Tag: หมู่เกาะแฟโร
-
ผลงานภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ของเด็กหนุ่มวัย 18 และการคุมโทนสีธรรมชาติแบบขั้นเทพ
บางครั้งเรื่องของอายุ อาจจะไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพของผลงานศิลปะ เหมือนกับ Fabio Zingg ช่างภาพหนุ่มวัย 18 ปี จากสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้ที่สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายธรรมชาติออกมาได้สวยงามและน่าทึ่งมาก หนุ่มน้อยผู้นี้เริ่มสนใจการถ่ายภาพเมื่อตอนที่เขาได้ออกไปเที่ยวกับครอบครัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาลองถ่ายเล่นๆ เพื่อแก้เบื่อและก็พบว่าตัวเองเริ่มหลงใหลในการถ่ายภาพแล้ว!! Fabio Zingg ได้เข้าร่วมกลุ่ม The Alpinists กลุ่มช่างภาพอายุน้อยจากประเทศบ้านเกิดของเขา และออกไปเก็บภาพของสถานที่สวยๆ ต่างๆ การถ่ายภาพเป็นเพียงแค่กิจกรรมในวันหยุด เขาออกไปเก็บภาพภูเขาและแม่น้ำสวยๆ พร้อมกับกล้องตัวโปรด ส่วนวันธรรมดาเขาทำงานเป็นเด็กฝึกงานในธนาคาร ผลงานบางส่วนของช่างภาพวัย 18 ปีผู้นี้ . “มันเหมือนกับการผจญภัย และผมก็ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ” Zingg กล่าว ภาพถ่ายของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ธรรมชาติในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นแต่เด็กหนุ่มยังได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลี แคนาดา และนอร์เวย์อีกด้วย โทนสีในภาพของหนุ่มน้อยผู้นี้ดูให้อารมรณ์ที่แตกต่างจากภาพธรรมชาติทั่วๆ ไป ภาพทะเลสาบ Derborence ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ . . Preikestolen หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศนอร์เวย์ ฟยอร์ดหรือ ชายฝั่งทะเลที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งมีลักษณะแคบและยาว เมือง Odda ประเทศนอร์เวย์ …
-
แผนโปรโมทการท่องเที่ยว ด้วยภาพถ่ายหมู่เกาะแฟโรแบบ 360 องศา โดยฝีมือพี่แกะเจ้าถิ่น
ภาพถ่าย Google Street View ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้เราได้เห็นภาพของภูมิประเทศต่างๆ ได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือแล้ว มันยังช่วยให้เราเห็นสถาพเส้นทางคราวๆ ก่อนการเดินทางได้อีกด้วย และในการเก็บภาพ Google Street View นั้นทาง Google เองก็ได้เลือกใช้วิธีในการเก็บข้อมูลหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นรถถ่ายภาพ คน แต่บางครั้งการถ่ายภาพแบบนั้นพวกสัตว์อย่างเจ้าแกะเองก็ทำได้เหมือนกันนะ!! ล่าสุดทางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโรเองก็ได้เลือกใช้ภาพ Street View นี้ในการช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวของเกาะ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเจ้าแกะที่อาศัยอยู่บนเกาะ พวกเขาได้เลือกติดกล้องถ่ายภาพแบบ 360 องศาและแผงโซล่าเซลล์ไว้บนหลังแกะ ซึ่งภาพได้เผยให้เห็นถึงความสวยงามของหมู่เกาะนี้แทบจะทุกมุมเลยทีเดียว พวกแกะในหมู่เกาะแห่งนี้ค่อนข้างที่จะเป็นมิตรมาก เนื่องจากพวกมันไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับเหล่านักล่า ดังนั้นคุณสามารถเข้าไปใกล้ๆ พวกมันได้ง่ายๆ และพวกแกะเองก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแห่งนี้ ภาพ Google Street View ฝีมือเหล่าพี่แกะ ภาพถ่ายแบบมุมมอง 360 องศาโดยเหล่าพี่แกะนี้ใช้ชื่อว่า Sheep View โดยพวกเขาเริ่มต้นโปรเจกต์ดังกล่าวเมื่อประมาณปีที่ 2016 ผ่านมา และได้ทำการอัพเดทลงบนเว็บไซต์ visitfaroeislands ของพวกเขา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าการโปรโมทด้วยวิธีดังกล่าวนี้จะประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในหมู่เกาะนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว …
-
ประมวลภาพเทศกาล ‘การล่าวาฬ’ ประจำปีในหมู่เกาะแฟโร ที่อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน
*คอนเทนท์นี้อาจมีเนื้อหารุนแรง มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกของเราเมื่อน้ำทะเลเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงด้วยเลือดของปลาทั้งหลายที่ถูกฆ่าจากน้ำมือของมนุษย์อย่างเราๆ ปลาโลมาและวาฬจำนวนมากถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมบริเวณหมู่เกาะแฟโร ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาเหล่านี้ได้นี้ถูกถ่ายออกมาโดยกลุ่มอนุรักษ์กลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า Sea Shepherd Global ปลาเหล่านี้ถูกฆ่าตายทุกปีเนื่องในเทศกาลที่ชาวแฟโรเรียกว่า grindadráp หรือเทศกาลล่าวาฬซึ่งจะมีขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยพวกเขาจะใช้หอกที่ทำขึ้นโดยเฉพาะล่าวาฬในว่ายมาใกล้ๆ กับหาด รัฐบาลของหมู่เกาะแฟโรออกมาเปิดเผยในปีนี้มีปลาตายในเทศกาลนี้รวมแล้วกว่า 1,700 ตัว โดยตัวแทนของรัฐบาลบอกว่าเทศกาลนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไรแต่ว่าทำขึ้นเพื่อควบคุมประชากรของปลาโลมาและวาฬ สำหรับเนื้อปลาที่ได้มาก็จะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนของหมู่เกาะเพื่อใช้เป็นอาหารเนื่องจากหมู่เกาะแฟโรมีสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการปลูกพืชใดๆ ภาพเทศกาลล่าวาฬแห่งหมูเกาะแฟโร . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ที่มา: dailymail
-
หมู่เกาะแฟโรขาดแคลนผู้หญิง ต้องการเติมส่วนที่ขาดหาย โดยเฉพาะสาวเอเชีย!!
เรียกได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสดีสำหรับสาวเอเชียแถวๆ นี้เลยนะเนี่ย ที่มีความประสงค์อยากจะย้ายถิ่นฐานลองไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาบนเกาะแฟโร อันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเดนมาร์ก เพราะล่าสุดทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า ปัจจุบันหมู่เกาะแฟโรต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สมดุลกันระหว่างประชากรชายที่มีจำนวนมากกว่าประชากรหญิงหลายเท่าตัว โดยเมื่อช่วงหลายปีก่อนหน้านี้หมู่เกาะแฟโร ก็ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนประชากรอันมาแล้ว เนื่องมาจากการกระจายตัวของคนรุ่นใหม่ ที่มักจะเข้าไปแสวงหาชีวิตและการศึกษาในเมืองใหญ่ อ้างอิงข้อมูลจากนายกรัฐมนตรี Axel Johannesen ได้กล่าวว่า อัตราจำนวนประชากรระหว่างหญิงและชาย มีอัตราส่วนอยู่ที่ 1 ต่อ 2,000 (นั่นก็คือหญิง 1 คน ต่อชาย 2,000 คน) บวกกับวัฒนธรรมอาหารเอเชียอย่างไทยและฟิลิปปินส์ ที่ได้รับความนิยมสูงจากประชากรที่นี่ ทำให้หนุ่มๆ มีความสนใจสาวไทยและสาวฟิลิปปินส์มากเป็นพิเศษ จากปัญหาขาดแคลนประชากร ทำให้หมู่เกาะแฟโรขาดแคลนประชากรด้านแรงงานไปด้วย และทางรัฐบาลก็ได้เล็งเห็นว่า การที่หญิงสาวชาวเอเชียย้ายสำมะโนครัวมาอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้กับครอบครัวชาวเดนมาร์ก จะช่วยสร้างตลาดแรงงานให้มีความคึกคักขึ้นมาได้อีกครั้ง ‘ช่วงเวลาที่ผ่านมาทางรัฐบาลเราเล็งเห็นแล้วว่า ผู้ชายที่นี่จะแต่งงานกับหญฺิงสาวชาวเอเชียมากขึ้น และนั่นก็นำมาซึ่งตลาดแรงงานที่เรากำลังขาดแคลน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับหมู่เกาะของเรา’ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ทางด้านของ Magni Arge นักการเมืองท้องถิ่นจากเกาะแฟโร ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนประชากร และการเข้ามาของประชากรสาวเอเชียไว้ว่า ‘จากระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้สังเกตเห็นว่า…
-
‘หมู่เกาะแฟโร’ ดินแดนสวรรค์อันงดงาม อีกหนึ่งสถานที่ในฝัน ที่นักเดินทางจะต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
หากจะพูดถึงดินแสนที่สวยงามราวกับสวรรค์ ต้องยกให้หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) หมู่เกาะกลางท้องทะเลแอตแลนติกเหนือ สถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวที่อยากไปผจญภัย อยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม และแม้หลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นหูกับชื่อของหมู่เกาะแห่งนี้สักเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่า “หมู่เกาะแฟโร” ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เงียบสงบ รายล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสุดอัศจรรย์และสวยงามที่สุดที่หนึ่งเลยละ หมู่เกาะแฟโร ดินแดนสวรรค์แห่งภูเขา ทุ่งหญ้า และเต็มไปด้วยฝูงแกะ ตั้งอยู่ในทะเลแอตแลนติกเหนือ ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสกอตแลนด์ อยู่ระหว่างเกาะไอซ์แลนด์และประเทศนอร์เวย์ และนอกจากความงดงามแล้ว หมู่เกาะแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ ประมาณ 18 เกาะ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,399 ตารางกิโลเมตร มีความยาวของพื้นที่ประมาณ 113 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 75 กิโลเมตร ในหน้าหนาว ยอดเขาต่างๆ จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวอยู่เต็มไปหมด บวกกับวิวของท้องทะเลสีฟ้าสดใส ดูแล้วมันช่างงามตาจริงๆ เรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้ คือดินแดนสวรรค์กลางมหาสมุทรของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ที่อยากจะสัมผัส และใกล้ชิดกับธรรมชาติอันสุดแสนมหัศจรรย์ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็พบเจอแต่ความงดงาม แตกต่างจากวิถีชีวิตของชาวเมือง ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ตึกรามบ้านช่องรายล้อมอยู่เต็มไปหมด…