Tag: หน้าผา
-
เด็กสาววัย 14 เสียชีวิตหลัง “ชะโงกหน้า” ชมวิวบนหน้าผา Horseshoe Bend รัฐแอริโซนา
การไปเที่ยวยังสถานที่อันตราย เราอาจจะต้องระวังตัวกันเป็นพิเศษ มิฉะนั้นก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ เช่นอุทาหรณ์จากข่าวดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2018 มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า เด็กหญิงวัย 14 ปีได้เสียชีวิตหลังจากการท่องเที่ยวยังหน้าผาของรัฐแอริโซนา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอำเภอของเคาน์ตี Coconino ออกมาเผยว่า ได้รับการแจ้งจากพ่อแม่ว่าเด็กสาววัย 14 ปีจากแคลิฟอร์เนียนั้นหายตัวไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม มีคนพบเห็นเธอครั้งสุดท้ายที่หน้าผาของโค้งน้ำ Horseshoe Bend ในเมือง Page สำนักงานสาธารณภัยของแอริโซนาจึงใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตรวจตราทางอากาศ ทำให้พบร่างของเด็กสาวอยู่บริเวณใต้หน้าผาราว 213 เมตร เจ้าหน้าที่ได้กู้ร่างของเด็กสาวไม่เผยนามมาได้ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 25 ธันวาคม จากนั้นก็นำส่งร่างของเธอไปยังหน่วยงานตรวจสอบทางการแพทย์ในย่าน Flagstaff ส่วนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานนายอำเภอก็ออกมาแถลงการณ์ว่า เด็กหญิงผู้เสียชีวิตมาจาก San Jose รัฐแคลิฟอร์เนียนั้น เชื่อว่าเธอได้เข้ามาเที่ยวชมยังหน้าผาของโค้งน้ำ Horseshoe Bend แล้วพลาดท่าตกลงไปยังด้านล่าง แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงอยู่ในกระบวนการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป ที่มา: azdailysun, foxla และ dailymail
-
คู่รักชาวอินเดีย ตกลงมาเสียชีวิตหลัง “เซลฟี” บนหน้าผาในอุทยานแห่งชาติ Yosemite
ไปเที่ยวในสถานที่อันตรายโปรดอย่าชะล่าใจ แม้สถานที่นั้นจะสวยงามน่าถ่าย “เซลฟี่” ก็ตาม คู่รักชาวอินเดียคู่หนึ่งมีรายงานว่าตกจากหน้าผาของภูเขา Sierra Nevada ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในแคลิฟอร์เนีย จากรายงานคาดว่าทั้งคู่ ไปยืนยังริมหน้าผาแล้วกำลังจะถ่ายเซลฟี่ด้วยกัน นั่นทำให้ทั้งคู่สูญเสียการทรงตัวและพลาดตกลงจากหน้าผาความสูง 244 เมตรในที่สุด ร่างของนาย Vishnu Viswanath วัย 29 ปี และนาง Meenakshi Moorthy วัย 30 ปี ถูกพบอยู่ที่พื้นด้านล่างของหน้าผาเมื่อวันพฤหัสที่ 25 ตุลาคม 2018 โดยผู้ลาดตระเวนในอุทยาน Jishnu Viswanath พี่ชายของ Vishnu กล่าวว่าทาง Moorthy ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแบบเต็มเวลา Meenakshi Moorthy และ Vishnu Viswanath ทั้งคู่มักออกท่องเที่ยวผจญภัยค้นหาความตื่นเต้นให้กับชีวิต โดนในอินสตาแกรมของพวกเขาจะมีภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสวยงามและอันตรายหลายแห่ง โดยทางพี่ชายของ Vishnu ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ศพของทั้งคู่จะถูกฝังในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากสภาพศพไม่อำนวยให้ส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย… https://www.instagram.com/p/BXDP6tvBLrP/?utm_source=ig_embed การท่องเที่ยวนั้นทำให้เกิดความสุขความบันเทิงได้ก็จริง แต่ก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนนะจ๊ะทุกคน! ที่มา: nextshark, holidaysandhappilyeverafters, Mercury News และ National…
-
หน้าผา ‘Chan Da Ya’ ในจีนที่จะปล่อยไข่ออกมาทุกๆ 30 ปี เฮ่ยยยมันเป็นไปได้ไง!?
บ่อยครั้งที่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมักจะสร้างความประหลาดใจให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของแสงเหนือ หรือปรากฏการณ์สุริยุปราคา และเรื่องราวที่เรานำมาฝากวันนี้เองก็น่าทึ่งไม่แพ้ปรากฏการณ์เหล่านี้เช่นกัน นั่นก็คือหน้าผาที่สามารถออกไข่ได้นั่นเอง!! หน้าผา Chan Da Ya หน้าผามหัศจรรย์จากประเทศจีนแห่งนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก เพราะมันสามารถออกไข่ได้ทุกๆ 30 ปี หน้าผา Chan Da Ya และไข่ของมัน หน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต Qiannan Buyi และ Miao Autonomous ของมณฑลกุ้ยโจว หน้าผา Chan Da Ya หรอืที่รู้จักกันในชื่อหน้าผาไข่สร้างความน่าประหลาดใจให้กับนักธรณีวิทยามานาหลายศตวรรษแล้ว ลักษณะของหน้าผาแห่งนี้มีความสูง 2 เมตรและกว้าง 19 เมตร บริเวณพื้นผิวของมันเต็มไปด้วยการกัดเซาะมากมายและหินกลมๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับไข่ เมื่อเวลาผ่านไป ธรรมชาติจะกัดเซาะหน้าผาไปเรื่อยๆ จนทำให้หินกลมเหล่านั้นหลุดออกมาในที่สุด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Gulu บอกว่าก้อนหินเหล่านั้นจะใช้เวลาประมาณ 30 ปี จึงจะหล่นลงมา ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ นักธรณีมากมายได้เดินทางมายังหุบเขาที่ห่างไกลแห่งนี้เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการออกไข่ของหน้าผา พวกเขาพบว่าภูเขา Gandeng โดยส่วนมากแล้วมีลักษณะเป็นตะกอนที่ทับถมกัน และหินที่นี่ส่วนมากเป็นหินปูน ซึ่งถูกกัดกร่อนได้ง่าย ไข่เหล่านี้ถูกสร้างมาจากหินที่แข็ง ซึ่งแต่ละก้อนอาจจะใช้เวลาในการสร้างที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ผ่านหินเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครที่สามรถอธิบายได้ว่าชั้นหินปูนที่ก่อตัวมาตั้งยุคแคมเบรียนสามรถคงอยู่มาได้ถึง 500…
-
รู้จักกับ ‘วัดเสียนคง’ อายุกว่า 1,500 ปี ถูกสร้างไว้บนหน้าผา ด้วยฝีมือของพระสงฆ์เพียงรูปเดียว…
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้พาคุณไปพบกับความหวาดเสียวกับทางเดินริมหน้าผาหัวซาน (อ่านข่าวเก่า ปลุกความกล้าในตัวคุณ สัมผัสทางเดินสุดหวาดเสียวบน “หน้าผาหัวซาน” ประเทศจีน) และครั้งนี้เรากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับวัดโบราณจากประเทศจีนที่น่าหวาดเสียวไม่แพ้กัน!! วัดดังกล่าวมีชื่อว่า “วัดเสียนคง” วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาของหุบเขาเหิงซาน ในมณฑลซานซี ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินเกือบ 100 เมตรเลยทีเดียว ความน่าทึ่งของวัดยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ เพราะวัดอันแสนเก่าแก่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในปีคริสต์ศักราชที่ 491 หรือเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว และตามตำนานเล่าว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่ชื่อว่า เล่าเหลียน ในช่วงสมัยของราชวงศ์เว่ย วัดเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 15 ศตวรรษ เสาค้ำยันอาคารที่ถูกเพิ่มเข้ามาไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา เพราะเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก แต่การจะสร้างสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกับวัดเสียนคง ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ดี ส่วนสาเหตุหลักของการสร้างวัดแห่งนี้ก็คือ การหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วม และการใช้ประโยชน์จากหน้าผาเหิงซาน เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติอื่นๆ อย่างเช่นฝนและหิมะ และนอกจากความน่าทึ่งทางด้านวิศวกรรมแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านของมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย ซึ่งวัดเสียนคง นั้นเหมือนเป็นตัวแทนของหลักความเชื่อจากทั้ง 3 ศาสนาได้แก่ พุทธ ขงจื้อ และลัทธิเต๋า ในวิหารแขวนที่ยาวกว่า 300 เมตรนี้ ประกอบไปด้วยห้องโถงกว่า 40 ห้อง…
-
นี่คือร้านของชำที่หินที่สุด เพราะพี่แกไปเล่นตั้งอยู่บนผาจริงๆ จะซื้อยังไงเนี๊ยยย..!!?
อันที่จริงแล้วเรื่องร้านขายของชำนี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหนบนโลก มันก็ต้องมีร้านของชำตั้งอยู่เสมอ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่า.. บนหน้าผาอันแข็งแกร่งแห่งรัฐโคโลราโด จะมีร้านของชำที่เราเห็นครั้งแรกก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าใครมันจะมาซื้อได้ฟร๊ะเนี่ย!! แหม๊ กว่าจะไปซื้อได้ต้องปีนผาเอานะจ๊ะ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่ไม่ใช่ชาวบ้านผู้ยากไร้ที่มาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากบนหินผา แต่เป็นร้านของชำที่เกิดจากไอเดียของสองบริษัทครีเอทีฟเอเจนซี่ WorkInProgress และ 37.5 Technology โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันริเริ่มไอเดียที่อยากจะมีร้านขายของชำอยู่ในที่ๆ เข้าถึงยากที่สุด Cliffside Shop ตั้งฉากติดกับหน้าผา Bastille Wall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Colorado’s Eldorado Canyon และที่เห็นในภาพนี้มันตั้งสูงกว่าพื้นดินถึง 92 เมตร พนักงานขายที่อยู่ในร้านก็ไม่ได้ทำอะไรมาก พวกเค้านั่งเตรียมของอย่างนิ่งๆ (เสียวตก) ส่วนสินค้าที่ขายก็จะเป็นพวกอุปกรณ์สำหรับนักเดินทางซะส่วนใหญ่ เช่น ถุงเท้า ผ้าเย็น น้ำดื่ม ปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศท้องถิ่น แต่โครงการนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำเท่เท่านั้น เพราะรายได้ทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนให้กับองค์กร American Alpine Club รายได้ทั้งหมดจะถูกนำไปใช้สำหรับการสำรวจพื้นที่เพื่อรองรับนักไต่เขาที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วัน ว่าแต่……
-
ปลุกความกล้าในตัวคุณ สัมผัสทางเดินสุดหวาดเสียวบน “หน้าผา Huashan” ประเทศจีน
การท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์คงจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับหลายๆ คน การได้เดินป่า หรือปีนเขาคงจะทำให้ต่อมความตื่นเต้นของบางคนลุกขึ้นมาทำงานเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากใครที่ชอบความท้าทายละก็ เขาขอแนะนำให้รู้จักหน้าผา Huashan เลย เพราะเส้นทางการเดินสัมผัสธรรมชาติของที่นี่ บอกได้คำเดียวเลยว่า หัวใจจะวาย!! ภาพนี้คงจะบอกได้ละนะ ว่ามันน่าหวาดเสียวแค่ไหน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวผู้หนึ่งที่ได้เดินทางไปเยือนหน้าผาแห่งนี้ โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นถึงวินาทีที่เขากำลังไตบันไดเชือกลงจากซอกผา ดูแล้วน่าหวาดเสียวอย่างมาก ถ้าหากใครไม่เชื่อละก็ลองไปชมที่คลิปวิดีโอนี้ได้เลย หน้าผาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหัวซาน ในมลฑลส่านซีของประเทศจีน โดยมีความสูงจากพื้นดินถึง 2,000 เมตรเลยทีเดียว และด้วยความสูงถึง 2 กิโลเมตรจึงทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความอันตรายและเป็นสถานที่ท้าทายต่อผู้ที่ชื่นชอบความหวาดเสียวอย่างมาก และนี่คือบรรไดทางลง แบบชัดๆ แค่เห็นก็เหงื่อแตกแล้วใช่ไหมล่ะ?? และนอกจากทางที่น่ากลัวแล้ว เทือกเขานี้ยังมีทางเดินไม้กระดานเก่าแก่กว่า 700 ปีที่เรียบไปกับหน้าผาที่ตั้งฉากแบบ 90 องศาเลย โดยมีความกว้างของทางเดินนี้มีเพียงแค่ 30 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลหรอกนะเพราะทางเจ้าหน้าที่เขาจะมีอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยให้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกลงไปในเส้นทางนี้ แต่มีผู้ที่พยายามเดินออกนอกเส้นทางนั้นพบว่าเสียชีวิตไปถึง 100 รายแล้ว ถ้าใครใจแข็งก็ลองไปเที่ยวกันได้เลยนะ แต่สำหรับ #เหมียวเวจจี้ ขอบายก่อนจร้าา ที่มา dailymail
-
สุนัขพลัดตกจากรถ ติดอยู่ใต้เนินทางด่วนสุดอันตราย ชายเร่ร่อนจึงอาสาปีนพามันกลับมา…
สิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นร่างกายมนุษย์นั้นไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เป็นรูปธรรมอย่างแขน ขา หรืออวัยวะภายในต่างๆ หากแต่ประกอบไปด้วยนามธรรมอย่างนิสัยใจคอความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ชายคนนี้อาจดูไม่ต่างกับคนทั่วไป แต่มีจิตใจที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจไปกับสิ่งที่เขาได้ทำ ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2017 สุนัขชื่อ Hunter ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าของบนทางด่วนในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ด้วยความตื่นเต้นของมัน ก็ดันกระโดดออกจากหน้าต่างรถที่เปิดเอาไว้ ถึงจะโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่จุดที่มันลงไปนั้นถือว่าอันตรายอย่างมาก . มันตกไปอยู่บนหน้าผาทีสูงชัน โดยมีเพียงไม้เลื้อยที่รั้งมันไว้ไม่ให้ตกลงไปอย่างน่าหวาดเสียว ตำรวจวอชิงตันก็รีบมาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมกับนักดับเพลิงในท้องถิ่น เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเวลามีความสำคัญอย่างมาก แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ Brooke Bova ก็ได้เล่าว่า มีหนุ่มเร่ร่อนคนหนึ่งได้เข้ามาบอกว่าเขาอาศัยอยู่ใต้ทางด่วน จึงรู้ทางเนินนั้นเป็นอย่างดีและสามารถที่จะช่วยเจ้าสุนับลงมาได้ การอาสาของคนๆนั้นมันทำให้รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ จากการยอมเสี่ยงชีวิตของชายคนนี้จึงสามารถช่วยเจ้าสุนัขลงมาได้อย่างปลอดภัย ถึงมันจะดูยังคงผวาอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เมื่อได้เจอเจ้าของมันก็กลับมาโอเคได้อีกครั้ง “ที่ผ่านมาฉันคิดว่า เหล่าคนเร่ร่อนจะคอยหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่รัฐ และดำเนินชีวิตไปตามทางของตัวเองแค่นั้น แต่การอาสาของชายคนนี้มันช่างซาบซึ้ง และประทับใจเป็นอย่างมาก มันคือการกู้ความศรัทธาของความเป็นมนุษย์ให้คืนกลับมา” เจ้าของ Hunter ได้พูดไว้ ถึงแม้หนุ่มจิตใจดีที่เมื่อเสร็จภารกิจเขาก็ได้จากไปโดยไม่ทิ้งข้อมูลอะไรไว้ให้เลย เพียงแต่การกระทำของเขาจะเป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในใจให้เราถึงความห่วงใยของเพื่อนมนุษย์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมโลก นี่คือบทเรียนสำหรับการเปิดกระจกให้สุนัขได้ยื่นหน้าออกมา แต่ถ้าอยากให้ปลอดภัยก็เปิดนิดเดียวพอให้ได้รับลมก็พอแล้วล่ะ…
-
ชาวนอร์เวย์ร่วมลงขันบรูณะ ‘หน้าผาหรรมส์ขาด’ ที่ถูกมือดีตัดทิ้ง ให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้เราได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการแอบตัดกล่องดวงใจของผาหินแห่งหนึ่งในประเทศนอร์เวย์ (อ่านข่าวเก่า ชาวนอร์เวย์ร่วมลงเงินบูรณะ ‘ผากระปู๋’ อันเลื่องชื่อ มีมือดีบังอาจมาตัดแท่งหินยื่นออก!!) ล่าสุดแท่งหินดังกล่าวถูกนำกลับไปติดที่เดิมเรียบร้อยแล้ว!! ผาหินกระปู๋นี้ได้กลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากที่มันถูกมือดีเข้าไปตัดส่วนที่ยื่นออกมาในช่วงหลายเดือนก่อน และล่าสุดนี้หินขนาด 12 ตัน ถูกยกขึ้นไปติดตั้งที่เดิมด้วยความร่วมมือจากชาวนอร์เวย์ผู้หวงแหนผากระปู๋แห่งนี้ นั่งร้านที่มีความสูงกว่า 10 เมตรและรถเครนขนาดใหญ่ ถูกนำมาใช้ในการบูรณะหน้าผา Trollpikken แห่งนี้ โดยในการซ่อมแซมดังกล่าวได้รับเงินจากการบริจาคถึง 9 แสนบาท และใช้เวลาในการซ่อมแซมนานถึง 1 สัปดาห์ ช่างฝีมือกำลังช่วยกันบูรณะหน้าผา Trollpikken คุณ Olav Magne Egebakken หนึ่งในชาวนอร์เวย์ผู้สังเกตเห็นว่าส่วนที่ยื่นออกมาของผา Trollpikken นั้นหายไป ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ดูเหมือนมีคนใช้สว่านไฟฟ้าขนาดใหญ่ ทำการเจาะและตัดในส่วนด้านบนของมัน นี่เป็นการกระทำที่แย่มากๆ” แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางการยังไม่สามารถจับตัวมือดีที่ทำการเฉือนแท่งหินนี้ได้ และแล้วน้องชายก็ได้กลับบ้านอีกครั้ง… หวังว่าคงจะไม่มีใครไปเฉือนแท่งหินนี้อีกแล้วนะ ที่มา dailymail
-
ชาวนอร์เวย์ร่วมลงเงินบูรณะ ‘ผากระปู๋’ อันเลื่องชื่อ มีมือดีบังอาจมาตัดแท่งหินยื่นออก!!
ประเทศนอร์เวย์ เป็นหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนสวยงาม รวมไปถึง Trollpikken หน้าผาหินหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘หน้าผาจู๋’ อันขึ้นชื่อของที่นี่ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าผาอันแสนลือชื่อนี้ก็ต้องเหลือเป็นเพียงตำนาน หลังจากส่วนหินที่ยื่นออกมานั้นได้หายไปอย่างลึกลับ ทำให้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ถึงกับงงเลยทีเดียว หลังจากที่ทราบข่าวการหายไปของตำนานหน้าผา Trollpikken นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบสถานที่ดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ชายคนนี้ถึงกับอารมณ์เสียเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าหินส่วนที่ยื่นออกมานั้นหายไป อีกหนึ่งเสียงจากชาวเน็ต ที่ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว จากการรายงานของสำนักข่าว Huffington Post บอกว่าการหักของแท่งหินดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือของใครบางคนจากการใช้เครืองมืออย่างสว่านยักษ์ หรือไม่ก็อุปกรณ์ที่ทรงพลังมากๆ เพื่อที่จะตัดหินส่วนที่ยื่นออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามชาวนอร์เวย์ผู้หวงแหนในแท่งหินดังกล่าว ได้ร่วมกันลงขันเพื่อบูรณะฟื้นฟูหินก้อนนี้ผ่านทางเว็บไซต์ระดมทุน ซึ่งตอนนี้มียอดเงินบริจาคแล้วถึง 20,000 เหรียญหรือประมาณ 600,000 บาท โดยงบประมาณของเงินที่ใช้ไป 1 ใน 3 นั้นจะหมดไปกับค่าเช่าเฮลิคอปเตอร์สำหรับการยกแท่งหินดังกล่าวกลับขึ้นมา และในเงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้สำหรับกระบวนการบูรณะประกอบหินเข้าตำแหน่งเดิม โถสงสารเจ้าหินจริงๆ เลยนะเนี่ย ใครกันหนอมาเฉือนกล่องดวงใจมันได้ลงคอ ฮืออ.. ที่มา distractify, globalnews, huffingtonpost
-
แม่วัวพลัดตกลงไปในหน้าผาสูง เจ้าหน้าที่เร่งระดมพลช่วยเหลือ จนมันรอดตายมาได้…
นี่คือภาพขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตแม่วัวโชคร้ายตัวหนึ่ง ที่ดันเดินตกลงไปในหน้าผาสูงกว่า 100 ฟุต (30 เมตร) หลังเดินแยกออกจากกลุ่มของมันที่อาศัยอยู่บริเวณ Polzeath ในคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ แต่โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน จนทำให้มันรอดชีวิตมาได้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า แม่วัวสีขาวตัวนี้ถูกพบในหมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ Polzeath Coastguard และกองทัพเรือกู้ภัยจาก Padstow Lifeboat ได้รับแจ้งว่ามีวัวพันธุ์ White Park ที่พบได้ยากต้องการความช่วยเหลือ นั่นทำให้พวกเขาได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที แต่ทว่า ในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่อาจยังไม่สามารถช่วยเหลือมันได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำกำลังเพิ่มขึ้น อีกทั้งท้องฟ้าก็เริ่มมืดมิด ดังนั้น จึงเป็นการยากที่จะให้ความช่วยเหลือมัน ซึ่งพวกเขาต้องรอจนกว่าจะเป็นช่วงเช้าอีกวันหนึ่งจึงจะสามารถช่วยชีวิตแม่วัวตัวนี้ได้ วันรุ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง และพวกเขาก็ต้องโล่งใจ หลังพบว่าแม่วัวยังคงติดอยู่กับโขดหินตรงที่เดิม และพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่มันไม่ถูกกระแสน้ำพัดลงไปน้ำ หรือจมน้ำตาย หลังจากที่เห็นว่าแม่วัวยังคงปลอดภัย พวกเขาก็พยายามเข้าช่วยเหลือมัน…
-
พาไปชมประภาคารบนหน้าผาสูงในไอซแลนด์ หวาดเสียวจนคุณงงว่า “ขึ้นไปสร้างได้ยังไง!?”
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้เห็นภาพๆ หนึ่งที่มีคนแชร์กันบนเฟซบุ๊ก เป็นภาพคล้ายๆ กับบ้านหลังหนึ่งบนหน้าผาสูงชัน พร้อมกับข้อความว่า “นี่คือบ้านในฝันของคนที่ขี้รำคาญหรือเกลียดคนทุกคน” จนโด่งดังและกลายเป็นภาพที่คนแชร์ต่อๆ กันไปมากมาย ถึงจะไม่รู้ว่ามีใครใจกล้าพอจะขึ้นไปสร้างที่อยู่บนนั้นกันแน่ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเสียวท้องน้อยทีเดียว ด้วยความสงสัยนี้เองเราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจ้าบ้านริมหน้าผาแห่งนี้ ถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่บ้านของมหาเศรษฐีคนไหน แต่เป็นประภาคารที่ชื่อว่า Þrídrangar Lighthouse ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนเดินเรือนั่นเอง จากข้อมูลพบว่าประภาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1939 ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Vestmannaeyjar ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ แน่นอนว่าอายุเก่าแก่ถึง 77 ปีขนาดนี้ ก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ทางการของไอซ์แลนด์จึงได้ส่งคนขับเฮลิคอปเตอร์อย่างนาย Gísli Gíslason และทีมช่างอีก 6 ชีวิตไปลงบนประภาคารเพื่อซ่อมบำรุงเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2016 ที่ผ่านมา จากภาพจะเห็นได้ว่าการเดินทางเข้าไปยังประภาคารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็แคบมาก แต่โชคดีที่อากาศในวันนั้นปลอดโปร่ง จึงทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัย แถมยังได้เห็นครอบครัววาฬแบบแว๊บๆ ด้วยนะ . แม้จะดูหวาดเสียวมากๆ แต่ก็ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามชิ้นหนึ่งเลย . ชมคลิปประภาคารอันสูงชันได้ที่นี่เลย …
-
ไขปริศนา ดราม่าคลิปหญิงสาว “กระโดดน้ำ” แต่ดันพลาดตกหน้าผา แถมแฟนหนุ่มไม่ช่วย!?!
กลายเป็นคลิปที่โด่งดังเป็นอย่างมากที่เมืองนอกไปซะแล้ว เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้พยายามกระโดดน้ำ แต่ช่วงเวลาหนึ่ง เหมือนเธอนึกไม่กล้าขึ้นมา ก็เลยกลายเป็นว่าเธอพลาดตกลงไปซะอย่างงั้น แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์เป็นอย่างมากก็คือพฤติกรรมของแฟนหนุ่มของเธอ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยเธอเลย… ก่อนจะเข้าประเด็นดราม่า เราชมคลิปสักนิด… หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตออกมาคอมเม้นต์ในหลากหลายแง่มุม และนี่คือบางส่วนจากที่ไปเจอมา “ใครจะไปมีปฏิกิริยาไวปานซุปเปอร์ฮีโร่ได้ล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนั้นคงไม่เข้าใจความรู้สึกหรอก” “มันอาจจะแย่ไปกว่านั้นก็ได้ถ้าเธอเกิดดึงขาแฟนทัน หน้าเขาอาจจะไปกระแทกกับแท่นหิน แล้วเธอก็จะตกลงน้ำไปแทน” “นังนี่ตัดสินใจที่จะกระโดด แล้วก็จะพาแฟนไปตายด้วย ฉันหวังว่าเธอจะโดนทิ้งสักวัน” อย่างไรก็ตาม มีกระแสถาโถมไปยังแฟนหนุ่มของเธอเยอะมากเหลือเกิน เพราะปฏิกิริยาที่เหมือนจะเอาดึงเท้านี้ออกมา บางส่วนบอกว่าเข้าไม่พยายามจะช่วยเธอเลย ขณะที่บางส่วนก็บอกว่า ถ้าเขาจะช่วยอะไรทำไมไม่ถีบเธอไปให้ไกลขึ้น เธอจะได้ไม่เสี่ยงต้องชนกับก้อนหินด้านล่าง หรือกระทั่งคอมเม้นท์ว่าการกระโดดนี้อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ ภายหลังก็ได้มีการแจ้งมาแล้วว่าหยิงสาวในคลิปชื่อว่า Alexis Ren ตอนนี้ปลอดภัยดี และไม่เป็นอะไร ทาง #เหมียวสามสี ก็เลยสงสัยว่าจริงรึเปล่าเลยไปสืบต่อ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ถึงตัวจะเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่…!! ทั้งสองคือคู่รักที่ชื่อว่า Jay Alvarrez และ Alexis Ren โดยถือว่าเป็นเซเลปในโลกอินสตาแกรม เพราะมีผู้ติดตามมากกว่า 4.3 ล้านคน และ 6 ล้านคนตามลำดับฃ และแน่นอนว่าคนที่ติดตามส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบเพราะความเป็นเซเลป ไลฟ์สไตล์…
-
ชีวิตจริงของ ‘เด็กชนบท’ แสนยากลำบาก ต้องปีนหน้าผาสูง 800 เมตรเพื่อไป-กลับโรงเรียนทุกวัน!!
เชื่อว่าหลายคนตอนเด็กๆ ต้องมีอารมณ์ไม่อยากไปโรงเรียน แม้ว่าจะมีรถโดยสารมารับถึงหน้าบ้านก็ไม่ได้ทำให้ความอยากไปโรงเรียนเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย ผิดกับนักเรียนจากหมู่บ้านห่างไกลแห่งนี้ ที่แม้พวกเขาต้องปีนหน้าผาสูงกว่า 800 เมตร พวกเขาก็ไม่ย่อท้อในการไปโรงเรียนแม้แต่น้อย เรื่องราวดังกล่าวเป็นของเด็กๆ หมู่บ้านอาตูเล่อเอ๋อ เขตปกครองตนเองเหลียงชานอี้ มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ด้วยความที่หมู่บ้านของพวกเขาตั้งอยู่ในหุบเขาอันห่างไกล ทำให้ในทุกๆ วัน พวกเขาต้องปีนหน้าผาที่สูงกว่า 800 เมตรที่มีเพียงบันไดลิงง่ายๆ ให้พวกเขายึดเกาะเท่านั้น เพื่อไปยังโรงเรียนที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของภูเขา แน่นอน นั่นหมายถึงต้องปีนกลับด้วย . โดยทุกวันๆ จะมีผู้ใหญ่ประมาณ 2-3 คนมาช่วยเป็นคนนำทาง แต่อย่างไรก็ตามด้วยจำนานเด็กเกือบๆ 20 คน ทำให้ทั้งหมดก็ต้องช่วยเหลือกันเองเท่าที่จะทำได้ และเน่องจากไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัย ประกอบกับหน้าผาที่สูงชัน เส้นทางนี้เคยมีคนผลัดตกลงมาเสียชีวิตถึง 8 คนแล้ว ทำให้หลายๆ บ้านตัดสินใจไม่ส่งลูกไปโรงเรียน . แม้ทางหมู่บ้านจะเคยเสนอเรื่องให้ทางการทำถนนให้ แต่ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัยแค่ 72 หลังคาเรือน ทำให้ทางการไม่สามารถอนุมัติงบประมาณเกือบๆ 300 ล้านบาทเพื่อทำให้ถนนให้ได้จริงๆ แม้ทางการจะเคยยื่นข้อเสนอให้ประชากรในหมู่บ้านย้ายออกมายังภายนอก แต่พวกเขาก็ประสบปัญหาไม่มีที่ทำกินอยู่ดี…
-
จะว่ายังไงดี!? หนุ่มห้าวคิดการใหญ่ ปีนหน้าผาสูงชันเพื่อขอแฟนแต่งงาน แต่ดันลงไม่ได้
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งเลยก็คือการขอแต่งงานนี่แหละ แต่การจะให้อีกฝ่ายยอมรับตกลงได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขอแต่งงานที่จะทำให้รู้สึกประทับใจหรือไม่ และเพื่อให้น่าจดจำมากที่สุด วิธีขอแต่งงานแบบแปลกแหวกแนวและหวาดเสียวจึงโผล่ออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ Illegal climber rescued off Morro Bay by CHP helicopter & MBFD personnel. Assisted by SLO County Fire, Harbor, USCG pic.twitter.com/8nJ4nB9FhE — Morro Bay Fire (@MorroBayFire) 7 เมษายน 2559 ดั่งเช่นพ่อหนุ่ม Michael Banks วัย 27 ปี อยากจะให้แฟนของเขารู้สึกประทับใจกับการขอแต่งงานในครั้งนี้ เขาเลือกวิธีการปีนหน้าผา Morro Rock สูงในระดับ 182 เมตร โดยที่แฟนสาวได้รับชมผ่านทาง FaceTime ทุกอย่างเป็นไปได้สวย ฝ่านแฟนสาวประทับใจมากและตอบตกลงที่จะแต่งงานด้วย Video of rescue…
-
14 หมู่บ้านแสนงดงามที่ตั้งอยู่บนเชิงผา ได้ไปเยือนสักคราคงเป็นบุญชีวิต!!
การเอาชนะธรรมชาตินั้นเป็นเหมือนสัญชาตญาณที่ติดตัวมากับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามที่จะชนะความหวาดกลัว เอาชนะสิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าจะทำได้ เช่นการไปสร้างบ้านอยู่ตรงเชิงผา เราอาจจะเคยเห็นหมู่บ้านที่สร้างกันบนเชิงผามาบ้าง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปดูถึง 14 แห่งด้วยกัน และแต่ละที่ก็สวยงามมากๆ เลย ดูเผินจะคิดว่าไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ แต่มันมีอยู่จริงๆนะเออ เราไปดูกันเลย!! Manarola, Italy Veliko Tarnovo, Bulgaria Riomaggiore, Italy Santorini, Greece Azenhas do Mar, Portugal Rocamadour, France Ronda, Spain Wadi Dawan, Yemen Piodão, Portugal Pitigliano, Italy Metéora, Greece Mont Saint-Michel, France…
-
ชมการถ่ายภาพแต่งงานสุดหวาดเสียว ที่ต้องปีนเขากว่า 100 เมตร เพื่อภาพที่อลังการ!!
ปกติแล้ว ภาพถ่ายวันแต่งงาน มันต้องอลังการงานสร้างแบบที่ว่าเก็บไว้ดูยันแก่เฒ่าได้เลย สำหรับคนที่อยากมีแบบนั้นอ่ะนะ แต่วันนี้เหมียวไปเจอคู่แต่งงานคู่หนึ่งมา พวกเขาได้ไปถ่ายรูปวันแต่งงานกันถึงกลางหน้าผาเลย ไม่ใช่บนหน้าผานะ ย้ำ!! กลางหน้าผา ช่างภาพชื่อว่า Jay Philbrick และภรรยาของเขา ได้พาลูกค้าไปปีนเขาเพื่อให้ได้ภาพวันแต่งงานสุดระทึก สูงกว่า 100 เมตรจากพื้นในเขต Echo Lake State Park พวกเขาใช้วิธีการหย่อนตัวลงมาจากหน้าผาแล้วหาทำเลดีๆ ส่วนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็จัดเต็มชุดแต่งงานทั้งคู่ เสมือนว่ามาถ่ายกลางสวนดอกไม้ ยังไงยังงั้น ช่างภาพได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ได้ต้องการจะให้ภาพที่ดีที่สุดสำหรับคู่รักเท่านั้น แต่เขาจะให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคู่รักอีกด้วย บางคนชอบมองว่าภาพของเขาตัดต่อมารึเปล่า เขาก็เลยต้องถ่ายภาพเบื้องหลังมาให้ดูด้วย เพื่อพิสูจน์ความระทึก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงปีนเขาได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นไกด์นำปีนเขามาก่อน และระหว่างนั้นก็ถ่ายภาพไปด้วยกัน เขามักจะออกเดินทางตามหาสิ่งแปลกๆ เช่นบ่อน้ำลึกๆ หรือไม่ก็ภูเขาหิมะเจ๋งๆ บางทีเขาก็ไม่ได้ถ่ายภาพแต่งงานเพียงอย่างเดียวนะ เราไปชมภาพผลงานของเขากันเลย ที่มา boredpanda
-
ชมการกระโดดน้ำจากหน้าผาสูงกว่า 60 เมตร แค่เห็นก็เสียวแล้ว!!
ทันทีที่นักกีฬาผาดโผน Laso Schaller ได้พบกันน้ำตก Cascata Del Salto Maggia ในประเทศ Switzerland ที่มีความสูง 59 เมตรแห่งนี้ เขาอยากจะกระโดดน้ำจากที่นี้โดยทันที เขาจึงเตรียมทีมงาน เก็บข้อมูล และฟิตซ้อมร่างกายเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และเมื่อวันนั้นมาถึง ผู้คนมากมายมา ณ ที่แห่งนี้ เพื่อให้กำลังใจและชมการกระโดดน้ำอันน่าตื่นเต้นของเขา จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ขนาดมองจากกล้องยังเสียวแว๊บเลย อื้อหือ หัวใจจะวาย เหมียวเคยโดดน้ำจากความสูง 4-5 เมตร นี่ก็กลัวจะแย่ละ ไม่รู้เขากล้าโดดไปได้ยังไง นับถือใจเลยครับ ที่มา Red Bull
-
พี่หมาจอมเฟี้ยว จะโดดน้ำตามเจ้านาย ลังเลไปแปปนึง สุดท้ายก็โดดอยู่ดี!!!!
หมาเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบความสนุกสนานอยู่แล้ว ยิ่งอะไรมันๆ เฟี้ยวๆนะ ไม่มีพลาด แม้กระทั่งการกระโดดน้ำบนหน้าผา ที่ขนาดชายอกสามศอกบางคนยังไม่กล้า มันก็ทำ อย่างเจ้าหมาตัวนี้ พอมันเห็นเจ้านายมันกระโดดลงน้ำจากหน้าผา มันก็วิ่งมาดู ตอนแรกก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเห็นคนอื่นๆโดด มันก็กระโดดตามทันที บอกเลยว่าคนจริง แหม กระโดดท่าสวยเชียว เก่งขนาดนี้ สนใจลงแข่งกระโดดน้ำมั้ยละตัวเธอว์ ที่มา A.G Comedy
-
กล้านอนไหม!! ที่นอน “แคปซูลโปร่งใส” กลางหน้าผาสูง 400 ฟุต
สำหรับนักเดินทางที่ชอบการท้าทาย คงจะชอบอะไรแบบนี้เป็นแน่แท้ ที่แห่งนี้คือ Skylodge ที่นอนโปร่งใสที่แขวนอยู่บนหน้าผากว่า 122 เมตร ที่ภูเขา Peruvian Andes ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ไกล้ๆเมือง Cuzco ประเทศเปรู โดยที่แคปซูลนั้นมีขนาด 24*8 เมตร มีอยู่ 3 ห้องด้วยกัน ทำจากโพลีคาร์โบเนตและอลูมีเนียม ควบคุมโดยบริษัททั่ว Natura Viva ส่วนเรื่องราคานั้นนั้นคุณต้องจ่ายประมาณ 10,000 บาท แต่สิ่งที่คุณต้องจ่ายมากกว่านั้นคือคุณต้องหาทางขึ้นไปเอง ไม่ว่าจะเป็นการปีนบันได การไต่ขึ้นไปเอง หรือไม่ก็โหนสลิงมา ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรที่มันเร้าใจ คลิปก็มีนะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ naturavive.com ที่มา boredpanda
-
ออกสำรวจเส้นทางปีนเขา Yosemite’s El Capitan สุดโหดผ่านหน้าจอได้แล้ววันนี้!!
หนึ่งในเส้นทางที่ท้าทายนักปีนเขาจากทั่วโลกก็คงจะหนีไม่พ้นยอดเขา Yosemite’s El Capitan อย่างแน่นอน ด้วยหน้าผาที่สูง ไม่มีเส้นทางเดิน ต้องปีนป่ายอย่างเดียว เป็นความท้าทายที่นักปีนเขาทั่วโลกต้องการพิชิตให้ได้ ล่าสุดนี้ทาง Google ก็ได้ทำ Street View สำหรับการออกเดินทางสำรวจหน้าผา Yosemite’s El Capitan เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่อยากลองสัมผัสหน้าผาสูงกว่า 3,000 ฟุต แต่กลัวความสูง ก็สามารถทำได้แล้วที่ผ่านหน้าจอเลย!! เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Google กับทีมนักปีนเขามืออาชีพ Lynn Hill, Alex Honnold และ Tommy Caldwell ที่ได้ทำการเก็บภาพถ่ายในการปีนหน้าผาแห่งนี้มาให้พวกเราได้รับชมกัน สามารถร่วมผจญภัยได้ที่นี่หรือด้านล่างเลยนะจ๊ะ ที่มา : twistedsifter