Tag: ฮ่องกง
-
ภาพหายากของ “เจ็ท ลี” กับลูกสาวสุดสวยทั้ง 2 คน ที่ถ่ายร่วมกับคุณพ่อในวันคริสต์มาส!
ในเทศกาลวันคริสต์มาส ถือว่าเป็นโอกาสดีและวันพิเศษที่ผู้คนจัดงานเลี้ยงฉลองกันเกือบทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นวันที่ทำให้เราได้เห็นภาพบรรยากาศบางอย่างที่เราไม่เคยเห็น อย่างเช่น ภาพตลกต่างๆ ภาพความคิดสร้างสรรค์ของการจัดงานคริสต์มาส หรือแม้แต่ภาพบรรยากาศความอบอุ่นของเหล่าดาราดังที่ร่วมฉลองวันคริสต์มาส เป็นต้น และวันนี้ บนอินตาแกรมของนักแสดงภาพยนตร์บู๊ตัวพ่อจากเมืองจีนอย่าง Jet Li ก็ได้เผยภาพที่หาชมได้ยาก นั่นก็คือภาพของ ลูกสาวทั้ง 2 คน ของเขานั่นเอง น้อยครั้งนักที่คุณพ่อ Jet Li จะมีภาพร่วมกับลูกสาวทั้งสองในขณะที่ทั้งคู่ก็เริ่มโตเป็นสาวสวยกันแล้ว (สังเกตดูสิว่าหากถอดรองเท้าส้นสูงออกก็คงสูงเท่าๆ กับพ่อแล้วนะเนี่ย) คนทางซ้ายคือ Jane Li มีอายุครบ 18 ปีแล้ว ส่วนทางขวาก็คือ Jada Li ลูกสาวคนเล็กที่มีอายุ 16 ปีนั่นเอง Jet Li ในวัย 55 ปี ก็ยังคงมีข่าวคราวการรับบทในภาพยนตร์ให้เราได้ยินกันอยู่ แถมเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของ Disney เสียด้วย นั่นก็คือเรื่อง Mulan (มู่หลาน) ที่คาดว่าจะเข้าฉายปี 2020 โน่นแน่ะ โดยเจ้าตัวได้มีการโพสต์ภาพของลูกสาวตัวเองก่อนหน้านี้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น…
-
เศรษฐีบิตคอยน์โปรยเงินให้ชาวเมือง ยืนยันอยาก “ช่วยคนจน” ไม่เชื่อแจ้งความได้เลย!
ชายชาวฮ่องกงที่เรียกตนเองว่า “พระเจ้า” เพราะอ้างว่าได้ขโมยเงินคนรวยมาแจกจ่ายให้กับคนจนในเมือง ถูกจับกุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2018 หลังจากโปรยเงินลงมาจากที่สูง Wong Ching-kit ชายชาวฮ่องกงผู้เป็นเซียน บิตคอยน์ (สกุลเงินดิจิทัล) ได้ทำเงินอย่างมหาศาลจากการลงทุนซื้อขายสกุลเงินบิตคอยน์บนอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอการโปรยเงินของ Wong Ching-kit Wong เล่าว่าในการลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นที่ 300,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.3 ล้านบาท) ทำให้เขาได้กำไรมามากมายเกือบ 4 เท่าของเงินทุน โดยในคลิปวิดีโอ Wong ได้โปรยธนบัตรมูลค่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 400 บาทไทย) จำนวนนับไม่ถ้วนให้ปลิวว่อนอยู่เหนือถนนในย่าน Sham Shui Po ของเมืองหนึ่งของฮ่องกง ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมากรูกันเข้ามาเก็บธนบัตรเหล่านี้กันอย่างจ้าละหวั่น . Wong ได้โปรยเงินลงมาในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในวันที่ 16 ธันวาคม ในข้อหา “สร้างความวุ่นวาย” ให้กับชาวเมือง ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าจำนวนเงินทั้งหมดที่ Wong…
-
สาวฮ่องกงข้ามถนนไม่ระวัง ถูก “แท็กซี่ชน” ไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่ไม่เจ็บสาหัส
การจะข้ามถนนที่มีรถวิ่งอยู่ขวักไขว่นั้นจำเป็นจะต้องดูซ้ายขวาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มิฉะนั้นก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ และถ้าโชคไม่ช่วยก็อาจทำให้เราต้องบาดเจ็บสาหัส อย่างเช่นนักเรียนหญิงชาวฮ่องกงในเหตุการณ์ต่อไปนี้ เธอวิ่งข้ามถนนโดยไม่ระมัดระวังขณะที่รถแท็กซี่ก็พุ่งมาด้วยความเร็วเช่นกัน นั่นทำให้เธอถูกรถชนเข้าอย่างจังจนตัวเธอเกยขึ้นมาบนกระโปรงหน้ารถและกระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถ จากนั้นจึงร่วงไปนอนกองกับพื้น แต่ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นอย่างใจเย็น และเดินออกไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชมคลิป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2018 ที่ถนน Po Tung บนเกาะฮ่องกง นักเรียนหญิงคนนี้เดินออกมาโดยไม่ระแวดระวังรถที่กำลังวิ่ง กล้องของรถแท็กซี่จึงถ่ายติดภาพที่พุ่งชนเข้ากับร่างของนักเรียนหญิงดังกล่าว แม้ว่าหลังจากนั้น นักเรียนหญิงในคลิปจะลุกเดินออกไปอย่างนิ่งๆ แต่ภายหลังมีรายงานว่าเด็กคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Tseung Kwan O Hospital เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ขา เจ้าหน้าที่สืบสวนชั้นสูง Jacky Chan ก็ออกมากล่าวว่าให้คนขับแท็กซี่เพิ่มความระมัดระวังขณะขับผ่านย่านผู้คนและทางเดินข้ามถนน อาจกระทำได้โดยการลดความเร็วลง อีกทั้งยังกล่าวกับคนเดินเท้าด้วยว่าให้มีสติและระมัดระวังอยู่เสมอ พยายามมองไฟสัญญาณจราจรและที่สำคัญเลยก็คือ “อย่าเล่นโทรศัพท์มือถือหรือจดจ่อกับอะไรที่ไม่ใช่ถนน” ที่มา: The Straits Times, CAP9UCAM9U และ nextshark
-
หนุ่มอังกฤษคนเดิม โผล่เกาหลีทำคลิป “แอ้มสาว” ไม่ซ้ำหน้า ชาวเน็ตเดือดอีกรอบ!!
นักท่องเที่ยวหนุ่มสัญชาติอังกฤษนามว่า Nick Coakley หลังจากเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยและไปต่อที่ไต้หวันพร้อมแล้ว เป้าหมายต่อไปของเขาก็คือ ประเทศเกาหลีใต้!! ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า เป้าหมายการท่องเที่ยวของเจ้าหนุ่ม Nick Coakley นั้น คือการทำคลิปวิดีโอในลักษณะของการเกี้ยวสาวและเผยแพร่คลิปออกมาให้ติดตามบนโลกออนไลน์ โดยปกติแล้ว Nick จะถ่ายทำวิดีโอที่เกี่ยวกับการไล่หลีหญิงเอเชียแบบสุ่มๆ เอาตามที่ตัวเองชอบ เขาจะเข้าไปทักทาย แนะนำตัว แล้วก็ต่อด้วยประโยคทำนองว่า น่ารักดี อยากทำความรู้จัก อยากเป็นเพื่อน ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 29 สิงหาคม 2018 Nick ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอใหม่ลงบนช่องยูทูบของเขา เป็นวิดีโอเกี่ยวกับการท่องเที่ยววันแรกในประเทศเกาหลีใต้ หนุ่ม Nick กับวันแรกในเกาหลีใต้ เขาระบุว่า เขาจะเข้าไปทำความรู้จักสาวๆ อย่างไม่เหนียมอาย เพื่อขอทำความรู้จักและขอข้อมูลสำหรับติดต่อ เขาเขียนอธิบายวิดีโอไว้ด้วยว่า “วันแรกในเกาหลีของผม สาวๆ ที่นี่ใจดีมากแถมเป็นมิตรสุดๆ พวกเธอคุยง่ายมากและสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างง่ายดาย เจ๋งมาก!” ตอนนี้ Nick ถามสาวเสื้อดำว่า “คุณมีแฟนหรือยังเอ่ย? ผมเป็นแฟนคุณได้ไหม?” เธอดูท่าทางลังเลเขาจึงพูดต่อว่า “มันโอเคนะ ผมก็ผิวขาวเหมือนกัน ดูสิผิวผมขาวใช่ไหมล่ะ?” แถมหลังจากนั้นเจ้า Nick…
-
ประเด็น “ดราม่ารับน้อง” ในฮ่องกง สั่ง นศ. หญิงยัดลูกโป่งที่หน้าอก เหมาะสมหรือไม่??
ประเด็นของ การรับน้องใหม่ กำลังมาแรง ณ ขณะนี้ กิจกรรมที่รุ่นพี่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์และความสามัคคีของรุ่นน้อง หลายครั้งมันได้กลายเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลจนกลายเป็น ดราม่า ขณะที่ประเทศไทยเรายังคงถกเถียงกันถึงเรื่องประเพณีการรับน้องที่ไม่เหมาะไม่ควร ต่างประเทศเองเขาก็มีดราม่าการรับน้องไม่แพ้บ้านเราเหมือนกัน ล่าสุด ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฮ่องกง รุ่นพี่ในคณะการบัญชีได้จัด กิจกรรมรับน้อง ขึ้นในวันที่ 22 เดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยเหล่านักศึกษาใหม่ต้องเข้าร่วมเล่นเกมบางอย่างที่หากแพ้ต้องมาการถูกลงโทษ จากนั้นนักศึกษาหญิง 2 รายผู้ที่แพ้เกมในกิจกรรมรับน้อง ก็ถูกขอให้นำลูกโป่ง 2 ลูกยัดเข้าไปในเสื้อแล้วหันจุกของลูกโป่งออกมาทางด้านหน้า ถือเป็นการลงโทษที่รุ่นพี่เชื่อว่าเป็นความบันเทิงและสนุกสนาน แต่เมื่อภาพของนักศึกษาหญิงหลุดออกมาสู่โลกอินเทอร์เน็ตก็กลายเป็นประเด็นดราม่าค่อนข้างใหญ่โต นักศึกษาหญิงหลายคนให้ข้อมูลว่าเกมนี้น้องและพี่ต้องเล่นร่วมกัน และบทลงโทษของเกมก็จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รุ่นพี่บางคนที่แพ้เกมอาจถูกทำโทษถึงชนิดที่ว่า “เปลือยกาย” กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงที่ร่วมกิจกรรมนี้เผยว่าในตอนแรกก็ลังเลที่จะรับการทำโทษแต่คิดว่าไม่เป็นไร เพิ่งมารู้สึกอึดอัดใจภายหลังจากที่ถูกลงโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่ที่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว ออกมาให้การว่ากิจกรรมลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหล่านักศึกษานั้นคิดกันขึ้นมาและแอบจัดกิจกรรมลักษณะนี้กันเองในช่วงรับน้องใหม่ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าการละเล่นแบบนี้เป็นความสนุกหรือว่าเป็นความรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลกันล่ะ? ที่มา: discuss และ ck101
-
ชายฮ่องกงรับคำท้า “กินนักเก็ต 90 ชิ้น” เผยตั้งใจแพ้ เพราะอยากเสียเงินให้กับการกุศลอยู่แล้ว!
การกินเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ชอบ ยิ่งเป็นการกินที่ได้เงินรางวัลตอบแทนแล้วด้วยยิ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก แต่การที่เราจะได้เงินมานั้นแน่นอนว่ามันไม่ง่าย เราอาจจะต้องกินจนแน่นปริกว่าจะได้เงินรางวัลมาก็เป็นได้ ล่าสุดชายชาวฮ่องกงคนหนึ่งก็ได้รับคำท้าในการทาน McNugget 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาที เพื่อรับเงินรางวัล 20,000 ฮ่องกงดอลลาร์ (กว่า 80,000 บาท) ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Joe เขาได้ทำการถ่ายทอดสดการกินนักเก็ตในครั้งนี้ลงบนเฟซบุ๊ก Dennis Chan เมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา กติกาของชาเลนจ์นี้ก็คือการทานนักเก็ต McNugget จากร้าน McDonald’s จำนวน 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาทีเพื่อรับเงินรางวัล แต่หากไม่สามารถทานหมดได้ทันเวลาหรืออิ่มก่อน จะต้องจ่ายค่าปรับ 100 ฮ่องกงดอลลาร์ (426 บาท) ต่อชิ้นที่เหลือ ชมคลิปการทานนักเก็ตของ Joe กัน ชาวเน็ตที่เข้ามาชมคลิปของเขา เมื่อเห็นว่า Joe เริ่มทานไม่ไหว จึงแนะนำให้จิ้มซอสเยอะๆ …
-
เอ้าวาร์ป!! เจอตัวแล้ววว แอร์ฯ สาวฮ่องกง “ในตำนาน” ที่ชาวเน็ตตามหาตัวกันแทบตาย!!
แอร์โฮสเตส หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้น ตามความคิดของใครหลายๆ คนจะมองว่าเป็นอาชีพที่ใกล้เคียงกับนางฟ้ามากที่สุด เพราะนอกจากจะใช้เวลาส่วนใหญ่โบยบินไปบนท้องฟ้าแล้ว รูปพรรณนั้นยังงดงามราวนางฟ้าอีกด้วย ก่อนหน้านี้ แอร์โฮสเตสสาวน้อยคนหนึ่งของฮ่องกงก็ได้ดังไปทั่ว หนุ่มๆ ทั่วโลกอินเทอร์เน็ตต่างพากันตามหาตัวเธอเพียงเพราะภาพที่เธอปล่อยออกมาบนโลกอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ภาพของเธอที่ปล่อยออกมาเพียงภาพเดียวก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับตามหาตัวกันวุ่น ภาพดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เธอเป็นสาวน้อยร่างอ้อนแอ้นในเครื่องแบบสายการบินสีแดง พร้อมรูปร่างกระชากใจชาย ใบหน้าเล็กๆ พร้อมรอยยิ้มอันสดใส ทำให้หนุ่มๆ อยากรู้ว่าแท้จริงแล้ว นางฟ้าคนนี้เธอเป็นใครกันแน่!! จนสุดท้ายความพยายามของชาวเน็ตก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง หาวาร์ปของแอร์สาวคนนี้เจอจนได้ เธอเรียกตัวเองว่า Vien ซึ่งใช้เป็นชื่ออินสตาแกรมของเธอด้วยเช่นกัน ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังงงว่าอะไรกันที่ทำให้สาวน้อยคนนี้ดลใจชายหนุ่มทั่วฮ่องกงให้ตามหาตัวกันวุ่นวาย ถ้าอย่างนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่าแอร์โฮสเตสสาวนามว่า Vien คนนี้ มีดีอะไรขนาดไหนกันเชียว!!? สวัสดีค่ะผู้โดยสารทุกท่าน คิคิ~ ปัจจุบันเธอเป็นที่รู้จักในนามที่ว่า “แอร์โฮสเตสสาวฮ่องกงอันดับหนึ่งในใจชาย” เลยทีเดียว โอ้ ดาเมจที่รุนแรงเสียเหลือเกิน~ ทรวดทรงของเธอช่างไม่เกรงใจชายหนุ่มเอาเสียเลย สมกับคำว่า “นางฟ้า” จริงๆ! น้ำทะเล ท้องฟ้า หรือแสงแดด ก็ไม่มีอะไรสดใสไปกว่า สาว Vien ในชุดบิกินีอีกแล้ว . …
-
เนียนเลยน้า~ หนุ่มแอบถ่ายรูป “สาวโนตม” บนรถไฟฟ้า แต่ไม่เนียนเพราะมีกระจกสะท้อน…
รถไฟฟ้า อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเดินทางใจกลางความวุ่นวายภายในเมือง และที่สำคัญมันอาจทำให้เราได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตาอีกด้วย ความตื่นเต้นมันอยู่ที่การพบเจอเพศตรงข้ามที่เรียกได้ว่าถูกสเป็กนี่แหละ ไม่ว่าจะหนุ่มเผ็ชหรือว่าสาวแซ่บเราก็มีโอกาสพบเจอบนรถไฟฟ้ากันได้ทั้งนั้น… อย่างเช่นเหตุการณ์ที่นำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ บนรถไฟฟ้าสายหนึ่งในฮ่องกง ผู้โดยสารชายฉกรรจ์ถึงกับปากอ้าตาค้างกับเรือนร่างของผู้โดยสารสาวคนหนึ่งที่ยืนเกาะราวเหล็กอย่างมั่นใจในชุดรัดรูป ครั้งนี้เองก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของหนุ่มๆ ที่ได้พบเจอกับหญิงสาวซึ่งมีทรวดทรงราวกับออกมาจากความฝัน ผิวของเธอออกขาวตามฉบับสาวเอเชีย ผมยาวสลวย พร้อมด้วย หน้าอกทรงโต คู่นั้น วินาทีนั้นคงต้องบอกเลยว่าหนุ่มๆ ไม่สามารถควบคุมสายตาให้มองไปที่อื่นได้เลยจริงๆ อีกไม่นานรถไฟฟ้าก็คงถึงจุดหมาย สาวสะบึ้มคนนี้ก็คงจะจากไปไม่เหลืออะไรให้เชยชมอีกแล้ว หนุ่มๆ จึงตัดสินใจ เก็บภาพของเธอเอาไว้อย่างเนียนๆ ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมีวิธีของตัวเองในการเก็บภาพสาวในฝันคนนี้เอาไว้ใช้ในจินตนาการ ขณะที่ใครบางคนถ่ายภาพของเธอมาให้ชาวเน็ตได้รับชม ในกระจกดันสะท้อน ความไม่เนียน ของเจ้าหนุ่มเสื้อขาวมาเสียได้ แชะ! ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่!! ไอ้เจ้าหนุ่มเสื้อขาวคงไม่ทันมองเห็นกระจกสะท้อน งานนี้เขาก็กลายเป็นหนุ่มหื่นในสายตาชาวเน็ตไปเลย แถมยังเป็นคนหื่นที่ไม่เนียนอีกเสียด้วย ฮ่าๆ แต่อย่างน้อยเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ได้ภาพของหญิงสาวโนตมนิรนามไปเชยชมล่ะนะ ถ้าจะให้แนะนำล่ะก็คราวหลัง หากสนใจเขาจริงๆ ก็เข้าไปคุยให้เป็นกิจลักษณะดีกว่ามาแอบถ่ายแบบนี้นะ โชว์ความจริงใจแมนๆ ไปเลย! หวังว่านายคงจะไม่นำรูปภาพไปทำอะไรไม่ดีนะไอ้หนุ่มๆ ทั้งหลาย!! ที่มา: Hilda Lam และ ck101
-
สาวเที่ยวเกาหลี แต่ไม่รู้ภาษา ปวดอึจน “ข้าศึกทะลัก” เพราะไม่รู้จะถามหาห้องน้ำยังไง…
(บทความมีภาพไม่พึงประสงค์ อาจทำให้เกิดความสะอิดสะเอียนได้) การท่องเที่ยวต่างประเทศคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่การจะเดินทางไปจริงๆ นั้นก็ไม่ง่ายเลย ไหนจะต้องเตรียมตัว ศึกษาสถานที่ วัฒนธรรม รวมไปถึงภาษาและการสื่อสารด้วย! การท่องเที่ยวในต่างแดนนั้นจำเป็นต้องสื่อสารกับคนอื่นๆ ในการถามทางหรือข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งถ้าหากว่าภาษาที่เราใช้ ไม่สามารถสื่อสารกับคนในประเทศนั้นๆ ได้ รับรองเลยว่า “วุ่นวายแน่ๆ” ขอยกตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่เมื่ออ่านแล้วคุณจะรู้ได้เลยว่า ภาษานั้นสำคัญขนาดไหนในการไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ หญิงสาวชาวฮ่องกงคนหนึ่งได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้พร้อมกับเพื่อนและพี่สาวของเธอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนท้องไส้จะปั่นป่วนอย่างไรไม่รู้ เพื่อนของเธอก็เริ่มทำการเก็บภาพเอาไว้ ไม่รู้ว่าสาวๆ เหล่านี้ไปกินอะไรกันมา จนทำให้สาวเจ้าของเรื่องเกิดอาการ “ปวดอุจจาระ” ขึ้นมาในทันใด ด้วยความไม่มีภาษาที่จะสื่อสารกับคนเกาหลีได้ เธอจึงไม่สามารถสอบถามได้ว่า ห้องน้ำอยู่ที่ไหน พวกเธอตัดสินใจโบกแท็กซี่เพื่อกลับโรงแรมที่พัก ขณะนั่งอยู่ในรถเองเธอก็เริ่มที่จะทนต่อไปไม่ไหว มีกลิ่นตุๆ ออกมาชนิดที่ว่าคนขับแท็กซี่ต้องเปิดกระจกเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อลงจากรถมาพวกเธอจ่ายค่าแท็กซี่ไป 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท) เพื่อเป็นการขอโทษ แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ ข้าศึกมันมาแล้ว ภายใต้กางเกงขาสั้นของหญิงสาวมีวัตถุอุ่นๆ…
-
อีหนู เอ็งลืมไข่!! บนรถโดยสารฮ่องกง หญิงสาวลืมของหน้าตาคุ้นๆ อ๋อ “ไข่สั่น” นั่นเอง!!?
ขอเตือนผู้อ่านทุกคนเลยก็แล้วกันว่า เมื่อขึ้นรถโดยสารไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ควร ตรวจสอบทรัพย์สิน ของตนเองให้ดีก่อนลงจากรถ เพราะหากลืมล่ะก็ มันอาจก่อความลำบากให้คุณได้ หลายคนอาจลืมกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ หรืออาจจะเป็นสิ่งของสำคัญ แต่เหตุการณ์ล่าสุด ทางเฟซบุ๊ก 巴士台 HK Buses Channel ได้เผยภาพที่ถูกถ่ายมาจากรถโดยสารในฮ่องกง ผู้ถ่ายภาพพบว่าหญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วออกจากรถไปโดยลืมอะไรบางอย่างที่กำลังเสียบสายชาร์จอยู่กับตัวรถ และไอ้ของสิ่งนั้นมันก็ดูคุ้นตาๆ ยังไงชอบกล เฮ้ย!!? นะ…นี่มัน ผ่ามม!! ไข่สั่น 5555555 ชาวเน็ตก็มีเข้ามาคอมเมนต์กันฮาๆ มากมาย เช่น “อย่าเอาไปทิ้งนะ” “เบาะเปียกเลยสินะ” “เธอพอใจแล้วเธอไป” “อยากรู้จักสาวคนนี้จริงจริ๊ง” “หลุดไปก็ไม่รู้สึกหรอกมั้ง ถ้ามันหลวม…” เอาเป็นว่าพยายามอย่าลืมของไว้ในสถานที่สาธารณะก็แล้วกันเนอะ ถ้าเป็นคนรู้จักมาเจอเข้าคงเขินแย่เลย ฮ่าๆ ที่มา: 巴士台 HK Buses Channel via ck101
-
รีวิวดีเวอร์~ ชาวเน็ตแห่คอนเฟิร์ม “ไหว้พระขอแฟน” ที่ฮ่องกง เห็นผลเร็ว ได้ผลจริง 555
ต้องยอมรับเลยว่าสิ่งที่ยากกว่าการเรียนให้จบก็คือ การมีแฟน เนี่ยแหละ โดยเฉพาะหนุ่มจืดสาวจืดอย่างเราๆ แล้วด้วย จะหาแฟนได้จากไหนยังคิดภาพไม่ออกเลย… บางทีแอบคิดจะให้พ่อแม่จับคลุมถุงชนแบบสมัยก่อนก็ท่าจะไม่เวิร์ก ดูเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนเกินไปอีก ขนาดเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ว่าก้าวไกล มี แอปพลิเคชันหาคู่ มากมายให้เลือกใช้แล้ว มันก็ยังคงโสดอยู่ดี เอางี้ก็แล้วกัน ทางออกใหม่สำหรับคนไร้คู่ที่กำลังนิยมมากในตอนนี้ การไหว้พระขอพร นั่นเอง หนุ่มสาวชาวไทยที่โสดทั้งหลายกำลังให้ความสนใจกับการหาแฟนวิธีนี้มากๆ ว่ากันว่าเห็นผลจริงยิ่งกว่าแอปฯ หาคู่อีก ว่ากันว่า ไปไหว้พระที่ฮ่องกงแล้วกลับมาได้คู่ชัวร์ป้าบ ตามด้วยทวิตคอนเฟิร์มว่า ขอพรที่นั่นแล้วได้แฟนชัวร์ แถมเลือกสเปกได้อีกด้วยนะเอ้อ! ส่วนใครจะไป เขาแนะนำมาว่าไปที่วัด “หวังต้าเซียน” ขอพรโดยการผูกด้ายแดง ขั้นตอนและวิธีการมีเขียนบอกไว้ด้วยล่ะ ส่วนอีกที่คือวัด “เจ้าแม่กวนอิม” ที่ Impulse Bay เพียงแค่เดินเข้าไปหาแล้วขอพรตรงๆ เลยว่าให้เจอเนื้อคู่ อยากได้ต้องอย่าเขิน!! ส่วนนี่คือ ผลตอบรับจากผู้มีประสบการณ์ตรง ฮ่าๆ . . รีวิวดีมากเว่อร์ อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคนแล้วล่ะนะ ขอให้ทุกท่านจงพบเนื้อคู่โดยเร็ววัน ส่วน…
-
มุมมองการใช้ชีวิตของคนในฮ่องกง ห้องเล็กเท่ารูหนู แต่ค่าเช่ารายเดือนเกือบ 1 หมื่นบาท
ฮ่องกง คือเขตปกครองพิเศษของจีนที่ขึ้นชื่อว่ามีเศรษฐีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เปรียบเหมือนกับเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา มั่งคั่ง แต่เบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ของสถานที่แห่งนี้คือการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากของผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ห้องเช่าเล็กๆ ที่ถูกเรียกว่า “บ้านโลงศพ” เพราะมีขนาดพอให้เราได้นั่งๆ นอนๆ บ้างเท่านั้นเอง คนจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าที่มีขนาดเท่ารูหนู ในหลายๆ แห่งมีพื้นที่แค่ 46 ตารางเมตร แต่กลับต้องอาศัยอยู่ร่วมกันกว่า 30 ชีวิต ไม่ต้องคิดภาพกันเลยว่ามันจะคับแคบและอึดอัดมากขนาดไหน คนจำนวนมากต้องแบ่งพื้นที่อาศัยกันในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด . ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในห้องเช่าเหล่านั้นมักจะเป็นผู้สูงอายุในวัยเกษียณ คนหาเช้ากินค่ำ ผู้มีความผิดปกติทางจิต คนติดยา หรือแม้แต่ครอบครัวธรรมดาๆ ที่ไม่สามารถหารายได้ได้เพียงพอต่อการอยู่อาศัยในที่ดีๆ . คนจำนวนมาก กลับถูกอัดให้มาอาศัย ใช้สิ่งต่างๆ ร่วมกันในห้องแคบๆ บางคนอาจคิดว่า สำหรับคนที่มีงานมีการเป็นหลักแหล่ง ทำไมพวกเขาถึงจำเป็นต้องมาอาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ แบบนี้ แทนที่จะออกไปหาห้องเช่าที่มีความสะดวกสบายมากกว่า? นั่นก็เป็นเพราะว่าราคาค่าเช่าต่อเดือนของที่พักอาศัยในฮ่องกงถือว่าสูงเอามากๆ นั่นเอง ลองคิดดูว่าห้องนอนขนาดความกว้าง 60 เซนติเมตร ยาว 170 เซนติเมตร อย่างที่เราเห็นในภาพนี้ ส่วนใหญ่มีค่าเช่าอยู่ที่…
-
รวม GIF ฉากโหดๆ ของ “เฉินหลง” เล่นจริงเจ็บจริงเพราะอยากให้หนังออกมา “มันส์” ที่สุด
หากพูดถึงนักแสดงบทบู๊จากฮ่องกงที่เคยโด่งดังเปรี้ยงปร้างสุดๆ ในยุคหนึ่ง คุณคงจะต้องนึกถึง เฉินหลง หรือว่า Jackie Chan เป็นแน่ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงและศิลปะการต่อสู้แบบกังฟูที่ติดตัวมา ทำให้เขาได้ฝากผลงานภาพยนตร์แอ็คชันที่ตราตรึงหัวใจผู้คนเป็นจำนวนมาก เช่น เรื่อง Rush Hour, Drunken Master หรือ Police Story และอีกมากมายจนนับแทบไม่ถ้วน และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ “เฉินหลง” ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้คนทั่วโลก นอกจากฉากบู๊ที่เท่ปนตลกแล้ว นั่นคือการที่เขา มักจะเข้าฉากด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทน เรียกได้ว่า เล่นจริง เจ็บจริงกันเลยทีเดียว เอาล่ะวันนี้เราไปจะพาทุกท่านไปชม ฉากโหดๆ ที่เฉินหลงเล่นจริงและ “เจ็บจริง” แบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน #เหมียวโลลิว่า อย่ารอช้าดีกว่าเนอะ ไปดูกันเลย… 1. ฉากนี้เขาต้องเจ็บปวดจากการถูกเผ้าไหม้อย่างรุนแรง ทั้งที่ลำตัวและฝ่ามือที่รูดสายไฟลงมา 2. ฉากนี้มี “แตก” ที่บริเวณด้านหลังหัว 3. กระโดดสูง แถมเคลื่อนที่ ฉากนี้จึงทำให้ เฉินหลง “ข้อเท้าหัก” 4. สันจมูกแตก 5.…
-
ผลสำรวจบอกว่า 1 ใน 7 ของประชากรใน ‘ฮ่องกง’ เป็นเศรษฐี นี่มันคือสถานที่แห่งความร่ำรวย
คำว่า เศรษฐี เราคงเข้าใจกันดีว่านั่นหมายถึงคนที่มีทรัพย์สมบัติมหาศาล มากกว่าคนปกติทั่วๆ ไป พวกเราส่วนใหญ่อาจเห็นคนในกลุ่มนี้ออกมาตามโทรทัศน์บ้างเป็นบางส่วน ดูๆ แล้วบ้านเราคงไม่ได้มีเศรษฐีกันเยอะเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเมื่อเทียบกับ ฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนด้วยแล้วล่ะก็ เพราะล่าสุดนี้ Citibank แผนกธุรกิจเชื่อดังของสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ทำการศึกษาที่เผยให้เห็นว่า 1 ใน 7 ของคนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงนั้นเป็นมหาเศรษฐี หรือเกือบๆ 15 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีน ลองคิดดูว่าในปี 2017 ฮ่องกงมีจำนวนประชากรอยู่ที่ประมาณ 7,360,000 คน นั่นเท่ากับว่ามีคนที่เป็นเศรษฐีอยู่มากถึง 1,030,400 คน เรียกว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากจริงๆ แถมการศึกษาครั้งนี้ยังบอกอีกว่าประมาณ 68,000 คนที่เป็นเศรษฐีอยู่ในฮ่องกงนั้น จะมีเงินอย่างน้อย 39 ล้านบาท การศึกษาในครั้งนี้เชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้คนฮ่องกงเป็นเศรษฐีกันเยอะ เกิดจากราคาหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ในปี 2017 ดัชนีฮังเส็งเพิ่มสูงขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เองก็มีราคาเพิ่มขึ้น สูงถึง 14 เปอร์เซ็นต์ นั่นจึงทำให้เฉลี่ยแล้วเศรษฐีในฮ่องกงมีเงินหมุนเวียนอยู่กับอสังหาริมทรัพย์มากถึง…
-
ความสะเพร่าของโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัว ไม่เยียวยาและไม่รับผิดชอบ…
โรงพยาบาลเปรียบได้เหมือนดั่งความหวังสุดท้าย ที่จะทำให้ร่างกายของคนเรากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีในบางกรณีที่การรักษากลับทำให้ชีวิตของผู้ป่วยย่ำแย่ลงกว่าเดิม เรื่องราวของผู้ป่วยหญิงวัยรุ่นอายุ 15 ปี จากฮ่องกง ที่มีอาการปวดหัว ปวดคอ และรู้สึกว่าร่างกายด้านขวามีความอ่อนแรงผิดปกติ และเริ่มต้นเข้ารับคำแนะนำทางด้านการรักษากับทางโรงพยาบาล United Christian Hospital ในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 จากนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอประสบกับอาการไขสันหลังอักเสบเฉียบพลัน อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งหรือเซลล์ประสาททั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย และได้รับการรักษาด้วยสเตอรอยด์ในทันที แต่กลับไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ แพทย์จึงแนะนำให้รับการรักษาด้วยวิธี Plasmapheresis (การฟอกเลือด) กระบวนการรักษาที่จะนำพลาสมาที่เป็นพิษออกจากร่างกาย ทำให้สะอาดหมดจนก่อนจะนำกลับเข้าสู่ ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายอีกครั้ง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว และหลังจากที่แพทย์ได้ทำการสวมสายสวนหลอดเลือดไปที่ลำคอ เธอเกิดอาการช็อกส่งผลทำให้เลือดไหลไปกองอยู่ที่บริเวณหน้าอก ทางทีมแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ และทำให้ครอบครัวของผู้ป่วยมั่นใจว่ายังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ได้ตัดสินใจย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล Queen Elizabeth Hospital เพื่อรับการรักษาเลือดที่สะสมค้างอยู่ในบริเวณหน้าอกแทน ในขณะที่ทีมแพทย์ทีมใหม่จะทำการเจาะเส้นเลือดดำของผู้ป่วย กลับพบว่าเส้นเลือดแดงของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากการสวมสายสวนหลอดเลือดที่คอจากโรงพยาบาลแห่งแรก…
-
ไม่ได้มีแค่ไทย สมาคมคนขับแท็กซี่ในฮ่องกงประท้วงไล่คนขับ Uber เหมือนไทยเปี๊ยบ!!
ปัญหาเรื่อง Uber เข้ามาแทนที่ระบบขนส่งเดิมนั้น เป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะล่าสุดสื่อนอกอย่าง coconuts ก็ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้คนที่ต้องประสบปัญหากับการประท้วงของแท็กซี่ในฮ่องกงที่ออกมาแสดงความไม่พอใจจากบริการดังกล่าว… เช่นเดียวกับไทย Uber ในฮ่องกงนั้นถือเป็นบริการที่ใช้ง่ายและสะดวก แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บวกกับปัญหาแนวเดียวกับบ้านเราที่แท็กซี่ฮ่องกงเลือกรับผู้โดยสาร หรืออาจจะไม่ปฎิเสธตลอดทางเลยก็มี ฉะนั้นคนจึงหันไปใช้บริการดังกล่าวกันมากขึ้นๆ และเมื่อคนหันไปใช้ Uber มากขึ้น คนที่อยากจะใช้แท็กซี่ปกติก็มีน้อยลง งานนี้ทางกลุ่มคนขับแท็กซี่จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงรวมกันออกมาประท้วงแก่กระทรวงคมนาคม ทั้งหมดวางแผนที่จะออกมาขับรถวนไปรอบๆ เมืองด้วยความเร็วที่ช้า โดยพวกเขาหวังว่าการประท้วงนี้จะทำให้พวกเขาสามารถเข้าร้องเรียนต่อ Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมานาคมและการเคหะของฮ่องกงได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางรัฐเคยออกมาแก้ปัญหานี้ด้วยการปล่อยกฎหมายห้ามปฎิเสธลูกค้ามาก่อนแล้ว เพียงว่ามันก็ยังคงไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะจากปากผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ยังบอกว่า แท็กซี่มักจะปฎิเสธลูกค้าหรือไม่ก็กำหนดราคาเหมามาแทนที่จะกดมิเตอร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้นั่นเอง สุดท้ายแล้วปัญหาทั้งหมดจะจบลงที่ตรงไหน แล้ว Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมฮ่องกงจะว่าอย่างไร เราก็คงต้องติดตามกันต่อไปนั่นเอง… ถ้าส่งรถและเติมแก๊สด้วยนี่ใช่เลย ไทยชัดๆ ที่มา coconuts
-
นางแบบสาวโพสต์วิดีโอยอมให้จับหน้าอกกลางที่สาธารณะ ถูกชาวเน็ตวิจารณ์กันอย่างหนัก
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นกระแสกระแสหนึ่งที่มาแรงมาก ก็คือกระแสที่คนๆ หนึ่งจะแบมือและให้เพื่อน แฟนหรือใครก็ตามนำคางมาวางเกยที่มือของพวกเขา ด้วยความน่ารักน่าชังนี้จึงทำให้มันกลายเป็นกระแสที่นิยมของวัยรุ่นชาวเอเชียไปเลย วิดีโอแสดงกระแสนำคางมาเกยที่มือเหมือนที่กล่าวมา แต่ที่ล้ำกว่ากระแสการวางคางไว้บนมือ ก็คือเมื่ออาทิตย์ก่อนได้มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักหุ่นเซ็กซี่ได้โพสต์วิดีโอลงเพจเฟซบุ๊กของตน โดยในวิดีโอแทนที่เธอจะนำมือมาไว้บนคางตามกระแสนิยม แต่เธอกลับนำหน้าอกมาแทนให้จับแทน เรียกได้ว่าสร้างความน่าอิจฉา เอ๊ย!! สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์เลยทีเดียว โดยเธอคือนางแบบชาวไต้หวันที่รู้จักกันในชื่อ Yui Yui (辛尤里) เธอได้อัปโหลดวิดีโอที่มีมือของคนๆ หนึ่งกวักมือเรียกเธอเข้ามาหาและได้ทำการจับหน้าอกของเธอในที่สาธารณะของฮ่องกงและประเทศไต้หวันเช่นข้างถนน ในรถบัสและในสถานีรถไฟ ด้วยจำนวนผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกว่า 30,000 คนและในอินสตาแกรมอีกว่า 19,200 คน ทำให้วิดีโอของเธอถูกแชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นวิจารณ์การกระทำของเธอย่างมากมาย โดยเราจะยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ชมกันครับ “นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของมวลมนุษยชาติเลยนะ ผู้หญิงควรจะมีเกียรติมากกว่านี้ และผู้ชายก็ไม่ควรที่จะแนะนำชักชวนให้ผู้หญิงทำอะไรแบบนี้” “ศักดิ์ศรีของเธออยู่ที่ไหนอ่ะ? เธอไม่มีความเคารพในตัวเองเลย น่าอายจัง” “ทำไมถึงทำให้ตัวเองโดนดูถูกและดูงี่เง่าแบบนั้นล่ะ” วิดีโอที่เธอได้โพสต์และกลายเป็นกระแสไปทั้งทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งก็ได้มีทนายชาวฮ่องกงท่านหนึ่งได้ออกมาเตือนนางแบบสาวอยู่เหมือนกันว่าการทำแบบนี้อาจทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 7 ปี แต่สุดท้ายนี้เธอจะถูกลงโทษอะไรหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป…
-
เพราะอาหารในป่าขาดแคลน “หมูป่า” ถึงกับต้องพา “ลูกน้อย” ลงมาหาอาหารในเมือง…
ในปัจจุบันนี้ธรรมชาตินั้นร่อยหรอลดลงกว่าเดิมมากๆ เนื่องจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นสภาพอาการ สภาพดิน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการบุกรุกธรรมชาติของมนุษย์อย่างเราด้วยกันเองนี่แหละ และเนื่องจากธรรมชาติถูกคนทำลายลงเรื่อยๆ จึงทำให้สัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่กับธรรมชาติไม่สามารถหาอาหารการกินได้เหมือนเดิม เพราะทรัพยากรหายไปหมด สัตว์บางรายอาจอดตาย หรือบางตัวที่อยู่ใกล้หมู่บ้านหรือเมืองก็เลือกที่จะเข้ามาหาอาหารในเมืองกิน อย่างเช่นเจ้าหมูป่ายักษ์ตัวนี้ ที่ตัดสินใจพาลูกน้อยๆ อีกสามตัวเข้ามาคุ้ยขยะหาของกินเพื่อประทังชีวิตในเมืองใหญ่ในประเทศฮ่องกง โดยที่เหตุการณ์นี้ถูกถ่ายโดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งกำลังไปส่งลูกที่โรงเรียน แต่ต้องเจอกับเหตุการณ์น่าตกใจ เมื่อพวกเขาเจอกับหมูป่าตัวใหญ่ยักษ์ กำลังคุ้ยขยะอยู่โดยที่มีลูกน้อยๆ ยืนรออยู่ข้างๆ สามตัว และเมื่อวิดีโอนี้ถูกโพสต์ไป มันก็กลายเป็นกระแสไปเลย ตอนนี้วิดีโอที่ถูกอัปโหลดโดย Tu Dong มีผู้เข้าชมไปแล้วกว่า 300,000 ครั้ง และมีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นมากมาย บางคนก็ให้ความเห็นไปเชิงเป็นห่วง ถามว่าเจ้าหมูป่าตัวนี้มันอยู่ไกลจากโรงเรียนแค่ไหน ชาวเน็ตคนหนึ่งได้ให้ความเห็นว่า “หมูป่าอยู่เยื้องไปทางซ้ายของโรงเรียน ฉันเป็นห่วงเด็กๆ ที่โรงเรียนอนุบาล Hyung-Hyung จัง” แต่ก็มีอีกความเห็นหนึ่งที่ได้ให้ความเห็นในเชิงสงสารเจ้าหมูป่าว่า “มันต้องหิวมากๆ แน่เลย และหมูป่ามันก็มีสิทธิและเสรีภาพที่จะมีชีวิต พวกมันเก็แค่หิวเท่านั้นแหละ“ อ้างอิงตาม CNN เจ้าหมูป่าถูกพบอยู่ในพุ่มไม้แถวๆ สวนสาธารณะ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงได้มาจับมัน แต่ว่าไม่สามารถจับมันได้ ทำให้ตำรวจต้องใช้กำลัง และโล่กับตาข่าย จึงสามารถจับมันได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจะมีตำรวจหนึ่งนายกับนักปั่นจักรยานอายุ 73 ปี ได้รับบาดเจ็บ…
-
ชายผู้คุยกับคนแปลกหน้า หวังอยากให้พวกเขาลดความสนใจจากสื่อในสมาร์ตโฟนบ้าง
“มันเหมือนกับการสารภาพรักกับใครซักคนที่คุณแอบชอบ” นี่คือความรู้สึกของ Leung Cheuk-lam ชายหนุ่มชาวฮ่องกงวัย 27 ปี ที่ออกไปพูดคุยกับคนแปลกหน้าครั้งแรกในปีที่แล้ว การพูดคุยกับคนแปลกหน้าในทุกๆ วันนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ ChatToStranger ของ Leung การพูดคุยกับคนแปลกหน้าแบบตัวต่อตัวถือเป็นหนึ่งในไอเดียของโปรเจกต์นี้ ซึ่งชายหนุ่มบอกว่าการพูดคุยแบบนี้มักจะพบเห็นได้ยากในยุคที่การสื่อสารมีการพัฒนาไปมาก Leung ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่า 300 คน และเก็บข้อมูลของแต่ละคนไว้ในแฟนเพจของเขา ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คนแล้ว “ผมได้ยินผู้คนมากมายพูดถึงความเฉยชาของชาวฮ่องกง และผมหวังว่าผมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้” Leung ผู้กำกับอิสระและนักตัดต่อวิดีโอกล่าว การเริ่มต้นพูดคุยกับคนแปลกหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับชายหนุ่ม เขาเริ่มกล่าวคำทักทายง่ายๆ อบ่าง “สวัสดี” ก่อนที่จะเริ่มบทสนทนา “มันเหมือนกับการพูดคุยกับผู้หญิงที่คุณชอบ และในขณะเดียวกันคุณก็กำลังกลัวเพราะคุณไม่รู้ว่าเธอจะคิดเหมือนคุณหรือเปล่า” Leung ให้สัมภาษณ์ จุดเริ่มต้นของการพูดคุยกับคนแปลกหน้าของชายหนุ่มเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มพูดคุบกับผู้โดยสารบนรถบัสระหว่างทางกลับบ้าน เนื่องจากเขาไม่อยากจะปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ และการได้พูดคุยกับคนแปลกหน้าก็ทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่างมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มสังเกตเห็นก็คือ ผู้คนส่วนมากมักจะจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของพวกเขา และมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมพูดคุยกับเขา ในมหานครอื่นๆ ที่คล้ายกับฮ่องกง Leung บอกว่าผู้คนส่วนมากมักจะใช้เวลาทำงานอย่างยาวนาน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเองแทบจะไม่มีแรงหรือเวลาในการพูดคุยเลย ซึ่งนั่นทำให้การเริ่มคุยกับคนแปลกหน้าในช่วง 2-3 นาทีแรกเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่ชายหนุ่มก็บอกว่ามันทำให้เขารู้สึกสนุก และมีความสุขที่ได้พูดคุยกับผู้คนมากมาย “หลังจากที่ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้ามาเป็นเวลากว่า 1…
-
เปิดตำนาน “เสี่ยเจิ้ง” นักแสดงฮ่องกง กว่าจะโด่งดัง มีนาฬิกาหรูใส่ มันไม่ง่ายเลย!!
ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีนักแสดงสัญชาติเอเชียคนหนึ่งซึ่งโด่งดังมากในโลกอินเตอร์เน็ตของประเทศไทย ซึ่งหลายคนคงจะได้เคยผ่านมา เคยเห็นมุกตลกมากมายในโลกโซเชียลเป็นภาพเกี่ยวกับเขากันบ้างแล้ว แต่น้อยคนนั้นที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วพี่แกเป็นใคร ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพา เพื่อนๆ ไปรู้จักกับเขากัน… ชื่อของเขาคือ Kent Cheng Jak-si เขียนเป็นตัวจีนเท่ๆ ว่า 郑则士 หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม เคนท์ เจิ้ง แต่ในบทความนี้เราจะขอเรียกว่า พี่เจิ้ง เลยแล้วกัน พี่เจิ้งของเรานั้นเกิดวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 1951 เขาเป็นดาราหนังและโทรทัศน์ของฮ่องกง ผู้ที่เคยได้รับรางวัล “Hong Kong Film Awards“ มาแล้ว พี่เจิ้งเกิดในครอบครัวจนๆ ครอบครัวหนึ่งในฮ่องกง และมีความฝันตั้งแต่เด็กเลยว่าอยากเป็นนักแสดง แต่เส้นทางนั้นไม่ได้สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ เขาเขียนมันลงไปในใบสอบถามของทางโรงเรียน แต่กลายเป็นว่าโดนคุณครูด่าเละ สงสัยคุณครูจะคิดว่าพี่แกหล่อก็ไม่หล่อ พ่อก็ไม่รวย จะเป็นดาราได้อย่างไรละมั้ง!? “ไม่ต้องหน้าเกาหลีตรูก็ดังได้” พี่เจิ้งไม่ได้กล่าวไว้ แต่ด้วยความพยายามอย่างไม่ท้อถอย… – ในปี 1972 เขาได้เข้าทำงานในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ แต่ยังไม่ได้เป็นนักแสดง – ปี 1976 ความฝันของเขาก็เป็นจริง เมื่อได้แสดงละครเรื่องแรกทางช่อง…
-
ช่างภาพตามเก็บภาพความงดงามของ ‘ชุมชนแออัด’ ในฮ่องกง เหมือนหลุดออกมาในฉากภาพยนตร์ไซไฟ
เมื่อพูดถึงชุมชนแออัด หลายคนอาจจะนึกถึงสภาพชุมชนที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม และมักจะเป็นที่มั่วสุมของพวกเล่นยาเสพติด จนกลายเป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้ แต่ช่างภาพชาวโปรตุเกส Nuno Assis ได้นำเสนออีกมุมหนึ่งของชุมชนแออัด ที่ดูราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ไซไฟจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับนักเดินทาง Assis ได้ตั้งชื่อภาพเซตนี้ว่า Memories of the Future ซึ่งเป็นภาพของชุมชนแออัดในฮ่องกง ที่นั่นเต็มไปด้วยอพาร์ทเมนต์ ตึกที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสลับซับซ้อนและสายไฟระโยงระยาง นอกจากความสับสนวุ่นวายที่เป็นเสน่ห์ของชุมชนแออัดแห่งนี้แล้ว อาคารที่ถูกสร้างด้วยทรงเรขาคณิตก็นับว่าเป็นประติมากรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยเช่นกัน ช่างภาพหนุ่มบอกว่า “การเห็นเมืองผ่านภาพถ่ายจะทำให้ผู้คนเกิดจินตนาการที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น และนี่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจของการเดินทางด้วย” สำหรับ Assis เขามักจะออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ พร้อมกับเพื่อนๆ เขาเป็นคนชอบเข้าสังคม และดูเหมือนฮ่องกงจะเป็นที่ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงขั้นตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่นั่น เขาเขียนในอินสตาแกรมว่า “ผมได้ไปเที่ยวในวันหยุดเมื่อเร็วๆ นี้ และเลือกเมืองที่จะทำให้ผมได้เห็นผู้คนอยู่รอบๆ ความเป็นชุมชนคือแรงจูงใจที่เข็มแข็งสำหรับผม ซึ่งทำให้ผมไม่อยากท่องเที่ยวคนเดียว” สำหรับสถานที่ในฮ่องกงที่ Assis ชอบถ่ายรูปมากที่สุดคือ Hac Sa Wan (Areia Preta) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮ่องกง ภาพที่เห็นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครอยากติดตามผลงานเพิ่มเติมและการผจญภัยของ Assis สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม Nunoassis . . . .…
-
ช่างภาพโชว์ฝีมือการถ่ายภาพจากมุมต่างๆ ของฮ่องกงออกมาได้สวยงาม ราวกับร่ายเวท
ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษที่ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายอันแสนสำคัญของเหล่านักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติ ด้วยความที่มีกลิ่นอายพิเศษชวนดึงดูด แสงสี และสถานที่สวยงามมากมาย ทำให้ใครๆ ก็ต่างสนใจในเมืองแห่งนี้ Harimao Lee ช่างภาพชาวฮ่องกง ก็ถือเป็นอีกคนที่มองเห็นว่าเมืองบ้านเกิดของเขานั้น มันเป็นเมืองที่น่าหลงใหลมีอะไรที่ชวนดึงดูดผู้คน นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าเมืองแห่งนี้มันยังมีมุมต่างๆ ที่เขาคิดว่าเขาน่าจะสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ดีและช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้มากกว่านี้ Harimao Lee ได้ใช้กล้อง Canon EOS 60D ในการถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ทั้งบนยอดตึกสูง มุมลับต่างๆ ในชุมชน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน ซึ่งงานของเขาเรียกว่าสวยมากๆ เลยทีเดียว ถ้าใครอยากจะติดตามผลงานของเขา ก็สามารถเข้าไปรับชมเพิ่มเติมได้ที่ harimaolee หรือจะไปกดติดตามอินสตาแกรมของเขาก็ได้เช่นกันที่ harimaolee ซึ่งข้างในมีผลงานของเขาอีกเยอะแยะเลยล่ะ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
นุ้งแมวแคระของแท้ พี่น้องจากฮ่องกง อ้วนเตี้ยครบสูตรแห่งความน่ารัก!!!
คุณจะทำอย่างไรเมื่อเจออานุภาพความน่ารักของเจ้าแมวน้อย ที่จะมาอ้อนคุณด้วยคำว่า “เหมียวๆ” กับขาสั้นๆ ที่ไม่เหมือนใครของมัน โดยเจ้าแมวสองตัวนี้มีผู้ติดตามในอินสตาแกรม little_milo_munchkin เกือบหมื่นคนแล้ว เจ้าแมวคู่พี่น้องสองตัวนี้มันมาพร้อมขาเตี้ยๆ 4 ข้าง ที่เหมือนเกิดมาเพื่อแอ๊บแบ๊วโดยเฉพาะ ไม่แน่ว่าถ้าคุณได้รู้จักทั้งคู่แล้ว คุณอาจจะอยากมีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้นะ เจ้าเหมียวสองตัวนี้เป็นพี่น้องจากฮ่องกง . (*ฅ́˘ฅ̀*)Milo ? 討吃~♡ #LittleMilo #短い手足 #munchkincat #snoopyxkaws Instagram: little_milo_munchkin https://m.facebook.com/i.am.little.milo โพสต์ที่แชร์โดย Ming de Charmaine (@little_milo_munchkin) เมื่อ พ.ย. 30, 2017 เวลา 3:01am PST ตัวแรกชื่อเจ้า Little มันมีขนสีน้ำตาลเข้ม ส่วน Milo มีขนสีส้มอ่อน… . (*ˊᵕˋ*)੭ ੈ♥︎ Milo:Mama, play with me please ……….. moew?…
-
Lui Lai-yiu นักกีฬาสาวฮ่องกงเผย เคยโดน ‘โค้ช’ คุกคามทางเพศเมื่อสมัยยังเป็นนักกีฬาวัยรุ่น
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีกระแสแคมเปญที่ชื่อว่า #Metoo ซึ่งเป็นแคมเปญที่เชิญชวนให้ผู้หญิงทั่วโลกออกมาบอกถึงภัยคุกคามที่พวกเธอเคยได้เผชิญในรูปแบบการถูกคุกคามทางเพศ เพื่อให้ทั่วโลกได้ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับอันตรายที่พวกเธอต้องเจอ เพราะว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก Lui Lai-yiu นักกีฬาวิ่งข้ามรั้วจากประเทศฮ่องกง ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับแคมเปญนี้เป็นคนแรกในประเทศ โดยเธอบอกว่า ภัยคุกคามทางเพศที่เธอได้เจอมานั้นเกิดขึ้นในสมัยวัยรุ่น และคนที่เป็นผู้กระทำการดังกล่าวก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่ว่าเป็นผู้ฝึกสอนของเธอในเวลานั้นนั่นเอง เธอได้โพสต์เรื่องดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กของเธอเอง ในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอพอดี โดย Lui ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ฝังใจในครั้งนั้นจากน้ำมือของอดีตโค้ชของเธอ ซึ่งเธอได้สมมุติให้โค้ชคนนั้นชื่อว่า โค้ช Y ประสบการณ์ไม่รู้ลืมของ Lui เกิดขึ้นเมื่อเธอมีอายุเพียง 13 ปี เธอเล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในเย็นวันหนึ่งเมื่อโค้ช Y เสนอให้เธอไปนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่บ้านของเขา และสิ่งที่ทำให้เธอยอมไปก็เพราะต้องการจะคลายกล้ามเนื้อจากการฝึกซ้อมอย่างหนักเพียงเท่านั้น แต่เมื่อไปถึงบ้านของโค้ช Y กลับไม่ใช่การนวดที่เธอคิดเอาไว้ โดยโค้ชคนดังกล่าวได้พยายามถอดเสื้อผ้ารวมถึงชุดชั้นในของเธอ และเริ่มสัมผัสที่จุดสงวนต่างๆ “ในความคิดของฉัน เขาเป็นโค้ชที่น่าเคารพคนหนึ่ง ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะทำสิ่งที่น่ารังเกียจแบบนั้นกับนักเรียนของเขาเอง” Lui กล่าว สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว ก็คือเธอได้ฟังเรื่องราวของ McKayla Maroney นักยิมนาสติกชื่อดัง ที่ได้แชร์ประสบการณ์การถูกคุกคามทางเพศจากหมอคนหนึ่งในทีมของเธอ ซึ่งนั่นได้ทำให้ Liu อยากจะออกมาเผยแพร่เรื่องราวของเธอเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้อื่นบ้าง …
-
Connie Chiu นางแบบผิวเผือกคนแรกของโลก ตำนานบนแคทวอล์กที่ยังคงเฉิดฉาย
ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความงดงามหลายรูปแบบให้กับมนุษย์ดังนั้น จึงไม่มีมาตรฐานไหนที่จะสามารถวัดได้ว่าความงามที่แท้จริงเป็นอย่างไร บางคนเกิดมาไม่เหมือนพ่อแม่ หรือบางคนเกิดมาพร้อมกับความพิเศษจนถูกมองว่าแปลกประหลาด แต่วันนี้ Connie Chiu นางแบบสาวชาวฮ่องกงได้พิสูจน์ให้โลกได้เห็นแล้วว่า ถึงเธอจะเกิดมาเป็นคนเผือกแต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต จนได้กลายเป็นนางแบบชื่อดังในวงการแฟชั่นรวมถึงนักร้องเพลงแจ๊ส!! สำหรับ Connie เธอเกิดในฮ่องกง และเป็นลูกคนที่ 4 ของครอบครัวคนจีน แต่ทว่า Connie กลับเป็นเพียงคนเดียวที่เกิดมาพร้อมผิวสีเผือกขาดเม็ดสี จึงทำให้เส้นผม และสีผิวซีดขาวทั้งตัว Connie ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิก และเป็นนางแบบผิวเผือกคนแรกในวงการแฟชั่นระดับโลก โดยเธอได้เริ่มเข้ามาทำอาชีพในด้านแฟชั่นในช่วงต้นยุค 90 เมื่อตอนเธออายุ 24 ปี เนื่องจากเธอเป็นคนผิวเผือก ดังนั้น Connie จึงต้องสวมแว่นตา และใช้ร่มกันแดดอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาและผิวหนังได้รับอันตรายจากรังสียูวีนั่นเอง ทางด้าน Connie ได้เล่าว่า ผิวของเธอถูกเผาไหม้จากแสงแดดในช่วงฤดูร้อนอยู่หลายครั้ง และเมื่อเธออายุได้ 7 ขวบ ครอบครัวของเธอก็ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่สวีเดน เพื่อหลบแสงแดดที่รุนแรงในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม Connie ได้รับการเชิญชวนจากน้องสาวที่เรียนในด้านแฟชั่นให้มาลองถ่ายแบบ เมื่อตอนที่เธออายุ…
-
ย้อนอดีตเมืองแห่งความมืดมิด “สลัมลอยฟ้าเกาลูน” กับตำนานแห่งวิถีชีวิตผู้คนในขณะนั้น
เชื่อว่า เมืองแต่ละเมืองต่างก็มีประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวของผู้คนในอดีต เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ก็จะถูกบันทึกไว้ว่า สถานที่แห่งนี้เคยเกิดอะไรขึ้น และมันก็จะเป็นบทเรียนบทหนึ่งที่ทำให้ลูกหลานรุ่นต่อไปได้เรียนรู้ ตำนานแห่งเมือง Kowloon Walled City ของฮ่องกง หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อเมืองนี้เท่าไหร่ เพราะว่าปัจจุบัน เมืองแห่งนี้ถูกทุบทิ้งและกลายเป็นสวนสาธารณะสวยๆ ให้ชาวเมืองไปแล้ว แล้วท่านรู้หรือไม่ ว่าก่อนหน้าจะมาเป็นสวนสาธารณะ ก่อนหน้านี้มันเคยเป็นดินแดนแบบไหนมาก่อน? ในยุคที่อังกฤษเข้าครอบครองฮ่องกงในปี 1898 เกาะเกาลูนที่เป็นส่วนหนึ่งของฮ่องกง ได้รับการยกเว้นให้ยังอยู่ในการปกครองของจีนอยู่ จำนวนประชากรที่เคยอาศัยในเมืองนี้คาดการณ์ว่ามีจำนวนหลายแสนคน นั่นหมายความว่าเมืองนี้จะต้องแออัดมากๆ เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเถื่อน เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษไม่ได้เข้ามาวุ่นวายอีกทั้งรัฐบาลจีนก็ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ มันกลายเป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากรรม สิ่งของผิดกฏหมาย และคุณภาพชีวิตของชาวเมืองก็แย่มาก ด้วยความจำกัดของเนื้อที่ การก่อสร้างในเมืองแห่งนี้ก็นิยมที่จะสร้างตึกสูงๆ ติดกันจนทำให้เรียกกันว่าเป็นเมืองแห่งความมืดมิดเพราะว่าตึกที่สร้างติดกันมากๆ ทำให้แดดส่องเข้าไม่ถึง . วิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่ในเมืองแห่งนี้อยู่ด้วยความยากลำบากสุดๆ ทั้งแก๊งมาเฟียท้องถิ่น การค้าประเวณี ยาเสพติด และบ่อนการพนัน ระบบสารธารณูปโภคก็ไม่ดีนัก น้ำประปา แสงไฟส่องสว่างมีไม่เพียงพอ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องพึ่งหมอเถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ปี 1987 รัฐบาลจีนเริ่มเห็นว่าสภาพความเป็นอยู่ของคนในเมืองนี้แย่เกินจะเยียวยาแล้ว จึงได้ไล่คนที่อาศัยในเมืองนี้ออกไปอยู่นอกเมืองแห่งนี้ บางส่วนก็ออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เมืองอื่นในฮ่องกง…
-
พาชมบรรยากาศในงาน Asia Adult Expo นวัตกรรมใหม่ของเซ็กส์ทอยนานาชนิด
ในปัจจุบันนิทรรศการเกี่ยวกับเซ็กส์หรือเซ็กส์ทอยนั้น เริ่มจะมีการจัดงานที่แพร่หลายทั้งในฝั่งตะวันตกและเอเชีย และล่าสุดก็ได้มีงาน Asia Adult Expo จัดขึ้นที่ฮ่องกงทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 29-31 สิงหาคมที่ผ่าน แน่นอนว่าผู้คนได้พากันไปเยี่ยมชมกันเพียบ ภายในงานก็จะมีการจัดแสดงโชว์สินค้าที่เกี่ยวกับเซ็กส์เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตายางขนาดเท่าคนจริงๆ นิทรรศการโชว์ผลงานเซ็กส์อื่นๆ และแน่นอนจะขาดไม่ได้ก็คงเป็นเซ็กส์ทอยแบบต่างๆ ในปีนี้มีการเพิ่มตุ๊กตายางในหน้าตาของเอล์ฟด้วยนะ ยิ่งนานไป ตุ๊กตายางก็เริ่มเหมือนคนมากขึ้นๆ งาน Asia Adult Expo นั้นเรียกว่าเป็นงานเกี่ยวกับเซ็กส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ในแต่ละปีก็จะมีการเปิดตัวนวัตกรรมเกี่ยวกับเซ็กส์ใหม่ๆ เช่นของเล่นหรือตุ๊กตายางรุ่นล่าสุด ถ้าใครที่ชื่นชอบงานแนวนี้ ก็คงต้องหาเวลาจองตั๋วและเดินทางไปดูกันบ้างแล้วล่ะ บางอย่างนี่แฟนตาซีมากเลยนะขอบอก แต่สำหรับงานในครั้งนี้ได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ใครจะไปก็ติดตามคิวงานไว้ให้ดีนะเออ… อันนี้เขาให้ทำอะไรกันนะ สงสัยจัง นอกจากตุ๊กตายางผู้หญิง ก็มีตุ๊กตาของผู้ชายด้วยนะ แม้จะน้อยก็เหอะ บางตัวก็ดูใหญ่แฟนตาซีสุดๆ ดิลโด้หลากสี เอาสีรุ่งสักอันไหมเธอ ถ้าใครชื่นชอบสาวผิวสี เขาก็มีให้เลือกชมนะ ยืนจับยืนคลำกันใหญ่เลยนะ แต่ตุ๊กตายางเดี๋ยวนี้ สามารถเอามาเปลี่ยนชุดจัดท่าทางต่างๆ ได้ราวกับคนเลยล่ะ ส่วนใครชื่นชอบการใช้ปาก ก็มีให้สนองนีดเช่นกัน …
-
ยอดดาราตัวจริง ‘โจว เหวินฟะ’ ออกมาช่วยเก็บกิ่งไม้บนถนน หลังไต้ฝุ่นฮาโตะสงบลง…
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางตอนใต้ของประเทศจีนจีน มาเก๊า และฮ่องกง ต่างโดนถล่มอย่างหนักจากไต้ฝุ่นฮาโตะ จนเกิดเป็นความเสียหายที่มากที่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ หลังจากพายุฮาโตะพัดผ่านไป ก็ทิ้งไว้แต่เศษซากความเสียหายที่คิดเป็นเงินมูลค่ามหาศาล แถมยังสร้างรอยแผลให้กับผู้คนมากมาย แต่ยังไงผู้คนก็ยังต้องมาช่วยกันจัดการกับเศษซากความเสียหายกันต่อไป ทว่าชายคนหนึ่งกลับสังเกตเห็น ‘โจวเหวินฟะ’ ดาราพระเอกคนดังของฮ่องกงออกมาช่วยเก็บเศษซากความเสียหายเช่นกัน แถมมาเองในชุดลำลองด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่ฮ่องกง บริเวณเกาลูน ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่าตนออกมาช่วยเก็บกวาดท้องถนนจริง เพื่อให้ผู้คนได้กลับมาใช้ถนนได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง รวมถึงจัดการเก็บกวาดต้นไม้ที่พังลงมาด้วย ปกติแล้วการจะเห็นดาราในสถานการณ์แบบนี้ได้ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการจัดอีเว้นท์หรือออกงานรวมตัวช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดาราผู้มีชื่อเสียงถึงจะออกมาทำอะไรแบบนี้ แต่สำหรับโจวเหวินฟะแล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น… ส่วนถ้าใครที่คิดว่าเขามาสร้างภาพหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ยืนยันได้ว่าเขาเป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ เพราะขนาดไปดูหนังที่ตัวเองแสดงเขายังต่อคิวซื้อตั๋วเหมือนคนปกติเลย นี่ขนาดเป็นถึงดาราระดับท็อปของฮ่องกงเลยนะเนี่ย!! นอกจากนั้นย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เขายังได้ประกาศว่าถ้าเขาเสียชีวิตเมื่อไหร่ เขาจะบริจาคสมบัติมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาทให้กับการกุศลอีกด้วย นับว่าเป็นดาราดังที่ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา มีแนวคิดการใช้ชีวิตดีๆ ไม่ถือตนยกสูง แม้ตัวเองจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากแค่ไหนก็ตาม ที่มา weixin
-
หนุ่มเปลือยล่อนจ้อน เดินขึ้นรถไฟในฮ่องกงหน้าตาเฉย เจ้าตัวอ้าง ‘กำลังอยู่ในโลกแห่งเกม’
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันบนโลกออนไลน์กันเลยทีเดียว เมื่อพ่อหนุ่มคนหนึ่งได้เกิดความคิดพิเรนทร์ๆ เล่นใส่รองเท้าคู่เดียวขึ้นรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน โดยอ้างว่าเขากำลังอยู่ในโลกแห่งเกมของตัวเอง!! คลิปวิดีโอจากผู้โดยสารท่านหนึ่งเผยให้เห็นภาพเรืองร่างอันเปล่าเปลือยของชายหนุ่มผู้นี้ ระหว่างที่เขากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ในขบวนรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยไม่สนสายตาของชาวบ้านชาวช่องเลยแม้แต่น้อย… ผ่าง!! จากการรายงานของสำนักข่าว South China Morning Post พยานผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าได้พูดคุยกับชายคนดังกล่าว และได้คำตอบมาว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในโลกแห่งเกมอยู่ หนุ่มนิรนามผู้มาพร้อมกับห่อหมกของเขา นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินผ่านมาแล้วกว่า 6 สถานีก่อนที่จะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ในสถานีปลายทางที่เขาลง จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นบอกว่าเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายผู้นี้อาจมีอาการป่วยทางจิต และตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าเขาถูกตั้งข้อหาอนาจารในที่สาธารณะหรือไม่ ตอนนี้ปัญหาการกระทำอนาจารและการล่วงละเมิดทางเพศกำลังเกิดขึ้นอย่างมากในระบบขนส่งมวลชนต่างๆ อย่างในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จากการสำรวจพบว่าผู้คนกว่า 80% เชื่อว่ามีการคุกคามทางเพศบ่อยครั้งตามระบบขนส่งสาธารณะ ในขณะที่อีก 14% เคยตกเป็นเหยื่อของการกระทำเหล่านี้ ทำแบบนี้คนอื่นก็เขินแย่เลยซิเนี่ย!? ที่มา shanghaiist, mirror
-
ศิลปินวาดภาพเล่าเรื่องราวผ่านใบหน้าของ “ตัวละครดัง” ให้ทุกพื้นที่ได้อธิบายทั้งหมด
การวาดการ์ตูนอาจเป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของเด็กๆ หลายๆ คน และบ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นงานแฟนอาร์ตของตัวการ์ตูนหรือหนังดังเรื่องต่างๆ อยู่บ่อยๆ และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งงานแฟนอาร์ตที่มีความแปลกมาให้ชมกัน โดยผลงานที่เรานำมาฝากกันนั้นไม่ใช่งานวาดการ์ตูนธรรมดาๆ นะเออ แต่มันเจ๋งกว่านั้นอีก!! คุณ Ah Leung ศิลปินนักวาดภาพจากเกาะฮ่องกง ผู้เป็นเจ้าของผลงานภาพวาดเหล่านี้ เขาได้วาดภาพของเหล่าตัวการ์ตูนและตัวละครจากหนังเรื่องดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสตาร์วอร์ วันพีซ ดราก้อนบอล โดยแต่ละภาพนั้นมีความพิเศษตรงที่รูปวาดของแต่ละตัวจะบรรจุเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไว้ภายในรูป แต่ละผลงานนั้นไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคในการช่วยเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มใช้เวลาและฝีมือการวาดของเขาล้วนๆ และนี่คือผลงานบางส่วนของศิลปินท่านนี้ หุ่นยนต์จากการ์ตูนเรื่อง Getter Robo อาจารย์โยดาก็มานะ!! คุณ Ah Leung ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังตัวการ์ตูนต่างๆ เจ้าหนู Son Goku และเรื่องราวต่างๆ ในดราก้อนบอล ลูฟี่ และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา… แต่ละขั้นตอนคุณ Ah Leung ต้องใช้ความพยายามสูงมากกว่าจะออกมาเป็นผลงานที่สวยงามแบบนี้ และนี่คือภาพผลงานเมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ โอโห!! สวยงามและน่าทึ่งมากๆ เลยนะเนี่ย ถ้าหากใครอยากชมผลงานอื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปชมได้ที่อินสตราแกรม ahleung_illustration กันได้เลย… ที่มา rocketnews24
-
ชม 20 ภาพสุดช็อค สะท้อนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยอย่างแออัด ของผู้คนบนเกาะฮ่องกง!?
เกาะฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว ทว่าด้วยพื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัด สวนทางกับตัวเลขจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่อยู่การอยู่อาศัยของชาวเมืองตามมา และภาพทั้งหมดนี้จะเป็นตัวบอกเล่าวิถีชีวิตทั้งหมดของชาวฮ่องกงได้ดีที่สุด ‘สิ่งที่แย่ที่สุดในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คือ คุณไม่มีสิทธิแม้แต่จะหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ แถมยังต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดแค่ 1.4 ตารางเมตรเท่านั้น’ ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ภาพจากสลัมย่าน Sham Shui Po หลายครัวเรือนมีพื้นที่ใช้สอยเล็กซะจนต้องรวมห้องน้ำ และห้องครัว เป็นห้องเดียวกัน ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกนำไปแสดงที่นิทรรศการภาพถ่าย Society for Community Organisation จากสถิติเปิดเผยว่า มีประชากรมากกว่าสองแสนคนบนเกาะฮ่องกง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บนเกาะฮ่องกงมีอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กมากกว่า 88,000 แห่ง และส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดห้องที่แคบเอามากๆ ภาพซ้ายจะสังเกตเห็นชักโครกและซิงค์ที่วางอยู่ใกล้กันมากๆ ส่วนภาพขวาเป็นภาพของหนุ่มชาวฮ่องกง และวิถีชีวิตประจำวันของเขา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวฮ่องกง ที่ห้องครัวและห้องน้ำจะรวมเป็นส่วนเดียวกัน อีกภาพที่ชวนให้ชาวฮ่องกงรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด… ครอบครัวที่ต้องแชร์พื้นที่กันอย่างแออัด และต้องทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ชายคนในภาพกำลังตกงาน และเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักขนาดแคบ เนื่องจากราคาค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง ภาพของหญิงชรา…
-
ชีวิตอีกมุมของชาวฮ่องกง กับอพาร์ตเม้นต์รูหนูแต่ค่าเช่าแสนแพง เพราะประชากรล้นเมือง
ด้วยการที่จำนวนประชากรในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับขนาดพื้นที่ยังคงเท่าเดิม จึงทำให้ต้องประสบกับปัญหาประชากรล้นเมืองเหมือนที่หลายๆ ประเทศต้องเผชิญอยู่ ข้อมูลระบุว่ามีประชากรมากกว่า 7.2 ล้านคน อัดแน่นกันในพื้นที่กว้างเพียงแค่ 1,100 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เป็นเหตุผลให้ราคาที่ดินในฮ่องกงนั้นสูงมาก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นอพาร์ตเม้นท์และห้องเช่าต่างๆ ซึ่งจะมีเรทราคาสูงถึงตารางฟุตละ 400 บาทเลยทีเดียว ทำให้ประชากรบางส่วนถึงกับต้องอาศัยอยู่ในกล่องไม้เล็กๆ ที่รู้จักกันในชื่อ ‘บ้านโลงศพ’ ขนาดเท่าๆ กับกรงกระต่าย เพราะราคาค่าเช่าที่แพงหูฉี่ และนี่ก็คือสภาพความเป็นอยู่ของชาวเมืองฮ่องกง จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ห้องพักของคุณ Michelle Wong คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ขนาด 7.4 ตารางเมตร มีค่าเช่าสูงถึง 13,000 บาทต่อเดือน Li Rong สาววัย 37 ปี นั่งอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองที่มีความกว้าง 3.2 ตารางเมตร (มีพื้นที่ให้พอแค่วางเตียงนอน และทีวีเล็กๆ อีก 1 เครื่องเท่านั้น) อพาร์ทเม้นท์ส่วนใหญ่จะมาจากการที่บริษัท หรือโรงงานต่างๆ เจียดที่ว่างออกมาแล้วแบ่งให้เช่า นาย…
-
ฮีโร่ตัวจริง!! หนุ่มฮ่องกงตัดสินใจหยุดรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยชีวิตแมวน้อยบนทางด่วน
ความกล้าหาญและการตัดใจที่เด็ดเดี่ยวของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ทำให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวอยู่ท่ามกลางรถยนต์จำนวนมากมากบนทางด่วน สามารถมีชีวิตรอดได้ พบกับเรื่องราวของ Kwok Kin Wai หนุ่มฮ่องกงผู้ตัดสินใจเข้าช่วยชีวิตเจ้าเหมียวบนถนน ทั้งๆ ที่รถคันอื่นกำลังแล่นอยู่!! Kwok Kin Wai กลายเป็นฮีโร่ทันที หลังจากที่เขาตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเจ้าแมวน้อยที่อยู่บนถนน ในขณะที่รถคันแล้วคันเล่าแล่นผ่านตัวมันไปอย่างน่าหวาดเสียว โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องติดรถยนต์ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์สุดน่าประทับใจนี้ไว้ ระหว่างทางบนถนน Lion Rock Tunnel ไปยังเขตปกครอง เกาลูนของเกาะฮ่องกง และนี่คือคลิปวีดีโอดังกล่าว Kwok Kin Wai ได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ระหว่างที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนสายดังกล่าว ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นเจ้าเหมียวตัวน้อยกำลังเคลื่อนที่อยู่บนท้องถนน ในตอนแรก Kwok คิดว่าอันตรายเกินไปที่จะจอดรถอย่างกะทันหันบนถนนที่การจราจรหนาแน่นแบบนี้ แต่ชีวิตของเจ้าเหมียวน้อยก็สำคัญเช่นกัน ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ตั้งสติและชะลอรถเพื่อลงไปช่วยเจ้าเหมียว คุณ Kwok ตัดสินใจด้วยความกล้าเพื่อช่วยชีวิตเจ้าลูกแมว และนี่คือเจ้าเหมียวน้อยที่ถูกช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากนั้นชายหนุ่มได้เล่าเรื่องราวการช่วยเหลือลูกแมวและการประกาศหาผู้ที่ต้องการรับเจ้าเหมียวไปดูแลต่อ ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีคนกดไลค์มากกว่า 38,000 คนและแชร์ข้อความของเขาอีกกว่า 5,000 ครั้ง เมื่อวันพฤหัสที่ 27 เมษายนก็มีคนใจบุญเข้ามาติดต่อขอรับลูกแมวไปเลี้ยงดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคุณ Kwok…
-
หนุ่มฝรั่งเศสใช้เวลา 6 ปี ถ่ายภาพตึกด้วยมุมแหงนบนเกาะฮ่องกง เมืองที่ไม่เคยหลับใหล
ภาพถ่ายทั้งหมดที่เราจะได้เห็นนี้เป็นผลงานของหนุ่มชาวฝรั่งเศส Romain Jacquet-Lagreze ซึ่งเขาได้ย้ายไปอาศัยอยู่บนเกาะฮ่องกงตั้งแต่ปี 2011 และได้เห็นการเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งของเมืองบนแผ่นดินนี้ เจ้าตัวเล่าว่าวันหนึ่งเขาแหงนมองหน้าขึ้นไปบนฟ้า แล้วรู้สึกว่ามันเป็นมุมที่สามารถอธิบายความศิวิไลซ์ที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่งได้ดี เขาจึงใช้เวลากว่า 6 ปีรวบรวมเป็นผลงานทั้งหมดนี้มาให้เราได้ชมกัน ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี 2016 ไฟจากตึกที่อยู่อาศัยช่วยทำให้ท้องฟ้าดูสว่างไสวยามค่ำคืน ภาพของตึกที่ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ตั้งอยู่ที่เกาลูน ถูกถ่ายเมื่อปี 2012 สิ่งที่ทำให้ดูเหมือนว่าเมืองนี้ไม่เคยหลับใหล คือตึกรามบ้านช่องที่อยู่ทั่วทั้งเมือง ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อปี 2015 จะเห็นได้ว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่มักจะอาศัยอยู่ในแฟลต หรืออพาร์ทเม้นท์ซะส่วนใหญ่ สลับมุมกันบ้าง คราวนี้เป็นแบบถ่ายลงต่ำ ภาพนี้ถูกถ่ายจากมาเก๊า เมื่อปี 2016 จะสังเกตได้ว่ามีพระจันทร์ส่องแสงผ่านมวลเมฆอยู่เหนือตึก ช่วงเวลาที่ตะวันกำลังจะตกดิน เมืองทั้งเมืองก็จะถูกแทนที่ด้วยแสงจากหลอดนีออน ภาพของตึกสำหรับคนที่มีฐานะค่อนข้างดี จะดูแออัดน้อยกว่า และมีพื้นที่กว้างขวางกว่า ในขณะที่ตึกอื่นๆ อาจจะดูเหมือนกันหมด แต่เขาก็ได้ไปเจอกับตึกแห่งนี้ที่มีการออกแบบที่แตกต่างออกไป ตึกจากบริเวณเมืองเก่าของมาเก๊า ถูกถ่ายเมื่อปี 2016 ตลาดแห่งหนึ่งในย่านเกาลูน ก็มีธงนานาชาติผูกไว้เหมือนกัน …
-
บันไดเลื่อนฮ่องกงถอยหลังกะทันหัน เทกระจาดคนร่วงไปกองกับพื้น เจ็บหนักถึง 18 ราย!!
ปี 2015 ที่ผ่านมา เรามักจะได้เห็นข่าวอุบัติเหตุบันไดเลื่อนเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทุกๆ ครั้งที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็มักจะสร้างความตกใจ และทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่อยากจะใช้บันไดเลื่อนกันอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ณ ห้างสรรพสินค้า Langham Place ที่ตั้งอยู่ในย่านมงก๊ก ฝั่งเกาลูนของฮ่องกง ได้เกิดอุบัติเหตุบันไดเลื่อนขัดข้องกะทันหัน จนเป็นเหตุทำให้ผู้คนจำนวนมากที่กำลังใช้บริการหล่นล่วงลงมาจากพื้น จนได้รับบาดเจ็บมากถึง 18 ราย จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ที่ 25 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยบันไดเลื่อนที่เกิดเหตุนั้นเรียกได้ว่ามีความสูงมากที่สุดในฮ่องกงเลยก็ว่าได้ เพราะมีความยาสูงชันถึง 45 เมตรกันเลยทีเดียว ทางด้านผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้ออกมาเล่าถึงวินาทีสุดระทึกว่า ในตอนที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่วุ่นวายมาก เพราะบันไดเลื่อนได้เลื่อนเร็วกว่าปกติถึง 2-3 เท่า โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งทางผู้จัดการร้านกาแฟได้เผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก มีหลายๆ คนวิ่งสวนทางกลับไป บางคนก็กระโดดข้ามไปยังอีกฝั่ง ในขณะที่หญิงสาวหนึ่งในผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้บอกว่า เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งล้มหัวกระแทกพื้น…
-
ธุรกิจทัวร์รูปแบบอร่อย เสิร์ฟติ่มซำบนรถบัส ลิ้มรสระดับ “มิชลินสตาร์” ระหว่างทัวร์ฮ่องกง!!
พูดถึงอาหารจีน หนึ่งในเมนูที่หลายๆคนต้องนึกถึง ก็คงหนีไม่พ้นติ่มซัมแน่ แล้วจะฟินแค่ไหน ถ้าได้กินติ่ซัมระดับ มิชลินสตาร์ พร้อมกับชมความสวยงามของเมืองฮ่องกงพร้อมๆกันล่ะ อ่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ สำหรับใครที่กำลังมีแผนที่จะไปเที่ยวฮ่องกง วันนี้เราของนำเสนอ “คริสตรัลบัส” ซึ่งจะพาคุณท่องเที่ยวไปรอบๆเกาะฮ่องกง พร้อมทั้งเสริฟอาหารเย็นเป็น ติ่มซำระดับ มิชลินสตาร์!! ตามชื่อของมัน “คริสตรัลบัส” คือรถบัสสุดหรูที่ประดับตกแต่งด้วย คริสตัลบริสุทธิ์มูลค่าถึง 300,000 ดอลล่าร์ฮ่องกง (1.3 ล้านบาทไทย) พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวีและวีดีโอเกมส์ ครบครันความบันเทิง ซึ่งนอกเหนือจากนั้นแล้ว คุณก็จะได้รับอาหารชุดติ่มซำ 7 อย่าง ที่ถูกปรุงแต่งจากภัคตาคารท้องถิ่นในระดับมิชลินสตาร์ ให้คุณได้ลิ้มรถชาติความอร่อยในระหว่างการนั่งชมเมืองฮ่องกง โดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางสุดพิเศษนี้ สนนราคาอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1,700 บาทเท่านั้น รถบัสคันนี้ สามรถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 47 ที่นั่ง โดยจะแบ่งการเดินทางออกเป็นสองรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นจะอยู่ในบริเวณเมืองเกาลูน และเกาะฮ่องกง …
-
ชีวิตลับๆ ของเหล่า “แมวเหมียว” ซ่อนตัวในร้านค้าที่ฮ่องกง ใครผ่านก็แวะเพราะความน่ารัก!!
แมวเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ทุกที่ แต่มันก็มักจะไม่อยู่กับที่ให้เราได้ไปหา ดังนั้นเวลาคุณจะหาแมวต้องคิดซะว่ากำลังเดินเล่น แล้วก็จะพบมันเอง เหมือนอย่างช่างภาพท่านหนึ่งชื่อว่า Marcel Heijnen เขาได้ย้ายมาอยู่ที่ฮ่องกงและก็ได้พบความมหัศจรรย์บางอย่างที่อยู่ในร้านขายของชำ นั่นก็คือร้านส่วนมากที่เขาไปจะเจอแมวอยู่ด้วยตลอด นั่นจึงทำให้เขาหลงใหลการเลี้ยงแมวไว้ในร้านของชาวฮ่องกงเข้าหาย และไม่อาจต้านทานสัญชาตญาณการถ่ายภาพของเขาไว้ เขาจึงตระเวณถ่ายภาพแมวที่อาศัยอยู่ในร้านขายของที่ฮ่องกงแล้วอัพลงในอินสตาแกรมให้เราไปชื่นชมความน่ารักของพวกมัน ไม่รู้ว่าการเลี้ยงแมวในร้านจะช่วยนำโชคเหมือนแมวกวักรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ มันน่าค้นหามากๆ เลย เราไปดูกันว่าแมวประจำร้านจะน่ารักแค่ไหน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19.…
-
Brother Cream แมวเซเลปสุดเท่ในฮ่องกง แฟนคลับตามเป็นแสน มีผลงานในวงการเพียบ!!
จะว่าไปเส้นทางไปสู่การเป็นแมวเซเลปนี่ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ บางตัวกว่าจะดังก็ต้องรอเวลาให้คนมาชื่นชอบ บางตัวแค่เห็นหน้าก็ทำให้หลายๆ คนหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว เหมือนดังเช่น Brother Cream แมวพันธุ์ British Shorthair ที่มีขนสีขาวและสีครีม หน้าตาสะอาดสะอ้านตัวนี้ มันได้กลายเป็นซุปตาร์แมวที่โด่งดังที่สุดในฮ่องกง เพียงเพราะมีหน้าตาอึนๆ มึนๆ แค่เนี๊ยะ!! เจ้า Brother Cream อาศัยอยู่ ณ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในย่านจิมซาจุ่ย มันเป็นแมวที่มีลักษณะค่อนข้างอวบ ตัวกลม หัวกลม ใบหน้านิ่งๆ แต่จะว่าไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย ซึ่งตลอดเวลาที่ได้อาศัยอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ Brother Cream มักจะชอบโชว์ความน่ารักของมันให้ลูกค้าได้เห็นอยู่เสมอ และแน่นอนว่าใครๆ ต่างก็รัก และเอ็นดูมันเป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีคนสร้างแฟนเพจใน Facebook ให้เลยทีเดียว กระทั่งเมื่อปี 2012 หลังจากที่ Brother Cream โด่งดังจนกลายเป็นเซเลปเหมียวในฮ่องกงที่ไม่มีใครรู้จัก มันกลับถูกลักพาตัวไปซะอย่างนั้น โอ้วววว แล้วจะทำอย่างไรดีละเนี่ย การหายตัวไปกว่า 26…
-
ชมภาพผลงานภาพนิทรรศการ “บ้านคนจนในฮ่องกง” ทั้งสวย และรู้สึกอึดอัดแบบแปลกๆ!!
ความแตกต่างกันระหว่างชนชั้นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะสังคมไหนๆ ก็ตาม เพราะเมื่อมีคนที่มีรายได้สูง ก็ต้องมีคนที่รายได้ต่ำเป็นธรรมดา แต่ในบางประเทศอย่างเช่น ฮ่องกง แม้จะมีบ้านเมืองที่สวยงามก็ตาม แต่ในซอกหลืบของสังคมก็ยังมีคนที่รายได้น้อยอยู่ น้อยชนิดที่ว่าคุณอาจจะต้องอ้าปากค้างเลย ผลงานภาพถ่ายที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้เป็นฝีมือการถ่ายของ สมาคมเพื่อสมาชิกองค์การชุมชน (SoCO) ในฮ่องกง พวกเขาได้ออกไปถ่ายภาพของห้องพักชาวฮ่องกงในชุมชนของคนรายได้น้อยแล้วนำภาพเหล่านั้นมาจัดเป็นนิทรรศการตีแผ่ให้สังคมภายนอกได้เห็นกัน ภาพเหล่านี้เป็นห้องพักของผู้ที่มีรายได้ต่ำหลายๆ คน อย่างเช่นนาย Tony (ไม่เปิดเผยนามสกุล) วัย 39 ปี หนึ่งในสมาชิกของชุมชนแออัดเล่าให้สื่อฟังว่าเขาออกจากโรงเรียนมัธยมหลังจากที่เพิ่งเข้าเรียนได้เพียงปีเดียว Tony หนีออกจากบ้านมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่วัยรุ่นอยู่ในแฟลตแออัดแห่งนี้มาตลอด ห้องพักของเขามีพื้นที่อยู่ 46 ตารางเมตร อาจจะดูเหมือนกว้าง แต่เขาต้องอาศัยอยู่กับคนอื่นๆ อีก 21 คน “สิ่งที่ยากที่สุดในการอยู่ที่นี่ก็คือ การไม่มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจ มันอึดอัดมาก” เจ้าตัวกล่าว ส่วน Ye คุณแม่ลูกหนึ่งที่อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่งก็บรรยายถึงที่พักของเธอว่าห้องของเธอมีพื้นที่แค่ 9 ตารางเมตรเท่านั้น เล็กขนาดที่ว่าเธอต้องทำห้องน้ำให้กลายเป็นห้องครัว เพื่อที่จะได้ทำอาหารได้ด้วย “ฉันต้องคลานลงไปอาบน้ำอยู่กับพื้น เพื่อกันไม่ให้น้ำกระเด็นมาโดนหม้ออาหาร” ส่วนหนึ่งที่พวกเขาต้องมาอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดแบบนี้ก็เพราะว่าต้องรอบ้านพักจากทางรัฐบาลที่นานถึง 4 ปี บวกกับราคาค่าเช่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เหล่าผู้มีรายได้น้อยเลยต้องอดทนอาศัยอยู่ในห้องพักแออัดแบบนี้ จากการสำรวจเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา พบว่าชุมชนแออัดที่พวกเราเห็นกัน มีห้องพักราคาถูกอยู่ 88,000…
-
ดื่มด่ำบรรยากาศ ‘คาเฟ่ยุคกลาง’ สวมชุดเกราะอัศวิน ดื่มชากาแฟ น่าไปลองให้หนำใจ!!
ภาพยนตร์แนวๆ อัศวินยุคกลางคงจะเป็นที่ชื่นชอบของใครๆ หลายๆ คน แต่ถ้าสามารถเข้าไปซึมซับบรรยากาศแบบอัศวินยุคกลางได้จริงๆ จะมัวแค่ชมในภาพยนตร์ไปทำไมล่ะ?? คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศฮ่องกง ในแถบเกาลูน มีชื่อว่า Medieval Weapon Cafe เป็นคาเฟ่ที่รวบรวมเอาชุดเกราะและอาวุธจากยุคกลาง ให้เหล่าลูกค้าได้ดื่มด่ำกับทั้งอาหารและบรรยากาศกันแบบฟินๆ เปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวัน ยัน เที่ยงคืนกันเลยล่ะ Medieval Weapon Cafe ชุดเกราะของอัศวินยุคกลาง มีอาวุธที่ดีไม่พอ ต้องมีชุดเกราะที่ดีด้วยใช่มั้ยล่ะ!! คอลเล็คชั่นของอาวุธก็มีอยู่เพียบจริงๆ แนวๆ แฟนตาซีหน่อยก็มีนะจ๊ะ อิอิ ชุดเกราะที่มันวาว น่าเอามาใส่แล้วถ่ายเซลฟี่มากๆ ฮร่าาาา นั่งชิวๆ มาจิบชากันได้ที่นี่ ภาชนะต่างๆ ของร้านที่เข้าตีมมากๆ อย่าลืมนะจ๊ะ เพราะเหล่านินจาก็อยู่ในช่วงยุคกลางเช่นกัน เพราะฉะนั้นเข้าตีม!! ใส่ชุดเกราะ เล่น Wi-fi ฟรีๆ ที่ทางร้านจัดให้ พร้อมกับเอ็นจอยกาแฟในแก้วของคุณ… พาเพื่อนๆ มาเล่นกันแบบนี้ก็ยังได้…
-
ชาวจีนชื่นชม “โจว เหวินฟะ” ต่อคิวซื้อตั๋วดูหนังของตัวเอง แฟนๆ รุมขอถ่ายรูปเพียบ
เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนหนังจีนฝั่งฮ่องกงมาก่อน คงจะไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง โจว เหวินฟะ ล่ะนะ เพราะนอกจากเขาจะมีชื่อเสียงในฮ่องกงแล้วยังมีโอกาสได้ไปเล่นหนังฮอลลีวูดมาแล้วหลายเรื่องทีเดียว แต่ใช่ว่าเขาจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการแสดงอย่างเดียว แต่การปฏิบัติตัวเป็นคนเรียบง่าย การวางตัวในสังคมก็ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ อยู่ไม่น้อยเลย อย่างเช่นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวน่ารักๆ ของเขาและภรรยา ที่ออกมาต่อคิวซื้อตั๋วหนังที่โรงหนังแห่งหนึ่งในฮ่องกง เพื่อดูหนังเรื่อง Cold War 2 ที่เขาเป็นนักแสดงนำ เห็นได้ชัดเลยว่าในระหว่างที่เขากำลังต่อแถวอยู่นั้นเองมีแฟนๆ จดจำเขาได้จึงเข้าไปขอถ่ายภาพและลายเซ็น พร้อมกันนี้ยังได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ ในเรื่องของความมีมารยาทและไม่ใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น แม้ว่าจะเป็นหนังที่ตัวเองเล่นก็ตาม อย่าสปอยล์หนังล่ะพี่โจว… นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวด้านดีๆ ของเขามาให้เห็นกัน เพราะก่อนหน้านี้โจว เหวินฟะเองก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นดาราผู้ใช้ชีวิตแบบสมถะด้วย เพราะเมื่อปี 2014 มีข่าวว่าเจ้าตัวได้ทำพินัยกรรมเพื่อยกทรัพย์สินกว่า 5 พันล้านบาทให้กับองค์กรการกุศล เพื่อตอบแทนสังคมที่ให้การสนับสนุนผลงานของเขามาตลอดด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโจว เหวินฟะถึงกลายเป็นดาราที่มีคนชื่นชอบและติดตามผลงานของเขาอยู่ แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม นี่แหละคนดังที่ควรค่าแก่การสนับสนุน ที่มา shanghaiist
-
เกมเมอร์ประท้วงหน้าสถานทูตญี่ปุ่น หลังมีการเปลี่ยนชื่อ “ปิกาจู” ในโปเกมอนภาคใหม่!?!?
บางคนอาจบอกว่า ปัญหาเรื่องเกมเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสังคมขนาดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงเมื่อไม่กี่วันก่อน อาจเปลี่ยนความคิดของคุณไปก็ได้ เพราะแค่การเปลี่ยนชื่อตัวละครในเกม อาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติได้เลยทีเดียว!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เกาะฮ่องกง เมื่อมีเกมเมอร์สาวกเกมโปเกมอนราวๆ 20 คน รวมตัวกันถือป้ายเดือนประท้วงไปยังหน้าสถานทูตญี่ปุ่นบนเกาะฮ่องกง หลังจากบริษัท Pokemon เตรียมเปลี่ยนชื่อของตัวละคร “ปิกาจู” ในภาษาจีน!! ปกติแล้วชื่อของ “ปิกาจู” ในเกมโปเกมอนเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น จะเขียนทับศัพท์ด้วยตัวอักษรคาตะคานะซึ่งเป็นตัวอักษรที่ใช้เทียบกับภาษาต่างชาติของชาวญี่ปุ่น ซึ่งในเวอร์ชั่นภาษาอื่นๆ ก็จะมีการปรับชื่อของตัวละครให้สอดคล้องกับภาษาถิ่นนั้นๆ อีกด้วย อย่างเช่นในเวอร์ชั่นภาษาจีนแมนดาริน ชื่อปิกาจูจะถูกเขียนว่า “Pei Ka Yau” และถ้าเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง (ซึ่งใช้ในฮ่องกง) ปิกาจูจะมีชื่อว่า “Bei Ka Chiu” แต่ล่าสุด เพื่อความเป็นระเบียบและสะดวกมากยิ่งขึ้น ทางบริษัท Pokemon ได้ออกมาแถลงว่า จากนี้ไปนี้ จะใช้ชื่อปิกาจูว่า “Pei Ka Yau” ทั้งนั้นเกมเวอร์ชั่นที่ขายในฮ่องกง และเวอร์ชั่นที่ขายในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเกมเมอร์ในฮ่องกงเป็นอย่างมาก พวกเขาบอกว่าชื่อ “Bei Ka Chiu”…
-
ช่างภาพถ่ายบรรยากาศฮ่องกงใน “ช่วงเวลาสีฟ้า” นาทีสุดท้ายก่อนหมอกควันจะจางหาย..
รู้สึกว่าปัญหาหมอกควันช่วงนี้มันระบาดไปทั่วจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะบ้านเราเท่านั้นที่กำลังประสบปัญหานี้ ที่ฮ่องกงก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่หนักเท่าบ้านเราในบางส่วน ช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Romain Jacquet-Lagrèze ชาวฝรั่งเศส แต่เขาอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ก็ได้รับรู้ถึงการมาของหมอกควัน ถึงแม้ว่ามันจะส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่เขาได้มองเห็นว่ามันก็ทำให้บ้านเมืองดูสวยขึ้นมาในบางช่วงบางเวลา จนทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีฟ้า พื้นที่ที่เขาถ่ายนั้นเป็นส่วนที่มีประชากรหนาแน่นสูง เต็มไปด้วยตึกสูงและสถาปัตกรรมมากมาย เขาค้นพบว่าช่วยเวลาเย็นๆ จนเกือบค่ำนั้น เมื่อฝุ่นมันสะท้อนกับแสงแล้วจะให้ภาพที่ออกมาเป็นสีฟ้าสวยงามแบบที่ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์แต่อย่างใด เราไปชมภาพที่อันงดงามเหล่านี้กันเลย #เหมียวสามสี เชื่อว่าถ้าลองมาถ่ายแบบนี้ที่ไทย อาจจะได้สีออกส้มๆ แดงๆ ก็ได้นะ มีช่างภาพคนไหนสนใจถ่ายบ้าง อิอิ ที่มา boredpanda, rjl-art.com
-
ชมภาพถ่ายมุมสูงของ “ฮ่องกง” ในเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ตึกเยอะแต่สวยมาก!!
ฮ่องถือถือเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีประชากรหนาแน่นมาก ช่างภาพ Andy Yeung จึงได้ทำการไปถ่ายภาพเมืองฮ่องกงนี้จากมุมสูง โดยใช้โดรนส่องลงมาให้เห็นบรรยากาศภายในเมือง ซึ่งเราก็จะได้เห็นตึกสูงๆ มากมาย เขาได้ใช้เวลากว่า 2 เดือนในการเก็บภาพพวกนี้ และตั้งชื่อโปรเจกต์ว่า “Urban Jungle” ซึ่งถ้ามองจากมุมสูงๆ แบบนี้ จะเห็นได้ชัดเลยว่าฮ่องกงเป็นเมืองที่แออัดใช้ได้ แต่ทุกคนก็สามารถอยู่ได้ ภาพทั้งหมดนี้มาจากหลากหลายย่าน เช่นย่านเชิงวาน ย่านวานไช ย่านซ๊ามโซ๋ยโป๋ว เราไปชมภาพเหล่านี้กันเลย โปรเจกต์นี้ยังไม่จบนะ สามารถไปติดตามต่อได้ที่ Facebook ของเขาได้เลย ที่มา sobadsogood
-
ช่างภาพใช้โดรนแชะภาพมุมสูงของฮ่องกง เผยความงามของตึกระฟ้า เห็นแล้วน่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ
คุณอาจจะเคยเห็นภาพถ่ายมุมสูง ที่ถูกถ่ายขึ้นมาด้วยโดรนกันมาเยอะแล้ว ซึ่งภาพถ่ายเหล่านั้น นอกจากจะทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยเห็น ยังทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจตลอดเวลาที่ได้รับชมภาพเหล่านั้นอีกด้วย ในวันนี้เหมียวขี้อ้อนจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพถ่ายมุมสูง อีกหนึ่งผลงานชิ้นเด็ดจาก Andy Yeung หนุ่มตากล้องมืออาชีพ ผู้ที่ได้วางแผนสร้างโปรเจคท์ถ่ายภาพชุดใหม่ของเขา ด้วยการใช้โดรนแชะภาพถ่ายฮ่องกงจากมุมสูง ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้จะทำให้เราได้เห็นความงดงามของตึกระฟ้าในเมืองใหญ่ ที่เรียงรายกันอย่างน่าทึ่ง ไม่เชื่อก็ลองไปชมภาพดูได้เลย และที่สำคัญกว่าจะออกมาเป็นภาพถ่ายสวยๆ เหล่านี้ Andy ต้องใช้เวลานานกว่า 2 เดือนกัน ในที่สุดก็ออกมาเป็นชุดภาพถ่ายสุดเจ๋ง ที่เผยให้เห็นมุมสูงของบรรดาดึกที่ตั้งตระหง่านเบียดเสียดกันอยู่ใจกลางเมือง ‘ผมอยากแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ชาวฮ่องกงสามารถอยู่ในโลกที่แออัดแต่สวยงามเช่นนี้ได้’ Andy Yeung กล่าว ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นอีกนครหนึ่ง ที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในโลก แถมยังมีตึกราบ้านช่องสูงระฟ้าเบียดเสียดกันเต็มไปหมด แต่ในขณะเดียวกันภาพถ่ายมุมใหม่ของบรรดาช่างภาพมืออาชีพ ก็ทำให้เราได้เห็นมุมสวยๆ ของตึกเหล่านี้ ซึ่งมันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และแปลกใหม่ไม่น้อยเลยละ ที่มา : boredpanda, andyyeungphotography
-
ฮ่องกงเปิด McDonald สาขาใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ จัดเสิร์ฟเมนูสลัดบาร์ เฮลท์ตี้กันสุดๆ ไปเลย
เรียกได้ว่าในช่วงนี้ผู้คนเริ่มจะหันมาใส่ใจสุขภาพ และทานแต่อาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่น จากที่ชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ก็เริ่มเปลี่ยนมาทานอาหารคลีนๆ หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของผักเป็นหลัก ซึ่งหลังจากที่ไลฟ์สไตล์การทานอาหารของผู้คนเริ่มเปลี่ยน ก็ทำให้อาหารฟ้าสต์ฟู้สอย่าง McDonald มียอดขายลดลง เมื่อเป็นเช่นนี้ทาง McDonald ของประเทศฮ่องกง จึงได้ปิ๊งไปเดียสุดบรรเจิด โดยการจัดเสิร์ฟอาหารที่สดใหม่ พร้อมด้วยสลัดบาร์เพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ McDonald สาขานี้ได้เปิดให้บริการในย่านแอดมิรัลตี้ ประเทศฮ่องกง เป็นร้าน McDonald ที่มีลักษณะแตกต่างกับสาขาทั่วๆ ไปนั่นก็คือ นอกจากจะเอาใจคนรักสุขภาพแล้ว ภายในร้านยังถูกตกแต่งให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญหากคุณไปใช้บริการ McDonald สาขานี้ คุณไม่ต้องยืนต่อแถวให้เสียเวลาอีกต่อไป เพราะทางร้านเขามีระบบคอมพิวเตอร์แบบทัชสกรีน ที่ลูกค้าสามารถจิ้มหน้าจอเลือกเองได้ ป้าด!! ไฮเทคสุดๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถสั่งเมนูแฮมเบอร์แบบเดิมของทางร้านได้ แต่เดี๋ยวก่อน…ถ้าหากคุณมาใช้บริการหลัง 6 โมงเย็น ทางร้านเขาจะจัดเตรียมส่วนผสมต่างๆ ของแฮมเบอร์เกอร์ไว้ให้ โดยที่คุณสามารถเลือกทำแฮมเบอร์เกอร์ของตัวเองได้ตามต้องการ โหววว เอาใจกันขนาดนี้ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวฮ่องกง ก็อย่าลืมแวะไปอุดหนุนกันนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
เก็บกันอุตลุด!! ชาวเมืองในฮ่องกงแย่งกันเก็บเพรชบนพื้นถนน หลังร่วงมาจากฟ้าอย่างปริศนา?
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เว็บไซ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีชาวเมืองกว่า 50 คนบนท้องถนน กำลังแก่งแย่งกันเก็บ “เพชร” บนพื้น หลังจากที่มันร่วงลงมาอย่างปริศนาในเกาะฮ่องกง ตามรายงานบอกว่าในช่วงเวลาประมาณ 20.40 นาฬิกา ได้มีวัตถุชิ้นเล็กชิ้นน้อยมีลักษณะมันวาวตกลงมาบนพื้นคล้ายกับเม็นฝน บนถนนนาธาน ย่านจิมซาจุ่ย เกาะฮ่องกง แต่ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้น เมื่อมีหญิงสาวตะโกนเป็นภาษาจีนว่า “เพชร!” ทำให้คนที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันก้มลงไปกับพื้น และมองหาไปทุกซอกทุกมุมเพื่อหาอัญมณีดังกล่าว จนมีผู้คนเข้าร่วมวงตามหาเพชรกว่า 50 คนเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวรีบมาทำข่าวยังจุดเกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบดูจริงๆ กลับพบว่า นั่นอาจไม่ใช่เพชรของจริง แต่เป็นเพียงเศษพลาสติกเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำการสืบสวนชัดเจนขึ้นเลย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่รู้ว่าทำไมมันถึงร่วงลงมาจากฟ้ากันแน่ งานนี้ เหมียวขอแสดงความเสียใจกับเหล่าชาวเมืองด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
13 ภาพสุดสะเทือนใจ ‘McSleepers’ ชีวิตของคนไร้บ้าน นอนหลับในแมคโดนัลด์ในฮ่องกง
กลายเป็นปัญหาใหญ่โตที่เริ่มรุกรานสำหรับกลุ่มทีเรียกว่า “McRefugees” หรือ “McSleepers” ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์อันน่าจะเทือนใจสำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่ แล้วเลือกร้าน “แมคโดนัลด์” เป็นแหล่งพักพิง ตอนนี้ปัญหาขึ้นค่าเช่ากำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น จีน หรือ ฮ่องกง จนคนไม่สามารถใช้เงินที่หามาเช่าที่อยู่เป็นของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีการศึกษาดี มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีงานประจำทำ ก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีที่สุดก็คือการไปนอนที่ที่เปิด 24 ชั่วโมงอย่างแมคโดนัลด์ ช่างภาพจากรอยเตอร์ Tyrone Siu ได้เดินทางไปยังร้านแมคโดนัลด์ในฮ่องกงเพื่อเก็บภาพอันน่าสะเทือนใจเหล่านี้ เขาบอกว่าภาพเหล่านี้ชาวฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น เห็นกันเป็นปกติแล้ว เหตุเพราะว่าราคาที่ดินและค่าเช่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น จึงต้องมาอาศัยที่แมคโดนัลด์แทน แมคโดนัลด์จะเปิดทำการ 24 ชั่วโมงทุกวัน อย่างภาพข้างล่างนี่ก็แสดงให้เห็นว่ามีคนมาใช้บริการอยู่ไม่ขาดสาย ราคาบ้านในฮ่องกงขึ้นสูงถึง 130% มาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งรายได้ไม่อาจพอที่จะเป็นเจ้าของได้ จนกลายเป็นอันดับสามของราคาที่ดินที่แพงที่สุดในโลกแล้ว ศาสตราจารย์ Wong Hung จาก Chinese University of Hong Kong ได้กล่าวว่าก่อนหน้านี้กลุ่มคนไร้บ้านมักจะมาจากสาเหตุติดยา หรือไม่ก็ป่วย แต่ตอนนี้กลุ่มคนไร้บ้านมาจากปัญหาเศรษฐกิจกันแล้ว…
-
ฝูงวัวยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยเพื่อนวัวที่จากไปจากการถูกรถชนในฮ่องกง น่าสงสารเหลือเกิน!!
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างๆ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตนั้นมีความรู้สึกเหมือนกัน ทั้งมีความสุขหรือโศกเศร้าเสียใจ เช่นเดียวกันกับฝูงวัวเหล่านี้ ที่ยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของเพื่อนวัวตัวหนึ่งที่ถูกรถชน เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่ฮ่องกง เวลาประมาณ 7.30 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุรถชนวัวตัวหนึ่งทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาขวาด้านหน้า และมีเลือดไหลออกจากทางปาก ซึ่งหลังจากนั้นผู้ที่ขับรถชนก็ได้หยุดรถและโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังที่เกิดเหตุ ภายหลังไม่นานนัก วัวตัวหนึ่งก็ได้ร้องโหยหวนและเรียกเพื่อนๆ ที่เหลือออกมาช่วยกันใช้หัวดันเพื่อนที่จากไปออกไปจากถนน แต่ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ พวกมันจึงยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของเพื่อนที่ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า ‘พวกมันพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว พวกมันก็ยังยืนอยู่รอบๆ บริเวณ พยายามปลุกเพื่อนให้ลุกขึ้น แม้จะนานแค่ไหนก็ตาม’ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไล่ต้อนฝูงวัวให้ออกไปจากที่เกิดเหตุและได้ทำการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว แต่ภาพโศกนาฏกรรมที่เห็นนั้นช่างน่าเศร้า แม้แต่สัตว์ก็ยังมีความสึกเช่นเดียวเหมือนกับมนุษย์ 大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄 目擊者阿Ben見到時,牛牛仲企喺度苦苦掙扎到我哋同事趕到時牛牛終於支持唔住佢嘅同伴亦唔忍心離去……R.I.P【大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄】http://bit.ly/1MpjzGN====================跟實我哋【 現場 - 蘋果突發】就知更多社會事#牛牛 #萬物皆有情 Posted by 現場 - 蘋果突發 on Sunday, November 1, 2015 ที่มา…
-
นางแบบสาวโกรธจัด หลังออกเดทแรกแล้วหนุ่มไม่ยอมซื้อของชาแนลให้ ขว้างโทรศัพท์คู่เดทลงน้ำ!!
ความเข้ากันได้ของคนสองคนนั้นอยู่ที่อะไร เหมียวเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ จะเป็นเพราะความรักที่มอบให้กันหรือว่ามูลค่าสิ่งของภายนอกหว่า? แต่สำหรับกรณีนี้ของนางแบบสาวจีนที่ได้ออกไปเดทแรกกับหนุ่มที่รู้จักผ่านเพื่อน ดูท่าทางไปด้วยกันไม่รอดแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นก็ตอนที่นางแบบสาวชาวฮ่องกงนามว่า Yuen Ching-ching ได้ออกเดทกับหนุ่มรายหนึ่งที่รู้จักผ่านเพื่อน แล้วทั้งคู่ก็ออกไปเดินช็อปปิ้งในห้าง ซึ่งนางแบบสาวก็อยากจะได้ของขวัญวันเกิดให้กับแม่ของเธอ เลยมาหยุดอยู่ที่ร้านชาแนล หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เธอก็หยิบกระเป๋าชาแนล ต่างหูหนึ่งคู่ และสร้อยคอหรูหรามาให้พ่อหนุ่มคู่เดทจ่าย แต่อนิจจาพ่อหนุ่มกลับปฏิเสธ เพราะราคานั้นมันแพงระยับพุ่งสูงไปถึง 25,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 902,331 บาท) เขาจ่ายไม่ไหว!! พอได้ยินคำตอบแบบนี้นางแบบสาวก็เลยขอยืมโทรศัพท์จากฝ่ายชาย ทำทีเป็นว่าจะโทรหาพี่ชายให้มาจ่ายค่าของทั้งหมดให้ แล้วก็หนีหายไปพร้อมกับโทรศัพท์ ไม่กลับมาหาอีกเลย!? จนฝ่ายชายต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุได้ 2 วัน ทางด้านนางแบบสาวก็อ้างว่าฝ่ายชายยินยอมให้โทรศัพท์เอง แล้วก็จะไม่คืนโทรศัพท์ให้ด้วย เพราะว่าขว้างทิ้งลงแม่น้ำไปแล้ว!! กระเป๋าชาแนลก็ไม่ได้ โทรศัพท์ก็หายไปด้วยเช่นกัน จนในที่สุด ผลของการกระทำของเธอก็ลงเอยด้วยคำตัดสินถูกคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 1 ปี และจะต้องชดใช้ค่าโทรศัพท์ที่หายไปเป็นมูลค่า 927 ดอลลาร์ (ราวๆ…
-
น้ำตาจะไหล.. “วัวโชคร้าย” ถูกรถชนตายกลางถนน แต่เพื่อนวัวตัวอื่นกลับพยายามเข้ามาช่วย..
หลายคนอาจบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถมีอารมณ์และความรู้สึกได้ หารู้ไม่แท้ที่จริงแล้ว สัตว์หลายๆชนิด ก็สามารถมีความรู้สึกได้เช่นกัน อย่างเช่นเจ้าวัวกลุ่มนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นบนเกาะฮ่องกง มีวัวตัวหนึ่งโชคร้ายเกิดถูกรถชนตายบนถนน และร่างไร้ชีวิตของมันก็นอนอยู่ตรงจุดเกิดเหตุไม่ขยับไปไหน แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ วัวตัวอื่นๆที่อยู่แถวนั้น ได้เข้ามาล้อมร่างของวัวที่เสียชีวิตไว้ และพวกมันพยายามดันร่างของวัวตัวนั้น ออกไปจากถนน แม้ว่าพวกมันจะพยายามขนาดไหน ร่างของเจ้าวัวก็ไม่ขยับเขยื้อน จนสุดท้ายแล้ว ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็โทรเรียกตำรวจและเจ้าหน้าที่ ให้มาช่วยย้ายร่างของเจ้าวัวตัวนั้น ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า “พวกวัวตัวอื่นๆพยายามเข้ามาช่วยวัวตัวนั้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร..” เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเถอะ.. 大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄目擊者阿Ben見到時,牛牛仲企喺度苦苦掙扎到我哋同事趕到時牛牛終於支持唔住佢嘅同伴亦唔忍心離去……R.I.P【大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄】http://bit.ly/1MpjzGN====================跟實我哋【 現場 - 蘋果突發】就知更多社會事#牛牛 #萬物皆有情 Posted by 現場 - 蘋果突發 on 1 พฤศจิกายน 2015 น้ำตาจะไหลเลย ขนาดสัตว์ยังมีความรู้สึกความผูกพันธ์ ยังไงเหมียวก็ขอให้เจ้าวัวไปสู่สุขคตินะฮะ ที่มา Shanghaiist
-
พนักงานลาภลอย เมื่อประธานบริษัทแจกเงิน 70 ล้าน เพื่อเป็นการฉลองได้หลานคนที่ 7
เรียกได้ว่างานนี้ลาภลอยเข้าไปเต็มๆ เพราะเมื่อ ‘Lee Shau-kee’ ประธานบริษัท Henderson Land ในฮ่องกง เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ออกอาการดีใจสุดๆ ที่ ‘Martin Lee’ ลูกชาย และ ‘Cathy Tsui‘ ลูกสะใภ้ของเขาเพิ่งจะได้ลูกชาย ซึ่งนับว่าเป็นหลานคนที่ 7 ของประธาน Lee งานนี้ท่านประธานบริษัทก็เกิดใจป๋าขึ้นมาทันที เลยทุ่มฉลองด้วยการแจกเงินกว่า 70 ล้านบาท ให้กับบรรดาพนักงานและผองเพื่อนถึง 1,500 คน คนละประมาณ 46,000 บาทกันเลยทีเดียว และที่สำคัญนับว่านี่เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่ประธาน Lee ได้แจกเงินให้กับบรรดาพนักงานและผองเพื่อน เพราะที่ผ่านมาเขาได้แจกเงินให้กับพนักงานฉลองได้หลานคนใหม่ถึง 3 ครั้ง ส่วนอีก 1 ครั้ง เขาแจกเนื่องในโอกาสที่ลูกชายได้แต่งงาน ประธาน Lee…
-
เทรนด์ใหม่ลดความอ้วนของสาวๆ ในฮ่องกง ‘จ้องแสงแดด’ เพื่อรับพลังงานแทนอาหาร!!!
เหมียวก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเทรนด์ใหม่นี้มากันจากไหน แต่ฟังดูแล้วก็รู้สึกว่ามันแปลกเอาซะมากๆ กับการตากแดดเพื่อลดความอ้วน -*- เอิ่มมมมม และี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกง กับเหล่าสาวๆ ที่ต้องการลดความอ้วน…ลืมไปเลยกับผักผลไม้ การออกกำลังกาย T25 ต่างๆ เพราะแค่ยืนตากแดด ก็ช่วยคุณลดน้ำหนักได้แล้วล่ะ!!! ยืนตากแดดลดความอ้วน!!! ในฮ่องกงหญิงสาวจำนวนมากจะมายืนตากแดดกันในตอนเย็น แถบหมู่บ้าน Sam Ka และหลักการของพวเธอนั้นค่อนข้างน่าสนใจเลยล่ะ ‘เพราะการจ้องแสงอาทิตย์นั้น จะทำให้เราได้รับพลังงานจากแสง เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่หิว และไม่ต้องการพลังงานจากการทานอาหารอีก’ หนึ่งในผู้จ้องแสงแดดกล่าว ‘ซึ่งบางคนกินน้อยลง หรือว่าไม่ทานอะไรไปเลยก็มี’ เธอกล่าวเสริม เอาล่ะนะ ทีนี้ก็ไม่ต้องทานอะไรกันแล้วล่ะเนาะ มาสังเคราะห์แสงกันเลยมนุษย์ทั้งหลาย ฮ่าๆๆๆ ที่มา: Metro
-
เอาจริงดิ!! สาวๆชาวฮ่องกงพากันมายืนจ้องดวงอาทิตย์เพื่อลดน้ำหนัก!!!
ดูเหมือนเทรนด์การออกกำลังกายและกินคลีนจะกลายเป็นเรื่องโบราณสำหรับสาวๆชาวฮ่องกงไปเสียแล้ว หลังจากมีการเปิดเผยถึงวิธีการลดน้ำหนักสุดแปลกแบบใหม่ของพวกเธอ สำนักข่าว Coconuts Hong Kong รายงานว่า มีคนเห็นสาวๆชาวฮ่องกง ไปยืนดูพระอาทิตย์ตกดินบริเวณชายหาดของหมู่บ้าน Sam Ka และพวกเธอบอกว่า ที่ทำเช่นนั้นเพื่อลดน้ำหนัก!!! พวกเธอบอกว่า การทำแบบนั้นทำให้พวกเธอสามารถซึมซับพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ ซึ่งหมายความว่า พวกเธอไม่จำเป็นต้องกินอาหารอีก..โอเคนะ “พวกเรากำลังฝึกดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์แทนที่การกินอาหาร หลายๆคนที่ฝึกสำเร็จแล้ว ก็กินอาหารน้อยลง บางคนก็ไม่ต้องกินอาหารอีกเลย” หนึ่งในผู้เข้าร่วมให้สัมภาษณ์กับ Coconuts Hong Kong ยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าได้ผลจริง ถ้าใครอยากทดลองก็ลองทำดูได้ แต่เหมียวไม่รับประกันผลลัพธ์นะ ที่มา Metro
-
น้องไข่แดงจอมขี้เกียจ ‘Gudetama’ จากญี่ปุ่นแวะตั้งร้านเยือนฮ่องกง!!
ทุกๆ คนมีความขี้เกียจอยู่ในตัว ไม่เว้นแม้แต่เจ้าไข่แดงน้อยจอมขี้เกียจ Gudetama อันโด่งดังทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ เพราะด้วยความน่ารักน่าชังอันเป็นเอกลักษณ์จึงโดนใจผู้คนได้ไม่ยาก ล่าสุดนี้น้องไข่แดงจอมขี้เกียจก็ได้แพร่กระจายความขี้เกียจไปอยู่ที่ฮ่องกงแล้ว ไปเปิดตัวเป็นการชั่วคราวอยู่บนห้าง Langham Place เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีแต่ว่าน้องไข่แดงไม่ได้มาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ฮ่องกงถาวรนะ จะอยู่ถึงเพียงแค่วันที่ 6 กันยายนเท่านั้น ถ้าหากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงในช่วงนี้ก็อย่าลืมแวะไปหาน้องไข่แดงที่ห้าง Langham Place นะจ๊ะ ภายในร้านก็จะมีการจัดแสดงและขายสินค้าพิเศษต่างๆ มากมายที่เกี่ยวกับ Gudetama ที่ทั้งน่ารักและขี้เกียจในเวลาเดียวกัน นำเสนอในร่างต่างๆ ที่ไม่ใช่แบบไข่แดงด้วยนะเออ แล้วแบบนี้จะพลาดไปได้ยังไงล่ะเนี่ย!? ร้านเบเกอรี่น้องไข่แดง แม้แต่ร่างไข่ขาวก็ยังขี้เกียจ จะเป็นตัวอะไรก็ขี้เกียจไปหมด!! มาที่สไตล์ร้านอาหารจีนกันบ้าง ลองแวะร้านซูชิกันซักหน่อย ร้านน่ารักชั่วคราวของน้องไข่แดงจัดแสดงอยู่ที่ห้องโถงชั้น 4 และชั้น 7 ของห้าง Langham Place ในฮ่องกง ไปเยี่ยมชมกันได้จนถึงวันที่ 6 กันยายนนี้เท่านั้นนะจ๊ะ ที่มา : rocketnews24
-
หนุ่มฮ่องกงใจป๋า ใช้เงินราว 1.8 ล้านบาท จ้างเครื่องบินขอแต่งงานแฟน
กลายเป็นเรื่องราวฮือฮาในเกาะฮ่องกงพอสมควรเลย เพราะเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวของชายหนุ่มชาวฮ่องกงที่ชื่อว่า Victor Tang วัย 37 ปี ได้ลงทุนกว่า 400,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท เพื่อจ้างเครื่องบินให้ติดป้ายขอแต่งงานแฟนสาว เนื่องจากแฟนสาวของ Victor นั้น เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบธรรมดาๆ เขาเลยต้องคิดหาวิธีที่พิเศษๆเพื่อขอแต่งงาน Victor ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาใช้เวลาในการวางแผนมานานกว่าเดือน ในการเตรียมเช่าเครื่องบินและจองร้านอาหารบนตึกระฟ้า เพื่อให้แฟนของเขาได้เห็นข้อความจากเครื่องบินชัดๆ ทั้งนี้ Victor ได้แจกแจงต่อสื่อว่าเสียเงินให้กับอะไรไปบ้าง เริ่มตั้งแต่หาซื้อแหวนเพชร 1.5 กะรัต ในราคาประมาณ 905,910 แสนบาท ค่าเช่าร้านอาหารสุดหรูบนตึกระฟ้า 117.000 บาท ค่าเช่าเครื่องบินอีก 679,000 บาท โดยมีข้อความว่า “I love you! Stephanie BB, will you marry me?” ติดอยู่ที่ท้ายเครื่อง สาเหตุที่นาย Victor สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะเขานั้นทำงานอยู่ในบริษัท…
-
ทั่วโลกถึงกับงง เมื่อซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกง นำโค้กกระป๋องใส่กล่อง พร้อมห่อด้วยพลาสติกใสอย่างดี??!!?
ปกติถ้าเรานึกถึงประเทศที่ทำบรรจุภัณฑ์เวอร์ๆ เราจะนึกถึงประเทศอย่างญี่ปุ่นเอาไว้ก่อน เพราะพวกเขามักพิถีพิถันในเรื่องความเป็นเอกลักษณ์และความสวยงามอยู่แล้ว แต่คุณจะเงิบยิ่งเสียกว่าอะไร ถ้าคุณได้ไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกง เพราะพวกเขานำโค้กกระป๋อง ใส่กล่องพร้อมห่อด้วยพลาสติกใสอย่างดีให้คุณ!!?!!? ปกติอาหารที่ถูกห่อด้วยพลาสติกใส คืออาหารที่เราไม่อยากให้มันสัมผัสกับอากาศหรือลมเพื่อไม่ให้มันเสียรสชาติ รวมถึงป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆไม่ให้เข้าไปในอาหาร แต่โค้กกระป๋อง ด้วยบรรจุภัณฑ์ของมันก็สามารถทำทุกอย่างที่ว่ามาได้อยู่แล้ว แล้วจะห่อพลาสติกเข้าไปอีกชั้นท่าไม เรียกได้ว่าก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางบนอินเตอร์เน็ต เนื่องจากเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ แถมเพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลกอีกต่างหาก ทีหลังจะซื้อน้ำอัดลม ไปซื้อจากตู้แบบนี้ดีกว่า สะดวกแถมยังไม่เพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลกด้วย ที่มา rocketnews24
-
เมนูใหม่จากส่วนผสมของ KFC และ Pizza Hut จึงกลายมาเป็น “พิซซ่าวิงซ์”
สังคมเดี๋ยวนี้มีการแข่งขันสูงมากเลยนะเนี่ย ไม่เว้นแม้แต่ในวงการอาหารเช่นกัน ล่าสุดนี้ร้านขายไก่ทอดที่โด่งดังไปทั่วโลก KFC ได้ร่วมมือกับร้านพิซซ่าที่ดังไม่แพ้กัน Pizza Hut เปิดตัวเมนูอาหารฟิวชั่นส่วนผสมระหว่างสองเมนูเด็ดจากสองร้านเข้าด้วยกัน สุดยอดเมนูในฝันของหลายคนได้จุติแล้ว มันก็คือ พิซซ่าวิงซ์ หรือ ปีกไก่พิซซ่า นั่นเอง!! เป็นปีกไก่กรอบๆ หนังไก่ถูกชุบเต็มไปด้วยเครื่องเทศพิซซ่า แถมยังมีชีสด้วยแหละ สำหรับชื่ออย่างเป็นทางการของเมนูนี้เก๋ไก๋มาก “Napoli Crispy Pizza Chicken” แต่เดชะบุญ แทนที่ออกเมนูมาใหม่แล้วก็น่าจะออกวางขายทุกสาขาทั่วโลก กลับกลายเป็นว่ามีขายแค่ในเฉพาะพื้นที่ฮ่องกงเท่านั้นจ้า อดเราเลย!! นอกจากจะสั่งแยกได้แล้ว ก็ยังมีชุดแบบอิ่มจุใจที่มีเมนูใหม่นี้รวมอยู่ด้วย โอ้ยยยยย!! เห็นแล้วน้ำเดินเลยแฮะ อยากกินมากเลยอ๊ะ KFC ประเทศไทยจงเอามาขายบัดเดี๋ยวนี้!! ที่มา : thechive
-
ลือหึ่ง Donnie Yen พระเอกนักบู๊จากฮ่องกงอาจร่วมแสดงใน Star Wars: Episode VIII
หากใครเป็นคอหนังบู๊จากจีนล่ะก็ คงไม่มีใครไม่รู้จักนักแสดงที่ชื่อว่า Donnie Yen หรือชื่อจริงว่า เจิน จื่อตัน อย่างแน่นอน ล่าสุดมีข่าวลือในต่างประเทศว่าพ่อหนุ่มปรมาจารย์กังฟูผู้นี้ ถูกทาบทามให้มารับบทเป็นตัวละครหนึ่งในภาพยนตร์ Star Wars: Episode VIII หรือ Star Wars ภาค 8 นั่นเอง เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ เว็บไซต์ Apple Daily ได้รายงานว่าหนังสือพิมพ์บันเทิงในเกาะฮ่องกง ได้ออกมายืนยันว่า Yen ได้ถูกทาบทามให้มารับบทในหนังเรื่อง Star Wars: Episode VIII ที่จะกำกับโดย Rian Johnson จาก Looper ซึ่งหากเป็นไปตามข้อตกลง Yen ก็จะได้รับบทเป็นเจได ที่ต้องเข้าฉากกับ Harrison Ford ในบท Han Solo และจะเริ่มต้นถ่ายทำกันในเดือนหน้า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลหลุดออกมาอีกว่า ก่อนหน้าที่บทนี้จะถูกส่งมาให้ Yen ทีมโปรดิวซ์เซอร์ได้ถกเถียงกันระหว่างตัวเลือกอื่นๆอย่าง Jet Li ด้วย แต่เนื่องจาก Li เรียกค่าตัวที่สูงกว่าข้อตกลงของ Yen ทำให้ทีมงานหันเหความสนใจมาที่ Yen แทน ทั้งนี้…
-
เอาอีกแล้ว!! หญิงชาวจีนตากผ้าและชุดชั้นในแบบไม่แคร์สื่อกลางดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงทันทีเมื่อไม่นานมานี้จากการกระทำของหญิงชาวจีนรายหนึ่งที่ทำให้อับอายไปทั่วอินเทอร์เน็ต อันเนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเธอ จากการนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในมาตากบนราวเหล็กกลางดีสนีย์แลนด์ในฮ่องกง แม้ว่าจะมีผู้คนเห็นมากมายซักแค่ไหน เธอก็ไม่แคร์อะไรใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งมีคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มาห้ามปรามในสิ่งที่เธอทำอยู่ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งเตือนให้เก็บทันที เธอก็ยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อผ่านไปซักพักก็นำออกมาตากใหม่อีก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาเตือนอีกรอบ เธอก็รีบเก็บเสื้อผ้าแล้วหายไปในสายลมเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปทั่วอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตต่างก็ให้ความเห็นตรงกันว่านักท่องเที่ยวจีนนั้นมีพฤติกรรมที่แย่เหลือเกิน และเหตุใดนักท่องเที่ยวจีนส่วนมากถึงมีพฤติกรรมที่น่าละอายเช่นนี้ออกมาบ่อยๆ เหมียวเองก็ไม่เคยเข้าใจเหมือนกันแฮะ ทำไมถึงใจกล้าและมั่นใจจนทำอะไรได้ขนาดนี้กันนะ? ที่มา : shanghaiist
-
ใจนายหล่อมาก!! ชาวเน็ตชื่นชมหนุ่มต่างชาติ ซื้อรองเท้าให้คนเก็บขยะในฮ่องกง
กลายเป็นภาพที่ถูกส่งต่อมากที่สุดในต่างประเทศตอนนี้เลย สำหรับภาพของชายหนุ่มชาวต่างชาติ กำลังซื้อรองเท้าให้กับคนเก็บขยะสูงอายุรายหนึ่ง ในเมือง Lan Kwai Fong บนเกาะฮ่องกง หลังพบว่าชายสูงอายุมีรอยแผลลื่นล้มที่หัวที่อาจเกิดจากการสวมใส่รองเท้าที่ไม่พอดี ในระหว่างที่ชายชาวต่างชาติกำลังเลือกซื้อรองเท้าให้คนเก็บขยะอยู่นั้น ลูกจ้างภายในร้านรองเท้าเห็นเข้าพอดีจึงแอบถ่ายภาพมาแชร์ลงในเฟซบุ๊ค และภาพดังกล่าวก็กลายเป็นภาพที่มีคนกดแชร์ต่อกันไปในเวลาอันรวดเร็ว พนักงานยังเล่าอีกว่าชายชราเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคนแถวนั้นดี เพราะเขาเดินทางไปทั่วบริเวณนั้นพร้อมกับรถเข็นเพื่อไว้ใส่ขยะและของเก่า จากผู้พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่าชายหนุ่มเห็นผ้าพันแผลบริเวณศีรษะ เลยเชื่อว่าเขาน่าจะบาดเจ็บจากการลื่นล้มบนถนนเพราะสวมรองเท้าที่ไม่พอดี ชายชาวต่างชาติจึงทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีโดยเสนอเงินให้แก่ชายชราเพื่อซื้อรองเท้าใหม่ แต่ชายชราปฏิเสธ เขาจึงพาชายชราคนนั้นมาที่ร้านขายรองเท้าเพื่อเลือกรองเท้าใหม่ด้วยตัวเองและจ่ายเงินให้เขาแบบฟรีๆ หลังจากเห็นถึงความเมตตาและความจริงใจของชายหนุ่ม ทางร้านจึงเสนอจะช่วยลดราคารองเท้านั่นให้เขาอีกด้วย เรียกได้ว่าน่ารักกันทุกฝ่ายจริงๆ เหมียวล่ะปลื้มใจแทนมากๆ ที่มา shanghaiist