Tag: อัฟกานิสถาน
-
The Breadwinner หนังตีแผ่ชีวิตของ ‘เด็กผู้หญิง’ ในอัฟกานิสถาน ที่คุณอาจไม่เคยรู้!?
อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศ ‘อัฟกานิสถาน’ เป็นประเทศที่ต้องตกอยู่ภายใต้ภัยสงครามมาอย่างยาวนาน ทำการเปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศอัฟกานิสถานถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ แม้ว่าในปัจจุบันเหตุการณ์จะซบเซาลงบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีการก่อการร้าย และสงครามปรากฏให้เห็นกันอยู่เนืองๆ จากสื่อต่างประเทศ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครเด็กผู้หญิงที่เป็นชาวอัฟกานิสถาน ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน อนิเมชั่นเรื่องนี้มีชื่อว่า The Breadwinner เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดเขียนโดย Deborah Ellis ภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องนี้กำกับโดย Nora Twomey มีโปรดิวเซอร์สองคนคือ Mimi Polk Gitlin และ Angelina Jolie ตัวภาพยนตร์จะเป็นเรื่องราวของ Parvana เด็กสาวชาวอัฟกานิสถานที่อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มตาลิบัน พ่อของ Parvana ถูกจับกุมตัวเพราะการเข้าใจผิดโดยสมาชิกของกลุ่มตาลิบัน ขณะที่เธอกับพ่อกำลังขายของอยู่ในเมือง ในหนังทำให้เห็นว่าชีวิตการเป็นผู้หญิงของเธอนั้นช่างยากลำบาก การจะออกบ้านไปไหนมาไหน จะต้องมีญาติผู้ชายออกไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ยังต้องมีการปกปิดใบหน้าให้มิดชิดอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง Parvana จึงตัดสินใจที่จะปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อที่จะช่วยเหลือพ่อของตัวเองให้จงได้ ส่วนเธอจะทำสำเร็จหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามกันในภาพยนตร์เต็มๆ แล้วล่ะครับ…
-
เกิดเหตุระเบิดผลีชีพ จุดตรวจรักษาความปลอดภัยในอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่ขึ้นที่จุดตรวจรักษาความปลอดภัยใน กรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ท่ามกลางฝูงชนที่มาร่วมพิธีไว้อาลัยแก่การจากไปของนาย Abdul Ali Mazari ผู้นำทางการเมืองจากชนกลุ่มน้อยชาว Shiite Hazara นาย Basir Mujahid โฆษกกรมตำรวจในกรุงคาบูลกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุนั้นพยายามเดินเท้าเข้าไปยังจุดที่มีรวมตัวกันที่ชาว Hazaras รวมตัวกันอยู่เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัยนาย Mazari เขาพยายามเข้ามาใกล้กับการชุมนุมเท่าที่จะทำได้ และจุดระเบิดที่ติดกับตัวของเขา ที่บริเวณด่านตรวจรักษาความปลอดภัยด้านนอกการชุมนุม Abdul Ali Mazari ถูกสังหารโดยกลุ่มตอลิบาน ในวันที่ 12 มีนาคม 1995 เมื่ออายุได้ 49 ปี พร้อมๆ กับ ผู้ติดตาม 5 คนในตำบล Chaharasyab ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับกรุงคาบูล จากรายงานอย่างเป็นทางการนั้น การก่อการร้ายในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน ในจำนวนนั้นมีนายตำรวจหนึ่งคน และประชาชนอีกหกคน นอกจากนี้ยังมีร้ายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 7 คน โดยที่การก่อเหตุใน Hazara ครั้งนี้ถูกอ้างว่าเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS แม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอัฟกานิสถาน และประเทศแถบตะวันตก…
-
คืนชีพตำนานนักสู้ ‘Bruce Lee’ กับมังกรแห่งอัฟกัน ‘Abbas Alizada’ ที่ถอดแบบมาเป๊ะๆ!!
แม้ว่าตำนานยอดนักสู้อย่าง ‘Bruce Lee‘ จะจากโลกใบนี้ไปแล้วเกือบ 45 ปี แต่เรื่องราวของเขาก็ยังคงถูกพูดถึงเสมอไม่มีวันจางหายไป ซึ่งล่าสุดได้มีชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘Bruce Lee แห่ง อัฟกานิสถาน’ ด้วยนะ!? เขาคนนี้มีชื่อว่า ‘Abbas Alizada‘ วัย 24 ปี โดยเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของดารานักบู๊ Bruce Lee ตัวเขานั้นได้กลายเป็นกระแสพูดถึงเมื่อหลายปีก่อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลังจากที่เขาได้โพสต์ภาพตัวเองในลักษณะคล้ายกับตำนานนักสู้คนดังกล่าว Abbas นั้นไม่ได้เพียงแค่แต่งตัวให้เหมือน Bruce Lee แต่เขายังฝึกฝนตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือน Bruce Lee ด้วย เรียกว่าไม่ได้ทำกันเล่นๆ และเขาก็ชื่นชอบในนักสู้คนดังกล่าวมากๆ จนล่าสุดถึงกับมีคนทำสารคดีเกี่ยวกับเขาออกมาเลยทีเดียว… เปิดตำนานมังกรแห่งอัฟกานิสถาน!! Abbas เล่าว่าชีวิตของเขาในวัยเด็กนั้นต้องอยู่อย่างยากลำบาก เขาไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและอยู่ในยุคที่กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันรุ่งเรือง สื่อบันเทิงทุกอย่างล้วนถูกแบนอย่างสิ้นเชิง การจะหาความสุขในตอนนั้นจึงเป็นไปได้ยาก แต่ว่าจนกระทั่งตอน 9 ขวบ เขาได้แอบดูหนังเก่าๆ ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตัว Bruce Lee ยังคงมีอิทธิพลมากๆ อยู่ มันเลยทำให้เขาเกิดหลงใหลและรู้สึกว่าถ้าตัวเขาอยากมีชีวิตรอดในอัฟกานิสถาน เขาจะต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พออายุ 14 เขาจึงเริ่มจำวิชากังฟูมาจากในหนังและทำตาม จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนร่างกายเรื่อยมา…
-
ภาพหาชมยากของ “อัฟกานิสถาน” ในอดีต ก่อนที่จะถูกยึดครองโดยกลุ่มตอลิบาน
ในปี 1967 Dr. William Podlich ได้ลาจากการสอนที่มหาวิทยาลัย Arizona State University และเริ่มทำงานกับเพื่อที่จะไปสอนที่ Higher Teachers College ในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ในฐานะผู้ชำนาญด้านการศึกษา ภรรยาของเขา Margaret และลูกสาวสองคน Peg กับ Jan ก็ไปกับเขาด้วย จนกระทั่งโตขึ้นพวกเขาก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน American International School of Kabul ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับเด็กชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่อาศัยและทำงานในประเทศ นอกจากเป็นผู้ชำนาญด้านการศึกษาด้วย Podlich ยังเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นที่รักการถ่ายรูปมาก นั่นทำให้ตามเก็บภาพวิถีชีวิตใน Kabul 10 ปี ก่อนการคุกคามจากโซเวียต ชาวอัฟกานิสถานมีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และถือเป็นประเทศที่งดงามในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และนี่คือภาพที่่ถ่ายระหว่างปี 1967-1968 แสดงให้เห็นถึงชีวิตของผู้คนที่ความเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสงครามและการสู้รบ Jan (ซ้าย) และ Peg (ขวา) ขณะอยู่ที่ Paghman Gardens ซึ่งถูกทำลายในช่วงไม่กี่ปีก่อนการรุกรานของสหรัฐฯในปี 2001 ภาพของ Peg Podlich ถ่ายใน Kabul Peg Podlic ใส่แว่นกันแดดขณะเดินทางไปกับครอบครัวบนรถบัส…
-
‘ก่อนมีตาลีบัน…’ เผยภาพอัฟกานิสถานยุค 60s ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสงบสุข
ครั้งหนึ่งประชาชนชาว ‘อัฟกานิสถาน’ เคยตกอยู่ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างจะสุดขั้ว เพราะจากเดิมในอดีตเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสงบสุข แต่ทว่าด้วยปัญหาการเมืองบางอย่าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในที่แห่งนี้ ภาพถ่ายเก่าเก็บของประเทศนี้ในช่วงยุค 1960 – 1970 ถูกบันทึกไว้โดยนักเดินทางชาวฝรั่งเศส ‘Francois Pommery’ ซึ่งเขาได้ใช้เวลาหลายปี ท่องเที่ยวไปในประเทศนี้เพื่อตามเก็บภาพถ่ายของวิถีชีวิตผู้คน ก่อนที่จะมาเป็นภาพถ่ายอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เผยให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตอันสงบสุข และเสรีภาพของพวกเขาในอดีต บริเวณตลาดหน้าโรงแรม ‘Spinzar’ ในเมืองคาบูล มีผู้หญิงที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบตะวันตกอยู่ด้วย ช่างภาพได้กล่าวว่า “ช่วงนั้นที่เราไปทุกอย่างสงบสุขมาก จนกระทั่งต่อมา กษัตริย์ของประเทศได้ถูกโค่นล้มโดยกลุ่มรัฐบาลเผด็จการ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป” วิถีชีวิตของผู้คนนอกเมือง Hérat เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ส่งต่อภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ชายแก่กำลังสอนเด็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องปั่นด้าย ภาพเด็กชายชาวเมือง Hérat ถูกถ่ายไว้ได้ในปี 1974 ชาวบ้านที่ยิ้มแย้ม และเป็นกันเองต่อนักท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ‘Waigal’ เมื่อปี 1969 “ทุกคนที่เราได้พบเจอ พวกเขาล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความยินดีที่จะโพสท่าถ่ายรูปให้กับเรา” นักเดินทางเสริม ชาวบ้านในเมือง Nuristan…
-
นายทหารอังกฤษ ลักลอบพาหนูน้อยอัฟกันหนีเข้าประเทศ หวังให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น..!!
ปัจจุบันโลกของเรานั้นกำลังอยู่ในยุคที่ไม่ว่าอะไรก็รวดเร็วไปหมด ต้องทำงานแข่งกับเวลา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไรเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน ทำให้คนเห็นแก่ตัว และใส่ในความรู้สึกของคนอื่นน้อยลง แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นไปซะทั้งหมดหรอกนะ…และนี่ก็คือเรื่องราวสุดประทับใจที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจ และคอยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กัน คุณ Rob Lawrie นายทหารชาวอังกฤษวัย 49 ปี ได้อาสาสมัครไปช่วยเหลือสร้างค่ายอพยพให้กับผู้คนที่อพยพมาจากประเทศอัฟกานิสถาน ในเมือง Calais ประเทศฝรั่งเศส ก็อย่างที่บอกว่าเป็นค่ายอพยพ สภาพความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นแร้นแค้นเป็นอย่างมาก ด้วยงบของรัฐบาลที่มีจำกัด และด้วยความที่ผู้คนที่ทำการอพยพนั้นเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ ไม่ว่าจะทำการทำงานอะไรหรือจะเดินทางเข้าไปในประเทศไหนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นทำให้เหล่าผู้อพยพทั้งหลายต้องอดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นรอวันตายอยู่ในศูนย์อพยพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจคุณ Rob Lawrie ก็ได้สนิทสนมกับเหล่าผู้อพยพทั้งหลายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคุณ Reza และลูกสาวตัวน้อยน้อย Bahar และในตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคุณ Reza ก็ได้คะยั้นคะยอขอให้คุณ Rob พาลูกสาวไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกๆ ครั้ง ก็แหงล่ะ เพราะการลักลอบพาคนเข้าเมืองนั้นจะต้องโทษหนัก ทั้งติดคุกและถูกปรับเป็นเงินหลักล้านบาทเลยทีเดียว… รูปของคุณ Reza และหนูน้อย Bahar แต่ในคืนหนึ่งฝนได้ตกลงมาหนักมากหนูน้อย Bahar ได้นอนหนุนตักของคุณ Rob และนั่นเองก็ทำให้เขาใจอ่อนตกลงรับปากที่จะพาเธอกลับไปที่อังกฤษด้วย…
-
17 ภาพวิถีชีวิตใน ‘อัฟกานิสถาน’ ช่วงยุค 1960 ไม่เหมือนกับประเทศนี้ที่เรารู้จักเลย…
เมื่อพูดถึงอัฟกานิสถาน ภาพที่เราคิดอาจจะเป็นภาพสงคราม ภาพเหล่าทหาร อย่างที่เราคุ้นชินกันในช่วงหลายปีหลัง ผ่านทางสื่อต่างๆ ที่ถ่ายทอดความรุนแรงออกมา แต่รู้มั้ยว่าในยุค 1960 วิถีชีวิตของพวกเค้า ช่างแตกต่างกับปัจจุบันนี้มาก โดยศาสตราจารย์ Dr. Bill Podlich อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา ทำงานให้กับ UNESCO ในอัฟกานิสถาน เขาจึงได้ถ่ายภาพในช่วงเวลานั้นไว้ หลังจากนั้นประมาณ 10 ปี การปฏิวัติโดยทหาร การยกเลิกราชวงศ์ สงครามกับโซเวียต การเกิดกลุ่มต่างๆ รวมถึงกลุ่มที่อ้างศาสนาอิสลาม ทำให้ประเทศอยู่บนความไม่แน่นอน และเปลี่ยนโฉมหน้าของประเทศนี้ไปตลอดกาล… 1. ช่างภาพสาวที่สวน Paghman 2. นักศึกษาที่วิทยาลัยครูเมืองคาบูล 3. การเต้นรำของเด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาล 4. โรงเรียนสหศึกษา 5. นักเรียนมัยธมหญิงในอัฟกานิสถาน 6. ห้องเรียนกลางแจ้ง ภายใต้ร่มไม้ 7. การเดินทางด้วยรถบัสในสมัยนั้น 8. พี่สาวคนโต พาน้องสาวมาเดินตลาด …
-
บรรยากาศของประเทศอัฟกานิสถานในอดีตช่วง 1960 ก่อนการเข้ามาของกลุ่มตาลีบัน
ถ้าจะให้จินตนาการภาพถึงประเทศอัฟกานิสถานล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นภาพของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลามอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาอัฟกานิสถานถูกปกครองด้วยกลุ่มตาลีบัน ที่ตั้งตนเป็น ‘รัฐอิสลามแห่งอัฟกานิสถา’ ตังแต่ปีค.ศ. 1996 เป็นต้นมา ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงที่ยังไม่มีกลุ่มตาลีบันเข้ามา ประเทศอัฟกานิสถานเป็นประเทศที่ดูสงบและมีความสุขมากๆ อีกประเทศหนึ่งเลยล่ะ เป็นภาพที่ถ่ายโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวอเมริกัน Dr. Bill Podlich ในช่วงปีค.ศ. 1960 ระบบการศึกษาในอดีต สนามเด็กเล่น การเดินทางด้วยขนส่งมวลชน บรรยากาศริมถนน การพบปะเพื่อนๆ ร่วมผ่อนคลาย บรรยากาศภายในตลาด ผัก ผลไม้สด จากภาพในอดีตนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความสุขชาวอัฟกานิสถานในอดีต ซึ่งในปัจจุบันอัฟกานิสถานได้รับอิสระแล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา ทำการขับไล่กลุ่มตาลีบันและทำการจัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเองเป็นที่เรียบร้อย ที่มา : fooyoh
-
นาวิกโยธินออกตามหา ‘สุนัขคู่ใจ’ ที่ร่วมออกปฏิบัติภารกิจแต่ถูกทิ้งไว้เป็นเบื้องหลัง!!
เรื่องราวของผู้ใช้จากเว็บไซต์ Imgur นามว่า SweepHisLegsJohnny นาวิกโยธินสหรัฐที่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับสุนัขดมระเบิดพันธุ์ลาบราดอร์ Austin ในจังหวัด Helmand ของประเทศอัฟกานิสถาน ในช่วงระยะเวลาที่ทั้งสองร่วมออกปฏิบัติหน้าที่ ต้องคอยตรวจหาวัตถุระเบิด เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหาร วันแล้ววันเล่าทั้งสองร่วมออกผจญภัยอันตราย ปกป้องชีวิตของชาวบ้านในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยของโรงเรียนและหมู่บ้านด้วย เมื่อถึงเวลาปลดประจำการ เขาได้กลับบ้าน แต่สำหรับคู่หูของเขาจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาก็เลยขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตเพื่อตามหาเจ้า Austin ‘ผมรู้ว่าเจ้า Austin จะต้องอยู่ที่ไหนซักแห่ง และผมก็รู้ว่ายังมีทหารอีกหลายคนที่กำลังตามหาคู่หูร่วมรบเช่นเดียวกันกับผม’ เหมียวหวังว่าทั้งสองจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้นะ น่าสงสารสุนัขเหล่านี้จังที่กองทัพสหรัฐฯ ไม่มีนโยบายนำสุนัขที่ออกปฏิบัติภารกิจกลับประเทศด้วย ที่มา : thechive