Tag: อวัยวะ
-
15 ภาพอวัยวะของร่างกาย เมื่อมองผ่าน ‘กล้องจุลทรรศน์’ ราวกับสิ่งที่เราไม่รู้จักมาก่อนในชีวิต!?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักกับ ‘อวัยวะ’ ในร่างกายเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัวของเรามากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เพื่อนๆ เคยเห็นภาพของพวกมัน ‘ผ่านกล้องจุลทรรศน์’ หรือไม่ ขอบอกเลยว่ามันจะกลายเป็นภาพ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ลิ้น 2. กระดูก 3. ลำไส้เล็ก 4. หัวใจ (ตรงบริเวณหลอดเลือดหัวใจ) 5. ผิวหนัง 6. ม่านตาดำ 7. ปอดของคนที่มีสุขภาพดี 8. เซลล์มะเร็งปอด 9. เม็ดเลือดแดง 10. รังไข่ (ที่มีการตกไข่) 11. เส้นผม 12. ฟัน 13. คราบแบคทีเรียที่เกาะบนฟัน …
-
สาวเล่าประสบการณ์ทุกอย่างที่หลายคนอยากรู้ เกี่ยวกับการเกิดมาแล้วมี ‘จิ๊มิ 2 อัน’!?
เรื่องราวของหญิงสาว ที่มี ‘จิ๊มี’ 2 อัน และในวันนี้เธอก็จะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเธอให้พวกเราได้รับฟังกัน Maddie Schueller หญิงสาววัย 21 ปีจากรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา มองดูเผินๆ แล้วเธอก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ถ้าหากมองลึกเข้าไปข้างใน จะทำให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา เพราะว่าเธอเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับจิ๊มิถึง 2 อัน ไม่ใช่แค่ช่องคลอดแต่มดลูกก็มี 2 อันด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แค่ 0.003 เปอร์เซนต์เท่านั้น!! อย่างไรก็ตาม Maddie ใช้ชีวิตโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตัวเองมีน้องจิ๊มิถึง 2 อัน จนกระทั่งไปตรวจร่างกายและรู้ตัวเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้เอง Maddie เปิดเผยว่าจิ๊มิทั้งสองของเธอนั้น แยกออกจากกันอย่างชัดเจนโดยแบ่งเป็น ‘ฝั่งซ้าย’ กับ ‘ฝั่งขวา’ ซึ่งฝั่งขวานั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าอันที่อยู่ฝั่งซ้าย “สมัยตอนฉันอายุ 12 หรือ 13 นี่แหละ ฉันเป็นประจำเดือนครั้งแรกแล้วใช้ผ้าอนามัยแบบสอด แต่กลายเป็นว่าเลือดก็ยังไหลอยู่ นับตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลยต้องใช้ผ้าอานามัยแบบปกติมาโดยตลอด”…
-
ยังจะสูบอีกหรือ… เปรียบเทียบปอดของคนสูบบุหรี่ กับปอดคนไม่สูบ แค่สีก็ต่างกันชัดเจนแล้ว
แม้จะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมายาวนานมากๆ กับการลดถึงขั้นงดสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของประชากรชาวโลก ในปัจจุบันก็ยังคงมีจำนวนผู้สูบบุหรี่เพิ่มขึ้นสวนทางกับการรณรงค์เพื่อสุขภาพอยู่ดี… การสูบบุหรี่นั้นเป็นความต้องการส่วนบุคคลที่เลือกจะสูบ แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งอาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่า ในอนาคตข้างหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองบ้าง? Amanda Eller นางพยาบาลจากมหาวิทยาลัย Western Carolina University ได้ทำการโพสต์วิดีโอคลิปเผยให้เห็นว่า สภาพของปอดที่มีสุขภาพดีไม่ได้สูบบุหรี่นั้นเป็นอย่างไร และนำมาเปรียบเทียบข้างๆ กันกับปอดของผู้สูบบุหรี่ 1 ซองต่อวัน ต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี เพียงแค่เห็นสีของปอดทั้งสองชิ้น ก็ทำให้รู้และแยกแยะได้ทันทีว่าปอดของผู้สูบบุหรี่และไม่สูบเป็นแบบไหน ซึ่งนอกเหนือจากสีของปอดภายนอกแล้ว ระบบการทำงานของปอดก็ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม ปอดของผู้สูบบุหรี่ ปอดของผู้ไม่สูบบุหรี่ ทางพยาบาลได้นำเครื่องเป่าลมเข้าไปในปอด เพื่อจำลองประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะ ผลก็คือปอดที่สูบบุหรี่จะไม่สามารถกักเก็บลมเอาไว้ได้ นั่นหมายถึงการหายใจที่ถี่มากกว่าปกติ ส่วนปอดที่มีสุขภาพดีจะสามารถกลั้นหายใจได้นานกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม นโยบายลดปริมาณผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกยังคงใช้วิธีในการเพิ่มภาษีบุหรี่ เพราะยังคงเล็งเห็นว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าไม่มีเงินซื้อบุหรี่ก็จะเลิกสูบไปเอง แต่ทว่ามีงานวิจัยบางส่วนที่มองสวนทางเนื่องจากการเพิ่มภาษีบุหรี่แพงเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะส่งผลทำให้เกิดยาสูบเถื่อนมากยิ่งขึ้น ที่มา : @amanda.orr.56, ladbible
-
รู้จักลัทธิ Haring Bakal ในฟิลิปปินส์ ที่เชื่อว่าการกินอวัยวะมนุษย์ช่วยให้มีพลังเหนือมนุษย์
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณ] ว่ากันว่าในประเทศอย่างฟิลิปปินส์มีลัทธิสุดประหลาดอย่างการกิน “อวัยวะของมนุษย์” เพราะพวกเขามีความเชื่อกันว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังและเป็นยาอายุวัฒนะได้!? ลัทธินี้มีชื่อว่า Haring Bakal (หรือ Iron King) กลุ่มคนที่มารวมตัวกันนั้นมีความเชื่อว่าอวัยวะส่วนที่ยังหลงเหลือของมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วจะช่วยมอบพลังเหนือมนุษย์ให้กับพวกเขากินมันเข้าไป หรือหากอมไว้ในปากเฉยๆ ก็จะช่วยให้พวกเขาหายตัวได้ สมาชิกของลัทธิ Haring Bakal บอกว่าพวกเขาจะแอบไปขโมยเศษอวัยวะมนุษย์ตามสุสานต่างๆ หรือบางครั้งก็ซื้อมันมาอย่างผิดกฎหมาย จากภาพ มีบางช่วงที่สมาชิกของลัทธิโชว์ให้เห็นถึงกระดูกสะบ้าหัวเข่า โดยที่พวกเขาจะนำเอาไปฟอกสีก่อนแล้วจึงนำเอาไปแช่ในน้ำมันมะพร้าว Angelito ‘Rambo’ Oreta หนึ่งในสมาชิกของลัทธินี้บอกด้วยว่านอกจากพวกเขาจะเอามากินแล้ว พวกเขายังเอาอวัยวะต่างๆ มาทำเป็นเครื่องประดับแฟชั่นด้วย บางคนเอาทำเป็นเข็มขัดรอบเอว บางคนเอามาห้อยคอ แม้หลายๆ อย่างจะดูไม่สมเหตุสมผลสำหรับคนทั่วไป แต่พวกเขาก็เชื่อว่าในอวัยวะต่างๆ จะมีดวงวิญญาณที่คอยปกป้องคุณหากมีการสวดอธิษฐานให้ ดวงวิญญาณเหล่านั้นก็จะปกป้องคุณและครอบครัวของคุณจากสิ่งอันตรายได้ ในทางกลับกัน หากไม่มีการสวดอธิษฐาน ดวงวิญญาณเหล่านั้นอาจจะหันกลับมาทำร้ายคุณเองก็ได้ ปัจจุบันกลุ่ม Haring Bakal มีสมาชิกรวมๆ กันแล้วกว่า 100 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรวมอยู่ในนั้นด้วย ที่มา dailymail
-
ชาวเน็ตโชว์สะดือขนาด 1 นิ้ว แฟนคลับถึงกับคลั่ง พร้อมจ่ายเงินเป็นพันเพื่อดูเขาเล่นสะดือ!?
ตามปกติแล้ว การที่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเด่นกว่าส่วนอื่น คุณจะทำอย่างไร คุณจะรู้สึกอายหรือจะรู้สึกภูมิใจที่มีมันกัน เช่นนิ้วหกนิ้ว จมูกโตมาก หูมีติ่ง มีหน้าอก 3 เต้า และอื่นๆ มากมาย แต่สำหรับชาวเน็ตนามว่า Mark จากรัฐแคลิฟลอเนียหรือที่รู้จักกันในยามกลางคืนว่า Swirly Dude นั้น เขาภูมิใจในอวัยวะที่โดดเด่นกว่าคนอื่นอย่างสะดือมากๆ Mark เล่าว่าตอนแรกนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรกับสะดือขนาด 1 นิ้วของเขา ซึ่งเขาบอกว่าตอนแรกที่เขารู้สึกอายและรู้สึกว่าโดนเพื่อนแกล้งนั้นมันเริ่มเมื่อตอน 8 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่เขาจะต้องถอดชุดและเรียนว่ายน้ำกับเพื่อนๆ แน่นอนว่าวินาทีที่เพื่อนเห็นทุกคนก็หัวเราะเยาะเขา นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาคิดว่ามีปีศาจติดตัวตลอดเวลา เขารู้สึกว่าชีวิตย่ำแย่ตลอดมาจนกระทั่งไม่นานนี้ที่อายุย่างเข้า 26 ปี เขาก็ได้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วสะดือแปลกๆ ของเขานั้นกลับสามารถสร้างอีกตัวตนและสร้างงานให้เขาได้ ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ Swirly Dude นั่นเอง Swirly Dude บอกว่าตอนที่มีคนเห็นสะดือของเขาในตอนที่มันโตมาจนถึง 1 นิ้วแล้วชอบนั้น มันเป็นวินาทีที่เขาไม่เข้าใจมันเลย เพราะบางคนถึงกับจ้างให้เขาเล่นกับสะดือพร้อมส่งเสียงเบาๆ ประกอบเป็นเวลา 15 นาทีแลกกับเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ…
-
เผื่อไว้นะ… เผยข้อมูล 12 ความจริงเกี่ยว “น้องจ้อน” ของคุณผู้ชาย ความไม่ลับแต่ยังไม่ทราบ
อวัยวะเพศชาย จ้อน จู๋ หรือองคชาติ และอีกหลายๆ คำเรียกนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องเกิดคำถามกันมานักต่อนัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มันเป็นสิ่งสำคัญของผู้ชายอย่างยิ่งยวด นอกจากจะเป็นอวัยวะสำหรับใช้สืบพันธุ์แล้ว มันยังมีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมอีกด้วย วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องราวที่เฉพาะเจาะจงกับ “น้องจ้อน” ของผู้ชายกันดีกว่า เราจะได้ทำความรู้จักและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยกับ 12 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองคชาติที่คุณอาจไม่เคยรู้ 1. องคชาติมีหน้าที่หลัก 2 ประการ Michael Reitano แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศบอกไว้ว่า องคชาตินั้นมีหน้าที่หลักอยู่ 2 ประการด้วยกันคือ ประการแรก มีไว้ถ่ายของเสียในรูปแบบของปัสสาวะ ประการที่สอง ก็คือ เป็นท่อลำเลียงน้ำเชื้ออสุจิจากอัณฑะออกนอกร่างกาย เพื่อใช้สำหรับสืบพันธุ์และความสุขทางเพศ 2. องคชาติพัฒนาขึ้นมาจากอวัยวะที่มีลักษณะคล้ายคลิตอริสในเพศหญิง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเริ่มต้นชีวิตด้วยเพศหญิงหรือเพศเมีย ก่อนที่จะมีกระบวนการผสมโครโมโซม ฉะนั้น อวัยวะเพศชายจึงไม่แปลกที่จะพัฒนาขึ้นมาด้วยโครงสร้างเดียวกับคลิตอริส เมื่อสิ้นสุดกระบวนการผสมโครโมโซม โครโมโซม XX ก็จะทำให้เกิดเป็นเพศหญิงที่มีคลิตอริสและช่องคลอด ขณะที่โครโมโซม XY ก็จะพัฒนาขึ้นมาเป็นองคชาติและอัณฑะ 3. องคชาติประกอบด้วยท่อ 3 ท่อ…
-
หนุ่มสาวผ่าตัด ‘เปลี่ยนหัวใจ’ ในวันเดียวกัน ใครจะเชื่อว่าทั้งคู่จะกลายมาเป็น ‘คู่แท้’
นี่แหละน้าบุพเพสันนิวาสจริงๆ ใครจะเชื่อว่าคนที่มาเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเหมือนกัน วันเดียวกัน และอยู่ห้องติดกัน จะกลายมาคู่รักกันได้ ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือคู่รักจากเมืองแฟร์แฟกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย หนุ่ม Collin Kobelja และสาว Taylor Givens ที่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2011 ทั้งคู่ต่างได้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ในเวลานั้นห้องของทั้งคู่ก็อยู่ติดกัน แต่ไม่มีใครทราบมาก่อนว่า ณ อีกฟากหนึ่งของห้อง มี “เนื้อคู่” ของพวกเขาพักฟื้นร่างกายอยู่ “ทุกสิ่งอย่างดูลงตัวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเหมือนกับว่ามันถูกกำหนดให้เป็นเช่นนั้น” สาว Givens วัย 24 ปีกล่าว “เราทั้งสองคนช่างโชคดีจริงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนถูกกำหนดมาแบบนั้น” หนุ่ม Kobelja วัย 30 ปีกล่าวเสริม ขณะที่ Taylor Givens ยังมีอายุเพียง 17 ปี เธอเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจและอาการหัวใจสั่น แพทย์ของเธอคาดว่าคงเป็นแค่ความเครียด ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ แต่เมื่อตรวจด้วยการเอ็กซ์เรย์แล้วทำให้พบว่า เธอน่าจะติดไวรัสในหัวใจที่ทำให้หัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเธอไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเดือนเมษายนปี 2011 แพทย์ก็พบว่าหัวใจของเธอนั้นสูบฉีดเลือดได้น้อย เพียง 10…
-
เด็กสาวตัวน้อยเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ แต่ไตของเธอได้ช่วยชีวิตคนอื่นไว้
่การที่ใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวล้มป่วย ก็เท่ากับคนทั้งครอบครัวป่วยไปด้วย เพราะคงไม่มีใครมีความสุขได้ในขณะที่คนที่รักกำลังเป็นทุกข์ เหมือนกับหนูน้อย Aoife O’Sullivan วัย 4 ขวบ และครอบครัวที่ภาวนาให้ใครสักคนบริจาคหัวใจให้กับเธอเพื่อปลูกถ่าย และเธอจะได้มีชีวิตบนโลกกว้างใบนี้ให้นานขึ้น แต่น่าเศร้าที่ความหวังนั้นไม่ได้เกิดขึ้น หัวใจของ Aoife หยุดเต้นขณะที่เธออยู่ในรายชื่อรอรับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ และการผ่าตัดฉุกเฉินไม่สามารถยื้อชีวิตเธอไว้ได้ เพื่อไม่ให้การจากไปของลูกน้อยสูญเปล่า คุณแม่ Michelle และ คุณพ่อ Neil ของเด็กหญิงจึงได้ปรึกษากันเพื่อที่จะทำบางอย่าง พ่อแม่ของเด็กหญิงบอกกับคุณหมอว่าพวกเขาต้องการบริจาคอวัยวะของลูกสาว และนั่น ทำให้ไตของเธอได้ช่วยชีวิตชายหนุ่มคนหนึ่งไว้ Michelle บอกว่า “ชีวิตเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก การบริจาคอวัยวะไม่ใช่แค่ช่วยชีวิตคนคนเดียว แต่มันช่วยคนรอบข้างของคนนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน” คุณแม่เล่าให้ฟังว่า Aoife เป็นเด็กสาวที่สดใสร่าเริงอยู่เสมอ เธอเรียนอยู่ที่โรงเรียนใน Leigh-on-Sea เขตเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ ตอนอยู่ในโรงเรียนเด็กหญิงมักจะไอเป็นประจำ และโรคหอบหืดของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งเธอไอออกมาเป็นเลือดและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Southend Hospital ทันที หลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอวินิจฉัยว่าเด็กหญิงป่วยเป็นวัณโรคและโรคปอดบวม… Michelle อธิบายถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “มันน่ากลัวมาก แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยเราก็รู้ว่าเธอเป็นอะไรและเธอก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้” อย่างไรก็ตาม…
-
อัลบั้มภาพ “ดวงตาเจ้าเหมียว” แบบโคลสอัพ เผยให้เห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่…
ในตัวของสัตว์แสนน่ารักและน่าทะนุถนอมอย่างแมว จะมีอวัยวะอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ว่าใครได้เห็นแบบใกล้ๆ เป็นอันต้องจ้องแบบเหมือนกับโดนมนตร์สะกดเอาไว้ ซึ่งอวัยวะนั้นก็คือ ‘ดวงตา’ นั่นเอง ดวงตาของแมวมีลักษณะที่เฉียบคมและสุกใสเหมือนเป็นประตูมิติที่เร้นลับ เพราะว่านัยน์ตาของมันช่างเป็นที่น่าค้นหาและดูเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนเอาไว้อยู่ภายใน และแน่นอนว่าดวงตาของเหล่าเหมียวๆ เหล่านี้ต่างก็เคยทำให้มนุษย์ตกหลุมรักและยอมเป็นทาสแต่โดยดีมาแล้วหลายต่อหลายคน ผู้ใช้งานอินสตาแกรมที่ชื่อว่า Tinasperspective ก็เป็นอีกคนหนึ่งเช่นกันที่หลงรักในแววตาอันเร้นลับของเจ้าขนปุย โดยเธอได้ใช้กล้องยี่ห้อ Canon พร้อมกันเลนส์แบบมาโคร ตามถ่ายตาของเหล่านายแบบนางแบบแมวที่เธอเลี้ยงไว้ทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีชื่อว่า Zelda, Zonic, และ Zorro มาแบ่งปันให้แก่ชาวเน็ตได้รับชมกัน ภาพที่เธอถ่ายเอาไว้แต่ละภาพต่างเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ไม่น่าเชื่อ เพราะว่าด้วยฝีมือบวกกับประสบการณ์ของเธอ ทำให้เราได้เห็นว่าจริงๆ แล้วในดวงตาของแมวมันช่างเหมือนกับแก้วกลมๆ ที่สามารถสะท้อนแสงได้ แถมยังเต็มไปด้วยเส้นใยมากมายสีสันต่างๆ นับร้อยล้านเส้น มาลองดูกันดีกว่าว่านัยน์ตาของแมวที่เธอถ่ายมาจะมีความสวยงามขนาดไหนกันนะ มองอะไรกันนะ เจ้าเหมียว เหมือนเป็นอัญมณีอะไรซักอย่าง มีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นกันแน่นะ ใสๆ ใครก็ชอบ อันนี้ออกแนวน่ากลัวหน่อยๆ นะเนี่ย เส้นใยนับล้านเส้นซ่อนอยู่ในดวงตาเล็กๆ ดวงนี้ ใครจะอดใจไม่รักไหวล่ะ ดูใกล้ๆ แล้วมันเหมือนเสือยังไงชอบกล จับแมวมานั่งนิ่งๆ ได้ยังไงกันนะ เก่งจริงๆ…
-
ชาวเน็ตต่างชาติคิดเห็นอย่างไร กับกรณี ‘น้องเมย’ เสียชีวิต และอวัยวะภายหายไปอย่างปริศนา
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับ การรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของน้องเมย หรือนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาพร้อมกับอวัยวะบางส่วนที่หายไป และหลังจากที่สื่อจาก Dispatch จากประเทศเกาหลี และ Channel NewsAsia จากประเทศสิงคโปร์ที่ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีสื่อต่างประเทศอื่นๆ ที่ให้ความสนใจอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น The Straits Times, ABC หรือสื่อชื่อดังอย่าง BBC เองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เช่นกัน และแน่นอนว่าหลังจากที่สื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องนี้ออกไป ก็มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ตในต่างประเทศ “นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัว อวัยวะของเขาอาจจะถูกนำไปวางขายที่ไหนก็ได้” “บางทีอาจจะเอาไปใช้ทางไสยศาสตร์ก็ได้นะ!!” ส่วนชาวเน็ตท่านนี้ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ประเทศไทยดูไร้กฎหมายไปเลย ตั้งแต่มีรัฐบาลทหารเข้ามา” ส่วนชายชาวสิงคโปร์คนนี้ก็บอกว่า เขาคงจะไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับประเทศของเขา “นี่คงจะเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลของไทยจะอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้” “นักเรียนเตรียมทหารนั้นถูกฝึกเพื่อให้กลายเป็นทหารที่เข้มแข็ง และปกป้องประเทศ ไม่ใช่ต่อสู้กับคนที่ฝึกพวกเขา พวกเขายังหนุ่มและเป็นกำลังที่สำคัญในสนามรบ ได้โปรดให้เกียรติพวกเขา” ที่มา The Straits Times, Channel NewsAsia
-
เห้ยยยจริงดิ!! 17 เรื่องจริงเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
มนุษย์ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา โดยประกอบไปด้วยอวัยวะมากมายและซับซ้อน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นถือว่าเป็นความน่าอัศจรรย์อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยล่ะ หลายๆ คนอาจจะเคยทราบกันดีว่าร่างกายของเรานั้นมีความลับหลายๆ อย่างซ่อนอยู่ และบางครั้งก็มีเรื่องบางเรื่องที่เราอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับร่างกายเรามาก่อน อย่างเช่นฟันของมนุษย์นั้นมีความแข็งแรงเหมือนฟันของฉลาม หรืออวัยวะบางอย่างของร่างกายเรานั้นสามารถฟื้นตัวเองได้!! อ่า…และวันนี้เราก็ได้รวบรวมเอาความลับของร่างกายจากเว็บไซต์ Brightside มาฝากกัน จะมีอะไรที่น่าทึ่งบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. สมองของคุณสามารถสร้างพลังงานได้เพียงพอที่จะทำให้หลอดไฟดวงเล็กๆ สว่างได้เชียวนะ 2. ฟันของมนุษย์นั้นมีพื้นผิวที่ขรุขระและแข็งแรงเหมือนฟันของฉลาม 3. รู้หรือไม่ กรดในกระเพาะอาหารสามารถกัดกร่อนผิวหนังได้นะเออ!! 4. นอกจากการเผาแล้ว เส้นผมของคุณค่อนข้างที่จะทนทานต่อการทำลายนะ 5. รู้หรือไม่!! มนุษย์สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้แตกต่างกันมากถึง 7,000 รูปแบบ 6. เด็กทารกมีกระดูกมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 60 ท่อนเลยนะเออ!! 7. ความละเอียดของภาพที่เรามองเห็นนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 500 เมกะพิกเซลเลยทีเดียว 8. ผิวหนังทั่วร่างกายของเรานั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวทั้งหมดนั่นเอง 9. กระดูกของมนุษย์จะมีการซ่อมแซมตัวเองทุกๆ 10 ปี…
-
7 อวัยวะในร่างกายที่ดูเหมือนจะไร้ค่า แต่มันสร้างประโยชน์ให้กับเราได้โดยที่ไม่รู้ตัว
เราทุกคนคงจะรู้จักกับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายกันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกเช่น ตับ ไต ม้าม แขน ขา เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นนอกจากจะรู้จักชื่อแล้ว เกือบทุกคนก็จะรู้ว่ามันทำงานให้เราอย่างไรบ้างอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเราไม่ได้มาจากอวัยวะที่เรารู้จักกันดีเพียงอย่างเดียวหรอกนะ เพราะยังมีพื้นที่ที่คาดไม่ถึงบนร่างกายของเราที่แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไร แต่หารู้ไม่ว่ามันสามารถช่วยเหลือเราได้ในหลายๆ ทาง เราลองไปดูกันเลย ว่าจะมีส่วนไหนกันบ้าง Grabella มันคือบริเวณตรงกลางระหว่างคิ้วสองข้างของเรา ตรงจุดนี้แพทย์สามารถวัดความตึงตัวของผิวหนังในผู้ที่เป็นภาวะอาการขาดน้ำได้ นอกจากนั้นตบตรงจุดนี้เบาๆ หลายๆ ครั้ง จนมีการกระพริบตาเกิดขึ้นก็จะบอกได้ว่าการตอบสนองของระบบประสาทเรายังทำงานได้ดีอยู่ Tragus มันคือติ่งขนาดเล็กที่ช่วงหลังมีคนนิยมไปเจาะหูตรงนั้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องการได้ยินเสียงที่มาจากด้านหลังและแยกแยะที่มาของเสียงได้ มีความสำคัญกับการรับเสียงที่มีความถี่สูงและเพิ่มความไวในการตอบสนองอีกด้วย Span มือของเราสามารถเป็นเครื่องวัดความยาวได้ โดยมีการใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้มาตั้งแต่อดีตวัดระยะจากนิ้วโป้งถึงนิ้วชี้ และเมื่อวัดความห่างจากนิ้วโป้งถึงนิ้วก้อยจะอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 9 นิ้ว ช่วยเหลือเราได้แบบคร่าวๆ Levator labii superioris ชื่อที่เรียกอย่างง่ายคือกล้ามเนื้อส่วนริมฝีปากบน เป็นส่วนช่วยให้สามารถดึงริมฝีบากบนขึ้นแสดงรอยยิ้มออกมาได้ ลักยิ้มที่หลายคนมีก็มาจากกล้ามเนื้อส่วนนี้เนี่ยแหละ ส่วนที่ยึดลิ้นและริมฝีปากเอาไว้ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและช่วยทำให้การทำงานของสองส่วนนี้ดีขึ้น เพราะมันจะให้เราสามารถขยับลิ้นได้ตามที่ต้องการและยึดเอาไว้เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป คนที่มีเจ้าสิ่งนี้สั้นกว่าปกติจะทำให้พูดเป็นคำออกมาได้อย่างยากลำบาก Hallux มันคืออีกชื่อหนึ่งของคำว่าเท้าหรือเฉพาะเจาะจงก็คือส่วนของหัวแม่โป้งเท้า เป็นอวัยวะที่ช่วยให้เราสามารถรักษาการทรงตัวเอาไว้ได้…
-
ช่างภาพเผยภาพถ่ายของ “เด็กผิวเผือก” ในแทนซาเนีย ที่แสดงให้เห็นถึงความงามของพวกเขา
Marinka Masséus ช่างภาพชาวดัตช์ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการสร้างผลงานภาพถ่ายในชุดที่ชื่อว่า “Under the Same Sun” เพื่อเป็นการให้ผู้คนได้ตระหนักถึงเรื่องราวอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงของคนเผือกในประเทศแทนซาเนีย “เป้าหมายของฉันคือ อยากแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่งดงามของผู้คนเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาได้รับการยอมรับ และได้รับความเท่าเทียมในสังคม” Marinka กล่าว ในประเทศแทนซาเนีย เมื่อคุณเกิดมาเป็นคนเผือก ผู้คนในประเทศจะมองว่าคุณเป็นสิ่งชั่วร้าย ซึ่งความกลัวและความเชื่อในสังคมแทนซาเนีย ส่งผลให้หญิงสาวจำนวนมากที่ให้กำเนิดทารกออกมามีผิวเผือกต้องยินยอมให้คนสังหารลูกของตัวเองตั้งแต่เกิด และถ้าหากขัดขืน พวกเธอและลูกก็จะถูกนำตัวไปคุมขัง และกลายเป็นคนจรจัดที่ไม่มีใครต้องการในสังคม อีกทั้งยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวไปตลอดชีวิตอีกด้วย เด็กๆ หลายคนที่เกิดมามีผิวเผือก มักจะถูกสังคมรังเกียจ แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย พวกเขาจะต้องถูกสาปแช่ง และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว นอกจากนี้ เด็กผิวเผือกบางรายที่โชคร้ายก็ถูกฆ่าอย่างน่าเวทนา บางรายก็ถูกกีดกันจากสังคม รวมถูกตัดขาดจากครอบครัวด้วย นั่นทำให้พวกเขาต้องแยกตัวออกจากสังคมเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอด นอกเหนือจากเรื่องความเชื่อแล้ว อาการผิวเผือกยังทำให้ผิวหนัง และดวงตาแพ้แสงง่ายกว่าคนปกติทั่วไป นั่นหมายความว่าร่างกายของพวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ ซึ่งถ้าหากผิวหนังถูกแสงแดด ก็อาจจะส่งผลให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรง จนกลายเป็นจุดสีน้ำตาลต่างๆ ทั่วร่างกาย สุดท้ายก็ส่งผลให้เกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก็พยายามที่จะส่งครีมกันแดดไปยังแอฟริกา…
-
หนุ่มจีนยอมงดเหล้า-บุหรี่ ออกกำลังกายทุกวัน เพื่อช่วยชีวิตเด็กน้อยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน!!
เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ถูกพูดถึงและแชร์ต่อไปทั่วโลกโซเชียลของจีน หลังจากที่เว็บไซต์ jsnews ได้รายงานเรื่องราวคุณงามความดีของนาย ซุน ฮ่าวชิง หนุ่มวัย 39 ปี ผู้ยอมเปลี่ยนชีวิตเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยวัย 4 ขวบ แม้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 หนุ่มจีนคนนี้มีโอกาสได้ไปบริจาคเลือด และเขาก็ได้ทราบว่ามีผู้ป่วยโรคเลือดจำนวนมากที่ต้องการไขกระดูก ด้วยจิตใจที่โอบอ้อมอารี เขาจึงได้ประสงค์ลงนามเป็นผู้บริจาคอวัยวะ แต่เรื่องราวของเขามันไม่จบเพียงเท่านี้… จนกระทั่งต่อมาเมื่อช่วงสิงหาคม ปี 2559 เขาได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้ป่วยเป็นเด็กวัย 4 ขวบคนหนึ่ง ต้องการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งผลเลือดของเขาก็ตรงกับเด็กน้อยคนนี้ แน่นอนว่าเจ้าตัวดีใจมากที่เขาจะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทว่าผลการตรวจสุขภาพกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิด ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ ซุนเป็นคนที่มีนิสัยดื่มหนัก สูบหนัก และมักจะสังสรรค์อยู่เป็นประจำ ทำให้เขาต้องกลับมาฟื้นฟูสุขภาพตัวเองใหม่อีกครั้งถ้าหากต้องการจะเหลือผู้ป่วยจริงๆ บางคนอาจจะรู้สึกไม่ชอบที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น แต่สำหรับซุน ฮ่าวชิง เขาเลือกที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมดเพื่อเด็กน้อยวัย 4 ขวบที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาหย่าขาดจากการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อีกทั้งยังตอนเวลาตี 5 เป็นประจำในทุกๆ เช้า เพื่อไปออกกำลังกายและควบคุมอาหารตลอดทุกมื้อ ด้วยความพยายามที่ตั้งใจมาหลายเดือน ในที่สุดผลตรวจสุขภาพก็ผ่านเกณฑ์…
-
10 ความจริงเกี่ยวกับหน่มน๊ม ที่แม้แต่คุณผู้หญิงทั้งหลายเอง ก็อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน!?
หน้าอกหน้าใจ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงได้อย่างชัดเจน และแน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงจะให้ความสำคัญกับจุดๆ นี้มากที่สุด เพราะมันเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจ และสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ยังไงละ แม้ว่า “นม” จะเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ผู้หญิงต้องดูแล และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายของนมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และนี่คือ 10 ความจริงเกี่ยวกับหน่มน๊ม ที่แม้แต่ผู้หญิงเองก็อาจจะไม่เคยรู้ มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง!! 1.เรื่องของหัวนม รู้หรือไม่? 2 ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิง และ 1 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชาย จะมีหัวนมที่ 3 ด้วยนะเออ และมันก็สามารถปรากฏได้ในที่ต่างๆ ตามร่างกายรวมถึงเท้าด้วยนะ 2.นมแม่มีความหวานมากกว่านมวัว มีผู้คนจำนวนมากที่ได้ลิ้มรสนมจากเต้า และค้นพบว่านมแม่มีรสชาติคล้ายกับแคนตาลูปหวานๆ 3.ทรวงอกของผู้หญิงมีขนาดไม่เท่ากัน ผู้หญิงส่วนใหญ่เผยว่า พวกเธอสามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างขนาดของหน้าอกทั้งสองข้างได้ และแน่นอนว่ามันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ 4.ขนาดของยกทรง จากการศึกษาพบว่า กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงมักจะสวมชุดชั้นในผิดไซส์ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่นอาการปวดหลัง และอาการท้องอืดท้องเฟ้อ 5.กาแฟสามารถทำให้หัวนมไวต่อความรู้สึกมากขึ้น…
-
สื่อต่างชาติเผยรายงานลับ ประเทศจีนประหารนักโทษนับล้านราย เพื่อนำ ‘อวัยวะ’ ไปใช้งานต่อ
กลายมาเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว กับการกระทำที่ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นสีขาวสีดำกันแน่ เพราะมันอยู่คั่นกลางระหว่างสองสี… ฟังดูข่าวนี้เหมือนกับอะไรที่มาจากเว็บไซต์ไวรัสดักคนเข้า แต่เป็นการเปิดเผยจากทางสื่อใหญ่อย่าง Independent เมื่อมีข่าวลือหนาหูของรัฐบาลจีน ที่ให้เหล่านักโทษเข้าร่วมโปรแกรมฝึก Falun Gong อันเป็นวิถีการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งของลัทธิในจีน เมื่อจบโปรแกรมแล้วจะนำนักโทษเหล่านั้นมาประหารเพื่อหวังนำเอาอวัยวะภายในไปปลูกถ่ายให้กับบุคคลที่ต้องการ (ราวกับว่าเป็นการค้าอวัยวะกันเลย) จากแหล่งข่าวได้กล่าวเอาไว้ว่าทางรัฐบาลจีนได้หยุดโปรแกรมดังกล่าวไปเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีการลักลอบผ่าตัดนำอวัยวะของเหล่านักโทษอย่างต่อเนื่อง โดยทางผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์เอาไว้ว่าในทุกๆ ปี จะมีนักโทษราวๆ 60,000 – 100,000 รายที่ถูกประหารชีวิตและผ่าตัดนำหัวใจ ตับ และอวัยวะภายในอื่นๆ ออกมา เพื่อนำไปใช้ปลูกถ่าย ทั้งนี้ยังมีรายงานตัวเลขที่น่าตกใจตามมาก็คือ โดยรวมแล้วประมาณ 1,500,000 รายที่ถูกผ่าตัดนำตับและไตออกจำหน่ายไปสู่ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะกว่า 712 แห่งทั่วประเทศจีน มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดถูกบังคับให้ทำการปลูกถ่ายอวัยวะทุกวันจนแทบจะนับจำนวนครั้งไม่ถ้วน บางวันอาจจะถูกบังคับให้ทำการผ่าตัดนำตับออกจากร่างมากถึง 6 ครั้งกันเลยทีเดียว!! ข้อมูลต่างๆ นั้น ได้รับการตีพิมพ์ใน Bloody Harvest: Revised Report into Allegations of Organ Harvesting…
-
เพื่อลูกพ่อทำได้!! คุณพ่อยอมเสียสละไตตัวเอง เพื่อช่วยชีวิตลูกชายให้รอดพ้นจากโรคไตรั่ว
ฮีโร่นั้นไม่จำเป็นต้องมีผ้าคลุม ไม่ต้องมีพลังวิเศษ เพียงแค่ทำสิ่งดีๆ ก็กลายเป็นฮีโร่ได้แล้ว อย่างในกรณีของคุณพ่อ Nick Frost รายนี้ ที่ยอมเสียสละอวัยวะตัวเองเพื่อลูกชายตัวน้อยของเขาที่กำลังประสบกับความบกพร่องทางร่างกายอย่างรุนแรง Ralph ลูกชายวัย 6 ขวบของเขานั้นเกิดมาพร้อมกับโรคไตรั่ว ความบกพร่องของไตที่ขับโปรตีนออกทางปัสสาวะเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมได้ อีกทั้งยังต้องเจอกับปัญหาเกล็ดเลือดในร่างกายที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ คุณพ่อ Nick ทนเห็นความเจ็บปวดของลูกชายไม่ไหว จึงตัดสินทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ด้วยการบริจาคไตของตัวเองให้กับลูกชาย เพราะเขาหวังว่าคงจะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและโรคร้ายของลูกชายได้ หลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนไตแล้ว Ralph พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Great Ormond Street สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่มากนั้นไม่ใช่เพราะไม่ได้อยู่บ้าน ไม่มีของเล่น แต่เป็นการต่อสู้กับความเจ็บปวดในระหว่างรับการรักษาในตอนกลางคืน ถึงแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ร้องไห้ออกมาไม่ได้ กลัวว่าจะทำให้ผู้ป่วยเด็กรายอื่นตื่น ทางครอบครัวสูญเสียเงินไปกับค่ารักษาเป็นจำนวนมาก ครอบครัวของ Ross Henty ผู้เป็นเพื่อนก็ได้ทำการระดมทุนให้กับครอบครัวของ Nick เพื่อให้เขานั้นนำไปใช้ท่องเที่ยวกับลูกบ้าง หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ก็ได้แต่หวังว่าทั้งสองจะพักฟื้นจนหายเป็นปกติในเร็วๆ วันนะจ๊ะ ที่มา : gofundme, theladbible
-
องค์กรญี่ปุ่นทำแคมเปญ “คืนชีวิตตุ๊กตา” เพื่อให้เด็กตระหนักถึงการบริจาคอวัยวะ
ถ้าหากว่ามันยากเกินกว่าเด็กจะเข้าใจ ทำไมไม่ทำให้มันเป็นเรื่องของเด็กไปเลยล่ะ อย่างเช่นองค์กรแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นชื่อว่า Second Life Toys พวกเขาต้องการจะให้เด็กเห็นความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกอันดี วิธีขององค์กรนี้ก็คือการปลูกถ่ายอวัยวะของตุ๊กตาที่ชำรุด โดยเขาจะรับบริจาคตุ๊กตาที่ไม่ได้เล่นหรือไม่ได้ใช้แล้ว แล้วก็นำเอาชิ้นส่วนเหล่านั้นมาเย็บติดกับตุ๊กตาอีกตัวที่ชำรุด ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะทำให้เด็กคิดได้ว่าสิ่งที่เราไม่ใช้ ก็สามารถทำให้ตุ๊กตาอีกตัวกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง นี่ถือเป็นไอเดียที่ดีและน่ารักมากๆ เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นตอนนี้กำลังประสบปัญหากับการบริจาคอวัยวะอยู่ ยังมีคนกว่า 14,000 คนรออวัยวะใหม่ และมีเพียง 300 คนต่อปีเท่านั้นที่ได้รับอวัยวะ ที่มา Rocketnews24, boredpanda
-
ลิงบาบูนต่อลมหายใจได้เพราะด้วย ‘หัวใจหมู’ และในอนาคตข้างหน้าอาจจะนำมาใช้กับมนุษย์
เมื่อหลายปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองการปลูกถ่ายอวัยวะส่วนที่สำคัญที่สุดให้กับลิงบาบูน โดยอวัยวะนั้นไม่ใช่เครื่องจักร และไม่ได้มาจากลิงบาบูนด้วยกันเอง เพราะมันคือหัวใจของหมูที่ไปทำหน้าที่เป็นหัวใจให้ลิงบาบูนแทน แม้ฟังดูแล้วอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดและเลวร้ายไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นลิงบาบูนสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้มากกว่า 2 ปีแล้ว โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นเลย ซึ่งทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะนำมาใช้รักษาชีวิตมนุษย์ผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะทดแทนจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น Dr. Muhammad M. Mohiuddin หัวหน้าทีมผ่าตัดจากสถาบันหัวใจ ปอด และเลือดแห่งชาติ ในเมือง Bethesda รัฐ Maryland กล่าวว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่ยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ก็สามารถทำได้จริงอย่างน่าเหลือเชื่อ หัวใจหมูมีขนาดเทียบเท่ากับขนาดของหัวใจมนุษย์ สิ่งที่เป็นอุปสรรคและน่าเป็นห่วงที่สุดของการปลูกถ่ายอวัยวะจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นนั่นก็คือการยอมรับอวัยวะภายนอกของร่างกายที่ถูกปลูกถ่าย ถ้าหากว่าร่างกายเกิดอาการปฏิเสธขึ้นมา ระบบภูมิคุ้มกันก็จะต่อต้านอย่างรุนแรง ซึ่งจะต้องมีการดัดแปลงพันธุกรรมอวัยวะให้เข้ากับร่างกายที่ต้องปลูกถ่ายเสียก่อน อย่างไรก็ตาม หัวใจของลิงบาบูนที่ถูกผ่าออกมานั้นถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการป้องกันกรณีที่การปลูกถ่ายหัวใจหมูเกิดล้มเหลว โดยสรุปแล้วการปลูกถ่ายอวัยวะจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นสามารถทำได้จริง และน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตตนเองต่อไป ที่มา : sciencemag, nature, techinsider
-
วิทยาศาสตร์โลกตะลึง!! นักวิทย์ฯ ปลูกถ่าย ‘ขาไดโนเสาร์’ ในตัวอ่อนของไก่ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ในวงการวิทยาศาสตร์นั้นมีการวิจัยค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ และทุกๆ ครั้งที่ประสบความสำเร็จ ต่างก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้ตลอด อย่างในกรณีล่าสุดของการปลูกถ่ายอวัยวะของสิ่งมีชีวิตยุคดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ โดยนำส่วนขาของไดโนเสาร์มาปลูกถ่ายในตัวอ่อนของไก่!? การทดลองในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อทำการค้นหาสาเหตุการพัฒนาการของนกที่เปลี่ยนแปลงไปจนกลายมาเป็นไดโนเสาร์ โดยเรียกกันว่า ‘พัฒนาการย้อนกลับ’ (Reverse Evolution) โดยทำการทดลองตั้งแต่ปีค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นสองโครงการก็คือการปลูกถ่ายในส่วนขาและเค้าโครงใบหน้าของไดโนเสาร์ในตัวอ่อนของไก่ และผลการทดลองก็เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนกระดูกในตัวอ่อนมีลักษณะที่คล้ายคลึงไดโนเสาร์มาก ทีมนักวิทยาศาตร์จาก University of Chile ตั้งข้อสังเกตว่าสัตว์ปีกในยุคปัจจุบันอาจจะเป็นลูกหลานของไดโนเสาร์ในกลุ่ม Coelurosauria ซึ่งบรรพบุรษของพวกมันนั้นมีสายพันธุ์ Raptors อยู่ในกลุ่มด้วย อีกทั้งนักวิยาศาสตร์ยังพบว่าหากทำการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของยีนใน DNA ไก่ ลักษณะขาของมันก็จะกลายพันธ์ุคล้ายๆ กับบรรพบุรุษไดโนเสาร์เลย แต่กระนั้นพวกเขาก็ได้หยุดการทดลองเอาไว้เพียงเท่านี้ เพราะไม่อยากเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ออกมา เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง อาจจะทำให้วุ่นวายกันไปหมด!? ที่มา : iflscience, unilad
-
มีใจให้ซะที!! TransMedics การปลูกถ่ายหัวใจ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน สามารถทำได้จริงแล้ว
อวัยวะของมนุษย์นั้นก็เหมือนกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้านั่นแหละ มันมีการเสื่อมและสลายตามไปกาลเวลา แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือมันไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ทางออกก็มีอยู่เสมอ เลือกใช้การทดแทนด้วยอวัยวะเทียม แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น วงการแพทย์ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีอวัยวะเทียมมาทดแทนแต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ 100% เพราะฉะนั้นจึงต้องทำการแทนที่ด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งหนึ่งในอวัยวะภายในที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘หัวใจ’ อุปกรณ์ชิ้นใหม่ TransMedics ที่ไว้ใช้ทำการชุบชีวิตหัวใจของผู้บริจาคที่เพิ่งเสียชีวิต หลังจากที่หัวใจหยุดทำงานเนื่องจากขาดออกซิเจน โดยจะทำการสูบฉีดเลือดเข้าไปใหม่ พร้อมกับให้อุณหภูมิที่พอเหมาะและออกซิเจนที่จำเป็นต่อการกระตุ้นหัวใจ โดยทางทีมแพทย์จะทำการผ่าตัดนำหัวใจออกมาจากร่างของผู้บริจาค จากนั้นจะนำมาบรรจุภายในกล่องแช่แข็งเพื่อทำการเคลื่อนย้ายนำไปชุบชีวิตใหม่ให้กับหัวใจที่หยุดทำงานไปแล้ว เมื่อหัวใจที่หยุดเต้น กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ทางทีมแพทย์ก็จะนำหัวใจเหล่านี้ไปปลูกถ่ายให้กับผู้อื่นต่อไป โดยปัจจุบันการปลูกถ่ายหัวใจสำเร็จไปแล้ว 15 รายด้วยกัน Heart in a Box This device can bring dead hearts back to life. Posted by Hashem Al-Ghaili on Saturday, January…
-
18 เหล่าดาราและคนดัง ที่ทำประกันอวัยวะในร่างกายของตนเอง ด้วยเงินหลักล้าน!!!
แวดวงคนดัง โดยเฉพาะเหล่าดารานั้น แน่นอนว่าต้องใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน ซึ่งส่วนนั้นๆ ของพวกเขาที่เป็นจุดเด่นก็ถือได้ว่าสำคัญสำหรับพวกเขามาก ไม่ต้องแปลกใจเลยที่สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลอวัยวะส่วนนั้นๆ นั่นเอง และนี่คือ 18 เหล่าดาราและคนดังระดับโลก ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อนเลยล่ะว่าประกันอวัยวะของพวกเขา มากกว่า 1 ล้านเหรียญเลยล่ะ ก็คูณค่าเงินกันไปนะจ๊ะราวๆ 34 ถ้าจะหาเป็นเงินไทย ลองมาดูกันเลย!!! Holly Madison ดาราที่มีหน้าอกหน้าใจเป็นจุดเด่น ทำประกันไว้ 1 ล้านเหรียญเลยล่ะ ในด้านของนักร้องสาวชื่อดัง Rihanna ก็ทำประกันขาของตัวเองไว้ 1 ล้านเหรียญเช่นกัน มือกีต้าร์อย่าง Keith Richards ก็ประกันมือตัวเองไว้ 1.6 ล้านเหรียญ Madonna ประกันหน้าอก 2 ล้านเหรียญ Heidi Klum ทำประกันขาของตัวเองไว้ 2 ล้านเหรียญ อีกหนึ่งโฉมหน้าของคนหวงขา Jamie Lee Curtis ทำประกันขาตัวเองไว้ 2.8…
-
สาระจัดหนัก (18+) สาธิตศาสตร์และศิลป์ในการใช้นิ้วมือ สร้างความสุขให้กับสาวๆ อย่างถูกวิธี!!
เรื่องของเพศนั้นเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้หรอก มันเป็นธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ที่มีความต้องการเหมือนกัน ไม่ว่าจะทั้งชายหรือหญิง แต่ด้วยวิธีการที่จะทำให้ฟินได้นั้นไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ มันต้องมีการเรียนรู้จุดต่างๆ และวิธีการที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้หมดอารมณ์ได้ง่ายๆ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่ามีการสำรวจออกมาแล้วว่าผู้หญิงกว่า 90% ชอบที่จะถูกการใช้นิ้วสร้างความสุข แต่ในทางกลับกันผู้หญิง 60% นั้นไม่อาจถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการใช้นิ้วของตัวเอง (ทั้งนี้ไม่รวมของเล่น การใช้มือ หรือลิ้น) อย่างไรก็ตามในกรณีของผู้ชายที่พยายามใช้นิ้วในการสร้างความสุขให้กับสาวๆ ส่วนใหญ่นั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า เนื่องจากไม่สามารถหาจุดพีคที่สาวๆ นั้นรู้สึกดีได้เลย จนสุดท้ายก็หมดกัน หดทุกสิ่ง เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่ท่านชายทั้งหลายควรทำเลยก็คือหมั่นตัดเล็บให้สั้นและเล็มให้เรียบร้อย เพราะไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้เล็บยาวและแหลมคมสอดเข้าไปปุ๊บ อาจจะไปควักหรือเกี่ยวข้างในของสาวๆ ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ จนถึงขั้นเลือดไหลกันเลยทีเดียว อย่างที่สองควรที่จะทำให้บริเวณจุดสำคัญของสาวๆ พร้อมซะก่อน ขอให้ชุ่มๆ เปียกๆ แฉะๆ มีการหล่อลื่นที่ดีก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการ อาจจะใช้ปากหรือให้เธอเตรียมความพร้อมของตัวเองก่อนก็ได้ อย่างที่สาม ไม่ควรใช้นิ้วสุ่มสี่สุ่มห้าทะลวงเข้าไปเลย ผู้หญิงจะไปถึงจุดสุดยอดได้นั้นต้องได้การกระตุ้นที่ถูกจุดและถูกต้องตามกระบวนการ ไม่ใช่การใช้นิ้วทะลวงเจาะไข่แดงแบบนี้ มันจะเจ็บมากกว่าฟินนะเออ เพราะฉะนั้นควรที่จะสังเกตการณ์ก่อนว่าจุดสัมผัสที่เร้าอารมณ์ของหล่อนนั้นอูย่ตรงไหน มันก็จะอยู่บริเวณด้านบนๆ ของปากทางเข้านั้นแหละ…