Tag: อิหร่าน
-
เอาเรื่อง… หญิงถูกห้ามเข้าสนามบอล จำใจต้องแปลงกายเป็นชาย เพื่อเข้าเชียร์ขอบสนาม!!
ด้วยวัฒนธรรมและกฎระเบียบข้อปฏิบัติของแต่ละประเทศ บางสิ่งบางอย่างที่เรามองว่าเป็นเรื่องทั่วไป ใครๆ ก็มีสิทธิ์ทำได้ กลับแตกต่างจากประเทศอิหร่านอย่างสิ้นเชิง โพสต์ต้นเรื่องดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ Reddit พร้อมกับรูปภาพของแฟนบอลที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ชาย นั่งเรียงกันอยู่ 5 คน ซึ่งทั้งหมดนั้นคือผู้หญิงแท้ๆ!! ภาพดังกล่าวถ่ายมาจากสนามกีฬาอะซาดี เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นช่วงเฉลิมฉลองถ้วยของสโมสร Persepolis ที่สามารถคว้าอันดับที่ 11 ของลีคอิหร่านมาได้ และแน่นอนว่าทางสนามมีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าร่วมแมตช์หรือกิจกรรมใดๆ ของฟุตบอลชายเลย จากข้อมูลของเว็บไซต์ Daily Sabah รายงานว่า มีผู้หญิงประมาณ 35 ราย พยายามเข้าร่วมการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ระหว่างสโมสร Esteqlal และ Persepolis ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางด้าน จันนี อินฟันตีโน ประธานฟีฟ่าผู้อยู่ในประเทศอิหร่าน ณ ช่วงเวลานั้นได้เข้าร่วมชมเกมฟุตบอลในครั้งนั้นด้วย และมีรายงานว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญาจากประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานี ที่จะอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมชมฟุตบอลในสนามได้ในอนาคต แต่ทว่าในช่วงนี้ผู้หญิงชาวอิหร่านก็ยังคงต้องแปลงร่างเป็นผู้ชายเพื่อเข้าร่วมเชียร์ถึงขอบสนามไปก่อน อย่างเช่นผู้ใช้อินสตาแกรม zeinab_perspolisi_ak8 ที่ได้โพสต์รูปของตัวเธอเองแต่งหน้าให้เป็นผู้ชายครึ่งซีก แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอิหร่านต้องพยายามขนาดไหนที่จะเข้าไปดูบอล! …
-
อิหร่านแบนภาษาอังกฤษ ไม่ให้สอนในโรงเรียนประถมเพราะถือเป็นวัฒนธรรมจากตะวันตก!?
ภาษาอังกฤษนั้นถือได้ว่าเป็นภาษาสากลในการใช้ติดต่อสื่อสารกับนานาประเทศ ดังนั้น หลายๆ ประเทศกำหนดให้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นในประเทศอิหร่าน เพราะผู้นำระดับสูงหลายคนเห็นว่าการสอนภาษาอังกฤษนั้นถือเป็นการเปิดโอกาสให้ชาติตะวันตก บุกรุกทางวัฒนธรรม ดังเช่นที่นาย Ayatollah Ali Khamenei ได้กล่าวไว้ว่า “ไม่ใช่เป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพียงแต่มันจะทำให้วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาให้เด็กๆ และวัยรุ่นซึมซับมากขึ้น” นาย Mehdi Navid-Adham รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษากล่าวเพิ่มเติมว่า “การสอนภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการในโรงเรียนประถมนั้นถือว่าผิดกฎหมายและข้อบังคับ เนื่องจากโรงเรียนประถมจะต้องปูพื้นฐานวัฒนธรรมของอิหร่านให้แก่นักเรียนเสียก่อน” นาย Khamenei ยังกล่าวอีกว่า “ชาวตะวันตกใช้วิธีการง่ายๆ แต่ได้ผลดีเช่นการเผยแพร่วัฒนธรรมให้แก่เด็กๆ และเยาวชน แทนการล่าอาณานิคม” จากนั้นหนึ่งสัปดาห์จึงเกิดการประท้วงขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน มีจำนวนผู้เสียชีีวิต 22 ราย และถูกจับมากกว่า 1,000 ราย การเดินขบวนประท้วงแพร่กระจายไปมากกว่า 80 เมืองและแถบชนบทในอิหร่าน ทำให้คนหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานออกมาแสดงถึงความไม่พอใจต่อภาครัฐในเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง ภาวะตกงาน และการขยายความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ว่าประเทศไหนการศึกษาก็ถือว่าจำเป็น โดยเฉพาะความรู้ที่มิได้มีอยู่แต่ในประเทศของตน ภาษาอังกฤษจึงเป็นกุญแจที่จะเปิดออกไปสู่ความรู้เหล่านั้นได้ ที่มา: Dailymail
-
ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017
เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูดใกล้กับชายแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมือง Sarpol-e Zahab ในประเทศอิหร่าน และทางตอนเหนือของแหล่งที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ดในประเทศอิรัก สำนักงานข่าว Reuters ได้รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการกระทบกันของชั้นเปลือกโลกจนเกิดเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ทำให้ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 406 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 7,185 คน ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว เราได้ประมวลภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้เห็นถึงความรุนแรงของมัน การเข้ามาช่วยเหลือจากหลายฝ่าย รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยและคนที่ตนเองรักไปอย่างน่าเศร้า สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง Sarpol-e Zahab ต้องพังทลายลงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน คนที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังภายในเมือง Darbandikhan ในเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก ทีมช่วยเหลือพยายามตามหาผู้รอดชีวิตภายในเมือง Sarpol-e-Zahab โดยใช้การดมกลิ่นของสุนัข ภาพนี้ถูกถ่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 แสดงให้เห็นถึงความเสียใจของชายคนนี้ที่อยู่ในเมือง Sarpol-e-Zahab ญาติของผู้จากไปภายในเมืองเดียวกัน ที่ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งก่อสร้างภายในเมืองแทบจะพังพินาศไปทั้งหมด และในตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อคก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและรีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ 4 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน แต่ในสามครั้งก่อนนั้นมีจำนวนการตายแค่ไม่เกินเลข 1 หลักเท่านั้น และภาพด้านล่างนี้ก็คือผลกระทบอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง Darbandikhan …
-
จากเอเชียสู่ตะวันออกกลาง คลับนินจาหญิงแห่งอิหร่าน ฝึกฝนตนเพื่อตอบโต้ในยามศึกสงคราม!!
ใครบอกว่านินจาจะมีแต่ฝั่งญี่ปุ่น มาตอนนี้กองกำลังนินจาหญิงติดอาวุธจะเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศอิหร่าน…แถมไม่ได้มาเล่นๆ พวกเธอเอาจริงฝึกหนักจัดเต็มและใช้ได้จริง!! กองกำลังนินจาดังกล่าวเป็นคลับของเหล่าสาวๆ ชาวอิหร่านที่อยากจะเข้าร่วมกองทหารแต่ว่าพวกเขาไม่เปิดรับผู้หญิง แถมสำหรับผู้ชายก็ยังจำกัดแค่คนที่มีอายุ 18 เท่านั้น ที่สำคัญยังมีเวลาประจำการแค่ 18 เดือน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในยามศึกสงคราม ด้วยเหตุนี้คลับนินจาสาวดังกล่าวจึงตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1989 และตั้งอยู่บริเวณปราสาท Jughin ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองเตหะรานไปถึง 40 กิโลเมตร ส่วนจุดประสงค์ของคลับนั้นก็ตั้งมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเธอเป็นกองกำลังที่ทรงพลังและใช้ได้จริงๆ Fatima Muamer ผู้ฝึกสอนวิชานินจาได้บอกว่า การฝึกวิชานินจาดังกล่าวจะเช่นเพิ่มความสามารถให้กับสาวๆ ทั้งด้านรูปลักษณ์ สมดุลของร่างกายจิตใจและความคิด เธอยังบอกอีกว่าส่วนสำคัญที่สุดในการฝึกวิชานินจากคือ การให้เกียรติและความเป็นมนุษย์ . เซนเซย์ (อาจารย์) Akbar Faraji ถือเป็นคนแรกที่ก่อตั้งคลับนี้ขึ้นมาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ซึ่งได้สั่งสอนนักเรียนในคลับให้ใช้อาวุธสังหารมากมาย รวมถึงการฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง รวมถึงการเรียนรู้ให้เคารพในตัวเองและวิชาที่เรียนอยู่ เซนเซย์ Akbar บอกว่าแม้จะเรียกว่าวิชานินจา แต่เราไม่ได้เรียกนินจาหญิงว่านินจาหรอก สำหรับนินจาหญิงจะใช้ชื่อเรียกว่าคุโนอิจิแทน และผมต้องมั่นใจว่าการสอนพวกเธอทั้งหมดจะมีประโยชน์ รวมถึงไม่ใช้เอาไปทำร้ายคนบริสุทธิ์ เพราะอาวุธและวิชาที่เราฝึกกันมันสามารถฆ่าคนให้ตายได้ทันทีนั่นเอง วิชาที่พวกเธอเรียนก็เหมือนกับนินจาญี่ปุ่นจริงๆ การกระโดด ปีนกำแพง…
-
หนุ่มอิหร่านที่หน้าเหมือน “เมสซี่” มากเกินไป ถึงกับสร้างความโกลาหลในเมืองมาแล้ว!!
จะว่าไปแล้วถ้าเราเกิดมาหน้าตาเหมือนคนดังระดับโลกแบบเป๊ะๆ ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีอย่างเดียว เพราะบางทีมันก็ข้อเสียของมันอยู่เหมือนกัน เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นกับพ่อหนุ่มชาวอิหร่าน Reza Parastesh ชายผู้เกิดมาหน้าตาละม้ายคล้ายเมสซี่ นักฟุตบอลชื่อดังแบบเป๊ะๆ จนกลายมาเป็นความโกลาหลในที่สุด เทียบหน้าตาดูซะก่อน อะไรมันจะเหมือนได้ขนาดนั้น ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกพ่อของตัวเอง ทักว่าหน้าตาคล้ายกับนักฟุตบอลชื่อดังของทีมบาร์เซโลน่า นั่นทำให้เจ้าตัวเริ่มลองไว้ผมในทรงเดียวกับเมสซี่ และไว้หนวดเคราเช่นเดียวกับเขา ซึ่งพอลองไว้จริงๆ มันก็ยิ่งเหมือนกับเมสซี่ตัวจริงมากขึ้นไปอีก… ภาพจากเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ทดลองแต่งตัวให้เหมือนกับเมสซี่ (ไว้เคราก็เหมือน) จากนั้นก็ทำเป็นเดินเล่นชิคๆ คูลๆ อยู่ในกรุงเตหะราน ด้วยความที่มันเหมื๊อนเหมือน เจ้าตัวเลยตีเนียนด้วยการเอาลูกบอลมาเป็นพรอพเสริมซะเลย ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ชาวเมืองต่างก็เข้ามาถ่ายรูปให้ความสนใจด้วยกันทั้งนั้น ‘ตอนนี้ผู้คนมองเห็นว่าผมเป็นเหมือนเมสซี่ เวอร์ชั่นอิหร่านไปซะแล้ว มีสื่อหลายเจ้าติดต่อผมไปสัมภาษณ์ บ้างก็ติดต่อไปออกรายการ และพวกเขาก็อยากให้ผมเลียนแบบทุกอย่างที่เป็นเมสซี่’ หนุ่มหน้าเหมือนเล่า ทว่าอันที่จริงพ่อหนุ่มอิหร่านเค้าเตะบอลไม่เซียนเท่า ทำให้เจ้าตัวต้องฝึกเรียนรู้ทริคเดาะบอลเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้เรียกเสียงฮือฮาคนดู เวลาไปออกรายการ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ถึงแม้เขาจะเป็นเมสซี่ตัวปลอม แต่ด้วยความเหมือนอย่างไร้ที่ติ (อาจจะอวบกว่านิดหน่อย) ทำให้เวลาไปไหนมาไหนผู้คนต่างก็แห่แหนกันเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย จนถึงกับเคยเกิดเหตุการณ์กลายเป็นความโกลาหล รถติดยาวนานหลายชั่วโมง…
-
23 ภาพแฟชั่น ‘ผ้าคลุมฮิญาบอิหร่าน’ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่แพ้แฟชั่นแบบนิวยอร์กเกอร์!!?
เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่าทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของทุกปีจะถูกจัดว่าเป็น ‘วันฮิญาบโลก’ ซึ่งวันเฉลิมฉลองนี้ถูกก่อตั้งครั้งแรกก็เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี้เอง จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสวมฮิญาบตามธรรมเนียมของชาวอิสลาม ผ้าคลุมฮิญาบตามหลักศาสนาอิสลาม และในประเทศอิหร่าน หรือชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เราคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่นี่เขาได้จัดให้อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แน่นอนว่ามีกฎหมายเกี่ยวกับการสวมผ้าคลุมฮิญาบของผู้หญิงด้วย คนภายนอกอย่างเราๆ อาจจะเผลอคิดได้ว่าผู้หญิงที่นี่เค้าคงดูไม่มีความสุข เพราะต้องอยู่กับกฎระเบียบที่ไม่เท่าเทียมกันทางเพศ ผ้าคลุมฮิญาบในยุคสมัยใหม่ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดแบบเดิมๆ แต่เปล่าเลย!! เพราะถึงแม้ว่าจะมีจารีตประเพณีตามศาสนาแบบดั้งเดิมอยู่ แต่สำหรับที่กรุงเตหะรานแห่งนี้ เชื่อไหมว่าความเก๋ไก๋แบบโลกสมัยใหม่และผ้าคลุมฮิญาบตามความเชื่อดั้งเดิม สามารถมาบรรจบกันได้อย่างลงตัว จนออกมาเป็นภาพแฟชั่นสุดชิคที่เราเอามาให้ดูทั้งหมดนี้ต่างหากล่ะ บอกแล้วไงว่าแฟชั่นแต่ละคนหน่ะ สวยงามจัดเต็มไม่แพ้งานแฟชั่นวีคส์จากนิวยอร์กเลยหล่ะเธอว์…!! ที่มา: Boredpanda
-
‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ โผล่ขึ้นมาในประเทศอิหร่าน เพื่อให้คนนำเสื้อผ้าส่งต่อสู่ผู้ยากไร้…
“กำแพงแห่งน้ำใจ” โผล่ขึ้นมาในเมืองต่างๆ ของประเทศอิหร่าน เพื่อให้ผู้คนที่แวะเวียนเดินผ่านไปมานำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ที่กำแพงให้กำับผู้คนยากไร้หรือคนไร้บ้าน จากการรายงานของสำนักข่าว BBC บอกว่ากำแพงอันแรกนั้นโผล่ขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Mashhad โดยมีที่แขวนผ้ามาติดที่ผนังพร้อมกับมีข้อความบอกว่า “ถ้าคุณไม่ต้องการมัน แขวนมันไว้ที่นี่ และถ้าคุณต้องการมันก็สามารถเอามันไปได้เลย” ชายคนที่เป็นคนคิดค้นโปรเจ็คนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้ต้องการเปิดเผยตัวตน เขาได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Hamshahri ว่าเขาดีใจที่ไอเดียของเขานั้นถูกนำไปใช้งาน “ผมได้บอกกับผู้คนว่าให้ผู้คนนำเสื้อผ้าในปริมาณน้อยๆ มาแขวนไว้ ดังนั้นคนที่มาที่นี่ก็จะรู้ว่าจะมีเสื้อผ้าให้พวกเขาอยู่ตลอดเวลา” จาการรายงานของ Radio Free Europe พบว่า “กำแพงแห่งน้ำใจ” นี้ได้เริ่มเกิดขึ้นในเมือง Sirjan และเมือง Shiraz ด้วยเช่นกัน ในฤดูหนาวของประเทศอิหร่านนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เพราะฉะนั้นความต้องการเสื้อผ้าของเหล่าผู้ยากไร้หรือคนไร้บ้านนั้นจะมีตัวเลขที่สูงมาก เพราะแค่ในเมืองหลวง Tehran นั้นก็มีประชากรคนไร้บ้านมากกว่า 15,000 คนไปแล้ว แน่นอนว่า ‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ นี้จะช่วยเหลือเหล่าคนยากไร้และคนไร้บ้านได้มากมายเลยทีเดียวล่ะ ^^ “พวกเราต้องการทำมันด้วยตัวเอง ชีวิตมันสั้นนัก เพราะฉะนั้นจงทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้” สมาชิกท่าหนึ่งของอินสตาแกรมได้กล่าวไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก เรื่องดีๆ แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ พอได้รับรู้แล้วก็รู้สึกอิ่มเอมหัวใจไปด้วยเลย…
-
‘อิหร่าน’ เป็นประเทศแรกที่แบน Pokemon GO ด้วยเหตุผลของเรื่อง ‘ความปลอดภัย’
พูดถึงเกมสุดฮิตอย่าง ‘Pokemon GO’ คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะเป็นเกมที่ฮิตเล่นกันตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่เลย ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้เล่นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งบ้านเราด้วย และตามมาด้วยกระแสต่างๆ ทั้งด้านบวกและด้านลบ แม้จะเป็นเกมที่ฮิตจนอดเล่นไม่ได้ แต่ล่าสุด อิหร่านเป็นประเทศแรกที่ประกาศแบน ‘Pokemon GO’ อย่างเป็นทางการแล้ว และได้บล๊อคข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้ทุกทาง ไม่ว่าจะทาง Youtube Facebook Twiter ตามเว็ปไซต์ต่างๆ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นด้วย โดยรัฐบาลอิหร่านให้เหตุผลว่า เป็นห่วงเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ เพราะตั้งแต่มี Pokemon GO ทำให้ประชาชนติดกันอย่างทั่วไปทั่วเมือง และทำให้พวกเขาสามารถเดินเข้าเดินออกตามสถานที่ต่างๆ ทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งบางทีอาจทำให้พวกเขาได้รับอันตรายได้ อีกหนึ่งเหตุผลคือ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นั้นนับถือมุสลิม และการเล่นเกมแบบ AR Mobile มีคอนเท้นบางส่วนที่ขัดต่อหลักการปฏิบัติตัวในทางศาสนา แต่ปัญหาดังกล่าวนี้ สำนักข่าว BBC มีรายงานว่า รัฐบาลอิหร่านได้พูดคุยกับทาง Niantic ว่าให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วน เพื่อที่จะสามารถเปิดเกมนี้ต่อในอิหร่าน แต่ทาง Niantic ไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ได้ จึงทำให้อิหร่านประกาศแบนเกมนี้ออกจากประเทศในที่สุด เห็นข่าวนี้แล้วย้อนมามองดูบ้านเรา Pokemon GO คงจะไม่ถูกแบนหรอกเนอะ…
-
รู้จัก Sajad Gharibi หนุ่มกล้ามบึกฉายา “The Hulk” ที่มีน้ำหนักตัวกว่า 150 กิโลกรัม..!!
สำหรับเหล่าฮีโร่ในแก๊งอเวนเจอร์ “เดอะ ฮัลค์” ฮีโร่ตัวเขียวจอมโมโหต้องเป็นหนึ่งในตัวละหลายๆ คนชอบเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะที่ดูเท่ รวมถึงบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ครองใจแฟนๆ ฮีโร่หลายคน แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนไปรู้จักกับหนุ่มคนหนึ่งจากประเทศอิหร่าน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เดอะ ฮัลค์” ตัวจริง จะเหมือนขนาดไหน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Sajad Gharibi วัย 24 ปี จากประเทศอิหร่าน เขาเป็นนักกีฬายกน้ำหนักมืออาชีพ เขากล่าวว่า ตอนนี้เขาหนักราว 150 กิโลกรัม และครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวนั้น เป็นกล้ามเนื้อล้วนๆ ด้วยความใหญ่โตของกล้ามเนื้อ ทำให้แอคเคาท์ไอจีของเขามีผู้ติดตามแล้วกว่า 50,000 คน และด้วยกล้ามอันใหญ่โตเช่นนี้ เขามักได้รับการขนานนามว่าเป็น “เดอะ ฮัลค์” หรือ “เฮอคิวลีส” อยู่เป็นประจำ ส่วนสถิติด้านการยกน้ำหนัก เขาบอกว่าเขาสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 175 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากโพสภาพชีวิตประจำวันลงไอจีแล้ว…
-
สุดโหด อิหร่านประหารประชากรชายทั้งหมู่บ้าน เหตุมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด!!!
จะว่าไปแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นข่าวคราวที่โหดเหี้ยมและสะเทือนใจมากจริงๆ สำหรับการประหารประชากรชายทั้งหมู่บ้าน ในแถบตอนใต้ของประเทศอิหร่าน หลังจากหน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพวกเขามีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด!!? Shahindokht Molaverdi รองประธานด้านสตรีและครอบครัวได้ออกมากล่าวว่า ‘ประชากรชายในหมู่บ้านแห่งนั้นทั้งหมด (ไม่ได้พูดชื่อหมู่บ้าน) ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต แม้กระทั่งเด็กๆ เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเติบโตมาเป็นผู้ค้ายาเช่นกัน และจะหาช่องทางแก้แค้นให้กับครอบครัวพวกเขาอย่างแน่นอน เราจะไม่สนับสนุนผู้คนแบบนี้ ให้ก่อเหตุการณ์เช่นนี้อีก’ สำหรับประเทศอิหร่านก็ถือว่าเป็นอันดับ 2 ในด้านการประหารนักโทษ รองจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น จากรายงานในปี 2015 ที่เพียงไม่ถึงครึ่งปีแรก ประเทศอิหร่านได้ประหารนักโทษด้วยการแขวนคอไปถึง 700 คนด้วยกัน!!! Shahindokht Molaverdi Molaverdi ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Hassan Rouhani พวกเราได้นำเอาครอบครัวของเหล่านักโทษที่ถูกประหารมาเข้าโปรแกรมสนับสนุน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานพัฒนาประเทศ ‘เราเชื่อว่าถ้าเราไม่สนับสนุนผู้คนเหล่านี้ พวกเขาก็จะกลับไปกระทำความผิดอีก และนี่คือเหตุผลที่สังคมต้องร่วมรับผิดชอบความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ถูกประหาร’ สำหรับการกระทำนี้ก็เรียกได้ว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยอย่างมาก โดยเฉพาะ Maya Foa หนึ่งในสมาชิกของแคมเปญต่อต้านการประหารชีวิต กล่าวว่า ‘เราเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอัตราการประหารชีวิตของประเทศอิหร่านถึงพุ่งขึ้นสูงมากๆ นั่นก็เพราะพวกเขาเล่นประหารชีวิตประชากรชายไปทั้งหมู่บ้านนี่เอง แถมเชื่อสิว่าการประหารเหล่านี้น่ะไม่ได้ผ่านการไต่สวน สืบสวนอย่างเป็นธรรม และผู้ถูกประหารก็ยังถูกทารุณต่างๆ นานาด้วยล่ะ’ และเหตุผลดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งที่ทำให้นักเคลื่อนไหวทางสังคมหลายคนออกมาร้องขอให้ UN เลิกสนับสนุนทางการเงินให้กับประเทศอิหร่าน เพื่อไปใช้ในการปราบปรามการค้ายาเสพติด…
-
พาไปเยี่ยมชม ‘บ้านพักพิงน้องหมาจรจัด’ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศอิหร่าน!!
ทุกวันนี้องค์กรเพื่อช่วยเหลือสัตว์นั้นมีมากมาย บ้านพักสำหรับสัตว์จรจัดก็มีมากเช่นเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลากหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกฟากหนึ่งของโลก บางประเทศก็มีบ้างแต่น้อยมาก บางประเทศก็ไม่มีเลย อย่างเช่นในประเทศอิหร่านแห่งนี้ มีปัญหาของสุนัขจรจัดเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาดูแลจัดการเรื่องนี้เลย จนกระทั่งการก่อตั้งบ้านพักพิงของสุนัขจรจัดเป็นแห่งแรกของประเทศอิหร่าน ศูนย์ Vafa Animal Shelter ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 จากการตั้งคำถามของ Fatemeh Motamedi ผู้ก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ ‘ทำไมอิหร่านถึงไม่มีบ้านพักพิงสัตว์เหมือนอย่างประเทศอื่นบ้างล่ะ?’ โดยศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Hashtgerd อยู่ห่างจากเมืองหลวง Tehran ของประเทศอิหร่านไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นบ้านสำหรับเหล่าน้องหมาจรจัดเพื่อพักฟื้นและเยียวยาจิตใจ รอวันที่จะได้พบกับเจ้าของใหม่รับไปดูแลให้มีชีวิตที่ดีต่อไป สำหรับสุนัขจรจัดที่เข้ามายังศูนย์แห่งนี้จะได้รับการทำหมัน เพื่อควบคุมปัญหาการเพิ่มจำนวน ได้รับอาหารโภชนาการที่เหมาะสม และมีการพาพวกมันไปเดินเล่นอย่างที่พวกมันควรจะได้รับตามประสาสุนัข (ทำให้อารมณ์ดีมากขึ้น) ด้วยจำนวนสุนัขที่มีมากกว่า 700 ตัว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันดูแลเจ้าตูบทุกชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้…
-
21 ผลงานศิลปะงานประกวดภาพในอิหร่าน เสียดสีกลุ่ม ISIS และสงครามได้แบบเจ็บจี๊ดจริงๆ !!!
สำหรับช่วงนี้คงไม่มีเหตุการณ์ใดจะรุนแรงและส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลกอย่างสงครามระหว่างกลุ่ม ISIS กับบรรดามหาอำนาจใหญ่ๆ ของโลกอีกแล้ว กระนั้น ทางการของประเทศอิหร่าน ก็ได้จัดการประกวดศิลปะและภาพนิ่ง เพื่อสื่อถึงสงครามและกลุ่ม ISIS ขึ้น สำหรับเหล่าศิลปินที่สนใจ จากทั่วโลก เหล่าผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดนั้นเรียกได้ว่า จิกกัดได้เจ็บแสบเลยทีเดียว และจะประกาศผลวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 นู่นเลยจ้า มาดูผลงานส่วนหนึ่งกันเลย ดูซิว่าเพื่อนๆ จะตีความแต่ละภาพออกกันรึเปล่า?? Jitet Koestana จากอินโดนีเซีย Benaji Naji จากโมร็อคโค Fransiskus และ Gede จาก อินโดนีเซีย อีกหนึ่งผลงานของ Jitet Koestana จากอินโดนีเซีย Saeid Sadeghi จาก อิหร่าน Mohsed Izadi จากอิหร่าน De Scheemaeker จาก เบลเยี่ยม…
-
Sadaf Taherian นักแสดงสาวถูกเนรเทศจากอิหร่าน เพราะโพสต์ภาพไม่ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ!!
ประเด็นละเอียดอ่อนทางศาสนาภายในประเทศที่เคร่งครัดสูงมากอย่างประเทศอิหร่าน ที่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งทางประเทศอิหร่านออกก็ได้ออกกฏหมายที่ว่าสตรีจะต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ในที่สาธารณะรวมไปถึงหญิงสาวชาวต่างชาติด้วย ทั้งนี้กฏหมายฉบับดังกล่าวนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1979 หลังการปฏิวัติศาสนาอิสลามในอิหร่าน ทั้งนี้เรื่องราวของนักแสดงสาวชาวอิหร่านที่ชื่อว่า Sadaf Taherian เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอผ่านอินสตาแกรมโดยคลุมผ้าฮิญาบมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพตัวเธอเองอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ไม่ได้ทำการสวมผ้าคลุมฮิญาบ และเมื่อกระทรวงวัฒนธรรมอิหร่านรู้ว่าเธอทำแบบนี้ ก็ได้สั่งแบนทันที เพิกถอนใบอนุญาต ห้ามแสดงภาพยนตร์ใดๆ ในประเทศอิหร่าน และถูกขับไล่ออกนอกประเทศ จนถึงขนาดต้องลี้ภัยไปยังเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กันเลยทีเดียว เธอเองก็ได้กล่าวไว้ว่า ‘ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้คนในอิหร่าน จะรุมด่าสาปแช่งได้มากมายถึงเพียงนี้ ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ ฉันก็แค่อยากใช้ชีวิตในแบบที่ฉันมีความสุข’ อย่างไรก็ตามสื่ออิหร่านประกาศเตือนเอาไว้ว่าการที่ผู้หญิงไม่สวมผ้าคลุม เป็นต้นเหตุของการทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรง เนื่องจากไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้ชาย ทั้งนี้ Sadaf Taherian ก็เปิดเผยว่าในระหว่างการแสดงภาพยนตร์ ถึงแม้จะใส่ผ้าคลุมเธอก็ยังถูกลวนลามจากผู้กำกับอยู่ดี ที่มา : independent, telegraph