Tag: หมาล่า
-
พบสารเสพติดในตัวพ่อแม่ลูก แท้จริงแล้วถูกร้านค้าหลอกให้กิน ‘หมาล่าผสมฝิ่น’ เข้าไป
หลายๆ คนคงมีร้านอาหารที่ตัวเองรู้สึกติดใจจนทำให้ต้องกลับไปกินร้านนั้นอยู่บ่อยๆ โดยที่เราอาจไม่เคยสังเกตว่าแท้จริงแล้วความอร่อยของอาหารจานนั้นอาจเป็นผลมาจากสารเสพติด เหมือนอย่างที่ครอบครัวนี้ได้ไปกินมาก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2018 สำนักข่าว China Xinhua News รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอู่สี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะของสามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่ที่น่าแปลกคือสารเสพติดชนิดเดียวกันนั้นกลับมีอยู่ในปัสสาวะของลูกสาวและหลานสาวของพวกเขาด้วย ตำรวจเกิดความสงสัย กับการตรวจพบสารเสพติดครบทั้งพ่อแม่ลูกและหลานสาว นั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัยว่า การมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายนั้นอาจไม่ได้เกิดจากการที่พวกเขาเสพมันเข้าไปด้วยความตั้งใจ ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวดังกล่าวได้ไปกินต้มหมาล่าในร้านอาหารแห่งหนึ่งมา ต้มหมาล่า ใช้เนื้อสัตว์และผักนานาชนิดต้มกับน้ำซุปที่ผสมเครื่องเทศที่จะทำให้รู้สึกเผ็ดชา ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าไปตรวจค้นห้องครัวของร้านอาหารแห่งนั้น แล้วพวกเขาก็ได้พบกับถุงสีน้ำตาลหน้าตาประหลาดอยู่ในหม้อต้มของร้าน จากการสอบถามเจ้าของร้านจึงทำให้ทราบว่า ในหม้อต้มนั้นไม่ได้มีเพียงเครื่องแกงทั่วไป แต่มันยังมี เปลือกฝิ่น ที่อยู่ในถุงดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งเจ้าของร้านอ้างว่าตัวเองทำไปเพราะมีคนบอกว่ามันจะทำให้อาหารมีความหอมมากยิ่งขึ้น โดยเขาได้ซื้อผงเปลือกฝิ่นนี้มาในราคากิโลกรัมละ 100 หยวน หรือประมาณ 500 บาทเท่านั้นเอง ส่วนของเปลือกฝิ่นนั้นถือว่ามีฤทธิ์เป็นสารเสพติด หากรับเข้าไปในปริมาณมากจนเกินไป แน่นอนว่ามันจะทำให้คนคนนั้นเกิดอาการเสพติดขึ้นมาได้ เปลือกฝิ่นมีฤทธิ์เป็นสารเสพติด ไม่ต่างกับตัวยางของมัน เจ้าของร้านจึงถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดี เนื่องจากใช้ฝิ่นมาประกอบอาหารซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน และมีการออกมาตรการปราบปรามเหล่าผู้ประกอบการที่ใช้ฝิ่นผสมในอาหารมาตั้งแต่ปี 2009…
-
รู้จัก “หม่าล่า” ของกินฮิตสุดในเชียงใหม่วินาทีนี้ ที่คนกรุงเทพอาจจะงง.. มันคืออะไรกันแน่!?
ตอนนี้ถ้าถามว่าอาหารชนิดไหนกำลังเป็นที่นิยมที่สุดในแถบภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงรายล่ะก็ หลายๆ คนจะต้องคิดถึง “หม่าล่า” ขึ้นมาเป็นอย่างแรกๆ แน่นอน เพราะไม่ว่าจะไปตรงไหนของเมือง ก็จะเจอร้านขายหม่าล่าตั้งอยู่อย่างน้อยๆ หนึ่งร้าน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ เลยจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับการอาหารชนิดนี้ ว่าจริงๆ แล้วความเป็นมาของมันเป็นอย่างไรกันแน่ เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า!! คำว่า “หม่า” แปลว่า “ชา” ส่วนคำว่า “ล่า” แปลว่า “เผ็ด” ดังนั้น “หม่าล่า” จึงหมายถึงอาหารที่ทั้งเผ็ดทั้งชา หม่าล่าจริงๆ แล้วเป็นสูตรเครื่องเทศที่มาจากทางตอนใต้ของประเทศจีน ลักษณะเหมือนพริกป่นในไทยนี่แหละ แต่เขาจะใช้เครื่องเทศที่เรียกว่า “ฮวาเจียว” เป็นส่วนผสม ซึ่งเจ้าเครื่องเทศชนิดนี้เองที่ทำให้เกิดอาการชาในปากของเรา สำหรับชาวจีนแล้ว หม่าล่าสามารถนำไปกินกับทุกอย่างได้ ตั้งแต่ต้ม ผัด ย่าง โดยพวกเขานิยมรับประทานกับเนื้อแกะ เพราะหม่าล่าสามารถดับกลิ่นสาบของเนื้อแกะได้อย่างดีเยี่ยม หน้าตาของ “ฮวาเจียว” ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้ภายหลังได้มีการนำหม่าล่าเข้ามาขายในประเทศไทย โดยเริ่มจากจังหวัดเชียงราย ก่อนจะค่อยๆ…