Tag: เกาหลีเหนือ
-
พาชม Mangyongdae โรงเรียนของชนชั้นนำแห่งเกาหลีเหนือ ซ้อมขับรถถัง-ซ้อมยิงปืน มีให้ครบ!!
มีเพียงไม่กี่โรงเรียนในโลกที่จะมีอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนทางด้านรถถังและเครื่องบินขับไล่ ไหนจะมาพร้อมกับเครื่องยิงระเบิด และโรงเรียน Mangyongdae Revolutionary School ก็เป็นเพียงโรงเรียนแห่งเดียวที่มีของที่กล่าวมาทั้งหมด โรงเรียน Mangyongdae แห่งนี้ก่อตั้งโดย คิม อิล-ซ็อง อดีตผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ผู้มีศักดิ์เป็นบิดาของ คิม จ็อง‑อิล และปู่ของ คิม จ็อง‑อึน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การศึกษาแก่เด็กกำพร้าผู้สูญเสียครอบครัวจากการต่อสู้ยึดครองอาณานิคมจากญี่ปุ่น จนกระทั่งพัฒนากลายมาเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆ ของเกาหลีเหนือ และเป็นหนึ่งในสถาบันที่รวบรวมประชากรระดับสูงของประเทศเอาไว้ ภายในห้องเรียนจะประกอบไปด้วยอาวุธปืนขนาดเล็ก บางห้องจะมีรถถังพร้อมจำลองตีนตะขาบให้ขับ ซึ่งวิชาหลักที่จะต้องเรียนในหลักสูตรคือ ‘การยิงปืน’ โดยจะมีห้องซ้อมแยกออกมาโดยเฉพาะ การฝึกขับรถถังผ่านเครื่องจำลอง สำหรับนักเรียนชายที่เข้ามานั้น จะต้องผ่านการโกนหัวทั้งหมด ปรับทรงผมให้เป็นในรูปแบบทหารพร้อมทั้งรับเครื่องแบบที่ออกแบบโดย คัง พัน-ซ็อก ภรรยาของคิม อิล-ซ็อง เป็นชุดที่มีลักษณะไม่แตกต่างไปจากชุดทหาร และจะมีแถบเส้นสีแดงบนกางเกงเพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติ ห้องซ้อมยิงปืน ในแต่ละวันจะมีการเรียนการสอน 6 คลาส แบ่งเป็นคลาสละ 45 นาที โดยครึ่งหนึ่งของหลักสูตรจะเป็นเรื่องของการเมือง คตินิยม…
-
ตกไปแล้ว!! เมื่อประธานาธิบดีเกาหลีใต้ไปเหยียบเกาหลีเหนือ การตัดต่อฮาๆ จึงเกิดขึ้น
นับเป็นข่าวใหญ่โตในช่วงก่อนจริงๆ กับเหตุการณ์ตกลงสงบศึกเกาหลี ระหว่างนาย Moon Jae-in ประธานาธิบดี เกาหลีใต้ และ Kim Jong-un ผู้นำของเกาหลีเหนือ หลังจากที่มีเหตุการณ์ความตึงเครียดต่อเนื่องกันมานานกว่า 3 ปี ด้วยเหตุนี้เอง ภาพของผู้นำทั้งสองประเทศ จับมือกันเดินข้ามพรมแดนเกาหลีด้วยรอยยิ้มนั้น จึงจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในภาพเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยความที่ว่าเราอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ต มันก็ย่อมจะต้องมีคนสงสัยในการกระทำของ Kim Jong-un ที่ราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกันเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เคยขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธข้ามประเทศ แถมยังเคยถูกสงสัยว่าลอบสังหารพี่น้องตัวเองด้วย แต่ถึงจะบอกว่าสงสัยในการกระทำอินเตอร์เน็ตก็ยังคงเป็นอินเตอร์เน็ตอยู่ดี ดังนั้นเรื่องในครั้งนี้จึงไม่ได้กลายเป็นเรื่องจริงจังอะไรเท่าไหร่ นอกเสียจากมีมตลกๆ และภาพ Gif ขำๆ หนึ่งรูป ที่ชาวเน็ตคิดว่าจะนี่ล่ะคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อ Moon Jae-in ไปเหยียบเกาหลีเหนือก็เท่านั้น นี่เป็นภาพพื้นของเกาหลีเหนือเปิดออกและ Moon Jae-in ตกลงไปในช่องว่างนั้น ระหว่างที่ตากล้องคนหนึ่งตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และ Kim Jong-un เดินกลับมาด้วยรอยยิ้มที่แลดูจะสะใจ เจอกับแบบธรรมดาๆ จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน อ้าวเฮ้ย!! ร่วงไปแล้ว!? หึๆ เป็นไปตามแผน เอางี้เลยเหรอท่านผู้นำ?…
-
พูดจริงหรือประชด!? ปธน.เกาหลีใต้ ชม Donald Trump ควรได้ “รางวัลโนเบล” สาขาสันติภาพ
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Independent ได้เปิดบทสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ อิน ที่กล่าวถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สำหรับความพยายามของเขาที่จะยุติความขัดแย้งในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ มุน แจ อิน กล่าวถึง โดนัล์ด ทรัมป์ ว่า “เขาสมควรได้รับเครดิตอย่างมากในการทำให้เกิดการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและใต้” ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากที่มีการแยกตัวออกไปนานหลายสิบปี “ประธานาธิบดีทรัมป์ควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ สิ่งที่เราต้องการก็คือสันติภาพเท่านั้น” ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นาย มุน แจ อิน ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ในรัฐสภา หลังจากลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองประเทศให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นทางการว่าจะยุติสงครามเกาหลีที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1950 ในขณะที่นาย มุน กล่าวยกย่องบทบาทของ ทรัมป์ ในการรวมทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า ทรัมป์ ไม่สมควรได้รับเครดิตและคำชมขนาดนั้น ทีเจ เพิร์ลแมน ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่าประธานาธิปดีของสหรัฐ “ควรได้รับเครดิต แต่ไม่มากขนาดนั้น” เพราะเนื่องจากเขามองว่ามาตรการการคว่ำบาตรของจีนที่มีต่อเกาหลีเหนือเมื่อปลายปี 2017 นั้นมีความสำคัญและผลกระทบมากกว่า …
-
เปิดเมนูอาหารในการประชุม “ผู้นำเกาหลีเหนือ-ใต้” กินแบบคิม ไปดูว่าคิมกินอะไร!?
ว่ากันว่าผลลัพธ์ในการประชุมสำคัญต่างๆ บางครั้งแค่การนำเสนออาหารก็สามารถที่จะชี้ชะตาได้ และดูเหมือนมันจะจริง เพราะว่าการประชุมระดับโลกของสองชาติเกาหลีเหนือและใต้นั้น ต่างคัดสรรเมนูชั้นเยี่ยมเพื่อใช้ในการประชุมครั้งนี้ โดยสำนักข่าว Reuters ได้มีการเปิดเผยว่าผู้นำเกาหลีเหนือ ‘คิมจองอึน‘ นั้นเป็นคนเลือกเมนูที่จะใช้เสิร์ฟในการประชุมครั้งนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเมนูที่เขาเลือกนั้นก็เป็น ‘โรสตี‘ อาหารจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนสาเหตุที่ผู้นำคิมได้เลือกอาหารดังกล่าวแทนที่จะเป็นอาหารต้นตำหรับเกาหลีเหนือก็เพราะ โรสตีนั้นเป็นอาหารที่ตัวผู้นำคิมเองชอบและกินมันมาเมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็กที่อาศัยและโตในประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั่นเอง ด้วยอาหารดังกล่าวที่ส่งมอบความรู้สึกในวัยเด็กจากผู้นำที่ปกติเราต่างเห็นมุมมองโหดๆ ของเขามาตลอดถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้โลกต้องตะลึงและรับรู้ถึงความจริงใจของเขาในการประชุมนี้เลยก็ได้ว่า และไม่เพียงแค่อาหารวัยเด็กของผู้นำคิมเท่านั้น ‘ปลาดอลี่อบ‘ ที่เป็นอาหารวัยเด็กของผู้นำ ‘มุนแจอิน‘ ที่เกิดและเติบโตที่เมืองปูซาน เมืองชายทะเลขึ้นชื่อเกาหลีใต้ อีกหนึ่งในอาหารที่ทางเกาหลีเหนือภูมิใจนำเสนอนั่นก็คือ หนึ่งอาหารขึ้นชื่อประจำชาติอย่าง ‘บะหมี่เย็น‘ สไตล์เปียงยาง ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้มุนแจอินที่รู้ว่าจะมีเมนูนี้ ก็ได้เจาะจงให้หัวหน้าเชฟจากทางเกาหลีเหนือจากภัตตาคารอ๊กริว-กวาน ร้านอาหารขึ้นชื่อในกรุงเปียงยาง เป็นคนทำเมนูนี้โดยเฉพาะ ยังไม่หมดเท่านั้น อาหารชั้นดีย่อมต้องเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่มชั้นเยี่ยม ซึ่งสองเกาหลีได้ขอนำเสนอเครื่องดื่มมีชื่อของสองชาติ โดยเกาหลีใต้ได้ส่ง ‘ไวน์อาซาเลีย‘ ไวน์ที่ทำจากดอกไม้ท้องถิ่นของทางเกาหลีใต้เข้าประกวด ส่วนเกาหลีเหนือก็ไม่น้อยหน้าขอส่ง ‘มุนเบจู‘ เหล้ากลั่นจากลูกแพร์ป่า ที่แม้จะหากินได้ในเกาหลีใต้แต่ก็ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาหลีเหนือ ซึ่งจากเมนูที่กล่าวมานั้นจะทำให้เราเห็นว่า นอกจากการประชุมที่อาจจะตึงเครียดแล้ว อาหารที่ทั้งสองชาติต่างพากันนำเสนอเพื่อใช้ในการประชุมนั้นต่างเลือกกันมาอย่างตั้งใจเลยทีเดียว เพราะการประชุมสำคัญแบบนี้ถ้ามีอาหารที่ดีและถูกปาก…
-
เกาหลีใต้ สั่งปิด “ลำโพงยักษ์” บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ หลังความสัมพันธ์ไปได้ด้วยดี
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงจะทราบกันดีว่า ประเทศเกาหลีเหนือและใต้นั้นได้เริ่มมีการพูดคุยอย่างสันติมากขึ้น มีการเดินทางไปเยือนกันทั้งเหนือไปใต้และใต้เดินทางไปเหนือ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็เรียกว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว และเมื่อผลลัพธ์ของการเจรจาทั้งสองประเทศนั้นมีทิศทางที่ดี ทั้งสองเกาหลีจึงเริ่มจะทยอยหยุดการยุยงประชาชนของตัวเองให้เกลียดกันหรือสร้างข่าวโจมตีกันแล้ว โดยล่าสุดเป็นคิวของลำโพงประกาศขนาดยักษ์ที่เกาหลีใต้ติดตั้งไว้ที่ชายแดน ลำโพงขนาดยักษ์ดังกล่าวนั้นเป็นการประกอบเข้าด้วยกันของลำโพงจำนวนหลายสิบตัว ซึ่งจุดประสงค์นั้นก็ใช้เพื่อเผยแพร่ทุกอย่างที่เป็นเกาหลีใต้ให้ชาวเกาหลีเหนือได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นข่าว เพลง โฆษณาชวนเชื่อและอื่นๆ อีกมากมาย ลำโพงดังกล่าวนั้นได้ถูกปิดตัวลงแล้วโดยชาติเกาหลีใต้เอง ไม่ใช่เกาหลีเหนือมาปิดแต่อย่างใด ซึ่งเท่ากับว่านี้เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ที่จะทำให้ความรุนแรงในชายแดนและกองกำลังทหารของสองชาติมีความตึงเครียดและโอกาสสู้รบกันน้อยลง อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลำโพงดังกล่าวนั้นถูกปิดตัวลง เพราะว่าเจ้าลำโพงยักษ์ที่ว่านั้นถูกติดตั้งเมื่อนานมาแล้วนับตั้งแต่สงครามเกาหลี จนกระทั่งปี 2004 ทางเกาหลีใต้ได้ปิดลำโพงดังกล่าวลง ซึ่งต่อมาในปี 2015 หลังมีเหตุทหารเกาหลีใต้บาดเจ็บเพราะถูกเกาหลีเหนือจับไป ทางการเกาหลีใต้จึงเริ่มเปิดลำโพงดังกล่าวอีกครั้งจนช่วงท้ายปี 2015 จึงสั่งปิดตัวลงอีกครั้ง แต่ว่าการปิดตัวนั้นก็ทำได้ไม่นาน เพราะต่อมาในปี 2016 ลำโพงก็กลับมาทำงานอีกครั้งหลังมีข่าวเกี่ยวกับการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทว่าสุดท้ายแม้จะเปิดปิดหลายต่อหลายครั้ง แต่การปิดลำโพงดังกล่าวในครั้งนี้รวมถึงการพูดคุยของเกาหลีเหนือกับชาติต่างๆ ทั่วโลกดูจะเป็นสัญญาณว่าลำโพงนี้คงจะต้องถูกปิดตัวลงอย่างถาวร ถ้าการพูดคุยทุกอย่างนั้นเป็นไปได้ด้วยดีนั่นเอง ที่มา nytimes, bbc
-
อีกหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ‘สี จิ้นผิง’ เตรียมเดินทางไปเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก!?
หลังผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน สร้างปรากฎการแปลกใหม่มากมายทั้งการออกเดินทางไปยังจีน ซึ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก รวมถึงการพูดคุยกับผู้นำเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เรื่องเซอร์ไพรส์ยังไม่หมดเท่านั้น ล่าสุดทาง CNN รายงานว่าพวกเขาได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่เผยนามแห่งหนึ่งว่า สีจิ้นผิง ผู้นำจีนเตรียมเดินทางไปยังกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือเพื่อพบคิมจองอึนบ้าง หลังผู้นำเกาหลีเหนือยอมออกจากประเทศเป็นครั้งแรก แผนการเดินทางดังกล่าวนั้นลือว่าจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน ส่วนทั้งสองจะไปเจอกันและพูดคุยเรื่องอะไรนั้นยังไม่มีสื่อใดรายงานออกมา แต่นี้ก็ถือเป็นการเดินทางไปเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกของสีจิ้นผิงเช่นกัน ซึ่งสื่อหลายสำนักก็พากันสงสัยว่าทิศทางความเป็นไปของเกาหลีจะมุ่งไปในทิศทางใด เพราะอยู่ดีๆ ผู้นำเกาหลีเหนือก็ออกพบปะชาติต่างๆ อย่างต่อเนื่องและมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นทั้งการพบกันของเกาหลีเหนือและใต้ และการพบกันของผู้นำสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น การพบปะกันของชาติมหาอำนาจทั้งสองอย่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ก็ดูจะเป็นไปได้ด้วยดี หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า ไมก์ ปอมเปโอ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ได้เดินทางไปนำร่องก่อนและผลลัพธ์ก็ออกมาน่าพอใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างนั้นยังไม่มีการคาดเดาที่แน่นอน เราคงต้องทำได้แต่ลุ้นว่าในช่วงสองเดือนที่จะถึงนี้ ทิศทางที่เกาหลีเหนือกำลังจะเดินไปจะมีผลลัพธ์ที่ออกมาดีนั่นเอง ที่มา CNN, shanghaiist
-
ถ้าเกาหลีเหนือ-ใต้รวมกันจะเป็นอย่างไร?…ย้อนกลับไปดูตอนเยอรมนีรวมชาติ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
จากกรณีที่มีข่าวว่าประเทศเกาหลีใต้และประเทศเกาหลีเหนือ กำลังจะจบสงครามที่ยาวนานกว่า 68 ปี ก็มีสื่ออีกหลายสำนักมองไกลไปถึงเรื่องของ ‘การรวมประเทศ’ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ภาพธงชาติเกาหลีเหนือ-ใต้ ที่ทำขึ้นมาในงานโอลิมปิกฤดูหนาว ที่นักกีฬาของทั้งสองประเทศโบกตอนเดินลงสนามร่วมกัน เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ก็เลยทำให้ #เหมียวหง่าว นึกย้อนไปถึง ‘การรวมประเทศ’ ของประเทศเยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออก ที่เคยแยกประเทศกันไปเมื่อปี 1949 เพราะผลกระทบจากสงครามโลก เนื่องจากว่าองค์ประกอบทุกอย่างมันช่างคล้ายคลึงกันเสียเหลือเกิน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้รวมประเทศกันขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจของโลกอย่างเยอรมนีก็เป็นได้ #เหมียวหง่าว ก็เลยจะนำเรื่องราวการรวมประเทศของเยอรมนีตะวันตกกับเยอรมนีตะวันออกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ก่อนจะกล่าวถึง ‘การรวมประเทศ’ ของเยอรมนี ก็ต้องขอย้อนกลับไปเล่าเรื่องของ ‘การแยกประเทศ’ กันก่อนก็แล้วกันนะครับเพื่อความเข้าใจเหตุการณ์อย่างถ่องแท้ ย้อนกลับไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลงเมื่อปี 1945 ฝ่ายอักษะที่นำโดยเยอรมนีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สองประเทศยักษ์ใหญ่ในขณะนั้นอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นผู้ชนะสงครามได้พยายามขยายอิทธิพลของตนเองเข้าสู่ประเทศเยอรมันนี ด้วยความไม่ลงรอยนี้ เยอรมันนีจึงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนในปี 1949 ซึ่งก็คือ Federal Republic of Germany (FRG) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเยอรมนีตะวันตก ฝั่งนี้จะถูกปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ส่วนอีกด้านก็คือ German Democratic Republic (GDR) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเยอรมนีตะวันออก…
-
10 เรื่องของผู้นำเกาหลีเหนือ ‘คิมจองอึน’ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน จากคำบอกกล่าวของเพื่อนในชั้นเรียน
ผู้นำประเทศเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าผู้นำประเทศถ้วนหน้า เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นคนอารมณ์ร้อนและลือกันว่าเขาเป็นคนสั่งประหารลุงของเขาเพื่อยึดอำนาจ ทำให้เป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก ถึงแม้ว่าสื่อทั้งหลายจะพยายามขุดประวัติโดยการสัมภาษณ์อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขา แต่ก็ไม่มีใครพบหลักฐานสมุดเรียนหรือหนังสือรุ่นของเขาเลย มีแต่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ จากวงในเพียงเท่านั้น ซึ่งอาจยังไม่เคยนำเสนอที่ไหนมาก่อน 1. เขารักรองเท้า Air Jordans ของเขามาก คิมวัยหนุ่มนั้นก็คงไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะได้พบปะกับอดีตนักบาสทีม Chicago Bull อย่าง Dennis Rodman แต่ก็คงเป็นหนึ่งในเป้าหมายชีวิตของเขา ทำให้เขาทุ่มเทเปลี่ยนทั้งอพาร์ตเมนต์ของเขาให้เป็นธีมบาสเกตบอล โดยเฉพาะทีม Chicago Bull และเขายังใช้เวลาว่างในการสเกตภาพไมเคิล จอร์แดน รองเท้าคู่โปรดของเขาก็คือ Air Jordan ทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับบนพื้นไม้ปาร์เกต์และพื้นปูน 2. เขามีชื่อปลอม เมื่อเขาไม่อยากถูกมองว่าเป็นลูกของผู้นำประเทศเกาหลีเหนือ เขาจึงถูกส่งไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ ที่โรงเรียน Liebefeld Steinhölzli โดยใช้ตัวตนปลอมชื่อว่า พัคอึน เป็นลูกของเอกอัครราชทูตของประเทศเกาหลีเหนือ 3. เขาชอบภาพยนตร์แอ็กชัน ในปี 2009 เพื่อนของคิมได้ให้สัมภาษณ์ว่าคิมเป็นคนที่ค่อนข้างไม่เข้าสังคม โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เมื่อเขาไม่ได้ดูกีฬาบาสเกตบอล เขาก็มักจะดูภาพยนตร์แอ็กชันและเล่นเกม Playstation…
-
ท่านผู้นำปลื้ม ถ่ายรูปคู่ศิลปินดัง ในคอนเสิร์ตเชื่อมสัมพันธ์เหนือ-ใต้ ที่กรุงเปียงยาง
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าประเทศเกาหลีเหนือ กำลังสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีกับประเทศเกาหลีใต้อยู่ ซึ่งฟังดูแล้วมันอาจเป็นเรื่องที่ดูน่าเหลือเชื่อ เพราะประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้นั้น อยู่ในภาวะสงครามมากกว่า 50 ปีแล้ว แต่แล้วคอนเสิร์ตเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ซึ่งถูกจัดขึ้นในวันที่ 1 เมษายน 2018 ที่ผ่านมานั้น เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองประเทศกำลังพยายามลดระยะห่างกันอยู่จริงๆ คอนเสิร์ตสานสัมพันธไมตรีนี้มีชื่อว่า Spring is Coming (ฤดูใบไม้ผลิกำลังมา) คอนเสิร์ตดังกล่าวถูกจัดขึ้นที่โรงละคร East Pyongyang Grand Theatre กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่มีการจัดงานในลักษณะนี้ขึ้น ณ เมืองหลวงของประเทศ แถมท่านผู้นำ คิม จ็อง-อึน ก็ยังเดินทางมาเข้าร่วมด้วยตนเองอีกด้วย คิม จ็อง-อึน เดินทางมาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ท่านผู้นำพูดคุยกับศิลปินจากเกาหลีใต้ ภายในงานมีการแสดงของศิลปินนักร้องจากประเทศเกาหลีใต้มากมาย อาทิเช่น ศิลปินอาวุโส Cho Yong-pil , Lee Sun-hee , Yoon Do-hyun และ Baek…
-
‘คิม’ เปลี่ยนไป หลังจีนยืนยันว่าเดินทางมาพูดคุยจริง และจะพบ ‘ทรัมป์’ เป็นรายต่อไป!!
จะเรียกว่าท่านผู้นำเปลี่ยนไปก็ว่าได้ หลังจากที่ ‘คิม จอง อึน‘ ผู้นำเกาหลีเหนือที่นานาชาติต่างพากันมองว่าเขาคือชายผู้กุมอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในมือและไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เริ่มออกเดินสายเจอกับผู้นำชาติต่างๆ เป็นครั้งแรก! แน่นอนว่ามันเป็นครั้งแรกจริงๆ เพราะนับตั้งแต่ที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งในปี 2011 นั้น การเดินทางมาเยือนจีนเพื่อพบกับ ‘สี จิ้นผิง‘ ที่กรุงปักกิ่งจึงถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกของเขา อย่างไรก็ตาม จีนและเกาหลีเหนือนั้นถือเป็นชาติพันธมิตรที่ทำการค้าขายกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งการมาเยือนของเขาในครั้งนี้นั้น สื่อได้รายงานว่าเป็นการเดินทางมาพูดคุยเพื่อแสดงยินดีกับทางจีนที่ร่วมกันสร้างความสัมพันธ์อันดีเรื่อยมา ยังไม่หมดเท่านั้น สื่อยังรายงานอีกว่าระหว่างการพูดคุยนั้น ผู้นำเกาหลียังได้ยืนยันกับผู้นำจีนว่า เกาหลีเหนือจะล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์จริงๆ แต่ว่ามันก็ยังคงมีเงื่อนไขอยู่ คิมจองอึนนั้นบอกว่า “โครงการอาวุธนิวเคลียร์และปัญหาความไม่สงบในน่านน้ำเกาหลีจะจบลงได้ ก็ต่อเมื่อทางเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกามีท่าทีที่ดีต่อเกาหลีเหนือเพื่อช่วยกันส่งเสริมสันติภาพที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเกาหลีเหนือก็หวังว่าการเจรจานี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงไปพร้อมๆ กับความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” การพูดคุยนั้นเป็นไปด้วยดี และทางผู้นำเกาหลีเหนือคิมจองอึน ก็ได้บอกกับทางจีนว่าเขายังคงวางแผนจะพบกับผู้นำเกาหลีใต้ ‘มุน แจ อิน‘ ในช่วงเมษายนนี้ ส่วนด้านสหรัฐอเมริกานั้น ผู้นำเกาหลีเหนือก็บอกว่าเขาวางแผนจะพบกับประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์‘ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนั่นเอง จากเรื่องราวทั้งหมด เราจะเห็นว่าเกาหลีเหนือนั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็คงต้องรอดูกันแล้วว่าในอนาคตชาติมหาอำนาจทั้งหมดที่หันมาพูดคุยกันจะเป็นอย่างไร โลกจะหมุนไปทางไหนนั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ ที่มา bbc,…
-
11 ความจริงอันแปลกประหลาดของเกาหลีเหนือ ที่เราอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน
ประเทศเกาหลีเหนือ คือดินแดนที่ถูกปิดกั้น ที่แทบจะไม่มีการเผยแพร่สิ่งต่างๆ ภายในประเทศออกมาให้ชาติอื่นได้รับรู้ ทำให้เราไม่ค่อยได้ทราบว่าภายในนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีความเหมือนหรือแตกต่างกับที่อื่นอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วมันอาจเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายโดยที่เราไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน และสิ่งที่ #เหมียวตะปู นำมาให้เพื่อนๆ ได้รู้กันในวันนี้คือ 11 ความจริงสุดประหลาดที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ มันจะมีความแปลกและต่างจากที่เราเคยคิดเอาไว้มากขนาดไหนนั้น เราลองไปดูกันเลย 1. จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่างสำหรับการเรียน นักเรียนและผู้ปกครองในประเทศนี้จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทุกอย่างสำหรับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุก่อสร้างอาคาร ค่าเก้าอี้ ค่าโต๊ะเรียน และอีกหลายๆ อย่าง อีกทั้งเด็กนักเรียนยังต้องคอยสร้างผลผลิตให้กับรัฐบาลอีกด้วย 2. ที่นี่มี Godzilla เป็นของตัวเอง แน่นอนว่าสื่อนอกไม่สามารถเข้ามาเผยแพร่ภายในเกาหลีเหนือได้ แต่ดูเหมือนว่าท่านผู้นำ คิมจองอึน อาจจะชื่นชอบ Godzilla เอามากๆ จึงมีการสร้างตัวละครนั้นขึ้นมาในแบบของตัวเอง เรียกว่า Pulgasari ผสมผสานระหว่าง Godzilla , ตำนานอันเก่าแก่ และคิงคอง โดยมันได้กลายเป็นตัวละครยอดฮิตของประเทศนี้ไปเลย 3. ที่นี่ไม่มี Choco Pies เหตุผลที่ขนมดังกล่าวถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือสั่งห้ามตั้งแต่ปี 2014 เป็นเพราะว่ามันได้รับความนิยมมากจนเกินไป ซึ่งจุดเริ่มต้นของความนิยมนั้นเกิดจากการที่เขตโรงงานอุตสาหกรรมของประเทศให้ขนมแก่คนงานแทนเงินสำหรับค่าล่วงเวลา จนกลายเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงในที่สุด…
-
ทหาร US กล่าว สงครามเกาหลีเหนือจะทำให้คนตายมากกว่าที่อิรักและอัฟกานิสถานรวมกัน
หัวหน้ากองทหารสหรัฐกล่าวว่าการทำสงครามกับเกาหลีเหนืออาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของนักรบชาวอเมริกันประมาณ 10,000 คนในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานรวมกันถึง 3,000 คน พวกเขาได้รับรู้ข้อมูลอันน่ากังวลนี่หลังจากเข้าร่วมการประชุมลับที่ฮาวาย โดยมีจุดประสงค์หลักที่การคาดคะแนสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีอยู่ โดยการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ ซึ่งได้ทำการศึกษาสถานการณ์หลายๆ รูปแบบ โดยมีเสนาธิการทหารบกนายพล Mark Milley และผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษนายพล Raymond Thomas เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พวกเขายังได้สรุปอีกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตของพลเรือนทั้งสองฝ่ายอาจจะมีจำนวนนับแสน หรือมากกว่านั้น ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีทหารประมาณ 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ขณะเมืองหลวงของเกาหลีใต้หรือกรุงโซลซึ่งอยู่ในระยะยิงปืนใหญ่ของ Kim Jong un มีประชากรอยู่ราวๆ 24 ล้านคน จากข้อมูลทั้งหมด นายพล Milley กล่าวว่า “ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเรื่องที่อาจจะเกินขึ้น มันรุนแรงเกินกว่าประสบการณ์ทั้งชีวิตของทหารคนหนึ่งเสียอีก” ทหารเกาหลีเหนือที่ร่วมเดินสวนสนามที่เมืองเปียงยาง ตามรายงานระบุว่าผู้นำกองทัพยังมองอีกว่าจะต้องใช้หน่วยรบพิเศษจำนวนมากเพียงใดในการจู่โจมเป้าหมายพื้นที่ปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ นอกจากนั้นยังมีสถานการณ์อื่นๆ เช่นโอกาสที่กองทัพสหรัฐฯ อาจต้องทำการต่อสู้ในอุโมงค์เช่นเดียวกับที่เคยทำในสงครามเวียดนาม แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ดูเหมือนจะลดลงในช่วงหลายสัปดาห์หลังการเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ในเกาหลีใต้ แต่เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานั้น Kim Jong un ได้กล่าวหาสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า “จะทำให้เกิดสงครามรุนแรงขึ้น”…
-
สื่อนอกรายงาน เกาหลีเหนือสนับสนุนซีเรีย ขนส่งอุปกรณ์และวัสดุผลิตอาวุธเคมีไปให้
The New York Times ได้รายงานว่า เกาหลีเหนือนั้นได้แอบส่งชิ้นส่วนอาวุธไปให้ประเทศซีเรีย หลังจากมีคนเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของเกาหลีเหนือบริเวณโรงงานผลิตอาวุธของซีเรีย ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่ากองทัพซีเรียได้ใช้แก๊ซคลอรีน ซึ่งทางการก็ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ส่วนทางด้านเกาหลีเหนือนั้น ยังคงอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรจากนานาประเทศอยู่ หลังจากที่พวกเขาไม่ยอมหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ นั่นจึงทำให้การจัดส่งชิ้นส่วนอาวุธดังกล่าว ถือเป็นการขนส่งอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าชิ้นส่วนประกอบไปด้วย กระเบื้องที่ทนทานต่อกรด, วาล์ว, วาล์วป้องกันการกัดกร่อน, และเครื่องวัดอุณหภูมิ จากวัสดุดังกล่าวนั้นทำให้สื่อนอกได้รายว่าว่า ทางเกาหลีเหนือจะร่วมมือกับทางซีเรียเพื่อช่วยกันสร้างโรงงานผลิตอาวุธเคมี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการส่งของทำนองเดียวกันมายังประเทศซีเรียผ่านระบบขนส่งของจีนเมื่อปี 2016 และต้นปี 2017 อย่างไรก็ตาม ทางสหประชาชาติได้ส่งคนเข้าไปตรวจสอบและสอบถามโดยตรงกับทางรัฐบาลซีเรีย รัฐบาลซีเรียปฏิเสธและตอบกลับมาว่า “ทางการเกาหลีเหนือได้ส่งมาแค่ โค้ชนักกีฬาเท่านั้น” ซึ่งคำพูดจากรัฐบาลซีเรียดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ยาก เพราะทางการซีเรียและเกาหลีเหนือนั้นมีความสัมพันธ์อันดีเกี่ยวกับการวิจัยอาวุธมาเป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้ทางการสหรัฐอเมริกาจึงตัดสินใจจะเดินหน้าแผนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือใหม่ ด้วยการตัดรายได้และสายการผลิตทรัพยากรเพื่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และจะพยายามเลี่ยงข้อจำกัดเดิมที่มีอยู่แต่ต้น ที่มา abc, bbc, nytimes
-
ผืนดินและธรรมชาติในสภาวะสงคราม ภาพเขตปลอดทหาร จากชายแดนเกาหลีเหนือและใต้
เขตพื้นที่ปลอดทหารหรือ Demilitarized Zone (DMZ) ขึ้นในปี 1953 หลังจากที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้เจรจาหยุดยิงชั่วคราวสำเร็จ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความกว้าง 4 กิโลเมตร ยาว 250 กิโลเมตร ตลอดแนวชายแดนทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้าหากตัดเรื่องของสงครามออกไป ความสวยงามของธรรมชาติในพื้นที่ DMZ นั้นก็เรียกได้ว่าไม่แพ้ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออื่นๆ เลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีภาพถ่ายผลงานของคุณ Park Jongwoo ที่ถ่ายทอดความสงบและความงดงามของผืนดินกับธรรมชาติในสถานที่ที่เรียกได้ว่ามีความอ่อนไหวที่สุดในคาบสมุทรเกาหลีแห่งนี้ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ภาพของแสงไฟยามคำคื่นใน DMZ เขตปลอดทหารแห่งนี้พาดผ่านพรมแดนธรรมชาติที่มีความยาวมากถึง 4 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนมากถูกปกคลุมได้ด้วยทุ่นระเบิดและถูกเฝ้ามองด้วยพลแม่นปืนของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ยังมีการตรวจตราความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอีกด้วย เรียกได้ว่าเบื้องหลังความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ ยังคงซ่อนอันตรายไว้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว ทุ่นระเบิดและการตรวจตราอย่างเข้มงวด ทำให้ DMZ ได้รับการขนานนามจากอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอย่างนายบิล คลินตัน ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก ผลงานภาพถ่ายจากคุณ Park Jongwoo นี้ถูกเผยแพร่เมื่อปี 2009 เขาพบว่าธรรมชาติของที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์อย่างมาก การถูกตัดขาดจากการรบกวนทำให้ที่นี่กลายเป็นเหมือนสวรรค์ของพวกสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าพื้นที่ในเขต DMZ ยังมีพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าหายากมากถึง 6,000 ชนิดด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนี้มีสัตว์ป่าคุ้มครองมากถึง 106 ชนิดด้วยกัน …
-
รู้หรือไม่ว่า กองเชียร์เกาหลีเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่ประกบทุกย่างก้าวที่มา ตั้งแต่เดินทางยันขึ้นสแตนด์
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 นี้ การเข้าร่วมของประเทศเกาหลีเหนือ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก และไม่ได้โดดเด่นแค่เพียงแต่ตัวของนักกีฬาเพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่กองเชียร์จำนวน 230 คนของประเทศนี้ ก็เรียกได้ว่ามีความสามารถจนกลายเป็นหนึ่งเรื่องที่น่าจดจำของการแข่งขัน สาวๆ กองเชียร์จากประเทศเกาหลีเหนือ สำนักข่าว CNN เรียกกองเชียร์เหล่านั้นว่า “ความแปลกตาที่น่าหลงใหล” ในขณะที่สำนักข่าว Vox มองว่าพวกเธอได้กลายเป็น “ดาวเด่นแห่งโลกโซเชียลมีเดีย” ส่วนวารสาร The Wall Street Journal ก็ใช้คำเรียกพวกเธอว่า “อาวุธแห่งการเบี่ยงเบนความสนใจ” ไม่ว่าสำนักข่าวต่างๆ จะเรียกกองเชียร์เหล่านี้ว่าอะไร แต่คนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่านี่คือแผนของผู้นำคิม จอง อึน ที่ต้องการจะสร้างภาพให้กับประเทศของตัวเอง และมันก็ดูเหมือนกับว่าจะสำเร็จไปบ้างอยู่พอสมควร พวกเธอส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เปียงยาง หรือไม่ก็ชนชั้นสูง แต่พวกเราอาจจะไม่ได้สังเกตว่ารอบๆ ตัวของกองเชียร์เหล่านี้ มีกลุ่มชายปริศนาสวมผ้าปิดปากคอยอยู่ติดกับพวกเธอไม่เคยห่าง ซึ่งนั่นก็คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากเกาหลีใต้ที่ถูกส่งมาดูแลความเรียบร้อยของสาวๆ กองเชียร์ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยเหล่านี้ได้รับการยินยอมจากทางผู้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ของประเทศเกาหลีเหนือ ที่คอยควบคุมและดูแลทุกอย่าง พวกเขาจะแฝงตัวมา ปิดกั้นอิสระของกองเชียร์เหล่านี้ พวกเขาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นคนคอยดูแลความปลอดภัยให้กับกองเชียร์ รวมถึงการปิดกั้นอิสระของพวกเธออย่างเต็มที่…
-
ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร
วิถีชีวิตของคนในประเทศที่ปิดกั้นตัวอย่างเองอย่างเกาหลีเหนือนั้น เป็นสิ่งที่เรามีข้อมูลอยู่น้อยนิดมาก นานๆ ทีเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพหรือข่าวเกี่ยวกับเรื่องในประเทศเกาหลีเหนือสักครั้ง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังปิดกั้นข้อมูลส่วนใหญ่จากภายนอกไม่ให้คนในประเทศรู้อีกด้วย แล้วในประเทศปิดแบบนี้เด็กเล็กจะใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ลองรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กในเกาหลีเหนือมาให้เพื่อนๆ แล้ว ไปดูกันว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตต่างกับเด็กในประเทศอื่นอย่างไรบ้าง 1.ทารกเกิดใหม่ก็มีชั้นวรรณะแล้ว เด็กทารกที่เกิดในประเทศเกาหลีเหนือจะได้รับชั้นวรรณะ หรือที่คนเกาหลีเหนือเรียกว่า ‘songbun‘ โดยวรรณะจะแบ่งเป็น 3 ชนชั้นก็คือ มีความจงรักภักดี เป็นกลาง และเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งชั้นวรรณะที่ทารกได้รับนั้นจะเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่ของตัวเอง และชั้นวรรณะเหล่านี้จะใช้เป็นตัวกำหนดว่าเด็กคนนั้นสามารถเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง และทำงานแบบไหนได้บ้าง เหมือนว่าเกิดมาก็ถูกกำหนดทางเดินชีวิตไว้เลย 2.เด็กทุกคนที่นี่ต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาล เด็กๆ สามารถเลือกเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี แต่ถ้าหากว่าอายุ 5 ปีแล้วทางรัฐบาลจะบังคับให้เด็กทุกคนไปเรียนตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กทุกคนที่ต้องการเรียนหนังสือต้องเคยเข้าเรียนชั้นอนุบาลมาก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีด้วย ไม่สามารถข้ามไปเรียนชั้นประถมได้ทันทีเลย 3.เด็กกำพร้าบางคนก็มีพ่อแม่เหมือนคนทั่วไป สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเกาหลีไม่ได้รับเลี้ยงเฉพาะเด็กที่ไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครเท่านั้น หากว่าพ่อแม่คู่ไหนมีเงินไม่พอจะเลี้ยงลูก ก็สามารถส่งลูกไปให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าเกิดรับเลี้ยงเด็กไปแล้วแต่เงินไม่พอเลี้ยงทีหลัง ก็ส่งตัวกลับมาได้ด้วย 4.กิจกรรมและการเรียนการสอนล้วนแฝงไปด้วยแนวคิดรักชาติ ในโรงเรียนของเกาหลีเหนือ มักจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองติดไว้ตามทางเดินให้เด็กๆ ได้ดูกัน และเวลาที่จัดปาร์ตี้ให้กับเด็กๆ แทนที่จะได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่ชอบ…
-
‘Army of Beauties’ ทีมเชียร์จากเกาหลีเหนือ เตรียมตัวเยือนโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เกาหลีใต้
Army of Beauties หรือคำที่ใช้เรียกกองเชียร์ของชาวเกาหลีเหนือ ที่มีภรรยาของท่านผู้นำอย่าง Ri Sol-Ju เป็นแกนหลักในการตามให้กำลังใจของทัพนักกีฬาชาวโสมแดง เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมาทัพกองเชียร์นี้ได้เดินทางออกจากกรุงเปียงยาง ลงมาทางตอนใต้เพื่อเชียร์ทัพนักกีฬาของพวกเขาในมหกรรมกรีฑาชิงแชมป์เอเชียที่เมืองอินช็อนประเทศเกาหลีใต้ และล่าสุดพวกเขากำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางมาเชียร์ทัพนักกีฬาโสมแดงอีกครั้งในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ที่จังหวัดคังว็อน ประเทศเกาหลีใต้ หลักการคัดเลือกผู้นำเชียร์ของเกาหลีเหนือนั้นจะมีการเลือกที่ค่อนข้างเข้มข้น คุณ An Chan-Il นักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือให้สัมภาษณ์ถึงกองเชียร์ Army of beauties ว่า “โดยส่วนมากแล้วพวกเธอจะมีส่วนสูงประมาณ 163 เซนติเมตร และมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นเด็กๆ ที่ศึกษาในมหาวิทยาลัย Kim Il-Sung University“ กองเชียร์ของเกาหลีเหนือในการแข่งขันฟุตบอลหญิงที่สนาม Gimcheon ประเทศเกาหลีใต้ในปี 2003 กองเชียร์ของเกาหลีเหนือนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมเมื่อปี 2002 ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยประกอบไปด้วยผู้คนมากกว่า 300 คนที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติของเกาหลี สื่อต่างประเทศได้รายงานว่าการปรากฏตัวของกองเชียร์ชาวโสมแดงนี้อาจจะเป็นสัญลักษณ์ที่ดีสำหรับการสานสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Cho Myung-Ae อดีตเชียร์ลีดเดอร์ชาวเกาหนีเหนือก็ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอันน่าประทับใจของทั้งสองชาติที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันกีฬา อย่างเช่นการร่วมเชียร์ทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือโดยกองเชียร์เกาหลีใต้ ในการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งเมื่อปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการทหารของทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้นก็ยังคงเป็นข้อสังเกตว่าในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะมีขึ้นในวันที่ 9…
-
ย้อนอดีตเกาหลีเหนือ “ช็อกโกพาย” สร้างดราม่า จนเกาหลีใต้ต้องผูกบอลลูนส่งไปให้…
ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ ที่ใครๆ ต่างก็รู้ว่าประชาชนในประเทศเกาหลีเหนือ มีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างลำบากและถูกจำกัดสิทธิต่างๆ มากมาย แต่คงไม่มีใครคาดถึงว่าพวกเขาจะถูกจำกัดสิทธิแม้แต่ในเรื่องของขนมกินเล่น??? ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2014 นักเคลื่อนไหวชาวเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันปล่อยบอลลูนที่มีขนมช็อกโกพายอยู่ในนั้นขึ้นสู่ฟากฟ้า เพื่อต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ได้สั่งแบนขนมชนิดนี้เพราะว่าได้รับความนิยมมากจนเกินไป โดยในกิจกรรมครั้งนั้นมีนักเคลื่อนไหวกว่า 200 คนได้ร่วมกันปล่อยบอลลูน 50 ลูกที่บรรจุขนมช็อกโกพาย 10,000 ชิ้น ขึ้นสู่ฟากฟ้าที่เมืองพาจู ซึ่งเป็นเมืองชายแดนระหว่างประเทศเกาหลี จากการรายงานจากสำนักข่าวเอเอฟพี ในเริ่มแรกนั้น มีความเชื่อกันว่าขนมช็อกโกแลตพายที่แสนโด่งดังนี้ได้เข้าสู่ประเทศเกาหลีเหนือผ่านทางเขตอุตสาหกรรมแคซ็อง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวเกาหลีเหนือและชาวเกาหลีใต้ได้ทำงานร่วมกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานขนมนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว จนรัฐบาลของเกาหลีต้องสั่งห้ามนำขนมชนิดนี้เข้ามาภายในประเทศ “มันเป็นเรื่องน่าอายจริงๆ ที่แบนแม้กระทั่งขนมช็อกโกพาย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็จะยังคงส่งขนมชนิดนี้ผ่านทางบอลลูนต่อไป เพราะว่ามันเป็นขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวเกาหลีเหนือผู้หิวโหย” Choo Sun Hee หนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่ออกไปร่วมปล่อยบอลลูน กล่าว ความนิยมของเจ้าขนมชนิดนี้ เริ่มจากการที่คนงานชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรม ได้รับค่าทำงานล่วงเวลาเป็น ขนมชนิดนี้แทนที่จะเป็นเงินสด คนงานบางคนจึงนำขนมที่พวกเขาได้ไว้สำหรับให้คนในครอบครัวกิน ในขณะที่บางคนก็นำไปขายจนทำให้ขนมนี้ได้กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว ขนมช็อกโกพายในประเทศเกาหลีเหนือ ได้กลายเป็นอาหารสุดหรูและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก หลังจากที่โรงงานในเขตอุตสาหกรรมแคซ็องได้ปิดตัวลงเมื่อปี 2013 ตั้งแต่นั้นมาทำให้ขนมชนิดนี้เริ่มหาทานได้ยากขึ้น และมีราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 23 ดอลลาร์(ประมาณ 740…
-
เปิดภาพลับในประเทศเกาหลีเหนือ จากเลนส์ซูม 300 มม. ของช่างภาพที่มีโอกาสไปเที่ยว…
ช่างภาพ Eric Lafforgue คือหนึ่งในช่างภาพที่ออกเดินทางไปทั่วโลก เก็บเรื่องราวต่างๆ มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่ง ประเทศเกาหลีเหนือ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชายคนนี้ได้เข้าไปเก็บภาพถึง 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2008 แต่อย่างที่พวกเราหลายๆ คนรู้กันว่า การที่นักท่องเที่ยวจากภายนอกจะเข้ามาถ่ายภาพในประเทศไม่สามารถทำได้อย่างอิสระเหมือนกับที่ือื่นๆ ถึงอย่างนั้น Eric ก็เลือกที่จะแอบถ่ายทุกซอกทุกมุมตามแบบฉบับของตัวเองด้วยกล้องเลนซูม 300 มิลลิเมตร Eric ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ผลงานจากหลากหลายมุมมอง หลังจากนั้นเขาก็ถูกทหารจับได้ว่าภาพเหล่านั้นถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล จนทำให้ในปี 2012 เขาถูกสั่งห้ามเข้าเกาหลีเหนืออีกต่อไป แม้จะไม่ได้เข้าไปในประเทศแห่งนี้แล้ว แต่ภาพความทรงจำอันหลากหลายยังคงมีอยู่ และภาพเหล่านี้ก็เป็นภาพที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะทางเกาหลีเหนือพยายามปกปิดความจริงเหล่านี้เอาไว้มาโดยตลอด สิ่งที่ถูกเก็บงำเอาไว้ภายใต้การปกครองของทหารในประเทศนั้นจะมีอะไรกันบ้าง เราลองไปชมตัวอย่างของภาพชุดนี้กันดูได้เลย การถ่ายภาพของเด็กที่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่นี่ห้ามถ่ายให้เห็นว่าเด็กเหล่านั้นไม่มีไฟฟ้าใช้กัน คนเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งต้องกินหญ้าในสวนสาธารณะเพื่อประทังชีวิต หญิงสาวในชุดพื้นบ้านที่ยืนอยู่ท่ามกลางทหารนับพัน ถนนที่โล่งพอจะให้เด็กไปวิ่งเล่นกันได้อย่างไม่ต้องกังวลใดๆ ในประเทศนี้ นักท่องเที่ยวไม่มีสิทธิ์ถ่ายเด็กที่ดูขาดสารอาหาร แม้แต่ทหารในยามพักผ่อน เราก็ไม่สาามารถถ่ายเก็บไว้ได้ การต่อคิวเป็นเรื่องใหญ่ประจำชาติของพวกเขาเลยจริงๆ ทหารอาจมีสิทธิ์นอนหลับ แต่พวกเราไม่มีสิทธิ์ถ่ายเก็บเอาไว้…
-
อุบ๊ะ!! การทดสอบจรวดของเกาหลีเหนือผิดพลาด แล้วดันพุ่งเข้าใส่เมืองของตัวเองซะอย่างงั้น
ในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในโลกนี้ต่างก็ต้องการพัฒนาแสนยานุภาพทางการทหารเพื่อจะได้สามารถปกป้องตัวเอง เมื่อเกิดภัยสงครามขึ้น ซึ่งหนึ่งในอาวุธที่หลายๆ นิยมสร้างขึ้นมาก็คือ ‘จรวดขีปนาวุธ’ นั่นเอง ซึ่งจรวดขีปนาวุธดังกล่าวนี้สามารถโจมตีพื้นที่ที่อยู่ในระยะไกลได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ดาวเทียมในการล็อกเป้าหมาย ซึ่งจรวดขีปนาวุธบางลูก มีระยะยิงนับพันกิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีภาพถ่ายจากดาวเทียมที่สามารถยืนยันได้ว่า มีการทดลองจรวดนิวเคลียร์ของประเทศเกาหลีเหนือเกิดขึ้น ทว่าการทดสอบนั้นเกิดผิดพลาดและจรวดที่พวกเขาได้ปล่อยนั้นก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่เมืองของพวกเขาเองซะอย่างนั้น มีการทดสอบจรวดอยู่เสมอ ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ว่านี้ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายของการทดสอบจรวดที่ตกไปยังเมืองท็อกช็อนที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200,000 คน จากการรายงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สำหรับจรวดที่เกิดความผิดพลาดลูกนี้มีชื่อว่า Hwasong KN-17 ซึ่งเป็นจรวดพิสัยปานกลาง โดยมันได้ถูกปล่อยขึ้นฟ้าจากสนามบินพุกชัง ทางตอนใต้ของจังหวัดพย็องอันเหนือที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือเพียง 64 กิโลเมตรเท่านั้น และเวลาที่มันถูกปล่อยก็คือวันที่ 28 เมษายนเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง จุดที่ได้รับการเสียหาย แต่ก็ด้วยความโชคดีที่จุดที่จรวดนี้ตกลงไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหรือโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทำให้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ทว่าก็ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างเลยทีเดียว ภาพถ่ายก่อนหน้าที่จรวดจะพุ่งลงใส่ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาวุธของเกาหลีเหนือได้อธิบายไว้ว่า จรวดลำที่ผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นจากความขัดข้องของเครื่องยนตร์ตั้งแต่นาทีแรกที่มีการปล่อยตัว ทำให้มันเดินทางไปได้เพียงแค่ 40 กิโลเมตรเท่านั้นก่อนที่จะพุ่งลงที่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากจรวดไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญคาดเอาไว้ว่ามันน่าจะมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ทางตอนเหนือของทะเลญี่ปุ่น คึม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการทดสอบขีปนาวุธเกิดขึ้นในประเทศเกาหลีเหนือ โดยในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา…
-
ผู้บัญชาการนาวิกโยธินอเมริกา บอกให้ประชาชนเตรียมตัวไว้ เพราะอาจมีสงครามใหญ่เร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้ยินข่าวการทดลองอาวุธหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประเทศมหาอำนาจมาบ้างแล้ว และบางคนกังวลว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจเกิดสงครามขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้นำทหารในสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่า ความคิดนั้นอาจกลายเป็นความจริงขึ้นมาก็ได้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 นายพล Robert Neller ผู้บัญชาการนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ในการพบปะกับเหล่าทหารที่ฐานทัพ Norwegian Home Guard ประเทศนอร์เวย์ ว่า “สงครามกำลังจะมา และนี่จะเป็นสงครามครั้งใหญ่” เขาพูดกับสมาชิกทหารแห่งสหรัฐกว่า 300 นายอีกว่า “ผมอาจจะผิด แต่สงครามกำลังจะมา ตอนนี้เราก็กำลังอยู่กับการสู้รบของข้อมูลหรือการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่มาตลอด” นายพล Robert พูดถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และเขาเชื่อว่าสงครามในครั้งนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศทางฝั่งตะวันออกกลางอย่างอิรัก หรืออัฟกานิสถาน แต่เป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับทางฝั่งแปซิฟิกและรัสเซียมากกว่า ความคิดเห็นและการกล่าวเตือนของผู้บัญชาการคนนี้ได้ทำให้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและรัสเซีย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่ารัสเซียทำการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกาครั้งล่าสุด ผู้นำรัสเซีย Vladimir Putin Donald Trump ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐ เคยบอกอยู่บ่อยครั้งว่า เขาต้องการจะตีสนิทกับผู้นำของรัสเซียอย่าง Vladimir Putin ถึงแม้ว่านโยบายของสหรัฐที่ใช้ในประเทศซีเรีย และยูเครน อาจไม่เป็นที่พึงพอใจให้กับรัสเซียมากซักเท่าไหร่ก็ตาม ประเทศรัสเซียเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของข้อมูลจำนวนมากที่มีครอบครองเอาไว้ จนเรียกได้ว่าในยุคปัจจุบันที่ทุกคนเสพโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้คือข้อได้เปรียบที่ทำให้เกิดอิทธิพลกับคนทั่วไปได้…
-
ข่าวลือจากวงใน… คนชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ จะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายตัวเอง
ความเป็นเกาหลีเหนือนี่มันเกาหลีเหนือจริงๆ ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้างชาวช่อง ทั้งล้ำไปบ้าง แปลกไปบ้าง จนเรามักจะได้ยินเรื่องราวอันน่าทึ่งของพวกเขาบ่อยๆ ล่าสุดสื่อท้องถิ่นเผยว่าท่านผู้นำ คิม จอง อึน และคนชนชั้นสูงของเกาหลีเหนือกำลังจะได้รับการฉีดทองคำเข้าสู่ร่างกายโดยนักวิทยาศาสตร์แนวหน้าของประเทศ สำหรับการดูแลสุขภาพด้วยทองคำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยาตัวใหม่ ที่ทาง Pyongyang วางแผนจะส่งออกในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนี้มีเพียงคิม จอง อึน และชนชั้นสูงของประเทศเท่านั้นที่เข้าถึงยาตัวนี้ ข้อมูลจาก MIMS เผยว่าปัจจุบันทองคำถูกนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งและโรคข้อรูมาตอยด์ ทั้งยังใช้ในการตรวจหาเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์ และช่วยให้การทดสอบวินิจฉัยโรคสะดวกรวดเร็วมากขึ้น การฉีด Nano-gold polysaccharide injection ของเกาหลีเหนือ พัฒนาขึ้นโดย Korea Myohyang Trading Corporation ซึ่งช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง โรคอ้วน ภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา และภาวะอ่ื่นๆ นักพัฒนายาตัวนี้บอกว่า “มันมีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคตับอักเสบ ตับแข็ง โรคเบาหวาน โรคนอนไม่หลับ โรคมะเร็ง โรคข้อรูมาตอยด์ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ ริ้วรอย ภาวะสมองเสื่อม รักษาอาการติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์ ป้องกันสารเคมีและภาวะแทรกซ้อนในร่างกาย” “นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาอาการอ่อนเพลียได้ ดังนั้นเราจึงขอให้แนะนำให้ทุกคนใช้ยาตัวนี้ในการบรรเทาอาการเมื่อยล้าของร่างกาย” ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์จาก Korea Oriental Medicine…
-
ไปดูกันว่าสนามเด็กเล่นที่ชื่อ ‘เปียงยาง’ ของท่านผู้นำ ‘คิมจองอึน’ มีอะไรประดับประดาบ้าง!!
เกาหลีเหนือประเทศที่ถูกชาติทั่วโลกต่างพากันประนามถึงความโหดเหี้ยมของผู้นำ แนวทางที่ล้าหลังต่างจากชาติอื่นๆ ภาพลักษณ์ที่ถูกมองจึงไม่ค่อยจะมีอะไรดีเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเรื่องการมีอาวุธในครอบครองก็ทำให้มุมมองที่คนทั้งโลกมองชาติดังกล่าวลดลงไปอีก และด้วยความที่เกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด และภาพลักษณ์ที่ถูกเผยแพร่ออกมาส่วนใหญ่ก็หมุนรอบตัวท่านผู้นำ จึงทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้ทรูของชาวเมืองเท่าไห่รนัก จนสุดท้ายเราต่างคิดว่ากรุงเปียงยางช่างล้าหลังสุดๆ แต่ความจริงคือเมืองเปียงยางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองหลวงอื่นๆ ในโลกเลยนะ จะมีแต่รอบนอกและเมืองอื่นๆ ของประเทศเท่านั้นที่ต่างออกไป ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า เปียงยางมีการคัดสรรประชากรให้เข้ามาอยู่ คนที่รวยหรือเก่งก็จะได้อยู่ในเมือง ส่วนคนทั่วไปหรือคนจนก็จะต้องอยู่ในส่วนรอบนอก และถ้าใครคิดไม่ออกว่าความเจริญในเปียงยางเป็นยังไง งั้นเราลองมาดูสนามเด็กเล่นของท่านผู้นำตัวอ้วนน่ารักกัน ว่าในทุ่งดอกไม้ที่เรียกกันว่า เปียงยาง จะมีอะไรให้เราได้ดูกันบ้าง!! ก่อนจะเข้าสู่เปียงยาง ทุกคนก็จะเจอกับประตูสุดยิ่งใหญ่ เห็นแบบนี้ เปียงยางก็มีตึกสูงเยอะแยะเลยนะ แถวรูปปั้นของสองพ่อลูกก็เท่ไม่เหมือนใคร ต้องยอมรับเลยว่างานสิ่งก่อสร้างอย่างรูปปั้นของที่นี้เขาสุดยอดจริงๆ การผสมผสานระหว่างโลกสมัยใหม่และประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีเหนือ ใบหน้าของอดีตผู้นำทั้งสอง ซึ่งสามารถเห็นได้ทั่วไปในเกาหลีเหนือ . สิ่งปลูกสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเชิดชูชนชั้นแรงงาน แม้เมืองจะหลับใหล แต่ภาพของท่านผู้นำไม่เคยหลับ ตึกอันล้ำสมัยที่เห็นนั้นเป็นตึกที่ชื่อว่า Ryugyong Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตอนนี้ถูกทิ้งร้างไว้ ทุกสิ่งปลูกสร้างในเปียงยางล้วนแฝงไปด้วยความเป็นเกาหลีเหนือที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ อาคารวิทยาศาสตร์ที่สร้างเป็นรูปอะตอมก็เจ๋งไม่เบา ท่านผู้นำเขาหวังว่าอาคารแห่งนี้จะช่วยยกระดับความทันสมัยในเรื่องวิทยาศาสตร์ให้แก่ชาติของเขา แม้จะมีตึกสูงมากมาย…
-
เรือประมงพร้อมกับชาวเกาหลีเหนือ 8 ราย ลอยลำถูกซัดขึ้นชายฝั่งญี่ปุ่น อ้างว่าเรือขัดข้อง!?
เมื่อคืนวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศถึงเหตุการณ์ที่พบเรือประมงลำหนึ่งลอยเข้ามาในน่านน้ำของญี่ปุ่น โดยที่ชาวประมงทั้ง 8 คนบนเรือลำนั้นเป็นชาวเกาหลีเหนือทั้งหมด เรือลำดังกล่าวได้มาจอดที่ท่าเรือในเมือง Yurihonjo บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น สภาพเรือนั้นเริ่มจะเก่าและผุพัง และเป็นเพียงแค่เรือตกหมึกธรรมดาที่มีเพียงแค่หลอดไฟ ไม่มีอาวุธร้ายแรงใดๆ มีแค่เพียงอุปกรณ์จับปลาและชาวประมง 8 คนเท่านั้น โดยชาวประมงทั้ง 8 คนมีร่างกายที่แข็งแรงทางตำรวจจึงให้ล่ามเข้ามาช่วยแปลภาษาโดยได้ใจความว่า พวกเขาเป็นชาวเกาหลีเหนือและได้ออกเดินเรือหาปลา แต่เรือได้เกิดปัญหาขัดข้อง แล้วลอยตามน้ำมาเรื่อยๆ จนมาเทียบท่าฝั่งน่านน้ำของญี่ปุ่น . . และตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ชาวประมงทั้ง 8 รายนี้ยังจะต้องการเดินทางกลับเกาหลีเหนือหรือไม่ ซึ่งจากเหตุการณ์ในช่วงนี้ก็มีข่าวทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์หนีตายเข้าเกาหลีใต้ (จากข่าววินาทีระทึก เมื่อทหารเกาหลีเหนือ ขับรถฝ่าดงกระสุนหนีเข้าเกาหลีใต้ ราวกับหนังแอ็คชั่น!!) ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ในตอนนี้อาจจะดูไม่ค่อยปลอดภัยมากนัก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามเขตน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกด้วย คลิปวิดีโอการรายงานข่าวของสำนักข่าว ANNnews เหตุการณ์เรือประมงของชาวเกาหลีเหนือที่ข้ามมาในเขตน่านน้ำของญี่ปุ่นก็เคยเกิดขึ้นในปี 2554 ซึ่งเป็นเหตุที่ชาวเกาหลีเหนือ 9 คนพยายามจะแล่นเรือไปยังเกาหลีใต้แต่ได้หลงเข้ามาในน่านน้ำญี่ปุ่น ที่มา hbbc
-
อดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือ เปิดเผยชีวิตแสนลำบาก เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น!!
ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ นั่นจึงหมายความว่ารัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือ ดังนั้นการจะปกปิดข่าวอะไรบางอย่างจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และยิ่งถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับกองทัพแล้วล่ะก็แน่นอนว่า นั่นคือความลับสุดยอดของพวกเขาเลย แต่ว่าในวันนี้ ได้มีอดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือคนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยความจริงที่ว่า ทหารหญิงที่อยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนจะเลวร้ายเสมือนกับการตกนรกบนดินเลยก็ว่าได้ ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพตั้งแต่ยังเป็นสาว Lee So Yeon อาสาสมัครเข้าไปรับใช้กองทัพตั้งแต่อายุ 17 ปีเพื่อแสดงความรักต่อชาติ และตามรอยสมาชิกของครอบครัวของเธอที่ได้รับใช้ชาติอยู่ก่อนแล้ว สำหรับประโยชน์ที่ทางรัฐบาลใช้จูงใจให้ครอบครัวต่างๆ พากันมาเป็นทหารก็คือ การรับรองว่าจะมีอาหารให้กินอย่างแน่นอน เนื่องจากในยุค 1990-2000 ประเทศเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างรุนแรง และนั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงหลายพันคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพเหมือนกับ So Yeon ฝึกให้มีความรักชาติ และเคารพในตัวท่านผู้นำ ระยะแรกๆ ที่เข้ากองทัพนั้น เธอก็บอกว่ารู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตการเป็นทหาร แต่แล้วเมื่อเวลาเวลาผ่านไปไม่นานด้วยการที่ประเทศเริ่มขาดแคลนอาหาร และการฝึกที่หนักเริ่มส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเธอและเพื่อนร่วมกองทัพของเธอ “หลังจากเข้าร่วมกองทัพได้ 6 เดือนพวกเราก็ไม่สามารถมีประจำเดือนได้อีกต่อไป เพราะว่าขาดสารอาหารและอยู่ในสภาพที่แวดล้อมที่ตึงเครียดตลอดเวลา แต่ว่าก็มีทหารหญิงหลายคนที่รู้สึกดีใจที่ประจำเดือนหายไป เพราะพวกเธอคิดว่าหากยังมีอยู่คงจะลำบากกว่านี้เยอะ” So Yeon บอกถึงความลำบากในขณะนั้น ความเป็นอยู่ในกองทัพเต็มไปด้วยความลำบาก เธอยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ลำบากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเธอไม่สามารถอาบน้ำหรือว่าทำความสะอาดใดๆ ได้เลยเพราะว่าท่อน้ำที่พวกเธอใช้นั้นต่อลงมาจากภูเขาซึ่งบางครั้งก็มีงูหรือว่ากบติดออกมาด้วย ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะมีการฝึกที่ไม่ลำบากเท่าผู้ชาย แต่พวกเธอก็หวังที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้ชายเพราะว่าพวกเขาได้รับอาหารอย่างเต็มที่และมีสุขอนามัยที่ดีกว่าพวกเธอแบบเทียบกันไม่ติด ระหว่างที่ So…
-
ช่างภาพตามเก็บบรรยากาศไฟลท์บินเกาหลีเหนือ ที่มีเส้นทางการบินเพียงสามเส้นเท่านั้น!!
อย่างที่เรารู้กันว่าเกาหลีเหนือนั้นเป็นประเทศปิด และความเจริญต่างๆ ก็ล้วนไปกองรวมกันอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศ การเดินทางแต่ละทีก็ช่างยากลำบากแม้แต่รถยนต์ส่วนตัวยังไม่สามารถมีกันได้ง่ายๆ เลย ฉะนั้นเครื่องบินจึงเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆ Arthur Mebius ช่างภาพชาวดัตช์ที่รู้ถึงความพิเศษของสายการบินในเกาหลีเหนือที่มันเข้าถึงยากมากๆ สำหรับประชาชนทั่วไป และ Air Koryo เป็นสายการบินเดียวที่ให้บริการอีก เขาจึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศดังกล่าว เพื่อที่จะเก็บภาพสายการบินสุดพิเศษที่มีเส้นทางการบินเพียงสามเส้นทางเท่านั้น!! Air Koryo นั้นเป็นสายการบินที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของเกาเหลีเหนือด้วย ซึ่งสายการบินนี้ได้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ 40 ปีก่อน โดยตัวเครื่องบินก็ยังใช้เครื่องบินตั้งแต่ยุคโซเวียต ภายในตกแต่งตามสไตล์เกาหลีเหนือที่เน้นความภูมิใจและคลาสสิกสุดๆ ไว้ Arthur เล่าว่าวินาทีที่ขึ้นมาบนเครื่องบินเขารู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจของลูกเรือเลย แม้ว่าตัวเครื่องบินจะเก่าแก่จนสภาพดูยังไงก็ไม่พร้อมบินแค่ไหน ลูกเรือทุกคนก็ยังคงเตรียมตัวพร้อมเสมอ ดั่งภาพที่เราเห็น เราจะสังเกตได้ว่าผู้โดยสารในเที่ยวบินของ Arthur มีน้อยมากๆ ซึ่งมันทำให้เขาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนบนนั้นและเก็บภาพบางส่วนมาให้เราชมกัน สุดท้ายหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปลายทางของเที่ยวบินเพียงสองแห่งนั้นไปจบลงที่ไหนบ้าง คำตอบนั่นก็คือเมือง วลาดีวอสตอคในประเทศรัสเซีย เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน และกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนนั่นเอง ห้องพักบนเครื่องบินที่ดูตกแต่งเรียบง่าย ราวกับยุคสมัยก่อน ด้วยความที่เครื่องบินโดยสารมีน้อยมากๆ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเหงาอยู่หน่อยๆ ภายในห้องกัปตันจะทำให้เราเห็นว่า ตัวคนขับพร้อมขนาดไหน และแผงคอนโซลรุ่นเก่าเพียงใด . . …
-
เฮ๊ยจริงดิ่!! ‘Sengun-Joshi’ เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น ที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ
ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา สถาณการณ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือนนั้นจะมีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลับไม่ทำให้เสียงดนตรีนั้นหยุดบรรเลงได้เลย Sengun-Joshi หรือกลุ่ม Military-First Girls เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นที่หลงใหลในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีเหนือ และพวกเธอยังเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของ Moranbong band เกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีเหนืออีกด้วย หนึ่งในสมาชิกของวงกล่าวว่า พวกเธอนั้นก็เหมือนคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมต่างชาติทั่วๆ ไป และไม่อยากให้ใครตัดสินพวกเธอเพียงเพราะว่ามีความหลงใหลในวัฒนธรรมของชาติที่เป็นคอมมิวนิสต์ Chunhun สาวน้อยผู้ก่อตั้งเกิร์ลกรุ๊ปนี้กล่าวว่าเธอเริ่มมีความสนใจในประเทศเกาหลีเหนือในตอนที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยศิลปะ ซึ่งสิ่งที่เธอสนใจนั่นก็คือความสวยงามและคุณค่าทางศิลปะของป้ายโฆษณาชวนเชื่อในเกาหลีเหนือนั่นเอง “มันมีความลึกซึ้ง และการแสดงออกที่ชัดเจน พวกเขาใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือใบไม้ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอย่างมาก” Chunhun ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น นอกจากจะมีความสนใจในงานศิลปะจากโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือแล้ว Chunhun ยังได้หาความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะของเกาหลีเหนือจากสื่ออื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเว็บไซต์ Rodong Sinmun เว็บข่าวอย่างเป็นทางการของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ รวมถึงการแต่งตัวให้คล้ายกับชาวเกาหลีเหนืออีกด้วย Chunhan เริ่มต้นการรวมกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปของเธอบนโลกออนไลน์ เพื่อชักชวนกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันให้มารวมตัวกัน นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือ นอกจากนี้พวกเธอยังเคยจัดงานเต้นโคฟเวอร์วง Moranbong band ในกรุงโตเกียวอีกด้วย และด้วยประวัติศาสตร์ความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ Chunhun และกลุ่ม Sengun-Joshi นั้นต้องเผชิญกับคำวิพากย์วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งบางครั้งพวกเขาเองถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อชาติเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ได้ออกมาอธิบายว่า อันที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเธอสนใจนั้นมีเพียงแค่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่พวกเธอยังคงเกลียดชังการปกครองที่เต็มไปด้วยความกดขี่และสิ่งที่พวกเขาทำเหมือนกับชาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป “การสนใจในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือคือความสนใจใน เพลง แฟชั่น และงานศิลปะของพวกเขา ฉันไม่อยากให้ชาวญี่ปุ่นตัดสินพวกเขาเพียงเพราะสิ่งที่รัฐบาลของพวกเขาทำ พวกเราก็เหมือนกับกลุ่มเด็กผู้หญิงที่ชอบเพลงเกาหลี หรือชอบฟัง…
-
“โรงเรียนเกาหลีเหนือ” ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอยู่ด้วย
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทดสอบการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ยิงข้ามน่านน้ำไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะนั่นอาจเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดสงครามกันได้ตลอดเวลา แต่ถึง 2 ประเทศนี้จะมีความขัดแย้งขนาดไหนก็ตาม แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าภายในประเทศญี่ปุ่นนั้นได้มีการก่อตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กเกาหลีเหนือเพื่อบ่มเพาะให้เด็กๆ มีแนวคิดแบบเกาหลีเหนือภายในประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีการเรียนการสอนในรูปแบบของชาติเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งการเรียนประวัติศาสตร์เกาหลีเหนือ ภาษาเกาหลีรวมถึงการนำรูปภาพของผู้นำเกาหลีเหนือมาติดไว้ในทุกๆ ห้องเรียน นอกจากนั้นโรงเรียนแห่งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวเกาหลีเหนือที่มาคอยปกป้องเด็กๆ จากผู้ประท้วงชาวญี่ปุ่นหลังจากรู้ว่ามีโรงเรียนนี้อยู่ด้วย เมื่อไม่กี่วันมานี้เว็บไซต์ข่าวชื่อดังอย่าง Vox ได้นำเสนอวิดีโอหนึ่งที่มีชื่อว่า “Inside North Korea bubble in Japan” ซึ่งเป็นวีดีโอที่ทำให้เราได้เห็นภาพโรงเรียนแห่งนี้ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีประวัติที่ยาวนานและซับซ้อนอย่างมาก โดยเริ่มจากบรรพบุรุษของพวกเขาถูกบังคับให้ย้ายมาอยู่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากจักรวรรดิญี่ปุ่นได้พยายามผนวกประเทศเกาหลีให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นในปี 1910 หลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่นได้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีจึงสามารถแยกตัวออกมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ก็มีคนเกาหลีจำนวนมากที่ยังอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและได้ตัดสินใจที่จะอยู่อย่างถาวรเลย อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้กล่าวขอบคุณเกาหลีเหนือถึงสิ่งที่มอบให้ ทว่าเรื่องราวกลับซับซ้อนเข้าไปอีกเมื่อประเทศเกาหลีได้เกิดการแบ่งเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้และนั่นเป็นเหตุให้ประเทศเกาหลีเหนือหยุดช่วยเหลือชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นโดยสร้างโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นสิ่งสุดท้าย นอกเหนือจากการปล่อยมิสไซล์และอาวุธนิวเคลียร์ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโลกแล้ว ในปี 1970 เกาหลีเหนือยังได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นหลายคนจากชายหาดแล้วส่งตัวไปที่ประเทศเกาหลีเหนือซึ่งนั่นได้เป็นเหตุการณ์ระดับชาติและได้เริ่มกลายเป็นปรปักษ์ต่อประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เงินสมทบช่วยเหลือสำหรับโรงเรียนชาวเกาหลีเหนือแห่งนี้ลดลงทุกปี โดยโรงเรียนแห่งนี้ในปัจจุบันแทบจะไม่มีเงินไว้จ้างคุณครูอยู่แล้ว การแยกให้เห็นถึงสิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้ต้องเผชิญซึ่งก็มีทั้งคนญี่ปุ่นที่มีความชาตินิยม ความแบ่งแยกและการขอความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีเหนือ เหมือนกับพวกเขาสร้างโรงเรียนของ โอซาม่า บินลาเดนในอเมริกา ชีวิตของเด็กๆ ที่น่าสงสารโดยพวกเขาต้องเปลี่ยนชุดตอนออกไปนอกโรงเรียนเพราะถูกจ้องมองตลอดเวลา …
-
ท่านผู้นำคิมพาภรรยาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ พร้อมทัวร์โรงงานเครื่องสำอางในกรุงเปียงยาง
แม้ว่าส่วนใหญ่เวลาเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือนั้นมักจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสบายใจชาวโลกมากสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ หรือการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ท่านผู้นำคิมกลับพักเรื่องราวหนักๆ เอาไว้ก่อน หลังจากที่เขาได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอาง พร้อมกับสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีเหนือ นาย Kim Jong-un ได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอางในกรุงเปียงยางพร้อมกับภริยาของเขานาง Ri Sol-ju และมีข่าวว่าเธอนั้นได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 3 ของท่านผู้นำด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ปรกฏตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในงานฉลองการประสบความสำเร็จในทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือ ICBM และนอกจากนี้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงให้กับเหล่าช่างเทคนิคที่ทำการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์อีกด้วย ทั้งสองแต่งงานกันในปี 2009 และจากการรายงานของสื่อเกาหลีใต้กล่าวว่านาง Ri นั้นเติบโตมาจากครอบครัวธรรมดาโดยพ่อของเธอเป็นนักวิชาการส่วนแม่ของเธอนั้นมีอาชีพเป็นแพทย์ นอกจากนี้นาง Ri ยังเคยไปเยือนประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2005 ในฐานะผู้นำเชียร์ของทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย ทางสำนักข่าวนักข่าวแห่งชาติของเกาหลีหรือ KCNA ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่ามีผู้ติดตามอื่นๆ นอกเหนือจากสตีหมายเลขหนึ่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนาย An Jong-su รองประธานกรรมการพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ และผู้นำคนอื่นๆ ในพรรค รวมถึงนาง Kim Yo-jong น้องสาวของท่าผู้นำด้วยเช่นกัน คณะกรรมการทั้งหมดได้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงโรงงาน จากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น นาย Kim ได้กล่าวว่า “ที่นี่มีเครื่องสำอางที่มากมายและเต็มไปด้วยคุณภาพ แต่ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่สวยงามน่าใช้อีกด้วย มันเป็นเหมือนความฝันของผู้หญิงทุกคนที่ต้องการความสวยความงาม” ผู้นำคิมและน้องสาวของเขา กับผู้นำในพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ…
-
พาชมพรมแดนเขตปลอดทหารของสองเกาหลี (DMZ) ระหว่างแดนเหนือและแดนใต้
ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในช่วงปี 1950 จนนำมาสู่การแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย และหลังจากการทำสนธิสัญญาหยุดยิงเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมปี 1953 ก็ได้มีการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน พร้อมกับเขตปลอดทหารหรือ Demilitarized Zone (DMZ) เขตปลอดทหารนั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว และหนึ่งใน Demilitarized Zone ที่น่าสนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อนั่นก็คือ Joint Security Area (JSA) ในหมู่บ้านปันมุนจอมนั่นเอง Eric Lafforgue ช่างภาพที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้ถึงสามครั้ง ได้บันทึกภาพความสวยงามพร้อมกับเล่าเรื่องราวต่างๆ ของ Joint Security Area (JSA) ทั้งจากฝั่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และนี่คือผลงานการถ่ายภาพของเขาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ภาพประตูทางเข้าของเขตปลอดทหารนี้จากประเทศเกาหลีเหนือ ที่ตั้งอยู่ในเมืองแคซ็อง ที่เชื่อมต่อกับทางหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ประตูซีเมนต์ขนาดใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้รุกราน ส่วนนี่คือทางหลวงในประเทศเกาหลีใต้ สำหรับการเดินทางเข้าไปใน JSA ของทั้งสองประเทศนั้นจะมีทหารคอยนั่งไปกับนักท่องเที่ยวด้วยตลอด แต่สำหรับในเกาหลีเหนือคุณสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตจากทหารเท่านั้น และนี่คือกฎข้อห้ามต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับก่อนออกเดินทางไปยัง JSA นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงเครื่องแต่งกายที่ห้ามสวมใส่เข้ามาในพื้นที่นี้อย่างเสื้อยืดคอกลมไม่มีปก กระโปงสั้น และเสื้อผ้าสีฉูดฉาดอีกด้วย ภาพของทหารฝ่ายเกาหลีเหนือ . . ก่อนที่จะพาไปเยี่ยมชมในพื้นที่ DMZ จะมีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเขตปลอดทหารแห่งนี้…
-
สื่อนอกเผย 15 อันดับ “คนรุ่นใหม่” ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก เอางี้จริงๆ นะ!!
หลังจากที่ Sebastian Kurz ได้ชนะการเลือกตั้งและกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศออสเตรียในเร็วๆ นี้ เขาเปรียบเหมือนหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่นอกจากว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรียแล้ว ในโลกเรานั้นยังมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทรงอิทธิพลในโลกอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้เราก็ได้นำ 15 อันดับคนรุ่นใหม่ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ Business Insider มาฝากกัน แต่ละคนจะเป็นใครบ้างนั้นไปชมกันเลย.. 15. Enrico Carattoni หนุ่มวัย 32 ปี หนึ่งในผู้นำสูงสุดจากประเทศซานมารีโน 14. Oyo Nyimba Kabamba Iguru Rukidi IV กษัตริย์วัย 25 ปีของอณาจักร Toro หนึ่งในราชอาณาจักในประเทศยูกันดา พระองค์ขึ้นครองราชครั้งแรกตั้งตอนอายุ 3 ขวบหลังจากที่พระบิดาสวรรคตในปี 1995 13. Malala Yousafzai หญิงสาววัย 20 ปี เจ้าของรางวัลโนเบลทางด้านสิทธิสตรีที่อายุน้อยที่สุด เธอทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิในด้านการศึกษาของสตรีในปากีสถานภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน 12. Beyoncé Knowles-Carter นักร้องสาวชื่อดังวัย 36 ปี ผู้เป็นเจ้าของเพลงฮิตมากมาย 11. LeBron James นักบาสเก็ตบอลวัย 32 ปี หนึ่งในดาวดังจากวงการ…
-
สมเป็นญี่ปุ่น! เมื่อรัฐบาลใช้ “การ์ตูน” ที่เป็นจุดเด่นมาสอนการรับมือจรวดจากเกาหลีเหนือ
สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว การ์ตูนถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของชาติเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อพูดถึงอนิเมะหรือมังงะแล้วล่ะก็ เราก็มักจะนึกถึงชาตินี้กันอยู่เสมอๆ และเมื่อคนทั่วโลกต่างพากันคิดเช่นนั้น ประจวบกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดจากจรวดเกาหลีเหนือ ทางรัฐบาลฮอกไกโดในญี่ปุ่น จึงหาทางออกด้วยการทำการ์ตูนที่เข้าถึงคนทุกวัยของชาติออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ การ์ตูนดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 6 หน้า 6 ตัวอย่างเหตุการณ์ผ่าน 6 ตัวละครหลักด้วยกัน ซึ่งการ์ตูนดังกล่าวจะเป็นภาพสีสดใสทั้งหมด เพื่อช่วยดึงดูดให้คนทุกเพศทุกวัยหันมาสนใจนั่นเอง ซึ่งก็นับว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ การ์ตูนตัวกล่าวนั้นวาดโดย Manabu Yamamoto ซึ่งเป็นนักวาดการ์ตูนที่เกิดในฮอกไกโด โดยปกติเขาก็จะรับวาดการ์ตูนให้กับรัฐบาลอยู่แล้ว ยกตัวอย่างแรกกันก่อน โดยในตัวอย่างนี้ได้อธิบายไว้ว่า ถ้าเกิดเหตุจรวดขึ้นจริงๆ ให้หาที่จอดรถให้ไวที่สุด จากนั้นก็ออกให้ห่างจากตัวรถอย่าอยู่ใกล้เด็ดขาด เพราะว่าน้ำมันอาจจะทำให้รถเกิดระเบิดแล้วเราถูกลูกหลงก็เป็นไปได้ (อย่าลืมว่าต้องอ่านจากขวามาซ้ายนะ) ถ้าเกิดว่าเรากำลังทำกิจกรรมอยู่ภายนอกแล้วเกิดเหตุ ให้หาที่กำบังใกล้เคียงอย่างอาคารบ้านเรือนที่ดูแข็งแรงทันที พร้อมกับเอามือปิดหัวไว้ให้ดี หรือถ้าคุณอยู่ในทุ่งนาหรือที่โล่ง พร้อมกับกำลังใช้เครื่องจักรกลอยู่ ให้ออกห่างจากเครื่องจักรและก้มลงเอามือกุมหัวทันที ถ้าอยู่ในบ้านแล้วเห็นข่าวจรวดเมื่อไหร่ ให้หลบอยู่ใต้โต๊ะ อยู่ห่างจากกระจกให้ไกลที่สุด หาหมอนหรืออะไรมาบังส่วนหัวเอาไว้ ถ้าอยู่กลางทะเลหรือบนเรือ ก็พยายามหาจุดกำบังใส่เสื้อชูชีพให้พร้อม จากนั้นก็เอามือบังส่วนสำคัญของร่างกายไว้ เรียกว่าเป็นวิธีหาทางออกให้ชาวเมืองด้วยจุดแข็งของประเทศได้ดีมากๆ ถ้าเป็นบ้านเราล่ะ ใช้อะไรดีนะ? ที่มา rocketnews24
-
ยัง..ยังไม่เลิก!! “ลุงทรัมป์” โทษรัฐบาลก่อนไร้น้ำยาจัดการเกาหลีเหนือ เหลือแค่ “ทางเดียว” เท่านั้น!!
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจที่นำโดย ทวิตเตอร์แมน และ ร็อคเกตแมน นั้นดูท่าจะไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ เมื่อสองผู้นำได้เล่นเกมประสาทพร้อมส่งอาวุธที่เป็นเรื่องถนัดของตัวเองสู้กันไปมาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดทวิตเตอร์แมน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ออกมาทวีตข้อความตามสไตล์พี่แกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2017 ว่า “บรรดาประธานาธิบดีและรัฐบาลในชุดก่อน ๆ ได้เจรจากับเกาหลีเหนือมาเป็นเวลานานกว่า 25 ปี มีการทำข้อตกลงเยอะแยะมากมาย ซึ่งมันมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นจำนวนมหาศาล แต่ข้อตกลงเหล่านั้นกลับถูกฉีกทิ้งก่อนหมึกที่เขียนลงไปจะแห้งเสียอีก ซึ่งนั่นทำให้อเมริกาถูกมองว่าเป็นแค่ไอ้หน้าโง่ ฉะนั้นก็ต้องเสียใจด้วยนะ แต่มีวิธีเดียวเท่านั้นแหละที่มันจะได้ผล… “ . นอกจากนี้ ยังมีบทสัมภาษณ์ที่ทาง CNN ลงคำพูดของเขาเอาไว้ว่า “มันน่าจะจัดการเรื่องนี้ไปได้เมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว มันน่าจะเรียบร้อยไปตั้งแต่ตอนที่โอบาม่ายังดำรงตำแหน่ง ตอนที่เขาเป็นรัฐบาลและมีอำนาจจัดการ ความจริงก็คือ ผมต้องมาจัดการดูแลกับเรื่องยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องที่นั่น (เกาหลีเหนือ) แต่มันยังมีเรื่องยุ่งเหยิงในตะวันออกกลางอีก รวมๆ กันแล้วมันยุ่งชิบเป๋งเลยครับ!!” จากข้อความที่ทวิตเตอร์แมนได้ทวีตออกมานั้น ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับน้ำที่นิ่งกลายเป็นน้ำที่รุนแรงได้ด้วยคำเพียงแค่คำเดียวว่า “วิธีเดียว” ซึ่งแม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้พูดตรงๆ ว่าไอ้วิธีเดียวที่ว่ามันคืออะไร แต่การบอกว่ารัฐบาลก่อนๆ แก้ปัญหานี้ไม่ได้สักที พร้อมเปรยคำนี้ออกมา…
-
ภาพโฆษณาชวนเชื่อจากเกาหลีเหนือ บอกเล่าความโหดร้ายของทหารอเมริกันในช่วง ‘สงครามเกาหลี’
ช่วงนี้ถ้าพูดถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศนั้น คงไม่มีประเทศไหนที่จะดุเดือดเท่าอเมริกาและเกาหลีเหนืออีกแล้ว เรียกว่าออกมาจิกกัดโจมตีกันอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ จนหลายคนคิดว่าจะเกิดการสู้กันเป็นสงครามครั้งใหม่ได้ทุกเมื่อ… จนกระทั่งล่าสุดได้มีการปล่อยภาพโฆษณาชวนเชื่อจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นภาพวาดที่คาดว่ามาจากช่วงปี 2005 โดยเป็นภาพที่เล่าย้อนไปถึงสมัยหลายสิบปีก่อน ว่าด้วยเรื่องราวของทหารอเมริกาที่ทรมานชาวเกาหลีเหนืออย่างโหดเหี้ยมในช่วงสงครามเกาหลี นอกจากนี้ยังมีการคาดว่า ภาพส่วนใหญ่ได้จัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ Sinchon Museum of American War Atrocities ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองเปียงยาง 110 กิโลเมตร นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ระลึกถึงการเสียชีวิตของผู้คนกว่า 35,000 คนในการสังหารหมู่เหตุการณ์ Sinchon ปี1950 ซึ่งเป็นการฆาตกรรมพลเรือนที่โหดเหี้ยมโดยทหารชาวอเมริกัน และยังมีรายงานว่าผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง-อึน เคยพาลูกสาวไปเยี่ยมชมเมื่อช่วงปี 2014 พร้อมกับพูดถึงภาพเหตุการณ์เหล่านี้ว่า ทหารชาวอเมริกานั้นมีความสุขจากการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม… ภาพนี้เป็นภาพที่ดูโหดจริงๆ นะ ภาพการทรมาน และทหารอเมริกันที่ยิ้มอย่างมีความสุข ก็ไม่รู้ว่าภาพนี้มันเกินจริงหรือเปล่า แต่ที่รู้แน่นอนคือเป็นภาพที่ทำออกมาได้โหดสุดๆ ภาพของทหารที่พรากเด็กไปจากแม่ และยังทำร้ายผู้หญิงคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ในภาพหลายภาพ ก็จะเป็นการทำร้ายเด็กและผู้หญิงเป็นหลัก . ภาพของชายที่ถูกเผาทั้งเป็นพร้อมสายตาอันมุ่งมั่น กับยิงสาวที่ถูกมัดแน่นและมีปืนจี้ข้างลำตัวเพื่อให้เธอทำตามคำสั่ง…
-
ผู้สื่อข่าว AFP เปิดเผยภาพวิถีชีวิตของชาว “เกาหลีเหนือ” ตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างนะ
เมื่อช่วงในรอบเดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามประเทศญี่ปุ่นถึงสองครั้ง จนกลายที่จับตามองของไปทั่วโลก และมีหลายประเทศได้ออกมาประนามเกาหลีเหนืออีกด้วย ประเทศเกาหลีเหนือ ตามที่เราทราบกันดีว่าประเทศนี้มีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์อย่างเต็มรูปแบบ มีท่านผู้นำที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอย่าง คิม จอง อึน ด้วยความที่เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชามติกับสหประชาชาติและทำการปิดประเทศ และตรวจตราควบคุมจำนวนคนเข้าออกประเทศ น้อยคนนักที่จะได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในประเทศ เมื่อเข้าไปในประเทศก็ต้องปฏิบัตตามกฏของประเทศคือ นักท่องเที่ยวห้ามถ่ายรูปในเกาหลีเหนือเด็ดขาด คนนอกประเทศจึงไม่ค่อยทราบถึงความเป็นไปในประเทศและมีความอยากรู้ว่า วิถีชีวิตของประชาชนชาวเกาหลีเหนือเป็นอย่างไรบ้าง ภาพเหล่านี้ได้มาจากผู้สื่อข่าวของ AFP ที่ได้ไปถ่ายบรรยากาศและประชาชนในประเทศเกาหลีเหนือเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะเป็นยังไง เราไปชมกันเลย ประชาชนที่กำลังรอรถบัสที่กรุงเปียงยาง กรุงเปียงยางมีประชากรประมาณ 3 ล้านคน รถบัสเป็นการคมนาคมหลักของที่นี่ เนื่องจากประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ครอบครองรถยนต์ได้ ยานพาหนะหลักก็คือจักรยานหรือรถบัสเท่านั้น ประชนชนชาวเกาหลีมีความแข็งแกร่งและรักประเทศมาก เช่น ผู้หญิงคนนี้ถือปืนไปทำงานด้วย ชายผู้นี้กำลังปั่นจักรยานในกรุงเปียงยาง รถไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งในการคมนาคมในเกาหลีเหนือ วัยรุ่นกำลังเล่นสมาร์ทโฟน การใช้อินเตอร์เน็ตของประชาชนในเกาหลีเหนือจะถูกควบคุมโดยรัฐบาล ที่พักของชาวเกาหลีเหนือ จะอยู่บนตึกสูงๆ หลายชั้น นักเรียนในโรงเรียนของเกาหลีมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของสาวเกาหลีเหนือ บรรยากาศของเกาหลีเหนือ ข้างหลังคือ…
-
สหรัฐยืนยัน “ยังไม่ได้ประกาศสงครามเกาหลีเหนือ(ว๊อย)” ทั้งคนที่พูดที่ตีข่าว บ้าบอคอแตก!!
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่มีข่าวระดับโลกไหนที่น่าสนใจไปกว่าการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ออกมาพูดว่าเขาจะจัดการกับเกาหลีเหนือถ้ามันจำเป็นจริงๆ อีกแล้ว ทว่าแม้ทรัมป์จะเรียกผู้นำเกาหลีเหนือว่ามนุษย์จรวด แฃะพร้อมมีท่าทีจะโจมตียังไง เขาก็บอกแค่ว่าเขาจะทำถ้ามันจำเป็นจริงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะประกาศสงครามแต่อย่างใด แต่ที่เราเห็นตามหน้าฟีดเฟซบุ๊กก็คือ สื่อมากมายกลับตีความไปเรียบร้อยแล้วว่าทรัมป์จะประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและมนุษย์จรวด (คิม จ็อง-อึน) จนเกิดความเข้าใจผิดและแตกตื่นกันยกใหญ่.. ด้านโฆษกรัฐบาล Sarah Huckabee Sanders ก็ออกมาพูดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาว่า ทางสหรัฐอเมริิกาไม่ได้จะประกาศสงครามแต่อย่างใด และการยกตัวอย่างทั้งหลายเกี่ยวการประกาศสงครามนั้นมันไร้สาระมาก เรื่องราวการประกาศสงครามนั้นจริงๆ แล้วมันเริ่มมาจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือ Ri Yong Ho ได้พูดเมื่อตอนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ทางสหรัฐได้ประกาศสงครามกับพวกเขา ฉะนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิที่จะยิงเครื่องบินทิ้งระเบิด หรืออะไรก็ตามของอเมริกาได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ในอาณาเขตของน่านฟ้าเกาหลีเหนือหรือไม่ก็ตาม Ri Yong Ho ยังย้ำอีกว่า โลกควรจะจำไว้ว่าทางอเมริกานั้นเป็นคนเริ่มประกาศสงครามก่อน ไม่ใช่เกาหลีเหนือ ซึ่งแน่นอนว่ามันขัดกับโฆษกรัฐบาลสหรัฐมากๆ ด้านโฆษกด้านฝ่ายป้องกันภัยสหรัฐอเมริกาก็บอกว่า พวกเขาได้ส่งเครื่องบินไปเพื่อคอยจัดการกับภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงเท่านั้น เพราะการยิงจรวดอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือถือว่าเป็นภัยอันตรายที่ใหญ่มากแก่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พวกเขายังกล่าวอีกว่า สิ่งใดๆ ก็ตามที่โฆษกรัฐบาลว่านี้ไม่ใช่การประกาศสงคราม แต่มันคือการป้องกันตัวและกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับอเมริกาและชาติพันธมิตรเท่านั้น ฉะนั้นถ้าเกาหลีเหนือไม่ทำอะไรที่เป็นภัยก็ไม่มีการประกาศสงครามหรืออะไรทั้งนั้นนั่นเอง …
-
รัสเซียออกโรงเหน็บ “ทรัมป์” ทะเลาะ “คิม จ็อง-อึน” เหมือนเด็กอนุบาลตีกันในสนามเด็กเล่น!!
จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ และเรื่องที่เกาหลีเหนือออกมาพูดถึงการทดสอบขีปนาวุธของตนเอง ทำให้ทั่วโลกไม่สามารถอยู่เฉยได้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงกับออกมาบอกว่า อาจต้องมีสงครามกันเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อเขาได้ขึ้นพูดที่องค์การสหประชาชาติเอาไว้ว่า พร้อมจะทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด หากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับที่ต้องปกป้องตัวเองและพันธมิตรของตน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือเอาไว้ว่า เป็น “คนปล่อยจรวดที่กำลังอยู่ในภารกิจฆ่าตัวตาย” นับว่าเป็นการดูถูกและแสดงถึงความไม่เกรงกลัวใดๆ โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คลิปวิดีโอการออกมาพูดของเขา ที่องค์การสหประชาชาติ สิ่งนั้นทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อึน ออกมาตราหน้าว่าทรัมป์คือ “ผู้วิกลจริต” และมีสติเลอะเลือน และกล่าวสุนทรพจน์ในเชิงว่า เกาหลีเหนือมีสิทธิ์ที่จะพัฒนาอาวุธอยู่แล้ว เขาบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐออกมาดูถูกประเทศของตนต่อหน้าสายตาของทุกคนทั่วโลก และพยายามบีบให้ทุกคนเชื่อไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด ยัง ยังไม่จบ.. คิมยังเสริมอีกว่าทรัมป์จะต้องเจอกับบทเรียนราคาแพงอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากคำพูดของตัวทรัมป์เองที่บอกว่า “เป็นความรุนแรงที่ไร้สาระในประวัติการณ์” และนี่คือการออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนต่างชาติโดยตรงเป็นครั้งแรกของชายคนนี้ เรื่องที่เขาพูดจึงควรเก็บไปคิดและพิจารณาอย่างมาก เพราะการตัดสินใจในวันข้างหน้าอาจตามมาด้วยความรุนแรงที่เกินคาดอย่างที่เขาบอกไว้ ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้นำประเทศเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาเตือนอีกว่า พวกเขาสามารถที่จะทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ เพื่อตอบโต้การถูกคุกคามจากผู้นำสหรัฐ ภาพในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ของผู้นำเกาหลีเหนือตอบโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่……
-
หนุ่มหายตัวอย่างลึกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ครอบครัวเชื่อเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ในเกาหลีเหนือ
วันที่ 3 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Viralnova ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ David Sneddon ชายหนุ่มวัย 24 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคแฮม เขาหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2004 ภายหลังจากที่เขาได้เดินทางไปทริปมิชชันนารีที่ประเทศเกาหลีใต้ และช่องเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม David ได้หายตัวไปหลังจากเดินออกจากร้านอาหารเกาหลีในจีน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเจอเขาอีกเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของจีน ก็ได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากได้ออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวของ David เลย ในขณะที่ทางครอบครัวก็ยังคงเชื่อว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ จากการรายงานระบุว่า David สามารถพูดภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางครอบครัวเชื่อว่าเขาอาจจะตกเป็นเป้าหมายที่ถูกลักพาตัวในจีนโดยเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเหนือ และถูกนำตัวไปยังกรุงเปียงยางในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษของ Kim Jong Un ทางด้าน Choi Sung-yong หัวหน้ากลุ่ม Abductees’ Family Union ได้ออกมาเผยว่า…
-
พบกับผู้ประกาศข่าวที่มาในชุดฮันบกสีชมพู เห็นเธอเมื่อไหร่เรื่องร้ายๆ ตามมาแน่นอน!!
ทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ โดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ การยิงขีปนาวุธไปที่นู่นที่นี่ และสิ่งที่มาพร้อมกับการรายงานข่าวในการประกาศแสนยานุภาพของชาวโสมแดงนั่นก็คือคุณย่าในชุดฮันบกสีชมพูผู้นี่นี่เอง!! Ri Chun-hee ผู้ประกาศสาววัย 74 ปี ที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้ที่ติดตามข่าวต่างประเทศ เพราะเมื่อไหร่ที่เห็นคุณย่าแกออกมา หลายๆ คนต้องเตรียมใจไว้เลยว่า วันนี้ตูจะได้ฟังเรื่องจรวด รถถัง และการยิงอะไรซักอย่างอีกแล้วแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะเกษียณอายุการทำงานของตัวเองไปตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณย่าผู้นี้ก็ยังคงทำหน้าที่ของแกอยู่เช่นเคย และข่าวล่าสุดที่เธอได้ประกาศออกมานั่นก็คือ การทดสอบหัวรบนิวเคลีย์ของเกาหลีเหนือนั่นเอง “การทดสอบหัวรบนิวเคลียร์ที่มีการออกแบบใหม่ของเราเพื่อนำไปติดกับขีปนาวุธนำวิถี ที่สามารถยิงข้ามทวีปได้คือความสำเร็จของพวกเรา นี่เป็นหนึ่งในความข้าวหน้าของโครงการอาวุธนิวเคลียร์แห่งชาติ” คุณ Ri Chun-hee รายงาน คุณ Chun-hee นั้นเริ่มต้นงานผู้ประกาศข่าวครั้งแรกเมื่อปี 1971 โดยหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Pyongyang University เธอก็ถูกทางสถานีโทรทัศน์ KCTV หรือสถานีโทรทัศน์กลางบนแผ่นดินเกาหลีเหนือดึงตัวเข้าไปทำงาน นอกจากชุดประจำตัวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อีกสึ่งหนึ่งที่น่าจดจำของเธอก็คือน้ำเสียง คุณ Jason Strother ผู้เชี่ยวชาญทางการทูตสหรัฐกล่าวว่า “ผู้ประกาศข่าวนั้นเปรียบสเมือนสิ่งเครื่องมือของเกาหลีเหนือ และน้ำเสียงของพวกเขาเองก็สำคัญเช่นกัน อย่างเช่นน้ำเสียงของ Chun-hee นั้นจะดูสูงและสั่นเพื่อเป็นการสรรเสริญผู้นำของประเทศ” พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นเธอผ่านหน้าจอ ข่าวร้ายๆ ก็จะตามมานั่นเอง ที่มา ladbible
-
พาทัวร์ระบบซูเปอร์มาร์เก็ตที่ “เกาหลีเหนือ” หลังท่านผู้นำคิม ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่
เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา หากใครที่ติดตามข่าวของประเทศเกาหลีเหนือ คุณจะรู้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศได้เติบโตขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลจีน เพื่อหยุดยั้งโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนอกจากการเติบโตของเศรษฐกิจ จะส่งผลทำให้เกาหลีเหนือมีทุนในการพัฒนาอาวุธต่อ ยังทำให้ชนชั้นการค้าขายเติบโตขึ้นตามไปด้วย ภายหลังจากทางผู้นำ Kim Jong Un ได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่อีกด้วย ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาคุณมารับชมระบบซูเปอร์มาร์เก็ตของ “เกาหลีเหนือ” ที่ไม่ได้หาชมได้ง่ายๆ เลย และนี่จะถือเป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงถึงสัญญาณการสร้างแบรนด์ และการสร้างยอดขายที่กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต ภาพวิวัฒนาการผู้บริโภคชาวเกาหลีเหนือที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ภายใต้การควบคุมของ Kim Jong Un หลังจากที่ผู้นำเกาหลีเหนือคนล่าสุด ได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจภายใน 5 ปี ทำให้โรงงานในเกาหลีเหนือได้ให้ความสำคัญ กับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ดีมากขึ้น ร้านค้าต่างๆ เช่น ร้าน Potonggang ให้ลูกค้าสามารถชำระด้วยเงินสดหรือบัตรเดบิตธนาคารได้แล้ว ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในกรุงเปียงยาง ก็เริ่มกระจายเข้าสู่พื้นที่ชนบทของประเทศแล้ว ในทางกลับกัน แม้ว่ายังคงมีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐหรือหยวนของจีนประปรายในบางพื้นที่… แต่ก็มีผู้ใช้บัตรเติมเงินหรือตั๋วเงินในประเทศเพิ่มขึ้นที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และเสถียรภาพของสกุลเงินในประเทศก็เพิ่มมากขึ้น …
-
หนุ่มมาเที่ยวญี่ปุ่น อัดคลิปบ่นหลังเกาหลีเหนือปล่อยมิสไซล์ จนทำให้เขาต้องตื่นเช้า!!
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราก็คงจะรู้ดีว่า ทางเกาหลีเหนือได้ประกาศยิงมิสไซล์ข้ามประเทศผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าถือเป็นข่าวยกใหญ่เลยทีเดียว ผู้คนก็ต่างหวาดกลัวกันไปทั้งประเทศ แต่มีคนหนึ่งไม่คิดแบบนั้น ชายชาวต่างชาติเจ้าของช่อง Abroad in Japan ที่ชื่นชอบในญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมและก็ดันบังเอิญตั้งใจจะไปปีนเขาที่เมืองอาโอโมริซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และที่นั้นก็มีประกาศเตือนมิสไซล์กันยกใหญ่เลยล่ะ แจ้งเตือนกันรัวๆ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มิสไซล์ ปัญหามันอยู่ที่พ่อหนุ่มคนนี้แกกำลังหลับอยู่และตั้งใจจะพักผ่อนให้เต็มที่ อยากตื่นสายๆ แต่นี่ดันโดนปลุกแหกตาตื่นมาตอน 6 โมงเช้า ด้วยเสียงแจ้งเตือนที่ดังมากๆ ไซเรนดังมากๆ เขาก็บ่นนอยๆ ว่าปกติเวลามาปีนเขา เขาต้องระวังหมีที่จะมาทำร้ายเป็นทุนเดิม ตอนนี้ยังต้องมาระวังมิสไซล์ที่จะลงหัวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีกชีวิตอะไรจะเศร้าขนาดนั้น หลังจากเขาบ่นๆ เสร็จเขาก็ตัดสินไปไปนอนต่อ ทว่า 10 นาทีผ่านไปทุกอย่างก็ยังไม่สงบลง เสียงไซเรนก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ข้อความแจ้งเตือนก็ยังเด้งมาเรื่อยๆ หนักกว่านั้นคือ 15 นาทีผ่านไป ทีวีเปิดก็มาแจ้งเตือนข่าวเองอีกต่างหาก เขาก็บ่นว่าลำบากตรูต้องลุกไปปิดอีก ซึ่งสุดท้ายเขาก็บ่นว่า ถ้าเกาหลีเหนือมันสร้างปัญหาขนาดนี้ก็เลิกไปเที่ยวเกาหลีเหนือกันได้แล้ว ให้รายได้ในประเทศหดหายไปซะ!! เปิดเองเฉย ลำบากไหมถามใจเธอดู ในที่สุดเขาก็ได้ล้มลงไปนอนต่อเสียที…ลองชมคลิปบ่นของเขาดูก่อนละกัน แต่จากคลิปนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของทุกคนจริงๆ ชอบตรงที่ทีวีเปิดเองได้นี่แหละ เจ๋งสุดๆ ที่มา Abroad in Japan
-
10 กิจกรรมที่ถูกจำกัดสิทธิ์ในเกาหลีเหนือ หากใครฝ่าฝืนเสี่ยงถูกลงโทษ และประหารชีวิต
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การฟังเพลง การดูทีวี การแสดงความเห็น หรือแม้กระทั่งดูหนังโป๊ เป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากใคร แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่เราได้กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นสิ่งต้องห้ามที่ชาวเกาหลีเหนือไม่มีสิทธิ์ทำได้ เพราะถ้าหากเผลอทำลงไปแน่นอนว่าจะต้องได้รับโทษ หรือถึงขั้นประหารชีวิตกันเลยทีเดียว และนี่คือ 10 ข้อห้ามของประเทศเกาหลีเหนือที่ไม่ควรทำเด็ดขาด มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง 1.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จริงๆ แล้วการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าหากช่วงไหนที่ประเทศมีการไว้ทุกข์ไม่ว่าจะนานถึง 100 วัน ต้องห้ามดื่มเด็ดขาด เพราะถ้าหากจับได้อาจจะได้เจอโทษหนักเช่นเดียวกับ นายทหารเกาหลีเหนือรายหนึ่ง ที่ถูกประหารชีวิตไปเมื่อปี 2013 ในข้อหาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาไว้ทุกข์ คิม จอง อิล 2.ดูทีวี ในประเทศเกาหลีเหนือ ประชาชนจะต้องดูรายการโทรทัศน์ตามที่ทางการนำมาเสนอให้รับชม เพราะถ้าหากใครไปรับชมรายการจากประเทศเกาหลีใต้ คุณอาจจะได้รับโทษถึงตาย เพราะเมื่อปี 2014 ทางเกาหลีเหนือมีรานงานว่า ประชาชนกว่า 80 คน ได้รับชมรายการโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ และนั่นจึงทำให้พวกเขาได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้คนประมาณ 10,000 คนรวมทั้งเด็ก มาดูการประหารชีวิตของผู้คนเหล่านั้นอีกด้วย 3.ขับรถ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า ในประเทศเกาหลีเหนือ เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของรถ…
-
สื่อนอกเผย ภาพบรรยากาศในเกาหลีเหนือ-ใต้ หลังผู้นำคิม “ปล่อยมิสไซล์” เหนือน่านฟ้าญี่ปุ่น
นับว่าเป็นข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก หลังจากที่ คิม จอง อึน ปล่อยขีปนาวุธบินผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ประชาชนต่างรู้สึกหวาดกลัว และต้องออกมาเตรียมตัวรับมือกันเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นภาพบรรยากาศในญี่ปุ่นหลังจากที่มีเสียงสัญญาณเตือนภัยกันมาแล้ว คราวนี้เราจะขอพาไปชมภาพบรรยากาศในเกาหลีเหนือบ้าง ในวันที่พี่คิมสั่งยิงขีปนาวุธ ก็คงมีแต่ประชาชนเกาหลีเหนือนี่แหละที่ดูเหมือนจะยินดีปรีดากว่าใครเพื่อนเลย Ri Chun Hee ผู้สื่อข่าวของเกาหลีเหนือ กับการรายงานข่าวเกี่ยวกับขีปนาวุธที่กำลังเผยแพร่ภาพสดไปทั่วประเทศ โดยมีการรายงานว่าแผนการณ์การของท่านผู้นำเป็นไปตามความคาดหมาย ผู้สื่อข่าว CNN ได้สัมภาษณ์นักศึกษาชาวเกาหลีเหนือ Kim Su Jong วัย 14 ปี ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ความว่า “ตั้งแต่ที่ประเทศเรามีแสงยานุภาพที่เพียงพอ และอยู่ภายใต้การปกครองของท่านผู้นำคิมจองอึน เราเชื่อว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะต่อกรกับเราได้” ภาพประชาชนออกมายืนชมการทดสอบยิงขีปนาวุธ ซึ่ง… เป็นภาพที่เผยแพร่ช้ากว่าสื่ออื่นๆ ทั่วโลกถึง 24 ชม. เลยทีเดียว ในวันนั้นเองชาวเกาหลีเหนือก็ต่างออกมาชื่นชม และให้กำลังใจผลงานของท่านผู้นำ ภาพของคิมจองอึน หลังจากทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นระยะทางกว่า 2,735 กิโลเมตร ผ่านน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่างานนี้ได้ผู้นำมานั่งคุมงานเอง กดปุ่มยิงขีปนาวุธด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าในขณะที่เกาหลีเหนือกำลังภูมิใจกับขีปนาวุธ ประเทศอื่นๆ…
-
ภาพความต่างของ “เกาหลีเหนือและใต้” ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ที่ต่างกันสุดขั้ว!!
คนส่วนใหญ่นั้นมักจะรู้และได้ยินว่า เกาหลีใต้นั้นดียังไงแฮปปี้ขนาดไหน ส่วนเกาหลีเหนือนั้นแย่ยังไงลำบากขนาดไหนกันอยู่บ่อยๆ แต่เราก็แค่ได้ยินแต่ไม่ยักจะได้เห็นภาพการเปรียบเทียบของสองประเทศนี้จริงๆ กันเสียที ด้วยเหตุนี้จึงมีชาวต่างชาตินามว่า Jacob Laukaitis จึงได้ไปเก็บภาพของทั้งสองประเทศมาและเปรียบเทียบพร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่เขาได้รับ จากการไปยังดินแดนเกาหลีทั้งสอง ซึ่งเขาก็บอกว่ามันต่างกันสุดขั้ว จนไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งสองใช้ชื่อเกาหลีเหมือนกัน พูดไปก็ไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าลองมาดูภาพความแตกต่างกันดูดีกว่า… ช่วงเวลาว่างของฝั่งเกาหลีใต้ พวกเขาก็จะไปนั่งในสวนสาธารณะอย่างมีความสุขและผ่อนคลาย แต่สำหรับเกาหลีเหนือ พวกคุณไม่ค่อยจะมีเวลว่างหรอก ว่างเมื่อไหร่ก็จะโดนเรียกไปเต้นๆ แบบนี้แหละ ช่วงชีวิตวัยรุ่นจากฝั่งเกาหลีใต้ พวกเขาก็จะมีชีวิตที่อิสระ ได้ใช้ชีวิตตามแบบตัวเอง แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ แต่ทางเกาหลีเหนือ ทุกคนก็ต้องไปเรียนพร้อมใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ท่านคนในรูปกำหนดมาให้ ท้องถนนในเกาหลีใต้นั้น ก็จะเต็มไปด้วยรถและผู้คนตลอดเวลา แต่เกาหลีเหนือก็ตามที่เห็น เงียบกริบไม่มีรถสักคัน ลานจอดรถเกาหลีใต้ก็จะเต็มไปด้วยผู้คน แต่ฝั่งเกาหลีเหนือที่คนไม่ค่อยจะมีรถใช้กัน ก็จะนานๆ มีรถมาจอดสักคัน ความต่างของบ้านนอกก็จะมีโทนสีและหญ้าที่ต่างกันมากๆ อย่างเกาหลีใต้ก็จะอุดมสมบูรณ์ ส่วนเกาหลีเหนือก็อย่างที่เห็น ด้านระบบขนส่งอย่างรถไฟก็จะแตกต่างกันมากๆ ด้วยเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อม อย่างเกาหลีใต้เราก็จะเห็นถึงความศิวิไลซ์ แต่เกาหลีเหนือเราก็จะเห็นความสวยงามในแบบเก่าๆ หน่อย ในส่วนของมหาลัยนั้น…
-
ภาพแอบถ่ายจากมือถือ ของนักท่องเที่ยวที่ไป “เกาหลีเหนือ” แล้วหลุดออกมาให้ได้ชม…
การจะเข้าไปท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เฉกเช่นเดียวกับการที่เราจะแอบเอากล้องไปถ่ายภาพวิถีชีวิตของผู้คนที่นั่น และนั่นก็เป็นสิ่งที่ช่างภาพชาวจีน Xiaolu Chu แอบทำ ในปี 2015 เขาได้ยื่นเรื่องขอเดินทางไปท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ ก่อนจะแอบถ่ายภาพวิถีชีวิตหาชมยากทั้งหมดนี้มาให้เราได้ชมกัน เด็กๆ ต้องเดินฝ่าน้ำเพื่อไปโรงเรียน ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2015 ตลอดระยะการเดินทาง Xiaolu ต้องแอบเอากล้องมือถือขนาดเล็กติดตัวไปด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนเกาหลีเหนือได้ ต้องทำเรื่องผ่านเข้ามาทางชายแดนของประเทศจีนเท่านั้น หลังจากยื่นเรื่องแล้วนักท่องเที่ยวต้องขึ้นขบวนรถไฟที่ Tumangang ก่อนจะเดินทางเข้าสู่กรุงเปียงยาง “โชคดีที่วันนั้นเกิดเหตุล่าช้านิดหน่อย ผมเลยแอบออกมาถ่ายภาพภายนอกเก็บไว้” ช่างภาพชาวจีนเล่าว่า สภาพการเป็นอยู่ส่วนใหญ่ค่อนข้างลำบากยากจน และบ่อยครั้งที่โดนขอเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในละแวกนั้น “เรื่องแปลกอย่างหนึ่งคือ.. ผมไม่เห็นคนอ้วนที่นี่เลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนดูผอมซูบไปหมด” หลายๆ อาคารที่เขาได้เดินทางผ่าน มีสภาพที่ดูเก่าแก่มานานและต้องการซ่อมบำรุง เมื่อมาถึงสถานีรถไฟแห่งกรุงเปียงยาง เขาก็ได้พบภาพของอดีตผู้นำตระกูลคิม แม้แต่ตอนกลางคืน ภาพถ่ายของท่านผู้นำทุกที่จะถูกฉายแสงให้ดูโดดเด่นกว่าสิ่งอื่นใดในเมือง เช้าวันต่อมา ช่างภาพหนุ่มออกมาเดินเล่นละแวกที่พักก็พบว่า มันเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และดูไร้ชีวิตชีวา เจ้าหน้าที่บนขบวนรถไฟจะทำการตรวจเช็คสัมภาระอย่างเข้มงวด…
-
เผยภาพระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเปียงยาง ลึกลงไปกว่า 100 เมตร เปรียบได้ดั่งบังเกอร์หลบภัยนิวเคลียร์…
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคิมจ็องอึน ผู้นำของเกาหลีเหนือถึงไม่เกรงกลัวใครเลย แน่นอนว่าเขาคงมีอาวุธและการรับมือกับการโจมตีรูปแบบต่างๆ ที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว หนึ่งในนั้นคือระบบรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองเปียงยางที่อยู่ลึกลงไปกว่า 100 เมตร ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากระเบิดนิวเคลียร์ หากเกิดสงครามระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาขึ้นมา… ภาพต่อไปนี้ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่ลึกที่สุดในโลก ซึ่งประกอบด้วยทางเดินรถไฟสองสายที่มีความยาวรวมกว่า 28 กิโลเมตร ที่อยู่ใต้เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ อุโมงค์รถไฟใต้ดินแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1968 และได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1973 โดยคิม อิล-ซ็อง ปู่ของคิม จ็อง-อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนตลอดเวลาที่ต้องการเดินทาง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดสงครามระหว่างเกาหลีเหนือกับอเมริกา มันจะกลายเป็นที่หลบภัยชั้นเยี่ยมของประชาชนเลย และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคิม จ็อง-อึนได้ออกมาประกาศว่า เกาหลีเหนือไม่เกรงกลัวการโจมตีใดๆ จากทางทหารของสหรัฐฯ เลย ในปี 1999 เกาหลีเหนือเคยซื้อรถไฟเก่าจากเยอรมนี แต่ตอนนี้พวกเขาอ้างว่ามันกลายเป็นเศษขยะไปแล้ว และได้สร้างรถไฟคันใหม่ในเกาหลีเหนือมาใช้งานแทน แม้พวกเขาจะไม่เปิดเผยแหล่งที่มาหรือรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้าง แต่มีร่องรอยกราฟฟิตี้บนผนังรถไฟ ซึ่งอาจเป็นได้ว่าเป็นการนำซากรถไฟคันเก่ามาสร้างเป็นรถไฟคันใหม่ก็เป็นได้ ภาพเหล่านี้ถ่ายโดย Eric Lafforgue ช่างภาพชาวฝรั่งเศส ระหว่างที่เดินทางไปเยือนเปียงยาง เขาบอกว่ารถไฟทั้งสองสายนี้จะผ่านสถานีต่างๆ 17 สถานีด้วยกัน…
-
กองทัพเกาหลีเหนือออกมาเดินสวนสนาม ประกาศแสนยานุภาพ เพื่อตอบโต้สหรัฐอเมริกา…
หลังจากที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดทางเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงความเคลื่อนไหวอีกระลอกกับสถานการณ์ในช่วงนี้ โดยทางเกาหลีเหนือได้มีการประกาศแสนยานุภาพของพวกเขา ด้วยการเดินสวนสนามของทหารกว่าหมื่นนายใจกลางกรุงเปียงยาง เผยให้เห็นภาพการตั้งแถวของนายทหารเกาหลีเหนือบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ของพรรคแรงงาน นายทหารหลายหมื่นนาย ที่ออกมาสวนสนามเพื่อสนับสนุนท่านผู้นำคิม เมื่อเช้าวันที่ 11 สิงหาคม 2017 สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนสหรัฐอเมริกาว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นอาจก่อให้เกิดสงครามขึ้นเมื่อใดก็ได้ หนึ่งในคำปราศัยระหว่างการสวนสนามกล่าวว่า พวกเขามีความแน่วแน่ที่จะยุติความเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรของสหรัฐอเมริกาที่กดขี่พวกเขามาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว สหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรจะต้องชดใช้ให้สาสมกับสิ่งที่พวกเขากดดันเกาหลีเหนือ การออกมาสวนสนามครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่สหรัฐฯ ออกมาเตือนเกี่ยวกับการพัฒนาด้านแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ นอกจากการประกาศครั้งนี้แล้ว ทางเกาหลีเนือยังได้ประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธ 4 ลูก เพื่อโจมตีเกาะกวมอันเป็นฐานที่มั่นของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย และท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด ทางการจีนได้ออกมาเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาเรื่องนี้ ทางด้านสำนักข่าวจีน Global Times ได้ออกมากล่าวว่าทั้งสองชาติกำลังทำให้เกิดสถานการณ์ที่ล่อแหลม และอาจเป็นการจุดชนวนนำไปสู่สงครามอีกด้วย นายทหารกว่าหมื่นนาย ออกมาเดินขบวนและสวนสนามบริเวณหน้าอนุสาวรีย์พรรคแรงงาน . . รูปของท่านผู้นำ ที่ถูกนำมาแสดงในการสวนสนามครั้งนี้ . เหล่านายทหารและสีหน้าที่ขึงขังของพวกเขา ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะสนับสนุนท่านผู้นำ ทางด้านเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ก็มีการจัดพิธีส่งมอบหน้าที่ผู้บังคับการในฐานทัพของกองทัพสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน …
-
สื่อนอกเผยภาพจาก “เกาหลีเหนือ” เมื่อประชาชนลุกฮือ.. หลังผู้นำมีปากเสียงกับทรัมป์!!
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ทั่วโลกจะมองว่า ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นประเทศที่ไม่น่าอยู่ และไม่น่าคบหา แต่ทว่าประชากรส่วนใหญ่ของพวกเขากลับออกมาแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อตัวผู้นำรุ่นปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เราจะขอพาทุกคนไปชมภาพถ่ายจากสำนักข่าว Reuters กับเหตุการณ์เมื่อประชาชนต่างออกมารวมตัวกันที่ลานจตุรัส คิม อิล ซุง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ประชาชนนับแสนคนต่างออกมารวมตัวกันที่ใจกลางกรุงเปียงยาง จากภาพน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่า ประชาชนต่างสนับสนุนแนวคิดการทำสงคราม และการต่อต้านชาติตะวันตกอย่างสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นการชูป้ายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ รวมถึงการชูกำปั้นมือขวาขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงความโกรธเกรี้ยว ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะได้สวมชุดทางการสีขาว – ดำ โดยจะนั่งดูการเดินขบวนจากชนชั้นแรงงานอยู่บนอัฒจันทร์ นับว่าเป็นการออกมารวมตัวครั้งใหญ่ของประชาชนเกาหลีเหนือเลยก็ว่าได้ จากประเด็นสงครามน้ำลายที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปี ดูเหมือนว่าจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะล่าสุดเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธใส่เกาะกวม ซึ่งเกาะกวมเป็นพื้นที่เกาะที่ยังไม่ได้ปกครองตนเองของสหรัฐฯ และมีการตั้งฐานทัพทางทหารไว้ที่เกาะแห่งนี้ด้วย ซึ่งเราก็คงต้องจับตาดูสถานการณ์โลกกันต่อไปว่า… สุดท้ายทั้งหมดนี้จะเป็นแค่การยั่วกันไปมาของสองฝ่าย หรือจะเป็นการนำมาซึ่งสงครามจริงๆ . ที่มา: Dailymail
-
ช่างภาพขับรถไปตามทางหลวง ‘เกาหลีเหนือ’ เก็บภาพวิถีชีวิต ที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส…
แม้ว่า Eric Lafforgue ช่างภาพมือโปรผู้เคยทำงานร่วมกับสื่อดังหลายสำนัก จะได้เดินทางไปพบเจอเรื่องราวต่างๆ มาแล้วรอบโลก แต่หนึ่งสถานที่ๆ ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดใจได้มากที่สุดก็คือ ‘เกาหลีเหนือ’ ทั้งหมดนี้เป็นภาพวิถีชีวิตของชาวเกาหลีเหนือ เมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าตัวมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวในดินแดนโสมเหนือ ด้วยการขับรถไปตามเส้นทางหลวง แม้ว่าระหว่างทางอาจเกิดอันตรายกับพวกเขาได้เสมอ แต่ทั้งหมดก็ได้มาซึ่งภาพวิถีชีวิตที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้สัมผัส แม้ว่าบนเส้นทางหลวงจะไม่มีด่านเก็บเงิน แต่ก็ใช่ว่านักท่องเที่ยวจะลงจากรถได้ “เมื่อคุณไปถึงทุกอย่างจะถูกกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการท่องเที่ยว อาหารการกิน ที่พักอาศัย ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับไกด์ และบนเส้นทางหลวงก็อันตรายเกินกว่าที่คุณจะจอดรถลงไปยิงกระต่ายข้างทางได้” Eric เล่าถึงประสบการณ์ ช่างภาพเล่าว่าถนนของที่นี่มีขนาดกว้างมากพอที่จะใช้เป็นรันเวย์ให้เครื่องบินได้เลย แน่นอนว่าชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เดินทางด้วยการปั่นจักรยาน แม้แต่ตามสี่แยกก็ไม่ค่อยมีรถออกมาให้เห็นซักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ภาพของเด็กๆ ที่ออกมาเล่นกันอย่างสนุกสนาน จากภาพที่เขาเห็น ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านจะมีวิถีชีวิตอยู่ติดกับการเกษตรกรรม และดูตื่นเต้นมากเมื่อมีรถนักท่องเที่ยวขับผ่าน ท่ามกลางที่ไหนซักแห่งบนทางหลวง มีร้านค้าเพียงร้านเดียวที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อของได้ หนึ่งในภาพที่ชวนให้รู้สึกเซอไพรส์สุดๆ เมื่อเขาได้ไปเจอกลุ่มทหารวัยรุ่นกำลังยืนซ้อมดนตรีกันอย่างลับๆ เปียงยางมีกฎห้ามไม่ให้รถที่ดูสกปรกเปื้อนฝุ่นเข้าไปแล่นในเมืองได้ ดังนั้นรถทุกคันจะต้องผ่านการขัดล้างก่อนขับเข้าเมือง สำหรับช่างภาพแล้วเขาเล่าว่า เรื่องราวที่พบเห็นในชนบททำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 50s และยังขาดแคลนการพัฒนาทางอุตสาหกรรม…
-
ลาครั้งสุดท้าย… ชาวเมืองนับพันร่วมไว้อาลัยงานศพ Otto Warmbier ผู้ถูกจับขังในเกาหลีเหนือ
หากเราได้ติดตามข่าวต่างประเทศในช่วงนี้ ข่าวของนาย Otto Warmbier นักศึกษาวัย 22 ปีที่ถูกจับ ณ ประเทศเกาหลีเหนือได้รับความสนใจไม่น้อย (สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติ่มได้ที่ Otto Warmbier หนุ่มมะกันที่เดินทางไปเที่ยวเกาหลีเหนือ ถูกตัดสินจำคุกและทำงานอย่างหนัก 15 ปีเต็ม) หลังจากที่เขารับโทษจากประเทศเกาหลีเหนือในข้อหาพยายามล้มล้างสถาบันด้วยการขโมยโปสเตอร์แล้ว เขาก็ถูกส่งกลับมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสภาพสมองที่บอบช้ำและได้รับการกระทบกระเทือน จนกระทั่งเสียชีวิตในวันจันทร์ ที่ 19 มิถุนายน 2017 Otto Warmbier นักศึกษาชาวอเมริกันผู้ถูกจับเพราะขโมยโปสเตอร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากการเสียชีวิตของนาย Otto งานศพของเขาได้รับความสนใจจากชาวเมืองเป็นอย่างมาก ทำให้มีผู้เข้าร่วมงานศพของเขาหลายพันคนเมื่อวันพฤหัสที่ 22 มิถุนายน 2017 และยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องอยู่โซนข้างนอก เนื่องจากหอประชุมของโรงเรียน Wyoming High School นั้นสามารถจุคนได้เพียง 2,100 คนเท่านั้น ผู้คนเรียงแถวรอส่งเขาในงานศพ ภายในห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก “เป็นเรื่องยากที่ผมจะดำเนินรอยตามเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา เรื่องการเรียน เขาเป็นคนดี มันไม่สำคัญว่าเขาจะอยู่ที่ไหน แต่เขาจะอยู่ภายในหัวใจของพวกเราตลอดไป” Austin…
-
นักศึกษาอเมริกัน ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากคุกเกาหลีเหนือ เสียชีวิตแล้วหลังกลับมา 1 สัปดาห์…!?
กำลังเป็นกระแสข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Otto Warmbier นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันที่ถูกขังคุกในเกาหลีเหนือ ใครที่เคยติดตามข่าวจะทราบดีว่า ก่อนหน้านี้นักศึกษาคนดังกล่าวถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือตัดสินให้จำคุก 15 เดือน ซึ่งเป็น 15 เดือนที่เขาต้องถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาส เพียงเพราะข้อหาขโมยภาพโฆษณาชวนเชื่อในโรงแรม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้รับการปล่อยตัว แต่ดูเหมือนอาการสุขภาพจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทางครอบครัว Warmbier ก็ได้ออมาชี้แจงถึงการเสียชีวิตของลูกชายแล้ว โดยข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ (ฉบับย่อ): “เป็นเรื่องเศร้าที่เราต้องบอกว่า.. ลูกชายของเราได้เสียชีวิตไปแล้ว Otto เขาเดินทางกลับถึงบ้านอย่างสำเร็จ และรายล้อมไปด้วยผู้คนที่เขารัก ซึ่งเขาได้เสียชีวิตวันนี้ตอนเวลา 02.20 ในช่วงเวลาแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า ภายในวันข้างหน้าเราจะไม่มีเด็กหนุ่มผู้ฉลาดหลักแหลม และมีความมุ่งมั่นในชีวิตอยู่กับเราอีกแล้ว Otto กลับมาถึงบ้านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เขาไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถโต้ตอบได้ เขาดูไม่สบายเอามากๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกแล้วนับจากวันนั้น – ตอนนี้เขาได้จากไปอย่างสงบแล้ว เราขอขอบคุณทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือเรามา” จัดหมายฉบับเต็ม ซึ่งทางการของเกาหลีเหนือได้ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุการเสียชีวิตของหนุ่มอเมริกันอาจเป็นเพราะ ‘โรคโบทูลิซึม’ (โรคผิดปกติทางเดินประสาทที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน) ผสมกับการได้รับยานอนหลับทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทว่าข้ออ้างนี้กลับถูกโต้แย้งโดยทีมแพทย์ของสหรัฐอเมริกา BBC ได้รายงานว่า…
-
เกาหลีเหนือปล่อยตัวนักศึกษาอเมริกันกลับประเทศ หลังจากที่มีอาการป่วยเข้าขั้น ‘โคม่า’
เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเคยได้ยินคดีที่เด็กนักเรียนชาวอเมริกันถูกจับกุมตัวในประเทศเกาหลีเหนือหลังจากที่เขาเดินทางไปท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ ทว่ากลับมีเขาเพียงคนเดียวที่ถูกต้องเป็นผู้ต้องสงสัยและดำเนินคดี Otto Warmbier นักศึกษาชาวอเมริกันวัย 22 ปี ผู้ถูกทางการเกาหลีตั้งข้อหาว่าเป็นภัยต่อประเทศชาติ โดยการขโมยโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง เลยทำให้เขาถูกตัดสินให้จำคุกที่เกาหลีเหนือเป็นเวลา 15 ปี!! . แต่ว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2017 ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศปล่อยตัว Otto กลับสู่แผ่นดินแม่ผ่านเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากรายงานบอกว่าเขาป่วยเข้าขั้นโคม่าจากอาหารเป็นพิษ ซึ่งเป็นอาการป่วยเรื้อรังเรื่อยมานับตั้งแต่หลังจากเข้าตัดสินคดีในปี 2016 ทำให้ทางการเกาหลีไม่อยากดูแลเขาต่อไป จึงต้องปล่อยตัวกลับสู่ประเทศแม่ ทางด้าน Fred และ Cindy Warmbier ผู้เป็นพ่อและแม่ของผู้ต้องหากล่าวว่า “พวกเราอยากให้โลกรู้ว่าลูกชายของเราถูกทำร้ายและข่มเหงยังไงโดยระบอบเผด็จการของประเทศเกาหลีเหนือ พวกเราดีใจเป็นอย่างมากที่เขาได้กลับมาสู่อ้อมกอดของเหล่าคนที่รักเขาเสียที” Fred และ Cindy Warmbier ผู้เป็นพ่อแม่ของ Otto Warmbier นอกจากนี้ Heather Nauter โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาพูดถึงการกลับมาของ Otto ว่า พวกเขาดีใจที่ Otto ได้กลับมายังประเทศบ้านเกิดของเขา และจะได้เจอกับครอบครัวของตนอีกครั้งหนึ่ง ทว่าในเรื่องของอาการนั้น Heather…
-
เล่าประสบการณ์เที่ยว “ยอดภูเขาไฟเพ็กตู” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แห่งเกาหลีเหนือ!!
หลายคนอาจทราบมาบ้างแล้วว่า เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่น่ากลัว เนื่องจากมีการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ที่ร้ายแรง และหากพวกเขาทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์นี้ อาจส่งผลให้ภูเขาไฟปะทุได้ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญเผย สำหรับภูเขาไฟเพ็กตูนั้น ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวเกาหลีเหนือ และหากมันปะทุขึ้นมา จะทำให้คนในเกาหลีเหนือและจีนเสียชีวิตหลายพันคน จนนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ ชาวเกาหลีเหนืออ้างว่าที่ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นจุดกำเนิดของบรรพบุรุษพวกเขา… และในช่วงปี 1950 ผู้ก่อตั้งประเทศอย่าง คิม อิล-ซ็อง ก็ได้สั่งให้กองทหารตั้งฐานทัพลับที่นี่เพื่อต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นด้วย วิธีเดียวที่นักท่องเที่ยวจะไปยังภูเขาไฟเพ็กตูได้ คือต้องไปด้วยเที่ยวบิน Air Koryo จากกรุงเปียงยางไปยังสนามบิน Samjiyon ในแต่ละเที่ยวบินจะมีทหารมาด้วยทุกครั้ง โดยเครื่องบินดังกล่าวนี้เก่ามากจนถูกขึ้นบัญชีดำของยุโรป นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังถูกสั่งห้ามไม่ให้ใช้แล็ปท็อประหว่างอยู่บนเครื่องบินด้วย ชาวเกาหลีเหนือยังบอกอีกว่าบอกว่า คิม จ็อง-อิล ก็เกิดที่นี่เช่นกันในปี 1942 แต่จริงๆ แล้วเขาเกิดที่ไซบีเรีย ซึ่งพ่อของเขาใช้เป็นที่หลบภัยหลังจากหนีทหารญี่ปุ่น ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงหวงแหนและคอยปกป้องภูเขาไฟแห่งนี้ ไม่ให้คนภายนอกเข้ามารุกราน รวมทั้งนักท่องที่เที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมก็ต้องอยู่ในระยะที่กำหนดเท่านั้น และนี่คือประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวท่านหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสภูเขาไฟเพ็กตู แล้วนำมาเปิดเผยให้ชาวเน็ตได้ชมกัน… เมื่อมาถึงสนามบิน Samjiyon สัมภาระจะถูกจัดส่งอย่างรวดเร็ว โดยชายในเครื่องแบบ หมู่บ้านรอบๆ Samjiyon ที่ดูเหมือนเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นใหม่ แต่ถ้ามองดูใกล้ๆ จะเห็นความยากลำบากที่ผู้คนที่นี่ต้องเผชิญ กลุ่มนักเรียนที่ต้องเดินทางเป็นอาทิตย์เพื่อเดินตามรอย คิม อิล-ซ็อง…
-
ตามไปส่อง 10 วิธีการทางเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือ ที่ไม่เหมือนใครในโลกแน่น๊อนน!!
เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่มีความยูนีค และมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก สูงซะยิ่งกว่างานแฟชั่นวีคส์จากกรุงมิลานซะอีก ด้วยหลักคิดที่ว่าต้องการพึ่งพาตนเอง และตัดขาดโลกภายนอก ทำให้หลายสิ่งอย่างก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งหลาย เราตามไปส่องกันเลยว่าพฤติกรรมทางเทคโนโลยีของชาวเกาเหลีเหนือ เค้าจะแตกต่างจากประเทศอื่นทั่วโลกมากขนาดไหน 1. เกือบจะไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ อันที่จริงก็มีอินเตอร์เน็ตอยู่หรอก หากแต่ว่าจะเปิดใช้บริการได้เฉพาะบางคนเท่านั้น (นักท่องเที่ยว หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง) แต่สำหรับชาวบ้านตาดำๆ ก็มีเครือข่าย Kwangmyong ให้บริการอยู่ แน่นอนว่าข้อมูลข่าวสารก็ต้องเป็นไปตามที่รัฐกำหนด 2. เฟซบุ๊กก็มีเหมือนกัน แต่เป็นร่างโคลนนะ แน่นอนว่าประเทศนี้ได้ทำการแบนสื่อจากชาติตะวันตกทุกชนิด แต่ทางรัฐบาลก็ได้สั่งสร้างโซเชียลมีเดียรุ่นโคลนนิ่ง ที่ถูกออกแบบโดยบริษัท Dyn Networks เพื่อให้ชาวเมืองเอาไว้ใช้ติดต่อกันนั่นแหละ 3. เพียง 1 ใน 10 ของชาวเกาหลีเหนือเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟน อ้างอิงข้อมูลจากผู้เขียนหนังสือ ‘The Real North Korea’ Andrei Lankov ระบุว่า จากสถิติการเปิดใช้งานกับเครือข่าย Koryolink เผยว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้เพียงแค่ 3 ล้านรายเท่านั้น ซึ่งนับเป็น 1 ใน 10…
-
Hyeonseo Lee สาวผู้หนีออกจากเกาหลีเหนือนับ 10 ปี เพื่อตามหาอิสรภาพให้เธอและครอบครัว…
ตอนนี้ถ้าหากพูดถึงเกาหลีเหนือ คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักประเทศนี้แน่ๆ หนึ่งในประเทศที่มีการปกครองแบบเผด็จการประเทศหนึ่งในแถบภูมิภาคเอเชีย เรื่องราวความโหดร้ายและความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตแบบชาวเกาหลีเหนือนั้นพวกเราหลายคนคงจะพอทราบกันมาแล้วบ้างตามสื่อหรือหนังสือต่างๆ และวันนี้เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจชีวิตของชาวโสมแดงมากยิ่งขึ้น เราจึงได้นำเรื่องราวของสาวชาวเกาหลีเหนือผู้หนึ่ง ที่ทำการหลบหนีออกมาจากแผ่นดินแม่ของตนเอง และนำเรื่องราวความยากลำบากของเธอมาเปิดเผยบนเวที Ted Talks Hyeonseo Lee หญิงสาวชาวเกาหลีเหนือที่เติบโตมาในดินแดนเผด็จการ เธอบอกว่าในตอนเด็กๆ เธอคิดว่าเกาหลีเหนือคือประเทศที่ดีที่สุดในโลก จากข่าวและข้อมูลที่รัฐบาลคอยป้อนให้เธอตั้งแต่อายุยังน้อย วันหนึ่งหลังจากที่ประเทศของเธอถูกภัยแล้งเข้าเล่นงาน ความอดอยากและความตายเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 1995 แม่ของเธอได้รับจดหมายจากน้องสาวของเพื่อนร่วมงานเล่าถึงความอดอยากที่พวกเขากำลังประสบอยู่ และหลังจากนั้นไม่นานสาวน้อยจึงถูกส่งตัวไปอยู่กับญาติห่างๆ ที่ประเทศจีน Hyeonseo Lee ได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวกาหลีเหนือในประเทศจีน เธอเล่าถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ในแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากหากถูกจับได้ Hyeonseo จะต้องถูกส่งตัวกลับประเทศและได้รับโทษอย่างหนัก หลังจากที่หลบซ่อนตัวนานกว่า 10 ปีเธอกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เกาหลีใต้ แต่แล้ว Hyeonseo ก็ได้รับข่าวร้ายว่าทางการเกาหลีเหนือจับได้ว่าเธอแอบบติดต่อกับทางครอบครัว และพวกเขากำลังจะถูกลงโทษ Hyeonseo ตัดสินใจเดินทางไปช่วยครอบครัว พวกเขาต้องเดินทางกว่า 3,000 กิโลเมตร ผ่านชายแดนจีนมายังประเทศลาวและเจออุปสรรคมากมาย เธอบอกว่าการได้รับอิสรภาพของเธอและครอบครัวนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังมีครอบครัวชาวเกาหลีเหนืออีกจำนวนหนึ่งที่เลือกเส้นทางเหมือนกับเธอ พวกเขายังคอยส่งข่าวสารให้กับครอบครัวที่อยู่ในเกาหลีเหนือ เธอและผู้อพยพคนอื่นๆ หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้ เรื่องราวของ Hyeonseo สร้างแรงบันดาลและให้ข้อคิดกับคนดูได้อย่างมากการหนีเพื่ออิสรภาพของเธอทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เข้าใจถึงความยากลำบากและวิถีชีวิตของคนเกาหลีเหนือ…
-
ผู้เชี่ยวชาญการทหารสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตอาวุธที่เกาหลีเหนือนำมาโชว์ ว่าเป็นของปลอม!?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ที่เกาหลีเหนือได้มีจัดงานเดินขบวนเพื่อเฉลิมฉลองในวันครบรอบคล้ายวันเกิด 105 ปีของอดีตท่านผู้นำคิม อิล ซุง (รุ่นตา) ภายในงานกองทัพเกาหลีเหนือก็ได้ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ ออกมาให้ชาวโลกได้ยลโฉมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ หรือแม้แต่จรวดมิสไซล์ ทว่าล่าสุด Michael Pregent ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธสงครามจากสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาชี้แจงว่าอาวุธทั้งหมดที่เห็นในภาพ ส่วนใหญ่เป็นของปลอม!? ภาพของทหารถือปืน AK-47 และที่ยิงระเบิด ซึ่งจริงๆ แล้วผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า มันเป็นแมกกาซีนสำหรับใส่ลูกกระสุนปืน ภาพของทหารถือปืนอาร์พีจี ซึ่ง Michael ให้การว่าน่าจะเป็นของปลอม เพราะหัวจรวดของจริงจะมีน้ำหนักมาก และท่านผู้นำก็คงไม่อยากให้มีใครยิงจรวดใส่ จากภาพนี้เขามองว่าเป็นการถือปืนไรเฟิลที่น่าขันมากที่สุด เพราะวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มปลายปืนเป็นพลาสติก สังเกตว่าซ้ายมือท่านผู้นำ จะมีปืน AK-47 กระบอกสีเงินอยู่ ซึ่งเขาก็ให้ความเห็นว่ามันน่าจะถูกเอามาทาสีซะมากกว่าที่จะเป็นเงินจริงๆ เช่นเดียวกับแว่นตาของทหาร เขาให้ความเห็นว่านี่เป็นแว่นตาธรรมดาที่ไม่เหมาะสมจะเอามาใช้ทางการทหาร เพราะตามหลักที่ถูกต้องควรจะเป็นแว่นที่สามารถยึดกับศรีษะได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับปืนของทหารชุดนี้ เขากล่าวว่ามันดูเหมือนของเล่นปลอมๆ ซะมากกว่า โดยดูจากวัสดุที่ใช้ Michael เชื่อว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพให้แก่ประเทศของตัวเอง ให้ดูน่าเกรงขาม…
-
พาชม ‘RedStar 3’ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือ จะเป็นยังไงไปดูกัน…
ถ้าพูดถึงเกาหลีเหนือ หลายคนอาจจะเห็นภาพของประชาชนตาดำๆ ที่ต้องอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองแบบผูกขาดจากตระกูลคิม (พล็อตเรื่องคุ้นๆ มั้ย?) ประมาณว่าผู้นำว่าไง ผู้ตามก็ต้องว่างั้น ครั้งหนึ่ง Will Scott อดีตพนักงานจากบริษัทกูเกิ้ล มีโอกาสได้ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยเปียงยาง เขาก็ไม่ลืมที่จะแอบซื้อระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือ Red Star 3 มาลองใช้ดูด้วย ลองตามไปดูว่าคนเกาหลีเหนือต้องใช้คอมพิวเตอร์แบบไหนกันนะ ตัวอย่างภาพนักศึกษาที่กำลังใช้คอมพิวเตอร์ ในมหาวิทยาลัยคิมอิลซุง เมื่อลงระบบปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว เปิดคอมพิวเตอร์มาก็จะเจอกับภาพนี้ก่อนเลย แต่ก่อนที่จะเข้าไปใช้คอมฯ ได้ ต้องเลือกโซนซะก่อน น่าแปลกใจตรงที่ไม่มีโซนเกาหลีใต้ หรือกรุงโซล ให้เลือก จากนั้นก็ต้องล็อกอิน เสมือนเป็นการรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานยังไงยังงั้น (ชักจะคล้ายแถวนี้มากขึ้นทุกที) กว่าจะเข้ามาได้ผ่านหลายด่านเหลือเกิน พอเห็นอินเตอร์เฟสแล้วรู้สึกว่าคุ้นๆ มั้ย? มีข่าวลือมาว่าเมื่อปี 2013 เคยมีคนจับภาพ คิม จอง อึน ใช้ iMac จึงเกิดทฤษฏีสมคบคิดที่ว่า… เขาน่าจะลอกแบบมา ในส่วนของโปรแกรมสำหรับการพิมพ์งาน หรือจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ส่วนนี่ก็เป็นระบบอีเมล์ เหมือน Outlooks…
-
“รอยยิ้มจากเกาหลีเหลือ” ผลงานช่างภาพฝรั่ง ที่มีโอกาสไปเยือนดินแดนลึกลับที่สุด
ก็อย่างที่รู้กันว่าประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ นั้นเป็นประเทศปิด สันโดษ และถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ที่นี่มีแต่ความลับเต็มไปหมด เพราะการจะเข้าไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีเหนือเป็นอะไรที่ยุ่งยากเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีภาพบรรยากาศในประเทศเกาหลีเหนือออกมาให้เราได้ชมกันอยู่มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วช่างภาพหลายๆ คนที่เข้าไปถ่ายทำก็มักจะเน้นไปในทิศทางที่ดูหม่นหมอง ดูแล้วเกาหลีเหนือมันช่างไม่น่าอยู่เอาซะเลย สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม ผลงานของช่างภาพ Adam Baidawi ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศแห่งนี้ และถ่ายทอดออกมาในหลายๆ มุม ทั้งความสดใส เข้มงวด ภาพที่บอกเล่าเรื่องราวอะไรได้แทนคำพูดมากมาย และนี่คือผลงานที่เขานำมาอวดให้ชาวเน็ตอย่างเราได้รับชม… ช่างภาพ Adam Baidawi ได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีเหนือมาเมื่อปีก่อน และเขาก็คิดว่าที่นี่ช่างมีเสน่ห์ และดูน่าค้นหาเหลือเกิน รูปปั้นของท่านผู้นำที่ตั้งตระหง่าน และดูสมจริงราวกับมีชีวิต เด็กๆ นักเรียนที่ดูมีความสุขสนุกสนาน โถงที่นั่งที่ดูมีสีสันสดใส น่าใช้บริการ งานจุดพลุราวกับว่าเฉลิมฉลองอะไรกันซักอย่าง สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เมืองที่มีตึกเต็มไปหมด ดูราวกับว่าเป็นมหานครยังไงยังงั้นเลย เป็นสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เจ้าหน้าที่ที่ยืนทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง งานเฉลิมฉลอง …
-
สวนสัตว์มหัศจรรย์แห่งเกาหลีเหนือ แหล่งที่อยู่ของสัตว์กว่า 800 ชนิด มีแม้กระทั่งลิงสูบบุหรี่
ในครั้งนี้เราจะขอมาเพื่อนๆ มาชมภาพบรรยากาศสวนสัตว์แห่งชาติเกาหลีเหนือ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งครั้งหนึ่งสวนสัตว์แห่งนี้เคยถูกประธานาธิบดี Kim Jong-un สั่งให้ปรับปรุงใหม่ในปี 2014 เพื่อให้สวนสัตว์ดูทันสมัย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น จนทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมมากมาย และที่สำคัญในสวนสัตว์ยังมีสัตว์หลากหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช้าง ยีราฟ เพนกวิน และชิมแปนซีเพศเมียสูบบุหรี่ ที่กลายเป็นข่าวโด่งดังไปชั่วข้ามคืน!! นี่คือภาพภายนอกสวนสัตว์ที่ได้รบการตกแต่งใหม่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพที่น่าตกใจของสวนสัตว์ดังกล่าว ที่ถูกบันทึกขึ้นโดย Jonas Wahlstrom ผู้เชี่ยวชาญด้านสวนสัตว์ชาวสวีเดน ที่ได้มาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี โดยเขาได้ช่วยเหลือคนงานในสวนสัตว์ พร้อมช่วยพัฒนาระบบการดูแลในสวนสัตว์ทั้งหมด สำหรับสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเกาหลีเหนือแห่งนี้ ได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากใครที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยว แน่นอนคุณจะได้พบกับลิงที่สามารถเล่นบาสเกตบอลได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงนกแก้วที่สามารถท่องบทกวี เพื่อเคารพผู้นำเกาหลีคนก่อนได้อีกด้วย และนี่คือภาพของ Azalea (ชื่อในภาษาเกาหลีคือ “Dalle”) ลิงชิมแปนซีเพศเมียอายุ 19…
-
ยลโฉม “พนักงานสาวเสิร์ฟ” ที่สวยที่สุดของร้านอาหารเกาหลีเหนือ ณ ประเทศกัมพูชา
ในขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหญิงสาวหน้าตาสวยมากมาย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสาวจากประเทศเกาหลีเหนือก็มีความสวยงามเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวเสิร์ฟคนสวยแห่งร้านอาหารเกาหลีเหนือ ในเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา คนนี้ เธอได้กลายเป็นหญิงสาวที่ได้รับความสนใจ และโด่งดังไปชั่วข้ามคืน หลังจากที่ภาพความสวยของเธอได้เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Koreaboo มีรายงานว่า ร้านอาหารเกาหลีเหนือที่สนับสนุน และดำเนินการโดยรัฐบาลเปียงยาง ที่ได้มาเปิดในเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชาแห่งนี้ มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับลูกค้าทุกท่านที่ได้มาเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม โดยนอกเหนือจากการรับประทานอาหารแล้ว รัฐบาลของประเทศเกาหลีเหนือ ยังได้พยายามที่จะแสดงให้โลกได้เห็นว่าประเทศของตนก็มีผู้หญิงสวยไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เช่นกัน และที่สำคัญหากคุณได้มาไปรับประทานอาหารยังภัตตาคารแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะได้ทานอาหารเกาหลี หรือได้พบกับสาวเสิร์ฟคนสวยเท่านั้น แต่คุณยังจะได้รับความบันเทิงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง รวมถึงการเต้นรำในแบบชาวเกาหลีเหนืออีกด้วย นี่คือความงามในแบบฉบับของสาวเกาหลีเหนือ ลองไปรับชมภาพของเธอกันเลย . . . . . ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวเสิร์ฟคนนี้ถึงได้รับความสนใจมากมาย ก็เพราะว่าเธอมีความงามตามแบบของสาวเกาหลีนั่นเอง ที่มา : koreaboo
-
รอยเตอร์รายงานเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูก ไปตกที่น่านน้ำญี่ปุ่น ห่างชายฝั่ง 300 กิโลเมตร!?
กลายเป็นประเด็นที่ทุกสำนักสื่อทั่วโลกกำลังพูดถึง โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมาสำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ปล่อยจรวดมิสไซล์ทั้งหมด 4 ลูก ไปยังบริเวณน่านน้ำของประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต แต่ก็ทำให้หลายประเทศทั่วโลกตระหนัก และเฝ้าระวังภัยจากสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ รัศมีระยะการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ สามารถไปไกลได้ถึง 3,000 กิโลเมตร Tomomi Inada ปลัดกระทรวงกลาโหมจากญี่ปุ่นได้ออกมาชี้แจงว่า เกาหลีเหนือได้ปล่อยมิสไซล์โดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือน มายังบริเวณน่านน้ำของฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งจุดตกของมิสไซล์อยู่ห่างจากชายฝั่งเพียงแค่ 300 กิโลเมตรเท่านั้น ทางด้านกรมทหารเกาหลีใต้ก็ได้ชี้แจงว่า การกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือ อาจส่อนัยยะถึงการเปิดฉากสงครามก็เป็นได้ จากเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดดังกล่าว ทำให้ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐฯ จัดการประชุมด้านความมั่นคงของชาติในวาระเร่งด่วน เพื่อหารือวิธีป้องกันภัย และรับมือกับมิสไซล์จากเกาหลีเหนือที่อาจจะถูกปล่อยมาได้ทุกเมื่อ ‘คาดว่าน่าจะมีหลายลูกที่เกาหลีเหนือปล่อยออกมา และที่มาตกในบริเวณน่านน้ำของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 4 ลูกด้วยกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการปลุกปั่น ยั่วยุ เพื่อก่อให้เกิดสงคราม’ Sean Spicer โฆษกประจำทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ รูปแบบขีปนาวุธต่างๆ ที่คาดว่าเกาหลีเหนือครอบครองไว้อยู่ …
-
23 ภาพ “รอยยิ้มแห่งเกาหลีเหนือ” จากช่างภาพต่างชาติ ที่มีโอกาสถ่ายกลับมา…
ปกติแล้วถ้าเราพูดถึงประเทศเกาหลีเหนือ หลายคนอาจจะคิดถึงภาพของประเทศที่มีการปกครองแบบเผด็จการ ชาวบ้านทุกคนถูกบังคับให้ทำตามคำสั่ง หรือนโยบายจากรัฐบาล และชาวเมืองที่ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงเรื่องราวของชาวโลกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ‘Eric Lafforgue’ เป็นหนึ่งในช่างภาพที่มีโอกาสได้เข้าไปเยือนในดินแดนเกาหลีเหนือบ่อยที่สุด จึงเป็นที่มาของชุดภาพถ่ายเหล่านี้ที่เขามีโอกาสได้บันทึกมาให้พวกเราได้ชมกัน ซึ่งผลงานภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสุขของชาวเกาหลีเหนือนี้ ช่วยสะท้อนให้เราเห็นว่าถึงแม้พวกเขาจะต้องอาศัยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยยิ้มอย่างมีความสุขเลย… เป็นภาพที่มีอยู่ภายในทุกอาคาร เอ๊ะ…นั่นใช่ไอแพดรึเปล่า!? เด็กนักเรียนที่กำลังเดินไปโรงเรียนอย่างสนุกสนาน หญิงสาวชาวเกาหลีเหนือ ที่กำลังมีความสุขจากเทศกาลเต้นระบำ ชาวเมืองทุกคนต่างดูยินดีที่ได้ถ่ายรูปคู่กับท่านผู้นำ ชาวเมืองที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองงานเต้นรำประจำปี ทุกคนเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน คู่รักสามีภรรยา กับภาพของท่านผู้นำ กองทหารหนุ่มเกาหลีเหนือ แต่ละคนดูภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำเป็นอย่างยิ่ง ช่วงเวลาแห่งความสวีทหวานแหวว ของชาวเกาหลีเหนือ (นึกว่าโกโบริ กับอังศุมาลิน) คุณลุงผู้เป็นหัวหน้าบริษัทไฟฟ้า ดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก… กลุ่มทหารหนุ่มในเปียงยาง ทุกคนล้วนดูมีความสุขดี กลุ่มนักแสดงหนุ่มกำลังนั่งพักอยู่ที่สตูดิโอถ่ายหนัง ในกรุงเปียงยาง กลุ่มคุณยายที่กำลังทานขนมหวาน ทุกคนดูยิ้มแย้มมีความสุขสุดๆ รอยยิ้มของทหารหญิงที่ดูเป็นมิตรสุดๆ รอยยิ้มพิมพ์ใจของหญิงสาว จากงานเต้นรำหมู่ กลางกรุงเปียงยาง…
-
นักท่องเที่ยวพาชมวิถีชีวิตในชนบท ของชาวเกาหลีเหนือ ที่โลกอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน!!
หากพูดถึงดินแดนอันลึกลับของชาวโลกที่ไม่ค่อยมีใครได้เข้าไปเยือนซักเท่าไหร่ เชื่อว่าชื่อของประเทศเกาหลีเหนือต้องโผล่มาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยความที่ประเทศนี้ปิดประเทศมาอย่างยาวนานตั้งแต่สงครามเกาหลีจบลง ทำให้การเข้าไปเยือนเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก ล่าสุด Eric Lafforgue ตากล้องวัย 52 ปีได้ปล่อยอีกมุมหนึ่งของชาวเกาหลีเหนือในชนบทอันห่างไกลที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา เขาเล่าว่าเขาได้เดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือมาแล้วถึง 5 ครั้ง (ก่อนจะโดนแบนในครั้งที่ 5 นั่นแหละ) โดยแต่ละครั้ง เขาจะใช้บริการหาที่พักคล้ายๆ กับแอพ Airbnb ให้การหาที่พัก ซึ่งครั้งนี้เขาไปเที่ยวหมู่บ้านจุงพยองรี ในจังหวัดฮัมกย็องเหนือ ประเทศเกาหลีเหนือ แต่ละบ้านก็จะมีภาพของท่านผู้นำทั้งในอดีตและปัจจุบันติดไว้ ตามวัฒนธรรมของชาวเกาหลีเหนือแล้ว พวกเขาจะนอนบนพื้นและรองด้วยผ้าบางๆ เท่านั้น โดยไม่มีเตียงแต่อย่างใด (ซึ่งทาง Eric บอกว่าปวดหลังมากๆ) ท้องถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงที่หมาย รูปของเด็กแฝดที่เป็นเหมือนนักดนตรีประจำหมู่บ้าน ด้านหน้าของเกสเฮาส์หลังหนึ่งที่เขาได้พักระหว่างทริปล่าสุด มื้อเย็น ทางเจ้าของบ้านก็ได้ทำปูนึ่งกับเป็ดย่างให้ทาน สาหร่ายถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลผลิตสำคัญของหมู่บ้านจุงพยองรี โดยแทบทุกบ้านจะมีเรือนตากสาหร่ายอยู่ ซึ่ง Eric บอกว่ามันเหม็นมาก โรงตากสาหร่ายที่พูดถึง ผู้หญิงกำลังลากรถเข็นที่เต็มไปด้วยซากไม้ ถือว่าเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในชนบทของเกาหลีเหนือ…
-
งานวิ่งมาราธอน ณ ‘กรุงเปียงยาง’ 2017 อยากไปวิ่งในเกาหลีเหนือ รีบไปสมัครกันด่วนๆ
ใครว่าประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ ที่มีระบบการปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จโดยมีลูกพี่ตระกูลคิมเป็นผู้นำ จะไม่เปิดกว้างต้อนรับคนจากต่างชาติเลย ก็คงไม่ถูกซะทีเดียวนัก เพราะตอนนี้เกาหลีเหนือได้จัดงานวิ่งมาราธอนประจำปี ‘2017’ แถมยังเปิดโอกาสให้คนจากทั่วโลกเข้าร่วมได้อย่างอิสรเสรี ไม่ว่าคุณจะถือสัญชาติไหนก็ตาม ถ้าใครกำลังมองหางานวิ่งที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นละก็ เราขอแนะนำให้สมัครโดยด่วน!! ‘เปียงยางมาราธอน’ ได้จัดขึ้นมาทั้งหมด 30 ครั้งแล้ว แต่ทว่านี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่เปิดโอกาสให้นักวิ่งจากทั่วโลกมาเข้าร่วมกิจกรรม และสำหรับปี 2017 งานนี้จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 4 เมษายน ลองจินตนาการว่าคุณได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการวิ่งมาราธอนอันแสนธรรมดา มาวิ่งในประเทศที่ไม่ค่อยได้มีใครเข้ามาสำรวจมากนัก แถมยังได้วิ่งชมทิวทัศน์รอบเมือง ก่อนจะมาบรรจบเส้นชัยที่สนามกีฬากลางคิมอิลซุง ภาพบรรยากาศเมื่อปีที่ผ่านมา เห็นแบบนี้ได้รีบความสนใจจากทั่วโลกเลยนะ แล้วจะสมัครยังไง? อันที่จริงคุณไม่สามารถสมัครได้ด้วยตนเอง เพราะผู้เข้าร่วมทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านเอเจนซี่ทัวร์ของทางเกาหลีเหนือ UriTours โดยการแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 รายการ ฟูลมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และวิ่งระดับ 10 กิโลเมตร นอกจากชาวต่างชาติแล้ว ชาวเมืองเกาหลีเหนือก็เข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง!! เมื่อซื้อทัวร์นี้แล้วจะได้รับประสบการณ์อะไรบ้าง? หลังจากที่ลงทะเบียน และยืนยันตัวตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประสบการณ์ที่ผู้เข้าแข่งขันจากต่างชาติทุกคนจะได้บินกับสายการบิน ‘Air Koryo’ ได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองเปียงยาง…
-
ชม 14 เรื่องจากเกาหลีเหนือ ที่ว่าเหมือนจะจริง แต่ดันโดนคนจับได้ว่า โกหกทั้งเพ!!
‘เกาหลีเหนือ’ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความลับ และการโฆษณาชวนเชื่อ ยิ่งเราได้รู้จักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้ว ประชาชนของเขามีความสุขกันจริงรึเปล่า? อยู่ดีกินดีกันจริงเหรอ? แต่บางทีเราก็มักจะได้เห็นภาพที่ทางการปล่อยออกมาให้ชาวโลกได้เห็นกัน แต่ก็ยังหนีไม่พ้นกับคำถามที่ว่า จะเชื่อได้จริงเหรอ? วันนี้เราจะพาไปชม 14 ภาพที่ทางการเกาหลีเหนือปล่อยออกมา แต่ทว่าสุดท้ายก็โดนคนทั้งโลกจับได้ว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น!! 1. ชายหาดที่เต็มไปด้วยชาวเกาหลีเหนือ ภาพนี้ถูกเผยแพร่โดยนิตยสารจากเกาหลีเหนือฉบับหนึ่ง เผยให้เห็นถึงผู้คนจำนวนมากที่มาพักผ่อนริมชายหาดกันในวันหยุด ซึ่งเพื่อนๆ ลองสังเกตุตามจุดวงกลมแดงๆดูสิ จะพบว่ามันเป็นภาพตัดต่อแบบที่ไม่ค่อยเนียนเอาซะเลย 2. ภาพของท่านคิมที่สามารถพิชิตยอดเขา สูง 9,022 ฟุตได้ เป็นภาพที่ถูกปล่อยออกมาให้ชาวเกาหลีเหนือเข้าใจว่า ท่านผู้นำคิม นอกจากจะเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งแล้ว ยังสามารถพิชิตยอดเขาแพคตู ที่สูงที่สุดได้อีก ซึ่งความเป็นจริงแล้ว คงไม่มีใครสามารถพิชิตยอดเขาสูงขนาดนี้ด้วยร่างกายของตัวเอง โดยที่ปราศจากรอยเปื้อน หรือใส่เสื้อโค้ทมาซะเท่แบบนี้ได้หรอกจริงมั้ย? 3. เกาหลีเหนือมีเครื่องบินรบเป็นจำนวนมาก ภาพของเครื่องบินรบที่เกาหลีเหนือมักจะปล่อยออกมาให้ชาวโลกได้รู้สึกหวาดกลัว อย่างเช่นภาพนี้ ความจริงแล้วมันคือเครื่องบินโดยสารธรรมดาๆ ของสายการบิน Koryo เนี่ยแหละ แต่แค่เอามาทาสีใหม่เท่านั้นเอง 4. ภาพถ่ายความรุ่งเรืองทางเกษตรกรรมของเกาหลีเหนือ ตอนแรกที่เห็นแกะจำนวนมากขนาดนี้ เราก็คงคิดว่าที่นี่ต้องอุดมสมบูรณ์มากแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว ภาพนี้ใช้มุกเดิมคือการตัดแปะ ลองสังเกตุตามช่องสี่เหลี่ยมสีแดงดูสิ…
-
เกาหลีเหนือประกาศ ต้องการตัว 2 หนุ่มออสซี่ ที่เนียนมาแข่งกอล์ฟ ให้กลับมาแถลงขอโทษ….
เพื่อนๆยังจำสองหนุ่มชาวออสซี่ ที่แท้จริงแล้วเป็นนักกีฬ่าแข่งโปโลที่จีน แต่ดันท้าทายอำนาจพี่คิม จอง อึน ด้วยการตีเนียนเข้าไปแข่งกอล์ฟที่เกาหลีเหนือกันได้มั้ยเอ่ย? ถ้าจำไม่ได้ให้เข้าไปอ่านที่ลิงค์นี้ได้เลย เพื่ออถรรสที่มันส์ยิ่งขึ้น >> เรื่องราวของสองหนุ่มแสบ ตอนนี้เรามาอัพเดทกันซักหน่อย เพราะล่าสุดสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า ขณะนี้ทางการของเกาหลีเหนือได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด และรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงต้องการตัวของทั้ง 2 คน ให้กลับเข้าไปที่ประเทศ เพื่อแถลงการณ์ขอโทษออกสื่อ ให้ประชาชนเห็นกันทั้งประเทศ!! Shay และ Ruig ยืนเนียนทำความเคารพรูปปั้นท่านผู้นำ ซึ่งทางการเกาหลีเหนือ ได้ติดต่อผ่านมาทางเอเจนซี่ทัวร์ที่พาสองหนุ่มนี้เข้าประเทศไปแบบเนียนๆ ทางเอเจนซี่จึงรีบติดต่อมาหาพวกเขาทั้งสองทันที แน่นอนว่า…คงไม่มีใครกลับเข้าไปหรอกจริงมั้ย? สองหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่า “เอเจนซี่ทัวร์ที่พาเราไป ติดต่อกลับมาหาเรา พร้อมกับบอกว่าทางการต้องการตัวให้เราเข้าไปขอโทษ ผ่านรายการทีวีสดๆในบ้านเค้าด้วย!! “ “คุณคิดว่าพวกผมจะไปมั้ย?? แน่นอนเราไม่กลับไป กลับไปก็บ้าแล้ว!!” แล้วทางการรู้ได้อย่างไร? เพราะหลังจากที่พ่อหนุ่มทั้งสองคนกลับมา เรื่องราวของเขาก็ถูกนำมาเผยแพร่อย่างสนุกสนานบนโลกออนไลน์ แน่นอนว่า Catdumb ของเราก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าเกาหลีเหนือจะปิดกั้นสื่อจากประชาชน แต่ใช่ว่าในส่วนของผู้นำประเทศจะไม่สามารถเข้าถึงสื่อได้ เมื่อพวกเขาเห็นสำนักข่าวต่างๆเริ่มเล่นประเด็นนี้ ทางโฆษกรัฐบาล จึงรีบออกมาชี้แจง และประกาศตามหาตัวพวกเขาทันที…
-
2 หนุ่มสุดแสบ ทำเนียนว่าเป็นโปรฯกอล์ฟ ก่อนจะเข้าไปลั้นลาในเกาหลีเหนือ!!
รู้สึกกันมั้ยว่า ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นประเทศระบบเผด็จการ ที่ดูเหมือนว่ามีหลายๆคนอยากจะเข้าไปลองของ เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตที่เราแทบจะไม่เคยได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองของเค้าเลยแม้แต่น้อย อะไรที่มันลึกลับ คนเราก็อยากจะเข้าไปพิสูจน์ เช่นเดียวกับสองหนุ่มนักกีฬาจากออสเตรเลีย Morgan Ruig และ Evan Shay ทั้งคู่เป็นนักกีฬาโปโล ที่เดินทางมาแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ที่กรุงปักกิ่ง แต่ไม่รู้ว่าความคิดแผลงๆแบบนี้โผล่มาจากไหน ทั้งคู่ได้ยินข่าวมาว่าจะมีการจัดแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเม้นท์ขึ้น ที่กรุงเปียงยาง เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำคิม จอง อึน สองหนุ่มตัดสินใจลองส่งอีเมลล์ไปสมัครทันที “เราแค่บอกเขาไปว่า พวกเรา 2 คนเป็นนักกอล์ฟจากออสเตรเลีย สนใจในทัวร์นาเม้นท์นี้ พวกเขาก็ไม่ตรวจสอบอะไรแม้แต่น้อย ตอบกลับมาเพียงแค่ว่างั้นเราคือตัวแทนจากออสเตรเลีย” ทั้งคู่ไม่รอช้า หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากทีมผู้จัดงาน (แน่นอนว่าต้องเป็นรัฐบาล) พวกเขาก็รีบเดินทางไปเกาหลีเหนือทันที และต้องอึ้งสุดๆ เมื่อพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดี มีการแจกชุดสูทสีเขียว พร้อมกับติดป้ายว่าเป็นตัวแทนนักกีฬากอล์ฟ ซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้เป็นสิทธิพิเศษสำหรับการมาเที่ยวครั้งนี้ได้ยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ “ผมคิดว่า คงเป็นเพราะอินเตอร์เน็ตของเกาหลีเหนือถูกจำกัด เพราะงั้นพวกเขาเลยไม่ค่อยมีโอกาสที่จะเข้าถึงข้อมูลเท่าไหร่” Shay ให้สัมภาษณ์กับ 9News และเมื่อถึงเวลาแข่งขัน คงตื่นเต้นสุดๆสำหรับทั้งคู่ เพราะอันที่จริงแล้ว พวกเขาไม่เคยเล่นกอล์ฟมาก่อน แต่ก็ต้องจำใจยอมลงไปตีลูกในสนาม ไม่อย่างนั้นถ้าโดนจับได้ มีหวังไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ…
-
ตะลุยดินแดน ‘เกาหลีเหนือ’ ตามชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ในอีกมุมที่เราไม่เคยเห็น…
‘เกาหลีเหนือ’ จัดได้ว่าเป็นประเทศที่ไม่ค่อยจะชอบสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ด้วยระบบการปกครองที่ยึดมั่นในระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับผู้นำเพียงหนึ่งเดียว และเป็นประเทศที่ปิดตัวลึกลับในสายตาของชาวโลก ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วน ได้เข้าไปเยี่ยมชมสัมผัส บรรยากาศบ้านเมืองที่มีกลิ่นอายแบบคอมมิวนิสต์ที่ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันแล้ว เว็บไซต์ BusinessInsider รวมรูปภาพและเรื่องราวจากช่างภาพหลายๆ คนที่เคยไปสัมผัส พาไปชมสถาปัตยกรรมตามสถานที่ต่างๆของประเทศนี้กันบ้าง ซึ่งอาจเป็นสถานที่ใครหลายๆ คน(รวมทั้งเราด้วย) ไม่เคยเห็นมาก่อน ก่อนอื่นตามธรรมเนียม เราก็ต้องทักทายสวัสดีกับเจ้าบ้านก่อน บนถนนเส้นหลักก่อนเข้าสู่เมืองเปียงยาง นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้พบกับ ‘Arch of Reunification’ เป็นสัญลักษณ์เพื่อระลึกถึงผู้นำ คิม อิล ซุง ‘Workers’ Party Monument’ ตัวอักษรบนป้ายมีความหมายว่า “ขอให้ชนชั้นแรงงานของเกาหลีจงอยู่ยืนยาว ขอให้ชัยชนะมาสู่ชาวเกาหลีทุกคน” ใจกลางเมืองเปียงยาง ทุกคนคงเคยเห็น ‘Ryugyong Hotel’ โรงแรมสูงเสียดฟ้า ถูกสร้างไว้ตั้งแต่ปี 1992 จนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อีกฝั่งหนึ่งของเมืองติดริมแม่น้ำแทดง จะมีตึกสูง 558 ฟุต Juche Tower ตั้งตระหง่านอยู่ Manyongdae Children’s Palace สถาปัตยกรรมใหญ่ใจกลางเมือง ตึกที่โอบล้อมมาสองข้าง เปรียบเสมือนอ้อมกอดของแม่…
-
ช่างภาพชาวมาเลย์ เดินทางกว่า 5 พันกิโลฯ รวบรวมภาพถ่ายจากเกาหลีเหนือ ในมุมมองที่ต่างออกไป
ว่ากันว่าการได้ไปเยือนเกาหลีเหนือซักครั้งในชีวิต เป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง เหมือนเป็นอะไรที่มากกว่าการท่องเที่ยว ได้ไปออกสำรวจในดินแดนต้องห้าม ที่ๆ เราไม่เคยได้รับรู้ข่าวสารใดๆ ของพวกเขามาก่อน เช่นเดียวกันกับ Reuben Teo ช่างภาพชาวมาเลเซีย เขาก็ไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวใดๆ ของเกาหลีเหนือมาก่อน จนเขาตัดสินใจที่จะเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ ในการเดินทางไกลกว่า 5 พันกิโลเมตร และได้รวบรวมภาพถ่ายสถานที่สำคัญในเมืองเปียงยาง มาให้เราได้ชมกัน ในมุมมองที่แตกต่างออกไป เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกว่า ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นอีกประเทศที่น่าลองไปเที่ยว (ย้ำว่าไปเที่ยว) มากๆ เลยเหมือนกันนะเนี่ย 1. ประตูชัยเปียงยาง เหมือนประตูอะไรซักของประเทศหนึ่งในยุโรป 2. อนุเสาวรีย์ Chollima 3. หอสมุดเปียงยาง 4. ลานน้ำพุ Hakdanggol 5. หอคอยชูเช อีกแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี้เลย 6. วังสุริยะคึมซูซัน เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึง คิม จ็อง อิล และ คิม อิล…
-
ช่างภาพพาท่องเกาหลีเหนือ ตระเวนชมสถาปัตยกรรมในกรุงเปียงยาง ที่น้อยคนจะเคยเห็น
เปิดมุมมองในอีกหนึ่งประเทศ ที่ขึ้นชื่อว่ามีความลึกลับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก…. แต่สำหรับช่างภาพมืออาชีพ ผู้ที่ได้ถ่ายทอดผลงานการถ่ายภาพเจ๋งๆ มาแล้วมากมายอย่าง Raphael Olivier ได้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวยังกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งได้เก็บภาพสถาปัตยกรรมภายในเมืองมาให้เราได้ชม เธอบอกว่า ‘หลังจากที่เมืองเกือบถูกทำลายอย่างย่อยยับในช่วงสงครามเกาหลี เมืองเปียงยางแห่งนี้ถูกฟื้นฟูโดยสถาปนิกท้องถิ่นในช่วงยุค 1960-1970 ซึ่งส่วนใหญ่เรียนรู้มาจากในสหภาพโซเวียต’ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าผลงานที่อยู่ในเมืองนี้ จะให้ความรุ้สึกเป็นคอมมิวนิสต์ร่วมสมัย และให้กลิ่นอายของโซเวียตอยู่มากเลยทีเดียว แม้ว่าหลากหลายอาคารจะดูค่อนข้างเก่าและเสื่อมโทรมไปตามการเวลา แต่ก็มีโครงการพัฒนาใหญ่ อย่างเช่นอาคารทรงปิรามิดที่เราได้เห็นกันด้านล่างนี้ . เมื่อได้ลองเปิดโลกทัศน์ในกรุงเปียงยาง ก็ทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆ แล้วก็เป็นเมืองที่แปลกตาไม่น้อยเลยทีเดียว… อีกมุมหนึ่งของภาพบรรยากาศภายในกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ที่น้อยคนจะเคยเห็น . . . . . และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงผลงานภาพถ่ายส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น หากใครที่ชื่นชอบ และอยากรับชมภาพเพิ่มเติม ก็สามารถคลิกเข้าไปตามลิงค์ที่เราแปะไว้ให้ได้เลย behance, raphaelolivier, facebook และ twitter ที่มา : twistedsifter
-
เกาหลีใต้ห่วง “นักกีฬาเกาหลีเหนือ” หลังให้สัมภาษณ์ อยากให้เกาหลีกลับมารวมกัน
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียแล้ว เมื่อมีนักกีฬายิงปืนชาวเกาหลีเหนือชื่อว่า คิม ซองกุก ผู้คว้าชัยเหรียญทองแดงจากการยิงปืนสั้นระยะ 50 เมตรชายไปครองในกีฬาโอลิมปิกที่ริโอครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับเหรียญทองแดงมา แต่เขาก็รู้สึกว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะไม่สามารถขึ้นเป็นที่หนึ่งหรือที่สองได้ พร้อมทั้งได้พูดแสดงความคิดเห็นบางอย่างระหว่างสัมภาษณ์จนทำเอาชาวเกาหลีใต้เป็นห่วง “ถ้าสอง(เกาหลี) กลายเป็นหนึ่ง เราอาจจะได้เหรียญมากกว่านี้ ทั้งเหรียญทองและทองแดงมาจากเกาหลี ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่” ก่อนหน้านี้นักกีฬาชาวเกาหลีใต้ จิน จองโอ คว้าเหรียญทองจากกีฬาประเภทเดียวกันไปได้ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เขาพูดถึงเรื่องการคว้าเหรียญร่วมกันของสองเกาหลีขึ้นมา และหลังจากที่เขาได้พูดไปก็ได้มีชาวเกาหลีใต้ออกมาชื่นชมเป็นอย่างมากจนคลิปถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว มีคนดูกว่า 2.2 ล้านคนภายใน 24 ชั่วโมง มีคอมเม้นท์อีกกว่า 13,000 คนรวมแสดงความเห็นหลากหลาย ในส่วนของคอมเม้นท์ก็มีการแสดงความเห็นมากมาย เช่น.. สิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งก็คือไม่เคยเห็นชาวเกาหลีเหนือคนไหนพูดอยากจะรวมประเทศมาก่อน ทำให้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองเกาหลีรวมเป็นหนึ่ง หลายคนก็เป็นห่วงเพราะว่ามันเหมือนเป็นคำพูดที่อาจจะทำให้รัฐบาลทางฝั่งเหนือไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้ชาวเกาหลีใต้ต่างก็ให้กำลังใจเขาเยอะแยะมากมาย ทั้งอยากเห็นเขาอีกในโอลิมปิกครั้งต่อไป หรือบางคนก็บอกว่า เขาควรได้รับเหรียญทองจากคำพูดที่เขาได้กล่าวออกมา… #เหมียวสามสี พยายามหาวิดีโอจากต้นฉบับที่เผยแพร่ในเพจ www.facebook.com/SBS8news กลับไม่พบวิดีโอดังกล่าว คาดว่าอาจจะถูกลบออกไป และขณะที่ในยูทูปก็ยังไม่เจอเช่นกัน ถ้าใครพอมีเบาะแสก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้นะครับ… ที่มา straitstimes
-
มิตรภาพแห่งโอลิมปิก อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่ ‘คนเกาหลีเหนือ-ใต้’ จะได้เซลฟี่ร่วมกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้นั้น แม้จะมีคำว่าเกาหลีในชื่อเหมือนกัน แต่ด้วยอุดมการณ์ทางการเมือง สงคราม และความขัดแย้ง บ่มเพาะให้เกิดความเกลียดชังต่อกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาก็ยังคงประกาศสงครามต่อกันอยู่ (แต่อยู่ในสภาวะหยุดยิง) ภาพของ DMZ ที่ทหารทั้งสองฝ่ายยืนคุมเชิงกันตลอดเวลา แต่ล่าสุดในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ได้เกิดภาพสุดประทับใจขึ้นมา เมื่อนักกีฬายิมนาสติกจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ได้ถ่ายรูปเซลฟี่กันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ ทั้งสองคือ Lee Eun-ju จากประเทศเกาหลีใต้และ Hong Un-Jong จากประเทศเกาหลีเหนือ จน Ian Bremmer นักเขียนจาก CNN นำไปโพสในทวิตเตอร์ของตนเองว่า “นักยิมนาสติกจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงจัดโอลิมปิกขึ้นมา” โดยการแข่งขันครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของ Lee Eun-ju ส่วน Hong Un-Jong ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก และเธอเคยได้เหรียญทองจากประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในโอลิมปิกที่ปักกิ่ง ในปี 2008 ยิ่งไปกว่านั้น เธอเคยเป็นทหารเก่าอีกด้วย นี่สินะ ที่เขาเรียกว่ากีฬาคือยาวิเศษ และก็ได้แต่หวังว่าในอนาคต ทั้งสองประเทศจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววัน…
-
หนุ่มฝรั่งรีวิว ‘เที่ยวเกาหลีเหนือ 7 วัน’ เปิดโลกมุมมองใหม่ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน…
นี่คือคลิปที่กำลังโด่งดังในต่างประเทศทีเดียว สำหรับคลิปพาไปทัวร์ประเทศเกาหลีเหนือโดยชาวต่างชาติผู้รักในการท่องเที่ยวที่ชื่อว่านาย Jacob Laukaitis เขาใช้เวลาประมาณ 9-10 เดือนต่อปีในการท่องเที่ยว (นี่มากกว่าเวลาทำงานอีกมั้งนั่น) เขาได้เดินทางไปยังประเทศที่หลายๆ คนไม่กล้า (หรือไม่ค่อยอยาก) ไป เป็นเวลากว่า 7 วัน แล้วถ่ายคลิปวิดีโอเชิงสารคดีมาให้เราได้ชมกัน ขอบอกว่าแต่ละช่วงเวลาหรือแต่ละกิจกรรมนั้นช่างน่าฉงนและลึกลับมาก สารคดีสั้นๆ ที่นาย Jacob ถ่ายมาถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ YouTube ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และมียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 2 แสนครั้ง Jacob ได้อธิบายไว้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่เกาหลีเหนือ จะถูกกำหนดว่าให้อยู่ที่นี่ได้เพียง 1 – 10 วันเท่านั้น หนังสือเดินทางของพวกเขาจะถูกเจ้าหน้าที่ยึดเอาไว้ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ที่นั่น และจะมีไกด์ทัวร์มาคอยจับตาดูคุณทุกฝีก้าว การที่จะไปยังที่ต่างๆ ในเกาหลีเหนือนั้น คุณจะไม่สามารถทำได้โดยอิสระ เพราะไกด์ทัวร์จะพาคุณไปยังสถานที่ที่มีการจัดเตรียมไว้หมดแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขาจะเป็นคนตัดสินใจว่าคุณจะได้เห็นอะไรหรือไม่ได้เห็นอะไรนั่นเอง ทางไกด์ทัวร์ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสื่อสารกับคนในท้องถิ่น และต้องขออนุญาตทุกครั้งหากคุณจะเดินไปที่ไหนก็ตาม และนี่คือหน้าตาของโรงแรมที่พวกเขาเข้าพัก หรูหราใช้ได้เลย สถานที่แรกที่เขา (ถูกพา) ไปชมนั้นถือประตูชัย ณ กรุงเปียงยาง…
-
พาชม ‘เกาหลีเหนือ’ ในอีกแง่มุมสนุกสนานและมีชีวิตชีวา ต่างจากภาพในทัศนคติเดิมๆ
เวลาที่เราคิดถึงเกาหลีเหนือ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นประเทศที่อดอยาก ดูเงียบเหงา เต็มไปด้วยตึกสีคอนกรีต ได้อารมณ์การเป็นอยู่ในรูปแบบบ้านเมืองของคอมมิวนิสต์ แต่เมื่อช่างภาพชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง Nic Ojae ได้เข้าไปถ่ายภาพวิถีชีวิตอีกแง่มุมหนึ่งของประชาชนเกาหลีเหนือที่ดูแล้วมันช่างเต็มไปด้วยสีสัน ดูมีชีวิตชีวา แถมภาพชุดนี้ที่เค้าได้ตั้งชื่อให้มันว่า ‘Colorful Order’ ยังได้รับรางวัลจากงานเทศกาล Melbourne Independent Photography อีกด้วย ภาพถ่ายจากสวนน้ำแห่งหนึ่ง ดูแล้วผู้คนที่นี่น่าจะชื่นชอบการออกมาว่ายน้ำในฤดูร้อนกันมากๆ มีการตกแต่งอย่างดี ชุดว่ายน้ำก็ดูปกติทั่วๆไปถึงแม้ว่าจะไม่มีคนใส่บิกินี่ให้เห็นก็ตาม หนุ่มสาวชาวเกาหลีเหนือที่ดูกำลังสนุกสนานกับการขึ้นไปกระโดดน้ำจากที่สูง ชายคนหนึ่งกำลังพักผ่อนนอนอาบแดดอย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ชอบมาเที่ยวสวนน้ำกันทั้งนั้น ผู้คนกำลังใช้บริการรถเมล์โดยสารประจำทาง ดูแล้วก็คลับคล้ายคลับคลากับบ้านเรานี่แหละ ชาวเมืองเปียงยางกำลังเล่นวอลเล่ย์บอลกันอย่างสนุกสนาน อากาศที่ดูสดใสในยามเช้าและอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่ง เด็กๆ กำลังให้ความสนใจกับอะไรบางอย่าง ผู้คนต่างออกมาเต้นรำกันในเมืองอย่างพร้อมเพรียงเมื่อถึงวันหยุดประจำชาติ ภาพได้อารมณ์ประเทศแถบเอเชียในช่วงยุค 50s ไปจนถึง 60s ดูเก่าและคลาสสิคสุดๆ และสุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับประเทศนี้ก็คือภาพของท่านผู้นำนั่นเอง… งานนี้ก็ต้องขอบคุณช่างภาพฝีมือดีที่ได้นำภาพเหล่านี้มาให้เราได้ชมกัน มองไปก็ให้อารมณ์อีกแง่มุมหนึ่ง ต่างจากภาพอื่นๆ ที่เราเคยได้เห็นและรับรู้เรื่องราวก่อนหน้านี้ เป็นแง่มุมที่ช่วยเปิดหูเปิดตาได้อย่างดีเลยเนอะ……
-
มารู้จักกับ “พัลกาซารี” ก็อตซิลล่าเวอร์ชั่นเกาหลีเหนือ ของอดีตผู้นำ “คิมจองอิล”
พูดถึงประเทศเกาหลีเหนือ สำหรับหลายๆ คนประเทศนี้คือดินแดนสนธยาที่น้อยคนนักจะเคยเข้าไปเหยียบ และด้วยความที่ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด ทำให้บุคคลภายนอกรู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับเกาหลีเหนือน้อยเหลือเกิน แต่รู้หรือไม่ ประเทศเกาหลีเหนือเคยมีหนังสัตว์ประหลาดบุกโลกเป็นของตัวเองด้วยนะ แถมได้ทีมงานผู้สร้างหนังสัตว์ประหลาดบุกโลกในตำนานอย่างก็อตซิลล่ามาช่วยทำด้วยอีกต่างหาก เราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ย้อนไปในอดีต ด้วยความที่ “คิมจองอิล” อดีตผู้นำเกาหลีเหนือชื่นชอบหนังแนวสัตว์ประหลาดบุกโลกเป็นอย่างมาก ทำให้เขาอยากจะสร้างหนังสัตว์ประหลาดบุกโลกของตนเองขึ้นมา นอกจากจะสนองต่อความต้องการส่วนตัวแล้ว เขายังอยากใช้หนังเรื่องนี้เป็นหน้าเป็นตาของประเทศเกาหลีเหนือต่อชาวโลกอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงลักพาตัว Shin Sang-ok ผู้กำกับชื่อดังชาวเกาหลีใต้และภรรยาของเขา Choi Eun-hee มายังเกาหลีเหนือและบังคับให้สร้างหนังแนวสัตว์ประหลาดบุกโลกให้ และหนังเรื่อง “พัลกาซารี (Pulgasari)” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา พัลกาซารี (Pulgasari) เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์โครยอของเกาหลี เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่กลียุค หลังจากการขึ้นครองบัลลังค์ของกษัตริย์ผู้ชั่วร้าย นายช่างผู้มีฝีมือคนหนึ่งพยายามต่อต้านกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายองค์นี้ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับขังคุก ระหว่างที่อยู่ในคุก เขาได้แกะสลักตุ๊กตาสัตว์ประหลาดด้วยเมล็ดข้าวเอาไว้ตัวหนึ่ง และเมื่อตุ๊กตาตัวนั้นได้สัมผัสกับเลือดของลูกสาวนายช่าง มันก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ขึ้นมาทันที และสัตว์ประหลาดตัวนี้เองก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของกลียุคของกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายผู้นี้ นอกได้ผู้กำกับชื่อดังชาวเกาหลีใต้มาแล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้ทีมงานจาก Toho Studio ของญี่ปุ่นอย่าง Teruyoshi Nakano ผู้ให้กำเนิดก็อตซิลล่าตัวจริงมาร่วมในกระบวนการสร้าง รวมถึงได้ Kenpachiro Satsuma สตั้นแมนผู้สวมชุดก็อตซิลล่ามาสวมชุดพัลกาซารีอีกด้วย (ทั้งสองถูกลักพาตัวมาเช่นเดียวกัน) เมื่อหนังถ่ายทำเสร็จ ทั้ง Teruyoshi…
-
เมื่อช่างภาพฝรั่งเที่ยวเกาหลีเหนือ และแอบนำ 37 รูปเหล่านี้ มาเผยแพร่ให้เราได้ดูกัน!?
บางทีเราก็รู้สึกเหมือนกับว่าสามารถไปได้ทุกที่บนโลกนี้เพราะการเดินทางรอบโลกง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปไหนก็ยังมีโลกของอินเตอร์เน็ตที่จะพาให้เราเห็นโลกได้กว้างขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ค่อยมีใครพอรู้เรื่องราววิถีชีวิตหรือการเป็นอยู่เท่าไหร่นั่นก็คือ ‘เกาหลีเหนือ’ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อช่างภาพ ‘Michal Huniewiz’ ไปเที่ยวที่นั่น และแอบถ่ายรูปวิถีชีวิตของผู้คนบางส่วนออกมาสู่โลกภายนอก ติดตามเรื่องราวของพี่แกไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า…. เดินทางเข้าสู่เกาหลีเหนือโดยรถไฟจากเมือง Dandong ประเทศจีน ถ้าอยากจะเที่ยวเกาหลีเหนือก็ต้องผ่านสถานีนี้ได้ที่เดียวเท่านั้นสำหรับคนต่างชาติ เริ่มเจอผู้คนที่นี่บ้างแล้ว ภาพเมืองเปียงยางแบบชัดๆ ที่นี่ดูเยือกเย็นมากๆ สะพานมิตรภาพเกาหลีเป็นที่สุดท้ายที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นไฟสว่างๆในเมืองนี้ ชาวบ้านเกาหลีที่กำลังรอสัญญาณจากรถไฟ พี่แกเลยแอบถ่ายซะเลย คนงานก่อสร้างที่นี่ ชาวบ้านที่กำลังกวาดฝุ่นบนถนนโดยมีทหารยืนกำกับอยู่ เขาเล่าว่าทีวีในร้านอาหารก็มักจะเปิดช่องที่เกี่ยวกับผู้อยู่นำเสมอ อันที่จริงไม่ว่าจะไปไหนก็จะเจอแต่สื่อเกี่ยวกับท่านผู้นำอยู่ตลอดนั่นแหละ ชาวบ้านในเกาหลีเหนือที่กำลังเดินอยู่ข้างถนน . ดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนนี้จะแต่งตัวดูดีกว่าคนอื่นๆ กลุ่มเด็กผู้หญิงที่จับคู่กันกวาดทางเดิน (ที่เขาบอกว่ามันดูสะอาดอยู่แล้ว!?) ช่างภาพคนนี้พยายามเก็บภาพถ่ายให้ได้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะถูกสั่งห้ามถ่าย เขาแอบถ่ายบางส่วน เพราะอยากจะเอาภาพถ่ายออกมาเผยแพร่ให้ได้ ภาพของรถกระบะที่กำลังขนส่งกลุ่มทหารมาแต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ตัวว่าถูกถ่ายรูปไว้ บางครั้งการถ่ายรูปทหารที่นี่ถือว่ามีความผิด . รูปนี้ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วในเมืองหลวงที่นี่เป็นยังไงกันแน่ …
-
ความ(ไม่)ลับ 16 เรื่องเกี่ยวกับประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ คนไทยไม่ใช่เกาหลี แต่ก็ควรรู้…
เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่สันโดษ ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่าเป็นประเทศแห่งความลึกลับ และไม่มีที่ไหนน่าพิศวงมากไปกว่าที่นี่อีกแล้ว… นี่คือความลับที่ถูกรวบรวมจากผู้ที่หลบหนีออกมาจากเกาหลีเหนือ ซึ่งซ่อนไปด้วยอะไรหลายๆอย่างอันแปลกไปจากบ้านเรา ที่เราแทบจะนึกกันไม่ถึงเลยทีเดียว 1. เกาหลีเหนือมีทรงผมที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลทั้งหมด 28 ทรง เป็นทรงของผู้หญิง 18 ทรง และทรงของผู้ชาย 10 ทรง 2. ปีศักราชที่ใช้ในเกาหลีเหนือ เริ่มนับจากวันเกิดของท่านผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ “คิม อิล-ซ็อง” (ศักราชที่ 105) เรียกว่าระบบ Juche 3. โรงแรม Ryugyong ที่ตั้งสูงตระหง่านกลางเมืองหลวงหรือ เมืองเปียงยาง มีทั้งหมด 105 ชั้น เป็นตึกที่สูงเป็นอัน 24 ของโลก แต่ห้องกว่า 3,000 ห้องยังคงเป็นห้องโล่งๆ 4. ในปี 2014 ท่านผู้นำคิม จ็อง-อึน แบนขนมช็อกโก้พาย เพราะว่ามันได้รับความนิยมเกินไป และกลัวจะทำให้เกิดการก่อจลาจล ชาวเกาหลีใต้จึงแกล้งนำช็อกโก้พาย ผูกกับลูกโป่ง 50 ลูก…
-
เปิดภาพถ่าย “ผิดกฎหมาย” จากเกาหลีเหนือ เผยชีวิตความเป็นอยู่ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยเห็น
นาย Michal Huniewicz ผู้มีถิ่นฐานอยู่ในอังกฤษ มีอาชีพเป็นนักออกแบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ เขาเป็นช่างภาพอีกคนหนึ่งที่ได้เข้าในประเทศเกาหลีเหนือแล้วถ่ายภาพวิถีชีวิตของคนที่นั่นออกมาให้คนภายนอกได้เห็นกัน การเดินทางครั้งนี้ของนาย Huniewicz ไม่ได้ไปคนเดียว แต่ยังมีกลุ่มผู้ติดตามเขาไปด้วยจำนวนหนึ่ง ภาพที่ได้มานั้นมีทั้งภาพซุปเปอร์มาร์เก็ต ภาพจากโรงแรมที่เขาไปพัก หรือชีวิตตามท้องถนนก็มีให้เห็นกัน ลองไปชมกันเลย นี่คือภาพบรรยากาศของตลาดสดในเกาหลีเหนือ ประเทศแห่งความลึกลับและขึ้นชื่อเรื่องการริดรอนสิทธิ์ เราไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแม่ไปเดินซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต พนักงานโรงแรมเช็คอินให้กับแขกที่มาเข้าพัก หรืออาชีพต่างๆ แบบคนโลกตะวันตกเขาทำกัน แต่เราก็ได้เห็น ตามบันทึกของนาย Huniewicz เขาได้นั่งรถไปทั่วกรุงเปียงยาง และสังเกตเห็นว่าเมืองนี้มันช่างสวยงามราวกับตู้โชว์สำหรับผู้มาเยือนเลย คนขับรถชาวเกาหลีนั้น พอคิดว่าที่ไหนสวยงามน่าชม ก็จะขับช้าๆ แต่พอผ่านบางจุดที่เริ่มดูไม่ดี สังเกตได้ว่าเขาขับเร็วขึ้น ตามข้อตกลง เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปเดินตามที่ต่างๆ (นั่งอยู่แค่ในรถตลอดเวลา) เขาได้เห็นเมืองในมุมต่างๆ ที่พวกเขาอยากให้เห็น และนานเท่าที่เขาอยากจะให้ดู พวกเขาขับรถวนที่ตัวเมืองรอบแล้วรอบเล่าเพื่อให้ดูเฉพาะเพียงมุมเมืองอันสวยงามเท่านั้น “สาวเสิร์ฟคนนี้ดูจะเกรงกลัวหน่อยๆ นี่คือคืนแรกที่เราได้นอนในเกาหลีเหนือ เรากินอาหารเย็นในชั้นใต้ดินของโรงแรม ถกเถียงกันว่าในห้องมีเครื่องดักฟังหรือเปล่า หรือมีใครที่เราพอจะไว้วางใจได้บ้างไหม?” กลุ่มผู้ติดตามของนาย Huniewicz กล่าว ตามท้องถนนจะมีทหารมาคอยยืนอยู่เนืองๆ เพื่อมอบหมายงานให้ประชาชนทำ จะได้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางที่พวกเขากำหนดเอาไว้ หลังจากที่ได้ไปเยือนเกาหลีเหนือมาแล้วเขาก็ตระหนักได้ว่า นี่เป็นเพียงภาพส่วนหนึ่งที่ได้เห็นเท่านั้น เขารู้สึกว่ามีม่านบางอย่างที่ปิดกั้นระหว่างเขาและชาวเกาหลีเหนืออยู่ตลอดเวลา . และนี่คือด้านหนึ่งของประเทศที่เรารู้จักในนาม “เกาหลีเหนือ”…
-
ติดตามชีวิต ‘เด็กเกาหลีเหนือ’ พวกเขาอยู่กันอย่างไร และเชื่อว่าคนไทยก็อยากรู้…!?
(บทความต้นฉบับโดย Bussiness Insider) ว่ากันว่าช่วงวัยเด็ก คือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของมนุษย์ พวกเขาไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ เพียงใช้ชีวิตและเรียนรู้เพื่อจะเติบโตให้เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แล้วถ้าคุณกลายเป็นหนึ่งในประชากรเด็กของประเทศเกาหลีเหนือล่ะ ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร!? งั้น #เหมียวอ๊อดโด้ ขออาสาพาเพื่อนๆ ไปติดตามชีวิตเด็กๆ ชาวเกาหลีเหนือ กับชีวิตที่พวกเขาต้องเผชิญ ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น ลองไปชมกันดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรนะ ในยุคก่อน เด็กที่อาศัยอยู่นอกกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ จะถูกบังคับให้ทำงานในฟาร์ม ซึ่งถือว่าเป็นผลิตสำคัญของประเทศเกาหลีเหนือ มีรายงานว่า หากคนงานไม่เชื่อฟัง อาจถูกส่งไปยังค่ายกักกัน เพื่อทำการลงโทษ ส่วนเด็กๆ ในพื้นที่ที่ยังไม่พัฒนา การไปโรงเรียนเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก พวกเขาต้องเดินผ่านไซต์ก่อสร้าง หรือไม่ก็ภูมิประเทศที่อันตราย และหากหมู่บ้านได้รถโรงเรียนมา ก็จะถูกดัดแปลงให้เป็นรถบรรทุกแทน ส่วนเด็กที่ไร้พ่อแม่ ชีวิตของพวกเขาต้องเผชิญกับสิ่งโหดร้ายมากมาย บางครั้งต่อให้ถูกคนรับไปเลี้ยงแล้วก็อาจถูกทิ้งอีกครั้งได้ หากพวกเขาไม่สามารถดูแลต่อไปได้ ส่วนเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีเงินหน่อย ก็สามารถซื้อชุดสวยๆ อย่างชุดประจำชาติเกาหลีได้ แต่ถึงจะมีเงินยังไง พวกเขาก็ต้องทำตามกฎหมายเกาหลีเหนืออยู่ดี บางครอบครัวมักพาลูกๆ ไปทำความเคารพรูปปั้น “ท่านผู้นำ” ของพวกเขาเสมอ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คิมจองอึนเพิ่งจัดการแสดง “เราคือผู้ที่มีความสุขที่สุดในโลก”…
-
โอ๊ว และนี่มันคือ… “หอยย่างน้ำมันเบนซิน” เมนูแปลก ส่งตรงจากประเทศเกาหลีเหนือ!!!
เกาหลีเหนือ เป็นประเทศหนึ่งที่หลายคนได้ยินชื่อแล้ว ก็จะนึกไปถึงการริดรอนสิทธิ์ของประชาชน ระบบการปกครองแบบเผด็จการ หรือการปิดกั้นไม่เปิดโอกาสให้ทำการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆ นั่นทำให้ประชาชนในประเทศมีรายได้น้อย มีการเล่าถึงความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก พวกเขาจึงต้องรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของพวกเขา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีนักเขียนชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ชื่อว่า Kuzo แอบเดินทางเข้าไปในประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อเก็บภาพความเป็นอยู่และการทำอาหารของประชาชนที่นั่น แต่เขาก็ต้องตกใจเพราะประชาชนที่นั่นทำอาหารด้วยการใช้น้ำมันเบนซินในการประกอบอาหาร พวกคุณอ่านไม่ผิดแน่นอน พวกเขาใช้น้ำมันเบนซินทำอาหารจริงๆ (แต่คงไม่ใช่ทุกเมนู) อย่างเช่นภาพที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้เป็นเมนูหอยย่างสูตรพิเศษ ที่พวกเขานำเอาหอยไปวางไว้กับพื้นกรวด จากนี้ก็ราดน้ำมันเบนซินลงไปแล้วจุดไฟเผา ในระหว่างที่เผานั้นพวกเขาจะต้องคอยราดน้ำมันลงไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ไฟมอดลง และเมื่อหอยร้อนได้ที่และไฟดับลงแล้ว เมนูสุดพิเศษนี้ก็พร้อมรับประทาน เมนูนี้เป็นเมนูที่มักจะทำกันนอกบ้าน (ทำในบ้านมีไฟไหม้แน่นอน) ตามรายงานของนาย Kuzo เขาบอกว่าหอยเหล่านั้นมีรสชาติอร่อยมาก มันเป็นอะไรที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เขาเคยกินมาเลย แต่มันก็มีความเสี่ยงที่คุณจะเจอกับหอยรสชาติแย่ๆ เหมือนกัน . . . . ไฟดับลง เป็นสัญญาณว่าหอยสุกได้ที่แล้ว . . ลองแกะดูข้างใน . และบางครั้ง ถ้าคุณพบเพรียงตัวนี้ในหอย คนท้องถิ่นเชื่อกันว่าคุณกำลังจะเจอโชคดีแน่ๆ . ส่วนคลิปของการทดลองทำครั้งนี้ ชมได้ที่ด้านล่างเลยจ้า มีใครอยากลองเมนูแปลกๆ แบบนี้บ้างไหมอะ? ถ้าอร่อยล่ะบอกต่อด้วยนะ…
-
ชุดภาพของ Oliver สถาปนิกหนุ่ม ที่รัฐบาลเกาหลีเหนือ อนุญาตให้ถ่ายในอาคารแห่งหนึ่ง…
ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่คุณจะได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพในประเทศเกาหลีเหนือ แต่กระนั้น Oliver Wainwright ช่างภาพและสถาปนิกก็ได้เดินทางไปยังกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ และถ่ายภาพเหล่านี้มาได้ (ไม่ได้แอบถ่ายด้วยนะจ๊ะ) ในครั้งนี้เขาได้รับการอนุญาตให้ถ่ายภาพอย่างเต็มที่ภายในตึกที่ทำการต่างๆ ของประเทศ แต่แน่นอนมีข้อแม้ว่าต้องเป็นภาพที่ออกมาดี เกี่ยวกับทางการทหารและการทำงานของผู้คน โดยมีไกด์ของ Koryo tours บริษัทในประเทศจีนที่ทำหน้าที่พานักท่องเที่ยวเข้าเกาหลีเหนือกว่า 20 ปีให้การดูแล แต่กระนั้นในส่วนของการเจรจาและทำเรื่องนั้น ต้องใช้เวลาหลายเดือนเลยทีเดียว กว่ารัฐบาลประเทศเกาหลีเหนือจะยอมให้เขาเข้าไปถ่ายภาพในครั้งนี้ โรงแรม Yanggakdo ในเปียงยาง Grand People’s Study House ‘ผมไม่เคยเจอสถาปัตยกรรมแบบนี้มาก่อนในชีวิต ราวกับความคิดของชาตินิยมนั้นถูกถักทอลงไปในการก่อสร้างทุกๆ แขนง งานศิลปะทุกๆ ชิ้น ที่อยู่ในเมือง’ เขากล่าว โรงแรม Changgwang San ในกรุงเปียงยางเช่นกัน . ศูนย์สุขภาพและความงามใน Changgwang San Hotel ‘ถึงแม้ว่าหลายๆ ครั้งเราจะจินตนาการภาพประเทศนี้แบบไม่มีสีสัน มีแต่สีของซีเมนต์และอิฐเต็มไปหมดทั้งเมือง แต่ผมต้องยอมรับเลยว่าเปียงยางนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีสีสันสุดๆ ‘ โอลิเวอร์กล่าว…
-
พาไปส่องแสนยานุภาพทางทหารของ ‘เกาหลีเหนือ’ หนึ่งในประเทศที่ลึกลับมากที่สุดของโลก…
สำหรับประเทศเกาหลีเหนือ ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศแนวหน้าที่รู้กันว่าถูกควบคุมโดยรัฐบาลทหาร และเรามักจะมีข้อมูลของประเทศนี้ที่น้อยนิด ภาพภายในก็ไม่ค่อยถูกเปิดเผยออกมาเหมือนกับประเทศอื่นๆ… แต่สำหรับภาพชุดนี้ จะพาไปส่องและดูแสนยานุภาพและระบบทางทหารของประเทศเกาหลีเหนือกันบ้าง ว่าแตกต่างจากประเทศอื่นกันยังไง แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าขึ้นชื่อประเทศที่ถูกควบคุมโดยทหารแล้ว กำลังรบต้องสูงอย่างแน่นอน ว่าแล้วลองมาชมกันได้เลย สงครามเกาหลีนั้นเริ่มขึ้นเมื่อปี 1950 หลังจากที่กำลังพลกว่า 75,000 นายของประเทศเกาหลีเหนือได้รุกล้ำพรมแดนของเกาหลีใต้เข้าไป ภายหลังสงครามประเทศถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย โดยทางเหนือนั้นได้รับการสนับสนุนโดยโซเวียต และฝ่ายใต้นั้นสนับสนุนโดยประเทศสหรัฐอเมริกา ทางโซเวียตผลักดันให้ Kim Il-sung ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ ภายหลังที่รู้จักกันในชื่อ Democratic People’s Republic of Korea และลูกชายของเขา Kim Jong-il รับอำนาจต่อในปี 1994 หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ Kim Jong-un ผู้นำปัจจุบันก็ขึ้นรับตำแหน่งเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2011 และถึงแม้ว่า Kim Jong-un จะกลายเป็นผู้นำของประเทศที่มีกำลังทางทหารแข็งแกร่งที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เขากลับไม่เคยได้รับการฝึกฝนทางทหารแบบจริงจังแม้แต่ครั้งเดียว กองกำลังของเกาหลีเหนือแบ่งเป็นภาคพื้นดินร้อยละ 70 ส่วนกำลังพลทางผืนน้ำและอากาศนั้นร้อยละ 50 ประจำการอยู่ที่พรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ กองทัพของประเทศเกาหลีเหนือมีชื่อว่า Korean people’s army หรือ KPA…
-
16 ภาพบรรยากาศการใช้ชีวิตอันเงียบเหงาบน “สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน” ของผู้คนในประเทศเกาหลีเหนือ
ภาพลักษณ์ของประเทศเกาหลีเหนือในสายตาของคุณเป็นอย่างไร? ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นประเทศที่ล้าสมัย เคร่งครัดในกฎระเบียบมากเกินไป และที่สิ่งที่กล่าวมานี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนไม่อยากเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีเหนือ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางคน ที่อยากจะเข้าไปเที่ยวชม และเก็บภาพบรรยากาศของแดนปริศนาแห่งนี้อยู่ ดังนั้นเราจึงมีโอกาสได้เห็นภาพรวมประเทศนี้กันมาบ้างแล้ว เช่น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การแต่งกาย รวมไปถึงอาหารการกินพวกเขา และเมื่อไม่นานมานี้ (7 เมษายน 25559) ทางนักข่าวของสำนักข่าว Dailymail ก็ได้ไปเก็บภาพบรรยากาศภายใน สถานีรถไฟ ณ กรุงเปียงยาง ในประเทศเกาหลีเหนือ มาเผยแพร่ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น และนี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งในประเทศเกาหลีเหนือที่ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นมาก่อน แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยี รวมไปถึงแฟชั่นการแต่งตัวจะเปลี่ยนไปมากแล้วก็ตาม แต่สำหรับผู้หญิงหลายคนในประเทศนี้ ก็ยังคงสวมชุดเกาหลีแบบดั้งเดิมอยู่ ภาพของเจ้าหน้าที่สาว กำลังเดินตรวจความเรียบร้อย ณ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในประเทศอื่นๆ อาจจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ในเกาหลีเหลือบรรยากาศมันช่างเงียบสงัดเหลือเกิน เจ้าหน้าที่แต่ละคนก็กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เงียบเหงา ไร้ผู้คน ภาพของบรรดาทหารหญิงเกาหลีเหนือภายนอกสถานี ภาพของชายสวมแว่นตาผู้มีฐานะ กำลังรอขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อไปช้อปปิ้ง เรียกได้ว่าน้อยครั้งมากๆ ที่เราจะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของผู้คนบนรถไฟใต้ดินในประเทศเกาหลีเหนือ …
-
ชุดภาพลับของ Xiaolu Chu ที่หลุดรอดออกมาจากเกาหลีเหนือ ทำให้ทราบถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่สุดแสนแร้นแค้น…
จะว่าไปนี่ก็ไม่ใช่ภาพชุดแรกที่เราได้เห้นกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ก็เป้นอีกหนึ่งชุดที่สามารถหลุดรอดการตรวจเข้มของทางการเกาหลีเหนือออกมาได้ แสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนของหนึ่งในประเทศที่ขาดประชาธิปไตยและอิสรภาพในการดำเนินชีวิตมากที่สุด… ไม่ใช่ประเทศเราหรือประเทศเพื่อนบ้านของเรา แต่เป็นประเทศเกาหลีเหนือ ที่ทางการได้ให้เจ้าพนักงานตรวจเข้มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการถ่ายภาพอย่างเต็มที่ กระนั้น Xiaolu Chu (หนึ่งในช่างภาพของ Getty Image)ก็สามารถลักลอบเอาภาพความทุกข์ยากของผู้คนมาเผยแพร่ให้กับโลกได้รับรู้ได้ ภาพของเด็กๆ ที่กำลังเดินทางไปโรงเรียนในแถบ Tumangang เดือนสิงหาคมปี 2015 เขาได้เดินทางไปหลากหลายพื้นที่เลยทีเดียวในประเทศเกาหลีเหนือ นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่เดินทางเข้าเกาหลีเหนือโดยรถไฟที่ Sinuiju หรือโดยเครื่องบินไปลงที่ Pyongyang แต่ช่างภาพของเราได้เดินทางไปที่รัสเซียก่อน เพื่อให้สามารถขึ้นฝั่งที่ท่าเรือ Tumangang ได้ รถไฟจาก Tumangang ไปยังเมืองหลวงอย่าง Pyongyang ถูกยกเลิกและดีเลย์ไปกว่า 1 วันเต็ม เนื่องจากสถานการณ์อันตึงเครียดระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ เขาเลยเดินลงไปที่หมู่บ้าน เพื่อถ่ายภาพวิถีชีวิตของผู้คนที่นั่น ซึ่งแน่นอนอยู่ในสภาพที่ยากจนมากๆ มีขอทานเรี่ยไรเงินตามท้องถนนมากมาย การจะหาคนอ้วนสักคนในประเทศเกาหลีเหนือเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ อาคารสิ่งก่อสร้างบ้านเรือนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่แย่มากๆ และต้องการการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ตามอาคารสำคัญก็มีภาพของผู้นำติดอยู่ และนี่คือภาพในช่วงกลางคืน ทั้งหมู่บ้านแทบจะไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ภาพของท่านผู้นำยังคงสว่างไสวอยู่เสมอ วันต่อมาเขาจึงสามารถต่อรถไฟไปยังเมืองหลวงได้ ชั้นแรกเลยก็ถูกตรวจตราอย่างเข้มงวดโดยเจ้าหน้าที่ชำนาญการ ว่ามีอุปกรณ์ส่งสัญญาณ GPS อยู่รึเปล่า รวมถึงภาพลับต่างๆ…
-
Otto Warmbier หนุ่มมะกันที่เดินทางไปเที่ยวเกาหลีเหนือ ถูกตัดสินจำคุกและทำงานอย่างหนัก 15 ปีเต็ม!!?
ก็อย่างที่เราๆ รู้กันว่าประเทศเกาหลีเหนือ เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าถึงค่อนข้างยาก แถมยังมีข้อกำหนดต่างๆ มากมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้าไปอีกด้วย จนนับไม่ไหวกันเลยทีเดียวถ้าจะมานั่งนับกัน แถมยังมีข่าวการตัดสินคดีของชาวต่างชาติล่าสุดที่ทำเอาต้องสยองกันไปเลยทีเดียว เมื่อ Otto Warmbier หนึ่งในนักศึกษาชาวอเมริกันผู้ที่ไปท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีเหนือ ถูกตัดสินจำคุก และให้ทำงานอย่างหนักถึง 15 ปี!!! Otto Warmbier ถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกและต้องทำงานอย่างหนัก 15 ปีเต็ม โดยการไต่สวนคดีที่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จากข้อหาพยายามล้มล้างสถาบัน หลังถูกจับเมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ Otto Warmbier นักศึกษาวัย 21 ปี Warmbier เป็นหนุ่มนักศึกษาชาวอเมริกัน เรียนอยู่ที่ University of Virginia และได้เดินทางไปยังประเทศเกาหลีเหนือในฐานะนักท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ในประเทศจีน พอเขาถูกจับกุมตัวทางสำนักข่าวของประเทศเกาหลีเหนือ Korea Central News Agency (KCNA) ได้รายงานว่า เขาปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาและได้กระทำการอุกอาจต่อประเทศเกาหลีเหนือของเรา คลิปของเจ้าหนุ่มผู้โชคร้าย ในการแถลงข่าวของเขาเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เจ้าหนุ่มได้กล่าวคำขอโทษที่เตรียมมาอย่างเป็นทางการและมีท่าทีเศร้าสร้อย สำหรับตอนนี้ทางประเทศของเขาก็ยังคงวิ่งเต้นเพื่อทำเรื่องให้ประเทศเกาหลีเหนือปล่อยเขาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ถูกจับกุมตัวไป ก็อย่างที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ…
-
ช่างภาพแอบถ่ายรูปในประเทศ “เกาหลีเหนือ” เผยให้เห็นสิ่งที่ผู้นำคิมไม่อยากให้ทั่วโลกเห็น!!
ใครๆ ต่างก็รู้ว่าประเทศเกาหลีเหนือนั้นเคร่งมากเรื่องการถ่ายรูปในประเทศของเขา เพราะว่ามันมีบางภาพที่เขาไม่ได้ต้องการให้ทั่วโลกได้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริง ประเทศเกาหลีเหนือเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ซึ่งนำโดยผู้นำ “คิม จอง อิล” แต่แล้วก็ได้มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Michal Huniewicz เขาได้ท่องเที่ยวไปยังประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งในประเทศก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมพร้อมกับถ่ายรูปด้วย แต่รูปก็ต้องผ่านการตรวจสอบอีกทีว่ามีรูปที่เหมาะสมหรือไม่ ในขณะที่เขาถ่ายรูปอยู่นั้นไกด์ทัวร์ก็มักจะพูดเตือนบ่อยๆว่า “คุณถ่ายรูปเยอะเกินไปแล้วนะ” แต่เขาก็สามารถนำภาพเหล่านั้นกลับออกมานอกประเทศได้ ซึ่งเขาได้บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เครียดมากจริงๆ เราไปชมภาพที่เขาได้ถ่ายให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือกันเลยดีกว่า แล้วจะรู้ว่ามันไม่เหมือนอย่างที่เราคิด เราจะได้เห็นทหารคุมอยู่ทุกพื้นที่ในเปียงยาง ความแตกต่างระหว่างเกาหลีเหนือ(ซ้าย) และประเทศจีน(ขวา) ภาพตอนกลางคืน คุณต้องกรอกแบบฟอร์มก่อนที่จะเข้าไป ภาพแรกที่เขาได้ถ่าย คือถ่ายจากรถไฟ แน่นอนว่ามันผิดกฎหมายที่นั่น ผู้คนรอขายของเสียเพื่อที่จะเอาไปเป็นปุ๋ย พรรคแรงงานแห่งเกาหลีเป็นพรรคเดียวที่อยู่คู่ประเทศนี้มานาน ถ้าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องขออนุญาตก่อน ทหารเกาหลีเหนือ ความภาคภูมิใจ เมื่อมาถึงเปียงยาง เขาเชื่อว่าทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพราะว่าไม่มีรถไฟสายอื่นในวันนั้นเลย แต่กัลบมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีเหตุผล ที่แห่งนี้ต้องเดินตามไกด์ทุกอย่าง เขาจะเป็นผู้นำในการตื่นและหลับของนักท่องเที่ยว ถนนในเกาหลีเหนือ สถาปัตยกรรมในเปียงยาง …
-
บทสัมภาษณ์ของชายเกาหลีเหนือที่หนีจากประเทศ มารู้ทีหลังว่าที่แท้ตัวเองเป็น ‘เกย์’ !!!
เป็นอีกหนึ่งกรณที่น่าขบคิดจริงๆ เกี่ยวกับการปลูกฝังแนวคิดต่างๆ และสิทธิมนุษยชนในประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อล่าสุดได้มีการสัมภาษณ์ประชาชนเกาหลีเหนือคนหนึ่งที่หนีออกมาจากประเทศได้ Jang Yeong-jin ชายเกาหลีวัย 55 ปีที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ได้หลบหนีออกมาจากประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งแน่นอนตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในคนที่เกาหลีเหนือต้องการตัว และถ้ากลับไปได้เขาจะถูกจับไปเป็นนักโทษแน่นอน การหลบหนีของเขาตั้งแต่ปี 1997 จนในที่สุดเขาก็ค้นพบว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นเพศที่ 3 ซะงั้น!!! Jang Yeong-jin ตอนที่เขาหนีมายังประเทศเกาหลีใต้ เขาถูกกักตัวและซักถามเกี่ยวกับเหตุผลที่หนีมาเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่าในภายหลังเขาก็ได้รับอิสรภาพให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทางสำนักข่าว New York Times ก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ตอนแรกผมละอายใจมาก ที่ค้นพบและต้องออกมายอมรับว่าตัวเองเป็นเพศที่ 3 แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้มาตลอดก็คือ ผมไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศกับภรรยาของผมเลย ผมไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ มันน่ารำคาญใจเอาซะมากๆ ‘ Jang Yeong-jin กล่าว ‘ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเกย์คืออะไร หรือเพศที่ 3 คืออะไร หรือกระบวนการของมันนั้นเป็นยังไง จนกระทั่งได้มาอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ผมจึงค้นพบว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นอะไร’ เขากล่าวเสริม ท่านผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ พอองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในยุโรปได้มาสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ 3 ในประเทศเกาหลีเหนือ เขาตอบว่า…
-
เกาหลีใต้สะพรึง นึกว่าท่านผู้นำส่งอาวุธชีวภาพลอยข้ามฟ้ามาจู่โจม ที่แท้เป็นแค่ลูกโป่งใส่ ‘อึ’ !!!
สำหรับงานนี้ก็เรียกได้ว่าเฮียคิมแกเล่นทำเกาหลีใต้ใจหายใจคว่ำหมดเลยนะเนี่ย ก็นึกว่าส่งอาวุธชีวภาพอะไรมาจู่โจมรึเปล่า?? แต่ถ้าจะพูดอีกที นี่มันก็อาวุธชีวภาพดีๆ เลยนะนั่นน่ะ ฮร่าาาา เมื่อล่าสุดท่านผู้นำคิม ส่งลูกโป่งลอยข้ามฟ้ามายังประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งพอเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้นำมาเปิดและตรวจสอบดูก็พบว่า มันคืออาวุธชีวภาพชนิดร้ายแรง จนคนตรวจสอบต้องส่ายหน้าหนีกันเลยทีเดียว… เพราะมันเต็มไปด้วย ‘อึ’ ของมนุษย์ !!! แผนปล่อยลูกโป่งลอยลัดฟ้า?? ตอนนี้ทางการเกาหลีใต้ก็ยังไม่มั่นใจว่าท่านผู้นำของเกาหลีเหนือมีแผนที่จะทำอะไรกันแน่ และได้กล่าวกับทาง JoongAng Daily สำนักข่าวของเกาหลีใต้ว่า ‘ตอนแรกเราคิดว่าทางเกาหลีเหลืออาจส่งอาวุธชีวภาพข้ามท้องฟ้ามาเพื่อทำร้ายประชาชนของเรา แต่พอเราเปิดดูและตรวจสอบก็พบว่าเป็นเพียงแค่ขยะเท่านั้น’ ‘เต็มไปด้วยขยะ ใบปลิวต่างๆ ก้นบุหรี่ เศษกระดาษชำระ และที่สำคัญมันเต็มไปด้วยอึของมนุษย์!!!’ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ผู้ตรวจสอบ ผู้นำคิมแห่งเกาหลีเหนือ หลักๆ แล้วเหมียวสงสารคนตรวจสอบมากๆ เลย ฮ่าๆๆ แต่เค้าก็ต้องแน่ใจล่ะว่าไม่ใช่อาวุธชีวภาพอะไร ไม่แน่นะ ล็อตหน้าที่ลอยเข้ามาอาจเป็นของจริงก็เป็นได้ นี่อาจเป็นสัญญาณหรือการทดสอบอะไรสักอย่างเท่านั้น!!? ที่มา: Metro
-
เกาหลีเหนือคุยโว!! สามารถสร้าง ‘เครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ ที่ไม่ส่งผลทำให้มีอาการ ‘เมาค้าง’ ได้
นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาอันใหญ่หลวงของคนที่ชอบดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดๆ เพราะความสุขตอนดื่มกลับกลายมาเป็นความทุกข์ตอนตื่น หฃังจากที่ดื่มด่ำไปกับความบันเทิงเพียงชั่วข้ามคืน พอกลับมานอนหลับแล้วตื่นเช้ามาก็พบกับความจริงอันแสนทรมานร่างกาย เพราะว่ามีอาการเมาค้างต่อเนื่องจนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย พาลทำให้ต้องถอนกันเรื่อยๆ ฮร่าาาา แต่แล้วปัญหาของอาการ ‘เมาค้าง’ จะหมดไป เมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ของเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้สามารถผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะไม่ส่งผลก่อให้เกิดอาการเมาค้างได้สำเร็จแล้ว โอ้วววว!! เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ส่งผลให้มีอาการเมาค้าง โดยมีรายงานผ่านทาง เปียงยางไทมส์ กล่าวคือเครื่องดื่มชนิดนี้จะผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษแบบสุดๆ โดยที่ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน ซึ่งจะควบคุมการผลิตโดยโรงงาน Taedonggang Foodstuff ที่ได้ทำการวิจัยและปรับปรุงสูตรเครื่องดื่มดังกล่าวมานานหลายปี จนมาพบกับสูตรลับโดยใช้วิธี ‘ต้มข้าวเหนียว’ แทนน้ำตาล จนกลายร่างมาเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรไม่มีอาการเมาค้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราๆ ก็คงไม่มีโอกาสได้ชิมกันหรอก หรือไม่แน่อาจจะลองบินไปเกาหลีเหนือเพื่อพิสูจน์ก็ได้นะ อิอิ ที่มา : unilad
-
คุณพระ!! เกาหลีเหนือออกกฎใหม่ สั่งให้ชายหนุ่มตัดผมแบบ “คิม จอง อึน” เพื่อแสดงความจงรักภักดี
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Telegraph ได้รายงานว่าที่เกาหลีเหนือ ได้มีการออกกฎใหม่ที่สั่งให้ชายหนุ่ม ต้องตัดผมทรงเดียวกับท่านผู้นำ คิม จอง อึน เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อผู้นำเกาหลีเหนือ ตามรายงานบอกว่ามีแหล่งข่าวจากกรุงเปียงยางได้กล่าวว่ารัฐบาลของเกาหลีเหนือได้ออกคำสั่งให้ชายชาวเกาหลีเหนือตัดผมเลียนแบบท่านผู้นำ โดยจะเป็นการไถด้านข้างให้เกรียน และให้ไว้ผมด้านบนได้ยาวไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร และเสยผมไปด้านหลังเพื่อให้เหมือนท่านผู้นำมากที่สุด นอกจากชายหนุ่มจะต้องตัดผมเลียนแบบท่านผู้นำแล้ว ทางด้านหญิงสาวก็ต้องตัดตามที่กำหนดเช่นกัน โดยหญิงสาวในเกาหลีเหนือจะต้องตัดผมตาม รี โซล จู ภรรยาของท่านผู้นำคิมด้วย แต่ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้นกับกลุ่มนักแสดง ที่ไม่ต้องตัดตามก็ได้ ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่าการควบคุมเรื่องทรงผมในเกาหลีเหนือถือเป็นเรื่องเคร่งครัดมาก โดยในมหาวิทยาลัยจะมีการตรวจอย่างเข้มงวดจากผู้ตรวจผม ที่เดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยพร้อมกับกรรไกร เพื่อไม่ให้มีใครไว้ผมยาจนเกินไป นี่ซินะที่เขาว่ากันว่า หล่อแบบเกาหลี (เหนือ) ที่มา telegraph
-
ช่างภาพถ่ายภาพ “สาวงามแห่งเกาหลีเหนือ” เพื่อแสดงให้เห็นว่าความสวยมีอยู่ทุกที่
ศิลปินท่านนี้เธอมีชื่อว่า Mihaela Noroc เธอใช้เวลากว่า 2 ปี ในการออกเดินทางรอบโลกพร้อมกับกระเป๋าและกล้อง และในการเดินทางครั้งนี้ เธอได้ถ่ายภาพความงามของผู้หญิงที่เธอได้พบเจอ โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า “The Atlas Of Beauty” มันเกี่ยวกับความหลากหลายของกลุ่มคนบนโลกนี้ที่แสดงผ่านรูปที่เธอถ่าย และเป้าหมายสุดท้ายของเธอก็คือประเทศ “เกาหลีเหนือ” เธอเล่าว่าผู้หญิงที่เกาหลีเหนือจะไม่ค่อยเหมือนกับกระแสของโลกสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเธอไม่ได้ใส่ใจกับความสวยงามงามนะ พวกเธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปเหมือนกัน พวกเธอจะมีความหลงไหลในร้องเท้าส้นสูงมาก และส่วนมากที่เจอก็จะใส่เสื้อผ้าแบบคลาสสิก มักจะมีเข็บกลัดติดอยู่บนหน้าอก เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเป็นตัวแทนของท่านผู้นำประเทศ และเมื่อถึงโอกาศพิเศษหรืองานเฉลิมฉลอง พวกเธอจะใส่ชุดตามประเพณีที่มีสีสันสดใส เป้าหมายของเธอคือการเดินหน้าถ่ายภาพผู้หญิงในแต่ละประเทศรอบโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามที่แตกต่าง แต่ก่อนอื่น เราไปชมภาพจากประเทศเกาหลีเหนือกันเลย เธอคนนี้ทำงานในโรงแรม Sinuiju ประตูที่พิพิธภัณฑ์ Koryo Museum ในเมือง Kaesong การเล่นดนตรีก็เป็นกิจกรรมที่นิยมกันในเกาหลีเหนือ เธอคนนี้ก็ทำงานในโรงแรม Sinuiju ร่มเป็นที่นิยมมากในการใช้บังแดด เมือง Sinuiju เป็นชายแดนที่ติดกับประเทศจีน ในวันชาติของเกาหลีเหนือ จะมีการเต้นครั้งใหญ่ในเมือง นักเรียนสาวที่เปียงยาง ผู้คนต่างสวมใส่เข็มกลัดที่ประดับภาพผู้นำที่ยิ่งใหญ่ 2 คน กิจกรรมตกปลาก็เป็นที่นิยมในเมือง Wonsan …
-
ชาวเน็ตนำภาพของ ‘Kim Jong-Un’ มาตัดต่อได้อย่างฮา เห็นแล้วหมดศรัทธากันเลยทีเดียว
Kim Jong-Un แค่พูดชื่อนี้ขึ้นมา เชื่อว่าหลายคงก็คงจะรู้กันดี เพราะ Kim Jong-Un ผู้นี้ คือผู้นำสูงสุดของประเทศเกาหลีเหนือคนปัจจุบันนั่นเอง แต่มาคราวนี้ เราไม่ได้จะมาเล่าชีวประวัติของเขาแต่อย่างใดนะเหมียว แต่เราจะพามาชมภาพของท่านผู้นำ ในขณะที่โดนชาวเน็ตมือดีนำมาตัดต่อ โอ้ว…เรียกได้ว่างานนี้ทำเอาหมดศรัทธากันเลยทีเดียว ถ้าอย่างนั้นเรามาชมกันเลยดีกว่า ว่าภาพท่านผู้นำที่ถูกชาวเน็ตตัดต่อ จะมีสภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง นี่คือภาพต้นฉบับสินะ และเมื่อชาวเน็ตนำภาพไปตัดต่อ ภาพที่ได้ก็ออกมาเป็นแบบนี้… โอ้วว ท่านผู้นำกลายเป็นเจ้าเหมียวไปซะแล้ว แม้ว่าจะเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ก็ยังยิ้มได้ เอิบ!! มาโผล่ตรงนี้ได้ไงละเนี่ย oppa gangnam style Eh, sexy lady Kim Jong-Un หายตัวไปไหนละเนี่ย และแล้วเขาก็กลับมา…ในบทซุปเปอร์ฮีโร่ มาในลุคนี้ก็ดูเท่ดีเหมือนกันนะเหมียว ผู้นำที่รักในการทำอาหารซะเหลือเกิน ได้เจอกับนักร้องสาวสุดฮอตซะด้วย โผล่ได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ ใครหนอออ ช่างใจร้ายเสียจริง…
-
อยากใช้บริการไหม? เกาหลีเหนือเปิดตัวเครื่องแบบแอร์โฮสเตสแบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!!
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Koreatimes ได้เผยแพร่ภาพของแอร์โฮสเตสสาวในชุดแต่งกายรูปแบบใหม่ล่าสุดของสายการบิน Air Koryo ของเกาหลีเหนือ จากหน้าปกนิตยสารโชซุนของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นสายการบินที่ถูกจัดอันดับไว้ว่าเป็นสายการบินที่แย่ที่สุดในโลก ภาพดังกล่าวเป็นภาพของแอร์โฮสเตสสาว 5 คนขณะกำลังเดินอยู่ในสนามบินซูซนานกรุงเปียงยาง โดยทั้ง 5 คนสวมใส่ชุดสีกรมท่า ที่มีเข็มกลัดรูปผู้นำคิม จอง อึนและคิม จอง อิลผู้ล่วงลับ ติดอยู่ที่หน้าอกของพวกเธอด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ ที่ดำเนินมาตั้งแต่เมื่อปี 2013 แล้ว ซึ่งล่าสุดผู้นำคิม จอง อึน ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงชุดแต่งกาย เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่จากรายงานล่าสุด สายการบิน Air Koryo ก็ยังคงครองตำแหน่งสายการบินที่แย่ที่สุดในโลกไว้อย่างเหนียวแน่น โดยสายการบินนี้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 681 เลยทีเดียว ไงล่ะ จะลองไปใช้บริการสักครั้งดูไหม? ที่มา koreatimes
-
ชมภาพถ่ายหาชมได้ยากจาก “เกาหลีเหนือ” จากช่างภาพฝรั่งเศส Hélène Veilleux
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือมาบ้าง บางคนก็เคยได้เห็นภาพบรรยากาศต่างๆมาบ้าง ซึ่งแต่ละภาพกว่าจะออกมาสู่สายตาของเราได้ ก็ต้องผ่านการกรองจากทางเกาหลีเหนือก่อนนำเอามาเผยแพร่ได้ ช่างภาพคนนี้มีชื่อว่า Hélène Veilleux เป็นชาวฝรั่งเศส เธอได้ไปเยี่ยมชมกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของทางเกาหลีเหนือ และได้เก็บภาพบางส่วนมาซึ่งดูแล้วถือเป็นบรรยากาศที่แปลกตาดีไม่น้อย เธอเป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่ถ่ายภาพจากรถบัสที่พาเธอไปรอบๆเมือง ซึ่งเธอกล่าวเธอความจริงเธอก็เหมือนคนอื่ๆนที่อยากรู้ความเป็นมาเป็นไป ข่าวลือ และเรื่องราวต่างๆในประเทศนี้ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นแค่นักท่องเที่ยว ทำได้แค่นักรถบัสไปตามทางเรื่อยๆ เราไปชมภาพที่เธอถ่ายกันเลยดีกว่า แทบจะไม่เห็นรถเลยสักคัน ทางขึ้นรถไฟใต้ดิน ภาพงานแต่งงาน ต้องมาถ่ายกับรูปปั้นท่านผู้นำ ตำรวจจราจรหญิง ดูเหมือนเป็นป้ายโฆษณาชวนเชื่อ สวนสนุกที่ดูไม่ค่อยน่าสนุกเท่าไหร่ อย่างน้อยก็มีสถาปัตยกรรมที่ดูทันสมัยบ้าง เหมียวว่ามันดูสงบจนน่ากลัวเลยล่ะ ดูเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่กลับไม่มีคนออกมาทำอะไรกันเลย แต่ก็อยากลองไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งดูเหมือนกัน ถ้าสนใจก็ลองไปเยี่ยมชมผลงานของเธอที่เว็บไซต์ของเธอเลย ladentdeloeil.net ที่มา boredpanda
-
21 ของฝากที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหนบนโลก อยากจะได้ต้องไปซื้อจาก ‘เกาหลีเหนือ’ เท่านั้น
ประเทศเกาหลีเหนือ เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มักจะมีเรื่องราวแปลกๆ ให้เราได้เห็นกันเสมอ และที่สำคัญประเทศนี้ก็มักจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างไปจากประเทศอื่นซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิต วัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ และในวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาชมภาพสิ่งของเครื่องใช้เกือบแปลกที่เราสามารถเห็นได้ในเกาหลีเหนือ ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายขึ้นมาโดย David Guttenfelder ช่างภาพชาวอเมริกัน ผู้ที่ชื่นชอบเดินทางไปเที่ยวเกาหลีเหนืออยู่บ่อยๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปชมกันเลยดีกว่า ว่าคนเกาหลีเหนือเขาใช้อะไรกันบ้าง 1.คู่มือสำหรับนักข่าว 2.3G USB Air card ยี่ห้อ Koryolink 3.หนังสือทำมือ 4.ตุ๊กตาตำรวจหญิง 5.ซีดีเพลงประสานเสียงของกองทัพเกาหลีเหนือ 6.คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ 7.เข็มกลัดรูปพัด 8.บัตรอวยพรลายจรวด 9.ไวน์รสเห็ด 10.ชาแก้อาการเมาค้าง 11.อนุสาวรีย์จำลองในขวดแก้ว 12.แสตมป์รูปนักบิน 13.บัตรเชิญชมการสวนสนามของกองทัพเกาหลีเหนือ 14.ไม้จิ้มฟันขนเม่น 15.ใบต้อนรับของโรงแรม 16.หนังสือเกี่ยวกับเทควันโด…
-
ห๊ะเอาจริง… เกาหลีเหนือปรับใช้เวลาใหม่ ช้ากว่าเดิม 30 นาที สร้างจุดยืนให้ประเทศ
ประเทศเกาหลีเหนือ อย่างที่เรารู้กันว่าพยายามสร้างหลายอย่างให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จะว่าเพื่อความโดดเด่นหรือความแนวอะไรก็แล้วแต่ ล่าสุดก็คือเรื่อง เวลา ที่มีการปรับโดยเฉพาะอีกแล้ว รายงานข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศเกาหลีเหนือประกาศปรับให้เวลาของตัวเองช้าลง 30 นาที จากเดิมที่เร็วกว่าเวลามาตรฐาน GMT 9 ชั่วโมง ก็ลดมาเหลือ 8 ชั่วโมงครึ่ง นั่นจะทำให้จากเดิมที่เคยใช้โซนเวลาเดียวกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ก็จะช้ากว่าสองประเทศนั้นครึ่งชั่วโมง และจากเดิมที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ก็เหลือ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลายคนคงจะสงสัยว่า ทำเพื่อ!?? ทั้งนี้เกาหลีเหนือต้องการแสดงสัญลักษณ์เชิงต่อต้านญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลกันนักนั่นเองล่ะครับ อีกด้านหนึ่ง มีข้อมูลมาว่าในอดีตอาณาจักรเกาหลีเคยใช้เวลาเร็วกว่า GMT 8.30 ชั่วโมง แต่พอญี่ปุ่นเข้ายึดครองก็โดนปรับไปใช้แบบญี่ปุ่น จนกระทั่งปัจจุบันนั่นเอง เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป อาณาจักรเกาหลีเหนือ เอ๊ย ประเทศเกาหลีเหนืออันยิ่งใหญ่ ก็จะมีโซนเวลาของตัวเองในชื่อเก๋ๆว่า ‘เวลาเปียงยาง’ นั่นเองครับบบบบบ!! ที่มา: cnn, nytimes, prachatai
-
ชมบรรยากาศและผู้คน ณ กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ที่หาดูได้ยาก!!
คลิปนี้จัดทำโดยบริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Koryo Tours เขาได้ทำวิดีโอไทม์แลปตัวนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงให้เราได้เห็นถึงบรรยากาศและวิถีชีวิตของประชาชนในเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ Koryo Tours นั้นก่อตั้งเมื่อปี 1993 โดย Nick Bonner ชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง และตอนนี้ทางทัวร์ก็ได้รับเอาคนตะวันตกมาเที่ยวชมสภาพแวดล้อมในเมืองเปียงยางอยู่เสมอ ถือเป็นบริษัททัวร์ที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครจริงๆ จากในคลิปนี้เราจะได้เห็นบรรยากาศตั้งแต่ตอนเช้าไปจนถึงตอนกลางคืน แบบที่เราไม่เคยรู้เลยว่าคนเกาหลีเหนือใช้ชีวิตกันยังไง จนกว่าจะได้มาเห็นในคลิปนี้ เราไปดูภาพกันเลยดีกว่า ตอนนี้เกาหลีเหนือเหมือนจะเป็นจุดหมายใหม่ที่ท้าทายสำหรับคนที่ชอบเดินทางแล้วมั้งเนี่ย ที่มา koryogroup
-
พาเที่ยว “เกาหลีเหนือ” แบบ 360 องศาด้วยฟังก์ชั่นใน YouTube
ถ้าพูดถึงประเทศเกาหลีเหนือแล้ว เราก็คงจะนึกถึงแต่หน้าของท่านผู้นำเพียงอย่างเดียว เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่เราจะได้เห็นบรรยากาศภายในประเทศนั้น ชายคนนี้มีชื่อว่า Aram Pan เขามาพร้อมกับกล้องที่สามารถถ่ายได้ 360 องศา ซึ่งถือว่าเขาเป็นคนแรกเลยที่ได้เข้าไปถ่ายในเกาหลีเหนือด้วยกล้องตัวนี้ เขาได้ทำวิดีโอเชิงสารคดีความยาวกว่า 19 นาทีนี้ออกมาเพื่อให้เราได้เห็นบรรยากาศของประเทศเกาหลีเหนือแบบทุกมุมมอง เราไปดูการเดินทางของเขากันเลย (แนะนำให้ใช้ Chrome ดูนะจ๊ะ) ดูแล้วจะเห็นได้ชัดเลยว่าบ้านเงียบเอามากๆ อยากลองไปเที่ยวดูสักครั้งจัง ที่มา Aram Pan
-
เขตแดนปลอดทหารระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ณ หมู่บ้านปันมุนจอม!!
ตำนานรอยร้าวภายในประเทศที่ต้องแยกกันเป็นสองฝั่งยังคงมีมาถึงจนปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะพยายามเชื่อมแผลบาดลึกนี้แล้วก็ตาม สุดท้ายมันก็ยังคงเป็นรอยแผลที่ไม่อาจเชื่อมและสมานได้อยู่ดี นั่นก็คือกรณีของประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั่นเอง คราวนี้เรามากันที่ชายแดนระหว่างสองประเทศที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันมาก่อน ซึ่งจุดๆ นี้เรียกว่า เขตปลอดทหาร หมู่บ้านปันมุนจอม Panmunjom on DMZ (Demilitarized Zone) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองแคซอง ประเทศเกาหลีเหนือ และกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปัจจุบันหมู่บ้านปันมุนจอมแห่งนี้คืออาณาเขตค่ายทหาร ชายแดนระหว่างสองประเทศ ประกอบไปด้วยห้องประชุมเพื่อเจรจายุติสงคราม ที่มีไว้เพื่อทำการเจรจาและลงนามยุติสงครามระหว่างสองฝ่าย และหอนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการลงนามเพื่อยุติสงครามไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสงครามจะจบลง นับตั้งแต่การเกิดของสงครามเกาหลี เป็นการลงนามเพื่อแบ่งเขตแดนเท่านั้น ซึ่งทั้งสองประเทศยังคงประกาศภาวะสงครามต่อกันอยู่ และพร้อมที่จะปะทะกันได้ทุกเมื่อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน ชายแดนระหว่างเกาหลีแห่งนี้ จะต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมใส่กางเกงยีนส์ รวมไปถึงการสวมใส่รองเท้าแตะ และสิ่งที่ห้ามอีกอย่างนั่นก็คือการถ่ายรูปภาพ เพราะจะต้องได้รับอนุญาตก่อน หนังสือลงนามเพื่อยุติสงครามระหว่างสองประเทศ อาคารจะแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์แห่งหมู่บ้านปันมุนจอม ที่มา :…
-
เอาที่สบายใจ!! ชายจีนทำศัลยกรรมให้เหมือน “คิม จอง อึน” ผมมีพี่เป็นไอดอล!!
ความชื่นชอบของคนเราไม่เหมือนกันจริงๆ และในเมื่อมันเป็นความชอบและทำให้รู้สึกมีความสุขก็คงจะห้ามกันไม่ได้ อย่างเช่นพ่อหนุ่มชาวจีนรายนี้ Wang Lei วัย 32 ปี ที่ทุ่มเงินไปกับการศัลยกรรมให้เหมือนกับท่านผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จอง อึน” นอกจากจะเสียเงินไปมากมายกับการศัลยกรรมแล้ว การที่จะเหมือนให้ได้มากที่สุดก็ต้องตัดผมทรงเดียวกันด้วย ยังไม่พอ!! ยังจะจ้างช่างภาพส่วนตัวมาถ่ายภาพชีวิตประจำวัน พร้อมกับท่าประจำตัวท่านผู้นำอีกแหนะ คือเลียนแบบแทบทุกอย่างเลย!! และด้วยเหตุที่ว่านาย Wang Lei นั้นจะต้องเข้ารับการศัลยกรรมหลายครั้ง จึงได้พบรักกับนางแบบสาว Liu Zixuan ที่เสพติดการศัลยกรรมพอๆ กัน จนทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นบุคคลดังแบบสายฟ้าแลบในประเทศจีนเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วท่านผู้นำเกาหลีเหนือกับร่างเงาที่ประเทศจีนก็เกือบจะเหมือนกันแล้วล่ะ ต่างกันตรงที่ภรรยา ฮ่าฮ่า!! อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าที่ทำไปนั้นมีจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ผมมีพี่เป็นไอดอลแน่นอน!! ที่มา : dailymail
-
พาชม 22 ภาพสนามบินใหม่ล่าสุดของ ‘เกาหลีเหนือ’ สวยหรือไม่ตัดสินเอาเอง..!!!
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ดินแดนลับแลหลังม่านเหล็กอย่างประเทศเกาหลีเหนือได้เปิดตัวสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงเปียงยาง เรียนได้ว่าทันสมัยไม่แพ้สนานบินดีๆของประเทศอื่นๆ โดยสนามบินแห่งใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า Pyongyang Sunan International Airport ซึ่งจะมาแแทนที่สนามบินนานาชาติอันเก่า ที่เปิดใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นเริ่มต้นใหม่ๆ (ก็เกือบๆ 50 ปีมาแล้ว) แม้ว่าเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับสนามบินแห่งนี้น้อยมาก แต่ล่าสุด หน่วยงานประชาสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือ ได้ปล่อยภาพชุดใหม่ของสนามบินแห่งนี้ออกมา ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า Terminal 2 ไปชมกันเลยว่าเจ๋งขนาดไหน ในพิธีเปิด ผู้เข้าร่วมงานต้องใส่ชุดประจำชาติทั้งหมด สนามบินแห่งนี้ มีสะพานเทียบเครื่องบิน 3 อัน และสามารถจอดเครื่องบินได้นับสิบลำเลยทีเดียว และสนามบินแห่งนี้ จะเป็นที่ทำการของสายการบินแห่งชาติอย่าง Air Koryo อีกด้วย สนามบินแห่งนี้ จะรองรับเที่ยวบินจากจีน รัสเซีย และอีกสองสามประเทศในเอเชีย ผู้นำสูงสุดของประเทศอย่างคิมจองอึน ก็มีส่วนสำคัญในการออกแบบสนามบินแห่งนี้อีกด้วย ผู้หญิงเสื้อฟ้า คือภรรยาของคิมจองอึน สวยมั้ยล่ะ ภาพของร้านขายหนังสือพิมพ์ในสนามบิน ร้านขายของปลอดภาษี …