Tag: หมู่บ้าน
-
รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ “มนุษย์และจระเข้” อยู่ร่วมกันอย่างสันติราวกับเป็นญาติพี่น้อง
คนเรามีความเชื่อ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็เชื่อในสิ่งที่แตกต่างกันไป อย่างในดินแดนบางแห่ง แม้ว่าจะเป็นสัตว์ดุร้ายอย่าง จระเข้ ผู้คนก็เชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปกป้องและอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างเป็นปกติสุข การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ดุร้ายอย่างจระเข้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในยุคโบราณเท่านั้น ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศบูร์กินาฟาโซ ผู้คนในหมู่บ้านยังคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับจระเข้ได้อย่างสันติ ณ หมู่บ้าน Bazoule ซึ่งห่างจากเมืองหลวงของบูร์กินาฟาโซมาเพียง 30 กิโลเมตร ผู้คนบูชาจระเข้เป็นเทพเจ้าคุ้มครองชีวิตของพวกเขา ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลจึงทำให้มีสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำนี้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อาจฟังดูน่ากลัวแต่ผู้คนในหมู่บ้านกลับสามารถเข้าไปเล่นกับจระเข้ได้อย่างสบายใจเฉิบ ชมคลิปวิดีโอหมู่บ้านจระเข้ Bazoule เรื่องราวมีอยู่ว่า ในสมัยศตวรรษที่ 15 ผู้คนเคยยกย่องให้จระเข้เป็นสัตว์ที่ช่วยไถ่บาปให้ผู้คนในหมู่บ้าน เนื่องจากในช่วงเวลาที่หมู่บ้านพบกับความแห้งแล้งอย่างหนักหน่วง กลับมีแหล่งน้ำเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แหล่งน้ำดังกล่าวปรากฏขึ้นพร้อมกับเหล่าจระเข้ และก็ได้ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอดภาวะแล้งไปได้ จึงเป็นที่มาของการเคารพนับถือจระเข้ของหมู่บ้าน Bazoule คนในหมู่บ้านนับถือจระเข้อย่างมาก พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดจระเข้เสมอ เมื่อจระเข้ตายพวกเขาก็จะมีการจัดงานศพและทำการฝังร่าง ราวกับที่พวกเขาทำกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผู้คนในหมู่บ้านจะมีวันเฉลิมฉลองประจำปี เรียกกันว่า Koom Lakre เป็นวันที่พวกเขาจะรำลึกให้กับบุญคุณที่จระเข้ได้ทำเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นวันที่พวกเขาสามารถขอพรจากจระเข้ได้อีกด้วย รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ผู้คนนับถือจระเข้ให้มากขึ้นกันเถอะ หมู่บ้านนี้นับถือจระเข้มามากกว่า 70 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเคยเสียชีวิตเนื่องจากการโจมตีของจระเข้ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนสามารถลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำของหมู่บ้านได้อย่างไม่ต้องกังวล หากใครถูกจระเข้กัดเข้า พวกเขาจะถือว่าเป็นการลงโทษจากเทพเจ้ามากกว่าที่จะมองว่าเป็นสัญชาตญาณอันดุร้ายของสัตว์เลือดเย็นอย่างจระเข้…
-
พาชม “หมู่บ้านกังหัน” ของชาวดัตช์ เคยเห็นแต่ในโลโก้นมเปรี้ยว ของจริงมันสวยเวอร์!!
กังหันลมสไตล์ดัตช์ พร้อมด้วยทุ่งดอกไม้และวิวทิวทัศน์อันสวยงาม คงจะหาที่ไหนไม่ได้นอกจากในโลโก้ของนมเปรี้ยว เย้ย! ประเทศเนเธอร์แลนด์ยังไงล่ะ โดยเฉพาะในหมู่บ้านกังหันลมที่ชื่อว่า Zaanse Schans (อ่านว่า ซานเซ่อะ-สคานส) นั้นเรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับของความงามของหมู้บ้านสไตล์ดัตช์กันเลยทีเดียว แต่งานนี้เราไม่ต้องบินไปชมกันถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ได้ เพราะว่าช่างภาพชาวดัตช์นามว่า Albert Dros ได้เก็บภาพถ่ายสวยๆ ด้วยฝีมือของเขามาเผยแพร่ให้พวกเราได้ชมกัน “ผมโชคดีมากที่ไปยังหมู่บ้านทันเวลาตี 5 และได้เก็บภาพเอาไว้ เพราะตอนนั้นมันเหมือนกับผมได้เดินอยู่ในโลกของนิยายเลยล่ะ” Albert กล่าว เอาล่ะ อยากเห็นกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าหมู่บ้านกังหันลมจะสวยสดงดงามราวเทพนิยายจริงหรือเปล่า งั้นเราไปชมพร้อมๆ กันเลย!! 1. ช่วงเวลาก่อนอาทิตย์ขึ้นเผยให้เห็นผืนหมอกสีม่วงครามที่โอบห่มกังหันเอาไว้ (โห!!) 2. ทะเลหมอกไล่สีราวหมู่บ้านกังหันลอยอยู่บนโลกเทพนิยายเลยทีเดียว 3. แสงสีชมพูที่เกิดจากแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่สาดทะลุหมอกเข้ามา ทำให้เกิดภาพที่ไม่อยากเชื่อว่านี่คือโลกแห่งความจริง 4. และนี่คือฟาร์มชีสของที่นั่น บรรยากาศแบบนี้ยากนักที่จะได้สัมผัส 5. แสงอาทิตย์ที่เริ่มทอประกายทำให้เกิดแสงออร่ารอบๆ หมู่บ้านกังหันลม 6. นี่คือบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ นะ ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้คนมาถ่ายรูป (ได้อยู่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมงดงามขนาดนี้จะรู้สึกยังไงน้อ?) 7. ภาพราวกับโลกนิยายนี้เกิดจากต้นไม้เก่าแก่ที่มีกังหันลม หมอก และแสงอาทิตย์เป็นพื้นหลัง…
-
‘Houtong’ หมู่บ้านในไต้หวัน มี ‘แมวมากกว่าคน’ นี่มันสวรรค์ของทาสแมวชัดๆ
สำหรับคนรักแมวหรือทาสแมวทั้งหลาย คุณจะต้องอยากไปอยู่หมู่บ้าน Houtong แน่ๆ เลย เพราะมันคือหมู่บ้านที่มีแมวมากกว่าคนซะอีก หมู่บ้าน Houtong ซ่อนอยู่ท่ามกลางหุบเขาทางตอนเหนือของไต้หวัน เดิมเคยเป็นหมู่บ้านเหมืองแร่ แต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยแมวนับร้อยตัว หมู่บ้านนี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดย Jian Peiling ก่อนที่เธอจะผันตัวมาเป็นช่างภาพแมว และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Mrs. Kitten Peiling จะต้องดูแลประชากรแมวจำนวนมหาศาล ดังนั้นเธอจึงต้องจัดหาอาสาสมัครเพื่อให้การสนับสนุนแมวเหล่านี้ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนให้พวกมัน ในปี 2008 Peggy Chien หนึ่งในคนของพื้นที่และเป็นคนที่ชื่นชอบแมว ได้เริ่มโพสต์ภาพความพยายามของหมู่บ้านในการดูแลแมวจรจัด ตั้งแต่นั้นมาก็มีแมวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแบบนี้เอง ส่งผลให้มีแมวในหมู่บ้านมากกว่า 200 ตัว จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ล่าสุดในหมู่บ้านดังกล่าว ประชากรแมวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของประชากรมนุษย์ และมีผู้คนนับล้านในแต่ละปีที่เดินทางมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมเหล่าแมวเหมียวทั้งหลาย แมวพวกนี้ไม่ใช่แมวจรจัดนะ พวกมันได้รับการดูแลอย่างดีจากคนในหมู่บ้านและอาสาสมัครจากภายนอก พร้อมสัตวแพทย์ที่เข้ามาตรวจร่างกายพวกมันเป็นประจำ บางตัวถูกฝังไมโครชิปในตัวด้วย ใครก็ตามที่เข้ามาในหมู่บ้าน Houtong จะเห็นแมวอยู่ทั่วทุกทิศทาง พวกมันมักจะทักทายนักท่องเที่ยวด้วยความเป็นมิตรเสมอ …
-
หนุ่มโพสต์ปัญหา ‘สุนัขจรจัด’ ไร้การจัดการที่ดี พาพรรคพวกนอนบนรถ กัดทุกสิ่งให้กระจุย
กำลังเป็นที่ถกเถียงถึงหนทางแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัด อันเป็นบ่อเกิดของโรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิธีการที่เรียกว่า Set Zero ก็ยังเป็นที่พูดถึงไปอีกนานแสนนาน ภาพของสุนัขจรจัดที่ขึ้นไปนอนบนหลังคารถยนต์ และหนึ่งปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ หมู่บ้านเคหะท่าจีนสมุทรสาคร เผยแพร่โดยคุณ Wuttipak Leesubtanaroj เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้เห็นได้ว่าสุนัขจรจัดกำลังก่อปัญหาให้กับผู้พักอาศัยในบริเวณนั้นอยู่… โดยที่เขาได้ทำการโพสต์ด้วยใจความดังต่อไปนี้… “ว่างๆ มาเที่ยวได้คับ หมู่บ้านเคหะท่าจีนสมุทรสาคร เจอสวนสัตว์ฟาร์มหมายามค่ำคืน ฝูงหมาชั้นสูง ต้องนอนบนรถ ไม่รู้หมามันคิดอะไร ใครรักสัตว์ช่วยมาดูหมาทีคับ พฤติกรรมแบบนี้มันเป็นอะไร บางคนเห็นรูปแล้วบอกว่าเกินความจริงไปป่ะ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ ใครจะใส่ร้ายหมาว่ะ ถ้าได้ยินเองตรงหน้าจะลากมาดู#เดือดมาก! รูปก็เห็นอยู่ยังบอกว่าพูดว่าเกินความจริงไปป่ะ หมาจะทำหรอ ชาวบ้านเค้าเห็นจนชินจนไม่รู้จะแก้ปัญหาไงล่ะ ทำหมาก็บาป แต่ปล่อยไปแบบนี้มันไม่ใช่ #ด่ามาไม่ด่ากลับพร้อมเจอทุกคนนะไม่เก่งหน้าเฟส -ออกข่าวก็แล้ว -ยื่นเรื่องนิติก็แล้ว -มันไม่มีทางออกแล้วหรอว่ะ -สำหรับผู้รักสัตว์ทุกท่าน อย่ามาอ้างว่าพอมี set zero แล้วถึงออกมาเรียกร้อง เรียกร้องมานานล่ะ ตั้งแต่ธันวา จนคนถ่ายรูปมาเพิ่มเพราะเค้าเดือดร้อนไง เค้าโดนกันมากขึ้นจริงๆ เค้าถึงไปโพสต์ร้องทุกข์ ถึงบอกอย่าคิดแบบนั้น…
-
ไปรู้จัก 8 หมู่บ้านชาวต่างประเทศ สมัยกรุงศรีอยุธยา นี่คือเมืองนานาชาติอย่างแท้จริง!!
“ข้าพเจ้าไม่รู้สึกเบื่อเลยที่จะชมกรุงไกรอันใหญ่โตที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินเสมือนเกาะ มีแม่น้ำกว้างใหญ่ ๓ เท่าแม่น้ำเซนอยู่โดยรอบ ในแม่น้ำเต็มไปด้วยเรือกำปั่นฝรั่งเศส อังกฤษ วิลันดา ญี่ปุ่น ไทย และยังมีเรือใหญ่น้อยอีกเป็นอันมากแทบจะนับมิถ้วน…” บาทหลวงเดอชัวสี อุปทูตชาวฝรั่งเศส หากย้อนกลับไปถึงช่วงยุคสมัยเก่าแก่ของสยามประเทศนั้น ได้มีการติดต่อและค้าขายกับชาวต่างชาติมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือที่พำนักหรือบ้านของชาวต่างประเทศในดินแดนสยาม จะรวมตัวแบ่งออกเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันไป แผนที่หมู่บ้านชาวต่างประเทศในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวฝรั่งเศส ข้อมูลชุดนี้อำนวยการโดย อนุสาร อ.ส.ท. โดยเปิดเผยว่า สมัยกรุงศรีอยุธยาชาวต่างประเทศที่เดินทางโดยเรือสำเภา ต้องแล่นเรือเข้าทางปากน้ำสมุทรปราการ ขึ้นไปตามลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงชานพระนครด้านใต้ ก็ต้องจอดเรือตรงขนอนหลวงก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจผู้คนและสิ่งของ พร้อมทั้งเก็บภาษีสินค้าขาเข้าตามที่ตกลงไว้ แล้วจึงผ่านเข้าเขตพระนครได้ เรือสำเภาของต่างชาติได้รับอนุญาตให้จอดทอดสมอในแม่น้ำ คนละฝั่งกับเกาะเมือง ตั้งแต่บริเวณหน้าป้อมเพชร ที่เรียกว่า “บางกระจะ” เป็นแนวลงมาทางใต้ ซึ่งนอกเหนือจากคอนสแตนติน ฟอลคอน และท้าวทองกีบม้า ที่มีหน้าตาเป็นชาวต่างชาติในละครบุพเพสันนิวาสแล้ว ก็ยังมีชาวต่างประเทศชาติอื่น ๆ ที่เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน สามารถแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้… บ้านจีน หมู่บ้านจีน เคยตั้งอยู่ตั้งแต่บริเวณวัดพนัญเชิงลงมาทางใต้ ตามหลักฐานทางเอกสารพบว่าชาวไทยจีนติดต่อค้าขายกับกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่แผ่นดินสมเด็จพระนครินทราธิราช กษัตริย์ลำดับที่ 6 แห่งกรุงศรีอยุธยา…
-
“หมู่บ้านผีดิบ” ที่ชาวบ้านขุดศพคนในครอบครัวขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย เพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย…
[คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่กระทบกระเทือนจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเรียกว่าเป็น “หมู่บ้านผีดิบ” เพราะที่นั่น มีพิธีกรรมสุดประหลาดอย่างหนึ่ง ที่มีการขุดญาติหรือสมาชิกในครอบครัวที่ “ตาย” ไปแล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกครั้ง พิธีกรรมดังกล่าว เป็นพิธีกรรมของชาว Torojan ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจะมีการขุดศพของญาติและสมาชิกในครอบครัวที่ตายไปแล้ว ขึ้นมาชะล้างทำความสะอาดและแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกครั้ง ขุดขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว สูบบุหรี่ และใช้ชีวิตร่วมกัน . . ศพนั้นถูกขุดขึ้นมานำมาไว้ในบ้านนานนับทศวรรษ และทางครอบครัวก็จะใช้ชีวิตร่วมกับศพคนรักของพวกเขา โดยมองว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่เขาแค่ “ป่วย” จนกว่าทางครอบครัวจะสามารถจัดพิิธีศพตามความเชื่อได้อย่างสมเกียรติที่ชื่อว่า Rambu Solo จึงจะสามารถยอมรับได้จริงๆ ว่าศพนั้นได้ตายไปแล้ว ชาว Torojan ทำกับคนรักที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว (ที่ยังมีชีวิต) พวกเขาพูดคุย ให้น้ำ ให้อาหาร และแน่นอนว่า ยามเข้านอน ก็นอนด้วยกัน ไม่ว่าจะศพผู้ใหญหรือเด็ก ก็ถูกนำขึ้นมาแต่งตัว และใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว…
-
หญิงชาวโรฮิงญาเผยประสบการณ์ชีวิตอันขมขื่น ลูกชายถูกฆ่า ตัวเองโดนรุมข่มขืน
เรื่องราวสุดรันทดที่ถูกเล่าจากปากของหญิงสาวชาวโรฮิงญาที่ถูกทารุณกรรมทางกายและทางเพศ ด้วยเงื้อมมือ ของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 600,000 ชีวิตได้อพยพไปสู่ประเทศบังกลาเทศ เพื่อหนีให้พ้นการคุกคามจากทหารพม่า ที่ว่ากันว่าเป็น “ตัวอย่างของการชำระล้างทางชาติพันธุ์” ตามที่องค์การสหประชาชาติได้กล่าวไว้ Sunuara ชาวโรงฮิงญาวัย 25 ปี เล่าว่าเธอต้องอพยพไปยังบังกลาเทศหลังจากหมู่บ้านของเธอถูกโจมตีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2017 เธอบอกว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ เธอมีชีวิตที่ดี มีวัว รถ และที่นา เป็นของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารมาเยือนบ้านของเธอซึ่งขณะนั้นสามีของเธออาศัยอยู่ ณ อีกหมู่บ้านหนึ่งกับญาติ ส่วนลูกคนอื่นๆ ของเธอก็ไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอ เธอเล่าว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ประหารลูกชายของเธอด้วยการยิงเขาเข้าที่ท้องต่อหน้าต่อตา ขณะนั้น Sunuara ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกตรึงไว้กับเตียงและถูกข่มขืนโดยชาย 9 คน เป็นเวลารวม 6 ชั่วโมง เธอฟื้นขึ้นอย่างไร้สติ เมื่อสามีและพี่ชายของเธอเข้ามาพบ จากนั้นพวกเขาก็พาเธอออกจากที่นั่นไปยังชายแดนบังกลาเทศ เธอคลอดลูกของเธอที่นั่น แต่หนึ่งวันหลังจากนั้น ทารกที่เธอคลอดออกมาก็ไม่อาจรอดชีวิตได้ ในขณะเดียวกัน Roshida Begum วัย 22 ปี…
-
Utopia สังคมในอุดมคติที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นอาคารทรงกะหล่ำในกรุงปารีส
Utopia คือแนวคิดสังคมในอุดมคติของเซอร์ Thomas More ในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึง 16 แนวคิดนี้พูดถึงสังคมที่ทุกคนมีความคิดไปในทิศทางเดียวกัน ไร้ความขัดแย้ง และใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข เรียกว่าเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความวุ่นวายในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง แนวคิดดังกล่าวได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกจำนวนมาก ในการสร้างหมู่บ้านของสังคมอุดมคติ ที่อาศัยอยู่ในอาคารหรือบ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยม แต่สำหรับสถาปนิกชาวฝรั่งเศส Gérard Grandval เขาเลือกสร้างที่พักในลักษณะที่ต่างออกไป เพราะมันคือตึกรูปทรงประหลาดหน้าตาคล้ายกับกะหล่ำปลี ผลงานของสถาปนิก Gérard เพื่อรองรับสังคมในอุดมคติ สนามเด็กเล่นขนาดย่อม . ตึกทั้งหมดนี้ถูกเรียกว่าหมู่บ้านสำหรับสังคมในอุดมคติของเขา โดยมีการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของตัวเองที่เป็นคนไม่ค่อยชื่นชอบอะไรที่เป็นทรงลูกบาศก์ซักเท่าไหร่ และหมู่บ้านแห่งนี้ก็ถูกสร้างเอาไว้ในเขต Créteil กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สภาพของตึกยังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง . . อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่อง Utopia ยังคงเป็นสิ่งที่มีความบกพร่องและเป็นไปได้ยาก หมู่บ้านแห่งนี้จึงได้กลายเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของประเทศ จากการรับรองของรัฐบาลในปี 2008 อีกทั้งมันยังเป็นหมู่บ้านอันเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ช่วง 1970s แสดงให้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน ภาพเก่าแก่ที่ถูกถ่ายเอาไว้ ยังดูสวยงาม จากอดีตสู่ปัจจุบัน .…
-
ที่นี่ประเทศไทย!! รวมสถานที่ หมู่บ้าน และอำเภอชื่อแปลก เดี๋ยวนะพี่ แบบนี้ก็ได้เหรอ??
ประเทศไทย หรือฉายาที่เรียกกันติดปากว่า สยามเมืองยิ้ม และฉายานี้ไม่ได้มาง่ายๆ นะจ๊ะ ก็เพราะว่าชาวไทยนั้นเป็นคนตลก ไม่ว่าเรื่องอะไรชาวไทยก็ทำให้เป็นเรื่องขำได้ ช่างมีความสุขในชีวิตจริงๆ ประเทศไทยแบ่งออกเป็น 77 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดนั้นก็แบ่งออกเป็นอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน อีกมากมาย แต่จะให้จำทั้งหมดก็คงไม่ไหวเพราะมันมีเยอะเหลือเกิน เราจึงคัดเอาแต่ชื่อสถานที่แปลกๆ มานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านกัน 1. ผาหำหด สงสัยจะสูงและหนาวมาก หดกันเลยทีเดียว 2. บ้านปี้ (ภาษาเหนือ ปี้แปลว่าพี่ ไม่ใช่ปี้อย่างนั้นนะ อย่าเพิ่งคิดลึก) 3. บ้านโดนเอาว์ เดี๋ยวนะ ใจเย็นๆ ก๊อนนนนนน!! 4. คนในหมู่บ้านนี้ต้องรวยมากแน่ๆ ดูจากชื่อหมู่บ้านคนมีกะตังก์ 5. ออกลูกออกหลานเต็มไปหมด อ่าว ไม่ใช่ 6. บ้านน้ำออกรู ว่าแต่รูไหนอ่ะ 7. ดีใจมากได้เจอบ้านของบอยแบนด์เกาหลี บ้านดงบัง 8.…
-
เครือข่ายหมู่บ้านถ้ำจีน Yaodongs เป็นที่อยู่ของชาวถ้ำกว่า 3,000 คน มาตั้งแต่โบราณกาล
เป็นที่เชื่อกันว่าลึกลงไปใต้ดินของเมือง ซานเหมินเซียะ แห่งมณฑลเหอหนานนั้น เป็นที่อาศัยของผู้คนเกือบ 10,000 ครัวเรือน และหมู่บ้านอีกนับร้อยแห่ง ลักษณะของการสร้างที่อยู่อาศัยใต้ดินโดยแบ่งออกเป็นย่านๆ ตามหมู่บ้านหรือลานกว้างนั้น เป็นภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล โดยหนึ่งหมู่บ้านนั้นสามารถมีผู้อาศัยได้ถึง 3,000 ชีวิต ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้พบเห็นกันในเมืืองซานเหมินเซียะนี่เอง . ปัจจุบัน หน่วยงานของรัฐบาลกำลังพยายามสำรวจไปตามอุโมงค์และสถาปัตยกรรมสุดล้ำที่อยู่ใต้ดินแห่งนี้ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยใต้ดินที่เชื่อมกันเป็นถ้ำและอุงโมงค์แบบนี้ถูกเรียกว่า “Yaodongs” ซึ่งที่แห่งนี้ได้มีผู้คนอาศัยผ่านไปแล้วราว 6 รุ่น หรือมากกว่า 200 ปีด้วยกัน พวกเขาสร้างที่พักอาศัยใต้ดินแบบนี้ก็เพื่อรักษาความอุ่นเมื่ออากาศหนาว และรักษาความเย็นเมื่ออากาศร้อน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Easy Tour China กล่าวว่า “มันมีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ” . พวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าที่จะขุดดินลงมาราว 7 เมตร เพื่อสร้างที่บ้านในถ้ำแบบนี้ ซึ่งผลงานที่พูดได้ว่าดีที่สุดนั้นถูกสร้างอยู่ในหมู่บ้าน Renma และ Miaoshang ในเมือง Shanxian มันเป็นบ้านที่มีสไตล์เรียบง่าย ฝุ่นเขลอะ แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบชาวตะวันตกยุคสมัยใหม่ เช่น…
-
แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? เมืองในโปรตุเกส ส่งเสริมให้เด็กสูบบุหรี่ในวันสมโภชพระคริสต์
แน่นอนว่าสถานที่แต่ละแห่ง ประเทศแต่ละประเทศ หรือแม้แต่หมู่บ้านเอง ก็มีขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตัวเอง โดยแต่ละที่ก็อาจจะเหมือน คล้าย หรือแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วันนี้สิ่งที่จะนำเสนอก็คือ ประเพณีหนึ่งของประเทศ โปรตุเกส ที่อนุญาตและส่งเสริมให้เด็กๆ ‘สูบบุหรี่’ ในวันที่ 6 มกราคม 2017 หมู่บ้าน Vale de Salgueiro ในประเทศโปรตุเกส มีประเพณีเฉลิมฉลองอย่างหนึ่งที่เรียกว่า วันสมโภชพระคริสต์ โดยในวันนั้นเองจะมีการรับประทานเค้กและร้องเพลงร่วมกัน ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งที่ครึกครื้นมากเลยทีเดียว แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ ในวันแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เด็กๆ จะได้รับการอนุญาตและสนับสนุนให้สูบบุหรี่ แม้นักวิจารณ์และผู้คนภายนอกจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ชาวพื้นเมืองที่นั่นรักษาธรรมเนียมปฏิบัตินี้มาเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ แต่ก็ยังไม่มีใครทราบได้ถึงที่มาของธรรมเนียมดังกล่าวว่าหมายความถึงสิ่งใด ขณะที่กฎหมายของโปรตุเกสจะอนุญาตให้ซื้อบุหรี่ได้ก็ต่อเมื่อบุคคลผู้นั้นมีอายุครบ 18 ปี ประเพณีดังกล่าวก็ยังคงส่งเสริมให้เด็กๆ สูบบุหรี่ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อาจเข้ามาแทรกแซง เจ้าของร้านกาแฟ นามว่า Guilhermina Mateus ให้สัมภาษณ์กับ The Associated Press ว่า “ฉันไม่เห็นว่ามันจะอันตรายตรงไหน เด็กๆ ไม่ได้สูบเข้าไปจริงๆ เสียหน่อย แค่สูดเข้าไปและพ่นออกมาทันที อีกอย่าง มันก็แค่วันนี้กับพรุ่งนี้เท่านั้น หลังจากนั้น เด็กๆ ก็ไม่ได้สูบบุหรี่อีก” ผู้ปกครองของเด็กๆ…
-
ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?
ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ . . พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้ Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่…
-
ชายหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกชาวบ้านกล่าวหา พร้อมจับแก้ผ้าเดินประจานบนท้องถนน
ภาพจากคลิปวิดีโอไม่เปิดเผยที่มาคลิปหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่ถูกคนในหมู่บ้านบังคับให้เดินไปตามท้องถนนพร้อมกับใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น หลังจากที่คนในหมู่บ้านกล่าวหาว่าพวกเขาทำเรื่องน่าอับอายและมีความผิด คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Kadu ทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หญิงสาวภายในคลิปวิดีถูกบังคับให้ถอดกางเกงของเธอออก เหลือแต่กางเกงในและเสื้อยืดของเธอ ในขณะที่ชายหนุ่มจำนวนหนึ่งกำลังล้อมรอบเธอ ถัดจากหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ไกล ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในสภาพเหลือแต่ชุดชั้นในพร้อมกับถูกทำร้ายร่างกาย “ตีพวกมัน เผาพวกมัน บอกเรามาว่าพวกแกสองคนทำอะไร” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังพูดกับชายหญิงคู่นั้น ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามขอร้อง แต่ต่อหน้าเหล่าชายฉกรรจ์คำอ้อนวอนของเธอกลับไม่มีความหมาย ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น ทั้งสองถูกบังคับให้เดินไปตามท้องถนน พร้อมกับถูกทำร้ายร่างกายเพื่อประจานความผิดของพวกเขา ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่าชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นได้เดินทางมาทานมื้อค่ำที่บ้านของหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่เธอถอดทิ้งไว้ และหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เข้ามาจับกุมตัวเขาและเธอ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจำตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้นำของหมู่บ้านแห่งนี้นี่เอง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาใช้ความรุนแรง และมีโทษจำคุกอย่างน้อยครึ่งปีจนถึง 5 ปี หรือถ้าหากว่าชายหญิงทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสพวกเขาทั้งหมดจะถูกจำคุกนานถึง 9 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าทั้งสองได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ที่มา observers
-
สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น
ผู้คนในทุกวันนี้เริ่มที่รักษาสุขภาพกันมากขึ้นเห็นได้จากการออกกำลังกายและกินอาหารมังสวิรัติที่ได้กลายเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นมังสวิรัติแบบสุดโต่งนี่อาจเป็นหมู่บ้านที่คุณกำลังฝันหาถึงอยู่ก็ได้ เพราะนี่คือหมู่บ้านที่มีแต่มังสวิรัติ! หมู่บ้านแห่งมังสวิรัตินี้ตั้งอยู่แถวๆ ชานเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซียโดยหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า Veda ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ออกแบบมาเพื่อชาวมังสวิรัติที่รักสุขภาพจะได้อยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน กฎเหล็กข้อแรกของผู้ที่ซื้อหรือเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้คือต้องเป็นมังสวิรัติเท่านั้น โดยจะต้องเข้าสัมภาษณ์กับตัวแทนขายของหมู่บ้านนี้ก่อน และถ้าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ก็หมดสิทธิ์ที่จะซื้อบ้านที่นี่ แต่ไม่ใช่แค่เป็นมังสวิรัติก็จะเข้าอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ เพราะที่นี่ยังห้ามสูบบุหรี่และดื่มเหล้าอีกด้วย “ไอเดียหลักที่สร้างชุมชนแห่งนี้คือ อยากให้คนที่มีความคิดความชอบเหมือนๆ กันได้มารวมตัวกัน หากคุณเป็นมังสวิรัติ ที่นี่เปิดประตูต้อนรับคุณแน่นอน” Maya Podlipskaya ผู้จัดการของหมู่บ้านแห่งนี้ได้บอกไว้ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่พึ่งพาตัวเองโดยพวกเขาได้มีการจัดการทรัพยากรอย่าง ไฟฟ้า น้ำ การบำบัดของเสียและการผลิตอาหารในชุมชนเอง อีกทั้งหมู่บ้านยังมี ฟิตเนส สถานที่สำหรับโยคะ สปา รวมทั้งร้านอาหารมังสวิรัติ ให้คนในชุมชนนี้ได้ใช้อีกด้วย โดยอพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ในชุมชนนี้ เสร็จแล้ว 2 ตึกจาก 7 ตึกและตึกที่เหลือมีกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และสามารถรองรับได้ถึง 210 ครอบครัวเลยล่ะ ลองมาชมความน่าอยู่ของหมู่บ้านนี้กันไหมล่ะ ที่มา: odditycentral
-
เทศกาลสุดแปลก ที่ทุกคนในหมู่บ้านกว่า 20,000 คนจะต้องออกมากินข้าวร่วมกันในทุกๆ ปี
บนโลกของเรามีงานเทศกาลแตกต่างจัดขึ้นแตกต่างกันไปทั่วโลก ขึ้นอยู่กับค่านิยมและวัฒนธรรมของแต่ละแห่ง ซึ่งในบางครั้งก็อาจทำให้เราต้องแปลกใจว่าอะไรแบบนี้ก็มีด้วยหรอ?! เรามาดูตัวอย่างของหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะมาจอร์กา ประเทศสเปน เมื่อทุกวันศุกร์ที่ 3 ในเดือนกันยายนทุกคนในหมู่บ้านจะหยุดทุกอย่างและออกมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ทั้งหมู่บ้านเลยจริงๆ นะเออ มื้อเย็นประจำปีที่จัดขึ้นนี้มีชื่อว่า Sopar a la fresca โดยในวันนั้นจะได้เห็นภาพของคนจำนวนมากจัดโต๊ะยาวเหยียดเพื่อนั่งกินข้าวและดื่มไวน์กันอย่างสนุกสนาน แน่นขนัดขยับกันแทบไม่ได้ ทางเทศบาลของเมืองบอกว่าจำนวนคนนั้นเยอะจนน่าตกใจเป็นอย่างมาก เพราะคาดว่ามีผู้มาร่วมงานมากถึง 20,000 คน ทั้งๆ ที่ประชากรในเมืองมีแค่ราว 8,000 คนเท่านั้นเอง สงสัยว่าคนที่เหลือจะมาจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ จะมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนทุกคนในหมู่บ้านก็ยินดีต้อนรับ ยิ้มกันแบบนี้ จริงๆ แอบหิวกันอยู่หรือเปล่านะ? ทุกอย่างในงานมาจากแรงกายแรงใจของทุกคนที่นำเก้าอี้และโต๊ะออกมาตั้งกันเอง ส่วนเรื่องอาหารหรือการตกแต่งต่างๆ ทุกคนก็จะช่วยเหลือกัน เป็นความอบอุ่นที่เกิดขึ้นมาอย่างเรียบง่าย เป็นงานที่ตกแต่งด้วยฝีมือของพวกเขาเองทุกคน นอกจากนั้น งานนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลกินไวน์ที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุกเดือนกันยายนชื่อว่า Festa des Vermar อีกด้วย เรียกได้ว่ากว่า 20,000 คนนี่ยังแค่จิ๊บๆ มีโต๊ะแยกไว้สำหรับพูดคุยกันตามประสาเด็กด้วยนะ…
-
หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้
เมืองที่มีมาอย่างยาวนานและถูกทิ้งร้างไป มักจะเต็มไปด้วยสภาพที่ทรุดโทรม ไม่น่าเข้าไปใกล้หรืออยู่อาศัยกันในละแวกนั้นซักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับหมู่บ้าน Batsto เพราะถึงแม้ว่าจะถูกสร้างมานานมากแล้ว ตั้งแต่ในปี 1766 ยาวนานมาจนถึงผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายที่ออกไปจากที่นี่ในปี 1989 ทว่ามันก็ยังคงความสวยงามและเก่าแก่อยู่เสมอ ตึกรามบ้านช่องต่างๆ นอกจากจะยังคงดูพร้อมใช้งานเหมือนกับมีคนอยู่อาศัยมาตลอดแล้ว ทุกสิ่งก่อสร้างยังคงมีความคลาสสิค ไม่มีความร่วมสมัยเหมือนกับตึกในสมัยนี้เลยแม้แต่น้อย เหมือนกับที่หมู่บ้านนี้เป็นมาตั้งแต่แรก อาคารนอกประจำหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์แห่งชาติเมือง Pinelands และได้รับการปกป้องโดยกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะและป่าไม้ของรัฐ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้ยังคงน่าอยู่เสมอ ปราศจากคนเข้ามารุกราน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นี้เริ่มต้นมาจาก Charles Read ช่างตีเหล็กผู้โด่งดัง เข้ามาสร้างโรงงานเป็นของตัวเองใกล้กับแม่น้ำ Batsto ในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบถูกเต็มไปด้วยแร่หินต่างๆ ตามธรรมชาติมากมาย แม่น้ำ Batsto ที่ตัดผ่านหมู่บ้าน นอกจากนั้นทรัพยากรที่จำเป็นก็หาได้ง่ายมาก ใช้น้ำจากแม่น้ำหรือตามบึงรอบๆ ไม้เยออะแยะที่มีอยู่ในป่าใหญ่ และสิ่งจำเป็นสำหรับการตีเหล็กมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำให้โรงงานเติบโตได้ดีจนต้องมีลูกจ้างเข้ามาช่วย สิ่งปลูกสร้างเป็นอันดับแรกนอกเหนือจากที่ทำงาน จึงเป็นบ้านพักอาศัยของคนเหล่านั้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้กลายเป็นหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จากตอนแรกที่สร้างเพียงแค่ของใช้ภายในบ้าน แต่โรงงานแห่งนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จน John Cox ได้เข้าซื้อโรงงาน และเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหลายให้กับกองทัพภาคพื้นทวีป ในช่วงปฏิวัติอเมริกา…
-
19 สถานที่แปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลก น้อยคนนักจะรู้จัก แบบนี้มันก็มีด้วยเร๊อะ!?
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสถานที่สวยงามเกิดขึ้นมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว บนโลกอันแสนกว้างใหญ่ใบนี้กลับมีสถานที่ที่น่าสนใจรอให้หลายๆ คนได้ไปสัมผัสอยู่นะ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมานำเสนอ 19 สถานที่จากรอบโลก ที่แม้ว่ามันจะค่อนข้างลึกลับ และอาจไม่มีใครรู้จักมาก่อน แต่ต้องบอกเลยว่ามันกลับน่าสนใจไม่น้อย บางที่ก็น่าไปมาก ในขณะที่บางที่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าทึ่งมากมาย ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลย 1.หมู่บ้าน Fucking หมู่บ้าน Fucking แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรีย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่น่าอยู่ ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านกำลังเผชิญหน้ากับปัญหานักท่องเที่ยวชอบขโมยป้ายบอกทางของหมู่บ้าน เพราะไม่ว่าจะทำใหม่ออกมาเรื่อยๆ ก็จะถูกขโมยอยู่ตลอด (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 2.ทะเลสาบฮิลเลียร์ ทะเลสาบฮิลเลียร์ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยนมสตรอเบอร์รี่สีชมพูนี้ จริงๆ แล้วเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Donariela Salina ซึ่งเป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งนั่นเอง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 3.ถนนที่แคบที่สุดในโลก ว่ากันว่า Schleier Hof Avenue ในประเทศเยอรมนี เป็นถนนที่แคบที่สุดในโลก โดยมีความกว้างเพียงแค่ 31-50 เซนติเมตรเท่านั้น โดยถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1727 4.บ้านทรงแคบที่ถูกสร้างด้วยเจตนาร้าย ปี…
-
พาชมหมู่บ้านสุดแปลกในเดนมาร์ก ที่ถูกออกแบบมาหมู่บ้าน “วงกลม” แห่งเดียวในโลก
ปกติเวลาเรามองภาพมุมสูงของเมืองต่างๆ คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าที่นั่นคือที่ไหน เพราะแต่ละเมืองต่างมีผังเมืองี่คล้ายๆ กันหมด แต่นั่นไม่ใช่กับที่นี่ รับรอบว่าแค่มองครั้งเดียว คุณจะรู้แน่นอนว่าที่นี่คือที่ไหน เพราะหมู่บ้านนี้มีการวางผังเมืองอย่างมีเอกลักษณ์และแปลกไม่ซ้ำใคร เมื่อบ้านเรือนของหมู่บ้านนี้จับกลุ่มเรียงกันเป็นวงกลมเล็กๆ และแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน จนดูเหมือนกับว่ามีล้อรถมาวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่สีเขียวไปหมด หมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตของเมือง Brøndby ทางตะวันออกของประเทศเดนมาร์ก ที่ครอบคลุมพื้นที่โดยรอบกว่า 20 ตารางกิโลเมตรและปีประชากรอยู่อาศัยกันกว่า 35,000 คน โดยส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยกันแบบเป็นครอบครัวเดี่ยวพ่อแม่ลูก ซึ่งหมู่บ้าน Brøndby Haveby นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนที่มีลักษณะเป็นวงกลมชื่อว่า Runde Haver ของสถาปนิกที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก Carl Theodor Sørensen ทำให้รูปร่างของหมู่บ้านมีความคล้ายคลึงกับการออกแบบนั้นมาก (Runde Haver) โดยวงกลมในแต่ละวงจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 24 ส่วนและปลูกไม้พุ่มเอาไว้เพื่อกั้นเป็นรั้ว เป็นการสร้างความเท่าเทียมให้กับพื้นที่ใช้สอยของบ้านแต่ละหลังได้อย่างสวยงาม และเห็นได้ว่ายังคงรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นไอเดียที่ไม่ใช่แค่แปลกหรือดูสวยงาม แต่การแบ่งสันปันส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สะดวกในการไปมาหาสู่กันและรู้จักกับเพื่อนบ้านได้ง่าย สร้างความสัมพันธ์ให้กับคนในเมืองได่ดีเลยทีเดียว ที่มา: สำรวจโลก , wikipedia
-
เปิดตัวหมู่บ้านดีไซน์ล้ำ เพราะสถาปัตยกรรมเกือบทั้งหมด มีส่วนประกอบหลักเป็นไม้ไผ่!!
เป็นที่รู้กันดีว่าไม้ไผ่ ถือเป็นไม้ที่มีความยืดยุ่นมาก สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุในการสร้างก่อสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และเป็นไม้ขึ้นชื่อของประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นอาหารหลักของหมีแพนด้าอีกต่างหาก!! ด้วยเหตุนี้ศิลปินชาวจีนนามว่า Ge Qiantao จึงร่วมมือกับ George Kunihiro สถาปนิกผู้มีชื่อเสียง ได้จัดตั้งงาน International Bamboo Architecture Biennale ขึ้นมา โดยร่วมมือกันสร้างหมู่บ้านที่มีไม้ไผ่เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งตั้งรวมกับหมู่บ้าน Baoxi ของประเทศจีน ส่วนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักรับรองและพิพิธภัณฑ์เซรามิก โดยใช้วัสดุธรรมชาติดั้งเดิมอย่างไม้ไผ่ผนวกเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ ส่วนทางด้านหมู่บ้าน Baoxi ก็ออกมาสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมกับหวังว่าโปรเจคดังกล่าวจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมอาคารบ้านเรือน โรงแรม รวมถึงศูนย์การเรียนรู้ด้วย ดีไซน์สวยงามและลงตัวมากๆ แม้แต่ตัวสะพานในหมู่บ้านก็ยังมีส่วนผสมประกอบของไม้ไผ่ การออกแบบก็ดูดีเช่นกัน ภายในของศูนย์วิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ เรียบแต่หรู!! ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาทำออกมาได้เยี่ยมจริงๆ แม้จะบอกว่าเป็นบ้านไม้ไผ่ แต่ก็ไม่ได้ใช้แต่ไม้ไผ่อย่างเดียว เพราะยังต้องการความแข็งแรงและทนทาน ตัวพิพิธภัณฑ์เซรามิก มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี ภายในพิพิธภัณฑ์เซรามิก ก็มีดีไซน์สวยงามไม่แพ้อาคารหลังอื่นเลย อีกมุมหนึ่งของศูนย์วิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ ส่วนนี่ก็เป็นทางเดินของศูนย์ฯ มุมมองจากภายในของตัวสะพานที่เราเห็นข้างนอกกันไปแล้ว…
-
พาไปชม 10 หมู่บ้านสุดสวยงามจากฝั่งตะวันตก โลกเทพนิยายที่สัมผัสได้บนผืนดินจริงๆ
#เหมียวปั๊ก เป็นคนที่ชอบแบกเป้ออกไปท่องโลกกว้างมากๆ เลยนะ (ถ้ามีเวลากับตังค์น่ะนะ) และบ่อยครั้งที่เหมียวจะเข้าไปหาข้อมูลเพื่อตั้งเป้าหมายสถานที่ที่เหมียวจะไปเป็นที่ต่อไป สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังหาหมู่บ้านสงบๆ เป็นเป้าหมายในการพักผ่อนแล้วล่ะก็ เหมียวขอแนะนำ 12 หมู่บ้านที่มีความสวยงามเหมือนดั่งโลกเทพนิยาย แต่สามารถไปสัมผัสได้จริงๆ และคุ้มค่าแก่การเดินทางแน่นอน Gàsadalur Village หมู่บ้าน Gàsadalur ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะแฟโร ประเทศเดนมาร์ก ด้วยทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นอุโมงค์ทะลุผ่านภูเขาและวิวทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและเมฆหมอก ทำให้หมู่บ้านนี้มีมนต์ขลังเป็นอย่างมาก Popeye Village ที่นี่คือหมู่บ้าน “Popeye” ที่ตั้งอยู่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Malta ด้วยความสวยงามของสถานที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Popeye ปี 1980 ซึ่งนำแสดงโดย Robin William นักแสดงอารมณ์ดีผู้มากความสามารถอีกด้วย Mali Village ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านที่ธรรมดา แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่วิวทิวทัศน์ของแม่น้ำ Niger กับทะเลทรายที่มาบรรจบกันอย่างลงตัว ทำให้มันมีกลิ่นอายของการผจญภัยรวมกับบรรยากาศชิลๆ นั่งมองดูเรือใบบรรทุกของไหลผ่านไปมา Masuleh Village หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาในประเทศอิหร่านโดยมีประชากรประมาณ 550 คน ในตอนกลางวันหมู่บ้านนี้ดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้านทั่วไป แต่อย่าให้ได้ตกกลางคืนหล่ะ เพราะคนในหมู่บ้านนะจะพร้อมใจกันเปิดไฟหลากหลายสีสัน ทำให้บรรยากาศครึ้งเครงดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา…
-
พาเที่ยวหมูบ้าน “จิ้งจอกสุดน่ารัก” ในบรรยากาศหิมะปกคลุม พร้อมกับขนปุยนุ่มๆ ของมัน!!
นี่คือการเดินทางของนักเดินทางที่ชื่อว่า Natasha Puente วัย 29 จากประเทศเม็กซิโก ตอนนี้เธอกำลังท่องเที่ยวทั่วเอเชียพร้อมกับถ่ายภาพสิ่งที่เธอได้พบเจอมาแล้วนำมาบอกเล่าให้เราฟัง ซึ่งสิ่งที่เธอไปเจอมาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ เดิมทีแล้วเธอเป็นคนที่ชื่นชอบสุนัขจิ้งจอกเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีรอยสักของมันด้วย และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอได้มีโอกาสไปที่โตเกียวเพื่อสอบ TESOL จึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมหมูบ้านจิ้งจอกอันโด่งดังด้วย การเดินทางของเธอเริ่มจากขึ้นรถไฟชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปลงที่สถานีชิโรอิชิในเมืองมิยางิ เมื่อไปถึง เธอก็ขึ้นแท็กซี่ต่อจากการถามคนแถวนั้น ซึ่งมาถึงจุดนี้ เธอบอกว่ามีความประทับใจในคนญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถามทาง ขอความช่วยเหลืออะไร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ พอขึ้นแท็กซี่แล้ว คนขับก็ได้โชว์อัลบั้มรูปภาพหมู่บ้านจิ้งจอกให้เธอดูระหว่างทาง ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม โดยการเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที การจะเข้าไปในหมู่บ้านได้ต้องเสียค่าผ่านทางประมาณ 300 บาท พร้อมทั้งจะมีคนแนะนำวิธีเข้าหาเหล่าจิ้งจอกเป็นภาษาอังกฤษ เช่นถ้าเวลาเข้าใกล้ พยายามทำให้ตัวเองดูน่าเกรงขามไว้ อย่านั่งลง เพราะอาจจะถูกกัดได้ และอย่าวางสิ่งของไปเรื่อยเปื่อย เพราะจิ้งจอกมักจะฉี่ใส่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามแตะหรือจับพวกมัน และนี่ก็คือภาพและคลิปที่เธอได้ไปเจอมา เป็นช่วงเวลาที่น่ารักมากๆ . . . . . . .…
-
หมู่บ้าน Zlipie เคลือบภาพวาดดอกไม้สีสันสดใส เพื่อฟื้นฟูจิตใจจากสงครามโลกครั้งที่ 2
บนโลกของเรานั้นยังมีวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นอยู่มากมาย และหมู่บ้านที่ถูกปกคลุมไปด้วยภาพวาดดอกไม้สีสันสดใสเองก็เช่นกัน หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศโปแลนด์ มีชื่อว่า Zalipie ถูกปกคลุมไปด้วยภาพวาดดอกไม้มากมาย จนกลายเป็นแรงดึงดูดใจเหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายให้ไปเยี่ยมเยือน เมื่อนานมาแล้วมีผู้อยู่อาศัยลงมือเพ้นต์ดอกไม้ลงบนฝาบ้านเพื่อปกปิดคราบเขม่าที่เกิดขึ้นจากเตาไฟจากการสร้างความอบอุ่น หรือทำครัว ในตอนแรกมีแค่บางบ้านเท่านั้นที่ทำแบบนี้ แต่ภายหลังทั้งหมู่บ้านก็ถูกปกคลุมไปด้วยภาพวาดดอกไม้แสนงดงามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โรงนา คอกสัตว์ โบสถ์ และสะพาน จนกลายเป็นวถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน ในทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่ปี 1948 หมู่บ้านแห่งนี้จะมีการแข่งขันกันวาดภาพดอกไม้ลงบนฝาผนังบ้าน ที่ชาวท้องถิ่นเรียกกันว่า ‘Malowana Chata’ เดิมทีการแข่งขันนี้จัดขึ้นก็เพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่ชาวโปแลนด์ได้รับจากความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงทุกวันนี้หมู่บ้าน Zalipie ได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมาเป็นที่เรียบร้อย และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศโปแลนด์เลยล่ะ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศโปแลนด์ ห่างจากตัวเมือง Kraklow ประมาณ 90 นาทีเท่านั้นเอง หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากไปเยี่ยมชม และอยากสร้างความทรงจำในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ก็สามารถลองไปแวะชมกันได้นะ แม้แต่สะพานก็ถูกประดับตกแต่งไปด้วยลายดอกไม้ . . . . …
-
ปู๊น ปู๊นนน!! นั่งรถไฟไป “Houtong” หมู่บ้านเหมียวไต้หวัน ดินแดนแห่งสวรรค์ของเหล่าทาสแมว
การเดินทางเพียงระยะเวลาสั้นๆ จากญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าลงไปยังหมู่บ้าน Houtong ในไต้หวัน บอกเลยว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ และประทับใจให้กับคุณแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของไต้หวัน และยังเป็นหมู่บ้านของบรรดา “แมวเหมียว” อีกด้วย ว้าวววว!! ฟังดูน่าตื่นเต้นจังเลย ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ “Houtong” หมู่บ้านแมวบนเกาะไต้หวัน Houtong เป็นที่รู้จักในนามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไต้หวัน โดยในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ที่สามารถผลิตถ่านหินได้ปีละกว่า 2 แสนตัน จนกระทั่งกิจการถ่านเริ่มซบเซา ทำให้ผู้คนต้องย้ายออกไปทำงานที่อื่น จนทำให้เหมืองแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และกลายเป็นเหมืองร้างไปในที่สุด เรารอพวกเธอมาหาอยู่ตรงนี้นะ ที่ Houtong มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 6,000 แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีแมวเหมียวอยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจำนวนของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่องๆ ซะด้วยสิ สำหรับหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมืองไทเป ประมาณ 60 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือน สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 – 50 นาทีเท่านั้น เมื่อคุณเดินทางมาถึงก็จะพบกับบรรดาน้องเหมียวมากมาย…
-
อ้วนทำลายล้าง!! แมวน้ำยักษ์สุดระห่ำ หลงมาจากไหนไม่รู้ ป่วนหมู่บ้าน ปีนขึ้นรถจนเสียหาย
ปกติแล้วเรามักจะเห็นแมวน้ำอยู่ตามชายทะเล หรือที่ที่มีน้ำ แต่สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้กลับถูกแมวน้ำยักษ์ตัวหนึ่งหลงบุก พร้อมกับทำเอาปั่นป่วนไปทั้งหมู่บ้าน ที่รัฐแทสเมเนีย ในประเทศออสเตรเลีย ตำรวจได้พบกับแมวน้ำที่เรียกว่า “Lou-Seal” ถูกพบในช่วงเช้าในวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาตามรายงานจากสำนักข่าว ABC แมวน้ำตัวนี้ได้หลงมายังเมือง Newstead ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่เกือบ 40 กิโลเมตร คาดว่ามันน่าจะมาที่นี่เพื่อหาแหล่งน้ำเล็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ที่จะเห็นแมวน้ำมาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ ทางตำรวจก็ได้บอกผู้คนในหมู่บ้านให้ระวังและไม่ให้เข้าใกล้เด็ดขาด เพราะว่ามันตัวใหญ่และไม่รู้ว่าจะอันตรายมากแค่ไหน แต่ก็ยังดีที่มันก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน และนี่ก็คือผลงานที่มันทำ สร้างความเสียหายไปหลายหมื่นจากการปีนขึ้นรถยนต์ ทำเอากระจกแตกจนใช้งานไม่ได้ ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านก็ได้รับแจ้งเตือนว่าห้ามออกจากบ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมงระหว่างที่ตำรวจกำลังจัดการในบริเวณนั้นอยู่ เพื่อรอให้ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Parks and Wildlife Service มาช่วยเหลือ ในที่สุดก็โดนยิงยาสลบไปสองดอก หมดฤทธิ์ซักทีนะเจ้าอุ๋งๆ หลังจากจัดการอยู่นาน ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายตัวมันกลับไปในแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม (คลิป) Launceston seal, dubbed Lou-Seal being moved from suburban driveway into…
-
ชีวิตสุดหรูหราใน Huaxi หมู่บ้านรวยที่สุดในจีน มีคฤหาสน์ รถ เงินให้ใช้ แต่ถ้าย้ายออกต้องทิ้งทุกอย่าง!!
ภาพบรรยากาศของตึกสูงระฟ้า แท็กซี่ที่ไม่ใช่รถแต่เป็นเฮลิคอปเตอร์ และชีวิตอันแสนหรูหราจนยากที่จะจินตนาการ นี่คือหมูบ้าน Huaxi หมู่บ้านที่รวยที่สุดในประเทศจีนล่ะ!! ขอต้อนรับเพื่อนๆ เข้าสู่หมู่บ้าน Huaxi ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่มีที่พักอาศัยราวๆ 2,000 ครัวเรือนเท่านั้น แต่ว่ากันว่า อย่างน้อยๆ ผู้ที่จะเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านนี้ ต้องมีเงินสดในบัญชีไม่ต่ำกว่า 1 ล้านหยวน หรือราวๆ 5 ล้านบาท!? หมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องระบบสังคมที่ค่อนข้างเข้ม และพึ่งฉลองครบรอบ 55 ปีของหมู่บ้านไปเมื่อไม่นานมานี้… ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้าคุณคิดจะออกจากหมู่บ้านนี้ล่ะก็ คุณต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง… ในตอนแรกนั้น หมู่บ้านนี้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความสำเร็จของประเทศจีน ในฐานะของประเทศคอมมิวนิสต์ ที่แปรสภาพหมู่บ้านจนๆ ให้กลายเป็นหมู่บ้านที่มั่งคั่งสุดๆ ภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน ทางเข้าหมู่บ้านมีป้ายที่เขียนข้อความไว้ว่า ‘หมู่บ้านที่ดีที่สุดบนผืนพสุธา’ คืออีกหนึ่งชื่อเล่นที่ทางรัฐบาลได้มอบไว้ให้กับหมู่บ้านนี้ รายได้ต่อปีของประชากรในหมู่บ้านนี้เฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่หัวละ 625,000 บาท สูงกว่ารายได้ต่อปีของชนชั้นล่างของประเทศถึง 40 เท่า และในปี 2011 หมู่บ้านนี้ได้ถลุงเงินไปกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อสร้างตึก 72 ชั้นสุดหรู อันเป็นแลนมาร์กหลักของเมืองนี้…
-
Huangxi Village หมู่บ้านการเกษตรที่ร่ำรวยสุดในประเทศจีน มีคุณภาพชีวิตดีจนน่าอิจฉา!!
จีนเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก เรียกได้ว่าใหญ่กว่าไทยเราหลายเท่า ไม่แปลกใจที่ประชากรจีนจะกระจัดกระจายกันอยู่แทบจะทุกประเทศบนโลก แต่คราวนี้เราพาไปชมเรื่องราวที่อันซีนไชน่าสุดๆ เชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยรู้จักมาก่อนกับ ‘Huangxi Village’ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยมากที่สุด จากการทำอุตสาหกรรมด้านการเกษตร เสมือนเป็นสมาคมของคนรวยย่อมๆ เราตามไปดูกันเลย หมู่บ้าน Huangxi แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Jiangyin แถบตะวันออกของจีน ใกล้กับเมืองเซี่ยงไฮ้ ว่ากันว่าถ้าหากใครได้เข้ามาเป็นสมาชิกหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ชีวิตจะดีสุดๆ ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย การศึกษา การอยู่อาศัย แต่ที่นี่เค้าก็มีวิธีการคัดสรรคนเหมือนกัน เพราะปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นเจ้าของบ้านราว 2,000 คน และเหตุผลที่ทำให้กลายเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดเพราะ แต่ละครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 1 แสนยูโรต่อปี (ประมาณ 3.8 ล้านบาท) ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากนาย Wu Renbao หนึ่งในคณะกรรมการจากพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน เขาได้เล็งเห็นอนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านเกษตรกร ให้กลายเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมการเกษตร ก่อนที่จะสามารถพาบริษัทใหญ่ของหมู่บ้านเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ในช่วงปี 1990 Wu Renbao เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 ในขณะที่เขาอายุได้ 85 ปี หมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะส่งออกผ้าไหม เหล็ก สินค้าทางการเกษตรอื่นๆ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปโดยปริยาย…
-
พาท่อง “Bibury Village” หมู่บ้านเล็กๆ ที่ถูกขนานนามว่า “สวยที่สุด” ในประเทศอังกฤษ
นอกจากอังกฤษจะเป็นประเทศที่มีประวัติและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ยังถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสวยงามมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หมู่บ้าน Bibury แห่งนี้นั่นเอง และในครั้งนี้ เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมบรรยากาศของหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ รับรองว่าเห็นแล้วจะต้องอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิตแน่นอน Bibury เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้น Gloucestershire มลฑล Cotswolds โดยบ้านแต่ละหลังถึงแม้ว่าจะดูโบราณและเก่าแก่ เนื่องจากสร้างมาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์มาก เท่านั้นยังไม่พอ เพราะหมู่บ้าน Bibury ยังมีถนนที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้ริมสองข้างทาง ช่วยสร้างให้บรรยากาศบริเวณรอบๆ ดูสดใส และทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเลยละ ยิ่งในฤดูร้อนบ้านแต่ละหลัง จะพากันตกแต่งสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษไว้ที่หน้าบ้าน เรียกได้ว่าว่านอกจากจะงดงามแล้ว ยังเหมือนเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนยังสถานที่แห่งนี้ . และที่สำคัญ หากคุณได้ออกสำรวจรอบๆ หมู่บ้านแห่งนี้ คุณจะได้พบกับธารน้ำสายเล็กๆ ใสแจ๋วอันแสนงดงาม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Bibury ถึงขึ้นชื่อได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษ เพราะมันมีทั้งสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังมีแต่ความสวยงาม และเงียบสงบแบบนี้นี่เอง . . . นอกจากนี้ หมู่บ้าน Bibury…
-
‘Shoyna’ หมู่บ้านนักตกปลาในอดีต ปัจจุบันถูกปกคลุมไปด้วยทราย แต่ชาวบ้านก็ยังแฮปปี้สุดๆ!!
Shoyna ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย ติดกับชายฝั่งที่เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาว จนได้รับฉายาว่าเมืองแห่งทราย ในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านของนักตกปลา แต่ปัจจุบันถูกยกเลิกกิจการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครถูกจ้างงาน พวกเขาต้องล่าห่านเพื่อประทังชีวิต หากยังนึกภาพไม่ออก ก็ตามมาดูกันได้เลยจ้า และนี่คือภาพของ Shoyna หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ติดกับชายฝั่งของทะเล White Sea ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย ในอดีตนั้นที่นี่เป็นหมู่บ้านของนักตกปลา ชาวบ้านที่นี่พยายามสร้างให้เป็นจุดตกปลาที่แสนสวยงาม ต้องขอบอกเลยว่าในช่วงพีคๆ นั้น มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่มากถึง 1,500 คนเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันตึกรามบ้านช่องทั้งหลายนั้นถูกทรายฝังกลบไปแทบจะทั้งหมด นั่นเป็นเพราะว่าที่นี่กลายเป็นพื้นที่ที่คล้ายกับทะเลทรายไปหมดแล้ว บ้านแต่ละหลังจะถูกทรายกลืนไปทีละนิดๆ ในช่วงกลางคืน ชาวบ้านต้องเปิดประตูบ้านและหน้าต่างทิ้งไว้ ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ทำ ตื่นเช้ามาจะเปิดประตูออกจากบ้านไม่ได้ในตอนเช้า เพราะลมที่รุนแรงจะพัดพาทรายมาปิดประตูบ้านของพวกเขาไว้ เมื่อเทียบกับช่วงพีคๆ ที่มีผู้คนอาศัยกว่า 1,500 ผู้คนตกปลาและนำมันมาซื้อขายกันในหมู่บ้าน จนกระทั่งทรายพัดเข้ามาปกคลุมพื้นที่แห่งนี้ ทำให้ปัจจุบันเหลือผู้อยู่อาศัยไม่ถึง 300 คนแล้ว และชาวบ้านก็เลิกทำการประมงไปแล้วด้วย เพราะไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ การจ้างงานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี แล้วถ้าไม่ตกปลาแล้วพวกเขาเอาชีวิตรอดกันได้อย่างไรล่ะ? ปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ทำการล่า ‘ห่าน’…
-
Chefchaouen หมู่บ้านสีฟ้าสดใสในโมร็อกโก กับความงามชวนน่าหลงใหล ที่ชวนให้ไปสัมผัส
สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่เราอยากจะมาแนะนำให้กับบรรดานักผจญภัยทั้งหลายก็คือ Chefchaouen ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตอนเหนือของโมร็อกโกนั่นเอง ยังคงสงสัยใช่ไหมละว่า? ทำไมเราจึงอยากแนะนำให้คุณได้ไปเยือนสถานที่แห่งนี้ ก็เพราะว่านอกจากจะเป็นเมืองที่เก่าแก่โดยมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 สมัยที่ชาวยิวได้อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ในด้านสถาปัตยกรรมก็มีความสวยงามมากเช่นกัน อีกทั้งยังถือเป็นแลนด์มาร์คของเมืองเลยก็ว่าได้ จากภาพคุณจะเห็นได้ว่าเมือง Chefchaouen จะตั้งอยู่บริเวณเนินเขา และเต็มไปด้วยอาคารสีฟ้าขาวมากมาย ที่ผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมสเปนและแขกมัวร์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของที่นี่เลยละ แน่นอนว่าเมื่อคุณได้มาเยือนที่แห่งนี้ คุณจะเห็นว่าเส้นทางจะมีลักษณะคดเคี้ยววกวนไปมา ดังนั้นมันอาจจะทำให้คุณหลงได้โดยง่าย อีกทั้งสีสันของบ้านแต่ละหลังก็คล้ายกันไปหมดจนไม่รู้ว่าหลังไหนเป็นหลังไหน แต่เราขอกระซิบว่า วิธีสังเกตบ้านแต่ละหลังแบบง่ายๆ ก็คือ “ประตูบ้าน” แต่ละหลังนั่นเอง แม้ว่าลักษณะอาคารจะถูกทาสีให้ดูคล้ายกันไปหมด แต่สำหรับประตูบ้านจะถูกตกแต่งให้มีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป แถมยังเป็นการแสดงถึงความแตกต่างของบ้านแต่ละหลังอีกด้วย ทีนี้แค่จำประตูบ้านได้ ก็ไม่หลงแล้วสินะ ต้องมีคนสงสัยแน่ๆ ว่าทำไมที่แห่งนี้ จึงเต็มไปด้วยอาคารสีฟ้าสดใส ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ชาวยิวได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่นี่แล้วละ เพราะเชื่อว่าสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าและสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้สีฟ้ามาทากำแพง และผนังบ้านเหมือนที่ได้เห็นกันนี้ มากไปกว่านั้นก็คือ ผนังสีฟ้าสามารถกันยุงได้ด้วยนะ เนื่องจากยุงไม่ชอบสีสว่างและไม่วางไข่ในน้ำที่มีการเคลื่อนไหว…
-
“อินเตอร์เน็ตในชีวิตจริง” – ศิลปินเปลี่ยนหมู่บ้านในอิตาลีให้กลายเป็นโลกอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ตทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลต่างๆ หรือว่าจะช่วยให้การติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้น ลองนึกภาพดูสิ ถ้าวันนี้ไม่มีอินเตอร์เน็ต โลกเราจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหนกันนะ Civitacampomarano คือหมู่บ้านหนึ่งในเมือง Campobasso มีผู้อยู่อาศัยเพียง 400 กว่าคน ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ และยังรักษาความเป็นหมู่บ้านเก่าแก่มายาวนาน แน่นอนว่าแทบจะไม่มีใครรู้จักหรือใช้อินเตอร์เน็ตเลย มือถงมือถืออย่าหวังว่าจะได้ใช้ ด้วยความที่หมู่บ้านมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Biancoshock จึงได้คิดโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมา โดยการสร้าง “อินเตอร์เน็ตในชีวิตจริง” ขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยสิ่งที่เขาเอาไปแปะแต่ละที่นั่นก็มีความเชื่อมโยงกับความสามารถของแอพฯ นั้นๆ อีกด้วย เราไปชมผลงานของเขากันเลย #1 Twitter #2 Wikipedia – จากนักเล่าเรื่องในหมู่บ้าน #3 Facebook #4 Ebay #5 Wetransfer – ขนส่ง #6 Youtube #7 Gmail #8 Whatsapp #9 Avast Antivirus – ร้านขายยา…
-
15 หมู่บ้านสุดงดงามราวกับหลุดออกมาจาก “เทพนิยาย” ที่ต้องไปเยือนสักครั้งให้ได้!!
โลกเรานี้มันแสนจะวุ่นวาย จนบางครั้งก็มีความคิดที่ว่าอยากจะหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย วิ่งอยู่ในสวนดอกไม้อันงดงาม แต่ก็คงไม่มีอยู่จริงหรอกมั้ง โลกแบบนั้นน่ะ.. แต่ไม่ต้องห่วง เพราะวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน 15 แห่งที่สวยงามไม่แพ้เทพนิยายเลย รับรองว่าถ้าคุณได้ไปแล้วจะเหมือนหลุดเข้าไปในนั้นเลยล่ะ #1 หมู่บ้านตกปลาถูกละทิ้ง, จีน #2 Gokayama, ญี่ปุ่น #3 Hamnoy, นอร์เวย์ #4 Mountain Village , จีน #5 Renndølsetra, นอร์เวย์ #6 Gasadalur, Faroe Islands #7 Bibury, อังกฤษ #8 Eguisheim, ฝรั่งเศส #9 Provence, ฝรั่งเศส #10 Hallstatt, ออสเตรีย #11 Shirakawa, ญี่ปุ่น #12 Rothenburg, เยอรมนี …
-
พาชมหมูบ้านดอกไม้ “Yufuin Floral Village” ในประเทศญี่ปุ่น ราวกับหลุดมาจากการ์ตูน!!
ช่วงนี้กระแสเท่าญี่ปุ่นกำลังมาแรง หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวที่นั่นเพราะมีที่เที่ยวเยอะ และอากาศดีมากๆ และที่ที่คนไปเที่ยวกันนั้นส่วนมากกจะเป็นโตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด มันเวียนอยู่แถวๆนี้แหละ แต่วันนี้เหมียวจะพาไปเที่ยวอีกที่ ที่แห่งนั้นเขาเรียกกันว่า “หมู่บ้านดอกไม้” Yufuin Floral Village หรือหมู่บ้านดอกไม้ยุฟุอินนั่นเอง ตั้งอยู่ที่คิวชู ซึ่งตอนนี้ก็มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมกันเยอะแล้ว แต่เผื่อบางคนไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่นี่มีอะไร #เหมียวสามสี ก็จะพาไปชมอย่างใกล้ชิด ภายในที่แห่งนี้ก็จะมีร้านค้าและบ้านเรือนต่างๆ ที่ตกแต่งเต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย และทำเป็นสไตล์เดียวกันหมด ราวกับว่าคุณหลุดมาในอีกโลกนึงเลยเราไปขมภาพบรรยากาศกันดีกว่า Yufuin Floral Village หรือหมู่บ้านดอกไม้ยุฟุอิน ตั้งอยู่ที่คิวชู ภายในตกแต่งเป็นสไตล์เดียวกันหมด ราวกับว่าหลุดไปในอีกโลกเลยก็ว่าได้ ถ้าใครยังจำได้เกี่ยวกับ ร้าน “เบเกอรี่ Kiki” จากการ์ตูนดังค่าย Ghibli ซึ่งเหมียวเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ก็ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เองแหละ ที่มา Rocket News 24
-
‘Giethoorn’ หมู่บ้านไร้ถนนในเนเธอร์แลนด์ ที่เต็มไปด้วยความสวยงาม จนเปรียบเสมือนสวรรค์บนดิน!!
จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า…บนโลกใบนี้จะมีหมู่บ้านที่ปราศจากถนน ไม่มีแม้กระทั่งรถสัญจรไปมา แค่คิดก็เป็นไม่ได้แล้วใช่ไหมละ เพราะถ้าไม่มีถนนตัดผ่าน เราจะเดินทางกันอย่างไร แต่ทว่าหมู่บ้านปราศจากถนนนั้น มีอยู่จริงนะจะบอกให้ และนี่ก็คือเมือง Giethoorn หมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และ Steenwijk ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้บอกได้เลยว่ามีทั้งความสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเลยละ และที่สำคัญหากคุณได้ไปเที่ยวที่หมู่บ้าน Giethoorn คุณจะไม่มีสิทธิ์ใช้รถเลยแม้แต่คันเดียว เพราะการเดินทางในหมู่บ้านแห่งนี้ คุณจะต้องพายเรือเข้าไป โดยผ่านคลองเล็กๆ ที่มีความยาวราว 7.5 กิโลเมตร ดังนั้นชาวเมืองนี้จึงต้องมีเรือกันเกือบทุกบ้าน เพื่อใช้ในการเดินทางนั่นเอง จากการที่เป็นหมู่บ้านปราศจากถนน Giethoorn จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์’ สงสัยกันใช่ไหมละว่า ทำไมหมู่บ้านแสนสวยไร้ถนน ที่เปรียบเสมือนสวรรค์บนเดินแห่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าอยากรู้ละก็ เดี๊ยวเก๊าเล่าให้ฟังนะ… ในอดีตที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลนมาก่อน โดยรูที่ถูกขุดก็กลายมาเป็นทางให้น้ำไหลผ่านเข้ามา ดังนั้นจึงทำให้คนในสมัยก่อน เริ่มใช้สายน้ำเหล่านี้เป็นทางขนส่งถ่านหินเลนยังไงละเหมียว ส่วนผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไร่ที่มีฐานะค่อนข้างดี บ้านแต่ละหลังก็ถูกออกแบบเป็นกระท่อมตามแบบตะวันตก…
-
14 หมู่บ้านแสนงดงามที่ตั้งอยู่บนเชิงผา ได้ไปเยือนสักคราคงเป็นบุญชีวิต!!
การเอาชนะธรรมชาตินั้นเป็นเหมือนสัญชาตญาณที่ติดตัวมากับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามที่จะชนะความหวาดกลัว เอาชนะสิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าจะทำได้ เช่นการไปสร้างบ้านอยู่ตรงเชิงผา เราอาจจะเคยเห็นหมู่บ้านที่สร้างกันบนเชิงผามาบ้าง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปดูถึง 14 แห่งด้วยกัน และแต่ละที่ก็สวยงามมากๆ เลย ดูเผินจะคิดว่าไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำ แต่มันมีอยู่จริงๆนะเออ เราไปดูกันเลย!! Manarola, Italy Veliko Tarnovo, Bulgaria Riomaggiore, Italy Santorini, Greece Azenhas do Mar, Portugal Rocamadour, France Ronda, Spain Wadi Dawan, Yemen Piodão, Portugal Pitigliano, Italy Metéora, Greece Mont Saint-Michel, France…
-
เคยไปยัง!? เยี่ยมชมสวรรค์ของทาสแมว เที่ยวฟินๆ ภายใน Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน
ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกนำเสนอไปเยอะแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเกาะเลยที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์ อ่ะ!! แต่ถ้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ไกลไป ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ อีกซักนิด ย้ายถิ่นฐานไปดูที่ไต้หวันกันบ้าง Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าที่ไต้หวันก็มีสวรรค์สำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีชื่อหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมือง Taipei ประมาณ 60 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 50 นาที ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน Houtong แต่ก่อนเคยเป็นไซค์สำหรับเหมืองถ่านหินมาก่อน จนกระทั่งเหมืองได้ปิดตัวลงไป มีประชากรมนุษย์อยู่อาศัยเป็นจำนวน 6,000 คน ซึ่งในอดีตมีประชากรแมวน้อยหน่อย แต่จู่ๆ ก็เกิดเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกระทันหัน จนประชากรแมวแทบจะยึดครองไปทั่วหมู่บ้านแล้ว ทั้งนี้จากหมู่บ้านที่เคยเงียบเหงา ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในปีค.ศ. 2009 กลุ่มอาสาสมัครผู้รักแมวได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของหมู่บ้าน Houtong จากหมู่บ้านข้างเหมืองถ่านหินให้กลายมาเป็นหมู่บ้านเต็มรูปแบบ โดยอาศัยประวัติศาสตร์ในอดีตของเหมืองผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ได้อย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟจาก Taipei สู่ Houtong …
-
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละว่า หมู่บ้านในเทพนิยายมีอยู่จริงนะ แถมยังสวยงามเหมือนที่เคยจินตนาการไว้เป๊ะ
เด็กๆ หลายคน (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) ก็คงจะเคยมีความฝัน และจินตนาการว่า อยากจะเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยายในการ์ตูนสักครั้ง เพราะในเทพนิยายมีแต่สถานที่ที่สวยงาม และมีความมหัศจรรย์มากมาย แต่ในตอนนี้คุณไม่ต้องฝันกลางวันอีกต่อไป เพราะไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วละว่า ในโลกใบนี้ก็มีสถานที่ที่สวยงามราวกับนิยายเช่นกัน และนี่ก็คือ 20 หมู่บ้านที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากในนิยาย บอกเลยว่าสถานที่เหล่านี้สวยงาม และมหัศจรรย์สุดๆ ไม่ต่างจากจินตนาการที่เราคิดไว้เลยละ 1.Rothenburg, Germany 2.Santorini, Greece 3.Colmar, France 4.Cinque Terre, Italy 5.A mountain village, China 6.Penn, Scotland 7.Shirakawa-go, Japan 8.Bibury, UK 9.Migdal, Greenland 10.Sintra, Portugal 11.Kvivik, Faroe Islands …
-
หญิงสาวแต่งบ้านต้อนรับฮาโลวีนได้สยอง จนชาวบ้านต่างกลัวจนเกิดดราม่า!!
ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ต่างประเทศ หลายคนก็เลือกที่จะแต่งบ้านให้ดูน่ากลัวเพื่อต้อนรับการมาของเทศกาลนี้ ซึ่งไอเดียของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ๆคือเน้นความน่ากลัวเข้าว่า!! แต่บางทีการแต่งให้น่ากลัวเกินไป ก็อาจจทำให้เพื่อนบ้านผวาได้เหมือนกัน เหมือนอย่างที่หมู่บ้าน Parma รัฐโอไฮโอ้ เกิดเป็นเรื่องดราม่าในหมู่บ้าน เมื่อมีบ้านหลังหนึ่งของ Vicky Barrett ได้ทำการตกแต่งบ้านให้เข้ากับวันฮาโลวีน แต่ที่เธอทำออกมานั้นว่าเหมือนจริงเสียจนสยอง เพื่อนบ้านหลายหลังต่างไม่ค่อยชอบใจนักเมื่อบ้านของเธอตกแต่งให้ดูน่ากลัวอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าปกติก็แต่งแบบนี้มาตลอด 3 ปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่มีเพื่อนบ้านมาต่อว่า สิ่งที่คนในหมู่บ้านเป็นห่วงก็คือบ้านของเธอเป็นทางผ่านของเด็กที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน อาจทำให้เด็กรู้สึกลัวได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้ทำผิดกฎอะไรเลย เพราะเธอตกแต่งทุกอย่างอยู่ในพื้นที่ของบ้านเธอทั้งสิ้น เราไปฟังคลิปความเห็นของคนในหมู่บ้านกันเลยดีกว่า ฟังแล้วบางคนก็เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่คนที่เห็นด้วยก็จะบอกว่าเข้าใจว่าเป็นเทศกาล และลูกของเขาก็ไม่รู้สึกกลัวการตกแต่งแบบนี้เลย ที่มา viralnova
-
เรื่องธรรมดาหมู่บ้านในโดมินิกัน ที่เด็กผู้หญิงกลายเป็นชายเมื่ออายุ 12 ปี เพราะมี ‘กระเจี๊ยว’ งอกออกมา!!!
ถึงจะฟังดูแปลกแค่ไหน แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาของหมู่บ้านนี้ ที่ชื่อว่า Salinas ในสาธารณะรัฐ Dominican ที่เกิดกับเด็กๆ ราวๆ ใยุค 90 โดยพวกเขาหลายคนมีอาการผิดปกติ เหมือน Johnny ชายหนุ่มคนนี้ที่พ่อแม่คิดว่าเค้าเป็นเพศหญิงมาตลอด จนกระทั่งเขาอายุ 12 ปีเลยรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย เพราะมีจุ๊ดจู๋ออกมา!!! Johnny ในวัย 24 โดยตั้งแต่เขาเกิดจนถึงอายุ 12 ขวบ เขามีชื่อว่า Felecitia และทุกๆ คนพากันคิดว่าเป็นผู้หญิง เป็นที่รู้จักกันว่า ‘Guevedoce’ หมายถึง กระเจี๊ยวตอน 12 เพราะอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว กระเจี๊ยวจะไม่เจริญเติบโตให้เห็น จนกว่าจะอายุ 12 ขึ้นไป Johnny กล่าวว่า ‘ผมจำได้เลย สมัยเด็กๆ ผมใส่กระโปรงไปเรียน แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้หญิง มีคนซื้อของเล่นผู้หญิงมาให้ ผมไม่สนใจเลย ผมชอบเล่นกับเหล่าผู้ชาย’ อาการนี้ถูกพบครั้งแรกโดยแพทย์ที่ชื่อว่า Dr Julianne Imperato ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เชื่อว่าเกิดจากการที่มีเอนไซม์บางตัวหายไป ทำให้ฮอร์โมนเพศชายไม่สามารถเจริญเติบโตขึ้นในระยะเวลานั้นๆ ได้…
-
เขตแดนปลอดทหารระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ณ หมู่บ้านปันมุนจอม!!
ตำนานรอยร้าวภายในประเทศที่ต้องแยกกันเป็นสองฝั่งยังคงมีมาถึงจนปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะพยายามเชื่อมแผลบาดลึกนี้แล้วก็ตาม สุดท้ายมันก็ยังคงเป็นรอยแผลที่ไม่อาจเชื่อมและสมานได้อยู่ดี นั่นก็คือกรณีของประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั่นเอง คราวนี้เรามากันที่ชายแดนระหว่างสองประเทศที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันมาก่อน ซึ่งจุดๆ นี้เรียกว่า เขตปลอดทหาร หมู่บ้านปันมุนจอม Panmunjom on DMZ (Demilitarized Zone) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองแคซอง ประเทศเกาหลีเหนือ และกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปัจจุบันหมู่บ้านปันมุนจอมแห่งนี้คืออาณาเขตค่ายทหาร ชายแดนระหว่างสองประเทศ ประกอบไปด้วยห้องประชุมเพื่อเจรจายุติสงคราม ที่มีไว้เพื่อทำการเจรจาและลงนามยุติสงครามระหว่างสองฝ่าย และหอนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการลงนามเพื่อยุติสงครามไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสงครามจะจบลง นับตั้งแต่การเกิดของสงครามเกาหลี เป็นการลงนามเพื่อแบ่งเขตแดนเท่านั้น ซึ่งทั้งสองประเทศยังคงประกาศภาวะสงครามต่อกันอยู่ และพร้อมที่จะปะทะกันได้ทุกเมื่อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน ชายแดนระหว่างเกาหลีแห่งนี้ จะต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมใส่กางเกงยีนส์ รวมไปถึงการสวมใส่รองเท้าแตะ และสิ่งที่ห้ามอีกอย่างนั่นก็คือการถ่ายรูปภาพ เพราะจะต้องได้รับอนุญาตก่อน หนังสือลงนามเพื่อยุติสงครามระหว่างสองประเทศ อาคารจะแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์แห่งหมู่บ้านปันมุนจอม ที่มา :…
-
หมู่บ้านเล็กๆ ใน Sicily บรรยากาศดีไม่พอ ใจดีแจกบ้านให้อยู่ฟรีอีกต่างหาก!!
หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นปกครองตนเองแห่ง Sicily ประเทศอิตาลีเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย มีผู้คนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้โดยมีชื่อหมู่บ้านว่า Gangi รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับในฝันเลยล่ะ!! แต่เนื่องจากประชากรที่อยู่ในหมู่บ้าน Gangi นั้นกลับมีจำนวนลดลงและมีทีท่าว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จากที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 16,000 คน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 7,000 คน เท่านั้นเอง ด้วยเหตุผลทางด้านธุรกิจ ที่ไม่มีการลงทุนอะไรมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้ จึงทำให้เศรษฐกิจของหมู่บ้านซบเซา ผู้คนเริ่มอยู่ไม่ได้จึงทำการย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน บ้านหลายหลังถูกทิ้งให้กลายเป็นบ้านที่ว่างเปล่า ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ เหล่าผู้แทนของหมู่บ้านเล็งเห็นถึงปัญหานี้ ถ้าหากว่าปล่อยให้ผู้คนทิ้งบ้านเรือนไปเรื่อยๆ หมู่บ้านแห่งนี้ก็คงจะร้างภายในไม่กี่ปีอย่างแน่นอน ก็เลยออกประกาศแจกบ้านให้ฟรีๆ สำหรับบุคคลที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำบ้านไปเปลี่ยนเป็นธุรกิจโรงแรม หรือเพื่ออยู่อาศัยก็ได้ทั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะได้มาแบบฟรีๆ โดยที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยนะ อย่างแรกเลยก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีนั้นจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว!! อย่างที่สองก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีจะต้องนำเสนอแบบแผนหรือโครงการปรับปรุงสถานที่นั้นภายใน 1 ปีหลังจากการซื้อบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากที่นำเสนอโครงการหรือแบบแผนการปรับปรุงสถานที่แล้ว จะต้องดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 3 ปี…