Tag: อดีต
-
หนุ่มดึง “แฟนเก่า” ทุกคนเข้าแชตกลุ่มเพื่อบอก “Merry X’mas” โคตรวุ่นวายเลยงานนี้!
วันคริสต์มาส นอกจากมันจะเป็นวันเฉลิมฉลองอันสำคัญของชาวตะวันตกแล้ว มันยังเป็นโอกาสพิเศษที่แสนดีสำหรับหนุ่มสาวในการกลับไปทักทาย “แฟนเก่า” ของตัวเองอีกด้วย ทักไปว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส” ก็คงดูไม่น่าเกลียดสำหรับคู่รักที่เลิกรากันไปแล้ว อย่างน้อยๆ ถ้าอยากกลับไปคืนดีล่ะก็นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยล่ะ แต่สำหรับหนุ่มนามว่า Tom คนนี้กลับทำมันพังเละไม่เป็นท่า เพราะแทนที่เขาจะเลือกทัก “สุขสันต์วันคริสต์มาส” ไปหาแฟนเก่าทีละคน เขากลับดึงแฟนเก่าทุกคนเข้ามารวมอยู่ใน แชตกลุ่ม เดียวกัน!! งานนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ไปดูบทสนทนาบน WhatsApp ของพวกเขากันเลยดีกว่า Tom สร้างกลุ่มแชตชื่อว่า Merry ex-mas Tom: “สุขสันต์วันคริสต์มาสนะสาวๆ ฉันคิดว่าพวกเธอน่าจะอยากแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับผมให้กันและกันฟัง ขณะที่ฉันเองก็เหงาแสนเหงาและคิดถึงพวกเธอมากๆ ในปีนี้” Gemma: “Tom ฉันว่านายดื่มหนักไปแล้วนะ…นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย” Tom: “ฉันแค่คิดว่าอยากรวมพวกเธอมาไว้ด้วยกันที่นี่แล้วบอกกับพวกเธอว่า ขอบคุณที่ให้ฉันได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแม้มันจะเป็นเวลายาวนานหรือสั้นก็ตามน่ะ Bella 555” Gemma: “ว้าว (ประชด)” Bella: “หยุดเลยนะ Tom เอางี้จริงหรอ แกมันไอ้บ้าน่ารังเกียจ” -Lisa ออกจากกลุ่มแชต- Tom: “Lisa อย่าเพิ่งไป 555”…
-
15 ภาพถ่ายของ ‘สังคมก้มหน้า’ ที่เกิดขึ้นกับผู้คนในอดีต สมัยที่ “ยังไม่มีสมาร์ตโฟน”
สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เราสามารถหยิบขึ้นมาเล่นอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างรวดเร็ว ได้ถูกสังคมวิจารณ์ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันน้อยลง หลายคนบอกว่าเพราะอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้นี่แหละทำให้ผู้คนเอาแต่ “ก้มหน้าก้มตา” ไม่ยอมเงยขึ้นมาพูดคุยกัน หรือแม้แต่กระทั่งมองสภาพแวดล้อมรอบข้าง… แต่เราลองย้อนกลับไปชมภาพในอดีต สมัยที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต กันบ้างดีกว่า ดูกันหน่อยซิว่าคนเราจะมีปฏิสัมพันธ์กัน แตกต่างจากปัจจุบันหรือเปล่า #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 เท่าที่เห็นจากภาพ ผู้คนในยุคสมัยก่อนส่วนมากก็ดูไม่ต่างจากสังคมก้มหน้าในปัจจุบัน เพียงแค่เปลี่ยนจากสมาร์ตโฟนเป็นหนังสือพิมพ์เท่านั้นเอง คนก็ไม่ยอมสละที่นั่งให้ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอกว่า เพราะตนกำลังมัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ บางคนก็เอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือจนไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบข้าง แต่ถึงอย่างไร ภาพถ่ายทั้ง 15 ภาพนี้ก็ไม่สามารถตัดสินผู้คนในยุคนั้นได้ทั้งหมด เพราะสังคมของแต่ละยุคสมัยก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปเนื่องจากหลายๆ…
-
นี่แหละวิธี ‘ลบเพื่อน’ ของผู้คนในสมัยที่ยังไม่มีเฟซบุ๊ก แทนการกดปุ่ม “Unfriend” ยังไงล่ะ…
ในยุคสมัยใหม่ หากเราเลิกคบกับใครไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน เมื่อขาดเยื่อใยกันแล้วก็เพียงแค่กดปุ่ม “ลบเพื่อน” (Unfriend) ก็สามารถปิดกั้นการรับรู้เรื่องราวของกันและกันได้แล้ว แต่หากว่า เป็นยุคสมัยที่ยังไม่นิยมใช้อินเทอร์เน็ต และไม่มีเครือข่ายโซเชียลมีเดียอย่างปัจจุบัน คนเราจะ “ลบเพื่อน” ให้หายไปจากความทรงจำกันอย่างไรนะ…?? วันนี้เราลองชมวิธีการลบเพื่อนของผู้คนในอดีตกันดีกว่า ความทรงจำที่มาพร้อมกับภาพถ่ายเจอวิธีเหล่านี้เข้าไป รับรองหายเรียบ!! 1. ฉีกแบบนี้แหละได้ผลชะงัดนัก 2. แทบจะลืมไปเลยล่ะว่าคนที่หายเคยเป็นเพื่อนคนไหนของเรามาก่อน 3. โอ้โห ลบเพราะความเกลียดใช่ไหมเนี่ย เจาะซะพรุนขนาดนี้!? 4. ฉีกๆ ฉีกมันเข้าไป 5. แค่นี้ คนๆ นั้นก็นับว่าไม่มีความสำคัญกับเราอีกแล้ว 6. ขีดฆ่าซะน่ากลัวเชียว 7. ตัดออกตามเส้นขอบของใบหน้าซะด้วย ฝีมือร้ายกาจ 8. ตัดออกเป็นรูปวงรีสวยงามเชียว 9. ครอปออกแบบง่ายๆ 10. ขีดทำใบหน้าแบบนี้น่ากลัวแฮะ 11. ฉีกวนรอบขนาดนี้ยังจะเก็บไว้อีกเรอะ!? …
-
ชมภาพ ‘การเปลี่ยนแปลง’ จากอดีตสู่ปัจจุบันของ “เจ้าตูบ” ทั้ง 10 สายพันธุ์เหล่านี้กัน!
ขณะที่มนุษย์เรามีวิวัฒนาการมานานแสนนาน เจ้าตูบ เองก็อยู่เป็นเพื่อนซี้กับมนุษย์มาหลายสหัสวรรษแล้วเช่นกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างหมากับคนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากที่เคยถูกใช้งานเป็นสัตว์นักล่า ก็อาจกลายเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามหรือเลี้ยงเพื่อแสดงบารมีเท่านั้น ฉะนั้น มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงสะสมผ่านระยะเวลาที่ยาวนาน และวันนี้เราก็จะมาดูกันว่า เจ้าตูบทั้ง 10 สายพันธุ์ นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างระหว่างอดีตและปัจจุบัน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย 1. Whippet (อดีต) (ปัจจุบัน) 2. Bull Terrier (อดีต) (ปัจจุบัน) 3. Skye Terrier (อดีต) (ปัจจุบัน) 4. Bulldog (อดีต) (ปัจจุบัน) 5. St. Bernard (อดีต) (ปัจจุบัน) 6. Pug (อดีต) (ปัจจุบัน) 7. Toy Poodle (อดีต) (ปัจจุบัน) 8. Dobermann…
-
หนังสือจากปี 1931 ที่จะบอกคุณว่า คนเราสามารถถูก “ไฟช็อต” ได้ด้วยวิธีใดบ้าง!
หลังมนุษย์ค้นพบพลังงานไฟฟ้า ชีวิตของมนุษย์ก็ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นอย่างทวีคูณ แต่ขณะเดียวกันชีวิตก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกันเพราะมีวิธีจบชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวิธีนั่นก็คือ การถูกไฟฟ้าช็อตตาย นั่นเอง ทั้งนี้ จึงมีคำแนะนำและคำตักเตือนถึงเรื่องการใช้กระแสไฟฟ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณ และวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปชมหนังสือที่ชื่อว่า Elektroschutz in 132 Bildern จากปี 1931 หนังสือเล่มนี้ได้รวมเอา 132 วิธีที่สิ่งมีชีวิตสามารถถูกไฟฟ้าช็อต และเราก็ได้หยิบเอามา 20 ตัวอย่าง ไปดูกันเลยว่าเราจะสามารถถูกไฟช็อตได้ด้วยวิธีใดบ้าง 1. ฉี่รดสายไฟ 2. สายไฟฟ้าขาดตรงจุดที่สัมผัสกับโลหะ 3. ฉี่รดสายไฟอีกแล้ว 4. ขณะรีดนมวัวก็อาจถูกไฟฟ้าช็อตได้นะ 5. จะชงชาหรือทำอะไรก็มีโอกาสถูกช็อตได้ทั้งนั้น 6. โคมไฟตัวดี 7. ทางที่ดีอย่าสัมผัสสายไฟฟ้าแรงสูง 8. แม้จะรีดผ้าก็มีโอกาสเสี่ยง 9. เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน 10. หลายครั้งที่เห็นหนูถูกไฟช็อตตายก็อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ 11. อย่าใช้โลหะแหย่ปลั๊กไฟด้วยมือเปล่า 12.…
-
20 ภาพถ่าย “แนวอินดี้” จากปี 1978 ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘อารมณ์ใคร่…สไตล์โลลิ’
ไม่ว่าปัจจุบันผู้คนจะให้ความหมายกับคำว่า ภาพถ่ายสไตล์อินดี้ ว่าอย่างไร ภาพถ่ายสไตล์นี้ก็มีมาตั้งแต่ปี 1978 แล้ว ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน ภาพถ่ายอินดี้ที่กล่าวไป ปรากฏอยู่ในหนังสือภาพของ Marcia Resnick ที่รวมเอาผลงานของศิลปินและนักเขียนเอาไว้มากมาย อาทิเช่น Allen Ginsberg, Andy Warhol และ William S. Burroughs แต่ละภาพในหนังสือเล่มนี้จะถูกบรรยายเป็นข้อความสั้นๆ อยู่รอบภาพ โดยคอนเซ็ปต์ของแต่ละภาพก็คือ การแสดงอารมณ์ทางเพศที่เร้นลับของหญิงสาว โดยไร้ซึ่งภาพของการ “สอดใส่” หญิงในภาพถูกกำหนดให้เป็นตัวละครหลักของชิ้นงาน เธอเปรียบเสมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่เติบโตขึ้นบนทางที่ห้อมล้อมด้วยความดีและความชั่ว จนเธอต้องแสดงความสับสนในจิตใจออกมาว่า “เด็กดี” เป็นแบบไหนกันแน่ ผลงานทั้งเซ็ตนี้จึงถือเป็นภาพสะท้อนอารมณ์ใคร่ลึกๆ ในจิตใจของผู้สร้าง ผู้ที่มองมายังเด็กสาวด้วยสายตาโลมเล้า หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “โลลิตาคอมเพล็กซ์ ” ก็คงจะไม่ผิด ลองไปชมผลงาน ภาพถ่ายสไตล์อินดี้ จากยุคสมัยปี 1978 ที่เหลือกันได้เลย ดูซิว่าจะอินดี้แบบที่คนสมัยนี้คิดหรือเปล่า… . . . . . . . . . . .…
-
รู้จัก “เครื่องวัดความสวย” สิ่งประดิษฐ์จากปี 1930 ที่ใช้วัดว่าใบหน้าใคร ‘งดงาม’ ตามพิมพ์นิยม
ในยุคที่การคิดค้นเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ กำลังเบ่งบาน คงไม่ต้องแปลกใจหากจะพบว่ามีอุปกรณ์ประหลาดต่างๆ ให้ได้เห็นกันเป็นประจำ อย่างเช่น เครื่องวัดความสวย (Beauty Calibrator) ที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาใดเวลาหนึ่งช่วงปี 1930 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความงามอย่าง Max Factor, Sr. และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมและรู้จักกับเจ้าเครื่องนี้กัน เครื่องวัดความงาม จะเป็นอุปกรณ์สวมศีรษะประกอบด้วยโลหะหลายเส้น ซึ่งเมื่อนำมาครอบที่ศีรษะแล้ว เครื่องดังกล่าวสามารถบ่งบอกได้ว่าจุดไหนบนใบหน้าที่ควรลด ตัด หรือแต่ง บนเครื่องวัดความงามนี้จะมีปุ่มปรับถึง 325 จุดที่มีไว้สำหรับการกำหนดจุดในการแก้ไขใบหน้า โดยผู้ประดิษฐ์กล่าวเอาไว้ว่าปัจจัยกำหนดความงามที่สำคัญมีอยู่ 2 ประการด้วยกัน ประการแรก ความสูงของจมูกและหน้าผากควรอยู่ในระดับที่เท่ากัน และประการที่สองก็คือ ระยะห่างของดวงตาทั้งสองข้างต้องมีความกว้างเท่ากับดวงตาหนึ่งด้วยพอดี เมื่อทำการวัดและวิเคราะห์ใบหน้าเรียบร้อยแล้ว จะทำให้เห็นได้ว่าใบหน้าของบุคคลนั้นๆ มีจุดใดที่ควรได้รับการปรับบ้าง หลังจากนั้นก็จะเป็นการตัดสินใจของผู้เข้ารับการวัดว่าจะยอมรับการแก้ไขใบหน้าหรือไม่ บริษัท Max Factor กล่าวว่าเครื่องวัดความสวยนี้นอกจากจะใช้วัดความงามตามพิมพ์นิยมของผู้คนได้แล้ว ยังช่วยให้ Max Factor, Sr. นั้นเข้าใจโครงสร้างใบหน้าผู้หญิงมากขึ้นอีกด้วย เครื่อง Beauty Calibrator สร้างขึ้นสำเร็จในปี 1932 โดยครั้งแรกทำขึ้นด้วยความตั้งใจจะใช้ในวงการภาพยนตร์ เพื่อปรับแต่งใบหน้าของนักแสดงนั่นเอง ภายหลังถูกใช้ในวงการความงาม และสูญเสียความนิยมไปในที่สุด สุดท้ายมันถูกเก็บเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ฮอลลีวูดและถูกนำมาประมูลขายในปี…
-
อดีตนักโทษมะกันเสีย ‘อวัยวะเพศ’ จากมะเร็ง โร่ฟ้องเรือนจำปล่อยโรคไร้การ “วินิจฉัย”
เรื่องราวชวนปวดหัวในวันนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย Keith Jackson วัย 49 ปี ที่ต้องเสียอวัยวะเพศไปเนื่องจากโรคมะเร็ง Keith Jackson เคยเป็นผู้ต้องขังในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมายและก่ออาชญากรรมร้ายแรง หลังจากนั้นเขาเสียอวัยวะเพศจากโรคมะเร็ง เขาจึงโทษเรือนจำที่ไม่ตรวจอาการเขาก่อนหน้านี้ Keith Jackson วัย 49 ปี ในช่วงเวลา 15 เดือนแรกที่เขาถูกขังอยู่ในเรือนจำ เขาก็เริ่มมีอาการเจ็บปวดที่แผลบนอวัยวะเพศของตนเอง มันเริ่มบวมช้ำและมีเลือดออกมาก ข้อมูลจากบันทึกทางการแพทย์ของ Keith พบว่าเขาถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศหลายต่อหลายครั้ง โดยทีมแพทย์เชื่อว่าเขาได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน จึงให้ยาปฏิชีวนะแก่เขา ภายหลังทีมแพทย์ตัดสินใจ ทำการผ่าตัด Keith แต่มันก็สายเกินไปเพราะอาการของมะเร็งได้ลุกลามจนทำลายอวัยเพศของเขาไปแล้ว นั่นทำให้ Keith ต้องการให้ทางเรือนจำและทีมแพทย์ในเรือนจำออกมารับผิดชอบ ที่ปล่อยให้อาการของโรคมะเร็งลุกลามในตัวเขาโดยที่ไม่มีการตรวจวินิจฉัย Keith กล่าวว่า… “ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือ ‘ความช่วยเหลือ’ เท่านั้นเอง” สุดท้ายเขาก็ยื่นเรื่องฟ้องรัฐบาลกลางภายใต้กฎการฟ้องร้องของภาคเอกชนต่อภาครัฐบาล นอกจากนี้เขายังฟ้องเรือนจำอีก 6 แห่งที่เขาเคยถูกขัง และสถานรักษาพยาบาลอีก 2 แห่งอีกด้วย Keith…
-
20 ภาพถ่ายขาวดำ สะท้อน “ความเป็นอยู่” ของผู้คนในอดีตเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว
ราว 50 ปีที่แล้ว ช่างภาพยอดฝีมือนายหนึ่งนามว่า Bruce Davidson เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากภาพถ่ายของเขา ภาพถ่ายผลงานของเขา เป็นภาพที่เน้นสะท้อนมุมหนึ่งของสังคมที่ผู้คนมักมองข้าม เป็นมุมที่เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมซึ่งเกิดขึ้นอย่างละลานตาในสมัยนั้น Bruce Davidson ได้ฝากผลงานภาพถ่ายเอาไว้มากมาย ซึ่งนอกจากผลงานเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แล้ว มันยังกลายเป็นสมบัติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย หากใครอยากย้อนเวลากลับไปชมภาพบรรยากาศบ้านเมืองช่วง 50 กว่าปีที่แล้ว ก็เชิญไปชมผลงานภาพถ่ายจาก Bruce Davidson กันได้เลย… 1. Beverly Hills, California ปี 1960 Marilyn Monroe และ Arthur Miller (คนขวา) สามีของเธอ ณ โรงแรมเบเวอรีฮิลล์ 2. Chicago ปี 1962 บาร์ดนตรีบลูส์ ตอนใต้ของ Chicago 3. Playboy club ปี 1963 4. Chicago, Illinois ปี 1963…
-
ชาวเน็ตโพสต์คลิป “คนยักษ์” ในญี่ปุ่นช่วงปี 1890 มนุษย์จะตัวใหญ่ขนาดนี้ได้จริงหรือ?
เคยได้ยินบ่อยครั้งอยู่เหมือนกันว่า คนสมัยก่อนนั้นบางคนก็มีขนาดร่างกาย “ใหญ่ยักษ์” แต่ไม่รู้ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดีเพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนยืนยันคำกล่าวเหล่านั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้กลับมี คลิปวิดีโอ หนึ่งบนอินเทอร์เน็ตที่เผยให้เห็นภาพเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คนยักษ์” ที่ร่วมเดินขบวนอะไรบางอย่างในประเทศญี่ปุ่น คลิปวิดีโอคนยักษ์ ในญี่ปุ่น ช่วงปี 1890 จะเห็นได้ว่าชายคนหนึ่งที่ดูตัวใหญ่โตมหึมาสวมชุดซูโม่กำลังเดินร่วมขบวน สองข้างทางเป็นผู้คนที่คาดว่าน่าจะมาร่วมชมขบวนนี้ ต่างคนต่างก็ถือธงประจำประเทศญี่ปุ่นเป็นของตัวเอง จังหวะที่คนยักษ์คนนี้ ชูมือโบกให้กับคนดูข้างทาง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีคลิปวิดีโอออกมาเช่นนี้ เสียงของชาวเน็ตก็ยังแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าเป็นภาพจริงเพราะคนสมัยก่อนนั้นหากจะมีขนาดตัวใหญ่กว่าปกติ 2-3 เท่าก็ไม่แปลก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งกลับแย้งว่าเป็นคลิปวิดีโอที่ถูก “สร้าง” ขึ้นด้วยเทคนิคการตัดต่อ เพราะไม่มีทางที่มนุษย์จะมีขนาดตัวใหญ่อย่างที่เห็นในคลิปวิดีโอได้ แล้วท่านผู้ชมล่ะครับ จากคลิปวิดีโอนี้ คิดว่าโลกของเราจะมีมนุษย์ที่ตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้อยู่จริงหรือเปล่า? ที่มา: ck101 และ liveleak
-
11 เทคโนโลยีปัจจุบัน ที่มีจุดกำเนิด “เก่าแก่” กว่าที่คิด ไม่อยากเชื่อว่าจะโบราณขนาดนี้!!
เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสุดไฮเทคต่างๆ พวกเราอาจคิดว่ามันเพิ่งถูกคิดค้นขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หารู้ไม่ว่า เทคโนโลยีสุดไฮเทคหลายชนิดก็ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นตั้งนานแล้ว บางชนิดอาจเก่าแก่กว่าที่เราคิดเอาไว้เป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชม 11 เทคโนโลยี ปัจจุบันที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่า มันถูกคิดค้นมาตั้งนานแล้วววว 1. วัคซีน คิดค้นโดย Edward Jenner ปี 1796 2. แบตเตอรี่ คิดค้นโดยนักประดิษฐ์ชาวอิตาลี Alessandro Volta เมื่อปี 1800 3. ไมโครโฟน คิดค้นโดย Emile Berliner ตั้งแต่ปี 1876 4. เครื่องล้างจานอัตโนมัติ คิดค้นโดย Josephine Garis Cochran เมื่อปี 1886 5. คอนแทคเลนส์ คิดค้นโดยบริษัท F.A. Mueller ตั้งแต่ปี 1887 6. บันไดเลื่อน คิดค้นโดยดีไซเนอร์จากนิวยอร์ก…
-
ภาพอดีต 10 นักแสดงรุ่นใหญ่ใน “เลือดข้นคนจาง” สวยหล่อไม่แพ้นักแสดงรุ่นใหม่เลยล่ะ!!
ต้องยอมรับเลยว่าละคร เลือดข้นคนจาง นั้นกำลังเป็นกระแสอยู่บนโลกโซเชียลอย่างแท้จริง แถมเรื่องราวยังกำลังเข้มข้นอยู่อีกด้วยในขณะนี้ นอกจากเนื้อเรื่องกับแนวคิดของละครเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ชมก็คือเหล่า “นักแสดง” เพราะมีการนำนักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงมาแสดงประกบคู่กับดาราระดับท็อปในอดีตที่ได้ออกมาวาดลวดลายการแสดงในปัจจุบัน นักแสดงรุ่นใหญ่ในเลือดข้นคนจางที่ได้รับบทพ่อหรือแม่นั้น บอกได้เลยว่าหากย้อนกลับไปชม ภาพในอดีต ของพวกเขาแล้วล่ะก็ รับรองว่าสวยหล่อไม่แพ้นักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ในปัจจุบันแน่นอน วันนี้เราจึงขอนำเสนอ ภาพอดีตของเหล่านักแสดงรุ่นใหญ่ ในละครเลือดข้นคนจาง ที่ได้ฝากความเท่ หล่อ สวย กันเอาไว้ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย! 1. อากงสุกิจ จิระอนันต์ (แสดงโดยคุณ นพพล โกมารชุน) ติสต์มาก (คนขวา) อปป้าาาาา . โคตรเท่ 2. อาม่าปราณี จิระอนันต์ (แสดงโดย ภัทราวดี มีชูธน) อาม่าสวยมั้ยล่ะ (คนขวา) วัยสาวๆ อาม่าดูดีสุดๆ 3. พี่ใหญ่ หรือ ประเสริฐ จิระอนันต์ (แสดงโดย ทรงสิทธิ์…
-
ภาพปัจจุบัน 5 ศิลปินเด็กที่เคยเป็นไอดอลในดวงใจวัยรุ่นยุค 90/2000 วันนี้เป็นไงกันบ้าง!!?
สำหรับเด็กๆ ที่เติบโตมาในช่วงปลายยุค 90s และช่วงต้นของยุค 2000s นั้นแน่นอนว่าจะต้องมีศิลปินเด็กสักคนเป็นไอดอลอย่างแน่นอน เพราะสมัยนั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเหล่านักร้องวัยเยาว์เลยเชียวล่ะ ย้อนกลับไปในยุคนั้นไม่ว่าจะเพลงแนวสตริงหรือลูกทุ่งก็เรียกได้ว่าปั้นศิลปินเด็กมาดึงดูดผู้ฟังกันมากมายทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ศิลปินเด็กบางคนก็จบเส้นทางศิลปินลงเพียงไม่กี่อัลบั้มและได้หายหน้าไปจากวงการ วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปชม 5 ศิลปินเด็ก ผู้เคยโด่งดังสุดๆ ให้หายคิดถึงแล้วลองมาส่องดูกันหน่อยว่าปัจจุบันพวกเขาทำอะไรกันอยู่บ้าง… 1. อนัน อันวา เจ้าของผลงานเพลงดัง เช่น Ding Dong, ตะลึง และ คิกคาปู้ เป็นต้น ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) ปัจจุบันกลายเป็นนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดเท่ นักออกแบบเสื้อผ้า และเป็นนักเต้นอีกด้วย . ที่มา: เฟซบุ๊ก Anan Anwar 2. นาตาลี สติเบิร์ท (หรือ นาตาลี มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์) เจ้าของผลงานเพลงดัง มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ และ อาคันตุกะ ที่ติดหูเด็กๆ ทั้งประเทศ ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ปัจจุบันนาตาลีเพิ่งกลับมาไทย เธอก็จะรับงานถ่ายแบบบ้าง…
-
20 ภาพถ่ายจาก ‘มุมมืด’ ในอดีต ยุคทองของเหล่าอาชญากร มาเฟีย เจ้าพ่อ และสงคราม
อดีต มีทั้งเรื่องราวอันสดใสและดำมืด และเรื่องเล่าต่างๆ ที่ส่งผ่านกันมาปากต่อปากก็มักทำให้เราอยากเห็นภาพบรรยากาศของเรื่องเล่านั้นๆ เช่นเรื่องราวของแก๊ง Cairo ที่หลายคนต่างเคยได้ยินมาเพียงชื่อ แต่หากถามว่าพวกเขามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร หากไม่เห็นภาพก็คงอธิบายได้ยาก วันนี้ จึงรวบรวม 20 ภาพถ่ายจากมุมมืดในอดีต ที่แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอันมืดมัวและเรื่องราวน่าสนใจที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ หากพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย… 1. สมาชิกแก๊ง Cairo แก๊งนี้เป็นสายให้กับประเทศอังกฤษ ในช่วงเหตุการณ์ความเคลื่อนไหว Irish Republican Army โดยสมาชิกแก๊งส่วนใหญ่ถูกสังหารในวันที่ 21 พฤศจิกายน 1920 2. สมาชิกแก๊ง Growler เขากำลังจำลองวิธีการปล้นให้ช่างภาพดูเพื่อแสดงวิธีการปล้นที่พวกเขามักใช้กัน 3. ภาพโบสถ์ใหญ่ในเยอรมนีที่ถูกระเบิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 4. โฉมหน้าสมาชิกแก๊ง Five Points ของเมืองนิวยอร์ก ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 5. Giosue Gallucci และครอบครัว Giosue Gallucci เป็นผู้นำอาชญากรกลุ่ม Italian Harlem ของนิวยอร์ก …
-
ย้อนอดีตชม 20 ภาพน่าสะเทือนใจของ “การใช้แรงงานเด็ก” ช่วงยุค 1900s ในสหรัฐฯ
ในช่วงต้นๆ ของคริสต์ศักราช 1900 สำหรับวงการอุตสาหกรรมแล้ว แรงงานมนุษย์นั้นจำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเริ่มมีการใช้งานเครื่องจักร แต่ก็ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ทุกอย่าง ฉะนั้น โรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการใดที่มีแรงงานมนุษย์มากก็ถือว่าได้เปรียบ ในช่วงยุคนั้นจึงนิยม การใช้แรงงานเด็ก เพื่อทำงานในบางหน้าที่ จนสุดท้ายกลายเป็นการกดขี่อันน่าเศร้าที่เด็กๆ ต้องเจอ บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจของการใช้แรงงานเด็กในในอดีตช่วงยุค 1900s ถูกเก็บมาเป็น “ภาพ” ให้คนรุ่นหลังได้ชม วันนี้ เราจึงจะพาทุกท่านไปชมภาพเหล่านั้นกัน… 1. Giles Edmund Newsom เด็กวัย 11 ปีที่ทำงานเกี่ยวกับกังหันลม และแล้วอุบัติเหตุจากเครื่องจักรก็พรากนิ้วมือของเขาไป 2. Rosie วัย 7 ขวบกับปีที่สองของการเป็นคนงานแกะเปลือกหอย 3. เด็กส่งหนังสือพิมพ์คนหนึ่งผล็อยหลับบนขั้นบันได้พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่เขาต้องส่ง 4. Ferris เด็กส่งหนังสือพิมพ์วัย 7 ขวบ 5. Mary วัย 4 ขวบกับหน้าที่แกะเปลือกหอย 6. Vance วัย 15 ปีคอยเปิดปิดประตู ทำงาน 10…
-
หนึ่งในฆาตกร ‘เยาวชน’ คดี “จุนโกะ” เมื่อ 30 ปีก่อน ถูกจับกุมอีกครั้ง จากข้อหาพยายามฆ่า
ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน มีคดีฆาตกรรมอันน่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เด็กนักเรียนชาย 4 คน ได้วางแผนหลอกล่อเหยื่อมา “ข่มขืนและฆ่า” โดยเหยื่อก็คือ จุนโกะ ฟุรุตะ เด็กนักเรียนหญิง ม.ปลาย วัยรุ่นชายวัย 15 ปี นามว่า โนบุฮารุ จึงได้วางแผนกับเพื่อนเพื่อหลอกล่อจุนโกะมายังบ้านของตน จากนั้นจึงข่มขืน ทรมาน และฆ่าในที่สุด หลังตำรวจจับกุมตัวพวกของโนบุฮารุได้ ซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็น “เยาวชน” ศาลจึงผ่อนผันโทษตามข้อกฎหมายของเยาวชน โดยให้โนบุฮารุถูกตัดสินจำคุกเพียง 5-9 ปีเท่านั้น จุนโกะ ฟุรุโตะ เหยื่อฆาตกรรมเมื่อปี 1988 เวลาผ่านไปสามทศวรรษนับจาก “คดีฆาตกรรมจุนโกะ” เหล่าเยาวชนที่เป็นผู้ร้ายในคดีเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่อาศัยร่วมกับสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น… แต่ล่าสุดวันที่ 9 กันยายน 2018 มีรายงานว่าชายวัย 45 ปีนามว่า ชินจิ มินาโตะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเนื่องจากทุบตีและใช้มีดแทงเพื่อนร่วมงานวัย 32 ปี ขณะทั้งคู่มีการทะเลาะวิวาทในจังหวัดไซตามะ ขณะที่เหยื่อวัย 32 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มินาโตะผู้ก่อเหตุถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า…
-
ภาพการเปลี่ยนแปลงของ “แฟชั่นสตรี” จากปี 1784-1970 เกือบ 200 ปีมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง!!?
แฟชั่นและการแต่งกายนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสุภาพสตรีมาหลายยุคหลายสมัย ขณะที่เวลาผ่านไป แฟชั่นเองก็เปลี่ยนแปลงและไม่คงที่ โดยเฉพาะในยุคที่ ศตวรรษที่ 18-20 ที่การแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญในการระบุรสนิยมและชนชั้น แฟชั่นของยุคนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยเกือบทุกปี แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในทุกๆ ปี นั้นได้เกิดเป็นความแตกต่างอันยิ่งยวดเมื่อมองย้อนกลับไป จากชุดเดรสกระโปรงสุ่มในวันนั้น กลายมาเป็นเสื้อผ้าที่เราเห็นกันชินตาอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร ขอเชิญไปชม ภาพความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นตั้งแต่ปี 1784-1970 พร้อมๆ กันเลย… ปี 1784 ถึง 1788 ปี 1789 ถึง 1795 ปี 1796 ถึง 1803 ปี 1804 ถึง 1811 ปี 1812 ถึง 1819 ปี 1820 ถึง 1827 ปี 1828 ถึง 1834 ปี 1835 ถึง…
-
ตายายชาวจีน “ผู้พิทักษ์แม่น้ำ” ช่วยเด็กจมน้ำ แถม 30 ปีก่อนยังเคยช่วยพ่อของเด็กไว้อีกด้วย!!
หากใครสักคนมา “ช่วยชีวิต” เราเอาไว้ เราคงจะซาบซึ้งใจอย่างมากเลยทีเดียว แต่เรื่องราวในวันนี้จะทำให้เกิดความซาบซึ้งเสียยิ่งกว่าเมื่อทราบว่าผู้ที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้ เคยช่วยชีวิต “พ่อ” ของเราไว้เช่นกัน เรื่องราวเกิดขึ้นในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน คุณตาวัย 80 ปีคนหนึ่งได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อได้ลงไปช่วยเด็กชาย 8 ขวบที่จมน้ำอยู่ในแม่น้ำ ภายหลังทราบว่าคุณตาคนนี้ เมื่อ 30 ปีก่อนก็เคยช่วยชีวิตพ่อของเด็กชายคนนี้ไว้ด้วยเช่นกัน… ในช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2018 ชายชรานามว่า Xu ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเด็กชายขณะที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำทำท่าว่ากำลังจะจม ทั้งๆ ที่ตนก็กำลังบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่คุณตา Xu ก็ตัดสินใจลงไปในแม่น้ำเพื่อช่วยเหลือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำดังกล่าวโดยมีคุณยายที่เป็นภรรยาคอยช่วยด้วยอีกแรง เมื่อช่วยเด็กชายขึ้นมาแล้วจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทำให้ทราบว่าก่อนหน้าที่จะจมน้ำเด็กคนนี้ได้ออกมาเล่นกับย่าของตนใกล้ๆ แม่น้ำดังกล่าว เมื่อพูดคุยกับคุณย่าของเด็กที่จมน้ำ จึงทำให้ทราบว่าคุณตา Xu ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้วเคยช่วยชีวิตลูกชายของตนเอาไว้ และตอนนี้ก็ได้ช่วยชีวิตหลานของตนไว้อีกครั้ง คุณตากล่าวว่า “ตอนผมยังเป็นหนุ่มกว่านี้ ลูกชายของเธอ (พ่อของเด็ก) ก็เคยจมแม่น้ำนี้เช่นกัน และผมก็ลงไปช่วยแบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ผมแก่แล้วกระโดดไม่ไหวแล้วล่ะ”…
-
ย้อนเวลาดูเหล่า “คนตัดไม้” ในสมัยก่อน โค่น “ต้นไม้ขนาดยักษ์” อย่างไรโดยไร้เครื่องจักร
การตัดต้นไม้เพื่อใช้เป็นทรัพยากรสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ มีมาตั้งแต่สมัยที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า ยังไม่มีเครื่องจักรใดๆ ที่สามารถช่วยทุ่นแรงในการตัดต้นไม้ไปได้มากกว่าเลื่อยและขวาน หากเป็นต้นเล็กๆ คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากสำหรับเหล่าคนตัดไม้ แต่ถ้าเป็นต้นไม้ขนาดมหึมา พวกเขาคงจะลำบากกันน่าดูกว่าจะโค่นแต่ละต้นลงมาได้ วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 เพื่อชมภาพของเหล่าคนตัดไม้ที่ต้องต่อสู้กับต้นไม้ขนาดยักษ์ในสมัยที่ยังมีแต่ขวานและเลื่อยเท่านั้น ภาพเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ไปชมพร้อมๆ กันเลย… หูยยย ใหญ่โตมว๊ากกก อุตสาหกรรมตัดไม้นี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ ต้นไม้ยักษ์ ทำเอาคน 8 คนดูตัวเล็กไปเลย ต้นเดียวนี่สร้างบ้านเป็นหลังๆ เลยนะเนี่ย เครื่องไม้เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นขวานนี่แหละนะ เจาะเข้าไปนอนกันสบายใจเฉิบเลยทีเดียว กว่าจะโค่นได้แต่ละต้นต้องบอกเลยว่าลำบากจริงๆ หูย ต้นไม้ใหญ่ๆ เพียบเลย เป็นป่าที่มหัศจรรย์จริงๆ ดูขนาดใบเลื่อยที่ต้องใช้สินั่นน่ะ เมื่อโค่นลงมาได้ต้นหนึ่งแล้ว ก็ต้องมาชำแหละให้เป็นท่อนๆ หรือแผ่นๆ ยืนตรงนั้นไม่กลัวต้นไม้มันโค่นเรอะ!!? เมื่อเทียบกับคนและม้า… ต้นเดียวรุมตัดกันกี่คนกันล่ะเนี่ย!? เจ้าม้าเป็นพาหนะขนย้ายที่สำคัญในสมัยนั้นเลยล่ะ ถ่ายรูปหวาดเสียวกันอีกแล้ว…
-
14 ภาพการรักษาสุดแปลกในสมัยอดีตกาล ครั้นวิทยาการแพทย์ ยังไม่ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน
ภาพถ่ายในอดีตช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ได้ เพราะที่ผ่านมานั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คนในยุคสมัยเก่าแก่จะต้องพบเจอกับอะไรมาบ้าง มีการลองผิดลองถูกหลายอย่างเพื่อให้ได้วิธีการที่ถูกต้องและดีที่สุด วิทยาการความก้าวหน้าทางการแพทย์ในอดีตคืออีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ อย่างเช่นการใช้เครื่องเอกซเรย์ที่ปลอดภัย Dr. Maxime Menard นายแพทย์ชาวฝรั่งเศส ถึงกับต้องสละนิ้วตัวเอง เนื่องจากเทคโนโลยีรังสีเอกซ์ในสมัยนั้นทำให้เขาได้รับรังสีมากเกินไป การเอกซเรย์ในแผนกรังสีวิทยาของ Dr. Maxime Menard ณ โรงพยาบาล Cochin ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้กลวิธีในการรักษาแปลกๆ เหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี บางวิธีอาจจะดูแปลกเกินไปหน่อยจนอาจจะเกินเลยทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบที่แย่มากกว่าเดิม เมื่อพบว่าไม่ก่อให้เกิดผลดีจึงต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ให้ดีขึ้น Gerald Blackburn เด็กหญิงผู้ป่วยภายในเต้นท์ให้ออกซิเจนของโรงพยาบาล Princess Beatrice Hospital กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รถพยาบาลในอดีตของออสเตรีย ซ้อนผู้ป่วยเป็นชั้นอยู่ภายในห้องโดยสาร เครื่องนวดเอวของสหรัฐอเมริกาปี 1928 หนึ่งในกรรมวิธีคลอดให้เจ็บปวดน้อยที่สุดด้วยการสูดดมยาแก้ปวด ในปี 1939 การแช่แขนและเท้าในอ่างพร้อมกับปล่อยกระแสไฟฟ้า เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ปี 1938 ‘ปอดเหล็ก’ ต้นกำเนิดของเครื่องช่วยหายใจในปัจจุบัน ใช้งานในปี 1938…
-
พบโครงกระดูก “แม่มด” ในโปแลนด์ มีรูเจาะเต็มตัวเพื่อป้องกันเธอ ‘ลุกขึ้น’ จากความตาย
เคยได้ยินไหมว่า ตำนานจากยุคกลาง มนุษย์นั้นเคยหวาดกลัว “แม่มด” เป็นอย่างมาก หากหญิงคนใดถูกสงสัยหรือพบว่าเป็นแม่มดแล้วล่ะก็ คนผู้นั้นต้องย่อยยับอย่างแน่นอน ล่าสุดมีคนพบเจอโครงกระดูกอันน่าสะพรึง เมื่อสำรวจดูร่องรอยต่างๆ ทำให้นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของแม่มดอย่างแน่นอน โครงกระดูกดังกล่าวถูกขุดพบที่สุสานในโปแลนด์โดยนักโบราณคดีที่ชื่อว่า Karol Piasecki สภาพของโครงกระดูกพบก้อนอิฐถมทับและมี “รู” ปรากฏขึ้นหลายจุดของโครงกระดูก ทำให้เกิดความคิดว่าชาวบ้านสมัยก่อนกลัวว่าโครงกระดูกที่เชื่อว่าเป็นแม่มดนี้จะลุกขึ้นจากหลุมศพหากไม่ยึดโครงกระดูกให้ติดกับพื้นพร้อมทั้งถมด้วยก้อนอิฐ ใครครั้งแรกที่พบ คิดว่าโครงกระดูกของบุคคลที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแวมไพร์ เพราะถูกฝังไกลออกไปจากสุสานใหญ่ แถมมีร่องรอยของพิธีกรรมสะกดวิญญาณอยู่ด้านบนพื้นดินเหนือหลุมศพนี้ แต่เมื่อตรวจ DNA จากกระดูกของศพแล้วพบว่าเป็นร่างของ “ผู้หญิง” ซึ่งน่าจะมีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า แถมยังเป็นผู้ที่ถูกทรมานอีกด้วย สำหรับประเทศโปแลนด์ หญิงที่ถูกกล่าวว่าเป็นแม่มดมักจะเป็นภรรยาหรือคนรักของบุคคลฐานะมั่งคั่งของสังคม และพวกเธอจะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดทันทีหลังจากความสัมพันธ์ของเธอกับสามีย่ำแย่ลง หรือยามที่ผู้คนเกลียดชังพวกเธอมากๆ ร่องรอยที่เป็น “รู” เนื่องจากถูกตอกยึดให้ติดกับพื้น โครงกระดูกนี้เชื่อว่าน่าจะถูกฝังมาตั้งแต่ราวๆ ศตวรรษที่ 16 หรือ 17 Grzegorz Kurka ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เก็บโครงกระดูกนี้เอาไว้กล่าวว่า “ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเขาไม่ได้เผาเธอทั้งเป็น แต่กลับฝังเธอเอาไว้ให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นมามีชีวิตได้อีก” นอกจากนี้เขายังบอกว่าภายในสิ้นปีนี้จะพยายามค้นพบให้ได้ว่าเจ้าของร่างโครงกระดูกนี้มีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจจับโครงใบหน้าเป็นตัวช่วย ยุคสมัยก่อนมีความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจที่ค่อนข้างรุนแรงและน่ากลัว จึงไม่แปลกหากหญิงคนใดถูกมองว่าเป็น “แม่มด”…
-
เคยเห็นยัง!? คำภีร์ “ร่วมรัก” แห่งราชวงศ์ชาง ที่พาจอมยุทธ์ขึ้นสวรรค์มาแล้วนักต่อนัก!!
(คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีควรใช้วิจารณญาณในการรับชม) มนุษย์ย่อมมีความรักไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม การร่วมเพศ จึงหาใช่สิ่งแปลกประหลาดในอดีตไม่ สมัยก่อนเองก็คงจะไม่แตกต่างจากยุคปัจจุบันยามที่ชายและหญิงเกิดการประลองยุทธ์กันบนเตียง ในดินแดนจีนสมัยโบราณ ชาวจีนจำนวนไม่น้อยพยายามตามหาคำภีร์วิชาลับเพื่อฝึกวิทยายุทธ์ ให้เป็นยอดฝีมือและเลื่องชื่ออยู่ในยุทธภพ แต่เมื่อมาถึง ยุคสมัยราชวงศ์ชาง กลับมีคำภีร์กระบวนท่าอัศจรรย์ที่จะพาชายทั่วยุทธจักรให้ขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับเหล่าอิสตรี นั่นก็คือ “คำภีร์ร่วมรัก 48 กระบวนท่า” นั่นเอง คำภีร์ร่วมรัก 48 กระบวนท่า เป็นตำราคู่มือสอน “กระบวนท่า” ของการร่วมรัก มีทั้งภาพประกอบคำและคำอธิบายอย่างละเอียด ด้านหนึ่งเป็นส่วนของคำอธิบาย อีกด้านหนึ่งเป็นภาพประกอบ ท่านี้ชื่อว่า “ลิงปีนต้นไม้” (ปล. แปลตามภาษาอังกฤษ ที่แปลจากจีนมาอีกที) “บำเพ็ญเซียนเป่า” “เข็มขัดหยก” “จับเสือมือเปล่า” เขาไม่ได้บอกชื่อท่าแฮะ “จอมยุทธ์แสวงหา” “เกษียรวารี” ไม่ทราบชื่อกระบวนท่า “หักเหลี่ยมนารี” “ถลุงลำคอ” …
-
ชวนคิดถึง… สัตว์ 17 ชนิดที่เคยอยู่ร่วมกับมนุษย์แต่ต้อง “สูญพันธุ์” ไปอย่างน่าเศร้า
เหล่าสรรพสัตว์บนโลกของเรานั้นมีมากมายหลายชนิดเสียเหลือเกิน แต่ถึงแม้จะมีมากอย่างไรมันก็มีการลดจำนวนลงไปเนื่องจากการสูญพันธุ์ สัตว์หลายชนิดที่สูญพันธุ์ไปก็เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างมหาศาล แต่ขณะเดียวกันสัตว์หลายๆ ชนิดก็เป็นส่วนสำคัญต่อสภาพแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร แต่สุดท้ายมันก็กลับต้องสูญพันธุ์ไปอย่างน่าเศร้า วันนี้ เราจึงอยากเสนอ สัตว์ 17 ชนิดที่เคยอยู่ร่วมกับมนุษย์แต่ต้อง สูญพันธุ์จากไปอย่างน่าเศร้า จะมีสัตว์ชนิดไหนบ้างนั้น ไปชมกันเลย… 1. เสือโคร่งชวา, เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 1993 ที่มา: Javan_tiger 2. นกพิราบพาสเซนเจอร์, ทวีปอเมริกาเหนือ สูญพันธุ์เมื่อวันที่ 1 กันยายน 1904 ที่มา: Passenger_pigeon 3. แมวน้ำมังค์แคริบเบียน, หมู่เกาะแคริบเบียน สูญพันธุ์เมื่อปี 2008 ที่มา: Caribbean_monk_seal 4. คางคกสีทอง, ประเทศคอสตาริกา สูญพันธุ์เมื่อปี 1989 ที่มา: Golden_toad 5. นกโดโด, ประเทศมอริเชียส ทวีปแอฟริกาตะวันออก สูญพันธุ์เมื่อปี 1662 ที่มา: Dodo 6. วัวทะเลชเตลเลอร์, หมู่เกาะคอมมานเดอร์…
-
เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขามีอดีตอย่างไรกันบ้าง!?
แบรนด์ดังระดับโลกทั้งหลาย แน่นอนว่ากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ได้ พวกเขาย่อมมีเคยมีประวัติทั้งดีและแย่กันมาทั้งนั้น บางแบรนด์ก็มีอดีตอันขมขื่น ขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็อาจจะมีอดีตที่ทำให้เราต้องตกใจก็เป็นได้ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอนำเสนอ เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก ที่อาจทำให้คุณต้องตกใจก็เป็นได้… 1. Häagen-Dazs ที่จริงแล้วเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแท้ๆ ส่วนชื่อของแบรนด์ที่ดูไม่เหมือนภาษาอังกฤษนั้น เป็นคำพูดลอยๆ ที่ทำให้ฟังดูเหมือนเป็นบริษัทของประเทศฝั่งยุโรปเท่านั้นเอง 2. Corn Flakes นั้นถูกผลิตมาเพื่อหยุดยั้งการช่วยตัวเองและการมีเซ็กส์ที่มากเกินไป John Harvey Kellogg นายแพทย์ที่ต่อต้านการมีเซ็กส์และการช่วยตัวเอง ได้พยายามช่วยเหลือ “ผู้ป่วย” ที่เสพย์ติดเซ็กส์ด้วยการใช้โภชนาการบำรุงสุขภาพ เขาจึงสร้างธัญญาหารที่ทำจากข้าวโพดมาช่วยยับยั้งอาการเหล่านี้ 3. Coca Cola ปัจจุบันก็ยังคงผลิตมาจากใบโคคาใช้แล้วที่มีสารโคเคน บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทเดียวในอเมริกาที่ได้รับอนุญาตให้สกัดโคเคนออกมาจากใบโคคาได้ สารโคเคนนั้นจะถูกจำหน่ายให้กับวงการแพทย์ ส่วนใบโคคาที่ใช้แล้วก็ถูกจำหน่ายให้กับบริษัท Coca Cola นั่นเอง 4. Puma และ Adidas ถูกก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องท้องเดียวกัน ทั้งคู่เริ่มก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้าด้วยกันแต่สุดท้ายก็แตกหักกันกลายเป็น 2 แบรนด์นี้นั่นเอง 5. เครือ Marriott กว่าจะมาเป็นโรงแรมหรูยักษ์ใหญ่นั้นเริ่มจากการเป็นแบรนด์แผงตั้งขายเบียร์มาก่อน …
-
วงในลือสายสุดท้ายก่อนจาก ระหว่างอดีตคนรักและเจ้าชาย เต็มไปด้วยความเศร้าเคล้าน้ำตา…
ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนในเชิงรักใคร่นั้น หากเมื่อถึงเวลาต้องจากกันด้วยสถานะความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้หวนคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยผ่านมาด้วยกัน และคงเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำใจได้ และในก่อนช่วงเวลาวันสำคัญของเจ้าชายแฮร์รี่ประมาณ 1 สัปดาห์ มีข่าวคราวลือกันว่า แฟนเก่าของเจ้าชาย Chelsy Davy ได้ทำการพูดคุยโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปรากฏตัวเข้าร่วมพิธีเสกสมรส บทสนทนาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ Chelsy Davy ในวัย 32 ปี อดีตคนรักของเจ้าชายได้รับเชิญมาร่วมพิธีเสกสมรส ซึ่งการพูดคุยกันในครั้งนั้นก็ยังคงความสนิทสนมอยู่เพียงแต่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งนี้การสนทนาดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านครอบครัวและเพื่อนของเธอให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Vanity Fair ไว้ว่า “เป็นการโทรศัพท์คุยกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะแยกทางกันจริงๆ เพราะทั้งคู่ต่างรู้ดีว่า เจ้าชายแฮร์รี่กำลังก้าวไปข้างหน้า Chelsy รู้สึกสะเทือนอารมณ์อยู่ไม่น้อย เธอร้องห่มร้องไห้และเกือบจะไม่ไปร่วมงานเสกสมรสด้วยซ้ำ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไปและให้คำมั่นสัญญากับเจ้าชายว่า จะไม่ทำให้พิธีเสกสมรสวุ่นวาย…” สำหรับ Chelsy นั้นเคยมีช่วงเวลาใกล้ชิดกับเจ้าชายในปี 2003-2010 ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 7 ปี และเดินทางมาร่วมพิธีเสกสมรสด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เธอมาพร้อมกับ Cressida Bonas อดีตคนรักของเจ้าชายอีกราย และสื่อต่างๆ…
-
เคยเห็นยัง!? ภายในห้องโดยสารชั้น “First Class” ของเครื่องบินในสมัย 60 ปีที่แล้ว!!
การเดินทางโดยเครื่องบินนั้นนับว่าเป็นความสะดวกโดยแท้จริง เพราะใช้เวลาไม่นาน จึงทำให้บางคนเลือกเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัดเพื่อเซฟค่าใช้จ่าย แต่หากต้องนั่งข้ามประเทศไกลๆ ใช้เวลานานๆ คนเราเองก็ต้องการความสะบายด้วยเหมือนกัน ฉะนั้น การเลือกที่นั่งแบบ ชั้นหนึ่ง (First Class) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีหากต้องการความสบาย แต่มันก็ต้องตามมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยเลยล่ะ ขณะที่ตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ่งในปัจจุบันราคาแพงหูฉี่ แต่ความหรูหราเองก็ระดับราชาเหมือนกัน เราลองมาดูกันหน่อยซิว่า ห้องโดยสารชั้น First Class สมัยปี 1957 มันจะหรูหราได้เพียงไหน จะสู้สมัยนี้ได้หรือเปล่า!? เชิญไปพบกับภาพบรรยากาศของห้องโดยสารชั้นหนึ่งของสายการบิน Air French เมื่อสมัยปี 1957 พร้อมๆ กันเลย… บรรยากาศภายในห้องโดยสาร การบริการด้วยใจจากแอร์โฮสเตส จิบไวน์ ชมวิว จะมีอะไรสบายไปกว่านี้ในสมัยนั้น จะรับเป็นผลไม้หรือไวน์ดีคะ? บริการราวโรงแรมห้าดาวทีเดียว แค่ได้ขึ้นเครื่องบินก็ถือว่าหรูแล้วในสมัยนั้น ไม่ต้องพูดถึงชั้น First Class เลย พนักงานบริการบนเครื่องบิน ต่างยิ้มต้อนรับอย่างน่าประทับใจ แหม่ อยากรู้จังว่ามันจะแพงขนาดไหนกันเชียวหนอ ในสมัยนั้น…
-
ย้อนเวลา กลับไปส่องผู้คนและ “คอมพิวเตอร์” ของพวกเขา ในยุค 1980s กันหน่อยซิ
ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่แทบทุกบ้านจะต้องมี เพราะมันได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเรียนรู้และค้นคว้า อีกทั้งยังเป็นสื่อบันเทิงชั้นยอดได้อีกด้วย ปัจจุบันเราอาจจะเซ็งๆ หากคอมพิวเตอร์ของเรามันมีสเปคที่ต่ำ เพราะมันทำให้เราเล่นเกมไม่ค่อยได้ แต่หากย้อนไปสักเมื่อราวๆ ปี 1980 ล่ะก็ ขอแค่คอมพิวเตอร์สักเครื่องก็ยิ้มจนแก้มปริแล้ว วันนี้เราจึงอยากนำพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปดูภาพแห่งความสุขของผู้คนสมัยปี 1980 ที่เพิ่งได้รู้จักกับ “คอมพิวเตอร์” เราไปชมกันเลยดีกว่า แม้ภาพในจอจะแสดงผลแค่สีเดียว แต่คนก็ตื่นเต้นกันไม่น้อยเลยทีเดียว ภาพจากนิตยสาร Kilobaud Microcomputing Magazine ปี 1979 ภาพซ้ายจากแค็ตตาล็อก Radio Shack ปี 1981 ส่วนภาพขวาจากหนังสือ Računari ปี 1988 แค็ตตาล็อก Radio Shack ปี 1988 ภาพการใช้คอมพิวเตอร์ของเหล่าวัยรุ่นในปี 1987 ภาพเด็กๆ ที่มีความสุขในการได้เล่นคอมพิวเตอร์สมัยก่อน ภาพซ้ายจากคู่มือของ Apple II ส่วนภาพขวาเป็นภาพความตื่นเต้นของเด็กๆ ที่โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ใหม่รุ่น TRS-80 ภาพจากหนังสือ How…
-
สยามผ่านเลนส์ชาวสกอต เผยภาพถ่ายในอดีตในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 จากมุมมองของตะวันตก…
เราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศชาติในอดีตนั้นมีความเป็นอยู่อย่างไร จากการได้อ่านผ่านตำราเรียนและแหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์ แต่เชื่อว่าหลายคนยังคงมองไม่ออกว่าแท้จริงแล้ว ‘สยาม’ ในอดีตนั้น จะมีลักษณะหน้าตาเป็นแบบไหน ปัจจุบันประเทศไทยของเราก้าวข้ามผ่านหลายยุคหลายสมัย แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยหลงเหลือภาพถ่ายในอดีตของสยามเอาไว้เลย แต่ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวเพราะล่าสุดนี้ ก็ได้มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายของช่างภาพชาวสกอตแลนด์ John Thomson ในช่วงปีค.ศ. 1862 – 1872 ในระหว่างที่เขาเดินทางออกสำรวจทวีปเอเชียตะวันออก John Thomson John Thomson เดินทางมายังทวีปเอเชียเป็นครั้งแรกในปี 1862 ทำการเก็บภาพถ่ายเชิงสารคดีเกี่ยวกับเอเชีย โดยเริ่มต้นจากประเทศสิงคโปร์ และค่อยๆ ย้ายไปยังประเทศใกล้เคียงไปจนถึงประเทศจีน ภาพถ่ายของแม่น้ำเจ้าพระยาในปี 1865 เขาต้องใช้พลังและความขยันหมั่นเพียรมากๆ เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างจากบ้านเกิดเมืองนอน และไม่เคยมีชาวตะวันตกคนไหนเคยย่างกรายเข้ามา และ Thomson ก็สามารถบันทึกภาพถ่ายอันล้ำค่าเหล่านี้กลับไปได้ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ด้วยความหลงใหลในวัฒนธรรมของชาวเอเชีย Thomson ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมพระราชวงศ์ และราชพิธีต่างๆ ในปีค.ศ. 1865…
-
รวม 26 ภาพประวัติศาสตร์ในอดีต ที่ผ่านมามนุษยชาติได้เรียนรู้อะไรบ้าง จากสิ่งที่หลงเหลืออยู่
มนุษยชาตินั้นถือกำเนิดมาอย่างยาวนานบนโลกใบนี้ และยังคงสืบทอดวิถีชีวิตจากในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และกำลังมีแนวโน้มที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในอนาคตภายภาคหน้าอีกมากมาย แต่เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในอดีตที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นภาพถ่ายของคนในยุคเก่าที่เคยพบเจอ มันจะแตกต่างจากชีวิตในยุคปัจจุบันแค่ไหน และความยากลำบากที่เคยเกิดขึ้น ได้สอนให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง… กัปตัน Nieves Fernandez กำลังแสดงวิธีที่เธอใช้เชือดทหารญี่ปุ่นอย่างเงียบๆ ให้แก่ทหารอเมริกันในปี 1944 ทางหลวงแห่งความตาย ผลพวงจากกองทัพอเมริกันเลือกใช้วิธีระเบิดปูพรมใส่กองกำลังอิรักในประเทศคูเวต ปี 1991 การเดินอันแสนยาวไกล ของหน่วยเก็บกู้ระเบิดกองทัพอังกฤษ กำลังเดินตรงไปยังรถตู้ต้องสงสัยในไอร์แลนด์เหนือ ช่วงปี 1970 ทหารเยอรมันแบ่งอาหารบางส่วนให้กับคุณแม่ชาวรัสเซีย ปี 1941 สภาพของทหารชาวออสเตรเลีย หลังหลุดพ้นจากการเป็นเชลยศึกจากฝั่งญี่ปุ่นในประเทศสิงคโปร์ ปี 1945 กองกำลังทหารชนเผ่าเมารี กำลังทำพิธีฮากา (การเต้นโบราณของชนเผ่า) ในประเทศอียิปต์ ปี 1941 สภาพบ้านเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี หลังสิ้นสุดสงคราม ปี 1945 กองกะโหลกควายไบซันสำหรับใช้เป็นปุ๋ยหมัก ปี 1870 Conrad Schumann ทหารฝั่งตะวันออกกำลังก้าวข้ามผ่านไปยังแดนตะวันตกในเบอร์ลิน…
-
รวมโฆษณาไทยในอดีต ที่ฮาติดตาตรึงใจ จำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะดูเมื่อไหร่ก็หัวเราะได้ทุกเมื่อ!!
สื่อโฆษณาในปัจจุบันมีออกมาให้เราเห็นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพวกแบนเนอร์โฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆ โฆษณาคั่นกลางระหว่างนั่งดูยูทูบ แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอดีตนั้นก็คือ โฆษณาทางโทรทัศน์ ด้วยเหตุนั้น #เหมียวตะปู เลยมานั่งคิดว่ามีโฆษณาอะไรบ้าง ที่มันฮาชนิดปอดยกม้ามขยับและทำให้เราจำติดสมองได้ไม่มีวันลืม แล้วทำการรวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้ย้อนวันวานกัน ไม่ว่าจะดูกี่ทีมันก็ยังคงตล๊กตลกกก มีโฆษณาอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยยย โฆษณา SANWA (โฆษณานี้กระปรี้กระเปร่าสุดๆ) เวลาผ่านไป เขาก็ทำแนวเซ็กซี่ออกมาเพิ่มเรื่อยๆ เห็นแล้วถึงกับหัวเราะจนเลือดกำเดาไหลเลย โฆษณา ไดเกียว 2-T (อันนี้คือโฆษณาแรกที่คิดออกเลยจริงๆ) โฆษณา NatureGift (ความมั่นใจของพวกเธอช่างสูงยิ่งนัก) ไม่ได้มีแค่เวอร์ชั่นผู้หญิง แบบผู้ชายก็มีนะเออ โฆษณา Halls (มันคือลูกอมวิเศษชัดๆ) โฆษณา เมืองไทยประกันชีวิต (เป็นผมนี่คงไม่กดเงินแล้วแหละครับ) เรียกว่าเฮฮากันทุกวาระโอกาสจริงๆ นี่มันคือหนึ่งในวลีที่ติดหูใครหลายๆ คน โฆษณา jFone (ดูจนถึงตอนจบเมื่อไหร่ก็เหวอเมื่อนั้น) โฆษณา กระเบื้อง…
-
สุดสลด!! ‘น้องอิน’ อดีตดาราเด็กชื่อดังของช่อง 7 ขับรถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 7 เม.ย. 2018 สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์หรูพุ่งชนต้นไม้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดอยู่ในซากรถบนถนนทางหลวงหมายเลข 9 บริเวณ เชิงสะพานข้ามทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 79 มุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ณ สถานที่เกิดเหตุพบรถยนต์ BMW รุ่น X1 สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กบ-5248 กรุงเทพมหานคร เสียหลักตกลงไปข้างทางชนกับต้นจามจุรีขนาดใหญ่ สภาพพังยับเยินทั้งคัน เศษชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์กระจายเกลื่อน ซากรถ BMW ในที่เกิดเหตุ . ภายในรถที่นั่งด้านคนขับพบศพ น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพากรี อายุ 21 ปี หรือ น้องอิน อดีตดารานักแสดงช่อง 7 โดยสภาพศพมีเลือดไหลบริเวณศีรษะออกมาเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถ น้องอิน อดีตดาราเด็กที่เคยมีชื่อเสียงอย่างมากทางโทรทัศน์ …
-
หากออเจ้า ย้อนเวลาไปเมืองนอกเมื่อ 100 ปีก่อน จะเจอกับสภาพแบบไหน มาดูกันหน่อยซิ…
หลังจากที่ได้ชมละคร บุพเพสันนิวาส แล้วมันช่างทิ้งกลิ่นอายแห่งความย้อนยุคเอาไว้มากมายเสียเหลือเกิน แต่เอ…ลองจินตนาการดู หากว่าเราได้ย้อนยุคกลับไปโผล่ในประเทศต่างๆ เมื่อ 100 ปีก่อน เราจะต้องเจอกันสภาพบ้านเมืองแบบไหนกันนะ? วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ ภาพถ่ายจากสถานที่ต่างๆ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ลองไปดูกันเลยว่า บ้านเมืองและผู้คนในแต่ละที่จะมีลักษณะเป็นแบบไหน หากเราได้ย้อนยุคไปในสถานที่เหล่านั้น เราจะได้ปรับตัวถูกยังไงล่ะ… 1. แซนตามอนิกา, แคลิฟอร์เนีย (1901) 2. ไคโร, อียิปต์ (1910) 3. ปารีส, ฝรั่งเศส (1902) 4. โตเกียว, ญี่ปุ่น (1880) 5. เบอร์ลิน, เยอรมัน (ราวๆ 1910) 6. จาการ์ตา, อินโดนีเซีย (1885) 7. มุมไบ, อินเดีย (ประมาณ 1890–1910) 8. ปักกิ่ง, จีน…
-
รวม 8 เหตุการณ์ตำนานรักไม่รู้เรื่อง เผลอเข้ามาอยู่เฟรมเดียวกัน รู้ตัวอีกทีเป็นคู่ชีวิตไปแล้ว…
ช่วงจังหวะชีวิตของคนเรานั้น ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแม่นยำ แม้โลกนี้จะมีหมอเดา หมอดูที่ว่าแม่นแค่ไหน ก็ยังไม่ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราในจังหวะตอนนั้นเลย… ยิ่งในเรื่องของดวงความรักก็ยิ่งไปใหญ่ อาจจะเฝ้าเพ้อฝันถึงคู่แท้ เจ็บมานักต่อนักก็ยังไม่เจอเสียที จนรู้สึกเข็ดและขยาดไปในที่สุด แต่ว่าถ้าหากทุกอย่างมันลงตัว ในเวลาที่ใช่ ต่อให้ห่างไกลกันแค่ไหนก็จะกลับมาคู่กันอยู่ดี อย่างเช่น 8 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ระหว่างจะเกิดอาการอิจฉาล่ะ… 1. ภาพจากคุณ pcsbor จากเว็บไซต์ Reddit (ชายคนด้านซ้ายของภาพ) ที่อยู่ในเฟรมเดียวกันกับครอบครัวเจ้าสาวในอนาคต ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ในปี 1985 เป็นภาพในช่วงเวลา 7 ปี ก่อนที่เขาจะได้มาพานพบกับศรีภรรยา 2. สาวน้อย Donna ทางด้านขวา และเด็กชาย Alex ผู้ที่อยู่ในรถเข็นด้านหลัง หลายสิบปีต่อมา ในช่วงเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนแต่ง Donna และ Alex Voutsinas เพิ่งจะรู้ว่านี่มันเป็นเรื่องบังเอิญชัดๆ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกันในช่วงปี 1980 ด้วย 3. คู่รักชาวอังกฤษ Aimee Maiden…
-
กระแสใหม่!! ชาวเน็ตแห่ประชันภาพ เปรียบเทียบตัวเองเมื่อ 6 ปีที่แล้ว! แต่ละคนมาไกลมาก
ภายใน 6 ปีคนเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้มากสักแค่ไหนกันเชียว? หากใครสงสัยเหมือนกันล่ะก็มาดูนี่เลย ปัจจุบันบนโลกอินเทอร์เน็ตได้มี แฮชแท็ก #2012vs2018 ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้กำลังนิยมกันอย่างแพร่หลายเลยด้วย กระแสนี้จะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากมาเผยถึงภาพของตัวเองสมัย 6 ปีที่แล้วพร้อมเปรียบเทียบกับภาพตัวเองในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากเลยทีเดียว บางคนก็เปลี่ยนน้อย บางคนเปลี่ยนมาก แต่บางคนก็แทบไม่เปลี่ยนเลย วันนี้ เราจึงรวบรวมเอาภาพผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงในแง่ดีที่น่าประทับใจมาให้ชมกัน รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งกับสิ่งที่เห็นเพราะว่าคนเหล่านี้เปลี่ยนไปชนิดที่ว่า “จำแทบไม่ได้” กันเลยทีเดียว 1. “ในที่สุด ฉันก็ได้ใช้แฮชแท็กนี้แล้ว” โอ้ พระเจ้าาาาา 2. “ฉันว่าฉันต้องชนะ” ป้าดด 3. “เมื่อคนถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของผม ผมตอบว่า ‘สภาวะโลกร้อนไงล่ะ!’” 4. “หากคนที่เคยเห็นฉันก่อนปี 2018 ได้มาเห็นฉันตอนนี้ล่ะก็ บอกเลยว่าตาย” 5. “มันยากที่จะโพสต์ภาพนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ยังกังวลเรื่องรูปลักษณ์ของฉันอยู่ ฉะนั้น ด่าได้แต่อย่าแรง” 6. “หากจะพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งล่ะก็ ฉันขอร่วมด้วย” 7. “ฉันเปลี่ยนไปแล้ว”…
-
คุณแม่ตามหาชายที่เคย “One Night Stand” ด้วยเมื่อ 15 ปีก่อน เพราะอยากให้ลูกได้เจอพ่อ
เมื่อคุณแม่รายหนึ่ง ต้องการตามหาตัวพ่อของลูกสาวตนเอง ที่หายหน้าไปกว่า 15 ปี โดยมีเพียงเบาะแสเดียวสำหรับการหาตัวเขา นั่นก็คือ “เขาเป็นชาวเวลส์” Terri Reid คุณแม่วัย 32 ปีจากเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ พยายามตามหาตัวชายผู้หนึ่งซึ่งเธอเคยหลับนอนด้วยแบบ “One Night Stand” เมื่อปี 2003 หรือ 15 ปีที่แล้ว เพราะเธอบอกว่า ชายผู้นั้นก็คือ พ่อของลูกสาวคนปัจจุบันของเธอ Chanell แต่สิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับชายชาวเวลส์คนนั้น มีเพียงรูปพรรณสัณฐานอย่างคร่าวๆ คือ เขาเป็นชายชาวเวลส์ที่สูง ผิวเข้ม และหล่อ Terri Reid ปัจจุบันก็ยังอาศัยอยู่ที่เมืองแบล็กพูล เธอบอกว่า เธอเจอชายคนดังกล่าวที่คลับสมัยที่เธอมีอายุได้เพียง 17 ปี และหลังจากหลับนอนด้วยกันคืนนั้น ทั้งคู่ก็แยกทาง เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ Reid ก็พบว่า เธอได้ตั้งครรภ์ เธอบอกว่าชายคนนั้นเป็นพ่อของลูกสาวเธออย่างแน่นอน และปัจจุบันลูกสาวของเธอก็โตแล้ว เธอจึงอยากให้ Chanell ได้พบกับพ่อของเธอ Reid ที่ปัจจุบันทำงานเป็นนางพยาบาลด้านสุขภาพจิต กล่าวว่า “ฉันคิดว่าเขามาที่เมืองนี้กับเพื่อนและครอบครัวในวันหยุด…
-
รวมภาพวิถีชีวิตผู้คนและมอเตอร์ไซค์ใน “เชียงใหม่” พ.ศ. 2515 จากช่างภาพอเมริกัน
เยาวชน และวัยรุ่นทั้งหลายอาจเติบโตขึ้นมา พร้อมเห็นบ้านเมืองที่ศิวิไลซ์ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันก้าวหน้าและสะดวกสบาย กลับกันจะพบว่า ของมีค่ากลายเป็น รถเก่าๆ อย่าง Honda CB หรือ Vespa รุ่นต่างๆ ซึ่งของเหล่านี้ หากเราย้อนเวลากลับไปสัก 30-40 ปีล่ะก็ เราคงจะเห็นมันเกลื่อนเมืองเลยล่ะ Nick Dewolf คือวิศวกรชาวอเมริกันนายหนึ่งที่ได้มาเที่ยวประเทศไทยตั้งแต่ปี 2515 แล้วได้เก็บภาพผู้คน บ้านเมือง และสถานที่เอาไว้ ใครจะรู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปนับหลายสิบปี ภาพเหล่านี้ จะมีคุณค่า ทำให้คนไทยรุ่นใหม่ ได้เห็นถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่เมื่อกว่า 40 ก่อน เราจึงขอเสนอ ภาพวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะการใช้รถจักรยานยนต์ใน จังหวัดเชียงใหม่ ใน พ.ศ. 2515 ที่เห็นแล้วรู้สึกว่า ภาพเหล่านี้มีความคลาสสิก มีเสน่ห์ และเท่มากๆ Honda CB 72 เท่ตั้งแต่สมัยก่อนยันสมัยนี้ เห็นรถคลาสสิกกันได้ทั่วเมือง Vespa ก็มา ของที่เราเห็นว่าโบราณนั้น ถือเป็นของใหม่ในสมัยก่อนเลยนะ…
-
Yua Mikami ดารา AV เดบิวท์เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี Honey Popcorn พร้อมเปิดตัว MV เพลงแรก
เราอาจเคยเห็นนักแสดงผันตัวไปเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงกันมาบ้างแล้ว เช่นเดียวกันกับอดีตดาราหนังผู้ใหญ่ทั้งสามคนนี้ เมื่อพวกเธอตัดสินเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมาเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปในเกาหลีใต้ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เรากำลังพูดถึงศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Honey Popcorn ซึ่งประกอบไปด้วยอดีตนักแสดงในวงการหนังผู้ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Yua Mikami , Miko Matsuda และ Moko Sakura Honey Popcorn เกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ กับสมาชิกที่ผันตัวมาจากวงการหนังเอวีญี่ปุ่น พวกเธอคือน้องใหม่ไฟแรงแห่งวงการ K-Pop ที่ได้ทำการแสดงเปิดตัวเพลงแรกไปแบบหมาดๆ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2018 กับเพลงที่ชื่อว่า Bibidi Babidi Boo การเปิดตัวของพวกเธอนั้นทำให้ถูกพูดถึงในเรื่องของความเหมาะสม โดยชาวเน็ตส่วนหนึ่งบอกว่าการที่พวกเธอเป็นอดีตดาราหนังผู้ใหญ่ แล้วผันตัวมาเข้าวงการ K-Pop นั้นอาจไม่ใช่เรื่องเหมาะซักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น Yua หนึ่งในสมาชิกของวงก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า แม้พวกเธอจะโดนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบวงการ K-Pop เอามากๆ เธอจึงไม่อาจหยุดความฝัน และต้องการที่จะเข้ามาสร้างชื่อเสียงในประเทศเกาหลี เพื่อกลายเป็นสุดยอดศิลปินที่โด่งดังออกไปทั่วโลก Yua อดีตนักแสดงหนังผู้ใหญ่…
-
เผยภาพหลอนจากโรงพยาบาลบ้าในอดีต ของผู้ป่วยโรค ‘ฮิสทีเรียหญิง’ จากศตวรรษที่ 19
ในยุคสมัยความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ยังไม่เอื้ออำนวย อาการผิดปกติทางระบบประสาทและจิตนั้นจะถูกมองว่าเป็นผลของเวทมนตร์คาถาในสายตาของผู้คนทั่วไป แต่ทว่าทางด้านการแพทย์นั้นจะถูกมองโดยรวมว่าเป็นบ้าแทน… สิ่งสำคัญที่ทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยได้ก็คือภาพถ่าย หนึ่งในการเก็บข้อมูลผู้ป่วยเพื่อใช้ในการวินิจฉัยและหาหนทางรักษา ซึ่งในอดีตนั้นภาพถ่ายเก่าๆ ก็จะมีความซีดจางบวกการแสดงอาการของผู้ป่วยก็ยิ่งทำให้ดูหลอนได้อีก!! หนึ่งในผู้ป่วยที่กำลังกรีดร้องต่อหน้ากล้องถ่ายภาพ ภาพถ่ายชุดนี้คาดว่าถูกถ่ายไว้ในช่วงปีค.ศ. 1878 – 1910 จากโรงพยาบาล ปีเต-แซลแปตริแยร์ (Pitié-Salpêtrière) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และอาการของผู้ป่วยหญิงเหล่านี้ถูกจำกัดความด้วยชื่อโรค “ฮิสทีเรียหญิง” หรือชื่อพฤติกรรมการกินผิดปกติในปัจจุบัน ประวัติของผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด โดยที่รูปถ่ายเหล่านี้เป็นฝีมือของ Albert Londe ช่างภาพที่ถูกจ้างจากนักประสาทวิทยา Jean-Marie Charcot เพื่อถ่ายภาพของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการทางจิต นานนับศตวรรษ โรคฮิสทีเรียหญิงถูกจัดให้เป็นโรคทั่วไปและจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเท่านั้น พร้อมทั้งอาการที่กระทบต่อสุขภาพจิตหลากหลายทาง… เช่น หงุดหงิดง่าย, มีความต้องการทางเพศ, นอนไม่หลับ, ถ่ายของเหลวไม่ออก, หายใจถี่, ปวดช่องท้องรุนแรง รวมไปถึงนิสัยการก่อปัญหาต่างๆ ผู้ป่วยหญิงกับอาการทางจิต ที่ก่อตัวมาจากโรคฮิสทีเรีย ในอิริยาบถพนมมือสวดภาวนา จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 โรคฮิสทีเรียนั้นมีความเกี่ยวข้องกับมดลูก และได้รับการกล่าวกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายออกมาจากร่างกายของผู้หญิง เหล่าหญิงผู้โชคร้ายที่ประสบกับโรคฮิสทีเรียจะถูกนำไปกักตัวในโรงพยาบาลบ้าทันที…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 20 ภาพถ่ายคู่พี่และน้อง จากที่เฉิ่มเบอะเป็นเป็ดขี้เหร่ เฉิดฉายเป็นคนละคน!!
เงื่อนไขของเวลาที่ไม่มีวันย้อนกลับมา ยิ่งผ่านไปมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งโตขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ก็คือความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงรสนิยมด้วย… หากได้ลองย้อนกลับไปดูตัวเองในสมัยก่อน มักจะมีความคิดเข้ามาในหัวทำนองว่า “เมื่อก่อนเราเป็นแบบนี้เหรอ?” ซึ่งในความเป็นจริงมันก็ไม่ผิดอะไร และแล้วก็มีชาวเน็ตมาร่วมด้วยช่วยกันแชร์ภาพถ่ายเก่าเทียบกับปัจจุบัน ชวนให้จี๊ดกันไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีพี่น้องได้ถ่ายรูปคู่กัน แล้วนำมาเทียบกับอดีต ก็ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า แต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง มาไกลกันขนาดไหน!! แต่ก่อนเคยใส่ยีนส์รุ่นพ่อ ตอนนี้ไม่แล้ว… เสื้อลายสกอตกำลังมา!! ยิ้มแฉ่งได้มากกว่าตอนเด็ก แต่ก่อนเคยอีโม ขอสดใสขึ้นอีกนิดนึง ตอนเด็กยังสูงไม่เท่ากัน โตมาสูงกว่าอีกแหนะ ตัวจะเกือบเท่ากันแว้ววววว ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือยิ้มด้วยกัน เดี๋ยวนี้ท่าเอนหลังชนกันยังฮิตอยู่มั้ย? หน้าคล้ายกันสุดๆ ขอกอดโหน่ยยยยยย โตมาก็เปลี่ยนทรง เลิกใส่แว่นแล้ว โตแบบสวยๆ แฮร่ แพ็กสามยังคงเดิม ลุคเก่าหายเรียบ!! ฝ่ายชายแทบดูไม่เปลี่ยนเลย เด็กๆ…
-
วันวานยังหวานอยู่.. เมื่อชายหนุ่มนำรูปสุดคลาสสิกมาปะติดปะต่อกับความจริงในปัจจุบัน
ช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโตของเราคงจะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ ที่เราสามารถย้อนกลับไปหามันได้ทุกครั้งที่นึกถึงหรือมีโอกาสเห็นภาพต่างๆ ที่เคยบันทึกเก็บเอาไว้ แต่สำหรับนักศึกษาหนุ่ม Sam Joyce เขากลับมีไอเดียที่ช่วยให้เขาสามารถย้อนกลับไปดูอดีตได้ชัดเจนมากกว่าเดิม หนุ่มวัย 22 ปีคนนี้ได้นำรูปภาพเก่าเก็บภายในบ้านของครอบครัวมาปะติดปะต่อกับความเป็นจริงในปัจจุบัน ทำให้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และความทรงจำในวัยเด็กของเขาและแม่ Sam ช่างภาพหนุ่มและคุณพ่อ คุณแม่ของเขา การนำอดีตมาปะติดปะต่อให้เข้ากับปัจจุบัน โดยในภาพคือตอนงานเฉลิมฉลองวัน May Day ในปี 2004 ที่จัดขึ้นในสถานที่เดียวกัน นี่เป็นโปรเจกต์ของเขาที่กำลังศึกษาอยู่เอกศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัย Northamton ประเทศอังกฤษ โดยเขากลับไปรื้อเอารูปเก่าๆ ของตัวเองและครอบครัว ซึ่งบางภาพนั้นมีอายุมากกว่า 40 ปี ก่อนที่จะนำมันมาประกอบเข้ากับสถานที่เดิมที่เคยถ่ายภาพนั้นเอาไว้ ภายในเมือง Woodford บ้านเกิดของเขาและแม่ ผลงานของเขาจึงเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนเขายังตัวเล็กๆ รวมถึงคุณแม่ที่อาศัยมาตั้งแต่เกิดเช่นเดียวกัน เมืองแห่งนี้เลยกลายเป็นความทรงจำอันมีค่าของเขาและครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต แม่ของเขาในสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก . การเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่นที่เราเห็นภายในภาพ มีทั้งบางอย่างที่เปลี่ยนไปและยังคงเดิม แต่สำหรับ Sam แล้วเมืองนี้แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยในสายตาของเขา แม่ของเขาที่กำลังนั่งอยู่บนรถคันแรกของเธอ…
-
ชายผู้พยายามชูโรงว่า ‘ผู้หญิงดีกว่าทุกด้าน’ แต่ดันถูกตอกหน้ากลับโดยเหล่าผู้หญิงเอง…
เป็นเรื่องแล้วคราวนี้ เมื่อ Michael Moore ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังได้ออกมาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ของเขาถึงการยกย่องเพศหญิงว่าเป็นเพศที่ “ดีกว่า” เพศชาย ซึ่งมันก็ฟังดูเหมือนจะดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มสตรีนิยม แต่ผลกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะได้มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Jessica Ellis ได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์แย้ง Moore ว่าที่เขากล่าวมามันไม่จริง พร้อมกับยกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้หญิงมาตอกหน้า Moore เข้าอย่างจัง ลองไปฟังเรื่องราวจริงๆ แบบละเอียดกันเลยดีกว่า… Moore โพสต์ว่า “ไม่มีผู้หญิงคนไหน สร้างระเบิดปรมาณู สร้างโรงงานอุตสาหกรรม ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และก่อการฆาตกรรมในโรงเรียน เสียหน่อย” และสาว Ellis คนนี้ก็เข้ามาตอบ “เห็นได้ชัดว่า ที่เขาพูดมามันไม่จริง” นี่คือ Elizabeth Graves ที่ทำงานในแมนฮัตตัน ในโครงการหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ Elizabeth Graves และนี่ก็คือ Mary Walton เธอจดทะเบียนเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมสองแห่ง Mary Walton …
-
10 กิจกรรมสร้างความบันเทิงจากอดีต ที่ผู้คนต่างเอ็นจอยไปกับมัน แต่แปลกสำหรับคนยุคปัจจุบัน
ทุกวันนี้คนเรามักจะหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย วิดีโอเกม หรือคอมพิวเตอร์ เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกเบื่อและต้องการความบันเทิงให้กับจิตใจ พร้อมกับคิดว่าเทคโนโลยีเหล่านั้นช่างเป็นสิ่งให้ความบันเทิงที่ดีเสียจริงๆ แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่า ก่อนหน้าที่เทคโนโลยีความบันเทิงอย่างที่กล่าวไปจะถูกสร้างขึ้น คนสมัยก่อนเขาทำอะไรเพื่อให้ได้รับความบันเทิงกันบ้าง เอาล่ะครับวันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข21 จะพาทุกท่านไปรับชม 10 กิจกรรมเพื่อความบันเทิงของคนสมัยก่อนว่าเขาทำอะไรกันบ้าง บอกเลยว่าไม่ค่อยคำนึงถึงมนุษยธรรมซักเท่าไหร่… 1. เกมกระดาน เกมกระดานชิ้นแรกของโลกถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว เช่น เกมกระดานจากประเทศอียิปต์ที่เรียกว่า Senet เป็นเกมที่ประกอบไปด้วยกระดานและหมากเดินที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด กฎของเกมยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ที่ทราบแน่นอนก็คือเป็นเกมสำหรับเล่น 2 คน คล้ายกับหมากรุกสมัยปัจจุบันนี่แหละ ตามตำนานเชี่อว่าเกม Senet ถูกสร้างขึ้นโดย Thoth เทพแห่งปัญญา ผู้ที่ท้า Khonsu เทพแห่งดวงจันทร์ให้แข่งขันกับตน เมื่อ Thoth ชนะจึงขอให้ในหนึ่งปีมีจำนวนวันเพิ่มขึ้น 5 วันเพื่อให้ Nut เทพีแห่งท้องฟ้าหลุดพ้นจากคำสาปของเทพ Ra และสามารถให้กำเนิดบุตรได้ 2. การประลองนักสู้ Gladiator พวกเราอาจจะพอรู้เรื่องราวเกี่ยวสิ่งนี้กันมาบ้างแล้ว…
-
อดีตคู่รักมานั่งถกเหตุผล ฝ่ายชายพูด ‘ก็แค่นอกใจ’ แทบอยากศอกใส่หน้า!!
เรื่องของความรักนั้นสามารถนิยามได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งความรักที่สมหวังและมีความสุขจนถึงบั้นปลายชีวิต หรือจะเป็นความรักที่ต้องพบกับความทุกข์ทั้งการครองรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค จนสุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการแยกทางกัน… หลากหลายสื่อก็ช่วยกันตีความและนำเสนอกันไป แต่ที่น่าสนใจก็คือการนำอดีตคนรักกันมานั่งเปิดใจถึงความรักที่ผ่านมา อย่างเช่นในรายการ One Night With My Ex ที่เผยแพร่ผ่านทางสถานี Channel 5 ของประเทศอังกฤษ ตัวอย่างบางส่วนจากรายการ เป็นคู่ของ Joseph และ Rosie (มองไม่เห็นกดตรงนี้เลย) Do men and women really think differently about the emotional impact cheating will have on their partner? ? #OneNightWithMyEx pic.twitter.com/W6L3pvTWHj — Channel 5 (@channel5_tv) 14 มกราคม 2561 ทางรายการได้พา Joseph และ Rosie…
-
15 เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับการมีประจำเดือนและความขมขื่น ที่ผู้หญิงในอดีตยากจะหลีกเลี่ยง
ในอดีตกาล วิทยาศาสตร์หรือความรอบรู้ยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่ากับปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความเชื่อหลายๆ อย่างที่ผิดไปจากความเป็นจริง อย่างเช่นความเชื่อในเรื่องประจำเดือนของผู้หญิง ช่วงก่อนศตวรรษที่ 19 แพทย์ในยุคนั้นเชื่อว่าผู้หญิงหลั่งเลือดออกมาเพื่อระบายความร้อน อารมณ์และความรู้สึกที่ผิดปกติ ซึ่งมันผิดไปจากความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ แต่คนในยุคนั้นไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน นอกจากความเชื่อแบบนี้แล้ว ยังมีความเชื่อหรือตำนานแปลกๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของประจำเดือน เราลองไปรับรู้พร้อมๆ กันเลยยย 1. ชาวโรมันโบราณเชื่อว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนคือแม่มดมนต์ดำ นักปรัชญาชาวโรมัน Pliny The Elder บอกว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนจะสามารถบังคับพายุฝนฟ้าคะนอง ลมบ้าหมู ฟ้าผ่า และความแห้งแล้งอุดมสมบูรณ์ได้ รวมถึงเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัวอย่างการฆ่าสัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายเพื่อแค่การมอง เลือดเมนส์ที่ไหลออกมาก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดหมาบ้าขึ้นมาอีกต่างหาก 2. ชาวอียิปต์โบราณนำกระดาษพาไพรัสแบบอ่อนมาใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอด ชาวอียิปต์ใช้กระดาษดังกล่าวพันรอบๆ แท่งไม้เพื่อใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอดและช่วยในเรื่องของการคุมกำเนิด ในขณะที่ชาวโรมันใช้ขนสัตว์ในการทำผ้าอนามัยแบบเดียวกัน 3. ชาวยุโรปในยุคกลางจะเผาคางคกเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น นักประวัติศาสตร์ Amy License บอกถึงวิธีการที่ง่ายมากๆ เพียงแค่จับคางคกมาเผาในหม้อ แล้วนำขี้เถ้าของมันไปใส่ถุงเอาไว้ โดยพกพาถุงที่ใส่ขี้เถ้านั้นให้มันอยู่ใกล้ๆ กับช่องคลอด เท่านี้เลือดลมก็ไหลเวียนดีขึ้นแล้ว 4. ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนที่เมนส์มาจะทำให้มีสัตว์ประหลาดคลอดออกมา ตามข้อมูลจาก The Curse: A Cultural…
-
11 พิธีกรรมการ ‘พรากชีวิตคน’ เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคนข้างๆ เป็นมนุษย์เหมือนกัน…
การนำสัตว์หรือมนุษย์ไปใช้เป็นเครื่องบูชายัญเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้จากประวัติศาสตร์เก่าแก่ ซึ่งในปัจจุบันวิธีการทำนองนี้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถยอมรับได้ ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้ บวกกับความโหดร้ายป่าเถื่อน พิธีกรรมเหล่านั้นจึงเริ่มหายสาบสูญไปจนหมด วันนี้เราจะชวนให้ทุกคนลองย้อนกลับไปดูว่า ในสมัยอดีตกาลเคยมีพิธีกรรมหรือวิธีการฆ่ามนุษย์แบบไหนบ้าง และมันเลวร้ายมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ลองไปอ่านเรื่องราวทั้งหมดนั้นกันเลย 1. จากคำบอกเล่าของนักคิดชาวโรมันในสมัยก่อนที่ชื่อ Strabo เขาบอกว่าชาวเซลติกโบราณที่อาศัยอยู่บนเกาะอังกฤษ ใช้วิธีการจับสัตว์และมนุษย์มาผูกไว้กับหุ่นฟางแล้วเผาทั้งเป็น โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องบรรณาการบูชาพระเจ้า ซึ่งนักโบราณคดีในปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ เพราะมันอาจเป็นการเป่าหูทำให้ชาวเซลติกกลายเป็นคนเถื่อนเท่านั้นเอง 2. ชาวโรมันสมัยก่อนได้คิดวิธีการลงโทษผู้คนอย่างโหดร้ายและพยายามทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องตลก โดยจะจำลองให้คนเหล่านั้นตายเหมือนเทพที่อยู่ในตำนานปรัมปรา อย่างการเผาทั้งเป็นให้เหมือนกับ Hercules บางคนถูกล่ามโซ่แล้วฉีกเอาอวัยวะภายในออกมาเหมือนอย่างที่เทพ Prometheus ต้องเจอ ผู้หญิงบางคนถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับกระทิง เหมือนอย่างเทพผู้เป็นมารดาของกระทิงทั้งปวง Pasiphae ซึ่งหากผู้หญิงคนนั้นสามารถรอดชีวิตมาได้ เธอก็จะถูกฆ่าอยู่ดี 3. ชาวกรีกโบราณมีเครื่องประหารชนิดหนึ่งชื่อว่า The Brazen Bull ทำจากทองแดงและมีลักษณะรูปร่างเหมือนกระทิง วิธีการใช้งานก็คือให้คนโดนลงโทษเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วจึงจุดไฟเผาจากด้านนอกจนถึงแก่ความตาย ระหว่างนั้นเสียงที่ร้องโหยหวนออกมาจะเหมือนกับเสียงร้องไห้ของกระทิง 4. ในประเทศญี่ปุ่นจะมีความเชื่อที่เรียกว่า Hitobashira โดยจะฝังคนเป็นๆ ลงไปข้างใต้พื้นหรือในกำแพงของสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นสำเร็จลงได้ด้วยดี ซึ่งคนที่ถูกฝังส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัคร อย่างเช่นเหล่าซามูไรที่ต้องการใช้จิตวิญญาณ อยู่เฝ้ารักษาปราสาทหรือวัดต่างๆ 5. ในหลายๆ…
-
เรื่องเล่าจากผองเพื่อนเผย ‘ปูติน’ เคยเป็นสตั๊นท์แมน ในหนังสงครามช่วงปี 1970 มาก่อน
ทุกครั้งที่พูดถึงผู้นำแห่งรัสเซีย เราก็มักนึกหน้าท่าน Vladimir Putin เป็นคนแรกๆ เพราะเขาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมากความสามารถ รวมทั้งยังเป็นมุขตลกจำนวนมากบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่เรารู้กันไหมว่าท่าผู้นำ Putin นั้น นอกจากจะมีความเก่งตามที่กล่าวมา เขายังเคยไปโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงรัสเซียมาก่อนด้วยนะ โดยเพื่อนๆ ของเขาได้ออกมาบอกว่าสมัยก่อน Putin เคยเป็นสตั๊นท์แมนด้วย!! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันผ่านเพื่อนเก่าแก่ของเขา Vasily Shestakov ซึ่งเขาบอกว่าช่วงสมัยที่ปูตินยังต้องหาเงินค่าเล่าเรียนเอง เขาได้ไปสมัครเป็นสตั๊นท์แมนให้กับหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตอนปี 1970 บทที่เขาได้รับนั้นเป็นบทของนายทหารรัสเซียตัวประกอบในเรื่อง โดยเป็นช่วงที่ต้องเดินทางไปสู้กับฝ่ายนาซีนั่นเอง และนอกจากนี้ตัว Putin เองก็ยังเคยไปแสดงหนังของค่าย Lenfilm Studio อีกหลายเรื่อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น Battalion ในปี 1972 และ Blockade ในปี 1974 Vasily ยังบอกอีกว่า “ผมกับเขานั้นเคยแสดงร่วมกันในหนังเรื่อง Batallion และ Blockade ซึ่งตอนนั้นนี่รายได้ดีมากๆ เลย ตอนผมทำงานเป็นวิศวะกรผมได้เงินเดือนแค่ 110 รูเบิลต่อเดือนเท่านั้น แต่พอมาแสดงหนังแล้วกลับได้วันละ 75 รูเบิลเลยทีเดียว” . อย่างไรก็ตามข้อมูลหรือภาพเกี่ยวกับการเป็นสตั๊นท์ของท่านผู้นำก็ไม่มีการเก็บบันทึกไว้แต่อย่างใด อาจจะเพราะว่าตอนนั้นเขายังเป็นแค่ตัวประกอบก็ได้ ซึ่งทาง Lenfilm…
-
เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น
แม่น้ำมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา คือเส้นทางเดินเรือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต มีเรือจักรไอน้ำกว่า 400 ลำเคยแล่นผ่านเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรือจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Arabia ที่บรรทุกสินค้าไว้มากกว่า 200 ตันก่อนที่จะจมลงไปอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1856 เรือลำดังกล่าวได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซูรี และได้แล่นไปตามแม่น้ำมิสซูรี จนกระทั่งเรือได้ไปชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำไหลเข้ามาผ่านรูที่อยู่ใต้ท้องเรือและจมเรือลงไปลงภายในเวลาไม่กี่นาที การขุดเพื่อกู้ซากเรือลำดังกล่าวที่จมลงไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ลูกเรือและผู้โดยสารอีกกว่า 130 คนสามารถรอดชีวิตมาได้แต่สินค้าจำนวนมากก็ได้จมหายไปนอนอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นพื้นดินรอบๆ แม่น้ำก็ได้เกิดการเคลื่อนตัวจนไม่สามารถทราบตำแหน่งของเรือได้และมันเอาไว้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 13 เมตร เวลาผ่านไปกว่า 100 ปี นักโบราณคดีที่ชื่อว่า Bob Hawley ก็รู้สึกสนใจและได้ออกตามหาเรือลำดังกล่าวในช่วงปลาย 1980s ซึ่งเขาเชื่อว่าตำแหน่งของมันน่าจะอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรัฐมิสซูรี ประมาณ 800 เมตร สินค้าจำนวนมากที่ถูกค้นพบภายในเรือ เขาได้รับความร่วมมือจาก Judge Norman Sortor เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ถูกเชื่อว่ามีเรือลำดังกล่าวจมอยู่ข้างใต้ ในปี 1987 การขุดเจาะเพื่อกู้ซากเรือในที่แห่งนั้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในตอนนั้นไม่อาจแน่ใจได้ว่าเรือ Arabia จมอยู่ใต้พื้นที่นั้นจริงหรือเปล่า…
-
ผลโหวต 10 วิดีโอเกมที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ไปดูว่าจะมีเกมดังไหนติดเข้ามา…
ย้อนกลับไปยังในยุคบุกเบิกของวีดีโอเกม ประเทศแรกๆ ที่เข้ามามีบทบาทมากที่สุดในวงการนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่อดีตญี่ปุ่นได้ผลิตเกมคุณภาพเยี่ยมจนเป็นความทรงจำดีๆ ให้กับใครหลายคนมากมาย ซึ่งหลายเกมที่โด่งดังในสมัยก่อน ก็กลายเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและสามารถต่อยอดมายังปัจจุบันได้ จนเกมเหล่านั้นจะเรียกว่าเป็นดั่งตำนานแห่งประวัติศาสตร์เกมเลยก็ว่าได้ โดยชาวญี่ปุ่นมากมายก็พากันออกมาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นานา ว่าควรจะยกให้เกมไหนเป็นเกมแห่งประวัติศาสตร์บ้าง ด้วยเหตุนี้ทาง Rocket News24 จึงรวบรวม 10 อันดับเกมแห่งประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นสมบัติแห่งวงการเกมญี่ปุ่นมาให้เราดูกัน ว่าแต่จะมีเกมไหนที่ตรงกับความคิดเพื่อนๆ กันบ้างนะ… 10. Resident Evil (ปี 1996) เกมยิงซอมบี้ระดับตำนานที่ในยุคนั้น ซึ่งเกมนี้ถือเป็นตัวบุกเบิกวงการเกมยิงซอมบี้เลยก็ว่าได้ เพราะแนวเกมจะเน้นการเอาตัวรอดมากกว่าการเอาชนะแบบล้างผลาญนั่นเอง 9. Wii Sports (ปี 2006) Will Sports ถือเป็นเกมที่เข้ามาบุกเบิกเทคโนโลยี Remote ในอุตสาหกรรมเกมเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นมันยังเป็นเกมที่สามารถออกกำลังและสร้างความสนุกไปพร้อมกันได้ 8. Final Fantasy VII (ปี 1997) Final Fantasy 7 อาจจะไม่ใช่ไฟนอลที่ดีที่สุดของใครหลายคน แต่มันคือจุดเปลี่ยนของวงการเกม RPG ในยุค PS1 และเกมตระกูล Final Fantasy เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาคแรกที่เปลี่ยนจาก 2D…
-
รวม 20 ภาพบรรยายความเก๋าเก่าเก็บที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คูลมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย
หลายคนคิดว่าเมื่อก่อนคุณปู่คุณย่าของเราก็คงมีลักษณะไม่ต่างกับปัจจุบันมากนัก คงใช้ชีวิตไปแบบเรียบๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรจนมีอายุมาได้มากขนาดนี้ แต่ความเป็นจริงก็อาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปเพราะพวกเขาอาจเคยมีความเก๋าอยู่ในตัวมากกว่าที่เราคิดอีกเยอะ สิ่งเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ได้ด้วยภาพเหล่านี้ เมื่อชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ภาพและเรื่องราวลงในเว็บไซต์ Boredpanda ว่าความแสบและความเก๋าของคุณปู่คุณย่าพวกเขาในอดีตนั้นมันเจ๋งมากขนาดไหน เราไปดูกันเลย คุณปู่ทวดผู้เคยเป็นครูสอนไวโอลินให้กับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ การแต่งตัวสลับเพศของคุณปู่คุณย่าที่มีมาตั้งแต่ปี 1943 คุณย่าสุดแสบที่ชอบไปนั่งอยู่บนปีกเครื่องบินพ่นยาฆ่าแมลง รูปภาพของคุณย่าที่ถูกถ่ายในช่วงยุค 60s ถึง 70s ภาพนี้ได้ถูกวางเอาไว้ข้างโลงศพในงานศพของเธอ ความเทพของคุณปู่ผู้สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ในขณะที่เครื่องบินของเขาถูกยิงตกทะเล ภาพฮาๆ จากความบ้าของคุณปู่ในวัยหนุ่ม บอกเลยว่าการแต่งคอสเพลย์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าเราแล้ว คุณย่าผู้จากไปด้วยโรคมะเร็ง ได้ทิ้งภาพสวยๆ ใบนี้ของเธอเอาไว้ให้หลานเป็นของต่างหน้า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คุณปู่ท่านนี้ได้ทำการขโมยรถของฝั่งนาซีมา พร้อมกับถ่ายภาพโชว์ความเก๋าเอาไว้ซะเลย บอกเลยนะไอ้หนู ลีลาเจ๋งๆ แบบนี้มีมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้วไม่อยากจะคุย เก๋าไม่เก๋าในกระเป๋าก็มีเสือนะครับ!! ภาพของคุณปู่ในช่วงราวๆ 1960 ความน่ารักของคู่รักปู่ย่าสมัยหนุ่มสาว ด้วยสายตาที่ส่งถึงกันตั้งแต่ตอนนั้นทำให้ได้แต่งงานกันมานานกว่า 60 ปี ท่าโดดแสนสวยงามของคุณปู่สุดจ๊าบที่ถูกถ่ายในปี 1930…
-
ภาพน่ารักๆ ของอดีต “หนูทดลอง” ได้ออกจากห้องแล็ปมาสัมผัสอากาศภายนอกครั้งแรก
ทุกๆ ปีมีสัตว์นับพันตัวในอิตาลีต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้าใน “ห้องทดลอง” ด้วยเหตุนี้ ทาง La Collina dei Conigli องค์กรการกุศลที่ช่วยรักษาสัตว์ในห้องทดลอง ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จึงได้พยายามหาทางช่วยเหลือสัตว์ผู้เสียสละ ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสดังเดิม และโชคดีที่กฎหมายของอิตาลีได้อนุญาตให้ทางห้องปฏิบัติการไม่ต้องฆ่าสัตว์ทดลองเสมอไป และนั่นก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่องค์กรการกุศลดังกล่าวจะสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกมันได้ ซึ่งภายหลังจากที่พวกเขาสามารถช่วยเหลือหนูทดลองกลุ่มหนึ่ง ให้ออกมาจากสถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับพวกมัน ทางองค์กรจึงมอบหน้าที่ให้ Rachele Totaro ผู้เป็นช่างภาพมาช่วยสร้างสรรค์อัลบั้มภาพถ่ายน่ารักๆ ของหนูน้อยเหล่านี้เอาไว้ และนี่ก็ไม่ใช่การถ่ายภาพสัตว์ทดลองครั้งแรกของ Rachele เพราะในปีที่ผ่านมาช่างภาพคนนี้ก็เคยสร้างอัลบั้มภาพถ่ายสุดน่ารักของสัตว์ทดลองมาแล้ว โดยการถ่ายเซตภาพในครั้งนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายชื่อดังอย่าง Alice in Wonderland, The Little Prince รวมถึงเทพนิยายต่างๆ สำหรับสัตว์ตัวจิ๋วทั้งหลาย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันได้ออกมาสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกเป็นครั้งแรก พอได้พบกับโลกภายนอก พวกมันดูสดใสขึ้นเยอะเลย เหล่าหนูตัวน้อยที่ได้รับแสงแดดเป็นครั้งแรก ทำให้พวกมันได้ค้นพบว่าโลกใบนี้ก็ไม่ได้มีด้านที่เลวร้ายเสมอไป และดูเหมือนพวกมันจะชื่นชอบช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เป็นอย่างมาก สู่อิสรภาพที่ตามหาทั้งชีวิต…
-
อดีตคุณพ่อทิ้งเมียและลูกทั้ง 7 เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบตามที่ฝัน!!
หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นผู้ใหญ่ จนในบางครั้งก็คิดถึงวันวานและอยากจะกลับเข้าไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ความคิดลมๆ แล้งๆ เพราะคงไม่มีใครสามารถกลับไปเป็นเด็กได้จริงๆ หรอกว่าไหม? แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Stefonknee Wolschtt อดีตคุณพ่อวัย 46 ปีจากโตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่ยอมทิ้งภรรยาและลูกทั้ง 7 คนของตัวเองไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะ “เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ” ก่อนหน้านี้ Stefonknee ได้แต่งงานและอยู่กินกับอดีตภรรยามาเป็นเวลานานกว่า 23 ปี แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้ได้ว่าไม่ต้องการที่จะเป็นผู้ใหญ่อีกต่อไป และอยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กๆ อีกครั้ง “ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้แต่งงาน ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันไม่ได้มีลูก แต่ตอนนี้ฉันแค่ต้องการก้าวไปข้างหน้า และกลับไปเป็นเด็กเท่านั้น ภรรยาของฉันไม่สามารถยอมรับได้เมื่อฉันได้ผ่าตัดแปลงเพศ เธอบอกให้ฉันหยุดทั้งเรื่องแปลงเพศ และเรื่องที่ฉันจะไป แต่ฉันไม่สามารถทำได้จริงๆ” Stefonknee กล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อ Stefonknee ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว นั่นทำให้เขาต้องไปอาศัยอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ซึ่งทาง Stefonknee ได้ออกมาเผยว่า “ฉันสบายดี ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย” นอกจากนี้เขายังได้บอกอีกว่า หลานสาวคนเล็กของพ่อแม่คนใหม่ต้องการน้องสาวคนเล็ก และได้ตัดสินใจให้เขาเป็นน้องสาวของเธอ …
-
ภาพสีจากยุค 1890s สุดคลาสสิก การบอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น
เราเคยสงสัยกันไหมว่าวิถีชีวิตของคนในอดีต เขามีความเป็นอยู่กันอย่างไรในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยีให้พึ่งพาในทุกๆ ด้านแบบนี้ ซึ่งสิ่งที่สามารถบันทึกวิถีชีวิตของคนเหล่านั้นนั้นก็คงมีแต่เพียงคำบอกเล่ากับรูปภาพใบเก่าๆ ที่บ่งบอกความเป็นมา รูปภาพที่ถูกบันทึกไว้สามารถใช้เป็นหลักฐานชั้นดี ทำให้เราได้รู้ว่าในรุ่นก่อนๆ เขามีความเป็นอยู่กันอย่างไร แต่ทว่าด้วยเทคโนโลยีในสมันนั้น การถ่ายภาพยังไม่เป็นที่แพร่หลายและไม่มีความสวยเหมือนอย่างรูปภาพที่ถ่ายในยุคนี้ ดังนั้นจึงต้องมีการนำรูปภาพในอดีตที่มาเติมสีให้เหมือนจริง กระบวนการนี้เรียกว่า Photochromes เป็นการนำฟิล์มรูปขาวดำมาทำเป็นสีเนกาทีฟ แล้วเติมสีสันเข้าไป ทำให้ภาพออกมาสวยสมจริงเหมือนดังต้นฉบับ วิธีนี้ถูกคิดค้นโดย Hans Jakob Schmid นักเคมีชาวสวิตเซอร์แลนด์ ภาพที่ได้ก็จะดูเหมือนกับว่าเป็นภาพวาดแต่ก็มีความสวยงามและทำให้เห็นบรรยากาศในยุคนั้นจริงๆ ผู้หญิงในแอลจีเรีย ปี 1899 The Praca da Ribeira ประเทศโปรตุเกส ในปี 1903 น้ำตก Staubbach สวิตเซอร์แลนด์ ปี 1900 ตูเนเซีย ปี 1896 แม่น้ำไรน์ สวิตเซอร์แลนด์ ปี 1890 เกษตรกร ประเทศจอร์เจีย ปี 1904 ชายฝั่งของแอลจีเรีย…
-
ฉันโหยหาอดีตเหลือเกิน!! ย้อนวัยไปกับ 15 ภาพโฆษณาในวัยเด็กที่ไม่อาจหวนคืนมาได้อีก
ย้อนกลับไปเมื่อยังมีอายุเพียงแค่ 1 หลัก ตอนนั้นดูเหมือนว่าวงการโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะดูเรียบง่ายไม่ค่อนซับซ้อนซักเท่าไหร่ แต่กลับทำได้ดีเยี่ยมและน่าจดจำยิ่งนัก คงจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนโลกยังไม่เปิดกว้างเท่านี้ โฆษณาแต่ละชิ้นไม่ว่าจะผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ก็ดี หรือผ่านโทรทัศน์ก็ดี ความทรงจำเหล่านี้ก็พาให้คิดถึงอดีตซะเหลือเกิน 1. นิโคล เทริโอ บนซิมการ์ด GSM 2 Watt 2. ภาพโฆษณาเป๊ปซี่ The X Venture 3. ไดยาโมโตะ คู่แข่งปีโป้ 4. หมากฝรั่ง ซิกเซ้น อยากรู้เคล็ดลับดูในซิกเซ้น (หลอกให้เสีย 10 บาท) 5. ป๊อกโก้ แถมดาวเรืองแสง 6. บะหมี่ Youme KID 7. อร่อย ใหญ่ ยาว ต้อง ช๊อคกี้ใจแอนท์ 8. ขนมรูปจระเข้อาบชูรส คร็อกโค…
-
10 เรื่องแปลกที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!!
ถ้าหากว่าคุณกำลังคิดว่าบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณนั้นมันช่างดูแปลกตา และบางครั้งคุณอาจจะตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นนั้นก็ได้ว่า “นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้วกระมัง??” แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งแปลกๆ ที่คุณพบเห็นอยู่นั้นคงไม่เท่ากับ 10 อันดับของสิ่งที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต จากเว็บ brightside ที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่ๆ 1. การรักษาด้วยโคเคน เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน นั้นคุณสามารถหาซื้อเจ้ายาเสพย์ติดชนิดนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไป และนอกจากนี้บนฉลากข้างขวดนั้นยังเขียนอธบายไว้ว่า โคเคนนั้นช่วยแก้อาการไปและปวดฟัน นอกจากนี้ยังมีการใช้โคเคนเป็นยากล่อมประสาทสำหรับเด็กอีกด้วย และมีการโฆษณาถึงสรรพคุณกันอย่างมากมายในสมัยนั้น 2. ส่งเด็กน้อยผ่านทางบริการส่งจดหมาย นี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 20 ในสมัยนั้นบริการส่งเด็กผ่านทางบุรุษไปรษณีนั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และมีค่าบริการที่แสนถูก โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 4 บาทเท่านั้นเอง!! 3. กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้าน ในช่วงปี 1930 กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้านนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวของชาวอังกฤษ ถึงแม้ว่ามันจะดูอันตรายไม่น้อย แต่ว่ามันก็ช่วยให้เจ้าตัวน้อยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในระหว่างที่แม่ของพวกเขากำลังยุ่งกับการเตรียมอาหารเย็นอยู่ 4. สวนของฤๅษี สวนของฤๅษีนั้นเป็นหนึ่งในรสนิยมของเศรษฐีในช่วงศตวรรษที่ 18 การมีฤาษีส่วนตัวไว้ที่บ้านเพื่อดูเล่นนั้นเป็นเหมือนความภาคภูมิใจของเศรษฐียุคนั้น และนอกจากนี้พวกฤาษีที่อาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้จะไม่ได้รับอนุญาติให้ตัดผมและเล็บ และนอกจากนี้ยังต้องอาศัยอยู่ในถ้ำที่ทางเจ้าของบ้านสร้างไว้ให้อีกด้วย 5. การรักษาโรคแบบแปลกๆ ในสมัยก่อนนั้นเราสามารถพบเห็นการรักษาโรคแบบแปลกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกรีดเลือดเพื่อเอาเชื้อโรคออก…
-
รู้จักกับ ‘Bullroarer’ เครื่องดนตรีจากโลกโบราณเมื่อ 1,700 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
ดนตรีอาจจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกของมีสีสันมากขึ้น มนุษย์เรานั้นเองก็รู้จักกับการสร้างเสียงเพลงจากสิ่งของต่างๆ มาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว และวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับเครื่องดนตรีโบราณที่ชื่อว่า Bullroarer เครื่องดนตรีโบราณจากเมื่อ 1,700 ปีก่อนคริสต์ศักราช!! Bullroarer หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Rhombus หรือ Turndun นอกจากมันจะเป็นเครื่องดนตรีแล้ว ในสมัยโบราณผู้คนยังใช้เจ้าสิ่งนี้ในการติดต่อสื่อสารกันจากระยะไกลอีกด้วย และนี่คือเจ้า Bullroarer จากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย แอฟริกา เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลีย Bullroarer เป็นแผ่นไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับปีกเครื่องบิน และเจาะรูร้อยเชือกไว้ โดยขอบด้านของแผ่นไม้ดังกล่าวจะมีสลักเป็นรูปฟันปลา หรือรูปทรงต่างๆ ตามเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ โดยขั้นตอนการใช้งานของเครื่องดนตรีโบราณนี้จะต้องทำการหมุนเชือกด้านบนก่อน 2 รอบ และจากนั้นจึงจับปลายของเชือกอีกด้านหนึ่งแล้วหมุมตามแนวนอนหรือแนวดิ่งเพื่อทำให้เกิดเสียง ถ้าหากนึกภาพไม่ออกล่ะก็ ลองไปชมคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… โดยเสียงที่ได้จากเจ้าเครื่องดนตรีนี้จะได้เสียงแบบ Vibrato ที่มีลักษณะเฉพาะ และนอกจากนี้ลักษณะของเสียงดังกล่าวยังเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งสามารถทำให้มันเดินทางได้ไกลมากอีกด้วย นอกจากจะใช้เป็นเครื่องดนตรี อุปกรณ์ในการประกอบพิธีกรรม และเครื่องมือสื่อสารระยะไกลเมื่อกว่า 19,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว มันยังถูกพบในวัฒนธรรมโบราณทั้งทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้อีกด้วย แต่โดยส่วนมากแล้วผู้คนจะรู้จักมันจากชนเผ่า Aborigines ของออสเตรเลียนั่นเอง โดยชนเผา Aborigines นั้นใช้มันสำหรับทำพิธีให้กับเด็กแรกเกิดและฝังศพของคนตาย โดยเชื่อกันว่า Bullroarer นั้นจะช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป นอกจากนี้เจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวยังถือว่าเป็นของหวงห้ามสำหรับชายชาว Aborigines บางคน และห้ามมิให้เด็ก…
-
เมื่อเหล่าลูกๆ ได้ดูรูปในอดีตของพ่อแม่ จนทำให้รู้ว่าพวกเขาตอนวัยรุ่นก็คูลสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย
เราเคยคิดกันบ้างไหมว่าถ้าผ่านไปอีก 20 หรือ 30 ปี จนเรามีลูกแล้วพวกเขาถามว่า “พ่อๆ ตอนวัยรุ่นพ่อเป็นยังไงเหรอ” แน่นอนว่าเราจะตระหนักได้ว่ายุคของเรานั้นไม่ค่อยได้ทำอะไรเจ๋งๆ นอกจากการถ่ายรูปอาหารหรือเซลฟี่สักเท่าไหร่ ทว่าเมื่อเด็กในยุคปัจจุบันลองถามพ่อแม่ของพวกเขาดู พวกเขากลับได้เจอรูปเจ๋งๆ ของพวกเขาในศตวรรษที่ 19 ซึ่งแต่ละรูปมันบ่งบอกถึงช่วงชีวิตสุดคูลของพวกเขาได้ไม่ยากเลยล่ะ ขนาดเราไม่ใช้ลูกของพวกเขาเรายังรู้สึกได้เลยว่าช่วงชีวิตของพวกเขาในตอนนั้นต้องเจ๋งมากแน่ๆ ภาพของคุณพ่อจากยุค 1980 ที่เท่ไม่เหมือนใคร เด็กยุคนี้ก็ทำไม่ได้ เชื่อสิ คุณพ่อในยุค 80 ที่ขี่จักรยานล้อเดียวแถมแบกลังเบียร์พร้อมกัน อะไรจะเฟี้ยวแบบนั้น ถ้าเป็นปัจจุบันคงใส่หลังรถยนต์มาสินะ ภาพของคุณพ่อในยุค 1948 โดยลูกชายได้เล่าว่าในภาพนั้นคือพ่อและรถคันแรกของเขา ซึ่งพ่อได้เล่าว่าเขาซื้อรถในรูปเมื่ออายุ 11 ขวบ โดยเป็นรายได้จากการทำงาน…ซื้อรถ 11 ขวบ!? คุณพ่อจากยุค 1977 ที่ดูแล้วคูลสุดๆ ยิ่งลีลาการเล่นสเก็ตนี่ไม่ธรรมดาเลย คุณพ่อสุดคูลที่ทำงานในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วงยุค 70 โดยเขาทำหน้าที่เป็นหน่วยดำน้ำในทะเลแดง เจ้าของภาพบอกว่า คนในรูปคือเพื่อนของพ่อเขา โดยเขาได้ปฏิเสธพร้อมชูนิ้วกลางแก่กลุ่ม KKK เป็นอะไรที่คูลมากๆ เลยล่ะ …
-
เรื่องราวของ ‘Sarah Rector’ เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา..!!
หากพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต เราอาจจะนึกถึงภาพของการตกเป็นทาสจากการล่าอาณานิคมในแบบที่เคยเรียนหรือเห็นผ่านสื่อกันมา แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Sarah Rector เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปอเมริกา ณ ขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่ามีนักธุรกิจจากเยอรมนี 4 คนแย่งกันขอเธอแต่งงาน เพียงเพราะต้องการส่วนแบ่งของเธอก็มีมาแล้ว..!! Sarah Rector ย้อนกลับไปในวันที่ 5 มกราคม ปี 1914 สำนักพิมพ์ท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่รายรับของ Sarah Rector ที่มากถึงเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนนำมาซึ่งความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมา เดิมที Sarah Rector เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 1902 ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee (หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation) โดยเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีการทำสนธิสัญญาร่วมกันในบนพื้นที่ของรัฐโอคลาโฮม่า หนึ่งในข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า.. เมื่อโอคลาโฮม่าได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน…
-
เมื่อนักคอสเพลย์พากันแชร์ภาพในอดีต-ปัจจุบัน ของตัวเอง บอกเลยว่าแต่ละคนมาไกลมาก
“คอสเพลย์” คำๆ นี้ เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ใช่แล้วจ้า…มันคือการแต่งตัวแต่งหน้าทำผมเลียนแบบตัวละครจากในการ์ตูน ในภาพยนตร์ เกม รวมถึงเซเลปคนดังที่ชื่นชอบ มันอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย สำหรับผู้ที่เริ่มแต่งคอสเพลย์เป็นครั้งแรก เพราะบางคนก็ไม่ได้แต่งให้เหมือนเป๊ะไปซะทีเดียว บางคนกว่าจะกลายมาเป็นนักคอสเพลย์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีพัฒนาการหลายๆ ด้าน เช่น การแต่งหน้า แต่งตัว เป็นต้น ล่าสุดบรรดานักคอสเพลย์จากทั่วทุกมุมโลก ก็ได้พากันออกมาแบ่งปันภาพถ่ายก่อนและหลังพัฒนาการคอสเพลย์ของพวกเขา กว่าที่จะแต่งออกมาได้เหมือนหรืออลังการอย่างปัจจุบันต้องผ่านอะไรมาบ้าง? ซึ่งต้องบอกเลยว่าแต่ละคนมาไกลมากจริงๆ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16…
-
รู้หรือไม่!? ในยุคโรมัน ‘เกลือ’ มีค่ามากกว่า ‘ทองคำ’ ซะอีก แถมยังใช้จ่ายกันแทนเงินตราด้วยนะ!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันนี้ ‘ทองคำ’ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและร่ำรวย นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่มีความหรูหราเป็นเอกลักษณ์แล้วยังเป็นหลักประกันของแทบทุกสกุลเงินบนโลก แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ เครื่องปรุงรสราคาถูกหาซื้อที่ไหนก็ได้อย่าง ‘เกลือ’ นั้นเคยมีค่ามากกว่า ‘ทองคำ’ ซะอีก… เกลือล้ำค่ายิ่งกว่าทองในยุคโรมัน… เราได้เล่าเรียนกันมาในตำราว่าสมัยโบราณกาลมีการใช้สิ่งต่างๆ ในการแลกเปลี่ยน อย่างเช่นเปลือกหอย พืชหายาก หรือแร่ แตกต่างกับปัจจุบันที่ใช้เงินกระดาษหรือเหรียญ ย้อนกลับไปในยุคสมัยที่อาณาจักรโรมันรุ่งเรือง ‘เกลือ’ ถูกนำมาจับจ่ายใช้สอยแลกเปลี่ยนกับสิ่งของต่างๆ ราวกับว่าเป็นเงินตรากันเลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะความหายากของมันจึงทำให้ต้องมีการขุดเหมืองลงไปเอาเกลือขึ้นมา อีกทั้งยังมีกระบวนการขนส่งที่ยุ่งยากที่ต้องทำกันในช่วงหน้าแล้งเท่านั้นเพราะความชื้นจะทำให้เกลือมีเชื้อรา แถมยังต้องคอยระวังเหล่าขโมยขโจรกันอีก นอกจากนี้เกลือยังเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคโบราณอีกมากมาย ทั้งถนอมอาหาร ปรุงรสอาหาร และทำยารักษาโรค จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้มีค่ามากมายขนาดนี้ เท่านั้นยังไม่พอ ‘เกลือ’ ยังถูกนำมาใช้เป็นสิ่งตอบแทนค่าแรงให้กับเหล่าทหาร เวลาที่พวกเขากลับมาจากการทำสงคราม ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาศาสตร์จึงได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่ารากศัพท์ของคำว่า Salary (เงินเดือน, สินจ้าง) ก็น่าจะมาจากการจ่ายค่าแรงด้วยเกลือ (Salt) ของอาณาจักรโรมันนี่แหละ ในอดีตที่ผ่านมาต้องขอบอกเลยว่า ‘เกลือ’ นั้นเป็นแร่ที่มีความสำคัญมากจริงๆ มันเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสงคราม อีกทั้งยังเป็นตัวชี้วัดถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอาณาจักรมากยิ่งกว่าทองคำ แต่ในปัจจุบันเราสามารถผลิตเกลือออกมาใช้งานกันได้อย่างแพร่หลายด้วยการทำนาเกลือ จึงทำให้การขุดเหมืองเกลือถูกยกเลิก และถูกทิ้งร้างไปมากมาย…
-
เปิดประวัติ “คลองคอรินธ์” เชื่อมทะเลกรีีซทั้งสองฝั่ง กับ 2,000 ปี ที่กว่าความฝันจะเป็นจริง..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันน่าสนใจเกี่ยวกับการทำเส้นทางเชื่อมระหว่างอ่าวซาโรนิค และอ่าวคอรินทร์ ที่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 2,000 ปี ถึงจะแล้วเสร็จ..!! ย้อนกลับไปในช่วง 602 ปี ก่อนคริสตกาล ผู้ปกครองเมืองคอรินทร์ตอนนั้นนามว่า ‘Periander’ มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเอาชนะธรรมชาติด้วยการเชื่อมเส้นทางจากทั้ง 2 อ่าวเข้าด้วยกัน ทว่าด้วยยุคสมัยที่ไม่มีเทคโนโลยี หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกอะไรเท่าสมัยนี้ ทำให้โปรเจคดังกล่าวดูจะใหญ่เกินความสามารถของมนุษย์ และถูกล้มเลิกไปในที่สุด… บริเวณช่องคลองคอรินธ์ จนกระทั่งเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ Dimitrios Poliorkitis แห่งมาซีโดเนีย ก็ได้ริเริ่มโครงการที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายร้อยปีอีกครั้ง ทว่าท้ายที่สุดก็กลับไม่สำเร็จด้วยเหตุผลความเชื่อทางศาสนาของผู้คนที่เชื่อว่าการทำให้ทะเลทั้งสองฝั่งเชื่อมกัน อาจทำให้เทพโพไซดอนโกรธได้ แผนการณ์ทุกอย่างถูกล้มเลิก จนกระทั่งมาถึงยุคการปกครองของจักรพรรดิแนโรแห่งโรมัน ที่มีการสั่งให้สร้างจุดเชื่อมต่อดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง ทว่าน่าเสียดายที่ในที่สุดกษัตริย์แนโรได้ถูกลอบปลงพระชนม์ และคำสั่งการสร้างทางเชื่อมก็ถูกยกเลิกตามไปด้วย ดูเหมือนว่าเรื่องราวทุกอย่างจะถูกลืมและไม่ได้มีการเล่าต่อ กระทั่งเมื่อปี 1830 ผู้ว่าการรัฐคนแรกของกรีซ ได้ริเริ่มโครงการขุดคลองคอรินธ์อีกครั้ง ทว่าด้วยปัญหาด้านการเงินทำให้ในที่สุดโครงการนี้ก็ตกเป็นของบริษัทเอกชนอย่าง Austrian General Etiene Tyrr ในปี 1869 ใช่ว่าเมื่อได้เป็นบริษัทเอกชนเข้ามารับช่วงต่อแล้ว เมกะโปรเจคต่างๆ จะสามารถเสร็จสิ้นได้โดยง่าย เพราะต่อมาในช่วงปี 1890…
-
60 สุดยอดภาพหาดูยาก วิถีชีวิตของเมืองกลาสโกว์ในยุค 1980 เมืองใหญ่สุดแห่งสก็อตแลนด์.!!
ย้อนไปในปี 1980 เป็นครั้งแรกที่นักข่าวช่างภาพชาวฝรั่งเศส Raymond Depardon ได้รับการเชื้อเชิญจาก Sunday Times ให้เจ้าตัวไปถ่ายภาพโปรโมทการท่องเที่ยวที่เมืองกลาสโกว์… “ตอนนั้นผมพูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้ เราฟังสำเนียงคนกลาสโกว์ไม่ออกซะด้วย การสื่อสารเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เมื่อผมเข้าไปถามเด็กๆ ในพื้นที่ บางทีพวกเขาก็ฟังไม่ออกแต่ก็พยายามนำทางให้เรา ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้กับเด็กๆ ในตอนนั้น ที่ทำให้ผมได้ถ่ายภาพเจ๋งๆ ทั้งหมดนี้ออกมา..” Raymond เล่า ตรงกันข้ามกับช่างภาพคนอื่นๆ ที่อาจจะเลือกเดินทางไปเก็บภาพแฟชั่นของผู้คนแถวย่าน Hillhead หรือ Victorian Boulevard แต่ตัวช่างภาพเองเลือกที่จะถ่ายทอดชีวิตของผู้คนจากย่าน Govan, Maryhill, Gorbals และ Calton แทน ที่ซึ่งอดีตเป็นเมืองที่เคยประสบปัญหาจากภาวะสงครามมาก่อน ที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยความดิ้นรนของผู้คนที่เกิดจากความล้มเหลวทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และประชากร ทั้งหมดนี้จึงเป็นภาพสะท้อนเรื่องราวทั้งหมดที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นกับเมืองกลาสโกว์แห่งนี้ . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
บอกเล่าความทรงจำวัยเด็ก ผ่านแฮชแท็ก ‘#โตมากับ’ แล้วคุณล่ะ… ยังจำได้ไหม!?
รู้สึกกันมั้ยว่าเวลามันช่างผ่านไปไวมากจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าเผลอแป๊บเดียวเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในวัยเด็กก็กลายเป็นความทรงจำสีจางๆ ไปซะแล้ว หากพูดถึงเรื่องความทรงจำที่เราเติบโตมาด้วย แน่นอนว่าของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะโตมาในยุคที่มีค่ายกามิกาเซ่แล้ว ในขณะที่บางคนอาจจะเต้นเพลง ‘โธ่เอ๊ย’ ของวงบาซูได้… ด้วยเรื่องราวทั้งหมดที่ชวนให้เราคิดถึงวันเวลาดีๆ ในอดีต ชาวเน็ตบนโลกทวิตเตอร์จึงร่วมกันแชร์ประสบการณ์ความทรงจำผ่านแฮชแท็ก #โตมากับ ว่าแต่คุณล่ะ… ยังจำตัวเองในตอนนั้นได้อยู่รึเปล่านะ? คงไม่มีเด็กไทยคนไหนไม่รู้จัก… เจ้าขุนทองมาแล้วจ้าา ก็แหม๊.. ทำไปได้จริงๆ (ทุกวันนี้ยังทำไปได้อยู่มั้ยอ่ะ?) เกมอะไรไม่รู้ รู้แต่มันยากโคตร ใครทำสำเร็จก็ให้อารมณ์เหมือนตัวเองเป็นอัจฉริยะยังไงไม่รู้ ทุกเย็นหลังเลิกเรียนจะต้องเจอรายการนี้ “โขกกระเทียม สับพริกไทย คลุกข้าวสวยร้อนๆ แล้วพร้อมรับประทาน….” สมัยก่อนไม่ต้องมีเน็ตก็อยู่ได้ ขอแค่มีเกมพวกนี้ไว้ในเครื่องก็พอ วันหยุดทีไรไม่ดูไม่ได้สิหน่าาาา บนๆ ล่างๆ ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา เอบี ซีเล็ค แล้วก็สตาร์ท..!! เห็นอันนี้แล้วก็คิดถึง ต้องไปจัดมาซักซองแล้วแหละ จำได้ว่าตอนนั้น 5 บาทได้เยอะมาก…
-
ชมสุดยอดภาพถ่าย อดีต-ปัจจุบัน “จากโลกคู่ขนานของกทม.” โดยฝีมือคนไทยไม่แพ้ต่างชาติ..!!
บ่อยครั้งที่เราได้นำเสนอการถ่ายภาพของชาวต่างชาติ ที่มักจะนำภาพเก่ามาเทียบกับภาพปัจจุบันเพื่อให้เกิดเป็นภาพถ่ายแนวโลกคู่ขนาน แต่คราวนี้เจ๋งกว่าทุกทีที่เคยมีมา เพราะทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของคุณ ศิริพงศ์ ผการัตน์สกุล ที่ส่งเรื่องราวมาให้เรานำเสนอ… สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เอาเป็นว่าเราไปชมภาพโลกคู่ขนานจากสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครฯ กันเล๊ยย “แรงบันดาลใจเริ่มจากการที่ผมชอบอดีตกาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกครั้งที่คิดถึงมันๆ ก็เต็มไปด้วยความน่าฉงนอันหอมหวล ทั้งหมดผมเริ่มจากการหาภาพในอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็เอาไปล้างอัดรูปออกมา เสร็จแล้วก็วางแผนเดินทางตามจุดหมายที่วางไว้เลยครับ” พี่ศิริพงศ์ให้สัมภาษณ์ เส้นถนนเจริญกรุง เดิมทีถูกเรียกว่า ‘New Road’ เนื่องจากมีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่มาก ต่อมาจึงมีการพระราชทานนามถนนว่า ‘เจริญกรุง’ เพื่อสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น ห้องสมุดเนียลสัน เฮย์ส ตั้งตามชื่อของ Mrs.Jennie Neilson Hays ซึ่งเป็นภรรยาของหมอที ฮาวาร์ด เฮย์ส ซึ่งเป็นแพทย์ใหญ่ในกรมการแพทย์ทหารเรือไทย วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘วัดแจ้ง’ แม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพฯ ครบ 150 ปี . ศาลาเฉลิมกรุง หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า โรงมหรสพหลวง…
-
21 ภาพถ่ายวินเทจ ดินแดนเกาหลีที่ไม่แบ่งแยกเหนือใต้ และไม่มีสงครามนิวเคลียร์แบบทุกวันนี้
ครั้งหนึ่งก่อนที่ประเทศเกาหลีจะถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของขั้วการเมือง หรืออะไรก็ตามแต่ ในอดีตประเทศแห่งนี้เคยเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่มีการแบ่งแยกเหนือ – ใต้ ดังนั้นวันนี้เราจะขอพาไปชมชุดภาพถ่ายจากอดีตที่ถูกบันทึกไว้ในช่วง 1890 – 1910 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สงครามเกาหลียังไม่แยกประเทศออกเป็นสองฝ่าย และผู้คนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ภาพของผู้คนในอดีตที่กำลังไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ภาพจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงโซล เมื่อปี 1903 (เด็กชาย 3 คนที่ใส่หมวกด้านหลัง มีความหมายว่าพวกเขาแต่งงานแล้ว) ภาพเด็กสาวกับการละเล่น Neolttwigi ซึ่งเป็นการละเล่นที่ค่อนข้างอันตราย ภาพจากประชาชนในกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขก่อนที่ราชวงศ์คิมจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการปกครอง ภาพการแต่งตัวของผู้ชายในกรุงเปียงยาง เมื่อปี 1910 ภาพจากกรุงโซล ในปี 1904 ในอดีตคนเกาหลีมีชีวิตที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์จากการเพาะปลูก ภาพจากถนน Taedongmun ในช่วงปี 1910 เผยให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่เป็นไปอย่างเรียบง่าย กรรมวิธีการคัดข้าวบาร์เลย์ของชาวบ้านในเมืองอินชอน ภาพจากถนนเส้นหลักประจำกรุงเปียงยาง เมื่อปี 1915 ภาพการเดินขบวนของคนจากในวัง เมื่อปี 1903 …
-
ทหารเก่าวัย 95 ปี โทรแจ้งตำรวจ 911 เพราะ “แอร์พัง” แต่คุณตำรวจมาจริง แถมซื้อแอร์ให้ใหม่.!!
ในประเทศที่มีอากาศร้อนจัดอย่างบ้านเราแบบนี้ คงไม่ต้องอธิบายก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวันไหนที่เครื่องปรับอากาศพัง ความบรรลัยที่เกิดจากอากาศอันอบอ้าวต้องตามมาแน่นอน ไม่ใช่ที่เมืองไทยเท่านั้นที่จะมีอากาศร้อนซะจนต้องหันไปพึ่งใบบุญของเครื่องปรับอากาศ เพราะคุณปู่อดีตทหารผ่านศึกวัย 95 ปี จากเท็กซัสคนนี้ ก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ความร้อนที่ทรมาณไม่ต่างจากไทยเราเลย Julius Hatley ปู่วัย 95 ปี และนายตำรวจใจดี William Margolis เรื่องราวทั้งหมดก็มีอยู่ว่า… ในวันที่แสดงแดดพัดลมร้อนถาโถมเข้าใส่บ้านเมืองของผู้คนในเท็กซัส คุณปู่ก็ได้พบว่าเครื่องปรับอากาศบ้านตัวเองเสีย ด้วยความกังวลที่ว่าอากาศร้อนอาจทำให้สุขภาพของเขาย่ำแย่ คุณปู่จึงตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ถ้าคุณปู่โทรไปติด สน. แถวภาคกลางก็อาจจะโดนด่ากลับมาได้ แต่โชคดีที่คุณปู่ได้ติดต่อไปยังเบอร์ 911 และจากนั้นก็เป็นนายตำรวจ William เอง ที่รับเรื่องร้องทุกข์ของคุณปู่ไว้ ทันทีที่ William ทราบว่าหน้าต่างและเครื่องปรับอากาศพัง เขาก็รีบติดต่อขอความช่วยเหลือจาก Home Depot ทันที “สารภาพตามตรงตอนแรกเราก็รู้สึกงงว่า เอ๊ะ!! แอร์ฯ เสียแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรานะ? แต่ผมก็คิดกลับกันว่า… เราอาจจะถูกประชาชนมองว่าเราทำงานได้แย่ เพียงเพราะไม่สามารถช่วยคุณปู่ซ่อมแอร์ฯ ได้ จากนั้นตอนเวลาประมาณ 8.30 น. ผมจึงรีบไปหาคุณลุงยังที่เกิดเหตุ…
-
7 วิธีการปลุกให้ตื่นในอดีต ก่อนมนุษย์จะรู้จัก ‘นาฬิกา’ คนสมัยก่อนมีวิธีการปลุกยังไงกันนะ?
สำหรับเราๆ ท่านๆ ที่เกิดขึ้นมาหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เราก็จะถูกสอนให้รู้จักกับคำว่า ‘เวลา’ ซึ่งมันก็ไปสอดคล้องกับภาระหน้าที่ๆ ต้องทำในแต่ละวัน โดยมีตัวเลขที่มนุษย์เป็นผู้สมมุติขึ้นนี่แหละ ที่ถูกเป็นตัวกลางเพื่อใช้บอกถึงเวลาและการนัดแนะต่างๆ ทว่าก่อนที่มนุษย์จะรู้จักคำว่า ‘นาฬิกา’ วิธีการปลุกนอนยามเช้าเพื่อไปทำภาระหน้าที่ต่างๆ ของผู้คนก็ค่อนข้างแปลกใช้ได้เลย และทั้งหมดนี้คือ 7 วิธีการที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ตอนที่ไม่มีนาฬิกามนุษย์เคยพึ่งสิ่งเหล่านี้มาแล้ว 1. ดื่มน้ำเยอะๆ ก่อนเข้านอน เคยมีโมเม้นท์ที่แบบว่า… กำลังนอนเพลินๆ แล้วรู้สึกปวดฉี่จนต้องลุกมาเข้าห้องน้ำมั้ย? นั่นแหละคือสิ่งที่คนในยุคสมัยก่อนทำกันเพื่อใช้ปลุกตัวเองยามเช้า วิธีการก็ง่ายมาก แค่ดื่มน้ำให้เยอะเข้าไว้ก่อนเข้านอน แค่นี้คุณก็จะสะดุ้งตื่นมากลางดึกเพราะอยากชิ๊งฉ่อง แต่วิธีนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสุขภาพซักเท่าไหร่ และทุกวันนี้ก็ยังมีชนเผ่าดั้งเดิมหลายเผ่าที่เลือกใช้วิธีนี้อยู่ 2. ใช้เครื่อง The Clepsydra หลังจากที่มนุษย์เริ่มรู้จักประดิษฐ์ดัดแปลงมากขึ้น ก็มีการสร้าง The Clepsydra ขึ้นมาเมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน ซึ่งเดิมทีมันถูกใช้ให้สร้างเสียงรบกวนจากปริมาณน้ำที่เรากำหนดลงไป กระทั่งต่อมาในยุคสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ก็ได้มีการนำเครื่องนี้มาปรับเปลี่ยนดัดแปลงอีกครั้ง ทำให้มันมีกลไกความเป็นนาฬิกามากขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้น้ำเป็นตัวแปรอยู่ดี 3. ปลุกด้วยเสียงจากศาสนา เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงยุคกลาง (ยุคมืด) เรียกได้ว่าในช่วงเวลานั้นศาสนาเป็นเหมือนเครื่องมือที่คอยกำหนดแทบจะทุกบริบทของผู้คนเลยก็ว่าได้ ในฝั่งตะวันตกผู้คนจะต้องตื่นตอนเช้าพร้อมกับเสียงระฆังจากโบสถ์ เพื่อไปทำพิธีทางศาสนา…
-
ชมภาพใบปิด ‘หนังผู้ใหญ่รุ่นพ่อ’ ย้อนความวินเทจเกือบ 50 ปีที่แล้ว มีรสนิยมแนวไหนกัน!?
ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่สามารถทำเรื่องที่ต้องการได้โดยใช้เพียงแค่เลื่อนนิ้วไปมาเท่านั้น ทั้งการสั่งอาหาร บริการต่างๆ ความบันเทิง หรือแม้แต่ ‘การดูหนังโป๊’ ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในยุคคุณพ่อ คุณลุง คุณอา ของเราสมัยเป็นวัยรุ่นแล้ว มันไม่ได้ง่ายดายแบบทุกวันนี้ เพราะยุคนั้นไม่ได้มีสมาร์ทโฟนหรืออินเตอร์เน็ตใช้เหมือนกับพวกเรา ฉะนั้นอุตสาหกรรมหนังโป๊ในยุคก่อนๆ ก็จะมีรูปแบบคล้ายกับหนังโรงในยุคปัจจุบันเลย มีการซื้อตั๋วเข้าไปดู และมีใบปิดเพื่อโปรโมท แต่จะต้องทำแบบลับๆ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม… แล้วหนังโป๊ในสมัยก่อนจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ก็ลองไปชมกันผ่านทางโปสเตอร์หนังเรท X เหล่านี้กันได้เลย… แหม๊ นางเอกเป็นไบค์เกอร์สาวซะด้วย!! อาหารว่างมั้ยจ๊ะตัวเธอว์? แบบรถแท็กซี่ก็มีนะเออ!! . มารู้จักกับ Monica…ให้เธอแสดงให้คุณเห็นถึงความปรารถนาที่ร้อนแรง และการเผชิญหน้ากับบาป . . แหม่ แค่เห็นชื่อเรื่องก็รู้สึกสำลักซะแล้ว มีแบบพล็อตเรื่องเจ๋งๆ ด้วยนะ ช่างน่าสนใจเสียนี่กระไร สนใจมาเข้าร่วมกองทัพแห่งรักมั้ยล่ะจ๊ะ? แต่มีข้อแม้ว่าต้องอายุ 18 ขึ้นไปนะ มีมั้ย? เซ็กส์หลังจากการแต่งงาน อย่าถามภรรยาให้มาถาม Julie…
-
ผลงานภาพถ่ายของ ‘สแตนลีย์ คูบริก’ กับวิถีชีวิตของปุถุชนคนนิวยอร์ก จากช่วงยุค 1940s
ภาพถ่ายต่างๆ ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ผ่านเลนส์ของช่างภาพแต่ละคนที่ต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของฝีมือและสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมา ยิ่งหากเป็นเรื่องราวในอดีตที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยแล้ว นี่ก็คงจะเป็นสิ่งที่เราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้และต้องขอบคุณภาพเหล่านี้ที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศเหล่านั้นโดยที่ไม่ต้องจินตนาการ Stanley Kubrick (สแตนลีย์ คูบริก) เป็นผู้กำกับหนังชาอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และเป็นทั้งนักเขียน โปรดิวเซอร์ ช่างภาพ ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษช่วง 40 ปีสุดท้ายในสายอาชีพของตัวเอง การทำงานของเขาในตอนนั้นเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ความหลากหลายและความสามารถในการควบคุมศิลปะต่างๆ ให้ออกมาเป็นไปตามที่เขาต้องการ แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นผู้สร้างหนังต่างๆ มามากมาย เขาได้ทำงานเป็นช่างภาพให้กับนิตยสาร Look ในนิวยอร์ก จากจุดเริ่มตั้งแต่ปี 1945 ที่เขาได้ขายภาพให้กับทางนิตยสารเป็นครั้งแรก และได้เริ่มเข้าทำงานที่นี่ในปี 1946 จนถึงปี 1950 ตลอดการทำงานเขาได้เก็บประสบการณ์และมุมมองของคนในเมืองไว้มากมายกว่า 300 ชิ้นงาน เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนิวยอร์กแห่งนี้ การแต่งตัวในชุดลายจุด Polka Dot ของผู้หญิงในยุคนั้น เด็กหนุ่มกับการปีนข้ามรั้วเหล็กในเมือง การพลอดรักแบบไม่แคร์สายตาประชาชีบนบันไดหนีไฟ ไม่รู้ว่าหันมามองไกล หรือว่าการลงบันไดเลื่อนคนเดียวมันแปลกกันแน่ ภาพการเขียนระบายอารมณ์ของหญิงสาว เด็กหนุ่มทำงานรับขัดรองเท้าตามข้างถนน การทำงานหนักโดยไม่สนเรื่องของอายุ …
-
เปิดกรุภาพถ่าย ‘ย่านโคมแดงวินเทจ’ อดีตความบันเทิงแห่งกามารมณ์ ของแดนอาทิตย์อุทัย..!!
จริงอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องสยิวๆ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ออกแนว 20+ เราคงต้องยกให้กับประเทศนี้เค้าเลยล่ะ แต่คราวนี้เราจะย้อนอดีตไปในช่วงยุค 1970 – 1980 กันบ้าง โดยภาพถ่ายสุดเรียลทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ Araki Nobuyoshi ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของซ่องญี่ปุ่นในอดีต ภาพทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในย่านชินจูกุ เมืองโตเกียว ที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นมากมายในย่านนี้ และมันก็ถูกขนานนามว่าเป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหล สำหรับชาวญี่ปุ่นจะเรียกถนนเส้นนี้ว่า ‘ถนนแห่งความสุข’ ซึ่งปรากฎครั้งแรกในสมัยราชวงศ์เอโดะ ไม่ใช่แค่วัดวาอาราม หรือวิหารเท่านั้น ที่เป็นประวัติศาสตร์อยู่คู่ญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน เพราะ ‘ซ่อง’ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ บอกเล่าเรื่องราวของคนยุคนั้นได้ดีไม่แพ้กัน สำหรับการบริการเหล่านี้ในอดีต จะใช้วิธีการโทรเรียกจากพนักงานโรงแรม จากนั้นก็จะมีคนส่งตัวโสเภณีมาให้ ค่าใช้จ่ายในยุคนั้นก็จะอยู่ที่ราวๆ 30,000 เยน/ชั่วโมง (คิดเป็นประมาณ 10,000 บาท ในปัจจุบัน) สถานบริการหลายๆ แห่งจะเปิดใกล้กับวัด หรือสถานที่ชื่อดัง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มองว่ามันเป็นเหมือนสถานให้บริการความสุขอย่างหนึ่ง สำหรับในแถบคันโตนั้น ค่าตัวของโสเภณีในยุคนั้นจะอยู่ที่ราวๆ…
-
19 ภาพของเหล่าคนดัง ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่า…พวกเขา “เคยคบกัน” มาก่อนนะ
เรื่องราวของความรักเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน นั่นอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวย ความหล่อ รวย หรือจน แต่เราเชื่อว่าทุกๆ คน ไม่เว้นแม้แต่เซเลบคนดัง ก็ล้วนเคยผิดหวังในเรื่องของความรักกันมาแล้ว และในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มารับชม 19 ภาพของเหล่าคนดังที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าพวกเขาเคยคบกันมาก่อนแต่ก็ได้เลิกรากันไป ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่าจะมีคู่ไหนเซอร์ไพรส์บรรดาแฟนๆ กันบ้าง 1.Natalie Portman และ Moby 2.Paris Hilton และ Benji Madden 3.Aubrey Plaza และ Michael Cera 4.Ryan Gosling และ Sandra Bullock 5.Lizzy Caplan และ Matthew Perry 6.Fergie และ Justin Timberlake 7.Scarlett Johansson และ…
-
21 ภาพของช่างกล้องมือฉมังที่ถ่ายออกมาถูกที่ถูกเวลาซะเหลือเกิน ในเวอร์ชั่นวินเทจ
ความพอเหมาะพอเจาะของท่าทางและมุมกล้องที่ช่างภาพกดชัตเตอร์ถ่ายออกมาเป็นภาพ บางครั้งก็อาจไม่ได้ออกมาอย่างที่ใครได้คาดหวังเอาไว้ กลับกลายเป็นรูปภาพที่สร้างความสนุกสนานให้เพราะบางทีมันก็พอดีจนดูแปลกไป จนไม่รู้เลยว่านี่ต้องโฟกัสไปที่จุดไหนของภาพกันแน่เนี่ย เราจะรู้กันหรือเปล่าว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมานานตั้งแต่อดีตกาลแล้วความวินเทจกับภาพฮาๆ เลยออกมาเป็นแบบนี้ รถสตาร์ทไม่ติดก็ไม่ต้องเข็นกันละ ยกกลับบ้านเลยละกัน คุณแม่สุนัขกำลังจะพาคุณลูกไปเดินเล่น วันนี้ใส่ลายดอกมาหรอครับ กายกรรมเปียงยาง เอาตุ๊กตามาอวดเพื่อนซะหน่อย ขยับมานี่เลย เขาห้ามจอดขวางทางเข้า เจออย่างนี้ตอนพลบค่ำ ผมจะวิ่งให้ไวเลย ที่แท้ก็ทำหัวตกไว้ตรงบันไดนี่เอง ขาเรียวจังเลยนะเธอ ทาสีหอไอเฟลไม่ใช่เรื่องยาก ดีนะมีหลังคารองรับ ไม่งั้นคงตกลงไปละ แม่นาคสไตล์ ถ่ายรูปคู่กับเทพีเสรีภาพได้อย่างใกล้ชิด แขนซ้ายเป็นเนื้องอกกันเหรอไอ้หนุ่ม แป๊บนะ พอดีลืมเอาไฟแช็กมา ทะลึ่งจริงๆ ไปยืนทำไมตรงนั้นน่ะ เป็นการโชว์ตัวอย่างเดียว เอาหัวออกไปก่อน เปิดข้างหน้าทำไมเห็นตูดได้ละ อันนี้ก็เอาซะหลอนเลย แล้วสีของภาพก็เหมาะเหลือเกิน สนุกสนานน่ารักใสๆ กับเจ้าตูบ…
-
13 เรื่องในปัจจุบันที่ดูธรรมด๊าธรรมดา แต่ในอดีตช่างแตกต่างกันซะเหลือเกิ๊นน
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะว่าเวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยปี หลายสิ่งอย่างในโลกเราปัจจุบันก็พัฒนาไปมาอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นสายจูงสุนัข ภาพโป๊เปลือย หรือแม้แต่ชุดว่ายน้ำ เชื่อไหมล่ะว่าสิ่งเหล่านี้พัฒนามาไกลมาก และนี่คือตัวอย่าง 13 คน สัตว์ และสิ่งของ ที่ช่างแตกต่างจากอดีตซะเหลือเกิน 1. หมาปั๊ก ย้อนกลับไปเมื่อยุค 1900s ยังเป็นสมัยที่หมาปั๊กมีดั้งหล่อเหลาอยู่ ทว่าด้วยความนิยมดั้งสั้น มนุษย์จึงผสมพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนทำให้มันมีขาสั้นลง ตัวเล็กลง และดั้งสั้นลง สุดท้ายก็กลายมาเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้นี่แหละ 2. กล้อง ในช่วงยุค 1900s มนุษย์ยังต้องถ่ายภาพด้วยกล้องขนาดยักษ์ที่ถูกออกแบบโดย George R. Lawrence จนต่อมาเทคโนโลยีก็ได้พัฒนาไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นกล้องติดมือถือที่เราใช้งานกันทุกวันนี้ 3.ภาพโป๊ เมื่อดูภาพโป๊จากในอดีตแล้ว ขอบอกเลยว่า… ก็งั้นๆ อ่ะ!! นับตั้งแต่ที่มีการนำกล้องมาใช้ในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมภาพถ่ายวาบหวิวก็ได้กำเนิดขึ้น และในนิตยสารปลุกใจเสือป่าสมัยอดีตแบบนี้ก็ถือว่าโป๊สุดๆ แล้ว 4. ชุดว่ายน้ำ เรียกได้ว่า ‘ชุดว่ายน้ำ’ ของสาวๆ พัฒนามาไกลมาก ย้อนไปเมื่อ 100 ปีก่อน สาวๆ ยังต้องคลุมด้วยชุดเดรสปิดบังเรือนร่างให้มิดชิด…
-
ชม 20 ภาพโศกนาฏกรรม ‘ฮิโรชิม่าและนางาซากิ’ เผยให้เห็นความน่ากลัวของ ‘อาวุธนิวเคลียร์’
จริงอยู่ที่สงครามมักจะเริ่มต้นมาจากอุดมการณ์ และทัศนคติที่ไม่ลงรอยกัน ทว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลับเป็นประชาชนตาดำๆ ที่เราเชื่อว่าลึกๆ แล้วพวกเขาคงอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจะขอพาไปชมภาพจากโศกนาฏกรรม หลังการทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ อันนำมาสู่ยอดผู้เสียชีวิตกว่า 129,000 คน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสะท้อนให้เราเห็นถึงความน่ากลัวของ ‘อาวุธนิวเคลียร์’ ได้เป็นอย่างดี ภาพถ่ายในจังหวะที่นิวเคลียร์ตกลงมาที่เมืองนางาซากิ ในภาพคนถ่ายอยู่ไกลออกจากจุดตกประมาณ 9.6 กิโลเมตร ชาวญี่ปุ่นกำลังสำรวจซากปรักหักพังหลังจากเกิดเหตุการณ์การทิ้งระเบิดได้ 2 เดือน ภาพความเสียหายจากพื้นที่ในรัศมีระเบิดนิวเคลียร์ เหล่าพลทหารต่างช่วยกันกอบกู้ซากปรักหักพัง (ซ้าย) ภาพโครงกระดูกของชาวบ้านคนหนหนึ่ง ซึ่งความร้อนและแรงระเบิดจากนิวเคลียร์ทำให้ร่างกายเหลือเพียงแค่กระดูกได้ในชั่วพริบตาเดียว เด็กน้อยกำลังร้องไห้หลังเกิดเหตุการณ์ทิ้งระเบิดได้ 1 วัน สภาพเมืองส่วนหนึ่งของฮิโรชิม่าหลังถูกโจมตี (ซ้าย) นาฬิกาหยุดทำงานที่เวลา 8.15 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่ระเบิดตกลงมา (ขวา) ภาพเงาของผู้เสียชีวิตที่เกิดจากความร้อนและระเบิดแรงสูง สภาประจำเมืองฮิโรชิม่า ก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการโจมตีในครั้งนี้เช่นกัน ภาพของชายญี่ปุ่นที่ถูกแรงดันระเบิดจากระยะ 1 กิโลเมตร ห่างจากจุดตกนิวเคลียร์ (ซ้าย)…
-
21 ความทรงจำดีๆ ในยุคก่อนที่โลกใบนี้จะมี “สมาร์ทโฟน” เคยทำกันมาแล้วใช่มั้ย!?
ในชีวิตประจำวันทุกวันนี้ต้องขอบอกเลยว่า ‘สมาร์ทโฟน’ นั้นถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว แล้วหากย้อนกลับไปในตอนที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟน เพื่อนๆ ยังคงจำได้หรือไม่ว่าแหล่งความสุขนั้นมาจากไหนกัน… ขอพาเพื่อนๆ หวนคำนึงคิดถึงวันวาน กับความทรงจำดีๆ เรื่องที่เราเคยทำในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนเหมือนอย่างทุกวันนี้ จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า 1. ย้อนกลับไปในยุคที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ความสุขของเรานั้นดูจะอยู่ที่สิ่งต่างๆ รอบตัว มากกว่าหน้าจอในมือของเรา 2. การออกไปเล่นข้างนอกบ้านเป็นอะไรที่ทำบ่อยยยยมาก จนเรียกได้ว่าแทบจะไม่อยู่ติดบ้านเลยทีเดียว 3. คุณมีแหล่งรวมตัวของชาวก๊วน และสำหรับเด็กผู้ชาย ตรงนั้นคือ “สามแยกปากหมา” ไว้แซวสาวสวยทุกคนที่เดินผ่าน โดยแก๊งคุณจะต้องมีคนปากหมาสักคน ที่พร้อมจะแซวทุกคนโดยไม่เลือกเพศ วัย และอายุ -*- 4. โทรไปแกล้งตำรวจ หรือสถานีดับเพลิงจากตู้โทรศัพท์ (โตมาเพิ่งรู้เนี่ยว่าเป็นเด็กเลว) เพราะว่าหมายเลขเหล่านี้โทรฟรีด้วย 5. การขูดบัตรเติมเงิน เป็นอะไรที่โคตรจะฟิน ราวกับว่ากำลังเปิดกล่องสมบัติอันล้ำค่า 6. ไม่มีการขอไลน์หรือขอพิน ต้องใช้สมุดจดเบอร์โทร + ที่อยู่ ของสาวที่เราอุตส่าห์แบกความกล้าหน้าด้านเข้าไปขอ (แล้วต้องขอเบอร์บ้านมาด้วยนะเออ!!) 7. ทำให้ทุกคนต้องเคยเผชิญกับการปลอมเสียงเป็นผู้หญิง…
-
ภาพเปรียบเทียบจากอดีตสู่ปัจจุบันกับ 10 ของสิ่งของใช้ในชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา…
ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาโดยเฉพาะสิ่งของต่างๆ ที่เราจะต้องได้เห็นเป็นชีวิตประจำวันแทบตลอด แล้วจำกันได้บ้างไหมว่าสมัยก่อนโน้น รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไงบ้าง หากใครจำได้ก็คงจะรู้เลยว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมากเลยจริงๆ จะว่าไปแล้วเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น การผลิตสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้มีขนาดที่เล็กและกระทัดรัด แตกต่างจากอดีตที่เคยถือกำเนิดมาจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย… ตำนานเครื่องคิดเลข ถ้าต้องพกเข้าไปในห้องสอบนี่คงไปสอบสายอ่ะ หนักจัด!! . โรลเลอร์เบลดของเก่ามันก็เท่ ดูดีมีสไตล์อยู่แล้วนะ… . สว่านเจาะกำแพง ถ้าใช้แบบเก่านี่ อาจจะเป็นเครื่องออกกำลังแขนไปในตัว . ถุงเท้าทรงเก่า… ใส่คู่กับช้างดาวนี่กำลังเหมาะเลย . บอกได้เลยว่ามันคือ เครื่องซักผ้า!! . หน้าตาของกระดาษทิชชู่สมัยก่อน มีลวดลายด้วยนะเออ . หน้าตาของกล้องดิจิตอลยุคแรกถือกำเนิดบนโลก . แว่นตากันแดดในอดีตกับปัจจุบัน แทบจะทำให้ตาตี่ได้เลย ฮร่าาา . โทรทัศน์สมัยก่อนกับสมัยนี้ ขนาดจอกับขนาดเครื่องแทบจะคนละเรื่องเลย . ฮาร์ดดิกส์สมัยก่อนกับสมัยนี้ ขนาดตัวกับความจุก็ต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว!! . เป็นไงกันบ้างกับของที่เปลี่ยนไปตามเวลาที่เปลี่ยนแปลง แล้วเพื่อนๆ ทันใช้หรือจำชิ้นไหนกันได้บ้างละ…
-
ชมวิถีชีวิตในอดีตของ ‘หญิงขายบริการ’ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ก่อนจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
อาชีพ ‘หญิงขายบริการ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘โสเภณี’ ถือเป็นอีกอาชีพที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมาตั้งแต่ยุควัฒนธรรมโบราณเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับที่รัฐนิวออร์ลีนส์ ในอดีตราว 100 ปีก่อน การขายบริการถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย จนกระทั่งมันถูกทำให้กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายและศีลธรรม และทั้งหมดนี้เป็นภาพเล่าวิถีชีวิตของหญิงสาวในอดีตจากช่างภาพ E. J. Bellocq ภาพถ่ายของ Josie Arlington หนึ่งในสาวงามประจำสถานที่ขายบริการ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเวลานั้น ภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายขึ้นในปี 1917 และที่ Storyville นี้ก็ถือเป็นที่สุดท้ายในสหรัฐอเมริกาที่การค้าประเวณีเคยถูกกฎหมาย หญิงสาวขายบริการส่วนใหญ่จะต้องเปลือยกายในงานเลี้ยง แต่สำหรับ Josie Arlington ในยุคนั้นเธอมีชื่อเสียงมากพอที่จะใส่ชุดราตรีไปร่วมงานของกลุ่มคนไฮโซได้ สำหรับที่ Storyville เป็นที่เดียวที่ให้บริการคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชาวเมืองแรงงานไปจนถึงนักธุรกิจระดับสูง Storyville ก่อตั้งครั้งแรกตั้งแต่ปี 1897 สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ.. สถานบริการนำรายได้เข้ารัฐมากเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงนั้น ภายในสถานบริการจะถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ประดับสุดหรู สำหรับ Josie Arlington เธอมีค่าตัวสูงถึง 5 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำในยุคนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 22 เซนต์ต่อชั่วโมงเท่านั้น…
-
ภาพเก่าเวลาใหม่… สาวย้อนกลับไปเมืองที่เธอเคยเรียน เพื่อสร้างภาพเมื่อ 30 ปีก่อนขึ้นมาอีกครั้ง
จากอัลบั้มรูปในความทรงจำภาพเก่าๆ แสดงออกถึงสถานที่ที่เราเคยไป คนที่เราเคยพบเจอ แล้วถ้าเราได้กลับไปยังสถานที่เดิมในคนละช่วงเวลาที่ห่างกันมากถึง 30 ปี อย่างที่เธอคนนี้ได้ทำมันจะแตกต่างกันมากมั้ยนะ ช่างภาพสาวชื่อว่า Lisa Werner จากแคลิฟอร์เนีย เธอได้เดินไปทางไปเที่ยวยุโรป โดยได้แวะประเทศฝรั่งเศสและเยอรมัน ที่เธอเคยเดินทางไปเรียนภาษามาก่อน และเธอก็ได้หารูปภาพเก่าในตอนนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วมาเป็นต้นแบบในการถ่ายภาพครั้งนี้ของเธอ “30 ปีต่อมาที่ Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส ฉันใส่กระโปรงสั้นเลยทำให้ไม่สามารถเลียนแบบโพสเดิมได้” “30 ปีต่อมาที่ Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส พวกเขาได้มีการนำดอกไม้สวยๆ มาตกแต่งสะพาน” “30 ปีต่อมาที่ Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส สังเกตได้เลยว่าต้นไม้โตขึ้นมามากขนาดไหน” “30 ปีต่อมาที่ Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากการทำถนน ทำให้นี่คือจุดที่ใกล้เคียงที่สุดที่ฉันถ่ายได้” “30 ปีต่อมาที่ Heidelberg ประเทศเยอรมัน ฉันอยู่คนเดียวบนสะพานจึงรับสมัครนักเรียนเยอรมันแถวนั้นมายืนให้เหมือนกับภาพที่เคยถ่าย” “30 ปีต่อมาที่ Heidelberg ประเทศเยอรมัน ทางที่คดเคี้ยวไปมานี้มีชื่อว่า Schlangenweg (Snakes Way) ซึ่งจะนำไปสู่ Philosophenweg (Philosophers…
-
ชายหนุ่มซื้อกล้องมือสองจากปี 1929 โดยบังเอิญ เลยเอารูปไปล้าง จนได้ภาพสุดเหลือเชื่อ!!
ชายหนุ่มคนหนึ่งบังเอิญซื้อกล้อง Zeiss Ikon 520/2 มาจากร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง ทว่าเขากลับต้องเซอร์ไพรส์ เพราะตัวกล้องดังกล่าวไม่ได้เป็นกล้องเปล่าๆ แต่ข้างในยังมีรูปที่คาดว่าถ่ายในยุค 40s และ 70s อยู่ด้วย Martijn van Oers เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้เล่าว่ากล้องดังกล่าวนั้นน่าจะผลิตในปี 1929 ซึ่งพอเขาไปถามเพื่อนช่างภาพ Johan Holleman เกี่ยวกับการกู้ภาพม้วนฟิล์มที่ติดมา เพื่อนของเขาก็บอกว่ามันยากนะที่จะกู้ภาพเก่าขนาดนี้ให้สมบูรณ์ได้ แต่เดี๋ยวเขาจะลองทำให้ดู… โฉมหน้าของกล้อง Zeiss Ikon 520/2 . ภาพจากอดีตที่หาดูยากกำลังจะถูกเปิดเผยแล้ว!! การจะล้างฟิลม์อายุ 70 ปี ซึ่งดูจะเป็นอะไรที่ยุ่งยากพอสมควรเลยล่ะ เตรียมดูให้ดีการร่ายมนตร์ย้อนเวลา!! อุปกรณ์พร้อม!! เวลาในการทำอะไรก็ต้องเป๊ะ ไม่งั้นภาพอาจจะเสียไปเลยก็ได้ รวมถึงต้องใช้ความอดทนสูง ทุกอย่างต้องแม่นยำ ขั้นตอนสุดท้ายของการร่ายมนตร์..เป่าให้แห้ง ไม่นานเพื่อนของเขาก็ทำสำเร็จ และสามารถกู้ภาพเก่านั้นออกมาได้ทั้งหมด 4 ภาพด้วยกัน ว่าแต่ภาพที่ว่าจะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า ภาพดังกล่าวล้วนเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง…
-
สาวซื้อ ‘กล้องฟิล์มเก่า’ จากร้านมือสอง พบภาพเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุจากปี 1980 อยู่ในนั้น!!
‘กล้องถ่ายรูป’ เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อบันทึกความทรงจำต่างๆ ให้คงอยู่ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม… และนี่คือกล้องฟิล์มเก่าแก่ ที่สาวคนหนึ่งบังเอิญไปซื้อมาจากร้านขายของมือสอง พบว่าข้างในยังคงมีฟิล์มติดอยู่ แถมยังจุไปด้วยภาพความทรงจำต่างๆ ในช่วงยุค 1980 ที่หาดูชมได้ยากมากๆ เลยล่ะ Kati Dimoff ช่างภาพสาวและนักสะสมกล้องเก่าจากเมือง Portland รัฐ Oregon ต้องการที่จะหาซื้อกล้องฟิล์มเก่าที่ยังคงมีฟิลม์หลงเหลืออยู่ข้างในนั้น เธอจึงได้เข้าไปเลือกซื้อที่ร้านขายของมือสอง Goodwill ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ Grand Avenue และแล้วเธอก็ได้พบกับกล้อง Argus C2 ที่มีความคงทนเป็นเอกลักษณ์ ถูกผลิตในรัฐ Illinois เมื่อช่วงปี 1938 และ 1942 แต่น่าเสียดายที่มันพังไปซะแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกล้องที่เธอซื้อมานั้นมันมีขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ข้างใน ม้วนฟิล์มที่อยู่ในกล้องนั้นถูกใช้งานไปแล้ว ผ่านการบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตมาอย่างมากมาย โดยคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงยุค 70s หรือไม่ก็ 80s โดยประมาณ ภาพของการแข่งรถ ในรายการ Portland International Raceway ที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง…
-
‘ดิลโด้งาช้าง’ จากยุควิคตอเรียถูกนำมาประมูลขาย คาดว่าราคาสูงถึง 30,000 บาท!!
‘ความต้องการทางเพศ’ นั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องพบเจอ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีจัดการกับมันแตกต่างกันออกไป บ้างก็อาจจะใช้ตัวช่วย (เซ็กส์ทอย) บ้างก็อาจจะเลือกที่จะไม่สนใจแล้วปล่อยให้ผ่านไป เป็นต้น แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม ‘ดิลโด้’ จากยุควิคตอเรีย (คริสต์ศตวรรษที่ 19) ที่ขอบอกเลยว่ามันช่างอลังการงานสร้างซะจริงๆ ดิลโด้ที่ทำขึ้นมาด้วยมือจากงาช้างจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยชาวอังกฤษ ที่ไปอาศัยอยู่ในไอร์แลนด์ เชื่อว่าฝ่ายสามีทำขึ้นมาเพื่อให้ภรรยาเป็นของขวัญวันเกิดในช่วงปี 1840 สภาพของมันนั้นดูใหม่เอี่ยมเพราะได้รับการเก็บรักษาดูแลไว้เป็นอย่างดีในกล่องที่ดูหรูหรา เจ้าดิลโด้งาช้างนี้ถูกนำมาประมูลในงานประมูณที่จัดขึ้นในเมือง County Meath ประเทศไอร์แลนด์ และคาดว่าน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาทเลยทีเดียวเชียว ยุคสมัยวิคตอเรียเป็นยุคที่เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเป็นยุคสูงสุดของจักรวรรดิอังกฤษ ซึ่งตรงกับสมัยการปกครองของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ในยุคนั้นประเทศอังกฤษได้แผ่ขยายอาณานิคมไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้วพบว่าในช่วงยุควิคตอเรียนั้นมีการใช้งานเซ็กส์ทอยกันอย่างแพร่หลาย แต่ส่วนมากแล้วจะถูกใช้ในรูปแบบของการรักษาอาการป่วยซะมากกว่าที่จะนำมาบำบัดความใคร่ แหม่ คนเข้าร่วมประมูลเจ้าดิลโด้งาช้างนี้เค้าคงอยากได้เอาไปตั้งโชว์เป็นของสะสมอย่างแน่นอนเลยล่ะนะ ที่มา : dailymail
-
พาย้อนรอยคิงคองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ‘พี่ลิงตีนโต’ ของเราไปไกลขนาดไหน!!
ในช่วงนี้ ภาพยนตร์เรื่องคิงคองกำลังเข้าฉายในบ้านเรา เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะไปรับชมกันมาบ้างแล้ว และถ้าหากใครที่เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณอาจจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้ง CG ฉากต่างๆ เอย รวมถึงตัวคิงคองที่มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น และด้วยความที่คิงคองเป็นหนังที่มีมานานมาก แถมยังได้รับความนิยมมาโดยตลอด ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าไม่ว่าจะออกมากี่เรื่องๆ ก็มักจะมีผู้คนอยากชมอยู่เสมอมา ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปย้อนชมคิงคองตั้งแต่ยุคแรก มาจนถึงยุคปัจจุบัน มาดูกันเลยว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน King Kong (1933) คิงคองในปี 1933 ถือเป็นเวอร์ชั่นที่เก่าที่สุด และเป็นต้นฉบับแรกที่ทำให้ผู้คนได้รู้จัก และเห็นภาพลักษณ์ของลิงยักษ์ที่มาพร้อมกับความสูงกว่า 7 เมตรเลยทีเดียว King Kong vs. Godzilla (1962) ต่อมาในปี 1962 ทางผู้สร้างได้เพิ่มขนาด และความสูงของตัวละครคิงคองให้ดูใหญ่ยักษ์ขึ้น โดยจากเดิมสูง 7 เมตร เพิ่มเป็น 45 เมตร และในปีนี้นี่เองที่ทางผู้สร้างภาพยนตร์ Godzilla ชาวญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับผู้สร้างเรื่องคิงคองจากอเมริกา พร้อมจับสองตัวละครนี้มาปะทะกัน…
-
ว๊ะว๊าววว!! พบกับแฟชั่นเสื้อคู่ในยุค 80 ที่มีทั้งความแปลก และเฟี้ยวในเวลาเดียวกัน
ในช่วงปี 1960 หรือประมาณยุค 80 ถือเป็นยุคที่แฟชั่นเสื้อผ้ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นหลายๆ อย่างอีกด้วย ซึ่งรวมไปถึงแฟชั่นเสื้อคู่รักสุดกิ๊บเก๋ ที่ฮิตกันในยุคปัจจุบัน ก็เคยฮิตมาตั้งแต่ในอดีตเหมือนกันนะ ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารับชมแฟชั่นเสื้อคู่ในสมัยอดีตกาล ที่มีทั้งความแปลกตา และเฟี้ยวในเวลาเดียวกัน ว่าแต่แฟชั่นเสื้อคู่ในอดีตจะออกมาในรูปแบบไหนบ้างนั้น มารับชมกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . อยากจะบอกว่าแฟชั่นเสื้อคู่ในยุค 80 เป็นอะไรที่ค่อนข้างสุดโต่งมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ และลวดลายต่างๆ ก็ดูแปลกตา และเฟี้ยวฟ้าวไม่น้อย ที่มา : designyoutrust
-
ชมภาพถ่ายประเทศคิวบา ในปี 1954 ดินแดนแห่งเสรี ที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์และสีสัน
Heinrich Heidersberger ช่างภาพชาวเยอรมัน ผู้ที่ทำงานบนเรือ MS Atlantic ในปี 1954 ได้ทำการบันทึกภาพของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่ล่องเรือจากนิวยอร์กไปยังฮาวานา ประเทศคิวบาเอาไว้ โดยเขายังได้สอนเพื่อนชาวอิตาลี ที่ได้มาร่วมล่องเรือในมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อทดลองถ่ายภาพสีเป็นครั้งแรก จนทำให้ภาพดังกล่าว กลายเป็นภาพในอดีตที่น่าจดจำไม่น้อย สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ ได้ถูกนำไปแสดงโชว์ในการจัดนิทรรศการ “MS Atlantic, New York – Cuba” ที่ Hamburg’s Kunstgut Gallery ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศคิวบาในยุคสมัยนั้น มีความเจริญรุ่งเรืองมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ไปรับชมภาพเหล่านั้นกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . โชคดีจริงๆ…
-
22 ภาพเล่าชีวิตการเล่นของเด็กในอดีต สะท้อนเทคโนโลยีเปลี่ยนวัยเด็กไปมากแค่ไหน…
หากย้อนกลับไปในช่วงที่อินเตอร์เน็ต หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ยังไม่พัฒนาเท่ายุคปัจจุบัน เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่าเด็กๆ แต่ละคนเขามีกิจกรรมอะไรให้ทำแก้เบื่อกันบ้างนะ? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพประวัติศาสตร์ชีวิตการละเล่นของเด็กๆ ต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าในยุคที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนาแตกต่างกับปัจจุบันแค่ไหน 1. สาวน้อยกำลังเล่นกีต้าร์ให้เจ้าหมาฟัง 2. เด็กน้อยกำลังเต้นรำอยู่ด้านหน้าของตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ ที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 1961 3. พ่อบ้าน Paul Ramos กำลังอุ้มลูกชายด้วยมือเดียวเพื่อป้อนอาหารให้ยีราฟ ในสวนสัตว์ลอนดอน ช่วงปี 1950 4. เด็กสองคนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน บนถนนกลางกรุงนิวยอร์คซิตี้ ช่วงปี 1940 5. เด็กๆ กับเล่นเกม ‘แข่งดันถั่ว’ บนถนน King’s Cross Street ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 1938 6. เพื่อนรัก 7. แม้แต่หมาก็มาเล่นม้ากระดกด้วย 8.…
-
ชมภาพถ่ายหาดูยากของ “โถฉี่” ในศตวรรษที่ 19 หน้าตามันหรูกว่ายุคนี้มากเพียงใด!?
พักจากเรื่องราวหมาแมวมารับชมภาพหาดูยากในอดีตกันบ้างดีกว่าเนาะ ซึ่งในวันนี้เราได้นำภาพถ่ายของโถฉี่จากในอดีตมาให้หลายๆ คนได้รับชมกัน บอกเลยว่ามันมีทั้งความแปลกตา และคลาสสิคในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ถูกถ่ายขึ้นในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สมัยศตวรรษที่ 19 จากผลงานของ Charles Marville ผู้ที่ได้ทำการบันทึกภาพโถฉี่สุดแปลกตาเหล่านี้เอาไว้ให้คนในยุคปัจจุบันอย่างเรามีโอกาสได้เห็น ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าโถฉี่เหล่านี้ ถูกออกแบบขึ้นมาให้มีลักษณะที่ไม่ซ้ำกัน และถูกนำมาตั้งเอาไว้เต็มท้องถนน เพื่อให้ผู้คนได้ใช้บริการกันตามที่สาธารณะนั่นเอง สำหรับโถฉี่เหล่านี้ได้ประดิษฐ์ขึ้นในปี 1834 อีกทั้งภาพเหล่านี้ยังได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ภายในกรุงปารีส ณ ขณะนั้นอีกด้วย โถฉี่ที่มีลักษณะหรูหรา และสวยงาม อลังการงานสร้างไม่เบา ลองดูโถฉี่แบบอื่นๆ ที่เปิดเผยให้เราเห็นความตั้งใจในการสร้างให้ออกมาแตกต่างกันในแต่ละจุดของเมือง . . . . คงต้องขอบคุณช่างภาพในยุคนั้น ที่ได้บันทึกภาพถ่ายที่น่าสนใจเหล่านี้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้รับชม อีกทั้งยังทำให้เราได้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง และวิถีชีวิตผู้คนในยุคนั้นๆ อีกด้วย ที่มา : sobadsogood
-
โรงเรียนในซิดนีย์ ให้นักเรียนลองเล่นอุปกรณ์ล้ำๆ ในอดีต เด็กยุคใหม่ถึงกับไปไม่ถูก!!
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะว่าเวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่สิบปี อุปกรณ์แก็ดแจ็ตสุดไฮเทคในอดีตอย่างเครื่องเล่นเทป เกมบอย หรือโทรศัพท์บ้านแบบหมุน ที่เวลาจะโทรที่ก็ต้องหมุนเลขเอา แหม่…ตอนนี้ทั้งหมดก็กลายเป็นตำนานไปซะแล้ว (นี้พวกเราแก่กันแล้วนะรู้ตัวยัง?) ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองซิดนีย์ ได้ปิ๊งไอเดียนำอุปกรณ์เก่า 3 อย่างประกอบไปด้วย เครื่องเล่นเทป เกมบอย และโทรศัพท์บ้านแบบหมุน มาให้นักเรียนทดลองใช้เพื่อดูปฏิกริยาว่าพวกเขาจะงงงวยกันขนาดไหน!!? เด็กๆ ถึงกับอึ้งเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโทรศัพท์บ้านแบบเก่านั้น ต้องไล่หมุนเบอร์โทรทีละตัวเลข และถ้าหมุนผิดไปแค่ตัวเดียว ก็ต้องกลับมาเริ่มหมุนใหม่ทั้งหมด ทันทีที่คุณครูนำอุปกรณ์ทั้ง 3 มาให้นักเรียนได้สัมผัส ก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาทันทีว่า ‘เหมือนหนูจะเคยเห็นของพวกนี้จากพิพิธภัณฑ์ Powerhouse มาแล้วเลย’ (นี่เราแก่กันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!!) ซึ่งแน่นอนว่าเด็กๆ ต่างดูงงๆ กับอุปกรณ์ยอดฮิตจากยุค 90s จากนั้นคุณครูให้เด็กลองเล่นเกมบอย และดูเหมือนว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังเป็นที่น่าสนใจของเด็กรุ่นใหม่อยู่บ้าง ‘มันเหมือนกับเครื่องเล่นเกมในอดีตเลย ผมรู้สึกชอบมันมากๆ และมันดูน่าสนุกกว่าเครื่องเล่นเกมทุกวันนี้ซะอีกฮะ’ นักเรียนชายคนหนึ่งกล่าว สำหรับเครื่องเล่นเทปดูเหมือนจะทำให้เด็กๆ ถึงกับไปไม่ถูกมากกว่าอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ นักเรียนหญิงคนหนึ่งให้ความเห็นว่า ‘หนูคิดว่าเมื่อก่อนมันก็คงทำหน้าที่เหมือน แอพฯ ฟังเพลงที่เราใช้กันในปัจจุบัน’ และหลังจากที่พวกเขาได้เห็นปกอัลบั้มเทป พร้อมเพลย์ลิสต์ ก็มีเด็กนักเรียนอีกคนหนึ่งถึงกับสงสัยว่าคนเมื่อก่อนเค้าอยู่กันได้อย่างไร ‘ผมรู้สึกสงสารคนเมื่อก่อนมากเลยครับ ถ้าพวกเขาได้ฟังแต่เพลงของไมเคิล แจ็กสัน ผ่านเจ้าเครื่องนี้ทั้งวันทั้งคืน’ นักเรียนคนหนึ่งกล่าว …
-
ชมภาพหายากจากสหรัฐฯ ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยมาเฟีย อาวุธปืน และการก่อจลาจล!!?
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1930s ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งยิ่งใหญ่ จากเหตุการณ์ดังกล่าว กลายเป็นจุดต้นกำเนิดของเหล่าแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง ที่เลือกใช้วิธีสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองด้วยสิ่งผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือการค้าประเวณี และทั้งหมดนี้คือรูปภาพ ขาว-ดำ ที่หาชมได้ยาก สะท้อนให้เราเห็นถึงการเป็นอยู่ของผู้คนในยุคสมัยที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยแก๊งค์มาเฟีย อาวุธปืน การฆาตกรรม และการก่อจลาจล ชายนิรนามคนหนึ่งกับการโพสท่าที่ดูเหมือนการครอบครองปืนจะเป็นเรื่องธรรมดา ‘Bonnie Parker’ เธอคือหนึ่งในอาชญกรตัวฉกาจในยุคนั้น ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อ 17 เมษายน 1933 ผู้ตรวจการกำลังอธิบายวิธีการใช้อาวุธปืนรุ่นใหม่ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รถยนต์กันกระสุน และนายตำรวจจากชิคาโก กลุ่มชายนิรนามที่กำลังห่ำหั่นยิงปืนอย่างเมามันส์ เมื่อปี 1930 24 กันยายน 1930 มีการระดมยิงรถใส่มาเฟีย และนำไปสู่การจับกุมในที่สุด ด้วยอำนาจของมาเฟียในชิคาโกที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าตำรวจต้องเริ่มหันมาพกอาวุธปืนชนิดรุนแรง เพื่อป้องกันตัวในยามฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการวิสามัญนาย ‘Frankie Yale’ หนึ่งในหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง 21 กุมภาพันธ์ 1931…
-
ย้อนอดีตไปชมภาพถ่าย “ห้องสมุดเคลื่อนที่” ในต้นศตวรรษ 20 ที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ เลย
ในปัจจุบันโลกของเราได้มีการพัฒนาไปเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย และรวดเร็ว เช่น หากเราอยากได้หรืออยากซื้ออะไร เพียงแค่คลิกเข้าไปในเว็บไซต์นั้นๆ ก็สามารถสั่งซื้อ และรอรับของที่บ้านได้ และใครก็ตามที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ คุณสามารถไปยังห้องสมุด หรือซื้อผ่านเว็บไซต์ Amazon ที่หลายๆ คนรู้จักในนามของร้านหนังสือออนไลน์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกได้อีกด้วย แต่จริงๆ แล้ว เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า Amazon ไม่ได้เป็นร้านหนังสือ หรือห้องสมุดเคลื่อนที่ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรอกนะ เพราะในอดีตเมื่อย้อนกลับไปในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ เราก็เคยมีห้องสมุดเคลื่อนที่มาแล้วเหมือนกัน และนี่คือภาพหาดูยากของห้องสมุดเคลื่อนที่ในอดีตก่อนที่ Amazon จะก่อกำเนิดขึ้น เรามาดูความคลาสสิค และชื่นชมกลิ่นอายห้องสมุดเคลื่อนที่ในอดีตกันเลย ห้องสมุดเคลื่อนที่ได้เปิดให้บริการในปี 1925 สำหรับห้องสมุดเคลื่อนที่แห่งแรกนั้น คาดว่าได้ปรากฏตัวขึ้นที่ Warrington ประเทศอังกฤษในช่วงปลายยุค 1850 โดยจะมีตั้งแต่รถม้าเทียมลากห้องสมุดคันเล็กๆ ไปจนถึงรถตู้คันใหญ่กว้างขวาง ในช่วงปีแรกของการเปิดให้บริการมีจำนวนการยืมหนังสือไปมากถึง 12,000 ต่อมาห้องสมุดเคลื่อนที่จึงถูกมาตั้งในยานพาหนะ หลังจากนั้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 จึงได้เข้ามาแพร่หลาย และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศอเมริกา ห้องสมุดเคลื่อนที่ครั้งแรกในซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ ปี 1927 ห้องสมุดเคลื่อนที่ในอิหร่าน ปี…
-
เชื่อหรือไม่ว่า ภาพถ่ายใต้น้ำชุดนี้ ถูกถ่ายในปี 1938 นั่นมันตั้ง 79 ปีก่อนเลยนะนั่น!!
ทุกวันนี้การถ่ายภาพใต้น้ำอาจเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ เพราะกล้องสมัยใหม่หลายๆ รุ่นออกแบบมาให้มีระบบกันน้ำจนสามารถนำลงไปถ่ายใต้น้ำได้อย่างสบายๆ หรือถ้าไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ผู้ใช้งานก็สามารถหาซื้อเคสกันน้ำมาใส่ แค่นี้ก็นำลงไปถ่ายใต้น้ำได้แล้ว แต่ลองย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 79 ปีก่อน ในปี 1938 ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ยังไม่ก้าวไกล การจะนำกล้องไปถ่ายใต้น้ำไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย แต่ตากล้องชาวอเมริกัน บรู๊ซ โมเซิร์ต ได้ทำสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่น่าเชื่อออกมา!! เขาได้สร้างภาพถ่ายใต้น้ำสุดเจ๋งขึ้นมา โดยเขาได้ประดิษฐ์กล่องกันน้ำ และให้นายแบบนางแบบ ลงไปถ่ายภาพใต้ผืนน้ำ จนเกิดเป็นภาพถ่ายที่คนยุคนั้นเห็นแล้วต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน โดนนางแบบนายแบบแต่ละคนต่างทำท่าทางเหมือนใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ยิงธนู วิ่งแข่ง และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เขายังคิดค้นเทคนิคการใช้นมในการสร้างเอฟเฟค “ควัน” ขึ้นมาในภาพอีกด้วย ลองไปชมผลงานของเขากันเลย ลองนึกบริบทยุคนั้น #เหมียวอ๊อดโด้ ว่ามันเจ๋งมากๆ เลยนะ . . . . .…
-
กลุ่มวิจัยติดตามฝูงชิมแปนซีอึ้ง เมื่ออดีตจ่าฝูงกลับมา ก็โดนฆาตกรรมและเอาไปกินแทน!?
ลองคิดดูสิว่าโลกของเราจะเป็นยังไง ถ้าหากว่าประชากรบนโลกทุกตัวกลายร่างจาก ‘คน’ เป็น ‘ลิงชิมแปนซี’ แทน รวมทั้งตัวเราเองด้วย มันคงเป็นอะไรที่วุ่นวายสุดๆ อย่างกับ Planet of The Ape แหน่ะ แต่มีกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไอโอว่า ประเทศสหรัฐฯ ได้ทำการติดตามฝูงลิงชิมแปนซีกลุ่มนี้มาได้ช่วงระยะเวลานึง พวกเขาก็ต้องพบกับความจริงที่ชวนอึ้งยิ่งกว่า เรียกได้ว่าเป็นองค์ความรู้ชุดใหม่ที่จะช่วยทำให้เราเข้าใจสังคมลิงได้มากขึ้นเลยล่ะ โดยนักวิจัยกลุ่มนี้ได้ติดตามฝูงลิงชิมแปนซีสายพันธุ์ Senegalese มาตั้งแต่ปี 2001 มีการศึกษาค้นพบพฤติกรรมแปลกๆ มากมายที่เกิดขึ้นในสังคมของพวกเจ้าจ๋อกลุ่มนี้ ทว่าพฤติกรรมล่าสุดที่ชวนให้อึ้งไปตามๆ กัน เมื่ออดีตจ่าฝูงที่ชื่อว่า ‘Foudouko’ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีอำนาจสูงที่สุดในฝูง แต่กลับถูกกลุ่มลิงตัวเมียรุมฆ่าทั้งเป็น และกินซากศพนั้นเป็นอาหาร ศาสตราจารย์ Julia Pruetz ให้สัมภาษณ์กับ NewScientist ว่า “เจ้า Foudouko มีนิสัยปกครองแบบเผด็จการ เดิมทีจ่าฝูงคือเจ้าลิง Mamadou แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทางร่างกายทำให้มันต้องออกไปพักรักษาตัว หลังจากนั้น Foudouko จึงเข้ามาเป็นจ่าฝูงแทน” “ซึ่งจากการที่รวมสอดส่องพฤติกรรมของพวกมันมาตลอดพบว่า ในช่วงแรกที่ Fudouko เป็นผู้นำ…
-
ช่างภาพพาเที่ยว “ดินแดนพญามังกร” ในยุค 80 ที่คลาสสิกและงดงาม เหมือนดูเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าแทบทุกเมืองใหญ่ต่างเต็มไปด้วยตึกสูงและสิ่งปลูกสร้างสุดอลังการมากมาย แต่ย้อนกลับไปในช่วงยุค 80 ตอนนั้นพญามังกรตัวนี้ ยังเป็นเพียงมังกรตัวเล็กๆ ที่กำลังสะสมกำลังเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ในอีกสองทศวรรษถัดมา และบ้านเมืองของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความงดงามและคลาสสิกที่ใครเห็นแล้วต้องรู้สึกแปลกตา ไม่เชื่อลองไปชมภาพถ่ายของ Alex Ng ตากล้องชาวฮ่องกงคนนี้ถ่ายไว้เมื่อสามสิบปีก่อนสิ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกรำลึกความหลังอย่างแน่นอน หอระฆัง เมืองซีอาน ปี 1984 ฮูฮอต ในมองโกเลีย ปี 1984 ปักกิ่ง ปี 1985 พระราชวังฤดูร้อน ในปักกิ่ง ปี 1985 หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติปักกิ่ง ปี 1987 สุสานราชวงศ์ซ่ง ปี 1984 ทะเลสาบตะวันตก ในนครหางโจว ปี 1984 สถานีรถไฟจี่หนาน ปี 1984 รถรางในเมืองต้าเหลียนในปี 1985 สร้างมาตั้งแต่ช่วงท้ายของราชวงศ์ชิง …
-
ถ้าคุณมี 26 สินค้าจากดิสนีย์เหล่านี้ วันนี้คุณอาจกลายเป็นเศรษฐีโดยไม่รู้ตัว!!
ในตอนเด็กๆ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยมีของเล่นชิ้นโปรดจากการ์ตูนดิสนีย์กันบ้างละ ซึ่งคุณคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่า ของเล่นในตอนเด็กแต่ละชิ้นจะมีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบันเป็นอย่างมาก นั่นอาจเป็นเพราะของเล่น หรือสินค้าเหล่านั้นมันกลับกลายเป็นของหายาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสมหลายๆ คน ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารับชม 26 สินค้าดิสนีย์ที่เคยโด่งดังมากในอดีต และถูกนำมาวางขายบนเว็บไซต์ในราคาที่แพงขึ้น จนบางชิ้นก็แพงขึ้นมากเลย… 1.ตุ๊กตา Simba และ Nala ราคา 3,500 บาท 2.ชุดกาน้ำชาจาก Beauty And The Beast ราคา 4,000 บาท 3.101 Dalmatians Giga Pet ราคา 2,100 บาท 4.ตุ๊กตา Genie ราคา 35,000 บาท 5.เครื่องเล่นวีดีโอเทป Beauty and the Beast ราคา 17,000…
-
นี่คือ 18 สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1997 เผลอนิดเดียวผ่านมา 20 ปีแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก!!
สวัสดีปีใหม่จ้าเพื่อนๆ ทุกคน หลายคนคงจะมีความสุขกับวันหยุดในช่วงปลายปีที่ผ่านมากันไปแล้ว ตอนนี้ก็กลับเข้าสู่โหมดทำงานเหมือนเดิม ซึ่งมาลองคิดๆ ดูแล้ว วันแห่งความสุขมันผ่านไปไวจริงๆ ซึ่งในปีนี้ก็เข้าสู่ปี 2017 แล้ว มันก็อาจจะทำให้หลายคนย้อนความทรงจำกลับไปในอดีตที่ผ่านมาว่าเราทำอะไรไปบ้าง เจอกับอะไร ได้รู้จัก และเรียนรู้อะไรไปบ้าง ในครั้งนี้เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนมาย้อนความทรงจำกลับไปในปี 1997 ซึ่งเมื่อลองนับดูก็แทบตกใจเพราะมันได้ผ่านมากว่า 20 ปีแล้วนะ เรียกได้ว่าเมื่อได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกทำให้ตัวเองแก่ยังไงก็ไม่รู้ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่าคุณจะสามารถจำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้หรือไม่ 1.Titanic, The Lost World: Jurassic Park และ Men in Black ถือเป็น 3 ภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ 2.George Clooney ที่เริ่มฉายแววดังจากซีรีส์สุดฮิตเรื่อง ER และปัจจุบันแม้ว่าเขาจะอายุมากขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นหนุ่มหล่อระดับตำนานของวงการฮอลลีวู้ด 3.และเขาก็ได้ถูกคัดเลือกให้มาแสดงบทแบทแมน เรื่อง Batman & Robin ปี 1997 อีกด้วย…
-
ราคาเครื่องเกมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หากเราปรับตามอัตราเงินเฟ้อ สมัยก่อนราคาเท่าไรบ้าง!?
คอนเท้นท์นี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ต้องขออนุญาตดักแก่กันซักหน่อย ในสมัยก่อนนั้นถ้าเพื่อนๆ (รุ่นเดียวกันนะ T^T) ถ้ายังพอจดจำกันได้ บ้านเพื่อนคนไหนมีเครื่องเกมเหล่านี้ล่ะก็ ถือว่าสุดยอดเลยล่ะ!! แต่เพื่อนๆ ยังจำได้ไหมว่าในแต่ละยุคนั้น ซื้อเครื่องพวกนั้นมาในราคาเท่าไร และเคยสงสัยมั้ยว่า เครื่องเกมต่างๆ เหล่านี้ถ้าลองนำมาวัดราคากันแล้ว (โดยการนำมาเปรียบเทียบตามภาวะเงินเฟ้อด้วย) รุ่นไหนจะแพงกว่ากัน บอกตรงๆ ว่าราคาแต่ละเครื่องนั้นไม่ใช่เล่นๆ เลยนะเออ ลองนำมาวัดกันเลย!! 1977-Atari 2600 ราคาเทียบ 796 เหรียญ หรือ 28,500 บาท (ราคาตอนเปิดตัว 200 เหรียญ) 1979-Intellivision ราคาเทียบ 935 เหรียญ หรือราวๆ 33,500 บาท (ราคาเปิดตัว 300 เหรียญ) 1982-ColecoVision ราคาเทียบ 410 เหรียญ หรือประมาณ 14,600 บาท (ราคาเปิดตัว 175 เหรียญ)…
-
นักวิทย์นำ ‘งานไม้แกะสลักจิ๋ว อายุ 500 ปี’ เข้าห้องแล็บ เพื่อหาคำตอบว่า งานสุดสวยนี้สร้างมาอย่างไร!?
บางครั้งผู้คนในอดีตก็มักจะมีเรื่องที่ทำให้คนในยุคปัจจุบันอย่างเราๆ ถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน เช่นเดียวกับเจ้าผลงานการแกะสลักไม้เล็กๆ เหล่านี้ที่มีรายละเอียดยิบย่อยมากมายจนนักวิทยาศาสตร์ถึงกับงงว่าคนสร้างนั้นสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไร?? ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าสิ่งประดิษฐ์ งานไม้แกะสลักขนาดเล็กที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี รายละเอียดการแกะสลักของมันนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดยิบ จนนักวิทยาศาสตร์ถึงกับสงสัยว่าจิตรกรที่สร้างมันขึ้นมานั้นทำได้อย่างไรในยุคี่เทคโนโลยียังพัฒนาได้ไม่ก้าวไกลเท่าทุกวันนี้ พวกเขาจึงได้มีการนำเจ้างานแกะสลักไม้ชนาดเล็กที่มีอายุกว่า 500 ปี เข้าไปในห้องแล็บเพื่อสืบหาความลับของมัน โดยเชื่อว่าผลงานเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1500 ถึง 1530 ในเมือง Flanders ประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยตาของคนปกติธรรมดาทั่วไปนั่นไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดยิบย่อยของงานแกะสลักชิ้นนี้ได้อย่างครบถ้วนนัก จึงเกิดเป็นคำถามว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร?? นักวิจัยก็เลยทำการใช้เครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ระดับไมโคร (Micro-CT) และซอฟแวร์วิเคราะห์พื้นผิวแบบ 3D Analysis เพื่อตรวจสอบถึงความสลับซับซ้อนของเจ้าไม้แกะสลักเหล่านี้ ก็พบว่าจุดเชื่อมต่อต่างๆ ที่อยู่ชั้นข้างในนั้นมันเป็นอะไรที่เล็กมาก จนขนาดที่ว่าต้องใช้กล้องไมโครสโคปหรือใช้รังสีเอ็กซ์เรย์ส่องดูเท่านั้นจึงจะสามารถมองเห็นได้ แต่ถึงจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยแต่ก็ไม่สามารถเก็บรายละเอียดทั้งหมดของงานฝีมือเหล่านี้ได้ นั่นเพราะว่าได้มีการนำวัสดุต่างๆ มาตกแต่งประดับประดา ยกตัวอย่างเช่นทองคำ และโลหะต่างๆ ที่ทำให้รังสีเอ็กซ์เรย์ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน เข็มเล็กๆ เหล่านั้นมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดของต้นหญ้าซะอีก!! เจ้างานแกะสลักไม้ขนาดเล็กเหล่านี้เป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนของเหล่าชนชั้นสูงในแถบยุโรปเป็นจำนวนมาก จึงทำให้พวกเขาต้องการเครื่องประดับหรืออุปกรณ์ที่มีความหรูเลิศ และมีคุณภาพสูง แบบสามารถพกพาไปไหนได้เอาไว้ในครอบครองเพื่อบ่งบอกถึงฐานันดรของตัวเอง…
-
ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ภาพของตัวเอง จากอดีต ‘ลูกเป็ดขี้เหร่’ จนปัจจุบันมาไกลม๊ากก!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามองย้อนกลับไปในรูปภาพใบเก่า ไม่ว่าจะเมื่อ 5 ปีก่อน 10 ปีก่อน หรือตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ เชื่อว่าแต่ละคนต้องมีความคิดอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ “นี่ใช่รูปตรูเมื่อก่อนเหรอฟ่ะเนี่ย!!” ไม่ว่าจะเรื่องทรงผม หน้าตา น้อยคนนักที่จะออกมาดูดีตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก คนเราต่างก็ต้องเคยลองผิดลองถูกกันมาบ้างแหละ ด้วยเหตุนี้เอง ชาวเน็ตต่างพากันออกมาแชร์ภาพถ่ายของตัวเองในอดีตผ่านเว็บไซต์ Reddit ไม่น่าเชื่อว่าแต่ละคนมาไกลมากๆ เธอคนนี้จากอดีตเป็นเด็กมัธยมดูท่าทางเด๋อด๋า พอโตขึ้นเท่านั้นแหละ แหม่…สวยขึ้นจนจำแทบไม่ได้ เมื่อก่อนอาจเป็นหนุ่มแว่น แต่ตอนนี้ขอบอกเลยว่าพี่แกเป็นหนุ่มเซอร์ที่หล่อ พ่อหนุ่มคนนี้ โชว์ภาพตัวเองสมัยอยู่ปี 1 จนตอนนี้อายุ 25 ปี เปลี่ยนไปเยอะมาก Before & After รู้สึกว่าหน้าเธอแอบเหมือนกับ ‘เอมี่ กลิ่นประทุม’ นะว่ามั้ย? ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 7 ปี เรียกได้ว่า เปลี่ยนไปคนละคนกันเลยทีเดียว หนุ่มคนนี้เอารูปตัวเองตั้งแต่สมัยอยู่ประถม เทียบกับปัจจุบันที่กำลังเป็นพี่ปี 4 ดู๊วว…จากหนุ่มน้อยที่หน้ามีแต่กระ ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มใหญ่ไฟแรง คะแนนความหล่อแรงเกินร้อย!! ตอนเด็กๆ เธอเรียกตัวเองว่าเป็น…
-
ยังจำกันได้มั้ย? ครั้งหนึ่งกับกระแสวัฒนธรรม ‘เด็กอีโม’ ผ่านมาได้ประมาณ 16 ปีแล้วนะ
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่มีรสนิยมชอบฟังเพลงนอกกระแสล่ะก็ เราเชื่อว่าครั้งหนึ่งหลายคนต้องเคยสัมผัสกับวัฒนธรรมดนตรีที่ชื่อว่า ‘อีโม’ เรียกได้ว่ายุคนั้นไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็จะได้เจอกับวัยรุ่นใส่เสื้อฟิตๆสีดำ มีเข็มขัดติดเป็ก คู่กับรองเท้า ‘Vans’ หรือไม่ก็ ‘Converse’ พร้อมกับทำทรงผมแบบปาดๆ เป๋ๆ แหม..พูดแล้วคิดถึงวันวานในอดีตจริงๆเลย แต่จะว่าไปจากช่วงเวลาในอดีต มาจนถึงตอนนี้ ระยะเวลาก็ผ่านไปประมาณ 16 ปีได้แล้วล่ะ ด้วยความคิดถึงในอดีต #เหมียวบ็อบ จะพาไปย้อนดูว่าในช่วงเวลานั้น มีอะไรบ้างที่ ‘เด็กอีโม’ ต้องมี!! อันดับแรกเลย การแต่งตัวก็ต้องประมาณนี้แหละ หรือไม่ก็ประมาณนี้ ทำผมเป๋ๆหน่อย พร้อมกับใส่เสื้อวง เสร็จแล้วก็ต้องมีการทาขอบตาดำ ระเบิดหู เจาะคิ้ว เจาะปาก ก็ว่ากันไปตามความชอบของแต่ละคน (แต่ขอบตาดำขาดไม่ได้จริงๆ) ส่วนคำว่า ‘อีโม’ ก็น่าจะย่อมาจากคำว่า ‘อีโมชันนัลฮาร์ดคอร์’ ซึ่งดนตรีอีโมส่วนใหญ่ จะเน้นไปที่การระบายความรู้สึกที่อยูู่ภายในจิตใจของตัวเอง ขับร้องออกมาเป็นบทเพลงผ่านเสียงร้องที่สูงแหบ หรือสำรอกบ้างในบางเวลา (ว๊ากนั่นแหละ) ซึ่งจะแตกต่างจากดนตรี ‘ฮาร์ดคอร์’ ก็ตรงที่การระบายความรู้สึกเนี่ยแหละ โดยที่ฝั่งดนตรีฮาร์ดคอร์ มักจะนิยมเน้นไปที่การก่นด่าสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวซะมากกว่า นอกเหนือจากเสื้อวง…
-
20 เรื่องเฉพาะคน 18+ เท่านั้น คงจะเข้าใจเป็นอย่างดี เวลามันช่างผ่านไปไวเหลือเกิน!!
ปัจจุบันโลกของเรานั้นพัฒนาขึ้นมาไกลมากจากอดีตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างเช่นเทคโนโลยีสามาร์ทโฟนที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นมาไม่ถึงสิบปี ก็ทำให้โลกของเราเปลี่ยนไปมากมาย ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลถึงความรู้สึกของเราว่าเทคโนโลยีในทุกวันนี้กับเมื่อไม่ถึง 10 ปีก่อน (ในยุคที่โทรศัพท์มือถือ NOKIA ยังบูมอยู่) มีนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว และไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของโทรศัพท์เท่านั้น ยังมีสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ อีกมากมายที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จะมีอะไรบ้างเราลองไปย้อนความหลังพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… 1. ย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีก่อน ถ้าเราเผลอไปกดปุ่มอินเตอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือแบบพับได้ เมื่อนั้นแหละความหายนะบังเกิดแน่นอน เพราะบิลเรียกเก็บค่าโทรศัพท์มันโคตะระแพง!! 2. พกแผ่นซีดีมากมายไว้ในรถ เอาไว้ฟังเวลาเดินทางไปไหนมาไหน บางครั้งก็หาที่ถูกใจไม่เจอซักที 3. และนี่ก็คือคำที่เลวร้ายที่สุด เขียนแผ่นมาฟังเพลง แต่ขึ้น ‘NO DISC!!’ 4. สมัยนั้นเป็นรอยละเอ๊ยยยย ต้องไปขัดกันให้ไว 5. ถ้าเป็นเมื่อก่อนโทรศัพท์ก็เอาไว้โทร ส่วน iPod เอาไว้ฟังเพลง สองอย่างนี้ต้องแยกกันนะจ๊ะ 6. และนี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการหลังจากเปิดคอมขึ้นมา 7. และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ตอนที่อินเตอร์เน็ตเจ๊ง 8. พยายามครีเอทริงโทนเจ๋งๆ เพื่อสร้างความฮือฮาให้กับทุกคน…
-
15 ภาพในตำนาน ของคนดังระดับโลก กับอีกด้านหนึ่ง ที่ไม่ค่อยได้รับการเปิดเผย!!?
สำหรับดาราดังในยุคปัจจุบัน เรียกได้ว่าแฟนๆจากทางบ้านอย่างเราๆ แทบจะรู้หมดทุกเรื่องของพวกเขา ไม่ว่าจะทำอะไร ไปที่ไหน หรือแม้แต่คบกับใครอยู่ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ที่ทำให้เราตามติดเรื่องของชาวบ้านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ทว่ากับดาราระดับตำนานบางคนที่เคยเชิดฉายในอดีต ยุคที่ยังไม่มีโซเชียลมีเดีย เราไม่มีทางทราบได้เลยว่า ช่วงชีวิตในวัยเด็ก หรือวัยก่อนที่จะดังของพวกเขาทั้งหลายเป็นอย่างไรกันบ้าง ด้วยเหตุผลนี้แหละที่ #เหมียวบ็อบ จะพาทุกคนไปชม 15 ภาพเก่าเก็บหาดูย๊ากยาก กับอีกด้านหนึ่งของพวกเขาก่อนที่จะมาเป็นคนดังระดับโลก 1. เอลวิส เพรสลี่ กับการชื่นชอบดนตรีมาตั้งแต่สมัยวัยเด็ก 2. แองเจลีน่า โจลี่ ถ่ายรูปกับแม่ของเธอในวัยเด็ก 3. ชาร์ลี แชปลิน ตอนที่ถอดหมวกสัญลักษณ์การค้าของเค้าออก 4. อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กำลังอวดกล้ามโชว์สาวๆรุ่นแม่ ในสมัยที่ยังเป็น มิสเตอร์โอลิมเปีย 5. หญิงสาวคนหนึ่งเป็นพนักงานในร้าน ‘Van Nuys’ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อมาเธอถูกคนทั้งโลกเรียกว่า ‘มาริลิน มอนโร’ 6. โรบิน วิลเลี่ยมส์…
-
พาย้อนอดีตชมการทำ “คอนแทคเลนส์” ในปี 1948 ผลิตปุ๊บ ได้ใส่ปั๊บ แต่สยองใช่เล่น!!!
ทุกวันนี้คอนแท็กเลนส์ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ทำให้ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาและเกลียดการใส่แว่นเป็นชีวิตจิตใจ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสวยงามและระยะของเลนส์ด้วย แต่รู้หรือไม่กว่าจะมาเป็นคอนแทคเลนส์สบายๆ ให้เราใส่กันในทุกวันนี้ ในช่วงปี 1940 วิธีการทำคอนแทคเลนส์นั้น แทบไม่ต่างจากฉากในหนังสยองขวัญเลยทีเดียว ไม่เชื่อลองชมจากโฆษณาคอนแทคเลนส์จากปี 1948 ตัวนี้ดูสิ แล้วจะรู้ว่าที่ #เหมียวอ๊อดโด้ พูดไม่ผิดเลย แต่ถ้าใครขี้เกียจดูคลิป งั้น #เหมียวอ๊อดโด้ จะสรุปให้ฟังคร่าวๆ ล่ะกันนะ เริ่มแรก แกะคอนแทคเลนส์ออกจากซอง แล้วค่อยบรรจงใส่เข้าไปที่ตา…ถุ้ยยย มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก ขั้นแรกเลย นักทำคอนแท็กเลนส์จะนำยางแปะเข้าไปที่ตาของเรา เพื่อวัดขนาดดวงตา โดยจะทิ้งไว้ประมาณสองนาทีให้มันขึ้นรูป พอครบสองนาทีแล้ว เราก็จะได้ยางแข็งๆ หน้าตาแบบนี้ออกมา ซึ่งจะไปใช้ในขั้นตอนต่อไป จากนั้นก็จะนำยางที่ขึ้นรูปแล้ว มาจับคู่กับแผ่นพลาสติกเลนส์ แล้วก็นำไปใส่เครื่องกดแรงสูง เพื่อทำให้แผ่นพลาสติกเลนส์ มีความโค้งเหมือนกับตัวยาง ตัวพลาสติกเลนส์ต้องเลือกระยะให้เท่ากับแว่นตาด้วยนะ เสร็จแล้วมันจะออกมาหน้าตาแบบนี้ จากนั้น นักทำคอนแทคเลนส์ก็จะนำแผ่นเลนส์ไปตัดส่วนเกินทิ้ง และทาสารเคลือบบริเวณด้านในของตัวเลนส์เพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่อดวงตา พอเคลือบเสร็จ เขาก็จะนำไปตรวจสอบอีกทีว่า เลนส์มีขนาดเหมาะสมกับระยะสายตาของผู้ใช้งานแล้วหรือไม่ นำเลนส์มาขัดให้เรียบอีกครั้ง ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ …
-
ช่างภาพตามหาคนที่เคยพบเมื่อ 30 ปีก่อน เพื่อเก็บภาพที่เดิม ย้อนความทรงจำในอดีตอีกครั้ง…
เคยมั้ย? เวลาเปิดค้นลิ้นชัก หรือตู้เสื้อผ้า มักจะเจอภาพถ่ายเก่าๆ ในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อลองหวนกลับไปคิด ก็ทำให้รู้สึกว่าวันเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน จากที่เคยเป็นเด็กน้อย มาคิดอีกทีก็ตกใจว่า อ้าว!! นี่เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือนี่ ในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ย้อนเวลาไปชมภาพถ่ายในอดีต-ปัจจุบัน จากผลงานของ Chris Porsz ช่างภาพที่ได้ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง ในการไปถ่ายภาพผู้คนที่เมืองปีเตอร์โบโร่ สหราชอาณาจักร ในช่วงยุค 70, 80 และ 90 จนตอนนี้เวลาก็ผ่านไปนานหลายสิบปีแล้ว เขาก็ยังไม่เคยลืมผู้คนเหล่านั้นเลย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Chris ได้ตัดสินใจออกตามหาผู้คนในภาพที่เคยถ่ายไว้ และกลับมาสร้างภาพถ่ายชุดใหม่ เวลาใหม่ แต่คนๆ เดิม และสถานที่เดิมอีกครั้ง แถมยังสามารถตามหาผู้คนเหล่านั้นกลับมาได้ และเก็บภาพสุดประทับใจได้กว่า 135 ภาพ ไม่ว่าจะเป็น… ภาพของ Dog และ Tina ในปี 1985 และในเดือนมีนาคม ปี 2015 ที่วิหารปีเตอร์โบโร่ ในปี…
-
NASA เผย 16 ภาพเทียบอดีต-ปัจจุบัน ของสถานที่บนโลก สะท้อนปัญหาภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป…
จากอดีตถึงปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่าสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง สิ่งก่อสร้าง รวมไปถึง “ธรรมชาติ” ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก นั่นอาจมีสาเหตุมาจากมันเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา และส่วนหนึ่งอาจมาจากการกระทำของมนุษย์ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ธรรมชาติ รวมถึงสถานที่สำคัญหลายแห่งบนโลกใบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน วันนี้เราจึงได้นำ 16 ภาพถ่ายเทียบความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ บนโลกจาก NASA ในช่วงไม่กี่ปีหลังมาให้ได้ชมกัน 1.ธารน้ำแข็ง Pedersen ในอลาสกา ในช่วงฤดูร้อนปี 1917 และฤดูร้อนปี 2005 2.ทะเลอารัล ในเอเชียกลาง ระหว่างเดือนสิงหาคม ปี 2000 และเดือนสิงหาคม ปี 2014 3.ธารน้ำแข็ง Carroll ในอลาสก้า ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1906 และเดือนกันยายน ปี 2003 4.สภาพของทะเลสาบ Powell ในอาริโซน่า และยูทาห์ ช่วงเดือนมีนาคม ปี 1999 และเดือนพฤษภาคม…
-
20 ภาพถ่ายทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เปิดหูเปิดตา และให้ความรู้ใหม่ๆ อีกด้วย!!
เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะได้รู้ว่า เราเป็นใคร มาจากไหน จุดเริ่มต้นของสังคมที่เราเคยอยู่มันมีที่ไปที่มาอย่างไร และการที่จะศึกษาประวัติศาสตร์ได้ดีอีกทางหนึ่ง ก็คงจะหนีไม่พ้น การดูภาพถ่ายจากประวัติศาสตร์นั่นเอง เพราะภาพถ่ายคือสิ่งที่สะท้อนความจริง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นได้ดีที่่สุด 1. นักบินอวกาศ John W. Young กำลังกระโดดอยู่บนดวงจันทร์ข้างยาน LM Orion ในภารกิจ Apollo 16 และเขายังเป็นคนที่ 9 ที่ได้ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ ในปี 197200 2. Ham ลิงแชมแปนซีตัวแรกที่ถูกส่งขึ้นไปบนอวกาศ พร้อมกับชุดอวกาศ และหมวก ก่อนที่จะออกเดินทางด้วยยาน Mercury-Redstone 2 ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อ 31 มกราคม 1961 3. เมื่อกองทัพของฝั่งโซเวียต และสหรัฐ มาประจันหน้ากัน ในยุทธการปิดกั้นกรุงเบอร์ลิน ปี 1961 4. Elvis Presley กำลังกล่าวคำปฏิญาน เพื่อเข้าเป็นทหารรับใช้กองอัพอเมริกา ในปี…
-
จากแมวน้อยใกล้ตายอยู่ข้างถังขยะ เพราะคนช่วยชีวิตไว้ มันเลยรอดตายมีชีวิตใหม่…
คุณสามารถพบแมวได้ในทุกๆ ที่ และก็ไม่ใช่แมวทุกตัวซะด้วยสิ ที่เกิดมาโชคดี มีเจ้านายคอยเลี้ยงดูเอาใจใส่ เพราะความจริงแล้ว บนโลกใบนี้ยังมีแมวอีกมากมายเหลือเกิน ที่เกิดมาโชคร้ายไปหน่อย เหมือนดังเช่น Gypsy แมวเหมียวตัวน้อยผู้น่าสงสารตัวนี้ ก็ไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่สวยหรูเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะกว่ามันจะผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ย้อนกลับไปในวันที่มันยังเป็นลูกแมวตัวน้อย ที่ถูกพบอยู่ในสภาพใกล้ตายข้างถังขยะ ทางองค์กรการกุศล Itty Bitty Kitty Committee ในชาร์ลสตัน ได้นำตัวของมันไปรักษาที่คลินิกฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน โดยทางแพทย์ได้เผยว่า เจ้าเหมียวมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอ และต้องการเลือดเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็พยายามที่จะช่วยชีวิตของมันให้เต็มที่ ต้องขอบคุณแมวตัวอื่นที่บริจาคเลือดมา เจ้า Gypsy เลยได้รับการถ่ายเลือดในคืนนั้น และหลังจากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที แต่ทว่าอาการของมันก็ยังไม่ดีขึ้น และมันก็ยังไม่ยอมกินอะไรเลย… จนในที่สุดเจ้าเหมียวก็ถูกย้ายไปที่คลินิกฉุกเฉินอีกครั้ง เนื่องจากอาการของมันยังอยู่ในขั้นวิกฤต และในวันรุ่งขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าอาการของมันกลับดีขึ้น สภาพของมันดูเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “เจ้าเหมียวถูกส่งไปคลินิกฉุกเฉินอีก 1 คืน ตอนแรกเธออยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง แต่พอถูกส่งไปอีกที่ อาการของมันก็เริ่มดีขึ้น ราวกับเปลี่ยนเป็นลูกแมวอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว” เจ้าเหมียวสามารถทานอาหารได้ตามปกติ…
-
ย้อนชม 20 ภาพในอดีตของเหล่าดารา-นักร้อง ในสมัยวัยใส…จากหนังสือรุ่นโรงเรียน!!
เราเคยคิดกันมั้ยว่า คนดังๆที่เค้าประสบความสำเร็จในสายงานของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักแสดง หรือศิลปินนักร้องทั้งหลาย ตอนสมัยเด็กๆพวกเขาทำอะไรกัน? และหน้าตาเป็นยังไง? ซึ่งอันที่จริงพวกเขาก็คือคนธรรมดาเหมือนเราๆ นี่แหละ เมื่อวัยเด็กก็ต้องไปโรงเรียน นั่งเรียนวิชาที่แสนจะน่าเบื่อต่างๆ รอเวลาเลิกเรียนเพื่อที่จะได้ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ตามปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ เอาเป็นว่าเพื่อไขข้อข้องใจ เราย้อนอดีตไปดูภาพของเหล่าบรรดาคนดังตัวเบ้งแห่งวงการบันเทิง ในสมัยที่พวกเขายังอยู่ในวัยเรียนกันเลยดีกว่า… 1. George Clooney 2. Taylor Swift 3. January Jones 4. Jake Gyllenhaal 5. Jennifer Lopez 6. Ke$ha 7. Jamie Foxx 8. Megan Fox 9. Zooey Deschanel 10. Avril Lavigne …
-
ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย? 15 เสียงเหล่านี้ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประวันของเราเมื่ออดีต…
ในยุคสมัยที่อะไรๆ ก็ดูก้าวหน้า ล้ำยุคเอามากๆ เพียงระยะเวลาแค่ไม่กี่สิบปี สิ่งต่างๆ ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ ที่เปลี่ยนไปมากชนิดที่ว่าเปลี่ยนนิสัยชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ไปเลยทีเดียว แต่คราวนี้จะขอพาเพื่อนๆ ย้อนอดีตชวนให้นึกถึงความทรงจำเมื่อก่อนกันบ้าง ซึ่งเราก็ไม่ได้พาย้อนไกลไปยุคอดีตดึกดำบรรพ์ที่ไหนหรอก แค่ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เอง เอาเป็นว่าเราไปฟังเสียงเหล่านี้กันเลยดีกว่า รับรองว่าชวนให้เราได้คิดถึงช่วงเวลาดีๆ ในอดีตกันแน่นอน ***คำเตือน สำหรับคนที่เกิดทันเสียงเหล่านี้ทั้งหมด จงรู้ตัวไว้ด้วย….ว่าคุณแก่แล้ว 5555+*** 1. เสียงจากโปรแกรม MSN Messenger เป็นโปรแกรมสำหรับนักแชทที่โด่งดังสุดๆ ในอดีต ประมาณว่าเปิดคอมเมื่อไหร่ ต้องล็อกอินเข้าโปรแกรมนี้ก่อนทุกครั้ง หลายๆ คนเอาเนื้อเพลงมาตั้งเป็นชื่อ บ้างก็พยายามตั้งชื่อเพื่อเรียกร้องให้คนที่แอบชอบได้รู้ตัว (อั้นนแน่รู้น๊าาา) ถึงแม้โปรแกรมนี้จะยกเลิกไปแล้ว แต่ได้ยินเสียงคนทักมาทีไร ทำให้คิดถึงช่วงเวลานั้นทุกที 2. เพลงเปิดตัวเทเลทับบี้!! เป็นอะไรที่พีคสุดๆ ในวัยเด็ก เพราะเวลาเช้าตรู่ของทุกๆ วัน เด็กๆ จะต้องรีบตื่นขึ้นมาดูก่อนไปโรงเรียนให้ได้ ไม่งั้นอาจจะทำให้ไม่มีความสุข เปรียบได้ดั่งผู้ใหญ่ที่ต้องดื่มกาแฟในทุกๆ เช้า ยังไงยังงั้น 3. เสียงเพลงจากเกมส์มาริโอ้ ในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักเกมส์มาริโอ้บนเครื่องเกมตลับแน่นอน ไม่ว่าจะผู้ใหญ่…
-
ภาพหาดูยากในอดีต พาส่องวิถีชีวิต “ฮิปปี้” จากงานเทศกาลดนตรี Woodstock ยุค 1969
พูดถึงเทศกาลดนตรีที่โด่งดังและเป็นตำนานที่สุดในโลก ชื่อของ Woodstock Festival ที่จัดขึ้น ณ ไร่ของแมกซ์ ยาสเกอร์ ในช่วงวันที่ 15-18 สิงหาคม ค.ศ. 1969 หรือเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ซึ่งนิตยสารโรลลิ่งสโตนถือว่าเหตุการณ์นี้เป็น 1 ใน 50 อันดับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ร็อกแอนด์โรลไปตลอดกาล วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงพาทุกท่านไปชมภาพของเหล่า “ฮิปสเตอร์” จากยุค 60 ในงานเทศกาลดนตรี Woodstock ผลงานของตากล้องจากนิตยสาร Life “Bill Eppridge” และ “John Dominis” ภายในงานเราจะได้เห็นหนุ่มสาวในยุค “บุพผาชน” หรือที่เราเรียกกันว่า “ฮิปปี้” กว่าครึ่งล้านคน ได้มาร่วมสนุกในงานและได้ปลดปล่อยตัวเองจากขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่าง ทุกๆ คนต่างพยายามสนุกกับงานอย่างเต็มที่ ว่ากันว่าในช่วงสี่วันของการจัดงาน พื้นที่นั้นแทบจะเป็นดินแดนไร้กฎหมายกันเลยทีเดียว ภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความรุนแรง ยาเสพติด และเซ็กส์ .…
-
มาชมภาพเปรียบเทียบ ‘กีฬาโอลิมปิก’ ในปัจจุบันกับอดีต…เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย!!
ในช่วงนี้ก็การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในริโอประเทศบราซิล ก็กำลังเดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว แต่ปีนี้อาจจะดูเงียบๆ ไปอยู่บ้างอาจเป็นเพราะเวลาการแข่งขันที่ไม่เอื้ออำนวยต่อบ้านเราซักเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆ เคยรู้กันหรือไม่ว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นทุกๆ 4 ปีนี้ มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าร้อยปีแล้วนะ!! และเนื่องจากการเวลาที่ผ่านมาโลกของเราได้มีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นมามาก ทั้งด้านของเทคโนโลยี สังคม หรือประเพณีต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่ากีฬาเองก็เช่นกัน ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพเปรียบเทียบกีฬาโอลิมปิกในปัจจุบันกับยุคอดีต เปลี่ยนไปแค่ไหนเราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… 1. กีฬายิมนาสติกในปัจจุบัน 2. กีฬายิมนาสติกเมื่อ ปี 1908 ที่ลอนดอน 3. กีฬายิงธนูในปัจจุบัน 4. กีฬายิงธนูเมื่อปี 1908 ที่ลอนดอน 5. การเฉลิมฉลองเหรียญรางวัลในปัจจุบัน 6. การเฉลิมฉลองเหรียญรางวัลเมื่อปี 1896 ที่เอเธนส์ 7. สนามกีฬาโอลิมปิกในปัจจุบัน 8. สนามโอลิมปิกเมื่อปี 1896 ที่เอเธนส์ 9. กีฬากระโดดน้ำในปัจจุบัน…
-
เรื่องราวของชายข้ามเพศเมื่อ 100 ปีก่อนจากออสเตรเลีย ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายกว่า 20 ปี มีเมีย 3 คนไม่มีใครจับได้!!
แม้ธรรมชาติจะสร้างเพศออกมาเพียง 2 เพศ แต่ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงแล้ว ความหลากหลายทางเพศของมนุษย์นั้นมีมากเกินกว่าที่ธรรมชาติได้สรรสร้างไว้ ทุกวันนี้เราได้รู้จักกับเหล่าคนข้ามเพศทั้งหลาย ที่มีเพศสภาวะไม่ตรงกับเพศสภาพของตนเอง ซึ่งหากว่ากันจริงๆ แล้วนั่นคงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกนักในยุคนี้ แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับชายข้ามเพศจากประเทศออสเตรเลียเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ที่แอบใช้ชีวิตอย่างผู้ชายเป็นเวลาเกือบ 20 ปี แถมยังมีภรรยาถึง 3 คนโดยที่ไม่มีใครจับได้ และไม่มีใครรู้เลยว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย ชาย (หรือหญิง) คนนี้มีชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด เดอ เลซี่ อีแวนส์ (Edward De Lacy Evans) ชาวเมืองวิคคอเรีย ในประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้าที่เขาจะอพยพมาอยู่ที่ออสเตรเลีย เขาใช้ชีวิตอย่างผู้หญิงทั่วไปในชื่อว่า เอเลน เทรย์เมน แม้กายจะเป็นหญิง แต่ก็รู้เสมอมาว่าไม่ใช่ในแบบผู้หญิงทั่วไป และไม่ได้รู้สึกชอบผู้ชายอีกด้วย เมื่อมาถึงออสเตรเลียแล้ว เขาก็ยังฝืนใช้ชีวิตอย่างผู้หญิงทั่วไป โดยทำงานเป็นพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง จนวันหนึ่งเขาเริ่มแต่งกายเป็นผู้ชาย เปลี่ยนชื่อแซ่ของตนเองเป็น เอ็ดเวิร์ด เดอ เลซี่ อีแวนส์ และไม่แต่งตัวเป็นผู้หญิงอีก หลังจากนั้น…
-
รวม 10 เรื่องจริงของการ “วงการแพทย์” เมื่อร้อยปีก่อน แทบไม่ต่างจากฝันร้ายในหนังสยองขวัญ!!
ทุกวันนี้วิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์สามารถรักษาโรคร้ายต่างๆ ที่คนเมื่อร้อยปีก่อนทำได้แค่ฝันได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเรื่องการผ่าตัดที่แทบจะกลายเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาของมนุษย์ไปแล้ว แต่สำหรับเหล่านายแพทย์เมื่อ 100 ปีก่อนนั้น การผ่าตัดแทบไม่ต่างจาก ฉากสุดโหดเหี้ยมจากหนังสยองขวัญที่เราได้ชมกันในปัจจุบัน 1. ในช่วงปี 1900 การผ่าตัดคือเรื่องที่สยดสยองสุดๆ ช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาที่เหล่านายแพทย์เพิ่งเรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดร่างกายมนุษย์ และวิธีการที่พวกเขาผ่าตัดนั้นจะบอกว่าป่าเถื่อนก็คงจะไม่เกินไปนัก เพราะการผ่าตัดแต่ละครั้งไม่มีการสวมถุงมือหรือผ้าปิดปากแต่อย่างใด 2. ไม่มีการใช้ยาสลบหรือยาชา ในยุคนั้น การผ่าตัดคลอดลูกจะไม่มีการใช้ยาชาหรือยาสลบแต่อย่างใด พวกเขาจะใช้มีดผ่าผิวหนังชั้นนอก แล้วเอามือล้วงเข้าไป ก่อนจะเย็บแผลสดๆ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการ “มาตรฐาน” ในสมัยนั้นเลย แม้กระทั่งโรงพยาบาลชื่อก้องโลกอย่าง John Radcliffe ในมหาวิทยาลัยอ็อกส์ฟอร์ด ก็ทำเหมือนกัน 3. ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ เมื่อก่อนการผ่าตัดมีเอาไว้รักษาอาการกระดูกหัก กระดูกแตก หรือว่าอวัยวะขาดเท่านั้น ส่วนการรักษาอื่นๆ ยังไม่มีการใช้จริงแต่อย่างใด เพราะการทดลองแต่ละครั้ง ผู้เข้ารับการทดลองจะต้องเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ด้วยน่ะสิ 4. การถือกำเนิดขึ้นของยาสลบและยาชา ยาชาและยาสลบถูกคิดค้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่เริ่มนำมาใช้จริงๆ ก็ช่วงต้นทศวรรษที่…
-
รวมภาพอดีต-ปัจจุบันของ “ดูไบ” เวลา 60 ปี เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน…
เมื่อกล่าวถึง “ดูไบ” ภาพที่หลายคนนึกถึงก็คงจะเป็นภาพของเมืองที่ยิ่งใหญ่อลังการ มีความทันสมัย มีตึกระฟ้าสวยๆ มากมาย แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในอดีต เมื่อปี 1833 ดูไบมีประชากรเพียงแค่ 800 คนเท่านั้น อีกทั้งคนส่วนใหญ่ก็มีอาชีพเป็นชาวประมง ในเมืองริมทะเลแห่งนี้ จนกระทั่งมีการขุดพบน้ำมัน และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดูไบเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในวันนี้เราจะพาคุณย้อนไปชมภาพถ่ายของเมืองดูไบ ตั้งแต่ช่วงปี 1950 ไปจนถึงปี 1960 งานนี้บอกเลยว่าจากอดีตถึงปัจจุบัน ในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา ดูไบได้เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ใจกลางเมืองในอดีต ปัจจุบัน การขนส่งในอดีต ปัจจุบัน การก่อสร้างในอดีต ปัจจุบัน สนามบินในอดีต ปัจจุบัน ภาพถ่ายมุมสูงของเมืองในอดีต ปัจจุบัน ชายฝั่งริมทะเลในอดีต ปัจจุบัน อ่าวของเมืองในสมัยอดีต ปัจจุบัน …
-
ผังเมืองโรมันโบราณ ‘Timgad’ เมื่อ 2,000 ปีก่อน จัดวางอย่างสวยงามเป็นระเบียบ
เราเคยคิดมั้ยว่า ในสมัยก่อน เวลาจะสร้างเมือง ต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง แล้วพวกเค้าสร้างยังไงให้มีความอลังและเป็นระเบียบอย่าง Timgad ที่เห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของผู้คนในยุคสมัยโบราณ เมือง Timgad (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอัลจีเรีย ตอนนี้ได้เสื่อมโทรมไปตามเวลา) ถูกสร้างเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว โดยจักรพรรดิโรมัน Trajan เดิมนั้นคนที่อยู่ในเมืองนี้เป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับที่ดินเป็นการตอบแทนจากการรับใช้กองทัพ การสร้างเมืองก็เพื่อเป็นอีกหนึ่งปราการสำหรับต่อกรกับชนเผ่า Berbers ซึ่ง เดิมทีนั้นเมือง Timgad ถูกออกแบบให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยทุกด้านมีความยาว 355 เมตร และทำถนนเส้นตะวันออกให้จรดกับตะวันตก ในขณะที่ถนนเส้นเหนือสู่ใต้นั้น พาดผ่านกลางเมืองพอดี โดยมีประชากรที่พักพิงอยู่ประมาณ 15,000 ราย แต่ต่อมาอีก 300 ปี ผังเมืองได้ขยายขึ้นเป็นสี่เท่าตัว ในช่วงศตวรรษที่สองและสามนั้น เมือง Timgad ดำรงอยู่อย่างสงบสุข โดยในศตวรรษที่สามนี้เมืองได้กลายเป็นศูนย์กลางเพื่อการทำพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ แต่แล้วในศตวรรษที่ห้าเมืองก็อ่อนแอลงเนื่องจากการบุกรุกของประเทศเดนมาร์ก และถูกซ้ำเติมด้วยชนเผ่า Berbers ต่อมา เมือง Timgad ก็ได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในศตวรรษที่หก โดยจักรพรรดิจัสติเนียนไบเซนไทน์ มีการสร้างป้อมปราการที่ด้านนอกเมือง ตึกต่างๆ ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ แต่ผ่านไปอีกราว 200 ปี เมืองก็ถูกบุกรุกและทิ้งร้างอีกครั้ง ปิดตำนานเมืองอายุกว่า 8 ศตวรรษลงไป หลังจากนั้นเมืองถูกปล่อยทิ้งร้างไปตามกาลเวลา มีการสำรวจพบและถูกขุดขึ้นมาจากพื้นทรายในปี 1881…
-
พาย้อนเวลาชมภาพแข่งขัน ‘ยิมนาสติกโอลิมปิก’ เมื่อปี 1908 หาดูได้ยากมากๆ!!
จะว่าไปแล้วจากที่เราชมการแข่งขันกีฬาในทุกๆ วันนี้ ถ้าเทียบกับในอดีตแล้วมันพัฒนาไปมากเลยนะ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีของการจัดการแข่งขัน กฎกติกาต่างๆ ลแะวิธีการเล่นก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป สำหรับในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ย้อนอดีตไปชมภาพเหตุการณ์การแข่งขันกีฬายิมนาสติก ที่โอลิมปิกปี 1908 ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… นี่เป็นกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 และการแข่งขันยิมนาสติก ในตอนนั้นมีการแข่งขันเพียง 2 ประเภทเท่านั้น ซึ่งในปีนั้นก็มีอิตาลีและสวีเดนที่ได้เหรียญทองไป ส่วนอังกฤษเจ้าภาพได้เหรียญเงินร่วมกับนอร์เวย์ เหรียญทองแดงก็เป็นฟินแลนด์และฝรั่งเศส รูปแบบการแข่งขันกีฬายิมนาสติกในช่วงนั้นก็ไม่ได้หวือหวาฟู่ฟ่าแบบในปัจจุบัน สังเกตได้จากชุดแข่งขันที่เหล่านักกีฬาสวมใส่ ดูจะเป็นชุดเรียบร้อยเมื่อเทียบกับปัจจุบันจะเป็นชุดแบบวันพีชรัดรูป ส่วนในเรื่องของการแข่งขันนั้นจะเป็นในรูปแบบของการทรงตัว การกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง การเคลื่อนไหวของร่างกาย อาจจะมีเครื่องมือก็คือ คานทรงตัว หรือม้ากระโดดเป็นต้น เอาล่ะไม่พูดพร่ำทำเพลงมากเราไปชมภาพกันเลยดีกว่า… . . ถึงจะดูเหมือนทำได้ง่ายๆ แต่ดูจากการเกร็งขาแล้ว ทำให้รู้เลยว่าเขาต้องฝึกฝนร่างกายมาอย่างหนักเลยทีเดียว . . . . . . . . การทรงตัวขั้นเทพ… ถ้ามาเทียบกับในปัจจุบันนี่…
-
เปิดเรื่องราวชีวิต ‘Michael Phelps’ จากเด็กโรคสมาธิสั้น สู่นักว่ายน้ำอันดับหนึ่งของโลก…
Michael Phelps เป็นชื่อที่เรามักจะเคยได้ยินบ่อยๆ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะเขาคนนี้คือนักกีฬาว่ายน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกเลยทีเดียว เขากวาดรางวัลและทำลายสถิติโลกไปมากมาย และล่าสุดก็เพิ่งได้เหรียญทองไปแล้ว 2 เหรียญในโอลิมปิกครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นที่ประเทศบราซิลในตอนนี้ แต่ใครเล่าจะรู้ว่ากว่าที่เขาจะกลายมาเป็นนักว่ายน้ำชื่อดังระดับโลกขนาดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง? Michael Phelps เกิดบนเกาะ Baltimore รัฐ Maryland ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตอนที่เขายังเป็นเด็กนั้นเขามีอาการของโรคสมาธิสั้นอีกด้วย เขาไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียน เอาแต่แกล้งเพื่อนจนทำให้คุณครูต้องบอกกับคุณแม่ว่าเขาอาจจะเรียนหนังสือต่อไปไม่ได้ เพราะการกระทำของเขานั้นสร้างปัญหาให้กับเพื่อนร่วมชั้นและคุณครูเป็นอย่างมาก… แต่ถึงอย่างนั้นคุณครูก็ยังอยากที่จะช่วยเหลือเขา โดยถามคุณแม่ของ Phelps ว่าจะช่วยเหลือเขาอย่างไรได้บ้าง แต่คุณแม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง คุณแม่ได้พา Phelps ไปหาจิตแพทย์ จนในที่สุดก็พบว่าเขาเป็นโรคสมาธิสั้นจริง โชคดีที่อาการนี้สามารถรักษาให้หายได้ แต่ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ช่วงแรกของการรักษานั้นเขาได้รับยาเพื่อรักษาโรคสมาธิสั้น อาการของเขาดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีความหุนหันพลันแล่นอยู่ ในที่สุดคุณแม่ก็ตัดสินใจที่จะพาเขาไปฝึกว่ายน้ำตอนอายุ 7 ขวบ เพราะหวังว่าการว่ายน้ำนี้จะช่วยบำบัดอาการสมาธิสั้นของเขาให้ดียิ่งขึ้น หนทางเริ่มเข้าที่เข้าทาง ตอนอายุ 10 ขวบ เขาได้ร่วมแข่งขันว่ายน้ำและคว้าที่สองมาได้ คนที่มีอาการเป็นโรคสมาธิสั้นนั้นมักจะมีนิสัยขี้หงุดหงิด โมโหง่าย…
-
รวมแผ่นภาพโฆษณา ‘โคเคน’ จากยุค 70s ในสมัยที่มันยังเป็นของถูกกฎหมาย!?
ขึ้นชื่อว่ายาเสพติดแล้วย่อมเป็นอะไรที่ไม่ดีแน่นอน เพราะนอกจากจะผิดกฏหมายเสี่ยงติดคุกติดตารางแล้วยังเสี่ยงต่อสุขภาพในภายภาคหน้าอีกด้วย แต่รู้กันหรือไม่ว่ายาเสพติดเกือบจะทั้งหมดที่เรารู้จักกันนั้น เริ่มแรกเดิมทีมักจะถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ก่อนที่มันจะเริ่มแพร่หลายและมีคนนำไปใช้ในทางที่ผิด ‘โคเคน’ ก็เช่นกัน ใครจะไปเชื่อละว่าในช่วงยุค 70s นั้นโคเคนเคยถูกกฏหมายและมีการซื้อขายกันอย่างเปิดเผยแม้แต่ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารกันเลยทีเดียว และภาพดังต่อไปนี้คือโฆษณาชวนเชื่อให้คนอ่านซื้อโคเคนไปสูดเข้าจมูกกันเล่นๆ ก่อนที่มันจะผิดกฏหมาย เมื่อค้าขายได้อย่างเสรียี่ห้อ The Blue Lady ก็เป็นหนึ่งในผู้ค้าโคเคนชื่อดังของยุคนั้น อุปกรณ์การเสพก็ขายกันอย่างเปิดเผยมีให้เลือกทั้งแบบสูบและดม พยากรณ์อากาศคืนนี้คาดว่า ‘หิมะ’ จะตกในบ้านของคุณ (Snow เป็นอีกชื่อเล่นของโคเคนที่ผู้คนยุคนั้นมักจะใช้เรียกกัน) เมื่อมีจำนวนคนใช้โคเคนมาก ก็ต้องมีผลิตภัณฑ์สำหรับล้างโพรงจมูกเช่นเดียวกัน White Lady ลองเชิญพวกเธอไปที่โต๊ะของคุณดูซิ รับรองว่าจะติดใจ!! เนื่องจากผงโคเคนไวต่อความชื้น บรรจุภัณฑ์สำหรับเก็บและกันความชื้นจึงเป็นที่ต้องการตามท้องตลาดเช่นกัน หรือจะเป็นกล่องเก็บโคเคนที่ทำจากไม้ ยุคนั้นก็ทำให้เก๋ไม่แพ้กัน โฉมหน้าของหนังสือคู่มือสำหรับผู้บริโภคโคเคน เป็นจริงเป็นจังกันเลยทีเดียว อีกหนึ่งยี่ห้อที่โฆษณาว่าโคเคนของตัวเองน่ะดีสุดๆแถมยังมีตัวทดลองฟรีให้ลองใช้อีกด้วย ชุดอุปกรณ์การเสพที่มีมาให้ทุกอย่าง แม้แต่ตัวหลอดก็มีการแกะสลักสวยงาม ภาพปกนิตยสาร Head ที่รวมเรื่องราวเกี่ยวกับยาเสพติดแทบจะทุกชนิดในยุคนั้น อีกหนึ่งยี่ห้อ Sno-Blo ที่โฆษณาว่าจะช่วยทำให้คุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยราคาเพียงแค่…
-
เผ็ชชช!!! เมื่ออดีตนางแบบ “Playboy” หวนคืนกลับมาถ่ายแบบอีกครั้งหลังผ่านมาแล้ว 60 ปี
นิตยสาร Playboy ถือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในหมู่ผู้ชายที่ชอบภาพถ่ายของนางแบบนู้ดสวยๆ ซึ่งนั่นแหละคือเอกลักษณ์ของ Playboy เลย Playboy เริ่มก่อตั้งที่ชิคาโกในปี 1953 โดย Hugh Hefner ซึ่งตอนนั้นเขาได้ยืมเงินประมาณ 36,000 บาท (1,000 ดอลลาร์) จากคุณแม่มาเปิดกิจการจนประสบความสำเร็จ และครั้งนี้จะเป็นการรำลึกความหลังของนิตยสารที่ประสบความสำเร็จและสร้างเป็นแบรนด์ชื่อดังได้ โดยการนำเอานางแบบที่เคยเป็นดาวในแต่ละเดือนกลับมาถ่ายแบบอีกครั้งตั้งแต่ดาวของเดือนมีนาคมปี 1954 จนถึง มกราคมปี 1979 โดยช่างภาพ Nadav Kander และตีพิมพ์ลงใน New York Mag Laura Aldridge วัย 59 ปี ดาวแห่งเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1976 อาชีพ สไตลิสต์ นักตกแต่ง Janet Lupo ดาวแห่งเดือนมกราคม ปี 1975 อาชีพ วิสาหกร Candace Jordan วัย 60 ปี ดาวแห่งเดือนธันวาคมปี 1976 อาชีพคอลัมนิสต์ Marilyn Cole…
-
20 ของใช้ที่เราคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่วันนี้จะพาย้อนไปดู “อดีต” ครั้งแรกของมัน!!
โลกเรานี้เปลี่ยนไปทุกวัน ไม่ว่าอะไรต่างก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อให้เข้ากับยุคและสมัย และมีหลายอย่างที่เราใช้มันบ่อยๆ จนไม่ทันสังเกตว่ามันได้เปลี่ยนไปแล้ว วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านย้อนอดีตไปชมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป บางอย่างไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่เวลาผ่านไป มันก็มีสิ่งที่ดีกว่ามาทดแทน เราไปชมกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง!! ตุ๊กตาบาร์บี้ . เม้าส์ . การสื่อสารผ่านวิดีโอ . มีดโกน . กล้อง . แปรงสีฟัน . มือถือ . เข็มฉีดยา . ปากกาลูกลื่น . สก็อตเทป (เป็นชื่อแบรนด์จนเรียกติดปากสินะ) . อาหารกระป๋อง . เครื่องฟังเพลงแบบพกพา . สบู่ . คอมพิวเตอร์…
-
ชมภาพชุด “Playboy Playmates” เมื่อ 40 ปีก่อน กับความสวยเซ็กซี่แบบวินเทจ!!
คงไม่มีใครไม่รู้จักนิตรยสารชื่อดังอย่าง Playboy เดิมทีแล้วมันคือนิตยสารแนวปลุกใจเสือป่าที่เต็มไปด้วยภาพนู้ดแบบมีศิลปะ ซึ่งผู้ชายต่างคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี มาจนถึงตอนนี้ทาง Playboy ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ลงภาพที่วาบหวิวจนเกินไป แล้วหันมาขายงานเซ็กซี่แทน แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปย้อนชมความงามในอดีตจากนิตยาสารชื่อดังอันนี้กัน ใน Playboy จะมีคอลัมน์หนึ่งชื่อว่า Playmate of the Month ซึ่งเป็นภาพของสาวๆ ที่ถ่ายโดยช่างภาพทั่วไปส่งมาให้ แล้วก็ทำการคัดเลือกเพื่อนำมาลง และจะมีการคัดอีกรอบ เพื่อเฟ้นหา Playmate of the Year และนี่คือภาพสาวๆ ที่ได้รับรางวัลนี้ Nancy McNeil – Miss July 1969 Connie Kreski – Playmate of the year (1969) Claudia Jennings – Playmate of the year (1970) Liv Lindeland – Playmate of…
-
ย้อนดูความเปลี่ยนแปลง ‘แฟชั่นในรอบ 100 ปี’ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เปลี่ยนไปแค่ไหน!?
ขึ้นชื่อว่า ‘แฟชั่น’ มันไม่เคยจะอยู่กับที่แน่นอน มีการการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กี่ยุค กี่สมัย แฟชั่นก็ต้องเปลี่ยนไป ตามรสนิยมความชื่นชอบของมนุษย์เป็นหลัก จะว่าไปแฟชั่นนั้นมีมานานมาก เพราะฉะนั้นแล้วเรามาย้อนดูพัฒนาการของแฟชั่นกันดีว่า ตั้งแต่ยุค 1900 จนถึงปัจจุบันเนี่ย มีแฟชั่นแบบไหนบ้าง แล้วเราชอบแบบไหนหรือเคยแต่งแบบไหนกันบ้าง แฟชั่นในสังคมปี 1900-1910 ผุ้หญิงมักจะมารวมตัวกัน และเมื่อพวกเธอเจอผู้ชายที่ดีๆ ซักคน พวกเธอก็จะเต้นรำกับชายคนนั้น เครื่องแต่งกายในสนามเทนนิส ปี 1900-1910 สุภาพสตรีจะใส่ชุดกระโปรงยาวเวลาเล่นเทนนิสในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 แฟชั่นแฟนซี ปี 1920 คู่บ่าวสาวสวมชุดคลาสสิคของศตวรรษที่ 20 โดยหญิงสาวได้แรงบันดาลใจจากดาราในยุคนั้น มีขนเฟอร์และกระโปรงลายลูกไม้เล็ก เป็นแฟชั่นที่สาวๆ ต้องมีติดตู้เสื้อผ้าในปี 1920 ส่วนผู้ชายสวมชุดแบบดั้งเดิมพร้อมผูกเน็คไท สไตล์ปี 1930 มักจะแสดงออกถึงความโศกเศร้าได้ดี แต่ก็ดูมีสไตล์ โดยผู้หญิงสวยในยุคนี้คือ ต้องมีรูปร่างสูง เอวเล็ก สะโพกเล็ก และสาวๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีความสุขกับสะโพกเล็กซักเท่าไหร่ เพราะมีไหล่กว้าง จะเกิดการเปรียบเทียบนั่นเอง ปี 1940 ยุคแห่งเฟอร์ที่แท้จริง ยุคนี้เป็นยุคแห่งสงคราม…
-
เปิดรูปเด็ด!! 21 ภาพประวัติศาสตร์ในอดีต ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนและแทบจะไม่เชื่อว่ามีจริงๆ
ตั้งแต่เราเคยเรียนประวัติศาสตร์มา เราได้เห็นภาพในอดีตมากมายที่ทำให้เราทึ่งกับวิถีชีวิตในอดีต แต่แน่ใจแล้วหรอว่า เราเห็นมาหมดแล้ว และนี่คือ 21 ภาพในประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่เราไม่เคยได้รู้เรื่องราวเหล่านี้เลย มันจะสักแค่ไหนเชียว ไปดูให้เห็นกับตาเลยดีกว่า 1. ภาพการทดสอบความแข็งแรงของหมวกรักบี้ ปี 1912 2. การฝึกทรงตัวบนม้าที่ทำจากไม้ ปี 1935 3. การรักษาอาการปวดหลังด้วยหมี ในโรมาเนีย ปี 1946 4. รูปภาพของ Salvador Dali ขณะจูบมือ Raquel Welch ปี 1965 5. พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 22 ที่มอสโก รัสเซีย ปี 1980 6. Peter Freuchen นักสำรวจขั้วโลกกับภรรยาของเขา ปี 1947 7. กลุ่มศิลปินกับการแสดงผาดโผนที่อาคาร Empire State ปี…
-
ขยี้ตาแรง!! 15 โฆษณาชุดชั้นในในอดีต กับการนำเสนอแปลกๆ ที่คุณอาจไม่เคยเห็น
ปัจจุบันชุดชั้นใน นับว่าเป็นสิ่งที่สาวๆ ให้ความสำคัญมาก และมีให้เลือกหลายพันหลายร้อยแบบ จนเลือกไม่ถูก ส่วนหนึ่งก็มาจากการโฆษณาเนี่ยแหละ แต่ละแบรนด์ต่างงัดโฆษณาเด็ดๆ เอาใจลูกค้า แบบไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว แล้วในอดีตล่ะ สาวๆ เลือกชุดชั้นในแบบไหนกันนะ อะไรคือสิ่งดึงดูดให้สาวๆ ใส่ชุดชั้นในแบบนั้น หรือเป็นเพราะแรงโฆษณา งั้นเราก็มาดู 15 โฆษณาชุดชั้นในในอดีต ที่ถึงกับต้องขยี้ตาดูอีกรอบ!! 1. หืมมมม บราที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนโนบรา แบบนี้ก็ได้หรอออ สองจุดนั้นเด่นเชียว 2. ใส่ชุดชั้นในออกกำลังกายไปเลยยยยยย 3. คนอาร๊ายยย ยิ้มทั้งที่โดนลากผมอยู่!! 4. เปลี่ยนมิติใหม่แห่งวงการชุดชั้นใน ใส่ออกไปเดินเล่นก็ได้ด้วยยย 5. ธีมอินเดียนแดงก็มา สีแดงร้อนแรงป่ะล่าาาา 6. นี่สิ ชุดชั้นในฝันของสาวๆ (สมัยนั้น) 7.เป็นโฆษณาที่เอาไปทำภาพปกหนังได้เลยนะเนี่ยยย 8. แบรนด์นี้ ชิคๆนะ ใส่ตั้งแต่ยายยันลูก 9. อุ๊ต๊ะ!! หนุ่มคงจะคุ้นๆ…
-
พัฒนาการของ 13 หน้าปกนิตยสารดัง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เปลี่ยนไปชัดเจนจริงๆ
National Geographic, Esquire หรือ Glamour เป็นหนึ่งในนิตยสารที่หลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตา และเคยอ่านกันเป็นอย่างดี และเพื่อนๆ คงนะรู้กันดีอยู่แล้วว่านิตยสารหัวนอกเหล่านี้ มีชื่อเสียงที่โด่งดัง จนกลายเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมไปทั่วโลกมานานหลายสิบปี ในวันนี้เหมียวขี้อ้อน จะขอเปิดภาพวิวัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของปกนิตยสารชื่อดัง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และนั่นก็จะทำให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงของนิตยสารเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน People (1974–2016) National Geographic (1888–2016) Playboy (1953–2016) TIME (1923–2016) Rolling Stone (1967–2016) Glamour (1939–2016) Esquire (1933–2016) Harper’s Bazaar (1867–2016) Vogue (1892–2016) Seventeen (1944–2016) GQ (Gentlemen’s Quarterly)(1957— 2016)…
-
พาย้อนอดีต!! ไปดูกันว่าเมื่อ 50 ปีก่อน ‘อาหารบนเครื่องบิน’ เค้าเสิร์ฟอะไรให้ผู้โดยสาร…
สมัยนี้เวลาบินไปเที่ยวไหนทีมักจะบ่นกันว่าอาหารบนเครื่องไม่อร่อยหรือไม่มีรสชาติบ้าง จนกระทั่งหลายคนบอกว่าอาหารบนเครื่องสมัยก่อนมันดูดีกว่ายุคนี้เยอะเลย งั้นเราลองย้อนกลับไปดูสมัย 50 ปีก่อน ว่าอาหารบนเครื่องบินจะเป็นอย่างไร รูปถ่ายเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยสายการบิน Norwegian Air นั่นเอง อย่างที่เรารู้กันดีเมื่อก่อนการเดินทางด้วยเครื่องบินแพงมากๆ ต้องพอมีฐานะระดับนึงจึงจะเข้าถึงได้ . ดังนั้นการบริการบนเครื่องจะต้องดีมากๆเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ดีของผู้โดยสาร . . . อาหารที่เสิร์ฟก็ดูหลากหลายและน่าทานมาก . อาหารหรูๆ ก็มีให้บริการกันเป็นธรรมดาเช่น ล็อบสเตอร์ แชมเปญ หรือ เนื้อแฮมสดๆ . . ผู้โดยสารจะสั่งอาหารจากเมนูมากหรือน้อยเท่าไหร่ก็ได้ บางเที่ยวบินมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์มาให้คำแนะนำด้วย ตัวอย่างรายการอาหารเล็กๆน้อยๆสำหรับผู้โดยสาร…. . . หน้าตาอาหารสำหรับ Business Class ในยุค 80’s ในยุคนั้นบนเครื่องมีพื้นที่ไม่แออัดเหมือนสมัยนี้ และที่สำคัญที่สุดราคาอาหารทั้งหมดรวมไปในค่าตั๋วเครื่องบินแล้วผู้โดยสารไม่ต้องห่วงเรื่องท้องหิวตลอดเส้นทาง เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารบนเครื่องชั้นประหยัดในสมัยนี้แล้วมันช่างน่าอิจฉาซะจริงๆ เลยเนอะ ที่มา boredomtherapy
-
เช็คอายุ!! มหกรรมสินค้าเก่าโบราณที่เคยมีขายในไทยยุคอดีต ใครเกิดทันมั่งยกมือขึ้น!!
ช่วงนี้กระแสวินเทจย้อนยุคกำลังมาแรง จนหลายๆ คนเริ่มตามหาข้าวของเก่าๆ มาสะสม เพื่อย้อนรำลึกถึงวันวานในอดีต และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปดูสินค้าเก่าๆ ที่เคยมีขายในไทยเมื่อครั้งอดีตกาล ซึ่งถ้าใครเคยเห็นสินค้าเหล่านี้ตั้งแต่เด็กๆ ขอรับประกันเลยว่า ท่านอายุไม่น้อยแล้วนะ อิอิ ว่าแล้วก็ไปชมกันดีกว่า!! ผงซักฟอกบรีสและแฟ้บรุ่นแรกๆ ลูกอมฮอลล์ แชมพูหลากหลายยี่ห้อ ชุดชั้นในแอปเปิ้ล แป้งฮอลลีวูด ชุดชั้นในหญิง ยาสระผม แป้งเด็ก น้ำหอม แป้งเด็ก แป้งสำหรับสาวๆ ยาสระผมยี่ห้อดัง แป้งเย็น น้ำยาย้อมผม รึเปล่า? เข้าใจว่าเป็นผงซักฟอก อันนี้คืออะไรหว่า ใครเกิดทันมั่ง ยาสระผมสูตรเย็นมีมาตั้งนานแล้วนะ เป็นไงล่ะ สารภาพมาซะดีๆ ว่าคุ้นเคยกับอันไหนบ้าง…
-
ย้อนความหลัง พาชมโซเชียลรุ่นบุกเบิก “hi5” ในปัจจุบัน เหลือซากอารยธรรมอะไรบ้าง!!
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปี ก่อนได้ ยุกที่อินเตอร์เน็ตยังไม่ได้มีกันทุกบ้านแบบนี้ ใครจะเล่นเน็ตก็ต้องไปที่ร้าน หรือไม่ก็ติดรายเดือนที่แพงมากๆ และได้เน็ตความเร็ว 256 Kbps มาใช้ เป็นอะไรที่ทรมานจริงๆ ในตอนนั้นการติดต่อสื่อสารก็มีไม่กี่ทาง ที่ฮิตๆ กันช่วงนั้นก็คงจะเป็น MSN แต่ก็เอาไว้ใช้คุยอย่างเดียว แต่สิ่งที่เหมือนเป็นสมุดเก็บบันทึกเรื่องราว ก็คงต้องเป็น hi5 โซเวียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตของคนไทยนี่แหละ hi5 เป็นสังคมออนไลน์ยุคแรกที่คนบ้านเราฮิตกันเยอะมากๆ ดาราต่างๆ ก็หันมาใช้กันเยอะแยะ เพื่อให้แฟนคลับสามารถติดตามข่าวสารได้ง่าย เรามารวมสเหน่ห์ใน hi5 คนทำให้คนติดงอมแงมกัน 1. คนที่เล่น hi5 นั้นส่วนมากจะหลงใหลในตัวเลขเป็นอย่างมาก จะคอยเช็กดูว่าวันนี้มีคนมาดูโปรไฟล์เรากี่คน มาเม้นเรากี่คน ให้ 5 เรากี่คน แล้วเราก็จะไล่แอดเพื่อนให้เยอะๆ แข่งกัน 2. ต้องมีเพลงประจำโปรไฟล์ด้วย เวลาเพื่อนกดเข้ามาก็จะได้ยินเสียงเพลงขึ้นแบบอัตโนมัติ 3. ต้องแต่งให้สวยๆ เรียกได้ว่าเด็กไทยพร้อมใจกันเรียนเขียนเว็บมากๆ การเปลี่ยนหน้าโปรไฟล์เป็นอะไรที่ใครๆ ก็ทำได้ มีการก๊อบโค้ด แก้โค้ด ซึ่งของพวกนี้มันต้องเรียนถึงจะทำได้ แต่ด้วยความที่อยากได้หน้าโปรไฟล์สวยๆ ก็ต้องยอมศึกษาเอง…
-
รวมภาพวาดที่คนในยุค 1900 จินตนาการถึง “คนยุค 2000” ว่าจะใช้ชีวิตกันอย่างไร!!
ทุกวันนี้ผู้คนเฝ้าฝันถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงว่าโลกในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร หลายคนอาจจิตนตาการถึงรถบินได้ หลายคนอาจนึกถึงการเดินทางข้ามอวกาศ และอื่นๆ อีกมากมายตามที่เราจะจินตนาการได้ แต่รู้หรือไม่ ผู้คนในอดีตเองก็จินตนาการโลกในปัจจุบันของพวกเราไว้เช่นกัน เราไปชมกันดีกว่า ว่าพวกเขาจินตนาการโลกยุค 2000 ไว้ว่าอย่างไร ผ่านทางโปสการ์ดที่ทำขึ้นมาในช่วงปีคริสตศักราชที่ 1900 ไปเที่ยวขั้วโลกเหนือแบบชิวๆ เรือที่มีล้อ พอขึ้นบกก็ยกขึ้นทางรถไฟ วิ่งไปต่อได้เลย มีเรือดำน้ำชมชีวิตใต้ทะเล อันนี้เกือบถูก บ้านที่สามารถย้ายได้ จริงๆ ทุกวันนี้ก็มีพวกรถบ้าน หรือว่าโมบายด์โฮมอะไรพวกนั้นแทน บินไปไหนมาไหนด้วยบอลลูน เครื่องสร้างสภาพอากาศ อันนี้ล้ำมากๆ ยุคปัจจุบันก็ยังทำไม่ได้ หลังคาเมืองกันฝนและภัยพิบัติ ปีกส่วนตัว บินไปไหนมาไหนก็ได้ เครื่องช่วยเดินบนน้ำ จะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวก พื้นเลื่อนได้ ปัจจุบันก็บันไดเลื่อนหรือทางช่วยเดินในสนามบินไงล่ะ กล้องส่องทะลุกำแพง เครื่องถ่ายทอดสด ปัจจุบันก็ทำได้จริงๆ แล้วนะ . คนยุคโบราณเค้าก็จินตนาการเก่งเหมือนกันนะเนี่ย มีหลายอย่างที่ตรงกับที่พวกเขาคิดเลย แต่ #เหมียวอ๊อดโด้ ว่า…
-
19 โมเม้นท์สุดสวีทของ Taylor Swift กับ Calvin Harris ตอนนี้กลายเป็นเพียงอดีตที่เคยหวาน…
Taylor Swift และ Calvin Harris ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักคนดัง ที่มักจะมีภาพสวีทหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ ออกมาให้บรรดาแฟนๆ ได้ชื่นชมกันในอินสตาแกรมอยู่เสมอ แต่ล่าสุดหลังจากที่สื่อนอกต่างๆ ได้พากันออกมาคอนเฟิร์มว่า นักร้องสาวสุดฮอตได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้ทำเอาบรรดาแฟนๆ ทั่วโลกถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน ถือได้ว่าเป็นข่าวที่สร้างความเศร้าโศกให้บรรดาแฟนๆ เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะได้แยกทางกันด้วยดี แต่บรรดาแฟนคลับอย่างเราก็อยากจะเห็นภาพโมเม้นต์หวานๆ ของคู่รักคู่นี้กันอีกสักครั้ง วันนี้เราก็เลยนำภาพเหล่านั้นกลับมาให้ชมกัน ดูแล้วก็เสียดายแทนเหมือนกันเนาะ T^T สำหรับความรักของคู่นี้ มันเป็นความรักที่ออกมาใจ ไม่ใช่การสร้างภาพใดๆ ทั้งสิ้น มีสักกี่คนกัน ที่จะไปออกเดทพร้อมกับแฟนเก่าสุดหล่อของสาว Taylor ได้ ฝ่ายชายดูสตรองมาก โมเม้นต์ที่แสนน่ารักของ Taylor และ Calvin ในงานประกาศผลรางวัล Billboard Music Awards ดูเหมือนเธอจะรักเขามาก เพราะถึงขั้นประกาศความรัก และขอบคุณแฟนหนุ่มบนเวที เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำเหลือเกิน ที่จริงมันเป็นภาพที่เธออวยพรวันเกิดให้เพื่อนสาวคนสวย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอแชะภาพแฟนหนุ่มแล้วโพสต์อวดแฟนๆ ลงในไอจี …
-
ภาพถ่ายชุดสุดท้ายของ Marilyn Monroe บนชายหาด ความสวยสะพรั่งที่ไม่มีวันหายไป!!
Marilyn Monroe นับว่าเป็นผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่ผู้คนต่างจดจำได้มากที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากการเป็น Sex Symbol ของเธอ ด้วยความสวยที่ไม่อาจหาใครเปรียบได้ เธอจึงเป็นหนึ่งในบุคคลที่โลกไม่มีวันลืม ภาพถ่ายของเธอมีมากมายหลายชุด แต่สำหรับชุดนี้คือภาพถ่ายของเธอบนชายหาด Santa Monica เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1962 แต่ภายหลัง 3 สัปดาห์ต่อมาโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นกับเธอในวัย 36 ปี ตามเดิมแล้วภายถ่ายชุดนี้จะถูกตีพิมพ์ประกอบในหนังสือ Marilyn: Her Life In Her Own Words แต่เนื่องจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ช่างภาพจึงตัดสินใจไม่เผยแพร่ออกไป จนกระทั่งถูกนำมาประมูลในวันที่ 4 มิถุนายน 2015 และเผยแพร่ออกมาในชื่อชุด ‘Last Photos’ . . . . . . . . . . . . . . ที่มา…
-
ถ้าหากเปลี่ยนใบปิดภาพยนตร์ปี 2000s ให้ย้อนยุคไปช่วง 1900s เพิ่มอรรถรสได้อีกแบบ!!
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความนิยมที่เปลี่ยนตามไปด้วย จึงทำให้เราหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตอยู่เสมอ ทีนี้เราลองมาดูในส่วนของภาพยนตร์กันบ้าง หากลองเปลี่ยนภาพยนตร์ในยุคปัจจุบันช่วงค.ศ. 2000 ไปกำเนิดในช่วงค.ศ. 1900 เปลี่ยนชุดนักแสดงทั้งหมดจะดูพิศมัยแค่ไหนกันหนอ The Hobbit: The Battle of the Five Armies (1979) Chappie (1969) Ant Man (1975) Fantastic Four (1967) Guardians of the Galaxy (1986) นำแสดงโดย Michael Jackson รับบท Star Lord The Girl with the Dragon Tattoo (1929) Zodiac (1987) Kill…
-
ชมภาพถ่ายสุดน่ารักของเหล่า “สัตวเลี้ยง” หาดูยากจากปี 1914 นู่นนนนนน!!!
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 1900s – 1950s ได้มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า “แฮร์รี่ ไวเตอร์ ฟรีส์” เขาสนุกกับการจัดฉากเหล่าสัตว์เลี้ยงขึ้นมาแล้วถ่านรูปในปี 1902 แต่ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งตัวอะไรให้มันมาก จนกระทั่งถึงปี 1905 สัตว์เหล่านี้ก็ได้แต่งตัวเป็นคนแล้วเรียบร้อย สมัยนั้นเวลาถึงวันเกิดเขามักจะให้โปสการ์ดกัน เขาก็เลยเอาภาพที่เขาถ่ายมาทำเป็นโปสการ์ดแล้วส่งให้คนรู้จักเรื่อยมา เหล่านางแบบนายแบบทั้งหลายก็มาจากเพื่อนบ้านบ้าง เพื่อนไกลๆ บ้าง หรือแม้กระทั่งร้านขายก็ให้ยืมมาถ่ายรูป เขาแต่งตัวให้กับพวกมัน โดยชุดนั้นมาจากแม่ของเขาและแม่บ้านเป็นคนถักให้ ลองนึกภาพว่าจะจัดหมาแมวให้อยู่ในท่าที่ต้องการมันยากขนาดไหน และไม่ใช่ตัวเดียวด้วยนะ กล้องสมัยนั้นมันก็ไม่ได้ถ่ายแล้วลบทิ้งได้ ดังนั้นแต่ละช็อตต้องใช้ความสามารถจริงๆ เราไปชมภาพถ่ายของเขากันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ไปดูการเปลี่ยนแปลงของ 18 โลโก้ “บริษัทยักษ์ใหญ่” ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันนี้!!
นอกจากชื่อบริษัทแล้ว โลโก้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำของผู้คน ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาก็ต้องมีโลโก้แล้ว แต่พอถึงตอนนี้โลโก้มันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคและสมัยด้วย โลโก้นอกจากจะเป็นรูปที่สวยงามแล้ว มันต้องมีความหมายและหลักการคิดบางอย่างที่ทำให้ออกมาเป็นแบบนั้นได้ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพาทุกท่านไปย้อนอดีตชมโลโก้ของบริษัทดัง จนถึงโลโก้ปัจจุบันว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน Shell โลโก้แรกนั้นวาดเมื่อปี 1900 หลังจากนั้นก็พยายามที่จะทำให้โลโก้เป็นที่น่าสนใจโดยการเพิ่มสีสันและทำให้จำง่ายยิ่งขึ้นจนกลายมาเป็นโลโก้ในปัจจุบันซึ่งเริ่มใช้ในปี 1999 Apple โลโก้แรกของ Apple นั้นออกแบบมาในปี 1976 โดย Ronald Wayne โดยเป็นภาพของนิวตันที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล และนี่คือโลโก้ล่าสุดที่ใช้ในปี 2013 อีกทั้งยังใช้โลโก้รูปเดียวกัน แต่เป็นสีดำทั้งหมดในบางครั้ง ซึ่งโลโก้นี้เริ่มใช้ในปี 1998 Discovery Channel โลโก้อันแรกนั้นถูกใช้ในปี 1985 และโลโก้ใหม่ถูกทำให้ทันสมัยยิ่งขึ้นและใช้ในปี 2009 Mozilla Firefox เดิมทีนั้นเป็นรูปนกฟีนิกซ์ ซึ่งใช้ในปี 2002 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Firefox ในปี 2004 และยังเหลือความเป็นไฟไว้อยู่ ซึ่งโลโก้ล่าสุดนั้นใช้ในปี 2009 General Electric โลโก้แรกถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายในปี 1892…
-
ย้อนอดีตไปดู Mark Calaway กว่าจะมาเป็น Undertaker นักมวยปล้ำขวัญใจประชาชน
หนึ่งในนักมวยปล้ำที่โด่งดังมีชื่อเสียงและแฟนคลับมากที่สุดมาจนถึงปัจจุบันก็คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก The Undertaker อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์ความโหด ดิบ โชว์ปลิ้นตาขาวข่มขวัญศัตรู และความป่าเถื่อนแบบฝ่ายดี พร้อมท่าไม้ตาย Tombstone Piledriver แต่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นแบบนี้ซะทีเดียวเลย ช่วงแรกที่เข้าวงการมาเขาใช้ชื่อว่า Mean Mark Callous แต่งตัวตามสไตล์นักมวยปล้ำทั่วไป ยังไม่มีเอกลักษณ์อะไรที่เด่นเช่นมาก และชื่อจริงของเขานั้นก็คือ Mark William Calaway Mean Mark Callous ฉายาช่วงเข้าวงการมวยปล้ำใหม่ๆ เริ่มฉายแววดีกรีความโหดขึ้นมาอีกนิด แต่ในอดีตแรกสุดก่อนที่จะเข้าวงการมาเลย ถ้าได้เห็นแล้วก็คงจะนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่านี่คือ The Undertaker ปัจจุบันนี้ Undertaker มีอายุ 51 ปีแล้ว และยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการมวยปล้ำอยู่ ว่าแล้วก็คิดถึงช่วงที่ติดมวยปล้ำสมัย ม.ต้น เลยแฮะ #เหมียวเลเซอร์ ชอบดูมาก ชอบถึงกับขนาดเอาไปเล่นกับเพื่อนจนเจ็บตัวเอง ฮร่าาา จากอดีตมาสู่ปัจจุบัน ลูกพี่มาโหดมากเลยล่ะครับ!! ที่มา…
-
ย้อนเรื่องราวในอดีตของเหล่าเหมียว กว่าจะมาเป็นนายของมนุษย์แบบทุกวันนี้ได้ลำบากไม่ใช่เล่น!!
เพื่อนๆ ทราบกันไหมว่าในอดีตเหล่าเหมียวทั้งหลายนั้นถูกเลี้ยงไว้เพื่อกำจัดศัตรูพืชไร่อย่าง ‘หนู’ เท่านั้น แถมยังถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่มีแต่ความสกปรก และความโหดร้ายป่าเถื่อนอีกด้วย แต่ภายหลังจากการจัดงานประกวดแมวขึ้นครั้งแรกในปี 1871 ที่ชื่อว่า Richmond Cat Show ก็ทำให้จุดประสงค์ของการเลี้ยงแมวในยุคนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้คนต่างก็หันมาให้ความสนใจ และเล็งเห็นถึงความน่ารักของพวกมัน โดยผู้จัดงานนี้ขึ้นมามีชื่อว่า Harrison Weir ได้ทำการแจกใบปลิวเพื่อแจ้งรายละเอียดของงาน และสถานที่จัดงาน ซึ่งจัดขึ้นที่พระราชวัง Crystal Palace ภายในงานจะมีการโชว์ความสวยงามของแมวนับร้อยตัวแถมยังมีตั้งหลายสายพันธุ์ และเหตุนี้เองก็ทำให้เจ้าแมวเปอร์เซียเป็นกลายเป็นแมวยอดนิยมกันจนถึงทุกวันนี้ การจัดงานประกวดแมวนี้โด่งดังไปทั่วประเทศอังกฤษและลามไปถึงที่สหรัฐอเมริกา จนถึงกับจัดงานแสดงแมวขึ้นที่สวน Madison Square Garden รัฐ New York ในปี 1895 หลังจากนั้น Harrison Weir ก็ได้จัดตั้งสมาคมแมวนานาชาติหรือ National Cat Club ขึ้นมา โดยเริ่มจากต้นจากการจัดแสดงโชว์เหล่าเหมียวกว่า 320 ตัว คุณ Weir ได้เปลี่ยนมุมมองของเหล่ามนุษย์จากที่เคยคิดว่าเจ้าเหมียวนั้นเป็นสัตว์ที่สกปรก และเป็นเพียงสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อกำจัดหนูเท่านั้น กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงสุดแบ๊วน่าทะนุถนอมไปโดยปริยาย และแน่นอนว่า งาน Richmond…
-
พิสูจน์ความมาไกล!! ศิลปินตระเวนถ่ายภาพผู้คน เปรียบเทียบวัยเด็กและปัจจุบัน ซึ่งต่างกันมาก!!
บางทีการกลับไปดูภาพเก่าๆ ของเราในช่วงที่เรายังเป็นวัยรุ่นหรือเด็กๆ นั้นมันทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ บางทีเราก็สงสัยว่าในตอนนั้นเราทำอะไรแบบนั้นไปได้ยังไงนะ ทำไมทรงผมเป็นแบบนั้น นึกกี่ทีก็ต้องอมยิ้ม Merilee นักออกแบบทำงานที่ Salt Lake City, Utah ก็ได้พูดคุยกับเพื่อนๆเกี่ยวกับเรื่องราวในวัยรุ่น ซึ่งมันทำให้ความทรงจำหลายอย่างของเธอนั้นหวนคืนมา หลายคนก็เล่าเรื่องราวว่าตัวเองแต่งตัวยังไง เฉิ่มแค่ไหน แล้วจู่ๆเธอก็ปิ๊งไอเดียที่จะสร้างโปรเจกต์นี้ขึ้นมา เธออยากให้ทุกคนถ่ายภาพพร้อมกับถือภาพตัวเองในตอนเด็กไว้ เพื่อเปรียบเทียบว่าแต่ละคนมาไกลมากแค่ไหน บางคนเคยเป็นเด็กเกเร โตขึ้นมาได้ดีก็มี เราไปชมภาพถ่ายเหล่านี้กันเลย Merilee, เจ้าของโปรเจกต์, อายุ 11 และ 35 ปี Autumn, อายุ 13 และ 32 ปี Becca, อายุ 12 และ 29 ปี Brooke, อายุ 9 และ 33 ปี Joe, อายุ 15 และ 33 ปี Stacey, อายุ 11 และ 28 ปี Cynthia, อายุ…
-
อดีตแชมป์มวยปล้ำเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขืนเลือดท่วม จนต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 7 ราย เพื่อควบคุมตัวเขา
ฮ่าๆๆๆ เรื่องนี้ถ้าจะบอกว่าผิดก็คือผิดเต็มๆ เลยล่ะ แหม๊…นึกว่าเล่น WWE อยู่หรือว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ งานนี้พี่นอนคุกยาวอย่างแน่นอน >< เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ Vyacheslav Oliynyk อดีตนักมวยปล้ำผู้ครอบครองเหรียญโอลิมปิกยูเครนปี 1996 และตอนนี้เขาก็มีอายุได้ 50 ปีแล้วล่ะ แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมทิ้งลายความเก่งฉกาจที่เคยมีแต่อย่างใด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โดนตำรวจเรียกให้จอดเพราะเขาเมาแล้วขับ…แต่เขาไม่จอด จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตล่ะ Vyacheslav Oliynyk หลังจากพูดคุยปะทะคารมกันไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนึงจึงใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าเขา ทำให้เขาโกรธมาก กระโดดเข้าต่อยตีเจ้าหน้าที่คนนั้นทันที และแม้ว่าจะโดนทุบด้วยไม้กระบอกไปอีกหลายครั้ง เขาก็ยังไม่สะทกสะท้าน!!! ถึงแม้จะมีเลือดท่วมกาย แต่ความแค้นของเขาก็ยังไม่จบ พยายามทำเหมือนคุยดีๆ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้เจ้าหน้าที่ผู้ฉีดสเปรย์ใส่หน้าเขา แล้วสอยเขาให้ร่วงอีกสักป๊าบ ท้ายที่สุดต้องใช้นายตำรวจถึง 7 นายเลยทีเดียว เพื่อจัดการกับเขา และถึงแม้จะถูกจับนอนกับพื้นแล้วก็ตาม ทักษะมวยปล้ำก็มีอยู่!!! คือถึงจะใช้คนถึง 7 คน ก็ยังไม่สามารถใส่กุญแจข้อมือเขาได้ เพราะเขาใช้ทักษะมวยปล้ำที่ร่ำเรียนมานานขัดขืนแถมบอกให้ตำรวจ ‘ไปตายซะ’ ซะด้วย กระนั้นเขายอมให้จับแต่โดยดีเมื่อเพื่อนของเขาขับรถมาถึง และบอกให้เขาใจเย็น โดยเฉพาะให้นึกถึงลูกชายที่นั่งมาด้วยในรถ ที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ทั้งนี้แชมป์มวยปล้ำของเราก็แอบบอกว่าจะไปสู้ต่อในชั้นศาลแน่นอน…
-
รวม 10 ภาพที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนแล้ว!!!
เวลาไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตามเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมรอบกาย สิ่งปลูกสร้าง ค่านิยม หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง ซึ่งหากเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว บางทีอาจไม่มีสิ่งใดเหมือนกันเลยก็เป็นได้ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 10 ภาพเปรียบเทียบ “อดีต” กับ “ปัจจุบัน” ที่จะทำให้เพื่อนๆ ทุกคนเห็นว่า ทุกวันนี้โลกเราเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ของเล่นแมวเมื่อก่อนกับปัจจุบัน การทำเทคนิคพิเศษในหนัง ขนาดของหน่วยความจำสมัยก่อนอันเท่าบ้าน เดี๋ยวนี้อันกระจิ๊ดเดียวเอง การออกกำลังกายสมัยก่อนกับปัจจุบัน การท่องเที่ยวสมัยก่อนกับปัจจุบัน ของเล่นเด็กยุคก่อนกับยุคปัจจุบัน คำว่า “เพื่อน” สมัยก่อน กับคำว่า “เพื่อน” สมัยนี้ เกมเมื่อก่อนมีสีก็กรี๊ดแล้ว ปัจจุบันนี่แทบจะเข้าไปเล่นในโลกจริงๆ โทรศัพท์ยุคก่อนใครจอสีคือเทพสุดๆ เดี๋ยวนี้เครื่องไหนก็เข้าอินเตอร์เน็ตได้ ทีวีเมื่อก่อนแมวนอนสบายเลย เดี๋ยวนี้แมวนอนต้องจุกตายแน่นอน ก็อย่างว่าทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาและเปลี่ยนไปในทุกๆ วัน…
-
“100 ปีแห่งแฟชั่น” พาชมเครื่องแต่งกายของแต่ละทศวรรษว่าจะเฟี้ยวแค่ไหน!!
แฟชั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย ตราบใดที่เรายังมองคนจากการแต่งตัวนั้น การให้กำเนิดแฟชั่นและกระแสใหม่ๆก็จะมีออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการแต่งแตัวมาแล้วมากมาย ซึ่งบอกได้เลยว่ามันแตกต่างกันอย่างสุดๆ อาจจะมีบางยุคที่มีการนำเอาของเดิมมาประยุต์ใหม่ด้วย เราไปชมกันว่า 100 ปีที่ผ่านมานั้นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง 1916 — 1926 1926 — 1936 1936 — 1946 1946 — 1956 1956 — 1966 1966 — 1976 1976 — 1986 1986 — 1996 1996 — 2006 2006 — 2016 ถือเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์แฟชั่นไปในตัวเลยละกัน เหมียวคิดว่าถ้าเราเอาแฟชั่นยุกเก่าๆ มาใส่ตอนนี้ก็ดูไม่แปลกเท่าไหร่นะ เพราะคนเดี๋ยวนี้ก็แต่งตัวกันหลากหลายมากๆ ดูฮิปๆ ขึ้นไปอีก ที่มา brightside
-
20 ภาพนักแสดงฮอลลีวู้ดจากภาพยนตร์ดังในอดีต ปัจจุบันถึงจะอายุเยอะขึ้น แต่ก็ดูดีเหมือนเดิม
เวลาที่ได้นั่งย้อนดูหนังดังเก่าๆ หลายคนคงอยากรู้ว่านักแสดงที่ชื่นชอบในตอนเด็ก ในปัจจุบันพวกเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนใช่ไหมละ ซึ่งถ้าหากใครที่กำลังจะไปเปิดกูเกิ้ลดูละก็ ขอให้หยุดเดี๋ยวนี้เลย เพราะเราได้นำภาพของนักแสดงเหล่านั้นมาให้ได้ชม แบบไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดดูเองแล้ว ว่าแต่จะมีนักแสดงในดวงใจของคุณหรือเปล่านั้น ไปชมกันได้เลย 1.Arnold Schwarzenegger (อายุ 68 ปี) รับบทเป็น คนเหล็ก จาก Terminator 2: Judgment Day ปี 1991 2.Robert Patrick (อายุ 57 ปี) รับบทเป็น หุ่นสังหาร T-1000 จาก Terminator 2: Judgment Day ปี 1991 3.Linda Hamilton (อายุ 59 ปี) รับบทเป็น Sarah Connor จาก Terminator 2: Judgment Day ปี…
-
ชมความงามของเหล่า ‘พริตตี้งานมอเตอร์โชว์’ ในยุคอดีต ก่อนจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้!!
ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าพริตตี้แต่ละคนนั้นพกมาทั้งความสวย ความขาว ความอึ๋ม กันแบบสุดๆ เลยทีเดียว แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว ไม่ได้จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของเหล่าพริตตี้ในงานนะ แต่จะพาย้อนเวลาไปชมเหล่าพริตตี้ในยุคเก่าแก่ ว่าพวกเค้าแต่งตัวยังไงกันบ้าง เอาล่ะไปชมกันเล้ยยย… งามแท้ ชุดดูเรียบง่าย แต่ก็ดูสวยงาม เรียกได้เลยว่า งานโชว์รถของจริง!! แนวกะลาสีเรือน่ารักขิกคุอาโนเนะก็มา นึกว่าอยู่สนามบิน ชุดอย่างกะแอร์โฮสเตสชัดๆ โต้งๆ…รถเป็นไรเหยอออ รูปนี้โหวตทรงผม เอาไป 20 คะแนน!! เซ็ตนี้ก็ดูหรูหราไม่เบาเลยแฮะ ดูสดใสมากเลยค่าาาาา สวยปังเหมาะกับรถมวั่กกก พรีเซนต์รถเสร็จแล้วไปตีเทนนิสกันต่อได้เลยนะเนี่ยยย >< พวกเขาเหล่านี้ต่างก็สร้างสีสันให้กับงานมอเตอร์โชว์ในทุกๆ ปี ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนก็สวยปังกันทั้งนั้นนนน >< ที่มา : dek-d, kapook
-
นักวิทย์คาดการณ์สัตว์ในตำนานอย่าง ‘ม้ายูนิคอร์น’ อาจมีต้นกำเนิดมาจาก ‘แรดไซบีเรีย’
ตามตำนานเทพปกรณัมต่างๆ มักจะมีพ่วงมาด้วยความเชื่อในความเป็นไปของมนุษย์ในอดีต อีกทั้งยังพ่วงเต็มไปด้วยสัตว์ในตำนานต่างๆ ที่มีลักษณะรูปร่างที่แปลกออกไป แต่การที่สัตว์พวกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้ต้องมาจากความคิดของมนุษย์เช่นเดียวกัน และสัตว์ในตำนานที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ก็คือ ‘ม้ายูนิคอร์น’ เป็นม้าที่มีเขาเกลียวแหลมขนาดใหญ่อยู่บนหน้าผาก นักวิทย์ฯ จึงพยายามหาหลักฐานข้อเท็จจริงเพื่อนำมาพิสูจน์ให้รู้ว่ามันน่าจะมีต้นแบบมาจากไหน แล้วก็พบความคล้ายคลึงอย่างหนึ่งกับ ‘แรดไซบีเรีย’ ทั้งนี้เจ้าแรดไซบีเรีย (ชื่อวิทยาศาสตร์ Elasmotherium Sibiricum) นั้นมีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรียเมื่อประมาณ 26,000 ปีก่อน โดยนักวิทย์ฯ ทำการตรวจสอบจากซากฟอสซิลที่ถูกค้นพบในเมืองปัฟโลดาร์ ประเทศคาซัคสถาน (วิจัยที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นฐานของแรดไซบีเรีย) Dr. Andrei Shpanski จาก Tomsk University ได้กล่าวเกี่ยวกับรูปพรรณของแรดไซบีเรียเอาไว้ว่า ‘ส่วนใหญ่แล้วแรดพวกนี้จะเป็นเพศชาย มีขนาดตัวที่ใหญ่มากเป็นปกติ ซึ่งจะเป็นลักษณะที่แตกต่างไปจากที่วรรณกรรมเทพปกรณัมได้เขียนบรรยายรูปพรรณเอาไว้’ แต่ดูจากลักษณะเขาบนหน้าผากแล้วก็น่าจะมีเค้าโครงเป็นต้นแบบของม้ายูนิคอร์นในตำนานได้อยู่เหมือนกันนะเนี่ย เพียงแต่ว่าลดสัดส่วนลงมาให้ดูดีมีสง่าราศีตามจินตนาการนั่นเอง ที่มา : unilad
-
ชมภาพ “นครดูไบ” เมื่อ 40 ปีก่อนกับปัจจุบัน จากดินแดนรกร้าง สู่เมืองเศรษฐีแห่งตะวันออกกลาง..
หากพูดถึงเมืองที่เจริญที่สุดเมืองหนึ่งในแถบตะวันออกกลาง ชื่อของนครดูไบ แห่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต้องโผล่มาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยตึกสูงนับร้อยแห่งและสิ่งปลูกสร้างเจ๋งๆ มากมาย ทำให้หลายๆ คนต่างอยากไปเที่ยวเมืองเจ้าของฉายาแมนฮัตตันแห่งตะวันออกกลางนี่ซักครั้ง แต่รู้หรือไม่ ถ้าใครมีโอกาสได้เห็นนครดูไบเมื่อสี่สิบปีก่อนละก็ จะต้องไม่มีใครคิดแน่นอน ว่าเมืองแห่งนี้จะกลายเป็นเมืองที่เจริญที่สุดเมืองหนึ่งในเอเชีย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย . ภาพชุดนี้ถูกถ่ายเมื่อช่วงยุค 1960s และปัจจุบันถูกเก็บไว้ที่ Sheikh Mohammed Centre for Cultural Understanding เป็นที่นครดูไบ เกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดช่วงหนึ่ง . ในตอนแรกดูไบเป็นเพียงเมืองท่าเล็กๆ ที่ชาวเมืองต่างดำรงชีวิตด้วยการประมงเท่านั้น จนกระทั่งเจ้าผู้ครองนคร ได้ประกาศให้ดูไบ เป็นเมืองที่ไม่เก็บภาษีแม้แต่สตางค์เดียว ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้ามาอาศัยในเมืองท่าแห่งนี้ . จากเมืองท่าเล็กๆ ค่อยๆ พัฒนาเป็นเมืองท่าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในช่วงยุค 1950s ดูไบมีท่าเรือขนาดใหญ่มากมาย ทำให้มีเงินสะพัดหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว . แต่เมื่อถึงช่วงยุค 1960s ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการค้นพบแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ใต้แผ่นดินนครดูไบแห่งนี้ จากเมืองท่าธรรมดาๆ ก็กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในโลก . แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นเสมอไป…
-
แจ่มทุกสมัย!! มหาวิทยาลัยในจีน ทำอัลบั้มภาพเปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน เพื่อฉลองการก่อตั้งครบ 120 ปี
ในตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ เคยลองนำภาพถ่ายในอดีต มาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบัน ในสมัยที่เรากำลังเรียนอยู่ เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยหรือไม่ เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะมีไอเดียแบบนี้ แต่สำหรับมหาวิทยาลัย Shanghai Jiaotong มหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด จัดทำอัลบั้มภาพสุดเก๋ไก๋ เพื่อฉลองการก่อตั้งสถาบันครบ 120 ปี โดยนำภาพถ่ายจากสถานที่ต่างๆ ในมุมเดียวกัน แล้วให้บรรดานักศึกษาได้เข้าไปถ่ายภาพให้เหมือนกับภาพถ่ายของนักศึกษาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการโพสต์ รวมไปถึงท่ายืน ให้ออกมาเหมือนกันเป๊ะๆ จึงเกิดเป็นภาพที่แสนประทับใจเหล่านี้ยังไงละเหมียว ภาพของนักศึกษาในสมัยก่อน และภาพของนักศึกษาในปัจจุบัน แต่ละคนต่างก็สวยหล่อกันตามยุคตามสมัย เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน เหล่านักศึกษาดูสดใส และเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งนั้นเลย แม้ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย มหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่ารุ่นไหนๆ ก็แจ่มทั้งนั้นเลย ถือเป็นไอเดียฉลองการก่อตั้งสถาบันที่เจ๋งมากจริงๆ เพราะไม่ต้องลงทุนลงแรงจัดงานใหญ่โตอะไรมากมาย แต่กลับทำให้เหล่านักศึกษาได้เห็นค่า และภาคภูมิใจที่ได้เรียนในสถาบันแห่งนี้ ช่างเป็นภาพความทรงจำดีๆ ที่น่าประทับใจมากจริงๆ ที่มา : shanghaiist
-
ชมภาพแสดงความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ใครเห็นต้องนึกถึง..
โลกเราเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง แม้กระทั่งวิถีชีวิตของเราก็เปลี่ยนตาม ลองนึกภาพสิ่งที่เราทำเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันนี้เราอาจไม่ได้ทำแล้ว ซึ่งบางทีเรามองย้อนกลับไป เราก็ได้แต่ถอนหายใจว่า เราเคยทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมความแตกต่างของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต กับสิ่งที่เราทำกันในปัจจุบัน ที่เห็นแล้วเราต้องย้อนนึกถึงวัยเด็กอย่างแน่นอน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย เมื่อก่อนพอถึงงานวันเกิด มีของขวัญมากมาย ปัจจุบันคงเหลือแต่บนเฟสบุ๊ค เมื่อก่อนบอกว่าจะออกไปเล่นบอล เดี๋ยวนี้บอกแม่ว่าจะเล่นบอล ดูทีวีเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ เดี๋ยวเด็กนั่งดูทีวีทั้งวัน อ้วนตั๊บเลยทีนี้ สนามเด็กเล่นเมื่อก่อน สนามเด็กเล่นสมัยนี้ เมื่อก่อนได้อีเมล์ทีตื่นเต้นมาก เดี๋ยวนี้ได้จดหมายจริงๆ ตื่นเต้นกว่าอีก เมื่อก่อนไปเล่นหิมะนอกบ้าน เดี๋ยวนี้เล่นบนแท็ปเล็ตได้เหมือนกัน ออกกำลังกายสมัยก่อนคือออกกำลังกายจริงๆ สมัยนี้กว่าจะได้ออกวิ่ง หลายขั้นตอนเหลือเกิน ไปทะเลเมื่อก่อน ไปทะเลสมัยนี้ เมื่อก่อนกลัวหมอมาก…
-
จัดอันดับ 10 เพลงแด๊นซ์ในตำนาน เต้นกันให้ยับสนั่น RCA ปลุกพลังวัยโจ๋ในตัวคุณให้กลับมา!!
#เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าอดีตของคนเรามักจะมีอะไรที่มีประสบการณ์ร่วมกันมาก่อน อย่างเช่นในเรื่องของเสียงเพลงนี่แหละ สมัยก่อนนั้นเพลงที่เปิดกันตามไนท์คลับผับบาร์ต่างๆ ก็มักจะเป็นเพลงแด๊นซ์ที่มีจังหวะชวนโยกนิดๆ (หากฟังในสมัยนี้) โดยย้อนไปในช่วง 10 – 15 ปีที่แล้วนี่ จังหวะแบบนี้นี่แหละ เต้นกันยับเลย!! ก่อนที่กระแส EDM ในปัจจุบันจะมา เพลงเหล่านี้เรียกว่า เพลงแด๊นซ์ (Dance) เฉยๆ ก่อนที่จะถูกจัดแยกประเภทเพลงออกมามากมาย เอาล่ะ!! หากใครยังจำกันได้ ลองมาฟังเพลงแด๊นซ์ในตำนานกันดีกว่า แบบว่าต้องเปิดทุกผับ ฟังปุ๊บ คุ้นหูแน่นอน #10 Jennifer Ellison – Bye Bye Boy #9 Jessica Jay – Broken Hearted Woman #8 Stretch N Vern – Get Up Go Insane #7 Diana King – La…
-
ย้อนอดีตในยุคที่ยังไม่มี GoPro ถือกำเนิด Action Camera รุ่นพ่อ ทั้งหนักทั้งใหญ่ดูลำบากมาก!!
ว่ากันด้วยเรื่องของเทคโนโลยีการถ่ายภาพวิดีโอในปัจจุบัน กล้อง Action Camera ที่ต้องจับภาพด้วยความเร็วสูงและได้ภาพที่คมชัด มีขนาดเล็กกระทัดรัด คงจะหนีไม่พ้นเจ้า GoPro แล้วล่ะ เพราะสามารถนำไปถ่ายภาพเก็บบรรยากาศกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นได้แทบทุกรูปแบบ Action Cam ในอดีตมีขนาดที่ใหญ่มาก แต่ทว่าในสมัยก่อนถ้าหากว่าอยากจะเก็บภาพเหล่านั้นบ้างล่ะ เขาจะทำกันยังไง? ก็ใช้กล้องวิดีโอเหมือนกันนี่แหละ แต่มันจะแตกต่างกันตรงที่ลักษณะการออกแบบดีไซน์และถูกจำกัดในเรื่องของขนาดตัวกล้องที่ดูใหญ่เทอะทะ ดูยากลำบากผิดหูผิดตากับยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่ก่อนจะมาเป็นกล้องที่ติดไว้ตามหมวก ตามรถยนต์มันก็ต้องใช้แบบนี้แหละ เพื่อเก็บบรรยากาศการแข่งขัน ต้องมีรถขนกล้องนำหน้าไปก่อน เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด นอกจากจะเก็บภาพหน้าคนขับแล้ว อยากจะได้ภาพมุมหลังคนขับก็ต้องทำเช่นนี้ ในส่วนของมอเตอร์ไซค์ก็พาซ้อนท้ายไปด้วยกันเลย หากมีพื้นที่ไม่เพียงพอให้คนเก็บภาพ ก็ต้องติดตั้งไว้แบบนี้แทน จะว่าไปแล้วขนาดของกล้องมันช่างใหญ่โตมโหฬารซะเหลือเกิน เริ่มพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง และสามารถติดตั้งไว้บนรถยนต์ได้แล้ว เขยิบใกล้เข้าปัจจุบันอีกซักนิดกับ Action Cam แบบติดหมวกกันน็อค กล้องแบบติดกับหมวกกันน็อคพร้อมตัวป้องกันภาพสั่น ดูเทอะทะใช้ได้ นอกจากจะเก็บวิดีโอแล้ว รูปแบบภาพถ่ายธรรมดาก็มีเช่นเดียวกัน และแล้วก็มาถึงยุคปัจจุบันของ Action Camera…
-
ภาพบรรยากาศโรงงานผลิตตุ๊กตาย้อนวัยวินเทจ ถ้าอยู่มืดๆ คนเดียวในนั้นต้องหลอนบ้างล่ะ!!
ตำนานตุ๊กตาในสมัยก่อนถือว่าเป็นของเล่นที่น่ารักเหมาะสำหรับเด็ก แต่ถ้าลองให้มาอยู่ในสมัยนี้สิ รูปลักษณ์ หน้าตา ของมันกลับให้ความรู้สึกสยองแปลกๆ หรือว่าอาจจะเป็นกระแสหนังสยองขวัญที่ทำให้ตุ๊กตาเหล่านี้ดูน่ากลัวรึเปล่านะ? เอาเป็นว่า #เหมียวเลเซอร์ ขอพาทุกท่านย้อนอดีตกลับไปดูกระบวนการผลิตตุ๊กตาในสมัยยุคค.ศ. 1930 – 1955 ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นภาพขาวดำอยู่ และภายในโรงงานผลิตตุ๊กตานั้นยังคงการผลิตแบบแรงงานคน ไม่มีเครื่องจักรผลิตที่ซับซ้อนอะไรมากมาย ในอดีตตุ๊กตาแบบนี้เป็นที่นิยมมาก (รึเปล่า) แต่พอมาในสมัยนี้ ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไป ทำไมรู้สึกน่ากลัวเหลือเกิน ลองนึกสภาพตัวเองเข้าไปอยู่ในโรงงานคนเดียวตอนกลางคืนแล้วมีหัวตุ๊กตานับร้อยพันจ้องมาที่เราสิ บรื๋อออออออ!! โอ้ยยยยยย!! หลอนจนเกินจะรับไหว ที่มา : theladbible
-
‘ถนนลาดยางมะตอย’ คำนี้มาจากไหน ชื่อของมันเรียกแบบนี้จริงๆ หรือ? มันมีที่มาที่ไปนะจ๊ะ
ในเรื่องของการเรียกสิ่งชื่อของหรืออะไรก็ตามแต่ อย่างชื่อเฉพาะเนี่ย ตอนแรกอาจจะไม่มีชื่อ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ก็เลยต้องหาคำจำกัดความเพื่อไว้ใช้เรียก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ #เหมียวเลเซอร์ สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ‘ยางมะตอย’ ที่ไว้ใช้ทำถนน ทำไมถึงต้องเป็นชื่อนี้ แปลว่าอะไร ชื่อมะตอยมาตั้งแต่กำเนิดเลยหรือไม่? ก่อนอื่นต้องกล่าวถึงคุณสมบัติของยางมะตอยกันเสียก่อน โดยยางมะตอยเป็นสารที่สกัดมาจากน้ำมันดิบ สีดำ เหนียวและมีความหนืดต่ำ นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างถนน ทำหน้าที่ประสานระหว่างวัสดุอื่นๆ เช่นหินและทรายให้เป็นเนื้อเดียวกัน ภาษาอังกฤษจะเรียกยางมะตอยว่า Asphalt มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีกอีกทีว่า άσφαλτος (Asphaltos) แล้วภาษาไทยละ? ยางมะตอยมาจากไหน ยางมะตอยในอดีตของประเทศไทย ของนำมาใช้ก่อสร้างถนนเป็นครั้งแรกโดยบริษัท Maltoy (มาลตอย) จากประเทศฝรั่งเศส ชาวบ้านไม่เคยเห็นยางเหนียวสีดำชนิดนี้มาก่อน ก็เลยเรียกกันว่า ‘ยางมาลตอย’ นำชื่อของบริษัทมาเป็นชื่อเรียก และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ‘ยางมาลตอย’ จึงเพี้ยนกลายมาเป็น ‘ยางมะตอย’ จนถึงปัจจุบัน ที่มา : oknation, wikipedia
-
ยังไงเพื่อนก็ไม่ทิ้งกัน อดีตทีม VRZO ร่วมให้กำลังใจทับทิม พร้อม #teamtubtim เต็มที่
มีกระแสสนั่นโลกออนไลน์ตลอดเวลากันเลยทีเดียวเชียวกับเรื่องภายในของเหล่าอดีตสมาชิก VRZO และผู้ที่ยังคงยืนยันอยู่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย และในตอนนี้คนที่คุณก็รู้ว่าใคร อักษรย่อ ป. ก็กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างซะเหลือเกิน หลังจากที่มีภาพถ่ายคู่กับหญิงสาวอีกราย ชาวเน็ตต่างก็สงสัยกันว่าสาเหตุที่ออกมาเป็นเช่นนี้ก็คงไม่ใช่เป็นเพราะสาวทับทิม มัลลิกา จากที่เคยเป็นภรรยาก็กลายเป็นแค่อดีต ปัจจุบันกลายมาเป็นเพื่อน เธอก็ได้ชี้แจงผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมกับระบุว่ายุติการทำรายการเป็นที่เรียบร้อย และล่าสุดหลังจากนั้นเหล่าผองเพื่อนอดีตทีมงานได้ร่วมกันจัดปาร์ตี้ให้กำลังใจสาวทับทิมกันอย่างล้นหลาม ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกระแสวงในที่ไม่ดีด้วยกันมาก่อน เนื่องจากความเยอะของเธอ ก็ยังกลับมาร่วมงานเลี้ยงด้วย พร้อมกับ #teamtubtim อย่างพร้อมเพรียงกัน พอเห็นแฮชแท๊กขนาดนี้แล้ว คงจะบอกเป็นนัยๆ ได้บ้างว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคงไม่ได้เกิดมาจากสาวทับทิมล่ะเนาะ ที่มา : @tubtimofficial, @louisstryx, @lekoun
-
เผยภาพประวัติศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่นในอดีตผ่านโปสการ์ดที่มีอายุร่วมกว่า 100 ปี
หนึ่งในประเทศอันเป็นที่รักและชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในเอเชีย ดินแดนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความสวยงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่คอยหล่อเลี้ยงให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยี่ยมเยือนได้ตลอด นั่นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น Nihonbashi Dori Tokyo (1992) สะพานข้ามแม่น้ำญี่ปุ่นที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้อยู่ใต้ทางด่วนแล้ว ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย พร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นทั้งในเมืองและธรรมชาตินอกเมือง ซึ่งในอดีตนั้นน้อยคนที่จะได้เห็นกับตา เนื่องจากการเดินทางที่ลำบาก รวมไปถึงหลักฐานภาพถ่ายที่มีไม่มาก แต่ก็ยังมีอยู่บ้าง ดอกซากุระบานสะพรั่งในสวน Mukojima, Tokyo (1907-1918) อย่างในคอลเลคชั่นโปสการ์ดช่วงปี 1900 เผยให้เห็นภาพของเมืองโตเกียวและโยโกฮามา ก่อนภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1923 ย่าน Yoshiwara, Tokyo ที่ยังคงเต็มไปด้วยหญิงขายบริการ สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น Hanayashiki – ฮานายาชิกิ กรุงโตเกียว เริ่มก่อตั้งในปีค.ศ. 1853 ภาพนี้ถ่ายในช่วง 1907-1918 ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่ ย่านบันเทิงแหล่งใหญ่ของโตเกียว Asakusa – อะซากุซะ (1922) อัดแน่นไปด้วยโรงภาพยนตร์หลายโรง…
-
ไปดูวิวัฒนาการของ “ซอมบี้” ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ความน่ากลัวไม่เคยลดลง!!
ในช่วงซอมบี้เฟื่องฟูแบบนี้ เราคงจะเคยได้เห็นซอมบี้ในเวอร์ชั่นต่างๆกันมาแล้ว อย่างในภาพยนตร์หรือซีรีส์ ก็จะนำเสนอซอมบี้ออกมาหลากหลายรูปแบบ บ้างก็เป็นซอมบี้ที่ดุร้าย วิ่งเร็ว บ้างก็เป็นซอมบี้ที่เชื่องช้า หรือบางทีก็เป็นซอมบี้ที่มีความรัก แต่ซอมบี้ในรูปแบบของเกมนั้นจะโหดยิ่งกว่า เพราะว่ามันสามารถใส่จินตนาการเข้าไปได้อีกเยอะแยะมากมาย ทั้งซอมบี้อ้วนที่สามารถระเบิดตัวเองได้ ซอมบี้กล้ามโตที่อึดมากๆ ซึ่งก็แล้วแต่จินตนาการของผู้สร้าง ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปพบกับซอมบี้ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เคยสร้างมา ซึ่งรวมแล้วก็ประมาณ 100 ได้เลย รวบรวมมาเป็นคลิปโดย Top Trending เราไปชมกันเลยว่าจะเป็นยังไงบ้าง ซอมบี้ยุค 1930 “ซอมบี้วูดู” White Zombie เป็นหนังเรื่องแรกเลยที่ทำเกี่ยวกับซอมบี้ เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นที่ดื่มน้ำยาอะไรซักอย่างเข้าไปแล้วกลายเป็นซอมบี้ ซอมบี้ยุค 1960 เริ่มมีแผลพุพอง เป็นหนอง ผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง ใช้เย็นเตรก ถุ้ย!! ซอมบี้ยุค 2000 ดูเป็นซอมบี้ที่โหดขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง 28 Days Later ซอมบี้ยุค 2010 หลายคนอาจจะคุ้นหน้าซอมบี้แบบนี้จากซีรีส์ The Walking Dead ซอมบี้ปี 2015 เป็นซอมบี้จากเกมชื่อดัง Dying Light เพิ่มความโหดขึ้นและมีหลากหลายประเภท นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง…
-
บรรยากาศของประเทศอัฟกานิสถานในอดีตช่วง 1960 ก่อนการเข้ามาของกลุ่มตาลีบัน
ถ้าจะให้จินตนาการภาพถึงประเทศอัฟกานิสถานล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นภาพของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลามอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาอัฟกานิสถานถูกปกครองด้วยกลุ่มตาลีบัน ที่ตั้งตนเป็น ‘รัฐอิสลามแห่งอัฟกานิสถา’ ตังแต่ปีค.ศ. 1996 เป็นต้นมา ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงที่ยังไม่มีกลุ่มตาลีบันเข้ามา ประเทศอัฟกานิสถานเป็นประเทศที่ดูสงบและมีความสุขมากๆ อีกประเทศหนึ่งเลยล่ะ เป็นภาพที่ถ่ายโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวอเมริกัน Dr. Bill Podlich ในช่วงปีค.ศ. 1960 ระบบการศึกษาในอดีต สนามเด็กเล่น การเดินทางด้วยขนส่งมวลชน บรรยากาศริมถนน การพบปะเพื่อนๆ ร่วมผ่อนคลาย บรรยากาศภายในตลาด ผัก ผลไม้สด จากภาพในอดีตนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความสุขชาวอัฟกานิสถานในอดีต ซึ่งในปัจจุบันอัฟกานิสถานได้รับอิสระแล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา ทำการขับไล่กลุ่มตาลีบันและทำการจัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเองเป็นที่เรียบร้อย ที่มา : fooyoh
-
8 เหตุผลที่ว่าทำไมเด็กๆ ในยุคเก่าไม่น่าจะรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ (แต่ก็ยังผ่านมาได้)
เคยลองนึกย้อนไปในสมัยอดีตกาลโน้นของตัวกันบ้างรึเปล่า ในยุคที่ยังไม่มีอะไรมากมายเท่าปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเป็นปกติ ไม่มีพิษไม่มีภัย แตกต่างจากเด็กสมัยนี้ที่ว่าถึงแม้จะมีความปลอดภัยในชีวิตสูง แต่ก็ยังดูอันตรายอยู่ดี แต่ก่อนเนี่ยนะ เหมียวจะบอกให้ การที่เด็กๆ จะออกไปเล่นข้างนอก นั้นก็มีแค่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านเท่านั้นแหละ แถมแต่ละอย่างก็เป็นเหล็กทั้งนั้น อันตรายยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ ของเล่นอะไรต่อมิอะไรก็ดูโหดร้ายไปในสมัยนี้เลย ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้ 1. ลูกดอกเหล็กแห่งความตาย ในอดีตถือว่าเป็นของเล่นที่ฮิตมากๆ เลยนะ แต่ว่าการเล่นที่ถูกต้องก็คือปาให้เข้าเป้าที่แขวนเอาไว้ หรือไม่ก็ปาลงเป้าที่อยู่บนพื้น สำหรับเด็กๆ ไม่ปาเข้าเป้าหรอก เอามาปาใส่กันเอง ซึ่งในช่วงที่มันกำลังฮิตๆ มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 7,000 ราย และถึงตาย 4 ราย จนกระทั่งกลายเป็นของผิดกฏหมายไปซะงั้น 2. เข็มขัดนิรภัยที่มีก็เหมือนไม่มี ในยุคเก่าแก่ ระบบความปลอดภัยบนรถยนต์ยังมีไม่มากนัก จนกระทั่งการมาถึงของเข็มขัดนิรภัยที่ไว้ใช้ลดความเสี่ยงของผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และในตอนนั้นก็ยังไม่มีที่นั่งสำหรับเด็กด้วย ซึ่งไม่มีใครสนใจที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยเลย 3. สนามเด็กเล่นที่ร้อนระอุจนแทบละลาย สมัยก่อนสวรรค์ของเด็กๆ ก็คงจะเป็นสนามเด็กเล่นนี่แหละ แต่ทว่าในยุคโน้นเครื่องเล่นแต่ละอย่างเป็นเหล็กหมดเลย ลองคิดสภาพที่มันตากแดดทั้งวัน แล้วเด็กไปจับเล่นดูสิ มันจะร้อนมากแค่ไหน แถมเครื่องเล่นสไลด์เดอร์อันโปรดปรานของเด็กๆ ก็ไม่ได้มีเบาะทรายหรือพื้นนิ่มๆ…
-
เมื่อภาพถ่ายกรุงปารีสเมื่อ 100 ปีก่อน ถูกนำมาทำให้เป็นภาพสี จะน่าตื่นตาขนาดไหนกัน!!
เขาว่ากันว่า การดูรูปภาพเหมือนกับการได้ย้อนไปในอดีตอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปกติแล้ว เราจะได้มองอดีตแบบขาว-ดำ เนื่องจากภาพที่บันทึกในสมัยนั้น ยังใช้ระบบขาวดำกันอยู่แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น มนุษย์เราสามารถทำให้ภาพขาวดำเหล่านั้นกลายมาเป็นภาพสีได้ นั่นทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับอดีตมากขึ้น และนี่คือผลงานที่ถูกนำมาทำใหม่ของเหล่าตากล้องนามว่า Leon Gimpel, Stephane Passet, Georges Chevalier, และ Auguste Leon ที่ถ่ายไว้เมื่อปี 1914 จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย ว้าว เจ๋งดีนะเนี่ย เหมือนได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเลย เหมียวว่าน่าจะมีคนเอาภาพถ่ายเก่าๆในไทยไปทำสีบ้างนะ มันคงจะเยี่ยมไปเลยแน่นอน ที่มา Viralnova
-
จากภาพเก่าๆ ถูกมาต่อเติมให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มันดูมีสีสัน และมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย
เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีภาพถ่ายในอดีต ซึ่งมันอาจจะเป็นภาพถ่ายของคุณในสมัยที่เคยไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ หรือภาพถ่ายในตอนเด็กๆ แต่คงไม่มีใครเคยคิดที่จะนำภาพในอดีตเหล่านั้น เข้ามาอยู่ในภาพปัจจุบันหรอกใช่ไหมละ คุณอาจจะไม่เคยคิด แต่สำหรับ Taylor Jones ผู้ก่อตั้งบล็อก Dear Photography เขาผุดไอเดียสุดเจ๋ง โดยการนำภาพเก่าๆ มาถ่ายใหม่ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ลองไปชมกันเลยดีกว่าว่าภาพเหล่านั้นจะออกมาเป็นรูปแบบไหนกันบ้าง ว้าววว มันสุดยอดไปเลย จากภาพเก่าๆ ที่ดูธรรมดาๆ ถูกเปลี่ยนให้เข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ แถมยังทำให้ภาพเหล่านั้นดูมีสีสัน และมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง มันทั้งสวยงาม และเป็นไอเดียที่เจ๋งมาก Taylor Jones ได้บังเอิญเห็นภาพเก่าๆ ของครอบครัว หนึ่งในนั้นมีภาพน้องชายของเขาในสมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่ที่โต๊ะอาหาร และตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ เขาก็เห็นว่าโต๊ะในภาพก็ยังอยู่ที่เดิมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ยกเว้นน้องชายของเขาที่โตเป็นผู้ใหญ่ไปแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยปิ๊งไอเดีย นำภาพเก่าๆ ทั้งหมด มาต่อเติมใหม่ซะเลย ซึ่งภาพที่ได้ก็อย่างที่เพื่อนๆ เห็นนี่แหละ สวยดีนะว่ามั้ย สถานที่ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นคนในภาพที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่ไปแล้ว เพื่อนๆ อยากจะลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ดูบ้างมั้ยละ …
-
ย้อนวันเกิน!! รวม 10 เพลงโฆษณายุคไทยวินเท๊จ วินเทจ มีใครทันได้ฟังในสมัยนั้นบ้าง
จะว่าไปแล้วการนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จักก็ต้องผ่านการทำใบโฆษณาไปแปะตามผนังห้างร้านต่างๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือสื่อที่มาในรูปแบบของเสียง ใช่แล้ว มันก็คือเพลงโฆษณานั่นแหละ โดยที่เมื่อก่อนนั้นจะได้ยินตามวิทยุทั่วไป เปิดแบบคั่นระหว่างรายการ ได้ยินครั้งแรกอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร ต่อพอได้ฟังบ่อยๆ ก็เริ่มรู้ถึงเอกลักษณ์สินค้าแต่ละตัว แถมแต่ละอย่างก็ช่างจะสรรสร้างคำมาร้อยให้เป็นเพลงที่ซึมซับเข้าไปในความจำได้อย่างง่ายดาย ฮ่าฮ่า!! มีใครทันอันไหนบ้างเนี่ย 1. ถ่านไฟฉายตรากบ 2. โรงเรียนสอนขับรถ ส.สะพานมอญ 3. แป้งน้ำสมใจนึก 4. แป้งน้ำสปริงซอง 5. โสมเกาหลีตังกุยจั๊บ 6. สเปรย์น้ำหอมคิงส์สเตลล่า 7. พู่กัน สง่า มะยุระ 8. แบตเตอรี่โบลิเด้น 9. ยาหม่องน้ำซีชวนอิ๊ว 10. ครีมย้อมผมซีโอต้า อื้อหืออออออ!! แต่ละเพลง เหมียวนี้ไม่เค๊ย ไม่เคยจะได้ยินมาก่อนเลยนะ ขอบอก แต่ยังจำแว่วๆ เสียงของถ่านไฟฉายตรากับได้อยู่…
-
20 ของใช้ร่วมสมัย ต้นกำเนิดของเทคโนโลยียุคปัจจุบัน ที่เด็กๆ สมัยนี้ไม่เคยได้สัมผัส!!
เหมียวนี่ชอบพาย้อนอดีตเหลือเกิน ฮ่าฮ่า!! ไม่ใช่อะไรหรอก เป็นเพราะว่าคิดถึงช่วงเวลาในยุคสมัยนั้น ที่ว่ามีอุปกรณ์ของใช้ที่เราคิดว่ามันทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากๆ แต่ถ้าเอามาเทียบกับตอนนี้มันกลับกลายเป็นคนละเรื่อง อีกทั้งก็แทบจะไม่มีให้เห็นแล้วด้วย เพราะว่าเลิกใช้ หมดความหมายไปตามกาลเวลา อย่างเช่น 20 ของใช้ในสมัยก่อน ที่ยังคงความร่วมสมัยเอาไว้อยู่ ยังคงมีหลงเหลือให้เห็นบ้าง ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เมื่อยุคใหม่เข้ามาแทนที่ สิ่งของเหล่านี้ก็เริ่มลดบทบาทของตัวเองลง เคยเห็น เคยผ่านอะไรกันมาบ้างจ๊ะ ตามมาดูกัน!! เปิดตัวด้วยสื่อบันเทิงทางเสียง เป็นทั้งเครื่องเล่นเทปและวิทยุ ทันสมัยมาอีกนิด ต้นกำเนิดเครื่องเล่นสื่อเสียงแบบพกพา Walkman ของ Sony ตรางยางปั้มวันที่ เลื่อนหาวันกันเพลินเลย (ยังมีใช้กันอยู่นะ) ค้นหาหนังสือในห้องสมุด ก็ต้องพึ่งพาระบบแคทตาลอคแบบเก่า กว่าจะหาเจอก็ใช้เวลาพอสมควร (เดี๋ยวนี้มีระบบค้นหาภายในห้องสมุดแล้ว) เครื่องอัดวิดีโอแบกบนไหล่ (เจ๋งมากในอดีต ได้ทั้งภาพและเสียง แต่หนักมาก ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว) เครื่องฉาย 3 มิติรุ่นบุกเบิก (ต้องส่องเอานะ) ค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกด้วยสารานุกรมเล่มหนา …
-
7 ภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน ถูกจับย้อนกลับไปสู่สื่อในอดีตบน ‘เทปวิดีโอ’ เพิ่มความขลังได้หลายเท่าตัว!!
หากใครที่เป็นคอภาพยนตร์รับชมที่บ้านในสมัยนู้น (สมัยไหนก็ไม่รู้) แบบว่าช่วงนั้นสื่อภาพยนตร์ภายในบ้านก็คงจะหนีไม่พ้น ‘เทปวิดีโอ’ อย่างแน่นอน ใครที่ซื้อมาซัก 1 ม้วน ก็กรอดูมันอย่างนั้นหลายเดือน หลายปี หรือไม่ก็ออกไปหาเช่าเรื่องใหม่ๆ ตามร้านเช่าวิดีโอ EX_MACHINA จนมาถึงยุคของ VCD, DVD และแผ่น Blu-Ray จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เป็นรูปแบบไฟล์ดิจิตอลรวมไปถึงระบบการให้บริการแบบ Streaming บนอินเทอร์เน็ต ภาพหน้าปกของภาพยนตร์ก็ดูล้ำไปเรื่อยๆ ตามสมัยนิยม แต่ถ้าหากลองนำภาพยนตร์ในปัจจุบันมาบรรจุในวิดีโอเทปแบบเก่าบ้าง หน้าตาของมันดูขลังไปเลยแฮะ!! Only God Forgives Her Kumiko The Treasure Hunter Mad Max Fury Road The Revenanat Under The Skin ภาพโดยรวมของทั้ง 7 เรื่องในรูปแบบวิดีโอเทป …
-
17 ภาพความแตกต่างของอดีตเด็กแสบ VS ปัจจุบัน พวกเขาดูเปลี่ยนไปมากจริงๆ
ในสมัยที่คุณยังเป็นวัยรุ่น เชื่อว่าคุณอาจจะเคยเป็นเด็กแนวสุดแสบ ฟังเพลงแนวร็อค ชอบเจาะ หู สะดือ ปาก กันมาแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อคุณโตขึ้น สิ่งต่างๆ ที่คุณเคยทำมันก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป จากความเฮ้วที่เคยมีอยู่มันก็ลบเลือนหายไป กลายเป็นคนใหม่ ที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และ 17 ภาพทั้งหมดนี้ ก็เป็นภาพตัวอย่างของอดีตเด็กแนวสุดแสบ กับชีวิตของพวกเขาในปัจจุบัน เรียกได้ว่าแต่ละคนนั้นมาไกลมากเหลือเกิน ลองไปชมกันเลยดีกว่า ว่าพวกเขาจะแตกต่างจากอดีตมากแค่ไหน กลายเป็นคุณพ่อไปซะแล้ว จากสาวซ่าส์ ตอนนี้พวกเธอดูเปลี่ยนไปมาก โอ้วววว กลายเป็นเจ้าบ่าวสุดหล่อ แถมภรรยาสวยด้วยนะเนี่ย จากเด็กซ่าส์ ตอนนี้พวกเขาดูเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน สุดยอดไปเลย เธอดูสวยขึ้นนะว่ามั้ย ดูดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว จากเด็กแนวสุดแสบ ในปัจจุบันพวกเขาดูเปลี่ยนไป ขอยกนิ้วให้เลยฮะ พอเวลาเปลี่ยนไป เมื่อพวกคุณโตขึ้น ความเฮ้วเริ่มหายไป กลายเป็นคนใหม่ที่ดูแตกต่าง แต่ละคนมาไกลเหลือเกิน บางคนที่เคยแสบสุดๆ…
-
14 ความทรงจำของคนยุคอดีต สมัยคอมพิวเตอร์เริ่มครองเมือง จนตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว!!
ในช่วงปลายปีค.ศ. 90 ที่กำลังจะเข้าสู่ยุคค.ศ. 2000 ถือว่าเป็นยุคสมัยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างเห็นได้ชัด ที่แน่ๆ เลยก็คือในช่วงที่เริ่มมีการเข้ามาของอินเทอร์เน็ตบ้าน ความเร็ว 56k ที่ต่อเข้ากับโทรศัพท์บ้าน ต่อทีนึงใช้โทรศัพท์ไม่ได้ ใครยกหูโทรศัทพ์ตัดทันที ไหนจะต่อยากอีก ฮ่าฮ่า!! ว่าแล้วก็เริ่มด้วยวิธีการกรอเทปแบบ Manual ยุครุ่งเรืองของซีดีเพลง กว่าจะเลือกหาเพลงฟังในระหว่างขับรถก็เสียเวลาไปนานเลย ว่าแล้วก็มาในเรื่องของการเผาแผ่นเพลง อุตส่าห์เสียซีดีไปตั้งหนึ่งแผ่น แต่เครื่องดันอ่านไม่ออก นี่เลย!! ยุคเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ตบ้าน Browser IE คู่บุญบน Windows กับสิ่งที่ทุกคนจะต้องเคยประสบ มีอินเตอร์เน็ตแล้ว ก็หาโหลดไฟล์ซักหน่อย เอ่อ แต่เมื่อไหร่มันจะเสร็จฟะ!? เอ้า!! โหลดเพลงบ้าง เฮ้ออออ!! เปิดทิ้งไว้ทั้งวันก็ยังโหลดไม่เสร็จ ส่วนอันนี้ก็น่าจะเคยเจอกันบ้าง ลูกกลิ้งเมาส์หาย โดยเฉพาะพวกมือบอนแกะเมาส์ให้ห้องคอมโรงเรียน เกมที่เล่นฆ่าเวลาได้อย่างดีก็คือ เกมไพ่ และพินบอล ในช่วงนั้น ดินสอเปลี่ยนไส้…
-
ฉันคิดถึงเธออยู่!? รวมภาพโปสเตอร์โฆษณาไทยในยุคอดีต คำโปรยโฆษณานี่หรอยแร๊ง!!
ว่ากันด้วยเรื่องของวงการโฆษณาของประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในยุคอดีตที่นิยมทำการโฆษณาผ่านป้ายประกาศหรือโปสเตอร์ต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของตน จนยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สื่อที่ใช้ในการโฆษณาก็เปลี่ยนไปด้วย ย้ายมาเป็นรูปแบบสื่อโทรทัศน์และผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น สบู่ยาบริบูรณ์ กับการบรรยายสรรพคุณ รวมไปถึงราคา แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือ ความคิดสร้างสรรค์ของการคิดคำโปรยโฆษณาที่มักจะทำให้ผู้คนติดภาพลักษณ์อยู่เสมอ รวมไปถึงอารมณ์ขันที่ซ่อนอยู่ภายในโฆษณาเหล่านั้น ซึ่งจากโฆษณาไทยในอดีตก็ทำให้เรารู้ได้ว่า วงการโฆษณาไทยมีความครีเอทีฟสูงมาตั้งแต่ยุคโน้นกันเลยนะเนี่ย!! จอนห์นี่ วอล์คเกอร์ สมัยอดีต ยังเรียกว่า ยอนนี่ โกแท๊กซ์ หรือ ผ้าอนามัยสำหรับท่านผู้หญิง ไม่ยักรู้มาก่อนว่า โอวัลติน เคยทำแป้งกับเขาด้วย ถ่านไฟฉายตรากบหรือจะสู้โปรโมชั่นถ่านไฟฉายตรานกฮูก ถ่ายรูป! ถ่ายรูป! โฆษณาตะเกียง เปลี่ยนจากกลางคืนให้เป็นกลางวัน (โฆษณาความสว่าง) จักรยานมีตั้งร้อยแปด แต่จักรยานอย่างดี มีแห่งเดียว!! เอ้า ปั่นดิปั่น สิงโตตามหลังมาแล้ว ใครๆ ก็ทำเค้กได้ ออด๊าซ กลิ่นหอมแท้ ฟองถึงใจ เคล็ดยอก…
-
ยังจำกันได้ไหม!! ‘ฟลุ๊ค’ นักร้องนำวงไอน้ำ ในวันนี้เขาดูเปลี่ยนไปจากเดิม หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย
เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วสมาชิกบอยแบนด์ที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นวง ’ไอน้ำ’ อย่างแน่นอน ที่สำคัญเหมียวก็เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะจำภาพของ ‘ฟลุ๊ค ไอน้ำ’ นักร้องนำหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ของวงไอน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนั้นหนุ่มฟลุ๊คโด่งดังเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นไอดอลของน้องๆ นักดนตรีจากโรงเรียนมัธยมหลายต่อหลายคนอีกด้วย และเมื่อวันเวลาผ่านไปนักร้องหนุ่มผมยาว เสียงแหบอันทรงเสน่ห์ที่เราได้ยินจนคุ้นหูนั้น ปัจจุบันเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกันนะ ใครที่อยากเห็นภาพในปัจจุบันของหนุ่มฟลุ๊ค ในวันนี้เราได้นำมาให้ชมกันแล้ว แต่ก่อนอื่นเหมียวจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพย้อนวันวานของหนุ่มฟลุ๊คกันก่อนจ้า หลงรักคนมีเจ้าของ แอบมองอยู่ทุกวัน ฮั่นแน่!! รู้นะว่าร้องเป็น >,< และนี่ก็คือภาพปัจจุบันของหนุ่มฟลุ๊คนั่นเองงงง ป้าดดดด หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย ยังจำฟลุ๊คไอน้ำกันได้ไหมเอ่ย? มาย้อนวันวานวงไอน้ำทั้งที ถ้าอย่างนั้นไปชม MV ให้หายคิดถึงกันหน่อยดีมั้ยยยย ที่มา : kapook, ฟลุ๊ค ไอน้ำ
-
ย้อนอดีตเมื่อ 100 ปีที่แล้ว… มาดูยุคปี 2000 ในความคิดของคนในอดีตกันเถอะ!!
ช่วงนี้การย้อนอดีตกลับไปในยุคก่อนๆ ถือว่ามาแรงเลยทีเดียว อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการระลึกถึงภาพยนตร์ Back to The Future ที่ตัวละครได้เดินทางมาถึงวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ปัจจุบันวันนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ถึงแม้จะไม่เหมือนในหนังที่ทำเอาไว้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากเลยล่ะ สถานีขนส่งทางอากาศ ร้านตัดเสื้อผ้า เช่นเดียวกันกับศิลปินในอดีต ช่วงปีค.ศ 1900 ศิลปินชาวฝรั่งเศสนามว่า Jean-Marc Côté และอีกหลายคน ได้ทำการวาดภาพ ปีค.ศ. 2000 ในจินตราการของพวกเขาในชื่อชุด En L’An 2000 จัดทำขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1899 โดยทำเป็นการ์ดสอดไว้ในกล่องบุหรี่และซิการ์ ภายหลังก็นำมาใช้เป็นโปสการ์ดแทน การตามล่าโจรผู้ร้ายของตำรวจ การทำความสะอาดของแม่บ้าน En L’An 2000 แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตในจินตนาการของศิลปินยุคค.ศ. 1900 ที่มีเทคโนโลยีอันก้าวหน้า ทำให้ชีวิตของมนุษย์ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเครื่องจักรและหุ่นยนต์นั้นเข้ามามีบทบาทด้วยและเน้นที่เทคโนโลยีทางอากาศ ร้านตัดผม…
-
คุณ ปุ๊ก โชติกา กับวลีเด็ด ‘ต้น รถเป็นอะไรอ่ะ’ โฆษณาไดเกียวในตำนาน ตอนนี้แต่งงานแล้วจ้า!!
ในวงการโฆษณาสมัยก่อนของประเทศไทยย้อนกลับในช่วงที่มีโฆษณาติดหูกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างโฆษณาของน้ำมันเครื่องไดเกียวที่ฉายบ่อยๆ เมื่อ 20 ปีก่อนหลังพักยกของมวยช่วงบ่ายๆ กับประโยคเด็ดเปิดโฆษณาเลยที่ว่า (เสียงเพลงประกอบโฆษณา ตื่อ ดึ้ง) ‘ต้น รถเป็นอะไรอ่ะ’ จนปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมชมชอบในประโยคนี้อยู่ และเจ้าของวลีเด็ดนี้ก็คือคุณ ปุ๊ก โชติกา ซึ่งปัจจุบันนี้เธอเป็นทั้งเพื่อนรักและผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบสาว เก๋ ชลดา และเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ในอินสตาแกรมของ เก๋ ชลดา และดาราท่านอื่นๆ ก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพของคุณ ปุ๊ก โชติกา ในพิธีวิวาห์พร้อมกับแฟนหนุ่มของตนเองเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคุณเก๋เองก็รับหน้าที่เป็นแม่งานเองด้วย พร้อมทั้งมีแขกในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีกันมากมาย เหมียวก็ขอแสดงความยินดีกับคุณปุ๊กด้วยนะจ๊ะ และผลงานโฆษณาชิ้นนี้จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ที่มา : khaosod
-
ภาพประวัติศาสตร์ เรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตสมัยก่อน ทำกิจกรรมกับจระเข้!!
ปัจจุบันนี้โลกเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คนได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นทะเล ป่า หรือแม้กระทั่งในเมืองใหญ่ก็ยังเที่ยวได้เลย ถ้าคนอยากจะเที่ยว แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านย้อนไปในช่วงปี 1907-1953 ที่ลอส แองเจิลลีส มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันมาก เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนสมัยก่อนเขาฮิตอะไรกันบ้าง แต่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เปิดให้นักเดินทางได้สนุกไปกับกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำร่วมกับเหล่าอัลลิเกเตอร์มากมาย “ฟาร์มอัลลิเกเตอร์” นี้ ก่อตั้งโดย Francis Earnest และคู่หูของเขา Joe Campbell ซึ่งในฟาร์มนั้นประกอบไปด้วยเกเตอร์กว่า 1,000 ชีวิต ซึ่งทางฟาร์มก็อนุญาตให้คนได้ป้อนอาหารกับมันแบบแนบชิดสนิทเหมือนป้อนอาหารหมาเลย อีกทั้งยังมีการแสดงต่างๆกับพวกมันอีกด้วย ดูเหมือนจะน่าเหลือเชื่อ แต่เรามีภาพมาพิสูจน์ นี่คือภาพของโปสการ์ดจากสวนแห่งนี้ เหมือนกับว่าจะบอกให้เราสามารถเอาลูกมาเล่นกับเหล่าเกเตอร์พวกนี้ได้ชิวๆเลยเนอะ หรือบางทีจะให้มันลากรถให้ก็ได้ จูงเป็นหมาเลยก็ดี ภาพโปสการ์ดอาจดูเหมือนแต่ง อ่ะนี่ภาพจริงเลย ใกล้ชิดกันแบบสุดๆ ที่สวนแห่งนี้มักจะให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับเหล่าเกเตอร์แบบมือถึงมือให้มากที่สุด ภาพนี้คือสยองมาก สาวๆได้ชมการป้อนอาหารเกเตอร์แบบอยู่ในบ่อกันเลย ช่วงเวลาให้อาหาร ถือเป็นสิ่งที่สนุกสุดๆ เอิ่ม.. คุณสามารถปล่อยให้ลูกไปเล่นกับเกเตอร์ตัวใหญ่ๆในบ่อได้ด้วยนะ ทำไมเขาไม่กลัวกันเลยล่ะ และที่ประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ ไม่พบสถิติการถูกกัดเลยแม้แต่คนเดียว แต่เหมียวว่าเขาคงแค่ไม่ได้บันทึกลงไปมากกว่าล่ะมั้ง คุณยังสามารถพาหมามาเล่นได้ด้วย …
-
สังขารไม่เที่ยง..ไปชมกันว่า 17 สาวบอนด์ในอดีต ปัจจุบันพวกเธอเป็นอย่างกันบ้าง!!!
หากพูดถึงหนังสายลับสุดเท่ตระกูล James Bond แล้วละก็ สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในแต่ละภาคก็คือใครจะมาเป็นสาวบอนด์นั่นเอง และสาวบอนด์แต่ละคนนั้น ต้องพกดีกรีระดับเซ็กซี่สตาร์ในยุคนั้นๆแทบจะทุกคน แต่วันนี้เหมียวจะพาไปชมว่า เหล่าสาวบอนด์ในอดีตนั้น ปัจจุบันพวกเธอเป็นอย่างไรกันบ้าง ยังเซ็กซี่สวยเก๋เหมือนเดิมหรือไม่ ไปชมกันเลย 1. Ursula Andress (Honey Ryder ): Dr. No (1962) / Casino Royale (1967) 2. Shirley Eaton (Jill Masterson) : Goldfinger (1964) 3. Tania Mallet (Tilly Masterson) : Goldfinger (1964) 4. Diana Rigg (Contessa Teresa di Vicenzo Tracy Bond) :…
-
13 ภาพเซเลปคนดังในปัจจุบัน ที่ถูกนำมาตัดต่อให้คู่กับภาพของตัวเองในสมัยอดีต
เพื่อนๆ เคยนำภาพในอดีตของตัวเองไปตัดต่อคู่กับภาพในปัจจุบัน เพื่อนำมาเทียบความแตกต่างกันหรือไม่ เหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยทำมาก่อนแน่ๆ แต่ถ้าเป็นภาพของเหล่าคนดังในอดีต แล้วถูกนำมาตัดต่อให้คู่กับภาพในปัจจุบันของพวกเขาละ เพื่อนๆ คิดว่าพวกเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหนกัน และถ้าหากใครที่ยังนึกภาพไม่ออกละก็ วันนี้เหมียวได้นำภาพเหล่านั้นมาให้ชมกันแล้ว เราลองมาดูกันว่าจะมีใครบ้าง 1.Meryl Streep 2.Julia Roberts 3.Christina Aguilera 4.Jennifer Lawrence 5.Miley Cyrus 6.Justin Timberlake 7.Beyonce 8.Drew Barrymore 9.Justin Bieber 10.Lady Gaga 11.Robert Pattinson 12.Tom Hanks 13.Sandra Bullock เรียกได้ว่าบางคนก็สวยหล่อ และดูดีขึ้นเป็นกอง ส่วนบางคนก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้ ที่มา…
-
วิศวกรเครื่องยนต์สุดติสต์ ถ่ายรูปเลียนแบบภาพวาดยุค “เรอเนซองส์” ออกมาได้เป๊ะสุดๆ
ภาพวาดยุค “เรอเนซองส์” เป็นอะไรที่มีคุณค่าและน่าจดจำอย่างมาก เพราะศิลปินในสมัยนั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาให้เราได้เรียนรู้มากมาย ช่างภาพชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อว่า Freddy Fabris ก็มักจะหาอะไรเล่นกับรูปวาดเหล่านี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันดี จนกระทั่งเขาได้ไปที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์แห่งหนึ่งใน Midwest แล้วก็ได้ภาพสุดล้ำเหล่านี้มา เป็นการล้อเลียนภาพเรอเนซองส์โดยใช้เครื่องมือต่างๆ “การเปลี่ยนรูปวาดให้กลายเป็นภาพถ่ายถือเป็นอะไรที่ท้าทายผมมากๆ ผมเคารพภาพดั้งเดิมทุกภาพ แต่ก็ต้องการที่จะเปลี่ยนแนวคิดมันใหม่ที่ต่างจากเดิม” เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Huffpost ภาพ The Last Supper โดย Leonardo da Vinci ภาพ The Creation of Adam โดย Michelangelo ภาพ The Anatomy Lesson โดย Rembrandt แรงบันดาลใจจากภาพชุด Rembrandt ที่มา huffpost
-
จำกันได้หรือปล่า? 10 นักแสดงสาวสุดฮอตในอดีต ในปัจจุบันพวกเธอเปลี่ยนไปมากแค่ไหนนะ
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ในวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาย้อนความทรงจำไปกับ 10 อดีตนักแสดงสาวสวยชื่อดังสุดฮอตในอดีต ณ ปัจจุบันนี้พวกเธอจะเป็นอย่างไร และหน้าตาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกัน เชื่อว่าหากเพื่อนๆ คนไหนที่ได้ชมภาพของพวกเธอแล้ว จะต้องนึกถึงผลงานการแสดงของพวกเธอแน่นอน ว่าแต่จะมีใครบ้างนั้น ตามเหมียวมาชมกันเลยจ้า 1.เอ็มม่า วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ 2.นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา 3.อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส 4.ตุ๊กตา อินทิรา แดงจํารูญ 5.ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ 6.คลาวเดีย จักรพันธุ์ 7.น้ำฝน โกมลฐิติ 8.ออม นวดี ศิริชนะชัย (โมกขะเวส) 9.มิ้น อาทิตยา ดิถีเพ็ญ 10.แอน สีเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ โอ้โห…แต่ละคนยังดูสาว…
-
ชีวิตของเจสันชาวไร่ จากอดีตซุปตาร์ค่าเหนื่อยระดับพันล้าน ที่หันมาปลูกพืชเลี้ยงคนยากไร้
วันนี้เหมียวก็มีเรื่องราวดีๆ ของนักอเมริกันฟุตบอลคนหนึ่ง ที่อยู่ๆ เขาก็ผันตัวเองจากนักกีฬาที่ได้เงินระดับร้อยล้านพันล้าน มากลายเป็นชาวไร่ Jason Brown เคยเล่นให้กับ Baltimore Ravens และ St. Louis Rams ในปี 2005-2011 เขาได้เซ็นสัญญาที่มีมูลค่ากว่า 37.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท สัญญาในตอนนั้นทำให้เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่ง Center ที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่พออยู่ในสัญญา ทำเงินได้ราวๆ 25 ล้านเหรียญเขาก็ตัดสินใจทำสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด เพราะเขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีมไหนและเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ หันไปทำในสิ่งที่เขารักและสนใจนอกเหนือจากฟุตบอลคือการทำไร่… เขาเริ่มเรียนรู้จาก Youtube ถึงวิธีการทำไร่ ปลูกมันเทศในที่ดินของเขา ทุกๆ ครั้งที่เขาเก็บเกี่ยวได้ ผลผลิตชุดแรกจะถูกส่งให้กับองค์กรแจกจ่ายอาหารสำหรับคนยากไร้ ถามกันเล่นๆ จะกลับไปเล่นฟุตบอลไหม?? เขาตอบว่า ‘ไม่’ เพราะเขามีความสุขมากกว่าเดิมเสียอีกในตอนนี้… ลองมาชมเรื่องราวสุดประทับใจของเขากันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ เอ…ได้ข่าวมาว่าปีหน้าเขามีแผนที่จะขยายกิจการเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นด้วยนะเออ…
-
หนุ่มทหารผ่านศึกโต้กลับโน๊ตสุดรุนแรง กรณีที่เขาจอดรถในที่คนพิการ ก็เพราะว่าบาดเจ็บจริง!!
ในเรื่องของมนุษย์ชอบแฉและเผือกเรื่องราวของชาวบ้านโดยที่ไม่ตรวจกันให้ดีๆ ก่อน ปล่อยให้อารมณ์ความหงุดหงิดเข้าครอบงำ จนไม่สนว่าอะไรเป็นอะไรอย่างเช่นกรณีที่มีบุคคลปริศนาได้ทิ้งโน๊ตอารมณ์ฉุนเฉียวเกี่ยวกับการจอดรถของพ่อหนุ่มทหารผ่านศึกรายนี้ ใจความภายในโน๊ตก็จะประมาณว่า ‘เฮ้ยพวก เลิกจอดรถในที่จอดรถของคนพิการซะ เพราะสภาพของเอ็งดูไม่เหมือนคนพิการเลยซักนิด ตอนนี้ตูได้ถ่ายรูปทะเบียนรถของเอ็งแล้วก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย เลิกทำตัวเป็นไอ้งั่งซักที’ อ้าวววว!! เจอข้อความมาแบบนี้ เป็นใครก็หงุดหงิดตามซิ แต่พ่อหนุ่มทหารผ่านศึกรายนี้กลับใช้วิธีตอบโต้ที่นุ่มนวล ใช้ภาษาตอบกลับแบบสุภาพและนอบน้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความหมายภายในนั้นตอกหน้าเจ้าของโน๊ตที่เขียนมาด่าได้อย่างลึกซึ้ง ใจความจากย่อหน้าแรก ‘ถึงเจ้าของโน๊ตผู้เกรี้ยวกราด อย่างแรกเลยก็คือ ในรัฐเท็กซัสเนี่ย ถ้ายานพาหนะคันไหนมีป้ายทะเบียนของทหารผ่านศึกที่พิการ ตามกฏหมายแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะแสดงต้องสัญลักษณ์คนพิการแสดงเพิ่มเติม เว้นเสียแต่ว่าไปจอดในที่ของรัฐบาลกลาง อันนี้ไม่ได้ ถ้าหากว่าสงสัยก็สละเวลาซัก 30 วินาที ควักคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (น่าจะหมายถึงสมาร์ทโฟน) ออกมาจากกระเป๋า แล้วก็ค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อน เพราะถ้าหาข้อมูลก่อนคุณก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องมาทิ้งข้อความรุนแรงนี้ให้ผมหรอก’ หน้าตาของป้ายทะเบียนที่ว่าจะประมาณนี้ ‘จากที่คุณถ่ายภาพทะเบียนรถผมไปคุณก็น่าจะเห็นข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า ทหารผ่านศึกผู้พิการของกองทัพสหรัฐฯ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก คุณอาจจะถูกอารมณ์เพียงชั่ววูบครอบงำทำให้รู้สึกว่าเป็นพวก ‘ยอดมนุษย์พิทักษ์ความยุติธรรม’ ที่คิดว่าตัวเองถูกต้องไปซะหมด’ ใจความย่อหน้าที่สอง ‘อย่างที่สองนะ ถึงแม้ผมจะดูไม่เหมือนผู้พิการในสายตาของคุณ แต่ผมสามารถรับรองได้เลยว่าความเจ็บปวดในช่วงล่าง ที่เป็นผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น มันมีมากกว่าความเจ็บปวดที่คุณเคยสัมผัสมาตลอดทั้งชีวิตอย่างแน่นอน หรืออาจจะไม่ก็ได้ เพราะผมไม่รู้ว่ากำลังพูดกับใคร…
-
ระวังตัวเอาไว้ให้ดี!! เผย 8 กลยุทธ์ในการจับโกหก จากอดีตเจ้าหน้าที่ FBI
ความคิดของมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่กระทำความผิด ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผู้กระทำแต่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ กลายมาเป็นบ่อเกิดแห่งการโกหกและหลอกลวงเพื่อให้พ้นผิด โดยที่อดีตเจ้าหน้าที่ FBI นามว่า LaRae Quy ผู้ที่ร่วมฝึกฝนและปฏิบัติหน้าที่ในการอ่านจิตใจของผู้คน เพื่อที่จะเค้นความจริงที่ปกปิดอยู่ภายใน ได้ออกมาเปิดเผยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจับโกหก ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้ 1. สร้างบรรยากาศที่ดีในการเปิดอกพูดคุย โดยทั่วไปแล้วการสืบสวนเพื่อเค้นหาความจริง บทบาทของตำรวจที่ดีมักจะได้ผลดีกว่าตำรวจที่แย่เสมอ (ความเคร่งขรึมและทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา) เพราะฉะนั้นแล้วการเห็นอกเห็นใจในระหว่างบทสนทนา จะช่วยสร้างความไว้ใจให้กับฝ่ายตรงข้าม จนยอมเปิดเผยความจริงให้เราได้รับรู้ 2. สร้างความประหลาดใจกับคำถามที่คาดไม่ถึง คนที่โกหกจะพยายามคาดเดาคำถามของฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ ซึ่งคำตอบที่ออกมานั้นจะไหลลื่นและเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงอาจจะมีการฝึกซ้อมตอบคำถามมาก่อนด้วย ดังนั้นการถามคำถามที่พวกเขาคาดไม่ถึงจะทำให้การตอบคำถามชะงักไปในทันที จนเริ่มไม่มั่นใจที่จะตอบ 3. ให้ฟังมากกว่าพูด (สังเกตอาการของคู่สนทนา) คนโกหกมักจะพูดมากกว่าคนที่พูดแต่ความจริง (มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ) เพื่อพยายามโน้มน้าวและหลีกเลี่ยงประเด็นให้คนฟังรู้สึกคล้อยตามด้วยประโยคที่สลับซับซ้อนเพื่อซ่อนความจริง ลองสังเกตพฤติกรรมในระหว่างที่พูดอยู่ดังต่อไปนี้ 3.1 หากรู้สึกมีความตึงเครียด จะพูดเร็วกว่าปกติ 3.2 ยิ่งเครียดก็จะยิ่งพูดเสียงดังมากขึ้น 3.3 น้ำเสียงเริ่มไม่เป็นธรรมชาติ เปลี่ยนไปจากเดิมในตอนแรกที่เริ่มพูด 3.4 มักจะไอและล้างลำคอบ่อยๆ เวลาที่พูดแล้วรู้สึกเครียด…
-
Google มอบรางวัลให้อดีตพนักงานที่ซื้อเว็บบริษัท เพิ่มให้เป็นสองเท่าเมื่อรู้ว่าเขาจะนำไปบริจาค!!
เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจกับกรณีของพ่อหนุ่ม Sanmay Ved อดีตพนักงานของบริษัท Google จากข่าวก่อนหน้านี้ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้ว ซึ่งทาง Google เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทราบถึงข้อบกพร่องของระบบดังกล่าวต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก Sanmay Ved เป็นผู้ที่เจอข้อบกพร่องของระบบ ทางบริษัทก็ยินดีมอบเงินรางวัลเป็นการตอบแทน ซึ่งเจ้าตัวก็กล่าวเอาไว้ว่า ‘ผมไม่สนใจเงินรางวัลอะไรนั่นหรอก ผมแค่อยากจะให้กรณีนี้เป็นตัวอย่างในการหาข้อผิดพลาดก็เท่านั้นเอง’ โดยระเบียบทั่วไปของบริษัทนั้นจะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ที่สามารถค้นหาข้อบกพร่องเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการหาช่องโหว่ความปลอดภัยของระบบ อย่างไรก็ตามเขาก็เลือกที่จะนำเงินรางวัลที่ว่านี้ มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นดอลลาร์ (355,000 บาท) มอบให้องค์กรการกุศลของอินเดียแทน เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาในสลัม ซึ่งหลังจากบริษัท Google ได้ทราบเรื่องเงินที่เขานำไปใช้ ก็เพิ่มเงินบริจาคให้เป็นสองเท่าไปเลย!! ที่มา : businessinsider
-
รวมดาวของเหล่าแมวเซเลปในยุคอดีตที่อินเทอร์เน็ตยังไม่ทันได้เกิด แต่ดังไปทั่วอาณาจักร!!
ในยุคปัจจุบันการที่จะมีชื่อเสียงโด่งดันในเวลาอันรวดเร็วนั้นก็ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตใช่มั้ยเอ่ย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้มีแมวเซเลปออกมามากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในอดีตก็มีแมวเซเลปเหมือนกัน และพวกมันก็โด่งดังได้เหมือนกันโดยที่ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตเลย ก็เป็นเพราะพฤติกรรมที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวมันเองนั่นแหละ!! Puffy แมวสะกดจิต เจ้าของผู้เลี้ยงดูเจ้า Puffy ก็คือนาย Arthur Newman เป็นนักมายากลที่อ้างว่าแมวของเขานั้นสามารถสะกดจิตผู้คนได้มากกว่า 300 คนแล้ว โดยที่ผู้ที่โดนสะกดจิตนั้นจะต้องนั่งจ้องตาเจ้า Puffy โดยไม่กระพริบตาเลย ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็จะนับตัวเลขไปเรื่อยๆ ซึ่งภายในเวลาไม่กี่วินาทีคนๆ นั้นก็จะตกอยู่ในสภาวะโดนสะกดจิต ซึ่งภายหลังในช่วงปีค.ศ. 1940 Newman และ Puffy ก็ได้ใช้ความสามารถนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการสะกดจิตและเยี่ยวยาเหล่าทหารผ่านศึก Dagwood แมวเล่นปิงปอง ในช่วงปีค.ศ. 1950 เจ้าเหมียว Dagwood ได้ออกรายการโทรทัศน์ที่ชื่อว่า “You Asked For It” ด้วยความสามารถพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องฝึกเลย นั่นก็คือการเล่นปิงปองได้อย่างคล่องแคล่วและเล่นกับเจ้าของของมันที่ชื่อว่า Ted Matson เป็นประจำ Pat แมวกินต้นคริสต์มาส ในช่วงเดือนธันวาคม ค.ศ. 1960…
-
ศิลปินสร้าง “เค้ก” ที่อาร์ตที่สุดในโลก โดยการวาดภาพเขียนอันโด่งดังใส่ลงไป!!
ปกติเราคงจะได้เห็นการเอารุปภาพดังๆมาทำให้ในรูปแบบวาดลงเปลือกไม้ วาดลงบนโต๊ะ หรืออะไรทำนองนี้ แต่วันนี้มันแปลกไปเพราะมันไปอยู่บนของกิน ศิลปินท่านนี้เธอมีชื่อว่า Maria A. Aristidou ซึ่งปกติแล้วเธอมักจะทำงานอาร์ตจากกาแฟ แต่ตอนนี้เธอมาในโปรเจกต์ใหม่นั่นก็คืองานศิลปะบนเค้ก ที่ไม่ใช่การใช้ครีมตกแต่งเหมือนเค้กทั่วไป แต่เป็นการเอาภาพวาดของศิลปินที่โด่งดังในอดีตมาวาดลงบนตัวเค้กเลย งานนี้เธอทำมาเพื่อจัดแสดงในแกลลอรี่เค้ก Patisserie Vienna Boutique ประเทศไซปรัส ซึ่งสีที่ใช้ในการวาดนั้นสามารถทานได้ ดังนั้นเค้กเหล่านี้กินได้ทั้งหมด (แต่ใครจะกล้ากินล่ะ สวยซะขนาดนั้น) อีกทั้งแต่ละก้อนใช้เวลาวาดนานประมาณ 6-10 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว เราไปดูผลงานของเธอกันเลยดีกว่า The Starry Night, 1889 โดย Vincent Van Gogh The Scream, 1893 โดย Edward Munch The Persistence of Memory, 1931 โดย Salvador Dali Girl before mirror โดย Pablo Picasso ที่มา boredpanda
-
ชมประวัติศาสตร์แฟชั่น “ยกทรง” ตั้งแต่ยุคอดีตเกือบ 2,500 ปีจนถึงปัจจุบัน!!
บรา ยกทรง หรือเสื้อชั้นใน ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่จำเป็นต่อผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยปกปิดหน้าอกของเราไม่ให้โป๊ แถมยังช่วยยกกระชับไม่ไม่หย่อยยานอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่ายกทรงนี้ในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปย้อนอดีตไปชมกันว่าเมื่อก่อนคนเขาใส่ยกทรงรูปแบบไหนกันบ้าง เก่าไม่เก่าก็ให้มันรู้ไป เพราะเริ่มมาก็เป็นยุคจักรวรรดิโรมันเลย ถัดมาก็เป็นคอร์เซ็ตแบบที่เราเห็นในหนังย้อนยุค ประมาณปี ค.ศ. 1500 -1800 แล้วก็มาต่อที่ยุค 1920s แล้วหลังจากนั้นจะเป็นยังไงนะ? เราไปดูต่อในคลิปกันเลย ที่มา Glamour Magazine
-
รวม 12 ภาพจากอดีตอันแสนน่ากลัว ที่คุณเห็นแล้วต้องขนลุก!!!
ในอดีต มีเหตุการณ์น่าประหลาดมากมาย ที่เราไม่สามารถใช้ชุดความคิดแบบปัจจุบันในการทำความเข้าใจได้ บางอย่างก็สยดสยองจนคุณไม่อยากเชื่อ ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ วันนี้เหมียวจึงรวบรวม 12 ภาพสุดสยอง ที่คุณเห็นแล้วจะต้องขนลุกอย่างแน่นอน ไม่เชื่อไปชมกันเลย ภาพกองกะโหลกของควายไบซันสูงเท่าภูเขา ทำไมพวกเขาต้องฆ่ามันมากขนาดนี้? สะพานแห่งความตายข้างโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ว่ากันว่าตอนเกิดเหตุระเบิด คนที่อยู่สะพานนี้ เสียชีวิตทันทีทุกคน เด็ก? เข้าไปได้ยังไงเนี่ย หวังว่าเขาจะรอดนะ การประหารด้วยเครื่องกิโยติน กล้าไปต่อรึเปล่า? สองคน? ภาพนักศึกษาแพทย์กำลังผ่าอาจารย์ใหญ่ พร้อมกับประโยค “ประโยชน์ของมนุษย์ไม่ได้จบลงพร้อมกับความตาย” แม่มดในอดีต พวกเขากำลังทำพิธีกรรมบางอย่าง..อยู่ห่างๆน่าจะดีกว่า มนุษย์ไร้คาง ถ่ายรูปคู่กับลูกชาย.. อื้อหือ จะน่ากลัวไปไหนเนี่ย แล้วแบบนี้เหมียวจะนอนยังไง T^T ติดตาแน่เบย ขอตัวไปหาอะไรบันเทิงๆล้างตาก่อนนะ ที่มา Wittyfeed
-
วัยรุ่นญี่ปุ่น แชร์ภาพการแต่งคอสเพลย์ของตัวเอง จากครั้งแรกถึงปัจจุบัน แต่คนละคนดูเปลี่ยนไปมาก
การแต่งคอสเพลย์ เรียกได้ว่าเป็นการแต่งกายเลียนแบบตัวการ์ตูน หรือเกมส์ ที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่น ซึ่งในตอนนี้หนุ่มสาวคอสเพลย์ชาวญี่ปุ่น ก็ได้แชร์ภาพที่แฮชแท็กคำว่า “#キャラの初コスと現在を比較” (คอสเพลย์ครั้งแรก กับปัจจุบันในชุดเดียวกัน) กันอย่างล้นหลามในทวิตเตอร์ และขอบอกเลยว่าการแชร์ภาพความเปลี่ยนแปลงจากอดีตและปัจจุบัน ในการแต่งคอสเพลย์ของพวกเขา ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างมากมายอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. เรียกได้ว่าแต่ละคนดูเปลี่ยนไปมากจริงๆ บางคนก็หล่อ และสวยขึ้นเป็นกองเลยนะเนี่ย ที่มา : rocketnews24
-
รวม 12 ภาพสุดสยองในประวัติศาสตร์ เห็นแล้วระวังนอนไม่หลับ!!!
เมื่ออินเตอร์เน็ตแพร่หลายไปทั่วโลก ดูเหมือนว่าทั้งโลกจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ภาพที่เคยหาดูยากในสมัยก่อน ก็ไม่ใช่ภาพหาดูยากอีกต่อไป และวันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปชม ภาพสุดสยองที่แสนน่ากลัวในอดีต รับรองว่าถ้าคุณได้เห็นแล้วต้องฝันร้ายอย่างแน่นอน ภาพชายชาวยิวที่กำลังจะถูกยิงโดยทหารเยอรมัน ท่าทางเค้าสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง ภาพของผู้เสียชีวิตจากค่ายกักกันของเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพหัวของชาวจีนที่ถูกตัดและวางโดยทหารญี่ปุ่น ภาพของหญิงสาวชาวรัสเซียเสียชีวิตจากการทดลองว่าระเบิดเซรามิกจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกายมนุษย์บ้าง ในหน่วยปฏิบัติการ 731 ของญี่ปุ่น ภาพการเปลี่ยนแปลงภายใน 10 ปีหลังจากใช้ยาบ้าเป็นประจำ คนที่ยืนอยู่ด้านล่างก็ดูเป็นคนปกติธรรมดาใช่มั้ยละ แต่ดูสิ่งที่พวกเขาทำสิ ประเพณีการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนตายของหมู่บ้าน Tana Toraja ในประเทศอินโดนีเซีย ภาพที่เด็กกำลังวิ่งหนีจากฝูงบินทิ้งระเบิดในช่วงสงครามเวียดนาม ผู้หญิงคนนี้ถูกชายในภาพฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ภาพของชายที่ถูกรุมทุบตีในประเทศแถบอาหรับ ภาพการเผาตนเองประท้วงของหลวงพ่อ Thich Quang Duc เนื่องจากทางการเวียดนามใต้ประกาศห้ามนับถือศาสนาพุทธในปี 1963 ภาพของคนไข้ในโรงพยาบาลบ้า ต้องจับล็อคไว้แบบนี้เลย เป็นไงละน่ากลัวหรือเปล่า เหมียวนี่เห็นแล้วขนลุกเลย ขอตัวไปหาอะไรบันเทิงๆล้างตาก่อน ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่เลย บรื๊ออ ที่มา Wittyfeed
-
ย้อนรอยกรุงเก่า…ชมภาพเมืองกรุงเทพเมื่อครั้งในอดีต ประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรเลือนหายไป
หลายๆคนในยุคนี้ คงติดภาพว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงที่มีความเจริญทางสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยร และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ แต่กว่ากรุงเทพจะมาถึงจุดนี้ได้ ก็ต้องผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆมากมาย และพอดีเหมียวไปเจอเว็บ Dek-D และ OKnation ที่เขาได้รวบรวมภาพกรุงเทพในยุคโบราณเอาไว้ เหมียวจึงเอามาให้เพื่อนๆได้ชมกัน รับรองว่าบางภาพ เพื่อนๆจะต้องอึ้งอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย ภาพบริเวณชานเมือง คาดว่าต่อมาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2498 ดอนเมืองปี 2500 สนามบินดอนเมืองปี 2502 ดอนเมืองโทลเวย์กำลังสร้างเมื่อปี 2535 ตรอกอิสรานุภาพ เยาวราชเมื่อปี 2523 แยกราชประสงค์ ปี 2527 ตลาดพญาไท เมื่อปี 2530 ปัจจุบันเป็นคอนโดหมดแล้ว ถนนพระราม 4 แถวหัวลำโพง ปี 2518 ความวุ่นวายย่านประตูน้ำ ปี 2519 ย่านประตูน้ำ สมัยพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำกำลังสร้าง ปี…
-
ความมหัศจรรย์ของพันธุกรรมที่ทำให้คนในตระกูลเกิดต่างยุคกัน แต่หน้าออกมาเหมือนเป๊ะ!!
‘พันธุกรรม’ ช่างเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างมหัศจรรย์จริงๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ได้ว่า คนนี้ลูกหลานใคร เพราะเจ้าตัวพันธุกรรมนี่แหละ ที่สืบทอดลักษณะเด่นๆ ให้กับลูกหลานรุ่นต่อรุ่น แม้ว่าเวลาจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ถ้าลองเอารูปปู่ทวดย่าทวดมาเทียบกับหน้าลูกหลานเหลนโหลนแล้ว เพื่อนๆ จะต้องประหลาดใจรูปเหล่านี้… คุณพ่อตอนหนุ่มกับลูกชาย อันนี้ยังไม่เท่าไหร่ คุณปู่ทวดกับเหลน Olaus (เกิดเมื่อ 1871) กับ Max (เกิดเมื่อ 1991) ป้าทวด Ida (เกิดเมื่อ 1898) กับเหลนสาว Caroline (เกิดเมื่อ 1981) ปู่ทวด Henry Daniel กับเหลน Casey Edward (ถ่ายตอนทั้งคู่อายุ 21 ปีเหมือนกัน) ผู้หญิงสองคนนี้ห่างกันถึง 4 รุ่น ย่าทวด Michelle กับเหลนสาว Lucy (ทั้งคู่ห่างกันถึง 87 ปี!!) ปู่ทวดกับเหลนชาย ย่าทวด Jackie กับเหลนสาสว Caroline ปู่ทวด Louis (เกิดเมื่อ…
-
ประวัติศาสตร์ 80 ปีของประเทศสิงคโปร์ ย่อสู่ฉบับการ์ตูนน่ารักเพียง 16 นาที!!
ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าเรียนรู้มากๆ เลยล่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมักจะมีเรื่องราวอยู่เสมอ แต่สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับประวัติศาสตร์ซะเหลือเกิน แต่เหมียวรับรองว่าคราวนี้ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดเลยล่ะ!! การ์ตูนน่ารักๆ ความยาว 16 นาทีนี้จะบอกเล่าประวัติศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ได้อย่างเต็มอิ่ม จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ตลอดระยะเวลา 80 ปีกว่าจะมาเป็นประเทศสิงคโปร์ในปัจจุบันนั้นจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง การ์ตูนชุดนี้มีชื่อว่า The Violin ผลงานกำกับโดย Ervin Han และทีมงาน จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันชาติของสิงคโปร์ครั้งที่ 50 นั่นเอง เอาเป็นว่าบรรยากาศที่เหลือติดตามชมกันในคลิปเลยดีกว่า!! ที่มา : rocketnews24
-
ประวัติศาสตร์อาวุธของมนุษยชาติ ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน!!! [มีคลิป]
วันนี้เหมียวก็มีสาระดีๆ มาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้วจ้า ซึ่งวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การใช้อาวุธของมนุษยชาติของเรา ในสงคราม หรือการต่อสู้ต่างๆ ตั้งแต่ขวานยันโดรนกันไปเลยทีเดียว ลองมาชมกันได้เลย ตั้งแต่การเริ่มใช้ธนู ราวๆ 40,000 ปีก่อนคริสตศักราช ตอนนั้นเรียกได้ว่าทันสมัยสุดๆ และการใช้ดาบ ที่นิยมแพร่หลายในราวๆ 14,000 ปีก่อนคริสตศักราช ไฟแห่งกรีก ในปี 672 ที่เรียกได้ว่าเผาเรือศัตรูได้เป็นกองทัพเลยทีเดียว ขอตัวกระโดดมาในช่วงยุคศตวรรษที่ 14 ที่เจ้าหอกลูกผสมชนิดนี้ สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับศัตรู ทั้งจากการฟัน และแทง ปี 1411 ที่เริ่มมีการใช้ปืนไฟ เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของปืนยุคบุกเบิกเลยทีเดียว จนกระทั่งปัจจุบันก็รบกันบนโลกไซเบอร์ไปเลย -*- และโดรน ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยไม่ต้องเอาชีวิตของมนุษย์ไปเสี่ยง ว่าแล้วเราลองมาชมวิดีโอกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลยจ้า เรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์การฟาดฟันกันมาอย่างยาวนานของมนุษย์จริงๆ สรุปมาให้ดูกันสั้นๆ แล้วนะจ๊ะ ไว้วันหลังเราจะหาสาระดีๆ แบบนี้มาฝากกันใหม่น้า ติดตามมาชมได้กับเหมียวทุกๆ วันเลย ที่มา: Buzzfeed