Tag: หัวหน้า
-
คุณแม่ขอลางานเพราะลูกชายป่วยหนัก แต่หัวหน้ากลับบอกให้เธอ “ลาออก” ไปเสีย!
ในความคิดของคุณ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นสิ่งที่หัวหน้างานและลูกน้องควรมีให้กันหรือไม่? เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องราวแสนดราม่าขึ้นบนโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Crystal Reynolds Fisher โพสต์เล่าเรื่องราวสุดเลวร้ายของเธอลงบนเฟซบุ๊ก เธอโพสต์เล่าว่า “ลูกชายของฉันป่วยและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ฉันเลยบอกหัวหน้า 48 ชั่วโมงก่อนฉันจะเข้าไปทำงาน บอกว่าฉันจะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้จนกว่าลูกชายของฉันจะอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่แล้วดูหัวหน้าตอบฉันมาสิ” Crystal Reynolds Fisher และลูกชายวัย 18 ปีของเธอ ที่ปัจจุบันกำลังป่วยหนักอยู่ เมื่อเธอขออนุญาตลางานกับหัวหน้าของเธอไปเนื่องด้วยอาการป่วยของลูกชาย เรามาดูกันดีกว่าว่า “หัวหน้างาน” ของเธอ ตอบเธอว่าอะไรบ้าง… Crystal: สวัสดี Dawn ฉัน Crystal เองนะ ฉันอยากจะบอกว่าลูกชายของฉันต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากเขายังไม่มีอาการที่ดีขึ้น ฉันคงไปทำงานไม่ได้ ฉันจะรีบบอกคุณทันทีหากเขามีอาการดีขึ้น ฉันจะได้ไปทำงานได้อย่างไม่ขัดข้อง Dawn: นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทำกันนะ Crystal ฉันจะถือว่าเธอลาออกก็แล้วกัน Crystal: แล้วสิ่งที่เราทำกันคืออะไรล่ะ ยามที่ลูกของฉันป่วยรุนแรงแบบนี้? ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะลาออก…
-
การ์ตูนคูลๆ ที่ทำให้เห็นว่า “เจ้านาย (Boss) VS หัวหน้า (Leader)” มันต่างกันอย่างไร!?
ทุกวันนี้ในโลกของการทำงาน บุคคลสำคัญที่เราหลีกเลี่ยงที่ไม่ได้ก็คือ หัวหน้างานหรือเจ้านาย นั่นเอง แค่พูดคำว่า “หัวหน้า” หรือ “เจ้านาย” ออกมาหลายคนก็ถึงกับขนลุกซู่ แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร คำสองคำนี้มีความแตกต่างกันอยู่ โดยคำว่า เจ้านาย (Boss) นั้นว่ากันตามตรงมักใช้ในเชิงลบ ความหมายก็คือผู้ที่ใช้อำนาจควบคุมทุกคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่คำว่า หัวหน้า (Leader) นั้นจะหมายถึงผู้ที่เข้าใจในผลประโยชน์ของการกระตุ้นให้พนักงานเกิดความสามัคคีแข็งขัน และทำงานจนบรรลุผลสำเร็จ อ่านข้อความอาจเข้าใจได้ยาก วันนี้เราจึงขอนำภาพการ์ตูนสุดเจ๋งจาก yukbisnis.com ที่วาดขึ้นเพื่ออธิบายความแตกต่างระหว่าง “หัวหน้า VS เจ้านาย” ได้เข้าใจง่ายสุดๆ แถมน่ารักอีกด้วย เราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่า… เจ้านาย (Boss) จะเอาแต่ผลประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ หัวหน้า (Leader) จะคอยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของลูกทีมให้ทำงานได้ดีขึ้น เจ้านาย (Boss) มักจะดุด่าว่ากล่าวหากผิดพลาด แต่ หัวหน้า (Leader) มักจะสอนและหาทางแก้ไข เจ้านาย (Boss) มักออกคำสั่ง เช่น “ไปทำให้สำเร็จ!” แต่ หัวหน้า (Leader) มักจะชักชวนหรือกระตุ้น เช่น “เรามาทำให้สำเร็จกันเถอะ!”…
-
9 ประโยคไม่ควรพูดกับ “เจ้านาย” ในที่ทำงาน เพราะมันอาจส่งผลต่ออนาคตคุณเลยก็ได้
ในบริบทของการทำงานในบริษัทหรือว่าองค์กรต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่ควรมี โดยเฉพาะระหว่างตัวคุณกับหัวหน้าก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้ให้ดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีฝีมือและผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่นอาจทำให้เกิดอคติในตัวเราได้ โดยเฉพาะกับหัวหน้างานที่อาจมองว่าเราเป็นพนักงานที่ไม่รู้จักทีมเวิร์กและไม่รู้จักใช้ชีวิตในสังคม วันนี้เราจึงอยากเสนอ 9 ประโยคที่ไม่ควรพูดอย่างแรง หากไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหัวหน้า ไปดูพร้อมๆ กันเลยว่า มีประโยคไหนบ้าง และทำไมถึงไม่ควรพูด… 1. “ผมอยากได้เงินเดือนเพิ่ม เพราะผมต้องใช้มันสำหรับซ่อมแซมบ้าน” การขอขึ้นเงินเดือนเป็นสิ่งที่ขอได้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก หากคุณเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวเพื่อขอให้เห็นใจนั่นจะยิ่งทำให้การขึ้นเงินเดือนเป็นไปได้ยาก หัวหน้าจะมองว่าให้เงินไปแล้วทางบริษัทจะได้อะไรเป็นการตอบแทน ลองเปลี่ยนเป็นเอาความสามารถเข้าสู้ดีกว่า โชว์ผลงานที่เหมาะสมกับการขึ้นเงินเดือนให้หัวหน้าดูเพื่อพิจารณา แน่นอนว่าบริษัทไหนๆ ก็ย่อมอยากได้คนทำงานเก่ง ฉะนั้นมันจะดีกว่าหากเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ผมทำยอดการผลิตได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าจากรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ผมจึงมาขอให้หัวหน้าพิจารณาขึ้นเงินเดือนครับ“ 2. “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ? งานผมไม่มีอะไรให้ทำแล้ว” เมื่อคุณทำงานจนครบเป้าหมายในแต่ละวันเรียบร้อยแล้ว คุณก็อาจจะอยากกลับบ้านไปพักผ่อน แต่คุณไม่ควรขอกับหัวหน้าตรงๆ แบบนั้น เพราะมันทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่สนใจจะทำงาน แถมยังได้งานมาทำเพิ่มอีกด้วย จะดีกว่าหากพูดว่า “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ?“ เฉยๆ โดยไม่ต้องบอกเหตุผล (แต่งานก็ต้องทำให้เสร็จก่อนนะ) พยายามอย่าพูดหรือแสดงความเบื่อหน่ายออกมา 3. “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของนพพลต่างหากครับ” การยอมรับความผิดโดยไม่ตัดสินผู้อื่นนั้นเป็นคุณสมบัติของผู้ที่มีวุฒิภาวะ…
-
ลูกน้องขอเข้างานสาย เหตุเพราะอยากดูหมา เจ้านายไม่ว่าแถมบอก ‘เอาสิ ไม่ต้องรีบนะ’
ความลำบากใจของคนวัยทำงานส่วนใหญ่ เมื่อมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอลา ขอเข้างานสาย ด้วยเหตุสุดวิสัย หากเจ้านายไม่แคร์อะไร ต่อให้อ้างเหตุผลร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าหากได้เจ้านายใจดีนี่ ยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์กันเลย… แต่เหตุขอลาส่วนใหญ่จะเป็นในเชิงความจำเป็น เช่น ตัวเองป่วย พ่อป่วยแม่ป่วย รถเสีย รถติด หม้อหุงข้าวพัง ไฟดับ น้ำไม่ไหล ฯลฯ ร้อยแปดพันล้านเหตุผลเหล่านี้ แต่สำหรับหญิงคนนี้นี่สิ เธอขอเข้างานสายด้วยเหตุผลว่า ‘อยากอยู่ดูหมา’ เรื่องราวสุดน่ารักนี้เป็นของ Jenn กับเจ้านายของเธอ ที่บอกเล่าผ่านเว็บไซต์ Imgur โดยในเช้าวันหนึ่งที่เธอกำลังจะไปทำงาน มีเหตุขัดข้องนิดหน่อยที่จะทำให้เธอไปทำงานสาย พร้อมกับส่งข้อความไปแจ้งเจ้านายว่า ‘วันนี้ฉันจะเข้างานสายนิดหน่อยนะ’ เจ้านายก็บอกว่า ‘โอเคจ้า ทุกอย่างเป็นปกติรึเปล่า? เพราะเธอมักจะมาตรงเวลาหรือมาก่อนประจำนะ’ เธอตอบด้วยเหตุผล ‘ตอนนี้หมาของฉันกำลังหลับแล้วมันดูน่ารักมากๆ ฉันต้องใช้เวลาถ่ายรูปมันเก็บเอาไว้ ก่อนจะเตรียมตัวไปทำงาน’ พร้อมกับส่งภาพเจ้า Miller ในสภาพหลับใหลยามเช้า แทนที่เจ้านายจะโมโหเกิดอาการยั๊วะ ‘ดูเจ้าหนูนั่นสิ เอาเลยเต็มที่ไม่ต้องรีบ ผมจะให้ Miller คอยรับสายแทนในระหว่างที่คุณไม่อยู่…
-
มันต้องแบบนี้!! ชาวเน็ตจับได้ว่าหัวหน้าตำรวจจอดรถบนทางเท้า โดนสั่งปรับและจ่ายเรียบร้อย
ผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างตำรวจมักจะมีชื่อเสีย(ง) เรียงนามที่ไม่ค่อยจะเป็นที่ถูกใจประชาชนซักเท่าไหร่นัก เพราะด้วยความโหด สั่งปรับยั้ง มีความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่อันที่ไม่ผิดก็ยังจะให้ผิดในบางกรณี ฮ่าๆ ก็ว่ากันไปแหละนะ แต่ถ้าหากว่าตำรวจเป็นคนทำผิดซะเองล่ะ? โดยในกรณีนี้เกิดขึ้นที่เมือง Groveland รัฐ Florida เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกสั่งปรับให้กับใครหน้าไหนก็ตามที่จอดรถขวางบนทางเท้า แม้ว่าจะจอดอยู่หน้าบ้านของตัวเองก็ตาม ซึ่งค่าปรับก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ โดนครั้งนึงก็ปาเข้าไป 40 ดอลลาร์ (1,415 บาท) จนกระทั่งครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าคุณตำรวจทำผิดกฎหมายซะเอง พลเมืองดีผ่านมาเห็นเข้าและได้ทำการถ่ายรูปโพสต์ลงสื่อออนไลน์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แบบว่ามันไม่โอเคเลยที่เห็นแบบนี้ ตำรวจจอดรถบนทางเท้าหน้าบ้านตัวเองก็ต้องโดนเหมือนกัน สือทราบมาว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของหัวหน้าตำรวจของเมือง Groveland ซะด้วย และภาพชุดนี้ก็ถูกแชร์ต่อไปอย่างมหาศาล ผลสุดท้ายก็โดนสั่งปรับไปตามระเบียบเป็นมูลค่า 45 ดอลลาร์ (1,592 บาท) ยังดีตรงที่กฎหมายของเขายังขลังอยู่ ต้องโดนบีบด้วยหลักฐานยังไงก็ต้องแพ้ ส่วนเมืองไทยของเราน่ะเร๊อะ? ที่มา : unilad
-
เรื่องราวของ CEO Japan Airline ผู้สมถะ นั่งรถเมล์ไปทำงาน รับเงินเดือนน้อย แต่งตัวธรรมดา!!
คำว่า CEO (ซีอีโอ) มักจะเป็นคำเรียกของตำแหน่งอันใหญ่โตในบริษัททั้งหลาย ภาพลักษณ์ที่ติดตาเลยก็คือจะต้องเป็นผู้ที่ดูดีเนื่องจากเป็นถึงผู้บริหาร มีฐานะร่ำรวย และจะต้องเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตสวยหรูอย่างที่หลายคนเฝ้าฝันถึง แต่กับ CEO ของสายการบิน Japan Airline กลับเป็นสิ่งตรงกันข้าม เขามีชื่อว่าคุณ Haruka Nishimatsu ได้ใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาอันเรียบง่าย เขาไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านายผู้เคร่งขรึม แต่ทำตัวเป็นผู้นำบริษัทที่ดี ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมของบริษัทก็เพื่ออนาคตที่แข็งแกร่งของสายการบิน ‘หากการบริหารจัดการเป็นเรื่องยุ่งยากและไกลตัว คล้ายกับว่าผู้คนเบื้องล่างกำลังรอป้อนคำสั่งมาจากฟ้าเบื้องบน ผมอยากจะให้พนักงานของผมได้หัดคิดด้วยตัวเองบ้าง’ ส่วนหนึ่งที่เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS News เขาเลือกที่จะนั่งรถเมล์ไปทำงาน แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาไม่แพง ในระดับที่พนักงานของเขาเองก็มีสิทธิ์ซื้อมาใส่ อีกทั้งเลือกที่จะรับเงินเดือนน้อยกว่าในอัตราเงินเดือนของผู้บริหารทั่วไปด้วย มีครั้งหนึ่งเขาเคยตัดเงินเดือนตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไล่พนักงานออก เนื่องจากผลกำไรที่ได้น้อยเกินกว่าที่คาดเอาไว้ เขาจึงนำเงินเดือนตัวเองไปเฉลี่ยแจกจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับพนักงานแทน ภายใต้ความกดดันของพนักงานผู้น้อยในวัฒนธรรมของบริษัทส่วนมาก มักจะถูกกดขี่และใช้งานอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควรจะได้ ซึ่งทางด้านเหล่าผู้บริหารส่วนมากก็มักจะมีเงินเหลือกินเหลือใช้ มีของหรูหรามากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คุณ Nishimatsu สร้างบรรยากาศและกำลังใจให้กับลูกน้องร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร่วมรับประทานอาหารกับพนักงานในโรงอาหารเป็นประจำ ลงตรวจพื้นที่การทำงานด้วยตนเอง แบบชนิดที่ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กับการที่จะได้เห็นผู้บริหารลงมาใกล้ชิดกับพนักงานขนาดนี้ อีกทั้งยังส่งผลดีในระยะยาวให้กับบริษัทด้วย …
-
ชาวญี่ปุ่นทำโพล 10 ตัวการ์ตูนที่อยากให้เป็นหัวหน้ามากที่สุด จะมีใครติดอันดับบ้างนะ!!!
หนึ่งในข้อดีของนิยายหรือวรรณกรรมก็คือ การทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งที่เราอยากเป็นได้ เราสามารถเอาตัวเองไปใส่ในเรื่องนั้นๆ แล้วคิดว่า หากเป็นเรา เราจะชอบสิ่งที่ตัวละครเหล่านั้นทำหรือไม่ นิตยสาร R25 ซึ่งเป็นนิตยสารที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ได้ลองทำโพลว่า หากคุณสามารถเลือกตัวละครตัวหนึ่งในการ์ตูนเรื่องใดก็ได้มาเป็นหัวหน้า พวกเขาจะเลือกใคร อยากรู้แล้วใช่มั้ยละว่าใครจะติดอันดับบ้าง อันดับหนึ่งคือ โค้ชอันไซจากเรื่อง Slam Dunk โดยผู้โหวตให้เหตุผลว่า เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมม เขามองเรื่องจิตใจมากกว่าความสามารถ และเขาสามารถทำให้ลูกทีมทะลุขีดจำกัดของตัวเองได้ อันดับสองคือผู้เฒ่าเต่าจากเรื่อง Dragonball เนื่องจากว่า เขาเป็นอาจารย์ที่พยายามเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกศิษย์ และเขาพยายามทำให้ลูกศิษย์ของเขาทุกคนเป็นคนดี ส่วนอันดับที่สาม เป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดหนวดขาว เอ็ดเวิร์ด นิวเกต จากเรื่อง One Piece ผู้ที่เรียกลูกน้องของตนทุกคนว่าลูก ซึ่งไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครมาจากไหน หากได้มาอยู่ใต้ธงผืนเดียวกัน ทั้งหมดคือลูกชายของเขา อันดับที่เหลือมีใครกันบ้าง ไปชมกันเลย 4. อิคิจิ โอนิซึกะ จากเรื่อง GTO 5. ไดจิโระ โอฮาร่า จากเรื่อง Kochira Katsushika-ku Kameari…