Tag: อุทาหรณ์
-
เตือนสาวๆ!! หนุ่มหื่นแอบถ่าย “ใต้กะโปรง” ขณะหญิงสาวกำลัง ‘จดจ่อ’ กับหนังสือในร้าน
ในยุคสมัยที่ มนุษย์ กลายเป็นภัยอันตรายอย่างหนึ่งของมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะออกไปที่ไหนก็ต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักเดินทางคนเดียว บางครั้งคุณอาจอยู่ใกล้ๆ กับ “ชายไม่ประสงค์ดี” ก็เป็นได้ ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ สำหรับเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านหนังสือแห่งหนึ่งในเมืองหลัวตง ของไต้หวัน ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ว่าเมื่อราวๆ 15.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน 2018 หญิงคนหนึ่งที่ยืนเลือกหนังสืออยู่ในร้านถูกชายอีกคนในร้านแอบใช้กล้องถ่าย “ใต้กระโปรง” ของเธอโดยทำทีว่ามาเลือกหนังสือ ขณะที่หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำกำลังอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ ชายเสื้อสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ ก็แอบนั่งลงและยื่นแขนเข้าไปใต้กะโปรงระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ แล้วใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอาไว้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดของร้านหนังสือ ชายในคลิปแอบนั่งยอง เขาสอดแขนเข้าไปใต้กะโปรงของหญิงสาวและแอบถ่ายรูปเป็นเวลาราว 3 วินาที เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ลุกยืนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่อาจรู้สึกตัวได้ว่าตนกลายเป็นเหยื่อของชายคนนี้ไปเสียแล้ว เมื่ออ่านบทความนี้แล้วหวังว่าสาวๆ จะมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนเรามัน “รู้หน้าไม่รู้ใจ” จริงๆ ที่มา: ck101 และ youtube
-
เผยวินาที ‘ชายแปลกหน้า’ ลักพาตัว ‘เด็กหญิง’ วัย 3 ขวบในจีน สุดท้ายถูกจับ…
ชายคนหนึ่งถูกจับกุมตัว 18 ชั่วโมงหลังจากพบภาพเขาในกล้องวงจรปิด ซึ่งกำลังทำการลักพาตัวเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นรถบนถนนในเมืองกันเซา มณฑลเจียงซีทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 ผู้ต้องสงสัยนามว่า Zhang ถูกพบเห็นในวิดีโอที่ถูกบันทึกมาว่ามีการหลอกล่อให้เด็กหญิงวัย 3 ขวบด้วยอาหารหรือขนมบางอย่าง ทำให้เด็กหญิงเดินเข้าไปหาเขาเพราะอยากได้อาหาร พ่อของเด็กสาวรีบโทรฯ แจ้งตำรวจทันทีที่รู้ว่าลูกสาวของตนหายตัวไป เด็กหญิงถูกหลอกล่อด้วยอาหาร ซึ่งเธอก็ยังมีท่าทางที่ไม่เต็มใจจะไปกับผู้ต้องสงสัย แต่เขากลับอุ้มเธอขึ้นรถของเขาไปเลย เมื่อ Zhang ได้ตัวเด็กสาวแล้ว เขาไม่รอช้า รีบขี่รถจักรยานยนต์ของเขาออกไป หลังจากตวรจสอบจากภาพในกล้องวงจรปิด ผ่านไป 18 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยตามเขาจนพบตัวเขาที่บ้านในช่วงเช้าของวันที่ 7 กรกฎาคม ส่วนเด็กหญิงถูกช่วยเอาไว้ได้อย่างปลอดภัยและไร้ร่องรอยถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวของ Zhang เอาไว้เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ามนุษย์ แต่เจ้าตัวกลัวปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าแค่ต้องการรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูเป็นลูกสาวก็เท่านั้นเอง ขณะนี้การสอบสวนยังคงดำเนินการต่อไป สำหรับพ่อแม่ เรื่องนี้คงเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรปล่อยลูกหลานที่ยังเด็กให้อยู่ตามลำพังและห่างไกลจากสายตา ที่มา: nextshark, dailymail และ NewsChina
-
สาวๆ โปรดระวัง!! เทรนเนอร์เกิด “เป้าตุง” ขณะช่วยสาวคนหนึ่งยกบาร์เบลจากด้านหลัง!
เรื่องนี้อาจเป็นอุทาหรณ์สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการเข้าไป ออกกำลังกายในยิม ได้เป็นอย่างดี… คลิปวิดีโอหนึ่งถูกถ่ายมาจากยิมออกกำลังกายไม่ทราบสถานที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็นประเทศใดประเทศหนึ่งในเอเชีย ในวิดีโอแสดงให้เห็นว่า สาวมัดผมคนหนึ่งกำลังออกกำลังกายอยู่กับบาร์ยกน้ำหนัก พร้อมด้วยผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็น เทรนเนอร์ ประกบคอยช่วยเหลืออยู่ด้านหลัง ในวิดีโอ ท่ายกน้ำหนักของสาวคนนี้คือท่า สคว็อต ซึ่งเธอจำเป็นต้องย่อตัวลงและยืดตัวขึ้นซ้ำๆ แต่ขณะที่เธอกำลังย่อและยืดตัวอยู่นั้น ภายในคลิปกลับแสดงให้เห็นบางสิ่งที่สะดุดตาผู้ชมขึ้นมาเสียอย่างนั้น ต่อให้ไม่ได้ตั้งใจมองก็คงจะเห็นได้ไม่ยากว่า เป้ากางเกง ของเทรนเนอร์นั้นนูนแหลมขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นคลิปวิดีโอนี้ถึงกับวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ขณะที่เป้ากางเกงของเทรนเนอร์นั้นลุกชูชันขึ้นมาราวกับมีชีวิต หญิงสาวก็ยังคงทำท่าสคว็ตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ร่างกายของทั้งสองนั้นสัมผัสกันหลายครั้ง ไม่แน่ใจว่าผู้หญิงในคลิปดังกล่าวรู้ตัวหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ภาพที่ออกมานั้นถือว่าเป็นภาพที่ไม่น่าจรรโลงใจเท่าใดนัก เชิญดูคลิปกันได้เลย… หลังจากคลิปนี้แพร่งพรายออกไปสู่โลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้ความเห็นกันมากมาย เช่น… “ผมคิดว่าเธอเองก็สนุกกับมันนะ” “เธอไม่รู้ตัวเหรอ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนเลย” “เธอโยกตัวเข้าหามันเสียด้วยนะนั่น” “ดูดีๆ มันเป็นแค่รอยยับของกางเกงเท่านั้นเอง” และ “เจอแบบนี้ เป้าไม่ตุงสิแปลก” อย่างไรก็ตาม หากใครไม่ต้องการพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ยามเข้าไปออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ในยิมล่ะก็ ให้ระวังตัวเองเอาไว้เสมอ ไม่อย่างนั้นอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ ที่มา: ck101…
-
อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์!! ชาวเน็ตแชร์ประสบการณ์ จะ “เปลี่ยนงาน” ต้องรอบคอบ!!
ในชีวิตของการทำงาน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ด้วยแล้วนั้น การเปลี่ยนงานคงเกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าแปลกใจ นักศึกษาจบใหม่ส่วนมากจะมีความกลัวที่ว่า “หางานทำไม่ได้” ฉะนั้นได้งานอะไรก็ทำๆ ไว้ก่อน ผลสุดท้ายกลับมาพบว่า “มันไม่ตรงสาย” แล้วก็ต้องเปลี่ยนงานในที่สุด แต่การจะลาออกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมพลาดกันมานักต่อนักแล้วด้วยเช่นกัน อย่างเช่นตัวอย่างในวันนี้ โดยคุณ รู้หน้าไม่รู้ไต ได้ออกมาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปเชิงเล่าประสบการณ์ของตนเองโดยตั้งหัวข้อว่า “บริษัทหรือองค์กรต่างๆ ช่วยเห็นใจผู้สมัครงานสักนิดนึงเถอะ เจ็บใจแถมเสียความรู้สึกมากๆ” ซึ่งเรื่องราวที่เล่าผ่านกระทู้นี้ รวมไปถึงชาวเน็ตที่เข้ามาให้ความเห็นนั้นก็ได้เป็นความรู้และอุทาหรณ์ให้กับผู้อ่านที่ผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี เนื้อหาจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย… เรื่องย่อ เจ้าของกระทู้ลาออกจากงานเก่ามาได้ 2 เดือนเพราะงานไม่ตรงสาย แล้วก็หางานใหม่จนได้ไปสัมภาษณ์งานกับบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง 6-7 วันถัดมาบริษัทก็โทรมาตอบรับเข้าทำงาน แต่พออีก 1 วันก่อนเริ่มงานกลับขอเลื่อนไปอีก 10 วัน อ้างว่าบอสใหญ่ที่ญี่ปุ่นยังไม่อนุมัติ ซึ่งตอนนั้นเจ้าของกระทู้ยังไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างเลย พอถามด้วยความสงสัยก็ทราบว่า บริษัทยังไม่รับพนักงานใหม่ตอนนี้ (จขกท. เงิบ) จึงถามต่อว่าวันที่นัดไว้ยังนัดอยู่หรือเปล่า คำตอบที่ได้มาคือไม่แน่ใจ ให้หางานใหม่รอไว้เลย (จขกท. เงิบอีกครั้ง) แล้วก็เล่าว่าตนเองเสียใจและเจ็บใจมากๆ เหมือนโดนหลอกว่าจะรับแต่กลับมาปฏิเสธ ทำให้ตนไม่ได้หางานใหม่รองรับไว้ เจ้าของกระทู้จึงออกมาเตือนบริษัทว่าให้คุยกันให้ดีก่อนรับพนักงาน ไม่งั้นก็จะทำให้คนคนหนึ่งต้องตกงานซ้ำซ้อนแบบนี้โดยไม่รับการรับผิดชอบใดๆ เลย …
-
อุทาหรณ์… โทรศัพท์ระเบิดเละคามือ คาดว่าเกิดจากการใช้ “สายชาร์จปลอม”!!
แน่นอนว่าในปัจจุบันพวกเราทุกคนต่างมีมือถือสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น และปัญหาที่เรามักจะเจอกันบ่อยๆ ก็คือปัญหาสายชาร์จขาด ทำให้เราต้องซื้อสายใหม่มาใช้ ซึ่งเรามักจะไม่สนใจว่ามันเป็นสายแท้หรือปลอม ขอแค่ถูกก็พอ แต่สิ่งที่เราอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนคือ การใช้สายชาร์จปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงตามมาได้ เหมือนอย่างชายคนนี้ เมื่อจู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็เกิดระเบิดขึ้น คนไข้เข้ามารักษาจากเหตุการณ์ดังกล่าว เรื่องราวดังกล่าวถูกเล่าผ่านเพจ บิ๊กเกรียน โดยระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 24 เมษายน 2018 ชายภายในรูปได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เอาไว้จนเต็มแล้วจึงดึงสายชาร์จออกตอนที่มีสายโทรเข้ามาพอดี แต่ในขณะที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดรับสาย โทรศัพท์กลับระเบิดเละคามือ หลังจากนั้น ญาติจึงนำตัวส่ง โรงพยาบาลพะเยา เพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน ซึ่งแพทย์บอกว่าการระเบิดในครั้งนี้ทำให้กระดูกมือแตก นิ้วนางและนิ้วก้อยข้างซ้ายขาดไปครึ่งข้อบน (ตามในภาพเลยจ้า) สภาพของมือที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง จากการสอบถาม คนไข้ได้เล่าว่าตนเองซื้อสายชาร์จมาจากร้านโทรศัพท์ทั่วไป ไม่ใช่สายชาร์จแท้ที่เป็นยี่ห้อเดียวกันกับตัวเครื่อง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามันน่าจะเกิดจากการใช้สายชาร์จปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง โพสต์จากเพจ บิ๊กเกรียน เพราะฉะนั้นทางที่ดีเราจึงควรใช้ของที่มีมาตรฐานปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าของแท้ย่อมสามารถทำให้เราวางใจเรื่องนี้ได้มากกว่า และหวังว่านี่จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังใช้ของปลอมไม่ได้มาตรฐานอยู่นะ ที่มา: บิ๊กเกรียน
-
อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”
ต่อไปนี้สาวๆ โปรดระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะมาในคราบของ “เพื่อนสนิท” ก็เป็นได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมา ในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล้องวงจรปิดของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้ถ่ายติดภาพคู่หนุ่มสาววัยรุ่นที่กำลังทานอาหารอยู่ภายในร้าน และเผยให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของฝ่ายชาย จากภาพ ฝ่ายชายอาศัยจังหวะฝ่ายหญิงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบนำยาบางอย่างใส่ลงไปในแก้วน้ำของฝ่ายหญิง เมื่อเธอดื่มน้ำจากแก้วดังกล่าว เธอก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง และไม่มีแรงพอที่จะทรงตัวได้เอง . จากนั้น ฝ่ายชายก็ประคองพาตัวฝ่ายหญิงไปยังห้องของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทำการ ล่วงละเมิดทางเพศ ในที่สุด สถานการณ์ล่าสุดรายงานออกมาแล้วว่า ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากการตรวจสอบ พบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าว แซ่กู้ เป็นเพื่อนกับฝ่ายหญิง โดยทั้งสองรู้จักกันบนรถไฟใต้ดินราวหนึ่งปีที่แล้ว . ทั้งนี้ ยังทราบมาอีกว่า ทั้งสองคนเคยไปเที่ยว ทานข้าว และดูคอนเสิร์ตด้วยกันหลายครั้ง และยังมีการจับไม้จับมือกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ฝ่ายชายคิดกับฝ่ายหญิงไกลเกินกว่าเพื่อน เขาจึงตัดสินใจสั่งซื้อยากล่อมประสาทจากอินเทอร์เน็ต เพราะอยากทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและฝ่ายหญิงพัฒนาไปอีกขั้น นี่แหละนะ คนที่เราไว้ใจอาจจะร้ายที่สุดก็ได้! ที่มา: New.qq
-
จับได้แล้ว!! หนุ่ม “ราดน้ำมัน-จุดไฟเผา” รถที่จอดข้างทาง รับสารภาพแต่พูดวกไปวนมา!?
เตือนภัย!! จอดรถเอาไว้เฉยๆ ก็มีคนเอาน้ำมันมาราด จุดไฟเผา ลุกลามไปหลายคัน โดยไม่ทราบเหตุผล เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ได้มีการโพสต์วิดีโอการก่อเหตุ “เผารถ” ณ ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จังหวัดชลบุรี บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด หน้าวัดหนองกระทุ่ม เวลาก่อเหตุราว 03.00 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Chatchai Surin ได้นำวิดีโอดังกล่าวมาโพสต์ลงกลุ่ม คนอำเภอพานทอง จ.ชลบุรี เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจและช่วยประกาศหาคนร้ายผู้ก่อเหตุ ในโพสต์ ประกอบด้วยภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความระบุว่า “ช่วยกันแชร์จับคนร้ายด้วยครับ….. เหตุเกิดตอนเกือบตี 3 มีคนจุดไฟเผารถยนต์ข้างร้านผมเมื่อสักครู่ ภัยสังคมจริงๆ มันเผารถที่จอดข้างทางไปเรื่อยๆ คืนเดียวร่วม 10 คันแล้ว ระวังกันด้วย” คนร้ายกำลังราดน้ำมัน วินาทีที่กล้องถ่ายติดหน้าคนร้าย ใช้ไฟแช็กจุดไฟเผา จากนั้นไฟก็ลุกโชน เมื่อก่อเหตุได้สำเร็จ คนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป รับชมคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ด้านล่าง อัพเดท:…
-
อุทาหรณ์เตือนใจ…เมื่อเจ้าของไม่ยอมเก็บ ‘ถุงขนมเปล่า’ ไปทิ้ง เป็นเหตุให้น้องหมาเสียชีวิต
น้องหมาส่วนใหญ่จะได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของที่รักมันมากๆ ไม่ต่างกับสิ่งที่ Christina Young ทำกับน้องหมาของเธอมาโดยตลอด แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งมันต้องจากโลกนี้ไปด้วยสาเหตุที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน วันหนึ่งช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 Christina ได้จูบลาเจ้าหมา Petey ของเธอก่อนที่จะออกไปทำงานตามปกติ โดยที่เธอไม่ได้เอะใจเลยว่านั่นคือครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นมันในตอนที่ยังมีลมหายใจอยู่ Christina และน้องหมา Petey ตกเย็นวันนั้นเธอกลับมาที่ห้องแล้วก็ได้เจอกับแฟนหนุ่มที่มาถึงก่อนเธอ 10 นาที พร้อมกับข่าวร้ายที่ทำให้หญิงสาวแทบจะลมทั้งยืน เมื่อเธอได้รู้ว่าเจ้าหมาสุดที่รักของเธอลาจากโลกนี้ไปเสียแล้ว สาเหตุการตายของ Petey คือการขาดอากาศหายใจ หลังจากที่มันเอาหัวยัดเข้าไปในถุงขนม ซึ่งหญิงสาวไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าสิ่งนี้มันจะสามารถพรากเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอไปได้ สำหรับคนเลี้ยงหมาทั้งหลายคงจะเคยเห็นพวกมันเอาหัวยัดเข้าไปในถุงขนมเพื่อมองหาว่ามีของกินเหลืออยู่หรือเปล่า มองว่าเป็นเรื่องปกติไม่นาจะทำอันตรายใดๆ กับพวกมันได้ แต่ดอกเตอร์ Jason Nicholas ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสัตว์ Preventive Vet บอกว่าความจริงแล้วมันตรงกันข้ามกันเลยต่างหาก เวลาที่น้องหมาแหย่หน้าเข้าไปในถุงขนม พวกมันจะพยายามดิ้นให้เข้าไปหาได้ลึกขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่สามารถเอาศีรษะออกมาจากถุงได้ ไม่เกี่ยวว่าน้องหมาของเราจะแข็งแรงหรือตัวใหญ่มากขนาดไหน แต่เมื่อไหร่ที่มันติดอยู่ในนั้นก็จะทำให้มีความเสี่ยงของการขาดอากาศหายใจสูงมาก หากติดอยู่อย่างนั้นมากกว่า 3 นาที สุดท้ายพวกมันก็จะขาดอากาศหายใจตายในที่สุด Jason บอกว่าตามสถิติแล้วมีหมาประมาณ 3-5 ตัวขาดอากาศหายใจในทุกสัปดาห์ โดย…
-
อุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่ คลิปพี่เลี้ยงทุบตีเด็กน้อย หลังเพิ่งโบกมือบ๊ายบายคุณแม่ ไม่ถึง 1 นาที!!!
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์จากประเทศจีน เผยให้เห็นความโหดร้ายของพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าหนูน้อยอย่างรุนแรง หลังจากที่แยกจากแม่ของเด็กไม่ถึงนาที!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวพี่เลี้ยงเด็กวัย 42 ปี หลังจากที่คลิปวิดีโอในลิฟต์ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญในระหว่างที่เธอกำลังทำร้ายเด็กน้อยด้วยการทุบหน้าอกและศีรษะอย่างรุนแรง เพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องไห้ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนาง Li ได้ทำร้ายเจ้าหนูน้อยเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเพศของเด็กคนดังกล่าว) ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นการกระทำอันโหดร้ายของนาง Li ในตอนแรกเธอได้ใช้ฝ่ามือทุบไปที่ท้องของเด็กหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่เงียบ เธอจึงได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของเด็กอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง และจากนั้นก็เขย่ารถเข็นเด็กอย่างแรง ก่อนที่จะออกจากลิฟต์ไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของหญิงคนดังกล่าว “เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และทุกที่ การนำแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการนำเสนอผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำ” หนี่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตใน Weibo และนี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงเด็กคนนี้กระทำต่อเจ้าหนูน้อยคนนี้ (คำเตือน: อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง) ที่มา nextshark
-
สาวไป “สักที่ตา” แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้น พร้อมออกมาเตือนทุกคนว่าอย่าทำตาม เพราะอันตราย!!
ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเทรนด์การสักที่ ‘ตา’ ดูจะเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มวัยรุ่นฝั่งตะวันตก และถ้าคิดจะทำละก็… อาจจะต้องลองคิดทบทวนดูใหม่ดีๆ นะ เพราะ Catt Gallinger สาววัย 24 ปี จากเมืองออตตาวา ได้นำเรื่องราวน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองมาบอกเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคน ที่กำลังคิดจะไปสักตาผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed Catt Gallinger เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนเธอได้ไปสักตาเป็นครั้งแรก ซึ่งอันที่จริงมันก็คือการเพิ่มสีไปตรงบริเวณตาขาวนั่นแหละ ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน จู่ๆ รอยสักจากนัยตาของเธอก็ดูเหมือนจะติดเชื้อ ถึงขนาดที่ทำให้ตาข้างหนึ่งของเธอไม่สามารถมองเห็นได้เลยทีเดียว หลังจากที่คุณหมอให้การรักษาเธอด้วยการหยอดสเตียรอยด์และแอนตี้ไบโอติกเป็นเวลา 3 สัปดาห์ แพทย์ก็ได้วินิจฉัยว่าเธอเสี่ยงที่จะมองเห็นภาพได้ไม่ชัดไปตลอดชีวิต จากนั้น Gallinger จึงนำเรื่องราวและภาพถ่ายทั้งหมดของเธอมาแชร์บนเฟซบุ๊ก เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนอื่นๆ “ฉันไม่ได้แชร์เพราะอยากทำให้มันน่ากลัวหรือต้องการโชว์อะไรหรอกนะ แต่แชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้รู้ว่า.. ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนสีเยื่อหุ้มตาของตัวเอง คุณควรที่จะทำการศึกษาเรื่องสีที่ใช้ ความสะอาดของคนทำ และปัจจัยอื่นๆ ให้รอบคอบ ฉันไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก” Gallinger กล่าว อีกทั้งเธอยังย้ำว่า… ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าไปทำมันเลย .…
-
19 ภาพที่ย้ำว่า “สวมหมวกกันน็อค” เถอะครับ อย่าใส่แค่กันตำรวจเลย มันช่วยจริงนะ!!
หมวกกันน็อค หมวกกันภัย หมวกนิรภัย หรือจะอะไรก็ตามแล้วแต่เราจะเรียก เจ้าพวกนี้บางครั้งเรามักจะไม่ค่อยสวมใส่มันด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะร้อนบ้าง ไม่เท่บ้าง แต่เหตุผลหลักที่เราใส่ก็เพราะกฎหมายเท่านั้น เชื่อเหอะว่า หมวกกันน็อคหรือหมวกไหนๆ จุดประสงค์หลักของพวกมันล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันส่วนหัวทั้งสิ้น แต่เราก็เลือกจะเลี่ยงที่จะใช้มันหาข้ออ้างไปเรื่อยๆ อย่างถ้ารถล้มถ้าคอหักหมวกกันน็อคก็กันไม่ได้ แต่ก่อนจะคอหักหมวกก็จะช่วยกันหัวกระแทกพื้นได้อยู่ดีจริงไหม? ทว่าถ้ายังไม่เชื่อละก็ งั้นลองมาดูสภาพของหมวกันน็อค 19 ภาพ ที่จะตอกย้ำว่าใส่หมวกเหอะ มันดีจริงๆ นะ!! เห็นไหมต่อให้เอาหน้าลง หมวกก็ยังช่วยได้ นี่บาดเจ็บแค่ขานะ ส่วนหัวหมวกกันได้ แม้มันจะแตก แต่ถ้าไม่ใส่หัวนี่แตกแน่ ขนาดหมวกในพื้นที่ก่อสร้าง มันก็ยังช่วยชีวิตได้ คิดดู จะมีกระจกหน้าหรือไม่มี ถ้าคุณภาพหมวกมันดีกันได้หมดแหละ!! BMX บางคนก็ใช้เหมือนกัน เพราะมันเสริมความปลอดภัยไงล่ะ ลองคิดสภาพเอาหน้าลงแล้วไม่มีหมวกดูสิ แม้แต่กับทหาร หมวกนิรภัยก็ช่วยได้เสมอ เคยดูในหนังไหมที่ยิงโดนหมวก แต่หมวกกระเด็นเฉยๆ ให้หมวกมันหัก ยังดีกว่าคอหรือหัวเราแตกหักนะ ใส่แล้วผมอาจจะเสียทรง ใส่แล้วอาจจะไม่ได้โชว์หน้าหล่อๆ แต่ถ้าไม่มีชีวิตต่อก็เสียทุกอย่างนะ…
-
ถึงกับเดือดร้อน ชาวเน็ตแชร์ภาพรอยไหม้ ที่เกิดจากเคสโทรศัพท์แบบมี ‘กากเพชร’
กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกโซเชียล สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อเคสมือถือแบบมีกากเพชรจากร้าน MixBin ผ่านเว็บไซต์ Amazon เพราะล่าสุดลูกค้าหลายคนจากทั่วโลก ได้ออกมาโพสต์ภาพผิวหนังตัวเองที่ถูกของเหลวบางอย่างจากเคสโทรศัพท์ ทำปฏิกริยากับผิวหนังจนเกิดเป็นแผลไหม้..!! โดยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทผู้ผลิตเคสมือถือ MixBin ได้ออกมาเรียกคืนเคสโทรศัพท์ทุกรุ่นที่เคยจำหน่ายออกไปตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2015 โดยจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ – 65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทางบริษัทก็ได้ออกมาชี้แจงถึงปัญหาในครั้งนี้ว่า… “จากการรายงานพบว่าตอนนี้มี 24 คนทั่วโลกที่มีอาการแพ้บนผิวหนัง และ 19 คนเป็นลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐฯ” ชาวเน็ตโพสต์ภาพรอยแผลไหม้ที่เกิดจากเคสมือถือ หนึ่งในผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่า “จู่ๆ ก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการแพ้แดด แต่เมื่อกลับบ้านมาถึงได้เห็นบริเวณต้นขามีรอยแผลไหม้ และมีของเหลวออกมาจากเคสโทรศัพท์” ถึงบริษัทจะออกมาชี้แจงรับผิดชอบ ทว่าปัญหาดังกล่าวถูกเรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2015 นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะหญิงสาวหลายคนต้องมีรอยแผลเป็นบนขา บางกรณีอาจต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการรักษานานเป็นเดือนๆ Melissa ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้อง เธอเล่าว่าสังเกตเห็นรอยแตกบนเคส จากนั้นจึงเอานิ้วไปลูบๆ…
-
อุทาหรณ์เด็ก 5 ขวบ สำลักแซนด์วิช สมองขาดออกซิเจนนานเกินไป จนกลายเป็นผู้พิการ…
เคยคิดกันบ้างไหมว่าของกินที่กินอยู่เป็นประจำอย่างแซนด์วิช จะกลายเป็นเหตุรุนแรงที่ทำให้เกือบเสียชีวิตได้? แซนด์วิชสามารถคร่าชีวิตคนเราได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือ? ลองอ่านเรื่องราวในครั้งนี้ดูก่อน… Dylan Woodley เด็กชายวัย 5 ขวบ ผู้ป่วยที่กลายเป็นเด็กที่ไม่สามารถจะเดินหรือสื่อสารด้วยวิธีปกติได้ นอกเสียจากการสื่อสารผ่านสายตา แม้ก่อนหน้าเขาจะเคยเป็นเด็กปกติก็ตาม สาเหตุที่เขากลายเป็นแบบนี้นั้นก็เพราะว่า ระหว่างที่เขากำลังกินแซนด์วิชแฮม เขาก็เกิดสำลักอย่างหนักจนต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ซึ่งอาการของเขาหนักมากๆ ถึงขนาดที่ต้องใช้เวลารักษาตัวกว่า 20 เดือนในโรงพยาบาล Ally Wheatley แม่ของหนูน้อยผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าถึงวินาทีชีวิตของลูกชายว่า ตอนที่ลูกชายกินแซนด์วิชเข้าไปแล้ว เขาก็ร้องไห้วิ่งเข้ามาในห้องครัวเพราะมีก้อนเนื้อติดอยู่ในคอ เธอพยายามลูบหลังลูกชาย ก่อนที่จะให้เขานั่งลงแล้วก็ทำการตบหลังเพื่อให้อาหารที่ติดคอนั้นออกมา นอกจากนี้เธอยังเล่าถึงความรู้สึกว่า แม้ว่าทีมแพทย์จะใช้เวลาไม่กี่นาทีมายังที่เกิดเหตุไม่นานนัก แต่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีนั้นมันยาวนานเหมือนทั้งชีวิต และช่วงเวลาที่ทีมแพทย์บอกกับเธอว่า ส่วนสมองของลูกชายขาดออกซิเจนไปนานกว่า 45 นาที ทำให้หลายส่วนของสมองได้รับความเสียหาย ตอนนั้นใจของเธอแทบสลาย Dylan ไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป ทำให้เขาต้องติดอยู่กับวีลแชร์ตลอดเวลา แม้ว่าโชคดีที่ Dylan จะไม่เสียชีวิตก็ตาม แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นมันก็หนักหน่วงมากๆ และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล แต่ยังไงก็ตาม คุณแม่และ Roy พ่อบุญธรรมของ Dylan ก็ยังไม่ทิ้งเขาไป พวกเขายังเลือกที่จะดูแลลูกอย่างใกล้ชิดรวมถึงสนับสนุนพัฒนาการต่างๆ…
-
อุทาหรณ์เตือนใจ.. คุณป้าวัย 67 มัวแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ จนร่วงลงหลุมเจ็บสาหัส..!!
ถือว่าเป็นเรื่องที่เราเอามานำเสนอเพื่อช่วยย้ำเตือนให้เพื่อนๆ ระวังภัยอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ที่บนถนน Somerset แห่งรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ และมันก็ช่วยเตือนสติให้เราได้อย่างดีด้วยเช่นกัน ภาพของสุภาพสตรีวัย 67 ปี ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ข้างทางเท้า เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าข้างหน้ามีหลุมขวางทางอยู่ ถึงแม้จะมีการเปิดประตูตั้งขึ้นมาเป็นที่กั้นแล้วก็ตาม เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตกลงไปในหลุมทันที แต่โชคดีที่มีวัยรุ่นสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี พวกเธอจึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือทันที โชคดีที่มีกลุ่มหญิงสาวเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดี ต่อจากนั้นไม่กี่นาทีทีมกู้ภัยก็เข้ามาช่วยเหลือเธอได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้ว่าจะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่อีกนานหลายเดือนเลยทีเดียว ยังไงซะเราก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนแหละเนาะ เชื่อว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ ที่มา: Dailymail
-
ชายวัย 32 ปี ชาร์จไปด้วยเล่นโทรศัพท์ไปด้วยขณะอาบน้ำ จบชีวิตจากเหตุไฟฟ้าช็อต…
เจ้าหน้าที่ฝ่ายชันสูตรได้ออกมาแจ้งเตือนว่าที่ชาร์ต iPhone นั้นสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย หลังจากที่ผลชันสูตรของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อตขณะอาบน้ำไปด้วยเล่นโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์จแบตฯ ไปด้วย นาย Richard Bull จากเมือง Ealing ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอนได้เสียชีวิตในบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมทีผ่านมา ชายวัย 32 ปี ถูกพบว่ากำลังนอนอยู่ในห้องน้ำโดยภรรยา Tanya ที่คิดว่าสามีของตัวเองถูกทำร้ายเพราะมีรอยไหม้อย่างรุนแรงอยู่ที่หน้าออกของเขา จากการสืบสวนการตายของเขาเจ้าหน้าที่ชันสูตรได้ออกมาเตือนว่าอุปกรณ์ที่เราใช้กันในปัจจุบันแบบทั่วไปอาจจะสร้างอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากนำไปใช้ในห้องน้ำ อย่างเช่นการใช้ไดร์เป่าผมในห้องน้ำ “ผู้ผลิตควรจะติดป้ายเตือนบนตัวอุปกรณ์ด้วยว่าห้ามใช้โทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องน้ำ” เจ้าหน้าที่ชันสูตรกล่าว เจ้าหน้าที่ Craig Pattison ได้ให้ข้อมูลในการไต่สวนคดีที่ศาล West London Coroner’s Court ว่า “พวกเราพบสายชาร์จแบตไอโฟนกำลังเสียบอยู่ และมันเชื่อมต่อเข้าไปในห้องน้ำ” และผลจากการชันสูตรก็สรุปได้ว่านาย Bull เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากถูกกระแสไฟฟ้าจากโทรศัพท์ไอโฟนที่เสียบสายชาร์จเกิดลัดวงจรขึ้นมาขณะที่เขากำลังใช้งานในอ่างอาบน้ำ ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ในวันนั้นนาย Bull กำลังจะเตรียมตัวเพื่อออกไปเยี่ยมหาครอบครัวในงานฉลองวันคริสต์มาส ร่วมกับพ่อแม่ของเขา และก็ต้องตกใจเมื่อทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แม่ของเขาคุณ Carole บอกว่า “ฉันรู้สึกเป็นห่วงผู้คนอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่น ที่ไม่สามารถแยกตัวเองให้อยู่ห่างจากโทรศัพท์ได้…
-
พ่อแม่ใจสลาย สูญเสียลูกชายวัย 3 เดือน เหตุเพราะปล่อยลูกไว้ที่เปลชิงช้าเพียงลำพัง
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยเรื่องราวสุดสลดที่เกิดขึ้น ณ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ Jeremy Rainsford และ Emma Granger ผู้เป็นพ่อแม่จากเมืองเพิร์ธกำลังอยู่ในช่วงที่ใจสลาย หลังได้สูญเสียลูกชายวัยเพียง 3 เดือนไป เหตุเพราะปล่อยลูกไว้ที่เปลชิงช้า หลังเดินไปเข้าห้องน้ำเพียงนาทีเดียว ทางด้าน Jeremy ได้ออกมาเผยว่า เขาได้วาง Kayden ผู้เป็นลูกชายไว้ที่เปลชิงช้า เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าหนูน้อยหมดสติ ซึ่งเขาก็ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตของลูกโดยการทำ CPR แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องส่งตัวของ Kayden ไปยังโรงพยาบาล Princess Margaret แต่ภายหลังกลับได้รับข่าวร้ายว่า Kayden ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว ส่วน Emma Granger ก็ได้ออกมาเผยว่า “Kayden เริ่มที่จะยิ้ม และหัวเราะได้แล้ว แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้น อย่าปล่อยให้ลูกหลานของคุณนอนในเปลชิงช้าเพียงลำพัง” จากเหตุการณ์ที่หนูน้อย…
-
สาววัย 18 ไม่ยอมทำความสะอาดห้อง พลาดไปเหยียบอะแดปเตอร์ชาร์จทะลุเข้าเนื้อลึก!!
สำหรับใครที่ไม่เคยทำความสะอาดห้อง และปล่อยให้ห้องรกจนไม่มีทางเดินละก็!! ระวังเอาไว้ให้ดี เพราะบางทีมันอาจจะนำมาสู่บทเรียนอันแสนเจ็บปวดที่จะทำให้คุณจดจำไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ และนี่คือบทเรียนตัวอย่างที่จะทำให้คุณได้เห็นว่าโทษของการปล่อยให้ห้องรกมันเป็นอย่างไร รับรองว่าเมื่อได้เห็นแล้วจะต้องรีบไปเก็บกวาดห้องขนมาทันทีเลยละ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Julia Pechar หญิงสาววัย 18 คนนี้ ได้รับบทเรียนอย่างหนัก หลังจากที่เท้าของเธอดันไปเหยียบกับที่ชาร์จโทรศัพท์จนทะลุเข้าไปในเท้า… โดยสาเหตุที่ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เธอไม่ยอมเก็บกวาดห้องนอน แถมเสื้อผ้าก็เกลื่อนไปทุกที่ จนทำให้แทบไม่มีทางเดินกันเลยทีเดียว นี่คือสภาพห้องของเธอ แต่ใครจะรู้ละว่ามันมีภัยร้ายซ่อนอยู่ จากการรายงานระบุว่า ในขณะที่ Julia กำลังนั่งดูหนังอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงป๊อบคอร์นที่อบไว้สุกพอดี จากนั้นเธอจึงกระโดดลงจากเตียง และทำให้เท้าดันไปเหยียบใส่ปลั๊กสำหรับชาร์จไอโฟนเข้าไปเต็มๆ และนี่คือสภาพที่เกิดขึ้น น่ากลัวมากจริงๆ!! Julia ได้บันทึกภาพถ่ายเอาไว้ และนำไปโพสต์ในทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า “ก่อนที่ฉันจะตะโกนเรียกแม่ ฉันได้คลานไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพ ส่วนใครที่สงสัยว่ามันไม่มีเลือด จริงๆ แล้วมันมีนะ…แถมยังมีเยอะมากด้วย” ด้านชาวเน็ตหลังจากที่ได้เห็นภาพดังกล่าวต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ห้องของเธอเหมือนซ่อนบางอย่างเอาไว้เลย” “บางทีแม่ของคุณควรจะเขียนโน้ตเอาไว้เพื่อบอกให้คุณทำความสะอาดห้องซะบ้าง มันน่ากลัวจริงๆ” และ…
-
ชาวเน็ตตะลึง!! พบรถตู้ติดแหง็กอยู่บนทางข้ามคลอง เหตุเพราะขับตาม GPS!?
ปัจจุบันมีสิ่งช่วยอำนวยสะดวกในการเดินทางมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสัญญาณ GPS ที่จะช่วยนำทางให้เพื่อนๆ ไปยังจุดหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนทั่วโลกก็ตามเค้าก็สามารถพาไปได้หมด ทำให้เวลาเดินทางก็ไม่ต้องเสียเวลามาเปิดแผนที่ศึกษาเส้นทางอีกแล้ว แหม่…ดูสบายจริงใช่มั้ยล่ะ แต่เอาจริงๆ แล้วไอ้เจ้าระบบ GPS นำทางเนี่ย มันไม่ได้มีความแม่นยำชัวร์ 100% ไปซะทีเดียวนะ บางทีก็พาไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้บ้าง บางทีก็ใช้ทางลัดที่แบบว่าเป็นทางก็จริง แต่รถดันผ่านไปไม่ได้ซะงั้น ซึ่ง #เหมียวหง่าว มีตัวอย่างมาให้เพื่อนได้ชมกัน… เรื่องมีอยู่ว่า เพจเฟสบุ๊ค เรารักด่านตรวจ ได้ทำการโพสท์รูปภาพของรถตู้คันหนึ่ง ที่ไปติดค้างเติ่งอยู่บนทางเดินริมคลองเล็กๆ ในจังหวัด นนทบุรี พร้อมกับแคปชั่นว่า “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ GPS (พี่ก็ยังกล้าขับเข้าไปนะ) สถานที่ : ทางเดินริมคลองพระอุดม จ.นนทบุรี” อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจ GPS (พี่ก็ยังกล้าขับเข้าไปนะ)สถานที่ : ทางเดินริมคลองพระอุดม จ.นนทบุรี Posted by เรารักด่านตรวจ on Saturday, April 2, 2016 จากข้อมูลในภาพพอจะสรุปได้ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะขับตาม GPS มาเรื่อยๆ จนมาติดแหง็กอยู่บนทางเดินข้ามคลอง ซึ่งก็บขับต่อไปไม่ได้ด้วยเกรงว่ารถจะตกน้ำ จนสุดท้ายต้องใช้รถยกมาช่วยยกออกไป…
-
อุทาหรณ์สังคม ปั่นจักรยานกลางคืน โดนขู่เอาเงิน-มีดฟันหัว!!!
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดสะเทือนใจ และเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสังคม โดยเฉพาะเหล่าผู้ปั่นจักรยานนะจ๊ะ ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว เพราะใครจะคิดว่าแค่ออกไปปั่นออกกำลังกายตอนกลางคืน ในประเทศที่ความปลอดภัยสูงมากแบบไทยแลนด์ กลับโดนเล่นงานเข้า ซึ่งเหยื่อคราวนี้ก็คือคุณ Thitiwat Maggie Rongthong ได้ทำการแชร์เรื่องราวร้ายๆนี้ลงบนเฟซบุ๊คของตัวเอง ลองมาดูกันนะจ๊ะ โพสต์ของทางคุณ Thitiwat Maggie Rongthong ใครคิดว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ ขอเชิญแชร์ครับผมเริ่มเขียนสเตตัสนี้ตอน 0.46 นาทีของวันที่ 2 สิงหาคม 2558ตอนนี้ผมอยู่ท… Posted by Thitiwat Maggie Rongthong on 1 สิงหาคม 2015 ก็หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ หลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ปั่นจักรยานในตอนกลางคืนนะจ๊ะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา เน้นความปลอดภัยกันดีกว่านะจ๊ะ 🙂 ที่มา: Thitiwat Maggie Rongthong