Tag: หมอ
-
หนุ่มเคนยาปลอมตัวเป็นหมอ แต่กลับ “ผ่าตัด” คนไข้ได้สำเร็จถึง 8 ครั้ง ก่อนถูกจับกุม!
เรื่องราวในวันนี้ จะนำเสนอเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นนายแพทย์ได้อย่าง “แนบเนียน” ราวกับเป็นอาชญากรสุดฉกาจในภาพยนตร์ชนิดที่หาจับตัวได้ยาก นามของเขาคือ Ronald Melly ชายชาวเคนยาที่ปลอมตัวเป็นหมอในโรงพยาบาล Kapsabet County Referral Hospital แถมยัง ทำการผ่าตัดคนไข้ ได้สำเร็จถึง 8 ครั้ง!! Ronald Melly เรื่องราวเกิดขึ้นในเคาน์ตี Nandi ซึ่งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศเคนยา โดยรายละเอียดต่างๆ ถูกบันทึกลงในรายงานของทางสำนักงานสาธารณสุขของจังหวัด นาย Edward Serem ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของจังหวัด ก็ได้ออกมาเผยรายละเอียดในรายงานว่า… Ronald ได้ทำการผ่าตัดคนไข้มาแล้ว 9 ราย โดยชื่อคนคนไข้ (เหยื่อ) นั้นถูกบันทึกลงในรายงานทั้งหมด แต่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม คนไข้รายที่ 9 กลับเสียชีวิตลง เอกสารรับรองต่างๆ จากหน่วยงานราชการ ทั้งหมดคือของปลอม . แม้แต่เอกสารที่ต้องรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุขก็โดนปลอม Dr. Edward Serem กล่าวว่า… “ในการผ่าตัดคนไข้คนที่ 9 เขา (Ronald) ได้ทำมันพร้อมกับแพทย์ผู้ช่วยอีกหลายคน…
-
หนุ่มรัสเซีย พร้อมเสี่ยงเข้ารับผ่าตัด “เปลี่ยนหัว” เป็นคนแรก แม้จะมีภรรยาพร้อมลูกน้อย
Valery Spiridonov หนุ่มชาวรัสเซียวัย 33 ปีผู้เตรียมตัวเข้ารับ การปลูกถ่ายศีรษะ เผยกำลังย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาอย่างมีความสุขกับลูกและภรรยาแสนสวย แต่ก็พร้อมยอมรับความเสี่ยง Valery นั้นได้ อาสา เข้ารับการผ่าตัดเพื่อย้าย “ทั้งศีรษะ” ไปไว้กับอีกร่างกายหนึ่ง เนื่องจากเขามีอาการเจ็บป่วยจากกล้ามเนื้อสันหลังที่ผิดปกติ หรือที่เรียกว่า โรค Werdnig-Hoffman Valery Spiridonov นายแพทย์ผู้ที่จะดำเนินการผ่าตัดให้กับ Valery มีนามว่า Sergio Canavero ซึ่งมีฉายาว่า Doctor Frankenstein เนื่องจากการผ่าตัดของนายแพทย์คนนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมเรื่องความปลอดภัย และล่าสุดตัวของแพทย์ Sergio เองก็กำลังทำโปรเจกต์อยู่ที่ประเทศจีน เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับผ่าตัดมนุษย์และศพ อย่างไรก็ตาม Valery และ Anastasia Panfilova ผู้เป็นภรรยาพร้อมลูกน้อยก็กำลังจะย้ายครอบครัวไปอาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย Anastasia Panfilova ปัจจุบัน Valery กำลังทำการศึกษาด้านการวิเคราะห์ทางคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา อย่างไรก็ตาม มีหลายคนจะไม่เชื่อว่าเขาและ Anastasia จะเป็นสามีภรรยากันจริงๆ เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีรูปถ่ายร่วมกันเลย แต่ทางฝ่ายหญิงก็ออกมาเผยว่ามีความสุขดีในความสัมพันธ์ของเธอและชายหนุ่มที่นั่งรถเข็น ผู้มีจิตใจดี อารมณ์ลึกซึ้ง และฉลาด ส่วนตัวของ Valery เองก็กล่าวเตรียมตัวในการรับการผ่าตัดว่า… “ผมรู้ว่ามันเสี่ยงในการเข้ารับการผ่าตัดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนแบบนี้ แต่ผมมีอะไรจะเสียซะที่ไหนล่ะ?…
-
บราซิลออกหมายจับ “หมอพลังจิต” อ้างพลังแห่งพระเจ้า ลวงคนไข้ไปข่มขืนกว่า 300 คน
ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่ามีการรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดทั้งมวลด้วยวิธีที่อยู่เหนือวิทยาศาสตร์ แม้ “ความเชื่อ” ของบุคคลจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การเชื่อในสิ่งผิดก็อาจนำไปสู่อันตรายได้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2018 ทางการของประเทศบราซิลได้ออกหมายจับนาย Joao Teixeira de Faria หรือ ฟาเรีย ผู้มีฉายา “John of God” หมอร่างทรงพลังจิตที่ลวงลูกศิษย์มาข่มขืนและคุกคามทางเพศ Joao Teixeira de Faria (ฟาเรีย) ฟาเรีย เป็นชายชาวบราซิลวัย 76 ปี เขากล่าวอ้างว่าตนเป็นหมอวิเศษที่เป็นร่างทรงให้กับบรรดาแพทย์กว่า 30 คน ที่สามารถรักษาโรคต่างๆ ให้ผู้ป่วยได้ด้วยพลังของพระผู้เป็นเจ้า ผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกจึงเกิดความสนใจและศรัทธา ถวายตนเป็นศิษย์และสาวก ทั้งที่แท้จริงแล้วฟาเรียไม่ได้เป็นแพทย์จริงๆ แต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ลวงลูกศิษย์ที่เป็นหญิงสาวไปกระทำการ ข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ กว่า 300 ราย จนลูกศิษย์หลายคนทนไม่ไหวออกมาร้องเรียนกับสื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่างภาพสาวชาวดัตช์นามว่า Zahira Leeneke Maus ผู้เคยเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้าจากฟาเรียก็ออกมาให้การกับ Globo TV ว่านายฟาเรียได้กระทำการข่มขืนเธอโดยอ้างว่าเป็นพิธีกรรมการรักษา ส่วนหญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อของนายฟาเรียอีก…
-
หนุ่มจีนเดือด “ทำร้าย” แพทย์หลังปฏิเสธ ‘ผ่าตัดทำคลอด’ ภรรยาให้ทันตามฤกษ์ที่ดูไว้
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย หลังแพทย์ปฏิเสธที่จะทำคลอดก่อนกำหนดให้กับหญิงสาวชาวจีน ทำให้ผู้เป็นสามีของหญิงตั้งครรภ์เข้าจู่โจมนายแพทย์ด้วยอารมณ์โมโห เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาล Peking University First Hospital กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แพทย์ผู้เคราะห์ร้ายนามว่า He ถูกชายสกุล Zheng วัย 46 ปีเข้าทำร้ายร่างกายเนื่องจากแพทย์ปฏิเสธที่จะผ่าตัดทำคลอดภรรยาของนาย Zheng ตาม “ฤกษ์” ที่ทางครอบครัวกำหนดไว้ นายแพทย์ Zhan แพทย์อีกรายที่ร่วมการทำคลอดก็ออกมาอธิบายบนเว็บไซต์ Weibo ว่า ที่ต้องปล่อยให้คนไข้คลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็เพราะเห็นว่าปลอดภัยและ ไม่จำเป็น จะต้องใช้วิธีการผ่าตัด ขณะเดียวกัน นายแพทย์ He ผู้ถูกทำร้ายร่างกายก็มีกระดูกหักหลายจุด หากชมภาพจากกล้องวงจรปิดจะพบว่า Dr. He ถูกชกแต่เตะที่ศีรษะและท้องหลายครั้ง ลองชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 นาย Zheng ผู้ก่อเหตุก็ถูกคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจเนื่องจากคดีทำร้ายร่างกายในครั้งนี้ ส่วนหญิงวัย 19…
-
พบกับคุณหมออารมณ์ดี ชวนเหล่าคนไข้เต้นทุกครั้งที่รักษา เพื่อสร้างความสุขให้กับพวกเขา!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘หมอ’ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่เรียกได้ว่าต้องทำงานกับ ‘ความเครียด’ แทบจะตลอดเวลา เพราะพวกเขามีชีวิตของเหล่าคนไข้เป็นเดิมพัน และหลายๆ ครั้งพวกเขาก็ทำมากกว่า ‘การรักษาทางกาย’ ให้กับผู้ป่วย ด้วยการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับพวกเขา นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจของ Tony Adkins คุณหมออารมณ์ดี วัย 42 ปี จากเขต Orange County รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มักจะมาสร้างความสนุกสนานให้กับเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงในโรงพยาบาลเด็ก ในทุกๆ ครั้งที่ทำการรักษาเด็กๆ เขามักจะเต้นด้วยความสนุกสนาน รวมไปถึงชวนเหล่าเด็กๆ เต้นด้วย ราวกับว่าการเต้นเหล่านั้นเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาของเขา จนถึงกับขนาดที่ว่าได้รับฉายาให้เป็น ‘Dancing Doc‘ หรือ ‘คุณหมอนักเต้น’ เลยทีเดียว!! คุณหมอเล่าว่าที่ทำแบบนี้เพราะตนต้องการที่จะ ‘อยากรักษาความสนุกในวัยเด็กของเหล่าผู้ป่วยของเขาเอาไว้ ก็เลยตัดสินใจที่จะเต้นเพื่อทำให้พวกเขามีความสุข’ “การเต้นกับผู้ป่วยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ จากการที่พวกเขาเข้ามารักษาตัวที่นี่” “ผมต้องการที่จะเก็บรักษาช่วงเวลาอันสำคัญของเด็กๆ เอาไว้ เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงวัยแห่งความเป็นเด็กของพวกเขาเองก็ค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ เช่นกัน มันไม่สามารถกดหยุดเหมือนกับในหนังได้”…
-
พยาบาลได้พบเด็กคลอดก่อนกำหนดที่เคยดูแลเมื่อ 28 ปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนร่วมงาน!!
เรื่องของพรหมลิขิตมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคู่รักกันเท่านั้น กับคนที่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันและต้องแยกจากกันไปเป็นระยะเวลายาวนาน จนไม่คิดว่าอาจจะได้เจอกันแล้ว พรหมลิขิตก็จะทำหน้าที่ของมัน เพื่อนำพาให้คนสองคนได้มาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อพยาบาลผู้ดูแลเด็กชายคนหนึ่งเมื่อ 28 ปีก่อน ได้กลับมาเจอกับเด็กชายคนนั้นอีกครั้งในฐานะ ‘เพื่อนร่วมงาน’ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 1990 เด็กชาย Brandon Seminatore ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ด้วยอายุครรภ์ 29 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนด และนั่นทำให้เด็กชายต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รอดชีวิตออกไปสู่โลกกว้างได้ และคนที่รับหน้าที่นี้ก็คือพยาบาลดูแลเด็กทารกแรกเกิด Vilma Wong ณ ตอนนั้นเธออายุ 32 ปี และยังทำงานที่ศูนย์ดูแลเด็กคลอดก่อนกำหนด NICU (Neonatal intensive care unit) มาได้แค่ 4 ปีเท่านั้น วันเวลาล่วงเลยผ่านไปกว่า 28 ปี Brandon ได้ใช้ชีวิตตามทางของตนเองจนสามารถเรียนจบและกลายเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา และล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมาเขาถูกย้ายมาทำงานที่ NICU ขณะเดียวกันคุณ Vilma ก็ยังคงทำงานอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน เมื่อได้เจอกันครั้งแรกเธอสามารถจำชื่อของเขาได้ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเด็กคนที่เกิดก่อนกำหนด ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายเมื่อคุณหมอ Brandon เล่าให้เธอฟังว่าเขาเกิดที่นี่ และต้องพักฟื้นอยู่ที่นี่เพราะคลอดก่อนกำหนด ทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้ง…
-
ถึงกับช็อก สาวไปผ่าตัดเสริมหน้าอก พอฟื้นจากยาสลบพบว่าตัวเองกำลังโดนหมอข่มขืน!?
บางครั้งเราอาจจะคิดกันเล่นๆ ว่าเวลาเข้ารับการรักษาและต้อง ‘ดมยาสลบ’ เพื่อทำการผ่าตัด จะถูกทำอะไรไปบ้างก็ไม่อาจทราบได้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อ Erika Bykova นักออกแบบสาวชาวรัสเซียวัย 35 ปี ได้ไปทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่พอฟื้นจากยาสลบมาก็พบว่าตัวเองกำลัง ‘ถูกหมอข่มขืน’ อยู่!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ที่คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งในเมือง Samara ประเทศรัสเซีย โดยมีผู้ก่อเหตุคือดอกเตอร์ Yury Chernikov วิสัญญีแพทย์ หรือหมอที่ทำหน้าที่ในการให้ยาสลบวัย 59 ปี จากคำให้การของคุณหมอเล่าว่าเขาได้มีเพศสัมพันธ์กับเธอไม่กี่นาทีหลังจากผ่าตัดเสร็จ พร้อมกับอ้างว่าฝ่าย Erika นั้นสมยอม บอกว่าขณะมีอะไรกันคนไข้ยังร้องครางและบอกกับเขาอีกว่า ‘รู้สึกดีมาก’ แถมยังอ้าขาให้กับเขาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามทางด้าน Erika ที่เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งก็ออกมาโต้ ว่าคำให้การของหมอนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย “ฉันร้องครางก็จริง แต่ที่ครางก็เพราะว่าฉันไม่สามารถตะโกนหรือกรีดร้องเสียงดังได้ เพราะเพิ่งฟื้นจากยาสลบและยังไม่มีสติเต็มร้อย” “นี่เป็นครั้งแรกในการผ่าตัดของฉันที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะทำการผ่าตัดฉันได้มีโอกาสพบกับเขาเพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดในการเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่นึกว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้” “เขาข่มขืนฉัน ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำเลยว่าตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่ ดวงตาของฉันหนักอึ้ง และยังลืมตาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” “ฉันพยายามที่จะถีบเขาออกจากตัวด้วยขาของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้” Erika…
-
คุณหมอใช้ ‘อสุจิ’ ของตัวเอง ในการผสมเทียมให้กับคนไข้ เผยทำมาแล้วกว่า 50 ราย!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในต่างประเทศ กับกรณีของคุณหมอชาวอเมริกา หลอกคนไข้ที่มาผสมเทียมโดยบอกว่าจะใช้อสุจิที่บริจาค แต่เขากลับแอบใช้อสุจิของตัวเองทำให้คนไข้หญิงตั้งท้องมาแล้วหลายสิบคน!! คุณหมอ Donald Cline วัย 79 ปี จากเมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา เคยถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี จากการใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียมให้กับผู้ป่วย ซึ่งที่จริงแล้วควรจะใช้สเปิร์มที่ได้รับบริจาคมา แม้เขาจะให้การปฏิเสธในเบื้องต้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนจับได้เพราะหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อ ได้พาลูกของตัวเองมาตรวจ DNA และพบว่ามีความใกล้เคียงกันกับหมอ Cline ทั้งหมด 20 ราย นอกจากนี้ในรายงานบันทึกคดีความของศาล จากคำให้การของ Jacoba Ballard หนึ่งในคนที่คาดว่าเป็นลูกสาวของเขา เล่าว่าเขาทำแบบนี้มาแล้วกว่า 50 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงยุค 1970-1980 “สำหรับความเจ็บปวดที่พวกคุณได้รับจากสิ่งที่ผมทำ ผมต้องขอโทษด้วย” หมอ Cline กล่าวขอโทษกับคนไข้ของเขา ระหว่างรับโทษในเรือนจำ อย่างไรก็ตามโทษจากการกระทำผิดของเขามีเพียงแค่นี้ เพราะกฎหมายในรัฐอินเดียนาไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าห้ามแพทย์ไม่ให้ใช้สเปิร์มของตัวเองกับผู้ป่วยที่มารับการผสมเทียม แต่เหล่าอดีตผู้ป่วยที่มาทำการผสมเทียมกับหมอ Cline และลูกๆ ของพวกเขาต่างก็พยายามที่จะเรียกร้องให้ผู้ออกกฎหมายของรัฐอินเดียนาหันมาให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวนี้ และแก้ไขกฎหมายให้คุณหมอที่ใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียม ถือเป็น ‘อาชญากรรม’…
-
อาจารย์หมอคบชู้ ลงมือฆาตกรรมภรรยาของตัวเอง แต่โชคร้ายลูกสาวถูกลูกหลงไปด้วย!?
นี่คือเรื่องราวของคดีการฆาตกรรมของวิสัญญีแพทย์และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ได้วางแผนฆาตกรรมภรรยาเพราะตัวเองเป็นชู้กับลูกศิษย์ แต่โชคร้ายลูกสาวของตัวเองดันรับเคราะห์จากเหตุดังกล่าวไปด้วย นาย Khaw Kim-Sun ชาวมาเลเซียวัย 53 ปี เป็นวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาล Prince of Wales ในฮ่องกง และศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัย Chinese University of Hongkong เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาวางแผนฆาตกรรมภรรยา Wong Siew-fung วัย 47 ปี และลูกสาว Khaw Li-ling วัย 16 ปี ด้วยแก๊สอันตรายบรรจุไว้ในลูกบอลโยคะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2015 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน ล่าสุดศาลได้เริ่มทำการพิจารณาคดีและตัดสินคดีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อัยการ Andrew Bruce SC เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้กับศาลว่า ย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุ นาย Khaw ได้ทำการก่อตั้งโปรเจกต์วิจัยขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการนำแก๊สอันตรายอย่างคาร์บอนมอนอกไซด์มาใช้ในการลงมือฆาตกรรม โดยมีผู้ช่วยงานวิจัยเป็นนักศึกษาสาว ที่เขามีความสัมพันธ์ลับด้วยอยู่ เป็นผู้ร่วมสมคบคิดด้วย …
-
คุณหมอตัดสินใจจบชีวิตลง…เพราะอดีตอันขมขื่น มันส่งผลมาถึงปัจจุบัน
บาดแผลในใจที่ถูกกระทำรุนแรงในวัยเด็ก มันสามารถส่งผลต่อใจจิตของคนแม้เวลาจะล่วงเลยมานานนับ 50 ปีแล้วก็ตาม… และนี่คือเรื่องราวของคุณหมอ Stuart Kidd ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่จากประสบการณ์อันขมขื่นในวัยเด็กที่ตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด ก็ทำให้เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงในวัย 60 ปี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อวัย 60 ปี ที่เพิ่งเกษียณตัวเองจากการทำงานอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมาแล้วมากมายในเขต Blue Mountains นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นในวัยเด็กในรายการ You Can’t Ask That ที่จะออกฉายทางช่อง ABC แต่หลังจากถ่ายทำเสร็จ เพียงสองเดือนก่อนที่รายการจะนำเรื่องราวของเขามาเผยแพร่คุณหมอ Kidd ก็ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงอย่างน่าเศร้า ทางด้านภรรยาของคุณหมอ คุณ Janet ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองว่า ‘คุณหมอ Kidd รู้สึกพอใจมากกับเนื้อหาในรายการดังกล่าว ซึ่งเขาได้มีโอกาสรับชมมันก่อนที่จะเสียชีวิต’ ในการถ่ายทำคุณหมอ Kidd ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนเด็กๆ เขาถูกผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 30-40 ปี และเด็กผู้ชายที่มีอายุมากกว่าก่อเหตุทารุณกรรมทางเพศ “ผมเคยถูกข่มขืนโดยผู้ชายที่มีอายุมากกว่าผม 30-40 ปี จากนั้นก็ถูกกระทำโดยเด็กชายที่มีอายุมากกว่าที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อน” “ผมยังเด็กอยู่มาก…
-
นายแพทย์ทหารลงมือ ‘ผ่าตัดไส้ติ่ง’ ด้วยตัวเอง เพราะทั้งทีมไม่มีใครสามารถทำได้เลย
คุณหมอ Leonid Rogozov แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและเป็นอดีตนายแพทย์ทหารแห่งโซเวียต ผู้ที่ “ผ่าตัดไส้ติ่ง” ตัวเองหลังเกิดอาการอักเสบในช่องท้องอย่างรุนแรง ในปี 1961 ในระหว่างการออกปฏิบัติภารกิจสำรวจทวีปแอนตาร์กติก ด้วยสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ประกอบกับความยากลำบากหลายประการ ทำให้เขาเกิดอาการอักเสบระหว่างทาง… Leonid Ivanovich Rogozov Rogozov รู้สึกเจ็บปวดบริเวณด้านล่างของช่องท้องอย่างหนักหน่วง เขาจึงตัดสินว่านั่นคืออาการ “ไส้ติ่งอักเสบ” ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่อำนวยความสะดวกมีเพียงการผ่าตัดเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ โชคไม่ดีที่ทั้งคณะเดินทางมีหมออยู่เพียงคนเดียวซึ่งก็คือตัวของ Rogozov เองเท่านั้น หากเสียเขาไปทั้งคณะจะไม่สามารถเดินทางต่อหรือกระทั่งเดินทางกลับได้อย่างแน่นอน Rogozov จึงตัดสินใจคว้ามีดผ่าตัดเตรียมผ่าตัดช่องท้องของตัวเอง เขาเริ่มให้ยาชากับตัวเองในปริมาณที่น้อย เพราะเขาเองก็ต้องทำหน้าที่เป็นหมอผู้ทำการผ่าตัดด้วยเช่นกัน การควานในช่องท้องตนเองเพื่อค้นหาจุดที่เรียกว่า “ไส้ติ่ง” นั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่หลังจากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 45 นาที เขาก็ตัดไส้ติ่งออกมาได้สำเร็จ จากนั้นเขาให้ยาปฏิชีวนะกับตนเองและเย็บแผลปิดเป็นอันสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อนๆ ของเขาได้เก็บภาพเอาไว้ เป็นภาพที่ถึงแม้ว่าดูน่ากลัว แต่กลับน่ายกย่องในความกล้าของคุณหมอ Rogozov ที่เลือกจะเสี่ยงผ่าตัดตัวเองเพื่อกลับมาเป็นหมอประจำทีมให้ได้ สิ่งที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นก็คือ หมอ Rogozov…
-
แพทย์นักดำน้ำ Richard Harris สูญเสียคุณพ่อ หลังภารกิจถ้ำหลวงลุล่วงได้ไม่นานนัก…
รายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้กล่าวถึง Richard Harris แพทย์นักดำน้ำชาวออสเตรเลีย ที่กำลังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในทีมฮีโร่ ผู้เข้ามาสนับสนุนภารกิจพาตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง หลังจากเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ภารกิจกู้ชีพได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทุกชีวิตปลอดภัย แต่สำหรับ Richard Harris หลังจากที่ได้รับรู้ข่าวดี เขาก็ต้องรับรู้ถึงข่าวร้ายในเวลาไล่เลี่ยกัน Dr. Andrew Pearce จากหน่วยกู้ชีพ South Australia Ambulance Service ได้ทำการยืนยันถึงการเสียชีวิตของคุณพ่อของนายแพทย์ Richard Harris โดยไม่ระบุสาเหตุผ่านแถลงการณ์ด้วยใจความว่า… “มันเป็นสัปดาห์ที่โลดโผนวุ่นวายมากๆ เป็นความโศกเศร้าอย่างยิ่ง ที่ผมขอยืนยันว่าคุณพ่อของคุณ Harris เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังจากปฏิบัติการกู้ชีพในประเทศไทยสำเร็จไปได้ไม่นาน” “เขาจะกลับมาที่บ้านเกิดเร็วๆ นี้ และจะได้ใช้เวลาอันมีค่าอยู่กับครอบครัว เขาร้องขอถึงความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้” Richard Harris (ขวา) พร้อมกับเพื่อนนักดำน้ำ Craig Challen ในระหว่างช่วยปฏิบัติการถ้ำหลวง สำหรับนายแพทย์ Harris นั้นเป็นวิสัญญีแพทย์ และนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญการกู้ชีพภายในถ้ำ…
-
เด็กสาววัย 18 ปี ขอร้องให้หมอ “ตัดขา” ของเธอทิ้ง แม้หมอจะบอกว่า “มันยังดีอยู่” ก็ตาม
บางทีสิ่งที่แพทย์บอกว่าดี มันอาจจะไม่ได้ดีสำหรับเราเสมอไป… ตัวอย่างเช่น หญิงสาววัยรุ่น Megan Jordan วัย 18 ปีคนนี้ ที่หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขาซ้ายของเธอก็เหมือนเป็นอัมพาต เธอเดินไม่ได้ เพราะหากลงน้ำหนักไปที่ขาซ้ายเมื่อใด เธอจะเกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ขณะเดียวกันแพทย์บอกว่าขาซ้ายของเธอยังเป็นปกติและมีสุขภาพดี และบอกว่าความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกนั้นมาจากสมองของเธอเองเสียมากกว่า แต่สาวน้อย Megan นั้นไม่อยากทนทรมานกับความเจ็บปวดนี้อีกแล้ว เธอขอให้แพทย์ “ตัด” ขาซ้ายของเธอทิ้ง เพราะนอกจากเธอจะเจ็บปวดกับมันแล้ว เธอยังต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นแทบตลอดเวลา จะเล่นกีฬาก็ไม่สามารถทำได้ สาวน้อย Megan จากชุมชนเฮริฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษกล่าวว่า “นี่มันร่างกายของฉัน ถ้าฉันอยากตัดขาของฉันทิ้ง มันก็จะต้องได้รับการผ่าตัด ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับมาตลอดมันเกินจะทนแล้ว การตัดขามันคงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ฉันหลุดพ้นแล้วล่ะ” “แพทย์ไม่อยากให้ฉันตัดขาทิ้ง พวกเขาคิดว่าความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึก มันมาจากสมอง แต่ถึงอย่างไรฉันก็อยากตัดขาอยู่ดี เพราะฉันเคยเล่นกีฬาและออกกำลังกายทุกวัน แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้เลย การตัดขาทิ้งเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ฉันได้กลับไปทำสิ่งที่ฉันรักอีกครั้ง” ขณะทางแพทย์ได้ตอบรับคำขอของ Megan Jordan เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเธอต้องรออีก 18 เดือนเพื่อเข้ากระบวนการผ่าตัดขาของเธอต่อไป ที่มา: metro และ dailymail
-
รวมทวีต “เรื่องเล่าจากคุณหมอ” ผ่านทวิตเตอร์ ทั้งสุขและเศร้าอยากเล่าให้ทุกคนได้ฟัง
ขณะนี้มีเทรนด์ในทวิตเตอร์ เป็นแฮชแท็ก #ShareAStoryInOneTweet ที่ให้ชาวทวิตเตอร์ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวน่าประทับใจสั้นๆ เพียงโพสต์เดียวเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องราวของเหล่า “บุคลากรแพทย์” ที่หลายคนคิดว่าแพทย์เป็นอาชีพที่น่าอิจฉา ทั้งมีรายได้สูงและได้รับความเคารพจากผู้คนในสังคม แต่รู้หรือไม่ ชีวิตของพวกเขาก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ที่มีทั้งความทุกข์ ความสุข ความเศร้า ลองมาดูกันว่า เรื่องเล่าจากคุณหมอ ที่น้อยคนจะได้รับรู้ มันจะซึ้ง เศร้า และน่าประทับใจขนาดไหน… ผมเห็นเด็กๆ ต้องตายจากโรคหัดทุกวันในเคนยา ผมได้เห็นคุณแม่คนหนึ่งกระเตงลูกของเธอมาไกลเกือบ 50 กม. เพื่อรับวัคซีนยา ส่วนในประเทศโลกที่หนึ่ง พ่อแม่ที่ไม่พาลูกมาฉีดวัคซีนนี่โคตรเห็นแก่ตัวเลย ครั้งหนึ่ง ผมทำคลอดหนูน้อยน้ำหนัก 450 กรัมคนหนึ่งออกมา หลายคนบอกว่าเธอไม่น่ารอด เพราะเธอตัวเล็กเกินไป และเธอก็มักจะหยุดหายใจอยู่เสมอ ผมจึงใช้เวลาอยู่กับเธอ 2 คืนเต็มๆ นวดลงไปบริเวณหน้าอกเพื่อให้ปอดเธอได้หายใจ ผู้แนะนำบอกว่าสิ่งที่ผมทำมันเปล่าประโยชน์ แต่ปัจจุบันนี้เธอเป็นสาวน้อยวัย 6 ขวบที่กำลังจะออกแสดงบัลเลต์เป็นครั้งแรก ในช่วงแรกๆ ที่โรคเอดส์ระบาดหนัก นางพยาบาลมักเลี่ยงที่จะเข้าไปหาผู้ป่วย ผมในฐานะหมอฝึกงาน ขณะนั้นผมไม่ได้อยู่ในชั่วโมงทำงานด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังเข้าไปหาพวกเขา ผมใช้เพจเจอร์และโทรศัพท์โทรหาพ่อแม่พี่น้องของผู้ป่วย จากนั้นก็นั่งจับมือพวกเขาเอาไว้ และติดต่อให้พวกเขาได้คุยกับลูกๆ พวกเขาจะต้องไม่ตายอย่างโดดเดี่ยว คุณถูกรถชนต่อหน้าฉัน…
-
ยังจะสูบอีกหรือ… เปรียบเทียบปอดของคนสูบบุหรี่ กับปอดคนไม่สูบ แค่สีก็ต่างกันชัดเจนแล้ว
แม้จะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมายาวนานมากๆ กับการลดถึงขั้นงดสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของประชากรชาวโลก ในปัจจุบันก็ยังคงมีจำนวนผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นสวนทางกับการรณรงค์เพื่อสุขภาพอยู่ดี… การสูบบุหรี่นั้นเป็นความต้องการส่วนบุคคลที่เลือกจะสูบ แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งอาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่า ในอนาคตข้างหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองบ้าง? Amanda Eller นางพยาบาลจากมหาวิทยาลัย Western Carolina University ได้ทำการโพสต์วิดีโอคลิปเผยให้เห็นว่า สภาพของปอดที่มีสุขภาพดีไม่ได้สูบบุหรี่นั้นเป็นอย่างไร และนำมาเปรียบเทียบข้างๆ กันกับปอดของผู้สูบบุหรี่ 1 ซองต่อวัน ต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี เพียงแค่เห็นสีของปอดทั้งสองชิ้น ก็ทำให้รู้และแยกแยะได้ทันทีว่าปอดของผู้สูบบุหรี่และไม่สูบเป็นแบบไหน ซึ่งนอกเหนือจากสีของปอดภายนอกแล้ว ระบบการทำงานของปอดก็ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม ปอดของผู้สูบบุหรี่ ปอดของผู้ไม่สูบบุหรี่ ทางพยาบาลได้นำเครื่องเป่าลมเข้าไปในปอด เพื่อจำลองประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะ ผลก็คือปอดที่สูบบุหรี่จะไม่สามารถกักเก็บลมเอาไว้ได้ นั่นหมายถึงการหายใจที่ถี่มากกว่าปกติ ส่วนปอดที่มีสุขภาพดีจะสามารถกลั้นหายใจได้นานกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม นโยบายลดปริมาณผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกยังคงใช้วิธีในการเพิ่มภาษีบุหรี่ เพราะยังคงเล็งเห็นว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าไม่มีเงินซื้อบุหรี่ก็จะเลิกสูบไปเอง แต่ทว่ามีงานวิจัยบางส่วนที่มองสวนทางเนื่องจากการเพิ่มภาษีบุหรี่แพงเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะส่งผลทำให้เกิดยาสูบเถื่อนมากยิ่งขึ้น ที่มา : @amanda.orr.56, ladbible
-
5 เหตุผลว่าทำไมเกิดเหตุ “ซอมบี้” ให้เลือกคบสัตวแพทย์ ดีกว่าคบหมอคน!!
เคยสงสัยกันไหมว่าในหนังซอมบี้อย่าง The Walking Dead เวลาพวกพระเอกไปเจอสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถพอที่จะรักษาคนอื่นได้ ทำไมคนๆ นั้นถึงมักที่จะเป็นสัตวแพทย์ไม่ใช่หมอธรรมดาๆ หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นเพราะในหนังไม่ต้องการให้พวกพระเอกได้เปรียบจนเกินไป แถมยังทำให้การหาข้อมูลโรคไม่จำเป็นต้องตรงมากจริงๆ อะไรแบบนั้น แต่ถ้าหากว่าสัตวแพทย์มีเหตุผลที่ทำให้พวกเขาสามารถเอาชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ได้ดีกว่าหมอคนล่ะ เมื่อมีคนถาม “สมาคมสัตวแพทย์” แห่งอเมริกาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็ออกมาให้เหตุผลที่น่าสนใจ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1. สัตวแพทย์มีโอกาสที่ดีกว่าในการรอดชีวิต ในกรณีที่มีซอมบี้อยู่เต็มโลกไปหมดนั้น ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการตาย คือการกัดโดยผีดิบ ซึ่งนั่นทำให้สัตวแพทย์มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าหมอทั่วๆ ไป เพราะว่าหนึ่งในงานหลักของสัตวแพทย์นั้นก็คือ การที่จะต้องระวังไม่ให้โดน “ผู้ป่วย” กัดเอานั่นเอง 2. พวกเขาสามารถให้การดูแลทางการแพทย์ได้ แม้ว่าจะไม่เท่ากับ หมอคนแต่สัตวแพทย์ก็สามารถให้การดูแลทางการแพทย์ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำแผลเบื้องต้น หรือการเย็บแผล ไม่แน่ว่าบางคนอาจจะผ่าตัดได้ด้วยซ้ำ เพราะอย่าลืมว่าการรักษาสัตว์นั้นก็เป็นศาสตร์การรักษาเช่นเดียวกัน 3. พวกเขาสามารถดูแลสัตว์ได้ ในยุคที่ซอมบี้ระบาดนั้น ไฟฟ้าและน้ำมันจะหายากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเวลาแบบนั้นคนเราจะหันไปพึ่งพาอะไรล่ะถ้าไม่ใช่สัตว์ (ในกรณีที่เชื้อซอมบี้ไม่ติดสัตว์ไปด้วยนะ) ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือม้า แล้วคิดว่าใครล่ะที่จะดูแลสัตว์เหล่านั้นได้ดีไปกว่าสัตวแพทย์ 4. พวกเขาสามารถตรวจสอบว่าอาหารของคุณปลอดภัยไหมได้ สัตวแพทย์จะมีประสบการณ์ในการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหาร พวกเขาหลายคนได้ทำงานกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารที่โรงงานแปรรูป และศูนย์กระจายสินค้าด้วยซ้ำ โดยเฉพาะจากอาหารที่มาจากสัตว์ 5. พวกเขาจะไม่อยู่ที่โรงพยาบาลในตอนที่ซอมบี้ระบาด แม้ว่าจะคล้ายกับข้อแรก แต่เรื่องนี้ก็สำคัญมากพอที่จะแยกออกมาเป็นอีกข้อ…
-
สาวร้องเรียน.. แฟนเจ็บหูพาไปหาหมอ แต่ถูกแพทย์ไล่พร้อมถามว่า “ใกล้ตายไหม?”
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 23 เมษายน 2018 เจ้าหน้าที่ได้และผู้สื่อข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่า น.ส. พรธิดา ทุนดี วัย 25 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ และแฟนหนุ่มวัย 28 ปีชาวอิหร่าน ได้เดินทางมาร้องเรียนเพื่อทวงสิทธิ์ผู้เข้ารับการรักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาลบางละมุง น.ส. พรธิดา และแฟนของเธอ น.ส. พรธิดา เล่าว่า ตนเองได้พาแฟนหนุ่มซึ่งมีอาการเจ็บหูไปติดต่อขอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลดังกล่าว แต่เมื่อได้เข้าพบแพทย์และอธิบายไปว่าแฟนหนุ่มของตัวเองมีอาการเจ็บหู เธอเล่าเหตุการณ์ว่า แทนที่จะได้รักษา แพทย์คนนั้นกลับพูดว่า “ใกล้ตายไหม? ที่นี่ห้องอุบัติเหตุ ถ้าไม่ใกล้ตายก็ไม่ต้องมา มีอินเตอร์เน็ตไหม? ไปเปิดดูว่าห้องอุบัติเหตุใช้ในกรณีใด” หญิงสาวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดในลักษณะนี้ออกมาจากปากแพทย์ และสุดท้ายแฟนของเธอก็ไม่ได้รับการรักษาแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ต้องนั่งรอคิวอยู่นานถึง 2 ชั่วโมง หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวหลายสำนักก็ได้เดินทางไปสอบถามยังโรงพยาบาลบางละมุงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่ากลับไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากแพทย์คนนั้นออกเวรกลับที่พักไปก่อนแล้วและยังคงไม่สามารถติดต่อได้ โรงพยาบาลจึงไม่อาจชี้แจงเรื่องราวใดๆ ทางด้านแฟนหนุ่มที่มีอาการเจ็บหู ทางโรงพยาบาลได้ทำเอกสารให้เข้ารับการรักษาอีกครั้ง แต่หญิงสาวเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในการรักษาของโรงพยาบาลแห่งนี้ เธอจึงตัดสินใจพาแฟนไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่น…
-
ออเจ้าเจ็บไข้อะไรมา? หมอจ.สุรินทร์แต่งชุดไทยรักษาคนไข้ ราวกับพี่หมื่นมาเอง
จะบอกว่าละครบุพเพสันนิวาสทำให้คนกลับมาฮิตใส่ชุดไทยกันอีกครั้งก็คงจะไม่เกินเลยนัก ด้วยความสวยงามของเครื่องแต่งกาย ทำให้เดี๋ยวนี้มีการจัดแคมเปญหลายๆ อย่างเพื่อให้คนใส่ชุดไทยกันมากขึ้น บางที่อาจจะเพื่อความสวยงามหรือบางที่อาจจะได้รับส่วนลดในบริการต่างๆ ด้วย ล่าสุดเราไปเจอการแต่งชุดไทยแบบสวยๆ มาอีกแล้วล่ะ เป็นภาพของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่พากันแต่งชุดไทยไปรักษาคนไข้ ราวกับเป็นพี่หมื่นออกมารักษาคนเองยังไงยังงั้นเลย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 เฟซบุ๊กเพจ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ได้เผยแพร่ภาพของพันเอกสงคราม โชคชัย ผอ.รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน พร้อมด้วยพยาบาลและบุคลากรอื่นๆ ที่พากันแต่งชุดไทยออกมาตรวจร่างกายและรักษาคนไข้ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สดใส และสดชื่นให้กับทุกๆ คน ความดันออเจ้าน่าจักคงที่แล้วหนา . . . . นอกจากนี้ยังมีการเปิดโครงการการ “เมาไม่ขับนะออเจ้า” เพื่อเป็นการรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย ขับขี่ปลอดภัยกันนะออเจ้า ที่มา โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน
-
ความสะเพร่าของโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัว ไม่เยียวยาและไม่รับผิดชอบ…
โรงพยาบาลเปรียบได้เหมือนดั่งความหวังสุดท้าย ที่จะทำให้ร่างกายของคนเรากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีในบางกรณีที่การรักษากลับทำให้ชีวิตของผู้ป่วยย่ำแย่ลงกว่าเดิม เรื่องราวของผู้ป่วยหญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปี จากฮ่องกง ที่มีอาการปวดหัว ปวดคอ และรู้สึกว่าร่างกายด้านขวามีความอ่อนแรงผิดปกติ และเริ่มต้นเข้ารับคำแนะนำทางด้านการรักษากับทางโรงพยาบาล United Christian Hospital ในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 จากนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอประสบกับอาการไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งหรือเซลล์ประสาททั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย และได้รับการรักษาด้วยสเตอรอยด์ในทันที แต่กลับไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ แพทย์จึงแนะนำให้รับการรักษาด้วยวิธี Plasmapheresis (การฟอกเลือด) กระบวนการรักษาที่จะนำพลาสมาที่เป็นพิษออกจากร่างกาย ทำให้สะอาดหมดจนก่อนจะนำกลับเข้าสู่ ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายอีกครั้ง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว และหลังจากที่แพทย์ได้ทำการสวมสายสวนหลอดเลือดไปที่ลำคอ เธอเกิดอาการช็อกส่งผลทำให้เลือดไหลไปกองอยู่ที่บริเวณหน้าอก ทางทีมแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ และทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยมั่นใจว่ายังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ได้ตัดสินใจย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล Queen Elizabeth Hospital เพื่อรับการรักษาเลือดที่สะสมค้างอยู่ในบริเวณหน้าอกแทน ในขณะที่ทีมแพทย์ทีมใหม่จะทำการเจาะเส้นเลือดดำของผู้ป่วย กลับพบว่าเส้นเลือดแดงของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากการสวมสายสวนหลอดเลือดที่คอจากโรงพยาบาลแห่งแรก…
-
ศัลยแพทย์ใจถึงเดินฝ่าหิมะร่วม 3 ชั่วโมง เพื่อไปผ่าตัดให้คนไข้ แม้จะเดินทางลำบากก็ตาม!!
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ จากต่างประเทศ เมื่อครั้งสภาพอากาศในประเทศอังกฤษและบริเวณใกล้เคียงในช่วงนี้ ต้องประสบกับสภาพอากาศหนาวรุนแรง มีหิมะตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้สะดวกเหมือนช่วงอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ และเช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุข เมื่อไม่อาจเดินทางได้สะดวก อาจจะคงตัดใจไม่ไปทำงาน แต่ศัลยแพทย์ท่านนี้ปฎิเสธทุกปัญหา เพราะยังคงมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ!! ศัลยแพทย์หญิงผู้ไม่เปิดเผยนาม ได้ทำการเดินฝ่าดงหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก เป็นระยะทางรวม 12.8 กิโลเมตร (8 ไมล์) จากเขต Anniesland ในเมือง Glasgow ไปยังเมือง Paisley เขต Renfrewshire ของประเทศสกอตแลนด์ ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2018 ตามวันเวลาท้องถิ่น การกระทำเพื่ออุทิศให้กับงานครั้งนี้ ถูกเปิดเผยโดยนาย Andy Renwick ศัลยแพทย์ด้านลำไส้ ผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ และการเดินมาทำงานในครั้งนี้ก็เพื่อมาทำการผ่าตัดให้คนไข้ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่ต้องการการรักษาภายในวันนั้น… “เธอเดินมาจากเขต Anniesland มายังเมือง Paisley โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที ผมเห็นเธอเดินเข้ามา เธอสวมใส่แว่นตากันหิมะ พร้อมกับชุดหนาแน่นทั้งส่วนบนและล่าง…
-
‘เก๊าไม่อยากไปหาหมอ!’ พบกับความฮาของสัตว์เลี้ยงเมื่อต้องไปหาสัตวแพทย์
สัตว์จะเป็นมิตรกับคนทุกคนที่ไม่คิดร้ายและมอบความรักให้กับมันเสมอ ทว่าแนวคิดนี้ก็มีข้อยกเว้นกับบางคนอยู่เหมือนกันนะ อย่างเช่นสัตวแพทย์ยังไงล่ะ ถึงสัตวแพทย์จะมีเจตนาดีอยากรักษาพวกสัตว์เลี้ยง แต่ความรู้สึกของพวกมันตอนไปเจอสัตวแพทย์ก็น่าจะเหมือนกับตอนที่เด็กเล็กต้องไปหาหมอฟัน คือคงกลัวจะโดนฉีดยาหรือไม่ก็กลัวหมอทำให้เราเจ็บน่ะแหละ แถมยาที่หมอให้มาก็ไม่อร่อยด้วย บางครั้งเวลาเราพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์ พวกมันก็เลยพยายามจะหลบหน้าหลบตาหมอ ทั้งที่พอไปถึงคลินิกแล้วก็คงไม่มีทางรอดหรอก ฮ่าๆๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้จริงๆ ลองดูตัวอย่างความฮาและความน่ารักกันครับ อยู่ในนี้เจ้ามนุษย์คงไม่เห็นหรอก … ใช่ไหม!? หมอจะจับเก๊าฉีดยาอีกแล้วอะแม่ ขอหลบแป๊บนะ อย่าให้หมอเข้ามาใกล้ล่ะ ที่นี่มีรูหลบภัยด้วย เป็นโชคของเหมียวแล้ว แบบนี้จ้างให้หมอก็หาไม่เจอ แกคิดว่าตัวเองเป็นกิ้งก่าเหรอไง พออยู่ใกล้กำแพงจะได้เนียนเปลี่ยนสีน่ะ!? อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นตูจะจับตัวเองเป็นตัวประกัน หึหึ เจ้าหมา คิดว่าซ่อนเนียนแล้วล่ะสิ แต่ไม่พ้นสายตาคุณหมอหรอก มืดแปดด้านจริงๆ ไม่มีทางออกเลย ชีวิตของเราต้องจบเพียงเท่านี้หรือนี่!? เราเป็นเฟอร์นิเจอร์บนโต๊ะนะไม่ใช่แมว แมวที่หามันวิ่งไปทางโน้นต่างหาก ทำไมมนุษย์ไม่ทำให้ตู้มันทึบฟระ แบบนี้มันหลบยากนะเฟ้ย ถ้าเรามองไม่เห็นหมอ หมอก็จะมองไม่เห็นเรา ปล่อยฉันไปเถอะค่ะหมอ จะให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอม แต่อย่าฉีดยาเลยนะ หลบในที่ต่ำแบบนี้…
-
ภาพชีวิตสัตวแพทย์ที่ทาสสัตว์ทั้งหลายต้องอิจฉา อยากเป็นแบบนี้บ้าง งื้อออ
สำหรับคนที่รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ คงไม่มีอะไรดูมีความสุขไปกว่าการได้อยู่กับสัตว์ตลอดเวลาอีกแล้ว หลายคนก็เลยฝันว่าโตมาจะต้องเลี้ยงสัตว์ให้ได้ หรือมากกว่านั้นก็คือฝันอยากทำงานที่ได้อยู่กับสัตว์อย่างสัตวแพทย์เลย แล้วคนที่สามารถเป็นสัตวแพทย์ได้จริงๆ ก็คงรู้สึกถึงความคุ้มค่าจากการพยายามร่ำเรียนจนได้ทำงานในสายอาชีพนี้แล้ว เพราะว่าชีวิตที่ได้พบเจอเจ้าสัตว์น่ารักๆ ทุกวันนั้นมันช่างดูสุขใจซะเหลืือเกิน จนคนธรรมดาทั่วไปอาจรู้สึกอิจฉาอยากอยู่กับสัตว์แบบนี้บ้าง ไม่เชื่อก็ไปดูภาพจากสัตวแพทย์กันสิ เป็นสัตวแพทย์ทำให้รู้สึกมีความสุข เพราะเราได้มีโอกาสช่วยให้พวกสัตว์แข็งแรง แถมยังได้ช่วยให้มันพวกกลับมามีสุขภาพจิตดี ร่าเริงสดใสขึ้นด้วย ที่สำคัญก็มีคือสัตว์ให้เจอทุกรูปแบบเลย ทั้งสัตว์ที่เพิ่งอายุน้อย ดูน่าทะนุถนอม และสัตว์แก่ที่ดูสุขุมนุ่มลึก รู้สึกดีเวลาที่ได้อยู่ด้วยอีกต่างหาก บางครั้งสัตว์พวกนี้ก็รับรู้ถึงความรักที่เรามีให้ แล้วขอบคุณด้วยการเข้ามาอ้อน เข้ามากอดให้เรารู้สึกอบอุ่น หรือถ้ามันรักเราจริงๆ มันก็จะจูบเราเลย แหะๆ แถมไม่ได้เจอแต่หมากับแมวนะ เรายังได้เจอสัตว์แปลกๆ เยอะแยะเลย ลามะขนปุยก็มี หมีโคอาล่าน้อยก็มา หรือจะเป็นกระต่ายยักษ์ ก็หาเจอได้ไม่ยาก แถมมีเหมียวยักษ์เมนคูนด้วย อิอิ ทุกวันคุณก็จะได้อยู่กับกองทัพสัตว์เล็กใหญ่จนหนำใจ บางวันได้อยู่กับพวกมันนานกว่าเจ้าของจริงๆ ซะอีก แต่เราก็ไม่เคยลืมว่างานต้องมาก่อน เราจะดูแลมันให้ดีที่สุดก่อนที่จะหลงเสน่ห์แล้วเข้าไปเล่นกับเจ้าขนปุยพวกนี้ …
-
10 อาการเจ็บปวดที่หลายๆ ครั้งคุณอาจมองข้าม แต่ตอนนี้ควรหันมาสนใจมันได้แล้วนะ!!
หากคุณเคยรู้สึกเจ็บปวดร่างกายส่วนไหนเป็นพิเศษ เช่นอยู่ๆ ก็ปวดหัว เจ็บหน้าอก หรือปวดหลัง บ่อยครั้งที่เรามักจะคิดว่ามันเกิดจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอในช่วงนั้นของเรา เดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง ทว่าทางที่ดีแล้วถ้ามีอาการที่ว่ามานี้คุณควรจะไปตรวจร่างกายเสียหน่อยจะดีกว่านะ เพราะอาการเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อาจจะบ่งบอกได้ว่าร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาที่ร้ายแรงกว่าซ่อนอยู่ก็ได้ ลองไปดูกันว่าอาการไหนที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะป่วยได้บ้าง 1. ปวดหัวแบบเฉียบพลัน ถ้าจู่ๆ คุณก็รู้สึกปวดหัวแบบรุนแรงจนแทบทนไม่ได้ มันอาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณเป็นโรคหลอดเลือดในสมองโป่งพอง ถ้าหากคุณเป็นโรคนี้แล้วปล่อยมันทิ้งไว้อาจจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตกเลยก็ได้นะ 2. ปวดฟันเมื่อดื่มหรือกินของเย็น หากคุณเกิดอาการนี้แสดงว่าผิวชั้นนอกของฟันคุณอาจจะถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นประสาทถูกกระทบโดยตรงเวลาคุณกินของเย็นหรือร้อนมากๆ นอกจากจะทำให้คุณปวดจี้ดแล้วคุณยังมีโอกาสติดเชื้อจากแบคทีเรียจนเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกายด้วย ควรพบหมอฟันโดยด่วน 3. ปวดหรือชาบริเวณมือหรือแขน เมื่อคุณรู้สึกเจ็บหรือชาฝ่ามือ ข้อมือ หรือนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลาง คุณอาจจะมีโอกาสเป็นโรคเส้นประสาทกดทับบริเวณข้อมือ และถ้าทิ้งไว้นานๆ อาจจะทำให้มือของคุณใช้การไม่ได้ไปเลย 4. เจ็บหน้าอก อาการเจ็บอกเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคหัวใจ มักจะเกิดจากการที่หัวใจมีออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ยิ่งถ้าอาการเจ็บนี้ไล่ไปถึงไหล่ คอ หรือขากรรไกรก็ยิ่งชัดเจนว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูง 5. ปวดบริเวณกลางหลัง ถ้าคุณรู้สึกปวดหลังแล้วยังมีไข้หรือรู้สึกวิงเวียนศรีษะตามมาด้วย ก็แสดงว่าไตของคุณอาจจะติดเชื้อ…
-
คุณหมอ Evan หล่อล่ำ ชวนชาวเน็ตปกป้องตัวนิ่มที่ถูกล่า งานนี้เรามาโฟกัสที่คุณหมอกันเถ๊อะ!!
ทุกวันนี้สัตว์ป่ากำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ การเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์แต่ละชนิดน่าจะช่วยให้เราเข้าใจและอนุรักษ์พวกมันได้ดีขึ้น แต่คลิปวิดีโอให้ความรู้จากคุณหมอ Evan Antin ช่างเข้าใจยากเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะอธิบายเนื้อหาไม่รู้เรื่องนะ แต่เพราะคุณหมอทำให้เราโฟกัสกับเนื้อหาไม่ได้เลยต่างหาก คลิปวิดีโอให้ความรู้เรื่องตัวนิ่มจากคุณหมอ ในคลิปวิดีโอนี้คุณหมอกำลังแนะนำให้ชาวเน็ตรู้จักกับตัวนิ่ม (Pangolin) กัน เขาพยายามอธิบายว่าแม้ว่ามันจะมีเกล็ดมันก็ไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานหรอกนะ แต่มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คล้ายคลึงกับตัวสลอธต่างหาก เขาอยากให้คนดูคลิปเข้าใจว่าเกล็ดจากตัวนิ่มและแรดนั้นไม่ได้มีผลวิจัยทางแพทย์รับรองว่ามันจะทำให้คุณอายุยืนขึ้น หรือรักษาโรคได้ เขาจึงอยากให้ทุกคนหยุดล่าสัตว์พวกนี้ก่อนมันจะสูญพันธุ์ เอ่อ … จะคุณหมอทำแบบนี้แล้วจะให้ดิฉันโฟสกัสกับตัวนิ่มได้ยังไง!? แต่เราก็ต้องดูคลิปกันอยู่ตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอพูด นั่นก็เพราะเวลาฟังคุณหมออธิบายสมาธิเราดันไปจดจ่อกับคุณหมอแทน โอ๊ย ใครจะไปมีอารมณ์โฟกัสกับตัวนิ่มเล็กๆ ในเมื่อคุณหมอพูดด้วยเสียงหล่อ และโชว์กล้ามน่ากัดแบบนี้ ชาวเน็ตเองก็มีปัญหานี้เหมือนกับเราเป๊ะเลย ก็เวลาคุณหมอยิ้มแต่ละทีมันสะกดใจสุดๆ เลยนี่นา ไม่เชื่อลองไปดูความเห็นชาวเน็ตสิ ตั้งใจฟังไม่ได้เลยโว้ย กล้ามแขนกับกล้ามไหล่แน่นๆ นั่นมันเร่าร้อนและดึงดูดความสนใจเกินไป จะมีใครสมบูรณ์แบบกว่านี้ไหม เป็นทั้งหมอ หนุ่มหล่อ หนุ่มกล้าม แล้วยังรักสัตว์อีก งื้อออ คิดเหมือนกันเลย ถึงเขาจะพูดเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์แต่ฉันก็ทำได้แค่สนใจร่างกายที่เซ็กซี่และกำยำของเขา ฮ่าๆๆ เอาล่ะในเมื่อเราฟังคลิปสาระความรู้จากเขาไปแล้ว ก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเข้าไปหาดูอะไรเพิ่มเติมในเฟซบุ๊กของเขาเสียหน่อย ลองไปดูรูปของคุณหมอกันเลยจะได้รู้จักเขากันดีมากขึ้น ตอนอยู่ในชุดคุณหมอโคตรหล่อเลยอ่า …
-
หนุ่มแต่งตัวเหมือนหมอ พร้อมหลอกทุกคนในโรงพยาบาลเพื่อที่จะตรวจภายในให้กับผู้หญิง
พวกเราหลายๆ คนอาจเคยมีความคิดที่ว่าอยากจะปลอมตัวเป็นคนคนหนึ่ง เพื่อหาโอกาสทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ หรือประกอบอาชีพที่เราวาดฝันเอาไว้ ซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งในประเทศรัสเซียก็คงตั้งใจเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน เขาจึงทำเนียนปลอมตัวเป็นหมอหลอกคนทั้งโรงพยาบาลซะเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Anton Yarin ชายผู้ปลอมตัวเป็นหมอในโรงพยาบาล Pervouralsk city และสามารถทำให้ทุกคนเชื่อสนิทใจไปหลายวันเลยว่าเขาคือหมอประจำโรงพยาบาลแห่งนี้จริงๆ กล้องวงจรปิดจับภาพ Anton ชายผู้ปลอมตัวเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาล จากการรายงานข่าวของ UNILAD เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2018 เล่าว่า Anton สมัครงานเข้ามาในตำแหน่งช่างประปา ก่อนที่เขาจะสวมบทบาท แต่งชุดขาวออกไปหลอกคนไข้และหมอคนอื่นๆ ว่า เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีแพทย์ การผ่าตัด และด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน สวมบทเป็นนรีแพทย์ก็คงทำให้หลายๆ คนเริ่มมองเห็นแล้วว่าจุดประสงค์เขาไปในทิศทางใด ซึ่งการปลอมตัวของเขาก็เป็นไปได้ด้วยดี เข้าตรวจคนไข้ราวกับเป็นหมอจริงๆ ซะอย่างนั้น ในคลิปเผยให้เห็นว่าเขากำลังเรียกเด็กสาวคนหนึ่งเข้าคิวรอรับการตรวจ ที่น่าตกใจก็คือ ในตอนแรกไม่มีใครผิดสังเกตเลยว่าเขาไม่ใช่หมอจริงๆ ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมในความสามารถอันแนบเนียน อ้างว่าตัวเองเป็นแพทย์คนใหม่ที่จะเข้ามาประจำ และ Anton ก็เคยเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อน เขาจึงพอจำชื่อของแพทย์ทุกคนได้เป็นอย่างดี Nikolay Shaydurov หัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาล บอกว่า Anton เดินไปรอบโรงพยาบาลด้วยความมั่นใจ…
-
สาวไปหาหมอเพราะโดนทำร้ายที่ไนท์คลับ แต่กลายเป็นว่านี่แหละ คนที่ทำร้ายเธอคืนนั้น!?
เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวคนหนึ่งในประเทศรัสเซียถูกทำร้ายร่างกายในผับที่เธอไปเที่ยวมา หลังจากนั้นเธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผล แต่กลับพบว่าหมอที่จะรักษาเธอดันเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่ทำร้ายเธอที่ผับ และเธอก็ถูกทำร้ายในห้องตรวจอีกครั้ง หญิงสาววัยประมาณ 20 ปีที่ถูกทำร้ายมีชื่อว่า Anastasia Dmitrieva ในตอนแรกนั้นเธอไปเที่ยวผับตามปกติ แต่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชายคนหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง Neryungri ประเทศรัสเซีย เพื่อรักษาบาดแผล Vladimir Naumov หมอที่ทำร้ายหญิงสาวในข่าว เธอคิดเอาไว้ว่าหลังจากรักษาแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ก็จะได้นำหลักฐานที่ถูกทำร้ายร่างกายไปยื่นเรื่องที่สถานีตำรวจ เพื่อเอาเรื่องที่ถูกทำร้ายได้ ทว่าเมื่อเธอเข้าไปในห้องตรวจแล้ว เธอก็ได้พบ Vladimir Naumov หมอชายที่บังเอิญเป็นคนที่ทำร้ายเธอในผับนั่นเอง พอเขาเห็นหน้าเธอก็รู้สึกโกรธและทำร้ายเธอในห้องตรวจอีกครั้ง ในระหว่างนี้เองเพื่อนของหญิงสาวก็ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วยพอดี ในคลิปวิดีโอหมอหนุ่มพูดกับหญิงสาวว่า “พยานทุกคนที่อยู่ในผับบอกได้หมดแหละว่าคุณเป็นคนทำร้ายผมก่อน” จากนั้นเขาจึงข่มขู่เธอว่าหากเธอฟ้องร้องเขาเธอจะต้องเข้าคุกแน่นอน คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้กรุณาคลิก ที่นี่ ) หมอหนุ่มบอกว่าที่เขาทำร้ายเธอในผับ เป็นเพราะเขาเห็นว่าพวกเธอรุมทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เขาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ข้างๆ จึงพยายามเข้าไปช่วย โดยบอกว่า “ผมไม่สามารถทนดูพฤติกรรมแบบนี้ได้หรอก ผู้ชายคนไหนเห็นก็คงพยายามเข้าไปห้ามทั้งนั้นแหละ” ส่วนเรื่องที่เขาทำร้ายเธอที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งนั้น เขาทำไปเพราะความโมโหที่เจอเธออีกครั้ง ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายหญิงสาวด้วยเหตุผลส่วนตัวเลย อย่างไรก็ตามหัวหน้าใหญ่ของหมอหนุ่มก็ไล่เขาออกจากงานทันทีที่ทราบเรือง เนื่องจากเขาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ หมอหนุ่มยังคงท้วงว่า “ตอนนั้นพวกเธอตั้งใจยั่วยุผมให้โมโห พวกเธอจะได้ถ่ายคลิปเอาไปฟ้องผมได้” นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า “ผมทำงานที่นี่มาหนึ่งปีครึ่ง…
-
เปิดวาร์ป ‘Anton Tanjung’ คุณหมอหนุ่มชาวอินโดฯ ที่กำลังต้องตาต้องใจสาวๆ ในขณะนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ เดี๋ยวนี้ถึงอยากมีแฟนเป็นหมอกันจัง ก็แหมมม คุณหมอบางคนเนี่ยนอกจากจะเก่ง จะรวยแล้ว ยังมีหน้าตาหล่อเหลาพร้อมหุ่นล่ำๆ อีก ใครล่ะจะอดใจไหว เหมือนกับ Anton Tanjung คุณหมอชาวอินโดนีเซีย ที่หลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นๆ เพราะก่อนหน้ามีภาพของเขาถูกแชร์ในโลกโซเชียลขณะที่อุ้มเด็กชายที่ว่ากันหล่อโตขึ้นมาแล้วหล่อแน่นอน นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของคุณหมอ จากภาพดังกล่าวนั้นทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า Anton คือพ่อของทารกน้อยคนนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ เขาคือคุณหมอที่ทำคลอดให้น้องต่างหาก รู้แบบนี้แล้วสาวๆ อาจจะรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากนะคะ เพราะเหมียวแอบไปส่องเฟซบุ๊กคุณหมอ Anton มา ตรงช่องสถานะขึ้นว่า “มีแฟนแล้ว” เห้ออออ รอบนี้แห้วของจริง เป็นคุณหมอหน้าหล่อ หุ่นล่ำว่าเพอร์เฟกต์แล้วนะ Anton ยังเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า ATEK: My Journey of Happiness, Sadness and Stupidity แต่ไม่แน่ใจว่ามีฉบับแปลไทยมั้ยนะ ลองหาอ่านดูค่ะ Anton จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Fakultas Kedokteran Universitas…
-
สัตวแพทย์ผู้น่าเบื่อ(จริงจริ๊ง) กับชีวิตที่ต้องเจออะไรแบบนี้ทุกวัน เฮ้อออ ไม่อยากจะคิดเลย
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การได้ชื่นชมเหล่าสัตว์ป่า และใกล้ชิดกับพวกมันนั้นคงจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการชมสารคดีแดนสนธยาล่ะก็ คุณอาจจะต้องอิจฉาชีวิตของสัตวแพทย์ผู้นี้แน่ๆ คุณ Mike Holston สัตวแพทย์หนุ่มจากไมอามี ผู้มีเจ้าพ่อสัตว์ป่าอย่าง Steve Irwin เป็นไอดอล ในแต่ละวันสัตวแพทย์หนุ่มผู้นี้ต้องคลุกคลีและดูแลเหล่าสัตว์ต่างๆ มากมายอย่างเจ้าพวกนี้…. 1. นี่ชั้นต้องเจอหน้าแกอีกแล้วใช่ไหมเนี่ยย เจ้าจิ้งจอก!? 2. เจ้าลิงคู่หูที่ชอบโผล่มาเซลฟี่บ่อยๆ 3. พอเสร็จจากลิง เดี๋ยวก็ต้องมาดูแลสิงโตอีก!! 4. กลับมาที่เจ้าจ๋อตัวเล็กอีกครั้ง!! 5. และก็กลับไปที่เจ้าสิงโตอีกครั้ง ชีวิตนี้มีแต่สัตว์จริงๆ 6. เอ๊า!! ยิ้มหน่อยเจ้าจ๋อ อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ 7. แกอีกแล้วสินะเจ้าตัวเล็ก?? 8. คุณ Mike Holston หรือฉายาทาซานตัวจริง และเหล่าสัตว์ป่าของเขา 9. บางวันชายหนุ่มของเราก็ใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูแลเหล่าลูกเสือตัวน้อยๆ 10. หรือบางครั้งก็ต้องขยับไปที่กรงพวกกิ้งก่า โอ๊ย!! อย่าจับแรงง 11.…
-
หมอลูกครึ่งเอเชียถูกลงโทษภาคทัณฑ์ เพราะเปิดเผยเรื่องการโดนเหยียดหยามอย่างรุนแรง
ในประเทศสหรัฐอเมริกา การเหยียดเชื้อชาติยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างและในบางครั้งมันก็รุนแรงเสียจนเกิดเป็นการกลั่นแกล้ง จนทำให้ชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อคนหนึ่งถึงกับรู้สึกไม่พอใจและยอมให้มีสิ่งนี้ต่อไปไม่ได้ เขาจึงนำเรื่องนี้ออกมาแชร์กับทุกคนและแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า Gu เป็นนายแพทย์เชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Vanderbilt รัฐเทนเนสซี โดยเขาได้โพสต์ทวิตเตอร์เรื่องราวการถูกเหยียดเชื้อชาติภายในที่ทำงานของตัวเองเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เขาต้องเจอกับการกลั่นแกล้งภายในที่ทำงาน เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาถูกหัวหน้าทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ศอกกระแทกจนตัวกระเด็น ระหว่างที่กำลังช่วยคนไข้ พยาบาลที่ทำงานด้วยกันก็นำกล่องนมจากถังขยะ มาวางไว้บนโต๊ะของเขา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะพวกเขาร่ำเรียนและฝึกฝนมาเพื่อช่วยคน แต่สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาปฏิญาณโดยตรง หลังจากที่เขานำเรื่องออกมาเผยแพร่ เขาก็ถูกโรงพยาบาลส่งจดหมายเตือนอย่างรุนแรง รวมทั้งกล่าวหาว่าเขากุเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง และที่สำคัญ หัวหน้างานที่ทำร้ายร่างกายเขาก็ไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกันนี้ ในวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่กำลังจอดรถเขาก็ได้เจอกับคนที่เหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ และเมื่อ Gu หวังดีลงรถไปช่วยกลับถูกเหยียดเชื้อชาติด้วยคำหยาบคาย จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ยังตามมากระชากป้ายห้อยคอของเขา ก่อนที่จะค้นดูประวัติส่วนตัวและรายชื่อคนไข้ที่ Gu พกติดตัวมา เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากนั้นไม่นาน ชายที่ทำผิดก็เหมือนจะรอดไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเกาหลีเหนือ พอพูดเรื่องความยุติธรรมก็กลับถูกลงโทษซะอย่างนั้น ผมเรียนจบและอยู่ในอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย Stanford และโรงเรียนแพทย์ Duke แต่ผมไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ และต้องเจอกับคนในโรงพยาบาลที่ต้องการทำลายหน้าที่การงานของผม”…
-
คุณหมอโต้คนไข้รุนแรง ‘ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้’ เพราะคนไข้ทนรอคิวที่นานเป็นชั่วโมงไม่ไหว
ความไม่พอใจของคนสองคนสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์และบางครั้งมันอาจบานปลายจนถึงกับแสดงความก้าวร้าวออกมา เมื่อ Jessica Stipe ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในคลินิก Gainesville After Hours เธอรู้สึกไม่สบายหนักกว่าเดิมเพราะต้องรออยู่เป็นเวลานานจนทำให้เธอเลือกที่จะขอค่าใช้จ่ายที่เสียไปคืน สิ่งนั้นจึงทำให้นายแพทย์ Peter Gallogly รู้สึกไม่พอใจและออกมาต่อว่ารวมถึงไล่เธอออกไปด้วยว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” คลิปคุณหมอไล่คนไข้ให้ออกไป เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่คลินิก Gainesville After Hours เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าตอนแรกคุณหมอรายนี้นัดเธอไว้ตอน 18.30 แต่เมื่อถึงเวลา 19.45 เธอก็ยังคงไม่ได้รับการตรวจรักษาใดๆ จนทำให้เธอรู้สึกป่วยหนักกว่าเดิม และในตอนที่เธอขอกำลังขอเงินค่ารักษาคืนคุณหมอหนุ่มคนนี้ก็ออกมาบอกเธอว่า “พวกผมกำลังตรวจตัวอย่างปัสสาวะของคุณอยู่รู้บ้างมั้ย” . เธอจึงอธิบายว่าเธอไม่รู้ว่ามันต้องรอนานขนาดไหน ก่อนที่เขาจะตะคอกถามเธอว่า “นี่คุณต้องการเข้าพบหมอหรือไม่” จึงตอบกลับไปว่าเธอต้องการที่จะกลับไปนอนอยู่บนเตียงที่บ้านแล้ว เขาจึงตะคอกกลับมาอีกว่า “โอเค งั้นก็หยิบเงินของคุณและไสหัวออกไปได้แล้ว” และย้ำอย่างรุนแรงกว่าเดิมว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” ระหว่างที่กำลังจะออกไปจากคลินิกลูกสาวของเธอที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ชี้กล้องไปที่คุณหมอคนนั้นและถามว่าเขาชื่ออะไร เขาเลือกที่จะไม่ตอบและกระชากเอามือถือที่ถ่ายอยู่ไป ถึงอย่างไรคลิปที่ถ่ายไว้ก็ได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอจนเกิดเป็นกระแสและมีการแชร์ออกไปมากถึง 2,300 ครั้ง ลูกสาวของเธอบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ฉันไม่ต้องการให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นอกจากนั้นตำรวจในเมือง Gainesville…
-
รู้จักกับ “หมอคิม” ลูกครึ่ง อเมริกัน-เกาหลี เห็นแล้วอยากจะป่วยเลยค่ะคุณหมอขาาา…
จะมีอะไรที่ผู้หญิงต้องการไปกว่ามีสามีที่ดีทั้งนิสัยและหน้าตา แล้วถ้าแถมอาชีพการงานที่ดีมาด้วยนั้นแทบจะบอกได้เลยว่าเพอร์เฟกต์สุดๆ เหมือนเป็นพระเอกในซีรีส์ยังไงอย่างงั้น ซึ่งในวันนี้เราจะของสานฝันของสาวๆ ให้เป็นจริง โดยการพาไปพบกับหลัวแห่งชาติคนใหม่ ที่มีดีกรีเป็นถึงคุณหมอเลยทีเดียว!!! จำดีๆ สามีแห่งชาติคนต่อไปนี้มีชื่อว่า Joey Kiho Kim เป็นคุณหมอลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน ที่มีหน้าตาและหุ่นที่แซ่บ เผ็ช ร้อน แตกต่างจากหนุ่มเกาหลีหน้าตี๋ K-Pop ทั่วๆ ไป เห็นแล้วอยากเอามือไปลูบที่ซิกแพคเบาๆ สาวๆ หลายคนคงสงสัยวาคุณหมอโจอี้นั้นสามารถรักษาอะไรได้บ้าง?? ก็ต้องขอตอบแบบจริงจังเลยว่าคุณหมอรักษาหัวใจ ไม่ได้ล้อเล่นนะเขารักษาหัวใจจริงๆ นะ ที่เรียกว่า Cardiology หรือคุณหมอที่ทำการวินิจฉัยและรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจนั่นเอง . งานวิจัยที่คุณหมอโจอี้ทำก็ได้รับการรับรองด้วย แบบนี้เรียกว่าทั้งเก่งทั้งหล่อจริงๆ เลยนะ “ผมทำงานเกี่ยวกับการรักษาหัวใจในช่วงฤดูร้อนหลังจากที่ปีแรกของการเรียนที่ Medical School ซึ่งในอนาคตผมคิดว่างามวิจัยของผมจะเป็นที่ยอมรับและได้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด” คุณหมอกล่าว . ถึงแม้ว่าหมอโจอี้จะต้องทำหน้าที่อย่างหนัก แต่เขาก็มีงานอดิเรกที่เขารักอย่างการถ่ายแบบ ซึ่งแน่นอนว่าเขาทำมันออกมาได้ดีทีเดียว สาวๆ คิดว่าไง??? . . . . อื้อหือออ…
-
วีรกรรมของนายแพทย์ผู้สร้างโรคระบาดปลอมๆ ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนจากกองทัพนาซี
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพนาซีได้สร้างค่ายกักกันชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอันแสนโหดเหี้ยมขึ้นมาทั่วยุโรป จนมีผู้เสียชีวิตนับล้านคนจากค่ายกักกันเหล่านั้น แต่ท่ามกลางความโหดร้ายที่เกิดขึ้นโลกได้รู้จักฮีโร่ผู้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ ชินด์เลอร์ นายทหารนาซีผู้แอบช่วยชาวยิวนับพันให้รอดชีวิตจากค่ายกักกัน หรือ ชิอุเนะ ซุงิฮะระ เจ้าหน้าที่กงศุลญี่ปุ่นผู้ออกวีซ่าช่วยชาวยิวหลายพันคนให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของนาซี และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับนายแพทย์อีกท่านที่ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการสร้างโรคระบาดปลอมๆ ขึ้นมา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า คุณหมอคนนี้มีชื่อว่า ยูจีน ลาซอฟสกี้ เขาเป็นนายทหารเสนารักษ์ประจำกองทัพโปแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาและเพื่อนทหารเสนารักษ์อีกคนชื่อว่า สแตนิสลอว์ มาตูเลวิช ค้นพบว่าหากพวกเขาฉีดแบคทีเรียที่ตายแล้วเข้าไปในตัวคนไข้ คนไข้จะมีผลเลือดเหมือนคนเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ โดยตอนแรกเขาใช้วัคซีนนั้นกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อยากกลับเข้าไปทำงานในแคมป์นรกของพวกนาซี ซึ่งเมื่อกองทัพนาซีได้ทำการตรวจเลือดของเพื่อนคนดังกล่าว เขาก็ถูกสั่งห้ามไม่เข้าให้มาทำงานในแคมป์อีกต่อไปเพราะหวั่นเกรงว่านำโรคระบาดไปแพร่สู่แรงงานและทหารคนอื่นๆ หลังจากนั้นเขาก็ฉีดวัคซีนโรคปลอมให้กับคนไข้ทุกคนที่เข้ามารักษากับเขา ทำให้พวกเขาไม่ต้องกลับเข้าไปในค่ายนรก ซึ่งสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับกองทัพนาซีเป็นอย่างมาก จนเมื่อจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” เพิ่มสูงขึ้น ทางกองทัพนาซีก็สั่งปิดเมืองดังกล่าวทันทีทำให้ชาวเมืองไม่ต้องไปค่ายกักกันหรือเข้าแคมป์ทำงานอีก และกองทัพนาซีก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเมืองดังกล่าวอีกด้วย แม้ภายหลังกองทัพนาซีจะส่งทีมแพทย์เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ด้วยฝีมือการแสดงละครอันแสนแนบเนียนของคุณหมอทำให้แผนการนี้สามารถดำเนินไปได้เรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังฝ่าฝืนคำสั่งของกองทัพนาซีที่ห้ามให้ความช่วยเหลือแก่ชาวยิว ด้วยการทำการรักษาชาวยิวที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เขาเกือบตายหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความดีที่เขาทำ ทำให้มีคนคอยช่วยเหลือเขาโดยตลอดแม้กระทั่งทหารนาซีเองก็ตาม ว่ากันว่าเขาสามารถช่วยชีวิตชาวยิวได้มากกว่า 6,000 คนในช่วงที่มีการสู้รบ หลังสงครามจบลงเขาได้อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 18 ความฮาความป่วนของคุณหมอ ใครว่าหมอไม่มีอารมณ์ขัน มันไม่ใช่เล๊ยยย
หนึ่งในอาชีพที่ต้องเจอกับความกดดันและความเครียดอยู่ทุกวันก็คือ อาชีพหมอ เพราะหากพวกเขาทำอะไรพลาดไป นั่นอาจหมายถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไข้ของเขาได้ แต่ถึงแม้ว่าจะต้องเคร่งเครียดกับงานขนาดไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องเป็นคนนิ่งๆ เคร่งขรึมไปซะทีเดียว เพราะยังไงทุกคนก็จะต้องมีความตลกและขี้เล่นอยู่ในตัว จึงได้มีกระแสชาวเน็ตออกมาแชร์ภาพความฮาของพวกเขาให้เราได้เห็นกัน เราลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าภาพเหล่านั้นจะทำให้คุณอมยิ้มได้มากขนาดไหน นางฟ้าฟันน้ำนมกำลังจะมาถอนฟันของหนูแล้วนะ ภาพติดผนังในคลินิกหมอฟันแห่งหนึ่ง กอลลัมจะได้กินปลาให้อร่อยขึ้นนะ ผู้หญิงต้องระวังอย่าเข้าใกล้เชียวละ เพดานเอาไว้เล่นเกมส์ “ตามหา Wally” ถอนฟันไป แล้วก็มองหาไปเพลินๆ ตัวใหญ่ขนาดนี้ คงจะแข็งแรงน่าดู ใครเอาช่างซ่อมรถเข้ามารักษาฟันตรูเนี่ย ตอนเย็บคงจะตลกมากมั้งเนี่ย จะทำทุกทางให้ผอม ยกเว้นออกกำลังกายกับควบคุมอาหาร.. เป็นบัตรนัดคนไข้ที่เจ๋งมาก “ถึงเวลาย้อนกลับไปเจอหมอฟันแล้ว” ต้องเขียนติดไว้ “ห้ามใช้กับช่องคลอด” กลัวสาวๆ เข้าใจผิด คิดว่าปรอทวัดไข้ เจอหมอก็เคี้ยวหมากฝรั่งซักหน่อยมั้ยครับ ดับกลิ่นปาก อยากให้ผลักขนาดนี้ ขอถีบเข้าไปเลยได้มั้ยครับ พักการตรวจแล้วออกไปเล่นเบสบอลก่อนมั้ย คนไข้ผ่าตัดหัวใจรอแปปนึงนะ ขอหมอเล่นให้จบก่อน เป็นการแจ้งข่าวร้ายที่น่ารักจริงๆ “คุณเป็นซิฟิลิส”…
-
คุณหมอแต่งตัวเป็น “งิ้วปักกิ่ง” เพื่อลดความเครียดของคนไข้ จนยอมบอกอาการทั้งหมด…
การไปหาหมอในบางครั้ง ปัญหาหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ คือตัวคนไข้ไม่ค่อยกล้าที่จะบอกอาการตรงๆ กับหมอ ไม่ว่าจะด้วยความอาย ความกลัว หรือระยะห่างของเรื่องชนชั้นก็ตาม แน่นอนว่าหมอก็คงจะอยากรักษาคนไข้อย่างดีที่สุดแต่ปัญหาดังกล้าวมันดันเป็นช่องว่างที่ทำให้หมอรักษาได้ยากที่สุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวจีนที่มีชนชั้นต่างกันมากมายก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้แพทย์หญิงคนหนึ่งประจำโรงพยาบาลด้านผิวหนังแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เล็งเห็นปัญหาและแก้มันด้วยการแต่งงิ้วมารักษาคนไข้… ผลลัพธ์ของการทำแบบนั้นมันออกมาดีอย่างไม่น่าเชื่อ ‘ไป๋ซูฟาง’ แพทย์หญิงคนดังกล่าวบอกว่าหลังจากแต่งแบบนี้ คนไข่ก็กล้าที่จะคุยกับเธอ กล้าที่จะบอกว่าป่วยเป็นอะไรมีอาการยังไง ซึ่งมันช่วยให้การรักษามันง่ายขึ้นมากๆ โดยเธอให้เหตุผลว่า เธอทำงานนี้มากว่า 30 ปี และคนไข้ส่วนใหญ่ก็มักจะกลัวหรือไม่ก็เขินอายที่จะบอก โดยเฉพาะวัยรุ่นลงไป แต่วิธีนี้มันก็ช่วยได้ดีมากๆ แม้ว่าส่วนผสมของการแต่งหน้าจะสร้างความทรมานให้เธอพอสมควร ด้านเพื่อนร่วมงานก็บอกว่า ไป๋ซูฟางต้องใช้เวลาในการแต่งหน้าและลบออกร่วม 2 ชั่วโมง ซึ่งมันกินเวลามากๆ แต่ตัวเธอเองก็บอกว่าไม่ยอมแพ้ เพราะมันจะส่งผลดีต่อทั้งตัวโรงพยาบาลและคนไข้นั่นเอง . สุดท้ายเมื่อเรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตในจีนก็ออกมาชื่นชมกันเป็นอย่างมาก รวมถึงตัวผอ. ของโรงพยาบาลก็ออกมาสนับสนุนด้วยเช่นกัน ยังไงซะก็ขอเป็นกำลังใจให้แพทย์หญิงไป๋ซูฟางด้วยนะ ที่มา อ้ายจง,china
-
เอาเข้าไป… เมื่อหมอหนุ่มสุดหล่อประกาศหาที่พัก สาวๆ เข้ามาเสนอเพียบ ให้อยู่ฟรีเลยค่ะ!?
เดี๋ยวนี้ทรัพยากรผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิง และที่มีอยู่นี่ก็กินกันเองไปเกือบครั้งแล้ว ดังนั้นผู้หญิงจะมัวมานั่งเล่นตัว เขินอายแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว มีโอกาสเมื่อไรต้องรีบคว้าให้เร็วที่สุด แหม่จริงๆ ไม่ต้องบอกผู้หญิงเดี๋ยวนี้ก็ทำแบบนั้นอยู่แล้วนะ ดูอย่างเหตุการณ์นี้สิ เมื่อคุณหมอสุดหล่อประกาศหาที่พักผ่านเฟสบุ๊ก บรรดาผู้หญิงต่างเข้ามาเสนอที่พักกันแบบรัวๆ แถมไม่คิดราคาด้วย!? Rehan Munir วัย 26 ปี ผู้เป็นทั้งหมอและนายแบบ เขาได้เวียนไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์การทำงาน ล่าสุดคุณหมอกำลังจะไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาล Mount Sinai Heart ในนิวยอร์กซิตี้ แต่ยังไม่รู้จะไปพักที่ไหนก็เลยประกาศหาที่พักผ่านเฟสบุ๊ก เพื่อขอคำแนะนำจากชาวเน็ต ในโพสต์ของคุณหมอบอกว่า ‘สวัสดีครับ ผมชื่อ Rehan กำลังหาที่พักแถวๆ Upper East Side, Upper West Side หรือ Midtown Manhattan และกำลังจะย้ายเข้าไปในช่วงวันที่ 20 กรกฎาคม และจะอยู่จนถึงวันที่ 30 สิงหาคม ‘ข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวผมเอง ผมเป็นหมออายุ 26 ปี และกำลังจะไปประจำอยู่ที่ Mount Sinai…
-
สุนัขกำพร้าสุดโศกเศร้า หวาดกลัวทุกอย่างจนคอตก ที่สุดแล้วก็ยิ้มแก้มปริได้เพราะความรัก
สำหรับสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักทั้งหลายแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีตัวไหนที่อยากจะให้ชะตาชีวิตของตัวเองลงเอยด้วยการถูกทิ้ง และมาจบที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขวัย 10 ขวบ Annabelle ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่มันอาศัยอยู่ที่ Baldwin Park Animal Shelter มันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าจะมีมนุษย์คนไหนใจดีมามอบความรักให้มันอีกครั้ง หนึ่งในภาพที่ชวนให้ชาวเน็ตรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด เมื่อ Annabelle เฝ้ารออย่างไร้ความหวัง จนถึงกับทำคอตกกันเลยทีเดียว ใช่ว่าเรื่องร้ายๆ จะอยู่กับเราไปตลอด… หลังเจ้าหน้าที่โพสต์ภาพสุนัขคอตกลงบนเฟซบุ๊กได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มอาสาสมัครรับช่วยเหลือดูแลสัตว์เลี้ยงจรจัด มารับมันไปดูแลทันที ทันทีที่มันรู้ตัวว่าจะได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เจ้า Annabelle ก็ถึงกับยิ้มแก้มปริทันที “มันดูตื่นเต้นมากเลยค่ะ ปกติมันจะเซื่องซึมตลอดไม่เคยมีใครเห็นมันร่าเริงได้เท่านี้มาก่อน” เจ้าของคนใหม่ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ Annabelle ได้ย้ายออกมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่มันอาศัยมาอย่างโดดเดี่ยว เจ้าของคนใหม่ก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ถึงจะเป็นสุนัขอายุ 10 ปี แต่ความแข็งแรงของ Annabelle ไม่เคยลดลงตามวัยเลย “ครั้งแรกที่มันเข้ามาอยู่ในบ้านเรา มันก็ดูจะกล้าๆ กลัวๆ อยู่พอสมควร แต่หลังจากนั้นได้ซักประมาณอาทิตย์พอมันเริ่มชิน ความร่าเริงของมันก็กลับมาให้เราเห็นกันอีกครั้ง มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ พวกเราดีใจสุดๆ…
-
“หญิงสาวในฟองสบู่” สาวออสซี่ผู้ป่วยด้วยโรคร้าย แพ้สารเคมีแทบทุกอย่างบนโลก..
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแพทย์จะก้าวหน้าไปอย่างมาก หลายๆ โรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ ถูกค้นพบแนวทางการรักษา ทำให้สามารถช่วยชีวิตป่วยจากโรคร้ายเหล่านั้นได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีบางโรคที่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงหาคำตอบของสาเหตุการเกิดและวิธีการรักษาไม่ได้ อย่างเช่นโรคที่เกี่ยวกับอาการภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งบางอาการแพ้ก็ยังไม่สามารที่จะหาแนวทางการรักษาที่ชัดเจนเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคได้ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งที่ป่วยด้วยอาการภูมิแพ้ โดยโรคของเธอนั้นรุนแรงอย่างมาก ทำให้เธอต้องลาออกจากงานและต้องอาศัยอยู่แต่ในห้องที่ปราศจากสารเคมี… Amelia Hill หญิงสาววัย 41 ปีหรือที่รู้จักกันในชื่อของ “ผู้หญิงในฟองสบู่” ต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านราวกับเป็นนักโทษ เนื่องจากอาการแพ้สารเคมีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างรุนแรงของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติภายนอกได้ เธอบอกว่าเธอเริ่มมีอาการแพ้ครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15 ปีหลังจากที่ได้สัมผัสกับสเปรย์ฉีดปลวก สาวผู้เคราะห์ร้ายวัย 41 ปีบอกว่า “บางครั้งเป็นอาการแพ้ของฉันเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง มันทรมานอย่างมาก ฉันทั้งปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นขึ้นและอ่อนแรง” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า บางครั้งสารเคมีในบ้านอย่างพวกน้ำยาล้างพื้นก็ทำให้เธอแพ้ได้ บางทีแค่เธอได้สัมผัสมันก็เกิดอาการหายใจไม่ออกและเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว จนกระทั้งตอนอายุ 33 เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้สารเคมีหลายชนิด มีอาการอ่อนล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) และเป็นโรคอาการไวต่อการสัมผัสสนามแม่เหล็ก (Electromagnetic Hypersensitivity) โดยก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าว เธอทำงานเป็นนักออกแบบและบรรณาธิการนิตยสารแห่งหนึ่ง แต่เมื่ออายุ 30 ปีอาการแพ้ของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอรู้สึกอ่อนแรงและไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงเข้ารับการรักษาและนั่นจึงทำให้เธอต้องออกจากงานเพื่อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการเเพ้ของเธอตอบสนองกับสารเคมีแทบจะทุกชนิด…
-
ชาวเน็ตจีนยกย่องให้ ‘คุณหมอหลับ’ ให้กลายเป็นฮีโร่ หลังทำการผ่าตัดนาน 28 ชั่วโมงโดยไม่ได้พัก
ภาพถ่ายของคุณหมอท่านหนึ่งที่กำลังนอนสลบไสลอยู่บนพื้น กำลังถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศจีนอยู่ ณ ขณะนี้… เป็นภาพของคุณหมอผ่าตัดชาวจีน Luo Heng ที่นอนสลบเหมือดอยู่บนฟูกเล็กๆ บนพื้น หลังจากต้องตรากตรำทำงานหนักมานานกว่า 28 ชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพักเลย ภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 30 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลในเขต Dingyuan County มณฑล Anhui ในวันนั้นคุณหมอ Luo ต้องดำเนินการผ่าตัดทั้งหมด 5 เคส (ช่วงกลางคืน 2 เคส และอีก 3 เคสในตอนเช้า) จนทำให้เหล่าชาวเน็ตในประเทศจีนทั้งหลายร่วมกันยกย่องคุณหมอว่าเป็นฮีโร่ ที่ยอมเสียสละตัวเองทำงานหนักขนาดนี้ บางส่วนก็รู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของคุณหมอ ซึ่งจากข้อมูลในเว็บไซต์ Scientific American แล้วก็พบว่าร่างกายของมนุษย์สามารถทำงานได้ติดต่อกันถึง 264 ชั่วโมง หรือ 11 วัน โดยไม่ต้องการการหลับพักผ่อน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเพราะร่างกายของเราต้องได้รับการพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ก็หวังว่าคุณหมอจะได้รับการพักผ่อนที่แสนสบายจากความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องตรากตรำทำงานหนักมานะจ๊ะ ที่มา : unilad
-
โรงพยาบาลนี้ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มที่ถูกยิง ถัดมา 9 ปี เขากลายมาเป็น “คุณหมอ” จนได้…
เคยคิดกันไหมถ้าเราเจอกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เราเกือบไม่รอด แต่แล้วเหตุการณ์นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจหรือแรงผลักดัน ที่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายหนุ่มคนหนึ่งในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เขาคนนี้มีชื่อว่า Kevin Morton Jr ขาถูกยิงเข้าที่ท้องถึง 9 นักในคืนหนึ่ง หลังจากที่เขาปิดร้านอาหารที่ทำงานและเดินทางกลับบ้าน แต่ถูกกลุ่มคนร้ายดักปล้น หลังจากที่เขาถูกยิง เขาก็ถูกหามส่งโรงพยาบาล Detroit’s St. John ทันที ทีมแพทย์รีบเข้ามาดูทันที ครอบครัวของเขาบอกว่าตอนนั้น Kevin มีโอกาสรอดเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่แพทย์หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Dr. Sheth- Zelmanski กลับสามารถที่จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ในคืนนั้น “ฉันรู้ว่าเขายังไม่ยอมแพ้ แล้วทำไมพวกเราจะต้องยอมแพ้ล่ะ? พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ” Dr. Sheth ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เธอยังคงพยามช่วย Kevin แม้เขาจะมีโอกาสรอดแค่ 10% ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่า เขาจะเข้าทำงานเกี่ยวกับเภสัชกรรม แต่หลังจากที่เขาต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลนานถึง 50 วันที่โรงพยาบาล St. John รวมถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ทำให้เขารอดมาได้ มันทำให้เขาตระหนักถึงการช่วยเหลือชีวิตของผู้อื่น มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาควรจะเดินในเส้นทางสายนี้เช่นกัน หลังจากนั้น 10 ปี เขาได้เรียนจบจาก Michigan State University’s College of…
-
คุณหมอผ่าตัดอายุมากสุดในโลก 90 ปี และเธอก็เป็นคนรัสเซีย เรื่องฝีมือถึงใจแน่นอน!!
ถ้าถามว่าอาชีพไหนที่ต้องใช้ “ความนิ่ง” และ “ฝีมือ” มากที่สุดในโลก เชื่อว่า “ศัลยแพทย์” หรือ “หมอผ่าตัด” จะต้องเป็นอาชีพแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่พวกเขาทำการผ่าตัด นั่นหมายความชีวิตของคนไข้ต้องฝากไว้ที่ปลายมีดของพวกเขาแล้ว ยิ่งพวกเขานิ่งและเก่งเท่าไหร่ โอกาสรอดของคนไข้ก็มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งว่ากันตรงๆ แล้ว “ความนิ่ง” กับ “อายุ” เป็นสิ่งที่สวนทางกันเสมอ เพราะเมื่อมนุษย์อย่างเราๆ แก่ตัวลง การควบควมกล้ามเนื้อให้ดีเหมือนเดิมคงเป็นไปได้ยาก นั่นแปลว่าเมื่อหมอผ่าตัดมีที่อายุมากขึ้น จุดสูงสุดของอาชีพของพวกเขากำลังจะมาถึงแล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับคุณหมอ Alla Ilyinichna Levushkina ชาวรัสเซียคนนี้ เพราะแม้เธอจะมีอายุจะเฉียดหลักร้อย (ด้วยวัย 89 ปี) แต่เธอก็ยังทำหน้าที่หมอผ่าตัดอย่างแข็งขันอยู่เสมอ แถมยังรับผ่าตัดวันละ 3 -4 เคสแทบทุกวันอีกด้วย!! ตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา เธอทำงานเป็นแพทย์ทางอากาศ (ที่คอยรับคนไข้ด่วนพิเศษทางเฮลิคอปเตอร์ นึกภาพออกใช่มั้ย) และเมื่อวันหนึ่งเธอรู้สึกเบื่องานนั้น เธอจึงย้ายกลับมายังบ้านเกิด ที่เมืองไรยาซาน และทำงานในโรงพยาบาลประจำเมือง ด้วยส่วนสูงเพียง 150 เซนติเมตร ทุกครั้งที่เธอทำการผ่าตัด…
-
แม่หมาผอมแห้งขาพิการ พยายามเดินเกือบ 4 กิโล เพื่อตามสัตวแพทย์ไปช่วยลูกๆ ของมัน
สัญชาติญาณความเป็นแม่ถือว่าเป็นสิ่งที่สถิตอย่างแรงกล้าในตัวสิ่งมีชีวิตหลายๆ ชนิด จนหลายๆ ครั้ง มันก็ทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นจริงได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าหมาพันธุ์เกรย์ฮาวด์ตัวนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นที่คลีนิกสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองเวล่า ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน เมื่อ Lianne Powell สังเกตเห็นสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ตัวหนึ่งมาเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านของเธอ สภาพของมันดูผอมแห้ง แถมยังขาหักข้างหนึ่ง เธอจึงพามันไปยังคลีนิกสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อไปถึงคลีนิก สัตว์แพทย์ Ellen Sobry สังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มีร่องรอยการให้นม แสดงว่ามันมีลูกน้อยอยู่ไม่ไกลนี้ เธอและ Lianne ตัดสินใจออกตามหาลูกน้อยของมันทันที “ฉันเห็นขามันหัก มีรอยเลือดบนหลัง แถมเต้านมของมันยังมีน้ำนมอยู่เต็มไปหมดด้วย ฉันจึงสงสัยว่า แล้วลูกๆ ของมันล่ะหายไปไหน?” Ellen กล่าว เธอให้เจ้าสุนัขตัวนี้เดินนำ และพวกเธอก็เดินตาม หลังจากเดินกว่า 4 กิโลเมตร ในที่สุดพวกเธอก็มาถึงรถที่ถูกทิ้งร้างคันหนึ่ง และเมื่อพวกเธอเข้าไปดูใกล้ๆ พวกเธอก็ต้องตกตะลึงเลยทีเดียว เพราะในรถคันนั้น มีลูกสุนัขเกิดใหม่กว่า 10 ตัว นอนรอความช่วยเหลืออยู่!! “มันนำพวกเราไป ฉันแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นเลยล่ะ เจ้าหมาตัวนี้แทบไม่รู้จักพวกเราด้วยซ้ำ เราเพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี้เอง แต่มันกลับไว้ใจเราและพาเรามาหาลูกๆ ของมัน” Ellen กล่าว…
-
งานนี้มึนตึ๊บ เมื่อหมอผ่าตัดตัวจริงเล่นเกม ‘จำลองการผ่าตัด’….หมอยังบอกโคตรยากส์!!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการเล่นเกม และเคยติดตามวงการเกมกันมาพอสมควร คงจะรู้จักกับเกม Surgeon Simulator กันมาบ้างแล้ว ที่กลายเป็นกระแสให้เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกต่างก็หัวร้อนกันเป็นแถบ เพราะมันเป็นเกมจำลองการผ่าตัดที่ต้องขอบอกเลยว่ายากส์มากๆ จนทำให้ชาวเกมเมอร์ส่วนใหญ่เลิกสนใจเป้าหมายที่จะช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในเกม เปลี่ยนมาเล่นสายฮากันซะมากกว่า ฮร่า จะฮาขนาดไหนลองไปชม Heartrocker เล่นเจ้าเกมนี้กันก่อนที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แต่มันจะยากซักแค่ไหนกันเชียว!? ทางแชแนลเ Facts. ก็เลยเชิญหมอผ่าตัดตัวจริงเสียงจริงมานั่งเล่นเจ้าเกม Surgeon Simulator กันซะเลย มาดูกันซิว่าเหล่าคุณหมอที่มีประสบการณ์ผ่าตัดจริงๆ มานักต่อนักจะเอาอยู่กันหรือไม่… ลองไปชมคลิปกันก่อนได้เลยจ้า (หากใครฟังไม่ทันก็เปิดซับอ่านกันได้นะจ๊ะ) โดยคุณหมอแต่ละคนก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ยากส์!!!! แบบสุดๆ เพราะนอกจากการควบคุมที่ลำบากลำบน หยิบจับอะไรไม่ถนัดแล้ว การลงน้ำหนักมือเองก็ยากด้วยเช่นกัน และหลายๆ ครั้งมันก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไข้เสียชีวิต (อาจจะแค่เอาค้อนมาทุบเบาๆ แต่กะน้ำหนักไม่ถูกทุบแรงจนกระดูกแตกป่นปี้ซะงั้น) นอกจากนี้ยังมีคุณหมอคนหนึ่งบอกว่ามีอุปกรณ์ต่างๆ มากมายที่ไม่ควรมาอยู่ในห้องผ่าตัด อย่างเช่นขวดโค้ก!? แก้วกาแฟ เป็นต้น และบทสรุปก็คือไม่มีคุณหมอคนไหนสามารถช่วยชีวิตคนไข้ในเกมได้แม้แต่คนเดียว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวเกมเมอร์ถึงเล่นแบบฮาๆ กันซะมากกว่า ฮร่า แหม่ เล่นยากอย่างนี้ ขนาดให้หมอผ่าตัดมาเล่นเองยังถึงกับบอกว่ายาก แล้วจะนับประสาอะไรกับเกมเมอร์ธรรมดาๆ…
-
แพทย์ฉุกเฉินพบแมวติดประตูใกล้ตาย ช่วย CPR แมวจนฟื้นอีกครั้ง พร้อมรับมาเลี้ยง!!
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้น เมื่อได้มีแมวสีขาวตัวหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาในโรงพยาบาลผ่าประตูหมุน แต่แล้วตัวมันกลับไปติดตรงช่วงว่างหระหว่าประตู ทำให้มันหายใจไม่ออกเพราะคอโดนบีบอยู่ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล Özel Akgün Tem Hospital ในอิสตันบูล ประเทศตุรกีผ่านมาเห็นเข้าก็เลยต้องรีบช่วย โดยได้คุณหมอฉุกเฉิน Halil Akyürek ได้ตัดสินใจช่วยชีวิตมันในโรงพยาบาลแห่งนี้ คุณหมอเล่าว่าคอของแมวติดอยู่ที่ซอกประตู มันพยายามที่จะหายใจ เขาก็เลยค่อยๆ ดันที่หลังคอแมวให้มันหลุด แล้วทำปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพเนื่องจากแมวได้หยุดหายใจไปแล้ว ทุกอย่างถูกจับภายโดยกล้อง เราจะได้ว่าหมอพยายามที่จะนวดที่หัวใจของแมวเพื่อทำการปั๊มหัวใจ อีกทั้งยังใส่หน้ากากออกซีเจนให้กับมันอีกด้วย พร้อมทั้งหาข้อมูลจากสัตวแพทย์เพื่อแนะนำการรักษาสัตว์อย่างถูกวิธี และในที่สุด แมวก็กลับมาหายใจอีกครั้ง และคุณหมอก็ตั้งชื่อให้มันว่า Miracle ที่แปลว่าปาฏิหาริย์ ซึ่งปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้หยุดลงแค่นั้น เพื่อคุณหมอได้ตัดสินใจว่าจะรับเลี้ยงเจ้าแมวจรจัดตัวนี้ไว้ด้วย ตอนนี้มันก็ได้บ้านใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่คือคลิปตอนที่คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหมอจะไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ แต่ก็ได้ทำสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือแมวตัวนี้ไว้ได้สำเร็จ ที่มา thedodo, boredpanda
-
นับถือใจ… คุณหมอกระดูกขาร้าว ยอมยืนขาเดียว ผ่าตัดคนไข้ 2 ชั่วโมงจนเสร็จภารกิจ
แม้ในช่วงหลังๆ เราจะได้ยินข่าวด้านไม่ดีของวงการแพทย์มามากมาย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความจริงที่ว่า ยังมีหมดอีกมากมายยอมอุทิศตนรักษาคนไข้ ไม่ว่าพวกเขาจะต้องฝ่าฟันความยากลำบากขนาดไหน อย่างสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีนครั้งนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลซีเจียง ประเทศจีน เมื่อคุณหมอคนหนึ่งที่มีคิวจะต้องผ่าตัดเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ดันประสบอุบัติเหตุกระดูกขาร้าวในการแข่งขันฟุตบอลเพียงหนึ่งวันก่อนการผ่าตัด ทำให้เขาไม่สามารถยืนด้วยขาสองข้างได้ หากเป็นคนอื่นกำหนดการผ่าตัดของเด็กหญิงอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะความไม่พร้อมทางร่างกายของผู้ผ่าตัด แต่คุณหมอท่านนี้กลับสปิริตแรงกล้า ไม่ยอมเลื่อนการผ่าตัดออกไป เนื่องจากไม่อยากผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับครอบครัวคนไข้ เขาจึงต้องทนยืนขาเดียวกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทำการผ่าตัดให้เด็กหญิง คุณหมอคนดังกล่าวเล่าว่า ถ้าเขาเลื่อนการผ่าตัดออกไป กำหนดการผ่าตัดก็จะถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่เวลานี้มีเขาเป็นศัลยแพทย์เพียงคนเดียวที่สามารถทำตรงจุดนี้ได้ ซึ่งหากเลื่อนออกไป ไม่ได้ผ่าครั้งนี้ เด็กหญิงและครอบครัวอาจเป็นกังวลอย่างหนัก ในฐานะที่เขาก็เป็นพ่อคนเช่นเดียว เขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี หลังจากภาพอันน่าประทับใจนี้เผยแพร่ออกไป ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตมากมาย อาทิเช่น @Qingfenfumian ชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “ทั้งหมอและคนไข้ควรมีความเคารพซึ่งกันและกัน เราไม่สามารถตัดสินว่าหมอทุกคนนิสัยไม่ดีได้ จากเรื่องแย่ๆ เพียงเรื่องเดียว แต่หมอคนนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีมากเหลือเกิน…” แม้จะมีข่าวไม่ดีออกมาอยู่บ่อยๆ แต่ #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ยังเชื่อเสมอว่า ยังมีหมอดีๆ พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถอยู่อีกมากมายฮะ ขอให้สู้ๆ ต่อไปนะครับ 🙂…
-
สัตวแพทย์หญิง ที่ตัดสินใจรับเลี้ยง ‘หมาป่วยใกล้ตาย’ และมอบชีวิตใหม่ให้กับมัน….
นี่คือเรื่องราวของ Bronson ลูกสุนัขน่าสงสารที่เกิดในแล็ปช็อกโกแลต มันคลอดมาพร้อมกับพี่น้องอีก 8 ตัว รวมกันเป็น 9 ตัว แต่มันกลับมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเพื่อน นั่นก็คือมันเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ปกติแล้วสุนัขที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่มักจะมีโอกาสรอดน้อยมาก ทางเจ้าของก็เลยตัดสินใจที่จะทิ้งมัน และปล่อยให้มันตายไป แต่แล้วสัตวแพทย์คนหนึ่งก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ให้กับมันด้วยการนำมันไปรักษา การรักษานั้นก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเธอไม่ได้มีเครื่องมือมากมาย เธอเพียงแค่ให้อาหารมันเหมือนลูกสุนัขทั่วไป ซึ่งความยากมันอยู่ตรงนี้แหละ . . เจ้า Bronson ไม่สามารถกินอาหารเหมือนกับลูกสุนัขตัวอื่นได้ เธอต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงในการป้อนอาหารผ่านหลอดให้กับมัน ไม่งั้นมันก็จะอดตาย . เวลาเธอไปทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ เธอก็จะพามันไปด้วย เพียงเท่านี้มันก็จะอยู่ในความดูแลของเธอตลอดเวลา และตอนนี้มันโตขึ้น พร้อมกับได้รับการผ่าตัดช่องว่างในปากแล้ว มันสามารถกลับมาทานอาหารได้ตามปกติ ดูความน่ารักของมันสิ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตอนนั้นหมอไม่ช่วยมัน จะเป็นยังไงกันนะ ที่มา boredpanda
-
สามีชาวซาอุฯ ฉุนจัด ก่อเหตุยิง ‘หมอทำคลอด’ ของภรรยาตัวเอง เพียงเพราะหมอเป็นผู้ชาย!?
กลายเป็นเรื่องที่คาดฝันเกิดขึ้นเลยล่ะ เพราะตามปกติแล้วหมอทำคลอดนั้นเราไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นเพศใดก็ได้ เพียงแค่เป็นคุณหมอที่มีความสามารถในการทำคลอดให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาล King Fahad Medical City เมืองริยาด ประเทศอุดิอาระเบีย หลังจากที่คุณหมอ Muhannad Al-Zabn ช่วยทำคลอดให้กับภรรยาของคุณพ่อมือใหม่ได้สำเร็จในเดือนเมษายนที่ผ่าน ทางคุณพ่อมือใหม่ก็ทำทีว่าอยากจะพบกับคุณหมอเพื่อทำการขอบคุณ โดยนัดพบกันในสวนหย่อมของโรงพยาบาล เมื่อเจอหน้ากันเขากลับควักปืนยิงคุณหมอแทน หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คุณหมอ Muhannad Al-Zabn ถูกนำส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการเป็นการด่วน โชคดีที่เขานั้นรอดพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนชายคนดังกล่าวพยายามหลบหนีการจับกุมหลังก่อเหตุ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นจากฝีมือของตำรวจซาอุดิอาระเบียไปได้ สำหรับแรงจูงใจก่อเหตุนั้น พอสอบสวนไปๆมาๆ ก็สารภาพว่าเป็นเพราะว่ารู้สึกไม่พอใจกับการที่ให้หมอผู้ชายมาทำคลอด เห็นคู่สมรสของตัวเองในสภาพเปลือย ควรที่จะให้หมอผู้หญิงมาทำหน้าที่นี้มากกว่า!! #เหมียวเลเซอร์ นี่เงิบไปเลยทีเดียว ที่มา : gulfnews, dailymail, newsweek, metro
-
คุณหมอยังมีอึ้ง เมื่อพบว่าสาเหตุที่ทำให้สาวคนนึงปวดท้องเพราะ ‘ถุงยางอนามัย’ ในไส้ติ่ง!!
หลายคนคงจะพอรู้มาบ้างแล้วว่า โรคไส้ติ่งอักเสบ เกิดจากการอุดตันของไส้ติ่ง เศษอุจจาระที่แข็งตัว หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตัน จนทำให้เกิดการอักเสบ และทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นปวดท้องอย่างหนัก และต้องรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ทันที เหมือนดังเช่นกรณีของหญิงวัย 26 ปีรายหนึ่ง ที่จู่ๆ ก็ปวดบริเวณเชิงกรานข้างขวาอย่างรุนแรง จนทำให้คลื่นไส้อาเจียน และไม่อยากอาหาร โดยหลังจากที่เธอได้เข้าไปพบแพทย์ และสแกนตรวจก็พบว่า เธอเป็นไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากมีสิ่งผิดปกติบางอย่างที่มีลักษณะเหมือนวัสดุที่ทำจากยางติดอยู่ที่ไส้ติ่งนั่นเอง เมื่อหญิงสาวรายนี้ถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัด ทางแพทย์ก็พบว่า สิ่งแปลกปลอมที่ตรวจพบในตอนแรกนั้น แท้จริงแล้วมันคือ ชิ้นส่วนของถุงยางอนามัย ขุ่นพระ!! มันเข้าไปอยู่ในไส้ติ่งของเธอได้อย่างไรกัน ภายหลังจากที่เธอพื้นจากการผ่าตัด สาวรายนี้ก็ได้เผยว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เธอเผลอกลืนถุงยางอนามัยที่แฟนหนุ่มสวมอยู่ ในขณะที่กำลังร่วมรักกัน หลังจากนั้น 5 วัน เธอก็สังเกตเห็นเศษถุงยางอนามัยปนออกมากับอุจจาระ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมีเศษหลงเหลือเข้าไปติดอยู่ในไส้ติ่งของเธอ แม้ว่าทางแพทย์จะเคยเห็นสิ่งแปลกปลอมประหลาดๆ ที่เคยเข้าไปติดอยู่ในไส้ติ่งของคนไข้มาแล้วมากมาย แต่พวกเขาก็เชื่อว่า กรณีถุงยางอนามัยไปติดอยู่ที่ไส้ติ่งของหญิงสาวรายนี้ น่าจะเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน ที่มา : dailymail
-
นวัตกรรมเปลี่ยนโลก “วีลแชร์แบบยืน” ช่วยให้ผู้ป่วย-ผู้พิการ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น!!
ลองจินตนาการถึงภาพผู้ป่วยสักคนหนึ่งที่ต้องนั่งวีลแชร์ไปไหนมาไหน จะลุกจะเดินก็ลำบาก หากมีอุปกรณ์หรือเครื่องอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าแค่การนั่งเฉยๆ อยู่บนเก้าอี้ก็คงจะดีไม่น้อย #เหมียวฟิ้นเชื่อว่าปัญหาเหล่านั้นน่าจะถูกแก้ไขในเร็ววันนี้แล้วล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอเข้ากับคลิปๆ หนึ่ง เป็นการโชว์นวัตกรรมวีลแชร์จากสหรัฐ ที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วย เพราะนี่คือ “วีลแชร์แบบยืน” ยังไงล่ะ มันเป็นวีลแชร์รุ่นต้นแบบที่มีการคิดค้นและวิจัยโดยทีมแพทย์และวิศวะกรผู้เชี่ยวชาญในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ความพิเศษของวีลแชร์ตัวนี้คือมันสามาถดันที่วางแขนขึ้นมา และปรับให้ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นยืนได้ขณะนั่งอยู่บนวีลแชร์ แถมยังสามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้ในท่ายืนด้วย แจ่มแมวไปเลย! และเนื่องจากวีลแชร์ตัวนี้สามารถปรับระดับได้ ทำให้ผู้ป่วยหรือผู้พิการสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น แถมมันยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและฟื้นฟูอาการปวดเมื่อยเพราะนั่งนานเกินไปได้ด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า This amazing wheelchair prototype is helping its users stand upright. (via INSIDER) โพสต์โดย Upworthy บน 17 พฤษภาคม 2016 สำหรับคนที่ชมคลิปไม่ได้ สามารถ กดเบาๆที่นี่ เพื่อรับชมได้เลยครับ เห็นแล้วดูจะเป็นอุปกรณ์ที่น่าใช้มากเลยนะ คงมีประโยชน์ไม่น้อยสำหรับผู้ที่เดินเหิรไม่สะดวกแน่ๆ…
-
รวม 24 อาการของเจ้าเหมียวที่รู้ตัวว่าต้อง ‘ไปหาหมอ’ วันนี้ขออยู่บ้านได้ม้ายยย!!
การไปหาหมอ ไม่ว่าจะสำหรับคนหรือว่าแมว ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอเหมือนๆ กัน เพราะบางทีไปถึงโรงพยาบาลแล้ว อาจจะโดนหมอทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ (ยิ่งถ้าเจอเข็มฉีดยายิ่งกรี๊ด) วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 24 น้องเหมียวที่งอแงไม่อยากไปโรงพยาบาลเป็นที่สุด วันนี้ขออยู่บ้านซักวันได้ม้ายยยยย จะน่ารัก จะฮาขนาดไหน ไปชมกันเลย ไม่นะ อย่ามายุ่งกับผม อ่า….ปลอดภัยแล้วสินะ อิสรภาพของฉันอยู่ทางนี้สินะ บ้าเอ้ย!! เกือบทำสำเร็จแล้วเชียว!! เค้าไม่เห็นฉันแล้วใช่มั้ย อะไรนะ!! ไปหาหมอเหรอ!! ม้ายยยยย แอบเนียนขนาดนี้ หาเจอก็เก่งแล้ว… ปล่อยชั้นออกปายยยย Defensive Mode เข้ามาอีก จะแปลงร่างแล้วนะ!! อย่ามายุ่งกับผมนะ!! แกล้งเป็นขยะแม่มเบย เขาไปรึยัง? ไม่เอานะ.. โหมดพรางตัวระดับสิบ…
-
หมอจุดเดือดต่ำ ด่าครูที่เรียกร้องให้ปรับเงินเดือนเท่าหมอ #ควายสอนหนังสือ?!?!
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่าจะมีการทำเรื่องปรับเงินเดือนครูให้เท่ากับหมอ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตมากมาย ล่าสุดมีหมอคนหนึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเธอบอกว่าเงินเดือนของหมอกับครูนั้นเท่ากันอยู่แล้ว เพราะใช่ฐานเงินเดือนเดียวกัน แต่ที่หมอได้เยอะกว่าเพราะมีค่าเข้าเวรต่างหากถ้าอยากได้เงินเยอะก็ไปเรียกร้องให้ปรับเงินเดือนให้เท่ากันข้าราชประเภทอื่นดีกว่า พร้อมทั้งด่าครูที่ออกมาเรียกร้องว่าเป็นพวก “ควายสอนคน” เมื่อเรื่องโพสของเธอถูกเผยแพร่ออกไป เธอก็ได้รับเสียงวิจารณ์มากมาย เดือดจริงๆ คุณหมอก็ออกจะรุนแรงไปซักนิดหนึ่ง เพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียวว ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ
-
พาเที่ยวสวนสัตว์เท็นโนจิ ชมคลิปหมอกำลังแปรงฟันให้ “ฮิปโป” สุดน่ารัก!!
ถ้าพูดถึงฮิปโปแล้ว เราก็คงนึกถึงสัตว์ตัวใหญ่ที่ชอบลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำทุกครั้งที่เราไปดูมันที่สวนสัตว์ ซึ่งวันๆ มันก็ไม่ทำอะไรนอกจากแช่น้ำ กิน และก็อึ ฮิปโปถือเป็นสัตว์ที่ก้าวร้าวตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีแรงมหาสารที่สามารถเอาชนะสัตว์ที่ดุร้ายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเราก็ไม่ค่อยไปเล่นกับมันมา แต่สำหรับที่สวนสัตว์เท็นโนจิในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เจ้าฮิปโปตัวนี้กลับเป็นมิตรกับมนุษย์สุดๆไปเลย ปกติแล้วฮิปโปเมื่ออยู่ในธรรมชาติ มันจะให้สัตว์ตัวอื่นๆมาทำความสะอาดช่องปากให้ เช่นการอ้าปากแล้วก็ให้นกเข้ามาจิกอาหารที่ติดอยู่ออกไป แต่มันจะไม่งับนกเข้าไปด้วยหรอกนะ เพราะมันเป็นสัตว์กินพืช แต่ที่สวนสัตว์ไม่มีนกให้มาจิกเศษอาหาร จึงต้องให้หมอฟันประจำสวนสัตว์มาทำความสะอาดปากด้วยการแปลงฟัน เราจึงได้เห็นภาพสุดแสนน่ารักอันนี้ เราไปชมกันเลยว่าจะฮิปโปตัวนี้จะเชื่องได้สักแค่ไหน แปรงเสร็จก็ต้องให้รางวัลเป็นอาหารสักหน่อย ฟินไปเลยมั้ยล่ะเจ้าฮิปโป อิอิ ที่มา XMANTENX
-
มาทำความรู้จักกับ ‘หมอแนน’ สัตวแพทย์สาวสุดสวยที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล
จากกระแสโซเชียลที่ชาวเน็ตคนหนึ่งนำเจ้าเหมียวไปรักษาแล้วก็ทำการถ่ายรูปมาโพสท์ลงโซเชียล แต่เหล่าชาวประชาทั้งหลายกลับไม่สนใจเจ้าเหมียวเลยซักกระตี๊ดดด เพราะคุณหมอที่ทำการรักษาให้นั้นกลับมีหน้าตาที่สวยน่ารักโดนใจมว๊ากกกกก!! แหม่…ทั้งน่ารักทั้งขาวแบบนี้เป็นใครจะไม่หลงรักเจ้าเหมียวกันล่ะเนอะ (แหนะๆ อย่าคิดเป็นอื่นไกล เราเพจเหมียวต้องโฟกัสที่เจ้าเหมียวสิ อิอิ) และด้วยความที่ #เหมียวหง่าว ต้านทานความน่ารักของคุณหมอ เอ้ย!! แมว ไม่ไหว ก็เลยไปสืบมาว่าเธอคนนี้เป็นใครกันนะ ก็ได้ความมาว่า…ชื่อของเธอคือ สัตวแพทย์หญิงณฐพรรษ มั่นคง หรือคุณหมอแนน จบการศึกษาจากคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเธอไม่ได้แค่ทำการรักษาเฉพาะเจ้าเหมียวเพียงอย่างเดียว เจ้าหมาก็ได้เช่นกัน เอาล่ะ ลองไปชมความน่ารักของหมอแนนเต็มๆ แบบจุใจกันได้เลยย… แหม่…เห็นแบบนี้แล้ว #เหมียวหง่าว อยากจะป่วยมันซะทุกวันเลยแฮะ จะได้ให้เจ้าทาสที่บ้านพาไปหาคุณหมอเค้าซะหน่อย ยิ่งได้นอนหลายๆ วันยิ่งดีจะได้มีเวลาอยู่กับคุณหมอเยอะๆ แอร๊ยยย >< ที่มา : Kanin Mig Sirirat
-
รวม 18 ภาพคุณหมอน่าเลิฟแห่งปี 2016 เห็นแล้วอยากป่วยขึ้นมาทันทีเลย!!
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยทีไร ก็มีแต่คุณหมอนี่แหละที่เราพอจะพึ่งพาได้ แล้วยิ่งเป็นคุณหมอสาวๆ ด้วยแล้วมันคงจะทำให้คนไข้รู้สึกกระชุ่มกระชวยและหายป่วยได้แบบพริบตาเลยทีเดียว (เวอร์ไป๊) และด้วยความน่ารักของคุณหมอเหล่านั้นเอง ทำให้เกิดเพจแหล่มๆ ที่ชื่อว่า คุณหมอน่ารัก ขึ้นมา และรวบรวมเอาภาพคุณหมอสาวน่ารักๆ จากทั่วประเทศมาไว้ให้เราได้ชมกัน วันนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยถือโอกาสนี้หยิบเอารูปของคุณหมอน่ารักแห่งปี 2016 มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน จะน่ารักแค่ไหน ลองไปชมกันเลย!! 1. หมอจุ๊บแจง (พญ. สุวัฒนา) อยากถาม พระอาทิตย์ ว่า.. รับน้ำแข็งใสมั้ย * หมอจุ๊บแจง (พญ. สุวัฒนา) IG : jubjang_sp ตามไป follow คุณหมอเร็ว โพสต์โดย คุณหมอน่ารัก บน 7 เมษายน 2016 2. หมอโบว์ (ทันตแพทย์หญิง) 3. ว่าที่คุณหมอนิ้ง 4. หมอเก๋ (ทันตแพทย์หญิง) 5. หมอกุ๊กกิ๊ก แพทย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ …
-
ทันตแพทย์หัวใส รับเลี้ยงน้องหมามาช่วยทำฟัน ลดอาการคนไข้กลัวหมอได้เป็นอย่างไม่น่าเชื่อ!!!
สำหรับใครที่ไม่กลัวหมอฟันล่ะก็ ไม่เข้าใจเรื่องนี้กันหรอก ฮือออ T^T เพราะการที่คนกลัวหมอฟันแล้วต้องไปหาหมดฟันน่ะ มันเป้นอะไรที่ฝันร้ายสุดๆ ไปเลยทีเดียว แต่คงไม่ใช่กับคลินิกทันตกรรมแห่งนี้ ที่มีวิธีการอันแยบยลไว้จัดการปัญหาคนไข้กลัวหมอล่ะ Jo Jo คือสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ในวัย 6 ขวบ ที่ถูกฝึกมาให้ปลอบประโลมเหล่าคนไข้ระหว่างที่พวกเขามาทำฟัน และ 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าตูบก็ได้ทำงานที่คลินิกทันตกรรม Pediatric Dentistry of Northbrook ในรัฐ Illinois ล่ะ เจ้าโจโจ้ ไม่ธรรมดานะ ถึงขั้นมีรูปในแท่นพนักงานเลย อิอิ ซึ่งคุณหมอฟันที่ประจำอยู่ที่นี่มีความเชื่อว่า เจ้าตูบจะช่วยจัดการเกี่ยวกับปัญหาคนไข้ที่เกร็งๆ เมื่ออยู่ใกล้กับหมอฟันได้ Lynne หนึ่งในผู้ช่วยทันตแพทย์กล่าวว่า ‘ฉันทำงานที่นี่มาก็หลายปี และเจ้าโจโจ้ ก็ถือว่าช่วยงานได้ดีเลยล่ะที่นี่’ ก่อนหน้านี้เจ้าตูบก็ต้องฝึกให้คุ้นและชินกับเสียงเครื่องมือทางทันตแพทย์มาก่อนเช่นกัน ไม่งั้นมันอาจเกิดความเครียดได้ บางคนถึงกับต้องใช้ยากล่อมประสาทเลยทีเดียวเวลาที่ต้องมาหาหมอฟัน แต่เจ้าโจโจ้ก็ช่วยพวกเขาได้มากเลยทีเดียว เพราะมันเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาไม่ให้รู้สึกเกร็งได้ดีมาก แถมประเด็นคือเจ้าโจโจ้ก็เหมือนจะชอบทำงานนี้ด้วยล่ะ อิอิ ทำหน้าฟินเชียววว ไม่แน่นะเนี่ย นี่อาจเป็นการปฏิวัติวงการหมดฟันและทันตแพทย์เลยทีเดียว…
-
สื่อนอกรายงาน คุณแพทย์นัวหมัดกันกลางโรงพยาบาลในอาร์เจนตินา มีผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย
กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกทีเดียวสำหรับกรณีที่มีกลุ่มแพทย์กลุ่มหนึ่งในประเทศอาร์เจนตินา ตะลุมบอนกันกลางโรงพยาบาล หลังมีความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นเงินเดือนไม่ตรงกัน!? เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มแพทย์ในโรงพยาบาลซาน มาร์ติน เมืองลาปลาตา ประเทศอาร์เจนตินา ที่ทะเลาะกันอย่างหนักหน่วงจนต้องใช้ความรุนแรง ตามรายงานบอกว่าในช่วงแรกมีกลุ่มแพทย์ถกเถียงกันอยู่กลางโรงพยาบาล แต่หลังจากที่พวกเขามีปากเสียงกันก็เริ่มมีแพทย์เข้ามามุงดูเรื่อยๆ กว่า 150 คน จากเหตุการณ์ตะลุมบอนครั้งนั้นทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ทั้งนี้หลังจากที่มีการสอบสวนพบว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่สหภาพสาธารณสุขรู้สึกเห็นด้วยกับการขึ้นเงินเดือนบุคลากรทางการแพทย์ 15% แต่ทางสมาคมวิชาชีพแพทย์เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงเกิดการทะเลาะและใช้กำลังอย่างที่เห็นในคลิปวิดีโอ เป็นแพทย์น่าจะคุยกันดีๆ หน่อยนา ที่มา mirror , Daily@011
-
หมอสาวจีนไม่ย้อท้อต่อโชคชะตา ใช้เก้าอี้แทนขาที่เสียไป เดินทางไปตรวจคนไข้มากว่า 12 ปี!!
การสูญเสียอวัยวะบางอย่างไป นับว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะอวัยวะที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย จนบางครั้งคนที่เสียอวัยวะไปนั้น ถึงกับสูญเสียแรงใจในการดำเนินชีวิตต่อไป..แต่นั่นไม่ใช่เรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ Li Juhong หญิงสาวชาวเมืองฉงชิงวัย 37 ปีคนนี้ ได้สูญเสียขาทั้งสองข้างไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 4 ขวบ หลายคนอาจคิดว่าอุบัติเหตุครั้งนั้น อาจทำให้เธอเสียผู้เสียคน แต่เปล่าเลย นั่นกลับกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อมา หลังจากที่เธอเสียขาไป เธอก็ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมง ฝึกใช้เก้าอี้เล็กในการเคลื่อนที่แทนขา จนในที่สุด เมื่อเธออายุได้ 8 ขวบ เธอก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอได้ตั้งมั่นในใจว่า โตขึ้นเธอจะเป็นหมอให้ได้ และในที่สุดเธอก็สามารถเข้าเรียนหมอได้ และได้เปิดคลีนิกเป็นของตัวเองเมื่อปี 2001 ชาวบ้านเล่าว่า ตลอด 15 ปีที่เธอทำหน้าที่หมอประจำหมู่บ้านมา เธอเปลี่ยนเก้าอี้ไปแล้วกว่า 30 ตัว และเธอออกตรวจคนไข้มาแล้วกว่า 6,000 ครั้ง และทุกครั้งที่เธอตรวจเสร็จ สามีของเธอก็จะมาช่วยอุ้มเธอกลับบ้านไป “เทียบกับคนอื่นแล้ว ฉันมีอุปสรรคมากกว่าก็จริง…
-
อุทาหรณ์จัดฟันแฟชั่น!! หมอฟันแชร์ภาพสาวจัดฟันเถื่อน ต้องถอนออกเกือบหมดปาก
สาวๆ หลายคนเมื่อเติบโตขึ้นก็เริ่มที่จะห่วงความสวยความงาม ตั้งแต่ผิวหน้าไปจนถึงฟันภายในปาก บางคนพอมีตังค์หน่อยก็ไปดัดฟันแบบถูกต้องกับทันตแพทย์ตามคลีนิคต่างๆ บางคนงบน้อยหน่อยแต่อยากสวยอยากอินเทรนด์กับเขาบ้าง ก็แอบไปจัดฟันแฟชั่น (เถื่อน) ซึ่งการจัดฟันแฟชั่นแบบนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่อันตรายที่มีกรณีตัวอย่างมาให้เห็นแล้วนักต่อนัก ล่าสุด#เหมียวฟิ้นได้ไปเห็นภาพกรณีตัวอย่างสุดสยองผ่านโลกออนไลน์อีกแล้วล่ะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ C Sasiwadee Supradit เป็นภาพช่องปากของหญิงสาวรายหนึ่งที่ไปจัดฟันแฟชั่นมา แต่เนื่องจากไม่รักษาความสะอาดบวกกับเหล็กดัดที่ไม่ได้คุณภาพ ทำให้ฟันของเธอเสียหายอย่างที่เห็น ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าคนไข้รายนี้ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น อายุไม่ถึง 30 ปี จัดฟันแฟชั่นมานานถึง 4 ปี แต่ปรากฎว่าฟันผุอย่างหนัก ทำให้ต้องถอนฟันด้านบนและล่างออกเกือบหมด โดยเหลือด้านบนไว้ 2 ซี่ และด้านล่างไว้ 5 ซี่ อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า เห็นแล้วละเหี่ยใจ เคสนี้ อายุไม่ถึง 30 ไปจัดฟันแฟชั่นมา 4ปี ผลประกอบการ อย่างที่เห็น สรุป ฟันบน ถอนหมด เหลือรอดอยู่ 2ซี่……
-
แฉพฤติกรรมสุดฉาวของแพทย์จากจีน ตบคนไข้ไม่ยั้งทั้งที่นอนคาเตียงผ่าตัด เหตุเพราะทะเลาะปมค่ารักษา
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพ และคลิปวีดีโอ เหตุการณ์หมอทำร้ายคนไข้ จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในเมืองฮูฮอต (เมืองเอกของเขตปกครองตนเองมองโกเลีย) ประเทศจีน ซึ่งจากภาพเราจะเห็นว่า แพทย์รายนี้ กำลังทำการตบตีคนไข้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด โดยกระหน่ำตีที่ขาของเธอไม่ยั้ง อีกทั้งยังบังคับให้เธอถ่างขาออกอีกด้วย เหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา โดยพยาบาลรายหนึ่ง เป็นผู้ที่แอบบันทึกภาพเอาไว้ได้ จนในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะแฉพฤติกรรมของแพทย์คนดังกล่าว ดังนั้นเธอจึงนำคลิปวีดีโอไปมอบให้กับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากที่คลิปวีดีโอถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างก็เขามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างก็ให้เบาะแสว่า โรงพยาบาลในคลิปเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านสูตินรีเวช บางความเห็นก็บอกว่า โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลนรก นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เกิดขึ้นจากโรงพยาบาลไหน คนไข้กับหมอผิดใจกันเรื่องอะไร อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการคาดเดาว่า ทั้งคู่อาจจะทะเลาะกันเรื่องค่ารักษา เนื่องจากแพทย์ได้เจรจาโก่งค่าผ่าตัด แต่คนไข้กลับไม่ยินยอม ดังนั้นจึงได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ที่มา : dailymail
-
ประกาศหาแพทย์ฝึกหัดรายได้ดีปีละเกือบ 10 ล้านบาท มีวันหยุดให้อีก 3 เดือน แต่ไม่มีใครที่คู่ควร!?
งานสบาย รายได้ดี มักจะมีผู้คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ถ้าหากว่าคุณได้ยินว่ามีการรับสมัครตำแหน่งแพทย์ฝึกหัดส่วนศัลยกรรม รายได้ต่อปี 400,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 9.6 ล้านบาท) มีส่วนแบ่งเพิ่มให้อีกจากการทำเคส มีวันหยุดประจำปีให้ 3 เดือนเต็มๆ แถมด้วยไม่มีการเรียกมาทำงานช่วงกลางคืนหรือช่วงวันหยุดอีกด้วย ฟังๆ ดูแล้วนี่ตาลุกวาวขึ้นมาทันที!! Dr. Alan Kenny อย่างไรก็ตาม การประกาศหาผู้ที่จะเข้ามารับงานในตำแหน่งนี้ ผ่านมาได้ถึง 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาผู้ที่เหมาะสมมาได้ซักที จนถึงขั้นที่ Dr. Alan Kenny แพทย์ผู้ประกาศรับสมัครงานจากคลินิกศัลยกรรมในเมือง Tokoroa, South Waikato ประเทศนิวซีแลนด์ ยอมรับว่าถอดใจที่จะตามหาแล้ว Tokoroa, South Waikato เหตุที่ต้องจ้างด้วยเงินเดือนสูงกว่าเรททั่วไปในนิวซีแลนด์ พร้อมสวัสดิการดีเยี่ยมขนาดนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าในหนึ่งปีจะมีผู้ป่วยที่เข้ามาภายในคลินิกมากกว่า 6,000 ราย จึงจำเป็นที่จะต้องรับคนเพิ่ม และพร้อมที่จะจ่ายค่าเหนื่อยให้อย่างงาม แต่มันดันไม่ประสบความสำเร็จตรงที่ไม่มีใครซักคนเดียวที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ Dr. Alan…
-
แล้วคุณจะเข้าใจมากขึ้น โจ้วๆ!! คุณหมอกาฬสินธุ์ ทำคลิปร้องเพลงแร็พอธิบายเรื่องโรคเบาหวาน
ในยุคที่โซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ เข้าถึงได้ง่ายๆ ดูเหมือนว่าคุณหมอบางคนจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการให้ความรู้แก่คนไข้ในรูปแบบใหม่ๆ ซะแล้วล่ะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเกินไป เพราะล่าสุดคุณหมอตั้ม หรือที่บางคนรู้จักในฉายา Mad Doc แพทย์จากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้จัดทำคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานแบบเพลงแร็พ ผ่านเฟซบุ๊ก InfanTum D Jantub ด้วยล่ะโจ้วๆ !! โดยเนื้อเพลงมีอยู่ว่า “วันนี้มีคลินิก วันนี้เป็นเบาหวาน คนไข้มีร้อยสองร้อย นี่คือจำนวนที่เป็นมาตรฐานอ่ะ โย่ว สวัสดีคับ สวัสดีตาเพ็ง ผมเห็นน้ำตาลคุณตาแล้วผมก็ต้องมานั่งเซ็ง (น้ำตาล 400 แม่เจ้า) ผมไม่รู้ตาไปกินอะไรมาทำไมน้ำตาลมันสูงจัง สงสัยว่าตารู้มั้ย มันอันตราย มันทำให้ไตพัง” “น้ำตาลที่มันสูงมันทำให้ไตทำงานหนัก ตามัวแล้วไม่เห็นจะเหินจะเดินก็ไม่ถนัดนัก ในส่วนปลายมือปลายเท้า เดี๋ยวมันก็เริ่มชา ไปเหยียบเศษหิน เศษแก้ว และแล้วก็ไปเหยียบเอาเศษตะปูมา เป็นแผล ที่เท้า แล้วมันก็เริ่มลาม บางคนไม่รักษาเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องมาตัดขาตามอ่ะ” ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า Rap เบาหวาน : ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยน่ะคับลุงๆป้าๆทั้งหลาย…
-
หนุ่มวัย 18 ปีถูกกล่าวหาจากการอ้างตัวเป็นหมอ รับรักษาคนไข้ในคลินิกแต่ไม่มีใบอนุญาต!!
หนึ่งในอาชีพที่ต้องได้รับการรับรองทั้งด้านการเรียนและการทำงาน ซึ่งหากจะประกอบอาชีพได้จะต้องได้รับใบอนุญาตเสียก่อน อย่างเช่น ‘แพทย์’ หรือ ‘หมอ’ ที่เราเรียกๆ กัน ซึ่งผู้ที่จะสามารถรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือตามคลินิกต่างๆ ก็ต้องได้รับใบอนุญาตกันทั้งนั้น แต่ทว่าในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กหนุ่มวัย 18 ปี นามว่า Malachi Love-Robinson หรือรู้จักในนาม Dr. Robinson ที่อ้างว่าตนเองเป็นแพทย์ รับรักษาคนไข้ภายในคลินิกส่วนตัว โดยประกาศผ่านเว็บไซต์และเฟสบุ๊ก ในชื่อ New Birth New Life Holistic and Alternative Medical Center and Urgent Care เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการสอบสวน พบว่า Love-Robinson เคยมีประวัติกล่าวรับรักษาผู้ป่วยมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีใบอนุญาตและไม่มีคุณวุฒิทางด้านการแพทย์ ซึ่งอ้างอิงมาจากประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฟลอริดาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีคำสั่งให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าวจนกว่าจะมีใบอนุญาต แต่เจ้าตัวก็ยังคงทำตัวเป็นเหมือนแพทย์ (หมอ) ตามปกติ…
-
สามีหมอฟันหนีทุนแจง เงินไม่พอใช้หนี้ และไม่แนะนำให้ฟ้อง เพราะอาจไม่ได้อะไรเลย
ดูท่าทางแล้วเรื่องราวของ หมอฟันหญิงหนีทุน คงไม่จบลงง่ายๆ หลังจากล่าสุดสามีของทันตแพทย์หญิงดลฤดี จําลองราษฎร์ ได้ส่งจดหมายชี้แจงมายังทันตแพทย์เผด็จ พูลวิทยกิจ หนึ่งในผู้ค้ำประกันว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยเนื้อความในจดหมายเล่าว่า ตอนนี้พวกตนมีเงินไม่พอใช้หนี้ เพราะมีค่าใช้จ่ายประจำวันเยอะมาก จึงอยากให้มีการเจรจามากกว่า รวมทั้งไม่แนะนำให้ฟ้อง เพราะการฟ้องร้องมีค่าใช้จ่ายสูง จนอาจไม่คุ้มค่าที่จะทำ จดหมายจากดลฤดีและสามี ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถตกลงกันได้ด้วยดีเช่นกัน จากที่คุณที่เรียกร้องสามีดิฉันให้อธิบา… Posted by เผด็จ พูลวิทยกิจ on 17 กุมภาพันธ์ 2016 เมื่อชาวเน็ตเห็นจดหมายดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการชี้แจ้งกึ่งข่มขู่ แถมรายจ่ายที่บอกมา ดูเหมือนจะเกินจริงอีกด้วย โอ้โห ออกทรงไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายเลยนะเนี่ย เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป รอติดตามกันให้ดีๆ เลยนะฮะ เหมียวว่ามันส์แน่นอน อิอิอิ ที่มา เผด็จ พูลวิทยกิจ
-
สัตว์แพทย์แสนใจดี ลงทุนเข้าไปนั่งกินข้าวในกรง เพื่อปลอบน้องหมาที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่
เวลาต้องย้ายไปอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ใครๆ ก็ต้องรู้สึกเป็นกังวลและไม่สบายใจเป็นธรรมดา เช่นเดียวกับเจ้าหมาตัวนี้ Graycie มันเพิ่งถูกนำมาส่งที่สถานดูแลสัตว์ Granite Hills Animal Care ในเมือง Elberton รัฐ Georgia หลังจากมีคนพบมันเดินโต๋เต๋อยู่ข้างถนน ทันทีที่มันมาถึงที่นี่ มันก็อยู่ในภาวะตื่นตกใจอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นสถานที่ใหม่ ที่มันไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต คุณสัตว์แพทย์ Andy Mathis จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือมัน เขามุดเข้าไปในกรง และนั่งกินอาหารเป็นเพื่อนเจ้า Graycie และพยายามทำให้มันคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าสัตว์ต่างๆ ที่เดินไปเดินมา จนจากตอนแรกที่ท่าทีมันดูหวาดกลัว ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายขึ้นมา คุณหมอ Mathis บอกว่า “เจ้านี่ถูกทิ้งจากไหนซักที่ เพราะตอนที่เราไปพบมัน มันยังมีปลอกคออยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เขาคงเลี้ยงมันไม่ดีเท่าไหร่ มันควรจะมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม แต่มันกลับหนักแค่ 9 กิโลกรัมเท่านั้น” “ผมเคยเจอหมาที่ต้องใช้เวลาบำบัดสภาพจิตใจเป็นเวลา 6 สัปดาห์ กว่ามันจะกล้าออกไปวิ่งเล่นข้างนอก ฉะนั้นเวลาผมเห็นหมาตัวไหนที่เศร้าๆ ล่ะก็ ผมเชื่อว่าพวกมันรักษาหายแน่ ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น” …
-
คุณหมอทรหด ปั่นจักรยานไปยัง 6 ทวีป เพื่อรักษาคนไข้และผจญภัยไปพร้อมกัน
หากคุณคิดว่าการเดินทางไปทำงานในตอนเช้าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและวุ่นวายแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนมาใช้การปั่นจักรยานแบบคุณหมอคนนี้ดูไหมล่ะ เพราะเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยจักรยาน ตอนนี้ผ่านมา 6 ปีแล้วก็ไม่กลับไปขับรถอีกเลย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณหมอรายหนึ่งที่มีชื่อว่า Steven Fabes คุณหมอจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ที่ตัดสินใจหันมาปั่นจักรยานเพื่อท่องโลกกว้างช่วยเหลือคนเมื่อปี 2010 ผ่านมา 6 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะหลงรักการเดินทางรูปแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงทีเดียว ตามรายงานบอกว่าคุณหมอ Steven ได้ขี่จักรยานมาแล้วกว่า 85,753 กิโลเมตร (รวมระยะทางแล้วสามารถปั่นรอบโลกได้ 2 รอบ) ไปมาแล้วกว่า 6 ทวีป ทั้งยุโรป, แอฟริกา (ผ่านตะวันออกกลาง), อเมริกาใต้, อเมริกากลางและอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลียและเอเชีย คุณหมอ Steven ผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย ทั้งนอนร่วมเต๊นท์กับแมงมุมแม่ม่ายดำและแมงป่อง หรือจะโดนปืนจ่อหัวที่เปรูก็เคยโดนมาแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ยังไม่หยุดปั่นจักรยานเพื่อออกท่องเที่ยวและช่วยเหลือผู้คนในที่ต่างๆ จากการเดินทางไปใน 6 ทวีป ทำให้เขาได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย…
-
อยู่ยาก!! นักศึกษาไทยร่วมแปะใบปลิวประจานหมอฟันหนีทุนทั่ว Harvard !!
เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงนี้เลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวการหนีทุนของอาจารย์มหาลัยชื่อดังคนหนึ่ง ก่อนจะทิ้งให้เพื่อนครูที่ค้ำประกันใช้หนี้นับสิบล้าน ส่วนตัวเองใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในต่างประเทศ จนสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก และแม้ทางกฎหมายอาจทำอะไรหมอฟันหนีทุนคนนี้ไม่ได้ แต่ทางกลุ่มนักศึกษาไทยในต่างแดน ได้จึงช่วยกันแฉพฤติกรรมเลวร้ายของหมอฟันท่านนี้ โดยการนำใบปลิวไปติดทั่วมหาวิทยาลัย Harvard เมื่อชาวเน็ตเห็นโพสดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ดุเดือดจริงๆสำหรับโพสนี้ เหมียวก็ได้แต่หวังว่า เราจะสามารถตามตัวคนผิดกลับมารับโทษได้นะเหมียว เหมียวล่ะสงสารคนที่ต้องค้ำประกันให้เค้าจริง ใครอยากติดตามต่อ ก็กดเข้าไปดูที่โพสด้านล่างได้เลยจ้า กลุ่มนักเรียนไทยที่มหาลัยHarvard เริ่มติดป้ายประจานคุณหมอหนีทุนเเล้ว ตามสถานที่ต่างๆใน campus ของมหาลัย Havard รู้สึกเป็… Posted by CSI LA on 1 กุมภาพันธ์ 2016 ที่มา CSI LA
-
เจ้าตูบกลัวการรักษาจนตัวสั่น จึงรีบวิ่งหนีอย่างเร็วจี๋ แต่ทว่า…ดันเอาหมอขี่หลังติดไปด้วยซะงั้น
เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเดือนจริงๆ สำหรับสัตว์สุดกวนอย่างบรรดาเจ้าตูบทั้งหลาย ซึ่งในคราวนี้มันก็กลับมาพร้อมกับสร้างความน่าตื่นเต้นให้พวกมนุษย์ได้ฮากระจายกันอีกเช่นเคย รับรองว่าพวกแฟนพันธุ์ของเจ้าตูบที่ได้ชมจะต้องขำจนตกเก้าอี้แน่นอน โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอชวนฮาของเจ้าตูบตัวหนึ่ง ซึ่งจากคลิปวีดีโอเราจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จำนวน 3 คน กำลังทำการรักษาเจ้าตูบตัวนี้อยู่ เนื่องจากมันมีอาการป่วย แต่ด้วยความที่มันตัวใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยกันจับตัวของมันเพื่อไม่ให้ดิ้น และอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าถ้าหมาเจอหมอมันจะแสดงอาการปอดแหกออกมา งานนี้เจ้าตูบจึงดิ้นสุดพลังเทอร์โบ จนหลุดออกจากมือของคุณหมอ แถมยังใส่เกียร์หมาวิ่งหนีด้วยความเร็วจี๋อีกด้วย แต่เรื่องราวมันยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะหนึ่งในสัตวแพทย์ที่ช่วยจับมัน ดันซวยปล่อยมือไม่ทัน งานนี้คุณหมอก็เลยซวยไปด้วยอย่างที่เห็นยังไงละ เรียกได้ว่าเป็นคลิปวีดีโอที่เรียกเสียงฮาไปทั่วโซเชียลกันเลยทีเดียวเมี๊ยว ที่มา : metro
-
ทำบุญกัน!! หมอหล่อขอเชิญชวนสาวๆ ไปร่วมออกเดทด้วย ระดมทุนเพื่อการกุศลบุญหนักมาก
ข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบชายหนุ่มแนวคุณหมอ หรือเป็นสาวที่ชอบทำบุญกุศล เหมียวนี่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันซะเหลือเกินกับคุณหมอสุดหล่อล่ำรายนี้ เขามีชื่อว่า Dr. Mikhail Varshavski หรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่าคุณหมอ Mike คุณหมอ Mike สุดหล่อล่ำบึ้ก ดูจากภายนอกแล้วต้องตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของสาวๆ แน่นอน ซึ่งนอกจากจะเป็นคนหล่อแล้ว ก็ได้รับฉายาคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุดจากนิตยสาร People ด้วย การันตีคุณภาพจริงๆ สำหรับคนนี้!! ปัจจุบันคุณหมอก็ได้ทำการประกาศออกผ่านสื่อว่าต้องการที่จะหาคู่เดทด้วย โดยจะเฟ้นหาหญิงสาวผู้โชคดีเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อไปเที่ยวทั่วเมือง New York กับเขา พักในโรงแรม 4 ดาว และร่วมรับประทานอาหารในภัคตาคารชื่อดัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญพิเศษ เปิดประมูลการออกเดทเพื่อการกุศล สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เงินที่ได้จะเข้ามูลนิธิ The Limitless Tomorrow Foundation ช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมไปถึงช่วยเหลือด้านอื่นๆ อีกด้วย สำหรับสาวผู้โชคดีที่ได้รับคัดเลือกก็จะได้รับตั๋วเครื่องบินฟรีไปยังเมือง New York ร่วมออกเดทกับคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุด…
-
ผลสำรวจเผย เด็กญี่ปุ่นอยากเป็น “นักธุรกิจ” มากที่สุด ไทยอยากเป็น “หมอ”
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยถูกผู้ใหญ่ในตอนนั้นหลายๆ คนถาม “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ด้วยความเป็นเด็ก เราอาจตอบไปโดยไม่ทันคิด แต่บางครั้ง คำตอบเหล่านั้นอาจสะท้อนความจริงบางอย่างออกมาก็เป็นได้ ล่าสุดทางบริษัท Adecco ได้ทำการสำรวจความเห็นของเด็กๆ อายุ 6-15 ปี ชาย 500 คน หญิง 500 คน จากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย จนได้ผลลัพธ์อันน่าตกใจอันนี้ออกมา โดยประเทศญี่ปุ่น อาชีพที่มาเป็นอันดับแรกของเด็กผู้ชายคือ นักธุรกิจ ตามด้วยอันดับสอง นักฟุตบอลอาชีพ ส่วนอันดับสามเป็น ข้าราชการ และอันดับสี่ร่วมเป็นของ หมอและนักเบสบอลอาชีพ และที่น่าตกใจยิ่งกว่า่คือ แม้แต่กับเด็กผู้หญิง ก็มีคนอยากเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน โดยเข้ามาเป็นอันดับสาม ส่วนอันดับหนึ่งและสองเป็นของ นักทำขนมและครูตามลำดับ ส่วนอาชีพหมอนั้น มาในอันดับที่สี่ ซึ่งก็ไม่ใช่ผลสำรวจที่น่าตกใจเท่าไหร่ เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนักธุรกิจ และญี่ปุ่นเองก็มีบริษัทระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะด้านอุสหกรรมอิเล็กทรอนิกหรือรถยนต์ เมื่อดูของประเทศญีปุ่นกันแล้ว เราไปดูของประเทศอื่นกันบ้าง นอนมาเลยทีเดียวสำหรับประเทศไทย สำหรับอาชีพหมอ ตามมาด้วยนักกีฬาอาชีพ และเชฟทำอาหาร แต่ที่น่าทึ่งคือ…
-
โหดเกินไปแล้ว!! คุณหมอชาวรัสเซียสุดยัวะ ต่อยคนไข้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเสียชีวิตคาที่
เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายคนไข้โดยหมอรายหนึ่งโรงพยาบาลในเมือง Belgorod ประเทศรัสเซีย ตามรายงานบอกว่าคลิปดังกล่าวถูกถ่ายไว้ได้จากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปี 2015 เผยให้เห็นภาพของคุณหมอคนหนึ่งที่เดินตรงดิ่งเข้ามายังห้องตรวจคนไข้ จากนั้นก็ลากนาย Yevgeniy Bakhtin วัย 56 ปีที่กำลังตรวจร่างกายอยู่ขึ้นมาและชกเข้าที่ใบหน้าของเขา เมื่อพยาบาลคนอื่นๆ เห็นเหตุการณ์เข้าจึงพยายามเข้ามาห้ามปรามคุณหมอไม่ให้ทำร้ายเขามากไปกว่านี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะเขาได้หันมาทำร้ายร่างกายของพยาบาลด้วย และหันไปซ้อมนาย Yevgeniy ต่อจนเขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดและเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดู พวกเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาเลยว่าคุณหมอจะทำแบบนั้น พวกเขายังเชื่อว่านี่คือการฆาตกรรมแบบ “ไม่ได้เจตนา” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ส่วนสาเหตุของการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นนั้น ทางสื่อท้องถิ่นเปิดเผยว่าคนไข้เตะนางพยาบาลก่อน เมื่อคุณหมอทราบเรื่องจึงเกิดบันดาลโทสะเข้าทำร้ายคนไข้ แต่ไม่ได้มีเจตนาถึงขั้นเอาชีวิตแต่อย่างใด ที่มา metro
-
คนดีที่โลกรอ!! หมอจีนไม่ยอมแพ้ต่อความพิการ รักษาคนไข้มากว่า 12 ปี แบบไม่คิดเงิน แม้ตนเองจะมีขาเดียว
ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของคุณหมอชาวจีน ผู้พิการขาเดียว แต่ยังคงทำหน้าที่รักษาคนไข้ในหมู่บ้านเล็กๆ มานานถึง 12 ปี แม้การเดินทางแต่ละครั้งจะเป็นเรื่องยากลำบากก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมอรายนี้มีชื่อว่านายฉี เซิ่งหยง วัย 36 ปี เขาได้สูญเสียขาซ้ายไปตั้งแต่อายุได้ 14 ปี เพราะถูกรถชน ทำให้เขาต้องหยุดเรียนไป 1 ปี และฝึกการใช้ชีวิตด้วยขาข้างเดียว เมื่อสภาพจิตใจและร่างกายเริ่มเข้าที่แล้วเขาก็กลับมาเรียนต่อ แม้ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยยอมแพ้ ทำให้เขาตั้งใจเล่าเรียนจนสอบเป็นหมอที่มหาวิทยาลัยหยูโจวได้สำเร็จ และกลับมารักษาคนไข้ผู้ยากไร้ต่อไป ตามรายงานบอกว่าชาวบ้านมักจะเห็นภาพของคุณหมอรายนี้เดินกะเผลกๆ พร้อมกับเครื่องมือการแพทย์ไปตามทางเดินในหมู่บ้านทุกวันๆ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม คุณหมอฉีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในตอนแรกผมล้มลงเพราะไม่คุ้นชินกับเส้นทางเดินเท่าไหร่ แต่รอยแผลทั้งหมดก็ช่วยเตือนผมว่ามีคนไข้กำลังรอผมอยู่ ไม่ว่าจะเจ็บตัวแค่ไหนแต่ก็ยังมีคนไข้ที่รอให้ผมไปช่วยอยู่” ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา หมอฉีบอกว่าเขารักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน แถมยังไม่เคยเก็บเงินแม้แต่หยวนเดียว เพราะเขารู้ดีว่าชาวบ้านนั้นยากจนแค่ไหน…
-
แม่ค้าขายรีเทนเนอร์เถื่อนโพสต์ด่าทันตแพทย์ “เรามันคนละเกรดกัน อย่าขัดแข้งขัดขากันเลยค่ะ”
ถึงจะมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับกรณีการจัดฟันเถื่อนแล้วฟันล้ม ฟันเน่า บางคนถึงขั้นติดเชื้อจนเสียชีวิตมาแล้วก็มี แต่ก็ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าจอมโลภ ที่หวังจะหลอกเอาเงินจากคนไม่รู้ โดยการนำรีเทนเนอร์แบบผิดกฎหมายมาขายอยู่เป็นประจำ ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของแม่ค้าขายรีเทนเนอร์เถื่อนในเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความต่อว่าหมอฟันและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายว่า “แม่ค้าก็เปรียบเหมือนสายการบิน Low Cost ส่วนพวกหมอฟันเหมือนการบินไทย เรามันคนละตลาดกัน” พร้อมกับบอกว่า “อย่าขัดแข้งขัดขากันเลยค่ะ” ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของแม่ค้ารายดังกล่าวก็ได้โพสต์ข้อความว่าตอนนี้รีเทนเนอร์เถื่อนที่เธอขายอยู่ ได้ถูกส่งออกไปขายยังประเทสเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งยังบอกว่า “หมอฟันแค่กั๊กไว้รวยเฉพาะพวกหมอฟัน แม่ค้ามาปลดแอกแล้วค่ะ” อะไรของคุณครับคู๊ณณณณณณ ตรรกะอะไรจะวิบัติขนาดนี้ ที่มา dodeden
-
ลุ้นระทึก!! คุณหมอถูกยากูซ่ามาบุกรีดไถ่เงินถึงหน้าห้องพักโรงแรมในญี่ปุ่น โชคดีที่ยั้งไว้ทัน
การออกไปยังต่างแดนยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม อันตรายนั้นรายล้อมเราอยู่ทุกที่ อย่างประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอย่างญี่ปุ่น ก็ยังคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่ แถมยังน่ากลัวมากๆ ซะด้วย!! เรื่องราวสุดระทึกนี้ เปิดเผยโดยคุณหมอ Shane Cardio ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกบุกรุกเพื่อรีดไถเงินจากยากูซ่าญี่ปุ่น อุกอาจถึงขั้นมาเคาะถึงประตูห้องพักในโรงแรม Meriken Oriental Hotel กันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะมียากูซ่ามาถึงหน้าห้อง เขาได้รับโทรศัพท์จากโอเปอเรเตอร์โรงแรม พูดแต่ภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ซึ่งก็ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด ก็เลยวางหูไป จนกระทั่งมีชายใส่สูท ผูกไทด์ มากดกริ่งหน้าห้องพัก ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโรงแรม มีสมุดจดบันทึกมาด้วย ก็เลยแง้มประตูนิดหน่อยเพื่อพูดคุยด้วย แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะอีกฝ่ายซัดมาเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวๆ สภาพของประตูที่ยื้อกันไว้นานแสนนาน พอจะปิดประตูปุ๊บ ชายผู้นั้นก็ใช้เท้ากั้นประตูเอาไว้ไม่ให้ปิด แถมตะคอกเสียงใส่ จับใจความได้ว่าเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง และเปิดสมุดเล่มดังกล่าวให้อ่าน เต็มไปด้วยภาษาญี่ปุ่น แต่ที่เห็นชัดๆ ก็คือจำนวนเงิน 38,000 เยน คราวนี้ก็แน่ใจแล้วล่ะว่าเขาต้องโดนยากูซ่ามารีดไถเงินอย่างแน่นอน!! หากปล่อยให้เข้ามาได้ต้องมีอันตราย ซึ่งทั้งสองก็ได้ยื้อกันอยู่หน้าประตูซักพักใหญ่ ในที่สุดก็กระทืบเท้ายากูซ่าออกไปได้ ใช้แรงดันเพื่อปิดประตูและล็อคได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็รีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรมและส่งไลน์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มหมอที่มาประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยทันที…
-
15 ภาพที่จะแสดงให้เห็นว่า มันไม่ง่ายเลยที่เป็นคุณหมอ ทั้งตายคางานและหลับคาตำรา!!!
สำหรับอาชีพหมอ หรือแพทย์นั้น อาจจะเป็นอาชีพที่เรียกได้ว่าเป็นที่ปรารถนาของใครๆ หลายๆ คน ด้วยเพราะเป็นกันยาก และค่าตอบแทนน่ะค่อนข้างสูงเลยทีเดียวล่ะ แต่เบื้องหลังของพวกเขานั้นคือการเรียนที่หนักหน่วง แถมการทำงานตลอดหลายชั่วโมงอันยาวนาน และแน่นอนมันไม่ง่ายเลย วันนี้เหมียวก็จะนำบรรยากาศความเป็นหมอมาให้เพื่อนได้ชมกัน หลังจากผ่าตัดมาสองสามเคส หลับคาเตียงคนไข้ซะเลย หลังจากทำคลอด ไม่ไหวแล้วของีบแปป Zzzzz เป็นทีมงาน ขดตัวแปป ท่าไหนก็เอาล่ะวะ -*- คาอุปกรณ์มันนี่แหละ นี่ก็สบายแล้วววว โถๆๆๆๆๆ กลางทุ่งหญ้าซะเลย ฝากลูกเมียข้าด้วย คร่อกกกกก คาห้อง และตำรา… เห็นมั้ยล่ะว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นหมอน่ะ เหนื่อยขนาดนี้ไหนใครอยากเป็นอีกบ้างงง อิอิ ที่มา: Lifebuzz
-
ภาพน่ารักๆ ของคุณหมอที่กำลังกล่อมหนูน้อยวัย 2 ขวบให้สงบก่อนเข้ารับผ่าตัดหัวใจ
หนูน้อยวัย 2 ขวบนามว่า Xin Er มีอาการบางอย่างเกี่ยวกับหัวใจ และต้องรับการผ่าตัดในโรงพยาบาล Zhejiang University Hospital ในประเทศจีน ในวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อเธอรู้ เธอจึงเริ่มร้องไห้และขัดขืนจนใครๆก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งคุณศัลยแพทย์ Shi Zhuo ได้อุ้มเธอขึ้นมาและให้เธอได้ดูการ์ตูนจากในมือถือของเขา จนวิสัญญีแพทย์ Jin Ziying ได้ถ่ายภาพสุดน่ารักเหล่านี้ไว้ และหลังจากนั้นก็ได้ผลรายงงานว่าหนูน้อย Xin Er ปลอดภัยจากการผ่าตัดแล้ว “ในวันนั้น เธอเริ่มร้องไห้ตั้งแต่เธอได้เข้าไปในห้องผ่าตัด” “เธอเอาแต่ร้องไห้แล้วพูดว่า ‘หนูอยากเจอพ่อ’ “ “ผมก็เลยพูดไปว่าดูการ์ตูนแล้วก็ค่อยไปหาพ่อ โอเคมั้ยจ๊ะ?” คุณหมอ Shi Zhuo กล่าว ถือเป็นภาพที่น่ารักของแพทย์และเทคนิคการทำเด็กรู้สึกไม่กลัวกับการเข้ารักษา ใครเคยมีประสบการณ์ร้องไห้ตอนไปโรงพยาบาลบ้าง มาเล่าให้ฟังหน่อย ที่มา boredpanda
-
แซ่บลืม!! พาไปรู้จักหมอไมค์กับฮัสกี้สุดเลิฟ รับรองว่าน้ำลายหก
วันนี้เหมียวขอเอาใจสาวๆเต็มที่(รวมถึงตัวเองด้วย) ด้วยการพาไปรู้จักกับคุณหมอคนหนึ่งที่ชื่อว่าด็อกเตอร์ไมค์กัน ไมค์เป็นคุณหมอฝึกงานปีที่ 2 ในรัฐนิวยอร์ค ผู้ซึ่งกลายเป็นกระแสของโลกอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศขณะนี้เลย สาเหตุก็เพราะว่าหน้าตาของคุณหมอนั้นแซ่บมาก!! แถมยังเลี้ยงสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้หน้าตาหล่อเหล่าที่ชื่อว่าร็อกซี่อีกด้วย ไมค์ได้อธิบายคุณลักษณะของตนเองลงใน IG ว่า “แค่ผู้ชายคนหนึ่งและสุนัขของเขา ที่พร้อมจะเผชิญกับโลกกว้าง” แต่เหล่าผู้ติดตามของเขาในโลกออนไลน์กลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะพี่แกหล่อเกินกว่าคำว่า “แค่ชายคนหนึ่ง” นั่นเอง ไมค์มักจะชอบถ่ายภาพของตนเองคู่กับสุนัขคู่ใจของเขาลงใน IG ซึ่งปัจจุบันก็มีแฟนๆเข้ามากดติดตามเขาแล้วกว่า 213,000 รายเลยทีเดียว เล่นกับหมา หมาเลียหู ชีวิตดี๊ดี หมั่นเขี้ยว งับเข้าให้! เล่นน้ำกันไหม ยอมแล้วทูนหัว อยากมีผัวเป็นหมอออออ ที่มา boredpanda
-
ชม 15 ภาพสุดฮา ของเหล่าแมวเหมียว เมื่อมันต้องไปหา “หมอ”
ไม่ใช่แค่มนุษย์เราเท่านั้นนะจ้ะ ที่ไม่ชอบการไปโรงพยาบาล ไม่ชอบการไปหาหมอ ขนาดไม่สบายยังไม่อยากไปเลย กลัวโดนฉีดยา ฮืออออ เจ้าแมวเหมียวเองก็เค้าก็ไม่ชอบการไปหาหมอเหมือนกันจ้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอรู้ตัวว่าจะโดนพาไปหาหมอเท่านั้นแหล่ะ อาการออกขึ้นมาทันทีเลยจ้า อาการออกของเจ้าแมวเหมียวที่ว่านั่นก็คือ การแสดงปฏิกิริยาท่าทางที่ต่อต้านการไปหาหมอ ดูแล้วน่ารักชวนขำสุดๆ 1. จะเอาเหมียวไปหาหมอเหรอ? ขอแอบก่อนนะ 2. เมื่อเหมียวรู้ว่าต้องไปหาหมอ 3. เหมียวจะไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว 4. เหมียวจะต้องหลบให้แนบเนียนที่สุด 5. เหมียวไม่อยากไป!! 6. เข้าใจปะ? งอนแล้วนะ 7. จะต้องเข้าไปในนี้เหรอ? ทำใจแป๊ป 8. ต้องพรางตัว จะได้ไม่โดนจับไปหาหมอ 9. หาที่ซ่อน 10. ไม่ให้ใครจับได้ 11. แอบๆ มุดๆ 12. แค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นเหมียวแล้ว …
-
ฮาโพดๆ!! มาดูสีหน้าของเหล่าหมา เมื่อได้รู้ความจริงว่า…มันกำลังจะถูกพาไปหา ‘หมอ’
ขึ้นชื่อว่าเป็นหมา แน่นอนว่าย่อมไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่หากเหล่าม่ะหมารู้เข้า มันอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และเรื่องที่ว่าก็คือการไปหาหมอนั่นเอง และที่สำคัญพอมันรู้ว่าเจ้าของกำลังจะพาไปหาหมอเท่านั้นแหละ มันรีบทำหน้าทำตาน่าสงสารวิงวอนขอร้องไม่ให้พาไปหาหมอซะด้วย งานนี้ภาพจะออกมาฮาขนาดไหน เพื่อนๆ ลองดูเองก็แล้วกัน พาหนูกลับบ้านที นี่เราต้องไปจริงๆ หรอเนี่ย กลัวจนตัวสั่นไปหมด ทำมาเป็นนิ่ง ที่จริงโคตรกลัวเลยดิ เจ้านายจะพาเราไปไหนหรอบี1 >< เดี๋ยวเอ็งก็รู้เองน่าบี2 ถึงขั้นฉุดกระชากลากกันเลยทีเดียว โชคดีว่ะเพื่อน ข้าเข้าใจความรู้สึกนั้นดี หาาาา ตัวจะพาเค้าไปไหนนะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองแหละ หลอกตูมาชัดๆ ไม่เป็นไรนะ เราอยู่ข้างๆ นายแล้ว เค้าอยากกลับบ้าน นี่เอ็งยังมีหน้ามายิ้มอีกหรอ หรือเอ็งไม่รู้ว่าเขากำลังพาเราไปไหน ไม่ชอบหมอเอาซะเลย พอรู้ว่าพาไปหาหมอ ทำหน้าเศร้าเลยนะ ขอเวลาทำใจแปบ หือออออ…
-
สำเร็จ!! นักวิทย์เพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์เป็น ‘หัวใจมนุษย์’ ได้เป็นครั้งแรก 20 วันก็เต้นเองได้แล้ว
‘หัวใจ’ เป็นอวัยวะสำคัญที่ร่างกายของคนเราจะขาดไปไม่ได้เลย ยิ่งถ้าใครมีความผิดปกติหรือโรคเกี่ยวกับหัวใจอยู่แล้ว คงจะรู้ดีกว่าการรักษาต่างๆ ย่อมมีความเสี่ยงและมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วงการแพทย์ทั่วโลกก็ได้ให้ความสนใจในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ มารักษาผู้ป่วยโรคหัวใจอยู่ตลอด และล่าสุดนี้ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นที่น่าพอใจเลยหละ เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการเพาะเลี้ยงเซลล์หัวใจมนุษย์ได้เป็นครั้งแรกของโลกได้สำเร็จแล้ว!! จากการรายงานของวารสาร Nature Communication พบว่าหัวใจดวงดังกล่าวนี้ มีขนาดเล็กจิ๋วประมาณ 1 ใน 3 ของปลายเข็มหมุด หรือมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 0.5 มม. เท่านั้น แต่ความมหัศจรรย์คือการเต้นตุบตับได้เอง หลังจากเวลา 20 วัน นับตั้งแต่มันเริ่มกลายเป็นเซลล์หัวใจ ด้วยการนำสเต็มเซลล์ของมนุษย์ในส่วนของเยื่อผิวหนังมาเพาะในจานเพาะเลี้ยง และเลี้ยงด้วยออกซิเจนนั่นเองจ้ะทุกคน ^^ Kelvin Healy ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย California, Berkeley ผู้ร่วมงานวิจัยชิ้นนี้ยังกล่าวอีกด้วยว่า เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อการคัดกรองตัวยาที่ส่งผลกระทบต่อหัวใจ หรือส่งผลกระทบต่อภาวะการตั้งครรภ์ ซึ่งทีมวิจัยได้ทดลองให้ยา thaidomide ที่เป็นอันตรายต่อตัวอ่อน แล้วพบว่ามันมีผลต่อความผิดปกติต่อเซลล์หัวใจจิ๋วนี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งมันทำให้ช่องหัวใจตีบ การหดตัวและอาการเต้นผิดปกติ อ้ะลองชมคลิปกันดูหน่อย!! แหม่.. ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีจริงๆ หวังว่าการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจจะดีวันดีคืนนะจ๊ะ ได้ช่องทางการทดลองยาที่สะดวกและใกล้เคียงความเป็นจริงแล้ว…
-
มาดูชีวิตอันแสนโหดของ “อาชีพหมอกะดึก” ในออสเตรเลียแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง!!
นายแพทย์ท่านนี้มีชื่อว่า Cale Lawlor เขาได้ถ่ายภาพกิจวัตรประจำวันของตัวเองในวันทำงานอันแสนโหดแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว ไปดูภาพชุดนี้กันเลย 10.00 – ตื่น 11.00 – แต่งตัว 12.00 – ดื่มกาแฟ 13.00 – ออกกำลังกาย 14.00 – ปั่นจักรยาน 15.00 – อยู่บ้าน 16.00 – ซื้อของ 17.00 – กาแฟอีกรอบ 18.00 – อ่านหนังสือ 19.00 – กิน …