Tag: ห่วง
-
ประเด็นอ่อนไหว ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงวิชาชีพ’ ชาวเน็ตร่วมถกเถียง จบไม่ตรงสายก็มาทำได้!?
เราต่างก็รู้กันดีว่าการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษานั้น จะเป็นการเรียนในลักษณะวิชาเฉพาะที่จะนำไปต่อยอดสู่วิชาชีพในอนาคต เมื่อได้รู้ว่าเรียนอะไร จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปสมัครงานตามสายงานที่ต้องการ… แต่เมื่อพูดถึงสาย ‘ครุศาสตร์’ หรือ ‘ศึกษาศาสตร์’ ที่มีการเปิดรับสมัครผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา เพื่อมาเป็นครูผู้ช่วย และไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทำให้ฝั่งผู้ที่ร่ำเรียนในด้านนี้ มักจะแสดงความคิดเห็นในเชิงหวงแหนวิชาชีพของตน… เนื่องจากว่าตนเรียนมาตรงสาย เสียเวลาไปกับการเรียนที่มากกว่าสาขาอื่นๆ ไหนจะต้องสอบใบอนุญาต รวมไปถึงการสอบเพื่อแย่งกันบรรจุตำแหน่งครูอีก และจำนวนของผู้จบการศึกษาทางด้านนี้มีจำนวนมากกว่าตำแหน่งที่จะสามารถรองรับได้ แม้ว่าบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เรียนทางด้านครุศาสตร์มา อาจจะรู้สึกว่าตนอาจจะคิดไปคนเดียว คุณ สมาชิกหมายเลข 4220500 จากเว็บไซต์พันทิปจึงได้ตั้งกระทู้ถามด้วยหัวกระทู้ว่า ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงจังเลยครับเวลาคนที่จบอย่างอื่นจะมาเป็นครูบ้าง’ “ของอย่างนี้มันต้องสู้กันที่ความสามารถหรือเปล่าครับ จะหวงทำไมว่าตัวเองจบตรงสาย แต่คนอื่นจบไม่ตรง ที่จริงคนจบครูตรงสาย ก็น่าจะได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำนะครับ ผมเห็นบางอาชีพอย่างโปรแกรมเมอร์นี่ ไม่เห็นเค้าจะหวงกันเลย บางคนจบหมอ จบเภสัช ก็ยังมาเป็นโปรแกรมเมอร์ คนจบคอมเค้าก็ไม่เห็นจะออกมาเรียกร้องอะไรกันเลยครับ” ใจความจากต้นกระทู้ดังกล่าว จากการเปิดประเด็นในครั้งนี้ มีชาวพันทิปเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งทางด้านผู้เรียนสาขาวิชาชีพครูโดยตรง และผู้ที่ไม่ได้จบสาขาวิชาชีพครูโดยตร #เหมียวเลเซอร์ จะขอยกความคิดเห็นบางส่วนมาให้ท่านได้อ่านและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วยตนเองก่อน ว่าจริงๆ แล้ว ทำไมถึงเกิดประเด็นดราม่าเกี่ยวกับวิชาชีพครูอยู่บ่อยครั้ง… . . . .…
-
แฟนหนุ่มโกรธโดนบอกเลิก ทุบตี-บีบคอ-ลากแฟนสาวกับพื้น แต่รอดตายราวปาฏิหาริย์!?
หนึ่งในปัญหาสังคมของประเทศเกาหลีใต้ที่ไม่อาจแก้ไขให้หมดไปได้ แม้ภาพลักษณ์ของผู้ชายเกาหลีใต้ที่เห็นผ่านสื่อละครซีรีส์ต่างๆ ในมาดสุภาพบุรุษชายชาตรี ความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามกันเสมอ… เว็บไซต์ AllKPop ทำการรายงานเหตุทำร้ายร่างกายแฟนสาวโดยหนุ่มวัย 19 ปีรายหนึ่ง จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บหลายส่วน สถานีตำรวจปูซานได้ทำการจับกุมนาย A ในข้อหาทำร้ายร่างกายนางสาว B โดยที่เหตุก่อนหน้านั้นถูกจุดให้ระอุขึ้น จากการที่นาย A เริ่มทุบตีเธอในรถระหว่างไปเที่ยวบนภูเขา จับหัวโขกกับพวงมาลัยและตบหน้าเธออย่างไม่ยั้ง จากความรุนแรงภายในรถ นาย A จึงได้ลากตัวนางสาว B ไปยังที่บ้านของตนพร้อมจับเธอขังเดี่ยวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 1 วัน และจะได้ออกมาก็ต่อเมื่อให้สัญญากับนาย A ว่าจะกลับมาที่บ้านของเขาทันที หลังจากที่เข้าเรียนเสร็จแล้ว ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นว่านาย A กำลังลากตัวนางสาว B ไปกับพื้น แต่นางสาว B รู้สึกกลัวเกินกว่าจะที่จะรับนาย A ได้ไหว เธอจึงส่งข้อความเพื่อขอเลิกกับนาย A ซึ่งในตอนแรกเขายังยื้อเอาไว้ แต่ภายหลังดูเหมือนว่าจะยอมเลิกและบอกกับเธอว่า จะนำของใช้ส่วนตัวของเธอไว้ในกล่องจดหมาย เพื่อให้เธอกลับมาเก็บเอง นางสาว B ใช้เวลาทำใจนานถึง…
-
สาวจีนหวงทรัพย์สิน มุดเข้าเครื่องเอกซเรย์ตามกระเป๋า ป้องกันปัญหาถูกขโมยของ
เรื่องหนึ่งที่เราต้องระวังเป็นอย่างยิ่งเวลาออกเดินทาง ก็คือต้องระวังไม่ให้ทรัพย์สินของเราหาย นอกจากเราต้องเตือนตัวเองไม่ให้ลืมวางของทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ แล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีคนขโมยของระหว่างที่เราเผลอด้วย อย่างไรก็ตามบางครั้งเราก็จำเป็นต้องออกห่างจากสัมภาระของตัวเอง ตอนนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจของก็เช่นกัน ทว่าหญิงจีนคนหนึ่งห่วงว่าจะมีคนขโมยของระหว่างกระเป๋าเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ เธอก็เลยกระโดดเข้าเครื่องไปเฝ้ากระเป๋าซะเลย สร้างความตื่นตระหนกให้กับพนักงานดูแลอย่างมาก ภาพภายในเครื่องเอ็กซเรย์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาพนักงานที่ทำงานอยู่ในสถานีรถไฟ Dongguan Railway Station เมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนพบภาพหญิงสาวคนหนึ่งขณะตรวจภาพจากเครื่องเอ็กซรย์ เหตุเกิดเนื่องจากสาวคนนี้ห่วงทรัพย์สินของตัวเองมาก เธอกลัวว่าจะมีคนขโมยของในกระเป๋าเธอไป แม้แต่ตอนเอาเข้าเครื่องเอ็กซเรย์เธอก็ยังกลัวว่าพนักงานจะขโมยของตอนที่เธอไม่เห็นกระเป๋า เธอก็เลยกระโดดเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ไปพร้อมกันเพื่อเฝ้ากระเป๋าไว้ ภาพภายนเครื่องเอ็กซเรย์ พนักงานที่อยู่ที่นั่นเล่าว่าพวกเขาตกใจมากที่เห็นเธอกระโดดขึ้นไปบนสายพานของเครื่องเอ็กซเรย์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามเธอได้ทัน เพราะเธอไหลเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ไปแล้ว พนักงานหญิงที่เป็นคนตรวจสิ่งของซึ่งผ่านเครื่องเอ็กซเรย์เองก็ตกใจมากเช่นกัน เพราะปกติพวกเธอจะเห็นแต่สิ่งของไหลผ่านเครื่องไปเท่านั้น พอเห็นภาพหญิงสาวติดเข้ามาด้วยจึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย หญิงสาวด้านล่างของภาพกำลังคลานออกมาจากเครื่องเอ็กซเรย์พร้อมกับกระเป๋า จากภาพจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงออกมาจากสายพานเครื่องเอ็กซเรย์จริงๆ เธอสวมเสื้อกันหนาวมีฮู้ดและรองเท้าส้นสูง พนักงานที่รอตรวจกระเป๋าด้านนี้เองก็ทำหน้าไม่ถูกเลยเมื่อเห็นเธอมุดออกมาแบบนั้น เท่านั้นยังไม่พอหลังจากหญิงสาวเข้าไปเฝ้าของในเครื่องเอ็กซเรย์แล้ว เธอก็ยังเปิดดูของในกระเป๋าซ้ำอีกรอบหนึ่งที่หน้าเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มีอะไรหายระหว่างการเอ็กซเรย์ หลังจากออกมาจากเครื่อเอ็กซเรย์แล้ว ก็ยังเปิดกระเป๋าเช็กของข้างในซ้ำอีกรอบ โชคดีที่การให้คนผ่านเข้าเครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋านั้นไม่มีอันตรายต่อร่างกายเธอ เพราะรังสีที่ใช้ในการเอ็กซเรย์กระเป๋าไม่ได้มากจนทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ นอกจากนี้พนักงานที่ทำงานที่นั่น ก็ไม่ได้เอาผิดอะไรกับเธอ พวกเขาคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ปล่อยให้มีคนหลุดเข้าไปในเครื่องพร้อมกับกระเป๋าได้…
-
เจ้าลาน้อยบาดเจ็บเจียนตาย โชคดีที่ถูกช่วยเหลือไว้ได้ทัน และมีแม่คอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง!!
ความรักของแม่นั้นเค้าว่ากันว่ากว้างใหญ่มากยิ่งกว่ามหาสมุทรซะอีก แม่จะทำทุกๆ อย่างเพื่อปกป้องลูกเสมอแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม หรือแม้ในยามเจ็บป่วยแม่จะรู้สึกเจ็บปวดเพราะด้วยความเป็นห่วงลูกอย่างสุดหัวใจ และเรื่องราวความรักของเจ้าแม่ลาตัวนี้ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยลูกของมันที่บาดเจ็บใกล้ตาย คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง จะเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นเองว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของสัตว์นั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เหล่ามนุษย์เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า Animal Aid ในอินเดีย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเจ้าลาน้อยถูกทำร้ายโดยสัตว์ป่า ทำให้มีบาดแผลรุนแรงหลายแห่ง พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็พบว่าบาดแผลของมันนั้นถูกชาวบ้านใช้ผงขมิ้นทาให้ เพราะเชื่อว่าจะช่วยห้ามเลือดได้ พอเจ้าหน้าที่ทำการขนย้ายเจ้าลาน้อยไปที่ทำการศูนย์เพื่อจะนำไปดูแลรักษาต่อ แม่ของมันก็เดินวนรอบรถอย่างร้อนรน คงคิดว่าเจ้าหน้าที่จะพรากลูกไปจากมัน เจ้าหน้าที่ก็เลยตัดสินใจพาแม่ของมันไปด้วยซะเลย… เจ้าลาน้อยมีแผลฉกรรจ์จากการถูกกัดนับสิบแผลเลยทีเดียวล่ะ นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่มันสามารถรอดชีวิตมาได้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้างแผลให้กับเจ้าลาน้อยอย่างสม่ำเสมอ จนในที่สุดอาการของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และในระหว่างการดูแลรักษานั้นก็มีแม่ของมันคอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง วันเวลาผ่านไป ในที่สุดเจ้าลาน้อยก็หายกลับมาเป็นปกติ และใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขร่วมกันกับแม่สุดที่รักของมันที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Animal Aid ไปชมคลิปเหตุการณ์การช่วยเหลือเจ้าลาน้อยแบบเต็มที่ข้างล่างได้เลยจ้า… ก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ ในที่สุดก็สามารถกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ^^ ที่มา : viralnova, Animal Aid Unlimited, India
-
เกาหลีใต้ห่วง “นักกีฬาเกาหลีเหนือ” หลังให้สัมภาษณ์ อยากให้เกาหลีกลับมารวมกัน
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียแล้ว เมื่อมีนักกีฬายิงปืนชาวเกาหลีเหนือชื่อว่า คิม ซองกุก ผู้คว้าชัยเหรียญทองแดงจากการยิงปืนสั้นระยะ 50 เมตรชายไปครองในกีฬาโอลิมปิกที่ริโอครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับเหรียญทองแดงมา แต่เขาก็รู้สึกว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะไม่สามารถขึ้นเป็นที่หนึ่งหรือที่สองได้ พร้อมทั้งได้พูดแสดงความคิดเห็นบางอย่างระหว่างสัมภาษณ์จนทำเอาชาวเกาหลีใต้เป็นห่วง “ถ้าสอง(เกาหลี) กลายเป็นหนึ่ง เราอาจจะได้เหรียญมากกว่านี้ ทั้งเหรียญทองและทองแดงมาจากเกาหลี ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่” ก่อนหน้านี้นักกีฬาชาวเกาหลีใต้ จิน จองโอ คว้าเหรียญทองจากกีฬาประเภทเดียวกันไปได้ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เขาพูดถึงเรื่องการคว้าเหรียญร่วมกันของสองเกาหลีขึ้นมา และหลังจากที่เขาได้พูดไปก็ได้มีชาวเกาหลีใต้ออกมาชื่นชมเป็นอย่างมากจนคลิปถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว มีคนดูกว่า 2.2 ล้านคนภายใน 24 ชั่วโมง มีคอมเม้นท์อีกกว่า 13,000 คนรวมแสดงความเห็นหลากหลาย ในส่วนของคอมเม้นท์ก็มีการแสดงความเห็นมากมาย เช่น.. สิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งก็คือไม่เคยเห็นชาวเกาหลีเหนือคนไหนพูดอยากจะรวมประเทศมาก่อน ทำให้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองเกาหลีรวมเป็นหนึ่ง หลายคนก็เป็นห่วงเพราะว่ามันเหมือนเป็นคำพูดที่อาจจะทำให้รัฐบาลทางฝั่งเหนือไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้ชาวเกาหลีใต้ต่างก็ให้กำลังใจเขาเยอะแยะมากมาย ทั้งอยากเห็นเขาอีกในโอลิมปิกครั้งต่อไป หรือบางคนก็บอกว่า เขาควรได้รับเหรียญทองจากคำพูดที่เขาได้กล่าวออกมา… #เหมียวสามสี พยายามหาวิดีโอจากต้นฉบับที่เผยแพร่ในเพจ www.facebook.com/SBS8news กลับไม่พบวิดีโอดังกล่าว คาดว่าอาจจะถูกลบออกไป และขณะที่ในยูทูปก็ยังไม่เจอเช่นกัน ถ้าใครพอมีเบาะแสก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้นะครับ… ที่มา straitstimes