Tag: หมีขั้วโลก
-
หมีขั้วโลกถูกยิงตาย หลังกระโจนใส่การ์ดเรือสำราญ อ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว…
ธุรกิจการท่องเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติอันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า คล้ายจะเป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้คนได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการรบกวนวิถีชีวิตของสัตว์โดยตรง เหตุการณ์น่าสลดนี้เกิดขึ้นกับหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง จากการที่เรือสำราญสัญชาติเยอรมัน Hapag-Lloyd Cruises ได้ทำการจอดเทียบท่าที่เกาะสปิตส์เบอร์เกน หนึ่งในหมู่เกาะในสฟาลบาร์ ประเทศนอร์เวย์ ภายหลังจากนั้น ทางเรือสำราญได้ทำการส่งเจ้าหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัย ออกลาดตระเวนในพื้นที่ สอดส่องดูแลว่าไม่มีหมีขั้วโลกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผู้โดยสารมากับเรือ จนกระทั่งพวกเขาพลาดสายตาไปจากหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง จู่โจมเข้าทำร้ายหนึ่งในเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อีกรายจึงใช้ปืนยิงปลิดชีพหมีขั้วโลกตัวดังกล่าว ด้วยเหตุผลทางด้าน ‘การป้องกันตัว’ “เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อทีมการ์ดป้องกันหมี 4 คน ที่จะอยู่ประจำบนเรือตลอด จะทำการสอดส่องจากบนเรือเท่านั้น แต่ในครั้งนี้เกิดเหตุผิดพลาด… หนึ่งในเจ้าหน้าที่ถูกหมีขั้วโลกทำร้าย แม้จะพยายามไล่แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องใช้วิธีป้องกันตัวและรักษาชีวิตของผู้ที่ถูกทำร้ายเอาไว้ ทางเราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้” บริษัทเรือสำราญกล่าวแถลงผ่านเฟสบุ๊ก ในปัจจุบันจำนวนของหมีขั้วโลกเหลืออยู่ประมาณ 22,000 – 31,000 ตัว และจำนวนจะถูกลดลงเรื่อยๆ จากปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและธุรกิจการท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณแถบขั้วโลกเหนือ และจำนวนของหมีที่อาศัยอยู่ในบริเวณหมู่เกาะในสฟาลบาร์มีเพียง 3,000 ตัวเท่านั้น ที่มา: cnn, time, theguardian, bbc
-
ภาพสลด ‘ลูกหมีขั้วโลกกินพลาสติก’ สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากเงื้อมมือมนุษย์
Svalbard เป็นหมู่เกาะ Norwegian ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอาร์กติกซึ่งห่างออกไปหลายร้อยไมล์จากแผ่นดินใหญ่ที่ใกล้ที่สุด แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีประชากรมนุษย์อยู่เพียงไม่ถึง 2,600 คน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Svalbard อยู่ไกลจากโลกภายนอก นอกจากนี้ ที่นั่นยังมีสิ่งมีหมีขั้วโลก พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาจจะไม่เคยเห็นมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่กลับต้องรับผลจากการ กระทำของมนุษย์อย่างน่าสลดใจ เรื่องน่าเศร้านี้ ถูกเผยแพร่หลังจากที่ Kevin Morgans ช่างภาพชาวอังกฤษเดินทางไปยัง Svalbard เพื่อถ่ายภาพอันงดงามของทิวทัศน์ที่นั่น แต่ Morgans กลับสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมที่นี่ เขาเห็นแม่หมีขั้วโลกและลูกๆ อีกสองตัวอยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็ง กำลังเล่นกับพลาสติกสีดำ Morgans บอกว่า “มันเป็นโมเมนต์ที่ไม่น่ามองเอามากๆ ลูกหมีขั้วโลกที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากรู้อยากเห็น กำลังเล่นและกินมลพิษพลาสติกที่ถูกซัดขึ้นฝั่ง” เราอาจจะไม่มีความสามารถมากพอที่จะกวาดล้างขยะทั่วทะเลหรือมหาสมุทรได้ แต่เราสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ทิ้งขยะลงทะเล หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก และต่อต้านกิจกรรมทุกรูปแบบที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมโลก ที่มา thedodo
-
‘หมีขั้วโลกจอมป่วน’ บุกรุกโรงแรมของมนุษย์ แถมพังข้าวของซะเละ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะเจอสัตว์ป่าเวลาไปเที่ยวในบ้านในป่าหรือแหล่งธรรมชาติ ก็นั่นมันที่อยู่ของมันอะเนาะ แต่ก็ไม่คิดว่าพวกมันจะบุกเข้ามาถึงที่พักขนาดนี้ กลายเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อหมีขั้วโลกตัวหนึ่งบุกเข้าไปในโรงแรมเล็กๆ กลางหิมะที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ เจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ถูกพบเมื่อไกด์นำเที่ยวกลับยังโรงแรมในเช้าวันอาทิตย์ ทันใดนั้นเธอก็เห็นก้อนสีขาวเคลื่อนที่อยู่บนหน้าต่างของโรงแรม ก่อนจะรู้ว่ามันคือหมีขั้วโลกนั่นเอง ไม่รู้ว่ามันเข้าไปทางไหน เข้าไปทำอะไร แล้วของข้างในตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง? แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ ทุกคนต่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ใน Svalbard แห่งนี้ ซึ่งเป็นหมู่เกาะทางเหนือของประเทศ พวกเขาชินกับการบุกรุกในลักษณะนี้ไปแล้ว ไกด์นำทาง Malin Stark บอกว่า “หมีขั้วโลกเกาะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายชั่วโมง เราเองก็ไม่กล้าที่จะเดินไปประตูเพื่อให้มันออกมา เลยได้แต่เฝ้าดูมันอยู่อย่างนั้น” ต่อมา เจ้าหมีเองเหมือนจะรู้ตัวอยู่ที่นี่นานเกินไป มันเลยมองออกไปนอกหน้าต่างและพยายามหาวิธีที่จะออกจากโรงแรมแห่งนี้ คาดว่ามันคงได้สิ่งที่มันต้องการภายในโรงแรมไปหมดแล้วแหละ จนกระทั่งมันได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลท้องถิ่นบินอยู่เหนือหัวของมัน เจ้าหมีจึงรวบรวมกำลังแถวถีบตัวเองออกมาผ่านหน้าต่างได้สำเร็จ มันเดินไปทางน้ำและกระโดดลงทะเลไป โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ รวมทั้งตัวหมีขั้วโลกเองด้วย แต่… ข้าวของในโรงแรมนั้นพังกระจายเลยแหละ คาดว่าเจ้าหมีน่าจะสนุกไปเต็มไปที่เหมือนกัน ที่มา thedodo
-
หมีขาวตามล่าจิ้งจอกอาร์กติกในถัง แม้แต่ชาวรัสเซียที่โหดสลัด ก็ยังไม่กล้าจะเข้าไปยุ่ง!!
ด้วยภาวะโลกร้อนในปัจจุบันนั้นทำให้สัตว์ในขั้วโลกหลายชนิด เริ่มที่จะได้รับผลกระทบหลายอย่าง ทั้งถิ่นที่อยู่เปลี่ยนไปและอาหารก็หายากขึ้น ซึ่งหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับผลกระทบสูงก็คงจะหนีไม่พ้นหมีขั้วโลกอย่างแน่นอน โดยปกตินั้นหมีขั้วโลกจะกินปลาและสัตว์ต่างๆ ในน้ำเป็นอาหาร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่กินสัตว์บนบก เพราะเมื่ออาหารขาดแคลน เหล่าจิ้งจอกหรือสัตว์เล็กต่างๆ ก็จะกลายเป็นเหยื่อของมันทันที ยิ่งล่าสุดได้มีภาพเหตุการณ์หมีขั้วโลกตัวหนึ่ง บุกรุกเข้าไปยังเขตของโรงงานผลิตแก๊ซธรรมชาติในอาร์กติกเพื่อไล่จับเหยื่อของมัน ซึ่งภาพเหตุการณ์นั้นได้ถูกบันทึกไว้โดยคนงานที่มาเปลี่ยนกะแถวนั้นพอดี โดยเจ้าหมีขั้วโลกนั้นได้ไล่จับฝูงจิ้งจอกอาร์กติก โดยเจ้าจิ้งจอกผู้โชคร้ายตัวหนึ่งได้หนีไปแอบในถังน้ำมันเปล่าเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ด้วยความที่เจ้าหมีกำลังหิวกระหาย มันจึงตัดสินใจมุดเข้าไปในถังเพื่อใช้ปากและมือของมันจับจิ้งจอกผู้โชคร้ายออกมา และแน่นอนว่าจิ้งจอกตัวเล็กหรือจะสู้กับหมีตัวใหญ่อันแสนดุร้าย จนสุดท้ายเจ้าหมีก็ประสบความสำเร็จในการจับเหยื่อ นอกจากจิ้งจอกอาร์กติกตัวที่ถูกจับไปแล้ว รอบๆ ยังมีฝูงจิ้งจอกที่ทำได้แค่มองเพื่อนของมันถูกจับไปเพราะมิอาจจะเข้าไปช่วยเหลืออะไรจากพี่หมีสุดโหดที่กำลังหิวโหยได้ ทางด้านคนงานที่ถ่ายภาพก็บอกว่า พวกเขามิอาจจะเข้าไปช่วยเหลือจิ้งจอกอาร์กติกได้ แม้พวกเขาจะรู้ว่าจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นสัตว์หายากก็ตาม เพราะหมีขั้วโลกนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดเป็นทุนเดิม ถ้าเข้าไปยุ่งนั่นอาจจะหมายถึงจุดจบของพวกเขาเช่นกัน สุดท้ายแล้วคนงานคนหนึ่งในคลิปก็ได้พูดว่า “คลิปนี้โหดมาก จะโชว์ให้เด็กๆ ดูไม่ได้เด็ดขาด” ที่มา siberiantimes
-
เจ้าหมีขั้วโลกขอเซลฟี อวดให้มนุษย์ได้รู้ซะบ้างว่า ‘ข้าน่ะ มีท่าเซลฟี เจ๋งที่สุดแว้ว’
มนุษย์เราอาจจะคุ้นชินกับการใช้กล้อง บางคนติดการเซลฟีมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นต้องแชะภาพตลอด ที่สำคัญรู้ด้วยว่าถ่ายยังไง มุมไหน หรือท่าไหนให้ตัวเองดูดีสุด สำหรับสัตว์ พวกมันไม่มีรู้จักหรอก เซลฟงเซลฟีอะไรเนี่ย… แต่ก็ไม่แน่นะถ้าเราลองทิ้งกล้องไว้กับสัตว์ มันอาจจะเกิดสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้ เหมือนกับเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ที่มีความสนอกสนใจ อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับกล้องที่เจ้าหน้าที่ไปติดตั้งเอาไว้ สุดท้ายได้ภาพเซลฟีสุดคูลของมันมา ชนิดที่ว่ามนุษย์ก็ทำไม่ได้หร๊อก เมื่อไม่นามานี้เจ้าหน้าที่จากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะ Wrangel ได้นำกล้องพร้อมกับอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิบนเกาะไปติดตั้งไว้บนเกาะที่อยู่ระหว่างทะเลตะวันออกของไซบีเรียกับทะเลชุกชี เพื่อสำรวจอาณาเขตของหมีขั้วโลก ทั้งนี้จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่าบนเกาะแห่งนี้มีหมีขั้วโลกอยู่ 600 ตัว…แต่การสำรวจในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่คิดเลยว่าจะได้ของแถมมาด้วย ของแถมที่ว่านี้เป็นภาพเซลฟีของเจ้าหมีขั้วโลกผู้มีความอยากรู้อยากเห็นและเข้าไปเล่นกับกล้องสำรวจที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนเกาะ หนึ่งในภาพเซลฟีที่ดูไม่ธรรมดา คือภาพที่ถ่ายจากด้านล่าง เผยให้เห็นคาง ปากและจมูกของมัน โดยมีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสดใส อย่างกับภาพของชาวฮิปสเตอร์แหนะ คูลกว่านี้หาไม่ได้แล้ว ฮิปสเตอร์เค้าไม่ถ่ายรูปหน้าเต็มหรอก นี่ มีการโฟกัสที่ภูมิทัศน์ซะด้วย และเมื่อดูจากกล้องอีกตัวที่ติดตั้งในบริเวณก็ได้พบว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ทำอะไรกับกล้องบ้าง ซึ่งจากที่เห็น ดูเหมือนมันจะมีอุปสรรคในการถ่ายรูปนิดหน่อย เพราะกล้องมันอยู่สูงเกินไป แต่อย่างน้อยก็รู้ว่ามันคงสนุกที่ได้เล่นอะไรใหม่ๆ ภาพจากกล้องอีกตัว ที่มา siberiantimes
-
ตัวการ์ตูนใหม่จาก Sanrio ตัวแทนคนขี้เกียจ หมีหมกและซุกตัวใต้ผ้าห่มได้ท้างงงวัน
หากพูดถึงคาแรคเตอร์การ์ตูนสุดน่ารักที่มัดใจผู้คนไปทั่วโลก คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการ์ตูนของ ‘Sanrio’ ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบตัวการ์ตูนและจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับตัวการ์ตูนเหล่านั้น ซึ่งตัวการ์ตูนที่เรารู้จักกันดี ก็น่าจะเป็น Hello Kitty My Melody, Little Twin Stars, Badtz-maru, หรือ Cinnamolroll เป็นต้น โดยในฤดูหนาวปีนี้ Sanrio มีเซอร์ไพรส์แฟนๆ โดยการปล่อยตัวละครตัวล่าสุด ที่รักการนอนในผ้าห่มมากกว่าเจ้าไข่แดง “Gudetama” ซะอีก เจ้าการ์ตูนตัวนี้จะขี้เกียจขนาดไหน ไปทำความรู้จักกันมันกันเลย!! เจ้าหมีขั้วโลกที่รู้จักแค่ฤดูหนาว สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ การนอนม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มนุ่มๆ ตลอดทั้งวันโดยไม่สนโลก เจ้าหมีตัวนี้นามว่า “Marumofubiyori“!! ตัวการ์ตูนที่แสนจะขี้เกียจตัวนี้มักแกล้งทำเป็นนอนหลับอยู่เสมอเมื่อเกิดปัญหา ใครๆ ก็เรียกมันว่า “Moppu” เพราะว่ามันชอบที่จะเคลื่อนไหวไปในที่ต่างๆ พร้อมผ้าห่มประจำตัว ลากไปลากมาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองหนาวเลย เจ้าหมี Marumofubiyori มีเพื่อนอยู่ 2 ตัว ซึ่งทั้งสองเป็นตุ๊กตา.. โดยมีเจ้า ‘Kanikama’ ที่แปลว่าปูอัด และเจ้า ‘Gyoniku’ ที่แปลว่าเนื้อปลานั้นเอง สงสัยว่าเจ้า Moppu จะตั้งชื่อของเพื่อนๆ ตอนหิวละมั้ง .…
-
ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!
เราทุกคนรู้ว่าหมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่บนน้ำแข็งหรือในพื้นที่หนาวเย็นเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอมันมายืนอยู่ริมแม่น้ำแบบชิลล์ๆ ซะอย่างนั้น เมื่อไม่นานมานี้มีคนไปพบหมีขั้วโลกมายืนอยู่ริมแม่น้ำ Kolyma ในประเทศรัสเซีย ที่อยู่ห่างจากแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันถึง 724 กิโลเมตร!! มาได้ยังไงล่ะเนี่ย! หลงมาไกลขนาดนี้ไม่ได้มีความกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบเลยนะ จากการรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาบอกว่าเจ้าหมีตัวนี้มีชื่อ Umka มันใช้ชีวิตกินเศษซากอาหารจากโรงงานปลาใกล้ๆ หรือบางครั้งชาวบ้านแถวนั้นก็จะตกปลามาให้มันกิน เพราะพวกเขาคิดว่ามันยังเด็กอยู่จนไม่สามารถหาอาหารได้เอง บวกกับความน่ารักเวลาที่เล่นกับน้องหมาแถวนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกเอ็นดู แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงจำศีลที่ดูจะมีความดุร้ายอยู่บ้าง ได้เพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน หลังจากนั้นเมื่อมันเริ่มสงบลงได้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาช่วยเหลือพามันไปหาสัตวแพทย์ จากตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันอายุประมาณ 2 ปีแต่เมื่อมีการตรวจสอบดูก็พบว่ามันมีอายุไม่เกิน 9 เดือนเท่านั้น จากความเป็นเด็กและระยะทางที่มันเดินทางมาจากบ้านเกิด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถึงกับสงสัยว่ามันมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?! มีการสันนิษฐานอยู่ข้อหนึ่งที่เชื่อว่าแม่ของเจ้าหมีถูกคนฆ่าอย่างผิดกฎหมายก่อนที่จะจับลูกน้อยมาเพื่อไปขายในตลาดมืด แต่เจ้าหมีก็สามารถหนีรอดมาได้จนมาโผล่ให้เห็นที่แม่น้ำแห่งนี้ ไม่ต้องกลัวพวกเรามาช่วยแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะยังหาคำตอบการมาของเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้มันก็ได้ไปใช้ชีวิตที่ดีในสวนสัตว์ Orto Doidu เมือง Yakutsk เพราะผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่ามันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง ออกเดินทางไปพบกับชีวิตใหม่กัน ด้วยความน่ารักและไม่กลัวคนทำให้มันได้กลายเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์ สร้างรอยยิ้มและดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก แม้ก่อนหน้านี้เจ้า Umka อาจต้องเจออุปสรรคมาบ้างแต่ตอนนี้มันก็ได้ไปมีชีวิตที่ดีแล้ว …
-
ชายหนุ่มเห็น “หมีขั้วโลก” ถูกตาข่ายพันกำลังเกือบจมน้ำ ตัดสินใจทิ้งความกลัว เข้าไปช่วยเหลือมัน!!
Kaktovik ในอลาสก้า เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ 300 คน ที่นั่นผู้คนจะเห็นหมีขั้วโลกอยู่รอบๆ เมืองเต็มไปหมด จนกลายเป็นภาพที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว หมีขั้วโลกกับชาวเมืองแห่งนี้อยู่ร่วมกันโดยไม่เบียดเบียนกัน นั่นทำให้หมีขั้วโลกสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และชุมชนก็ไม่ต้องกลัวหมีทำร้ายด้วย ธรรมชาติอันน่าหลงใหลนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมักจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ เพื่อดูวิถีชีวิตของหมีขั้วโลกอย่างใกล้ชิด แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎที่ตั้งไว้ เพื่อไม่เป็นการคุกคามพวกมัน อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ไกด์นำเที่ยว Rolan Warrior พานักท่องเที่ยวไปยังเกาะเพื่อดูวิถีชีวิตหมีขั้วโลก เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ เขาเห็นหมีขั้วโลกตัวหนึ่งถูกตาข่ายจับปลาพันรอบตัว และมันกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ท่ามกลางตวามตกใจของลูกทัวร์ที่มาด้วย สิ่งที่ Rolan คิดได้อย่างแรกคือหมีต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน แต่หมีเป็นสัตว์ใหญ่และอันตราย ใครล่ะจะลงไปช่วย และจะช่วยมันด้วยวิธีไหน พลาดไปเขาจะโดนมันฆ่าเสียเองหรือไม่? โชคดีที่มีกลุ่มชาวเมือง Kaktovik มาที่เกิดเหตุพอดี และได้พยายามทำให้หมีขั้วโลกตัวนั้นสงบลง เพื่อให้มันเข้าใจว่าพวกเขามาช่วย ไม่ได้จะมาทำร้าย นี่เป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก เพราะน้ำมีความเย็นมาก ที่สำคัญหมีขั้วโลกตัวนี้ก็หนักมาก โดยตัวผู้ที่เต็มวัยจะมีน้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งพวกเขาต้องลากเจ้าหมีตัวนี้ขึ้นไปยังฝั่งให้เร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น…
-
1 ภาพถ่ายสะท้อนความจริงของ “อนาคตหมีขั้วโลก” กับความเปลี่ยนแปลงอันน่าใจหาย
ลองย้อนกลับไปในอดีต เราจะเห็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของทั้งคน และสัตว์ แต่ในปัจจุบันโลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย จนทำให้สัตว์บางชนิดถึงกับขาดแหล่งหากิน และแหล่งที่อยู่อาศัย เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากจริงๆ และนี่ก็คือภาพถ่ายสะท้อนความจริง ที่จะมาทำให้ผู้คนได้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน โดยภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ Kerstin Langenberger ช่างภาพแนวธรรมชาติ ผู้ที่ได้บันทึกภาพของเจ้าหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง ณ บริเวณชายฝั่งสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์ จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวดังกล่าวไม่ได้มีรูปร่างที่อ้วนท้วน และสมบูรณ์เหมือนกับหมีขั้วโลกที่เราเคยเห็น แต่มันกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องเอาตัวรอด จนสภาพร่างกายของมันผอมแห้งอย่างน่าตกใจ มันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจเหลือเกิน ทางด้าน Kerstin ได้เผยว่า “มีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ผมเห็นแม่หมีขั้วโลกกับลูกๆ ของมัน มีสภาพอ้วนท้วนสมบูรณ์ ส่วนมากผมจะเห็นแต่หมีที่มีสภาพร่างกายซูบผอมจนดูน่ากลัว และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหมีตัวเมีย” ปัจจุบัน หมีขั้วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์อันน่ากลัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้บริเวณขั้วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเกิดการละลาย และที่อยู่ของมันก็ลดน้อยลง ในขณะที่แมวน้ำ ซึ่งเป็นอาหารของหมีขั้วโลก ก็พากันอพยพไปอาศัยอยู่ในแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าหมีไม่มีอาหารกินนั่นเอง เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ทำให้หมีขั้วโลกต้องออกหากินบนพื้นดิน แทนที่จะหากินบนพื้นน้ำแข็งอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้มันต้องล่ากวางแคริบู หรือห่านหิมะ ไปเป็นอาหาร และแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเจ้าหมีซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ ในที่สุดพวกมันจึงหิวโหย และผอมแห้งเหมือนดังภาพ…
-
ช่างภาพสาวไปอลาสก้า เพื่อเก็บภาพหมีขั้วโลกและหิมะ แต่กลับพบว่าหิมะมันหายไป!!?
เราคงได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน และผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติในหลายๆด้านกันอยู่บ่อยๆ แต่คงไม่มีเรื่องไหนที่จะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดีเท่านี้อีกแล้ว เมื่อ ‘Patty Waymire’ ช่างภาพสาวตั้งใจออกเดินทางไปยังเกาะ Barter ในรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐฯ แต่เธอกลับต้องแปลกใจ เพราะจุดหมายปลายทางของเธอ อันเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าหมีขั้วโลก กลับไม่มีแม้แต่หิมะ หรือธารน้ำแข็งอยู่เลย!! (แปลเนื้อหาจากคำบอกเล่าบางส่วนของช่างภาพ เพื่อสะท้อนมุมมองที่เธอมีต่อภาพที่ถ่าย และสถานการณ์ของสถานที่นั้น) ชาวบ้านในละแวกนั้นได้บอกกับเธอว่า เป็นปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่แปลกสุดๆ เพราะปกติที่นี้จะเต็มไปด้วยหิมะ แต่ปีนี้กลับเป็นปีที่หน้าหนาว มีสภาพอากาศอุ่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากนั้นเธอจึงทำการเก็บภาพเหล่าหมีขั้วโลก ที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป สะท้อนให้เห็นว่า ปรากฏการณ์โลกร้อน มันเกิดขึ้นจริงๆ และส่งผลกระทบต่อธรรมชาติมากขนาดไหน “ทุกครั้งที่ฉันกำลังเก็บภาพ สังเกตุเห็นได้ชัดว่า เหล่าหมีขั้วโลกต่างตกใจ และทำท่าทางเหมือนกำลังไตร่ตรอง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธรรมชาติของพวกมัน” Patty เล่า เป็นอย่างที่เรารู้กันดีว่าปกติแล้ว หมีขั้วโลกจะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ หิมะ และธารน้ำแข็ง แต่สำหรับปีนี้มันกลับเหลือเพียงแค่ เศษหินดินทราย และชายหาดเท่านั้น ภาพถ่ายสะท้อนความเป็นจริงของโลกชุดนี้ ถูกตั้งชื่อว่า ‘No Snow, No Ice’ อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งขันภาพถ่ายของรายการ National Geographic…
-
Pizza หมีขั้วโลก “เศร้าที่สุด” ได้รับอิสระแล้ว หลังถูกจัดไว้ในตู้โชว์ของห้าง เพื่อ ‘เซลฟี่’
ในอดีตที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งได้จับเอาสัตว์หลายชนิดมาจัดแสดงไว้ในตู้ เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้ชมกันด้วยความเพลิดเพลิน เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้า Pizza หมีขั้วโลกอาศัยอยู่ในตู้กระจกของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพื่อให้ผู้คนได้ถ่ายรูปเซลฟี่กันกับมันอย่างสนุกสนาน เจ้าพิซซ่าเป็นหนึ่งในสัตว์ 500 ชนิดที่ถูกเก็บเอาไว้ในสวนสัตว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากที่มันต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ก็มีผู้คนในจีนเกิดความสงสารและรวมตัวกันล่ารายชื่อกว่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นปล่อยตัวเจ้า Pizza เป็นอิสระ มีจดหมายกว่า 50 ฉบับจากองค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ ถูกส่งไปยังผู้ว่าของมณฑลกวางตุ้งและเรียกร้องให้มีการปิดสวนสัตว์ดังกล่าว ซึ่งนอกจากเจ้า Pizza แล้วยังมีสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ในนั้นอีก ทั้งสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก หมาป่า และวอลรัส ทั้งหมดล้วนถูกขังไว้ในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าต่างและสภาพแวดล้อมที่เหมาสม ผู้เชี่ยวชาญสัตว์บางคนให้ความเห็นว่าพฤติกรรมของเจ้า Pizza นั้นน่าเป็นห่วงมาก เพราะมันมีดวงตาที่เศร้าตลอดเวลา มันเดินวนไปมาภายในตู้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และมันชอบมาตอนที่ใต้เครื่องปรับอากาศ มันต้องการอากาศบริสุทธิ์มากแค่ไหน หลังจากเกิดการเรียกร้องอย่างมากมาย ทำให้ทางห้างสรรพสินค้าตัดสินใจปิดส่วนของสวนสัตว์ลง และเริ่มโยกย้ายสัตว์ไปยังที่ต่างๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเจ้า Pizza ก็ได้กลับไปอยู่ในศูนย์เลี้ยงสัตว์น้ำที่เดิมที่มันเกิด ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับมันมากกว่าและกว้างขวางกว่าที่มันอยู่ ด้านด็อกเตอร์ Peter Li…
-
แย่แล้ว!! นักวิทยาศาสตร์ถูกหมีขั้วโลกล้อมสถานีสำรวจ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะไปช่วยชีวิตออกมาได้
เราคงเคยเห็นหนังที่เหล่าตัวละครต้องติดอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่ง โดยมีฆาตกรหรือสัตว์อันตรายคอยดักทำร้ายพวกเขาอยู่ แม้ว่าที่กล่าวมาจะดูเป็นเหตุการณ์แฟนตาซีเหนือจริงไปหน่อย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่าทีมนักอุตุนิยมวิทยาชาวรัสเซีย 5 คนได้เข้าไปตั้งสถานีสำรวจพื้นที่ในทะเลอาร์กติกขั้วโลกเหนือ แถบไซบีเรีย แต่โชคร้ายที่ในระหว่างนั้นมีหมีขั้วโลกกว่า 10 ตัวออกมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ สถานี ทำให้ทีมนักสำรวจไม่สามารถออกมาจากสถานีได้ ด้านนาย Vadim Plotnikov หัวหน้าทีมสำรวจที่ติดอยู่ในสถานีให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “มีหมีตัวเมียนอนอยู่ใต้หน้าต่างของสถานีของเราตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มันอันตรายมากหากจะออกไปข้างนอก เพราะมันจะทำให้นักล่าตื่นตกใจได้ เราต้องหยุดภารกิจสังเกตการณ์เกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาไว้ก่อน” และดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกเมื่อสถานที่ที่พวกเขาเข้าไป อยู่ห่างไกลจากความเจริญมากจนไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย แถมสิ่งที่พวกเขาพอจะทำให้หมีตกใจได้อย่างเช่นพลุไฟก็ดันหมดกะทันหัน ทำให้พวกเขาอาจต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือนเพื่อรอให้เรือขนเสบียงเดินทางมาถึง ณ จุดที่ตั้งสถานี จากรายงานล่าสุดจากสถานีสำรวจในอาร์กติกบอกว่าตอนนี้มีหนึ่งในสุนัขถูกหมีฆ่าไปเป็นที่เรียบแล้วจากทั้งหมดสองตัวที่นำมาเฝ้าสถานีด้วย ตอนนี้เรื่องราวของทีมสำรวจได้กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกจนรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของรัสเซียได้ขอให้สำนักพยากรณ์อากาศจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าพวกมันจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม แต่ปัจจุบันพวกมันมีประชากรทั้งหมดเหลือเพียง 20,000 ถึง 25,000 ตัวทั่วโลก ทำให้การจะบุกเข้าไปช่วยทีมนักสำรวจเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องไม่เป็นอันตรายต่อหมีและคนด้วย ที่มา mirror
-
น่าฉงฉาน เจ้าหน้าที่สวนสัตว์คอยดูแลลูกหมีขั้วโลกตลอดเวลา เหตุเพราะแม่หมีทิ้งลูกไว้ให้อยู่ตัวเดียว
นี่ถือเป็นหนึ่งในเรื่องดีๆ ที่แฝงมากับเรื่องแย่ๆ ล่ะ เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ของต่างประเทศได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของเจ้าหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง ที่นอนกรนอยู่บนเตียงหลังจากที่ถูกแม่หมีทิ้งไว้เพราะเครียดจัดที่ลูกหมีอีกตัวเพิ่งตายไป ทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ต้องดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมง สวนสัตว์แห่งนี้มีชื่อว่า Columbus Zoo and Aquarium ในเมืองพาวเวล์ รัฐโอไฮโอ้ ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้องคอยดูแลเจ้าลูกหมีขั้วโลกวัย 5 สัปดาห์ ตัวนี้ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหมีก็ว่านอนสอนง่าย หลับปุ๋ยอย่างดีเลย ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กของทางสวนสัตว์ก็ได้โพสต์ข้อความถึงเจ้าหมีตัวนี้ว่า “ทีมงานที่คอยดูแลเจ้าหมีตัวนี้บอกว่า เสียงกรนที่ทุกคนได้ยินนั้นเป็นเสียงแห่งความพึงพอใจของเจ้าหมี เสียงกรนของมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ และมันก็เริ่มจะยืน 4 ขาได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีอาหารมาวางตรงหน้า” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โชคดีจังเลยนะเจ้าหมี ที่มีคนคอยดูแล ขอให้โตขึ้นแล้วเป็นคนดีนะ ที่มา boredpanda