Tag: อันตราย

  • เด็กสาววัย 14 เสียชีวิตหลัง “ชะโงกหน้า” ชมวิวบนหน้าผา Horseshoe Bend รัฐแอริโซนา

    เด็กสาววัย 14 เสียชีวิตหลัง “ชะโงกหน้า” ชมวิวบนหน้าผา Horseshoe Bend รัฐแอริโซนา

    การไปเที่ยวยังสถานที่อันตราย เราอาจจะต้องระวังตัวกันเป็นพิเศษ มิฉะนั้นก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ เช่นอุทาหรณ์จากข่าวดังต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2018 มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า เด็กหญิงวัย 14 ปีได้เสียชีวิตหลังจากการท่องเที่ยวยังหน้าผาของรัฐแอริโซนา     เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอำเภอของเคาน์ตี Coconino ออกมาเผยว่า ได้รับการแจ้งจากพ่อแม่ว่าเด็กสาววัย 14 ปีจากแคลิฟอร์เนียนั้นหายตัวไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม มีคนพบเห็นเธอครั้งสุดท้ายที่หน้าผาของโค้งน้ำ Horseshoe Bend ในเมือง Page สำนักงานสาธารณภัยของแอริโซนาจึงใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตรวจตราทางอากาศ ทำให้พบร่างของเด็กสาวอยู่บริเวณใต้หน้าผาราว 213 เมตร     เจ้าหน้าที่ได้กู้ร่างของเด็กสาวไม่เผยนามมาได้ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 25 ธันวาคม จากนั้นก็นำส่งร่างของเธอไปยังหน่วยงานตรวจสอบทางการแพทย์ในย่าน Flagstaff ส่วนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานนายอำเภอก็ออกมาแถลงการณ์ว่า เด็กหญิงผู้เสียชีวิตมาจาก San Jose รัฐแคลิฟอร์เนียนั้น เชื่อว่าเธอได้เข้ามาเที่ยวชมยังหน้าผาของโค้งน้ำ Horseshoe Bend แล้วพลาดท่าตกลงไปยังด้านล่าง แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงอยู่ในกระบวนการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป   ที่มา: azdailysun, foxla และ dailymail

  • สาวไต้หวันขี่จักรยานยนต์ แต่ “ถนนไม่ดี” เลยเสียหลัก ตัวไถลไปขวางล้อรถบัส ดับคาที่

    สาวไต้หวันขี่จักรยานยนต์ แต่ “ถนนไม่ดี” เลยเสียหลัก ตัวไถลไปขวางล้อรถบัส ดับคาที่

    การขับขี่จักรยานยนต์ใกล้กับรถใหญ่มากๆ นั้นเป็นสิ่งอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น “รถใหญ่” อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น ลองชมตัวอย่างจากเหตุการณ์ต่อไปนี้ เมื่อสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งขับขี่จักรยานยนต์เบียดข้างๆ รถบัสขนาดใหญ่ แล้วเกิดสะดุดพื้นถนน ทำให้รถล้มลงจนร่างของเธอไหลเข้าหารถบัส หญิงสาววัย 27 ปีสกุล Xu ผู้ที่เป็นนักศึกษาปีที่สองของสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัยการป้องกันชาติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของเธอเพื่อไปเข้าเรียนในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2018     เธอขับขี่มาอย่างปกติ แต่ขณะที่เธอขับมายังบริเวณถนน Tamsui Pingding เธอก็ตั้งใจจะแซงรถบัสคันหนึ่งจากทางด้านซ้ายมือของเธอ แต่กลับเคราะห์ร้ายเพราะพื้นถนนต่างระดับ ทำให้ยานพาหนะของเธอเสียหลักและคว่ำลง ตัวของเธอหลุดออกจากรถและไถลเข้าไป “ใต้ล้อ” ของรถบัส ร่างของเธอถูกทับ เสียชีวิตคาที่ กลายเป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุน่าสะเทือนใจของการใช้รถใช้ถนน   จังหวะที่รถล้มลงและร่างของเธอก็ไกลเข้าไปขวางใต้ล้อของรถบัส   ชมคลิปได้ที่นี่   ทางฝั่งของ Lu คนขับรถบัสวัย 62 ปีเล่าว่าวันนี้เขาเองก็กำลังขับรถพาเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไปส่งยังสถานที่ทัศนศึกษา เขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกเลยขณะที่เกิดเหตุน่าสลดใจนี้ขึ้น กระทั่งรถบัสอีกคันหนึ่งที่ตามหลังมาแจ้งว่าพบผู้บาดเจ็บถูกรถเหยียบ จากนั้นพวกเขาก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้รีบติดต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทันที ส่วนคนขับรถก็เข้ารับการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด     ล่าสุดคดีดังกล่าวก็ยังคงอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ณ…

  • ตำรวจจีนบุกรวบ แก๊งผลิต “ถุงยางปลอม” พร้อมของกลางมูลค่าราว 237 ล้านบาท!

    ตำรวจจีนบุกรวบ แก๊งผลิต “ถุงยางปลอม” พร้อมของกลางมูลค่าราว 237 ล้านบาท!

    งานนี้ต้องเรียกได้ว่า “ก็อปปี้จนได้เรื่อง” จริงๆ เพราะแก๊งชาวจีนถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุผลิตและจำหน่าย ถุงยางอนามัยปลอม รวมเป็นมูลค่า 50 ล้านหยวน (ราว 237 ล้านบาท) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกรวบแก๊งผลิตถุงยางปลอมในเมือง Cangnan โดยยึดได้ของกลางเป็นถุงยางจำนวน 500,000 กล่อง มีทั้งยี่ห้อ Durex, Okamoto และอื่นๆ     ภายหลังทราบมาว่าการผลิตนี้ได้ส่งต่อไปจำหน่ายยังโรงแรมต่างๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงเครื่องจำหน่ายสินค้าแบบอัตโนมัติอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าถุงยางอนามัยปลอมนั้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้ ซึ่งก็ได้บุกจับไปแล้วในโรงงานผลิตหลายแห่งในมณฑลเหอหนานและหูเป่ย จากรายงาน สมาชิกแก๊งที่ถูกจับกุมมีทั้งหมด 17 รายจากหลายๆ โรงงานรวมกัน     เจ้าหน้าที่ Zheng Xidan กล่าวว่า “เราเจอโรงงานที่ผู้ต้องสงสัยร่วมมือกันผลิตถุงยางอนามัยปลอมในย่านนอกเมืองของมณฑลเหอหนานและหูเป่ย ซึ่งเป็นสถานที่ที่สกปรกมาก เราพบว่าพวกเขามีการผสมถุงยางอนามัยเข้ากับน้ำมันซิลิโคน ซึ่งถือว่าเป็นการผลิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานการผลิตอย่างแท้จริง” จากการสอบสวนพบว่า ถุงยางอนามัยปลอมเหล่านี้ถูกขายส่งต่อให้พ่อค้าคนกลางในราคาเพียงกล่องละ 4.76 บาท เท่านั้น ขณะที่ราคาขายทอดตลาดอยู่ที่กว่า 90-700 บาทต่อกล่อง     ทั้งนี้ทั้งนั้น นาย Chen He ผู้จัดการการผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อ Daxiang ก็ออกมาเตือนถึงการใช้ถุงยางอนามัยปลอมว่า “ปกติแล้วการผลิตถุงยางอนามัยนั้นอยู่ภายใต้หมวดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด…

  • ป้าชาวจีนถือ “ระเบิด” กลับบ้าน เพราะคิดว่าเป็น ‘สากกระเบือ’ เตรียมเอาไปทุบพริกไทย!

    ป้าชาวจีนถือ “ระเบิด” กลับบ้าน เพราะคิดว่าเป็น ‘สากกระเบือ’ เตรียมเอาไปทุบพริกไทย!

    ล่าสุดป้าคนหนึ่งได้ไปขุดบริเวณเขตก่อสร้างในหมู่บ้าน แล้วเจอกับวัตถุประหลาดเป็นโลหะทรงยาวมีด้ามจับ เธอจึงเก็บกลับบ้านเพราะที่บ้านกำลังต้องการ “สากกระเบือ” เพื่อตำพริกไทยอยู่พอดี   ระเบิด (ที่ป้าคิดว่าเป็นสากกระเบือ)   เมื่อวันพุธที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน คุณป้าสกุล Wen ได้ขุดเจอวัตถุประหลาดเป็นโลหะมีด้ามจับ และขนาดของมันก็ใกล้เคียงกับสากกระเบือเอามากๆ เธอตัดสินใจเก็บมันกลับบ้านเพื่อใช้เป็นสากสำหรับตำพริกไทย แต่ขณะที่เธอเดินผ่านผู้คน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อาศัยในหมู่บ้านจึงเห็นว่านั่นไม่ใช่สากกระเบือ แต่เป็น ระเบิด เขาจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ระเบิดโดยด่วน   ป้า Wen   จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ระเบิดดังกล่าวมีสนิมเกรอะกรัง คาดว่าน่าจะถูกฝังอยู่ใต้ดินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ซ้ำยังกล่าวอีกว่าหากมันถูกจุดชนวนขึ้นมันจะเป็นระเบิดที่อันตรายมาก จากนั้นทีมเจ้าหน้าที่ก็ทำการขุดหลุมขึ้นมาในสนามกว้างๆ หย่อนระเบิดลงไปพร้อมต่อสายจุดชนวน ทั้งหมดนี้เป็นการทดลองว่าระเบิดนั้นยังใช้ได้อยู่หรือไม่   ทีมเจ้าหน้าที่   หลุมทดลองระเบิด พร้อมต่อสายชนวน   ทดลองจุดชนวนระเบิด   ผลปรากฎว่าเมื่อจุดชนวนแล้วมันระเบิดออกมาจนเกิดเสียงดังลั่น หลุมที่ขุดไว้ก็คละคลุ้งไปด้วยควันสีขาว เจ้าหน้าที่อธิบายว่าระเบิดลูกนี้มีรัศมีทำลาย (ถึงชีวิต) อยู่ที่ 7 เมตร นั่นทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าหากป้า Wen นำไปใช้ตำพริกไทยจริงๆ ป่านนี้ป้าจะเป็นอย่างไรบ้าง…   ที่มา:…

  • ฮาโลวีนโหด หนูน้อยชาวอังกฤษ 2 ราย “ถูกยิง” หลังออกไป Trick-or-treat นอกบ้าน

    ฮาโลวีนโหด หนูน้อยชาวอังกฤษ 2 ราย “ถูกยิง” หลังออกไป Trick-or-treat นอกบ้าน

    คืนฮาโลวีนแสนหรรษากลับกลายเป็นความหวาดผวาสำหรับเด็กสองคนที่ ถูกยิง เพราะเดินไปเล่นในที่ลับตาคน คุณแม่คนหนึ่งปล่อยให้ลูกรักทั้งสองออกไปเล่นฮาโลวีนยามค่ำคืน ลูกสาวคนโตนามว่า Makiya Williams วัย 14 ปีจึงพาน้องชายวัย 5 ขวบนามว่า Mael Howel ออกไปขอขนมกันตามประเพณี แล้วในคืนเดียวกันนั้นเอง คุณแม่นามว่า Dominique Wise ก็ได้รับสายแจ้งว่า ลูกๆ ทั้งสองของเธอถูกลูกหลงและได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันของผู้ครอบครองอาวุธปืน   Dominique Wise   เด็กทั้งสองคนพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางการปะทะกันของมือปืน 2 ฝ่าย ในเวลาราว 18.20 น. ของวันดังกล่าว พวกเขาเล่าว่ามีการยิงตอบโต้กันไปมาราว 6 นัดได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายผู้เป็นแม่เกิดความตื่นตกใจอย่างมาก เธอกล่าวว่า “มันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่คุณจะปล่อยให้ลูกออกไปเล่นนอกบ้านในวันฮาโลวีนแล้วถูกยิงกลับมา”   ขณะเดียวผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งก็กล่าวว่า เขาเองก็ได้ยินเสียงดังแต่คิดว่าเป็นเสียงของ “พลุ” ที่จุดเฉลิมฉลองในเทศกาลฮาโลวีน ไม่ได้คิดว่าเป็นเสียงปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พบหนูน้อย Mael บาดเจ็บพร้อมตะกร้าใส่ขนมหวานกระจายเกลื่อนพื้น เขาถูกยิงเข้าที่ขาและขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอการผ่าตัดนำกระสุนออก     Mael ขณะก่อนออกไปเที่ยวนอกบ้านในวันฮาโลวีน   เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ย่าน Olney…

  • คู่รักชาวอินเดีย ตกลงมาเสียชีวิตหลัง “เซลฟี” บนหน้าผาในอุทยานแห่งชาติ Yosemite

    คู่รักชาวอินเดีย ตกลงมาเสียชีวิตหลัง “เซลฟี” บนหน้าผาในอุทยานแห่งชาติ Yosemite

    ไปเที่ยวในสถานที่อันตรายโปรดอย่าชะล่าใจ แม้สถานที่นั้นจะสวยงามน่าถ่าย “เซลฟี่” ก็ตาม คู่รักชาวอินเดียคู่หนึ่งมีรายงานว่าตกจากหน้าผาของภูเขา Sierra Nevada ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในแคลิฟอร์เนีย จากรายงานคาดว่าทั้งคู่ ไปยืนยังริมหน้าผาแล้วกำลังจะถ่ายเซลฟี่ด้วยกัน นั่นทำให้ทั้งคู่สูญเสียการทรงตัวและพลาดตกลงจากหน้าผาความสูง 244 เมตรในที่สุด     ร่างของนาย Vishnu Viswanath วัย 29 ปี และนาง Meenakshi Moorthy วัย 30 ปี ถูกพบอยู่ที่พื้นด้านล่างของหน้าผาเมื่อวันพฤหัสที่ 25 ตุลาคม 2018 โดยผู้ลาดตระเวนในอุทยาน Jishnu Viswanath พี่ชายของ Vishnu กล่าวว่าทาง Moorthy ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแบบเต็มเวลา     Meenakshi Moorthy และ Vishnu Viswanath   ทั้งคู่มักออกท่องเที่ยวผจญภัยค้นหาความตื่นเต้นให้กับชีวิต โดนในอินสตาแกรมของพวกเขาจะมีภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งสวยงามและอันตรายหลายแห่ง โดยทางพี่ชายของ Vishnu ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ศพของทั้งคู่จะถูกฝังในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากสภาพศพไม่อำนวยให้ส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย…   https://www.instagram.com/p/BXDP6tvBLrP/?utm_source=ig_embed   การท่องเที่ยวนั้นทำให้เกิดความสุขความบันเทิงได้ก็จริง แต่ก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนนะจ๊ะทุกคน! ที่มา: nextshark, holidaysandhappilyeverafters, Mercury News และ National…

  • นักเรียนนายร้อยอากาศจีน ขว้างระเบิดไม่พ้นกำแพง “เด้งกลับ” เกือบระเบิดโดนตัวเอง

    นักเรียนนายร้อยอากาศจีน ขว้างระเบิดไม่พ้นกำแพง “เด้งกลับ” เกือบระเบิดโดนตัวเอง

    ว่ากันว่าการเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะต้องผ่านการฝึกฝนอันหฤโหดเพื่อเฟ้นหานายทหาร/ตำรวจที่แข็งแกร่ง การฝึกโหดขนาดไหนลองไปชมจากตัวอย่างเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอในวันนี้ นักเรียนนายร้อยอากาศของประเทศจีนเกือบระเบิดตัวเองหลัง ขว้างลูกระเบิดไม่พ้นกำแพง ทำให้ระเบิดเด้งกลับมาหาตัวเอง   คลิปเหตุการณ์    คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยรายการ China Central Television ของประเทศจีน แสดงให้เห็นว่านักเรียนนายร้อยอากาศคนหนึ่งถูกดึงตัวลงหลุมหลบระเบิดเพียงเสี้ยววินาทีก่อนเกิดระเบิด เหตุเกิด ณ โรงเรียน People’s Liberation Army Air Force Harbin Flight Academy ในเมืองฮาร์บิน เมืองหลวงของมณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน     ขณะที่ครูฝึกนามว่า Xu Hao กำลังสอนนักเรียนใหม่ถึงวิธีการขว้างระเบิดมือ ก็เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเมื่อนักเรียนคนหนึ่งไม่ประสงค์ออกนามขว้างระเบิดพลาด เขาขว้างไปชนกับกำแพงและกระดอนกลับมาใกล้ๆ กับบริเวณที่ผู้ขว้างยืนอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้น Hao จึงรีบคว้าตัวนักคนเรียนดังกล่าวลงหลุมหลบระเบิดอย่างรวดเร็วก่อนแรงระเบิดจะปะทุออกมา     ครูฝีก Hao บอกว่า “เขาขว้างด้วยองศาของข้อมือที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ลูกระเบิดที่ขว้างออกไปนั้นชนเข้ากับขอบกำแพง” ระเบิดชนิดดังกล่าวมีแรงระเบิดเป็นวงกว้างสามารถก่ออันตรายถึงชีวิตได้ในระยะ 6 เมตรเลยทีเดียว ทางการจึงเชยชมว่าเป็นเพราะ Hao ทั้งคู่ถึงได้รอดจากแรงระเบิดครั้งนี้ได้   เห็นไหมล่ะว่า การฝึกในโรงเรียนนายร้อยนั้นไม่ง่ายเลย…

  • สาวฮ่องกงข้ามถนนไม่ระวัง ถูก “แท็กซี่ชน” ไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่ไม่เจ็บสาหัส

    สาวฮ่องกงข้ามถนนไม่ระวัง ถูก “แท็กซี่ชน” ไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่ไม่เจ็บสาหัส

    การจะข้ามถนนที่มีรถวิ่งอยู่ขวักไขว่นั้นจำเป็นจะต้องดูซ้ายขวาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มิฉะนั้นก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และถ้าโชคไม่ช่วยก็อาจทำให้เราต้องบาดเจ็บสาหัส     อย่างเช่นนักเรียนหญิงชาวฮ่องกงในเหตุการณ์ต่อไปนี้ เธอวิ่งข้ามถนนโดยไม่ระมัดระวังขณะที่รถแท็กซี่ก็พุ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน นั่นทำให้เธอถูกรถชนเข้าอย่างจังจนตัวเธอเกยขึ้นมาบนกระโปรงหน้ารถและกระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถ จากนั้นจึงร่วงไปนอนกองกับพื้น แต่ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นอย่างใจเย็น และเดินออกไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ชมคลิป    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2018 ที่ถนน Po Tung บนเกาะฮ่องกง นักเรียนหญิงคนนี้เดินออกมาโดยไม่ระแวดระวังรถที่กำลังวิ่ง   กล้องของรถแท็กซี่จึงถ่ายติดภาพที่พุ่งชนเข้ากับร่างของนักเรียนหญิงดังกล่าว   แม้ว่าหลังจากนั้น นักเรียนหญิงในคลิปจะลุกเดินออกไปอย่างนิ่งๆ แต่ภายหลังมีรายงานว่าเด็กคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Tseung Kwan O Hospital เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ขา เจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นสูง Jacky Chan ก็ออกมากล่าวว่าให้คนขับแท็กซี่เพิ่มความระมัดระวังขณะขับผ่านย่านผู้คนและทางเดินข้ามถนน อาจกระทำได้โดยการลดความเร็วลง อีกทั้งยังกล่าวกับคนเดินเท้าด้วยว่าให้มีสติและระมัดระวังอยู่เสมอ พยายามมองไฟสัญญาณจราจรและที่สำคัญเลยก็คือ “อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือหรือจดจ่อกับอะไรที่ไม่ใช่ถนน”   ที่มา: The Straits Times, CAP9UCAM9U และ nextshark

  • เด็กจีนซุกซน “สไลด์” ราวบันไดเลื่อนเล่นในห้างฯ ผู้ใหญ่ไม่ห้าม…ซ้ำยังยืนเชียร์!!

    เด็กจีนซุกซน “สไลด์” ราวบันไดเลื่อนเล่นในห้างฯ ผู้ใหญ่ไม่ห้าม…ซ้ำยังยืนเชียร์!!

    การสนับสนุนเด็กๆ ในพฤติกรรมที่ดีจะทำให้เด็กมีโอกาสกระทำพฤติกรรมนั้นๆ ต่อไป แต่หากชื่นชมหรือสนับสนุนการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร เด็กๆ ก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน คลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์พบว่า เด็ก 3 คนสไลด์ลงมากับราวบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้ใหญ่โดยรอบก็ชื่นชมและส่งเสียงเชียร์     ชมคลิปวิดีโอ    ในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงการละเล่นแสนอันตรายของเด็กชายทั้ง 3 คนที่ไถลตัวลงมากับราวบันไดเลื่อนความยาว 20 เมตรในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตะวันตกเฉียงใต้ของนครฉงชิ่ง ขณะเดียวกันก็มีผู้ใหญ่จำนวนมากที่อยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งได้เห็นภาพความอันตรายของเด็กๆ เหล่านี้ แต่กลับไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะห้ามปราม ซ้ำยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอพร้อมชื่นชม     ในคลิปจะเห็นได้ผู้ใหญ่ท่ถ่ายวิดีโออยู่ด้านล่างได้เปล่งวาจาชื่นชม โดยหญิงคนหนึ่งพูดออกมาว่า “ว้าว เก่งจังเลย!” .   หลังจากคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตต่างก็ว่ากล่าวพฤติกรรมของเด็กทั้งสามคน ที่ไม่สนใจป้ายเตือนซึ่งบอกเอาไว้ว่าบันได้เลื่อนกำลังซ่อมแซม ห้ามใช้   ตัวอย่างคอมเมนต์จากชาวเน็ตในเว็บไซต์ Weibo เช่น… “พวกพ่อแม่นี่ชอบให้ท้ายเด็กจริงๆ ไม่เข้าใจเลยพวกเขาคิดอะไรกันอยู่” “พ่อแม่ก็คงเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กๆ ก่อนนั่นแหละ” “นี่ถ้าสมมติเกิดอุบัติเหตุขึ้น พวกเขาก็คงจะโทษให้เป็นความผิดของห้างฯ ใช่ไหม?”   สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำก็คือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ว่าพฤติกรรมใดคือสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมตามกาลเทศะ ที่มา: nextshark และ 头条…

  • สาวเล่า ‘วินาทีชีวิต’ หลังเดินกลับหอพักถูก ‘ชายแปลกหน้า’ เดินตามมาติดๆ ดีที่ไหวตัวทัน!!

    สาวเล่า ‘วินาทีชีวิต’ หลังเดินกลับหอพักถูก ‘ชายแปลกหน้า’ เดินตามมาติดๆ ดีที่ไหวตัวทัน!!

    บางครั้งการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายนี้มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเสมอไป   เรื่องราวของ Alexa หญิงสาวชาวนิวยอร์กวัย 30 ปี ที่ถูกชายแปลกหน้าเดินตามเข้ามาถึง ‘หอพัก’ ในมหาวิทยาลัย University Heights      เธอโพสต์เล่าเหตุการณ์วินาทีชีวิตของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “หลังจากลงมาจาก Uber เวลาประมาณตี 3.50 น. ก็เดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของหอพักตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าตอนนี้ ‘เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว’”   เหตุการณ์ตอนที่ Alexa กำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก The following footage is me walking up into my building. You’ll notice a man walk behind me moments later. I did not see or hear him. pic.twitter.com/oxCtNvcstN…

  • เตือนภัย!! คลิปหนุ่มทำที “แกล้งหลับ”เพื่อให้ได้ ‘ซบไหล่’ หญิงสาวบนรถโดยสารในฟิลิปปินส์

    เตือนภัย!! คลิปหนุ่มทำที “แกล้งหลับ”เพื่อให้ได้ ‘ซบไหล่’ หญิงสาวบนรถโดยสารในฟิลิปปินส์

    ดูแทบไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่างๆ ของคนสมัยนี้นั้นเป็นธรรมชาติหรือเป็นความตั้งใจที่แฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายกันแน่ เช่น การที่ชายหนุ่มบนรถโดยสารที่เอนมาซบไหล่หญิงสาว บางครั้งก็ยากจะทราบว่าเป็นเพราะเขาหลับไม่รู้ตัว หรือเป็นเพราะความต้องการของเขากันแน่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นในเมือง Cabanatuan จังหวัดนูเวบาเอซีฮา ประเทศฟิลิปปินส์ มีคลิปถูกเผยแพร่ออกมาบนเฟซบุ๊กของ Edward Peñaflor แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มคนหนึ่งบนรถจี๊ปนีย์ (รถสองแถวของฟิลิปปินส์) ได้นั่งหลับและเอนตัวไปซบไหล่หญิงสาวที่นั่งข้างๆ     คลิปวิดีโอแรก    จากคลิปวิดีโอชิ้นแรก จะเห็นได้ว่าชายดังกล่าวพยายามเอนตัวไปพิงไหล่ของสาว ที่นั่งข้างๆ   จนสาวในคลิปต้องใช้มือดันออกจนเขาลืมตาขึ้นและกลับมาซบอีกครั้ง   สุดท้ายหญิงสาวทนไม่ไหวถึงกับต้องลุกจากที่นั่งไป ปล่อยให้ชายคนนี้ฟุบลงกับเบาะนั่งและลุกขึ้นมาด้วยใบหน้างงๆ   คลิปวิดีโอที่ 2    จากคลิปวิดีโอที่ 2 จะเห็นว่าชายในคลิปนั้นมีการนอนลงบนเบาะนั่งที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งบนรถ   ตรงนี้ มีผู้โดยสารคนหนึ่งเข้าไปแจ้งกับคนขับรถว่า “คุณกำลังพาผู้โดยสารไม่ปกติมาด้วย รีบปล่อยเขาลงรถเถอะ เขาทำให้ผู้โดยสารคนอื่นหวาดกลัวหมดแล้ว” และจากนั้นคนขับก็ไล่ชายคนนี้ลงรถ   วิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากพฤติกรรมของชายผู้นี้ดูไม่น่าไว้วางใจและแฝงความอันตรายโดยเฉพาะกับหญิงสาว ชาวเน็ตจึงได้ฝากคอมเมนต์เอาไว้มากมาย เช่น… “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นนะ ฉันจะผลักให้ร่วงรถไปเลย” “ถ้าฉันเป็นคนถ่ายคลิปนะฉันจะต้องมีเตะไอ้คนนี้บ้างแหละ” “เอาจริงๆ แค่สีหน้าของนายคนนี้ก็บอกได้แล้วว่าเขาไม่ปกติ” “การแกล้งหลับมันยากนะ บอกตรงๆ คุณพี่คือแกล้งหลับโคตรไม่เนียนอะ”…

  • มาได้ยังไง?? เด็กหญิงจีนเจอ “ปลาอัลลิเกเตอร์” กัดแผลเหวอะขณะให้อาหารปลาแถวบ้าน

    มาได้ยังไง?? เด็กหญิงจีนเจอ “ปลาอัลลิเกเตอร์” กัดแผลเหวอะขณะให้อาหารปลาแถวบ้าน

    ความอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ แม้กระทั่งในสถานที่ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีอะไรก็กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้ อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่เด็กสาวชาวจีนวัย 9 ขวบถูก “ตัวประหลาด” งับเข้าที่มือจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ขณะที่เธอกำลังให้อาหารปลาอยู่ที่บ่อน้ำประดับในละแวกที่อาศัย เมืองหนานหนิง เขตปกครองกวางสี ประเทศจีน     เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2018 ภาพและคลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ดูแลชุมชนจึงออกตามหา “ตัวประหลาด” ดังกล่าวว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ หลังเกิดเหตุได้ราว 40 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ก็พบสิ่งมีชีวิตที่ทำร้ายเด็กสาวดังกล่าวได้ มันเป็น ปลาสัญชาติอเมริกาใต้ ตัวยาว 1 เมตรและมีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม   คลิปวิดีโอรายงานเหตุการณ์    ปลาตัวดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเป็น ปลาอัลลิเกเตอร์ (Alligator Gar) ปลานักล่าที่สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ฉายาของปลาชนิดนี้คือ “ฟอสซิลที่ยังหายใจ” ร่างกายของมันมีรูปร่างคล้ายตอร์ปิโด มีเกล็ดซ้อนทับแบบกานอยด์ที่หนาและแข็งราวกับกระดูก พร้อมกับเขี้ยวและฟันที่ทั้งใหญ่และแหลมคม   ปลาอัลลิเกเตอร์ ผู้ก่อเหตุ   รอยบาดแผลจากการถูกปลาอัลลิเกเตอร์ดังกล่าวกัด…

  • เตือนภัย! สาวจีนใช้มือถือ “ถ่ายวิดีโอ” ขณะขับรถ ผลสุดท้ายราว ‘เสียบ’ ทะลุคันรถ…

    เตือนภัย! สาวจีนใช้มือถือ “ถ่ายวิดีโอ” ขณะขับรถ ผลสุดท้ายราว ‘เสียบ’ ทะลุคันรถ…

    (คำเตือน: บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหารุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม)   การขับรถนั้นจำเป็นจะต้องมีสมาธิและสติอยู่กับการควบคุมรถอย่างมาก เพราะหลายครั้งอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นจากการที่ผู้คนไม่ยอมใส่ใจและประมาทในการขับรถนั่นเอง หลายคนมั่นใจในตัวเองว่า เพียงแค่เล่นสมาร์ตโฟนนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรเพราะถึงจะเล่นมือถือแต่ก็มองทางไปด้วย แต่เชื่อว่าหลายคนจะมีความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อได้ชมเหตุการณ์ตัวอย่างที่จะนำเสนอดังต่อไปนี้     หญิงรายหนึ่งในประเทศจีนได้ฝ่าฝืนคำเตือนยอดฮิตที่ว่า “ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ” เธอใช้มือถือถ่ายวิดีโอไปพร้อมกับการขับรถ ในวิดีโอเธอถ่ายบรรยากาศภายในรถที่มีน้องหมานอนอยู่ด้วยพร้อมเพลงประกอบ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน รถของเธอก็พุ่งไปชนเข้ากับราวกั้นถนน (ราวเหล็กลูกฟูก) อย่างจัง จนราวกั้นนั้น “เสียบ” เขามาในรถจนทะลุท้ายรถเลยทีเดียว     คลิปวิดีโอดังกล่าว ขณะที่เธอยังไม่รู้ตัวว่าอีกไม่กี่วินาทีก็จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น    รถของเธอพุ่งเข้าไปเสยเข้ากับราวกั้นข้างถนน คาดว่าน่าจะด้วยความเร็วพอประมาณโดยไม่ทันได้เหยียบเบรก จึงทำให้ราวเหล็กเสียบทะลุกระจกหน้ารถเข้ามายังภายในตัวรถและเสียบทะลุกระจกหลังออกไปด้วย สภาพของหญิงสาวดังกล่าวหลังเกิดอุบัติเหตุนั้นเต็มไปด้วยเลือดบริเวณใบหน้า และดูราวกับว่าเธอไม่สามารถขยับร่างกายออกจากรถได้   สภาพหลังเกิดอุบัติเหตุ ดูท่าว่าเธอจะยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้ปกติ    ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันในวิดีโอกันพอสมควร เช่น “เธอปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว สงสัยมีคลิปเยอะ” และ “เจ้าหมาเป็นไงบ้างงง?” เป็นต้น   หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ที่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถได้เป็นอย่างดี เพราะบางทีเราไม่รู้หรอกว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรมีสติในการขับรถอยู่ตลอดเวลาไงล่ะ ที่มา: facebook1, facebook2 via ck101

  • ภาพเหตุการณ์ “ภูเขาถล่ม” ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในกรุงปักกิ่ง ประชาชนพากันตื่นกลัว

    ภาพเหตุการณ์ “ภูเขาถล่ม” ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในกรุงปักกิ่ง ประชาชนพากันตื่นกลัว

    ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก หากไม่ระวังให้ดีมันอาจพรากชีวิตของผู้คนไปได้เลยทีเดียว…     ล่าสุดภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่วนหนึ่งได้เกิดถล่มลงมาสู่พื้นถนนซึ่งมีผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่บริเวณเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่ตกตะลึงอยู่กับภาพที่เห็นท่ามกลางเสียงอึกทึกกึกก้องและฝุ่นที่เกิดจากแผ่นดินถล่ม   จังหวะดินและหินบนภูเขาถล่มลงสู่พื้นถนน   ผู้คนต่างตื่นตระหนกตกใจกลัว   ภาพภัยพิบัติแผ่นดินถล่มจากทางอากาศ   ชมคลิปวิดีโอดินถล่ม ณ เมืองฟางซาน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน    กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่ผ่านมานั้นต้องประสบกับพายุฝนกระหน่ำอย่างหนัก ซึ่งคาดกันว่ามีส่วนทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในครั้งนี้ มีการบันทึกภาพและเผยแพร่ต่อกันไปอย่างกว้างขวางจนทำให้ประชาชนที่ได้รับชมต่างพากันตื่นกลัวที่จะเข้าใกล้เขตภูเขา เพราะแม้แต่ภูเขาสูงใหญ่ในภาพยังสามารถสั่นคลอนและถล่มลงมาได้   ภาพหลังดินถล่มสงบลง   ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายอย่างมาก ฉะนั้น จงเตรียมตัวรับมือกับมันเอาไว้ให้ดี… ที่มา: ck101 และ 千年蠢猪习近平

  • สาวปริศนาไล่ “กดกริ่ง” บ้านคนอื่นกลางดึก เจ้าหน้าที่พยายามตามหาตัวแต่ ‘ไร้ร่องรอย’

    สาวปริศนาไล่ “กดกริ่ง” บ้านคนอื่นกลางดึก เจ้าหน้าที่พยายามตามหาตัวแต่ ‘ไร้ร่องรอย’

    ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัสได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อพบเห็นหญิงสาวปริศนาในกล้องวงจรปิด เดินไปกดกริ่งของบ้าน 5 หลังในเวลาราวตีสามโดยไม่ทราบสาเหตุ และจากนั้นก็ไม่มีใครหาหญิงคนนี้ได้พบ จากภาพวงจรปิด เห็นได้ว่าหญิงคนดังกล่าวใส่เพียงเสื้อตัวยาวๆ ไม่สวมรองเท้า และที่ข้อมือขวามีเครื่องประดับเป็นสายผูกข้อมือที่ห้อยยาวลงมา   สาวปริศนากดกริ่งบ้านคนอื่น   ผู้อาศัยคนหนึ่งออกมาเล่ากับ ABC News ว่าเพื่อนบ้านของเขาบางคนก็เดินออกมาเปิดประตูขณะที่สาวคนนี้มากดกริ่ง แต่กลับไม่พบใคร เพราะเธอได้หายตัวไปก่อนแล้ว Branson Golson ผู้อาศัยอีกรายก็ออกมากล่าวว่า “ผมมีลูกสาวอายุ 9 ขวบอยู่ในบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ผมกังวลอย่างมาก” ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนแต่ละบ้านในละแวก และพยายามอย่างมากในการแกะรอยสาวปริศนาจนกว่าจะพบตัว     ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ “ภาพคนหาย” ที่พลเมืองส่งแจ้งเข้ามา แต่ก็ไม่พบใครจะมีใครที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสาวปริศนาในกล้องวงจรปิดเลย ร้อยโท Frank Spencer จึงออกมาเตือนชาวเมืองว่าพยายามระมัดระวังตนเองให้ดี หากมีคนมากดกริ่ง เจ้าของบ้านสามารถตอบรับผู้ที่มากดกริ่งได้ แต่ให้พูดจากอีกฝั่งของประตูก่อนที่จะเปิดประตูออกไป   หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ในเมืองมอนต์โกเมอรี รัฐเท็กซัส   ชมภาพวิดีโอสาวปริศนาจากกล้องวงจรปิด    เป็นเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามสืบสวนแล้วแต่ปัจจุบันก็ยังไม่พบตัวของ “หญิงสาวปริศนา” ดังกล่าว ที่มา: thesun, facebook, shared…

  • สาวนุ่งสั้นถูกชายโรคจิต “แอบมองขา” แถมควัก “ไอ้จ้อน” ออกมาช่วยตัวเองโชว์…

    สาวนุ่งสั้นถูกชายโรคจิต “แอบมองขา” แถมควัก “ไอ้จ้อน” ออกมาช่วยตัวเองโชว์…

    คนเราสมัยนี้ต้องเรียกได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงจริงๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่บางครั้งไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีใครแอบ คิดมิดีมิร้าย กับคุณอยู่ที่ไหนบ้างหรือเปล่า เช่นเหตุการณ์ที่จะนำเสนอให้ได้ชมกันในวันนี้ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่และชอบไปไหนมาไหนคนเดียว     ภาพกล้องวงจรปิดส่งตรงจากประเทศจีนเผยให้เห็นว่าหญิงสาวรูปร่างเซ็กซี่พร้อมเสื้อแขนสั้นรัดรูปและกางเกงขาสั้นนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ทางกลางความเปล่าเปลี่ยวของลานจอดรถหลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน และแล้วกล้องวงจรปิดก็เผยภาพชายที่ไม่ประสงค์ดีซ่อนตัวอยู่หลังรถใกล้ๆ กับหญิงสาว เขาได้แอบมองอย่างไม่เป็นมิตร และสุดท้ายเขาก็ควักอวัยวะเพศของตัวเองออกมาเพื่อสำเร็จความใคร่…   ชมคลิปวิดีโอ    ภายหลังหญิงสาวในคลิปวิดีโอเล่าว่า ขณะที่เธอคุยโทรศัพท์อยู่นั้นเธอก็ได้ยินเสียงประหลาดๆ นั่นทำให้เธอรู้สึกกลัวและเดินหนีออกมาจากจุดนั้นในที่สุด ชายโรคจิตปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแอบเผยของลับของตนและหันไปทางหญิงสาว แถมยังพยายามเดินมาทางหญิงสาวในขณะที่ตนก็กำลังทำการสำเร็จความใคร่ไปด้วย อย่างไรก็ตามหญิงสาวกล่าวว่า ขณะที่เธอรู้ตัว เธอตัดสินใจที่จะไม่กรีดร้องแต่เธอกลับค่อยๆ หยิบกระเป๋าและเดินหนีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้   ชายโรคจิตโผล่มาแล้ว   เขางัดของลับของเขาออกมา   จังหวะนี้หญิงสาวเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าไม่ปลอดภัยแน่ๆ   ขณะที่หญิงสาวเดินหนีออกไปแล้ว ชายโรคจิตยังพยายามเดินตามกระทั่งคนแถวนั้นผ่านมาเห็นเขาถึงหลบหนีไป   โชคดีที่หญิงสาวคนนี้ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ส่วนเรื่องนี้ทางการก็ได้รับทราบแล้วแต่ยังไม่สามารถตามจับตัวชายในคลิปได้ ได้แต่เพียงเตือนหญิงสาวทุกคนให้ระวังตัวมากขึ้นยามที่ต้องอยู่ลำพังในที่เปลี่ยว หากเป็นไปได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเลยจะดีกว่า ที่มา: ck101

  • งานวิจัยจาก University of Birmingham ชี้ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’  อันตรายต่อ ‘ระบบภูมิคุ้มกัน’

    งานวิจัยจาก University of Birmingham ชี้ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ อันตรายต่อ ‘ระบบภูมิคุ้มกัน’

    หลังจากที่มีการถกเกถียงกันมาอย่างยาวนานว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ นั้นปลอดภัยต่อสุขภาพจริงๆ หรือไม่…   แน่นอนว่าองค์กรเกี่ยวกับสุขภาพของประเทศที่มีการเปิดให้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายก็ดำเนินการทำการวิจัยถึงอันตรายต่างๆ ที่ได้รับผลมาจากเจ้าบุหรี่ไฟฟ้านี้ จากงานวิจัยก่อนๆ ของสาธารณสุขประเทศอังกฤษ ที่ได้ผลว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้คนสูบบุหรี่จริง หันมาเลิกบุหรี่ได้‘ แต่ก็ยังไม่ได้มีงานวิจัยว่ามันปลอดภัยต่อร่างกายของเราจริงหรือไม่อย่างไร     สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว มีงานวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัย University of Birmingham ประเทศอังกฤษ ที่ระบุว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ส่งผลอันตรายของร่างกายเรา มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน งานวิจัยนี้นำโดยศาสตราจารย์ David Thickett โดยมุ่งเป้างานวิจัยไปที่ ‘ผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า ต่อเนื้อเยื่อในปอด’ วิธีการวิจัยก็คือให้อาสาสมัครทำการสูบบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นก็นำเนื้อเยื่อในปอดมาตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แล้วก็นำไปเปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อในปอดของคนที่ไม่สูบบุหรี่     จากการศึกษาพบว่าคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีเนื้อเยื่อปอดที่มีการอักเสบ รวมไปถึงเซลล์ที่มีชื่อว่า Alveolar Macrophages มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเจ้าเซลล์ตัวนี้จะทำหน้าที่ในการลบล้างสารพิษต่างๆ เช่นฝุ่น แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ออกไปจากเซลล์     อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ David ระบุว่ายังคงต้องทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมถึงผลข้างเคียงต่างๆ จนกว่าจะได้ข้อสรุปที่แน่นอนกว่านี้ “ในแง่ของการก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งของการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นยังคงตรงกันข้ามกับการสูบบุหรี่จริง…

  • 20 ภาพของคนที่ “ดวงดี” รอดตายจากอุบัติเหตุน่าสะพรึงได้อย่างหวุดหวิด

    20 ภาพของคนที่ “ดวงดี” รอดตายจากอุบัติเหตุน่าสะพรึงได้อย่างหวุดหวิด

    อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนเราก่อน หลายครั้งผู้คนต้องบาดเจ็บ และพบกับความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ ขณะเดียวกัน หลายคนก็เรียกได้ว่า “โชคเข้าข้าง” สามารถรอดจากอุบัติเหตุรุนแรงได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีรอดตายได้ในทุกสถานการณ์ วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปชม 20 ภาพของ คนดวงดี รอดตายจากอุบัติเหตุอันน่าสะพรึง และภาพเหล่านี้ก็เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่ใช้ชีวิตเสี่ยงอันตรายได้อย่างดี คนพวกนี้โชคดีขนาดไหนไปชมกันเลย…   1. แบบนี้เรียกว่าดวงดีได้รึยัง? ภาพจาก youandmeandrainbows   2. เสียบทะลุกระจก ทะลุเบาะนั่งขนาดนี้ ถ้าดวงไม่ดีจริงไม่รอดแหงมๆ ภาพจาก youandmeandrainbows   3. ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่สินะ ภาพจาก unknown   4. รถตำรวจที่ผ่านการถูกปืนยิง โชคดีจริงๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับบาดเจ็บ ภาพจาก imediatrooper   5. เกือบไปแล้ววววว ภาพจาก jamesdawade   6. โชคดีที่ยังไม่ร่วงลงไปนะเนี่ย! ภาพจาก acidcow.com   7. มันมาอยู่ในลักษณะนี้ได้ไงกันเนี่ย!? แต่ก็โชคดีแล้วล่ะที่ไม่หล่นลงไปข้างล่าง ภาพจาก allhailhydra4279   8. ชายคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์แล้วประสบอุบัติเหตุ ดูสภาพหมวกสิ ไม่อยากนึกภาพเลยว่า…

  • นักดำน้ำดีใจฝูงปลามารุมล้อม ที่ไหนได้มันมาล่อ “ฉลามวาฬ” เพื่อเอาตัวเองรอดต่างหาก!!

    นักดำน้ำดีใจฝูงปลามารุมล้อม ที่ไหนได้มันมาล่อ “ฉลามวาฬ” เพื่อเอาตัวเองรอดต่างหาก!!

    เมื่อไม่นานนี้นักดำน้ำที่ชื่อว่า Tobias Sachs ได้ออกไปดำน้ำในทะเลนอกเมืองฮูร์กาดา ประเทศอียิปต์ แล้วเกิดปรากฏการณ์หายากที่แสนจะน่าจดจำขึ้น ฝูงปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมากได้เข้ามาล้อมรอบตัวของเขา ขณะที่เพื่อนนักดำน้ำของเขา Reinhart Hoft ก็ทำการเก็บภาพวิดีโอเอาไว้   ปลาเต็มไปหมดเลยล่ะ   รุมล้อมเป็นก้อนกลมๆ   ฝูงปลาจำนวนว่ายล้อมรอบตัวของ Tobias จนกลายเป็นเหมือนลูกบอลขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง แต่ขณะที่พวกเขาชื่นชมความมหัศจรรย์นี้ได้ไม่นาน ฉลามวาฬ ก็ปรากฏตัวขึ้น นั่นทำให้รู้ว่านี่คือปรากฏการณ์ Bait Ball ที่ฝูงปลาเล็กจะรวมตัวกันเข้ากับบางอย่างเพื่อล่อสัตว์นักล่าให้เข้ามากิน เมื่อนักล่าเข้ามาใกล้พวกมันก็จะเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้ประหลาดตรงที่ เหล่าปลาเล็กกลับใช้ “นักดำน้ำ” เป็นเหยื่อล่อเสียได้ พวกมันรุมล้อมนักดำน้ำเพื่อดึงความสนใจของฉลามวาฬ พอฉลามวาฬโผล่มาพวกมันก็เริ่มเผ่น ปล่อยให้นักดำน้ำผู้น่าสงสารเผชิญชะตากรรมต่อไป   เขามาแล้วครับ   พอพี่ใหญ่มา พวกปลาน้อยก็เริ่มเผ่น   เจ้าฝูงปลาจอมกวนหนีหายไปหมดแล้ว (โชคดีนะที่ฉลามวาฬใจดี)   เรามาดูคลิปกันดีกว่า    โชคดีมากเลยนะที่พี่ใหญ่เป็นแค่ฉลามวาฬ ถ้าเป็นฉลามขาวหรือสัตว์ดุร้ายชนิดอื่นๆ ละก็ คุณนักดำน้ำคงจะซวยน่าดูเลยล่ะ ที่มา: Caters Clips, ladbible และ dailymail

  • หนุ่มซิ่งรถ 170 กม./ชม. เสียหลักพุ่งชนตกจากทางด่วน รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์

    หนุ่มซิ่งรถ 170 กม./ชม. เสียหลักพุ่งชนตกจากทางด่วน รอดมาได้ราวปาฏิหาริย์

    สำหรับคนที่ชอบขับรถเร็วๆ แล้วล่ะก็ หากได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ ชีวิตของคุณอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็เป็นได้…   นี่คือเรื่องราวการรอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์ของชายหนุ่ม ที่ประสบอุบัติเหตุเพราะขับรถเร็วกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! อุบัติเหตุดังกล่าวถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นถึงความรุนแรงที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่อยู่ในรถจะรอดชีวิตมาได้!? เหตุเกิดขึ้นใน กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา นาย Patricio Avila วัย 19 ปี ขับรถ Volkswagen Voyage คันสีขาวไปบนทางด่วน General Paz ด้วยความเร็วสูงราวๆ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง     แต่แล้วจู่ๆ ขณะกำลังจะเลี้ยงเข้าทางแยกลงจากทางด่วน รถของเขาก็เสียหลักพุ่งชนเข้ากับที่กั้นข้างทางอย่างรุนแรง ก่อนที่จะกระเด็นตกลงไปยังถนนข้างล่าง ความรุนแรงของการกระแทกทำให้ชิ้นส่วนของรถกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่!! รถที่ขับตามมาก็ต้องหยุดเพื่อไม่ให้ถูกเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นใส่ จากรายงานระบุว่ารถคันดังกล่าวนั้นเป็นของพ่อเลี้ยงของนาย Patricio จากการช่วยเหลือของทีมกู้ภัยทำให้เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่พอถึงโรงพยาบาลแล้วทุกคนก็ถึงกับอึ้งไปตามๆ กันเพราะพี่แกรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แถมยังไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเลยแม้แต่น้อย!?     เขาได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก กระดูกสะโพกร้าว กระดูกข้อเท้าร้าวเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันแพทย์ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เฝ้าดูอาการเลือดออกในสมองที่อาจเกิดได้จากการกระแทกรุนแรงอย่างใกล้ชิด ทางด้านพยานผู้เห็นเหตุการณ์คุณ Veronica กล่าวถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะรอดมาได้ เพราะการชนมันรุนแรงมากจริงๆ”…

  • ญี่ปุ่นร้อนจัด! สาวแชร์ภาพเหตุการณ์ตื่นขึ้นมาพบว่า “เตียงไหม้” จากความร้อนของแสงแดด

    ญี่ปุ่นร้อนจัด! สาวแชร์ภาพเหตุการณ์ตื่นขึ้นมาพบว่า “เตียงไหม้” จากความร้อนของแสงแดด

    ประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้นับว่าประสบกับปัญหาสภาวะอากาศที่ร้อนขั้นรุนแรงจริงๆ ถึงแม้ว่าเราอยู่ประเทศไทยไม่เดือดร้อนอะไรกับประเทศเขา แต่เห็นแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้จริงๆ เพราะชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยออกมาโวยว่าอากาศร้อนทำให้พวกเขาต้องลำบาก ยกตัวอย่างเช่น อากาศร้อนจนบางคนนำแฮมมาทอดบนหลังคารถยนต์ได้ หรือนำไข่ไปอบไว้ในรถจนสุกได้ด้วยอากาศที่ร้อนจัด เป็นต้น แต่วันนี้ความร้อนในประเทศญี่ปุ่นได้แสดงพลังทำลายล้างยิ่งกว่านั้นอีก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะนะว่า อากาศในประเทศญี่ปุ่นมันร้อนขนาดที่ว่าสามารถ ทำให้เตียงนอนไหม้ ได้เลยทีเดียวเชียว ว่าแต่มันไหม้ได้อย่างไรลองมาดูกัน   ร้อนจนเตียงไหม้!?   เรื่องราวมีอยู่ว่า สาวญี่ปุ่นรายหนึ่งตกใจมากเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่า เตียงนอนของเธอมีรอยไหม้ราวกับจุดไฟเผา เธอจึงรู้สึกสงสัยและกลัวไปในเวลาเดียวกัน เพราะเธอคิดว่า อันตรายกำลังเข้ามาใกล้ตัว เธอจึงพยายามหาสาเหตุที่เตียงของเธอมีรอยไหม้เช่นนี้…     เธอสืบไปสืบมาจนกระทั่งพบว่ามันเป็นเพราะกระจกบานหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างๆ เตียงของเธออย่างแน่นอน เพราะขณะที่เธอนอนหลับเธอไม่ได้ปิดผ้าม่านของหน้าต่าง เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสูงและสาดแสงร้อนจัดเข้ามายังห้อง แสงอาทิตย์ก็ได้สะท้อนกับกระจกเงาเกิดการรวมแสงให้มีความเข้มข้นมากขึ้นและยิงสะท้อนกลับไปยังขอบเตียงของหญิงสาวคนนี้ ทำให้ความร้อนสะสมสูงและเกิดการเผาไหม้ในที่สุด!!   เจ้ากระจกบานนี้นี่เอง!!!   เธอเล่าว่าทีแรกเธอไม่เห็นหรอกว่ามีรอยไหม้เกิดขึ้นบนเตียงของเธอ เธอเพียงแค่รู้สึกว่าเกิดร้อนๆ ขึ้นบริเวณข้อเท้า เธอจึงหันมาดูแล้วพบว่า เตียงของเธอถูกเผาไหม้ไปเสียแล้ว นอกจากนี้เธอยังมีการวาดภาพการ์ตูนน่ารักๆ แสดงถึงองศาที่แสงแดดส่องเข้ามาแล้วสะท้อนกลับไปสู่เตียงของเธอจนเกิดเป็นรอยไหม้ให้ชาวเน็ตได้ดูอีกด้วย แหม น่ารักจริงๆ   ภาพประกอบน่ารักๆ แสดงถึงองศาของแสงที่สะท้อนกับกระจก   เหตุการณ์ลักษณะนี้ แดดประเทศไทยเราคงทำได้สบายๆ ฉะนั้น อย่าลืมปิดม่านและอย่านำกระจกมาวางในมุมแบบนี้กันล่ะ เดี๋ยวไฟจะไหม้เอา ฮ่าๆ ที่มา: @TarakoButters via ck101

  • เมื่อ “ข้อความ” แสนน่ารำคาญของแม่ กลับกลายเป็นสิ่งที่ “ช่วยชีวิต” ลูกน้อยของเธอจากอุบัติเหตุ

    เมื่อ “ข้อความ” แสนน่ารำคาญของแม่ กลับกลายเป็นสิ่งที่ “ช่วยชีวิต” ลูกน้อยของเธอจากอุบัติเหตุ

    บางครั้งความจู้จี้ขี้บ่นของคนเราก็เกิดขึ้นเพราะความเป็นห่วง ที่ต้องจู้จี้จุกจิกก็เพราะว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคนที่เรารักนั่นเอง และแล้วเหตุการณ์ในวันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความจู้จี้จุกจิก ของคุณแม่นามว่า Rebecca Tafaro Boyer ผู้ที่เป็นนางพยาบาลจากเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ที่ได้ช่วยชีวิตลูกน้อยของเธอเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ Rebecca เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “สามีของฉัน David ได้ขับรถพาลูกน้อยเดินทางไปด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแล้วหญิงคนหนึ่งที่ขับรถสวนมาก็เลี้ยวตัดหน้า  ทำให้ David ชนกับด้านหน้าของรถเธอเข้า” Rebecca เล่าต่อว่าหญิงที่ขับรถตัดหน้าสามีของเธอนั้นไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่มีประกันอุบัติเหตุ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สามแล้วที่หญิงคนนั้นฝ่าฝืนขับขี่รถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต   Rebecca ผู้ที่หลายๆ คนเรียกว่า “นังจู้จี้”   อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ David กระดูกนิ้วเท้าหัก 3 นิ้วและต้องห้ามเดินลงน้ำหนักที่เท้าขวาเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ แต่ลูกน้อยของพวกเขา William กลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังนอนหลับปุ๋ยอีกต่างหาก และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะความจู้จี้ของ Rebecca ผู้เป็นแม่นั่นแหละ…   Rebecca กล่าวกับสามีก่อนพาลูกน้อยเดินทางว่า “ดีแล้วๆ แต่ว่าตัวล็อกตรงหน้าอกยังไม่สูงพอและไม่แน่นพอนะ คุณควรหนีบตัวหนีบให้สูงประมาณหัวนมเลย”    “เมื่อตอนที่ฉันแยกกับลูกครั้งแรก ฉันจะสั่งให้สามีส่งรูปเจ้าตัวน้อยมาให้ดูทุกๆ ชั่วโมงเลยล่ะ อยากรู้ว่าเมื่อเขาไม่ได้อยู่กับฉัน เขาจะเป็นอย่างไรบ้าง”…

  • รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ “มนุษย์และจระเข้” อยู่ร่วมกันอย่างสันติราวกับเป็นญาติพี่น้อง

    รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ “มนุษย์และจระเข้” อยู่ร่วมกันอย่างสันติราวกับเป็นญาติพี่น้อง

    คนเรามีความเชื่อ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็เชื่อในสิ่งที่แตกต่างกันไป อย่างในดินแดนบางแห่ง แม้ว่าจะเป็นสัตว์ดุร้ายอย่าง จระเข้ ผู้คนก็เชื่อว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปกป้องและอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างเป็นปกติสุข การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ดุร้ายอย่างจระเข้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในยุคโบราณเท่านั้น ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศบูร์กินาฟาโซ ผู้คนในหมู่บ้านยังคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับจระเข้ได้อย่างสันติ ณ หมู่บ้าน Bazoule ซึ่งห่างจากเมืองหลวงของบูร์กินาฟาโซมาเพียง 30 กิโลเมตร ผู้คนบูชาจระเข้เป็นเทพเจ้าคุ้มครองชีวิตของพวกเขา ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลจึงทำให้มีสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำนี้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อาจฟังดูน่ากลัวแต่ผู้คนในหมู่บ้านกลับสามารถเข้าไปเล่นกับจระเข้ได้อย่างสบายใจเฉิบ   ชมคลิปวิดีโอหมู่บ้านจระเข้ Bazoule    เรื่องราวมีอยู่ว่า ในสมัยศตวรรษที่ 15 ผู้คนเคยยกย่องให้จระเข้เป็นสัตว์ที่ช่วยไถ่บาปให้ผู้คนในหมู่บ้าน เนื่องจากในช่วงเวลาที่หมู่บ้านพบกับความแห้งแล้งอย่างหนักหน่วง กลับมีแหล่งน้ำเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แหล่งน้ำดังกล่าวปรากฏขึ้นพร้อมกับเหล่าจระเข้ และก็ได้ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอดภาวะแล้งไปได้ จึงเป็นที่มาของการเคารพนับถือจระเข้ของหมู่บ้าน Bazoule     คนในหมู่บ้านนับถือจระเข้อย่างมาก พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดจระเข้เสมอ เมื่อจระเข้ตายพวกเขาก็จะมีการจัดงานศพและทำการฝังร่าง ราวกับที่พวกเขาทำกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผู้คนในหมู่บ้านจะมีวันเฉลิมฉลองประจำปี เรียกกันว่า Koom Lakre เป็นวันที่พวกเขาจะรำลึกให้กับบุญคุณที่จระเข้ได้ทำเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นวันที่พวกเขาสามารถขอพรจากจระเข้ได้อีกด้วย   รู้จักกับหมู่บ้าน Bazoule ที่ผู้คนนับถือจระเข้ให้มากขึ้นกันเถอะ    หมู่บ้านนี้นับถือจระเข้มามากกว่า 70 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเคยเสียชีวิตเนื่องจากการโจมตีของจระเข้ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนสามารถลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำของหมู่บ้านได้อย่างไม่ต้องกังวล หากใครถูกจระเข้กัดเข้า พวกเขาจะถือว่าเป็นการลงโทษจากเทพเจ้ามากกว่าที่จะมองว่าเป็นสัญชาตญาณอันดุร้ายของสัตว์เลือดเย็นอย่างจระเข้…

  • โรงเรียนศิลปะการต่อสู้อินโดฯ “ขับรถเหยียบนักเรียน” ฝึกความอดทน สุดท้ายไร้ปาฏิหาริย์

    โรงเรียนศิลปะการต่อสู้อินโดฯ “ขับรถเหยียบนักเรียน” ฝึกความอดทน สุดท้ายไร้ปาฏิหาริย์

    (บทความมีภาพและเนื้อหาสะเทือนใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม)   โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู่แห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย ได้พยายามสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการ ขับรถบรรทุกขนาดกลางเหยียบลงบนร่างของนักเรียน จนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและเสียชีวิตขึ้น     ในพิธีเลื่อนชั้นของนักเรียนศิลปะการต่อสู้ จากระดับต่ำไปสู่ระดับที่สูงกว่านั้นได้มีการแสดงซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นการ “แสดงปาฏิหาริย์” ก็คงจะไม่ผิดเท่าใดนัก เพราะว่าทางโรงเรียนได้มีการใช้รถบรรทุกที่หนักพอจะทับร่างคนจนเละได้ มาขับและเหยียบทับร่างของนักเรียน 6 คนซึ่งนอนคว่ำหน้ากับพื้น ถ้าไม่บาดเจ็บเลยก็ถือได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์   เด็กนักเรียนนอนเรียงกัน รอรถขับขึ้นมาเหยียบบนร่าง   รถบรรทุกดังกล่าวเหยียบและหยุดค้างเอาไว้บริเวณคนที่ 1 และ 2   เมื่อรถบรรทุกขับลงไปแล้วนักเรียน 4 คนลุกขึ้นได้ แต่ทีมงานต้องรีบเข้ามาดูอาการอีก 2 คนที่ยังลุกไม่ขึ้น   คลิปวิดีโอการแสดงปาฏิหาริย์ “ขับรถเหยียบตัว”    ภายในคลิปจะเห็นได้ว่า เด็กนักเรียนคนที่ 4 มีการลุกขึ้นหลบระหว่างการแสดง คาดว่าไม่สามารถรับน้ำหนักของรถได้ไหว ส่วนนักเรียน 2 คนที่ลุกไม่ขึ้นหลังจากการแสดงจบ ทางโค้ชและผู้ปกครองก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายพบว่า นักเรียนคนแรก (คนที่รถเหยียบค้างไว้) เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกันเด็กนักเรียนคนที่สองบาดเจ็บสาหัส และยังอยู่ในอาการโคม่าอย่างมาก   ความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์หากต้องเสี่ยงกับชีวิตคนแบบนี้ก็น่านำมาคิดดีๆ…

  • โผล่การท้าทายใหม่ในโลกโซเชียล #inmyfeelings กับการลงจากรถขณะที่ยังวิ่งอยู่!?

    โผล่การท้าทายใหม่ในโลกโซเชียล #inmyfeelings กับการลงจากรถขณะที่ยังวิ่งอยู่!?

    บางครั้งบนโลกของอินเตอร์เน็ต ก็มีเรื่องราวแปลกๆ มาให้เราได้เห็นอยู่เสมอ…   และล่าสุดในโลกโซเชียลของต่างประเทศก็กำลังมีเทรนด์ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก คือการ ‘ลงจากรถตอนที่รถเคลื่อนที่อยู่’ แล้วก็อัดคลิปวิดีโอมาลงโซเชียล เรื่องมันเริ่มต้นจากการการท้าทายกันต่อเรื่อยๆ ในหมู่คนดังหรือเซเลบต่างๆ เต้นเพลงของ Drake ชื่อเพลงว่า In My Feelings แล้วก็ส่งต่อกันไปผ่านแฮชแท็ก #InMyFeelings   https://www.instagram.com/p/BkoUbKJhFFz/?utm_source=ig_embed   แต่กลายเป็นว่าเหล่าวัยรุ่นกลับเลือกที่จะทำให้ #InMyFeelings ดูอันตรายมากกว่านี้ https://twitter.com/baabsxx/status/1018298316692520960?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fdelaneystrunk%2Fin-my-feelings-car-challenge   พวกเขากระโดดจากรถทั้งๆ ที่มันกำลังเคลื่อนตัวอยู่ Had to do it to them 🔥🔥🔥 #inmyfeelingschallenge #inmyfeelings #dotheshiggy @Drake @theshiggster 🎥: @joshleyva @hipablo pic.twitter.com/7YbbobcbCr — J. David Alvarez (@DavidAlvareeezy) July 11, 2018   และประเด็นที่สำคัญก็คือคนที่กระโดดลงไป เป็น…

  • โปรดระวัง! คุณแม่ชาวอังกฤษถูก “ตัวเหลือบ” กัดจนเป็นตุ่มเท่าลูกกอล์ฟบริเวณเท้า…

    โปรดระวัง! คุณแม่ชาวอังกฤษถูก “ตัวเหลือบ” กัดจนเป็นตุ่มเท่าลูกกอล์ฟบริเวณเท้า…

    (คำเตือน: บทความอาจมีภาพไม่จรรโลงใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม)   ตัวเหลือบ แมลงที่เราอาจหลงลืมกันไปเพราะดูเหมือนไม่มีภัยร้ายแรง แต่อย่างไรเราก็ควรระวังแมลงพวกนี้โดยเฉพาะบ้านใครที่มีต้นไม้ ป่า หรือสวน อยู่ในบริเวณบ้าน มิฉะนั้น คุณอาจมีชะตากรรมแบบหญิงรายนี้ Jodie Jeffries คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี ต้องพบกับอาการตุ่มบวมพองที่เกิดขึ้นบริเวณเท้าของเธอ หลังจากเธอพบ “ตัวเหลือบ” ในสวน   Jodie Jeffries คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี ผู้ถูกตัวเหลือบดูดเลือด   เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2018 ณ บ้านในเมืองรอมฟอร์ด เขตเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ขณะที่ Jodie กำลังพักผ่อนอยู่ในสวนของเธอนั้น แมลงที่เรียกว่าตัวเหลือบก็บินเข้ามาเกาะและดูดเลือดของเธอ “ในคืนวันเสาร์นั้นฉันกำลังพักผ่อนอยู่ในสวน ทีแรกฉันคิดว่าหญ้าแห้งลอยมาทิ่มบนเท้าของฉัน” Jodie เล่า “แต่เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในเช้ามืดของอีกวัน ฉันรู้สึกคันอย่างมาก และตุ่มสองตุ่มก็บวมขึ้น”   เกิดอาการตุ่มบวมพองขนาดพอๆ กับลูกกอล์ฟที่บริเวณข้อเท้าขวา   Jodie เล่าต่อว่า “ในวันอาทิตย์ตุ่มพองเพิ่มมากขึ้น…

  • นักสู้วัวกระทิงชาวสเปน พลาดท่าถูกขวิด “กะโหลกแหว่ง” ท่ามกลางสายตาผู้ชมในสังเวียน

    นักสู้วัวกระทิงชาวสเปน พลาดท่าถูกขวิด “กะโหลกแหว่ง” ท่ามกลางสายตาผู้ชมในสังเวียน

    (มีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม)   อาชีพ มาทาดอร์ หรือ นักสู้วัวกระทิง นั้นเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก บางครั้งกระทิงก็ใช่จะเล่นตามบทบาทเสมอไป และนั่นอาจนำไปสู่หายนะได้ ล่าสุดในวันที่ 7 กรกฎาคม 2018 มาทาดอร์คนหนึ่งนามว่า Juan José Padilla พลาดท่าถูกกระทิงขวิดเข้าที่ “ศีรษะ” จนเปิด เกิดเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ท่ามกลางความหวาดผวาของผู้ชม   คลิปเหตุการณ์กระทิงขวิดสุดสะเทือนใจ    Juan José Padilla มาทาดอร์วัย 45 ปีจากเมืองเจเรซ ประเทศสเปน ก่อนหน้านี้ในปี 2011 เขาเคยถูกกระทิงขวิดมาครั้งหนึ่ง ทำให้เขาต้องสูญเสียตาข้างซ้ายไปอย่างถาวร แต่เมื่อเขารักษาตัวจนกลับมาสวมบทบาทมาทาดอร์ได้อีกครั้ง เขากลับต้องพบกับอุบัติเหตุอันน่าสยดสยอง เกือบครึ่งหนึ่งของกะโหลกศีรษะเขาเปิดออกและห้อยแกว่งอยู่อย่างนั้น ท่ามกลางสายตาผู้ชมจำนวนมากในสังเวียนกระทิงแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของสเปน     ก่อนหน้านั้น Padilla ก็ทำการแสดงต่อสู้หลอกล่อวัวกระทิงอยู่ตามปกติ แต่บังเอิญว่าเขาเกิดพลาดท่าก้าวขาผิดจนเสียหลัก ทันทีที่ Padilla ล้มลง ทีมผู้ช่วยก็รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่กลับช้าเกินไปไม่ทันไรวัวกระทิงที่ได้ขวิดศีรษะของเขาไปเสียแล้ว จากนั้นเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองอาบิลา ซึ่งแพทย์บอกว่าโชคดีที่สมองไม่มีความเสียหายใดๆ   กระทิงเข้ามาขวิดขณะที่เขาล้มลง…

  • วินาทีช้างควบคุมไม่อยู่ “พุ่งชน” กันจนล้มขณะแสดงในเยอรมนี ท่ามกลางผู้ชมจำนวนมาก

    วินาทีช้างควบคุมไม่อยู่ “พุ่งชน” กันจนล้มขณะแสดงในเยอรมนี ท่ามกลางผู้ชมจำนวนมาก

    การแสดงละครสัตว์ใน Circus Krone เมืองอ็อสนาบรึค ประเทศเยอรมนี ช้างที่ถูกนำมาแสดงนั้นเกิดควบคุมไม่อยู่ ทำให้พุ่งชนเข้ากับช้างอีกเชือกหนึ่งจนล้มลงออกจากเวทีท่ามกลางผู้ชมหลายชีวิต     วิดีโอเหตุการณ์ที่ช้างพุ่งชนกันขณะแสดงละครสัตว์    โชคดีที่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บรุนแรง มีเพียงหญิงสาวบนหลังช้างเชือกที่ถูกชนจนล้มทำให้ตัวเธอตกลงจากหลังช้างและเกิดบาดแผลเล็กน้อย ส่วนช้างเชือกที่ถูกชนมีอาการบวมที่ขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งนี้กลุ่มคนอนุรักษ์สัตว์อย่าง PETA ก็ออกมาบอกว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” เพราะการนำสัตว์แยกออกจากฝูงหรือครอบครัวนั้นเสี่ยงต่ออันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันถูกสั่งให้ทำการแสดง   ขณะทำการแสดงใน Circus Krone   นอกจากนี้กลุ่ม PETA ยังบอกอีกว่า โดยปกติแล้วช้างที่ถูกนำมาฝึกแสดงจะมีการใช้แท่งเหล็กแหลมคอยทิ่มให้เกิดพฤติกรรมที่คนต้องการอยู่เสมอ และได้นำวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวมาโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ PETA โดยเขียนคำอธิบายว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่ช้างชนกันขณะทำการแสดงท่ามกลางผู้ชมจำนวนมาก   จู่ๆ ช้างอีกสองเชือกก็เข้าชนช้างเชือกหนึ่ง   อย่างไรก็ตามผู้ดูแลโรงละครสัตว์ Jana Mandana กล่าวว่านี่เป็นเรื่องปกติ สัตว์ในธรรมชาติย่อมมีการทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอ เพราะจ่าฝูงหรือลำดับอำนาจของสมาชิกฝูงนั้นบางครั้งก็เปลี่ยนแปลงได้   คนดูแลต้องใช้เหล็กแหลมเข้าทิ่มเพื่อให้ช้างรู้ตัวและหยุดพฤติกรรม   อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็เป็นอันตรายต่อผู้ชมอย่างมาก โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ปัจจุบันหลายประเทศก็ได้สั่งห้ามมีการนำสัตว์มาแสดงละครสัตว์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ที่มา: ladbible, peta และ  NonstopNewsChannel

  • ผวา!! ชายอินเดียจับ “งูเหลือม” พาดบ่าหวังเซลฟี่ แต่ถูกเจ้างูรัดคอเข้าทันใด

    ผวา!! ชายอินเดียจับ “งูเหลือม” พาดบ่าหวังเซลฟี่ แต่ถูกเจ้างูรัดคอเข้าทันใด

    ถึงแม้ว่า งู จะเป็นสัตว์ที่หลายๆ คนหวาดกลัว แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงหรือไม่ก็ชอบนำมาถ่ายรูปลงโซเชียลโชว์เก๋ๆ และแม้ว่างูที่เราสามารถถ่ายรูปด้วยได้จะเป็นงูที่ไม่มีพิษ แต่อาวุธหลักของงูเหล่านี้ก็คือการ “รัด” และนี่จึงเป็นสาเหตุของความน่าใจหายในวันนี้   คลิปวิดีโอชายอินเดียถูกงูเหลือมพยายามรัดคอ ขณะนำมาถ่ายรูป    คลิปวิดีโอดังกล่าวถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Jalpaiguri ของอินเดีย นาย Sanjay Dutta คือผู้ที่นำงูเหลือมที่ขนาดลำตัวยาวราว 10 เมตรมาพาดไว้บนไหล่และคอเพื่อจะถ่ายรูป แต่เขากลับดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมงูตัวดังกล่าวให้อยู่นิ่งได้ งูเหลือมขนาดมหึมาพยายามจะเลื้อยลำตัวไปรัดคอของนาย Sanjay ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ชมโดยรอบ   .   เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้างูเหลือมตัวนี้ได้เข้าไปกินแพะของชาวบ้าน นาย Sanjay จึงถูกเรียกให้ไปช่วยนำตัวงูออกมา แต่แทนที่เขาจะนำมันลงกระสอบ เขากลับยกมันขึ้นมาพาดบ่าเพื่อตั้งใจจะถ่ายรูป ทันใดนั้น งูเหลือมตัวดังกล่าวกลับพยายามที่จะพันตัวล้อมรอบ “คอ” ของนาย Sanjay จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ชัดเจนว่านาย Sanjay นั้นพยายามจะเดินออกจากฝูงชนขณะที่ถูกงูรัดคอ     ผู้ชมโดยรอบต่างกรีดร้องด้วยความตกใจและพยายามหนี ขณะที่งูเหลือมตัวดังกล่าวก็พยายามจะรัดคอของนาย Sanjay ซึ่งเขาก็พยายามจะจับลำตัวและหางของงู แต่พบว่ามันลื่นจนควบคุมได้ยาก ผู้ช่วยของนาย Sanjay พยายามบอกให้เขารีบจับหางของงูเอาไว้ ซึ่งนาย Sanjay ก็ตกลง เขาจึงโชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ นอกจากความตื่นกลัวขณะที่จะโดนรัดคอ   งูเหลือมตัวขนาดนี้ต้องบอกเลยว่าหากรัดคอขึ้นมาจริงๆ นาย Sanjay คงจากไปอย่างสงบเลยล่ะ… ที่มา: thesun,…

  • เหมาะสมหรือไม่!? พ่อชาวซาอุฯ บังคับลูกน้อย “สูบบุหรี่” แล้วถ่ายคลิปเอาไว้…

    เหมาะสมหรือไม่!? พ่อชาวซาอุฯ บังคับลูกน้อย “สูบบุหรี่” แล้วถ่ายคลิปเอาไว้…

    บุหรี่ ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งที่ให้โทษแก่ร่างกายอย่างมาก ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนต้องทุกข์ทรมานกับโรคต่างๆ ที่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ แล้วยิ่งถ้าเป็น “เด็กเล็ก” ยิ่งไม่สมควรกับการสูบบุหรี่อย่างยิ่ง เรื่องราวในวันนี้ ขอเสนอเพื่อเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น พ่อ ที่มีการยื่นบุหรี่ที่ตนสูบ ไปให้ลูกน้อยของตนสูบ และถ่ายคลิปเอาไว้   ในคลิปเป็นพ่อชาวซาอุดิอาระเบีย บังคับให้ลูกน้อยสูบบุหรี่ แล้วตนก็ถ่ายคลิปเอาไว้    ในคลิป เสียงของชายผู้เป็นพ่อได้เอ่ยบอกให้ลูกน้อยของตนนั้น “สูบบุหรี่” จากนั้นก็เห็นได้ชัดเจนว่าหนูน้อย (คาดว่า ไม่น่าเกิน 3 ขวบ) ก็ยื่นปากมาคาบบุหรี่แล้วสูบเข้าไปตามที่พ่อบอก     เท่าที่เห็น คาดว่าหนูน้อยน่าจะสูบควันบุหรี่เข้าไปเต็มๆ โดยไม่พ่นออกมาเลยแม้แต่น้อย และจากนั้น เสียงของชายคนดังกล่าวก็เอ่ยถามหนูน้อยอีกว่า “อยากสูบอีกไหม?” และหนูน้อยก็พยักหน้าตอบรับ จากนั้น ฝ่ายพ่อก็ยื่นบุหรี่ให้หนูน้อยสูบเป็นครั้งที่สอง ทั้งนี้เองก็ยังไม่ทราบว่าทั้งหนูน้อยและชายคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อนั้น คือใครกันแน่ และคนที่ถ่ายคลิปก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อที่ถ่ายเอง     ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมชายคนดังกล่าวได้แล้ว ส่วนตัวผู้ต้องหาเองคาดว่าจะถูกดำเนินคดีในเรื่องของการฝ่าฝืนและบกพร่องในการปฏิบัติตามกฎของการเป็นพ่อแม่และการรักษาสังคมที่ดีงาม   แล้วท่านผู้อ่านคิดว่า เหตุการณ์นี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่ให้เด็กตัวน้อยอายุไม่ถึง 3 ขวบมาสูบบุหรี่แบบนี้?   ที่มา: metro

  • บ๊างบางง “ตึกกระดาษ” ในไต้หวัน เมื่อพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ตึกเลยผอมเพรียวแบบนี้

    บ๊างบางง “ตึกกระดาษ” ในไต้หวัน เมื่อพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ตึกเลยผอมเพรียวแบบนี้

    ไม่รู้ว่าคนที่ผ่านไปๆ มาๆ ใน ประเทศไต้หวัน จะพบเจอกันบ้างหรือเปล่า ที่มีตึกและบ้านรูปทรงเป็นแผ่นแนวตั้งแบนๆ อยู่เกลื่อนกลาด หากใครเห็นมาก็คงต้องสงสัยกันบ้างแหละว่ามันคืออะไร มันเป็นรสนิยมการสร้างบ้านแบบใหม่ของชาวไต้หวันหรืออย่างไรกันนะ?     ชาวไต้หวันเรียกสิ่งก่อสร้างแบนๆ เหล่านี้ว่า “ตึกกระดาษ” ช่างเป็นชื่อที่เหมาะจริงๆ ก็ผอมบางซะขนาดนั้น ชาวเน็ตบางรายถ่ายภาพมาถามในโลกโซเชียลว่า ในตึกแบนๆ บางๆ พวกนี้ มันอาศัยอยู่ได้จริงๆ เหรอ? แล้วถ้ามีพายุไต้ฝุ่นหรือเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา ตึกแบนๆ เหล่านี้คงเป็นอันตรายน่าดูเลยล่ะ จริงไหม? ซึ่งมันก็ถูกที่หลายๆ คนจะคิดเช่นนี้ แต่ว่าเจ้าตึกกระดาษพวกนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเท่ๆ หรอกนะ มันมีเหตุผลของมันอยู่…     ชาวไต้หวันเล่าว่าเนื่องจากช่วงหนึ่งมีการขยายถนน รัฐบาลมีการเวนคืนที่ดิน แต่ก็ยังมีบางคนที่่ไม่ยอมย้ายหนียังคงปักหลักบ้านและตึกของตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่เนื่องจากการปฏิรูปบ้านเมืองใหม่ ตึกใหญ่ที่เคยมีก็กลายเป็นว่าไปตั้งทับที่ดินของรัฐเสียอย่างนั้น จึงมีการแปลงโฉมตึกต่างๆ เสียใหม่ให้เข้ากับพื้นที่ที่ตนครอบครอง     ทั้งนี้เมื่อถนนมีการขยายตัว ก็มักจะมีพื้นที่เป็นสามเหลี่ยมมุมแคบบริเวณขอบถนน ซึ่งเมื่อพื้นที่ที่ใช้ได้เป็นรูปทรงนี้ไปเสียแล้ว ตึกต่างๆ รวมไปถึงบ้านจึงออกมาเป็นแบนๆ แบบนี้ด้วยนั่นเอง ถึงอยู่ลำบากก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะถ้าไม่อยากอยู่ที่แคบๆ มันก็จะเป็นการทำให้พื้นที่ตรงนั้นไร้ประโยชน์ ฉะนั้น ถึงพื้นที่จะแคบ ก็เลือกที่จะก่อสร้างอะไรบางๆ อย่าง…

  • สองวัยรุ่นสุดจะซน สัปดนปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์หน้าตาเฉย เพื่อนสาวก็ดี๊ดีปิดกล้องให้อีกแหนะ…

    สองวัยรุ่นสุดจะซน สัปดนปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์หน้าตาเฉย เพื่อนสาวก็ดี๊ดีปิดกล้องให้อีกแหนะ…

    พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นในสังคม คือสิ่งที่ควรประพฤติและปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องมาใช้อุปกรณ์อื่นๆ ร่วมกับเรา ทั้งนี้อย่างเช่นในเรื่องง่ายๆ อย่างการทิ้งขยะ เราก็ควรจะทิ้งในที่ที่จัดเอาไว้แล้ว หรือการขึ้นลิฟต์สาธารณะก็ไม่ควรจะทิ้งอะไรเอาไว้เป็นเบื้องหลัง ถ้าคนอื่นมาใช้ต่อก็อาจจะรู้สึกแย่ไปได้ทั้งวัน     ล่าสุดนี้ ลิฟต์ในประเทศจีนกลายมาเป็นสถานที่ปิดตายสุดอันตรายไปเสียแล้ว เนื่องจากมีบุคคลนิยมปัสสาวะทิ้งไว้ในลิฟต์กันบ่อยเสียเหลือเกิน ไม่ทราบว่าอาจจะทนไม่ไหว รีบเข้าลิฟต์ก่อนแทนที่จะรีบเข้าห้องน้ำแทนไม่อาจทราบได้ ภาพที่เห็นดังต่อไปนี้ จะเห็นได้ว่ามีชายสองคนพร้อมกับหญิงอีกหนึ่งราย เดินเข้ามาในลิฟต์ ทันใดนั้นไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลง ก็ถกกางเกงลงและออกอาวุธที่พัฒนามาเป็นชุดตามมุมของตัวเอง…    ฝ่ายผู้หญิงเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว เธอก็พยายามปกปิดความสัปดนของทั้งสอง ด้วยการเอามือมาปิดกล้องในลิฟต์ แต่อนิจจาไม่ทันที่จะปิดก็เห็นพฤติกรรมชวนอาเจียนไปแล้ว     อย่างไรก็ตาม หากคุณจินตนาการไม่ออกว่าการปัสสาวะนั้นส่งผลร้ายแรงแค่ไหน นอกจากจะส่งกลิ่นหอมเหมือนยากันคนแล้ว อาจจะรุนแรงไปถึงขั้นทำให้ลิฟต์เสียกันเลยทีเดียว เดือดร้อนคนอื่นๆ ที่จะต้องใช้งานอีกต่างหาก และกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เด็กซนคนหนึ่งปัสสาวะใส่แผงควบคุมลิฟต์แบบไม่ยั้ง ส่งผลทำให้ลิฟต์เสีย ควบคุมไม่ได้ และขังเขาเอาไว้ในนั้นแทน…     ที่มา : miaopai, youku, shanghaiist

  • คุณพ่อสุดเถื่อน ถูกแมงมุมกัดขา ด้วยความเจ็บปวดคว้า “เลื่อยไฟฟ้า” ตัดขาตัวเองทิ้ง!

    คุณพ่อสุดเถื่อน ถูกแมงมุมกัดขา ด้วยความเจ็บปวดคว้า “เลื่อยไฟฟ้า” ตัดขาตัวเองทิ้ง!

    (คำเดือน: บทความมีภาพและเนื้อหารุนแรงและควรใช้วิจารณญาณในการรับชม)   เรื่องราวน่าสะเทือนใจ สำหรับเตือนภัยให้ทุกท่านได้ระมัดระวังกันในวันนี้ คือเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อลูกสอง ที่ต้อง “ตัดขาทิ้ง” เนื่องจากถูก แมงมุมแม่ม่าย กัดเข้าที่ขา Andy Perry วัย 46 ปีเล่าว่าอาการบาดเจ็บนั้นสาหัสรุนแรงจนทำให้เขาต้องตัดสินใจ “ตัดขา” ตัวเองทิ้งด้วย เลื่อยไฟฟ้า ก่อนที่ทีมศัลยแพทย์จะเข้ามาทำการผ่าตัด     Andy ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักภูมิสถาปนิก ปัจจุบันเชื่อว่าเขาเป็นคนแรกที่เสียขาไปเพราะเหตุถูกแมงมุมพิษกัด หลักถูกกัดเขาต้องทรมานกับการเจ็บปวดและปวดหลังรุนแรงถึง 48 ชั่วโมง แถมยังต้องทำงานออกแบบรั้วกันใน Thorpe Astley เมือง Leicestershire อีกด้วย จากนั้นอาการบาดเจ็บกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นจากภาวะติดเชื้อและไตล้มเหลว จนกระทั่งเขาต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขาจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน พร้อมให้ยาและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับสัปดาห์   ขาและเท้ามีอาการบวมรุนแรง .   Andy ตัดสินใจใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดขาตนเองทิ้ง   หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์อาการติดเชื้อเริ่มทุเลาลง แต่เขากลับต้องพบเจอกับอาการ บวมน้ำเหลือง แทน นั่นทำให้ผิวหนังของเขาหลุดลอก จากนั้นเขาจึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและตัดขาออกให้สั้นเหนือเข่าขึ้นมา ปัจจุบันเขาต้องนั่งเก้าอี้รถเข็น ทำให้ไม่สามารถทำงานและเล่นกับลูกหลานได้สะดวกอย่างเคย แถมยังต้องคอยรับการรักษาประจำวันอีกด้วย     ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านี่เป็นพิษของ…

  • ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!

    ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!

    มนุษย์นักสำรวจจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ชื่นชอบการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเคยไป เช่น ป่าเขาลึก เกาะร้าง หรือพื้นที่ทุรกันดาร เป็นต้น หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจลักษณะนี้ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ เกาะเซนทิเนลเหนือ หนึ่งในหมู่เกาะอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย เกาะแห่งนี้ ถือเป็นเกาะต้องห้าม เพราะบนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของ ชนเผ่าเซนทิเนล ที่ว่ากันว่าดุร้าย ไม่เป็นมิตร และปิดกั้นตัวเองจากคนนอก หากใครฝ่าฝืนเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปข้างในเกาะ จะถูกโจมตีใส่ในทันที   บนเกาะไม่มีชนกลุ่มอื่นเลย นอกจากเผ่าเซนทิเนล   ทั้งนี้ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและปัญหาทางธรรมชาติ รัฐบาลอินเดียจึงพยายามติดต่อกับชนเผ่านี้ให้ได้ ครั้งหนึ่งเคยส่งฑูตนามว่า T.N. Pandit เข้าไปยังเกาะ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเขานำมะพร้าวและของใช้ต่างๆ เข้าไปมอบให้กับชนเผ่า ในครั้งแรก ชาวเผ่าเซนทิเนลก็ต้อนรับเขาโดยไม่มีการคำนับหรือการทักทายใดๆ แต่ T.N. Pandit ก็พบว่าชาวเผ่านั้นมีสุขภาพและชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี เติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก ภารกิจนี้จึงหยุดลง   เกาะเซนทิเนลเป็นหนึ่งในหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย   เกาะเซนทิเนล เป็นเกาะต้องห้ามเนื่องจากเป็นที่อาศัยของชนเผ่าดุร้ายไม่เป็นมิตร   เผ่าเซนทิเนล ปฏิเสธการติดต่อกับโลกภายนอก และจะโจมตีอย่างไม่ยั้งมือ กับทุกคนที่กล้ารุกล้ำเขตแดนของเกาะ   เพราะฉะนั้นอย่าอยากรู้อยากเห็นแล้วพยายามเฉียดเข้าไปใกล้จะดีกว่า   การติดต่อกับโลกภายนอก อาจทำให้พวกเขาได้รับเชื้อโรคจากมนุษย์ภายนอก และนั่นอาจทำให้…

  • เตือนภัยผู้หญิงที่ “อยู่คนเดียว” ฝรั่งตามรังควาญชีวิตสาวไทยจนน่ากลัว เหตุเพราะเธอไม่เล่นด้วย

    เตือนภัยผู้หญิงที่ “อยู่คนเดียว” ฝรั่งตามรังควาญชีวิตสาวไทยจนน่ากลัว เหตุเพราะเธอไม่เล่นด้วย

    วันนี้มีเรื่องราวมาเตือนภัยสาวน้อยสาวใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียว โดยเฉพาะในต่างประเทศ… ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทย นบ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวตน ให้ชาวเน็ตได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของการเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียวในต่างแดน     เธอเล่าว่า เพื่อนสาวของตนที่ปัจจุบันไปศึกษาต่อที่ซานฟรานซิสโกนั้น ถูกหนุ่มต่างชาติตามจีบ แต่ทว่าเพื่อนสาวของเธอ ไม่ได้ชอบและไม่เล่นด้วย ชายคนดังกล่าวจึงนำสิ่งสกปรกทั้งหลายเช่น สีน้ำมันและเศษขยะต่างๆ มาปาใส่ประตูหน้าห้องเพื่อกลั่นแกล้ง เพื่อนสาวของเธอต้องทนเจอสิ่งเหล่านี้ถึงหกเดือน แต่ล่าสุดก็จับตัวชายผู้กระทำผิดได้ เพราะชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปทำร้ายหญิงสาวขณะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านอาหาร   สภาพหน้าประตูห้องของสาวที่ถูกหนุ่มแอบนำสิ่งสกปรกมาสาด   สีน้ำมัน และเศษขยะ . .   ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ นบ ก็ได้ออกมาบอกว่าขณะนี้ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแล้ว ส่วนสำหรับคนที่สงสัยว่าฝ่ายหญิงไปทำอะไรเขาไว้ก่อนหรือไม่นั้น ทาง นบ ผู้เป็นเพื่อนของฝ่ายหญิงก็ออกมาตอบเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่า ไม่อยากให้ถามแบบนี้ ทางเพื่อนของตนไม่เคยยุ่งหรือแม้แต่คุยกับชายคนดังกล่าวเลย ฉะนั้นจึงไม่เคยคบกัน สำหรับกรณีนี้เธอกล่าวว่า ฝ่ายชายน่ามีอาการทางจิตแน่นอน ก่อนหน้านี้ วีรกรรมของชายที่ตามตื๊อจีบสาวไทยคนดังกล่าวนั้นมีอีกมาก ขณะที่ทางฝ่ายหญิงได้ทำการตั้งกล้องเพื่อจะถ่ายผู้ที่นำสิ่งสกปรกมาสาดหน้าห้อง ปรากฏว่าไม่มีใครโผล่มาเลย แต่พอเอากล้องออก กลับมีคนมาสาดอีก นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังเคยโทรฯ ไปสั่งอาหารในร้านที่ฝ่ายหญิงทำงานเป็นร้อยสาย แต่ไม่มารับ แถมบางครั้งมีการสั่งให้ส่งถึงบ้าน แต่ระบุที่อยู่เป็นเลขที่ห้องของฝ่ายหญิงทั้งๆ ที่ฝ่ายหญิงไม่ได้สั่ง ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ชายหนุ่มถูกจับก็คือ เขามายังร้านอาหารที่ฝ่ายหญิงทำงานอยู่โดยบังเอิญ พอเจอหน้ากัน ฝ่ายชายกลับเขามาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว…

  • รู้หรือไม่.. “การงีบหลับทับแขน” ทุกวัน อาจทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดได้!! เช่นเดียวกับเธอคนนี้

    รู้หรือไม่.. “การงีบหลับทับแขน” ทุกวัน อาจทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดได้!! เช่นเดียวกับเธอคนนี้

    การงีบหลับโดยใช้แขนตัวเองแทนหมอน เป็นสิ่งที่พวกเราหลายๆ คนนิยมทำกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่เรารู้สึกอยากพักผ่อนในห้องเรียนสักแป๊บ หรือแม้แต่ตอนพักจากการทำงาน เรียกว่าเป็นท่ายอดฮิตสำหรับการงีบหลับโดยเฉพาะ แต่รู้หรือไม่ว่า หากทำท่าทางที่ว่านั้นบ่อยๆ เป็นเวลานาน มันอาจทำลายสุขภาพร่างกายของเราได้มากกว่าที่คิด จนถึงขั้นอาจต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้   ท่าทางการงีบหลับที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน   สาวแซ่จาง วัย 28 ปี คือพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งในเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน เธอเป็นคนที่ชอบงีบหลับตอนพักเที่ยงเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็จะงีบหลับทับแขนซ้ายของตัวเองอยู่ทุกวันมาเป็นระยะเวลาหลายต่อหลายปี เมื่อไหร่ที่ตื่นมาก็จะรู้สึกเจ็บและชาบริเวณปลายนิ้วอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2018 เธอตื่นขึ้นมาจากการงีบหลับและพบว่าเธอไม่รับรู้ความรู้สึกใดๆ จากแขนซ้ายของตัวเองเลย ซึ่งอาการดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่เธอเคยเจอมาก่อนและจะหายไปเองหลังจากผ่านไป 1-2 นาที แต่ทว่าในครั้งนี้มันกลับไม่หายไปจนทำให้ไม่สามารถใช้งานแขนซ้ายได้เลย แม้แต่การหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ด้วยเหตุนั้น Zhang จึงเข้ารับการตรวจกับแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่า เส้นประสาทเรเดียล (ส่วนปลายแขน ไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้ว) บริเวณแขนข้างซ้ายของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก อันเป็นผลมาจากการที่งีบทับแขนตัวเองทุกวัน   สาวแซ่ Zhang พนักงานออฟฟิศที่งีบทับแขนตัวเองทุกวัน   ในความจริงแล้วอาการเจ็บหรือชาบริเวณปลายนิ้วนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการหมั่นบริหารร่างกายตรงบริเวณนั้นอยู่เป็นประจำ แต่ Zhang กลับไม่เคยทำอย่างนั้นและฝืนใช้งานอย่างหนัก จนกลายเป็นเพิ่มแรงบีบคั้นตรงส่วนเส้นประสาทดังกล่าว ความเสียหายทำให้เธอไม่สามารถขยับแขนซ้ายได้ในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นอาการขั้นรุนแรงของเธอคนนี้ก็สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวอีกด้วย สุดท้ายแล้วแพทย์หลายๆ…

  • อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”

    อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”

    ต่อไปนี้สาวๆ โปรดระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะมาในคราบของ “เพื่อนสนิท” ก็เป็นได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมา ในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล้องวงจรปิดของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้ถ่ายติดภาพคู่หนุ่มสาววัยรุ่นที่กำลังทานอาหารอยู่ภายในร้าน และเผยให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของฝ่ายชาย     จากภาพ ฝ่ายชายอาศัยจังหวะฝ่ายหญิงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบนำยาบางอย่างใส่ลงไปในแก้วน้ำของฝ่ายหญิง เมื่อเธอดื่มน้ำจากแก้วดังกล่าว เธอก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง และไม่มีแรงพอที่จะทรงตัวได้เอง   .   จากนั้น ฝ่ายชายก็ประคองพาตัวฝ่ายหญิงไปยังห้องของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทำการ ล่วงละเมิดทางเพศ ในที่สุด     สถานการณ์ล่าสุดรายงานออกมาแล้วว่า ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากการตรวจสอบ พบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าว แซ่กู้ เป็นเพื่อนกับฝ่ายหญิง โดยทั้งสองรู้จักกันบนรถไฟใต้ดินราวหนึ่งปีที่แล้ว   .   ทั้งนี้ ยังทราบมาอีกว่า ทั้งสองคนเคยไปเที่ยว ทานข้าว และดูคอนเสิร์ตด้วยกันหลายครั้ง และยังมีการจับไม้จับมือกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ฝ่ายชายคิดกับฝ่ายหญิงไกลเกินกว่าเพื่อน เขาจึงตัดสินใจสั่งซื้อยากล่อมประสาทจากอินเทอร์เน็ต เพราะอยากทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและฝ่ายหญิงพัฒนาไปอีกขั้น   นี่แหละนะ คนที่เราไว้ใจอาจจะร้ายที่สุดก็ได้!   ที่มา: New.qq

  • หนุ่มเล่าเหตุระทึก “หนีงู ปะทะหมี เจอฉลาม” แต่รอดมาได้หมด เอ็งทำได้ไง?!

    หนุ่มเล่าเหตุระทึก “หนีงู ปะทะหมี เจอฉลาม” แต่รอดมาได้หมด เอ็งทำได้ไง?!

    ความโชคร้ายหรือความซวยเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะหญิงชาย สาวแก่แม่ม่าย ลูกเล็กเด็กแดง หรือแม้แต่คนแก่คนเฒ่าคราวปู่ย่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเจอกับความซวยได้ทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ คือเราคงจะไม่ซวยไปมากกว่าชายคนนี้อย่างแน่นอน นี่คือเรื่องราวของหนุ่มชาวอเมริกันวัย 20 ปีที่ชื่อว่า Dylan McWilliams จากรัฐโคโลราโด ชายที่เรียกได้ว่าดวงกุดอย่างแท้จริง เพราะเขาต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตเพชฌฆาตโจมตีถึง 3 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ห่างกันมากนัก   Dylan หนุ่มโชคร้าย แต่ลูกชายไม่ได้ทำตัวแหลกเหลว   จุดเริ่มต้นในความโชคร้ายของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 4 ปีก่อน Dylan ได้ออกไปปีนเขาในรัฐยูทาห์ ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้เจอกับ งูหางกระดิ่ง หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อเรื่องของความอันตราย เข้ามาโจมตี โชคดีที่รอยกัดนั้นไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก เด็กหนุ่มจึงนอนป่วยไปแค่ 2 วันแล้วก็กลับมาหายเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นความโชคร้ายก็เริ่มตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน     ในปี 2017 Dylan ออกไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่รัฐโคโลราโด ระหว่างที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่กลางแจ้ง จู่ๆ ก็มี หมีดำ เข้ามากัดที่บริเวณหลังศีรษะของเขา ตอนนั้นเด็กหนุ่มจึงป้องกันตัวเองด้วยการต่อยใส่เจ้าหมีสุดแรงและต่อยซ้ำเข้าไปที่ตาของมัน จนสามารถหลุดรอดจากคมเขี้ยวมาได้ในที่สุด แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องเย็บบริเวณหนังหัวไปถึง 9 เข็ม    …

  • ภัยใกล้ตัว.. หนุ่มชาร์จไฟเต็มปลั๊กพ่วง สุดท้ายลัดวงจร ไฟลุกเกือบมอดทั้งหลัง!!

    ภัยใกล้ตัว.. หนุ่มชาร์จไฟเต็มปลั๊กพ่วง สุดท้ายลัดวงจร ไฟลุกเกือบมอดทั้งหลัง!!

    ปลั๊กพ่วง คือสิ่งที่ทุกคนมักจะมีติดบ้านไว้ใช้สำหรับการชาร์จไฟหรือการเพิ่มช่องเสียบให้มากยิ่งขึ้น แต่หากว่าเราใช้ปลั๊กที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้งานมันหนักจนเกินไป สุดท้ายแล้วเราอาจจะต้องเจอกับความวอดวายเหมือนกับชายคนนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2018 เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเพลิงไหม้ที่บ้านชั้นเดียว เลขที่ 399/182 หมู่บ้านรุ่งเรืองควอลิตี้เฮาส์ ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่   หมู่บ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว   นายเกษม ทองเอก ครูสอนภาษาวัย 30 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งทำงานอยู่บริเวณห้องรับแขก โดยได้เสียบปลั๊กชาร์จไฟคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พัดลมระบายความร้อน และโทรศัพท์อีก 2 เครื่อง ทั้งหมดรวมกันในปลั๊กพ่วงอันเดียว เต็ม 4 รู   นายเกษม เจ้าของบ้าน   หลังจากนั้นตนเองก็นั่งทำงานอยู่ได้ประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วเกิดอาการง่วงนอนจึงงีบหลับไป ก่อนที่จะสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะจู่ๆ ปลั๊กพ่วงของเขาก็เกิดระเบิดเสียงดัง ชายหนุ่มเห็นประกายไฟจากโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ลามไปไหม้จนถึงผ้าม่าน   ปลั๊กพ่วงที่เกิดการลัดวงจร   ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เมื่อชายหนุ่มได้สติจึงรีบไปหยิบถังน้ำหลังบ้านมาดับไฟ พร้อมกับตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทำให้สามารถดับไฟได้สำเร็จด้วยเวลาประมาณ 20 นาที…

  • ดูไว้อย่าเอาไปทำตาม!! หนุ่มโดดจากรถไฟลงแม่น้ำ หวิดชนพื้นคอนกรีต ห่างไปไม่กี่เซน

    ดูไว้อย่าเอาไปทำตาม!! หนุ่มโดดจากรถไฟลงแม่น้ำ หวิดชนพื้นคอนกรีต ห่างไปไม่กี่เซน

    เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เพราะเราเกิดมาแค่หนเดียว” อย่างที่ภาษาอังกฤษคือคำว่า YOLO (ย่อมาจาก You Only Live Once) แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่การที่เราต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเหมือนอย่างชายคนนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 เพจ Brown Cardigan ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เผยให้เห็นชายคนดังกล่าวเล่นไม่เข้าท่า โดดลงมาจากหลังคารถไฟ ตกไปในแม่น้ำ หวิดเสาคอนกรีตไปแค่นิดเดียว     รถไฟนั้นวิ่งมาด้วยความเร็ว ในขณะที่เขาย่อตัวอยู่บนหลังคาบริเวณท้ายขบวน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครและขึ้นไปตรงนั้นได้อย่างไร   ชายนิรนาม ไม่มีใครทราบว่าเขาขึ้นไปได้อย่างไร   จนกระทั่งรถไฟขับมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำ Swan River เมือง Feemantle ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย จู่ๆ ชายหนุ่มก็โดดจากตรงนั้นลงไปในแม่น้ำ   กระโดดลงมาแบบไม่คิดชีวิต   ด้วยความเร็วของรถไฟ จึงทำให้จังหวะที่เขากระโดดลงมาเอียงไปทางด้านเดียวกับทางที่รถไฟแล่นไป ส่งผลให้เขาลงไปตรงจุดที่ไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งหากจากเสาคอนกรีตไปไม่กี่เซนเท่านั้นเอง   ความเร็วของรถไฟ ทำให้ตัวเขาปลิวไปตาม .   หลังจากนั้นหลายๆ คนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปในหลากหลายทาง บางคนมองว่าเขาเจ๋ง…

  • หญิงผู้ใช้ชีวิตในห้องปลอดเชื้อ 13 ปี แพ้แทบทุกอย่างบนโลก แม้จะกอดคนรักก็ยังไม่ได้

    หญิงผู้ใช้ชีวิตในห้องปลอดเชื้อ 13 ปี แพ้แทบทุกอย่างบนโลก แม้จะกอดคนรักก็ยังไม่ได้

    ตามปกติแล้วการที่คนเราต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ควรจะมีติดตัวอยู่กับทุกคนคืออิสระในการไปไหนมาไหน สัมผัสอะไรก็ได้ตามใจต้องการ… สำหรับ Juana Munoz วัย 53 ปี จากเมืองกาดิซ ประเทศสเปน กลับต้องใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนอื่น ถูกตัดขาดจากอิสระที่หวังเอาไว้ เพราะทุกสิ่งจากโลกภายนอกอาจคร่าชีวิตเธอได้ ทำได้แค่เพียงมองผ่านจากตู้กระจกปลอดเชื้อที่เป็นบ้านของเธอมาตลอด 13 ปี     หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง 4 ชนิด ทั้งอาการแพ้สารเคมีหลายชนิด โรคไฟโบรมัยอัลเจีย อาการล้าเรื้อรัง และภูมิแพ้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้เธอไม่เหลือทางเลือกใดๆ จนจำเป็นต้องตัดขาดตัวเองออกจากโลกทั้งใบ เพื่อมาอาศัยอยู่ในตู้กระจกแบบนี้     เธอจะไม่สามารถออกจากตู้กระจกนี้ได้ ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎที่เข้มงวด และใครก็ตามที่จะเข้ามาหาเธอ ต้องชำระล้างร่างกายให้ปลอดจากสารเคมี และสวมเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเท่านั้น สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ คนในครอบครัวไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเธอได้เลย ถึงขั้นที่ว่าการกอดอาจทำให้เธอตายได้ มีเพียงแค่ลูก 2 คน ที่ได้รับอนุญาตให้กอดเธอได้ 2 ครั้งต่อปี และการกอดแต่ละครั้งจะต้องผ่านการเตรียมการหลายวัน     ฝันร้ายของ Juana เริ่มต้นเมื่อ 29 ปีก่อน จากมันฝรั่งที่ปลูกในสวนหลังบ้าน เมื่อเธอจับมันฝรั่งลูกนั้น…

  • สาวรักสัตว์เสี่ยงชีวิตตนเอง เพื่อดูแลวัวที่ถูกทอดทิ้ง ในพื้นที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสี…

    สาวรักสัตว์เสี่ยงชีวิตตนเอง เพื่อดูแลวัวที่ถูกทอดทิ้ง ในพื้นที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสี…

    ผู้ที่อุทิศและทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หากจะต้องฝ่าฟันอันตรายที่อาจจะหมายถึงชีวิตก็ตาม พวกเขาก็ยอมที่จะเสี่ยงเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ดั่งหญิงสาวชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ที่ยอมสละเวลาส่วนตัวในทุกๆ วัน เดินทางมายังเขตอันตรายในจังหวัดฟุกุชิมะ เพื่อมาป้อนน้ำป้อนอาหาร คอยดูแลเหล่าวัวทั้ง 11 ตัวที่ถูกทอดทิ้งจากเหตุการณ์ภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ     ภัยพิบัติในปี 2011 นั้น พรากชีวิตผู้คนไปร่วม 20,000 ราย และผู้คนอีกจำนวน 160,000 ราย จำเป็นจะต้องย้ายออกจากพื้นที่ภูมิลำเนาไปสู่พื้นที่ปลอดภัย เหลือเพียงแต่สัตว์น้อยใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ปศุสัตว์ในเขตกัมมันตรังสีส่วนใหญ่ เป็นวัวจำนวน 3,500 ตัว และกลายเป็นวัวนิวเคลียร์แห่งฟุกุชิมะไปโดยปริยาย ได้รับการปนเปื้อนจนส่วนใหญ่ล้มตายไปตามๆ กัน รวมไปถึงอดตายและถูกการุณยฆาต     Tani Sakiyuki หญิงสาวผู้อุทิศตนเดินทางมายังเขตปนเปื้อน เพื่อมาดูแลวัวจำนวนที่เหลืออยู่ ตามปกติแล้วเธอทำงานอยู่ในกรุงโตเกียวเมื่อ 7 ปีก่อน แต่หลังเกิดเหตุภัยพิบัติ เธอก็ได้ย้ายมาทำงานในสาขาที่ใกล้กับเขตอันตรายและเปลี่ยนมาทำงานกะกลางคืนแทน เพื่อที่จะสามารถมาดูแลวัวทั้ง 11 ตัวได้ในทุกๆ วัน     เธอให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากรายงานข่าวเกี่ยวกับสัตว์ที่อดอยาก และชาวไร่ชาวนาก็พยายามช่วยเหลือพวกมัน แม้ว่ารัฐบาลจะสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปก็ตาม เธอจึงรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ “ถ้าฉันไม่ทำ…

  • มือดีปล่อยใบปลิว “วันลงโทษมุสลิม” สะท้อนการเหยียดศาสนาและความเกลียดชังอันน่าหดหู่

    มือดีปล่อยใบปลิว “วันลงโทษมุสลิม” สะท้อนการเหยียดศาสนาและความเกลียดชังอันน่าหดหู่

    ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ภายในประเทศอังกฤษได้มีใบปลิวอันหนึ่งถูกแจกไปทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิม โดยใบปลิวที่ว่าประกาศให้วันที่ 3 เมษายนเป็น “Punish a Muslim Day” หรือวันลงโทษชาวมุสลิม ใบปลิวนี้มีการระบุรางวัล เป็นตัวเลขคะแนนสำหรับการใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิม ตั้งแต่การด่าทอ เรื่อยไปยันการทำลายร่างกาย ทรมาน และเผาทั้งเป็น “พวกมันเคยทำร้ายคุณ พวกมันเคยทำให้คนที่คุณรักต้องทุกข์ทรมาน คุณทำอย่างไรกับพวกมันดี? ใบปลิวขึ้นต้นไว้ด้วยความเกลียดชัง     เนื้อหาในใบปลิวมีอยู่ว่า พวกมันเคยทำร้ายคุณ พวกมันเคยทำให้คนที่คุณรักต้องทุกข์ทรมาน คุณทำอย่างไรกับพวกมันดี?  คุณจะเป็นแกะเหมือนคนทั่วไปเหรอ? แกะที่ถูกชักจูงและเอาแต่ทำตามที่ถูกสั่ง แกะพวกนี้ทำให้ยุโรปกับอเมริกาเหนือโดนครอบงำโดยพวกมันไปแล้ว มีเพียงคุณที่จะเป็นแปลงมันได้ มีเพียงคุณที่มีพลังจะทำมัน อย่าได้เป็นเพียงแกะ เรามีรางวัลให้ตามสิ่งที่คุณทำดังนี้ ด่าทอชาวมุสลิม 10 คะแนน ดึงฮิญาบจากศีรษะผู้หญิงชาวมุสลิม 25 คะแนน สาดน้ำกรดใส่ชาวมุสลิม 50 คะแนน ทำร้ายร่างกายชาวมุสลิม 100 คะแนน ทรมานชาวมุสลิม 250 คะแนน สังหารชาวมุสลิม 500 คะแนน เผาหรือระเบิดมัสยิด 1,000 คะแนน โจมตีนครเมกกะด้วยขีปนาวุธ 2,500 คะแนน    …

  • 9 อาหารเปิบพิสดารสุดอันตราย หาก ‘กินไม่ถูกวิธี’ ได้ไปเที่ยวโลกหน้าอย่างแน่นอน!!

    9 อาหารเปิบพิสดารสุดอันตราย หาก ‘กินไม่ถูกวิธี’ ได้ไปเที่ยวโลกหน้าอย่างแน่นอน!!

    โลกของเราช่างกว้างใหญ่ไพศาล ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เรายังไม่รู้ ทั้งเรื่องของธรรมชาติ และวัฒนธรรมในแต่ละที่ที่มีคนอาศัยอยู่ สำหรับวันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของ ‘การกิน’ แน่นอนว่าแต่ละประเทศทั่วโลกย่อมมีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกัน จึงไม่แปลกเลยที่ว่าจะมีการเปิบพิสดารเมนูแปลกๆ มากมายให้เราได้เห็นกัน และนี่คือ 9 อาหารที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของเรา ที่ทางเว็บไซต์ Brightside ได้รวบรวมมาให้เราได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   1. ปลาปักเป้า   การทำอาหารโดยใช้ปลาปักเป้าเป็นวัตถุดิบนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้การแล่เนื้อของมันจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เชฟที่จะทำหน้าที่นี้ได้ต้องผ่านการเรียนมาไม่ต่ำว่า 3 ปีหรือมากกว่านั้นจนได้รับใบอนุญาตประกอบการชำแหละปลาชนิดนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้พิษเตโตรโดท็อกซิน ไหลเปื้อนอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ และหากมนุษย์ทานเข้าไปก็อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้เลย!!   2. สมองลิง   เป็นเมนูเปิบพิสดารที่นิยมทานกันในแถบเอเชียและแอฟริกัน แต่ปัจจุบันประเทศจีนได้ทำการสั่งแบนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยหากใครที่ฝ่าฝืนก็จะถูกสั่งจำคุกนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว การทานสมองลิงแบบดิบๆ ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรค โรคครอยตส์เฟลดต์-จาค็อบ (Creutzfeldt-Jakob) เป็นโรคเสื่อมที่เกิดกับระบบประสาทส่วนกลาง และยังไม่มีหนทางรักษาแถมยังสามารถติดต่อได้ โรคดังกล่าวเกิดจากโปรตีนพรีออนเป็นตัวต้นเหตุ ซึ่งพบได้ในสมองของลิง หากทานเข้ามาในร่างกายของมนุษย์ก็จะมีความเสี่ยงที่จะรับมันเข้ามาโดยตรง ที่สำคัญคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จากสถิติแล้ว 90% เสียชีวิตหลังจากที่ติดเชื้อ 1 ปี   3. เม็ดมะม่วงหิมพานต์   เม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นจะมีกรรมวิธีมากมายก่อนที่มันจะถูกนำมาเสิร์ฟบนจาน ซึ่งหากเราทำถูกต้องแล้วก็สามารถทานได้ไม่มีปัญหาอะไร…

  • 13 อาวุธโคตรโหดกระโดดฟันของจริง กับสิ่งประดิษฐ์ด้วยมือนักโทษ ส่งตรงมาจากในคุก!!

    13 อาวุธโคตรโหดกระโดดฟันของจริง กับสิ่งประดิษฐ์ด้วยมือนักโทษ ส่งตรงมาจากในคุก!!

    คุก คงไม่ใช่สถานที่ที่ทุกคนอยากไปแน่นอน เพราะที่นั่น มีไว้สำหรับการกักขังนักโทษที่กระทำการผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ตั้งแต่ลักทรัพย์ไปจนถึงฆาตกรรม แน่นอนในคุกไม่ใช่สถานที่พักผ่อนแสนสบายแบบโรงแรม แต่เป็นห้องสี่เหลี่ยมพร้อมลูกกรงที่ใช้ควบคุมอิสรภาพของนักโทษไว้ในกำมือ     ในบรรดาเหล่านักโทษเองก็จะอยู่กันเหมือนเป็นสังคมหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีคนบางคนหรือบางกลุ่มมีอิทธิพลมากกว่าคนอื่นๆ และบางครั้งกลุ่มที่มีอิทธิพลก็มีการทำร้ายร่างกายนักโทษด้วยกันเอง ดังนั้นนักโทษในคุกแต่ละคนจึงมีการหาอาวุธมาใช้ป้องกันตนเอง วันนี้ เราจึงขอนำเสนอ อาวุธต่างๆ จากในคุก ที่เหล่านักโทษนำมาใช้เพื่อป้องกันตัว และใช้เพื่อทำร้ายคนอื่น จะมีอาวุธอะไรบ้าง และจะน่ากลัวขนาดไหน ไปชมกันเลย…   1. ปืนทำมือ   ในเดือนพฤษภาคม 1984 นักโทษสองรายได้หนีออกจากห้องคุมขังได้ โดยการจับเจ้าหน้าที่รักษาการไว้เป็นตัวประกันได้ ปืนนี้ประกอบไปด้วย ตะกั่วที่ได้จากจากแผงผ้าม่าน หัวไม้ขีดไฟ แบตเตอรี่ AA และเศษหลอดไฟที่แตก ปืนนี้ใช้ได้จริง เพราะพวกเขา ยิงมัน 2-3 นัดเข้าที่กระจกกันกระสุนเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีออกไป   2. มีดพกจากไม้กางเขน   อาวุธชิ้นนี้ยึดมาได้จากนักโทษชาวเยอรมันเมื่อปี 1994 ที่คุก Wolfenbüttel ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นักโทษจะเหลาไม้เป็นรูปไม้กางเขน แต่สำหรับนักโทษคนนี้เขาได้ประกอบเอาใบมีดเข้าไปซ่อนบริเวณด้านล่างของไม้กางเขนด้วย ซึ่งการใช้ก็คือเลื่อนเปิดไม้กางเขนออก และปิดเมื่อไม่ได้ใช้   3. ปืนซิป…

  • ชายหนุ่มสุดซน ยัดแท่งหรรษาความยาว 7 นิ้ว สอดผ่านรูปัสสาวะ ช้ำในเดือดร้อนหมอ…

    ชายหนุ่มสุดซน ยัดแท่งหรรษาความยาว 7 นิ้ว สอดผ่านรูปัสสาวะ ช้ำในเดือดร้อนหมอ…

    เซ็กส์ทอยคืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตอบสนองความต้องการทางเพศที่หลากหลาย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ควรจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ เรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน ไม่อย่างนั้นอาจต้องประสบปัญหาเหมือนอย่างชายคนนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับชายนิรนามวัยประมาณช่วง 30-40 ปี จากไต้หวัน เขารีบเข้าพบแพทย์เป็นการด่วน หลังจากที่แท่งหรรษาของเขาดันไปติดอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ จนทำให้ฉี่ออกมาเป็นเลือด   ภาพเอ็กซเรย์เผยให้เห็นวัตถุแปลกปลอมในกระเพาะปัสสาวะ   แพทย์ในโรงพยาบาลจึงทำการนำมันออกมา โดย Jiann Bang-bing หัวหน้าแผนกวิชาระบบทางเดินปัสสาวะของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกในเขต Kaohsiung บอกว่า สิ่งที่พวกเขาพบคือแท่งพลาสติกความยาว 20 เซนติเมตร (เท่ากับ 7.87 นิ้ว) และถึงหนา 1 เซนติเมตร   แท่งหรรษาที่ถูกพบในกระเพาะปัสสาวะของคนไข้   หลังจากนั้นคนไข้คนดังกล่าวก็ไม่กล้ากลับมาพบหมอ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมและนำของเล่นของเขากลับไป จนกระทั่งผ่านไปกว่า 2 วัน เขาจึงกลับมาพร้อมกับเล่าให้แพทย์ฟังว่า เหตุผลที่เจ้าสิ่งนี้ไปติดอยู่ด้านในเป็นเพราะเขาใช้มันแหย่เข้าไปทางท่อปัสสาวะ เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของตัวเอง นั่นจึงทำให้มันหลุดเข้าไปถึงด้านใน ไม่สามารถเอาออกมาเองได้ และมันก็เข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ มีเลือดปนมากับน้ำปัสสาวะของเขา หลังจากนั้นเขาก็กลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้าน รอวันให้อวัยวะบริเวณนั้นกลับมาฟื้นฟูแข็งแรงดังเดิม…

  • 6 ความเชื่อในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบผิดๆ ที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก

    6 ความเชื่อในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบผิดๆ ที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก

    การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในบางครั้งอาจจะเป็นตัวกำหนดโชคชะตาของคนๆ หนึ่งว่าจะอยู่หรือจะตาย ดังนั้นเรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะยังมีความเชื่อบางอย่างที่คนเราเชื่อกันผิดๆ เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันอยู่ โดยที่มีตัวอย่างดังต่อไปนี้   เวลามีแผลให้รีบห้ามเลือดให้แน่นในทุกกรณี จริงอยู่ว่าการไม่ห้ามเลือดนั้น อาจทำให้มีการเสียเลือดมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่หากรัดแน่นจนเกินไปก็อาจจะทำให้เสียอวัยวะส่วนนั้นๆ ไปเพราะการขาดเลือดไปเลี้ยงได้เช่นกัน การห้ามเลือดที่ถูกต้องนั้นไม่ควรรัดลงไปที่ตัวแผลเลย แต่ควรรัดที่ด้านบนของแผลเล็กน้อย และไม่ควรทำการห้ามเลือดทิ้งไว้เป็นเวลานาน หากเป็นไปได้ควรมีการคล้ายการรัดทุกๆ 20-60 นาที   เวลามีคนบาดเจ็บบนถนนให้รีบพาออกมาข้างทางในทันที แม้ว่าการทิ้งผู้บาดเจ็บไว้กลางถนนเลยนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่การที่จู่ๆ ไปเคลื่อนย้ายคนเจ็บเลยนั้นก็เป็นเรื่องที่อันตรายเช่นเดียวกัน ผู้ที่บาดเจ็บจากทางท้องถนนนั้นมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ซึ่งการที่จู่ๆ ไปเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอาจนำไปสู่การเป็นอัมพาตครึ่งล่าง หรือถึงแก่ความตายได้   เวลามีคนเป็นลมชักให้รีบหาอะไรมาใส่ปากทันที การหาอะไรมาใส่ปากคนที่เป็นลมชักนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะหากหากเลือกไม่ดีอาจจะทำให้ฟันของผู้ชักเสียหายได้ แล้วฟันที่หักมีโอกาสสูงที่จะลงไปอุดหลอดลม วิธีที่ดีของการปฐมพยาบาลคนเป็นลมชักนั้น ทำได้โดยการหาอะไรมาหนุนที่ศีรษะผู้ป่วย เช่นเสื้อผ้า หรือหมอน และเรียกรถพยาบาล   ใช้ยาสีฟัน หรือน้ำมันทาแผลไฟลวก การใช้ยาสีฟัน หรือน้ำมันทาแผลไฟลวกนั้นจะทำให้ตัวยาสีฟันไปคลุมแผลไว้ แต่ไม่ได้ไล่ความร้อนออกไปแต่อย่างไร วิธีที่ดีที่สุดในการรปฐมพยาบาลแผลไฟลวก ทำได้โดยการนำจุดที่โดนลวกแช่ในน้ำเย็นราวๆ 15-20 นาที และปล่อยให้แผลแห้ง หากจะทายาอะไรเพิ่มให้เว้นระยะเวลาอีกสักพักก่อน   เวลามีคนเป็นลม ให้หาวิธีปลุกให้เร็วที่สุด อันนี้เป็นความคิดที่ผิดเป็นอย่างมาก โชคดีที่จำนวนคนที่คิดแบบนี้มีอยู่ไม่มากนัก…

  • หนุ่มห้าวเป้ง เจอคลิปเปิดขวดไวน์ด้วยไฟลน ลองเอามาทำตาม.. จะเหลือเรอะงานนี้!?

    หนุ่มห้าวเป้ง เจอคลิปเปิดขวดไวน์ด้วยไฟลน ลองเอามาทำตาม.. จะเหลือเรอะงานนี้!?

    บนโลกอินเทอร์เน็ตมีการสอนเทคนิควิชาเคล็ดลับ ‘ไลฟ์แฮก’ ต่างๆ มากมายหลายอย่าง ซึ่งในบางกรณีที่เราไม่เคยรู้ว่ามันก็ทำแบบนี้ได้ด้วย และมันสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากไปอีก แต่ว่าไลฟ์แฮกทั้งหลายนั้น จะใช้งานจริงได้หรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะ อย่างพ่อหนุ่ม Lawrence Guo ลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนกับเพื่อนร่วมก๊วน และกำลังหาทางเพื่อเปิดขวดไวน์ เนื่องจากว่าเหล็กไขจุกพังจนใช้งานไม่ได้…   Lawrence Guo   Guo นึกขึ้นได้ว่า เขาเคยดูคลิปวิดีโอสอนการเปิดขวดไวน์แบบไม่ต้องใช้เหล็กไขจุก แต่เป็นการใช้เครื่องเป่าไฟขนาดเล็กแทน ซึ่งวิดีโอไลฟ์แฮกในทำนองเดียวกัน ก็มีหลายคนทำออกมาเผยแพร่เต็มโลกออนไลน์ไปหมด   ตัวอย่างการสอนเปิดขวดไวน์ด้วยเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก   ด้วยวิธีที่นึกขึ้นได้ เขาก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาลองใช้ดู แต่อนิจจา ด้วยแรงไฟที่ยังไม่มากพอ(เขาคิดอย่างนั้นอ่ะนะ) มันเลยไม่สำเร็จ เขาก็เลยชักชวนเพื่อนมาใช้ไฟจากเตาแก๊สแทน !?     จังหวะที่กำลังใช้ไฟขนาด เบา-ปานกลาง พวกเขาก็ค่อยๆ เอียงคอขวดเข้าหาเปลวไฟอย่างช้าๆ…   และแล้วผลก็เป็นไปตามคาด เปิดจุกขวดไวน์ได้ แต่อยู่ในสภาพที่ขวดแตกคามือนี่สิ มันอันตรายมากๆ เลยนะนั่น!!   อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า เตาแก๊สนั้นไม่สามารถใช้แทนเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก แม้จะสามารถควบคุมความแรงในช่วงเวลาหนึ่งได้ แต่แรงไฟก็ยังคงมากกว่าอยู่ดี…

  • รวมภาพของคนดวงดีที่รอดวินาทีอันตรายมาได้อย่างหวุดหวิด นี่ห้อยพระวัดไหนกันเนี่ยพี่!!

    รวมภาพของคนดวงดีที่รอดวินาทีอันตรายมาได้อย่างหวุดหวิด นี่ห้อยพระวัดไหนกันเนี่ยพี่!!

    บางครั้งความอันตรายก็อยู่รอบตัวเราอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ รวมถึงความโชคร้ายด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีมันก็อาจจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็เป็นได้ แต่ว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่สามารถโกงความตาย รอดวินาทีหวาดเสียวนั้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าพวกเขานั้นห้อยพระวัดไหนกันถึงได้มีความหนังเหนียวขนาดนี้ แต่ที่รู้ๆ ก็คือพวกเขาต้องไปขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยล่ะ และนี่คือภาพของบุคคลเหล่านั้น ที่จะมายืนยันว่าในความโชคร้ายก้ยังมีความโชคดีแฝงเอาไว้อยู่ ทว่าทางที่ดีเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก เพราะไม่รู้ว่าจะโชคดีอย่างนี้ทุกครั้งรึเปล่านะ   คุณปู่รอดชีวิตจากสงครามโลกมาได้ ด้วยเหรียญเหล่านี้แหละที่คอยบังกระสุนปืนให้   อันนี้ไปซ้อมคิวที่ไหนมารึเปล่าเนี่ยพี่ เท่จัด   ต้องบูชาคนผลิตแว่นขั้นเทพนี้ด้วย ทนจริงๆ   เกือบแล้ว เกือบได้ไปเข้าอู่แล้วไหม   ถ้าโดนนี่ ไอ้หนุ่มมีสลบแน่นอน   มีอะไรเกิดขึ้นหรอ ชิวๆ   เมื่อวางกล้องไว้ตรงนี้แล้วขับรถไปรอบเมือง แต่ปรากฏว่ามันยังอยู่ที่เดิม!!   ไม่อยากจะคิดถ้ามันตำเข้าไปในเนื้อนะ   จะเดินไปฉี่ซะหน่อย ดีนะมองพื้นอยู่   เส้นยาแดงผ่าแปด   รามสูรตัวไหนขว้างขวานมาเนี่ย   ก้มมองหว่างขาตัวเองในทันที   iPhone ลูกพ่อเกือบกินขี้หมาแล้วไหมล่ะ   เดอะแมทริกซ์ภาคไหนกันนะ   ดูดีๆ ก่อนแปรงฟันกันนะเดี๋ยวจะเจอแจ็กพอตอย่างนี้  …

  • ไทม์ไลน์อดีตนักเรียนใจเหี้ยม บุกยิงกราดในโรงเรียนฟลอริดา เสียชีวิต 17 บาดเจ็บอีก 50 ราย…

    ไทม์ไลน์อดีตนักเรียนใจเหี้ยม บุกยิงกราดในโรงเรียนฟลอริดา เสียชีวิต 17 บาดเจ็บอีก 50 ราย…

    เกิดเหตุน่าสลดเมื่ออดีตนักเรียนหนุ่มพกอาวุธปืนและระเบิดควัน บุกเข้าไปในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 หลังจากหน่วย SWAT เข้าควบคุมเหตุการณ์ได้แล้ว ผลประเมินความเสียหายมีผู้เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บอีก 50 คน เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 14.25 น. โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย นักเรียนในโรงเรียนได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น นักเรียนจึงเดินออกจากห้องเรียนไปยังจุดรวมตัวตามที่ได้ฝึกซ้อมมา แต่กลับพบว่ามีคนเข้ามากราดยิงปืนในทางเดิน และไล่เข้าไปยิงนักเรียนในห้องเรียนอื่นๆ   นักเรียนบางส่วนเข้ามาหลบภัยในห้องเรียน   นักเรียนบางส่วนถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือก็วิ่งหนีกันแบบไม่คิดชีวิต นักเรียนกลุ่มหนึ่งเข้ามาซ่อนตัวภายในห้องเรียน บางคนก็เข้าไปซ่อนตัวในตู้ และอีกส่วนหนึ่งก็วิ่งหนีออกไปนอกโรงเรียนได้ทันเวลา แต่พวกเขาก็ยังได้ยินเสียงยิงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนตื่นกลัวอย่างมาก นักเรียนจำนวนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนเริ่มติดต่อกับภายนอกผ่านทางการโทรศัพท์และทางโซเชียลมีเดียเพื่อให้ตนเองรู้สึกสบายใจ บ้างก็โพสต์ในทวิตเตอร์ และอีกส่วนก็ส่งข้อความคุยกับทางบ้านของตัวเอง   นักเรียนอีกส่วนหนึ่งวิ่งหนีออกไปข้างนอกโรงเรียนได้   นักเรียนส่วนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนพยายามติดต่อโลกภายนอกผ่านทางโซเชียลมีเดีย   นักเรียนคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ในห้องเรียนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้ จะเห็นได้ว่านักเรียนต่างก็หวาดกลัวจึงหมอบลงต่ำเพื่อหลบผู้ก่อเหตุร้าย แต่ก็ยังคงมีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบอยู่ตลอดเวลา คลิปวิดีโอจากนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียน (หากชมคลิปวิดีโอไม่ได้ คลิกที่นี่) JUST IN…

  • หนุ่มขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ก็เจอลูกหมา 3 ตัว โอ้โห น่ารักซะขนาดนี้ ไม่จอดช่วยก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ!!

    หนุ่มขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ก็เจอลูกหมา 3 ตัว โอ้โห น่ารักซะขนาดนี้ ไม่จอดช่วยก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ!!

    เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 เว็บไซต์ The Dodo ได้รายงานเรื่องราวการช่วยเหลืออันน่าประทับใจของชายหนุ่มที่บังเอิญไปเจอเข้ากับเพื่อนใหม่ตัวน้อยแสนน่ารัก 3 ตัว ขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้าน นี่เป็นสิ่งที่ Andrei Matei ได้เจอระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับบ้านหลังจากที่ไปหาแฟนสาวมา ขณะที่กำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ด้วยความเร็ว ก็ได้เจอกับอะไรซักอย่างข้ามถนนผ่านหน้ารถเขาไป เขาจึงขับรถหลบสิ่งกีดขวางดังกล่าว แต่เมื่อเขาหันไปดูดีๆ เขาก็เห็นว่านั่นมันคือน้องหมาสามตัวที่กำลังเสี่ยงอันตรายกันอยู่บนท้องถนน ชายหนุ่มจึงไม่รอช้ารีบหยุดรถและถอยรถไปหาพวกมันในทันที   น้องหมาแสนน่ารักที่ถูกพบบนถนนใหญ่   Andrei ลงจากรถไปหาน้องหมาทั้งสาม เมื่อพวกมันได้เจอกับเขา ทั้งสามตัวก็วิ่งเข้ามากระโดดโลดเต้นอยู่รอบๆ ด้วยความดีใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้คือวินาทีเฉียดตายของพวกมัน ในตอนแรกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับพวกมันดี แต่ด้วยความน่ารักของน้องหมาทำให้เขาต้องยอมใจอ่อนอุ้มพวกมันขึ้นรถ พากลับบ้านด้วยกันซะเลย   ทั้งสามตัวกับอีกหนึ่งคนเดินทางกลับบ้านไปพร้อมๆ กัน   ด้วยระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง บวกกับความเหนื่อยล้า ทำให้พวกมันผล็อยหลับไป   ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน เขาโพสต์เรื่องราวและรูปของเจ้าหมาลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนเข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะทำต่อไป และเขาก็ได้ติดต่อกับเพื่อนของเพื่อนที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือสัตว์มาก่อน เขาและผู้หญิงที่ติดต่อไปนัดเจอกันที่คลินิกสัตว์ใกล้บ้าน เพื่อมาคุยกันว่าควรจะทำอย่างไรกับเจ้าหมาทั้งสามดี ในตอนนั้น เจ้าหมาก็ได้รับการตรวจร่างกายไปพร้อมๆ กัน     จากผลตรวจพบว่า…

  • เทรนด์ใหม่เมืองนอก ‘Tide Pod Challenge’ กับการกินเม็ดน้ำยาซักผ้า ผู้เชี่ยวชาญแนะอย่าทำ!!

    เทรนด์ใหม่เมืองนอก ‘Tide Pod Challenge’ กับการกินเม็ดน้ำยาซักผ้า ผู้เชี่ยวชาญแนะอย่าทำ!!

    ตอนนี้กระแสบนโลกออนไลน์ที่กำลังมาแรงก็คือ การกินเม็ดผงซักฟอก ที่เรียกว่า ‘Tide Pod‘ ซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับพ่อแม่และแพทย์ ไม่น่าเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องมาอธิบายว่า ผงซักฟอกนั้น ไม่สามารถนำมารับประทานได้ มิฉะนั้นอาจส่งผลไม่ดีต่อร่างกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้     เจ้าตัว Tide Pod นั้นก็คือ เม็ดผงซักฟอกที่ใช้ง่าย สะดวกสบาย แค่นำเม็ดนี้ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า เท่านี้ก็เรียบร้อย แต่ทว่ากลับมีกระแสที่วัยรุ่นบนโลกออนไลน์ ได้นำมาเล่นเป็น Challenge โดยการกินเข้าไป ราวกับว่าเป็นเรื่องสนุก   .   เมื่อกัดเข้าไป คนส่วนใหญ่ก็จะคายออกมา เนื่องจากน้ำข้างในมีรสชาติที่ขม เพราะว่ามันมีไว้ใช้สำหรับขจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้า และมีบางคนยังดื่มเหล้าตามเข้าไปอีกด้วย     Dr. Alfred Aleguas Jr. ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับสารพิษของฟลอริดา ได้กล่าวว่า “หากมีคนเลียนแบบวีดิโอที่ทำมาเพื่อความตลกดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ การกลืนผงซักฟอกเข้มข้นที่อัดอยู่ในเม็ดนั้นอาจจะทำให้อาเจียนหรือท้องร่วงได้ หรือร้ายแรงที่สุด อาจจะทำให้ระบบหายใจมีปัญหาได้ หากกลืนลงไปในปอด” การกระทำเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในเด็กที่ดื้อ และอยู่ห่างจากสายตาผู้ปกครอง จึงควรเฝ้าระวังและตักเตือนถึงอันตราย ไม่ให้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด     ที่มา Unilad 

  • หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ถูกชายแปลกหน้า ‘ลักพาตัวไปข่มขืน’ สุดท้ายก็รอดมาได้

    หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ถูกชายแปลกหน้า ‘ลักพาตัวไปข่มขืน’ สุดท้ายก็รอดมาได้

    เรื่องราวที่จะนำมาเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันในวันนี้คือเรื่องราวอันแสนอัศจรรย์เกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งถูก ‘ลักพาตัวไป อีกทั้งยังโดนข่มขืน’ และยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก แต่เธอกลับหนีรอดมาได้ด้วยไหวพริบของเธอที่เฉียบแหลม เรื่องราวนั้นจะเป็นอย่างไรเชิญไปรับชมกันได้เลยครับ     เหตุการณ์มีอยู่ว่า… ในวันที่ 4 กันยายน 2017 เวลา 23.30 น. Jaila Gladden นักศึกษาของ มหาวิทยาลัยเวสต์จอร์เจีย ได้ออกไปข้างนอกบ้านเพื่อไปซื้อยาและชาที่ร้านขายของในเมือง คาร์โรลตัน รัฐจอร์เจีย ซึ่งอยู่ห่างจาก รัฐแอตแลนตา ราว 80 กิโลเมตร เมื่อเธอซื้อของเสร็จแล้ว ขณะเดินกลับไปยังรถของเธอ ปรากฏว่ามีชายแปลกหน้าเข้ามาขอยืมไฟแช็กจากเธอ ซึ่งเธอเองก็ตอบปฏิเสธและเดินต่อเพื่อจะขึ้นรถ จากนั้นเองเธอก็เห็นว่าชายคนดังกล่าวนำมีดมาจ่ออยู่ที่ช่วงท้องของเธอ พร้อมกับบังคับให้เธอขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อพาเขาไปแอตแลนตา ชายคนดังกล่าวขับรถของเธอเพื่อไปยังแอตแลนตา จนกระทั่งเขาจอดรถที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง และบอกให้เธอถอดเสื้อผ้าออก เธอเองก็พยายามอ้อนวอนแล้ว แต่เขากลับบอกว่า “จะร้องไห้ทำไมวะ” จากนั้นเขาก็ข่มขืนเธอในรถ เมื่อเสร็จกิจแล้ว เขาก็ออกเดินทางต่อ    ลองชมคลิปต่อไปนี้ประกอบ   วิธีที่เธอใช้เพื่อเอาตัวรอด… ชายหนุ่มบอกว่าเขาต้องการเงิน และวางแผนจะปล้นปั๊มน้ำมัน จากนั้นก็เดินทางไปยังรัฐมิชิแกน ในฐานะที่เธอเป็นชาวรัฐจอร์เจีย เธอจึงรู้ดีว่าส่วนใหญ่ปั๊มน้ำมันในแอตแลนตาจะต้องเก็บเงินไว้ในลูกกรงที่เอาไว้ป้องกันการขโมย Jaila กล่าวว่า “ตั้งแต่เขาพาฉันมา ฉันก็คอยดูตลอดว่าเขาจะขับไปไหน เขาไม่ละสายตาจากถนนเลยสักนิด” เมื่อเห็นอย่างนั้น เธอจึงบอกเขาว่าเธอไม่สามารถบอกทางไปปั๊มน้ำมันได้ จนกว่าเธอจะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อดูแผนที่ได้ จากนั้นเมื่อเธอได้มือถือของเธอคืนมา เธอจึงลดแสงหน้าจอลงและแอบส่งพิกัดของเธอไปให้ Tamir Bryant แฟนหนุ่มของเธอ…

  • 9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?

    9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?

    เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 ทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า แบ็กแพ็กเกอร์จำนวน 9 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลในประเทศออสเตรเลียอย่างเร่งรีบด้วยอาการชัก ร่างกายเป็นอัมพาต และมีอาการเห็นภาพหลอน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ทั้ง 9 คนได้สูดเอาผงขาวปริศนาเข้าไป ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามันคือยา Hyoscine เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ หรือที่บางคนอาจรู้จักกันในชื่อของยา Date Rape Drug ที่ไว้ใช้ในการก่ออาชญากรรม     แบ็กแพ็กเกอร์ 9 คนนี้มาจากหลากหลายประเทศ มีชาวฝรั่งเศส 5 คน ชาวเยอรมัน 2 คน ชาวอิตาลี 1 คน และชาวโมรอคโคอีก 1 คน โดยมีอายุอยู่ที่ 21-25 ปี จากการบอกเล่าของ Simone หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ เขาเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นมาจากตอนที่พวกเขาพักอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันในเขต Victoria Park ระหว่างนั้นก็มีพัสดุถูกส่งมาให้ที่บ้าน จ่าหน้าถึงเจ้าของบ้านคนเก่า เมื่อเปิดดูจึงพบผงสีขาวถูกห่อด้วยกระดาษที่เขียนไว้ว่า Scoop ซึ่งหมายถึงตัวยา Scopolamine…

  • ชาวเน็ตช็อก หลังเห็นคลิปหนูน้อย 4 ขวบขับรถยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนนในรัสเซีย

    ชาวเน็ตช็อก หลังเห็นคลิปหนูน้อย 4 ขวบขับรถยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนนในรัสเซีย

    ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับการขับรถบนท้องถนน ซึ่งการที่จะให้เด็กอายุ 4 ขวบมาควบคุมพวงมาลัยแบบในคลิปนี้ อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัยเลยซักนิด คลิปวิดีโอดังกล่าวคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นเด็กชายวัย 4 ขวบกำลังบังคับพวงมาลัยรถใหญ่ยี่ห้อ Mercedez Benz แล่นไปตามถนนหนทางที่เต็มไปด้วยรถรา     ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของผู้ใช้ที่ชื่อว่า @majorka_official ซึ่งเด็กน้อยคนนี้กำลังควบคุมพวงมาลัยอยู่บนมอร์เตอร์เวย์ ด้วยความเร็วของรถที่สูงกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้หลายๆ คนตกอกตกใจกันไปตามๆ กัน ทางสำนักข่าว Daily Mail ก็ได้ออกมารายงานว่า เด็กชายคนนั้นนั่งอยู่บนตักของน้าสาวตัวเอง และตอนที่เขาขับแซงคันข้างหน้า เราก็จะสามารถสังเกตเห็นมือของน้าสาวคนนั้นที่ช่วยจับประคองพวงมาลัยเอาไว้ ถึงแม้ว่าน้าจะช่วยบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะเป็นคนคุมพวงมาลัยเองแทบทั้งสิ้น และเราก็จะได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อวัย 27 ปี ที่คอยบรรยายสิ่งที่เขาถ่ายเอาไว้ตลอด โดยเขาได้พูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เห็นมั้ยละ นี่คือการขับรถ Gelandewagen” ซึ่งเป็นชื่อรุ่นของรถคันนี้นั่นเอง   คลิปการขับรถของเด็กชายวัย 4 ขวบบนถนนมอเตอร์เวย์   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กมาควบคุมพวงมาลัยอยู่บนท้องถนนแบบนี้ “ไม่มีสมองกันหรือไง พระเจ้าคงช่วยให้รถคันอื่นไม่ชนจนทำให้เด็กตาย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะนอนหลับลงได้อย่างไร” “ถ้าหากมีใครซักคนขับรถมาชน เด็กก็จะกระเด็นออกไปทางนอกหน้าต่าง…

  • หนุ่มเผยทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟไปขายนาน 14 ปี อ้างทำเงินได้กว่า 500 ล้านบาท

    หนุ่มเผยทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟไปขายนาน 14 ปี อ้างทำเงินได้กว่า 500 ล้านบาท

    คุณเชื่อหรือไม่ว่าแค่เก็บลูกกอล์ฟไปขายก็สามารถทำเงินได้เป็นล้านๆ แล้ว เรารู้ว่าหลายคนอาจจะไม่เชื่อแน่นอน แต่ Glenn Berger เศรษฐีหนุ่มผู้ทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟมานานกว่า 14 ปีคนนี้ ได้ออกมาอ้างว่า การเก็บลูกกอล์ฟไปขายช่วยทำเงินให้เขามากถึง 500 ล้านบาท     สำหรับ Glenn เขามักจะเดินทางไปยังสนามกอล์ฟทั่วฟลอริดา เพื่อลงไปดำน้ำงมหาลูกกอล์ฟ จากนั้นก็นำไปขายในราคาลูกละ 1 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ลูกกอล์ฟจะไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีกหลังจากตกลงไปในน้ำนานกว่า 24 ชั่วโมง ดังนั้นสนามกอล์ฟเหล่านี้จึงเป็นเหมือนขุมทองของ Glenn อย่างแท้จริง เพราะในแต่ละปีจะมีลูกกอล์ฟตกลงไปในบ่อน้ำที่สนามกอล์ฟมากถึง 1.3-1.7 ล้านลูก     และนั่นก็ทำให้ Glenn ต้องสวมชุดดำน้ำพร้อมดำดิ่งลงไปเก็บลูกกอล์ฟในสนามตลอดทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งทำให้เขาสามารถเก็บลูกกอล์ฟได้มากถึง 3,900 ลูกต่อวันเลยทีเดียว ทางด้าน Glenn ได้ออกมาเผยว่า เขาเคยต่อสู้กับจระเข้หลายครั้งเวลาที่ต้องดำน้ำลงไปงมหาลูกกอล์ฟ     นอกจากนี้ Glenn ยังได้รับเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากที่คลิปวิดีโอของเขาถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกออนไลน์เกี่ยวกับอาชีพที่สร้างเงินจำนวนมหาศาลให้กับเขา ทั้งนี้ทางเจ้าหน้านี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า การที่ Glenn ได้ออกมาอ้างว่าอาชีพดำน้ำทำให้เขาได้กลายมหาเศรษฐีนั้นเป็นความจริงหรือไม่?…

  • 25 ภาพอุบัติเหตุทางรถยนต์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นแบบงงๆ เออ….แบบนี้ก็มีเนอะ!!

    25 ภาพอุบัติเหตุทางรถยนต์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นแบบงงๆ เออ….แบบนี้ก็มีเนอะ!!

    อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ผู้ที่เดินทางโดยใช้ยานพาหนะส่วนตัวจะต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง และมีสติทุกครั้งเมื่ออยู่บนท้องถนน แต่ทว่าในบางครั้งอุบัติเหตุก็ไม่ได้อยู่ในลักษณะที่รุนแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิต เพราะบางทีก็มาในรูปแบบแปลกๆ ชนิดที่ทำให้เราคาดไม่ถึง และวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์เดลีเมล์ก็ได้รวบรวมภาพสถานการณ์แปลกๆ ของอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนได้นำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ บอกเลยว่าแต่ละอย่างทำให้เราต้องมานั่งตั้งคำถามอีกว่ามันเกิดถึงได้อย่างไรเนี่ยยย   รถคันหนึ่งที่พุ่งออกจากกำแพงชั้นสองของอาคาร เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่มันก็เกิดไปแล้ว   อีกหนึ่งกรณีสุดแปลก ที่เราต้องสงสัยว่าเกิดขึ้นได้ไงที่มันทางลงบันไดนะแกร   แม้แต่ในเวลาสั้นๆ ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้   ที่จริงแล้วมีคนขับอีกคนติดอยู่ด้านใน แต่ทำไมเพื่อนร่วมเดินทางถึงลงมาถ่ายรูปแบบนี้ล่ะ   อุบัติเหตุที่เกิดในร้านซ่อมรถยนต์ เมื่อรถยนต์คันใหญ่ร่วมลงมาจากแม่แรงยกรถ   ขับรถยังไงล่ะเนี่ย เห็นทีต้องไปสอบใบขับขี่ใหม่ซะแล้ว   ก็ซวยกันไป   แม้จะรถจะชนแต่ก็ยังมีเวลาถ่ายรูปนะ   เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ก็ยังยิ้มได้ เมื่อสาวคนนี้เห็นถุงลมนิรภัยเลอะคราบเครื่องสำอาง   เมื่อสวรรค์ส่งมอบอาหารเช้ามาให้ในระหว่างการเดินทาง เย้ยย!! ว่าแต่มันเกิดขึ้นได้ไงเนี่ย   วิ่งอยู่บนถนนดีๆ ก็อยู่สภาพนี้ซะอย่างนั้น   สองหนุ่มที่ยังมีอารมณ์มานั่งถ่ายรูปเล่นหลังรถบรรทุกของพวกเขาพลิกคว่ำ   อุ้ย!! เจองานหนักซะแล้ว เราหวังว่าเขาคงจะมีประกันชั้นหนึ่งนะ   ขับพลาดนิดเดียวชีวิตเปลี่ยนทันที  …

  • 10 เรื่องแปลกที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!!

    10 เรื่องแปลกที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!!

    ถ้าหากว่าคุณกำลังคิดว่าบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณนั้นมันช่างดูแปลกตา และบางครั้งคุณอาจจะตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นนั้นก็ได้ว่า “นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้วกระมัง??” แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งแปลกๆ ที่คุณพบเห็นอยู่นั้นคงไม่เท่ากับ 10 อันดับของสิ่งที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต จากเว็บ brightside ที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่ๆ   1. การรักษาด้วยโคเคน เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน นั้นคุณสามารถหาซื้อเจ้ายาเสพย์ติดชนิดนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไป และนอกจากนี้บนฉลากข้างขวดนั้นยังเขียนอธบายไว้ว่า โคเคนนั้นช่วยแก้อาการไปและปวดฟัน นอกจากนี้ยังมีการใช้โคเคนเป็นยากล่อมประสาทสำหรับเด็กอีกด้วย และมีการโฆษณาถึงสรรพคุณกันอย่างมากมายในสมัยนั้น   2. ส่งเด็กน้อยผ่านทางบริการส่งจดหมาย นี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 20 ในสมัยนั้นบริการส่งเด็กผ่านทางบุรุษไปรษณีนั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และมีค่าบริการที่แสนถูก โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 4 บาทเท่านั้นเอง!!   3. กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้าน ในช่วงปี 1930 กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้านนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวของชาวอังกฤษ ถึงแม้ว่ามันจะดูอันตรายไม่น้อย แต่ว่ามันก็ช่วยให้เจ้าตัวน้อยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในระหว่างที่แม่ของพวกเขากำลังยุ่งกับการเตรียมอาหารเย็นอยู่   4. สวนของฤๅษี สวนของฤๅษีนั้นเป็นหนึ่งในรสนิยมของเศรษฐีในช่วงศตวรรษที่ 18 การมีฤาษีส่วนตัวไว้ที่บ้านเพื่อดูเล่นนั้นเป็นเหมือนความภาคภูมิใจของเศรษฐียุคนั้น และนอกจากนี้พวกฤาษีที่อาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้จะไม่ได้รับอนุญาติให้ตัดผมและเล็บ และนอกจากนี้ยังต้องอาศัยอยู่ในถ้ำที่ทางเจ้าของบ้านสร้างไว้ให้อีกด้วย   5. การรักษาโรคแบบแปลกๆ ในสมัยก่อนนั้นเราสามารถพบเห็นการรักษาโรคแบบแปลกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกรีดเลือดเพื่อเอาเชื้อโรคออก…

  • เพียงภาพเดียว.. กับเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ควร “ปล่อยโคมลอย” เพราะส่งผลเสียมากกว่าที่คิด!?

    เพียงภาพเดียว.. กับเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ควร “ปล่อยโคมลอย” เพราะส่งผลเสียมากกว่าที่คิด!?

    จริงอยู่ที่การ ‘ปล่อยโคมลอย’ จะกลายมาเป็นหนึ่งในประเพณีประจำปีของไทยเรา โดยเฉพาะในช่วงลอยกระทง ทว่าสิ่งที่มาพร้อมกับความหวังในคำอธิษฐาน กลับเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชีวิตอื่นไปซะได้!? เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2017 เว็บไซต์ Metro ได้รายงานเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ กับนกฮูกสายพันธุ์หายากตัวหนึ่งที่บินไปติดโคมลอยและกลายเป็นภาพสุดเศร้าให้เราต้องมาตระหนักถึงประเพณีการปล่อยโคมลอยกันอีกครั้ง   สภาพของนกฮูกที่เสียชีวิตเพราะบินไปติดกับโคมลอย   เรียกได้ว่าจากเหตุการณ์นี้… ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายในประเทศอังกฤษ ต้องกลับมาตั้งคำถามถึงการปล่อยโคมลอย ที่อาจนำมาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดีทางจิตใจ โดยในแต่ละปี จะมีการปล่อยโคมลอยประมาณ 200,000 ลูกในประเทศอังกฤษ ข้อมูลจากองค์กร RSPCA เผยว่า ‘โคมลอย’ ที่เป็นประเพณีดั้งเดิมจากประเทศจีน ได้สร้างผลกระทบมากมายให้แก่สิ่งแวดล้อมทั่วโลก ไม่ว่าจะกับผืนป่า หรือสัตว์ป่าก็ตาม     แล้วโคมลอยมันอันตรายยังไง? ด้วยความที่ประเพณีไทยเรามีการฝังความเชื่อเรื่องการอธิษฐานถึงสิ่งดีๆ และเชื่อว่าการปล่อยโคมจะช่วยสะเดาะเคราะห์กรรมได้ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังปล่อยไปแล้ว.. โคมลอยที่มีความร้อนสูงได้สร้างปัญหามากมายให้กับทั้งธรรมชาติ และชาวบ้านด้วยกันเอง RSPCA รายงานว่า มีสัตว์ปีกหลายชนิดที่มักจะเห็นแสงไฟบนท้องฟ้าแล้วบินเข้าหา บ้างก็คิดว่าเป็นอาหารจึงใช้ปากจิกกิน และสิ่งที่ตามมาก็คือลวดของโคมลอยมักจะไปเกี่ยวติดกับขาของสัตว์ปีกและทำให้พวกมันเสียชีวิตในที่สุด ไม่ใช่แค่กับสัตว์ปีกเท่านั้น แม้แต่สัตว์เดินดินหลายชนิดก็ต้องเผชิญปัญหานี้เช่นกัน เมื่อโคมลอยตกสู่พื้นบางครั้งไฟที่ยังมอดไม่สนิทก็อาจทำให้เกิดไฟป่าลุกลามจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ก็มีมาแล้ว นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่สารเคมีในโคมลอยตกสู่พื้นดิน คราบน้ำมันและการเผาไหม้ต่างๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างสู่ผืนดิน และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศน์อีกด้วย..!!…

  • ทำไมคนเกาะซามัว 95% ถึงเป็นโรคอ้วน บทเรียนที่ประเทศไทยควรเอามาคิดตาม..!?

    ทำไมคนเกาะซามัว 95% ถึงเป็นโรคอ้วน บทเรียนที่ประเทศไทยควรเอามาคิดตาม..!?

    ไม่น่าเชื่อว่า ‘ประเทศซามัว’ กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตโรคอ้วนที่มีประชากรเป็นมากถึง 95% เลยทีเดียว และนับว่าเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นโรคอ้วนเยอะที่สุดในโลก อีกทั้ง 1 ใน 3 ของประชากรยังป่วยเป็นเบาหวานอีก..!! และคราวนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ทำไมประชากรที่นี่ถึงต้องเผชิญกับวิกฤตโรคอ้วน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นบทเรียนที่ทำให้คนไทยเราหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น   Tavita ชาวพื้นเมืองอีกคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคอ้วน   อดีตคนขับแท็กซี่ Tavita เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขามักจะดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำวันละ 2 ลิตร ขนมหวานจุกจิก อีกทั้งยังรับประทานแต่อาหารประเภทที่มีไขมันสูง “ผมรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากๆ ตอนนี้น้ำหนักตัวมันมากเกินไป และมันก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาและลูกๆ เราก็อยากจะอยู่กับพวกเค้าไปนานๆ” Tavita กล่าว     แต่ดูเหมือนว่าปัญหา ‘โรคอ้วน’ ของชาวซามัวจะมีปัจจัยที่มากกว่าพฤติกรรมการบริโภคแบบจุกจิก เพราะข้อมูลจาก WHO พบว่า พฤติกรรมการบริโภคยังส่งผลตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบว่ากว่า 9 ใน 10 ของชาวซามัว ยังต้องต่อสู้กับโรคอ้วน และตัวเลขของผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ในแต่ละปีพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย (เบาหวานประเภท 2 ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มคนอ้วนที่ขาดการออกกำลังกาย…

  • 14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!

    14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!

    อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่เราไม่สามารถรู้ตัวได้ว่าจะถูกคนอื่นเข้ามาจู่โจมเมื่อไหร่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นที่สำคัญก็คือการป้องกันตัวเองจากอันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เราสามารถยื้อชีวิตและทรัพย์สินเอาไว้ให้อยู่กับเราไปนานๆ และนี่ก็คือ 14 เทคนิคที่ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเพื่อช่วยให้ป้องกันตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม   กำหมัดให้ถูกวิธี   อย่าปล่อยให้นิ้วโป้งโผล่ออกมาด้านข้างและอย่าไปซ่อนมันเอาไว้ข้างในเพราะมันอาจทำให้กระดูกหัวแม่มือแตกได้ ดังนั้นให้กดมันลงไประหว่างนิ้วอื่นตามในภาพ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและดีกว่าการตบหลายเท่าตัวเลย   วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเชือก   สิ่งสำคัญคือต้องพยายามสร้างช่องว่างระหว่างร่างกายกับเชือก ถ้าถูกมัดข้อมือเอาไว้ก็จงกำหมัดให้แน่นหรือถ้าถูกมัดร่างกายเอาไว้ก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้กะบังลมขยายตัว เพราะมันจะยิ่งทำให้เชือกมีการคลายตัวออกมากขึ้นจนเพิ่มโอกาสหนีของคุณได้   วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเทปกาว   ให้ยกมือขึ้นไว้เหนือศีรษะก่อนที่จะกระชากลงมาแรงๆ เพียงเท่านั้นก็จะสามารถหลุดออกมาได้และยังสามารถใช้วิธีการเดียวกันเวลาที่ถูกมัดจากด้านหลังได้อีกด้วย   จดจำจุดตายเอาไว้   ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโจมตีมักจะมีพละกำลังมากกว่าเราดังนั้นให้จดจำจุดสำคัญเอาไว้จากนั้นโจมตีเข้าไปแรงๆ และแม่นยำในครั้งเดียว แต่ต้องต่อยเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัวและป้องกันได้   ใช้แอพช่วยเรื่องความปลอดภัย   ปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟนฉะนั้นการโหลดแอพเช่น Family Locator หรือ bSafe ก็สามารถช่วยเราได้เพื่อให้คนรอบข้างรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนรวมถึงสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้พวกเขาได้   คิดโค้ดลับขึ้นมา   แน่นอนว่าเรื่องเล็กๆ แบบนี้สามารถช่วยคุณได้เยอะมากอย่างเวลาที่คนร้ายบังคับให้คุณบอกว่าไม่เป็นอะไร คุณก็อาจจะมีโค้ดลับบางอย่างเช่น “ฉันไม่เป็นอะไร” แปลว่า “ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย” เท่านี้คนใกล้ตัวก็จะสามารถเข้ามาช่วยได้ทัน หรืออยากให้เหนือกว่านั้นก็อาจมีโค้ดลับที่บอกสถานที่ที่คุณอยู่ก็ได้   ใช้สิ่งที่มีติดตัวให้เป็นประโยชน์   อย่างกระเป๋าหรือกระเป๋าเงินที่ใช้แทนโล่ได้แต่ต้องอย่าเอามาบังใกล้ตัวเดี๋ยวมีดแทงทะลุ หรือของอื่นๆ…

  • สาวจีนตาบอดกะทันหัน หลังเล่นเกมบนมือถือนานติดต่อกัน 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก!!

    สาวจีนตาบอดกะทันหัน หลังเล่นเกมบนมือถือนานติดต่อกัน 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก!!

    ไม่เพียงแต่วัยรุ่นไทยเท่านั้นที่ติดเกมกันงอมแงม เพราะวัยรุ่นที่ประเทศจีนก็ชื่นชอบการเล่นเกมไม่แพ้กันบางคนก็เสพติดหนักเล่นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดสนิท!! เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Xiao Wu (นามแฝง) หญิงชาวจีนวัย 21 ปี จากเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ติดเกมบนมือถืออย่างหนัก โดยเล่นเป็นเวลานาน 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก จนเป็นเหตุให้ดวงตาข้างขวาสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวร     จากการรายงานระบุว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Wu กำลังเล่นเกม King of Glory (เกมแนวต่อสู้ MOBA อันดับหนึ่งของจีนคล้าย ROV) ที่เธอชื่นชอบบนมือถืออยู่นั้น เธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าและหลับไป แต่ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น (2 ตุลาคม 2560)  Wu ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ ในดวงตาข้างขวา จนทำให้เธอรู้สึกตกใจหนัก และรีบเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ทันที จนในที่สุดแพทย์ก็ทำการวินิจฉัยและพบว่า Wu มีอาการเส้นเลือดแดงของจอประสาทตาอุดตัน (ส่วนใหญ่มักจะเกิดเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ) โดยเลือดไม่สามารถเข้าไปหล่อเลี้ยงจอประสาทตาได้ และอาจทำให้เธอสูญเสียการมองเห็นไปตลอด  …

  • ภัยยาเสพติด Flakka เปลี่ยนคนให้เป็นซอมบี้ ไร้สติและทำร้ายตัวเอง กำลังระบาดหนัก..!!

    ภัยยาเสพติด Flakka เปลี่ยนคนให้เป็นซอมบี้ ไร้สติและทำร้ายตัวเอง กำลังระบาดหนัก..!!

    กลายเป็นเรื่องน่าสะพรึงไปทั่วโลก หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวนิรนามจากบราซิลที่มีอาการผิดปกติคล้ายซอมบี้อันเกิดจากการใช้สารเสพติดที่เรียกว่า ‘Flakka’   คลิปวิดีโอที่ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกสะพรึงกลัวถึงภัยอันตรายของมัน…   แล้วมันคืออะไรกันแน่นะ? ‘Flakka’ (ฟลักกา) เป็นสารเสพติดในตระกูลเดียวกับพวก Bathsalt – Cathinone เนื่องจากมีลักษณะคล้ายเกลือที่ใช้สำหรับอาบน้ำ อีกทั้งยังมีความรุนแรงที่มากกว่าโคเคนและยาบ้าอยู่หลายเท่า แต่ด้วยราคาที่ถูกและหาซื้อได้ง่าย ทำให้มันกลายเป็นที่ระบาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่ผู้เสพได้รับสารดังกล่าวเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดความฮึกเหิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจเต้นแรง ขาดสติสัมปชัญญะ ขาดการตัดสินใจด้านผิดชอบชั่วดี และทำให้เรากลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นได้อย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ     ลักษณะอาการของผู้เสพฟลักกา   ย้อนกลับไปในช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปี 2016 ได้เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญขึ้นที่รัฐฟลอริด้า เมื่อ Austin Harrouff เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ได้ทดลองเสพยาดังกล่าวและเกิดอาการคุ้มคลั่ง นำมีดไปแทงสามีภรรยาเพื่อนบ้านจนเสียชีวิต..!! อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คดีนี้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็คงเป็นความสยดสยองที่นอกจาก Austin จะใช้มีดแทงเพื่อนบ้านจนตายแล้ว เขายังกัดกินและใช้ฟันแทะใบหน้าของผู้เสียชีวิตอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย แต่กว่าที่เจ้าหน้าที่จะสามารถหยุดความโหดร้ายนี้ได้ เขาต้องใช้กำลังจากนายตำรวจถึง 4 นาย และสุนัขตำรวจอีก 1 ตัว และเมื่อสอบสวนถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ Austin ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านมาก่อน โดยทั้งหมดเป็นเพียงฤทธิ์ของฟลักกา  …

  • หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา

    หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา

    เราอาจเคยได้ยินโจรหลบหนีหรือนักโทษแหกคุกด้วยวิธีที่เหลือเชื่ออย่างการใช้ช้อนขุดอุโมงค์หรือโดดลงทะเลทำนองนั้น แต่บอกเลยว่าชายคนนี้มีวิธีที่น่าหวาดเสียวมากกว่านั้นเยอะ เรื่องเกิดขึ้นในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มนิรนามท่านหนึ่งกำลังปีนสายโทรศัพท์เพื่อหลบหนีออกจากโรงแรม เพียงเพราะว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง!?   ระยะห่างยังพอไหว แต่ความสูงขนาดนี้ก็ยังกล้าอยู่อีกนะ   ด้วยความสูงเกือบ 60 เมตรหรือประมาณตึก 19 ชั้นของสายโทรศัพท์ที่เขาปีนอยู่ทำให้คนเดินผ่านไปมาต้องหยุดดูและรู้สึกหวาดเสียวไปตามๆ กัน เพราะถ้าเกิดพลาดตกลงมารับรองว่าเขาไม่รอดแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหนทางที่จะปีนข้ามไปยังอีกตึกหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ห่างตัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น คือถ้าแตะโดนปุ๊บก็จะช็อตปั๊บ ซี้แหงแก๋ในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สายโทรศัพท์เส้นไม่ใหญ่มาก ชายคนนี้จึงต้องพยายามรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้และส่ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง ทำเอาซะผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ   จังหวะไปติดอยู่ระว่างสายสองเส้น ผู้ชมข้างล่างนี่กรี๊ดกันสนั่น   และในที่สุดเขาก็สามารถข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาช่วยให้เขาเข้าตึกไปได้อย่างปลอดภัยก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมตัวเขาไปที่สถานี ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงโรงแรมที่เขาเข้าไปพักหรือค่าที่พักที่เขาต้องจ่าย แต่ถึงกับต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้เดาว่าราคามันคงจะไม่ใช่น้อยๆ หรอกเนาะ เมื่อคลิปวิดีโอการหลบหนีครั้งนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อ Weibo ของจีน ทำให้มีผู้ชมมากกว่า 7.4 ล้านคนและมีคอมเม้นท์ฮาๆ อันหนึ่งบอกว่า “ไอ้หนุ่มนี่คิดว่าถ่ายหนังแอ็คชั่นอยู่หรือไง?”   คลิปวิดีโอไอ้หนุ่ม ‘สไปเดอร์แมน’ ผู้หลบหนีค่าโรงแรม   อย่างน้อยเรื่องนี้ก็จบลงได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้งไม่มีใครต้องบาดเจ็บอะไร เพื่อนๆ เวลาไปพักที่ไหนก็อย่าลืมถามราคาค่าห้องโรงแรมก่อนด้วยนะ   ที่มา: aol

  • 12 เมนูอาหารจากทั่วโลก ที่แม้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายขนาดไหน ผู้คนก็ยังนิยมกินกันอยู่…

    12 เมนูอาหารจากทั่วโลก ที่แม้จะเป็นอันตรายต่อร่างกายขนาดไหน ผู้คนก็ยังนิยมกินกันอยู่…

    เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า? อาหารที่เรารับประทานกันเข้าไปทุกวันนั้น ในบางครั้งอาจจะมีสารพิษเจอปนอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ในขณะที่ผักหรือผลไม้บางชนิดก็มีโทษอยู่ในตัวของมันโดยธรรมชาติ งานี้ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ จึงได้รวบรวม 12 อาหารจากทั่วทุกมุมโลกที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเป็นอันตราย แต่ก็ยังคงนิยมรับประทานกันอยู่มาให้ได้ชมกัน ว่าแล้วก็มาดูเลยว่าจะมีอะไรบ้าง   12.มะเฟือง “มะเฟือง” ที่เรารู้จักนั้นดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายอะไร แถมยังดีต่อสุขภาพ เนื่องจากมันมีวิตามินซีมาก แต่ความจริงแล้วใครจะไปรู้ละว่ามะเฟืองนั้นอันตรายกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก หากรับประทานเข้าไปมาก อาจถึงตายได้ สำหรับคนที่มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟือง เนื่องจากมันมีกรดออกซาลิกสูง และอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงได้   11. Feseekh Feseekh เป็นเมนูอาหารอันโอชะของชาวอียิปต์ โดยจะปรุงกันเฉพาะในวันฉลองเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ (Sham el-Nessim) เท่านั้น สำหรับเมนูนี้จะค่อนข้างมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากเป็นเมนูที่ปรุงจากปลากระบอกที่นำไปหมัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะได้รับความนิยม แต่ทางการสาธารณสุขของอียิปต์ก็ได้ออกมาเตือนภัยจากอาหารจานนี้ เพราะถ้าหากปรุงผิดวิธีอาจจะเป็นพิษต่อร่างกายได้   10.กบแอฟริกันบูลฟร็อก สำหรับกบแอฟริกันบูลฟร็อก เรียกได้ว่าเป็นอาหารแสนอร่อย และเป็นที่นิยมของชาวแอฟริกัน รวมถึงฝั่งเอเชียในบางประเทศ ซึ่งถ้าหากนำไปปรุงสุกแล้ว อาหารจานนี้อาจจะไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่อย่างไรก็ตาม จงจำไว้นะว่าผิวหนังของมัน และอวัยวะภายในอาจจะมีพิษ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายของเราได้ ดังนั้น หากจะนำมารับประทานควรระมัดระวังกันด้วยนะจ๊ะ  …

  • รวม 14 ทริคความงามที่ไม่ควรทำตาม เพราะมันจะส่งผลร้าย ต่อร่างกายของคุณได้!!

    รวม 14 ทริคความงามที่ไม่ควรทำตาม เพราะมันจะส่งผลร้าย ต่อร่างกายของคุณได้!!

    ในปัจจุบันนี้ถ้าสาวๆ อยากหาคำตอบเรื่องความงามใดๆ ก็แค่คลิกเข้าไปถามในกูเกิลก็ได้คำตอบแล้ว ยิ่งทริคเรื่องความสวยคามงามนั้นก็มีเพียบ แต่สาวๆ รู้หรือไม่ว่าเคล็บลับความสวยบางครั้งนั้นก็เป็นอันตรายเกินไป สาวๆ ไม่ควรที่จะหลงเชื่อและทำตาม แล้วความอันตรายที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย   14. ใช้สีทาเล็บปกปิดอาการแพ้ที่ริมฝีปาก ไม่รู้ว่าวิธีนี้ใครเป็นคนคิดมา แต่ว่ามันอันตรายจริงๆ นะ สีทาเล็บมันจะยิ่งทำให้อาการแพ้ของคุณนั้นเป็นหนักขึ้น แทนที่จะใช้วิธีนี้ลองไปซื้อยาหรือไปพบแพทย์จะดีกว่านะ   13. กาวกำจัดสิวเสี้ยน คุณอาจจะคิดว่ากาวนั้นก็สามารถใช้ลอกสิวเสี้ยนได้เหมือนกันกัน แต่ในความจริงแล้วสารเคมีในกาวนั้นไม่เหมาะกับผิวเท่าไหร่ เพราะอาจจะเกิดอาการระคายเคืองได้   12. ปากอวบอิ่มด้วยการดูดแก้ว แหม่..ถ้าการดูดปากแก้วมันทำให้ปากดูอิ่มๆ ตึงๆ ได้ถาวรละก็ สาวๆ คงนั่งดูดกันทั้งวันแล้วล่ะ ดังนั้นการดูดแก้วนานนั้นมันทำให้ปากคุณช้ำได้นะ   11. ใช้สเปรย์จัดแต่งผมฉีดหน้า ว่ากันว่าฉีดเข้าไปที่ใบหน้าแล้วจะทำให้หน้าตึงและกระชับรูขุมขน แต่รับรองหลังจากที่หน้าตึงแล้วคุณจะเริ่มระคายเคืองและผื่นขึ้นแน่ๆ   10. ใช้แชมพูสำหรับม้า คนมักจะเข้าใจกันว่าการใช้แชมพูสำหรับขนม้านั้นจะทำให้ผมของมนุษย์นั้นนุ่มแล้วเงางาม แต่ส่วนผสมในแชมพูของม้านั้นช่างไม่เหมาะกับสภาพเส้นผมของคนเอาซะเลย เพราะมันจะทำให้ผมของคุณเปราะบางกว่าเดิมเอาได้   9. มันฝรั่งดิบกับผิวมัน แม้ว่ามันฝรั่งนั้นก็ช่วยรักษาอาการขอบตาคล้ำได้ แต่มันไม่เหมาะที่จะนำไปใส่ผิวของคุณ ยิ่งถ้าเป็นสาวผิวมันก็จะเป็นการไปกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น   8. น้ำมะนาวกำจัดสิวและรอยแดง น้ำมะนาวที่เป็นกรดจะทำให้ผิวของคุณไวต่อแดดยิ่งขึ้น ดังนั้นควรหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกว่านี้ดีกว่า  …

  • ท้าความตายกับ 10 ถนนหนทางที่อันตรายที่สุดในโลก มองไกลๆ ยังหวาดเสียว

    ท้าความตายกับ 10 ถนนหนทางที่อันตรายที่สุดในโลก มองไกลๆ ยังหวาดเสียว

    สำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทุกวัน อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้ว่าคุณขับรถดีแล้ว ก็ต้องสังเกตรถคนอื่นด้วย และถึงแม้ว่าคันอื่นจะขับกันดีแล้ว อย่าลืมที่จะดูเรื่องถนนด้วย เพราะบางทีเส้นทางที่เราใช้มันก็อาจไม่สะดวกสบายอย่างที่เราคิด เพราะ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 10 ถนนที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในโลก บอกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ยอมจ่ายเงินนั่งเครื่องบินเดินทางไป อาจดีกว่ากันเยอะเลยนะ   ถนนไฮเวย์เสฉวน – ทิเบต ในประเทศจีน   ถนนเส้นนี้จะพาคุณขึ้นไปบนภูเขาสูงและลาดชัน อีกทั้งยังมีปัญหาดินและหินถล่มลงมาเป็นเรื่องปกติ และหากคุณคิดว่าก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ จากสถิติพบว่า 1 แสนคนที่ขับรถผ่านทางนี้ จะมีคนตาย 7,500 คน ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย   ถนนตัดผ่าน Stelvio ในอิตาลี   ถนนที่มีความยาวและสูงเป็นอันดับสองในบรรดาถนนบนเทือกเขาแอลป์ทั้งหมด ซึ่งสูงกว่า 2 กิโลเมตร รูปร่างเหมือนกับเด็กมาวาดอะไรเล่นขยึกขยือเต็มไปหมด ความอันตรายของมันก็คือความเร็วขณะที่ต้องขับลงมา ทางโค้งในมุม 180 องศา และที่กั้นคอนกรีตเตี้ยๆ รวมแล้วคือหายนะชัดๆ   ถนนตัดผ่าน Los Caracoles ประเทศชิลี .   เป็นถนนตัดผ่านเทือกเขาแอนดีส อยู่ระหว่างประเทศชิลีและอาร์เจนตินา เต็มไปด้วยทางสูงชันและโค้งหักศอกมากมาย…

  • นี่คือภาพที่จะมาช่วยอธิบายว่า “ทำไมผู้หญิงถึงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย”แล้วคุณจะไม่แปลกใจเลย

    นี่คือภาพที่จะมาช่วยอธิบายว่า “ทำไมผู้หญิงถึงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย”แล้วคุณจะไม่แปลกใจเลย

    เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยภาพที่แสดงให้เห็นว่า…ผู้ชายมักจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็เป็นเหตุผลที่สามารถช่วยอธิบายได้ว่า “ทำไมผู้หญิงถึงมีค่าเฉลี่ยอายุยืนกว่าผู้ชาย” จริงอยู่ที่การใช้ชีวิตในแต่ละวัน อาจจะต้องได้พบกับความเสี่ยงกันบ้าง แต่ในบางครั้งความเสี่ยงเหล่านั้นมันก็ไม่ได้เข้ามาหาเราอยู่เพียงฝ่ายเดียว เพราะคนเรานี่แหละที่มักจะเอาตัวเอาไปเสี่ยงอันตรายโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็น แต่เราก็เข้าใจนะว่าในบางครั้งสถานการณ์มันก็พาไปเอง อย่างเช่น ผู้ชายบางคนอาจจะมีอาชีพการงานที่ต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่แสนอันตราย แถมยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกด้วย   และนี่ก็เป็นภาพตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทำไมผู้หญิงถึงมีอายุยืนกว่าผู้ชาย   พวกเขาชอบทำอะไรที่ท้าทาย และทำงานที่เสี่ยงอันตรายอยู่ตลอด   ขับรถก็ไม่สวมหมวกนิรภัย แต่ใช้ถังขนาดเล็กแทน เอิบ!!   การทำงานที่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยง   อย่างน้อยก็ขอให้ผมของเขาปลอดภัยก็แล้วกัน   มันอันตรายมากนะรู้ไหม   หวังว่าเขาคงจะไม่ถูกไฟดูดนะ   ชอบทำอะไรห่ามๆ อยู่เรื่อย   บางครั้งผู้ชายก็มักจะคำนึงถึงความปลอดภัยของคนอื่นยกเว้นตัวเอง   ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมว่า “ทำไมผู้หญิงถึงมีค่าเฉลี่ยอายุยืนกว่าผู้ชาย” ฮร่าๆ ที่มา : dailymail

  • น่าสงสาร… เหล่าแมวน้ำตะเกียกตะกาย แห่กระโดดลงจากหน้าผา เพราะนักท่องเที่ยวทำให้ตกใจ

    น่าสงสาร… เหล่าแมวน้ำตะเกียกตะกาย แห่กระโดดลงจากหน้าผา เพราะนักท่องเที่ยวทำให้ตกใจ

    ปัจจุบันแมวน้ำนั้นกลายเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความน่ารักอุ๋งๆ ของมันเลยทำให้ผู้คนสนใจอยากจะไปชมพวกมันตัวเป็นๆ แต่ทว่าตามสัญชาตญาณของพวกมัน พวกมันรู้สึกกลัวมนุษย์มากเกินกว่าที่เราจะรับรู้ได้ ล่าสุดได้มีการแพร่ภาพเหตุการณ์ที่เหล่าแมวน้ำจำนวนมาก พยายามกระดึ๊บๆ หนีนักท่องเที่ยวจากบนบกเพื่อลงทะเล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกจับภาพได้ที่ St Mary’s Island ทางตอนเหนือของเมือง Whitley Bay ณ ประเทศอังกฤษ     ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก St. Mary’s Seal Watch ซึ่งพวกเขาก็ได้ร้องขอความเห็นใจและขอให้ทุกคนหยุดรบกวนพวกมัน เพราะทุกครั้งที่มีนักท่องเที่ยวพยายามเข้าไปใกล้พวกมัน เจ้าแมวน้ำทั้งฝูงก็จะรู้สึกตกใจและพากันวิ่งหนีจนเป็นเหตุทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บ     แน่นอนว่าเมื่อพวกมันเริ่มวิ่งหนี มันก็จะไม่สนวิธีการและพยายามเอาตัวรอดแม้จะเป็นหน้าผาก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ภาพที่เห็นนั้นอาจจะดูน่ารักน่าชัง… แต่ตอนที่พวกมันพยายามหนีและตกลงมา พวกมันย่อมได้รับบาดเจ็บรวมถึงบาดแผล ซึ่งมันส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่พวกมัน ฉะนั้นจึงขอร้องให้หยุดรบกวนแมวน้ำทั้งหลายเสียที   ภาพที่พวกมันตกลงมากระทบกับพื้น เป็นภาพที่ดูแล้วสงสารมากๆ   พวกมันไม่รู้ว่าคนที่มาเป็นมิตรหรือศัตรู และด้วยความตกใจพวกมันก็พร้อมจะหนีแม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม   พวกเขายังได้แนะนำอีกว่า ถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะเยี่ยมชมเหล่าแมวน้ำตามธรรมชาติจริงๆ พยายามอย่าเผยตัวให้เห็นทั้งหมดหรือยืนในที่เปิดกว้าง รวมถึงส่งเสียงให้น้อยที่สุด เพราะแมวน้ำเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ   เห็นแล้วอยากจะบอกให้มันระวังเหลือเกิน ว่าตรงนั้นมันสูงเอาเรื่องเลยนะ   แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอตกลงไปมันอาจจะโดนหินบาดก็ได้นะ   และสุดท้ายยิ่งมนุษย์เข้าไปรบกวนแมวน้ำบ่อยๆ…

  • สื่อญี่ปุ่นนำเสนอข่าว “สายไฟในกทม.” ที่ยุ่งเหยิงจนชาวญี่ปุ่นงง แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ??

    สื่อญี่ปุ่นนำเสนอข่าว “สายไฟในกทม.” ที่ยุ่งเหยิงจนชาวญี่ปุ่นงง แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ??

    นอกจากรอยยิ้มและธรรมชาติที่แสนสวยงามของประเทศไทยแล้ว ยังมีอีกหลายๆ สิ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติต้องตกตะลึงของความอัศจรรย์ในบ้านเมืองนี้ และหนึ่งในสิ่งเหล่านั้นก็คือสายไฟนั่นเอง!! สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วความยุ่งเหยิงของสายไฟในเมืองหลวงบ้านเรานั้น ก็ทำเอาพวกเขาถึงกับโต๊กกะใจถึงขั้นที่ทางสถานีข่าวจากแดนปลาดิบต้องลงมาทำสกู๊ปกันถึงที่เลยทีเดียว   นักข่าวจากสถานี ANN กำลังรายงานเกี่ยวกับสายไฟในบ้านเรา   ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ทางสถานีได้ส่งนักข่าวภาคสนามไปสำรวจสายไฟในย่านที่คนญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือถนนอโศกมนตรี นั่นเอง และเมื่อนักข่าวภาคสนามไปถึง เขาก็ต้องตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ของสายไฟ สายโทรศัพท์ และอีกสารพัดสายที่ห้อยโตงเตงอยู่บนเสาไฟฟ้าในถนนสายนี้ ที่เรียกได้ว่าต้องยอมใจคนทำเลยจริงๆ เพราะมันยุ่งยิ่งกว่าสายหูฟังที่ยัดเอาไว้ในกระเป๋าซะอีก!!     และนี่คือสภาพของสายไฟในย่านนี้   นอกจากนี้นักข่าวยังได้สัมภาษณ์ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณอีกด้วย หญิงสาวคนหนึ่งบอกว่าเธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและรู้สึกว่าสายไฟที่ยุ่งเหยิงนี้ดูไม่ค่อยสะอาดตาเอาเสียเลย นอกจากความยุ่งแล้ว ยังพบว่าบางเส้นยังมีท่อนไม้และรังนกพาดอยู่บนนั้นอีกด้วย และบางครั้งพวกเขาก็พบสายไฟที่ถูกตัดห้อนลงมาจากเสาไฟฟ้าเช่นกัน   เปลื่อยๆ แบบนี้ น่าหวาดเสียวจริงๆ   แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือในการที่จะนำสายไฟเหล่านี้ลงไปยังใต้ดินเพื่อให้ดูสะอาดตาและปลอดภัยกับผู้คนมายิ่งขึ้น ประชาชนกรุงเทพท่านหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าหากสายไฟเหล่านี้ถูกย้ายลงไปใต้ดินได้แล้วเสร็จจริงๆ ก็คงจะดูสะอาดตาและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น   ไปชมสกู๊ปนี้เต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   อื่ม… ดูอันตรายจริงๆ ด้วยนะเนี่ย ส่วนเพื่อนๆ คนไหนมีความคิดเห็นกันอย่างไรก็ลองคอมเมนต์เข้ามาได้เลยนะ!! ที่มา ANNnewsCH

  • เด็กน้อยตะโกน “เอาสกู๊ตเตอร์มา” พร้อมกำมีดขู่กลุ่มวัยรุ่นที่โตกว่า พฤติกรรมก้าวร้าวหวังปล้น…

    เด็กน้อยตะโกน “เอาสกู๊ตเตอร์มา” พร้อมกำมีดขู่กลุ่มวัยรุ่นที่โตกว่า พฤติกรรมก้าวร้าวหวังปล้น…

    ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือความเหมาะสมความเป็นเหตุเป็นผลและวิธีการที่จะแสดงมันออกมา ที่แน่นอนว่าอย่างน้อยๆ ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอย่าให้ต้องเหมือนกับเขาคนนี้     คลิปวิดีโอของเด็กที่ดูแล้วอายุไม่มากนักในสภาพเปลือยท่อนบนในมือกำมีดที่ยาวเกือบเท่าต้นแขนไว้แน่น ตะโกนออกไปว่า “เอาสกู๊ตเตอร์มา” เพื่อขู่เด็กวัยรุ่นที่โตกว่าหวังจะแย่งเอาสกู๊ตเตอร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในมณฑลเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เมื่อเหล่าวัยรุ่นเจอท่าทีอย่างนั้นเข้าไป ก็พากันหัวเราะและพูดออกไปโดยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด ในขณะที่เด็กคนนั้นก็ยังคงตะโกนกลับมาในประโยคเดิม จนเมื่อวัยรุ่นที่กำลังถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้พูดออกมาว่า “ไม่!! ไปไกลๆ เลย สิ่งที่เอ็งทำอยู่ตอนนี้ มันจะทำให้คนอื่นเขาต้องเจ็บตัวกันเปล่าๆ” หลังจากนั้นเด็กที่ถือมีดก็ตะโกนใส่กล้องก่อนที่จะวิ่งหนีออกไป ในขณะที่คนถ่ายก็ยังพูดไล่และบอกให้ไปหาซื้อเสื้อมาใส่ซะ…     สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทางเว็บไซต์ข่าว DailyMailOnline ได้ทำการสัมภาษณ์โฆษกของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นเพิ่มเติม โดยทราบเรื่องว่าเกิดเหตุดังกล่าวในวันที่ 20 สิงหาคม เวลาประมาณ 14.20 น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็ได้ออกไปให้คำแนะนำกับเด็กและผู้ปกครองทุกคน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้อีก แต่ก็เชื่อว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้ออกจากบริเวณดังกล่าวไปกันหมดแล้ว     ส่วนสาเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจมาได้จากหลายสาเหตุ แต่การเริ่มต้นที่ดีและง่ายที่สุด ก็ต้องเริ่มมาจากคนที่ใกล้ตัวที่สุดอย่างพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ที่ควรให้คำแนะนำและดูแลสอดส่องบุตรหลานอย่างใกล้ชิดด้วย ที่มา: thesun, dailymail

  • เมื่อฝรั่งที่อยู่ไทย 3 ปี เขียนถึงด้านมืดของเมืองไทย “ทำไมคุณไม่ควรไปเที่ยวเกาะเต่าเด็ดขาด?”

    เมื่อฝรั่งที่อยู่ไทย 3 ปี เขียนถึงด้านมืดของเมืองไทย “ทำไมคุณไม่ควรไปเที่ยวเกาะเต่าเด็ดขาด?”

    เกาะเต่าถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย แต่ภายในความงามนั้นที่ผ่านมาจะเห็นข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเสียชีิวิตที่นี่หลายต่อหลายราย ซึ่งแต่ละคดีนั้นก็มักจะมีอะไรที่ดูไม่ชอบมาพากลในสายตาคนต่างชาติและคนไทยเช่นกัน ล่าสุดสื่อต่างชาติอย่าง The Independent ของทางอังกฤษ ถึงกับเขียนข่าวเกี่ยวกับด้านมืดของเมืองไทย ที่ว่าทำไมคุณถึงไม่ควรไปเที่ยวเกาะเต่าเด็ดขาด…โดยมีเนื้อหาดังนี้ “อเมซ่ิ่ง ไทยแลนด์” เป็นคำขวัญของไทยที่ต่างชาติอาจจะรู้จักดี แต่ในขณะที่ประเทศไทยที่น่าสนใจในหลายๆ ด้าน มีเกาะที่สวยงามน่าหลงใหล แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีด้านมืดที่แฝงอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้     คนเขียนเล่าว่า.. ในช่วงหลายปีที่ผมอาศัยอยู่ในสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เรือ และรสบัส มีเรื่องการหลอกลวง การชิงทรัพย์ การจมน้ำ และการเสียชีวิตที่มักจะเต็มไปด้วยเงื่อนงำ หนึ่งในเหยื่อของการฆาตกรรมเหล่านี้คือเยาวชนชาวอังกฤษ Hannah Witheridge และ David Miller ทั้งคู่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณบนเกาะเต่าในปี 2014 ในช่วงที่เกิดเหตุ มีนักข่าวต่างประเทศมาสัมภาษณ์ผม เพื่อที่จะรวบรวมคำให้การของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยู่บนเกาะแห่งนี้     สำหรับผมแล้ว เกาะเต่าเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่น่าหลงใหล จนกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 2,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำงานในศูนย์ดำน้ำ ร้านอาหาร และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ทางด้านเจ้าของกิจการทั้งหลายกลับกลัวที่จะพูดความจริง เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายหากคำพูดของพวกเขาถูกนักข่าวบันทึกและนำไปเผยแพร่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาบอกว่าในเกาะเล็กๆ…

  • สุนัขพลัดตกจากรถ ติดอยู่ใต้เนินทางด่วนสุดอันตราย ชายเร่ร่อนจึงอาสาปีนพามันกลับมา…

    สุนัขพลัดตกจากรถ ติดอยู่ใต้เนินทางด่วนสุดอันตราย ชายเร่ร่อนจึงอาสาปีนพามันกลับมา…

    สิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นร่างกายมนุษย์นั้นไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เป็นรูปธรรมอย่างแขน ขา หรืออวัยวะภายในต่างๆ หากแต่ประกอบไปด้วยนามธรรมอย่างนิสัยใจคอความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ชายคนนี้อาจดูไม่ต่างกับคนทั่วไป แต่มีจิตใจที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจไปกับสิ่งที่เขาได้ทำ ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2017 สุนัขชื่อ Hunter ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าของบนทางด่วนในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ด้วยความตื่นเต้นของมัน ก็ดันกระโดดออกจากหน้าต่างรถที่เปิดเอาไว้ ถึงจะโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่จุดที่มันลงไปนั้นถือว่าอันตรายอย่างมาก   .   มันตกไปอยู่บนหน้าผาทีสูงชัน โดยมีเพียงไม้เลื้อยที่รั้งมันไว้ไม่ให้ตกลงไปอย่างน่าหวาดเสียว ตำรวจวอชิงตันก็รีบมาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมกับนักดับเพลิงในท้องถิ่น เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเวลามีความสำคัญอย่างมาก แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ Brooke Bova ก็ได้เล่าว่า มีหนุ่มเร่ร่อนคนหนึ่งได้เข้ามาบอกว่าเขาอาศัยอยู่ใต้ทางด่วน จึงรู้ทางเนินนั้นเป็นอย่างดีและสามารถที่จะช่วยเจ้าสุนับลงมาได้ การอาสาของคนๆนั้นมันทำให้รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ     จากการยอมเสี่ยงชีวิตของชายคนนี้จึงสามารถช่วยเจ้าสุนัขลงมาได้อย่างปลอดภัย ถึงมันจะดูยังคงผวาอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เมื่อได้เจอเจ้าของมันก็กลับมาโอเคได้อีกครั้ง     “ที่ผ่านมาฉันคิดว่า เหล่าคนเร่ร่อนจะคอยหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่รัฐ และดำเนินชีวิตไปตามทางของตัวเองแค่นั้น แต่การอาสาของชายคนนี้มันช่างซาบซึ้ง และประทับใจเป็นอย่างมาก มันคือการกู้ความศรัทธาของความเป็นมนุษย์ให้คืนกลับมา” เจ้าของ Hunter ได้พูดไว้     ถึงแม้หนุ่มจิตใจดีที่เมื่อเสร็จภารกิจเขาก็ได้จากไปโดยไม่ทิ้งข้อมูลอะไรไว้ให้เลย เพียงแต่การกระทำของเขาจะเป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในใจให้เราถึงความห่วงใยของเพื่อนมนุษย์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมโลก นี่คือบทเรียนสำหรับการเปิดกระจกให้สุนัขได้ยื่นหน้าออกมา แต่ถ้าอยากให้ปลอดภัยก็เปิดนิดเดียวพอให้ได้รับลมก็พอแล้วล่ะ…

  • 24 ภาพทำให้เราคิดได้ว่าสมควรแล้วที่ผู้ชาย “อายุไม่ยืน” ได้เท่าผู้หญิงเลย!!

    24 ภาพทำให้เราคิดได้ว่าสมควรแล้วที่ผู้ชาย “อายุไม่ยืน” ได้เท่าผู้หญิงเลย!!

    การแก่ตายไม่ใช่สาเหตุเดียวของการเสียชีวิตในโลกของเรา อาจเกิดได้จากโรคภัยไข้เจ็บ ถูกฆาตรกรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมห่ามๆ ของเราเอง ภาพเหล่านี้ทำให้สงสัยว่า “เฮ้ย!! คิดอะไรอยู่กันวะเนี่ย?!” กับเหล่าชายที่สรรหาทุกวิถีทางให้ตัวเองเสี่ยงตายซะอย่างนั้น คงไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงจะมีอายุได้ยืนยาวกว่า   ลูกชายผมแม่นมั้ยล่ะครับคุณพยาบาล   ก่อนมาติดรณรงค์ ก็เอากลับบ้านไปท่องซักสองพันครั้งเถอะนะครับ   เข้าใจเลือกที่เล่นกันจริงจริ๊งงง   ลั่นทีนี่คราวหลังเข้าห้องน้ำใช้เวลาน้อยลงเยอะ พรวดเดียวจบ   มีอะไรตกใส่นี่รับรองว่า ผมไม่เสียทรงแน่นอน   สบายๆ อย่าเป็นกังวลไป มีเชือกฟางขึงไว้อยู่   กายกรรมเปียงยางก็คงฝึกกันอย่างนี้สินะ   ยังไงก็ระวังขวดฟ็อกกี้ร่วงไปข้างล่างด้วยนะครับ   ถ้าบ้านมันสั่น ภาพนี้จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมทันที   อยากเห็นตอนหยุดรถจริงๆ   ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมติดตั้งสายดินแล้ว   เห็นแล้วอยากจะบริจาคบันไดให้จังเลย   ยังดีที่ข้างล่างยังเป็นน้ำอ่านะ   บอกผมทีว่าบนไฟหน้านั่นไม่ใช่หมวกกันน็อค   ใส่เพื่อป้องกันเรื่องกลิ่นอย่างเดียวใช่มั้ยเอ่ย   เอาจริงนะ ลงทุนกันหน่อยเถอะครับ   เด็กที่ยืนดูนี่ก็กินติมชิลเลยนะ ไม่คิดจะห้ามเพื่อนหน่อยเหรอเฮ้ย !!  …

  • กัปตันฮีโร่ พาเครื่องโดนลูกเห็บชนกระจกร้าวลงจอดได้ พร้อมคลิปจากห้องคนขับ ราวกับหนังฮอลลีวู้ด!!

    กัปตันฮีโร่ พาเครื่องโดนลูกเห็บชนกระจกร้าวลงจอดได้ พร้อมคลิปจากห้องคนขับ ราวกับหนังฮอลลีวู้ด!!

    ภัยพิบัติต่างๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จนในบางครั้งทำให้การใช้ชีวิตปกติของเราเป็นไปได้อย่างยากลำบากจนประสบอุบัติเหตุได้อย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อกัปตัน Alexander Akopov จะต้องพาผู้โดยสารบนเครื่องบินจำนวนถึง 127 คนรวมลูกเรือ ลงจอดในสนามบิน Istanbul’s Ataturk Airport ซึ่งมันคงจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามากหากว่าเครื่องบินลำนี้ไม่ได้รับความเสียหายจากพายุลูกเห็บจนทำให้ต้องสูญเสียการมองเห็น     พายุที่เกิดขึ้นในช่วง 20 นาทีนั้นรุนแรงพอที่จะทำให้เมืองด้านล่างการจราจรติดขัด และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน จนต้องทำให้เหล่ากู้ภัยกว่า 7,000 คนต้องออกไปทำงานอย่างหนักกับต้นไม้ที่โค่นลงมาถึง 230 ต้นทำลายไปอีก 90 หลังคาเรือน จากการที่เครื่องบอกสภาพอากาศนั้นไม่ได้แจ้งเตือนใด จึงทำให้กัปตันและผู้ช่วยไม่ได้รับรู้กับสิ่งที่จะต้องเจอ โดยลูกเห็บที่พุ่งเข้ามาชนนั้นมีขนาดประมาณไข่ไก่ แต่กลับหนาแน่นมาจนทำให้ส่วนหน้าและกระจกเครื่องบินได้รับความเสียหาย ลูกเห็บนั้นก็ทำให้ระบบการมองเห็นข้างหน้าโดยรอบนั้นสูญเสียไป กระจกในห้องคนขับที่แตกยับเยินไปหมด พร้อมกับสูญเสียระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติไปเสียอีก จึงมีหนทางเดียวที่ทำได้คือการลงจอดฉุกเฉินโดยให้กัปตันควบคุมด้วยตนเอง   ต้องลงจอดด้วยตนเอง ทั้งๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นด้านหน้าได้   ในขณะนั้นคงเปรียบได้กับสถานการณ์ในหนังฮอลลีวู้ดที่เราเคยเห็น เมื่อผู้คนเริ่มแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น พากันร้องไห้หรือตระหนกกับการที่จะเสี่ยงโหม่งโลก และมีกัปตันคนขับเครื่องบินคือที่เป็นความหวังเดียวของพวกเขา หลังจากลงจอดได้อย่างปลอดภัย มีผู้บาดเจ็บไม่ถึง 10 คนโดยสองคนในนั้นมีอาการสาหัส แต่ก็ไม่มีใครเสียชีวิต กัปตันได้ออกมาพูดว่าเขาและลูกเรือนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากจนเหมือนกับได้เกิดขึ้นมาใหม่บนโลกนี้อีกครั้งเลยทีเดียว     ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วอึดใจ ทุกคนสามารถรอดชีวิตมาได้จากพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง แม้พายุจะดับความหวังของทุกคนไป แต่สุดท้ายความหวังก็จุดติดขึ้นมาใหม่จากประสบการณ์ของผู้ขับเครื่องบินที่กลายเป็นฮีโร่ของคนกว่าร้อยคนในชั่วพริบตา…

  • 10 อันดับ ‘แหล่งน้ำทางธรรมชาติ’ ที่แฝงเบื้องลึกดำดิ่ง เต็มไปด้วยภัยอันตรายมากที่สุดในโลก…

    10 อันดับ ‘แหล่งน้ำทางธรรมชาติ’ ที่แฝงเบื้องลึกดำดิ่ง เต็มไปด้วยภัยอันตรายมากที่สุดในโลก…

    สำหรับเพื่อนๆ หลายคนแล้วการได้ไปท่องเที่ยวตามแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ก็คงเป็นความสนุกที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยล่ะ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ได้มารู้จักกับแหล่งน้ำเหล่านี้แล้ว ขอบอกเลยว่าแม้จะไปเยือนก็คงได้แค่ยืนมองอย่างเดียว ไม่กล้าลงไปเล่นน้ำเลยทีเดียว และนี่ก็คือแหล่งน้ำที่อันตรายมากที่สุดในโลก จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Brightside แต่ละที่จะมีความน่ากลัวขนาดไหน ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า….   10. Great Blue Hole ในประเทศเบลีซ   กระแสน้ำจะทำให้ Great Blue Hole กลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดยักษ์ที่ดูดทุกอย่างบนผิวน้ำลงไปสู่ก้นหลุมที่มีความลึกมากกว่า 124 เมตรเลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงก็จะทำให้แนวหินที่อยู่รอบๆ ทำให้น้ำตื้นลงจนเรือไม่สามารถออกไปได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวก็ยังอยากไปเที่ยวชมสถานที่นี้ด้วยตาตัวเอง นั่นเป็นเพราะนักดำน้ำชื่อดังอย่าง Jacques Cousteau ได้บอกเอาไว้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกอีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้   9. Jacob’s Well รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา   บ่อน้ำธรรมชาติที่มีความลึกประมาณ 10 เมตรนี้ เป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ เพราะข้างใต้นี้มีเส้นทางมากมายให้ดำลงไปสำรวจ แต่เส้นทางเหล่านั้นไม่มีทางออก จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 300 รายด้วยกัน   8. ทะเลสาบ Michigan ในประเทศสหรัฐอเมริกา   ทะเลสาบ…

  • แพทย์ตะลึงทะลุเบ้า หลังพบคอนแทคเลนส์กว่า 27 ชิ้น ติดอยู่ในดวงตาของหญิงสูงวัย!!

    แพทย์ตะลึงทะลุเบ้า หลังพบคอนแทคเลนส์กว่า 27 ชิ้น ติดอยู่ในดวงตาของหญิงสูงวัย!!

    เรียกได้ว่ากลายเป็นเรื่องราวที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับอึ้งไปตามๆ หลังผู้ป่วยสูงอายุรายหนึ่งรู้สึกตาแห้ง และมองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัด งานนี้ เลยทำให้เธอรีบไปให้แพทย์ทำการตรวจสอบ และพบว่ามีคอนแทคเลนส์มากถึง 27 ชิ้นอยู่ภายในดวงตาของเธอ โอ้วววว จะเยอะเกินไปแล้ว!! เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 โดย Rupal Morjaria ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาถึงกับช็อคหนัก เมื่อทราบว่าผู้ป่วยสูงวัยอายุ 67 รายหนึ่ง มีคอนแทคเลนส์อยู่ภายในดวงตามากถึง 27 ชิ้น     จากการรายงานระบุว่า หญิงสูงวัยคนดังกล่าว รู้สึกระคายเคืองที่ดวงตา และมีอาการตาแห้ง ดังนั้น เธอจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลในเมือง Solihull เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าตัดต้อกระจก “มันเป็นก้อนมวลที่มีขนาดใหญ่มาก เป็นคอนแทคเลนส์ทั้ง 17 ชิ้นอยู่ติดกันภายในดวงตา เรารู้สึกประหลาดใจมากๆ ที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกและไม่เคยสังเกตเลย” Rupal Morjaria ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยากล่าว แต่ภายหลังจากที่แพทย์ได้ตรวจสอบก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติเกาะอยู่ภายในตาของเธอ โดยในครั้งแรกได้ค้นพบคอนแทคเลนส์จำนวน 17 ชิ้น ก่อนจะตรวจพบอีกครั้งว่ายังมีเลนส์หลงเหลืออีก 10 ชิ้นติดอยู่ภายในดวงตา!!     อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ออกมาเผยว่า การผ่าตัดต้อกระจกของผู้ป่วยรายนี้ ต้องถูกเลื่อนออกไป…

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ พ่อจับลูกยื่นออกไปนอกหน้าต่าง ที่ทำไปเพียงเพราะอยากได้ 1,000 ไลค์!!

    ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ พ่อจับลูกยื่นออกไปนอกหน้าต่าง ที่ทำไปเพียงเพราะอยากได้ 1,000 ไลค์!!

    คุณพ่อลูกอ่อนชาวแอลจีเรียจับลูกชายตัวน้อยของตัวเองยื่นออกไปนอกระเบียงห้องที่อยู่บนชั้น 15 แล้วก็ถ่ายคลิปมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ค เพราะอยากได้จำนวนยอดไลค์จากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ค 1,000 ไลค์ เจ้าหนูน้อยผู้โชคร้ายถูกคุณพ่อใจร้ายใช้มือจับคอเสื้อยื่นออกไปนอกระเบียงห้องที่อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 45 เมตร พร้อมกับถูกถ่ายคลิปวิดีโอมาลงเฟซบุ๊คด้วยแคปชั่นว่า “ขอ 1,000 ไลค์ ไม่เช่นนั้นผมจะปล่อยเขาให้ตกลงไป”     แต่แทนที่จะได้รับยอดไลค์ดังที่หวังเอาไว้ กลับกลายเป็นว่าเขาถูกดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมเด็ก และถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี!! จากการให้การในชั้นศาลที่เมือง Bab Ezzouar คุณพ่อใจร้ายบอกว่าเราคิดว่าการทำเรื่องหวาดเสียวนั้นมักจะได้ยอดไลค์ในเฟซบุ๊คมากเป็นพิเศษ… ทางด้านนักกิจกรรมด้านสื่ออย่าง Dalila Belkheir ก็ได้ออกมาบอกว่าชายคนนั้นไม่มีความเป็นพ่อคน แต่เป็นอาชญากร “เขาควรจะถูกจับและดำเนินคดีอย่างร้ายแรงที่สุด”   แน่นอนว่าเหล่าชาวเน็ตพอได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วต่างก็ไม่พอใจอย่างแรง แสดงความคิดเห็นด่าคุณพ่อใจร้ายกันแบบรัวๆ   “โอ้พระเจ้า นี่ฉันเพิ่งจะอ่านอะไรไปเนี่ย เด็กน้อยคนนึงที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ทำไมเขาถึงต้องถูกจับออกไปห้อยอยู่นอกระเบียงบนตึกที่สูงขนาดนั้นด้วย? คนที่ทำแบบนั้นเป็นคนที่เขาควรจะไว้ใจมากที่สุดในโลกอย่าง ‘พ่อ’ ของตัวเองเนี่ยนะ? ต่อจากนี้ไปเด็กคนนี้ไม่ควรถูกปล่อยไว้ให้อยู่กับพ่อตามลำพังอีกต่อไปแล้วล่ะ”   “ลองให้เขากระโดดลงมาจากหน้าต่างดูสิ อาจจะได้ซัก 2,000 ไลค์ก็ได้นะ อ้าวไม่เหรอ ทำไมล่ะ??”   “เขาไม่สมควรที่จะมีลูกเลย”   “เอาเด็กคนนั้นอยู่ให้ห่างจากชายผู้ล้มเหลวคนเดี๋ยวนี้เลยนะ”   แล้วเพื่อนๆ…

  • หนุ่มเมาเหล้าเดินกลับบ้าน โดนฝูงหมาจรจัดที่ให้อาหารมาตลอด 2 ปี รุมทำร้ายจนเสียชีวิต…

    หนุ่มเมาเหล้าเดินกลับบ้าน โดนฝูงหมาจรจัดที่ให้อาหารมาตลอด 2 ปี รุมทำร้ายจนเสียชีวิต…

    [**คำเตือน : บทความนี้อาจมีเนื้อหาหรือภาพที่รุนแรง ฉะนั้นก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านก็ขอให้คิดดูดีๆ นะครับ ]   ชายหนุ่มเมากำลังเดินกลับบ้าน โดนกลุ่มหมาจรจัดรุมทำร้ายจนเสียชีวิต…   เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายเอาไว้โดยกล้องวงจรปิดที่อยู่ในเมือง Sovetsky ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเขตปกครองตนเอง Khanty-Mansi Okrug ของประเทศรัสเซีย ชายหนุ่มผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อและอายุ ซึ่งในอดีตนั้นเขาเคยทำงานเป็นหน่วยรักาษความปลอดภัย และมักจะนำอาหารมาให้เหล่าหมาจรจัดกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ดูเหมือนว่าเมื่อไม่มีอาหาร ความสัมพันธ์ของเขาและกลุ่มหมาจรจัดก็ดูจะหมดค่าไปในทันที เพราะเมื่อวันเกิดเหตุเขากำลังเดินกลับบ้านหลังจากไปดื่มสังสรรค์มา และต้องผ่านกลุ่มหมาจรจัดกลุ่มนี้     จากวิดีโอบันทึกภาพก็พบว่ากลุ่มหมาจรจัดราวๆ 10 ตัวเดินเข้ามาล้อมรอบเขา ก่อนที่จะเริ่มเข้าจู่โจมจนทำให้ชายหนุ่มล้มลงไป ทำให้หมาตัวอื่นๆ กรูกันเข้ามาทำร้าย ในขณะที่เขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และด้วยแรงของหมานับ 10 ตัว ที่กรูกันเข้ามาทำร้ายทำให้เขาล้มลงไปอีกครั้ง และชายหนุ่มก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ดูเหมือนจะหมดแรงและนอนแน่นิ่งไป จากรายงานของเจ้าหน้าที่พบว่าเขาเสียชีวิตหลังจากที่หมาตัวแรกเข้ามาจู่โจมประมาณ 2 นาที เท่านั้น     ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีการจัดการกับหมาจรจัดกลุ่มนั้นอย่างไรดี เพราะตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบเพียงร่างของผู้ตายเท่านั้น     ที่มา : metro

  • หญิงสาวเล่าประสบการณ์จาก “สถานบำบัดผู้เบี่ยงเบนทางเพศ” โหดร้ายและมีอยู่จริง!!

    หญิงสาวเล่าประสบการณ์จาก “สถานบำบัดผู้เบี่ยงเบนทางเพศ” โหดร้ายและมีอยู่จริง!!

    ไม่น่าเชื่อที่ยุคสมัยนี้ยังมีสถานที่สำหรับใช้บำบัดผู้เบี่ยงเบนทางเพศอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่ Paola Peredes ช่างภาพสาวชาวเอกวาดอร์เคยเจอมา และเธอได้นำประสบการณ์อันแสนเลวร้ายทั้งหมดนี้ มาบอกเล่าผ่านภาพถ่ายทั้งหมดที่ถูกจัดฉากขึ้นมาอีกครั้ง.. ‘ประสบการณ์ทั้งหมดจากสถานที่แห่งนี้ มันส่งผลถึงความเป็นตัวตนของฉันในปัจจุบัน สิ่งที่ฉันรู้สึกช็อคมากที่สุดคือการที่ต้องเห็นหญิงสาวหลายคนถูกบังคับ และคุกคามทางเพศ เพียงเพราะเป็นข้ออ้างว่าจะช่วยรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศได้’   เธอต้องทำความสะอาดห้องน้ำด้วยแปรงสีฟัน อีกทั้งยังต้องเก็บผมทุกเส้นบนพื้น และถ้าหากเธอทำอะไรผิดพลาด ผู้คุมจะจับหัวเธอกดไว้กับชักโครก และบังคับให้เอามือจุ่มลงไปในน้ำ   เธอมีเวลาอาบน้ำเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น อีกทั้งเธอยังต้องทนฟังบทสวดคาทอลิกนานหลายชั่วโมง และต้องศึกษาวรรณกรรมที่ถูกบังคับ เพื่อรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศ   เธอเล่าว่ามีหญิงสาวชาวเอกวาดอร์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ชายข่มขืน โดยให้เหตุผลทรามๆ ว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมสำหรับการรักษา   หญิงสาวบางคนถูกฝึกให้แต่งตัวยั่วยวนอารมณ์ทางเพศเจ้าหน้าที่ชาย และยังต้องฝึกเดินให้ถูกใจพวกผู้คุมอีกด้วย   อีกภาพที่เธอจำได้ติดตา เธอเห็นหญิงสาวถูกลงโทษห้ามพูดคุยกับคนอื่น เธอถูกจับขังเดี่ยวและต้องอยู่กับเสียงบทสวดทางศาสนา อีกทั้งผู้คุมก็ลงโทษเธอด้วยวิธีการที่แสนจะโหดร้ายทารุณ   ถ้าหากมีใครปฏิเสธที่จะทานอาหาร ก็จะถูกเหล่าผู้คุมทำร้ายร่างกายเพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นไม่กล้าทำตาม   คาดว่ามีสถานบำบัดแบบนี้ในเอกวาดอร์มากกว่า 200 แห่ง โดยส่วนใหญ่มักจะเปิดเป็นสถานบำบัดสำหรับผู้ติดยาเสพติดบังหน้า   เป็นประจำทุกวันเวลา 07.30 นาฬิกา ที่หญิงสาวจะต้องถูกบังคับให้นั่งแต่งหน้า โดยมีผู้คุมคอยเฝ้าดูอยู่ และพวกเธอต้องแต่งให้ถูกต้องตามที่ผู้คุมต้องการ   อีกหนึ่งในโปรแกรมการฝึกประจำวัน ก็คือการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง โดยมีผู้คุมคอยยืนตะโกนดุด่าหญิงสาวอยู่…

  • ตามไปดู 14 เส้นทางการเดินทางสุดหฤโหด ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดในโลก!!

    ตามไปดู 14 เส้นทางการเดินทางสุดหฤโหด ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดในโลก!!

    ถึงแม้ว่าถนนบ้านเราบางทีอาจจะเป็นหลุม เป็นบ่อ มีน้ำขังบ้างอะไรบ้าง (ไม่บางทีแล้วมั้ง) แต่เชื่อเถอะว่าสภาพที่เราเจอยังไม่โหดพอ เพราะเว็บไซต์ Brightside ได้เผย 14 เส้นทางถนนที่ขึ้นชื่อว่าโหด และอันตราย มากที่สุดในโลก มันจะโหดขนาดไหนตามไปดูกันเลย   Guoliang Tunnel ประเทศจีน เส้นทางตัดผ่านใจกลางหุบเขายาวกว่า 1.2 กิโลเมตร เป็นทางผ่านไปสู่หมู่บ้าน Guoliang ซึ่งเชื่อว่าเส้นทางนี้ถูกสร้างโดยแรงงานคนเมื่อปี 1970 เส้นทางจะลัดเลาะไปตามหน้าผา ความกว้างของถนนก็เพียงแค่ 4 เมตรเท่านั้น   ตลาดร่มหุบสถานีรถไฟแม่กลอง ประเทศไทย นับว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่เป็นที่สนใจของชาวโลก ด้วยวิถีชีวิตของพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ติดกับรางรถไฟแบบกระชั้นชิด ทุกครั้งที่มีสัญญาณเตือน ชาวบ้านทุกคนจะพร้อมใจกันเก็บหน้าร้านเพื่อหลีกทางให้รถไฟ ซึ่งสำหรับต่างประเทศถือว่าเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงเอามากๆ   Yungas Road ประเทศโบลิเวีย เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเมือง La Paz และ Coroico ตั้งอยู่บนริมภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,600 เมตร แต่ความโหดอยู่ตรงที่ ถนนแคบมากซะจนแม้แต่รถยังสวนกันไม่ได้   Eyre Highway ประเทศออสเตรเลีย…

  • บันไดเลื่อนฮ่องกงถอยหลังกะทันหัน เทกระจาดคนร่วงไปกองกับพื้น เจ็บหนักถึง 18 ราย!!

    บันไดเลื่อนฮ่องกงถอยหลังกะทันหัน เทกระจาดคนร่วงไปกองกับพื้น เจ็บหนักถึง 18 ราย!!

    ปี 2015 ที่ผ่านมา เรามักจะได้เห็นข่าวอุบัติเหตุบันไดเลื่อนเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทุกๆ ครั้งที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็มักจะสร้างความตกใจ และทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่อยากจะใช้บันไดเลื่อนกันอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ณ ห้างสรรพสินค้า Langham Place ที่ตั้งอยู่ในย่านมงก๊ก ฝั่งเกาลูนของฮ่องกง ได้เกิดอุบัติเหตุบันไดเลื่อนขัดข้องกะทันหัน จนเป็นเหตุทำให้ผู้คนจำนวนมากที่กำลังใช้บริการหล่นล่วงลงมาจากพื้น จนได้รับบาดเจ็บมากถึง 18 ราย     จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยบันไดเลื่อนที่เกิดเหตุนั้นเรียกได้ว่ามีความสูงมากที่สุดในฮ่องกงเลยก็ว่าได้ เพราะมีความยาสูงชันถึง 45 เมตรกันเลยทีเดียว ทางด้านผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้ออกมาเล่าถึงวินาทีสุดระทึกว่า ในตอนที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่วุ่นวายมาก เพราะบันไดเลื่อนได้เลื่อนเร็วกว่าปกติถึง 2-3 เท่า โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งทางผู้จัดการร้านกาแฟได้เผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก มีหลายๆ คนวิ่งสวนทางกลับไป บางคนก็กระโดดข้ามไปยังอีกฝั่ง     ในขณะที่หญิงสาวหนึ่งในผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้บอกว่า เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งล้มหัวกระแทกพื้น…

  • ชายวัย 32 ปี ชาร์จไปด้วยเล่นโทรศัพท์ไปด้วยขณะอาบน้ำ จบชีวิตจากเหตุไฟฟ้าช็อต…

    ชายวัย 32 ปี ชาร์จไปด้วยเล่นโทรศัพท์ไปด้วยขณะอาบน้ำ จบชีวิตจากเหตุไฟฟ้าช็อต…

    เจ้าหน้าที่ฝ่ายชันสูตรได้ออกมาแจ้งเตือนว่าที่ชาร์ต iPhone นั้นสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย หลังจากที่ผลชันสูตรของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อตขณะอาบน้ำไปด้วยเล่นโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์จแบตฯ ไปด้วย นาย Richard Bull จากเมือง Ealing ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอนได้เสียชีวิตในบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมทีผ่านมา     ชายวัย 32 ปี ถูกพบว่ากำลังนอนอยู่ในห้องน้ำโดยภรรยา Tanya ที่คิดว่าสามีของตัวเองถูกทำร้ายเพราะมีรอยไหม้อย่างรุนแรงอยู่ที่หน้าออกของเขา จากการสืบสวนการตายของเขาเจ้าหน้าที่ชันสูตรได้ออกมาเตือนว่าอุปกรณ์ที่เราใช้กันในปัจจุบันแบบทั่วไปอาจจะสร้างอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากนำไปใช้ในห้องน้ำ อย่างเช่นการใช้ไดร์เป่าผมในห้องน้ำ “ผู้ผลิตควรจะติดป้ายเตือนบนตัวอุปกรณ์ด้วยว่าห้ามใช้โทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องน้ำ” เจ้าหน้าที่ชันสูตรกล่าว เจ้าหน้าที่ Craig Pattison ได้ให้ข้อมูลในการไต่สวนคดีที่ศาล West London Coroner’s Court ว่า “พวกเราพบสายชาร์จแบตไอโฟนกำลังเสียบอยู่ และมันเชื่อมต่อเข้าไปในห้องน้ำ” และผลจากการชันสูตรก็สรุปได้ว่านาย Bull เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากถูกกระแสไฟฟ้าจากโทรศัพท์ไอโฟนที่เสียบสายชาร์จเกิดลัดวงจรขึ้นมาขณะที่เขากำลังใช้งานในอ่างอาบน้ำ ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย     ในวันนั้นนาย Bull กำลังจะเตรียมตัวเพื่อออกไปเยี่ยมหาครอบครัวในงานฉลองวันคริสต์มาส ร่วมกับพ่อแม่ของเขา และก็ต้องตกใจเมื่อทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว     แม่ของเขาคุณ Carole บอกว่า “ฉันรู้สึกเป็นห่วงผู้คนอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่น ที่ไม่สามารถแยกตัวเองให้อยู่ห่างจากโทรศัพท์ได้…

  • เจ้าเสือขาวไม่ยอมเชื่อฟังครูฝึก วิ่งฝ่าดงแส้ไม่หวั่นเจ็บ เพราะเป็นห่วงเพื่อนที่ตกน้ำ!!

    เจ้าเสือขาวไม่ยอมเชื่อฟังครูฝึก วิ่งฝ่าดงแส้ไม่หวั่นเจ็บ เพราะเป็นห่วงเพื่อนที่ตกน้ำ!!

    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานงานโชว์การแสดงละครสัตว์ที่สวนสัตว์ Hangzhou Safari Park ที่ประเทศจีน แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะดันมีเจ้าเสือขาวหนึ่งในสัตว์โชว์แสดงตัวหนึ่งกลับดื้อไม่ยอมฟังคำสั่งของครูฝึก กัดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงพร้อมกับค่อยๆ ลากนักแสดงออกไปข้างๆ เวที จนทำให้มันตกลงไปในอ่างน้ำ     ในระหว่างนั้นเองก็มีเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์อีกคนหนึ่งพยายามที่จะหยุดยั้งพฤติกรรมอันก้าวร้าวของเจ้าเสือขาวตัวดังกล่าวด้วยการเอาแส้ฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของมันหลายครั้ง     หลังจากที่เจ้าเสือตัวแรกตกลงไปในน้ำแล้ว จู่ๆ ก็มีเสือขาวอีกตัววิ่งเข้ามาเอาจมูกดมๆ ด้วยความเป็นห่วง ราวกับจะมาเช็คดูว่าเพื่อนของมันปลอดภัยดีอยู่หรือเปล่า     ทันใดนั้นเองครูฝึกก็เดินเข้ามาหามันเพื่อที่จะใช้แส้ไล่ให้เจ้าเสือขาวตัวที่สองกลับไปยืนประจำที่บนเวทีของมัน ซึ่งมันก็ทำตามแต่โดยดี จากนั้นเจ้าเสือที่ตกไปในน้ำก็สามารถปีนขึ้นมาได้ในที่สุด พอเห็นดังนั้นเพื่อนเสือตัวอื่นๆ ก็วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อเช็คดูว่ามันปลอดภัยหรือไม่ สุดท้ายครูฝึกก็เหวี่ยงแส้ไล่ให้ทุกตัววิ่งเข้าประตูออกจากเวทีไป และปิดการแสดงเพราะรู้ว่าไม่สามารถคุมพวกมันได้แล้ว     ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันก่อนได้เลยนะจ๊ะ…   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปมากมายในโซเชียลเน็ตเวิร์คของประเทศจีน เพราะประทับใจในมิตรภาพที่แสนงดงามของเหล่าเสือที่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนของมันมาก “ในคลิปวิดีโอนั้นแสดงให้เห็นว่าเสือทุกตัวนั้นมีความเป็นห่วงเพื่อนๆ ของมัน หลังจากที่รู้ว่าเจ้าตัวนั้นกำลังมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ การกระทำของครูฝึกนั้นเรียกได้เลยว่าเป็นความรุนแรง” Dave Neal เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ป่า Animals Asia กล่าว ทางองค์กร Animals Asia ได้ติดตามการกระทำของเหล่าคณะละครสัตว์ในประเทศจีนมานานมากแล้ว จากการสำรวจก็พบว่ายังมีคณะละครสัตว์มากมายที่ทำการทารุณกรรมสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิงโต เสือ และสัตว์อื่นๆ จนทำให้พวกมันมีร่างกายที่ผอมกะหร่อง  …

  • Bath Bomb สบู่ระเบิดอโรม่าแช่ตัวในอ่าง อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ช่องคลอด’ ของคุณได้!!

    Bath Bomb สบู่ระเบิดอโรม่าแช่ตัวในอ่าง อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ช่องคลอด’ ของคุณได้!!

    วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้า หลายคนอาจจะหาวิธีผ่อนคลายตามสไตล์ของตัวเอง บางคนก็อาจจะนอนพักผ่อนแบบเงียบๆ หรือบางคนอาจจะชื่นชอบการแช่ในน้ำอุ่น พร้อมกับใส่ “Bath Bomb” สบู่สำหรับใส่ในอ่างอาบน้ำลงไป เพราะมันจะสามารถช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ สำหรับ Bath Bomb จะมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ คล้ายกับลูกระเบิด โดยวิธีการใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ใส่ลงไปในน้ำ จากนั้นมันก็จะทำปฏิกิริยากับน้ำ และเผยกลิ่นหอมออกมานั่นเอง     แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า สบู่อโรม่าแช่ตัว Bath Bomb ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมนั้น อาจจะส่งผลเสียต่อจิมมี่ของสาวๆ ได้ ทางด้าน Dr Vanessa Mackay จากวิทยาลัย Royal College of Obstetricians and Gynaecologists ในแมรี่ลีโบน ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเตือนสาวๆ ที่ชื่นชอบการใช้ Bath Bomb ว่า… “เราควรหลีกเลี่ยงการใช้พวกสบู่หอม เจล และน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอนตี้เซ็พติค (Antiseptics) เหล่านี้…

  • ความจริงอันน่าตกใจ นักวิทย์ฯ เผยในสระว่ายน้ำมี “ปัสสาวะ” ปะปนเฉลี่ยมากถึง 77 ลิตร!!

    ความจริงอันน่าตกใจ นักวิทย์ฯ เผยในสระว่ายน้ำมี “ปัสสาวะ” ปะปนเฉลี่ยมากถึง 77 ลิตร!!

    เชื่อว่าเพื่อนๆ คงทราบกันดีว่าในสระว่ายน้ำที่เราใช้งานกันนั้น จะต้องมี “ปัสสาวะ” ปะปนอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะหลายๆ คนก็เคยแอบถ่ายปัสสาวะลงสระว่ายน้ำกันคนละครั้งสองครั้งอย่างแน่นอน แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในสระว่ายน้ำแต่ละที่นั้น มีปัสสาวะปะปนอยู่มากน้อยแค่ไหน ทางนักวิทยาศาสตร์เขาได้ไขปัญหาออกมาให้เราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้การวัดค่าสารให้ความหวานเทียมที่พบในปัสสาวะ นำมาเป็นตัวชี้วัดหาสารปัสสาวะที่ปนเปื้อนในสระว่ายน้ำมีมากแค่ไหน ซึ่งพวกเขาพบว่าในสระว่ายน้ำขนาด 41,000 ลิตร จะมีปัสสาวะปะปนอยู่ประมาณ 26 ลิตร ในขณะเดียวกัน สระว่ายน้ำขนาด 831,000 ลิตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก จะมีปัสสาวะปะปนอยู่ราว 77 ลิตร ซึ่งอัตราส่วนที่นักว่ายน้ำหรือผู้ที่มาเล่นน้ำปล่อยปัสสาวะออกมาจะอยู่ที่ 77 มิลลิลิตรต่อคน     แม้ตัวปัสสาวะจะผ่านการฆ่าเชื้อโรคในร่างกายมาแล้ว แต่สารประกอบในปัสสาวะอาจทำปฏิกิริยากับคลอรีน จนกลายเป็นพิษและทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็เป็นได้ Dr Xing-Fang Li จากมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา ได้กล่าวว่า ควรจะมีการทบทวนเกี่ยวกับการใช้สารเคมีในสระว่ายน้ำรวมทั้งรณรงค์เกี่ยวกับสุขอนามัยในการใช้สระว่ายน้ำสาธารณะอีกด้วย   ลองนึกภาพน้ำในสระว่ายน้ำที่กระจายตัวออกมากระทบผิวหนังของเรา อย่างน้อยๆ น้ำในสระก็ต้องมีปัสสาวะปนเปื้อนแน่นอน   อ่านแล้วรู้สึกขมคอยังไงชอบกล คราวหลังไปสระว่ายน้ำก็อย่าขับถ่ายลองสระกันเลยนะ มันไม่ถูกสุขอนามัยจริงๆ   ที่มา…

  • ภาพอุทาหรณ์ ‘อุบัติเหตุที่เกิดจากบันไดเลื่อน’ อย่าประมาททุกก้าวเวลาใช้งานพวกมัน!!

    ภาพอุทาหรณ์ ‘อุบัติเหตุที่เกิดจากบันไดเลื่อน’ อย่าประมาททุกก้าวเวลาใช้งานพวกมัน!!

    เมื่อเราไปห้างหรือไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน ห้างสรรพสินค้า หรือสนามบิน สิ่งที่ต้องเจออยู่เป็นประจำก็คือ ‘บันไดเลื่อน’ และหลายๆ ครั้งที่เราได้เห็นข่าวอุบัติเหตุจากบันไดเลื่อนในข่าวจนทำให้เกิดการสูญเสียมากมาย บางเหตุการณ์ก็ถึงกับมีผู้เสียชีวิตเลยทีเดียว และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพที่เกิดจากอุบัติเหตุบนบันไดเลื่อน ว่าถ้าหากเราประมาทหรือไม่มีสติแล้วไปใช้งานบันไดเลื่อน จะน่ากลัวขนาดไหน   รูนี้มันมาได้อย่างไร!??   ใช้บันไดเลื่อน กรุณาอย่าประมาทเด็ดขาด   ไม่เช่นนั้นปลายนิ้วเท้าของคุณอาจจะหายไป   ขนาดรองเท้าผ้าใบยังมีสภาพเละเทะขนาดนั้น แล้วรองเท้าแตะจะไปเหลืออะไร . .   ถ้าถอดรองเท้าไม่ทันคงได้ถอดเท้าจริงๆ แทนแล้วล่ะ   ส้นสูงเองก็ต้องระมัดระวังด้วยนะจ๊ะ   เหมือนถูกปลาฉลาม หรือสัตว์ที่มีฟันแหลมคมกระชากไปยังไงยังงั้นเลย   ขึ้นบันไดเลื่อนต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา . .   แม้แต่สายรองเท้าที่ว่าแข็งแรงยังขาดกระจุยกระจายไม่เหลือชิ้นดี   ยับยู่ยี่เหมือนกับกระดาศทิชชู่ . .   นี่มันหายนะชัดๆ   แหม่ หลังจากชมภาพเหล่านี้แล้วขอให้เพื่อนๆ ทุกคนจำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะว่าทุกครั้งที่ใช้งานบันไดเลื่อน จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา มิเช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ที่มา :…

  • เครื่องเล่นมหาหวาดเสียว Tagada ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G โดยไร้อุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ!!

    เครื่องเล่นมหาหวาดเสียว Tagada ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G โดยไร้อุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ!!

    สำหรับคนที่ชื่นชอบความหวาดเสียวแล้วล่ะก็ จะต้องชื่นชอบเจ้าเครื่องเล่นที่ #เหมียวหง่าว จะพาไปชมในวันนี้อย่างแน่นอน!! มันมีชื่อว่า Tagada เป็นเครื่องที่มีลักษณะเหมือนจานขนาดยักษ์ ที่จะให้ผู้เล่นเข้าไปนั่งเป็นวงกลม พร้อมทั้งไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ในๆ เลยนอกจากราวเกาะที่เป็นพนักพิงหลังแค่นั้นเอง     โดยเจ้า Tagada นี้จะหมุน และเขย่าไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G ที่เกิดขึ้นจากแรงเหวี่ยง หากใครเกาะราวเหล็กไว้ไม่ดีล่ะก็ อาจะกระเด้งกระดอนไปมาอยู่ในวงกลมนั้นจนอาจได้รับบาดเจ็บได้เลยล่ะ     ในบางประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศออสเตรเลีย เจ้าเครื่องเล่น Tagada นี้ถูกตัดสินให้เป็นเครื่องเล่นที่มีความอันตราย และผิดกฎหมาย     แต่ก่อนหน้านี้มันก็ฮิตในหลายๆ ประเทศแถบยุโรปด้วยเช่นกัน เช่น อังกฤษ หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะมีข่าวว่ามีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหนักจากเครื่องเล่นนี้ จึงทำให้ถูกแบนไปในที่สุด     แต่กลับกันปราะเทศทางแถบเอเชียก็ยังมีการเปิดให้เล่นเจ้า Tagada นี้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสวนสนุกในเกาหลีใต้ และประเทศเมียนมาร์     ลองไปชมคลิปตัวอย่างการเล่นของเจ้า Tagada กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า แต่ถึงจะดูน่าสนุกแค่ไหน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย  …

  • นี่คือวิธีที่ถูกต้องของการเอาชีวิตรอด หากคุณพลาดตกลงไปใน “รางรถไฟใต้ดิน”

    นี่คือวิธีที่ถูกต้องของการเอาชีวิตรอด หากคุณพลาดตกลงไปใน “รางรถไฟใต้ดิน”

    สถานีรถไฟใต้ดิน ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตราย เพราะถึงแม้ว่าทางสถานีจะหามาตรการป้องกันเพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่เสมอ แถมยังสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายในเวลาที่เร่งด่วนอีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราจึงต้องขอมานำเสนอวิธีการเอาตัวรอด หากคุณตกลงไปในรางรถไฟใต้ดิน เพราะหากคุณรู้วิธีการเบื้องต้นเหล่านี้ บางทีมันอาจจะช่วยชีวิตคุณไว้ก็ได้ และโอกาสที่จะนำไปสู่ผลเลวร้ายก็อาจจะเกิดขึ้นน้อยลง   สิ่งที่คุณไม่ควรทำ หากตกลงไปในรางรถไฟ หากตกลงไปในลางรถไฟ อย่าพยายามที่จะปีนขึ้นไป เพราะใต้แพลตฟอร์มมีกระแสไฟฟ้าแรงสูงอยู่ หากคุณไปสัมผัสมันเข้าอาจจะถูกช็อตทันที   สิ่งที่คุณควรทำ หากตกลงไปในรางรถไฟ เมื่อตกลงไปแล้ว คุณควรจะมองดูก่อนว่ามีรถไฟมาหรือไม่ หากไม่มีก็เข้าไปยืนอยู่ตรงกลางรถไฟ ในขณะเดียวกันคุณสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ เพื่อให้ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นแจ้งพนักงานของสถานีรถไฟใต้ดิน   แต่ถ้าหากคุณดันตกลงไปในขณะที่รถไฟกำลังวิ่งมาพอดี ให้นอนหมอบลงบนช่องระหว่างรางและใช้มือคลุมหัวเอาไว้ ซึ่งระยะห่างระหว่างช่องว่างตรงกลางนั้น จะมีระยะห่างจากรถไฟประมาณ 0.5 เมตร ดังนั้นหากคุณนอนราบลงไปมันอาจจะช่วยให้คุณพ้นจากความอันตรายได้   ทั้งหมดนี้คือวิธีการเอาตัวรอดหากคุณตกลงไปในรางรถไฟ แม้ว่าหลายคนอาจจะคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งหากคุณมีความจำเป็นในการขึ้นรถไฟ และบังเอิญกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้นพอดี วิธีเหล่านี้อาจจะช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ ที่มา : brightside

  • ยาเสพติดร้ายแรง “Krokodil” นิยมในรัสเซีย เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นซอมบี้!!

    ยาเสพติดร้ายแรง “Krokodil” นิยมในรัสเซีย เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นซอมบี้!!

    เมื่อกล่าวถึงยาเสพติดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนๆ ก็ตาม ต่างก็มีมาตรการต่อต้านยาเสพติดอย่างรุนแรง อาจจะมีการผ่อนปรนตัวยาบางชนิดเพื่อใช้เฉพาะการเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดมันก็ไม่ได้มีข้อดีเลยซักนิดเดียว!!     อย่างในบ้านเราก็ยังคงมีการระบาดของยาบ้าอยู่ตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากประเทศเสียที เช่นเดียวกันกับประเทศรัสเซียที่ประสบปัญหาของการระบาดของเฮโรอีน จนปัจจุบันนี้ก็มียาตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมาแทนที่อย่างช้าๆ     ยาตัวดังกล่าวนั้นมีชื่อ Desomorphine หรือเรียกเป็นฉายาสั้นๆ ว่า Krokodil กำลังได้รับความนิยมในประเทศรัสเซีย อันเนื่องมาจากสามารถทำเองได้ง่าย เพียงแค่มียาแก้ปวดหัวเท่านั้น ที่สำคัญก็คือมันมีราคาที่ถูกมากๆ     ช่างภาพ Emanuele Satolli ได้เดินทางไปยังเมือง Yekaterinburg หนึ่งในสี่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่เต็มไปด้วยยาเสพติด ซึ่งเขาเองก็ได้เดินทางมายังเมืองนี้ 3 ครั้งแล้ว เพื่อทำการถ่ายภาพผลจากการใช้ยาเสพติดชนิดดังกล่าวมาเผยแพร่เป็นสารคดี     จุดกำเนิดของยา Krokodil นี้เริ่มต้นมาจากหลังที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการปราบปรามเฮโรอีนในรัสเซียอย่างหนัก ผู้เสพติดเฮโรอีนจึงหันมาทำตัวยาทดแทน ด้วยการใช้ยาแก้ปวดหัวเป็นส่วนผสมหลัก จนกลายมาเป็นตัวยาดังกล่าว     ด้วยเหตุที่ว่าเป็นยาเสพติดที่คิดค้นกันเองแบบบ้านๆ ผลข้างเคียงของมันจึงร้ายแรงยิ่งกว่า อันเนื่องมาจากส่วนผสมของทินเนอร์และฟอสฟอรัส ส่งผลทำให้ผิวของผู้เสพเป็นขุย หยาบกร้าน ลักษณะคล้ายกับผิวหนังของจระเข้ จึงเป็นที่มาของชื่อยาตัวนี้ อีกทั้งบริเวณผิวหนังที่ถูกเข็มฉีดยาเข้าไปนั้น จะเกิดอาการเน่าและติดเชื้อทันที…

  • วิศวกรเสนอ 4 วิธีการเอาตัวรอด หากอยู่ในสถานการณ์ “ลิฟท์ตก” ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้…

    วิศวกรเสนอ 4 วิธีการเอาตัวรอด หากอยู่ในสถานการณ์ “ลิฟท์ตก” ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้…

    หลายๆ คนคงจะเคยกังวล และรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยขณะขึ้นลิฟต์ เพราะบ่อยครั้งเราจะเห็นสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งไทย และต่างประเทศ นำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในลิฟต์ ซึ่งเอาจริงๆ อุบัติเหตุจากลิฟท์มักจะเกิดขึ้นได้ยาก และค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เพราะถ้าหากมันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเราควรมองหาวิธีแก้ไข และเอาตัวรอดจากมันกันหน่อยดีไหม ด้วยเหตุนี้ ทาง Eliot H. Frank วิศวกรวิจัย จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) จึงได้ออกมาเผย 4 วิธีการเอาตัวรอดจากลิฟต์ที่กำลังตก ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า     1.ภายใต้สถานการณ์ที่ลิฟต์กำลังตก อย่ากระโดดเป็นอันขาด เอาจริงๆ แล้วมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากมากหากคุณพยายามกระโดดขณะลิฟต์ตกอยู่กลางอากาศ และการกระโดดอาจทำให้ความเร็วในการตกเท่ากับความเร็วในการตกของลิฟต์ในตอนนั้น อีกทั้งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าร่างกายส่วนไหนจะตกลงพื้นก่อน ดังนั้น หากอยู่ในสถานการณ์ที่ลิฟต์กำลังตก อย่ากระโดดเป็นอันขาด เพราะมีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ามันเป็นอันตราย และไม่ควรทำอย่างมาก ลองชมคลิปด้านล่างได้เลย…   2.อย่ายืนตัวตรง การยืนตัวตรงไม่ได้เป็นความคิดที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะในขณะลิฟต์ตกจะทำให้น้ำหนักลงไปบนเข่าถึง 10 เท่าของน้ำหนักตัวเลยนะ นั่นก็อาจจะนำไปสู่อันตราย และการบาดเจ็บที่ร้ายแรง     3.นอนราบอยู่บนพื้นลิฟท์…

  • สถิติเผย ทุกๆ สัปดาห์ในอเมริกา จะมี 1 คนถูกยิงเสียชีวิต ด้วยน้ำมือของเด็กทารกเสมอ!!

    สถิติเผย ทุกๆ สัปดาห์ในอเมริกา จะมี 1 คนถูกยิงเสียชีวิต ด้วยน้ำมือของเด็กทารกเสมอ!!

    ถ้าถามว่าประเทศไหนที่ประชาชนสามารถซื้อหาปืนได้อย่างอิสระ เชื่อว่า สหรัฐอเมริกา ต้องเป็นประเทศแรกๆ ที่เรานึกถึงอย่างแน่นอน แถมตอนนี้ในบางรัฐ ประชาชนสามารถพกปืนออกนอกบ้านได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ การที่สามารถหาซื้อปืนได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ บางครั้งก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์และสถิติอันน่าตกใจเช่นกัน อย่างเช่นล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ในทุกๆ สัปดาห์ จะมีคนอย่างน้อยๆ 1 คนถูกยิงจนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเด็กทารก     โดยสถิติเผยว่า ในปี 2015 มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากถูกเด็กทารกยิงด้วยอาวุธปืน 58 ราย และอีก 51 รายภายในปี 2016 สาเหตุหลักๆ มาจากการที่ผู้ปกครองเก็บอาวุธปืนไม่มิดชิดพอ ทำให้เด็กทารกสามารถหยิบมาเล่นได้ ก่อนจะลั่นใส่ตนเองหรือผู้อื่นจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีสถิติบอกว่า 1 ใน 3 ของบ้านที่มีเด็กและมีปืนอยู่ในครอบครอง เด็กในจำนวนประมาณ 1.7 คน สามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้อย่างง่ายดาย     ด้วยเหตุนี้เอง ทาง Brady Campaign จึงได้ทำแคมเปญรณรงค์ให้เห็นถึงอันตรายของปืนและเด็กทารก ลองไปชมคลิปกันดีกว่า แม้การที่ประชาชนสามารถหาซื้อปืนได้อย่างอิสระจะมีข้อดีหลายๆ อย่าง แต่ดูเหมือนว่าก็มีข้อเสียเช่นกัน แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามานะเหมียววว  …

  • เจ้าช้างมันร้าย!! ช้างน้อยแค้นจัด ถูกเพื่อนผลักตกจากกองดิน เอาคืนด้วยการตดยัดหน้า…

    เจ้าช้างมันร้าย!! ช้างน้อยแค้นจัด ถูกเพื่อนผลักตกจากกองดิน เอาคืนด้วยการตดยัดหน้า…

    ก็อยา่งที่รู้กันอยู่ว่า ‘ช้าง’ นั้นเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมาก เท่านั้นยังไม่พอพวกมันยังมีความเจ้าเล่ห์อยู่อีกด้วย อย่าให้ความน่ารักของพวกมันมาหลอกเราเชียว ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้กันได้เลย…และทุกคนจะรู้ว่าช้างน่ะ มันร้ายกว่าที่เราคิดเยอะ!!   เรื่องราวความน่ารักของเจ้าช้างน้อย ที่กำลังปีนขึ้นไปยืนเล่นอยู่บนกองดินอยู่ดีๆ แต่ดันโดนเพื่อนของมันผลักตกลงมาซะได้ ก็เลยไปเอาคืนด้วยการตดอัดใส่หน้า แบบชนิดที่ว่าแค่ได้ยินเสียงก็ได้กลิ่นทะลุออกมานอกจอเลยทีเดียว!!     เช้าวันหนึ่งอากาศสดใสที่ศูนย์บริบาลช้างจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าฟ้าใหม่กำลังเล่นอย่างเป็นเจ้าหญิงร่วมกับเพื่อนๆ ของมันอย่างสนุกสนาน     พอมาถึงช็อตสำคัญที่เจ้าหญิงจะเดินขึ้นไปบนเนินปราสาททรายเพื่อโชว์ความงดงามของตัวเองก็ถูกเจ้า Kabu ตัวอิจฉาผลักตกลงมาซะได้ทำให้พลาดช็อตสำคัญไป     แน่นอนว่าด้วยความคับแค้นใจ ฟ้าใหม่ จึงคิดวางแผนที่จะแก้แค้นเจ้า Kabu ที่บังอาจทำให้ช็อตสำคัญที่สุดของการเล่นเป็นเจ้าหญิงต้องพังทลายไป มันปีนกลับขึ้นไปบนเนินทรายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีจุดประสงเพื่ออวดความงดงามในบทบาทของเจ้าหญิงอันแสนซื่อบริสุทธิ์อีกต่อไป     เจ้าฟ้าใสค่อยๆ เขย่งเอาขาหลังคร่อมขึ้นไปบนหัวเจ้า Kabu จากนั้นก็ปล่อยระเบิดแก๊สชุดใหญ่ พร้อมกับเสียงอันดังลั่น แบบชนิดที่ว่าแค่นั่งดูคลิปอยู่กลิ่นก็อบอวลทะลุออกมาจากหน้าจอคอมเลยทีเดียว!! ซึ่งขณะนั้นเองเจ้า Kabu ก็ดูเหมือนจะตกใจไม่น้อย ในตอนแรกมันถึงกับอึ้งไปช่วขณะ ก่อนที่กลิ่นจะตลบอบอวลไปเข้าจมูกของมันจึงได้รับปลีกตัวออกจากห้องรมแก๊สตรงนั้นในทันที!!     เหตุการณ์ทั้งหมดถูกจับภาพไว้ได้โดยเจ้าหน้าที่ในศูนย์บริบาลช้าง จึงทำให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกนำไปเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็น ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าฟ้าใสน่ะไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ใครๆ คิด มันเป็นการกระทำที่โหดร้ายจนยากจะเกิดให้อภัย (ฮร่า)   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ…

  • 20 ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ทั้งสร้างสรรค์ แหวกแนว และบ้าบอคอแตก จนถึงขั้นไม่น่าทำตาม!!

    20 ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ทั้งสร้างสรรค์ แหวกแนว และบ้าบอคอแตก จนถึงขั้นไม่น่าทำตาม!!

    ต้องยอมรับเลยว่า ในปัจจุบันการเซลฟี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คนไปแล้ว บางคนแค่ตื่นมาก็ต้องเซลฟี่ หรือทานอาหารก็ต้องเซลฟี่ ไม่ว่าจะทำอะไรต่อมิอะไรก็ต้องขอเซลฟี่ไว้ก่อน ซึ่งจากที่ผ่านๆ มาเราจะเห็นได้ว่า มีภาพถ่ายเซลฟี่จากผู้คนทั่วโลกถูกโพสต์ลงในโลกโซเชียลมากมาย โดยมีทั้งเซลฟี่ที่แบบธรรมดาๆ รวมไปถึงแปลก และบ้าบอสุดขั้ว อีกทั้งยังทำให้เราได้เห็oว่านับวันการถ่ายภาพเซลฟี่ของผู้คน ดูแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และนี่คือ 20 ภาพเซลฟี่ ที่เต็มไปด้วยความแปลก ความบ้าบอคอแตก ความเจ๋ง และอีกมากมาย บางภาพก็สร้างสรรค์ ส่วนบางภาพก็ไม่ควรทำตามเป็นอย่างยิ่ง ว่าแล้วก็มาชมกันเลย   ถ่ายเซลฟี่กับหอย น่ารักดีไหมละ   คุณแม่ยังเฟี้ยว ขอเซลฟี่ตัวเองซะหน่อย เลยโดนลูกสาวแซวซะเลย   บางทีการเซลฟี่อาจไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เสมอไป     ในโลกของสตาร์วอร์ เหล่าสตอร์มทรูปเปอร์ก็เอากับเขาด้วย   เซลฟี่ตอนทำงาน มันใช่เวลาไหมละเนี่ย   หนุ่มที่ถือไม้เซลฟี่ จากนั้นก็ถ่ายเซลฟี่ตัวเอง   นำไม้จากธรรมชาติ มาประยุคเป็นไม้เซลฟี่ แบบนี้เจ๋งพอไหมละ   อยู่ใต้น้ำยังเซลฟี่ได้นะ   เป็นภาพถ่ายที่ดูแหวกแนวไม่เหมือนใคร   อยู่ในจุดที่สูงกว่าใคร ก็ต้องขอเก็บภาพสุดประทับใจเอาไว้ก่อน  …

  • นี่อาจเป็น “หอย” ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันกลับเป็นหนึ่งในยอดนักล่าแห่งมหาสมุทร

    นี่อาจเป็น “หอย” ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันกลับเป็นหนึ่งในยอดนักล่าแห่งมหาสมุทร

    โดยปกติแล้ว “หอยทาก” ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดูอันตรายเกินกว่าที่จะไปทำร้ายสัตว์อื่นๆ ได้เลย แต่ถ้าหากว่าคุณได้เห็นภาพ พร้อมกับคลิปวีดีโอที่เราได้หยิบมาให้ชมในวันนี้ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกขนลุก และหวาดกลัวเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหอยทากนี้แน่นอน เพราะนี่คือ Geographic Cone Snail หรือ หอยเต้าปูนลายแผนที่ (หอยทากทะเลทรงกรวย) สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่อยู่ภายใต้เปลือกอันแข็งแรงและสวยงาม ซึ่งดูจากภายนอกแล้ว มันอาจจะดูเหมือนเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ละว่า เจ้าหอยชนิดนี้กลับมีพิษรุนแรงมากพอที่จะสามารถฆ่าคนได้เลยละ….มนุษย์ทั้งหลายจงระวังตัวเอาไว้ให้ดีละกัน     สำหรับเจ้า Cone Snail จะพบมากในเขตอินโดแปซิฟิก พวกมันชอบอาศัยอยู่ตามซอกโพรงหินในแนวปะการัง อีกทั้งมันยังสัตว์กินเนื้อที่มักจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนอีกด้วย การล่าเหยื่อของมันนั้น บอกเลยว่าโหดเหมือนกันนะ เพราะหลังจากที่ได้เจอเหยื่อจากการตามกลิ่นแล้ว มันก็จะทำการสำรวจเหยื่อโดยการยื่นงวงออกไปสัมผัส ก่อนจะรีบโจมตีโดยการยิงเข็มพิษใส่ทันที     นี่คือภาพงวงของมันขณะกำลังยืดเข้าไปดูดสัตว์ทะเลตัวอื่นๆ เช่น ปลาตัวเล็กตัวนี้   พิษที่ร้ายแรงของเจ้าหอยชนิดนี้ จะทำให้สัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นอัมพาต และแน่นิ่งไปในที่สุด   ลองไปรับชมวีดีโอการล่าเหยื่อของมันกันได้ก่อนเลย..   และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เหยื่อก็จะถูกมันกลืนกินเข้าไปทั้งตัวอย่างรวดเร็ว   ดูน่ากลัว และโหดมาก     เห็นนิ่งๆ แบบนี้ โหดร้ายไม่เบาเลยนะเจ้าหอย ที่มา : boredomtherapy

  • “International SOS” เว็บไซต์ดูความเสี่ยงของประเทศก่อนไปเที่ยว ไทยติดขั้นอันตรายเรื่องท้องถนน!!

    “International SOS” เว็บไซต์ดูความเสี่ยงของประเทศก่อนไปเที่ยว ไทยติดขั้นอันตรายเรื่องท้องถนน!!

    ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือการดูว่าที่ที่เราไปเที่ยวนั้นปลอดภัยหรือไม่ เพราะว่าเราต้องมันใจว่าเราจะกลับมาบ้านแบบครบ 32 อันตรายก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสซิก้าที่กำลังระบาดอยู่ตอนไหน หรือว่าจะเป็นการก่อการร้ายหรือภัยพิบัติต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องศึกษาให้ดีก่อนออกเดินทาง ถ้าคุณไม่รู้จะไปดูที่ไหน แนะนำให้เข้าเว็บไซต์ International SOS ซึ่งที่นี่ได้จัดทำแผนที่โลกพร้อมทั้งแบ่งสีให้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อแบ่งระดับความอันตราย ซึ่งสถิติทั้งหมดมาจากการสำรวจจากนักท่องเที่ยวจริงๆ จากรอบโลก     ส่วนมากแล้วคนมักจะเลือกประเทศที่ไม่มีการก่อการร้าย แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คืออัตราการเกิดอาชญากรรมและปัญหาท้องถนนนั่นเอง โดยทางเว็บไซต์ได้แบ่งความอันตรายออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ ความเสี่ยงในการท่องเที่ยว ความเสี่ยงบนท้องถนน และความเสี่ยงต่อร่างกาย ซึ่งท่านสามารถดูได้จากแผนที่ชุดนี้     และในแผนที่ก็แสดงสีที่แตกต่างกันออกไป เพื่อแบ่งความอันตรายออกเป็นหลายประเภทได้แก่   สีเขียว – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก ไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีความปลอดภัยและคอย่ชวยเหลือเป็นอย่างดี การเดินทางสะดวกและปลอดภัย   สีเหลือง – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ แทบไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีการก่อการร้ายได้ยาก และก็สามารถทำให้เหตุการณ์สงบได้ถ้าเกิดเหตุจริง การขนส่งก็สะดวกและปลอดภัยในระดับนึง   สีส้ม – มีการชุมนมการการเมืองบ้างเป็นระยะ มีการก่อการร้ายให้เห็น นักท่องเที่ยวอาจจะเสี่ยงกับความคุณแรงทางด้านเชื้อชาติ ศาสนาและอาชญากรรมด้วย การดูแลความปลอดภัยไม่ค่อยมั่งคง…

  • นักกู้ภัยแนะวิธีเอาตัวรอดจากการ ‘สำลักอาหาร’ เมื่ออยู่เพียงลำพัง ช่วยให้รอดชีวิตได้

    นักกู้ภัยแนะวิธีเอาตัวรอดจากการ ‘สำลักอาหาร’ เมื่ออยู่เพียงลำพัง ช่วยให้รอดชีวิตได้

    เชื่อเลยว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยมีอาการ ‘อาการสำลัก’ กันมาก่อน ซึ่งเป็นอาการที่วัตถุบางอย่าง เช่นอาหาร น้ำ เข้าไปทางหลอดลมแล้วจึงเกิดการสำลักออกมา แน่นอนว่าถ้าหากมีอาหารชิ้นขนาดใหญ่เข้าไปติดอยู่ในหลอดลมแล้วเราไม่สามารถเอามันออกมาได้ทันการล่ำก็ จะทำให้ร่างกายของเราขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้เลยล่ะ เพราะฉะนั้นการช่วยเหลือคนที่เกิดอาการสำลักง่ายๆ เลยก็คือ โอบกอดคนสำลักจากทางด้านหลัง แล้วก็วางมือของเราไว้บริเวณใต้ลิ้นปี่ จากนั้นก็รัดแบบกระแทกตรงบริเวณนั้นจนอาหาร หรือของที่เข้าไปติดอยู่ในหลอดลมหลุดออกมา     วิธีการดังกล่าวจะต้องใช้คน 2 คนขึ้นไป แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราเกิดสำลักในตอนที่อยู่คนเดียวล่ะ!? ในวันนี้ คุณ Jeff Rehman เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือชีวิตคน กับการเป็นทีมกู้ภัยมากว่า 22 ปี ก็มีวิธีในการเอาตัวรอดในเวลาที่เกิดอาการสำลักด้วยเองมาฝากเพื่อนๆ กัน เผื่อเอาไว้ป้องกันไว้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่คาดฝันขึ้นในตอนที่เราอยู่คนเดียว   เป็นหลักการง่ายๆ แบ่งออกเป็น 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้   1. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้   2. คุกเข่าลงไป จากนั้นก็โน้มตัวลงไปด้านหน้าค้ำเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างของตัวเอง   3. จากนั้นก็ยกแขนขึ้นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลำตัวของเราลงไปกระแทกพื้น   โดยแรงกระแทกจะสร้างแรงลมขึ้นมา และลมที่ว่านั้นก็จะช่วยดันให้เจ้าเศษอาหารนั้นหลุดออกมาจากหลอดลม จนทำให้เราสามารถกลับมาหายใจได้อย่างปกติ…

  • 2 เฮียสุดเฟี้ยว พากันนำรถบั๊มพ์ออกมาซิ่งบนถนนในจีน ตั้งใจประชดใครรึเปล่าเนี่ย!?

    2 เฮียสุดเฟี้ยว พากันนำรถบั๊มพ์ออกมาซิ่งบนถนนในจีน ตั้งใจประชดใครรึเปล่าเนี่ย!?

    เช้าวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา การจรบนถนนเฉิ่นหยาง ในประเทศจีนก็ดูปกติเหมือนในทุกๆ วัน แต่เดี๋ยวก่อน… ดูเหมือนว่ามันเริ่มไม่ปกติซะแล้วสิ เพราะจู่ๆ ก็มีคุณลุง 2 สหาย พร้อมใจกันนำรถบั๊มพ์สีเขียว และสีเหลืองออกมาขับซิ่งกลางถนน กลายเป็นภาพที่สร้างสีสันและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนไม่น้อย     โดยปกติแล้ว เราจะเห็นรถบั๊มพ์ เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นสุดมันส์ของสวนสนุก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนนำมันออกมาขับบนถนนจริงๆ   ภาพถ่ายดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดยผู้ใช้รถใช้ถนนคนหนึ่ง โดยเขาได้นำภาพของคุณลุงทั้งสอง ไปลงในเว็บไซต์ Weibo หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น ความฝันในวัยเด็กที่จะได้เห็นรถบั๊มพ์ออกมาจากสวนสนุกเป็นจริงแล้ว     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะดูมองเป็นเรื่องตลกและน่ารัก แต่สำหรับทางการแล้ว กลับไม่เห็นด้วย เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองจะปฏิบัติตามกฎจราจรด้วยการจอดรถติดไฟแดง แต่พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าอันตรายเป็นอย่างมาก ไม่มีรายงานว่าลุงทั้งสองโดนจับหรือปรับอะไรรึไม่ แต่นั่นก็ทำให้ชาวเมืองยิ้มกันเป็นแถบๆ ได้จริงล่ะ..     และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่จะมีการนำยานพาหนะสุดแปลกออกมาวิ่งแล่นกลางถนน เพราะเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ก็มีคนงานในสวนสนุกนำรถบั๊มพ์ออกมาซิ่งรอบเมืองเช่นกัน ที่มา : shanghaiist

  • ปริศนาฆาตกรรมในโรงพยาบาลญี่ปุ่น คนไข้ได้รับสารแปลกปลอมในถุงน้ำเกลือ ยังหาคนร้ายไม่ได้..!!

    ปริศนาฆาตกรรมในโรงพยาบาลญี่ปุ่น คนไข้ได้รับสารแปลกปลอมในถุงน้ำเกลือ ยังหาคนร้ายไม่ได้..!!

    กลายมาเป็นข่าวที่สะเทือนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อคุณตาวัย 88 ปีท่านหนึ่ง ถูกพบเสียชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาลเอกชนในเมืองโยะโกะฮะมะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่าน ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต เพราะมันไม่ใช่การเสียชีวิตทั่วไปตามอายุขัย แต่พบว่าเป็นการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล!!     จากการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นแล้วพบว่า มีสารแปลกปลอมปนเปื้อนอยู่ในถุงน้ำเกลือของคุณตา ซึ่งสารประเภทที่ว่าก็คือ สารซักฟอก ซึ่งจัดอยู่ในสารลดแรงตึงผิว โดยตามปกติแล้วในถึงน้ำเกลือจะไม่มีสารชนิดนี้อยู่แน่นอน   พยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 กันยายน ช่วงเวลา 22.00 น.   เมื่อย้อนเหตุการณ์กลับไปช่วงก่อนที่คุณตาจะเสียชีวิต พยาบาลได้เปลี่ยนถุงน้ำเกลือครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 กันยายน เวลาประมาณ 22.00 น. ต่อมา… จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันถัดมา เสียงเตือนอัตราการเต้นของหัวใจต่ำก็ดังขึ้น พยาบาลจึงรีบขึ้นมาดูอาการ แต่กลับพบว่าคุณตาเสียชีวิตแล้ว   ประเภทของสารที่ถูกพบปนเปื้อนอยู่ในถุงน้ำเกลือ   จากเหตุการณ์ข้างต้น ยังไม่สามารถสรุปตัวคนร้ายได้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ไม่มีกล้องวงจรปิด อีกทั้งโรงพยาบาลปิดทำการในเวลา 21.00 น. บุคคลภายนอกจึงไม่สามารถเข้ามาได้  (เปลี่ยนถุงน้ำเกลือในช่วงเวลา 22.00 น.)…

  • น่ากลัวมาก!! เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูบ้าน ออกมาเจอกับ ‘แก๊งแมว’ นับสิบบุกมาแทบทุกวัน

    น่ากลัวมาก!! เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูบ้าน ออกมาเจอกับ ‘แก๊งแมว’ นับสิบบุกมาแทบทุกวัน

    ในทุกๆ เช้า คุณ Corey Karmann ชาวสวนแห่งรัฐเนบราสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องเจอกับแก๊งแมวเหมียวจำนวนนับสิบตัวออกมาต้อนรับที่หน้าประตูบ้านอยู่เสมอ…     คุณ Karmann ได้รับเหล่าเหมียวที่มีความเชี่ยวชาญในการจับหนูเข้าทำงานในฟาร์มของครอบครัวเขา เขาให้ที่อยู่ที่แสนสุขสบาย และอาหารที่แสนอร่อยกับพวกมัน และแก๊งเหมียวก็ทำหน้าที่จับหนูให้กับเขา เมื่อถึงเวลาอาหารเย็นพวกมันจะมายืนชุมนุมกันที่หน้าประตูบ้านของเขา “ฟาร์มนี้เป็นสถานที่ที่ผมเติบโตมา และอาศัยอยู่ในปัจจุบัน เราจะเลี้ยงแมวอยู่ตลอด เนื่องจากว่าในฟาร์มนั้นเต็มไปด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่เราทำมาตลอดปี ฉะนั้นมันจึงมีหนูอยู่จำนวนมาก” คุณ Karmann กล่าว   เขาไม่ได้เห็นหนูแม้แต่ตัวเดียวมาเป็นปีแล้ว ต้องขอบคุณการทำงานหนักของชาวแก๊งที่ทำหน้าที่กันเป็นอย่างดี “ตอนนี้ชาวแก๊งที่ทำหน้าที่ไล่จับหนูอยู่ทั้งหมด 12 ตัว โดยมันจะเดินทางไปมาระหว่างบ้านของผม และบ้านของพ่อผม และมันสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ในฟาร์มแห่งนี้ ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 140 เมตร” พวกมันชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากกว่าที่จะอยู่ในบ้าน ราวกับคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของฟาร์มตัวจริงยังไงยังงั้นเลยล่ะ     “ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะทำการล่ากันแบบเป็นกลุ่ม แต่หลังจากที่ล่าไปซักพักก็จะเดินมาเรียกร้องความสนใจจากผมเพื่อขอให้เกาหูให้ แน่นอนว่าผมก็ทำให้พวกมันทุกตัว ฮ่าาาา” คุณ Karmann และครอบครัวของเขาดูแลชาวแก๊งเหมียวเป็นอย่างดี ทั้งให้อาหารดีๆ และพาพวกมันไปหาหมอ เพื่อตอบแทนการทำงานหนัก (เหรอ?) ของพวกมัน “พวกมันกำจัดหนู และศัตรูพืชภายในฟาร์มให้กับเรา เพราะฉะนั้นเราต้องตอบแทนก้วยการดูแลพวกมันให้ดีที่สุด”…

  • 17 ภาพแฮชแท็ก #Putyourcartback รณรงค์เลิกคำว่า ‘ใครๆ เขาก็ทำกัน’ จากการเก็บรถเข็นง่ายๆ!!

    17 ภาพแฮชแท็ก #Putyourcartback รณรงค์เลิกคำว่า ‘ใครๆ เขาก็ทำกัน’ จากการเก็บรถเข็นง่ายๆ!!

    คำว่า ‘ใครๆ เขาก็ทำกัน’ เป็นคำที่ค่อนข้างติดปากของผู้คนในสมัยนี้ อาจดูไม่ค่อยซีเรียสอะไร แต่เพื่อนๆ ลองคิดดูสิว่าถ้าเราคิดกันแบบนี้และทำกันต่อไปเรื่อยๆ ในเรื่องนั้นๆ ถึงจะรู้ว่าผิดก็ตาม สุดท้ายมันก็จะติดเป็นนิสัยและค่านิยม ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงได้ยากไปกว่าเดิมเสียอีก!!? ยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ อย่างเรื่องเอารถเข็นไปเก็บหลังจากช็อปปิ้ง แค่เดินไปที่จุดส่งรถเข็นนิดหน่อยเท่านั้น ในต่างประเทศห้างบางแห่งถึงกับต้องใช้ระบบยึดเหรียญเป็นค่าเช่ารถเข็น เพื่อให้คนเดินไปส่งรถเลยนะเออ แต่อย่าให้ถึงแบบนั้นเลย…   ทำแบบนี้ก็เสียที่จอดรถไป 1 คันแล้ว   ล่าสุดก็มีแฮชแท็กที่กำลังมาแรงในโลกสังคมออนไลน์ #Putyourcartback หรือเอารถเข็นของคุณไปเก็บ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเจอกันเป็นประจำไม่ว่าจะไปห้างสรรพสินค้าที่ไหน และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของคำพูดที่ว่า ‘ใครๆ เขาก็ทำกัน’ ล่ะ   ยกขึ้นไปบนโซนสวนหย่อมเลยก็ได้ สบายดี…   ถ้าทำแบบนี้กันทุกๆ คนคงไม่มีที่เดินแล้วล่ะ   ทั้งๆ ที่จุดส่งรถอยู่ด้านหน้าแค่นี้เอง…   เอาของขึ้นรถเสร็จก็ผลักใส่คันหน้าซะเลย เก๋ๆ   ชื่อของป้ายที่ติดตรงรถเข็นอธิบายได้ดีมาก ฮร่าาาาาาาา   เอิ่มมมมม น่าหงุดหงิดเหมือนกันนะถ้าอากาศร้อนๆ เนี่ย   จุดส่งรถอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 1 เมตร…

  • 13 ภัยพิบัติ ‘แผ่นดินไหว’ ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เท่าที่มนุษยชาติเคยประสบมา!!

    13 ภัยพิบัติ ‘แผ่นดินไหว’ ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เท่าที่มนุษยชาติเคยประสบมา!!

    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกเราต้องเผชิญกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึงสองครั้ง ทั้งในประเทศอิตาลี และประเทศพม่าเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ อย่างในพม่าเจดีย์พุกามอายุกว่า 800 ปีก็ถล่มลงมาด้วยแรงของแผ่นดินไหว และในประเทศอิตาลี ตอนนี้ก็มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวแล้วกว่า 250 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ     ครั้งนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะขออาสาพาเพื่อนๆ ย้อนรอย 13 ภัยพิบัติแผ่นดินไหวสุดร้ายแรง ที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เราลองไปทำความรู้จักไล่ตั้งแต่อันดับสุดท้า่ย ไปจนถึงอันดับแรกกันเลยครับ…     13. คันโต, ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1923 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 แม็กนิจูด บนที่ราบคันโต เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของญี่ปุ่น ผลของแผ่นดินไหวทำให้เกิด “เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในโตเกียว” ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 447,000 คน นั่นยังไม่รวมที่เสียชีวิตจากดินถล่ม สึนามิ และอาฟเตอร์ช็อคอีก 57 ครั้งไป ซึ่งจำนวนกว่า 150,000 คน   12. อาชกาบัต, สหภาพโซเวียต…

  • เผยความรุนแรงของฟ้าผ่าในระยะเผาขน ใกล้ชิดจนชนิดที่ว่ารอดมาได้ก็บุญแล้ว!!

    เผยความรุนแรงของฟ้าผ่าในระยะเผาขน ใกล้ชิดจนชนิดที่ว่ารอดมาได้ก็บุญแล้ว!!

    เวลาที่มีพายุฝนฟ้าคะนองจนถึงขั้นมีสายฟ้าผ่าให้เราเห็นจากไกลๆ ใจมันก็กลัวจนต้องรีบวิ่งหนีไปในที่ร่มในทันที และยิ่งถ้ามีสร้อยทองหรือสร้อยเงินบางคนนี่อาจจะต้องรีบถอดให้ไวกันเลยทีเดียว ขึ้นชื่อว่าฟ้าผ่าแล้วมันต้องเป็นอะไรที่น่ากลัวมากแน่ๆ เพราะถ้าใครโชคร้ายโดนมันผ่าเข้าไปทีนึงละก็มีหวังได้เดี้ยงแน่นอน     แต่ไม่รู้ว่าสำหรับครอบครัวนี้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่กับการได้เห็นฟ้าผ่าแบบชัดสุดๆ ในระยะเผาขนห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น   เมื่อเจ้าของบ้านกำลังถ่ายวิดิโอจากกล้องมือถือเล่นๆ เพื่อต้องการให้เห็นว่ามันเป็นไปได้ที่ถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะสดใสแต่ก็มีพายุโหมกระหน่ำอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นไม่นานก็…เปรี้ยงงง!!!!!!!   เอาเป็นว่าเราไปชมคลิปวิดิโอเต็มๆกันเลยดีกว่ารับรองว่าได้เห็นฟ้าผ่าแบบใกล้ชิดสุดๆแน่นอน (สำหรับคนที่ใส่หูฟังขอแนะนำให้ลดระดับเสียงลงด้วยนะเพราะเสียงมันดังมาก)   เป็นยังไงกันบ้างล่ะ…พลังทำลายล้างมันสูงจริงๆ ผ่าใส่ต้นไม้แค่ครั้งเดียวถึงกับไหม้และแยกเป็นสองส่วนเลย ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันดันไปผ่าใส่ใครซักคนเข้าจะเกิดอะไรขึ้น เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องระวังตัวกันให้มากขึ้นนะเหมียว ที่มา: ViralNova

  • เหลือเชื่อ!! ลูกหมาตกลงไปในบ่อที่มีงูพิษ แต่เหตุกลับพลิกผัน งูไม่ทำร้าย แถมช่วยปกป้องด้วย

    เหลือเชื่อ!! ลูกหมาตกลงไปในบ่อที่มีงูพิษ แต่เหตุกลับพลิกผัน งูไม่ทำร้าย แถมช่วยปกป้องด้วย

    วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาเพื่อนๆ ไปดูเรื่องราวอันเหลือเชื่อ ซึ่งตามปกติแล้ว งูกับสุนัข ยังไงก็ไม่ถูกกัน ถ้ามันปะทะหน้ากันเมื่อไร ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องเป็นฝ่ายที่จากไป แต่สำหรับกรณีเกิดขึ้นที่รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย เมื่อมีลูกหมา 2 ตัวตกลงไปในบ่อ ไม่อาจหาทางกลับขึ้นมาได้ เมื่อทางเจ้าของลูกหมาสองตัวนี้ รู้ว่าสุนัขตัวเองหายไป ก็ได้ออกตามหา และได้ยินเสียงแม่ของมันเห่าอยู่ที่ปากบ่อ จนในที่สุดก็พบตัวลูกหมาทั้งสองอยู่ก้นบ่อ     แต่ภาพที่น่าขนลุกก็คือ ข้างๆ นั้นมีงูจงอางอยู่ด้วยตัวหนึ่ง แต่เมื่อสังเกตไปสักพัก เหมือนว่างูตัวนี้ไม่ได้ทำร้ายลูกสุนัขเลย มันกลับทำในสิ่งตรงกันข้ามคือการปกป้องลูกหมาไม่ให้ไปอยู่ฝั่งอีกฝั่งที่เต็มไปด้วยน้ำ ในที่สุดทั้ง 2 ตัวก็ได้รับการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่ติดอยู่ในนั้นนานกว่า 48 ชั่วโมง ส่วนงูจงอางพวกเค้าก็นำมันไปปล่อยกลับไปสู่ป่าต่อไป   ไม่เรียกว่าเหลือเชื่อ ก็ไม่รู้จะว่าไงล่ะ แต่ยังเราก็ต้องระวังกันอยู่ดีนะ เพราะยังไงขึ้นชื่อว่างู ก็อันตรายอยู่ดี ที่มา brightside

  • ช่างภาพตามติดครอบครัว “สุนัขจิ้งจอก” ที่แม้ดูอันตราย แต่ก็ยังมีความน่ารักมุ้งมิ้ง

    ช่างภาพตามติดครอบครัว “สุนัขจิ้งจอก” ที่แม้ดูอันตราย แต่ก็ยังมีความน่ารักมุ้งมิ้ง

    พูดถึงสุนัขจิ้งจอก หลายคนคงนึกถึงสิ่งมีชีวิตหน้าตาคล้ายกับสุนัขผสมกับแมว แน่นอน ด้วยความที่มันเป็นสัตว์ป่า ทำให้มันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต้องห้าม นอกจากการเป็นสัตว์สงวนแล้ว ความดุร้ายของมันก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้อีกด้วย แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมอีกด้านของเหล่าสุนัขจิ้งจอก ที่แม้จะดูอันตราย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู จนเพื่อนๆ อาจจะใจละลายกันได้     ผลงานของ Joke Hulst ตากล้องสาวสมัครเล่นชาวเนเธอร์แลนด์ โดยเธอได้ใช้เวลาว่างในการตามถ่ายภาพสุนัขจิ้งจอกตามธรรมชาติ จนเกิดภาพชุดนี้ขึ้นมา   และเมื่อเธอนำภาพชุดนี้ขึ้นไปโพสบนเว็บไซต์ 500px ก็มีผู้เข้าชมกว่าห้าแสนครั้ง   ซึ่งเธอบอกว่าเธอภูมิใจมากที่งานของเธอได้รับความสนใจมากขนาดนี้ เพราะเธอถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกเท่านั้น   ดูจากผลงานแล้ว อย่างกับช่างภาพมืออาชีพเลยนะเนี่ย   ไปชมภาพอื่นๆ ในชุดนี้กันเลย . . . . . . .   ดูแล้วพวกมันก็มีท่าทางน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่ามันคือสัตว์ป่า และเหมาะจะอยู่ในธรรมชาติมากกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนั่นเองเนอะ!!!   ติดตามผลงานของเธอได้ที่: https://500px.com/jokehulst ที่มา: Boredpanda

  • 14 เหตุการณ์ของการวาง ‘กาวดักหนู’ ที่ดันไม่ได้หนู แต่กลับเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นมาเพียบ!!

    14 เหตุการณ์ของการวาง ‘กาวดักหนู’ ที่ดันไม่ได้หนู แต่กลับเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นมาเพียบ!!

    กาวดักหนูหรือแมลง เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้เราจัดการกับพวกสัตว์และแมลงอันเป็นศัตรูในบ้านของเรา เมื่อวางทิ้งไว้ซักคืน บางบ้านอาจจะเจอแค่แมลงสาบซัก 1-2 ตัว หรือหนูซักตัวมาติดกับดัก ก็ว่ากันไปตามสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าแมลงสาบหรือหนูเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและเลวร้ายมากพอแล้ว แอบอาศัยอยู่ในซอกมุมต่างๆของบ้าน แต่ขอบอกเลยว่าถ้าได้เห็นภาพเหล่านี้จาก ViralNova รับรองว่าจะเห็นหนูเป็นเรื่องเล็กไปเลยทีเดียว… **ขอเตือนไว้ก่อนนะจ๊ะว่าบางภาพมีความน่าขยะแขยงของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อยู่**   วางกาวดักไว้ 4 อัน แต่ได้แมงมุมกลับมา 12 ตัว แล้วพวกมันที่เหลืออยู่ล่ะ!?   เจอแบบนี้แล้วอยากย้ายบ้านหนีไปเลยดีกว่า   โว้ววว!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!!??   เมื่อคุณแม่กำลังตั้งท้องแต่ดันมาติดกับดักแทน ควรจะสงสารดีมั้ยนะ?   นี่มันปาร์ตี้สัตว์เลื้อยคลานรึเปล่าเนี่ย!!??   แบบนี้น่ากลัว จะจับหนูแต่ได้งูกลับมาเพียบ   ไม่ต้องแย่งกัน…ได้เข้าไปอยู่บนแผงกาวทุกตัวแน่นอน   อันนี้มาตัวเดียวเลยใหญ่ๆ เน้นๆ น่ากลัวชะมัด   เทียบกับงูเมื่อกี้ แมงมุมตัวเล็กแค่นี้ธรรมดาไปเลย   จุดจบตำนานความรักของกบน้อยทั้งสอง   พักสายตากันสักนิดละกัน… โล่งใจขึ้นมานิดนึง   จะจับหนูแต่ไม่ได้หนูซักตัว ได้กิ้งก่ามาแทน   รวมสารพัดแมลงอยู่ในกล่องเดียวกัน…

  • อลังการงานสร้าง!! เทศกาลยิงดอกไม้ไฟในญี่ปุ่นสุดอันตราย แต่ก็สวยงามในเวลาเดียวกัน

    อลังการงานสร้าง!! เทศกาลยิงดอกไม้ไฟในญี่ปุ่นสุดอันตราย แต่ก็สวยงามในเวลาเดียวกัน

    ขอเสียงคนรักดอกไม้ไฟโหน่ยยยยยย ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ เราก็มักจะเห็นดอกไม้ไฟอยู่เกือบทุกงาน โดยเฉพาะเทศกาลเฉลิมฉลอง แต่ขึ้นชื่อว่าดอกไม้ไฟแล้ว แน่นอนว่า มันคงไม่ได้สวยงามอย่างเดียวแน่ๆ วันนี้ก็เลยพามาดู เทศกาลดอกไม้ไฟที่เสี่ยงอันตรายแต่ก็สวยงาม อลัง ปัง ไม่ใช่เล่นเลยล่ะ สำหรับเทศกาล Tezutsu Hanabi ของชาวญี่ปุ่น เป็นประเพณีดอกไม้ไฟแบบดั้งเดิม และทำเองกับมือเลย โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า และขับไล่ดวงวิญญาณร้ายในเวลาเดียวกัน จัดขึ้นมานานต่อเนื่องกว่า 400 ปีแล้ว   ดอกไม้ไฟทั้งหมดนี้ พวกเค้าทำเองกับมือเลยนะ ใช้ดินปืนถึง 3 กิโลกรัมเลยล่ะ   งานนี้จะจัดขึ้นในเมือง Toyohashi จังหวัด Aichi ช่วงวันศุกร์ที่สาม วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ของเดือนกรกฏาคม   ไปชมภาพบรรยากาศแบบเต็มๆกันเลยดีกว่า . . .   และการยิงดอกไม้ไฟนั้น พวกเขาก็จะต้องทำการยิงด้วยตัวเองแบบนี้   จุดไฟ แล้วก็ถือกระบอกยิงดอกไม้ไฟอย่างมั่นคง . . . . . . . .…

  • ลองเปลี่ยนเซเลปดังให้ ‘อ้วนฉุ’ หวังให้สังคม ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพที่ตามมา!!

    ลองเปลี่ยนเซเลปดังให้ ‘อ้วนฉุ’ หวังให้สังคม ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพที่ตามมา!!

    ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากอ้วนหรอกจริงมั้ย?? ดูอย่างดาราดังหลายๆคน ต่างมีหุ่นที่ผอมเพรียว ล่ำบึก ใครๆ ต่างอยากมีหุ่นเหมือนกับพวกเค้า แต่ในขณะเดียวกัน กลับไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายอ้วนจนมีปัญหาสุขภาพ เพื่อให้คนเราตระหนักว่า โรคอ้วน ไม่ได้ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่มันยังทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพด้วย ดังนั้นศิลปินหลากหลายคน จึงร่วมกันตัดต่อรูปดาราดังทั้งหลายให้กลายมาเป็นคนอ้วน   Taylor Swift  โดย Fichtenbrenner   Superman โดย Dolphinsdock   Amy Winehouse โดย ThreeProngs   Christina Aguilera โดย Sudiptatatha   Jennifer Aniston โดย Baechi   Catherine Zeta-Jones โดย Sbalou 96   Cameron Diaz โดย Chrisboo1974   Taylor Lautner โดย LikeAPeach  …

  • กลายเป็นเรื่องใหญ่… ‘แมวป่า’ โหยหาอิสรภาพ ขุดอุโมงค์หนีออกไปจากสวนสัตว์!!

    กลายเป็นเรื่องใหญ่… ‘แมวป่า’ โหยหาอิสรภาพ ขุดอุโมงค์หนีออกไปจากสวนสัตว์!!

    ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าสัตว์ตระกูลแมวนั้น เป็นเจ้านายของเหล่ามนุษย์ตลอดมา ไม่ว่าอะไรก็ตามพวกมันจะไม่ยอมตกอยู่ภายใต้คำสั่งของมนุษย์อย่างเราๆ เป็นแน่แท้ เช่นเดียวกับเจ้าแมวป่าตัวนี้ ที่มันไม่ยอมถูกขังเป็นเบี้ยล่างอยู่ในสวนสัตว์ตลอดไป มันจึงแอบขุดดินหนีออกไปเพื่อเสพอิสระภาพ   กลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อแมวป่า ยูเรเซียน ลิงซ์ (Eurasian Lynx) ชื่อว่าเจ้า Flaviu ที่อยู่ในการดูแลของสวนสัตว์ Dartmoor หายตัว หลบหนีจากสายตาของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไปได้อย่างไร้ร่องรอย   จากการตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่ามันได้ทำการขุดกำแพงให้เป็นรูแล้วลอดออกไป ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังออกตามหากันให้ควั่ก ทั้งส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตามหา หรือแม้แต่ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปก็แล้ว แต่ก็ไม่พบ และล่าสุดก็ส่งโดรนออกไปและแล้วก็สามารถจับภาพของมันได้ พบว่ากำลังนอนชิลอยู่ที่ฟาร์มข้างๆ สวนสัตว์นี่เอง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังจับไม่ได้แต่อย่างใด หลังจากที่เข้าไปตรวจสอบแล้วพบเพียงแค่รอยเท้าเพียงเท่านั้น ทางสวนสัตว์ก็เลยตัดสินใจงดให้บริการสวนสัตว์เอาไว้ก่อน เพื่อออกตามหาตัวของเจ้า Flaviu ให้ได้     เอาล่ะเราลองมาทำความรู้จักกับเจ้าเหมียวป่าชนิดนี้กันก่อนดีกว่า จะได้เข้าใจว่าทำไมทางสวนสัตว์ถึงได้รีบออกตามหามันให้ควั่ก แมวป่านั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มักจะหาสัตว์เล็กกินเป็นอาหารเช่น กระต่าย หนู กระรอก หรือนก แต่บางครั้งมันก็กินสัตว์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอาหารอย่างเช่นกวาง เป็นต้น และไม่แน่ถ้ามันหิวมากๆ หรือรู้สึกว่ากำลังได้รับอันตราย อาจจะมีความเสี่ยงที่จะทำร้ายมนุษย์ได้ (ถึงมันจะไม่กินก็ตาม)     ด้วยขนาดลำตัวของมันที่มีความยาวจากหัวถึงหาง ประมาณ 120 เซนติเมตร และมีน้ำหนักมากถึง 20…

  • รู้ไว้เถอะว่า การปล่อย ‘สัตว์เลี้ยง-เด็ก’ ไว้ในรถร้อนๆ มันจะมีอุณหภูมิสูงขนาดไหน!?

    รู้ไว้เถอะว่า การปล่อย ‘สัตว์เลี้ยง-เด็ก’ ไว้ในรถร้อนๆ มันจะมีอุณหภูมิสูงขนาดไหน!?

    หากเราได้ติดตามข่าวบ่อยๆ ในหน้าร้อน เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับ การปล่อยเด็กไว้ในรถ จนทำให้เด็กเสียชีวิต หรือต้องทุบกระจกช่วยเหลือออกมา เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนเกิดจากความสะเพร่า ไม่ทันระวัง สุดท้ายก็ต้องเจอกับความสูญเสีย และเรื่องที่ #เหมียวขี้ส่อง จะไปพาไปดูวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในหน้าร้อนเช่นกัน ไม่ใช่กับคน แต่เป็นสุนัข เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่จะย้ำเตือนให้เราระวังมากขึ้น หากเราเลี้ยงหมาด้วย เรายิ่งต้องใส่ใจให้มากๆ     RSPCA (Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ได้เปิดเผยภาพของ Rottweilers 2 ตัวที่ถูกปล่อยไว้ในรถ ในขณะที่เจ้าของอยู่ในงานเทศกาล Creamfields โดยการเปิดเผยภาพนี้ เพื่อจะเตือนคนที่เลี้ยงหมาทั้งหลายว่า มันอันตรายแค่ไหน หากคุณปล่อยหมาไว้ในรถ โฆษกบอกว่า “อย่าปล่อยหมาของคุณไว้ในรถ หรือ ในห้องที่ปิดด้วยกระจก หรือที่ไหนก็ตามมีทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว” ตัวอย่างเช่น ‘อุณหภูมิข้างนอก 22 องศา แต่แค่ไม่ถึงชั่วโมง มันจะทำให้อุณหภูมิในรถสูงถึง 47 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่อาจทำให้ถึงตายได้’     ภาพนี้แสดงถึงให้เห็นถึงความน่ากลัวของอุณหภูมิที่ Rottweilers…

  • รวม 8 อุปกรณ์ป้องกันการบุกรุก สาวไทยทุกคนควรซื้อติดห้องไว้ ปลอดภัยแน่นอน!!

    รวม 8 อุปกรณ์ป้องกันการบุกรุก สาวไทยทุกคนควรซื้อติดห้องไว้ ปลอดภัยแน่นอน!!

    จากเหตุการณ์สุดสลดที่คนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนคุณครูสาวถึงห้องพร้อมกับฆ่าทิ้งอย่างไม่ไยดี ทำให้สาวๆ หลายคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ บ้านเช่า หรือหอพัก ด้วยตัวคนเดียว หรือเป็นหญิงล้วนต่างก็รู้สึกกลัวและกังวลไปตามๆ กัน   สมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า Wildstocks ได้ทำการตั้งกระทู้ “[กระทู้รวมอุปกรณ์] ถึงน้องๆ พี่ๆ ผู้หญิงที่ต้องอยู่ลำพังทุกคน เรามาป้องกันตัวเองกันดีกว่า”  ซึ่งเจ้าตัวอนุญาตให้ทางเราเอามาเผยแพร่เป็นประโยชน์กับสาวๆ ทุกคน แถมอุปกรณ์แต่ละชิ้นก็สามารถหาซื้อได้ และมีราคาไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นก็ควรหาซื้อมาใช้ป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อนดีกว่าที่ปล่อยให้จะเกิดอันตรายกันดีกว่าเนอะ   1. อุปกรณ์ป้องกันประตูหน้าในกรณีที่เป็นประตูห้องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้ หรือประตู PVC ให้ลองหาซื้อที่กั้นประตูที่เป็นไม้ลักษณะเป็นลิ่มแบบนี้ หรือจะทำเองก็ได้เอาเสียบไว้ที่ประตูขณะนอนหลับซัก 2 อัน เพราะโซ่คล้องประตูหรือขอเกี่ยวประตูไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด   2. เจ้า Hotel Alarm ที่จะช่วยส่งเสียงแจ้งเตือนเมื่อมีคนพยายามเปิดประตูเข้ามายามวิกาล ติดตั้งง่ายแถมราคายังไม่สูงอีกด้วย   3. หากอยู่ในคอนโดหรืออาคารชุดทั้งหลายที่ทางเข้าตรงระเบียงจะเป็นกระจก ให้ติดฟิล์ม Safety เพื่อป้องกันการกรีดกระจกหรือทุบกระจกเข้ามาในห้อง มีหลากหลายราคาตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน (แต่แนะนำให้ซื้อมาติดเถอะนะ เพื่อความปลอดภัย)   4. นอกจากจะติดสัญญาณเตือนที่ประตูหน้าแล้ว ก็อย่าลืมติดที่หน้าต่างด้วยล่ะ   5. อุปกรณ์ช่วยเหลือแบบพกติดตัวอย่างเช่นนกหวีดแบบนี้ เวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นก็เป่าเอาไว้ก่อนเพื่อเรียกให้คนมาช่วย…

  • คุณหมอเตือน… อาการ Selfie Elbow ที่มาพร้อมกระแส ‘เซลฟี่’ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้!!!

    คุณหมอเตือน… อาการ Selfie Elbow ที่มาพร้อมกระแส ‘เซลฟี่’ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้!!!

    เดี๋ยวนี้ ยังมีคนที่ไม่เคยเซลฟี่มั้ย? ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนเซลฟี่กันทั้งนั้น แต่รู้มั้ย? การเซลฟี่ แม้ว่าจะทำให้เราได้รูปสวยๆมา แต่ถ้ามากไป ก็ไม่ดีนะ เพราะการเซลฟี่อาจทำลายร่ายกายของเราได้อย่างง่ายดายเลย     รายการข่าวจากทาง Elle ระบุว่านักข่าวคนหนึ่ง Hoda Kotb ได้รับการวินิจฉัยถึงอาการข้อสอบอักเสบ ซึ่งมีผลมาจากการถ่ายเซลฟี่มากเกินไป เธอเริ่มรู้สึกปวดแขนและข้อศอก เธอจึงไปปรึกษานักศัลยกรรมกระดูก เขาถามเธอว่า ‘เธอเล่นเทนนิสหรือปิงปองหรือเปล่า’ (เธอไม่เคยทำทั้งสองอย่าง)     ผลการวินิจฉัยออกออกมาว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นไม่ได้มาจากการออกกำลังกาย แต่มาจากการถ่าย ‘เซลฟี่’ อาการดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า Selfie Elbow นั่นเอง แพทย์ยังชี้ให้เห็นว่า เมื่อเราเซลฟี่ แขนของเราจะงอแบบแปลกๆ แล้วเราก็กด แชะ แชะ แชะ ลองคิดดู ถ้าเราถ่ายรูปเยอะๆ 20 30 หรือ 40 รูป ต้องใช้เวลานานแค่ไหน แล้วเราก็ต้อง เกร็งข้อศอกไปแบบนั้น   ตอนนี้ Hoda มีก้อนแข็งๆ อยู่ที่ข้อศอกของเธอ เธอกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และตอนนี้เธอก็ไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเจอกับความเจ็บปวดจากการเซลฟี่นี้!!  …

  • ชมความงดงามของเส้นทางเดินเขาต้องห้ามบนเกาะ ‘O’ahu’ แต่ก็ไม่วายมีคนแอบลักลอบเข้าไป

    ชมความงดงามของเส้นทางเดินเขาต้องห้ามบนเกาะ ‘O’ahu’ แต่ก็ไม่วายมีคนแอบลักลอบเข้าไป

    อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ‘การท่องเที่ยว’ มีมากมายหลากหลายแบบ ซึ่งหลายๆ คนก็มีความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไปตามรสนิยม บางคนก็ชอบไปเที่ยวทะเล บางคนก็ชอบไปชมเมือง ชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สวยงาม บางคนก็ชอบเดินเขาชมความงดงามของธรรมชาติ แต่ก็มีพื้นที่อีกหลายพื้นที่ที่ถูกห้ามเข้าไปท่องเที่ยวถึงแม้ว่ามันจะสวยงามมากขนาดไหนก็ตาม เพราะเหตุผลที่ต้องห้ามขึ้นไปนั้นก็เพราะว่ามันอันตรายมากๆ นั่นเอง   เช่นเดียวกับเส้นทางเดินเขาบนเกาะ O’ahu ที่พาดผ่านบนเขา Ko’olau มีขั้นบันไดกว่า 4,000 ขั้นด้วยกัน ทำให้เราสามารถปีนขึ้นไปชมภาพวิวที่สวยสดงดงามของเมืองบนเกาะ และหมู่เกาะต่างๆ ของรัฐ Hawaii ได้   แต่น่าเสียดายที่เส้นทางนี้ถูกแบนไป ตั้งแต่ปี 1987 เนื่องจากเพราะ ‘พายุ’ ทำให้บันไดและเส้นทางเดินเขาเสียหาย จึงถูกตัดสินว่ามันไม่ปลอดภัย แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าเหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น เพราะฉะนั้นการห้ามก็เหมือนการยุยงส่งเสริมให้ขึ้นไป…     จากเว็บไซต์รีวิวชื่อดังของต่างประเทศ Yelp มีการเขียนรีวิวถึงเส้นทางการเดินเขาที่ว่านี้กว่า 100 ครั้งเลยทีเดียว เผยให้เห็นว่าข้างบนนั้นมีชิงช้าที่เรียกว่า ‘Heaven Swing’ ที่สามารถโหนออกไปแล้วเห็นภาพบรรยากาศที่สวยงามของหุบเขา ซึ่งดูแล้วมันอันตรายมากๆ เลยล่ะ โดยใครก็ตามที่ขึ้นไปจะต้องลองโหนเจ้าชิงช้านี้ดูสักครั้งเพื่อทดสอบความกล้าในตัวคุณ     ลองไปชมคลิปการโหนเจ้าชิงช้านี้กันที่ข้างล่างนี้เลยจ้า…  …

  • อุทาหรณ์… รถไฟเหาะสวนสนุกสก็อตแลนด์ หลุดจากรางจนมีผู้บาดเจ็บสิบราย!!!

    อุทาหรณ์… รถไฟเหาะสวนสนุกสก็อตแลนด์ หลุดจากรางจนมีผู้บาดเจ็บสิบราย!!!

    “รถไฟเหาะตีลังกา” เป็นเครื่องเล่นในสวนสนุกชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นรถที่เล่นไปตามรางคล้ายทางรถไฟ แต่รางจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีลักษณะโค้งไปมา และตีลังกา โดยมีความหวาดเสียว และน่ากลัวมากกกกก แต่แล้วก็เกิดเหตุระทึกขวัญ… เมื่อรถไฟเหาะของสวนสนุกสกอตแลนด์ หลุดออกจากรางขณะให้บริการลูกค้าและร่วงลงสู่พื้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 10 คน ดยแบ่งเป็นเด็ก 8 ราย และผู้ใหญ่ 2 ราย   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เครื่องเล่นที่ชื่อว่า “สึนามิ” ที่ประเทศสกอตแลนด์ สวนสนุก “เอ็มแอนด์ดีส์” โดยเก้าอี้รถไฟเหาะ 5 ตัว หลุดออกจากราง ชนเข้ากับโครงสร้างของรางรถไฟ!!!   ขณะเดียวกัน สวนสนุก เอ็มแอนด์ดีส์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากเหตุการณ์ร้ายแรง ทางสวนสนุกจะปิดให้บริการ   โดยเครื่องเล่นสึนามิจะวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิด 40 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 64.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)   เครื่องเล่นนี้ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบเล่น โชคดีที่ไม่มีเด็กเล็กได้รับอันตรายมากมายอะไรนัก… . .   นี่คือคลิปเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น!!!  …

  • ไม่ช็อคก็แย่แล้ว!! สาวออสเตรเลียตื่นมากลางดึก เจองูยาว 5 เมตร เลื้อยในห้องนอน…

    ไม่ช็อคก็แย่แล้ว!! สาวออสเตรเลียตื่นมากลางดึก เจองูยาว 5 เมตร เลื้อยในห้องนอน…

    ช่วงนี้หากเราได้ติดตามข่าว จะเห็นว่ามีข่าวงูเข้าบ้านบ่อยมาก อาจจะเนื่องจากอากาศร้อน ทำให้งูนั้นพยายามหาที่เย็นๆ เพื่อคลายร้อน ที่พบบ่อยคือในห้องน้ำ แต่กรณีนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาไปเรื่องของงูเข้าบ้านในต่างประเทศ ที่อาจจะน่ากลัวกว่าบ้านเราเยอะเลย…   Trina Hibberd หญิงสาวที่อาศัยในรัฐควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วแทบจะช็อคกับสิ่งที่เห็น คืองูยาวประมาณ 5 เมตร เลื้อยผ่านห้องโถงและเข้ามาในห้องนอนของเธอ   แต่เธอก็ยังมีสติ ถ่ายวิดีโอออกมา แล้วอัพโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ยูทูป….   “ตอนนี้เรามีแขกมาเยี่ยม และมันน่ากลัวมาก” Hibberd กล่าวขณะที่ถ่ายวิดีโอ “ฉันหมายถึง มันใหญ่มาก…มันเหยียดยาวอยู่ตรงชั้นวางหมวก” นอกจากนี้ ในคลิปเรายังได้ยินเธอพูดอีกว่า “มันใหญ่มาก โอ้!! พระเจ้า”   Hibberd ไม่มีทางเลือก แต่เธอก็จำเป็นต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการกับงูในเวลาตี 4 ของวันนั้น ในสถาณการณ์เช่นนี้ Trina ถือว่าเป็นคนมีสติมากคนหนึ่ง โดยเธอสามารถคุมสติและเรียกเจ้าหน้าที่มาได้ทันพอดี   งู Amethystine หรือที่เรารู้จักกันว่า งูหลาม ซึ่งเป็นงูที่สายพันธุ์ใหญ่ทีสุดในออสเตรเลีย มันมีขนาดใหญ่ที่สุดถึง 8.5 เมตร และมีความยาว…

  • เตือนภัยสาวๆ!! ‘ตะขอเกี่ยว’ ในห้องน้ำอาจเป็น ‘กล้องแอบถ่าย’ ตรวจเช็คกันให้ดีด้วยนะจ๊ะ!!

    เตือนภัยสาวๆ!! ‘ตะขอเกี่ยว’ ในห้องน้ำอาจเป็น ‘กล้องแอบถ่าย’ ตรวจเช็คกันให้ดีด้วยนะจ๊ะ!!

    เรื่องที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าในบทความนี้ก็คือการแอบถ่ายคลิปละเมิดความเป็นส่วนตัวของเหล่าสาวๆ ทั้งหลาย ซึ่งคลิปวิดีโอเหล่านี้จะถูกนำไปใช้สำเร็จความใคร่ของคนโรคจิต และนอกจากนี้ยังอาจถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ลากมกต่างๆ อีกด้วย แน่นอนว่ามันมีหลายวิธีที่เหล่ามิจฉาชีพจะเลือกใช้ทั้งการติดกล้องในห้องน้ำ โรงแรม หรือห้องลองเสื้อ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีในเรื่องของกล้องจิ๋วนั้นพัฒนาไปมากเช่นกันจนทำให้บางครั้งเราก็ตกเป็นเหยื่ออย่างไม่ทันรู้ตัว   เวลาไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ หรือในห้องพักโรงแรม เพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยเห็นเจ้า ‘ตะขอเกี่ยว’ กันอยู่บ่อยๆ   โดยเราสามารถแขวนผ้าเช็ดตัว เสื้อ กางเกง กระเป๋า หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อความสะดวกสบาย   แต่หากเพื่อนๆ เห็นเจ้า ‘ตะขอเกี่ยว’ ที่มีตะขอ 2 อันแปลกๆ และดูเหมือนมีช่องที่จะเป็นกล้องแอบถ่ายแบบที่เห็นข้างบนนั้น ให้รีบเดินออกมาแล้วไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบได้เลย   เพราะเจ้าตัวตะขอเกี่ยวแบบนี้มีกล้องขนาดเล็กซ่อนอยู่ข้างใน สามารถถ่ายทำวิดีโอและเก็บเสียงต่อเนื่องได้นานถึง 2 ชั่วโมงด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีรีโมทสัญญาณไวเลส ที่สามารถสั่งให้อัดหรือกดหยุดจากที่อื่นได้อีกด้วย   โดยเจ้ากล้องตะขอเกี่ยวนี้มีขายอยู่เกลื่อนตามร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั่วไป และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 700 บาท (มีแถมสายชาร์จแบตเตอรี่ให้ด้วยนะ)   ในตอนแรกนั้นผู้ผลิตมีจุดประสงค์ที่จะใช้มันในเรื่องของความปลอดภัยเกี่ยวกับบ้านและการทำธุรกิจ แต่ภายหลังถูกนำมาใช้งานในทางที่ผิดๆ   โดยในปีที่ผ่านมามีการตรวจพบเจ้ากล้องตะขอเกี่ยวอยู่ตามห้องน้ำสาธารณะในต่างประเทศแล้วหลายครั้งด้วยกัน จนทางตำรวจต้องออกมาแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง…

  • เตือนภัยเว็บ ‘AdidasThailand’ เว็บปลอม แต่ทำซะเนียนนึกว่าเป็นเว็บ Official!!

    เตือนภัยเว็บ ‘AdidasThailand’ เว็บปลอม แต่ทำซะเนียนนึกว่าเป็นเว็บ Official!!

    ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่หวังหารายได้จากการหลอกขายของมากมาย ซึ่งบางครั้งก็แอบอ้างว่าสินค้าเป็นของแท้ แต่เอาของปลอมมาขาย หรือ ใช้วิธีการลดสินค้าให้ดูน่าซื้อหลอกให้ผู้บริโภคโอนมาแล้วชิ่งหนีก็มี ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้เหล่ามิจฉาชีพจะต้องอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่สามารถหาตัวจับได้ง่ายๆ เพราะการดำเนินคดีนั้นจะทำได้ยาก และทำให้ผู้เสียหายถอดใจไปไม่เอาความ   และวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องมาแจ้งเตือนให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นแฟนสินค้าแบรนด์ดังอย่าง Adidas ถึงเรื่องของการสั่งซื้อของผ่านทางเว็บไซต์ www.adidasthailand.com เพราะมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 1705807 ได้ออกมาตั้งกระทู้เตือนภัย ชื่อกระทู้ว่า “ADIDAS ปลอม www.adidasthailand.com” โดยเล่าเรื่องราวที่เพื่อนของตัวเองได้ประสบพบเจอมาจากการสั่งสินค้า จากเว็บไซต์นี้   มีเนื้อหาในกระทู้ว่า ( #เหมียวหง่าว ขอโคว้ทเนื้อหาในกระทู้มาเลยก็แล้วกันเพื่อไม่ให้ข้อมูลเกิดความคลาดเคลื่อน) “ตามหัวข้อกระทู้เลยครับว่าเว็บไซต์ ADIDAS นี้เป็นเว็บไซต์ปลอมครับ เพื่อนผมเผลอสั่งรองเท้าไปคู่นึงครับ นึกว่าเป็น Official Adidas Thailand เขาสั่งโดยที่เขาไม่ได้ศึกษารายละเอียดก่อนครับ เห็นราคาถูกมาก เขาเลยสั่งครับ เว็บไซต์นี้ www.adidasthailand.com แต่เวลาเงินตัดบัตรจะเป็นบริษัท BAISITE TRADE CO.,LTD เขาลองเอาชื่อไปค้นใน GOOGLE ดูครับ พบว่าบริษัทชื่อนี้เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในจีนครับ ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะว่าไม่อยากให้คนอื่นที่หลงเห็นราคาแล้วไม่ได้เช็คก่อนสั่งของครับ ความประมาmการสั่งของออนไลน์เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อครับ ตอนนี้บัตรของเขาได้โดนตัดเงินไปแล้วครับ ตัดตั้งแต่วันที่กดสั่งเลยครับ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกๆ…

  • เสียวแทน!! ชายหนุ่มโพสต์เตือนใจ ให้ทุกคนสวมแว่นนิรภัยทุกครั้ง ก่อนใช้เครื่องมือต่างๆ

    เสียวแทน!! ชายหนุ่มโพสต์เตือนใจ ให้ทุกคนสวมแว่นนิรภัยทุกครั้ง ก่อนใช้เครื่องมือต่างๆ

    เชื่อว่าที่บ้านหลายๆ คนต้องมีเครื่องตัดหญ้าหรือเครื่องมือที่สามารถหมุนด้วยความเร็วสูง อย่างเช่นเครื่องเจียเหล็กอยู่ใช่มั้ยล่ะ ซึ่งเรามักได้ยินว่าควรใส่แว่นนิรภัยทุกครั้งขณะใช้งานเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะคิดว่า “คงไม่เป็นไรหรอก” แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพสุดเสียวของผู้งานจากเว็บบอร์ดชื่อดังของฝรั่งอย่าง Reddit ที่จะทำให้เพื่อนๆ รู้ว่า เราควรสวมแว่นนิรภัยทุกครั้ง ก่อนใช้เครื่องไม้เครื่องมือช่างต่างๆ ลองไปชมกันเลยดีกว่า!!   เรื่องราวดังกล่าวเป็นของสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ที่ชื่อว่ austaul เขาได้นำภาพของชายคนหนึ่งที่รอดพ้นอาการบาดเจ็บไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากเศษเครื่องมือกระเด็นใส่ดวงตาเขา โชคดีที่เขาสวมแว่นตานิรภัยเอาไว้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด   อื้อหือ สยองสุดๆ จริงๆ ลองไปชมความเห็นของชาว Reddit กันดูดีกว่า   “ชิ_หายแล้ว จากนี้ไปจะไม่ใช้เครื่องบัดกรีโดยไม่สวมแว่นอีกละ อันตรายจริงๆ เลย”   “ที่บ้านก็มีเครื่องเจียเหล็กเหมือนกัน จากนี้ไปจะไม่ใช้โดยไม่สวมแว่นนิรภัยโดยเด็ดขาด”   “ไม่ตลกนะเนี่ย จะบอกว่าไม่ใช่เพราะความโชคดี แต่เป็นเพราะความฉลาดของเขาต่างหาก” .   เห็นแบบนี้แล้ว ถ้าจะใช้เครื่องมือประเภทที่เป็นใบมีด อย่าลืมใส่แว่นนิรภัยและอุปกรณ์เบื้องต้นทุกครั้งนะฮะ เกิดอะไรขึ้นมา มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียไป หรือถ้าใครยังไม่รู้จะซื้อแว่นนิรภัยรุ่นไหนดี #เหมียวอ๊อดโด้ ขอแนะนำ แว่นนิรภัยยี่ห้อ…

  • นี่คือ “สวนพิษ” ที่เต็มไปด้วยพืชอันตราย ห้ามเข้าใกล้ หรือสัมผัสเด็ดขาด มิเช่นนั้นคุณอาจตายได้

    นี่คือ “สวนพิษ” ที่เต็มไปด้วยพืชอันตราย ห้ามเข้าใกล้ หรือสัมผัสเด็ดขาด มิเช่นนั้นคุณอาจตายได้

    ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “สวนพิษ” (Alnwick Poison Garden) ที่ตั้งอยู่ ณ ปราสาท Alnwick Castle ในประเทศอังกฤษ โดยที่เราเรียกว่ามันเป็นสวนพิษก็คือ สถานที่แห่งนี้มันเป็นแหล่งรวมพืชพรรณอันตราย ที่สามารถฆ่าคนได้นั่นเอง     สำหรับสวนอันตรายที่เต็มไปด้วยพืชสารพิษ ถูกสร้างขึ้นโดย Jane Percy ดัสเชสแห่ง Northumberland ผู้ที่อยากจะให้สวนของเธอแตกต่างจากสวนของคนอื่นๆ ดังนั้นเธอและสามีจึงมีส่วนในการรับผิดชอบสวนแห่งนี้     แม้ว่ามันจะเป็นสวนสารพัดพิษ แต่กลับได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก   นอกจากนี้ Jane ยังได้เปิดโอกาสให้คนภายนอกได้เข้ามารู้จัก และเชยชมสวนของเธออีกด้วย ซึ่งหากใครที่ได้เข้ามาแล้ว คุณจะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามเข้าใกล้ สัมผัส หรือสูดดมกลิ่นของพืชพรรณเหล่านั้นเด็ดขาด   นี่คือ “ประตูเหล็ก” ทางเข้าของสวนแห่งนี้ พร้อมคำเตือนเที่ขียนไว้อย่างชัดเจนว่า พืชเหล่านี้อันตราย และสามารถฆ่าคนตายได้   ที่สำคัญคุณจะพบกับอุโมงค์ต้นไม้ ที่ให้คุณเดินผ่านไปยังสวนพิษ ถึงมันจะดูสวยงามมาก แต่กลับเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความอันตราย   เมื่อคุณได้เข้าไปเยือนสวนแห่งนี้ นอกจากคุณจะเห็นพืชพรรณนานาชนิดแล้ว…

  • มารู้จักกับชีส ‘Casu Marzu’ ได้ชื่อว่าชีสอันตรายสุดในโลก สหภาพยุโรปถึงกับต้องแบนเลยทีเดียว!!

    มารู้จักกับชีส ‘Casu Marzu’ ได้ชื่อว่าชีสอันตรายสุดในโลก สหภาพยุโรปถึงกับต้องแบนเลยทีเดียว!!

    ‘ชีส’ คงเป็นอาหารที่เพื่อนๆ หลายคนโปรดปราน เพราะนอกจากจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังให้รสสัมผัสที่ยืดๆ เหนียวๆ หนุบหนับอร่อยอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งยังสามารถทำให้กรอบได้เมื่อเพิ่มระยะเวลาการทำให้สุก และแน่นอนว่าบนโลกใบนี้มีชีสอยู่หลากหลายชนิดที่แตกต่างกันไปทั้งกลิ่น และรสชาติ อย่างที่เรารู้จักก็จะเป็น เชดด้า มอสซาเรลล่า เป็นต้น แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับชีสที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดในโลกกัน…   เจ้าชีสชนิดนี้ชื่อว่า Casu Marzu (ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่าชีสเน่า) คือชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย ‘หนอนแมลงวัน’   เจ้าหนอนแมลงวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยทำให้ไขมันแตกตัวอีกด้วย ซึ่งกล่าวกันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมากๆ เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แถมยังมีวิธีการทานที่แปลกมากๆ เพราะเราจะต้องทานชีสขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ ถ้าพบว่าชีสก้อนไหนหนอนตายหมดไม่กระดุกกระดิกแล้วก็แสดงว่าชีสก้อนนั้นกลายเป็นอาหารที่เป็นพิษ   ซึ่งเจ้าชีส Casu Marzu นี้ถูกสหภาพยุโรปขึ้นบัญชีให้เป็นอาหารที่ผิดกฎหมาย เพราะได้มีการศึกษาแล้วว่าเจ้าชีสชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรงได้ แต่กลับกันเจ้าชีสชนิดนี้กลับเป็นที่ต้องการมากเป็นพิเศษสำหรับผู้รักชีสทั้งหลาย จึงทำให้มันมีขายอยู่ในตลาดมืด   **และที่สำคัญ!! เพื่อนๆ รู้ไหมว่า หากเราไปสะกิดหรือแตะต้องเหล่าหนอนพวกนี้ พวกมันจะสามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เซนติเมตรเลยทีเดียว   ลองไปชมคลิปเพิ่มเติมที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…   เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีของกินที่มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้อยู่บนโลก และที่สำคัญยังมีคนอยากกินมันอยู่มากมายเลยทีเดียว…

  • อุทาหรณ์สอนใจ… สาวใช้ ‘กากเพชร’ แต่งหน้า จนนำไปสู่การสูญเสียดวงตาบอดสนิท!!

    อุทาหรณ์สอนใจ… สาวใช้ ‘กากเพชร’ แต่งหน้า จนนำไปสู่การสูญเสียดวงตาบอดสนิท!!

    สำหรับเพื่อนๆ หลายคนการใช้กากเพชรแต่งหน้า คงเป็นเรื่องปกติที่ทำเป็นประจำ เพราะมันจะช่วยทำให้ใบหน้าของเรามีความแวววับ และดูโดดเด่น โดยเฉพาะบริเวณเปลือกตาที่มักจะใช้ตกแต่งกันเป็นประจำ แต่หารู้ไม่ว่าเจ้ากาเพชรนี้หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่ถ้าเอาไปอยู่ใกล้กับดวงตาแล้วมักจะอันตรายเสมอ วันนี้ #เหมียวหง่าว ขอพาเพื่อนๆ ไปชมอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งหน้าด้วยกากเพชรกัน   เรื่องมีอยู่ว่าหญิงสาวชาวต่างชาตินามว่า Erica Diaz ได้ทำการแต่งหน้าของเธอตามปกติพร้อมกับใส่กากเพชรวิ้งวับที่เปลือกตา   แต่อนิจจาจู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีเศษกากเพชร 1 ชิ้น หล่นติดเข้าไปในตาของเธอ   หลังจากนั้นเธอก็รีบไปหาหมอโดยเร็ว เพื่อทำการรักษา   แต่น่าเสียดายที่เจ้าเศษกากเพชรชิ้นนั้นสร้างความเสียหายกับดวงตาของเธออย่างมหาศาลจนทำให้กล้ามเนื้อตาอักเสบและปิดบังตาของเธอจนหมดเลยทีเดียว   เศษกากเพชรนั้นเข้าไปติดอยู่ในดวงตาและความคมของมันได้บาดกระจกตาของเธอ จนทำให้เกิดบาดแผลเล็กๆ   แน่นอนว่ามันสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และที่แย่ไปกว่านั้นคือเธอได้สูญเสียดวงตาข้างซ้ายของเธอไปอย่างสมบูรณ์แล้ว   และตอนนี้เพื่อนๆ ของ Erica ได้เข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ GoFundMe (เว็บไซต์เพื่อช่วยเหลือในการระดมทุน) เพื่อระดมทุนหาเงินไปทำดวงตาเทียม   และแน่นอนว่านี่เป็นอุทาหรณ์สอนใจหญิงที่สำคัญอย่างสุดๆ เลยนะ ไม่ว่าวัสดุอะไรก็ตามอย่าเอาเข้าไปใกล้ดวงตาเด็ดขาด!! มิเช่นอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกก็ได้ ไม่น่าเชื่อว่าแค่เศษกากเพชรเล็กๆ จะนำไปสู่การสูญเสียดวงตาได้เลย ฉะนั้นเพื่อนๆ ก็ต้องระวังกันด้วยนะ ^^ ที่มา : lifebuzz

  • สาระน่ารู้!! การอุ่นอาหารเหลือต้องทำอย่างไรถึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของเรา

    สาระน่ารู้!! การอุ่นอาหารเหลือต้องทำอย่างไรถึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของเรา

    เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารที่เราซื้อมาจากข้างนอก หากเราทานไม่หมดก็มักที่จะเลือกเก็บไว้เพราะเสียดายของที่ยังเหลืออยู่ แต่บางกรณีก็ทิ้งไปเลย แม้ว่าจะเหลือมากน้อยแค่ไหนก็ตาม     ทีนี้เรามาพูดถึงกรณีการเก็บอาหารที่เหลือกันดีกว่า เนื่องจากว่าอาหารที่เหลืออยู่นั้นมักจะถูกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาสภาพให้นานเท่าที่จะนานได้ เมื่ออยากรับประทานก็ต้องนำมาอุ่นเสียก่อนผ่านไมโครเวฟ ถ้าไม่คิดอะไรมาก อุ่นเสร็จก็กินได้ไม่มีปัญหา     แต่มันเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะมันจะกลายมาเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคชั้นดีเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะข้าวที่เหลือเอาไว้จะมีเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า บาซิลลัส ซีเรียส ต้นเหตุของท้องเสียและอาเจียน (โรคอาหารเป็นพิษ) ซึ่งหากจะให้ปราศจากเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ก็ต้องอุ่นด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 82 องศาเซลเซียส     เอาเป็นว่าหากใครมีแผนที่จะเก็บอาหารเหลือเอาไว้ ก็ควรเก็บในภาชนะที่สะอาดภายในเวลา 1 ชั่วโมง อีกทั้งอาหารที่เหลือนั้นไม่ควรนำมาอุ่นเกินมากกว่า 1 ครั้ง และในการอุ่นอาหารเหลือแต่ละครั้งต้องมั่นใจด้วยว่าทุกส่วนของอาหารได้รับความร้อนจากการอุ่นที่เพียงพอแล้ว     ที่มา : rrune, gosocial, Brit Lab

  • มือกล้องถ่ายภาพเด็กน้อยซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์โพสท์ลงโซเชียล… กลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตซะงั้น!?

    มือกล้องถ่ายภาพเด็กน้อยซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์โพสท์ลงโซเชียล… กลายเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตซะงั้น!?

    กลายเป็นเรื่องราวดราม่าขึ้นมาในต่างชาติเมื่อ มีชาวเน็ตได้ทำการถ่ายรูปของเด็กสาวที่กำลังซ้อนท้ายบนรถบิ๊กไบค์พร้อมสะพายกระเป๋า คาดว่ากำลังกลับจากโรงเรียน หลังจากนั้นก็ได้นำรูปภาพนี้ไปโพสท์ลงในโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ไปในเชิงต่อว่าผู้ปกครองของเด็ก     ผู้หญิงในรูปข้างบนก็คือ Mallory Torres คุณแม่ลูก 3 อาศัยอยู่ในรัฐ Texas เธอเล่าว่าสามีของตน John Hays นั้นมีประสบการณ์ในการขับขี่บิ๊กไบค์มากว่า 20 ปีแล้ว และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นเขาได้เริ่มพาลูกสาวตัวน้อย Mackenzie วัย 7 ขวบ ซ้อนท้ายไปด้วย     ซึ่งทาง Heys พ่อของเด็กหญิง Mackenzie ก็ได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า เธอชอบมันมากๆ เลย แถมยังขอร้องให้พาไปด้วยทุกครั้งที่เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปไหนต่อไหน เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อเขาพาลูกสาวตัวน้อยซ้อนท้าย เขาจะคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่าเดิม และมีการพูดคุยกันอย่างเข้มงวดก่อนที่จะพาเธออกไปไหนด้วย   มีชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนภาพที่ถูกอัพลงบนโซเชียล… โดยส่วนมากจะไปในทิศทางที่ต่อว่าผู้ปกครองที่ให้ลูกมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ได้ไง เป็นเราเราจะไม่ทำแบบนี้แน่ เพราะเรารักลูกของเรา ที่เราทำได้ก็เพียงแค่สวดภาวนาให้เด็กปลอดภัยแค่นั้นเอง   จากนั้น Mallory Torres คุณแม่ของหนู Mackenzie ก็เลยออกมาตอบโต้เหล่าชาวเน็ตที่ออกมาต่อว่าเธอทั้งหลายกลับไป… เนื้อหาโพสท์แปลได้คร่าวๆ ว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะกีดกันให้ลูกของฉันทำในสิ่งที่ชอบเพียงเพราะ ‘ความกลัว’ ในโลกนี้มีพ่อแม่มากมายหลากหลายแบบ…

  • ตำนานมวยปล้ำหญิง Chyna บริจาคสมองของเธอเพื่อวิจัยหาผลกระทบจากการเล่นมวยปล้ำ

    ตำนานมวยปล้ำหญิง Chyna บริจาคสมองของเธอเพื่อวิจัยหาผลกระทบจากการเล่นมวยปล้ำ

    ข่าวคราวการสูญเสียบุคคลชื่อดังระดับตำนานในวงการมวยปล้ำ WWE นั้นนับว่าเป็นอะไรที่น่าใจหายมากๆ ล่าสุดนี้หากใครได้ติดตามข่าวคราวกันมาบ้างแล้วจะทราบว่า นักมวยปล้ำหญิงระดับตำนานอย่าง Chyna นั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว     Chyna หรือชื่อจริง Joanie Laurer ถูกพบเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของตัวเอง โดยที่ผู้พบศพของเธอก็คือผู้จัดการส่วนตัว Anthony Anzaldo เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา   Chyna กับผู้จัดการส่วนตัวของเธอ Anthony Anzaldo   ทั้งนี้ทางผู้จัดการเองไม่อยากจะติดตามในเรื่องของสาเหตุการเสียชีวิตมากนัก และพยายามที่จะพูดคุยกับครอบครัวของเธอเพื่อทำการบริจาคสมองในการค้นคว้าวิจัยหาผลกระทบของสมองจากการเล่นมวยปล้ำ และหาทางรับมือกับมันในอนาคต     โดยในทีมงานวิจัยนี้จะมี Dr. Bennet Omalu ผู้ค้นพบ Central Traumatic Encephalopathy โรคความเสี่ยงทางสมองของนักกีฬาเข้าร่วมด้วย เพื่อที่จะสร้างความตระหนักต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสมองของนักกีฬามวยปล้ำ     ทั้งนี้นักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง Mick Foley, Kevin Nash และ Jeff Hardy ได้ยืนยันแล้วว่าพวกเขายินยอมที่จะบริจาคสมองหลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตลงไปแล้ว และ John Cena กำลังพิจารณาอยู่ว่าถ้าหากการวิจัยนี้เป็นประโยชน์จริงๆ…

  • หญิงชาวญี่ปุ่นถึงกับผงะ หลังเปิดตู้เสื้อผ้ามาเจอต่อยักษ์ตัวใหญ่กว่า 3 นิ้ว เห็นแล้วขนลุกเลย!!

    หญิงชาวญี่ปุ่นถึงกับผงะ หลังเปิดตู้เสื้อผ้ามาเจอต่อยักษ์ตัวใหญ่กว่า 3 นิ้ว เห็นแล้วขนลุกเลย!!

    โดยปกแล้ว เวลาที่เราเจอพวกผึ้ง หรือต่อ มันก็ทำให้เรากลัวกันแล้วใช่ไหมละ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณเกิดเจอต่อที่มีขนาดใหญ่ยักษ์กว่าต่อทั่วๆ ไป เฮ้อ…แค่คิดก็ขนลุกแล้ววววววว     และนี่ก็คือภาพของ Asian hornet หรือ ต่อยักษ์เอเชีย ที่มีขนาดตัวยาวถึง 3 นิ้ว ถูกพบในตู้เสื้อผ้าของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ซึ่งมันกำลังไต่เกาะอยู่บนเสื้อกันหนาวที่แขวนไว้ในตู้ งานนี้ทำเอาหญิงคนดังกล่าวถึงกับสตั้นไปชั่วขณะเลยทีเดียว     ดีนะที่สาวรายนี้ตั้งสติได้ทัน และโชคดีที่เธอไม่ถูกต่อย เพราะหลังจากที่ได้พบกับเจ้าต่อยักษ์ เธอก็นำอุปกรณ์มาคีบมันออกไปอย่างระมัดระวังที่สุด     นอกจากนี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า ต่อยักษ์เอเชีย ไม่ได้มีขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์เพียงอย่างเดียว แต่มันยังได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงมากๆ เลยละ เพราะพิษของมันสามารถทำลายเนื้อเยื่อของมนุษย์ และฆ่าผึ้งธรรมดาได้ถึง 40 ตัวในครั้งเดียวเลยนะ     บอกเลยว่าแค่ได้เห็นภาพก็ทำเอาเหมียวขี้อ้อนขนลุกซู่แล้ว!! ที่มา : dailymail

  • ดังไกลถึงเมืองนอก!! สำนักข่าวต่างประเทศแชร์คลิปคนไทยขี่มอไซด์ไปหลับไปช่วงสงกรานต์

    ดังไกลถึงเมืองนอก!! สำนักข่าวต่างประเทศแชร์คลิปคนไทยขี่มอไซด์ไปหลับไปช่วงสงกรานต์

    กลายเป็นที่โด่งดังระดับโลกเลยทีเดียว เมื่อสำนักข่าวเดลี่เมล์ได้แชร์คลิปชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไป หลับไป ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จนมีฝรั่งเข้ามาคอมเมนต์หลายสิบคอมเมนต์เลยทีเดียว ภาพที่เราเห็นคือ มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง กำลังขับขี่อย่างหวาดเสียวบนถนน เบี่ยงไปทางซ้ายทีขวาที เมื่อสังเกตดีๆ จะพบว่าคนขี่นั้น อยู่ในสภาพหลับคอพับ จนเป็นที่สงสัยของผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ว่าเขาขับรถออกมาในสภาพนั้นได้อย่างไร     อย่างที่เราทราบกันดีว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์คือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและสังสรรค์ของปวงชนชาวไทย การกินเหล้าเมาหัวราน้ำตั้งแต่เช้าถือว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป   ลองไปชมคลิปกันดีกว่า Man rides moped while ASLEEPTurns out you can’t ride a moped asleep (wait for it) โพสต์โดย Daily Mail บน 20 เมษายน 2016   เมื่อชาวเน็ตฝรั่งเข้ามาเห็น เขาจะคอมเมนต์ยังไงบ้างนะ   นี่ไม่ได้หลับละ นี่มันโรคลมชักชัดๆ   ถ้าเจอใน US คงคิดว่าพี้ยาเฮโรอีนมาแหงๆ   คนขับรถน่าจะปลุกเขามากว่ามาถ่ายคลิปแบบนี้นะ…

  • ยอดเขา Pedra da Gavea จุดถ่ายรูปอันสวยสะพรึงเพราะแฝงไปด้วยความเสี่ยงอันตราย

    ยอดเขา Pedra da Gavea จุดถ่ายรูปอันสวยสะพรึงเพราะแฝงไปด้วยความเสี่ยงอันตราย

    หากได้ไปท่องเที่ยวต่างแดนก็มักจะเป็นธรรมดาของนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปถ่ายรูปตามสถานที่สวยๆ หลายๆ แห่ง ซึ่งถ้าหากได้ไปเที่ยวที่เมือง Rio de Janeiro ประเทศบราซิล มักจะมียอดเขาที่สูงจริง และมียอดเขาสูงหลอกๆ ที่เคยผ่านตากันมาในอินเตอร์เน็ตบ้างแล้ว     ในคราวนี้ยอดเขาสูง Pedra da Gavea กำลังเป็นที่พูดถึงและมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนกันมากขึ้น ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 841 เมตร ไม่ได้สูงแบบหลอกๆ นะเนี่ย         จุดสูงสุดสามารถมองเห็นมุมมองพาโรนามาทั้งอทุยานแห่งชาติ, มหาสมุทร และวิวอันกว้างใหญ่ของเมืองในคราวเดียวกัน         แต่ก็ใช่ว่าหนทางปีนขึ้นไปนั้นจะง่ายดาย เพราะจะต้องใช้เวลาในการเดินขึ้นเขาประมาณ 3 ชั่วโมง บวกกับการปีนเขาอีกนิดหน่อย แต่ด้วยความสวยงามของวิวที่อยู่ข้างบนนั้นก็คุ้มค่ากับการที่จะลากตัวเองขึ้นไปอยู่บนนั้น ที่มา : huffingtonpost, unilad

  • ชายหนุ่มต่างชาติรอดตายหวุดหวิด…จากอุบัติเหตุไม่คาดฝันวัตถุประหลาดพุ่งเข้าใส่หน้ารถอย่างจัง!!

    ชายหนุ่มต่างชาติรอดตายหวุดหวิด…จากอุบัติเหตุไม่คาดฝันวัตถุประหลาดพุ่งเข้าใส่หน้ารถอย่างจัง!!

    ‘อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา’ เป็นเรื่องที่ใครๆ หลายคนคงเคยได้ยินมาบ่อยมากๆ ซึ่งมันก็เป็นความจริง เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรไม่ว่าจะขับรถ วิ่ง หรือแม้แต่เดิน หากไม่มองทางหรือไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ #เหมียวหง่าว มีเรื่องมาพิสูจน์ให้เพื่อนเห็นกันว่ามันอันตรายแค่ไหน เมื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันมันเกิดขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้นไปชมพร้อมๆ กันได้เลย… เรื่องมีอยู่ว่าชาวเน็ตต่างชาติ ได้ทำการแชร์ภาพลงในเว็บ Reddit เป็นภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนน โดยที่รถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่และกระจกหน้าทะลุเป็นรู มีสาเหตุมาจากเจ้าแท่งเหล็กขนาดใหญ่นอนแอ้งแม้งอยู่บนเบาะคนขับ   เขาเล่าว่าขณะที่เพื่อนของเขาได้โทรมาหาเขาและส่งรูปภาพเหล่านี้มาให้ดู เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น มีชิ้นส่วนปริศนาพุ่งทะลุรถของเขา   เจ้าชิ้นส่วนเหล็กนั้นลอยมาด้วยความเร็วสูงจากรถบรรทุก พุ่งตรงเข้ามาที่กระจกด้านหน้ารถอย่างจัง!!   สิ่งที่ช่วยชีวิตของเพื่อนเขานั้นคือเจ้าพวงมาลัยนี้นั่นเอง เจ้าเหล็กชิ้นดังกล่าวได้พุ่งเข้ามาโดนพวงมาลัยเข้าอย่างแรง จนทำให้มีลักษณะอย่างที่เห็นในภาพ   ทุกคนไม่มีใครได้รับอันตรายรุนแรง มีแต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณศีรษะด้านหลังหูข้างซ้าย   แหม่…ดวงดีจริงๆ นะเนี่ยพี่ชาย ถ้าไม่ได้เจ้าพวงมาลัยช่วยไว้ คงได้กลับบ้านเก่าไปแล้วแน่ๆ เป็นอุทธาหรณ์สอนใจเพื่อนๆ ทุกคนเลยนะว่าอุบัติเหตุมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาจริงๆ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ยิ่งต้องระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นก็ขับรถขับราระมัดระวังกันด้วยเน้อ และที่สำคัญ!! ‘เมา-ง่วง ไม่ขับ’ นะจ๊ะ ด้วยความปรารถนาดีจาก #เหมียวหง่าว ที่มา : reddit, viralnova

  • เปิดตัว Ideal Conceal ปืนพกสไตล์สมาร์ทโฟน พับเก็บได้ แถมเนียนด้วย!!

    เปิดตัว Ideal Conceal ปืนพกสไตล์สมาร์ทโฟน พับเก็บได้ แถมเนียนด้วย!!

    ทุกวันนี้มีปืนพกขนาดเล็กมากมายที่สามารถเก็บซ่อนไว้ในกระเป๋าได้โดยที่ไม่มีใครสังเกต แต่ถ้าปืนพกเหล่านั้นยังไม่แนบเนียนพอล่ะก็ วันนี้เหมียวมีปืนพกรุ่นใหม่มานำเสนอ รับรองว่าแนบเนียนแบบสุดๆ เลยล่ะ!! Ideal Conceal เป็นปืนพกที่มีรูปทรงคล้ายกับสมาร์ทโฟน ผู้ใช้งานสามารถพับด้ามปืนแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเมื่อพับแล้ว เชื่อว่าต่อให้มีคนอื่นเห็น ก็ไม่มีใครสังเกตอย่างแน่นอน     เจ้าปืนพกอันนี้สามารถบรรจุกระสุนขนาด .38 อย่างที่เห็น ข้อดีของมันคือสามารถพบพาได้อย่างสะดวกมากๆ และข้อเสียก็คือความสะดวกของมันนี่เอง ที่อาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดี นำไปก่อเรื่องไม่ดีๆ ได้     โดยราคาของปืนสมาร์ทโฟนนี้จะอยู่ที่กระบอกละ 395 เหรียญสหรัฐ หรือราว 14,000 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงกลางปี 2016 นี้       อื้อหือ แนบเนียนจริงๆ แบบนี้ก็แอบเกรงว่าจะมีคนเอาไปทำไม่ดีไม่ร้ายจริงๆ แต่คิดในอีกแง่ มันสามารถนำไปใช้ป้องกันตัวเองได้เนอะ ยังไงก็แล้วแต่ว่าใครจะใช้ในทางไหนแล้วล่ะ เพราะปืนไม่มีความคิด ที่มีความคิดคือคนใช้ต่างหาก ใช่มั้ยละเพื่อนๆ ที่มา technabob

  • หวิดดับ!! นักปั่นอังกฤษพบ ‘ลวดหนาม’ สูงระดับคอ โผล่ขวางกลางทางปั่นจักรยาน

    หวิดดับ!! นักปั่นอังกฤษพบ ‘ลวดหนาม’ สูงระดับคอ โผล่ขวางกลางทางปั่นจักรยาน

    อันตรายมีอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆ เพราะเราไม่รู้ว่าวันดีคืนดีเราจะโดนอะไรเมื่อไหร่ หรืออย่างไร แม้แต่กระทั่งเวลาปั่นจักรยานออกกำลังกายหรือกินลมชมวิวก็ตาม อย่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ โดยนักปั่นพ่อลูกสองที่ไปเจอกับลวดหนามขวางกลางทางเข้า     Daniel Webster วัย 39 ปี คุณพ่อลูกสองจากประเทศอังกฤษ เลือกเส้นทางปั่นใกล้ๆ กับปราสาท Leeds ซึ่งเป็นเส้นทางที่นิยมเสียด้วย แต่ในระหว่างทางเขากลับสังเกตเห็นว่ามีลวดหนามแขวนไว้สูงถึงระดับคอ โชคดีที่ว่าเขาหยุดทันก่อนที่จะปะทะกับลวดหนามเสียก่อน     จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อผู้คนเป็นอย่างมาก เขาก็ได้ทำการโพสต์เตือนภัยผ่านเฟสบุ๊ก ซึ่งมียอดแชร์มากมายกว่าพันครั้ง อีกทั้งยังรายงานให้ตำรวจท้องถิ่นทราบด้วยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น อาจจะส่งผลร้ายต่อผู้อื่นที่ไม่ทันสังเกตได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังทำการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดต่อไป #เหมียวเลเซอร์ เคยเห็นมาว่าประเทศไทยเราก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกัน ระวังกันไว้ด้วยก็ดีนะ เพราะว่าลวดแบบนี้ สังเกตได้ยากมาก ที่มา : kentonline, theladbible

  • บันไดเลื่อนในจีน  จู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศกะทันหันซะงั้น เล่นเอาคนที่กำลังใช้งาน ร่วงลงไปกองทับกันนับสิบราย

    บันไดเลื่อนในจีน จู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศกะทันหันซะงั้น เล่นเอาคนที่กำลังใช้งาน ร่วงลงไปกองทับกันนับสิบราย

    ถ้าจะพูดถึงอุบัติเหตุบันใดเลื่อน หลายคนก็คงจะนึกถึงประเทศจีนเป็นอันดับแรก เพราะประเทศนี้เรียกได้ว่าเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับบันใดเลื่อนบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ และล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ทางเว็บไซต์ Mirror ก็ได้เผยคลิปวีดีโอจากเฟซบุ๊ก CCTVNews ซึ่งในคลิปได้แสดงภาพของผู้คน ในเมืองหนองโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน กำลังใช้งานบันไดเลื่อนกันอย่างเนืองแน่น     แต่แล้วจู่ๆ บันไดเลื่อนเจ้ากรรม เกิดเปลี่ยนทิศกะทันหันซะงั้น เพราะจากที่เลื่อนขึ้น ก็กลายเป็นเลื่อนลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้บรรดาผู้คนที่ยืนอยู่บนบันใด พากันเลื่อนถอยหลังล้มกองทับกันระเนระนาดดังภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้…     เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนที่ใช้บันใดเลื่อนในขณะนั้นมากจริงๆ   ทั้งนี้ บันไดเลื่อนที่จุดดังกล่าวได้ถูกปิดใช้บริการแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่พบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด มีเพียงผู้ได้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 รายเท่านั้น     ที่มา : mirror

  • ช็อคสิครัช!! ชาวเน็ตพบหมึกหน้าตาประหลาดในห้างดัง สายพันธ์ุที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

    ช็อคสิครัช!! ชาวเน็ตพบหมึกหน้าตาประหลาดในห้างดัง สายพันธ์ุที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

    เมื่อเพื่อนๆ อยากทำอาหารทะเลทานเองที่บ้าน ก็ต้องออกไปเลือกซื้อตามตลาดสดบ้าง ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำใกล้บ้านบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งล่าสุดมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งได้ไปซื้ออาหารทะเลที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แต่กลับพบว่ามีปลาหมึกแปลกประหลาดมีสีดำปะปนอยู่ด้วย!!     ซึ่งทางเพจดราม่าชื่อดัง Drama-addict ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ไอ้หมึกดำๆเนี่ย คือหมึกสายวงน้ำเงิน ที่มีพิษร้ายแรงมากๆ ถ้ากินเข้าไปสามารถฆ่าผู้ใหญ่ได้เป็นสิบๆคนเลยทีเดียว   กรี๊ดเลยครับ มีคนไปซื้ออาหารทะเลที่ห้างดัง แล้วเจอปลาหมึกหน้าตาแปลกๆปะปนมา เลยเอามาโพสลงกลุ่ม siamensis ปรากฏว่านั่นคือ… Posted by Drama-addict on Monday, February 22, 2016   นอกจากนี้ทางเพจ Drama addict ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า พิษของเจ้าหมึกสายวงน้ำเงินนั้นเป็นพิษชนิดเดียวกับปลาปักเป้า ที่จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและกลายเป็นอัมพาต รวมไปถึงกล้ามเนื้อที่ช่วยใช้หายใจด้วย เมื่อไม่มีกล้ามเนื้อคอยช่วยในการหายใจ ก็จะทำให้ขาดอากาศหายใจและตายไปในที่สุด ที่สำคัญก็คือพิษชนิดนี้สามารถทนความร้อนได้ดีอีกด้วย   เจ้าปลาหมึกตัวจิ๋วเนี่ย พิษของมันเป็นประเภทเดียวกับพิษของปลาปักเป้าครับ โดยจะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้คนที่ถูกพิษกล้ามเนื… Posted by Drama-addict on Monday, February 22, 2016   และแน่นอนชาวโซเชียลก็ได้แสดงความคิดเห็นมากมายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…

  • ตำรวจสหรัฐออกมาเตือน อย่าชาร์จมือถือไว้ใต้หมอน เพราะมันอาจระเบิดใส่หัวคุณได้!!

    ตำรวจสหรัฐออกมาเตือน อย่าชาร์จมือถือไว้ใต้หมอน เพราะมันอาจระเบิดใส่หัวคุณได้!!

    ในยุคที่ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ทำให้คนจำนวนมากติดโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ จนไม่อาจจะละสายตาได้ แม้แต่ตอนจะนอนก็ยังเลื่อนขึ้นๆ ลง แถมยังเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ใกล้ๆ กับที่นอน รู้หรือไม่ว่านั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะได้     ในต่างประเทศเองมักจะมีข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ชาวบ้านชอบเสียบสายชาร์จมือถือ แล้ววางไว้บนเตียงหรือใต้หมอน จนเกิดระเบิดขึ้น ทางสถานีตำรวจแห่งนิวยอร์กจึงได้รวบรวมเอาภาพเหตุการณ์น่าสยดสยองเหล่านั้นมาเตือนใจผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนว่า “อย่าชาร์จมันไว้บนเตียงเด็ดขาด”     ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นส่วนใหญ่เป็นภาพที่หมอนหรือเตียงนอนถูกไฟลุกไหม้เป็นหย่อมๆ สาเหตุเกิดมาจากมือถือนั้นถูกวางไว้ใต้หมอน ทำให้เครื่องไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ และระเบิดในที่สุด     ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของนาย David Berardesca หัวหน้าหน่วยดับเพลิงในรัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ที่ได้เคยออกมาเตือนเหล่าผู้ใช้มือถือก่อนหน้านี้ว่า การชาร์จมือถือโดยการวางไว้บนเตียงและมีหมอนทับอยู่ อาจทำให้แบตเตอรีร้อนจนเกิดลุกไหม้ได้     ทางที่ดี#เหมียวฟิ้นว่าควรจะชาร์จมือถือไว้ในที่โล่งๆ อย่างบนโต๊ะหรือไม่ได้ที่ที่มีลมถ่ายเทได้ หรือถ้าจะให้ดีควรชาร์จให้เรียบร้อยก่อนเข้านอนจะเป็นการดีที่สุดนะ ที่มา dailymail

  • เด็ก 3 ขวบ ถูกพ่อแม่ปล่อยให้เล่นในห้างตามลำพัง จนเกิดอุบัติเหตุมือติดร่องบันไดเลื่อน

    เด็ก 3 ขวบ ถูกพ่อแม่ปล่อยให้เล่นในห้างตามลำพัง จนเกิดอุบัติเหตุมือติดร่องบันไดเลื่อน

    พักหลังมานี้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบันใดเลื่อนในประเทศจีนเกิดขึ้นบ่อยมากเหลือเกิน จนบางครั้งเวลาที่ได้ใช้บันใดเลื่อนบนห้างสรรพสินค้า ก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ หวาดเสียวตามไปด้วย ล่าสุดทางสำนักข่าว Shanghaiist ก็ได้ออกมารายงานว่า มีเด็กชายชาวจีนวัย 3 ขวบคนหนึ่ง ที่ผู้ปกครองปล่อยไว้ให้อยู่ตามลำพังในห้างสรรพสินค้านครหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้เล่นซุกซนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น     ทั้งนี้พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เด็กชายคนดังกล่าวเล่นอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเพียงลำพัง โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย งานนี้จึงทำให้เด็กที่กำลังเล่นอยู่ในห้าง เกิดอุบัติเหตุมือไปติดอยู่กับเครื่องจักรตรงร่องบันไดเลื่อนยังไงละเหมียว     เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาถึงยังจุดเกิดเหตุ พวกเขาก็ได้เร่งเข้าช่วยเด็กทันที ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางด้านแพทย์จากโรงพยาบาลได้เผยว่า มือของเด็กได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีบาดแผลฉกรรจ์จนอาจจะต้องตัดนิ้วมือทิ้งถึง 3 นิ้ว เพื่อทำการรักษา     นอกจากนี้ยังมีการรายงานอีกว่า พ่อและแม่ของเด็กเป็นคนขายของอยู่ในห้าง ซึ่งอาจจะกำลังยุ่งกับที่ร้าน จนเผลอละสายตาไปจากลูกของพวกเขา จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และนี่ก็เป็นกรณีตัวอย่างที่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายควรตระหนักไว้ว่า  อย่าปล่อยปะละเลยลูกหลานตัวน้อยๆ ของท่าน ให้อยู่เพียงลำพังเป็นอันขาด เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ ที่มา : shanghaiist

  • เรื่องจริงของ ‘Mayantuyacu’ แม่น้ำเดือดปุดๆกลางป่าอะเมซอน พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตที่พลัดตกลงไป

    เรื่องจริงของ ‘Mayantuyacu’ แม่น้ำเดือดปุดๆกลางป่าอะเมซอน พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตที่พลัดตกลงไป

    เหมียวขี้อ้อนเชื่อว่า บนโลกของเราใบนี้ยังมีเรื่องราวอันน่าสะพรึงอีกมากมาย ที่เราอาจไม่เคยได้รู้มาก่อน และในวันนี้เราก็จะขอมาเผยเรื่องราวของสายน้ำมรณะกลางป่าอะเมซอน ในประเทศเปรู ผ่านประสบการณ์ของ Andrés Ruzo นักธรณีวิทยาหนุ่ม ที่ได้ไปสัมผัสสายน้ำแห่งนี้ด้วยตัวเองมาแล้ว     Andrés เคยได้ยินเรื่องราวของสายน้ำมรณะมาจากคุณปู่ ซึ่งคุณปู่ได้เล่าว่ามีนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งในยุคจักรวรรดิอินคาช่วงสุดท้าย เข้าไปในป่าอะเมซอนเพื่อค้นหาทอง แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปแล้ว กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิต โดยพวกเขาได้เผชิญกับฝันร้ายในที่แห่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เป็นพิษ งูกินคน และสายน้ำที่พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตแบบทั้งเป็น     Andrés ไม่ได้สนใจในคำบอกเล่าของปู่มากนัก จนกระทั่งเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้จากปากของน้าที่เคยไปเยือน ณ สถานที่แห่งนี้มาแล้ว จึงทำให้เขาเริ่มประหลาดใจ และอยากที่จะลองไปสัมผัสสายน้ำมรณะแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาก็ยังคงสงสัยว่า สิ่งที่ปู่ และน้าได้เล่ามามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เขาจึงได้ถามเพื่อนที่ทำงานในบริษัทเหมืองและก๊าซ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ ‘มันไม่มีอยู่จริง’     คำพูดของเพื่อนที่บอกว่ามันไม่มีอยู่จริง กับของน้าที่บอกว่ามันมีอยู่จริง จึงทำให้ Andrés ได้ออกเดินทางไปหาคำตอบด้วยตัวเองในปี 2011 และในที่สุดเขาก็พบว่า สายน้ำที่เดือดระอุมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ยังไงละเหมียว     เมื่อเขาเดินทางไปถึงเขาก็พบว่า แม่น้ำ Mayantuyacu แห่งนี้ทอดตัวยาวกว่า…

  • ห้างในจีน เตรียมเปิดสไลเดอร์ที่มีความสูงถึง 5 ชั้น แต่คนหวั่นอันตราย เพราะแค่เห็นก็หวาดเสียวแล้ว

    ห้างในจีน เตรียมเปิดสไลเดอร์ที่มีความสูงถึง 5 ชั้น แต่คนหวั่นอันตราย เพราะแค่เห็นก็หวาดเสียวแล้ว

    สำหรับภาพสไลเดอร์ขนาดใหญ่ยักษ์ ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้  ประเทศจีน ที่กำลังจะมีแผนเตรียมเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลโคมไฟ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ บอกเลยว่าแค่ได้เห็นภาพก็หวาดเสียวฝุดๆ เพราะมันมีความสูงจากชั้น 5 ยาวลงไปยังชั้น 1 กันเลยทีเดียว และที่สำคัญหากได้ลองสังเกตดูดีๆ คุณจะเห็นว่าสไลเดอร์ขนาดใหญ่ยักษ์นี้ มีความละม้ายคล้ายกับมังกรซะเหลือเกิน ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย…     อืมมมม มันมีลักษณะเหมือนกับมังกรที่กำลังพันตัวอยู่กลางห้างเลยละเหมียว   อลังการงานสร้างมากจริงๆ   งานนี้ทำเอาบรรดาผู้ชมโดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งหลาย ต่างพากันตื่นเต้น และเตรียมจะไปเล่นเจ้าสไลเดอร์ยักษ์กันเป็นแถว แต่ก็ยังมีเด็กๆ อีกหลายคนที่ไม่กล้าเล่น เพราะทางผู้ปกครองได้ออกมาเตือนว่าอาจจะเป็นอันตรายได้     ด้านชาวเน็ตจีน เมื่อได้เห็นภาพของเจ้าสไลด์เดอร์ยักษ์ ต่างก็บอกว่ามันน่ากลัว และอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นจะไม่ขอเล่นเด็ดขาด     แล้วคุณละ…กล้าเล่นหรือเปล่า?   ทั้งนี้ทางผู้จัดการของห้างดังกล่าวได้ออกมาเผยว่า ทางห้างได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยตามขั้นตอนแล้ว และไม่มีการเรียกร้องให้มีการบังคับตรวจสอบแต่อย่างใด ที่มา : shanghaiist

  • เด็กม.เกษตรขวัญผวา ถูกแก๊งแว๊นเอาปืนจ่อในมหาลัยกลางดึก โวยความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?!?!

    เด็กม.เกษตรขวัญผวา ถูกแก๊งแว๊นเอาปืนจ่อในมหาลัยกลางดึก โวยความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?!?!

    กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากมีนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขนโพสเฟสบุ๊คเล่าประสบการณ์สะเทือนขวัญ ถูกเด็กแว๊นเอาปืนจ่อขณะกลับหอตอนดึก โดยข้อความดังกล่าวถูกแชร์ผ่านเพจ ทุกอย่างดูซอฟท์เมื่อเป็นพาสเทล ทางเพจได้แคปโพสเฟสบุ๊คของนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขนที่พบกับเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา   เห้ย เกินไปเเล้ว นี่มหาลัยนะครับบบ ไม่ใช่ซ่องโจร บางครั้งเด็กต้องทำอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมดึกๆ ความปลอดภัยของเด็กอยู่ที่ไหนวะ #จะเเชร์จนกว่ามหาวิทยาลัยจะรับรู้เรื่อง Posted by ทุกอย่างดูซอฟท์เมื่อเป็นพาสเทล on 11 กุมภาพันธ์ 2016   โดยพวกเขาเล่าว่า ขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับที่พัก มีแก๊งเด็กแว๊นขี่รถเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัย แล้วเอาปืนจ่อมาที่พวกเขา จากนั้นก็ขี่รถจากไป จนพวกเขารู้สึกตกใจและไม่มั่นใจในความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าเป็นแก๊งเด็กแว๊นที่อยู่บริเวณนั้น       น่ากลัวจริงๆ แบบนี้ความปลอดภัยของนักศึกษาอยู่ที่ไหนล่ะนี่ แล้วชาวเน็ตล่ะ คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง   หวังว่าเมื่อข่าวนี้แชร์ออกไป ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัย จะมีมาตรการจัดการเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกนะฮะ เป็นห่วงแทนนักศึกษาที่นั่นจริงๆ ที่มา ทุกอย่างดูซอฟท์เมื่อเป็นพาสเทล

  • หนุ่มห่ามเมา ขอโชว์กลืนเบอร์เกอร์ทั้งชิ้น สุดท้ายอาหารติดหลอดลม สิ้นชีวิต!!

    หนุ่มห่ามเมา ขอโชว์กลืนเบอร์เกอร์ทั้งชิ้น สุดท้ายอาหารติดหลอดลม สิ้นชีวิต!!

    เรื่องของอาหารการกินไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะจ๊ะ ใครจะไปคิดใช่มั้ยล่ะว่าการกินอาหารจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ อย่างพ่อลูกสามวัย Darren Bray วัย 29 ปีผู้นี้ ที่ได้ทำการซื้อชีสเบอร์เกอร์มากิน แต่กลับกลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่ทำปลิดชีวิตตัวเอง     เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2015 ที่ผ่านมา Darren ได้ออกไปซื้อชีสเบอร์เกอร์มา หลังจากที่ดื่มเบียร์กระป๋องจนเมาได้ที่ และแวะเข้าไปที่บ้านเพื่อนของเขา     และเขาก็พูดกับเพื่อนว่า ‘ดูนี่นะ’ ก่อนที่จะพับชีสเบอร์เกอร์ก้อนโตให้เหลือครึ่งหนึ่ง แล้วก็ทำการกลืนลงไป จากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกหน้ามืดและสลบในที่สุด     Sam Bisgrove เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ‘ผมเห็นเขาพยายามคายมันออกมา เสียงไอของเขามันดังน่ากลัวมาก ผมก็พยายามช่วยตบหลังเขาเพื่อให้อาการบรรเทาลง’ ภายหลังเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้ามาทำการกระตุ้นหัวใจให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็พบกับก้อนเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่ขวางหลอดลมเขาเอาไว้ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ทัน     #เหมียวเลเซอร์ แนะนำว่าไม่ควรนำเรื่องอาหารการกินมาเล่นกันนะ ปกติแล้วการทานอาหารของมนุษย์จะต้องทำการเคี้ยวแล้วค่อยกลืนลงไป ถ้าหากอาหารชิ้นใหญ่เกินกว่าขนาดหลอดลม มันจะทำให้เราขาดอากาศหายใจได้ ถึงขั้นเสียชีวิตกันเลยล่ะ ที่มา : dailymail, viralthread, headlines-news, theladbible

  • 15 ภาพการ D.I.Y ของใช้สุด Fails บางอย่างก็ชวนฮา บางอย่างก็ไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง

    15 ภาพการ D.I.Y ของใช้สุด Fails บางอย่างก็ชวนฮา บางอย่างก็ไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง

    ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เมื่อเราใช้ไปนานๆ มันก็ย่อมมีวันเก่า และพังเป็นธรรมดา ซึ่งหลายๆ คนที่เสียดายไม่อยากทิ้ง ก็นำมา D.I.Y ขึ้นใหม่ เพื่อที่จะสามารถนำกลับมาใช้ได้ดังเดิม แต่สำหรับมนุษย์บางประเภทที่มีความคิดเพี้ยนๆ ก็มักจะนำสิ่งของเก่าๆ มาทำใหม่ให้กลายเป็นสิ่งที่เจ๋งที่สุดในความคิดของพวกเขา แต่ทว่าคนธรรมดาๆ อย่างเรา แค่เห็นก็ไม่คิดอยากจะทำตามแล้วละ     บางอย่างก็ทำออกมาได้ดี   บางอย่างก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร   ดูเหมือนล้อหน้ากับล้อหลังมันยังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นะ   อยากจะถามจริงๆ ว่าทำไปเพื่ออะไร   เพราะแต่ละอย่างที่ทำไป มันช่างอันตรายซะเหลือเกิน   เพื่อนๆ อย่าทำตามเป็นอันขาด   เอาตามที่สบายใจก็แล้วกัน   ซื้อใหม่ง่ายกว่าเยอะ   เอิบ!! ไม่ไหวจะเคลียร์   ส่วนนี่ก็ทำไปได้   อัจฉริยะเห็นแล้วยังอายเลย   บางอย่างก็เหมือนจะดี ส่วนบางอย่างที่พลาดสุดๆ เห็นแบบนี้แล้วเพื่อนๆ ยังจะกล้าทำตามอยู่มั้ยละ แต่ถ้าเป็นเหมียวขอบายละกัน ฮี่ๆ ที่มา : justsomething

  • 8 เหตุผลที่ว่าทำไมเด็กๆ ในยุคเก่าไม่น่าจะรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ (แต่ก็ยังผ่านมาได้)

    8 เหตุผลที่ว่าทำไมเด็กๆ ในยุคเก่าไม่น่าจะรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ (แต่ก็ยังผ่านมาได้)

    เคยลองนึกย้อนไปในสมัยอดีตกาลโน้นของตัวกันบ้างรึเปล่า ในยุคที่ยังไม่มีอะไรมากมายเท่าปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเป็นปกติ ไม่มีพิษไม่มีภัย แตกต่างจากเด็กสมัยนี้ที่ว่าถึงแม้จะมีความปลอดภัยในชีวิตสูง แต่ก็ยังดูอันตรายอยู่ดี แต่ก่อนเนี่ยนะ เหมียวจะบอกให้ การที่เด็กๆ จะออกไปเล่นข้างนอก นั้นก็มีแค่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านเท่านั้นแหละ แถมแต่ละอย่างก็เป็นเหล็กทั้งนั้น อันตรายยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ ของเล่นอะไรต่อมิอะไรก็ดูโหดร้ายไปในสมัยนี้เลย ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้   1. ลูกดอกเหล็กแห่งความตาย   ในอดีตถือว่าเป็นของเล่นที่ฮิตมากๆ เลยนะ แต่ว่าการเล่นที่ถูกต้องก็คือปาให้เข้าเป้าที่แขวนเอาไว้ หรือไม่ก็ปาลงเป้าที่อยู่บนพื้น สำหรับเด็กๆ ไม่ปาเข้าเป้าหรอก เอามาปาใส่กันเอง ซึ่งในช่วงที่มันกำลังฮิตๆ มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 7,000 ราย และถึงตาย 4 ราย จนกระทั่งกลายเป็นของผิดกฏหมายไปซะงั้น   2. เข็มขัดนิรภัยที่มีก็เหมือนไม่มี   ในยุคเก่าแก่ ระบบความปลอดภัยบนรถยนต์ยังมีไม่มากนัก จนกระทั่งการมาถึงของเข็มขัดนิรภัยที่ไว้ใช้ลดความเสี่ยงของผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และในตอนนั้นก็ยังไม่มีที่นั่งสำหรับเด็กด้วย ซึ่งไม่มีใครสนใจที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยเลย   3. สนามเด็กเล่นที่ร้อนระอุจนแทบละลาย   สมัยก่อนสวรรค์ของเด็กๆ ก็คงจะเป็นสนามเด็กเล่นนี่แหละ แต่ทว่าในยุคโน้นเครื่องเล่นแต่ละอย่างเป็นเหล็กหมดเลย ลองคิดสภาพที่มันตากแดดทั้งวัน แล้วเด็กไปจับเล่นดูสิ มันจะร้อนมากแค่ไหน แถมเครื่องเล่นสไลด์เดอร์อันโปรดปรานของเด็กๆ ก็ไม่ได้มีเบาะทรายหรือพื้นนิ่มๆ…

  • สลด..เด็กทารกวัยหนึ่งเดือนเสียชีวิตเพราะกินกล้วย แพทย์ชี้ยังไม่มีน้ำย่อย

    สลด..เด็กทารกวัยหนึ่งเดือนเสียชีวิตเพราะกินกล้วย แพทย์ชี้ยังไม่มีน้ำย่อย

    การเลี้ยงดูเด็กทารกนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะพวกเขานั้นเปราะบางและมีข้อจำกัดมากมาย หากผู้ที่เลี้ยงดูไม่ได้ศึกษามาให้ดี อาจทำให้เกิดเรื่องราวน่าเศร้าแบบนี้ได้   อย่างเช่นเรื่องราวที่คุณปุณปวีร์ กิตติกุล นางพยาบาลท่านนี้ได้นำมาแชร์ โดยเธอได้เล่าว่า มีเด็กทารกวัย 1 เดือน 15 วันเสียชีวิตเนื่องจากรับประทานกล้วยตากเข้าไป     ซึ่งความจริงแล้ว หากเด็กทารกอายุยังไม่ถึง 6 เดือน ห้ามทานอย่างอื่นนอกจากนมแม่ เนื่องจากอวัยวะของเด็กยังไม่แข็งแรงพอจะย่อยอาหาร หากทานเข้าไปอาจเกิดอาการลำไส้อุดตัน และกระเพาะแตกได้       หลายคนอาจกล่าวว่า “คนสมัยก่อนเขาก็เลี้ยงมาแบบนี้ ไม่เห็นเป็นไรเลย” ต้องเข้าใจก่อนว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กทุกคน อาจเป็นแค่ 1 ใน 100 แต่ถ้าเราสามารถเลี่ยงความเสี่ยงได้ ทำไมเราจึงจะไม่เลี่ยงล่ะจริงมั้ย     น่ากลัวมากๆ เลยนะเนี่ย ได้ยินแบบนี้แล้ว ใครอย่าเอาอาหารอะไรไปให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือนกินเด็ดขาดเลย ไม่งั้นอาจเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาก็ได้นะ ที่มา ปุณปวีร์ กิตติกุล

  • สภาเมืองอังกฤษไฟเขียวเปิดย่านให้ ‘โสเภณี’ ทำงานได้อย่างถูกกฏหมายและได้รับคุ้มครอง

    ตามที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าการค้ากามหรือการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย ไม่ได้รับการยอมรับว่ามันคืองานประเภทหนึ่งของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า ‘โสเภณี’ ซึ่งมันทำให้บ้านเมืองดูไม่ดีในสายตาทั้งคนในและนอกประเทศ     แต่ทว่ามันก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้หมดจด ธุรกิจการค้ากามก็ยังคงผุดขึ้นเรื่อยๆ แถมมีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล ทางสภาเทศบาลเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษเล็งเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็จะส่งผลอันตรายต่อผู้ที่ทำงานในด้านนี้เมื่อต้องมายืนเสนอตัวอยู่ข้างถนน     สำหรับการทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายก็จะต้องควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ โดยที่ผู้ขายบริการทางเพศจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มไปจนถึงเจ็ดโมงเช้า และเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี สามารถรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้ทันที     สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดพื้นที่ค้าประเวณีแบบถูกกฏหมายขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุการณ์หญิงขายบริการรายหนึ่งถูกฆาตกรรมภายในเมืองลีดส์ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรับผิดชอบความปลอดภัยของประชาชน แต่อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนก็มองว่าเป็นการเพิ่มอัตราอาชญากรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสภาพของงานที่เสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว รวมไปถึงเป็นการกระจายโรคติดต่ออีกต่างหาก ที่มา : unilad, dailymail

  • วิจัยใหม่ชี้ เก็บมือถือในกระเป๋ากางเกงหรือชั้นใน เสี่ยงได้รับอันตรายจากรังสี!!!

    วิจัยใหม่ชี้ เก็บมือถือในกระเป๋ากางเกงหรือชั้นใน เสี่ยงได้รับอันตรายจากรังสี!!!

    ก็เรียกได้ว่าสำหรับมือถือและสมาร์ทโฟนต่างๆ ก็เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับการถูกสอดใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าต่างๆ หรือกระทั่งที่อย่าง ‘ร่องนม’ และ ‘ในบรา’ ก็มีสาวๆหลายคนชอบเอาเหน็บไว้ (แม้ว่าสาวไทยบางคนจะเหน็บแล้วร่วงลงไปก็ตามที)   แต่ล่าสุดงานวิจัยใหม่ของทาง Dr. Devra Davis ได้ชี้ให้เห็นว่า การเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ใกล้กับผิวหนังของคุณมากเกินไป จะทำให้ผิวดูดซับรังสีจากตัวโทรศัพท์มากขึ้นในอัตราที่น่ากลัวกว่าปกตินั่นเอง   รังสีจากโทรศัพท์งั้นหรือ!?   ตอนเธอไปบรรยายที่ Australia’s National Institute of Environmental Health Sciences ทาง Dr. Devra Davis ก็ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเน้นย้ำประเด็นหลักๆก็คือเหล่าสาวๆ ที่ชอบเก็บไว้ในยกทรงนั้น เป็นการเพิ่มอัตราการเป็นมะเร็งและเนื้องอกในเต้านมอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ และที่สำคัญหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ในคู่มือการใช้ iPhone 4 ก็เคยระบุถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย โดยข้อความระบุ ‘ไม่ควรนำเข้าใกล้ร่างกายเกิน 15 มิลลิเมตร’   Dr. Devra Davis   นอกจากนี้ ต้นฉบับยังกล่าวไว้ว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ระบุรังสีเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับ DNA และความสามารถในการสืบพันธุ์ของท่านชายอีกด้วย!!! (ทีนี้ก็ระวังกันไว้นะจ๊ะเหล่าท่านชาย -*-)   คลิปเต็มๆของเธอความยาวกว่า 1 ชั่วโมง…

  • เหมียวเตือนภัย อย่าปล่อยเด็กไว้กับบันไดเลื่อน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุนิ้วขาดแบบนี้ได้

    เหมียวเตือนภัย อย่าปล่อยเด็กไว้กับบันไดเลื่อน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุนิ้วขาดแบบนี้ได้

    ข่าวนี้อาจจะสะเทือนใจหรือโหดร้ายสักหน่อยนะ แต่เหมียวต้องหยิบมาเล่าเพราะจะได้เป็นการเตือนเหล่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ปล่อยลูกๆ ไปขึ้นบันไดเลื่อนตามลำพัง เพราะมันอาจจะทำให้ลูกของคุณได้รับอันตรายแบบนี้ได้     เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหนูน้อยวัย 2 ขวบในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ที่ดันหกล้มลงตรงบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทำให้มือของเธอติดอยู่ในบันไดเลื่อน และต้องสูญเสียนิ้วไปในที่สุด   หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองหนานชางอย่างเร่งด่วน จากการสอบถามผู้เป็นพ่อบอกว่า เจ้าตัวกำลังยุ่งอยู่กับการคุยกับเพื่อนในขณะนั้น ส่วนแม่นั่งรออยู่ที่ร้านอาหารใกล้ๆ ที่พวกเขาควรจะนั่งกินอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข     ตามรายงานบอกว่าเครื่องจักรไม่ได้ตัดนิ้วของหนูน้อยไปเสียทั้งหมด เพราะเครื่องจักรตัดเอานิ้วของเธอไปเพียงนิ้วเดียว และครึ่งเดียวเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิกจึงเข้ามางัดแงะเครื่องจักรและนำนิ้วส่วนที่เหลือไปส่งโรงพยาบาล แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถต่อติดได้เหมือนเดิมหรือเปล่า   ใครมีลูกเด็กเล็กแดงก็ดูแลกันดีๆ อย่าให้คลาดสายตานะ เพราะอันตรายอาจรอเราอยู่ก็เป็นได้ กันไว้ดีกว่าแก้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist

  • ผู้รายงานข่าวชาวอิสราเอล ทดสอบเสื้อกันมีดแทง แต่โชคร้ายมันกันไม่ได้ 100% เจ็บตัวเลย!!

    ผู้รายงานข่าวชาวอิสราเอล ทดสอบเสื้อกันมีดแทง แต่โชคร้ายมันกันไม่ได้ 100% เจ็บตัวเลย!!

    ถือว่าเป็นความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งกับการทดสอบเสื้อกันวัตถุอันตรายที่มีออกมามากมาย เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของมัน ก็ต้องมีการทดสอบเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันกระสุน เสื้อกันสะเก็ดระเบิด รวมไปถึงเสื้อกันมีดตัวนี้แหละ     ผู้รายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ชาวอิสราเอล Eitam Lachover เป็นผู้ที่ใส่เสื้อกันมีดแทงตัวนี้ โดยมีนาย Yaniv Montakyo รองประธานบริษัทผู้ผลิตเสื้อเกราะเป็นผู้แทงมีด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสตรองของเสื้อตัวนี้     มีดที่ใช้ทดสอบก็คือมีดคอมมานโดเหล็กหนาที่ถูกใช้โดยเหล่าทหารจากทั่วโลก ซึ่งก่อนที่จะถูกแทง Lachover ก็ถามแบบเกรงๆ ว่า ‘คุณจะแทงผมด้วยไอ้นี่จริงๆ เหรอ?’     คำตอบที่ได้รับก็คือ ‘อ่ะแน่นอน’ แถมยังบอกให้คลายกังวลว่า ‘คุณไม่ต้องห่วงหรอก เรามั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา มันสามารถปกป้องคุณจากมีดที่แข็งแกร่งว่ามีดเล่มนี้ได้ชัวร์ๆ อย่าได้กลัวไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ผมยังอยู่กับคุณนะ’   โดนแทงทะลุในการทดสอบครั้งที่สอง!!   หลังจากที่เริ่มแทงไปได้ซักพัก ดูเหมือนว่าเสื้อเกราะกันมีดจะทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เพื่อให้แน่ใจก็แทงไปอีกรอบ ซึ่งในคราวนี้มันไม่เหมือนครั้งแรก เพราะโดนแทงทะลุเสื้อเกราะไปแล้ว มีปฏิกิริยาตอบสนองของ Lachover ให้เห็นเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาสีหน้าเอาไว้ได้   ภายหลัง Montakyo ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจที่ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับการทดสอบในครั้งนี้ มันอันตรายมากๆ ถ้าหากว่ามีดเสียบทะลุเสื้อเกราะเข้าไปจนมิดด้าม…

  • ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะอยู่ดีๆ กระสุนก็พุ่งทะลุหน้าต่างเฉี่ยวหัวเขาไป!!

    ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะอยู่ดีๆ กระสุนก็พุ่งทะลุหน้าต่างเฉี่ยวหัวเขาไป!!

    การยิงปืนขึ้นฟ้าถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แม้ทางสถิติแล้ว 9 ใน 10 ของกระสุนที่ถูกยิงขึ้นไป จะตกใส่สิ่งของอื่นๆหรือพื้นที่รกร้าง และมีโอกาสเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่มันจะตกใส่คน แต่คงไม่มีใครอยากเป็น 1 ใน 10 นั้นหรอกจริงมั้ย อย่างเช่นสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้เจอ เขาจะทำให้คุณรู้ว่า การยิงปืนขึ้นฟ้านั้นสร้างอันตรายให้แก่ผู้อื่นขนาดไหน แม้เขาจะไม่ได้เป็น 1 ใน 10 ที่เราพูดถึง แต่ต้องบอกว่า เขาก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน หนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของแอคเคาท์ Reddit เชื่อว่า ahhvey ในช่วงคืนก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังนอนหลังอยู่ในห้อง อยู่ดีๆ เข้าก็ได้ยินเสียงกระจกหน้าต่างแตกต่างรุนแรง และมีวัตถุบางอย่างมาตกใกล้ๆ     เมื่อของลองหยิบขึ้นมาดู ปรากฎว่าเป็นลูกกระสุนปืน!! ซึ่งเขาแน่ใจว่าเขาไม่ได้ยินเสียงปืนในระยะใกล้ๆ บ้านของเขาในค่ำคืนนั้น แสดงว่ากระสุนนี้อาจมาจากที่อื่น คงมีใครซักคนยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วมาตกใส่ห้องของเขาพอดี นับว่าโชคดีจริงๆ ที่เขาไม่เป็นอะไร       เกือบไปจริงๆ ใครที่ชอบยิงปืนขึ้นฟ้า ขอให้เลิกเถอะนะครับ คุณอาจทำให้อีกหลายชีวิตต้องตกอยู่ในอันตรายก็เป็นได้ ที่มา…

  • ลอยเคราะห์มั้ยล่ะ!! ชาวบ้านโวย โคมลอยยักษ์เท่าตึกสองชั้นตกแถวบ้าน โชคดีไม่เกิดเพลิงไหม้!!

    ลอยเคราะห์มั้ยล่ะ!! ชาวบ้านโวย โคมลอยยักษ์เท่าตึกสองชั้นตกแถวบ้าน โชคดีไม่เกิดเพลิงไหม้!!

    ปัจจุบัน โคมลอยกลายเป็นสิ่งของยอดนิยมในการปล่อยเมื่อถึงเทศกาลต่างๆ โดยพวกเขาเชื่อว่าจะเป็นการลอยเคราะห์กรรมออกไป แม้จะมีการรณรงค์ถึงความอันตรายของ “โคมลอย” อยู่เรื่อยๆ แต่ดเูเหมือนหลายคนจะยังไม่ตระหนักถึงความอันตรายของวัตถุลอยฟ้าชนิดนี้ อย่างเช่นเรื่องราวที่เฟสบุ๊ค Boup Nalinee Na Chiengmai ได้แชร์สู่โลกออนไลน์นี้ เธอเล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 27 พ่อของเธอได้โทรมาบอกว่า มีโคมลอยตกมาบริเวณบ้าน ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก จนกระทั่งพ่อของเธอได้ส่งรูปมา     ปรากฏว่าโคมดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก โดยขณะที่พองเต็มที่ มีขนาดเกือบเท่าตึกสองชั้นเลยทีเดียว แถมโครงของโคมก็ทำมาจากเหล็กดัดอีกต่างหาก เรียกว่าทั้งใหญ่ และอันตรายแบบสุดๆไปเลย   โชคดีที่โคมไม่ได้ตกบริเวณที่เป็นตัวบ้าน ทำให้ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด…แต่ถ้าครั้งหน้ามันตกใส่บ้านหลังอื่นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น..     เมื่อชาวเน็ตได้เห็นสภาพของโคมดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย         แบบนี้มันจะใหญ่เกินไปหรือเปล่า ถ้าเกิดไปตกใส่บ้านคนอื่นเนี่ย อาจจะเป็นอันตรายได้เลยนะ มันไม่ใช่ประเพณีแล้วล่ะแบบนี้ แล้วพื่อนๆล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียว ที่มา Boup Nalinee Na Chiengmai

  • นักบินโชว์ฝีมือระดับเทพ บังคับเครื่องบินให้ตีลังกากลับหัว ที่มีความสูงเหนือพื้นเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

    นักบินโชว์ฝีมือระดับเทพ บังคับเครื่องบินให้ตีลังกากลับหัว ที่มีความสูงเหนือพื้นเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

    คลิปวีดีโอที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้ เป็นคลิปวีดีโอของ Hangar Del Cielo หัวหน้าทีมขับเคลื่อนเครื่องบินผาดโผนชาวอาร์เจนตินา ที่กำลังโชว์ฝีมือขั้นเทพในการขับเครื่องบินตีลังกากลับหัว ที่มีความสูงเหนือพื้นเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น     ซึ่งการโชว์ขับเครื่องบินตีลังกากลับหัวสุดหวาดเสียวในครั้งนี้ ได้จัดขึ้น ณ เมืองบัลปาราอีโซ ประเทศชิลี งานนี้ทำเอาคนดูที่กำลังชมโชว์  ต่างก็พากันหวาดเสียวจนแทบหัวใจจะวายไปตามๆ กัน     โดยในคลิปวีดีโอเราจะเห็นได้ว่านักบินหนุ่ม ได้ขับเครื่องบินเข้ามาที่รันเวย์ และมีเชือกริบบิ้นสีฟ้าที่มีความยาว 50 เมตรผูกติดกับปีกเครื่องทั้ง 2 ข้าง     แต่แทนที่เขาจะโชว์ขับเครื่องบินด้วยท่าบินปกติ Hangar กลับบังคับเครื่องบินให้เป็นท่าตีลังกากลับหัว แถมยังขับขนานคู่ไปกับพื้นรันเวย์ที่สูงเพียงไม่กี่เมตรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 วินาทีอีกด้วย โอ้วววไม่ชำนาญจริงทำไม่ได้นะเนี่ย   เรียกได้ว่าเป็นการโชว์ขับเครื่องบินที่ระทึกใจ และหวาดเสียวสุดๆ ไปเลย   เขาเปลี่ยนเป็นท่าบินปกติแล้ว   นอกจากนี้ Hangar ยังบอกอีกว่า ‘การโชว์เครื่องบินตีลังกากลับหัวในครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังเป็นการโชว์ความสามารถในการขับเครื่องบินให้ได้เสียงเบาที่สุด และไม่รบกวนประสาทหูอีกด้วย’   ลองไปชมคลิปวีดีโอกัน   ที่มา : dailymail

  • พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!

    พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!

    แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวรอบโลก อยากจะทำแบบนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่อาจทำได้นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยปัจจัยของหน้าที่การงานและเรื่องของการเงิน     ซึ่งเวลาที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่ มันก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีทางที่จะไม่ใช้เงิน แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Kris Mole วัย 24 ปีผู้นี้ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าการออกไปผจญภัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป     Kris Mole เดินทางด้วยระยะทางกว่า 15,712 กิโลเมตรแล้ว (9,763 ไมล์) ผ่านทั้งเมืองหลวงเมืองเล็กในยุโรปรวมแล้วทั้งสิ้น 23 เมือง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระดมทุนสำหรับองค์กร Cancer Research ได้อีกเป็นจำนวนมาก     จุดเริ่มต้นการเดินทางของเขานั้นก็มาจากเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนเคยเป็นคนติดเหล้าและการพนัน จนหมดเนื้อหมดตัว อีกทั้งหลังจากที่คุณป้าของเขาถูกวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง!!     ตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เขาเริ่มต้นทริปไร้การใช้เงินเพื่อการกุศล เดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ท้าทายชีวิตด้วยการเสี่ยงถูกจับบนรถไฟโดยที่ไม่ซื้อตั๋ว ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น…

  • เชฟชาวออสซี่ทดลองย่างเนื้อซี่โครงแกะในรถ แสดงอันตรายของการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถ!!

    เชฟชาวออสซี่ทดลองย่างเนื้อซี่โครงแกะในรถ แสดงอันตรายของการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถ!!

    หากใครที่ใช้รถยนต์เป็นประจำก็คงจะทราบกันดีว่าการจอดรถในที่โล่งแจ้งกลางแดดร้อนจัดๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องเกิดเพราะว่าไม่สามารถหาที่จอดรถใต้ร่มได้ ปัญหาที่ตามมาก็คือความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวรถ ร้อนจะชนิดที่ว่ามันก็คือเตาอบดีๆ นี่เอง   และหนึ่งสิ่งที่ต้องใส่ใจกันเป็นพิเศษก็คือการลืมหรือปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดไว้ในบริเวณที่โล่งแจ้ง ทางด้าน Kidsafe Australia ก็ได้เชิญให้เชฟชาวออสเตรเลีย Matt Moran มาพิสูจน์ถึงความร้อนระอุภายในรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้กลางแดด ว่ามันร้อนมากมายแค่ไหน   ก่อนหน้านั้นเขาก็ได้ทำการจอดรถยนต์ไว้ใกล้ๆ กับบริเวณชายหาด โดยมีอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 27.1 องศาเซลเซียส จากนั้นก็นำเนื้อซี่โครงแกะวางไว้บนถาดและนำมาวางทิ้งไว้ในรถยนต์คันดังกล่าว แล้วก็ปล่อยให้กระบวนการทำความร้อนย่างเนื้อให้สุก ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง   อุณหภูมิค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนภายในรถยนต์นั้นร้อนระอุถึง 72.5 องศาเซลเซียส เนื้อซี่โครงแกะชิ้นนี้ก็กลายมาเป็นเนื้อย่างที่พร้อมรับประทานแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่เขากำลังจะบอกก็คือ ในทุกๆ ปีมีเด็กกว่า 5,000 รายถูกทิ้งไว้ในรถยนต์แบบนี้     ความร้อนสามารถคร่าชีวิตคนได้ เพราะหากรถยนต์มีอุณหภูมิที่สูงมากๆ มันก็ไม่ต่างไปจากเตาอบเลย แม้จะเปิดหน้าต่างระบายความร้อนแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กที่ไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากที่ที่อันตรายแบบนี้ เพราะฉะนั้นจงใส่ใจกับเด็กๆ ด้วย ที่มา : theage

  • เจ้าเหมียวแสนโชคร้าย ตกลงไปในคอนกรีตจนขนแห้งแข็ง ก่อนจะมีคนมาช่วยไว้

    เจ้าเหมียวแสนโชคร้าย ตกลงไปในคอนกรีตจนขนแห้งแข็ง ก่อนจะมีคนมาช่วยไว้

    จะมีอะไรเลวร้ายสำหรับเหล่าสัตว์มีขน เท่ากับการที่ถูกชุบด้วยคอนกรีตจนแห้งไปหมด พวกมันคงจะอึดอัดเป็นแน่แท้ และนั่นอาจทำให้มันตายได้เลยทีเดียว อย่างเช่นเจ้าเหมียวตัวนี้ มันชื่อว่า Grant ทั่วทั้งร่ายงานมันถูกปกคลุมไปด้วยคอนกรีต ไม่แน่ใจว่ามันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อตอนที่ Faye Richards ไปพบ คอนกรีตบนร่างกายมันก็แห้งหมดแล้ว เธอจึงพามันไปหาสัตว์แพทย์ในทันที     เมื่อแพทย์ได้เห็นสภาพมัน เขาก็บอกในทันทีว่า ต้องตัดขนทั้งหมดออก เนื่องจากปูนแห้งหมดแล้ว และต้องรีบทำการเอาออกในทันที เพราะคอนกรีตนั้น ส่งมีพิษต่อร่างกายแมวเป็นอย่างมาก     พวกเขาจึงค่อยๆเล็มขนออกทีละน้อย ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้นยากลำบากมาก เพราะคอนกรีตแห้งจนแทบไม่ได้สามารถตัดได้     และเมื่อลองพิจารณาดูดีๆ การที่คอนกรีตปกคลุมทั่วร่างกายมันขนาดนี้ ต้องไม่ใช้อุบัติเหตุอย่างแน่นอน มีคนจงใจนำมันไปจุมในคอนกรีตเพื่อให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น     สุดท้ายเมื่อตัดขนที่เปื้อนคอนกรีตออกหมดแล้ว ก็ถือว่าปลอดภัยไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ต้องรอดูว่า คอนกรีตส่งผลอย่างไรต่อร่างกายของมันหรือไม่         ใครกันนะ ที่ทำกับเจ้าเหมียวอย่างนี้ ช่างใจร้ายจริงๆ ขอให้คนทำได้รับผลกรรมในเร็ววัน สาธุววว ที่มา Viralnova 

  • นี่คือ Kuandinsky สะพานข้ามรถในรัสเซีย ที่ทั้งหวาดเสียว และอันตรายที่สุดในโลก

    นี่คือ Kuandinsky สะพานข้ามรถในรัสเซีย ที่ทั้งหวาดเสียว และอันตรายที่สุดในโลก

    สะพานที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสะพานที่อันตราย และน่ากลัวนั้น มีอยู่เยอะแยะมากมายบนโลกใบนี้ แต่สำหรับสะพาน Kuandinsky ในทรานส์-ไบคาล ของประเทศรัสเซีย เรียกได้ว่าเป็นสะพานที่อันตรายที่สุดในโลกก็เลยก็ว่าได้นะเหมียว     ซึ่งลักษณะของสะพานแห่งนี้ สร้างขึ้นจากโครงเหล็กปิดทับด้วยไม้หมอนรถไฟ เป็นสะพานที่ไม่มีราวกั้นขอบ โดยมีความยาว 570 และมีความกว่าเพียงแค่ 2 เมตรเท่านั้น โอ้ววว มิน่าละสะพานแห่งนี้ถึงขึ้นชื่อได้ว่าไม่ปลอดภัยที่สุดในโลก     อูยยยย แค่เห็นภาพก็หวาดเสียวแล้วนะเนี่ย นี่ถ้าได้ลองขับรถผ่านรับรองใจหายวาบทุกวินาทีแน่นอน   และที่สำคัญสะพาน Kuandinsky ไม่ได้ถูกเปิดใช้อย่างเป็นทางการนะจ๊ะ ซึ่งก่อนหน้านี้มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสะพานทางรถไฟข้ามแม่น้ำวีทิม ในไซบีเรีย นั่นเอง     แต่หลังจากที่สร้างเสร็จ สะพานแห่งนี้ก็ไม่เคยเปิดทำการเลยสักครั้งเดียว ดังนั้นสะพานแห่งนี้จึงถูกชาวเมืองคูรันดา ใช้ในการเดินทางเพื่อข้ามแม่น้ำยังไงละ     นอกจากจะเสี่ยงอันตรายในการเดินทางเพราะไม่มีราวกั้นขอบสะพานแล้ว ในสภาพภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น สะพานแห่งนี้ยังมีความลื่นสูง เพราะมีทั้งน้ำแข็งและหิมะปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี     Kuandinsky เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นมากว่า 30 ปีแล้ว แถมยังไม่เคยได้รับการซ่อมแซมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นจึงทำให้สะพานทรุดโทรม และเปราะบางเมื่อรับกับน้ำหนักของรถยนต์    …

  • ชาวเน็ตโพสภาพบนเครื่องบิน เจอโคมลอยบินอยู่ข้างๆ เล่นเอาสยองกันทั้งลำ!

    ชาวเน็ตโพสภาพบนเครื่องบิน เจอโคมลอยบินอยู่ข้างๆ เล่นเอาสยองกันทั้งลำ!

    เป็นที่ทราบกันดีกว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง การปล่อยโคมลอยถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างมาก แต่การปล่อยโคมลอยนี้เอง ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะมันสามารถรบกวนการอากาศยานของเราได้ อย่างเช่นสิ่งที่เฟสบุ๊ค Rungsalit Sattha ได้เจอมา ขณะที่เขากำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินอยู่ เขาสังเกตเห็นจุดไฟสีส้มๆที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ปรากฏว่านั่นคือโคมลอยนั่นเอง เขาจึงถ่ายภาพมาให้ชาวเน็ตได้ดู และตระหนักว่าโคมลอยนั้นสามารถลอยได้สูงและเป็นอันตรายขนาดไหน         โอ้โห ลอยขึ้นไปสูงมากเลยนะเนี่ย เกิดมันบังเอิญเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบินนะ รับรองว่าเกิดอันตรายแน่นอน ถ้าใครอยากปล่อยโคมลอย ยังไงก็ขอให้ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำนะเพื่อนๆ จะได้ไม่เกิดอันตรายต่อใคร ^^ ที่มา  Rungsalit Sattha

  • นักบินเตือน โคมลอยดัดแปลง ไม่ต่างอะไรกับระเบิดที่ลอยได้!!

    นักบินเตือน โคมลอยดัดแปลง ไม่ต่างอะไรกับระเบิดที่ลอยได้!!

    เทศกาลวันลอยกระทงกำลังวนกลับมาถึงอีกครั้ง แน่นอน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลลอยกระทง ก็คือประทัดและโคมลอย ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้โคมลอยจะเป็นประเพณีโบราณ(ซึ่งเมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้) แต่มันอาจทำให้เกิดอันตรายได้ อย่างเช่นที่เราได้ยินข่าวโคมไฟไปตกใส่บ้านประชาชน แล้วเกิดไฟไหม้จนเกิดการเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นั่นยังไม่รวมถึงอันตรายต่ออากาศยานอีกด้วย     และแม้จะมีการรณรงค์ห้ามและเตือน ไม่ให้ปล่อยโคมลอย  แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ หลายๆคนก็ยังคงเดินหน้าปล่อยโคมลอยต่อไป โดยไม่สนใจถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เฟสบุ๊ค Charoenchai Kangsamutr จึงออกมาแสดงความคิดเห็นในฐานะนักบิน ว่าโคมลอยปกตินั้น ถ้าปล่อยกันเป็นที่เป็นทางก็ไม่ถือว่าอันตรายมากนัก แต่หากเป็นโคมลอยแบบดัดแปลงแล้ว ต้องบอกว่าอันตรายไม่ต่างจากระเบิดลอยได้เลยทีเดียว     เหมียวว่าที่เขาเตือนก็มีเหตุผลนะ ประเพณีอาจจะมีมานานแล้วก็จริง แต่ถ้ามันทำให้อีกหลายชีวิตต้องอยู่ในความเสี่ยง มันก็ควรจะมีข้อจำกัดซักหน่อย แล้วเพื่อนๆล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันมานะเหมียว ที่มา Charoenchai Kangsamutr

  • จารย์เจษเตือนภัย พาวเวอร์แบงค์เก่าๆอย่าทิ้งไว้ในรถ เพราะอาจเกิดไฟไหม้ได้!!

    จารย์เจษเตือนภัย พาวเวอร์แบงค์เก่าๆอย่าทิ้งไว้ในรถ เพราะอาจเกิดไฟไหม้ได้!!

    เชื่อว่าในปัจจุบัน พาวเวอร์แบงค์ (Power bank) หรือแบตเตอรี่สำรอง ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราไปเสียแล้ว เวลาจะออกไปข้างนอกบ้าน แทบทุกคนต้องพกมันติดไปด้วยอย่างน้อยๆหนึ่งอัน เพื่อคอยเติมพลังให้กับสมาร์ทโฟนของเราระหว่างวัน แต่สิ่งของประเภทแบตเตอรี่ ผู้ใช้งานควรศึกษาถึงข้อห้ามละข้อจำกัดของแบตเตอรี่แต่ละชิ้นเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดั่งเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถคันนี้ เจ้าของรถได้รายงานว่า ตนเองได้นำพาวเวอร์แบงค์ใส่ไว้ในกระเป๋า และวางเอาไว้ในรถที่จอดตากแดด เมื่อตนกลับมา ปรากฏว่าพาวเวอร์แบงค์เกิดไฟลุก และไหม้เบาะและกระเป๋าจนเสียหายอย่างหนัก     เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทางอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาให้ความรู้เอาไว้ว่า แบตเตอรี่สำรองแบบ Li-ion นั้นสามารถเกิดไฟลุกได้ เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร หากเป็นของคุณภาพต่ำหรือใช้มานานจนเสื่อมสภาพแล้ว   นอกจากนี้อาจารย์เจษฎา ยังแนะนำวิธีการใช้แบตเตอรี่แบบ Li-ion ให้ปลอดภัยมาให้อีกด้วย         ถือว่าเป็นอีกความรู้ดีๆจากอาจารย์เจษฎา ใครที่ใช้พาวเวอร์แบงค์เป็นประจำ ก็อย่าลืมเช็คว่า เป็นแบตเตอรี่แบบไหน จะได้ใช้งานอย่างถูกต้อง ไม่เป็นอันตรายเนาะ ^^ ที่มา Jessada Denduangboripant

  • 15 ภาพถ่ายเซลฟี่ที่โคตรอันตรายของคนที่ชอบความท้าทาย ดูแล้วก็อดหวาดเสียวแทนไม่ได้เลย

    15 ภาพถ่ายเซลฟี่ที่โคตรอันตรายของคนที่ชอบความท้าทาย ดูแล้วก็อดหวาดเสียวแทนไม่ได้เลย

    คนบางคนที่ไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ หรืออยู่ในสถานที่ที่เสี่ยงอันตราย แม้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการถ่ายรูป แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่เคยพลาดที่จะถ่ายภาพเซลฟี่เจ๋งๆ เพื่อแลกกับการที่จะเอาตัวเอาเข้าไปอยู่ในภาพสวยๆ เหล่านั้น ก็เหมือนกับภาพถ่ายของผู้คนเหล่านี้ ที่ดูเหมือนว่าจะชอบความท้าทายสุดๆ เพราะภาพเซลฟี่ที่พวกเขาได้ถ่ายขึ้นมานั้น เรียกได้ว่าอันตรายมากๆ จนทำเอาคนดูหลายต่อหลายคนต้องหวาดเสียวไปตามๆ กัน   บางทีภาพถ่ายธรรมดาๆ อาจจะไม่ค่อยเร้าใจ และตื่นเต้นสักเท่าไหร่   ก็เลยขอถ่ายภาพเซลฟี่สุดท้าทายขึ้นมาซะเลย   โอ้ววว อันตรายมากๆ เลยนะเหมียว   ทำไปได้   คนบางคนก็ยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อแลกกับภาพถ่ายเซลฟี่สวยๆ   ดีนะที่พี่แกไม่โดนงาบซะก่อน   พวกมนุษย์นี่ชอบความท้าทายกันจริงๆ   แม้ภาพที่ได้จะออกมาสวยงาม   แต่มันเต็มไปด้วยความอันตราย   เพื่อนๆ เห็นแล้วอย่าไปทำตามเด็ดขาดเลยน้า   หวาดเสียวจริงๆ   มันใช่เวลาถ่ายมั้ยเนี่ยยยย ><   โอ้ววว เห็นแล้วก็ใจหายวาบเหมือนกันนะเนี่ย ทั้งน่าตื่นเต้น และอันตรายสุดๆ เพื่อนๆ เห็นแล้วก็อย่าไปทำตามเด็ดขาดนิฮะ ที่มา : wittyfeed

  • Stop For Step…เหตุผลว่าทำไม คุณถึงควรชะลอรถเมื่อเจอทางม้าลาย

    Stop For Step…เหตุผลว่าทำไม คุณถึงควรชะลอรถเมื่อเจอทางม้าลาย

    ประเทศไทยเราขึ้นชื่อเรื่องความไร้ระเบียบวินัยจราจร น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นรถจอด เมื่อเจอทางม้าลาย หลายคนแม้จะเห็นว่ามีคนยืนรอข้ามถนนอยู่ แต่ก็ไม่เคยคิดจะหยุดให้ ต้องให้ผู้ที่รอข้ามถนน หาจังหวะเอง จนอาจเกิดอันตรายได้ วันนี้เหมียวจึงนำคลิปดีๆมาให้เพื่อนๆได้ชมกันกับโครงการ Stop For Step หยุดซักนิด เพื่อชีวิตของคนข้ามถนน ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ ให้รถหยุดตรงทางข้ามให้คนข้าม และคนเดินเท้าข้ามถนนตรงทางข้าม เพื่อความปลอดภัยของตนเองละผู้อื่น การประมาทเพียงชั่ววูบ นั่นอาจหมายถึงการพรากชีวิตของคนอีกคนไป ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่าครับ     ไปชมคลิปกันเลย   เห็นแบบนี้แล้ว เจอทางม้าลายที่ไหน ก็ชะลอแล้วดูให้ดีก่อนนะครับ จะได้ปลอดภัยทั้งกับตัวเอง และผู้อื่น ^^ ที่มา Stop For Step หยุดเพื่อก้าว

  • ลุ้นระทึก!! คุณหมอถูกยากูซ่ามาบุกรีดไถ่เงินถึงหน้าห้องพักโรงแรมในญี่ปุ่น โชคดีที่ยั้งไว้ทัน

    ลุ้นระทึก!! คุณหมอถูกยากูซ่ามาบุกรีดไถ่เงินถึงหน้าห้องพักโรงแรมในญี่ปุ่น โชคดีที่ยั้งไว้ทัน

    การออกไปยังต่างแดนยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม อันตรายนั้นรายล้อมเราอยู่ทุกที่ อย่างประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอย่างญี่ปุ่น ก็ยังคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่ แถมยังน่ากลัวมากๆ ซะด้วย!!     เรื่องราวสุดระทึกนี้ เปิดเผยโดยคุณหมอ Shane Cardio ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกบุกรุกเพื่อรีดไถเงินจากยากูซ่าญี่ปุ่น อุกอาจถึงขั้นมาเคาะถึงประตูห้องพักในโรงแรม Meriken Oriental Hotel กันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะมียากูซ่ามาถึงหน้าห้อง เขาได้รับโทรศัพท์จากโอเปอเรเตอร์โรงแรม พูดแต่ภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ซึ่งก็ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด ก็เลยวางหูไป     จนกระทั่งมีชายใส่สูท ผูกไทด์ มากดกริ่งหน้าห้องพัก ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโรงแรม มีสมุดจดบันทึกมาด้วย ก็เลยแง้มประตูนิดหน่อยเพื่อพูดคุยด้วย แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะอีกฝ่ายซัดมาเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวๆ   สภาพของประตูที่ยื้อกันไว้นานแสนนาน   พอจะปิดประตูปุ๊บ ชายผู้นั้นก็ใช้เท้ากั้นประตูเอาไว้ไม่ให้ปิด แถมตะคอกเสียงใส่ จับใจความได้ว่าเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง และเปิดสมุดเล่มดังกล่าวให้อ่าน เต็มไปด้วยภาษาญี่ปุ่น แต่ที่เห็นชัดๆ ก็คือจำนวนเงิน 38,000 เยน คราวนี้ก็แน่ใจแล้วล่ะว่าเขาต้องโดนยากูซ่ามารีดไถเงินอย่างแน่นอน!!     หากปล่อยให้เข้ามาได้ต้องมีอันตราย ซึ่งทั้งสองก็ได้ยื้อกันอยู่หน้าประตูซักพักใหญ่ ในที่สุดก็กระทืบเท้ายากูซ่าออกไปได้ ใช้แรงดันเพื่อปิดประตูและล็อคได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็รีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรมและส่งไลน์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มหมอที่มาประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยทันที…

  • การแชร์รูปภาพ Boarding Pass ให้ชาวโลกได้รับรู้ อันตรายกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะ!!

    การแชร์รูปภาพ Boarding Pass ให้ชาวโลกได้รับรู้ อันตรายกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะ!!

    เดี๋ยวนี้การเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้แล้ว ด้วยราคาค่าตั๋วที่ไม่แพงจนเกินไป ประกอบกับความสะดวกสบายและการประหยัดเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้ เวลาที่จะขึ้นเครื่องก็มักจะถ่ายรูป Boarding Pass เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกและอัพโหลดขึ้นในโลกออนไลน์เพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่าเราจะไปไหนบ้าง     การอัพโหลดรูปภาพ Boarding Pass ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร แต่หากว่าภาพดังกล่าวนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ที่เห็นชัดจนมากเกินไป มันก็สามารถย้อนกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพบาร์โค้ดที่เราอ่านไม่รู้เรื่อง แต่สายตาภายนอกสามารถนำมันไปใช้ในทางที่ผิดได้!!     สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยใส่ใจกันก็คือ การที่ผู้อื่นที่เราไม่เคยรู้จักเลย สามารถหารูปภาพ Boarding Pass ที่มีบาร์โค้ดไปได้จากการค้นหาด้วยแฮชแท็กง่ายๆ อย่างเช่น #boardingpass ในอินสตาแกรม     เมื่อมิจฉาชีพได้ภาพที่ต้องการมาแล้ว บาร์โค้ดที่ว่าอ่านไม่ออกเหล่านี้ สามารถถอดรหัสได้ง่ายๆ ด้วยแอพฯ อ่านโค้ดต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และตามเว็บไซต์ถอดรหัสบาร์โค้ดต่างๆ เพียงแค่อัพรูปภาพที่ดาวน์โหลดมาเข้าไป คราวนี้รายละเอียดเที่ยวบินต่างๆ ก็อยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีแล้ว     ซึ่งรายละเอียดภายในบาร์โค้ดเหล่านี้จะประกอบไปด้วย ชื่อ นามสกุลของผู้โดยสาร เลขเที่ยวบิน ที่นั่ง คลาสที่จอง รหัสการจอง ลำดับออกตั๋ว และอื่นๆ อีกมากมาย…

  • [เหมียวระวังภัย] เตือนคนที่คิดจะทำเมนู “ไข่แดงหมักซอส” ทำไม่สะอาดมีสิทธิ์เข้าโรงหมอได้!!

    [เหมียวระวังภัย] เตือนคนที่คิดจะทำเมนู “ไข่แดงหมักซอส” ทำไม่สะอาดมีสิทธิ์เข้าโรงหมอได้!!

    กำลังกลายเป็นเมนูยอดฮิตสำหรับสาวๆ อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเมนู ไข่แดงหมักซอส เมนูที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น สามารถทำได้ง่ายๆ แค่นำไข่แดงไปหมักกับซอสต่างๆ ไว้ 1 คืน จากนั้นก็นำมาโป๊ะข้าวสวยร้อนๆ เท่านี้ก็อร่อยได้ง่ายๆ แล้ว   แต่หากใครคิดอยากจะทำเมนูที่ว่านี้ก็ต้องดูกันดีๆ ก่อนนะ เพราะหากคุณทำไม่สะอาดพอ อาจมีสิทธิ์เข้าโรงพยาบาลได้แบบง่ายๆ เหมือนกัน โดยมีกรณีตัวอย่างออกมาให้เราได้เห็นกันแล้ว   เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มิผู้ใช้เฟซบุ๊คสาวรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลงในกรุ๊ป ครัวในบ้านอาหารทำเอง โดยเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเธอได้ทดลองทำไข่แดงหมักซอสดู แต่ปรากฏว่าหลังจากทานเข้าไปเกิดอาการไข้ขึ้นสูงจนต้องเข้าโรงพยาบาล เลยอยากจะออกมาเตือนชาวเน็ตที่กำลังคิดจะทำเมนูนี้ว่าให้ระมัดระวังตัวหน่อย   หลังจากนั้นไม่นานเฟซบุ๊คเพจ Drama-addict ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่าเมนูนี้เป็นเมนูของชาวญี่ปุ่นที่ไข่ไก่จะมีความสดและสะอาดมากกว่าไข่ไก่ในไทย และไข่ไก่ในบ้านเรามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียอย่าง ซามอนเนลา อาจส่งผลให้ท้องเสียขั้นรุนแรงได้   หากใครอยากทำเมนูไข่แดงหมักซอสบ้าง ก็แนะนำว่าให้ทำความสะอาดไข่ไก่ให้ดีหรือไม่ก็ซื้อไข่ไก่ที่ได้รับการพาสเจอร์ไรซ์มาแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากแบคทีเรียนั่นเอง   ที่มา Drama-addict , ครัวในบ้านอาหารทำเอง

  • นักท่องเที่ยวผวา สะพานกระจกใสในจีนเกิดรอยแตกร้าว  หลังเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 สัปดาห์

    นักท่องเที่ยวผวา สะพานกระจกใสในจีนเกิดรอยแตกร้าว หลังเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 สัปดาห์

    สะพานกระจกโปร่งแสงรูปตัวยูเชื่อมหน้าผา ที่มีความสูงกว่า 300 เมตรที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันอยู่นี้ ถูกสร้างขึ้นโดยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา     แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า  สะพานกระจกใสแห่งนี้ได้เกิดรอยแตกร้าวบริเวณเส้นทางเดินใหม่ที่มีความสูง 1,000 เมตร หลังเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 สัปดาห์ งานนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็พากันตื่นตระหนก และตกอกตกใจไปตามๆ กัน     ภาพรอยร้าวของสะพาน ถูกถ่ายไว้โดยวัยรุ่นสาวชาวจีนวัย 20 ปี โดยเธอได้โพสต์ภาพที่ถ่ายไว้ลงในโซเชียลมีเดีย หลังจากนั้นภาพของเธอก็ถูกแชร์ต่อไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ของจีน     หลังจากที่ทางผู้จัดการอุทยานทราบเหตุดังกล่าว ก็ได้ออกมาเผยว่า เหตุที่ทำให้กระจกเกิดร้อยร้าวแบบนี้ก็เพราะว่า มีนักท่องเที่ยวทำเหยือกน้ำหล่นใส่ ซึ่งตัวกระจกร้าวเพียงแค่ 1 ใน 3 ของชั้นกระจกทั้งหมดเท่านั้น และมั่นใจได้เลยว่ามันไม่เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวแน่นอน    …

  • คลิปสุดช็อกของหูนูน้อย ที่ถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง จนออกมายืนเล่นนอกหน้าต่างบนตึกชั้น 7

    คลิปสุดช็อกของหูนูน้อย ที่ถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง จนออกมายืนเล่นนอกหน้าต่างบนตึกชั้น 7

    เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยให้เห็นถึงคลิปวีดีโอของหนูน้อยวัยกำลังซนคนหนึ่ง ที่ถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ซึ่งหนูน้อยได้ออกมายืนเล่นอยู่บนขอบหน้าต่างบนตึก งานนี้ทำเอาผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ในละแวกนั้น ทั้งช็อก และตกใจกันเป็นแถว     จากคลิปวีดีโอ เราจะเห็นได้ว่าหนูน้อย กำลังออกมายืนเล่นนอกหน้าต่างบนตึกชั้น 7 ที่ไม่มีลูกกรง หรือรั้วกั้นเอาไว้เลย แถมยังยื่นขาแกว่งไปมานอกหน้าต่าง และยังทำท่าเหมือนจะตกลงมาหลายครั้งอีกด้วย เห็นแล้วหวาดเสียวสุดๆ     เพื่อนๆ ดูสิ…เด็กคนนี้ออกมายืนเล่นนอกหน้าต่างเป็นเวลานานกว่า 2 นาที โดยที่ไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย   ชมคลิปกันเลย   อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่อาจสรุปได้แน่ชัดว่าคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกบันทึกมาจากที่ใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง และละเลยเด็กแบบนี้ เพราะเด็กอาจจะคิดว่าการออกมายืนเล่นบนหน้าต่าง มันเป็นเรื่องสนุก โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วมันอันตรายเป็นอย่างมาก ที่มา : mirror

  • จริงดิ!! ไปชม 10 สิ่งของประจำบ้านที่สามารถฆ่าคุณได้หากใช้ไม่ระวัง!!!

    จริงดิ!! ไปชม 10 สิ่งของประจำบ้านที่สามารถฆ่าคุณได้หากใช้ไม่ระวัง!!!

    พูดถึงข้าวของประจำบ้าน คำว่า “ประจำบ้าน” นั้นย่อมหมายถึงความปลอดภัย ที่เราสามารถนำมาไว้ในบ้านได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนเป็นอะไรไปเพราะของเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม หากเราใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง ข้าวของประจำบ้านเหล่านั้นอาจกลายเป็นผลร้ายต่อเราได้ อย่างเช่น 10 สิ่งของเหล่านี้ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มันอาจฆ่าคุณได้ หากคุณใช้ไม่ระวัง!!   1. พริก ใครๆก็คงรู้ว่าพริกมีเอาไว้เพิ่มความเผ็ดให้กับอาหารใช่มั้ยละ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเผ็ดจริงๆก็คือสารเคมีที่ชื่อว่า Capsaicin ซึ่งคุณอาจจะตายได้ ถ้าหากได้รับมันมากเกินไป   2.จันทน์เทศ เครื่องเทศชนิดนี้ดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ความจริงแล้วมันเป็นเห็ดเมาชนิดหนึ่ง หากกินมันมากเกินไปอาจนำไปสู่อาการชัก รวมถึงเสียชีวิตได้   3.น้ำมันต้นเรพ น้ำมันที่สกัดจากต้นไม่ชนิดนี้มีสารพิษมากมาย มันสามารถทำให้คุณตายได้ หรือถ้าไม่ตาย อย่างน้อยๆก็ตาบอดอ่ะ   4. น้ำยาดับกลิ่น น้ำยาดับกลิ่นประกอบไปด้วยสารเคมีอันตรายมากมาย ซึ่งถ้าได้รับมากเกินไปอาจทำให้คุณเสียชีวิตได้ นอกจากนี้มันยังติดไฟง่ายมากอีกด้วย   5. ดอกลิลลี่ ดอกลิลลี่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ก็จริง แต่มันเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงต่างๆ แต่ถ้าคุณกินมันเข้าไปล่ะก็ คุณอาจจะมีอาการคล้ายๆเป็นหวัดได้ และมันอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้   6. เห็ด เห็นที่ขึ้นอยู่ตามบ้านเรือนของเราไม่ได้แปลว่ามันจะปลอดภัยเสมอไป มีเห็ดกว่า 100…

  • ก็คิดได้!! หนุ่มไล่แม่ไปนั่งที่เก็บของหลังรถ เหตุเพราะอยากให้ลูกของตัวเองได้นอนบนเบาะ!!

    ก็คิดได้!! หนุ่มไล่แม่ไปนั่งที่เก็บของหลังรถ เหตุเพราะอยากให้ลูกของตัวเองได้นอนบนเบาะ!!

    กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีนกันเลยทีเดียว เมื่อพ่อหนุ่มที่มีนามว่า ‘หลิว’ ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับคุณแม่วัย 60 ปีของตัวเอง ด้วยการไล่ให้ไปนั่งในบริเวณที่เก็บของท้ายรถแทนที่จะได้นั่งบนเบาะดีๆ ซึ่งมีเหตุผลเอาไว้ว่าอยากจะให้ลูกได้นอนสบายๆ โดยใช้พื้นที่บนเบาะหลังทั้งหมด!!     โดยที่นายหลิวและครอบครัวนั้นกำลังเดินทางจากมณฑลเจียงซีไปยังมณฑลหูเป่ย์ มีภรรยาและตัวเขานั่งอยู่เบาะหน้า และปล่อยให้ลูกชายนอนอยู่บนเบาะหลัง จนมาถึงด่านตรวจก็พบกับความจริงที่ว่าหญิงชราหรือแม่ของนายหลิวก็นั่งมาด้วย แต่อยู่ในสภาพที่นั่งอยู่ในพื้นที่เก็บของด้านหลังรถ     ทางตำรวจก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายก็เลยขอให้แม่ของนายหลิวลงมาจากท้ายรถ และจะตั้งข้อหาให้กับนายหลิว สุดท้ายแล้วแม่ของนายหลิวขอให้คุณตำรวจละเว้นโทษให้ เนื่องจากเธอคิดว่านั่งบริเวณท้ายรถก็สบายดี ไม่มีปัญหาอะไร     แต่เมื่อมารู้ความจริงที่น่าเศร้าที่สุดก็คือรถคันนี้เป็นรถที่แม่นายหลิวลงทุนซื้อให้ลูกชาย แต่กลับถูกลูกชายของตัวเองกระทำแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งก็ทำเอาชาวเน็ตจีนทั้งหลายรู้สึกเดือดกับการกระทำต่อผู้มีพระคุณแบบนี้!! ที่มา : cctvnews

  • ชมคลิปสุดหวาดเสียว เมื่อมีคนใช้เท้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ แถมปิดตาอีกตะหาก!!!

    ชมคลิปสุดหวาดเสียว เมื่อมีคนใช้เท้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ แถมปิดตาอีกตะหาก!!!

    เกิดประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังจากมีคนอัพโหลดคลิปการขี่มอเตอร์ไซค์อันน่าหวาดเสียวของชายคนหนึ่งได้ โดยในคลิปเป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ด้วย “เท้า” และเขายังมีผ้าปิดตาอีกด้วย จนหลายๆคนวิจารณ์ว่าเป็นการขี่รถที่ประมาทและอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย ปิดตาขับรถไม่พอเท้าขับด้วย Posted by Woraprat Tangtrakul on 23 กันยายน 2015  เมื่อเช้าเน็ตเห็นดังนั้น จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย       อื้อหือ จะว่าเก่งก็เก่งนะ แต่แบบนี้มันแอบอันตรายไปหน่อย เกิดมีอะไรตัดหน้าขึ้นมา จะล้มเอาได้ง่ายๆนะเนี่ย หรือว่าเขาอาจมีความจำเป็นบางอย่างจึงต้องขับแบบนั้นก็ไม่ทราบได้ ที่มา Woraprat Tangtrakul

  • ชมหมาพิตบูลปีนต้นไม้ขึ้นไปเก็บลูกบอล นี่นายเคยเป็นลิงมาก่อนรึเปล่าเนี่ย!!!

    ชมหมาพิตบูลปีนต้นไม้ขึ้นไปเก็บลูกบอล นี่นายเคยเป็นลิงมาก่อนรึเปล่าเนี่ย!!!

    เชื่อหรือไม่ เพราะความต้องการ บางครั้งสามารถผลักดันให้เราทำบางอย่างที่คาดไม่ถึงได้ อย่างเช่นบางคน เพื่อจะจีบสาว ทำให้เขาสามารถลดน้ำหนักหลายสิบกิโลได้ เช่นเดียวเจ้าหมาพิตบูลตัวนี้ มันอยากเล่นลูกบอลลูกโปรดมาก แต่บังเอิญลูกบอลดันไปติดอยู่บนต้นไม้ แล้วจะทำยังไงละ…ก็ปีนไง!!!   ฮึบๆๆ อีกนิดเดียว   ไปชมกันเลยว่า สุดท้ายมันจะเอาลูกบอลลงมาจากต้นไม้ได้หรือไม่! Climbing in a tree because i want my ball back!Climbing in a tree because I want my ball back! Posted by Pitbull-Staff & Co. on 11 กันยายน 2015   ปีนกันจนนึกว่าไม่ได้เป็นหมาเลยนะเนี่ย โชคดีจริงๆที่ไม่ตกมาเป็นอะไร คราวหลังถ้ามันขึ้นไปสูงขนาดนี้ ทิ้งมันไว้งั้นแหละเนอะ ขึ้นไปอันตรายเปล่าๆ^^ ที่มา Pitbull-Staff & Co.

  • ระบำกับความตาย นางแบบสาวอิตาเลียน ฝันอยากลงว่ายน้ำกับจระเข้ สุดท้ายฝันเป็นจริง

    ระบำกับความตาย นางแบบสาวอิตาเลียน ฝันอยากลงว่ายน้ำกับจระเข้ สุดท้ายฝันเป็นจริง

    เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 กันยายน เฟซบุ๊คเพจ CCTVNews ได้เผยแพร่ภาพของนางแบบสาวนามว่า Roberta Mancino ที่ลงไปว่ายน้ำเล่นกับจระเข้อย่างมีความสุข   โดย Mancino กล่าวว่าเธอใช้เวลาวันละกว่า 10 ชั่วโมงต่อวันในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อลงไปว่ายน้ำกับนักล่าอย่างจระเข้ ในทะเลสาบ Gulf ประเทศเม็กซิโก ที่ห่างจากชายฝั่งกว่า 48 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งที่รวบรวมจระเข้ไว้มากถึง 700 กว่าตัวเลยทีเดียว   ในการถ่ายภาพครั้งนี้ มีทีมช่างภาพตามลงไปในน้ำกับเธอด้วยหลายคน และพวกเขาก็อยู่ห่างจากเธอไปแค่ไม่กี่นิ้วเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าทุกๆ คนที่ลงน้ำไปนั้นจะต้องเจอกับเหล่านักล่าที่อาจจะจู่โจมพวกเขาได้ตลอดเวลา   แต่ดูเหมือนว่าการถ่ายภาพครั้งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะเมื่อจระเข้ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ Mancino ก็พยายามจะแสดงท่าทีเป็นมิตรให้พวกมันเห็น   เธอยังบอกอีกว่าการถ่ายภาพสุดอันตรายนี้ ถือเป็นความฝันของเธอเลย แต่กลับไม่มีใครกล้าให้เงินทุนกับเธอ เพราะมันดู “อันตรายมากเกินไป” นั่นเอง       เอาเป็นว่า พวกเราดูเพื่อความสวยงามอย่างเดียวก็แล้วกันนะ อย่าไปคิดเลียนแบบเด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา CCTVNews

  • จากภาพเซลฟี่ขณะขับบิ๊กไบค์ ชาวเน็ตเตือนเพราะหวังดี โดนตอกหน้า ‘ไม่ต้องห่วงฉัน เงินพ่อแม่ผม’

    จากภาพเซลฟี่ขณะขับบิ๊กไบค์ ชาวเน็ตเตือนเพราะหวังดี โดนตอกหน้า ‘ไม่ต้องห่วงฉัน เงินพ่อแม่ผม’

    ปัจจุบันตามท้องถนนก็มีรถจักรยานยนต์ประเภทคันใหญ่ๆ ออกมาให้เห็นกันเพียบเลยล่ะ ต่างจากเมื่อก่อนมากที่นานๆ ทีจะเห็นซักหนึ่งคัน อาจจะเป็นเพราะเดี๋ยวนี้ตลาดบิ๊กไบค์เริ่มขยายตัวมากขึ้น และมันก็เป็นหนึ่งในฝันของผู้ชายทั้งหลายที่อยากจะคว้าบิ๊กไบค์ซักคันมาควบซักครั้งในชีวิต     มองย้อนกลับไปเมื่อก่อน ผู้ที่ขับบิ๊กไบค์นั้นส่วนมากจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีกลุ่มนักเรียนมัธยมขับบิ๊กไบค์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ความรับผิดชอบต่อการใช้รถใช้ถนนของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนรักษาวินัยจราจรมีน้ำใจ ส่วนบางคนก็ขับแบบห้าวๆ ไม่สนใจใคร ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน     จนกลายมาเป็นประเด็นร้อนเมื่อไม่นานมานี้เอง เมื่อทางเพจ มัธยมขี่ BigBike ได้ทำการโพสต์รูปภาพนักเรียนมัธยมรายหนึ่งเซลฟี่ในขณะขับขี่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อันตรายอย่างมาก ผู้ที่พบเห็นภาพนี้ก็ได้ทำการตักเตือนว่าเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสม แต่กลับถูกโต้กลับด้วยประโยคจากหนึ่งในกลุ่มนักเรียนมัธยมขี่ BigBike (ไม่ใช่บุคคลที่เซลฟี่) ‘เวลาล้มโดนชน เจ็บคนเดียวครับ มันนั่งหัวใครป่ะครับ เงินก็เงิน พ่อแม่ผม’   กรณีนี้คงต้องรอให้เซลฟี่จนรถชนใครตายก่อนถึงจะรู้สำนึกครัชอนึ่ง ไอ้คนที่บอกว่ารถกู เวลาชนกูเจ็บคนเดียวเนี่ย มันไม่ใช่น้องที่ขี่ไปเซลฟี่ไปในภาพนะ คนละคนกัน เห็นหลายๆคนเข้าใจผิด Posted by Drama-addict on Monday, September 14, 2015   ทางด้านจ่าพิชิตจากเพจ Drama-addict ก็ได้แคปภาพดังกล่าวเพื่อตักเตือนในการโพสต์ภาพพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมในขณะขับขี่ดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายมีทีท่าไม่ยอมเช่นกัน   โถ พ่อเด็กมัธยมขี่บิ๊กไบค์…

  • เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การตัดต้นไม้ทุกครั้งต้องระวัง ไม่งั้นอาจเป็นแบบชายคนนี้!!!

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การตัดต้นไม้ทุกครั้งต้องระวัง ไม่งั้นอาจเป็นแบบชายคนนี้!!!

    คุณเคยตัดต้นไม้ด้วยตนเองหรือเปล่า? ถ้าคุณเคยคุณคงจะรู้ว่าการตัดต้นไม้ แม้ดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่จริงมันแฝงความอันตรายเอาไว้มากมาย หากไม่ระวัง เราอาจได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตได้   อย่างเช่นชายคนนี้ ขณะที่เขากำลังทำการโค่นต้นไม้อยู่ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะต้นไม้ดันล้มมาทางเขา   จะเป็นยังไง ไปชมกันต่อเลย อื้อหือ โชคดีจริงๆ ที่ไม่เป็นอะไรมาก ด้วยความประมาทล้วนๆเลยนะเนี่ย ทีหลังใครจะตัดต้นไม้ ก็ขอให้ระวังกันมากๆนะ ครั้งหน้าอาจไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ ที่มา lpe360screeners

  • ผลวิจัยชี้!! การดื่มกาแฟในช่วงเวลาเช้า เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งยวด

    ผลวิจัยชี้!! การดื่มกาแฟในช่วงเวลาเช้า เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งยวด

    โดยปกติแล้ว มนุษย์วัยทำงานหรือมนุษย์ผู้เสพติดกาแฟก็มักจะชงกาแฟร้อนๆ ซักหนึ่งแก้วเพื่อจิบเสริมพลังให้กับตัวเอง จะได้ตื่นตัวจากการอาการงัวเงีย แต่หารู้ไม่ว่าการจิบกาแฟในตอนเช้าส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างแรง!! จากผลวิจัยล่าสุดเผยว่าในช่วงเช้าร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงมากๆ ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับความเครียดที่เรามีและกำจัดออกไป     แต่ทว่าหากเราดื่มกาแฟในตอนเช้าปุ๊บ ปัญหาก็จะตามมาอยู่สองอย่าง   อย่างแรกก็คือระบบของร่างกายจะสามารถสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลได้น้อยลง และความเครียดก็จะตามมา   อย่างที่สองก็คือร่างกายจะมีความอดทนต่อคาเฟอีนมากขึ้น เพราะมันเข้าไปแทรกแทนที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลเลย!!   แล้วเวลาไหนล่ะที่จะเหมาะกับการดื่มกาแฟ เวลานั้นก็คือช่วง 10 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยง และช่วงระหว่างบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น ที่มา : time, fooyoh

  • 28 ภาพเบื้องหลังการทำงานของช่างภาพ ที่จะทำให้เราได้เห็นว่า ‘มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด’

    28 ภาพเบื้องหลังการทำงานของช่างภาพ ที่จะทำให้เราได้เห็นว่า ‘มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด’

    เวลาที่เราดูสารคดี เคยตั้งข้อสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ภาพที่ถ่ายออกมาสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์โลก หรือภาพสถานที่อันตรายต่างๆ พวกช่างภาพเขาถ่ายกันอย่างไร แน่นอนว่ากว่าจะออกมาเป็นภาพสวยๆ มุมสวยๆ ให้เราได้เห็นนั้น ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่!! เพราะความจริงแล้วเบื้องหลังภาพเหล่านี้ ช่างภาพที่เป็นมือโปรทั้งหลาย ต่างก็ต้องพาตัวเองไปเสี่ยงตายกันทั้งนั้น และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าการเป็นตากล้องนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ในวันนี้เราได้นำภาพเบื้องลึกเบื้องหลังของพวกเขามาให้ได้ชมกันแล้ว   โหววว เบื้องหลังการถ่ายทำสารคดีสัตว์ เป็นอย่างนี้นี่เอง   แม้จะอันตรายแค่ไหน แต่พวกเขาก็สามารถเก็บภาพเหล่านั้นมาให้เราชมได้   ดูเหมือนพวกสัตว์โลกอยากจะมาร่วมแจมกับพวกเขาด้วยนะเนี่ย   ดูเหมือนว่าพวกมันชอบการเป็นนายแบบนางแบบมากๆ เลย   พวกเขาต้องเสี่ยงตายหลายครั้ง…   หรือมันเป็นความท้าทายสำหรับพวกเขากันแน่   ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะเนี่ย กว่าจะได้ภาพถ่ายสวยๆ มาสักใบ   บางคนก็ได้เจอเรื่องราวน่ารักๆ   บางคนก็ต้องทนอยู่ในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ แต่ก็ยังจะเก็บภาพเหล่านั้นต่อไป…   การเป็นช่างภาพไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดจริงๆ   สุดยอด!! แต่ละคนเรียกได้ว่าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อเก็บภาพสวยๆ มาให้เราได้ชื่นชมกันเลยนะเนี่ย งานนี้ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับตากล้องคนเก่งเหล่านี้ซะแล้ว!! ที่มา : distractify

  • อุทาหรณ์รถจักรยาน เปลี่ยนเลนต้องระวัง ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้!!!

    อุทาหรณ์รถจักรยาน เปลี่ยนเลนต้องระวัง ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้!!!

    ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา จักรยานกลายเป็นยานพาหนะที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนแทบทุกเพศทุกวัยหันมาปั่นจักรยานเป็นเรื่องปกติ บ้างก็ใช้ในการเดินทาง บ้างก็ปั่นเพื่อออกกำลังกาย และล่าสุดประเทศเราก็มีการจัดงานปั่นจักรยานครั้งยิ่งใหญ่อย่างาน Bike For Mom แต่อย่างไรก็ตาม จักรยานถือว่าเป็นยานพาหนะที่ค่อนข้างบอบบางและเสี่ยงอันตรายหากเทียบกันยานพาหนะชนิดอื่นๆ ฉะนั้นทุกครั้งที่มีการออกปั่นจักรยาน ควรเพิ่มความระมัดระวังถึงขีดสุด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์อย่างในคลิปที่เหมียวเอามาให้ชมวันนี้ เหมียวเห็นคลิปนี้จากเฟสบุ๊คของคุณ Julapong Ponngoh โดยคลิปเป็นคลิปจากล้องหน้าของรถคันหนึ่ง ขณะที่พวกเขากำลังขับรถมาโดยใช้ความเร็วประมาณหนึ่งบนเลนด้านขวาสุดบนถนน ทันใดนั้นเองก็มีจักรยานคันหนึ่ง เปลี่ยนเลนจากซ้ายสุดมาขวาสุดอย่างรวดเร็ว ตัดหน้ารถคันดังกล่าว คนขับรถไม่สามารถหลับได้ทัน ทำให้จักรยานคันนั้นปะทะเข้ากับรถอย่างรุนแรง จนกระเด็นไปข้างหน้า บอกเลยว่าน่ากลัวสุดๆ ที่มา : Julapong Ponngoh Posted by Youlike69 on 15 สิงหาคม 2015   และที่น่าเศร้าก็คือ นักปั่นท่านนี้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาในโรงพยาบาล เนื่องจากอาการสมองบวม ทางเหมียวก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตไว้นะที่นี้ด้วย ตัวเหมียวอ๊อดโด้เองก็ปั่นจักรยานเป็นประจำอยู่แล้ว ได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้เหมียวเองก็สะเทือนใจถึงขีดสุดเลย เหมียวขอยกคำพูดของคุณ Julapong มาเตือนใจนักปั่นทั้งหลายว่า “การปั่นบนถนนหลวง เหมือนการออกไปรบ ให้พึงระลึกเสมอว่าเราอาจจะตายได้ทุกเมือ ฉะนั้นห้ามประมาท! จะแซงซ้ายแซงขวา จะปั่นยังไงก็แล้วแต่ ให้มีสติตลอด ดูรถซ้ายขวาให้มั่นใจก่อนจะแซงจะปาด ตามองไปข้างหน้า พิเคราะห์ว่าถนนข้างหน้าเป็นยังไง มีเหตุการณ์อะไรเกิดบ้าง อย่าสักแต่ว่าปั่นๆๆๆๆ แล้วให้คนขับรถยนต์มาระวังแทนเรา”…

  • คลิปเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ ณ เทียนจิน จากความมืดมิดทุกสิ่งก็ลุกเป็นไฟ!!

    คลิปเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ ณ เทียนจิน จากความมืดมิดทุกสิ่งก็ลุกเป็นไฟ!!

    หลายคนคงจะทราบข่าวเหตุระเบิดขนาดใหญ่ในเมืองเทียนจิน ประเทศจีนกันแล้วนะครับ มีภาพความเสียหายออกมาให้เราได้เห็นกัน และต้องบอกว่ามันเสียหายรุนแรงมากจริงๆ   เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกลางดึกดื่นในเมืองเทียนจินประเทศจีน สินค้าจำพวกวัตถุอันตรายที่อยู่ภายในคลังเก็บของท่าเรือเทียนจินนั้นก็กลายมาเป็นมัจจุราชเพียงชั่วข้ามคืน!! สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือระเบิดขนาดใหญ่ สั่นสะเทือนไปไกลกว่า 100 กิโลเมตร แม้เมืองปักกิ่งที่อยู่ห่างมากๆ ก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงระเบิดและเสียงอันดังสนั่นในครั้งนี้ด้วย ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 17 รายและบาดเจ็บอีก 100 กว่ารายเลยทีเดียว!!   มีภาพของความเสียหายออกมามากมาย แต่เหมียวเชื่อว่าหลายๆคนคงจะยังไม่ได้เห็นคลิปวินาทีการระเบิดอันรุนแรงนี้ เลยอยากจะหยิบมานำเสนอกัน สามารถรับชมได้ฮะ…. และแน่นอนว่าเรื่องนี้จะต้องกลายเป็นบทเรียนให้กับทั้งเมืองจีน และอีกหลายประเทศในเรื่องมาตรการความปลอดภัยของสารอันตรายอย่างมากเลยล่ะ…. ที่มา : twistedsifter

  • ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!

    ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!

    โซเชียลมีเดียในยุคสมัยชีวิตดิจิตอลแบบนี้ในด้านหนึ่งก็ดีที่สามารถเชื่อมคนทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน สามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น แต่เมื่อลองมองกลับไปอีกด้าน ความร้ายกาจของมันสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่ยังไม่รู้เท่าทันคน พ่อหนุ่ม Coby Persin ได้ทำการทดสอบให้เห็นถึงความอันตรายของโลกโซเชียล ที่ใครๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น   เขาได้ทำการปลอม Facebook ขึ้นมาเป็นชายหนุ่มอายุ 15 ปีและได้ลองคุยกับเด็กสาวอายุ 14 13 และ 12 ปีตามลำดับโดยทำการขออนุญาตพ่อและแม่ของเด็กหญิงทั้งหมดแล้วก่อนที่จะทำการทดสอบนี้   การทดสอบใช้เวลาในประมาณ 3-4 วันเพื่อทำการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ให้เหยื่อรู้สึกคล้อยตามและสามารถทำการนัดออกมาพบนอกสถานที่ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กเหล่านี้ยอมออกมาจากบ้านเพื่อมาพบคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงแค่ในโลกออนไลน์!! ในโลกแห่งความเป็นจริงเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่จะเจอเป็นคนแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่เหตุคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากการที่เด็กหญิงไว้ใจในการพบกับคนแปลกหน้า   อย่างกรณีของคุณพ่อรายนี้ที่แอบมาอยู่ในรถด้วย แล้วเขาก็ได้ทำการนัดแนะว่าจะไปหาที่หน้าบ้าน ถ้าหากว่าพ่อไม่อยู่แล้ว ซึ่งคุณพ่อเองก็ไว้ใจลูกสาวของตัวเองว่าจะไม่ทำการเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเข้าบ้านอย่างแน่นอน!!   แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณพ่อคิด ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ได้มาทำการทดสอบแบบนี้ เธอจะตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีอย่างแน่นอน!!   เด็กสาวรายสุดท้ายถูกนัดขึ้นมาบนรถ พ่อและแม่ของเธอก็ร่วมสวมบทบาทเป็นผู้ร้ายก่อนที่จะเผยตัวตน และพบกับความจริงที่ว่าลูกสาวของพวกเขายังไม่ทันกลในโลกออนไลน์ที่มีความอันตรายสูงมากๆ โซเชียลมีเดียเป็นดาบสองคม ด้านประโยชน์ของมันก็มีมากมาย แต่อีกด้านร้ายๆ ก็มีเยอะเช่นกัน เพราะฉะนั้นดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ไม่หวังดีต่อบุตรหลานของท่าน ด้วยความห่วงใยจากสำนักข่าวแมวเหมียว ที่มา : Coby…

  • วินาทีเฉียดตาย!! ตำรวจพยายามช่วยชีวิตชายรายหนึ่งให้รอดพ้นจากรถไฟพุ่งชน!!

    วินาทีเฉียดตาย!! ตำรวจพยายามช่วยชีวิตชายรายหนึ่งให้รอดพ้นจากรถไฟพุ่งชน!!

    เวลาที่จะต้องขับรถผ่านทางรถไฟนั้น ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อมีสัญญาณเตือนว่ารถไฟกำลังจะผ่านมาก็ควรที่จะหยุดรอ และหลายครั้งที่มีคนคิดว่าตัวเองข้ามทัน แต่นั่นคือความประมาทที่อันตรายถึงชีวิต!! อุทาหรณ์สำหรับผู้ที่คิดจะขับรถข้ามทางรถไฟในเวลาที่รถไฟกำลังจะแล่นผ่าน โชคดีสำหรับชายรายนี้ที่คุณตำรวจสามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการสูญเสียเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้ ที่มา : thechive

  • ชมเจ้าหนูแฮมสเตอร์จอมดุ อย่ามายุ่งนะเฟ้ย เดี๋ยวต่อยเลย!!!

    ชมเจ้าหนูแฮมสเตอร์จอมดุ อย่ามายุ่งนะเฟ้ย เดี๋ยวต่อยเลย!!!

    เราอาจติดภาพว่าหนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่แอ๊บแบ๊วแสนน่ารัก (สงสัยจำมาจากการ์ตูนแฮมทาโร่แหงๆ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว แฮมสเตอร์ไม่ได้น่ารักอย่างนั้นทุกตัว อย่างเจ้าตัวนี้เป็นต้น เจ้าแฮมสเตอร์ป่าจากรัสเซียตัวนี้ ดูท่าทางแล้วจะไม่เป็นมิตรกับคนเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าใครจะเข้าไปใกล้ มันก็พร้อมจะทำร้ายทุกคน เหมือนจะเป็นกังฟูด้วยนะ ดุจริงๆ ดุสุดๆ เล่นเอาเลือดอาบเลย ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า แฮมสเตอร์มันจะดุได้ขนาดนี้ ใครคิดจะเอามาเลี้ยงก็ดูแลกันดีๆนะเหมียว ที่มา DeefHimSelf

  • โฆษณาเตือนใจคนชอบเล่นมือถือบนระหว่างขับรถ แค่วินาทีเดียวก็อาจทำลายชีวิตคุณไปตลอดกาล!!!

    โฆษณาเตือนใจคนชอบเล่นมือถือบนระหว่างขับรถ แค่วินาทีเดียวก็อาจทำลายชีวิตคุณไปตลอดกาล!!!

      ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เรามักจะได้เห็นคนยืน เดิน นั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่เสมอๆ และบางครั้ง ยังลามไปถึงการขับรถอีกด้วย ซึงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก   ทาง AT&T ผู้ให้บริการโทรศัพท์จากอเมริกา จึงทำแคมเปญ “it can wait” เพื่อเตือนใจทุกคนว่า เราจำเป็นต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูทุกครั้งเลยเหรอ ว่าเพื่อนคอมเม้นท์อะไรบนสเตเตัสเรา สิ่งเหล่านั้นสำคัญกว่าชีวิตของเราจริงๆหรือ?  เพราะการละสายตาจากถนนเพียงเสี้ยววินาที นั่นอาจหมายถึงชีวิตของคุณและคนที่คุณรักต้องเสียไป         ไปชมกันเลย   เห็นแบบนี้แล้ว อย่าหยิบมาถือขึ้นมาเล่นระหว่างขับรถโดยไม่จำเป็นล่ะ เพราะคนที่ได้รับผลกระทบ อาจไม่ใช่แค่ตัวของคุณเองเท่านั้น ที่มา AT&T  

  • รับชมภาพการนอนเปลสุดหวาดเสียวของเหล่านักผจญภัย ถ้าไม่กล้าจริงทำไม่ได้นะเนี่ย

    รับชมภาพการนอนเปลสุดหวาดเสียวของเหล่านักผจญภัย ถ้าไม่กล้าจริงทำไม่ได้นะเนี่ย

    เมื่อเรานึกถึงภาพของการนอนแปล แน่นอนว่ามันจะต้องรู้สึกสบาย และผ่อนคลายที่สุด แต่ถ้าหากคุณได้ชมภาพการนอนเปลของเหล่านักผจญภัยเหล่านี้ล่ะก็ คุณจะต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยล่ะ เพราะนี่คือภาพการนอนเปลของนักผจญภัยที่ดูแตกต่างจากคนทั่วไปก็คือ มันเป็นการนอนเปลที่หวาดเสียว และเสี่ยงตายสุดๆ และถ้าหากคุณเป็นคนชอบความท้าทาย เชื่อว่าคุณจะต้องอยากสัมผัสกับบรรยากาศการนอนเปลสุดหวาดเสียวเหล่านี้แน่นอน   แลดูบรรยากาศดี๊ดี   กลัวตกกันบ้างมั้ย   ชิวไปนะ   โอ๊ยตาย!! หวาดเสียวแทน   ไม่กล้าจริงทำไม่ได้นิฮะ   คิดไปได้   นอนมันตรงนี้แหละ   ใครกล้าเหมียวท้าให้ลองสักครั้งในชีวิต   ยอมพี่แกจริงๆ   เพื่อนๆ อยากลองดูสักครั้งไหมล่ะ   คงสนุกน่าดู   น่าตื่นเต้นดีนะ   สูงเหมือนกันนะเนี่ย   ดูจากมุมนี้มันช่างน่ากลัวจริงๆ   ช่างเป็นการนอนเปลที่หวาดเสียวซะเหลือเกิน แถมยังต้องมานอนไประแวงไปอีกด้วย แบบนี้จ้างให้ก็ไม่ยอมนอนเด็ดขาด!! ที่มา : boredpanda

  • มารู้จักกับ ‘Gurung’ ชนเผ่าล่าผึ้งในเนปาล ที่ต้องปีนหน้าผาสูงสุดอันตราย เพื่อขึ้นไปเก็บ ‘รังผึ้ง’

    มารู้จักกับ ‘Gurung’ ชนเผ่าล่าผึ้งในเนปาล ที่ต้องปีนหน้าผาสูงสุดอันตราย เพื่อขึ้นไปเก็บ ‘รังผึ้ง’

    หากใครที่ยังไม่รู้จักชนเผ่า Gurung ที่อาศัยอยู่ในประเทศเนปาลล่ะก็ ในวันนี้เราได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของชนเผ่านี้มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันแล้ว ชนเผ่า Gurung เป็นชนเผ่าที่ใช้วิธีชีวิตเรียบง่าย แต่ทว่าพวกเขากลับทำงานที่เสี่ยงอันตรายที่สุดนั่นก็คือ การปีผาสูงกว่า 400 ฟุต เพื่อขึ้นไปเก็บน้ำผึ้งและรังผึ้งมาขายนั่นเอง     นอกจากนี้พวกยังเป็นชนเผ่าล่าผึ้งที่ได้รับฉายาว่า ‘พรานน้ำผึ้งแห่งหุบเขา’ อีกด้วย     ซึ่งการขึ้นไปเก็บรังผึ้งและน้ำผึ้งบนผาสูงนั้น นอกจากจะเสี่ยงอันตรายมากๆ แล้ว พวกเขายังไม่มีเครื่องป้องกันหรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น จะมีก็แค่ตะกร้าและไม้ไผ่เท่านั้น       และแน่นอนว่าก่อนที่จะออกไปเก็บน้ำผึ้งนั้น จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้าซะก่อน โดยพวกเขาจะนำเนื้อแกะ, ข้าว, ผลไม้ และดอกไม้ ไปบูชาเทพเจ้าแห่งภูผา เพื่อคุ้มครองให้ปลอดภัย       และกว่าจะได้รังผึ้งและน้ำผึ้งมา พวกเขาต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว   หวาดเสียวเหมือนกันนะเนี่ย       สุดยอดไปเลย       การถูกผึ้งต่อย เรียกได้ว่าเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาสำหรับพวกเขาไปซะแล้ว…

  • 21 ภาพการเดินทางสุดโหดในประเทศอินเดีย ที่ทั้งน่ากลัวและหวาดเสียวฝุดๆ เลย

    21 ภาพการเดินทางสุดโหดในประเทศอินเดีย ที่ทั้งน่ากลัวและหวาดเสียวฝุดๆ เลย

    หากคุณได้เดินทางไปที่ไหนสักที่ แล้วต้องมาเจอกับการเดินทางที่มีถนนสายโหดที่แสนอันตราย รับรองว่านั่นคงเป็นการผจญภัยที่สุดหวาดเสียว และหฤโหดมากแน่ๆ ดังเช่นภาพเส้นทางในประเทศอินเดียที่เราจะนำมาให้ชมในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่แสนทรหด และน่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้ และถ้าหากใครที่ได้เจอเส้นทางสุดโหดเหล่านี้ รับรองว่าคุณจะต้องเสียวไปทั้งตัวแน่นอน   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   เห็นแบบนี้ก็ยอมคนอินเดียจริงๆ แต่การเดินทางในเส้นทางแบบนี้ มันทั้งเสี่ยงและอันตรายมากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา : topyaps