Tag: อวกาศ
-
จีนสุดล้ำ สร้าง “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ให้ความรู้เยาวชน กลางเวิ้งทะเลทราย
ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทั้งยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์เอามากๆ สำหรับ Mars simulation base หรือ ฐานทัพดาวอังคารจำลอง ของประเทศจีน เพราะสิ่งก่อสร้างดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทั้งสถานีวิจัยและสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว และยังใช้งบประมาณการสร้างมากถึง 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,989 ล้านบาท) อีกด้วย ฐานทัพจำลองดังกล่าวสร้างขึ้นบนพื้นที่ห่างไกลในเวิ้ง ทะเลทรายโกบี โดยภายในจะมีส่วนสำหรับ “พักอาศัย” ที่ออกแบบให้เหมือนกับการใช้ชีวิตบนพื้นผิวดาวอังคารเลยทีเดียว ชมคลิปวิดีโอ “ฐานทัพดาวอังคารจำลอง” ฐานทัพนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ C Space Plan เป็นโครงการสร้างองค์ความรู้ทางอวกาศให้กับเยาวชน ตามวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่มุ่งเน้นพัฒนาเด็กๆ สู่การเป็นนักบินอวกาศรุ่นใหม่ สถานที่แห่งนี้นับเป็นสิ่งก่อสร้างแรกของจีนที่เป็นทั้งสถานที่ให้ความรู้และสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยในตัว นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นโลเคชันสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย บรรยากาศและภูมิทัศน์ภายนอกนั้นมีความคล้ายคลึงกับพื้นผิวดาวอังคารมาก เพราะเต็มไปด้วยดินและหินสีแดง ส่ายภายในนั้นออกแบบให้เหมือนกับฐานทัพสำรวจดาวอังคาร และยังมีกิจกรรมจำลองการใช้ชีวิตบนดาวอังคารอีกด้วย ภายในจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนพักอาศัย ส่วนแล็บวิทยาศาสตร์ และห้องวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังมีโอกาสได้สัมผัสการออกสำรวจดวงดาว และต้องสวมชุดอวกาศอีกด้วย ล่าสุดทางการประเทศจีนก็ได้เปิดฐานทัพจำลองนี้ ให้กับสื่อหลายๆ ฝ่ายได้เข้าชมแล้ว…
-
พบ “ร่องรอยสิ่งมีชีวิต” จากภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคาร มีทั้งสิ่งก่อสร้างและซากเอเลี่ยน
แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวนั้นถือเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์เราก็ยังไม่สามารถตอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงกันแน่ หลายครั้ง มีข่าวคราวการปรากฏขึ้นของ UFO หรือ เอเลี่ยน ออกมามากมายทั่วโลกอินเทอร์เน็ต แต่นั่นก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเรื่องจริงไม่ใช่ตัดต่อ เร็วๆ นี้เมื่อช่วงวันที่ 13 สิงหาคม 2018 ข่าวคราวที่ว่ามีแววจะพบ “มนุษย์ต่างดาว” ก็กลับมาอีกครั้งหลังจากมีคนพบว่าภาพถ่ายดาวอังคารที่ทางเว็บไซต์ Gigapan ได้เผยออกมาเมื่อปี 2015 นั้น มีบางอย่างดูคล้ายกับ “สิ่งก่อสร้าง” ปรากฏขึ้นในภาพ ภาพถ่ายดาวอังคาร และสิ่งที่ดูเหมือนสิ่งก่อสร้าง เชื่อกันว่าอาจเป็นฐานทัพของเอเลี่ยน แต่เรื่องราวนี้ก็ไม่ได้รับการสานต่อแต่อย่างใด ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างจริงๆ หรือว่าเป็นเพียงการก่อตัวของชั้นหินบนพื้นผิวดวงดาว ทางองค์การ NASA เองก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเรื่องดังกล่าว ล่าสุดในวันที่ 27 สิงหาคม 2018 กลับมีเหตุให้ต้องหันมาสนใจเรื่องของเอเลี่ยนบนดาวอังคารอีกครั้งหลังมีคนพบว่าภาพถ่ายดาวอังคารจาก NASA นั้นเผยให้เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิต เริ่มต้นจากนาย Steve Martin อดีตข้าราชการพลเรือนวัย 56 ปีจากเมืองเคนท์ ที่บังเอิญไปเห็นว่าในภาพถ่ายพื้นผิวดาวอังคารของ NASA นั้น มีภาพคล้ายกับสิ่งมีชีวิตปรากฏอยู่ในภาพ ภาพดังกล่าว Steve เชื่อว่ามองเห็นเหมือนกับ ตา ปาก…
-
นักบินอวกาศเผยสาเหตุ ทำไมถึงไม่มีใครไปดวงจันทร์อีกเลย ทั้งที่เทคโนโลยีก้าวหน้า
ภารกิจอะพอลโล 11 ในวันที่ 20 กรกฎาคมปี 1969 เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของนาซ่า ที่สามารถส่งนักบินอวกาศไปถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จ และสามารถเก็บหินตัวอย่างบนดวงจันทร์ ถ่ายรูปภาพ ทำการทดสอบต่างๆ รวมถึงปักธงลงบนดวงจันทร์ และเดินทางกลับมายังโลกได้อย่างปลอดภัย ผ่านมากว่า 45 ปีแล้วที่ภารกิจเยือนดวงจันทร์ครั้งล่าสุดในเดือนธันวาคม ปี 1972 ของอะพอลโล 17 ก็จบลงอย่างสมบูรณ์ และไม่มีการส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์อีกเลย… มันเกิดอะไรขึ้นกับยุคปัจจุบัน ที่มีเทคโนโลยีทางอวกาศก้าวหน้ากว่า 4 ทศวรรษที่แล้ว การจะขึ้นไปสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์เพื่อสร้างเป็นสถานีเติมเชื้อเพลิงบนอวกาศ คงมีความเป็นไปได้มากขึ้นหากมีการสำรวจที่มากกว่านี้ และไม่แน่ว่าอาจจะส่งเสริมการท่องเที่ยวดวงจันทร์เพิ่มขึ้นมาด้วย “การวิจัยการอยู่อาศัยอย่างถาวรของมนุษย์บนดวงจันทร์คือก้าวต่อไปในทางตรรกะ เรามีข้าวของมากมากที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ จากนั้นก็เอามาทดสอบตามลำดับขั้นเพื่อเรียนรู้ก่อนจะออกไปข้างนอกนั่น” Chris Hadfield อดีตนักบินอวกาศ กล่าวกับทาง Bussiness Insider Chris Hadfield แต่นักบินอวกาศและผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างชี้ว่า อุปสรรคในการตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากปัญหาของงบประมาณที่บานปลายและปัญหาทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปัญหาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเลย… ภารกิจที่จะต้องส่งคนขึ้นไปในอวกาศนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ด้วยข้อกฎหมายบังคับในปี 2017…
-
เครื่องประดับ “โอปอล” ที่ผสมกับไม้และเรซิน สวยงามเหมือนยัดโลกทั้งใบเอาไว้ในนั้น
อัญมณี คือความงดงามที่เกิดจากธรรมชาติ เรามักจะเห็นมันปรากฏอยู่บนเครื่องประดับทั้งหลายที่หรูหราสวยงาม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบและวิธีการนำอัญมณีมาใช้ให้มีคุณค่ามากที่สุด อย่างเช่นศิลปินงานไม้นามว่า Miha คนนี้ที่ได้ผลิตเครื่องประดับต่างๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้และเรซิน ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า Wood All Good ผลงานจาก Wood All Good ล่าสุดได้มีการผสมผสานอัญมณีที่ชื่อว่า โอปอล เข้าไปด้วยเพื่อทำออกมาเป็นเครื่องประดับสุดงดงาม ใครจะไปเชื่อว่าเมื่อนำไม้ผสมเข้ากับเรซินและโอปอล จะทำให้เกิดเครื่องประดับมีความงดงามเฉพาะตัวแบบหาที่ไหนไม่ได้ หากนำไปสวมใส่ร่างกายมันดูราวกับนำสถานที่ธรรมชาติบนโลกมาแขวนไว้เลยล่ะ! 1. เหมือนริ้วของออโรราที่ทอประกายบนยอดเขา 2. เหมือนผิวโลกสีทองที่กลับด้านเข้าหากัน 3. ดูเหมือนกอสาหร่ายที่พลิ้วไหวอยู่ใต้ผืนน้ำ 4. ราวกับผาหินที่มีฉากหลังเป็นห้วงอวกาศ 5. หรือนี่จะเป็นแบบจำลองของพื้นผิวดวงจันทร์กันแน่นะ!? 6. มันต้องไม่ใช่ของที่มีบนโลกแน่ๆ 7. ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว 8. แหวนวงนี้เหมือนบรรจุดินแดนหิมะเอาไว้ข้างในเลยล่ะ 9. เก็บแสงออโรรามาห้อยคอ 10. เก็บน้ำทะเลมาห้อยคอ 11. ผาหินและแสงออโรรา …
-
ยูทูบเบอร์สายวิทย์ ทดลองส่ง “ขนมปัง” ขึ้นอวกาศ แล้วดูว่ากลับมาจะยังกินได้ไหม!?
เวลาที่เรานึกถึงคนทำคลิปส่งสิ่งของต่างๆ ไปนอกอวกาศ ของส่วนใหญ่ที่เราจะนึกถึงนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นกล้องและโทรศัพท์ เพื่อทดสอบแรงกระแทกหรือความทนทาน แต่ว่าน้อยคนมากๆ ที่จะส่งของกินขึ้นไปและนำกลับมา ด้วยเหตุนี้เจ้าของช่องยูทูบนามว่า Tom Scott จึงขอเป็นอาสาทดสอบส่งอาหารขึ้นไปสุดขอบอวกาศ เพื่อทดสอบกันดูว่าอาหารที่ขึ้นยังจุดที่มีอากาศเย็นสุดขีดและมีออกซิเจนที่น้อยมากๆ จะส่งผลอย่างไรกับขนมปังกระเทียม!? การทดสอบนี้เป็นการร่วมมือกันของคน 3 คน แน่นอนว่าคนแรกก็คือตัว Tom Scott เอง ส่วนคนที่สองนั่นก็คือ Steve Randall จาก randomengineering.co.uk ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการส่งสิ่งของต่างๆ ไปยังอวกาศด้วยลูกโป่ง และคนที่สาม Barry Lewis ชายผู้เป็นคนอบขนมปังกระเทียมแสนอร่อยมาให้ทีมงานได้ทดสอบกัน การทดสอบนั้นเริ่มด้วยการมัดขนมปังกระเทียมหั่นครึ่งไว้กับกล่องโฟมที่ผูกติดกับลูกโป่งยักษ์ โดยตัวกล่องนั้นจะมีกล้องที่คอยบันทึกภาพที่สามารถวัดอุณหภูมิไปด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้ดูว่าในแต่ละช่วงความสูงนั้นสภาพอากาศเป็นอย่างไร ตัวขนมปังนั้นต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงกับอีกราว 52 นาทีเพื่อไปถึงจุดสูงสุดของชั้นบรรยากาศก่อนที่ลูกโป่งจะแตก ซึ่งถือเป็นจุดสูงที่สุดก่อนจะหลุดไปนอกชั้นบรรยากาศจริงๆ ซึ่งตอนที่ลูกโป่งแตกนั้นบรรยากาศรอบๆ มีอุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยหลังลูกโป่งแตกมันก็ค่อยๆ ลอยกลับสู่โลกอีกครั้ง Tom ได้บอกว่าจริงๆ แล้วเคยมีคนส่งอาหารออกไปสุดขอบจักรวาลเหมือนที่เขาเคยทำ แต่ว่าหลังจากที่ของที่พวกเขาส่งออกไปกลับมาคนที่ทดลองกลับไม่กล้ากินมัน…
-
มาดูโรงแรมแห่งแรกใน “อวกาศ” กับค่าห้องคืนละ 25 ล้านบาท พร้อมเปิดบริการปี 2022!!
ปกติแล้วโรงแรมหรูๆ ระดับ 4-5 ดาว คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็เรียกได้ว่ายากที่จะเข้าไปพักอยู่แล้ว ในขณะที่มหาเศรษฐีบางคนก็พักจนเบื่อกันเลยทีเดียว แถมตอนนี้มันยิ่งล้ำไปมากกว่านั้นเยอะ มหาเศรษฐีทั้งหลายคงจะไม่เบื่ออีกต่อไป เพราะมีประกาศออกมาว่า โรงแรมหรูแห่งใหม่ ได้เกิดขึ้นแล้วใน “อวกาศ” และมีกำหนดเปิดรับแขกเข้าพักในปี 2022!! โรงแรมดังกล่าวมีชื่อว่า The Aurora Station ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Orion Span ในรัฐเท็กซัส ด้วยฝีมือทีมพัฒนาที่มากประสบการณ์ด้านสำรวจอวกาศจากองค์การ NASA ในโรงแรมอวกาศนี้จะผู้ดูแลอยู่สองคนด้วยกัน ส่วนห้องพักก็มีไว้สำหรับแขก 6 คน ส่วนราคาเข้าพักนั้นก็ย่อมเยาเพียง 296 ล้านบาท!! โดยจะเข้าพักเป็นเวลา 12 วัน ซึ่งหากมีโอกาสได้ไปเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็เพียงพอแล้ว แขกผู้เข้าไปพักนั้นใช่ว่าจะกระทำการต่างๆ ได้ตามอำเภอใจ เพราะทุกคนที่จะเข้าไปพักยังโรงแรม Aurora Station แห่งนี้จะต้องเข้ารับการฝึกฝนการใช้ชีวิตในอวกาศอย่างจริงจังเป็นระยะเวลา 3 เดือนเสียก่อน ทั้งนี้ Frank Bunger ผู้บริหารใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัท Orion Span ก็ได้อธิบายว่า “เมื่อเปิดตัวเป็นทางการแล้ว…
-
อวกาศนั้นเต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับ 8 เรื่องประหลาดบนพื้นที่อันกว้างใหญ่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
อวกาศเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับ ด้วยความที่มนุษย์เรายังไม่สามารถออกไปนอกโลกได้แบบสบายๆ ทำให้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายบนนั้นที่เรายังไม่อาจรับรู้ถึงมันได้ ถึงอย่างนั้นคนเราก็ยังพยายามที่จะค้นหาคำตอบของสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้เหล่านั้น และนี่คือ 8 เรื่องราวสุดประหลาดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในอวกาศ บ้างก็มีเหตุผลมารองรับแล้ว บ้างก็ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ อพอลโล 10 ได้ยินเสียงเพลงจากอีกด้านของดวงจันทร์ ลูกเรือของอพอลโล 10 อ้างว่าพวกเขาได้ยิน “ดนตรีแปลกๆ” จากอีกด้านของดวงจันทร์ นักบินอวกาศสูญเสียการติดต่อกับโลก ดังนั้นเสียงเหมือนการผิวปากที่มีความถี่ต่ำในตอนนั้น จึงไม่สามารถมาจากโลกของเราได้ และปรากฏการณ์นี้ก็ยังไม่ได้รับการอธิบายแต่อย่างใด การใช้ชีวิตในอวกาศสามารถเปลี่ยนยีนของคุณ และทำให้คุณยิ่งสูงขึ้นได้ Mark Kelly และ Scott Kelly เป็นฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกัน และยังเป็นนักบินอวกาศด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากการเดินทางสู่อวกาศของ Scott Kelly ยีนของเขา 7% ได้เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับ Mark Kelly นอกจากนั้น Scott ยังสูงขึ้นพอสมควรเนื่องจากแรงดึงดูดที่น้อย ทำให้มีการขยายของกระดูกไขสันหลังมากขึ้นด้วย มีลูกกลมๆ สีเขียวเคลื่อนเข้าหายานอวกาศเมอร์คิวรี Gordon Cooper สังเกตเห็นสิ่งรบกวนนอกยานอวกาศ ในขณะที่กำลังโคจรรอบโลกในช่วงต้นของภารกิจเมอร์คิวรี เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างเล็กๆ ของยานเขาสังเกตเห็นลูกกลมๆ สีเขียวเคลื่อนที่เข้าหาเขา เขากังวลกับสิ่งที่เห็น และเริ่มขั้นตอนสถานการณ์ฉุกเฉิน…
-
สมาคมโลกแบน ทุ่มเงิน 600,000 ส่งจรวดพิสูจน์ความเชื่อ แต่..เอิ่ม… งานนี้จบไม่สวยแฮะ!!
แม้หลายร้อยปีที่ผ่านมา ได้มีหลักฐานมากมายออกมายืนยันว่าโลกเรานั้นกลม แต่ก็ยังมีกลุ่มที่เชื่อว่าโลกของเรามันแบน พวกเขาก็เลยพยายามหาหลักฐานต่างๆ มาโต้ พร้อมกับจะทำการพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่าโลกมันแบนจริงๆ ถึงขั้นสร้างจรวดออกบินสำรวจกันเองเลยทีเดียว Mike Hughes วัย 61 ปี ได้กล่าวไว้ว่าเขาจะออกสำรวจโลกแบนด้วยจรวดแบบโฮมเมด (ข่าวเก่า) แต่ดันถูกยกเลิกการปล่อยไปก่อน ด้วยเหตุผลทางด้านเทคนิคต่างๆ แต่เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า คุณลุง Mike แกกลับมาสานต่อภารกิจตัวเองแล้ว ภาพการปล่อยจรวดของลุง Mike Hughes ในวันที่ 24 มีนาคม 2018 ในวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2018 เขาประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดพลังไอน้ำของตน พุ่งทะยานขึ้นบนน่านฟ้ากลางทะเลทรายโมฮาวี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยระดับความสูง 571.5 เมตร ก่อนที่จะร่อนตกลงมาอย่างแรงจนเขาที่นั่งอยู่ภายในได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตารางการปล่อยจรวดดั้งเดิมนั้นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 แต่ประสบกับปัญหาทางด้านการขนส่งจรวดและปัญหาด้านเครื่องยนต์อยู่บ่อยครั้ง จนต้องใช้เวลานานร่วมหลายเดือนเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป จรวด Liberty…
-
อวกาศเปลี่ยน DNA ของนักบินอวกาศ เป็นเหตุให้ทั้งคู่ไม่ใช่ฝาแฝดกันอีกต่อไป
นอกโลกยังมีสิ่งแปลกๆ ที่เรายังไม่ได้ค้นพบอีกมากมาย ไม่ใช่เฉพาะการสำรวจเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเรา ในตอนที่เราออกไปนอกโลกอีกด้วย ซึ่งน้อยคนนักที่จะเคยมีประสบการณ์แบบนี้ เรื่องราวที่น่าสนใจนี้เกิดขึ้นกับนักบินอวกาศนามว่า Scott Kelly ที่ได้กลับมาสู่พื้นโลกหลังจากออกไปทำงานที่สถานีอวกาศนานาชาตินานหนึ่งปี และเขาพบว่า DNA ของเขาเปลี่ยนไปแล้ว Scott มีแฝดชื่อว่า Mark ซึ่งทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาของนาซ่าเกี่ยวกับฝาแฝด โดยมีภารกิจให้ Scott ออกไปทำภารกิจนอกโลก ส่วน Mark ซึ่งเป็นนักบินอวกาศเหมือนกัน แต่ปฏิบัติงานอยู่บนโลก เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ ซึ่งจากการศึกษามาตั้งแต่ปี 2015 ตอนนี้ก็ได้ผลออกมาแล้วว่ามียีนส์ประมาณ 7% ของ Scott ที่เปลี่ยนไปหลังจากกลับมาที่พื้นโลก นั่นหมายความว่าเขานั้นไม่ได้เป็นฝาแฝดกับ Mark อีกต่อไป ยีนส์บางส่วนของเขานั้นก็กลับมาเป็นปกติเมื่อกลับมาถึงโลก บางส่วนก็ใช้เวลากว่า 6 เดือนกว่าที่จะกลับมา และบางส่วนก็ไม่กลับมาเลย Scott ได้ขึ้นไปสถานีอวกาศนานาชาติถึงสองครั้งเพื่อทำการศึกษา โดยระยะเวลาการอยู่อาศัยต่างกัน แล้วรอดูว่าระยะเวลาจะมีผลต่อความสามารถและการทำงานของเขาหรือไม่เมื่อเทียบกับอีกคนที่ทำงานอยู่บนโลก พวกเขาพบว่าการเพิ่มระยะเวลาปฏิบัติภารกิจจากปกติ 6 เดือน มาเป็น 1 ปี ไม่ได้ส่งผลให้การทำงานลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญระหว่างที่อยู่บนยาน เมื่อเทียบกับอีกคนที่อยู่บนพื้นโลก แต่อย่างไรก็ตามก็มีรายงานว่าความเร็วและความถูกต้องในการทำงานลดลงหลังจากลงจากยานแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงของพื้นโลกเลยทำให้ต้องปรับตัว รวมถึงตารางงานอันยุ่งเหยิงของ Scott…
-
มีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ เหรอ 13 ความจริงอันน่าอัศจรรย์ ที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจนิดๆ
ความจริงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ตาย และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น (ทำเสียงเด็กแว่นที่ไปที่ไหนก็มีคนตาย) ดังนั้น ในบางครั้งคนเราจึงเลือกที่จะฝังความจริงเอาไว้ หรือเลือกที่จะหวาดกลัวไปกับสิ่งที่ตนได้ยิน แต่แบบนั้นจะดีแล้วเหรอ ยังมีคนอีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่ถามแบบนั้น เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม การที่ปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรเลยนั้น มันอาจจะเลวร้ายกว่าการรับรู้ความจริงที่ไม่น่าสบายใจเสียอีก บทความนี้เหมาะสมกับคนประเภทนี้ อีกอย่าง… เชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านถึงที่นี่ได้แล้ว คงจะไม่มีใครคิดจะถอยกลับกันตอนนี้หรอก ว่าแล้วเราก็ไปดูกันดีกว่า กับความจริงอันน่าอัศจรรย์ ที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เวลาที่คุณมองขึ้นไปบนฟ้า คุณไม่ได้กำลังมองขึ้นไปหรอก มันก็แค่แรงโน้มถ่วงของโลกเท่านั้นที่ยังดึงคุณเอาไว้บนโลกใบนี้ หากวันหนึ่งแรงที่ว่านี้หายไป คุณก็จะถูกเหวี่ยงหลุดออกไปนอกโลกใบนี้ทันที แล้วขอเตือนไว้ก่อนนะ ว่าในอวกาศ ไม่มีคำว่าข้างบนหรือข้างล่างหรอก ถ้าหากว่าคุณนอนโดยเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อคุณอายุ 99 ปี คุณจะเสียเวลา 33 ปีในการนอน นับเป็น 1 ใน 3 ของชีวิตทั้งหมดที่คุณมีเลย นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานกับแมลงสาบมักจะเกิดโรคภูมิแพ้ต่อแมลงสาบ … และในเวลาเดียวกันก็มีอาการแพ้กาแฟบดหรือช็อคโกแลต มันมีจุดร่วมอะไรระหว่างแมลงสาบกับกาแฟบดหรือช็อกโกแลตงั้นเหรอ? อาจจะเพราะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของต่างประเทศนั้นอนุญาตให้มีการปนเศษแมลงได้ไม่เกิน 60 หน่วยต่อช็อคโกแลต 100 กรัมก็เป็นได้ (ประมาณว่าถ้าผลิตในประมาณมากๆ แมลงสาบดันไต่ลงไปสักตัวก็ไม่เป็นไรอ่ะนะ) โครงกระดูกของคุณจริงๆ…
-
พาชมโปรเจกต์การจำลอง ‘อาหารญี่ปุ่นในอนาคต’ โดยองค์กร JAXA หน้าตาล้ำโคตรๆ
เรื่องของอนาคตเป็นเรื่องที่เรายังไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็เลยเกิดเป็นทฤษฎีการคาดเดาไปต่างๆ นานาว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้หรือแบบนั้น เช่นเดียวกันกับโปรเจกต์ The Care for Earth Project ที่มีองค์กร JAXA หรือ องค์การวิจัยและพัฒนาการสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น อยู่เบื้องหลัง โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา ‘ร้านอาหาร’ แบบพิเศษที่มีชื่อว่า Ibuki เป็นการทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับโลกอนาคต และล่าสุดได้มีการเชิญบุคคลสำคัญจากสายงานต่างๆ เป็นจำนวน 50 ท่าน เพื่อเข้าร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดพิเศษจากร้านนี้ อาหารจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมกันได้เลย… มาเริ่มกันที่ ‘ทาโกยากิ’ ซึ่งเป็นเมนูที่ใครหลายๆ คนจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ปกติหน้าตาของมันก็จะประมาณนี้ และนี่คือหน้าตาของ ‘ทาโกยากิ’ จากร้าน Ibuki ทาโกยากิใส จากทาโกยากิแป้งทอดหอมๆ กรอบๆ กลายมาเป็นคริสตัลทาโกยากิที่ทำจากเจลลี่ใสซะงั้น แต่จากการบอกเล่าของคุณ Kamiko Inuyama หนึ่งในผู้โชคดีที่ได้เข้าไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้าน Ibuki ก็บอกว่ารสชาติของมันไม่เลวเลย พาสต้าสีฟ้า จากการใช้สไปรูลิน่าทำให้พาสต้าจานนี้เปลี่ยนสีกลายมาเป็นสีฟ้า แถมมีการโรยด้วยอัลมอนด์ ซึ่งทีมนักวิจัยคาดว่าวัตถุดิบจำพวกถั่วนี้จะสามารถเก็บไว้ได้นาน และมันจะกลายเป็นวัตถุดิบที่นิยมสำหรับการท่องอวกาศ มาถึงจานสเต็กกันบ้างดีกว่า …..นี่แหละครับสเต็กของเรา ไม่ต้องแปลกใจไปว่าทำไมมันถึงได้น้อย เพราะทีมวิจัยเค้าคาดการณ์เอาไว้ว่าในอนาคตนั้นเหล่าสิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์จะเหลือน้อยเพราะปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป…
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบทฤษฎีใหม่แล้วว่า ‘ดวงจันทร์’ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
มนุษย์โลกรู้จัก “ดวงจันทร์” มานานแสนนานแล้ว มีความเชื่อเกี่ยวกับพระจันทร์มากมายทั้งตำนานที่แต่งขึ้นหรือจะเป็นคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าบริวารดวงน้อยของโลกนี้ ถือกำเนิดเกิดมาได้อย่างไร วิทยาการต่างๆ ของมนุษย์นั้นสามารถนำพาเราขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้ และทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่า ดวงจันทร์นั้นประกอบขึ้นจากสสารในอวกาศที่ล่องลอยอยู่รอบดวงอาทิตย์ โดยเกิดขึ้นพร้อมกับโลก หรืออีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่า ดวงจันทร์เกิดจากการปะทุของโลกที่กำลังประกอบตนเองขึ้น และทำให้มีมวลวัตถุจำนวนมากล่องลอยออกไปโคจรเป็นวงรอบโลก และประกอบตัวกันเป็นดวงจันทร์ ทั้งสองทฤษฎีที่กล่าวมานั้นมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าโลกและดวงจันทร์นั้นประกอบขึ้นจากสสารและวัตถุที่เหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิดของพระจันทร์ทั้งหมด ถึงแม้ทั้งโลกและดวงจันทร์จะมีวัตถุประกอบที่เหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่โดดเด่นพอที่จะมั่นใจได้ว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกัน จึงมีช่องโหว่ให้สงสัยได้ว่า ที่จริงแล้วดวงจันทร์อาจประกอบตัวเองขึ้นอย่างอิสระ Journal of Geophysical Research จึงมีงานวิจัยออกใหม่มาอธิบายเกี่ยวกับการกำเนิดขึ้นของดวงจันทร์ แต่ก็ยังยากที่จะเข้าใจ ในเอกสารงานวิจัย นักวิจัยเชื่อว่าดวงจันทร์เกิดขึ้นจากปรากฎการณ์ Synestia ที่เมื่อวัตถุขนาดเท่าดวงดาว 2 ดวงปะทะกันแล้วเศษซากต่างๆ กลายเป็นไอระเหย รวมไปถึงหินหลอมเหลวร้อนจัดที่ก่อตัวขึ้นเป็นรูปวงแหวน แล้วหินเหล่านั้นก็รวมกันเป็นทรงกลมพร้อมกับลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว มันจึงเกิดเป็นดาวเคราะห์ การสันนิษฐานดังกล่าวนี้นักวิจัยเพียงเชื่อว่าสามารถอธิบายถึงการกำเนิดขึ้นและความสัมพันธ์ของโลกและดวงจันทร์ได้ โดยการชนกันของสองดาวเคราะห์นั้นทำให้เกิดการรวบรวมเอาหินหลอมระเหยไปประกอบเป็นดวงจันทร์ และส่วนที่เหลือซึ่งมีสถานะเป็นของแข็งก็รวมตัวกันเป็นโลก ทฤษฎีนี้จึงทำให้เกิดความเข้าใจในระดับหนึ่งว่าทำไมดวงจันทร์และโลกจึงมีลักษณะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ที่มา: BGR
-
Elon Musk ปล่อยจรวดส่งดาวเทียมอินเตอร์เน็ต หวังสร้าง “เครือข่ายเน็ตความเร็วสูง” ทั่วโลก!!
หลังจากที่มีข่าวว่าเจ้าพ่อเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Elon Musk ได้ทดลองส่งรถยนต์ Tesla ของตัวเองขึ้นไปเล่นเพลงของ David Bowie บนอวกาศในโครงการ SpaceX ได้ไม่นาน เขาก็เดินหน้าโครงการต่อไปโดยทันที ซึ่งอาจเป็นก้าวครั้งใหญ่ของมวลมุษยชาติอีกก้าวเลยทีเดียว… ในสัปดาห์นี้โครงการ SpaceX ได้มีการปล่อยดาวเทียมสำรวจ Paz ที่ได้รับการสนับสนุนมาจากกระทรวงกลาโหมของประเทศสเปน ด้วยจรวด Falcon 9 ที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งหลัง จากการรายงานพบว่าภายในจรวดที่ส่งออกไปนั้นถูกบรรทุกด้วยดาวเทียมบรอดแบนด์ทดสอบ 2 ดวง ที่ใช้เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า Starlink ดาวเทียมที่ใช้ทดสอบ 2 ดวงแรกทั้ง Microsat-2a และ Microsat-2b จะเป็นตัวต้นแบบของดาวเทียมบรอดแบนด์นับพันที่จะถูกปล่อยขึ้นไปบนอวกาศในทศวรรษข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามโครงการ SpaceX ก็ยังไม่เปิดเผยว่ามีสิ่งอื่นหรือไม่นอกจากดาวเทียมบรอดแบนด์ทั้งสองดวง ที่พวกเขาบรรทุกเขาไปกับจรวดลำดังกล่าว ทางโครงการ SpaceX เปิดเผยว่าพวกเขาต้องการปล่อยกระสวยอวกาศ 4,425 ลำบนวงโคจรชั้นในระหว่าง 965-1290 กิโลเมตรเหนือพื้นโลกในปีหน้า และขั้นต่อไปคือการสร้างดาวเทียมจำนวนกว่า 7,500 ดวงแล้วส่งขึ้นไป…
-
ช่างภาพใจกล้า ที่จะพาคุณแอบเข้าไปชม ‘กระสวยอวกาศ’ ยุคสงครามเย็นของโซเวียตที่ถูกทิ้งร้างมากว่า 30 ปี
หลายคนคิดว่าสถานที่รกร้างนั้นมักจะเต็มไปด้วยความลึกลับและน่ากลัว โดยที่ไม่มีใครเข้าไปสัมผัสหรือค้นหาจริงๆ เลยว่าข้างในสถานที่รกร้างนั้นๆ จะมีอะไรซ่อนอยู่ ผิดกับช่างภาพคนนี้ David de Rueda ที่พกความกล้ามาอย่างเต็มเปี่ยมในการแอบเข้าไปสำรวจพื้นที่ที่ถูก “ทิ้งร้าง” เช่น สถานีเรดาร์ โรงผลิตพลังงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่เศษซากยานอวกาศของโซเวียต และสิ่งที่ David พบก็คือ กระสวยอวกาศ 2 ชิ้นที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Buran (ภาษารัสเซียแปลว่าพายุหิมะ) มันตั้งอยู่ในศูนย์ปล่อยอวกาศยานไบโคนูร์ ในคาซัคสถาน มันถูกทิ้งร้างมากว่า 30 ปีแล้ว แต่เมื่อ David ค้นพบแหล่งเก็บกระสวยอวกาศในปี 2015 เขาได้เพลิดเพลินกับการสำรวจมันในทุกซอกทุกมุม David กล่าวว่า “การมาสำรวจครั้งแรกของเขานั้นเขาคิดว่าเขาอาจจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มาอีกจนได้ เพื่อที่จะมาสำรวจโรงเก็บกระสวยอีกแห่ง ที่ที่เก็บกระสวยรุ่นทดลอง Energia-M เอาไว้” จากคำกล่าวของ David ที่ว่า “สิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างแบบนี้มันเป็นการผจญภัยที่ไม่สิ้นสุดจริงๆ” พวกเราก็อย่ารอช้า ไปชมภาพถ่ายที่เขาเก็บมาฝากกันเลยดีกว่า… แค่การเดินทางเข้าไปในโรงเก็บกระสวยมันก็เป็นเหมือนการผจญภัยในตัวมันเองอยู่แล้ว เพราะนอกจากระยะทางไกลแล้วยังต้องเดินฝ่าพื้นที่ต้องห้ามอีกด้วย โรงเก็บกระสวยนั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีผู้คนจึงต้องระวัง แถมการใช้ชีวิตหลบซ่อนในทุ่งหญ้า Kazakh Steppe นั้นแสนหฤโหดในฤดูหนาว …
-
ประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ในการส่งจรวดที่เล็กที่สุดพร้อมบรรทุกดาวเทียมสู่นอกโลก
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของวงการวิทยาศาสตร์อีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานว่าองค์การสำรวจอวกาศประเทศญี่ปุ่น หรือ Japanese Aerospace Exploration Agency (JAXA) ได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมด้วยจรวด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา จากรายงานเผยว่าการปล่อยจรวดความเร็วเหนือเสียง SS-520 ที่บรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 13.6 นิ้ว ครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าภารกิจก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบความผิดปรกติทางเทคนิคและล้มเหลวไปก็ตาม เจ้าจรวด SS-520 ที่ทำหน้าที่ในการปล่อยดาวเทียมครั้งนี้มีความสูงด้วยกันทั้งสิ้น 10 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักรวมเชื้อเพลิงเท่ากับ 2.6 ตัน ในขั้นตอนแรกของการปล่อยจรวดดังกล่าว ตรงส่วนครีบด้านล่างของมันจะบรรจุเชื้อเพลิง Hydroxyl-Terminated Polybutadiene (HTPB) แบบแข็งประมาณ 1.5 ตัน ซึ่งจะช่วยให้จรวดดังกล่าวพุ่งขึ้นจากพื้นในมุมที่ถูกต้อง และหลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งนาที ถึงจะมีการเปิดใช้งานเชื้อเพลงในส่วนที่ 2 และ 3 วินาทีที่จรวด SS-520 กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากจะบรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัมแล้ว จรวดดังกล่าวยังนำอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องรับสัญญาณวิทยุไปกับมันด้วย ไปชมวินาทีที่เจ้าจรวด SS-520 กำลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…
-
ชมภาพห้องควบคุมของโซเวียตในอดีต เห็นแล้วนึกถึงห้องบนยานอวกาศในหนังเลย
เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยดูภาพยนตร์ไซไฟชื่อดังอย่าง Star Trek หรือ Star Wars มาแล้วแน่นอน และคงจะชอบใจกับความล้ำสมัยของยานอวกาศ และเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นในอวกาศของกัปตันและผองเพื่อน สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยว่า นี่แหละมันคือความไฮเทคสมกับเป็นเทคโนโลยีในอนาคตจริงๆ ก็คือห้องควบคุมของยานอวกาศ ที่มีแผงควบคุมอยู่ทั่วทุกแห่ง และมีแสงไฟกระพริบบอกถึงสถานะของยาน หากมีโอกาสล่ะก็อยากจะลองเข้าไปนั่งในห้องแบบนั้นสักครั้ง คงจะเท่ไม่หยอก ในวันนี้เราพบสถานที่แห่งหนึ่งบนโลก ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับห้องควบคุมในหนังอย่างกับถอดแบบกันมาไม่มีผิดเลย สถานที่นั้นก็คือห้องควบคุมของสหภาพโซเวียต ห้องควบคุมที่ว่านี้มีแผงควบคุมซึ่งมีปุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งอยู่ติดกันยาวเป็นแถบเลย นอกจากนี้ก็ยังมีสัญญาณไฟอยู่เหนือแผงควบคุมทุกอันอืีกด้วย เหมือนในหนังเลยใช่ไหมล่ะ ย้อนไปในอดีตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตยังใช้งานห้องควบคุมนี้อยู่ มันเป็นศูนย์กลางที่ใช้ควบคุมสิ่งสำคัญอย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หอควบคุมต่างๆ และสิ่งอื่นอีกมากมาย ในเวลานั้น ห้องนี้เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของอนาคตอันสว่างไสว และความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีที่สหภาพโซเวียตตั้งใจจะไปให้ถึงให้ได้ ตอนที่ยังมีคนทำงานอยู่นั้น ผู้ควบคุมทุกคนต้องนั่งจ้องแผงควบคุมเหล่านี้ทั้งวัน คอยเฝ้าสังเกตว่าพวกมันทำงานได้ปกติหรือเปล่า แล้วก็แจ้งข้อมูลความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นกลับไปให้ศูนย์กลาง เพื่อที่จะได้ควบคุมการผลิตพลังงาน และสิ่งอื่นๆ ให้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น แม้ว่าในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องนี้จะล้าสมัยไปแล้ว แต่มันก็ยังคงดูเหมือนห้องจากอนาคตที่ทุกคนเห็นตามภาพยนตร์ ทั้งล้ำยุค และอลังการอย่างแท้จริง ในสมัยก่อน ผู้ควบคุมจะต้องคอยตรวจสอบดูสถานะของแผงคบคุมที่เรียงกันอยู่เป็นตับแบบนี้เลย…
-
17 เรื่องแปลกๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ หากออกไปอยู่ใน ‘อวกาศ’
เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราเคยถามตัวเองกันไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ ก็คงจะมีแต่นักบินอวกาศที่เคยเดินทางไปและกลับมาให้คำตอบเราได้ และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในอวกาศ และยังมีทฤษฎีเกี่ยวกับหลุมดำ เมื่อเราโดนดูดเข้าไปอีกด้วย 1. สายตาของคุณจะด้อยลงอย่างมาก อาการบกพร่องทางการมองเห็นจากความดันภายในกระโหลก หรือ VIIP เป็นอาการที่นักบินอวกาศเป็นกันมากที่สุดเมื่ออยู่ในอวกาศเวลานานๆ NASA ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ แต่ยังไม่พบคำตอบที่แน่ชัด โครงการไปดาวอังคารยังคงอยู่ภายใต้คำถาม ว่าจะช่วยนักบินอวกาศอย่างไรกับอาการนี้ 2. คุณอาจจะสูงขึ้นประมาณ 2-3 นิ้ว ถ้าคุณอยากจะสูงขึ้นอีก 2-3 นิ้ว การบินไปในอวกาศอาจจะช่วยคุณได้ชั่วคราว การที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงนั้น จะทำให้กระดูกสันหลังยืดขึ้น จากผลตรวจอัลตราซาวด์ ก็ได้ยืนยันว่านักบินอวกาศนั้นสูงขึ้นจริงๆ 3. การโดนรังสี อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ในการเตรียมตัวภารกิจไปดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์ NASA ได้ศึกษาเกี่ยวกับรังสีที่มาสัมผัสร่างกายมนุษย์มาเป็นเวลานาน ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารนั้น บางกว่าของโลกเรา จึงมีการป้องกันรังสีจากอวกาศต่ำกว่าโลก ดั้งนั้น เมื่อเรารู้เกี่ยวกับการป้องกันรังสีมากเท่าไร การที่มนุษย์จะไปดาวอังคารก็จะง่ายขึ้นมากเท่านั้น 4. เล็บของคุณอาจหลุดออกมา นักบินอวกาศจำนวน…
-
NASA พยายามตามหามนุษย์ต่างดาวด้วย “หุ่นยนต์สำรวจอวกาศ” ภายในปี 2069
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมาเว็บไซต์สื่อต่างประเทศได้รายงานว่าทาง NASA ได้ออกมาประกาศภารกิจสำรวจอวกาศแผนล่าสุดว่า พวกเขาเตรียมที่จะสำรวจหาสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในระบบสุริยะอื่น!! องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติมีแผนที่เตรียมจะส่งหุ่นยนต์สำรวจอวกาศขึ้นไปสำรวจระบบสุริยะจักรใกล้เคียงอย่าง Alpha Centauri ในปี 2069 เพื่อเป็นการฉลองการเหยียบดวงจันทร์ครบรอบ 100 ปี ระบบสุริยะจักร Alpha Centauri นั้นอยู่ห่างจากโลกของเราประมาณ 24.9 ล้านล้านไมล์ และประกอบไปด้วยดาวเคราะห์ 3 ดวงคือ Centauri A, Centauri B, และดาวที่ค้นพบล่าสุดเมื่อปี 2016 อย่างดาว Proxima Centauri นักวิทยาศาสตร์ของ NASA พบว่าดาว Proxima b ดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ ที่โคจรรอบดาว Proxima Centauri นั้นมี habitable zone หรือเขตอาศัยอยู่ได้ ซึ่งมีอุณหภูมิพอเหมาะที่จะสามารถพบน้ำบนพื้นผิวได้ จากรายงานระบุว่าดวงดาวดังกล่าวนั้นมีปริมาณการปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะต้องมีความสามารถในการทนต่อรังสีดังกล่าวนอกจากนี้นักดาราศาสตร์ยังเชื่อว่ามีดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะแห่งนี้ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เหมือนกับโลกของเราอีกด้วย การที่จะเดินทางไปถึงระบบสุริยะ Alpha Centauri ได้นั้นจะต้องมียายที่สามารถเดินทางได้อย่างน้อย 30 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง และถ้าหากว่าแผนการสำรวจนี้เกิดขึ้นจริงๆ จะต้องใช้เวลาในการเดินทางนานถึง 44 ปี เรียกได้ว่ากว่าจะถึงปลายทางก็ปี 2113…
-
จัดตั้งรัฐธรรมนูญแห่ง ‘Asgardia’ ส่งบรรจุไปพร้อมดาวเทียม กลายเป็นชนชาติแรกแห่งห้วงอวกาศ
ในขณะที่เรื่องการเลือกตั้งยังเป็นข้อถกเถียงกันในหลายๆ ประเทศ ล่าสุดนาย Igor Ashurbeyli ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรบนอวกาศอย่าง Asgardia ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าอาณาจักรของเขาจะเป็นประเทศแรกในห้วงอวกาศ หลังจากที่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับสัญลักษณ์ต่างๆ ของประเทศ รวมทั้งรายชื่อของประชาชนกว่า 150,000 คนขึ้นสู่ห้วงอวกาศพร้อมกับดาวเทียมที่ใช้ชื่อว่า Asgardia-1 เป็นเรียบร้อยแล้ว โดยในการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับราชชื่อของประชากรและสัญลักษณ์ต่างๆ ในครั้งนี้ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 512 กิกะไบต์ โดยปัจจุบัน Asgardia เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย โดยทางนาย Ram Jakhu ผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายอวกาศและอวกาศจาก McGill University หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้ออกมากล่าวว่า “Asgardia จะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนอวกาศ มันจะเป็นการสร้างชาติ อารยธรรม และศาสนาของมนุษย์บนอวกาศครั้งแรก” ส่วนขั้นต่อไปสำหรับโครงการ Asgardia ก็คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาที่เตรียมจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ซึ่งผู้ที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้นั้นจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวของประเทศนี้ และนอกจากนี้นาย Ashurbeyli วิศวกรด้านอวกาศและเศรษฐีชาวรัสเซีย ยังหวังที่จะสร้างอาณานิคมบนอวกาศ ที่ผู้คนสามารถใชีวิตได้จริงๆ ในอนาคตข้างหน้า และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับประเทศ Asgardia นี้ก็คือที่นี่มีจำนวนประชากรเพียงพอที่จะขอพิจารณาเป็นรัฐจากสหประชาชาติ เนื่องจากมีจำนวนประชากรมากกว่า 100,000 คน แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงกันถึงความเป็นประเทศที่ชัดเจน เนื่องจากจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วน 4…
-
นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…
นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด “ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว” เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น” สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย…
-
นักวิจัยคาดการณ์ “ดาวยูเรนัส” มีฝนตกเป็นเพชร และอาจจะรวมอยู่นับล้านกะรัต!!
รู้หรือไม่ ว่าทำไมฝนจึงตก ที่ฝนตกเกิดจากน้ำโดนความร้อนจากแสงของดวงอาทิตย์ แล้วระเหยกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อรวมตัวกันมากๆ ก็เกิดการควบแน่นกลั่นตัวออกมาเป็นน้ำฝนเย็นชุ่มช่ำตกลงมาบนโลกอีกครั้งหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2013 ได้มีการค้นพบจากการคำนวณว่า บน ดาวเสาร์ กับ ดาวพฤหัส อาจมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ฝนตกเป็นเพชร จากการคำนวณของนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เนื่องจากการเกิดพายุฟ้าคะนองอันรุนแรงในชั้นบรรยากาศในระบบสุริยะทำให้เกิดอนุภาคคาร์บอนบีบอัดกันจนกลายเป็นเพชรแล้วตกลงที่ดาวเสาร์กับดาวพฤหัส นักวิจัยของ Stanford เชื่อว่าปรากฏการณ์ฝนตกเป็นเพชรนี้จะเกิดขึ้นที่ดาวยูเรนัสเช่นกัน จึงได้ตั้งสมมุติฐานและทำการทดลอง โดยการสร้างดาวยูเรนัสจำลองเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ห้องทดลองนี้ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบสภาวะของดาวยูเรนัสที่มีแกนกลางแข็งและเป็นดาวเคราะห์แก๊สขนาดยักษ์ อุณหภูมิหนาวเย็นกว่าจุดเยือกแข็ง พวกเขาสร้างแบบจำลองลักษณะที่คล้ายกับดาวนั้นแทบทุกอย่าง แล้วทดลองสร้างคลื่นกระแทกให้กับเมล็ดพลาสติกด้วยเลเซอร์ออปติคอลที่สถาบัน Linac Coherent Light Source (LCLS) ก่อนหน้านี้นักวิจัยคาดการณ์ว่าเพชรเหล่านี้สามารถก่อตัวขึ้นได้ และการทดลองก็ทำให้เห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆโดยทาง Dominik Kraus นักวิทยาศาสตร์จาก Helmholtz Zentrum Dresden-Rossendorf ได้กล่าวว่า “ตอนที่ผมเห็นผลลัพท์ของการทดลองในครั้งนี้ มันนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตการเป็นนักวิทยาศาสต์ของผมเลยล่ะ” นักวิจัยสามารถจับปรากฏการณ์ที่อะตอมคาร์บอนของพลาสติกแทบทุกอะตอม กลายเป็นโครงสร้างเพชรขนาดเล็กจิ่วเพียงไม่กี่นาโนเมตรเท่านั้น พวกเขาวิเคราะห์ว่าฝนเพชรนี้จะเกิดขึ้นแล้วตกลงบนใจกลางของดาว ซึ่งนานวันเข้าก็จะมีปริมาณมากขึ้นและจมติดอยู่กับส่วนแกนกลางซึ่งเป็นของแข็ง นั่นทำให้ทีมวิจัยได้คาดการณ์ว่า ในดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนจะมีเพชรขนาดใหญ่มากที่อยู่ในใจกลางดาว ทั้งนั้นมันอาจมีน้ำหนักนับล้านกะรัตก็เป็นได้….. . ที่มา metro
-
NASA เผยภาพถ่ายชวนอัศจรรย์ใจ จากจักรวาลอันไกลโพ้น ไม่เปลืองขั้วพลังแกนวาร์ป…
เตรียมชุดอวกาศและถังอ๊อกซิเจนของท่านให้พร้อม เพราะเราจะพาคุณเดินทางสู่นอกจักรวาลอันไกลโพ้นไปกับกล้อง Hubble Space Telescope ขององค์กรนาซ่า ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เพราะคุณจะได้เห็นภาพตั้งแต่หลุมดำ ไปจนถึงกลุ่มดวงดาวที่ทอแสงระยิบระยับอยู่บนจักรวาล เอาเป็นว่าเราตามไปชมกันเลย ฟิ๊ววววว… นี่ก็คือหน้าตาของกล้อง Hubble Space Telescope เรามาดูกันว่ากล้องอันบิ๊กเบ้งขนาดนี้ จะถ่ายภาพออกมาได้โหดขนาดไหน Bubble Nebula เป็นกลุ่มก๊าซที่ตั้งอยู่ห่างจากโลก 8,000 ปีแสง ณ ใจกลางกาแล็คซี่ทางช้างเผือก จะมีหลุมดำขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Sagittarius A อยู่ (แสงสีขาวทางขวามือ) กลุ่มดาว Pismis 24 กับแสงระยิบระยับที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า Lobster Nebula ตั้งอยู่ห่างจากโลก 5,500 ปีแสง นักดาราศาสตร์ชี้ว่า ภาพจักรวาลที่เราเห็นแบบนี้ เกิดจากสองจักรวาลสร้างแรงดึงดูดเข้าหากัน กาแล็คซี่ Antennae กำลังเดินทางผ่านกลุ่มก๊าซ กลายเป็นภาพที่ดูสวยงามสุดๆ ดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะของเราก็คือดาวพฤหัสบดี (แค่จุดแดงๆ ตรงซ้ายมือนั่นก็ใหญ่กว่าโลก 1.3…
-
เด็กน้อยวัย 9 ขวบ ขอสมัครตำแหน่ง ‘ผู้พิทักษ์จักรวาล’ องค์การนาซ่า ก็ยินดีตอบกลับให้!!
เรื่องราวน่ารักๆ ของหนุ่มน้อยผู้หนึ่งที่เขียนจดหมายถึงองค์การนาซ่า ว่าตัวเขาเองอยากเป็นผู้พิทักษ์จักรวาล ทำนองคล้าย Guardian of The Galaxy และที่สำคัญคือตัวเขาเองก็ได้รับจดหมายตอบกลับมาด้วย!! ชื่อของ Jack Davis หนุ่มน้อยวัย 9 ขวบกลายเป็ที่โด่งดัง หลังจากที่เขาเล่าถึงความต้องการของตัวเองให้องค์การอวกาศระดับโลกได้รับรู้ ซึ่งอันที่จริงแล้วตำแหน่งงานที่เจ้าหนูอยากทำนั่นก็คือ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คุ้มครองดาวเคราะห์ ที่มีหน้าที่ในการช่วยตรวจสอบสารปนเปื้อนและสิ่งแปลกปลอมทางชีววิทยาต่างๆ ในการสำรวจอวกาศต่างหาก หนูน้อย Jack เล่าว่าตัวเขาเองนั้นมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับตำแหน่งนี้ เพราะพี่สาวบอกว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว และตัวเขาเองก็เคยดูหนังเรื่อง Men in Black มาแล้ว นอกจากนี้เขายังบอกว่าการที่เขาเป็นเด็กนั้นจะทำให้เขาเข้าใจภาษาของพวกเอเลี่ยนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย!! แต่ดูเหมือนว่าความฝันของเด็กน้อยคงต้องรอคอยอีกซักหน่อย เมื่อ Dr. James L. Green ผู้อำนวยการจากกองวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ได้เขียนจดหมายอธิบายถึงลักษณะงาน และหวังว่าในอนาคตคงจะได้ร่วมงานกับเจ้าหนู “เรามักจะมองหานักวิทยาศาสตร์และวิศวะกรที่มีความสามารถมาร่วมงานกับเรา ฉันหวังว่าเธอจะตั้งใจเรียนและเราคงจะได้พบกันที่นาซ่าเร็วๆ นี้นะ” Dr. James เขียนไว้ในจดหมาย นอกจากนี้เด็กน้อยยังได้รับโทรศัพท์จากคุณ Jonathan Rall ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยดาวเคราะห์ ที่โทรมาร่วมแสดงความยินดีกับการสมัครงานของเจ้าหนู Jack อีกด้วย ทางด้านเพจเฟซบุ๊คอย่างเป็นทางการขององค์กร NASA ก็ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดน่ารักนี้ด้วยเช่นกัน… …
-
รู้จักกับ Int-Ball โดรนตาคู่ดวงโตๆ หนึ่งในสมาชิกสุดแสนน่ารัก บนสถานีอวกาศนานาชาติ
โดรน หนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ และโดยส่วนมากแล้ว เจ้าอุปกรณ์ชนิดนี้ก็มักจะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกับเครื่องบินขนาดเล็กที่มีใบพัดอยู่ด้านบน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีก็ไม่หยุดอยู่กับที่ รูปร่างหน้าตาของโดรนก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน และวันนี้เราจะพาไปพบกับโดรจิ๋วที่มีหน้าตาน่ารักที่สุดเลยก็ว่าได้!! ในภารกิจการสำรวจอวกาศที่เป็นการร่วมมือของหลายๆ ชาติ ได้มีการนำเจ้าโดรนน่าตาสุดน่ารักตัวนี้มาร่วมในการปฏิบัตภารกิจด้วยนะเออ และนี่คือโฉมหน้าของโดรนถ่ายภาพ Int-Ball เจ้าโดรนที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า Int-Ball มันได้เข้าร่วมปฏิบัตการทางอวกาศเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2017 และยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องบนสถานีอวกาศนานาชาติจนถึงทุกวันนี้ ในสภาวะสูญญากาศเจ้า Int-Ball นั้นจะลอยเคว้งคว้างอยู่ทั่วสถานีอวกาศซึ่งจะถูกควบคมจากองค์กรสำรวจอวกาศ JAXA (Japan Aerospace Exploration Agency) ที่ตั้งอยู่ในสถานีอวกาศ Tsukuba Space Center บนพื้นผิวโลก เป้าหมายในการปฏิบัติภารกิจของเจ้าโดรนตัวนี้ก็คือ การช่วยบันทึกภาพและวิดีโอในระหว่างการทำปฏิบัติหน้าที่ของนักบินอวกาศ โดยเจ้า Int-Ball นั้นมีน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัม และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ 15 เซนติเมตรเท่านั้น และมันยังมีใบพัดเล็กๆ ทั้ง 2 ข้าง ไว้ใช้ควบคุมทิศทางของมันอีกด้วย และแน่นอนเมื่อชาวเน็ตได้เห็นความน่ารักของเจ้าหุ่นตัวจิ๋วนี้ก็ได้มีหลายๆ คน ขอสมัครเข้าเป็นแฟนคลับของเจ้า Int-Ball กันอย่างคับคั่งกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ …
-
ลุงเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ลงทุนตัดหญ้าเป็นคำว่า “ไอ้งั่ง” ตัวโตๆ มองเห็นชัดจากบนฟ้า!!!
เป็นเรื่องปกติที่ในบางครั้ง บ้านเรากับเพื่อนบ้านอาจจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ซึ่งบางคนก็ถึงขั้นไม่มองหน้ากันเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนอาการหนักถึงขั้นย้ายบ้านหนีเลยก็มี เหมือนดังเช่นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ถึงกับลงทุนตัดสนามหญ้าหลังบ้านให้กลายเป็นคำว่าไอ้งั่ง พร้อมเติมลูกศรชี้ไปทางบ้านของคู่กรณีกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Brian Juel คุณลุงจาก Sequim รัฐวอชิงตันรายนี้ ลงทุนตัดหญ้าคำว่า A Hole หรือไอ้งั่ง (A-Hole เป็นคำย่อๆ ของ Asshole) เป็นตัวอักษรขนาดใหญ่เอาไว้ที่สนามหญ้าหลังบ้านของเขา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเขารู้สึกเกลียด Cindy และ Brian Zechenelly ผู้เป็นเพื่อนบ้านมากขนาดไหน จากการรายงานระบุว่า เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสองบ้านนี้ ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2009 โดยทางครอบครัวของ Zechenelly ได้สร้างโรงรถสีม่วงขนาดใหญ่ไว้บนที่ดินของพวกเขา แต่นั่นกลับทำให้คุณลุง Brian และเพื่อนบ้านในละแวกนั้นอีกหลายๆ คน เกิดความไม่พอใจอย่างหนัก เพราะพวกเขาไม่พอใจในรูปลักษณ์ของมัน อีกทั้งอาคารสีม่วงดังกล่าวยังเป็นการลดคุณค่าของทรัพย์สินโดยรอบอีกด้วย งานนี้จึงทำให้พวกเขาได้พากันยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อฟ้องร้องครอบครัวของ Zechenelly เพราะความไม่พอใจอย่างหนัก…
-
สหรัฐฯ วางแผนก่อตั้ง “กองทหารอวกาศ” เพื่อเสริมเป็นกองกำลังเหล่าที่ 6 ของประเทศ!?
ตอนเด็กๆ เรามักจะได้ดูการ์ตูนหรือการแสดงที่เกี่ยวกับตำรวจอวกาศ มันช่างเป็นอะไรที่เจ๋งแม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่การสร้างขึ้นตามจินตนาการก็ตาม แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะเกิดตำรวจหรือทหารอวกาศขึ้นมาจริงๆ ก็ได้นะ เพราะทาง House Armed Services Committee ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการลงคะแนนให้ก่อตั้ง “กองกำลังอวกาศสหรัฐฯ” ซึ่งเป็นกองกำลังใหม่ที่จะทำงานร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในการปฏิบัติภารกิจอวกาศที่กำลังดำเนินในปัจจุบันด้วย หากกองกำลังอวกาศสหรัฐฯ เกิดขึ้นจริง ก็จะกลายเป็นกองกำลังที่จัดตั้งขึ้นใหม่ครั้งแรกในรอบหลายปี จากที่ไม่เคยมีเพิ่มมาตั้งแต่ปี 1947 และเรื่องดังกล่าวได้ถูกยื่นเข้าสู่สภาอย่างกระทันหัน แม้แต่สมาชิกของ House Armed Services Committee ก็เพิ่งจะทราบเรื่องดังกล่าวได้เพียงไม่นาน ทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะพิจารณาทำการคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว Michael Turner สมาชิกพรรค Republican จากรัฐโอไฮโอ บอกว่าเขาได้ยินเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ข้อเสนอนี้ถูกส่งไปถึงคณะอนุกรรมการฝ่ายยุทธศาสตร์แล้ว และเขาก็เพิ่งรู้ว่าช่วงเปิดลงคะแนนโหวตในเรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย ตำรวจ (ทหาร) อวกาศมาแว้วววววววว!! อย่างไรก็ตามเรื่องการสร้างกองกำลังอากาศนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะฝ่ายที่คัดค้านกับการตั้งกองกำลังอวกาศ มองว่ามันไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ได้ และจะเป็นการเพิ่มปัญหาในการควบคุมกองกำลังมากกว่าเดิม แต่สำหรับฝ่ายที่สนับสนุนนั้นได้ให้เหตุผลเอาไวในทำนองที่ว่า กองกำลังอวกาศมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การป้องกันของสหรัฐอเมริกา เพราะมีการส่งอุปกรณ์สำรวจอวกาศออกไปเป็นจำนวนมาก และต้องได้รับการปกป้องเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย (ถ้าหากมีใครต้องการจะมาทำลาย) ที่มา independent
-
เพราะจักรวาลมันไกลโพ้น… ศิลปินหนุ่มจึงสร้าง “จักรวาล” มันขึ้นมาด้วยมือของเขาเองซะเลย!!
ถ้าพูดถึงจักรวาล ห้วงอวกาศแห่งความลึกลับนั้นคงเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาและความน่าสงสัย เพราะเอาจริงๆ จะมีซักกี่คนกันเชียวที่จะมีโอกาสได้ขึ้นไปสัมผัสในพื้นที่แห่งนั้น เช่นเดียวกับช่างภาพหนุ่มมือโปร Adam Makarenko ด้วยความที่เขารู้สึกอยากจะถ่ายภาพของจักรวาล แต่จะให้เดินทางไปเห็นเองกับตาก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ เจ้าตัวเลยทำการสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของตัวเอง ตั้งอยู่ในสตูดิโอของตัวเองซะเลย “90% ของผลงานทั้งหมดนี้สร้างมาจากความผิดพลาด และการลองผิดลองถูก” Adam ให้สัมภาษณ์ สำหรับขั้นตอนการสร้างจักรวาลทั้งหมดนี้ เจ้าตัวเล่าเสริมว่ามันไม่มีทฤษฏีที่ตายตัว ดวงดาวทั้งหมดถูกสร้างจากวัสดุโฟมหรือปูนปลาสเตอร์ เพ้นท์สีด้วยเฟอร์ริคคลอไรด์และสีเพ้นท์ และเพื่อความให้เหมือนกับว่ามีแรงโน้มถ่วงอยู่จริงๆ เขาก็ต้องสร้างฐานรองที่สามารถหมุนได้จริงๆ ด้วยเช่นกัน ในส่วนรายละเอียดของพื้นผิวนั้น Adam ได้เลือกใช้ซีเมนต์และดินเหนียวเพื่อให้ดูสมจริงมากที่สุด “สำหรับการถ่ายภาพแลนด์สเคปขนาดจิ๋วนี้ ผมจำเป็นที่จะต้องย่อส่วนรายละเอียดต่างๆ ลงเพื่อให้มันสมจริงมากยิ่งขึ้น และนั่นก็เป็นความท้าทายของงานชิ้นนี้” Adam เล่า ไม่ได้มีแค่ดาวฤกษ์ที่มีพื้นที่เป็นดินเท่านั้น ดาวที่อยู่ห่างไกลจากพระอาทิตย์จนมีแต่น้ำแข็งก็มีเหมือนกัน เมื่อลองถ่ายภาพออกมาแล้วจะเห็นว่าให้อารมณ์เหมือนเป็นภาพหลุดจากจักรวาลหนังสตาร์วอร์เลยล่ะ ส่วนดวงดาวที่ระยิบระยับอยู่บนพื้นหลังสีดำนั้น Adam เกิดจากการเจาะกระดาษสีดำที่มีพื้นหลังเป็นกระดาษสีขาวทับอยู่ จากนั้นก็ทับด้วยสีพาสเทลเพื่อความสมจริง “การถ่ายภาพขนาดจิ๋วแบบนี้เป็นความท้าทายด้านเทคนิคอย่างหนึ่งของช่างภาพ เพราะเราต้องทำให้ทุกอย่างออกมาดูสมจริง และไม่ให้รู้สึกได้ว่ามันเป็นของปลอม” ช่างภาพเล่าเสริม ขั้นตอนการทำภาพทั้งหมดนั้น…
-
NASA ปล่อยเทปบันทึกเสียงดาวพฤหัสจากยานจูโน่ เผยเสียงที่ซ้อนทับเหมือนดั่งบทเพลง
ยานอวกาศจูโนถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศทำภารกิจสำรวจดาวพฤหัสเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2011 และไปถึงดาวเคราะห์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2016 โดยจะทำการสำรวจและบันทึกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับดาวพฤหัส ก่อนที่จะส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับมาสู่โลก อย่างที่เราทราบกันดีว่าดาวพฤหัสนั้น มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะและมีสภาพอากาศเลวร้าย มีพายุขนาดใหญ่จนสามารถสังเกตได้จากนอกอวกาศเลยทีเดียว จุดกลมบริเวณล่างขวาของดาวพฤหัสคือพายุขนาดใหญ่ และเมื่อไม่นานมานี้ทาง NASA ได้ปล่อยเสียงที่บันทึกได้จากยานสำรวจจูโน่ ซึ่งเป็นเสียงพลาสม่าของดาวพฤหัส โดยบันทึกเสียงนี้มีความยาวกว่า 2 นาที แม้จะเป็นเสียงที่ฟังดูน่ากลัว แต่ลักษณะของมันก็มีความคล้ายคลึงกับเสียงเพลงที่ซ้อนทับอยู่ตลอดทั้งบันทึก ยานจูโน่ ยานที่ทำการสำรวจดาวพฤหัส เพื่อนำข้อมูลกลับมายังโลก NASA ได้เพิ่มเติมเอาไว้ว่าข้อมูลที่บันทึกได้นี้ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวัดความหนาแน่นของพลาสม่าในชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัส และคลื่นเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทาง NASA บันทึกได้มีความถี่สูงเกินกว่าที่มนุษย์จะได้ยิน ดังนั้นทาง NASA จึงได้ปรับแต่งบันทึกเสียงนี้ให้อยู่ในระดับที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ เสียงที่ยานจูโนสามารถบันทึกได้จากดาวพฤหัส โดยเสียง ‘บี๊บ’ ที่ดังอยู่ในบันทึกนั้น ทาง NASA ยังหาคำอธิบายไม่ได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยานจูโน่สามารถบันทึกเสียงจากชั้นบรรยากาศ Magnetpsphere ของดาวพฤหัสได้ แต่เสียงส่วนใหญ่ที่บันทึกได้มักจะมีความถี่สูงเกินไป ดังนั้น NASA จึงต้องปรับแต่งเสียงที่บันทึกได้ ให้อยู่ในย่านความถี่ที่มนุษย์สามารถฟังออก และหนึ่งในหลายเสียงที่ยานจูโน่สามารถบันทึกได้นั้น…
-
เผยภาพอาณานิคมบนดาวอังคาร ในปี 2117 จากการวางแผนของ UAE ว่าต้องไปทำให้ได้!!
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในเมืองที่มีนวัตกรรมสิ่งก่อสร้างที่ล้ำสมัยมากที่สุดเมืองหนึ่ง ก็คงจะหนีไม้พ้นมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตึกรูปเรือใบ ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก หรือเกาะที่มีรูปร่างคล้ายกับต้นปาล์ม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานการสร้างของประเทศนี้ทั้งสิ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็เพิ่งประกาศว่ามีแผนจะสร้างเมืองบนดาวอังคารอีกด้วย!! ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศในงานประชุม World Government Summit ซึ่งมีรัฐบาลจากชาติต่างๆ กว่า 138 ประเทศเข้าร่วม กล่าวถึงโครงการที่พวกเขามีแผนที่ที่จะสร้างเมืองดังกล่าวในปี 2117 หรือประมาณอีก 100 ปีข้างหน้า โปรเจคสุดอลังการนี้จะเป็นหนึ่งในแผนอพยพผู้คนไปยังดาวอังคารในอนาคต ตามการรายงานของสำนักข่าว Gulf News บอกว่า โปรเจคดังกล่าวจะเป็นการค้นหาวิธีการสร้างอาณานิคมที่อยู่อาศัย และการหาอาหารบนดาวอังคาร “การตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ยังเป็นความฝันที่ยาวไกลสำหรับมนุษยชาติ แต่ว่าพวกเราจะทำความฝันนั้นให้เป็นจริงขึ้นมาเอง” นาย Sheikh Mohammed Bin Rashid รองประธานาธิปดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว นอกจากนี้รองประธานาธิปดียังได้กล่าวอีกว่า UAE เป็นหนึ่งใน 9 ประเทศที่ให้ความสำคัญในการลงทุนเกี่ยวกับการศึกษาด้านอวกาศอีกด้วย “พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าทางอวกาศ การเปิดตัวโครงการนี้อาจจะใช้ระยะเวลาหลายปี แต่มันก็ช่วยให้เราสามารถสำรวจดาวดวงอื่นๆ เพิ่มเติมได้” ท่านรองประธานาธิปดีกล่าวเสริม อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ความพยายามที่จะตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารของมนุษย์ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ได้มีโปรเจคใหญ่ๆ…
-
ชวนฟัง 5 เสียงประหลาดสุดลึกลับ ที่มนุษย์บันทึกมาได้จากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น…
นอกจากโลกเราแล้ว ในอวกาศอันไกลโพ้นยังคงเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับและปริศนารอให้มนุษยชาติอย่างเราเข้าไปค้นหาคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์ อุกกาบาต หรือแม้กระทั่ง “เสียง” ในอวกาศที่ส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ถึงแม้จะเป็นเสียงในอวกาศ แต่ก็ถือเป็นข้อมูลล้ำค่าที่สามารถจะนำมาเป็นแหล่งอ้างอิงเพื่อใช้ในการศึกษาสิ่งต่างๆ ต่อไป #เหมียวปั๊ก เลยอยากมาแบ่งปัน 5 เสียงสุดแปลกประหลาดและน่ากลัว ที่บันทึกได้จากอวกาศอันไกลโพ้นที่บันทึกโดยเครื่องบันทึกเสียงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าให้ทุกคนลองฟังกัน เสียงคลื่นความถี่บนดาวเสาร์ เมื่อยานอวกาศ Cassini เข้าสู่วงโคจรดาวเสาร์เมื่อเดือนเมษายนปี ค.ศ.2002 ยานอวกาศเริ่มบันทึกสัณญาณเสียงแปลกๆ จากขั้วของดาวเสาร์ โดยคลื่นความถี่มีความสัมพันธ์กับลักษณะการปรากฏตัวของออโรร่าบนดาวเสาร์ โดยปกติแล้วมนุษย์นั้นไม่สามารถได้ยินคลื่นความถี่นี้ แต่ทาง NASA ได้ทำการแปลงคลื่นเสียง เพื่อให้มนุษย์สามารถได้ยิน บางทฤษฎีก็ได้สันนิษฐานว่า เสียงที่ได้จากการบันทึกนั้นดูมีความซับซ้อนและโทนเสียงเหมือนภาษาที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงไว้ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน เสียงของอวกาศ ในปี(วรรค)ค.ศ.2012 หลังจากการเดินทางกว่า 35 ปี ยาน Voyeger 1 ได้กลายมาเป็นยานอวกาศลำแรกของมนุษย์ที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างดวงดาว ในการเดินทางของ Voyeger 1 มันได้บันทึกเสียงของคลื่นแรงกระแทกจากพลังงานแสงอาทิตย์กับพลาสม่าในอวกาศ โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อก๊าซที่ถูกไอออไนซ์เซชั่นรวมตัวกันและกระทบกับบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ส่งเสียงออกไปกว่า 19.2 ล้านกิโลเมตร เสียงสัตว์ประหลาดจากอุกกาบาต เมื่อยานอวกาศ Rosetta ได้เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับอุกกาบาต 67/P Churyumov-Gerasimenko ในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ.2014 มันได้บันทึกเสียงที่แปลกประหลาดและน่ากลัวไว้ได้…
-
ชมความงามของ 15 สนามบินรอบโลก ว่าจะสวยเพียงใด หากถูกถ่ายภาพจากบนอวกาศ
หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับภาพมุมสูงต่างๆ ที่เราเรียกว่ามุมมองแบบ Bird’s Eye View กันมาแล้ว โดยการมองภาพจากมุมสูงนั้นนอกจากจะทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในมุมที่กว้างขึ้นแล้ว ยังทำให้เห็นถึงความสวยงามและลักษณะภูมิประเทศรอบๆ นั้นได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักบินอวกาศท่านหนึ่งชื่อว่าคุณ Thomas Pesquet เขาได้แชร์ภาพถ่ายของสนามบินที่ถูกบันทึกจากนอกโลก เพื่อเป็นการระรึกถึงช่วงเวลาที่มีโอกาสปฏิบัติภารกิจในอวกาศผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาและติดแฮชแทคว่า #airportsfromspace อ่า.. หลายคนคงอยากจะเห็นภาพมุมสูงที่ว่าแล้วใช่ไหมล่ะ?? ถ้าอย่างนั้นขอเชิญพบกับ 15 ภาพถ่ายของสนามบินที่ถูกบันทึกจากนอกอวกาศโดยนักอวกาศขององค์กร NASA นี่เอง 1. สนามบินนานาชาติมิวนิค ประเทศเยอร์มัน ที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและหมู่บ้านเล็กๆ 2. สนามบินนานาชาติคันไซ ในอ่าวโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 3. สนามบินนานาชาติคูเวต กับแสงไฟยามค่ำคืนในคูเวตซิตี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศคูเวต 4. สนามบินนานาชาติเอเดน สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยเมน มีรันเวย์ยาวถึง 3 กิโลเมตร 5. เส้นสีเขียวที่ทอดตัวยาวขนาดกับน้ำทะเล คือรันเวย์ของสนามบินในเมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล 6. สนามบินในเมืองซานตากรุซเดลาเซียร์รา ประเทศโบลิเวีย 7. สนามบินบนเกาะนอร์ฟอล์ก เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในสมุทรแปซิฟิกตอนใต้…
-
แฟชั่นใหม่จากญี่ปุ่น “ถุงน่องกาแล็คซี่” ที่จะทำสาวๆ อยากเปิดกระโปรงโชว์ อิอิ!!!
หากคุณเป็นคนที่ชอบใส่ถุงน่องและต้องการถุงน่องซักอันทีมีลวดลายสวยงาม แตกต่างจากถุงน่องแบบธรรมดาทั่วไป แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้วล่ะ เพราะเรามีถุงน่องแบบใหม่ที่จะยกทั้งอวกาศมาไว้บนขาของคุณกับ “ถุงน่องกาแล็คซี่” แค่พูดชื่อก็ดูไม่ธรรมดาแล้ว งั้นเราไปชมถุงน่องเท่ๆ อันนี้กันค่ะ ถ้าดูแค่ภายนอกอาจจะดูเป็นแค่ถุงน่องสีดำธรรมดาๆ มันก็ทั่วไปเนอะ… แต่เมื่อลองดูให้ลึกเข้าไปที่ใต้กระโปรงแล้ว กลับพบกับกาแลคซี่สุดอลังการที่เป็นลวดลายบนถุงน่องอันนี้ ความลึกลับน่าค้นหาของจักรวาลที่กว้างใหญ่ ถูกเปิดเผยออกมาบนต้นขา กับเฉดสีละลานตาที่ทำเอาถุงน่องสีดำธรรมดาๆ กลายเป็นถุงน่องที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว!! . ไม่ใช่แค่ที่ลายด้านบนเท่านั้น แต่ที่ด้านล่างยังเป็นสีฟ้าเหมือนอัญมนีอีกด้วย แอบมีนักบินอวกาศอยู่หลังข้อเท้าด้วยล่ะ ถุงน่องกาแลคซี่มีราคาประมาณ 4,320 เยน ( 1,300 บาท) สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้จากเว็ปไซต์ Village Vanguard และ ekoD Works ของญี่ปุ่น แต่ต้องใช้วิทยายุทธภาษาญี่ปุ่นนิดนึงนะ เพราะเว็ปไซต์มีแต่ภาษญี่ปุ่นน่ะสิ ช่วงนี้สีสันแบบกาแลคซี่กำลังฮิตสุดๆ เพื่อนๆ น่าจะลองหามาใส่สักตัวนะ ที่มา en.rocketnews24
-
คนเขียนบท “Fast and the Furious” แง้มเล็กๆ ว่า หนังอาจกลายพันธุ์ตะลุยไปถึงอวกาศ!?
อีกไม่นานเกินรอแล้วสำหรับแฟนๆ หนังแอคชั่นเรื่องดังอย่าง Fate Of The Furious จะได้ชมการขับรถไล่ล่ากันสุดมันเป็นภาคที่ 8 ในเร็วๆ นี้แล้ว เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วนับตั้งแต่ภาคแรกที่ตัวละคร Dominic Toretto และพรรคพวกได้ออกปล้น และซิ่งกันมาจนกระทั่งถึงในภาคล่าสุด แว่วๆ ว่าทาง Universal มีแผนจะสร้างไปถึงภาค 10 กันเลยทีเดียว!! พัฒนาการการไล่ล่าและการปล้นของพวกเขา นับวันจะยิ่งไปไกลขึ้นทุกที (จากการแข่งรถไปสู่การก่ออาชญากรรม) แบบนี้คงจะไม่มีตำรวจที่ไหนจะหยุดการปล้นของพวกเขาได้ละมั้ง แล้วแบบนี้จะมีที่ไหนที่จะให้พวกเขาไปซิ่งกันอีกล่ะเนี่ย!? ทางเว็บไซต์ Uproxx ได้ทำการสัมภาษกับคนเขียนบท Chris Morgan และถามหลายๆ คำถามที่พวกเราอยากรู้กัน และหนึ่งในคำถามที่อยู่ในใจแฟนๆ หนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นการไปท่องอวกาศของดอมและเพื่อนๆ โดยเขาเผยในทำนองที่ว่ายังไม่มีแผนที่จะพาพรรคพวกของดอมไปซิ่งในอวกาศในตอนนี้หรอก แต่ก็มีความเป็นไปได้ ถ้าหากมีอะไรที่น่าสนใจ Chris Morgan ก็ได้พูดแบบติดตลกว่า “คุณลองนึกดูนะถ้าอยู่ดีๆ ก็มีพี่ชายฝาแฝดของดอมอย่าง ริดดิก (ที่วิน ดีเซลรับบทเช่นกัน) โผล่ออกมา มันคงจะทำร้ายหัวใจแฟนๆ หนังอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลและเราจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน ส่วนในเรื่องของฉากการไล่ล่าในอวกาศก็เหมือนกัน ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรดีๆ ที่จะโยงให้พวกเขาออกไปนอกโลกได้เลย” แหม่…
-
ไอเดีย “กางเกงในกาแล็กซี่” ดื่มด่ำไปกับห้วงอวกาศ เรืองแสงได้แม้ค่ำคืนที่มืดมิด
หลายๆ คนน่าจะชื่อชอบห้วงอวกาศหรือกาแล็กซี่อะไรพวกนี้ แล้วก็มีของสะสมเป็นของใช้ต่างๆ เช่นเสื้อ กางเกง รองเท้า หมวก หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่รับรองได้ว่าไอเทมประเภทนี้จะต้องยังไม่มีอยู่ในคอลเลคชั่นแน่นอน ของที่เรากำลังพูดถึงอยู่มันก็คือ กางเกงใน นั่นเอง ซึ่งเจ้ากางเกงในคอลเลคชั่นนี้จะมาพร้อมกับลานกาแล็กซี่ที่สวยงาม แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้ด้วย!! ดูดีใช่ไหมล่ะ? เจ้ากางเกงในเรืองแสงนี้ ออกแบบโดย Make It Good Apparel ร้านค้าเสื้อผ้าในโอเรกอน ซึ่งทำสินค้าของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้กางเกงในนี้ก็เลยมีของทั้งสองเพศด้วย ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติม รวมถึงเลือกซื้อกันได้ที่ร้าน makeitgoodapparel กันได้เลยครับ… แบบขาสั้นก็มีนะ หรือจะเป็นแบบขายาวดี? ของผู้ชายก็มีเช่นกัน แต่ว่าเหมือนจะมีแค่แบบเดียวเนี่ยสิ ไฮไลท์หลักก็คือตอนเรืองแสงนี้แหละ สวยฟรุ้งฟริ้งเชียว ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้ใส่กางเกงในโชว์ใครก็เหอะ แต่ถ้าใครที่ชอบแนวนี้อยู่แล้ว ก็น่าโดนไม่น้อย!!! ที่มา boredpanda
-
เว็บไซต์ Ranker จัด 16 อันดับภาพยนตร์แนว ‘อวกาศ’ ที่ดีที่สุดตลอดกาล
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นคอหนัง และแน่นอนว่าหนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศ หรือนอกโลกนั้นเองก็ต้องเป็นหนึ่งในแนวโปรดของใครหลายๆ คน และในเว็บไซต์ Ranker เองก็ได้ทำการจัดอันดับ ‘ภาพยนตร์อวกาศ’ ที่ดีที่สุด โดยอนุญาตให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปโหวตกัน และนี่ก็คือผลการโหวตที่ได้ข้อสรุปมาแล้ว จะมีหนังเรื่องโปรดของใครติดอันดับด้วยหรือไม่ ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 16. Planet of the Apes 1968 มนุษย์ออกไปนอกโลกแล้วค้นพบดวงดาวดวงหนึ่งที่มีลิงเป็นผู้ปกครอง และมนุษย์เป็นเพียงแค่ทาส ทุกคนโดนจับและต้องหนีออกมาให้ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปติดตามชมกันแล้วล่ะ… 15. Starship Troopers 1997 จากผลงานของผู้กำกับเดียวกันกับ Total Recall เมื่อมนุษย์ต้องต่อสู้กับเหล่ากองทัพแมลงยักษ์นับหมื่น จพสนุกและน่าลุ้นแค่ไหนก็ต้องไปติดตามกันเอาเองแล้วล่ะ 14. Moon 2009 เรื่องราวเล่าถึงตอนที่ทรัพยากรบนโลกใกล้จะหมดลง จึงได้ส่งคนขึ้นไปบนดวงจันทร์พร้อมกับหุ่นยนต์เพื่อหาแหล่งทรัพยากรและพวกเขาก็ได้ค้นพบความลับบางอย่าง 13. Close Encounters of the Third Kind 1977 เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ต่างดาว เพื่อไขปริศนาว่าพวกเขาเดินทางมายังโลกทำไม… 12. Total…
-
ฮือฮากันใหญ่ Nasa เผยภาพคล้าย “ช้อน” ถูกพบบนผิวดาวอังคาร คาดอาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่จริงๆ
การค้นหาสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกยังคงเป็นภารกิจที่หน่วยงานหลายๆ แห่งให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเราเองก็ตั้งตารอและรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มีการค้นพบบสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่ามีผู้ที่คลั่งไคล้เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว ค้นพบวัตถุหน้าตาคล้ายช้อนบนพื้นผิวดาวอังคารจากคลิปของยานสำรวจที่ Nasa ส่งขึ้นไปบนดาวอังคาร จนสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก ตามรายงานบอกว่าการค้นพบวัตถุคล้ายช้อนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นครั้งที่สองแล้วในรอบปีนี้ และนอกจากช้อนแล้ว ก่อนหน้านี้ทาง Nasa เองยังเคยค้นพบวัตถุหน้าตาคล้ายกับแหวนและถุงมือด้วย ซึ่งการค้นพบเหล่านั้นทำให้เกิดการคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่านี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกเราว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตภูมิปัญญาอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ หลังจากที่คลิปการค้นพบช้อนนี้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูบ ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวเน็ตมากมาย เช่น M7CVZ “ว๊าว มันไม่น่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติเลย” Haschel “Matt Damon เอาไปทิ้งไว้แน่ๆ” phillip Scarlett “Nasa รู้มาเป็นปีๆ แล้วว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลก” แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีคนเชื่อว่ามันคือช้อนทั้งหมด และบางคนมองว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็เป็นได้ “เรามองเห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น บางคนยังเห็นหน้าของพระเจ้าในใบไม้ได้เลย บางคนก็มองเห็นเป็นมนุษย์ยืนอยู่บนดวงจันทร์ก็มี” หนึ่งในคอมเม้นจากยูทูบกล่าว ที่มา dailymail
-
สำรวจโลกได้แม้อยู่ในบ้านด้วย Google Earth VR พาบินไปรอบโลก ประดุจดั่งซุปเปอร์แมน!!
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่ว่าอะไรก็ต้องทำเวอร์ชั่น VR ออกมารองรับไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือว่าภาพยนตร์ และล่าสุดนี้ทางบริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google ก็เอากับเขาด้วยเหมือนกันด้วยการพัฒนา Google Earth VR Google Earth VR จะมีลักษณะเหมือน Google Street View แต่เปลี่ยนจากมองจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไปเป็นมุมมองจากหน้าจอแว่น VR แทน ซึ่งเราสามารถบังคับทิศทางได้จากแผงควบคุมว่าเราอยากไปชมส่วนไหนของโลก ที่เจ๋งยิ่งกว่านั้นคือ เราสามารถชมโลกจากนอกอวกาศได้ด้วย คราวนี้เราก็จะรู้แล้วสินะ เวลาซุปเปอร์แมนบินออกไปนอกโลก เขาจะรู้สึกยังไง ตอนนี้ Google Earth VR เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้งานฟรีๆ แล้วบนแพลทฟอร์ม Steam แต่ในช่วงแรกจะรองรับแค่อุปกรณ์ของ HTC Vive เท่านั้น ก่อนจะขยายลงแพลทฟอร์มอื่นๆ ในช่วงปีหน้า ใครที่มี Vive ครอบครองก็ไปลองโหลดมาเล่นได้เลยนะครับ ที่มา Google
-
25 ภาพถ่ายจากกล้องฮับเบิล ที่จะทำให้เห็น ‘ความงดงาม’ ของอวกาศอันไกลโพ้น
เมื่อทาง NASA ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 26 ปี การปฏิบัติงานของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) งานนี้จึงได้ปล่อยภาพของ กระจุกดาว Westerlund 2 ที่เต็มไปด้วยกลุ่มดวงกล่าวเกิดใหม่กว่า 3,000 ดวง ที่ตั้งอยู่ในกลุ่มดาว Carina ซึ่งอยู่ห่างจากโลกถึง 20,000 ปีแสงเลยทีเดียว และนี่คือภาพของกระจุกดาว Westerlund 2 นอกจากนี้ เรายังมี 25 ภาพถ่ายในอวกาศจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล แล้วคุณจะได้เห็นถึงความงดงาม ความยิ่งใหญ่ รวมถึงจะได้รู้จัก “จักรวาล” ให้มากขึ้น 1.เนบิวลาตาแมว – 24 กันยายน 2.กาแล็กซี่ M66 ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มดาวสิงห์ – เมษายน 2010 3.เนบิวลาปู – ธันวาคม 2005 4.เนบิวลาผีเสื้อ –…
-
11 เรื่องอันน่าเหลือเชื่อของ ‘จักรวาล’ ความกว้างใหญ่อันไม่สิ้นสุด ที่ทำให้เราต้องแปลกใจ!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘จักรวาล’ ของเรานั้นมีความกว้างใหญ่ไพศาลจนเรียกได้ว่าไม่มีที่สิ้นสุด และมนุษย์เราเองก็เป็นเพียงส่วนที่เล็กซะยิ่งกว่าผงฝุ่นซะอีก และยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับมัน แต่มนุษย์ก็ยังคงทำการศึกษาค้นคว้าเพื่อที่จะทำความรู้จักกับจักรวาลที่เราอยู่ให้มากขึ้นไปอีก และนี่ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอวกาศและจักรวาล ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็เป็นได้ จะมีอะไรบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… 1. 99% ของวัตถุนั้นเป็นพื้นที่ว่าง และถ้าเรานำพื้นที่ว่างนั้นออกไปให้เหลือเพียงแค่อะตอม มนุษยชาติทั้งหมด (7.2 พันล้านคน) จะสามารถบรรจุลงในน้ำตาลเพียงก้อนเดียว 2. ในตัวของเรานั้นมีอะตอมที่เคยเป็นส่วนของดวงดาวที่ระเบิดเมื่อหลายพันล้านปีก่อน 3. แสงระยิบระยับจากการเกิดการระเบิดของบิ๊กแบงนั้นสามารถเปรียบได้กับ ภาพซู่ซ่าบนจอทีวีเวลาหาสัญญาณไม่เจอ 4. ถ้าคุณเป็นมนุษย์ต่างดาวที่อยู่ห่างออกไป 65 ล้านปีแสง แล้วส่องกล้องโทรทัศน์แบบคุณภาพสูงส่องมาที่โลกแล้วล่ะก็ จะเห็นเป็นไดโนเสาร์แทนที่จะเป็นมนุษย์ 5. 1 ปี บนดาวศุกร์ยาวนานเท่ากับ 224 วันบนโลก แต่ 1 วันบนดาวศุกร์ยาวนานเท่ากับ 243 วันบนโลก เพราะฉะนั้น 1 วันของดาวศุกร์จะยาวนานกว่า 1 ปี *เพราะว่าดาวศุกร์ใช้เวลาในการหมุนรอบตัวเองนานกว่าการโคจรรอบดวงอาทิตย์* 6. เกือบทั้งหมดของอะตอมไฮโดรเจนที่อยู่ในร่างกายเรานั้นเป็นผลมาจากการเกิดบิ๊กแบงเมื่อ…
-
‘น้องมอส’ กับผลงานการทดลองอวกาศ ได้รับคัดเลือกและชื่นชมจากญี่ปุ่น แต่คนไทยไม่ค่อยรู้
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนักศึกษาไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อของญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าว NHK และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่านักศึกษาผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรายนี้มีชื่อว่า นายวรวุฒิ จันทร์หอม หรือ น้องมอส เป็นนักศึกษาปี 2 จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สิ่งที่ทำให้น้องมอสกลายเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นก็เพราะว่าเขาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทดลอง “การโค้งของผิวของเหลวในอวกาศ (Capillary in Zero gravity)” เข้าร่วมในโครงการ Asian Try Zero-G 2016 ที่จะนำแนวคิดการทดลองวิทยาศาสตร์ส่งให้มนุษย์อวกาศญี่ปุ่น จนในที่สุดผลงานของน้องมอสได้รับการคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้นำขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ (ISS) ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลที่นำการทดลองของเขาไปทดสอบก็คือมนุษย์อวกาศที่ชื่อนาย Onishi Takuya ซึ่งน้องมอสเองก็ได้มีโอกาสได้ชมการทดลองและพูดคุยกับมนุษย์อวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ผ่านระบบสื่อสารจากห้องบังคับการที่ศูนย์อวกาศสึคุบะด้วย . . .…
-
ผลโฉมเรือรบใหม่สหรัฐ ราคา 1 แสนล้าน กับความไฮเทค กระทั่งหลอกเรดาร์ว่าเป็นเรือประมง!!
แม้ว่าเรือรบลำนี้อาจจะมีรูปทรงแปลกๆ เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟสักหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าคุณสมบัติของมันนั้นออกจะเจ๋ง กับราคาแสนแพง ยิ่งกว่ารูปร่างที่คุณเห็นหรือสิ่งที่คุณคิดเสียอีก… เรือรบที่ทุกคนได้เห็นอยู่นี้คือเรือรบ USS Zumwalt ลำใหม่ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ตามรายงานระว่ามันเป็นเรือที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างกันมา คุณสมบัติคร่าวๆ บนเรือมีปืนกลซ่อนอยู่ภายในตัวเรือ ที่สามารถยิงศัตรูได้ไกลถึง 96 กิโลเมตร บรรทุกขีปนาวุธอีก 600 ลูก บรรทุกลูกเรือได้สูงสุดถึง 300 นาย นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่จะส่งสัญญาณเรดาร์หลอกๆ ออกมา เพื่อให้เรือลำอื่นๆ คิดว่าเรือลำนี้เป็นเพียงเรือประมงหาปลาเท่านั้น เรือลำนี้จึงเหมาะมากแก่การใช้งานแบบสอดแนม หรือเข้าไปในพื้นที่ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกตรวจจับได้ เพราะคลื่นโซนาร์จะตรวจจับมันได้ค่อนข้างยาก ตามรายงานบอกว่าต้องใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างเรือลำนี้นานถึง 5 ปี และใช้เงินในการสร้างกว่า 138,900 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้มันก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมกับถูกปล่อยลงน้ำแล้วเรียบร้อย แต่มันจะยังไม่ถูกนำมาใช้งานจริงๆ จนกว่าจะทดสอบกันเสร็จในปี 2018 มันถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการโจมตีของกองกำลังภาคพื้นดิน ภารกิจทำลายศัตรู ป้องกันทางอากาศ บนผิวน้ำและใต้ทะเล ทางด้านของกัปตันเรืออย่างนาย James Kirk (ซึ่งชื่อบังเอิญเหมือนกับตัวละครในหนัง Star Trek) กล่าวว่า “ลูกเรือทั้งหมด 147 คนของเราได้ผ่านการฝึกฝนและรับรองมาแล้ว”…
-
27 เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โลก และอวกาศ ที่เพื่อนๆ ไม่เคยทราบกันมาก่อน!!
มีคนพูดว่า โลกเรานั้นเปรียบเสมือนหนังสือเล่มใหญ่ ที่รอการเปิดอ่าน เทียบกับความรู้เราแล้วก็มีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีความรู้รอบตัวดีๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะพาทุกคนไปเปิดหูเปิดตา ถึงความจริงในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ โลก และอวกาศของเรา ซึ่งบางเรื่องนี้ หลายคนคงไม่รู้มาก่อนเลยละ… เรามักจะคิดว่าแมมมอธเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์มากๆ แต่รู้ไหม.. ตอนที่แมมมอธตัวสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่ มหาปิรามิดในประเทศอียิปต์ได้ถูกสร้างขึ้นและมีอายุถึง 1,000 ปีแล้วล่ะ มหาพีระมิดถูกสร้างขึ้น 2560 ปีก่อนคริสตศักราช เช่นเดียวกันกับเครื่องประหารกิโยตินแบบในภาพ มันเพิ่งยกเลิกได้ไม่นานเท่านั้น ตอนภาพยนตร์ซีรีย์ Star Wars เข้าฉายครั้งแรกในปี 1977 ประเทศฝรั่งเศสยังคงใช้เครื่องกิโยติน ประหารชีวิตคนอยู่ และได้ยกเลิกไปเมื่อปีนั้นเอง ถัดมา อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่คลีโอพัตรามีชีวิตอยู่ใกล้กับช่วงที่ iPhone ถือกำเนิด มากกว่าตอนที่มหาปิรามิดถูกสร้างขึ้นเสียอีก เวลาเราเห็นภาพปิรามิดเหมือนคิดว่าจะอยู่กลางทะเลทรายใช่มั้ยล่ะ?? แต่ที่จริงแล้ว อยู่ใกล้กับเมืองกิซ่าแค่นี้เอง… ในปี 1487 ชาวมายันเชื่อในการบูชายัญเทพเจ้า มีผู้คนถูกจับไปฆ่ามากกว่า 20,000 คน รวมถึงวิธีการแหวะอกเพื่อเอาหัวใจที่ยังเต้นอยู่ของเหยื่อออกมา และการกินเนื้อมนุษย์…
-
8 ภาพจำลอง ‘พระอาทิตย์ขึ้น’ บนดาวเคราะห์ดวงอื่น แตกต่างจากโลกเราแค่ไหน!??
พระอาทิตย์คือส่วนสำคัญของระบบสุริยะเพราะมันมอบความอบอุ่น และทำให้หลายๆ ชีวิตดำรงอยู่ได้ในโลกใบนี้ ถ้าหากลองคิดดูเล่นๆ ว่าไม่มีพระอาทิตย์หรือแดดร้อนๆ ตอนบ่ายที่เรามักขยาดกันมันจะเกิดอะไรขึ้น…แน่นอนว่าทุกอย่างในโลกคงกลายเป็นน้ำแข็งและคงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดหลงเหลืออยู่ หลายๆ คนคงมีโอกาสได้เห็นฉากสวยๆ ของพระอาทิตย์ขึ้นและตกจากสถานที่ชื่อดังต่างๆ บนโลกกันไปบ้าง แต่ถ้าหากเราอยู่บนดาวดวงอื่นล่ะ มันจะเป็นแบบไหนนะ? Ron Miller คือผู้ที่จะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้ด้วยระบบจำลองภาพเสมือนจริง ณ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นบนดาวดวงอื่น ยิ่งพูดยิ่งน่าสนใจเราไปดูกันเลยดีกว่า…. ดาวพุธ (Mercury) ดาวที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 60 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะห่างที่อยู่ใกล้กว่าโลกของเรา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พระอาทิตย์ขึ้นที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่าและสว่างกว่าบนโลกของเราอีกด้วย ดาวศุกร์ (Venus) ด้วยระยะห่างประมาณ 108 ล้านกิโลเมตร คิดเป็น 72% จากระยะห่างของโลกและดวงอาทิตย์ และด้วยมวลเมฆที่ปกคลุมไปทั่วทั้งดวงดาวจึงทำให้เราเห็นดวงอาทิตย์เป็นจุด แสงสว่างท่ามกลางบรรยากาศอันมืดอึมครึม ดาวอังคาร (Mars) ดาวดวงที่คอยโคจรรอบโลกของเราเป็นระยะทางกว่า 230 ล้านกิโลเมตร ซึ่งนั่นก็นับว่าดาวอังคารจะห่างจากดวงอาทิตย์ถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับโลกของเรา แต่ระยะทางขนาดนี้ไม่ทำให้การมองเห็นดวงอาทิตย์หายไป ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ด้วยระยะทางที่ห่างกันมากถึง 779 ล้านกิโลเมตรจากดวงอาทิตย์ซึ่งนับเป็น 5.2 เท่าจากโลกถึงดวงอาทิตย์เลยทีเดียว…
-
มาชมวิวัฒนาการจากรุ่นสู่รุ่น ของชุดอวกาศ NASA ตั้งแต่ยุคเริ่มแรก มาจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนของวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีเกร็ดความรู้เจ๋งๆ มาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้วล่ะ เกี่ยวกับชุดนักบินอวกาศของทางนาซ่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นมีความเปลี่ยนแปลงและเป็นมายังไงบ้าง จะน่าสนใจขนาดไหน เรามาชมกันได้เลยดีกว่า!!! 1. Mercury Suit ราวกับว่าเป็นโปรเจ็คต์ครั้งแรกของมนุษยชาติที่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อออกไปยังอวกาศ สำหรับชุดนี้ก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์และหนึ่งในกระแสแฟชั่นกันเลยทีเดียวในตอนนั้น ดัดแปลงมาจากชุดนักบินเจ็ทของนาวิกโยธินสหรัฐฯ จากการบอกเล่าของนาซาก็คือชั้นภายในนั้นเป็นไนลอนที่ถูกเคลือบไว้ด้วยยางนีโอพรีน ส่วนภายนอกเป็นเส้นไนลอนที่ทำมาจากอลูมิเนียม ภาพจริง 2. Gemini Flight Suit เป็นชุดโอกาศในโปรเจ็คต์ที่ 2 ของทางนาซา ในตอนนั้นยานอวกาศลำนี้จะบรรทุกนักบินอวกาศ 2 รายขึ้นไป โดยสวมชุดที่มีความคล้ายคลึงกับชุด Mercury ในยุคก่อน ต่างกันก็ตรงที่ชุดนี้นั้นสร้างมาให้ยืดหยุ่นได้ดีกว่าเวลามีแรงดัน และที่สำคัญที่สุดก็คือสามารถต่อแอร์ติดตัวที่จะทำให้นักอวกาศเย็นสบายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ ภาพชุดจริงๆ 3. Gemini Spacewalk Suit สำหรับชุดนี้เป็นครั้งแรกที่เหล่านักบินอวกาศได้ ‘เดิน’ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นั่นหมายถึงนักวิทยาศาสตร์จะออกมาจากยานพาหนะ ออกมาสัมผัสกับอวกาศภายนอกโดยตรง ซึ่งความสำคัญของมันก็คือต้องสามารถทำให้นักบินอวกาศทนทานต่อสภาพภายนอกได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือถังออกซิเจนที่ต้องติดตั้งเข้าไปเพื่อใช้เป็นอากาศหายใจระหว่างปฏิบัติการอยู่ข้างนอก ภาพชุดจริง 4.…
-
เด็ก 10 ขวบผู้มีความฝัน ‘อยากเก็บขยะอวกาศ’ ทำผลงานได้เงินสนับสนุนกว่า 700,000 บาท!!!
ก็เป็นความน่ารักและไอเดียเจ๋งๆ ของเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ Oliver Blaise และ Leonard Gu ที่ก็เหมือนเด็ก 10 ขวบทั่วๆ ไป แต่ตอนนี้หลายๆ คนคงพอจะเห็นความสามารถและศักยภาพของพวกเขาแล้วล่ะ!!! เจ้าหนูทั้งสองชื่นชอบยานอวกาศเป็นอย่างมาก และได้ประดิษฐ์ยานอวกาศจำลองของพวกเขาขึ้นในงาน ExploraVision มหกรรมวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Toshiba ซึ่งอยู่ในความดูแลของ National Science Teachers Association (NSTA) อีกที โดยโปรแกรม ExploraVision นั้น เป็นการรวบรวมเอาเด็กๆ หัวกะทิจากรอบโลก เพื่อฝึกฝนให้พวกเขากลายเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์เทคโนโลยีต่างๆ แห่งโลกอนาคต และจากผลงานของเจ้าหนูทั้งสอง ก็ได้รับเงินรางวัลคนละ 10,000 เหรียญ หรือราวๆ 350,000 บาท รวมกันทั้งคู่ก็เป็นเงินกว่า 700,000 บาทเลยทีเดียว!!! Oliver Blaise และ Leonard Gu กับยานอวกาศของพวกเขา โปรเจ็คของเด็กน้อยทั้งสอง ณ ขณะนี้มีชื่อว่า Hubble NEST ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่จะสามารถเก็บขยะในอวกาศและวงโคจรของโลก โดยการเปลี่ยนกล้องโทรทรรศน์ Hubble ให้กลายเป็นอุปกรณ์เก็บขยะในอวกาศ และถ้าเพื่อนๆ ไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ล่ะก็ เชื่อหรือไม่ว่ามีขยะอวกาศที่หมุนอยู่ในวงโคจรของโลกตอนนี้กว่า 500,000 ชิ้นด้วยกัน จากการปล่อยจรวดและกระสวยอวกาศต่างๆ…
-
หยิบกาแล็คซี่เข้าปาก!? เหมียวชวนชม 18 ขนมหน้าตาแปลกๆ ที่ทั้งหมดมีความคล้าย “อวกาศ”
หากคุณเห็นอาหารที่เหล่านักบินอวกาศได้กินระหว่างที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่อยู่นอกโลก แล้วรู้สึกอยากจะลองกินบ้างล่ะก็ คุณอาจจะต้องผิดหวัง เพราะอาหารเหล่านั้นถูกสงวนให้สำหรับนักบินอวกาศเท่านั้น แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นมีของกินแปลกๆ ที่จะทำให้คุณไปถึงอวกาศได้แล้ว วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปดูขนมหน้าตาแปลกๆ เช่นไอศกรีมแท่ง อมยิ้ม เค้ก ช็อคโกแลต ที่ทั้งหมด ล้วนมีหน้าตาอของดวงดาว กาแล็คซี่ให้เห็น จนคุณจินตนาการกรรมวิธีการทำไม่ออกเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย 1. อมยิ้มระบบสุริยะ 2. มาการองลายอวกาศ 3. แบล็คเวลเวทเนบิวลาเค้ก 4. เค้กดาวพฤหัสบดีและโลก 5. เค้กกลุ่มดาวหมี 6. เค้กแสงเหนือ 7. คัพเค้กกาแล็คซี่ 8. เค้กชาอวกาศ 9. เค้กกาแล็กซี่และอัญมณี 10. คุ๊กกี้อวกาศ 11. แอปเปิลคาราเมลอวกาศ 12. ไอศกรีมอวกาศ!? 13. เค้กกลุ่มราศี 14. เค้กระบบสุริยะ …
-
ย้ายจักรวาลอันกว้างใหญ่มาอยู่ใกล้ตัว กับเครื่องประดับสไตล์ “อวกาศ” สุดงดงาม!!
เราเป็นเพียงแค่ฝุ่งเม็ดเล็กๆ ถ้าเอาไปเทียบกับอวกาศอันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีใครรู้ว่าข้างนอกนั่นจะมีสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราหรือเปล่า เพราะยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ แต่เวลาเรามองออกไป ก็มักจะเห็นแต่ความงดงาม วันนี้ #เหมียวสามสี ก็อยากจะเอาความงดงามเหล่านั้นมาไว้ใกล้ตัวเรามากที่สุดกับเครืองประดับที่ทำออกมาในรูปแบบของอวกาศที่เต็มไปด้วยปริศนามากมาย โดยศิลปินชาวยูเครน ซึ่งทั้งหมดเป็นแฮนด์เมดทั้งสิ้น เธอได้ทำเครื่องประดับอวกาศขึ้นมาให้เราได้สามารถสวมใส่และออกแบบจักรวาลของเราเองได้ ซึ่งแต่ละชิ้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งจี้ กำไล และแหวน ซึ่งทุกชิ้นงดงามมากจริงๆ เราไปดูกันว่าถ้าเราเอาทุกอย่างมาใส่รวมกันแล้วมันจะหลุดโลกเพียงใด ทั้งหมดนี้เธอทำออกมาวางขายในเว็บไซต์ etsy.com ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูกันได้นะจ๊ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 700- 1,600 บาท ที่มา boredpanda
-
ช่วยด้วยหมาหาย!! มาสคอตประจำโรงเรียนหายวับไปในอวกาศ ประกาศตามหากันให้วุ่น
#เหมียวเลเซอร์ ถึงกับตะลึงในความพยายามเลยล่ะ เพียงเพราะว่ามาสคอตประจำโรงเรียนนั้นถูกส่งขึ้นติดตามบอลลูนขึ้นไปด้วยนั้นไม่มีโอกาสได้กลับมายังบนโลกอีกต่อไปแล้ว โอกาสเสี่ยงต่อการสูญหายมีสูงมาก!! มาสคอตหมาตัวนี้มีชื่อว่า Sam เป็นมาสคอตของโรงเรียนประถม Morecambe Bay ใน Lancashire ของประเทศอังกฤษ ได้รับภารกิจติดสอยห้อยท้ายบอลลูนส่งขึ้นไปบนท้องฟ้ากว่า 25 กิโลเมตรเหนือชั้นบรรยากาศโลก เพียงไม่นานนักเมื่อบอลลูนแตก อุปกรณ์ทุกอย่างก็ตกลงมาสู่พื้นโลก ยกเว้นเจ้า Sam ถึงกับต้องประกาศตามหากันเลย!! ซึ่งโอกาสที่จะเจอนั้นเหลือเพียงน้อยนิดแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะสูญหายไปในอวกาศล่องลอยอย่างไร้จุดหมายก็เป็นได้ หวังว่าจะพบเจอเจ้า Sam อีกครั้งนะ กลับมาเถอะ ที่โรงเรียนให้อภัยแล้ววววว Lost in space, Sam the mascot of Morecambe Bay Community School has not returned from his last mission. #FindSam pic.twitter.com/DyTMjgsDao —…
-
OK Go ลงทุนขึ้นไปถ่าย MV เพลงใหม่ล่าสุด บนเครื่องบินที่ไร้แรงโน้มถ่วง เจ๋งจริง ยกหัวแม่โป้งให้เลย!!
ใครที่รู้จักวงร็อกสัญชาติอเมริกันอย่าง OK Go คุณจะต้องรู้ว่าพวกเขามักจะออกผลงานมิวสิควีดีโอเจ๋งๆ มาให้เราได้ชมกันอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นผลงานเพลง Here It Goes Again ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความโด่งดังให้พวกเขามาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน และล่าสุด OK Go ก็ปล่อยผลงานเพลงใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า ‘Upside Down & Inside Out’ ออกมา ซึ่งคราวนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย แถมยังมาแปลกกว่าเดิมอีกด้วย เพราะสมาชิกทั้ง 4 ได้ลงทุนไปถ่ายบนเครื่องบินเลยนะเหมียว ที่สำคัญการทำมิวสิควีดีโอเพลงของพวกเขาในครั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสายการบิน S7 แอร์ไลน์ส ของรัสเซียเลยนะเหมียว แถมยังมี 2 แอร์โฮสเตสสาวของสายการบินนี้ มาเข้าร่วมถ่ายมิวสิควิดีโออีกด้วย กว่าจะออกมาเป็นมิวสิควีดีโอเพลงสุดเจ๋ง เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ เพราะก่อนที่จะมีการถ่ายทำจริง พวกเขาต้องไปฝึกฝนทั้งหลักการบังคับเครื่องบินให้บินแบบผาดโผน ลอยในอากาศ ตีลังกา ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ที่องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์เลยทีเดียว …
-
ตื่นตัวทั่วโลก LIGO ยืนยันค้นพบ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ เป็นครั้งแรก ตามทฤษฏีของไอน์สไตน์
เมื่อคืนของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ตามช่วงเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย อีกฟากหนึ่งของโลกกำลังจัดงานแถลงการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ มันก็คือ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลก และได้ทำการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชมไปพร้อมๆ กัน มาถึงแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Gravitational Waves (คลื่นแรงโน้มถ่วง) เป็นทฤษฏีของไอน์สไตน์ที่ตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ จนระยะเวลาผ่านไปเกือบร่วมๆ 100 ปี วันนี้ก็มาถึงแล้ว ซึ่งทีมงาน LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ออกมายืนยันว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเป็นครั้งแรก จากวันที่ 14 กันยายน 2015 ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากหลุมดำสองหลุม ขนาดมวล 29 และ 36 เท่าของดวงอาทิตย์รวมตัวกัน และปล่อยพลังงานออกมาเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง สามารถวัดคลื่นดังกล่าวได้ในเวลาเดียวกันทั้งสถานีที่ Hanford, Washington และ Livingston, Louisiana โดยลักษณะของคลื่นแรงโน้มถ่วงจะไม่เหมือนกับคลื่นธรรมชาติอื่นๆ เป็นรูปแบบการบิดงอของตัวอวกาศ ระยะทางสองทิศยืดและหดออกจากกัน…
-
Fractured Space แจกฟรีผ่าน Steam สงครามแห่งห้วงอวกาศกำลังรอคุณอยู่!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเกมที่เกี่ยวกับอวกาศแล้วล่ะก็ เหมียวมีสิ่งดีๆ มานำเสนอให้คุณโดยเฉพาะ ที่สำคัญก็คือ ‘ฟรี’ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว MOBA เพียงแต่ย้ายมาเป็นในรูปแบบสงครามยานอวกาศ Fractured Space ซึ่งกำลังแจกฟรีผ่าน Steam ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทางผู้พัฒนาเกม Edge Case ปล่อยให้ทุกท่านสามารถดาวน์โหลดตัวเกมเต็มได้ฟรีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอีกก้าวหนึ่งก่อนที่จะเข้าสู่การเปิดตัวเกมอย่างเต็มรูปแบบ โดยตัวเกมทำการพัฒนามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 (ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาขั้นสุดท้าย) ว่าแล้วก็อย่าตัดสินใจนาน รีบไปโหลดมาเล่นเก็บเป็นเจ้าของติดตัวได้ตลอดชีพจาก ที่นี่ กันได้เลยจ้า ของฟรีจะรอช้าทำไม หมดเขตรับฟรีในวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลา 1.00 น. นะจ๊ะ ข้อมูลจาก – store.steampowered
-
นาซ่าเผยคลิปการเล่น “ปิงปอง” ในสภาวะไร้น้ำหนัก โดยใช้ก้อนน้ำแทนลูกปิงปอง
เมื่อปีที่แล้วทางนาซ่าและ Roscosmos ได้ร่วมทีมกันส่งนักบินอวกาศ 2 คนออกไปนอกโลก สู่สถานีอวกาศนานาชาติเพื่อทำภารกิจบางอย่างที่นั่น เพื่อศึกษาว่าร่างกายมนุษย์นั้นจะมีผลกระทบอะไรบ้างเมื่อได้ออกสำรวจ แต่ระหว่างนั้นนักบินอวกาศก็ต้องมีเวลาพักบ้างอะไรบ้าง จะให้คนเราทำงานตลอดเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ และวันนี้หนึ่งในนักบินอวกาศ Scott Kelly ก็ได้แสดงวิธีเล่นปิงปองบินนั้นให้เราได้ดู นี่ก็เป็นวันที่ 300 แล้วที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่บนนั้น เพื่อเป็นการฉลอง ก็เลยทำการเล่นปิงปอง โดยใช้น้ำแทนลูกปิงปอง เมื่อน้ำอยู่ในสภาะไร้น้ำหนัก มันจะลอยเป็นลูกกลมๆ เหมือนลูกบอล ซึ่งเขาเรียกมันว่า “Liquid Ping Pong” หรือปิงปองเหลวนั่นเอง เราไปชมคลิปการเล่นของเขากันเลย Scott Kelly และเพื่อนนักบินอวกาศอีกคนหนึ่งจากรัสเซีย Mikhail Kornienko ได้ทำการบันทึกเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนนั้นทุกวัน และอีกไม่กี่เดือนเขาก็จะได้กลับมาสู่พื้นโลกแล้ว เราคงจะได้ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตบนนั้นอีกเยอะเลยล่ะ ที่มา NASA Johnson
-
ทำสำเร็จ!! นักบินอวกาศสามารถปลูกดอกไม้ในอวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก!!
นี่เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา นาย Scott Kelly หนึ่งในนักบินอวกาศของ Nasa ได้ทวีตภาพดอกบานชื่น (Zinnia) ที่ปลูกบนอวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งนี้นาย Kelly ได้เผยว่าดอกบานชื่นที่เห็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Veggie มันถูกปลูกในโรงเรือนเล็กๆ บนสถานีอวกาศ ที่ถูกนำไปติดตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 58 พวกเขาก็ได้ทำการทดลองปลูกผักหลายชนิดด้วยกัน ทั้งผักกาดหอม ผักสลัด และก็มาถึงดอกบานชื่น ทำให้นี่ถือเป็นดอกไม้และผักชุดแรกๆ ของโลก ที่ถูกปลูกในอวกาศเลยก็ว่าได้ ด้านนาย Trent Smith หัวหน้าโครงการของ Veggie ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราสูญเสียต้นไม้ไปสองต้นในระหว่างการปลูกครั้งแรก เพราะขาดแคลนน้ำ ทำให้เรามีความระมัดระวังมากขึ้นในการปลูกครั้งที่สอง และนี่ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเพาะปลูกบนอวกาศเลย” นาย Smith ยังกล่าวต่ออีกว่า “ดอกบานชื่นนั้นไวต่อแสงและสิ่งเร้ามาก มันจะเติบโตโดยใช้เวลาประมาณ 60-80 วัน” นอกจากนี้แล้วพวกเขายังวางแผนจะปลูกอะไรที่ยากกว่านี้อีก เช่นผักกาดขาวและมะเขือเทศ ซึ่งแน่นอนว่าการปลูกพืชผักกินเองได้ของนักบินอวกาศนั้น จะช่วยลดต้นทุนในการส่งอาหารขึ้นไปยังอวกาศ ทำให้นักบินสามารถดำรงชีวิตอยู่ในอวกาศได้นานขึ้น หรืออาจเดินทางได้ไกลขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับมนุษยชาติในอนาคตนั่นเอง…
-
ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที Nasa เตรียมแผนส่งคนขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารภายใน 11 ปีนี้
เคยมีข่าวคราวแว่วๆ ออกมาว่า Nasa นั้นเตรียมที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปอยู่บนดาวอังคาร เพื่อขยายขอบเขตเผ่าพันธุ์มนุษย์ออกไปในอวกาศ และจัดตั้งอนานิคมของมนุษย์บนนั้น โดยพวกเขาวางแผนจะส่งคนขึ้นไปภายใน 10 ปีนี้ล่ะ หากใครที่เคยได้ชมภาพยนตร์ The Martian มาก็น่าจะจินตนาการออกได้ว่า การส่งมนุษย์ขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากแค่ไหน แต่นี่คือชีวิตจริง และ Nasa เองก็กำลังคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปบนนั้น Nasa ได้จัดตั้งโครงการ “Mars One” ขึ้นมาเพื่อวิจัยและส่งมนุษย์ขึ้นไปยังดาวอังคาร ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความอ้างว้างและไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต โดยจะเป็นแผนนำร่องเพื่อถ่ายเทมนุษย์ไปอยู่ที่นั่นไปอนาคตนั่นเอง ซึ่งโครงการของพวกเขาน่าจะแล้วเสร็จในปี 2027 หรืออีกประมาณ 11 ปี ทั้งนี้ Nasa เองจะเริ่มต้นโครงการค้นหาผู้คนที่สมัครใจจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นภายในปีนี้ ซึ่งการไปจะเป็นการไปอยู่แบบถาวร พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องฝึกฝนร่างกายให้สามารถเอาตัวรอดได้ในสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบาก อย่างทะเลทรายหรือขั้วโลกเหนือ แต่พวกเขาก็ใช่ว่าจะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ เพราะเขาจะส่งเทคโนโลยี ที่อยู่อาศัยและอาหารขึ้นไปบนนั้นด้วย อีกทั้งยังมีแหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยให้พวกเขามีไฟฟ้าใช้ มีใครสมัครใจอยากเป็นมนุษย์ดาวอังคารกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์บ้างไหม? ที่มา buzzfeed
-
Elon Musk แนะตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารด่วน ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 3 จะล้างบางมนุษย์
ในแวดวงเทคโนโลยีล้ำๆ หนึ่งในบุคคลที่มักจะถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คือ Elon Musk ผู้บริหารบริษัท SpaceX รวมไปถึงบริษัทในเครือทางด้านเทคโนโลยีชั้นนำมากมาย เขาคนนี้ก็คือ Tony Stark ในชีวิตจริง (แต่ไม่มีชุด Iron Man) ล่าสุดนี้เขาก็ได้ให้การสัมภาษณ์กับทางนิตยสาร GQ เอาไว้ได้น่าสนใจมากๆ เป็นประเด็นเกี่ยวกับแนวโน้มความขัดแย้งของโลกในอนาคต และเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานจากโลกไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร ซึ่งเขาก็ได้แนะเอาไว้ว่าควรที่จะสร้างเมืองที่อาศัยอยู่ได้บนดาวอังคารให้เร็วที่สุด ก่อนที่มนุษย์จะล้างบางและทำลายโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วยน้ำมือของตัวเอง ภาพจำลองอาณานิคมบนดาวอังคาร ‘คุณทำการสำรองข้อมูลในฮาร์ดไดร์ฟได้ แล้วทำไมเราไม่สำรองที่อยู่อาศัยสำหรับการใช้ชีวิตบ้างล่ะ?’ Elon Musk กล่าว โดยทางบริษัท SpaceX เองก็ได้มีแผนการที่จะสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารเอาไว้แล้ว และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะส่งมนุษย์อวกาศไปในทันที!! ไม่ใช่ว่าเขาเป็นพวกกระต่ายตื่นตูม เพียงแต่ว่าเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าไปมากแล้ว ก็จงทำในสิ่งที่พอจะทำได้และเป็นไปได้ โดยเขาก็ทำได้แค่เพียงคาดเดาจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ความขัดแย้งของมนุษย์ที่จะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ประเทศมหาอำนาจที่สะสมหัวรบนิวเคลียร์เอาไว้ ก็จะนำมาใช้ล้างบางฝ่ายตรงข้ามแน่นอน และอย่างที่ในประวัติศาสตร์ได้จารึกเอาไว้ มนุษย์ก็จะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความสูญเสียมหาศาล แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของสงครามนิวเคลียร์อะไร แต่อย่างน้อยการตระหนักของเขานั้นก็เป็นเพื่อการอนุรักษ์และรักษาสิ่งมีชีวิตที่เคยมีอยู่บนโลก ให้มันอยู่รอดต่อไป…
-
นิตยสาร Time จัดอันดับสุดยอดภาพถ่ายอวกาศแห่งปี 2015 จะมีภาพไหนติดอันดับบ้างนะ!!
เรียกว่าเป็นประจำอยู่ในทุกๆไปอยู่แล้ว ที่จะมีการจัดอันดับภาพถ่ายอวกาศสุดสวยงามประจำปี ของสำนักข่าว Times และปีนี้ถือว่าเป็นอีกปีที่มีเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่เกิดขึ้น นั่นก็คือการที่ยานอวกาศ The New Horizon ได้เดินทางไปถึงดาวพลูโต ดาวเคราะห์แคระที่อยู่ไกลที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล แน่นอน ภาพถ่ายของดาวพลูโต ต้องติดอันดับเข้ามาอย่างแน่นอน แล้วอันดับที่เหลือมีใครติดบ้าง ก็ไปชมกันเลย นี่คือภาพของดาวพลูโตที่ยาน New Horizons ได้ถ่ายไว้ขณะบินผ่าน ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ยาน New Horizons กำลังจะเดินทางไปที่ Kuiper Belt หรือ แถบไคเปอร์ บริเวณสุดขอบระบบสุริยะนั่นเอง ภาพของเนบิวล่า Thor’s Helmet ซึ่งเกิดจากการระเบิดของดาวดาวฤกษ์ Wolf Rayet โดยดาวฤกษ์ดวงดังกล่าวนี้ มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ถึง 20 เท่า และตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15,000 ปีแสง ภาพใจกลางของพายุใต้ฝุ่นขนาดยักษ์ Maysak ที่ถ่ายได้โดยนักบินอวกาศในสถานีอวกาศนานาชาติ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภาพของชั้นเมฆสีฟ้าเหนือดาวพลูโต ถ่ายโดนยาน New Horizon หลังจากที่มันเดินทางผ่านไปแล้ว โดยชั้นเมฆดังกล่าว เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของแก๊สไนโตรเจน และมีเทน …
-
อ๊ะ ตอผุด!? คลิปสัมภาษณ์ Stanley Kubrick ยอมรับว่าการไปเหยียบดวงจันทร์มันไม่มีจริง
ย้อนไปกลับใปในช่วงยุคสมัยที่มนุษย์ริเริ่มและพยายามอย่างมากกับการที่จะออกไปสำรวจนอกโลก โดยมีจุดหมายเริ่มต้นเป็นที่ใกล้ๆ นั่นก็คือดวงจันทร์ บริวารที่มีระยะใกล้โลกมากที่สุด จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าสามารถไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้มีคนเชื่อไปซะทุกคน มีทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกิดขึ้นเยอะมาก พร้อมกับตั้งคำถามและข้อสังเกตของคลิปวิดีโอก้าวแรกของมนุษย์ที่ไปเหยียบบนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแสงและเงา ความผิดปกติของธงที่นำไปปักบนดวงจันทร์ และอื่นๆ อีกมากมาย และบุคคลที่ได้ชื่อเสียงมากที่สุดจากการไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกก็คือ Neil Armstrong ซึ่งภายหลังจากการเสียชีวิตของเขาประมาณ 15 ปี คลิปวิดีโอนี้ก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อเปิดเผยเบื้องหลังว่าที่แท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นถูกกำกับโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และ NASA โดยที่ทางด้าน Stanley Kubrick ก็ออกมายอมรับว่านักทฤษฎีสมคบคิดนั้นถูกต้องแล้ว โดยภาพที่เห็นนั้นเป็นผลงานของผู้กำกับสารคดีชื่อดัง T. Patrick Murray อีกทั้งยังบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถูกจัดฉากเพื่อสนองคำพูดของประธาณาธิบดี John F Kennedy ที่ต้องการจะแสดงให้ทั้งโลกได้เห็นพลังของสหรัฐอเมริกาภายใต้การปกครองของตน แต่สำหรับ T. Patrick Murray แล้วการสร้างภาพในการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นถือว่าเป็นผลงานชื้นเอกของเขาเลยก็ว่าได้ อีกทั้ง Kubrick ยังกล่าวเสริมไว้ด้วยว่า ก่อนที่จะถ่ายทำนั้นเขาถูกยัดเยียดข้อมูลที่ผิดๆ…
-
ชมภาพถ่ายโลกจากอวกาศของนักบินชาวญี่ปุ่น สวยงามเลอค่าจนคุณต้องอิจฉา!!
เชื่อว่าหนึ่งในความฝันของใครหลายๆคน คือการได้ออกไปยืนมองโลกจากอวกาศ แม้ทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมาก แต่การจะเดินทางออกนอกอวกาศนั้น ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร ยกเว้นเสียแต่ว่า คุณเป็นนักบินอวกาศที่ได้รับการคัดเลือกมา อย่างเช่นคุณ Kimiya Yui คนนี้ เขาได้รับเลือกไปให้ไปปฏิบัติการบนสถานีอวกาศนานาชาติในโครงการ JAXA ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และล่าสุดเขาได้โพสภาพจากอวกาศเจ๋งๆมากมายให้เราได้ชมกัน จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย ภาพของพระอาทิตย์ตกจากมุมมองบนอวกาศ สวยงามจนแทบหยุดหายใจ.. ฝั่งตะวันตกของอเมริกา ฝันตะวันออกของอเมริกา หมู่บ้านเล็กๆในแคนาดา ภาพของพายุกำลังก่อตัวเหนือประเทศญี่ปุ่น และแสงจักรราศีกำลังปรากฏบนขอบฟ้า ภาพของขอบฟ้าในวันขอบคุณพระเจ้า แสงของเมืองมอสโกว สว่างทะลุเมฆขึ้นมาเลยทีเดียว สีส้มๆตรงกลางนั้นคือทะเลทราย และไฟรอบๆคือเมืองที่ตั้งอยู่รอบทะเลทราย ประเทศบราซิลยามค่ำคืน ภาพของดวงจันทร์ส่วนแสงที่เห็นนั้น คือแสงที่สะท้อนมาจากโลก น่าอิจฉาจังเลยเนอะ เหมียวก็หวังว่าซักวันหนึ่ง เหมียวจะได้ออกไปยืนนอกโลกแบบนี้บ้าง หวังว่าเหมียวจะอายุยืนถึงวันนั้นนะ ที่มา 油井 亀美也 Kimiya.Yui
-
ยลโฉมพลังอันร้อนแรงของพระอาทิตย์ภายใต้แสงเฉดสีต่างๆ คุณภาพระดับ 4K ไม่ใช่ 3GP
แหล่งกำเนิดแสงสว่างตามธรรมชาติที่มีบนโลกนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นพระอาทิตย์อันร้อนผ่าวนี่แหละ แต่ถึงแม้จะให้เกลียดความร้อนจากพระอาทิตย์ยังไง เราก็ยังต้องพึ่งพาแสงสว่างของพระอาทิตย์อยู่ดี ฮ่าฮ่า!! แต่อย่างน้อยพระอาทิตย์ก็ยังทำให้เรารู้ว่ามันมีพลังงานมากมายมหาศาล นี่ว่าอยู่ห่างไกลจากโลกลิบลับแล้วยังร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าไปอยู่ใกล้ไม่สลายกลายเป็นผุยผงกันเลยหรือ (ก็ว่าไปนั่น) เอาล่ะ ถ้านึกภาพไม่ออกว่ามันมีพลังงานมากแค่ไหนเราลองมาชมปรากฏการณ์ Thermonuclear บนพระอาทิตย์กันดีกว่า ทั้งนี้ทางนาซ่าก็ได้เผยแพร่ออกมาเป็นคลิปที่มีความยาวกว่า 30 นาทีกันเลยทีเดียว มองผ่านเฉดสีต่างๆ ในคุณภาพระดับ 4K เห็นช็อตนี้แล้วรับรู้ได้ถึงความร้อนทันที ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่งก็คือความงดงามที่อยู่ในห้วงอวกาศนั่นเอง ที่มา : thechive
-
นักบินอวกาศเผยภาพความงดงามของ ‘ทะเลทรายซาฮารา’ จากมุมมองอวกาศ ให้คนทั่วโลกได้เห็น
หากจะพูดถึง ‘ทะเลทรายซาฮารา’ หลายคงก็คงจะรู้แล้วว่าเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งภาพถ่ายของทะเลทรายซาฮาราที่เราเคยเห็นนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นภาพความสวยงามของผืนทรายอันกว้างใหญ่ แต่จะมีสักกี่คนกันน้า ที่จะเคยเห็นภาพความงดงามของทะเลทรายซาฮาราจากมุมมองอวกาศ และในวันนี้เราได้นำภาพเหล่านั้นมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันแล้ว Scott Kelly นักบินอวกาศชาวอเมริกันวัย 51 ปี ผู้ที่ได้ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจอยู่บนสถานีอวกาศนานกว่า 1 ปี ได้เผยชุดภาพถ่ายของทะเลทรายซาฮาราจากมุมมองอวกาศลงบนทวิตเตอร์ของเขา เพื่อให้ชาวโลกอย่างเราๆ ได้ชมกันยังไงละเหมียว ซึ่งภาพของทะเลทรายซาฮาราจากมุมมองอวกาศนี้ เรียกได้ว่ามันช่างเป็นภาพที่งดงาม และน่ามหัศจรรย์ ในแบบที่เพื่อนๆ หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองดูเลย… โดยแต่ละภาพที่เขาได้นำมาเผยแพร่นั้น แสดงให้เห็นถึงลักษณะของภูมิประเทศในแถบทะเลทรายซาฮารา จากหลายๆ ที่ หลายมุมมอง และหลากหลายสีสันด้วยกัน ดูๆ แล้วรู้สึกเหมือนกำลังได้ชมภาพศิลปะอันงดงามเลยนะเนี่ย ภาพของทะเลทรายซาฮาราอันกว้างใหญ่ ที่เราได้เห็นกันทั่วไปนั้นมันอาจจะดูไม่มีอะไร แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเมื่อได้เห็นจากมุมมองอวกาศแล้วมันจะสวยงามขนาดนี้ ที่มา : StationCDRKelly, kapook
-
สวยงามตระการตา!! Nasa เผยภาพความละเอียดสูงของภารกิจดวงจันทร์ 8,400 ภาพ ตามชมได้เลย
สำหรับมนุษย์โลกแล้วนี่ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ Nasa ได้ปล่อยภาพความละเอียดสูงของการปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ตั้งแต่นักบินไปจนถึงสภาพพื้นผิวบนดวงจันทร์มาให้เราได้ชมกันถึง 8,400 รูปทีเดียว!! ภาพที่ปล่อยออกมานี้ เป็นภาพจากการปฏิบัติภารกิจของนักบินอวกาศจากยาน Apollo 8 ที่ถูกถ่ายได้ด้วยกล้องติดหน้าอก Hasselblad ที่ติดตัวพวกเขาไปตลอดเวลานั่นเอง ทำให้เราสามารถเห็นทุกกิจกรรมได้เหมือนเราออกไปเดินบนดวงจันทร์กับพวกเขาเลย ยาน Apollo 8 ถูกส่งให้ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์เมื่อช่วงคริสมาสต์อีฟปี 1968 และหลังจากนั้น 1 ปีพวกเขาก็กลับมายังโลก และ Neil Armstrong ก็กลายเป็นอีกก้าวสำคัญมนุษยชาติ หากใครยังไม่เต็มอิ่มแล้วล่ะก็ สามารถตามไปดูต่อกันได้ที่เว็บไซต์ flickr เลยนะจ๊ะ ที่มา metro
-
กลุ่มนักศึกษาปล่อยกล้อง GoPro ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ ภาพที่ได้มาคือสุดยอด!!
เมื่อปี 2013 กลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งอยากได้ภาพมุมสูงของแกรนด์แคนยอน พวกเขาจึงสร้างบอลลูนแก๊สพร้อมกล่องใส่กล้อง GoPro ขึ้นมา และปล่อยมันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อเก็บภาพมาให้พวกเขา นอกจากนี้ในกล่องยังมีสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งเครื่อง เพื่อคอยบอกตำแหน่ง GPS หลังจากที่บอลลูนลอยขึ้นไปสูงถึง 20 กิโลเมตร มันก็แตกและกล้องก็ค่อยๆตกลงสู่พื้นดิน โชคร้าย เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นดันเสียระหว่างการปฏิบัติการ ทำให้เหล่านักศึกษาไม่สามารถค้นหาได้ว่า กล่องนั้นไปตกอยู่ที่ไหน ทำให้พวกเขาต้องตัดใจ สองปีต่อมา พนักงานของบริษัท AT&T คนหนึ่งกำลังปีนเขาอยู่ในทะเลทรายใกล้ๆกับแกรนด์แคนยอน เธอพบกับกล่องดังกล่าว และนี่คือภาพที่เธอได้เห็นในกล้อง GoPro อันนั้น ไปชมคลิปกันเลย สวยมากๆเลยนะครับเนี่ย เหมียวฝันว่าวันหนึ่ง จะได้เห็นโลกจากมุมนั้นจริงๆ เดี๋ยวเหมียวทดลองปล่อยบอลลูนมั่งดีกว่า จะได้เก็บภาพแบบนี้มาอวดมั่ง อิอิ ที่มา Bryan Chan
-
มิติใหม่แห่งการเดินทาง SpaceLiner บินจากลอนดอนถึงซิดนี่ย์เพียง 90 นาที!!!
ปกติการเดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงเมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย จะใช้เวลาเดินทางถึง 22 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจไม่ต้องทนนั่งนานขนาดนั้นบนเครื่องบินอีกต่อไปแล้ว เพราะเครื่องบิน SpaceLiner ซึ่งเป็นเครื่องบินความเร็วสูง(มาก) ที่พัฒนาโดย German Aerospace Center สามารถบินจากกรุงลอนดอนสู่ซิดนี่ย์ ด้วยเวลาเพียง 90 นาที!!! โดยวิธีการบินของเครื่องบินนี้จะมีสองขั้นตอน คือเครื่องบินจะต้องขึ้นไปพร้อมกับจรวดไฮโดนเจนที่ความสูง 80 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากนั้นก็จะ “ร่อน” ลงมาจากชั้นบรรยากาศด้วยความเร็ว 20 เท่าของความเร็วเสียง แต่ไม่ต้องตื่นเต้นไป เพราะเจ้า SpaceLiner นี่จะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2030 และก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องหาทุนประมาณ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐให้ได้ก่อน ก็รอชมกันต่อไปว่าจะทำจริงได้หรือเปล่า ไม่แน่ มันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้นะ ที่มา Metro
-
ตื่นเต้นไปกับการเอาชีวิตรอดบนดาวอังคาร ในตัวอย่างล่าสุดของ The Martian
หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาให้เราชมกันไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Fox ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ของหนังไซไฟอวกาศ ที่ว่าด้วยเรื่องของหนุษย์คนหนึ่งที่ติดอยู่บนดาวอังคารอย่าง The Martian ออกมาให้เราตื่นตาตื่นใจกันแล้ว The Martian ว่าด้วยเรื่องราวของ Mark Watney (Matt Damon) และทีมนักวิทยาศาสตร์ในระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจบนอังคาร แต่ในระหว่างออกสำรวจพวกกลับเจอพายุในอวกาศ Watney ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ทีมงานทั้งหมดคิดว่าเขาตายแล้ว แต่ Watney กลับรอดชีวิตและพบว่าตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังบนดวงดาวที่โหดร้าย มีเพียงเสบียงอันน้อยนิดที่พอประทังชีวิตได้ เขาต้องใช้ความฉลาดทั้งหมดเพื่อเอาตัวรอด โดยการพยายามปลูกผักและหาน้ำดื่มด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งสัญญากลับไปยังดาวโลกที่อยู่ห่างไกลจากดาวอังคารถึง 140 ล้านไมล์ด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันนาซ่าและทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติต่างก็คิดหาวิธีเพื่อนำ “เดอะ มาร์เชียน” กลับบ้าน แต่นั่นต้องใช้เวลานานถึง 4 ปีกว่าที่จะส่งยานลำใหม่มาช่วยเขาได้ ทีมงานของเขา(Jessica Chastain, Michael Peña, Kate Mara, Sebastian Stan และ Aksel Hennie) จึงตัดสินใจกลับไปช่วย Watney เสียเอง ซึ่งมีชีวิตของพวกเขาเป็นเดิมพัน คลิ๊กชมคลิปแบบภาษาไทยได้ที่ด้านล่าง The Martian มีกำหนดฉายในบ้านเราวันที่ 1…
-
วิถีการใช้ชีวิตในอวกาศไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แตกต่างจากบนโลกอย่างสิ้นเชิง!!
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าถ้าหากว่าเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศจริงๆ กิจวัตรประจำวันต่างๆ ของเราก็เหมือนกับที่อยู่บนโลกหรือไม่? แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่ไม่เหมือนก็คือแรงโน้มถ่วง ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แล้วนักบินอวกาศเขาจะอยู่จะกินอย่างไร? ตามมาดูกันเถอะ!! การออกกำลังกายในอวกาศ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมากในอวกาศ โดยนักบินอวกาศจะต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวันเพื่อป้องกันไขข้อเสื่อมและกล้ามเนื้อฝ่อ เวลาออกกำลังกายก็ต้องมีจุดยึดร่างกายเอาไว้ด้วย การอาบน้ำในอวกาศ การอาบน้ำและครั้งก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องค่อยๆ เปิดถุงน้ำทีละนิด เพื่อไม่ให้น้ำลอยกระจายออกไป ขัดถูตัวด้วยฟองน้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วน และการแปรงฟันจะไม่บ้วนปากไปเรื่อย นักบินอวกาศจะกลืนลงไปแทนหรือไม่ก็บ้วนใส่เสื้อผ้า การนอนหลับในอวกาศ การนอนหลับพักผ่อนของนักบินอวกาศก็คือการมัดตัวให้ติดอยู่กับด้านข้างของยานอวกาศนั่นเอง ไม่ได้นอนบนเตียงนุ่มๆ นะจ๊ะ อาหารการกินในอวกาศ ขอให้ลืมอาหารสดไปได้เลย เพราะในอวกาศจะได้กินแค่อาหารอบแห้งเท่านั้น แถมยังต้องมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือไม่ก็รัสเซียด้วย การมีเพศสัมพันธ์ในอวกาศ นักวิทยาศาสตร์จากรัสเซีย 2 ท่านได้ทำการทดลองนี้มาแล้ว แต่ไม่ได้ทำในอวกาศนะ ทดลองอยู่ในห้องจำลองไร้แรงโน้มถ่วง ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่าสามารถทำได้ แต่ทำได้เพียงแค่ 4 ท่าเท่านั้น (ท่าอะไรบ้างไม่ได้เปิดเผย) การใช้ห้องน้ำในอวกาศ ลำบากลำบนสุดๆ เพราะจะต้องมัดตัวให้ติดอยู่กับที่ แถมยังต้องคอยเล็งตำแหน่งปล่อยของด้วย เพราะจะมีระบบลมเป่าช่วยให้เข้าสู่เป้าหมาย ไม่ได้เหมือนบนโลกที่ปล่อยได้ตามสบาย การทำงานในอวกาศ นักบินอวกาศทำงานวันละ 12 ชั่วโมง ส่วนมากจะเป็นการบำรุงรักษาตรวจสอบประจำวันและทำการทดลองต่างๆ แต่ด้วยนักบินอวกาศที่มาจากหลากหลายประเทศทำให้การสื่อสารลำบาก รวมไปถึงการถูกจับตามองจากศูนย์บัญชาการบนโลกในช่วงเวลาทำงาน…
-
NASA ค้นพบวัตถุประหลาดบนดาวอังคาร เผยให้เห็นลักษณะที่คล้ายคลึงกับปูหรือหอย!?
ในอวกาศอันกว้างใหญ่ ยังคงรอคอยให้มนุษย์ออกไปสำรวจและค้นหาไม่รู้จบ และเป็นรู้กันดีว่าตอนนี้ทาง NASA เองก็ได้ออกไปสำรวจดวงดาวเยอะแยะมากมาย แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ “ดาวอังคาร” ที่ยังเชื่อกันว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และเมื่อไม่นานมานี้เองทาง NASA ได้จับภาพบริเวณพื้นผิวดาวอังคารและพบกับสิ่งที่ดูเหมือนกับจะมีชีวิต ลักษณะคล้ายเหมือนกับปูหรือหอย แต่ยังไม่อาจสรุปได้แน่ชัด Seth Shostack นักดาราศาสตร์อาวุโสและผู้อำนวยการศูนย์วิจัย SETI ได้กล่าวเอาไว้ว่า “สำหรับภาพที่เก็บมาได้นั้นมันทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยล่ะ เพราะไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ที่แห้งแล้งเช่นนี้ คาดว่าน่าจะเป็นสัตว์ แต่อาจจะเป็นอย่างอื่นก็เป็นไปได้” และตลอดระยะเวลาที่ทำการสำรวจพื้นผิวดาวอังคารนั้น ก็ได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่ดูคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเยอะแยะมากมาย อย่างเช่นในภาพนี้จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายๆ กับหน้ามนุษย์ พบซากโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง รวมไปถึงกระดูกสันหลังขนาดใหญ่ที่คล้ายกับไดโนเสาร์ สิ่งมีชีวิตที่น่าจะเป็นเจ้าตีนโต (ลิงขนาดยักษ์) เศษชิ้นส่วนบางอย่างที่สะท้อนแสงได้ (ภาพจากบริเวณเดียวกัน) จานบิน UFO หรือเปล่า? อิกัวนาบนดาวอังคาร สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับแพะ และบางสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับนิ้วของมนุษย์ บนดาวเคราะห์ที่กว้างใหญ่กว่าโลกหลายเท่า ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ ไม่แน่ว่าซักวันหนึ่งเราอาจจะเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ยังอาศัยอยู่บนดาวอังคารก็เป็นได้!? ที่มา : thechive
-
NASA เผยเสียงที่ส่งไปกับยานอวกาศ เพื่อทำการติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก!!
NASA นั้นมีความพยามยามในการสร้างยานอวกาศเพื่อส่งออกไปสำรวจอวกาศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และหนึ่งในโครงการยานสำรวจอวกาศที่ประสบความสำเร็จก็คือยานอวกาศ Voyager ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1977 ยานอวกาศ Voyager 1 และ Voyager 2 จะทำหน้าที่ศึกษาระบบสุริยะชั้นนอก และในปัจจุบันยานอวกาศ Voyager ก็ได้รับหน้าที่ใหม่คือเป็นยานสื่อสารกับเครือข่ายอวกาศห้วงลึก ที่มีการบรรจุแผ่นเสียงทองคำติดไปด้วย ซึ่งในแผ่นเสียงนี้จะมีทั้งเสียงทักทายของมนุษย์แทบจะทุกภาษาเลยล่ะ (ภาษาไทยก็มีนะ) มีเสียงอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นบนโลกไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องจักรต่างๆ เสียงจากธรรมชาติบนโลก จะเล่นเสียงเหล่านี้ก็ต่อเมื่อมีโอกาสได้พบกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาอื่นๆ ในห้วงอวกาศนั่นเอง หากอยากจะรู้ว่ามีเสียงอะไรบ้าง ก็สามารถกดรับฟังกันได้ข้างล่างนี้เลยจ้า!! เสียงทักทายภาษาไทยจะเป็น “สวัสดีค่ะ สหายในธรณีโพ้น พวกเราในธรณีนี้ขอส่งมิตรจิตมาถึงท่านทุกคน” ที่มา : thechive
-
อย่างหลอน เหมียวชวนฟัง 11 เสียงแปลกๆจากอวกาศ จะหลอนหูแค่ไหนต้องฟัง
ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังเพลิดเพลินไปกับความลึกลับของห้วงอวกาศ และตื่นตาตื่นใจกับภาพของดวงดาว กาแล็กซี่ และระบบสุริยะ แต่หลายๆคนกลับไม่เคยได้ฟังเสียงจากอวกาศเลย ใช่แล้ว อวกาศก็มีเสียงเหมือนกันนะ เชื่อหรือไม่ว่าในทางเทคนิคแล้ว เราสามารถได้ยินเสียงจากอวกาศได้ด้วยนะ เสียงเหล่านั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของแม่เหล็กไฟฟ้าในอวกาศ ที่ไหลมาเป็นคลื่น และเสียงเหล่านั้นก็ถูก NASA บันทึกเอาไว้และนำมาแปลงให้กลายเป็นเสียงที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้แล้ว จะแปลกและหลอนหูขนาดไหนลองไปฟังกันเลย เสียงจากดาวเสาร์ เสียงจากดาวมิแรนดา ดาวเนปจูน เสียงจากดาวโลก เสียงจากดาวเสาร์ 2 เสียงจากดาวพฤหัสบดี เสียงจากดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี เสียงจากวงแหวนของดาวยูเรนัส เสียงจากโลก 2 เสียงจากพระอาทิตย์ เสียงจากดาวยูเรนัส ….. ที่มา science-tech.damn
-
ความสำเร็จของการสำรวจดาวพลูโตนั้นมากจากขุมพลัง CPU ของเครื่อง PlayStation!!
หลังจากการเดินทางอันแสนยาวนานของยานสำรวจอวกาศ New Horizons ที่มีจุดหมายปลายทางไปยังดาวพลูโตนั้นก็สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งได้สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวโลกและนักวิทยาศาสตร์ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งภาพที่ได้มาจากยาน New Horizons นั้นเป็นภาพที่ชัดมากที่สุดในรอบหลายปี จากที่เมื่อก่อนจะเป็นเพียงแค่ภาพเลือนลาง เผยให้เห็นรายละเอียดของดาวพลูโตได้มากยิ่งขึ้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าขุมพลังที่ติดไปกับยาน New Horizons นั้นเป็น CPU ตัวเดียวกันกับเครื่องเล่นเกม PlayStation รุ่นแรก!! ใช่แล้วล่ะ CPU ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า MIPS R3000 ที่ใช้ทั้งในเครื่อง PlayStation และเป็นขุมพลังให้กับยาน New Horizons ที่เดินทางไปไกลถึงดาวพลูโต ซึ่งเครื่อง PS1 นี้เปิดตัวเมื่อปีค.ศ. 1994 และได้นำมาใช้กับยาน New Horizons ในปีค.ศ. 2006 เดินทางไปไกลประมาณ 4,828 ล้านกิโลเมตรจากโลกถึงดาวพลูโต นับระยะเวลาร่วมนานถึง 12 ปี ถือว่าเป็นการทำงานที่ถึกและบึกบึนมากๆ สำหรับ CPU เก่าแต่เก๋าตัวนี้ ที่มา…
-
Nasa มึนตึ้บ!! เจอคนไทยป่วนขณะถ่ายทอดสดยาน New Horizon ใน Youtube
วันนี้(14 ก.ค.) ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ประวัติศาสตร์โลกต้องบันทึกเอาไว้เลย เพราะว่าวันนี้จะเป็นวันที่ยานอวกาศ New Horizon ของ Nasa จะเข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุดหลังจากที่ออกเดินทางจากโลกไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เพื่อเก็บภาพของพื้นผิวดาวและขยายขอบเขตความรู้ของมนุษย์ และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง ทางเว็บไซต์ Youtube ก็ได้ถ่ายทอดสดขณะที่ผู้บริหารของ Nasa ออกมาตอบคำถามผ่าน Live Chat ของ Youtube แต่ในขณะที่กำลังตอบคำถามอยู่นั้นเอง กลับมีคนไทยกลุ่มหนึ่งเข้าไปป่วนการตอบคำถาม ตัวอย่างก็เช่น – ทั้งโพสต์ข้อความที่ไม่เกี่ยวกับ Nasa – ถามถึงเรื่องสัพเพเห่ระอย่างตารางออกอากาศฟุตบอล – โพสต์รูปสุนัข – ฝากร้านแบบที่เรามักจะเห็นตาม IG ก็มีให้เห็นกัน เราลองไปดูภาพที่รวบรวมการกระทำต่างๆเหล่านี้มา ตอนนี้ก็มีหลายคน และสื่อต่างๆ เริ่มมาขอให้หยุดเล่นแบบนี้ได้แล้ว อย่างเช่นผัวอิเจี๊ยบ เพราะงานนี้มันเป็นเรื่องสำคัญของเค้า บางคนก็อยากจะได้ข้อมูลทางวิชาการ หรือสาระความรู้ด้านอวกาศ และคลายข้อสงสัยต่างๆนานา แต่พอโดนแบบนี้เข้า เอิ่ม….…
-
เมื่อมองภาพกาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นต่างๆ เราจะเห็นความแตกต่างอย่างไรบ้าง?
เป็นที่รู้กันดีว่าโลกของเรานั้นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก และเนื่องด้วยความสงสัยที่ว่าหากเรานำภาพกาแล็กซีทางช้างเผือกมามองผ่านคลื่นต่างๆ ที่มีอยู่ล่ะ หน้าตาของมันจะเป็นอย่างไรบ้าง? เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน? สำหรับช่วงของแสงที่ตาของมนุษย์ทั่วไปสามารถมองเห็นได้นั้นจะถูกเรียกว่า สเปกตรัมที่มองเห็นได้ ซึ่งมีหลากหลายคลื่นด้วยกันตามความแตกต่างของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นวิทยุ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่นไมโครเวฟ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Far-Infrared กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Near-Infrared กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านคลื่น Hydrogen Alpha กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านรังสีเอกซ์ กาแล็กซีทางช้างเผือกผ่านรังสีแกมมา หน้าตาของทางช้างเผือกที่เรารู้จักดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยแฮะ ถ้าเกิดว่าใครอยากดูแบบละเอียดมากกว่านี้สามารถไปตามเล่นกันได้ที่ Chromoscope เลยจ้า ที่มา : thechive
-
14 เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างความรู้ได้ดียิ่งนัก!!
ในแวดวงทางวิชาการความรู้ วิทยาศาสตร์ช่วยเปิดโลกให้กับมนุษย์ได้ดียิ่งนัก ทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร คลายข้อสงสัยให้กระจ่างได้ แต่ก็ยังมีความรู้อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เอาเป็นว่าเรามาเปิดโลกกว้างไปพร้อมกันเถอะ ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านเลย!! ดาวเคราะห์โรกคือวัตถุที่มีมวลขนาดเท่าดาวเคราะห์และไม่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดอยู่กับดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ ทำให้มันล่องลอยอยู่กลางอวกาศ มีเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือกของเราด้วย ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ล้านปีก่อน มีแมลงปอขนาดยักษ์ที่มีชื่อเรียกว่า Meganeura ยักษ์ไม่ยักษ์ก็คือว่าปีกของมันเนี่ยกว้างถึง 60 เซนติเมตรเลยล่ะ รู้หรือไม่ว่าดวงจันทร์ทำให้โลกเราหมุนช้าลงเรื่อยๆ ทุกศตวรรษที่ผ่านพ้นไป หนึ่งวันบนโลกจะยาวนานขึ้น 1.7 มิลลิวินาที นั่นก็หมายความว่า 350 ล้านปีที่แล้วมา หนึ่งปีบนโลกมีทั้งหมด 385 วัน เพราะโลกเคยหมุนเร็วกว่านี้ มีผลวิจัยเปิดเผยออกมาแล้วว่าการดูคลิปวิดีโอแมวจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น เอ๊ะ!? จริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะ ระบบ Endocannabinoid ในสมองของมนุษย์มีหน้าที่ช่วยควบคุมอารมณ์ ความอยาก ความเจ็บปวด และความทรงจำ และระบบนี้เองคือสิ่งที่กัญชาเฝ้าตามหา!! Verona Rupes…