Tag: อับอาย
-
เกิดเหตุ ‘ตบตีกัน’ ในห้างประเทศเกาหลีใต้ เพราะนักท่องเที่ยวจีน “แซงคิว” คนอื่น
เหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดเกิดขึ้น ณ ร้านค้าปลอดภาษีในประเทศเกาหลีใต้ ที่มีการต่อสู้ทำร้ายร่างกายระหว่างกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง โดยทราบมาว่าเกิดขึ้นเพราะมีการ “แซงคิว” กันนั่นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 ซึ่งได้มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ ขณะที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในโซนเครื่องสำอางบนชั้น 12 ของห้างปลอดภาษี The Lotte ในย่านอึลจิโร ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ ในช่วงแรกของวิดีโอจะเห็นได้ว่าหญิงสองคนกำลังดึงผมของกันและกันจนล้มลงกับพื้น ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ หลังจากนั้นชายคนหนึ่ง คาดว่าเป็นสามีของหญิงที่กำลังปะทะ ก็เข้ามากระทืบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวที่ล้มอยู่ “นางคนนี้มารังแกเมียฉันก่อน!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาก่อนที่ฝูงชนจะเข้ามาห้าม “พอแล้ว หยุดตีกันได้แล้ว!” เสียงตะโกนจากผู้คนรอบๆ หลังจากนั้นราว 5 นาที ผู้รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และเมื่อสัมภาษณ์ หญิงสาวในคลิป ทำให้ทราบว่าหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้ทำการ แทรกตัวเข้าไปแซงคิว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น ภายหลังทราบว่าทั้ง 3 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดความไม่พอใจกับชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก หลายคอมเมนต์กล่าวเป็นทำนองเดียวกันว่า “ทั้ง 3 คนได้สร้างความอับอายให้กับชาวจีน พวกเขาไม่ควรออกไปเที่ยวต่างประเทศ” ฝากเตือนเพื่อนๆ…
-
เรื่องมันช่างน่าอาย!! 8 เรื่องเล่าของความเสียหน้า ที่จะขำก็รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก
ความน่าอับอายและการเสียหน้านั้นเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน มันขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคนว่าจะรับเรื่องพวกนั้นได้มากแค่ไหน คนที่ยอมรับในความอับอายของตนไม่ได้ก็มีแต่จะจมอยู่กับเรื่องราวเหล่านั้นไปตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะมีช่วงที่รับการกระทำของตัวเองไม่ได้ขึ้นมาเสมอๆ แต่สำหรับคนที่รับในความอับอายเหล่านั้นได้ เรื่องที่เคยเกิดขึ้นนั้นมันก็จะไม่ต่างอะไรกับเรื่องตลกที่นำมาเล่าในเวลาว่างก็เท่านั้น เหมือนกับเจ้าของเรื่องราวความน่าอับอายทั้ง 8 เรื่องต่อไปนี้นั่นเอง เช็คเงินสด ในตอนที่ฉันทำงานอยู่ที่ธนาคาร มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาขอขึ้นเงินจากเช็คเงินสด ในเช็คนั้นมีค่าอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 4,676,100 บาท) และระหว่างที่กำลังขึ้นเงินอยู่พวกเราก็เริ่มที่จะคุยกันไปเรื่อยเปื่อย อะไรประมาณว่า “ฉันอยากได้เช็คเงินแบบนี้บ้างจัง” หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ ให้กับฉัน และบอกว่า “อย่าเลยค่ะ มันเป็นเงินจากประกันชีวิต ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้คนคนนั้นยังอยู่กับฉันมากกว่าเช็คใบนี้นะคะ” เกาะอก พวกคุณเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่ไม่อยากให้ลูกแต่งตัวโชว์สะดือไหม แม่ของฉันเห็นฉันใจเสื้อโชว์สะดือก็เลยดึงชุดเกาะอกของฉันลงไปปิด มันปิดสะดือได้ก็จริงอยู่ แต่หน้าอกของฉันโผล่ออกมาโชว์ความเด่นเป็นสง่าให้คนทั้งห้องเห็นเลย… E เตี้ย ฉันเบื่อที่จะเป็นคนเตี้ยแล้วอ่ะ คุณไม่รู้หรอกว่ามันน่าอายแค่ไหนตอนที่พวกเราย้ายบ้านแล้วมีเด็กในละแวกนั้นมาเคาะประตูถามคุณพ่อฉันว่าฉันอยู่ไหมและชวนไปเล่นที่สนามเด็กเล่นด้วยกันน่ะ อีกสองเดือนฉันก็จะ 22 แล้วด้วย เพื่อนร่วมชั้น ผมขึ้นลิฟท์ไปที่ทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก พวกเราไปชั้นเดียวกันผมเล่นพูดเล่นๆ ไปว่านี่เราเป็น “เพื่อนร่วมชั้น” กันสินะ… หลังจากนั้นลิฟท์ก็เงียบไปเลย ใครก็ได้แนะนำที่ทำงานดีๆ ที่อื่นให้ผมที เด็กมันน่ารำคาญ เมื่อวานนี้ฉันไปเจอสาวคนหนึ่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ดูเหมือนว่าแฟนของเธอจะนอกใจไปนอนกับสาวคนอื่น…
-
เหล่าพนักงานออฟฟิศร่วมแชร์เรื่องราวน่าอับอายในที่ทำงาน เล่าทีไรก็ยังเขิน ไม่น่าเลยเรา
ในชีวิตคนทำงานนั้นเชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่เคยทำอะไรผิด ไม่ว่าจะทั้งในการทำงาน และการสื่อสารกับผู้ร่วมงาน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าอายแค่ไหนนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นใคร และมันเกิดอะไรขึ้น อย่างเช่นเจ้าของเรื่องราวต่อไปนี้ ผู้ซึ่งต้องแบกรับเรื่องราวความอับอายมาอย่างยาวนาน เพียงเพราะเรื่องที่ผิดพลาดไป ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที การตอบกลับที่ไม่ได้ตั้งใจ โดย Byzant วันนั้นฉันได้เมลที่ห่วยมากๆ มาฉบับหนึ่ง ฉันก็เลยว่าจะส่งเมลฉบับนั้นไปให้เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่สาขาเดียวกัน โดยบอกว่า “เมลฉบับนี้มันเป็นสิ่งที่ไร้ความสามารถมากที่สุดที่ฉันเคยได้รับ และคนที่ส่งมันต้องทำงานไม่เป็นแน่ๆ” แต่แทนที่จะกดปุ่ม Forward เพื่อที่จะส่งเมลต่อไปให้เพื่อน ฉันดันไปกดใส่ปุ่ม Reply ที่เอาไว้ตอบเมลกลับแทน… ฉันต้องขอโทษคนที่ส่งเมลไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน และยังต้องทำงานร่วมกับเขาที่เกลียดฉันต่อไปอีกด้วย กลิ่นเหม็นมาก โดย Mae2000 วันแรกที่ผมได้พบกับเจ้านาย ผมนั่งคุยกับเขาอยู่ที่โต๊ะ และก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นมากๆ ของอุจจาระโชยมา ในการสนทนานั้นผมได้แต่คิดในใจว่า “อย่าบอกนะว่า… หัวหน้าจะ…” แต่เมื่อเราพูดกันจบผมก็รู้ตัว ว่าผมไปเหยียบขี้หมามาจากไหนก็ไม่รู้ แน่นอนว่าหัวหน้าก็ต้องได้กลิ่นของมันด้วยแน่ๆ แค่นั้นยังเลวร้ายไม่พอเจ้านายของผมดันมาเห็นตอนที่ผมกำลังพยายามที่จะเอามันออกจากรองเท้าด้วยกระดาษทิชชูด้วย และผมต้องโกหกว่ารองเท้าของผมนั้นแค่เปื้อนโคลน ภัยพิบัติในลิฟต์ โดย jessicab45bac3e5e ผมซื้อกางเกงสแล็คตัวใหม่สำหรับใส่ทำงาน แถวๆ เอวของกางเกงมันจะหลวมนิดๆ แต่ส่วนอื่นๆ นั้นกำลังพอดีตัวเลย เรื่องราวมันเกิดขึ้นในตอนที่ผมกำลังขึ้นลิฟต์กับผู้หญิงที่ผมไม่รู้จัก จู่ๆ กางเกงเจ้ากรรมตัวนี้ก็ร่วงลงไปอยู่ที่ต้นขาของผมเฉยเลย ผมตกใจมากจนปล่อยทุกอย่างจากมือ (รวมทั้งคอม 1 เครื่อง) เพื่อรีบดึงกางเกงขึ้น…
-
สาวเป็นโรคผมร่วง กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น จนได้รับการเซ็นสัญญานางแบบ
คุณอาจจะใส่วิกผมเพราะต้องการความสวยงาม หรือเปลี่ยนลุคเปลี่ยนสไตล์ใหม่ๆ ให้ดูแตกต่างไปจากเดิม แต่สำหรับ Therese Hansson สาววัย 26 จากเมืองมัลโม่ ประเทศสวีเดน คนนี้ เธอกลับสวมวิกเพื่อปกปิดความอาย และไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอเป็นคนหัวล้าน จะมีก็แต่ครอบครัวและเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้ และเรื่องราวของ Therese ได้ถูกนำมาเปิดเผยผ่านทางสำนักข่าวต่างประเทศในวันที่ 3 ธันวาคม 2560 โดยระบุว่า ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ Therese อายุได้เพียง 14 ปี เธอได้สังเกตเห็นว่าเส้นผมของเธอร่วงหล่นเป็นจำนวนมากขณะที่กำลังยืนหวีผมอยู่หน้ากระจก และเมื่อลองมัดผมหางม้า เธอก็พบว่า เส้นผมบริเวณหน้าผากได้หายไปกระจุกหนึ่ง “ในตอนนั้นฉันกำลังเป็นเด็กอยู่ และรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากว่าตัวเองจะเป็นโรคมะเร็ง เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าผู้ป่วยมะเร็งจะมีอาการผมร่วงอย่างหนัก และสูญเสียเส้นผมไปหลังจากที่ได้รับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด… มีแค่ครอบครัวของฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ และหลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เส้นผมของฉันก็เริ่มหายไปทีละน้อย ซึ่งมันทำให้ฉันได้ตัดสินใจที่จะเริ่มบอกเพื่อนสนิทถึงอาการผมร่วงของฉัน” Therese กล่าว นอกจากนี้ Therese ยังได้เผยอีกว่า อาการผมร่วงที่ทำให้เธอกลายเป็นคนหัวล้านแบบนี้ มันทำให้เธอต้องปกปิดเป็นความลับเอาไว้โดยที่ไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด…
-
พยาบาลสาวตั้งใจฟิตหุ่น หลังละอายใจ แนะนำคนไข้ลดน้ำหนักแต่ตัวเองยังอ้วน..!!
นี่คือ Kelly Foster พยาบาลสาวผู้ที่มีน้ำหนักตัวถึง 127 กิโลกรัม ได้ทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ จนกระทั่งเธอนั้นสามารถลดน้ำหนักให้เหลือเพียง 69 กิโลกรัมเท่านั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกละอายใจเหลือเกิน ที่ต้องแนะนำให้คนไข้พยายามลดน้ำหนัก ทั้งๆ ที่เธอเองก็มีขนาดตัวไซส์ XL และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเริ่มลดน้ำหนักนั่นเอง Kelly ได้เผยว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ เวลาที่ต้องบอกให้คนไข้ลดน้ำหนัก ทั้งๆ ที่ตัวของฉันยังอ้วนขนาดนี้ แม้ว่าพวกเขาจะดูไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ แต่นั่นก็คืองานของฉันอยู่ดี” และในตอนนี้เธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง โดยการขอให้ Marc ผู้เป็นสามีซื้อคอร์สลดความอ้วนให้เป็นของขวัญวันเกิด หลังจากนั้นเธอก็เริ่มออกกำลังกาย พร้อมทั้งหันมาควบคุมอาหารอย่างจริงจัง จากที่เคยทานอาหารพวกมันฝรั่ง หรือเค้ก ตอนนี้เธอเปลี่ยนมาทานอาหารเพื่อสุขภาพ และเข้ายิมไปด้วย แม้ในช่วงแรกการออกกำลังกายจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเธอ แต่ในที่สุด Kelly ก็สามารถลดน้ำหนักตัวให้เหลือเพียง 69 กิโลกรัมได้…จากสาวร่างใหญ่ที่สวมเสื้อผ้าไซส์ 24 ตอนนี้เหลือเพียงไซส์ 12 แล้วจ้า เมื่อก่อนแค่เดินออกจากบ้านไปโรงพยาบาล เธอก็รู้สึกเหนื่อยมากๆ แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ Kelly สามารถวิ่งไปกลับได้ทุกวัน…
-
16 ภาพฮาๆ ปนน่าสงสารของพวกมนุษย์ ที่บังเอิญดวงซวยจนเจอกับสถานการณ์ที่น่าอับอายสุดๆ
เหมียวเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมา ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องได้เจอกับเรื่องราว หรือสถานการณ์ที่น่าอับอาย ซึ่งบางคนก็อาจจะเจอกับสถานการณ์ซวยๆ จนทำให้ตัวเองต้องอับอายขายหน้า ก็เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ ที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อับอาย ทั้งเกิดจากการกระทำของตัวเอง และเกิดจากการกระทำของผู้อื่น ซึ่งแมวอย่างเหมียวเห็นแล้วก็รู้สึกอายแทนอย่างบอกไม่ถูก เราลองมาชมกันเลยดีกว่าว่าภาพของพวกเขาจะออกมาฮา และน่าสงสารยามตกอยู่ในสถานการณ์ ที่สร้างความอับอายให้กับพวกเขามากแค่ไหน ผิดที่อ้วนเกินไป หรือผิดที่เก้าอี้มันเล็กน้า พี่แกคงไม่ได้ตั้งใจดึงมันลงมาหรอกน่า พี่ฮะๆ แคะผิดเวลาไปหน่อยนะฮะ โดนแอบถ่ายซะเลย ไปทำอีท่าไหนละนั่น ถึงได้กลายเป็นสภาพแบบนั้นได้ หมดกันความสวย แอร๊ยยยย เจ้ามาสคอตตัวนี้มันลามกจริงๆ นี่มันตัวอะไรกันละเนี่ย เห็นแล้วไม่ไหวจะเคลียร์เลยจริงๆ ถนนมันคงลื่นไปหน่อย อุ๊ยยย งานเข้าแล้วตู มาขาดทำไมตอนนี้ ฮ่าๆ นึกว่าไม่มีใครเห็นละสิท่า โอ้วววว พี่แกคงอั้นไม่อยู่จริงๆ แหม!! ถ้าจะตัดขนาดนี้ ไม่ไถให้หมดหัวเลยละ ก็มันอั้นไม่อยู่ ขอปล่อยเลยก็แล้วกัน โอ้ววว เห็นแล้วเจ็บแทนเลย…