Tag: หมอย
-
เด็กหนุ่มวัย 13 ต๊กกะใจ มีขนขึ้นที่ด้านหลังยาวเฟื้อย ขนชาวบ้านเชื่อว่าอาจเป็นเทพจุติลงมาเกิด
เด็กชายชาวอินเดียคนนี้มีชื่อว่า Sohail Shah วัย 13 ปี ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางร่างกาย เพราะเขามีขนงอกออกมาที่หลังคล้ายกับหาง จนชาวบ้านเชื่อว่าเขาอาจจะเป็นเทพจุติลงมาเกิด ตามรายงานจากเว็บไซต์ Dailymail บอกว่าหางของเขานั้นมีความยาวราวๆ 45 เซนติเมตร ชาวบ้านเชื่อว่าขนหรือหางที่งอกออกมานั้น ทำให้เขากลายเป็นร่างอวตารของลิงหนุมาน ซึ่งหลังจากที่เรื่องของเขาถูกพูดถึงในวงกว้าง ก็ทำให้ชาวบ้านจากหมู่บ้านข้างๆ แห่กันมาดูเขาและสวดขอพร ชาวบ้านหลายคนขนเอาผลไม้เช่นกล้วยและมะม่วงใส่ถุงมาให้กับ Sohail เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับที่เขาจะให้ศีลให้พรกับชาวบ้าน เขากลายเป็นคนดังในโรงเรียน คนที่นั่นให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษโดยเฉพาะคุณครู ที่แทบจะไม่เคยดุด่าเขาเลย เพราะกลัวว่าจะไปทำให้พระเจ้าที่สถิตอยู่ในตัวเขาโกรธเกรี้ยว ยังไม่มีการเผยสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงมีขนงอกออกมาที่หลัง แต่น่าจะเป็นผลมาจากความผิดปกติของท่อประสาท เพราะในช่วงเดือนแรกที่เด็กเกิดมาจะมีโครงสร้างที่เรียกว่าหลอดประสาทซึ่งจะก่อให้เกิดกระดูกสันหลังและระบบประสาท แต่ Sohail อาจเกิดมาพร้อมกับหางเนื่องจากข้อบกพร่องของหลอดประสาทเรียกว่า Spina Bifida ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกสันหลังไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างถูกต้อง Sohail เล่าว่าเขารู้สึกดีมากที่กลายเป็นคนดังและที่รักของคนอื่นๆ และยังบอกอีกว่าเขาไม่คิดจะตัดหางนี่ออกด้วย “ผมไม่ได้รู้สึกอายกับหางนี่เลย ผมเกิดมาพร้อมกับมันและมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ผมเห็นคนปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นพระเจ้าตั้งแต่ผมเกิด ผมเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไร พวกเขาเรียกผมว่าหนุมานและลูบเท้าผมเพื่อขอพร” นอกจากนี้เขายังเล่าอีกว่าหากเขาออกไปเดินตามท้องถนน ผู้คนจะเข้ามาขอพรกับเขาพร้อมกับผลไม้ นั่นทำให้เขารู้สึกพิเศษเข้าไปอีก ทางครอบครัวของ Sohail…
-
ทำความรู้จัก “หมอย” ให้มากขึ้น ทำไมต้องเรียกหมอย? โกนได้ไหม? และทำไมต้องมีหมอย?
ประเด็นเรื่อง ‘หมอยๆ’ นี่นับว่าเป็นปัญหายิ่งกว่าประเด็นอภิปรัชญาเลยก็ว่าได้… ซึ่งเอาจริงๆ เราก็แทบจะไม่รู้จักประโยชน์ของมันเลยแม้แต่น้อย นอกเสียจากรู้แค่ว่ามันร่วงได้และตอนสางเล่นก็เพลินมือดีแค่นั้นจริงๆ แล้วตกลง ‘หมอย’ คืออะไรกันแน่นะ? นอกจากเรื่องขนบนหัวแล้ว ฝั่งขนบนโหนกนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าไว้เช่นกัน แม้จะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดในประเทศไทยถึงที่มาของคำว่า ‘หมอย’ แต่นักสังคมวิทยาส่วนหนึ่งชี้ว่า ‘หมอย’ คือคำที่ใช้อธิบายถึงสิ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นเป็นฝอย เช่น บริเวณขนที่ปลายข้าวโพดก็จะถูกเรียกว่า.. หมอยข้าวโพด หรือแม้แต่ในภาษาท้องถิ่นทางภาคเหนือ (ล้านนา) ก็มีการใช้คำว่า ‘หมอย’ เรียกสิ่งที่เป็นขนหนวดขึ้นตามร่างกาย เช่นเคราก็จะเรียกว่า หมอยคาง ขนรักแร้ก็เรียกว่า หมอยแร้ เป็นต้น มาพูดถึงคุณงามความดีของ ‘หมอย’ กันบ้าง… แม้บางครั้งเราจะเอามือสางแล้วพบว่ามันหลุดลอยจนฟุ้งเต็มห้องไปหมด เราก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดใจจนถึงกับเอามีดโกนมาไถมันให้เกลี้ยงเลย เพราะสิ่งใดที่ธรรมชาติได้สร้างมาและติดมากับการวิวัฒนาการของเรา เชื่อเถอะว่ามันย่อมดีเสมอ เหตุผลใหญ่ๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของหมอยก็คือ มันสามารถช่วยลดการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเช่นเชื้อแบคทีเรีย และอีกทั้งยังช่วยกั้นกลิ่นอับเหม็นของน้องชายได้ด้วย (ไม่เคยพิสูจน์แฮะข้อนี้..) แฟชั่นกับเรื่องหมอยๆ… แต่ด้วยความที่มันดูเหมือนป่าหญ้าคารกรุงรัง เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเทรนด์แฟชั่นโลกทุกวันนี้ได้พัฒนาไปจนถึงขั้นที่มีการตัดแต่งย้อมสีขนหรือจัดรูปทรงกันเป็นเรื่องเป็นราว จริงอยู่ที่การตัดแต่งรูปทรงของมันจะช่วยทำให้สาวๆ รู้สึกมั่นใจเวลาใส่ชุดบิกินี่มากขึ้น หรือหนุ่มๆ ก็อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง…
-
แพทย์เป็นห่วง… พฤติกรรมการ “บวชชีขนลับ” ของสาวๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
จากรายงานฉบับล่าสุดของวารสารวิชาการ JAMA Dermatology พวกเขาได้ทำการสำรวจหญิงสาว 3,316 คน และพบว่าสาวๆ 62 เปอร์เซ็นทำการบวชชีขนลับของตนเองอย่างเป็นประจำ และ สาวๆ 82 เปอร์เซ็นกล่าวว่า แม้จะไม่ได้โกน แต่พวกเธอก็ทำซาลอนให้ขนลับของตัวเองอยู่บ่อยๆ…แต่การทำแบบนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือ? คุณหมอ Tami S. Rowen กล่าวว่าสาวๆ มักเชื่อว่าการปล่อยให้ป่าผืนน้อยของตนเองรกรุงรังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยผู้หญิง 59 เปอร์เซ็นของคนที่ทำการโกนขนลับบอกว่า พวกเธอทำไปเพราะเป็นเรื่องของสุขลักษณะ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง ป่าผืนน้อยทำหน้าที่สำคัญบางอย่าง จริงๆ แล้วขนลับของเราทำหน้าที่ดักแบคทีเรียอันตรายบางอย่างไม่ให้เข้าไปในอวัยวะเพศของเรา รวมทั้งทำหน้าที่เหมือนถุงลมนิรภัยให้กับกระดูกที่อยู่แถวนั้น ฉะนั้น ถ้าคุณเอาพวกมันออกไป คุณอาจเกิดอาการแพ้ อักเสบ หรือแม้กระทั่งเกิดอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะก็เป็นได้ อย่างไรก็คุณหมอ Jennifer Gunter กล่าวว่า “การโกนขนลับเป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่ต้องทำ ถ้าคุณทำเพราะคุณชอบและคุณไม่ได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพอะไรก็ทำไปเถอะ แต่อย่าคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำเพื่อทำให้สุขภาพดี เพราะมันไม่จริง” ที่มา hellogiggles
-
ลุงทำบ้าไรของลุง!! เมื่อมีคนจับภาพตาลุงบนรถไฟดึง “ขนหะมอยส์” โยนใส่สาวที่กำลังหลับข้างๆ
ปกติแล้วเราจะเข้าใจกันดีว่าชีวิตบนรถไฟญี่ปุ่นนั้นเป็นอะไรที่สะอาด ดูดี และมีผู้คนมากมายใช้งานกันตลอดเวลา และยังเป็นที่ๆ คนชอบจะงีบหลับระหว่างทางด้วย แต่ล่าสุดกลับมีเหตุการณ์สุด WTF เกิดขึ้นเนี่ยสิ… แม้ว่าคนญี่ปุ่นจะมีสถิติการก่อเหตุบนรถไฟที่น้อยมากๆ จนคนรู้สึกปลอดภัยที่จะงีบชิวๆ บนรถไฟนั้น มันก็ยังไม่วายมีตาลุงคนหนึ่งมาทำเรื่องสุดเหวอ เมื่อมีชาวเน็ตจับภาพตาลุงคนนี้ที่นั่งข้างๆ วัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่กำลังหลับอย่างสบายใจ แต่ถ้านั่งข้างเฉยๆ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ ทว่าตาลุงคนนี้กลับล้วงเข้าไปในกางเกงพร้อมดึงขนวิเศษของลุงแกออกมาจากเป้า จากนั้นก็ทำท่าราวกับเป็น Saltbae แล้วปล่อยลงบริเวณต้นคอของหญิงสาว พร้อมเกาคิ้วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่พอแค่นั้น ตาลุงยังไม่หยุุดเพียงแค่ครั้งเดียว ลุงแกยังคงล้วงเข้าไปและดึงขนวิเศษออกมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับจบด้วยการลูบหัวเกาคิ้วราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือในตอนจบลุงแกทำท่าเหมือนจ้องมองอะไรบางอย่างของหญิงสาวนั่นเอง ยังไงก็ตามคลิปนี้ได้ถูกแชร์ออกไปสู่โลกอินเตอร์เน็ต และก็มีคนแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งหนึ่งในคอมเม้นต์ก็บอกว่า ทำไมคนที่ถ่ายถึงไม่ยอมบอกลุงให้หยุดทำแบบนั้นกัน? แต่กลับถ่ายคลิปไว้เฉยๆ อย่างนั้นนะเหรอ? ลองชมคลิปเหตุการณ์ได้ข้างล่างเลย สุดท้ายแล้วตาลุงคนดังกล่าวก็ถูกจัดว่าเป็นกลุ่มคนประเภทโรคจิตแบบหนึ่ง ซึ่งนานๆ จะพบสักครั้งหนึ่งบนรถไฟญี่ปุ่น และแม้ว่าการดึงขนวิเศษอาจจะไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรง แต่มันก็ไม่เป็นมิตรกับหญิงคนดังกล่าวถ้าเธอตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าช่วงที่เธอหลับเกิดอะไรขึ้นกับเธอแน่นอน… ที่มา rocketnews24