Tag: อาชญากรรม
-
หนุ่มทวิตเตอร์ “เล่นเกมสังหารหมู่” มีเป้าหมายเป็นผู้หญิง 10 คนในสถานีโตเกียว…
กลายเป็นเรื่องชวนหวาดผวา หลังชายคนหนึ่งที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Ryuuta (ริวตะ) โพสต์ประกาศว่าจะ “สังหาร” ผู้หญิง 10 คนในบริเวณสถานีรถไฟโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า ริวตะกับภารกิจลดประชากรงานสุดท้าย ได้โพสต์ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2018 ว่าเขาจะทำการเล่น “เกมสังหาร” โดยเขาจะทำการสุ่มฆ่าผู้หญิง 10 คนในบริเวณสถานีรถไฟโตเกียว ทวิตเตอร์ของ ริวตะ โพสต์บนทวิตเตอร์ของเขา เขียนว่า “ผมผิดหวังกับชีวิตมากๆ และผมคิดว่าผมคงต้องจบชีวิตตัวเองลงด้วยในเกมนี้ สถานที่คือสถานีรถไฟโตเกียว ตั้งแต่วันนี้ถึงวันมะรืน แต่ผมจะไม่บอกเวลา ผมจะเดินผ่านผู้คนและสุ่มฆ่า หากมีคนตายครบ 10 คนเมื่อไหร่ ผมเองก็จะตายตามไปด้วย เป้าหมายที่ผมอยากแก้แค้นมากที่สุดคือ ผู้หญิง ยังไงก็ช่วยระวังตัวเอาไว้หน่อยก็แล้วกันนะชาวโตเกียวทุกคน” โพสต์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว กระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ จึงนำกำลังมาเฝ้าระวังอยู่ ณ บริเวณสถานีรถไฟโตเกียวเป็นจำนวนมาก ภายหลังพบว่าบนทวิตเตอร์ของเขานั้นมีการเขียนอธิบายเอาไว้ว่า “เป้าหมายของผมก็คือการแก้แค้นสังคมและแก้แค้นผู้หญิง“ ทำให้คาดว่านี่อาจเป็นส่วนแรงจูงใจในการคิดก่ออาชญากรรมของริวตะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นมีเพียงความหวาดผวาของชาวโตเกียวเท่านั้นที่ยังคงแผ่กระจายอยู่ทั่วสถานีรถไฟ กระทั่งชาวเน็ตบนทวิตเตอร์เริ่มคิดและถกเถียงกันว่านี่อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งหรืออาจจะเป็นการไหวตัวทันของคนร้ายที่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเฝ้าระวัง ล่าสุด ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทั้งฝ่ายของริวตะและเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หญิงสาวชาวโตเกียวที่ย่านสถานีต่างก็ยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว…
-
เวรกรรมจริงๆ ‘สาวพิการหูหนวก’ ให้ที่พักพิงเพื่อนเก่าหลบพายุ แต่ดันถูกข่มขืนซะได้!!
ใครเล่าจะคิดว่าการให้ความช่วยเหลือกับคนที่กำลังลำบาก จะถูกคนคนนั้นกลับมาทำร้ายเราได้… เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเฟย์เอตต์วิล รัฐนอร์ท แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบุกจับกุมนาย Freeman Scott Ireland วัย 37 ปี หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายหญิงพิการทางการได้ยิน เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน Florence พัดถล่มสหรัฐฯ นาย Freeman กำลังจะเดินกลับบ้าน แต่เนื่องจากพายุพัดหนักจึงขอไปหลบพายุที่บ้านของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับบ้านพอดี ตามรายงานระบุว่านาย Freeman กับเหยื่อนั้นรู้จักกันมานานกว่า 20 ปี จึงอนุญาตให้เขาเข้ามาพักในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองเพื่อรอให้พายุสงบลง แต่ปรากฏว่าพอตกดึก นาย Freeman กลับย่องเข้ามาทำร้ายร่างกาย และกระทำชำเราหญิงสาว ที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน ขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ เหยื่อถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล Moore Regional Hospital เพื่อรักษาตัว ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้ก่อเหตุยังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเหยื่อต่อไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ในที่สุด จากข้อมูลพบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงปลายของเดือนพฤษภาคม นาย Freeman เพิ่งจะถูกปล่อยตัวออกจากคุกหลังจากที่รับโทษมานานกว่า 25…
-
ไบก์เกอร์หนุ่มถูกยกให้เป็นฮีโร่ หลังขับชน ‘หัวขโมย’ ที่พยายามปล้นต่อหน้าต่อตา!!
เรื่องราวสุดระทึกเมื่อชายหนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่งเจอเหตุการณ์ ‘ผู้ร้าย’ ชิงทรัพย์ต่อหน้าต่อตา แต่ด้วยการตัดสินใจอันรวดเร็วทำให้เขาสามารถช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนแห่งหนึ่งในเขต Alexandra ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้ Anton Damhui ชายผู้ขี่มอเตอร์ไซค์พบเห็นชายหนึ่งพยายามที่จะปล้นกระเป๋าจากรถคันสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ พอดี หัวขโมยสามารถกระชากกระเป๋าออกมาได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกนาย Anton ขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์เข้ามาชน และเบียดไม่ให้ลุกขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามหัวขโมยลุกขึ้นมาได้และพยายามวิ่งหนีต่อไป Anton ก็พยายามกลับรถตามไปและโบกมือให้ช่วยจับหัวขโมยคนนั้น จนในที่สุดหัวขโมยก็ยอมแพ้ และโยนกระเป๋าที่ชิงมาได้ทิ้งไว้บนถนนและวิ่งหนีไป… Anton ได้นำคลิปวินาทีสุดระทึกไปอัปโหลดลงเว็บไซต์ยูทูบพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า “ผมกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน และเห็นชายคนหนึ่งกำลังลงมือปล้นอย่างอุกอาจ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันครับ” ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกอัปโหลดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา และตอนนี้มีผู้ให้ความสนใจมากมายจนตอนนี้ยอดวิวพุ่งขึ้นไปสูงถึง 33,000 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ชื่นชมในการกระทำอันกล้าหาญของเขา “ขอขอบคุณในการช่วยเหลือของคุณ ที่ต่อสู้กับการก่อเหตุอาชญากรรม” “เป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมมาก รู้สึกดีนะที่ยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะช่วยเหลือเมื่อเราพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ขอบคุณมากค่ะ” “ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แทนที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ…
-
คุณหมอใช้ ‘อสุจิ’ ของตัวเอง ในการผสมเทียมให้กับคนไข้ เผยทำมาแล้วกว่า 50 ราย!!
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในต่างประเทศ กับกรณีของคุณหมอชาวอเมริกา หลอกคนไข้ที่มาผสมเทียมโดยบอกว่าจะใช้อสุจิที่บริจาค แต่เขากลับแอบใช้อสุจิของตัวเองทำให้คนไข้หญิงตั้งท้องมาแล้วหลายสิบคน!! คุณหมอ Donald Cline วัย 79 ปี จากเมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา เคยถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี จากการใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียมให้กับผู้ป่วย ซึ่งที่จริงแล้วควรจะใช้สเปิร์มที่ได้รับบริจาคมา แม้เขาจะให้การปฏิเสธในเบื้องต้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนจับได้เพราะหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อ ได้พาลูกของตัวเองมาตรวจ DNA และพบว่ามีความใกล้เคียงกันกับหมอ Cline ทั้งหมด 20 ราย นอกจากนี้ในรายงานบันทึกคดีความของศาล จากคำให้การของ Jacoba Ballard หนึ่งในคนที่คาดว่าเป็นลูกสาวของเขา เล่าว่าเขาทำแบบนี้มาแล้วกว่า 50 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงยุค 1970-1980 “สำหรับความเจ็บปวดที่พวกคุณได้รับจากสิ่งที่ผมทำ ผมต้องขอโทษด้วย” หมอ Cline กล่าวขอโทษกับคนไข้ของเขา ระหว่างรับโทษในเรือนจำ อย่างไรก็ตามโทษจากการกระทำผิดของเขามีเพียงแค่นี้ เพราะกฎหมายในรัฐอินเดียนาไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าห้ามแพทย์ไม่ให้ใช้สเปิร์มของตัวเองกับผู้ป่วยที่มารับการผสมเทียม แต่เหล่าอดีตผู้ป่วยที่มาทำการผสมเทียมกับหมอ Cline และลูกๆ ของพวกเขาต่างก็พยายามที่จะเรียกร้องให้ผู้ออกกฎหมายของรัฐอินเดียนาหันมาให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวนี้ และแก้ไขกฎหมายให้คุณหมอที่ใช้สเปิร์มของตัวเองในการผสมเทียม ถือเป็น ‘อาชญากรรม’…
-
โจรใจโหดดักปล้นชิงทรัพย์หญิงสาว ทิ้งอาวุธคาใบหน้าเหยื่อ แต่รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด…
*ภาพประกอบเนื้อข่าวต่อไปนี้มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน* ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงการเดินในสถานที่เปลี่ยวและมืด อาจตกเป็นเป้าหมายของเหล่าโจรที่คอยจ้องชิงทรัพย์ได้ทุกเมื่อ และสิ่งที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสาววัย 19 ปี ไม่ระบุนาม หลังจากที่เธอเสร็จสิ้นงานผู้ช่วยผู้จัดการร้านและกำลังเดินทางกลับ ในช่วงคืนวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2018 เธอได้เผชิญหน้ากับโจรที่หวังปล้นทรัพย์ พยายามแย่งกระเป๋าถือที่ติดมือเธออยู่… ท่ามกลางช่วงจังหวะชุลมุน เธอพยายามขัดขืนสุดแรงเกิด โจรร้ายนี้จึงเข้าประชิดตัวก่อนที่จะทำการปักมีดลงบนใบหน้าของเหยื่อ ชิงกระเป๋าถือพร้อมสิ่งของมีค่าและหนีออกจากสถานที่เกิดเหตุ ในบริเวณย่านอุตสาหกรรม Bukit Tengah รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประมาณเวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอเดินผ่านซอยมืดและเปลี่ยวจึงเป็นเหตุทำให้โจรเลือกลงมือ “เธอขัดขืนและยื้อกับชายคนหนึ่งที่พยายามชิงทรัพย์… เขาใช้มีดแทงเข้าที่ใบหน้าของเธอและก็หนีไป ทิ้งมีดปักไว้อยู่อย่างนั้น ส่วนเหยื่อก็ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนพลเมืองดี” ภาพที่เห็นจากจุดเกิดเหตุ เผยให้เห็นสภาพของเหยื่อหญิงสาวในสภาพที่นั่งนิ่งและมีสติ แม้จะมีมีดปักอยู่แก้มด้านขวาของเธอก็ตาม ในขณะที่พลเมืองดีกำลังพยายามทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้… ทางด้านโฆษกตำรวจในพื้นที่กล่าวว่า กำลังทำการตามล่าตัวชายวัยฉกรรจ์ผู้ลงมือชิงทรัพย์ของหญิงสาวรายนี้ โดยที่เปิดเผยว่าเหยื่อได้รับบาดเจ็บทั้งบริเวณหน้าท้องและคอ แก้มด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกมีดแทง อย่างไรก็ตาม เหยื่อได้รับการรักษาฉุกเฉินหลังจากเกิดเหตุแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอคำให้การจากเธออยู่ …
-
ลูกสาวถูกฆาตกรรม คนร้ายยังลอยนวล พบพิรุธของพ่อเพียงครั้งเดียว ปิดฉากคดีเกือบ 10 ปี…
เรื่องราวอันน่าสลดใจภายในสถาบันครอบครัวที่ได้ชื่อว่าน่าไว้ใจมากที่สุด และควรจะเป็นที่ที่มอบความรักและความอบอุ่น กลับกลายมาเป็นนรกภายในจิตใจของผู้เป็นลูก… คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของ Shafilea Iftikhar Ahmed วัย 17 ปี ชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เธอหายตัวไปจากบ้านเมื่อเดือนกันยายนปี 2003 และถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ริมแม่น้ำ Kent มณฑล Cumbria ในปี 2004 Shafilea Iftikhar Ahmed หายตัวไปเมื่อปี 2003 และถูกพบอีกครั้งในปี 2004 ในสภาพร่างไร้วิญญาณ โดยเบื้องลึกแล้วเธอเริ่มถูกกดขี่จากพ่อแม่ในช่วงที่ก่อนจะหายตัวไป จนกระทั่งเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ คุณครูที่โรงเรียนจึงทำการแจ้งตำรวจ ถึงขั้นสื่อใหญ่ช่วยกันปลุกระดมให้ผู้คนช่วยกันออกตามหาเธอทั่วทั้งประเทศ ภาพของเจ้าหน้าที่กำลังทำการชันสูตรศพที่พบข้างแม่น้ำ Kent ในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ศพของเธอถูกพบอยู่ริมแม่น้ำ Kent ในมณฑล Cumbria ห่างจากเมือง Warrington ที่บ้านของเธอตั้งอยู่ 110 กิโลเมตร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพและพบว่าเป็นการจงใจซ่อนศพ สร้อยคอและแหวนเพชรที่หลงเหลืออยู่ถูกระบุถึงตัวผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่เนื่องจากสภาพศพที่แทบไม่หลงเหลือแล้ว จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ …
-
เพื่อนไม่อยากทนทุกข์จากมะเร็ง หนุ่มยินดีขับรถทับ แต่สุดท้ายจบที่ ‘การฆาตกรรม’
ในเบื้องต้นแล้วทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘การุณยฆาต’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งการกระทำดั่งกล่าวคือการทำให้หนึ่งชีวิตนั้นจากไปอย่างสงบ ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าไม่อยากปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป… ซึ่งกรณีแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความยินยอมระหว่าง ผู้รับการการุณยฆาตและผู้ลงมือการุณยฆาต จะต้องมีเอกสารเซ็นยินยอมที่ชัดเจน และจะไม่มีผลทางคดีความใดๆ ในภายหลัง แต่แล้วมันกลับเกิดผิดเพี้ยนไป เมื่อชายหนุ่มชาวจีนถูกเพื่อนป่วยโรคมะเร็ง ขอร้องให้จบชีวิตเธอเสียที เพราะไม่อยากทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว หญิงแซ่ Wu ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในปี 2008 และเข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว และได้ขอร้องในเพื่อนชายแซ่ Xu ขับรถทับร่างเธอเสีย เพื่อไม่ให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณอีกต่อไป ในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2017 Xu เองก็ตกลงปลงใจที่จะทำตามคำขอ ซึ่งทางด้านสามีของนาง Wu นั้นก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนชายคนนี้จะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรในภายหลัง… และแล้ววันตัดสินชีวิตก็เกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2017 ภาพจากกล้องภายในรถ เผยให้เห็นว่าเขาขับรถเพื่อเหยียบร่างของนาง Wu กลางถนนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้ว Xu ก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตแล้ว และกระทำการถอยรถเหยียบซ้ำอีกหนึ่งรอบ …
-
คำตัดสินจากศาล ‘ทำจิตใจบอบช้ำ = ลงมือฆ่า’ เมื่อแฟนหนุ่มบีบบังคับ ให้เธอต้องดับชีวิตลง…
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวนั้นใกล้ตัวเราเกินกว่าจะรู้สึกได้ ซึ่งกว่าจะรู้ว่ากำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจนสภาพร่างกายและจิตใจไม่สามารถแบกรับต่อไปได้ไหว มันก็อาจจะสายเกินไปสายแล้ว คดีความตัวอย่างของการทำร้ายจิตใจในรูปแบบทางความสัมพันธ์ ระหว่างอดีตทหารกับหญิงสาวผู้ถูกกระทำ ทั้งทำร้ายร่างกายและบั่นทอนจิตใจผ่านวาจา จนทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ซึ่งทำให้ได้รับโทษเทียบเท่ากับการลงมือฆาตกรรม… อดีตทหาร Steven Gane วัย 31 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากพฤติกรรมบีบบังคับหรือควบคุมอีกฝ่าย จากความสนิทสนมทางความสัมพันธ์ ผลการตัดสินของศาล ทำให้ Gane นั้นได้รับโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 4 ปี 3 เดือน ในข้อหาเป็นต้นเหตุทำให้นาง Kellie Sutton วัย 30 ปี ทำการฆ่าตัวตาย หลังจากที่ต้องทรมานกับความเจ็บทางร่างกายและจิตใจมาอย่างยาวนาน Steven Gane Philip Grey ผู้พิพากษาได้กล่าวกับเขาว่า “พฤติกรรมของคุณ ชักจูงให้ Kellie Sutton ทำการแขวนคอในเช้าวันนั้น คุณทำร้ายเธอ และทำลายจิตใจของเธอ” Kellie Sutton ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำสำนวนในครั้งนี้มาตั้งเป็นบรรทัดฐานใหม่ เพื่อใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบีบบังคับและควบคุมเหยื่อ…
-
ตำราหนาช่วยชีวิตได้… นักเรียนโชว์ ‘คัมภีร์หยุดกระสุน’ ช่วยชีวิต เพราะที่นี่บราซิลไง!!
เป็นที่รู้กันดีว่าเหล่าหนังสือเรียนและตำราต่างๆ จะอัดแน่นไปด้วยจำนวนหน้าของความรู้ที่เราจะต้องเรียน จนทำให้บางครั้งยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบเรียน รีบอัดความรู้ใหม่ๆ จนทำให้ถูกมองข้ามไป… แต่ใครเล่าจะรู้ถึงประโยชน์ของตำราหนาๆ เหล่านี้ เมื่อมันสามารถช่วยชีวิตนักเรียนรายหนึ่ง ให้รอดพ้นจากวิถีกระสุนที่จะเข้าไปฝังในร่างกายได้!! นักเรียนผู้ไม่เปิดเผยนามจากประเทศบราซิล ได้ทำการเปิดเผยภาพของตำราเรียนของตน ในสภาพที่ยับยู่ยี่ถูกแหวกเป็นวิถีกลางกระดาษ ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุที่เขากำลังเดินท่ามกลางจัตุรัสอันวุ่นวายกลางเมือง และเกิดเหตุเสียงปืนดังขึ้นในช่วงเวลานั้น เมื่อทุกคนได้ยินเสียงปืนต่างแตกตื่นแยกกันไปคนละทิศทาง และนักเรียนรายนี้ก็เช่นเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระสุนได้วิ่งตรงมาหาตัวเขาเรียบร้อยแล้ว ภายหลังเขาเพิ่งมารู้ตัวว่ามีกระสุนฝังอยู่ในตำราเรียน ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะกลางหน้ากระดาษ หลายหน้าได้รับความเสียหาย แต่แลกมาด้วยความปลอดภัยของชีวิต เขากล่าวกับนักข่าวไว้ว่า “เมื่อพวกมือปืนมาถึง ลั่นไกเข้าไปในบริเวณร้านขายเนื้อ และเดินเข้ามาใกล้ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับยิงปืนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็มีชายผิวเข้มพร้อมปืน .38 ยิงปืนออกมาจากหัวมุมหนึ่งที่น่าจะเข้ากระเป๋าผมจังๆ” มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวสามราย และมีผู้บาดเจ็บอีกเจ็ดราย โดยเป็นหนึ่งในสามของเหตุการณ์ยิงปืนในคืนเดียวกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าทั้งสามเหตุการณ์นี้ มีผู้ลงมือเป็นคนกลุ่มเดียวกัน และยังไม่สามารถทำการจับกุมตัวได้ ประโยชน์ของตำราหนาๆ อาจจะช่วยชีวิตคุณในการสอบ และปกป้องเราจากกระสุนปืนได้นะเออ!! ที่มา : ladbible
-
คดีสุดอลม่าน เมื่อนักโทษถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ความจำเลือนลางจำการก่อเหตุไม่ได้…
ในการตัดสินคดีความร้ายแรงต่างๆ นั้น ผู้ต้องหาจะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าได้กระทำการอันใดลงไป และหลังจากศาลได้ทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะทำการพิพากษาโทษแก่ผู้ก่อคดีตามสมควร ซึ่งในคดีความของนาย Vernon Madison วัย 67 ปี กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาถูกพิพากษารับโทษประหารชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน และจะถูกประหารในปี 2016 แต่ด้วยเหตุที่เขาถูกลบความจำจากอาการช็อกหลายต่อหลายครั้ง ทางทนายความจึงขอเลื่อนวันประหารชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้!? Vernon Madison นาย Madison จะได้รับการประหารในเดือนพฤษภาคม 2016 จากการก่อคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1985 ภายหลังไม่นานก่อนที่สำนวนคดีจะถูกสรุป ทนายความของเขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไว้ว่า… ลูกความของเขาประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการช็อกหลายครั้ง ส่งผลทำให้ระบบประสาทเสียหาย และจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับอาชญากรรมในครั้งนั้น ภาพของนาย Madison ในปี 1985 ศาลจึงทำการเลื่อนการประหารออกไป เนื่องจากสภาพจิตใจของนักโทษนั้นยังไม่สามารถประหารได้ จนกว่าตัวนักโทษจะมีความเข้าใจในบทลงโทษ และเหตุผลที่พวกเขาต้องได้รับโทษ และหลังจากนั้นการประหารนาย Madison ก็ประสบกับโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกตลอด 2 ปี ที่ถูกตัดสิน โดยครั้งแรกที่นาย Madison มีอาการช็อกนั้นเกิดขึ้นในปี 2015…
-
เด็กถูกบังคับให้ดูแม่ตัวเองโดน ‘ข่มขืน’ ปัญหาจากสงครามที่เกิดขึ้นในเซาท์ซูดาน
เซาท์ซูดาน หรือชื่อเต็มสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทางตะวันออกของ แอฟริกา และมีเมืองหลวงชื่อว่า จูบา พวกเขาเป็นประเทศใหม่ล่าสุดของโลกในปี 2011 หลังจากที่แยกตัวออกมาจากซูดาน แต่ประเทศที่เพิ่งสร้างใหม่นี้ กลับเข้าสู่สงครามในเวลาเพียงสองปีหลังจากการก่อตั้งเท่านั้น ในปี 2013 ประธานาธิบดี Salva Kiir จากกลุ่มชาติพันธุ์ Dinka ได้ไล่สมาชิกของสภาสามัญ Riek Machar จากกลุ่มชาติพันธุ์ Nuer และทำให้ Machar ผันตัวไปเป็นหัวหน้ากบฏ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง ความขัดแย้งได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายหลักที่ชนเผ่า Dinka และชนเผ่า Nuer โดยที่ทางสหประชาชาตินั้นได้ออกมาเตือนประเทศซูดานใต้หลายครั้งว่า สงครามครั้งนี้อาจะบานปลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปก็ได้ Kiir และ Machar ได้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกันหลายครั้ง แต่ทั้งสองฝั่งกลับล้มเหลวในการควบคุมกองกำลังของพวกเขา ทำให้ข้อตกลงเหล่านั้นถูกละเมิดไปนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ครั้งล่าสุดข้อตกลงสันติภาพสุดได้มีการลงนามเดือน สิงหาคม ปี 2015 การสู้รบระหว่างผู้ก่อการกบฏ และกองกำลังของรัฐบาลนั้น ได้สังหารคนไปประมาณ 50,000 คนท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ที่กระทำโดยทั้งสองฝ่าย เช่นการข่มขืน การทรมาน และการใช้ทหารเด็ก …
-
อภิมหาการขโมย ถูกจับเรียบร้อยพร้อมโทรศัพท์ 1,200 เครื่อง ตำรวจจะพยายามตามคืนให้หมด…
โทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นสิ่งของที่ล่อหน้าล่อใจโจรมากสุดๆ สิ่งหนึ่ง เนื่องจากสมัยนี้โทรศัพท์มีมูลค่าสูง และเวลาที่คนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ก็มักจะไม่ระวังตัวกันเท่าไหร่ ทำให้สามารถได้ขโมยได้ง่าย เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ต้องระวังให้มากๆ นะ ซึ่งในข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านวันนี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมานี้เอง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นในเมือง Kyzyl เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนตูวา ที่อยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ในพื้นที่ประเทศรัสเซีย ผู้ต้องหาที่ไม่ได้รับการกล่าวชื่อ ผู้ทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ ได้ถูกลงโทษจำคุกสองปี หลังจากที่ตำรวจได้บุกเข้าไปค้นเจอโทรศัพท์ถุงใหญ่ห้าถุง ที่มีจำนวนโทรศัพท์อยู่ถึง 1,200 เครื่อง โดยที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเขาไปซื้อมาจากตลาด แต่แท้จริงแล้วเขาขโมยมันมาตามคำสั่งซื้อ และขายต่อมันอีกที ตำรวจได้เข้าไปค้นคลังสินค้าของเขาที่ Kyzyl เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนตูวาและได้พบกับถุงใหญ่ๆ ห้าถุงที่บรรจุโทรศัพท์อยู่เต็มไปหมด ซึ่งข้างในประกอบไปด้วย Samsung Galaxy, iPhone และโทรศัพท์แบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเช็กข้อมูลในฐานข้อมูลว่ามีใครที่ได้แจ้งความว่าโทรศัพท์หายหรือถูกขโมยไปบ้าง โดยหวังว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมจะได้รับโทรศัพท์กลับคืนไป กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการกระทำผิดในมาตราที่ 175 ของกฎหมายรัสเซียสำหรับการซื้อขายและการขายต่อ ซึ่งแน่นอนว่ามันคืออาชญากรรม ความผิดร้ายแรงที่สุดคือการจำคุกสองปี และตอนนี้ผู้ต้องหาก็ถูกคุมขังอยู่เป็นการชั่วคราว พอเอามาเรียงกันแบบนี้จะรู้ได้เลยว่ามันต้องเยอะมากๆถึงนำมาเรียงกันได้เป็นสนามบาส มีแต่แบรนด์ชั้นนำทั้งนั้นเลย ขอให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับโทรศัพท์คืนไวๆ…
-
สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ
ผึ้งอาจจะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวาดกลัว เพราะหากถูกมันต่อยเข้าล่ะก็จะรู้สึกเจ็บแสบไม่ใช่น้อยเลย แต่จริงๆ แล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อโลกนี้มาก มันมีส่วนช่วยในการผลิตพืชผักกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเลยทีเดียว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ผึ้งมีจำนวนลดน้อยลงมากเนื่องจากมีการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากนี้แหล่งที่อยู่อาศัยของมันยังถูกบุกรุกด้วย และเหตุการณ์ที่เด็กชายสองคนบุกไปฆ่าผึ้งในฟาร์มกว่า 500,000 ตัวก็คงมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว เหตุเกิดที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง Wild Hill Honey ในเมือง Sioux รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กชาย 2 คนอายุ 12 ปีและ 13 ปีบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มผึ้งแห่งนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงรวงผึ้งด้วย จากนั้นตำรวจจึงจับกุมเด็กชายทั้งสองคน นาย Engelhardt เจ้าของฟาร์มเล่าว่า “พวกเขาทำลายรวงผึ้งทุกรวงทิ้งราบคาบ ทำให้ผึ้งทุกตัวของเราตาย เหมือนกับว่าพวกเขาทำให้เราหมดตัวเลยทีเดียว” และในเมื่อรวงผึ้งพังทลายลงไปหมด ก็เป็นเหตุให้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ไม่มีที่อยู่ด้วย ในหน้าหนาวแบบนี้ผึ้งก็ย่อมจะทนลมหนาวไม่ได้เป็นธรรมดา ผึ้งที่มีอยู่กว่าครึ่งล้านตัวในฟาร์มจึงตายเกลี้ยง นอกจากนี้ข้าวของอุปกรณ์ในฟาร์มก็เสียหายเช่นกัน ดังที่เจ้าของบอกว่า “พวกเขาบุกเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ของเรา แล้วก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างโยนทิ้งไว้กลางหิมะ จากนั้นก็ทำลายทุกสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาขโมยอะไร แต่ข้าวของทุกอย่างนั้นพังหมดเลย” เมื่อคำนวณมูลค่าความเสียจากการถูกบุกรุกครั้งนี้แล้วรวมเป็นมูลค่ามากถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2…
-
หญิงสาวพบโน้ตประหลาด บอกว่ามีคนหันปืนมาทางเธอ เพื่อปล้นเงิน สุดท้ายแกล้งชักจนรอดมาได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากมีมือปริศนาส่งกระดาษมาบอกคุณว่าคุณกำลังโดนปืนจ่ออยู่ ไม่แน่นะว่าการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เลยทีเดียว Julie Dragland เป็นหญิงสาววัย 32 ปี ผู้อาศัยอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ให้แก่ SEGA Networks และมีงานอดิเรกดูหนังอาชญากรรมในเวลาว่าง แน่นอนว่าการดูหนังพวกนั้นอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากการฆ่าเวลาหลังการทำงานและคลายความเครียดเท่านั้น Julie ก็เชื่อแบบนั้นเช่นกัน จนกระทั้งวันหนึ่งในเดือน กันยายน 2017 ที่เธอต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวที่เธออาจจะเคยเห็นแค่จากในโทรทัศน์ ในวันเสาร์เวลา 5 โมงเย็น Julie กำลังนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนไปยัง Dublin ซึ่งเป็นเมืองท่าฝั่งตะวันออก ด้วยความที่เป็นวันหยุดตัวรถจึงโล่งกว่าปกติแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนก็ตาม ทั้งตู้รถไฟนั้นมีเพียง Julie และผู้โดยสารอื่นๆ อีกเพียง 15 คน โชคร้ายที่ว่าหนึ่งในนั้นขึ้นรถไฟมาด้วยความประสงค์ร้าย ในตอนที่ตัวรถผ่านเมืองซานฟรานซิสโกนั่นเองกล้องของรถไฟจับภาพผู้หญิงผมสีสตรอว์เบอรี่ บลอนด์เดินมานั่งด้านหลัง Julie และแอบทิ้งโน๊ตให้แก่ Julie และเมื่อ Julie หยิบมันขึ้นมาอ่านเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น สิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษนั้นบอกว่า “มีปืนสองกระบอกเล็งอยู่ที่คุณ ถ้าหากยังอยากมีชีวิตให้ส่งมือถือและกระเป๋าสตางค์มาข้างหลัง ห้ามมองมาข้างหลังและอยู่ในความสงบ จากนั้นห้ามหันกลับมาจนกว่าจะออกไปจากศูนย์ประชาสังคม” ด้วยหมึกสีแดง …
-
ชายหนุ่มถูกตัดสินโทษจำคุก 15 ปี เพราะเอา ‘เบคอน’ ไปวางไว้หน้ามัสยิด
ทุกคนรู้ว่าตามหลักศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมนั้นไม่สามารถบริโภคหมูได้เลย แต่ชายคนนี้กลับทำในสิ่งที่คุกคามผู้นับถือศาสนาดังกล่าว โดยการนำเบคอนไปวางเอาไว้ด้านหน้าทางเข้ามัสยิดที่ตั้งอยู่ในเมือง Titusville รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เขาคนนี้มีชื่อว่า Michael Wolfe วัย 37 ปี เขาทำสิ่งนั้นลงไปในวันที่ 2 มกราคม 2016 และถูกกล้องวงจรปิดเก็บภาพสิ่งที่ทำเอาไว้ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีในการก่ออาชญากรรมคุกคามสถานที่เกิดเหตุ และข้อหาการกระทำความผิดที่มีบ่อเกิดมาจากความเกลียดชัง กล้องวงจรปิดถ่ายภาพขณะที่เขากำลังก่อคดีอาชญากรรมเอาไว้ได้ ภาพชัดๆ จากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นชายคนดังกล่าวนำเบคอนไปวางเอาไว้ที่ประตูหน้าของมัสยิด และใช้มีดเล่มใหญ่ทำลายหน้าต่าง หลอดไฟ และกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณดังกล่าว ล่าสุดในวันที่ 5 ธันวาคม 2017 หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกว่า 1 ปี ตัวแทนสำนักงานเขตตุลาการปกครอง Todd Brown ได้ออกมากล่าวว่า ผู้กระทำผิดได้รับการตัดสินโทษจำคุก 15 ปี พร้อมกับคุมความประพฤติหลังจากที่ออกจากคุกมา เพื่อไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก สภาความมั่นคงระหว่างอเมริกันกับอิสลามแห่งรัฐฟลอริด้า เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาลตัดสินให้จำคุกนาย Michael แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่า “ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในรัฐต้องเจอกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังอยู่นับไม่ถ้วน” ปัจจุบันแนวคิดต่อต้านศาสนาอิสลามกำลังแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา จนมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน และหลายครั้งเลยเถิดจนเป็นกลายเป็นเหตุอาชญากรรม…
-
เชฟ Gordon Ramsey พาไปชมกรรมวิธีผลิต “โคเคน” ไม่ได้เอามาทำอาหาร แต่ให้รู้ถึงภัยของมัน
ถ้าหากพูดถึงชื่อของ Gordon Ramsay หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพของเชฟสุดโหดที่ด่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อหนุ่มเชฟใหญ่อย่างเขาจะมาทำรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรายการ Gordon Ramsay on Cocaine โดยสารคดีดังกล่าวจะมีทั้งหมด 2 ตอนด้วยกัน ซึ่ง Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะเป็นหนึ่งในตอนของซีรีย์สารคดีอาชญากรรมอย่าง Crime & Punishment ที่ออกอากาศทางช่อง ITV โดยชื่อของเชฟใหญ่อย่าง Gordon Ramsay กับยาเสพติดชื่อก้องโลกอย่างโคเคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีจุดที่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทางเชฟของเรานั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โคเคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอาหาร “ผมอยากเข้าใจโลกของยาเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ตอนที่ผมเสียพ่อครัวดีๆ คนหนึ่งไปเพราะมัน และผมอยากจะรู้ว่าทำไมมันถึงระบาดไปทั่วโลก และโดยเฉพาะในด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร” Gordon Ramsay กล่าว โดยในรายการนี้พ่อครัวของเราจะเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเจาะลึกการทำยาเสพติดชนิดนี้ และเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของสารตั้งต้นต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตโคเคน “ผมสาบานได้เลยว่าใครที่ดูรายการนี้แล้ว คุณจะไม่อยากนึกถึงโคเคนอีกเลย” เชฟหนุ่มของเรากล่าว รายการ Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 19 ตุลาคม และตอนที่ 2 ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ทางช่อง ITV…
-
นางแบบถูกแก๊งลักพาตัวไปขาย แต่จรรยาบรรณโจร “พบของมีตำหนิไม่ขาย” จึงปล่อยตัวมา…
ชีวิตเราในตอนนี้มีเรื่องราวมากมายที่ได้ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าธุรกิจมืดอย่างเรื่องนี้ เมื่อสาวนางแบบถูกลักพาตัวไป เพื่อนำไปปล่อยให้คนประมูลเอาเธอไปเป็นทาสบำเรอ คงเป็นเรื่องที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็สามารถรอดกลับมาได้… เมื่อนางแบบสาวชาวอังกฤษวัย 20 ปีที่มีชื่อว่า Chloe Ayling ได้ถูกหลอกให้บินไปถ่ายแบบที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อเธอไปถึงที่หมายก็มีผู้ชายสองคนเข้ามาหาเธอ และทำการโปะยาสลบก่อนจะลากเธอออกจากห้องไป เธอถูกพาใส่ท้ายรถและพาออกไปจากจุดนัดพบแรกในพื้นที่ห่างไกล เธอถูกใส่กุญแจมือที่ข้อมือและข้อเท้าของเธอพร้อมทั้งถูกยัดอยู่ในกระเป๋าโดยหายใจผ่านรูเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจอิตาลีได้เปิดเผยว่า เธอถูกนำไปประมูลขายในเว็บไซต์ไปด้วยราคาเกือบ 10,000,000 บาท ตำรวจอิตาลีทำการจำลองสภาพของการถูกลักพาตัวจับใส่กระเป๋าใบใหญ่ บ้านที่ตำรวจคาดว่าเป็นที่ที่เธอถูกนำตัวมา ผู้จัดการประมูลครั้งนั้นหรือกลุ่มอาชญากรที่รู้จักในชื่อ Black Death ได้อ้างถึงการลักพาตัวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการข้อผิดพลาด เพราะว่าเธอนั้นมีลูกแล้วซึ่งผิดกับหลักการนโยบายประจำกลุ่ม พวกเขาได้ปล่อยเธอไปและบอกเธอว่าเธอจะต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับหากไม่อยากตาย และได้รับจดหมายที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “เกิดความผิดพลาดที่จับตัวเธอมา และจากการที่เธอเป็นแม่คนแล้ว จึงไม่ควรมาเจอกับเหตุการณ์ลักพาตัวแบบนี้” หลักฐานที่พบ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหนังสือเล่มเล็กๆ ที่เขียนว่า Black Death เธอได้ถูกปล่อยตัวหลังจาก 6 วันที่ถูกกักขังเอาไว้ ซึ่งทางตำรวจคาดว่าเป็นบ้านในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ห่างออกไปกว่า 190 กว่ากิโลเมตร จนกระทั่งตำรวจได้ทำการจับกุมนาย…
-
แก๊งวัยรุ่นหัวเราะเยาะเย้ย ชายพิการที่กำลังจมน้ำ และปล่อยให้เขาจมน้ำตาย ไปต่อหน้าต่อตา…
เจ้าหน้าที่ในรัฐ Florida เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าหดหู่ เมื่อมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 14 ถึง 16 ปี ที่กำลังอัดวิดีโอและหัวเราะชายหนุ่มพิการวัย 32 ปีที่กำลังจมน้ำ โดยที่ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ เลยแม้แต่น้อย คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในช่วงเที่ยงของวันที่ 9 กรกฏาคม 2017 ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเผยให้เห็นภาพวินาทีแห่งชีวิตของคุณ Jamel Dunn ที่กำลังตะเกียกตะกายและขอความช่วยเหลือ จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังยืนเยาะเย้ยเขาอยู่ ถึงแม้ว่าคุณ Dunn จะพยายามร้องขอความช่วยเหลือมากแค่ไหน พวกเด็กๆ ก็ยังคงไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเขา จนในที่สุดชายหนุ่มพิการก็ต้องพบกับความตาย หลังจากนั้น 3 วันร่างของชายหนุ่มก็ถูกกู้ออกมาจากบ่อน้ำแห่งนั้น ทางด้านตำรวจได้อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว่า พวกเด็กๆ ได้เตือนชายคนดังกล่าวแล้วว่าไม่ควรลงไปในบ่อน้ำนั้น “พวกเด็กๆ ที่กำลังนั่งสูบบุหรี่และกัญชากันอยู่บริเวณนั้น เห็นชายคนนี้เดินลงไปในบ่อน้ำด้วยตัวเอง พวกวัยรุ่นได้บอกเขาแล้วว่าห้ามลงไป” คุณ Yvonne Martinez โฆษกจากสถานีตำรวจ Cocoa Police กล่าว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเห็นชายหนุ่มกำลังจมน้ำต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจเลย “เมื่อชายหนุ่มเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกเด็กๆ ก็เริ่มหัวเราะเยาะเขา ไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจ พวกเขาเอาแต่หัวเราะและปล่อยให้ชายคนนั้นจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา” คุณ Martinez กล่าว “ออกมาจากน้ำ ไม่อย่างนั้นคุณจะตายนะ!! ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว และอีกคนก็ตะโกนว่า…
-
เผยเบื้องหลังชีวิตของ “นักฆ่า” กับเรื่องราวในอดีตที่ยังตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้
วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยเบื้องหลังชีวิตของ Martin Corona อดีตสมาชิกทีมสังหาร Death Squad วัย 53 ปี กับเรื่องราวในอดีตที่ยังตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้ จากการรายงานระบุว่า Martin Corona ถือเป็นฆาตกรมืออาชีพที่โหดมากคนหนึ่ง ซึ่งเขายังเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในกลุ่มอันทรงอิทธิพลของเจ้าพ่อค้ายา Arellano Felix Martin ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดของเขาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้คนอื่นๆ เข้ามาสู่ด้านมืดเช่นเดียวกับเขา โดยเขาได้ออกมาเผยว่า “ผมไม่เคยรู้สึกภูมิใจในอดีตของผมเลย มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆ ที่ตื่นขึ้นมามองตัวเองในกระจก และนึกถึงสิ่งที่เคยทำเอาไว้” สำหรับ Martin เขาได้เติบโตใกล้ซานดิเอโก ซึ่งในตอนที่ยังเป็นเด็กเขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอล และยังเคยเป็นลูกเสือ แต่ทว่าหลังจากที่เขาอายุได้ 12 ปี ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปภายในพริบตา จากเด็กที่ควรจะมีอนาคตสดใส กลับเข้ามาสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว Martin ได้เผยว่า ตอนที่เขาอายุ 12 มีชายคนหนึ่งได้จ้างให้เขาและเพื่อนมาตัดหญ้า ซึ่งเขาได้เอากัญชามาให้เป็นค่าจ้างแทนที่จะเป็นเงิน และภายหลังจากที่ถูกพ่อจับได้ เขาก็ถูกนำตัวไปยังสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนอยู่นานหลายปี และเมื่อออกมาจากสถานที่ดังกล่าว เขาก็ได้เข้าสู่กลุ่มค้ายารายใหญ่ทันที…
-
จากผลสำรวจปี 2015 สื่อนอกยก ‘Detroit’ เป็นเมืองที่แย่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา…
สหรัฐอเมริกาหนึ่งในชาติมหาอำนาจของโลก พวกเขาคือชาติที่เต็มไปด้วยการพัฒนาต่างๆ มากมายและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง แต่ถึงแม้จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังคงมีเรื่องหนึ่งที่หนีไม่พ้นนั่นก็คือปัญหาพื้นที่เสื่อมโทรมนั่นเอง ในปี 2015 ทางเว็บไซต์ 24/7 Wall Street ได้จัดอันดับความน่าอยู่ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 65,000 คนทั้งสิ้น 551 เมือง โดยพวกเขาได้แบ่งเกณฑ์การให้คะแนนออกเป็น 9 ด้านประกอบด้วยด้านอาชญากรรม, เศรษฐกิจ, ประชากร, การศึกษา, สิ่งแวดล้อม, สุขภาพ, ที่อยู่อาศัยโครงสร้างพื้นฐานและการพักผ่อนหย่อนใจ และนำมาวิเคราะห์กับปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่าเมืองที่เลวร้ายมากที่สุดนั้นได้แก่เมือง Detroit รัฐมิชิแกนนั่นเอง ที่เมืองนี้มีประชากรทั้งหมด 677,124 คน มีประชากรที่ยากจนคิดเป็น 39.8 เปอร์เซ็นต์และมีประชากรที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเพียงแค่ 14.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการจ้างงานที่ลดลง และรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนนั้นเหลือเพียงแค่ประมาณ 8 แสนต่อปีเท่านั้นซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยรายได้ของครัวเรือนทั่วประเทศ นอกจากนี้ที่เมือง Detroit ยังเต็มไปด้วยอาชญากรรมอีกมากมาย จากการสำรวจพบว่าที่นี่มีอัตตราการเกิดอาชญากรรมสูงเป็นอันดับสองของประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตจากอาชญากรรมมากถึง 1,760 รายจากประชากร 1 แสนคนเลยทีเดียว ส่วนอันดับอื่นๆ จากการสำรวจนั้นพบว่าเมือง Birmingham รัฐ Alabama นั้นอยู่อันดับสอง และเมือง Flint…
-
5 คดีสะเทือนขวัญ ที่ลงมือโดยอาชญากรเยาวชน และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต!!
ในแต่ละปี ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีเด็กกว่า 1,200 คนถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เพราะก่อเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรง แต่ภายหลังทางศาลฎีกาก็ได้ออกมาทำการถกเถียงกันว่า มันดีแล้วเหรอที่จะจับเด็กเหล่านี้ไปไว้หลังลูกกรงตลอดชีวิตน่ะ!? จนมาถึงในช่วงปี 2010 ก็ได้ตั้งข้อกฎหมายใหม่ขึ้นมาว่า เหล่าเด็กๆ ที่จะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตได้นั้นต้องก่อคดีอาชญากรรมฆ่าคนตายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้เรียกร้องให้เหล่าเด็กๆ ที่ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตที่ไม่ได้ก่อคดีฆาตรกรรมให้ถูกปล่อยตัวแต่อย่างใด หลายๆ คนที่มีรายชื่อในการถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตก็เป็นฆาตรกรที่แสนโหดร้าย และบางคนก็ทำเพราะตัดสินใจผิดพลาดจนส่งผลต่อชีวิตที่เหลือของพวกเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกว่า 80% ของอาชญากรเด็กนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในถิ่นที่อยู่อาศัย อย่างเช่นครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง และการถูกกดขี่ทางเพศ และนี่ก็คือเหล่าเด็กๆ ที่ถูกตัดสินให้จำคุกตั้งแต่อายุยังน้อยเนื่องจากก่อคดีอาชญากรรม เพื่อนๆ คิดว่าพวกเขาสมควรที่จะถูกตัดสินให้จำโทษตลอดชีวิตหรือไม่? แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ เราลองไปชมเรื่องราวของคดีที่เขาทำกันดีว่า 1. Lionel Tate Lionel Tate เป็นหนึ่งในเด็กชาวอเมริกันที่มีอายุน้อยที่สุด ที่ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตด้วยวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น!! คดีของเขานั้นมันก็เป็นอะไรที่ดูน่ากลัวเหมือนกัน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 Tate ได้อ้างว่าเขากำลังทำการ ‘ฝึกท่ามวยปล้ำ’ ร่วมกับเด็กหญิงข้างบ้านที่มีอายุเพียง 6 ขวบ แต่บาดแผลที่ได้มาจากการชันสูตรกลับบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป… ร่างกายของเธอนั้นแหลกละเอียดเหมือนถูกกระทืบหลายครั้ง มีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด ทั้งภายนอกและภายใน กระดูกของเธอมีรอยร้าวไปทั้งตัว…
-
ช่างภาพเอา รูปอดีตอาชญากรใน Los Angeles มาลบรอยสัก ให้พวกเขาหวนคิดถึงชีวิต
เพราะคนทุกคนต่างมีที่มา และเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป… (เนื้อหานี้ไม่ได้เจตนาว่าการสักเป็นอาชญากรรม แต่พูดถึงการรวบรวมอาชญากรที่มีรอยสัก และลบออกเพื่อให้พวกเขาคิดถึงตัวเองในวัยอดีต) Steven Burton ช่างภาพชาวอังกฤษที่ใช้เวลากว่า 400 ชั่วโมงเต็มกับโปรเจ็คต์ของเขา Skin Deep ถ่ายภาพของอดีตสมาชิกแก้งค์อาชญากรรมต่างๆ ใน Los Angeles สมาชิกแก้งค์อาชญากรรมแนวนี้จะถูกเรียกว่า Homeboys หรือ โฮมบอยส์ ที่นอกจากจะเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ แล้ว พวกเขายังนิยมการสัก รอยสักต่างๆ ทั้งชื่อแก้งค์และเพื่อความสวยงามจนเต็มร่างกายของพวกเขา โปรเจ็คต์ Skin Deep โปรเจ็คต์ Skin Deep นั้น Steven ได้ทำการติดต่ออดีตสมาชิกแก้งค์กลับใจเพื่อขอถ่ายรูปของเขา แล้วนำมาโฟโต้ช็อปลบรอยสักให้หายไปทั้งหมด และนำรูปนั้นๆ มาให้พวกเขาดูเพื่อดูรีแอคชั่นของอาสาสมัครคนนั้นๆ มีสมาชิกเข้าร่วมโปรเจ็คของเขาถึง 27 คนด้วยกัน ความต้องการของเขาก็คือการที่อยากจะตีแผ่ชีวิตของเหล่า Homeboys ว่าพวกเขาก็ต้องดิ้นรนอย่างยากลำบากเช่นกัน โดยเฉพาะการถูกตราหน้าจากสังคมว่าพวกเขาเป็นผู้ร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไปและเรื่องราวของพวกเขาเลย… ‘พอผมได้มีโอกาสไปรู้จักพวกเขา ทุกๆ คนต่างมีเรื่องราวที่น่ารันทดมาก ผมไม่ค่อยสนใจนักเรื่องอาชญากรรมที่พวกเขาเคยทำ แต่สนใจในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการที่พวกเขาดำเนินชีวิตมากกว่า’ Steven กล่าว …
-
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ หุ่นยนต์จะถูกใช้ก่ออาชญากรรมมากกว่ามนุษย์ ภายในปี 2040
ในโลกของภาพยนตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีการสร้างหนังเกี่ยวกับหุ่นยนตร์ขึ้นมามากมาย เช่น RoboCop, a.i. artificial intelligence, Chappie, the Terminator, Bicentennial Man, i,Robot และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในบรรดาหนังเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงจินตนาการเกี่ยวกับโลกอนาคตที่หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์ ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีของเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่อีกไม่นาน เราอาจจะได้ไปถึงในยุคนั้นจริงๆ มีงานวิจัยบางตัวเริ่มศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของหุ่นยนต์และเครื่องจักรในอนาคตกันแล้ว ซึ่งผลวิจัยอาจจะทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวก็เป็นได้ เพราะเขาบอกว่าในปี 2040 เหล่าหุ่นยนต์และเครื่องจักรอาจก่อให้เกิดอาชญากรรมได้มากกว่ามนุษย์เสียอีก นาง Tracey Follows จากสำนักงาน The Future Laboratory (บริษัทผู้ให้คำแนะนำด้านการวางแผนและกลยุทธในยุคอนาคตให้แก่แบรนด์ต่างๆ) ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะนำหุ่นยนต์มาใช้ทำงานแทนมนุษย์ในอนาคต นาง Follows มองว่ายังไงแล้วหุ่นยนต์ก็อาจมาทำงานแทนที่มนุษย์ในสักวันหนึ่ง แต่มันอาจเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจนนำไปสู่กิจกรรมที่เป็นอันตรายกับมนุษย์ “จากการคาดการณ์ของฉัน อัตราการเกิดอาชญากรรม ในปี 2040 จะเกิดจากเครื่องจักรมากกว่ามนุษย์จริงๆ” เธอกล่าว ไม่เพียงแต่หุ่นยนต์เท่านั้นที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเป็นกังวล พวกรถและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนได้เองก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะมันมีสิทธิ์ถูกแฮ็คข้อมูลได้ และเมื่อมันถูกแฮ็คข้อมูลไปได้ นั่นเท่ากับว่าคุณจะสูญเสียการควบคุมยานพาหนะนั้นไปทันที มันอาจนำไปสู่การลักพาตัวหรืออุบัติเหตุ นี่ยังไม่ได้พูดถึงการจะใช้เครื่องจักรในการทำอาชญากรรมอื่นๆ เท่าที่จะนึกออกเช่น การก่อเหตุคาร์บอมแบบไม่ใช้คนขับรถจริงๆ การส่งโดรนไปวางระเบิด การขโมยของและจารกรรมด้วยหุ่นยนต์…
-
แฮปปี้เกิ๊น!! นักท่องเที่ยวถูกจับได้ว่าขโมยเสื้อผ้า ไม่สำนึกผิด แถมดี๊ด๊ามีความสุขสุดๆ
เพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าการกระทำความผิดย่อมเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย และเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรกระทำ ยิ่งการก่ออาชญากรรมด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ผู้กระทำผิดส่วนมากมักจะรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปหลังจากที่ถูกจับได้ แต่ไม่ใช่กับนักท่องเที่ยวสาวชาวสิงคโปร์ 2 คนนี้แน่นอน เพราะพวกเธอได้ทำการขโมยเสื้อผ้าในร้านค้าที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังและถูกจับได้ แต่กลับไม่แสดงความรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย แถมยังแสดงอาการดี๊ด๊ามีความสุขแบบสุดๆ ให้เห็นอีกต่างหาก เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Auk Thanima ได้ทำการโพสต์ภาพและข้อความของหญิงสาวชาวสิงคโปร์ที่ทำการขโมยสินค้าและถูกจับได้พร้อมหลักฐานคามือ แต่พวกเธอกลับไม่มีท่าทีสำนึกแต่อย่างใด… โดยให้แคปชั่นว่า… “วันที่ 16 มิถุนายน 2559 สถานที่ ศูนย์การค้า Platinum fashion mall หญิงชาวต่างชาติจากประเทศ Singapore 2คนนี้ถูกจับได้พร้อมหลักฐาน จากการขโมยสินค้าจากร้านค้าในห้างนี้ ถึงแม้ทางร้านจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงินค่าปรับแลกกับสินค้าที่ถูกขโมยไป แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจมากที่สุด คือหลังจากที่หัวขโมยถูกจับได้ นางกลับ ไม่มีท่าทีสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไปแม้แต่นิดเดียว กลับมองเป็นเรื่องสนุก ตลกขบขัน กับการกระทำที่ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรม น่าอับอายจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากประเทศที่คนมีการศึกษาดี และกฏหมายลงโทษที่รุนแรงชัดเจน” . . . . แน่นอนว่าเมื่อเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน… บ้างก็แซะเรื่องความรุนแรงและความเด็ดขาดของกฎหมายบ้านเรา บ้างก็สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาคงจะสติไม่ดีกระมัง บางคนก็ไม่เข้าใจว่าจะลั้นลาอะไรกันขนาดนั้น แล้วเพื่อนๆ…
-
โหดโคตร!! เด็กวัย 11 ปี คว้าปืนไล่ยิงโจรจนโดนเข้าที่ขา ร้องเสียงหลงเหมือนเด็กน้อยเลย
ในช่วงอายุย่างเข้าสู่วัยรุ่นของเรากำลังทำอะไรกันอยู่นะ ก็คงจะมีแต่ประสบการณ์เล่นๆ นอนๆ ตลอดทั้งวันแหงๆ ไม่เคยพบกับเหตุการณ์ชวนระทึกอย่างหนุ่มน้อยคนนี้แน่ๆ Chris Gaither วัย 11 ปี ได้กระทำในสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดว่าเด็กวัยนี้จะทำได้ เหตุเกิดที่ Talladega, Alabama สหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากในช่วงนั้นเขาอยู่บ้านคนเดียว และได้ยินเสียงใครบางคนแอบเข้ามาในบ้าน มั่นใจได้เลยว่าต้องเป็นขโมยแน่ๆ Chris จึงตัดสินใจคว้าปืนขนาด 9 มม. บรรจุกระสุน 12 นัด ติดตัวออกไปเผชิญหน้ากับโจร เมื่อเจอหน้ากันแล้ว พยายามขู่ฆ่าแต่ดันเจอ Chris เล็งปืนใส่ จึงกลายเป็นเลือกที่จะหลบหนีแทน เจ้าหัวขโมยดันนำตะกร้าขนาดใหญ่พร้อมของที่ขโมยมาติดตัวไปด้วย Chris ก็วิ่งไล่เพื่อเอาของคืน ยิงปืนสกัดทั้งสิ้น 12 นัด จนในที่สุดก็โดนขาของขโมย ร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดราวกับเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว อะไรจะใจเด็ดขนาดนั้นล่ะเนี่ย ที่มา : wate, theladbible, wvtm13
-
สามีปลอมการตายของตัวเอง เพื่อหาทางหนีทีไล่มาจับอดีตภรรยาผู้จ้างวานมือปืนสังหารตน!!
ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นได้จริง ฟังๆ ดูแล้วมันน่าจะเป็นพล็อตของภาพยนตร์อาชญกรรมหรือไม่ก็ซีรีย์ซะมากกว่า แต่อยากจะบอกว่ามันมีมาแล้วหลายกรณี ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน Brad Sutherland วัย 31 ปี ได้ทำการปลอมแปลงการตายของตัวเอง เพื่อหลักเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายของมือปืนที่อดีตภรรยาของตนจ้างวานมาเพื่อสังหารเขา โดบที่ฝั่งอดีตภรรยา Laura Buckingham วัย 29 ปี ได้จ้างมือปืนให้ค่าหัวสามีตนเองเป็นมูลค่า 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 105,241 บาท) เพื่อกำจัดเขาออกไปจากชีวิต Brad Sutherland วัย 31 ปี ถ้าหากว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ Brad จะต้องเสียชีวิตในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นมือปืนก็ได้นำรูปถ่ายมาเป็นหลักฐานว่างานสังหารของเขานั้นสำเร็จเรียบร้อยแล้ว Laura Buckingham อดีตภรรยาวัย 29 ปี ผู้จ้างวานมือปืนสังหารสามีตนเอง เธอปักใจเชื่อเต็มๆ และจ่ายเงินรางวัลค่าหัวในส่วนที่เหลือทั้งหมด แต่หารู้ไม่ว่ามือปืนที่จ้างมานั้นเป็นเจ้าหน้าที่แฝงตัวมาจากสำนักงานสืบสวน Tennessee ทำการช่วยเหลือ Brad ปลอมแปลงการตายของเขา…
-
ญี่ปุ่นระอุไปทั่วประเทศ หลังกลุ่มยากูซ่าขัดแย้งและเข้าปะทะห้ำหั่นกันในหลายพื้นที่!!
#เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าหลายคนคงจะมองประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สงบ น่ารักคิขุอาโนเนะ อาชญากรรมมีน้อยถึงน้อยมาก แต่รู้หรือไม่ว่ายังคงมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเก่าครองเมืองหลบอยู่ตามซอกหลืบของประเทศญี่ปุ่น ใช่แล้วล่ะ กำลังพูดถึงกลุ่มแก๊งค์ยากูซ่านั่นเอง ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้น มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาว่าเกิดเหตุการประทะกันระหว่างแก๊งค์ยากูซ่ามากถึง 17 ครั้งด้วยกัน โดยทาง Taro Kono ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยสาธารณะแห่งชาติญี่ปุ่นได้เผยสถาณการณ์ในช่วงนี้ว่าเป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก เหตุการณ์ปะทะครั้งแรกเกิดขึ้นที่ย่าน Adachi ในกรุง Tokyo มีแก๊งค์ยากูซ่าประมาณ 20 คนเข้าห้ำหั่นกันจนเกิดการนองเลือด ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ณ จุดเกิดเหตุ กลับหลบหนีหายเข้าไปในกลีบเมฆอย่างไร้ร่องรอย และหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดระหว่างแก๊งค์ยากูซ่าในพื้นที่ 10 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัด และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเอาไว้ว่าเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างแก๊งค์ยากูซ่าเชื่อมโยงไปสู่อาชญากรรมที่ได้รับการขัดขวางผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้าอาวุธ การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี การพนัน การฟอกเงิน และธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ฉากหน้าธุรกิจเอกชน แต่ยังเป็นเรื่องยากต่อการตรวจสอบ หากใครกำลังวางแผนไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นในช่วงนี้ ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษนะ อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้ หูตาต้องไวไว้ก่อน…
-
สามีจ้างวานมือปืนปลิดชีวิตภรรยา แต่ภรรยากลับรอดตาย โผล่เซอร์ไพรส์ ณ งานศพตัวเอง!!
ฟังๆ ดูแล้วเรื่องราวแบบนี้ลักษณะมันคล้ายๆ กับภาพยนตร์อาชญากรรมดราม่า แย่งชิงผลประโยชน์อะไรทำนองนี้เลยแฮะ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริงบนโลกใบนี้ แต่ก็อย่างว่า ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นได้จริงๆ #เหมียวเลเซอร์ ขอนำเสนอเรื่องราวสุดแปลกในระหว่างความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่อยู่กินกันแบบสามีภรรยาที่ประเทศออสเตรเลีย แต่เกิดผิดใจกันถึงกับต้องแลกมาด้วยชีวิต Noela Rukundo ภรรยาที่ถูกมือปืนตามล่าจากการจ้างวานของสามี รายงานมาจากเว็บไซต์ The Mirror กล่าวว่า Balenga Kalala ผู้เป็นสามี ได้ทำการจ้างมือปืนเป็นมูลค่า 180,000 บาท เพื่อสังหาร Noela Rukundo ผู้เป็นภรรยา หลังจากสงสัยว่าภรรยาอาจจะมีการนอกใจตน มือปืนก็ได้ทำการตามตัวเธอจนเจอในที่สุด แต่ทว่ามือปืนไม่อยากลงมือฆ่าเธอแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นคนรู้จักของพี่ชายเธอ ดังนั้นมือปืนจึงได้บอกแผนการทั้งหมดที่สามีได้วางเอาไว้ และกลับไปบอกฝ่ายสามีว่าลงมือสังหารสำเร็จเรียบร้อยหายห่วง Balenga Kalala ผู้เป็นสามี จากนั้นฝ่ายสามีก็ไปบอกครอบครัวของภรรยาว่า เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในแอฟริกาและจะจัดงานศพให้ ทุกสิ่งกลับทำให้ช็อคยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่งานพิธีไว้อาลัยเสร็จสิ้นไปแล้ว จู่ๆ ภรรยาที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาซะงั้น!! จากบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของ The Washington Post เธอกล่าวว่า…
-
ทำเกินไป!! เจ้าของกระบะฉุน ยิงอาสาจราจรถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากไม่ให้จอดในที่ห้ามจอด
ทุกวันนี้หากเกิดอาการไม่พอใจอะไรหรือใครก็ตาม มักจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ภายในสังคมไทยเรา อย่างเช่นในกรณีของเจ้าหน้าที่จราจรอาสาท่านนี้ ที่ปฏิบัติตามหน้าที่แต่กลับถูกยิงถึงขั้นเสียชีวิต เหตุการณ์ความรุนแรงนี้เกิดขึ้นที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง โดยมีรายงานผ่านเพจ รวมพล คนกู้ภัย ทราบชื่อเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตก็คือ นายสมัครชัย ลอยเมฆ โดยทำการปฏิบัติหน้าที่ภายในงานมหกรรม OTOP ตะวันออก ของดี 4 ภาค จากการสอบถามผู้ที่พบเห็น สาเหตุเกิดมาจากเจ้าหน้าที่เข้ามากล่าวตักเตือนว่าห้ามจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งทางคู่กรณีที่เป็นเจ้าของรถกระบะดีแม็กสีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน เกิดอาการฉุน ควักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ 3 นัด ก่อนจะหลบหนีไป มีหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในสังคมไทยเรา ยังไงเหมียวก็ขอแสดงความเสียกับญาติของผู้เสียชีวิตมา ณ ที่นี้ด้วย และขอให้ตามจับตัวผู้ก่อเหตุความรุนแรงมารับโทษโดยเร็วที่สุด ที่มา : รวมพล คนกู้ภัย
-
โซเชียลเตือนภัย สาวอยู่ห้องพักคนเดียวย่านรามคำแหง ถูกงัดห้องปล้นทรัพย์แถมทำร้ายร่างกาย
นับวันภัยสังคมยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ นะ จนแอดเหมียวเริ่มรู้สึกว่าสังคมนี้เริ่มจะอยู่กันยากแล้ว เพราะล่าสุดมีสาวอาศัยอยู่ให้ห้องพักย่านรามคำแหงถูกหัวขโมยบุกเค้ามาปล้นถึงในห้องเลย!? เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพถ่ายอันน่าสลดใจผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เบนจา คงดี เป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่งที่มีรอยฟกช้ำและบาดแผลน่ากลัวเต็มหน้า แถมยังมีรอยเลือดอีกมากมายกองอยู่บนพื้น พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เตือนภัย ระวังค่ะ สังคมนี้อยู่ยาก ในซอยรามคำแหง 53 & ลาดพร้าว 112 เข้ามาฉกทองแล้วทำร้ายเจ้าตัวจนทรุดคาห้อง เหตุเกิดคืนวันที่ 23/01/59” หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็พากันช่วยแชร์และกระจายข่าวออกไปในวงกว้าง เพื่อช่วยกันเตือนภัยให้กับสาวๆ ที่อาศัยอยู่ในหอพัก เพื่อป้องกันตนเองจากหัวขโมย สังคมเราเริ่มอยู่ยากแล้วแฮะ สาวๆ คนไหนที่อยู่หอคนเดียว อย่าเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในห้องนะ เพราะพวกหัวขโมยมันอาจจ้องจะเล่นงานเราอยู่ก็ได้ ที่มา เบนจา คงดี
-
สภาเมืองอังกฤษไฟเขียวเปิดย่านให้ ‘โสเภณี’ ทำงานได้อย่างถูกกฏหมายและได้รับคุ้มครอง
ตามที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าการค้ากามหรือการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย ไม่ได้รับการยอมรับว่ามันคืองานประเภทหนึ่งของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า ‘โสเภณี’ ซึ่งมันทำให้บ้านเมืองดูไม่ดีในสายตาทั้งคนในและนอกประเทศ แต่ทว่ามันก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้หมดจด ธุรกิจการค้ากามก็ยังคงผุดขึ้นเรื่อยๆ แถมมีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล ทางสภาเทศบาลเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษเล็งเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ก็จะส่งผลอันตรายต่อผู้ที่ทำงานในด้านนี้เมื่อต้องมายืนเสนอตัวอยู่ข้างถนน สำหรับการทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฏหมายก็จะต้องควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ โดยที่ผู้ขายบริการทางเพศจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มไปจนถึงเจ็ดโมงเช้า และเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี สามารถรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้ทันที สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดพื้นที่ค้าประเวณีแบบถูกกฏหมายขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุการณ์หญิงขายบริการรายหนึ่งถูกฆาตกรรมภายในเมืองลีดส์ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรับผิดชอบความปลอดภัยของประชาชน แต่อย่างไรก็ตามประชาชนบางส่วนก็มองว่าเป็นการเพิ่มอัตราอาชญากรรมให้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสภาพของงานที่เสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว รวมไปถึงเป็นการกระจายโรคติดต่ออีกต่างหาก ที่มา : unilad, dailymail
-
เรียงความ ‘เศษซากความฝัน เมื่อพ่อของฉันถูกจับกุม’ บอกเล่าเรื่องราวอาชญากรรมภายในครอบครัว
ตามโรงเรียนระดับมัธยมหรือระดับประถมศึกษานั้น หนึ่งในการประกวดที่จัดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ ก็คือการประกวดเรียงความ และมักจะมีผู้เข้าแข่งขันมากมาย ต่างก็เตรียมความพร้อมเรียงความของตนเพื่อที่จะคว้ารางวัลมาให้ได้ แต่สำหรับเรียงความที่หนูน้อย Ayumi Takada นักเรียนชั้นเกรดแปด (มัธยมศึกษาตอนต้นระดับ 2) เตรียมมานั้น เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของเธอ กับชื่อเรียงความว่า ‘เศษซากความฝัน’ (The Remains of Dreams) ‘เศษซากความฝัน’ พ่อของฉันถูกจับกุม ตำรวจมาที่บ้านของฉัน ทางเข้าบ้านที่แต่ก่อนเคยเป็นที่บอกลาและต้อนรับกลับบ้านในทุกๆ วัน ต่างเต็มไปด้วยนักข่าวที่มารออยู่เต็มหน้าบ้านไปหมด มันเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พฤษภาคม 2015 เจ้าหน้าที่ตำรวจหกนายมายืนล้อมหน้าประตูอันคับแคบที่หน้าบ้าน คุณแม่ของฉันก็เลยโทรเรียกญาติให้มาจัดการกับบางสิ่งบางอย่าง โดยอย่างแรกก็คือฉันจะไปพบกับคุณยายของฉันที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งจากนั้นคุณป้าก็จะมารับฉันไป มันก็คล้ายๆ กับบางสิ่งที่คุณเห็นกันในโทรทัศน์ แต่ครั้งนี้มันเกิดขึ้นในบ้านของฉัน ทุกสิ่งมันดูบิดเบี้ยวไปหมดราวกับว่าฉันกำลังยืนอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากความเป็นจริง และเฝ้ามองดูมันเกิดขึ้น และ ‘บุคคลผู้ต้องสงสัย’ กำลังยืนอยู่ในใจกลางของพายุที่โหมกระหน่ำใส่บ้านของเรา และเขาก็ได้กลายเป็นบุคคลที่มาจากมิติอื่นที่ห่างไกลจากพวกเราไปแล้ว พ่อของฉันตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีละเมิดกฎหมายการเลือกตั้งสำนักงานสาธารณะ โดยก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนั้น คุณป้าของฉันก็ได้รับผลักดันจากคุณพ่อให้เข้าสมัครเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีเลือกตั้งล่วงหน้าเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งมีการว่าจ้างอาสาสมัครมาลงคะแนนเสียงให้ที่เรียกกันว่า ‘การเร่ขายอิทธิพล’ (ซื้อสิทธิ์ขายเสียง) จนมาถึงช่วงวันหยุดในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ป้าของฉันแพ้คะแนนการเลือกตั้ง สมาชิกของสภาเทศบาลเมืองจากฝ่ายที่สนับสนุนคุณป้าก็ถูกเรียกตัวเพื่อสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ…
-
เมื่อไม่อาจต้านทานได้ ตำรวจภูธรตากฟ้า จึงจำเป็นต้องเรียกระดมพลฮีโร่ปราบอาชญากรรม!!
ตำรวจไทยของเรานั้น มีประสิทธิภาพในการปราบเหล่าอาชญกรและอาชญากรรมมานักต่อนักแล้ว แต่บางทีก็รู้สึกว่าอัตราการเกิดของอาชญากรรมในประเทศไทยนั้นมันมีสูงมากๆ จนตำรวจธรรมดาๆ เองก็ไม่อาจต้านทานไหว และด้วยการนี้เอง ทางสถานีตำรวจภูธรตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้ทำการประเมินสถาณการณ์ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะถึงนี้ เหล่าร้ายยังคงลอยนวลและเหิมเกริมยิ่งนัก เพื่อระดมกำลังกวาดล้างอาชญกรรมจึงต้องเรียกตัวพวกเขาเหล่านี้มา!! เอ๊ะ!! หน้าตาคุ้นๆ นะ เพื่อผลที่ดีของการปราบปรามอาชญากรรมสูงสุด ทางสถานีตำรวจภูธรตากฟ้า จึงได้ระดมทีมเหล่าฮีโร่ทั้งค่าย Marvel และ DC รวมไปถึงท่าน Darth Vader กับลูกสมุน Strom Trooper มาร่วมประชุมและวางแผนปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบ แปล๊บ แปล๊บ!! ทั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในแผนการเพื่อความสงบสุขของประชาชนชาวอำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ก็ขอให้เหล่าฮีโร่และแอนตี้ฮีโร่ช่วยกันปกป้องและปราบเหล่าร้ายให้หมดสิ้นไป!! ถือว่าเป็นอีกสีสันหนึ่งในบ้านเราเลยนะเนี่ย กับการที่พี่ๆ ตำรวจได้ออกมาแสดงความน่ารัก เป็นมิตรกับประชาชน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมกับแสดงถึงความพร้อมที่จะดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลด้วย สู้เค้าน๊าาา เหล่าฮีโร่ สภ.ตากฟ้า ที่มา : สถานีตำรวจภูธรตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์
-
หนุ่มฮีโร่ถูกยิงถึงเจ็ดนัด หลังจากที่ปกป้องเพื่อนร่วมชั้นจากมือปืนที่ก่อเหตุภายในชั้นเรียน!!
เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา กับการก่อเหตุอาชญากรรมบุกเข้าไปยิงนักศึกษาภายในวิทยาลัย Umpqua Community College ในเมือง Roseburg รัฐ Oregon จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้ถูกยิงอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือพ่อหนุ่ม Chris Mintz ที่รับลูกกระสุนเข้าร่างถึง 7 นัด และต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนหลังจากที่เขาพยายามปกป้องเพื่อนร่วมชั้นและไล่ล่าตามตัวมือปืน Derek Bourgeois ลูกพี่ลูกน้องได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘เขา (Chris Mintz) คงไม่มีทางที่จะปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นแน่นอน’ ซึ่งหลังจากที่พยายามไล่ล่ามือปืนก็ทำให้เขาถูกยิงถึง 7 นัด โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญของร่างกาย แต่ก็ทำให้รับบาดโดนยิงเข้าที่ขาทั้งสองข้าง และหวังว่าจะพักฟื้นกลับมาเป็นปกติภายในเร็ววัน นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่มีการยิงในโรงเรียนหรือวิทยาลัย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดเป็นครั้งที่ 45 แล้วภายในปีนี้ ผู้ก่อเหตุก็คือนาย Chris Harper Mercer โดยที่เริ่มจากการถามศาสนาของเหยื่อก่อนที่จะเปิดฉากยิง ซึ่งภายหลังก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มา : metro