Tag: อิตาลี
-
นักชกมวยไทยสัญชาติอิตาลี “เสียชีวิต” หลังถูก ‘น็อกเอาท์’ ในไฟต์ชิงแชมป์ WBC
นักกีฬามวยไทยสัญชาติอิตาลีนามว่า Christian Daghio ได้เสียชีวิตหลังจากการถูกน็อกในการแข่งขันชิงแชมป์เฉพาะกาล WBC Asian Boxing Council ในรุ่น Light Heavyweight เหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้นที่สนามมวยนานาชาติรังสิตเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2018 เป็นไฟต์ที่ Christian Daghio วัย 49 ปีขึ้นชกปะทะ ขุนดอน ทรายทองยิมส์ ระหว่างการชก Christian ถูกโจมตีเข้าที่ใบหน้าและศีรษะหลายครั้ง จนกระทั่งยกที่ 12 ที่เขา “ล้มลง” แต่แล้วก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนได้ไหว ชมคลิป แต่หลังจากการถูกน็อกครั้งที่ 2 เขาล้มลงและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก กรรมการจึงตัดสินว่า Christian พ่ายแพ้ไปแบบน็อกเอาท์ จากนั้นกรรมการจึงเรียกทีมแพทย์เข้ามาดูอาการของ Christian นั่นทำให้พบว่าสมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างสาหัส Christian รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในอาการโคมาและไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น จนสุดท้ายเขาเสียชีวิตลงในวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Fabrizio พี่น้องของเขาก็ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า “เขาตายสมใจเขาแล้วล่ะ ผมไม่เสียใจหรอกเพราะเขาเองเคยบอกว่าเขาอยากชกมวยกระทั่งอายุ 80 ปี เขาบอกว่าสังเวียนคือชีวิตของเขา…
-
Brooklyn ลูกชาย David Beckham โดนดราม่าโพสต์ภาพ “เหยียด” นักท่องเที่ยวชาวจีน!
Brooklyn Beckham ลูกชายแท้ๆ ของตำนานนักฟุตบอลอย่าง David Beckham ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากมายหลังจากที่เขาถ่าย “นักท่องเที่ยวจีน” ในอิตาลี แล้วโพสต์ลงอินสตาแกรม . Brooklyn แอบถ่ายภาพของชาวจีน (หรือชาวเอเชีย) ที่เดินเลือกซื้อของและล่องเรือกอนโดลาอยู่ในเมืองเวนิส พร้อมโพสต์ลงบนอินสตาแกรมพร้อมด้วยคำบรรยายภาพว่า… “คงไม่มีที่ไหนดีเท่าอิตาลีแล้วล่ะเนาะ” (No place like Italy innit.) และนั่นทำให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเห็นได้พากันคอมเมนต์อย่างโกรธเคือง เพราะมันฟังดูเหมือนการแซะ การดูถูก ถึงขั้นว่าเป็นการ “เหยียด” กันเลยก็ว่าได้ ภาพดังกล่าวมียอดไลก์นับแสน แต่ปัจจุบันรูปภาพเหล่านั้นถูกลบไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ชาวจีนหลายคนก็ยืนยันว่าต้องการให้ Brooklyn ออกมากล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ตัวอย่างคอมเมนต์กล่าวว่า “นี่น่ะเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างแท้จริง เขาเองก็ไม่ใช่ชาวอิตาลี เขาก็เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าพวกเรา มันสูงส่งกว่าชาวเอเชียอย่างพวกเราตรงไหน?” เมื่อโดนกระหน่ำมากๆ เขา Brooklyn ก็ถึงกับล็อกให้อินสตาแกรมของตนเองเป็นโหมดส่วนตัว งานนี้ไม่ใช่แค่หนุ่ม Brooklyn ที่โดนกระหน่ำ ความซวยตกลงไปถึง David และ Victoria…
-
ไม่ย่อท้อแม้ถูกสบประมาท…สาวใส่ขาเทียมประกวด ‘มิสอิตาลี’ ได้รางวัลที่ 3 ไปครอง!!
ความสำเร็จมักจะเป็นของคนที่ไม่ยอมแพ้!! เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ ที่แม้ว่าเธอจะประสบอุบัติเหตุจนเสียขาไปหนึ่งข้าง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อกับความฝันในเส้นทางนางงาม จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 3 คนสุดท้ายในเวทีประกวดมิสอิตาลี (Miss Italia 2018) ได้ในที่สุด!! Chiara Bordi สาวชาวอิตาลีวัย 18 ปี เธอประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เมื่อตอนอายุได้ 13 ปี ทำให้สูญเสียขาซ้ายตั้งแต่ช่วงเข่าลงไป แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น ‘นางงาม’ ของเธอแม้แต่น้อย Chiara ตัดสินใจลงสมัครประกวดในเวที Miss Italia 2018 ในวัย 18 ปี และสามารถผ่านเข้ารอบมาได้จนผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย ณ ตอนนั้นแฟนเวทีประกวดมากมายต่างก็สบประมาทเธอ บอกว่าที่เข้ารอบมาได้เป็นเพราะใช้ ‘ความพิการ’ เป็นตัวเรียกคะแนนความสงสาร แต่เธอก็ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตที่มีความคิดแบบนั้นว่า “แม้ฉันจะเสียขาไป แต่พวกคุณน่ะเสียหัวใจ และสมองไปแล้ว” “การกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง ฉันไม่ได้สนใจในชัยชนะ ฉันเพียงแค่ต้องการแสดงให้โลกได้เห็นว่า ชีวิตยังคงสวยงามแม้ว่าฉันจะต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆ แบบนี้มา” …
-
คลองในเมืองเวนิสแห้งขอด ผลกระทบจากพระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกเป็นเวลานาน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Dailymail รายงานภาพข่าวคลองที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี แห้งขอดจนเหลือแต่โคลนตม เรือไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งได้รับผลกระทบมาจากปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือดและฝนไม่ตกมานาน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูหนาวประกอบกับปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทำให้น้ำในคลองแห่งเมืองเวนิสลดลงจนแห้งขอด เรือกอนโดลาทั้งหลายต้องจอดแน่นิ่งบนพื้นโคลนเพราะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ จากรายงานพบว่าปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่น้ำในคลองเมืองเวนิสแห้งขอด ส่งผลกระทบกับการขนส่งด้วยเรือกอนโดลาที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังมาท่องเที่ยวในเมืองไม่ขาดสาย สวนทางกับอัตราประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ปี 1951 จำนวนประชากรของเมืองเวนิสลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 175,000 คนเหลือเพียง 55,000 คน เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่างทั้ง ราคาที่ดิน อัตราค่าครองชีพ ความเจริญจากการที่กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว การพังทลายของอาคารจากน้ำกัดเซาะทำให้ชาวเมืองดั้งเดิมย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น ภายในคลองแห้งขอด มีแต่โคลนจนเรือไม่สามารถสัญจรไปมาได้ . . ในบางปีเมืองเวนิสก็ประสบเหตุน้ำท่วมบ่อยๆ จากปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงหรือที่เรียกกันว่า Acqua Alta ทำให้ประชากรในเมืองได้รับความเดือดร้อนบ่อยครั้ง เรือกอนโดลาที่ต้องจอดทิ้งไว้เฉยๆ . ที่มา dailymail
-
หมู่บ้านอิตาลีเปิดขายบ้าน 30 บาท หวั่นประชากรหนีหาย และกลายเป็นเมืองรกร้างในไม่ช้า
เวลาที่เราจะซื้อบ้านหรือที่ดินสักแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้วเราจะต้องมีเงินขั้นต่ำกันเป็นล้านบาทถึงจะสามารถซื้อได้ซึ่งเผลอๆ ได้แค่ที่เปล่าๆ ด้วยซ้ำ แต่เคยคิดไหมว่าจะมีคนขายบ้านหลังโตให้ในราคา 30 บาท เพียงขอให้เรามาอยู่ก็พอ!? หมู่บ้าน Ollolai ในประเทศอิตาลีได้ทำข้อเสนอให้คนจากทั่วโลกเข้ามาอาศัยยังหมู่บ้านดังกล่าวด้วยการขายบ้านในราคาเพียงแค่ 1 ยูโร (ประมาณ 38 บาท) เท่านั้น ถูกสุดๆ เลยใช่ไหมละ แต่ใช่ว่าเราจะสามารถซื้อบ้านหนึ่งหลังในหมู่บ้านดังกล่าวแล้วก็ปล่อยดองไว้เฉยๆ ได้หรอกนะ เพราะการซื้อบ้านราคา 1 ยูโรนี้มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ว่า ถ้าคุณซื้อไปคุณจะต้องตกแต่งและซ่อมแซมมันใหม่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ คุณจะต้องใช้งบประมาณ์ขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในการซ่อมแซมและถ้าคุณอยากจะขายต่อ คุณต้องรอ 5 ปีจึงจะสามารถทำได้…ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วทำไมต้องขายบ้านในราคานี้ด้วย คำตอบก็คือ เมืองนี้มันใกล้จะเป็นเมืองร้างแล้วยังไงละ ดูซะ เงียบเหงาขนาดไหน บ้านก็โทรมมากๆ ไม่มีคนดูแลเลย (จริงๆ มันสร้างยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ) คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะว่าภายในระยะเวลาไม่กี่ปีจากเดิมที่หมู่บ้าน Ollolai มีประชากรเหลือเพียง…
-
ทัวร์คลาสเรียนของมหาวิทยาลัย ‘เจลาโต’ ในอิตาลี หนทางสู่เชฟมือหนึ่งด้านไอศกรีม!!
สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทานไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจและชอบการทำขนมทานเองที่บ้าน คุณอาจจะหลงรักมหาวิทยาลัยจากประเทศอิตาลีแห่งนี้ก็ได้ เพราะที่นี่จะทำให้คุณกลายเป็นนักทำไอศกรีมไตล์อิตาลีแบบมืออาชีพได้ภายใน 1 เดือน!! มหาวิทยาลัย Carpigiani Gelato University จากเมืองโบโลญญา ประเทศอิตลาลีแห่งนี้เตรียมเปิดคลาสเรียนที่จะสอนให้คุณกลายเป็น Gelato Master หรือนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ โดยในชั้นเรียนคุณจะได้เรียนรู้ระหว่างความแตกต่างของเจลาโต กับไอศกรีมแบบธรรมดาทั่วไป แถมยังได้ฝึกลงมือปฏิบัติจริงๆ อีกด้วย มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Carpigiani บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือในการทำเจลาโตชื่อดังจากประเทศอิตาลี โดยหลักสูตรการฝึกเป็นนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนมืออาชีพนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเจลาโต 3 สัปดาห์ และฝึกงานในร้านไอศกรีมอีก 1 สัปดาห์นั่นเอง คุณ Samuel Kelerstein เจ้าของร้านขายเจลลาโตที่ Parkland รัฐฟลอริดา หนึ่งในศิษย์เก่าของที่นี่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การเรียนในชั้นเรียนนั้นจะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงการทำเจลาโตแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง พวกเขาช่วยให้ผมเข้าใจถึงกระบวนการต่างๆ และขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังรวมถึงความแตกต่างระหว่างไอศกรีมกับเจลาโตอีกด้วย” ในแต่ละชั้นเรียนจะมีนักเรียนประมาณ 10 ถึง 30 คน และนักเรียนส่วนมากนั้นไม่ใช่ชาวอิตาลี คุณ Kelerstein เล่าว่าเขาเริ่มลงทุนเปิดร้านเจลาโตของตัวเองในปี 2014 หลังจากที่เรียนคอร์สทำเจลาโตที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จบ ซึ่งตัวเขาเองนั้นมาจากครอบครัวของนักทำไอศกรีมจากเม็กซิโก มันจึงทำให้เขาสนใจในการทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยน “มันเหมือนกับการเรียนภาคฤดูร้อนเลย พวกเขามีห้องพักให้คุณ และจะปลุกคุณไปเรียนในทุกๆ…
-
เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ
เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้กับการย้ายบ้านหรือย้ายที่อยู่ ทั้งเรื่องรถขนของ ค่าเช่าบ้านใหม่ ค่าซ่อมแซมอื่นๆ แต่ถ้าคุณได้ย้ายมาที่เมืองนี้รับรองว่าไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินเพียงอย่างเดียว เพราะคุณจะได้รับเงินค่าตอบแทนที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า Candela ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้ให้ข้อเสนอเอาไว้ว่าถ้าหากคุณย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง จะทำให้ได้รับเงินมากกว่า 78,000 บาทเลยทีเดียว . เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะจำนวนประชากรที่ลดลงไปมาก จากที่เคยมีคนอยู่กว่า 8,000 คนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ 2,700 คนเท่านั้นเอง เมื่อคนหายไป ความครึกครื้นมีชีวิตชีวาของเมืองก็หายตามไปด้วย วัยรุ่นหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็หนีไปที่อื่น เหลือไว้เพียงแค่ผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะอย่างนั้นหากปล่อยทิ้งไว้เมืองนี้คงกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน Nicola Gatta นายกเทศมนตรีประจำเมืองจึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เขาจึงคิดข้อเสนอใหม่สำหรับดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กันมากขึ้น สังเกตเห็นได้ว่าในเมืองมีผู้สูงอายุอยู่กันเป็นส่วนใหญ่ ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหาเมืองใกล้ๆ ข้อเสนอนั้นคือการมอบเงินค่าตอบแทนให้โดยแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัว ถ้ามาแบบคนเดียวโสดๆ ก็จะได้รับ 30,000 บาท มากับแฟนได้ 46,000 บาท มาเป็นครอบครัวสามคนได้ 70,000 บาท และถ้าหากมากัน 4 – 5 คนจะได้มากกว่า 78,000 บาทกันไปเลย และยังมีเรื่องของภาษีค่าใช้จ่าย…
-
เรื่องราวของ ‘Lucky Luciano’ ราชามาเฟียแห่งนิวยอร์ก ที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตั้งแต่ยังวัยรุ่น..!!
ไม่ว่าตำรวจโลกจะสามารถปราบราชายาเสพติดไปได้กี่คน ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องมีคนใหม่ขึ้นมาแทนที่เสมอ อาจจะเพราะเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่พร้อมจะหลั่งไหลเข้ามา ดังกรณีของราชายาเสพติดคนอื่นๆ ที่เคยถูกจับไป แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ ‘Lucky Luciano’ ชายผู้ไต่เต้าจากการเป็นเด็กยากจนในสลัม สู่ราชามาเฟียแห่งมหานครนิวยอร์ก ที่ใครต่างก็ยอมก้มหัวให้ Lucky Luciano Luciano ออกมาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ปี 1897 ท่ามกลางความเป็นอยู่อันยากลำบากของครอบครัว ที่ต้องเป็นแรงงานให้กับเหมืองกำมะถัน กระทั่งต่อมาครอบครัวได้รับโอกาสย้ายสัมโนครัวมาอาศัยอยู่บนเกาะแมนฮัตตันในปี 1907 เฉกเช่นเดียวกับครอบครัวชาวอิตาลีคนอื่นๆ ครั้น Luciano เริ่มโตเป็นหนุ่ม เขาก็เลือกเดินเส้นหาเงินจากการเป็นสมาชิกของแก๊งท้องถิ่น โดยในช่วงแรกเขาหาเงินเลี้ยงดูตัวเองจากการรับจ้างเป็นคนปกป้องเด็กชาวยิว ที่มักจะถูกแก๊งอิตาลีและไอริชกลั่นแกล้งอยู่เสมอ จากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับฉายา ‘Lucky Luciano’ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าฉายานี้มาจากไหน แต่หลายคนเชื่อว่าน่าจะมาจากความโชคดีที่รอดชีวิตมาได้หลายต่อหลายครั้งของตัวเขาเอง โดยในปี 1920 เขาเคยรอดชีวิตจากการฆาตกรรมสมาชิกแก๊ง อีกทั้งตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 1916 – 1936 เขาถูกตำรวจจับกุมมากกว่า 25 ครั้ง กระทั่งต่อมาเขาได้รับโอกาสเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊ง ‘Five Points Gang’ ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลสูงที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20…
-
คู่รักเจอแหวนหมั้นที่หายไป 9 ปีก่อน ยังคงตกอยู่ในซอกข้างถนนที่เดิม ที่เคยไปเที่ยวมา..!?
ของใครๆ ก็หวง โดยเฉพาะถ้าเป็นแหวนแต่งงานด้วยแล้ว เราคงไม่มีทางปล่อยให้มันหายแน่ๆ ไม่งั้นเมียด่าตายเลย.. แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่รักจากนิวเจอร์ซีย์ Justin และ Margaret Mussel เมื่อ 9 ปีก่อนพวกเขาเคยเดินทางไปฮันนีมูนกันที่ประเทศอิตาลี Justin และ Margaret และนี่คือแหวนรักของพวกเขา 1.1 กะรัต เรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อระหว่างที่ทั้งคู่กำลังท่องเที่ยวอยู่ใน San Marco dei Cavoti ทางตอนใต้ของอิตาลี จู่ๆ ภรรยารู้ตัวอีกทีก็พบว่าแหวนหมั้นของตัวเอง กลับหล่นหายไปซะแล้ว… ด้วยความที่พวกเขาคิดว่าคงไม่มีวันหาเจอได้อีก ภรรยาจึงตกลงปลงใจที่จะซื้อแหวนวงใหม่ซะเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไป 9 ปี หลังจากที่ทั้งคู่ให้กำเนิดทายาทตัวน้อย พวกเขาก็เลือกที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง “เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เราได้ไปเดินเล่นในเมืองอีกครั้งเหมือนเมื่อ 9 ปีก่อน จู่ๆ ผมก็สังเกตเห็นแสงระยิบระยับออกมาจากรอยแตกข้างถนน พอเข้าไปดูปรากฎว่ามันเป็นแหวนที่เราเคยทำหายไปจริงๆ ด้วย!!” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ พอพวกเค้าเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า.. มันเป็นแหวนที่เคยหายไปจริงๆ …
-
หนุ่มรื้อถอนห้องน้ำ หวังเพื่อจะรีโนเวทใหม่… แต่ดันเจอสุสานโบราณ ที่ซ่อนอยู่ใต้ดินซะงั้น!!
เป็นเรื่องราวการค้นพบที่ไม่มีใครคิดหรอกว่าจะมาเจอกับอะไรแบบนี้ เมื่อ Lucian Faggiano หนุ่มชาวเมืองเลกเซประเทศอิตาลี ได้วางแผนที่จะเปิดร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ทำการซื้อขายตึกแถว 56 Via Ascanio Grandi และก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านได้ก็ต้องมีการปรับปรุงรีโนเวทร้านใหม่ทั้งหมดก่อน ในตอนแรกพวกเขาคิดว่า ใช้เวลาเพียงอาทิตย์เดียวก็คงจะเปิดร้านได้แล้ว แต่กลับไม่เป็นอย่างที่วางแผนไว้ เพราะหลังจากที่พวกเขาได้รื้อถอนห้องน้ำและตั้งใจจะรีโนเวทใหม่ ก็ต้องพบว่าใต้พื้นห้องน้ำเดิมทีเป็นที่ตั้งของสุสานโบราณ ซึ่งหลังจากที่มีการค้นพบดังกล่าว พวกเขาต้องใช้เวลานานกว่า 8 ปี เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่จัดการกับวัตถุโบราณทั้งหมดก่อนจะเปิดร้านได้ ทางนักโบราณคดีได้ชี้ว่า สุสานดังกล่าวน่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคโรมัน โดยในตอนนั้นบริเวณดังกล่าวถูกใช้ชื่อเมืองว่า Sybar ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Lupiae และเปลี่ยนเป็น Lecce ในเวลาต่อมา Giovanni Giangreco หนึ่งในเจ้าหน้าที่โบราณคดีอ้างว่า “การค้นพบภายในบ้านของ Faggiano ในครั้งนี้ นับเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ เพราะสถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้มาตั้งแต่ยุค Messapians ไปจนถึงยุคโรมัน และจากยุคกลางสืบสานไปจนถึงยุคไบแซนไทน์” นอจากนั้นนักโบราณคดียังขุดพบเครื่องปั้นดินเผา และเครืี่องประดับต่างๆ ที่ถูกสร้างมาโดยอัศวินเทมพลาร์ ซึ่งทางประวัติศาสตร์นั้นถือว่าเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่มาก แต่สำหรับพวกเขาที่มีแผนจะเปิดร้านอาหารนั้น นี้กลับไม่ใช่การค้นพบที่ดีซักเท่าไหร่ เพราะทันทีที่รัฐบาลรู้ว่ามีการค้นพบที่นี่…
-
14 ภาพถ่ายหาชมยากจากอิตาลีในยุค 1980 ความคูลสไตล์อิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์
ในช่วงยุค 80 90 นั้น ทุกๆ ประเทศก็ล้วนจะแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละที่ก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเองสุดๆ และปกติเราก็จะเห็นจากบ้านเราหรือไม่ก็อเมริกาเสียส่วนใหญ่ แล้วประเทศอื่นล่ะ? ด้วยเหตุนี้ Charles H. Traub ช่างภาพที่เคยเดินทางไปถ่ายภาพบริเวณถนน La Dolce Vita ก็เลยเอารูปมาให้ดูกันว่าไลฟ์สไตล์ของชาวอิตาลีกันบ้าง ว่าเมื่อช่วงยุค 1980 ยุคที่คนยังไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่มีการเซลฟี่หรือแต่งแฟชั่นล้ำๆ พวกเขาทำอะไรกันนะ? อย่ารอช้าเลย ลองมาดูชีวิตย้อนยุคของคนในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่นเลยดีกว่า… มาภาพแรกก็รู้เลยว่าเมืองแฟชั่นของจริง ดูซะ!! ขนาดคุณย่าคุณยายยังแฟชั่นจัดเต็ม แตงโมจะกี่ยุคก็ยังเป็นผลไม้ดับร้อนชั้นดีเสมอ บ้านเรือนดูดีมีสไตล์ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอทุกยุคทุกสมัย ต้องยอมรับเลยนะที่เขาเรียกว่าเป็นเมืองแฟชั่น เพราะมันมีอยู่ที่จริงๆ ความโรแมนติกก็หาได้ไม่ยากในยุคนั้น เด็กๆ ก็ใช้ชีวิตในแบบของตน ที่สำคัญ เด็กๆ ยังคงออกมาเล่นข้างนอก ต่างจากปัจุบัน มีมุมพักผ่อนสบายๆ เพียบ ส่วนใหญ่ก็เลือกจะออกมาว่ายน้ำกัน …
-
รูปปั้นยักษ์ Apennine แห่งอิตาลี กับหน้าที่ผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้องห้องแห่งความลับภายในนั้น…
ประเทศอิตาลี หนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านผลงานศิลปะที่โด่งดัง บ่อยครั้งที่เรามักจะคุ้นเคยกับชื่อของสถานที่และงานศิลป์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศแห่งนี้เปรียบเหมือนเมืองหลวงแห่งศิลปะเลยก็ว่าได้ และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน เราจะพาทุกคนไปพบกับรูปปั้นของยักษ์ Apennine Colossus ที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์แห่งสวนวิลล่า Villa Medici Pratolino มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว ซึ่งถ้าหากคิดเป็นระยะเวลาก็เกือบๆ 500 ปีเลยทีเดียว!! ทุกวันนี้ Apennine Colossus ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ รูปปั้นยักษ์ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์นี้ เป็นฝีมือการแกะสลักของ Giambologna ปฏิมากรยอดฝีมือจากยุคเรเนซองส์ แต่สิ่งที่เจ้ายักษ์เฝ้านั้นไม่ได้มีแค่อุธยานเท่านั้น แต่มันยังมีห้องลับที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมันเองอีกด้วย ยักษ์ Apennine Colossus ที่กำลังทำท่าทางเหมือนกับจับสัตว์ป่าอยู่ และนี่คือห้องลับที่อยู่ภานในรูปปั้นดังกล่าว ร่องรอยแห่งกาลเวลา ที่ถูกจารึกไปบนพื้นผิวของเจ้ายักษ์ สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางเหนือห่างจากเมือง Florence ประมาณ 10 กิโลเมตร ด้วยขนาดความสูงถึง 10 เมตร ช่วยทำให้รูปปั้นดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม . . เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ เราก็จะเห็นสีหน้าที่จริงจังของยักษ์ ที่กำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง ภาพวาดในสมัยโบราณ ที่ยืนยันว่าเจ้ายักษ์ได้ทำหน้าที่ของมันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว!!…
-
หนุ่มนั่งชิลบนเรือเจอ “นก” ลอยมากับน้ำ คิดว่าช่วยไม่ทันแล้ว… แต่คุณพระมันยังรอดอยู่!!
เป็นเหตุการณ์อันน่าแปลกใจที่เกิดขึ้นกับ Massimo Barberi หนุ่มอิตาลีผู้ชื่นชอบการพายเรือคายัค เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งเจ้าตัวได้ออกไปพายเรือเล่นที่บริเวณทะเลสาบ Comabbio ทางตอนเหนือของอิตาลี และเขาก็ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ลอยมากับน้ำ “หลังจากที่ผมพายเรือเข้าไปดู ก็เห็นว่ามันเป็นนกที่จมมากับน้ำ และผมก็คิดว่าร่างกายมันคงไม่รอดอีกแล้ว” Massimo เล่า เมื่อเจ้าตัวอุ้มมันขึ้นมาจากน้ำ เขาก็พบว่ามันยังไม่ตาย!! สังเกตได้จากจะงอยปากที่พยายามชูขึ้นเพื่อหาอากาศหายใจ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะแง่หนึ่งเขาก็กลัวว่าการช่วยเหลือนกจะทำให้อาการมันแย่ลงกว่าเดิม แต่อีกแง่หนึ่งถ้าหากเขาไม่รีบช่วยมัน มันก็อาจจะตายได้เช่นกัน และเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจที่จะนำมันกลับเข้าฝั่ง “ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นนกเหยี่ยวแดง แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการรีบช่วยชีวิตมัน และผมก็ดีใจมากๆ ที่สามารถทำให้มันกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง” เจ้าของเรื่องเล่า ทันทีที่มาถึงฝั่งเขารีบโทรติดต่อเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รีบหาผ้ามาซับน้ำให้ร่างกายแห้ง และเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าเจ้านกก็เริ่มที่จะสำลักน้ำออกมา จากเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำทำให้คลีนิครักษาสัตว์หลายๆ แห่งในเมืองปิดให้บริการ แต่ด้วยความเป็นห่วงทำให้พ่อหนุ่มตัดสินใจที่จะนำเจ้านกกลับไปดูแลที่บ้าน เช้าวันต่อมาพ่อหนุ่มได้พานกผู้เคราะห์ร้าย ไปตรวจสุขภาพกับเพื่อนผู้เป็นสัตวแพทย์ ทว่าหลังจากเปิดกล่องออกมาพวกเขาก็ต้องได้เห็นภาพที่ชวนให้รู้สึกชื่นใจสุดๆ เป็นภาพของใบหน้าและสายตาอันสดใสของนกที่ได้รับการช่วยเหลือมา จากการช่วยเหลือของพ่อหนุ่มเพียงชั่วข้ามคืนเจ้านกก็กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม และพร้อมจะโบยบินสู่อิสระภาพอีกครั้ง “เช้าวันต่อมาผมพามันไปหาหมอ ทันที่เปิดกล่องออกมามันก็ส่งสายตามาเหมือนพยายามจะขอบคุณ จากนั้นมันก็บินลอยหายไปบนฟ้า เราดีใจมากที่เห็นมันบินได้อีกครั้ง” Massimo เล่า ดูสายตาจากนกน้อยแล้ว…
-
ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด… รู้จักกับคุณตาชาวอิตาลีวัย 70 ผู้มีปริญญาบัตรเยอะที่สุดในโลก!!
จะว่าไปแล้ว…. แค่การเรียนให้จบปริญญาตรีซักใบ สำหรับคนทั่วไปก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะตอนทำวิทยานิพนธ์นี่แหละ หลังจากทำเสร็จแล้วหลายคนถึงกับบ่นในใจว่าชาตินี้ขออย่ามาเจอกันอีกเลยนะเธอจ๋า แต่สำหรับ ‘Luciano Baietti’ คุณตาชาวอิตาลี วัย 70 ปี อดีตครูใหญ่ผู้เกษียณอายุแล้วนั้น เขาเป็นผู้ที่หลงใหล และชื่นชอบการศึกษาเล่าเรียนมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่ว่าเจ้าตัวกวาดปริญญาบัตรมาแล้วทั้งหมด 15 ใบ และถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นคนที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมหา’ลัย มากที่สุดในโลก อู้วววหูววว!!! คุณตา Luciano Baietti สาเหตุที่ทำให้เขาได้ปริญญาบัตรมากขนาดนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะความรักในการแสวงหาความรู้ของตัวเขาเอง ทุกวันยามเช้าเขาจะทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดี คอยดูแลงานบ้าน งานสวน เหมือนคนเกษียณอายุทั่วไป ทว่าทุกวันเวลาประมาณตี 3 เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่หลับใหล คุณตาเลือกที่จะใช้เวลาแห่งความเงียบสงบนี้ไปกับการอ่านตำราเรียน โดยคุณตาอ้างว่า การศึกษาเล่าเรียนเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้สมองของเขาทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะสาขาวิชาไหนก็ตาม… ย้อนกลับไปในช่วงปี 2002 ตอนนั้นคุณตาได้สำเร็จการศึกษาไปแล้วมากถึง 8 สาขาวิชา ประกอบไปด้วย พลศึกษา สังคมวิทยา วรรณกรรม กฏหมาย ปรัชญารัฐศาสตร์ และวิชาที่ว่าด้วยเรื่องทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แต่นั่นก็ยังไม่พอสำหรับคุณตาผู้มีใจรักในการเรียนรู้ เพราะ…
-
เชพอิตาลี สร้างสรรค์ขนมหวาน ให้กลายเป็นงานอาร์ตสุดเจ๋ง สวยจนไม่กล้ากินเลยล่ะ!!
สำหรับงาน “ศิลปะ” แล้ว #เหมียวขี้อ้อนคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากปลายพู่กันเพียงอย่างเดียว แต่ศิลปะเกิดจากจินตนาการสุดล้ำของมนุษย์ และสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งที่สวยงาม และน่าทึ่ง อย่างเช่นผลงานของ Matteo Stucch เชฟ และนักวาดภาพจากมอนซา ประเทศอิตาลีคนนี้ ได้ลงมือทำขนมหวานแสนน่ากินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก ขนมปัง มาการอง ฯลฯ จากนั้นก็นำมาเนรมิตให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่สวยงามแบบนี้… หลังจากที่ทำขนมหวานเป็นฉากสำคัญต่างๆ แล้ว เขาก็ได้นำหุ่นตัวจิ๋วมาต่อเติมเรื่องราวตามจินตนาการของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ จนกลายเป็นงานศิลป์ไอเดียบรรเจิด ที่ไม่ว่าใครได้เข้ามารับชมต่างก็ชื่นชอบ และยกนิ้วให้ “หน้าตาของขนมเป็นสิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับรสชาติขนม” Matteo กล่าว และนอกจากจินตนาการสุดสร้างสรรค์แล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้งานของเขาประสบความสำเร็จก็คือ ความอดทน ที่จะใส่ใจรายละเอียดการทำขนมหวานในทุกๆ ขั้นตอนนั่นเอง นอกจากคุณจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ชอบผลงานเหล่านี้แล้ว ยังมีผู้คนอีกกว่า 35,000 คนใน IG ของเขาก็ชื่นชอบผลงานเหล่านี้เช่นกัน และถ้าหากคุณอยากเป็นหนึ่งในนั้นบ้าง สามารถคลิกเข้าไปติดตาม และชมภาพงานเจ๋งๆ ของเขาอีกเพียบได้ในอินสตาแกรม idolcidigulliver เลยจ้า รับชมผลงานอื่นๆ ของเขาดังภาพด้านล่าง…
-
ภาพถ่ายมุมสูง จากชายหาด Adria ในอิตาลี ถึงจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ก็ยังเป๊ะมีระเบียบได้..!!
อิตาลี เป็นประเทศที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันว่าต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะนอกจากประเทศนี้เขาจะมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ยังมีความสวยงาม และน่าไปเยือน ดังเช่นชายหาด Adria แห่งนี้ บอกเลยว่านอกจากน้ำทะเลใสสะอาด และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว การจัดเรียงร่มผ้าใบ และเก้าอี้ชายหาดของแต่ละโรงแรม ณ สถานที่แห่งนี้ ยังถูกจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีสีสันเฉพาะตัว สร้างความสวยงามให้กับชายหาดเป็นอย่างมาก สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ ถูกถ่ายขึ้นโดย Bernhard Lang ช่างภาพชาวเยอรมนี ผู้เชี่ยวชาญในด้านการถ่ายภาพทางอากาศ ได้ทำการบันทึกภาพถ่ายมุมสูงของสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ขณะที่เขาได้ไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเล จนทำให้เกิดเป็นภาพที่ดูราวกับเป็นศิลปะที่สวยงาม และดูแปลกตา จะว่าไป…จริงๆ แล้ว ชายหาดทุกๆ ที่ก็สามารถจัดสรรร่ม หรือเก้าอี้ชายหาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดังภาพได้ และถ้าคุณอยากเห็นภาพชายหาด หรือทะเลสวยๆ ละก็ ไม่เพียงแต่จะต้องจัดสรรสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นระเบียบเท่านั้น แต่เราจะต้องช่วยกันดูแล ไม่ทำลาย และไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด เพียงเท่านี้ชายหาดของเราก็จะสวยงาม และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนแล้ว นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปรับชมผลงานอีกมากมายของเขาได้ในเว็บไซต์ bernhardlang เช่นกันนะ… ที่มา : thisiscolossal
-
หญิงสาวตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองเพราะ “คลิปหลุด” กลายมาเป็นกระแสความตลกในสายตาคนอื่น
เรื่องราวอันน่าเศร้าใจนี้เกิดขึ้นในปี 2015 หญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Tiziana Cantone จากเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี เธอได้ส่งคลิปที่เธอกำลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเก่าได้ดู และนั่นก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปในทันที คลิปของเธอถูกแชร์ใน WhatsApp และหลังจากนั้นก็เริ่มไปไกลถึงโซเชียลมีเดียอื่นๆ และคลิปนั้นก็ได้กลายมาเป็นมุกตลกที่ยกคำพูดของเธอจากในคลิปมาด้วย ในคลิปเธอได้พูดไว้ว่า “Mi stai facendo il video? Bravo” (แปลได้ว่า “กำลังอัดคลิปเหรอ? ดีเลย”) ซึ่งประโยคนี้กลายเป็นประโยคที่ใช้ในเชิงตลกขบขัน ไม่ใช่แค่คนทั่วไป แต่ระดับบริษัทก็ยังใช้ในการโฆษณาด้วย ซึ่งประโยคนี้ก็ดังมาก ถึงขนาดที่ว่านักฟุตบอลในอิตาลี Paolo Cannavaro และ Antonio Floro Flores ก็ยังเอามาพูดกันในเชิงขำๆ จากเหตุการณ์ที่คลิปหลุดออกไปและกลายมาเป็นกระแสมุกตลกในโลกออนไลน์ ป้าของเธอก็พบว่าหลานสาวกลายเป็นศพด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปีเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจของเมืองเนเปิลส์ก็กำลังสืบสวนถึงสาเหตุการตายของเธอ และทำการสันนิษฐานเอาไว้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย Tiziana Cantone ต้องลาออกจากงานอันเนื่องมาจากผลกระทบที่ตามมาในโลกออนไลน์ และจะต้องมาตามลบความผิดพลาดในเรื่องคลิปของเธอด้วย ดังนั้นเธอจึงจำเป็นที่จะต้องย้ายกลับไปที่เมือง Mugnano เพื่ออยู่กับครอบครัว Cantone ได้ทำเอกสารเพื่อร้องขอไปยัง Google, Facebook ประเทศไอร์แลนด์, Yahoo ของอิตาลี,…
-
แม้จะผ่านไป 2 สัปดาห์ เจ้าเหมียว 2 ตัวก็ยังถูกช่วยเหลือ จากใต้ซากแผ่นดินไหวในอิตาลี!!
จากเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของ เจ้าเหมียว Giga ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อิตาลีนานกว่า 5 วัน มาแล้ว จนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมากว่า 2 สัปดาห์แล้วที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงมากจนทำให้บ้านเมืองที่เคยสวยงามกลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา และทำให้มีผู้คนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเหล่าสัตว์ทั้งหลายด้วย แต่กระนั้น… เหล่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังคงดำเนินการช่วยเหลือผู้คนและเหล่าสัตว์ต่อไป เผื่อว่ายังมีใครที่รอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีก และล่าสุดพวกเขาก็ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวเพิ่มอีก 2 ตัว!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Pietro ถูกช่วยเหลือขึ้นมาจากซากปรักหักพังในเมือง Amatrice หลังจากที่ติดอยู่ข้างใต้ซากมาเป็นเวลานานถึง 15 วันเลยทีเดียว!! ก็ต้องขอขอบคุณมนุษย์ที่เลี้ยงดูเจ้า Pietro นี่แหละที่ไม่ยอมแพ้ ไปขอร้องอ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยตามหามัน แม้จะผ่านมาแล้วถึง 15 วันก็ตาม และในที่สุดพวกเขาก็พบเจอหลังจากที่ลองขุดดูตรงที่บ้านที่เขาเคยอยู่นี่เอง… ประมวลภาพการขุดและค้นเจอเจ้าเหมียว . หลังจากนั้น มันก็ถูกพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์ด้วยสภาพที่ดูย่ำแย่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็จะถูกดูแลรักษาเป็นอย่างดีจนกลับมาหายเป็นปกติได้อีกครั้งอย่างแน่นอน หน่วยกู้ภัยเชื่อว่าที่มันสามารถรอดมาได้นั้น คงเป็นเพราะมันอาศัยการดื่มน้ำฝนที่หยดลอดผ่านช่องว่างของซากปรักหักพัง ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ตอนช่วยเหลือเจ้าเหมียว Pietro ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และไม่กี่วันก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าเหมียวที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเมือง Accumuli ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน โดยเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินผ่านไปมา และพอเจ้าหน้าที่มาถึงมันก็ร้องต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับจะบอกว่า…
-
งานศพหมู่แผ่นดินไหวอิตาลี โลงศพนับร้อยตั้งเรียง แต่มีโลงหนึ่งพิเศษ เพราะเจ้าหมาไม่ยอมห่างไปไหน…
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ‘สุนัข’ เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความซื่อสัตย์ต่อมนุษย์มาก และเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วมากมาย และในครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง ที่เราได้เห็นความเศร้าของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ไร้เจ้านายอันเป็นที่รัก หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในหลายประเทศ ซึ่งที่ประเทศอิตาลีก็ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง จนส่งผลทำให้อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 290 คน ภาพเหตุการณ์หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอิตาลี หลังจากที่แผ่นดินไหวสงบลงภายใต้ซากของปรักหักพังของหมู่บ้าน Pescara del Tronto เจ้าหน้าที่และประชาชนต่างช่วยเหลือกันตามหาผู้รอดชีวิต พยายามเก็บกู้ร่างเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์นี้อย่างเร่งด่วน และนำมารอญาติมาระบุตัวตนที่ยิมแห่งหนึ่งใน Ascoli Piceno หนึ่งในนั้นก็เป็นเจ้านายของสุนัขพันธุ์อิงลิช ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่ชื่อว่าเจ้า แฟลช ตัวนี้ มันไม่ยอมจากไปไหนเลย คอยเฝ้าอยู่เคียงข้างโลงที่บรรจุร่างอันไร้ชีวิตของเจ้านายอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจอย่างมากที่สุด เจ้านายของเจ้าแฟลชนั้นมีชื่อว่า Andrea Cossu วัย 45 ปี ซึ่งในระหว่างที่เกิดเหตุนั้นเขาได้ออกไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่หมู่บ้าน Pescara del Tronto และจากเหตุแผ่นดินไหวก็ได้พรากชีวิตเขาไปจากเจ้าแฟลช หลายคนกังวลใช่ไหม ว่าเจ้าแฟลชจะใช้ชีวิตยังไงต่อ!? อย่างไรก็ตามเจ้าแฟลชก็จะได้รับการดูแลจากภรรยาของคุณ Cossu ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ และความซื่อสัตย์ของมัน ก็คงจะถูกส่งถึงนายมันให้รับรู้อยู่บนสวรรค์แล้วแหละนะ… วิดีโอข่าวอันแสนประทับใจครั้งนี้…
-
เปิดภาพชีวิตสุดชิล ของชาวเมือง Venice แม้เจอกับน้ำท่วมครึ่งน่อง ก็ใช้ชีวิตได้ปกติ!!
ถ้าจะมีสถานที่ใดหรือเมืองใดในโลกนี้ที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมได้แบบใจเย็นและชิลที่สุดในโลก ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเมืองเวนิส ประเทศอิตาลีแน่ๆ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ถือเป็นเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆ งามๆ มากมาย ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวพากันเดินทางไปเที่ยวที่นั่นอยู่ไม่ขาดสาย แต่ถึงจะสวยงามอย่างไรที่นั่นก็มีเหตุอุทกภัยให้ต้องรับมือเหมือนกันนะ ในช่วงฤดูหนาวของทุกๆ ปี ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ต้องเจอกับปรากฏการณ์ที่ชื่อ Acqua Alta ทำให้น้ำท่วมเมืองจนแลนด์มาร์กดังๆ อย่างลาน St Mark’s Square ต้องจมลงสู่ใต้น้ำ แต่ดูเหมือนในปีนี้น้ำจะท่วมสูงกว่าทุกๆ ปี เพราะรายงานล่าสุดบอกว่าท่วมสูงเกิน 1 เมตรไปแล้ว ถึงจะมีปัญหาในเรื่องของการเดินทางไปไหนมาไหน แต่ชาวเมืองก็ไม่ได้หวั่นใจ ยังคงออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน อ่านหนังสือพิมพ์ นัดเจอเพื่อน เดินชิล ทำกิจกรรมต่างๆ แบบปกติ ที่เราคนไทยเห็นแล้วยังอึ้งในความสบายอกสบายใจของพวกเขาเลย ทั้งนี้ปรากฏการณ์ Acqua Alta นั้นเกิดจากการที่น้ำในลากูน (แหล่งน้ำตื้นๆ ที่แบ่งแยกจากทะเลโดยเกาะสันดอน) เพิ่มสูงขึ้น และไหลบ่าเข้ามาในคลองจนล้น ทำให้น้ำทะลักเข้าสู่ทางเท้าเกิดเป็นน้ำท่วมเมืองอย่างที่เห็น แต่เนื่องจากมีการจัดการกับระบบบำบัดน้ำเสียที่ดีมาก ทำให้น้ำใสและแทบจะไม่มีสิ่งสกปรกเลย นี่คือภาพของคุณพ่อกำลังอุ้มลูกสาวไว้ที่หลัง ระหว่างเจอปรากฏการณ์ Acqua Alta เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมปี 2012…
-
ชายหนุ่มลาออกจากงาน เที่ยวยุโรปกับ ‘มะหมา’ ด้วยเรือคายัค 3 ปี 5,000 กิโลเมตร!!
ใครๆ ต่างก็มีความฝันที่อยากจะลาออกจากงานไปใช้ชีวิตที่มันสุขสบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เก็บเงินไปเที่ยวรอบโลกก็คงจะเป็นอะไรที่ฟินไม่น้อยแล้ว แต่อันนั้นอาจจะสวยหรูเกินไปหน่อย วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปรู้จักกับ Sergi Basoli ชายหนุ่มจากเมืองบาเซโลน่า ผู้ที่ลาออกจากงานแล้วพายเรือคายัคกับน้องหมาเที่ยวเป็นระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร การเดินทางของเขาน่าสนใจมากๆ เขาเริ่มจากเมืองที่เขาอยู่ ซึ่งก็คือบาเซโลน่า แล้วเลาะตามชายฝั่งในประเทศไปเรื่อยๆ สู่จุดมุ่งหมายก็คือเมืองซิซิลี ซึ่งระหว่างทางนั้นเขาก็ได้พบกับหมู่เกาะมากมาย และกว่าจะไปถึงก็ใช้เวลา 3 ปี แต่บอกได้เลยว่ามันคุ้มค่ามากๆ อ๊ะ ลืมบอกไปว่าน้องหมาที่ไปด้วยนั้นเขาพบเจอมันระหว่างทางนะ เขาไม่ได้บอกว่าเจอหลังจากออกเดินทางไปนานรึยัง แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ได้พบที่แห่งใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ และเพื่อนอีกหลายพันคนตลอดทะเลเมอดิเตอร์เรเนี่ยน เราไปชมภาพการผจญภัยของเขากันเลย . . . . . . . . . . และนี่ก็คือเส้นทางการเดินทาง รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ทั้งหมด ดูได้จากคลิปนี้เลย ติดตามชีวิตของเขาและเจ้าหมาคู่ใจต่อได้ที่ Instagram อันนี้เลย ที่มา boredpanda
-
ศาลสูงอิตาลีสั่งปล่อยตัวชายไร้บ้านที่ขโมยอาหาร เพราะเขาทำไปเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น…
ไม่รู้ว่าจะเป็นการกระตุ้นการโจรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในประเทศรึเปล่า แต่ล่าสุดถ้าคุณไปยังประเทศอิตาลีและขโมยอาหารล่ะก็ คุณจะได้รับละเว้นการดำเนินคดีทันที หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าคุณไม่มีจะกินจริงๆ !!? เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมือง Genoa ชื่อว่า Roman Ostriakov ถูกจับเพราะขโมยชีสและไส้กรอก มูลค่าราวๆ 4 ยูโร หรือ 160 บาท เพราะว่าเขาหิวมากและไม่มีอะไรจะกิน แต่ก่อนที่เขาจะออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาถูกควบคุมตัวไว้โดยพนักงานทันที Ostriakov นั้น พื้นเพไม่ใช่คนอิตาลี แต่เป็นคนยูเครน หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาถูกสั่งขัง 6 เดือนเต็ม และต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 100 ยูโร หรือ 4,000 บาทด้วยกัน หลังจากที่ศาลสั่งลงโทษ ทางอัยการรัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยื่นอุทรณ์ในคดีดังกล่าว อย่างหนึ่งเพราะการโจรกรรมไม่ได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์เพราะเขาถูกควบคุมตัวได้ก่อน หลังจากนั้นศาลสูงอิตาลีก็เพิกถอนคำตัดสินของศาลที่สั่งขังและปรับเขา หนึ่งในเหตุผลที่ศาลสูงยกเลิกโทษของเขาก็เพราะว่า ปริมาณของที่เขาขโมยมานั้นมีจำนวนน้อยนิดมาก แสดงให้เห็นว่าเขาพยายามนำมารับประทานเพื่อประทังชีวิตไว้เท่านั้น… อันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในอนาคตหลายๆ คนอาจจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการขโมยของรึเปล่า แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคิดถึงในแง่ของมนุษยธรรมแล้วล่ะก็ เขาก็เพียงต้องการอาหารไว้ประทังชีวิตเพียงเท่านั้นไม่ใช่หรือ……
-
เคยเห็นยัง!?! ไปดู Spider-Man เวอร์ชั่นอิตาลีสมัยก่อน บอกเลยว่าโหด มันส์ ฮา
หนึ่งตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็คงหนีไม่พ้นไอ้แมงมุม Spider-Man นั่นเอง ซึ่งภาพยนตร์นั้นก็ได้เอามาสร้างใหม่ถึง 3 ครั้งแล้ว (รวม Civil War ที่กำลังจะเข้าด้วย) แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมาชมสไปดี้ในเวอร์ชั่นที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็เป็นได้ เพราะมันคือไอ้แมงมุมจากประเทศอิตาลีที่มีการดีไซน์ออกมาได้ได้เฟี้ยวสุดๆ เพราะมันก็เก่าพอสมควรแล้ว สไปดี้เวอร์ชั่นนี้ผลิตโดย Alrugo Entertainment ในประเทศอิตาลีประมาณเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเทคโนโลยีอะไรมันก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ เราไปชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้กันเลย เป็นสไปดี้ที่มีร่างกายกำยำดีจริงๆ อีกทั้งฉากต่อสู้นี่ก็โหด นี่ยังไม่รวมฉากขับมอเตอร์ไซค์นะ น่าเอามารีเมคอีกรอบ ฮ่าๆ ที่มา Dario Town
-
แบบนี้ต้องแชร์!! ‘พิซซ่าไข่’ เมนูอาหารสไตล์พื้นบ้านแบบไทยๆ หน้าตาดูดี มีสีสัน น่ากินที่สุด
เรียกได้ว่าถูกคิดค้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้ สำหรับเมนู พิซซ่าไข่ ที่ชื่อดูหรูหราอย่างกับมาจากอิตาลี แต่วิธีทำสไตล์บ้านๆ แบบไทยแท้ งานนี้รับรองว่าคนชอบกินไข่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด และที่สำคัญทางเราก็ต้องขอขอบคุณ คุณมั่นใจ ไทยเจริญ เป็นอย่างมาก ที่ได้อนุญาตให้เราได้นำสูตรพิซซ่าสุดเด็ดมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ไปลองทำตามกัน ส่วนวิธีทำจะเป็นอย่างไรนั้น ไปเริ่มกันเลย สิ่งที่ต้องเตรียม -ไข่ไก่ -ซอสปรุงรส -ปูอัด ไส้กรอก มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เห็ด หรืออะไรก็ได้ตามชอบเลย -ผักต่างๆ เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน หรืออะไรก็ได้ตามชอบ -ซอสพริก หรือซอสมะเขือเทศ -ใบตอง วิธีทำ 1.เริ่มจากเตรียมกระทะก้นแบน ใบตองสด นำไปตั้งบนเตา เตาถ่านหรือเตาแก๊สก็ได้จ้า 2.ตีไข่ลงในภาชนะ แล้วใส่ซอสปรุงรสตามลงไป จากนั้นก็ค่อยๆ เทลงบนใบตองได้เลย 3.กดให้ใบต้องสัมผัสก้นกระทะมากที่สุด อย่าให้ใบตองแตก เพราะไข่อาจจะไหลลงไปติดกระทะ 4.จากนั้นเติมเครื่องลงไป เช่น ปูอัด ไส้กรอก มะเขือเทศ หอมใหญ่ เห็ด…
-
ชมร้านอาหารในประเทศอิตาลี ที่ตั้งอยู่ “ภายใน” ถ้ำสุดอลังการ เห็นแล้วอยากไปเยือนซักครั้ง!!
การเลือกร้านอาหารดีๆ ซักร้านเพื่อรับประทานอาหารกับคนที่คุณรัก ถือว่าเป็นเรื่องอันแสนอภิรมย์อย่างหนึ่ง ลองนึกภาพทานข้าวใต้แสงเทียน ในบรรยากาศหรูหราดูสิ จะมีความสุขขนาดไหน แต่ถ้าร้านอาหารห้าดาวบนตึกสูงยังไม่น่าตื่นตาพอสำหรับคุณล่ะก็ วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมร้านอาหารสุดหรูที่ตั้งอยู่ในถ้ำ ที่รับรองว่าเห็นแล้วเพื่อนๆ จะต้องตะลึงอย่างแน่นอน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารของโรงแรม Grotta Palazzese โรงแรมสี่ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Polignano ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้เปลี่ยนถ้ำหินปูนโบราณตรงนี้ ให้กลายเป็นร้านอาหารสุดหรู ภายในร้าน ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นวิวทะเล Adriatic ได้จากโต๊ะเลยทีเดียว งดงามใช่มั้ยละ ราคาของโรงแรมนี้ก็ไม่ได้แพงมาก โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาทถึง 5,000 บาทต่อคืนเท่านั้นเอง เห็นแล้วอยากจะไปเยือนซักครั้งจริงๆ สวยงามอลังการมากๆ ใครที่มีแผนไปเที่ยวอิตาลี ก็ลองไปเที่ยวซักครั้งนะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้เหมียวฟังบ้างล่ะ อิอิ ที่มา Boredpanda
-
เอ๊ะ ยังไง!? ทีมฟุตบอลอิตาลีเซ็นสัญญาว่าจ้างอดีตดาวโป๊ ให้เข้าร่วมทำงานกับสโมสร
ในข่าวคราววงการลูกหนังนั้น โดยปกติส่วนมากแล้วหากมีการเซ็นสัญญาเปลี่ยนผู้คุมทีม ซื้อตัวผู้เล่นหรืออะไรต่างๆ นั้นก็มักจะเป็นคนในวงการค้าแข้งใช่มั้ยเอ่ย? แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกำลังจะหมุนไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สโมรสรฟุตบอลอิตาลีได้ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างดาวโป๊เข้าร่วมทำงานด้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดและไม่เคยเจอมาก่อน เพราะว่าเป็นการนำคนนอกวงการเข้ามามีส่วนร่วมในบทบาทการบริหารสโมสรฟุตบอล โดยอดีตดาวโป๊อิตาลี Sara Tommasi วัย 34 ปี กำลังจะเปลี่ยนบทบาทของตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมในวงการลูกหนังแล้ว โดยสโมสรที่ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างเธอนั้นเป็นสโมสรฟุตบอลสมัครเล่นของอิตาลี นามว่า Marruvium ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาเป็นอย่างทางการว่าเธอจะเข้ามาทำในหน้าที่อะไร ตำแหน่งไหน มีความรับผิดชอบอย่างไรบ้างกับสโมสร แต่คาดเดากันว่าน่าจะเป็นผู้จัดการทีม ทางด้านประทานสโมสร Romeo D’Amore รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อีกทั้งยังทิ้งท้ายไว้ว่า ‘ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก พวกเราจริงจังกับเรื่องนี้ และ Sara จะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง’ โอ้โห มั่นใจขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นแผนกระตุ้นนักเตะรึเปล่านะ!? แหนะๆๆ หนุ่มๆ ที่ได้อ่านข่าวนี้เสร็จ เหมียวรู้นะว่าจะไปไหนต่ออ่ะ รีบเอาชื่อ Sara ไปค้นหากันตั้งแต่ยังอ่านไม่จบเลยมั้ง ฮ่าฮ่า!! เอาเป็นว่า ยังไงก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปละกัน ว่าเธอจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรในสโมสรฟุตบอลสมัครเล่นนี้ ที่มา :…
-
ความลงตัวระหว่างเมืองกับธรรมชาติ อพาร์ทเม้นท์แห่งแรกในโลกที่ปลูกต้นไม้บนอาคาร!!
ท่ามกลางความเจริญของถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ที่พัฒนาขึ้นจากชุมชนเล็กๆ แบบหมู่บ้านตามชนบทเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเมืองที่ใหญ่มากขึ้น แต่สิ่งที่หายไปนั่นก็คือธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ต่างๆ จะเห็นได้ว่าตามอาคารสูงๆ หรือตึกต่างๆ แทบจะไม่มีต้นไม้เลย ด้วยเหุตนี้เอง สถาปนิกชาวอิตาลี Stefano Boeri จึงได้สร้างนวัตกรรมใหม่ของการออกแบบอาคารร่วมสมัยให้เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยการสร้างอพาร์ทเม้นท์ที่มีความสูงถึง 117 เมตร ภายในเมือง Lausanne ประเทศ Switzerland สำหรับอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ จะเป็นอพาร์ทเม้นท์แห่งแรกในโลกที่มีการปลูกต้นไม้จริงๆ อยู่บนอาคาร ส่งเสริมธรรมชาติท่ามกลางชีวิตแบบชาวเมือง ภายใต้ชื่อ La Tour des Cedres (The Tower of Cedars) โดยจะมีต้นไม้ทั้งหมดประมาณ 100 ต้น พุ่มไม้อีก 6,000 พุ่ม และพืชเล็กๆ อีก 18,000 ชนิด กระจายทั่วพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ทั้งนี้พืชสีเขียวทั้งหลายจะช่วยปกป้องอาคารจากลมแรง ฝุ่น และมลพิษทางเสียง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมุมมองสีเขียวภายในเมืองอีกด้วย…
-
นักท่องเที่ยวรัสเซียจับภาพ “พายุนาคเล่นน้ำ” ขนาดใหญ่ราวกับ CG ได้ที่อิตาลี
นาคเล่นน้ำ หรือพวยน้ำ (ภาษาอังกฤษคือ waterspout) คือปรากฏการณ์ที่น้ำถูกพายุทอร์นาโดดูดขึ้นไปเป็นเกลียว ส่วนมากจะเกิดขึ้นในประเทศแถบเขตร้อน แต่ก็เคยมีรายงานว่าเคยเกิดที่ที่มีอากาศปานกลางและยุโรปเช่นกัน และเมื่อไม่กี่วันมานี้ นักท่องเที่ยวชื่อว่า Evgeny Drokov ชาวรัสเซีย ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่เมือง Genoa ประเทศอิตาลี ในเวลาเช้า เขาก็ได้พบเห็นกับพายุทอร์นาโด หรือที่เรียกกันว่า “นาคเล่นน้ำ” เขาจึงถ่ายภาพเก็บมา เขาอยู่บนโรงแรมสูง และภาพที่เขาถ่ายได้นั้น พายุห่างเขาไปประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น เขาได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตจริงๆ” ยังมีรูปอีกมากมายที่เขาได้โพสต์ลง ตามไปดูได้ที่ flickr.com ที่มา thepuffington
-
ชาวเน็ตจวก!! สร้างหอเอนปิซ่าขนาดเท่าของจริงที่เขาใหญ่ สร้างทัศนอุจาด-ก็อปเมืองนอก
เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊คเพจ Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ ได้มีการเผยแพร่ภาพงานก่อสร้างหอเอนปิซ่า ขนาดเท่าของจริงที่กำลังก่อสร้างกันที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า 35% ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หอเอนปิซ่า เท่าของจริง แห่งแรกของเมืองไทย!! เร็วๆ นี้ที่ Toscana Valley เขาใหญ่ โคราช แห่งเดียวเท่านั้น” แต่หลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลอกเลียนหอเอนปิซ่าของอิตาลีว่า นายทุนกำลังไปผิดทาง เพราะที่เขาใหญ่มีเอกลักษณ์ที่สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบต่างประเทศ แถมยังมีการบอกด้วยว่าสถาปัตยกรรมดังกล่าวถือเป็นทัศนอุจาด (Visual Pollution) นอกจากนี้ยังมีความเห็นหนึ่งได้ต่อว่าทีมงานก่อสร้างไว้ว่า “นับวันจะยิ่งเหมือนพี่จีน ก็อปปี้โน่นี่เต็มไปหมด ความเป็นไทยไม่เหลือแล้ว ฝรั่งมาบ้านเราอยากดูความเป็นไทยแต่ไหงเจอหอเอนปิซ่า โอ้มายก้อด” ที่มา Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ , kapook
-
ไปดูกันว่า ชายหนุ่มที่หล่อที่สุดในอิตาลีประจำปี 2015 จะแซ่บขนาดไหน!!
หลายๆคนคงคุ้นเคยกับการประกวดหญิงงามกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราเอง ก็มีรายการแบบนี้ถึง 3-4 รายการ ไม่รวมรายการย่อยๆอีกมากมาย แต่รู้หรือไม่ ในบางประเทศ นอกจากการประกวดหญิงงามแล้ว พวกเขายังมีการประกวดชายงามอีกด้วย อย่างเช่นประเทศอิตาลี ในทุกๆปีเขาจะมีการประกวด Mister Italia และในปี 2015 ก็เพิ่งมีการประกวดไป แล้วผู้ที่ชนะคือชายหนุ่มจากเมือง Udine นามว่า Alessandro Bivi ผู้นี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 23 ปีคนนี้มาพร้อมกับความสูง 184 เซนติเมตร เขาชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก และใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงมืออาชีพ ไปชมกันเลยว่า จะแซ่บขนาดไหน อื้อหืออ แซ่บจริงๆ เหมียวเห็นแล้วหวั่นไหวเลย…แบบว่าอยากมีกล้ามแบบเนี้ยอ่ะ จริงๆนะ… ที่มา concorsomisteritalia
-
นักแสดงหญิงอิตาลี โชว์ฉีกขากลางรายการสดแต่พลาด แบบนี้ก็ฮาสิครับ!!!!
จริงเหมียวก็รู้นะว่าการหัวเราะในความผิดพลาดของผู้อื่นเป็นเรื่องไม่ดี แต่อันนี้เหมียวกลั้นขำไม่ไหวจริงๆ เมื่อนักแสดงหญิงชาวอิตาลี Lisa Fusco ไปออกรายการทอล์คโชว์ MezzoGiornio Italiano เมื่อสัปดาห์ก่อน และเธออยากโชว์ฉีกขากลางรายการ โชคร้าย ไม่รู้เธอไม่ได้ซ้อมมานานหรือว่าลงผิดท่าก็ไม่ทราบ จังหวะที่เธอฉีกขาปุ๊บ เธอไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย ไปชมคลิปเต็มๆกันเลย ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือหัวเราะก่อนดีจริงๆ แถมรายการที่เธอไปออกเป็นรายการสดซะด้วย ยังไงก็ตามแต่เหมียวขอเป็นกำลังใจละกัน แต่ตอนนี้ไม่ไหวละ ขอไปขำก่อนนะ 555555 ที่มา magic news
-
14 เมนูอาหารจากหลายประเทศทั่วโลก ที่ขึ้นชื่อได้ว่า ‘ใหญ่ที่สุดในสามโลก’ กันเลยทีเดียว
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ในวันนี้เราได้หยิบเอา 14 เมนูอาหารจากหลายๆ ประเทศ ที่ขึ้นชื่อได้ว่าใหญ่ที่สุดในสามโลกมาให้ได้ชมกัน ขอบอกเลยว่าแต่ละเมนูนั้นมีขนาดใหญ่จริงๆ แถมบางเมนูก็หนักเป็นพันๆ กิโลกรัมอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูกันว่า 14 เมนูที่ว่านี้ จะใหญ่ขนาดไหนกันเชียว 1.Salsa จากอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 3,306 กิโลกรัม เยอะไปไหนเนี่ย!! 2.Sandwich จากอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมยังหนักถึง 1,149 กิโลกรัมเชียวนะ 3.รูปปั้นช็อกโกแลต จากอเมริกา ที่หนักถึง 8,253 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว 4.แฮมเบอร์เกอร์ยักษ์ ที่หนักถึง 351 กิโลกรัม แถมยังมีขายจริงในอเมริกาอีกด้วย 5.Chocolate Truffle จากอิตาลี ที่หนักถึง 800 กิโลกรัม 6.Crab Cake ที่ใหญ่ที่สุดในโลกส่งตรงจากอเมริกา แถมยังหนักถึง 136 กิโลกรัมเลยนะ 7.Falafel…
-
จะร้อนอะไรขนาดนั้น!! อากาศในอิตาลีร้อนจัด จนอะไหล่รถยนต์ละลาย!?
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่ภาพสุดเหลือเชื่อของรถคันหนึ่งในประเทศอิตาลี ขณะกำลังละลายเพราะสภาพอากาศอันร้อนระอุที่แผ่ปกคลุมไปทั่วยุโรป ภาพดังกล่าวถูกถ่ายไว้ได้โดยนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ชื่อว่า John Westbrook วัย 48 ปี ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเมือง Caorle ประเทศอิตาลี แต่ในระหว่างการพักผ่อนของเขา กลับเหลือบไปเห็นรถยนต์คันหนึ่ง ที่อะไหล่รอบๆรถกำลังละลายต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่ไฟหน้า ไฟท้าย ไปถึงถึงขอบพลาสติกที่ติดอยู่รอบรถ ตามคำให้สัมภาษณ์ของนาย John บอกว่าเขาได้เดินทางไปเที่ยวในอิตาลีได้ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่อากาศร้อนสุดๆ ซึ่งในวันที่เขาเจอรถคันนี้ สามารถวัดอุณหภูมิได้ 37 องศาเซลเซียส ตามรายงานยังบอกอีกว่าหลังจากที่อิตาลีต้องประสบกับอุณหภูมิที่ร้อนจัด ทำให้ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 140 ราย ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีรายงานว่าฟาร์มแห่งหนึ่งลงทุนเปิดแอร์ให้กับสัตว์ที่เลี้ยงไว้อีกด้วย ที่มา mirror
-
ช็อตเดียวก็เกินพอ!! สื่ออิตาลีจับมือยูนิเซฟคลอดแคมเปญแห่งปี รณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน!!
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนที่เรารัก ซึ่งวิธีที่จะหยุดยั้งความรุนแรงได้ ก็คงต้องเริ่มจากทัศนคติของตัวเราก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และถ้าพูดถึงวิธีการหยุดยั้งความรุนแรงในวงกว้าง เหมียวการออกแคมเปญเจ๋งๆ และใช้สื่อเป็นตัวช่วยในการเผยแพร่ก็ถือเป็นวิธีที่ดีเลยหละ ว่าแล้วมาดูตัวอย่างเจ๋งๆ ของการร่วมมือของยูนิเซฟและสื่อมวลชนอิตาลีกันเลยดีกว่า!! นี่คือ ‘One shot is enough’ หรือ ภาพเดียวก็เกินพอ ที่เราจะเรียกว่าเป็นแคมเปญแห่งปีที่ควรส่งต่อก็ว่าได้ เพราะพวกเค้าทำเพื่อยุติความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนกับเยาวชนให้ได้ผล เริ่มจากที่องค์การยูนิเซฟอิตาลีหาข้อมูล สอบประวัติ และผลพิสูจน์ต่างๆ จากตำรวจ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ แล้วพบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เมื่อเด็กผู้ถูกกลั่นแกล้งโดนนำคลิปวิดีโอ หรือภาพไปเผยแพร่ประจานให้ยิ่งอับอายและหาทางออกไม่ได้ จนเด็กบางคนไม่ยอมกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ย้ายที่เรียน ถึงขั้นว่าให้พ่อแม่สอนหนังสือที่บ้านไปเลยก็มี โดยส่วนที่หนักและน่าเห็นใจที่สุดก็คือ ถ้าปมในใจของเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้มันยากเกินจะเยียวยาแก้ไข ก็จะทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองอีกด้วย… T_T ที่มา UNICEF, postjung
-
หมู่บ้านเล็กๆ ใน Sicily บรรยากาศดีไม่พอ ใจดีแจกบ้านให้อยู่ฟรีอีกต่างหาก!!
หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นปกครองตนเองแห่ง Sicily ประเทศอิตาลีเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย มีผู้คนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้โดยมีชื่อหมู่บ้านว่า Gangi รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับในฝันเลยล่ะ!! แต่เนื่องจากประชากรที่อยู่ในหมู่บ้าน Gangi นั้นกลับมีจำนวนลดลงและมีทีท่าว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จากที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 16,000 คน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 7,000 คน เท่านั้นเอง ด้วยเหตุผลทางด้านธุรกิจ ที่ไม่มีการลงทุนอะไรมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้ จึงทำให้เศรษฐกิจของหมู่บ้านซบเซา ผู้คนเริ่มอยู่ไม่ได้จึงทำการย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน บ้านหลายหลังถูกทิ้งให้กลายเป็นบ้านที่ว่างเปล่า ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ เหล่าผู้แทนของหมู่บ้านเล็งเห็นถึงปัญหานี้ ถ้าหากว่าปล่อยให้ผู้คนทิ้งบ้านเรือนไปเรื่อยๆ หมู่บ้านแห่งนี้ก็คงจะร้างภายในไม่กี่ปีอย่างแน่นอน ก็เลยออกประกาศแจกบ้านให้ฟรีๆ สำหรับบุคคลที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำบ้านไปเปลี่ยนเป็นธุรกิจโรงแรม หรือเพื่ออยู่อาศัยก็ได้ทั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะได้มาแบบฟรีๆ โดยที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยนะ อย่างแรกเลยก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีนั้นจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว!! อย่างที่สองก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีจะต้องนำเสนอแบบแผนหรือโครงการปรับปรุงสถานที่นั้นภายใน 1 ปีหลังจากการซื้อบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากที่นำเสนอโครงการหรือแบบแผนการปรับปรุงสถานที่แล้ว จะต้องดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 3 ปี…