Tag: หมาถูกทิ้ง

เมื่อ 2 เดือนก่อน ลูกหมากำพร้าตัวหนึ่งถูกพบในถังน้ำมันเพียงลำพัง มันจึงถูกมายัง House of Cats Ernesto ในอาเลปโป ประเทศซีเรีย ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลแมวที่ก่อตั้งโดย Mohammad Alaa Jaleel แม้จะเป็นที่สำหรับดูแลแมว แต่เมื่อเห็นลูกหมาตัวน้อยถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง พวกเขาก็ไม่สามารถเมินเฉยต่อมันได้ จึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมัน     เนื่องจากเนื้อตัวของน้องหมาสกปรกมาก มันจึงถูกจับอาบน้ำหลายครั้ง มันหวาดกลัวทุกอย่างและพยายามซ่อนตัวอยู่ในมุมแคบๆ จากนั้นผู้ดูแลก็ได้เอาน้ำ เอาอาหารให้มัน พร้อมกับแสดงให้เห็นว่าพวกเขารักมัน จนน้องหมารับรู้ได้ มันเลยเริ่มส่ายหางด้วยความดีใจ     พวกเขาตั้งชื่อให้หมาน้อยว่า Henry และพามันไปแนะนำตัวกับสุนัขที่ได้รับการช่วยเหลืออีกตัวชื่อ Amira ซึ่งเป็นแม่หมาที่สูญเสียลูกน้อยไป และตอนนี้กำลังทำหน้าที่แม่ให้ลูกแมวหลายตัวในศูนย์     เมื่อ Amira ได้พบกับ Henry สัญชาตญาณความเป็นแม่ของมันก็ทำงานทันที มันเข้าไปหาหมาน้อยและจับมันมาอยู่ในอ้อมกอด     บรรดาเพื่อนเหมียวของ Amira ก็เข้ามาทักทายเจ้าหมาน้อยเหมือนกัน พวกมันทุกตัวยินดีต้อนรับ Henry เข้ามาอยู่ในครอบครัวใหญ่ของพวกมัน     เพียงไม่นาน Henry ก็กลายเป็นเพื่อนกับลูกแมวหลายตัวในศูนย์ เพื่อนเหมียวรู้ว่าเจ้าหมาผ่านอะไรมาบ้าน มันเลยกอดปลอบใจ และงีบหลับไปด้วยกัน ผู้ดูแลบอกว่า “Henry กับแมวเหมียวกลายเป็นเพื่อนรักกันอย่างไม่มีเงื่อนไข”…

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Nika Todua และ Irina Liklikadze กำลังเดินอยู่บนถนนที่วุ่นวายใน Rustavi  ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางยุโรปตะวันออกของจอร์เจีย ทันใดนั้น พวกเขาก็สังเกตเห็นลูกสุนัขตัวหนึ่งนอนขดตัวบนถนน ลูกหมาตัวนั้นอายุประมาณ 1 เดือน มันไม่ขยับเลย จนดูเหมือนมันตายไปแล้ว     แต่ Todua กับ Liklikadze เป็นอาสาสมัครร่วมกับกลุ่มช่วยเหลือสุนัข Animal Friends พวกเขาจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรกับมัน และเมื่อจับตัวน้องหมา ร่างกายของมันยังคงขยับได้เล็กน้อยด้วยลมหายใจที่แผ่วเบา Todua บอกว่า “เราตกใจมาก เพราะอ่อนแอมาก และมีโอกาสตายได้ มันทรมานกับความหิวโหย แถมมีหนอนชอนไชตามลำตัว”     แต่ก่อนอื่น พวกเขาได้อุ้มลูกหมาออกจากถนน ก่อนที่มันจะถูกรถชน จากนั้นก็พยายามมองหาแม่ของมัน เพราะน้องหมายังเด็กเกินจะอยู่ลำพังได้ แต่หลังจากที่ได้สอบถามชาวบ้านแถวนั้น พวกเขาได้รู้เรื่องราวที่น่าเศร้าของน้องหมาตัวนี้ ชาวบ้านบอกว่าแม่ของลูกหมาตัวนี้ถูกรถชนตาย ส่วนพี่น้องของมันตัวอื่นๆ ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันไปอยู่ที่ไหน หรือเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน     จากนั้น สองสาวก็พาลูกหมากลับบ้านด้วย และเริ่มรักษามัน ทั้งภาวะขาดสารอาหาร ปรสิต และพยายามทำให้มันกินอาหาร ตอนนั้น น้องหมาชั่งน้ำหนักได้ไม่ถึง 1 กิโลกรัมด้วยซ้ำ…

ในวันที่อากาศร้อนระอุ มีสุนัขพิตบูลล์ผู้น่าสงสารตัวหนึ่งถูกไว้กับป้ายข้างทางใน Folly Beach รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนตั้งใจมาทิ้งน้องหมาไว้ที่นั่น เพราะมีโน๊ตสั้นๆ จากเจ้าของติดอยู่บนป้ายว่า “สวัสดี ผมชื่อ Zanny เจ้าของไม่สามารถดูแลผมได้อีกต่อไป ผมเฟรนลี่มากๆ ผมไม่กัด และผมแค่ต้องการบ้านเท่านั้น”     ต่อมาเมื่อ Tanya Niketas กับลูกชาย Phin สังเกตเห็นพิตบูลล์สีขาวดำระหว่างทางไปที่จะไปพักผ่อนที่ทะเล แผนการทุกอย่างของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที Niketas รู้ว่าน้องหมาไม่มีที่พึ่ง มันถูกทิ้งให้หิว และมันต้องการใช้สักคนที่จะช่วยมันให้ปลอดภัย ดังนั้น คุณแม่จึงติดต่อหน่วยงาน Pet Helpers เพื่อขอความช่วยเหลือ     Niketas บอกว่า “มันไม่มีน้ำ มีแค่ม้วนสกอตช์เทปที่พวกเขาใช้ติดป้าย ‘มันต้องการบ้านใหม่’ เท่านั้น” และขณะที่รอเจ้าหน้าที่มา แม่ลูกก็ต้องเซอร์ไพรส์กับความน่ารักของเจ้าหมา เธอบอกว่า “มันเป็นสุนัขที่สวยงาม ดูดี และน่ารักมากๆ มันอ่อนโยนกับ Phin มันนั่งรอกับเราเหมือนเด็กดีตัวหนึ่ง และฟันมันก็ขาวมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”     แม้ว่าโน๊ตใบนั้นจะแนะนำว่าเจ้าหมาชื่อ Zanny แต่เจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือได้ตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Folly และจากการตรวจสุขภาพพบว่านอกจากการผื่นบนท้องแล้ว สุขภาพของมันดีมาก ไม่มีใครรู้ว่าน้องหมาถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางความร้อนนั้นนานเท่าไหร่ แต่โชคดีที่ Niketas ไปเจอมันก่อน…

สุนัขที่ไม่เป็นที่ต้องการของเจ้าของแล้ว มักจะถูกกำจัดด้วยวิธีที่ต่างๆ เช่น นำไปปล่อยทิ้งในป่า ทิ้งในศูนย์พักพิง ส่ง การุณยฆาต รวมทั้งหาวิธีฆ่ามันเอง เช่นเดียวกับสุนัขตัวนี้ มันถูกพบบนรางรถไฟ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าใครบางคนตั้งใจฆ่ามัน เพราะมันถูกมัดไว้กับราง และไม่สามารถหนีไปไหนได้     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Jared Twedell กำลังขับรถไปยังศูนย์รีไซเคิลในท้องถิ่น แต่แล้วระหว่างทางเขาก็เห็นมีบางอย่างอยู่บนทางรถไฟ ตอนแรก Twedell คิดว่ามีกวางมานอนเล่นอยู่ตรงนั้น เขาจึงขับรถเข้าไปใกล้ เพื่อไล่ให้มันออกไปที่อันตรายแบบนี้ แต่พอเลื่อนกระจก จึงได้พบว่ามันคือสุนัข     การเจอหมาในที่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้น เขาสังเกตเห็นว่า เจ้าหมามีเชือกคล้องคอที่ผูกติดกับรางรถไฟด้วย มันพยายามจะหนีจากตรงนั้นหลายครั้ง แต่เชือกก็ดึงมันกลับไปทุกครั้ง ทางรถไฟที่เจ้าหมาถูกผูกไว้นั้น มีรถไฟผ่านอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งทุกวัน และ Twedell ไม่รู้ว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่กว่ารถไฟจะมา แต่เขารู้ต้องพาสุนัขตัวนี้ออกมาให้ได้ก่อนจะถึงเวลานั้น แต่เจ้าหมากำลังอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด จน Twedell ไม่แน่ใจว่ามันจะยอมให้เข้าใกล้หรือไม่ แต่เขาก็พยายามเสี่ยงดู     เขาตบเข่าตัวเองแล้วพูดกับเจ้าหมาว่า ‘เฮ้ เพื่อน’ ปรากฏว่าเจ้าหมาเริ่มส่ายหางหลังจากได้ยินแบบนั้น นั่นเป็นตอนที่ Twedell รู้ว่าสุนัขยินดีที่จะให้เขาเข้าใกล้ ความกังวลต่อมาคือ จะทำอย่างที่จะปลดเชือกของเจ้าหมาออกได้…

เมื่อปี 2016 มีคนสังเกตเห็นเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่มีสภาพจิตไม่ปกติ เขาขังสุนัขพันธุ์เกรทไพรีนีสของพวกเขาไว้ในยุ้งฉางตลอดเวลา พลเมืองดีคนหนึ่งรู้สึกกังวลกับสุขภาพของเจ้าหมา ดังนั้นเขาจึงขอความช่วยเหลือจากคู่รักช่างตัดขน เพราะพวกเขารู้วิธีช่วยหมาตัวนั้น     เมื่อคู่รักช่างตัดขนมาถึงยุ้งฉาง พวกเขาก็ต้องตกใจกับสภาพความเป็นของน้องหมา เพราะที่นั่นสกปรกมาก แต่สุนัขเองก็ดูอาการค่อนข้างแย่ด้วย ที่น่าตกใจที่สุดคือ ร่างกายของเจ้าหมาปกคลุมด้วยขนที่หนาและหนักมาก จนมันแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ได้ Big Fluffy Dog Rescue กลุ่มที่รับสุนัขตัวนี้มาดูแล ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหมาในเพจเฟซบุ๊กว่า “คุณต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าสถานที่ที่สุนัขตัวนี้อาศัยอยู่สกปรกแค่ไหน และไม่มีคำพูดไหนที่จะบรรยายถึงสิ่งนั้นได้ด้วย เจ้าของของมันทำแค่โยนน้ำและอาหารให้ มันต้องนั่งคลุกอยู่กับฉี่และอึของตัวเอง ถึงขนาดที่ว่า คนที่เข้าไปช่วยเหลือต้องตักก้อนอึของมัน ถึงจะพามันออกมาได้ในที่สุด และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เจ้าหมาได้สัมผัสหญ้าภายใต้ท้องฟ้าที่สดใส…”     หลังจากนั้น คู่รักช่างตัดขนก็เริ่มโกนขนให้น้องหมา ตอนแรกสุนัขดูกระวนกระวายเล็กน้อยเมื่อเห็นกรรไกร แต่ต่อมา มันก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย เพราะดูเหมือนมันจะเข้าใจว่าช่างตัดขนต้องการช่วยมัน Jessica Kincheloe หนึ่งในช่างตัดขนบอกว่า “แม้มันจะผ่านสิ่งที่เลวร้ายมา แต่มันก็ยังเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างมาก มันรู้สึกเมื่อถูกมนุษย์สัมผัส แต่ดูเหมือนมันจะไม่คุ้นเคยกับการกระทำแบบนั้นสักเท่าไหร่ มันดูอุ่นใจขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ หลังจากที่เราเอาขนมให้มัน”     เมื่อตัดขนเสร็จ พวกเขาก็พาเจ้าหมาไปยังบ้านใหม่ที่ Big Fluffy Dog…

หลายคนคงจะคุ้นชื่อและรู้จัก Aljaleel เป็นอย่างดี เขาคือผู้คอยช่วยเหลือแมวนับร้อยที่ถูกทิ้งในเมือง Aleppo ของซีเรีย หลังเกิดสงคราม จนได้ชื่อว่า ‘พ่อพระของแมว’ อ่านข่าวเก่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ http://www.catdumb.com/cat-man-of-aleppo-777/ ล่าสุด เขาได้พบกับแม่หมาจรจัดตัวหนึ่ง และตัดสินช่วยมันพร้อมลูกๆ ทั้งครอก…     Mohammad Alaa Jaleel หรือที่รู้จักในชื่อ Aljaleel หรือ พ่อพระแมวแห่ง  Aleppo เขาเริ่มให้การช่วยเหลือแมวที่ถูกทิ้งในซีเรียตั้งแต่ปี 2012     Aljaleel ให้การช่วยเหลือและดูแลแมวนับพันตัว . .   กระทั่งปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Aljaleel ได้เจอกับแม่หมาที่กำลังซ่อนลูกน้อยไว้ 15 ตัวในพุ่มไม้ เขาคิดว่าแม่หมาและลูกๆ ถูกใครบางคนนำมาทิ้งไว้ที่นั่น      Aljaleel ตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันทั้งครอบครัว   แต่ตอนนั้น ในสถานพักพิงของเขาไม่มีที่สำหรับสุนัข เขาจึงได้สร้างที่สำหรับพวกมันอย่างเร่งด่วน ระหว่างนั้น Aljaleel ไปหาแม่หมากับลูกๆ ทุกวัน พร้อมเอาอาหารไปให้ด้วย     หลังจากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ลูกหมาก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้นด้วย นับว่าเป็นความโชคดีของแม่หมาที่ได้พบกับคนใจดีอย่าง Aljaleel  …

เมื่อไม่กี่วันนี้ สมาชิก Imgur ที่ใช้ชื่อว่า  ilikeduckies และโพสต์เรื่องราวที่ทำให้หลายคนประทับใจและอบอุ่นหัวใจ เมื่อเธอกับแฟนหนุ่มไปเจอสุนัขถูกทิ้งตัวหนึ่ง ตอนแรก หญิงสาวกับแฟนหนุ่มตั้งใจจะไปตกปลาเล่นกัน แต่แล้วพวกเขาก็เห็นสุนัขตัวหนึ่ง ทั้งๆ ที่ในบริเวณนั้นไม่มีคนอาศัยอยู่เลย ทั้งคู่จึงมั่นใจว่าเจ้าหมาตัวนีี้ต้องถูกใครบางคนทิ้งแน่ๆ     พวกเขาทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยเจ้าหมาไว้แบบนี้เพียงลำพัง ทั้งคู่จึงพยายามจะช่วยมัน แต่การจะเข้าใกล้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หญิงสาวกับแฟนหนุ่มต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ในการโยนอาหารให้มัน เพื่อให้มันร้สึกไว้วางใจ… แม้เจ้าหมาจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น แต่มันก็ยังดูหวาดกลัวอยู่มาก     เมื่อเจ้าหมาเข้ามาใกล้ในระดับหนึ่ง หญิงสาวจึงนั่งลงตรงหน้ามัน และยื่นมือออกไป แต่เธอพยายามไม่สบตามัน เพราะทุกครั้งที่มองตา เจ้าหมาจะรู้สึกหงุดหงิด ขณะเดียวกัน เจ้าหมาก็ขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ สลับกับเห่า คือ เห่าแล้วขยับมาใกล้ เห่าแล้วขยับเข้ามาใกล้ขึ้น แต่น่าเสียดาย หญิงสาวดันเป็นตะคริวซะก่อน เธอจึงเปลี่ยนท่านั่ง แต่นั่นทำให้เจ้าหมารู้สึกหวาดกลัวอีกครั้ง     หญิงสาวจึงตัดสินใจลุกขึ้นและเดินไปที่รถ จากนั้นเธอก็ตบขาตัวเอง และเรียกให้มันมาหา ‘มา’ เธอเรียกหมา ปรากฏว่า เจ้าหมาเดินตาม และตราบใดที่เธอไม่หันหลังมองกลับไป มันก็จะเดินตามมาเรื่อยๆ ในที่สุด มันก็เดินตามมาถึงรถของหญิงสาว ตอนแรก เธอให้มันขึ้นไปนั่งในช่องเก็บของ…

ปกติแล้ว หมากับแมวจะไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นพวกมันอยู่ด้วยกันอย่างปรองดอง หรือช่วยเหลือกันในสถานการณ์ที่คับขัน ล่าสุด ในเซาท์แคโรไลนา มีคนไปเจอสุนัขถูกทิ้งในพุ่มไม้ และก็ต้องทึ่งเมื่อเห็นว่ามันไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มันดูแลลูกแมวตัวหนึ่งด้วย     คนที่ไปเจอน้องหมากับเจ้าเหมียวจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่จาก Anderson Animal Control โดยมี Michelle Smith เป็นคนรับเรื่อง และได้ไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวในเวลาต่อมา เมื่อไปถึง เธอเห็นสุนัขอยู่ใกล้กับลำห้วย และเห็นว่ามีลูกแมวอยู่กับมันด้วย ทั้งสองตัวไม่มีปลอกคอ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกทิ้งมา และได้มาเจอกันในภายหลัง Smith คิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับสุนัข ในการขึ้นลงเนินเล็กๆ นี้ แต่สำหรับลูกแมวแล้ว มันคงขึ้นมาเองไม่ได้แน่นอน     ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า การที่สุนัขไปอยู่ตรงนั้นและไม่ยอมขึ้นมาข้างบน คงเป็นเพราะมันเป็นห่วงลูกแมว และอยากช่วยเหลือมัน แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์คนละสายพันธุ์ก็ตาม Smith ได้ไปอุ้มสัตว์ทั้งสองตัว และพาพวกมันไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ อาสาสมัครของศูนย์จำเป็นต้องแยกพวกมันออกจากกัน เพื่อที่จะอาบน้ำให้และตรวจสุขภาพ     แต่เจ้าหมาไม่ยอมอยู่ห่างจากแมวน้อยเลย ตรงกันข้าม มันอยากอาบน้ำให้ลูกแมว และอยากดูแลมันด้วยตัวเองทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหมาเป็นคนเลี้ยงดูลูกแมว ดังนั้น อาสาสมัครจึงลงความเห็นว่าทางทีที่ดีที่สุด ควรปล่อยให้พวกมันได้อยู่ด้วยกัน เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหมาจะคิดว่าตัวเองเป็นแม่ของแมวน้อยไปแล้ว ที่น่าแปลกคือ…

สุนัขที่มีปัญหาสุขภาพ หรือสุนัขแก่ มักจะถูกละเลยจากผู้คน เพราะคนส่วนใหญ่ต่างต้องการหมาที่มีสุขภาพดี เลี้ยงง่าย และไม่สร้างความลำบากให้ ด้วยเหตุนี้ Nicola Coyle หญิงสาวจาก Mansfield จึงได้จัดตั้งโรงพยาบาลที่ให้การดูแลสุนัขที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง 6 เดือน     นอกจากดูแลทางการแพทย์แล้ว เธอยังให้พวกมันได้กินอาหารดีๆ และพาไปเที่ยวที่ต่างๆ เพื่อให้พวกมันมีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต การทำงานของ Nicola อยู่ภายใต้โครงการ Grey Muzzle Canine Hospice Project ซึ่งเธอพยายามดูแลสุนัขป่วยที่ไม่มีบ้านอย่างดีที่สุด     เธอบอกว่า “มันอาจจะเป็นงานที่ทำให้เราต้องเผชิญกับความเสียใจในตอนท้าย แต่ฉันทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้พวกมันจากโลกนี้ทั้งที่ยังไม่รับความรักและความสุขที่พวกมันสมควรได้รับ” เธอบอกอีกว่า “ถ้าพวกมันมีสุขภาพที่ดีพอ เราจะไปมันไปเที่ยวริมทะเล ให้พวกมันจับปลาเล่น และกินมันฝรั่งทอดกับไอศกรีมที่ชายหาดด้วย”     สุนัขบางตัวถูกใช้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ บางตัวเป็นหมาเฝ้ายาม ดังนั้น เมื่อพวกมันสุขภาพแย่ลง พวกมันก็จะถูกทิ้งทันที เพราะไม่มีประโยชน์ หญิงสาวใช้เงินตัวเองในการดูแลสุนัขป่วยเหล่านี้ และมีบางส่วนที่ได้จากการบริจาคเข้ามา เมื่อถึงเวลาที่สุนัขตาย เธอจะฝังมันไว้ที่สวนหลังบ้านของเธอ     สุนัขแต่ละตัวมาจากต่างที่ ต่างครอบครัว ดังนั้น Nicola จึงไม่รู้วันเกิดของพวกมัน เธอเลยจัดปาร์ตี้วันเกิดให้ทุกตัวพร้อมๆ…

ทันทีที่คุณพาสุนัขเข้าไปอยู่ในบ้าน มันจะคิดว่าคุณคือครอบครัวของมัน มันจึงมอบความรักให้หมดทั้งใจ และจะซื่อสัตย์กับคุณไปตลอดชีวิต แต่น่าเศร้าที่มนุษย์หลายๆ คนไม่ได้คิดเหมือนกับที่น้องหมาคิด… เพราะแบบนี้จึงทำให้สุนัขตัวหนึ่งถูกทิ้งอยู่ในบ้าน หลังจากเจ้าของย้ายออกไป หลังจากที่ครอบครัวถูกไล่ออกจากอพาร์ตเมนต์ ผู้จัดการของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากข้างใน เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีสุนัขถูกมัดติดกับอ่างล้างมือในห้องน้ำ ด้วยสภาพที่น่าสงสารสุดๆ     ก่อนที่จะมีคนมาเจอ เจ้าหมาต้องอยู่ลำพังอย่างทุกข์ทรมานจากเชือกที่ผูกมันไว้เป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์แล้ว ในห้องนั้นไม่มีอะไรนอกจากชามที่มีรำลูกเกดนิดหน่อย ผู้จัดการที่พักต้องการช่วยเหลือน้องหมาตัวนั้น (ต่อมามันถูกตั้งชื่อว่า Autumn) เธอจึงโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อขอให้ใครสักคนพามันไปอยู่ด้วย     โชคดีที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Kate’s Rescue for Animals ได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้และยินดีที่จะเข้าไปช่วยเหลือ Autumn ทันที หลังจากไปรับมันมาแล้ว อาสาสมัครก็พาเจ้าหมาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ Monte Vista Small Animal Hospital โดยมีเจ้าหน้าที่รอมันอยู่ที่นั่นแล้วอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อมาถึง พวกเขาได้ตัดปลอกคอให้ Autumn อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ตรวจสอบแผลเพื่อประเมินอาการ ในที่สุด พวกเขาเห็นตรงกันต้องผ่าตัด เพื่อช่วยชีวิตมัน     ตามที่ได้รับแจ้งคือ ครอบครัวทิ้งมันไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่จากการตรวจสอบบาดแผล คุณหมอคาดว่ามันน่าจะถูกมัดไว้นานกว่านั้น…

สุนัขบางตัวเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์เพียงไม่กี่วัน มันก็ได้บ้านใหม่แล้ว ในขณะที่บางตัวเข้าไปอยู่ในนั้นแล้ว ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองเลย สำหรับเจ้าหมา Jessica มันถูกส่งไปอยู่ในศูนย์พักพิงครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่มีคนมารับเลี้ยงมัน ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ มันเลยถูกส่งกลับมา     Jessica อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง Second Change Rescue มานานถึง 4 ปีแล้ว และอาสาสมัครของที่นี่คิดว่าคงเป็นเพราะมันโชคร้าย พวกเขาอยากเห็นมันไปอยู่ในบ้านที่ดี แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย… ก่อนที่เจ้าหมาจะเข้ามาอยู่ที่นี่ มันก็ถูกทิ้งไว้ในศูนย์พักพิงที่นิวยอร์ก มันเคยคลอดลูกเมื่อไม่นานนี้ แต่ไม่มีใครเห็นลูกๆ ของมันเลย     Jessica ป่วยเป็นโรคเรื้อนขั้นรุนแรง มีแผลติดเชื้อ และมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย ทาง Second Change Rescue จึงรับมันมาอยู่ด้วย และเริ่มรักษาโรคต่างๆ ให้มัน ต่อมามีคู่รักคู่หนึ่งรับเลี้ยงมัน แต่ผ่านไปแค่ 5 เดือน พวกเขาก็พามันกลับมา ผู้ดูแลทุกคนรู้สึกเศร้ามาก และผู้ที่เศร้ายิ่งกว่าก็คือตัว Jessica เอง     ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหมาก็ถูกรับเลี้ยงอีกครั้งโดยครอบครัวใหม่ แต่แล้วมันก็ถูกส่งกลับมาอีก เพราะครอบครัวนั้นกำลังจะมีลูกน้อย เลยกลัวว่าหมากับเด็กจะอยู่ด้วยกันไม่ได้…

คนที่เกิดมาพร้อมกับดวงตาที่มองไม่เห็น พวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ แต่หากมีคนที่พร้อมจะมอบความช่วยเหลือและดูแลพวกเขา การใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อาจไม่ได้ยากเกินไป แต่สำหรับเจ้าหมา Nala Rose แล้ว มันถูกเจ้าของขอให้การุณยฆาตตั้งแต่อายุได้ไม่กี่สัปดาห์ เพราะว่ามันมองไม่เห็นและพวกเขาไม่แน่ใจว่ามันจะมีความสุขกับการเป็นหมาตาบอดหรือไม่…     Joan Wiegers อาสาสมัครที่ทำงานกับ St. Louis Senior Dog Project บอกว่า “พ่อแม่ของน้องหมาไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน พวกเขาเลยตัดสินใจให้การุณยฆาตมัน เพราะไม่แน่ใจว่าถ้าฝืนเลี้ยงต่อไป คุณภาพชีวิตของเจ้าหมาจะเป็นอย่างไร” พวกเขายังบอกอีกว่า ไม่มีใครอยากซื้อสุนัขที่ไม่มีตา และพวกเขาเองก็ไม่อยากเก็บน้องหมาไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะพวกเขาจะพาสุนัขไปหาหมอเพื่อการุณยฆาต พวกเขาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือ เผื่อจะมีทางเลือกอื่น     Wiegers จึงบอกกับเจ้าของ Nala ว่า “สุนัขไม่รู้หรอกว่ามันเกิดมาแตกต่างจากหมาทั่วไป… แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทิ้งหมาไว้กับฉัน” ตั้งแต่นั้นมา Wiegers จึงกลายเป็นแม่อุปถัมภ์ให้ Nala และเริ่มดูแลมันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้าหมาโตพอที่จะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ หญิงสาวได้ช่วยหาบ้านให้น้องหมา และไม่น่าเชื่อว่า Nala จะได้พบกับครอบครัวใหม่อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญพวกเขามั่นใจว่าจะรักมันตลอดไป     Jayden Radtke พี่สาวคนใหม่ของ Nala บอกว่า “ตอนที่เรากลับจากซื้ออาหารให้สุนัขของเรา แม่ฉันอุ้ม Nala…

วันหนึ่งขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินกลับบ้านในย่าน West Roxbury ของบอสตัน เธอสังเกตเห็นกระเป๋าเป้สีดำถูกซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผู้คนหนึ่งจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ และตอนนั้นเองที่เธอสังเกตเห็นว่ากระเป๋าเป้ใบนั้นขยับเองได้ เธอจึงรู้ว่ามันไม่ใช่กระเป๋าธรรมดาแน่ๆ แต่ต้องมีบางอย่างอยู่ข้างใน     หญิงสาวจึงเปิดกระเป๋าออก แล้วก็พบว่าสิ่งที่ทำให้กระเป๋าขยับคือเจ้าหมาน้อยพันธุ์ปอมเมอเรเนียน และมันกำลังทำเสียงขู่เธอ คงเป็นเพราะว่ามันตกใจ เธอไม่รู้ว่าเจ้าหมาอยู่ในสภาพนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เธอจึงรีบติดต่อ MSPCA-Angell องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่แสดงหากำไร เพื่อขอความช่วยเหลือ     Rob Halpin ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ MSPCA-Angell บอกว่า “ตอนที่มันถูกพามาที่นี่ มันตัวเย็นมาก อุณหภูมิร่างกายของมันน้อยกว่าปกติถึง 4 องศา เราคิดว่ามันน่าจะอยู่ในกระเป๋าอย่างน้อย 1 คืน หรือนานกว่านั้น” เจ้าหมาไม่มีปลอกคอ เจ้าหน้าที่จึงทำการสแกนไมโครชิปในตัวมัน แต่ก็ไม่มีพบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเจ้าของเลย เพราะข้อมูลไม่ได้รับการอัปเดต     ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อให้น้องหมาว่า Jan ตามชื่อยี่ห้อกระเป๋า JanSport ที่มันถูกขัง แต่ทุกคนก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมน้องถึงถูกทิ้งไว้ในกระเป๋าและปล่อยให้มันตายอยู่ใต้พุ่มไม้ จากการตรวจสุขภาพพบว่า Jan มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ซึ่งเป็นผลมาจากอายุของมัน และสูญเสียการได้ยินเล็กน้อย แต่นอกจากนั้น มันมีสุขภาพที่ดีอย่างน่าทึ่ง     แม้ว่าหมาแก่จะมีโอกาสที่ถูกรับเลี้ยงน้อยกว่าสุุนัขทั่วไป…

เมื่อสุนัขได้เข้าไปอยู่กับครอบครัวมนุษย์ มันจะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้มนุษย์คนนั้นอย่างไม่มีกั๊ก และไม่คิดที่จะหยุดรักด้วย แต่สำหรับมนุษย์บางคนแล้ว สุนัขเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่ให้ความสุขเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อมันไม่สามารถให้ความบันเทิงได้เหมือนเดิม พวกเขาก็ไม่ต้องการมันอีก เช่นเดียวกับ Rocky สุนัขที่ถูกครอบครัวนำไปทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยเหตุผลที่ว่ามัน ‘แก่เกินไป’     ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ก่อนที่ครอบครัวจะจากไป พวกเขาได้ขอให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงการุณยฆาตมัน แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่า Rocky ยังอยากมีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงปฏิเสธที่จะทำตามคำขอนั้น นี่จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับ Rocky มันเป็นสุนัขที่น่ารัก เชื่อฟัง แต่อยู่ดีๆ มันก็ถูกทิ้ง เจ้าหมาเลยเกิดอาการสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้     Kathy Fridley แม่อุปถัมภ์คนใหม่ของเจ้าหมาบอกว่า “Rocky ยังคงนั่งรอครอบครัวกลับมาหาทุกวัน โดยไม่รู้เลยว่าพวกเขาไม่มีวันกลับมาหามันแล้ว” ทางศูนย์พักพิงไม่อาจทนเห็นเจ้าหมานั่งซึมอยู่อย่างนั้นได้อีกต่อไป พวกเขาคิดว่ามันควรได้รับการดูแลที่พิเศษ เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ ดังนั้น พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shenandoah Shepherd Rescue เพื่อขอความช่วยเหลือ     หลังจากนั้นไม่นาน Rocky ก็ถูกย้ายไปอยู่ในการดูแลของ Shenandoah Shepherd Rescue พวกเขาหาบ้านอุปถัมภ์ให้และรักษาโรคต่างๆ ให้มัน พร้อมกับช่วยเยียวสภาพจิตใจ     เจ้าหมามีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์และมันจะรู้สึกกังวลทุกครั้งเมื่ออยู่กับสุนัขตัวอื่น มันมีอดีตที่เลวร้ายของก็จริง…

ลูกหมาบางตัวถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด โอกาสที่พวกมันจะรอดชีวิตจึงแทบจะไม่มี เหมือน Norland พิตบูลล์วัย 1 วัน มันถูกพาไปยังศูนย์พักพิง Cleveland Animal Protective League (APL) ด้วยสภาพที่แย่มาก ทางศูนย์พักพิงต้องรีบให้การช่วยเหลือเจ้าหมาน้อยอย่างเร่งด่วน ก่อนที่มันจะสายเกินไป แม้จะมีความหวังเพียงนิดเดียวก็ตาม     ช่วงเวลานั้นเองที่พวกเขานึกถึง Lolaine แม่แมวที่น่าจะช่วยลูกหมาได้ดี เพราะมันเพิ่งคลอดลูก และตอนนี้มันกำลังทำหน้าที่แม่อยู่ เจ้าหน้าที่ในศูนย์ไม่แน่ใจว่าแม่แมวตัวนี้จะดูแลสัตว์ต่างสายพันธุ์ได้หรือเปล่า แต่พวกเขาก็อยากลองดู เพราะอยากช่วยชีวิต Norland     ว่าแล้ว พวกเขาก็อุ้มลูกหมาไปให้แม่แมว ทันทีที่ได้เจอลูกหมา Lolaine เริ่มดมกลิ่นมัน เลียมัน จนกระทั่งยอมรับมันมาเป็นหนึ่งในลูกของตัวเอง ขณะที่ลูกหมาพิตบูลล์เองก็ดูจะมีความสุขกับการรับความรักจากแม่แมว พวกมันเข้ากันได้ดีโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างเลย “ดูเหมือนกับว่าลูกหมาไม่รู้ว่าแม่เป็นแมว และแม่แมวเองก็ไม่รู้ว่าลูกตัวนี้เป็นหมา” เจ้าหน้าที่ในศูนย์กล่าว     อย่างไรก็ตาม พิตบูลล์น้อยที่กำลังเจริญเติบโตตัวนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลมากกว่าลูกแมวเล็กน้อย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ศูนย์จึงเข้ามาดูแล Norland ในส่วนที่จำเป็น     เจ้าหมาน้อยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จากเจ้าหน้าที่ศูนย์ แต่ถึงอย่างนั้น Lolaine ก็อดห่วงไม่ได้ มันจึงเฝ้าดูมนุษย์ขณะที่ดูแลน้องหมา ราวกับเฝ้าดูลูกตัวเอง     สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้…

เวลาเห็นหมาสวมปลอกคอ มักจะเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าพวกมันมีเจ้าของ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หมาบางตัวที่ใส่ปลอกคออาจจะเป็นแค่หมาที่ ‘เคยมีเจ้าของ’ เท่านั้น เหมือนกับ Viva สุนัขที่ถูกทิ้งบนถนนในลอสแอนเจลิส มันอาศัยอยู่แถวสนามบินบ้าง ที่จอดรถบ้าง และที่อื่นๆ ที่พอจะเป็นที่กำบังให้มันได้     ไม่นานหลังจาก มีคนสังเกตเห็นเจ้าหมาตัวนี้และรู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจึงโทรเรียก  Hope for Paws เพื่อให้มาช่วยเหลือ Lisa Arturo และ JoAnn Wiltz จาก Hope for Paws จึงขับรถไปยังสนามบินเพื่อไปหา Viva แล้วก็พบมันอยู่ในดงหญ้า แต่มันกลัวทุกคนที่เข้ามาใกล้ พวกเขาจึงต้องพยายามเข้าใกล้มันอย่างช้าๆ เพื่อทำให้มันไว้ใจ…     แต่เจ้าหมาดูจะกลัวมาก มันจึงวิ่งหนีไปทางอื่นทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้ามาใกล้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เองไม่ต้องการให้มันได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงรักษาระยะห่างกับเจ้าหมา และใช้กับดักแทน     ในที่สุด Viva ก็เดินเข้าหากับดักที่เป็นกรง แต่ยังไม่ทันเข้าไปข้างใน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทำให้มันตกใจ มันเลยวิ่งหนีไปอีกครั้ง     เจ้าหน้าที่จึงต้องเอากับดักไปวางไว้ที่อื่น และแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจไปวางไว้ที่จอดรถ เพราะพนักงานที่ทำงานในนั้นบอกว่า Viva ชอบซ่อนตัวอยู่แถวนี้ และมันเข้าออกที่นี่เป็นประจำ  …

หลังจากที่อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์เป็นเวลา 420 วัน ในที่สุดสุนัขพันธุ์สแตฟเฟอร์ดไชร์ที่ชื่อ Mona ก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ น่าเสียดาย นั่นไม่ใช่บ้านหลังสุดท้ายของมัน เพราะวันรุ่งขึ้น ครอบครัวนั้นได้ส่ง Mona กลับมาไว้ในศูนย์พักพิง โดยให้เหตุผลว่าสุนัขตัวอื่นๆ ของพวกเขาไม่ชอบมัน     หนึ่งวันหลังจากนั้น เจ้าหมาก็ถูกรับเลี้ยงอีกครั้ง แล้วก็ถูกส่งกลับมาอีกครั้งในวันถัดมา ครั้งนี้พวกเขาอ้างว่าลูกสาวคนเล็กไม่ถูกกับ Mona Brenda Arceo ผู้จัดการของ The Animal Foundation บอกว่า “มันถูกส่งกลับมาทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของมัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่นิดหน่อย”     เธอบอกอีกว่า “ครั้งแรกที่เราเห็นมัน มันมีความสุขมากๆ และส่ายหางด้วยความดีใจ แต่หลังจากที่ถูกรับเลี้ยงและถูกส่งกลับมาที่เดิม มันดูเศร้ามากๆ” ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ครอบครัวเดิมของ Mona จำเป็นต้องทิ้งมันตั้งแต่ตอนมันอายุ 5 ขวบ เนืื่องจากพวกเขาต้องย้ายบ้านและไม่สามารถพามันไปด้วยได้     ตั้งแต่นั้นมา Mona ก็ได้มาอยู่ในศูนย์พักพิงและกลายเป็นสุนัขตัวโปรดของพนักงานทุกคน พวกเขามั่นใจว่ามันจะต้องได้บ้านใหม่ในไม่ช้าแน่ๆ Arceo บอกว่า “แรกๆ ที่เจอกัน มันจะอายนิดหน่อย แต่เมื่อได้ทำความรู้จักกับมันแล้ว มันจะอยู่รอบๆ…

เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่จาก Providence Animal Center ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขนอนอยู่ในสวนสาธารณะที่เพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนว่ามันจะมีปัญหาในการหายใจ เมื่อเจ้าหน้าที่ Ron ไปถึง เขาตกใจมากกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันคือสุนัขขนาดที่แทบจะไม่มีเนื้อเลย นอกจากหนังหุ้มกระดูก     Ron จึงพาสุนัขผู้น่าสงสารนี้กลับไปยังศูนย์  Providence Animal Center และมุ่งหน้าไปหาทีมแพทย์พร้อมพูดกับพวกเขาว่า “ผมต้องการให้คุณช่วยชีวิตหมาตัวนี้” ต่อมาเจ้าหน้าที่ในศูนย์ได้ตั้งชื่อหมาตัวนั้นว่า Sly แต่มันยังคงอยู่ในสภาพที่แย่มาก มันมีน้ำหนักแค่ 22 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำหนักที่ควรจะเป็น     ทีมสัตวแพทย์สังเกตเห็นว่าที่ท้องของ Sly มีรอยโกนขน นั่นหมายความว่ามันเคยไปหาหมอก่อนหน้านี้ คุณหมอจึงได้ทำการเอกซ์เรย์ แล้วก็พบว่า มีเชือกของเล่นติดอยู่ในลำไส้ของมัน นั่นทำให้เจ้าหมาถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที เพื่อผ่าเอาเชือกออก… การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี และลูกเหมือนมันจะมีสุขภาพดี แต่คงต้องใช้เวลานานในฟื้นตัว   ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้พยายามตามหาสถานที่ที่ Sly เข้ารับการรักษาก่อนหน้านี้ เพื่อที่สาวไปถึงคนที่ทอดทิ้งมัน หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน ในวันรุ่งขึ้น Sly ก็สามารถกินอาหารได้เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะเนื้อกับลูกชิ้น แถมยังเริ่มส่ายหางให้เห็นด้วย     คืนนั้นเจ้าหมาถูกพาไปยังบ้านของ Dr. Gia Croce ซึ่งเป็นหนึ่งในแพทย์ที่ช่วยชีวิตมัน เขาช่วยให้ Sly…

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Shannon Ackerman ผู้ช่วยเหลือสุนัขจากองค์กรอิสระได้เข้าปั๊มน้ำมัน Texaco ในเมือง Missouri City รัฐเท็กซัส เพื่อเติมน้ำมัน ตอนนั้นเธอเพิ่งช่วยชีวิตสุนัขฮัสกี้และลูกๆ ของมันอีก 2 ตัว ที่ติดอยู่ในท่อระบายน้ำ และเธออยู่ระหว่างทางพาพวกมันกลับบ้านด้วย     แต่เมื่อ Ackerman ก้าวลงมาจากรถ เธอก็เห็นบางอย่างที่ทำให้ประหลาดใจมาก หญิงสาวบอกว่า “ทันทีที่ฉันเติมน้ำมัน ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังเลียขาฉันจากด้านหลัง มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อย”  “เมื่อฉันมองลงไป ปรากฏว่ามันคือสุนัขเยอรมันเชปเพิร์ดที่ดูน่ารักและเศร้าในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนมันจะเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน มันมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่เหมือนจะบอกว่า ‘ช่วยฉันหน่อยได้มั้ย?’” แม้ว่าตอนนี้ในมือของ Ackerman จะเต็มไปด้วยฮัสกี้และลูกๆ ของมัน แต่ก็พยายามจะตามว่าสุนัขเยอรมันเชปเพิร์ดตัวนี้มาจากไหน     หญิงสาวตะโกนตามคนที่ทำงานอยู่ในปั๊มน้ำมัน ว่าสุนัขตัวนี้เป็นของใครหรือเปล่า? มีใครในพวกคุณทิ้งหมาตัวนี้หรือเปล่า? แต่คำถามของเธอไม่ได้รับคำตอบเลย เมื่อเป็นแบบนี้เธอจึงไปถามเจ้าของปั๊มน้ำมัน จนได้คำตอบว่ามีคนมาทิ้งน้องหมาไว้ที่นี่ พวกเขาพยายามหยุดคนนั้นแล้ว แต่ตามไม่ทัน ขณะเดียวกัน น้องหมาเยอรมันเชปเพิร์ดที่ตอนนี้มีชื่อว่า Mercy มันกำลังร้องไห้สะอื้นและพยายามเข้าไปในรถของ Ackerman     น่าเสียดายที่หญิงสาวไม่สามารถพามันไปด้วยได้ เพราะมีฮัสกี้และลูกๆ ของมันอยู่ในรถแล้ว เธอบอกว่า “สถานการณ์นี้ทำให้ฉันปวดใจมาก” แน่นอนว่าหญิงสาวไม่สามารถออกจากตรงนั้นได้ หาก Mercy ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เธอตัดสินใจขับรถกลับไปที่ที่ช่วยฮัสกี้และลูกๆ…

สุนัขมากมายได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น ไม่ต้องกังวลเรื่องที่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร เพราะทุกอย่างมีมนุษย์คอยเติมเต็มให้อยู่แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่น้องหมา Salami และ Pastrami ควรจะได้รับเช่นกัน… แต่พวกมันถูกทิ้งบนถนนในลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และไปพักอยู่ในสถานที่รีไซเคิล     พวกมันอยู่ที่นั่นมาประมาณ 3 เดือนแล้ว จนพนักงานที่นั่นตัดสินใจนำกระดาษลังมาสร้างเป็นบ้านชั่วคราวให้ทั้งสองตัว อย่างไรก็ตาม พนักงานเหล่านั้นอดเป็นห่วงพวกมันไม่ได้ เพราะการอาศัยอยู่ข้างถนนคงไม่ปลอดภัยสำหรับสุนัข ในที่สุด พวกเขาจึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Hope for Paws หลังจากที่ Hope for Paws ได้รับแจ้งเกี่ยวกับ Salami และ Pastrami พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที เพื่อพาทั้งสองตัวออกมา     เมื่อไปถึง พวกเขาเห็นสุนัขทั้งสองตัววิ่งผ่านลานจอดรถ จากนั้น Pastrami ก็วิ่งออกห่างจากพวกเขา แต่  Salami กลับวิ่งเข้าหาผู้ช่วยเหลือ Lisa Arturo กับ Clay Greenbush หวังจะกินอาหารและได้รับความรักจากพวกเขา     แม้ว่า Salami จะไว้ใจเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรกเห็นและกระตือรืนร้นที่จะไปกับพวกเขา แต่เจ้าหน้าที่ไม่คล้องเชือก  Salami ทันที เพราะกลัวว่าอีกตัวจะหนีไป เพราะมันดูกลัวผู้คนมาก…

การถูกทิ้งมักจะทำให้ผู้ถูกทิ้งเจ็บปวดเสมอ และความเจ็บปวดนี้อาจกลายเป็นปมที่ทำให้พวกเขาไม่ไว้ใจใครและไม่อยากสานสัมพันธ์กับใครอีก เหมือนกับเจ้าหมา Tweedy ที่ถูกทิ้งบนถนนในลอสแอนเจลิส ตั้งแต่นั้นมามันก็ไปอาศัยอยู่แถวๆ รางรถไฟ จนกระทั่งมีคนสังเกตเห็นมันและติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Hope for Paws คือหน่วยงานที่ได้รับการติดต่อเข้ามา พวกเขาจึงรีบลงพื้นที่ไปช่วยเหลือเจ้าหมาที่ถูกทอดทิ้งทันที     แน่นอนว่ารางรถไฟเป็นที่ที่อันตรายสำหรับสัตว์ ดังนั้นกลุ่มช่วยเหลือจึงต้องการพา Tweedy ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด แต่พอลงมือจริงๆ จึงได้รู้ว่าภารกิจนี้ยากกว่าที่คิดไว้มาก ทันทีที่ Tweedy เห็น JoAnn Wiltz และ Lisa Arturo ผู้ช่วยเหลือจาก Hope for Paws เดินเข้ามาใกล้ มันก็เริ่มถอยห่างจากพวกเขา     เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมามีความประสบการณ์ที่ไม่ดีกับมนุษย์มาก่อน มันเลยรู้สึกกังวลอย่างมากในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงที่กำลังจะช่วยมัน พวกเขาพยายามโยนให้อาหารไปให้เจ้าหมาเพื่อหลอกล่อ แต่มันดูไม่สนใจเลยสักนิด แถมยังไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้เหมือนเดิม     ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผู้ช่วยเหลือจะเข้าใกล้ Tweedy จะปฏิเสธทุกครั้ง แต่ในที่สุด Wiltz ก็สามารถใช้เชือกคล้องคอของมันได้ ทันทีที่มีเชือกมาคล้องคอ Tweedy ดูตกใจมาก เพราะมันคิดว่ามนุษย์คนนี้จะทำร้ายมันแทนที่จะช่วย มันเลยพยายามจะวิ่งหนี     ขณะที่ผู้ช่วยเหลือพยายามพาเจ้าหมาไปขึ้นรถ พวกเขาก็สังเกตเห็นบ้านที่เจ้าหมาอยู่ พร้อมกับถ้วยอาหารและน้ำ นั่นหมายความว่ามีใครบางคนดูแลมันอยู่ ไม่มีใครรู้ว่า Tweedy ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนรางรถไฟแห่งนี้มานานแค่ไหนแล้ว…

สัตว์เลี้ยงที่มีความบกพร่องทางร่างกายมักจะถูกละเลยจากผู้คน หรือแม้จะถูกรับเลี้ยงก็อยู่ได้ไม่นาน พวกมันก็จะถูกนำมาคืน เพราะมนุษย์ไม่สามารถทนเลี้ยงได้ เหมือนกับชีวิตของ Ivor สุนัขหูหนวกที่ถูกครอบครัวทิ้งถึง 5 ครั้ง เพียงเพราะความพิการของมัน… ก่อนจะได้พบกับ RSPCA (Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals)     การถูกทิ้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้น้องหมาไม่ไว้ใจมนุษย์ แต่เจ้าหน้าที่ RSPCA Centre ทำให้มันสัมผัสถึงความรักและให้ความสนใจกับมัน จน Ivor กลับมาเชื่อในมนุษย์อีกครั้ง แถมยังเผยความน่ารักให้เห็นด้วย ต่อมาในเดือนธันวาคม Ivor ได้พบกับบ้านที่แสนอบอุ่น พร้อมด้วย Ellie Bromilow หญิงสาวที่ตกหลุมรักมัน แม้จะรู้มันหูหนวกก็ตาม     หญิงสาวบอกว่า “มันได้เรียนรู้ที่จะทำตามคำสั่ง เช่น นั่ง มา จากเจ้าหน้าที่ RSPCA แต่มันรู้มากกว่านั้น เช่น นอนลง นิ่ง หมดแล้ว และหมุนตัว” แม้ Ivor จะหูหนวก แต่มันดูเหมือนสุนัขที่ได้ยินเสียงทั่วไป ทุกคนจะพูดกับมันพร้อมทำท่าไปด้วย และพยายามคุยกับมันบ่อยๆ…

สัตว์เป็นเพื่อนร่วมโลกของมนุษย์ พวกมันมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต มีสิทธิ์ที่จะได้รับความรัก แต่บางครั้งโลกไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังเสมอไป อย่างในกรณีของน้องหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ที่ถูกมนุษย์จับตัวไป ก่อนจะถูกโยนลงจากรถขณะที่รถวิ่ง…     มื่อวันที่ 31 มกราคม ปี 2018 มีรายงานว่าพลเมืองดี  Jamie-Lee Hersey เห็นสุนัขตัวหนึ่งถูกโยนลงมาจากรถ เธอจึงจอดและพาน้องหมาออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย จนกระทั่งกรมควบคุมสัตว์มาถึง ตอนนั้น Jaime-Lee ไม่รู้ว่า Theron Miller เจ้าของของน้องหมากำลังตามหามันอยู่…     ตาม CBS Boston รายงานว่า Theron เป็นคนขับรถบรรทุก เขาชอบพาเจ้าหมา Tedge วัย 18 เดือน เดินทางไปด้วยทุกที่ จนเมื่อปลายเดือนมกราคม Theron ปล่อยให้ Tedge ออกไปวิ่งเล่นตามปกติ ขณะที่เขากำลังทำการจัดส่งของให้ลูกค้า     หลังจากส่งของเสร็จ เขาพบว่า Tedge ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาตะโกนเรียกมันแต่ไม่มีเสียงตอบ เลยตัดสินใจนั่งรอให้มันกลับมา ในคืนเดียวกันนั้น Jaime-Lee เห็นสุนัขถูกทิ้งบนถนน มันเลือดออกและทรมานมาก เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงพา Tedge ไปหาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน     เนื่องจากขาของน้องหมาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง…

ทุกชีวิตต้องการความรัก การดูแลการเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ต้องการให้มีใครอยู่เคียงข้าง และไม่ทิ้งกันในวันที่ลำบาก เรื่องราวต่อไปนี้ถูกเผยแพร่จากผู้ใช้งานเว็บ Imgur ที่ใช้ชื่อว่า BittersweetSymphony บอกเล่าเรื่องราวของเธอกับเจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ที่ชื่อว่า เจ้า Luna เจ้าของเรื่องราวเล่าว่าเขาได้ไปเจอเจ้า Luna ที่ข้างถนน เมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว ตอนนั้นมันดูผอมมากๆ ไม่มีสง่าราศีเหมือนกับหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ทั่วไปและยังขนร่วงทั้งตัวจากอาการของโรคเรื้อน   เจ้า Luna เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา   เขาบอกว่า “เดิมทีแล้วผมเลี้ยงหมาไว้ 7 ตัว และ 5 ตัวถูกช่วยมาจากข้างถนน แต่ตอนนี้มีมากถึง 25 ตัวแล้ว” ความเมตตาจากมนุษย์ทำให้เจ้า Luna ได้รับความรักอีกครั้ง ชุบชีวิตจากหมาขี้เรื้อนถูกทิ้งข้างถนนให้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง   แววตาของมันแฝงไปด้วยความเศร้า   รับการรักษาโรคเรื้อนให้กลับมาหายดีซะก่อน   สภาพผิวหนังและขนที่ร่วงเกือบทั้งตัว   ผิวหนังเริ่มดีขึ้น แววตาก็สดใสขึ้นจากการได้รับความรักจากมนุษย์   ผอมมาก จากการขาดอาหารดีๆ กิน   เริ่มเผยความน่ารักแล้ว…

บ่อยครั้งที่เหล่าสุนัขมักถูกมนุษย์ทำร้ายและนำมาปล่อยทิ้งไว้ จนทำให้พวกมันหวาดกลัว ต้องคอยหลบซ่อนเพราะกลัวมนุษย์เข้ามาทำร้าย แต่ก็มีบางครั้งที่พวกมันถูกทารุณกรรมอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งมีเจ้าหมาตัวหนึ่งที่ถูกทารุณกรรมอย่างหนักและนำมาทิ้งไว้ข้างนอก และได้มีคนถ่ายรูปมันไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อ LaChrystal Ricke ผู้ก่อตั้งและบริหารกลุ่มอาสาช่วยเหลือ Reggie’s Friends ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นรูปภาพสุนัขผอมแห้งนอนอยู่บนโซฟาในเฟซบุ๊ก เธอจึงรีบขับรถออกมาเพื่อรับมันทันที   .   Ricke กล่าวว่า “มันอยู่ในลานจอดรถในส่วนที่ไม่ค่อยน่าอยู่สักเท่าไรของเมืองนี้ มีคนที่ไปเติมน้ำมันและได้พบกับเจ้าหมาน่าสงสารตัวนั้น จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อฉันเห็นโพสต์นั้นก็รีบมารับมันทันที เพราะที่แห่งนี้ดูไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับมัน” กว่าเธอจะเดินทางมาถึงปั๊มน้ำมันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เธอพยายามเดินตามหามัน แต่ว่าหาไม่เจอ เธอจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊กให้ทีมอาสามาช่วยตามหาเจ้าหมาตัวนั้นที่เธอตั้งชื่อมันว่า Aniken     ในตอนเช้าวันถัดมา เธอและทีมอาสาอีก 2 คนได้ออกตามหามันโดยการสอบถามข้อมูลจากคนที่อยู่ในพื้นที่ พวกเขาได้ข้อมูลมาว่าไม่มีใครเคยเจอมันมาก่อน แต่ในตอนนั้นเองก็มีสุนัขเร่ร่อนที่ดูสุขภาพดีซึ่งคนแถวนั้นได้ตั้งชื่อมันว่า Tessa พยายามเรียกร้องความสนใจจากเธอและพาเธอไปหาเจ้า Aniken ที่นอนอยูบนโซฟาตำแหน่งเดียวกับรูปบนเฟซบุ๊ก หลังจากที่เธอขับรถไปรับมันที่ปั๊มน้ำมันและพามันกลับ เธอคิดว่ามันแค่เป็นหมาเร่ร่อนที่หิวโซจนผอมในตอนแรก แต่เธอก็พบกับความจริงอันน่าตกใจในเวลาถัดมา   .   “เมื่อพวกเรากลับมาถึงบ้านและนำมันออกมาจากกล่อง พวกเราเห็นแผลที่ติดเชื้อแผลใหญ่และมีน้ำหนองไหลออกมา ฉันและสามีจึงได้ตัดสินใจพามันไปที่คลินิกสัตว์” Ricke กล่าว…

ในทุกๆ ครั้งของการย้ายบ้าน คนเราส่วนใหญ่ก็มักจะจดจำได้ว่าอะไรเป็นสิ่งมีค่าที่เราเป็นเจ้าของบ้าง แต่บางทีสิ่งมีค่านั้นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งของเสมอไป แต่ว่าอาจเป็นสัตว์เลี้ยงก็เป็นได้ ทว่าสำหรับในเคสนี้อาจจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมีหมาตัวหนึ่งที่ถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง จากการที่พวกเขาย้ายบ้านกันออกไป และมันทำให้หมาตัวนี้เกิดความกลัวจนต้องหมกตัวอยู่ในบ้านหมาหลังน้อยอย่างเพียงลำพัง…     เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่เจ้าหมาตัวหนึ่งชื่อว่า Pamela ต้องอาศัยอยู่ในบ้านหมาอันซอมซ่อบริเวณหลังบ้านของครอบครัวหนึ่ง และก็มีอยู่วันหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของมันดูแย่ลงไปอีก เพราะว่าครอบครัวที่ดูแลหมาตัวนี้ถูกไล่ออกจากบ้านหลังนี้ หนำซ้ำพวกเขาทิ้งมันเอาไว้อย่างเดียวดายอีกด้วย     “คุณเคยสงสัยไหมว่าหมาที่สามารถทำให้ใจของคุณแทบสลายได้จะมีสภาพเช่นไร?” Janine Guido ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์  Speranza Animal Rescue ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ เขียนเอาไว้หน้าเพจของเธอ พร้อมกับโพสต์ภาพของเจ้าหมาที่น่าสงสารตัวนี้พร้อมกับแคปชั่นเอาไว้ด้วย “นี่เป็นสถานที่ที่มันอยู่มาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้คือโลกที่มันรู้จัก”   วิดีโอความน่ารักของเจ้าหมาตัวนี้ ตอนที่ได้ช่วยเหลือมาแล้ว   แน่นอนว่าหมาตัวนี้ได้กลายเป็นหมาเร่ร่อนโดยสมบูรณ์ ซึ่งทาง Guido กล่าวว่าจริงๆ แล้วเธอก็เคยได้เจอกับเจ้าของเก่าของมัน ที่ในตอนนั้นเขากลับเข้ามาเก็บของที่เหลือออกไปจากบ้าน แต่เขาก็ดูจะไม่แยแสหมาตัวนี้แม้แต่น้อย หนำซ้ำยังอยากให้หมาตัวนี้ไปไกลๆ เขา ด้วยการช่วยยกเจ้า Pamela ขึ้นรถให้เธออีกด้วย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้ทำให้เจ้า Pamela ตกใจอย่างเห็นได้ชัด โดยมันเอาแต่ซุกตัวอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ของมัน    …

Nicole Renae คุณแม่ลูกหนึ่ง บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเธอของน้องหมาสุดรักที่เรื่องราวในตอนต้นอาจจะดูเศร้าใจแต่สุดท้ายก็ลงเอยแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง เรื่องราวเริ่มต้นตั้งแต่ที่ Nicole อายุ 10 ขวบ เธอได้รับของขวัญเป็นลูกหมาตัวน้อยจากคุณยายเพื่อคลายความเหงาในฐานะที่เธอเป็นลูกคนเดียว เธอดีใจมากๆ และรักเจ้าหมาราวกับว่ามันเป็นพี่น้องของเธอ เธอตั้งชื่อเจ้าหมาว่า Chloe   .   ช่วงชีวิตของเธอที่มีเจ้า Chole เข้ามา เธอบอกว่าเธอมีความสุขมากๆ เจ้า Chole คือเพื่อนรักที่ดีที่สุดสำหรับเธอ เธอสัญญากับตัวเองว่า เธอจะรักมันไปจนถึงวันที่ต้องตายจากกัน   .   “มันเป็นหมาที่น่ารักมาก มันชอบเลียหน้ามากๆ และมันจะไม่ยอมหยุดถ้าไม่สั่งให้พอ” Nicole กล่าว แต่เรื่องราวน่าเศร้าก็เกิดขึ้นใน 4 ปีต่อมา เมื่อคุณพ่อของ Nicole มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายบ้านกระทันหันเนื่องจากว่าต้องไปทำงานต่างถิ่น และด้วยข้อจำกัดของที่อยู่ใหม่นั้นไม่สามารถที่จะเลี้ยงสัตว์ได้ เหตุผลที่พ่อบอกเธอข้อนี้ทำให้เธอแทบใจสลาย เพราะว่านั่นมันหมายความว่าเธอจะต้องทิ้งน้องหมาสุดที่รักไว้ที่นี่     ทางครอบครัวจึงตัดสินใจนำเจ้า Chole ไปยังศุูนย์ช่วยเหลือสัตว์และหวังว่าคงจะมีสักคนที่จะสามารถมอบความรักให้กับมันได้ การจากลามันไม่เป็นเรื่องง่ายเลย ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าตัวจะจากกันไป เธอก็ยังคงคิดถึงเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเสมอ หลายปีต่อมา Nichole ได้แต่งงานและมีลูกตัวน้อยๆ…

Payden Trujillo เล่าเรื่องราวของเธอกับเจ้าหมาแสนรักของเธอ ที่ตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่ทุกคนรักและเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี ค่ำคืนอันแสนหนาวเหน็บในเดือนมกราคมเมื่อ 2 ปีก่อน Payden ได้ขับรถฝ่าหิมะที่กำลังตกอย่างในบนถนนหลวงในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ต้องเบรกรถอย่างกระทันหันเมื่อมีเจ้าสิ่งดำๆ วิ่งมาตรงหน้ารถของเธอ โชคดีที่เธอเบรกทันและไม่ชนกับเจ้าสิ่งนั้นเข้า เธอรีบลงรถลงมาดู ปรากฏว่ามันคือเจ้าหมาน้อยตัวผอมท่าทางกำลังหวาดกลัวและเนื้อตัวเย็นเฉียบ     เธอจึงเอาขนมที่อยู่ในรถล่อมันเข้ามาเพื่อทำการช่วยเหลือ เธอคิดว่ามันอาจจะหลวงทางกับเจ้าของ เธอเหลือบไปเห็นป้ายห้อยคอของมันจึงพลิกดูเผื่อจะเจอข้อมูลติดต่อเจ้าของ แต่ก็พบข้อความบนป้ายห้อยของของมันว่า “ฉันชื่อ ลิลลี่ ถ้าคุณเจอฉัน โปรดรับเลี้ยงฉัน” เมื่อพลิกดูอีกด้านก็พบกับข้อความอีกข้อความหนึ่งว่า “ครอบครัวของฉันไม่สามารถเลี้ยงได้ และฉันต้องการความรัก”   .   หลังจากที่ได้อ่านป้ายแล้วเธอก็ออกตามหาเจ้าของของมันแถวนั้น แต่ก็ไม่มีใครอยู่เลย ครอบครัวเก่าของมันเลือกใช้วิธีนี้แทนที่จะฆ่ามัน     เธอกับน้องสาวที่ชื่อว่า Mercedes Trujillo จึงตัดสินใจรับเลี้ยงเจ้าลิลลี่ เพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้าหมาต้องการมากที่สุดคืออะไร มันคือความรักและอาหาร เนื่องจากร่างกายที่ผ่ายผอมของมัน และบาดแผลจากการโดนหิมะกัด ทันทีที่เจ้าลิลลี่ได้รับการเลี้ยงดู จากท่าทีที่หวาดกลัวก็เปลี่ยนไป มันเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แต่ทว่ามันคงจะกลัวการถูกทอดทิ้งมาก มันดูวิตกกังวลมากทุกครั้งที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพัง มันจะอาละวาดและทำลายข้าวของ     นิสัยของมันทำให้ครอบครัวไม่อยากจะรับเลี้ยงมันต่อไป แต่ Mercedes ก็ยังยืนยันที่จะเลี้ยงมันต่อไป…

หากว่ามีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ ก็มีวิธีมากมายในการหาบ้านใหม่ให้กับน้องๆ แต่ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับเจ้าหมาตัวนี้ที่ถูกทิ้งไว้ตามลำพังท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ เจ้า Duke สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลด็อกอายุ 2 ขวบถูกเจ้าของคนเก่านำมาปล่อยทิ้งไว้ในสวน Patterson ที่อยู่ในแถบบัลติมอร์ตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐแมรีแลนด์ ในอุณหภูมิเยือกแข็ง มันนั่งรอเจ้าของที่ไม่มีวันกลับมาเป็นเวลานาน แต่โชคดีที่มีคนใจดีที่กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเจ้า Duke ให้ดีขึ้น     หญิงสาวนามว่า Stephanie Dagenhart ได้พบกับเจ้า Duke ที่ถูกทอดทิ้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่เธอเดินผ่าน พร้อมกับข้าวของและกระดาษโน๊ตที่เขียนโดยเจ้าของคนเก่าของมันว่า “มันมีชื่อว่า Duke มันชอบกระดูก อาหารและกล่องของมัน ได้โปรดใครก็ได้ช่วยรักมันที” สิ่งเดียวที่ Stephanie นึกออกก็คือนำเจ้า Duke ไปที่ศูนย์รับเลี้ยงสัตว์ BARCS เพราะเธอเองก็รับเลี้ยงสุนัขมาแล้วถึง 2 ตัวและกำลังพามันมาเดินเล่นเมื่อตอนที่เธอพบกับ Duke     Stephanie นั่งเฝ้าดูอาการของเจ้า Duke จากม้านั่งที่ห่างออกไปไม่ไกล เธอรู้สึกได้ว่ามันยังต้องการพื้นที่ จึงพยายามเรียกชื่อเพื่อให้มันรับรู้ว่ามันไม่ได้อยู่อย่างเดียวดายอีกต่อไปแล้ว เธอกล่าวว่า “มันนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งโศกเศร้าและสั่นด้วยความหนาว มันเป็นภาพที่ลบออกจากหัวไม่ได้จริงๆ ที่เห็นมันเป็นแบบนั้น” ในขณะที่ Stephanie กำลังนั่งเศร้าและกำลังหมดหวัง ก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น…

ปัจจุบันปัญหาสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งมีเพิ่มขึ้นในทุกวัน เหล่าเจ้าสัตว์เลี้ยงผู้น่าสงสารที่ถูกทิ้ง ต้องกลายเป็นสัตว์จรจัด ไร้ที่พึ่งพา ไม่ได้รับการดูแล บางตัวก็ป่วย บางตัวมีนิสัยดุร้าย ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้สัตว์ที่ถูกทิ้งทำอันตรายต่อคนอื่นๆ วันหนึ่ง ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในเมือง บลูมิงตัน รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมาพันธุ์ผสมบ็อกเซอร์-พิทบูล ตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้กลางสวนสาธารณะ มันได้รับบาดเจ็บและดูเหงาหงอยมากๆ ประชาชนที่พบเจอก็รีบโทรแจ้งตำรวจเพื่อให้มาช่วยเหลือมันทันที     ราวกับพรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด Jeff Ripley เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำเวรในขณะนั้นได้เดินทางไปช่วยเหลือมันทันที และก็รู้สึกถูกชะตากับเจ้าหมาตัวนี้ทันทีที่แรกเห็น     ทำหน้าฟินไปอีก นี่แค่หอมแก้มนะเนี่ย   เขาได้โทรบอกให้ Rosie Ahlberg คู่หมั้นของเขา ขับรถพาเจ้าหมาที่เขาพึ่งเจอไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงท้องถิ่น แต่บังเอิญวันนั้นศูนย์ปิดให้บริการ จึงต้องพามันไปพักที่บ้านก่อนเพราะว่ามันบาดเจ็บและน่าสงสารมาก พวกเขาได้ตั้งชื่อมันอย่างชั่วคราวว่า เจ้า Daisy     Rosie เคยเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์อยู่แล้วก็ได้ทำการปฐมพยาบาลให้กับเจ้า Daisy โดยการทำแผลตามร่างกายของมัน ก่อนที่จะสืบข้อมูลตามหาเจ้าของของมันในเวลาต่อมา พอรู้ชื่อเจ้าของของมันแล้ว ทั้งคู่ก็นำตัวมันไปส่งให้เจ้าของ แต่เขากลับปฏิเสธและยกหมาตัวนี้ให้เธอฟรีๆ และยังบอกอีกว่า มันถูกรถชนเมื่อไม่นานมานี้และเขาก็ไม่อยากเลี้ยงมันต่อไปอีกแล้ว     ทั้งคู่ได้ยินที่เจ้าของพูดแบบนั้นก็รู้สึกสงสารเจ้า Daisy…

เจ้า Rio หมาน้อยผู้น่าสงสารถูกทอดทิ้งจากครอบครัว แถมชะตากรรมกับซ้ำเติม มันถูกรถชนได้รับบาดเจ็บและต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก   ภาพจากกล้องหน้ารถ ถ่ายให้เห็นถึงเจ้า Rio   Hope for Paws องค์กรช่วยเหลือสัตว์ใน Beverly Hills ประเทศอังกฤษ ได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่า เห็นเจ้า Rio กำลังเดินกะโผลกกะเผลกอยู่บนถนน ทันทีที่พวกเขาได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงรีบออกเดินทางไปยังบริเวณที่แจ้งไว้ทันทีเพื่อที่จะได้นำเจ้า Rio ไปรักษาพยาบาลโดยเร็วที่สุด และเมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่ามันกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด     Eldad Hagar ผู้ก่อตั้ง Hope for Paws เล่าถึงเหตุการณ์การช่วยเหลือชีวิตเจ้า Rio ว่า “ฉันเตรียมกับดักในการเข้าช่วยเหลือ และพยายามที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปช่วยเหลือ แต่พอมันเห็นมันก็เริ่มวิ่งหนี ฉันก็วิ่งตามเพื่อหวังที่จะช่วยมันอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นฉันก็จับมันได้ เจ้า Rio ก็หยุดแล้วมองหน้าฉัน และพยายามจะหนีอีกครั้ง”     มันดูหวาดกลัวมนุษย์มากและพยายามจะหนีตลอดเวลา ทำให้การช่วยเหลือมันนั้นยากเป็นอย่างยิ่ง   ในที่สุดมันก็ต้องยอมจำนนแต่โดยดีเหมือนกับมันสัมผัสได้ว่าคนที่มาช่วยเหลือมันใจดีและจะช่วยมันให้หายจากอาการบาดเจ็บนี้ได้   “วินาทีต่อมาหลังจากที่มันได้ขึ้นมาบนรถกู้ภัย มันเริ่มกระดิกหางและสายตาของมันดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง”…

แม้ในช่วงเวลาอันโหดร้าย ขอแค่กอดเพื่อนข้างๆ ไว้ให้แน่น แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี… Adonis และ Apollo เจ้าตูบสองตัวถูกพบอยู่ข้างหน้าศูนย์พักพิงสัตว์ A-Team Elite Rescue Dogs ในรัฐเท็กซัส เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพวกมันทั้งคุ่น่าจะถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง     จากรายงานของ Cindy Droogmans ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงดังกล่าวได้เล่าว่าพวกเขาเจอทั้งสองตัวอยู่ข้างหน้าศูนย์ในสภาพที่สั่นด้วยความกลัว เหมือนกับว่าพวกมันเพิ่งผ่านอะไรร้ายแรงมาไม่นาน แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนอยู่กับความกลัวเป็นเวลานานเกินทน เพราะ Cindy ได้พาพวกมันไปรับการรักษากับสัตวแพทย์ของเธอในเมืองนิวยอร์ค และตอนนี้พวกมันก็ได้การดูแลเป็นอย่างดี     เจ้าตูบทั้งคู่ดูจะเป็นห่วงและรักกันมาก ขนาดตอนที่อยู่โรงพยาบาลสัตว์พวกมันยังตัวติดกันไม่ห่างเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งคู่ที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว การหาบ้านให้หมาตัวเดียวว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่มันก็จะทำให้ยากในการหาคนมารับเลี้ยงดูมันทั้งคู่พร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม Cindy บอกว่าเธอจะหาบ้านใหม่ที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนรักทั้งสองนี้ให้ได้     Cindy บอกว่า “การหาบ้านที่พร้อมจะรับเลี้ยงสุนัขสองตัวพร้อมกันมันยากมากๆ แต่ดูพวกมันสิคุณยังกล้าที่จะแยกมันออกจากกันไหม” หวังว่าพวกมันจะมีคนมารับไปเลี้ยงไวๆ ที่สำคัญขอให้ใครก็ตามแต่ที่มารับเลี้ยง พามันไปด้วยทั้งคู่ อย่าต้องให้มันแยกออกจากกันเลยนะ   .     ที่มา thedodo