังกล่าวที่เป็นฉบับแรกมีราคาสูงขึ้นและเป็นที่หมายตาของนักสะสม และด้วยความที่มันเก่ามากๆ กว่าจะเป็นที่ต้องการ คนก็นำไปบริจาคกันเยอะ จึงทำให้มีหนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรกโผล่ไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างไม่ตั้งใจ เช่นเดียวกับที่ Hayley Malsom วัย 21 ปี จากประเทศอังกฤษ ที่ดันบังเอิญเจอเข้ากับขุมทรัพย์นี้ Hayley เล่าว่าเธอเดินทางไปยัง British Heart Foundation เพื่อตามหาหนังสือเก่าๆ ราคาดีสักสองสามเล่ม ซึ่งที่นั่นเธอก็ได้เจอกับหนังสือฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกของ Harry Potter จำนวนสามภาคด้วยกัน ประกอบด้วย The Goblet of Fire, The Order of the Phoenix และ The Half-Blood Prince เธอซื้อหนังสือทั้งหมดมาด้วยราคาเพียง 3 ปอนด์หรือประมาณ 130 บาท…
-
การเดินทางของต้นฉบับ Alice in Wonderland จากงานเขียนสู่ของขวัญในการร่วมรบของอังกฤษ
สำหรับใครที่เป็นแฟนๆ นิยายล่ะก็ อาจจะคุ้นชื่อของหนูน้อย Alice กันเป็นอย่างดี เรื่องราวการผจญภัยของสาวน้อยในโลกแห่งจินตนาการที่เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นหนึ่งในนิยายที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้เพื่อเอาใจแฟนคลับสาวน้อยรายนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับนวนิยายแฟนตาซี Alice in Wonderland และประวัติของหญิงสาวผู้เป็นแรงบันดาลใจในการให้กำเนิดสาวน้อย Alice มาฝากกัน… เรื่องราวการผจญภัยของหนูน้อย Alice ในดินแดนมหัศจรรย์นั้นถูกเขียนขึ้นในปี 1856 โดยนักเขียน ช่างภาพ และนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ Charles Lutwidge Dodgson Dodgson เกิดและเติบโตมาจากมลฑล Cheshire ประเทศอังกฤษ โชคร้ายที่เด็กชาย Dodgson เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางการได้ยิน และโรคทางระบบประสาทที่ส่งผลให้เขามองเห็นสิ่งรอบตัวมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กกว่าปรกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ความผิดปรกติเหล่านั้นไม่อาจจะหยุดยั้งความอัจฉริยะของเด็กน้อยได้ และดูเหมือนว่าโรคทางระบบประสาทนั้นจะช่วยส่งเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์ให้กับเขา และมันอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้เขาจินตนาการถึงดินแดนมหัศจรรย์ของสาวน้อย Alice ขึ้นมาก็เป็นได้ ในช่วง 3 ปี ก่อนที่นิยายการผจญภัยของสาวน้อย Alice จะถูกตีพิมพ์ Dodgson ได้ออกไปล่องเรือในวันหยุดกับเพื่อนของเขาและเด็กน้อยอีก 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนูน้อย Alice Liddell วัย 10 ขวบ นักเขียนหนุ่มเล่าเรื่องนิยายการพจญภัยของสาวน้อย Alice ที่ลงไปในโพรงกระต่าย และได้พบกับดินแดนมหัศจรรย์ให้เด็กน้อยทั้ง 3 ฟัง…
-
มาดูหนังสือ ‘กามสูตร’ ในยุคล่าแม่มด ที่มีแต่คำแนะนำและความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ
สิ่งที่จะทำให้เราพอคาดเดาได้ว่าในยุคสมัยอดีต มีบริบทแวดล้อมแบบใด ผู้คนมีความเชื่อและค่านิยมอะไรกันบ้างนั้น ก็คงหนีไม่พ้น “หนังสือ” เพราะมันเป็นหลักฐานที่ปรากฏขึ้นด้วยลายลักษณ์อักษร ที่มักสะท้อนให้เห็นถึงบริบทแวดล้อมของสมัยนั้นๆ และวันนี้ หนังสือเล่มหนึ่งจากปี 1720 ได้ถูกพบและเผยว่าคนในยุคสมัยนั้นมีความเชื่ออย่างไรกันบ้าง ทว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่อง “ทางเพศ” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อแปลกๆ ของชาวอังกฤษสมัยที่พระเจ้าจอร์จเป็นกษัตริย์ แถมหนังสือเล่มนี้ยังมีราคาประมูลหลายพันบาท ผลงานการเขียนชิ้นเอกของ อริสโตเติล นี้ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสกปรกที่สุดในช่วงเวลาที่มันถูกตีพิมพ์ขึ้น ด้วยอายุเกือบ 300 ปีของมัน หนังสือเล่มนี้จึงเผยให้เห็นถึงทัศนคติของผู้คนที่มีต่อเรื่องทางเพศ ในยุคสมัยที่สหราชอาณาจักรบริเตนยังมีการล่าและเผาแม่มดอยู่ ในหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับเคล็ดลับแปลกๆ เพื่อทำให้เพศหญิงสามารถหลีกเลี่ยงการให้กำเนิดทารกที่น่าเกลียดได้ พร้อมทั้งคู่มือการปฏิบัติตนขณะร่วมเพศ และยังมีการแนะนำให้เพศชายทานเนื้อ นกสีดำ และนกกระจอก ก่อนที่จะแต่งงาน เพื่อให้มีน้ำเชื้อที่แข็งแรง และสามารถมีลูกได้มากมาย คู่มือทางเพศเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1684 แต่ถูกสั่งห้ามมาตลอดจนกระทั่งในช่วงปี 1960 หนังสือเล่มนี้ถูกพบในโรงประมูล เนื้อหาภายใน แนะนำว่า เพศหญิง ซึ่งถือเป็นเพศที่ชื่นชอบและหมกมุ่นในกาม หากต้องการลูกชายให้นอนตะแคงขวาหลังมีเพศสัมพันธ์ และกลับกัน หากต้องการลูกสาวให้นอนตะแคงซ้าย ซ้ำยังบอกว่า เพศชาย นั้นเป็นเพศที่มหัศจรรย์ และเป็นเพศที่อยู่เหนือทุกสิ่งบนโลก น้ำเชื้อของเพศชายถือว่าเป็นของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ที่มากับจิตวิญญาณแห่งชีวิต หนังสือเล่มนี้จะถูกนำไปประมูลอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2018 ในหมู่บ้าน Etwall ในเขตดาร์บิเชอร์ของอังกฤษ…
-
22 พฤติกรรมของ “หนอนหนังสือ” ที่คนธรรมดาจะไม่เข้าใจ แต่เหล่าคนรักการอ่านนั้นรู้ดี…
คนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจมักจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่แตกต่างจากคนทั่วไป หลักๆ ก็คือพวกเขามีความรักการอ่านที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปจนเทียบไม่ติดเลยนั่นแหละ คนที่ไม่ใช่คอหนังสืออาจะทำความเข้าใจคนชอบอ่านได้ยาก วันนี้เราเลยลองรวบรวมพฤติกรรมและนิสัยบางอย่างที่คนชอบอ่านหนังสือน่าจะเป็นกันมาให้ทุกคนได้ดู เจอกันคราวหน้าจะได้เข้าใจพวกเขามากยิ่งขึ้น 1. ว่าด้วยเรื่องการชอปปิ้ง แทนที่จะเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ หรือของใช้เหมือนคนทั่วไป พวกเขาคิดว่าเก็บเงินไว้ซื้อหนังสือนี่แหละดีที่สุด 2. บางครั้งเราก็รู้สึกว่าการได้อ่านหนังสือเงียบๆ มีความสุขกว่าการออกไปสังสรรค์พูดคุยกับคนหมู่มากเสียอีก 3. แม้ว่าจะอ่านหนังสือเล่มเก่าจนจบหมดแล้ว แต่ก็ทำใจทิ้งมันไม่ลงอยู่ดี ขอยอมให้หนังสือกองท่วมบ้านยังดีซะกว่า 4. เมื่อคุณเข้าสู่โลกของการอ่านแล้ว ไม่ว่าจะโจรขึ้นบ้าน ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือโลกแตกก็ไม่สามารถฉุดคุณให้หยุดอ่านได้ 5. นักอ่านตัวจริง ต้องอ่านหนังสือได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า หรือตอนว่างจากการทำงาน 6. ถ้าเกิดหนังสือเล่มไหนถูกเอาไปทำเป็นภาพยนตร์ แต่พวกเขายังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นก่อน ก็จะไม่มีวันไปดูภาพยนต์เรื่องนั้นจนกว่าจะได้อ่านหนังสือจบเด็ดขาด 7. สำหรับคนที่เป็นแฟนของคนชอบอ่านหนังสือ คุณไม่จำเป็นต้องหาเรื่องคุยกันตลอดเวลาก็ได้ แค่นั่งเป็นเพื่อนเธอตอนเธออ่านหนังสืออยู่ก็ได้ใจเธอไปเต็มๆ แล้ว 8. หนังสือแต่ละเล่มเปรียบเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง แม้ว่าเราจะใช้เวลาด้วยกันมาไม่มาก แต่เธอจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป 8. ด้วยความที่อ่านหนังสือมามาก เวลาจะจีบใครสักคน หนอนหนังสือมักจะมีสกิลในการพูดจาไพเราะเพราะพริ้งเหมือนกับบรรยายฉากรักอยู่เลย แต่บอกไว้ก่อนว่าเราพูดไม่ค่อยเก่งหรอกนะ 9. คนรักการอ่านจะต้องจัดเวลาว่างให้ตัวเองได้อ่านหนังสือเสมอ ถ้าหากเพื่อนชวนไปเที่ยวแต่ไม่ได้อ่านหนังสือล่ะก็…
-
ความป่วนชวนฮาสไตล์ ‘บรรณน่ารัก’ ก็อยู่ห้องสมุดมันว่าง อยากแกล้งคนแบบน่ารักๆ บ้าง!!
บรรณารักษ์เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุด ที่คอยดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของทั้งหนังสือและคนใช้ห้องสมุดด้วย หลายคนจึงมองว่าพวกเขาเป็นคนเข้มงวดมากๆ ไหนจะแต่งตัวในสไตล์เจ้าระเบียบอีก แต่ลึกๆ แล้วบรรณารักษ์ที่คุณเคยเจออาจจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมากคนหนึ่งเลยก็ได้ เพียงแต่พวกเขาต้องรักษากฎระเบียบของห้องสมุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ก็เลยห้ามไม่ให้คุณคุยเสียงดัง หรือไม่มาคุยเล่นกันในห้องสมุดแค่นั้นเอง วันนี้เราได้รวบรวมความน่ารักที่เหล่าบรรณารักษ์เตรียมไว้ในห้องสมุดให้ผู้อ่านได้คลายเครียดกัน พอคุณเห็นแล้วจะรู้สึกว่าการหยอกล้อเหล่านี้ช่างเต็มไปด้วยความเป็น ‘บรรณน่ารัก’ จริงๆ ตอนแรกก็งงที่เข้าห้องสมุดไปเจอแพนด้าทำงานอยู่ ที่แท้ก็แค่ใส่หมวกนี่เอง หลายคนมักจะเข้าไปถามหาหนังสือจากบรรณารักษ์ แต่ดันจำชื่อหนังสือไม่ได้ จำได้แค่สีเท่านั้น บรรณารักษ์เลยจัดโซนหนังสือสีแดงให้ซะเลย และก็แถมให้อีกโซนหนึ่งสำหรับหนังสือสีฟ้าด้วย หนังสือสีไหนก็ไปหากันเอาเลย รู้ไหมทำไมไดโนเสาร์ถึงสูญพันธุ์? เพราะพวกมันไม่อ่านหนังสือไงล่ะ ถ้าไม่อยากสูญพันธุ์ก็อ่านหนังสือซะนะ มุมหนังสือลึกลับจริงๆ ด้วย ลึกลับจนไม่รู้เลยว่าหนังสือเล่มไหนเป็นเรื่องอะไร พี่บรรณารักษ์แกเล่นหันสันเข้าไปด้านในหมดเลย รู้สึกหนาวเหรอ? มาเอาหนังสือไปอ่านสักเล่มสิ! ถึงมันจะไม่ช่วยให้คุณหายหนาว แต่อย่างน้อยก็มีหนังสืออ่านนะ บรรณารักษ์ท่าจะว่างจัด เรียงชั้นหนังสือให้เป็นวิวซะเลย เหมือนมองกระจกเงาอยู่ยังไงยังงั้น จ๊ะเอ๋ ตกใจรึเปล่า (เอามาใส่ไว้ทำม๊ายยย) ถ้าคุณกำลังมองหาอาวุธอยู่ล่ะก็ ‘หนังสือ’ นี่แหละเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในโลก ทิ้งคอมฯ ไว้แป๊บเดียว กลับมาเจอการ์ดเตือนระวังของหายจากบรรณารักษ์ “คราวหน้าคนที่มาเจออาจจะเป็นขโมยก็ได้…”…
-
ตำราคุมโทนสีแต่กาลก่อน Werner’s Nomenclature of Colours สำหรับศิลปินและนักธรรมชาติวิทยา
การสร้างผลงานศิลปะทั้งภาพเขียนและภาพถ่ายนั้น ปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ “สี” เพราะสีจะทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา มีมิติ และสะท้อนอารมณ์ของภาพได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันยังมีการถ่ายภาพที่เน้นเรื่องการกำหนดสีที่เรียกกันว่า “คุมโทน” ซึ่งเป็นวิธีการถ่ายภาพที่นิยมมากทีเดียว แต่ทราบหรือไม่ว่า มีตำราคุมโทนสีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ก่อนที่จะมีกล้องถ่ายรูปเสียอีก Werner’s Nomenclature of Colours คือหนังสือที่รวบรวมสีต่างๆ บนโลกมาจัดกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นโทนๆ เพื่อใช้สำหรับเป็นแนวทางให้กับศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และนักมานุษยวิทยา หนังสือเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 ในหนังสือจะไม่มีภาพประกอบ (เพราะยังไม่มีกล้องถ่ายรูป) แต่มีเพียงตัวอย่างสีกับคำอธิบายถึงสีนั้นๆ ว่าสามารถพบเห็นได้ที่ไหน คุมโทนไหมล่ะ มีตัวอย่างกำกับว่าสีต่างๆ สามารถพบเจอได้ที่ไหน จำแนกสีได้อย่างละเอียดเลยทีเดียว ระบบการจำแนกสีถูกคิดค้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักแร่วิทยาชาวเยอรมันชื่อว่า Abraham Gottlob Werner แต่หลังจากนั้นเขาก็มีการเปรียบเทียบสีต่างๆ กับพืช สัตว์ และสิ่งของเพื่อกำหนดชื่อให้สีเหล่านั้น โทนส้ม โทนน้ำเงินก็ว่ากันไป ส่วนนี่ก็โทนเขียว จัดเรียงอย่างสวยงาม …
-
นักวิทย์สามารถไขรหัสลับอายุกว่า 500 ปี จากคัมภีร์ลึกลับที่สุดในโลกได้สำเร็จแล้ว
Voynich Manuscript หรือว่า “ข้อเขียนวอยนิช” นั้นถือว่าเป็นหนังสือโบราณที่เขียนด้วยอักษรและภาษาที่ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้พยายามอ่านมันมาเป็นเวลาหลายปี ขณะนี้มีข่าวออกมาว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มถอดความข้อเขียนวอยนิชออกแล้ว ทำการศึกษาโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าภาษาที่เขียนในหนังสือเล่มนี้นั้นเป็นภาษาฮิบรู หนังสือเล่มนี้ถูกนำเข้ามาในโปแลนด์ตั้งแต่ปี 1912 โดยนักสะสมหนังสือหายากชื่อว่า Wilfrid Voynich เนื้อหาและที่มาของหนังสือนั้นยังไม่มีใครทราบ แต่หลายคนเชื่อว่ามันถูกเขียนขึ้นในอิตาลีช่วงยุคสมัยฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรม มีรายงานจาก Metro ว่า Greg Kondrak หัวหน้าผู้ศึกษาข้อเขียนวอยนิชได้กล่าวว่า “มันถูกเขียนออกมาเป็นประโยคที่มีหลักไวยากรณ์ มันอาจจะดูแปลกๆ แต่มันสมเหตุสมผล” กลุ่มผู้ศึกษาลองใช้โปรแกรมถอดรหัสทางสถิติเพื่อตีความประโยคแรกของข้อเขียน ซึ่ง Kondrak ออกมาเผยว่ามีความถูกต้องถึงร้อยละ 97 โดยทางกลุ่มผู้ศึกษาเองได้ออกมายอมรับว่าพวกเขาสามารถจำแนกศัพท์บางคำได้แล้ว เช่นคำว่า ชาวนา แสง และอากาศ เป็นต้น และเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญภาษาฮิบรูจะสามารถนำมันไปตีความได้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีคนบอกว่าข้อเขียนวอยนิชนั้นเป็นของที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อหลอกลวง แต่จากการวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วพบรูปแบบของภาษาจาก ศตวรรษที่ 15 ที่ไม่น่าปลอมแปลงขึ้นมาได้ เป็นการค้นพบที่น่าอัศจรรย์มาก หวังว่าในวันข้างหน้าจะสามารถถอดความเนื้อหาของมันได้นะครับ อาจจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้นที่ทำให้มนุษยชาติต้องสะทกสะท้านก็เป็นได้ ที่มา: Ladbible และ…
-
หนังสือเรียนของเด็กประถมสมัย 100 ปีก่อน ทำไมมันมีแต่รูปแมว แมว แมว เต็มไปหมดเลย
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้พัฒนามาถึงขั้นที่สามารถรับรู้ได้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว พูดได้เลยว่าอินเตอร์เน็ตนั้นสามารถให้ความบันเทิงให้กับเราได้ทุกรูปแบบ ทำให้เราได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่ก่อนที่ยุคของอินเตอร์เน็ตจะมาถึง เราก็คงจะคุ้นเคยกับการติดตามข่าวสารต่างๆ ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งในยุคก่อนนั้นวงการของสื่อสิ่งพิมพ์นับได้ว่าเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นทางเดียวที่จะสามารถเสพความบันเทิงและข่าวสารต่างๆ ได้ เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ ได้มีการค้นพบหนังสือสุดน่ารักที่ถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1911 เป็นหนังสือที่ #เหมียวบู้บี้ รับรองได้ว่าทาสแมวทั้งหลายจะต้องอยากได้มาสะสมแน่ๆ หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า Kittens and Cats อ่านแค่ชื่อก็รู้เลยว่าต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับแมวชัดๆ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพที่เต็มไปด้วยรูปภาพของแมว และมีบทความนิทานเกี่ยวกับแมวอยู่ทุกหน้า แบ่งเป็นบทๆ คาดว่านี่อาจจะเป็นหนังสือหัดอ่านของเด็กประถมก็ได้ จากการอ้างอิงของ Public Domain Review ภาพทั้งหมดจากหนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นฝีมือของ Harry Whittier Fress แต่ก็มีผู้คนสงสัยว่าเทคโนโลยีของกล้องสมัยนั้นดีขนาดที่ถ่ายสัตว์เหล่านี้แบบนิ่งๆ ได้ด้วยหรือ มันต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่ๆ ถึงแม้จะใช้วิธีใดหลอกล่อแมวให้ถ่ายรูปได้ก็ตาม แต่เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น เราสนใจแต่ความน่ารักของเจ้าเหมียวต่างหากล่ะ ดูสิ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยมันก็น่าฟัดซะเหลือเกิน มาดูรูปภาพกันเลยดีกว่า . . เพลินๆ เลยเนาะ ไปดูฉบับเต็มๆ กันเลยที่ publicdomainreview จะได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ด้วยนะเธอ ที่มา mentalfloss, publicdomainreview
-
ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ของ Jean-Dominique Bauby ชายผู้กระพริบตาเขียนหนังสือ ‘ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ’
บางครั้งความไม่สมบูรณ์แบบของร่างกาย และความทุพพลภาพนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของมนุษย์ และบางคนก็เลือกที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่ทว่าคุณ Jean-Dominique Bauby นักหนังสือพิมพ์ นักเขียนชื่อดังชาวฝรั่งเศสผู้นี้กลับไม่คิดแบบนั้น เขาลุกขึ้นสู้และเขียนหนังสือขายดีออกมาได้ ถึงแม้เขาจะสามารถทำได้แค่กระพริบตาข้างซ้ายเท่านั้น วันที่ 8 ธันวาคมปี 1995 Jean-Dominique ชายวัย 43 ปี บรรณาธิการของนิตยสารชื่อดังอย่าง ELLE ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลด้วยการการเส้นเลือดในสมองแตก เขาสลบไปนานถึง 20 วัน หลังจากตื่นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองอยู่ในอาการอัมพาตทั้งตัวหรือที่เรียกว่า Locked-in syndrome ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างมาก แต่ตอนนี้นักเขียนและบรรณาธิการชาวฝรั่งเศสผู้นี้กลับต้องใช้ชีวิตอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในตอนนี้ร่างกายของเขาเหลือเพียงแค่การรับรู้ และสามารถโต้ตอบด้วยการกระพริบตาเท่านั้น ในสถาณการณ์ที่ชีวิตต้องอยู่ในจุดที่ต่ำสุด สิ่งต่างๆ ที่เคยทำได้กลายเป็นแค่เพียงอดีต ในตอนนี้บางคนอาจจะตัดสินใจที่จะขอยอมแพ้และไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่สำหรับชายวัย 43 ปีผู้นี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เขาตัดสินใจที่จะเขียนเล่าเรื่องราวของตัวเอง!! หนังสือ The Diving Bell and the Butterfly หรือ ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ งานเขียนจากนักเขียนผู้เป็นอัมพาตทั้งตัว หลังจากที่เริ่มเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดในหัวของตัวเอง Jean-Dominique ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาผ่านการกระพริบตาเพื่อสื่อสารกับคนเขียน โดยให้คนท่องชุดตัวอักษรที่เรียงตามความถี่ในการใช้ในภาษาฝรั่งเศส และ Jean-Dominique จะกระพริบตาเมื่อถึงตัวอักษรที่เขาต้องการ หนังสือเล่มนี้เปรียบเหมือนแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย มันทำให้คนที่หมดหวังและท้อแท้กล้าที่จะหลุดออกจากชุดประดาน้ำและกลายเป็นผีเสื้อ…
-
ผลงานน่ารักๆ ของศิลปินสาวผู้เปลี่ยนหนังสือเก่าๆ ให้กลายเป็นงานฝีมือสุดกิ๋บเก๋
หนังสือเก่าที่ไม่ได้ใช้ของเรามักถูกวางทิ้งไว้บนชั้นโดยไม่มีใครสนใจหรืออาจถูกทิ้งขว้างไปเลย แต่ศิลปินสาวคนนี้ได้เกิดไอเดียกลายร่างให้กับหนังสือเหล่านั้น จนมันออกมาเป็นงานประดิษฐ์สุดน่ารักกิ๊บเก๋ ประติมากรกระดาษคนนั้นมีชื่อว่า Malena Valcárcel ผู้อาศัยอยู่ในนครอาลีกันเต ประเทศสเปน เธอเล่าว่าตัวเองเป็นคนที่รักหนังสือและชอบอ่านมากๆ เธอจึงนำหนังสือที่ถูกทิ้งจากร้านหนังสือมือสองหรือห้องสมุดในสภาพที่ไม่สามารถกลับมาอ่านได้เหมือนเดิม มาเปลี่ยนให้มันกลายเป็นของตกแต่งสวยๆ เธอนำผลงานต่างๆ เหล่านี้ออกขายในเว็บไซต์ Etsy มาตั้งแต่ปี 2012 เราไปดูกันเลยว่าแต่ละชิ้นมันจะน่ารักเก๋ไก๋มากขนาดไหน เจ้านกฮูกตัวจิ๋วมาแล้วจ้าาา บ้านหลังน้อย ที่น่าจะกำลังมีคนทำอาหารอยู่ด้านใน ฟังเพลงกันหน่อยมั้ยพวกเรา แต่ต้องเงียบนิดนึงนะ ลำโพงมันเล็ก เติมแสงสีเข้าไปในผลงาน ยิ่งทำให้มันดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น บ้านต้นไม้ที่ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นไปไม่ได้เพราะเขามีบันไดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ชั้นวางหนังสือจิ๋ว และหนังสือที่จิ๋วกว่า ที่ทำมาจากหนังสือ?! เก็บรายละเอียดกระทั่งขนนกเลยนะ นำหนังสือเก่ามาเป็นเครื่องแต่งกายตุ๊กตาตัวน้อยของเราก็ไม่เลว รองเท้าดอกไม้สำหรับคนมีคู่ เพราะมันมาเป็นคู่ ถึงจะเป็นม้าหมุนแต่ก็อย่าไปหมุนแรงนะเดี๋ยวขาด สวยงามราวกับชุดแต่งงานราคาแพง รองเท้าซินเดอเรลล่าหรือเปล่านะ? เพิ่งรู้นะว่าทำมาจากกระดาษไม่ใช่แก้ว ใกล้ช่วงคริสต์มาสแล้ว สามารถมีติดบ้านกันไว้ได้ มืดแล้ว เปิดไฟหน่อยนะ …
-
คุณยายซื้อหนังสือนิทาน “สัตว์พูดได้” มาฝากหลาน แต่เนื้อหาข้างในโคตรติดเรทเหลือเกิน
คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “อย่าตัดสินหนังสือเพียงเพราะหน้าปก” ไหม? หลายคนนั้นอาจจะไม่เชื่อคำดังกล่าว แต่ถ้าคุณได้อ่านเรื่องราวในครั้งนี้ คุณจะต้องจำคำนี้ไปจนวันตายอย่างแน่นอน… เรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของ Tiffany คุณแม่ลูกสาม โดยเธอได้เล่าว่าวันหนึ่งลูกๆ ของเธอก็ได้หนังสือหน้าตาน่ารักจากคุณยาย ซึ่งถ้าเรามองผ่านๆ ก็คงคิดว่ามันไม่มีอะไรโดยเฉพาะ Tiffany ที่ดูจะแฮปปี้สุดๆ เมื่อลูกๆ ได้อ่านหนังสือและเธอก็ชื่นชอบซื้อหนังสือให้ลูก ครอบครัวของ Tiffany และลูกๆ ของเธอ และนี่ก็คือคุณตาคุณยาย ทว่าหนังสือดังกล่าวที่คุณยายได้ซื้อให้เป็นของขวัญน้องหนู Emmersyn วัย 6 ขวบนั้น มันกลับเป็นดุจดั่งฝันร้ายของพ่อแม่ เพราะว่าหน้าปกจะเป็นสัตว์น่ารักๆ พร้อมกับชื่อหนังสือน่าสนใจว่า “ถ้าสัตว์พูดได้” แต่เชื่อเหอะว่าข้างในไม่น่ารักตามเลย ดูจากปกคิดว่าข้างในจะเป็นยังไง? Tiffany เล่าว่าเธอมารู้ก็ตอนที่จะอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวให้ลูกๆ ฟัง โดยเธอบอกว่าหน้าแรกๆ มันไม่มีปัญหาอะไร โดยมีเนื้อหาเป็นลิงกอริลล่าพูดถึงว่ามันชอบกล้วยขนาดไหน จนกระทั่งหน้าถัดไป… “Mother Fu**er” มันควรจะมีคำแบบนี้ในหนังสือเด็กเหรอ ยังๆ ยังไม่หมด เจ้าหมานี้พูดอีกว่า “นายนี่ดูเหมือนจิมิเลยนะเนี่ย” ห๊ะ!? หรือจะเป็นเจ้าหมีที่พูดว่า “ตรูว่าตรูมีปัญหาเรื่องโคเคนแน่ๆ”…
-
ศิลปินหนุ่ม นำหนังสือเก่าๆ มาแกะสลักให้เป็นโมเดลจำลองภูมิทัศน์สุดสวย
การนำสิ่งของเก่าๆ ที่มีอยู่มารีไซเคิล นอกจากจะเป็นการกำจัดของเหลือใช้แล้ว ก็ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แถมได้ของใหม่ๆ มาใช้อีกด้วย Guy Laramee ศิลปินผู้มีพรสวรรค์ในการแกะสลัก เขาได้นำเอาหนังสือเก่าๆ ที่ไม่มีใครใช้แล้ว นำมาเพิ่มมูลค่า ให้กลายเป็นผลงานทางศิลปะที่สวยงาม แปลกตา และไม่มีใครเหมือน ใครจะไปคิดว่าหนังสือเก่าๆ นั้นสามารถเนรมิตขึ้นมาเป็นโมเดลจำลองภูมิทัศน์สุดสวยได้ Guy Laramee ได้บอกถึงวิธีการสร้างโมเดลจากหนังสือไว้ว่า “ผมออกแบบผลงานในรูปแบบ 3 มิติ และแบบภาพวาด โดยจากการสังเกตเห็นว่า หนังสือที่เก็บไว้นานๆ มันจะมีกร่อนและย่อยสลาย ซึ่งในส่วนนี้หากมองดีๆ ก็อาจจะเป็นสร้างผลงานทางศิลปะได้ด้วย” “ดังนั้น ผมจึงลงมือแกะสลักเจ้าหนังสือเก่าๆ เหล่านี้เป็นลักษณะภูมิประเทศต่างๆ ส่วนมากจะเป็นภูเขา โดยมีต้นแบบมาจากภาพที่ผมวาด ผสมความโรแมนติกลงไปนิดหน่อย เพื่อให้ผลงานออกมาสวยงาม” . ถือว่าเป็นการนำสิ่งของที่เก็บไว้นานๆ มาดัดแปลง อีกทั้งเป็นการกำจัดหนังสือเก่าๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ผลงานแกะสลักจากหนังสือเก่าๆ ฝีมือการแกะสลักสุดยอด . . . . .…
-
เอาใจคนรักการอ่านกับ 12 หนังสือชุดน่าสะสม อ่านสนุกไม่รู้จบ หนอนหนังสือควรมีเก็บไว้!!
สำหรับใครที่เป็นหนอนหนังสือตัวจริง การได้ใช้เวลาในวันหยุดกับหนังสือเล่มโปรดสักเล่มนี่มันสวรรค์ชัดๆ และยิ่งถ้าหากได้อ่านนวนิยายดีๆ ซักหนึ่งชุด ก็สามารถนั่งอ่านเพลินๆ ได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องลุกไปไหนเลยล่ะ ถ้าหากว่าคุณเป็นหนอนหนังสือ รักการอ่าน แต่ไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรในช่วงนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็มีหนังสือชุดเหมาะแก่การอ่านและเก็บสะสมไว้มาแนะนำกัน ส่วนจะมีเรื่องไหนที่น่าซื้อมาสะสมบ้างนั้นไปชมกันได้เลย… 1. A Song of Ice and Fire ผู้แต่ง George R. R. Martin (ต้นกำเนิดทีวีซีรีส์ Game of Thrones อันโด่งดัง) ถ้าหากใครที่เป็นแฟนซีรีส์เรื่องดังอย่างมหาศึกชิงบัลลังก์ ขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาดหนังสือชุดนี้เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้คุณได้รู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง 2. Harry Potter ผู้แต่ง J.K. Rowling เรื่องราวของพ่อมดน้อยแฮร์รี่ และการผจญภัยในโลกเวทย์มนตร์ คงไม่ต้องเล่าถึงความสุดยอดของหนังสือเล่มนี้กันให้เสียเวลา เอาเป็นว่าชาวมักเกิ้ลอย่างเราๆ ควรมีเก็บไว้ก็แล้วกัน!! 3. Sherlock Holmes ผู้แต่ง Sir Arthur Conan Doyle เรื่องราวของยอดนักสืบและคู่หูของเขาคุณหมอ จอห์น เอช. วอตสัน ที่จะคอยไขคดีความยากๆ ทั้งสนุกและน่าตื่นเต้น ใครที่ชอบนิยายแนวสืบสวนสอบสวนล่ะก็บอกเลยว่าห้ามพลาด…
-
ตามติดชีวิตสังคมสุดแปลก ของเหล่าผู้ใหญ่ที่ชอบใช้ชีวิตแบบ “เด็กเบบี๋” อุแหว๊ๆ
ชีวิตคนเรานั้น มักจะมีเรื่องตลกร้ายอยู่เสมอๆ เช่นเดียวกับความคิดที่ว่าวัยเด็กเรามักจะรู้สึกว่า เป็นเด็กมันไม่ดีเลย อยากเป็นผู้ใหญ่ๆ แต่พอโตเข้าจริงๆ ความจริงของชีวิตมันก็สวนกลับมากระแทกหน้าเราเต็มๆ ว่าเป็นเด็กอะดีแล้ว… ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำให้เกิดสังคมที่เรียกว่า Adult Babies/Diaper Lovers ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมที่ผู้ใหญ่ชื่นชอบและอยากจะใช้ชีวิตแบบเด็กๆ ในช่วงวัยตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 5 ขวบ ซึ่งถ้าเราคิดเล่นๆ มันอาจจะดูงี่เง่า แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็น่าสนใจและตอบโจทย์ความคิดข้างบนได้ไม่ยากเลยจริงไหม? เรื่องราวของชุมชนนี้ถูกตีแผ่โดยช่างชาวออสเตรเลีย Polly Borland ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวลับๆ ของคนกลุ่มนี้ ที่น้อยคนบนโลกนักจะรู้ว่ามีคนที่ชื่นชอบ และจัดตั้งสัมคมแบบนี้อยู่ มันอาจจะเป็นความชอบส่วนตัวของพวกเขา ซึ่งไม่มีอะไร ทว่าบางทีมันอาจจะบ่งบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและสังคมภายนอกก็เป็นได้… Polly ถือเป็นช่างภาพที่สามารถจะเจาะและเข้าไปอยู่กับสังคมลับแห่งนี้ได้ พร้อมได้รู้ถึงการใช้ชีวิตในแบบต่างๆ ทั้งการกิน การนอน การอาบน้ำและอื่นๆ อีกมากมายของผู้ใหญ่ในคลาบเด็กเหล่านี้ มันต้องใช้เวลานานพอสมควรเลย กว่าที่จะสามารถนำกล้องเข้าไปถ่ายภาพและส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับความทุข ความทรมานที่พวกเขาได้รับจากสังคมที่ดูถูกพวกเขา จนสุดท้ายพวกเขาก็แสดงสันดานดิบออกมาในท้ายที่สุด ภาพเซ็ตนี้นั้น จริงๆ แล้วเป็นภาพที่ถูกถ่ายเมื่อปีช่วงปี 1990s และถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของผู้ใหญ่…
-
นี่คือ “อุโมงค์แห่งหนังสือ” ที่คนรักการอ่านอยากไปเยือน เพราะมีแต่หนังสือเต็มรอบตัว!!
การได้ออกไปพักผ่อนนอกบ้านในช่วงวันหยุด อาจจะเป็นกิจกรรมที่ชื่นชอบของหลายๆ คน และห้องสมุดหรือร้านหนังสือก็คงเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดฮิตสำหรับคนที่ชอบความสงบใช่ไหมล่ะ และวันนี้เราก็มีห้องสมุดและร้านหนังสือแบบเจ๋งๆ มาฝากเหล่าหนอนหนังสือกัน ซึ่งทั้งความยิ่งใหญ่และความสวยงามของที่นี่รับรองเลยว่าใครที่รักการอ่านไม่ผิดหวังแน่นอน สถานที่แห่งนี้คือร้านหนังสือที่เปิดเป็นห้องสมุดให้คนมาอ่านได้ด้วย ตัวร้านตั้งอยู่ในเมืองหยางโจว ทางทิศตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ก็คือความกว้างใหญ่และปริมาณหนังสือจำนวนมากที่อัดแน่นอยู่ด้านใน ร้าน Zhongshuge ซึ่งเป็นร้านในเครือของบริษัทขายหนังสือยักษ์ที่มีหลายสาขาทั้งในมลฑลเซี่ยงไฮ้และหางโจวอีกด้วย การออกแบบภายในเป็นผลงานของบริษัท Shanghai studio XL-Muse Architects ในการออกแบบห้องสมุดและร้านหนังสือแห่งนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบของทางน้ำและสะพานหินที่มีชื่อเสียงของเมืองหยางโจว รวมไปถึงบทกลอนของกวีชื่อดังชาวจีนอย่าง Li Bai อีกด้วย จุดเด่นนอกจากความโมเดิร์นล้ำสมัยแล้ว ยังมีอุโมงค์แห่งหนังสือซึ่งใครๆ ก็อยากจะมาเลือกหนังสืออ่าน หรือกระทั่งถ่ายรูปเก็บเป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเลยมาที่นี่ และนี่คือบรรยากาศภายในร้านหนังสือและห้องสมุดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หนึ่งในอุโมงค์หนังสือถายในร้าน ที่มีตั้งแต่ชั้นล่างบนไว้จนถึงบนศรีษะเรา รายล้อมไปด้วยหนังสือมากมาย พื้นที่ต่างๆ มีการตกแต่งอย่างสวยงาม ที่นี่มีหนังสือมากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการอ่านได้เลือกซื้อ… ภาพมุมนี้เหมือนกับอุโมงค์หนังสือขนาดยักษ์เลยทีเดียว ชมบรรยากาศภายในอุโมงหนังสือแห่งนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือละก็ บอกได้คำเดียวเลยว่า.. นี่มันสวรรค์ชัดๆ !! ที่มา designyoutrust
-
J.K. Rowling เผยจะมีหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ใหม่มาอีก 2 เล่มในเดือนตุลาคมนี้แน่นอน!!
สำหรับแฟนๆ หนังสือหรือหนัง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ต่างรู้ดีกว่าการจะได้อ่านเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์นั้นเป็นอะไรที่ยากเหลือเกิน เพราะกว่านักเขียนอย่าง J.K. Rowling จะเปิดเผยเรื่องราวใหม่ๆ นั้นเรียกได้ว่ายากกกก ถึงขั้นยากมากๆ ถ้าใครยังจำกันได้… เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา J.K. Rowling ก็ได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ใน British Library ซึ่งในงานนั้นได้พูดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวทมนตร์ แต่ข่าวดียิ่งกว่านั้นคือ ในงานเราจะได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เล่มใหม่อีกสองเล่ม คุณอ่านไม่ผิดหรอก มันคือการเปิดตัวหนังสือใหม่อีก 2 เล่ม เริ่มจากเรื่องแรกเลยคือ Harry Potter: A History of Magic หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ซึ่งได้บรรยายไว้ว่าผู้อ่านจะได้ผจญภัยไปกับวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปรุงยา สมุนไพรศาสตร์ ไปจนถึงวิชาดูแลสัตว์วิเศษ ที่เป็นวิชาในฮอกวอตส์จริงๆ ซึ่งเราคงเคยเจอในหนังหรือในหนังสือมาบ้าง ส่วนอีกเล่มจะชื่อว่า Harry Potter: A Journey…
-
ศิลปินนำหนังสือกว่า 100,000 เล่มที่ถูกสั่งแบน มาสร้างเป็น “วิหารหนังสือพาร์เธนอน” อันยิ่งใหญ่
ทุกวันนี้มีหนังสือไม่น้อยที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ตีพิมพ์ ห้ามอ่าน ห้ามวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ ก็ตาม จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่กองกระดาษรวมเล่มหนาๆ ที่ไม่มีใครสนใจ แต่สำหรับศิลปินชาวอาร์เจนตินาอย่าง Marta Minujín วัย 74 ปี ไม่ได้ปล่อยให้หนังสือที่ถูกสั่งห้ามเหล่านั้นเป็นเพียงแค่กระดาษที่ไร้ค่า Minujín ได้นำหนังสือกว่า 100,000 เล่ม ที่ถูกแบนด้วยเหตุผลต่างๆ มาสร้างเป็นวิหารพาร์เธนอนขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงามอย่างเหลือเชื่อ วิหารนี้มีชื่อว่า The Parthenon of Books ตั้งอยู่ใจเมือง Kassel ประเทศเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะ Documenta 14 โดยได้รับความช่วยเหลือจากนักศึกษามหาวิทลาลัย Kassel University ในหนังสือจำนวน 100,000 เล่มนี้ ประกอบไปด้วยหนังสือที่มีเนื้อหาแตกต่างกันกว่า 170 เรื่อง ที่ถูกแบนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก Minujín สร้างวิหารหนังสือโดยการใช้สก๊อตเทปพันหนังสือติดกับเสาเหล็กที่มีการติดตั้งหลอดไฟไว้ข้างใน มันจึงดูสวย โดดเด่นในเวลากลางคืน สำหรับหนังสือที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดในประเทศเยอรมนีคือ Adolf Hitler’s “Mein Kampf” อันเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์ แถมยังถูกสั่งเซนเซอร์ปกปิดจากนาซีเองเสีย…
-
นักวิจัยเผย Harry Potter เป็นสาเหตุทำให้เกิดตลาดมืดซื้อขายนกฮูก ในประเทศอินโดนีเซีย…
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางนักวิจัยเชื่อว่า ในประเทศอินโดนีเซีย ความนิยมของนิยายชื่อดังอย่าง Harry Potter อาจเป็นตัวการสำคัญที่จะนำไปสู่การค้านกฮูกในตลาดมืดเพิ่มมากขึ้น ในการศึกษาใหม่ในวารสาร Global Ecology and Conservation ทาง Vincent Nijman หนึ่งในผู้ร่วมงานวิจัยได้อธิบายถึงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “ผลของ Harry Potter” ว่า… “ในอดีตนกฮูกได้รับการเสนอซื้อขายในจำนวนที่น้อยมากในตลาดนกเหล่านี้ แต่นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวหนังสือ Harry Potter ในอินโดนีเซีย ในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 เป็นต้นมา ความนิยมของนกฮูกในฐานะสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มมากขึ้น… หลังจากที่ผู้แต่ง J.K. Rowling ได้ออกหนังสือเล่มแรกในปี พ. ศ. 2540 โดยในหนังสือได้แสดงให้เห็นถึงนกฮูกหิมะสีขาวของ Harry Potter ที่ชื่อว่า Hedwig นั่นเอง” จากการรายงานระบุว่า ในอดีตมีการค้านกฮูกในประเทศอินโดนีเซียน้อยมาก แต่ในปัจจุบันนกฮูกจากหลากสายพันธุ์สามารถหาซื้อได้ง่ายมากขึ้น ซึ งมันถือเป็นข่าวร้ายสำหรับสมาคมอนุรักษ์นกเป็นอย่างมาก โดยในตลาดนกขนาดใหญ่อาจมีนกฮูกกว่า 8…
-
Emma Watson แอบซ่อน “นวนิยาย” กว่า 100 เล่มทั่วกรุงปารีส หวังให้ทุกคนรักการอ่าน
หากให้พูดถึงชื่อของสาวฮอต หนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้นชื่อ Emma Watson แน่ๆ ก็ทั้งความสวยและความสามารถรอบด้านยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวคนนี้ จนเป็นที่รักของแฟนคลับทั่วโลก บ่อยครั้งที่เธอมักจะเข้าร่วมงานการกุศลต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นองค์กรสิทธิสตรี หรือการช่วยแชร์หนังสือในโครงการ Books on the Underground (อ่านข่าวเก่า Emma Watson สุ่มทิ้งหนังสือเล่มโปรด ไว้ตามสถานีรถไฟ เพื่อให้ผู้คนหยิบไปอ่านฟรีๆ ) แ ละล่าสุดเธอได้ช่วยการโปรโมทหนังสือเล่มหนึ่ง โดยการนำไปซ่อนยังสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นักแสดงสาววัย 27 ปี ได้นำหนังสือเรื่อง The Handmaid’s Tale ไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วมหานครในฝรั่งเศส หลังจากที่แฟนหนังสือและนักเขียนต่างๆ ทราบข่าวนี้ พวกเขาได้ร่วมกันตามหาหนังสือนิยายสุดคลาสสิคของ Emma ซ่อนไว้ ซึ่งมีริบบิ้นสีเขียวผูกอยู่ นักแสดงสาวได้ทวีตข้อความว่า “ฉันซ่อนหนังสือเล่มนี้ไว้ในปารีส” ทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส นิยายสุดคลาสสิคเล่มนี้เป็นงานเขียนของ Margaret Atwood ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1985 ถูกนำมาสร้างเป็นบทละครแนวดราม่าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเว็บไซต์ Hulu ซึ่งนำแสดงโดย Elisabeth Moss ทางด้านบริษัท Book Fairies ผู้ริเริ่มการจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ บอกว่า “แฟนๆ หนังสือโชคดีมากๆ ที่จะได้หนังสือเล่มนี้กลับบ้านฟรีๆ…
-
สาวน้อยเห็นเจ้าสาว คิดว่าเป็นเจ้าหญิงที่หลุดมาจากนิยาย กับความประทับใจที่น่ารักสุดๆ!!
เชื่อว่าในช่วงวัยเด็กของหญิงสาวหลายๆ คน หนึ่งในความฝันของพวกเธอคือการได้เจอกับเจ้าหญิงในดวงใจตัวเป็นๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงจากค่ายดิสนีย์ หรือว่าค่ายไหนก็ตามแต่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันน่ารักเกินกว่าที่เราจะเก็บไว้ดูคนเดียวได้ เพราะในระหว่างที่ Scott Robertson กำลังถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเด็กสาวตัวน้อยเดินเข้ามาบอกว่า.. เธอคือเจ้าหญิงที่หนูน้อยตามหามานานแสนนาน “เราสองคนแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้ว และในระหว่างการถ่ายภาพก็มีสาวน้อยเดินเข้ามาในซีนของเรากับคุณแม่ของเธอ” “จากนั้นหนูน้อยได้บอกกับภรรยาของผมว่า คุณคือเจ้าหญิงที่หนูชอบมากที่สุด และคุณก็เป็นเจ้าหญิงที่มาจากหนังสือที่หนูชอบอ่าน” สามีเล่า ด้วยความน่ารักของหนูน้อย ฝ่ายภรรยาจึงมอบดอกไม้ให้หนูน้อยเป็นการตอบแทน… ด้วยน้ำใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ดอกไม้ของเธอทำให้หนูน้อยยิ้มแก้มปริไปตลอดทั้งวันทั้งคืน เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ในระหว่างการถ่ายภาพ ด้วยเหตุนี้ช่างภาพจึงได้ตัดสินใจเก็บภาพเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาไว้ “ภรรยาของคุณจะกลายเป็นเจ้าหญิงของลูกสาวฉันไปอีกตลอดกาล ขอบคุณสำหรับน้ำใจมากๆ เลยนะคะ” คำพูดสุดท้ายที่คุณแม่กล่าวให้เจ้าสาว ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้าย นับว่าเป็นอีกเรื่องราวน่ารักๆ ที่ช่วยทำให้รู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง ที่มา: แพนด้าขี้เบื่อ
-
หนังสือเรียนโบราณ ” How a Baby is Made ” หรือการทำเด็กที่บอกซะทุกขั้นตอน!!!
ประเจิดประเจ้อเกินไป…อาจจะใช้คำพูดนั้นได้ แต่ก็แน่ล่ะนั่นเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเลยทีเดียวสำหรับวิธีการให้ความรู้ เพราะวันนี้เหมียวจะพาไปชมหนังสือเรื่อง How a Baby is Made ซึ่งเป็นหนังสือของปี 1975 หรือพูดง่ายๆ คือ วิธีการทำเด็กนั่นเอง!!! How a Baby is Made ภาพรวมของหนังสือ มีตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มถอด… มีวิธีการบอกด้วยแหละ เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร อธิบายหน่อยเถอะ อธิบายไว้อย่างละเอียด ขั้นตอนการปฏิสนธิ การเติบโตของเด็กอ่อน ไปโรงพยาบาล ไปหาคุณหมอ มาแล้วเด็กน้อยของเรา Surprise!!! ขณะที่แม่ได้อุ้มลูกของเธอที่พึ่งคลอด และมีพ่อเด็กอยู่ข้างๆ พวกเขามีความสุขและภูมิใจมากๆ เลยล่ะ อิอิ มีบางส่วนนะเนี่ยที่เหมียวไม่เข้าใจเล้ยยยย ยังไงมาอธิบายให้เหมียวหายงงหน่อยก็ดีนะ >< ที่มา: Buzzfeed
-
รวม 10 อันดับหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ แต่ดันทำออกมา “ห่วย” จนแฟนหนังสือปวดใจ!!
ครั้งที่แล้ว #เหมียวอ๊อดโด้ ได้นำเสนอหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ แต่ดันทำออกมาได้ดีเกินหน้าเกินตาต้นฉบับ ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ ไปพอสมควร แน่นอน เมื่อมีเรื่องที่ทำออกมาดี ก็ต้องมีเรื่องที่ทำออกมาแย่บ้าง งั้นวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 10 อันดับหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ แต่ดันทำออกมา “ห่วย” จนแฟนหนังสือปวดใจ 10. Divergent ดัดแปลงจากนิยายแนวโลกล่มสลายของ Veronica Roth แม้หนังจะจับประเด็นจากเวอร์ชั่นหนังสือได้พอสมควร แต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่า “ดี” อีกมาก รวมถึงมีการตัดประเด็นหลายๆ อย่างออกไปจนเนื้อเรื่องดูขาดแรงจูงใจ จนเข้าวินมาในอันดับ 10 ของเรา 9. Eragon จากนวนิยายแนวผจญภัยแฟนตาซีของ Christopher Paolini ที่มีส่วนผสมของ “Star Wars” และ “The Lord of the Rings” กลายเป็นหนังแฟนตาซีดาดๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ เพราะหนังไม่สามารถดึงส่วนดีของหนังสืออกมาได้แม้แต่น้อย แถมยังดัดแปลงตัวละครบางส่วนอีกด้วย ถ้าไม่โดนแฟนหนังสือด่าก็แปลกแล้ว 8. The Maze…
-
ยังม่ายโจบ!! คลิปน่ารักของหนูน้อย “รักการอ่าน” มักจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเรื่องในนั้นจบลง
ตอนที่ทุกคนเป็นเด็กๆ ใครก็อยากได้ฟังนิทานจากเสียงของคุณพ่อและคุณแม่กันทั้งนั้นแหละ มันถือเป็นช่วงเวลาที่เราเข้าไปในโลกจินตนาการ ยิ่งได้ฟังก่อนนอนก็จะเป็นอะไรที่ฟินเอามากๆ แต่เอาจริงๆแล้วตอนนั้นเราก็จับใจความอะไรไม่ค่อยได้หรอก แต่มันก็สนุกตรงที่ได้ดูรูปสวยๆในหนังสือนิทานจนอยู่ดีๆเราก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวเอง แต่สำหรับเด็กคนนี้แล้ว เขาคือหนอนหนังสือตัวยงที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ (จริงๆ คือแม่อ่านให้ฟัง) และทุกครั้งที่แม่อ่านหนังสือจบ เด็กคนนี้ก็จะร้องไห้ขึ้นมาราวกับว่า ไม่อยากให้จบเลยยย ตอนแรกก็ตื่นเต้นกับหนังสือดีอยู่หรอก แต่พอหนังสือจบปุ๊บถึงกับปล่อยโฮกันเลยทีเดียว เราไปดูคลิปน่ารักๆกันเลยดีกว่า และนี่คือ 4 เหตุผลดีๆ ที่ว่าทำไมการอ่านหนังสือถึงเป็นเรื่องที่ดี๊ดีต่อตัวเราเอง 1. ช่วยทำให้สมองพัฒนาขึ้นได้ดีจริงๆ ในขณะที่เราอ่านไปด้วยนั้นสมองของเราจะได้ทำงานไปพร้อมๆ กัน นอกจากจะช่วยเรื่องความจำในระยะสั้น – ระยะยาว ให้แก่สมองเราแล้ว การอ่านยังช่วยให้สมองต่อสู้กับความชราอันนำมาซึ่งโรคอัลไซเมอร์ได้ดีอีกด้วย 2. อะไรที่ดีต่อจิตใจ ย่อมดีต่อร่างกายเราเสมอ และหนังสือก็เช่นกัน เคยมีงานวิจัยออกมาว่าการอ่านช่วยลดระดับความตึงเครียดในสมองได้มากถึง 68% โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอน นอกจากนั้นยังดีต่อระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายเราอีกด้วย 3. ช่วยเสริมทักษะในชีวิตจริง และชีวิตการทำงานได้ เชื่อไหมว่าการอ่านในช่วงเวลาปัจจุบันของเรา ไม่ว่าจะความรู้เรื่องคำศัพท์ หรือความรู้ด้านอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เรากลายเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถรอบด้าน และส่งผลดีต่อชีวิตการทำงานในอนาคตได้ดีอีกด้วย 4. การอ่านช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้จริง…
-
เคยเห็นกันหรือเปล่า!? ตำรากามสูตรจากศตวรรษที่ 18 ท่วงท่าเหมือนดั่งทวยเทพ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่อง “เซ็กส์” เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษยชาติยังคงดำรงเผ่าพันธุ์กันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าหากไม่มีการทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่ว่า พวกเราๆ อาจจะไม่ได้เกิดมาแล้วก็ได้ แน่นอนล่ะ คนไม่ได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่นี่น่าใช่ไหม!? การมีเพศสัมพันธ์น่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่มนุษย์เราเริ่มเรียนรู้เลยก็ว่าได้ และเพื่อนๆ ทราบกันมั้ยว่าหนังสือสอนเซ็กส์หรือพวกกามสูตรเนี่ยมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว!! และต่อไปนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ I Modi หรือ The Way หนังสือเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Sixteen Pleasures อ่า.. มันมีต้นกำเนิดอย่างไรและใครเป็นคนแต่ง เราไปรู้จักที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้พร้อมๆ กันเลย ภาพบางส่วนในหนังสือ The Sixteen Pleasures หนังสือเล่มที่ว่านี้ถูกตีพิมพ์โดย Marcantonio Raimondi ศิลปินชาวอิตาลีในปี ค.ศ. 1524 ซึ่งเขาได้รวบรวมภาพนู้ดแกะสลักต่างๆ ที่วาดโดย Giulio Romano หลังจากที่หนังสือเล่มนี้ได้กระจายไปอย่างแพร่หลายในสมัยเรอเนสซองซ์ ก็มีผู้ที่เห็นว่ามันไม่เหมาะสมและดูจะเป็นสิ่งที่มีพิษภัยกับศาสนจักร จึงได้แจ้งความกับผู้จัดพิมพ์และหลังจากนั้น Raimondi ก็ได้ถูกจับและหนังสือทั้งหมดก็ได้ถูกเผาทำลายทิ้ง แต่ตำนานของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เมื่อ Pietro Aretino นักเขียนชาวอิตาลี ได้ยินถึงเรื่องของหนังสือเล่มนี้และต้องการที่จะพบกับ Romano เพื่อที่จะได้เห็นภาพต้นฉบับในหนังสือฉาวเล่มนั้น (ถึงแม้ว่า Romano จะเป็นผู้วาดภาพนู้ดแต่เขาไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะไม่ได้เป็นคนตีพิมพ์หนังสือ) Aretino ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวอีโรติกพร้อมทั้งนำภาพวาดของ…
-
Jasper น้องแมว 3 ขา ดาวเด่นประจำห้องสมุด ช่วยคลายเครียดให้นักศึกษาก่อนสอบ
เมื่อคุณได้เดินเข้าไปยังห้องสมุด สิ่งที่คุณจะได้เจอนอกจากหนังสือก็คือ บรรณารักษ์ แต่สำหรับห้องสมุดเศรษฐศาสตร์มาร์แชลล์ ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษแห่งนี้ กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษ และน่าสนใจมากกว่านั้น เพราะถ้าหากคุณได้ย่างกรายเข้าไปละก็ คุณจะต้องได้พบกับ Jasper เจ้าแมวส้มวัย 5 ขวบ ที่มาพร้อมกับหน้าที่ในการช่วยคลายเครียดให้กับเหล่านักศึกษาก่อนสอบ สำหรับ Jasper มันเป็นแมวเหมียวที่ดูแบบผิวเผินก็เหมือนแมวปกติทั่วๆ ไป แต่ถ้าหากใครสังเกตดีๆ คุณจะเห็นได้ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มันมีเพียงแค่ 3 ขา เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้า Jasper เคยได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังถูกเจ้าของเดิมทิ้งจนทำให้มันต้องสูญเสียขาหลังไป แต่อย่างน้อยมันก็โชคดีที่ทางองค์กรช่วยเหลือสัตว์ในอังกฤษได้เขามาช่วยรักษาบาดแผลของมันเอาไว้ จนทำให้มันหายดี หลังจากนั้นไม่นาน ความน่ารักของมันก็ไปถูกใจ Simon Frost บรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เข้า และนั่นจึงทำให้เธอได้ตัดสินใจที่จะรับมันมาอุปการเลี้ยงดู แถมยังพาเจ้าเหมียวมาเยือน ณ ห้องสมุดอยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นที่สิงสถิตแห่งใหม่ของมันไปซะแล้ว แม้จะมีขาไม่ครบ 4 ข้าง แต่นั่นกลับไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของมันเลยแม้แต่น้อย เพราะเจ้า Jasper กลับใช้ความเป็นแมว 3 ขาที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร มัดใจบรรดานักศึกษาเอาไว้…
-
รวม 45 ภาพปกหนังสือ “แฮรี่พอตเตอร์” สุดงดงาม จากการตีพิมพ์ในแต่ละครั้ง
เป็นเรื่องที่ไม่แปลกสำหรับหนังสือขายดีหลายๆ เล่มที่มักจะออกมาตีพิมพ์หลายๆ ครั้งพร้อมกับปกใหม่ๆ อยู่เสมอ และ Harry Potter ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่ทำแบบนั้น วันนี้เราเลยจะพาย้อนกลับไปดูหน้าปกแต่ละแบบ ซึ่งออกมาตั้งแต่เล่มแรกมาจนถึงเล่มสุดท้าย แถมปกบางแบบก็จะมีขายแค่ในบางประเทศอย่างสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะอีกด้วย ว่าแล้วแฟนคลับทั้งหลายก็ไม่ต้องรอช้า ย้อนชมกันเลยครับ… ภาค 1 Harry Potter and the Philosopher’s Stone หรืออีกชื่อก็คือ Harry Potter and the Sorcerer’s Stone หน้าปกนี้เป็นฉบับ Bloomsbury UK Adult Edition สร้างสรรค์โดยคุณ Andrew Davidson ปกนี้เป็นฉบับ Bloomsbury UK Children’s Edition หน้าปกเวอร์ชั่นปี 2014 ออกแบบโดยคุณ Jonny Duddle ส่วนนี่เป็นปกฉลองครบรอบ 15 ปี โดยคุณ Kazu Kibuishi ปกจาก Bloomsbury Signature ออกแบบโดย Clare Melinsky…
-
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ… คนดันไปตรงกับปกหนังสือได้แบบเป๊ะเช๊ะเด๊ะ โอ้วมายก๊อดด!!
สำหรับคนที่เป็นหนอนหนังสือแล้ว มันคงไม่มีอะไรจะสร้างความสุขได้กับเราเท่าการได้ใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือ พร้อมทั้งตามหาหนังสือเล่มโปรด จะให้อยู่ทั้งวันทั้งคืนก็ยังได้ ‘Mollat’ ร้านขายหนังสือสุดฮิปจากฝรั่งเศส ได้ปิ๊งไอเดียชวนลูกค้ามาถ่ายรูปกับปกหนังสือเล่มโปรด โดยวางองค์ประกอบให้มันออกมาได้อย่างเป๊ะสุดๆ เอาเป็นว่าเราตามไปดูกันเลย ช่ะแว๊บบบ อะไรจะเป๊ะได้ขนาดนั้น ทั้งทรงผม ทั้งโครงหน้า พอดีกันได้อีก หรือถ้าอยากจะเป็นเด็ก ที่นี่เค้าก็จัดให้ได้ ปากแดงๆ จะไว้ใจได้ก๋าาา ทั้งมุมตรง มุมข้าง พอดีกันเป๊ะ!! นึกว่านี่เป็นหัวคนจริงๆ ซะอีก สังเกตตรงปลายจมูกสิ ต่อกันได้อย่างเหมาะเจาะเหลือเกิน นี่ก็ด้วยทั้งโครงหน้า ทั้งทรงผม ไมเคิล แจ็กสันก็มานะ หง๊อววววว หนูน้อยหมวกแดงก็มาเหมือนกัน ถ้าใครอยากจะชมไอเดียการถ่ายรูปเจ๋งๆ กับปกหนังสือแบบนี้อีก เข้าไปติดตามได้ที่อินสตาแกรม @librairie_mollat กันเลยจ้า ที่มา: Sobadsogood
-
15 ความแตกต่างของตัวละคร Game of Thrones ฉบับซีรีย์ vs. หนังสือ แทบดูไม่จืด!!
ในปัจจุบันนี้ก็เรียกได้ว่า Game of Thrones ของค่าย HBO นั้น ได้กลายเป็นซีรีย์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกไปแล้ว แต่คงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะรู้ว่าเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากชุดนวนิยายแฟนตาซีชื่อดัง A Song of Ice and Fire ของ George R. R. Martin กันใช่มั้ยล่ะ? และจากการดัดแปลงจากนวนิยายมาเป็นละครออกฉายทางทีวีนั้น ย่อมมีการดัดแปลงรูปลักษณ์ของเหล่าตัวละครเป็นธรรมดาเพื่อดึงดูดผู้ชมมากขึ้น และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมตัวละครในซีรีย์เทียบกับตัวละครที่ถูกอธิบายไว้ในเวอร์ชั่นหนังสือ ว่ามีความแตกต่างกันมากขนาดไหน ลองมาดูกันเลยดีกว่า Daenerys Targaryen ในเวอร์ชั่นหนังสือแม่มังกรจะมีความเป็น Valyrian เต็มตัว คือผมสีเงิน และดวงตาสีม่วงแบบรูปขวา ต่างจากในซีรีย์ Jon Snow ในหนังสือจะมีผมที่ดกดำสนิท มีดวงตาสีเทา และจะไม่ไว้หนวด มีความเป็นหนุ่มมากกว่านั่นเอง Bran Stark ทางผู้เขียน George R. R. Martin ได้เขียนอธิบายไว้ในหนังสือว่าแบรนจะมีผมสีแดงดำ ดวงตาสีฟ้า ที่ได้รับตกทอดมาจากฝั่งแม่ของพวกเขา เหมือนพี่น้องท้องเดียวกันทุกๆ คน Ygritte…
-
ผศ. ทำหนังสือหาย ก็เลยสั่งเล่มใหม่มา แต่ทว่าดันได้เล่มเดิมที่หายไป กลับมาซะงั้น!?
กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง แต่มันก็ดันเกิดขึ้นแล้ว กับกรณีที่ว่าของหายไปแล้ว แต่ดันได้คืนมาเป็นชิ้นเดิมที่ทำหายไป ซึ่งถ้าในกรณีปกติทั่วๆ ไปเลยก็คือ การสั่งของใหม่มาแทนอันเก่าก็มักจะเป็นของใหม่ไปเลย… อาจจะฟังดูงงๆ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นกับ Gena Zuroski ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมศึกษา จากมหาวิทยาลัย McMaster ที่ทำหนังสือเล่มหนึ่งของเธอหายไปจากบนชั้นในห้องทำงานของตัวเอง ในเมื่อมันหายไปแล้ว เธอก็เลยทำการสั่งหนังสือเล่มเดิมมาใหม่เพื่อมาแทนเล่มเก่า แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อหนังสือที่สั่งไปมาส่งถึงมือเธอ เพราะมันก็คือเล่มเดิมที่หายไปนั่นเอง!! Gena Zuroski กับหนังสือที่หายไป เธอให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News ไว้ว่าเธอซื้อหนังสือเล่มนี้จากร้าน Brown Bookstore ในระหว่างที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก และเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้บนชั้นหนังสือในห้องทำงานของเธอ เพื่อให้นักศึกษาได้ยืมไปอ่าน ‘หนังสือเล่มนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ฉันใช้งานมันอย่างหนักในระหว่างการทำงานวิจัยวิทยานิพนธ์ แล้วมาถึงจุดหนึ่งที่ฉันให้นักศึกษายืมไปใช้ และไม่ได้คืนกลับมาเลย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดเป็นประจำซะด้วย’ ‘มันเป็นหนังสือที่ฉันมักจะแนะนำให้นักศึกษานำไปใช้อยู่บ่อยๆ จนกลายมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้มันหายไป และก่อนช่วงคริสต์มาส ฉันก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่แย่มาก ที่ไม่มีเล่มสำรองเก็บไว้ในห้องทำงาน ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ผ่านเว็บไซต์อเมซอน โดยเลือกเล่มมือสองที่มีราคาถูกที่สุดมา’ จนกระทั่งหนังสือเล่มที่เธอสั่งเอาไว้ มาส่งถึงมือ… เธอรู้สึกว่าคงจะแปลกๆ ถ้าได้อ่านหนังสือที่ผ่านการไฮไลท์เนื้อหาของคนอื่นมาแล้ว …
-
ภาพประวัติศาสตร์ ปกหนังสือปลุกใจชาย ธีมคริสต์มาสในตำนาน มีมาตั้งแต่ยุค 40s – 90s!!
ตอนนี้เทศกาลคริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เราจะเห็นหนังสือ เว็บไซต์ หรือธุรกิจต่างๆ ปรับธีมของบริษัทเข้าสู่ธีมคริสต์มาส ซึ่งแต่ละแห่งก็พยายามอย่างเต็มที่ให้ผลงานออกมาดูสร้างสรรค์ที่สุด สำหรับหนังสือปลุกใจชายต่างๆ ก็เช่นกัน ในช่วงนี้พวกเขาก็จะทำปกให้เข้ากับเทศกาลมากที่สุด เช่น ให้นางแบบใส่ชุดซานตี้ หรือปรับชุดให้เป็นโทนสีแดง วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ เลยจะพาเพื่อนๆ ไปย้อนดูภาพประวัติศาสตร์ กับปกหนังสือปลุกใจเสือป่าตั้งแต่ช่วงปี 1940 จนถึง 1990 ว่ารสนิยมการมองภาพ “สาวเซ็กซี่” ในแต่ละเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง จริงๆ หนังสือเหล่านี้ถือว่ามีบุญคุณกับหนุ่มๆ ทั่วโลก ไม่งั้นคงไม่อาจเติบโตสมชายชาตรีได้ ขอกราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม ไว้นะที่นี้ด้วยนะฮะ ฮาาาาา ที่มา designyoutrust
-
พบกับ “โรงแรมตู้หนังสือ” แห่งเดียวในเกียวโต ด้วยกลิ่นไอหนังสือจะทำให้คุณหลับสบาย…
วิธีการนอนของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป บางคนนอนง่าย แค่หัวถึงหมอนก็หลับได้ บางคนก็ต้องดูทีวีก่อนนอน และกิจกรรมที่ผู้คนส่วนมากทำก่อนนอนก็คือการได้อ่านหนังสือดีๆ สักเรื่องนั่นเอง ถ้าใครยังจำกันได้ ทางเราเคยนำเสนอเกี่ยวกับโรงแรม Book and Bed Tokyo โรงแรมที่ทำออกมาในธีมร้านหนังสือ ซึ่งผ่านมาหนึ่งปีแล้ว โรงแรมนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก จนตอนนี้มันเกิดขึ้นอีกครั้งที่เกียวโตในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ลักษณะก็เหมือนโรงแรมที่โตเกียวเลย ที่จะให้แขกได้นอนในห้องที่เหมือนโรงแรมแคปซูล ท่ามกลางหลังจากกว่า 5,000 เล่มที่จะให้คุณเลือกอ่านได้อย่างตามใจ โดยที่หนังสือนั้นจะเป็นภาษญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเพื่อรองรับชาวต่างชาติด้วย ส่วนเรื่องราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 1,400 บาทต่อคืน ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ bookandbedtokyo.com โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ของตึก ซึ่งมีห้องนอนประมาณ 20 ที่ให้นักท่องเที่ยวได้พักอาศัยกัน มีห้องขนาด 220*110 เซนติเมตรอยู่ 18 ห้อง และห้องขนาด 220*90 เซนติเมตรอยู่ 2 ห้อง ซึ่งทั้งสองแบบราคาต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น ที่แห่งนี้มีไวไฟฟรี และห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวม แต่จะมีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำอำนวยความสะดวกจะมีแบบให้เช่าในราคาประมาณ…
-
นี่คือขวดไวน์ที่สอดแทรก “เรื่องสั้น” มาให้อ่าน เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ระหว่างจิบไวน์!!
ไวน์ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนนิยมดื่มกันมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะด้วยรสชาติที่หวานขมแบบกลมกล่อม อีกทั้งมันยังช่วยให้เรามีอารมณ์ที่สุนทรีย์เป็นอย่างมากอีกด้วย เมื่อมีดนตรีบรรเลงระหว่างดื่ม ส่วนมากจนมักจะดื่มไวน์กันตอนที่ทานอาหาร หรือไม่ก็จิบเล่นๆ ตอนอ่านหนังสือหรือดูหนังดีๆ สักเรื่องพร้อมกับป๊อปคอร์น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้โรงกลั่นไวน์แห่งหนึ่งในอิตาลีชื่อว่า Matteo Correggia และบริษัทออกแบบ Reverse Innovation ได้ออกแบบ Librottiglia ซึ่งเป็นขวดไวน์ที่ได้แนบเอาเรื่องสั้นติดมาข้างขวดด้วย Librottiglia เป็นภาษาอิตาลี มาจากการผสมของคำว่า หนังสือ และ ขวด เข้าด้วยกัน โดยที่เรื่องสั้นนั้นก็มีมากมาย เช่นนิทานเรื่อง “A Frog in the Belly” โดย Patrizia Laquidara เป็นนิทานพื้นบ้านที่โด่งดังในแถบนั้น เราไปชมการออกแบบขวดไวน์นี้กันเลย ในตอนนี้มีเรื่องสั้นหลายเรื่องได้ถูกติดลงไปบนขวดขนาด 375 มิลลิลิตรแล้ว และวางขายในประเทศอิตาลีเท่านั้น หวังว่าไอเดียนี้จะแพร่หลายในต่างประเทศนะ เพื่อที่ว่าจะได้มีอะไรอ่านเพลินๆ ระหว่างดื่มด่ำไปด้วย ที่มา boredpanda
-
พาชมหนังสือสอน “การจูบ” จากยุค 1940 เผยให้เห็นความโรแมนติกแบบคลาสสิก ว่าเป็นยังไง!!
การจูบ ถือเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนาน จูบแรกถือเป็นสิ่งที่ทุกคนจดจำกันได้อย่างดี เพราะมันเป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำถึงความรักครั้งแรก และบางคนก็ยังมีจูบแรกและจูบสุดท้ายเป็นคนคนเดียวกันด้วย แต่การจูบ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นนักจูบที่ดีได้ ของอย่างนี้มันอยู่กับอารมณ์และท่าทาง จนบางครั้งถึงขั้นต้องมีการแนะนำการจูบเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้จะพาไปชมวิธีการจูบที่ได้แนะนำมาตั้งแต่ปี 1942 จากนิตยสาร LIFE ที่อยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้จูบอย่างถูกต้องและโรแมนติกที่สุด ภายในหนังสือก็จะมีการแนะนำว่าการจูบแบบไหนถูกหรือผิด ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ก็อยู่ในช่วงปี 1940s ซึ่งปัจจุบันก็อาจจะมีท่าทางใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในคราวนี้มีการแนะนำที่ผิด 2 ท่า และที่ถูกต้อง 2 ท่าด้วยกัน เราไปชมกันเลยว่าแต่ละท่าจะเด็ดแค่ไหน ผิด – จะดูเป็นมือใหม่มากๆ ถ้ายืนแบบนี้แล้วจูบกัน ถูก – ชายหญิงควรจะยืนให้ติดกันและอย่ากอดกันแน่นเกินไป ผิด – เอนทั้งตัวไปที่เก้าอี้เป็นท่าที่ไม่ค่อยงามเท่าไหร่ ถูก – ผู้หญิงควรที่จะนั่งที่พักแขนเก้าอี้ แล้วผู้ชายควรโอบกอดรั้งไว้เบาๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนด้วย เอาเป็นว่าเอามาให้ดูเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ว่าครั้งหนึ่งเคยมีหนังสือที่แนะนำการจูบอย่างจริงจังแบบนี้อยู่… ที่มา vintag.es, boredpanda
-
ศิลปินใช้ “หนังสือพิมพ์” สร้างประติมากรรมสัตว์ที่ออกมาเหมือนตัวจริงไม่มีผิดเพี้ยน!!
สำหรับเราแล้ว หนังสือพิมพ์ที่เราใช้อ่านทุกวันนี้ พอเวลาอ่านเสร็จเราก็ทำได้แค่ทิ้งหรือไม่ก็เก็บไว้ชั่งกิโลขาย แต่สำหรับศิลปิน Chie Hitotsuyama เขามองหนังสือพิมพ์แตกต่างไปจากเรา เพราะมันสามารถนำมาสร้างผลงานศิลปะออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้เธอได้ม้วนหนังสือพิมพ์ที่เธอเก็บไว้เป็นหลายๆ เส้น แล้วก็ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเป็นรูปร่างของสัตว์ที่มีความสมจริง โดยทั้งหมดนี้เธอใช้มือของเธอทำล้วนๆ นอกจากนี้ยังทำเป็นสีเพื่อให้งานของเธอดูมีเค้าโครงและมิติมากขึ้น และสัตว์ที่เธอทำออกมาก็ไม่ใช่ตัวเล็กๆ เธอสร้างมันด้วยขนาดที่เหมือนจริงตัวใหญ่จนคนโอบกอดไม่ไหว บางตัวก็เหมือนจริงจนน่าตกใจ ไม่น่าเชื่อว่ากระดาษหนังสือพิมพ์จะทำรายละเอียดออกมาได้มากขนาดนี้ เราไปชมผลงานของเธอกันเลย ชมคลิปการทำงานของเธอในการสร้างแต่ละตัว ละเมียดละไมจริงๆ อีกทั้งเธอยังอัพเดตผลงานไว้ในเว็บ Chie Hitotsuyama ลองเข้าไปดูกันได้ ที่มา boredpanda
-
16 เรื่องฮาๆ ที่ไม่มีใครคิดว่า มันจะมาพบเจอใน “หนังสือเรียน” ได้!!
ถ้าพูดถึงหนังสือเรียนแล้วหลายคนก็คงจะเบือนหน้าหนี เพราะว่าแค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันทีเลย แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปพบมิติใหม่ของหนังสือเรียน ปกติแล้วหนังสือเรียนที่เราอ่านแทบจะไม่มีความ “ตลก” อยู่ในนั้นเลย เพราะมันมีแต่เนื้อหาที่เราต้องเอาไปสอบ เว้นแต่ว่าอาจารย์จะเป็นคนพิมพ์หนังสือนั้นขึ้นมาเอง ก็มักจะสอดแทรกอะไรสนุกๆ ลงไปบ้าง และวันนี้จะพาไปดูหนังสือเรียนที่ได้เอาความตลกใส่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นโดยตัวหนังสือเองหรือจะเป็นตัวนักเรียนด้วย กลายเป็นมุกน่ารักๆ ขึ้นมาซะอย่างนั้นเลย หนังสือเรียนคณิตแต่… นี่คือรูปแรคคูน ทำไมรูปมันมาอยู่ตรงนี้ได้ หนังสือเรียนของวิชาสายวิศวะ นั่นมือของใครรรร สาวจูงหมาแล้วพูด “สวัสดี” เป็นภาษาฝรั่งเศสกับหนุ่มสาวที่ทำอะไรกันในพุ่มไม้ จากหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบเว็บพร้อมคำบรรยายใต้ภาพ เอารูปแพนด้าแดงน่ารักๆ ที่มันหมดปัญญาจะเขียนโค้ด HTML5 แล้ว พี่สาวเจอรูปนี้ในหนังสือเรียนน้องชายคนเล็ก รอนนี่ ขอแนะนำเพื่อนสนิทของฉันเอง นี่จีซัส / เอ่อ ไม่ดีกว่า ภาพของไมเคิล เฟลบ์ก่อนจะมาเป็นแชมป์ว่ายน้ำในทุกวันนี้ ในหนังสือคณิต ฟังก์ชั่นที่นิยมใช้มากที่สุดคือ (มันเรียกว่าอะไรฟระ) สมมติว่านักเรียนไปเจอคนคนหนึ่งที่ตรอกมืดตอนกลางคืน แล้วเขาก็เอาปืนจี้คุณแล้วพูดว่า “ฉันอยากจะถกเถียงกับคุณเกี่ยวกับฟังก์ชั่นนี้” ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวไว้ก่อน จากหนังสือเรียนสถิติหน้าแรก ความจริงแล้วบทที่อ่านไปคือ “บทนำ”…
-
15 ภาพหนังสือพิมพ์ + นิตยสาร ที่จัดวางแบบผิดที่ผิดทาง จนกลายเป็นเรื่องฮาของวัน
เวลาอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร เราเคยสังเกตมั้ยว่า บางครั้งการจัดวางเรื่องราวแต่ละเรื่อง ก็สร้างความฮาให้เราเหลือเกิน จากเรื่องเศร้าๆ ก็กลายเป็นเรื่องฮาซะงั้น ในขณะที่เรื่องฮาๆ ก็กลายเป็นเรื่องเศร้าได้เช่นกัน เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์และนิตยสารเหล่านี้ที่ทาง Bored Panda ได้รวบความฮาๆ ที่เกิดจากรูปแบบการจัดวางเรื่องราวเอาไว้แบบผิดที่ผิดทาง จนทำให้คนอ่านรู้สึกงงว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เจอ จะตลกดีมั้ย เอ๊ะ หรือจะเศร้ารึเปล่า? 1. เอาวางแบบไม่ดูบริบท ‘โชว์ให้สาวๆ เห็นความเป็นคุณ’ แล้วพอดิบพอกับรอบๆ ที่มีแต่ผู้หญิงซะด้วยสิ 2. หมีพูห์กับเพื่อนกลายผู้ก่ออาชญากรรมรุนแรงไปซะงั้น 3. เกือบจะดีแล้วเชียว แต่รูปในหนังสือพิมพ์มันเรียงพรืดซะขนาดนี้ 4. จากการช่วยหมาของ George Clooney กลายมาเป็น “เราจะมีเซกส์กันแบบไม่พักเลย” คนอ่านฮาลั่นเลย 5. กำลังจะบอกว่า ‘หมาน้อยรักจัง’ แต่พอเหลือบไปเห็นข้อความข้างๆ “ผู้กระทำความผิดทางเพศอย่างรุนแรง” เฮ้ย!! ไม่ใช่ละ 6. จากตัว e กลายเป็น o ความหมายเปลี่ยนเป็นคนละเรื่องเลย ‘ที่ไหน’เป็น ‘กะหxี่’ (เสียงไม่สูงนะ) 7.…
-
J.K. Rowling เปิดตัวหนังสือเกี่ยวกับ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” 3 เล่ม พร้อมรายละเอียด วางขายกันยานี้!!!
เรียกได้ว่าปี 2016 เป็นปีทองเลยก็ว่าได้ ไหนจะมีหนังฮีโร่ที่เราชอบออกมาเยอะแยะมากมาย หนังสปินออฟของแฮร์รี่ก็มาท้ายปี และล่าสุดเจ.เค. โรว์ลิ่ง ก็ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับหนังสืออีก 3 เล่มที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้อีกด้วย นอกจากหนังสือบทละครเวทีของ Harry Potter and the Cursed Child แล้ว ยังมีหนังสือเรื่องราวอื่นๆ อีกที่จะมามาให้เราได้อ่านกัน งานนี้สาวกถึงกับเฮลั่นเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่าเราจะได้อ่านหนังสืออะไรในปีนี้กันบ้าง… Short Stories from Hogwarts of Power, Politics and Pesky Poltergeists เรื่องสั้นจากฮอกวอตส์ ว่าด้วยเรื่องด้านมืดของโลกพ่อมด อีกทั้งยังจะได้รูปจักกับศาสตราจารย์ อัมบริดจ์มนุษย์ป้า และการพบกันระหว่างศาสตราจารย์ฮอเรซ ชลักฮอร์นและลอร์ดโวลเดอมอร์ (ซึ่งตอนนั้นยังเป็นทอม ริดเดิล) Short Stories from Hogwarts of Heroism, Hardship and Dangerous Hobbies เรื่องสั้นจากฮอกวอตส์เล่มที่สอง จะเล่าถึงประวัติของศาสตราจากมักกอนากัลและรีมัส ลูปิน อีกทั้งยังได้เจาะลึกชีวิตศาสตราจารย์ประจำวิชาพยากรณ์ศาสตร์อย่างซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์อีกด้วย…
-
หนังสือกลไกสุดลึกลับ ถ้าอยากอ่านบทต่อไปก็ต้อง “แก้ปริศนา” ให้ได้ก่อน!!!
หลายคนคงอ่านหนังสือมาหลายรูปแบบ บางเล่มอาจจะใช้ภาษาที่ยากมากๆ จนเรารู้สึกว่ามันอ่านยากไป แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพามารู้จักกับหนังสือที่อ่านยากยิ่งกว่า นั่นก็คือ Codex Silenda นี่คือหนังสือที่ทำจากไม้ล้วนๆ ที่ผ่านการใช้เลเซอร์ในการตัด ออกแบบโดยดีไซเนอร์ Brady Whitney ที่ผ่านการระดมทุนในเว็บไซต์ Kickstarter มาแล้ว ตามคอนเซ็ปต์ของหนังสือเล่มนี้ก็เพื่อให้นักอ่านได้ทำการปลดล็อกเรื่องราวต่อไปด้วยตัวเอง เมื่อปริศนาถูกคลี่คลาย เนื้อเรื่องต่อไปก็จะตามมา นี่คือความสนุกของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งแต่ละบทของเรื่องราวนั้นเหมือนเป็นกับดักที่สร้างโดย Da Vinci ที่คอยดักสายลับที่จะมาล้วงเอาข้อมูล เราไปชมภาพผลงานชิ้นนี้กันเลย . . . . . . ชมคลิปการทำงานของหนังสือเล่มนี้กัน ส่วนใครที่สนใจเจ้าโปรเจ็คนี้ สามารถไปให้เงินสนับสนุนได้ที่ www.kickstarter.coms โดยมีเป้าหมายที่ประมาณ 100,000 บาท แต่มีคนให้ความสนใจและสนับสนุนกับกว่า 5 ล้านเลยทีเดียว นับว่าได้รับความนิยมสูงมากๆ ที่มา boredpanda
-
เลอค่าและดีงาม!! ศิลปินสร้างฉาก “รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์” ด้วยการแกะสลักหนังสือเก่า
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังสือหรือภาพยนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” นั้นโด่งดังและเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้างมาก ถึงแม้จะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว เด็กรุ่นหลังๆ ก็ยังรู้จักอยู่เลย ทำให้หลายๆ ครั้งเราจะได้เห็นเรื่องราวของโลกเวทมนตร์ที่ยังไม่จางหายไป เหมือนอย่างศิลปินชาวอังกฤษ Thomas Wightman ได้สร้างผลงานที่ชื่อว่า Visit Scotland ซึ่งเป็นภาพของสะพานที่ชื่อว่า Glenfinnan Viaduct ในประเทศสกอตแลนด์ และเป็นที่รู้จักกันในฉากรถไฟสายด่วนฮอกวอตส์นั่นเอง เขาสร้างมันขึ้นมาจากหนังสือเก่าๆ และใช้ชิ้นส่วนทุกอย่างจากหนังสือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ สะพาน ต้นไม้หรือแม้กระทั่งใบไม้ที่หล่นอยู่ก็เป็นตัวหนังสือจากหนังสือเล่มนี้ เขาใช้มีดตัดกระดาษ คีม และกาวค่อยๆ บรรจงสร้างมันขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นงานละเอียดชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไปชมผลงานแบบชัดๆ กันเลย . . . . . . . . ภาพของงานเบื้องหลัง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของหนังสือได้อย่างชัดเจน ที่มา sobadsogood
-
โรงละครอายุกว่า 100 ปี ถูกเปลี่ยนให้มาเป็น “ร้านขายหนังสือ” สุดวิจิตร!!!
ถ้าวันไหนคุณได้ไปเที่ยวที่อาร์เจนติน่าแล้ว อย่าลืมแวะไปที่เมือง Barrio Norte ล่ะ เพราะว่าคุณจะได้เจอกับร้านหนังสือที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ร้านนี้ชื่อว่า El Ateneo Grand Splendid เดิมทีแล้วที่แห่งนี้สร้างมากว่า 100 ปี และไม่ได้เป็นร้านหนังสือแต่อย่างใด เพราะมันคือโรงละครที่ชื่อว่า Grand Splendid Theater ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1919 แล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นโรงภาพยนตร์จนกระทั่งปี 2000 ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นร้านหนังสืออย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก ปีนึงก็หลายล้านเลย เพราะว่าเต็มไปด้วยศิลปะจากสมัยก่อนที่ยังหลงเหลือไว้โดยสถาปนิก Peró และ Torres Armengol และตอนที่เปลี่ยนมาเป็นโรงภาพยนตร์ก็ได้สถาปนิกอีกคนที่ชื่อว่า Fernando Manzone มาปรับปรุงต่อ ในปี 2008 นั้นร้านหนังสือแห่งนี้ได้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นร้านขายหนังสือที่สวยงามเป็นอันดับ 2 ของโลกโดย The Guardian ซึ่งก็ไม่แปลกเลย เพราะว่ามันอุดมไปด้วยศิลปะจากยุค 1920 ล้วนๆ . . . . . ที่มา boredpanda
-
เปรียบเทียบหน้าตา 22 ตัวละคร “Game Of Thrones” จากในซีรีย์ ต่างกับในหนังสือแค่ไหน!?
สำหรับใครที่ติดตามซีรีย์ดังอย่าง “Game Of Thrones” มาตลอด คุณจะเห็นได้ว่าตัวละครแต่ละตัว มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป และยิ่งใครที่เป็นสาวกตัวจริงละก็ เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยอ่านทั้งหนังสือ และดูซีรีย์ อย่างแน่นอน ที่สำคัญคุณก็คงจะรู้ว่า ตัวละครในหนังสือถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย George R.R. Martin นั้น มีความคล้ายคลึงกับตัวละครจากในซีรีย์มากขนาดไหน และถ้าหากใครที่ดูเพียงซีรีย์อย่างเดียวอาจจะยังนึกภาพไม่ออก ถ้าอย่างนั้นก็มารับชมภาพของตัวละครเหล่านั้นได้เลย 1.Tywin Lannister 2.Joffrey (Lannister) Baratheon 3.Tyrion Lannister 4.Daenerys Targaryen 5.Cersei Lannister 6.Ygritte 7. Oberyn Martell 8. Bran Stark 9. Catelyn Stark 10. Eddard (Ned) Stark…
-
23 ภาพชีวิตที่แตกต่าง แม้จะยากดีมีจนต่างกัน แต่เราทุกคนมีนั้นคือ.. ‘ความเท่าเทียม’
Mark Laita ได้อุทิศถ่ายภาพในแนวคิด “ความเสมอภาค” โดยได้เดินไป 48 รัฐทั่วอเมริกา ในเวลา 8 ปี เพื่อถ่ายภาพตลอดการเดินทาง… เขานำเสนอภาพถ่ายแห่งการเปรียบเทียบ ระหว่างคนสองกลุ่มในสังคม ระหว่างคนรวยกับคนจน แม้กระทั่งความดีและความชั่วที่นิยามขึ้น นอกจากนั่นพวกเขาจะมีชีวิตต่างกันโดยสิ้นเชิง และอาจจะไม่มีโอกาสพบกันในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยซ้ำ เพื่อจะได้เห็นว่าเราทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมด แม้สภาพแวดล้อมจะแตกต่างกันเหลือเกิน โดยสื่อผ่านทางภาพขาว-ดำ พร้อมยกตัวอย่างอาชีพและวิถีชีวิตของผู้คนเหล่านั้น ถึงวิถีชีวิตจะแตกต่าแต่มีบางสิ่งที่เหมือนกัน… 1. นักเพาะกาย กับ ชาวนา 2. นักล่าขนสัตว์ กับ ผู้หญิงและสุนัข 3. นักปรัชญา กับ ช่างซ่อมรถยนต์ 4. ซีอีโอ กับ นักจัดส่งของ 5. นักศึกษาจบมหาวิทยาลัย กับ นักเรียนที่ถูกไล่ออก 6. ครอบครัวที่ยากจน กับ ครอบครัวที่ร่ำรวย 7. คนไร้บ้าน กับ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8. นาวิกโยธิน…
-
เด็กวัย 9 ขวบ ใช้เงินเก็บตัวเอง ซื้อหนังสือบริจาคให้ “นักโทษในเรือนจำ” ได้อ่าน!!
ยังจำหนังสือเล่มแรกที่เราอ่านจบได้อยู่มั้ย ถ้าไม่นับหนังสือเรียนนะ อาจจะเป็นนิยายหรือหนังสือทั่วไป สำหรับ #เหมียวสามสี คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคแรกตอนอยู่ป.4 มันเป็นอะไรที่ภูมิใจมากๆ ที่เราสามารถอ่านหนังสือหนาๆ ได้จบสักหนึ่งเล่ม ในเรือนจำนั้นยังมีนักโทษอีกหลายคนที่รอวันที่จะถูกปล่อยออกมา หลายคนก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกลับใจได้ ส่วนหนึ่งก็มีจากการอ่านหนังสือในเรือนจำนั่นแหละ เพราะมันช่วยหล่อหลอมให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้ สำหรับหนูน้อยวัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Tyler Fugett เขาก็มีเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากจะเอาไปสร้างสิ่งดีๆ ซึ่งเงินก้อนนี้แท้จริงแล้วเขากะเอาไว้ซื้อหนังสืออ่าน แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เอามาอ่านเอง แต่กลับเอามาให้นักโทษที่เรือนจำ Montgomery County Jail แทน หนูน้อย Tyler เขามีสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในเรือนจำด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาขอให้แม่พาไปส่งที่ร้านหนังสือทุกๆ สัปดาห์ เพื่อหาหนังสือลดราคา ก่อนที่เขาจะรวบรวมแล้วเอามาส่งให้กับทางเรือนจำ หนูน้อยกล่าวว่า “เวลาที่ผมคิดเรื่องไม่ดี ผมมักจะอ่านหนังสือ ดังนั้นผมเลยเก็บหนังสือแล้วเอาไปให้พวกเขา ถ้าพวกเขาได้อ่านหนังสือก็จะไม่มีเวลาคิดเรื่องไม่ดี บางทีพวกเขาอาจจะเจออะไรดีๆ ในหนังสือและทำให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้” หนังสือในเรือนจำนั้นมาจากการบริจาคทั้งหมด และหนึ่งในนั้นก็เป็นของหนูน้อย Tyler ด้วย เป็นเด็กวัย 9 ขวบที่มีความคิดดีจริงๆ ที่มา distractify พอพูดถึงเรื่องนักโทษแล้ว หลายคนอาจจะนึกว่าเขาเป็นคนไม่ดีไปซะหมด…
-
ภาพเด็กญี่ปุ่น ‘อ่านหนังสือ’ อย่างเป็นระเบียบ ชาวเน็ตชม อยากให้เด็กไทยเป็นบ้าง!!!
เมื่อประมาณเที่ยงของวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ได้มีการแชร์ภาพสุดแสนน่ารักของเด็กญี่ปุ่นที่สนามบินเชียงใหม่ เมื่อพวกเขานั่งอ่านหนังสืออย่างเป็นระเบียบ แถมยังไม่มีใครเล่นมือถือเลย ภาพเหล่านี้ถูกโพสต์โดยคุณ Burachai Sonthayanon ซึ่งบรรยายในภาพว่า “เด็กญี่ปุ่น รอขึ้นเครื่อง อ่านหนังสือกันหมด ไม่มีใครเล่นมือถือ ภาพนี้ขอก๊อปเพื่อนในไลน์มา ถ่ายที่สนามบินเชียงใหม่ ทำไงเด็กไทยจะสนใจอ่านหนังสือมากเท่าเขา ?” หลังจากโพสต์ไปไม่นาน ก็ได้มีการแชร์ออกไปมากมาย จนตอนนี้ยอดแชร์สูงถึง 6,500 ครั้งแล้ว . . . จากการสอบถามไปยังพนักงานที่ทำงานอยู่ที่นี่ มีเด็กญี่ปุ่นประมาณครึ่งเครื่องบิน ต่อแถวเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ แต่ละคนก็น่ารักมากๆ จากประสบการณ์ที่เคยไปญี่ปุ่น เด็กที่นั่นเขาไม่ค่อยติดมือถือเท่าไหร่ เวลาขึ้นรถไฟก็มีไม่กี่อย่าง ถ้าไม่อ่านหนังสือก็หยิบเครื่อง 3DS มาเล่น ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจริงจังไปหมด นี่ก็เป็นเหตุการณ์น่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ซึ่งหลายคนก็มองเป็นเรื่องที่แปลก เพราะเด็กบ้านเราเดี๋ยวนี้ติดมือถือ แท็ปเล็ตกันหมด น้อยครั้งที่จะเห็นเด็กๆ อ่านหนังสือจริงจังกันแบบนี้ ที่มา Burachai Sonthayanon
-
ตกแต่งบ้านให้เก๋ด้วย “ชั้นวางหนังสือซุปเปอร์ฮีโร่” ติดเฉยๆ ก็เท่แล้ว แถมมีประโยชน์ด้วย!!
สำหรับสาวกซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว คงอยากจะมีโมเดลหรือภาพโปสเตอร์ติดเต็มห้องเพื่อสนองนี๊ดของตัวเองใช่ไหมล่ะ แต่บางทีก็กลัวว่าเวลาคนอื่นมาเห็นจะหาว่าเราเป็นเด็กไม่ยอมโต วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอาสิ่งดีๆ มานำเสนอ นี่คือ “ชั้นวางหนังสือซุปเปอร์ฮีโร่” ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวตุรกีชื่อว่า Burak Doğan ซึ่งชั้นวางหนังสือตัวนี้จะออกแบบมาตามโลโก้ของฮีโร่โปรดของเรา ซึ่งสามารถจัดวางหนังสือได้สวยงาม และไม่ทำให้ความเด่นของโลโก้ลดลงเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวกของค่าย DC หรือ Marvel ก็มีให้หมด เราไปดูกันเลยว่ามันเจ๋งแค่ไหน . . . . . . เห็นแล้วอยากได้เลยใช่มั้ยล่ะ เหมียวก็อยากได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะขายมั้ย ใครชอบแต่งบ้านก็ลองเอาไปทำตามดูได้นะ ที่มา boredpanda
-
19 เหตุการณ์ที่พิสูจน์ว่า “หนังสือ” ไม่ได้มีแต่สาระ เพราะมันมี ‘ความฮา’ ได้เช่นกัน!!!
เคยมั้ยที่เวลาเห็นคนอ่านหนังสือหรือนิตยสารแล้วมองไปก็จะเห็นภาพที่หลอนนิดๆ เมื่อหน้าปกที่เป็นรูปหน้าคนนั้นไปแทนที่หน้าของเขาได้อย่างเหมาะเจาะ บางทีก็สงสัยว่าอะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้น จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าที่เอาหนังสือมาโปะหน้าแบบนี้มันเผลอหรือว่าตั้งใจกันแน่ ซึ่งแต่ละอันบอกได้เลยว่าเป๊ะมากๆ เราไปดูกันว่าหน้าของแต่ละคนจะเนียนได้สักแค่ไหนกัน!! 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. เห็นภาพพวกนี้แล้วก็นึงถึงช่วยหนึ่งที่คนเอาถุงเลย์ที่มีหน้าคนยิ้มครึ่งหน้ามาถ่ายกับหน้าตัวเอง ถือเป็นการตลาดที่ดีเยี่ยม ที่มา boredpanda
-
รวม 7 หนังดังที่ดัดแปลงจากเวอร์ชั่นหนังสือ แต่ดันทำออกมาดีกว่าต้นฉบับซะอีก!!
การดัดแปลงวรรณกรรมหรือนวนิยายให้เป็นหนังโรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จ เพราะหลายๆ ครั้งที่ทำออกมา ก็ถูกแฟนๆ ตำหนิว่า “ไม่ดีเท่าเวอร์ชั่นหนังสือ” หรือ “ไม่เหมือนหนังสือเลย” แต่นั่นไม่ใช่ทุกเรื่องไป เพราะวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมกับ 7 หนังที่ดัดแปลงจากเวอร์ชั่นหนังสือได้ดีมากๆ จนพลาดไม่ได้เป็นอันขนาด จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย Forrest Gump หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า Forrest Gump เคยเป็นหนังสือนวนิยายมาก่อน โดยเวอร์ชั่นหนังสือนั้นเขียนขึ้นโดย Winston Groom ซึ่งเมื่อถามความเห็นของผู้ที่เคยอ่านและดูทั้งสองเวอร์ชั่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวอร์ชั่นหนังมีสเน่ห์กว่ามากๆ The Curious Case of Benjamin Button The Curious Case of Benjamin Button เวอร์ชั่นหนังนั้นต่างจากเวอร์ชั่นเรื่องสั้นของ F. Scott Fitzgerald เป็นอย่างมาก ซึ่งเวอร์ชั่นต้นฉบับมีเนื้อหาเพียงสองสามหน้าเท่านั้น แต่ผู้กำกับ David Fincher ได้แต่งเติมสีสันให้ชีวิตของ Benjamin Button ออกมาสนุกและน่าประทับใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ The Shawshank…
-
เว็บอีบุ๊คญี่ปุ่นปล่อยหนังสือรวมรูปภาพ “น้องเหมียวสุดเซ็กซี่” ให้โหลดฟรีๆ บนอินเตอร์เน็ต!!
หากพูดถึงประเทศที่คลั่งไคล้หนังสือรวมรูป ไม่ว่าจะเป็นนางแบบ นายแบบ หรือดารา ชื่อของประเทศญี่ปุ่นต้องโผล่ขึ้นมาอย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเขาไปไกลกว่าหนังสือรวมรูปคนแล้ว เพราะพวกเขาทำหนังสือรวมรูป “แมว” ขึ้นมา!!! โดยหนังสือดังกล่าวเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิก(ส์) (eBook) จากเว็บไซต์ eBookJapan ในชื่อว่า Nyandafuru Sexy Gurabia ซึ่งมีการรวมรูป “สุดเซ็กซี่” ของ “น้องเหมียว” กว่า 200 รูปให้เราได้ชมกันฟรีๆ!! . เป็นไง เซ็กซี่มั้ยล่ะ อิอิ สวยๆ เก๋ๆ ไม่บอกนึกว่านางแบบจริงๆ นะเนี่ย ใครสนใจก็ไปดาวน์โหลดกันฟรีๆ ได้เลยที่นี่ ส่วนใครอยากอ่านเวอร์ชั่นบนเว็บก็เข้าไปที่นี่เลยนะฮะ เหล่าทาสแมวห้ามพลาดนะจ๊ะ ที่มา Rocketnews24
-
หนุ่มญี่ปุ่นต่อเลโก้เป็น “ปราสาทฮิเมจิ” ทีเด็ดคือพับเป็น ‘หนังสือป๊อปอัพ’ ได้ด้วย!!
เลโก้ถือเป็นของเล่นที่เสริมสร้างจินตานาการได้อย่างดีเี่ยม ไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่เล่นเลโก้ แต่ผู้ใหญ่ต่างการสร้างสรรค์ผลงานผ่านเลโก้มาเยอะแยะมากมาย ทั้งการต่อแบบสวยงามและยิ่งใหญ่ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปชมการต่อเลโก้ที่ล้ำไปกว่านั้น นี่ก็คือผลงานการต่อเลโก้ที่ชื่อว่า talapz เขาได้ทำการสร้างปราสาทฮิเมจิชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นขึ้นมาด้วยเลโก้ แต่จุดพีกอยู่ที่ เลโก้ของเขานั้นสามารถพับเก็บได้เหมือนเป็นหนังสือป๊อปอัพที่เด็กๆ เล่นกัน เราไปดูคลิปกันเลย นี่คือรูปร่างตอนที่มันแบนอยู่ ดูไม่ออกเลยว่ามันจะกลายมาเป็นปราสาทที่สวยงามได้ขนาดนี้ ดูตอนกางแล้วรู้เลยว่ากลไกข้างในมันต้องซับซ้อนมากแน่ๆ ถึงจะทำให้เป็นแบบนี้ได้ พอกางออกมาแล้วก็ดูเหมือนปราสาทที่ต่อแบบไม่มีกลไกอะไร เนียนและสวยงามไปอีกกกก ที่มา Japaaan, rocketnews24
-
หนุ่มแกล้งทำ ‘ปกหนังสือปลอม’ สุดเกรียน ขึ้นไปอ่านบนรถไฟฟ้า เล่นเอาผู้โดยสารฮากระจุย
ถ้าใครจำได้ช่วงประมาณเดือนก่อน ทางสำนักข่าวแมวเหมียวของเราเคยนำเสนอเรื่องราวสุดเกรียนคนหนึ่งชื่อว่า Scott Rogowsky ที่ทำหนังสือปลอมๆ ขึ้นไปอ่านบนรถไฟฟ้า จนชาวบ้านชาวช่องแตกตื่นกันมาแล้ว วันนี้เขากลับมาอีกครั้ง กับปกหนังสือปลอมๆ ด้วยความเกรียนกว่าเดิมที่ใครเห็นแล้วก็ต้องขำกลิ้งอย่างแน่นอน ตัวอย่างปกปลอมก็ได้แก่…. “10,000 ภาพจู๋” ฮาาา ขอถ่ายรูปไปอัพหน่อยเถอะ “ความสุขของการทำยาบ้า” “ควบคุมการโด่ของคุณจากพระเจ้า” “ขอขรรมแปป” “วิธีฝึกลูกน้อยของคุณ” “สัญญาณของผื่นที่จิมิ เวอร์ชั่นภาพสี” “จัดการกับประจำเดือนของคุณ” “การ์ฟิลเกย์” ปฏิกิริยาของผู้คนในคลิป ที่มีต่อคนอ่านหนังสือนี่มันชวนฮาจริงๆนะ ฮ่าๆ เล่นเอาฮากันทั้งขบวนจริงๆ ใครสนใจเอามุขแบบนี้ไปเล่นบ้างก็ได้นะ รับรองว่าฮากระจุยแน่นอน อิอิ ที่มา Running Late with Scott Rogowsky
-
สาวใหญ่คืนหนังสือที่ยืมไปตั้งแต่เด็กๆ ช้ากว่ากำหนดส่งคืน 67 ปี ค่าปรับพุ่งทะยานกว่า 6 แสนบาท!!!
เอาเป็นว่าลองถามใจตัวเองดูเล่นๆ ถ้ายืมหนังสือมาแล้วลืมเอาไปคืนเป็นระยะเวลากว่า 67 ปี ด้วยกัน เพื่อนๆ ยังจะเอาไปคืนที่ห้องสมุดกันอยู่มั้ย ฮร่าาาาา เรื่องนี้เกิดขึ้นในห้องสมุดแห่งหนึ่งใน Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ ที่สาวใหญ่รายหนึ่งได้นำหนังสือมาคืน หลังจากยืมไปนานจนเลยวันที่ต้องส่งคืนมากว่า 24,605 วัน ซึ่งถ้าจะปรับตามกฎของประเทศวันละ 1 เหรียญ เธอจะถูกปรับกว่า 24,605 เหรียญ หรือราวๆ 650,000 บาทเลยทีเดียว!!! วันที่เธอยืมไปคือ 17 ธันวาคม 1948!!! ส่วนหนังสือที่ว่าก็คือ Myths and Legends of Maoriland ที่เขียนโดย A.W.Read โดยบรรณารักษ์ของห้องสมุด Zoe Cornelius เล่าว่าเธอรู้สึกตกใจมากที่สาวใหญ่คนนี้นำหนังสือมาคืน แถมเล่าว่าเธอเคยยืมเล่มนี้ไปตอนเด็กๆ และตั้งใจที่จะนำมาคืนอยู่หลายครั้ง จนลืมไปในที่สุด ‘เธอรู้สึกเขินอายมากตอนเอามาคืน แต่ฉันก็มีความสุขนะที่เธอบอกว่าเธอชอบอ่านหนังสือเล่มนี้มากๆ อ่านหลายรอบเลยทีเดียวในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา’ Zoe กล่าว แถมหนังสือเวอร์ชั่นนี้ยังไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้อีกแล้วด้วย นับเป็นการส่งคืนที่สำคัญมากๆ จริงๆ และเนื่องจากตอนที่เธอยืมไปเธอเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ แถมยังเอามาคืนทั้งๆ…
-
มันจะเก่งเกินไปแล้ว!! ช่างฝีมือญี่ปุ่นเปลี่ยนหนังสือเก่าให้กลายเป็นหนังสือใหม่กริ๊บ
หนังสือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อันล้ำค่าที่มีวันเก่าและฉีกขาดได้ และเมื่อมันเสื่อมสภาพเราก็ไม่สามารถไปหาซื้อมาทดแทนได้ (หากมันตีพิมพ์มานานแล้ว) มันคงจะดีมากหากเราชุบชีวิตหนังสือเก่าๆ ให้กลายเป็นหนังสือใหม่ได้ ความคิดนั้นได้กลายเป็นจริงแล้วล่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นมีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Nobuo Okano เปิดร้านซ่อมหนังสือ Okano ในกรุงโตเกียว เพื่อให้เหล่าคนรักหนังสือที่มีหนังสือเก่าๆ ที่ไม่อยากจะซื้อใหม่ หรือเป็นหนังสือพิเศษมากๆ ได้นำเอาหนังสือเก่าๆ เยินๆ มาซ่อมให้เหมือนใหม่อีกครั้ง นาย Nobuo ให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีของญี่ปุ่นว่าเขาทำอาชีพนี้มานานกว่า 30 ปีแล้วไม่ว่าหนังสือคุณจะเก่าหรือฉีกขาดแค่ไหนเขาก็ซ่อมได้ (แต่คงไม่สามารถกู้คืนตัวอักษรที่ขาดหายไปได้) ในตอนที่รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นตามไปถ่ายรายการที่บ้านเขา นาย Nobuo ได้โชว์การซ่อมหนังสือพจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น ที่ลูกค้าได้รับมันมาตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มเรียนม.ต้นจนจบการศึกษา หนังสือเล่มนี้มีสภาพเละเทะมาก ทั้งเป็นรอยพับย่นๆ ตรงมุมหนังสือ มีรอยแหว่งๆ ตามขอบ และตัวสันหนังสือเองก็แทบจะไม่เหลือกาวอยู่เลย แต่เขาอยากจะมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับลูกสาวเพื่อใช้มันต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขาเลยนำมันมาซ่อมที่ร้าน Okano เมื่อนาย Nobuo เห็น ก็เริ่มนำหนังสือมาคลี่ออก และค่อยๆ แกเอามุมหนังสือที่พับย่นออกมาทีละหน้าๆ จากนั้นก็ใช้ลมร้อนเป่าไปที่มุมหนังสือ เพื่อให้มุมหนังสือตึงและไม่กลับมาย่นอีก ต่อมาเขาก็เริ่มเฉือนขอบหนังสือออกทีละหน่อยๆ และดึงเอาหนังสือบางหน้าที่ขาดวิ่นเกินไปมาติดกาวเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะใช้เครื่องตัดกระดาษขนาดใหญ่ตัดให้ขอบหนังสือทั้งเล่มเท่ากันและติดหน้าปกเข้าไปใหม่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย …
-
13 เด็กน้อยผู้น่ารักที่แต่งชุดให้เข้ากับ “วันหนังสือโลก” ได้เจ๋งสุดๆ
วันหนังสือโลกนั้นเป็นวันที่เฉลิมฉลองให้กับ นักเขียน นักวาดภาพ และหนังสือซึ่งวันนี้ก่อตั้งโดยองค์กรยูเนสโกและเฉลิมฉลองกันทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ แต่เหมือนว่าบ้านเราจะยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ปกติแล้ววันหนังสือโลกจะจัดขึ้นใน วันที่ 23 เมษายนของทุกปี แต่ที่อังกษฤจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีแรกของเดือนมีนาคม วันนี้ #เหมียวสามสีก็เลยเอาภาพของเหล่าหนอนหนังสือรุ่นเยาว์ที่แต่งตัวตามตัวละครจากหนังสือเล่มโปรดมาให้ทุกท่านได้ชมกัน ไปดูว่าแต่ละคนจะมาจากเรื่องอะไร และน่ารักแค่ไหนกันเชียว 1. The BFG กำลังจะทำเป็นหนังด้วยนะเรื่องนี้ 2. หนอนหนังสือกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ 3. The Mad Hatter จาก Alice’s Adventures in Wonderland 4. ฮอบบิตตัวจริงเสียงจริง 5. Fantastic Mr. Fox 6. Peter Pan 7. The Gruffalo 8. แฮร์รี่ พอตเตอร์และดอบบี้ 9. Mary…
-
น่ากลัวจังเลยพี่ชาย…ชาวเน็ตติงสำนักพิมพ์ โชว์ป้ายข้อความสุดสยิวในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
เริ่มกันไปแล้วสำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2559 ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งภายในงานก็จะมีสำนักพิมพ์ต่างๆ ขนเอาหนังสือใหม่ๆ มาวางขายพร้อมกับมีนักเขียนมาแจกลายเซ็น แถมยังมีการนำเอาหนังสือเก่าๆ ที่เคยตีพิมพ์ไปเมื่อนานมาแล้วมาลดราคากันกระหน่ำ ทำเอาหนอนหนังสือตามเก็บกันไม่หวาดไม่ไหวทีเดียว แต่ที่ดูจะฮือฮาจนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์เห็นจะเป็นบูทของสำนักพิมพ์ธัญวลัย ที่มีการตั้งบูทภายในงานและใช้ข้อความสุดสยิวในการโปรโมทหนังสือตัวเอง จนสมาชิกเว็บไซต์ทวิตเตอร์ @marinefst69 ทนไม่ได้ ต้องถ่ายภาพมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะอาจทำให้คนที่ไม่ได้ติดตามผลงานของสำนักพิมพ์แห่งนี้เข้าใจว่ามีแต่นวนิยายใต้สะดือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปได้ไม่นานนัก ทางเฟซบุ๊กเพจของสำนักพิมพ์ธัญวลัย ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษถึงประเด็นดังกล่าว และจะรีบแก้ไขทันที เรื่องที่เกิดขึ้นธัญวลัยขอโทษทุกคนจากใจจริงนะคะ ได้อ่านทุกๆ คอมเมนท์ในทุกๆ ช่องทางแล้ว ยอมรับทุกๆ คำตำหนิในเรื่องของป้าย… โพสต์โดย tunwalai.com บน 1 เมษายน 2016 แหม่ เล่นโฆษณาซะแบบนี้#เหมียวฟิ้นนี่ถึงกับสยิวเลยจ้า ที่มา tunwalai.com
-
มาแล้ว ภาพหลุดของหนังสือ Harry Potter ชุดใหม่ เวอร์ชั่นมีภาพประกอบ สวยงามจับใจเลยล่ะฮะคุณผู้ช๊มมม!!!
อื้อหือออ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เรื่องนี้ก็ขายกินได้เรื่อยๆ ไม่มีวันหมดจริงๆ ฮ่าๆๆๆ #จ่าสิบเหมียว ล้อเล่นนะจ๊ะ จะว่าไปแล้วตัวกระผมเองก็เป็นแฟนคลับของหนังสือเล่มนี้เช่นกัน เห็นข่าวนี้ก็รู้สึกดีใจจริงๆ เลยทีเดียวเชียว เพราะล่าสุดก็มีภาพหลุดหนังสือ Harry Potter แบบภาพสีทั้งเล่ม ภาค 2 ที่จะได้รับการตีพิมพ์โดย Bloomsbury and Scholastic จากฝีมือของจิตรกรฝีมือระดับรางวัลชาวอังกฤษอย่าง Jim Kay เลยทีเดียว!!! นี่เป็นเล่มที่ 1 วางขายไปเมื่อราวๆ ปีก่อน ย้อนกลับไปราวๆ เดือนมกราคม ทางสำนักพิมพ์ก็ได้ปล่อยภาพเหล่านี้ออกมาเรียกน้ำย่อยให้แฟนๆ ได้ชมกัน (สำหรับภาค 2) แฮร์รี่ ตัวละครเอกของเรา ภาพแฮกริดกำลังซิ่งมอเตอร์ไซค์ลอยฟ้าเพื่อนำแฮร์รี่ไปส่งบ้านของลุงเวอร์นอนจากเล่ม 1 ที่ผ่านมา แถม J.K. Rowling ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ถึงกับออกปากชมเองเลยล่ะว่า ‘พอได้เห็นงานของ Jim Kay แล้วฉันรู้สึกซาบซึ้งสุดๆ ไปเลย ฉันชอบภาพจินตนาการโลกของแฮร์รี่ในงานของเขามากๆ ต้องขอขอบคุณจากใจเลยที่เขามาทำงานนี้’ ภาพปกของเล่มที่ 2 …
-
งานแกะสลัก “ที่คั่นหนังสือ” ทำจากเงินแท้ คุณค่าที่หนอนหนังสือคู่ควร!!
ที่คั่นหนังสือถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักการอ่าน เพราะเราจะใช้มันในการคั่นห้าที่เราอ่านถึงโดยไม่ทำให้หนังสือของเราเสียหายจากรอยพับ Ingrid Zenarola ศิลปินนักแกะสลักฝีมือดี ได้ทำการแกะสลักที่คั่นหนังสือที่ทำจากเงินล้วนๆ โดยไม่มีการใช้เทคโนโลยีช่วยใดๆ ทั้งสิ้นทำให้ทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ แต่กว่าจะได้แบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เขาเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่กับการตัดเงิน ค่อยๆทำจนออกมาเป็นรูปร่าง แล้วก็พัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาเป็นที่คั่นหนังสือเหล่านี้ จึงไม่แปลกเลยว่าของแต่ละชิ้นทำไมถึงแพงนัก ราคา 10,000 ขึ้นไปทั้งนั้นเลย ใครสนใจก็ลองเข้าไปชมกันได้ที่ Etsy | silverleaf.it | Facebook ที่มา boredpanda
-
ร้านหนังสือการกุศลวอนหยุดบริจาค ‘Fifty Shades Of Grey’ ได้แล้ว มันล้นห้อง!!
หลายคนคงรู้จักเรื่อง Fifty Shades Of Grey ทั้งในรูปแบบหนังและนิยายกันไปแล้ว ก็คงจะรู้ว่ามันอีโรติกมากแค่ไหน ซึ่งหลังจากหนังออกไปก็ทำให้คนเริ่มสนใจอยากจะอ่านเวอร์ชั่นนิยาย แล้วก็ไปหามาอ่านจนติดใจกันไปเยอะแยะมากมาย ที่ร้านหนังสือ Goldstone Books ซึ่งเป็นร้านการกุศลที่ตั้งอยู่ในเมือง Swansea, South Wales ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่นิยายเรื่องนี้เข้าถึงจนบางทีก็สงสัยว่าคนเขาอ่านนิยายเรื่องนี้กันทุกคนเลยเหรอ มันถึงเข้ามาแบบที่ว่าแทบไม่มีที่จะเก็บเลย เนื่องจากทางร้านรับบริจาคหนังสือ ทำให้ผู้คนต่างก็ส่งนิยายเรื่อง Fifty Shades Of Grey มาให้แบบไม่ขาดสาย จนมันกองเป็นภูเขาตามภาพนี้เลย จนทางร้านต้องออกมากล่าว “เราซาบซึ้งในจริงๆ สำหรับการบริจาคหนังสือทั้งหมด แต่โปรดลดเรื่อง Fifty Shades ให้น้อยลงหน่อย ขอเป็นเรื่องอื่นแทนได้ไหม” ตอนนี้กลายเป็นปัญหามากๆ เพราะไม่สามารถระบายหนังสือเล่มนี้ออกไปได้ ขายก็ขายไม่ออก จะให้เอาไปรีไซเคิลก็ไม่ได้ด้วย พนักงานก็เลยเอามาสร้างเป็นป้อมปราการแทนแล้วกัน ที่มา distractify
-
“ที่ทับหนังสือโปร่งใส” ไอเดียดีๆ ที่หนอนหนังสือบอกว่าน่าจะมีมาตั้งนานแล้ว!!
สำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือบุคคลที่ต้องใช้หนังสือมากมายในการทำงาน คงต้องประสบปัญหากับการเปิดหนังสือหลายๆ เรื่องเพื่อนำมาอ้างอิง แต่ด้วยความที่เรามีแค่ 2 มือ ทำให้การเปิดหนังสือหน้านั้นค้างไว้เป็นอะไรที่ทำได้ยาก จะหาอะไรมาวางทับ มันก็จะบังบางส่วนที่เราต้องการจะอ่าน เจ้าสิ่งนี้คือที่ทับหนังสือโปร่งใส ที่จะให้คุณอ่านหนังสือได้แบบอิสระ โดยที่ไม่ต้องเอามือจับเลย เพียงแค่เปิดไปที่หน้าที่ต้องการ แล้วก็เอาวางทับไป แค่นี้เวลาทำงานต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าหน้าที่เปิดทิ้งไว้จะหายไปแล้ว ที่ทับหนังสือนี้ประดิษฐ์โดยบริษัทออกแบบที่ญี่ปุ่นชื่อว่า TENT โดยที่มีขนาดความกว้าง 21 × 18.5 เซนติเมตร หนา 5 มิลเมตร มีน้ำหนัก 220 กรัม ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,300 บาท ใน Amazon นึกภาพเวลาคุณทำอาหาร แล้วต้องเปิดตำราไปด้วย เจ้าสิ่งนี้ก็จะช่วยไม่ให้อาหารกระเด็นไปโดนหนังสือด้วยนะ ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าจะทำมานานแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดถึง ที่มา boredpanda
-
ศิลปินนำตัวละครใน ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ มาสร้างบนหนังสือเวทมนตร์ ได้อย่างงดงามลงตัว…
Gabriel Picolo นักวาดการ์ตูนชาวบราซิล ผู้ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานภาพวาดชุด “365 Days of Doodles” จากตัวละครในวิดีโอเกมส์ และการ์ตูนอนิเมชั่น ลงในสมุดสเก็ตภาพ ซึ่งแต่ละผลงานของเขานั้นเรียกได้ว่าทั้งสวยงาม และละเอียดลออสุดๆ นอกจากตัวการ์ตูนต่างๆ แล้ว เขายังได้นำตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาสร้างสรรค์เป็นหนังสือเวทมนตร์ ในแบบที่สาวกแฮร์รี่ได้เห็น จะต้องชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถ้าอย่างนั้นลองไปดูผลงานของเขากันเลยดีกว่า จะเห็นได้ว่า เขาถอดแบบแนวคิดตัวละคร ออกมาจากในหนังสือ ผสมผสานกับแนวทางศิลปะของเขาเอง ความละเอียดของลายเส้นที่เขาได้บรรจงวาดขึ้นมา มันแสดงให้เห็นฝีมือการวาดภาพแบบของเขาได้อย่างชัดเจน เป็นการผสมผสานของภาพวาด และหนังสือได้อย่างลงตัวมากที่สุดงานหนึ่งเลยล่ะ สาวกแฮร์รี่ได้ดูผลงานหนังสือเวทมนตร์เล่มนี้ของเขาแล้ว คุณรู้สึกอย่างไร… นอกจากผลงานเหล่านี้แล้ว เขายังได้สร้างสรรค์ผลงานเจ๋งๆ อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถเข้าไปรับชมได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้ facebook, patreon, instagram ที่มา : deviantart
-
เอาอีกแล้ว!! ไปรษณีย์กับการทำผลงานขนส่ง ‘หนังสือ’ ทั้งทิ่ม แทง เสียบ ทะลุกล่องพัสดุ
ในวงการขนส่งบ้านเรานี่ทำเอาหนาวๆ ร้อนๆ ได้อยู่เสมอเลยนะ ถ้าหากว่าเมื่อก่อนเนี่ยจะส่งของซักทีนึง ก็ต้องหันไปพึ่งไปรษณีย์ไทย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกขนส่งของเอกชนเพิ่มเข้ามาแล้ว แต่ด้วยราคาและจุดบริการที่มีไม่เยอะมาก บางคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกส่งกับไปรษณีย์ไทยอยู่ดี รับน้าาาาาาาาาา อันเนื่องมาจากชื่อเสียงอันเลื่องลื่อ เสียงลือเสียงเล่าอ้างมากมาย กับความสุดยอดของการขนส่งไปรษณีย์ไทย ไม่ว่าจะส่งอะไรก็ตาม จะห่อดีแค่ไหน สุดท้ายสภาพของก็เสียหายอยู่ดี ที่หนักหนามากก็คือของหาย และแล้วกรณีล่าสุดนี้ก็ทำเอาคนรักหนังสือถึงกับน้ำตาตกใน มีกระทู้หนึ่งพันทิปโพสต์โดยคุณ In Loving Memory เป็นเรื่องราวของบุคคลในกลุ่มคนรักหนังสือนิยาย ที่ได้ทำการส่งหนังสือไปให้กับเพื่อนอีกคน โดยทำการส่งผ่านไปรษณีย์ ทำการห่ออย่างดีด้วยซองกันกระแทก แต่สุดท้ายก็โดนทำร้ายด้วยการแทงและกรีดกล่องจนทะลุเข้าไปถึงหนังสือ สภาพของหนังสือเมื่อถึงมือผู้รับ ถูกแทงทะลุกล่อง และเล่มที่โดนก็คือเล่มพิเศษด้วย หาซื้อแยกไม่ได้ ไม่มีขายแล้ว ซึ่งหากจะซื้อก็ต้องซื้อเป็นเซทในราคาหลักพันบาท ถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่หากผู้ที่รักหนังสือเจอสภาพหนังสือแบบนี้ ก็ทำเอาใจสลายได้เหมือนกันนะ ทั้งนี้ก็อยากจะให้ไปรษณีย์ไทยทำอะไรซักอย่างเพื่อปรับปรุงคุณภาพการขนส่งให้ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ไม่อยากให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของที่อยู่ข้างในกล่องพัสดุ ซึ่งอันที่จริงไปรษณีย์ไทยก็มักจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่าเป็นความรับผิดชอบเบื้องต้นของผู้ส่ง ที่จะต้องทำการห่อหุ้มสิ่งของให้มีความแข็งแรง ด้วยการใช้ซองกันกระแทก ยัดกระดาษหนังสือพิมพ์หรือโฟมให้เต็มกล่อง…
-
ศิลปินเปลี่ยน “หนังสือเก่า” ให้กลายเป็นแก้วชา พร้อมเครื่องประดับสุดกิ๊บเก๋ยูเรก้า!!
มีหนังสือเก่าเหลืออยู่ที่บ้าน เอาไปทำอะไรดีนะ จะเอาไปชั่งกิโลขายก็เสียดาย จะเอาไปบริจาค แต่หนังสือก็สภาพแย่เกินที่จะเอาไปอ่านต่อได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองมาทำตามศิลปินคนนี้ดีกว่ามั้ย? Cecilia Levy ศิลปินชาวสวีเดนเธอได้พบนิยายเก่าๆ และหนังสือการ์ตูน แต่แทนที่เธอจะเอามันไปทิ้ง เธอได้นำเอาหนังสือเหล่านั้นมาทำเป็นเปเปอร์อาร์ต ทั้งแก้วชาและดอกไม้สวยๆงามๆ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เธอเป็นช่างเย็บหนังสือมาก่อน เธอเลยรู้องค์ประกอบของหนังสือเป็นอย่างดี ใครที่เป็นคนรักการอ่านมากๆ คงะเป็นเรื่องที่ยากที่เราจะต้องมีฉีกหนังสือหรือทำลายหนังสือที่เรารัก แต่ผลงานของเธอครั้งนี้ถือเป็นการชุบชีวิตหนังสือขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้กลายเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง เธอเริ่มทำงานกระดาษมาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากนั้นก็เธอทำให้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแก้วชา จานรอง จาน ถ้วย และอื่นๆ อีกมากมาย เราไปชมผลงานของเธอกันเลยดีกว่า ถือเป็นการนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีคุณค่ามากๆ เลย ถ้าเอาไปขายรับรองว่าได้เงินเยอะกว่าเอาไปชั่งกิโลขายอีกแน่ๆ ที่มา boredpanda
-
รวมหนังสือ Harry Potter รุ่นหายาก ที่อาจทำให้เจ้าของกลายเป็นเศรษฐีไม่รู้ตัว (หลักล้านบาท)?!
เรียกว่าเป็นหนังสือที่โด่งดังและประสบความสำเร็จที่สุดในโลกในยุคปัจจุบันก็คงจะไม่ผิดอะไร สำหรับวรรณกรรมเยาวชนชุด Harry Potter ของนักเขียน J.K. Rowling ซึ่งแม้จะจบไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ทางเว็บไซต์ขายหนังสือออนไลน์ AbeBook ได้ปล่อยหนังสือไกด์ไลน์เกี่ยวกับหนังสือหายากที่เหล่านักสะสมต้องการครอบครองมากที่สุด และหนังสือชุด Harry Potter ก็มีอยู่ในลิสต์เช่นกัน จะมีเล่มไหนบ้าง ไปชมกันเลย ไม่แน่…คุณอาจมีขุมทองอยู่บนชั้นหนังสือของคุณก็เป็นได้!! 1. เริ่มจาก หนังสือ Harry Potter ภาคแรก the Philosopher’s Stone ฉบับปกแข็ง พิมพ์ครั้งที่ 1 ที่มีเลขการพิมพ์ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 และเครดิตเขียนว่า “Joanne Rowling” แทนที่จะเป็น “J.K. Rowling” ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1997 ถือว่าเป็นเหมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” ของเหล่าสาวกแฮรี่ พ็อตเตอร์เลยทีเดียว…
-
ร้านหนังสือในสก็อตแลนด์ เปิดให้นักเดินทาง “พักฟรี” แลกกับการทำงานที่ร้าน!!
สำหรับนักเดินทางแล้ว การได้มีที่พักถือเป็นสิ่งที่ทำให้อุ่นใจได้อย่างดี เพราะไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวที่ต้องจองโรงแรมล่วงหน้า พร้อมกับวางแผนการเที่ยวไว้เรียบร้อย แต่นักเดินทางต้องลุยเอาดาบหน้าอย่างเดียว ดังนั้นถ้าไม่มีที่พักก็หาที่นอนเอง แต่ถ้าคุณเป็นนักเดินทาง และกำลังจะไปเที่ยวที่สก็อตแลนด์ วันนี้ #เหมียวสามสี มีที่พักที่ๆ ความจริงแล้วที่นี่ไม่ใช่โรงแรมนะ แต่เป็นร้านขายหนังสือที่ชื่อว่า The Open Book ตั้งอยู่ในเมือง Wigtown เขาเปิดให้นักเดินทางให้พักฟรีเลยล่ะ จริงๆ ที่ร้านก็เปิดให้เช่าคืนละประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้าคุณเดินทางมาด้วยความแน่วแน่ อยากจะลองเปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเอง โดยชั้น 1 นั้นจะเป็นร้านหนังสือเปิดให้คนที่เข้าพักได้บริหารเหมือนเป็นเจ้าของร้านเองเลย ทั้งตื่นมาเปิดร้าน จัดหนังสือ ต้นรับ คิดเงิน ทำทุกอย่างที่เจ้าของร้านทั่วไปพึงมี ทำอาทิตย์ละ 40 ชั่วโมงเหมือนเจ้าของร้านเป๊ะๆ สำหรับคนที่อยากมีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง และอยากได้ที่พักฟรีๆ ก็ลองไปที่ร้านนี้ดูได้นะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook | Airbnb ที่มา lostateminor, mymodernmet
-
สาวกเฮ!! เจ.เค.โรว์ลิ่งเปิดตัว “Harry Potter and the Cursed Child” หนังสือภาคใหม่!!
สำหรับสาวกพ่อมดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็คงรออะไรบางอย่างด้วยความหวังลมๆแล้งๆ ว่าเจ.เค.โรว์ลิ่งจะออกหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์เมื่อไหร่กันหนอ เพราะจากที่ผ่านมาแล้วไม่มีวี่แววว่าจะมีเลย แต่วันนี้จู่ๆก็ได้ทำเซอร์ไพรส์คนทั้งโลก ด้วยการเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ “Harry Potter and the Cursed Child Parts I & II” ซึ่งในภาคเราคงได้ยินข่าวว่าจะทำเป็นละครเวทีมาแล้ว และในครั้งนี้เขาแจ้งมาว่าจะพิมพ์ในรูปแบบ Script Book นั่นก็คือเป็นบทละครเวทีด้วย (ไม่ใช่นิยายนะ) โดยเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้จะเล่าเหตุการ์ 19 ปี หลังจากเล่มที่ 7 จบตัวลงไป แต่ก็ยังคงความขลังของเวทมนตร์ไว้อยู่ หนังสือเล่มนี้จะ Jack Thorne และ John Tiffany ซึ่งเป็นผู้ที่จะมาบันทึกเรื่องราวในช่วงก่อนที่ละครเวทีจะแสดงจริงในช่วงหน้าร้อนปีนี้ ส่วนทางด้านบทละครนั้นเจ.เค.โรว์ลิ่ง ก็ยังเป็นผู้เขียนเหมือนเดิม และจะตีพิมพ์หลังละครเวทีเล่นครบหมดแล้ว นอกจากนี้เราจะได้เห็นฉบับพิมพ์ใหม่ของสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ รวมถึง ควิชดิชในยุคต่างๆ และ นิทานสามพี่น้อง ที่เจ.เค.โรว์ลิ่งได้เพิ่มเนื้อหาลงไปด้วย และยังมีหนังสือประวัติของบ้านทั้ง 4 หลังในฮอกวอตส์อีกด้วย ทั้งหมดนี้จะตีพิมพ์ในปี 2017 นี้ สาวกแฮร์รี่ได้ยินข่าวดีแล้วคงตั้งหน้าตั้งตารอเลยใช่ไหมล่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นิยาย แต่ #เหมียวสามสี…
-
หุ่นยนต์เด็กจากยุค 1770 สามารถเขียนหนังสือได้ ว่ากันว่าเป็นคอมพิวเตอร์อันแรกของโลก!!
วันนี้เหมียวจะพาย้อนอดีตในยุคก่อนที่คอมพิวเตอร์จะเกิดขึ้นมา มีนักประดิษฐ์ชาวสวิสชื่อว่า Pierre Jaquet-Droz ได้สร้างชุดกลไกรูปร่างเป็นเด็กชายและมีความสามารถเขียนหนังสือได้ ชื่อของมันก็คือ Writer Automaton และสามารถเขียนตัวอักษรได้สูงถึง 40 ตัว ถึงแม้หน้าตาของมันจะเหมือนตุ๊กตาลูกเทพไปหน่อย แต่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าตุ๊กตา เวลาที่มันเขียนลงบนกระดาษ หัวของมันก็จะมองตามมือที่เขียนไป เหมือนกันคนเขียนจริงๆ ส่วนของมือนั้นสามารถเขียนและยังสามารถเอาปากกาจุ่มหมึกเองได้ด้วย Jaquet-Droz เป็นช่างทำนาฬิกาชื่อดังในศตวรรษที่ 18 และผลงานของเขาก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาไม่อยากที่จะทำงานให้กับคนรวยแล้ว เขาก็เลยหันมาสร้างหุ่นยนต์แทน นอกจากเขาจะสร้างเด็กชายที่สามารถเขียนหนังสือได้แล้ว เขายังสร้างเด็กหญิงที่สามารถเล่นดนตรีได้อีกด้วย ซึ่งหุ่นเด็กหญิงจะมีเปียโนเล็กๆ อยู่ข้างหน้าให้ได้กดเป็นทำนองต่างๆ 240 ปีผ่านมาแล้ว แต่หุ่นเหล่านี้ก็ยังจัดแสดงอยู่ที่ Musée d’Art et d’Histoire of Neuchâtel ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แต่หุ่นยนต์ไม่สามารถที่จะป้อนคำสั่งใหม่ๆ ลงไปได้แล้ว ดังนั้นมันจะเขียนตัวอักษรเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา เหมียวเห็นแล้วนึกถึงหุ่นในหนังเรื่อง Hugo เลย คิดอยู่ว่ามันตัวเดียวกันไหมนะ แต่หุ่นในเรื่องนั้นสามารถวาดภาพได้ด้วย ที่มา sobadsogood
-
George R. R. Martin ออกมาขอโทษ เพราะเขายังเขียน “Game Of Thrones” เล่ม 6 ยังไม่เสร็จ!!!
แหมๆๆๆ มาถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็ เหมียวว่าไม่มีใครโกรธเฮียแกลงหรอก ก็ผลงานคุณภาพซะอย่างนั้น…แต่ขออย่างหนึ่งละกัน อย่าทำร้ายตัวละครโปรดขวัญใจเหมียวอีกนะ ฮือออออ จะเหี้ยนอยู่แล้ววววว >< เพราะล่าสุด George R. R. Martin นักเขียนหนังสือชุดที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก ณ ขณะนี้ อย่าง A Song of Ice and Fire หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า Game of Thrones นั่นแหละ ได้ออกมากล่าวขอโทษแฟนๆ อย่างสุดซึ้ง เพราะว่าเขาไม่สามารถเขียนหนังสือ เล่ม 6 “THE WINDS OF WINTER” ได้ไม่เสร็จตามกำหนดการ!!! George R. R. Martin หนังสือชุดเล่มที่ 6 The Winds of Winter ข้อความจากเขา…‘Believe me, it gave me no…
-
สาวกตัวจริง!! เธอคนนี้ไล่ซื้อหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เวอร์ชั่นทุกประเทศที่เธอไปเยือน
“แฮร์รี่ พอตเตอร์” ถือเป็นวรรณกรรมที่ครองใจคนทั้งโลกไปแล้ว ขนาดที่ว่ามีสวนสนุกเป็นของตัวเอง จนทำให้คนที่ไม่เคยดูมาก่อน กลับกลายเป็นสาวกแฮร์รี่ไปอีกมากมาย เธอคนนี้มีชื่อว่า Miriam Salzman วัย 24 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์มานาน ตอนนี้เธอทำงานเป็นฟรีแลนซ์เกี่ยวกับละครเวทีในนิวยอร์ค เธอนั้นเป็นแฟนแฮร์รี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเลยก็ว่าได้ เริ่มจากครอบครัวของเธอได้ซื้อหนังสือแฮร์รี่มาอ่าน แล้ววันหนึ่งเธอก็หลงไปอ่านเข้า จึงเจอเวทมนตร์สะกดใจเข้าไปแต่จุดเริ่มต้นจริงๆนั้น เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอ่านให้เธอฟังก่อน ตั้งแต่เล่ม 1 ถึงเล่ม 4 แล้วหลังจากนั้นเธอก็ตามอ่านเองจนหมด เธอเริ่มสะสมหนังสือแฮร์รี่เนื่องจากได้ไปต่างประเทศ แล้วพบว่าหนังสือของแต่ละประเทศออกแบบมาไม่เหมือนกัน เธอจึงตัดสินใจซื้อตั้งแต่เล่ม 1 ถึง 7 ครั้งแรกตอนที่เธอไปทัวร์ยุโรป นอกจากนี้เธอยังมีแฮร์รี่ในภาษาฮิบรู ฮินดี อิตาลี สเปน และอีกมากมายที่เธอได้ซื้อมาระหว่างไปเที่ยวทวีปยุโรปและอเมริกา และตอนนี้เธอมีหนังศือแฮร์รี่รวมกันถึง 37 เวอร์ชั่น รวมถึงหนังสือพิเศษอย่างควิชดิชในยุคต่างๆ, สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ และนิทานของบีเดิลยอดกวี แหม่ นี่มันแฟนพันธุ์แท้ชัดๆ ยังไงก็อย่าลืมตามมาซื้อที่เอเชียบ้างนะ แต่บ้านเรานี่ก็มีหนังสือหลายเวอร์ชั่นมากๆ อยากรู้ว่าเธอจะซื้อไปทั้งหมดเลยรึเปล่า อ่ะ สเนปปรบมือให้…
-
นักศึกษาหนุ่มชาวจีน เปลี่ยนหอพักให้เป็นคลังเก็บหนังสือกว่า 5,000 เล่ม จะเยอะไปไหนเนี่ย!!
ในตอนที่คุณเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ยังจำได้หรือไม่ว่าตอนอยู่หอพัก คุณมักจะชอบหาไอเดียเจ๋งๆ มาตกแต่งห้องของคุณบ้างหรือไม่ แน่นอนว่าวิธีการตกแต่งห้องของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันออกไป แล้วถ้าเกิดว่ามีคนเอาหนังสือเรียนกองเท่าภูเขามาตกแต่งห้องละ เอ…มันจะออกมาเป็นอย่างไรนะ และเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ได้เผยภาพของ Li Shibai นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยครูแห่งมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ผู้ที่ได้เปลี่ยนหอพักของตัวเองให้กลายเป็นถ้ำหนังสือได้ในแบบที่ไม่เหมือนใครแบบนี้… ขุ่นพระ!! เยอะไปไหน แต่จริงๆ แล้ว มันอาจไม่ได้เรียกว่าเป็นการตกแต่งห้องไปซะทีเดียว เพราะความจริงแล้วหนังสือเรียนกองเท่าภูเขาเหล่านี้ หนุ่ม Li เขาได้ทำการเก็บสะสมมาตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย มันก็เลยมีเยอะอย่างที่เห็นนี้ยังไงละ ‘ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนซื้อหนังสือเหล่านี้มาเอง โดยใช้เงินที่ได้จากทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยและการทำงานพาร์ทไทม์’ หนุ่ม Li กล่าว และที่สำคัญหนังสือภายในห้องทั้งหมดที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ มีมากกว่า 5,000 เลยทีเดียว ป้าดดด เยอะจนแทบไม่มีพื้นที่เดินเลยนะเนี่ย แหมๆๆ สงสัยพ่อหนุ่มคนนี้คงจะเป็นหนอนหนังสือตัวจริงเลยละ ก็ดูสิ…ทุกตารางนิ้วของห้อง มีหนังสือวางเบียดเสียดอยู่เต็มไปหมด จนแทบจะไม่มีที่วางอย่างอื่นเลย…
-
ทะลึ่งตึงตัง แต่น่าลองนะ!! หนังสือเกรี๊ยนเกรียนโผล่ ‘กามสูตร สตาร์ วอรส์’ ท่วงท่าแห่งจักรวาล
โอ้ยยยยย!! คือแบบว่ากระแสหนังมันแรงจริงอะไรจริง แรงจนฉุดไม่อยู่ มีของเล่น ของขายคลอดออกมาตามๆ กันแบบไม่หยุด ล่าสุดนี้เหมียวก็ไปเจอของที่เกี่ยวข้องกับสงครามกาแลคซี่อีกแล้ว แต่รอบนี้เป็นหนังสือที่มาพร้อมกับความทะลึ่งตึงตังแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แท่น แท๊นนนน เปิดด้วยภาพปกของหนังสือก่อนเลย หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า ‘Star Wars Kamasutra’ หรือ กามสูตรฉบับสตาร์วอรส์ นั่นแหละ อย่างที่รู้ๆ กันว่ากามสูตรก็คือเรื่องของเพศศึกษา ว่ากันด้วยท่วงท่าและลีลาส่งตรงมาจากกาแลคซี่อันไกลโพ้น และไม่ได้มาเล่นๆ นะมีขายจริงในราคา 17.55 ดอลลาร์ (ประมาณ 632 บาท) แนะนำท่าแรก AT-AT Style สาธิตโดยหุ่น AT-AT ตัวที่หนึ่งและสอง พร้อมฮาน โซโล กับ R2D2 เป็นตัวประกอบ ท่าต่อไป กองทัพโคลนจู่โจม สาธิตท่าโดยเหล่าทหารโคลนนั่นแหละ ท่า The Perfect Man สาธิตโดยเจ้าหญิงเลอากับฮาน โซโล ในร่างแช่แข็ง…
-
ชมผลงานศิลปะสุดเกรียนของเหล่านักเรียนญี่ปุ่น ปลดปล่อยจินตนาการใส่ ‘หนังสือเรียน’ !!
เชื่อว่าหลายๆ คนคงผ่านประสบการณ์มือบอนลงหนังสือแบบเรียนมาไม่มากไม่น้อย อย่างเวลามีรูปภาพประกอบกับเนื้อหาในบทเรียน ก็มักจะลงไม้ลงมือแต่งภาพ เสริมจินตนาการเข้าไปตามใจฉัน ฮ่าฮ่า!! ก็คงจะเป็นเหมือนกันทั่วโลกแหละ เพราะเวลาเรียนมันน่าเบื่อเหลือเกิน ฉะนั้นก็หาอะไรสนุกๆ ทำซักหน่อย นักเรียนญี่ปุ่นนึกสนุกเอาปากกาน้ำยาลบคำผิดมาลบในส่วนที่ไม่ต้องการออกไปในแบบเรียน แล้วก็วาดส่วนใหม่เข้าไปแทน ผลก็เลยออกมาเป็นภาพคนละความหมายเลย ลองกินสิ ลองเลย โบ้มมมมมม!! มัวแต่ลีลาชื่นชมอยู่นั่นแหละ ไม่กินซักที พลังตบเหลือล้น ทักทายกันซักหน่อย จากท่าออกกำลังกาย กลายเป็นโดนชกทะลุท้อง ท่าจูงหมาเท่มาก!! นี่กะจะมาตีกันใช่มั้ย กลายเป็นเกมโปเกม่อนไปซะแล้ว ใช้เครื่องดูดฝุ่นยังไงให้ถูกวิธี เค้าให้ใช้สี ไม่ได้ให้มาใช้ตีกันนะแกร๊!! อิ่มจนเลือดออกปาก เดี๋ยวๆๆ มาได้ไง อุ้ย ปืนลั่น เฮ้ เธอเป็นยังไงบ้าง ป๊าบบบบ!! นี่เล่นสกีลีลากันใช่มั้ย …
-
เด็กๆ อ่านหนังสือให้กับสุนัขฟังในช่วงคริสต์มาส เพื่อหวังให้มีคนรับมันไปเลี้ยง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ที่ ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ The Animal Rescue League of Berks County ได้เริ่มโครงการ “Book Buddies” ที่จะให้เด็กๆ ได้มาอ่านหนังสือให้กับน้องแมวได้ฟัง เพื่อช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการอ่าน อีกทั้งยังทำให้แมวได้พบบปะกับผู้คน เพิ่มโอกาสให้คนมารับพวกมันไปเลี้ยง และโครงการนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย สัตว์บางตัวที่เคยถูกทำร้ายมาก่อน ก็ได้รับความรักจากบ้านหลังใหม่ และตอนนี้ ทาง Humane Society of Missouri ศูนย์รับเลี้ยงอีกแห่งก็ได้ทำโครงการที่คล้ายๆ กับที่แห่งนี้ แต่คราวนี้เป็นการอ่านหนังสือให้กับสุนัขฟังแทน และทำในช่วงวันหยุดเทศกาลแบบนี้ด้วย ในเดือนธันวาคมปีนี้ เด็กๆ หลายคนได้เข้าร่วมโครงการอ่านหนังสือให้กับสุนัข Humane Society ได้บอกว่า กลุ่มเด็กๆ อาสาสมัครเหล่านี้ได้ช่วยสุนัขที่ขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม ให้กล้าเผชิญหน้ากับคนมากยิ่งขึ้น และยังทำให้สุนัขที่คึกคักตลอดเวลาสงบลงได้ด้วย อีกทั้งเด็กๆ ก็ยังได้ทักษะการอ่านติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ถือเป็นอะไรที่ วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย บางครั้งการอ่านก็ทำให้สุนัขผ่อนคลายจนหลับไปเลยก็มี เราไปชมคลิปโครงการดีๆ แบบนี้กันเลย แล้วจะรู้สึกถึงการส่งต่อความรักให้กันและกัน ที่มา TIME
-
เรียกสั้นๆ ว่า ‘ห้องสมุด’ ส่วนเรียกยาวๆ ว่า ‘ภูเขาหนังสือ Spijkenisse’ แห่งเนเธอร์แลนด์!!
เดี๋ยวนี้ห้องสมุดทุกที่ในโลกก็มักจะได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้ทันยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ นอกจากจะปรับตัวแล้วก็ยังมีการออกแบบและสร้างสรรค์ห้องสมุดขึ้นมาใหม่ เรียกได้ว่าสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้ามาใช้บริการภายในห้องสมุดได้เป็นอย่างดี ที่ต่างประเทศนั้นเขาให้ความสำคัญกับห้องสมุดมากๆ เลยล่ะ อย่างเช่นห้องสมุด Spijkenisse หรือ กองภูเขาหนังสือ Spijkenisse จากประเทศเนเธอร์แลนด์นี้ โดยลักษณะการออกแบบที่ตั้งใจให้เหมือนกับภูเขาที่ก่อตัวขึ้นมาจากกองหนังสือ 5 ชั้น เหมียวว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยทีเดียว เพราะเป็นการประหยัดพื้นที่รอบด้านของห้องสมุดให้กลายมาเป็นที่นั่งอ่านหนังสือหรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ และรวบรวมหนังสือไว้ในที่เดียวกัน ผลงานการออกแบบสุดบรรเจิดนี้เป็นผลงานของทีมสถาปนิกจาก MVDV ซึ่งนอกจากจะเป็นห้องสมุดแล้ว ก็ยังเป็นศูนย์การศึกษา, สโมสรหมากรุก, ห้องประชุม, สำนักงานของบริษัท และร้านค้าปลีกอีกมากมาย เรียกได้ว่าครบครันแทบจะทุกอย่างเลย แถมบรรยากาศก็น่าเข้าไปใช้บริการซะเหลือเกิน ทั้งบรรยากาศภายนอกและภายในดูดีไปหมดเลยแฮะ ถ้าหากว่าได้มีโอกาสไปเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ลองไปเยี่ยมชมห้องสมุดแห่งนี้กันบ้างนะจ๊ะ ที่มา : thechive
-
20 ของขวัญที่เหมาะสำหรับมอบให้กับ “หนอนหนังสือ” ตัวจริงเท่านั้น!!
สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือ หรือที่เราเรียกพวกเขาว่า “หนอนหนังสือ” นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียนก็ได้ การอ่านหนังสือถือเป็นกิจกรรมที่สามารถผ่อนคลายเราได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นคนชอบอ่านหนังสือกัน ใกล้ปีใหม่แบบนี้ ก็ต้องมีการให้ของขวัญกับเพื่อนพี่น้อง หรือคนในครอบครัว แต่การจะให้ของขวัญคนที่เป็นหนอนหนังสือนั้น นอกจากจะให้หนังสือแล้ว ยังมีของอื่นๆที่น่าจะเอาไปฝากด้วยนะ วันนี้เหมียวก็เลยนำเอา 20 ไอเดียของขวัญที่ควรมอบให้กับหนอนหนังสือมาฝากทุกๆคน เผื่อว่ากำลังลืมหาว่าจะซื้ออะไรไปฝากคนรู้จัก ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1. ที่คั่นหนังสือ 2. โซฟาที่เป็นชั้นหนังสือในตัว 3. บันไดทำเป็นสันหนังสือ 4. เทียนกลิ่นเหมือนหนังสือเก่า จะเป็นยังไงนะ 5. แก้ว 6. เตียงนอน 7. แทนวางอ่านในอ่าง 8. คลิปหนีบผม 9. ผ้าห่ม 10. เต๊นท์ 11. จี้สร้อยคอ 12. ชั้นวางเก๋ๆ…
-
การอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์และเครื่องอ่าน Kindle ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้กลายเป็นยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ที่แทบจะเข้ามาแทนที่ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว รวมไปถึงการเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงการอ่านของมนุษย์ด้วย ที่เหมียวกำลังจะกล่าวถึงก็คือมนุษย์หันมาอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น (Kindle และ E-Book) คุณ Manoush Zomorodi และ Mike Rosenwald ได้ร่วมกันพิสูจน์ถึงผลกระทบของการอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่าไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับการอ่าน ราวกับว่าอ่านตัวหนังสือผ่านเว็บไซต์หรือหน้าฟีดทวิตเตอร์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ใช้สมองในส่วนที่แตกต่างกัน จากทั้งการอ่านผ่านหนังสือและหน้าจอ เพราะฉะนั้นการอ่านตัวหนังสือจากหน้าจอจะทำให้มีลักษณะการอ่านแบบ Skimming (อ่านผ่านอย่างรวดเร็ว) คล้ายๆ กับการกวาดตาอ่านเว็บไซต์ Zomorodi กล่าวเสริมเอาไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาอ่านตัวหนังสือผ่านหน้าจอกันมากขึ้น และทำให้ลักษณะการอ่านแบบจดจ่อนั้นค่อยๆ จางหายไป เพราะไม่ได้ใช้งานสมองส่วนที่อ่านหนังสือจากสิ่งพิมพ์เลย และด้วยปัญหานี้จะทำให้มนุษย์ยุคใหม่มีสมาธิที่สั้นลง ไม่จดจ่อกับสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่โตมากับเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะหันมาจับหนังสือจริงๆ แล้วลองใช้เวลากับมันซักพัก วันละ 1 ครั้งก็ยังดี ที่มา : pri, niemanreports, academia
-
19 ความลับใน “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ที่ เจ.เค. โรว์ลิ่ง เผยออกมา แน่นอนว่าไม่มีอยู่ในหนังสือ!!
“แฮร์รี่ พอตเตอร์” ถือเป็นนิยายและภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลต่อโลกนี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะจบไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีความลับมากมายที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผย เพราะว่ามันคือโลกเวทมนตร์ที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในนั้นยังมีอะไรอีก มีเพียงคนเดียวที่รู้ นั่นก็คือ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนเรื่องราวทั้งหมดนี้ขึ้นมา แม้ข้อมูลบางส่วนเธอจะเอาไปใส่ในเว็บไซต์ Pottermore ให้เราได้ไปค้นหากันแล้ว แต่ก็ยังมีความลับเล็กๆน้อยๆที่หลายคนสงสัย จึงส่งคำถามไปยังทวิตเตอร์ แล้วเธอก็ได้ตอบกลับมา ถือเป็นความลับชิ้นใหม่ที่สามารถต่อจิ๊กซอหลายๆ ตัวได้เลย เราไปดูกันเลยว่าจะมีอะไร้บาง 1. หลายคนอาจสงสัยว่าในภาคที่ 2 ตอนงูบาซิลิสก์กัดแฮร์รี่แล้ว ทำไมฮอร์ครักซ์จึงไม่ถูกทำลายเหมือนตอนที่ใช้เขี้ยวของงูทำลายหนังสือของทอม ริดเดิล ปริศนานี้ เจ.เค. ก็ได้ตอบกลับแฟนๆแล้วว่า “การทำลายชิ้นส่วนของฮอร์ครักซ์นั้นต้องทำลายแบบสิ้นซาก หรือไม่สามารถซ่อมแซมกลับมาได้อีก ดังนั้นแฮร์รี่จำเป็นต้องตาย (เหมือนในภาค 7.2) ก่อน ถึงจะสามารถทำลายมันได้ และการทำลายก็ต้องใช้อุปกรณ์หรือเวทมนตร์ที่พิเศษมากๆด้วย” (แถมมีทิ้งท้ายว่าจะไม่ตอบคำถามนี้อีกแล้วด้วย) 2. เจ้าหมาสามหัวปุกปุยที่นอนทับประตูที่นำไปสู่ห้องเก็บศิลาอาถรรพ์ไปไหนเสียแล้ว งานนี้ เจ.เค. ก็ให้คำตอบแล้วว่า “ดัมเบิลดอร์ได้ส่งไปที่กรีซ ในที่ที่มันจากมาแล้ว (ดัมเบิลดอร์ต้องการส่งสัตว์เลี้ยงของแฮร์กริดกลับไปยังถิ่นเดิม ไม่ใช่ปล่อยไว้ในป่า)” 3. ทำไมบ้านของครอบครัว แบล็ก ซึ่งเป็นเลือดบริสุทธิ์ (ทั้งครอบครัวเป็นพ่อมดแม่มดทั้งหมด)…
-
21 ภาพการเปลี่ยนสมุดระบายสีน่ารักๆ ของเด็กๆ ให้เป็นเวอร์ชั่นที่ฮาร์ดคอร์ 18+ สุดๆ !!!
บอกตรงๆ ว่าไปหมดเลยความฝันในวัยเด็กของเหมียว ตอนเด็กๆ เพื่อนๆ ก็คงจะชอบหนังสือวาดรูประบายสีกันใช่มั้ยล่ะ เหมียวก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่ได้เอามาทำแบบนี้ซะหน่อย T^T และนี่ก็คือ 21 ภาพของเหล่าหนังสือระบายสีน่ารักๆ สำหรับเด็ก ที่ถูกเอามาแต่งเติมซะ 18+ กันเลยทีเดียว เห้อออออ แต่ละอันนี่ คิดได้เนาะ โหดร้ายมาก อันนี้มันสังหารโหดเลยนะเนี่ย!!! ปลาปิรันย่า!!! กระต่ายจอมทะลึ่ง นี่แน่ะ เรามีอะไรจะให้น่ะ เป็นลานพนันสู้สุนัขซะงั้น คิดอะไรอยู่อ่ะ >< หนีคุกเลยเหรอ ที่ซื้อขายทาส โถ เจ้าเหมียว… ความจริงเบื้องหลัง ทำอะไรกันน่ะ น่ากลัวมาก นั่งไง ว่าแล้ว ต้องมาแน่นอน -*- เรทไปอีกกกก ในหนังไม่เป็นไรนะ…
-
ชมตำราตะวันตก หนังสือสอนเรื่องเพศศึกษาอายุกว่า 60 ปีที่แล้ว ให้ความรู้และชัดเจนสุดๆ
สมัยเด็กๆ เพื่อนเรียนเพศศึกษากันยังไงจำกันได้รึเปล่า?? อิอิ แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปดูหนังสือเรียนเพศศึกษา เกี่ยวกับการมีลูกของต่างประเทศ ในช่วง 1960 กัน ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะประเทืองปัญญาขนาดไหน… เริ่มกันกับปกหนังสือก่อนเลย How Babies Are Made หรือกรรมวิธีการผลิตเด็กทารก เริ่มด้วยการทำให้เห็นภาพ โดยใช้ต้นไม้ดอกไม้เปรียบเทียบเป็นขั้นแรกซะก่อน และยกตัวอย่างดึงมาที่พวกสัตว์ต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เห็นภาพชัดเจน กรรมวิธีการสร้างไก่น้อย สแกนให้เห็นถึงสเปิร์มของไก่ และการปฏิสนธิ ต่อไปเกี่ยวกับเจ้าหมากันบ้าง เห็นชัดๆ กันเลยทีเดียว มีภาพประกอบคำอธิบายอย่างชัดเจน ชี้ทั้งในส่วนของไส้กรอก ของไข่ ของรังไข่ ของมดลูกกันเลยทีเดียว ชัดเจนมาก ต่อไปมาถึงตาของมนุษย์บ้าง ก็อธิบายได้ชัดเจนนะเนี่ย แต่ทิ้งช่องว่างให้เด็กจินตนาการบ้าง… สเปิร์มนั้นมาจากอัณฑะของพ่อ และเข้าสู่รังไข่ของแม่โดยองคชาติ…
-
ชมศิลปะการสร้างปราสาท “ฮอกวอตส์” โดยใช้กระดาษจากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์
เราคงเคยเห็นการสร้างปราสาทฮอกวอตส์ โรงเรียนสอนพ่อมดแม่มดในเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์กันมามากมาย ด้วยความที่มันออกแบบมาอย่างงดงาม ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบปราสาทหลังนี้ และวันนี้ ทาง unPOP ซึ่งเขาได้บอกว่าเป็นแฟนตัวยงของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เขาจึงได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา เป็นการเอากระดาษจากหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบันมาสร้างเป็นปราสาทฮอกวอตส์ทั้งหลังแบบเฟรมต่อเฟรม พวกเขาใช้เวลากว่า 1 เดือนในการสร้างมันขึ้นมาแล้วทำออกมาเป็นคลิป เราไปดูกันเลยดีกว่า อันนี้แถม เป็นการสร้างฮอกวอตส์ด้วยเลโก้ สร้างในเกม Minecraft ที่มา unPOP
-
‘ทำไมต้องเรียนหนังสือ?’ ที่ปรึกษาด้านการศึกษาของญี่ปุ่น ตอบได้อย่างลึกซึ้งและคมคาย!!
การศึกษาถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างความรู้และเปิดโลกให้กว้างได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในสังคมญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกคนจะรักการเรียนเสมอไป จนกระทั่งกลายมาเป็นคำถามว่า ‘ทำไมต้องเรียนหนังสือ?’ ผู้เชี่ยวชาญและเป็นที่ปรึกษาทางด้านการศึกษาของญี่ปุ่น คุณ Nobufumi Matsunaga ก็ได้ให้ความสำคัญกับคำถามที่ว่านี้ และการจะตอบคำถามนั้นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องขัดเกลาคำตอบให้กระจ่างแจ้ง เพื่อทำให้เด็กๆ เข้าใจว่าทำไมการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มจากคำตอบในทางด้านบวกกันก่อน ‘การศึกษาจะสะท้อนได้ดีที่สุดนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยและพัฒนาการของเด็ก โดยทั่วๆ ไปแล้วการศึกษาจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเอง ส่งผลให้คุณสามารถไปประกอบอาชีพที่คุณชอบและสามารถหาเงินเลี้ยงชีพในอนาคตได้ ทั้งนี้เรียนหนังสือก็เพื่ออิสรภาพนั่นเอง’ แต่ที่เราเรียนหนังสือกันนั้นก็ใช่ว่าจะเรียนเพื่อพัฒนาตัวเองเสมอไป เขากล่าวเสริมเอาไว้ว่า ‘นอกจากนี้ โลกของเราเต็มไปด้วยการโกหกและการหลอกลวง และด้วยเหตุผลนี้ทำให้เราต้องการที่จะเติบโตขึ้นเพื่อให้รู้ทันคน เราสามารถสามารถตรวจจับการโกหกด้วยการเรียนหนังสือ แต่ถ้าเราไม่พัฒนาทักษะทางด้านตรรกะความคิดจากการเรียนหนังสือเลย คุณก็จะมารู้สึกเสียใจในภายหลัง’ ทั้งนี้เขากล่าวปิดท้ายไว้อย่างคมคายว่า ‘เด็กๆ จะมีความอ่อนไหวต่อแนวคิดของการได้มาและการสูญเสีย เพราะฉะนั้นการอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาเข้าใจ ก็จะทำให้พวกเขาเห็นภาพอนาคตของตัวเองหลังจากให้ความสำคัญกับการศึกษา’ ที่มา : rocketnews24
-
20 ไอเดียชั้นวางหนังสือสุดเก๋ไก๋ เหมาะสำหรับเอาไปใช้ตกแต่งบ้าน!!!
เหมียวเชื่อว่าทุกครัวเรือนต้องมีที่เก็บหนังสืออยู่แน่ๆ บางคนไม่ค่อยได้อ่าน อาจจะเก็บกองๆเป็นชั้นไว้ที่มุมห้อง หรือถ้าอ่านบ่อยๆก็คงตั้งไว้บนโต๊ะ แต่จะให้ดี เราต้องมีชั้นวางให้มันไม่เกะกะทั้งทางเดินและสายตา วันนี้เหมียวจึงจะพาทุกท่านมาดูไอเดียชั้นวางหนังสือหลากหลายสไตล์ เผื่อว่าท่านคนไหนสนใจจะลองเอาไปทำเองหรือจ้างช่างทำก็ได้ แถมยังประดับบ้านได้อีกด้วยนะ เราไปดูกันเลย 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. ที่มา boredpanda
-
ชมคลิปน่ารักๆของหนูน้อย “รักการอ่าน” และจะร้องไห้ทุกครั้งหลังหนังสือจบ
ตอนที่ทุกคนเป็นเด็กๆ ใครก็อยากได้ฟังนิทานจากเสียงของคุณพ่อและคุณแม่กันทั้งนั้นแหละ มันถือเป็นช่วงเวลาที่เราเข้าไปในโลกจินตนาการ ยิ่งได้ฟังก่อนนอนก็จะเป็นอะไรที่ฟินเอามากๆ แต่เอาจริงๆแล้วตอนนั้นเราก็จับใจความอะไรไม่ค่อยได้หรอก แต่มันก็สนุกตรงที่ได้ดูรูปสวยๆในหนังสือนิทานจนอยู่ดีๆเราก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวเอง แต่สำหรับเด็กคนนี้แล้ว เขาคือหนอนหนังสือตัวยงที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ(จริงๆคือแม่อ่าน) และทุกครั้งที่แม่อ่านหนังสือจบ เด็กคนนี้ก็จะร้องไห้ขึ้นมาราวกับว่า ไม่อยากให้จบเลยยย ตอนแรกก็ตื่นเต้นกับหนังสือดีอยู่หรอก แต่พอหนังสือจบปุ๊บถึงกับปล่อยโฮกันเลยทีเดียว เราไปดูคลิปน่ารักๆกันเลยดีกว่า นี่มันฟีลลิ่งเดียวกันกับตอนที่เราอ่านแฮร์รี่เล่ม 7 จบเลยนี่หว่า มีใครเป็นแบบนี้มั่งเอ่ยยย ที่มา leesedanielle
-
21 ของฝากที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหนบนโลก อยากจะได้ต้องไปซื้อจาก ‘เกาหลีเหนือ’ เท่านั้น
ประเทศเกาหลีเหนือ เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มักจะมีเรื่องราวแปลกๆ ให้เราได้เห็นกันเสมอ และที่สำคัญประเทศนี้ก็มักจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างไปจากประเทศอื่นซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิต วัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ และในวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาชมภาพสิ่งของเครื่องใช้เกือบแปลกที่เราสามารถเห็นได้ในเกาหลีเหนือ ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายขึ้นมาโดย David Guttenfelder ช่างภาพชาวอเมริกัน ผู้ที่ชื่นชอบเดินทางไปเที่ยวเกาหลีเหนืออยู่บ่อยๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปชมกันเลยดีกว่า ว่าคนเกาหลีเหนือเขาใช้อะไรกันบ้าง 1.คู่มือสำหรับนักข่าว 2.3G USB Air card ยี่ห้อ Koryolink 3.หนังสือทำมือ 4.ตุ๊กตาตำรวจหญิง 5.ซีดีเพลงประสานเสียงของกองทัพเกาหลีเหนือ 6.คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ 7.เข็มกลัดรูปพัด 8.บัตรอวยพรลายจรวด 9.ไวน์รสเห็ด 10.ชาแก้อาการเมาค้าง 11.อนุสาวรีย์จำลองในขวดแก้ว 12.แสตมป์รูปนักบิน 13.บัตรเชิญชมการสวนสนามของกองทัพเกาหลีเหนือ 14.ไม้จิ้มฟันขนเม่น 15.ใบต้อนรับของโรงแรม 16.หนังสือเกี่ยวกับเทควันโด…
-
ทางการโรมาเนียไอเดียเก๋ อนุญาตให้ขึ้นรถโดยสาร หากคุณอ่านหนังสือบนรถ
เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่าการอ่านหนังสือ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความรู้ให้กับเรา ช่วยสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้นแล้ว มันอาจจะช่วยให้เราประหยัดเงินค่าโดยสารได้ด้วยนะเออ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าทางการของเมืองคลูช-นาโปกา ประเทศโรมาเนียได้เสนอให้ประชาชนหันมาอ่านหนังสือในระหว่างโดยสารรถสาธารณะ แทนการกดสมาร์ทโฟน เพื่อแลกกับการโดยสารรถแบบฟรีๆ กิจกรรมนี้เกิดขึ้นมาจานาย Victor Miron ผู้ที่คลั่งไคล้การอ่านหนังสือ โดยเขาอธิบายว่าเขาต้องการที่จะส่งเสริมให้ผู้คนอ่านหนังสือกันมากขึ้นระหว่างเดินทาง นาย Victor ได้อธิบานเรื่องนี้ให้กับนายกเทศมนตรีของเมือง ซึ่งเขาก็ให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้เป็นอย่างดี แถมดูเหมือนว่าชาวเมืองจะรักกิจกรรมนี้ด้วย ทำให้เห็นภาพคนอ่านหนังสือบนรถโดยสารเป็นเรื่องปกติไปเลย ที่มา metro
-
ที่โรมาเนีย “ขึ้นรถบัสฟรี” เพียงแค่ผู้โดยสารเข้าไปอ่านหนังสือข้างในรถ!!
ถือเป็นแคมเปญดีๆสำหรับคนรักการอ่านมากๆ เพื่อที่ต้องการที่จะกระตุ้นให้คนอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น Victor Miron จึงได้ร้องขอไปยังนายกเทศมนตรี Emil Boc เกี่ยวกับการไม่เรียกเก็บเงินสำหรับคนที่อ่านหนังสือบนรสบัส ซึ่งเขาใช้เวลานานมากถึง 1 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งในวันที่ 4 – 7 มิถุนายน ปี 2015 ที่เมือง Cluj-Napoca ใครที่อ่านหนังสือบนรสบัสจะไม่เสียเงินสักแดงเดียว นอกจากนี้เขายังตั้งแคมเปญใหม่ขึ้นมาที่มีชื่อว่า Bookface โดยถ้าใครมีรูปหนังสืออยู่ในรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก ก็จะได้รับส่วนลดต่างๆไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือ ร้านตัดผม หรือแม้กระทั่งร้านทำฟัน และตอนนี้เขาก็กำลังติดต่อกับ Mark Zuckerberg เพื่อให้แคมเปญ Bookface เป็นจริงขึ้นมา ถือเป็นเรื่องราวดีๆที่ช่วยให้คนรักการอ่านมากขึ้น คงจะดีกว่าการให้มานั่งเขียนสมุดบันทึกรักการอ่านในสมัยมัธยม ซึ่งน้อยมากที่จะมีคนอ่านจริงๆ ที่มา boredpanda
-
แบบเรียนภาษาอังกฤษของอินโดนีเซียถูกเรียกคืน เพราะดันใส่รูปภาพดาราเอวีเข้าไปด้วย!!
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งตำราเรียนต่างๆ ก็ต้องได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ อย่างในกรณีของตำราเรียนภาษาอังกฤษของประเทศอินโดนีเซียที่ได้รับการปรับปรุงรูปภาพ ดาราเอวีญี่ปุ่นที่ถูกนำรูปภาพมาใช้ประกอบในตำราเรียนภาษาอังกฤษนี้ก็คือ Maria Ozawa โผล่เข้ามาอยู่ในบทเรียนด้วย แถมเธอก็ยังเป็นที่รู้จักในวงกว้างของประเทศอินโดนีเซียซะอีกแหนะ เด็กๆ ทั้งหลายและรวมไปถึงพ่อของเด็กก็น่าจะรู้จักเธอเป็นอย่างดี ทางการก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เป็นห่วงในเรื่องของความไม่เหมาะสมที่นำรูปภาพของดาราหนังผู้ใหญ่มาประกอบในบทเรียน จึงทำการเรียกคืนตำราภาษาอังกฤษฉบับปรับปรุงดังกล่าวทั้งหมด และจะทำฉบับใหม่ขึ้นมาแทนต่อไป แหม่!! เกือบจะได้เรียนวิชาอื่นกันแล้วมั้ยล่ะ หนูๆ อิอิ ที่มา : rocketnews24
-
น้ำใจจากทั่วโลกมอบหนังสือให้ Mathew Flores หนุ่มน้อยรักการอ่าน แต่ไม่มีเงินซื้อหนังสือ
เรื่องราวอันน่าประทับใจของหนุ่มน้อยผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ Mathew Flores วัย 12 ปี ชอบอ่านทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่โฆษณาต่างๆ ตามจดหมาย ที่หลายๆ คนมักจะไม่ค่อยใส่ใจกันซักเท่าไหร่นัก ชอบอ่านมากถึงกับขนาดถามบุรุษไปรษณีย์ว่ามีจดหมายหรือโฆษณาอะไรให้ผมอ่านอีกบ้าง? และบุรุษไปรษณีย์ผู้นั้นก็คือคุณ Ron Lynch ซึ่งในตอนแรกเขาได้รับคำร้องขอด้วยว่า “ผมอยากจะมีหนังสือเป็นของตัวเอง” Ron Lynch พยายามหาทางออกให้กับหนุ่มน้อยรายนี้ด้วยการแนะนำให้ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด แต่หนุ่มน้อยไม่มีใครพาไป และไม่สามารถขึ้นรถบัสไปได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น Ron Lynch ก็เลยโพสต์ผ่าน Facebook ขอความช่วยเหลือจากโลกออนไลน์ หากใครมีหนังสือเก่าๆ ไม่ได้อ่านแล้ว ก็สามารถร่วมบริจาคให้กับหนุ่มน้อย Mathew Flores ได้ทันที และแล้วจากการโพสต์ขอความช่วยเหลือในครั้งนั้นก็ประสบผลสำเร็จ น้ำใจจากทั่วโลกหลั่งไหลมาถึงหนุ่มน้อย Mathew Flores เขาได้รับบริจาคหนังสือจากหลายประเทศเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย เป็นจำนวนมากมายกว่าร้อยเล่ม Ron Lynch ก็ยังเผยอีกว่าหนังสือจำนวนกว่าร้อยเล่มที่เห็นอยู่นี้ ยังไม่หมดนะ ยังมีอีกเป็นจำนวนร้อยกว่าเล่มที่กำลังเดินทางมาด้วยแหละ ทางด้าน Flores ก็สัญญาว่าจะอ่านหนังสือให้จบทุกเล่ม และจะส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ที่มา : thechive
-
ไอเดียเก๋!! จีนเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ไม่ต้องมีพนักงานขาย ใช้ความซื่อสัตย์ล้วนๆ
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ร้านหนังสือแนวใหม่ที่ไม่ต้องมีโต๊ะคิดเงิน หรือพนักงานคอยเฝ้าแม้แต่คนเดียว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในเมืองนานจิงมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน นโยบายของร้านนี้มีเพียงข้อความสั้นๆว่า “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” ร้านหนังสือซื่อสัตย์ตั้งอยู่บนถนน Xinjiekou โดยตัวร้านจะมีขนาดเล็กและมีชั้นวางหนังสือเพียง 4 ชั้นเท่านั้น ตัวร้านหนังสือ ทำงานด้วย “ความไว้วางใจ” โดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว หากใครต้องการซื้อหนังสือสักเล่ม คุณก็แค่เดินไปหยอดเงินลงไปกล่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ตามแต่ความต้องการของคุณเอง จะจ่ายเยอะหรือน้อยก็ไม่มีใครว่า นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ผู้จัดงานร้านหนังสือดังกล่าว สามารถขายหนังสือไปได้กว่า 300 เล่ม ในวันเปิดร้าน และเงินทั้งหมดก็ถูกใส่ไว้ในกล่องที่เตรียมไว้ ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในจีน ทำให้ได้รับเสียงตอบรับอย่างมากมาย ซึ่งดูแล้วจะให้ผลตอบรับด้านบวกเสียมากกว่า แต่ใช่ว่านโยบาย “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 ได้มีนักธุรกิจในจีนเปิดร้านอาหารที่มีนโยบายคล้ายคลึงกันนี้ แต่กลับขาดทุนกว่า 10,000 หยวน ในเดือนแรกที่เปิดกิจการ ที่มา shanghaiist
-
10 สุดยอดหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงและถูกตีพิมพ์มากที่สุดตลอดกาล!!!
เพื่อนๆ เคยคิดกันมั้ยล่ะว่าหนังสือที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกจะเป็นเรื่องไหน!!? หลายๆ คนก็คงจะคิดถึงนวนิยายเปี่ยมมนตร์ขลังตลอดกาลอย่าง Harry Potter กัน แต่ที่จริงแล้วน่ะ ผิดถนัดเลยล่ะจ้า เพราะหนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในโลกนั้นคือ The Koran หรือคัมภีร์กุรอานของศาสนาอิสลาม ที่มียอดตีพิมพ์กว่า 3 พันล้านเล่ม ในกว่า 50 ภาษาเลยทีเดียว ส่วนในอันดับ 2 ก็เป็นหนังสือทางศาสนาเช่นกัน ไบเบิลของ King James และอันดับ 3 คือคำคมจากประธานเหมา ส่วน Harry Potter หนังสือสุดโด่งดังในยุคเรานั้นเข้ามาเป็นลำดับที่ 5 ที่เหลือที่พอคุ้นหน้าคุ้นตากันก็จะมี ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ อันดับที่ 7 และเจ้าชายน้อย เป็นอันดับที่ 8 ของหนังสือยอดนิยมและได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดตลอดกาล อ่ะเพื่อความสุขใจมีลิสต์มาให้ได้ชมกันด้วยล่ะ หนังสือดีๆ ทั้งนั้นเลย ลองไปหาอ่านดูนะจ๊ะ ที่มา:…
-
เมื่อภาพในสิ่งที่คาดหวังมาพบกับของจริง นี่แหละ!! คือความสวยงามที่ตามหามานาน
หากจะออกไปท่องเที่ยวซักที่หนึ่ง เราก็จะต้องทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ก่อน เช่นข้อมูลสรุปพอสังเขป รูปภาพสวยๆ ที่สามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ต และตามคู่มือท่องเที่ยวของสถานที่นั้นๆ แต่ส่วนมากแล้วพอไปจริงๆ กลับไม่ได้เหมือนตามที่คาดหวังเอาไว้ ผู้ใช้จากเว็บไซต์ Reddit นามว่า pmoney923 ได้ออกเดินทางไปยัง Appalachian Trail เส้นทางเดินเขาธรรมชาติแอปพาเลเชีย เป็นทางเชื่อมระหว่างภูเขา Springer และภูเขา Katahdin ระยะทางรวมทั้งหมด 3,500 กิโลเมตร และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประใจมากที่สุดก็คือ การได้พบมุมภาพที่ปรากฎอยู่บนหนังสือไกด์เส้นทางธรรมชาติแห่งนี้นั่นเอง องค์ประกอบของหน้าปกหนังสือเล่มนี้มีอยู่จริง!! โอกาสแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา : twistedsifter