Tag: อด
-
เต่าหนุ่มกลัดมันหนีออกจากบ้านเดินเท้าไกล 10 กิโลฯ เพื่อผสมพันธุ์กับตัวเมียในสวนสัตว์ ห๊ะ!?
ว่ากันด้วยพลังแห่ง ‘ความรัก’ เมื่อมันจะเกิดขึ้นอะไรก็ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้ ต่อให้คนสองคนจะอยู่ห่างไกลกันสักแค่ไหนก็จะพยายามหาทางไปเจอกันให้ได้อยู่ดี และเรื่องราวอันแสนโรแมนติกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น… เจ้าเต่าที่ชื่อว่า Freddie ได้เซอร์ไพรส์เจ้าของของมันด้วยการแอบหนีออกจากบ้านเดินเท้าเปล่าๆ เพื่อไปผสมพันธุ์กับเต่าสาวในสวนสัตว์ ที่อยู่ไกลจากบ้านไปกว่า 10 กิโลฯ แถมยังใช้เวลาแค่ 1 วัน!! ภารกิจหัวใจเริ่มต้นขึ้นที่บ้านของมันที่ตั้งอยู่ในเมือง St. Mary รัฐ New Jersey เจ้าของพบว่าเจ้า Freddie ได้หายตัวไปจากบ้าน แต่หลังจาก 24 ชั่วโมงผ่านไปก็ได้รับการติดต่อมาจากสวนสัตว์ Jersey Zoo ที่อยู่ห่างออกไปจากบ้านกว่าราวๆ 10 กิโลเมตร ว่าพบตัวมันอยู่ที่นั่น แถมยังพยายามแอบเข้าไปในกรงของเต่าสาวในสวนสัตว์วัย 15 ปี ที่มีชื่อว่า Astrid อีกด้วย และทางฝั่งสาวเจ้าแกก็ดูท่าทางดี๊ด๊าต้อนรับเจ้า Freddie อีกต่างหาก แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันจะได้จู๋จี๋ดู๋ดี๋กันก็มีเจ้าหน้าที่มาพบตัวของมันเข้าซะก่อน เจ้า Freddie ก็เลยถูกส่งตัวไปยังศูนย์อนุรักษ์เต่า ก่อนที่จะติดต่อกลับไปยังเจ้าของ ก็คือคุณ Stanton วัย 53 ปี ให้มารับตัวกลับไป…
-
คู่รักตั้งใจลดน้ำหนัก เพื่อกลับมาปั๊มทายาทอีกครั้ง เพราะตัวอ้วนเกินจนมี ‘เซ็กส์’ ไม่ได้…
เรื่องราวของ Amber Wagner และ Bo สามีภรรยา กับความตั้งใจของทั้งคู่หลังจากที่พวกเขามีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถปั๊มทายาทได้อีก ซึ่งหลังจากที่สองคู่รักจากเวอร์จิเนียได้ให้กำเนิดลูกน้อยคนแรก พวกเขาก็เผลอตัวเผลอใจดื่มน้ำอัดลมมากกว่าวันละ 10 กระป๋อง และทานฟาสต์ฟู๊ดเป็นประจำวันละมากกว่า 3 มื้อ ทำให้น้ำหนักของพวกเขาทั้งคู่รวมกันมากกว่า 325 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนักตัวที่มากขึ้นทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้สึกอึดอัด พวกเขาเกรงว่าจะมีปัญหาต่อสุขภาพระยะยาวในอนาคต และน้ำหนักตัวที่มากเกินไปก็ส่งผลทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถมีอะไรกันได้ พวกเขาคาดว่าตอนนั้นเสียเงินค่าฟาสต์ฟู๊ดไปมากถึงเดือนละ 650,000 บาท “ตอนนั้นเราทั้งคู่รู้สึกได้เลยว่าร่างกายสุขภาพย่ำแย่สุดๆ พวกเราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายๆ อย่าง และต้องคอยเป็นกำลังใจให้กัน” ภรรยาให้สัมภาษณ์ พวกเขาใช้วิธีออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลิกการทานฟาสต์ฟู๊ดทุกชนิด ภายใน 1 เดือนพวกเขาลดลงไปได้มากถึง 10 กิโลกรัม ภาพของทั้งคู่ในช่วงที่น้ำหนักขึ้นเยอะสุดๆ ระยะเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า พวกเขารู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และทัศนคติในการใช้ชีวิต ช่วยทำให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้จริง “สำหรับใครที่ติดปัญหาเรื่องสุขภาพ หรือน้ำหนักตัวสูงเกินไป เชื่อเราเถอะว่าถ้าคุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว อะไรหลายๆ อย่างมันดีขึ้นจริงๆ ในเรื่องของชีวิตคู่มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า… เราได้กลับมาเป็นคู่รักเหมือนตอนอายุ 18 อีกครั้ง”…
-
สาวคนนี้พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า “การอดอาหาร” ไม่ได้ทำให้เรามีรูปร่างที่ดีได้อย่างที่คิด!?
หลายคนอาจจะมีความเชื่อว่าการกินอาหารน้อยๆ นั้นจะทำให้น้ำหนักของเขาลดและมีหุ่นที่ดีได้ หลายคนได้ตัดมืออาหารบางมื้อไป หรือบางคนก็กินแค่มื้อเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย ความจริงแล้วกิจวัตรประจำวันคือหนึ่งตัวแปรที่สำคัญที่จะบอกว่าเราควรกินอาหารประมาณเท่าไหร่ถึงจะพอดีต่อร่างกายในแต่ละวัน บางที 1,000 แคลอรี่ต่อวันก็ไม่เพียงพอสำหรับผู้หญิงบางคนที่เผาผลาญได้มาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บล็อกเกอร์ทางด้านฟิตเนส Madalin Frodsham ได้ค้นพบวิธีดีๆ สำหรับการกินอาหารในแต่ละวัน เธอได้ตั้งเป้าไว้อย่างแน่วแน่และจริงจังเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และเธอก็กะไว้ว่าจะกินวันละ 800 แคลอรี่ต่อวันในช่วงที่กำลังออกกำลังกาย แต่พอทำไปนานๆ กลับพบว่ามันไม่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เธอจึงไปปรึกษากับนักโภชนาการ และเราก็แนะนำให้เธอกินมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นเธอก็กินเพิ่มไปอีก 1,000 แคลอรี่ต่อวันและนั่นก็ทำให้เธอเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น Madeline ในภาพด้านซ้าย ดูผอมและสุขภาพดี กว่าจะได้แบบนี้นักโภชนาการได้แนะนำให้เธอกินเยอะๆ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต “เขาที่เขาบอกฉันว่าให้กินคาร์โบไฮเดรตเพิ่มอีก 50% ฉันแทบบ้า ฉันกินคาร์โบแค่ 10% ก่อนที่จะมาปรึกษา แล้วก็กลัวว่าถ้ากินเยอะขนาดนั้นฉันคงต้องอ้วนแน่ๆ” การกินน้อยๆ จะทำให้ร่างกายของเราเค้าสู่ภาวะกักเก็บ หมายความว่าคุณก็จะมีพลังงานไว้สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็คือไม่ยอมเผาผลาญสิ่งที่กินเข้าไป เพื่อตุนพลังงานไว้สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ สิ่งที่นักโภชนาการแนะนำเธอก็คือการกินคาร์โบไฮเดรตให้มากๆ เพื่อที่ว่าเธอจะได้มีพลังงานเอาไว้ออกกำลังกายได้อย่างเหลือเฟือ มันไม่ง่ายเลยที่จะกินเพิ่มเข้าไปอีกเพราะว่ามันไม่ชิน แต่เธอก็ได้รับรู้แล้วว่ามันมีผลดีกับเธอมาก “ฉันจำได้ดีเลยว่าต้องพยายามอย่างมากในการกินอาหารเยอะๆ ฉันวางอาหารเที่ยงไว้ข้างๆ โต๊ะแล้วใช้เวลากว่า 3…
-
โลกมันโหดร้าย!! ซื้อกางเกงยีนส์ใหม่ ยังไม่ทันใส่ ก็โดนสัตว์ประหลาดที่บ้านยึดแล้ว
เมื่อกล่าวถึงแฟชั่นยุคปัจจุบันแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ ‘กางเกงยีนส์ขาเดฟ’ ที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในขณะนี้ เพราะเป็นกางเกงยีนส์ที่มีทรงขาเรียวเล็ก ทำให้คนใส่มีลุคที่ดูปราดเปรียวและกระฉับกระเฉง และวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวน่ารักๆ ของทาสแมวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบการใส่กางเกงขาเดฟเหมือนกัน แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ซื้อกางเกงขาเดฟมา ปรากฎว่าเจ้าเหมียวของเขาดั๊นแย่งไปซะงั้น!? เรื่องมีอยู่ว่าทาสแมวผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @rausu_2 ได้ทำการซื้อกางเกงยีนส์ขาเดฟมา และเขาก็ตื่นเต้นที่จะได้ลองใส่มัน แต่หลังจากนั้นเขาได้ทำการโพสต์รูปภาพและข้อความลงบนทวิตเตอร์ เป็นรูปของเจ้า Saji เหมียวของเขา ที่ตัวเข้าไปติดอยู่ในกางเกงยีนส์ขาเดฟตัวใหม่ที่ซื้อมา พร้อมกับเอาหัวโผล่ออกมาราวกับว่าเป็นแมวไส้กรอกเลยทีเดียว เขาเล่าว่าภาพที่เห็นนี้ไม่ได้เกิดจากการกลั่นแกล้งใดๆ เลยทั้งสิ้น เจ้า Saji นั้นเอาตัวของมันเข้าไปติดแหง็กเองเนื่องจากการเข้าไปเล่นซนมโนติ๊ต่างว่าตัวเองเป็นนักผจญถ้ำอยู่ เหตุผลที่มันทำแบบนี้ก็เพราะว่าพื้นที่แคบๆ และมีช่องสามารถทะลุไปอีกได้ เป็นตัวการดึงดูดความสนใจของเจ้า Saji และไม่ใช่แค่เพียงกางเกงยีนส์เท่านั้นนะ ทั้งบริเวณใต้ตู้ หรือที่อื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นแบบเดียวกันก็เป็นที่ที่มันชอบมุดเข้าไปโผล่หัวออกมาอยู่เป็นประจำ แต่กับเจ้ากางเกงยีนส์ขาเดฟตัวนี้ดูจะมีพื้นที่ที่เล็กเกินไปหน่อย จนทำให้พุงของมันติดไม่สามารถลอดออกมาจากถ้ำ (ขากางเกง) ได้อย่างปลอดภัย ฮร่า เขาก็เลยนำเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าเหมียว Saji ไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ ทำให้ตอนนี้มีผู้คนกดไลค์และรีทวิตไปเป็นหมื่นครั้งแล้ว…(หากเพื่อนสนใจเข้าไปชมความน่ารักของเจ้า Saji เพิ่มเติมก็เข้าไปกดติดตามในทวิตเตอร์ @rausu_2 ได้เลย) @sanemitsu09…
-
ชายหนุ่มถึงกับเสียหน้า เพราะอดแอ้มหลังหญิงสาวเห็น “รอยสัก” พิลึกที่ไอ้จ้อนของเขา!!
รอยสัก ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวตัดสินว่าใครดีหรือใครเลว แต่มันก็ทำให้ภาพลักษณ์ของเราดูเปลี่ยนไป และอาจเสียโอกาสดีๆ ไปก็ได้ เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ เขามีชื่อว่า Lewis Flint วัย 21 ปี จากเมือง Grimsby ซึ่งก็เป็นธรรมดาของชายหนุ่มที่อยากมีรอยสักเท่ๆประดับตัวไว้ ซึ่งเขาก็ได้ไปสักมาตอนอายุ 16 แต่ภาพที่เขาสักออกมานั้นมันพิลึกมากๆ แถมยังสักไว้ที่กล่องดวงใจอีกด้วย เขาบอกว่าเขารักรอยสักนี้มาก จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเขามีความรัก แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งทั้งคู่สานความสัมพันธ์มาถึงขั้นบนเตียง แต่แล้วเมื่อฝ่ายหญิงได้เห็นรอยสักของเขาถึงกับตกใจ เพราะมันหน่อมแน้มเกินกว่าที่จะรับได้ จนสุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้มีอะไรกัน ส่วนหนุ่มคนนี้ก็ต้องแห้วไปตามระเบียบ เพราะรอยสักที่เขาภาคภูมิใจนี่เอง แต่แล้วตอนนี้เขาก็พยายามลบรอยสักนั้นออกไป แลกมาด้วยความเจ็บปวด(เพราะมันไปอยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์) แต่ก็ต้องยอมเพราะคนที่เขารัก ยังไงเหมียวก็อวยพรให้เขาได้เจอคนรักดีๆนะจ๊ะ ที่มา buzzfeed