Tag: อัมพาต
-
คุณแม่ชาวจีนกับลูกชายที่ ‘ขยับตัวไม่ได้’ มา 12 ปี วันนี้เขาสามารถ “ยิ้ม” ให้เธอได้อีกครั้ง
เรื่องราวในวันนี้บอกเล่าถึง แม่ลูกชาวจีน คู่หนึ่งที่ฝ่ายลูกชายต้องทุกข์ทรมาณกับอาการอัมพฤกษ์อัมพาตจนขยับตัวและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชายคนดังกล่าวนามว่า Wang Shubao เขาต้องตกอยู่ภายใต้การดูแลของแม่วัย 75 ปีมาตลอดระเวลา 12 ปีที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย Wei Mingying ฝ่ายแม่ก็ดูแลลูกชายเพียงคนเดียวอย่างเต็มที่ เธอสูญเสียเงินค่ารักษาไปมากมาย รวมทั้งเป็นหนี้สินอีกกว่า 5.7 แสนบาท (120,000 หยวน) บางครั้งฝ่ายแม่เองถึงกับยอมอดอาหารนับเดือนเพราะไม่มีเงินพอซื้ออาหาร กิจวัตรของคุณแม่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาตี 5 ของทุกๆ วัน เธอต้องล้างหน้าลูกชายก่อนอาบน้ำและป้อนข้าว จากนั้นจึงนวดตัวพร้อมจับพลิกเพื่อไม่ให้เกิดอาการล้าเนื่องจากนอนมากเกินไป ความเจ็บป่วยของ Wang เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ขณะที่เขามีอายุได้ 36 ปี เขาประสบอุบัติเหตุทางจราจรในเมืองโซวกวง มณฑลชานตง ส่วนพ่อของเขานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว . . คุณแม่เล่าว่าในช่วงที่ต้องอดอาหารนั้นเธอดื่มเพียงแค่น้ำ นั่นทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปถึง 20 กิโลกรัม ปัจจุบันคุณแม่มีน้ำหนักแค่เพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น แต่แล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านก็เกิดเหตุการณ์ราวกับปาฏิหาริย์ วันนั้นเธอพบว่าลูกชายของเธอสามารถ ยิ้มตอบ ให้กับเธอผู้เป็นแม่ได้ แม้ว่าเขายังขยับตัวไม่ได้ตาม แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าอาการของเขาอาจเริ่มดีขึ้น…
-
เด็กสาววัย 18 ปี ขอร้องให้หมอ “ตัดขา” ของเธอทิ้ง แม้หมอจะบอกว่า “มันยังดีอยู่” ก็ตาม
บางทีสิ่งที่แพทย์บอกว่าดี มันอาจจะไม่ได้ดีสำหรับเราเสมอไป… ตัวอย่างเช่น หญิงสาววัยรุ่น Megan Jordan วัย 18 ปีคนนี้ ที่หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขาซ้ายของเธอก็เหมือนเป็นอัมพาต เธอเดินไม่ได้ เพราะหากลงน้ำหนักไปที่ขาซ้ายเมื่อใด เธอจะเกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ขณะเดียวกันแพทย์บอกว่าขาซ้ายของเธอยังเป็นปกติและมีสุขภาพดี และบอกว่าความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกนั้นมาจากสมองของเธอเองเสียมากกว่า แต่สาวน้อย Megan นั้นไม่อยากทนทรมานกับความเจ็บปวดนี้อีกแล้ว เธอขอให้แพทย์ “ตัด” ขาซ้ายของเธอทิ้ง เพราะนอกจากเธอจะเจ็บปวดกับมันแล้ว เธอยังต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นแทบตลอดเวลา จะเล่นกีฬาก็ไม่สามารถทำได้ สาวน้อย Megan จากชุมชนเฮริฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษกล่าวว่า “นี่มันร่างกายของฉัน ถ้าฉันอยากตัดขาของฉันทิ้ง มันก็จะต้องได้รับการผ่าตัด ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับมาตลอดมันเกินจะทนแล้ว การตัดขามันคงเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ฉันหลุดพ้นแล้วล่ะ” “แพทย์ไม่อยากให้ฉันตัดขาทิ้ง พวกเขาคิดว่าความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึก มันมาจากสมอง แต่ถึงอย่างไรฉันก็อยากตัดขาอยู่ดี เพราะฉันเคยเล่นกีฬาและออกกำลังกายทุกวัน แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้เลย การตัดขาทิ้งเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ฉันได้กลับไปทำสิ่งที่ฉันรักอีกครั้ง” ขณะทางแพทย์ได้ตอบรับคำขอของ Megan Jordan เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเธอต้องรออีก 18 เดือนเพื่อเข้ากระบวนการผ่าตัดขาของเธอต่อไป ที่มา: metro และ dailymail
-
สุนัขของชายที่เป็น ‘อัมพาต’ หายตัวไป ผู้คนจึงร่วมใจออกตามหาให้
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงสุนัข คุณคงจะเข้าใจดีว่าเวลาที่น้องหมาหายตัวไป มันใจหายและเจ็บปวดแค่ไหน แน่นอน สิ่งที่คุณจะทำคือ ทิ้งทุกอย่างแล้วออกไปตามหามัน แต่สำหรับ Danny Kriedter แล้ว เมื่อสุนัขของเขาหายตัวไป เขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนอนรอให้เจ้าหมากลับมาหาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ Danny วัย 47ปี จาก Aquebogue นครนิวยอร์ก เป็นอัมพาตไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาได้รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งจากศูนย์พักพิงสัตว์เมื่อปีที่แล้ว และตั้งชื่อมันว่า Moe Moe เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง Danny ตลอดเวลา มันจึงมีความหมายสำหรับ Danny มาก แต่แล้วมันก็หายตัวไป ตอนที่มันอายุได้แค่ 2 ขวบเท่านั้น เมื่อเพื่อนรักไม่อยู่เคียงข้าง Danny ได้แต่นอนอยู่บนเตียงด้วยความทุกข์ใจ เขาคอยถามผู้ดูแลตลอดเวลาว่าเจ้าหมาอยู่ไหน เจอมันหรือยัง ในที่สุด ผู้ดูแลก็ตัดสินใจทำใบปลิวตามหาน้องหมา แล้วนำไปติดไว้ทั่วบริเวณใกล้เคียงกับที่มันหายตัวไป เพื่อพาเจ้าตูบกลับมาหาเจ้าของ แม้ว่าผู้คนในท้องถิ่นจะทราบเรื่องการหายตัวไปของ Moe จากใบปลิวแล้ว แต่ Danny ก็ยังเสนอเงินให้ผู้ที่หาน้องหมาเจออีก 15,000 บาท เพราะเขาเป็นห่วงมันมากเหลือเกิน ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนก็เริ่มโพสต์เกี่ยวกับน้องหมาที่หายตัวไปนี้ลงในสื่อโซเชียล และเรื่องนี้ได้รับการตอบรับจากชาวเน็ตเป็นอย่างดี จนมีการตั้งทีมอาสาสมัครจำนวน 50 คน…
-
แม่แมวเป็นอัมพาต แต่มันสู้จดรอดมาได้ ทำให้ลูกๆ ของมันมีโอกาสลืมตาดูโลก
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับแม่แมวก็คือลูกๆ ของมัน มันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่รอด และเพื่อการนั้นแม่แมวท้องแก่ที่บาดเจ็บปางตายตัวนี้ก็ทำทุกวิถึทางให้ตัวเองรอด เพื่อที่ลูกของมันจะได้มีโอกาสออกมาชมโลกใบนี้ แม่แมว Trixiebelle Tenderheart หรือเรียกสั้นๆ ว่า Trixie เป็นแม่แมวในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มันถูกพาตัวเข้ามาไว้ในศูนย์พักพิงหลังจากมีคนไปเจอมันอยู่ตามลำพัง ตอนที่เจอตัวเจ้าแมว มันมีกระสุนปืนค้างอยู่บริเวณกระดูกสันหลังช่วงล่างด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้มันเป็นอัมพาตช่วงล่างนั่นเอง แต่ Trixie ก็ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิต มันกระเสือกกระสนทุกทางเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด อาสาสมัครจากศูนย์พักพิงบอกว่า “มันหาทางเอาตัวรอดมาจนได้ บางทีที่มันพยายามมีชีวิตขนาดนี้อาจเป็นเพราะมันท้องอยู่ แล้วต้องการจะมีชีวิตอยู่เพื่อลูกๆ ก็ได้นะ” ตอนที่มันคลอดลูก ลูก 2 ตัวของมันตายเพราะว่ามันไม่สามารถควบคุมช่วงล่างให้เบ่งลูกได้ สัตวแพทย์ก็เลยใช้วิธีผ่าตัดคลอดเพื่อช่วยมัน จนลูกที่เหลืออีก 4 ตัวลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าตัว Trixie จะมีความลำบากในการใช้ชีวิต แต่มันก็ไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการเลี้ยงดูลูก มันดูแลลูกของมันอย่างดีที่สุด ทั้งทำความสะอาดตัวให้ เฝ้าดูความปลอดภัยและให้นมลูกด้วย เท่านั้นยังไม่พอมันยังรับลูกแมวกำพร้าอีก 2 ตัวมาดูแลราวกับเป็นลูกของตัวเองอีกต่างหาก ด้วยความรักและใส่ใจของมัน ทำให้ลูกแมวทั้ง 6 ตัวโตมาอย่างแข็งแรง แล้วก็มีคนมารับไปอยู่บ้านทุกตัวเลย จะเหลือก็แค่ Trixie นี่แหละที่ไม่มีใครยอมเอามันไปเลี้ยง ทางศูนย์พักพิงก็เลยติดต่อมาหาคนที่ช่วยทำคลอดมัน…
-
หญิงสาวไม่ยอมแพ้ ช่วยหมาที่เล็กที่สุด ป่วยหนักที่สุด ทำให้ชีวิตของมันสุขสันต์ทุกวัน
จะมีคนสักกี่คนในโลกนี้ที่ยอมสละเวลาในชีวิตมาดูแลหมาเพียงแค่ตัวเดียว แถมต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายค่ารักษาราคาแพงเป็นประจำ แต่ก็ยังไม่เคยรู้สึกว่าเจ้าหมาเป็นภาระเลย แต่ทำไปเพราะรักและอยากให้มันมีความสุขต่างหาก Marcela Wedel เป็นหญิงสาวที่รักสุนัขมาก เธอรับสุนัขจรจัดมาเลี้ยงไว้ที่บ้านหลายตัวเลย และหนึ่งในนั้นก็คือ Maia ซึ่งเป็นแม่ของลูกสุนัขน่ารักหลายตัว รวมไปถึงเจ้าหมา Puppy Grey ที่เธอรักที่สุด ลูกหมา Puppy Grey ตัวน้อย แม่หมา Maia เคยถูกทารุณมาก่อน แต่ได้รับความช่วยเหลือและมาอยู่กับ Wedel ตอนที่มันมาอยู่กับ Wedel มันก็ตั้งท้องอยู่แล้ว ไม่นานก็คลอดลูกออกมาหลายตัวเลย Puppy Grey เป็นตัวที่เล็กและอ่อนแอที่สุดในนั้น ในขณะที่พี่น้องของมันเติบโตจนเริ่มเดินได้กันหมด ก็ยังมี Puppy Grey ตัวเดียวเท่านั้นที่เดินไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วงเธอก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์ หลังจากตรวจแล้ว สัตวแพทย์ก็แจ้งข่าวร้ายว่าที่มันเดินไม่ได้เป็นเพราะมันมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทที่ร้ายแรง หากมันโตไปจะทำให้เจ้าหมาใช้ชีวิตลำบากมาก ก็เลยแนะนำให้เธอจบชีวิตลูกสุนัขก่อนที่มันจะโตดีกว่า แต่ Wedel ยังไม่ยอมแพ้ เธอไม่ได้ปลิดชีพลูกหมาน้อยตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ เธอหันมาพยายามช่วยเหลือลูกหมาน้อยให้เดินได้อีกครั้งแทน โดยการพามันไปออกกำลังกายเพื่อบำบัด และพามันไปฝังเข็มเป็นประจำ จนในที่สุดหมาน้อยก็เริ่มเดินเองได้ Wedel พา…
-
ความสะเพร่าของโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัว ไม่เยียวยาและไม่รับผิดชอบ…
โรงพยาบาลเปรียบได้เหมือนดั่งความหวังสุดท้าย ที่จะทำให้ร่างกายของคนเรากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีในบางกรณีที่การรักษากลับทำให้ชีวิตของผู้ป่วยย่ำแย่ลงกว่าเดิม เรื่องราวของผู้ป่วยหญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปี จากฮ่องกง ที่มีอาการปวดหัว ปวดคอ และรู้สึกว่าร่างกายด้านขวามีความอ่อนแรงผิดปกติ และเริ่มต้นเข้ารับคำแนะนำทางด้านการรักษากับทางโรงพยาบาล United Christian Hospital ในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 จากนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอประสบกับอาการไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งหรือเซลล์ประสาททั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย และได้รับการรักษาด้วยสเตอรอยด์ในทันที แต่กลับไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ แพทย์จึงแนะนำให้รับการรักษาด้วยวิธี Plasmapheresis (การฟอกเลือด) กระบวนการรักษาที่จะนำพลาสมาที่เป็นพิษออกจากร่างกาย ทำให้สะอาดหมดจนก่อนจะนำกลับเข้าสู่ ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายอีกครั้ง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว และหลังจากที่แพทย์ได้ทำการสวมสายสวนหลอดเลือดไปที่ลำคอ เธอเกิดอาการช็อกส่งผลทำให้เลือดไหลไปกองอยู่ที่บริเวณหน้าอก ทางทีมแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ และทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยมั่นใจว่ายังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ได้ตัดสินใจย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล Queen Elizabeth Hospital เพื่อรับการรักษาเลือดที่สะสมค้างอยู่ในบริเวณหน้าอกแทน ในขณะที่ทีมแพทย์ทีมใหม่จะทำการเจาะเส้นเลือดดำของผู้ป่วย กลับพบว่าเส้นเลือดแดงของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากการสวมสายสวนหลอดเลือดที่คอจากโรงพยาบาลแห่งแรก…
-
ฝันสลาย… อดีตนักรักบี้ดาวรุ่งวัย 19 ถูกเพื่อนท้าให้กิน ‘ทาก’ กลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต
ในช่วงชีวิตวัยรุ่นทั้งต้นและปลายมักจะมีการชวนทำอะไรแผลงๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นชายและหญิง ด้วยความคึกคะนองตามประสา และปัญหาเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก… เรื่องราวอันน่าเศร้าของ Sam Ballard อดีตนักกีฬารักบี้ดาวรุ่งในวัย 28 ปี จากเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น จากความคึกคะนองที่ถูกปลุกระดมจากงานปาร์ตี้ ท้าทายให้เขากลืน ‘ทาก’ ตัวเป็นๆ ลงไปในลำคอ… Sam Ballard ในวัย 19 ปี เหตุการณ์เริ่มต้นในปี 2010 เมื่อเขายังมีอายุได้เพียง 19 ปี ร่วมฉลองงานวันเกิดของเพื่อน ในระหว่างที่นั่งดื่มไวน์แดงกันนั้น หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสังเกตเห็นทากตัวหนึ่ง กำลังเลื้อยผ่านบริเวณโต๊ะและลั่นวาจา ‘กินเข้าไปสิ ขอท้าเอ็งให้กิน!’ และ Sam ก็ไม่ปฏิเสธคำท้า เขาจับทากตัวนั้นกลืนลงไป ซึ่งภายหลังที่ Katie Ballard ผู้เป็นแม่ได้รับรู้ เธอรู้สึกว่าลูกเธอจะต้องไม่เป็นอะไร แต่แล้วความคิดของเธอกลับไม่เป็นไปตามนั้น… Sam ในระหว่างเข้ารับการรักษาและทำกายภาพบำบัด Sam เริ่มมีอาการป่วยและถูกหามส่งโรงพยาบาล Royal North Shore…
-
คุณแม่สละตัวเองช่วยลูกจนเป็นอัมพาต ถูกสามีทิ้ง แต่ก็เลี้ยงลูกๆ 3 จนเติบโตและได้ดี
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดน่าประทับใจกับความรักและความห่วงใยที่แม่คนหนึ่งจะสามารถมีให้กับลูกๆ ได้ การเสียสละเพื่อลูกของหญิงคนหนึ่ง โดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเองแม้แต่น้อย กลายเป็นความซาบซึ้งที่ลูกๆ ไม่มีวันลืมได้เลย คุณแม่ลูกสาม วัย 30 ปี Joy Veron ได้เคยสร้างวีรกรรมอันแสนยิ่งใหญ่เอาไว้ ทำให้ Annie และ Chloe ลูกสาวของเธอสองคนได้ถือโอกาสเนื่องในวันแม่ ทำคลิปวิดีโอบอกเล่าเหตุการณ์ที่แม่ของพวกเธอได้แสดงความเสียสละช่วยเหลือชีวิตของพวกเธอเอาไว้ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเองเลย คลิปจากใจของลูกๆ “เราอยากจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของพวกเรา” คุณแม่ Joy และคุณพ่อแต่งงานกันในปี 1991 หลายปีหลังจากนั้น เธอก็มีลูกสาว 2 คน และลูกชายอีก 1 คน ครอบครัวของ Joy อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นในปี 1999 ที่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของครอบครัวไปตลอดกาล อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังไปเที่ยวด้วยกัน รวมไปถึงปู่ย่าตายายอีกด้วย ทั้งครอบครัวตั้งใจว่า จะไปเช่าบ้านไม้ตากอากาศกัน ส่วนเด็กๆ ที่ขณะนั้นต่างมีอายุเพียง 7, 5, และ 3 ปี พากันรู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก “มันงดงามมาก…
-
ชายกลายมาเป็นอัมพาต จากการก้มจ้องมองโทรศัพท์ ยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วันเต็มๆ
ปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงมาก ไม่ว่าใครต่างก็ต้องมีโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น อีกทั้งทั้งนวัตกรรมความทันสมัยของโทรศัพท์มือถือก็ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นสูงจนแทบจะเรียกได้ว่า สามารถทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียวเลยไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมหรือแม้แต่ทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทว่าความสะดวกสบายและความบันเทิงที่หาได้จากในมือถือทำให้มีอัตราของคนที่มีอาการติดมือถือเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งอาการติดมือจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างเช่น สายตา กล้ามเนื้อและประสาท ชายวัย 29 ปี ชาวเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ต้องประสบกับอาการอัมพาตเฉียบพลันหลังจากที่เขาได้เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือติดต่อกันยาวนานถึง 48 ชั่วโมง เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ทราบชื่อรายนี้เขาเล่นเกมมือถือที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถึงขนาดปั่นแรงค์กันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว เขาเล่นติดต่อกัน 2 วันจนกระทั่งเข้าวันที่ 3 เขาเริ่มมีอาการปวดบริเวณคอ ไหล่ และท้ายทอย คอของเขามีอาการแข็งอย่างกระทันหัน ตามมาด้วยอาการแขนและขาชาจนไม่มีแรง เขาจึงคิดว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขาแล้วจึงให้ครอบครัวรีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาล Sun Yat Sen เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด พอมาถึงที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเขาก็ได้รับการวินิจฉัยทันทีด้วยการส่งตัวเข้าสแกน MRI นายแพทย์ Shen Huiyong แพทย์เจ้าของไข้และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูกได้ออกมารายงานผลการตรวจวินิจฉัย สาเหตุที่ชายคนนี้เป็นอัมพาตกะทันหันเนื่องมาจากมีลิ่มเลือดอุดตันท่อไขสันหลังและกระดูสันหลังของเขานั่นเอง สาเหตุหลักๆ ก็อันเนื่องมาจากการก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือมากเกินไปทำให้เกิดความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ในครั้งแรกจะมีอาการปวดคอและชา และอาจรุนแรงขึ้นในเด็กซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเช่น อัมพาตแขนและขา อีกหนึ่งอาการที่จะตามมาเนื่องจากพฤติกรรมการติดมือถือนั่นก็คือความเมื่อยล้า และปัญหาเกี่ยวกับสายตา…
-
หนุ่มวัย 18 กลัวแม่ถูกข่มขืน เลยผลิตรองเท้าแตะที่สามารถช็อตไฟฟ้าได้ขึ้นมา
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมลมีรายงานว่า Siddharth Mandala หนุ่มวัย18 ปีจากไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย ผู้ที่กลัวว่าแม่ของเขาอาจจะตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืน ได้คิดค้น Electroshoe รองเท้าแตะ “ป้องกันตัวเอง” ที่พร้อมจะมาช่วยในการโจมตีผู้ไม่ประสงค์ดีแบบฉับพลันได้!! จากการรายงานระบุว่า เนื่องด้วยอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราการข่มขืนที่สูงมาก และตัวของ Siddharth เองก็รู้สึกตกใจกับสถิตินี้เช่นกัน พร้อมกันนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจผลิตรองเท้าสุดพิเศษดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งรองเท้าแตะนี้ นอกจากจะสามารถช็อตไฟฟ้าได้แล้ว มันยังช่วยในการโจมตีผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว แถมส่งผลทำให้เป็นอัมพาตไปชั่วขณะอีกด้วย เมื่อเริ่มเปิดใช้งาน รองเท้าก็จะขับเคลื่อนด้วยเสียงฝีเท้า ยิ่งถ้าหากผู้ใส่เดินเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ สัญญาณการแจ้งเตือนก็จะถูกส่งไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ และครอบครัว โดยพวกเขาก็จะรับรู้ไปด้วยว่าเธอกำลังพบกับปัญหาอยู่ ทางด้าน Siddharth ได้ออกมาเผยว่า “ผมกับแม่ ได้เข้าไปร่วมชุมนุมการประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อถูกข่มขืนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก และดูเหมือนว่าการประท้วงจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ในบางครั้งการลงโทษผู้ข่มขืนอาจจะช่วยยับยั้งการข่มขืนได้ แต่ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง นั่นเลยทำให้ผมต้องคิดค้นรองเท้าแตะที่เรียกว่า Electroshoe ขึ้น โดยในระหว่างการทดลองก็เกิดการผิดพลาดหลายครั้ง แต่ถึงอย่างไรผมก็จะพยายามพัฒนาต่อไป เพื่อให้มันได้กลายเป็นสินค้าในท้องตลาด และจะเสริมเทคนิคบางอย่างเข้าไปด้วยเช่น ให้มันกันน้ำได้” …
-
หญิงสาวตัดสินใจอยู่เคียงข้างแฟนหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเป็น ‘อัมพาต’ พร้อมแต่งงานเพื่อดูแลใจ!!
เรื่องราวความรักสุดโรแมนติกครั้งนี้เกิดขึ้นกับคุณ Brett Greenhill หนุ่มวัย 39 ปี ที่เป็นอัมพาตเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อปี 2016 หลังจากที่มีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติเหมือนดั่งเช่นเคย เขาจึงพยายามที่จะบอกเลิกแฟนสาวและขอร้องให้เธอทิ้งเขาไป แต่เธอกลับปฏิเสธและหลังจากนั้น 9 เดือนทั้งคู่ก็เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกันต่อหน้าเพื่อนฝูงที่มาเป็นพยานรักของทั้งสอง เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา “มันเป็นวันที่พิเศษมาก หลังจากที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ต่อไปนี้พวกเราจะไม่ต้องอยู่ลำพังอีกต่อไปแล้ว” คุณ Meg Alexander เจ้าสาววัย 30 ปีกล่าว คุณ Brett ประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นน้ำในงานเลี้ยงรวมรุ่น ชายหนุ่มถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Lee Memorial Hospital คุณหมอบอกว่ากระดูกสันหลังของเขาแตก ซึ่งส่งผลให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ส่วนคอลงมา ในตอนแรกทั้งคู่ได้วางแผนที่จะแต่งงานกันในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 พวกเขาแจกบัตรเชิญและเตรียมงานต่างๆ ไว้แล้ว แต่ในระหว่างนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวกลับต้องมาประสบอุบัติเหตุ Brett พยายามบอกให้แฟนสาวของเขาตัดใจและทิ้งเขาไปซะ เพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่แฟนสาวของเขาควรจะได้รับเลย แต่ Meg ก็ไม่ตัดใจ เธอยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างเขา งานแต่งงานถูกเลื่อนไปจัดในเดือนกันยายน ทั้งสองเข้าพิธีอย่างเรียบง่ายในธีมแบบย้อนยุค “ทุกๆ คนต่างพูดถึงสีหน้าของเขา วันนั้นเขาดูมีความสุขอย่างมาก” Meg พูดถึงสามีของเธอ ส่วนทางด้านคุณ Brett ก็ได้พูดถึงชีวิตของเขาหลังจากประสบอุบัติเหตุว่า “ชีวิตของผมมันเหมือนรถไฟเหาะเลยล่ะ มีทั้งวันที่ดีและวันที่แย่ๆ ชีวิตก็เหมือนการผจญภัย และตอนนี้บางสิ่งบางอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว”…
-
อุทาหรณ์… สาววัย 14 เป็นโรคอัมพาตขา เข้านอนตามปกติ แต่ตื่นมาถูกหนูแทะนิ้วเท้า!!
อีกหนึ่งอุทาหรณ์ที่ถูกนำมาเล่าผ่านเว็บไซต์ Mirror ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปี ที่ป่วยด้วยโรคอัมพาตขา ที่ถูกหนูกัดกินนิ้วเท้าจนกลายเป็นอาการติดเชื้อขั้นรุนแรง จากต้นฉบับรายงานว่า ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้อาศัยอยู่ที่เมืองรูแบ ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยคุณพ่อ Jerome ได้เล่าว่า… คืนวันนั้นลูกสาวของเขาได้เข้านอนตามปกติ บนเตียงระดับเดียวกันกับพื้นบ้าน จากนั้นตื่นมาก็พบว่าลูกสาวของตนถูกหนูแทะนิ้วเท้าข้างที่เป็นอัมพาตไปเสียแล้ว **คำเตือน: ภาพประกอบเนื้อหานี้มีความรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้** Courrier-Picard สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศสได้รายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 กันยายน ทุกอย่างภายในบ้านดูปกติดี หลังจากที่ Samantha (ลูกสาว) เข้านอนก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเช้าวันต่อมาพวกเขาก็ได้เห็นภาพเลือดของลูกสาวที่เปื้อนอยู่เต็มเตียง พอสืบหาสาเหตุก็พบว่าเป็นรอยกัดของหนูที่มาจากปัญหาขยะของพื้นที่แถวนั้น “ภาพแรกผมเห็นเลือดไหลออกมาจากหู และเลือดก็เปื้อนเต็มเตียงไปหมด เธอไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้ด้วยตัวเอง และคุณหมอก็วินิจฉัยออกมาว่า เธอมีบาดแผลทั้งหมด 45 จุดบนใบหน้า 150 จุดบนแขน และอีก 30 กว่าแผลตรงเท้าของเธอ เป็นภาพที่เศร้าสลดมากสำหรับหัวอกคนเป็นพ่ออย่างเรา” Jerome ให้สัมภาษณ์ หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คุณพ่อและครอบครัวก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องเจ้าของบ้านเช่าทันที โดยให้เหตุผลว่าก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะมานานแล้ว และเจ้าของที่ก็ไม่ยอมแก้ปัญหาจนนำมาซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้น “ลูกสาวของเราบาดเจ็บสาหัสมาก…
-
ชายหนุ่มแชร์ประสบการณ์ ชีวิตการเป็นอัมพาต แต่พลังแห่งรักทำให้เขาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง!!
คนเราต่างก็ต้องมีช่วงเวลาที่แย่ๆ ในชีวิตกันเกือบทุกคน แต่ละคนก็เจอปัญหาที่แตกต่างกันไป ถือว่าเป็นบททดสอบของชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต Martin Pistorius ได้เปิดเผยช่วงเวลาของชีวิตที่ประสบโรคร้ายส่งผลให้ร่างกายเป็นอัมพาตยาวนานสิบกว่าปี เพื่อให้คนที่กำลังย่อท้อต่ออุปสรรคในชีวิตได้มีแรงลุกขึ้นสู้ต่อไป เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขาอายุ 12 ปี เขากลับจากโรงเรียนด้วยอาการเจ็บคอ ตอนแรกคิดว่าคงเป็นอาการไข้หวัดทั่วไปจึงได้กินยาบรรเทาตามปกติ แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจก็พบว่าเขาป่วยด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และวัณโรคสมอง ส่งผลให้ร่างกายของเขาอ่อนแอ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นมันทำให้เขาพูดไม่ได้และสูญเสียการควบคุมร่างกายไปโดยสิ้นเชิง การวินิจฉัยของแพทย์เมื่อ 10 ปีที่แล้วยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าทำไมร่างกายของเขาถึงได้เกิดอาการเช่นนี้ขึ้น ต้องรอให้เขาเสียชีวิตก่อนเท่านั้นถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยนั้นยังไม่ค่อยดีมากนัก อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของเขาได้หากได้รับการรักษาแบบผิดวิธี แต่ Joan และ Rodney พ่อแม่ของเขาไม่ยอมแพ้ที่จะรักษาชีวิตของเขา และคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งไม่มีชีวิต รู้สึกรับรู้ได้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถตอบสนองได้เลย มันรู้สึกไร้ค่ามากๆ และหวาดกลัวที่จะสูญเสียความทรงจำอีกด้วย เขาได้บอกอีกว่า ช่วงชีวิตของเขาตอนนั้นย่ำแย่มากๆ เขารู้สึกเป็นภาระแต่พ่อแม่มาก กิจวัตรประจำวันก็วนลูปอยู่แต่แบบเดิมๆ จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาพูดออกมาว่า “ลูกคงจะต้องตายแน่ๆ” คำพูดนั้นทำให้เขายิ่งคิดไปว่าถ้าเขาตายไปทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น แต่มาวันหนึ่งข่าวดีของการรักษาร่างกายของเขาก็มาถึง ตอนที่เขาอายุ 25 ปี ด้วยการบำบัดจากศูนย์ Virna van der Walt ที่พบว่าถึงแม้ว่าเขาจะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แต่เขาก็ยังสามารถแสดงออกได้ผ่านการเคลื่อนไหวบนใบหน้า ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขาเลยก็ได้หลังจากที่ไม่สามารถสื่อสารกับใครเลยตลอดเวลา 13…
-
บริษัทเตียงญี่ปุ่นผุดไอเดีย นำผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาต มาถ่ายโฆษณาแฝงแนวคิดสุดล้ำลึก..!!
นับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นประกาศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว เราก็ได้เห็นเทรนด์ต่างๆ ที่หันมาเอาใจผู้สูงอายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งงานโฆษณา หรือการบริการรูปแบบแปลกใหม่ต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด Bedridden ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตเตียงนอน ที่หันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาให้มีการเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมมากยิ่งขึ้น โดยคราวนี้พวกเขาได้นำผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาตมาถ่ายแบบ แถมสะท้อนแนวคิดไว้อย่างลึกซึ้ง โดยทีมงานจากบริษัท Mizuki ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการความพร้อมด้านการดูแลผู้สูงอายุ ได้ผุดไอเดียที่จะนำผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาต ให้มาถ่ายแบบและเฉิดฉายในวงการโฆษณาอีกครั้ง หลายคนอาจมองว่าเป็นการหาผลประโยชน์จากผู้สูงอายุ แต่เปล่าเลย… เพราะโปรเจกต์ Bedridden Silver Screen Debut Project ได้ยืนยันว่า โปรเจกต์นี้จะช่วยทำให้สังคมตระหนักถึงการเป็นอยู่ของผู้สูงอายุมากขึ้น และอีกทั้งยังเป็นการทำให้ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาตได้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง เบื้องหลังการถ่ายทำก็จะมีทีมงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และป้ายตัวหนังสือก็เป็นการถือเอาจริงๆ เพื่อให้ได้มุมมองแบบ 3 มิติด้วย จากการทดลองถ่ายทำโฆษณาครั้งแรก พวกเขาก็พบว่าผู้สูงอายุต่างรู้สึกยินดีและปลาบปลื้ม ที่ได้เห็นตัวเองเป็นส่วนร่วมในการทำงาน แต่ก่อนที่ทีมงานจะนำภาพโฆษณาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ พวกเขาก็ได้นำภาพถ่ายทั้งหมดส่งไปให้เจ้าตัวและครอบครัวเพื่อทำการตัดสินใจก่อน และเมื่อพวกเขายินดีแล้วทีมงานก็จะนำภาพโฆษณาไปติดไว้ตามศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ และนี่ก็คือภาพโฆษณาที่ถูกเผยแพ่รออกไปทั่วประเทศ นับว่าเป็นอีกโปรเจกต์ดีๆ แถมยังมีเรื่องน่ารักๆ มาให้เราชมอีกด้วย ที่มา: Rocketnews24
-
ใครจะเชื่อว่าหญิงมือเป็น “อัมพาต” จะหายขาด เพียงเพราะรับเลี้ยงกระต่าย 2 ตัว!!
หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญไปเจอประกาศหาคนรับเลี้ยงกระต่ายสองตัวจาก RSPCA แน่นอนว่าวินาทีแรกเธอรู้สึกอยากเลี้ยงพวกมันทันที แต่ว่าเธอก็กังวลว่าเธอจะทำมันได้ไม่ดี เพราะมือของเธอเป็นอัมพาตนั่นเอง Marley-Belle Quaid เจ้าของเรื่องราวได้เล่าสาเหตุการเป็นอัมพาตของเธอว่า เธอเข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อมือเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแต่ก็แลกมากับการที่มือกลายเป็นอัมพาต ซึ่งเธอได้ลองหลากหลายวิธีแล้วทั้งการบำบัดและรักษาแบบต่างๆ มันก็ไม่มีวิธีไหนที่ทำให้มือของเธอกลับมาเป็นปกติได้เลย เจ้ากระต่ายสองตัวที่เธอไปเจอบนโพสต์ของ RSPCA จนกระทั่งเธอตัดสินใจรับเลี้ยงกระต่ายกำพร้าสองตัว แม้เธอจะหวั่นว่าจะดูแลมันได้ไม่ดีก็ตาม แต่เธอก็บอกว่าเธอชอบพวกมันทั้งสองตัวตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าเธอต้องทำมันให้ได้!! เจ้ากระต่ายสองตัวนั้นมีชื่อว่า Woodstock และ Wilfred ซึ่งพวกมันต้องการดูแลขนและสุขภาพที่หนักหนาพอสมควร และด้าน Marley ที่เป็นอัมพาตก็ต้องประสบปัญหาในการฝืนดูแลพวกมันเช่นกัน ทว่านั้นก็ไม่ทำให้เธอยอมแพ้ที่จะดูแลเด็กๆ ของเธอแต่อย่างใด พวกมันเป็นกระต่ายตัวใหญ่ยักษ์ขนฟู ต้องได้รับการดูแลอยู่เสมอ ซึ่งมันยากมากสำหรับ Marley แต่เชื่อไหมว่าหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนนับตั้งแต่เธอฝืนเลี้ยงเจ้ากระต่ายทั้งสอง มือของเธอก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากมือที่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอสามารถที่จะจับกรรไกรและหวีเพื่อดูแลขนให้กับพวกมันได้แล้ว ตัวใหญ่ยักษ์น่ากอดสุดๆ เมื่อเธอไปเล่าเรื่องนี้ให้กับแพทย์ที่ดูแลเธอฟัง ทีมแพทย์ก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ มือของเธอหายได้เพราะการเลี้ยงกระต่ายสองตัว ยังไงก็ตามชีวิตของ Marley ก็กลับมาดีอีกครั้ง เธอถึงกับสร้างห้องให้ลูกรักทั้งสองแยกต่างหากเลยล่ะ งานนี้ต้องขอบคุณเจ้า Woodstock และ Wilfred มากๆ เลยนะเนี่ย ยู้วหู้ววว กอดเต็มไม้เต็มมือสุดๆ…
-
หญิงชาวอังกฤษ กลายเป็น “อัมพาต” อย่างถาวร หลังถึงจุดสุดยอดตอนมีอะไรกับสามี
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวของ Lucinda Allen หญิงวัย 43 ปี จากสเตาร์บริดจ์ ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการปวดหัวอย่างฉับพลันระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับสามี จนทำให้เธอกลายเป็นอัมพาต และได้นั่งรถเข็นคนพิการอย่างถาวร Lucinda ได้ออกมาเผยว่า เมื่อ 5 ปีก่อน ขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน เธอได้มีเพศสัมพันธ์กับ Tony ผู้เป็นสามี แต่หลังจากนั้น ก็เกิดอาการปวดหัวอย่างฉับพลัน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเธอเลย แต่ในวันนั้น Lucinda กลับรู้สึกว่าเธอมีอาการปวดที่ดวงตาด้านขวา และทำให้ไม่สามารถหลับตาได้ ด้วยเหตุนี้ Lucinda จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาล Queen Elizabeth’s Hospital ในเบอร์มิงแฮม โดยในขณะที่เธออยู่ในรถพยาบาล เธอก็เริ่มมีอาการตกใจมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่พบว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้ “ฉันคิดว่าฉันอาจจะมีเลือดออกในสมอง หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นภาพเบลอๆ ทั้งหมดที่ฉันจำได้คือความสับสน ความฝัน และความเป็นจริงที่ผสมผสานกับความกลัว” Lucinda กล่าว หลังจากที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Lucinda…
-
ชายผู้เป็นอัมพาต กลับมาขยับได้อีกครั้ง ด้วยนวัตกรรมเครื่องช่วยสั่งการจากคลื่นสมอง!!
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับวงการแพทย์ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เป็นเรื่องราวของ Bill Kochever ชายผู้ประสบอุบัติเหตุจากการถูกรถบรรทุกชนขณะปั่นจักรยาน ทำให้ร่างกายของเขาต้องเป็นอัมพาตมานานกว่า 8 ปี แต่งานวิจัยจากสถาบัน Case Western Reserve School of Medicine กำลังจะทำให้เขากลับมาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกครั้ง เราไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของเขากันเลย Bill Kochever Bill เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่า ‘ก่อนหน้านี้ผมก็เป็นคนปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป วันหนึ่งผมออกไปปั่นจักรยานแล้วฝนตกหนัก ผมถูกรถบรรทุกชน จากนั้นต้องตื่นมาพบว่าตัวเองเป็นอัมพาตขยับอวัยวะตั้งแต่หัวไหล่ลงไปไม่ได้ ผมรู้สึกแย่มาก… เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องคอยให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่ตลอด จะกินข้าว ดื่มน้ำ หรือเข้าห้องน้ำ ผมกลายเป็นภาระของคนอื่นไปโดยปริยาย’ ทว่าหลังจากที่เขามีโอกาสได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยด้านประสาทสัมผัส และการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตของศูนย์วิจัยแห่งนี้ ดูเหมือนว่าผลสำเร็จของมันก็ใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกที Bolu Ajiboye ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากทีมวิจัย A. Bolu เล่าว่าจากขั้นตอนการวิจัยทั้งหมด ตอนนี้พวกเขาสามารถสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยเครื่องดังกล่าวจะสามารถรับการสั่งการจากสมองของ Bill และส่งไปยังตัวเครื่องเพื่อช่วยให้เขาสามารถขยับอวัยวะส่วนนั้นๆ ได้ เช่น ถ้าเขาต้องการที่จะขยับแขน เครื่องจะส่งข้อมูลที่เชื่อมกับสมองของเขา และช่วยทำให้เขาขยับแขนได้เองจริงๆ ‘ผมยินดีที่จะเอาตัวเองเข้าสู่งานวิจัย มันต้องมีการวิจัยเพื่อการพัฒนา ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรก้าวหน้า’…
-
ความน่ารักของคุณพ่อ พาลูกชายที่เป็นอัมพาต ออกมา “เดิน” ด้วยอุปกรณ์ช่วยเดินเป็นครั้งแรก…
สำหรับคนที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นปกติ คงไม่สามารถจินตนาการถึงความรู้สึกใน “การเดิน” ครั้งแรกของคนที่ป่วยเป็นโรคอัมพาตได้อย่างแน่นอน ว่าเขาจะมีความสุขและดีใจขนาดไหน เรื่องราวของคุณพ่อคนนี้ก็เช่นกัน ด้วยความที่ลูกชายของเขาป่วยเป็นโรคอัมพาตจนไม่สามารถเดินได้ เขาจึงสั่งซื้ออุปกรณ์จากเว็บไซต์ Leckey’s Firefly team ที่จะทำให้ลูกชายของเขาได้สัมผัสกับความรู้สึกของ “การเดิน” ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะยึดเท้าและร่างกายของเด็กชายเข้ากับตัวคุณพ่อ เมื่อคุณพ่อขยับร่างกายไปทางไหน เด็กชายก็จะขยับไปด้วย ซึ่งไม่ต้องบอกก็เห็นได้ชัดเลยว่า เด็กชายคนนี้มีความสุขมากขนาดไหน ลองดูคลิปดูสิ เห็นสีหน้าและแววตาของเด็กคนนี้แล้ว เล่นเอาน้ำตาแทบไหลเลยจริงๆ นี่คือหน้าตาของอุปกรณ์ที่คุณพ่อคนนี้ใช้ ท่านสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ Leckey’s Firefly team โดยแบ่งออกเป็นสองรุ่นก็คือสำหรับเด็กเล็กอายุ 0-2 ขวบ และ ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป สนนราคาที่ชุดละประมาณ 19,700 บาท สำหรับเด็กคนนี้ คงไม่มีสิ่งใดมีความสุขไปกว่าการได้เคลื่อนไหวได้เองดั่งใจต้องการ ก็ได้แต่ภาวนาว่า ซักวันเราจะมีเทคโนโลยีบางอย่างในอนาคตที่ช่วยรักษาหรือทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคนปกตินะฮะ ขอให้สู้ต่อไป ^^ ที่มา Boredpanda
-
หญิงสาวช่วยลูกแมวจรจัดและอัมพาต รักษาให้มันกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยการ ‘นวด’
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ของมนุษย์กับแมวเหมียวที่ทำเอาตื้นตันหัวใจเป็นอย่างมาก Carrie เจ้าเหมียวที่ประสบอุบัติเหตุจนสัตวแพทย์เคยกล่าวไว้ว่ามันอาจจะเป็นอัมพาต พิการ และเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต โชคดีที่มันได้เจอกับ Kim Breckon สาววัย 41 ปีที่มาให้ชีวิตใหม่กับมันอีกครั้ง… Kim ได้ช่วยแม่แมว (บาดเจ็บส่วนขาอย่างหนักจากอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นแมวขาด้วน) และลูกๆ 2 ตัวไว้หลังได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ ซึ่ง 1 ในลูก 2 ตัวนั้นก็คือ Carrie ที่เธอรับมาเลี้ยงในภายหลัง เธอรับทั้ง 3 ตัวมาดูแล และก็เห็นว่าเริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่วันหนึ่ง Kim ก็เจอเจ้า Carrie นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ขาของมันไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย ‘เจ้าเหมียวตกลงมาจากตู้เย็นขณะที่ขาของมันยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำให้หน้าและส่วนหัวของมันทิ่มใส่พื้น การบาดเจ็บครั้งนั้นทำให้มันเป็นอัมพาตไม่สามารถขยับได้เลย’ เธอกล่าว พอพาไปหาสัตวแพทย์ หมอก็บอกกับเธอว่าเจ้าเหมียวอาจจะไม่รอดชีวิต เพราะตอนมันกระโดดนั้นส่วนคอและกระดูกสันหลังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างมาก แต่ถึงจะรอดชีวิต โอกาสที่จะกลับมาเดินได้ก็มีน้อยสุดๆ แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้ยอมแพ้แม้แต่น้อย Kim ไม่อยากจะให้เจ้า Carrie ตกอยู่ในสภาพนี้ และเธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้ด้วย หลังจากที่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวรอดชีวิต 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว…
-
หญิงหย่าสามีที่ป่วยเป็น ‘อัมพาต’ แล้วแต่งงานกับเพื่อนสามี…. จะได้ช่วยกันดูแลเขา !!!
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจกับหญิงวัยกลางคนที่ทุ่มเทดูแลสามีที่ป่วยเป็นอัมพาต แม้เธอจะมีสามีใหม่ แต่ก็ยังไม่ทิ้งสามีคนเก่า เรื่องราวเป็นของ Xu Xihan ชายชาวมณฑลชานซีผู้ประสบอุบัติเหตุในเหมืองแร่แห่งหนึ่ง จนกลายเป็นอัมพาต 14 ปีก่อน ตอนนั้นชาวบ้านต่างวิจารณ์ว่า Xie Xiping ภรรยาของเขา คงทิ้งเขาไปในอีกไม่นาน แต่เปล่าเลย Xie Xiping คอยดูแลเขาตลอดมานับตั้งแต่วันนั้น รวมทั้งเป็นเสาหลักของบ้านในการดูแลลูกชายและลูกสาวทั้งสอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากให้ภรรยาของเขา ต้องทนทุกข์กับเขาแบบนี้ ในปี 2009 เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ภรรยาหย่ากับเขา และยอมให้เธอแต่งงานกับอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาเอง Liu Zongkui นับตั้งแต่นั้นสามีกับภรรยา ก็ช่วยกันดูแลอดีตสามีอย่างนาย Xu Xihan เป็นอย่างดี จนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว Xie Xiping ก็ได้ มีลูกกับนาย Liu Zongkui อีกคน กลายเป็นว่า… ตอนนี้สมาชิกครอบครัวทั้ง 6 คน ก็ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข . นี่แหละน้า ที่เรียกว่าคู่แท้ของชีวิต แม้จะยากลำบากขนาดไหน ก็ไม่ทิ้งกัน ส่วนคนเป็นสามีก็เข้าใจ และยอมให้เธอมีความสุขกับชายอื่น บางทีโลกมันก็มีเรื่องซับซ้อนกว่าการที่คนรักกัน แต่งงานกันและอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า… แต่ยังไงก็ตาม…
-
สองพี่น้องป่วยเป็นโรคประหลาด เป็นอัมพาตชั่วคราวหลังตะวันตกดินแบบหาสาเหตุไม่ได้!!
ดวงอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเรามากน้อยแค่ไหนกัน? อย่างที่รู้ๆ กันก็คือความสว่างสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่สำหรับสองพี่น้องชาวปากีสถานคู่นี้ ชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์แทบทั้งสิ้น เหมือนดั่งสวิตช์เปิดปิดยังไงยังงั้นเลย สองพี่น้อง Mohammad Shoaib วัย 13 ปี และ Abdul Rasheed วัย 9 ปี จากประเทศปากีสถาน ประสบกับโรคประหลาดที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้เลย อาการของทั้งสองจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลังพระอาทิตย์ตกดินลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ร่างกายของทั้งสองจะเป็นอัมพาตชั่วคราว ไม่สามารถขับตัวได้ ราวกับถูกกดปุ่มปิดการทำงานไปเลย ทางด้านคุณพ่อ Mohammad Hashim เชื่อว่าลูกชายทั้งสองของเขานั้นได้รับพลังงานจากพระอาทิตย์ ซึ่งถ้าไร้แสงแดดพวกเขาก็จะไม่มีแรง ถึงแม้ว่าลูกชายทั้งสองจะไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลใดๆ แต่สำหรับผู้เป็นพ่อนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดแทนลูกชายเหลือเกิน ทางด้านนายแพทย์ Javed Akram จากสถาบัน Pakistan Institute of Medical Sciences (PIMS) กล่าวถึงกรณีนี้ว่าเป็นเคสแรกที่ค้นพบอาการป่วยประหลาดนี้ เป็นอาการที่พบเจอได้ยากมากๆ และคงจะไม่มีแพทย์คนไหนเคยพบเคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยด้วย อาการที่ว่าก็คือ…
-
ทหารผ่านศึกถูกยิงจนเป็นอัมพาตเอ่ยคำขอสุดท้าย ขอพบ ‘ม้าที่เป็นเพื่อนรัก’ ก่อนจะจากไป…
การจากลาเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอ และแน่นอนว่าไม่มีใครที่หลีกเลี่ยงมันได้เลย ไม่วันใดวันหนึ่งเราก็ต้องจากไป…แล้วเพื่อนๆ เคยคิดไว้หรือยังว่าก่อนตายนั้นอยากจะทำอะไรก่อนบ้าง? วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวสุดสะเทือนใจ และอีกนัยหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจเช่นกัน ของทหารผ่านศึกที่รู้ตัวว่าใกล้จะจบชีวิตลง เขาจึงขอพบกับเพื่อนรักของเขาที่เป็น ‘ม้า’ ครั้งสุดท้ายก่อนจะจากไป Roberto Gonzalez เคยเป็นทหารผ่านศึกที่เวียดนามมาก่อน แต่ในปี 1970 เขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกข้าศึกยิง จึงทำให้เขากลายเป็นอัมพาตตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นอัมพาตแต่เขาก็ได้ทำตามความฝันของตัวเองซึ่งก็คือเป็นคนฝึกม้า ในบ้านเกิดของเขาที่เมือง Premont ในรัฐ Texas เขาได้ดำเนินชีวิตด้วยการทำอาชีพนี้มากว่า 40 ปี และมีม้าคู่ใจอยู่สองตัวด้วยกันนั่นก็คือ เจ้า Sugar และ Ringo และในวันสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไปเนื่องจากสุขภาพที่ทรุดโทรมลงอย่างหนัก ภรรยาสุดที่รักของเขาก็รู้ได้เลยว่าเขาต้องอยากพบเจ้าม้าเพื่อนรักของเขาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน โดยเธอกล่าวว่า ‘ม้าคือชีวิตของเขา เป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆ แค่มองตาก็รู้แล้วว่าก่อนจากไปเขาต้องการอะไร’ ครอบครัวของเขาก็เลยพาเจ้า Sugar และ Ringo ขึ้นรถจาก Premont ข้ามเมืองมายัง San Antonio เป็นระยะทางกว่า 240 กิโลเมตรเลยทีเดียว และแน่นอนว่าเจ้าม้าก็จำคุณลุง Gonzalez ได้ด้วย ช่างเป็นภาพของมิตรภาพที่งดงามจริงๆ…
-
เรื่องราวสตั้นแมนของ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” จบที่การเป็นอัมพาต ที่หลายคนยังไม่เคยรู้!!
หลายคนที่เป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็คงรู้เรื่องราวเบื้องหลายการถ่ายทำเยอะแยะมากมาย แต่ #เหมียวสามสี เชื่อว่ายังมีหลายคนไม่เคยทราบถึงเรื่องราวของสตั้นแมน หรือตัวแสดงแทนของแดเนียล แรดคริฟฟ์ ในเรื่องที่แสดงเป็น “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แต่ได้เกิดเรื่องราวที่น่าเศร้าขึ้นในกองถ่าย จนทำให้เขาเป็นอัมพาตครึ่งตัว เราโตขึ้นมาพร้อมกับภาพของแฮร์รี่ที่กำลังวิ่งเล่นในฮอกวอตส์ ถือเป็นหนังที่ครองใจใครหลายคน รวมถึงฉบับนิยายด้วย ซึ่งก่อนที่จะได้ถ่ายทำหนังนั้น ก็ได้มีการคัดเลือกตัวละครวัย 11 ขวบ ที่จะมาเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับภาพยนตร์ ในการแสดงนั้นย่อมต้องใช้ตัวแสดงแทนเพื่อไม่ให้นักแสดงตัวจริงไปเสี่ยงอันตราย และคนที่มาแสดงแทนแฮร์รี่นั่นก็คือ เดวิด โฮล์มส์ ซึ่งมีอายุเท่ากันแดเนียล เขาจึงเป็นนักแสดงแทนของแฮร์รี่ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาค 6 ซึ่งก็คือปี 2000 ถึง 2010 เลย ในช่วงที่คนจดจำได้ว่าแดเนียลคือแฮร์รี่นั้น เดวิดก็เหมือนเป็นเพื่อนซี้ของเขาอีกคนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในการประลองเวทย์ ในชั้นเรียนป้องกันตัวจากศาสตร์มืด หรือแม้กระทั่งสู้กับโวล์เดอมอร์ ทั้งคู่ก็จะไปด้วยกันเสมอ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปเลย ขณะที่กำลังถ่ายทำ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูตพาร์ท 1 อยู่นั้น มีฉากที่เดวิดต้องเข้าแทน เพราะต้องลอยตัวไปกระแทกกำแพงจากแรงระเบิด จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้เขาถูกหามตัวนำส่งโรงพยาบาลทันที หลังจากถึงมือหมอแล้วก็ต้องพบเรื่องที่น่าเศร้า เพราะเขากลายเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป…
-
เรื่องราวของลูกกตัญญู ไม่มีแขน 2 ข้าง แต่ก็สามารถเลี้ยงดูแม่ผู้ป่วยอัมพาดได้
หนุ่มชาวจีนคนนี้มีชื่อว่า Chen Xinyin วัย 48 ปี เขามีวิถีชีวิตที่อยากลำบากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากเขาได้สูญเสียแขนทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อตเมื่อตอนอายุได้ 7 ขวบ หลังจากนั้นเขาก็พยายามที่ชะช่วยครอบครัวในการทำนา จนกระทั่งเมื่อเขาอายุได้ 20 ปี พ่อของเขาก็ต้องลาจากโลกไป ทิ้งไว้เพียงเขาและแม่ที่เจ็บป่วยสู้ชีวิตกัน 2 คน หลังจากที่แม่ป่วยอย่างหนักก็ได้มีคนแนะนำให้เขาไปเป็นขอทาน แต่เขาก็ตอบกลับด้วยความโกรธว่า “ถึงผมจะไม่มีแขน แต่ผมก็มีขา ผมไม่มีทางหาเงินด้วยวิธีนั้นหรอก” หลังจากที่เขาเสียแขนไป เขาก็พยายามที่จะเรียนรู้การทำอาหาร ทำไร่ทำสวน และสานตะกร้า ถึงแม้ว่าจะได้แผลมามากมาย แต่มันก็ทำให้เขาสามารถทำอะไรต่างๆได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งเขายังสามารถป้อนข้าวให้กับแม่ด้วยการใช้ปากคีบช้อน ยิ่งพอถึงหน้าหนาว ถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก เพราะแค่การใส่ถุงเท้ายังถือว่าเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆ อีกทั้งยังโดนอากาศหนาวกัดอีก แม้ว่าจะยากลำบากเพียงใด แต่เค้าก็ยังสู้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ และไม่ได้ต้องการแบมือขอความช่วยเหลือจากใครเลย ถือเป็นเรื่องราวที่เศร้า อีกทั้งยังได้เหมือนความกตัญญูที่ลูกมีต่อแม่อีกด้วย ยังไงเหมียวก็ขอส่งกำลังใจให้ผ่านพ้นเรื่องราวนี้แล้วพบเจอแต่สิ่งดีๆนะครับ ที่มา 9news
-
ชายหนุ่มแขนและขาเป็นอัมพาตแต่ใจยังสู้ สร้างสรรค์ศิลปะปลายพู่กันด้วยปาก!!
ชีวิตของวัยรุ่นทั่วไปอยากจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ตามสถานที่ต่างๆ ที่วาดฝันกันเอาไว้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าการออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ของพ่อหนุ่ม Henry Fraser วัย 17 ปี นั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล ในระหว่างที่เขาไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ด้วยความเป็นวัยรุ่นที่มีความสุขมากๆ ในช่วงนั้น อยากจะกระโดสไลด์ตัวไถลไปกับชายหาด ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาพลาดท่าและได้รับบาดเจ็บ ส่งผลทำให้มีอาการคอเคล็ด แขนและขาขยับไม่ได้ เป็นอัมพาตถาวร จุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งนี้สาหัสมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม Henry ไม่รู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง เขาได้สร้างกำลังใจให้กับตัวเอง บำบัดทางด้านร่างกายและจิตใจด้วยศิลปะ โดยใช้เพียงแค่ปากในการร่างภาพและระบายสีเท่านั้น!! ได้เจอ David Beckham ตัวจริงด้วย สำหรับใครที่รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ขอให้ดู Henry Fraser…