Tag: อ้าง
-
หนุ่มเล่นพิเรนทร์ เทโค้ก 1,500 แกลลอนลงไปในอ่าง พร้อมยัด ‘เมนทอส’ ลงไปแช่เล่นอย่างสบายใจ!?
ก็อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดี ว่าโค้กกับเมนทอสนั้น เป็นส่วนผสมที่จัดได้ว่าถ้ามาเจอกันแล้วล่ะก็ หายนะเกิดอย่างแน่นอน แต่เจ้าหนุ่ม Ryan ที่จะมาทำการทดลองในวันนี้ได้ฉีกกฎข้อนี้ไปซะไม่เหลือชิ้นดีเลยล่ะ กล่าวคือ เขาทำการทดสอบด้วยการเทโค้กลงในอ่างขนาดใหญ่ปริมาณ 1,500 แกลลอนด้วยกัน หลังจากนั้นก็เติมน้ำแข็งลงไปหลายๆ ถุง และจุดพีคกก็คือ เมนทอสเย็นชื่นใจด้วยอีก 1 ถังเต็มๆ !!? ดูเหมือนสระธรรมดาๆ เลยใช่มั้ย!? มันคือสระที่เต็มไปด้วยโค้ก!!! อื้อหืออออ เป็นส่วนผสมที่น่ากล้วจริงๆ ลองชมคลิปกันได้ที่นี่เลย 1 ถังเต็มๆ กับน้ำแข็งอีกหลายถุง โดรนที่เตรียมมาถ่ายภาพสวยๆ หูยยยย น่าลงไปเล่นมั้ยเนี่ย ฮร่าาาาา เห็นแล้วสยองจริงๆ และแล้วเขาก็ลงไปจริงๆ ดื่มซะด้วยจะเป็นไรไป อิอิ อีกหนึ่งที่เป็นจุดพีคของเรื่องนี้ก็คือโดรนที่พวกเขานำมาถ่ายภาพ… โชคร้ายหน่อยที่ระหว่างถ่ายภาพสวยๆ อยู่ เจ้าโดรนก็ตกลงไปในบ่อโค้กซะนี่ บอกเลยว่าโมเม้นต์นี้ ลั่นมาก เอิ๊กๆๆๆ เป็นการทดลองที่หลุดโลกจริงๆ…
-
แลกกันเที่ยว!! ผุดคู่มือญี่ปุ่นเที่ยวไทย ไม่ต้องเน้นธรรมชาติ ขอแค่ได้ลงอ่างก็พอแล้ว
แต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากประเทศของตัวเองได้ อย่างเช่นคนไทยก็ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเยอะ ก็มีการจัดทำคู่มือการท่องเที่ยวเป็นภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ในเมื่อคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะ คราวนี้ญี่ปุ่นก็ขอมาประเทศไทยบ้าง แลกกันเที่ยว เพราะฉะนั้นคู่มือท่องเที่ยวสำหรับชาวญี่ปุ่นจึงถือกำเนิดขึ้นมา เพราะจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่นี่มันเหนือความคาดหมายของเราไปอย่างยิ่ง เพราะคู่มือที่เห็นนี้เป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงลงอ่าง บอกรายละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือก การลงอ่าง และหลังจากลงอ่าง แถมยังสอนภาษาไทยให้แบบครบเสร็จสรรพ แหม่!! หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้จริงๆ อะไรจะทำคู่มือออกมาจริงจังขนาดนี้เนี่ย ฮร่าาาา ที่มา : モノ トレンディー
-
ช่างภาพติดต่อขอซื้อภาพถ่ายของตัวเอง หลังจากที่มีหัวขโมยไปโพสต์อ้างผลงานพร้อมขาย
อาจจะฟังดูงงๆ ซักหน่อย ว่าทำไมช่างภาพต้องติดต่อซื้อภาพถ่ายของตัวเอง นั่นก็เป็นเพราะในยุคสมัยนี้อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ทุกคน การสร้างสรรค์ผลงานบางอย่างก็อยากจะให้ผู้อื่นได้ชมด้วย แต่ถ้าหากว่าไม่ได้ลงรายละเอียดเจ้าของผลงานเอาไว้ ก็อาจะทำให้โดนขโมยไปอย่างง่ายๆ ภาพที่ถูกขโมยไปโพสต์ในอินสตาแกรม เป็นภาพที่ถ่าย ณ King Island อย่างกรณีของช่างภาพ Steve Arklay ที่ทราบมาว่ามีบัญชีอินสตาแกรมรายหนึ่งนำรูปภาพของเขาไปโพสต์โดยที่ไม่มีการให้เครดิตหรือติดต่อขออนุญาตก่อน เห็นได้ชัดว่าเป็นการขโมย ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเจ้าของผลงานทราบเรื่องก็จะติดต่อให้ลบออก แต่เขากลับเลือกที่จะทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป สิ่งที่น่าเสียใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นอกจากจะถูกขโมยรูปไปแล้ว ยังจะโดนติดลายน้ำเป็นผลงานของคนอื่นอีก แถมยังพร้อมขายด้วย มันน่าช้ำใจยิ่งนัก จากนั้นเขาได้ทำการติดต่อไปยังผู้ที่ขโมยภาพเพื่อทำการขอซื้อ เขามั่นใจว่าหัวขโมยไม่มีไฟล์ต้นฉบับอย่างแน่นอน เป็นภาพคุณภาพต่ำ โดยงานพิมพ์ที่ติดต่อขอซื้อจะขอเป็นขนาดใหญ่ 60 x 90 ซม. แต่หัวขโมยบอกว่าใหญ่สุดแค่ 30 x 20 ซม. หลังจากที่ติดต่อกันเรียบร้อย มีการส่งที่อยู่สำหรับการจัดส่งให้ หัวขโมยเริ่มเอะใจ หลังจากได้รู้ว่าชื่อของผู้รับเป็นเจ้าของภาพตัวจริงที่ถูกขโมยภาพไป จากนั้นก็ลบรูปภาพที่ขโมยมาจนหมดเกลี้ยงและหยุดการติดต่อในทันที ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จในการปราบโจร แต่ Steve ก็ยังคงสงสัยว่าเจ้าหัวขโมยรายนี้ทำเงินจากรูปภาพของเขาไปได้มากแค่ไหนแล้ว? ที่มา…
-
หนุ่มวัย 18 ปีถูกกล่าวหาจากการอ้างตัวเป็นหมอ รับรักษาคนไข้ในคลินิกแต่ไม่มีใบอนุญาต!!
หนึ่งในอาชีพที่ต้องได้รับการรับรองทั้งด้านการเรียนและการทำงาน ซึ่งหากจะประกอบอาชีพได้จะต้องได้รับใบอนุญาตเสียก่อน อย่างเช่น ‘แพทย์’ หรือ ‘หมอ’ ที่เราเรียกๆ กัน ซึ่งผู้ที่จะสามารถรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือตามคลินิกต่างๆ ก็ต้องได้รับใบอนุญาตกันทั้งนั้น แต่ทว่าในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กหนุ่มวัย 18 ปี นามว่า Malachi Love-Robinson หรือรู้จักในนาม Dr. Robinson ที่อ้างว่าตนเองเป็นแพทย์ รับรักษาคนไข้ภายในคลินิกส่วนตัว โดยประกาศผ่านเว็บไซต์และเฟสบุ๊ก ในชื่อ New Birth New Life Holistic and Alternative Medical Center and Urgent Care เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการสอบสวน พบว่า Love-Robinson เคยมีประวัติกล่าวรับรักษาผู้ป่วยมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีใบอนุญาตและไม่มีคุณวุฒิทางด้านการแพทย์ ซึ่งอ้างอิงมาจากประกาศของกระทรวงสาธารณสุขฟลอริดาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีคำสั่งให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าวจนกว่าจะมีใบอนุญาต แต่เจ้าตัวก็ยังคงทำตัวเป็นเหมือนแพทย์ (หมอ) ตามปกติ…
-
สามีหมอฟันหนีทุนแจง เงินไม่พอใช้หนี้ และไม่แนะนำให้ฟ้อง เพราะอาจไม่ได้อะไรเลย
ดูท่าทางแล้วเรื่องราวของ หมอฟันหญิงหนีทุน คงไม่จบลงง่ายๆ หลังจากล่าสุดสามีของทันตแพทย์หญิงดลฤดี จําลองราษฎร์ ได้ส่งจดหมายชี้แจงมายังทันตแพทย์เผด็จ พูลวิทยกิจ หนึ่งในผู้ค้ำประกันว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยเนื้อความในจดหมายเล่าว่า ตอนนี้พวกตนมีเงินไม่พอใช้หนี้ เพราะมีค่าใช้จ่ายประจำวันเยอะมาก จึงอยากให้มีการเจรจามากกว่า รวมทั้งไม่แนะนำให้ฟ้อง เพราะการฟ้องร้องมีค่าใช้จ่ายสูง จนอาจไม่คุ้มค่าที่จะทำ จดหมายจากดลฤดีและสามี ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถตกลงกันได้ด้วยดีเช่นกัน จากที่คุณที่เรียกร้องสามีดิฉันให้อธิบา… Posted by เผด็จ พูลวิทยกิจ on 17 กุมภาพันธ์ 2016 เมื่อชาวเน็ตเห็นจดหมายดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการชี้แจ้งกึ่งข่มขู่ แถมรายจ่ายที่บอกมา ดูเหมือนจะเกินจริงอีกด้วย โอ้โห ออกทรงไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายเลยนะเนี่ย เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป รอติดตามกันให้ดีๆ เลยนะฮะ เหมียวว่ามันส์แน่นอน อิอิอิ ที่มา เผด็จ พูลวิทยกิจ
-
ชายหนุ่มอ้างตัวเป็นฝาแฝดของนักจัดรายการโทรทัศน์สาวชื่อดัง ยัดตัวเองเข้าไปในรูปให้ดูเลย!!
กลายเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ดูฮาไม่น้อยเลยล่ะ เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นฝาแฝดพี่ชายของนักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ประหนึ่งราวกับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน เพียงแต่ว่าพลัดพรากจากกันไปไกลแสนไกลก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาา!! เขาคนนี้มีชื่อว่า Kirby Jenner ชายหนวดเฟิ้มที่กล่าวว่าเขาเป็นฝาแฝดพี่ชายของ Kendall Jenner นักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์สุดแสบด้วยการตัดต่อยัดตัวเองเข้าไปในภาพถ่ายของ Kendall และโพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง จนดังไปทั่ว!! ไม่ว่าจะโพสต์ท่าไหน ก็ทำตามได้ พ่อหนุ่ม Kirby ยังบอกอีกด้วยว่าตัวเองนั้นเป็นนายแบบมือสมัครเล่น เพิ่งเข้าวงการ ชอบทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็บอกกับทาง Daily Mail ว่าเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายอารมณ์ดีมีอารมณ์ขัน อยากจะทำในสิ่งที่อยากทำภายในชีวิตเดียวที่มีก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาาา ปิดให้มันมิดชิดซักหน่อย เธออุ้มหมา ฉันร้องเกะ ถึงกับตกใจหนวดปลอม!! นายแบบ นางแบบ และแฝดชาย!? ฉันจะตามเธอไปทุกที่ นั่งดูสาวๆ เพลินเลยนะลุง จากการที่ทำเอาฮาจนกลายเป็นกระแสดังไปทั่ว ต้องยอมรับว่าฝีมือการตัดต่อของเขานั้นเนียนจริง และมีผู้ติดตามเขาเป็นแสนกว่าคนแล้ว แต่ยังคงห่างชั้นกับ Kendall…
-
หนุ่มอ้างว่าโดนปาดในเลน โดนทุบกระจก ไหนจะขับชนท้าย แต่ในคลิปขับถอยหลังใส่ซะยับ!!
ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก มีการอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพอยู่ทุกมุม อย่างเช่นในมือของทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนคู่กาย เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกๆ หรือน่าตกใจก็มักจะคว้าขึ้นมาบันทึกภาพไว้ทันที อย่างในกรณีของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเช่นนี้ สำหรับคลิปเหตุการณ์อุบัติเหตุชนท้ายนี้ เปิดมาที่การทะเลาะเกือบชวนตี โดยจะสังเกตได้ว่ารถเก๋งได้ชนท้ายรถกระบะสีดำเข้าอย่างจังแบบว่าหน้ายับท้ายยับกันเลยล่ะ เมื่อเข้าไปสอบถามก็ได้ใจความว่า ถูกปาดเข้าเลนมา พ่อหนุ่มเสื้อน้ำเงินก็เลยไม่ยอมให้เข้า เพิ่มเติมว่าอีกฝ่ายลงจากรถจะเข้าทำมาร้ายตน และปิดท้ายด้วยประโยคดังกล่าว ‘เจอคนแบบนี้ ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ’ แต่ในตอนท้ายคลิปเป็นหลักฐานที่ยืนยันความจริงว่าใครทำอะไร แบบไหน จากคำพูดที่ได้รับมานั้น มันกลับสวนไปคนละทาง คดีพลิกทันที!! คิดว่ามีแต่ต่างประเทศ ประเทศไทยก็มีเน้อ โหดสัสรัสเซีย ซีเรีย แอน โมนาโค Posted by เอก คอนเน็กชั่น on Thursday, January 7, 2016 คลิปจากฝ่ายรถเก๋ง #คลิป4 ''กระบะดำ-ตั้งใจถอยชนเก๋งแดง'' (8/1/59) ::–> #คลิป4 ''กระบะดำ-ตั้งใจถอยชนเก๋งแดง'' (8/1/59) <–::โดย[@Body-boy Sawangarom]_ได้โพสต์ไว้ว่า:…
-
อ่อนหัด!! ชายหวังจะเดินทางข้ามกาลเวลา อัดรถพุ่งใส่อาคาร กาลเวลาพาไปโรงพยาบาลแทน
เคยมีความคิดแปลกๆ แผลงๆ ที่อยากจะทำให้เหมือนในภาพยนตร์บ้างรึเปล่า? อย่างเช่นการเดินทางข้ามกาลเวลาแบบภาพยนตร์ Back to the Future แต่ก็ยั้งความคิดเหล่านั้นเอาไว้ ให้มันเป็นเพียงแค่จินตนาการเฉยๆ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง มันยังไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่จะว่าไปก็มักจะมีคนลองของอยู่เสมอ อย่างเช่นหนุ่มใหญ่ Marty McFly วัย 40 ปีจากเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ที่ไปลองของข้ามกาลเวลาที่รัฐฟอลริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความเชื่อที่ว่าการเร่งความเร็วให้กับยานพาหนะ จะทำให้พุ่งเข้าไปสู่ประตูมิติแห่งกาลเวลาได้ พี่แกก็อัดรถ Dodge Challenger คู่ใจอย่างแรง จนผลสุดท้ายก็ซัดเข้ากับตัวอาคารเข้าอย่างจัง ทะลุกำแพงทำประตูมิติให้กับร้านค้าแบบงงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายังที่เกิดเหตุก็พบกับพี่แกในสภาพที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ และโชคดีตรงที่ว่าอาคารที่ถูกชนนั้นไม่มีการใช้งานด้วย มีแต่ตัวรถกับอาคารนี่แหละที่ได้รับบาดเจ็บ ฮร่าาาา สืบสวนหาข้อมูลเหตุจูงใจจากการกระทำดังกล่าว พ่อหนุ่มใหญ่ของเราก็อ้างว่าที่ขับด้วยความเร็วสูงแบบนี้ก็เพราะว่าพยายามที่จะเดินทางข้ามกาลเวลายังไงล่ะ แต่จริงๆ ก็คือขับรถเร็วๆ เพื่อจะไปหาลูกสาวที่รออยู่ปลายทางไวๆ สุดท้ายก็โดนข้อหาขับรถด้วยความประมาทและไม่มีหลักฐานรับผิดชอบจากประกันภัยด้วย ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อวินิฉัยอาการบาดเจ็บทางร่างกายต่อไป (จะตรวจสุขภาพจิตด้วยรึเปล่าเนี่ย?) ที่มา : huffingtonpost