Tag: ฮอร์โมน
-
ชีวิตของ Adam Rainer ชายผู้เกิดมาด้วยภาวะแคระ และเสียชีวิตด้วยภาวะยักษ์
คาดว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป เมื่อชีวิตของคนเราประสบกับภาวะความผิดปกติทางร่างกาย เมื่อเกิดมาแคระก็จะแคระจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่สำหรับชายคนนี้เขากลับมีร่างกายที่ขยายใหญ่เกินขีดจำกัดของตัวเอง ในปี 1899 ชายผู้มีชื่อว่า Adam Rainer ได้กำเนิดขึ้นมาในประเทศออสเตรีย จากพ่อแม่ผู้มีความปกติทางร่างกาย แต่ตัวเขานั้นกลับประสบกับภาวะแคระแกร็น Adam Rainer ในวัยเด็ก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น Adam อยากจะเข้าร่วมรบกับทางกองทัพ แต่กลับถูกปฏิเสธเนื่องจากความสูงเพียง 137 เซนติเมตรของเขา ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอ่อนแอและเตี้ยกว่าเกณฑ์ จนหนึ่งปีให้หลังเขากลับมาสมัครอีกครั้งและถูกปฏิเสธอีกรอบจากเหตุผลด้านความสูง แม้จะมีความสูงเพิ่มมา 5 เซนติเมตรก็ตาม ช่วงอายุ 19 ปี กับความสูง 142 เซนติเมตร เขาก็ยังคงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มแคระเพราะมาตรฐานความสูงนั้นอยู่ที่ 147 เซนติเมตร แม้ว่า Adam จะขาดคุณสมบัติทางด้านความสูง แต่รายงานด้านสุขภาพในช่วงนั้นเริ่มสังเกตความผิดปกติในร่างกายของเขา เนื่องจากพัฒนาการเท้าและมือนั้นไม่สัมพันธ์กับความสูงเลย เขาสวมใส่รองเท้าเบอร์ EU 43 ตอนไปสมัครทหารครั้งแรก 3 ปีผ่านไป เขาต้องใส่รองเท้าเบอร์ EU 53…
-
หญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับ ‘ขน’ เต็มตัว แต่เธอก็เรียนรู้และอยู่กับมันอย่างมีความสุข
โรคที่ติดต่อทางพันธุกรรมเป็นโรคที่เราไม่สามารถควบคุมได้ และบางทีมันก็ก่อให้ให้เกิดความผิดปกติที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วย เหมือนกับเธอคนนี้ที่เกิดมาพร้อมกับภาวะผิดปกติ ทำให้เธอมีขนตามตัวจนเหมือนกับผู้ชาย แต่เธอก็บอกว่าในทุกวันนี้เธอเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันได้แล้ว โดยหญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Leah Jorgensen วัย 33 ปี เธอเป็นผู้ป่วยกลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำจำนวนมาก (Polycystic Ovary Syndrome, PCOS) รวมถึงมีความผิดปกติของฮอร์โมน จึงทำให้เธอมีขนขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเหมือนกับผู้ชาย จนทำให้เธอดูแตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ อาการดังกล่าวปรากฏชัดตั้งแต่เธอมีอายุ 14 ปี และนั่นก็ทำให้เธอถูกเรียกว่า ‘ผู้ชาย’ โดยพวกกลุ่มที่ชอบกลั่นแกล้งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอต้องสวมเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวเพื่อปกปิดขนของเธอมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 13 ปีเต็มๆ “มีผู้หญิงคนหนึ่งวาดภาพของฉันลงในกระดาษ ซึ่งภาพที่เธอวาดนั้นมันมีขนตามบริเวณส่วนต่างๆ ของฉันด้วย ภาพที่ฉันเห็นมันทำให้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นตัวประหลาดจริงๆ” “ฉันรู้สึกอาย ไม่กล้าสู้หน้าผู้คน รวมถึงมีความกลัวร่วมด้วย บางทีฉันก็รู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นผู้หญิงน้อยลง” Leah กล่าว นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ผู้คนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะเห็นขนที่ขึ้นบนใบหน้าของเธอ และเหตุนี้เองทำให้กว่าจะมีจูบแรกของเธอก็มีอายุปาเข้าไปถึง 27 ปี รวมถึงต้องหลีกเลี่ยงการทำฟันถึง 12 ปีอีกด้วย “ฉันปกปิดพวกมันด้วยเสื้อผ้า และต้องโกนขนที่ใบหน้าตลอดเวลา ซึ่งถ้าฉันอยากจะโชว์ส่วนไหนก็จะเป็นเฉพาะส่วนที่ฉันโกนขนแล้วเท่านั้น” “มันทั้งร้อนและมีเหงื่อชุ่มเมื่อเข้าฤดูร้อน และเพราะฉันต้องสวมเสื้อฮู้ดอยู่แทบตลอดทั้งปี ทำให้บางครั้งฉันแทบจมกองเหงื่อตายเลย” Leah กล่าว แต่ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเธอในเดือนธันวาคม…
-
การใช้ภาษากายเพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ และช่วยลดความเครียดได้ภายใน 2 นาทีต่อวัน
หลายๆ คนพยายามหาวิธีการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เราอาจไม่รู้ว่าวิธีการที่ง่ายและได้ผลนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ และนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยลดความเครียดให้คุณได้อีกด้วย ก่อนที่จะไปพูดถึงวิธีการ เราจะมาพูดถึงหลักการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความมั่นใจของเรากันก่อน ในงานวิจัยจากหลายสถาบัน เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออริกอน หรือมหาวิทยาลัยเท็กซัส พวกเขาบอกเอาไว้ว่า การเป็นผู้นำที่ดี นอกจากจะสามารถกระจายรูปแบบความคิดได้แล้ว ฮอร์โมนก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน ฮอร์โมนที่ส่งผลเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เทสโทสเตอโรน และ คอร์ติซอล ซึ่งถ้าหากเรามีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่มากเท่าไหร่ ความมั่นใจที่เรามีก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และถ้าเราสามารถลดการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลลงได้ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของตัวเองและรับมือกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น หลักการทำงานของฮอร์โมนทั้งสองตัว สามารถส่งผลกับตัวเราได้อย่างมาก แล้วมันจะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถควบคุมฮอร์โมนเหล่านั้นได้? นั่นแหละคือสิ่งที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ วิธีการดังกล่าวคือการทำท่าทางต่างๆ ใช้ภาษากายง่ายๆ ทั่วไปเท่านั้นเอง โดย Amy Cuddy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาเรื่องของความเชื่อมโยงกันระหว่างความแตกต่างของท่าทางและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน งานวิจัย ของเธอได้จำแนกท่าทางของคนเราออกมาเป็นสองแบบ ได้แก่ “ท่าทางที่ดูมีพลัง” กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” ซึ่งเราสามารถเห็นความแตกต่างของท่าทางเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน “ท่าทางที่ดูมีพลัง” (ด้านบน) กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” (ด้านล่าง) กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้คือนักศึกษาจำนวน…
-
ผลวิจัยวิทยาศาสตร์ชี้ ‘แมวก็มีหัวใจและรักเป็น’ ส่วน ‘สุนัข’ รักมนุษย์หนักกว่าแมวถึง 5 เท่า!!
หากใครที่กำลังชุบเลี้ยงน้องหมาตัวน้อยตัวใหญ่กันอยู่ ก็คงจะไม่สงสัยซักเท่าไหร่ว่าหมามันรักมนุษย์มากแค่ไหน ส่วนใครที่ถวายกายและใจเป็นทาสแมวไปแล้ว ก็อาจจะสงสัยไม่น้อยว่าหมามันรักมนุษย์มาก แล้วแมวล่ะ อุตส่าห์เลี้ยงดีขนาดนี้มันจะมาสนใจเราบ้างมั้ย? หมา ปะทะ แมว!? เอาเป็นว่าคำตอบเหล่านี้ถูกแถลงไขโดย Dr. Paul Zak นักประสาทวิทยา ได้กล่าวเอาไว้ว่าในตัวเราจะมีฮอร์โมน Oxytocin ซึ่งแสดงออกในเรื่องของความรักและความผูกพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาแม่คลอดลูกก็จะมีความรู้สึกนี้ทันที หรือเวลาที่เราตกหลุมรักใครซักคน รวมไปถึงการได้โอบกอดอันอบอุ่น แล้วทีนี้เขาก็เลยอยากจะทดลองกับสัตว์ดูบ้าง โดยเลือกเป็นหมากับแมวเป็นกลุ่มตัวอย่าง อย่างละ 10 ตัว นำมาวัดระดับฮอร์โมนในเลือดก่อน แล้วก็พบว่าสัตว์ทั้งสองชนิดมีฮอร์โมนดังกล่าว จากนั้นก็ปล่อยกลับไปหาเจ้าของ กอดกันให้ชื่นใจและนำกลับมาวัดระดับฮอร์โมนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นพบว่าทั้งหมาและแมวมีฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มมากขึ้น โดยในสุนัขเพิ่มถึง 57.2% เทียบกับแมวเพิ่มมา 12% ฮอร์โมนในสุนัขนี่เยอะกว่าแมวถึง 5 เท่าเลยนะเนี่ย ถึงแม้ว่าแมวจะมีฮอร์โมนในระดับที่น้อยกว่า แต่มันก็ช่วยแสดงให้เห็นในสิ่งที่เราสงสัยมาตลอดว่าแมวมันรักมนุษย์บ้างมั้ย? ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอย่างน้อยแมวก็มีความรู้สึกรักและผูกพันธ์กับมนุษย์เช่นกัน แม้จะน้อยกว่าหมาก็เถอะ (เป็นพวกปากแข็งนี่เอง) สุดท้ายแล้วทาสแมวก็ต้องทนกับชะตากรรมกันต่อไป ไปเอาข้าวมาเจ้าทาส!! ที่มา :…
-
สาวลดน้ำหนักจาก 143 เหลือ 63 หลังระบุว่า หยุดยั้ง ‘ฮอร์โมนความหิว’ ที่ควบคุมเธอตั้งแต่เกิด!!
สำหรับใครที่มีอาการหิวโหยอาหารอยุ่ตลอดเวลานั้น เคยคิดมั้ยว่าทำไมเราถึงมีความหิวแบบนั้นอยู่ตลอดถึงแม้จะทานอาหารมาแล้วก็ตาม บางครั้ง ‘ฮอร์โมน’ อาจเป็นคำตอบของเรื่องนี้ก็ได้!! Janet French คืออดีตสาวใหญ่ที่เคยประสบภาวะเกี่ยวกับความอ้วนมาอย่างหนัก น้ำหนักของเธอเมื่อราวๆ 8 ปีก่อนเธอมีน้ำหนักกว่า 143 กิโลกรัม แต่ตอนนี้น้ำหนักของเธอเหลืออยู่ที่ราวๆ 63 กิโลกรัมเท่านั้น!! เธอมีอาการเสพติดการกินอย่างงอมแงม และมีลักษณะของความ ‘ไม่เคยจะอิ่ม’ อยู่ตลอด ทำให้ภายในระยะเวลา 1 วันนั้น เธอทานอาหารไปมากกว่า 3,500 แคลอรี่ มากกว่าที่ร่างกายของผู้หญิงโตเต็มวัยต้องการถึง 2 เท่า แต่ดูเธอตอนนี้สิ!! แน่นอนว่าตลอดระยะเวลานั้น เธอมีความพยายามที่จะลดความอ้วนอยู่หลายครั้งเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จเลยซักครั้ง ‘ฉันรู้สึกว่ามันยากมากๆ เลยที่จะไม่คิดถึงเรื่องอาหารอยู่เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าฉันจะกินไปมากขนาดไหน ฉันก็มักจะรู้สึกหิวอยู่ดี ฉันไม่กล้าออกจากบ้านเลยช่วงหนึ่งเพราะว่าออกไปก็ไปหาแต่อาหารกิน มันเหมือนเป็นการเสพติดเลยล่ะ’ Janet French กล่าว เคล็ดลับของการลดน้ำหนักที่สำเร็จของเธอนั้นไม่ใช่การผ่าตัด การออกกำลังกาย หรือการอดอาหาร (เพราะเธอลองมาหมดแล้วแต่ไม่สำเร็จ) แต่เป็นการซ่อมแซมทางด้านฮอร์โมนของเธอ การซ่อมแซมทางด้านฮอร์โมน!? หลังจากพยายามมาต่างๆ นานา แต่ไม่สำเร็จ…
-
เหตุผลที่ว่าทำไมเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งหลาย ถึงมีอาการ ‘นกเขาขัน’ ในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็น!?
อาการตื่นตัวเคารพทุกชาติบนที่นอนนั้นถือว่าเป็นอาการปกติของเหล่าชายที่ยังมีความปึ๋งปัง ไม่นับว่าแปลกอะไรหรอก แต่ด้วยอาการตื่นตัวแบบนี้ มักจะมาในช่วงเวลาที่ไม่พึงประสงค์ตลอด ซึ่งในบางครั้งเกิดขึ้นกลางที่สาธารณะโดยที่ไม่มีสิ่งเร้าใดๆ มากระตุ้นเลยด้วยซ้ำ!? ใครเคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้บ้างรึเปล่า? แบบว่า เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ตั้งโด่ขึ้นมาเฉยๆ หรือแม้แต่ในเวลาทำงาน ในเวลาขับรถก็ตั้งชันขึ้นมาโดยที่ไม่ตั้งใจ คือแบบว่ามันจะตั้งชูชันขึ้นมาเฉยๆ ซะอย่างงั้น จนทำให้เกิดอาการเขินอาย ไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนเลยทีเดียว แล้วแบบนี้มันเกิดขึ้นมาจากอะไรกันล่ะ!? Stephen J. Winters จาก University of Louisville ได้ทำการวิเคราะห์ออกมาแล้ว อาการดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนในเพศชายทุกราย ที่จะช่วยปลุกความเป็นชายในตัวคุณให้ตื่นตัวตามช่วงเวลาต่างๆ โดยที่ไม่ต้องการสิ่งเร้านั่นเอง ชาร์ทวิเคราะห์ตลอด 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาเช้าตั้งแต่ตี 4 จนถึง 8 โมงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนพุ่งพล่านมากที่สุด จึงเป็นเวลาปกติที่ความเป็นชายจะตั้งชูชันขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเลย และที่น่าสนใจก็คือช่วงเวลาบ่าย 1 เป็นเวลาที่พีคที่สุดเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากคุณเกิดอาการนกเขาขันในระหว่างเรียนหรือทำงาน ก็ขอให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่ยังมีแรงปึ๋งปั๋งนั่นเอง อิอิ ที่มา : theladbible, peaktestosterone,…
-
อลังการดาวล้านดวง!! นักเรียนม.6 ทำหนังสือรุ่นเลียนแบบ Hormones นี่นึกว่า GTH มาเองนะเนี๊ยะ!!
เรียกได้ว่ากระแสรุนแรงจริงๆ สำหรับซีรี่ส์ Hormones วัยว้าวุ่น ที่ตอนนี้ดำเนินมาถึงตอนจบของซีซั่น 3 แล้ว ทำให้เป็นที่พูดถึงของโลกโซเชียลอย่างไม่ขาดสายทีเดียว ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอกับกระทู้หนึ่งของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่ง ที่ตั้งกระทู้ “เมื่อเพื่อนๆผมอยากแสดงHormonesครับ!!” โดยเจ้าตัวเล่าว่าตอนนี้อายุได้ 17 ปี และใกล้จะจบม.6 แล้ว เลยอยากจะทำหนังสือรุ่นไว้เป็นที่ระลึก พวกเขาเลยอยากจะทำหนังสือรุ่นที่น่าจดจำ เลยนำธีมแบบเดียวกับซีรี่ส์ Hormones มาใช้ดูบ้าง มันก็เลยกลายเป็นภาพถ่ายแฟชั่นเจ๋งเกินจะบรรยายแบบนี้นี่แหละ อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบไปด้วย 1. Nikon D750 2. Tamron SP 15-30 F2.8 DI VC 3. Nikon 85 1.8 G 4. Flash SB-910 *2 …
-
หนุ่มมะกันเกินมาหน้าคล้ายผู้หญิง จึงเปลี่ยนแปลงด้วยการกินฮอร์โมน จนหล่อสมเป็นชาย
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาง Jamie Raines วัย 21 ปี ที่เกิดมาเป็รผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วจิตใจของเขาเป็นชาย และเขารู้ในทันทีว่ามันไม่ถูกต้อง เขาจึงพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการกินฮอร์โมน Testosterone จากนั้นเขาก็ใช้เวลาในการถ่ายเซลฟี่ตัวเองทุกวันๆ เป็นเวลากว่า 3 ปี ด้วยภาพ 1,400 ภาพ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ว่าเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? นี่คือ Jamie Raines วัย 18 ปี นี่คือช่วงแรกที่เขากินฮอร์โมน ยังมีใบหน้าใสๆ แก้มนุ่มนิ่มแบบผู้หญิงอยู่ ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีที่เขากินเข้าไป เมื่อเวลาผ่านไป หน้าของเขาก็เริ่มจะยาวขึ้น “ในตอนเด็ๆ ฉันแตกต่างจากเด็กผู้ชายมาก แต่ผมก็ไม่ได้แยกออกจากพวกเขา แต่ทำตัวให้กลมกลืนไว้” Raines กล่าว วันหนึ่ง หน้าของเขาก็ค่อยๆ ยาวขึ้น เริ่มมีหนวดบางๆ ให้ได้เห็นแล้ว และแล้ววันหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายมากขึ้น …