Tag: อียิปต์

  • ประธานาธิบดีอียิปต์ ถูกมอง “เหยียดคนอ้วน” หลังสั่งปชช.ลดน้ำหนักและห้ามสื่อเผยภาพคนอ้วน

    ประธานาธิบดีอียิปต์ ถูกมอง “เหยียดคนอ้วน” หลังสั่งปชช.ลดน้ำหนักและห้ามสื่อเผยภาพคนอ้วน

    นาย Abdel-Fattah el-Sissi ประธานาธิบดีของประเทศอียิปต์ถูกกล่าวหาว่า เหยียดคนอ้วน (Fat Shaming) หลังบอกให้สื่อโทรทัศน์งดแพร่รายการต่างๆ ที่มีแขกรับเชิญหรือผู้ดำเนินรายการเป็น “คนอ้วน” ท่านประธานาธิบดีได้บ่นเอาไว้ว่าในอียิปต์นั้มีจำนวนประชากรที่น้ำหนักเกินมาตรฐานเยอะเกินไป เขาจึงใช้เสนอให้สถาบันการศึกษาเน้นไปที่วิชาส่งเสริมสุขภาพและกีฬาเป็นหลัก   Abdel-Fattah el-Sissi ประธานาธิบดีของประเทศอียิปต์   อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิจารณ์ก็ได้กล่าวหาว่าท่านประธานาธิบดีผู้นี้นั้นเป็นคนที่มองตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น และอ้างว่าการที่ประชากรจำนวนมากตกอยู่ในภาวะอ้วนนั้นก็มีสาเหตุมาจากความยากจน และการที่ผักผลไม้มีราคาสูงขึ้น สืบเนื่องจากการปฏิรูปเศรษฐกิจในสมัยของ El-Sissi ทำให้อาหารขยะนั้นมีราคาถูกและน่าสนใจกว่าอาหารสดที่ดีต่อสุขภาพแต่กลับมีราคาสูง จากการสำรวจของสถาบันการวตรวจวัดและประเมินสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตันเมื่อปี 2017 พบว่า 1 ใน 3 ของประชากรอียิปต์อยู่ในภาวะอ้วน     ประธานาธิบดี El-Sissi มักย้ำเตือนให้ชาวอียิปต์อดทนและต่อสู้กับความอ้วนอยู่เสมอ และมักบอกให้คนอ้วนลดน้ำหนักให้ได้ เขายังเล่าอีกว่า… “ผมเดินไปยังที่แห่งหนึ่งแล้วก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ผมมองไปยังผู้คนแล้วถามตัวเองว่า ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? คนพวกนี้เป็นใคร? ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักดูแลตัวเองกันเสียเลย?’”   ส่วน Mohamed Zaree ทนายความขององค์กรสิทธิมนุษยชนก็เสนอว่า ท่านประธานาธิบดีควรมองหาวิธีทีช่วยให้ประชาชนสามารถลดน้ำหนักได้ แทนที่จะมาสั่งให้ประชาชนต้องออกกำลังกาย “ท่านควรทำให้ราคาอาหารเพื่อสุขภาพมีราคาน้อยลง จัดตั้งสถานที่สำหรับออกกำลังกาย และจัดตั้งหน่วยงานพิเศษสำหรับดูแลผู้ป่วยโรคอ้วนภายใต้สวัสดิการทางการแพทย์ของรัฐ”   ที่มา: thesun และ dailymail

  • คนหรือปลาเนี่ย!!? ชมภาพนาทีที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย ‘คลอดลูก’ กลางทะเล ประเทศอียิปต์

    คนหรือปลาเนี่ย!!? ชมภาพนาทีที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย ‘คลอดลูก’ กลางทะเล ประเทศอียิปต์

    ทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่สัตว์น้ำแล้วนะที่ออกลูกในทะเล “มนุษย์” อย่างเราๆ ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุด คุณแม่ชาวรัสเซียคลอดลูกในทะเลเฉยเลย!! Hadia Hosny El เป็นผู้ที่ไปท่องเที่ยวยังย่าน ดาฮับ เมือง ชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ และขณะที่เธอยืนอยู่นอกระเบียงอพาร์ตเมนต์ เธอก็เห็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลุ่มหนึ่งกำลังทำการ “คลอดลูก” ใน ทะเลแดง เธอจึงเก็บภาพเหตุการ์ทั้งหมดเท่าที่เธอเห็น มาเผยแพร่บน เฟซบุ๊ก ของเธอเอง โดยในภาพจะเห็นว่ามีชายสูงวัยที่กำลังอุ้มทารกแรกเกินขึ้นมาจากทะเล รวมทั้งชายหนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อของเด็กคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็จะเห็นได้ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่ง เดินขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดทารกน้อยในภาพ   ภาพเหตุการณ์ที่ชายทั้งสองพยายามอุ้มทารกขึ้นมาจากน้ำ   ภาพถูกถ่ายจากนอกระเบียงของอพาร์ตเมนต์ที่ Hadia Hosny El เข้าพัก   เจ้าหนูทารกตัวน้อย กำเนิดขึ้นมากลางทะเลแดงประเทศอียิปต์   จากนั้นไม่นาน ผู้เป็นแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าเธอเพิ่งเสร็จจากการว่ายน้ำเล่น   เมื่อกลับขึ้นชายฝั่ง คุณแม่ก็เข้ามาอยู่รวมกับครอบครัวเธออีกครั้ง   Hadia กล่าวว่า ชายสูงวัยที่อุ้มเด็กในภาพนี้ เป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการให้กำเนิดบุตรในน้ำโดยเฉพาะ แปลว่าคุณหมอคนนี้เข้ามาช่วยเหลือการให้กำเนิดได้อย่างทันเวลา   ตัวตนของผู้เป็นแม่ และสภาวะของเด็กทารกยังไม่ถูกเปิดเผย แต่จากที่เห็น คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข…

  • คุณตำหนวดกลายเป็นฮีโร่ หลังใช้มือเปล่ารับเด็กที่ตกลงมาจากตึก แถมไม่เป็นอะไร

    คุณตำหนวดกลายเป็นฮีโร่ หลังใช้มือเปล่ารับเด็กที่ตกลงมาจากตึก แถมไม่เป็นอะไร

    ภาพอันน่าหวาดเสียวนี้เกิดขึ้นที่เมือง Assiut ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2018 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยชีวิตเด็กชายวัย 5 ขวบที่หล่นลงมาจากระเบียงชั้นสามของตึกเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นผู้คนที่กำลังมุงดูเด็กชายตัวน้อยที่กำลังทรงตัวอยู่บนตึก และขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 ก็กำลังวิ่งวุ่นเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเจ้าหนูน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำพรมผืนหนึ่งมารอรับเด็กชายที่กำลังร่วงลงมา โชคร้ายที่พรมผืนดังกล่าวกลับใช้ไม่ได้ผล แต่เจ้าหน้าที่นายหนึ่งสามารถใช้แขนของเขาคว้าร่างของเจ้าหนูในระหว่างที่เขากำลังร่วงลงมาได้สำเร็จ     และนี่คือวินาทีที่เจ้าหนูกำลังร่วงลงมา    วินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถคว้าร่างของเด็กน้อยไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะร่วงลงพื้น   อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการกระโดดจากระเบียงชั้นสามของหนูน้อยรายนี้ แต่จากรายงานระบุว่าหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์อันน่าสะเทือนขวัญมาได้ หนูน้อยรายดังกล่าวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และต้องขอบคุณความกล้าหาญของคุณตำรวจที่สามารถช่วยชีวิตของเขาไว้ได้ทัน ก่อนที่จะนำตัวเด็กน้อยส่งโรงพยาบาลต่อไป วีรกรรมของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ได้รับการยกย่องจากผู้ว่าราชการจังหวัด นาย Yasser El-Desouky พร้อมกับได้รับเงินตอบแทนสำหรับการช่วยชีวิตเด็กชายคนดังกล่าวอีกด้วย     นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าหนูน้อยรายนี้จริงๆ เลยนะเนี่ย ที่ได้คุณตำรวจช่วยเอาไว้ได้ทัน   ที่มา dailymail

  • นักโบราณคดีพบภาพเขียนฝาผนังอายุ 4,400 ปี สภาพสมบูรณ์ ในสุสานอียิปต์โบราณ

    นักโบราณคดีพบภาพเขียนฝาผนังอายุ 4,400 ปี สภาพสมบูรณ์ ในสุสานอียิปต์โบราณ

    กลายเป็นเรื่องฮือฮาในวงการสำรวจอีกครั้ง หลังจากที่กรมโบราณคดีของประเทศอียิปต์ ได้ประกาศการค้นพบสุสานของนักบวชโบราณ และภาพเขียนฝาผนังอายุเกือบ 5,000 ปี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการขุดสำรวจสุสานทางด้านทิศตะวันตกของเมืองกีซา ประเทศอียิปต์ ซึ่งคาดการณ์ว่าสุสานดังกล่าวน่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงอาณาจักรโบราณของอียิปต์ หรือประมาณ 2465-2323 ปีก่อนคริสต์กาล     จากข้อมูลของทางกระทรวงเผยว่า สุสานโบราณอายุ 4,400 ปีนี้เป็นของพระนาง Hetpet ผู้มีตำแหน่งสูงสุดในระหว่างช่วงราชวงศ์ที่ 5 ของอียิปต์จนกระทั่งถึงช่วงสิ้นราชวงศ์ “ภายในสุสานแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพวาดที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากมาย นอกจากนี้ยังมีภาพวาดของพระนาง Hetpet ในท่าทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกล่าสัตว์ ตกปลา หรือนั่งรอรับการถวายอาหารจากลูกๆ ของเธอ” กรมโบราณคดีกล่าวผ่านทางหน้าเฟซบุ๊ก     นอกจากนี้ภาพวาดบนฝาผนังยังบอกเราเรื่องราวเกี่ยวกับท่าทางการเต้นของพระองค์ ร่วมถึงภาพของช่างโลหะและคนงานอีกด้วย และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือภาพของลิงที่ปรกฏอยู่บนฝาผนังด้วยกันถึง 2 ครั้ง “ภาพแรกแสดงให้เห็นว่าลิงตัวหนึ่งกำลังเก็บผลไม้อยู่ ส่วนในภาพที่สองเป็นภาพของลิงที่กำลังเต้นอยู่หน้าวงดนตรี” กรมโบราณคดีรายงาน นอกจากในในสุสานโบราณของราชวงศ์ที่ 12 อย่าง Khnoum Hetep ที่ 2 ในพื้นที่ Beni Hassan และสุสานของอาณาจักรโบราณ Ka-Iber ที่ Saqqara เองก็พบภาพฝาผนังที่เป็นรูปลิงด้วยเช่นกัน     การค้นพบสุสานในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภารกิจของทีมนักโบราณคดีอียิปต์ ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี…

  • นักโบราณคดีพบมัมมี่อายุ 3,500 ปี ในสุสาน คาดว่ามีความพิเศษมากกว่าที่เคยค้นพบมา

    นักโบราณคดีพบมัมมี่อายุ 3,500 ปี ในสุสาน คาดว่ามีความพิเศษมากกว่าที่เคยค้นพบมา

    อียิปต์เป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มันจึงเปี่ยมไปด้วยอารยธรรมที่มีกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ หากมีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศอียิปต์สักครั้ง เราจึงไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมอารยธรรมเหล่านี้ โบราณสถานของประเทศนี้ที่เรารู้จักกันดีนั้นคงจะเป็นพีระมิด และสุสานโบราณของคนสำคัญในสมัยก่อน เพราะนอกจากจะเป็นโบราณสถานที่ดูน่าหลงใหลแล้ว ยังเต็มไปด้วยโบราณวัตถุและศิลปะสวยงามจำนวนมาก ถึงโบราณสถานเหล่านี้จะถูกค้นพบมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม แต่ยังมีหลายแห่งที่ค้นพบแล้วไม่ได้รับการสำรวจจนถึงปัจจุบัน     เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมได้ออกมาแจ้งว่า สุสานสองแห่งที่เคยพบทางตอนใต้ของเมืองลักซอร์ในช่วงทศวรรษที่ 1990 ได้รับการสำรวจแล้ว โดยสุสานทั้งสองถูกเรียกว่า KAMPP 161 มีอายุกว่า 3,000 ปี และคาดว่าจะเป็นสุสานของราชวงศ์ที่ 18 แห่งอียิปต์ พวกมันรอการสำรวจจากนักโบราณคดีมานาน และตอนนี้พร้อมจะเผยความลับที่ซ่อนไว้แล้ว     ตัวสุสานนั้นมีความกว้างขวางอย่างมาก กำแพงสุสานถูกก่อสร้างจากหินและดินโคลนเป็นแนวยาว และทางทิศใต้ของสุสานยังเชื่อมออกไปถึงห้องอื่นๆ อีกจำนวนสี่ห้อง ในสุสานแห่งหนึ่งนักโบราณคดีพบมัมมี่ ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพราะคาดว่ามัมมี่ตัวนี้เป็นร่างของคนสำคัญคนหนึ่งในยุคนั้น แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าคนคนนั้นเป็นใคร แต่มีการตั้งสมมติฐานว่าอาจจะเป็น Djehuty Mes บุคคลระดับสูงที่มีชื่อสลักอยู่บนผนังของสุสาน หรืออาจจะเป็นชายชื่อ Maati เพราะชื่อของชายคนนี้ถูกสลักลงบนป้ายสุสานที่พบในสุสานแห่งนี้กว่า 50 อันเลยทีเดียว   .   นอกจากมัมมี่แล้ว ยังสำรวจพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณ หน้ากากโบราณ และรูปปั้นสลักจากไม้จำนวนมาก…

  • “Rihanna” กับภาพเซตใหม่ในธีมราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue เริ่ดเว่อร์มากขุ่นแม๊!!

    “Rihanna” กับภาพเซตใหม่ในธีมราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue เริ่ดเว่อร์มากขุ่นแม๊!!

    สำหรับ “Rihanna” ถือเป็นหนึ่งในซุปตาร์หญิงสุดฮอตคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดเลยก็ว่าได้ เพราะนอกเหนือจากการเป็นนักร้องที่มีเสียงอันทรงพลัง และได้สร้างผลงานเพลงที่ฮิตติดหูมากมายแล้ว เธอยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านแฟชั่นอย่างแท้ทรู ถึงขั้นเคยได้รับเลือกให้เป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายแบรนด์ดังมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังเคยกวาดรางวัลในด้านแฟชั่นและเครื่องแต่งกายมาแล้วกว่าหลายรางวัล ไม่ธรรมดาเลยอ่ะขุ่นแม่!!     แต่ผลงานล่าสุดของนักร้องสาว Rihanna ในวัย 29 ดูเหมือนน่าจะน่าสนใจ และน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะครั้งนี้เธอได้มาพร้อมกับภาพเชตใหม่ในธีม Nefertiti ราชินีแห่งอียิปต์บนปกนิตยสาร Vogue Arabia   ภาพ Rihanna จากนิตยสารดังกล่าวถูกถ่ายโดยช่างภาพชื่อดัง Greg Kadel เธอมาในชุดเครื่องแต่งกายสุดหรูหรา จับคู่กับโค้ทสีน้ำเงินสุดเท่ พร้อมสวมมงกุฎจำลองให้เหมือนกับราชินี Nefertiti บอกเลยว่าดูทรงพลังมาก!!   สำหรับการถ่ายภาพเซพใหม่ล่าสุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักร้องสาว Rihanna ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่ไหน ใช่แล้ว!! รอยสักรูปองค์ราชินี Nefertiti ที่อยู่บริเวณข้างอกด้านซ้ายนั่นเอง     ทางด้าน Manuel Arnaut บรรณาธิการของนิตยสาร Vogue Arabia ได้ออกมาพูดถึงการถ่ายทำที่น่าตื่นเต้นว่า “Rihanna ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอุตสาหกรรมบันเทิง ด้วยเพลงที่มีพลังและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น…

  • นางแบบนู้ดเบลเยี่ยมเกือบถูกจับเข้าคุกอียิปต์ หลังจากถ่ายภาพเปลือยในโบราณสถาน

    นางแบบนู้ดเบลเยี่ยมเกือบถูกจับเข้าคุกอียิปต์ หลังจากถ่ายภาพเปลือยในโบราณสถาน

    บางครั้งการถ่ายภาพนู้ดก็มีอะไรที่มากกว่าเรื่องเพศ นอกจากความสวยงามของเรือนร่างนางแบบแล้ว มันยังเปรียบเสมือนกับศิลปะอีกแขนงหนึ่งอีกด้วย แต่บางครั้งการออกไปถ่ายภาพนู้ดนอกสถานที่นั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องได้ เหมือนกับกรณีของนางแบบท่านนี้ คุณ Marisa Papen นางแบบนู้ดชาวเบลเยี่ยมเกือบจะต้องเปลี่ยนที่นอนและย้ายไปค้างคืนในเรือนจำของอียิปต์แล้ว หลังจากที่เธอและทีมงานได้เข้าไปถ่ายแบบในโบราณสถานแห่งหนึ่งของเมือง Luxor      นางแบบสาวอ้างว่าการถ่ายภาพเปลือยของเธอนั้นเป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณและเข้าถึงธรรมชาติ เธอและช่างภาพคุณ Jesse Walker ได้เดินทางไปที่ทวีปอเมริกาเหนือเพื่อถ่ายภาพนู้ดในสถานที่อันมีชื่อเสียงของอียิปต์ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโบราณสถานแห่งนั้นจะไม่เข้าใจการปลดปล่อยจิตวิญญาณของเธอ เมื่อเขาได้เข้ารวบตัวเธอและช่างภาพหลังจากที่เห็นถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมนี้ คุณ Papen นั้นเคยเดินทางไปถ่ายรูปนู้ดคู่กับช่างภาพของเธอมาแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และทริปการถ่ายภาพของเธอก็มักจะจบลงในลักษณะแบบนี้ แม้ว่าเธอจะทราบดีถึงความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลือยกายในอียิปต์และชาติตะวันตก แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดเธอและช่างภาพคู่ใจได้       หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางมาถึงอียิปต์เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สถานที่แรกที่พวกเขาเลือกก็คือบริเวณหน้าพีระมิด Giza เธอบอกว่าได้ให้เงินใต้โต๊ะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าไปถ่ายภาพเปลือยในนั้น “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ พวกเราพยายามอธิบายว่าเรามาทำงานศิลปะที่แสดงถึงความเคารพอย่างสูงสุดกับวัฒนธรรมอียิปต์ และจ่ายเงินประมาณ 15 ปอนด์ให้กับพวกเขา” แต่สำหรับการถ่ายภาพในวิหารแห่ง Karnak นั้นไม่ง่ายเหมือนกับการแอบเข้าไปในพื้นที่ของพีระมิด ทั้งคู่ตัดสินใจแอบอยู่ในวิหารจนกระทั่งถึงเวลาปิดทำการ ก่อนที่จะออกมาถ่ายภาพในผลงานชุดตามรอยคลีโอพัตรา และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าจับกุมตัวและส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ     โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็นภาพนู้ดของเธอ เพราะช่างภาพคู่หูของเธอดันลบภาพดังกล่าวไปก่อนที่พวกเขาจะตรวจพบ และในที่สุดตำรวจก็ส่งตัวทั้งสองกลับออกมา “ฉันรู้ดีว่าคุกที่อียิปต์นั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกับที่เบลเยี่ยม ที่นั่นฉันได้เห็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ และโชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้ติดอยู่ในนั้น” คุณ Papen กล่าว แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถกู้ไฟล์ภาพที่ลบไปแล้วได้ด้วยโปรแกรมพิเศษเมื่อกลับถึงโรงแรม และก็เป็นโชคดีของเธอกับคู่หูจริงๆ ที่ไม่ต้องย้ายที่นอนในคืนนั้น!! ที่มา dailymail

  • นักโบราณคดีค้นพบ หลุมศพของมัมมี่แห่งใหม่ พร้อมสมบัติล้ำค่าอายุมากกว่า 3,500 ปี!!

    นักโบราณคดีค้นพบ หลุมศพของมัมมี่แห่งใหม่ พร้อมสมบัติล้ำค่าอายุมากกว่า 3,500 ปี!!

    นับว่าเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่ช่วยทำให้นักโบราณคดี หรือนักประวัติศาสตร์ ได้เข้าใจและเข้าถึงความเป็นไปของอาณาจักรอียิปต์มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงการขุดค้นพบหลุมฝังศพมัมมี่ช่างทองหลวงของกษัตริย์ฟาโรห์ โดยระบุร่างที่พบในสุสานนั้นก็คือ ‘อาเมเนมฮัต’ ที่เชื่อว่ามีอายุมากกว่า 3,500 ปี ในเมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์   ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าช่างทองหลวงน่าจะเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์   Khaled el-Anany รัฐมนตรีอียิปต์กล่าวว่า แม้สภาพโลงศพของช่างทองหลวงจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก แต่สิ่งของอื่นๆ ที่ถูกฝังมาด้วยกลับเป็นสมบัติอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์   นอกจากนั้นทีมโบราณคดียังขุดพบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของกษัตริย์ ที่โยงไปถึงความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของอียิปต์โบราณ อีกทั้งยังมีร่างของภรรยาและร่างของเด็กอีก 2 คน   การค้นพบครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวอียิปต์มากๆ เพราะในอีกแง่หนึ่งพวกเขาก็หวังว่ามันจะช่วยทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศดีขึ้น   แต่ถึงกระนั้นทีมค้นหาก็ระบุว่า ยังมีอีกหลายส่วนพื้นที่ๆ พวกเขายังค้นหาไม่สำเร็จ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการค้นพบประวัติศาสตร์ของอียิปต์ที่ถูกฝังอยู่   ส่วนหนึ่งของรูปปั้นไม้ที่ถูกค้นพบจากสุสาน Draa Abul Nagga   รูปปั้นจากหินทรายที่ชี้ให้เห็นภาพของช่างทองหลวงอาเมเนมฮัต ที่มีภรรยานั่งอยู่เคียงข้าง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงทางเข้าสุสาน   ในส่วนของเครื่องปั้นดินเผา หรือเครื่องใช้ต่างๆ นักโบราณคดีจะนำไปฟื้นฟูก่อนจะส่งให้เป็นการดูแลของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ   ซึ่งหลักฐานที่ถูกค้นพบทั้งหมด จะช่วยให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณถูกเติมเต็มให้มากขึ้น  …

  • นักศึกษาชาวแคนาดา ค้นพบหมู่บ้านเก่าแก่ที่หายไป อายุมากกว่าปิรามิดอียิปต์ถึง 10,000 ปี..!!

    นักศึกษาชาวแคนาดา ค้นพบหมู่บ้านเก่าแก่ที่หายไป อายุมากกว่าปิรามิดอียิปต์ถึง 10,000 ปี..!!

    นับเป็นเวลานานหลายสิบปีที่กลุ่มโบราณคดี Heiltsuk Nation ได้พยายามศึกษาและค้นคว้าวัตถุโบราณในแถบรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และล่าสุดนับว่าเป็นการค้นพบระดับโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อทีมนักศึกษาชาวแคนาดา สามารถค้นพบหมู่บ้านที่มีอายุเก่าแก่มากกว่าปิรามิดอียิปต์โบราณถึง 10,000 ปีเลยล่ะ     โดย Alisha Gauvreau ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยวิคตอเรีย ได้นำทีมนักศึกษาเข้าไปสำรวจยังบริเวณเกาะ Triquet ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2016 ทีมสำรวจได้ขุดพบชิ้นส่วนหลักฐานทางโบราณคดี ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ ถ่านหิน และหลักฐานทุกชนิดที่เชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมชุมชนอันเก่าแก่ ณ ที่แห่งนี้   Triquet Island   เมื่อทีมสำรวจได้เก็บตัวอย่างถ่านหิน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ขุดพบ เพื่อไปศึกษาหาอายุขัยของมันก็พบว่า ทั้งหมดล้วนเป็นวัตถุที่มีอายุเฉลี่ยมาแล้ว 13,613 – 14,086 ปี ซึ่งก็นับว่าเป็นช่วงเวลาก่อนการเกิดขึ้นของอารยธรรมอียิปต์โบราณเสียอีก     แล้วการค้นพบดังกล่าวมันสำคัญอย่างไร? เพราะแค่อ่านเผินๆ เราอาจจะรู้สึกว่าเป็นการค้นพบที่ค่อนข้างไกลตัว แต่อันที่จริงในการค้นพบครั้งนี้ช่วยให้นักโบราณคดีรู้และเข้าใจความเป็นมาของวัฒนธรรมในแถบทวีปอเมริกาเหนือมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เคยมีการแบ่งทฤษฏีที่พูดถึงการย้ายถิ่นฐานเข้ามาของมนุษย์ในแถบทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากการเดินทางหลังยุคน้ำแข็ง และอีกส่วนหนึ่งกลับเชื่อว่ามาจากเรือค้าขายในครั้งสมัยโบราณ   “การค้นพบครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะมันจะช่วยพาเราย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ในหลายๆ ส่วนที่เราอาจเคยตกหล่นไปในอดีต ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นปัญหาที่เราพยายามหาคำตอบมานานนับ 1,000…

  • สาวน้อยเพ้นท์ ‘เฮนน่า’ แต่ผิวหนังแพ้สารเคมี กลายเป็นแผลพุพองทั่วทั้งแขน..!?

    สาวน้อยเพ้นท์ ‘เฮนน่า’ แต่ผิวหนังแพ้สารเคมี กลายเป็นแผลพุพองทั่วทั้งแขน..!?

    แม้ว่าการเพ้นท์เฮนน่าจะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับการนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก แต่เราก็มิอาจรู้ได้เลยว่าวัตดุดิบที่นำมาใช้เป็นสีเพ้นท์นั้น จะส่งผลเสียต่อผิวหนังเราได้มากขนาดไหน!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับสาวน้อยวัย 7 ขวบ Madison Gulliver ครั้นเมื่อเธอและครอบครัวเดินทางไปเที่ยวที่อียิปต์ และได้ลองเพ้นท์เฮนน่าตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ     ทว่าหลังจากเพ้นท์ได้ไม่นานก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอเริ่มรู้สึกแสบคันผิวหนังที่จากสีเพ้นท์ จนถึงกับต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังคุณหมอวินิจฉัยอาการแล้ว พวกเขาจึงได้ทราบว่าในสีเพ้นท์เฮนน่าที่ใช้มีสาร Phenylenediamine (PPD) ประกอบอยู่ ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในน้ำยาย้อมผมและอาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้ได้     คุณพ่อวัย 50 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ตอนนี้ลูกสาวเรารู้สึกหวาดกลัวการเพ้นท์ไปตลอดชีวิต ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเราเองที่ไม่รู้ว่าสารเคมีพวกนี้อาจส่งผลต่อผิวหนังเด็ก และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของร้านด้วย ที่ไม่ยอมใช้สารเคมีให้ถูกต้องตามที่กำหนด” โชคดีที่หนูน้อยใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพียงแค่ 2 วัน อาการของเธอก็กลับมาดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งทางครอบครัวเธอก็หวังว่า เรื่องราวดังกลาวจะกลายเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังมากขึ้น     Dr. Chris Flower ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สีเพ้นท์เฮนน่าไว้ดังนี้ “PPD เป็นสารที่ถูกใช้ในสีย้อมผมโดยมีมาตรการกฎหมายคอยกำหนดไว้อยู่ และสีเพนท์เฮนน่าก็มักจะใส่สาร PPD เพิ่มเข้าไปเพื่อความดำที่เข้มขึ้น” นอกจากนั้นนายแพทย์ยังได้แนะนำว่า การเพ้นท์เฮนน่าดั้งเดิมที่แท้จริงจะใช้สี ส้ม – น้ำตาล ซึ่งจะปลอดภัยกับผิวหนังเรามากกว่าแบบสีดำเข้มที่มีสาร PPD ผสมอยู่     ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่า…

  • อียิปต์ไม่ได้มีพีระมิดมากที่สุดในโลก แต่กลับกลายเป็น “ซูดาน” ที่มีพีระมิดมากถึง 255 องค์

    อียิปต์ไม่ได้มีพีระมิดมากที่สุดในโลก แต่กลับกลายเป็น “ซูดาน” ที่มีพีระมิดมากถึง 255 องค์

    หากเราพูดถึงพีระมิด เราก็คงนึกถึงประเทศ “อียิปต์” อันเป็นประเทศต้นกำเนิดเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมเหล่านี้ และทุกคนคงจะคิดว่าประเทศอียิปต์นี่แหละคือประเทศที่มีจำนวนของพีระมิดเยอะที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่!? “ซูดาน” เพื่อนบ้านของอียิปต์กลับกลายเป็นประเทศที่มีพีระมิดที่เยอะที่สุด โดยมีมากถึง 255 องค์กันเลยทีเดียว แต่อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านนี้มีพีระมิดที่เยอะกว่าประเทศต้นกำเนิดอย่างอียิปต์ล่ะ? ย้อนกลับไปเมื่อ 4,700 ปีก่อนนั้น สถาปัตยกรรมพีระมิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอียิปต์นามว่า “อิมโฮเทป” เพื่อเป็นสุสานให้ฟาโรห์โจเซอร์ราชวงศ์ที่ 3 ของอียิปต์   อิมโฮเทป ชาวไอยคุปต์ผู้ออกแบบพีระมิด   หลังจากที่อิมโฮเทปได้สร้างพีระมิดเป็นครั้งแรก ชาวไอยคุปต์ (ชาวอียิปต์โบราณ) ได้นำสถาปัตยกรรมนี้มาเป็นต้นแบบในการสร้างสุสานแก่กษัตริย์ของพวกเขาเรื่อยมา ตลอดระยะเวลา 3,000 ปี   ซูดานตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์   ในขณะนั้นชาวนูเบีย (ชาวซูดานโบราณ) ตกอยู่ใต้อาณัติของชาวไอยคุปต์ เนื่องจากความอ่อนแอของตนเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวนูเบียไม่ค่อยมีความโดดเด่นในหน้าประวัติศาสตร์เท่ากับชาวไอยคุปต์ เรื่องขึ้นชื่อของชาวนูเบียคือการส่งบรรณาการ “ทองคำ” แก่ชาวไอยคุปต์เป็นระยะเวลาติดต่อกันอย่างยาวนาน จนมาถึงช่วงรอยต่อระยะที่ 3 ของประวัติศาสตร์ ชาวไอยคุปต์อ่อนแอลงเนื่องจากการยึดครองจากต่างชาติที่สับเปลี่ยนกันเข้ามา     รูปแบบที่โดดเด่นของพีระมิดอียิปต์ที่สมส่วน   ในช่วงที่ชาวไอยคุปต์กำลังอ่อนแอ ก็ทำให้ชาวนูเบียกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง จนทำให้ชาวนูเบียสามารถที่จะสถาปนาราชวงศ์ตนเองขึ้นมาได้และรับเอาสถาปัตยกรรมการออกแบบนี้ขึ้นมาปรับเปลี่ยนเป็นของตนเอง ในขณะที่พีระมิดของชาวไอยคุปต์มีความกว้างและเตี้ยกว่า ชาวนูเบียก็จะสร้างพีระมิดที่แคบและสูงกว่าจนกลายเป็นลักษณะเด่นของพวกเขา…

  • นักโบราณคดีชาวอียิปต์ ค้นพบสุสานอายุประมาณ 2000 ปี ที่เก็บมัมมี่ชนชั้นสูงมากถึง 17 ตัว!!

    นักโบราณคดีชาวอียิปต์ ค้นพบสุสานอายุประมาณ 2000 ปี ที่เก็บมัมมี่ชนชั้นสูงมากถึง 17 ตัว!!

    “มัมมี่” คือเทคนิคการรักษาสภาพศพที่ถือว่าเป็นการค้นพบที่ทันสมัยมากในยุคก่อน หลายคนที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำมัมมี่นั้นเกิดขึ้นมานานแคไหน และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีเรื่องที่ทำให้วงการณ์โบราณคดีต้องฮือฮาอีกครั้ง หลังจากที่มีนักโบราณคดีได้ทำการขุดพบสุสานเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 2,300 ปี และยังไม่พอก็ยังพบมัมมี่ที่ถูกเก็บไว้ถึง 17 ตัวอีกด้วย!!     นักโบราณคดีชาวอียิปต์ค้นพบสุสานโบราณที่ว่านี้ในหมู่บ้าน Tuna el-Gabal ใกล้กับแม่น้ำไนล์ ของประเทศอียิปต์ “เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่เราพบสุสานแห่งนี้” หนึ่งในคณะสำรวจบอกกับผู้สื่อข่าว พื้นที่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยซากของนกพันธุ์พื้นเมืองอย่าง Ibis (นกช้อนหอย) สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์แห่งแรกที่ถูกค้นพบในบริเวณหมู่บ้านนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ ห่างจากกรุงไคโรเมืองหลวงของประเทศอียิปต์ถึง 220 กิโลเมตร     นักโบราณคดี Khaled al-Anani บอกว่า “มัมมี่ที่เราขุดพบส่วนมากเป็นชนชั้นสูงและนักบวช” ซึ่งพวกเขาต้องทำการขุดหลุมลงไปถึง 8 เมตร ถึงจะได้พบกับซากของอารยธรรมดังกล่าว สถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบโดยทีมสำรวจของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยไคโร โดยการใช้เรดาห์ในการค้นหา ตอนนี้มัมมี่ที่ถูกพบยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดขึ้นในช่วงยุคไหน เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการสำรวจ แต่ทางทีมจากมหาวิทยาลัยคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วง 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช และการค้นหามีแนวโน้มว่าจะพบมัมมี่ในสุสานแห่งนี้เพิ่มเติมมากขึ้น     นี่คือส่วนหนึ่งของมัมมี่ที่ถูกค้นพบในสุสานแห่งนี้ โดยส่วนหัวยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและมีสภาพที่สมบูรณ์   มัมมี่ในสุสานแห่งนี้ส่วนมากเป็นชนชั้นสูงและนักบวช   ศาสตราจารย์ Salah Al-Kholi จากมหาวิทยาลัยไคโร คาดว่าจะสามารถพบมัมมี่ได้มากถึง…

  • พบรูปปั้นฟาโรห์ Ramses II อายุ 3,000 ปี ซ่อนตัวใต้สลัมอียิปต์ หนึ่งในการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์!!

    พบรูปปั้นฟาโรห์ Ramses II อายุ 3,000 ปี ซ่อนตัวใต้สลัมอียิปต์ หนึ่งในการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์!!

    การร่วมมือกันของนักสำรวจจากเยอรมนีและอียิปต์ได้ทำให้พวกเขาได้ค้นพบวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ชิ้นใหม่ ซึ่งพวกเขาคาดเดาว่าวัตถุชิ้นนี้จะมาอายุมากถึง 3,000 ปีเลยทีเดียว การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านที่ย่านสลัมอันรู้จักกันในชื่อ Matariya ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสิ่งที่พวกขุดเจอนั่นก็คือรูปปั้นฟาโรห์ที่มีขนาดสูงถึง 8 เมตร   ภาพของนักสำรวจที่กำลังตรวจสอบชิ้นส่วนของรูปปั้นที่พวกเขาเจอ   ตัวรูปปั้นที่พบเห็นนั้นอยู่ในสภาพแตกหัก มันถูกสร้างด้วยหินควอตไซต์ ซึ่งทำให้พวกเข้าค้นพบรูปปั้นชิ้นอื่นๆ ตามมา และหากสำรวจบริเวณนี้ได้เรียบร้อย รูปปั้นเหล่านี้จะถูกนำไปจัดแสดงใน Grand Egyptian Museum  พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2018     ตรงส่วนนี้น่าจะเป็นฐานที่มีข้อความบ่งบอกถึงอะไรสักอย่าง   หลังจากการสำรวจเบื้องต้น พวกเขาคาดเดาว่ารูปปั้นนี้น่าจะเป็นรูปปั้นของฟาโรห์ Ramses II ซึ่งเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีฟาโรห์มาทุกพระองค์เลยทีเดียว เชื่อกันว่าเขาเป็นคนสร้าง Heliopolis (และกลายมาเป็น Matariya ในปัจจุบัน) การขุดค้นครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งสำคัญที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ เพราะทำให้พวกเราทราบถึงประวัติศาสตร์อียิปต์มากยิ่งขึ้น   ส่วนตัวของรูปปั้นที่แตกหัก   นอกจากนี้ การขุดค้นอาจจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวในอียิปต์กลับมาบูมอีกครั้ง หลังจากที่ถดถอยลงไปกว่า 6 ปี เพราะปัญหาทางการเมือง สงคราม และการก่อการร้ายนั่นเอง  …

  • ภาพเก่าเล่าใหม่ ชมภาพสีของคณะสำรวจ ‘สุสานฟาโรห์ทุตอังค์อามุน’ ครั้งแรกจากยุค 1920

    ภาพเก่าเล่าใหม่ ชมภาพสีของคณะสำรวจ ‘สุสานฟาโรห์ทุตอังค์อามุน’ ครั้งแรกจากยุค 1920

    เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ‘สุสานของฟาโรห์ทุตอังค์อามุน’ กันมาบ้างไหมเอ่ย? ย้อนกลับไปในช่วงปี 1922 ‘ลอร์ด คาร์นาร์วอน’ ได้ทำการว่าจ้างทีมนักสำรวจของ ‘โฮเวิร์ด คาร์เตอร์’ ให้เข้าไปทำการสำรวจในสุสานของฟาโรห์องค์นี้ แต่คราวนี้เราไม่ได้พาไปเจาะลึกเรื่องคำสาป หรือสิ่งเร้นลับอะไรทำนองนั้นหรอกนะ แต่เราจะพาไปชมภาพเก่าเก็บของทีมนักสำรวจ แน่นอนว่าในยุคนั้นยังไม่มีกล้องสี แต่ด้วยนวัตกรรมของโลกสมัยใหม่ ทำให้เราสามารถนำภาพขาว-ดำ ให้กลายเป็นภาพสีราวกับรูปภาพทั้งหมดนี้ มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ   ภาพจากกำแพงทางทิศเหนือของสุสาน   สมบัติมากมายที่ถูกค้นพบในสุสานแห่งนี้ ก่อนจะถูกเอามารวบรวมไว้ที่ห้องโถง   29 พฤศจิกายน 1923 Howard Carter (ซ้าย) กำลังห่อรูปปั้นผู้เฝ้ายามด้วยผ้าอย่างดี เพื่อนำไปศึกษาต่อ   สมบัติอีกจำนวนหนึ่งจากสุสานแห่งนี้ ส่วนใหญ่แล้วทำมาจากทองคำบริสุทธิ์ และอัญมณีแท้   บริเวณที่บรรจุหีบศพขององค์ฟาโรห์ โดยมีเหรียญบรอนซ์วางกระจัดกระจายอยู่ด้านบน ตามความเชื่อโบราณของชาวอียิปต์   ตุลาคม 1926 กับการค้นพบหีบใส่อวัยวะภายในขององค์ฟาโรห์ ซึ่งหีบทั้งหมดที่เห็นนี้จะประกอบไปด้วย ตับ ไต ม้าม หัวใจ ฯลฯ   30 ตุลาคม 1925 คาร์เตอร์…

  • ชมภาพโรงงานน้ำผลไม้ในอียิปต์ เห็นแล้วจะไม่อยากกินไปอีกนาน

    ชมภาพโรงงานน้ำผลไม้ในอียิปต์ เห็นแล้วจะไม่อยากกินไปอีกนาน

    เชื่อว่าหนึ่งในเครื่องดื่มสุดโปรดของเพื่อนๆหลายคนคือน้ำผลไม้อย่างแน่นอน เพราะด้วยรสชาติอันหอมหวานและกลิ่นผลไม้เตะจมูก ใครกันล่ะจะไม่ชอบดื่ม แต่ถ้าเพื่อนๆได้เห็นสภาพของโรงงานน้ำผลไม้ในอียิปต์แห่งนี้ เหมียวเชื่อว่าเพื่อนๆจะต้องขยาดการดื่มน้ำผลไม้สดไปอีกนาน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   กระสอบผลไม้กองระเกะระกะ   ดูความสะอาดสิ..   ผลไม้กำลังถูกบดและคั้น   วิธีการทำความสะอาดขวด   เอิ่มมม   พร้อมดื่มละ ใครอยากลองซักขวดบ้างมั้ย       อื้อหือ เห็นแล้วสยองจริงๆ ใครไปอียีปต์ก็เลือกยี่ห้อดีๆกินหน่อยละกัน แต่เหมียวเชื่อว่าประเทศเรายังไม่เลวร้ายขนาดนี้หรอก..ใช่มะ.. ที่มา acidcow

  • กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?

    กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?

    เรื่องอันน่าสลดใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ที่ได้เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอียิปต์โดยมากันเป็นขบวนรถยนต์ 4 คัน แล่นในเขตทะเลทรายภาคตะวันตกในประเทศอียิปต์ ซึ่งได้แล่นเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเขตวาฮัต และยังเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง ISIS อีกด้วย     เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการไล่ล่าอยู่มาพบเข้าก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง จึงเปิดฉากยิงถล่มกลางทะเลทรายทันที!!     และในที่สุดก็พบความจริงว่าเป็นรถยนต์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 10 ราย ไม่ใช่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงที่นำโดยกลุ่ม ISIS เพื่อต่อต้านกองทัพอียิปต์แต่อย่างใด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ผลสรุปก็คือเป็น ‘ความเข้าใจผิด’ และแสดงความรับผิดชอบโดยนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล     ทางด้านผู้นำเม็กซิโกเองเกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากและประณามเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้ทางอียิปต์ทำการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด ที่มา : mirror

  • รวม 7 ความเข้าใจผิดๆที่ส่งต่อกันมาเนิ่นนาน วันนี้ต้องถูกแก้ไข!!!

    รวม 7 ความเข้าใจผิดๆที่ส่งต่อกันมาเนิ่นนาน วันนี้ต้องถูกแก้ไข!!!

    บนโลกอินเตอร์เน็ตที่ข่าวสารและความรู้ต่างๆสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บางครั้งก็มีข้อมูลเท็จหลุดออกไปบ้าง ทำให้หลายๆคน ทึกทักเอาเองว่า เรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง วันนี้เหมียวจึงพาไปดู 7 ความเชื่อผิดๆที่เชื่อกันมาอย่างเนิ่นนาน พร้อมกับข้อเท็จจริง ว่าที่จริงแล้ว เรื่องเหล่านั้น เป็นอย่างไรกันแน่ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย ความเชื่อ : ชาวไวกิ้งต้องสวมหมวกเขาสัตว์ ความจริง : ภาพชาวไวกิ้งสวมเขาสัตว์เพิ่งโผล่มาช่วงยุคปลายศตวรรษที่ 18 ในละครโอเปร่าของ Richard Wegner ความเชื่อ : ร่างกายจะใช้เวลาย่อยหมากฝรั่ง 7 ปี ความจริง : แม้ว่าส่วนประกอบมันจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่มันไม่มีทางอยู่ในร่างกายได้ถึง 7 ปีแน่นอน ความเชื่อ : ฉี่สามารถล้างพิษแมงกระพรุนได้ ความจริง : เอาน้ำเกลือหรือน้ำร้อนมาล้างน่าจะดีกว่าเยอะ ความเชื่อ : ในภาวะปกติ สมองเราทำงานแค่ 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น ความจริง : ถ้า 90 เปอร์เซ็นของสมองไม่ได้ทำงานล่ะก็ เราจะนอนเอ๋อน้ำลายยืดอยู่แน่ๆ ความเชื่อ : น้ำโคล่าหนึ่งกระป๋องสามารถละลายตะปูทั้งอันได้…